หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
คำนำ กระทรวงศึกษาธกิ ารได้ประกาศใชม้ าตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัด กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตรใ์ นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคำส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคำส่งั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวนั ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ใหเ้ ปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชีว้ ดั กลมุ่ สาระการ เรยี นรู้ คณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) โดยมคี ำส่งั ให้โรงเรียนดำเนนิ การใช้หลกั สตู รในปี การศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ตง้ั แต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ใหเ้ ป็น หลักสตู รแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เปน็ เป้าหมายและกรอบทศิ ทาง ในการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี น มีพฒั นาการเตม็ ตามศักยภาพ มีคณุ ภาพและมีทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑ เพือ่ ใหส้ อดคล้องกับนโยบายและเปา้ หมายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธิ์ จึงได้ทาการปรับปรงุ หลักสตู รของสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธิ์ พทุ ธศักราช ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สาระภมู ิศาสตร์ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และรายวิชาเพม่ิ เติมการป้องกนั การทจุ รติ ให้ครบทกุ ระดับชน้ั เพอื่ นำไปใช้ประโยชน์และเปน็ กรอบในการวางแผนและพฒั นาหลกั สตู รของสถานศึกษาและจดั การเรียนการสอน โดยมเี ป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ให้มกี ระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบตั ิ โดยมีการกำหนด วิสัยทัศน์ จดุ หมาย สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชวี้ ัด โครงสรา้ งเวลาเรยี น ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมนิ ผลใหม้ ีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปดิ โอกาส ใหโ้ รงเรียนสามารถกำหนดทิศทางในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพรอ้ มและ จุดเนน้ โดยมกี รอบแกนกลางเป็นแนวทางทชี่ ดั เจนเพือ่ ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มคี วามพร้อมในการ กา้ วสสู่ งั คมคุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จรงิ และมีทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัดท่ีกำหนดไวใ้ นเอกสารเล่มน้ี ชว่ ยทำให้หน่วยงานทีเ่ กย่ี วข้องในทกุ ระดบั เหน็ ผลคาดหวงั ที่ต้องการในการพัฒนาการเรยี นรู้ของผูเ้ รยี นท่ชี ัดเจนตลอดแนว ซ่ึงจะสามารถชว่ ยให้ หน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้องในระดับท้องถน่ิ และสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลกั สูตรได้อย่างมน่ั ใจ ทำให้การจดั ทำ หลกั สตู รในระดบั สถานศกึ ษามคี ณุ ภาพและมีความเปน็ เอกภาพยงิ่ ข้ึน อีกท้งั ยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่องการ วดั และประเมินผลการเรยี นรู้ และช่วยแกป้ ญั หาการเทียบโอนระหวา่ งสถานศกึ ษา ดงั นัน้ ในการพฒั นา หลกั สูตรในทกุ ระดับตั้งแต่ระดบั ชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ชีว้ ัดทก่ี ำหนดไวใ้ นหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน รวมทง้ั เปน็ กรอบทิศทางในการจดั การศกึ ษา ทกุ รปู แบบ และครอบคลมุ ผเู้ รยี นทกุ กลุ่มเป้าหมายในระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน การจัดหลักสตู รการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานจะประสบความสำเร็จตามเปา้ หมายทค่ี าดหวังได้ ทุกฝ่ายที่ เก่ยี วข้องทัง้ ระดับชาติ ชุมชน ครอบครวั และบุคคล ต้องรว่ มรบั ผิดชอบ โดยร่วมกนั ทำงานอยา่ งเป็นระบบและ ตอ่ เนอื่ งในการวางแผน ดำเนินการ ส่งเสรมิ สนับสนนุ ตรวจสอบ ตลอดจนปรบั ปรุงแก้ไข เพ่อื พัฒนาเยาวชน ของชาติไปสู่คณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนร้ทู ่กี ำหนดไว้ งานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธ์ิ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
สารบญั หนา้ ก เรื่อง ข ค ประกาศโรงเรยี น ๑ คำนำ 5 สารบัญ 6 ความนำ 6 8 วสิ ยั ทัศน์ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ๒0 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 29 โครงสร้างเวลาเรยี น 35 คำอธบิ ายรายวิชา 44 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย 56 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ๖2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 81 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 87 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ประวัตศิ าสตร)์ 93 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ๙9 กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ 102 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาองั กฤษ 102 รายวชิ าเพ่มิ เติม การป้องกนั การทจุ รติ รายวิชาเพ่มิ เตมิ ภาษาอังกฤษ 103 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 110 - กจิ กรรมแนะแนว 123 - กจิ กรรมนักเรยี น 125 - คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมชมุ นุมกจิ กรรม 126 - เพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา ภาคผนวก หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
ก ประกาศโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ เรอ่ื ง ให้ใชห้ ลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ พทุ ธศกั ราช 2565 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 …………………………………………………………………… เพือ่ ให้การจัดการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานสอดคล้องกับความกา้ วหน้าทางวทิ ยาการและการเปล่ยี นแปลงทาง สงั คม วฒั นธรรมและเศรษฐกิจ เปน็ การยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาและการเรียนรูท้ ตี่ อบสนองต่อการ เปลยี่ นแปลงของโลกในศตวรรษท่ี 21 โดยมุง่ พัฒนาผูเ้ รียนทุกระดับการศึกษาให้มีความรู้ทกั ษะ และ คณุ ลกั ษณะทเี่ หมาะสมกบั สงั คมไทย เปน็ ไปตามนโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือพฒั นา เดก็ และเยาวชนไทยทุกคนในระดบั การศกึ ษาขนั้ พื้นฐานให้มีคุณภาพดา้ นความรู้และทักษะท่ีจำเป็นสำหรับการ ดำรงชวี ิตในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลง และแสวงหาความรู้เพ่อื พัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ งตลอดชวี ติ เปน็ ไป ตามเจตนารมณข์ องหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพทุ ธศักราช 2551 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๑ หลกั สูตรการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ปีการศึกษา 2565 ความนำ กระทรวงศกึ ษาธิการได้ประกาศใชม้ าตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชีว้ ดั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ในกล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคำส่ังกระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคำสงั่ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ยี นแปลงมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชีว้ ัด กลมุ่ สาระการ เรยี นร้คู ณิตศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมคี ำสัง่ ให้โรงเรียนดำเนนิ การใช้หลักสูตร ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑ และ ๔ ตง้ั แต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ใหเ้ ปน็ หลักสตู รแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรเู้ ป็นเป้าหมายและกรอบทิศทาง ในการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รยี นมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มคี ณุ ภาพและมที กั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เพอ่ื ให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน โรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ จึงได้ทำการปรบั ปรงุ หลกั สูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๖5 ในกลมุ่ สาระการ เรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตรใ์ นกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม เพือ่ นำไปใช้ประโยชนแ์ ละเปน็ กรอบในการวางแผนและพฒั นาหลกั สูตรของสถานศึกษาและจัดการ เรยี นการสอน โดยมีเปา้ หมายในการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน ให้มกี ระบวนการนำหลักสูตรไปสกู่ ารปฏบิ ัติ โดยมี การกำหนดวสิ ัยทศั น์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชีว้ ดั โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมนิ ผลใหม้ ีความสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสใหโ้ รงเรียนสามารถกำหนดทิศทางในการจัดทำหลกั สตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความ พรอ้ มและจุดเนน้ โดยมีกรอบแกนกลางเปน็ แนวทางทชี่ ัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความ พรอ้ มในการก้าวสูส่ งั คมคุณภาพ มีความรู้อย่างแทจ้ รงิ และมีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วดั ท่ีกำหนดไวใ้ นเอกสารน้ี ช่วยทำใหห้ นว่ ยงานทเี่ ก่ียวข้อง ในทุกระดบั เห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรยี นรู้ของผู้เรียนทช่ี ัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถชว่ ยให้ หน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้องในระดับทอ้ งถ่นิ และสถานศกึ ษารว่ มกันพัฒนาหลกั สตู รได้อยา่ งมน่ั ใจ ทำให้การจัดทำ หลักสูตรในระดบั สถานศกึ ษามคี ณุ ภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น อีกทง้ั ยังช่วยให้เกิดความชดั เจนเรือ่ งการ วดั และประเมินผลการเรยี นรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทยี บโอนระหว่างสถานศกึ ษา ดังนน้ั ในการพฒั นา หลักสูตรในทกุ ระดบั ต้ังแต่ระดับชาติจนกระท่ังถึงสถานศึกษา จะต้องสะทอ้ นคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วดั ทก่ี ำหนดไวใ้ นหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน รวมทง้ั เป็นกรอบทิศทางในการจดั การศึกษา ทุกรปู แบบ และครอบคลมุ ผู้เรียนทกุ กลมุ่ เป้าหมายในระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน การจัดหลกั สตู รการศึกษาข้ันพื้นฐานจะประสบความสำเรจ็ ตามเปา้ หมายที่คาดหวังไดท้ ุกฝา่ ยท่ี เก่ียวข้องท้ังระดบั ชาติ ชุมชน ครอบครวั และบุคคลต้องรว่ มรบั ผิดชอบ โดยรว่ มกันทำงานอยา่ งเป็นระบบ และ ตอ่ เน่ือง ในการวางแผน ดำเนนิ การ ส่งเสรมิ สนบั สนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรงุ แกไ้ ข เพอื่ พัฒนาเยาวชน ของชาติไปสคู่ ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนร้ทู ่กี ำหนดไว้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒ ลงชื่อ (นายณัฐดนยั ศรที ะบาล) ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๓ ลักษณะของหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ พทุ ธศักราช ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง 2560) หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธิ์ พุทธศกั ราช ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรที่โรงเรียนได้พัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เรียนในระดับประถมศึกษา โดยยึดองคป์ ระกอบหลักสำคัญ ๕ สว่ นคอื ๑) หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ๒) มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวดั กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตร์ในกลุ่ม สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๓) นโยบายการจัดการเรียนการสอนหน้าที่พลเมือง ๔) กรอบ หลักสูตรระดับท้องถิ่น และ ๕) สาระสำคัญ จุดเน้นที่โรงเรียนพัฒนาเพิ่มเติม เป็นกรอบในการจัดทำ รายละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดเหมาะสมกับสภาพชุมชนและท้องถิ่น และจุดเน้นของโรงเรียน โดยหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ พุทธศักราช ๒๕๖5 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ท่ีพฒั นาขึ้นมีลกั ษณะของหลกั สูตร ดังน้ี ๑. เปน็ หลักสูตรเฉพาะของโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ สำหรับจัดการศกึ ษาในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พืน้ ฐานจดั ในระดับประถมศกึ ษา ๒. เป็นหลักสูตรที่มีความเป็นเอกภาพสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สำหรับให้ครูผู้สอนนำไปจัดการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย โดยกำหนดให้มีรายละเอียด ดังนี้ ๒.๑ สาระการเรยี นรทู้ ่ีโรงเรียนใชเ้ ปน็ หลกั เพื่อสรา้ งพนื้ ฐานการคดิ การเรยี นรู้ และการแก้ปญั หา ประกอบด้วย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒.๒ สาระการเรียนรู้ทเ่ี สริมสรา้ งความเป็นมนษุ ย์ ศกั ยภาพการคดิ และการทำงาน ประกอบดว้ ย สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ศิลปะ การงานอาชพี และภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ๒.๓ สาระการเรียนรู้เพมิ่ เติม โดยจัดทำเป็นรายวิชา/กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ ตามความเหมาะสมและ สอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ความต้องการของผู้เรียน และบริบทของโรงเรียน และเพิ่มวิชาหน้าที่พลเมือง และภาษาอังกฤษ (เพิ่มเติม) ให้สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต ๒ สำนักงานงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ กระทรวงศึกษาธกิ ารดว้ ย ๒.๔ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน เพื่อพัฒนาผเู้ รียนทั้งดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ สติปญั ญา อารมณ์ และ สังคม เสริมสร้างการเรียนรู้นอกจากกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ๘ กลุ่ม และการพฒั นาตนตามศักยภาพ ๒.๕ การกำหนดมาตรฐานของโรงเรยี นที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดบั ต่างๆ เพอื่ เปน็ เป้าหมายของ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน จัดทำรายละเอียดสาระการเรียนรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ สอดคล้องกบั สภาพในชมุ ชน สังคม และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ๓. มีมาตรฐานการเรยี นรูเ้ ป็นเป้าหมายสำคญั ของการพฒั นาคุณภาพหลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี น บ้านเนินโพธิ์ พุทธศักราช ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับ ปรับปรุง 2560) เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานเป็นตัวกำหนดเกี่ยวกับความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๔ และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผูเ้ รียน เพ่อื เปน็ แนวทางในการประกันคุณภาพการศกึ ษา โดยมีการกำหนด มาตรฐานไวด้ งั นี้ ๓.๑ มาตรฐานหลักสูตร เปน็ มาตรฐานด้านผู้เรียนหรอื ผลผลติ ของหลักสูตรโรงเรียน เกิดขึน้ จากการ จัดกิจกรรมตามโครงสร้างของหลักสูตรทั้งหมดของครู และใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบคุณภาพโดยรวม ของการจัดการศึกษาตามหลกั สูตรในทุกระดับ ซึ่งโรงเรียนต้องใช้สำหรับการประเมินตนเองเพื่อจัดทำรายงาน ประจำปีตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลใน การกำหนดแนวปฏิบัติในการ ส่งเสริม กำกบั ตดิ ตาม ดูแล และปรบั ปรุงคณุ ภาพ เพื่อใหไ้ ด้ตามมาตรฐานท่กี ำหนด ๓.๒ มีตัวชี้วดั ชั้นปี เป็นเป้าหมายระบุสิง่ ที่นักเรียนพึงรูแ้ ละปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผูเ้ รยี น ในแต่ละระดบั ช้ันซ่ึงสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจง และมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ใน การกำหนดเนื้อหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสาหรับ การวัด ประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน ตรวจสอบพัฒนาการผู้เรียน ความรู้ ทักษะ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์และเป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาใน ระบบ นอกระบบและตามอธั ยาศัย ๓.๓ มีความเปน็ สากล ความเปน็ สากลของหลกั สตู รโรงเรยี น คือมุง่ ใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ ความสามารถ ในเรอ่ื งเทคโนโลยสี ารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจดั การสงิ่ แวดล้อม ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ มคี ุณลักษณะที่จำเป็นใน การอยู่ในสังคมได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเสียสละ การเอื้อเฟื้อ โดยอยู่บน พื้นฐานของความพอดีระหว่างการเป็นผู้นำ และผู้ตาม การทำงานเป็นทีม และการทำงานตามลำพัง การ แข่งขัน การรู้จักพอและการร่วมมือกันเพื่อสังคม วิทยาการสมัยใหม่ และภูมิปัญญาท้องถิ่น การรับวัฒนธรรม ต่างประเทศ และการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยการฝึกฝนทักษะเฉพาะทาง และการบูรณาการในลักษณะที่เป็น องคร์ วม ๔. มคี วามยืดหยุน่ หลากหลาย หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธิ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (เปน็ หลกั สตู รท่โี รงเรียนจดั ทำรายละเอยี ด ต่างๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสรา้ งหลกั ที่กำหนดไว้ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น เป็นขอบข่ายในการจัดทำ จึงทำให้หลักสูตรของโรงเรียนมีความยืดหยุ่น หลากหลายสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการของท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความเหมาะสมกับ ตัวผูเ้ รยี น ๕. การวดั และประเมนิ ผลเนน้ หลักการพ้ืนฐานสองประการคอื การประเมินเพ่ือพฒั นาผเู้ รียนและ เพ่อื ตัดสินผลการเรยี น โดยผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาและประเมินตามตวั ชี้วดั เพอ่ื ให้บรรลุตามมาตรฐาน การเรยี นรู้ สะทอ้ นสมรรถนะสำคัญ และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รยี นเปน็ เป้าหมายหลกั ในการวัดและ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ในทกุ ระดับไม่ว่าจะเป็นระดบั ชั้นเรียน ระดับสถานศกึ ษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และ ระดบั ชาติ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และใชผ้ ลการประเมนิ เป็น ข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจน ข้อมลู ท่ีเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผ้เู รยี นเกิดการพฒั นาและเรียนรู้อยา่ งเต็มตามศกั ยภาพ วิสยั ทัศน์หลกั สูตรสถานศกึ ษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๖5 โรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ มุ่งมั่นพัฒนาจดั การศึกษาใหน้ ักเรยี นมีคุณภาพด้านความร้วู ิชาการ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม สามารถดำรงชีวิตได้อยา่ งมีความสุข และอนุรักษค์ วามเปน็ ไทยโดยการมสี ่วนรว่ ม ของชมุ ชน นอ้ มนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๕ เปา้ ประสงคห์ ลักสูตร (Corporate objective) ๑. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นทุกคนไดร้ บั การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีการพฒั นา เต็มตามศักยภาพ มที กั ษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มาเป็นแนวทางการดำเนนิ ชีวติ เป็นผ้นู ำท่ดี ีของสงั คมและมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการ เรยี นรูแ้ ละการสื่อสารอย่างหลากหลาย ผู้เรยี นมศี กั ยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) ๒. เพ่ือใหส้ ถานศึกษามรี ะบบการบริหารและจัดการศึกษาดว้ ยระบบคณุ ภาพ (Quality System Management) เพือ่ รองรบั การกระจายอำนาจอยา่ งท่วั ถึง ๓. เพอ่ื ใหบ้ คุ ลากรทุกคนมีทักษะวชิ าชีพในการพัฒนาการเรียนการสอนและใชน้ วัตกรรมเทคโนโลยีที่ ทนั สมัยยกระดับการจัดการเรียนการสอนเทยี บเคยี งมาตรฐานสากล (World Class standard) ๔. เพอื่ ใหก้ ารใชง้ บประมาณและทรพั ยากรของทุกหนว่ ยงานเป็นไปตามเป้าหมายไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ และประสิทธิผลสูงสุด วิสัยทัศน์ ภายในปี ๒๕๖๕ โรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ มงุ่ พัฒนาจัดการศกึ ษาให้นกั เรียนมที ักษะทางวชิ าการ มี คุณธรรม จริยธรรม สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขตามแนวพระราชดำริ พันธกิจ ๑. จดั การศกึ ษาระดบั ปฐมวยั และระดับประถมศึกษา ๒. จดั กิจกรรมการเรยี นร้ทู เี่ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั และพฒั นาแหลง่ เรยี นรใู้ นสถานศกึ ษา ๓. จดั ภมู ทิ ศั น์ในสถานศึกษา ให้มีสภาพท่ีเอ้อื ต่อการเรียนร้นู า่ ดู นา่ อยู่ นา่ เรยี น ๔. สง่ เสรมิ ภูมิปัญญาท้องถนิ่ และจัดกิจกรรมการเรียนรูต้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๕. จดั กจิ กรรมทีส่ ่งเสริมและสนับสนนุ การพัฒนาคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรียน ๖. จดั กิจกรรมทสี่ ่งเสริมและปลูกจติ สำนึกการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยและ ทอ้ งถนิ่ เปา้ ประสงค์ ๑. นกั เรียนได้รบั บริการทางการศึกษาอย่างทัว่ ถงึ และมคี ุณภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน ๒. โรงเรียนมีหลกั สูตรสถานศึกษาท่มี ีคุณภาพได้มาตรฐาน ๓. นักเรียนมคี วามสามารถในการนำเทคโนโลยีไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวนั ๔. บคุ ลากรไดร้ บั การพัฒนาสู่มาตรฐานวชิ าชพี ๕. โรงเรยี นมีภมู ทิ ัศน์สวยงามและแหลง่ เรยี นรูต้ ามแนวปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอย่างหลากหลาย ๖. โรงเรียนไดร้ ับความร่วมมือจากชมุ ชนในการจดั การศึกษา หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๖ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการพัฒนาผเู้ รยี นตามหลักสตู รโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิพุทธศกั ราช ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ม่งุ เน้นพฒั นาผู้เรยี นให้มคี ณุ ภาพตาม มาตรฐานทก่ี ำหนด ซ่ึงจะช่วยใหผ้ ู้เรียนเกดิ สมรรถนะสำคญั และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดงั นี้ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน หลักสตู รโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖5 มุ่งให้ผเู้ รยี นเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เปน็ ความสามารถในการรบั และสง่ สาร มีวัฒนธรรมในการใชภ้ าษา ถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อ ขจดั และลดปัญหาความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ การเลอื กรบั หรอื ไม่รบั ข้อมลู ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความ ถกู ต้อง ตลอดจนการเลอื กใช้วิธีการสื่อสาร ทม่ี ีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทม่ี ีต่อตนเองและ สงั คม ๒. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การคดิ อยา่ ง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรหู้ รือ สารสนเทศเพ่ือการตัดสินใจเกี่ยวกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ทีเ่ ผชญิ ได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม บนพ้ืนฐานของหลกั เหตผุ ล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพนั ธ์ และการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา และมกี ารตดั สนิ ใจที่มปี ระสิทธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น ต่อ ตนเอง สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ เปน็ ความสามารถในการนำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในการ ดำเนนิ ชีวิตประจำวัน การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ือง การทำงาน และการอย่รู ่วมกัน ในสงั คมดว้ ยการสร้างเสริมความสัมพนั ธอ์ ันดีระหวา่ งบุคคล ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใชเ้ ทคโนโลยีด้านตา่ ง ๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรยี นรู้ การสื่อสาร การ ทำงาน การแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ หลักสตู รโรงเรียนบ้านเนินโพธ์ิ พุทธศกั ราช ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง 2560) มุ่งพัฒนาผ้เู รยี นให้มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ รว่ มกบั ผ้อู ่นื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ดงั นี้ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซือ่ สัตยส์ ุจริต ๓. มวี ินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มุง่ มน่ั ในการทำงาน หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๗ ๗. รักความเป็นไทย ๘. มจี ติ สาธารณะ หลักสูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกบั สำนกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน (สพฐ.) ได้จดั ทำหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศึกษาสำหรบั ใชใ้ นทุกระดับการศึกษา ในส่วนของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐานได้จัดทาหลักสูตรตา้ นทุจริตศึกษา รายวชิ าเพ่มิ เติม “การป้องกนั การทุจรติ ข้ึน” และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลกั สูตรตา้ นทจุ ริตศึกษา เมื่อวนั ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ และใหห้ น่วยงานทีเ่ ก่ยี วข้องนำหลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศกึ ษาไปปรบั ใชใ้ นการจัดการเรยี นการ สอนในสถานศึกษาโดยมงุ่ เนน้ การสรา้ งความรู้ความเข้าใจท่ีถกู ต้องเก่ียวกับความหมายและขอบเขตของการ กระทำทจุ รติ ในลักษณะตา่ ง ๆ ท้ังทางตรงและทางอ้อม ความเสยี หายทเี่ กิดจากการทจุ ริต ความสำคัญของการ ต่อต้านการทุจรติ รวมท้ังจัดใหม้ ีการประเมนิ ผลสมั ฤทธข์ิ องการจัดหลักสตู รในแต่ละชว่ งวยั ของผูเ้ รยี นด้วย หลักสูตรตา้ นทุจรติ ศึกษา (Anti – Corruption Education) รายวิชาเพิม่ เตมิ “การป้องกันการทจุ รติ ” ประกอบดว้ ย ๔ หน่วยการเรยี นรู้ ได้แก่ ๑) การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ สว่ นรวม ๒) ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ๓) STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ ริต ๔) พลเมืองกบั ความรับผิดชอบต่อสงั คม ทสี่ ถานศึกษาจัดให้กับผเู้ รยี นเพื่อปลกู ฝงั และป้องกนั การทุจรติ ไม่ให้เกดิ ข้นึ โดยเริม่ ปลูกฝังผเู้ รยี นตง้ั แต่ชน้ั ปฐมวัยจนถงึ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ให้มีความรคู้ วามเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ มี สมรรถนะที่สำคญั และมีคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๘ โครงสร้างเวลาเรียน หลักสูตรโรงเรียนบ้านเนินโพธ์ิ ปีการศึกษา ๒๕๖5 กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนดงั น้ี กลุ่มสาระการเรยี นรู้/กิจกรรม เวลาเรียน ระดบั ประถมศึกษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้พนื้ ฐาน ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ประวตั ิศาสตร์ (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ - ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม - หนา้ ท่ีพลเมือง วฒั นธรรมและการ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ดำเนินชวี ติ ในสงั คม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ - เศรษฐศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ - ภมู ศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ศิลปะ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ การงานอาชพี ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน) รวมเวลาเรียน(พนื้ ฐาน) หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๙ 1. กิจกรรมแนะแนว 2. กิจกรรมนักเรยี น (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) (๑๒๐) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ 2.1 กจิ กรรมลูกเสือ 2.2 กจิ กรรมชุมนุม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ 2.3 กิจกรรมเพื่อสังคมและ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ สาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ สาระเพิม่ เตมิ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ • หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑,๐๐๐ชวั่ โมง/ปี • ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร รวมเวลาเรยี นทั้งหมด ๑,๐๘๐ชัว่ โมง/ปี หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๑๐ โครงสร้างหลกั สูตรชัน้ ปี เป็นโครงสรา้ งที่แสดงรายละเอยี ดเวลาเรยี นของรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา/ กจิ กรรมเพิ่มเติม และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นในแต่ละชั้นปี โครงสร้างหลกั สตู ร ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง/ปี) รายวชิ าพนื้ ฐาน ๒๐๐ ๒๐๐ - ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ - ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ - ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐ - ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๔๐ - ส ๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ - พ ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ - ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑๒๐ - ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี - อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐ ๗๐ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน (๔๐) (๓๐) - กิจกรรมแนะแนว ๑๐ - กิจกรรมนักเรียน • ลกู เสือ – เนตรนารี • ชมุ นุม - กจิ กรรมเพ่อื สังคม รายวชิ า/กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๑๑ - ส ๑๑๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจรติ ๔๐ ๘๐ - อ ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่ือการสอื่ สาร ๑,๐๘๐ รวมเวลาเรยี นทั้งสนิ้ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
โครงสร้างหลักสตู ร ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ๑๒ รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง/ปี) รายวชิ าพ้ืนฐาน ๒๐๐ ๒๐๐ - ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ - ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ - ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐ - ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๔๐ - ส ๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ - พ ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ - ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๑๒๐ - ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ - ต ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐ ๗๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๔๐) - กิจกรรมแนะแนว (๓๐) - กจิ กรรมนักเรียน ๑๐ • ลูกเสือ – เนตรนารี • ชมุ นมุ ๔๐ ๘๐ - กิจกรรมเพอ่ื สงั คม ๑,๐๘๐ รายวชิ า/กิจกรรมเพิ่มเตมิ - ส ๑๒๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจริต - อ ๑๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพอื่ การสอ่ื สาร รวมเวลาเรยี นทั้งส้ิน หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๑๓ โครงสรา้ งหลกั สตู ร ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลาเรียน (ชว่ั โมง/ปี) รายวชิ า/กจิ กรรม ๒๐๐ รายวิชาพื้นฐาน ๒๐๐ - ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๘๐ - ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๘๐ - ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐ - ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๔๐ - ส ๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ - พ ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ - ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๑๒๐ - ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ - ต ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐ ๗๐ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน (๔๐) - กิจกรรมแนะแนว (๓๐) - กิจกรรมนักเรียน ๑๐ • ลูกเสอื – เนตรนารี • ชมุ นมุ ๔๐ ๘๐ - กิจกรรมเพื่อสงั คม ๑,๐๘๐ รายวิชา/กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ - ส ๑๓๒๐๔ การปอ้ งกนั การทุจริต - อ ๑๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร รวมเวลาเรยี นทั้งส้นิ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๑๔ โครงสรา้ งหลกั สูตร ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลาเรียน (ชั่วโมง/ปี) รายวชิ า/กจิ กรรม ๑๖๐ รายวชิ าพน้ื ฐาน ๑๖๐ - ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๒๐ - ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ - ว ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐ - ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๘๐ - ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๘๐ - พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ - ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐ - ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี - ต ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐ ๗๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน (๔๐) - กิจกรรมแนะแนว (๓๐) - กิจกรรมนักเรียน ๑๐ • ลกู เสอื – เนตรนารี • ชุมนุม ๔๐ ๑,๐๐๐ - กจิ กรรมเพ่ือสังคม รายวิชา/กจิ กรรมเพิ่มเตมิ - ส ๑๔๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจริต รวมเวลาเรียนทัง้ สนิ้ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๑๕ โครงสร้างหลกั สูตร ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน (ชั่วโมง/ปี) รายวชิ า/กิจกรรม ๑๖๐ รายวิชาพ้นื ฐาน ๑๖๐ - ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๒๐ - ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ - ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐ - ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๘๐ - ส ๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๘๐ - พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ - ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐ - ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชพี - ต ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐ ๗๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน (๔๐) - กิจกรรมแนะแนว (๓๐) - กิจกรรมนักเรียน ๑๐ • ลกู เสือ – เนตรนารี • ชุมนุม ๔๐ ๑,๐๐๐ - กจิ กรรมเพ่ือสังคม รายวชิ า/กิจกรรมเพิ่มเตมิ - ส ๑๕๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจริต รวมเวลาเรยี นทัง้ สนิ้ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๑๖ โครงสร้างหลกั สูตร ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลาเรียน (ชั่วโมง/ปี) รายวชิ า/กิจกรรม ๑๖๐ รายวิชาพ้นื ฐาน ๑๖๐ - ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๒๐ - ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๘๐ - ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐ - ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๘๐ - ส ๑๖๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๘๐ - พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ - ศ ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐ - ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี - ต ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐ ๗๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน (๔๐) - กิจกรรมแนะแนว (๓๐) - กิจกรรมนักเรียน ๑๐ • ลกู เสือ – เนตรนารี • ชุมนุม ๔๐ ๑,๐๐๐ - กจิ กรรมเพอื่ สังคม รายวชิ า/กิจกรรมเพิ่มเตมิ - ส ๑๖๒๐๔ การปอ้ งกันการทุจริต รวมเวลาเรยี นทัง้ สนิ้ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ๑๗ ระดบั ประถมศกึ ษา รายวชิ าพืน้ ฐาน จำนวน ๒๐๐ ช่วั โมง จำนวน ๒๐๐ ชัว่ โมง ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย รายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง ระดับประถมศกึ ษา จำนวน ๒๐๐ ชัว่ โมง รายวิชาพ้นื ฐาน จำนวน ๒๐๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ระดับประถมศึกษา จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง รายวชิ าพื้นฐาน จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑๒๐ ช่ัวโมง ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๑๒๐ ชัว่ โมง ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๑๒๐ ชวั่ โมง ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ รายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ระดับประถมศกึ ษา จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง รายวชิ าพ้นื ฐาน ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๑๘ ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ส ๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง รายวชิ าพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ระดบั ประถมศึกษา จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง รายวชิ าพื้นฐาน จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา พ ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา พ ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ระดับประถมศึกษา จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง รายวิชาพนื้ ฐาน จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี ๑๙ ระดับประถมศึกษา รายวิชาพน้ื ฐาน จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑๒๐ ชัว่ โมง รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง ระดบั ประถมศกึ ษา จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง รายวชิ าพ้นื ฐาน จำนวน ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ระดบั ประถมศกึ ษา จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง รายวชิ าเพมิ่ เตมิ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง อ ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ๑ อ ๑๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๒ อ ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร ๓ รายวชิ าเพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคม ฯ ระดับประถมศกึ ษา รายวิชาเพ่มิ เติม ส ๑๑๒๐๔ การปอ้ งกนั การทุจรติ ๑ ส ๑๒๒๐๔ การป้องกันการทจุ รติ ๒ ส ๑๓๒๐๔ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ๓ ส ๑๔๒๐๔ การป้องกนั การทจุ รติ ๔ ส ๑๕๒๐๔ การป้องกันการทุจริต ๕ ส ๑๖๒๐๔ การป้องกันการทจุ รติ ๖ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๐ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง การอา่ น อา่ นออกเสยี งคำ คำคลอ้ งจอง และขอ้ ความสั้น ๆ บอกความหมายของคำ และข้อความที่อา่ น ตอบ คำถามเกีย่ วกับเรื่องท่ีอา่ น เล่าเรือ่ งย่อจากเรื่องที่อ่าน คาดคะเนเกาตุการณจ์ ากเร่ืองที่อ่าน อ่านหนังสือตาม ความสนใจอยา่ งสมำ่ เสมอและนำเสนอเรื่องที่อ่านบอกความหมายของเครื่องหมาย หรือสัญลักษณส์ ำคัญท่ีมัก พบเหน็ ในชวี ิตประจำวนั มีมารยาทในการอา่ น การเขยี น คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด เขียนสือ่ สารดว้ ยคำและประโยคงา่ ย ๆ มีมารยาทในการเขยี น การฟงั การดู และการพดู ฟงั คำแนะนำ คำสงั่ งา่ ย ๆ และปฏิบตั ติ าม ตอบคำถามและเล่าเรอื่ งที่ฟังและดู ทง้ั ที่เป็นความรู้ และ ความบนั เทิง พดู แสดงความคิดเห็นและความรูส้ ึกจากเรื่องทฟี่ งั และดู พดู ส่ือสารได้ตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด หลักการใชภ้ าษาไทย บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระวรรณยุกตแ์ ละเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ เรยี บเรียงคำเป็นประโยคง่าย ๆ ตอ่ คำคลอ้ งจองงา่ ย ๆ การพดู และเขยี น พยัญชนะ สระ วรรณคดีและวรรณกรรม บอกขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและรอ้ ยกรองสำหรับเด็ก ท่องจำบท อาขยานตามท่ีกำหนด และบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ โดยการอา่ น บอกความหมาย ตอบคำถาม เลา่ เรอื่ ง คาดคะเนเหตกุ ารณ์การบรรยาย อภิปราย การ สังเกต การศึกษา ฝึกทกั ษะการคัดลายมอื เขยี นสื่อสาร ฟัง พูด เรียบเรียง ทอ่ งจำ สรุป รายงานและฝึกการ แก้ปัญหา เพอ่ื พัฒนาทักษะ /กระบวนการในการ อ่าน เขยี น การฟงั การดู การพูด หลกั การใชภ้ าษา วรรณคดี และวรรณกรรม และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคดิ ทกั ษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรยี นรู้สง่ิ ต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมทั้งเหน็ คุณคา่ และมีเจตคติดีต่อภาษาไทย สามารถทำงานอย่าเป็น ระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี ิจารณญาณและเชอื่ ม่นั ในตนเอง สามารถนำความร้ไู ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนโ์ ดยใช้วธิ ีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้กบั ชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม วิธวี ัดและประเมินผล โดยวธิ สี งั เกต ทดสอบ สมั ภาษณ์ สอบถาม ตรวจช้ินงาน/ผลงาน และแฟ้ม สะสมผลงานนกั เรยี น ใชว้ ธิ ีการวดั ท่หี ลากหลายตามสภาพความเป็นจริงของเน้อื หาและทักษะทต่ี ้องการวัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๑ ตัวชว้ี ดั ท ๑.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓, ป. ๑/๔, ป. ๑/๕, ป. ๑/๖, ป. ๑/๗, ป. ๑/๘ ท ๒.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓ ท ๓.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓, ป. ๑/๔, ป. ๑/๕ ท. ๔/๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒, ป. ๑/๓, ป. ๑/๔ ท. ๕.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒ รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวช้ีวัด หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๒ คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ ศกึ ษาการอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของคำ คำคลอ้ งจอง ข้อความ บทร้อยกรองงา่ ย ๆ จากมรี ูปวรรณยุกต์ และไมม่ รี ูปวรรณยกุ ต์ ตวั สะกดตรงมาตร และไมต่ รงมาตรา อักษรนำ ตวั การนั ต์ คำ ร หัน พยญั ชนะและสระที่ไมอ่ อกเสยี ง จบั ใจความจากนิทาน เรอื่ งเลา่ ส้นั บทเพลงและทบร้อยกรอง ขา่ ว และเหตกุ ารณ์ประจำวัน อา่ นหนงั สือตามความสนใจ ข้อเขียนเชงิ อธบิ ายใช้สถานท่สี าธารณะ คำแนะนำ การ ใช้เคร่อื งมือทจี่ ำเป็นในบ้าน ในโรงเรยี น มารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั เขียนเรอื่ งส้นั เกย่ี วกบั ประสบการณ์ ตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน ฟังและปฏบิ ตั ติ าม คำแนะนำ คำสัง่ ที่ซบั ซ้อน จับใจความ พูดแสดงความคิดเห็น ความร้สู กึ จากท่ีฟังและดู เช่น เรอื่ งเลา่ สารคดีสำหรับเดก็ นิทาน การ์ตนู เรอ่ื งขบขัน ข่าวเหตกุ ารณป์ ระจำวนั เพลง พดู สื่อสารในชวี ิตประจำวนั เช่น แนะนำตนเอง ขอความช่วยเหลอื กล่าวขอบคุณ กลา่ วขอโทษ พูดขอร้อง เล่าประสบการณ์ มีมารยาทในการฟงั การดู การพดู บอก และเขยี น พยญั ชนะ สระและวรรณยุกต์ เลขไทย การสะกดคำ แจกลูก และการอ่านเป็นคำ มาตราตัวสะกด ทตี่ รงมาตรา และไมต่ รงมาตรา การผันอักษรกลาง อักษรสงู อักษรต่ำ ตัวการนั ต์ คาควบกล้ำ อักษรนำ คำที่มีความหมาย ตรงกันข้าม คำท่ีมี รร (ร หนั ) ความหมายของคำ แต่งประโยคเรยี บเรียงประโยค คำคลอ้ งจอง ภาษาไทย มาตรฐาน ระบขุ ้อคดิ จากการอ่านวรรณกรรม ร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง สำหรับเดก็ เช่น นทิ าน เรอื่ งสนั้ ง่าย ๆ ปรศิ นาคำทาย บทอาขยาน บทร้อยกรอง วรรณคดี และวรรณกรรมในบทเรยี น บทรอ้ งเล่นในทอ้ งถน่ิ โดยการอ่าน บอกความหมาย ตัง้ คำถาม ตอบคำถาม จับใจความสำคญั แสดงความคิดเห็น เลา่ เรอื่ ง คาดคะเนเกาตุการณ์ การบรรยาย อภิปราย การสงั เกต การศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคดั ลายมือ เขียนเรื่องสั้น สอ่ื สาร ฟงั พูด เรยี บเรียง ทอ่ งจำ สรุป รายงาน และฝึกการแก้ปัญหา เพอื่ พัฒนาทักษะ / กระบวนการในการ อ่าน เขียน การฟงั การดู การพูด หลกั การใช้ภาษา วรรณคดี และวรรณกรรม และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใชใ้ นการเรียนรสู้ ิ่งตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวันอย่างสรา้ งสรรค์ รวมท้ังเหน็ คณุ ค่าและมีเจตคติทีด่ ตี ่อภาษาไทย สามารถทำงานอยา่ ง เปน็ ระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณและเชื่อมน่ั ในตนเอง สามารถนำความรู้ไปใช้ให้ เกิดประโยชน์โดยใช้วิธกี ารของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กบั ชีวติ ประจำวันได้อยา่ ง ถูกต้องเหมาะสม วิธีการวัดและประเมินผล โดยการสังเกต ทอสอบ สัมภาษณ์ สอบถาม ตรวจชน้ิ งาน/ผลงาน และแฟ้ม สะสมงาน โดยวธิ กี ารวดั ทหี่ ลากหลาย ตวั ช้ีวัด ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗ ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวมท้ังหมด ๒๗ ตวั ชีว้ ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๓ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ การอา่ น อ่านในใจ อ่านออกเสียง คำวลี ประโยค บทรอ้ ยกรอง ข้อความ เรอ่ื งสัน้ ตามหลักการอา่ น อ่านคล่อง และอา่ นอยา่ งรวดเร็ว เข้าใจความหมายของคำ และข้อความยง่ิ ขน้ึ จบั ใจความสำคญั และรายละเอียดของเร่ือง โดยการใชแ้ ผนภาพ โครองเรื่อง คำถาม สนทนา และแสดงความคิดเหน็ จากเรอื่ งท่ีอ่าน คาดคะเนเหตกุ ารณ์ นำความรู้ทไ่ี ด้จากการาอา่ นมากำหนดแนวทางปฏิบตั ิ คำคล้องจอง เลอื กอา่ น หนงั สือนิทาน หนังสือทม่ี ีประโยชน์ทอ่ งจำบทร้อยกรอง มมี ารยาท และนสิ ยั รักการอ่าน อ่านคำ วลี ประโยคร้อยกรอง ข้อความเรื่องราวภาษา และสารคดีสัน้ ๆ เขา้ ใจข้อความ ของคำและ รายละเอียดของข้อความสนทนา ต้งั คำถาม ตอบคำถามแสดงความคิดเหน็ คาดคะเนเกตุการณ์ กำหนด แนวทางการปฏิบตั ิลักษณะของคำคลอ้ งจอง การเขียน ฝึกปฏิบตั ติ นในการเขยี น คัดลายมือ เขยี นประโยค เขยี นบทรอ้ ยกรอง เขยี นตามจติ นาการ เขียน จดหมาย เขียนชีแ้ จงการปฏิบัติงาน เขียนหนงั สือเล่มเล็ก บันทึกความรู้ประสบการณ์ เรอื่ งราวในชวี ติ ประวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง โดยเน้นการเขยี นเขิงสรา้ งสรรค์ เหน็ คุณค่าของการเขียน คิดไตรต่ รอง การเขียน และสามารถ นำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ จริงได้ มนี ิสยั ทีด่ ใี นการอา่ น มนี ิสยั ทด่ี ใี นการเขียน และรักการเขียน การฟงั การดู การพูด จบั ใจความท่ีไดฟ้ ัง ไดด้ ู และเขา้ ใจเน้ือเรื่อง ถ้อยคำ การใช้น้ำเสียงและการพดู ผ้พู ูดแสดงทัศนะทาง เรอ่ื งที่ได้ฟังและดูได้อยา่ งมีวจิ ารณญาณ ต้ังคำถาม ตอบคำถาม สนทนา แสดงความคดิ เห็น เล่าเรอื่ งถา่ ยทอง ความคดิ ความรสู้ ึกและประสบการณโ์ ดยใช้ถ้อยคำเหมาะสมกับเรือ่ งได้อย่างชัดเจนถกู ต้องสรา้ งสรรคต์ าม หลกั การพูด มีมารยาทในการฟงั การดู การฟังเพลง นิทาน เรือ่ งสัน้ สาระคดี บทร้อยกรอง คำยากขน้ึ แล้ว ตีความหมายจากเรือ่ ง ถ้อยคำ น้ำเสยี งกิรยิ าท่าทาง การพูดตั้งคำถาม ตอบคำถาม สนทนาแสดงความคิดเห็น แลว้ พดู เล่าเร่ือง ถา่ ยทอดความคดิ วิเคราะห์ แสดงความรสู้ ึกจากประสบการณ์ โดยใช้ถ้อยคำเหมาะแก่เรื่องท่ี พูด อย่างสร้างสรรค์ หลักการใชภ้ าษา การใชห้ ลกั การทางภาษาพฒั นาคำศัพท์ การสะกดคำและแจกลูก การเขียนคำ และกระจายคำ การ ผนั วรรณยกุ ต์ ความหมาย และหนา้ ทข่ี องคำ กลมุ่ คำ ประโยค การเรยี บเรยี งประโยคตามลำดับความคิด การ ใช้ภาษาการส่ือสาร ภาษาไทยกลางหรือภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ การแต่งบทร้อยกรอง ปริศนาคำ ทาย เทคโนโลยี ในการคน้ คว้า ภาษาพดู และภาษาเขียน และความแตกตา่ งภาษาในกลุ่มเพอ่ื น เพ่อื ใหส้ ามารถ นำหลักการทางภาษาไปใชพ้ ัฒนาความรู้ ความคิดอย่างมคี วามพร้อมทั้งใช้ภาษาพดู และภาษาเขียนได้ถกู ตอ้ ง และสรา้ งสรรค์ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๔ วรรณคดีและวรรณกรรม ฝึกอ่านนิทาน เร่ืองสนั้ สารคดี บทรอ้ ยกรอง บทกลอน บทความ บทกวขี องวรรณกรรมวรรณคดี หรือ เรื่องท่ีอ่านเพ่อื ให้ไดค้ วามรู้ ความเข้าใจ ความบนั เทิง และขอ้ คิดจากสิ่งที่อ่าน สามารถนำมาเปน็ ข้อคดิ ไดไ้ ปใช้ ในชวี ิตจรงิ ได้จนเกดิ ความภาคภูมิใจในภาษาไทย ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพอ่ื ไปใช้ในการตัดสินใจ แกป้ ัญหา เขยี นสือ่ สาร เร่ืองราวรปู แบบต่าง ๆ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถเลือกฟัง ดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ แสดงความร้สู ึก แสดง ความคดิ เหน็ มีความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ ร้เู ขา้ ใจธรรมชาติของภาษา หลกั ภาษาไทย ภมู ิปัญญาภาษา การรักษา ไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ และแสดงความคดิ เหน็ วรรณคดีวรรณกรรมเห็นคุณค่านำมาประยุกตใ์ ชก้ ับชีวติ ประจำวัน อย่างมีคณุ ค่า สามารถนำความรูไ้ ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์โดยใชว้ ิธกี ารของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไป ประยกุ ต์ใช้กบั ชวี ิตประจำวันได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ตัวช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓,ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓,ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓,ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓,ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓,ป.๓/๔ รวมทั้งหมด ๓๑ ตัวช้ีวัด หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๕ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ศึกษาการอา่ นออกเสียง บอกความหมายของคำ บทร้อยกรอง คำท่ีมี ร ล เป็นพยญั ชนะตน้ คำควบ กลำ้ อักษรนำ คำประสม อักษรยอ่ และเคร่ืองหมายวรรคตอน อา่ นบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ อา่ นจับ ใจความ เรื่องเลา่ จากประสบการณ์ นทิ านขาดก บทความ บทโฆษณา งานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ ข่าวและ เหตกุ ารณป์ ระจำวนั สารคดีและบันเทงิ คดี อ่านหนังสือตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน คดั ลายมอื ดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทัดและครง่ึ บรรทัดตามรปู แบบการเขียนตวั อกั ษรไทย เขียนสอ่ื สาร เชน่ คำขวัญ - คำแนะนำ แผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคิดไปพฒั นางานเขียน ยอ่ ความจากส่ือต่าง ๆ นิทาน ความเรยี ง ประกาศ จดหมาย คำสอน จดหมายถงึ เพือ่ นและบดิ ามารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานกากการศึกษา ค้นคว้า เรือ่ งตามจนิ ตนาการ มารยาทในการเขยี น จำแนกข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ จากเองท่ีฟงั และดูใน ชีวติ ประจำวัน จบั ใจความ พูดแสดงความรู้ ความคดิ เร่อื งที่ฟงั และดู จากส่ือต่าง ๆ เรื่องเล่า บทความสัน้ ๆ ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน โฆษณา ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ รายงาน พดู ลำดบั เหตุการณ์ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด คำในแม่ ก กา มาตราตวั สะกด ผนั อักษรคำเป็น คำตาย คำพอ้ ง ชนดิ ของคำ ไดแ้ ก่ คำนาม คำ สรรพนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ การใช้ พจนานุกรม ประโยคสามัญ สว่ นประกอบของประโยค ประโยค ๒ สว่ น ประโยค ๓ สว่ น กลอนสี่ คำขวญั สำนวนท่เี ปน็ คำพังเพยและสุภาษติ ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถ่ินภาษาไทย ระบุข้อคดิ จากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรม เช่น นิทานพ้ืนบ้าน นทิ านคตธิ รรม เพลงพื้นบา้ น วรรณคดี และวรรณกรรมในบทเรียนและตามความสนใจ โดยใช้ทักษะกระบวนการปฏิบตั ิการอา่ น การเขยี น การฟัง การดู การพูด และการใชภ้ าษาไทยเพ่ือให้ เกิดความรู้ความคดิ วเิ คราะห์ การตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชีวิอย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชวี ิตจริงได้อยา่ งเหมาะสม ใชก้ ระบวนการอา่ น สร้างความรู้ ความคดิ เพื่อนำไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หา ในการดำเนินชวี ติ และมี นสิ ยั รกั การอ่าน ใช้กระบวนการเขยี น เขยี นสอ่ื สาร เรยี งความ ยอ่ ความ เขียนเรือ่ งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียน รายงานสารสนเทศ รายงานศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ เลือกฟังดูอย่างมวี จิ ารณญาณ พดู แสดงความรู้ ความคิดและความรสู้ ึกอยา่ งสร้างสรรค์ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงภาษา และพลงั ของภาษาภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ เข้าและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และนำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง สามารถนำความรู้ไปใช้ ให้เกดิ ประโยชน์โดยใชว้ ธิ ีการของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยุกตใ์ ชก้ ับชีวิตประจำวันได้อยา่ ง ถกู ต้องเหมาะสม ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕,ป.๔/๖, ป๔/๗, ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕,ป.๔/๖,ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕,ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕,ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ รวมทั้งหมด ๓๓ ตวั บ่งช้ี หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๖ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ ศึกษาการอ่านออกเสียง บอกความหมาย บทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง คำควบกล้ำ อักษรนำ ตัวการนั ต์ อักษรย่อ เครื่องหมายวรรคตอน ขอ้ ความ อ่านบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ อา่ นจบั ใจความ วรรณคดี บทความ โฆษณา งานเขียน ขา่ วเหตุการณป์ ระจำวัน งานเขยี นเชงิ อธบิ ายคำสั่ง ขอ้ แนะนำการใชพ้ จนานุกรม ใชว้ ัสดุอปุ กรณ์ฉลากยา เอกสาร ขา่ วสารทางราชการหนังสือทนี่ กั เรยี นสนใจ มารยาทในการอ่าน คัดลายมือ ด้วยตัวบรรจงเตม็ บรรทดั ครึ่งบรรทัด ตามรปู แบบตวั อกั ษรไทย เขียน คำขวัญ คำอวยพร คำแนะนำ คำอธบิ าย แผนภาพโครงเรอื่ ง แผนภาพความคดิ ย่อความจาก นทิ าน ความเรยี ง ประกาศ แจ้งความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรยั จดหมายถึงเพื่อนและผ้ปู กครอง กรองแบบรายการ ใบฝาก เงนิ ใบถอนเงนิ ธนาณัติ พัสดุไปรษณียภณั ฑ์ เรอื่ งตามจิตนาการ มารยาทในการเขยี น อ่านจบั ใจความ พูด แสดงความรู้ ความคิดจาก เรื่องเลา่ บทความ ข่าวเหตกุ ารณ์ โฆษณา สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์ วเิ คราะหค์ วาม นา่ เช่อื ถือ เร่ืองท่ีฟัง และดใู นชีวติ ประจำวนั พดู รายงาน ลำดบั เหตุการณ์ มีมารยาทในการฟัง การดู การพดู ระบชุ นิดและหนา้ ที่ของคำ คำบพุ บท คำสันธาน คำอุทาน ประโยค สว่ นประกอบของประโยค ภาษาไทย มาตรฐาน ภาษาถ่ิน คำราชาศัพท์ คำมาจากภาษาตา่ งประเทศ กาพย์ยานี ๑๑ สำนวน คำพังเพย สภุ าษติ สรปุ เรือ่ งวรรณคดีและวรรณกรรม เช่น นิทานพื้นบ้าน นิทานคติธรรม เพลงพ้ืนบ้าน วรรณคดีและวรรณกรรมใน บทเรยี นและความสนใจบทอาขยาน บทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่า โดยใชท้ ักษะกระบวนการปฏิบัตกิ ารอ่าน การเขียน การฟงั การดู การพูด และการใชภ้ าษาไทยเพ่ือให้ เกิดความรู้ความคดิ วิเคราะห์ การตดั สินใจ แกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชีวิอย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ สามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้อยา่ งเหมาะสม ใช้กระบวนการอา่ น สรา้ งความรู้ ความคดิ เพ่อื นำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชวี ติ และมี นิสยั รักการอ่าน ใชก้ ระบวนการเขียนส่อื สาร เรียงความ ย่อความ เขยี นเร่อื งราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียน รายงาน สารสนเทศ รายงานศึกษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ เลือกฟงั ดูอยา่ งมีวิจารณญาณ พดู แสดงความรู้ ความคิดและความร้สู ึกอย่างสร้างสรรค์ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงภาษา และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ เข้าใจและแสดงความ คดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคณุ คา่ และนำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง สามารถนำ ความร้ไู ปใช้ใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใชว้ ธิ กี ารของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้กับชีวิตประจำวนั ได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ตวั ช้วี ัด ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕,ป.๕/๖, ป๕/๗, ป.๕/๘ ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕,ป.๕/๖, ป๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕,ป.๕/๖, ป๕/๗ ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ รวมท้ังหมด ๓๓ ตวั บง่ ช้ี หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๗ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ศกึ ษาการอ่านออกเสยี ง บอกความหมาย บทร้อยแก้ว และบทรอ้ ยกรอง ประกอบด้วยคำท่มี ี พยัญชนะ คำควบกล้ำ อักษรนำ ตวั การนั ต์ คำภาษาต่างประเทศ อกั ษรย่อ เคร่ืองหมายวรรคตอน วัน เดือน ปี แบบไทย ข้อความที่เปน็ โวหาร สำนวนเปรียบเทียบ อ่านบทรอ้ ยกรองเป็นทำนองเสนาะ อา่ นจบั ใจความเร่ือง สัน้ นทิ าน เพลงพนื้ บ้าน บทความ พระบรมราโชวาท สารคดี งานเขยี น บทโฆษณา ข่าวเหตกุ ารณ์ อ่านเรว็ งานเขยี นเชงิ อธบิ ายคำสั่ง ข้อแนะนำ ใช้พจนานุกรม ข้อตกลงการอยู่รว่ มกัน ในชมุ ชนสังคมและท้องถนิ่ ข้อมลู จากแผนผงั แผนที่ แผนภมู แิ ละกราฟ อ่านหนังสือตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน คัดลายมือด้วยตัว บรรจงเตม็ บรรทดั และครึง่ บรรทัด ตามแบบตัวอกั ษรไทย คำขวัญ คำอวยพร ประกาศ แจง้ ความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท สนุ ทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คำสัง่ จดหมายส่วนตัว จดหมายขอโทษ จดหมาย ขอบคุณ จดหมายแสดงความคิดเหน็ แสดงความยนิ ดี กรองแบบรายการ ใบคำรอ้ ง ใบสมคั ร ศึกษาต่อ แบบ ฝากส่งพสั ดไุ ปรษณยี ภัณฑ์ เรื่องตามจิตนาการ มารยาทในการเขยี น พูดแสดงความรู้ ความเขา้ ใจ ใน จุดประสงคข์ องเรื่องสื่อสิง่ พิมพ์ ส่อื อิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะหค์ วามนา่ เชื่อถือจากโฆษณา รายงานการพูดลำดบั ข้นั ตอน ลำดบั เหตุการณ์ พดู โนม้ นา้ ว การเลอื กต้งั กรรมการนกั เรยี น การรณรงค์ โตว้ าที มารยาทในการฟัง การดู การพูด วเิ คราะหช์ นิดและหน้าท่ขี องคำ คำนาม คำสรรพนาม คำกรยิ า คำวิเศษณ์ คำบพุ บท คำเช่อื ม คำอุทาน คำราชาศัพท์ ระดบั ภาษา ภาษาถน่ิ คำมาจากภาษาตา่ งประเทศ กลุ่มคำหรือวลี ประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยคซ้อน กลอนสภุ าพ สำนวน คำพังเพย และสภุ าษติ แสดงความคิดเห็นวรรณคดแี ละ วรรณกรรม เช่น นทิ านพ้นื บ้านทอ้ งถนิ่ ตนเองและท้องถ่ินอื่น นิทานคตธิ รรม เพลงพื้นบ้าน วรรณคดีและ วรรณกรรมในบทเรยี น บทอาขยาน บทรอ้ ยกรอง ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น โดยใช้ทักษะกระบวนการปฏิบัตกิ ารอา่ น การเขียน การฟงั การดู การพูด และการใช้ภาษาไทยเพื่อให้ เกดิ ความรู้ความคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดำเนินชวี อิ ย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างเหมาะสม ใช้กระบวนการอา่ น สร้างความรู้ ความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปญั หา ในการดำเนนิ ชวี ิตและมี นสิ ัยรักการอ่าน ใชก้ ระบวนการเขียนสื่อสาร เรียงความ ย่อความ เขยี นเรอ่ื งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียน รายงาน สารสนเทศ รายงานศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ เลอื กฟังดูอย่างมวี ิจารณญาณ พดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกอยา่ งสรา้ งสรรค์ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงภาษา และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ เข้าใจและแสดงความ คิดเหน็ วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ คา่ และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจริง สามารถนำ ความร้ไู ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนโ์ ดยใชว้ ิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชวี ิตประจำวัน ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ตัวชีว้ ดั ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕,ป.๖/๖, ป๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕,ป.๖/๖, ป๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕,ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕,ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๘ รวมทั้งหมด ๓๔ ตวั บ่งช้ี หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๒๙ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคำนวณและฝึกแก้ปัญหา จำนวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดง จำนวนสิง่ ต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขียนตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย การบอกอันดบั ทหี่ ลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั และเขยี นแสดงจำนวนในรูปกระจาย เปรียบเทยี บจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใชเ้ ครือ่ งหมาย = ≠ > < เรียงลำดับจำนวนต้ังแต่ ๓ ถงึ ๕ จำนวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวก การลบ การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก การลบ ของจำนวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวและน้ำหนัก สรา้ งโจทย์ปญั หาพรอ้ มทัง้ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ ของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ระบุจำนวนทีห่ ายไปในแบบรปู ของจำนวนท่ีเพ่ิมข้นึ หรอื ลดลงทีละ ๑ ทลี ะ ๑๐ รปู ท่หี ายไปในแบบรูปซ้ำของรปู เรขาคณิตและรูปอืน่ ๆ ทสี่ มาชิกใน แต่ละชุดทซ่ี ้ำมี ๒ รปู วัดและ เปรียบเทียบความยาวเปน็ เซนติเมตร เป็นเมตร นำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรัมเปน็ ขดี และใชห้ น่วยท่ีไมใ่ ช่หน่วย มาตรฐาน จำแนกรูปสามเหล่ียม รปู สี่เหล่ยี ม วงกลม วงรี ทรงสเี่ หลีย่ มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และ กรวย ใช้ขอ้ มูลจากแผนภมู ิรปู ภาพในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา เมอ่ื กำหนดรูป ๑ รูปแทน ๑ หน่วย ตัวช้วี ดั ค ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ค ๑.๒ ป.๑/๑ ค ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ค ๒.๒ ป.๑/๑ ค ๓.๑ ป.๑/๑ รวมท้ังหมด ๑๐ ตวั ชว้ี ัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๐ คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณและฝกึ แก้ปัญหา จำนวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและแสดง จำนวนสงิ่ ตา่ ง ๆ ตามจำนวนท่ีกำหนด อ่านและเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดบั ท่หี ลัก ค่า ของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจำนวนในรูปกระจาย เปรยี บเทยี บจำนวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย = ≠ > < เรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ต้งั แต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน และหา ค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแกโ้ จทยป์ ญั หาการบวก การลบของ จำนวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณของจำนวน ๑ หลักกบั จำนวนไม่เกนิ ๒ หลัก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการหารทต่ี ัวตั้งไม่เกิน ๒ หลัก ตวั หาร ๑ หลัก โดย ที่ผลหารมี ๑ หลกั ทั้งหารลงตัวและหารไมล่ งตวั หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา ๒ ข้นั ตอนของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธี หาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั เวลาที่มหี น่วยเดย่ี วและเปน็ หน่วยเดียว วดั และเปรียบเทียบความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร พร้อมทงั้ แสดงวิธีการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบความยาวท่ีมีหน่วยเป็น เมตรและเซนติเมตร วดั และเปรยี บเทียบน้ำหนกั เป็นกโิ ลกรมั และกรัม กิโลกรัมและขีด พรอ้ มทัง้ แสดงวิธีการ หาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกการลบเก่ยี วกบั น้ำหนักท่มี หี นว่ ยเป็นกิโลกรัมและกรัม กโิ ลกรัมและขดี วดั และเปรียบเทียบปริมาตรและความจเุ ป็นลติ ร จำแนกและบอกลักษณะของรปู หลายเหลยี่ มและวงกลม ใช้ ขอ้ มูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา เมื่อกำหนดรูป ๑ รูปแทน ๒ หน่วย ๕ หน่วยหรอื ๑๐ หน่วย ตัวชีว้ ัด ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖ ค ๒.๒ ป.๒/๑ ค ๓.๑ ป.๒/๑ รวม ๑๖ ตัวช้ีวัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๑ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓ อ่านและเขียน ตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบและเรยี งลำดับจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณต์ า่ ง ๆ บอก อา่ นและ เขยี นเศษสว่ นท่แี สดงปรมิ าณส่งิ ต่าง ๆ และแสดงสิง่ ตา่ ง ๆ ตามเศษส่วนท่ีกำหนด เปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตัว เศษเทา่ กัน โดยทตี่ ัวเศษน้อยกวา่ หรอื เท่ากบั ตัวสว่ น หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการ บวกและการลบของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดง การคูณของจำนวน ๑ หลักกบั จำนวนไมเ่ กิน ๔ หลกั และจำนวน ๒ หลกั กับจำนวน ๒ หลัก หาคา่ ของตัวไม่ ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารท่ตี ัวตั้งไม่เกนิ ๔ หลกั ตวั หาร ๑ หลัก และหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนและแสดงวธิ ีการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา ๒ ขนั้ ตอนของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาผลบวกและแสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเทา่ กันและผลบวกไม่เกิน ๑ และหาผลลบพร้อมทั้งแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการลบของเศษสว่ นทีม่ ตี ัวส่วนเท่ากนั ระบจุ ำนวนท่ี หายไปในแบบรปู ของจำนวนทเ่ี พ่ิมขึน้ หรือลดลงทีละเท่า ๆ กนั แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกับเงนิ เวลาและระยะเวลา เลือกใชเ้ คร่อื งมือความยาวท่เี หมาะสม วดั และบอกความยาวของส่งิ ต่าง ๆ เป็นเซนตเิ มตร และมลิ ลเิ มตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนตเิ มตร เปรียบเทียบความยาว และแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั ระหวา่ งเซนติเมตรกบั มลิ ลเิ มตร เมตรกบั เซนติเมตร กโิ ลเมตร กับเมตร จากสถานการณต์ ่าง ๆ เลอื กใช้เคร่ืองชง่ั ทเ่ี หมาะสม วัดและบอกนำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั และขีด กิโลกรัม และกรัม คาดคะเนน้ำหนักเป็นกโิ ลกรัมและเป็นขีด เปรยี บเทยี บนำ้ หนกั และแสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ ปัญหาเกีย่ วกบั นำ้ หนักท่ีมหี น่วยเปน็ กโิ ลกรัมกับกรัม เมตริกตนั กับกโิ ลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้ เคร่ืองตวงทีเ่ หมาะสม วัดและเปรยี บเทยี บปริมาตร ความจุเป็นลิตรและมลิ ลลิ ิตร คาดคะเนและแสดงวิธีหา คำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ปรมิ าตรและความจุเป็นลิตรและมิลลเิ มตร ระบรุ ูปเรขาคณิตสองมติ ิท่ีมแี กน สมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร เขียนแผนภมู ริ ูปภาพและใช้ข้อมลู จากแผนภมู ิรปู ภาพในการหาคำตอบของ โจทยป์ ญั หา เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลท่เี ป็นจำนวนนับและใช้ข้อมลู จากตารางทางเดียวในการหาคำตอบ ของโจทย์ปัญหา ตัวชว้ี ัด ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑ ค ๑.๒ ป.๓/๑ ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑,ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓ ค ๒.๒ ป.๓/๑ ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ รวมทั้งหมด ๒๘ ตวั ชี้วดั หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๒ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการอ่านและเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจำนวนนับที่ มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ พรอ้ มท้ังเปรียบเทียบและเรยี งลำดบั จำนวนนับทม่ี ากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ บอก อ่านและเขยี นเศษสว่ น จำนวนคละแสดงปรมิ าณสิ่งตา่ ง ๆ และแสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามเศษสว่ น จำนวนคละท่กี ำหนด เปรยี บเทยี บ เรยี งลำดบั เศษส่วนและจำนวนคละท่ีตวั ส่วนตัวหน่งึ เปน็ พหคู ณู ของอีกตัว หนง่ึ อา่ นและเขียนทศนยิ มไม่เกนิ ๓ ตำแหนง่ แสดงปรมิ าณของสิง่ ตา่ ง ๆ ตามทศนิยมท่ีกำหนด เปรียบเทียบ และเรยี งลำดับทศนิยมไมเ่ กิน ๓ ตำแหน่ง และประมาณผลลพั ธข์ องการบวก การลบการคูณ การหาร จาก สถานการณต์ ่าง ๆ อย่างสมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการบวก การลบ ของจำนวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงการคูณของจำนวนหลายหลัก ๒ จำนวน ที่มีผลคณู ไม่เกิน ๖ หลัก และแสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๖ หลกั ตัวหารไม่เกิน ๒ หลัก หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจำนวนนบั และ ๐ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา ๒ ข้นั ตอนของจำนวนนบั ที่มากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สรา้ งโจทยป์ ัญหา ๒ ขนั้ ตอนของจำนวนนับ และ ๐ พร้อมทั้งหาคำตอบ หาคำตอบและแสดงวธิ ีหา คำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบของเศษสว่ นและจำนวนคละที่ตัวสว่ นตวั หน่งึ เปน็ พหคู ณู ของอีกตวั หนง่ึ หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่ และแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ ๒ ขัน้ ตอนของทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา วัดและสรา้ งมมุ โดย ใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับความยาวรอบรปู และพืน้ ท่ขี องรูปสเ่ี หลย่ี มมุม ฉาก จำแนกชนิดของมมุ บอกชอ่ื มมุ ส่วนประกอบของมุมและเขยี นสญั ลักษณแ์ สดงมุม สร้างรูปสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉากเมื่อกำหนดความยาวของด้าน และใชข้ ้อมูลจากแผนภูมแิ ท่ง ตารางสองทางในการหาคำตอบของโจทย์ ปัญหา ตวั ชว้ี ัด ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐, ป.๔/๑๑, ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖ ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ค ๓.๑ ป.๔/๑ รวมท้ังหมด ๒๒ ตวั ชีว้ ดั หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๓ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เขยี นเศษสว่ นที่มีตัวส่วนเปน็ ตัวประกอบของ ๑๐ หรอื ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม แสดงวธิ ีหา คำตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใชบ้ ญั ญตั ิไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคณู ผลหารของเศษสว่ นและจำนวนคละ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ๒ ขน้ั ตอน หาผลคณู ของ ทศนยิ ม ทผ่ี ลคูณเปน็ ทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตำแหนง่ หาผลหารท่ตี วั ตัง้ เป็นจำนวนนบั หรอื ทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่ และตัวหารเปน็ จำนวนนับ ผลหารเปน็ ทศนิยมไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา การบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ๒ ข้ันตอน และแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาร้อยละไมเ่ กิน ๒ ขัน้ ตอน แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั ความยาว น้ำหนกั ทม่ี กี ารเปลี่ยนหน่วยและเขียนในรปู ทศนิยม แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั ปรมิ าตรของทรงสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากและความจุของภาชนะ ทรงสเ่ี หล่ียมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสเี่ หลี่ยมและพืน้ ทข่ี องรปู สเ่ี หล่ยี มดา้ นขนานและรูปส่ีเหล่ียมขนม เปียกปูน สร้างเส้นตรงหรือสว่ นของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรือสว่ นของเสน้ ตรงท่ีกำหนดให้ จำแนกรปู สีเ่ หลย่ี มโดยพิจารณาจากสมบตั ิของรูป สร้างรปู สเ่ี หลยี่ มชนดิ ตา่ ง ๆ เมอ่ื กำหนดความยาวของดา้ นและขนาด ของมุมหรอื เมือ่ กำหนดความยาวของเส้นทแยงมุม และบอกลกั ษณะของปริซึม ใชข้ ้อมูลจากกราฟเสน้ ในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา และเขียนแผนภูมิแทง่ จากข้อมูลที่เป็นจำนวนนับ ตัวชีว้ ัด ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวมท้ังหมด ๑๙ ตัวชว้ี ดั หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๔ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ เปรียบเทียบ เรียงลำดบั เศษสว่ นและจำนวนคละจากสถานการณต์ า่ ง ๆ เขียนอตั ราสว่ นแสดงการ เปรยี บเทียบปริมาณ ๒ ปรมิ าณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยท่ปี รมิ าณแตล่ ะปรมิ าณเปน็ จำนวนนบั หา อัตราส่วนทเี่ ท่ากบั อัตราสว่ นทีก่ ำหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๓ จำนวน แสดงวิธหี า คำตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใช้ความรู้เกยี่ วกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธข์ องการบวก ลบ คณู หารระคน ของเศษสว่ นและจำนวนคละ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเศษสว่ นและจำนวนคละ ๒ – ๓ ขน้ั ตอน หา ผลหารของทศนยิ มท่ีตวั หารและผลหารเปน็ ทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตำแหนง่ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการ บวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ข้ันตอน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาอัตราสว่ น ปญั หารอ้ ยละ ๒ – ๓ ขนั้ ตอน แสดงวิธคี ิดและหาคำตอบของปัญหาเกี่ยวกบั แบบรปู แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกบั ปริมาตรของรปู เรขาคณติ สามมติ ิทีป่ ระกอบด้วยทรง สี่เหลีย่ มมุมฉาก และแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรูปและพ้ืนทขี่ องรปู หลาย เหล่ียม ความยาวรอบรูปและพ้นื ท่ีของวงกลม จำแนกรูปสามเหล่ยี มโดยพจิ ารณาจากสมบัตขิ องรูป สรา้ งรูป สามเหล่ียมเมอื่ กำหนดความยาวของด้านและขนาดของมุม บอกลกั ษณะของรปู เรขาคณิตสามมิตชิ นิดตา่ ง ๆ ระบรุ ูปเรขาคณติ สามมิตทิ ่ีประกอบจากรปู คลแ่ี ละระบุรูปคล่ขี องรปู เรขาคณิตสามมิติ ใช้ข้อมลู จากแผนภมู ิรปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา ตัวชว้ี ดั ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐, ป.๖/๑๑ ค ๑.๒ ป.๖/๑ ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ค ๓.๑ ป.๖/๑ รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวช้ีวัด หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๕ คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑ เวลา ๘๐ ช่วั โมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ระบุชอ่ื พชื และสตั ว์ที่อาศยั อยู่บริเวณตา่ ง ๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ บอกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม กบั การดำรงชวี ิตของสตั ว์ในบรเิ วณทอ่ี าศัยอยู่ ระบชุ ื่อ บรรยายลกั ษณะและบอกหนา้ ทข่ี องสว่ นตา่ ง ๆ ของ รา่ งกายมนุษย์ สัตว์ และพืช รวมทัง้ บรรยายการทำหน้าทรี่ ่วมกนั ของสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายมนุษยใ์ นการทำ กิจกรรมต่าง ๆ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้ ตระหนักถึงความสำคัญของสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายตนเอง โดยการ ดูแลสว่ นตา่ ง ๆ อยา่ งถูกต้อง ให้ปลอดภัย และรกั ษาความสะอาดอยเู่ สมอ อธบิ ายสมบตั ทิ ่ีสงั เกตได้ของวสั ดทุ ีใ่ ชท้ ำวัตถซุ ่ึงทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดประกอบกนั โดยใชห้ ลักฐาน เชิงประจกั ษ์ ระบุชนิดของวัสดแุ ละจัดกลุม่ วสั ดตุ ามสมบัติท่ีสังเกตได้ บรรยายการเกิดเสยี งและทิศทาง การ เคลอ่ื นที่ของเสยี งจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ระบุดาวท่ปี รากฏบนทอ้ งฟ้าในเวลากลางวันและกลางคืนจากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ อธบิ ายสาเหตุทม่ี องไมเ่ ห็น ดวงดาวสว่ นใหญ่ในเวลากลางวนั จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ อธบิ ายลักษณะภายนอกของหนิ จากลักษณะ เฉพาะตัวที่สงั เกตได้ แก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้การลองผิดลองถูก การเปรียบเทยี บ แสดงลำดับข้ันตอนการทำงานหรือการ แก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรอื ขอ้ ความ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสื่อ ใช้ เทคโนโลยีในการสร้าง จดั เกบ็ เรยี กใช้ข้อมลู ตามวตั ถปุ ระสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏบิ ัติ ตามข้อตกลงในการใชค้ อมพวิ เตอรร์ ่วมกนั ดูแลรักษาอุปกรณเ์ บื้องตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม ตวั ช้วี ัด ว ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ว ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ว ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ว ๒.๓ ป.๑/๑ ว ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ว ๓.๒ ป.๑/๑ ว ๔.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕ รวม ๑๕ ตัวชว้ี ดั หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๖ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ ระบวุ า่ พืชต้องการแสงและนำ้ เพ่ือการเจริญเติบโต โดยใชข้ ้อมลู จากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ตระหนกั ถงึ ความจำเป็นท่พี ืชต้องการได้รบั นำ้ และแสงเพ่ือการเจรญิ เติบโต โดยดแู ลพืชให้ได้รับสงิ่ ดังกลา่ วอย่าง เหมาะสม สรา้ งแบบจำลองท่ีบรรยายวฏั จกั รชีวิตของพชื ดอก เปรียบเทียบลักษณะสิ่งมีชีวติ และสง่ิ ไมม่ ชี วี ิต จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ เปรียบเทียบสมบตั ิการดูดซับน้ำของวสั ดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ และระบกุ ารนำสมบตั กิ ารดูดซบั นำ้ ของ วัสดไุ ปประยุกต์ใชใ้ นการทำวตั ถใุ นชวี ิตประจำวัน อธบิ ายสมบัติท่ีสงั เกตได้ของวสั ดุทเ่ี กดิ จากการนำวสั ดมุ า ผสมกนั โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ เปรยี บเทียบสมบัติทีส่ ังเกตได้ของวสั ดุ เพือ่ นำมาทำเป็นวตั ถใุ นการใช้งาน ตามวตั ถปุ ระสงค์ และอธบิ ายการนำวัสดทุ ใ่ี ช้แลว้ กลบั มาใช้ใหม่โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ ตระหนักถึง ประโยชน์ของการนำวสั ดทุ ใี่ ช้แล้วกลับมาใชใ้ หม่ โดยการนำวสั ดุทใี่ ช้แลว้ กลบั มาใชใ้ หม่ บรรยายแนวการเคล่ือนทขี่ องแสงจากแหล่งกำเนิดแสง และอธบิ ายการมองเห็นวัตถุจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ตระหนักในการเห็นคุณค่าของความรู้ของการมองเห็นโดยเสนอแนะแนวทางการป้องกนั อนั ตรายจากการ มองเหน็ วัตถุในทม่ี ีแสงสว่างไม่เหมาะสม ระบุส่วนประกอบของดิน และจำแนกชนิดของดนิ โดยใชล้ กั ษณะเนื้อดนิ และการจับตวั เป็นเกณฑ์ อธิบายการ ใชป้ ระโยชน์จากดนิ จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ แสดงลำดับขนั้ ตอนการทำงานหรือการแกป้ ัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือข้อความ เขยี น โปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือสอื่ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จดั เก็บ เรียกใชข้ อ้ มลู ตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบัตติ าม ข้อตกลงในการใชค้ อมพวิ เตอรร์ ว่ มกัน ดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์เบือ้ งตน้ ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม ตัวชีว้ ดั ว ๑.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ ว ๑.๓ ป.๒/๑ ว ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ ว ๒.๓ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ ว ๓.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ ว ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ รวม ๑๖ ตัวช้วี ัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนนิ โพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๗ คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ เวลา ๘๐ ชั่วโมง ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ บรรยายสิ่งที่จำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ิต และการเจรญิ เตบิ โตของมนุษยแ์ ละสัตว์โดยใชข้ ้อมูลทรี่ วบรวมได้ ตระหนกั ถึงประโยชน์ของอาหาร น้ำ และอากาศโดยการดูแลตนเองและสตั วใ์ หไ้ ด้รบั ส่งิ เหล่านี้อย่างเหมาะสม สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจกั รชีวติ ของสัตวแ์ ละเปรยี บเทยี บวัฏจักรชีวติ ของสตั วบ์ างชนิด ตระหนกั ถึง คณุ คา่ ของชีวิตสัตวโ์ ดยไม่ทำให้วัฏจักรชวี ิตของสตั วเ์ ปล่ียนแปลง อธบิ ายว่าวัตถุประกอบข้ึนจากชิ้นสว่ นยอ่ ย ๆ ซ่ึงสามารถแยกออกจากกนั ไดแ้ ละประกอบกันเป็นวัตถุชน้ิ ใหม่ได้ โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธิบายการเปล่ยี นแปลงของวัสดเุ มือ่ ทำให้ร้อนข้นึ หรือทำให้เย็นลงโดยใชห้ ลักฐาน เชิงประจักษ์ ระบผุ ลของแรงท่ีมีตอ่ การเปล่ียนแปลงการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ เปรยี บเทยี บและยกตวั อย่างแรงสมั ผัสและแรงไมส่ ัมผัสทม่ี ผี ลตอ่ การเคลอ่ื นที่ของวัตถุโดยใช้หลกั ฐานเชิง ประจกั ษ์ จำแนกวตั ถโุ ดยใชก้ ารดึงดดู กับแม่เหลก็ เป็นเกณฑ์จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ระบุขั้วแมเ่ หล็กและ พยากรณ์ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ระหวา่ งขัว้ แม่เหลก็ เม่ือนำมาเข้าใกล้กันจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ยกตัวอยา่ งการเปลย่ี น พลังงานหนง่ึ ไปเปน็ อีกพลงั งานหน่ึงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ บรรยายการทำงานของเคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ และ ระบแุ หลง่ พลงั งานในการผลิตไฟฟ้าจากขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ ตระหนักในประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟา้ โดย นำเสนอวิธีการใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภยั อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของดวงอาทติ ยโ์ ดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ อธิบายสาเหตกุ าร เกดิ ปรากฏการณ์การขน้ึ และตกของดวงอาทิตย์ การเกดิ กลางวันกลางคืน และการกำหนดทศิ โดยใช้ แบบจำลอง ตระหนักถึงความสำคญั ของดวงอาทติ ย์ โดยบรรยายประโยชนข์ องดวงอาทติ ยต์ ่อสง่ิ มีชวี ิต ระบุ สว่ นประกอบของอากาศ บรรยายความสำคัญของอากาศ และผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อส่งิ มีชีวติ จาก ขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ตระหนักถึงความสำคญั ของอากาศ โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตนในการลดการเกิด มลพษิ ทางอากาศ อธบิ ายการเกิดลมจากหลักฐานเชิงประจักษ์ บรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลมจากขอ้ มูลที่ รวบรวมได้ แสดงอลั กอริทึมในการทำงานหรือการแกป้ ัญหาอย่างง่ายโดยใชภ้ าพ สัญลกั ษณ์ หรือข้อความ เขยี นโปรแกรม อย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ใช้อนิ เทอร์เน็ตคน้ หาความรู้ รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอขอ้ มลู โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ตามวัตถุประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภยั ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต ตัวชี้วดั ว ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ ว ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ ว ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔ ว ๒.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ ว ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ ว ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ ว ๔.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ รวม ๒๕ ตัวชี้วดั หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๘ คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔ เวลา ๑๒๐ ช่ัวโมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ บรรยายหน้าท่ขี องราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอกโดยใช้ขอ้ มลู ที่รวบรวมได้ จำแนกส่ิงมชี วี ิตโดย ใช้ความเหมือน และความแตกต่างของลกั ษณะของส่ิงมีชวี ิตออกเปน็ กลุ่มพชื กลุ่มสตั ว์ และกลมุ่ ทไ่ี ม่ใชพ่ ชื และ สตั ว์ จำแนกพชื ออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มดี อกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ จำแนก สตั ว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสนั หลังและสัตวไ์ มม่ ีกระดูกสันหลังโดยใช้การมกี ระดกู สันหลงั เปน็ เกณฑ์ โดยใช้ ข้อมลู ท่รี วบรวมได้ บรรยายลักษณะเฉพาะที่สงั เกตได้ของสัตว์มีกระดูกสันหลงั ในกลุ่มปลา กลมุ่ สตั ว์สะเทนิ น้ำ สะเทนิ บก กลมุ่ สัตว์เล้ือยคลาน กล่มุ นก และกลุม่ สัตวเ์ ลีย้ งลกู ดว้ ยนำ้ นม และยกตวั อย่างส่งิ มชี ีวิตในแต่ละกลุ่ม เปรยี บเทยี บสมบตั ิทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนำความร้อน และการนำไฟฟา้ ของวสั ดุโดย ใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษจ์ ากการทดลองและระบุการนำสมบตั เิ รือ่ งความแข็ง สภาพยืดหยนุ่ การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดุไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ผ่านกระบวนการออกแบบช้ินงาน แลกเปลย่ี นความคดิ กับผู้อ่นื โดยการอภปิ รายเกย่ี วกับสมบัตทิ างกายภาพของวสั ดอุ ยา่ งมีเหตุผลจากการทดลอง เปรียบเทียบสมบตั ขิ อง สสารท้ัง ๓ สถานะ จากข้อมูลที่ไดจ้ ากการสังเกตมวล การตอ้ งการที่อยู่ รูปรา่ งและปริมาตรของสสาร ใช้ เครอ่ื งมอื เพ่อื วดั มวล และปริมาตรของสสารท้งั ๓ สถานะ ระบุผลของแรงโนม้ ถว่ งท่ีมตี อ่ วัตถจุ ากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ใช้เคร่อื งชง่ั สปรงิ ในการวัดน้ำหนกั ของวัตถุ บรรยายมวลของวตั ถุทม่ี ีผลต่อการเปลยี่ นแปลงการ เคลอ่ื นท่ีของวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกวตั ถเุ ป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง และวัตถทุ ึบแสง จากลกั ษณะการมองเห็นสงิ่ ต่าง ๆ ผา่ นวตั ถนุ ้นั เป็นเกณฑ์โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการข้ึนและตกของดวงจนั ทร์ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ สรา้ งแบบจำลองท่ีอธบิ าย แบบรูป การเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ และพยากรณร์ ปู รา่ งปรากฏของดวงจันทร์ สรา้ ง แบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะ และอธิบายเปรยี บเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะห์ต่าง ๆ จากแบบจำลอง ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธิบายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ จากปัญหาอยา่ ง ง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือสอื่ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้ อินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ และประเมินความนา่ เช่ือถือของขอ้ มูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และ สารสนเทศ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ทห่ี ลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวติ ประจำวนั ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง ปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าท่ขี องตน เคารพในสิทธขิ องผู้อ่นื แจ้งผ้เู กยี่ วข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่ เหมาะสม ตัวช้วี ดั ว ๑.๒ ป.๔/๑ ว ๑.๓ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ ว ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ ว ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ว ๒ ๓. ป.๔/๑ ว ๓.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ว ๔.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔, ป.๔/๕ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นเนนิ โพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๓๙ รวม ๒๑ ตัวช้วี ดั หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๔๐ คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย๕ี เวลา ๑๒๐ ชวั่ โมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ บรรยายโครงสร้างและลักษณะของส่งิ มีชีวิตที่เหมาะสมกับการดำรงชวี ิต ซงึ่ เป็นผลมาจากการปรับตัว ของสง่ิ มชี ีวติ ในแตล่ ะแหล่งที่อยู่ อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวติ และความสมั พนั ธร์ ะหว่าง สิ่งมชี ีวติ กบั ส่ิงไม่มชี ีวิต เพ่ือประโยชนต์ อ่ การดำรงชวี ติ เขียนโซ่อาหารและระบุบทบาทหน้าท่ีของส่ิงมีชีวติ ที่ เปน็ ผู้ผลิตและผ้บู ริโภคในโซ่อาหาร ตระหนกั ในคณุ ค่าของส่ิงแวดล้อมที่มตี ่อการดำรงชวี ติ ของสง่ิ มีชวี ิต โดยมี สว่ นรว่ มในการดูแลรักษาส่ิงแวดล้อม อธิบายลกั ษณะทางพันธกุ รรมท่มี กี ารถา่ ยทอดจากพ่อแม่สลู่ กู ของพืช สัตว์ และมนุษย์ แสดงความอยากร้อู ยากเห็น โดยการถามคำถามเกี่ยวกับลักษณะทคี่ ลา้ ยคลงึ กนั ของตนเองกับ พอ่ แม่ อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เม่อื ทำให้สสารร้อนขึน้ หรือเยน็ ลงโดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธิบายการละลายของสารในน้ำโดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงของสารเม่ือเกิดการ เปลย่ี นแปลงทางเคมีโดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ วิเคราะห์และระบุการเปลี่ยนแปลงทีผ่ ันกลบั ไดแ้ ละการ เปลย่ี นแปลงท่ีผันกลับไมไ่ ด้ อธิบายวิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดยี วกนั ท่ีกระทำตอ่ วตั ถุในกรณี ทีว่ ตั ถุอยนู่ ง่ิ จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ เขยี นแผนภาพแสดงแรงท่ีกระทำต่อวัตถทุ ่ีอย่ใู นแนวเดียวกันและแรง ลพั ธท์ ี่กระทำต่อวตั ถุ ใช้เคร่ืองชั่งสปรงิ ในการวัดแรงท่ีกระทำตอ่ วตั ถุ ระบุผลของแรงเสียดทานทม่ี ีต่อการ เปลย่ี นแปลงการเคล่ือนท่ขี องวัตถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงท่ีอยู่ใน แนวเดียวกนั ทกี่ ระทำต่อวตั ถุ อธิบายการได้ยินเสียงผา่ นตวั กลางจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ระบตุ วั แปร ทดลอง และอธิบายลกั ษณะและการเกิดเสยี งสงู เสยี งตำ่ ออกแบบการทดลองและอธบิ ายลักษณะและการเกิดเสียงดงั เสียงค่อย วดั ระดับเสียงโดยใช้เคร่ืองมือวดั ระดบั เสยี ง ตระหนกั ในคุณคา่ ของความรู้เร่ืองระดับเสยี งโดย เสนอแนะแนวทางในการหลกี เลี่ยงและลดมลพิษทางเสยี ง เปรียบเทยี บความแตกต่างของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษจ์ ากแบบจำลอง ใช้แผนทดี่ าวระบตุ ำแหนง่ และ เสน้ ทางการข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า และอธิบายแบบรูปเสน้ ทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาว ฤกษบ์ นท้องฟา้ ในรอบปี เปรียบเทยี บปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง และระบปุ รมิ าณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ ประโยชน์ไดจ้ ากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ ตระหนักถงึ คุณค่าของน้ำโดยนำเสนอแนวทางการใชน้ ำ้ อยา่ งประหยัดและ การอนรุ ักษน์ ำ้ สรา้ งแบบจำลองท่ีอธบิ ายการหมนุ เวียนของน้ำในวฏั จักรน้ำ เปรียบเทยี บกระบวนการเกิดเมฆ หมอก นำ้ ค้าง และน้ำค้างแข็งจากแบบจำลอง เปรยี บเทียบกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเหบ็ จากขอ้ มูลที่ รวบรวมได้ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธ์ จากปัญหาอย่าง ง่าย ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมทมี่ ีการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะอย่างง่าย ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข ใช้ อินเทอร์เน็ตคน้ หาขอ้ มูล ตดิ ต่อสอ่ื สารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมลู รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอร์เน็ตท่ีหลากหลาย เพื่อ แกป้ ัญหาในชีวิต ประจำวนั ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มมี ารยาท เข้าใจสิทธิและหนา้ ทีข่ องตน เคารพในสิทธขิ องผู้อ่นื แจ้งผเู้ ก่ยี วข้องเมือ่ พบข้อมูลหรือบคุ คลท่ไี ม่เหมาะสม ตัวช้ีวัด ว ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๔๑ ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ว ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ ว ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ ว ๒.๓ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ ว ๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ ว ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ ว ๔.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ รวม ๓๒ ตัวชี้วัด หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธิ์ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๔๒ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลย๖ี เวลา ๑๒๐ ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารที่ตนเองรบั ประทาน บอก แนวทางในการเลือกรบั ประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถว้ น ในสัดส่วนทเ่ี หมาะสมกับเพศและวยั รวมท้ัง ความปลอดภัยต่อสขุ ภาพ ตระหนกั ถึงความสำคญั ของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารท่ีมี สารอาหารครบถ้วนในสดั สว่ นท่ีเหมาะสมกบั เพศและวยั รวมท้ังปลอดภัยต่อสุขภาพ สรา้ งแบบจำลองระบบ ย่อยอาหาร และบรรยายหนา้ ทีข่ องอวยั วะในระบบย่อยอาหาร รวมท้ังอธิบายการย่อยอาหารและการดูดซึม สารอาหาร ตระหนักถงึ ความสำคญั ของระบบย่อยอาหาร โดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวยั วะใน ระบบยอ่ ยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ อธบิ ายและเปรยี บเทยี บการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การรอ่ น การใชแ้ มเ่ หล็กดึงดดู การรนิ ออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ รวมทั้งระบวุ ิธีแกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวนั เกย่ี วกับ การแยกสาร อธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้าซึง่ เกิดจากวตั ถทุ ผ่ี ่านการขัดถโู ดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ระบสุ ว่ นประกอบและบรรยายหน้าทีข่ องแต่ละสว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวธิ ที ่เี หมาะสมในการอธบิ าย วิธกี ารและผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม ตระหนกั ถึงประโยชน์ของความรู้ของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบ อนุกรม โดยบอกประโยชน์และการประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวธิ ที ี่ เหมาะสมในการอธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ตระหนักถงึ ประโยชน์ของความรู้ของ การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน โดยบอกประโยชน์ ขอ้ จำกดั และการประยุกตใ์ ช้ ใน ชีวติ ประจำวนั อธบิ ายการเกิดเงามืดเงามวั จากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพรังสขี องแสงแสดงการเกดิ เงามืดเงามวั สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และเปรยี บเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรปุ ราคา อธบิ าย พัฒนาการของเทคโนโลยอี วกาศ และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยอี วกาศมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันจาก ข้อมูลทีร่ วบรวมได้ เปรยี บเทียบกระบวนการเกิดหินอคั นี หนิ ตะกอน และหินแปร และอธบิ ายวัฏจกั รหินจาก แบบจำลอง บรรยายและยกตัวอย่างการใชป้ ระโยชนข์ องหินและแรใ่ นชีวิตประจำวันจากขอ้ มลู ท่รี วบรวมได้ สรา้ งแบบจำลองทีอ่ ธิบายการเกิดซากดึกดำบรรพแ์ ละคาดคะเนสภาพแวดลอ้ มในอดตี ของซากดกึ ดำบรรพ์ เปรียบเทยี บการเกดิ ลมบก ลมทะเล และมรสมุ รวมทงั้ อธิบายผลทมี่ ตี ่อส่ิงมีชีวิตและสง่ิ แวดล้อม จาก แบบจำลอง อธบิ ายผลของมรสุมตอ่ การเกดิ ฤดขู องประเทศไทยจากขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้ บรรยายลักษณะและ ผลกระทบของนำ้ ทว่ ม การกดั เซาะชายฝั่ง ดนิ ถล่ม แผน่ ดินไหว สึนามิ ตระหนกั ถึงผลกระทบของภยั ธรรมชาติ และธรณพี บิ ัติภยั โดยนำเสนอแนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั จากภัยธรรมชาตแิ ละธรณี พบิ ัตภิ ยั ทีอ่ าจเกิดในทอ้ งถิน่ สรา้ งแบบจำลองท่ีอธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก และผลของ ปรากฏการณเ์ รือนกระจกต่อส่ิงมีชีวิต ตระหนกั ถึงผลกระทบของปรากฏการณ์เรอื นกระจก โดยนำเสนอแนว ทางการปฏบิ ัติตนเพ่ือลดกจิ กรรมที่ก่อให้เกิดแกส๊ เรือนกระจก ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน ออกแบบและ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพือ่ แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแกไ้ ข ใช้ อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกนั อย่างปลอดภยั เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ท่ีของตน เคารพในสทิ ธิของผู้อื่น แจง้ ผูเ้ ก่ยี วข้องเมอ่ื พบข้อมูลหรือบคุ คลที่ไม่เหมาะสม หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๔๓ ตวั ชว้ี ดั ว ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ ว ๒.๑ ป.๖/๑ ว ๒.๒ ป.๖/๑ ว ๒.๓ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๕ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ ว ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖๒/ ว ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๕ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙ ว ๔.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒, ป.๖/๓ , ป.๖/๔ รวมทั้งหมด ๓๐ ตวั ชีว้ ัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นเนนิ โพธ์ิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๔๔ คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ฯ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ศึกษาและลงมือปฏบิ ัตใิ นเรื่องบอกพทุ ธประวตั หิ รือประวัตขิ องศาสดาท่ตี นนบั ถือโดยสงั เขป ช่นื ชม และบอกแบบอยา่ งการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวตั สิ าวก ชาดก เรอื่ งเลา่ และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามที่ กำหนด บอกความหมาย ความสำคญั และเคารพพระรตั นตรยั ปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมโอวาท ๓ ใน พระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามทกี่ ำหนด เหน็ คุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา มีสตทิ ่ี เป็นพน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพทุ ธศาสนาหรือการพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาท่ตี นนับถอื ตามท่ีกำหนด บำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ วดั หรือศาสนสถานของศาสนาท่ีตนนับถอื แสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรือแสดงตนเปน็ ศาสนิกชนของศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ี พิธีกรรมและวนั สำคัญทางศาสนาตามท่ีกำหนดได้ ถูกต้อง ศกึ ษาหลักการ แนวทางปฏบิ ตั ิในเร่อื ง บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของครอบครวั และ โรงเรียนยกตัวอย่างความสามารถและความดขี องตนเอง ผู้อืน่ และบอกผลจากการกระทำน้ัน บอกโครงสรา้ ง บทบาทและหน้าท่ขี องสมาชิกในครอบครวั และโรงเรยี น ระบุบทบาท สิทธิหนา้ ทีข่ องตนเองในครอบครัวและ โรงเรยี นมสี ่วนร่วมในการตัดสินใจและทำกิจกรรมในครอบครวั และโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย ระบสุ ินค้าและบริการทใ่ี ชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั ยกตัวอย่างการใช้จา่ ยเงินในชีวิตประจำวนั ทไ่ี ม่ เกนิ ตวั และเห็นประโยชนข์ องการออมยกตัวอยา่ งการใชท้ รัพยากรในชวี ิตประจำวันอยา่ งประหยดั อธิบาย เหตผุ ลความจำเปน็ ที่คนต้องทำงานอย่างสุจริต ศึกษาเรื่อง แยกแยะส่ิงต่าง ๆ รอบตัวทเ่ี กดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึน้ ระบุ ความสัมพนั ธ์ของตำแหน่ง ระยะ ทศิ ของส่ิงต่าง ๆ รอบตวั ระบทุ ิศหลักและท่ีตัง้ ของสิง่ ต่าง ๆ ใชแ้ ผนผงั งา่ ย ๆ ในการแสดงตำแหนง่ ของส่งิ ต่าง ๆ ในหอ้ งเรียนสงั เกตและบอกการเปลย่ี นแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั บอกสง่ิ ต่าง ๆ ท่ีเกิดตามธรรมชาตทิ ีส่ ่งผลตอ่ ความเป็นอยู่ของมนุษยม์ สี ่วนรว่ มในการจดั ระเบียบสิ่งแวดล้อม และชั้นเรียนโดยให้ผ้เู รยี นฝกึ การสังเกต ตอบคำถามเชิงวเิ คราะห์และสรปุ ความร้ทู ี่ไดเ้ ป็นแผนผังความคดิ กระตนุ้ ให้แสดงความคิดเห็นอยา่ งหลากหลาย เพ่ือร่วมกนั หาแนวทางปฏบิ ตั ทิ ่ีถูกต้อง เหมาะสม ส่งเสรมิ การ ทำงานกลุม่ เพ่ือพัฒนาทกั ษะทางสังคม นำไปส่กู ารยอมรบั และเหน็ คณุ คา่ ของตนเองและผ้อู น่ื และตระหนักถึง การปฏิบตั ิตนในฐานะท่ีเปน็ ส่วนหนงึ่ ของสังคมประชาธิปไตยปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถอื มีแนวคิดที่ เหมาะสมในการดำเนนิ ชีวิตอยา่ งพอเพยี งและมีความเข้าใจสภาพภูมิศาสตร์รอบตัว เลอื กใชแ้ ละอนรุ ักษ์ ส่ิงแวดล้อมอยา่ งยัง่ ยืน โดยให้ผ้เู รียนฝกึ การสังเกต ตอบคำถามเชิงวเิ คราะห์และสรุปความร้ทู ไ่ี ดเ้ ปน็ แผนผัง ความคดิ กระตนุ้ ให้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เพื่อรว่ มกนั หาแนวทางปฏบิ ัติที่ถูกตอ้ ง เหมาะสม สง่ เสรมิ การทำงานกลุ่มเพื่อพัฒนาทกั ษะทางสังคม นำไปสู่การยอมรบั และเห็นคณุ ค่าของตนเองและผูอ้ ืน่ และ ตระหนักถึงการปฏิบัติตนในฐานะที่เปน็ ส่วนหนึ่งของสงั คมประชาธิปไตย ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาท่ีตนนับถือ มีแนวคิดทีเ่ หมาะสมในการดำเนินชวี ิตอย่างพอเพียง และมีความเขา้ ใจสภาพภูมิศาสตร์รอบตัว เลอื กใช้และ อนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มอย่างยั่งยืน ตัวช้ีวดั ส ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ส ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
๔๕ ส ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ส ๒.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ส ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ส ๓.๒ ป.๑/๑ ส ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ส ๕.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ รวมท้ังหมด ๒๔ ตวั ชวี้ ัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
๔๖ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ฯ เวลา ๘๐ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ศกึ ษาและลงมือปฏบิ ัติในเร่ืองบอกพุทธประวัตหิ รือประวตั ขิ องศาสดาท่ีตนนบั ถือโดยสงั เขป ชืน่ ชม และบอกแบบอย่างการดำเนินชวี ติ และขอ้ คดิ จากประวตั ิสาวก ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่ กำหนด บอกความหมาย ความสำคญั และเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบตั ติ ามหลักธรรมโอวาท ๓ ใน พระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามทก่ี ำหนด เหน็ คุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา มีสตทิ ่ี เปน็ พน้ื ฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนาหรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถือตามท่กี ำหนด บำเพ็ญประโยชน์ต่อวดั หรอื ศาสนสถานของศาสนาทีต่ นนับถอื แสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรอื แสดงตนเปน็ ศาสนิกชนของศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏิบัตติ นในศาสนพิธี พิธีกรรมและวนั สำคัญทางศาสนาตามที่กำหนดได้ ถูกต้อง ศกึ ษาหลักการ แนวทางปฏบิ ัติในเรอื่ ง บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกทดี่ ีของครอบครัวและ โรงเรียนยกตัวอยา่ งความสามารถและความดีของตนเอง ผู้อื่นและบอกผลจากการกระทำนั้น บอกโครงสร้าง บทบาทและหน้าท่ีของสมาชิกในครอบครวั และโรงเรยี น ระบบุ ทบาท สิทธิหน้าท่ขี องตนเองในครอบครัวและ โรงเรียนมีส่วนรว่ มในการตดั สินใจและทำกจิ กรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย ระบสุ ินคา้ และบริการทีใ่ ชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั ยกตัวอย่างการใช้จา่ ยเงนิ ในชวี ิตประจำวนั ทไ่ี ม่ เกินตัวและเหน็ ประโยชน์ของการออมยกตัวอย่างการใช้ทรัพยากรในชีวติ ประจำวันอย่างประหยดั อธบิ าย เหตุผลความจำเป็นที่คนต้องทำงานอย่างสจุ ริต ศึกษาเร่ือง แยกแยะสิ่งต่าง ๆ รอบตวั ท่เี กิดข้ึนเองตามธรรมชาตแิ ละท่มี นุษย์สร้างข้ึน ระบุ ความสมั พนั ธข์ องตำแหน่ง ระยะ ทศิ ของสิง่ ต่าง ๆ รอบตัว ระบุทิศหลักและที่ต้งั ของสิง่ ต่าง ๆ ใชแ้ ผนผงั งา่ ย ๆ ในการแสดงตำแหนง่ ของสงิ่ ต่าง ๆ ในห้องเรยี นสังเกตและบอกการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในรอบวัน บอกสิง่ ต่าง ๆ ที่เกิดตามธรรมชาติท่ีสง่ ผลต่อความเป็นอยขู่ องมนุษย์มสี ่วนรว่ มในการจัดระเบยี บสิ่งแวดล้อม และชั้นเรียนโดยให้ผ้เู รียนฝกึ การสงั เกต ตอบคำถามเชงิ วิเคราะห์และสรุปความรทู้ ่ีไดเ้ ป็นแผนผงั ความคดิ กระตุน้ ให้แสดงความคิดเหน็ อยา่ งหลากหลาย เพื่อรว่ มกนั หาแนวทางปฏบิ ัตทิ ี่ถูกต้อง เหมาะสม สง่ เสรมิ การ ทำงานกลมุ่ เพื่อพัฒนาทกั ษะทางสังคม นำไปสกู่ ารยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อน่ื และตระหนักถงึ การปฏิบตั ิตนในฐานะท่เี ปน็ ส่วนหนึ่งของสังคมประชาธปิ ไตยปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาท่ีตนนบั ถอื มีแนวคิดท่ี เหมาะสมในการดำเนินชีวติ อย่างพอเพียงและมีความเข้าใจสภาพภูมิศาสตรร์ อบตวั เลอื กใชแ้ ละอนรุ ักษ์ สง่ิ แวดลอ้ มอย่างยัง่ ยืน โดยให้ผ้เู รยี นฝึกการสังเกต ตอบคำถามเชงิ วิเคราะหแ์ ละสรุปความรทู้ ีไ่ ดเ้ ป็นแผนผงั ความคดิ กระตนุ้ ให้แสดงความคิดเหน็ อย่างหลากหลาย เพื่อรว่ มกันหาแนวทางปฏบิ ัตทิ ่ีถูกต้อง เหมาะสม ส่งเสรมิ การทำงานกล่มุ เพือ่ พัฒนาทักษะทางสังคม นำไปสู่การยอมรบั และเหน็ คณุ ค่าของตนเองและผอู้ ื่น และ ตระหนกั ถึงการปฏิบตั ติ นในฐานะทเ่ี ปน็ ส่วนหนึ่งของสงั คมประชาธิปไตย ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนาทีต่ นนบั ถอื มแี นวคดิ ท่ีเหมาะสมในการดำเนนิ ชีวิตอยา่ งพอเพียง และมีความเข้าใจสภาพภูมิศาสตรร์ อบตวั เลอื กใชแ้ ละ อนรุ กั ษ์สิ่งแวดลอ้ มอย่างย่ังยืน ตวั ช้วี ัด ส ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗ ส ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านเนินโพธ์ิ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134