Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Published by bbcmarketing5, 2020-10-28 04:01:19

Description: ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ วชิ าธุรกจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ 1-2-2 รหสั วชิ า 30200-0003

จดุ ประสงค์รายวิชา 1. เพอ่ื ใหส้ ามารถประยกุ ต์ใชค้ วามร้แู ละทกั ษะดา้ นภาษาและการสอ่ื สาร ทกั ษะการคิดและการแก้ปญั หาและทกั ษะทางสังคมและการดารงชวี ิตใน การพัฒนาตนเองและวิชาชีพ 2. เพ่ือให้มคี วามเขา้ ใจและสามารถประยกุ ต์ใชห้ ลักการบริหารและจดั การ วชิ าชีพการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและหลกั การของงานอาชพี ท่ีสัมพนั ธ์ เกย่ี วข้องกับการพฒั นา วชิ าชีพการตลาดใหท้ ันตอ่ การเปลี่ยนแปลงและ ความก้าวหนา้ ของเศรษฐกิจสงั คมและเทคโนโลยี 3. เพ่ือให้มีความเข้าใจในหลักการและกระบวนการทางานในกลุม่ งานพ้ืนฐาน ด้านการตลาด

จุดประสงคร์ ายวิชา 4. เพ่อื ใหส้ ามารถประยกุ ต์ใช้ความร้แู ละเทคโนโลยดี ้านการตลาดในการ พฒั นาตนเองและวชิ าชีพ 5. เพอ่ื ให้สามารถปฏิบตั งิ านวเิ คราะห์แก้ปญั หาสร้างสรรค์และนา เทคโนโลยีมาใช้ในการพฒั นา งานด้านการตลาด 6. เพอ่ื ใหส้ ามารถปฏบิ ัติงานการตลาด ในสถานประกอบการและประกอบ อาชพี อิสระ รวมท้ังการใชค้วามรู้และทกั ษะเปน็ พื้นฐานในการศึกษาต่อ ในระดบั สูงข้ึนได้ 7. เพื่อให้มีเจตคติทด่ี ีตอ่ งานอาชีพ มคี วามคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ซือ่ สตั ย์ สุจริต มรี ะเบยี บวนิ ยั เปน็ ผูม้ คี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม ต่อต้านความรนุ แรงและสารเสพติด

หน่วยท่ี 1 การวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ยวงจร ควบคุมคณุ ภาพ PDCA

เนอื้ หา • การวางแผนเป้าหมายชวี ิต • วงจรควบคุมคุณภาพ • ความสาคญั ของการวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ด้วย วงจรควบคมุ คุณภาพ PDCA • เทคนคิ การวางแผนเปา้ หมายสูค่ วามสาเรจ็ ในชวี ติ

การวางแผนเป้าหมายชีวติ • ความตอ้ งการของมนุษย์ ความต้องการของมนุษย์เป็นแรงผลักดันให้คนทางานหรือทาให้มี กาลงั ใจในการทางาน ความต้องการของมนุษย์น้นั เปลย่ี นแปลงได้ตามฐานะของแต่ละ บุคคล สิ่งแวดล้อม มนุษย์มีความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด การตั้งเป้าหมายจะช่วยให้ บุคคลรู้ถึงความต้องการของตน ซึ่งจะกระตุ้นให้มีความพยายามมากข้ึนและ การ บรรลเุ ป้าหมายจะเป็นส่ิงจูงใจให้มีการกระทาต่อๆ ไป ท้ังนี้ ความต้องการของมนุษย์ เปน็ แรงผลักดัน (Mainspring) ใหค้ นทางานหรือทาให้มีกาลงั ใจในการทางาน

การวางแผนเป้าหมายชีวิต (ตอ่ ) ทฤษฎคี วามตอ้ งการ ของแอบราฮมั มาสโลว์ (Abraham Maslow)

การวางแผนเป้าหมายชวี ติ (ตอ่ ) แนวความคดิ ของมาสโลว์ (Maslow) ได้แบง่ ความต้องการของมนุษยอ์ อกเป็น 5 ขนั้ เรยี งตามลาดับ ดังนี้ • ข้ันท่ี 1 ความต้องการทางดา้ นร่างกาย (Physiological needs) • ขนั้ ท่ี 2 ความต้องการความม่นั คงปลอดภัย (Safety and security needs) • ขัน้ ที่ 3 ความต้องการความรัก และความเปน็ เจา้ ของ (Belonging and love needs) • ข้ันที่ 4 ความตอ้ งการไดร้ ับการยกยอ่ งนับถอื (Esteem needs) แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ไดแ้ ก่ ความตอ้ งการนบั ถอื ตนเอง (Self-respectและความต้องการได้รับการยกย่องนับถอื (Esteem from others) • ขัน้ ที่ 5 ความตอ้ งการท่ีจะเขา้ ใจประจักษ์ตนเองอย่างแทจ้ รงิ (Self-actualization needs)

การวางแผนเป้าหมายชีวิต (ตอ่ ) • เปา้ หมายชวี ิต คาว่า “เป้าหมาย” สาหรับบางคนอาจจะเป็นแค่สิ่งท่ีคิดไว้ในใจ แต่ สาหรับบางคนมันเป็นสิ่งสาคัญท่ีจะเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตดาเนินต่อไปได้อยา่ ง มีคุณค่า มีความหมายการตั้งเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง อยา่ งแรกคือ ต้องถาม ตัวเองหนักๆ ว่าเป้าหมายท่ีแท้จริงของเราเองน้ัน มันคือสิ่งท่ีเราจะทา หรือมัน คือส่งิ ที่เราจะได้และสิง่ ที่มคี วามสาคัญไมย่ ิง่ หยอ่ นไปกว่าการมเี ป้าหมาย

การวางแผนเป้าหมายชีวติ (ตอ่ ) เป้ าหมายดา้ นต่างๆ ดงั น้ี • ดา้ นสุขภาพ • ดา้ นคู่ครอง • ดา้ นการศึกษา

วงจรควบคุมคุณภาพ PDCA คือ วงจรที่พัฒนามาจากวงจรท่ีคิดค้นโดยวอล์ทเตอร์ ซิวฮาร์ท (Walter Shewhart ) ผู้ บุกเบิกการใช้สถิติสาหรับวงการอุตสาหกรรมและต่อมาวงจรนี้เริ่มเป็นท่ี รู้จกั กันมากข้ึนเม่ือ เอดวาร์ด เดมมิ่ง (W.Edwards Deming) ปรมาจารย์ด้านการบริหาร คุณภาพเผยแพร่ให้เป็นเคร่ืองมือสาหรับการปรับปรุงกระบวนการทางานของพนักงาน ภายในโรงงานให้ดีย่ิงข้ึน และช่วยค้นหาปัญหาอุปสรรคในแต่ละขั้นตอนการผลิตโดย พนกั งานเอง จนวงจรนีเ้ ป็นท่รี ู้จกั กันในอีกชื่อว่า “วงจรเดม็ มงิ่ ”

วงจรควบคุมคุณภาพ (ตอ่ ) PDCA คอื วงจรการควบคมุ คุณภาพ เปน็ อักษรนาของศพั ท์ภาษาองั กฤษ 4 คาคอื • P : Plan = วางแผน • D : Do = ปฏบิ ตั ิตามแผน • C : Check = ตรวจสอบ / ประเมนิ ผลและนาผลประเมนิ มาวิเคราะห์ • A : Action = ปรับปรงุ แก้ไขดาเนนิ การให้เหมาะสมตามผลการ ประเมิน

ความสาคัญของการวางแผนเปา้ หมายชีวิตดว้ ย การใช้วงจรควบคุมคุณภาพ PDCA ระดบั ของการวางแผนเป้าหมายชีวติ ของบุคคล (1) การวางแผนเป้าหมายชีวิตข้ันต้น เป็นการวางแผนตั้งเป้าหมายของชีวิตโดย มุง่ มัน่ ฝึกฝนตนเอง ให้บรรลเุ ป้าหมายของชวี ิตโดยมุ่งมั่นฝกึ ฝนตนเอง ให้บรรลุเป้าหมายของ ชีวิตว่าจะต้องเรียนให้จบ มีอาชีพ มีฐานะท่ีดีให้ได้ ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น การ ประพฤตติ นเปน็ คนดี ไม่ทาตวั เป็นปัญหา ไม่ทาผิดกฎหมาย และตั้งเป้าหมายว่าจะประกอบ อาชีพอะไร เชน่ ครู พยาบาล ตารวจ ทหาร ชาวนา หรืออื่น ๆ ท่ีเปน็ อาชพี ท่ีสุจรติ

ความสาคัญของการวางแผนเปา้ หมายชวี ติ ดว้ ย การใช้วงจรควบคุมคณุ ภาพ PDCA (ต่อ) ระดับของการวางแผนเป้าหมายชวี ิตของบุคคล (2) การวางแผนเปา้ หมายชีวติ ขน้ั กลาง เป็นการตั้งเป้าหมายของชีวิต ว่าต้องพยายามตั้งตัวและสร้างฐานะของตนเองมีชีวิตคู่ มีชีวิตครอบครัวมีลูกท่ี ดใี นชีวติ น้ี จะไม่ยอ่ ท้อ รูจ้ กั การสร้างคุณค่าให้ชีวิตด้วยความขยนั ต้ังใจทาความ ดี เออื้ อาทร มเี มตตาตอ่ ผ้อู นื่ ซ่งึ เปน็ เป้าหมายชีวิตสงู สดุ

ความสาคญั ของการวางแผนเปา้ หมายชีวติ ดว้ ย การใชว้ งจรควบคุมคณุ ภาพ PDCA (ตอ่ ) ระดบั ของการวางแผนเป้าหมายชวี ิตของบคุ คล (3) การวางแผนเป้าหมายชีวิตข้ันสูงสุด เป็นการตั้งเป้าหมายของ ชีวิตที่เป็นประโยชน์อย่างย่ิงท้ังต่อตนเอง และบุคคลอ่ืน คือ การต้ังใจดาเนิน ชีวิตให้ประสบความสาเร็จในการศึกษาเล่าเรียน หน้าที่การงาน ชีวิต ครอบครัว และต้ังใจปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบ โดยการต้ังใจทาความดี หม่ันให้ ทาน รักษาศีล ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตใจผ่องใส เกิดปัญหา เพ่ือรักษาเป้าหมาย ของชีวติ ใหม้ ่ันคงในทกุ ๆ ด้าน

ความสาคัญของการวางแผนเป้าหมายชีวิตดว้ ย การใช้วงจรควบคมุ คณุ ภาพ PDCA (ต่อ) หลักการวงจรควบคมุ คุณภาพ “วงจรเดม็ มิ่ง” ( PDCA )

เทคนิคการวางแผนเปา้ หมายสคู่ วามสาเร็จในชวี ิต • หาความฝันของตัวเองให้พบจดุ เริม่ ต้นของการกาหนดเป้าหมายในชีวติ คอื การถาม ตัวเองวา่ ในอนาคตเราอยากจะเปน็ อะไร อยากจะมอี ะไร อยากจะไดอ้ ะไร อยากจะ เป็นเหมอื นใคร แคไ่ หน เมือ่ ไหร่ • วเิ คราะห์หาความชอบของตัวเองบคุ คลท่ีกาลังทางานเปน็ ลกู จ้างอยแู่ ละคิดจะออกมา ทาธุรกจิ ส่วนตัว กก็ ค็ วรเลอื กทาในสง่ิ ที่ตวั เองถนัด ตวั เองชอบเป็นอันดบั แรก เพราะ ธรุ กจิ ท่ีเราทาเราจะตอ้ งอยกู่ บั มนั นาน และถ้าใครเลอื กทาธรุ กจิ ทีต่ ัวเองไมม่ ีความรัก ความชอบเป็นพ้นื ฐานแลว้ จะทาได้ไม่ดี

เทคนคิ การวางแผนเปา้ หมายสู่ความสาเร็จในชวี ิต • ตีกรอบให้แคบลง การเลือกเปา้ หมายที่เราต้องการ ถา้ เรารู้วา่ เราชอบอะไร เมื่อมอง ออกไปภายนอกจะค่อนขา้ งง่าย ถา้ เราสามารถกาหนดกรอบของเปา้ หมายไดช้ ดั เจน และค่อย ๆ ตีกรอบนน้ั ใหแ้ คบลง ๆ เราจะคน้ พบวา่ เป้าหมายน้ันเหมาะสมกบั เรา หรือไม่ • ศกึ ษาขอ้ มูลเพ่อื ให้ไปสเู่ ปา้ หมาย เมอื่ เราได้เป้าหมายที่ชดั เจนและอยูใ่ นกรอบที่เรา สามารถทาได้ ขนั้ ต่อมาคือ การศึกษาข้อมลู เกยี่ วกบั เปา้ หมายทเี่ รากาหนดไว้ว่า แนวทางในการไปสเู่ ป้าหมายนน้ั เปน็ อย่างไรบ้าง

เทคนิคการวางแผนเป้าหมายสคู่ วามสาเร็จในชีวิต • ต้งั เป้าหมายให้ทา้ ทาย การตัง้ เป้าหมายในชวี ิตควรจะเปน็ เปา้ หมายทีท่ ้า ทายซึ่งหมายถึงเป้าหมายทไ่ี มง่ า่ ยจนเกนิ ไป • ควรจะมีเป้าหมายหลักและเป้าหมายรอง การต้ังเปา้ หมายในชวี ิตที่ดี ควร จะมีเป้าหมายหลกั และเปา้ หมายรองที่สอดคล้องกัน เพราะถา้ เป้าหมาย หลักมปี ัญหาอปุ สรรคหรือเปน็ ไปไมไ่ ด้ จะได้นาสง่ิ ที่ลงทุนไปกับเปา้ หมาย หลักมาใช้ประโยชน์กับเปา้ หมายรองได้

เทคนิคการวางแผนเปา้ หมายสู่ความสาเรจ็ ในชวี ิต • นาไปปฏิบัติตามวงจร PDCA เมอื่ เรากาหนดแผนงานชวี ติ ไวเ้ รยี บรอ้ ย แลว้ (Plan) จงึ จะลงมอื นาไปปฏิบัตจิ รงิ (Do) จะต้องมกี ารตรวจสอบเปน็ ระยะๆว่า สง่ิ ท่ีได้ลงมอื ทาไปนั้นเป็นไปตามแผนและเป้าหมายหรอื ไม่ (Check) หลงั จากนั้นถา้ ไมเ่ ปน็ ไปตามเปา้ หมาย จะตอ้ งมีการแกไ้ ข ปรบั ปรุงให้สอดคลอ้ งกบั เปา้ หมาย (Action) ซงึ่ เราจะต้องคานงึ ถงึ วงจรนี้ อยูต่ ลอดเวลา วงจร PDCA นใี้ ช้ได้ท้ังวงจรของแผนใหญ่ของชีวติ และแผน สนับสนนุ ยอ่ ยๆ

หนว่ ยท่ี 2 ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ

เนอ้ื หา • ธรุ กิจ • ผู้ประกอบการ • วตั ถุประสงคใ์ นการเข้าไปประกอบธุรกิจ • ปัจจัยท่ีทาใหธ้ รุ กจิ ประสบความสาเร็จ และความลม้ เหลว • กระบวนการตดั สินใจสว่ นบคุ คล • หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ

ธุรกจิ ธุรกิจ (Business) หมายถึง การจัดการกิจกรรมตา่ งๆ ด้วยกระบวนการอย่างมีความสัมพันธ์ต่อเน่ือง มีระบบท่ี ก่อให้เกิดการผลิต การซื้อ การขาย การแลกเปล่ียน สินค้าและ บริการ โดยมงุ่ หวงั ผลกาไรและความเจรญิ รุ่งเรื่องของกจิ การ

ธรุ กิจ (ต่อ) ความสาคญั ของธุรกจิ จาแนกได้ ดังน้ี • ธรุ กจิ ผลิตสนิ คา้ และบริการเพ่ือสนองความตอ้ งการของมนษุ ยใ์ นสังคม • ธรุ กิจชว่ ยกระจายสินคา้ จากผู้ผลิตไปสผู่ บู้ ริโภค • ธุรกิจเป็นแหล่งตลาดแรงงาน เมื่อการดาเนินธุรกิจมีผลกาไร ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่เสียภาษี ใหร้ ัฐบาลตามท่กี ฎหมายกาหนด • ธุรกิจช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในท้องถ่ิน จังหวดั และประเทศ และขยายตวั เติบโตข้ึนสามารถผลิตสินค้าและบริการได้มาก ส่งสินค้าออก ไปจาหนา่ ยยังต่างประเทศ ทาให้รายไดเ้ ข้าสู่ประเทศ

ผู้ประกอบการ ผปู้ ระกอบการ (Entrepreneur) คือ เจ้าของกิจการ (Business Owner) หรอื บคุ คลท่ีจดั ต้งั องค์กรธุรกิจข้นึ เพอ่ื หวงั ผลกาไร เปน็ บุคคลท่มี องเหน็ โอกาสทางธรุ กจิ และสามารถหาช่องทางที่จะสรา้ ง ธรุ กิจของตนเองโดยยอมรับความเสย่ี งต่างๆ ทจ่ี ะเกิดขนึ้ ผูท้ ีม่ งุ่ หวงั จะ เปน็ ผปู้ ระกอบการต้องพิจารณาถงึ ปญั หา ความท้าทาย ความไมแ่ นน่ อน ในการทาธรุ กิจได้

ผู้ประกอบการ (ต่อ) คณุ ลกั ษณะของผ้ปู ระกอบการ • รู้จักตนเอง • ความเปน็ ผนู้ า • ความรู้ • ความกลา้ • ความคดิ สรา้ งสรรค์ • ความศรทั ธาและใจรกั ในอาชีพ • การบรหิ ารจัดการดา้ นการเงนิ • ไหวพรบิ และปฏิภาณ • เงินทุน • การสนบั สนนุ จากบุคคลรอบขา้ ง

ผูป้ ระกอบการ (ต่อ) คณุ สมบัติทด่ี ีของผปู้ ระกอบการ 1) ความมุง่ ม่ันทีจ่ ะประสบความสาเรจ็ (Willingness to succeed) 2) มคี วามม่ันใจในตนเอง (Self – confidence) 3) มแี นวคิดเกย่ี วกับธรุ กจิ ของตนเองอย่างชัดเจน (A clear business idea) 4) มแี ผนงานทเี่ ป็นระบบ (The business plan) 5) มีความสามารถในการบริหารการเงิน (Exact control of finances) 6) มีความสามารถทางการตลาด (Targeted marketing) 7) มีความสามารถมองเหน็ สภาพของการแข่งขันในอนาคตได้ (A step ahead of the competition) 8) มีแหล่งสนับสนุนทีด่ ี (Management support) 9) มีทักษะในการประสานงาน (Co-operation) 10) มีการจัดองค์กรทีเ่ หมาะสม (Clear company structure)

ความ กาไรและ ความพอใจ รับผิดชอบ ความมง่ั ค่งั ส่วนบคุ คล ต่อสงั คม ความม่ันคง ความอสิ ระ วตั ถปุ ระสงค์ ของกิจการ และอานาจ ของ การประกอบ ธุรกิจ เพ่ือความ เจรญิ เตบิ โต ของธรุ กิจ

ปจั จัยที่ทาให้ธุรกิจ • มคี วามยืดหยุ่น ประสบความสาเร็จ • สรา้ งนวตั กรรม • สรา้ งความสัมพนั ธก์ ับลกู คา้ • ผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารที่มคี ณุ ภาพ ปจั จัยทท่ี าให้ธุรกจิ ประสบ • ไมม่ บี ุคลกิ ภาพทน่ี ่าเชอื่ ถือ ความลม้ เหลว • ไมช่ อบพบปะผ้คู น • ไมม่ ีแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน • ไมม่ ีแผนงานท่ีเป็นระบบ • ไม่มแี หลง่ เงินทนุ ของ • ไม่มคี วามรูใ้ นการบรหิ ารกระแสเงินสด • ไมม่ ีกลยุทธ์การตลาดท่ดี ี • ไม่มรี ะบบการควบคุม • ไม่มบี ุคลากรที่ดี • ไมม่ ีการคาดการณส์ ภาพการแข่งขนั อย่างเหมาะสม

กระบวนการตัดสินใจสว่ นบุคคล การตัดสนิ ใจ (Decision Making) หมายถึง กระบวนการเลือกทางเลอื กใดทางเลือกหนง่ึ จากหลายๆ ทางเลือกท่ีได้ พิจารณา หรือประเมนิ อยา่ งดีแล้ววา่ เป็นทางให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ และเปา้ หมายขององค์การ ปจั จัยที่สนับสนนุ การตัดสนิ ใจ 1)กระบวนการ (process) 2) การตัดสนิ ใจเกี่ยวข้องกับทางเลือก (solution) 3) การตัดสินใจเกี่ยวข้องกบั โครงสร้างขององค์การ (Organizational structure) 4) การตดั สนิ ใจเกีย่ วข้องกบั พฤติกรรมคน (Human behavior) การตดั สินใจ คอื ผลสรปุ หรอื ผลขนั้ สดุ ท้ายของกระบวนการคิดอยา่ งมเี หตผุ ลเพอ่ื เลอื กแนวทางการปฏิบัติทถ่ี ูกต้อง เหมาะสมกบั สถานการณ์ ทรพั ยากร และบุคคล สามารถนาไปปฏบิ ตั ิและทาให้งานบรรลุเปา้ หมายและวัตถุประสงค์ตามทีต่ ้องการ

หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ เศรษฐกิจพอเพยี ง (Sufficiency Economy) หมายถึง ปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราชบรมนาถ บพิตร (รัชกาลที่ 9) ได้ทรงมีพระราชดารัสช้ีแนะแนวทางที่ควรดารงอยู่และปฏิบัติตนแก่พสกนิกร ชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ 2550 ให้ใช้เป็นแนวทางการ แก้ไข เพื่อให้รอดพ้นวิกฤต และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนภายใต้ความ เปลยี่ นแปลงต่างๆ

หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในธรุ กจิ และ การเปน็ ผปู้ ระกอบการ (ต่อ) เศรษฐกิจพอเพียงประกอบด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ และเงอื่ นไข 2 ประการ หรอื เรยี กว่า 3 หว่ ง 2 เงื่อนไข คือ • ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดตี ่อความจาเปน็ และเหมาะสมกับฐานะของตนเอง สังคม สงิ่ แวดล้อม • ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจดาเนินการเร่ืองต่างๆ อย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการ หลักกฎหมาย หลัก ศลี ธรรมจรยิ ธรรม และวฒั นธรรมทีด่ ีงาม • ระบบภมู คิ มุ้ กนั ในตัวทดี่ ี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ไม่ วา่ จะเป็นด้านเศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดล้อม และวัฒนธรรม เพอ่ื ใหส้ ามารถปรบั ตวั และรับมือได้อย่างทนั ทว่ งที

หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในธุรกจิ และ การเปน็ ผู้ประกอบการ (ตอ่ ) เงือ่ นไขสาคญั ทจ่ี ะทาให้การตดั สินใจ และการกระทาเปน็ ไปพอเพยี ง จะต้องอาศัยทงั้ คณุ ธรรมและความรู้ ดงั น้ี • เงื่อนไขคุณธรรม ท่ีจะต้องสร้างเสริมให้เป็นพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติ ประกอบดว้ ย ด้านจติ ใจ คอื การตระหนักในคณุ ธรรม รูผ้ ิดชอบชว่ั ดี ซ่ือสัตย์สุจริต ใชส้ ติปัญญาอย่างถกู ต้องและเหมาะสมในการดาเนนิ ชวี ิต และด้านการกระทา • เง่อื นไขความรู้ ประกอบดว้ ยการฝกึ ตนใหม้ ีความรอบรูเ้ กย่ี วกบั วชิ าการต่างๆ ที่ เก่ียวขอ้ งอย่างรอบด้าน มคี วามรอบคอบ และความระมัดระวงั ท่ีจะนาความรู้ ต่างๆ เหลา่ นัน้ มาพจิ ารณาให้เชอ่ื มโยงกนั เพอื่ ประกอบการวางแผน และในข้ัน ปฏิบตั ิ



หน่วยที่ 3 รปู แบบและความเปน็ เจ้าของธรุ กจิ

ประเภทของธุรกจิ ธุรกจิ ประเภทการผลิต ธรุ กิจประเภทการค้า ธรุ กจิ ประเภทบรกิ าร การประกอบธุรกิจประเภทนี้จะ เป็นธุรกิจท่ีทาหน้าที่กระจายสินค้า กิจกรรมหรือผลประโยชน์ท่ีบุคคล ค ร อ บ ค ลุ ม ก า ร ผ ลิ ต ใ น ภ า ค ท่ีผลิตจากอุตสาหกรรมต่างๆ ไปสู่ หน่ึงเสนอแก่อีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งมี เกษตรกรรม (ภาคอุตสาหกรรม) ผู้บริโภค เป็นคนกลางในการ ลักษณะคือไม่สามารถมองเห็นหรือ และเหมืองแร่ กระจายสินค้าซ่ึงครอบคลุมการค้า จับต้องได้ และไม่มีผลในการเป็น ส่ง และคา้ ปลีก เจ้าของ

รูปแบบทางกฎหมายของธุรกจิ 1.กิจการเจ้าของคนเดยี ว (Sole Proprietorship) กิจการเจ้าของคนเดียว หมายถึง การประกอบธุรกิจท่ีดาเนินงานโดยบุคคลเพียง คนเดียวเป็นเจ้าของกิจการ มีวิธีการดาเนินงานง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เงินลงทุนมาจากการเก็บ ออม ตัดสินใจได้รวดเร็ว รับผิดชอบในทรัพย์สินและหนี้สินท่ีเกิดจากธุรกิจการบริหารจัดการ ต่างๆ มคี วามคลอ่ งตวั

ขอ้ ได้เปรยี บของกิจการเจ้าของคนเดยี ว 1) คา่ ใชจ้ ่ายในการบริหารงานตา่ 2) ผลกาไรทัง้ หมดเจ้าของกิจการได้รับแตเ่ พียงผูเ้ ดียว 3) มกี ฎหมายและขอ้ บังคบั น้อยกว่าการประกอบการประเภทอน่ื 4) ความรบั ผดิ ชอบ เจ้าของกจิ การเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบต่อผลการดาเนนิ งานของกิจการ 5) จัดตัง้ กจิ การได้งา่ ย 6) มอี ิสระและความคล่องตัวในการตัดสินใจ สามารถบรหิ ารจัดการไดโ้ ดยไม่ต้องปรกึ ษาหารอื บคุ คลอน่ื 7) มคี วามกระตอื รือร้นในการทางาน 8) เลิกกิจการได้ง่าย

ขอ้ เสยี เปรียบของกิจการเจ้าของคนเดียว 1) รบั ผิดชอบหนส้ี ิ้นไม่จากัดจานวน 2) การบริหารขึ้นอยกู่ ับความสามารถและประสบการณ์ของเจ้าของเพียงคนเดียวอตั ราล้มเหลวสงู 3) เงินทนุ จากดั 4) การตัดสินใจข้นึ อยู่กบั บุคคลคนเดยี ว ความสามารถในการบริหารงานขาดหลกั วชิ าการบริหารท่ี ดี ขาดความละเอียด 5) อายกุ ารดาเนินงานจากัด 6) ขาดพนักงานทีม่ ีความสามารถ

2.หา้ งหุน้ ส่วน (Partnership) ห้างหุ้นส่วน (Partnership) คือ ธุรกิจท่ีบุคคลต้ังแต่ 2 คนขึ้นไปทาสัญญาด้วยวาจา หรือลาย ลักษณ์อักษร ตกลงที่จะกระทากิจการร่วมกันด้วยจุดประสงค์ที่จะแบ่งปันกาไรท่ีจะได้รับจากการดาเนินงาน ผเู้ ป็นหนุ้ สว่ นจะตอ้ งลงทุนรว่ มกัน ซึ่งอาจจะเป็นตัวเงินหรือทรัพย์สิน หรือแรงงานก็ได้ ในสัญญาห้างหุ้นส่วน จะกาหนดรายละเอยี ดได้อย่างชดั เจน

ลักษณะของกจิ การห้างหุน้ ส่วน 1) มีบคุ คลตง้ั แต่ 2 คนข้นึ ไป นาทนุ มาเขา้ หุ้นกันจานวนมากน้อยเทา่ ใดก็ได้ 2) ทาความตกลงร่วมกนั 3) เพอ่ื ทากจิ กรรมรว่ มกนั 4) เพื่อผลกาไร วัตถุประสงค์ของการทาธุรกิจร่วมกัน การเลิกกิจการของกจิ การหา้ งหุ้นส่วน หา้ งห้นุ สว่ นจะเลิกกิจการตามสญั ญาทีก่ าหนดไว้ เชน่ กาหนดวา่ จะรว่ มดาเนินกจิ การเป็น ระยะเวลา 15 ปี เมอ่ื ครบกาหนดตามสญั ญากิจการน้ันก็ตอ้ งเลกิ ไป หรือสญั ญาว่าจะดาเนนิ การอยา่ งใดอย่างหนง่ึ โดยเฉพาะ หรอื หนุ้ สว่ นคนใดคนหนง่ึ ตาย ล้มละลายหรอื ไรค้ วามสามารถ กจิ การห้างหุ้นส่วนนั้นกต็ ้องเลิกไป การเลิกกจิ การ หรอื ลม้ ละลาย

ประเภทของหา้ งหนุ้ ส่วน ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยจ์ าแนกหา้ งห้นุ สว่ นออกเป็น 2 ประเภท คอื 1) ห้างหุ้นส่วนสามัญ (Ordinary Partnership) ห้างหุ้นส่วนประเภทนี้มีผู้เป็นหุ้นส่วนจาพวกเดียว คือ ห้นุ ส่วนทุกคนตอ้ งรบั ผดิ ชอบในการชาระหนส้ี นิ ร่วมกันโดยไม่จากัดจานวน เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องหุ้นส่วนคนใดคนหน่ึงให้ ชาระหนเ้ี ต็มตามจานวนกไ็ ด้ ซึง่ ห้างหนุ้ สว่ นสามัญยงั จาแนกออกเป็น 2 ชนิด คือ หา้ งห้นุ สว่ นสามัญทไี่ มไ่ ดจ้ ดทะเบียนเปน็ นิ ติ บุ ค ค ล แ ล ะ ห้ า ง หุ้ น ส่ ว น ส า มั ญ ท่ี จ ด ท ะ เ บี ย น เ ป็ น นิ ติ บุ ค ค ล 2) หา้ งห้นุ ส่วนจากดั (Limited Partnership) คือ หา้ งห้นุ ส่วนทจี่ ดทะเบยี นถูกต้องตามกฎหมายมีสภาพเป็น นิตบิ คุ คล เรยี กวา่ “หา้ งหุ้นส่วนจากัด” ทานิติกรรมใดๆ ในนามของห้างหุ้นส่วนได้ ผู้เป็นหุ้นส่วนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ หนุ้ ส่วนชนิดจากดั ความรบั ผดิ และ หนุ้ สว่ นชนิดไมจ่ ากัดความรับผิด

ขอ้ ไดเ้ ปรียบของกิจการหา้ งหุ้นส่วน 1) การระดมเงินทุน ผู้ประกอบการห้างหุ้นส่วนสามารถหาแหล่งเงินทุนจากแหล่งอ่ืนได้ง่ายกว่าการประกอบการแบบ เจา้ ของคนเดยี ว 2) การระดมความรู้ความสามารถ กิจการห้างหุ้นส่วนเป็นศูนย์รวมของการระดมความรู้ความสามารถของหุ้นส่วนแต่ ละ ค น ที่ มี อ ยู่ ม า ใ ช้ ใ น ก า ร ท า ง า น พ ร้ อ ม กั น 3) การจัดตัง้ งา่ ย กิจการหา้ งหนุ้ สว่ นผ้ปู ระกอบการจะจดทะเบยี นหรือไมก่ ็ได้ 4) การจดั สรรผลประโยชน์แก่หนุ้ ส่วนได้สูงสุด ขอ้ เสยี ของกิจการหา้ งหนุ้ สว่ น 1) เกดิ ความขดั แยง้ ไดง้ า่ ย 2) หน้ีสนิ ไมจ่ ากัด หุ้นส่วนท่วั ไปแตล่ ะคนตอ้ งรบั ผดิ ชอบต่อหนส้ี นิ ไมจ่ ากัด 3) อายุการดาเนินงานจากัด กิจการห้างหุ้นส่วนดาเนินธุรกิจได้เม่ือมีจานวนสมาชิกเท่าเดิมหากหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งตาย หรือขายหนุ้ ในธุรกิจ หา้ งห้นุ ส่วนนน้ั ต้องล้มเลิกไป 4) ขาดความคล่องตวั ในการบรหิ ารจดั การ

บรษิ ัทจากดั คือ บริษทั ประเภทท่ตี ้ังขน้ึ ด้วยการแบ่งทนุ ออกเปน็ หนุ้ มีมลู คา่ เท่าๆกนั ผถู้ อื หนุ้ ตา่ งรับผดิ ชอบจากัดเพียงไม่เกินจานวนเงนิ ที่ตนยังสง่ ใช้ไม่ครบมลู คา่ ของห้นุ ทีต่ นถือ ลกั ษณะของบรษิ ัทจากัด 1) มีการแบง่ ทนุ ออกเป็นหุน้ มมี ลู ค่าเท่าๆ กัน 2) มีผ้ถู อื หนุ้ ไม่ถงึ 100 คนรวมท้ังนติ บิ ุคคล ถา้ มีบคุ คลตง้ั แต่ 2 คนขึ้นไป ถอื หุ้น หุ้นเดยี วรว่ มกัน 3) ผู้ถือหุ้นในบรษิ ัทจากัดต่างรบั ผิดจากดั ไมเ่ กนิ จานวนเงนิ ทต่ี นยังสง่ ใช้ไมค่ รบ มูลคา่ ของหนุ้ ท่ีตนถือ 4) คณุ สมบตั ิของผู้ถือหุ้นไมเ่ ปน็ ขอ้ สาระสาคัญ

ข้อได้เปรียบของกจิ การบรษิ ทั จากดั 1) ผถู้ อื หุน้ รบั ผิดในหน้สี นิ จากัด 2) การจดั หาทุนทาไดง้ า่ ย บรษิ ัทจากดั สามารถเพ่มิ ทนุ ด้วยการออกหุ้นใหม่ 3) มอี ายไุ มจ่ ากดั อายกุ ารดาเนนิ งานของบริษัทจากดั เปน็ ไปอยา่ งตอ่ เน่อื ง 4) การโอนหุ้นทาไดง้ ่าย ผู้ถอื หนุ้ สามารถโอนห้นุ ของตนให้แกบ่ คุ คลอ่ืนได้ โดยไมจ่ าต้องไดร้ ับ ความยินยอมของบรษิ ัทเวน้ แตจ่ ะเป็นหุน้ ชนดิ ระบชุ ื่อลงในใบหนุ้ นอกจากนถี้ า้ ผถู้ อื หนุ้ ของบรษิ ัทตาย ทายาทของผ้ถู อื หุ้นนัน้ กร็ บั มรดกเป็นผ้ถู ือหนุ้ ตอ่ ไปได้ โดยไมจ่ าตอ้ งไดร้ บั ความยินยอมของบริษทั เชน่ เดียวกนั 5) สามารถหาผ้บู รหิ ารท่มี คี วามสามารถได้ดี เข้ามาบรหิ ารงาน ไดโ้ ดยไมจ่ าเปน็ ต้องมสี ว่ นเป็น เจ้าของบรษิ ัทจากัด 6) สามารถกระจายความเสี่ยงไดด้ ี เน่อื งจากบริษัทจากัดมีผถู้ ือหุ้นเปน็ จานวนมาก

ขอ้ เสยี เปรยี บของกิจการบรษิ ัทจากดั 1) การจัดต้งั มีขัน้ ตอนยงุ่ ยากและเสยี ค่าใช้จ่ายสงู 2) มกี ฎหมายและข้อบงั คับของรัฐควบคมุ เปน็ จานวนมาก 3) ขาดความจงรักภักดีของฝ่ายบริหารตอ่ บริษัท 4) ขาดเสถยี รภาพในการปกปิดความลับ 5) การเสยี ภาษีซ้าซอ้ น บรษิ ทั จากัดซง่ึ ต้องเสียภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบุคคลจากกาไรสทุ ธเิ มอื่ บรษิ ัทจา่ ย เงินปันผลให้แกผ่ ถู้ อื หุ้น ผถู้ อื ห้นุ ซึง่ เปน็ บคุ คลธรรมดาตอ้ งนาเงินปันผลนั้นมารวมเปน็ เงนิ ได้เพอ่ื เสียภาษีเงิน ไดบ้ คุ คลธรรมดาดว้ ย 6) การมีข้อจากัดด้านเครดิต การประกอบการบริษัทจากดั มคี วามเสยี เปรยี บทางด้านการไดร้ ับ เครดติ จากเจา้ หน้ี ธนาคาร หรอื สถาบันการเงนิ เพราะผถู้ อื หุ้นในบรษิ ัทจากัดรับผดิ จากัดไมเ่ กนิ จานวนเงนิ ท่ี ตนยงั ส่งใชไ้ ม่ ครบมลู ค่าของหนุ้ ท่ตี นถือเทา่ น้ัน

ธุรกจิ แบบสมั ปทาน ลักษณะของธรุ กจิ สัมปทาน แฟรนไชส์ (Franchise) เปน็ ระบบธรุ กิจทีป่ ระกอบไปด้วยลักษณะสาคญั ดงั น้ี 1) เจา้ ของสิทธ์ิ (Franchisor) ถา่ ยทอดวทิ ยาการ การทาธรุ กจิ ทุกอยา่ งใหแ้ กผ่ รู้ บั สทิ ธิ์อยา่ ง ใกล้ชิด 2) ผ้รู บั สทิ ธิ์ (Franchisee) จะต้องจา่ ยค่าธรรมเนียม ในการใชช้ อ่ื การคา้ เปน็ ค่าธรรมเนียม เร่ิมแรก (Franchise Fee) 3) ผู้รบั สทิ ธ์ิจะต้องจ่ายคา่ ตอบแทน (Royalty Fee) เปน็ ค่าเปอร์เซน็ ตจ์ ากยอดขาย ยอด ส่งั ซอื้ สนิ ค้าซึ่งจะต้องจ่ายอย่างตอ่ เนือ่ งตามสดั ส่วนของผลการดาเนินงาน อาจจะเรยี กเกบ็ เปน็ เปอรเ์ ซน็ ต์ ต่อเดือนหรอื ต่อปีจากยอดขาย หรือบางทีกอ็ าจจะเก็บจากยอดสง่ั ซื้อสินคา้

ข้อได้เปรียบของการเข้ารว่ มธรุ กจิ แบบสมั ปทาน 1) โอกาสแหง่ ความสาเร็จทส่ี งู ขนึ้ 2) ย่นระยะเวลาการเรยี นรู้ 3) เครือ่ งหมายการคา้ ท่ีได้รบั การยอมรับ 4) การประหยัดตอ่ ขนาดจากการซื้อทีละมากๆ ผู้ 5) การโฆษณาและสนับสนนุ การขายร่วมกนั 6) การถา่ ยโอนความเชย่ี วชาญ จะมกี ารส่งั สมประสบการณ์และความชานาญในการประกอบธรุ กิจ 7) การฝกึ อบรม แฟรนไชส์ซี (Franchisee) ยอ่ มไดร้ ับการฝึกอบรมและแนะแนวทางจากแฟรนไชสซ์ อร์ (Franchisor) เพอื่ ช่วยส่งเสรมิ ให้ประกอบการไดด้ ีขน้ึ 8) บริการช่วยเหลอื จากแฟรนไชส์ซอร์ (Franchisor) แฟรนไชส์ซี (Franchisee) สามารถรบั การบรกิ ารชว่ ยเหลอื จากแฟรนไชส์ซอร์ (Franchisor) ในตน้ ทุนทต่ี า่

ขอ้ เสียเปรียบของการเขา้ ร่วมธุรกิจแบบสมั ปทาน 1) สูญเสียอสิ รภาพในการดาเนินธรุ กิจ คือการดาเนินธุรกจิ ตามวธิ ที ไี่ ด้รบั การพัฒนามาจากแฟ รนไชสซ์ อร์ (Franchisor) การดาเนินธรุ กจิ ตามรูปแบบที่กาหนดไว้เท่านนั้ ที่จะเป็นเคร่อื งรบั รองความสาเรจ็ ของแฟรนไชสซ์ ี 2) ไมม่ ีหลักประกันความสาเรจ็ ถงึ แมจ้ ะมโี อกาสสูงในการประสบความสาเรจ็ จากการซื้อแฟรน ไชส์ (Franchise) แต่อาจกล่าวไดว้ า่ ไม่มหี ลักประกนั ท่แี น่นอนในเร่ืองนี้ เนือ่ งจากความเสี่ยงทางธุรกจิ สามารถเกดิ ข้ึนไดโ้ ดยปกติ 3) ค่าใช้จา่ ยสูง แฟรนไชสซ์ ี (Franchisee) จาเป็นจะตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ ่ายลว่ งหนา้ เพอื่ การได้มาซ่ึง สิทธิในการประกอบกิจการ นอกจากน้ีแฟรนไชสซ์ ี ยังมีคา่ ใช้จ่ายอนื่ ๆ อย่างเชน่ เงนิ ลงทนุ เพ่ือตกแตง่ รา้ น และคา่ ธรรมเนียมทต่ี อ้ งจ่ายเหลา่ น้เี ข้าด้วยกัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook