- คาสนั ธาน (conjunctions) and/ but/ or/ because/ so/ before/ after etc. - Infinitive pronouns :some/ any/ someone/ anyone/ everyone/ one/ ones etc. - Tenses : present simple/ present continuous/ present perfect/ past simple/ future tense etc. - Simple sentence/ Compound sentence/ Complex sentence ม. ๔-๖ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาในคู่มอื การใช้ คาแนะนา คาชแ้ี จง คาอธบิ าย คาบรรยาย เช่น งานต่างๆ คาชแ้ี จง คาอธบิ าย และคา ประกาศเตอื นภยั ตา่ งๆ ยาและการใชย้ า การใช้ บรรยายทฟ่ี ังและอา่ น อุปกรณแ์ ละสง่ิ ของ การสบื คน้ ขอ้ มลู ทาง อนิ เทอรเ์ นต็ - Modal verb : should/ ought to/ need/ have to/ must+ verb ทเ่ี ป็น infinitive without to เช่น You should have it after meal. (Active Voice)/The doses must be divided. (Passive Voice) - Direct/Indirect Speech - คาสนั ธาน (conjunction) and/ but/ or/ so/ not only…but also/ both…and/ as well as/ after/ because etc. - ตวั เช่อื ม (connective words) เชน่ First,… Second,… Third,… Fourth,… Next,… Then,… ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถิ่น ม.4-6 ๒. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง และ ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง และ บทละครสนั้ การใชพ้ จนานุกรม หลกั การอ่านออก บทละครสนั้ (skit) ถกู ตอ้ งตาม เสยี ง เช่น หลกั การอา่ น - การออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คาและพยญั ชนะทา้ ยคา สระเสยี งสนั้ สระเสยี งยาว สระประสม - การออกเสยี งเนน้ หนกั -เบา ในคาและกลุ่มคา - การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสงู -ต่า ในประโยค - การออกเสยี งเช่อื มโยงในขอ้ ความ - การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
- การอา่ นบทรอ้ ยกรองตามจงั หวะ ๓. อธบิ ายและเขยี นประโยค ประโยคและขอ้ ความ การตคี วาม/ถ่ายโอนขอ้ มลู ให้ และขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไ่ี มใ่ ช่ สมั พนั ธก์ บั ส่อื ทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรยี ง เช่น ภาพ แผนผงั ความเรยี งรปู แบบตา่ งๆ ทอ่ี ่าน กราฟ แผนภูมิ ตาราง อกั ษรยอ่ จากกลมุ่ สาระการ รวมทงั้ ระบแุ ละเขยี นสอ่ื ทไ่ี ม่ใชค่ วาม เรยี นรอู้ น่ื ดว้ ยการพดู และการเขยี นอธบิ าย โดยใช้ เรยี งรูปแบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธก์ บั Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : ประโยค และขอ้ ความทฟ่ี ังหรอื อา่ น but, although, however, in spite of…/ Logical connectives เชน่ caused by/ followed by/ consist of. etc. ม. ๔-๖ ๔. จบั ใจความสาคญั วเิ คราะหค์ วาม เร่อื งทเ่ี ป็นสารคดแี ละบนั เทงิ คดี การจบั ใจความ สรุปความ ตคี วาม และแสดงความ สาคญั การสรุปความ การวเิ คราะหค์ วามการ คดิ เหน็ จากการฟังและอา่ นเรอ่ื งทเ่ี ป็น ตคี วาม สารคดแี ละบนั เทงิ คดี พรอ้ มทงั้ ให้ การใช้ skimming/scanning/guessing/context clue เหตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ ประโยคทใ่ี ชใ้ นการแสดงความคดิ เหน็ การให้ เหตผุ ลและการยกตวั อย่าง เชน่ I believe…/ I agree with… but…/ Well, I must say…/ What do you think of /about…?/I think/don’t think…?/ What’s your opinion about…?/ In my opinion…/ - if clauses - so…that/such…that - too to…/enough to… - on the other hand,…- other (s)/another/the other (s) - คาสนั ธาน (conjunctions) because/and/so/but/ however/because of/due to/owing to ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น ม.4-6 - Infinitive pronouns : some, any, someone, anyone, everyone, one, ones etc. - Tenses : present simple/present continuous/ present perfect/past simple/future tense etc. - Simple sentence/Compound sentence/Complex sentence กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
สำระที่ ๑ ภำษำเพอ่ื กำรส่ือสำร มำตรฐำน ต ๑.๒ มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถ่ิน ป.๑ ๑. พดู โตต้ อบดว้ ยคาสนั้ ๆ งา่ ยๆ ใน บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ การสอ่ื สารระหว่างบุคคลตามแบบท่ี ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง ฟัง เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am…/ Goodbye./ Bye./ Thank you./ I am sorry. etc. ๒. ใชค้ าสงั่ งา่ ยๆ ตามแบบทฟ่ี ัง คาสงั่ ทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถ่ิน ป.1 ๓. บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชบ้ อกความตอ้ งการ ตนเองตามแบบทฟ่ี ัง เช่น I want…/Please,… etc. ๔. พดู ขอและใหข้ อ้ มลู ง่ายๆ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองตามแบบทฟ่ี ัง เกยี่ วกบั ตนเอง เชน่ What’s your name?/ My name is…/ I am…/ How are you?/ I am fine. etc. ป.๒ ๑. พดู โตต้ อบดว้ ยคาสนั้ ๆ งา่ ยๆ ใน บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ การส่อื สารระหวา่ งบคุ คลตามแบบท่ี ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง ฟัง เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ How are you?/ I’m fine./ I am… / Goodbye./ Bye./ Thank you./ I am sorry. etc. ๒. ใชค้ าสงั่ และคาขอรอ้ งงา่ ยๆ ตาม คาสงั่ และคาขอรอ้ งทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น แบบทฟ่ี ัง ๓. บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชบ้ อกความตอ้ งการ ตนเองตามแบบทฟ่ี ัง เชน่ I want…/ Please,… etc. ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
๔. พดู ขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มูล เกยี่ วกบั ตนเองตามแบบทฟ่ี ัง เกย่ี วกบั ตนเอง เช่น What’s your name?/ My name is…/ I am…/ How are you?/ I am fine. etc. ป.๓ ๑. พดู โตต้ อบดว้ ยคาสนั้ ๆ ง่ายๆ ใน บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ การส่อื สารระหว่างบคุ คลตามแบบท่ี ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง ฟัง เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are you? I’m fine. Thank you. And you?/ Nice to see you./ Nice to see you too./ Goodbye./Bye./ See you soon/ later./ Thanks./ Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome. etc. ๒ .ใชค้ าสงั่ และคาขอรอ้ งง่ายๆ ตาม คาสงั่ และคาขอรอ้ งทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น แบบทฟ่ี ัง ๓. บอกความตอ้ งการงา่ ยๆ ของ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชบ้ อกความตอ้ งการ ตนเองตามแบบทฟ่ี ัง เช่น Please,…/ May I go out?/ May I come in? etc. ๔. พดู ขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เกย่ี วกบั คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู ตนเอง และเพอ่ื นตามแบบทฟ่ี ัง เกยี่ วกบั ตนเอง และเพอ่ื น เชน่ What’s your name? My name is… How are you? I am fine. What time is it? It is one o’clock. What is this It is a/an… How many…are there? There is a/an…/There are… Who is…? He/She is… etc. ๕. บอกความรสู้ กึ ของตนเอง คาและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงความรสู้ กึ เชน่ ดใี จ เสยี ใจ เกย่ี วกบั สงิ่ ต่างๆ ใกลต้ วั หรอื ชอบไม่ชอบ เชน่ Yeah!/ Great!/ Cool!/ I’m กจิ กรรมตา่ งๆ ตามแบบทฟ่ี ัง happy./ I like cats./ I don’t like snakes. etc. กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น ป.๔ ๑. พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สาร ระหว่างบุคคล บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ขอโทษ การพดู แทรกอยา่ งสภุ าพ ประโยค/ขอ้ ความ ทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง เพอ่ื น และบุคคลใกลต้ วั และ สานวนการตอบรบั เชน่ Hi/Hello/Good morning/Good afternoon/ Good evening./How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/ Hello. I am… This is my sister. Her name is… Hello,…/Nice to see you. Nice to see you too./Goodbye./ Bye./See you soon. ป.๔ ๒ .ใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง และคาขอ คาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาขออนุญาตทใ่ี ชใ้ น อนุญาตงา่ ยๆ หอ้ งเรยี น ๓. พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชแ้ สดงความ ของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ตอ้ งการและขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ งๆ ในสถานการณ์งา่ ยๆ เชน่ I want …/ Please…/ May…?/ I need your help./ Please help me./ Help me! etc. กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
๔. พดู /เขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มูล เกยี่ วกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครวั เกยี่ วกบั ตนเอง สง่ิ ใกลต้ วั เพอ่ื น และครอบครวั เช่น What’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/There are… Where is the…? It is in/on/under… etc. ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถิ่น ป.๕ ๑. พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สาร ระหวา่ งบคุ คล บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ งสุภาพ ประโยค/ ขอ้ ความทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง เพอ่ื น และบุคคลใกลต้ วั และสานวนการตอบรบั เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are you?/ I’m fine. Thank you. And you?/ Hello. I am…/ Hello,…I am… This is my sister. Her name is… /Hello,…/ Nice to see you. Nice to see you too./ Goodbye./ Bye./ See you soon/later./ Good/Very good./ Thanks./ Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome./ It’s O.K. etc. ๒. ใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง คาขอ คาสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนาทม่ี ี ๑-๒ ขนั้ ตอน อนุญาต และใหค้ าแนะนาง่ายๆ ๓. พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชบ้ อกความตอ้ งการ ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และ ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม ปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ใน ชว่ ยเหลอื เชน่ Please…/ May…?/ I need…/ สถานการณ์ง่ายๆ Help me!/ Can/ Could…?/ Yes,.../No,… etc. กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
๔. พดู /เขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มูล เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเร่อื งใกลต้ วั เกยี่ วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเรอ่ื งใกลต้ วั เชน่ What do you do? I’m a/an… What is she/he? …is a/an (อาชพี ) How old/tall…? I am… Is/Are/Can…or…? …is/are/can… Is/Are…going to…or…? …is/are going to… etc. ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถิ่น ป.5 ๕. พดู /เขยี นแสดงความรสู้ กึ ของ ตนเองเกยี่ วกบั เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ วั คาและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงความรสู้ กึ เชน่ ชอบ ไม่ และกจิ กรรมตา่ งๆ พรอ้ มทงั้ ให้ ชอบ ดใี จ เสยี ใจ มคี วามสขุ เศรา้ หวิ รสชาติ เชน่ เหตผุ ลสนั้ ๆ ประกอบ I’m…/He/She/It is…/You/We/They are… I/You/We/They like…/He/She likes…because… I/You/We/They love…/He/She loves…because… I/You/We/They don’t like/love/feel…because… He/She doesn’t like/love/feel…because… I/You/We/They feel…because… etc. กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ป.๖ ๑. พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สาร บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ ระหวา่ งบุคคล ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ งสภุ าพ ประโยค/ ขอ้ ความทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง เพอ่ื น และบคุ คลใกลต้ วั และสานวนการตอบรบั เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are you?/ I’m fine./ Very wel./ Thank you. And you?/ Hello. I am… Hello,…I am… This is my sister. Her name is… Hello,…/ Nice to see you. Nice to see you, too./ Goodbye./ Bye./ See you soon/later./ Great!/ Good./ Very good. Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome./ It’s O.K./ That’s O.K./ That’s all right./ Not at all./ Don’t worry./ Never mind./ Excuse me./ Excuse me, Sir./Miss./Madam. etc. ๒. ใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง และให้ คาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนาทม่ี ี ๒-๓ ขนั้ ตอน คาแนะนา ๓. พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชบ้ อกความตอ้ งการ ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และ ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม ปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลอื ใน ชว่ ยเหลอื เชน่ Please…/ May…?/ I need…/ สถานการณ์งา่ ยๆ Help me!/ Can/Could…?/ Yes,.../No,… etc. กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถ่ิน ป.6 ๔. พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั เกยี่ วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเร่อื งใกลต้ วั และเรอ่ื งใกลต้ วั เช่น What do you do? I’m a/an… What is she/he? …is a/an (อาชพี ) How old/tall…? I am… Is/Are/Can…or…? …is/are/can… Is/Are…going to…or…? …is/are going to… etc. ๕. พดู /เขยี นแสดงความรสู้ กึ ของ คาและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงความรสู้ กึ และการให้ ตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งต่างๆ ใกลต้ วั เหตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ/ไม่ชอบ ดใี จ เสยี ใจ กจิ กรรมตา่ งๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ล มคี วามสุข เศรา้ หวิ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด สนั้ ๆ ประกอบ เสยี งดงั ดี ไมด่ ี เชน่ I’m…/He/She/It is…/You/We/They are… I/You/We/They like…/He/She likes…because… I/You/We/They love…/He/She loves…because… I/You/We/They don’t like/love/feel…because… He/She doesn’t like/love/feel…because… I/You/We/They feel…because… etc. กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ม.๑ ๑. สนทนา แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ภาษาทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารระหว่างบุคคล เชน่ การ เกย่ี วกบั ตนเอง กจิ กรรม และ ทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การ สถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั พดู แทรกอย่างสภุ าพ การชกั ชวน ประโยค/ ขอ้ ความ ทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง เพอ่ื น และบคุ คลใกล้ ตวั และสานวนการตอบรบั การแลกเปลย่ี นขอ้ มูล เกย่ี วกบั ตนเอง กจิ กรรม สถานการณต์ ่างๆ ใน ชวี ติ ประจาวนั ๒. ใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา และ คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาชแ้ี จง คาชแ้ี จง ตามสถานการณ์ ๓. พดู และเขยี นแสดงความตอ้ งการ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ ขอความ ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และ ช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ใน เช่น สถานการณต์ ่างๆ อยา่ งเหมาะสม Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/ May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูล คาศพั ท์ สานวน ประโยค และขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื ง ขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ทฟ่ี ังหรอื อ่านอย่างเหมาะสม เร่อื งทฟ่ี ังหรอื อา่ น กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
๕. พดู และเขยี นแสดงความรสู้ กึ และ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรสู้ กึ ความคดิ เหน็ และ ความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ ไม่ชอบ ดใี จ เสยี ใจ เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั กจิ กรรมตา่ งๆ มคี วามสขุ เศรา้ หวิ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสยี ง พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลสนั้ ๆ ประกอบ ดงั ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตุการณ์ สถานการณ์ ใน อยา่ งเหมาะสม ชวี ติ ประจาวนั เช่น Nice/ Very nice./ Well done!/ Congratulations. I like… because… / I love…because…/ I feel… because… I think…/ I believe…/ I agree/disagree… I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc. ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถิ่น ม.๒ ๑. สนทนา แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล เชน่ การ เกย่ี วกบั ตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ วั ทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การ และสถานการณต์ ่างๆ ใน พดู แทรกอย่างสภุ าพ การชกั ชวน ประโยค/ ชวี ติ ประจาวนั อยา่ งเหมาะสม ขอ้ ความ ทใ่ี ชแ้ นะนาตนเอง เพ่อื น และบคุ คลใกล้ ตวั และสานวนการตอบรบั การแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง เรอ่ื งใกลต้ วั สถานการณ์ตา่ งๆ ใน ชวี ติ ประจาวนั ๒. ใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จง และคาอธบิ าย คาชแ้ี จง และคาอธบิ ายตาม สถานการณ์ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
๓. พดู และเขยี นแสดงความตอ้ งการ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ เสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลอื ความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม ในสถานการณต์ ่างๆ อย่างเหมาะสม ชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ งๆ เช่น Please…/…, please./ I’d like…/ I need… / May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./ Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล คาศพั ท์ สานวน ประโยค และขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการ บรรยาย และแสดงความคดิ เหน็ ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่อื งทฟ่ี ังหรอื อ่านอยา่ ง เกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังหรอื อา่ น เหมาะสม ๕. พดู และเขยี นแสดงความรสู้ กึ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรสู้ กึ ความคดิ เหน็ และ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกบั ใหเ้ หตุผลประกอบ เชน่ ชอบ ไมช่ อบ ดใี จ เสยี ใจ เร่อื งต่างๆ กจิ กรรม และประสบการณ์ มคี วามสุข เศรา้ หวิ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสยี ง พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลประกอบอยา่ ง ดงั ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตกุ ารณ์ สถานการณ์ ใน เหมาะสม ชวี ติ ประจาวนั เชน่ Nice./ Very nice./ Well done!/ Congratulations on… / I like…because…/ I love…because…/ I feel… because…/ I think…/ I believe…/ I agree/ disagree…/ I’m afraid I don’t like…/ I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc. กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถิ่น ม.๓ ๑. สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มูล ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สารระหว่างบุคคล เชน่ การ เกย่ี วกบั ตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆใกลต้ วั ทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การ สถานการณ์ ขา่ ว เรอ่ื งทอ่ี ยูใ่ น พดู แทรกอย่างสภุ าพ การชกั ชวน การแลกเปลย่ี น ความสนใจของสงั คมและส่อื สาร ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง เรอ่ื งใกลต้ วั สถานการณ์ อยา่ งตอ่ เน่อื งและเหมาะสม ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั การสนทนา/เขยี นขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองและบุคคลใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว เร่อื งทอ่ี ย่ใู นความสนใจในชวี ติ ประจาวนั ๒. ใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาช้แี จง คาอธบิ าย ทม่ี ขี นั้ ตอน คาชแ้ี จง และคาอธบิ ายอย่าง ซบั ซอ้ น เหมาะสม ๓. พดู และเขยี นแสดงความตอ้ งการ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ เสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตอบรบั ความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม และปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ชว่ ยเหลอื ในสถานการณต์ ่างๆ เช่น ในสถานการณต์ ่างๆ อย่างเหมาะสม Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/ May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./ Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู คาศพั ท์ สานวน ประโยค และขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการ อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความ ขอและใหข้ อ้ มูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดง คดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังหรอื อา่ น ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่อื งทฟ่ี ังหรอื อ่าน อยา่ งเหมาะสม กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
๕. พดู และเขยี นบรรยายความรสู้ กึ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรสู้ กึ ความคดิ เหน็ และ และความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ ไมช่ อบ ดใี จ เสยี ใจ เร่อื งต่างๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ มคี วามสขุ เศรา้ หวิ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสยี ง และขา่ ว/เหตุการณ์ พรอ้ มทงั้ ให้ ดงั ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตกุ ารณ์ สถานการณ์ ใน เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม ชวี ติ ประจาวนั เช่น Nice./ Very nice./ Well done!/ Congratulations on... / I like…because…/ I love… because… / I feel… because…I think…/ I believe…/ I agree/disagree…/ I’m afraid …/ I don’t like… I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc. ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น ม.๔-๖ ๑. สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มูล ภาษาทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารระหวา่ งบุคคล เช่น การ เกยี่ วกบั ตนเองและเร่อื งต่าง ๆ ทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ พดู แทรกอย่างสภุ าพ การชกั ชวน การแลกเปลย่ี น ขา่ ว / เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยใู่ น ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เรอ่ื งใกลต้ วั สถานการณ์ ความสนใจของสงั คม และสอ่ื สาร ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั การสนทนา/เขยี นขอ้ มลู อย่างตอ่ เน่อื งและเหมาะสม เกยี่ วกบั ตนเองและบุคคลใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณต์ ่างๆ ขา่ วเหตุการณ์ ประเดน็ ท่อี ยูใ่ น ความสนใจของสงั คม ๒. เลอื กและใชค้ าขอรอ้ ง ให้ คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จง คาอธบิ าย ทม่ี ี คาแนะนา คาชแ้ี จง คาอธบิ าย ขนั้ ตอนซบั ซอ้ น อยา่ งคลอ่ งแคลว่ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
๓.พดู และเขยี นแสดงความตอ้ งการ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ เสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ ความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์จาลอง ชว่ ยเหลอื ในสถานการณต์ า่ งๆ เช่น หรอื สถานการณ์จรงิ อยา่ งเหมาะสม Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/ May/Can/Could…?/Would you please…?Yes,../ Please do. /Certainly./ Yes, of course./Sure./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ If you like I could…/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ Would you like me to help you?/ If you need anything, please…/ Is there anything I can do?/ I’ll do it for you./ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูล คาศพั ท์ สานวน ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการ บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื ง/ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ประเดน็ /ขา่ ว/ ประเดน็ /ขา่ ว/เหตุการณท์ ฟ่ี ังและอา่ น เหตกุ ารณ์ทฟ่ี ังและอา่ น อย่างเหมาะสม กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถ่ิน ม.๔-๖ ๕. พดู และเขยี นบรรยายความรสู้ กึ และแสดงความคดิ เหน็ ของตนเอง ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรสู้ กึ ความคดิ เหน็ และ เกย่ี วกบั เร่อื งตา่ งๆ กจิ กรรม ใหเ้ หตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ ไมช่ อบ ดใี จ เสยี ใจ ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ มคี วามสุข เศรา้ หวิ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสยี ง อย่างมเี หตุผล ดงั ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตกุ ารณ์ สถานการณ์ ใน ชวี ติ ประจาวนั เชน่ Nice./Very nice./Well done!/Congratulations on… I like… because…/ I love… because…/ I feel… because…/I think…/I believe…/ I agree/disagree…/ I’m afraid I don’t like…/ I don’t believe…/I have no idea…/ Oh no! etc. กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
สำระที่ ๑ ภำษำเพ่อื กำรสื่อสำร มำตรฐำน ต ๑.๓ นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอ่ื งต่างๆ โดยการพดู และการเขยี น ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ป.๑ ๑. พดู ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองและ คาและประโยคทใ่ี ชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั เร่อื งใกลต้ วั ตนเอง บคุ คลใกลต้ วั และเร่อื งใกลต้ วั เชน่ บอกชอ่ื อายุ รปู ร่าง ส่วนสงู เรยี กสง่ิ ตา่ งๆ จานวน ๑-๒๐ สี ขนาด สถานทอ่ี ยขู่ องสงิ่ ของ ป.๒ ๑. พดู ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองและ คาและประโยคทใ่ี ชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั เรอ่ื งใกลต้ วั ตนเอง บคุ คลใกลต้ วั และเรอ่ื งใกลต้ วั เช่น บอกช่อื อายุ รูปรา่ ง ส่วนสงู เรยี กสงิ่ ต่างๆ จานวน ๑-๓๐ สี ขนาด สถานทอ่ี ยขู่ องสง่ิ ของ ป.๓ ๑. พดู ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองและ คาและประโยคทใ่ี ชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั เรอ่ื งใกลต้ วั ตนเอง บคุ คลใกลต้ วั และเรอ่ื งใกลต้ วั เชน่ บอกชอ่ื อายุ รูปร่าง ส่วนสงู เรยี กสงิ่ ต่างๆ จานวน ๑-๕๐ สี ขนาด สถานทอ่ี ยขู่ องสงิ่ ของ ๒. จดั หมวดหมคู่ าตามประเภทของ คา กลมุ่ คาทม่ี คี วามหมายเกย่ี วกบั บุคคล สตั ว์ บุคคล สตั ว์ และสง่ิ ของ ตามทฟ่ี ัง และสง่ิ ของ เชน่ การระบ/ุ เช่อื มโยงความสมั พนั ธ์ หรอื อา่ น ของภาพกบั คา หรอื กลมุ่ คา โดยใชภ้ าพ แผนภูมิ แผนภาพ แผนผงั ป.๔ ๑. พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั และเร่อื งใกลต้ วั ตนเอง บุคคล สตั ว์ และเรอ่ื งใกลต้ วั เชน่ ช่อื อายุ รูปร่าง สี ขนาด รูปทรง สงิ่ ตา่ งๆ จานวน ๑-๑๐๐ วนั เดอื น ปี ฤดูกาล ทอ่ี ยูข่ องสงิ่ ต่างๆ เคร่อื งหมายวรรคตอน ๒. พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธ์ คา กลมุ่ คาทม่ี คี วามหมายสมั พนั ธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ ของสง่ิ ตา่ งๆ ใกลต้ วั ตามทฟ่ี ังหรอื ใกลต้ วั เช่น การระบ/ุ เช่อื มโยงความสมั พนั ธข์ อง อา่ น ภาพกบั คา หรอื กลมุ่ คา โดยใชภ้ าพ แผนภมู ิ แผนภาพ แผนผงั ๓. พดู แสดงความคดิ เหน็ ง่ายๆ ประโยคทใ่ี ชใ้ นการแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื ง เกย่ี วกบั เร่อื งตา่ งๆ ใกลต้ วั ตา่ งๆ ใกลต้ วั ป.๕ ๑. พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั และเร่อื งใกลต้ วั บุคคล สตั ว์ สถานท่ี และกจิ กรรมตา่ งๆ เช่น ขอ้ มลู กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
ส่วนบุคคล เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั จานวน ๑-๕๐๐ ลาดบั ท่ี วนั เดอื น ปี ฤดูกาล เวลา สภาพดนิ ฟ้า อากาศ อารมณ์ ความรสู้ กึ สี ขนาด รูปทรง ทอ่ี ยู่ ของสงิ่ ตา่ งๆ เคร่อื งหมายวรรคตอน ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ป.5 ๒. เขยี นภาพ แผนผงั และแผนภูมิ คา กลมุ่ คา ประโยคทแ่ี สดงขอ้ มูลและความหมาย แสดงขอ้ มูลต่างๆ ตามทฟ่ี ังหรอื อา่ น ของเร่อื งตา่ งๆ ภาพ แผนผงั แผนภูมิ ตาราง ๓. พดู แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ประโยคทใ่ี ชใ้ นการพดู แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ วั กจิ กรรมหรอื เร่อื งตา่ งๆ ใกลต้ วั ป.๖ ๑. พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั เพอ่ื น และสง่ิ แวดลอ้ มใกลต้ วั ตนเอง กจิ วตั รประจาวนั เพอ่ื น สง่ิ แวดลอ้ มใกลต้ วั เชน่ ขอ้ มลู ส่วนบุคคล เรยี กสง่ิ ต่างๆ จานวน ๑- ๑,๐๐๐ ลาดบั ท่ี วนั เดอื น ปี ฤดกู าล เวลา กจิ กรรมทท่ี า สี ขนาด รปู ทรง ทอ่ี ยู่ของสงิ่ ตา่ งๆ ทศิ ทางง่ายๆ สภาพดนิ ฟ้าอากาศ อารมณ์ ความรสู้ กึ เครอ่ื งหมายวรรคตอน ๒. เขยี นภาพ แผนผงั แผนภมู ิ คา กลมุ่ คา และประโยคทม่ี คี วามหมายสมั พนั ธก์ บั และตารางแสดงขอ้ มลู ตา่ งๆ ทฟ่ี ัง ภาพ แผนผงั แผนภมู ิ และตาราง หรอื อา่ น ๓. พดู /เขยี นแสดงความคดิ เหน็ ประโยคทใ่ี ชใ้ นการแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ วั ม.๑ ๑. พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการบรรยายเกย่ี วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจาวนั ตนเอง กจิ วตั รประจาวนั ประสบการณ์ สงิ่ แวดลอ้ ม ประสบการณ์ และสงิ่ แวดลอ้ ม ใกล้ ใกลต้ วั ประสบกำรณ์ สิ่งแวดลอ้ มในท้องถิ่น เช่น ตวั การเดนิ ทาง การรบั ประทานอาหาร การเรยี น การ เล่นกฬี า ฟังเพลง การอา่ นหนังสอื การทอ่ งเทย่ี ว กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
แหลง่ ท่องเที่ยวในท้องถ่ิน ๒. พดู /เขยี น สรุปใจความสาคญั / การจบั ใจความสาคญั /แก่นสาระ การวเิ คราะหค์ วาม แก่นสาระ(theme) ทไ่ี ดจ้ ากการ เรอ่ื ง/เหตุการณท์ อ่ี ยู่ในความสนใจ เช่น วเิ คราะหเ์ ร่อื ง/เหตกุ ารณท์ อ่ี ยู่ใน ประสบการณ์ ภาพยนตร์ กฬี า เพลง ความสนใจของสงั คม ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ม.๑ ๓. พดู /เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั กจิ กรรมหรอื เรอ่ื งตา่ งๆ การแสดงความคดิ เหน็ และการใหเ้ หตุผลประกอบ ใกลต้ วั พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลสนั้ ๆ เกยี่ วกบั กจิ กรรมหรอื เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั ประกอบ การบรรยายขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจาวนั ม.๒ ๑. พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ทอ่ี ยูใ่ นความสนใจ ตนเอง กจิ วตั รประจาวนั ของสงั คม เชน่ การเดนิ ทาง การรบั ประทานอาหาร ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์ การเล่นกฬี า/ดนตรี การฟังเพลง การอ่านหนังสอื ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม การทอ่ งเทย่ี ว การศกึ ษา สภาพสงั คม เศรษฐกจิ กำรบรรยำยเกี่ยวกบั ส่ิงแวดล้อม ประสบกำรณ์ ขำ่ วเหตกุ ำรณ์ในท้องถ่ิน เช่น กำรท่องเท่ียว สภำพในชุมชน ๒. พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั / การจบั ใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เร่อื ง แกน่ สาระ หวั ขอ้ เร่อื ง (topic) ทไ่ี ด้ การวเิ คราะหเ์ ร่อื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจ จากการวเิ คราะหเ์ ร่อื ง/ขา่ ว/เหตุการณ์ เช่น ประสบการณ์ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรี เพลง ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม ๓. พดู และเขยี นแสดงความคดิ เหน็ การแสดงความคดิ เหน็ และการใหเ้ หตุผลประกอบ เกยี่ วกบั กจิ กรรม เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั เกย่ี วกบั กจิ กรรม เร่อื งต่างๆ ใกลต้ วั และ และประสบการณ์ พรอ้ มทงั้ ให้ ประสบการณ์ เหตผุ ลสนั้ ๆ ประกอบ ม.๓ ๑. พดู และเขยี นบรรยายเกยี่ วกบั การบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/ ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/ เหตุการณ/์ ประเดน็ ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสงั คม เหตกุ ารณ์ / เรอ่ื ง/ ประเดน็ ตา่ งๆ เช่น การเดนิ ทาง การรบั ประทานอาหาร การเลน่ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม กฬี า/ดนตรี การฟังเพลง การอ่านหนังสอื การ ทอ่ งเทย่ี ว การศกึ ษา สภาพสงั คม เศรษฐกจิ กำรบรรยำยเก่ียวกบั สิ่งแวดลอ้ ม ประสบกำรณ์ ขำ่ วเหตกุ ำรณ์ในท้องถ่ิน เช่น กำรท่องเท่ียว สภำพสงั คม เศรษฐกิจ ๒. พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั / การจบั ใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เร่อื ง แก่นสาระ หวั ขอ้ เรอ่ื งทไ่ี ดจ้ ากการ การวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง/ขา่ ว/เหตุการณ์/สถานการณท์ อ่ี ยู่ วเิ คราะหเ์ ร่อื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ ในความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ เหตกุ ารณ์ สถานการณท์ อ่ี ย่ใู นความสนใจของ สถานการณต์ ่างๆ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรี เพลง สงั คม ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ชนั้ ท้องถิ่น ม.3 ๓. พดู และเขยี นแสดงความคดิ เหน็ การแสดงความคดิ เหน็ และการใหเ้ หตผุ ลประกอบ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ล ประกอบ ม.๔-๖ ๑. พดู และเขยี นนาเสนอขอ้ มลู การนาเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ เกย่ี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เรอ่ื งและประเดน็ ทอ่ี ย่ใู นความสนใจ เหตกุ ารณ์ เร่อื งและประเดน็ ตา่ งๆ ของสงั คม เชน่ การเดนิ ทาง การรบั ประทานอาหาร ตามความสนใจของสงั คม การเลน่ กฬี า/ดนตรี การดภู าพยนตร์ การฟังเพลง การเลย้ี งสตั วก์ ารอา่ นหนงั สอื การทอ่ งเทย่ี ว การศกึ ษา สภาพสงั คม เศรษฐกจิ กำรนำเสนอข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง ประสบกำรณ์ ขำ่ ว/เหตกุ ำรณ์ เร่อื งและประเดน็ ท่ีอยูใ่ นควำมสนใจของสงั คม เช่น กำรเดินทำง กำรท่องเที่ยว สงั คม เศรษฐกิจ ๒. พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั / การจบั ใจความสาคญั /แก่นสาระ แก่นสาระทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง การวเิ คราะหเ์ ร่อื ง กจิ กรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และ กจิ กรรม ขา่ ว เหตกุ ารณ์ และ สถานการณ์ตามความสนใจ สถานการณ์ตามความสนใจ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
๓. พดู และเขยี นแสดงความคดิ เหน็ กำรแสดงควำมคิดเห็น กำรให้เหตุผลประกอบ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และ และยกตวั อย่ำงเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบกำรณ์ เหตุการณ์ ทงั้ ในทอ้ งถน่ิ สงั คม และเหตกุ ำรณ์ในท้องถิ่น สงั คม และโลก และโลก พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและ ยกตวั อยา่ งประกอบ สำระที่ ๒ ภำษำและวฒั นธรรม มำตรฐำน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ด้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ป.๑ ๑. พดู และทาท่าประกอบ ตาม วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น การใชส้ หี น้า ทา่ ทางประกอบการพดู ขณะแนะนาตนเอง การ สมั ผสั มอื การโบกมอื การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. บอกช่อื และคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั เทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา เทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา เช่น วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม วฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั การรอ้ งเพลง การเลา่ นทิ านประกอบทา่ ทาง วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ป.๒ ๑. พดู และทาทา่ ประกอบ ตาม วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น การใชส้ หี นา้ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ทา่ ทางประกอบการพดู ขณะแนะนาตนเอง การ สมั ผสั มอื การโบกมอื การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. บอกช่อื และคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั คาศพั ทเ์ กยี่ วกบั เทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา เทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา เชน่ วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม วฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทานประกอบทา่ ทาง วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ป.๓ ๑. พดู และทาท่าประกอบ ตาม มารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ มารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของ การขอบคณุ ขอโทษ การใชส้ หี นา้ ท่าทางประกอบ ภาษา การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบก มอื การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. บอกช่อื และคาศพั ทง์ า่ ยๆ คาศพั ทเ์ กยี่ วกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และ เกย่ี วกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง ชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เชน่ วนั ครสิ ตม์ าส และชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของ วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ เครอ่ื งแตง่ กาย อาหาร ภาษา เคร่อื งดม่ื ๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม วฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทานประกอบทา่ ทาง วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ป.๔ ๑. พดู และทาทา่ ประกอบอยา่ งสุภาพ มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม การขอบคณุ ขอโทษ การใชส้ หี นา้ ท่าทางประกอบ ของเจา้ ของภาษา การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมอื การแสดงความรสู้ กึ ชอบ/ไม่ชอบ การแสดงอาการ ตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. ตอบคาถามเกย่ี วกบั เทศกาล/ คาศพั ทแ์ ละขอ้ มูลเกย่ี วกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งาน วนั สาคญั / งานฉลองและชวี ติ ความ ฉลอง และชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เชน่ เป็นอยงู่ ่ายๆ ของเจา้ ของภาษา วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ เครอ่ื งแต่งกาย ฤดูกาล อาหาร เครอ่ื งด่มื ๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม วฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทานประกอบทา่ ทาง บทบาท สมมุติ วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ป.๕ ๑. ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ยิ า การใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ยิ าท่าทาง ตาม ทา่ ทางอย่างสุภาพ ตามมารยาท มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น สงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ การขอบคุณ ขอโทษ การใชส้ หี นา้ ทา่ ทาง ภาษา ประกอบการพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมอื การแสดงความรสู้ กึ ชอบ/ไม่ชอบ การ กลา่ วอวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. ตอบคาถาม/บอกความสาคญั ของ ขอ้ มูลและความสาคญั ของเทศกาล/วนั สาคญั /งาน เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลองและชวี ติ ฉลองและชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เชน่ ความเป็นอยู่งา่ ยๆ ของเจา้ ของภาษา วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ เคร่อื งแตง่ กาย ฤดูกาล อาหาร เคร่อื งด่มื ๓. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม วฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นทิ าน บทบาทสมมุติ วนั ขอบคณุ พระเจา้ วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถ่ิน ป.๖ ๑. ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ยิ า ท่าทางอยา่ งสภุ าพเหมาะสม ตาม การใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ยิ าท่าทาง ตาม มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคณุ ขอโทษ การใชส้ หี น้าทา่ ทาง ประกอบการพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมอื การแสดงความรูส้ กึ ชอบ/ไมช่ อบ การ กล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. ใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั เทศกาล/วนั ขอ้ มูลและความสาคญั ของเทศกาล/วนั สาคญั / สาคญั /งานฉลอง/ชวี ติ ความเป็นอยู่ งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา ของเจา้ ของภาษา เชน่ วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ เคร่อื งแตง่ กายตามฤดกู าล อาหาร เครอ่ื งด่มื กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
๓. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม วฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมุติ วนั ขอบคุณพระเจา้ วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ม.๑ ๑.ใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ า การใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการ ท่าทางสภุ าพเหมาะสม ตามมารยาท สนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ สงั คม และวฒั นธรรมของเจา้ ของ เจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคุณ ขอโทษ การ ภาษา ชมเชย การใชส้ หี นา้ ท่าทางประกอบ การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมอื การ แสดงความรสู้ กึ ชอบ/ไมช่ อบ การกลา่ วอวยพร การ แสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. บรรยายเกย่ี วกบั เทศกาล ความเป็นมาและความสาคญั ของเทศกาล วนั สาคญั วนั สาคญั ชวี ติ ความเป็นอยู่ และ ชวี ติ ความเป็นอยู่ และประเพณขี องเจา้ ของภาษา ประเพณขี องเจา้ ของภาษา ๓. เขา้ ร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม และวฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณพระเจา้ วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น ม.๒ ๑. ใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ า การใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการ ท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส สนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรม เจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคณุ ขอโทษ การ ของเจา้ ของภาษา ชมเชย การใชส้ หี นา้ ท่าทางประกอบ การพดู ขณะ แนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมอื การ แสดงความรสู้ กึ ชอบ/ไมช่ อบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. อธบิ ายเกย่ี วกบั เทศกาล วนั สาคญั ความเป็นมาและความสาคญั ของเทศกาล วนั สาคญั ชวี ติ ความเป็นอยู่ และประเพณขี อง ชวี ติ ความเป็นอยู่ และประเพณขี องเจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษา ๓. เขา้ ร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม และวฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณพระเจา้ วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ม.๓ ๑. เลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ า การเลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ าท่าทางในการ ทา่ ทาง เหมาะกบั บคุ คลและโอกาส สนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของ ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรม เจา้ ของภาษา เช่น การขอบคุณ ขอโทษ การ ของเจา้ ของภาษา ชมเชย การใชส้ หี น้าท่าทางประกอบ การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมอื การ แสดงความ รสู้ กึ ชอบ/ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การ แสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. อธบิ ายเกยี่ วกบั ชวี ติ ความเป็นอยู่ ชวี ติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของ เจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษา กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
๓. เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม และวฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคณุ พระเจา้ วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถ่ิน ม.๔-๖ ๑. เลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ า การเลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการ ท่าทางเหมาะกบั ระดบั ของบุคคล สนทนา ระดบั ของภาษา มารยาทสงั คมและ โอกาส และสถานท่ี ตามมารยาท วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคณุ สงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ขอโทษ การชมเชย การใชส้ หี นา้ ทา่ ทางประกอบ การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบก มอื การแสดงความ รสู้ กึ ชอบ/ไมช่ อบ การกล่าว อวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ๒. อธบิ าย/อภปิ รายวถิ ชี วี ติ ความคดิ วถิ ชี วี ติ ความคดิ ความเช่อื และทม่ี าของ ความเช่อื และทม่ี าของ ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของเจา้ ของภาษา ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของ เจา้ ของภาษา ๓. เขา้ ร่วม แนะนา และจดั กจิ กรรม กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม ทางภาษาและวฒั นธรรมอย่าง การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทาน/เรอ่ื งจากภาพยนตร์ เหมาะสม บทบาทสมมุติ ละครสนั้ วนั ขอบคณุ พระเจา้ วนั ครสิ ต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
สำระที่ ๒ ภำษำและวฒั นธรรม มำตรฐำน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถิ่น ป.๑ ๑.ระบุตวั อกั ษรและเสยี งตวั อกั ษรของ ตวั อกั ษรและเสยี งตวั อกั ษรของภาษาตา่ งประเทศ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย และภาษาไทย ป.๒ ๑.ระบุตวั อกั ษรและเสยี งตวั อกั ษรของ ตวั อกั ษรและเสยี งตวั อกั ษรของภาษาตา่ งประเทศ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย และภาษาไทย ป.๓ ๑. บอกความแตกตา่ งของเสยี ง ความแตกต่างของเสยี งตวั อกั ษร คา กลุ่มคา และ ตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา และประโยค ประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ง่ายๆ ของภาษาตา่ งประเทศและ ภาษาไทย ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น ป.๔ ๑. บอกความแตกต่างของเสยี ง ความแตกต่างของเสยี งตวั อกั ษร คา กลุ่มคา และ ตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และ ประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ขอ้ ความของภาษาตา่ งประเทศและ ภาษาไทย ๒. บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ ง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างเทศกาล และ ระหว่างเทศกาลและงานฉลอง งานฉลองตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของ ตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ไทย ของไทย เทศกำล งำนฉลอง ของจงั หวดั ปทมุ ธำนี เช่น - เปิ งสงกรำนต์ - รำมอญ วนั สำคญั ต่ำง ๆ ป.๕ ๑. บอกความเหมอื น/ความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสยี ง ระหวา่ งการออกเสยี งประโยค ประโยคชนิดตา่ งๆ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย ชนดิ ตา่ งๆ การใชเ้ คร่อื งหมาย การใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอนและการลาดบั คาตาม วรรคตอน และการลาดบั คา (order) โครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและ ตามโครงสรา้ งประโยค ของ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
๒. บอกความเหมอื น/ความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและ ระหวา่ งเทศกาลและงานฉลอง งานฉลองของเจา้ ของภาษากบั ของไทย ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย เทศกำล งำนฉลอง ของจงั หวดั ปทมุ ธำนี เช่น - เปิ งสงกรำนต์ - รำมอญ วนั สำคญั ต่ำง ๆ ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น ป.๖ ๑. บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ ง ความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี ง ระหว่างการออกเสยี งประโยค ประโยคชนิดตา่ งๆ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย ชนิดตา่ งๆ การใชเ้ ครอ่ื งหมาย การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอนและการลาดบั คาตาม วรรคตอน และการลาดบั คาตาม โครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและ โครงสรา้ งประโยค ของ ภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ๒. เปรยี บเทยี บความเหมอื น/ความ การเปรยี บเทยี บความเหมอื น/ความแตกต่าง แตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง ระหว่างเทศกาล งานฉลอง และประเพณขี อง และประเพณขี องเจา้ ของภาษากบั เจา้ ของภาษากบั ของไทย ของไทย เทศกำล งำนฉลอง ของจงั หวดั ปทมุ ธำนี เช่น - เปิ งสงกรำนต์ - รำมอญ วนั สำคญั ต่ำง ๆ ม.๑ ๑. บอกความเหมอื นและความ ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี ง แตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี ง ประโยคชนิดต่างๆ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย ประโยคชนดิ ต่างๆ การใช้ การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอนและการลาดบั คาตาม เคร่อื งหมายวรรคตอน และการ โครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ ลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
๒. เปรยี บเทยี บความเหมอื นและ ความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างเทศกาล ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั และชวี ติ ความเป็นอยขู่ อง งานฉลอง วนั สาคญั และชวี ติ ความ เจา้ ของภาษากบั ของไทย เป็นอยูข่ องเจา้ ของภาษากบั ของไทย เทศกำล งำนฉลอง ของจงั หวดั ปทุมธำนี เช่น - เปิ งสงกรำนต์ - รำมอญ วนั สำคญั ต่ำง ๆ ม.๒ ๑. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความ การเปรยี บเทยี บและการอธบิ ายความเหมอื น/ความ เหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ ง แตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ การออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ และ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย การใช้เคร่อื งหมาย การลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยค วรรคตอนและการลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยค ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ม.2 ๒ เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความ การเปรยี บเทยี บและการอธบิ ายความเหมอื นและ เหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ ง ความแตกตา่ งระหวา่ งชวี ติ ความเป็นอยูแ่ ละ ชวี ติ ความเป็นอยแู่ ละวฒั นธรรมของ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย เจา้ ของภาษากบั ของไทย เทศกำล งำนฉลอง ของจงั หวดั ปทมุ ธำนี เช่น - ธงตะขำบ ตกั บำตรน้ำผงึ้ ม.๓ ๑. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความ การเปรยี บเทยี บและการอธบิ ายความเหมอื น/ความ เหมอื นและความแตกตา่ งระหว่าง แตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ การออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย การใชเ้ ครอ่ื งหมาย และการลาดบั คาตามโครงสรา้ ง วรรคตอนและการลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยค ประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
๒. เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความ การเปรยี บเทยี บและการอธบิ ายความเหมอื นและ เหมอื นและความแตกตา่ งระหว่าง ความแตกตา่ งระหว่างชวี ติ ความเป็นอยู่และ ชวี ติ ความเป็นอยแู่ ละวฒั นธรรมของ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย เจา้ ของภาษากบั ของไทย และ การนาวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาไปใช้ นาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม เทศกำล งำนฉลอง ของจงั หวดั ปทุมธำนี เช่น - รำพำข้ำวสำร - ตกั บำตรพระร้อย/เทโว กวนข้ำวทิพย์ ม.๔-๖ ๑. อธบิ าย/เปรยี บเทยี บความ การอธบิ าย/การเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่าง แตกต่างระหวา่ งโครงสรา้ งประโยค โครงสรา้ งประโยค ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย ขอ้ ความ สานวน คาพงั เพย สุภาษติ และบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและ สภุ าษติ และบทกลอนของ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ๒. วเิ คราะห/์ อภปิ ราย ความเหมอื น การวเิ คราะห/์ การอภปิ รายความเหมอื นและความ และความแตกตา่ งระหว่างวถิ ชี วี ติ แตกตา่ งระหวา่ งวถิ ชี วี ติ ความเช่อื และวฒั นธรรม ความเชอ่ื และวฒั นธรรมของเจา้ ของ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย การนาวฒั นธรรม ภาษากบั ของไทยและนาไปใชอ้ ยา่ งมี ของเจา้ ของภาษาไปใช้ เหตผุ ล เทศกำล งำนฉลอง ของจงั หวดั ปทุมธำนี เช่น - แห่ลูกหนู - แข่งเรอื ผีกระจำด (ทำบุญ) สำระท่ี ๓ ภำษำกบั ควำมสมั พนั ธก์ บั กลุ่มสำระกำรเรียนรอู้ ่ืน มำตรฐำน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื และเป็น พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ป.๑ ๑. บอกคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ คาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื สาระการเรยี นรอู้ น่ื ป.๒ ๑. บอกคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กล่มุ คาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื สาระการเรยี นรอู้ น่ื กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
ป.๓ ๑. บอกคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ คาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื สาระการเรยี นรอู้ ่นื ป.๔ ๑. คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ี การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนาเสนอ คาศพั ท์ เกย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื และนาเสนอดว้ ยการพดู / การเขยี น ป.๕ ๑. คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ี การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนาเสนอคาศพั ทท์ ่ี เกยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื เกย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื และนาเสนอดว้ ยการพดู / การเขยี น ป.๖ ๑. คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ี การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนาเสนอคาศพั ทท์ ่ี เกยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื เกย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื จากแหล่งเรยี นรู้ และนาเสนอดว้ ย การพดู / การเขยี น ม.๑ ๑. คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ การคน้ ควา้ การรวบรวม การสรุป และการนาเสนอ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ ขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การเรยี นรอู้ น่ื จากแหลง่ เรยี นรู้ และ อ่นื นาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น ม.๒ ๑. คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู / การคน้ ควา้ การรวบรวม การสรปุ และการนาเสนอ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กล่มุ สาระ ขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การเรยี นรอู้ น่ื จากแหล่งเรยี นรู้ และ อ่นื นาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น ม.๓ ๑. คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ การคน้ ควา้ การรวบรวม การสรุป และการนาเสนอ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ ขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การเรยี นรอู้ ่นื จากแหล่งเรยี นรู้ และ อน่ื นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ม.๔-๖ ๑. คน้ ควา้ /สบื คน้ บนั ทกึ สรุป และ การคน้ ควา้ /การสบื คน้ การบนั ทกึ การสรปุ การ แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ขอ้ มูล แสดงความคดิ เหน็ และนาเสนอขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ อ่นื จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ และ นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น สำระที่ ๔ ภำษำกบั ควำมสมั พนั ธ์กบั ชุมชนและโลก มำตรฐำน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถ่ิน ป.๑ ๑. ฟัง/พดู ในสถานการณง์ า่ ยๆ ท่ี การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ี เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ป.๒ ๑. ฟัง/พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่ี การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ี เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ป.๓ ๑. ฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ี การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ี เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ป.๔ ๑. ฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่ี การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ท่ี เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ป.๕ ๑. ฟัง พดู และอา่ น/เขยี นใน การใชภ้ าษาในการฟัง พดู และอา่ น/เขยี นใน สถานการณต์ า่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน สถานการณต์ า่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น หอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา ป.๖ ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์ การใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณต์ า่ งๆทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน ต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและ หอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา สถานศกึ ษา ม.๑ ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ / การใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์ สถานการณ์จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา หอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา ม.๒ ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์ การใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์ จรงิ /สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา และ หอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา และชุมชน ชมุ ชน กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
ม.๓ ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์ การใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์ จรงิ /สถานการณ์จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน หอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชุมชน และ และสงั คม สงั คม กำรใช้ภำษำสอื่ สำรในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆท่ี เกิดขึ้นในชุมชน ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถิ่น ม.๔-๖ ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ / การใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์ สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน จาลองเสมอื นจรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา หอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และ ชมุ ชน และสงั คมกำรใช้ภำษำสอื่ สำรใน สงั คม สถำนกำรณ์ต่ำง ๆท่ีเกิดขึ้นในชมุ ชน สำระที่ ๔ ภำษำกบั ควำมสมั พนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก มำตรฐำน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเคร่อื งมอื พน้ื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี และ การแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ บั สงั คมโลก ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรยี นรู้ ท้องถิ่น ป.๑ ๑. ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพอ่ื การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคาศพั ทท์ ่ี รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งใกลต้ วั เกย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากสอ่ื ตา่ งๆ ป.๒ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ เพอ่ื การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคาศพั ทท์ ่ี รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งใกลต้ วั เกย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากสอ่ื ตา่ งๆ ป.๓ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ เพอ่ื การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศพั ทท์ ่ี รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งใกลต้ วั เกย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากสอ่ื ตา่ งๆ ป.๔ ๑. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ และการ และรวบรวมขอ้ มูลต่างๆ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งใกลต้ วั จากสอ่ื และแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ ป.๕ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และการ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งใกลต้ วั จากสอ่ื และแหล่ง การเรยี นรตู้ า่ งๆ ป.๖ ๑. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และการ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากส่อื และแหล่ง การเรยี นรตู้ า่ งๆ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
ม.๑ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการ การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ /การคน้ ควา้ สบื คน้ /คน้ ควา้ ความร/ู้ ขอ้ มลู ตา่ งๆ ความร/ู้ ขอ้ มลู ต่างๆ จากสอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ จากสอ่ื และแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ ใน ตา่ งๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี การศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี ม.๒ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ /การคน้ ควา้ สบื คน้ /คน้ ควา้ รวบรวมและสรปุ ความร/ู้ ขอ้ มลู ตา่ งๆ จากส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ ความรู/้ ขอ้ มูลต่างๆ จากสอ่ื และ ต่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี แหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ ในการศกึ ษา ตอ่ และประกอบอาชพี ชนั้ ตวั ชี้วดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำงและสำระกำรเรียนรู้ ท้องถ่ิน ม.2 ๒. เผยแพร/่ ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มูล ขา่ วสาร ของโรงเรยี นเป็น การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเผยแพร่/ ภาษาต่างประเทศ ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มูลขา่ วสารของโรงเรยี น เชน่ การทาหนงั สอื เลม่ เลก็ แนะนาโรงเรยี น การทาแผน่ ปลวิ ป้ายคาขวญั คาเชญิ ชวนแนะนา โรงเรยี น การนาเสนอขอ้ มูลขา่ วสารในโรงเรยี นเป็น ภาษาองั กฤษ ม.๓ ๑. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการ การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ /การคน้ ควา้ สบื คน้ /คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ความร/ู้ ขอ้ มลู ต่างๆ จากสอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ ความร/ู้ ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสอ่ื และแหล่ง ตา่ งๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี การเรยี นรตู้ า่ งๆในการศกึ ษาตอ่ และ ประกอบอาชพี ๒. เผยแพร่ /ประชาสมั พนั ธ์ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการเผยแพร/่ ขอ้ มูล ขา่ วสารของโรงเรยี น ชมุ ชน ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถน่ิ เป็นภาษาต่างประเทศ และทอ้ งถน่ิ เช่น การทาหนังสอื เลม่ เลก็ แนะนา โรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถนิ่ การทาแผน่ ปลวิ ป้าย คาขวญั คาเชญิ ชวนแนะนา โรงเรยี นและสถานท่ี สาคญั ในชมุ ชนและทอ้ งถน่ิ การนาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสารในโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถนิ่ เป็น ภาษาองั กฤษ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
ม.๔-๖ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ /การคน้ ควา้ สบื คน้ /คน้ ควา้ รวบรวม วเิ คราะห์ ความร/ู้ ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ และสรปุ ความร/ู้ ขอ้ มลู ต่างๆ จากสอ่ื ต่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี และแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ ใน การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี ๒. เผยแพร/่ ประชาสมั พนั ธ์ ขอ้ มลู การใชภ้ าษาองั กฤษในการเผยแพร/่ ประชาสมั พนั ธ์ ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และ ขอ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถนิ่ / ทอ้ งถนิ่ /ประเทศชาติ เป็น ประเทศชาติ เชน่ การทาหนังสอื เลม่ เลก็ แนะนา ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี น ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ /ประเทศชาติ การทาแผ่น ปลวิ ป้ายคาขวญั คาเชญิ ชวนแนะนาโรงเรยี น สถานทส่ี าคญั ในชมุ ชนและทอ้ งถนิ่ /ประเทศชาติ การนาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสารในโรงเรยี น ชุมชน ทอ้ งถน่ิ /ประเทศชาตเิ ป็นภาษาองั กฤษ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
โครงสรำ้ งรำยวิชำพนื้ ฐำน / เพ่ิมเติมของกลุม่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำต่ำงประเทศ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษำ (IEP) รำยวิชำ ( รหสั รำยวิชำ / ชื่อรำยวิชำ ) เวลำเรียน รำยปี รำยวิชำพ้นื ฐำน อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 1 ๑๒๐ อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 2 ๑๒๐ อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 3 ๑๒๐ อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 4 ๘๐ อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 5 ๘๐ อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 6 ๘๐ รำยวิชำเพิ่มเติม ๔๐ ๑๖๐ อ ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 1 ๔๐ อ ๑๑๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร 1 ๑๖๐ อ ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 2 ๔๐ อ ๑๒๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่อื สาร 2 ๑๖๐ อ ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 3 ๔๐ อ ๑๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 3 ๑๖๐ อ ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 4 ๔๐ อ ๑๔๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 4 ๑๖๐ อ ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 5 ๔๐ อ ๑๕๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร 5 ๑๖๐ อ ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 6 อ ๑๖๒๐๒ ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่อื สาร 6 กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
โครงสรำ้ งรำยวิชำพืน้ ฐำน / เพิ่มเติมของกลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำต่ำงประเทศ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษำ รำยวิชำ ( รหสั รำยวิชำ / ชื่อรำยวิชำ ) เวลำเรียน รำยปี รำยวิชำพ้ืนฐำน อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 1 ๑๒๐ อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 2 ๑๒๐ อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 3 ๑๒๐ อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 4 ๘๐ อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 5 ๘๐ อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 6 ๘๐ รำยวิชำเพิ่มเติม 8๐ 80 อ ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 1 80 อ ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 2 ๔๐ อ ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 3 ๔๐ อ ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 4 ๔๐ อ ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 5 อ ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพืน้ ฐำน วิชำภำษำองั กฤษ 1 รหสั วิชำ อ ๑๑๑๐๑ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ 120 ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๑ ระบุตวั อกั ษรและเสยี งตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษและภาษาไทย อา่ นออกเสยี ง สะกดคางา่ ยๆ เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาและกลุ่มคาทฟ่ี ัง ปฏบิ ตั ติ ามและใชค้ าสงั่ งา่ ยๆ บอกความตอ้ งการ ของตนเอง พดู และใหข้ อ้ มูลในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคลเกย่ี วกบั ตวั เองและเรอ่ื งใกลต้ วั ในสถานการณ์ งา่ ยๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น พรอ้ มทงั้ ทาทา่ ประกอบตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชอ่ื รวบรวม คาศพั ทแ์ ละตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื งใกลต้ วั จากกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื และเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของ ภาษางา่ ยๆ และเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะสมกบั วยั ถกู ตอ้ งตามกาลเทศะ โดยการฝึกทกั ษะทางภาษาดา้ นการฟัง พดู อา่ น เขยี น สามารถใชก้ ระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู เชอ่ื มโยงความรูท้ างภาษากบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื ใชแ้ หลง่ เรยี นรแู้ ละสอ่ื เพอ่ื เพม่ิ พนู ความรู้ ความเพลดิ เพลนิ เหน็ ประโยชน์และความจาเป็นในการเรยี นภาษาและมเี จต คตทิ ด่ี ี กลา้ แสดงออกย่างมมี ารยาท มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มนั่ ในการทางาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ และรกั ความเป็นไทย ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตวั ชี้วดั ต.๑.๑ป๑/๓ ต.๑.๑ป๑/๔ ต.๑.๒ป๑/๓ ต.๑.๒ป๑/๔ ต.๑.๑ป๑/๑ ต.๑.๑ป๑/๒ ต.๑.๒ป๑/๑ ต.๑.๒ป๑/๒ ต.๒.๑ป๑/๓ ต.๑.๓ป๑/๑ ต.๒.๑ป๑/๑ ต.๒.๑ป๑/๒ ต.๒.๒ป๑/๑ ต.๓.๑ป๑/๑ ต.๔.๑ป๑/๑ ต.๔.๒ป๑/๑ รวม ๑๖ ตวั ชี้วดั กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพ้นื ฐำน วิชำภำษำองั กฤษ 2 รหสั วิชำ อ ๑๒๑๐๑ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ 120 ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๒ ระบุตวั อกั ษรและเสยี งตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษและภาษาไทย อ่านออกเสยี ง สะกดคาง่ายๆ เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาและกลุ่มคาทฟ่ี ัง ปฏบิ ตั ิตามและใช้คาสงั่ งา่ ยๆ บอกความตอ้ งการ ของตนเอง พูดและให้ขอ้ มูลในการส่อื สารระหว่างบุคคลเก่ียวกบั ตวั เองและเร่อื งใกล้ตวั ในสถานการณ์ ง่ายๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น พรอ้ มทงั้ ทาท่าประกอบตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บอกช่อื รวบรวม คาศพั ท์และตอบคาถามเกย่ี วกบั เร่อื งใกลต้ วั จากกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื และเทศกาลสาคญั ของเจ้าของ ภาษาง่ายๆ และเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะสมกบั วยั ถกู ตอ้ งตามกาลเทศะ โดยการฝึกทกั ษะทางภาษาด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน สามารถใช้กระบวนการสบื ค้นข้อมูล เช่อื มโยงความรทู้ างภาษากบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื ใชแ้ หล่งเรยี นรแู้ ละสอ่ื เพอ่ื เพมิ่ พนู ความรู้ ความเพลดิ เพลนิ เหน็ ประโยชน์และความจาเป็นในการเรยี นภาษาและมเี จต คตทิ ด่ี ี กลา้ แสดงออกยา่ งมมี ารยาท มคี วามใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ และรกั ความเป็นไทย ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ต.๑.๑ป๑/๓ ต.๑.๑ป๑/๔ ต.๑.๒ป๑/๓ ต.๑.๒ป๑/๔ ต.๑.๑ป๑/๑ ต.๑.๑ป๑/๒ ต.๑.๒ป๑/๑ ต.๑.๒ป๑/๒ ต.๒.๑ป๑/๓ ต.๑.๓ป๑/๑ ต.๒.๑ป๑/๑ ต.๒.๑ป๑/๒ ต.๒.๒ป๑/๑ ต.๓.๑ป๑/๑ ต.๔.๑ป๑/๑ ต.๔.๒ป๑/๑ รวม ๑๖ ตวั ชี้วดั กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพืน้ ฐำน วิชำภำษำองั กฤษ 3 รหสั วิชำ อ ๑๓๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ 120ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๓ บอกความแตกต่างของเสยี งตวั อกั ษร คา กลุ่มคา และประโยคของภาษาองั กฤษและภาษาไทย อา่ นออกเสยี ง สะกดคา จดั หมวดหมู่ของคา อ่านกลุ่มคา ประโยคและบทพดู เขา้ จงั หวะตามหลกั การอา่ น เลอื ก ระบุ ภาพหรอื สญั ลกั ษณ์ตรงตามความหมายของคา กลมุ่ คา และประโยคทฟ่ี ัง ปฏบิ ตั ติ ามและใช้ คาสงั่ คาขอร้อง บอกความต้องการและความรูส้ กึ ของตนเองตามแบบท่ฟี ัง พูดเพ่ือขอและให้ข้อมูล โต้ตอบในการส่อื สารระหว่างบุคคลบอกความรสู้ กึ เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และเรอ่ื งใกลต้ วั ในสถานการณ์ งา่ ยๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น พรอ้ มทงั้ ทาท่าประกอบตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคาถามจากการฟัง อ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ บอกช่อื รวบรวมคาศพั ท์ทเ่ี ก่ียวกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ่นื เทศกาล วนั สาคญั งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา และเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะสมกบั วยั โดยการฝึกทกั ษะทางภาษาด้านการฟัง พูด อ่าน เขยี น สามารถใช้กระบวนการสบื ค้นข้อมูล อภปิ ราย นาเสนอ เชอ่ื มโยงความรทู้ างภาษากบั กลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื ใชแ้ หลง่ เรยี นรแู้ ละสอ่ื เพอ่ื เพมิ่ พนู ความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ ประโยชน์และความจาเป็นในการเรยี นภาษา มเี จตคตทิ ด่ี ี มี วนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ และรกั ความเป็นไทย ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชี้วดั ต.๑.๑ป๓/๓ ต.๑.๑ป๓/๔ ต.๑.๒ป๓/๕ ต.๑.๒ป๓/๓ ต.๑.๒ป๓/๔ ต.๑.๑ป๓/๑ ต.๑.๑ป๓/๒ ต.๑.๒ป๓/๑ ต.๑.๒ป๓/๒ ต.๒.๑ป๓/๓ ต.๑.๓ป๓/๑ ต.๑.๓ป๓/๒ ต.๒.๑ป๓/๑ ต.๒.๑ป๓/๒ ต.๒.๒ป๓/๑ ต.๓.๑ป๓/๑ ต.๔.๑ป๓/๑ ต.๔.๒ป๓/๑ รวม ๑๘ ตวั ชีว้ ดั กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพื้นฐำน วิชำภำษำองั กฤษ 4 รหสั วิชำ อ ๑๔๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ 8๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ที่ ๔ ปฏิบตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง คาขออนุญาต คาแนะนาง่ายๆ ท่ฟี ังหรืออ่าน อ่านออกเสียงคา สะกดคา และอ่านประโยค ขอ้ ความงา่ ยๆ และบทพีดู เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตาม หลกั การอ่าน เลอื กระบุภาพ หรอื สญั ลกั ษณ์ หรอื เคร่อื งหมาย ของประโยคและขอ้ ความสนั้ ๆทฟ่ี ังหรอื อ่าน ตอบคาถามจากการฟังและ อ่านประโยค บทสนทนาหรอื นิทานง่ายๆ เทศกาล/วนั สาคญั / งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยู่ง่ายๆ ของ เจา้ ของภาษา พดู และเขยี นโตต้ อบในสอ่ื สารระหว่างบุคคล แสดงความต้องการของตนเอง ขอและให้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื นและครอบครวั และเร่อื งใกล้ตวั และขอความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ต่างๆ พดู แสดงความคดิ เหน็ งา่ ยๆ เกยี่ วกบั เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั และวาดภาพแสดงความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ต่างๆ พดู และทาท่าประกอบอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกความแตกตา่ ง ของเสยี งตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย บอกความ เหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาลและงานฉลอง ตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั ค้นคว้ารวบรวมคาศพั ท์ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ การเรยี นรูอ้ ่นื และนาเสนอด้วยการพดู /การเขยี น ฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรยี น และสถานศกึ ษาใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่างๆ โดยใชก้ ระบวนการส่อื สารทางภาษาทงั้ ในสถานการณ์จรงิ และสถานการณจ์ าลอง กระบวนการ สืบค้นข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การอธิบาย เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สานวน วเิ คราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเช่ือและ วฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั ของไทย และนาไปใช้อย่างมเี หตุผล ค้นคว้า/สืบค้น บนั ทกึ สรุป และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ขอ้ มูลท่เี กี่ยวข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน จากแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆ และ นาเสนอดว้ ยการพดู และเขยี น เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษ เหน็ ประโยชน์และความจาเป็นในการเรยี น ภาษา มเี จตคติท่ดี ี มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน อยู่อย่างพอเพยี ง และรกั ความเป็นไทย ตาม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ต ๑.๑ ป.๔/ ๑ ,ต ๑.๑ ป.๔/ ๒ , ต ๑.๑ ป.๔/ ๓ , ต ๑.๑ ป.๔/ ๔ ต ๑.๒ ป.๔/ ๑, ต ๑.๒ ป.๔ / ๒, ต ๑.๒ ป.๔/ ๓ , ต ๑.๒ ป.๔ / 4 , ต 1.2 ป.4/5 ต ๑.๓ ป.๔/ ๑ ต ๑.๓ ป.๔ /๒ ต ๑.๓ ป.๔ / ๓ ต ๒.๑ ป.๔/ ๑ ต ๒.๑ ป.๔/๒ ต ๒.๒ ป.๔/๑ ต ๒.๒ ป.๔/๒ ต ๒.๒ ป.๔/๓ ต ๓.๑ ป ๔/๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
ต ๔.๑ ป ๔/๑ ต ๔.๒ ป ๔/๑ รวม 20 ตวั ชีว้ ดั กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพื้นฐำน วิชำภำษำองั กฤษ 5 รหสั วิชำ อ ๑๕๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ 8๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ท่ี ๕ ปฏิบัติตามคาสงั่ คาขอร้อง คาขออนุญาต คาแนะนาง่ายๆ ท่ฟี ังหรืออ่าน อ่านออกเสยี งคา กลุ่มคา ประโยคชนิดต่างๆ ขอ้ ความง่ายๆ เคร่อื งหมายวรรคตอน การลาดบั คา โครงสร้างประโยค ระบุ หรอื วาดภาพสญั ลกั ษณ์ เคร่อื งหมาย แผนผงั แผนภูมิ และขอ้ มูลต่างๆ พูด / เขียน นิทานง่ายๆ บท สนทนาในการส่อื สารระหว่างบุคคล ประโยคแสดงความตอ้ งการ หรอื ขอความชว่ ยเหลอื ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเร่อื งใกลต้ วั ความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตวั และกิจกรรม ต่างๆ ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี งและกรยิ า ท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ ภาษา เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษา วฒั นธรรม ตอบคาถาม บอกความสาคญั ของเทศกาล วนั สาคญั งาน ฉลอง เปรียบเทียบความเหมือน / ความแตกต่าง ชวี ติ ความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ของไทย และเจ้าของ ภาษา คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ท์ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ่นื ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์ท่ี เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา ตลอดจนสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่างๆ โดยใชก้ ระบวนการส่อื สารทางภาษาทงั้ ในสถานการณ์จรงิ และสถานการณ์จาลอง กระบวนการ สบื ค้นข้อมูล กระบวนการกลุ่ม การอธิบาย เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สานวน วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเช่ือและ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย และนาไปใช้อย่างมเี หตุผล ค้นควา้ /สืบค้น บนั ทึก สรุป และ แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ข้อมูลท่เี กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ่ืน จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และ นาเสนอดว้ ยการพดู และเขยี น เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษ เหน็ ประโยชน์และความจาเป็นในการเรยี น ภาษา มเี จตคติท่ดี ี มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน อยู่อย่างพอเพียง และรกั ความเป็นไทย ตาม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชีว้ ดั ต.๑.๑ป๕/๓ ต.๑.๑ป๕/๔ ต.๑.๒ป๕/๕ ต.๑.๒ป๕/๓ ต.๑.๒ป๕/๔ ต.๑.๑ป๕/๑ ต.๑.๑ป๕/๒ ต.๑.๓ป๕/๓ ต.๑.๒ป๕/๑ ต.๑.๒ป๕/๒ ต.๒.๑ป๕/๓ ต.๑.๓ป๕/๑ ต.๑.๓ป๕/๒ ต.๒.๑ป๕/๑ ต.๒.๑ป๕/๒ ต.๒.๒ป๕/๑ ต.๒.๒ป๕/๒ ต.๓.๑ป๕/๑ ต.๔.๑ป๕/๑ ต.๔.๒ป๕/๑ รวม ๒๐ ตวั ชีว้ ดั กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษพ้นื ฐำน วิชำภำษำองั กฤษ 6 รหสั วิชำ อ ๑๖๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ 8๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ชนั้ ประถมศึกษำปี ที่ ๖ ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา ขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนสนั้ ๆ ประโยคหรอื ขอ้ ความ ภาพ สญั ลกั ษณ์ เคร่อื งหมาย บทสนทนา หรอื เร่อื งเล่า การส่อื สารระหวา่ งบคุ คล ความต้องการ การขอ ความช่วยเหลอื การตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเรอ่ื งใกลต้ วั การแสดงความรสู้ กึ ของตนเอง เร่อื งตา่ งๆ ใกลต้ วั กจิ กรรมตา่ งๆ และสง่ิ แวดลอ้ มใกลต้ วั ภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตาราง แสดงขอ้ มูลตา่ งๆ มารยาททางสงั คม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เทศกาล /วนั สาคญั / งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา และเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษา และวัฒนธรรม ศึกษาประโยคชนิดต่างๆเคร่ืองหมายวรรคตอนและโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทยเปรยี บเทยี บความเหมอื น / ความต่าง เทศกาล งานฉลอง และประเพณี ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย คาศพั ทท์ ่เี ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื ใช้ภาษาในการส่อื สารใน สถานการณ์ตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา ตลอดจนสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ โดยใช้กระบวนการการปฏบิ ตั ิ การฟัง การพดู การอ่าน การเขียน การเลอื ก การระบุ การบอก การตอบคาถาม การใหข้ อ้ มูล การใหเ้ หตุผล การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ การบอกความเหมอื น ความ แตกต่าง การลาดบั คา การเปรยี บเทยี บความเหมอื นความแตกตา่ ง การคน้ ควา้ การสบื ค้น การรวบรวม การนาเสนอ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษ เหน็ ประโยชน์และความจาเป็นในการเรยี น ภาษา มเี จตคติทด่ี ี มวี นิ ัย ใฝ่ เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน อยู่อย่างพอเพียง และรกั ความเป็นไทย ตาม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั ชี้วดั ต.๑.๑ป๖/๓ ต.๑.๑ป๖/๔ ต.๑.๒ป๖/๕ ต.๑.๒ป๖/๓ ต.๑.๒ป๖/๔ ต.๑.๑ป๖/๑ ต.๑.๑ป๖/๒ ต.๑.๓ป๖/๓ ต.๑.๒ป๖/๑ ต.๑.๒ป๖/๒ ต.๒.๑ป๖/๓ ต.๑.๓ป๖/๑ ต.๑.๓ป๖/๒ ต.๒.๑ป๖/๑ ต.๒.๑ป๖/๒ ต.๒.๒ป๖/๑ ต.๒.๒ป๖/๒ ต.๓.๑ป๖/๑ ต.๔.๑ป๖/๑ ต.๔.๒ป๖/๑ รวม ๒๐ ตวั ชีว้ ดั กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม ภำษำองั กฤษในชีวิตประจำวนั 1 รหสั วิชำ อ ๑๑๒๐๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๑ เวลำ 8๐ ชวั่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต การศกึ ษาและกระบวณการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศเป็นการเสริมสรา้ งความรูแ้ ละพฒั นาทกั ษะ การฟัง พดู อา่ น เขยี น ภาษาต่างประเทศ อ่านและเขยี นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ เสยี งตวั อกั ษร สระ การ สะกดคา การอ่านแบบโฟนิคส์ (Phonics) การอ่านออกเสยี งคา กลุ่มคา ประโยค ข้อความบทอ่าน บท สนทนา การพดู ให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและเร่อื งใกลต้ วั เขา้ ใจและใชป้ ระโยคคาสงั่ ท่ใี ช้ในหอ้ งเรยี นและ การใช้ภาษาท่าทาง การใชภ้ าษาในการฟัง พดู ในสถานการณ์ท่เี กดิ ขน้ึ ในห้องเรียนโดยใชก้ ระบวนการ เรยี นรเู้ พ่อื การสอ่ื สาร เหน็ ประโยชน์ของการเรยี นภาษาต่างประเทศ มคี วามใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน แสวงหา ความรูค้ วามเพลดิ เพลนิ จากภาษาต่างประเทศ สามารถส่อื สารสงิ่ ทเ่ี รยี นรแู้ ละนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม มเี จคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าภาษาองั กฤษ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นร้ทู ่ีคำดหวงั ๑. ระบุตวั อกั ษรและเสยี ง อา่ นออกเสยี งและสะกดคางา่ ยๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่านได้ ๒. พดู โตต้ อบดว้ ยคาสนั้ ๆ งา่ ยๆ ในการส่อื สารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟ่ี ังได้ ๓. ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ และใชค้ าสงั่ ง่ายๆ ตามแบบทฟ่ี ังได้ ๔. พดู ขอและใหข้ อ้ มลู งา่ ยๆ เกย่ี วกบั ตนเองตามแบบทฟ่ี ังได้ ๕. บอกความตอ้ งการงา่ ยๆของตนเองตามแบบทฟ่ี ังได้ ๖. ตอบคาถามจากการฟังเรอ่ื ง ใกลต้ วั บทอา่ นเกยี่ วกบั เร่อื งใกลต้ วั หรอื นทิ านทม่ี ภี าพประกอบประโยค คาถาม และคาตอบได้ รวม 6 ผลกำรเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม ภำษำองั กฤษในชีวิตประจำวนั 2 รหสั วิชำ อ ๑๒๒๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ท่ี ๒ เวลำ 8๐ ชวั่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต ใช้คาสงั่ ท่ใี ช้ในห้องเรียน ตวั อักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคา การอ่านออกเสียง คา กลุ่มคา ประโยค ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง คา ประโยค บทอ่าน บทสนทนา ประโยคให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง ขอ้ ความทใ่ี ช้ในการพดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง และเร่อื งใกลต้ วั คาทม่ี คี วามหมายสมั พนั ธ์กบั สงิ่ ต่าง ๆ ใกล้ตัว อาหาร เคร่อื งด่ืม วฒั นธรรมเจ้าของภาษา แสดงกิริยาการขอบคุณ ขอโทษ การพูด แนะนา ตนเอง กจิ กรรมทางภาษา การรอ้ งเพลง การใชภ้ าษาในการฟัง พดู อา่ นในสถานการณท์ เ่ี กดิ ข้นึ ใน หอ้ งเรยี น โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการทางภาษานามาปฏบิ ตั ิได้แก่การฟัง การพูด โต้ตอบและทาท่าประกอบ การอ่าน ออกเสยี ง การระบุตัวอักษร การสบื ค้นขอ้ มูล เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถ ส่อื สารสงิ่ ทเ่ี รยี นรู้ และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั เพ่อื ให้นักเรยี นมคี วามสามารถในการส่อื สาร การคดิ การใชเ้ ทคโนโลยมี วี นิ ัย ใฝ่เรยี นรมู้ ุ่งมนั่ ใน การทางาน มเี จคตทิ ด่ี ตี อ่ วชิ าภาษาองั กฤษ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรยี นรทู้ ่ีคำดหวงั 1. สามารถปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ งทฟ่ี ัง 2. สามารถอา่ นออกเสยี งตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยคงา่ ย ๆ และบทพดู เขา้ จงั หวะงา่ ย ๆ ตาม หลกั การ อ่าน 3. สามารถบอกความหมายของคาและกลุ่มคาท่ีฟั งตรงตามความหมาย ตอบคาถามการฟังท่ีมี ภาพประกอบ หรอื อ่านประโยคบทสนทนาหรอื นิทานง่าย ๆ 4. สามารถพดู โต้ตอบด้วยคาสนั้ ๆ ง่าย ๆ ในการส่อื สารระหว่างบุคคลตามแบบทฟ่ี ัง ใช้คาสงั่ และ คา ขอรอ้ ง งา่ ย ๆ บอกความตอ้ งการและความรูส้ กึ ของตนเอง พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง และเพ่อื น 5. พดู และทาทา่ ประกอบตามมารยาทสงั คม วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ รว่ มกจิ กรรมทาง ภาษาและ วฒั นธรรมทเ่ี หมาะสมกบั วยั 6. สามารถใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง และขอ้ มูลของผอู้ ่นื ได้ 7. สามารถถาม-ตอบประโยคง่ายๆ รวมทงั้ หมด ๗ ผลกำรเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม ภำษำองั กฤษในชีวิตประจำวนั 3 รหสั วิชำ อ ๑๓๒๐๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ท่ี ๓ เวลำ 8๐ ชวั่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต ศกึ ษาวเิ คราะห์ คา กลุม่ คา ประโยคคาสงั่ คาขอร้อง บทพดู เขา้ จงั หวะตามหลกั การอ่าน ภาพ และ สญั ลกั ษณ์ตรงตามความหมายของกลุ่มคาและประโยค ความต้องการของตนเองตามแบบท่ฟี ัง นทิ าน คาถาม ประโยค บทสนทนา ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเพ่อื น ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ ตวั หมวดหมู่คู่ตาม ประเภทของบุคคล สตั ว์ และสงิ่ ของ มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ช่อื และคาศัพท์เกี่ยวกบั เทศกาลวนั สาคญั งานฉลอง ชวี ิตความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา คา กลุ่มคา ประโยคของภาษาต่างประเทศ และของไทย กจิ กรรมทางภาษาวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั ความแตกต่าง ของเสียงตัวอักษร คาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้อง กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน รวมทงั้ สถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนใน หอ้ งเรยี นและคาศพั ทท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งใกลต้ วั โดยใชก้ ระบวนการทางภาษานามาปฏบิ ตั ิได้แก่การฟัง การพดู โตต้ อบและทาท่าประกอบ การ อ่าน ออกเสยี ง การระบตุ วั อกั ษร การเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษา เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการส่ือสาร การ คิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต เทคโนโลยี และมี มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางานและมีเจคติท่ดี ีต่อ วชิ าภาษาองั กฤษตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนร้ทู ่ีคำดหวงั 1. สามารถใชค้ าทกั ทาย คาอาลา และใชท้ า่ ทางประกอบไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 2. สามารถเขยี นและอ่านออกเสยี งคาศพั ทท์ ก่ี าหนดให้ 3. เขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ งา่ ย 4. สามารถใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง และขอ้ มลู ของผู้อน่ื 5. สามารถสะกดคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 6. สามารถถาม-ตอบประโยคงา่ ยๆ 7. เขา้ ใจบทสนทนาและบทความสนั้ ๆ 8. สามารถใชแ้ ละเขา้ ใจไวยากรณภ์ าษาองั กฤษ รวมทงั้ หมด ๘ ผลกำรเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพ่ิมเติม ภำษำองั กฤษในชีวิตประจำวนั 4 รหสั วิชำ อ ๑๔๒๐๑ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปี ท่ี ๔ เวลำ 4๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต พฒั นาทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยฝึกปฏิบัติตามคาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา ขอ้ ความ นทิ าน และบทกลอนสนั้ ๆ ประโยคหรอื ขอ้ ความ ภาพ สญั ลกั ษณ์ เครอ่ื งหมาย บท สนทนา หรอื เร่อื งเล่า การสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล ความตอ้ งการ การขอความช่วยเหลอื การตอบรบั และ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเร่ืองใกล้ตัว การแสดง ความรสู้ กึ ของตนเอง เร่อื งตา่ งๆ ใกลต้ วั กจิ กรรมต่างๆ และสงิ่ แวดลอ้ มใกลต้ วั โดยใชก้ ระบวนการการปฏบิ ตั ิ การฟัง การพดู การอา่ น การเขยี น การเลอื ก การระบุ การบอก การตอบคาถาม การใหข้ อ้ มลู การใหเ้ หตผุ ล เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษ เหน็ ประโยชน์และความจาเป็นในกา ร เรยี นภาษา มีเจตคตทิ ด่ี ี มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการทางาน อยู่อย่างพอเพยี ง และรกั ความเป็นไทย ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลกำรเรียนร้ทู ่ีคำดหวงั ๑. ปฏบิ ตั ติ ามและใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง และ คาแนะนาทฟ่ี ังและอา่ น ๒. อ่านออกเสยี งขอ้ ความ นทิ านและบทกลอนสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตาม หลกั การอา่ น ๓. เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรอื ขอ้ ความสนั้ ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรอื เครอ่ื งหมายทอ่ี า่ น ๔. บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นทิ านง่ายๆ และเร่อื งเลา่ ๕. พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล ๖. พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการขอความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลอื ใน สถานการณ์ งา่ ยๆ ๗. พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเร่อื งใกลต้ วั รวมทงั้ หมด ๗ ผลกำรเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม ภำษำองั กฤษในชีวิตประจำวนั 5 รหสั วิชำ อ ๑๕๒๐๑ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๕ เวลำ 4๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เขา้ ใจคาสงั่ คาขอรอ้ ง รูปประโยคและโครงสรา้ งประโยค คา กล่มุ คาและประโยค การถา่ ยโอน เป็นภาพ สญั ลักษณ์ เร่อื งราว บทอ่าน บทสนทนา เร่อื งสนั้ เร่อื งเล่า นิทาน บทกลอนสนั้ ๆ การใช้ ประโยคเด่ียว และประโยคผสม อ่านออกเสียงคา กลุ่มคา ประโยค ขอ้ ความ บทอ่านได้ถูกต้องตาม หลกั การออกเสยี ง และการ ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง การพดู เขยี นโตต้ อบในการส่อื สารระหวา่ งบคุ คล ใชค้ าสงั่ คาขอรอ้ ง และให้คาแนะนา แสดงความตอ้ งการ แสดงความรสู้ กึ ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธ ในสถานการณ์ง่าย ๆ พดู เขยี น เพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเร่อื งใกล้ตวั ซง่ึ อยู่ในทอ้ งถน่ิ ของตน มี ทกั ษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เนน้ การฟัง พูด อ่าน เขยี น) สนุกสนานและ เพลดิ เพลนิ จากกจิ กรรม ภาษาตา่ งประเทศ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษานามาปฏบิ ตั ไิ ดแ้ ก่ การฟัง การพดู โตต้ อบและทาทา่ ประกอบ การ อ่าน ออกเสยี ง การเขยี น การเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษา เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต เทคโนโลยมี ี วนิ ัย ใฝ่เรยี นรมู้ ุ่งมนั่ ในการทางาน และมเี จคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าภาษาองั กฤษ ผลกำรเรียนร้ทู ่ีคำดหวงั 1. นกั เรยี นเขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนางา่ ย ๆ ตามทฟ่ี ังและอ่านได้ ถกู ตอ้ ง 2. นักเรยี นรู้จกั ชนิดของคาศัพท์ รูปประโยค และการลาดบั คา (order) ตามโครงสร้างประโยค และ สามารถ นาไปใชพ้ ดู หรอื เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ทางภาษา 3. นกั เรยี นสามารถใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง และขอ้ มูลของผอู้ น่ื ได้ 4. นักเรยี นสามารถพดู /อ่านออกเสยี งคา วลี ประโยค ขอ้ ความสนั้ ๆ บทสนทนาได้ถูกตอ้ งตาม หลกั การ ออก เสยี ง 5. นักเรยี นสามารถพดู /เขยี นคา วลี ประโยคถาม – ตอบ แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ส่อื สารสรา้ งสมั พนั ธ์ ระหวา่ ง บคุ คล ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั โครงสรา้ งไวยากรณแ์ ละโครงสรา้ งของ กาล (Tense) 6. นักเรยี นฟัง/อา่ นคา วลี ขอ้ ความสนั้ ๆ บทสนทนา แลว้ สามารถบอกความหมาย สรุป ความหมายและ ตอบ คาถามจากการฟังหรอื อ่านได้ถกู ตอ้ ง รวมทงั้ หมด ๖ ผลกำรเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
คำอธิบำยรำยวิชำภำษำองั กฤษเพิ่มเติม ภำษำองั กฤษในชีวิตประจำวนั 6 รหสั วิชำ อ ๑๖๒๐๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๖ เวลำ 4๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษาวเิ คราะหห์ ลกั การอ่านออกเสยี ง ขอ้ ความ นทิ านและบทกลอนสนั้ ๆ คาสงั่ คาขอรอ้ ง และ คาแนะนาทฟ่ี ังและอ่าน ถูกต้องความหลกั การอ่าน เลอื กและระบุประโยค หรอื ขอ้ ความสนั้ ๆ ตรง ตาม ภาพ สญั ลกั ษณ์หรอื เคร่อื งหมายท่อี ่าน การฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ และเร่อื งเล่า พูด และ เขยี นโตต้ อบ ในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล แสดงความตอ้ งการขอความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และ ปฏเิ สธการ ให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ง่ายๆ ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และสงิ่ แวดลอ้ มใกล้ตวั แสดง ความรสู้ กึ ของตนเอง เกี่ยวกบั เร่อื งต่าง ๆ ใกล้ตวั เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกต่างระหว่าง เทศกาล งานฉลองและ ประเพณีของเจา้ ของภาษากบั ของ ไทย ค้นควา้ รวบรวมคาศพั ท์ท่เี กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหล่งเรียนรู้และนาเสนอด้วยการพูด และการเขยี น ใช้ภาษาส่อื สารใน สถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ ใน ห้องเรยี นและสถานศกึ ษา รวมถงึ ในการใช้ ภาษาต่างประเทศในการ สบื คน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการทางภาษานามาปฏบิ ตั ิไดแ้ ก่อ่านออกเสยี ง เลอื ก ระบุ บอกใจความสาคญั ตอบ คาถาม พดู เขยี นโตต้ อบ บรรยาย สบื คน้ คน้ ควา้ รวบรวม เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต เทคโนโลยี และ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรมู้ ุ่งมนั่ ในการท างาน และมเี จคตทิ ด่ี ตี อ่ วชิ าภาษาองั กฤษ ผลกำรเรยี นร้ทู ี่คำดหวงั 1. นกั เรยี นสามารถฟัง พดู อ่าน เขยี น และบอกความหมายของคา ประโยค ขอ้ ความ บท สนทนา 2. นกั เรยี นสามารถใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง และขอ้ มูลของผอู้ น่ื ได้ 3. นกั เรยี นเขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ ง่าย ๆ 4. นักเรยี นอธบิ ายประเภทของคา และนาไปใชใ้ นประโยคต่าง ๆ 5. นักเรยี นสามารถถาม-ตอบประโยคง่ายๆและเขา้ ใจโครงสรา้ งประโยคตามหลกั ไวยากรณ์ (Tense) 6. นักเรยี นสามารถเขยี นประโยคคาสงั่ คาขอรอ้ ง การขออนุญาต ประโยคบอกเลา่ ประโยค คาถาม ประโยค ปฏเิ สธ 7. นักเรยี นเขา้ ใจบทสนทนาและบทความสนั้ ๆได้ 8. นักเรยี นสามารถใชแ้ ละเขา้ ใจไวยากรณ์ภาษาองั กฤษพน้ื ฐานได้ รวมทงั้ หมด 8 ผลกำรเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182