คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพื่อกำรสือ่ สำร ๑ ภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรส่ือสำร ๑ รหสั วิชำ อ ๑๑๒๐๒ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ที่ ๑ เวลำ ๑๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต ใช้คาสงั่ ท่ใี ช้ในห้องเรยี น ตวั อกั ษร เสยี งตวั อกั ษร สระ การสะกดคา ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง ประโยคบอกความต้องการเกี่ยวกับตนเอง ประโยคใหข้อมูลเก่ียวกับตนเองคา สงั่ ท่ใี ช้ในห้องเรียน ขอ้ ความ ทใ่ี ชใ้ นการพูดใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตวั คา ทม่ี คี วามหมายสมั พนั ธก์ บั สงิ่ ต่าง ๆ ใกลต้ วั อาหารเคร่อื งด่มื วฒั นธรรมเจา้ ของภาษาแสดงกิรยิ าการขอบคณุ ขอโทษ การพูดแนะนา ตนเอง การใช้ ภาษาในการฟัง พูด อ่านในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน โดยการเรียนกับครูผู้สอน ชาวตา่ งชาติ ใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มลู และมที กั ษะทางสงั คม มวี ถิ ขี องระบอบ ประชาธปิ ไตย ซอ่ื สตั ย์ ใฝ่เรยี นรู้ แสดงออกถงึ ความเป็นไทย เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขาีใ้ จ สามารถส่อื สารสง่ิ ทเ่ี รยี นรแู้ ละนา ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ใน ชวี ติ ประจาวนั ผลกำรเรยี นรู้ ู 1. ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ งทฟ่ี ัง 2. อา่ นออกเสยี งตวั อกั ษรคา กล่มุ คา ประโยคง่ายๆ และ บทพดู เขา้ จงั หวะง่ายๆ ถูกตอ้ งตาม หลกั การ อา่ น 3. บอกความหมายของคา และกล่มุ คา ทฟ่ี ังตรงตามความหมาย ตอบคา ถามจากการฟังหรอื อา่ น ประโยคบทสนทนาหรอื นทิ านงา่ ยๆ รวมทงั้ หมด 3 ผลกำรเรยี นรู้ ู กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพอื่ กำรสื่อสำร ๒ ภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรส่อื สำร ๒ รหสั วิชำ อ ๑๒๒๐๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๒ เวลำ ๑๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต เขา้ ใจและใชป้ ระโยคคาสงั่ ง่ายๆในหอ้ งเรยี น คาขอรอ้ งอา่ นและเขยี นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ คาศพั ทส์ นั้ ๆ งา่ ยๆ เขา้ ใจความหมายคา กลมุ่ คา และประโยคสนั้ ๆทม่ี คี วามหมายสมั พนั ธก์ บั สงิ่ ต่างๆ ใกลต้ วั เขา้ ใจบทอา่ น บท สนทนางา่ ยๆและนทิ านทม่ี ภี าพประกอบ ใหข้ อ้ มูลและความตอ้ งการเกยี่ วกบั ตนเองสนั้ ๆ เซน่ การพดู แนะนา ตนเอง ขอบคุณ ขอโทษ เรยี นรคู้ าศพั ทเ์ กยี่ วกบั เทศกาล ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี เทศกาล งาน ฉลอง โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรเู้ พอ่ื การสอ่ื สาร ฝึกการใชภ้ าษา เพ่อื ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เหน็ ประโยชน์ในการเรยี นรู้ ภาษาองั กฤษและนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยการเรยี นกบั ครูผสู้ อนชาวตา่ งชาติ ผลกำรเรียนรู้ ู 1. อา่ นและเขยี นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ และคาศพั ทง์ า่ ยๆไดถ้ กู ตอ้ ง 2. ใชภ้ าษาองั กฤษในการแนะนาตนเอง ขอบคณุ ขอโทษ ขอและใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง และเร่อื งใกล้ ตวั ได้ อย่างเหมาะสม 3. บอกความหมายของคา กลมุ่ คา และประโยคสนั้ ๆไดถ้ ูกตอ้ ง 4. ตอบคาถามจากการฟังหรอื อ่านเรอ่ื งงา่ ยๆหรอื นิทานทม่ี ภี าพประกอบไดถ้ กู ตอ้ ง 5. ใชภ้ าษาองั กฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา รวมทงั้ หมด 5 ผลกำรเรยี นรูู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสอ่ื สำร ๓ ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสอ่ื สำร ๓ รหสั วิชำ อ ๑๓๒๐๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ที่ ๓ เวลำ ๑๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต ศกึ ษาขอ้มูลเก่ียวกบั ตนเองและเพ่อื น ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ ัว หมวดหมู่คาตาม ประเภทของบุคคล สตั วแ์ ละสง่ิ ของ มารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจาี้ของภาษา ช่อื และคาศพั ท์ เกย่ี วกับเทศกาลวนั สาคญั งานฉลอง ชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจาี้ของภาษาคา กลุ่มคา ประโยคของ ภาษาต่างประเทศ และของไทยกิจกรรมทางภาษาวฒั นธรรมท่เี หมาะกับวยั ความแตกต่างของเสยี ง ตวั อกั ษร คาศัพทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื รวมทงั้ สถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึนใน ห้องเรยี นและ คาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งใกลต้ วั โดยใชก้ ระบวนการทางภาษาน ามาปฏบิ ัติ ได้แก่การฟังการพูดโต้ตอบและทา ท่าประกอบ การอา่ นออกเสยี ง การระบุตวั อกั ษรการเขาี้รว่ มกจิ กรรมทางภาษา เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การ แก้ปัญหาการใช้ทักษะชีวิต เทคโนโลยี และมี มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรมู้ งุ่ มนั่ ในการทางาน และมเี จคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าภาษาองั กฤษ โดยการเรยี น กบั ครผู สู้ อนชาวตา่ งชาติ ผลกำรเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นเขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ ง่ายๆ 2. นกั เรยี นสามารถใหขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและขอ้ มลู ของผูอ้ น่ื ได้ 3. นักเรยี นสามารถสะกดคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 4. นักเรยี นสามารถถาม-ตอบประโยคงา่ ยๆ รวมทงั้ หมด 4 ผลกำรเรียน กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสื่อสำร ๔ ภำษำองั กฤษเพื่อกำรส่อื สำร ๔ รหสั วิชำ อ ๑๔๒๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๔ เวลำ ๑๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาแนะนา คาขอร้องท่ใี ช้ในห้องเรยี น พูดเขา้ จงั หวะ บทสนทนา ประโยค ให้ ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง เลอื กระบุภาพ หรอื สญั ลกั ษณ์ตรงความหมาย ตอบคาถามจากการฟังและอา่ น บท สนทนา พูด เขยี น ให้ขอ้ มูลโต้ตอบเกี่ยวกบั ตนเอง ส่อื สารระหว่างบุคคล ประโยคบอกความต้องการ เกี่ยวกบั ตนเอง คาสงั่ ทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น ขอ้ ความทใ่ี ช้ในการพดู เขยี น แสดงความต้องการของตนเองให้ ขอ้ มูลความรูส้ กึ เก่ยี วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ วั วฒั นธรรมเจ้าของภาษาแสดงกิรยิ าการขอบคณุ ขอโทษ การพดู แนะนาตนเอง คาศพั ท์เกยี่ วกบั เทศกาลเจา้ ของภาษากจิ กรรมทางภาษาการรอ้ งเพลง ศกึ ษาการ ใช้ ภาษาในการฟัง พดู ทาทา่ ประกอบอย่างสุภาพ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาอ่าน พดู ในสถานการณ์ท่ี เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มูลและมที กั ษะทางสงั คม มวี ถิ ขี องระบอบ ประชาธปิ ไตย ซอ่ื สตั ย์ ใฝ่เรยี นรู้ แสดงออกถงึ ความเป็นไทย เพ่อื ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถส่อื สารส่ิงท่ีเรยี นรู้และนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ใน ชวี ติ ประจาวนั โดยการเรยี นกบั ครผู สู้ อนชาวต่างชาติ ผลกำรเรยี นรู้ 1. ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ งทฟ่ี ัง 2. พดู โตต้ อบดว้ ยคาสนั้ ๆ งา่ ยๆ ในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟ่ี ัง ใชค้ าสงั่ และคาขอรอ้ งงา่ ยๆ บอก ความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง 3. พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและเพอ่ื น บอกความรสู้ กึ ของตนเองเกยี่ วกบั สง่ิ ตา่ งๆ ใกลตวั หรอื กจิ กรรมตา่ งๆ ตามแบบทฟ่ี ัง 4. พดู ใหขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองและเร่อื งใกลต้ วั จดหั มวดหมคู่ า ตามประเภทของบคุ คล สตั วแ์ ละสง่ิ ของ ตามท่ี ฟังหรอื อา่ น 5. พดู และทา ท่าประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชอ่ื และคาศพั ทง์ ่ายๆ เกย่ี วกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลองและชวี คิ วามเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ วฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั 6. ฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น รวมทงั้ หมด 6 ผลกำรเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสอ่ื สำร ๕ ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสื่อสำร ๕ รหสั วิชำ อ ๑๕๒๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ที่ ๕ เวลำ ๑๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต เขา้ ใจคาสงั่ คาขอรอ้ งคาแนะนา เขา้ ใจความหมายของคา กล่มุ คา และประโยค รปู ประโยคและ โครงสร้าง ประโยค โดยสามารถตอบคาถามจากการฟังหรอื อ่านขอ้ ความ บทสนทนา เรอ่ื งสนั้ เร่อื งเล่า นิทาน บทกลอนสนั้ ๆ อ่านออกเสยี งคา กลุ่มคา ประโยคขอค้ วาม บทอ่านได้ถกู ต้องตามหลกั การออก เสยี งและการใชถอ้ ยคา น้าเสยี ง การพดู และเขยี น โตต้ อบในการส่อื สารระหว่างบุคคลใช้คาสงั่ คาขอรอ้ ง และให้คาแนะนา แสดงความต้องการ แสดงความรู้สึกขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธใน สถานการณง์ า่ ยๆ พดู และเขยี น เพ่อื ขอและใหขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และ เรอ่ื งใกลต้ วั ซ่ึง อยใู่ นทอ้ งถน่ิ ของตน โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้ เพอ่ื การส่อื สาร ฝึกการใชภ้ าษา เพ่อื ให้มคี วามรู้ เขา้ ใจ วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา มที กั ษะทางภาษา เหน็ ประโยชน์ในการ เรียนรู้ภาษาอังกฤษและนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ อย่างเหมาะสม โดยการเรียนกับครูผู้สอน ชาวตา่ งชาติ ผลกำรเรียนรู้ 1. ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ งและคาแนะนางา่ ย ๆ ตามทฟ่ี ังและอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง 2. พดู /อา่ นออกเสยี งคา วลปี ระโยคขอ้ ความสนั้ ๆ บทสนทนา บทอ่าน ไดถ้ กู ตอ้ งตาม หลกั การอา่ นออก เสยี ง 3. ใชป้ ระโยคภาษาองั กฤษในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คลและแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ตา่ งๆ ได้ ถกู ตอ้ ง 4. ตอบคาถามจากการฟังหรอื อา่ นขอค้ วาม บทสนทนา เรอ่ื งสน้ ั เร่อื งเล่า นทิ าน บท กลอนสนั้ ๆ ได้ ถูกตอ้ ง 5. ใชภ้ าษาองั กฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา รวมทงั้ หมด 5 ผลกำรเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสอ่ื สำร ๖ ภำษำองั กฤษเพอื่ กำรสอ่ื สำร ๖ รหสั วิชำ อ ๑๖๒๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ที่ ๖ เวลำ ๑๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต การฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ และเร่อื งเล่า พูด และเขียนโต้ตอบในการส่อื สาร ระหว่าง บุคคลแสดงความต้องการขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และ ปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือใน สถานการณ์ง่ายๆ ใหข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพ่อื น และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว แสดงความรู้สกึ ของตนเอง เก่ียวกับ เร่อื งต่างๆ ใกล้ตวั เขยี นภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้มูลต่าง ๆ ท่ฟี ังหรอื อ่าน เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหว่างเทศกาลงานฉลองและประเพณีของเจ้าของภาษากบั ของไทย ค้นคว้ารวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ่ืน จากแหล่งเรยี นรู้และนา เสนอ ดว้ ยการพูดและการเขยี น ใช้ภาษาส่อื สาร ในสถานการณ์ต่างๆ ท่เี กดิ ข้ึนในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา รวมถงึ ในการใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื ค้น และรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ โดยใช้กระบวนการทางภาษานามาปฏบิ ตั ิ ได้แก่ อ่านออกเสยี ง เลอื กระบุ บอกใจความสาคญั ตอบคาถาม พดู เขยี นโตต้ อบ บรรยาย สบื คน้ คน้ ควา้ รวบรวม เพ่ือให้นักเรียนมี ความสามารถในการส่ือสารการคิด การแก้ปัญหาการใช้ทักษะชีวิต เทคโนโลยแี ละ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรมู้ ุ่งมนั่ ในการทางาน และมเี จคตทิ ด่ี ตี อ่ วิชาภาษาองั กฤษ โดยการเรยี น กบั ครูผสู้ อนชาวต่างชาติ ผลกำรเรยี นรูู้ 1. นกั เรยี นสามารถถาม - ตอบประโยคงา่ ยๆได้ 2. นกั เรยี นเขา้ ใจคาสงั่ คาขอรอ้ ง ภาษาท่าทาง และคาแนะนาในสถานศกึ ษา 3. นกั เรยี นเขา้ ใจบทสนทนาและบทความสนั้ ๆได้ 4. นกเั รยี นสามารถใชแ้ ละเขา้ ใจไวยากรณภ์ าษาองั กฤษพน้ื ฐานได้ รวมทงั้ หมด 4 ผลกำรเรียนรูู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
โครงสรำ้ งรำยวิชำพน้ื ฐำน / เพ่ิมเติมของกลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำต่ำงประเทศ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น (IEP) รำยวิชำ ( รหสั รำยวิชำ / ช่ือรำยวิชำ ) เวลำเรยี น หน่วยกิต / ชวั ่ โมง รำยวิชำพ้นื ฐำน อ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 1 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 2 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 3 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 4 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 5 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 6 ๑.๕ นก./๖๐ชม. รำยวิชำเพ่ิมเติม ๒.๕ นก./๑๐๐ ชม. ๒.๕ นก./๑๐๐ ชม. อ๒๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร ๑ ๒.๕ นก./๑๐๐ ชม. อ๒๑๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร ๒ ๒.๕ นก./๑๐๐ ชม. อ๒๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 3 ๒.๕ นก./๑๐๐ ชม. อ๒๒๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 4 ๒.๕ นก./๑๐๐ ชม. อ๒๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 5 อ๒๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
โครงสร้ำงรำยวิชำพืน้ ฐำน / เพ่ิมเติมของกลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น (ห้องปกติ) รำยวิชำ ( รหสั รำยวิชำ / ชื่อรำยวิชำ ) เวลำเรยี น หน่วยกิต / ชวั่ โมง รำยวิชำพ้นื ฐำน อ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 1 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 2 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 3 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 4 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 5 ๑.๕ นก./๖๐ชม. อ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 6 ๑.๕ นก./๖๐ชม. รำยวิชำเพิ่มเติม ๐.๕ นก./๒๐ ชม. ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ๑ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๑๒๐3 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ๒ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๑๒๐2 ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ ๑ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๑๒๐๔ ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ ๒ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 3 ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๒๒๐3 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 4 ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๒๒๐2 ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ 3 ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๒๒๐๔ ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ 4 ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 5 ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๓๒๐3 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร 6 ๐.๕ นก./๒๐ ชม. อ๒๓๒๐2 ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ 5 อ๒๓๒๐๔ ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพนื้ ฐำน วิชำภำษำองั กฤษพืน้ ฐำน 1 รหสั วิชำ อ ๒๑๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ ๑ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต อ่านออกเสยี งขอ้ ความ นิทาน บทรอ้ ยกรอง บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่อื งหมายวรรคตอน และการลกดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาองั กฤษและภาษาไทย ปฏบิ ตั ติ ามและใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จง พดู และเขยี นบรรยาย สรุปใจความสาคญั ท่ีได้จากการวเิ คราะห์ แสดงความคิดเห็น เร่ืองเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ สงิ่ แวดลอ้ ม และเหตุการณ์ใกลต้ วั ในความสนใจ ระบุและเลอื กขอ้ มูล ประโยค ขอ้ ความ บทสนทนา นิทาน เรอ่ื งสนั้ และตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังหรอื อ่าน คน้ ควา้ รวบรวม สรปุ ขอ้ มลู จากส่อื และเหล่งเรียนรู้ต่างๆทัง้ ท่ีเป็ นข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เปรยี บเทยี บประเพณี งานเทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั ชวี ติ ความเป็นอยู่และวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษา เขา้ รว่ มและจดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม ส่อื สารดว้ ยภาษาน้าเสยี งและกริ ยิ าท่าทางสภุ าพ เหมาะสม ทงั้ ในสถานการณจ์ าลองอยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมตามกาลเทศะ โดยใช้กระบวนการทางภาษาในการส่ือสาร กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มูลความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่ือให้เกิดความคดิ ความเขา้ ใจสามารถใช้ภาษาองั กฤษส่อื สารในชีวติ ประจาวนั ได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพเหมาะสมตามภาษาและวฒั นธรรมมเี จตคติท่ดี ใี นการเรยี นภาษาองั กฤษ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ เหน็ คุณค่าในการนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั อยู่อย่างพอเพยี ง มคี วามซอ่ื สตั ย์ มุ่งมนั่ ใน การทางาน รกั ความเป็นไทยและมจี ติ สาธารณะ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชี้วดั ต ๑.๑ ม.๑/๒ ต ๑.๑ ม.๑/๓ ต ๑.๑ ม.๑/๔ ต ๑.๒ ม.๑/๒ ต ๑.๒ ม.๑/๓ ต ๑.๒ ม.๑/๔ ต ๑.๒ ม.๑/ ต ๑.๑ ม.๑/๑ ต ๑.๒ ม.๑/๑ ต ๑.๓ ม.๑/๒ ต ๑.๓ ม.๑/๓ ๕ ต ๒.๑ ม.๑/๒ ต ๒.๑ ม.๑/๓ ต ๑.๓ ม.๑/๑ ต๒.๒ ม.๑/๒ ต ๒.๑ ม.๑/๑ ต ๒.๒ ม.๑/๑ ต ๓.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๒ ม.๑/๑ รวม ๒๐ ตวั ชีว้ ดั กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพ้ืนฐำน วิชำภำษำองั กฤษพนื้ ฐำน 2 รหสั วิชำ อ ๒๑๑๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี ๑ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ นิทาน บทรอ้ ยกรอง บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งการออก เสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่อื งหมายวรรคตอน และการลกดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาองั กฤษและภาษาไทย ปฏบิ ตั ติ ามและใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จง พดู และเขยี นบรรยาย สรุปใจความสาคัญท่ีได้จากการวเิ คราะห์ แสดงความคิดเห็น เร่อื งเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ สงิ่ แวดลอ้ ม และเหตุการณ์ใกล้ตวั ในความสนใจ ระบุและเลอื กขอ้ มูล ประโยค ขอ้ ความ บทสนทนา นิทาน เร่อื งสนั้ และตอบคาถามเกยี่ วกบั เร่อื งทฟ่ี ังหรอื อา่ น คน้ ควา้ รวบรวม สรุปขอ้ มูลจากส่อื และเหล่งเรียนรู้ต่างๆทัง้ ท่ีเป็ นข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เปรยี บเทยี บประเพณี งานเทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั ชีวติ ความเป็นอยู่และวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษา เขา้ ร่วมและจดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม ส่อื สารดว้ ยภาษาน้าเสยี งและกริ ยิ าทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสม ทงั้ ในสถานการณจ์ าลองอย่างถูกตอ้ งเหมาะสมตามกาลเทศะ โดยใช้กระบวนการทางภาษาในการส่ือสาร กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มูลความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่ือให้เกิดความคิด ความเขา้ ใจสามารถใช้ภาษาองั กฤษส่อื สารในชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธภิ าพเหมาะสมตามภาษาและวฒั นธรรมมเี จตคติทด่ี ใี นการเรยี นภาษาองั กฤษ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ เหน็ คุณค่าในการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั อยู่อย่างพอเพยี ง มคี วามซอ่ื สตั ย์ มุ่งมนั่ ใน การทางาน รกั ความเป็นไทยและมจี ติ สาธารณะ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชี้วดั ต ๑.๑ ม.๑/๒ ต ๑.๑ ม.๑/๓ ต ๑.๑ ม.๑/๔ ต ๑.๒ ม.๑/๒ ต ๑.๒ ม.๑/๓ ต ๑.๒ ม.๑/๔ ต ๑.๒ ม.๑/ ต ๑.๑ ม.๑/๑ ต ๑.๒ ม.๑/๑ ต ๑.๓ ม.๑/๒ ต ๑.๓ ม.๑/๓ ๕ ต ๒.๑ ม.๑/๒ ต ๒.๑ ม.๑/๓ ต ๑.๓ ม.๑/๑ ต๒.๒ ม.๑/๒ ต ๒.๑ ม.๑/๑ ต ๒.๒ ม.๑/๑ ต ๓.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๑ ม.๑/๑ ต ๔.๒ ม.๑/๑ รวม ๒๐ ตวั ชี้วดั กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม 1 รหสั วิชำ อ 21202 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย ชนั้ มธั ยมศึกษำปี ท่ี ๑ กิต ศกึ ษาเทคนิคกระบวนการการเรยี นรูใ้ นการอ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละการเขยี นส่อื ความ ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง (Topic) ใจความสาคญั (Main idea) และตอบคาถามจากการอ่านบทสนทนา นิทาน และเร่อื งสัน้ เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งต่าง ๆใกลต้ วั กจิ กรรมต่าง ๆพรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผลสนั้ ๆประกอบอย่างเหมาะสม เขยี นสรุปใจความสาคญั แก่นสาร (Theme) ทไ่ี ด้จากการวเิ คราะห์ เร่อื งหรอื เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสาคญั ของสงั คม เข้าร่วมจดั กจิ กรรม ภาษา และวฒั นธรรมตามความ สนใจ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น ค้นคว้าความรู้ ขอ้ มูลจากเร่ืองและแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆใน การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี และนาเสนอดว้ ยการเขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อา่ น เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น สอ่ื ความกระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ให้นกั เรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชุมชนรว่ มพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน 2. ระบแุ ละเขยี นสอ่ื ทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรยี งรปู แบบตา่ ง ๆใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยค และขอ้ ความทฟ่ี ังหรอื อ่าน 3. เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เร่อื งใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื งท่ีฟัง และ อา่ นจากส่อื ประเภท ต่าง ๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ 4. อา่ นและเขยี นสรุปใจความสาคญั / แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรอ่ื งทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่อื ง/ขา่ ว/เหตุการณ์/ สถานการณท์ อ่ี ย่ใู นความสนใจของสงั คม 5. เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 6. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ และ การ ลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย 7. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื จากแหลง่ เรยี นรู้ และ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น 8. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ชมุ ชน และสงั คม 9. เผยแพร่ /ประชาสมั พนั ธ์ ขอ้ มูล ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถนิ่ เป็นภาษาต่างประเทศ รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม วิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม 2 รหสั วิชำ อ 21204 กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี ๑ เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาเทคนคิ กระบวนการการเรยี นรูใ้ นการอ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละการเขยี นส่อื ความ ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง (Topic) ใจความสาคญั (Main idea) และตอบคาถามจากการอ่านบทสนทนา นิทาน และเร่อื งสนั้ เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งตา่ ง ๆใกลต้ วั กจิ กรรมต่าง ๆพรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผลสนั้ ๆประกอบอย่างเหมาะสม เขยี นสรุปใจความสาคญั แก่นสาร (Theme) ท่ไี ดจ้ ากการวเิ คราะห์ เร่อื งหรอื เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสาคญั ของสงั คม เขา้ ร่วมจดั กจิ กรรม ภาษา และวฒั นธรรมตามความ สนใจ ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้น ค้นคว้าความรู้ ข้อมูลจากเร่อื งและแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆใน การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี และนาเสนอดว้ ยการเขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น สอ่ื ความกระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ให้นักเรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสงิ่ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน 2. ระบุและเขยี นส่อื ทไ่ี มใ่ ช่ความเรยี งรปู แบบตา่ งๆใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยค และขอ้ ความทฟ่ี ังหรอื อ่าน 3. เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เรอ่ื งใจความสาคญั รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื งท่ฟี ัง และอ่านจากส่อื ประเภท ต่างๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ 4. อา่ นและเขยี นสรุปใจความสาคญั / แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรอ่ื งทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่อื ง/ขา่ ว/เหตุการณ์/ สถานการณท์ อ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม 5. เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 6. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ และ การลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย 7. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื จากแหลง่ เรยี นรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น 8. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ชมุ ชน และสงั คม 9. เผยแพร่ /ประชาสมั พนั ธ์ ขอ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรยี น ชมุ ชน และทอ้ งถน่ิ เป็นภาษาต่างประเทศ รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม ภำษำองั กฤษเพ่อื กำรสอ่ื สำร 1 รหสั วิชำ อ21201 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ 1 เวลำ 100 ชวั่ โมง จำนวน 2.5 หน่วยกิต ศกึ ษาการฝึกทกั ษะการใชภ้ าษา การฟัง การพดู การอ่าน และการเขยี น สามารถสอ่ื สารและใช้ ภาษาองั กฤษตามสถานการณต์ ่างๆ และสามารถอา่ นจบั ใจความสาคญั การสะกดคา เปรยี บเทยี บความ เหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ การลาดบั คาตามโครงสรา้ งทางภาษา ประโยค ของเจ้าของภาษา และภาษาไทย ตามหัวข้อเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่อื งด่มื เคร่อื งใช้ เวลาวา่ งและนันทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซ้อื ขาย ลม ฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชพี การเดนิ ทางการท่องเท่ยี ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษาและเทคโนโลยี นทิ านและเร่อื งสนั้ จากส่อื ใกลต้ วั และแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล ใชภ้ าษานาเสยี งกรยิ าท่าทางใน การสนทนาตามมารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บรรยายความเป็นมาและ ความสาคญั ของเทศกาลต่างๆ ใชภ้ าษาองั กฤษในการค้นควา้ ขอ้ มูลจากสอ่ื เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา เนน้ ทกั ษะการฟัง พดู อ่าน เขยี น โดยเลือกใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทักษะการจา คดิ วิเคราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชมุ ชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ าย ภาษาทา่ ทาง น้าเสยี ง ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู รวมทงั้ เขา้ ใจคาสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาอธบิ าย ทพ่ี บในชวี ติ ประจาวนั ได้ 2. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสงั คม เพ่อื สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหว่างบคุ คล และสามารถส่อื สารไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 3. ใชภ้ าษาเพ่อื แสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกบั เหตกุ ารณท์ งั้ ในอดตี ปัจจุบนั และอนาคต พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ล โดยใชป้ ระโยชน์จากสอ่ื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะตา่ งๆ รวมทงั้ แสวงหา วธิ กี ารเรยี นภาษาองั กฤษทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง 4. นาเสนอขอ้ มลู เรอ่ื งราว รายงานเกย่ี วกบั ประสบการณ์ และเหตุการณเ์ ร่อื งทวั่ ไปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม 5. เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี ง ประโยคตา่ งๆ การลาดบั คา ตาม โครงสรา้ งประโยคไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การใชข้ องเจา้ ของภาษา กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
6. ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื ง จบั ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดจากบทอา่ นทงั้ ทเี ป็นความเรยี ง และไมเ่ ป็นความ เรยี ง เกย่ี วกบั บคุ คล ความสมั พนั ธร์ ะหว่างบคุ คล สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร การงานอาชพี และ การศกึ ษา จากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ 7. เขยี นประโยคหรอื เขยี น ย่อหนา้ สนั้ ๆ แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื งทอ่ี ่านทเ่ี กยี่ วกบั ตนเอง และ เรอ่ื งใกลต้ วั 8. ใชภ้ าษาองั กฤษในการสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม 9. ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆอยา่ งเหมาะสม รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม ภำษำองั กฤษเพื่อกำรส่อื สำร 1 รหสั วิชำ อ21201 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มธั ยมศึกษำปี ที่ 1 เวลำ 100 ชวั่ โมง จำนวน 2.5 หน่วยกิต ศกึ ษาการฝึกทกั ษะการใชภ้ าษา การฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น สามารถสอ่ื สารและใช้ ภาษาองั กฤษตามสถานการณต์ า่ งๆ และสามารถอา่ นจบั ใจความสาคญั การสะกดคา เปรยี บเทยี บความ เหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ การลาดบั คาตามโครงสรา้ งทางภาษา ประโยค ของเจ้าของภาษา และภาษาไทย ตามหัวข้อเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่อื งดม่ื เคร่อื งใช้ เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร การซ้อื ขาย ลม ฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชีพ การเดนิ ทางการท่องเท่ยี ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษาและเทคโนโลยี นทิ านและเร่อื งสนั้ จากส่อื ใกลต้ วั และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ใชภ้ าษานาเสยี งกรยิ าท่าทางใน การสนทนาตามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บรรยายความเป็นมาและ ความสาคญั ของเทศกาลต่างๆ ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากสอ่ื เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา เนน้ ทกั ษะการฟัง พดู อ่าน เขยี น โดยเลือกใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. อธบิ าย ภาษาท่าทาง น้าเสยี ง ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู รวมทงั้ เขา้ ใจคาสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาอธบิ าย ทพ่ี บในชวี ติ ประจาวนั ได้ 2. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสงั คม เพอ่ื สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคล และสามารถสอ่ื สารไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 3. ใชภ้ าษาเพ่อื แสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกยี่ วกบั เหตกุ ารณท์ งั้ ในอดตี ปัจจบุ นั และอนาคต พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ล โดยใชป้ ระโยชน์จากสอ่ื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะต่างๆ รวมทงั้ แสวงหา วธิ กี ารเรยี นภาษาองั กฤษทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง 4. นาเสนอขอ้ มูล เรอ่ื งราว รายงานเกย่ี วกบั ประสบการณ์ และเหตกุ ารณเ์ รอ่ื งทวั่ ไปไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม 5. เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี ง ประโยคต่างๆ การลาดบั คา ตาม โครงสรา้ งประโยคไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การใชข้ องเจา้ ของภาษา กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
6. ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื ง จบั ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดจากบทอา่ นทงั้ ทเี ป็นความเรยี ง และไมเ่ ป็นความ เรยี ง เกย่ี วกบั บคุ คล ความสมั พนั ธร์ ะหว่างบคุ คล สุขภาพและสวสั ดกิ าร การงานอาชพี และ การศกึ ษา จากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ 7. เขยี นประโยคหรอื เขยี น ย่อหน้าสนั้ ๆ แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื งทอ่ี ่านทเ่ี กยี่ วกบั ตนเอง และ เรอ่ื งใกลต้ วั 8. ใชภ้ าษาองั กฤษในการสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม 9. ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆอย่างเหมาะสม รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสือ่ สำร ๑ รหสั วิชำ อ๒๑๒๐๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ที่ ๑ เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาเทคนคิ กระบวนการการเรยี นรใู้ นการอา่ นคดิ วเิ คราะหแ์ ละการเขยี นสอ่ื ความ ระบหุ วั ข้อ เรอ่ื ง (Topic) ใจความสาคญั (Main idea) และตอบคาถามจากการอา่ นบทสนทนา นทิ าน และเรอ่ื งสนั้ เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั เร่ืองต่าง ๆใกลต้ วั กจิ กรรมต่าง ๆพรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผลสนั้ ๆประกอบอย่างเหมาะสม เขยี นสรปุ ใจความสาคญั แกน่ สาร (Theme) ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะห์ เรอ่ื งหรอื เหตกุ ารณ์ทอ่ี ยู่ในความสาคญั ของสงั คม เขา้ รว่ มจดั กจิ กรรม ภาษา และวฒั นธรรมตามความ สนใจ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ คน้ คว้าความรู้ ขอ้ มูลจากเรอ่ื งและแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆใน การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี และนาเสนอดว้ ยการเขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อา่ น เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความกระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น เป็นผมู้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษพ์ ลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น 2. ระบแุ ละเขยี นสอ่ื ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี งรปู แบบตา่ งๆใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยค และขอ้ ความท่ฟี ังหรอื อ่าน 3. เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เร่อื งใจความสาคญั รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ัง และ อา่ นจากส่อื ประเภท ตา่ งๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ 4. อ่านและเขยี นสรุปใจความสาคญั / แก่นสาระ หวั ขอ้ เรอ่ื งทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่อื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/ สถานการณท์ อ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม 5. เขา้ ร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 6. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ และ การ ลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย 7. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู / ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื จากแหลง่ เรยี นรู้ และ นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
8. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ชมุ ชน และสงั คม 9. เผยแพร่ /ประชาสมั พนั ธ์ ขอ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถนิ่ เป็นภาษาต่างประเทศ รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม วิชำภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 2 รหสั วิชำ อ๒๑๒๐3 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ที่ ๑ เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาเทคนิคกระบวนการการเรยี นรูใ้ นการอ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละการเขยี นส่ือความ ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง (Topic) ใจความสาคญั (Main idea) และตอบคาถามจากการอ่านบทสนทนา นิทาน และเร่อื งสนั้ เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งต่าง ๆใกลต้ วั กจิ กรรมตา่ ง ๆพรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผลสนั้ ๆประกอบอย่างเหมาะสม เขยี นสรุปใจความสาคญั แก่นสาร (Theme) ทไ่ี ด้จากการวเิ คราะห์ เร่อื งหรอื เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสาคญั ของสงั คม เข้าร่วมจดั กิจกรรม ภาษา และวฒั นธรรมตามความ สนใจ ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้น ค้นคว้าความรู้ ข้อมูลจากเร่อื งและแหล่งการเรยี นรูต้ ่างๆใน การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี และนาเสนอดว้ ยการเขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อา่ น เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความกระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ ักเรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชมุ ชนรว่ มพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น 2. ระบแุ ละเขยี นสอ่ื ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรยี งรูปแบบตา่ งๆใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยค และขอ้ ความท่ฟี ังหรอื อา่ น 3. เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เร่อื งใจความสาคญั รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ัง และ อา่ นจากส่อื ประเภท ตา่ งๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ 4. อา่ นและเขยี นสรปุ ใจความสาคญั / แก่นสาระ หวั ขอ้ เรอ่ื งทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่อื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/ สถานการณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม 5. เขา้ ร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 6. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ และ การ ลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย 7. คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื จากแหลง่ เรยี นรู้ และ นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
8. ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ชมุ ชน และสงั คม 9. เผยแพร่ /ประชาสมั พนั ธ์ ขอ้ มูล ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถนิ่ เป็นภาษาต่างประเทศ รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพื้นฐำน วิชำภำษำองั กฤษพน้ื ฐำน 3 รหสั วิชำ อ ๒๒๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จง คาอธบิ ายง่ายๆ ขอ้ ความ รปู แบบของคาวลปี ระโยค ขอ้ มลู ขา่ วสารทเ่ี ป็นความเรยี งและไม่ใช่ความเรยี ง บทรอ้ ยกรอง บทสนทนาในสถานการณต์ ่างๆเร่อื งทเ่ี ป็นสาร คดีและบันเทิงคดีร่วมทงั้ วิถีชีวติ ประเพณี ความเช่อื และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา คิดวิเคราะห์ สงั เคราะหแ์ ละเขยี นส่อื ความ คน้ ควา้ นาเสนอขอ้ มูลเร่อื งราวทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เหตกุ ารณ์ แสดงความคดิ เหน็ ต่อวฒั นธรรมความเช่อื ประเพณีของเจา้ ของภาษาและวเิ คราะห์ความเหมอื นและความแตกต่างรวมทงั้ วเิ คราะหส์ งั เคราะหเ์ น้ือหาภาษาองั กฤษทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ่ืน การใช้ภาษาอังกฤษใน การสอ่ื สารในชวี ติ ประจาวนั เขา้ ใจและตคี วามจากส่อื ประเภทต่างๆและแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสารความคดิ รวบยอดและความเหน็ ในเรอ่ื งตา่ งๆไดเ้ หมาะสม เช่อื มโยงความรู้กบั กลุ่ม สาระการเรยี นรอู้ น่ื และเป็นพน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรแู้ ละเปิดโลกทศั น์ของตนเอง โดยเลอื กใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คิด วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความ สามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ให้นกั เรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ย์สจุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสงิ่ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ต 1.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 ต 1.2 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ,ม.2/4, ม.2/5 ต 1.3 ม.2/1 ,ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1 ,ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.2 ม.2/1 ,ม.2/2 ต 3.1 ม.2/1 ต 4.1 ม.2/1 ต 4.2 ม.2/1 , ม.2/2 รวมทงั้ หมด 21 ตวั ชีว้ ดั กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพนื้ ฐำน วิชำภำษำองั กฤษพื้นฐำน 4 รหสั วิชำ อ ๒๒๑๐๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี ๒ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาการฟัง พูด สนทนาโต้ตอบข้อมูล เร่ืองราวต่างๆใกล้ตัว เทศกาล ขนบธรรมเนียม ประเพณี การขอขอ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาและของไทย การเลอื กอ่านส่อื ขอ้ มลู ขา่ วสารทงั้ เป็นความเรยี งและไม่ใชค่ วาม เรยี งในรปู แบบต่างๆ เขยี นสรุปความรูข้ อ้ มลู ต่างจากส่อื และแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆใชภ้ าษาในการส่อื สาร อย่างเหมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล เวลา โอกาส ใช้กระบวนการเรียนภาษา การแสดงความคิดเห็น นาเสนอขอ้ มูลเร่อื งราวทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เหตุการณ์ ทงั้ เร่อื งราวทไ่ี ดจ้ ากการอ่านแสดงความคดิ เหน็ ตอ่ ความ เช่อื ประเพณีของเจ้าของภาษา และวเิ คราะห์ความเหมอื นความแตกต่าง รวมทงั้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ เน้อื หาภาษาองั กฤษทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื ใชภ้ าษาองั กฤษในการสอ่ื สารในชวี ติ ประจาวนั การศกึ ษาในระดบั สงู ขน้ึ โดยเลือกใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุง่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสงิ่ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ต 1.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 ต 1.2 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ,ม.2/4 , ม.2/5 ต 1.3 ม.2/1 ,ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1 ,ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.2 ม.2/1 ,ม.2/2 ต 3.1 ม.2/1 ต 4.1 ม.2/1 ต 4.2 ม.2/1 ,ม.2/2 รวมทงั้ หมด 21 ตวั ชีว้ ดั กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม 3 รหสั วิชำ อ 22202 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ จำนวน ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี 2 เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาเทคนิคกระบวนการการเรยี นรู้ในการอ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละการเขยี นส่อื ความ ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง (Topic) ใจความสาคญั (Main idea) และตอบคาถามจากการอ่านบทสนทนา นิทาน และเร่อื งสนั้ เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งต่างๆใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆพรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผลสนั้ ๆประกอบอยา่ งเหมาะสม เขยี นสรุปใจความสาคญั แก่นสาร (Theme) ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะห์ เร่อื งหรอื เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสาคญั ของสงั คม เขา้ ร่วมจดั กิจกรรม ภาษา และวฒั นธรรมตามความ สนใจ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น ค้นควา้ ความรู้ ขอ้ มูลจากเร่อื งและแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆใน การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี และนาเสนอดว้ ยการเขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความกระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อ่านออกเสยี งขอ้ ความขา่ วประกาศโฆษณาบทรอ้ ยกรอง และบทละครสนั้ (skit) ถกู ตอ้ งตามหลกั การ อา่ น 2. อธบิ ายและเขยี นประโยค และขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไ่ี มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ 3. จบั ใจความสาคญั สรุปความ และแสดงความคดิ เหน็ จากการอ่าน พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่าง ประกอบ 4. เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่อื ง/ ประเดน็ / เหตกุ ารณท์ อ่ี ่านอยา่ งเหมาะสม 5. เขยี นสรปุ ใจความสาคญั / แกน่ สาระทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง กจิ กรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และ สถานการณ์ ตามความสนใจ 6. เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ ทงั้ ในทอ้ งถน่ิ สงั คม และ โลก พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ 7. อธบิ าย/อภปิ รายวถิ ีชวี ติ ความคดิ ความเชอ่ื และทม่ี าของขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา้ ของภาษา กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
8. คน้ ควา้ /สบื คน้ บนั ทกึ สรุปและแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ขอ้ มูล ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ อ่นื จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ และนาเสนอดว้ ยการเขยี น 9. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ /คน้ ควา้ รวบรวม วเิ คราะห์ และสรุปความร/ู้ ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสอ่ื และ แหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี 10. เผยแพร่ขอ้ มูล ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถน่ิ /ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ รวมทงั้ หมด 10 ผลกำรเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม วิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม 4 รหสั วิชำ อ 22204 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ที่ 2 เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาเทคนิคกระบวนการการเรยี นรู้ในการอ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละการเขยี นส่อื ความ ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง (Topic) ใจความสาคญั (Main idea) และตอบคาถามจากการอ่านบทสนทนา นิทาน และเร่อื งสนั้ เขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งตา่ ง ๆใกลต้ วั กจิ กรรมต่าง ๆพรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผลสนั้ ๆประกอบอย่างเหมาะสม เขยี นสรุปใจความสาคญั แก่นสาร (Theme) ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะห์ เร่อื งหรอื เหตุการณ์ท่ีอยู่ในความสาคญั ของสงั คม เขา้ ร่วมจดั กจิ กรรม ภาษา และวฒั นธรรมตามความ สนใจ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น ค้นคว้าความรู้ ข้อมูลจากเร่อื งและแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆใน การศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี และนาเสนอดว้ ยการเขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อา่ น เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความกระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง ม่งุ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสงิ่ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนร้ทู ่ีคำดหวงั 1. อ่านออกเสยี งขอ้ ความขา่ วประกาศโฆษณาบทรอ้ ยกรอง และบทละครสนั้ (skit) ถูกตอ้ งตามหลกั การ อ่าน 2. อธบิ ายและเขยี นประโยค และขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรยี งรูปแบบตา่ งๆ 3. จบั ใจความสาคญั สรปุ ความ และแสดงความคดิ เหน็ จากการอา่ น พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่าง ประกอบ 4. เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื ง/ ประเดน็ / เหตกุ ารณ์ทอ่ี ่านอยา่ งเหมาะสม 5. เขยี นสรปุ ใจความสาคญั / แก่นสาระทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง กจิ กรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และ สถานการณ์ ตามความสนใจ 6. เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ทงั้ ในทอ้ งถน่ิ สงั คม และ โลก พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
7. อธบิ าย/อภปิ รายวถิ ชี วี ติ ความคดิ ความเช่อื และทม่ี าของขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา้ ของภาษา 8. คน้ ควา้ /สบื คน้ บนั ทกึ สรุปและแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ อน่ื จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ และนาเสนอดว้ ยการเขยี น 9. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ /คน้ ควา้ รวบรวม วเิ คราะห์ และสรุปความร/ู้ ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสอ่ื และ แหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี 10. เผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรยี น ชมุ ชน และทอ้ งถนิ่ /ประเทศชาติ เป็นภาษาตา่ งประเทศ รวมทงั้ หมด 10 ผลกำรเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม วิชำภำษำองั กฤษเพื่อกำรสอ่ื สำร 3 รหสั วิชำ อ๒2201 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ 2 เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาทกั ษะการใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร จากสง่ิ ทอ่ี า่ น-ฟังและพบเหน็ จากขา่ วสารขอ้ มลู สารคดี บนั เทงิ คดี จากสอ่ื อนั หลากหลาย ทงั้ ส่อื สง่ิ พมิ พแ์ ละสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทเ่ี กย่ี วกบั ศลิ ปวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว / เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม พดู แสดงความตอ้ งการ และสอ่ื สาร อยา่ งต่อเน่อื งและเหมาะสม โตต้ อบสอ่ื ความ เลอื กและใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา คาชแ้ี จง คาอธบิ าย อย่างคลอ่ งแคล่ว และแสดงความคดิ เหน็ ไดต้ ามตอ้ งการ ใช้ ภาษา น้าเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ และสถานการณจ์ าลองอยา่ งเหมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล เวลา โอกาส และสถานท่ี ถกู ตอ้ งตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความกระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ ยดึ ปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. สนทนาโตต้ อบขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองและเร่อื งต่าง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว/ เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม และสอ่ื สาร อยา่ งตอ่ เน่อื งและเหมาะสม 2. พดู แสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณ์จาลองหรอื สถานการณ์จรงิ อย่างเหมาะสม 3. พดู เพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่อื ง/ประเดน็ / ขา่ ว/ เหตกุ ารณท์ ฟ่ี ังอยา่ งเหมาะสม 4. พดู บรรยายความรสู้ กึ และแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั เร่อื งตา่ ง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์อยา่ งมเี หตุผล 5. พดู นาเสนอขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เรอ่ื งและประเดน็ ตา่ ง ๆ ตามความ สนใจ ของสงั คม กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
6. เลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางเหมาะกบั ระดบั ของบุคคล โอกาส และสถานท่ี ตามมารยาท สงั คม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 7. คน้ ควา้ /สบื คน้ บนั ทกึ สรปุ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ขอ้ มลู ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ อน่ื จากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ และนาเสนอดว้ ยการพดู รวมทงั้ หมด 7 ผลกำรเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพอื่ กำรสอ่ื สำร 4 รหสั วิชำ อ๒2203 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2 เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาทกั ษะการใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร จากสงิ่ ทอ่ี ่าน-ฟังและพบเหน็ จากขา่ วสารขอ้ มูล สารคดี บนั เทงิ คดี จากส่อื อนั หลากหลาย ทงั้ ส่อื ส่ิงพมิ พแ์ ละสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ท่เี กยี่ วกบั ศลิ ปวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว / เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม พดู แสดงความตอ้ งการ และส่อื สาร อย่างต่อเน่อื งและเหมาะสม โตต้ อบสอ่ื ความ เลอื กและใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา คาช้แี จง คาอธบิ าย อยา่ งคลอ่ งแคล่ว และแสดงความคดิ เห็น ไดต้ ามตอ้ งการ ใช้ ภาษา น้าเสยี ง และกิรยิ าท่าทางในการส่อื สารในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จาลองอย่างเหมาะสมกับ ระดบั ของบุคคล เวลา โอกาส และสถานท่ี ถกู ตอ้ งตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน ทกั ษะการจา คดิ วิเคราะห์และเขยี น ส่ือ ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ย์สจุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่ เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ ยึดปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. สนทนาโตต้ อบขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเองและเร่อื งต่าง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว/ เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม และสอ่ื สาร อย่างตอ่ เน่อื งและเหมาะสม 2. พดู แสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณจ์ าลองหรอื สถานการณ์จรงิ อยา่ งเหมาะสม 3. พดู เพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื ง/ประเดน็ / ขา่ ว/ เหตกุ ารณท์ ฟ่ี ังอย่างเหมาะสม 4. พดู บรรยายความรสู้ กึ และแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งตา่ ง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และ ขา่ ว/เหตุการณ์อย่างมเี หตผุ ล 5. พดู นาเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เร่อื งและประเดน็ ตา่ ง ๆ ตามความ สนใจ ของสงั คม กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
6. เลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางเหมาะกบั ระดบั ของบุคคล โอกาส และสถานท่ี ตามมารยาท สงั คม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 7. คน้ ควา้ /สบื คน้ บนั ทกึ สรปุ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ขอ้ มลู ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ อน่ื จากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ และนาเสนอดว้ ยการพดู รวมทงั้ หมด 7 ผลกำรเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพอื่ กำรสอื่ สำร 3 รหสั วิชำ อ๒2201 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ 2 เวลำ 100 ชวั่ โมง จำนวน 2.5 หน่วยกิต ศกึ ษาการฝึกทกั ษะการใชภ้ าษา การฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น สามารถส่อื สารและใช้ ภาษาองั กฤษตามสถานการณ์ต่างๆ และสามารถอ่านจบั ใจความสาคญั การสะกดคา เปรยี บเทยี บความ เหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ การลาดบั คาตามโครงสรา้ งทางภาษา ประโยค ของเจ้าของภาษา และภาษาไทย ตามหัวข้อเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อาหาร เครอ่ื งด่มื เคร่อื งใช้ เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร การซอ้ื ขาย ลม ฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางการท่องเท่ียว การบริการ สถานท่ี ภาษาและ เทคโนโลยี นิทานและเรอ่ื งสนั้ จากสอ่ื ใกลต้ วั และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ใชภ้ าษานาเสยี งกรยิ า ทา่ ทางในการสนทนาตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บรรยายความเป็นมาและ ความสาคญั ของเทศกาลตา่ งๆ ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากส่อื เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา เน้นทกั ษะการฟัง พดู อ่าน เขยี น โดยเลอื กใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน ทักษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชมุ ชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ าย ภาษาทา่ ทาง น้าเสยี ง ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู รวมทงั้ เขา้ ใจคาสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาอธบิ าย ทพ่ี บ ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 2. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสงั คม เพ่อื สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคล และสามารถส่อื สารไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 3. ใชภ้ าษาเพอ่ื แสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกยี่ วกบั เหตุการณ์ทงั้ ในอดตี ปัจจบุ นั และอนาคต พรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผล โดยใชป้ ระโยชน์จากสอ่ื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะตา่ งๆ รวมทงั้ แสวงหา วธิ กี าร เรยี นภาษาองั กฤษทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง 4. นาเสนอขอ้ มูล เรอ่ื งราว รายงานเกยี่ วกบั ประสบการณ์ และเหตกุ ารณเ์ รอ่ื งทวั่ ไปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม 5. เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี ง ประโยคตา่ งๆ การลาดบั คา ตาม โครงสรา้ งประโยคไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การใชข้ องเจา้ ของภาษา กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
6. ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื ง จบั ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดจากบทอา่ นทงั้ ทเี ป็นความเรยี ง และไม่เป็นความ เรยี ง เกย่ี วกบั บคุ คล ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคล สุขภาพและสวสั ดกิ าร การงานอาชพี และการศกึ ษา จาก สอ่ื ประเภทตา่ งๆ 7. เขยี นประโยคหรอื เขยี น ยอ่ หนา้ สนั้ ๆ แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื งทอ่ี า่ นทเ่ี กย่ี วกบั ตนเอง และเร่อื ง ใกล้ ตวั 8. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม 9. ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆอย่างเหมาะสม รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม วิชำภำษำองั กฤษเพอื่ กำรส่ือสำร 4 รหสั วิชำ อ๒2203 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2 เวลำ 100 ชวั่ โมง จำนวน 2.5 หน่วยกิต ศกึ ษาการฝึกทกั ษะการใชภ้ าษา การฟัง การพูด การอา่ น และการเขยี น สามารถส่อื สารและใช้ ภาษาองั กฤษตามสถานการณ์ต่างๆ และสามารถอา่ นจบั ใจความสาคญั การสะกดคา เปรยี บเทยี บความ เหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ การลาดบั คาตามโครงสรา้ งทางภาษา ประโยค ของเจ้าของภาษา และภาษาไทย ตามหัวข้อเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งดม่ื เครอ่ื งใช้ เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซ้อื ขาย ลม ฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชพี การเดนิ ทางการท่องเท่ยี ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษาและเทคโนโลยี นิทานและเร่อื งสนั้ จากส่ือใกลต้ วั และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ใชภ้ าษานาเสยี งกรยิ าท่าทางใน การสนทนาตามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บรรยายความเป็นมาและ ความสาคญั ของเทศกาลต่างๆ ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากส่อื เทคโนโลยี แหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา เนน้ ทกั ษะการฟัง พดู อ่าน เขยี น โดยเลือกใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ให้นกั เรยี น เป็นผูม้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. อธบิ าย ภาษาทา่ ทาง น้าเสยี ง ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู รวมทงั้ เขา้ ใจคาสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาอธบิ าย ทพ่ี บ ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 2. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสงั คม เพอ่ื สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคล และสามารถสอ่ื สารไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 3. ใชภ้ าษาเพอ่ื แสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกบั เหตุการณท์ งั้ ในอดตี ปัจจุบนั และอนาคต พรอ้ มทงั้ ให้ เหตผุ ล โดยใชป้ ระโยชน์จากส่อื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะตา่ งๆ รวมทงั้ แสวงหา วธิ กี าร เรยี นภาษาองั กฤษทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง 4. นาเสนอขอ้ มูล เร่อื งราว รายงานเกย่ี วกบั ประสบการณ์ และเหตุการณเ์ ร่อื งทวั่ ไปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม 5. เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี ง ประโยคตา่ งๆ การลาดบั คา ตาม โครงสรา้ งประโยคไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การใชข้ องเจา้ ของภาษา กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
6. ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื ง จบั ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดจากบทอา่ นทงั้ ทเี ป็นความเรยี ง และไม่เป็นความ เรยี ง เกย่ี วกบั บคุ คล ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคล สุขภาพและสวสั ดกิ าร การงานอาชพี และการศกึ ษา จาก สอ่ื ประเภทตา่ งๆ 7. เขยี นประโยคหรอื เขยี น ยอ่ หนา้ สนั้ ๆ แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื งทอ่ี า่ นทเ่ี กย่ี วกบั ตนเอง และเร่อื ง ใกล้ ตวั 8. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม 9. ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆอย่างเหมาะสม รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพื้นฐำน วิชำภำษำองั กฤษพ้ืนฐำน 5 รหสั วิชำ อ ๒๓๑๐๑ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี ๓ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาขอ้ มูลเกย่ี วกบั การดาเนนิ ชวี ติ ครอบครวั อาชพี การดแู ล การให/้ ขอหรอื นาเสนอขอ้ มูล เกีย่ วกบั การเดนิ ทาง และสถานทท่ี ่องเทย่ี ว การเขยี นจดหมายอิเล็กโทรนิค ขอ้ ความจากส่อื ประเภท หนังสอื พิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต สารคดี ละคร เพลง กีฬา ภาพยนตร์ เทศกาลท่นี ่าสนใจ รวมถงึ กิจกรรมบนั เทงิ ต่าง ๆ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภยั ธรรมชาติ ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ท่เี กดิ ข้นึ ในอดตี สงิ่ ของในเร่อื งของรูปร่างหน้าตา/ลกั ษณะทป่ี รากฏ ปัญหา สง่ิ แวดลอ้ ม สงิ่ มหศั จรรย์ ของโลก การคมุ้ ครองสตั วป์ ่า การบรจิ าคเงนิ การเลอื กซอ้ื สนิ คา้ อยา่ งฉลาด ประเภทของอาหาร การเชญิ ชวน การตอบรบั และการตอบปฏเิ สธ การวางแผนในการจดั งาน การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ / สถานการณ์จาลองท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรยี นสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม การแสดงความขอบคุณและยก ย่องชมเชย และการแสดงความคดิ เหน็ การให้คาแนะนา คาสงั่ การแสดงเง่อื นไขต่างๆ ท่อี ยู่ในความ สนใจของนักเรยี นทถ่ี ูกต้องเหมาะสมกบั วฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมท้องถิ่น และวฒั นธรรมของเจา้ ของ ภาษา โดยเลือกใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ให้นักเรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ย์สจุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชุมชนรว่ มพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 , ม.3/5 ต 1.1 ม.3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 ต 1.2 ม.3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 ต 1.3 ม.3/1 , ม.3/2 ต 2.1 ม.3/1 , ต 2.2 ม.3/1 , ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1 ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/1 , รวมทงั้ หมด 21 ตวั ชี้วดั กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพื้นฐำน วิชำภำษำองั กฤษพืน้ ฐำน ๖ รหสั วิชำ อ ๒๓๑๐๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ที่ ๓ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาขอ้ มูลเกยี่ วกบั การดาเนนิ ชวี ติ ครอบครวั อาชพี การดูแล การให/้ ขอหรอื นาเสนอขอ้ มูล เกีย่ วกบั การเดนิ ทาง และสถานทท่ี ่องเทย่ี ว การเขยี นจดหมายอเิ ล็กโทรนิค ขอ้ ความจากส่อื ประเภท หนังสอื พิมพ์ วิทยุ โทรทศั น์ อินเตอร์เน็ต สารคดี ละคร เพลง กีฬา ภาพยนตร์ เทศกาลท่นี ่าสนใจ รวมถงึ กจิ กรรมบนั เทงิ ตา่ ง ๆ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภยั ธรรมชาติ ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ ท่เี กิดข้นึ ในอดตี สง่ิ ของในเร่อื งของรปู ร่างหน้าตา/ลกั ษณะท่ปี รากฏ ปัญหา สง่ิ แวดล้อม สงิ่ มหศั จรรย์ ของโลก การคมุ้ ครองสตั วป์ ่า การบรจิ าคเงนิ การเลอื กซ้อื สนิ คา้ อย่างฉลาด ประเภทของอาหาร การเชญิ ชวน การตอบรบั และการตอบปฏเิ สธ การวางแผนในการจดั งาน การใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ / สถานการณ์จาลองทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรยี นสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม การแสดงความขอบคุณและยก ย่องชมเชย และการแสดงความคดิ เหน็ การให้คาแนะนา คาสงั่ การแสดงเง่อื นไขต่างๆ ทอ่ี ยู่ในความ สนใจของนักเรยี นทถ่ี ูกต้องเหมาะสมกบั วฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น และวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษา โดยเลือกใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ให้นกั เรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนรว่ มพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชี้วดั ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 , ม.3/5 ต 1.1 ม.3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 ต 1.2 ม.3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 ต 1.3 ม.3/1 , ม.3/2 ต 2.1 ม.3/1 , ต 2.2 ม.3/1 , ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1 ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/1 , รวมทงั้ หมด 21 ตวั ชีว้ ดั กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม 5 รหสั วิชำ อ ๒๓๒๐2 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ที่ 2 เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษารูปแบบของขอ้ ความ คา วลี ประโยค ขอ้ มูลขา่ วสารท่เี ป็นความเรยี งและไม่ใช่ความเรยี ง บทร้อยกรอง เร่อื งท่เี ป็นสารคดี และบนั เทงิ คดี รวมทงั้ วถิ ีชีวติ ความเช่อื และวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษา โดยใช้กระบวนการอ่าน การตีความ การวเิ คราะห์ การสงั เคราะห์ และแสดงความคดิ เห็นทใ่ี ช้ ถอ้ ยคาของตนเอง นาเสนอขอ้ มลู เร่อื งราวทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั เหตุการณ์ ทงั้ เรอ่ื งราวทไ่ี ดจ้ ากการอ่าน แสดง ความคดิ เหน็ ต่อวฒั นธรรม ความเช่อื ประเพณีของเจา้ ของภาษา และวเิ คราะหค์ วามเหมอื นและความ แตกตา่ ง รวมทงั้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ เน้อื หาภาษาองั กฤษทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พดู อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความ กระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถ ในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ ักเรยี น เป็นผู้มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมท้องถน่ิ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณาบทรอ้ ยกรองและบทละครสนั้ (skit) ถูกตอ้ งตาม หลกั การอา่ น 2. เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ทอ่ี า่ น รวมทงั้ ระบุ และเขยี นสอ่ื ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยค และขอ้ ความทฟ่ี ังหรอื อา่ น 3. จบั ใจความสาคญั วเิ คราะหค์ วามสรุปความ ตคี วาม และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟังและอา่ น เรอ่ื งทเ่ี ป็นสารคดแี ละบนั เทงิ คดี พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ 4. เขยี นโตต้ อบขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเองและเรอ่ื งต่าง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว / เหตุการณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม และส่อื สาร อยา่ งต่อเน่อื งและเหมาะสม 5. เขยี นแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณ์จาลอง หรอื สถานการณ์จรงิ อย่างเหมาะสม 6. เขยี นบรรยายความรสู้ กึ และแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เรอ่ื งตา่ งๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์อยา่ งมเี หตุผล 7. เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื ง/ ประเดน็ /ขา่ ว/เหตุการณท์ ฟ่ี ังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
8. เขยี นนาเสนอขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เรอ่ื งและประเดน็ ตา่ งๆ ตาม ความสนใจของสงั คม 9. เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ทงั้ ในทอ้ งถนิ่ สงั คม และโลก พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ 10. เขยี นสรปุ ใจความสาคญั ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่อื ง กจิ กรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และสถานการณ์ ตามความสนใจ รวมทงั้ หมด 10 ผลกำรเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม 6 รหสั วิชำ อ ๒๓๒๐4 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ 2 เวลำ ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษารปู แบบของขอ้ ความ คา วลี ประโยค ขอ้ มลู ขา่ วสารทเ่ี ป็นความเรยี งและไมใ่ ชค่ วามเรยี ง บทร้อยกรอง เร่ืองท่เี ป็นสารคดี และบนั เทงิ คดี รวมทงั้ วถิ ีชวี ติ ความเช่อื และวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษา โดยใช้กระบวนการอ่าน การตีความ การวเิ คราะห์ การสงั เคราะห์ และแสดงความคดิ เห็นทใ่ี ช้ ถอ้ ยคาของตนเอง นาเสนอขอ้ มลู เร่อื งราวท่เี ก่ียวขอ้ งกบั เหตุการณ์ ทงั้ เร่อื งราวท่ไี ด้จากการอ่าน แสดง ความคดิ เหน็ ต่อวฒั นธรรม ความเช่ือ ประเพณีของเจา้ ของภาษา และวเิ คราะห์ความเหมอื นและความ แตกตา่ ง รวมทงั้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ เน้อื หาภาษาองั กฤษท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขียน ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชมุ ชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณาบทรอ้ ยกรองและบทละครสนั้ (skit) ถกู ตอ้ งตามหลกั การ อา่ น 2. เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรยี งรปู แบบตา่ งๆ ทอ่ี า่ น รวมทงั้ ระบุและ เขยี นสอ่ื ท่ี ไม่ใชค่ วามเรยี งรปู แบบต่างๆ ใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยค และขอ้ ความทฟ่ี ังหรอื อ่าน 3. จบั ใจความสาคญั วเิ คราะหค์ วามสรปุ ความ ตคี วาม และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟังและอ่านเรอ่ื ง ทเ่ี ป็น สารคดแี ละบนั เทงิ คดี พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ 4. เขยี นโตต้ อบขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองและเรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว / เหตุการณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม และสอ่ื สาร อย่างตอ่ เน่อื งและเหมาะสม 5. เขยี นแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณจ์ าลองหรอื สถานการณ์จรงิ อย่างเหมาะสม 6. เขยี นบรรยายความรสู้ กึ และแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่างๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และ ขา่ ว/เหตกุ ารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
7. เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรอ่ื ง/ ประเดน็ / ขา่ ว/เหตุการณ์ทฟ่ี ังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม 8. เขยี นนาเสนอขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เร่อื งและประเดน็ ตา่ งๆ ตามความ สนใจ ของสงั คม 9. เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ ทงั้ ในทอ้ งถนิ่ สงั คม และ โลก พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่างประกอบ 10. เขยี นสรุปใจความสาคญั ทไ่ี ด้จากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง กจิ กรรม ขา่ ว เหตกุ ารณ์ และสถานการณ์ตาม ความ สนใจ รวมทงั้ หมด 10 ผลกำรเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม วิชำภำษำองั กฤษเพือ่ กำรสอ่ื สำร 5 รหสั วิชำ อ23201 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศึกษำปี ท่ี 3 เวลำ 100 ชวั่ โมง จำนวน 2.5 หน่วยกิต ศกึ ษาการฝึกทกั ษะการใชภ้ าษา การฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น สามารถส่อื สารและใช้ ภาษาองั กฤษตามสถานการณ์ต่างๆ และสามารถอ่านจบั ใจความสาคญั การสะกดคา เปรยี บเทยี บความ เหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ การลาดบั คาตามโครงสรา้ งทางภาษา ประโยค ของเจา้ ของภาษา และภาษาไทย ตามหวั ขอ้ เร่ืองเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่อื งด่มื เคร่อื งใช้ เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวสั ดิการ การซ้ือขาย ลมฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชพี การเดนิ ทางการทอ่ งเทย่ี ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษาและเทคโนโลยี นทิ านและเรอ่ื งสนั้ จากส่ือใกล้ตัว และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ใช้ภาษานาเสียงกริยาท่าทางในการสนทนาตาม มารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บรรยายความเป็นมาและความสาคญั ของเทศกาลต่างๆ ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากส่อื เทคโนโลยี แหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา เน้น ทกั ษะการฟัง พูด อ่าน เขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความ กระบวนการทางานกลมุ่ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถใน การคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มวี นิ ยั ใฝ่ เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งานและ สงิ่ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชมุ ชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ าย ภาษาทา่ ทาง น้าเสยี ง ความรูส้ กึ ของผพู้ ูดรวมทงั้ เขา้ ใจคาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา คาอธบิ าย ท่ี พบใน ชวี ติ ประจาวนั และสอ่ื จรงิ สอ่ื ทเ่ี ป็นความเรยี งและไม่เป็นความเรยี ง ส่อื อเิ ลค็ ทรอนคิ ส์ 2. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสงั คม เพ่อื สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คล และสามารถส่อื สารอย่างตอ่ เน่ือง 3. ใช้ภาษาเพ่อื แสดงความรู้สกึ ของตนเองเกย่ี วกบั เหตุการณ์ทงั้ ในอดตี ปัจจุบนั และอนาคต พรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผล โดยใชป้ ระโยชน์จากสอ่ื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะตา่ งๆ รวมทงั้ แสวงหาวธิ กี ารเรยี น ภาษาองั กฤษทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง 4. นาเสนอขอ้ มลู เรอ่ื งราว รายงานเกยี่ วกบั ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ขา่ วปัจจบุ นั ส่อื สง่ิ พมิ พ์ ส่อื อเิ ลคทรอนคิ ส์ เร่อื งทอ่ี ย่ใู นความสนใจ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม 5. จบั ใจความสาคญั การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ บรู ณาการทกั ษะการเรยี นรู้ บอกรายละเอยี ด ความเป็นมา จาก ส่อื ทเ่ี ป็นความเรยี งและไมเ่ ป็นความเรยี ง ส่อื สงิ่ พมิ พแ์ ละสอ่ื อเิ ลค็ ทรอนคิ ส์ ไดอ้ ย่างเหมาะสม กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
6. เขยี นอธบิ ายแสดงความคดิ เห็น แสดงเหตุผล และนาเสนอผลงานอย่างมเี หตุผล เปรยี บเทยี บใชภ้ าษานา เสยี ง กรยิ าท่าทางในการสนทนาตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของเจา้ ของภาษา 7. เปรยี บเทียบความเหมอื น ความแตกต่างของคา ประโยค วลี จากบทความ ชนิดต่างๆ ตามโครงสร้าง ประโยค 8. เขยี นประโยคคาถาม สรุปความ ย่อความ เรยี งความ แสดงความคดิ เหน็ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผล เกย่ี วกบั เร่อื ง ทอ่ี า่ น เกี่ยวกับตนเอง เร่ืองท่ีอยู่ใกล้ตัว ชีวติ ความเป็นอยู่ วัฒนธรรมและสงั คม เร่อื งราวท่ีน่าสนใจ ข่าว เหตกุ ารณ์ 9. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ขน และ สงั คม 10. ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆอย่างเหมาะสม รวมทงั้ หมด 10 ผลกำรเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม ภำษำองั กฤษเพ่อื กำรสอื่ สำร 6 รหสั วิชำ อ23203 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี 3 เวลำ 100 ชวั่ โมง จำนวน 2.5 หน่วยกิต ศกึ ษาการฝึกทกั ษะการใช้ภาษา การฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น สามารถส่อื สารและใช้ ภาษาองั กฤษตามสถานการณ์ต่างๆ และสามารถอ่านจบั ใจความสาคญั การสะกดคา เปรยี บเทยี บความ เหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ การลาดบั คาตามโครงสร้างทางภาษา ประโยค ของเจา้ ของภาษา และภาษาไทย ตามหวั ขอ้ เร่อื งเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่อื งด่มื เคร่อื งใช้ เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซ้ือขาย ลมฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชพี การเดนิ ทางการท่องเทย่ี ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษาและเทคโนโลยี นิทานและเรอ่ื งสนั้ จากส่ือใกล้ตัว และแสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตุผล ใช้ภาษานาเสยี งกรยิ าท่าทางในการสนทนาตาม มารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บรรยายความเป็นมาและความสาคญั ของเทศกาลต่างๆ ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากสอ่ื เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา เนน้ ทกั ษะการฟัง พดู อา่ น เขยี น โดยเลอื กใชท้ กั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น สอ่ื ความ กระบวนการทางานกล่มุ /คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คอื ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถใน การคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่ เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งานและ สง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชมุ ชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ าย ภาษาท่าทาง น้าเสยี ง ความรูส้ กึ ของผพู้ ูดรวมทงั้ เขา้ ใจคาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา คาอธบิ าย ท่ี พบใน ชวี ติ ประจาวนั และสอ่ื จรงิ สอ่ื ทเ่ี ป็นความเรยี งและไมเ่ ป็นความเรยี ง สอ่ื อเิ ลค็ ทรอนคิ ส์ 2. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสงั คม เพอ่ื สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหว่างบุคคล และสามารถส่อื สารอยา่ งต่อเน่ือง 3. ใช้ภาษาเพ่อื แสดงความรูส้ กึ ของตนเองเก่ยี วกบั เหตุการณ์ทงั้ ในอดตี ปัจจุบนั และอนาคต พรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผล โดยใชป้ ระโยชน์จากส่อื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะต่างๆ รวมทงั้ แสวงหาวธิ กี ารเรยี น ภาษาองั กฤษทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง 4. นาเสนอขอ้ มลู เรอ่ื งราว รายงานเกย่ี วกบั ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ขา่ วปัจจบุ นั สอ่ื สง่ิ พมิ พ์ สอ่ื อเิ ลคทรอนิคส์ เร่อื งทอ่ี ยใู่ นความสนใจ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม 5. จบั ใจความสาคญั การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ บูรณาการทกั ษะการเรยี นรู้ บอกรายละเอยี ด ความเป็นมา จาก สอ่ื ทเ่ี ป็นความเรยี งและไมเ่ ป็นความเรยี ง สอ่ื สง่ิ พมิ พแ์ ละส่อื อเิ ลค็ ทรอนคิ ส์ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
6. เขยี นอธบิ ายแสดงความคดิ เห็น แสดงเหตุผล และนาเสนอผลงานอย่างมเี หตุผล เปรยี บเทยี บใชภ้ าษานา เสยี ง กรยิ าท่าทางในการสนทนาตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของเจา้ ของภาษา 7. เปรยี บเทียบความเหมอื น ความแตกต่างของคา ประโยค วลี จากบทความ ชนิดต่างๆ ตามโครงสร้าง ประโยค 8. เขยี นประโยคคาถาม สรุปความ ย่อความ เรยี งความ แสดงความคดิ เหน็ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผล เกย่ี วกบั เร่อื ง ทอ่ี า่ น เกี่ยวกับตนเอง เร่ืองท่ีอยู่ใกล้ตัว ชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมและสงั คม เร่อื งราวท่ีน่าสนใจ ข่าว เหตกุ ารณ์ 9. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ขน และ สงั คม 10. ใชภ้ าษาองั กฤษในการคน้ ควา้ และนาเสนอขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆอย่างเหมาะสม รวมทงั้ หมด 10 ผลกำรเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม วิชำภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 5 รหสั วิชำ อ23201 กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี 3 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษาทกั ษะการฟังบทสนทนาและขอ้ ความสนั้ ๆ แลว้ จบั ใจความ และพดู บอกรายละเอยี ดและ สรุปประเด็นสาคญั ได้ อ่านออกเสยี งบทสนทนาถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน ใชภ้ าษาและโครงสร้างทาง ไวยากรณ์ในการพดู โต้ตอบในสถานการณ์ท่แี ตกตา่ งหลากหลาย โดยใช้ภาษา น้าเสยี ง กิรยิ าท่าทางท่ี เหมาะสมตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เช่น พูดทกั ทาย พูดให้ขอ้ มูลส่วน บุคคล พูดถามและให้ขอ้ มูลเก่ียวกับสง่ิ ของ เหตุการณ์และความบนั เทงิ พูดเช้อื เชิญ พูดคุยเกี่ยวกับ บุคลกิ ภาพ ความสามารถและความสนใจของบุคคล เหตุการณ์ข้อมูลส่วนบุคคลในอดตี ใช้คาศพั ท์ใน การพดู เกย่ี วกบั วถิ ชี วี ติ ในอดตี และการเปลย่ี นแปลงรูปลกั ษณะส่วนบุคคล ฝึกการใชภ้ าษาในการเรยี บ เรยี งลาดบั การเกดิ ของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ใช้คาศพั ท์โครงสรา้ งภาษาในการสรปุ ความคดิ เหน็ การพดู คุย เก่ียวกับวัฒนธรรม ได้รับการส่งเสริมให้เป็นผู้ท่ีใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมัน่ ในการทางาน รู้จักกาลเทศะ มี สนุ ทรยี ภาพทางภาษา รจู้ กั เขา้ ใจ และภูมใิ จในตวั เอง โดยเลอื กใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขียน ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ ักเรยี น เป็นผู้มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสงิ่ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ชุมชนร่วมพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อ่านออกเสยี ง คา กลมุ่ คา บทสนทนา อา่ นออกเสยี ง สงู ต่าของประโยค เช่อื มโยงระหว่างคา และ บทสนทนา และอ่านออกเสยี ง เนน้ ประโยค (sentence stress) ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การออกเสยี ง 2. พดู สนทนาโตต้ อบ แลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกย่ี วกบั กจิ กรรมยามว่าง ความสมั พนั ธใ์ นครอบครวั ความชอบ และความสนใจสว่ นบุคคล ในการแนะนาตวั เองและผอู้ ่นื ได้ 3. บอกความหมายของศพั ทแ์ ละสานวนภาษาเกย่ี วกบั สงิ่ ของเคร่อื งใช้ เหตกุ ารณ์ ความบนั เทงิ รายการอาหาร 4. พดู บรรยายบคุ ลกิ ลกั ษณะ ความสามารถ ลกั ษณะนิสยั ของบุคคล กจิ กรรมและการศกึ ษาได้ 5. ฟังประโยค บทสนทนา แลว้ ระบุภาพ ประโยค และเขยี นเตมิ คาทข่ี าดหายและตอบคาถามได้ 6. พดู ถาม-ตอบเกยี่ วกบั สงิ่ ของเคร่อื งใช้ เหตกุ ารณ์ ความบนั เทงิ อาหารในงานเลย้ี งในโอกาสต่าง ๆ ใหข้ อ้ มูลและบรรยายสง่ิ ของตา่ ง ๆ ได้ 7. พดู ใหค้ าแนะนาเกย่ี วกบั ทศิ ทาง และใหค้ าแนะนาในเร่อื งตา่ งๆ ได้ 8. พดู เกยี่ วกบั การวางแผนในอนาคตได้ 9. พดู แสดงความยนิ ดแี ละกลา่ วชมได้ รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสอ่ื สำร 6 รหสั วิชำ อ23203 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ 3 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษาทกั ษะการฟังบทสนทนาและขอ้ ความสนั้ ๆ แลว้ จบั ใจความ และพูดบอกรายละเอียด และสรปุ ประเดน็ สาคญั ได้ อา่ นออกเสยี งบทสนทนาถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น ใชภ้ าษาและโครงสรา้ งทาง ไวยากรณ์ในการพดู โตต้ อบในสถานการณท์ แ่ี ตกตา่ งหลากหลาย โดยใชภ้ าษา น้าเสยี ง กิรยิ าท่าทางท่ี เหมาะสมตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น พูดถามและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สงิ่ ของ เหตุการณ์และความบนั เทิง พูดเช้อื เชิญ พูดคุยเกี่ยวกับบุคลกิ ภาพ ความสามารถและความ สนใจของบุคคล เหตุการณ์ขอ้ มูลส่วนบุคคลในอดตี ใช้คาศัพทใ์ นการพดู เกยี่ วกบั วถิ ีชีวติ ในอดีต ฝึก การใช้ภาษาในการเรยี บเรยี งลาดบั การเกดิ ของเหตุการณ์ต่าง ๆ พูดให้ขอ้ เสนอแนะและความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การท่องเทย่ี ว ใชค้ าศพั ทโ์ ครงสรา้ งภาษาในการพดู ใหค้ าแนะนา การแกป้ ัญหา การสรุปความ คดิ เหน็ การพูดคุยเกี่ยวกบั วฒั นธรรม ได้รบั การส่งเสรมิ ให้เป็นผู้ท่หี มนั่ พฒั นาตนเอง ขยนั หมนั่ เพยี ร มุ่งมนั่ ในการทางาน มเี หตุผล สามารถแกป้ ัญหาเฉพาะหน้า และมสี นุ ทรยี ภาพทางภาษา โดยเลอื กใช้ทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน เขยี น ทกั ษะการจา คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ส่อื ความกระบวนการทางานกลุ่ม/คู่ และสมรรถนะ 5 สมรรถนะ คือ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถ ในการใชเ้ ทคโนโลยี เพ่อื ใหน้ กั เรยี น เป็นผมู้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ติ สาธารณะ อนุรกั ษ์พลงั งาน และสง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชุมชนรว่ มพฒั นา ยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. ฟังประโยค บทสนทนา แลว้ ระบุภาพ ประโยค และเขยี นเตมิ คาทข่ี าดหายและตอบคาถามได้ 2. พูดถามตอบใหข้ อ้ มูล การวางแผนเกยี่ วกบั กจิ กรรมทจ่ี ะทาในอนาคต วฒั นธรรมและกฎระเบยี บของชาว อเมรกิ นั และความเป็นไปในชวี ติ ประจาวนั 3. พดู ใหค้ าแนะนา ปรกึ ษาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ 4. พดู สนทนาโตต้ อบเกย่ี วกบั ประสบการณแ์ ละเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในอดตี 5. อา่ นออกเสยี ง สงู ต่าของคา กลมุ่ คา ประโยค อา่ นออกเสยี ง เชอ่ื มโยงระหว่างคา และ บท สนทนา ได้ ถูกตอ้ งตามหลกั การออกเสยี ง 6. บอกความหมายของศพั ท์และสานวนจากภาพ เกยี่ วกบั การทอ่ งเทย่ี ว โดยการเดาจากรูปภาพได้ 7. ใชส้ านวนภาษาในการพดู บอกเรอ่ื งทไ่ี ม่ดหี รอื ขา่ วรา้ ยได้ 8. ใชส้ านวนภาษาในการพดู ถามตอบขอ้ มูลเกยี่ วกบั การท่องเทย่ี วเดนิ ทางได้ 9. ใชส้ านวนภาษาในการพดู โตต้ อบในสงิ่ ทเ่ี ขา้ ใจผดิ ได้ รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
โครงสร้ำงรำยวิชำพน้ื ฐำน / เพิ่มเติมของกลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย รำยวิชำ ( รหสั รำยวิชำ / ชื่อรำยวิชำ ) เวลำเรียน หน่วยกิต / ชวั ่ โมง รำยวิชำพ้นื ฐำน อ๓๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๑ นก./๔๐ชม. อ๓๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๑ นก./๔๐ชม. อ๓๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ ๑ นก./๔๐ชม. อ๓๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๔ ๑ นก./๔๐ชม. อ๓๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ ๑ นก./๔๐ชม. อ๓๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๖ ๑ นก./๔๐ชม. รำยวิชำเพ่ิมเติม ๑ นก./๔๐ ชม. ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ๑ ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๑๒๐3 ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร ๒ ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๑๒๐2 ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ ๑ ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๑๒๐๔ ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ ๒ ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร 3 ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๒๒๐3 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 4 ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๒๒๐2 ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ 3 ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๒๒๐๔ ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ 4 ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 5 ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๓๒๐3 ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 6 ๑ นก./๔๐ ชม. อ3๓๒๐2 ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ 5 อ3๓๒๐๔ ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพ้ืนฐำน วิชำภำษำองั กฤษพน้ื ฐำน 1 รหสั วิชำ อ ๓๑๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ ๔ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่านปฏบิ ตั ิ ตามคาแนะนาในค่มู อื การใชง้ าน เลอื กและใช้คาขอรอ้ ง คาชแ้ี จง คาอธบิ าย รวมทงั้ ใหค้ าแนะนะอธบิ าย ระบุ เขยี นประโยค และข้อความสมั พันธ์กับส่ือท่ีไม่ใช่ความเรยี นในรูปแบบต่างๆ ท่ีฟังและอ่านจับ ใจความสาคญั ตคี วาม วเิ คราะห์ สรุป เร่อื งทเ่ี ป็นสารคดแี ละบนั เทงิ คดี สนทนาโตต้ อบเขยี นแสดงความ ตอ้ งการ ความรู้สกึ เสนอและให้ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์จาลอง และ สถานการณ์จรงิ อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ขอและให้ขอ้ มูลนาเสนอเร่อื งราวเก่ียวกบั ตนเอง ประเด็นข่าว เหตุการณ์ท่ีฟังและอ่านอย่างเหมาะสม อธิบาย เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่าง โครงสร้างประโยค ข้อความสานวน คาพังเพย สุภาษิต วถิ ีชีวติ ความเช่ือท่ีมาของขนบธรรมเนียม ประเพณีและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษกบของไทย เขา้ ร่วมแนะนากิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม อย่างเหมาะสม คน้ คว้าสบื คน้ รวบรวม แสดงความคดิ เหน็ บนั ทึกสรุป นาเสนอความรู้ ขอ้ มูลต่างๆท่ี เกย่ี วขอ้ งกลั ป์ กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื ๆ จากส่อื และเหล่งเรยี นรทู้ ่หี ลากหลายในการศกึ ษาต่อและประกอบ อาชพี เผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ข้อมูล ข่าวสารโรงเรยี น ชุมชนเป็นภาษาองั กฤษ โดยใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกรยิ าท่าทางในการส่อื สารในสถานการณ์จริง ถูกต้องตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของ เจา้ ของภาษา โดยใชก้ ระบวนการส่อื สาร กระบวนการคดิ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสบื ค้นขอ้ มูล ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และการใชส้ อ่ื เทคโนโลยี เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถใช้ภาษาองั กฤษส่อื สารในชวี ิตประจาวนั ได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวฒั นธรรม มเี จตคตทิ ด่ี ใี นการเรยี นภาษาองั กฤษ มีนิสยั รกั การอ่าน ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทยและมจี ติ สาธารณะตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ต ๑.๑ม.๔-๖/๓ ต ๑.๑ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๓ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๒ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๓ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๓ ต๒.๒ ม.๔-๖/๑ ต๒.๒ ม.๔-๖/๒ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๒ รวม ๒๑ ตวั ชีว้ ั กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพนื้ ฐำน วิชำภำษำองั กฤษพ้นื ฐำน 2 รหสั วิชำ อ ๓๑๑๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ ๔ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง ถูกต้องตามหลักการอ่าน ปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาในคู่มอื การใชง้ าน เลอื กและใชค้ าขอรอ้ ง คาชแ้ี จง คาอธบิ าย รวมทงั้ ใหค้ าแนะนะ อธบิ ายระบุ เขยี นประโยค และขอ้ ความสมั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรยี นในรปู แบบตา่ งๆ ท่ฟี ังและอ่านจบั ใจความสาคญั ตคี วาม วเิ คราะห์ สรุป เร่อื งทเ่ี ป็นสารคดแี ละบนั เทงิ คดี สนทนาโตต้ อบเขยี นแสดงความ ต้องการ ความรู้สึก เสนอและให้ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์จาลอง และ สถานการณ์จรงิ อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ขอและให้ขอ้ มูลนาเสนอเร่ืองราวเกยี่ วกบั ตนเอง ประเด็นข่าว เหตุการณ์ท่ีฟังและอ่านอย่างเหมาะสม อธิบาย เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่าง โครงสร้างประโยค ขอ้ ความสานวน คาพังเพย สุภาษิต วถิ ีชีวติ ความเช่อื ท่ีมาของขนบธรรมเนียม ประเพณีและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษกบของไทย เขา้ ร่วมแนะนากิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม อย่างเหมาะสม คน้ คว้าสบื คน้ รวบรวม แสดงความคดิ เห็น บนั ทึกสรุป นาเสนอความรู้ ขอ้ มูลต่างๆท่ี เกยี่ วขอ้ งกลั ป์ กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื ๆ จากส่อื และเหลง่ เรียนรทู้ ห่ี ลากหลายในการศกึ ษาตอ่ และประกอบ อาชพี เผยแพร่ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มูล ขา่ วสารโรงเรยี น ชุมชนเป็ นภาษาองั กฤษ โดยใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกรยิ าท่าทางในการส่อื สารในสถานการณ์จริง ถูกต้องตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของ เจา้ ของภาษา โดยใช้กระบวนการสอ่ื สาร กระบวนการคดิ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มูล ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และการใชส้ ่อื เทคโนโลยี เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถใช้ภาษาองั กฤษส่อื สารในชวี ิตประจาวนั ได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวฒั นธรรม มเี จตคตทิ ด่ี ใี นการเรยี นภาษาองั กฤษ มนี ิสยั รกั การอ่าน ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทยและมจี ิต สาธารณะตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ต ๑.๑ม.๔-๖/๓ ต ๑.๑ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๓ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๒ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๓ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๓ ต๒.๒ ม.๔-๖/๑ ต๒.๒ ม.๔-๖/๒ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๒ รวม ๒๑ ตวั ชี้วดั กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182