กมุ ภาพนั ธ์ 2559 Federation of Accounting Professions under the Royal Patronage of His Majesty the King รายงานฉบบั สมบรู ณ์
ความพรอ้ มในการแข่งขนั ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชไี ทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซยี น ภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรบั รว่ มบรกิ ารวิชาชีพบัญชี โดย: ผ้ชู ่วยศาสตรจารย์ ดร.อมรา ติรศรีวัฒน์ ผูส้ นบั สนุนทุนการวิจัย: สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ข้อจากัดความรบั ผดิ ชอบ: สภาวิชาชพี บญั ชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ขอสงวนสิทธทิ ้ังปวง รวมท้งั สทิ ธใิ นการแกไ้ ข ทาซ้า ดดั แปลง ตลอดจนนาไปใชอ้ ้างอิงหรอื เผยแพรร่ ายงานนี้ ไมว่ ่าสว่ นหนึ่งสว่ นใดและดว้ ยวธิ ีการใดๆ โดยไม่ไดร้ บั อนญุ าต เป็นหนังสอื ข้อมลู และความเหน็ ใดๆ เปน็ ของนกั วิจยั และเปน็ ไปตามผลของการสารวจ สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ไมต่ อ้ งรับผิดชอบ ในผลจากการนาขอ้ มูลดงั กล่าวไปใช้ สงวนลขิ สทิ ธ์ิ – ห้ามเผยแพร่หรอื นาไปใชใ้ นเชิงพาณิชย์ก่อนได้รับอนญุ าต สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ 133 อาคารสภาวชิ าชพี บัญชี ถนนสขุ มุ วิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัมนา กรุงเทพฯ 10110 โทร +66(0) 2685 2500 Fax : +66(0) 2685 2501 Email: [email protected]
Competitive Readiness of Thai Professional Accountants among the Group Member of ASEAN under Mutual Recognition Arrangements (MRAs) on Accountancy Services By: Assistant Professor Dr. Amara Tirasriwat Acknowledgement: This report was supported by Federation of Accounting Professions (FAP) Copyright © 2016 Federation of Accounting Professions (FAP) All rights reserved. This publication is designed to provide accurate and authoritative information with regard to the subject matter covered. No part of this publication may be reproduced or transmitted in any form or by any means, electronic, mechanical, photocopying, recording, scanning, or otherwise, except as expressly permitted by law, without the prior written permission of Federation of Accounting Professions. All information and comments provided in report belong to the researcher according to findings from the study and the survey. The Federation of Accounting Professions will not hold any responsibility of the usage of this information. Requests for permission should be addressed to: Federation of Accounting Professions (FAP) 133 FAP Building, Sukhumvit 21 Road, Klong Toei Nua, Watthana, Bangkok 10110 Thailand Tel: +66(0) 2685 2500 Fax: +66(0) 2685 2501 Email: [email protected]
กติ ติกรรมประกาศ ผวู้ ิจัยขอกราบขอบพระคุณความอนุเคราะห์ดา้ นเงินทุนสนับสนนุ จากสภาวิชาชีพบัญชีในพร ะบร ม ราชูปถัมภ์ รวมท้งั คณะอนุกรรมการดา้ นงานตา่ งประเทศทใ่ี ห้ข้อเสนอแนะเพ่ือการปรบั ปรงุ แกไ้ ขขอบเขต และ เนอ้ื หางานวจิ ยั ให้ครบถ้วนสมบรู ณ์ นอกจากน้ขี อขอบพระคุณผู้บรหิ าร นกั บัญชีมืออาชพี ของสานักงาน บัญชี ร ะดับน า น า ชา ติ จ า ก Pricewaterhouse Coopers ABAS Ltd, KPMG Poomchai, Deloitte Touche Tohmatsu, Ernst & Young, Grant Thornton, Mazars, TMF, BDO และสานักงานบัญชีคุณภาพระดบั ชาติ ท้ังส้นิ 10 ท่าน ท่ีให้ความอนุเคราะห์ เสียสละเวลาอันมีค่าในการให้ข้อเสนอแนะ และขอ้ มลู เชิงลึกอัน เป็น ประโยชน์ ส่งผลให้งานวิจัยน้ีสาเรจ็ ลุล่วงไปด้วยดี ตามเป้าประสงค์ของการให้ทุนสนับสนุนในการดาเนิน งานวจิ ัย ผู้วิจัยขอกราบขอบพระคุณคณาจารยท์ ี่ได้ประสิทธิประสาทวชิ าจนทาให้ผลงานวจิ ยั เป็นประโยชน์ต่อ ผูท้ เ่ี กีย่ วข้อง และขอมอบเป็นเคร่ืองแสดงความกตัญญูกตเวทติ าคุณ แดบ่ ิดา มารดา และผมู้ ีพระคุณทุกท่าน และเพอื่ เปน็ ประโยชน์ในการพัฒนางานวจิ ยั ต่อไป ผ้วู จิ ัยขอน้อมรับคาแนะนาด้วยความยนิ ดี อมรา ติรศรวี ฒั น์ กมุ ภาพันธ์ 2559 สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ 2-1
บทสรปุ ผูบ้ รหิ าร (Executive Summary) ความพร้อมในการแขง่ ขนั ของผูป้ ระกอบวิชาชพี บญั ชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ ของอาเซียน ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรับรว่ มบริการวิชาชีพบญั ชี จากที่มีการเปิดเสรีทางการค้า การบริการ การลงทุน และแรงงานฝีมือของ ภายในกลมุ่ ประเทศ อาเซียนกลุม่ สาขาบรกิ ารวิชาชีพบัญชไี ด้รับผลกระทบจากกา รเปิดเสรนี ้ีอยา่ งหลีกเล่ียไม่ได้ เน่ืองจากสาขา บริการวิชาชพี บัญชเี ปน็ หน่งึ ในเจ็ดวิชาชีพทอ่ี ยใู่ นข้อตกลงร่วมกันว่าด้วยเรื่องการเคล่ือนยา้ ยแรงงานฝีมือเสรี ดงั นน้ั ทางสภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ จงึ ให้ความสนใจในการวิจัยถงึ ความพร้อมในการแขง่ ขันของ ผู้ประกอบวิชาชพี บญั ชีไทยในการเคลอื่ นยา้ ยไปทางานภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของอาเซียน งานวจิ ยั เรอ่ื งความพร้อมในการแขง่ ขนั ของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของ อาเซยี นภายใตข้ อ้ ตกลงการยอมรบั ร่วมบริการวิชาชพี บัญชี ไดศ้ ึกษาจากเอกสารข้อมูลเกีย่ วกบั หลกั การ ตาม ข้อตกลงยอมรับร่วมกันของอาเซียนสาหรับสาขาบริการวิชาชีพบัญชี (ASEAN Mutual Recognition Arrangement Framework on Accountancy Services : MRA) และกรอบความตกลงวา่ ดว้ ยการบริการ ของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Services : AFAS) ชุดท่ี 9 ตามข้อผูกพันเฉพาะของ แต่ละสาขาวิชาชีพบัญชี ขอ้ กาหนด กฎหมายของแต่ละประเทศท่ีกาหนดไว้ ในส่วนทีเ่ กี่ยวกับรูปแบบของ การบริโภคในต่างประเทศ (Consumption aboard) ซ่ึงเปน็ การใหบ้ รกิ ารทเี่ กดิ ขึ้นในพรมแดนของผูใ้ หบ้ ริการ โดยอาศัยการเคลื่อนย้ายของผ้รู บั บริการ รูปแบบของการจดั ตั้งธรุ กิจ (Commercial Presence) เปน็ การเข้า ไปลงทุนจัดต้ังธุรกิจเพื่อให้บริการลูกค้าในอีกประเทศหน่ึง และรูปแบบการให้บริการโดยบุคคลธรรมดา (Movement of Natural Persons) เปน็ การทผี่ ูป้ ระกอบวชิ าชพี เข้าไปทางานประกอบวชิ าชีพในสาขาบริการ ในอีกประเทศ พบว่าผูป้ ระกอบวชิ าชีพบัญชที ่ีประสงค์จะเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือน้ัน ต้องข้นึ ทะเบยี นเป็น นักบัญชอี าเซียน ซ่ึงตอ้ งมีคุณสมบัติครบถว้ นตามท่ีกาหนดทั้งในดา้ นคุณวฒุ ิการศึกษา ระดับปริญญาตรีทาง การบัญชี ประสบการณ์ทางวชิ าชีพบัญชีไม่น้อยกวา่ 3 ปี มีสภาพคงอยขู่ องใบอนุญาตของประเทศถิ่นกา เนิด และคณุ สมบัตอิ นั พงึ ประสงคข์ องผู้ประกอบวชิ าชีพ ความพร้อม ศักยภาพและโอกาสในการประกอบวิชาชพี บัญชไี ทยในประเทศผู้รับ ในแต่ละสาขา (1) การสอบบัญชี มีโอกาสน้อยมาก ยงั มอี ปุ สรรคและข้อจากัดดา้ นกฎระเบียบและข้อจากดั ของการ เปิด ตลาดโดยไม่ให้มกี ารจัดตั้งสานักงานสอบบญั ชีที่เปน็ คนตา่ งชาติ หรือเป็นไปไดแ้ ต่มขี อ้ ผกู พนั เฉพาะทม่ี ีขอ้ จากัด หรือจะตอ้ งมใี บประกอบวิชาชีพบญั ชีในระดับสากลที่เป็นท่ียอมรับของประเทศน้ันโดยเฉพาะ (2) การทา บญั ชี มศี กั ยภาพและพรอ้ มในการก้าวเข้าสู่ AEC มากที่สดุ เม่ือเปรยี บเทยี บกบั สาขาอาชีพอืน่ เน่ืองจากข้อ ผกู พันเฉพาะของสาขาน้ีไม่มขี ้อจากัดทุกประเทศตามกรอบความตกลงว่าดว้ ยการบรกิ ารของอาเซยี นชุดที่ 9 สภาวชิ าชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2-- 1 -
รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแขง่ ขันของผ้ปู ระกอบวชิ าชพี บัญชไี ทยภายในกลุม่ ประเทศสมาชกิ ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรบั ร่วมบริการวชิ าชพี บัญชี (3) การบริการด้านภาษีอากร มโี อกาสมากหรอื นอ้ ยขนี้ อยู่กบั คุณสมบัติส่วนบุคคลทตี่ ้องมกี ารพัฒนาความรู้ เก่ียวกับกฎหมายและภาษีอากรเฉพาะในแต่ละประเทศผู้รับและกฎหมายสากล และ (4) การให้บริการ ทางการบัญชี เช่น บริการดา้ นการวางระบบบัญชี การบัญชีบริหารและอ่ืนๆ มโี อกาสเฉพาะผู้โอนยา้ ยภายใน บริษัทขา้ มชาติ (Intra-corporate transferee : ICT) เท่าน้นั โอกาสของบุคคลธรรมดาจะเปน็ ไปไดย้ าก นอกเหนือจากการศึกษาจากเอกสารแล้วนั้น งานวจิ ัยนี้ ไดท้ าการวจิ ัยโดยใชแ้ บบสอบถามมาเป็น เคร่ืองมอื ในการรวบรวมขอ้ มลู จากกล่มุ ตัวอยา่ งของผปู้ ระกอบวิชาชีพบญั ชีในประเทศไทยในสาขาวชิ าชีพต่า งๆ ทั้งผ้ทู าบญั ชี ผู้สอบบัญชี ผทู้ าบัญชภี าษีอากร และผใู้ ห้บริการคาปรึกษาทางบัญชี ในลกั ษณะการปร ะเมิน ตนเองเกยี่ วกบั สมรรถนะและความพร้อมในการประกอบวชิ าชีพบญั ชใี นประเทศผ้รู ับกลุ่ม ASEAN โดยกลุ่ม ตัวอย่างมาจากสานักงานบัญชสี ากลขนาดใหญ่ สานกั งานบญั ชีสากล และสานักบัญชีคณุ ภาพระดบั ปร ะเทศ โดยมผี ู้ตอบแบบสอบถามจานวน 390 คน คิดเป็นอัตราการตอบกลับของแบบสอบถามร้อยละ 74.43 ของ จานวนตวั อย่างทั้งหมด จานวนผู้ตอบแบบสอบถาม รอ้ ยละ 60 เป็นผสู้ อบบญั ชี ร้อยละ 38 ได้รับใบอนญุ าต ประกอบวิชาชพี บัญชี ซึ่งมีผ้ไู ด้รับใบอนญุ าตในระดับสากล เพยี ง 5 ราย การประเมินสมรรถนะและความพร้อมของนักบญั ชีไทยน้นั แบ่งออกเปน็ 3 ด้าน คือ ดา้ นความรู้และ ความสามารถทางเทคนิค ดา้ นความถนัดและทกั ษะ และด้านคุณค่า จรยิ ธรรมและทัศนคติต่อวชิ าชีพ โดย การให้คะแนนในลักษณะของการเปรยี บเทยี บส่งิ ที่เป็นอยใู่ นปัจจุบนั กับส่ิงท่ีคาดหวังในส่ิงเดียวกัน โดยผลจาก การวิจยั พบวา่ ผลการประเมินสมรรถนะและความพร้อมในปจั จุบันของผ้ตู อบแบบสอบถาม สมรรถนะและ ความพรอ้ มดา้ นความรู้ ความสามารถทางเทคนิค และด้านความถนัดและทกั ษะ อยูใ่ นระดับปานกลาง ส่วน สมรรถนะและความพร้อมดา้ นคุณคา่ จริยธรรมและทัศนคติต่อวิชาชีพ อยู่ในระดับมาก นอกจากนี้จากผล การประเมนิ เปรยี บเทยี บคา่ ความจริงที่เปน็ อยู่กบั คา่ ท่ีคาดหวัง เพื่อวเิ คราะห์ความตอ้ งการจาเป็น (Needs Assessment) พบว่าส่ิงทคี่ วามต้องการแก้ไขและพัฒนาให้ดขี ้ึน แบ่งตามด้านของสมรรถนะและความพรอ้ ม มี ดังน้ี 1) ด้านความรู้และความสามารถทางเทคนิค: ความรู้ในภาษาท้องถิ่น ภาษีอากรและกฎหมาย รวมท้งั การทาความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การตกลงยอมรับร่วม (MRAs) ของ ASEAN เกย่ี วกับการบริการ วชิ าชพี บัญชี 2) ดา้ นความถนดั และทกั ษะ: ทักษะดา้ นพูดฟงั ภาษาท้องถิน่ ทักษะดา้ นพดู ฟงั เขียนภาษาอังกฤษ 3) ดา้ นคุณคา่ จรยิ ธรรม และทศั นคติต่อวิชาชพี : การมดี ุลพนิ จิ และตดั สินใจได้อย่างมปี ระสิทธิผล ความเปน็ ผนู้ า ความกระตือรอื รน้ ใฝเ่ รียนรู้ กา้ วทนั กบั การเปลย่ี นแปลง นอกจากนี้ ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ความแปรปรวน ที่ระดับนัยสาคัญ 0.05 เพ่ือทดสอบความแตกต่าง ระหวา่ งกลุ่มของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชีที่มีคุณสมบัติส่วนตัวแตกตา่ งกัน พบวา่ กลุม่ เพศ สาขาอาชพี บัญชี - 2 - สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแขง่ ขนั ของผู้ประกอบวิชาชพี บญั ชไี ทยภายในกล่มุ ประเทศสมาชกิ ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั รว่ มบริการวิชาชีพบัญชี ระดับ/ขนาดองค์กร และใบประกอบวิชาชีพระดับประเทศท่ีมีความแตกต่างกันน้ัน มีผลต่อการประเมนิ สมรรถนะและความพร้อมท่ีแตกต่างกัน ในด้านคณุ ค่า จริยธรรม และทัศนคติต่อวิชาชีพ แสดงใหเ้ หน็ ว่า ความคดิ เห็นดา้ นคุณคา่ จรยิ ธรรม และทัศนคติต่อวิชาชีพ ทย่ี งั มคี วามแตกตา่ งกนั ในกลุ่มต่างๆ นน้ั ควรตอ้ งมี การศึกษาเพมิ่ เตมิ เพ่อื ส่งเสริมให้เกิดความเขา้ ใจในระดบั ทส่ี งู ขีน้ และมคี วามเท่าเทียมกนั มากขึน้ งานวจิ ัยน้ไี ด้ให้ผู้ตอบแบบสอบถามไดป้ ระเมนิ ระดบั ความพรอ้ มและความต้องการในการปร ะกอบ วิชาชพี บญั ชีในประเทศผูร้ ับ ASEAN ผลการวิจยั พบว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามมีความพร้อม ในอตั รารอ้ ยละ 54 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด และประเทศผู้รับที่พึงประสงค์มากท่ีสุด คือสิงคโปร์ และ มาเลเซีย ด้วยเหตผุ ลของการได้รับคา่ ตอบแทนทางการเงนิ ท่ีสูงขน้ึ การเพ่ิมประสบการณ์และความกา้ วหนา้ ในวิชาชีพ ส่วนเหตุผลในกลุ่มที่มีความไม่พร้อมน้ัน จะเป็นสาเหตุจากความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ และการสอบ ใบอนุญาตเพือ่ ประกอบวิชาชีพ รวมท้งั บางส่วนที่มีเหตุผลด้านกฎเกณฑ์และคุณสมบัตขิ องวชิ าชีพเข้มงวดและ มกี ารกีดกันมากเกนิ ไป โดยสรุปงานวิจัยนี้ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีไทย มีความพร้อมที่จะประกอบวิชาชีพบัญชีในกลุม่ ประเทศ ASEAN ในสัดส่วนประมาณเพียงรอ้ ยละ 54 ของกลุ่มตัวอย่าง ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นว่า ยังมีส่วนของ ความไมพ่ รอ้ มถงึ ร้อยละ 46 ทางผูว้ ิจยั จึงมีขอ้ เสนอแนะในการเสรมิ สร้างและยกระดับความพรอ้ มใหผ้ ปู้ ระกอบ วิชาชีพบญั ชไี ทยมีโอกาสก้าวสู่ ASEAN (1) ระดับบคุ คล พัฒนาทกั ษะส่วนบุคคล โดยเฉพาะด้านภา ษา ท้ัง ภาษาทอ้ งถิ่นและภาษาอังกฤษ (2) ระดับองค์กร ดา้ นความรทู้ ่ีตอ้ งเพิ่มการทาความเข้าใจ โดยเฉพาะเรอ่ื งของ การตกลงยอมรบั รว่ มในการบริการวิชาชพี บญั ชีของ ASEAN ซึง่ เปน็ ความรู้ท่ที างสภาวิชาชพี บัญชฯี สามารถมี สว่ นร่วมในการพัฒนาได้ และนอกจากน้ี ตอ้ งให้ความสนใจในสว่ นของกฎเกณฑแ์ ละคุณสมบัติวชิ าชีพท่อี าจจะ มีความเข้มงวดและมีการกีดกันมากเกินไป ซ่ึงเป็นเหตุผลหลักท่ีทาให้นักบญั ชีไม่พร้อมและไม่ต้องการไป ประกอบวชิ าชพี ในประเทศกลุ่ม ASEAN (3) สถาบนั การศึกษา พัฒนาหลักสตู รโดยเนน้ การพฒั นาควา มรู้ใน วชิ าชีพบัญชี และทางธุรกิจ อยา่ งต่อเนือ่ งเพือ่ ก้าวทันกบั การเปล่ียนแปลง มาตรฐานการบญั ชี การสอบบญั ชี กฎหมาย ภาษีอากร การใช้อปุ กรณ์ สื่อ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ม่งุ เน้นการเรียนการสอนเพอ่ื พฒั นาความรู้และ ทกั ษะการใชภ้ าษาอังกฤษอย่างตอ่ เนื่อง เป็นรปู ธรรมมากทีส่ ุด สนบั สนุน สง่ เสรมิ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของ นกั ศกึ ษากับสถาบันในระดบั นานาชาติ และกล่มุ ประเทศ ASEAN และมกี ารสอบเพ่ือได้ใบอนุญาตปร ะกอบ วชิ าชีพท่ีเปน็ ท่ียอมรับในระดบั สากลเพื่อเพมิ่ ศักยภาพ และโอกาสใหแ้ ก่นักบัญชรี ุ่นใหมท่ ม่ี ีคุณภาพ สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ -3-
บทคัดยอ่ การศึกษาความพร้อมในการแข่งขันของผปู้ ระกอบวิชาชีพบัญชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของ อาเซียนภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรับรว่ มบรกิ ารวชิ าชีพบัญชี มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อ (1) ศึกษากฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั ถึงการเคล่ือนย้ายแรงงานฝมี อื การบริการวชิ าชพี บัญชใี นสาขาตา่ งๆ ของประเทศสมาชกิ ของ ASEAN ในฐานะ ประเทศผ้รู ับ และ (2) ประเมินสมรรถนะของนักบญั ชีมอื อาชีพไทยในด้านความรู้ ทักษะ คณุ ค่า จรยิ ธรรม ทัศนคติและคณุ สมบัตอิ ันพงึ ประสงค์ เพ่ือวเิ คราะหค์ วามพรอ้ มในการแข่งขันใน ASEAN โดยการเก็บรวบรวม ข้อมูลทั้งจากแหล่งทุติยภมู ิ และปฐมภูมิจากกล่มุ ตวั อยา่ งนักบญั ชีมอื อาชีพไทยระดับสากล และระดับประเทศ จานวน 390 คน นาขอ้ มลู ที่ได้มาวเิ คราะห์คา่ เฉล่ีย ค่าดัชนกี ารจดั ลาดบั ความตอ้ งการ และคา่ ความแปรปรวน ทรี่ ะดบั นยั สาคัญ 0.05 ผลจากการศึกษาจากความตกลงยอมรับร่วมกัน ข้อผูกพันเฉพาะการค้าบริการวิชาชีพบัญชี ในประเทศสมาชกิ ASEAN พบว่าการเคลื่อนย้ายแรงงานฝมี ือไทยเขา้ สปู่ ระเทศผรู้ ับใน ASEAN โดย (1) การต้งั สานกั งานบริการตา่ งๆ ในสาขาการบญั ชมี ขี ้อจากัดทุกประเทศ โดยส่วนใหญ่สามารถก่อต้ังในรปู ของกิจการ รว่ มค้าดว้ ยขอ้ จากัดการร่วมทุนไม่เกินร้อยละท่ีกาหนดไว้ในข้อผกู พันเฉพาะของแตล่ ะหมวดการคา้ บริการ ด้วยข้อยกเวน้ การเป็นสาขา หรือตวั แทนของกิจการข้ามชาติ ขอ้ ผูกพนั ของจา นวนคนตา่ งชาติที่จะร่วมทุน และ (2) การให้บรกิ ารโดยบคุ คลธรรมดา ต้องปฎบิ ตั ิตามกฏเกณฑ์ท่ีตกลงยอมรับร่วมกันคือการขึน้ ทะเบียน เป็นนักบญั ชอี าเซยี นโดยมคี ุณวุฒิการศึกษาปริญญาตรที างการบญั ชี ประสบการณ์อย่างนอ้ ย 3 ปี คณุ สมบัติ และวุฒบิ ัตรครบถ้วนตามเกณฑข์ องประเทศถิ่นกาเนิดเป็นเบ้อื งต้น ต่อจากนน้ั ข้นึ ทะเบยี นเปน็ นักบัญชีตา่ งด้าว ของประเทศผูร้ ับ เพอื่ การไดใ้ บอนุญาตทางานโดยมีคุณสมบัติตามข้อจากดั ดา้ นการปฏบิ ัติเยย่ี งคน ชาติ เช่น มีใบอนญุ าตวชิ าชีพ ระยะเวลาในสัญญาจ้างช่ัวคราวมีกาหนด 2 ปี หรอื 3 ปี ต่อสัญญาไดส้ ูงสดุ ไม่เกิน 5 ปี และการมีถิ่นพานักในประเทศผ้รู ับ ส่วนใหญ่ท่บี ุคคลธรรมดามีโอกาสจะทางานได้มักจะเปน็ ผโู้ อนยา้ ยภายใน บรษิ ทั ขา้ มชาติ ในระดับบรหิ ารจัดการ และผ้เู ชย่ี วชาญ การประเมินสมรรถนะของนักบัญชีมืออาชีพไทยในด้านความรู้ และทักษะ พบว่าอยู่ในระดับ ปานกลาง และการเหน็ คุณค่า จริยธรรม คณุ สมบตั ิอนั พึงประสงค์อยู่ในระดับมาก จึงมีความต้องการจา เป็น ในการพฒั นาศกั ยภาพและความพร้อมดา้ นความรู้ภาษาท้องถน่ิ ของประเทศผู้รับ ภาษาอังกฤษ ภาษีอากรของ ประเทศผู้รับ ด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ความตกลงยอมรับร่วม (MRA) ของวิชาชีพบัญชี และ การวางแผนภาษี การพัฒนาศกั ยภาพและความพร้อมด้านทักษะ คอื การส่อื สารด้วยภาษาองั กฤษทั้ง การฟงั การพูด การอา่ น การเขียน และทักษะของเทคนิคการสืบค้นสิ่งผดิ ปกติ กลลวง สว่ นการพัฒนาดา้ นคณุ สมบัติ สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ 2-vii
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแขง่ ขนั ของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซียน ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั รว่ มบริการวิชาชพี บัญชี อันพึงประสงค์ คือ การมีดุลยพินิจและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิผล ความเป็นผู้นา ความกระตือรือร้น ใฝ่เรียนรู้ ก้าวทนั กบั การเปลี่ยนแปลง การมไี หวพรบิ ปฏิภาณในการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี และการมวี จิ ารณญาณ สขุ ุม รอบคอบจากการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวน ทรี่ ะดับนยั สาคญั 0.05 พบว่า (1) คณุ สมบัตสิ ่วนตัวของผปู้ ระกอบ วิชาชพี บัญชีท่ีแตกตา่ งกนั ดา้ นประสบการณก์ ารทางานในสาขาต่างๆในอดตี ขนาดกจิ การ และการไดร้ ับใบอนญุ าต ประกอบวิชาชีพระดับประเทศ ส่งผลต่อสมรรถนะด้านความรู้ความสามารถทางเทคนิคท่ีแตกต่างกัน (2) ความแตกต่างของขนาดกจิ การ การได้รับใบอนญุ าตประกอบวชิ าชพี ระดับประเทศ ส่งผลตอ่ สมรรถนะ ด้านความถนัด/ทกั ษะที่แตกต่างกัน (3) ความแตกตา่ งของเพศ ตาแหนง่ งานในปจั จบุ นั ประสบการณใ์ นสาขา อาชีพการบัญชี ขนาดของกจิ การและการได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพระดับประเทศส่งผลต่อสมรรถนะ ด้านคุณค่า จรยิ ธรรม ทัศนคติต่อวชิ าชีพและคุณสมบัตอิ ันพงึ ประสงค์ของผู้ประกอบวิชาชพี บัญชที ีแ่ ตกต่างกัน นอกจากนก้ี ารประเมนิ ความพร้อมในการประกอบวิชาชพี บญั ชีไทยในประเทศผูร้ ับ ASEAN พบว่าสาขาอาชีพ ที่มีความพร้อมมากท่ีสุดคือ การทาบัญชี และต้องการท่ีจะไปประกอบวิชาชีพในประเทศสิงคโปร์ และ มาเลเซีย มากทสี่ ดุ โดยจัดลาดับความสาคญั ของเหตุผล คือการเพิม่ ข้นึ /สงู ขึ้นของ รายได้ คา่ ครองชพี และ สวสั ดกิ าร ประสบการณ์และความกา้ วหน้าในวิชาชีพ ตาแหน่งหนา้ ท่กี ารงาน การสร้างช่ือเสยี ง เกยี รติยศ ศักด์ศิ รมี โี อกาส ยกระดบั ฐานะทางสังคมโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ และ ความตอ้ งการผลพลอยได้ ในการทอ่ งเทย่ี วตา่ งแดน ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีไทยในฐานะบุคคลธรรมดาด้านการทาบัญชี และก ารโอนย้ายบุคลากร ในกิจการข้ามชาติมีความพร้อมในการเคล่ือนย้ายแรงงานฝีมือไปยังประเทศผู้รับใน ASEAN มากกว่า ผปู้ ระกอบวชิ าชีพด้านอืน่ ผ้ปู ระกอบวชิ าชีพท่ีมีประสบการณ์ในการทางานในสานักงานบัญชรี ะดับนานาชาติ และกิจการข้ามชาติท่ปี ระกอบการในประเทศไทยมีศักยภาพและความพรอ้ มมากกว่าผู้ที่ทางานในสานักงาน บญั ชรี ะดบั ประเทศเน่ืองจากความสามารถในการส่ือสารด้วยภาษาองั กฤษ และในฐานะผู้ประกอบกา รใน รูปแบบของหุ้นส่วนในกจิ การร่วมค้า มคี วามพรอ้ มอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากคุณสมบัตทิ ่ีเปน็ ข้อตกลง เฉพาะในแตล่ ะสาขาวิชาชพี ทางบญั ชี และข้อบังคบั ทางกฎหมายของแต่ละประเทศ ขอ้ เสนอแนะในการพัฒนาและยกระดับความพร้อมของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีไทยในการแข่งขัน (1) ผู้ประกอบวิชาชพี บัญชีไทย ตอ้ งมีความขยนั ใฝเ่ รยี นรู้ ในการพฒั นาความรู้และทักษะการใชภ้ าษาอังกฤษ อย่างต่อเนอ่ื ง กา้ วทนั ข่าวสาร การเปลีย่ นแปลงเกย่ี วกบั ขอ้ ตกลงยอมรับรว่ มกันในการประกอบวชิ าชีพบัญชีใน ประเทศสมาชกิ ASEAN กฎระเบียบ กฎหมาย มาตรฐานการบญั ชีสากล (2) หนว่ ยงานทก่ี ากบั ดูแลผู้ประกอบ วิชาชพี บัญชี มีการเผยแพร่ข่าวสาร ในเรื่องกฎระเบียบและข้อผูกพนั เฉพาะการบรกิ ารทางการบัญชี มีการจดั อบรม สัมมนาใหค้ วามรทู้ ่กี า้ วทันการเปล่ยี นแปลงเพ่ือเพิ่มศักยภาพในการแขง่ ขัน นอกจากน้ีใหค้ วามสาคัญ viii สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแข่งขันของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชไี ทยภายในกล่มุ ประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใตข้ อ้ ตกลงการยอมรับรว่ มบรกิ ารวชิ าชพี บญั ชี ด้านการศึกษา จดั หลักสูตรการเรียนการสอนให้มีการเตรยี มความพร้อมในการผลิตบัญชีบัณฑิตท่ีมีคุณภาพ เนอื้ หาสาระครอบคลุมวชิ าชพี การบญั ชที ีเ่ ปน็ สากล ควบคกู่ บั การพัฒนาการส่ือสารภาษาองั กฤษ คาศพั ทส์ าคัญ: ความพรอ้ ม วิชาชพี บญั ชี ผ้ปู ระกอบวิชาชีพบัญชี ความตกลงยอมรบั ร่วมกัน อาเซยี น การจดั ทาวิจยั โดยผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อมรา ติรศรีวฒั น์ นี้ ได้รบั เงนิ ทุนสนบั สนุนจากสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ix
รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศึกษาความพร้อมในการแข่งขนั ของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีไทยภายในกล่มุ ประเทศสมาชิกของอาเซียน ภายใต้ข้อตกลงการยอมรับร่วมบรกิ ารวชิ าชพี บัญชี Abstract The study of competitive readiness of Thai professional accountants among the group member of ASEAN under Mutual Recognition Arrangements (MRA) on Accountancy Services aims to (1) study the rules, regulations, specific commitments on professional accountin g services for working in ASEAN host countries, (2) evaluate the competency and readiness of Thai professional accountants in dimensions of knowledge, skills, and desired qualifications. Both sources of secondary and primary data were used for collecting data from 390 professional accountants who are working in international and national accounting firms in Thailand. The collected data was analyzed in terms of mean, priority needs index, and analysis of variances at the significant level of 0.05. The study from the MRA and specific commitment on Accountancy services found that (1) the commercial presence of accounting firms in ASEAN Host countries are limited based on specific commitment, mostly foreigners are allowed to set up accounting firms in the form of joint venture with limited percentage of foreign equity, and limited number of partners, and (2) the individual professional accountants who would like to provide services, have to first make sure their qualification meet all criteria in their original country in order to apply to be an ASEAN Charter Professional Accountant: Accounting Education background, 3 years of working experience, and professional license. They then apply to be Foreign Accountant in AEC host countries with limitations on national policies such as international license, terms of work permit for 2 or 3 years, and renewal of contract with maximum not more than 5 years, and the residence in host country. The intra-corporate transferees have more chance to work in ASEAN especially as executives and in the field of expertise. The evaluation of Thai accountants’ competency found that their knowledge and skills were in the moderate level and the desired quality was in high level. The needs assessment for knowledge development were developing and training in local language of host country, English language, tax law of host country, international law, MRA on Accountancy service, and tax planning. The needs assessments for skills development were English communication skills, investigation, fault finding for manipulation and fraud. The needs assessments for สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ xi
รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Final Report) การศึกษาความพร้อมในการแขง่ ขันของผปู้ ระกอบวิชาชีพบญั ชีไทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรับร่วมบรกิ ารวิชาชีพบญั ชี personal qualifications development were judgments, skepticism, intellectual, and prudence. In addition, analysis of variance at significant level 0.05 found that (1) the differences of personal character of respondents in terms of field of experience, firm size, and local license affected the technical knowledge and capability of professional accountants differently, (2) the differences of firm size, and local license affected their skills differently, (3) the differences of gender, position, field of experience, firm size, and local license affected their value, ethics, attitude, and quality desired differently. Furthermore, the highest level of readiness of Thai professional accountants to work in ASEAN countries were in the field of Accounting / Bookkeeping, and the most popular countries that they would like to join were Singapore and Malaysia. The reasons for going to work in ASEAN countries were the incremental or higher level of salary and remuneration, experience and achievement in career, position, integrity and reputation, social recognition and network, and chance for visiting and travel to foreign country. The readiness of Thai professional accountants for the “individual presence” as accountant in ASEAN host countries and the Inter-company transferee were higher than the other accounting careers. The professional accountants who had working experience in International accounting firms and Intercompany firms in Thailand had more readiness than the ones who work in local accounting firms due to their English proficiency. The readiness for “commercial presence” as the partner in the joint venture accounting firms were in moderate level due to the specific commitment of each profession and also the law and regulations of each country. The recommendation for developing and enhancing the competiveness of Thai professional accountants in AEC countries are: (1) professional accountants must be diligent, lifelong learning for improving their knowledge and skills in English, update the information relating to mutual recognition arrangement on accountancy service, changing in law, regulation, and accounting standards; (2) regulatory authorities of accounting profession have good public relation for the regulation, specific commitment in accountancy service of each AEC countries, provide seminar and training. Furthermore, focusing the accounting education xii สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Final Report) การศึกษาความพรอ้ มในการแขง่ ขนั ของผปู้ ระกอบวชิ าชพี บญั ชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซยี น ภายใตข้ อ้ ตกลงการยอมรบั รว่ มบรกิ ารวชิ าชีพบญั ชี by setting curriculum for strengthen the knowledge and skills in English proficiency and all contents to meet international standards in order to produce young and smart accountants. Key Terms: Readiness, Accounting Profession, Professional Accountants, Mutual Recognition Arrangement, ASEAN This research prepared by Asst. Prof. Dr. Amara Tirasriwat. The research granted by The Federation of Accounting Professions under the Royal Patronage of His Majesty the King. สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ xiii
สารบญั เร่อื ง หนา้ สารบัญ i สารบัญตาราง vi สารบัญแผนภาพ iii บทคัดย่อ Abstract vii บทสรปุ ผู้บรหิ าร xi บทท่ี 1 บทนา หนา้ 1.1 ความสาคัญ และความเป็นมา 1-1 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย 1-2 1.3 ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะได้รับ 1-2 1.4 คาศัพทส์ าคัญ 1-3 1.5 ขอบเขตของการวจิ ยั 1-3 2 หลักการ แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจยั ที่เก่ยี วข้อง 2-1 2.1 หลกั การตามความตกลงการยอมรับร่วมกันของอาเซียนสาหรับสาขาบรกิ ารวิชาชีพบัญชี 2-2 2.2 หลักการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2-3 2.3 แนวคดิ การเคล่อื นยา้ ยแรงงานมีฝีมืออยา่ งเสรี 2-6 2.4 แนวคิดและทฤษฎเี กี่ยวกับความพร้อม 2-9 2.5 งานวิจัยท่เี กีย่ วขอ้ ง 2-12 2.6 สมมุติฐานของงานวิจยั 2-12 2.7 กรอบแนวคิดของการวจิ ยั 3-1 3 ระเบยี บวธิ ีวจิ ัย 3-1 3.1 วิธีวิจัย 3-3 3.2 ประชากรและตัวอยา่ ง ทใี่ ช้ในการศึกษา 3-10 3.3 เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3.4 การวดั ค่า และประมวลผล สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2-i
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแข่งขันของผู้ประกอบวิชาชพี บญั ชไี ทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชิกอาเซียน ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรับร่วมบรกิ ารวชิ าชพี บญั ชี บทที่ หนา้ 4 ขอ้ คน้ พบ 4-1 4.1 ผลจากการศึกษาจากขอ้ มูลทตุ ยิ ภูมิ เอกสารการคา้ บรกิ าร และขอ้ ผกู พนั การเปิด ตลาดบริการเฉพาะบริการวิชาชพี บญั ชี ภายใตค้ วามตกลงว่าดว้ ยบริการของ 4-19 อาเซยี น (AFAS) ขอ้ ผกู พันการเปดิ ตลาดชดุ ที่ 9 4-42 4.2 ผลจากการศกึ ษาจากข้อมูลปฐมภูมทิ ีไ่ ดจ้ ากแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ 4-46 4.3 การจดั ลาดับเหตุผลทีส่ ่งผลตอ่ การตดั สนิ ใจประกอบวชิ าชพี ในประเทศผู้รับใน 5-1 ASEAN หรอื ไม่ เพราะเหตุใด 5-8 4.4 ปญั หาและขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกบั การประกอบวิชาชพี บัญชไี ทยในประเทศผู้รับ ASEAN ผก-1 5 บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ ผข-1 5.1 สรปุ ผลการศกึ ษา ผค-1 5.2 ขอ้ เสนอแนะ 1 ภาคผนวก ก แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ ภาคผนวก ข รายช่อื สานักงานบัญชีคุณภาพทีผ่ ่านการรับรองคุณภาพ การทดสอบคา่ สมั ประสิทธขิ์ องความเชื่อมัน่ ค่าCronbach's alpha ภาคผนวก ค รายการขอ้ คาถามของแบบสอบถาม บรรณานกุ รม ii สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแขง่ ขันของผูป้ ระกอบวชิ าชีพบัญชไี ทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ อาเซียน ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรับร่วมบริการวิชาชพี บญั ชี สารบญั ตาราง หน้า 2-5 ตาราง 2-9 2.1 กฎระเบียบขอ้ บงั คบั ในการควบคุมการใหบ้ ริการวิชาชีพบัญชีของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชี 3-2 3-3 ไทยในฐานะประเทศแหล่งกาเนิด 3-5 2.2 งานวจิ ัย วชิ าการและการศึกษาในอดีตที่เกย่ี วขอ้ ง 3-8 3.1 จานวนประชากร และ จานวนตัวอย่าง จากผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชีในสานกั งานบัญชีระดับ 3-10 4-2 สากลในประเทศไทย 4-5 3.2 จานวนประชากร และ จานวนตัวอยา่ ง จากผ้ปู ระกอบวชิ าชพี บัญชใี นสานกั งานบัญชี 4-19 คณุ ภาพประเทศไทย 4-20 3.3 ตวั แปรนามธรรม (Construct) และขอ้ คาถามที่เป็นตัวบ่งชท้ี ี่นามาเป็นตวั วดั คา่ 4-20 4-21 (Measurement Items) 3.4 การวดั ค่าความสอดคลอ้ งระหว่างข้อคาถามกบั วัตถุประสงค์ (IOC: Index of Item- Objective Congruence) 3.5 การทดสอบคา่ สัมประสทิ ธขิ์ องความเชอ่ื ม่นั ค่า Cronbach's alpha ของรายการขอ้ คาถาม 4.1 การจัดหมวดบรกิ ารวิชาชพี บญั ชี 4.2 ตารางเปรียบเทยี บข้อผูกพันการคา้ บริการสาขาบริการวชิ าชีพบญั ชีเฉพาะแบบการจดั ตง้ั ธรุ กจิ (Mode 3-(3)) และการใหบ้ รกิ ารโดยบุคคลธรรมดา (Mode4-(4)) ของสมาชิก อาเซยี นภายใตค้ วามตกลงวา่ ดว้ ยบรกิ ารของอาเซยี น (Asian Framework Agreement on Services – AFAS) ชุดที่ 9 และการจัดต้ังธรุ กจิ ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มกี ฎระเบียบตามขอ้ ตกลงด้านกฎหมาย ข้อจากัดของประเภทธรุ กจิ อัตราการถอื หุ้นของ ตา่ งชาติ 4.3 จานวนและอัตราผตู้ อบแบบสอบถาม 4.4 จานวนผตู้ อบแบบสอบถามจาแนกตามเพศ อายุ และระดบั การศกึ ษาในวชิ าชพี บัญชีใน สาขาต่างๆ 4.5 จานวนผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามสาขาอาชีพบญั ชีในปจั จบุ นั 4.6 จานวนผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามจานวนปีประสบการณก์ ารทางานในวิชาชีพบัญชี ในสาขาตา่ งๆ สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ iii
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) หนา้ การศึกษาความพรอ้ มในการแขง่ ขนั ของผูป้ ระกอบวิชาชีพบัญชไี ทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซยี น 4-21 ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรบั ร่วมบริการวชิ าชีพบัญชี 4-22 4-23 ตาราง 4.7 จานวนผู้ตอบแบบสอบถามทไ่ี ด้รับใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพการบัญชี การสอบบัญชี 4-25 ในระดับประเทศ และระดบั สากล 4-26 4.8 การประเมินศกั ยภาพตนเองในการประกอบวิชาชพี บัญชสี าขาตา่ งๆ ในประเทศผรู้ บั ใน 4-28 ASEAN 4-29 4.9 การประเมนิ สมรรถนะดา้ นความรู้ ความสามารถทางเทคนคิ ของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชไี ทย 4-30 4-30 ตามความเปน็ จรงิ ในปัจจบุ ันและการประเมนิ ความต้องการจาเป็นของผปู้ ระกอบวชิ าชีพ 4-31 บญั ชีไทยในประเทศสมาชกิ อ่นื ในอาเซียน 9 ประเทศในฐานะประเทศผู้รับ 4-32 4.10 การประเมินสมรรถนะด้านความถนดั /ทักษะของผ้ปู ระกอบวชิ าชพี บัญชไี ทยตาม ความเป็นจรงิ ในปัจจบุ ันและการประเมินความต้องการจาเป็นของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชี ไทยในประเทศสมาชกิ อ่นื ในอาเซียน 9 ประเทศในฐานะประเทศผู้รับ 4.11 การประเมินสมรรถนะดา้ นคณุ ค่า จริยธรรม ทัศนคติต่อวชิ าชพี และคุณสมบัติอนั พงึ ประสงคข์ องผปู้ ระกอบวิชาชพี บัญชไี ทยตามความเป็นจริงในปจั จบุ นั และการประเมิน ความต้องการจาเป็นของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีไทยในประเทศสมาชิกอ่ืนในอาเซยี น 9 ประเทศในฐานะประเทศผ้รู บั 4.12 ผลการวเิ คราะห์ความแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบัติของผ้ปู ระกอบวิชาชีพบัญชีท่ีมี เพศแตกต่างกัน 4.13 ผลการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบัติของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบัญชที ่ีมี อายุแตกตา่ งกนั 4.14 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบตั ิของผู้ประกอบวชิ าชีพบญั ชที ี่มี สาขาอาชพี บัญชแี ตกตา่ งกัน 4.15 ผลการวิเคราะห์ความแตกต่างรายคโู่ ดยวิธี Scheffe คา่ เฉลีย่ ของระดบั การเห็นคณุ ค่า จริยธรรม ทัศนคติตอ่ วชิ าชีพ จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพในสาขาต่างกนั 4.16 ผลการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบัตขิ องผปู้ ระกอบวิชาชีพบญั ชที ่ีมี ประสบการณ์สาขาวชิ าชพี บญั ชใี นอดีตแตกตา่ งกัน 4.17 ผลการวิเคราะห์ความแตกต่างรายคูโ่ ดยวิธี Scheffe ของค่าเฉล่ียของระดบั ความรู้ และ การเหน็ คณุ คา่ จริยธรรม ทศั นคติต่อวชิ าชีพ จากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพในสาขาตา่ งกัน iv สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแข่งขันของผปู้ ระกอบวชิ าชพี บัญชไี ทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชิกอาเซยี น ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรบั รว่ มบรกิ ารวิชาชีพบัญชี ตาราง หนา้ 4.18 ผลการวเิ คราะหค์ วามแตกต่างรายคโู่ ดยวิธี Scheffe ของค่าเฉลย่ี ของระดับความรู้ และ 4-33 การเหน็ คุณค่า จรยิ ธรรม ทัศนคติตอ่ วชิ าชพี จากกล่มุ ผปู้ ระกอบวิชาชีพบญั ชที ม่ี ี 4-34 ประสบการณใ์ นอดตี ต่างกัน 4-34 4.19 ผลการวเิ คราะห์ความแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีท่ีมี 4-35 ระดบั /ขนาดองค์กรแตกต่างกัน 4-36 4.20 ผลการวิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่โดยวธิ ี Scheffe ของคา่ เฉล่ยี ของระดับความร้จู าก กลุม่ ผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชที ีท่ างานในองคก์ รทมี่ ีขนาดตา่ งกัน 4-37 4.21 ผลการวิเคราะห์ความแตกต่างรายคโู่ ดยวิธี Scheffe ของคา่ เฉลย่ี ของระดบั ความถนดั 4-38 จากกล่มุ ผู้ประกอบวชิ าชพี บัญชที ี่ทางานในองค์กรท่ีมขี นาดต่างกัน 4-39 4.22 ผลการวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งรายคู่โดยวิธี Scheffe ของค่าเฉลีย่ ของระดบั การเห็นคุณค่า 4-39 จริยธรรม ทัศนคตติ ่อวิชาชพี จากกลุ่มผ้ปู ระกอบวชิ าชพี บญั ชีที่ทางานในองค์กรท่ีมี 4-40 ขนาดต่างกัน 4.23 ผลการวเิ คราะห์ความแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบัติของผปู้ ระกอบวิชาชีพบัญชที ี่มี 4-41 วุฒิการศึกษาแตกตา่ งกนั 4-42 4.24 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบตั ิของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชีท่ีมี ใบประกอบวชิ าชพี ระดบั ประเทศแตกตา่ งกนั 4.25 ผลการวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งรายคโู่ ดยวิธี Scheffe ของค่าเฉลี่ยของระดับความร้จู ากกลุ่ม ผูป้ ระกอบวิชาชีพบัญชที ี่ใบอนุญาตทาบัญชี สอบบญั ชรี ะดับประเทศตา่ งกัน 4.26 ผลการวิเคราะหค์ วามแตกต่างรายคู่โดยวิธี Scheffe ของค่าเฉลี่ยของทกั ษะ จากกลุ่ม ผปู้ ระกอบวชิ าชีพบัญชีท่ีใบอนญุ าตทาบัญชี สอบบญั ชีระดับประเทศต่างกนั 4.27 ผลการวิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่โดยวิธี Scheffe ของค่าเฉลี่ยของระดับการเหน็ คุณคา่ จริยธรรม ทัศนคตติ อ่ วชิ าชีพ จากกลุม่ ผู้ประกอบวิชาชพี บัญชีทีใ่ บอนญุ าตทาบัญชี สอบ บัญชีระดับประเทศตา่ งกัน 4.28 ผลการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบตั ขิ องผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชที ี่มี ใบประกอบวิชาชีพระดับสากลแตกต่างกนั 4.29 ผลการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนของสมรรถนะและคุณสมบัติของผ้ปู ระกอบวชิ าชีพบัญชีที่มี จานวนปีประสบการณ์การทางานแตกตา่ งกนั สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ v
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) หนา้ การศึกษาความพรอ้ มในการแข่งขันของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ อาเซียน 4-43 ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั รว่ มบรกิ ารวิชาชพี บญั ชี 4-43 4-44 ตาราง 4-44 4.30 จานวนและรอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถามที่ประเมนิ ระดับความพร้อม และความตอ้ งการ 4-45 4-46 ในการประกอบวิชาชีพในประเทศผรู้ ับ ASEAN 5-2 4.31 ค่าเฉลี่ยและการจัดลาดับเหตผุ ลของนักบญั ชีมอื อาชพี ท่พี รอ้ มและต้องการไปประกอบอาชีพ 5-6 ใน ประเทศผรู้ บั ใน ASEAN 4.32 การจัดลาดับประเทศ ผรู้ บั ใน ASEAN ท่นี ักบญั ชีมอื อาชีพไทยท่ีพร้อม และต้องการไป ประกอบวิชาชีพ 4.33 คา่ เฉลีย่ และการจดั ลาดบั เหตผุ ลของนกั บญั ชีมืออาชพี ที่พรอ้ มแต่ไมต่ ้องการไปประกอบ อาชพี ใน ประเทศผรู้ บั ใน ASEAN 4.34 ค่าเฉลี่ยและการจดั ลาดับวธิ กี ารเตรยี มความพร้อมของนักบญั ชีมอื อาชีพทไี่ ม่พร้อม แตต่ อ้ งการไปประกอบอาชีพใน ประเทศผรู้ บั ใน ASEAN 4.35 ค่าเฉลย่ี และการจดั ลาดบั เหตุผลของนักบัญชีมืออาชพี ท่ไี ม่พรอ้ มและไมต่ ้องการไปประกอบ อาชีพใน ประเทศผรู้ บั ใน ASEAN 5.1 ขอ้ กาหนดการเขา้ สู่ตลาดและข้อผกู พันในการจัดตัง้ ธุรกจิ และการให้บรกิ ารโดยบุคคล ธรรมดาของคนตา่ งชาตใิ นประเทศผ้รู บั ของ ASEAN ของผ้ปู ระกอบวชิ าชพี บญั ชี องิ ตาม AFAS ชดุ ที่ 9 (2016) 5.2 การทดสอบความแตกตา่ งระหว่างกล่มุ ของผู้ประกอบวิชาชพี บัญชีไทย สารบญั แผนภาพ หน้า 2-13 เรอื่ ง แผนภาพที่ 2.1 กรอบแนวคิด และระเบยี บวธิ ีวิจยั vi สภาวิชาชพี บญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
บทที่ 1 บทนำ 1.1 ควำมสำคัญ และควำมเป็นมำ การเปดิ เสรที างการคา้ การบรกิ าร การลงทนุ และแรงงานฝมี ือของสมาชิกในกลุ่มประเทศสมา ชิก อาเซียน (Association of Southeast Asian Nations: ASEAN) 10 ประเทศ มีวัตถุประสงค์หลักเพ่ือให้ อาเซียนเป็นตลาดเดียว และฐานการผลิตร่วมกัน อันเป็นการเสรมิ สรา้ งและเพ่ิมศักยภาพในการพฒั นา เศรษฐกิจ สังคมของประเทศและการแข่งขันกับประเทศตา่ งๆในภูมิภาคอื่นๆ การเปิดเสรีแรงงานฝีมือของ ผู้ประกอบวิชาชีพท่ีเป็นผู้เช่ียวชาญเฉพาะสาขา สาขาบรกิ ารวิชาชีพบัญชีเป็นสาขาอาชีพบริการหนึง่ ท่ี ขาดแคลน และเป็นท่ตี ้องการของ ASEAN ด้านการเปิดเสรีแรงงานฝีมือ ประเทศสมาชิกอาเซ๊ยนมีการเจรจาตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangement : MRA) ถงึ รปู แบบ และคุณสมบัติของนักวชิ าชีพอันประกอบด้วยวุฒิการศึกษา ใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพ ประสบการณ์ สญั ชาติ ถนิ่ ทอ่ี ยู่ และคุณสมบตั ิอนื่ ๆ ตามข้อกาหนดของแต่ ละสาขาวิชาชีพ ซง่ึ กาหนดว่าการท่ีผู้ใหบ้ ริการที่ได้รบั การรบั รองคุณสมบัตวิ ิชาชีพโดยหน่วยงานที่ควบคุม กากบั ดแู ลทม่ี อี านาจในประเทศตน อนั เปน็ ประเทศถิ่นกาเนิด (Original Country) จะได้รับการยอมรับโดย หน่วยงานที่มีอานาจในประเทศอาเซียนอ่ืน อันเป็นประเทศผู้รับ (Host Country) โดยสอดคล้องกับ กฎระเบียบในประเทศท่ีเก่ียวข้อง ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของโอกาสการเคล่ือนย้ายแรงงาน ให้มีการออก ใบอนญุ าต หรือใบรบั รองคุณวุฒิให้แก่ผูใ้ ห้บรกิ ารก่อนที่จะมีการให้ใบอนุญาตทางาน (Work Permit) จาก หนว่ ยงาน องคก์ รของประเทศผรู้ บั ซ่ึงเปน็ ขั้นตอนท่สี อง และนาเอกสารใบอนุญาต หรอื ใบรับรองคณุ วฒุ ิ และ ใบอนญุ าตทางาน เปน็ หลักฐานดาเนนิ การตามขั้นตอนขออนุญาตพานักในประเทศผ้รู ับตามระเบยี บการ ขอ ใบอนุญาตเขา้ เมืองในสถานะผู้ทางาน และการผ่านพธิ กี ารเขา้ เมือง (Immigration) อันเปน็ ข้นั ตอนสุดท้าย ของการเคลื่อนยา้ ยแรงงาน กระบวนการขัน้ ตอนแรกของการกา้ วเขา้ สู่ AEC ในการเคล่อื นยา้ ยแรงงานฝีมือสาขาวชิ าชพี บญั ชีไทย ต้องได้รับการยอมรับจากประเทศผูร้ บั ตามข้อตกลงร่วมกนั ดงั ปรากฏในการลงนามร่วมกนั ในแถลงการณ์ Bali Concord II ในการประชมุ สดุ ยอดอาเซียนคร้ังที่ 9 เมือ่ วันท่ี 7 ตลุ าคม พ.ศ. 2546 ณ เกาะบาหลี ประเทศ อนิ โดนเี ซยี ซึ่งไดก้ าหนดกรอบความตกลงว่าดว้ ยบริการของอาเซยี น (ASEAN Framework Agreement on Services : AFAS) และมีการเจรจาขอ้ ตกลงยอมรบั รว่ มกนั ในการประชมุ รัฐมนตรเี ศรษฐกิจอาเซียน ครงั้ ท่ี 40 เมื่อวันท่ี 25 สงิ หาคม พ.ศ. 2551 และล่าสุด 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการลงนาม MRA สาหรบั สาขา สภาวชิ าชีพบัญชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ 2-1
รำยงำนฉบับสมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแขง่ ขันของผปู้ ระกอบวิชาชพี บญั ชีไทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใต้ข้อตกลงการยอมรับร่วมบรกิ ารวิชาชพี บัญชี บรกิ ารวชิ าชีพบญั ชี ซ่งึ ทาให้มผี ลบงั คบั ใช้ต้ังแต่วันท่ี 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เพ่อื อานวยความสะดวก และลดอปุ สรรคทจ่ี ะทาการเคลื่อนยา้ ยแรงงานฝีมือของวิชาชีพบญั ชี ความชดั เจนของกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลงใน การเคลื่อนย้ายแรงงานของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีแขนงต่างๆ อันประกอบด้วยผู้ทาบัญชี ผู้สอบบัญชี ผใู้ หบ้ ริการปรึกษาทางการบัญชี บคุ ลากรทางการศกึ ษาและเทคโนโลยที างการบญั ชี การรับรแู้ ละความเขา้ ใจ ในประเด็นตา่ งๆ เกีย่ วกบั MRA ของผ้ปู ระกอบวชิ าชพี บญั ชีไทยอยู่ในระดบั ใด มีความชดั เจนมากนอ้ ยเพียงใด ในรายละเอยี ดของประเทศผู้รบั และประเทศถนิ่ กาเนิดคาถามเหล่าน้ียังมีนักบญั ชีมืออาชีพของแต่ละสาขา ต้องการหาคาตอบท่ชี ดั เจนอยใู่ นขณะน้ี 1.2 วตั ถุประสงค์ของกำรวจิ ัย กำรวิจัยนมี้ ีวตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือ 1. ศึกษาถงึ การเคลอื่ นย้ายแรงงานฝีมือการบริการวิชาชีพบัญชไี ทยตามกฎเกณฑ์ของ MRA ในประเด็น ต่างๆ 1.1 กฎระเบยี บ ข้อบงั คับทเ่ี ปน็ การตกลงยอมรบั ร่วมกนั ของประเทศไทย ในฐานะประเทศถนิ่ กาเนิด 1.2 กฎระเบียบ ข้อบังคบั ทเ่ี ปน็ การตกลงยอมรบั รว่ มกนั ของประเทศไทย ในฐานะประเทศผู้รับ 1.3 กฎระเบยี บ ขอ้ บงั คับที่เปน็ การตกลงยอมรับร่วมกันของประเทศสมาชิกอน่ื 9 ประเทศ ของ ASEAN ในฐานะประเทศผู้รบั 2. ประเมินตนเองของนักบัญชีมืออาชีพไทยเกย่ี วกบั สมรรถนะในการให้บริการในสาขาอาชีพดา้ นการทา บญั ชี การสอบบญั ชี บัญชภี าษอี ากร และการให้คาปรึกษาทางการบัญชีในประเทศสมาชิกอน่ื ใน ASEAN 9 ประเทศ ในฐานะประเทศผรู้ บั เพ่อื วิเคราะห์ความพร้อมในการแขง่ ขันของผ้ปู ระกอบวิชาชพี บัญชไี ทย 1.3 ประโยชนท์ คี่ ำดวำ่ จะได้รับ 1. ระดบั บคุ คล ช่วยเพ่มิ ความรู้ ความเขา้ ใจแก่ผูป้ ระกอบวิชาชีพบัญชีไทยเก่ยี วกับข้อปฏิบัติตาม ข้อตกลงการยอมรับรว่ มกัน และช่วยให้พัฒนาตนเองให้มี สมรรถนะ มีความพร้อมท่ีจะมีการเคลื่อนย้าย แรงงานฝมี ือวิชาชพี บญั ชอี ย่างเสรสี ู่ ASEAN 2. ระดับองค์กร กิจการท่ีให้บริการวิชาชีพบัญชีในแขนงต่างๆ ได้ทราบเกณฑ์ ข้อกาหนดเพ่ือ การบรหิ ารจดั การองคก์ รใหส้ อดคล้องกบั ขอ้ ตกลงขององค์กรผู้ควบคุมและกากับดแู ลผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชี 3.ระดบั หน่วยงาน ผู้ควบคมุ กากับดแู ล/ผ้อู อกกฎ ข้อบังคับ ออกมาตรการและระเบียบทีส่ ามารถเพ่ิม ความแขง็ แกร่งของสมรรถนะผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีไทย แก้ไขปัญหา อปุ สรรค ข้อเสยี เปรียบตา่ งๆ เพ่ือ พฒั นาความรู้ ความสามารถ และยกระดับศักยภาพในการแขง่ ขนั ใหส้ ูงข้นึ 1-2 สภาวชิ าชีพบัญชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
รำยงำนฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแข่งขนั ของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีไทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของอาเซียน ภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรบั รว่ มบรกิ ารวิชาชีพบัญชี 1.4 คำศพั ท์สำคัญ สมรรถนะ (Competency) คือ คุณลักษณะของบุคคลประกอบดว้ ย ความรู้ ทกั ษะ ความสามารถ และคณุ สมบตั ิตา่ งๆ อนั ไดแ้ ก่ ค่านยิ ม จริยธรรม บคุ ลิกภาพ คุณลกั ษณะทางกายภาพ และอืน่ ๆ ซ่ึงจาเปน็ และ สอดคล้องกบั ความเหมาะสมกับองค์การ (อา้ งใน อานนท์ ศกั ดิ์วรวชิ ญ์ (2547): 61) นอกจากน้ีสมรรถนะ คือ ความสามารถที่จะทาหน้าที่การงานได้ถึงระดับตามท่ีกาหนดไว้ในมาตรฐานโดยขน้ึ อยู่กับสภาพแวดลอ้ ม การทางานจรงิ (คณะกรรมการการศกึ ษาสหพนั ธน์ ักบญั ชนี านาชาติ, (2012)) ควำมพร้อม (Readiness) คอื ลักษณะของบคุ คลท่ีมีครบตามความตอ้ งการ ประกอบดว้ ยสภาพที่มี วุฒิภาวะ แรงจูงใจ และประสบการณเ์ ดิมสงู พอทีจ่ ะกอ่ ให้เกิดการเรยี นรไู้ ด้โดยสะดวก ข้อตกลงยอมรับร่วมข องอำเซียน (ASEAN Mutual Recognition Arrangement : MRA) คือ ขอ้ ตกลงยอมรับร่วมในเร่อื งคุณสมบัติและความชานาญดา้ นวิชาชีพของนกั วชิ าชีพอาเซียน ซึ่งเป็นข้อตกลง เกี่ยวกับการแสวงหาจุดยอมรับร่วมกันเร่ืองคุณสมบัติของผู้ทางานด้านบริการโดยเฉพาะในกลุ่มท่ีเป็น นักวชิ าชพี ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ วศิ วกร สถาปนิก นกั บญั ชี พยาบาล นกั สารวจ ผ้ใู หบ้ ริการการโรงแรม และการท่องเทย่ี ว (กรมเจรจาการค้าระหวา่ งประเทศ, (2556)) ผู้ประกอบวิชำชีพบัญชี (Professional Accountants : PA) หรือ นักบัญชมี ืออำชีพ (Practicing Professional Accountant : PPA) หมายถึง ผู้ประกอบการวิชาชีพที่มีความเช่ียวชาญและชานา ญการ ทางการบัญชี มีคุณสมบัติทางเทคนิค ศีลธรรม และกฎหมาย ในการประกอบวิชาชีพบัญชีโดยอิสระ มีแบบแผนและเป็นระบบ ไดร้ บั การขึ้นทะเบยี นเป็นสมาชิก และ/หรือได้รบั ใบอนุญาตใหป้ ระกอบวชิ าชีพบัญชี (คณะกรรมการวชิ าชพี บญั ชี สภาวชิ าชีพบญั ชใี นพระบรมราชูปถมั ภ์ พ.ศ. 2557) และวิชำชพี บญั ชี หมายถงึ วชิ าชพี ในดา้ นการทาบัญชี ดา้ นการสอบบัญชี ด้านการบัญชีบริหาร ด้านการวางระบบบัญชี ดา้ นการบัญชี ภาษอี ากร ดา้ นการศกึ ษาและเทคโนโลยีการบัญชี (พระราชบัญญตั ิวชิ าชพี บัญชี พ.ศ. 2547) 1.5 ขอบเขตของกำรวิจยั ในการศกึ ษานี้กาหนดขอบเขตของการวจิ ัย ดังน้ี 1. ผปู้ ระกอบวิชาชีพบญั ชี (Professional Accountants: PA) หรอื นกั บัญชีมอื อาชีพ (Practicing Professional Accountants: PPA) กาหนดขอบเขต ประกอบดว้ ย ผทู้ าบัญชี ผสู้ อบบญั ชี นักบญั ชีภาษอี ากร และผใู้ หบ้ รกิ ารด้านการปรกึ ษาทางการบัญชี เทา่ นัน้ 2. ประชากรและตัวอย่างของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชี หรือนักบัญชีมืออาชีพไทย กาหนดเฉพาะ บุคลา กร ที่ทา งา น ใน สา นักงา น บัญชีร ะ ดับ สา กล ที่ปร ะก อบ กิจ กา ร ใน ปร ะ เท ศไท ย ได้แ ก่ PricewaterhouseCoopers ABAS Ltd KPMG Poomchai Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos Ernst สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 1-3
รำยงำนฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแข่งขนั ของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชีไทยภายในกล่มุ ประเทศสมาชิกของอาเซยี น ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรบั รว่ มบริการวิชาชพี บญั ชี & Young Grant Thornton Mazars TMF และ BDO และผู้ประกอบการ/ผู้บริหารสานักงานบญั ชี คุณภาพท่ีผ่านการรับรองของกรมพัฒนาธรุ กิจการค้า ในกรุงเทพมหานครฯ ปริมณฑล และจังหวัดตา่ งๆ ทุกภมู ิภาค 1-4 สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
บทที่ 2 หลักการ แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยทเี่ กีย่ วขอ้ ง 2.1 หลกั การตามความตกลงการยอมรับรว่ มกนั ของอาเซยี นสาหรับสาขาบริการวชิ าชพี บัญชี กรอบความตกลงร่วมว่าด้วยข้อตกลงการยอมรับร่วมในสาขาบัญชีของอาเซียน (ASEAN Mutual Recognition Arrangement Framework on Accountancy Services : MRA Framework) (กรมเจร จ า การค้าระหว่างประเทศ, 2554) โดยมีหลักการสาคัญ คือ กาหนดแนวทางเพื่อใช้เป็นพ้ืนฐานในการเจรจา ทาข้อตกลงยอมรบั รว่ ม ดา้ นบญั ชีในอนาคตของอาเซียน ไมว่ ่าจะเป็นการเจรจาสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย โดยวาง หลักเกณฑ์พ้ืนฐานสาหรบั การยอมรับ สาระสาคัญของข้อตกลงยอมรบั ร่วมหลักเกณฑ์ความสามารถดา้ น วิชาชีพและคุณสมบัตติ ่างๆ ประกอบด้วยการศึกษา การสอบ ประสบการณ์ กระบวนการใหก้ ารยอมรับ ระบบ ขอ้ มูลเอกสาร ระเบียบวินัยและหลักจริยธรรม มาตรฐานและแนวปฏิบัตสิ ากล หลักเกณฑก์ ารยอมรับในเร่ือง มาตรฐานและแนวปฏบิ ัตสิ ากล ดงั นน้ั วตั ถุประสงค์ของ MRA จงึ ประกอบด้วย (1) การอานวยความสะดวกใน การเคลือ่ นยา้ ยบุคลากรวชิ าชีพในประเทศสมาชิกอาเซยี น และ (2) เพอื่ ใหเ้ กดิ การแลกเปลี่ยนข้อมลู การปฏิบัติ ที่เป็นเลิศ (Best practices) ในการสอนและฝึกอบร มบุคลา กรวิชาชีพ โดยใช้สมรร ถน ะเป็น ห ลัก (Competency-based) ท้งั นี้เพ่อื ร่วมมือและเสริมสรา้ งความสามารถในหมู่สมาชิกอาเซียน และช่วยยกระดับ มาตรฐานและการลดช่องว่างความแตกต่างของบคุ ลากร จากความตกลงยอมรับรว่ มสาหรับสาขาบริการวชิ าชีพบญั ชี ลงวนั ท่ี 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 ในมาตรา 4 ข้อ 4.1 ได้กาหนดคุณสมบัติของของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Accountant : ACPA) ไว้ 5 ประการดังน้ี 1. สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาทางบัญชีหรือผ่านการทดสอบในโปรแกรมทางบัญชีท่ีได้รบั การยอมรบั โดยองคก์ รวิชาชีพบัญชีในประเทศถ่ินกาเนิดหรือประเทศผูร้ ับว่าเทียบเท่ากับระดับการ ศึกษา ดงั กล่าว 2. มกี ารขึ้นทะเบยี นหรอื มใี บอนญุ าตยังไม่สน้ิ ผลในปัจจุบัน เพอ่ื ประกอบวชิ าชีพบัญชใี นประเทศถิ่น กาเนิด ซึ่งออกใหโ้ ดยองคก์ รวิชาชีพบัญชแี ละสอดคล้องกับนโยบายภายในประเทศดา้ นการขึน้ ทะเบียน การ อนญุ าต/การรบั รองในการประกอบวิชาชพี บัญชี 3. มปี ระสบการณใ์ นด้านวิชาชีพบัญชีท่เี ก่ียวข้อง ไมน่ อ้ ยกว่า 3 ปี สะสมไดภ้ ายในระยะเวลา 5 ปี หลงั จากมคี ุณสมบัติทางดา้ นการศกึ ษาตามข้อ (1) 4. ปฏิบัติสอดคล้องตามนโยบายการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง (Continuous Professional Development : CPD) ของประเทศถน่ิ กาเนิด สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ 2-1
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแข่งขนั ของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบัญชีไทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของอาเซียน ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั ร่วมบริการวชิ าชีพบัญชี 5. ได้รบั ใบรับรองจากองคก์ รวิชาชีพบญั ชีของประเทศถิ่นกาเนดิ และไม่มีประวัตกิ ารกระทาผิดอย่าง ร้ายแรงดา้ นเทคนิค มาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศในการปร ะกอบ วชิ าชีพบัญชี ในมาตรา 6 ของ MRA สาหรบั สาขาบรกิ ารวชิ าชพี บญั ชี กาหนดข้ันตอนการจดทะเบยี นเป็นนักบัญชี อาเซยี น นกั บัญชที ีต่ ้องการจดทะเบียนเป็นนกั บัญชีอาเซียน ต้องผา่ นการประเมินจากคณะกรรมการ กากับ ดแู ล (Monitoring Committee : MC) ในแตล่ ะประเทศ และการดาเนินงานในสว่ นของอาเซยี นจะอยภู่ ายใต้ การดูแลของคณะกรรมการประสานงานด้านวิชาชีพบัญชีอาเซียน ( ASEAN Chartered Professional Accountant Coordinating Committee : ACPACC) ซง่ึ ประกอบดว้ ยผู้แทนจากคณะกรรมการกากับดูแล ของประเทศสมาชิก การไปประกอบวิชาชีพบญั ชีในตา่ งประเทศ ผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชอี าเซียนที่ได้รับการ ตดิ ต่อจากตา่ งประเทศให้เขา้ ไปร่วมงานทางวิชาชีพบัญชี สามารถไปข้ึนทะเบยี นกั บองคก์ รวิชาชีพบัญชีใน ประเทศนั้นๆ และต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ กฎหมายต่างๆ ภายในประเทศผ้รู ับ และยังคงต้องรักษา กฎ ระเบยี บ การเป็นผูป้ ระกอบวิชาชีพบัญชภี ายในประเทศไทย 2.2 หลักการประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน ประชาคมอาเซียน : ASEAN Community ประกอบด้วย 3 เสาหลัก (1) ประชาคมความรว่ มมอื ทางเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) (2) ประชาคมความร่วมมือทา งด้า น ความมั่นคงทางการเมืองอาเซียน (ASEAN Political-Security Community : APSC) และ (3) ประชาคม ความร่วมมือด้าน สังคมและวัฒนธร รมอา เซียน (ASEAN Socio-Cultural Community : ASCC) ซ่ึงมี เป้าหมายส่งเสริมอาเซียนให้เป็นตลาดและฐานผลติ เดียว มีการเคลอื่ นย้ายสินค้า บริการ และการลงทุน แรงงานฝมี อื และเงนิ ทนุ อยา่ งเสรี ภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ.2015) และไดก้ าหนดวัตถปุ ระสงค์สาคัญ 4 ดา้ น คือ 1. การเป็นตลาดเดียวและฐานการผลิตร่วมกัน ให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า อย่างเสรี โดยมุ่งเนน้ การลดอุปสรรคในการนาเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศสมาชิก อานวยความสะดวกทางการคา้ มีการจดั ตงั้ ASEAN Single Window เพอ่ื ความสะดวกในการติดต่อประสานหนว่ ยงานโดยย่นื เอกสาร เพียง จุดเดียว การเคล่ือนยา้ ยบรกิ ารอย่างเสรี มีการเจรจาเพ่ือลดอุปสรรคในการเข้ามาประกอบธุรกจิ บรกิ าร ผู้บริโภคมีเสรีภาพทจ่ี ะเลอื กใช้บรกิ ารต่างๆ ตามความพึงพอใจ โดย มีสาขาเร่งด่วน 5 สาขา ได้แก่ สาขา ท่องเท่ียว การบิน สุขภาพ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และโลจสิ ตกิ ส์ การลงทุนอย่างเสรี ได้มกี ารจัดทาความตกลง ด้านการลงทุนของอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement : ACIA) โดยครอบคลุม เน้ือหา การคุม้ ครองการลงทุน การอานวยความสะดวกและความรว่ มมอื ในการลงทุน การส่งเสรมิ การลงทุน 2-2 สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์
รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแขง่ ขันของผู้ประกอบวชิ าชพี บญั ชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใต้ข้อตกลงการยอมรับรว่ มบริการวิชาชีพบัญชี และการเปดิ เสรีการลงทุน เพื่อเป็นการเพิ่มและรกั ษาระดับความสามารถของอาเซียนในการดึงดูดการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศและการลงทุนภายในภูมิภาคอาเซยี นด้วยกัน การเคลอ่ื นย้ายแรงงานฝมี ือ โดยสร้าง มาตรฐานทช่ี ดั เจนของแรงงานมฝี ีมือ และอานวยความสะดวกใหก้ ับแรงงานมฝี ีมือท่ีมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน ที่กาหนดใหส้ ามารถเคลือ่ นย้ายไปทางานในกล่มุ ประเทศสมาชิกได้ง่ายขึน้ และการเคล่ือนย้ายเงินทุนอยา่ งเสรี โดยสง่ เสรมิ การพัฒนาตลาดทนุ ประเทศสมาชิกยังสามารถมมี าตรการเพื่อรักษาเสถยี รภาพและความม่ัน คง ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ 2. การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียนโดยส่งเสริมกรอบ นโยบาย ด้านเศรษฐกิจที่สาคัญ คือ นโยบายการแข่งขันของอาเซียน สิทธิในทรัพย์สินทางปญั ญา นโยบายภาษี การคุ้มครองผู้บริโภค และการพัฒนาโครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นการเงิน การขนส่ง เทคโนโลยสี ารสนเทศ และ พลังงาน 3. การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค เพ่ือลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเท ศส มา ชิก โดยกา ร สนับสนุน การพัฒน าวิสา หกิจ ขน าดกลา งและขน าดย่อม ( SMEs) พัฒน า และเสริมสร้าง ขีดความสามารถผา่ นโครงการต่างๆ ภายใตก้ รอบการรเิ รมิ่ การรวมกลุ่มของอาเซียน (Initiative for ASEAN Integration: IAI) เพอ่ื ลดช่องวา่ งการพฒั นาทางเศรษฐกจิ 4. การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก เนน้ การปรับประสานนโยบายเศรษฐกจิ ของอาเซียนที่มีต่อ ประเทศภายนอกภมู ภิ าค เชน่ การจดั ทาเขตการค้าเสรี และการสร้างเครอื ขา่ ยด้านการผลติ การเตรยี มพร้อม ในการรองรบั การเคล่อื นยา้ ยแรงงานเสรีทจ่ี ะมีข้ึนในอนาคต 2.3 แนวคิดการเตรียมพร้อมการเคล่ือนย้ายแรงงานมีฝมี อื อยา่ งเสรี การเตรียมพรอ้ มในการรองรบั การเคล่อื นย้ายแรงงานเสรี มหี ลกั การและแนวทาง ดงั นี้ 1. การพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะผู้ใชแ้ รงงาน ประเทศไทยมจี ุดแข็งอย่างมากในภาคบริการ การท่องเที่ยว การบริการด้านสุขภาพ การรักษาพยาบาล การดูแลผ้สู ูงอายุ และด้านศัลยกรรม จึงเปน็ ท่ีคาดหมายวา่ เมอ่ื มกี ารเปิดเสรีภาคบริการในอาเซียน ภาคบริการดังกลา่ วจะเปน็ ภาคธุรกจิ ที่ได้รับประโยชน์ คอ่ นขา้ งมาก และในอนาคตการส่งออกแรงงานจะเปน็ ช่องทางนารายได้จากต่างประเทศเขา้ สปู่ ระเทศไทย จานวนมหาศาล นอกจากนแี้ รงงานฝีมอื วชิ าชีพบญั ชีอันเป็นที่ตอ้ งการของ AEC กค็ วรมีการเตรียมพร้อมใน การพฒั นาแรงงานที่อยู่ในตลาดแรงงานและแรงงานทจ่ี ะออกสู่ตลาดแรงงานให้มสี มรรถนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านภาษาอังกฤษหรือภาษาอน่ื ในชีวิตประจาวนั ประเทศในภูมิภาคอาเซียนท้ังหลายควรร่วมกนั จัดตั้ง หนว่ ยงานระดับนานาชาติขึ้นมาดแู ลปัญหาของกลุ่มคนงานทไี่ ด้รบั ผลกระทบจากการเปิดเสรีด้วยการฝกึ อบรม สภาวชิ าชพี บัญชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 2-3
รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศึกษาความพรอ้ มในการแขง่ ขันของผปู้ ระกอบวิชาชพี บญั ชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซยี น ภายใต้ข้อตกลงการยอมรับรว่ มบริการวิชาชพี บัญชี ความรู้ความชานาญใหม่ การฝึกอบรมจะทาให้ตลาดแรงงานมีความยืดหยนุ่ และทาใหก้ ารเคลื่อนยา้ ยระหว่าง ประเทศและระหว่างภมู ภิ าคอาเซียน 2. การป้องกนั สภาวะ “สมองไหล” เมื่อการเปดิ เสรีทางการบริการทาให้การเคล่ือนย้ายแรงงาน ของผู้ใชแ้ รงงานที่มีทักษะ ผู้บริหาร นักวชิ าการหรอื ผูเ้ ช่ยี วชาญเฉพาะดา้ นจากประเทศหน่งึ ไปยังปร ะเท ศ สมาชกิ อื่นของอาเซียนมากขนึ้ โดยมเี หตุผลที่เปน็ ส่ิงจงู ใจท้ังทางดา้ นการเงินในรูป ค่าตอบแทน สวสั ดิการ และทางด้านอื่นท่ีไม่ใช่อยู่ในรูปเงินตรา เชน่ ช่ือเสยี ง เกียรติยศท่ีดีกวา่ ประกอบอาชีพในไทย จงึ ทาให้เกิด สภาพ “สมองไหล” ของบคุ ลากรมืออาชีพท่ีมีคุณภาพโดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ทางด้านวิชาการ และก่อให้เกิด ปญั หาตอ่ การพัฒนาประเทศ ดังน้นั การทจี่ ะทาให้ไม่เกิดสมองไหล ประเทศไทยต้องคานึงถึงสวัสดิการและ ค่าตอบแทนท่ีดีและจูงใจ กฎหมายที่เกี่ยวกับแรงงานและสวัสดิการแรงงานใน ประเทศไทย ได้แก่ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2540 พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 พระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. 2533 พระราชบญั ญตั เิ งนิ ทดแทน พ.ศ. 2537 พระราชบญั ญัติแรงงานวิสาหกจิ สัมพันธ์ พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติการทางานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กฎหมายเหล่าน้ถี ูกนามาใช้กบั ชาวต่างประเทศท่ีเขา้ มาทางานในประเทศไทยด้วย ดงั นน้ั หากประเทศไทยสามารถจดั การกฎหมายสวัสดิการ แรงงานได้ดี ก็จะทาให้แรงงานมีฝีมือจากตา่ งประเทศเข้ามาทางานในประเทศไทยมากข้ึน และทาให้เกิด การลงทุนตามมา รวมทัง้ แรงงานมฝี ีมือ หรือผ้เู ช่ยี วชาญเฉพาะดา้ นของไทยก็จะไม่มีความจาเป็นที่จ ะต้อง เดินทางไปทางานในตา่ งประเทศ การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือวชิ าชีพบัญชไี ทยเข้าไปทางานในต่างประเทศ (สภาวชิ าชีพบัญชีฯ (2557)) การเป็นนักบัญชีอาเซียน และการเป็นนักบัญชีต่างด้าวจดทะเบียนป ระเทศถิ่นกาเนิดจะต้อง ดาเนินการ (1) มีคณุ สมบัติเป็น ASEAN Chartered Professional Accountant : ACPA) (2) กรอกใบสมัคร (3) ผมู้ อี านาจกากบั ดแู ลด้านวิชาชีพ (MC) ตรวจสอบ (4) อนมุ ัติ ชาระคา่ ธรรมเนยี มและ (5) ขึน้ ทะเบยี นเป็น ACPA หลังจากท่ขี ึ้นทะเบยี นเป็นนักบัญชีอาเซียนแล้ว หากมีความประสงค์จะไปทางานต่างประเทศ จะตอ้ ง ดาเนนิ การย่ืนขออนุญาตเปน็ นกั บัญชีตา่ งด้าวจดทะเบยี น (Registered Foreign Professional Accountant : RFPA) ทปี่ ระเทศผู้รบั ท่ีมีความประสงค์จะไปทางาน นกั บญั ชตี ่างด้าวจดทะเบียนจะไม่สามารถปร ะกอบ วิชาชพี เพียงลาพังในประเทศผรู้ ับ แตจ่ ะต้องปฏิบัตงิ านร่วมกับนักบัญชีวิชาชีพของประเทศผู้รับ โดยต้อง ปฏิบตั ติ ามความตกลงยอมรับร่วมของบรกิ ารวิชาชีพบัญชีชุดที่ 9 อันประกอบด้วยขอ้ ผูกพันเฉพาะของแต่ละ ประเทศที่แตกตา่ งกนั ในแตล่ ะกลุ่มของประเภทการบริการ (รายละเอียดในบทท่ี 4 ข้อ 4.1) ผปู้ ระกอบ วิชาชีพบัญชีไทยจาต้องทราบกฎระเบียบและคุณสมบัติในวิชาชีพขอ งตนตามเกณฑ์ในประเทศถ่นิ กาเนิด 2-4 สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์
รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Final Report) การศึกษาความพรอ้ มในการแขง่ ขนั ของผปู้ ระกอบวิชาชพี บัญชไี ทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรบั รว่ มบริการวิชาชพี บัญชี อนั เป็นคุณสมบัติเบ้ืองต้น หรือขัน้ พืน้ ฐาน ก่อนทจ่ี ะก้าวเข้าสู่การเคลื่อนย้ายอาชีพของตนไปในประเทศกลุ่ม สมาชิกอาเซยี นอืน่ ๆ ได้ กฎระเบยี บขอ้ บงั คับในการควบคุมการให้บริการวิชาชพี บญั ชีของผ้ปู ระกอบวิชา ชีพ บัญชีไทยในฐานะประเทศถน่ิ กาเนิด เฉพาะสาขาด้านการทาบญั ชี การสอบบัญชี และการบริการใหค้ าปรกึ ษา ทางการบัญชี ดังรายละเอียดในตาราง 2.1 ตาราง 2.1 กฎระเบยี บขอ้ บังคบั ในการควบคุมการให้บริการวิชาชีพบัญชีของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีไทย ในฐานะประเทศถิ่นกาเนดิ ประเด็น การทาบญั ชี สาขาวชิ าชีพ การบรกิ ารให้คาปรึกษา สญั ชาติ ไทย การสอบบญั ชี ทางการบญั ชี ไทย ไมม่ ขี ้อจากัด การยอมรับใบอนญุ าต ไมม่ ีขอ้ จากดั ผสู้ อบบญั ชีรับอนญุ าต(CPA) ไม่มีข้อจากดั ประกอบวชิ าชีพ ผู้สอบบัญชีภาษีอากร(TA) วฒุ ิการศึกษา ประ กา ศนี ยบั ตรวิชาชีพ ปรญิ ญาตรีทางการบญั ชี ปรญิ ญาตรี ประสบการณก์ ารทางาน ไมม่ ขี อ้ จากัด ชน้ั สูง (ปวส.) ทางการบญั ช/ี ปรญิ ญาตรีทางการบญั ชี ไมม่ ีขอ้ จากดั 3 ปี กา รควบคุ ม ลั กษณะ ก า ร ขนึ้ ทะเบยี นเปน็ ผ้ทู าบัญชี ผ่านการทดสอบ 6รายวิชาสาหรบั ไม่มขี ้อจากดั ให้บริการ CPA ผ่านการทดสอบ3รายวชิ าสาหรับTA - อายใุ บอนญุ าต ใบอนุญาตคงอยู่ ตามเงอ่ื นไขการ ใบอนุญาตคงอยู่ ตามเงื่อนไขการ ไมม่ ขี ้อจากดั ชาระค่าธรรมเนยี มใบอนุญาต ชาระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และ และค่าธรรมเนยี มสมาชกิ สภาฯ คา่ ธรรมเนียมสมาชิกสภาฯรายปี รายปี - เกณฑ์ในการตอ่ ใบอนุญาต เ กณฑ์ การพัฒนาความรู้ เกณฑก์ ารพฒั นาความรู้ ไม่มขี อ้ จากดั อยา่ งต่อเนอื่ ง 12 ช่ัวโมงตอ่ ปี อยา่ งตอ่ เนือ่ ง 40 ชว่ั โมงต่อปี** การเปน็ สมาชกิ ของสภาวิชาชพี เป็นสมาชิกสภาฯแบบสามญั เปน็ สมาชิกสภาฯแบบสามัญ เป็นสมาชิกสภาฯ บญั ชใี นพระบรมราชูปถมั ภ์ แบบสามัญ * มาตรฐานการศึกษาสากลสาหรับผู้ประกอบวิชาชพี บัญชี (ฉบบั ปรับปรุง Volume 2012) ฉบับที่ 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) เร่มิ บังคับใช้ 1 กรกฎาคม 2558 ** สภาวชิ าชพี บญั ชฯี (2559) เร่มิ บังคบั ใช้ 1 มกราคม 2560 สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2-5
รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแขง่ ขนั ของผู้ประกอบวชิ าชพี บญั ชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั ร่วมบรกิ ารวชิ าชีพบัญชี 2.4 แนวคิดและทฤษฎเี ก่ียวกับความพร้อม ความพร้อม หมายถึง สภาพของบุคคลท่ีมีวุฒิภาวะ แรงจูงใจ และประสบการณ์เดิมสูงพอท่จี ะ กอ่ ให้เกิดการเรยี นรูไ้ ดส้ ะดวก การเตรยี มความพรอ้ ม หมายถงึ การเตรียมตวั เองกอ่ นกระทาการ หรอื ทางาน ท่ีจะทาหรอื ไดร้ บั มอบหมายเปน็ การทาความเข้าใจในงานท่จี ะทา ศึกษาหาข้อมูลเก่ียวกับงานและ หน่วยงานที่ จะเขา้ รว่ มปฏบิ ัติในทุกๆ ด้าน รวมท้งั กฎระเบียบข้อบังคับตา่ งๆ (นงลกั ษณ์ ศิริพิศ, สุชญา มานวกลุ และ ปฐมาภรณ์ คาชน่ื (2556)) วชิ ญาพร สวุ รรณเทน (2541:30) ให้ความหมายความพร้อม หมายถงึ การทบี่ ุคคลมีความสนใจและ มีความรู้ความสามารถตลอดจนมีความถนดั ที่จะกระทาบางสงิ่ บางอยา่ งให้ สาเร็จลุล่วงโดยได้เตรียมการ ไวล้ ว่ งหน้า จากความหมายดังกลา่ วสรุปได้ว่า ความพรอ้ ม หมายถึง สภาพที่บคุ คลมภี าวะสมบูรณท์ ้ังทางรา่ งกาย จิตใจ ความรู้ ความสามารถ ความถนดั ในการทากจิ กรรมต่างๆ และเตรียมพรอ้ มในการทีจ่ ะปฏิบัติหน้า ท่ีให้ สามารถลลุ ่วงและสาเรจ็ ภารกจิ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ องคป์ ระกอบความพรอ้ ม ของ Downing & Thackrey (1971, pp.14-16, อ้างถงึ ใน นวรัตน์ พ.ต.ต., 2545:17) ประกอบของความพรอ้ ม 4 กล่มุ ได้แก่ (1) องคป์ ระกอบทางกายภาพ ได้แก่ การบรรลุวฒุ ิภาวะ ด้านร่างกายทั่วไป (2) องค์ประกอบด้านสติปัญญา ได้แก่ ความพร้อมด้านความสามารถในการรับรู้ ความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผล (3) องค์ประกอบด้านสิ่งแวดลอ้ ม ได้แก่ ประสบการณ์ด้านสังคม สภาพแวดล้อม รอบตัว และ (4) องค์ประกอบด้านอารมณ์แรงจูงใจและบุคลิกภาพ ได้แก่ ความมั่นคง ทางอารมณ์ 2.4.1 แนวคิดและทฤษฎีเกีย่ วกับสมรรถนะ (Concepts and Theory of Competency (อ้างใน เทอ้ื น ทองแก้ว, 2554) ในปี ค.ศ. 1982 Richard Boyatzis ได้เขียนหนังสือชอื่ The Competent Manager : A Model of Effective Performance และไดน้ ิยามคาว่า competencies เป็นความสามารถในงานหรือเป็นคุณลกั ษณะที่ อยภู่ ายในบุคคลทนี่ าไปสกู่ ารปฏิบัตงิ านใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพ Scott B. Parry (1997) ได้ให้คานยิ ามของ สมรรถนะ คือ กลุ่มของความรู้ (knowledge) ทักษะ (skills) และคุณลักษณะ (attributes) ทเี่ ก่ยี วข้องกัน ซึ่งมผี ลกระทบต่องานหลักของตาแหนง่ งานหนึ่งๆ โดย กลุ่มความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะดังกล่าวสัมพันธ์กับผลงานของตาแหน่งงานนนั้ ๆ และสามารถวดั ผล 2-6 สภาวชิ าชพี บญั ชี ในพระบรมราชูปถัมภ์
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแข่งขันของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชไี ทยภายในกลุม่ ประเทศสมาชิกของอาเซียน ภายใตข้ อ้ ตกลงการยอมรบั รว่ มบรกิ ารวิชาชพี บัญชี เทียบกับมาตรฐานทีเ่ ปน็ ท่ยี อมรับ และเป็นสง่ิ ท่ีสามารถเสรมิ สรา้ งขึ้นได้ โดยผา่ นการฝกึ อบรมและการพัฒนา (อา้ งใน สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ 2004: 48) David C. Mc Clelland นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลยั ฮาวาร์ด ได้ให้คานิยามของ สมรรถนะ คอื บคุ ลกิ ลักษณะท่ีซอ่ นอยภู่ ายในปจั เจกบุคคล ซงึ่ สามารถผลกั ดนั ให้ปัจเจกบุคคลนัน้ สร้างผลการปฏบิ ตั งิ านที่ดี หรือตามเกณฑท์ กี่ าหนดในงานทีต่ นรบั ผดิ ชอบ จากคานิยามของสมรรถนะของนักวชิ าการหลายท่านดังกลา่ วข้างต้น (อา้ งใน อานนท์ ศักด์วิ รวิชญ์ (2547 : 61) ได้สรุปคานยิ ามของสมรรถนะ คอื คุณลกั ษณะของบุคคล ซ่งึ ไดแ้ ก่ ความรู้ ทักษะ ความสามารถ และคุณสมบัติต่างๆ อนั ไดแ้ ก่ คา่ นยิ ม จริยธรรม บุคลิกภาพ คณุ ลักษณะทางกายภาพ และอื่นๆ ซง่ึ จาเป็นและ สอดคลอ้ งกับความเหมาะสมกบั องคก์ าร โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งต้องสามารถจาแนกได้ว่าผ้ทู ี่จะประสบความสา เร็จ ในการทางานได้ต้องมีคุณลกั ษณะเด่นๆ อะไร หรือลักษณะสาคญั ๆ อะไรบ้าง ดงั น้ัน จึงสรปุ องค์ประกอบของ สมรรถนะประกอบด้วย 5 ส่วนคือ (1) ความรู้ (knowledge) คือ ความรเู้ ฉพาะในเรอื่ งทีต่ อ้ งรู้เปน็ ความรู้ที่เป็น สาระสาคัญ (2) ทกั ษะ (skill) คอื สง่ิ ที่ต้องการให้ทาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ทกั ษะที่เกดิ ไดน้ น้ั มาจากพ้ืนฐาน ทางความรู้ และสามารถปฏิบัตไิ ดอ้ ย่างแคล่วคล่องว่องไว (3) หลกั การแนวคิดตนเอง (self– concept) คอื เจตคติ ค่านิยม และความคิดเห็น เกี่ยวกับภา พลักษณ์ของตน หรือสิ่งท่ีบุคคลเช่ือว่าตน เอ ง เป็น (4) บุคลิกลกั ษณะประจาตัวของบุคคล (traits) เป็นสิ่งทอ่ี ธิบายถึงบคุ คลนัน้ เช่น คนทน่ี า่ เชอื่ ถอื และไว้วางใจ ได้ หรือมีลักษณะเป็นผู้นา (5) แรงจูงใจ/เจตคติ (motives/attitude) เป็นแรงจูงใจ หรือแรงขับภายใน ซ่งึ ทาใหบ้ คุ คลแสดงพฤตกิ รรมทม่ี งุ่ ไปสู่เปา้ หมาย หรือมุ่งสคู่ วามสาเร็จ ความรู้ความสามารถเย่ียงผู้ปร ะกอบวิชาชีพ คือ ความสามารถในการทาหน้า ท่ีให้เป็ น ไป ตามมาตรฐานทีร่ ะบุไว้ ความร้คู วามสามารถเย่ียงผู้ประกอบวิชาชีพ ประกอบด้วย ความรคู้ วามสามาร ถทาง เทคนิค ทักษะทางวิชาชีพ และคุณค่า จริยธรรม และทัศนคติทางวิชาชีพ (สภาวิชาชีพบัญชฯี , มาตรฐาน การศกึ ษาสากลสาหรบั ผ้ปู ระกอบวิชาชีพบญั ชี (ฉบับปรับปรุง Volume 2012) ฉบับท่ี 6, หน้า 4) โครงสร้างของรูปแบบสมรรถนะ ในการจัดกลุ่มสมรรถนะของบุคคลออกเป็น 4 มิติ ประกอบด้วย (1) มิติด้านความรู้หรือทักษะ (knowledge skills) ประกอบดว้ ยสมรรถนะที่เน้นในดา้ นความรู้ ทกั ษะในงานที่รบั ผิดชอบ (2) มิติด้านการมี ปฏิสัมพันธ์ (interaction) ประกอบด้วยสมรรถนะต่างๆ ได้แก่ การมีมนุษย์สัมพันธแ์ ละการประสานงาน ในการปฏิบัติงาน การทางานเป็นทมี การมจี ิตสานกึ ในการให้บริการ (3) มิติดา้ นคุณลักษณะและจริยธร รม (trait and ethic) ประกอบดว้ ยสมรรถนะตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ความซื่อสตั ย์สจุ ริต การเสยี สละ การมเี จตคติที่ดีต่อ องคก์ าร ความมีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม และความรบั ผดิ ชอบตอ่ การทางานตามหน้าท่ี และ (4) มติ ดิ ้านการคิด สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ 2-7
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแขง่ ขันของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซียน ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั รว่ มบรกิ ารวิชาชพี บัญชี วิเคราะห์ (analytical thinking) ประกอบด้วยสมรรถนะต่างๆ ได้แก่ ความคิดเชิงระบบ ความคิดริเริ่ม สรา้ งสรรค์ การเชือ่ มโยงเปน็ องค์รวม ( อ้างใน ชัชวาลย์ ทัตศิวชั , 2554) 2.4.2 หลกั การ แนวคิดมาตรฐานการศึกษาสากลของสาขาการบัญชี คุณสมบัติของนักบัญชีมืออาชีพตามข้อกาหนดของ IES (International Education Standards : IES) อ้างใน สันสกฤต วิจิตรเลขการ (2549) ตามมาตรฐานการศึกษาระหว่างประเทศในสาขาการบญั ชี (International Education Standard : IES) ฉบับที่ 6 ที่ออกโดย สมาชิกของสหพัน ธ์นักบัญชีสา กล (International Federation of Accountance IFAC)) ประกอบด้วยข้อกาหนดคุณสมบัติของนัก บัญชี มืออาชีพ (Practicing Professional Accountant : PPA) ซึ่งสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถมั ภ์แหง่ ประเทศไทยกน็ ามาบังคับใช้กบั สถาบันการศึกษาในประเทศไทยเชน่ เดยี วกนั กบั IFAC ดังรายละเอียดดงั น้ี (1) นกั บญั ชมี ืออาชีพจะตอ้ งสาเร็จการศึกษาขนั้ ตา่ ทางดา้ นบญั ชีในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จากสถาบนั การศกึ ษาที่เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรวชิ าการบญั ชี ซึ่งไดก้ าหนดวิธีการคัดเลือกเข้าศึกษา ด้านการบัญชีอย่างเป็นระบบ และมีการจัดการเก่ียวกับหลักสูตรการบัญชีการบัญชี ( Content of Professional Accounting Education Programs) ท่ีจะทาให้ผู้สาเร็จการศึกษามีความรู้ทางวิชาชีพบญั ชี ระดบั สงู และสามารถพฒั นาตนเองเป็นนกั บัญชีมืออาชพี ได้ในอนาคต ใน IES ฉบับท่ี 2 ได้แบ่งองคค์ วามรู้ใน หลกั สูตรการบัญชีเปน็ 3 ส่วน คอื การบัญชี การเงนิ และความรอู้ ่นื ท่เี ก่ยี วข้อง (Accounting, Finance and Related Knowledge) ความรู้เกีย่ วกบั ธุรกจิ ขององคก์ ร (Organizational and Business Knowledge) (2) นักบัญชีมืออาชีพต้องมีทักษะทางวิชาชีพ (Professional Skills) ในด้านต่างๆ ได้แก่ ทักษะ ดา้ นสตปิ ญั ญา (Intellectual Skill) ทกั ษะด้านเทคนิคท่วั ไปและเทคนิคเฉพาะเกี่ยวกับวิชาชีพ (Technical Skill) ทกั ษะสว่ นบคุ คล (Personal Skill) ทกั ษะในการสื่อสารและการทางานรว่ มกับผู้อน่ื (Interpersonal and Communication Skill) และทักษะด้าน การจัดการ ทางธุร กิจและองค์กร ( Organizational and Business Management Skills) (3) นักบัญชีมืออาชีพต้องมีคุณค่าและมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพอันอยู่บน พื้นฐานของจริยธร ร ม (Professional Value, Ethic and Attitudes) ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อสังคม ความซ่ือสัตย์ต่อวิชาชีพ ความสามารถในการรกั ษาความลับ และความเปน็ อิสระ (4) นกั บญั ชมี ืออาชีพจะต้องมีการสะสมประสบการณ์ (Experience) เป็นระยะเวลานานและเข้มข้น เพียงพอท่จี ะแสดงใหเ้ ห็นวา่ เปน็ นักบัญชีทม่ี ีความรแู้ ละมที ักษะทางวิชาชีพ รวมทงั้ มคี วามรู้และทศั นคติที่ดีต่อ วิชาชีพอันอยู่บนฐานของความมีจริยธรรม โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดและมี กระบวนการตรวจสอบอยา่ งมมี าตรฐานและสมา่ เสมอ 2-8 สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์
รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศึกษาความพร้อมในการแขง่ ขนั ของผูป้ ระกอบวชิ าชีพบัญชีไทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ ของอาเซียน ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรบั รว่ มบริการวชิ าชพี บัญชี (5) นักบัญชีมืออาชีพจะต้องสอบผ่านการปร ะเมิน ควา มสามารถทางวิชา ชีพ ( Professional Capabilities) ซึ่งจะเป็นการประเมินความรู้และทักษะทางด้านวิชาชีพ ตลอดจนการมีคุณค่า ทัศนคติ ทางวิชาชีพและจริยธรรม (6) นักบัญชีมืออาชพี จะต้องมีการเรียนรู้ตลอดชีพ (Lifelong Learning) โดยถือเป็นภาระหนา้ ที่ ที่จะตอ้ งพัฒนา และรักษาความสามารถด้านวิชาชีพ โดยมกี ฎเกณฑ์และขอ้ บังคับให้นกั บญั ชีได้มโี อกาสได้ พัฒนาความรู้ความสามารถทางดา้ นวชิ าชีพอยา่ งตอ่ เน่อื งและเปน็ รูปธรรม 2.4.3 ทฤษฎคี วามตอ้ งการจาเป็น ความต้องการจาเปน็ (Needs Assessment) หมายถงึ การวิเคราะห์ความแตกต่างระหวา่ งสิ่งท่ีควร จะเป็นและส่ิงท่ีเป็นอยใู่ นปัจจุบนั หากมีความขัดแย้งระหวา่ งความแตกต่างท่ีพบก็จะชีใ้ ห้เห็นถึงปัญหาที่ เกิดข้นึ (มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช, 2546: 6) วิเคราะห์และจัดลาดับความต้องกา รจา เป็น ใช้สูตร Modified Priority Needs Index (PNI Modified) ซ่ึงเป็นดัชนีจัดเรยี งลาดบั ความสาคัญของความต้องการจาเป็นที่ใช้หลักการประเมนิ ความแตกต่าง และเปน็ สูตรที่ นงลักษณ์ วริ ัชชยั และสวุ ิมล ว่องวานชิ (2542) ไดป้ รับสตู รการคานวณมาจากค่าดชั นี PNI โดยใช้หลักการกาหนดความต้องการจาเป็นจา กระดับสภา พปัจจุบัน แล้วจัดลาดับควา มสาคัญ ของ ความตอ้ งการจาเป็นตามคา่ PNI Modified โดยใช้สตู รในการคานวณ PNI Modified = (������−������) ������ เมอื่ PNI Modified หมายถึง ดัชนกี ารจัดเรยี งลาดบั ความสาคญั ของความต้องการจาเปน็ I = Importance หมายถงึ คา่ เฉลีย่ (Mean) ของสภาพท่คี าดหวัง คอื ระดับความต้องการ D = Degree of Success หมายถงึ ค่าเฉลยี่ (Mean) ของสภาพปัจจบุ ัน 2.5 งานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้อง งานวจิ ยั วิชาการและการศกึ ษาในอดีตที่เก่ียวขอ้ งกับการพัฒนาความรู้ความสามารถ และการเพิ่ม ศกั ยภาพในการแขง่ ขันแรงงานฝมี ือของผปู้ ระกอบวชิ าชพี บัญชี ดงั รายละเอียด ตาราง 2.2 ตาราง 2.2 งานวจิ ัย วชิ าการและการศกึ ษาในอดีตทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ผู้ศกึ ษา/วิจัย (ปีพ.ศ.) ขอ้ คน้ พบจากการศกึ ษา จุ ฑ า ม น สิ ทธิ ผลวนิช การพัฒนาศักยภาพวิชาชพี บัญชีไทยเม่อื เปดิ เสรีทางเศรษฐกจิ มีการดาเนนิ มาตรการต่างๆ และ กลุ ณัฐชา วฒั นวไิ ล (1) ให้มกี ารกาหนดมาตรฐานสอดคล้องกบั สากล ทงั้ มาตรฐานการบญั ชีการสอบบัญชีและ (2554) มาตรฐานอนื่ ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง (2) ให้มีการเขา้ ร่วมเป็นกรรมการในองค์กรวิชาชีพบัญชีสากล เพอื่ การเพ่ิมระดบั ความรคู้ วามเข้าใจ และแนวทางในการเพ่ิมขดี ความสามารถทางการแข่งขัน สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 2-9
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแข่งขันของผูป้ ระกอบวิชาชพี บญั ชไี ทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซียน ภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรับร่วมบริการวชิ าชพี บัญชี ผู้ศกึ ษา/วิจยั (ปีพ.ศ.) ข้อค้นพบจากการศกึ ษา ในระดบั นานาชาติ (3) ให้มกี ารจัดตั้งสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพบญั ชี มงุ่ เนน้ การ สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ทันสมยั และทนั เหตุการณ์ (4) การใหค้ าแนะนาในการจัดทาบญั ชีแก่วสิ าหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นฐานธุรกิจที่สาคัญของไทย และ (5)การพัฒนามาตรฐาน การศึกษาดา้ นวิชาชพี การบัญชีตามมาตรฐานการศึกษาสากลสาหรบั ผ้ปู ระกอบวิชาชีพบัญชีซึ่งเป็นการ ยกระดบั ศกั ยภาพบญั ชบี ณั ฑิตไทยใหพ้ ร้อมรับมอื และเพม่ิ โอกาสเมื่อการเปิดเสรีทางเศรษฐกจิ เกิดขึ้น นฤมล สุมรรคา (2554) ปัจจัยท่มี ผี ลกระทบต่อความพรอ้ มของบคุ ลากรทางบญั ชใี นเขตพ้นื ท่ีจงั หวัดสระบรุ ี เพือ่ รองรบั ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พบว่า (1) ระดับการศึกษาของบุคลากรมีผลต่ อความพร้ อม ดา้ นวชิ าชีพ ด้านภาษา ด้านกฎหมายและด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และในส่วนของประสบการณ์ การการทางานทางบัญชีมีผลต่อความพร้อมอยใู่ นระดับปานกลาง และ (2) ความรู้ความเข้าใจทาง ประชาคมอาเซียนของบุคคลากรทางบัญชใี นสถานประกอบการมีความสัมพนั ธใ์ นทางทิศเดียวกั นกับ ความพร้อมของบุคคลากรทางบญั ชีเพ่ือท่จี ะสามารถรองรบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียนในด้านวิชาชีพ ทางบัญชี กานดาวรรณ แก้วผาบ (1) อปุ สรรคในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนของนกั ศึกษาคณะบัญชีอันดบั แรก คือ (2555) ภาษาอังกฤษ และสทิ ธิมนุษยชนเปน็ อุปสรรคในลาดบั ท้ายสุด (2) ความพร้อมของนักศึกษาใน การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนสามารถเรียงจากมากไปน้อยได้แก่ ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยีสารสนเทศ ค่าครองชีพของแต่ละประเทศ สิทธิมนุษยชนของแต่ละประเทศ การติดตอ่ ส่อื สารทางสอื่ ต่างๆ การคมนาคม ความรู้ทางวชิ าชพี บัญชี ทกั ษะการทางานรว่ มกับ ผู้อื่น เช้ือชาติและศาสนาของแต่ละประเทศ (3) ผลการเรียนเฉลี่ยของนักศึกษาไม่มี ความสมั พนั ธ์อยา่ งมนี ยั สาคัญ กบั ความพร้อมในการก้าวส่ปู ระชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น ลดั ดา หิรญั ยวา (2555) (1) นกั การบัญชีไทยที่มคี วามพร้อมในการใช้มาตรฐานการบัญชโี ดยรวมอยู่ในระดบั มาก (2)นักการบัญชีไทยที่มเี พศแตกต่างกัน/อายุแตกต่างกัน/อาชพี / การศกึ ษา/ประสบการณท์ างาน/ ความถีใ่ นการรับข้อมลู ท่แี ตกตา่ งกันทาให้มคี วามพร้อมในการใชม้ าตรฐานการบัญชีตามกรอบ มาตรฐานกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียนด้านของมาตรฐานทางการบัญชี ไมแ่ ตกต่างกันอยา่ งมนี ัยสาคญั วลัยลกั ษณ์ สวุ รรณวลยั กร, ความคาดหวังและความพรอ้ มของวิชาชีพสอบบญั ชีไทยในการแขง่ ขนั ในประชาคมเศรษฐกิจ มนวกิ า ผดุงสทิ ธิ์ (2556) อาเซียนพบว่า (1) คุณสมบัติทผี่ ูบ้ ังคับบัญชาคาดหวงั จากผู้ประกอบวชิ าชีพสอบบญั ชมี ากท่สี ดุ คือ ความมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม รองลงมาคอื การมคี วามรับผดิ ชอบในหนา้ ที่การงาน และความรู้ ความสามารถดา้ นภาษาองั กฤษ (2) คณุ สมบตั ิด้านความรู้ ความสามารถในเรือ่ งทักษะ การทางานของผปู้ ระกอบวชิ าชพี สอบบัญชีท่สี าคัญมากทสี่ ุด 3 อันดบั ได้แก่ ทักษะด้านภาษา ความรูเ้ กย่ี วกบั มาตรฐานการบญั ชี และความรบั ผดิ ชอบในหน้าทีก่ ารงาน (3) ผปู้ ระกอบวิชาชพี สอบบัญชมี ีความพร้อมในคุณสมบัตสิ าหรบั การแขง่ ขนั ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั ภาษี ระหวา่ งประเทศ ความรูเ้ กย่ี วกับกฎหมายธุรกิจ ขอ้ บงั คบั ท่เี ปลยี่ นแปลงไปภายใต้ การเป็น ประชาคมอาเซียน และความรคู้ วามเขา้ ใจธรุ กจิ ท่ตี รวจสอบ น ง ลั ก ษ ณ์ ศิ ริ พิ ศ , ปัจจัยทม่ี ผี ลต่อความพร้อมของนกั บญั ชไี ทยกบั การเปดิ เขตการคา้ เสรอี าเซียน (ASEAN) สุ ชญา มานวกุ ล และ คือ ความรู้และศักยภาพในเชงิ รุก คอื การพฒั นาเพอื่ เพ่ิมสมรรถนะในตนเองใหก้ ้าวทันโลก ปฐมาภรณ์ คาชืน่ (2556) ในยคุ โลกาภวิ ัฒน์ แบง่ ออกเป็น 4 ด้าน (1) ความรู้ดา้ นวชิ าชีพบัญชี (2) ความรดู้ ้านภา ษา (3) ความร้ดู ้านกฎหมาย และ(4) ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 2-10 สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแข่งขนั ของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีไทยภายในกลุม่ ประเทศสมาชิกของอาเซียน ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั รว่ มบริการวชิ าชีพบัญชี ผู้ศึกษา/วจิ ยั (ปพี .ศ.) ขอ้ คน้ พบจากการศึกษา บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ การเตรยี มความพรอ้ มสาหรับผู้ประกอบวิชาชพี บญั ชี ไดแ้ ก่ (1) เพิม่ การลงทนุ ด้านโปรแกรม ผู้อานวยการสานักงาน บัญชี (Accounting Software) เพอ่ื ใช้ในการจัดทาบัญชี และสอบบัญชี (2) อบรมและพฒั นา การค้าบริการและการ ความรคู้ วามสามารถของผทู้ าบัญชี ผูส้ อบบัญชอี ย่างต่อเนอ่ื ง (3) เนน้ การให้บรกิ ารท่มี ลี ักษณะ ลงทนุ กรมเจรจาการคา้ ที่เปน็ การเฉพาะมากข้ึน เชน่ การใหบ้ รกิ ารสอบบญั ชีตามประเภทธุรกิจหรืออตุ สาหกรรม ระหว่างประเทศ (2557) (4) แข่งขนั ในดา้ นค่าธรรมเนยี ม โดยเสนอบรกิ ารทถี่ ูกกวา่ สาหรบั ระดบั การบรกิ ารทมี่ คี ุณภาพ ทดั ทยี มกัน หรอื ดกี ว่า และ (5) ขยายขนาดสานกั งาน โดยการควบรวมกจิ การกบั สานักงาน อน่ื ๆ เพ่อื ดึงดูดลกู ค้าที่เปน็ ธรุ กจิ ขนาดใหญ่และบริษทั ขา้ มชาติ ปรัศนีย์ กายพนั ธ,์ ประเดน็ ความพรอ้ มดา้ นทักษะวชิ าชีพบัญชีของนกั บญั ชีไทยโดยภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมาก นธี เหมมันต์(2557) นกั วิชาชพี บัญชมี ีความพร้อมดา้ นทักษะทางปฏสิ มั พันธ์ระหว่างบคุ คลและการสอ่ื สาร มากท่ีสุด รองลงมาเปน็ ทกั ษะทางปรชั ญา ทักษะทางวิชาการเชิงปฏิบตั แิ ละหนา้ ทง่ี าน และทกั ษะทาง คณุ ลกั ษณะเฉพาะบคุ คล มทั นชัย สทุ ธิพนั ธ์ุ (1) ความพร้อมสงู สุดของผู้จัดทาบัญชไี ทยตอ่ การเข้ามาของประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน คือ (2557) ความรับผดิ ชอบตอ่ งานที่ได้รับมอบหมาย จรรยาบรรณของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชี ทกั ษะ การทางานเป็นทีมและทักษะการใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พ่อื การสือ่ สาร (2) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจยั ทมี่ อี ิทธิพลตอ่ การพฒั นาและความพร้อมของผู้จดั ทาบญั ชไี ทย คือ จรรยาบรรณของผูป้ ระกอบ วิชาชีพบัญชี ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพบญั ชี ทักษะการใช้ระบบสารสนเทศทาง การบญั ชี ทกั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์เพื่อการสื่อสาร ทักษะการทางานเป็นทมี ความรู้และทกั ษะ ด้านภาษาอังกฤษ ความรูเ้ ก่ยี วกับประเพณี วฒั นธรรม ความร้แู ละทักษะด้านภาษาอ่นื ๆ และ ความรับผดิ ชอบต่องานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย วีรยุทธ สุขมาก และ ความคิดเหน็ ของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชเี กี่ยวกบั ปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ การเพมิ่ มูลคา่ ของผู้ประกอบ กนกศกั ด์ิ สขุ วัฒนาสินิทธ์ิ วชิ าชพี บญั ชี เพ่อื เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น ปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ การเพมิ่ มลู คา่ (2557) ของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชปี ระกอบดว้ ย ความรคู้ วามสามารถในดา้ นตา่ ง ๆ (1) ดา้ นมาตรฐาน การรายงานทางการเงิน (2) ดา้ นภาษีอากร (3) ดา้ นจรรยาบรรณของผูป้ ระกอบวิชาชี พบัญชี (4) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการบัญชี (5) ดา้ นภาษาองั กฤษ และภาษาอน่ื ในกลมุ่ ประเทศ อาเซยี น (6) ดา้ นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และ (7) ดา้ นความสามารถในการเรียนรู้ เพ่อื ปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับสังคม และวัฒนธรรมของกลุม่ ประเทศอาเซยี น สภาวิชาชีพบัญชี ฝ่าย ความพรอ้ มสาหรับผปู้ ระกอบวชิ าชีพบัญชี เพือ่ เตรียมเขา้ ส่ปู ระชาคมอาเซียน ไดแ้ ก่ ตา่ งประเทศ (2557) (1) ความพร้อมด้านมาตรฐานการบัญชีและการสอบบัญชที ีเ่ ป็นสากล (2) ความพรอ้ มใน การศึกษากฎหมาย ข้อบงั คบั ภาษอี ากร (3) ความพร้อมด้านการศึกษา และการปรับตวั (4) ความพรอ้ มด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ และ (5) ความพรอ้ มดา้ นทศั นคติ จริยธรรม กิตยิ าภรณ์ อินธปิ ีก ปัจจัยทม่ี ผี ลตอ่ การเตรยี มความพร้อมมากทส่ี ุดของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบัญชีในประเทศไทยเพื่อ (2558) รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น คือทกั ษะดา้ นภาษาองั กฤษ และภาษาอน่ื ในกลุ่มประเทศ อาเซียน ปจั จยั ส่วนบุคคลของผ้ปู ระกอบวิชาชีพบญั ชใี นประเทศไทยท่ีแตกตา่ งกนั ส่งผลตอ่ ความพร้อมในการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของผ้ปู ระกอบวชิ าชีพบญั ชีทแ่ี ตกต่างกัน อยา่ งมนี ัยสาคัญ และมคี วามสมั พันธเ์ ชงิ บวก สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 2-11
รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศึกษาความพร้อมในการแขง่ ขันของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีไทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรับร่วมบรกิ ารวชิ าชีพบญั ชี ผู้ศกึ ษา/วจิ ัย (ปีพ.ศ.) ขอ้ คน้ พบจากการศกึ ษา รจนา ขุนแกว้ ปัจจยั ทใ่ี หค้ วามสาคญั และมีความพร้อมของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชมี ากท่สี ุด คือปจั จัยด้าน (2558) การปฏิบตั งิ านด้วยความซ่อื สัตย์สุจริต การปฏบิ ตั ิงานด้วยความโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ และ จรรยาบรรณของผูป้ ระกอบวิชาชีพบญั ชี ในทางกลบั กันพบว่าปัจจยั ที่ให้ความสาคัญและมี ความพร้อมน้อยท่ีสดุ คือ ทักษะในด้านภาษาองั กฤษ และดา้ นความรูแ้ ละทักษะในด้านภา ษา อ่นื ๆ เชน่ มาลายู ภาษาจนี สถาบันการศึกษา และเกรดเฉล่ยี มคี วามสัมพันธ์กบั ความพรอ้ มของ นกั ศึกษาอย่างมีนยั สาคัญ และการพฒั นาให้เกดิ ความพร้อมมากท่สี ุด คือทักษะในภาษาองั กฤษ และภาษาอ่นื ๆ สันติ วิลาสศักดานนท์ การเตรียมความพร้อมทจ่ี ะยกระดบั ใหเ้ ป็นมอื อาชพี ในระดบั สากลของนักบัญชี ประกอบดว้ ย (2558) (1) ความร้คู วามสามารถ แบง่ เปน็ 3 หมวดใหญ่คอื การบัญชี การเงนิ และความรู้อน่ื ท่ี เกยี่ วขอ้ ง (Accounting, Finance and Related Knowledge) ความรู้เกีย่ วกับุรกจิ ของ องค์กร (Organizational and Business Knowledge) (2) ความชานาญในทกั ษะวชิ าชีพ (Professional Skills) (3) ความซอื่ สัตย์ คุณธรรมและจรรยาบรรณ (Professional Value, Ethics and Attitudes) (4) ความเชยี่ วชาญในประสบการณ์ (Experience) (5) ความเป็นมือ อาชีพ (Professional Capabilities) และ (6) ความใฝร่ ้อู ยูต่ ลอดเวลา (Lifelong Learning) 2.6. สมมตุ ิฐานของงานวิจัย ผปู้ ระกอบวิชาชีพบัญชีสาขาทแี่ ตกตา่ งกัน (การทาบญั ชี การสอบบญั ชี การบญั ชภี าษอี ากร และ การบริการให้คาปรกึ ษาทางการบัญชี) มีความพร้อมในการแข่งขันท่ีแตกต่างกันของการเคลื่อนย้ายแร งงาน ฝมี ือวชิ าชีพบญั ชไี ทยในกลุ่มประเทศอาเซียน 2.7. กรอบแนวคิดของการวจิ ัย ดังปรากฏในแผนภาพ 2.1 2-12 สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์
สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ แผนภาพ 2.1 กรอบแนวคดิ และระเบียบวธิ วี จิ ัย ระเบียบ หลกั การแนวคิดและทฤษฎี ท่ีนามาใช้ ระเบยี บวิธีว เคร่อื งมือที่ใช้ หลักการตาม MRAบรกิ าร 1. การศกึ ษาจากเอกสารเกยี่ วิชาชพี บญั ชี และ IES ของ ผปู้ ระกอบวิชาชพี บัญชี ข้อตกลง ขา่ วสารวารสาร สัญชาติ/ใบอนุญาต /วฒุ กิ ารศกึ ษา การสมั ภาษณ์เจาะลกึ ผ้บู /ประสบการณ/์ ถ่นิ ทอี่ ยู่ /สมาชิก สภาฯ /อื่นๆ จานวน 10 ท่าน และผู้ป คุณภาพในกรงุ เทพฯ 2ท หลกั การAEC การวิเคราะหเ์ นอ้ื หา 1. การเปดิ เสรีทางการบรกิ าร 2. การเคล่อื นยา้ ยเสรีของแรงงาน ศึกษาเป วชิ าชพี ระเบียบวธิ วี เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ แนวคิดและทฤษฎีเกีย่ วกับสมรรถนะ (Concepts and Theory of Competence) ใชแ้ บบสอบถาม สารวจ สมรรถนะและศกั ยภาพข 1. ความรู้ ความสามารถ ผู้ทาบัญชี ผ้สู อบบญั ช (Knowledge) ภาษีอากร ตัวอย่างผู้ปร บัญชรี ะดบั สากล จาน 2. ทักษะ / ความถนัด (Skill) ผูป้ ระกอบการสานักงานบ 3.คุณลกั ษณะสว่ นบคุ คล (Attributes) ความคดิ เหน็ เกยี่ วกับตนเอง การวิเคราะห์ค่าสถ คณุ สมบัตปิ ระจาตวั ของบุคคล แรงจูงใจ/เจตคติ วเิ คราะห์การจดั วเิ คราะห์ความแ 2-13
บวิธวี ิจัย ผลลัพธ์ทเี่ ป็นขอ้ สรปุ รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศึกษาความพร้อมในการแข่งขนั ของผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีไทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น วจิ ยั เชิงคุณภาพ ขอ้ สรปุ เชงิ เนือ้ หา พรรณนา ข้อสรปุ กฎเกณฑ์ ข้อบังคบั ตาม MRA ภายใต้ข้อตกลงการยอมรบั รว่ มบริการวิชาชพี บัญชี ยวกบั MRA ของบริการสาชาวชิ าชีพบญั ชไี ทยใน รบทความวิชาการและงานวิจัย บริหารของสานกั งานบัญชรี ะดับสากล ประเทศผู้รับอื่นๆ ใน ASEAN ประกอบการ/ผูบ้ รหิ ารสานักงานบญั ชี ท่าน ผลสรุป ความพร้อมในการแข่งขนั ฝมี ือแรงงาน เชิงพรรณนา สา ขา บริ กา รวิ ชา ชี พ บั ญ ชี ข อ ง ผู้ ป ร ะ กอบ วิ ช า ชี พบั ญ ชี ไ ท ย ใ น กล่มุ ปรียบเทียบ ประเทศ ASEAN วิจยั เชิงปรมิ าณ ขอ้ สรปุ เชิงวเิ คราะหข์ ้อมูลทางสถิติ ข้อสรุปตามการประเมินความพร้อม จความคดิ เหน็ และการประเมิน ข อ ง ผู้ ป ร ะ ก อ บ วิ ช า ชี พ บั ญ ชี ของผ้ปู ระกอบวิชาชพี บัญชี ใ น กา ร เ คลื่ อน ย้ า ย เ ส รี แ ร ง ง า น ฝีมอื ชี ผู้ใหบ้ ริการคาปรึกษาทางบัญชี วิ ชา ชี พบั ญ ชี ไ ทยใ น 9 ประ เ ทศ ระกอบวิชาชีพบญั ชีในสานักงาน ในฐานะประเทศผู้รบั ของ ASEAN นวน 371 ท่าน นบัญชคี ณุ ภาพ 89 ทา่ น ถติ ิ ดลาดบั ดัชนีความตอ้ งการ แตกตา่ งระหวา่ งกลมุ่
บทท่ี 3 ระเบยี บวิธีวจิ ยั 3.1 วธิ วี ิจัย วธิ วี จิ ยั ที่ใชใ้ นการศกึ ษาน้ี ประกอบด้วย ระเบยี บวิธวี ิจยั ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ดงั น้ี 1. ระเบียบวธิ ีวจิ ัยเชงิ คุณภาพ ประกอบด้วย การศึกษาจากเอกสาร ไดแ้ ก่ MRA สาหรบั สาขา บรกิ ารวชิ าชีพบัญชี บทความวิชาการ งานวิจยั ข่าวสาร และวารสาร ตา่ งๆ ที่เก่ยี วข้องกบั การปร ะกอบ วิชาชีพของนักบัญชีมืออาชีพไทย ในประเทศ ASEAN และการศึกษาข้อมูลจากการสมั ภาษณ์เจาะลึก ผูบ้ ริหารของสานักงานบญั ชีระดับสากล จานวน 10 ท่าน และผปู้ ระกอบการสานกั งานบญั ชีคุณภา พใน กรุงเทพมหานคร 2 ท่าน (แบบสัมภาษณด์ ภู าคผนวก ก) 2. ระเบยี บวิจยั เชงิ ปรมิ าณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครือ่ งมือในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล โดยการสารวจ ความคดิ เห็นโดยการประเมินตนเองเกี่ยวกับสมรรถนะ และความพร้อมในการประกอบวิชาชีพ ศกึ ษา เปรียบเทยี บตามสภาพความเป็นจริงในปัจจบุ ัน กบั ความคาดหวังจากนักบญั ชีมืออาชีพ ไดแ้ ก่ ผู้ทาบญั ชี ผู้สอบบัญชี นักบัญชีภาษีอากร ผู้ให้บริการคาปรึกษาทางบัญชีที่ทางานในสานักงานบัญชีระดับสากลใน ปร ะเทศไทย คือ PricewaterhouseCoopers ABAS Ltd KPMG Poomchai Deloitte Touche Tohmatsu Ernst & Young Grant Thornton Mazars TMF และ BDO จานวน 371 ท่าน และ ผ้ปู ระกอบการ/ผู้บริหาร/ผ้ปู ระกอบวิชาชพี บญั ชขี องสานักงานบญั ชีคุณภาพทกุ ภาคในประเทศไทย จานวน 114 ทา่ น (รายชือ่ แสดงดงั ภาคผนวก ข) 3.2 ประชากรและตัวอย่างที่ใช้ในการศกึ ษา ประชากรและตัวอย่าง ของระเบียบวธิ ีวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ ผทู้ าบัญชี ผู้สอบบัญชี นักบญั ชีภาษอี ากร และ ผใู้ หบ้ ริการคาปรกึ ษาทางบญั ชี ตัวอยา่ งผปู้ ระกอบ วิชาชีพบัญชีในสานักงานบัญชีระดับสากลในประเทศไทยเฉพาะ 8 กิจการ จานวนประชากร 5,207 คน จานวนตัวอย่าง 371 คน คานวณโดยใชส้ ูตร ทาโร ยามาเน่ (Yamane, 1973) ดงั น้ี n = ������ 1+������������2 โดยกาหนดให้ n = จานวนตัวอยา่ งทตี่ ้องการสารวจ N = จานวนประชากร e = ระดับความคาดเคลื่อนกาหนดไวท้ ่ี 5% สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2-1
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแข่งขนั ของผูป้ ระกอบวิชาชพี บัญชไี ทยภายในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรบั ร่วมบริการวชิ าชีพบญั ชี กาหนดให้ระดับความเชื่อม่นั 95% หรอื ค่าความคาดเคลื่อนสูงสุดทยี่ อดรับได้ 5% ดงั น้ัน n จึงมคี ่า ดงั น้ี n = 5,207 1+5,207 (0.05)2 n = 371 จานวนประชากร และจานวนตัวอย่างโดยใชว้ ิธีการสุ่มตามสัดส่วน ( Proportionate Sampling) ดังรายละเอยี ด แสดงในตาราง 3.1 ตาราง 3.1 จานวนประชากร และ จานวนตัวอย่าง จากผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีในสานักงานบัญชีระดับสากล ในประเทศไทย สานักงานบัญชรี ะดบั สากล จานวนประชากร จานวนตวั อย่าง PricewaterhouseCoopers ABAS Ltd 1,200 86 KPMG Poomchai 1,240 88 Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos 1,200 86 Ernst & Young 1,200 86 Grant Thornton 170 12 Mazars Thailand 103 7 TMF 44 3 BDO 50 4 รวม 5,207 371 ท่มี า: ขอ้ มูลจากฝา่ ยทรัพยากรบคุ คลของสานกั งานบัญชี ผปู้ ระกอบวิชาชีพบัญชใี นสานักงานบัญชีคุณภาพระดับประเทศไทยท้ังในกรุงเทพฯ และภาคต่างๆ จานวนประชากร 114 คน จานวนตวั อย่าง 89 คน คานวณโดยใชส้ ูตร ทาโร ยามาเน่ (Yamane, 1973) ดงั น้ี n= ������ 1+������������2 โดยกาหนดให้ n = จานวนตัวอย่างท่ตี อ้ งการสารวจ N = จานวนประชากร e = ระดับความคาดเคลือ่ นกาหนดไวท้ ี่ 5% กาหนดให้ระดบั ความเชื่อม่นั 95% หรือคา่ ความคาดเคลื่อนสูงสุดทีย่ อดรบั ได้ 5% ดังน้ัน n จงึ มีค่า ดงั นี้ 3-2 สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพร้อมในการแขง่ ขันของผูป้ ระกอบวิชาชีพบญั ชไี ทยภายในกลุ่มประเทศสมาชกิ ของอาเซียน ภายใต้ข้อตกลงการยอมรับร่วมบริการวิชาชพี บญั ชี n = 114 1+114 (0.05)2 n = 89 จานวนประชากร และจานวนตัวอยา่ งคัดเลือกโดยใช้วธิ ีการสุ่มตามสัดสว่ น ( Proportionate Sampling) ดังรายละเอยี ดแสดงในตาราง 3.2 ตาราง 3.2 จานวนประชากร และ จานวนตัวอยา่ ง จากผู้ประกอบวิชาชีพบญั ชีในสานักงานบัญชีคุณภาพประเทศไทย สานักงานบญั ชีคุณภาพ จานวนประชากร* จานวนตวั อยา่ ง รอ้ ยละ กทม 49 38 43 ภาคกลาง 16 13 14 ภาคเหนือ 17 13 15 ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 9 78 ภาคตะวันออก 9 78 ภาคใต้ 14 11 12 รวม 114 89 100 *ท่ีมา: http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=6167&filename=index 3.3 เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มลู แบบสอบถามที่ใชเ้ ปน็ เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล มลี ักษณะและรายละเอียด จาแนกเป็น 3 ส่วน (รายละเอียดแบบสอบถามแสดงดังภาคผนวก 1) ส่วนท่ี 1 การประเมินตนเองดา้ นความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ และคุณสมบัติ/คณุ ลักษณะตามความคาดหวัง และความเป็นจรงิ ในของผูป้ ระกอบวชิ าชพี บญั ชีไทยในประเทศผ้รู บั ของ ASEAN ส่วนท่ี 2 การจัดลาดับความพร้อม เหตุผล และโอกาสของผปู้ ระกอบวิชาชพี บญั ชไี ทยใน ASEAN 9 ประเทศ ส่วนท่ี 3 ขอ้ มลู ของผตู้ อบแบบสอบถาม ประกอบดว้ ยคาถามเกย่ี วกบั เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา สาขาอาชีพ ทางบัญชี สถานที่ทางาน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ประสบการณ์การทางาน 3.3.1 การทดสอบความเทีย่ งตรง และความเช่ือมัน่ ของแบบสอบถาม การตรวจสอบคุณภาพของเคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจยั ในการสร้างและพัฒนาเครอื่ งมือท่ใี ช้ ในการวิจยั ทีม่ ีประสิทธภิ าพ ท่จี ะสามารถนาไปใช้ ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล โดยการทดสอบ ความเที่ยงตรง ว่าเคร่ืองมอื วัดในส่ิงที่ต้องการวัด ไมใ่ ชต่ อ้ งการวัดอยา่ งหน่ึงแล้วได้ส่ิงอื่นมาทดแทน ความเท่ียงตรง เป็น สภาวิชาชีพบญั ชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 3-3
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแขง่ ขันของผ้ปู ระกอบวิชาชีพบัญชไี ทยภายในกลุ่มประเทศสมาชิกของอาเซยี น ภายใต้ขอ้ ตกลงการยอมรบั ร่วมบริการวชิ าชพี บญั ชี ความสอดคล้องหรอื ความเหมาะสมของผลการวัดกบั เน้ือหา หลักเกณฑ์ ทฤษฏีทเี่ ก่ยี วกับลักษณะทต่ี ้องการวัด (ศริ ิชัย กาญจนวาสี, 2544 : 73) ความเท่ยี งตรง เปน็ คุณภาพของเคร่ืองมอื ทส่ี ร้างข้นึ อย่างมีประสิทธภิ าพ ให้มี ความสามารถในการทานาย พฤติกรรม และเหตุการณ์ในอนาคต ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ตามความเปน็ จรงิ หรอื เป็น ค่าสหสัมพันธ์ของเครื่องมือที่สรา้ งข้ึนกับองค์ประกอบหรอื ตัวแปรท่ีต้องการวัดความเที่ยงตรงเชิงเน้ือหา (Content Validity) เปน็ การตรวจสอบสรปุ อ้างอิงถึง เนอ้ื หาสาระ ความรู้ หรือประสบการณ์ พัฒนาเคร่ืองมือ ใหม้ คี วามครอบคลุมตัวแปรและวัตถุประสงค์ และสามารถตรวจสอบ ได้โดย ให้ผูเ้ ชีย่ วชาญในศาสตร์นั้นๆ ตรวจสอบความเหมาะสมของนยิ าม ขอบเขตของเน้ือหา หรอื ประสบการณท์ ่มี งุ่ วดั (Bailey, 1987: 67) ในการวิจัยนไ้ี ดท้ าการทดสอบความเที่ยงตรง การวัดคา่ ความเทย่ี งตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยข้อคาถามที่พัฒนามาอิงจากหลักการ ทฤษฎี และการศึกษาในอดีตดังที่ได้กลา่ วในบทท่ี 2 ดงั ปรากฎในตาราง 3.3 ตวั แปรนามธรรม (Construct) และขอ้ คาถามที่เป็นตัวบ่งชี้ของตัวแปรนามธร รม ที่นามาเป็นตัววัดค่า (Measurement Items) กอรปกับเนื้อหาที่ได้จากการสมั ภาษณ์เจาะลึกผู้ประกอบ วิชาชพี บัญชีจากการศึกษานาร่อง นามารวบรวมขอ้ คาถามใชผ้ ู้เชีย่ วชาญจานวน 5 คน ใหค้ วามเหน็ ชอบในแต่ ละข้อคาถามด้วยตัวเลือก 3 ตวั และให้คะแนน คอื คะแนน +1 เม่ือแน่ใจว่าวดั ไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ คะแนน - 1 เม่ือแน่ใจว่าวัดไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ และคะแนน 0 เมื่อไม่แน่ใจ เพื่อพิจารณาว่าแต่ละข้อคาถาม มีความสอดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์ (Index of Item-Objective Congruence : IOC) หรอื ไม่ จากนั้น นาผล คะแนนท่ีได้จากผู้เชีย่ วชาญ 5 ทา่ น ของแตล่ ะข้อมาคานวณหาคา่ IOC โดยมเี กณฑ์ คือ (1) ขอ้ คาถามที่มี ค่า IOC ตัง้ แต่ 0.50-1.00 มคี ่าความเทย่ี งตรงใช้ได้ และ (2) ขอ้ คาถามทม่ี คี า่ IOC ต่ากว่า 0.50 ต้องปรบั ปรุง ยงั ใช้ไม่ได้ (สุรพงษ์ คงสัตย์ และ ธีรชาติ ธรรมวงค์, 2551) นอกจากน้ีการทดสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม โดย นาแบบสอบถามท่ีมีข้อคาถาม สอดคล้องกบั วัตถุประสงค์แล้วมาทดสอบความสอดคล้องภายใน (internal consistency) โดยวธิ สี มั ประสิทธิ์ แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Method) เปน็ การแบ่งเครือ่ งมือวิจัยออกเป็นหลายส่วน และ คานวณความแปรปรวนของคะแนนแตล่ ะส่วนและ ความแปรปรวนของคะแนนรวมสามารถนาไปใชป้ ร ะมาณ ค่าความเช่ือมั่นแบบความสอดคล้องภายใน ใช้ค่าครอนแบคอัลฟา(Cronbach's alpha) เป็นการวัด สมั ประสทิ ธแ์ิ อลฟาของครอนบาค (- Coefficient) (Cronbach, 1951 อ้างถึงใน ลว้ น สายยศ และอังคณา สายยศ, 2538: 200) การวดั ค่าสัมประสิทธิ์ของความเช่ือม่ัน(coefficient of reliability) ของแบบสอบถาม โดยทีค่ า่ Cronbach's Alpha- - α ทว่ี ดั ได้มคี วามหมายทแี่ สดงระดับความเชอ่ื มนั่ ดงั นี้ 3-4 สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแขง่ ขันของผู้ประกอบวชิ าชพี บัญชไี ทยภายในกล่มุ ประเทศสมาชกิ ของอาเซยี น ภายใตข้ อ้ ตกลงการยอมรับร่วมบริการวิชาชพี บญั ชี ค่า Cronbach's Alpha- - α ความหมายของระดบั ความเช่อื ม่นั α ≥ 0.9 ดมี าก (excellent) 0.9 >α ≥0.8 ดี (good) 0.8> α ≥0.7 ยอมรบั (Acceptable) 0.7>α≥0.6 ไมแ่ นช่ ัด(Questionable) 0.6>α≥0.5 แย่ (poor) 0.5<α ไม่ยอมรบั (Unacceptable) ท่มี า: Cronbach, 1951 อา้ งถงึ ใน ลว้ น สายยศ และอังคณา สายยศ, 2538: 200 3.3.2 การศกึ ษานาร่อง (Pilot study) ในการวิจัยนี้ได้ศึกษานาร่องโดยสมั ภาษณ์เจาะลึกผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ผู้บริหารระดบั สูง ระดับหนุ้ ส่วนผ้จู ัดการของสานักงานบัญชีนานาชาติ 2 คน ระดบั ผจู้ ัดการ 1 คน และพนักงานระดบั กลาง (Senior) 1 คน โดยส่งแบบสัมภาษณ์ใหท้ ราบล่วงหนา้ ถึงขอบเขตเนื้อหาที่ต้องการสัมภาษณ์ รวมทง้ั การถาม คาถามในลักษณะการเปิดกว้างให้แสดงความคิดเห็นโดยไม่มีการช้ีนาในประเด็นของการรับรู้ข่าวสาร กฎเกณฑ์ ของการประกอบวิชาชีพบญั ชีในประเทศผู้รับใน AEC เป็นการสารวจทท่ี ากอ่ นการสารวจจริง เพอ่ื ตรวจสอบความถกู ต้อง ความครบถ้วนและความเทีย่ งตรงของเน้ือหา และนามารวบรวม กาหนดข้อคาถาม รว่ มกับคาถามที่พัฒนา อิงจากหลักการ ทฤษฎี และการศึกษาในอดีตดังท่ีได้กล่าวในบทท่ี 2 ดังปรากฎใน ตาราง 3.3 ตวั แปรนามธรรม (Construct) และขอ้ คาถามทีเ่ ปน็ ตวั บ่งชข้ี องตวั แปรนามธรรม ทน่ี ามาเป็นตัววัด ค่า (Measurement Items) การพจิ ารณาวา่ แต่ละข้อคาถามท่จี ะนามาเป็นตัววัดค่า มีความสอดคลอ้ งกบั วัตถุปร ะสงค์ หรือไม่ นาผลคะแนนที่ไดจ้ ากผเู้ ชีย่ วชาญ 5 ท่าน ผลการทดสอบข้อคาถาม ดังปรากฎใน ตาราง 3.4 การวัดคา่ ความสอดคลอ้ งระหวา่ งขอ้ คาถามกับวัตถุประสงค์ (Index of Item-Objective Congruence : IOC) ตาราง 3.3 ตวั แปรนามธรรม (Construct) และขอ้ คาถามทเี่ ป็นตวั บง่ ช้ที ี่นามาเป็นตวั วัดคา่ (Measurement Items) ตัวแปรนามธรรม (Construct) อ้างองิ จาก และขอ้ คาถามท่ีนามาเป็นตัววดั ค่า (Measurement Items) 1.ความรู้ ความสามารถทางเทคนิค - มาตรฐานการศึกษาระหว่าง 1.1 ความรู้เกยี่ วกับมาตรฐานการบญั ชีสากล ประเทศ สาหรบั นักวชิ าชีพ 1.2 ความรเู้ กย่ี วกับการจดั ทาและนาเสนองบการเงนิ บญั ชี (International 1.3 ความรเู้ กย่ี วกับธุรกรรม และ ตราสารทางการเงิน สภาวิชาชพี บัญชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์ 3-5
รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Final Report) การศกึ ษาความพรอ้ มในการแขง่ ขันของผู้ประกอบวิชาชพี บญั ชไี ทยภายในกลุม่ ประเทศสมาชิกของอาเซียน ภายใตข้ ้อตกลงการยอมรับร่วมบริการวชิ าชีพบัญชี ตัวแปรนามธรรม (Construct) อา้ งองิ จาก และข้อคาถามท่ีนามาเป็นตัววดั ค่า (Measurement Items) 1.4 ความรู้เกย่ี วกับการใช้software/เครอ่ื งมือทางIT ในการจัดทาบญั ชี และนาเสนอ Accounting Education งบการเงนิ Standard for Professional 1.5 ความรเู้ ก่ียวกับระบบบัญชี ระบบสารสนเทศ ระบบการควบคมุ และการกากับดูแลทดี่ ี Accountants - - IES) 1.6 ความรเู้ กีย่ วกบั มาตรฐานการสอบบัญชีสากล -IES 2Professional 1.7 ความรู้เกย่ี วกบั การปฏิบตั งิ านท่ีเป็นเลศิ ในวชิ าชีพบญั ชี Knowledge, 2014 1.8 ความสามารถในการบูรณาการความรู้ ทฤษฎไี ปใชใ้ นการปฏบิ ัติในสภาวะ - Scott B. Parry, 1997 แวดลอ้ มที่ เปลย่ี นแปลงได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ - อานนท์ ศกั ดิ์วรวิชญ์, 1.9 ความรเู้ กย่ี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2547 1.10 ความรูเ้ ก่ยี วกบั ธรุ กจิ และการบริหารจัดการ - สภาวชิ าชีพบญั ชี ฯ 1.11 ความรเู้ กยี่ วกับการบญั ชีสืบสวน การทจุ รติ ทางการเงนิ คณะอนกุ รรมการด้านงาน 1.12 ความรเู้ กี่ยวกบั กฎหมายบัญชี และกฎหมายธรุ กจิ ตา่ งประเทศ, 2557 1.13 ความรูด้ า้ นกฎหมายสากล - วีรยทุ ธ สขุ มาก และคณะ, 1.14 ความรเู้ ก่ียวกับการวางแผนภาษี 2557 1.15 ความรดู้ า้ นภาษอี ากรของประเทศผู้รบั - นงลักษณ์ ศิริพิศ 1.16 ความรดู้ ้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ และคณะ, 2556 1.17 ความรู้ด้านจรยิ ธรรมของผปู้ ระกอบวิชาชพี บญั ชี - ลัดดา หิรญั ยวา, 2555 1.18 ความรู้ดา้ นสังคมวฒั นธรรม ประเพณขี องประเทศผรู้ บั -วลัยลกั ษณ์ สุวรรณวลยั กร, 1.19 ความรภู้ าษาท้องถ่ินของประเทศผูร้ บั ใน AEC 2556 1.20 ความรเู้ กยี่ วกับการเมือง การปกครองของประเทศผ้รู ับ - มัทนชยั สทุ ธิพันธุ์, 2557 1.21 ความรเู้ กีย่ วกบั การตกลงยอมรับรว่ ม (MRA) ของ AECเกยี่ วกับบรกิ ารวชิ าชพี บญั ชี - คณะกรรมการวชิ าชพี บัญชี ดา้ นการทาบัญชี, 2557 2. ความถนดั /ทักษะทางวิชาชพี 2.1 ทกั ษะดา้ นการพูดภาษาองั กฤษ -IES 3 ทักษะทางวิชาชีพ 2.2 ทกั ษะดา้ นการฟังภาษาอังกฤษ (Professional Skills),2014 2.3 ทกั ษะด้านการเขยี นภาษาอังกฤษ - Scott B. Parry, 1997 2.4 ทกั ษะดา้ นวาทศลิ ป์ การเจรจา ต่อรองทีเ่ ป็นมิตรก่อใหเ้ กดิ ความไวว้ างใจ และ -คณะกรรมการวิชาชีพบัญชี ด้านการทาบญั ชี, 2557 ความเชื่อม่นั -คณะกรรมการวิชาชีพบญั ชี 2.5 ทักษะด้านการพดู การฟังภาษาท้องถ่ินของประเทศผูร้ ับ ดา้ นการบญั ชีบรหิ าร, 2557 2.6 ทักษะดา้ นการคานวณ -อานนท์ ศกั ดิ์วรวชิ ญ์, 2547 2.7 ทักษะดา้ นการใชอ้ ุปกรณ์ทาง IT ในงานบญั ชี -ลัดดา หริ ัญยวา, 2555 2.8 ทักษะในการวางแผนเชงิ กลยุทธใ์ นการบริหารจดั การ -วลัยลกั ษณ์ สุวรรณวลยั กร, 2.9 ทักษะของการแกป้ ัญหา และการประยกุ ตว์ ธิ ีปฏบิ ตั ิทางบัญชที ี่สอดคล้องกับการ 2556 เปลี่ยนแปลง -มัทนชัย สุทธพิ ันธุ์, 2557 2.10 ทกั ษะดา้ นการวิเคราะห์ ขอ้ มูลสารสนเทศอยา่ งแม่นยา 2.11 ทักษะของเทคนิคการสืบค้นสง่ิ ผดิ ปกติ กลลวง 3-6 สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถัมภ์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168