Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวสอนวิชาองค์แทนการสื่อสาร

แนวสอนวิชาองค์แทนการสื่อสาร

Published by art-weerasak, 2023-01-05 01:48:22

Description: แนวสอนวิชาองค์แทนการสื่อสาร

Search

Read the Text Version

แนวสอน วิชาองคแ์ ทนการสอ่ื สาร แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กองการศึกษา โรงเรียนทหารสอ่ื สาร กรมการทหารสอ่ื สาร พ.ศ.๒๕๖๕

คำนำ 1. ความม่งุ หมายและขอบเขต เอกสารประกอบการสอนวชิ า องคแ์ ทนการส่ือสารน้ี จดั ทำข้นึ เพ่อื ใชเ้ ปน็ เอกสารประกอบการสอนใน หลักสูตร ตามแนวทางรับราชการของเหลา่ ทหารสอื่ สาร เอกสารประกอบการสอนวิชานี้ มีความมุ่งหมายให้ นทน., นสน. ได้ทราบถึงระบบการส่ือสารทาง ยุทธวิธี ภารกิจขององค์แทนการสื่อสารในระดับต่างๆ การเขียนข่าวทางทหาร การรักษาความปลอดภัย ทางการสอ่ื สาร วทิ ยาการทำใหเ้ ปน็ ความลับ และการใชง้ านศนู ยข์ า่ วอตั โนมตั ิ 2. หลักฐานอา้ งองิ รส. 24 – 5 รส. 24 – 1 รส. 11 – 17 คู่มือการใช้งานศูนย์ข่าวอัตโนมตั ิ กองทัพภาคท่ี 2 ค่มู อื โปรแกรม OTP Ver.2.0 (One Time Password) ศทส.สส. คณะผู้จดั ทำ วมิ ลลักษณ์ 7. ร.ต. พเิ ชษ จันทรแ์ สง 1. พ.อ. ชตุ นิ ธร สมลา 8. ร.ต. ศภุ รชั ฏ หมอกสขุ 2. พ.ท. เสกสรร ทาคูณ 9. จ.ส.อ. อดิศร พันกะจดั 3. พ.ท. อโนชา จอมทอง 10. ส.อ. ไชยพร รกั ษากุล 4. พ.ต. สุนทร พันธ์นอ้ ย 11. ส.อ. ภาณพุ งษ์ ใจเฉ่ือย 5. ร.อ. ณฐั ชยั บญุ เหลอ่ื ม 6. ร.อ. ไมตรี แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กองการศึกษา โรงเรียนทหารสอ่ื สาร พ.ศ.2565 องค์แทนการสื่อสาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส. 1

สารบญั หนา้ บทที่ 1 กลา่ วท่วั ไป 1-1 บทที่ 2 ระบบการสอื่ สารทางยทุ ธวิธี 2-1 บทท่ี 3 การจัดและภารกจิ ของศนู ยก์ ารสอ่ื สาร 3-1 บทที่ 4 ศนู ย์การสอ่ื สารของกองพล 4-1 บทท่ี 5 ศูนย์ รับ – สง่ 5-1 บทท่ี 6 ข่าวทางทหาร 6-1 บทที่ 7 การดำเนนิ การตอ่ ขา่ ว 7-1 บทที่ 8 การวางแผนจัดต้งั ศนู ยก์ ารส่อื สาร 8-1 บทที่ 9 ระเบยี บว่าด้วยการรักษาความปลอดภยั แหง่ ชาตเิ กีย่ วกบั การสอ่ื สารพ.ศ.2525 9-1 บทท่ี 10 วทิ ยาการทำให้เปน็ ความลับ 10-1 บทที่ 11 ระบบศูนย์ข่าวอตั โนมัติ (AMC) 11-1 ผนวก ก การวางกำลงั หนว่ ยทหารส่อื สาร กองทัพออสเตรเลีย ผนวก ข แบบฟอรม์ ทบ.463-XXX ทใ่ี ชฝ้ ึก (ตอนศนู ยข์ า่ ว,ตอนอกั ษรลบั ) ผนวก ค แบบฟอรม์ ทบ.๔๖๓-๐๐๓-๐๓๗ (พนง. ตอนเครอ่ื งมือ)

บทที่ 1 กลา่ วทั่วไป องคแ์ ทนการสอื่ สาร องค์แทนการสื่อสาร (SIGNAL AGENCY) หมายถึง หน่วยงานทางทหาร อันประกอบด้วย เจ้าหน้าท่ี เครื่องมือสื่อสารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติการสื่อสารให้กบั หนว่ ยทีอ่ งค์แทนการสอื่ สารน้นั ประจำอยู่ คำว่าองค์แทนการสื่อสาร เปน็ คำกลางๆ ทใี่ ช้เรยี กหน่วยปฏิบตั กิ ารสื่อสารท่ีจดั ประจำหน่วย ทหารระดบั ต่างๆ ดังนี้ ในระบบการสือ่ สารทางยุทธวิธีแบบเส้นหลัก องค์แทนการสื่อสารประจำหน่วยทหารขนาด ใหญ่ ตั้งแต่กองพลขึ้นไป เรียกว่า ศูนย์การสื่อสาร ส่วนที่ประจำหน่วยทหารขนาดย่อม ตั้งแตร่ ะดบั กรมลงไป เรียกวา่ ศูนย์ขา่ ว ในระบบการสื่อสารแบบพื้นที่ องค์แทนการสื่อสารประจำหน่วยทหารขนาดใหญ่ เรียกว่า ศนู ยก์ ารสญั ญาณ และทป่ี ระจำหน่วยทหารขนาดย่อม เรียกวา่ ศูนยข์ ่าว ศูนย์ข่าวจัดตั้งในหน่วยระดับกรม/กองพลน้อย และกองพัน เท่านั้น เจ้าหน้าที่สื่อสารเปน็ ทหารเหลา่ นั้นๆ ศูนย์การสื่อสาร จัดตั้งในหนว่ ยทหารขนาดใหญร่ ะดบั กองพลขึ้นไป โดยหน่วยทหารสื่อสาร ของหนว่ ยน้นั ๆ (สำหรับระบบการส่ือสารแบบเส้นหลัก) หรือเป็นสว่ นหน่งึ ของศนู ยก์ ารสัญญาณ (ใน ระบบการสื่อสารแบบพ้นื ที่) ศูนย์การสญั ญาณ คือ องค์แทนการส่ือสารที่จัดขึ้นมาสำหรับปฏิบตั งิ านในระบบการสือ่ สาร แบบพ้นื ที่ องค์แทนการสอ่ื สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส. 1

หนา้ ท่ี 2–1 บทท่ี 2 ระบบการส่อื สารทางยุทธวธิ ี การสื่อสารทางยทุ ธวิธี คือ ระบบการส่ือสารและเคร่ืองมอื ส่ือสารตา่ งๆ ซึ่งสนบั สนุนส่วนตา่ งๆ ของ กองทพั บกในสนาม ระบบการสือ่ สารดังกลา่ วน้ี จะใชจ้ ากกองบญั ชาการสงู สดุ ไปจนถงึ หน่วยรองทต่ี ำ่ ทส่ี ดุ ทั้งในหน่วยรบ, หน่วยสนับสนนุ การรบ และหน่วยสนับสนนุ ทางการชว่ ยรบ ทั้งนี้เพือ่ ใช้ในการควบคุมบังคบั บญั ชาและสนบั สนุนการปฏบิ ัติการรบต่างๆ ระบบการส่ือสารทางยุทธวิธใี นปัจจบุ นั มี 2 แบบ คอื ก. ระบบการส่อื สารแบบเส้นหลกั ระบบการสอ่ื สารแบบนี้เป็นแบบทีใ่ ช้กนั มาแตเ่ ดมิ เป็นการวางการ สือ่ สารไปตามสายการบังคบั บญั ชาและเปน็ ทศิ ทาง จากกองบญั ชาการสงู สุดลงไปจนถึงหน่วยรองที่ต่ำทสี่ ดุ ซง่ึ ระบบการสอ่ื สารแบบนีก้ องทัพบกไทยยงั ใชอ้ ยู่ในปจั จุบนั ข. ระบบการสื่อสารแบบพื้นท่ี ระบบการสื่อสารแบบนี้ สหรัฐอเมริกา ได้คิดจัดทำขึ้นใช้ในกองทัพ แทนระบบการสื่อสารแบบเส้นหลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 เพื่อให้การสื่อสารมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และ เหมาะสมกบั การสงครามนิวเคลียร์ในอนาคตดว้ ย การสื่อสารแบบพ้ืนท่ีมไิ ด้จัดต้งั ครอบคลมุ พ้นื ทีก่ ารรบทง้ั สน้ิ แต่จดั ตั้งเพยี งตั้งแตพ่ ื้นทข่ี องกองพลขนึ้ ไป สว่ นพน้ื ทข่ี องกรม หรอื กองพลน้อยลงไปนั้น ลักษณะคงเป็นระบบ การสือ่ สารแบบเส้นหลักเชน่ เดิม ทบ.สหรฐั อเมริกาไดพ้ ฒั นาระบบการส่อื สารแบบพน้ื ท่มี าตามลำดบั ดังนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 ได้จัดตั้งระบบการสื่อสารแบบพืน้ ทีข่ ึ้นตั้งแตพ่ ื้นที่ของกองพลขึ้นไป โดยมีหนว่ ย รบั ผดิ ชอบในการจดั การสอื่ สารแบบพื้นท่ี คือ ในพน้ื ทข่ี องกองพลมกี องพนั ทหารส่ือสารของกองพลเป็นหน่วย จัดการส่อื สารแบบพืน้ ท่ี ดว้ ยการจัดตั้งศนู ยก์ ารสัญญาณหน้าขึ้นข้างหลงั กองพลนอ้ ย 3 ศูนย์ และจัดตั้งศูนย์ การสัญญาณกองบัญชาการให้กับส่วนต่างๆ ของกองพลอีก 4 ศูนย์ ส่วนในพื้นที่ของกองทัพน้อยและ กองทัพบกสนาม มกี องพลน้อยทหารส่ือสารของกองทพั บกสนาม เปน็ หนว่ ยจัดต้ังศนู ย์การสัญญาณพน้ื ทีไ่ ด้ถงึ 24 ศูนย์การสัญญาณ ครอบคลุมพืน้ ทขี่ องกองทัพนอ้ ยและกองทพั สนาม สว่ นการสอื่ สารข้างหลังกองทัพบก สนามขึน้ ไป เปน็ การสอื่ สารของเขตหลงั ตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 ทบ.สหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาระบบการสื่อสารแบบพื้นที่อีกครั้ง โดยถือเอาพื้นที่ หลักกองทพั นอ้ ยเป็นพืน้ ทีเ่ ขตหลงั ฉะนั้นจึงยกเลิกการจัดตั้งกองพลนอ้ ยทหารส่ือสารกองทัพสนามและนำมา จดั ตงั้ เปน็ กองพลน้อยทหารสื่อสารกองทพั น้อย ซ่ึงมขี ดี ความสามารถจดั ตงั้ ศนู ย์การสัญญาณพ้ืนท่ีได้ 16 ศูนย์ การสัญญาณครอบคลุมพ้นื ท่ขี องกองทัพน้อย สว่ นกองพลไม่มกี ารเปลีย่ นแปลง องค์แทนการสอื่ สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 2-2 การเปรยี บเทียบระบบการสื่อสารแบบเสน้ หลักกบั แบบพน้ื ท่ี - โดยทั่วไประบบการส่ือสารแบบพื้นท่ี ดีกว่าระบบการส่ือสารแบบเสน้ หลักท้ังในด้านความเร็วและ ความเชื่อถอื ได้ - ระบบการสื่อสารแบบเส้นหลัก จะเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา ส่วนการสื่อสารระบบการ สอื่ สารแบบพ้ืนที่จะเปน็ ไปตามความเหมาะสม - ระบบการส่ือสารแบบพื้นท่ี จะอยู่ประจำทท่ี รี่ ับผดิ ชอบเพื่อใหบ้ ริการสือ่ สารระหวา่ งหนว่ ยที่เข้ามา อยู่ในพน้ื ท่ีรบั ผดิ ชอบ แต่ระบบการส่อื สารแบบเสน้ หลัก มกั ย้ายหรอื ขอตามหน่วยของตน จดุ อ่อนของระบบ การสื่อสารแบบเส้นหลัก คือ การสื่อสารในระหว่างการเคลื่อนย้าย ซึ่งในระบบการสื่อสารแบบพ้ืนที่ หน่วย ตา่ งๆ ยงั ดำรงการสอ่ื สารได้เสมอ การติดตั้งและดำเนินงานในระบบการสื่อสารแบบพื้นที่นั้น ต้องการหน่วยทหารสื่อสารและ ยทุ โธปกรณ์มากกวา่ ระบบการสือ่ สารแบบเส้นหลกั - หนว่ ยทหารสื่อสาร ในระบบการส่อื สารแบบเสน้ หลกั มงุ่ บรกิ ารการสอื่ สารให้กับ กองบัญชาการท่ี ตนขน้ึ อยเู่ ช่น บริการสือ่ สารภายในกองบัญชาการ และระหว่างหนว่ ยของตนกับหน่วยอ่ืนๆ ส่วนหน่วยทหาร สื่อสารในระบบการสื่อสารแบบพื้นท่ี นอกจากหน่วยบรกิ ารกองสื่อสารให้กับกองบัญชาการของตนอย่แู ล้ว ยังมหี นา้ ทบ่ี รกิ ารการส่ือสารระหว่างหนว่ ย ใหก้ บั หน่วยท่ีเข้ามาในพนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบของตนดว้ ย - หน่วยทหารสื่อสาร ในระบบการสื่อสารแบบพื้นท่ี ได้รับมอบพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เป็นพื้นท่ี รบั ผิดชอบทางการสอื่ สาร แต่หนว่ ยทหารส่ือสาร ในระบบการส่ือสารแบบเสน้ หลัก ไม่แบ่งพน้ื ทร่ี ับผิดชอบ ศนู ย์การสัญญาณ - เปน็ หัวใจของระบบการส่ือสารแบบพนื้ ที่ - เป็นแหล่งรวมของเครื่องสื่อสาร ซึ่งได้รับการติดตั้ง ปฏิบัติงานและบำรุงรักษาโดยหน่วยทหาร สอ่ื สาร - แต่ละศูนย์การสญั ญาณตามปกตจิ ัดให้มศี ูนยก์ ารสื่อสาร บริการนำสาร เครื่องสลับสาย โทรศัพท์ และโทรพิมพ์ เคร่อื งมอื เปลี่ยนเสน้ ทางวงจร , สถานีสนธิวิทยุ/สาย , วทิ ยุ , วิทยุถ่ายทอด และเครอื่ งคลน่ื พาห์ และถา้ ได้รับอนุมัติอาจมีการจดั ตั้งเครือ่ งโทรสำเนา และเครอ่ื งดำเนนิ กรรมวิธีข้อมูลอตั โนมตั ิดว้ ย องค์แทนการส่ือสาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 2-3 ศูนย์การสัญญาณ ประกอบด้วย หลายช่องการสอื่ สาร หลายชอ่ งการส่อื สาร หลายช่องการสือ่ สาร เปลยี่ นเสน้ ทาง วงจร สถานีสนธิ วทิ ยุ/สาย ศูนย์โทรคมนาคม เครอื่ งสลับสาย โทรศพั ท์ วงจร เคร่อื งวทิ ยโุ ทรพมิ พ์ - ศูนย์โทรคมนาคม ซึ่งทำการรับ-ส่ง และส่งมอบข่าวหน้ากระดาษ โดยเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ประกอบด้วยตอนศูนยข์ า่ ว , ตอนนำสาร และเคร่ืองรบั – ส่งข่าว โทรสำเนาและเคร่ืองถา่ ยทอดกระดาษแถบ - เคร่อื งสลบั สาย โทรศัพท์ ดว้ ยมือหรืออัตโนมตั ิ - ส่วนควบคุมปมส่อื สาร ทำหนา้ ท่ีบรหิ ารและควบคมุ การปฏิบตั ิของศูนยก์ ารสัญญาณ - มัชฌิมการสือ่ สารภายนอก ได้แก่ เครื่องหลายช่องการสื่อสาร (วิทยุหรือเคเบิ้ล) วทพ. สถานีสนธิ วทิ ยุ/สาย และวทิ ยุช่องการสือ่ สารเดียว 1. คุณลักษณะของศูนย์การสัญญาณ (ศูนย์ ญ.) ศูนย์ ญ. คือที่รวมของอปุ กรณ์ ส. ที่หนว่ ยทหารสือ่ สาร ซง่ึ ได้รับมอบหมายใหเ้ ป็นผตู้ ดิ ตง้ั ปฏบิ ัตงิ านและบำรงุ รกั ษา ตามปกตศิ นู ย์ ญ. ประกอบด้วยศนู ย์การส่อื สาร (ศนู ย์ ส.) เจา้ หน้าที่นำสาร อุปกรณ์สลับสายโทรศัพท์และโทรพมิ พ์ อปุ กรณต์ รวจวงจรและอุปกรณ์ในการ สบั เปลย่ี นทางวงจรใหม่ สถานสี นธวิ ทิ ยุ/สาย , วิทยุ , วทิ ยถุ ่ายทอด และเคร่ืองคลนื่ พาห์ ตลอดจนมัชฌมิ ในการรับส่งอ่ืนๆ ตามวิวัฒนาการด้านการสือ่ สารอิเล็กทรอนิกส์จะอำนวย เช่น การสื่อสารดาวเทียม เป็นต้น นอกจากนั้นยังอาจมเี พิม่ เติมตามที่ได้รับอนุมัติอกี เช่น เครื่องโทรสำเนา เครื่องดำเนินกรรมวธิ ี ข้อมลู อัตโนมตั ิ และเครอ่ื งเขา้ -ถอดรหสั อิเลก็ ทรอนิกส์ ในวงจร (เครื่องเขา้ -ถอดรหัสเสยี ง , ถา้ เป็นเครื่อง เข้า-ถอดรหัสอักษร จะใช้ในตอนหรือศูนย์การอักษรลับเท่านั้น) ศูนย์ ญ. ที่ประจำอยู่ ณ หน่วยทหาร ยุทธวิธี ส่วนมากนั้น ตามปกติจะปรกอบด้วยเครื่องอุปกรณ์ที่ติดอยู่ในตู้ประทุน เชื่อมโยงกันด้วยสาย สนามและสายรวม (หรือสายเคเบล้ิ ) 2. ศูนยก์ ารสญั ญาณ มี 2 แบบ คอื ศนู ยก์ ารสัญญาณกองบญั ชาการ และศูนยก์ ารสญั ญาณพ้นื ที่ 2.1 ศูนย์การสัญญาณกองบัญชาการ ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการสื่อสารแก่ บก.ของหน่วยทางยุทธวิธี (ซง่ึ ตามธรรมดาเปน็ ระดบั กองพลหรอื ใหญก่ วา่ ) ทก. ใด ทก.หนงึ่ โดยเฉพาะ และใหก้ ับหน่วยที่ระบุไว้ ซงึ่ ต้งั อยู่ องคแ์ ทนการสือ่ สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 2-4 ในบริเวณใกล้เคียง เป็นการสื่อสารท่ีจัดใหแ้ กผ่ ู้บังคับบัญชา ฝ่ายอำนวยการและหน่วยต่างๆ ภายในบริเวณ ใกลเ้ คยี งกับที่บัญชาการน้ัน 2.2 ศูนย์การสัญญาณพื้นที่ มีภารกิจจัดการสื่อสารภายในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ที่ได้กำหนดให้หรือ ไดร้ ับมอบ เพอื่ สนับสนุนการสื่อสารตอ่ หน่วยรบ หนว่ ยสนับสนนุ การรบและหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบ ที่ อย่ภู ายในพ้นื ท่นี ัน้ ศนู ย์ ญ. พนื้ ทีอ่ ยู่ภายใต้การควบคุมทางยทุ ธการของ ผบ.ส. ของหน่วยบญั ชาการได้จดั ศนู ย์ ญ. พ้นื ท่นี ั้นข้ึนการสอื่ สารภายใน ของหน่วยท่ีได้รบั การสนับสนุนทางการสอ่ื สาร คงอยูใ่ นความรบั ผดิ ชอบของ หน่วยท่ีจะจดั การสอ่ื สารภายในของตนเอง 3. การส่ือสาร 3.1 โทรศัพท์ ระบบโทรศัพท์ที่ใช้ในหน่วยทางยุทธวิธีนั้น มีเจตนาจะให้เป็นระบบการใช้ร่วมเป็น ประการสำคัญ ความต้องการโทรศัพทส์ ว่ นใหญ่พิจารณาไดจ้ ากจำนวนหน่วยหรือกิจกรรม และภารกิจของ หน่วยทหารน้ัน การเรยี กขานโทรศัพท์ส่วนมากกระทำโดยตรงจากหน่วยในพ้ืนท่ไี ปยังหน่วยภายนอก การใช้ โทรศัพท์จะต้องเลือกทางท่ีผ่านเครื่องสลับสายให้น้อยที่สุดระหว่างกองพลกับหน่วยตา่ งๆ ของกองทัพซึ่งมี ระยะทางค่อนข้างไกลทงั้ นเ้ี พ่ือหลกี เลี่ยงความชักช้าและการสูญเสยี กำลังสง่ หากมีช่องสือ่ สารเพียงพอ อาจมี การจดั ช่องสอื่ สารตรงไปยังหน่วยทอี่ ยไู่ กลๆ เพือ่ ลดการสูญเสยี กำลงั ส่งกไ็ ด้ 3.2 โทรพมิ พ์ เป็นเครื่องมือหลักประเภทไฟฟา้ ทใี่ ช้ส่งขา่ วเปน็ ลายกลักษณะอกั ษรระหว่าง ศูนย์ ญ. ยิ่งกว่านั้นยงั มีหน่วยและกจิ กรรมอนื่ อีกหลายแหง่ ทมี่ โี ทรพมิ พ์อย่ใู นอตั รา ซ่งึ เจา้ หนา้ ทข่ี องหนว่ ยหรือกิจกรรม นั้นเป็นผู้ใช้งานเอง เมื่อมกี ารสือ่ สารดว้ ยโทรพิมพ์ ระหว่าง ศูนย์ ญ.จำนวนมาก จึงมีการนำระบบคลืน่ พาห์ โทรพิมพ์เขา้ มาใช้ ทำให้แตล่ ะช่องส่ือสารโทรศัพท์สามารถใชก้ บั โทรพมิ พ์ได้ ต้ังแต่ 5-16 ช่องสือ่ สารโทรพิมพ์ มกี ารใช้เครอ่ื งสลับสายโทรพิมพเ์ พ่อื ทำการสอ่ื สารดว้ ยโทรพิมพต์ ามตอ้ งการ รวมทั้งระบบการถา่ ยทอดหรอื สง่ ต่อดว้ ยแถบโทรพมิ พ์ นอกจากน้ันโทรพิมพท์ ใ่ี ชป้ ระกอบกับชดุ วิทยุเคลอื่ นทท่ี ำใหม้ คี วามคล่องตัวและอ่อนตัว เพื่อขน้ึ อกี ดว้ ยวทิ ยุโทรพิมพ์จะใชใ้ นข่ายบงั คับบญั ชา และขา่ ยธุรการ ข่ายการส่อื สารฉุกเฉิน ข่ายพิเศษ ได้แก่ การใช้ในการประสานงานในการการปฏิบัติการทางอากาศพื้นดิน ข่าวอากาศ แผนการบิน และการพิสูจน์ ทราบอากาศยาน เปน็ ต้น 3.3 ศูนย์การสื่อสาร หน่วย ส. ที่จัดตั้งและดำเนินงานศูนย์ ญ. จะจัดตั้งศูนย์การสื่อสารไว้กับทุกๆ ศนู ย์ ญ. โดยปกตแิ ตล่ ะศนู ย์ ส. ประกอบด้วย ตอนศนู ย์ข่าว , ตอนการอักษรลบั และตอนเครอ่ื งมอื หรอื ตอน มัชฌิมการส่อื สาร 3.4 โทรสำเนา เป็นวิธีการส่งที่มีผลมากอย่างหนึ่งสำหรับการส่งข้อมูลทางเรขา เช่น แผนภูมิแผนท่ี แผนผงั และภาพถา่ ย 3.5 กรรมวิธขี ้อมูลอัตโนมตั ิ กรรมวธิ ีข้อมลู อัตโนมตั ิ (ระบบควบคุมขา่ วสารทางการบังคบั บญั ชา) อาจ ใช้พันธกิจตา่ งๆ มากมาย เช่น การควบคุมการยิง การวิเคราะห์เป้าหมาย การข่าวกรอง การกำลงั พลการส่ง กำลงั และการปฏิบตั อิ ่นื ๆ ที่คลา้ ยคลึงกัน เครอื่ งมอื และอุปกรณก์ รรมวธิ ีขอ้ มูลอตั โนมัติ จะต้องจัดใหเ้ หมาะสม แก่การใช้มากที่สุด และให้สนธิเข้ากับระบบการสื่อสารได้ การใช้กรรมวิธีข้อมูลอัตโนมัติในกองทัพน้อย องค์แทนการส่ือสาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 2-5 จำเป็นต้องมีช่องการส่อื สารสำหรับข้อมูล ซ่งึ อาจส่งไปโดยทางเครื่องรับ-ส่งขอ้ มลู ท่ีมีความเร็วเทา่ กบั โทรพมิ พ์ หรืออาจส่งขอ้ มูลโดยตรงระหว่างเคร่ืองคำนวณด้วยความเรว็ สงู ในวงจรส่ือสารแถบกว้าง ในกรณแี รกใช้วงจร คุณภาพเท่าโทรพมิ พ์กเ็ ป็นการเพียงพอ แต่ในกรณีหลังจำเป็นตอ้ งใชว้ งจรแถบกว้างท่ีมีคุณภาพสงู เทยี บเทา่ หลายวงจรเสียง นอกจากน้ันอาจส่งบตั รหรือแถบข้อมลู ด้วยการนำสารกไ็ ด้ 3.6 การอกั ษรลับ เครื่องมอื การอักษรลับ ใชเ้ พอ่ื ให้มีชั้นของการรักษาความาปลอดภัยในการส่ือสาร วัตถุประสงค์อันสำคัญก็เพือ่ ที่จะส่งข่าวท้ังมวล ไม่ว่าเป็นข่าวทีม่ ชี ้ันความลับหรือไม่ เครื่องมอื การอกั ษรลับ อาจใชไ้ ดท้ ้ังในวงจรสื่อสาร (ON LINE) และนอกวงจร (OF LINE) สดุ แต่ความตอ้ งการ โดยเฉพาะของผู้ใช้และ แบบของเครื่องมอื ที่มีอยู่ เครื่องอกั ษรลับนอกวงจรไม่ต่อร่วมกับเครื่องมือสื่อสาร ส่วนเครื่องมืออักษรลบั ใน วงจรจะตอ่ รว่ มอยกู่ ับมชั ฌิมการส่ือสาร เคร่อื งจะเขา้ รหสั – ถอดระหสั พร้อมไปกบั การรบั -ส่ง ควรใช้เคร่อื งมือ การอักษรลบั ในวงจรให้มากท่สี ดุ เท่าท่จี ะทำได้ เพื่อใหม้ นั่ ใจว่ามีความรวดเร็ว โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัย อยู่ ตลอดเวลาคลงั สื่อสารเป็นหน่วยแจกจ่ายหรือ ให้การสนับสนุนในด้านการส่งกำลังบำรุงทางการอักษรลับ ภายใตก้ ารอำนวยการ การกำกับดแู ล ของฝา่ ยอำนวยการของกรมขา่ วทหารบก 4. มัชฌิมการสือ่ สาร เครื่องมือการสื่อสาร จะเชื่อมโยงเข้ากับมัชฌิมการส่ง เพื่อทำใหเ้ กิดระบบการสือ่ สาร มชั ฌมิ การส่งจะประกอบดว้ ยสงิ่ ทจ่ี ะกลา่ วต่อไปนี้ อย่างใดอย่างหนงึ่ หรอื รวมกันก็ได้ 4.1 ทางสาย เปน็ มชั ฌิมท่สี ำคัญอยา่ งหนงึ่ เนื่องจากความเชอ่ื ถือไดเ้ มื่อเปรยี บเทยี บวิทยุแลว้ ทางสาย จะมีความปลอดภัยและไม่คอ่ ยถูกรบกวน ในสถานการณท์ างยทุ ธวิธที เ่ี ปลย่ี นแปลงไปอย่างรวดเร็ว การใชท้ าง สายก็มีข้อจำกัดอยู่บา้ ง เพราะการติดตั้งทางสายย่อมต้องใช้เวลา สายเคเบิ้ลสนามที่ใช้ประกอบกับเครื่อง คลนื่ พาห์ เปน็ เคร่ืองมอื หลกั ในระบบทางสายทใี่ ช้ในกองทัพบก 4.2 วิทยุ วิทยเุ ปน็ มชั ฌิมทส่ี ำคัญอกี อยา่ งหน่งึ ของการสอื่ สาร 4.2.1 เครื่องวิทยุความถี่สูงและความถี่สูงมาก อาจติดตั้งบนยานพาหนะเพื่อให้มีความ คลอ่ งตัวในการปฏบิ ัติ 4.2.2 เครื่องวทิ ยกุ ำลงั สงู นั้น ใช้ทำการส่ือสารในระยะไกล การส่อื สารยามฉกุ เฉนิ การ สือ่ สารในการรบร่วมอากาศยาน-พืน้ ดนิ และใชใ้ นข่ายบงั คบั บัญชาและข่ายธรุ การ 4.2.3 เครื่องวทิ ยุกำลงั ต่ำ ใช้ทำการสือ่ สารระยะใกลใ้ นหน่วยทหารขนาดย่อม 4.2.4 สถานวี ทิ ยุสนธทิ างสาย ซง่ึ จัดไว้ ณ ศูนยก์ ารสญั ญาณท่ีกำหนดไว้นัน้ จะช่วยใหก้ ารใช้ วทิ ยใุ นพนื้ ทีก่ องทพั น้อยมคี วามออ่ นตวั ตามสมควร 4.2.5 เครื่องเข้า–ถอดรหัสเสียง เป็นเครื่องที่อำนวยต่อการรักษาความปลอดภัยในการ ส่อื สารดว้ ยทางสาย โดยกำหนดเป็นวงจรอนุมัตขิ น้ึ ใหส้ ง่ ขา่ วท่ีมีช้ันความลับจนถึงลบั มาก ส่วนการสื่อสารด้วย วทิ ยุใชไ้ ด้บ้าง ข้ึนอยู่กับชนดิ และขนาดของเครอื่ งเข้า-ถอดรหัสเสยี ง ซึ่งปจั จบุ นั ยังไมม่ หี ลักนิยมในการใช้หรือ นำเขา้ สรู่ ะบบสง่ กำลงั บำรงุ ของกองทัพไทย และยงั ไมม่ ีการกำหนดหลักนยิ มทางการรักษาความปลอดภัยขึ้น ด้วย (อาจถอื ได้ว่าอยู่ในขึ้นทดลองและเกย่ี วกบั ฐานะของทางเศรษฐกจิ ของประเทศ) องคแ์ ทนการสือ่ สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าท่ี 2-6 4.3 วิทยุถ่ายทอด เป็นมัชฌิมในการส่งข่าวที่สำคัญยิ่งในระบบการสื่อสารหลายช่อง และยังมี คุณลักษณะอนั เดน่ คือ ความคล่องตวั ความอ่อนตัว และความงา่ ยในการติดตง้ั วทิ ยถุ ่ายทอดทางยทุ ธวิธีมักใช้ ความถี่ในย่าน ความถี่สูงมาก ความถี่สูงอุลตร้า หรือ ความถี่สูงซุปเปอร์ มีคุณลักษณะการส่งจำกัดเพียงแค่ ระยะสายตา และใช้สถานีถ่ายทอดกลางทางเปน็ ตัวเพิ่มระยะทางได้เป็นร้อยๆ ไมล์ ถ้าได้ใช้เครื่องวิทยุชนิด โทรโปสแคตเตอร์ ก็จะช่วยลดสถานีถ่ายทอกกลางทางลงได้ (เป็นเครื่องขนาดใหญ่ต้องใช้จานสายอากาศ ขนาดใหญต่ ดิ ตั้งบนรถตขู้ นาดใหญ่ เดิมถือเป็นเคร่ืองมอื ส่อื สารทางยุทธศาสตร์) วทิ ยถุ ่ายทอดใช้รว่ มกับเครอ่ื ง คลืน่ พาหห์ รือเคร่ืองรวมชอ่ งการส่อื สาร (MULTIPLEXER) ซึง่ ทำให้มกี ารสอื่ สารหลายชอ่ งการสอ่ื สารได้ การสื่อสารดาวเทียม คือ การสื่อสารด้วยวิทยุถ่ายทอดอีกแบบหน่ึงที่อาศัยดาวเทียม ที่มีเครื่องรับ สญั ญาณจากสถานีหนง่ึ และขยายกำลงั ใหส้ งู ขึ้นกอ่ นส่งต่อใหส้ ถานีปลายทางทต่ี ้องการ การสื่อสารดาวเทียม ถือได้ว่าเป็นการสื่อสารทางยุทธศาสตร์อันหนึ่ง ในระบบโทรคมนาคมไม่ว่าภายในประเทศหรือระหว่าง ประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมได้ทั่วโลกปัจจุบันวิวัฒนาการด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทำให้อุปกรณ์การ ส่ือสารตา่ งๆ เลก็ ลงและเบาขึน้ เรื่อยๆ จึงอาจเป็นท่หี วังได้วา่ ในปัจจบุ นั อุปกรณ์การส่ือสารดาวเทียมมีขนาด เล็กลงพอที่จะเป็นเครื่องมือการสื่อสารทางยุทธวิธีได้ ถ้าฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศอำนวยให้ และ ภูมิประเทศบังคับ เช่น ภาคเหนือ และภาคใต้ ของประเทศ เป็นต้น ทบ.อาจจัดหาอุปกรณ์การสื่อสาร ดาวเทียมทางยุทธวิธใี นโอกาสต่อไปได้ 4.4 บรกิ ารนำสาร เป็นมชั ฌมิ การสื่อสารทมี่ ผี ลดีมากที่สดุ อยา่ งหน่ึง ทีจ่ ะใชส้ ่งวัตถุหอ่ ใหญ่ เชน่ คำสงั่ ใบเบิก หีบห่อ บัตรข้อมูลและแผนที่ บริการนำสารโดยทั่วไปของเหล่าทหารสื่อสารอาจใช้ในการส่งมอบ เอกสารที่มีช้ันความลบั จนถึงช้นั ลบั มากกไ็ ด้ 5. การเชื่อมโยงระหว่างศูนย์การสัญญาณ ศูนย์ ญ. ที่เชื่อมโยงถึงกันด้วยวงจรทางสายใหญ่อยู่ภายใต้การ ควบคุมแบบรวมการ แต่ละศูนย์ ญ. จัดให้มีอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดที่ต้องการ สำหรับสนับสนุนหน่วยและ กิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ภายในพืน้ ที่รับผิดชอบของศูนย์ ญ. นั้น ศูนย์ ญ. แต่ละศูนย์ของระบบการส่ือสารแบบ พน้ื ท่ีจะเช่ือมโยงกบั ศูนย์ ญ. อ่ืนๆ อกี อย่างนอ้ ย 2 ศนู ย์ ทง้ั น้เี พ่อื ใหม้ ีการแยกแยะทางสำรองและเพอื่ เปน็ การ เฉลี่ยปริมาณขา่ วในเม่ืออปุ กรณเ์ ทา่ ทม่ี อี ยู่ ระยะทางและปจั จยั อน่ื ๆ อำนวยแล้ว ศนู ย์ ญ. ของสว่ นบญั ชาการ กอ็ าจเช่อื มโยงกันได้โดยตรงก็ได้ 6. ระบบการส่ือสารของกองทพั น้อย จัดให้มีการสือ่ สารจาก บก.ทน. ไปยังกองพลและหน่วยตา่ งๆ ของ ทน. บก.ทน. จะจัดให้มีการสื่อสารผ่านศูนย์ ญ. ที่ตั้งขึ้นประจำแต่ละส่วนของ บก.ทน. ที่สำคัญได้แก่ ศูนย์ ญ. ท่ี บก.ทน.หลัก บก.ยุทธวิธี และ บก.หลัง ของ ทน. นับตั้งแต่ปี 2521 เป็นต้นมา พื้นที่หลัง ทน. ขึ้นไปถือเป็น พื้นที่เขตหลัง พลน้อย สน.ของ ทน. รับผิดชอบดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์ ญ. ได้ 16 ศูนย์ ครอบคลุมพื้นที่ของ ทน. 7. ระบบการสื่อสารแบบพ้นื ทขี่ องกองพล กองพันทหารส่อื สารของกองพลเป็นผตู้ ดิ ต้ัง ปฏบิ ตั งิ านบำรุงรักษา และควบคุมระบบการสื่อสารแบบพื้นที่ของกองพล ระบบนี้ประกอบด้วย ศูนย์ ญ.พื้นที่หน้าและศูนย์การ องค์แทนการสือ่ สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าท่ี 2-7 สัญญาณกองบญั ชาการ ซึ่งเชื่อมต่อกนั ผา่ นทางวงจรหลายช่องสื่อสาร และวงจรช่องส่ือสารเดียว สถานีสนธิ วิทยุ/สาย และบริการนำสาร ศนู ย์ ญ. ของกองพลจะเช่ือมโยงกนั ด้วยวิทยุถา่ ยทอดหลายชอ่ งส่อื สาร และเมือ่ สถานการณ์อำนวยก็ เชื่อมโยงด้วยสายเคเบิ้ลสนาม ศูนย์ ญ. กองบัญชาการจะตั้งอยู่ ณ ส่วนต่างๆ ของ บก.พล. และ ณ กรม สนับสนุนของกองพล ศูนย์ ญ. กองบัญชาการและ ศูนย์ ญ. พื้นที่หนา้ จะเช่ือมโยงกันด้วยวงจรทางสายใหญ่ แตล่ ะศูนย์จะเช่อื มกับศนู ย์อ่ืนๆ อกี อย่างนอ้ ย 2 ศนู ย์ ทำให้มีทางสำรองระหวา่ งศนู ย์ต่างๆ สำหรับแก้ปัญหา ในยามฉกุ เฉิน ทำให้สะดวกในการสง่ ข่าว ทำให้มีการเฉลยี่ การส่งขา่ ว และทำให้ลดภาวะการสลบั สายโทรศัพท์ - ระบบการ ส. แบบพืน้ ทข่ี องกองพลจะสนธิเขา้ กับระบบ ส.ของ ทน. - หน่วย ส.ทน. จัดการเชื่อมโยงระบบการ ส. ของ ทน. ให้กับระบบการ ส. แบบพ้ืนที่ของกองพล และมักจะตอ่ กบั ศูนย์ ญ. หลัก ของกองพล - ทน.จัดการเชือ่ มโยงระบบการ ส. แบบพน้ื ท่ขี อง ทน. เขา้ กบั ระบบการ ส. แบบพน้ื ท่ีของกองพล และมกั จะตอ่ กบั ศนู ย์ ญ. กรมสนับสนุนของกองพล ศูนย์ ญ. ของกองพล จัดตั้งโดย พัน.ส.พล. ซึ่งมีขีดความสามารถในการติดตั้งปฏิบัตงิ านบำรุงรักษา ศูนย์ ญ. ตา่ งๆ ดังตอ่ ไปน้ี - ศนู ย์ ญ. ทก.พล.หลกั - ศูนย์ ญ. ทก.พล.สำรอง - ศนู ย์ ญ. ทก.กรมสนบั สนุนของกองพล - ศนู ย์ ญ. ทก.พล.สว่ นหลงั - ศนู ย์ ญ. พ้นื ทหี่ นา้ 3 ศูนย์ บรกิ ารนำสารของกองพล จะส่งมอบข่าวใหโ้ ดยตรงกบั ศนู ย์ ญ. และกับศนู ยข์ ่าวของ บก.พลนอ้ ยและ หนว่ ยสำคญั อื่นๆ ของกองพล ศูนย์ ญ. พนื้ ท่หี น้าทำหน้าท่ีนำสาร เป็นตำบลรับและสง่ ข่าวของกองพลให้กับ หนว่ ยต่างๆ ของกองพล ทอ่ี ย่ใู นพน้ื ทข่ี องศูนย์ ญ. น้ันๆ เท่าน้นั 8. การยา้ ยศูนย์การสญั ญาณ ผบ.ส. ทร่ี ับผิดชอบจะเป็นผตู้ กลงใจการย้ายศูนย์ ญ. โดยอาศยั สิ่งแวดลอ้ มที่มอี ยู่ขณะนั้น สิ่งสำคัญ ที่พึงระลกึ อยู่เสมอคือ การมีการสื่อสารท่ีจำเป็นตลอดเวลาจนกวา่ จะวางการสื่อสารใหม่เสร็จแล้ว การย้าย ศนู ย์ ญ. กระทำไดห้ ลายวิธี แต่จะนำมากลา่ วเพียง 2 วธิ ี ดงั ตอ่ ไปน้ี 8.1 จัดตั้งศูนย์ ญ. ประจำ ทก.แห่งใหม่ขึ้นก่อนปิดศูนย์ ญ. เดิม เครื่องมือสือ่ สารที่ไม่จำเป็นต้องใช้ จรงิ ๆ ณ ศนู ย์ ญ. ประจำ ทก.เดมิ ให้โยกยา้ ยไปติดตัง้ ณ ศนู ย์ ญ. ใหมห่ รอื รวมข่ายบางขา่ ยเขา้ ดว้ ยกัน โดย วิธนี ีศ้ ูนย์ ญ. ใหมก่ ็จะเรม่ิ ปฏบิ ัติงานไดจ้ ะตอ้ งเคลือ่ นย้ายเคร่อื งสอ่ื สารตา่ งๆ ทเ่ี หลอื ไปยังศูนย์ ญ. ใหมโ่ ดยเรว็ ท่ีสดุ เทา่ ทสี่ ถานการณจ์ ะอำนวยให้ แลว้ ค่อยดำเนินการปิดศนู ย์ ญ. ณ ทก.เดมิ ได้ องคแ์ ทนการส่ือสาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 2-8 8.2 ศนู ย์ ญ. ประจำ ทก. เดมิ หยุดปฏิบตั ิงานลงโดยสน้ิ เชิง และเคล่อื นย้าย ทก. พร้อมดว้ ยเคร่ืองมือ ส. ไปยัง ทก.แห่งใหม่ โดยวิธนี ี้ ทก. สำรองจะต้องดำเนินการควบคุมจนกว่า ทก. ใหมจ่ ะพรอ้ มท่จี ะปฏิบตั งิ าน ได้ แล้วค่อยดำเนินการปิด ทก. สำรอง และเคลอื่ นย้ายไปยังท่ตี ง้ั ทก.สำรองแหง่ ใหม่ องค์แทนการสื่อสาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

บทท่ี 3 การจัดและภารกิจของศูนย์การสื่อสาร 1. กล่าวทว่ั ไป ศูนย์การสื่อสาร เป็นองค์แทนการสื่อสารอย่างหนึ่งที่จัดให้ประจำกับศูนย์การสัญญาณ หรือประจำ กองบญั ชาการหนว่ ยทหารขนาดใหญ่ ศูนย์การสื่อสารจัดขึ้นในระบบการสื่อสาร แบบเส้นหลักการสื่อสาร หรือเป็นส่วนหนึ่งของ ศนู ย์การสัญญาณในระบบการสอื่ สารแบบพน้ื ที่ หนว่ ยทหารสื่อสารเปน็ ผู้จัดต้ัง ปฏิบตั งิ าน ตลอดจนการบำรงุ รักษาศูนย์การสื่อสาร 2. การจัด ศนู ยก์ ารสื่อสารทางยทุ ธวิธี ไม่มีการจดั ท่ตี ายตัว แต่มหี ลกั อยวู่ ่าจะต้องจดั ใหอ้ ่อนตัวได้ เพอ่ื สนองความ ต้องการของกองบัญชาการที่ศูนย์การสื่อสารนั้นประจำอยู่ โดยหลักการแล้วศูนย์การสื่อสารทั้งหลายย่อม เหมอื นกัน ความแตกต่างกนั ในเร่อื งขนาดชนดิ ของเครื่องมอื ที่ใช้และลักษณะการปฏิบัติงานของแต่ละศูนย์ย่อม พจิ ารณาได้จากขนาดของกองบัญชาการที่ประจำอยู่ และความต้องการการสอ่ื สาร ก. การจัดแผนและตอนตา่ งๆ โดยท่วั ไปจะประกอบดว้ ยตอนสำคญั ๆ 3 ตอน คือ 1. ตอนศนู ยข์ า่ ว 2. ตอนการอักษรลับ 3. ตอนมัชฌมิ การสอ่ื สาร ในศนู ยก์ ารส่อื สารขนาดใหญ่ จะมีภารกจิ ทางธรุ การ การซ่อมบำรงุ การกำกบั ดแู ล ฯลฯ เพ่มิ มากขึ้น จงึ อาจมีแผนกและตอนตา่ งๆ เพม่ิ ขนึ้ จากเดมิ 1 ตอน หรือ มากกวา่ น้ันก็ไดค้ อื 1. ตอนพลนำสาร 2. ตอนการอกั ษรลบั 3. ตอนวิทยุ 4. ตอนโทรพมิ พ์ 5. ตอนโทรสำเนา 6. ตอนกำลงั ไฟฟา้ 7. ตอนซอ่ มบำรุง 8. ตอนควบคมุ การส่ือสาร 9. ตอนแยกทางสง่ ขา่ วและสอบถาม 10. ตอนสง่ กำลัง 11. ตอนธุรการและกำลงั พล องคแ์ ทนการส่ือสาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 3-2 การจดั เป็นแผนก อาจจัดเป็น 1. แผนกธรุ การและกำลงั พล - ตอนธรุ การ - ตอนกำลงั พล 2. แผนกบรกิ าร - ตอนควบคุมเครื่องมือส่อื สาร - ตอนซ่อมบำรุง - ตอนกำลังไฟฟ้า - ตอนส่งกำลัง 3. แผนกปฏบิ ตั กิ าร ก. สถานีปลายทาง - ตอนศนู ยข์ า่ ว - ตอนเครื่องมอื รบั – ส่ง ข. สถานีถา่ ยทอดโทรพิมพ์ - ตอนเครอ่ื งสง่ - ตอนเครอ่ื งรับ - ตอนดำเนนิ กรรมวธิ ีตอ่ ข่าว 4. แผนกการอกั ษรลับ - ตอนการอักษรลบั - ตอนเครื่องมือประชุมระยะไกล 5. แผนกวิธีการและผล - ตอนวธิ ีการและผล - ตอนฝกึ การจดั ศูนยก์ ารสอ่ื สารของกองทพั นอ้ ย ศนู ย์การสอ่ื สารของกองทัพนอ้ ยนน้ั การปฏิบัตงิ านหนกั ไปทางยุทธวธิ ี และเกอื บจะตัดการสอื่ สารทาง ธรุ การออกไปทงั้ หมด การจัดศูนย์การสอื่ สารของกองพล ศนู ยก์ ารสื่อสารของกองพล ดำเนนิ เรอ่ื งตอ่ ขา่ วจำนวนน้อยกว่าศูนย์การสอ่ื สารของกองทัพน้อย แต่การ เคล่ือนย้ายของหน่วยตา่ งๆ ของกองพลทำให้ยากแก่การปฏบิ ตั ิงานของศนู ยก์ ารสอ่ื สาร โดยหลกั การแลว้ ศูนย์การส่ือสารของกองพล ต้องใชม้ ัชณมิ การสอื่ สาร เช่นเดียวกบั กองบญั ชาการ หนว่ ยเหนือ แต่ต้องเพง่ เล็งในเร่ืองการสับเปลยี่ นเครือ่ งสอ่ื สารตามสถานการณ์ทางยทุ ธวธิ ี องคแ์ ทนการสอื่ สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 3-3 ศูนยก์ ารส่อื สารของกองพล มกี ารจัดเป็น 3 ตอนเท่าน้นั คอื 1. ตอนศูนยข์ า่ ว 2. ตอนการอักษรลบั 3. ตอนมชั ฌิมการสื่อสาร ข. การจัดเจ้าหนา้ ที่ การบรรจุเจา้ หน้าท่ใี ห้กบั ศนู ยก์ ารสอ่ื สาร ยอ่ มขึน้ อยกู่ บั บรกิ ารทจ่ี ะต้องทำความหนาแน่นของ ข่าวทจี่ ะต้องดำเนนิ กรรมวธิ ี เจ้าหนา้ ทีใ่ นศูนย์การส่อื สารแต่ละคน อาจทำงานเพียงตำแหน่งเดยี ว หรือหลาย ตำแหน่งกไ็ ด้ จงึ ตอ้ งไดร้ บั การฝกึ และศกึ ษาให้ทำงานได้มากกวา่ หนง่ึ หนา้ ที่ โดยปกตแิ ลว้ ในศูนยก์ ารสื่อสารจะมี เจา้ หนา้ ท่หี ลกั ๆ ดงั น้คี ือ 1) นายทหารผรู้ บั ผดิ ชอบ 2) นายทหารยทุ ธการ 3) นายทหารธรุ การและกำลังพล 4) นายทหารซ่อมบำรงุ 5) นายทหารรักษาความปลอดภยั ทางการอักษรลบั 6) ผพู้ ิทกั ษ์วตั ถขุ ่าวลับ 7) นายทหารเวรศนู ยก์ ารส่ือสาร 8) นายทหารเวรการอักษรลบั 9) หัวหน้าผลดั 10) ผกู้ ำกบั ดูแล อย่างไรก็ตามในศนู ย์การสอ่ื สารขนาดเลก็ เจา้ หน้าทดี่ งั กลา่ วตอ่ ไปน้ี กเ็ พยี งพอในการปฏิบตั ิงาน 1) นายทหารศูนยข์ ่าว 2) หัวหน้าศูนย์ขา่ ว 3) เจ้าหนา้ ทบ่ี ญั ชีข่าว 4) เจ้าหน้าท่ีแยกทางสง่ ข่าว 5) หัวหนา้ พลนำสาร 6) พนักงานเครอ่ื งมอื 7) เจา้ หน้าที่เกบ็ หลักฐาน ค. การจัดเคร่ืองมือสอื่ สาร เคร่ืองมือสอื่ สารท่ีใชใ้ นศนู ยก์ ารสอื่ สาร ได้แก่ 1) วทิ ยุ 2) โทรพมิ พ์ 3) พลนำสาร 4) โทรศัพท์ (ไม่นิยมใชเ้ ป็นเครื่องมอื ส่อื สารรบั ส่งข่าว จะใชเ้ มอ่ื จำเป็น) องคแ์ ทนการส่ือสาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 3-4 ง. แบบฟอร์มตา่ งๆ ทีใ่ ช้ในการปฏบิ ัติงาน แบบฟอร์มท่ีศนู ยก์ ารสอ่ื สารใช้ในการปฏิบัติงาน ได้แก่ 1. กระดาษเขยี นข่าว สส.7 (ทบ.463 – 008) ใชส้ ำหรบั หน่วยทหารระดบั ตำ่ กว่ากองพล กระดาษเขียน ข่าว สส.6 (ทบ.463–007) ใช้สำหรับหน่วยทหารระดับกองพลขึ้นไป และกระดาษเขียนข่าวร่วมใช้สำหรับ 3 เหล่าทพั 2. บันทกึ การปฏิบตั ิงานของสถานีวทิ ยุ (ทบ.463 – 003) สำหรบั บนั ทกึ การปฏิบตั ิงานของสถานวี ิทยุท่ี เขา้ เวรพลัดเปลีย่ นกนั หัวหน้าพนกั งานวิทยเุ ป็นผูบ้ นั ทกึ 3. หลกั ฐานการนำสาร (ทบ.463 – 004) ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานในการเซน็ ต์รบั ขา่ ว 4. บันทึกสถิติข่าว (ทบ.463 – 005) เพื่อให้ทราบสถิติการทำงานของเจ้าหน้าที่นำสารแต่ละคนและ สถิตขิ ่าว 5. สถติ กิ ารใชง้ านของเครื่องมือ (ทบ.463 – 006) เพ่ือใหท้ ราบสถติ กิ ารใชง้ านของเครอื่ งมือชนดิ ตา่ งๆ 6. หลักฐานแผนทางการส่งข่าว (ทบ.463 – 022) สำหรับลงหลักฐานในการเลือกทางส่งข่าวให้กับ เครื่องมือทีม่ อี ยู่ 7. ตารางศูนย์ข่าว (ทบ.463 – 023) ใช้บันทึกการทำงานของเครื่องมือสื่อสาร เพื่อเป็นข้อมูลในการ เลอื กทางส่งขา่ ว 8. ตารางงานศูนย์ข่าวหรอื บญั ชขี า่ ว (ทบ.463 – 024) สำหรบั ลงหลกั ฐานข่าวเข้าและขา่ วออก 9. หลักฐานขา่ วทส่ี ง่ ไปยงั ศนู ยร์ หสั (ทบ.463 – 025) สำหรับลงหลักฐานข่าวท่สี ง่ ไปยังศนู ยร์ หสั 10. บัญชีคุมข่าว (ทบ.463 – 026) สำหรับใช้เป็นบัญชีข่าวของ ทก.ส่วนหน้าชั่วคราวมีลักษณะเอา บญั ชีข่าวและแผนทางการส่งขา่ วรวมไว้ดว้ ยกัน เพื่อสะดวกในการทำงานและไมเ่ สียเวลามาก 11.บันทึกประจำศูนย์ข่าว (ทบ.463 – 027) สำหรับหัวหน้าศูนย์ข่าวลงบันทึกการปฏิบัติงาน และ เหตุการณ์ต่างๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ งกับศูนย์ขา่ ว ความต้องการ ขอ้ ขัดขอ้ ง การเยี่ยมเยียน การติชม 12. บันทึกการปฏิบัติงานของศูนยข์ ่าว (ทบ.463 – 028) สำหรับหัวหน้าศูนย์ขา่ วลงหลักฐานการปดิ เปดิ ทำงานของศูนยข์ ่าว และจดั ผลดั เข้าทำงานแตล่ ะหนา้ ท่ี 13. รายงานประจำศูนย์ (ทบ.463 – 029) สำหรับหัวหน้าศนู ยข์ า่ วลงหลกั ฐานเกย่ี วกับการเปลย่ี นแปลง ใดๆ อนั เก่ียวกบั ระเบียบการ การดำเนนิ การตอ่ ข่าว กำลงั พลและเครอ่ื งมอื ขอ้ เสนอต่างๆ ทอี่ าจจะเกดิ ข้ึน 14. รายงานนายทหารเวรศูนย์การสื่อสาร (ทบ.463 – 030) สำหรับนายทหารเวรศูนย์การสื่อสาร รายงานให้ทราบเหตุการณ์ต่างๆ ทเี่ กิดขน้ึ แก่ศนู ย์ ไดแ้ ก่ ระเบยี บการกำลงั พล เครอื่ งมือ การดำเนนิ การต่อข่าว ความขดั ข้องของวงจรทีผ่ ิดธรรมดา 15. กระดาษสำหรับเข้าและถอดรหัส (ทบ.463 – 031) สำหรับตอนการอักษรลับ ใช้เข้าและถอดรหสั 16. ตว๋ั รหสั สำหรับข่าวรบั (ทบ.463 – 032) สำหรบั ตอนการอกั ษรลับใชบ้ นั ทึก 17. ต๋ัวรหสั สำหรบั ขา่ วส่ง (ทบ.463 – 033) สำหรับตอนการอักษรลบั ใชบ้ นั ทึก องค์แทนการส่อื สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 3-5 18. บันทกึ ศนู ย์รหสั สำหรบั ขา่ วรับ/ส่ง (ทบ.463 – 034) สำหรับตอนการอักษรลบั หรือศูนย์การอักษร ลับบนั ทกึ 19. บันทึกการรับ – ส่งข่าวของพนักงานวิทยุ (ทบ.463 – 035) สำหรับให้พนักงานจดบันทึกหมู่วัน เวลาท่รี บั สง่ ขา่ วเสร็จของสถานีวิทยุ 20. บนั ทึกการเรยี กขานของสถานีวิทยุ (ทบ.463 – 036) ลงบนั ทกึ เฉพาะการเรยี กขานของสถานีวิทยุ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า พนักงานได้พูดอะไรออกไปบ้างขณะติดต่อกัน เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ การระเมดิ ระเบยี บการ 21. บันทึกของพนักงานวิทยุ (ทบ.463 – 037) สำหรับพนกั งานวิทยุจดบันทึกความเป็นไปของสถานี เช่น เวลาปดิ เปิดสถานี เวลาในการรบั -ส่งข่าว ความถี่ ความล่าชา้ เพ่ือเปน็ ประวัติของสถานีน่นั เอง 22. บันทึกการปฏบิ ัติหนา้ ท่ีนำสาร (ทบ.463 – 038) สำหรบั หัวหนา้ พลนำสารลงหลกั ฐานทำงานของ พลนำสาร แผนภูมิ แผนท่ี และแผนผงั ภายในศูนย์การสือ่ สาร ตอนต่างๆ ตอ้ งทำแผ่นป้ายประกาศเพอื่ แจ้งเรอ่ื งราวตา่ งๆ ใหผ้ ู้เกีย่ วขอ้ งและ จะต้องปฏบิ ตั ทิ ราบ สิ่งต่างๆ ท่ีจะตอ้ งประกาศแจง้ ใหท้ ราบมหี ลายอย่างดว้ ยกัน ไดแ้ ก่ 1. แผนภมู ิแสดงใหท้ ราบถงึ เครอ่ื งมือสอื่ สารตา่ งๆ ท่ีใชอ้ ยู่ 2. แผนผังแสดงใหท้ ราบท่ีต้ังของ บก. และ บก.หน่วยรองต่างๆ 3. แผนทส่ี งั เขปแสดงใหท้ ราบเส้นทางการนำสารตามกำหนดเวลา และตำบลถา่ ยทอดถ้ามี 4. แบบหรือตัวอยา่ งการเตรยี มขา่ วที่ถกู ต้อง แบบรายงานตา่ งๆ เท่าทจี่ ำเป็นต้องการใช้ 5. แผนผังแสดงท่ีตงั้ ของตอนตา่ งๆ ภายใน บก.ทศ่ี ูนยก์ ารสอ่ื สารน้นั ประจำอยู่ 6. รายชอื่ นายทหารอนมุ ตั ขิ ่าว และรายช่อื นายทหารทปี่ ฏบิ ตั ิงานภายใน บก. 7. รายช่อื เวร และหน้าท่ีของเจา้ หนา้ ทศี่ นู ย์การสื่อสารตา่ ง 8. ยอดกำลัง 9..ตารางการใช้รถนำสาร 10.สถติ ิข่าวเขา้ ออกของเคร่ืองมอื แตล่ ะชนดิ 11.ทางเดินของขา่ วเข้า – ออก ท้ังหมดน้จี ะตอ้ งติดไวใ้ นท่ีทีจ่ ะเหน็ ไดง้ า่ ย และมขี นาดใหญ่พอทจี่ ะเห็นไดช้ ดั เจน 3. ภารกจิ องค์แทนการส่ือสาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 3-6 ภารกิจของศูนยก์ ารสอ่ื สาร ได้แก่ การจดั บรกิ ารการส่ือสารใหก้ บั ผู้บงั คบั บัญชา และฝา่ ยอำนวยการ 4. ความรับผดิ ชอบของศูนยก์ ารสือ่ สาร ศนู ยก์ ารสือ่ สารมีความรบั ผิดชอบดงั นี้ คือ ก. การรบั การสง่ และการสง่ มอบข่าวทางราชการ ซง่ึ ไดแ้ ก่ 1) ข่าวท่ีเขยี นลงในกระดาษเขยี นขา่ วของทางราชการ 2) คำสั่งยุทธการและแผ่นบรวิ าร 3) แผนทแ่ี ละภาพถา่ ย 4) ข่าวสารอนื่ ๆ ที่ไดร้ บั อนมุ ตั ิ ข. การประสานการใชเ้ คร่ืองมือสอ่ื สาร ค. การรักษาความปลอดภยั ทางการสง่ ข่าว ง. เก็บรกั ษาบันทึกต่างๆ เปน็ การชัว่ คราว จ. จดั ใหม้ ีการสลบั สายทางโทรพมิ พ์ ฉ. จัดใหม้ ขี ่ายเตอื นภยั 5. ระบบการส่อื สารทต่ี ้องการ ในการจัดระบบการสือ่ สารสำหรบั การสือ่ สารน้นั จะตอ้ งจัดให้สนองความตอ้ งการ 4 ประการ คือ 1. ความเชอื่ ถือ (RELTABILITY) ศูนยก์ ารส่อื สารจะตอ้ งส่งข่าวไปให้ถงึ ผรู้ บั ไดถ้ กู ตอ้ งตรงกับต้นฉบับ 2. ความเร็ว (SPEED) ข่าวทั้งปวงจะต้องไดร้ บั การปฏิบัติโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และให้เป็นไป ตามลำดบั ความเรง่ ดว่ นทีก่ ำหนดไว้ 3. ความปลอดภัย (SECURITY) ศูนย์การส่ือสารจะต้องพทิ ักษ์รกั ษาและปฏิบัติต่อข่าวตามค่าของ ข่าวท่ีได้จัดชนั้ ความลับเอาไว้ 4. ความคงอยู่ (SURVILABILITY) เจ้าหนา้ ท่ีศูนยก์ ารสือ่ สาร จะตอ้ งมคี วามร้เู ป็นอย่างดีเกี่ยวกับระบบ การส่ือสารท้ังปวงที่มอี ย่ใู นพ้ืนท่นี ั้น และสามารถนำมาใชท้ ดแทนระบบการสอ่ื สารของตนทอ่ี าจเกดิ ขดั ขอ้ งขึน้ องค์แทนการสื่อสาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

บทที่ 4 ศูนย์การสือ่ สารของกองพล 1. กลา่ วทั่วไป ศูนยก์ ารสอ่ื สาร เปน็ ท่ีรวมของมัชฌมิ การส่ือสารต่างๆ ทห่ี น่วยนน้ั ต้องการใชแ้ ละถอื วา่ ศนู ยก์ าร ส่ือสารเปน็ องคแ์ ทนการสื่อสารอยา่ งหนงึ่ สำหรบั กองบญั ชาการหนว่ ยทหารขนาดใหญ่ เรยี กองคแ์ ทนน้วี า่ “ศนู ยก์ ารสอ่ื สาร” แตส่ ำหรบั กอง บงั คับการหน่วยทหารขนาดย่อม เรยี กองคแ์ ทนน้ีวา่ “ศูนย์ขา่ ว” ศูนย์การส่อื สารและศนู ยข์ า่ ว รบั ผิดชอบและปฏบิ ตั งิ านเหมือนๆ กัน แต่ศูนยข์ า่ ว รบั ผิดชอบและ ปฏิบตั ิงานในขอบเขตที่น้อยกว่า 2. การจัด การจัดศูนย์การสื่อสาร จะต้องให้อ่อนตัวได้ ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละกองบัญชาการที่ ได้รับการบริการจะเปน็ เครื่องกำหนดรายละเอียดในการจัดและพันธกิจอัตราการจดั กำลงั และยทุ โธปกรณ์ เปน็ ปจั จัยสำคญั ในการพจิ ารณา ในศูนย์การสื่อสารประกอบด้วย ตอนศนู ย์ขา่ ว ตอนอกั ษรลบั และ และตอน เครื่องมือหรอื ตอนมัชฌิมการสอื่ สาร อาจจะเพ่ิมตอนนำสาร ในกรณีทีม่ ีปรมิ าณขา่ วมากจนทำให้เกิดความ คับคัง่ ของข่าวท่ีสง่ ผ่านมัชฌมิ ทางไฟฟ้า ศูนย์การส่อื สาร ตอนศนู ย์ขา่ ว ตอนอกั ษรลับ ตอนเครือ่ งมอื ตอนนำสาร รูปที่ 4-1 การจดั ศูนย์การส่ือสารทางยทุ ธวิธี ศูนยก์ ารสื่อสารของกองพล ดำเนนิ การต่อข่าวจำนวนน้อยกว่าศนู ยก์ ารส่ือสารของกองทัพน้อย แต่ การเคล่อื นยา้ ยของหน่วยตา่ งๆ ของกองพลทำใหย้ ากแก่การปฏบิ ัติของศูนย์การสื่อสารของกองพล โดย หลกั การแลว้ ศนู ยก์ ารสื่อสารของกองพลก็คงใชว้ ิธีการสอื่ สารเชน่ เดียวกบั กองบญั ชาการหนว่ ยเหนือ แต่ตอ้ ง เพ่งเลง็ ในเรอ่ื งการสบั เปล่ยี นเคร่อื งมอื ต่างๆ ตามสถานการณท์ างยทุ ธวธิ ี (รส.11-17) โดยท่ัวไปศนู ย์ ส. ของ กองพลจะมีการจัดเป็น 3 ตอน ดงั นี้ องคแ์ ทนการส่ือสาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 4 - 2 ศูนยก์ ารส่อื สาร ตอนศนู ยข์ ่าว ตอนการอักษรลบั ตอนเครอื่ งมือ รูปท่ี 4-2 การจัดศนู ยก์ ารสอ่ื สารกองพล หมวดศูนย์ข่าวและนำสารของ พัน.ส.พล. หมวดศนู ยข์ ่าวและนำสารของ พนั .ส.พล. จดั กำลังตาม อจย. 11-35 (25 ก.ค.27) มีเจ้าหน้าทด่ี งั น้ี บก.มว. - ผบ.มว. (ร.ท.) ชกท.0221 จำนวน 1 นาย - นายทหารศูนยข์ า่ ว (ร.ท.) ชกท.0221 จำนวน 1 นาย - ผช.นายทหารศนู ย์ข่าว (ร.ท.) ชกท.0221 จำนวน 1 นาย - นายทหารการอกั ษรลับ (ร.ท.) ชกท.0224 จำนวน 1 นาย - นายสิบประจำหมวด (ส.อ.) ชกท.721 จำนวน 1 นาย ตอนศูนยข์ ่าว - นายสบิ ศนู ย์ข่าว (จ.(พ.)) ชกท.721 จำนวน 1 นาย (จ.) ชกท.721 จำนวน 2 นาย - ผช.นายสบิ ศูนยข์ า่ ว (ส.อ.) ชกท.721 จำนวน 9 นาย - เสมยี นศนู ยข์ า่ ว (ส.ต.) ชกท.710 จำนวน 6 นาย ตอนอักษรลบั - หัวหนา้ ตอน (จ.(พ.)) ชกท.722 จำนวน 1 นาย - นายสบิ การอกั ษรลบั (จ.2)(ส.อ.5) ชกท.722 จำนวน 7 นาย ตอนนำสาร - หน.ตอน (จ.) ชกท.721 จำนวน 1 นาย - พลนำสารยานยนต์ (ส.อ.) ชกท.721 จำนวน 9 นาย - ผช.พลนำสารยานยนต์ (ส.ต.) ชกท.720 จำนวน 10 นาย - พลนำสาร (พลฯ) ชกท.720 จำนวน 3 นาย รวม 54 นาย องค์แทนการสื่อสาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าท่ี 4 - 3 ผบ.มว.ศูนยข์ ่าวและนำสาร รับผิดชอบในการควบคุมศูนย์การสื่อสารของกองพล และรับผิดชอบตอ่ ผบ.ร้อยในเรื่องการใช้ มว.ศูนย์ข่าวและนำสารทางยุทธวิธี กับจะต้องเข้าใจรายละเอียดในเรื่องวัสดุการ อักษรลับ ซงึ่ ถอื ว่าเปน็ ความลับอย่างสงู มีหนา้ ทีด่ งั ต่อไปนี้ 1. ปกครองบงั คบั บญั ชาและรบั ผิดชอบตอ่ ผบ.ร้อย เก่ยี วกับการปฏบิ ัติและผลงานของ มว.ศูนย์ขา่ ว และนำสาร 2. ใหข้ อ้ เสนอแนะ วางแผน เตรียมแผนและคำสง่ั ประสานงานและกำกบั ดแู ลศูนยก์ ารสอื่ สารของ หน่วย 3. อำนวยการทำ รปจ. ของหมวด 4. วางแผนการทำลายทางการอักษรลบั 5. ตดิ ตอ่ กบั ผบ.รอ้ ย ให้ทราบถึงการปฏบิ ัติของหมวดอยู่ตลอดเวลา นายทหารศูนย์ขา่ ว รบั ผดิ ชอบในเรอื่ ง 1. การปฏิบตั แิ ละผลงานของศนู ย์ ส. ในความรบั ผดิ ชอบ 2. ใหข้ อ้ เสนอแนะ ชว่ ยในการเตรียมแผนและคำสงั่ ประสานงานและกำกบั ดูแลเกยี่ วกับศนู ย์การ สื่อสารของหน่วย 3. ช่วยในการเตรยี มทำบันทึกและรายงานของศนู ย์ ส. ศนู ย์การอกั ษรลบั ให้เป็นไปด้วยความถูกตอ้ ง 4. ควบคุมทางการปฏบิ ตั ิตอ่ ชุดการอกั ษรลบั ทม่ี าข้ึนสมทบหรอื ใหก้ ารสนับสนนุ 5. ทำ รปจ. แผนการบรรทุกของศนู ย์ ส. 6. กำกับดูแลการเลือกทางสง่ ข่าวให้ได้ผลดีทส่ี ดุ และแจ้งให้ ผบ.มว. และ/หรือ ผบ.รอ้ ย ทราบถงึ ปรมิ าณการรบั สง่ ข่าวอย่เู สมอ 7. รกั ษาความปลอดภัยทางการสง่ ข่าวอย่างเครง่ ครัด 8. ทำการฝกึ ทางเทคนคิ ใหเ้ จ้าหน้าที่ในบงั คบั บัญชาใหท้ นั สมยั อยเู่ สมอ 9. รับผดิ ชอบทางธรุ การและสวสั ดกิ ารของเจ้าหนา้ ทีใ่ นศนู ย์ ส. 10. จัดหาอปุ กรณท์ จี่ ำเป็นให้แกศ่ ูนย์ ส. ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิงานได้ตลอดเวลา 11. ควบคมุ ให้มกี ารใช้ สป. โดยประหยัด ผชู้ ว่ ยนายทหารศูนย์ขา่ ว รบั ผดิ ชอบในเรอ่ื ง 1. ชว่ ยเหลือนายทหารศูนยข์ ่าวตามที่ได้รบั มอบ 2. จัดทำหลกั ฐาน บนั ทกึ และรายงาน ซง่ึ นายทหารศนู ย์ข่าวต้องการ 3. ควบคุมและใหข้ ้อเสนอแนะการปฏบิ ตั งิ าน และการจดั ผลัดปฏิบตั งิ านของศูนย์ ส. 4. ควบคุมดแู ลให้มกี ารใช้ สป. โดยประหยัด องค์แทนการสอื่ สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 4 - 4 นายทหารการอกั ษรลบั 1. ปกครอง บงั คบั บญั ชา และรบั ผดิ ชอบการปฏิบตั ิงานของตอนการอกั ษรลบั หรอื ศูนยก์ ารอักษรลบั ท่ี จดั ตั้งขึน้ 2. จดั ทำหลกั ฐาน บนั ทึก และรายงานของตอน 3. รักษาความปลอดภยั เครอ่ื งมอื ทางการอกั ษรลบั ภายในความรบั ผิดชอบอย่างกวดขนั 4. เสนอแนะการเปลีย่ นแปลงวธิ ีปฏบิ ตั งิ าน กำหนดความรับผิดชอบแกเ่ จา้ หนา้ ที่และการดำเนินงาน เก่ยี วกบั ข่าวทีต่ อ้ งการรกั ษาความปลอดภัยทางการอักษรลบั 5. ตรวจสอบขา่ วทฝี่ ่าฝนื การรักษาความปลอดภยั ทางการอกั ษรลบั และเสนอแนะการแกไ้ ขมิให้ ขอ้ บกพรอ่ งเกดิ ข้นึ ได้อกี 6. ทำการฝึกทางเทคนิคใหแ้ กเ่ จ้าหนา้ ทใ่ี นบงั คับบญั ชาใหท้ นั สมยั อยเู่ สมอ 7. จัดทำ รปจ.ของตอน และแผนการทำลายทางการอักษรลบั 8. ควบคุมให้มกี ารใช้ สป. โดยประหยดั 3. ภารกจิ ภารกิจของศูนย์การสื่อสาร ไดแ้ ก่ การสง่ การรบั และการสง่ มอบขา่ วราชการ ให้ผบู้ ังคบั บญั ชาและ ฝ่ายอำนวยการของกองบัญชาการ ซง่ึ ศูนยก์ ารสอ่ื สารบริการให้ ศูนย์การสอ่ื สารไมร่ บั ผดิ ชอบในการบนั ทกึ การทำสำเนา การแจกจ่ายหรอื การสง่ มอบข่าวภายใน กองบญั ชาการ 4. การปฏิบัตงิ าน ก. ความรบั ผดิ ชอบต่อขา่ ว 1) ความรับผิดชอบสำหรับข่าวออก เริ่มเมื่อได้รับข่าวมาที่ตอนศูนย์ข่าว ความรับผิดชอบจะมี ต่อเน่อื งกนั ไป จนกระท่ังได้รับการตอบรบั จากองค์แทนการส่อื สารกลางทาง (สถานีถ่ายทอด) หรอื จากศูนย์ การสือ่ สารตามการจ่าหนา้ เม่ือผ้ใู ห้ข่าวขอให้ผรู้ ับตอบรับ ศนู ยก์ ารส่ือสารตน้ ทางจะต้องติดตามจนกระท่ัง ได้รบั การตอบรับแล้ว และผใู้ หข้ ่าวทราบแลว้ 2) ความรับผิดชอบสำหรับข่าวเข้า เริ่มขึ้นเมื่อได้รับข่าวที่ส่งมาเรียบร้อยแลว้ ความรับผิดชอบน้ี ตอ่ เน่ืองกนั ไปจนกระทง่ั ศูนยร์ ับ- สง่ รับข่าวนัน้ ไป ความรับผิดชอบของศนู ย์การสื่อสาร สำหรบั ขา่ วถา่ ยทอด หรือขา่ วเปลี่ยนแปลงเครือ่ งมอื REFILE นั้น เริ่มเมื่อไดร้ ับข่าวมาเรียบร้อยแล้ว สิ้นสุดลงเมื่อไดร้ ับการตอบ รับจากองคแ์ ทนการสอื่ สารทีถ่ า่ ยทอดให้ หรือสง่ มอบข่าวให้ องคแ์ ทนการสื่อสาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าท่ี 4 - 5 ข. กำลงั พลและเครือ่ งมอื กำลงั พลและเครื่องมอื จดั ให้ตาม อจย. เมื่อมคี วามตอ้ งการเครือ่ งมอื และกำลงั พลในการปฏิบัติงาน บก.หนว่ ยเหนือเปน็ ผ้จู ดั ชดุ ปฏบิ ัตงิ านเพมิ่ เตมิ ค. การปฏบิ ัติงานของตอนศูนย์ข่าว 1. ตอนศูนย์ข่าว ดำเนินกรรมวิธีต่อข่าวทัง้ มวลที่เข้ามายังศูนย์การสื่อสาร เลือกเครื่องมอื ที่จะใช้ ดำรงรักษาแฟ้มศูนย์การสื่อสาร แผนท่ี บัญชีสถานภาพการสื่อสาร และเวลาราชการข่าวออกเริ่มขึ้นท่ี กองบัญชาการ หรือข่าวเข้าที่เจ้าหน้าที่ถึงผู้รบั ในกองบัญชาการ ซึ่งศูนย์การสื่อสารบริการให้ จะส่งไปให้ โดยตรงระหวา่ งศนู ย์รบั – สง่ ของกองบญั ชาการและตอนศนู ย์ขา่ ว 2. เสมียนศูนย์ขา่ ว กำหนดหน้าที่ให้เป็นเสมียนข่าวออก และเสมียนแยกทาง เสมียนเก็บหลักฐาน และจำหน่ายข่าว เสมียนข่าวเขา้ เสมียนตรวจทาน ตำแหน่งของเสมียนศูนย์ขา่ วถูกจดั ให้เรยี งกันไปตามท่ี ขา่ วจะผา่ น จากตำแหนง่ หนึง่ ไปยงั อีกตำแหน่งหนงึ่ ดว้ ยเหมือนกนั หนา้ ท่ีของเสมยี นศนู ย์ข่าวนนั้ เสมียนคน หนึ่งอาจทำหนา้ ท่ีสองหน้าที่หรือมากกว่ากไ็ ด้ ขน้ึ อย่กู บั ปริมาณของข่าวทต่ี อ้ งดำเนนิ กรรมวิธี 3. บันทึกและการเก็บเข้าแฟ้ม ตอนศูนย์ข่าวนั้นเป็นส่วนทางธุรการของศูนย์การสื่อสาร จะต้อง รักษาบันทกึ ช่ัวคราวเกี่ยวกับการส่งข่าว และบันทึกการปฏิบัติของแต่ละขา่ วไม่ได้เก็บเข้าแฟม้ ไว้ เพื่อเป็น หลักฐานของฝา่ ยอำนวยการ รายการตา่ งๆ ท่ีตอ้ งเกบ็ เขา้ แฟม้ มีดงั น้ี ก. บญั ชขี ่าว ดำเนนิ การโดยเสมยี นข่าวเขา้ และเสมียนขา่ วออกของตอนศูนย์ข่าว ข. หลกั ฐานการนำสาร บนั ทึกการปฏิบัตหิ น้าท่นี ำสาร ค. บนั ทกึ ต่างๆ ของตอนเครอ่ื งมือ ง. สำเนาขา่ วเฉพาะสถานี จ. สำเนาขา่ วออกและสำเนาข่าวเขา้ ฉ. หลักฐานอนื่ ๆ ของศนู ยก์ ารส่อื สารที่ไดก้ ลา่ วถงึ ขา้ งต้น 4. แผนทแ่ี ละแผนภมู ิ ก. ศูนย์การสื่อสารทำแผนที่สถานการณ์ เพื่อวางแผนเส้นทางการนำสาร บรรยายสรปุ ให้ พลนำสารไดท้ ราบเส้นทางของแต่ละที่ตัง้ ของหน่วยต่างๆ เพื่อให้การจัดบริการนำสารได้ผลดีท่ีสุดเทา่ ทีจ่ ะ เป็นไปได้ แผนที่นั้นจะต้องให้ทันสมัยเมื่อเปรียบเทียบกับแผนที่สถานการณ์อื่นๆ ในกองบัญชาการ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งแผนที่สถานการณข์ อง สธ.2 และ สธ.3 ข. ตอนศนู ยข์ า่ วควรจะทำประวตั ิสถานภาพการสอื่ สาร ง. การปฏิบตั งิ านของตอนการอักษรลบั 1. ตอนการอักษรลบั รบั ผดิ ชอบในการเข้าและถอดอักษรลบั การรักษาความปลอดภัยของตอน การอักษรลบั อยูใ่ นความรับผิดชอบของนายทหารการอักษรลบั 2. นายทหารการอักษรลับ ช่วยเหลือหน่วยรองในการปฏิบัติภารกิจการอักษรลับให้ประสบ ผลสำเรจ็ นายทหารการอกั ษรลับปฏิบตั ิหน้าที่เป็นผู้แนะนำทางเทคนคิ ช่วยเหลอื ในการแกป้ ัญหา และให้ ข่าวตามที่ตอ้ งการ องค์แทนการสอ่ื สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าท่ี 4 - 6 3. การรักษาความปลอดภัยทางการอักษรลับ เป็นผลมาจากการจัดหาระบบการอักษรลับทาง เทคนคิ และการใช้โดยเฉพาะแต่ละคนท่ีมหี น้าท่เี กย่ี วขอ้ งกับการอักษรลบั รบั ผดิ ชอบ โดยตรงตอ่ ผูก้ ำกบั ดูแล สำหรบั การรกั ษาความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ านของตน 4. นายทหารการอักษรลับ ตามปกตไิ ด้รบั การแตง่ ตั้งใหเ้ ปน็ ผพู้ ทิ ักษ์วสั ดกุ ารอกั ษรลับด้วย จ. การปฏบิ ตั ิงานของตอนเครือ่ งมอื 1. กลา่ วทวั่ ไป ก. ตอนเครื่องมือของศูนย์การสื่อสาร ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเครื่องมือ ปลายทางสำหรับการส่งและรับข่าว เครื่องมือปลายทางที่ใช้ได้แก่ วิทยุ วิทยุโทรเลข โทรพิมพ์ และ โทรสำเนาเครือ่ งรับและเคร่ืองส่ง ตามปกตติ ิดต้ังอยู่ห่างกนั และตอ่ ไปยังเคร่ืองมือปลายทางด้วยสายสนาม รวม ข. กำลังพลของตอน ดำเนินกรรมวิธีต่อข่าวตามลำดับที่ได้กำหนดไว้ในระเบียบปฏิบัติ การเปลี่ยนแปลงระเบียบปฏิบัติไปจากที่ได้รับอนุมัติ จะทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้น ลดความเชื่อถือได้ ลดความเร็วและลดการรกั ษาความปลอดภัยทางการส่ือสาร ค. ข่าวเข้าทั้งปวงจะผ่านเข้าไปในตอนศูนย์ข่าว และข่าวออกทั้งปวงได้รับมาจาก ตอนศูนย์ข่าว ข่าวเปลี่ยนเครื่องมือทั้งปวงผ่านเข้าไปยังศูนย์ข่าวเพื่อดำเนินกรรมวิธี และส่งกลับมายัง ตอนเครื่องมือเพื่อทำการส่ง ถ้าหากว่าพนักงานไม่สามารถส่งข่าวได้เพราะเครื่องมือเสีย ถูกรบกวนด้วย สาเหตอุ ืน่ ใด จะตอ้ งแจ้งใหผ้ ู้กำกับดแู ลทราบทนั ทีทันใด เพ่ือจะไดใ้ ช้เครือ่ งมอื อ่ืนได้ ง. พนักงานจะลงนามในข่าวออกทุกฉบับ พร้อมด้วยเวลาส่งข่าวและระบบเครื่องสื่อสาร สำหรับขา่ วเขา้ ทุกฉบบั พนักงานจะลงนาม ลงเวลารบั ขา่ วและระบบเคร่ืองมอื สอ่ื สาร เสรจ็ แล้วสง่ ข่าวน้ันไป ใหต้ อนศูนยข์ ่าว 2 การรบั รองฝ่าย ก. ขา่ วข้อความกระจ่างทงั้ หมดทส่ี ่งออกไป หรือรบั เข้ามาด้วยเครือ่ งทางไฟฟา้ จะตอ้ งได้รบั การรบั รองฝ่าย ข. ระเบียบการรบั รองฝ่ายอยใู่ น นปส.ของ บก.ท่ีรบั บรกิ าร 3. โทรพิมพ์ ก. โทรพมิ พ์เปน็ เครื่องมือที่รวมอยู่ในจำพวกทใี่ ชส้ ายหรือวทิ ยุ หรอื ทง้ั สองอย่างรวมกันเป็น มัชฌิมในการส่งข่าว ข่าวที่ได้เข้ามาจะอยู่ในรูปของกระดาษแถบ พิมพ์เป็นหน้าหรือทั้งสองอย่าง การสง่ อาจจะทำได้โดยกระดาษแถบที่เตรียมเอาไวห้ รือพมิ พท์ เี่ คร่ืองโดยตรง ข. รูปแบบของข่าว และระเบียบปฏิบัติสำหรับโทรพิมพ์กำหนดไว้ในคู่มือ ใช้ร่วมสามเหลา่ ทัพวา่ ด้วยระเบียบปฏบิ ตั ิทางโทรพมิ พ์ 4. วทิ ยุโทรเลข ก. วิทยุโทรเลขนั้นใช้แทนวิทยุโทรพิมพ์บ่อยครั้ง เมื่อต้องการเพราะสาเหตุในเรื่องระยะ ทางการรบกวน หรือสาเหตุอ่นื ทีท่ ำใหว้ งจรเสื่อมคณุ ภาพไป บ่อยคร้งั ทีเดยี วท่ีใชเ้ ปน็ เครือ่ งมอื ในข้ันแรกของ องคแ์ ทนการสอื่ สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 4 - 7 การสื่อสารระหว่างหน่วยเคลื่อนที่เร็ว วิทยุโทรเลข เป็นเครือ่ งมือที่ให้ความปลอดภัยน้อยที่สุด เป็น เครื่องมือที่อ่อนแอต่อการดักรับ แต่ในบางครั้งก็สามารถจะตั้งขึ้นเมื่อสิ่งแวดล้อมทำให้เครื่องมืออื่นไม่ สามารถใช้งานได้ 5. คำพดู ก. ในบางครง้ั ขา่ วอาจส่งไปเป็นคำพดู ดว้ ยวิทยุ หรอื วงจรทางสาย วิธนี ้ใี ช้มากทีส่ ดุ ในกองบังคับ การของหนว่ ยทหารขนาดยอ่ ม ข. ระเบียบปฏิบัติสำหรับพนักงานวิทยุโทรศัพท์ กำหนดไว้ในคู่มือใช้ร่วมสามเหล่าทัพ ว่าด้วย ระเบยี บปฏิบตั ทิ างวิทยโุ ทรศัพท์ 6. โทรสำเนา การสง่ ข่าวทางสำเนา รวมทงั้ แผนท่ี ภาพวาด ภาพ แผนผงั การสง่ โทรสำเนา สามารถทจี่ ะส่งทางวงจรทางสายหรอื วทิ ยุ โทรสำเนาใช้เมื่อมีการขอรอ้ งใหใ้ ชพ้ นักงานตามปกตไิ ดร้ บั การฝึก ให้ทำหน้าท่ีอนื่ ในศูนยก์ ารส่อื สารดว้ ย บนั ทึกและประวตั ิที่ตอ้ งการสำหรับโทรสำเนา พนกั งานโทรสำเนา เป็นผ้ดู ำเนินการ ฉ. การปฏบิ ัตงิ านของตอนนำสาร 1. ตอนนำสารของศนู ย์การส่อื สารประกอบดว้ ย พลนำสารและเคร่อื งมือทใี่ ช้ในการส่งมอบข่าว พลนำสารตามปกติถูกเลือกขึ้นมาเพื่อส่งมอบข่าวตามความต้องการเป็นพิเศษ เพราะวา่ ปัจจยั เกีย่ วกับการ รักษาความปลอดภยั หรอื เพราะความสำคญั ของข้อความในขา่ ว บรกิ ารนำสารจะตอ้ ง ก. ส่งมอบขา่ วออกใหก้ บั ศนู ย์การสอ่ื สารอืน่ ข. สง่ มอบข่าวระหวา่ งตอนศูนย์ข่าวและศนู ยร์ ับ-สง่ ของกองบญั ชาการท่ไี ด้รบั การบรกิ าร ค. จัดบริการนำสารพเิ ศษเมอ่ื ตอ้ งการ ง. ส่งมอบขา่ วทางธรุ การ และข่าวที่มปี รมิ าณมาก จ. ปลดเปล้อื งความแออัดของเครื่องมอื ทางไฟฟา้ ฉ. ส่งมอบขา่ วท่ีถอดรหสั แลว้ ใหผ้ รู้ บั ตามการจ่าหนา้ ช. ส่งมอบข่าวเม่ือเคร่ืองมือท่ใี ช้สง่ ทางไฟฟา้ ทำงานไม่ได้ เพราะการก่อกวน การรบกวน และเมอ่ื ระงับวทิ ยุ 2. พนั ธกจิ ของตอนนำสาร จดั พลนำสารบรกิ ารระหว่างศูนย์การสอ่ื สาร และศนู ย์รบั – สง่ ของ กองบญั ชาการ และไปยังหนว่ ยและที่ตง้ั ทางทหารนอกกองบญั ชาการทีร่ บั การบรกิ าร 3. แบบของการบรกิ าร มกี ารนำสารทมี่ กั ใชใ้ นศูนย์ ส. อยู่ 2 แบบ คอื การนำสารตาม กำหนดเวลา และการนำสารพเิ ศษ 4. การใช้พลนำสาร ประสิทธภิ าพของการบรกิ ารนำสารข้นึ กับการใชพ้ ลนำสาร โดยถกู ต้องกับ ความต้องการของข่าวแต่ละฉบับหรือหลายๆ ฉบับ พลนำสารที่ใช้ได้แก่ พลนำสารเดินเท้า องคแ์ ทนการสอ่ื สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 4 - 8 พลนำสารยานยนต์ พลนำสารทางอากาศ แบบของพลนำสารที่ใช้ขน้ึ อยู่กบั ความเรง่ ดว่ นและปริมาณ ของข่าว ภูมิประเทศ ลมฟา้ อากาศ และการขนสง่ เทา่ ทมี่ อี ยู่ 4.1 พลนำสารเดนิ เทา้ ตามปกติใช้ระยะใกล้ๆ เม่อื ภมู ปิ ระเทศน้ันยานยนต์ผ่านไม่ได้ หาก ใชพ้ ลนำสารเดนิ เทา้ ระยะทางไกลตอ้ งใชร้ ะบบการสง่ ต่อ 4.2 พลนำสารยานยนต์ ตามปกตใิ ช้ระหวา่ งกองบัญชาการเม่อื ระยะทางและปรมิ าณของ ข่าวอำนวยให้ พลนำสารยานยนต์ตามกำหนดเวลาอาจจัดตั้งสำหรับระยะทางไกลๆ เมื่อสภาพของถนน เกือ้ กลู ให้ทำได้ ควรมีการสำรวจสภาพของถนนทง้ั เส้นทางหลกั และทางสำรอง เพือ่ ทจี่ ะใช้นำสารยานยนต์ 4.3 พลนำสารทางอากาศตามกำหนดเวลาและพิเศษ ใช้สำหรับส่งมอบข่าวในระยะ ทางไกลหรือภูมปิ ระเทศไมอ่ ำนวยใหใ้ ชพ้ ลนำสารยานยนต์ หรือพลนำสารเดินเทา้ ได้ การบรกิ ารเชน่ นใี้ ชบ้ ่อย ระหว่างการปฏิบัตกิ ารทางยุทธวิธี อาจทำโดยเคร่ืองบนิ หรอื เฮลิคอปเตอร์ 4.4 การขนสง่ และเคร่ืองมือ 4.4.1 ยานยนต์ที่ใช้โดยพลนำสารยานยนต์ อยู่ในความควบคุมของตอนนำสาร ผู้บังคับทหารสื่อสารตามปกติจะประสานงานกับองค์แทนควบคุมการจราจร ในเรื่องความเร่งด่วนการใช้ ถนนและพน้ื ท่ีที่ต้องการสำหรับยานยนตน์ ำสาร พลนำสารทำเคร่ืองหมายไว้ทย่ี านพาหนะในขณะท่ที ำหนา้ ท่ี นำสาร 4.4.2 การจัดการนำสารทางอากาศ ผู้บงั คบั ทหารสอื่ สารเปน็ ผ้ปู ระสาน 4.4.3 พลนำสารได้รบั จ่าย เขม็ ทิศ และแผนทต่ี ามท่ีต้องการ 4.5 เส้นทางการนำสาร 4.5.1 การจัดบริการนำสาร หมายรวมทั้งการเลือกและการกำหนดเส้นทาง แผนที่ ภาพสเก็ต และคำแนะนำใชส้ ำหรบั แสดงเสน้ ทางวา่ พลนำสารควรจะไปทางใด ควรจะกำหนดเส้นทางหลัก และเสน้ ทางรอง 4.5.2 พลนำสารอาจไดร้ ับความช่วยเหลือและคำแนะนำจากสารวตั รทหาร หรอื จาก หน่วยที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามพลนำสารต้องได้รับการฝึกเพื่อใช้สิ่งอื่นตามเส้นทาง เช่น การใช้ทางสาย นำทางในภูมิประเทศท่ียากลำบากตอนกลางคืน พลนำสารต้องทำความคุ้นเคยกับป้ายสาย เพื่อที่จะได้ใช้ ทางสายนำไปสู่หนว่ ยที่ตอ้ งการ 4.5.3 นายทหารผรู้ บั ผิดชอบจะต้องเลอื ก และทำการลาดตระเวนเสน้ ทางการนำสาร ปัจจัยต่อไปน้ีมอี ทิ ธิพลตอ่ การเลอื กเสน้ ทางนำสาร ก) แบบของพลนำสารท่ีใช้ ข) การกำบังและการซ่อนพรางในเส้นทาง ค) เส้นทางทมี่ อี ยู่ ง) ระยะทางและสภาพของเส้นทาง จ) สถานการณท์ างยทุ ธวธิ ี องค์แทนการสอ่ื สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 4 - 9 4.5.4 ตำบลส่งต่อ จัดขึ้นเพื่อลดข้อขัดข้องอันเกี่ยวกับการขนส่งติดขัด รถนำสารเสียหรอื พลนำสารได้รบั ความเหน็จเหนือ่ ยมาก เส้นทางนำสารมีระยะทางไกลและเป็นอันตรายจากการซุ่มโจมตี รถนำสารยานยนต์จากขา้ ศกึ ตำบลส่งจะถูกกำหนดไวใ้ น นปส. 4.5.5 พลนำสารคู่ การจัดพลนำสารคู่ทำเมื่อข่าวที่จะนำไปส่งมอบนั้น มีความสำคัญมาก หรือเสน้ ทางนั้นอาจเปน็ อนั ตรายไดจ้ ากการซุ่มโจมตีของข้าศกึ การปฏบิ ตั พิ ลนำสารจะถอื ขา่ วฉบับเดียวกัน แตไ่ ปคนละเสน้ ทาง 4.5.6 การทงิ้ ข่าวและการตกขา่ วทางอากาศ การทิ้งข่าวทางอากาศ และการตกข่าวเป็นเทคนิคที่บางครั้งต้องใช้ ระหว่างหนว่ ยบนพนื้ ดนิ และอากาศยานกองทัพบกท่สี นับสนุน โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในระหว่างระงับวิทยุหรือ เกิดฉุกเฉนิ ตอนศูนย์ข่าวและพนกั งานวิทยุ ควรทำความคุ้นเคยกับระเบยี บปฏบิ ัติ แผ่นผา้ สญั ญาณจะตอ้ ง นำมาใช้ในการนี้ด้วย เพื่อกำหนดทิศทางลมและจุดที่ตกข่าว ซึ่งรายละเอียดการใช้แผ่นผ้าสัญญาณ จะกำหนดไว้ใน นปส. องคแ์ ทนการสือ่ สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

บทท่ี 5 ศนู ย์รบั – ส่ง 1. กลา่ วนำ นอกจากศูนย์การสื่อสารแล้ว ยังมีหน่วยงานอีกหน่วยหนึ่งซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับข่าวทางทหาร หน่วยงานนั้นคือ ศูนย์รับ – ส่ง ซึ่งกองบัญชาการได้จัดตั้งขึ้นมากจากเหล่าสารบรรณ เพื่อทำหน้าที่เป็น ตวั แทนในเร่ืองการควบคมุ ขา่ วทง้ั มวลของกองบญั ชาการ เร่งรัดความเร็วของขา่ วผลิตสำเนาข่าวให้พอเพียง กับจำนวนผู้รับ และแจกจ่ายข่าวให้แกผ่ ู้รับซึ่งอยูภ่ ายในกองบัญชาการ และเพื่อเป็นคนกลางแก่ศูนย์การ ส่ือสารกับแผนกอำนวยการอ่นื ๆ ของกองบัญชาการ 2. ศนู ยร์ ับ – ส่ง คอื อะไร ในระดับกองพลขน้ึ ไป ศนู ย์รบั – ส่ง คือหนว่ ยงานที่กองคับการหรือกองบญั ชาการได้จัดขึ้นประจำ แตล่ ะกองบังคับการหรอื กองบัญชาการ เพือ่ ใหท้ ำหน้าทีเ่ ปน็ ตัวแทนในเร่ืองการควบคุมข่าวทั้งมวลของกอง บงั คับการหรือกองบัญชาการ เร่งรัดความเรว็ ของข่าวผลิตสำเนาข่าวใหพ้ อกับจำนวนผูร้ บั และแจกจ่ายข่าว ให้แก่ผู้รับซึ่งอยู่ภายในกองบังคับการ หรือกองบัญชาการและเพื่อเป็นตัวกลางระหว่างศูนย์การสื่อสารกับ แผนกฝ่ายอำนวยการอนื่ ๆ ของกองบงั คับการหรอื กองบญั ชาการ 3. ผู้รับผดิ ชอบในการดำเนินงาน ก. หวั หน้า สธ.1 (หรือเทียบเทา่ ) รบั ผดิ ชอบในทางฝา่ ยอำนวยการ ข. นายทหารสารบรรณ รับผดิ ชอบในการปฏบิ ัติ ค. เจ้าหน้าท่ีของกองบงั คับการ หรือกองบัญชาการเป็นผูป้ ฏบิ ตั ิ 4. ความรบั ผดิ ชอบของศนู ย์รับ - สง่ ก. ความถูกต้องของข่าว เช่น การเขียนข่าว การกำหนดประเภทเอกสาร การกำหนดความเร่งด่วน เปน็ ตน้ ข. การรบั มอบและส่งมอบขา่ ว กบั ศูนย์การส่ือสาร ค. การแจกจา่ ยขา่ วถึงผรู้ บั รวมทงั้ การทำสำเนาขา่ วเพิ่มเติมให้พอกับจำนวนผ้รู บั (ขา่ วที่มาจากที่อื่น นอกกองบงั คบั การ หรือกองบัญชาการของตน) ง. การแจกจ่ายข่าวภายในกองบงั คับการหรอื กองบญั ชาการ (ข่าวทีร่ ิเริม่ ขน้ึ ภายในกองบงั คับการหรือ กองบญั ชาการนนั้ เอง เพ่อื แจกจา่ ยไปยังผู้รับอืน่ ภายในกองบงั คับการหรอื กองบญั ชาการเดียวกัน จ. พลนำสารภายใน (จดั ข้นึ เองหรอื ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าอน่ื ) ฉ. ดำเนนิ งานใหบ้ ังเกดิ ผลตามวตั ถปุ ระสงคข์ า้ งต้น ช. ยกเวน้ การแจกจ่ายคำส่งั ยุทธการ และคำสง่ั การชว่ ยรบ ตลอดจนผนวกประกอบ องคแ์ ทนการสอ่ื สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 5 - 2 5. พันธกิจของศนู ยร์ บั - สง่ พันธกิจของศนู ย์รบั – ส่ง คอื ปฏิบัตติ ามกจิ กรรมความรบั ผิดชอบของศูนยร์ บั -สง่ 6. ที่ต้ังของศูนย์รบั – สง่ โดยปกตศิ ูนย์รบั – สง่ ของกองบังคบั การหรือกองบญั ชาการใด ก็มกั จะตัง้ อยู่ในกองบังคับการหรอื กองบญั ชาการนัน้ แต่ในขณะเดยี วกนั กพ็ ยายามท่จี ะให้อย่ใู กล้ศนู ย์การส่อื สารด้วย การระวงั ป้องกนั กองบงั คบั การหรอื กองบญั ชาการ เป็นการระวังป้องกันใหก้ บั ศูนย์รบั – สง่ ด้วย 7. ความสำเรจ็ ในการปฏบิ ัติพนั ธกจิ ของศนู ยร์ บั – สง่ ยอ่ มขนึ้ กบั ก. ศูนย์ รับ – สง่ ตอ้ งปฏบิ ัตงิ านตลอดเวลา 24 ชม. ข. นโยบายของผูบ้ งั คบั บญั ชา ค. ความรว่ มมอื ของแผนกฝา่ ยอำนวยการอื่นๆ ของกองบงั คบั การหรอื กองบญั ชาการ ง. การตดิ ต่อและการประสานงานอย่างใกลช้ ิดกบั ศูนย์การสอื่ สาร จ. ความรอบรู้ในเรอื่ งทเี่ กีย่ วข้องของเจา้ หนา้ ท่ีศูนยร์ ับ – สง่ เชน่ รอบรใู้ นเรื่องการดำเนินกรรมวิธี ของศูนยก์ ารส่อื สาร รอบรู้ในเรอื่ งการจัดกองบงั คับการหรอื กองบัญชาการทตี่ นสงั กดั อยู่ ตลอดจนงานใน หน้าทแี่ ละที่อยขู่ องเจา้ หน้าทหี่ ลกั ๆ ของกองบงั คบั การหรอื กองบญั ชาการ เป็นต้น ฉ. ความสามารถในการใชว้ ิจารณญาณของศูนยร์ บั – สง่ ช. การจัดงานและการแบ่งงานในศูนย์รับ – สง่ รวมถงึ เครอื่ งอำนวยความสะดวกตา่ งๆ เชน่ เครื่อง พมิ พด์ ดี เปน็ ตน้ ซ. การปฏบิ ตั ิตาม รปจ.อยา่ งเครง่ ครดั 8. ขนาดของศูนย์รบั – สง่ ก. ศูนย์รับ–ส่ง ไม่มีขนาดที่แน่นอน ทั้งนี้ย่อมขึ้นกับขนาดของกองบงั คับการ หรือกองบัญชาการ และปริมาณของข่าว ข. การประสานงานของ หน.สธ.1 (หรือเทียบเท่า) ผบ.ส. และนายทหารสารบรรณ ประกอบกบั ประสบการณท์ ี่ผ่านมา และการประมาณการจะให้แนวความคิดการจดั ศูนยร์ ับ–สง่ ใหม้ ขี นาดเทา่ ใด ค. กองบังคบั การหรือกองบญั ชาการ ตัง้ แตร่ ะดับกองพลลงไป ไมม่ อี ตั ราการจัดกำลงั ของเจ้าหน้าที่ ศูนย์รับ-ส่ง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของศูนย์รับ-ส่ง จะจัดจากเจ้าหน้าที่ที่ระบุชื่อตำแหน่งอย่างอื่นจาก กองบงั คับการหรือกองบัญชาการ ในระดับการบัญชาการกองทัพและเหนือข้ึนไป ซึ่งมีข่าวมากก็จะมอี ตั รา การจัดของเจ้าหน้าทีศ่ ูนย์รับ-ส่ง แต่ในระดับกองทัพขึ้นไปจะไมเ่ รียกว่าศูนย์รับ-ส่ง แต่จะเรียกว่า STAFF MESSAGE CONTROL AGENCY OR MESSAGE CONTROL CENTER OR COMMUNICATION TRAFFIC CONTROL CENTER องค์แทนการสื่อสาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าท่ี 5 - 3 9. อุปกรณ์ในการปฏิบตั งิ านของศนู ยร์ บั - สง่ ก. ส่วนใหญ่ได้แก่เคร่อื งใชส้ ำหรับสำนกั งาน เชน่ เครอ่ื งพมิ พด์ ีด เครอ่ื งเขยี น แบบพมิ พ์ เป็นตน้ ข. เครอื่ งสอ่ื สาร (อยู่ในอตั ราของกองบงั คบั การหรอื กองบญั ชาการ) ได้แก่ โทรศพั ท์ แตบ่ างครง้ั ได้รับการสนบั สนุนจากแหล่งอื่นด้วย ค. พลนำสารภายในที่ตงั้ (จดั เองหรือไดร้ ับการสนบั สนนุ จากแหลง่ อื่นๆ) 10. นายทหารอนมุ ัตขิ า่ ว ก. นายทหารอนุมัติข่าวของแต่ละกองบังคับการหรือกองบัญชาการนั้น มักจะจัดจากนายทหาร หรือเจา้ หนา้ ท่ีในกองบงั คบั การหรือกองบัญชาการน้ันเอง ข. แต่ละกองบังคบั การหรือกองบญั ชาการ มักมนี ายทหารอนุมตั ขิ า่ วมากกว่าหนึ่งนาย (เพราะต้อง ปฏิบตั ิงานตลอดเวลา 24 ชม.) ค. เมื่อผู้บังคับบัญชาตกลงใจที่จะกำหนดให้ผู้ใดทำหน้าที่นายทหารอนุมัติข่าว แล้วก็จะต้อง ประกาศให้ผู้เก่ียวข้องทราบท่วั กนั ง. นายทหารอนุมัติข่าว มักจะเป็นบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วว่ามีความรู้ความสามารถ มี วิจารณญาณและเขา้ ถงึ ชัน้ ความลบั ในระดบั เดยี วกับประเภทเอกสาร ทก่ี องบงั คับการหรอื กองบญั ชาการน้นั พึงจะมี จ. นายทหารอนมุ ตั ิขา่ ว จะตอ้ งสง่ ลายมอื ช่อื (ลายเซ็น) ให้ไว้กับศนู ย์การส่อื สารเพื่อไว้เป็นเครื่อง สอบทาน ฉ. นายทหารอนมุ ัติขา่ วมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ผ้บู ังคับบญั ชา ในฐานะเปน็ ตัวแทนของผู้บังคับบัญชา ของกองบังคับการหรือกองบัญชาการนั้น ตรวจสอบดูว่าข่าวนั้นมีความเหมาะสมที่สมควรจะส่งออกไป หรือไม่ ความถูกตอ้ งของข่าวรวมทัง้ ความเหมาะสมของประเภทเอกสาร และความเรง่ ด่วน ความรับผดิ ชอบ ต่อข่าวท่ีตนไดล้ งลายเซน็ ไปแล้ว ช. โดยปกตนิ ายทหารอนมุ ตั ิขา่ ว มักจะปฏิบตั งิ านอย่ทู ่ศี ูนยร์ ับ – ส่ง หมายเหตุ หน่วยตั้งแต่ระดับกองพลขึ้นไป ไม่มีอัตรานายทะเบียนเอกสารลบั นายทหารควบคมุ รักษา ความปลอดภัย ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของแต่ละกองบังคับการหรือกองบัญชาการจะกำหนด และประกาศ แต่งตง้ั ผ้ใู ดปฏิบตั งิ านในตำแหนง่ หน้าท่ีทง้ั สองนายก็ได้ ให้ดเู อกสารประกอบ วา่ ด้วยอัตราการจัดกำลังของ กองบญั ชาการกองพลของ ทบ.ไทย เปน็ ตัวอย่าง 11. การปฏิบตั ิงานของศูนย์รบั - สง่ ก. การจัดตงั้ ศูนยร์ ับ-สง่ จัดข้ึนพร้อมกบั การตง้ั กองบงั คับการหรอื กองบญั ชาการ ข. จัดระเบียบภายใน ตลอดจนเครอ่ื งอำนวยความสะดวกตา่ งๆ ค. แบง่ งานและมอบหมายงาน ตลอดจนการจัดผลัดผปู้ ฏิบตั งิ าน ง. ออกและทำความเขา้ ใจ รปจ. องคแ์ ทนการส่ือสาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 5 - 4 จ. การกำกับดแู ลจาก หน.สธ.1 (หรอื เทียบเท่า) และนายทหารสารบรรณ ฉ. บันทึกและรายงานตลอดจนการทำสถิติและเสนอข้อคิดเห็นเพ่ือปรบั ปรุงดำเนินการให้บังเกิด ผลดยี งิ่ ขึน้ 12. ความสมั พันธร์ ะหวา่ งศูนยร์ ับ-สง่ กับศูนยก์ ารสอ่ื สาร ในการปฏบิ ัติ ณ กองบัญชาการกองทพั กองทัพน้อย และกองพล บรรดาขา่ วเขา้ และข่าวออกทั้งปวง จะผา่ นไปมาระหว่างศูนย์รบั – ส่ง ของสารบรรณกบั ศูนยก์ ารสอ่ื สารเทา่ นั้น เว้นข่าวพเิ ศษทจี่ ะผา่ นตรง ระหวา่ งฝ่ายอำนวยการกับศูนย์การสอื่ สาร ด้วย เหตนุ ีศ้ ูนยร์ บั -สง่ ของสารบรรณ กบั ศูนยก์ ารส่ือสาร จะตอ้ ง มีการตดิ ตอ่ ประสานงานอย่างแนน่ แฟม้ ขา่ วทผี่ า่ นไปมาระหวา่ งศนู ย์ท้ังสองโดยสมำ่ เสมอนี้ จะเป็นผลใหก้ าร ไหลของข่าวสะดวกและขจัดความล่าช้า และการทำหลกั ฐานควบคมุ อนื่ ๆ ไปได้ ศนู ยท์ ั้งสองจะตอ้ งแจ้งให้แต่ ละฝา่ ยทราบการเปลย่ี นแปลงตา่ งๆ อนั จะเกิดการกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัตงิ านรว่ มกัน องคแ์ ทนการสอื่ สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

บทท่ี 6 ขา่ วทางทหาร 1. กล่าวทั่วไป ขา่ วได้แก่ จดหมาย คำแนะนำ รายงาน คำสั่ง เอกสาร ภาพ แผนท่ี เร่อื งราว หรือ สัญญาณอน่ื ใด ซง่ึ ทั้งหมดนอี้ าจเป็นขอ้ ความธรรมดาหรือขอ้ ความเขา้ การอักษรลบั หรืออาจเป็นความคิดเห็น ซงึ่ แสดงออกใน ลกั ษณะทเ่ี หมาะสำหรบั สง่ ด้วยมชั ฌมิ การสอื่ สารใดๆ ก็ได้ ก. การเขยี นข่าวทางทหารน้นั ตอ้ งระลกึ ถึงสิ่งสำคญั 3 ประการ คอื 1) ความชัดเจน 2) ความกระทดั รดั 3) ความสมบรู ณ์ ข. ถา้ เขยี นขา่ วได้ครบลักษณะ 3 ประการน้ีแลว้ จะทำใหช้ ว่ ยสง่ เสริมในเรอ่ื ง 1) สง่ เสรมิ บุคลิกและคณุ ลักษณะของผนู้ ำ 2) สง่ เสรมิ การปฏบิ ัติอย่างไดผ้ ลตอ่ ผรู้ ับขา่ ว 3) สง่ เสริมใหส้ ำเร็จภารกิจง่ายและเร็วข้ึน 4) สง่ เสรมิ การประหยดั ทงั้ เครื่องมอื และการซอ่ มบำรงุ ค. ผเู้ กีย่ วขอ้ งกบั ขา่ วทางทหาร 1) ณ ตำบลตน้ ทาง 1.1 ผ้ใู ห้ข่าวหรอื เจา้ ของข่าว 1.2 ผรู้ ่างขา่ วหรอื ผเู้ ขียนขา่ ว 1.3 เจ้าหน้าที่ศนู ยร์ บั -ส่ง 1.4 นายทหารอนุมตั ขิ า่ ว 1.5 เจ้าหนา้ ทสี่ อื่ สารหรอื เจ้าหนา้ ทท่ี หารสื่อสาร 2) ณ ตำบลปลายทาง 2.1 เจา้ หนา้ ทสี่ อ่ื สารหรือเจ้าหนา้ ทที่ หารสอ่ื สาร 2.2 เจ้าหน้าที่ศนู ยร์ ับ – ส่ง 2.3 ผรู้ บั ง. คำแนะนำทวั่ ไปในการเขียวข่าว 1) เขียนบนวัสดุท่อี ่านงา่ ยซงึ่ อาจเปน็ แบบฟอรม์ ที่ทางการกำหนดไว้หรือบนกระดาษอื่นใด ก็ได้ 2) บรรจุหรอื กรอกข้อความทจ่ี ำเป็นใหค้ รบบรบิ รู ณ์ ตามคำแนะนำในการใชแ้ บบฟอร์ม 3) เขียนให้อ่านง่าย ชัดเจน หรอื ถ้าใชพ้ มิ พด์ ดี ไดก้ จ็ ะเปน็ การดีมาก องค์แทนการส่อื สาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 6 - 2 4) ตวั เลขทช่ี วนสงสัยใหเ้ ขยี นเป็นตัวอักษร เช่น ปลย.11 ยส่ี บิ กระบอก 5) ใช้คำยอ่ ตามท่ีทางราชการกำหนด ผู้รับสามรถเข้าใจและปฏบิ ัตไิ ด้ถูกตอ้ ง 6) ผ้รู ับขา่ ว ผู้สง่ ข่าว ใหใ้ ชต้ ำแหน่งเสมอ ห้ามใช้ ยศ – ช่ือ 7) เมื่อจบข้อความของข่าว ห้ามลงชื่อเจ้าของข่าวอย่างที่ใช้ในกิจการพลเรือน ควรปิด ข้อความของขา่ วด้วยคำว่า “จบ” 8) ถ้าเปน็ ข่าวที่เตรียมขึน้ เพ่อื ใช้ในการฝึก ใหเ้ ขยี นคำว่าฝึกไวข้ า้ งตน้ และตอนท้ายของข่าว 9) ใช้ความเร่งดว่ นและประเภทเอกสารท่พี อเหมาะ 10) เมื่อเขียนข่าวเสร็จ ต้องให้นายทหารอนุมัติข่าวลงลายมือชื่อ จึงจะถือว่าเป็นข่าวที่ สมบรู ณ์ จ. แบบฟอร์มกระดาษเขียนขา่ ว 1. แบบ ทบ. 463 – 007 (สส.6) 2. แบบ ทบ. 463 – 008 (สส.7) 3. กระดาษเขยี นข่าวรว่ ม 4. กระดาษอน่ื ๆ การทจี่ ะกรอกข้อความอย่างไรลงไปในกระดาษเขยี นข่าว โปรดดูคำอธบิ ายวธิ ใี ช้ซึง่ อยู่ดา้ นในของปก ฉ. คำแนะนำการเขียนขา่ วบนวสั ดุอ่นื ๆ นอกเหนอื จากแบบฟอรม์ ท่ใี ช้ 1. หมู่ วัน เวลา ของขา่ ว 2. ตำแหนง่ ผสู้ ง่ 3. ตำแหนง่ ผรู้ บั 4. ข้อความของขา่ ว 5. ลายเซ็นผ้เู ขียนข่าว 6. ลายเซ็นนายทหารอนมุ ัติข่าว 7. ลำดบั ท่ีของขา่ ว 8. ความเร่งดว่ นของขา่ ว 9. ประเภทเอกสาร 2. ประเภทของข่าว ข่าวตา่ งๆ จะแบ่งออกได้ 6 ประเภท คือ ก. แบง่ ตามลกั ษณะการจา่ หน้า ซงึ่ แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 4 ชนิด คือ 1) ขา่ วจา่ หนา้ เดย่ี ว (จด.) ไดแ้ ก่ ขา่ วทจ่ี า่ หนา้ ถึงผู้รบั เพียงคนเดยี ว 2) ขา่ วจา่ หนา้ รวม (จร.) ไดแ้ ก่ ขา่ วทจี่ า่ หนา้ ถึงผู้รบั ต้ังแตส่ องคนขึ้นไป องคแ์ ทนการส่ือสาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 6 - 3 เมื่อเจา้ ของข่าวได้พิจารณาเห็นว่า ข่าวฉบับนั้นควรจะให้ผู้อื่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปได้รับด้วย และเจ้าของข่าวประสงค์จะให้ผู้รับทุกคนทราบว่ามีใครบ้างที่ได้รับข่าวนั้น (ผู้รับแต่ละคนทราบเรื่อง เหมอื นกันและรวู้ า่ ใครบ้างที่ไดร้ ับขา่ วนัน้ ) 3) ขา่ วจา่ หนา้ แยกผู้รบั (จย.) ได้แก่ขา่ วทจ่ี ่าหนา้ ถึงผรู้ บั ต้ังแตส่ องคนข้นึ ไป ในเม่อื เจา้ ของข่าว ไดพ้ จิ ารณาเห็นวา่ ข่าวฉบบั น้นั ควรจะใหผ้ ้อู ่ืนตัง้ แต่สองคนข้ึนไปได้รับดว้ ย แต่เจ้าของขา่ วไมป่ ระสงคใ์ หผ้ ูร้ บั แตล่ ะคนทราบวา่ มีใครบา้ งทไ่ี ดร้ บั ข่าวน้นั (ผรู้ ับแต่ละคนทราบเร่ืองเหมือนกนั แต่ไมร่ ้วู า่ ใครบ้างที่ได้รับข่าว น้นั ) 4) ขา่ วท่ัวไป (ทป.) เป็นข่าวทมี่ ีการแจกจ่ายตามมาตรฐานออกไปอย่างกว้างขวาง ข่าวชนิดนี้ จะไดก้ ำหนดใหม้ ชี ่อื เขยี นไว้โดยเฉพาะและมักมเี ลขลำดบั ทเ่ี รยี งกัน หมายเหตุ ผเู้ ขียนหรอื ผูร้ ่างข่าว ต้องแสดงความประสงค์ไว้ในช่อง “คำแนะนำ” ของกระดาษเขียน ขา่ ว ข. แบ่งตามลกั ษณะประเภทเอกสาร ซง่ึ จะแบ่งออกได้เป็น 2 ชนดิ 1) ข่าวที่ไม่มีการแบ่งประเภท จะต้องกำหนดไว้โดยการประทับตราด้วยคำว่า “ไม่ลับ” ข่าว ชนดิ น้ไี มต่ ้องดำเนนิ กรรมวิธีทางการอกั ษรลับ 2) ข่าวที่มีการแบ่งประเภท จะต้องกำหนดประเภทเอกสาร โดยการประทับตราด้วยคำวา่ ลับที่สุด ลบั มาก ลบั อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ข่าวชนิดน้ตี ้องดำเนนิ กรรมวิธีการอักษรลับและให้การพิทักษ์รักษา เปน็ พเิ ศษ ค. แบ่งตามลักษณะความเร่งดว่ น ซง่ึ จะแบง่ ออกไดเ้ ป็น 4 ชนิด 1) ข่าวดว่ นท่ีสุด 2) ขา่ วดว่ นมาก 3) ข่าวด่วน 4) ข่าวปกติ ความเรง่ ดว่ น “ด่วนท่สี ดุ ” กำหนดสำหรับรายงานการปะทะข้าศึกครงั้ แรก สถานการณ์ฉกุ เฉินเป็น พิเศษ (เช่นการปะทะครั้งแรก) ป้องกันการทิ้งระเบิดหรือการปะทะของฝ่ายเดียวกัน การเตือนการเข้าตี ขนาดใหญ่ “ด่วนมาก” กำหนดสำหรบั สถานการณท์ ก่ี ระทบกระเทอื นต่อการยทุ ธในขณะน้นั และเป็นอนั ตราย ต่อความปลอดภัยของชาติ การประสบภัย การรายงานเพมิ่ เตมิ การปะทะคร้งั แรก (เช่นข้าศึกเคล่ือนกำลัง ขนาดใหญ่ สั่งใช้กองหนุนเข้าตี ข้าศึกตีโต้ตอบ ข้าศึกต้านทานอยา่ งเหนียวแน่น ขอให้ยิงช่วยหรือขอกำลงั ทางอากาศโดยดว่ น เตือนข้าศกึ เข้าตี ข่าวกรองการยทุ ธท่สี ำคญั ) “ด่วน” กำหนดสำหรับขา่ วทสี่ ำคัญที่ควรได้รบั ความเร่งด่วนสูงกวา่ ข่าวปกติ ต้องสง่ มอบให้ผ้รู บั โดย ทนั ที เปน็ ความเร่งด่วนสูงสุดของข่าวธรุ การ “ปกต”ิ ขา่ วทุกชนดิ ทไี่ ม่มคี วามเรง่ รีบถงึ กับจะต้องจัดใหม้ ีความเร่งด่วนทส่ี งู กวา่ แต่จะตอ้ งส่งมอบ ให้ผู้รับโดยไม่ชักชา้ องคแ์ ทนการสอื่ สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 6 - 4 ง. แบ่งตามลกั ษณะการเกยี่ วข้องกบั ศนู ย์การสอ่ื สาร ซง่ึ จะแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 4 ชนิด 1) ข่าวเข้า ได้แก่ ข่าวที่เข้ามายังศูนย์การสื่อสารหรือศูนย์ข่าว เพื่อแจกจ่ายไปยังผูร้ ับที่อยู่ ภายในบริเวณที่ตั้งข่าวเหล่านี้มาจากศูนย์การสื่อสาร หรือจากศูนย์ข่าวอื่นๆ หรือมาจากส่วนต่างๆ ของ กองบญั ชาการหรอื กองบังคับการ หรอื จากสว่ นของกองบังคับการท่อี ย่หู ่างออกไป 2) ข่าวออก ได้แก่ ข่าวที่มาจากกองบัญชาการหรือกองบังคับการที่ศนู ย์นั้นประจำอยู่ ข่าว เช่นนี้จะถกู สง่ ออกไปยังศูนยก์ ารสอื่ สารหรอื ศนู ยข์ า่ ว หน่วยหรอื บุคคลอน่ื ๆ ซ่ึงพลนำสารภายในทต่ี ั้งอาจไป ไม่ถงึ 3) ข่าวถา่ ยทอดหรอื สง่ ต่อ ได้แก่ ข่าวทม่ี าจากศูนยก์ ารส่ือสารหรอื ศนู ยข์ ่าวแหง่ หนงึ่ เพอ่ื สง่ ตอ่ หรือถ่ายทอดไปยังศูนย์การสื่อสารหรือศูนย์ข่าวอีกแห่งหนึ่ง ในเมื่อศูนย์การสื่อสารหรือศูนย์ข่าวนั้นไม่ สามารถทำการสอ่ื สารกนั ได้โดยตรง 4) ข่าวภายในทีต่ ้ัง ไดแ้ กข่ า่ วสำหรบั แจกจา่ ยในกองบญั ชาการหรือกองบงั คับการทีอ่ ยู่ใน บริเวณเดยี วกนั และการใหข้ ่าวกระทำจากกองบญั ชาการหรอื กองบงั คบั การนัน่ เอง ตามปกติศนู ย์การส่อื สาร หรือศูนยข์ ่าวไม่เกย่ี วขอ้ งกับขา่ วเหล่านี้ เว้นแตเ่ มอ่ื มีความตอ้ งการบันทกึ ไวเ้ ทา่ น้นั จ. แบง่ ตามลกั ษณะการเกี่ยวขอ้ งในทางทหาร ซงึ่ จะแบง่ ออกได้ 3 ชนิด 1) ข่าวราชการ ได้แก่ ข่าวของกองบัญชาการหรือกองบังคับการที่ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ ได้รับอนุมัติได้เริ่มขึ้นสำหรับส่งผา่ นมัชฌิมการสือ่ สารของกองบัญชาการหรือกองบังคับการ เช่น ข่าวทาง ยุทธการ ข่าวทางการช่วยรบ เปน็ ตน้ 2) ข่าวกึ่งราชการ ได้แก่ ข่าวขององค์การหรือราชการอื่นนอกกองบัญชาการ หรือกอง บังคับการ และไดร้ ับอนมุ ัติให้ส่งผา่ นมัชฌิมการสือ่ สารของกองบญั ชาการหรือกองบงั คบั การ เช่น ข่าวของ ผ้สู ่อื ขา่ วหนงั สือพมิ พ์ ข่าวของสภากาชาดและขา่ วในราชการตำรวจ เปน็ ต้น 3) ข่าวเฉพาะสถานี ได้แก่ ข่าวที่รับ-ส่งกันระหว่างสถานีการสื่อสาร เพื่อเป็นการ แลกเปล่ยี นข่าวสารทางเทคนิคระหวา่ งกนั และกนั ขา่ วเฉพาะสถานีนไ้ี ม่ถือวา่ เปน็ ข่าวของทางราชการ และ ไมเ่ กย่ี วกบั การบงั คบั บญั ชาเลย ข่าวชนิดน้ไี ม่ตอ้ งดำเนนิ กรรมวิธใี ดๆ ทศ่ี นู ย์การส่ือสารหรอื ศูนย์ข่าว ฉ. แบ่งตามลกั ษณะการปฏบิ ัติ ซง่ึ จะแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ชนิด 1) ข่าวจริง ได้แก่ ข่าวที่ผู้รับต้องทราบหรือปฏิบัติ ให้บังเกิดผลอย่างจริงจัง ตามวัตถุประสงคข์ องผ้ใู หข้ ่าวหรอื เจา้ ของข่าว 2) ข่าวฝึก ได้แก่ ข่าวที่เตรียมขึ้น เพื่อใช้ประกอบการฝึก ในการเขียนข่าวฝึกต้องมีคำวา่ “ฝกึ ” ปรากฏอยูต่ อนเร่มิ ตน้ และตอนท้ายของใจความหรอื ขอ้ ความของข่าวเสมอ 3. หลักการเขยี นขา่ ว ผูท้ ร่ี ับราชการทหารอยมู่ ักจะตอ้ งเกีย่ วขอ้ งกบั การสือ่ สารเสมอ แม้บางครั้งเพียงแต่เป็นผู้เขียนหรือ รับข่าว และบางครั้งก็อาจจะมีพันธะกับการสื่อสารในฐานะของผู้ให้ข่าวหรือเจ้าของข่าว ผู้ร่างข่าวหรือ ผู้เขียนข่าว ผู้รับรองหรือผู้อนุมัติให้ส่งข่าวด้วยก็ได้ แต่ถ้ายังเป็นนายทหารสื่อสารแล้ว ก็ย่อมมีโอกาสที่ องค์แทนการส่ือสาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 6 - 5 จะต้องมีพันธะบางอย่างในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่สื่อสาร ฉะนั้นไม่ว่าจะต้องอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใดก็ จำเป็นต้องรู้ และใหค้ วามสนใจในหลักของการเขยี นข่าวเสมอ ข่าวทางทหารนั้นมักจะล่อแหลมต่ออันตราย เช่น การแสดงความเห็นหรือการใช้คำที่คลุมเคลือ อาจทำให้การปฏิบัติผิดทาง อันจะเป็นผลให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงในเวลาต่อมา และอาจมีการ สูญเสยี ชวี ิตจำนวนมากก็ได้ ข่าวทางทหารท่ดี ีนัน้ จะตอ้ งมีความชดั เจน ความกระทัดรดั และความสมบูรณ์ ก. ความชัดเจน มีลกั ษณะดงั นี้ 1) ข้อความในข่าวนั้นสามารถตอบคำถามได้วา่ ใคร อะไร ทไี่ หน อย่างไร เมื่อใด ทำไม 2) มกี ารใชส้ ำนวนง่ายและเปน็ สำนวนทีค่ ุน้ หกู นั 3) การใชถ้ ้อยคำและวรรคตอนในข่าวน้ัน ไมท่ ำใหผ้ เู้ ก่ยี วขอ้ งตคี วามหมายเปน็ อย่างอืน่ 4) ผทู้ ไี่ ดร้ บั ขา่ วนัน้ สามารถเข้าใจและปฏบิ ัติตามข่าวนนั้ ได้ โดยไมต่ อ้ งขอคำชีแ้ จงเพ่มิ เตมิ 5) ตอ้ งมน่ั ใจวา่ คำยอ่ ต่างๆ ท่นี ำมาใช้นน้ั ผู้เกย่ี วขอ้ งสามารถเขา้ ใจไดโ้ ดยตลอด ข. ความกระทดั รัด มลี กั ษณะดังนี้ 1) ให้ใช้คำย่อที่ทางราชการได้กำหนดไว้และประกาศให้ใช้แล้ว หรือเป็นคำย่อที่ทราบกันอยู่ โดยทัว่ ไป 2) ไม่ใช้คำยอ่ ท่ีฟุ่มเฟือย หรือคำท่ีมีความหมายซ้ำๆ กนั 3) ไมใ่ ชถ้ อ้ ยคำท่ีเป็นสำนวนโวหาร 4) ถ้าหากไมจ่ ำเป็นแลว้ ไมค่ วรเขียนข่าวใหเ้ กิน 1 หนา้ ของกระดาษเขียนขา่ วแบบนั้นๆ ค. ความสมบรู ณ์ มลี ักษณะดังน้ี 1) มเี ร่ืองทตี่ ้องการบรรจไุ ว้ครบถ้วน มีหวั เรอ่ื ง ตวั เรอ่ื ง และท้ายเร่ือง 4. หมู่วันเวลาของขา่ ว หมวู่ ันเวลานี้แสดงเวลาทที่ ำการเตรียมขา่ ว หมวู่ ันเวลาประกอบดว้ ยเลข 6 ตำแหนง่ ตามด้วยอกั ษร กำหนดเขตเวลา เลข 2 ตำแหนง่ แรกเปน็ วนั ท่ีของเดือนนั้น และเลขอีก 2 ตำแหนง่ ต่อมาบอกชัว่ โมงและเลข 2 ตำแหนง่ สดุ ท้ายบอกนาที หมวู่ นั เวลาในข่าวอาจเป็นข้ออา้ งองิ ขา่ วฉบับน้นั ได้ การกำหนดเขตเวลาจะมอี ยู่ ในคำแนะนำการประสานงาน ข่าวทมี่ ีผลบงั คบั เฉพาะภายในท้องถิ่นเดียวกัน ไมต่ ้องใชอ้ กั ษรกำกบั เขตเวลา สว่ นขา่ วที่มีผลบังคบั ในทอ้ งถ่นิ ต่างเขตเวลา กใ็ ห้ใชอ้ ักษรกำกบั เขตเวลาประกอบด้วยเช่น ถา้ สง่ ข่าวฉบับหนึ่ง ในเวลา 0830 ในวันที่ 8 ของเดอื นนัน้ ใช้เวลาของเมืองกรนี ชิ ให้เขียนหมู่วันเวลาดงั น้ี 080830Z 5. การกำหนดความเร่งด่วน ขา่ วทางทหาร ต้องมกี ารกำหนดความเรง่ ด่วนดว้ ยการประทบั ตรา หรือเขยี นใหเ้ ด่นสะดดุ ตาเสมอ เนื้อหาของขา่ วและระยะเวลาท่เี กี่ยวขอ้ งจะเปน็ ขอ้ พจิ ารณาในการกำหนดความเรง่ ดว่ นใหก้ ับขา่ ว องคแ์ ทนการสอ่ื สาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 6 - 6 ผใู้ ห้ขา่ ว ผู้เขยี นขา่ ว ตลอดจนผู้อนุมตั ิขา่ วมคี วามรบั ผดิ ชอบในการกำหนดความเรง่ ดว่ นใหก้ บั ข่าว แต่ละฉบบั ขา่ วฉบับเดยี วทถี่ งึ ผรู้ บั หลายๆ คน อาจกำหนดความเร่งด่วนตา่ งกันสำหรบั ผรู้ บั แตล่ ะคนกไ็ ด้ ความเร่งด่วนของขา่ วทางราชการกำหนดไว้ 4 ประการดว้ ยกนั คอื ด่วนทีส่ ุด (ดส.) ดว่ นมาก (ดม.) ดว่ น (ด.) และ ปกติ (ป.) รายละเอยี ดกล่าวไวใ้ น รส.24-1 6. การกำหนดชน้ั ความลบั ข่าวทางทหารต้องมีการกำหนดชั้นความลับหรือประเภทเอกสาร คำถามที่ว่า “ข่าวนี้จะเป็น ประโยชน์ตอ่ ขา้ ศึกเพียงใด” จะเป็นข้อพิจารณาในการกำหนดชั้นความลบั ใหก้ บั ขา่ วแต่ละฉบบั ผใู้ หข้ ่าว ผู้เขยี นข่าว ตลอดจนผ้อู นุมัตขิ ่าว มีความรบั ผดิ ชอบในการกำหนดชัน้ ความลับให้กับข่าว แต่ละฉบับ การกำหนดชั้นความลับให้กบั ขา่ ว ยอ่ มมีผลต่อผูเ้ กย่ี วข้องกบั ข่าวนั้นทุกคน คอื ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับ ขา่ วนัน้ ทุกคนให้ความสนใจ ในการพทิ กั ษ์รกั ษาความปลอดภยั ในการสอื่ สาร ชน้ั ความลบั ที่กำหนดให้กับข่าว ต้องประทบั ตราหรอื เขยี นใหเ้ ดน่ เปน็ ทส่ี ะดุดตากับผเู้ กย่ี วข้อง ข่าวที่ พิจารณาแล้วไม่ควรกำหนดช้ันความลับก็ต้องประทับตรา หรอื เขียนใหเ้ ด่นสะดดุ ตาดว้ ยคำว่า “ไม่ลบั ” การกำหนดชั้นความลับน้ี ทางราชการกำหนดไว้ 3 อย่างด้วยกัน คือ ลับที่สุด ลับมาก ลับ รายละเอยี ดเก่ียวกบั เรือ่ งนี้กำหนดไวใ้ น ระเบียบว่าด้วยการรกั ษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2517 7. กระดาษเขียนขา่ วสนามแบบ สส.7 (ทบ.463 – 008) จดั ทำขึ้นเพ่อื ใช้กบั หนว่ ยในสนาม สำหรบั ปฏบิ ัตงิ านทางยทุ ธวิธี กระดาษเขียนข่าวนจี้ ดั ไวเ้ ปน็ ชดุ ๆ ละ 3 แผน่ (ขาว เหลอื ง ชมพู) ประกอบดว้ ยกระดาษเขม่าเพ่ือทำสำเนาคู่ฉบบั กระดาษเขียนขา่ วแบบนี้ มคี ำอธิบายวิธีเขียนอย่ใู นปกดา้ นในท้ังปกหนา้ และปกหลงั องคแ์ ทนการสื่อสาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 6 - 7 ทบ.463 – 008 แบบ สส.7 ช่องนส้ี ำหรับศูนย์ข่าว สง่ อยา่ งไร รบั ขา่ วเวลา ท่ีของศนู ยข์ ่าว ท่ี ความเร่วดว่ น ประเภทเอกสาร ถงึ ขา่ ว (สง่ ใหศ้ ูนยข์ ่าวพรอ้ มทง้ั สำเนา) วนั ที่ ตำแหนง่ ผู้ให้ข่าว เขยี นเวลา อนุมัติให้ส่งเปน็ ชอื่ ผู้เขยี นขา่ ว ขอ้ ความธรรมดา ลายมือช่ือนายทหาร คำแนะนำวิธใี ช้กระดาษเขียนขา่ ว แบบ สส.7( ทบ. 463 – 008) 1. การเขยี นข่าวต้องมสี ำเนา 2 ชดุ ตน้ ฉบับและสำเนา 1 ชดุ ส่งใหศ้ ูนยข์ า่ ว สำเนาอกี หนง่ึ ชุดเหลอื ไว้ สำหรับเป็นสำเนาของผูเ้ ขียนขา่ ว 2. เขยี นให้ชดั เจน (เวน้ ลายมือของผเู้ ขียนขา่ ว) เขยี นชอื่ ต่างๆ ใหถ้ กู ตอ้ งและหมปู่ ระมวลลบั หรอื รหสั ให้ เขียนตวั บรรจง 3. เขียนขา่ วใหส้ ัน้ ใช้เครื่องหมายวรรคตอนเฉพาะที่จำเป็น เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจความหมายของขา่ ว 4. ใชค้ ำย่อตามทที่ างราชการกำหนดเท่านัน้ ถา้ ผรู้ บั มใิ ชท่ หารไม่ควรใช้คำย่อ 5. ลงลำดบั ความเรง่ ด่วน ให้เขียนตวั บรรจงในชอ่ งทกี่ ำหนด 6. “ช่องนส้ี ำหรบั ศนู ย์ข่าว” ผเู้ ขียนข่าวไม่ตอ้ งเขยี น ชอ่ งนสี้ ำหรับเจา้ หน้าท่ศี นู ยข์ า่ วใช้โดยเฉพาะ ถ้าใช้ กระดาษเปล่า กใ็ หเ้ ว้นทีว่ ่างสำหรับที่ไวใ้ หเ้ พียงพอ 7. “ท่ี” ลงลำดบั ทีข่ องข่าวทก่ี ำหนดใหข้ ่าวนัน้ เมอ่ื ผู้ใหข้ า่ วตอ้ งการ องค์แทนการสอื่ สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 6 - 8 8. “วนั ท่ี” ให้ลงวันท่ี เดอื น ปี ตามลำดบั (เช่น 27 ต.ค.65) 9. “ถึง” ลงตำแหนง่ ผรู้ บั เฉพาะเมอ่ื จำเป็นเพอ่ื ใหส้ ง่ ขา่ วถงึ ผรู้ บั ไดโ้ ดยแน่นอน เขียนท่ีตงั้ ทแ่ี ทจ้ รงิ ของผรู้ บั ด้วย อย่าใช้หมายเลขโทรศัพทแ์ ทนตำแหน่งผูร้ บั (เช่น ผบ.ร.1) 10. “ประเภทเอกสาร” ลงประเภทเอกสารท่กี ำหนดให้แก่ข่าวนัน้ เม่ือไมเ่ ป็นขา่ วลบั ให้เขียนว่า “ไม่ลับ” 11. ในยามสงครามหรือในยามฉุกเฉนิ ข่าวทสี่ ่งทางวทิ ยหุ รอื วิธีการสื่อสารใดกต็ าม ต้องเข้ารหสั หรือประมวล ลับเสมอ เว้นแต่ ผบ.หน่วยหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจ อนุมัติให้ส่งเป็นข้อความธรรมดาได้ ให้ นายทหารอนมุ ัตลิ งลายมือช่อื ไว้ท่ีมุมลา่ งซ้าย 12. “ความเร่งด่วน” ลงลำดบั ความเร่งดว่ นท่ีกำหนดให้ขา่ วน้ัน 13. “ตำแหนง่ ผใู้ ห้ข่าว” ลงตำแหน่งผ้ใู หข้ ่าว (ผบ.ร.1 พนั .1) 14. “เขียนเวลา” ตอ้ งลงไว้เสมอ ตามระบบการเขียนเวลา 24 ช่ัวโมง 15. “ชือ่ ผ้เู ขียนขา่ ว” ผู้เขยี นข่าวหรอื ผูไ้ ดร้ บั มอบอำนาจใหเ้ ขยี นขา่ วเปน็ ผลู้ งลายมือชื่อ 16. กระดาษเขมา่ 1 ชุด (2 แผ่น) ใช้ในการเขียนข่าว 5 ครั้ง แล้วทำลายด้วยการเผา ระวังอย่าทำกระดาษ เขม่าหาย องคแ์ ทนการสอื่ สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 6 - 9 8. กระดาษเขียนขา่ วแบบ สส.6 (ทบ.463 – 007) กระดาษเขียนข่าวแบบนใ้ี ช้สำหรบั ข่าวตา่ งๆ ทางธุรการ ขา่ วทางส่งกำลงั บำรุง และข่าวทเี่ ขยี นจาก บก.ของหนว่ ยทหารขนาดใหญ่ ชุดหนงึ่ มี 4 แผน่ (ขาว เหลอื ง ชมพู ฟา้ ) ประกอบดว้ ยกระดาษเขมา่ เพอ่ื ทำ สำเนาคู่ฉบบั กระดาษเขยี นข่าวแบบนมี้ คี ำอธิบายวิธีเขียนอยูท่ ่ีปกด้านในทง้ั ปกหน้าและปกหลงั องคแ์ ทนการสอ่ื สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 6 - 10 คำแนะนำวธิ ใี ช้กระดาษเขยี นข่าวแบบ สส.6 (ทบ. 463 – 007) 1. การเขยี นข่าวต้องมสี ำเนา 3 ชุด ต้นฉบบั และสำเนา 2 ชุด สง่ ใหศ้ นู ยข์ ่าว สำเนาอกี หนึ่งชุดเหลือไว้ สำหรบั เปน็ สำเนาของผเู้ ขียนข่าว 2. เขียนให้ชดั เจน (เว้นลายมอื ชื่อผ้เู ขยี นขา่ วและนายทหารอนมุ ตั ขิ า่ ว) เขยี นชื่อตา่ งๆ ใหถ้ กู ต้องและหมู่ ประมวลลบั หรือรหสั ใหเ้ ขยี นตวั บรรจง 3. เขยี นข่าวให้สน้ั ใช้เคร่ืองหมายวรรคตอนเฉพาะทีจ่ ำเป็น เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจความหมายของขา่ ว 4. ใชค้ ำยอ่ ตามที่ทางราชการกำหนดเทา่ นน้ั ถ้าผรู้ บั มิใช่ทหารไมค่ วรใชค้ ำยอ่ 5. ลงลำดับความเร่งดว่ น ใหเ้ ขียนตัวบรรจงหรอื ตัวพมิ พใ์ นชอ่ งทกี่ ำหนด 6. “สำหรับเจ้าหนา้ ที่ศนู ยก์ ารสอื่ สาร” ผเู้ ขยี นข่าวไม่ต้องเขียน ชอ่ งนี้สำหรบั เจา้ หน้าทศ่ี นู ย์การสือ่ สารใช้ โดยเฉพาะ ถา้ ใชก้ ระดาษเปลา่ ก็ใหเ้ วน้ ทว่ี ่างสำหรบั ที่ไวใ้ หเ้ พยี งพอ 7. “คำแนะนำ” เขียนคำแนะนำพเิ ศษสำหรบั เจา้ หน้าท่ีศนู ย์การสือ่ สาร (เชน่ ข่าวจา่ หน้ารวม) 8. “จาก” ลงตำแหนง่ หรือหนว่ ยของผ้ใู ห้ขา่ ว 9. “ถึง ผูร้ บั ปฏิบัติและผู้รบั ทราบ” ผรู้ บั อาจกำหนดใหเ้ ปน็ ผรู้ บั ปฏิบตั หิ รอื ผรู้ บั ทราบกไ็ ด้ เฉพาะเม่อื จำเป็น เพื่อใหส้ ่งข่าวถงึ ผรู้ บั ไดโ้ ดยแนน่ อน ใหเ้ ขยี นทตี่ งั้ หนว่ ยทแ่ี ทจ้ รงิ ของผรู้ บั ดว้ ย อย่าใช้หมายเลขโทรศพั ท์ แทนตำแหนง่ ผูร้ บั ก. “ถงึ ผปู้ ฏิบัติ” เมอ่ื กำหนดให้เป็นผรู้ ับปฏบิ ัติ ใหล้ งตำแหนง่ หรอื หน่วยของผรู้ บั ปฏบิ ัตไิ วใ้ นช่องน้ี ข. “ถงึ ผู้ทราบ” เมื่อกำหนดใหเ้ ป็นผรู้ บั ทราบ ใหล้ งตำแหนง่ หรอื หน่วยของผรู้ ับทราบไวใ้ นช่องน้ี 10. “ประเภทเอกสาร” ก. ลงประเภทเอกสารท่กี ำหนดให้แก่ข่าว เม่ือไมเ่ ป็นขา่ วลบั ใหเ้ ขยี นวา่ “ไมล่ บั ” ข. ถา้ มีขา่ วลบั แต่จำเป็นตอ้ งสง่ โดยไมเ่ ข้ารหัสหรือประมวลลบั ให้เขยี นวา่ “ข้อความธรรมดา” ในชอ่ งนี้ 11. “ความเรง่ ด่วน” ลงลำดับความเร่งดว่ นท่ีกำหนดใหส้ ง่ ขา่ วนน้ั ก. “ความเรง่ ด่วน – ผรู้ บั ปฏบิ ัติ” ลงความเรง่ ดว่ นท่กี ำหนดใหแ้ กผ่ ูร้ บั ปฏบิ ตั ิ ข. “ความเร่งดว่ น – ผู้รบั ทราบ” ลงความเร่งด่วนทกี่ ำหนดใหแ้ กผ่ ูร้ บั ปฏบิ ตั ิ 12. “ที่ของผูใ้ ห้ขา่ ว” ลงลำดับทีข่ องขา่ วท่ีกำหนดให้ขา่ วน้นั เม่ือผู้ใหข้ ่าวต้องการ 13. “หน้า…..ใน……หน้า” ลงจำนวนหน้าของขา่ วนนั้ (เช่น หนา้ 1 ใน 1 หนา้ ) 14. “อา้ งถงึ ข่าว” ถา้ ขา่ วน้ันอ้างถงึ ข่าวอนื่ ใหล้ งลำดบั ท่ีของข่าวท่ีอ้างถึงในช่องนี้ 15. “จัดประเภทเอกสาร – จัดหรือไม่” ใหล้ งเคร่อื งหมายกากะบาท (X) ในช่อง “จดั ” เม่อื ขา่ วท่อี า้ งถงึ เปน็ ขา่ วลบั หรอื ในชอ่ ง “ไม”่ เมื่อขา่ วทอ่ี า้ งถึงไมจ่ ัดเปน็ ขา่ วลับ 16. “ชอ่ื ผู้เขียนข่าว” ผเู้ ขียนข่าวหรือผู้ได้รับมอบอำนาจใหเ้ ขยี นขา่ วเป็นผลู้ งลายมอื ช่อื 17. “หนว่ ย” ลงชื่อหน่วยของผู้เขยี นขา่ ว 18. “โทร” ลงหมายเลขโทรศพั ทข์ องผู้เขียนขา่ ว องค์แทนการส่ือสาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 6 - 11 19. “หมู่ วนั -เวลา” เขยี นหมเู่ ลข 6 ตัว เลขค่แู รกแสดงวันที่ เลขคทู่ สี่ องแสดงช่ัวโมง และเลขคทู่ ีส่ ามแสดง นาที 20. “รบั รองวา่ เปน็ ขา่ วราชการ” นายทหารอนมุ ัตขิ ่าวเปน็ ผลู้ งลายมอื ชอ่ื 21. “สำหรับพนกั งาน” ผ้เู ขียนขา่ วไมต่ ้องเขยี น ชอ่ งนส้ี ำหรบั พนกั งานโดยเฉพาะ 22. กระดาษเขมา่ 2 ชดุ (3 แผน่ ) ใช้ในการเขยี นขา่ ว 5 ครง้ั แลว้ ทำลายดว้ ยการเผา ระวงั อยา่ ให้กระดาษ เขม่าหาย 9. การเขยี นขา่ วบนกระดาษอ่ืนๆ ในกรณีที่ขาดแคลนกระดาษเขียนข่าว ก็อาจใช้กระดาษอื่นสำหรับเขียนข่าวก็ได้ เพียงแต่ให้เป็น กระดาษท่ีพอจะเขยี นใหอ้ ่านได้ บางครง้ั ปรากฏวา่ ขณะอย่ใู นแนวรบอาจใช้แม้แตก่ ระดาษซองบหุ ร่ี เม่ือจำเป็นต้องเขียนข่าวกระดาษอืน่ ทไ่ี ม่มีแบบเอกสาร ดงั ทเ่ี คยปฏบิ ัติอย่กู ค็ วรมกี ารเขียนตามเค้า โครงของแบบกระดาษเขยี นขา่ วเท่าทจ่ี ำเปน็ เชน่ 1. ประเภทเอกสาร 2. ความเร่งด่วน 3. หมู่วันเวลาทเ่ี ขียนขา่ ว 4. ท่ีของข่าว 5. ผู้รบั 6. ผู้ให้ข่าวหรอื เจา้ ของข่าว 7. ข้อความของข่าว 8. ช่ือผรู้ ่างหรอื ผเู้ ขียนขา่ ว 9. ชื่อผู้รับรองหรอื อนุมตั ิขา่ ว องคแ์ ทนการสอื่ สาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

บทท่ี 7 การดำเนนิ การต่อข่าว 1. กล่าวท่ัวไป การดำเนินการต่อข่าวน้ันมบี ุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งคอื ผใู้ หข้ ่าวหรอื ผเู้ ขียนข่าว ศูนย์ รบั -สง่ ศูนย์การสือ่ สารและผูร้ บั ข่าว 2. การดำเนนิ การตอ่ ขา่ วออก ข่าวออกสามารถออกได้ทั้งนำสารและตอนเครื่องมือ จะมีการลงหลักฐานในแบบฟอร์ม ต่างๆ ตามตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของศูนย์การสื่อสาร การดำเนินกรรมวิธีต่อข่าวออกทั้งปวงจะมีการปฏิบัติ ตามลำดับดังน้ี 2.1 ผใู้ ห้ขา่ วหรอื ผ้เู ขยี นข่าว 2.1.1 เขียนขา่ วลงบนกระดาษเขียนข่าวทีท่ างราชการกำหนดใหใ้ ช้ 2.1.2 ยึดถือหลกั การเขียนข่าวเป็นแนวทางในการเขยี น 2.1.3 กำหนดความเรง่ ดว่ นและชนั้ ความลบั ลงในขา่ ว 2.1.4 สง่ ขา่ วตน้ ฉบบั กบั อกี 2 สำเนา ใหศ้ ูนยร์ บั -ส่ง (ขาว เหลอื ง ชมพู) 2.1.5 ถา้ ไดร้ ับอนมุ ตั ิจากผู้บงั คบั บญั ชาอาจสง่ ขา่ วไปยงั ศนู ยก์ ารสอ่ื สารโดยตรงได้ องคแ์ ทนการสอ่ื สาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 7-2 2.2 ศนู ยร์ ับ – สง่ 2.2.1 รบั ข่าวมาจากผูใ้ หข้ า่ ว 3 ฉบบั (ขาว เหลือง ชมพู) 2.2.2 ส่งข่าวให้นายทหารอนุมัติข่าว ตรวจสอบดูว่ามีความเหมาะสม ที่จะส่งออกไป หรือไม่ ได้แก่ ความถูกต้องของข่าว รวมทั้งความเหมาะสมในการกำหนดความเร่งด่วนและ ชั้นความลับ 2.2.3 ส่งข่าวต้นฉบับ (ขาว) กับอีก 1 สำเนา (เหลือง) ไปให้ศูนย์การสื่อสาร ส่วนอีก 1 สำเนา (ชมพ)ู เข้าแฟ้มรอเอาไวจ้ นกว่าจะได้รับสำเนาฉบับท่ีศูนยก์ ารส่อื สาร ดำเนนิ การเสร็จแล้ว กลบั คืนมา จึงนำไปเกบ็ รวมไว้ในแฟ้มเกบ็ (ชมพู เหลือง) 2.3 ศูนยก์ ารสอื่ สาร การดำเนินการท่ศี ูนย์การสื่อสารซง่ึ เรียกว่า “การปฏิบตั ภิ ายในสถานี” นน้ั เจ้าหน้าที่ใน ศนู ยก์ ารสือ่ สารจะดำเนินการดังน้ี ตอนศนู ยข์ ่าวและนำสาร 2.3.1 เสมยี นข่าวออก 2.3.1.1 รบั ข่าวมาจากศนู ย์รับ – ส่ง 2.3.1.2 ตรวจข่าวในเรื่องความเร่งดว่ น การกำหนดชั้นความลับ ความเรยี บร้อย เก่ยี วกับการอา่ นง่ายของขา่ วการจา่ หนา้ และความถูกตอ้ งตามแบบฟอรม์ 2.3.1.3 ลงลำดับท่ีของข่าว (ของศูนยข์ ่าว) เวลารบั ขา่ วและชือ่ ยอ่ ของเสมยี นผรู้ ับ ข่าว ลงในข่าวฉบับจริงและสำเนา เช่นเดียวกันกับที่ลงในบัญชีข่าว (ทบ.463-024) หรือบัญชี คมุ ขา่ ว (ทบ.463-026) 2.3.1.4 สง่ ขา่ วต้นฉบับไปยงั เสมยี นแยกทาง 2.3.1.5 ส่งสำเนาไปยงั เสมียนเก็บหลกั ฐานและจำหน่ายขา่ ว จะลงเวลาจำหน่าย ข่าวและคนื กลับมาจะตอ้ งลงเวลาดำเนินการเสร็จในบญั ชีข่าวหรอื บญั ชีคุมข่าว แล้วจงึ ส่งคืนไปให้ ศูนย์รับ – ส่ง หรอื ผใู้ หข้ ่าว 2.3.2 เสมยี นแยกทาง 2.3.2.1 รบั ขา่ วมาจากเสมียนขา่ วออก ถา้ เป็นข่าวท่ีจะสง่ ไปดว้ ยข้อความธรรมดา หลงั จากทีไ่ ด้ตรวจดตู ารางศูนยข์ ่าว (ทบ.463-023) แลว้ จึงเลอื กวธิ กี ารทจี่ ะใช้ส่ง 2.3.2.2 เขยี นหวั ขา่ วตามระเบยี บการทีเ่ หมาะสม สำหรับเครอื่ งมอื ที่เลอื กแล้ว 2.3.2.3 ลงหลักฐานแผนทางการสง่ ขา่ ว (ทบ.463-022) 2.3.2.4 ตรวจสอบอย่างรอบคอบ แล้วส่งข่าวไปให้หัวหน้าพลนำสารหรือ ตอนมัชฌมิ การส่อื สาร 2.3.2.5 ถ้าเป็นข่าวที่ต้องเข้าการอักษรลับจะต้องส่งไปเข้าประมวลลับหรือรหัส เสียก่อนทต่ี อนการอักษรลับ ในกรณนี ี้ลงหลกั ฐานข่าวท่ีส่งไปยงั ศูนย์รหสั (ทบ.463-025) องค์แทนการสอ่ื สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 7-3 2.3.2.6 เมื่อตอนการอักษรลับส่งข่าวที่เข้าประมวลลับหรือรหัสมาให้แล้วจึง ลงหลกั ฐาน และสง่ ให้หวั หน้าพลนำสารหรอื ตอนมชั ฌมิ การสื่อสารตอ่ ไป 2.3.2.7 ในกรณีส่งด้วยการนำสาร ถ้าข่าวฉบับนั้น มีการกำหนดชั้นความลับ จะตอ้ งบรรจุซอง และจา่ หน้าให้เรยี บรอ้ ยกอ่ นทีจ่ ะส่งไปใหห้ ัวหนา้ พลนำสาร 2.3.3 เสมยี นเก็บหลักฐานและจำหน่ายขา่ ว 2.3.3.1 รบั ขา่ วสำเนา (เหลอื ง) จากเสมยี นข่าวออกไวใ้ นแฟม้ รอ 2.3.3.2 รับขา่ วต้นฉบับทส่ี ่งเสรจ็ แลว้ จากพนกั งานเครอ่ื งสื่อสาร 2.3.3.3 รบั หลกั ฐานการนำสาร (ทบ.463-004) จากหัวหนา้ พลนำสาร 2.3.3.4 ลงเวลาจำหน่ายข่าว ซึ่งอยู่ในแฟ้มรอ แล้วส่งฉบับสำเนาให้เสมียน ข่าวออก เพื่อให้เสมียนข่าวออกลงบัญชีข่าวหรือบัญชีคุมข่าวก่อนที่จะส่งคืนสำเนานี้ไปให้ ศูนย์รบั -สง่ หรอื ผูใ้ ห้ข่าวต่อไป 2.3.3.5 เก็บหลักฐานข่าว คือ ข่าวต้นฉบับที่พนักงานเครื่องสื่อสารส่งเสร็จแล้ว หรอื หลกั ฐานการนำสาร ไวใ้ นแฟ้มเก็บ 2.3.4 หัวหน้าพลนำสาร 2.3.4.1 รับขา่ วต้นฉบบั จากเสมยี นแยกทาง 2.3.4.2 ลงหลักฐานในบนั ทึกการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีนำสาร (ทบ.463-038) และบนั ทึก สถิติของข่าว (ทบ.463-005) 2.3.4.3 มอบข่าวให้พลนำสารซ่งึ จะนำข่าวไปส่ง 2.3.4.4 เมื่อพลนำสารกลับมาให้ลงเวลากลับ ในบันทึกการปฏิบัติหน้าที่ พลนำสาร และบันทกึ สถติ ขิ องข่าว แลว้ ส่งหลกั ฐานการนำสารซ่งึ รับจากพลนำสารไปใหเ้ สมยี นเกบ็ หลกั ฐาน และจำหน่ายข่าว 2.3.5 พลนำสาร 2.3.5.1 รับข่าวมาจากหวั หนา้ พลนำสาร 2.3.5.2 นำข่าวไปส่งให้ผู้รับปลายทาง พร้อมด้วยหลักฐานการนำสาร (ทบ.463-004) 2.3.5.3 มอบข่าวใหผ้ ้รู บั และให้ผรู้ ับลงชอ่ื ในหลกั ฐานการนำสาร 2.3.5.4 เมื่อกลับที่ตั้งแล้ว ตรวจดูรายการในหลักฐานการนำสารให้เรียบร้อย แล้วมอบให้กับหวั หน้าพลนำสาร องค์แทนการสื่อสาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ท่ี 7-4 ตอนมชั ฌมิ การสอ่ื สาร หัวหน้าตอนรับข่าวต้นฉบบั มาจากเสมียนแยกทาง แล้วส่งต่อไปให้พนักงานเครื่องสื่อสาร ตามท่ี กำหนดไว้ 2.3.6 พนกั งานเคร่อื งส่ือสาร 2.3.6.1 รับข่าวต้นฉบับจากหัวหน้าตอนมัชฌิมการสื่อสาร หรือจากเสมียน แยกทางของตอนศูนย์ข่าว 2.3.6.2 สง่ ขา่ วลงเวลาทสี่ ง่ เสรจ็ ระบบเครอื่ งสื่อสารและชอื่ พนักงาน 2.3.6.3 ลงหลกั ฐานการทำงาน เช่น พนักงานวิทยุ ลงบันทึกการรบั ส่งข่าวของ พนกั งานวิทยุ (ทบ.463-035) 2.3.6.4 ส่งขา่ วตน้ ฉบบั ไปให้เสมยี นเก็บหลกั ฐานและจำหนา่ ยขา่ ว ตอนการอกั ษรลบั ตอนการอักษรลับ รับข่าวออกซ่ึงต้องการเข้าการอักษรลับจากเสมียนแยกทาง ของตอนศูนย์ข่าว และดำเนนิ การดังน้ี 2.3.7 เจ้าหน้าทก่ี ารอกั ษรลับ 2.3.7.1 รับขา่ วออกจากเสมียนแยกทางของตอนศนู ยข์ า่ ว 2.3.7.2 ลงบันทกึ ศนู ย์รหสั สำหรบั ข่าวส่ง (ทบ.463-034) 2.3.7.3 เข้าอกั ษรลับ 2.3.7.4 เตรียมขา่ วหนงึ่ ฉบบั ทีเ่ ข้าอักษรลบั แลว้ สำหรบั การสง่ ขา่ ว 2.3.7.5 สง่ ขา่ วท่เี ขา้ อักษรลบั แลว้ ไปใหเ้ สมียนแยกทางของตอนศนู ยข์ า่ ว 2.3.7.6 ลงบันทกึ ลงในต๋วั รหัสสำหรับขา่ วสง่ (ทบ.473-033) แนบไว้กบั ข่าว ตน้ ฉบับและสำเนาท่ีเข้าอักษรลบั แล้ว 2.3.7.7 ลงบันทกึ ศูนยร์ หสั สำหรบั ข่าวส่งใหเ้ รยี บรอ้ ย 2.3.7.8 นำตว๋ั สำหรบั ขา่ วสง่ ข่าวตน้ ฉบับและสำเนาทเ่ี ข้าอักษรลบั แล้วเกบ็ เข้า แฟ้มเกบ็ 2.4 ในกรณีที่ผใู้ หข้ ่าวหรือผเู้ ขียนขา่ วมอบขา่ วโดยตรงกับศนู ยก์ ารสือ่ สาร (ไมต่ อ้ งผ่านศูนย์รับ – ส่ง ก่อน) คงดำเนินกรรมวธิ ีดังนี้ 2.4.1 ผูใ้ ห้ขา่ วหรอื ผเู้ ขียนข่าวมอบข่าวให้ศนู ยก์ ารสื่อสารแตเ่ พยี ง 2 ฉบับ คือ ข่าวต้นฉบับ และสำเนา 2.4.2 การดำเนินการของศนู ยก์ ารส่ือสารตอ่ ไปคงดำเนนิ การเชน่ เดียวกัน องคแ์ ทนการสอ่ื สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

หนา้ ที่ 7-5 3. การดำเนนิ การตอ่ ข่าวเขา้ ขา่ วเขา้ สามารถเข้าไดท้ ้ังนำสารและตอนเคร่ืองมอื จะมกี ารลงหลกั ฐานในแบบฟอรม์ ตา่ งๆ ตามตำแหน่งเจ้าหน้าท่ขี องศูนยก์ ารส่อื สาร การดำเนนิ กรรมวิธตี อ่ ข่าวเขา้ ท้งั ปวงจะมกี ารปฏบิ ัตติ ามลำดบั ดงั น้ี 3.1 ศูนยก์ ารสื่อสาร ตอนมัชฌิมการสอ่ื สาร 3.1.1 พนักงานเครื่องสอื่ สาร 3.1.1.1 รบั ขา่ วแลว้ ให้ลง เวลารบั ข่าวเสรจ็ ระบบเคร่ืองสื่อสารและชือ่ พนักงาน 3.1.1.2 ลงหลักฐานการทำงาน เช่น พนักงานวิทยุบันทึกการส่งข่าวของพนักงานวิทยุ (ทบ.463-035) 3.1.1.3 ส่งขา่ วตน้ ฉบบั และอกี 1 สำเนา ไปใหเ้ สมยี นข่าวเขา้ ของตอนศูนย์ข่าว องคแ์ ทนการสอื่ สาร : แผนกวชิ าทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าท่ี 7-6 ตอนศูนยข์ ่าว 3.1.2 เสมยี นข่าวเขา้ 3.1.2.1 รบั ขา่ วจากพนักงานเครอื่ งส่อื สาร หรือจากพลนำสารของหนว่ ยอืน่ 3.1.2.2 ลงลำดบั ทข่ี ่าว (ของศูนยข์ า่ ว) , เวลารับขา่ ว และชอ่ื ยอ่ ของเสมยี นข่าวเข้า ทง้ั 2 ฉบบั 3.1.2.3 ลงบญั ชขี ่าว (ทบ.463-024) หรอื บญั ชีคุมข่าว (ทบ.463-026) 3.1.2.4 สง่ ข่าว 1 ฉบับ ใหศ้ ูนย์รบั -สง่ หรือผรู้ บั ขา่ วตามจา่ หน้า 3.1.2.5 สง่ ขา่ วฉบบั สำเนาใหเ้ สมยี นเกบ็ หลักฐานและจำหนา่ ยข่าว 3.1.2.6 ถ้าเป็นข่าวที่เข้ารหัสมา จะต้องส่งไปถอดที่ตอนการอกั ษรลบั เสียก่อนท่ีจะไปยงั ศูนย์รับ-ส่งหรือผู้รับข่าว ในกรณีนี้จะต้องลงหลักฐานข่าวที่ส่งไปยังศูนย์รหัส (ทบ.463-025) ด้วย 3.1.2.7 ใช้หลักฐานการนำสาร (ทบ.463-004) เป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ศูนย์รับ-ส่ง เซ็นรับขา่ วไป และสง่ หลักฐานการนำสารไปใหเ้ สมียนเก็บหลักฐานและจำหนา่ ย ข่าวต่อไป 3.1.3 เสมยี นเก็บหลกั ฐานและจำหน่ายขา่ ว 3.1.3.1 รบั ข่าวฉบบั สำเนาจากเสมยี นข่าวเขา้ และนำเขา้ เกบ็ ไวใ้ นแฟ้มรอ 3.1.3.2 เมื่อได้รับหลักฐานการนำสารจากเสมียนข่าวเข้าแสดงว่าเจ้าหน้าที่ของ ศูนย์รับ– ส่ง หรือผู้รับขา่ วได้รับขา่ วจากศนู ย์การสอ่ื สารแลว้ จงึ นำมาแนบเข้ากับ ข่าวฉบับสำเนาจาก แฟ้มรอ และนำเขา้ ใน แฟ้มเกบ็ ตอนการอักษรลบั 3.1.4 เจา้ หน้าทกี่ ารอกั ษรลับ 3.1.4.1 รบั ข่าวเขา้ มาจากเสมียนขา่ วเข้าของศนู ย์ข่าว 3.1.4.2 ลงบันทึกศนู ยร์ หัสสำหรับข่าวรบั (ทบ.463-034) 3.1.4.3 ถอดรหัสข่าว 3.1.4.4 เตรียมขา่ วหน่งึ ฉบบั ทถี่ อดรหัสแลว้ เพ่ือส่งไปใหผ้ รู้ ับ 3.1.4.5 สง่ ขา่ วทถ่ี อดรหสั แล้วไปให้เสมยี นข่าวเขา้ ของตอนศนู ย์ขา่ ว 3.1.4.6 บนั ทึกลงในตั๋วรหสั สำหรับข่าวรับ (ทบ.463-032) แนบไว้กับขา่ ว ตน้ ฉบบั และสำเนาทถี่ อดรหสั แลว้ 3.1.4.7 ลงบันทกึ ศนู ย์รหัสสำหรับข่าวรบั ใหเ้ รยี บรอ้ ย 3.1.4.8 นำต๋วั รหสั สำหรบั ขา่ วรบั ขา่ วตน้ ฉบบั และสำเนาท่ีถอดรหสั แล้วเก็บเข้าแฟม้ เกบ็ องค์แทนการสื่อสาร : แผนกวิชาทหารสื่อสาร กศ.รร.ส.สส.

หน้าที่ 7-7 3.2 ศูนย์รบั – สง่ 3.2.1 รบั ขา่ ว 1 ฉบบั จากศนู ย์การสอ่ื สาร 3.2.2 ลงชอื่ และหมู่วนั เวลารับขา่ ว ในหลกั ฐานการนำสารและคืนให้กบั ศูนย์การส่อื สาร 3.2.3 ทำสำเนาขา่ วและแจกจ่ายใหผ้ รู้ บั ตามทจี่ ่าหนา้ 3.2.4 เกบ็ หลกั ฐานขา่ ว 3.3 ผรู้ ับ 3.3.1 รบั ขา่ วจากศนู ย์รบั -สง่ 3.3.2 รบั ข่าวจากศูนยก์ ารส่ือสารโดยตรงเมอ่ื ไดร้ บั อนุมัตจิ ากผู้บงั คับบญั ชา 4. การดำเนนิ การต่อขา่ วถา่ ยทอดหรือเปลยี่ นเครอ่ื งมอื 4.1 พนักงานเคร่อื งสอื่ สารหรอื พลนำสาร มอบข่าวใหเ้ สมยี นข่าวออก 4.2 เสมยี นข่าวออก 4.2.1 ลงลำดบั ทข่ี องข่าว (ของศนู ยข์ ่าว) เวลารบั ขา่ วและช่ือยอ่ ของเสมยี น ผรู้ บั ข่าวท้ังสองฉบับ 4.2.2 ลงบญั ชีข่าวหรือบญั ชคี มุ ขา่ ว 4.2.3 สง่ ขา่ วตน้ ฉบับไปใหเ้ สมียนแยกทาง 4.2.4 ส่งสำเนาไปยังเสมียนเก็บหลักฐานและจำหน่ายข่าว เมื่อได้ส่งไปเรียบร้อยแล้ว เสมยี นเกบ็ หลกั ฐานและจำหนา่ ยข่าว จะลงเวลาจำหน่ายขา่ วและคนื กลับมา จะตอ้ ง นำมาลงเวลาดำเนินการเสรจ็ ในบัญชขี ่าวหรอื บัญชคี ุมข่าว แล้วจึงทำลายเสยี 4.3 เสมียนแยกทางดำเนินการตอ่ ไปเช่นเดียวกบั ข่าวออก 4.4 พนกั งานเครอื่ งส่อื สาร หน.พลนำสารและพลนำสาร ดำเนนิ การเช่นเดียวกบั ข่าวออก * ขา่ วเปล่ียนเครือ่ งมือ จะตอ้ งดำเนนิ กรรมวิธเี ชน่ เดียวกับขา่ วออก องคแ์ ทนการสือ่ สาร : แผนกวชิ าทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.

บทท่ี 8 การวางแผนจัดต้ังศนู ยก์ ารสื่อสาร 1. กล่าวนำ การวางแผนจัดตั้งศูนย์การสื่อสารนับเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้การสื่อสารของหน่วยนั้นๆ มี ประสิทธิภาพสูง แต่ทั้งนี้ผลที่ได้ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การวางแผน การกำกับดูแล และการ ควบคุมศูนย์การสื่อสาร นายทหารฝ่ายอำนวยการทางการสื่อสาร ต้องทราบสิ่งสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับ ศูนย์การสื่อสาร เพื่อการแก้ปัญหาและให้คำแนะนำแก่ผู้บังคับบัญชา ผบ.ทุกระดับหน่วย ย่อมต้องการ ระบบการสือ่ สาร ที่เชือ่ ถือได้ รวดเร็วและปลอดภยั หากเป็นไปไดจ้ ะต้องใหม้ ีความคงอยู่ เท่าที่จะเปน็ ได้ ดว้ ย นายทหารฝา่ ยอำนวยการทางการส่ือสาร จะต้องทราบถึงอุปสรรคต่างๆ ของศนู ย์การสื่อสาร 2. การวางแผนเลอื กที่ตั้งศนู ยก์ ารสอื่ สาร 2.1กล่าวท่ัวไป - ที่ต้งั ของศูนย์การสอ่ื สาร ภายใน บก. นับว่าสำคญั ทส่ี ดุ ทีจ่ ะให้ผลดีแกก่ ารทำงาน - ปกตินายทหารฝ่ายเสนาธิการจะกำหนดให้ (แทน ผบ.) โดยพิจารณาตามคำแนะนำของ นายทหารฝ่ายอำนวยการทางการสอ่ื สาร เพ่อื ใหไ้ ดท้ ีต่ ง้ั ศนู ยก์ ารสอ่ื สาร ทเ่ี หมาะสม - ใน บก.ขนาดใหญ่ ศนู ย์การสอื่ สาร ควรจะอยยู่ ่านกลาง โดยให้ ผู้บังคบั บญั ชาหรือ ฝ่ายอำนวยการ สามารถใชบ้ ริการไดส้ ะดวก - ในกรณที ่ีเปน็ อาคาร ควรอยอู่ าคารเดียวกับศูนย์ รับ - ส่ง - ถ้าอยใู่ นกระโจมควรมีกระสอบทรายป้องกันอันตรายจากอาวธุ ยงิ - การพรางจากการตรวจการณ์ทางอากาศนับวา่ สำคัญมาก จะตอ้ งกวดขนั การเคลือ่ นที่พาหนะมใิ ห้ เกิดรอยเสน้ ทางเคลอ่ื นท่ใี นบรเิ วณนัน้ - การวางแผน เพื่อจัดตั้งศูนย์การสื่อสารสำหรับขั้นตอนของการปฏิบัติทางยุทธวิธีที่จะถือว่า เพยี งพอนัน้ จะตอ้ งมกี ารประสานงานกับผู้บงั คบั บญั ชาและฝา่ ยอำนวยการอย่างใกล้ชิด - การศึกษาพิจารณาเกี่ยวกับจำนวนข่าวที่เคยมีมาแล้วน้ัน เป็นสิ่งจำเป็นเพราะจะทำให้การใช้ มชั ฌิมการสอื่ สารที่มีอยู่ให้ได้ผลดที ส่ี ดุ แต่กค็ วรจะมีการประมาณจำนวนข่าวที่จะมใี นอนาคตด้วย - การวางแผนจะตอ้ งให้สมารถออ่ นตัวได้ เพื่อให้สามารถปรับใหเ้ หมาะสมกับข่าวที่จะมากข้ึนหรือ นอ้ ยลง 2.2 การวางแผนเพื่อจดั ต้งั ศนู ย์การส่อื สาร จำเป็นจะต้องพจิ ารณาถงึ ปัจจัยท่ีสำคัญๆ ดงั ต่อไปน้ี 2.2.1 สถานการณ์ทางยุทธวธิ ีและความต้องการทจ่ี ะมีบรกิ ารศูนย์การสือ่ สาร 2.2.2 เจ้าหน้าทีท่ ม่ี ีและการฝกึ เจ้าหน้าที่ 2.2.3 การใชม้ ชั ฌิมการส่อื สารชนิดตา่ งๆ องค์แทนการส่ือสาร : แผนกวิชาทหารส่ือสาร กศ.รร.ส.สส.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook