Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นายกฤษณพงศ์ จงเทพ 002

นายกฤษณพงศ์ จงเทพ 002

Published by armchin.0000arn, 2022-01-10 15:51:37

Description: นายกฤษณพงศ์ จงเทพ 002

Search

Read the Text Version

47 แบบประเมินใบงาน/ชิน้ งาน กลุม่ ท.ี่ ............เรอื่ ง........................................................................................................................ รายวิชา................................รหสั วิชา...............................ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที.่ ............................... คาช้ีแจง : ให้ครูทาเครือ่ งหมาย ✓ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมนิ รวม หมายเหตุ ระดับคะแนน ประเดน็ การประเมนิ ๕๔๓๒๑ ๑. รูปแบบของใบงาน/ชน้ิ งาน ๒. ความถกู ตอ้ งของข้อมลู เนอื้ หาสาระ ๓. ความตรงต่อเวลา คะแนนรวม ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน (………………………….……) …………/…………/……….

48 เกณฑก์ ารประเมนิ แบบประเมินใบงาน/ชิน้ งาน ประเด็น เกณฑ์การให้คะแนน / ระดับคณุ ภาพ การ ๕ ๔ ๓ ๒๑ ประเมิน ๑. รปู แบบของงาน รูปแบบของงาน รูปแบบของ รูปแบบของ รปู แบบ รูปแบบ ถูกต้องตามกาหนด มี ถูกต้องตาม งานถูกต้อง งานถกู ต้อง ของงาน ของใบ ความเป็นระเบยี บ กาหนด มคี วาม ตามกาหนดมี ตามกาหนด ไม่ถูกต้อง งาน/ เรยี บร้อย ตกแต่งอยา่ ง เป็นระเบยี บ ความเปน็ บางสว่ น ตาม ช้นิ งาน สวยงาม แสดงถึง เรียบรอ้ ย แสดง ระเบยี บ กาหนด ความคิดรเิ ร่มิ ถงึ ความคิดริเร่ิม เรยี บร้อย สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ ๒. ความ เนอื้ หาสาระถูกต้อง เน้อื หาสาระ เนอ้ื หาสาระ เนอ้ื หา เน้อื หา ถกู ต้อง ครบถ้วน ละเอียด ถูกต้องครบถ้วน ส่วนมาก สาระ สาระไม่ ของข้อมลู ชัดเจน และมกี าร ละเอียดชัดเจน ถกู ต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง เนอื้ หา สืบคน้ ข้อมูลเพ่มิ เตมิ เพยี ง สาระ นอกเหนือจาก บางส่วน บทเรียน ๓. ความ ส่งงานภายใน สง่ งานชา้ กว่า สง่ งานช้ากว่า ส่งงานช้า สง่ งานชา้ ตรงต่อ ระยะเวลาที่กาหนด กาหนด ๑ วัน กาหนด ๒ กวา่ กาหนด กวา่ เวลา วนั ๓ วนั กาหนด เกิน ๓ วนั ข้ึนไป เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๓ – ๑๕ ดีมาก ๑๐ – ๑๒ ดี ๗–๙ ปานกลาง ๔–๖ พอใช้ ๑–๓ ควรปรับปรุง

49 แบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-Test) ช่ือ ______________________________________________ เลขที่ _______ ช้นั ______ นักเรียน X ทบั คาตอบทถี่ ูกต้อง 1. ข้อใดทมี่ ีโอกาสต้ังครรภ์มากที่สดุ 1 ทดสอบปสั สาวะกบั ชุดตรวจครรภแ์ ล้วมีผลเป็นบวก 2 ประจาเดือนไม่มาหลงั กาหนด 1 สปั ดาห์ 3 เวยี นศรี ษะ อ่อนเพลยี ตอนเช้า 4 ปสั สาวะบ่อยผดิ ปกติ 2. การขาดสารไอโอดนี สง่ ผลกระทบต่อทารกอย่างไร 1 ตาเป็นตอ้ กระจก 2 แขน ขาพิการแต่กาเนิด 3 รา่ งกายแคระแกร็น ปัญญาอ่อน 4 ร่างกายเจรญิ เตบิ โตเรว็ กวา่ ปกติ 3. ขอ้ ใดไม่มีผลต่อความสมบูรณ์แข็งแรงของทารกในครรภ์ 1 อายขุ องมารดา 2 การศึกษาของมารดา 3 โรคประจาตัวของมารดา 4 สภาพแวดลอ้ มท่ีอยู่อาศยั 4. การคุมกาเนดิ วิธใี ดทีเ่ หมาะสมสาหรบั ผ้ทู ไ่ี ม่ต้องการมลี กู 1 การทาหมนั 2 การใส่หว่ งอนามัย 3 การสวมถงุ ยางอนามัย 4 การรับประทานยาเม็ดคุมกาเนิด 5. นกั เรียนควรปฏิบตั ติ นอย่างไร เพื่อลดปัญหาการต้งั ครรภใ์ นวยั รนุ่ 1 ไม่คบเพื่อนตา่ งเพศ 2 เลอื กคบเฉพาะเพื่อนท่ีดูทันสมยั 3 หลีกเลี่ยงการพูดคยุ กับคนท่ีไมร่ จู้ ัก 4 ไม่ใหผ้ อู้ ่นื จบั หรือสมั ผสั ร่างกายง่าย ๆ 6. อนามัยแม่และเดก็ มีความสาคญั อย่างไร 1 ช่วยให้เด็กไทยมีการศึกษาทดี่ ี 2 ช่วยลดปญั หาเด็กพิการแต่กาเนดิ 3 ชว่ ยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครวั 4 ชว่ ยป้องกนั ปัญหาเด็กติดสารเสพตดิ ในอนาคต

50 7. ข้อใดเกีย่ วข้องกับการวางแผนครอบครัว 1 ลูกไมห้ ลน่ ไมไ่ กลตน้ 2 มลี ูก 1 คน จนไป 7 ปี 3 เล้ียงลกู เสือ ลกู จระเข้ 4 รกั วัวให้ผูก รักลกู ใหต้ ี 8. ถ้าพ่อแม่ ผปู้ กครองมปี ญั หาขัดแยง้ กนั จะสง่ ผลกระทบตอ่ ลกู ท่อี ยู่ในวยั รุน่ อยา่ งไร 1 ทาใหว้ ิตกกังวล ไมม่ สี มาธิในการเรียน 2 อยากอยูแ่ ตบ่ ้าน ไม่อยากออกไปขา้ งนอก 3 ทาให้รกั และสงสารพ่อแม่ ผู้ปกครองมากขึน้ 4 มคี วามอดทนอดกล้นั มากกวา่ เพอ่ื นวัยเดยี วกนั 9. ข้อใดมีโอกาสทาให้เกดิ ปัญหาความขัดแย้ง 1 ผู้ปกครองลืมซื้อของขวญั วันเกิดให้ลูก 2 ผปู้ กครองตอ่ วา่ ลูกด้วยถ้อยคารุนแรง 3 ยายพดู ให้หลานบบี นวดตัว 4 นอ้ งขอโทษพ่เี ม่ือตนทาผดิ 10. สานวนในขอ้ ใดชว่ ยปอ้ งกนั ปญั หาความขัดแยง้ ในครอบครัว 1 บัวไมใ่ ห้ชา้ นา้ ไม่ให้ขนุ่ 2 มือไมพ่ าย เอาเทา้ ราน้า 3 ขงิ ก็ราข่าก็แรง 4 ขวานผ่าซาก เฉลย ขอ้ 1. ตอบ 1 ข้อ 2. ตอบ 3 ขอ้ 3. ตอบ 2 ข้อ 4. ตอบ 1 ข้อ 5. ตอบ 4 ข้อ6. ตอบ 2 ขอ้ 7. ตอบ 2 ขอ้ 8. ตอบ 1 ขอ้ 9. ตอบ 2 ขอ้ 10. ตอบ 1 แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test)

51 ช่อื ________________________________________________ เลขท่ี ______ ชั้น _____ นกั เรยี น X ทับคาตอบที่ถูกต้อง 1. อนามัยแม่และเด็กมีความสาคัญอย่างไร 1 ช่วยใหเ้ ดก็ ไทยมีการศึกษาที่ดี 2 ชว่ ยลดปัญหาเด็กพิการแตก่ าเนิด 3 ช่วยแก้ไขปัญหาความขดั แย้งในครอบครวั 4 ชว่ ยป้องกนั ปัญหาเด็กติดสารเสพตดิ ในอนาคต 2. ขอ้ ใดเกย่ี วข้องกับการวางแผนครอบครัว 1 ลูกไม้หลน่ ไม่ไกลตน้ 2 มลี กู 1 คน จนไป 7 ปี 3 เลย้ี งลูกเสือ ลกู จระเข้ 4 รักวัวให้ผูก รกั ลกู ใหต้ ี 3. การคุมกาเนดิ วิธใี ดทเี่ หมาะสมสาหรบั ผ้ทู ่ีไมต่ ้องการมีลูก 1 การทาหมัน 2 การใส่หว่ งอนามัย 3 การสวมถงุ ยางอนามัย 4 การรับประทานยาเมด็ คุมกาเนดิ 4. นักเรยี นควรปฏบิ ัตติ นอย่างไร เพื่อลดปญั หาการต้งั ครรภ์ในวยั ร่นุ 1 ไม่คบเพ่ือนต่างเพศ 2 เลือกคบเฉพาะเพ่อื นท่ดี ทู ันสมยั 3 หลีกเลย่ี งการพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จกั 4 ไม่ใหผ้ อู้ นื่ จับหรือสมั ผัสร่างกายงา่ ย ๆ 5. ขอ้ ใดไม่มีผลต่อความสมบูรณ์แข็งแรงของทารกในครรภ์ 1 อายขุ องมารดา 2 การศกึ ษาของมารดา 3 โรคประจาตวั ของมารดา 4 สภาพแวดลอ้ มท่ีอยู่อาศัย 6. ข้อใดทมี่ ีโอกาสต้งั ครรภม์ ากท่ีสดุ 1 ทดสอบปัสสาวะกับชดุ ตรวจครรภแ์ ลว้ มผี ลเปน็ บวก 2 ประจาเดือนไม่มาหลงั กาหนด 1 สัปดาห์ 3 เวยี นศีรษะ อ่อนเพลียตอนเช้า 4 ปสั สาวะบอ่ ยผิดปกติ 7. การขาดสารไอโอดนี สง่ ผลกระทบต่อทารกอย่างไร 1 ตาเป็นต้อกระจก

52 2 แขน ขาพกิ ารแต่กาเนิด 3 รา่ งกายแคระแกร็น ปญั ญาอ่อน 4 ร่างกายเจรญิ เตบิ โตเรว็ กว่าปกติ 8. ข้อใดมโี อกาสทาใหเ้ กิดปญั หาความขดั แย้ง 1 ผปู้ กครองลืมซ้ือของขวญั วันเกิดใหล้ ูก 2 ผปู้ กครองตอ่ ว่าลูกดว้ ยถอ้ ยคารุนแรง 3 ยายพูดให้หลานบบี นวดตัว 4 นอ้ งขอโทษพีเ่ มื่อตนทาผดิ 9. สานวนในขอ้ ใดชว่ ยปอ้ งกันปัญหาความขัดแยง้ ในครอบครัว 1 บัวไมใ่ หช้ ้า นา้ ไม่ใหข้ ุ่น 2 มอื ไม่พาย เอาเทา้ ราน้า 3 ขงิ กร็ าข่ากแ็ รง 4 ขวานผา่ ซาก 10. ถา้ พ่อแม่ ผู้ปกครองมีปัญหาขดั แย้งกัน จะสง่ ผลกระทบตอ่ ลูกท่อี ยู่ในวยั ร่นุ อย่างไร 1 ทาให้วิตกกังวล ไมม่ ีสมาธใิ นการเรียน 2 อยากอยแู่ ตบ่ า้ น ไม่อยากออกไปข้างนอก 3 ทาให้รักและสงสารพ่อแม่ ผูป้ กครองมากข้นึ 4 มคี วามอดทนอดกลนั้ มากกวา่ เพอื่ นวัยเดยี วกนั เฉลย ขอ้ 1. ตอบ 2 ขอ้ 2. ตอบ 2 ขอ้ 3. ตอบ 1 ข้อ 4. ตอบ 4 ข้อ 5. ตอบ 2 ขอ้ 6. ตอบ 1 ขอ้ 7. ตอบ 3 ขอ้ 8. ตอบ 2 ข้อ9. ตอบ 1 ขอ้ 10. ตอบ 1

53 ช้ินงานท่ี 4 เรื่อง วธิ กี ารให้บริการอนามัยแม่และเด็ก วนั ท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ ชือ่ _____________________________เลขที่______ชนั้ __________ นกั เรียนเสนอวิธกี ารใหบ้ ริการอนามัยแมแ่ ละเด็ก เพอื่ แก้ไขปัญหาสขุ ภาพของแมแ่ ละเดก็ มา 2 วธิ ีการ วิเคราะห์ข้อดแี ละขอ้ เสยี ของแต่ละวิธกี าร และสรปุ วธิ ีการที่เลอื ก โดยเขียนบันทกึ ข้อมูล ลงในตาราง วิธีการใหบ้ รกิ าร ข้อดี ข้อเสีย วิธกี ารที่เลือก อนามยั แม่และเดก็ (ขาดแรงจูงใจในการเข้า มา วิธกี ารใหบ้ ริการอนามัย 1. (จัดกิจกรรมอบรม (ทาให้มารดามคี วามรู้ อบรม) แม่และเด็กท่เี ลือก คือ (จดั กจิ รรมอบรมให้ ให้ความรู้แก่มารดา ในการดูแลตนเอง (สิ้นเปลืองงบประมาณ ความรู้ และมารดา แกม่ ารดาทีต่ ้ังครรภ)์ ทีต่ งั้ ครรภใ์ นชุมชน ขณะตง้ั ครรภ์และ อาจไมร่ ับประทาน ตามกาหนด) เหตุผล ทกุ เดือน) ปฏิบัตติ น (ประหยัดค่าใช้จ่าย ไดถ้ ูกตอ้ ง) และเปน็ การให้ความรู้ 2. (แจกนมและอาหาร (มารดาไดร้ บั อาหาร ซ่ึงจะตดิ ตัวผู้ท่เี ปน็ เสริม มารดา ใหก้ บั มารดาที่ต้งั ครรภ์ ท่ีช่วยบารงุ ครรภ์) ไปตลอดชีวติ ) ในชมุ ชน)

54 ช้นิ งานที่ 5 เรอื่ ง ปจั จัยท่ีมผี ลกระทบต่อการตง้ั ครรภ์ วนั ท่ี________เดอื น_______________พ.ศ.___________ ช่อื _____________________________เลขที่______ชน้ั __________ นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม 5 กลมุ่ จบั สลากเลอื กปจั จัยท่ีมผี ลกระทบต่อการตั้งครรภท์ ่ีกาหนด 1 ปัจจัย วเิ คราะห์ผลท่เี กิดต่อมารดาและทารกในครรภ์ อธบิ ายลงในแผนภาพความคิด

55 ชน้ิ งานที่ 6 เรอื่ ง ความสาคัญของการวางแผนครอบครัว วนั ที่________เดือน_______________พ.ศ.___________ ช่อื _____________________________เลขท่ี______ชน้ั __________ นักเรียนวเิ คราะห์และอธิบายความสาคญั ของการวางแผนครอบครวั ในด้านตา่ ง ๆ ท่กี าหนด จากนนั้ เขียนบันทึกลงในแผนภาพความคิด

56 ชนิ้ งานที่ 7 เรอ่ื ง แนวทางการปฏิบัตติ นในเรอื่ งเพศ วันท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ ชอื่ _____________________________เลขที่______ชนั้ __________ นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4-6 คน เสนอแนวทางการปฏบิ ัตติ นในเรอื่ งเพศทเี่ หมาะสม และไม่เหมาะสมต่อตนเอง ครอบครวั และสังคม ผลทเ่ี กิดข้ึนเปน็ อย่างไร บันทกึ ลงในตาราง จากนน้ั ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น แนวทางการปฏบิ ตั ิ แนวทางการปฏบิ ัตติ นทีเ่ หมาะสม แนวทางการปฏบิ ตั ิตนทีไ่ มเ่ หมาะสม ต่อ (การทดลองมีเพศสมั พนั ธ์ในวัยเรยี น (รบั ผิดชอบบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ความต้องการแสดงออกอารมณ์ทางเพศ) ผลท่เี กดิ ข้ึน ให้ดีที่สุด ทาความเขา้ ใจเกย่ี วกับ (หมกมุน่ ในเร่อื งเพศอาจเกดิ โรคตดิ ต่อ ทางเพศสมั พนั ธ์การต้ังครรภไ์ มพ่ รอ้ ม) เรื่องเพศ ดูแลสุขภาพทางเพศ ตนเอง อยา่ งเหมาะสม) ผลทเี่ กดิ ขึน้ (เป็นการป้องกนั ความผดิ พลาด ทจ่ี ะเกดิ ขึ้นหรือไมเ่ ข้าใจ) ครอบครัว (ปรึกษาพอ่ แม่ ผู้ปกครองในเรอื่ งเพศ (พูดเรอื่ งลามกไมเ่ หมาะสม ถา้ มคี วามสงสยั หรือไมเ่ ข้าใจ) หรอื หยาบคายในเรอ่ื งเพศกบั บคุ คล ในครอบครวั ) ผลทเี่ กดิ ข้นึ ผลที่เกดิ ขึ้น (ปฏิบัติตนในเรือ่ งเพศไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (มีพฤติกรรมทไ่ี มเ่ หมาะสม มีความเข้าใจร่วมกนั ) ไม่ถกู กาลเทศะ) (ร้จู ักการปฏเิ สธ เล่ยี งการถูกชักชวน (การคบเพ่อื นหรอื บคุ คลในทางทผ่ี ดิ ไปในทางทไ่ี มเ่ หมาะสม การเลอื กคบเพื่อน การอยใู่ นสถานทที่ ี่ไมเ่ หมาะสมกับวยั ) ท่ดี ี ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของสงั คม) ผลท่เี กดิ ขน้ึ สงั คม ผลที่เกดิ ขนึ้ (เกดิ การตั้งครรภไ์ ม่พรอ้ ม เป็นภาระของ (ไม่สร้างปญั หาใหก้ ับสงั คม หรอื เปน็ ภาระ สงั คม ของสังคม) ต่อไป)

57 ชน้ิ งานที่ 8 เร่อื ง ความขดั แยง้ ในครอบครวั วันท่ี________เดอื น_______________พ.ศ.___________ ชื่อ_____________________________เลขท่ี______ชน้ั __________ นกั เรียนยกตวั อย่างปัญหาความขดั แย้งในครอบครัว 1 ปญั หา วิเคราะหส์ าเหตแุ ละเสนอ แนวทางปอ้ งกนั และแก้ไขลงในแผนภาพความคิด แลว้ ตอบคาถาม จากน้ันนาเสนอหนา้ ช้ันเรียน

58

59

60 หน่วยท่ี 3 การกาหนดรายการอาหารท่ี เหมาะสมกับวัย

61 แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา สขุ ศึกษา ปกี ารศึกษา 2564 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง หน่วยที่ 3 การกาหนดรายการอาหารทีเ่ หมาะสมกบั วัย 1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เหน็ คุณค่าและมที ักษะในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การดารงสุขภาพ การปอ้ งกนั โรคและการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพ ตัวชี้วัด พ 4.1 ม.3/1 กาหนดรายการอาหารท่เี หมาะสมกบั วัยตา่ ง ๆ โดยคานึงถึงความประหยัด และคุณค่าทางโภชนาการ 2.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ความรู้(k) 1. นักเรียนอธิบายความสาคัญของการกาหนดรายการอาหารท่เี หมาะสมกับวัยตาง ๆ โดยทค่ี านงึ ถงึ ความประหยัดและคุณคาทางโภชนาการได้ 2.นักเรยี นอธิบายหลกั การกาหนดรายการอาหารทเ่ี หมาะสมกับวยั ได้ 2.2 ทักษะ(P) 1.นักเรียนกาหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสม และสัดส่วนของอาหารตามหลัก โภชนาการ 2.นกั เรยี นสามารถกาหนดรายการอาหารท่ีเหมาะสมกับวัย 2.3 ทศั นคติ(A) 1นักเรยี นเห็นความสาคัญของการรบั ประทานอาหารให้ได้สัดสว่ นทีเ่ หมาะสม 2.นักเรยี นเห็นความสาคัญของการกาหนดรายการอาหารทเี่ หมาะสมกบั วยั 3.สาระสาคญั บุคคลแต่ละวยั มคี วามต้องการพลงั งานสาหรบั ใช้ในการดาเนินชีวติ ประจาวันแตกต่างกนั จึงตอ้ งมีการ กาหนดรายการอาหารให้เหมาะสมกบั แต่ละวยั เพื่อใหร้ ่างกายได้รับสารอาหารอยา่ งเพียงพอ ส่งผลให้ มสี ุขภาพรา่ งกายสมบรู ณ์แขง็ แรง 4.สาระการเรียนรู้ 1. อาหารหลัก 5 หมู่ 2. การรับประทานอาหารใหไ้ ดส้ ัดส่วนท่เี หมาะสม 3. กาหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกบั วยั

62 ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ ทกั ษะการอ่าน ทักษะการวิเคราะห์ ทักษะการประเมิน ทักษะการเปรยี บเทยี บ ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสนา กษัตริย์ ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง ม่งุ มั่นในการทางาน รักความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ 5.สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ( เฉพาะท่ีเกิดในหนว่ ยการเรยี นรู้น้ี ) ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ความสารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ทักษะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสู่การเรียนรคู้ ณุ ภาพผเู้ รียน) ทกั ษะการอา่ น (Reading) ทกั ษะการเขียน (Writing) ทักษะการคดิ คานวณ (Arithmetic) ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation) ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration ,teamwork and leadership) ทกั ษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทักษะด้าน การสอื่ สาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing) ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and and learning self-reliance, change) ทักษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผนู้ า(Leadeship)

63 7.ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) 1.ชิน้ งานท่ี 9 เร่อื ง การกาหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกับวยั 2.หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 3.ภาพอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ 4.แหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น 8.การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ รปู แบบการจดั การเรียนการสอน :กระบวนการเรียนรแู้ บบ GPAS 5 Steps หนว่ ยย่อยท1ี่ เรือ่ ง การกาหนดรายการอาหารท่ีเหมาะสมกบั วัย(2 ชวั่ โมง ) ขั้นท่ี 1 Gathering (ขัน้ สงั เกต รวบรวมข้อมลู ) 1. นกั เรียนสังเกตภาพอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ แล้วร่วมกันสนทนา โดยตอบคาถาม 2. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับการรบั ประทานอาหารของตนเอง โดยตอบคาถาม 3. นกั เรยี นศึกษาความรูแ้ ละรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาหารหลัก 5 หมู่ การรับประทาน อาหารให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม และการกาหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกับวัย จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เชน่ หนังสอื เรียน อนิ เทอร์เน็ต ขั้นท่ี 2 Processing (ขน้ั คิดวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้) 4. นักเรียนเลือกอาหารท่ีตนเองชอบรับประทานมากที่สุด 1 ชนิด จากนั้นวิเคราะห์ ประโยชน์ของอาหารและความเหมาะสมของอาหารกบั สขุ ภาพร่างกายของตนเอง 5. นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์หลักการกาหนดรายการอาหาร จากน้ันร่วมกันแสดงความ คิดเห็นโดยเขียนแผนภาพความคิด 6. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ ∙ นักเรียนจะมีหลักในการรับประทานอาหารอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ∙ นักเรียนคิดว่าอาหารชนิดเดียวกันสามารถรับประทานได้ทุกวัยหรือไม่ เพราะเหตุใด ข้นั ท่ี 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขน้ั ปฏิบตั ิและสรุปความรู้หลัง การปฏิบตั ิ) 7. นักเรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกันกาหนดปริมาณอาหารท่ีเหมาะสมและสัดส่วน ของอาหารตามหลักโภชนาการใน 1 วัน 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันกาหนดรายการอาหารใน 1 วัน สาหรับสมาชิกใน ครอบครวั โดยใชอ้ าหารในท้องถ่ิน เขียนรายการอาหารและระบุปริมาณอาหารเป็น ตารางลงในช้นิ งานที่ 9 เรอ่ื ง การกาหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกบั วยั 9. นักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังน้ี บุคคลแต่ละวัยมีความ ต้องการพลังงานสาหรับใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวันแตกต่างกันจึงต้องมีการ

64 กาหนดรายการอาหารให้เหมาะสมกบั แตล่ ะวยั เพ่ือให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่าง เพยี งพอ สง่ ผลใหม้ ีสุขภาพสมบูรณแ์ ขง็ แรง ขัน้ ที่ 4 Applying the Communication Skill (ขน้ั ส่ือสารและนาเสนอ) 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอการกาหนดปริมาณอาหารท่ีเหมาะสมและ สดั สว่ นของอาหารตามหลักโภชนาการ ใน 1 วัน หน้าชน้ั เรยี น 11. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนอการกาหนดรายการอาหารใน 1 วัน ท่ีเหมาะสม กับวยั ตา่ ง ๆ หนา้ ชัน้ เรียน 12. นักเรยี นร่วมกันอภิปรายสรุปเก่ียวกับวิธีการทางานให้เห็นการคิดเชิงระบบ และวิธีการทางานท่มี ีแบบแผน ขน้ั ที่ 5 Self-Regulating (ขั้นประเมนิ เพือ่ เพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ) 13. นักเรียนนาวิธกี ารกาหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมและสดั สว่ นของอาหาร ตามหลักธงโภชนาการไปปรับใช้ในชีวิตประจาวัน 14. นกั เรียนนาหลักการกาหนดรายการอาหารทเ่ี หมาะสมกับวยั ไปใช้ กับสมาชกิ ในครอบครวั ทตี่ อ้ งการให้กาหนดรายการอาหารให้ 15. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทา กิจกรรมในประเดน็ ต่อไปนี้ • สิง่ ที่นกั เรยี นได้เรียนรใู้ นวันนี้คืออะไร • นักเรยี นมสี ่วนร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • เพื่อนนกั เรียนในกลมุ่ มีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรยี นในวนั นี้หรือไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนาความรทู้ ่ีได้นไ้ี ปใช้ใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไปไดอ้ ย่างไร จากน้ันแลกเปลี่ยนตรวจสอบข้ันตอนการทางานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่ สงั คมเกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากข้นึ กว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบ้าง สาหรับการทางานในครัง้ ตอ่ ไป 9.การวัดประเมินผล 1.ประเมินความรู้ เรือ่ ง อาหารหลัก 5 หมู่ การรับประทานอาหารใหไ้ ดส้ ัดสว่ นทเ่ี หมาะสม การกาหนดรายการอาหารทเ่ี หมาะสมกบั วัย (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2.ประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3.ประเมนิ ชนิ้ งาน เรื่อง การกาหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกบั วัย (P) ดว้ ยแบบประเมิน 4. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทางาน (A) ด้วยแบบประเมนิ

65 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม กลุม่ ที่............................ สมาชิกของกลุ่ม 1. 2. 3. 4. 5. 6. ลาดบั ท่ี พฤติกรรม คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิ 321 1 มกี ารวางแผนร่วมกันก่อนทางาน 2 มีการแสดงความคิดเห็นของสมาชกิ 3 มกี ารรับฟังความคิดเหน็ ของสมาชกิ 4 มกี ารปฏบิ ตั ิงานตามข้ันตอนทีว่ างแผนไว้ 5 สามารถให้คาแนะนากลุ่มอน่ื ได้ รวม ลงช่ือ..............................................................................ผู้ประเมิน ......................./.........................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ังหรือน้อยครั้งให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

66 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี √ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ 4321 ดา้ น 1. รกั ชาติ 1.1 ยนื ตรงเม่ือไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ ศาสน์ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏิบัตติ นตามสิทธิและหน้าทข่ี องนกั เรยี น 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชิกในช้ันเรยี น 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียนและชุมชน 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏบิ ัติ ตนตามหลกั ของศาสนา 1.6 เขา้ รว่ มกิจกรรมทเี่ กีย่ วกบั สถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามที่โรงเรยี น และชมุ ชนจัดขนึ้ 2. ซื่อสตั ย์ 2.1 ใหข้ ้อมลู ท่ีถกู ตอ้ ง และเป็นจรงิ สุจรติ 2.2 ปฏิบตั ิในสิง่ ทถี่ กู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ที่ จะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ีตนให้ไวก้ ับเพื่อน พ่อ แม่หรือผูป้ กครอง และครู 2.3 ปฏิบัติตอ่ ผู้อ่ืนดว้ ยความซื่อตรง 3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ รบั ผิดชอบ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั และโรงเรยี น มีความ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น สิง่ ของ เครอ่ื งใช้ พอเพียง ฯลฯ อยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า และเก็บรกั ษาดูแลอย่าง ดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม

67 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบตั ิตนและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบ มี เหตุผล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดร้อน พร้อมใหอ้ ภยั เมื่อผู้อ่นื กระทาผิดพลาด คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ 43 2 1 ดา้ น 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใช้ ชวี ิตประจาวนั บนพ้นื ฐานของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร 6. มงุ่ ม่ันในการ 5.6 ร้เู ท่าทันการเปลยี่ นแปลงทางสงั คม และ ทางาน สภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรับตวั อยู่รว่ มกบั ผอู้ ืน่ ไดอ้ ย่าง มคี วามสุข 7. รกั ความเป็น 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั ไทย มอบหมาย 8. มจี ิต 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งาน สาธารณะ สาเรจ็ 7.1 มีจติ สานึกในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญา ไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ชว่ ยทา และแบง่ ปนั ส่ิงของให้ ผู้อน่ื 8.3 รู้จกั ดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของ หอ้ งเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนข์ อง โรงเรยี น ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................

68 เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ชว่ งคะแนน ดี 191 - 108 พอใช้ 73 - 90 ปรับปรุง 54 - 72 ต่ากว่า 54 เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน

69 แบบประเมินใบงาน/ชิน้ งาน กลุม่ ท.ี่ ............เรอื่ ง........................................................................................................................ รายวิชา................................รหสั วิชา...............................ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที.่ ............................... คาช้ีแจง : ให้ครูทาเครือ่ งหมาย ✓ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมนิ รวม หมายเหตุ ระดับคะแนน ประเดน็ การประเมนิ ๕๔๓๒๑ ๑. รูปแบบของใบงาน/ชน้ิ งาน ๒. ความถกู ตอ้ งของข้อมลู เนอื้ หาสาระ ๓. ความตรงต่อเวลา คะแนนรวม ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน (………………………….……) …………/…………/……….

70 เกณฑก์ ารประเมินแบบประเมินใบงาน/ชิน้ งาน ประเดน็ เกณฑ์การใหค้ ะแนน / ระดับคุณภาพ การ ๕ ๔ ๓ ๒๑ ประเมิน ๑. รูปแบบของงาน รูปแบบของงาน รปู แบบของ รูปแบบของ รูปแบบ รูปแบบ ถูกต้องตามกาหนด มี ถกู ต้องตาม งานถกู ต้อง งานถูกต้อง ของงาน ของใบ ความเป็นระเบียบ กาหนด มคี วาม ตามกาหนดมี ตามกาหนด ไม่ถูกต้อง งาน/ เรยี บร้อย ตกแต่งอย่าง เป็นระเบยี บ ความเป็น บางสว่ น ตาม ชิ้นงาน สวยงาม แสดงถงึ เรียบร้อย แสดง ระเบียบ กาหนด ความคิดรเิ รม่ิ ถึงความคดิ รเิ ริ่ม เรียบร้อย สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ ๒. ความ เน้ือหาสาระถูกต้อง เน้อื หาสาระ เนื้อหาสาระ เนือ้ หา เน้อื หา ถูกต้อง ครบถว้ น ละเอยี ด ถกู ต้องครบถว้ น สว่ นมาก สาระ สาระไม่ ของขอ้ มูล ชัดเจน และมกี าร ละเอยี ดชัดเจน ถกู ต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง เน้ือหา สบื คน้ ขอ้ มลู เพ่ิมเติม เพยี ง สาระ นอกเหนือจาก บางสว่ น บทเรยี น ๓. ความ ส่งงานภายใน ส่งงานช้ากวา่ สง่ งานชา้ กวา่ ส่งงานชา้ สง่ งานชา้ ตรงตอ่ ระยะเวลาท่ีกาหนด กาหนด ๑ วนั กาหนด ๒ กว่ากาหนด กว่า เวลา วัน ๓ วัน กาหนด เกนิ ๓ วนั ขึน้ ไป เกณฑก์ ารตดั สินระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๑๓ – ๑๕ ดีมาก ๑๐ – ๑๒ ดี

71 ๗ – ๙ ปานกลาง ๔ – ๖ พอใช้ ๑ – ๓ ควรปรบั ปรุง แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-Test) ชือ่ ______________________________________________ เลขที่ _______ ชัน้ ______ นกั เรยี น X ทับคาตอบที่ถูกต้อง 1. รายการอาหารในข้อใดเปน็ อาหารที่เหมาะสาหรับผู้สงู อายุมากทสี่ ุด 1 ราดหนา้ ทะเล ไกท่ อด ขา้ วเหนยี วมะมว่ ง 2 แกงเขยี วหวานไก่ เนอ้ื ทอด ทับทิมกรอบ 3 ขา้ วตม้ ปลา สลัดผักทูนา นา้ ผลไมส้ ด 4 สเต็กปลา เป็ดพะโล้ ทเุ รียนกวน 2. บคุ คลในข้อใดรับประทานอาหารไดส้ ัดสว่ นตามหลกั ธงโภชนาการ 1 ดืม่ น้าผลไม้แทนน้าเปลา่ 2 รับประทานอาหารทุกรส 3 รับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก 4 รบั ประทานขนมหวานทกุ ม้อื อาหาร 3. การรับประทานอาหารท่ไี ด้สัดส่วนเหมาะสมกบั วัยจะส่งผลอย่างไร 1 ฉลาดหลกั แหลมและมไี หวพริบดี 2 มีรา่ งกายแขง็ แรง รูปร่างสมส่วน 3 มีหน้าตาและผวิ พรรณดี 4 ป้องกนั โรคติดตอ่ 4. การกินพอดี ตรงกบั ข้อใด 1 รบั ประทานอาหารราคาถูก 2 รบั ประทานอาหารแค่พออ่ิม 3 รับประทานอาหารเฉพาะที่ชอบเป็นประจา 4 รับประทานอาหารครบทกุ หมู่ และเพียงพอตอ่ ร่างกาย 5. ในม้ือเช้านักเรียนควรเลือกรบั ประทานอาหารในขอ้ ใดมากที่สดุ 1 โจ๊กไก่ นมสด 2 ยามามา่ นา้ ผลไม้ 3 สลดั ผกั ขนมปังไส้ไหล

72 4 ไข่ดาว ไสก้ รอกทอด 6. อาหารหลกั 5 หมู่ ในข้อใดที่ผใู้ ช้แรงงานควรรับประทานมากกว่าหมู่อน่ื 1 ผักตา่ ง ๆ 2 ไขมนั จากพืช 3 เนื้อสตั ว์ นมสด 4 ขา้ ว แปง้ น้าตาล 7. อาหารในข้อใดท่เี ด็กแรกเกดิ ถึงหกเดือนควรไดร้ ับมากทีส่ ดุ 1 นา้ นมจากมารดา 2 ผักตม้ บดละเอยี ด 3 กล้วยนา้ ว้าบดผสมขา้ วสุก 4 อาหารเสรมิ สาเร็จรปู ชงกับนม 8. เพราะเหตุใดวยั รุ่นจึงควรเน้นการรบั ประทานอาหารทใ่ี ห้สารอาหารประเภทโปรตนี 1 โปรตีนชว่ ยบารงุ ผิวพรรณใหส้ ดใส 2 ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ 3 รา่ งกายอ่อนแอจงึ ต้องเสรมิ ภูมติ า้ นทานโรค 4 สภาพร่างกายร่วงโรยจึงต้องซ่อมแซมสว่ นทีส่ กึ หรอ 9. ข้อใดเป็นผลจากการรับประทานอาหารที่ไม่ได้สัดสว่ นและปริมาณตามวยั 1 อารมณเ์ สยี และหงดุ หงิดงา่ ย 2 เป็นไข้หวัดบ่อย 3 ตวั สูงกว่าเพ่ือน 4 เปน็ โรคอว้ น 10. หลกั การรบั ประทานอาหารให้เหมาะสมควรพจิ ารณาจากส่ิงใด 1 โรคประจาตัว ฐานะทางครอบครัว 2 อายุ กิจกรรมในชวี ติ ประจาวัน 3 ลกั ษณะรูปรา่ งหน้าตา อาชพี 4 เพศ ระดับสติปัญญา เฉลย ข้อ 1. ตอบ 3 ข้อ 2. ตอบ 3 ข้อ 3. ตอบ 2 ข้อ 4. ตอบ 4 ขอ้ 5. ตอบ 1

73 ข้อ6. ตอบ 4 ข้อ7. ตอบ 1 ขอ้ 8. ตอบ 2 ขอ้ 9. ตอบ 4 ข้อ10. ตอบ 2 แบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) ชือ่ ________________________________________________ เลขท่ี ______ ชนั้ _____ นกั เรียน X ทบั คาตอบท่ีถูกต้อง 1. อาหารหลกั 5 หมู่ ในข้อใดท่ีผใู้ ช้แรงงานควรรับประทานมากกว่าหมู่อ่นื 1 ผกั ต่าง ๆ 2 ไขมนั จากพืช 3 เน้ือสตั ว์ นมสด 4 ขา้ ว แปง้ น้าตาล 2. การกินพอดี ตรงกบั ข้อใด 1 รบั ประทานอาหารราคาถกู 2 รับประทานอาหารแคพ่ ออิ่ม 3 รับประทานอาหารเฉพาะท่ชี อบเปน็ ประจา 4 รับประทานอาหารครบทกุ หมู่ และเพียงพอตอ่ รา่ งกาย 3. ในมื้อเช้านักเรยี นควรเลือกรบั ประทานอาหารในข้อใดมากที่สุด 1 โจก๊ ไก่ นมสด 2 ยามาม่า นา้ ผลไม้ 3 สลดั ผัก ขนมปงั ไส้ไหล 4 ไข่ดาว ไสก้ รอกทอด 4. อาหารในข้อใดท่เี ดก็ แรกเกิดถึงหกเดือนควรได้รับมากทส่ี ุด 1 น้านมจากมารดา 2 ผกั ต้มบดละเอยี ด 3 กลว้ ยน้าวา้ บดผสมขา้ วสกุ 4 อาหารเสริมสาเร็จรปู ชงกบั นม 5. เพราะเหตุใดวัยรนุ่ จงึ ควรเน้นการรบั ประทานอาหารท่ีให้สารอาหารประเภทโปรตนี 1 โปรตนี ชว่ ยบารุงผวิ พรรณให้สดใส 2 รา่ งกายมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ 3 รา่ งกายอ่อนแอจงึ ต้องเสรมิ ภูมิต้านทานโรค

74 4 สภาพร่างกายร่วงโรยจงึ ตอ้ งซ่อมแซมส่วนทสี่ กึ หรอ 6. รายการอาหารในข้อใดเปน็ อาหารทเ่ี หมาะสาหรับผู้สูงอายมุ ากทีส่ ดุ 1 ราดหนา้ ทะเล ไกท่ อด ขา้ วเหนยี วมะมว่ ง 2 แกงเขยี วหวานไก่ เนื้อทอด ทับทิมกรอบ 3 ข้าวต้มปลา สลดั ผกั ทูนา นา้ ผลไม้สด 4 สเตก็ ปลา เป็ดพะโล้ ทเุ รียนกวน 7. ข้อใดเป็นผลจากการรบั ประทานอาหารที่ไมไ่ ด้สัดส่วนและปริมาณตามวัย 1 อารมณ์เสียและหงดุ หงิดงา่ ย 2 เป็นไขห้ วดั บอ่ ย 3 ตัวสงู กว่าเพอื่ น 4 เป็นโรคอว้ น 8. หลกั การรบั ประทานอาหารให้เหมาะสมควรพิจารณาจากสิง่ ใด 1 โรคประจาตัว ฐานะทางครอบครัว 2 อายุ กจิ กรรมในชวี ิตประจาวัน 3 ลกั ษณะรูปร่างหนา้ ตา อาชีพ 4 เพศ ระดบั สตปิ ญั ญา 9. บคุ คลในข้อใดรบั ประทานอาหารไดส้ ดั สว่ นตามหลกั ธงโภชนาการ 1 ดมื่ น้าผลไมแ้ ทนน้าเปล่า 2 รบั ประทานอาหารทุกรส 3 รบั ประทานข้าวเป็นอาหารหลัก 4 รบั ประทานขนมหวานทกุ มอ้ื อาหาร 10. การรับประทานอาหารท่ีไดส้ ดั ส่วนเหมาะสมกบั วยั จะส่งผลอย่างไร 1 ฉลาดหลกั แหลมและมไี หวพริบดี 2 มีร่างกายแข็งแรง รูปร่างสมส่วน 3 มหี น้าตาและผิวพรรณดี 4 ป้องกนั โรคติดตอ่ เฉลย ขอ้ 1. ตอบ 4 ข้อ 2. ตอบ 4 ข้อ 3. ตอบ 1 ขอ้ 4. ตอบ 1 ข้อ 5. ตอบ 2 ข้อ6. ตอบ 3 ขอ้ 7. ตอบ 4 ขอ้ 8. ตอบ 2 ข้อ9. ตอบ 3

75 ขอ้ 10. ตอบ 2 ชิ้นงานท่ี 9 เรื่อง การกาหนดรายการอาหารทเ่ี หมาะสมกบั วยั วนั ที่________เดือน_______________พ.ศ.___________ ช่ือ_____________________________เลขท่ี______ช้นั __________ นกั เรียนแบ่งกลุ่ม 6 กลุ่ม กาหนดรายการอาหารใน 1 วนั สาหรับสมาชิกในครอบครัว 1 ช่วงวยั โดยใชอ้ าหารในทอ้ งถิ่น เขียนรายการอาหารและระบุปริมาณอาหารลงในตาราง และออกมา นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน

76

77

78

79 หนว่ ยที่ 4 การป้องกันโรคและการแก้ไข ปญั หาสุขภาพ

80 แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวชิ า สุขศึกษา ปกี ารศกึ ษา 2564 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 5 ชั่วโมง หนว่ ยที่ 4 การปอ้ งกนั โรคและการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน 1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เหน็ คุณค่าและมีทักษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกันโรคและการสร้างเสริมสมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ ตวั ช้ีวดั พ 4.1 ม.3/2 เสนอแนวทางป้องกันโรคทเี่ ป็นสาเหตสุ าคัญของการเจบ็ ป่วยและ การตายของคนไทย พ 4.1 ม.3/3 รวบรวมขอ้ มลู และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพในชมุ ชน2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ความรู้(k) 1.นักเรยี นสามรถอธิบายแนวทางปองกันโรคทเี่ ปนสาเหตุสาคัญของการเจ็บปวย และการตายของคนไทยได้ 2.นกั เรยี นอธิบายวธิ กี ารรวบรวมขอมูลและเสนอแนวทาง แกไขปญหาสขุ ภาพใน ชมุ ชน 2.2 ทกั ษะ(P) 1.นกั เรยี นเขียนสรปุ แนวทางปอ้ งกนั ขอ้ มูลโรคติดตอ่ ทีเ่ ปน็ สาเหตุสาคญั ของการ เจบ็ ปว่ ยและการตายของคนไทยได้ 2.นกั เรียนเสนอกิจกรรมหรอื โครงการเพื่อแกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชน 2.3 ทศั นคติ(A) 1.นักเรียนเห็นความสาคัญของการป้องกันโรคติดต่อที่เป็นสาเหตุสาคัญของการ เจ็บป่วยและการตายของคนไทย

81 2.นักเรียนเห็นความสาคัญของการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนตามหลักการทาง สาธารณสุข 3.สาระสาคัญ พฤติกรรมสขุ ภาพที่ไมถ่ ูกต้อง เปน็ สาเหตุสาคญั ของการเจ็บป่วยและการตายของคนไทยด้วย โรคติดต่อและโรคไม่ตดิ ตอ่ ซึ่งถือเปน็ ปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชน การพยายามดึงชุมชนใหเ้ ข้ามามสี ว่ น รว่ มในการดูแลสขุ ภาพจึงเป็นสิง่ สาคญั ที่จะแกป้ ญั หาสขุ ภาพได้ 4.สาระการเรียนรู้ 1. โรคทีเ่ ป็นสาเหตุสาคัญของการเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย 2. แนวทางการแก้ไขปญั หาสุขภาพในชมุ ชน ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ ทักษะการอา่ น ทักษะการวิเคราะห์ ทักษะการประเมนิ ทกั ษะการเปรียบเทียบ ทักษะการนาความรู้ไปใช้ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสนา กษัตริย์ ซ่อื สัตยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง มุง่ มน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ 5.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ( เฉพาะทเี่ กิดในหน่วยการเรียนรูน้ ้ี ) ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ความสารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เน้นสกู่ ารเรียนรู้คุณภาพผู้เรียน) ทักษะการอา่ น (Reading) ทักษะการเขียน (Writing) ทกั ษะการคิดคานวณ (Arithmetic) ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)

82 ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration ,teamwork and leadership) ทักษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทักษะดา้ น การสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทนั ส่อื (Communication information and media literacy) ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing) ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผู้นา(Leadeship) 7.ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) 1. ชิ้นงานท่ี 10 เร่อื ง โรคท่ีเปน็ สาเหตขุ องการเจบ็ ปว่ ยและการตายของคนไทย 2. ชิน้ งานท่ี 11 เรือ่ ง แนวทางแกไ้ ขปญั หาสุขภาพในชมุ ชน 3 .หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 4. แผนภมู แิ สดงอตั ราการตายจาแนกตามสาเหตุทส่ี าคัญ 5. สลากโรคตดิ ต่อที่เป็นสาเหตกุ ารเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย 6. ภาพโปสเตอรแ์ สดงข้อมูลการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดตอ่ 7. สลากโรคไม่ติดต่อท่ีเปน็ สาเหตกุ ารเจบ็ ป่วยและการตายของคนไทย 8. บทความเกย่ี วกับโรคทเี่ ปน็ สาเหตุของการเสียชวี ิตของคนไทย 9. บัตรคาโรคตดิ ต่อและโรคไม่ติดต่อ 10. ภาพปัญหาสุขภาพในชมุ ชน 11. แหล่งการเรียนรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น 8.การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน :กระบวนการเรยี นร้แู บบ GPAS 5 Steps หนว่ ยยอ่ ยท1ี่ เร่อื ง โรคท่เี ป็นสาเหตุสาคญั ของการเจบ็ ปว่ ยและการตายของคนไทย (3 ชัว่ โมง) ข้ันที่ 1 Gathering (ขั้นสังเกต รวบรวมขอ้ มลู ) 1. นักเรียนสังเกตแผนภูมิแสดงอัตราการตายจาแนกตามสาเหตุท่ีสาคัญต่อประชากร 100,000 คน ในประเทศไทย พ.ศ. 2557 จากน้ันร่วมกันสนทนาเก่ียวกับ แนวโน้มการเสียชีวิตของคนไทยท่ีมีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วยจากโรคติดต่อต่าง ๆ โดยตอบคาถาม 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั อตั ราการตายทเ่ี พ่ิมขน้ึ หรือลดลงของผ้ปู ่วยบางโรค ท่ีมีสาเหตกุ ารเจ็บปว่ ยของคนไทยจากโรคตดิ ตอ่ ต่าง ๆ โดยตอบคาถาม 3. นักเรียนสังเกตภาพโปสเตอร์แสดงข้อมูลการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อ จากนั้น รว่ มกันสนทนาโดยตอบคาถาม

83 4. นักเรียนอ่านบทความเก่ียวกับโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทย จากน้ัน ร่วมกันสนทนา โดยตอบคาถาม 5. นักเรียนศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกับโรคท่ีเปน็ สาเหตสุ าคญั ของการเจ็บป่วยและการตายของคนไทย แนวทางการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน จากแหล่งการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ เชน่ หนงั สือเรียน อินเทอร์เนต็ ข้ันท่ี 2 Processing (ขนั้ คดิ วิเคราะห์และสรุปความร)ู้ 6. นักเรยี นวเิ คราะห์สถานการณ์การเจบ็ ป่วยและการตายจากโรคตดิ ต่อและโรค ไมต่ ดิ ตอ่ ของคนไทย แล้วเรียงลาดับความรุนแรงของอัตราการเจ็บป่วยและการตาย จากโรคติดต่อ และโรคไมต่ ิดตอ่ ของคนไทย 7. นกั เรียนสังเกตบตั รคาเก่ียวกับโรคติดต่อและโรคไมต่ ิดต่อ จากนน้ั ร่วมกันวิเคราะห์ แลว้ จดั กล่มุ โรคติดตอ่ และโรคไมต่ ิดตอ่ โดยนาบตั รคาไปตดิ บนกระดาน 8. นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ดงั นี้ ∙ นกั เรยี นจะมแี นวทางการใชช้ ีวติ อยูร่ ว่ มกับผปู้ ว่ ยที่เป็นโรคตดิ ต่ออยา่ งไร ∙ นกั เรยี นมีญาตพิ ่ีน้องท่ีป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อหรือไม่ ถ้ามีเป็นโรคอะไร และ มีวธิ กี ารรกั ษาหรือดูแลอาการอยา่ งไร ∙ นักเรียนจะนาความรู้เกย่ี วกบั โรคตดิ ตอ่ และไมต่ ิดต่อไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น การดาเนนิ ชวี ติ ของนักเรยี นอยา่ งไร ขั้นท่ี 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขนั้ ปฏิบตั แิ ละสรุปความร้หู ลัง การปฏิบัติ) 9. นักเรียนแบ่งกล่มุ ตามความเหมาะสม ตัวแทนกลมุ่ จับสลากเลอื กหัวขอ้ โรค ตดิ ตอ่ และโรคไมต่ ดิ ตอ่ ที่เป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและการตายของคนไทย จากน้ันแต่ ละกลุ่มรว่ มกันสรุปขอ้ มลู 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับโรคที่เป็นสาเหตุสาคัญของการ เจ็บป่วยและการตายของคนไทย มา 1โรค จากนั้นสรุปเก่ียวกับสาเหตุ อาการ และ แนวทางการป้องกัน โดยเขียนเป็นแผนภาพความคิดลงในชิ้นงานท่ี 10 เรื่อง โรคท่ี เปน็ สาเหตขุ องการเจบ็ ป่วยและการตายของคนไทย 11. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสิ่งทีเ่ ขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดงั นี้ พฤตกิ รรมสขุ ภาพท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง เปน็ สาเหตุสาคญั ของการเจ็บป่วยและการตายของคน ไทยด้วยโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ซึ่งถือเป็นปัญหาสุขภาพในชุมชน การพยายาม ดึงชมุ ชนใหเ้ ขา้ มามีสว่ นร่วมในการดูแลสุขภาพจงึ เป็นส่งิ สาคัญทจี่ ะแกป้ ญั หาสุขภาพ ได้ ข้นั ท่ี 4 Applying the Communication Skill (ขัน้ สือ่ สารและนาเสนอ) 12. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอข้อมูลเกีย่ วกบั โรคติดตอ่ และโรคไม่ติดต่อทเี่ ป็น สาเหตกุ ารเจ็บป่วยและการตายของคนไทยของกลมุ่ ตนเองทีห่ น้าชั้นเรยี น 13. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอแผนภาพความคิดเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และแนวทาง ป้องกันโรคของกลุ่มตนเองทีห่ น้าช้ันเรียน

84 14. นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายสรปุ เกย่ี วกบั วิธกี ารทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบ และวิธีการทางานทมี่ แี บบแผน ขัน้ ที่ 5 Self-Regulating (ขน้ั ประเมินเพ่ือเพม่ิ คณุ คา่ บรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ) 15. นักเรยี นนาความรทู้ ีไ่ ดร้ ับเก่ยี วกับโรคติดต่อและโรคไมต่ ิดต่อที่เปน็ สาเหตุ การเจ็บป่วยและการตายของคนไทยไปเผยแพร่ความรู้ให้กับสมาชิกในครอบครัว และสมาชกิ ในสถานศึกษาตอ่ ไป 16. นกั เรยี นจดั ทาป้ายนเิ ทศเก่ียวกบั แนวทางการป้องกันโรคทเี่ ปน็ สาเหตสุ าคญั ของ การเจ็บป่วยและการตายของคนไทย 17. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทา กจิ กรรมในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี • ส่ิงท่นี กั เรยี นได้เรียนร้ใู นวนั นค้ี อื อะไร • นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด • เพ่ือนนักเรียนในกลุ่มมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนาความรู้ท่ีไดน้ ้ไี ปใช้ใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมท่ัวไปได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบข้ันตอนการทางานทุกข้ันตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่ สงั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมใหม้ ากข้ึนกว่าเดิมในข้ันตอนใดบ้าง สาหรบั การทางานในคร้งั ตอ่ ไป หน่วยย่อยที่ 2 เร่ือง แนวทางแกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชน (2 ช่ัวโมง) ขัน้ ที่ 1 Gathering (ขั้นสงั เกต รวบรวมขอ้ มูล) 1. นักเรยี นสงั เกตภาพเกย่ี วกับปัญหาสุขภาพในชมุ ชน จากน้นั ร่วมกนั สนทนา โดยตอบคาถาม 2. นกั เรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั ปัญหาสุขภาพในชุมชนของตนเอง โดยตอบคาถาม 3. นักเรียนศกึ ษาความรแู้ ละรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับแนวทางแกไ้ ขปญั หาสุขภาพ ในชุมชนจากแหลง่ การเรียนร้ตู ่าง ๆ เชน่ หนงั สือเรยี น อินเทอร์เนต็ ขั้นท่ี 2 Processing (ข้นั คิดวิเคราะห์และสรุปความรู้) 3. นักเรียนสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกบั ปญั หาสุขภาพในชุมชนทพ่ี บมากทสี่ ุด 5 อันดบั จากนน้ั วเิ คราะห์และแสดงการจดั ลาดับความสาคัญของปัญหาสขุ ภาพใน ชมุ ชน 5. นักเรยี นวเิ คราะหผ์ ลท่เี กดิ ขนึ้ จากการแก้ไขปญั หาสขุ ภาพในชมุ ชน จากน้นั บนั ทึก ขอ้ มลู โดยเขียนเป็นแผนภาพความคดิ 6. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นโดยตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ดงั น้ี • “อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มโี รคเปน็ ลาภอนั ประเสรฐิ ” นักเรยี นจะมสี ่วน ทาให้คนในชมุ ชนมสี ุขภาพเป็นไปตามคากลา่ วน้ไี ด้อย่างไร • หากไม่แก้ไขปญั หาสุขภาพในชมุ ชนจะเกิดผลอย่างไร

85 ขั้นท่ี 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขน้ั ปฏิบตั ิและสรปุ ความร้หู ลัง การปฏิบตั ิ) 7. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันนาข้อมูลเกยี่ วปัญหาสุขภาพในชุมชนท่ีได้สารวจ และรวบรวมข้อมลู มาจัดทาแผนภูมขิ อ้ มลู สภาพปัญหาสขุ ภาพในชุมชน 8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเสนอกจิ กรรมหรอื โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพในชมุ ชน 2 อย่าง จากน้ันวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย แล้วร่วมกันเลือกกิจกรรมหรือโครงการที่ดี ทส่ี ดุ พร้อมอธิบายเหตุผลจากน้ันร่วมกันเขียนวิธีการดาเนินกิจกกรรมหรือโครงการ ที่เลือก โดยบนั ทกึ รายละเอียดลงในชนิ้ งานที่ 11 เร่ือง แนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพ ในชมุ ชน 9. นักเรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ทีเ่ ข้าใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดงั นี้ พฤติกรรมสุขภาพทไี่ ม่ถกู ตอ้ ง เป็นสาเหตสุ าคัญของการเจ็บป่วยและการตายของคน ไทยด้วยโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ซ่ึงถือเป็นปัญหาสุขภาพในชุมชน การพยายาม ดึงชมุ ชนให้เข้ามามีส่วนรว่ มในการดูแลสุขภาพจงึ เป็นส่งิ สาคญั ที่จะแก้ปัญหาสุขภาพ ได้ ขั้นท่ี 4 Applying the Communication Skill (ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ) 10. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนอแผนภมู ิขอ้ มูลสภาพปญั หาสขุ ภาพในชุมชนหนา้ ชัน้ เรียน 11. นกั เรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอกจิ กรรมหรือโครงการเพ่ือแก้ไขปญั หาสุขภาพในชมุ ชน พรอ้ มอธบิ ายวิธีการดาเนินงานหนา้ ช้ันเรยี น 12. นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปเก่ียวกับวธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบ และวิธีการทางานที่มีแบบแผน ข้ันท่ี 5 Self-Regulating (ขั้นประเมนิ เพ่ือเพมิ่ คณุ ค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ) 13. นกั เรยี นนากิจกรรมหรือโครงการเพอ่ื แก้ไขปญั หาสุขภาพในชุมชน ไปแนะนาให้ชมุ ชนของตนเอง เพื่อการมสี ว่ นร่วมในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชมุ ชน 14. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทา กิจกรรมในประเดน็ ต่อไปนี้ • สง่ิ ทนี่ กั เรียนไดเ้ รียนรูใ้ นวันน้คี อื อะไร • นกั เรียนมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • เพือ่ นนกั เรยี นในกลมุ่ มสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรยี นพงึ พอใจกับการเรียนในวันนี้หรอื ไม่ เพยี งใด • นักเรียนจะนาความรู้ที่ได้น้ีไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และ สังคมทั่วไปได้อย่างไรจากนั้นแลกเปล่ียนตรวจสอบขั้นตอนการทางานทุก ขนั้ ตอนวา่ จะเพิ่มคุณคา่ ไปสูส่ งั คม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิม ในขั้นตอนใดบ้าง สาหรับการทางานในครงั้ ต่อไปต่อไป

86 9.การวดั ประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรอ่ื ง โรคทีเ่ ป็นสาเหตุสาคญั ของการเจบ็ ปว่ ยและการตายของคนไทย แนวทางการแก้ไขปญั หาสุขภาพในชมุ ชน (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ ชิ้นงาน เร่ือง โรคท่ีเปน็ สาเหตขุ องการเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 4. ประเมนิ ช้นิ งาน เรอ่ื ง แนวทางแกไ้ ขปญั หาสุขภาพในชมุ ชน (P) ด้วยแบบประเมิน 5. ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน มีจิตสาธารณะ (A) ด้วยแบบประเมิน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ กลมุ่ ท่ี............................ สมาชิกของกลุ่ม 1. 2. 3. 4. 5. 6. ลาดับที่ พฤตกิ รรม คุณภาพการปฏิบตั ิ 321 1 มกี ารวางแผนรว่ มกันกอ่ นทางาน 2 มีการแสดงความคิดเหน็ ของสมาชิก 3 มกี ารรับฟงั ความคิดเหน็ ของสมาชิก 4 มกี ารปฏบิ ตั งิ านตามข้ันตอนทวี่ างแผนไว้ 5 สามารถให้คาแนะนากลุม่ อ่ืนได้ รวม ลงช่อื ..............................................................................ผปู้ ระเมิน

87 ......................./.........................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ หรอื น้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี √ ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 4321 ด้าน 1. รกั ชาติ 1.1 ยนื ตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ ศาสน์ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษตั รยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามสทิ ธแิ ละหน้าที่ของนกั เรยี น 1.3 ใหค้ วามร่วมมือ รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในชนั้ เรยี น 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทีต่ นนับถือ ปฏบิ ตั ิ ตนตามหลกั ของศาสนา 1.6 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเกยี่ วกบั สถาบัน พระมหากษัตริย์ตามทีโ่ รงเรยี น และชมุ ชนจดั ขึน้ 2. ซื่อสตั ย์ 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ถี กู ตอ้ ง และเปน็ จรงิ สจุ ริต 2.2 ปฏบิ ตั ิในส่งิ ทถี่ กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวท่ี จะทาความผดิ ทาตามสญั ญาทีต่ นให้ไวก้ บั เพ่ือน พ่อ แมห่ รือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ด้วยความซื่อตรง 3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ รบั ผิดชอบ ข้อบงั คับของครอบครวั และโรงเรียน มีความ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ

88 4. ใฝเ่ รยี นรู้ ในชวี ติ ประจาวัน 5. อยู่อยา่ ง 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรียนรตู้ ่างๆ พอเพียง 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อย่างมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เชน่ ส่ิงของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า และเก็บรักษาดูแลอยา่ ง ดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มี เหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อนื่ และไม่ทาใหผ้ ้อู ่นื เดือดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเมื่อผู้อน่ื กระทาผิดพลาด คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ 43 2 1 ดา้ น 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใช้ ชวี ติ ประจาวันบนพน้ื ฐานของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร 6. มุง่ มัน่ ในการ 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลีย่ นแปลงทางสังคม และ ทางาน สภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตัว อยู่รว่ มกบั ผู้อ่ืนได้อย่าง มีความสขุ 7. รกั ความเป็น 6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานที่ได้รบั ไทย มอบหมาย 8. มจี ิต 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพื่อให้งาน สาธารณะ สาเร็จ 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญา ไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพ่อแม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบง่ ปันส่งิ ของให้ ผอู้ ่นื 8.3 รจู้ ักดูแล รักษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดล้อมของ ห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของ โรงเรียน

89 ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ชว่ งคะแนน ดี 191 - 108 พอใช้ 73 - 90 ปรับปรุง 54 - 72 ตา่ กวา่ 54 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

90 แบบประเมินใบงาน/ชิน้ งาน กลุม่ ท.ี่ ............เรอื่ ง........................................................................................................................ รายวิชา................................รหัสวิชา...............................ช้นั มัธยมศึกษาปีที่................................ คาช้ีแจง : ให้ครูทาเครือ่ งหมาย ✓ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมนิ รวม หมายเหตุ ระดับคะแนน ประเด็นการประเมนิ ๕๔๓๒๑ ๑. รูปแบบของใบงาน/ชน้ิ งาน ๒. ความถกู ตอ้ งของข้อมลู เนอื้ หาสาระ ๓. ความตรงต่อเวลา คะแนนรวม ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน (………………………….……) …………/…………/……….

91 เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมินใบงาน/ช้นิ งาน ประเดน็ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / ระดับคุณภาพ การ ๕ ๔ ๓ ๒๑ ประเมนิ ๑. รูปแบบของงาน รปู แบบของงาน รปู แบบของ รูปแบบของ รปู แบบ รปู แบบ ถูกต้องตามกาหนด มี ถกู ต้องตาม งานถูกต้อง งานถกู ต้อง ของงาน ของใบ ความเปน็ ระเบยี บ กาหนด มคี วาม ตามกาหนดมี ตามกาหนด ไม่ถูกตอ้ ง งาน/ เรยี บรอ้ ย ตกแต่งอยา่ ง เปน็ ระเบยี บ ความเป็น บางส่วน ตาม ชน้ิ งาน สวยงาม แสดงถึง เรยี บร้อย แสดง ระเบียบ กาหนด ความคิดริเร่ิม ถึงความคิดรเิ รม่ิ เรยี บร้อย สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ ๒. ความ เนื้อหาสาระถูกต้อง เน้อื หาสาระ เน้ือหาสาระ เนอ้ื หา เนอื้ หา ถูกต้อง ครบถ้วน ละเอยี ด ถูกต้องครบถว้ น ส่วนมาก สาระ สาระไม่ ของข้อมลู ชัดเจน และมีการ ละเอียดชดั เจน ถกู ต้อง ถกู ต้อง ถูกต้อง เน้อื หา สบื คน้ ข้อมูลเพ่ิมเติม เพียง สาระ นอกเหนือจาก บางสว่ น บทเรยี น ๓. ความ สง่ งานภายใน สง่ งานช้ากวา่ สง่ งานช้ากว่า ส่งงานชา้ สง่ งานช้า ตรงตอ่ ระยะเวลาท่ีกาหนด กาหนด ๑ วัน กาหนด ๒ กว่ากาหนด กว่า เวลา วนั ๓ วัน กาหนด เกนิ ๓ วันขึน้ ไป

92 เกณฑก์ ารตดั สินระดบั คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๓ – ๑๕ ดีมาก ๑๐ – ๑๒ ดี ๗–๙ ปานกลาง ๔–๖ พอใช้ ๑–๓ ควรปรบั ปรุง แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) ชอื่ _____________________________________________เลขท่ี _______ ชนั้ ______ นักเรียน X ทบั คาตอบที่ถูกต้อง 1. ปัญหาสุขภาพในชุมชนส่งผลกระทบตอ่ คนในชุมชนอย่างไร 1 ตอ้ งย้ายถิ่นฐานไปอยูช่ ุมชนอื่น 2 รู้จักใส่ใจและดูแลสุขภาพของตนเองมากข้นึ 3 มีความหวาดระแวงและไม่ไว้ใจซ่ึงกันและกัน 4 เกดิ ความเครยี ดและความวติ กกงั วลต่อสุขภาพของตนเองและสมาชกิ ในครอบครัว 2. การป้องกนั และแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนมปี ระโยชน์อย่างไร 1 คนในชมุ ชนมสี ขุ ภาพร่างกายและจิตใจท่ีสมบรู ณ์แขง็ แรง 2 ปญั หาความขดั แย้งและความรุนแรงในชมุ ชนลดลง 3 ระดับการศึกษาของคนในชมุ ชนสงู ขน้ึ 4 คนในชมุ ชนมงี านทา ไมต่ กงาน 3. กจิ กรรมหรือโครงการในข้อใดท่สี ง่ ผลดีตอ่ สขุ ภาพของคนในชมุ ชนทุกเพศทกุ วัย 1 กจิ กรรมรณรงคต์ ่อต้านสารเสพติด 2 การปลูกสมุนไพรในชมุ ชน 3 การแขง่ ขนั เดินทางไกล 4 การก่อตงั้ ชมรมฮูลาฮปู 4. ข้อใดเป็นแนวทางป้องกนั โรคเอดสท์ ่เี หมาะสมกับวยั เรยี นท่ีสุด 1 ไมม่ เี พศสัมพันธ์ในวัยเรยี น 2 ไมร่ บั ประทานอาหารรว่ มกบั ผูอ้ ื่น 3 รว่ มรณรงค์ปอ้ งกนั โรคเอดส์อยเู่ สมอ 4 ใช้ถงุ ยางอนามัยทุกครั้งท่ีมีเพศสมั พนั ธ์

93 5. การหมน่ั ล้างมือให้สะอาดและใชช้ ้อนกลางรับประทานอาหารช่วยป้องกนั โรคในข้อใด 1 โรคฉห่ี นู 2 โรคความดนั โลหิตสงู 3 โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ 4 โรคไขห้ วัดใหญส่ ายพนั ธุใ์ หม่ ชนิด A H1N1 6. รายการอาหารในข้อใดช่วยปอ้ งกนั โรคหัวใจท้ังหมด 1 ยาปลาทู มัสมัน่ ไก่ ราดหน้าทะเล 2 ทับทมิ กรอบ แกงจืดเต้าหูส้ าหรา่ ย ข้าวขาหมู 3 ผดั ผกั รวมมติ ร ปลานึง่ มะนาว แกงส้มผกั รวม 4 หมกึ สดยา่ ง แกงเขยี วหวานปลากราย ขา้ วหนา้ เป็ด 7. การเจ็บป่วยและเสียชวี ติ ของประชากรจากโรคต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติอยา่ งไร 1 เกิดปญั หาอาชญากรรมในสังคมมากขึน้ 2 บคุ ลากรทางการแพทย์ต้องทางานหนัก 3 ขาดกาลงั คนในการพัฒนาประเทศ 4 ขาดดลุ ทางเศรษฐกจิ 8. การป้องกันโรคมะเรง็ ตับปฏบิ ัติได้อย่างไร 1 หลีกเลย่ี งอาหารหมักดอง 2 ไมร่ บั ประทานเน้ือสตั ว์ใหญ่ 3 ออกกาลังกายอยา่ งสมา่ เสมอ 4 รับประทานผกั ท่ปี รงุ สุกเทา่ น้ัน 9. การรวบรวมขอ้ มูลสุขภาพในชุมชนวธิ ีใดทาได้ง่ายและสะดวกท่สี ดุ 1 การดูข้อมูลจานวนผปู้ ่วยจากหนว่ ยงานสาธารณสุขในชมุ ชน 2 การสงั เกตจากลกั ษณะอาการของผปู้ ว่ ยในชุมชน 3 การสมั ภาษณ์คนในชมุ ชนทุกครวั เรอื น 4 การใหค้ นในชุมชนทาแบบสอบถาม 10. การแพรร่ ะบาดของโรคในขอ้ ใดสง่ ผลกระทบตอ่ คนในชุมชนมากทสี่ ุด 1 โรคไขห้ วัด 2 โรคตาแดง 3 โรคอีสกุ อีใส 4 โรคไข้หวัดนก เฉลย ขอ้ 1. ตอบ 4 ขอ้ 2. ตอบ 1

94 ข้อ 3. ตอบ 2 ขอ้ 4. ตอบ 1 ข้อ 5. ตอบ 4 ขอ้ 6. ตอบ 3 ขอ้ 7. ตอบ 3 ขอ้ 8. ตอบ 1 ข้อ9. ตอบ 1 ขอ้ 10. ตอบ 4 แบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) ชอ่ื _______________________________________________เลขที่ ______ ช้นั _____ นักเรยี น X ทับคาตอบท่ถี ูกต้อง 1. ขอ้ ใดเปน็ แนวทางป้องกันโรคเอดสท์ ีเ่ หมาะสมกบั วัยเรียนที่สุด 1 ไม่มีเพศสัมพันธ์ในวยั เรียน 2 ไม่รับประทานอาหารรว่ มกบั ผู้อื่น 3 รว่ มรณรงคป์ อ้ งกนั โรคเอดสอ์ ยูเ่ สมอ 4 ใช้ถงุ ยางอนามยั ทุกคร้ังทม่ี ีเพศสัมพันธ์ 2. การหมนั่ ล้างมือใหส้ ะอาดและใช้ช้อนกลางรบั ประทานอาหารช่วยปอ้ งกันโรคในข้อใด 1 โรคฉ่ีหนู 2 โรคความดันโลหติ สูง 3 โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ 4 โรคไข้หวดั ใหญส่ ายพนั ธใุ์ หม่ ชนิด A H1N1 3. การปอ้ งกันโรคมะเร็งตับปฏิบัติไดอ้ ย่างไร 1 หลีกเล่ียงอาหารหมักดอง 2 ไม่รับประทานเนื้อสตั วใ์ หญ่ 3 ออกกาลังกายอยา่ งสมา่ เสมอ 4 รบั ประทานผกั ท่ีปรงุ สกุ เท่าน้ัน 4. รายการอาหารในข้อใดช่วยป้องกันโรคหัวใจท้ังหมด 1 ยาปลาทู มัสมนั่ ไก่ ราดหนา้ ทะเล 2 ทบั ทมิ กรอบ แกงจดื เต้าหู้สาหร่าย ขา้ วขาหมู 3 ผดั ผกั รวมมติ ร ปลานง่ึ มะนาว แกงสม้ ผกั รวม

95 4 หมกึ สดยา่ ง แกงเขยี วหวานปลากราย ข้าวหนา้ เปด็ 5. การเจ็บปว่ ยและเสียชีวติ ของประชากรจากโรคต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติอยา่ งไร 1 เกิดปญั หาอาชญากรรมในสงั คมมากขึ้น 2 บุคลากรทางการแพทย์ต้องทางานหนกั 3 ขาดกาลังคนในการพฒั นาประเทศ 4 ขาดดลุ ทางเศรษฐกจิ 6. การรวบรวมข้อมลู สุขภาพในชุมชนวิธใี ดทาได้ง่ายและสะดวกท่สี ดุ 1 การดขู ้อมูลจานวนผปู้ ว่ ยจากหนว่ ยงานสาธารณสขุ ในชุมชน 2 การสงั เกตจากลักษณะอาการของผู้ป่วยในชมุ ชน 3 การสัมภาษณ์คนในชุมชนทุกครวั เรือน 4 การใหค้ นในชมุ ชนทาแบบสอบถาม 7. การแพร่ระบาดของโรคในข้อใดสง่ ผลกระทบต่อคนในชมุ ชนมากที่สุด 1 โรคไข้หวัด 2 โรคตาแดง 3 โรคอสี กุ อีใส 4 โรคไข้หวดั นก 8. กจิ กรรมหรือโครงการในข้อใดทส่ี ่งผลดตี ่อสุขภาพของคนในชมุ ชนทกุ เพศทุกวัย 1 กิจกรรมรณรงค์ต่อต้านสารเสพติด 2 การปลูกสมุนไพรในชมุ ชน 3 การแขง่ ขันเดินทางไกล 4 การก่อตงั้ ชมรมฮลู าฮูป 9. ปญั หาสุขภาพในชุมชนสง่ ผลกระทบตอ่ คนในชุมชนอย่างไร 1 ต้องยา้ ยถิ่นฐานไปอยูช่ มุ ชนอ่ืน 2 ร้จู ักใส่ใจและดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น 3 มคี วามหวาดระแวงและไม่ไวใ้ จซง่ึ กนั และกัน 4 เกิดความเครยี ดและความวติ กกังวลต่อสุขภาพของตนเองและสมาชิกในครอบครัว 10. การป้องกนั และแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร 1 คนในชมุ ชนมสี ุขภาพร่างกายและจิตใจทส่ี มบูรณแ์ ขง็ แรง 2 ปญั หาความขดั แย้งและความรนุ แรงในชมุ ชนลดลง 3 ระดับการศึกษาของคนในชุมชนสูงขน้ึ 4 คนในชมุ ชนมีงานทา ไม่ตกงาน เฉลย ขอ้ 1. ตอบ 1

ขอ้ 2. ตอบ 4 96 ข้อ 3. ตอบ 1 ข้อ 4. ตอบ 3 3 ขอ้ 5. ตอบ ข้อ6. ตอบ 1 ข้อ7. ตอบ 4 ขอ้ 8. ตอบ 2 ข้อ9. ตอบ 4 ขอ้ 10. ตอบ 1 ชิน้ งานที่ 10 เรือ่ ง โรคท่เี ป็นสาเหตุของการเจบ็ ป่วยและการตายของคนไทย วนั ที่________เดอื น_______________พ.ศ.___________ ชอื่ _____________________________เลขที่______ชนั้ __________ นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน รว่ มกันศกึ ษาและค้นหาขอ้ มูลโรคทเ่ี ปน็ สาเหตสุ าคัญ ของการเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย มา 1 โรค สรปุ เก่ยี วกับสาเหตุ อาการ และแนวทางการ ปอ้ งกันโรคลงในแผนภาพความคดิ แลว้ ออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook