Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน 23102_1_2562

แผนการสอน 23102_1_2562

Published by dlit_sm037, 2020-06-18 09:06:24

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ม.3 ส23101
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562

Search

Read the Text Version

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน 49 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 บนั ทึกหลังแผนการสอน ผลการจดั การเรยี นรู้ ประเด็น ด้านความรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ การประเมนิ ผลตามผลการเรยี นรู้ ร้อยละของนกั เรียนทผี่ า่ นการประเมิน รอ้ ยละของนกั เรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ ปญั หาท่พี บ แนวทางการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปญั หา ลงชอ่ื ................................................. ( นายจิรพล ลิวา ) ผ้สู อน  เหน็ ควรใหช้ น้ั แผนการจดั การเรียนรู้  เหน็ ควรปรับปรงุ แกไ้ ข.......................................................................................................... ลงช่อื ................................................. ( นางปวณี า ฑียาพงศ์ ) หัวหนา้ กล่มุ สาระสงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม  เหน็ ควรให้ชัน้ แผนการจดั การเรียนรู้  เห็นควรปรบั ปรุงแก้ไข.......................................................................................................... ลงชือ่ ................................................. (นางกัญญารัตน์ สาระพันธ์ ) หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ  เห็นควรให้ชน้ั แผนการจดั การเรยี นรู้  เห็นควรปรับปรุงแกไ้ ข.......................................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางจริ าพร รตั นกุล ) ผู้อานวยการโรงเรยี นสตรปี ากพนัง แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน 50 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 รหัสวชิ า ส23105 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที 3 รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ฯ ปีการศกึ ษา 2562 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เวลา 7 ชัว่ โมง ภาคเรียนท่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ งพัฒนาการทาง เวลา 2 ชวั่ โมง วันที่ ........... ประวัตศิ าสตรไ์ ทยสมัย ปี พ.ศ. ............... รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ เรือ่ ง การสถาปนาราชธานี ปัจจัยทสี่ ่งผลตอ่ ความมน่ั คงและ ความเจรญิ รุง่ เรือง เดอื น.......................... มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ัด มาตรฐานท่ี ส 4.3เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและ ธารงความเป็นไทย ตัวชวี้ ัด ส 4.3 ม 3/1 วิเคราะห์พัฒนาการของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทรใ์ นด้านตา่ ง ๆ ส 4.3 ม 3/2 วิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความม่ันคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยในสมัย รตั นโกสนิ ทร์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 รู้เข้าใจเรอ่ื งของการสถาปนาราชธานี และ ปจั จัยที่สง่ ผลต่อความเจรญิ รุ่งเรืองของไทยใน สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ 2. ดา้ นทักษะกระบวนการ 1.1 สามารถอธบิ ายปจั จยั ท่ีทาให้รัตนโกสินทร์ตอนตน้ เจริญรุ่งเรืองได้ 1.2 สามารถใชก้ ระบวนการทางประวัตศิ าสตร์อธิบายผลจากการเจริญรุง่ เรอื งของรตั นโกสนิ ทร์ ตอนต้นได้ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 3.1 มีวินัย 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มงุ่ ม่ันในการทางาน 3.4 รกั ความเปน็ ไทย แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน 51 กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด ปัจจยั การก่อต้ังกรุงรตั นโกสนิ ทร์ และปจั จยั ท่ีทาให้กรงุ รตั นโกสินทรม์ ีความเจรญิ รงุ่ เรืองและม่นั คง สาระการเรยี นรู้ 1. สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1.1 การสถาปนากรงุ เทพมหานครเปน็ ราชธานีของไทย 1.2 ปจั จยั ที่สง่ ผลต่อความมัน่ คงและความเจริญรงุ่ เรืองของไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ 2. สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ - ด้านสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น  ความสามารถในการสื่อสาร : พดู และบอกเก่ียวกบั การกอ่ ตัง้ รัตนโกสินทร์ได้  ความสามารถในการคดิ 1. ทักษะการคดิ กว้าง : เปรยี บเทียบการก่อตง้ั รตั นโกสนิ ทรก์ ับราชธานอี ่นื 2. ทักษะการให้เหตุผล : จาแนกปัจจัยท่ีทาใหร้ ตั นโกสินทร์เจริญร่งุ เรือง  ความสามารถในการแกป้ ัญหา : นาขอ้ คิดจากการกอ่ ตั้งรตั นโกสนิ ทรไ์ ปประยุกตใ์ ชไ้ ด้  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : นาขอ้ คดิ จากการก่อต้ังรตั นโกสินทรไ์ ปประยกุ ต์ใช้ได้  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551  รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซื่อสตั ย์สุจริต  มุง่ มนั่ ในการทางาน  มวี ินัย  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝ่เรยี นรู้  มจี ิตสาธารณะ คาขวญั โรงเรียน  เรยี นดี  ประพฤติดี  ฝมี ือเดน่  เปน็ งาน ด้านการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น  การอ่าน  การคิดวเิ คราะห์  การเขียน บรู ณาการกับหลกั การเรยี นในศตวรรษท่ี 21 (นกั เรียนไดเ้ รียนรู้สอดคล้องกบั หลักการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21) Reading Writing Globalization อ่านงานเขยี นทางประวตั ิศาสตร์ เขยี นงานทางประวัตศิ าสตร์ (สมยั ศึกษาหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ในสมัยรัตนโกสินทรต์ อนตน้ ได้ รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น) ผา่ น อน่ื ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั พัฒนาการ กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ได้ ทางประวัติศาสตรข์ อง รตั นโกสินทรต์ อนต้นได้ Critical Thinking & Problem Solving (ทักษะการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และ ทกั ษะการในการแกไ้ ขปัญหา) แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรกู้ ารศึกษาข้นั พนื้ ฐาน 52 กล่มุ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 Reading Writing Globalization Creativity & Innovation (การคดิ เชงิ สรา้ งสรรค)์ Collaboration , Teamwork & Leadership (การทางานรว่ มและยอมรับฟงั ความคิดเหน็ จากผอู้ นื่ ) Cross – Cultural Understanding (ยอมรับความหลากหลายและความแตกต่างทางวฒั นธรรม) Communication , Information & Media Literacy (กลา้ ซักถามและแสดงความคิดเห็นในการเรียน) Computing & Media Literacy (สามารถใช้ทกั ษะดา้ นสารสนเทศประกอบการเรยี นรู้ได้) Career & Learning Self-Reliance (มคี วามร้เู ข้าใจและค้นควา้ เพม่ิ เตมิ เกีย่ วกับเรื่องทเี่ รียน) Change (สร้างทศั นคติใหม่ในการเรียนรายวชิ าประวัติศาสตรใ์ ห้นา่ สนใจมากขึ้น) Learning Leadership Historical Method Presentation & Lecture พัฒนาทางประวัตศิ าสตรข์ องรตั นโกสินทร์ตอนต้น บูรณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (นกั เรียนได้เรียนรู้อยอู่ ย่างพอเพยี งจากการเรยี นรู้ทบ่ี ูรณาการหลักปรัญชาของเศรษฐกจิ พอเพียง) พอประมาณ มเี หตผุ ล สร้างภูมคิ ุ้มกนั นักเรยี นแบ่งเวลาวา่ งเพ่ิมเตมิ มาใช้ นกั เรยี นใช้เหตุผลในการเรยี น และ นกั เรียนมีความรูแ้ ละความเขา้ ใจ ในการเรียนรู้ด้วยตนเองนอก นาหลกั การของเหตผุ ลไปใช้ในการ ของพฒั นาการทางประวัติศาสตร์ หอ้ งเรียน ค้นหาความจริงของประวตั ิศาสตร์ ของรตั นโกสินทร์ตอนต้นมาเป็น ตามหลกั วิธีการทางประวัติศาสตร์ บทเรยี นเพ่อื เตอื นสติตนเองในการ ดาเนินชวี ิต ความรู้ (นักเรยี นมีความรใู้ นเรือ่ งพฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ของรัตนโกสินทร์ตอนตน้ เปน็ อย่างด)ี คุณธรรม (นักเรยี นใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน มีวินยั ในการจัดระบบการเรยี นดว้ ยตนเอง) การบรู ณาการฯ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรยี นคมุ้ ครองเดก็ ระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น - ใช้กระบวนศกึ ษาวิเคราะห์ผู้เรยี นเปน็ รายบุคคลเพื่อ ทาความเข้าใจนกั เรียนและแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งทางการ เรียนรู้ของนกั เรยี นได้ ตลอดจนจัดทาฐานขอ้ มูล สว่ นตัวของนกั เรยี นเพอื่ ความสะดวกในการศึกษา ขอ้ มลู และพฒั นาผ้เู รียนใหไ้ ด้เต็มศักยภาพ แผนการจัดการเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรกู้ ารศึกษาขั้นพื้นฐาน 53 กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบซิปปา (CIPPA Model) ชัว่ โมงที่ 1  ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง “การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์” ขนั้ ที่ 1 ทบทวนความรู้เดมิ ส่ือการเรียนรู้ 1. ภาพเหตกุ ารณส์ าคญั ทางประวัตศิ าสตร์ในสมยั รตั นโกสินทร์ตอนตน้ ทเี่ กดิ ขน้ึ คำถำมกระตนุ้ ควำมคดิ “ทาไมรชั กาลท่ี 1 ต้องย้ายเมอื งหลวงจากธนบรุ ี มายังรัตนโกสินทร์” ข้ันตอนการเรยี นรู้ 2. ครูใหน้ ักเรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ โดยสมุ่ นกั เรยี น 3-4 คนในช้นั เรยี น 3. ครูตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบและชมเชยนักเรียนท่ีตอบได้ใกล้เคียงกับ ความเปน็ จริงมากทส่ี ุด ขั้นที่ 2 แสวงหาความรูใ้ หม่ สอื่ การเรียนรู้ 1. ภาพเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เชน่ พระบรมมหาราชวัง พระที่น่งั พระตาหนัก พระบรมสาทสิ ลักษณ์ของ รชั กาลท่ี 1 ถึง รัชกาลที่ 3 คำถำมกระตุ้นควำมคิด “การยา้ ยเมืองหลวงในสมัย รชั กาลที่ 1 มีผลอย่างไรต่อกลมุ่ คนไทยในยคุ น้นั บา้ ง” ขนั้ ตอนการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม (เก่ง , ปานกลางค่อนข้างเก่ง , ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน , อ่อน) แล้วให้ร่วมกันหาคาอธิบายเกี่ยวกับการย้ายเมืองหลวง ของรัชกาลที่ 1 3. ครใู ห้ตวั แทนแต่ละกลุ่มออกมาอธิบายถงึ คาตอบที่ได้พร้อมท้ังเหตุผล ขัน้ ที่ 3 ศึกษาขอ้ มูลจากความรูใ้ หม่และผสมผสานกบั ความรู้เดมิ สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทรเ์ ป็นราชธานี แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นร้กู ารศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน 54 กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ข้ันตอนการเรยี นรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงความรู้ใหม่ที่ได้และผสมผสานกับความรู้เดิมที่มี อยู่พรอ้ มท้ังอธิบายสาเหตุ และปัจจัยของการสถาปนากรงุ รตั นโกสินทร์เปน็ ราช ธานีในสมยั รชั กาลที่ 1 ใหไ้ ด้ 2. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 2.1 และอธบิ ายเพม่ิ เติม ชัว่ โมงท่ี 2 ข้นั ท่ี 4 แลกเปล่ยี นความรคู้ วามเข้าใจกบั กลุม่ ส่อื การเรยี นรู้ - คำถำมกระต้นุ ควำมคดิ “ลกั ษณะการวางผงั เมอื งของกรุงเทพมหานครในยุคแรกแสดงให้เห็นถึงอะไรบ้าง” ขน้ั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดอย่างเสรี 2. ครูให้นักเรียนท่ีทาใบงานที่ 2.1 เสร็จแล้ว จับคู่เพื่อนในกลุ่มเพื่ออธิบายตามที่ ตนเองเขา้ ใจ 3. ครูสุ่มเรียกตัวแทนกลุ่มมาอธิบายหนา้ ช้นั เรียน ขน้ั ท่ี 5 สรุปและจดั ระเบียบความรู้ ส่อื การเรยี นรู้ 1. - ขน้ั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ืองปัจจัยท่ีทาให้กรุงรัตนโกสินทร์ เจริญรุง่ เรืองและมัน่ คงพร้อมทั้งใหน้ ักเรยี นจดบันทึกลงสมดุ 2. ครูให้นักเรียนจับคู่กันและเขียนอธิบายถึงปัจจัยท่ีทาให้กรุงรัตนโกสินทร์ เจริญรุ่งเรืองและมัน่ คงในรปู แบบของ Mind Mapping ขั้นที่ 6 ปฏบิ ัติ และ/หรอื แสดงผลงาน สื่อการเรียนรู้ - ขั้นตอนการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน 55 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 1. ครูสมุ่ เรยี กนกั เรียนตัวแทนในชน้ั เรยี นออกมาแสดง Mind Mapping ของตนเอง พรอ้ มทั้งอธิบายให้เพ่อื นในชั้นเรียนฟัง และใหเ้ พ่ือน ๆ ในชั้นเรียนร่วมกันแสดง ความคดิ เห็นเพิ่มเตมิ ในสว่ นทีบ่ กพร่อง (ถา้ ม)ี ขั้นท่ี 7 การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ส่อื การเรยี นรู้ - ขนั้ ตอนการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนสร้างโจทย์ที่น่าสนใจเก่ียวกับปัจจัยที่ทาให้กรุงรัตนโกสินทร์มี ความเจริญรุง่ เรืองและมั่นคง (สบื ค้นจากหนงั สอื เพ่มิ เตมิ ได้) พร้อมทัง้ คาตอบ 2. นกั เรียนนางานรวบรวมส่งครู การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ (ประเมนิ ตามสภาพจริง) ดา้ นความรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑฯ์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2.1 เรยี นรูท้ ี่ 2.1 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ด้านทักษะกระบวนการ สงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรรมการทางาน รายบุคคล รายบุคคล สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรรมการทางาน กลุ่ม ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ มุง่ มั่นในการทางาน ประสงค์ สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. ภาพหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรท์ ีน่ า่ สนใจ 2. แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื งที่ 1 การเทียบศักราช 3. ใบกจิ กรรมที่ 2.1 เร่อื ง การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทรเ์ ปน็ ราชธานี แผนการจัดการเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นร้กู ารศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน 56 กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 แหล่งเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดโรงเรียนสตรีปากพนงั 2. หอ้ งคอมพิวเตอร์ฯ ลงชื่อ............................................................. (นายจิรพล ลิวา) ผู้จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ฯ แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน 57 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 แบบทดสอบการเรียนเรอื่ งท่ี 2.1 การสถาปนากรงุ รัตนโกสินทร์เปน็ ราชธานี คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งท่สี ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. กอ่ นสมยั รัตนโกสินทร์ เปน็ สมยั ของพระมหากษตั รยิ ์พระองคใ์ ด ก. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ข. สมเด็จพระนารายณม์ หาราช ค. สมเดจ็ พระเจ้าปราสาททอง ง. สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ 2. บุคคลใดทีท่ าใหก้ ารจลาจลในกรุงธนบรุ สี งบลงได้ ก. สมเด็จเจ้าพระยามหากษตั รยิ ศ์ ึก ข. สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบรุ ี ค. เจ้าพระยาสุรสงิ หนาท ง. พระยาพิชัย 3. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตขุ องการยา้ ยราชธานจี ากกรงุ ธนบุรีไปยงั ฝั่งตะวันออกของแม่น้าเจา้ พระยา ก. ฝัง่ ตะวันออกมพี น้ื ท่กี ว้างขวาง ข. กรุงธนบรุ ีคับแคบ ค. เป็นชยั ภมู ิท่เี หมาะแก่การปอ้ งกันข้าศึก ง. ฝัง่ ตะวนั ออกมคี วามงดงามมาก 4. เพราะเหตุใด รัชกาลท่ี 1 จึงทรงเหน็ ว่ากรุงธนบรุ คี ับแคบไมส่ ามารถขยายออกไปได้อีก ก. มีน้าเซาะตล่งิ พงั ข. ตั้งอยรู่ ิมแม่นา้ ค. มีวัดขนาบสองขา้ ง ง. มีแม่น้าไหลผา่ น 5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เหตผุ ลในการเลอื กกรงุ เทพเป็นราชธานี ก. พระราชวังเดิมคับแคบ ข. ทาเลที่ต้ังมีความอดุ มสมบรู ณ์ ค. กรงุ เทพมหานครเปน็ เมืองอกแตก ง. เปน็ ชยั ภูมิท่ดี ีในการป้องกันข้าศึก 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ชนช้ันปกครอง ก. สามญั ชน ข. ขนุ นาง ค. เช้อื พระวงศ์ ง. พระมหากษตั ริย์ 7. การปกครองในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนต้นเป็นการปกครองแบบใด ก. ประชาธปิ ไตย ข. สมบรู ณาญาสิทธิราชย์ ค. ประธานาธิบดี ง. เผด็จการทหาร เฉลย 2. ก 3. ง 4. ค 5. ค 7. ข 1. ก 6. ก แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นร้กู ารศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน 58 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 ใบกิจกรรมที่ 2.1 การสถาปนากรงุ รัตนโกสินทรเ์ ปน็ ราชธานีและ พัฒนาการทางด้านการเมืองการปกครองของรัตนโกสินทรต์ อนต้น คาช้ีแจง ให้นักเรยี นตอบคาภามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้องสมบรู ณ์ 1. ช่ือเตม็ ของ “กรุงรตั นโกสินทร์” คอื อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. สาเหตุทยี่ า้ ยราชธานีจากตะวนั ตกของแม่นา้ เจ้าพระยามาทีฝ่ ั่งตะวันออกของแม่นา้ เจ้าพระยาเพราะ เหตุใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. หนว่ ยงานราชการทคี่ วบคมุ การบรหิ ารแผน่ ดินภายใตก้ ารบังคบั บัญชาของเสนาบดีมีก่กี รม อะไรบา้ ง และแตล่ ะหนว่ ยงานทาหน้าที่อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. การปกครองสว่ นภมู ภิ าค แบ่งการปกครองออกเปน็ หัวเมืองได้แก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมและชาระขอ้ กฎหมายเก่า ท่ีใชก้ ันมาตั้งแต่สมัยอยธุ ยาเรยี กว่าอะไร และเหตุใดจงึ เรยี กเชน่ น้ัน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศึกษาขนั้ พื้นฐาน 59 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 เฉลย ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 การสถาปนากรงุ รตั นโกสินทรเ์ ปน็ ราชธานีและ พัฒนาการทางด้านการเมอื งการปกครองของรัตนโกสินทรต์ อนตน้ คาช้แี จง ให้นกั เรียนตอบคาภามต่อไปนใี้ หถ้ กู ต้องสมบูรณ์ 1. ชือ่ เตม็ ของ “กรงุ รตั นโกสินทร์” คอื อะไร กรุงเทพมหานคร อมรรตั นโกสนิ ทร์ มหินทรายธุ ยามหาดลิ ก ภพนพรตั น์ ราชธานี บุรีรมน์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมาน อวตารสถติ สกั กทัตติยวิษณุกรรมประสิทธ์ิ . 2. สาเหตุทีย่ ้ายราชธานีจากตะวันตกของแม่น้าเจ้าพระยามาทฝ่ี ั่งตะวันออกของแมน่ า้ เจ้าพระยาเพราะ เหตุใด ฝัง่ ตะวันตกของแม่น้าเจ้าพระยา (1) ,มคี วามคบั แคบเรนื่องจากถูกขนาบดว้ ยวัดทัง้ สิงดา้ น ยากแก่การขายพืน้ ท่ี ( 2) ความไม่เหมาะสมของสภาพภูมปิ ระเทศ เน่ืองจากทาเลท่ีตงั้ ถูกน้าและคลืน่ กัดเซาะตล่ิงไดง้ า่ ย (3) ความไมเ่ หมาะสม ดา้ นยทุ ธศาสตร์ เนอ่ื งจากมีปอ้ มปราการที่สรา้ งเอาไว้ 2 ฝัง่ แม่นา้ เจา้ พระยา และมแี มน่ า้ เจ้าพระยาไหลผา่ กลางเมอื ง ส่วนพนื้ ทด่ี ้านตะวันออกเปน็ ท่ีราบลุ่มและกวา้ งขวางกว่า สามารถขยายออกไปได้อีกมากในอนาคต และมพี น้ื ทน่ี อกคู เมอื งที่เป็นทล่ี ุ่มต่ามีนา้ ท่วมในฤดูฝน การตง้ั ค่ายลอ้ มกรุงทาได้ยาก 3. หน่วนงานราชการท่ีควบคมุ การบรหิ ารแผ่นดนิ ภายใต้การบงั คบั บัญชาของเสนาบดีมีกกี่ รม อะไรบา้ ง และแต่ละหนว่ ยงานทาหน้าทีอ่ ยา่ งไร มี 6 กรม ได้แก่ 1.) กรมหาดไทย (สมุหพระกลาโหม) ตาแหน่งเจ้าพระยามหาเสนา มีหน้าที่ดูแลกิจการในราชธานี หัวเมอื งฝา่ ยใตท้ ้ังกจิ การทหารและพลเรือน ใชต้ ราคชสหี เ์ ปน็ ตราประจาตาแหน่ง 2.) กรมกลาโหม มีสมุหนายก ตาแหนง่ ไมแ่ นน่ อน มีหน้าที่ดูแลกิจการฝ่ายพลเรือนหัวเมืองฝ่ายเหนือ ใช้ตราราชสีห์ เปน็ ตราประจาตาแหน่ง 3.) กรมเวยี ง กรมเมืองหรือนครบาลเสนาบดี คือ เจา้ พระยายมราช มีหนา้ ท่ีดแู ลความสงบ เรียบร้อยภายในราชธานี ใช้ตราพระยมทรงสิงหเ์ ป็นตราประจาตาแหน่ง 4.) กรมวัง หรือธรรมธิกรณ์ เสนาบดี คือ เจ้าพระยาธรรมธิกรณ์ มีหน้าที่ดูแลกิจการราชสานักและกิจการยุติธรรมท่ัวทั้งพระราชอาณาจักร ใช้ตราเทพยดา ทรงนนทิกการ (พระโค) เป็นตราประจาตาแหนง่ 5.) กรมคลัง หรือโกษาธิบดี เสนาบดี คือ เจ้าพระยาโกษาธิบดี มี หน้าที่ดูแลทรัพย์สินของแผ่นดิน ตั้งแต่การจัดเก็บส่วยอากรจากราษฎร การใช้จ่ายในราชการแผ่นดินและส่วน พระองค์ นอกจากน้ียังมีหน้าที่ดูแลกรมท่า การค้าขายกับต่างประเทศ พระคลังสินค้า การค้าสาเภาหลวง (สมัย รัตนโกสินทร์ตอนต้น มักเรียกว่า กรมท่า) ใช้ตราบัวแก้วเป็นตราประจาตาแหน่ง 6.) กรมนา หรือ เกษตราธิการ เสนาบดี คือ เจ้าพระยาพลเทพ มีหนา้ ท่ีดูแลเก่ยี วกับเกษตรกรรม เชน่ เก็บภาษที ี่นา เกบ็ ขา้ วข้นึ ฉางหลวง ดูแลทน่ี า หลวง พจิ ารณาคดคี วามเกีย่ วกบั ท่ีนา เปน็ ต้น ใช้ตราพระพิรุณทรงนาคเปน็ ตราประจาตาแหนง่ 4. การปกครองส่วนภูมภิ าค แบ่งการปกครองออกเป็นหัวเมอื งไดแ้ ก่ (1) หวั เมอื งชั้นใน เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กบั ราชธานี และมีฐานะเปน็ เมืองช้ันจตั วา มเี จ้าเมืองเรยี กว่าผรู้ ง้ั เป็นผู้ดแู ล แต่ อานาจในการบังคับบัญชาอยทู่ รี่ าชธานี (2) หวั เมืองช้ันนอก เป็นเมืองท่อี ยู่ห่างไกลราชธานีออกไป แบ่งความสาคัญ ออกเป็นเมืองเอก โท และตรี เจ้าเมอื งเปน็ ผู้ดูแลและมีอานาจบังคบั บุญชาหวั เมอื งของตนอยา่ งเตม็ ที่ ( 3 ) เ มื อ ง แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน 60 กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ประเทศราช เป็นเมืองของชนต่างชาติต่างภาษาตามชายแดน เจ้าเมืองเดิมเป็นผู้ปกครองตามแบบวิธีการของตน เพยี งแต่สง่ เครอ่ื งราชบรรณราการ ตน้ ไมเ้ งนิ ต้นไม้ทอง มาแสดงความจงรักภักดีเท่าน้ัน 5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช โปรดเกลา้ ฯ ให้รวบรวมและชาระข้อกฎหมายเก่า ท่ีใชก้ นั มาตง้ั แต่สมยั อยุธยาเรยี กวา่ อะไร และเหตุใดจงึ เรยี กเช่นน้ัน เรียกวา่ “กฎหมายตราสามดวง”หรอื ประมวลกฎหมายรชั กาลที่ 1 และใชเ้ ปน็ หลักในการปกครองประเทศมาจนถงึ สมัยรัชกาลที่ 5 กอ่ นทจี่ ะปฏิรูปกฎหมายและการศาลของไทยใหเ้ ป็นระบบสากลเหมือนดังในปัจจบุ ัน และท่ีมชี อ่ื เรียกวา่ กฎหมายตราสามดวง เพราะมีการคดั ลอกไว้ 3 ฉบบั ทุกฉบับจะประทบั ตราราชสีห์ ตราคชสหี แ์ ละตราบัว แก้ว แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศึกษาขั้นพน้ื ฐาน 61 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาช้ีแจง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดบั คะแนน ลา ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจในการ ความรบั ผดิ ชอบ ความตรงต่อเวลา ความสะอาด ผลสาเรจ็ ของงาน รวม ดบั (ผูร้ ับการประเมิน) ทางาน 4321 4321 เรยี บรอ้ ย 4321 20 ท่ี 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน (นายจริ พล ลวิ า) ............../.................../................ แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 62 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18-20 ดมี าก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรงุ ตา่ กวา่ 10 แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน 63 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม คาช้แี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลา ชื่อ-สกลุ ความตง้ั ใจในการ ความรบั ผดิ ชอบ ความตรงตอ่ เวลา ความสะอาด ผลสาเรจ็ ของงาน รวม ดบั (ผู้รบั การประเมนิ ) ทางาน 4321 4321 เรยี บรอ้ ย 4321 20 ที่ 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน (นายจิรพล ลวิ า) ............../.................../................ แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 64 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18-20 ดมี าก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรงุ ตา่ กวา่ 10 แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรูก้ ารศึกษาขัน้ พื้นฐาน 65 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 แบบประเมิน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะอนั รายการประเมิน ระดับคะแนน พงึ ประสงคด์ ้าน 4 3 21 1. รกั ชาติ 1.1 ยืนตรงเมอ่ื ได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบาย ศาสน์ กษัตริย์ ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นสทิ ธิและหนา้ ที่ของพลเมืองดี 1.3 ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจในการทากิจกรรมกบั สมาชิกใน โรงเรียนและชุมชน 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมทส่ี รา้ งความ สามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม ช่ืนชมความเป็นชาติไทย 1.5 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนเองนับถอื อย่างสม่าเสมอเปน็ แบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมทีเ่ ก่ียวข้องกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามที่ โรงเรียนและชมุ ชนจดั ขนึ้ ช่นื ชมในพระราชกรณยี กิจ พระปรีชา สามารถของพระมหากษตั ริย์และพระราชวงศ์ 2. ซ่ือสตั ย์สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถกู ต้องและเป็นจรงิ 3. มวี นิ ยั 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ท่ถี กู ต้อง ละอายและเกรงกลัวท่จี ะกระทา รบั ผิดชอบ ความผิด ทาตามสัญญาท่ีตนได้ใหไ้ ว้กบั เพ่ือน พ่อแม่ หรือ ผู้ปกครองและครู เป็นแบบอยา่ งท่ีดดี า้ นความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏบิ ัติต่อผูอ้ น่ื ด้วยความซ่ือตรงไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ ถูกต้องและเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่เพ่อื นมนษุ ย์ด้านความซ่ือสตั ย์ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คบั ของ ครอบครวั และโรงเรียน ไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผอู้ นื่ ตรงตอ่ เวลาใน การปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆในชวี ติ ประจาวันและรบั ผิดชอบตอ่ การ ทางาน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรตู้ า่ ง ๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรูอ้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความร้ไู ด้อย่างมเี หตุผล 5. อยู่อย่าง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินของตนเอง เชน่ ส่ิงของเครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ ง พอเพยี ง ประหยัด คุม้ ค่า และเก็บรักษาดแุ ลอย่างดแี ละใชเ้ วลาอย่าง เหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นร่วมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษา แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นร้กู ารศึกษาข้นั พื้นฐาน 66 กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 คณุ ลักษณะอัน รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 พงึ ประสงคด์ า้ น 432 ดูแลอย่างดี 6. มงุ่ มน่ั ในการ 5.3 ปฏบิ ัตติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล ทางาน 7. รกั ความเป็น 5.4 ไมเ่ อาเปรียบผูอ้ นื่ และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดือดรอ้ น พร้อมให้อภยั ไทย เมอ่ื ผ้อู ่นื กระทาผิดพลาด 8. มีจิต 5.5 วางแผนการเรยี นและการทางานใช้ชีวติ ประจาวนั บนพืน้ ฐาน สาธารณะ ของความรู้ ขอ้ มูลขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทันการเปลยี่ นแปลงทางสงั คม และ สภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรับตัวอยรู่ ่วมกับผอู้ ืน่ ได้อย่างมคี วามสุข 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทางานที่ได้รบั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพือ่ ให้งานสาเร็จ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ผปู้ กครองและครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปันส่งิ ของและช่วย แกป้ ญั หาใหผ้ ู้อื่น 8.3 ดแู ลรกั ษาทรพั ย์สนิ ของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ของ โรงเรียนและชุมชน เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ (นายจริ พล ลิวา) ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ............../.................../................ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน 67 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 บนั ทึกหลงั แผนการสอน ผลการจัดการเรยี นรู้ ประเดน็ ด้านความรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ ดา้ นคณุ ลักษณะ การประเมินผลตามผลการเรียนรู้ รอ้ ยละของนักเรยี นทผี่ ่านการประเมนิ ร้อยละของนกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ ปญั หาที่พบ แนวทางการแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหา ลงชื่อ................................................. ( นายจริ พล ลวิ า ) ผูส้ อน  เห็นควรให้ช้นั แผนการจัดการเรียนรู้  เห็นควรปรับปรุงแก้ไข.......................................................................................................... ลงชอ่ื ................................................. ( นางปวีณา ฑียาพงศ์ ) หัวหนา้ กล่มุ สาระสงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม  เหน็ ควรให้ช้ันแผนการจดั การเรียนรู้  เห็นควรปรบั ปรุงแกไ้ ข.......................................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางกัญญารตั น์ สาระพนั ธ์ ) หวั หนา้ กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ  เห็นควรใหช้ ้นั แผนการจดั การเรยี นรู้  เห็นควรปรับปรงุ แก้ไข.......................................................................................................... ลงชือ่ ................................................. (นางจิราพร รตั นกุล ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นสตรปี ากพนัง แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน 68 กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 รหสั วชิ า ส23105 แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาฯ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที 3 รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ฯ ปกี ารศึกษา 2562 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เวลา 7 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื งพฒั นาการทาง เวลา 3 ชวั่ โมง วันที่ ........... ประวัตศิ าสตร์ไทยสมัย ปี พ.ศ. 256…. รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น เร่ือง พัฒนาการทาง ประวตั ิศาสตร์ และ ตัวอยา่ ง เหตุการณ์สาคัญทม่ี ีผลต่อ พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เดือน.......................... มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานที่ ส 4.3เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและ ธารงความเป็นไทย ตัวชวี้ ัด ส 4.3 ม 3/1 วิเคราะหพ์ ัฒนาการของไทยสมัยรตั นโกสินทรใ์ นดา้ นตา่ ง ๆ ส 4.3 ม 3/2 วิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยในสมัย รัตนโกสนิ ทร์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 รู้และเขา้ ใจเร่อื งของพัฒนาการทางประวตั ิศาสตร์ในด้านต่าง ๆ 1.2 รแู้ ละเข้าใจเก่ียวกบั ตัวอยา่ งของพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของไทยในดา้ นต่าง ๆ 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 2.1 สามารถอธิบายปจั จัยของการเกิดพฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ไทยในด้านตา่ ง ๆ ได้ 2.2 สามารถใชก้ ระบวนการทางประวตั ศิ าสตรอ์ ธบิ ายสาเหตุและผลของพัฒนาการทาง ประวตั ศิ าสตรข์ องไทยในดา้ นตา่ ง ๆ ได้ 3. ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 3.1 มีวนิ ยั 3.2 ใฝ่เรยี นรู้ 3.3 ม่งุ มั่นในการทางาน 3.4 รกั ความเปน็ ไทย แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรูก้ ารศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน 69 กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด พัฒนาการทางประวัตศิ าสตรข์ องไทยในด้านตา่ ง ๆ สมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ สาระการเรียนรู้ 1. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1.1 พฒั นาการของไทยในสมัยรัตนโกสนิ ทรท์ างดา้ นการเมืองการปกครอง สงั คม เศรษฐกิจ และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศตามชว่ งเวลาต่าง ๆ 1.2 เหตุการณ์สาคัญสมัยรตั นโกสนิ ทร์ท่ีมีผลตอ่ พฒั นาการของชาติไทย 2. สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ - ด้านสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน  ความสามารถในการสือ่ สาร : พดู และบอกพัฒนาการของไทย  ความสามารถในการคิด 1. ทกั ษะการคิดกว้าง : ใช้เหตกุ ารณท์ างประวัตศิ าสตรเ์ ปน็ บทเรียนแกต่ นเอง 2. ทักษะการใหเ้ หตุผล : อธิบายสาเหตุและผลของเหตกุ ารณป์ ระวตั ิศาสตร์  ความสารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลางข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551  รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่อื สัตย์สุจริต  มงุ่ มน่ั ในการทางาน  มวี นิ ัย  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝเ่ รียนรู้  มีจิตสาธารณะ คาขวัญโรงเรียน  เรียนดี  ประพฤตดิ ี  ฝมี อื เดน่  เป็นงาน ดา้ นการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน  การอา่ น  การคิดวเิ คราะห์  การเขียน บรู ณาการกบั หลกั การเรยี นในศตวรรษท่ี 21 (นกั เรยี นได้เรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั หลกั การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21) Reading Writing Globalization อ่านงานเขยี นทางประวตั ศิ าสตร์ เขียนงานทางประวัติศาสตร์ (สมยั ศึกษาหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ รตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น) ผ่าน อ่ืน ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับพฒั นาการ กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ได้ ทางประวัติศาสตร์ของ รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ ได้ แผนการจัดการเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 70 กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 Reading Writing Globalization Critical Thinking & Problem Solving (ทักษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และ ทักษะการในการแก้ไขปัญหา) Creativity & Innovation (การคดิ เชิงสร้างสรรค)์ Collaboration , Teamwork & Leadership (การทางานรว่ มและยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ จากผ้อู ่นื ) Cross – Cultural Understanding (ยอมรับความหลากหลายและความแตกต่างทางวัฒนธรรม) Communication , Information & Media Literacy (กลา้ ซกั ถามและแสดงความคดิ เห็นในการเรยี น) Computing & Media Literacy (สามารถใชท้ กั ษะด้านสารสนเทศประกอบการเรยี นรูไ้ ด้) Career & Learning Self-Reliance (มีความรู้เขา้ ใจและค้นควา้ เพิ่มเตมิ เกยี่ วกบั เรื่องที่เรียน) Change (สรา้ งทศั นคติใหม่ในการเรียนรายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ให้น่าสนใจมากขึน้ ) Learning Leadership Historical Method Presentation & Lecture พัฒนาทางประวตั ศิ าสตร์ของรัตนโกสินทร์ตอนต้น บรู ณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (นักเรียนได้เรียนรอู้ ยอู่ ย่างพอเพยี งจากการเรยี นรูท้ ่บี รู ณาการหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียง) พอประมาณ มเี หตุผล สร้างภมู คิ ุ้มกนั นักเรยี นแบ่งเวลาวา่ งเพิ่มเติมมาใช้ นักเรียนใชเ้ หตผุ ลในการเรยี น และ นักเรียนมีความรูแ้ ละความเข้าใจ ในการเรยี นรู้ด้วยตนเองนอก นาหลักการของเหตผุ ลไปใช้ในการ ของพฒั นาการทางประวัติศาสตร์ ห้องเรียน คน้ หาความจริงของประวัตศิ าสตร์ ของรัตนโกสินทรต์ อนตน้ มาเป็น ตามหลักวิธีการทางประวตั ศิ าสตร์ บทเรยี นเพือ่ เตอื นสติตนเองในการ ดาเนนิ ชีวิต ความรู้ (นกั เรียนมคี วามรูใ้ นเรือ่ งพัฒนาการทางประวตั ิศาสตร์ของรตั นโกสินทรต์ อนตน้ เป็นอย่างดี) คุณธรรม (นักเรยี นใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการทางาน มีวินยั ในการจัดระบบการเรียนดว้ ยตนเอง) การบรู ณาการฯ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรยี นคมุ้ ครองเดก็ ระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น - ใช้กระบวนศกึ ษาวิเคราะห์ผ้เู รียนเป็นรายบุคคลเพื่อ ทาความเข้าใจนักเรียนและแกไ้ ขข้อบกพรอ่ ง ทางการเรียนรู้ของนักเรยี นได้ ตลอดจนจดั ทา ฐานข้อมูลส่วนตัวของนกั เรยี นเพื่อความสะดวกใน การศึกษาข้อมูลและพฒั นาผูเ้ รยี นให้ได้เต็มศักยภาพ แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรกู้ ารศึกษาข้นั พืน้ ฐาน 71 กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบซิปปา (CIPPA Model) ชว่ั โมงท่ี 1  ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเร่ือง “พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของรัตนโกสินทร์ ตอนต้น” ขน้ั ท่ี 1 ทบทวนความรู้เดมิ สอ่ื การเรียนรู้ 1. ภาพเหตกุ ารณ์สาคัญทางประวัตศิ าสตร์ในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนตน้ คำถำมกระตุ้นควำมคิด “การปกครองของไทยสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ เป็นอย่างไร” ข้นั ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูให้นกั เรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ โดยส่มุ นกั เรยี น 3-4 คนในชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบและชมเชยนักเรียนท่ีตอบได้ใกล้เคียงกับ ความเปน็ จรงิ มากที่สดุ ข้ันที่ 2 แสวงหาความร้ใู หม่ ส่อื การเรยี นรู้ 1. ภาพแผนที่ประเทศไทยที่มีเมืองสาคัญสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (แสดงการ ปกครองหวั เมอื งของไทย) คำถำมกระตนุ้ ควำมคดิ “หัวเมอื งชน้ั นอก ช้นั ใน เมืองประเทศราช นกั เรียนคิดว่า นครศรฯี อยู่ในกลมุ่ ใด” ข้นั ตอนการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม (เก่ง , ปานกลางค่อนข้างเก่ง , ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน , อ่อน) แล้วให้ร่วมกันหาคาอธิบายเกี่ยวกับการปกครองส่วน ทอ้ งถน่ิ ในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ 3. ครใู หต้ วั แทนแต่ละกลุม่ ออกมาอธิบายถึงคาตอบท่ีได้พรอ้ มทง้ั เหตุผล ชว่ั โมงท่ี 2 ขนั้ ที่ 3 ศกึ ษาข้อมูลจากความรู้ใหม่และผสมผสานกบั ความร้เู ดมิ สอื่ การเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง การเมืองการปกครองสมยั รตั นโกสินทรต์ อนต้น แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน 72 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 2. ใบงานที่ 2.3 เรื่อง การปกครองส่วนภูมิภาคในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงความรู้ใหม่ที่ได้และผสมผสานกับความรู้เดิมท่ีมี อยู่พร้อมทง้ั อธิบายลักษณะของการเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทรต์ อนต้น ใหไ้ ด้ 2. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานท่ี 2.1 และอธิบายเพม่ิ เติม 3. ครใู ห้นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.2 และอธบิ ายเพ่ิมเติม ขั้นที่ 4 แลกเปลย่ี นความรู้ความเข้าใจกับกลมุ่ สอ่ื การเรยี นรู้ - คำถำมกระตุ้นควำมคิด “นักเรียนคดิ วา่ เพราะเหตใุ ดรัตนโกสินทร์จึงจัดการปกครองหัวเมอื งโดยแบง่ เปน็ ระดบั ” ขั้นตอนการเรียนรู้ 1. ครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ อย่างเสรี 2. ครูให้นักเรียนที่ทาใบงานที่ 2.1 และ ใบงานท่ี 2.2 เสร็จแล้ว จับคู่เพ่ือนในกลุ่ม เพอ่ื อธบิ ายตามท่ตี นเองเขา้ ใจ 3. ครูสมุ่ เรียกตัวแทนกลมุ่ มาอธิบายหน้าช้ันเรยี น ชวั่ โมงที่ 3 ขัน้ ที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 2.4 เร่ือง ความสัมพันธ์กับประเทศเพ่ือนบ้านในสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนตน้ 2. ใบงานท่ี 2.5 เร่ือง ความสมั พนั ธ์กับประเทศตะวนั ตกในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ 3. ใบงานที่ 2.6 เรื่อง ลักษณะเศรษฐกิจในสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ 4. ใบงานท่ี 2.7 เร่อื ง ลกั ษณะสงั คมในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนต้น ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่องพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของไทย สมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ พรอ้ มทั้งใหน้ ักเรียนจดบนั ทึกลงสมุด 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่ม 4 คน และเขียนอธิบายในรูปแบบของ Mind Mapping ตามหัวข้อดงั น้ี a. ลักษณะการปกครองสว่ นกลาง แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน 73 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 b. ลกั ษณะการปกครองสว่ นท้องถ่นิ c. ความสมั พันธ์ระหว่างประเทศ d. ลักษณะเศรษฐกิจ e. ลักษณะสังคม ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่ตนเองสนใจและ ไมซ่ ้ากันในแต่ละหอ้ งทีจ่ ดั การเรยี นการสอน 3. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 2.4 และอธิบายเพิ่มเติม ข้ันที่ 6 ปฏิบตั ิ และ/หรอื แสดงผลงาน สอ่ื การเรียนรู้ - ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูส่มุ เรยี กนักเรียนตัวแทนในช้นั เรยี นออกมาแสดง Mind Mapping ของตนเอง พร้อมทั้งอธิบายให้เพอ่ื นในชั้นเรยี นฟัง และใหเ้ พ่ือน ๆ ในชั้นเรยี นร่วมกันแสดง ความคดิ เหน็ เพิ่มเติมในสว่ นทบี่ กพรอ่ ง (ถ้ามี) ขนั้ ท่ี 7 การประยุกต์ใชค้ วามรู้ ส่อื การเรยี นรู้ - ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูให้นักเรียนสร้างโจทย์ที่น่าสนใจเก่ียวกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของ ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (สืบค้นจากหนังสือเพิ่มเติมได้) พร้อมท้ัง คาตอบ 2. นกั เรยี นนางานรวบรวมสง่ ครู การวัดและประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน วิธีการ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการ (ประเมินตามสภาพจริง) ดา้ นความรู้ เรยี นรทู้ ี่ 2.2 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน ใบงานที่ 2.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ฯ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2.2 ใบงานท่ี 2.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑฯ์ ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานที่ 2.4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑฯ์ ตรวจใบงานท่ี 2.3 ใบงานที่ 2.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑฯ์ ตรวจใบงานท่ี 2.4 ใบงานที่ 2.6 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑฯ์ ตรวจใบงานที่ 2.5 ใบงานท่ี 2.7 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑฯ์ ตรวจใบงานที่ 2.6 ตรวจใบงานที่ 2.7 แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน 74 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล รายบุคคล สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรรมการทางาน กลุ่ม ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง มุง่ ม่ันในการทางาน ประสงค์ ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ภาพหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีน่าสนใจ 2. แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอ่ื งที่ 2.2 พฒั นาการทางประวัติศาสตร์ของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ 3. ใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง การเมอื งการปกครองสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้น 4. ใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง การปกครองส่วนภมู ิภาคในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น 5. ใบงานที่ 2.4 เรือ่ ง ความสมั พันธ์กบั ประเทศเพื่อนบ้านในสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น 6. ใบงานที่ 2.5 เรอ่ื ง ความสมั พนั ธก์ บั ประเทศตะวันตกในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้น 7. ใบงานท่ี 2.6 เรื่อง ลักษณะเศรษฐกิจในสมยั รัตนโกสินทรต์ อนตน้ 8. ใบงานท่ี 2.7 เรอ่ื ง ลักษณะสังคมในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ แหลง่ เรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดโรงเรยี นสตรีปากพนงั 2. ห้องคอมพิวเตอร์ฯ ลงชือ่ ............................................................. (นายจิรพล ลวิ า) ผู้จดั ทาแผนการจัดการเรียนรฯู้ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนร้กู ารศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 75 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 แบบทดสอบการเรยี นเร่ืองที่ 2.2 พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องทสี่ ดุ เพียงคาตอบเดียว 1. ขอ้ ใดไม่เกยี่ วข้องกบั การปกครองสว่ นภมู ภิ าค ก. จตุสดมภ์ ข. หวั เมอื งชน้ั ใน ค. หัวเมอื งชน้ั นอก ง. เมืองประเทศราช 2. ข้อใดสรุปโครงสรา้ งสงั คมไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้นไม่ถกู ตอ้ ง ก. เปน็ สังคมชนบทหรือสงั คมเกษตรกรรม ข. มคี วามแตกตา่ งในฐานะของบุคคลในสงั คม ค. มรี ูปแบบลกั ษณะสงั คมท่ีเหมอื นสมยั อยุธยาตอนปลาย ง. ฐานะของบุคคลในสังคมถูกกาหนดตายตวั เปล่ียนแปลงไมไ่ ด้ 3. ชนชน้ั ใดมมี ากท่ีสุดในสังคม ก. ไพร่ ข. ทาส ค. พระสงฆ์ ง. ขุนนาง 4. การกอ่ ตัง้ ธรรมยุติกนกิ ายของเจ้าฟ้ามงกฎุ เกิดข้นึ ในสมยั ใด ก. รัชกาลท่ี 1 ข. รชั กาลที่ 2 ค. รชั กาลท่ี 3 ง. รัชกาลที่ 4 5. วรรณกรรมในขอ้ ใดไมไ่ ด้เกดิ ข้ึนในสมยั รชั กาลที่ 1 ก. สามก๊ก ข. อิเหนา ค. ราชาธริ าช ง. รามเกียรติ์ 6. ในสมัยรชั กาลที่ 2 ทรงใหก้ ารสนับสนนุ ศิลปวัฒนธรรมแขนงใดมากเปน็ พิเศษ จนได้รบั สมญานามว่า เป็น “ยคุ ทองแห่งศิลปกรรม” ก. จติ รกรรม ข. วรรณกรรม ค. ปฏิมากรรม ง. สถาปัตยกรรม 7. ขอ้ ใดไม่ใชก่ ารปรับปรุงประเทศในสมยั รชั กาลท่ี 4 ก. ให้สตรที ่ีบรรลุนิตภิ าวะแล้วมสี ิทธเิ ลอื กสามีได้ ข. อนญุ าตใหไ้ พรเ่ สยี เงนิ แทนการถกู เกณฑ์แรงงาน ค. จัดส่งข้าราชการไปศึกษาและดูงานต่างประเทศ ง. ส่งเสรมิ เฉพาะวัฒนธรรมไทยแต่ดัง้ เดิมให้ดารงอย่ตู อ่ ไป 8. ข้อใดเปน็ การปรับปรุงทางดา้ นวฒั นธรรมในสมัยรชั กาลที่ 4 ก. ต่อเรืออนนั ตนาคราช ข. บูรณะกอ่ สร้างองค์พระปฐมเจดียจ์ นสาเร็จ ค. ทรงสร้างวังสราญรมณต์ ามแบบศลิ ปตะวันตก ง. ตอ่ เรอื กลไฟตามแบบตะวันตกเพื่อใชป้ ระโยชนท์ างด้านการค้าขาย แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนร้กู ารศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 76 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 9. การเปลีย่ นแปลงทางดา้ นประเพณีวฒั นธรรมใดในสมยั รัชกาลท่ี 4 ทีม่ ใิ หช้ าวตา่ งประเทศดูถกู ข้าราชการไทยว่าเป็นคนป่าเถือ่ น ก. ชาวตะวนั ตกยืนถวายคานับได้ ข. ขา้ ราชการสวมเสื้อเข้าเฝ้าทุกคน ค. พระราชทานเลี้ยงแกช่ าวต่างประเทศพร้อมท้งั แจกของทร่ี ะลึก ง. ใหช้ าวต่างประเทศเข้าเฝ้าพระองค์ไดใ้ นพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก 10. การเปลี่ยนแปลงทางด้านประเพณแี ละวฒั นธรรมขอ้ ใดไม่เกดิ ข้นึ ในสมยั รัชกาลที่ 4 ก. การจดั ใหม้ ีธงประจาชาติ ข. ให้พระมหากษัตรยิ เ์ สวยนา้ พระพิพฒั นส์ ตั ยา ค. การเรยี กพระนามกษตั รยิ ต์ ามแบบอยา่ งยุโรป ง. ใหช้ าวต่างประเทศสามารถแสดงความเคารพได้ตามธรรมเนยี มไทย เฉลย 2. ง 3. ก 4. ค 5. ข 7. ข 8. ก 9. ข 10. ข 1. ก 6. ข แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรูก้ ารศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน 77 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ใบกิจกรรมท่ี 2.2 พัฒนาการทางด้านการเมืองการปกครองของรัตนโกสินทร์ตอนต้น คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคาภามต่อไปนใี้ ห้ถูกตอ้ งสมบูรณ์ 1. การปกครองสมัยรัตนโกสินทรต์ อนตน้ ใชก้ ารปกครองระบอบ……………………………… มลี กั ษณะคล้ายคลึงกับการปกครองสมยั ………………………และสมัย…………………… ผูม้ อี านาจสงู สุดในการปกครองประเทศคือ ………………………………………………… 2. ฐานะของพระมหากษัตรยิ ใ์ นสมยั รตั นโกสินทรต์ อนต้นเปรยี บเหมือน……………………… 3. ตาแหน่งท่รี ชั กาลท่ี 1 ทรงแต่งต้ังข้ึนมอี านาจรองจากพระมหากษตั รยิ ์ มีฐานะเทียบเท่ากบั พระมหา อปุ ราชคอื ตาแหน่ง……………………………………………………. ดารงพระยศเป็น……………………………………………. 4. ตาแหนง่ อัครมหาเสนาบดี มี 2 ตาแหนง่ ไดแ้ ก่ 1……………………2……………………… 5. สมหุ พระกลาโหม มยี ศและราชทินนามวา่ ……………………………………….ตราประจาตาแหน่ง คอื ……………………………………………………………………………….มี หนา้ ท่ี………………………………………………………………………………………... 6. สมุหนายก มียศและราชทนิ นามว่า ………………………………………..ตราประจาตาแหนง่ คือ……………….……………… มหี น้าที่……………………………………… 7. หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบดแู ลหวั เมอื งชายทะเลตะวันออก คือ ………………………………… 8. ตราประจาตาแหนง่ และหนา้ ที่ เสนาบดีจตุสดมภ์สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ ไดแ้ ก่ 8.1 กรมเวยี ง ใช้ตรา………………………….มีหน้าท่ี……………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… 8.2 กรมวัง ใชต้ รา……………………………….มหี นา้ ที่…………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… 8.3 กรมคลงั ใช้ตรา…………………………มีหน้าที่………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… 8.4 กรมนา ใช้ตรา………………………….มีหน้าที่…………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน 78 กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 2.2 พฒั นาการทางดา้ นการเมอื งการปกครองของรตั นโกสินทร์ตอนตน้ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาภามต่อไปนี้ให้ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ 1. การปกครองสมยั รัตนโกสินทรต์ อนตน้ ใชก้ ารปกครองระบอบ สมบรู ณาญาสิทธิราชย์ มีลกั ษณะคล้ายคลึงกับการปกครองสมยั อยธุ ยาตอนต้น และสมยั อยุธยาตอนปลาย ผ้มู อี านาจสงู สุดในการปกครองประเทศคือ พระมหากษัตรยิ ์ 2. ฐานะของพระมหากษัตริยใ์ นสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้นเปรียบเหมือน สมมติเทพ 3. ตาแหนง่ ที่รัชกาลที่ 1 ทรงแตง่ ต้ังข้นึ มีอานาจรองจากพระมหากษัตริย์ มีฐานะเทยี บเท่ากบั พระมหา อปุ ราชคือตาแหน่ง วงั หนา้ ดารงพระยศเป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล 4. ตาแหน่งอคั รมหาเสนาบดี มี 2 ตาแหนง่ ได้แก่ 1 สมหุ นายก 2 สมุหกลาโหม 5. สมุหพระกลาโหม มยี ศและราชทนิ นามวา่ เจ้าพระยามหาเสนา ตราประจาตาแหนง่ คอื ตราคชสหี ์ มหี นา้ ท่ี ดูแลหวั เมืองฝา่ ยใตท้ ัง้ ดา้ นทหารและพลเรือน 6. สมุหนายก มียศและราชทนิ นามว่า ไมก่ าหนดแน่นอน ตราประจาตาแหนง่ คอื ตราราชสีห์ มีหนา้ ที่ ดแู ลหวั เมืองฝา่ ยเหนอื และอสี านทงั้ ด้านทหารและพลเรือน 7. หนว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบดูแลหวั เมอื งชายทะเลตะวันออก คอื กรมพระคลงั 8. ตราประจาตาแหน่งและหน้าที่ เสนาบดีจตุสดมภส์ มัยรัตนโกสินทรต์ อนตน้ ได้แก่ 8.1 กรมเวียง ใชต้ รา พระยมทรงสงิ ห์ มหี น้าท่ี ดูแลกิจการทั่วไปในพระนคร 8.2 กรมวงั ใช้ตรา เทพยดาทรงพระนนทิการ มีหน้าท่ี ดูแลพระราชวงั และตั้งศาลพจิ าณาคดี 8.3 กรมคลงั ใช้ตรา บวั แกว้ มีหนา้ ที่ การเงิน / ต่างประเทศ / ตรวจสอบบญั ชี / ดูแลเมอื งชายทะเล 8.4 กรมนา ใชต้ รา พระพิรุณทรงนาค มหี นา้ ที่ ดแุ ลนาหลวง เกบ็ ภาษีข้าว พจิ ารณาคดเี กีย่ วกับนา แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน 79 กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ใบกจิ กรรมที่ 2.3 การเมอื งการปกครองของรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ คาช้ีแจง ให้นกั เรียนตอบคาภามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถกู ต้องสมบรู ณ์ 1. การปกครองส่วนภมู ิภาคสมยั รตั นโกสนิ ทร์ตอนต้นแบง่ เปน็ 1…………………………..2………………………..3…………………………………….. 2. หัวเมืองชั้นใน มลี กั ษณะ ……………………………………………เดมิ เรยี กวา่ ………………หรือ……………ผูป้ กครอง เรยี กวา่ ………………………………ซงึ่ ไมม่ ีอานาจอยา่ งเจา้ เมอื งตอ้ งฟังคาส่งั จาก…………………… 3. หวั เมืองชั้นนอก เรียกอกี อย่างหนง่ึ วา่ …………………………………………….แบง่ เปน็ หวั เมืองเอก โท ตรี โดย ยดึ ตาม………………………………………………………….. 4. หัวเมอื งเอกในสมยั รตั นโกสินทร์ตอนต้น ไดแ้ ก่ 1………………………………….2…………………………. 3……………………….4…………………………….5………………………………………. เจา้ เมอื งของหวั เมอื งเอกจะได้รบั การแต่งต้ังจาก ……………………………………… 5. หัวเมืองเหนือและอสี าน อยูใ่ นความดแู ลของ ………………………………………….. 6. หวั เมืองฝ่ายใต้ อยใู่ นความดแู ลของ ………………………………………………. 7. หัวเมืองชายทะเลตะวนั ออก อยูใ่ นความดูแลของ …………………………………………… 8. เมอื งประเทศราชของไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนต้นได้แก่ 1………………………………….. 2……………………………..…3………………………….4………………………………… 9. หน้าทีข่ องเมืองประเทศราชตอ่ ไทยคือ……………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….. 10. กฏหมายทีร่ ชั กาลที่ 1 ทรงโปรดใหม้ กี ารชาระและรวบรวมขึ้นใหม่ เรียกวา่ ………………… ใชม้ าจนถึงสมัย…………………………………กอ่ นที่จะมกี ารปฏิรปู กฎหมายตามแบบสากล 11. ตราประทับของกฎหมายในขอ้ 10 มี 3 ตรา ได้แก่ 1…………………..2……………………3…………………… 12. วธิ ีการไต่สวนผตู้ อ้ งหาดว้ ยการขู่เข็ญ ทรมานผตู้ อ้ งหาด้วยวิธีการต่างๆในสมัยรัตนโกสินทรต์ อนต้น เรยี กว่า……………………………ภายหลงั ถกู ยกเลิกไปในสมยั …………………… เพราะ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………… แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรูก้ ารศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน 80 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 2.3 การเมืองการปกครองของรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคาภามต่อไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 1. การปกครองส่วนภมู ภิ าคสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้นแบ่งเป็น 1 หัวเมืองช้นั ใน 2 หัวเมืองชัน้ นอก 3 หัวเมืองประเทศราช 2. หวั เมอื งช้ันใน มลี กั ษณะ อยใู่ กล้เมืองหลวง เดิมเรยี กว่า เมอื งลูกหลวง หรือ เมอื งหน้าด่าน ผปู้ กครองเรียกว่า ผู้รั้ง ซ่ึงไม่มอี านาจอยา่ งเจา้ เมอื งตอ้ งฟังคาสั่งจาก เมอื งหลวง 3. หวั เมืองช้ันนอก เรยี กอกี อยา่ งหนงึ่ วา่ เมอื งพระยามหานคร แบ่งเปน็ หัวเมอื งเอก โท ตรี โดยยึดตาม ขนาดของเมอื ง 4. หัวเมืองเอกในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนตน้ ไดแ้ ก่ 1. พิษณโุ ลก 2. นครราชสีมา 3. ถลาง 4. สงขลา 5. นครศรีธรรมราช เจ้าเมืองของหัวเมอื งเอกจะได้รับการแต่งตง้ั จาก พระมหากษตั รยิ ์ 5. หวั เมอื งเหนอื และอสี าน อยูใ่ นความดแู ลของ สมหุ นายก 6. หัวเมืองฝ่ายใต้ อยู่ในความดูแลของ สมหุ พระกลาโหม 7. หัวเมอื งชายทะเลตะวันออก อย่ใู นความดูแลของ พระคลัง 8. เมืองประเทศราชของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้นไดแ้ ก่ 1. ลา้ นนาไทย 2. เขมร 3. หวั เมอื งมาลายู 4. ลาว 9. หนา้ ทข่ี องเมอื งประเทศราชตอ่ ไทยคือ สง่ เครือ่ งราชบรรณาการ 10. กฏหมายท่รี ัชกาลท่ี 1 ทรงโปรดให้มกี ารชาระและรวบรวมข้นึ ใหม่ เรียกว่า กฎหมายตราสามดวง ใชม้ าจนถึงสมยั รัชกาลท่ี 5 ก่อนทีจ่ ะมกี ารปฏิรูปกฎหมายตามแบบสากล 11. ตราประทับของกฎหมายในข้อ 10 มี 3 ตรา ได้แก่ 1. คชสีห์ 2. ราชสีห์ 3. บัวแกว้ 12. วธิ ีการไตส่ วนผู้ตอ้ งหาด้วยการข่เู ข็ญ ทรมานผู้ต้องหาด้วยวิธกี ารตา่ งๆในสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ เรยี กวา่ กฎหมายพระอยั การ ภายหลงั ถูกยกเลกิ ไปในสมยั รัชกาลที่ 5 เพราะ ล้าสมยั ป่าเถือ่ น ปอ้ งกนั ตะวันตกดถู ูก แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นร้กู ารศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน 81 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ใบกจิ กรรมที่ 2.4 ความสัมพันธก์ บั ประเทศเพือ่ นบา้ น คาชีแ้ จง ให้นักเรียนตอบคาภามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้องสมบรู ณ์ 1. พมา่ ยกทัพมาโจมตไี ทยบอ่ ยครั้งทีส่ ดุ ในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ ตรงกับรชั กาลที่ …………มีถึง………..คร้ัง 2. สงครามคร้งั สาคญั ที่สดุ ระหว่างไทยกับพมา่ คือ……………………เกิดในสมัยรัชกาล……… 3. สงครามเก้าทัพ เกิดขึน้ ในสมยั ………………………เปน็ กษัตริยข์ องพมา่ และรชั กาลที่……….ทรงพระนาม ว่า…………………………………………….เปน็ กษตั รยิ ข์ องไทย 4. จดุ ประสงคส์ าคัญท่ีพม่ายกทพั มาโจมตไี ทยในสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ คือ ………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………….. 5. ในสงครามเก้าทพั ทพั หลวงของพม่าพ่ายแพ้กองทพั ไทย(วังหนา้ )บรเิ วณ……………………จังหวัด…………… 6. วรี สตรขี องไทยท่เี กดิ ขึ้นในครั้งสงครามเก้าทัพไดแ้ ก่ 1………………….2…………………… เกดิ ข้นึ ณ เมอื ง……………………ปจั จบุ นั คือ จงั หวัด……………………ภาค……………… 7. การทาสงครามระหว่างไทยกบั พม่าครัง้ ใดท่ีสรา้ งความหวาดหวั่นและทาให้พมา่ ไมก่ ล้ายกทัพมาโจมตีไทย อีกจนตกเป็นเมืองข้ึนขององั กฤษ คือ …………………………………………….. 8. ประเทศทีไ่ ทยมกั จะเข้าไปชว่ ยเหลอื แก้ปัญหาภายในประเทศให้ คือประเทศ …………… 9. ประเทศทเ่ี ป็นชนวนใหไ้ ทยกับญวน(เวียดนาม)ต้องทาสงครามตอ่ กันยาวนานถึง 14 ปี คือ………………… และ…………………ตรงกับสมยั รัชกาลที่ …………….ของไทย 10. ญวนมักจะแผ่อทิ ธพิ ลเข้าแทรกแซงดนิ แดนท่ีเปน็ เมอื งขนึ้ ของไทยได้แก่ 1…………………….2…………………. 11. ในสมยั รชั กาลท่ี 1 ไทยได้คนื พระพทุ ธรปู สาคญั ให้แกล่ าว คือ ……………………………… 12. ความขัดแย้งระหวา่ งไทยกับลาว เกิดในสมัยรชั กาลที่……………เนื่องจากเจ้าอนุวงศ์ของลาวยกทัพมาตี เมอื ง……………ในสงครามครง้ั น้ีเกดิ วีรกรรมของ……………อยใู่ นฐานะ……… …………………………………ภายหลังไดร้ บั การโปรดเกล้าฯให้เป็น………………… 13. จุดประสงคท์ ี่ไทยยดึ ลา้ นนาไทยเปน็ เมืองขน้ึ เพราะ ………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 14. เมอื งขึ้นของไทยสมยั รตั นโกสินทรต์ อนต้นทไี่ ทยยงั คงรักษาไวไ้ ดจ้ นถึงปจั จุบันคือ…………… 13. หัวเมอื งมลายทู ต่ี กเป็นเมืองข้ึนของไทยในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้นไดแ้ ก่ 1………………………………2………………………………3……………………………… แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรกู้ ารศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 82 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เฉลย ใบกิจกรรมที่ 2.4 ความสัมพนั ธ์กบั ประเทศเพ่อื นบ้าน คาชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคาภามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 1. พม่ายกทัพมาโจมตไี ทยบ่อยครั้งท่สี ุดในสมยั รตั นโกสินทร์ตอนต้นตรงกับรัชกาลท่ี 1 มถี ึง 9 ครั้ง 2. สงครามครัง้ สาคญั ท่ีสุดระหว่างไทยกับพมา่ คือ เก้าทพั เกดิ ในสมยั รชั กาล 1 3. สงครามเกา้ ทพั เกดิ ขึน้ ในสมัย พระเจา้ ปดงุ เป็นกษตั รยิ ข์ องพม่าและรัชกาลท่ี 1 ทรง พระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นกษตั ริย์ของไทย 4. จดุ ประสงคส์ าคญั ทีพ่ มา่ ยกทพั มาโจมตไี ทยในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น คือ ปราบปรามไทยให้ ราบคาบและยดึ เป็นเมอื งขึน้ 5. ในสงครามเกา้ ทัพ ทพั หลวงของพมา่ พา่ ยแพ้กองทพั ไทย(วงั หน้า)บรเิ วณ ด่านพระเจดียส์ ามองค์ จงั หวัด กาญจนบรุ ี 6. วรี สตรีของไทยท่เี กดิ ข้ึนในครัง้ สงครามเก้าทพั ได้แก่ 1. ทา้ วเทพกษัตรีย์ 2. ทา้ วศรีสุนทร เกิดขน้ึ ณ เมอื ง ถลาง ปัจจุบนั คอื จังหวัด ภเู ก็ต ภาค ใต้ 7. การทาสงครามระหว่างไทยกบั พม่าครงั้ ใดท่สี รา้ งความหวาดหว่ันและทาให้พมา่ ไม่กลา้ ยกทพั มาโจมตีไทย อีกจนตกเป็นเมืองขน้ึ ของอังกฤษ คอื สงครามเก้าทัพ 8. ประเทศทีไ่ ทยมกั จะเข้าไปช่วยเหลือแก้ปญั หาภายในประเทศให้ คือประเทศ ลาว 9. ประเทศทีเ่ ปน็ ชนวนให้ไทยกับญวน(เวียดนาม)ตอ้ งทาสงครามตอ่ กันยาวนานถงึ 14 ปี คอื เขมร และ ลาว ตรงกบั สมัยรัชกาลท่ี 2 ของไทย 10. ญวนมกั จะแผอ่ ทิ ธิพลเข้าแทรกแซงดนิ แดนท่ีเปน็ เมืองขน้ึ ของไทยไดแ้ ก่ 1. ลาว 2. เขมร 11. ในสมยั รชั กาลที่ 1 ไทยได้คนื พระพทุ ธรูปสาคัญใหแ้ ก่ลาว คือ พระบาง 12. ความขดั แย้งระหวา่ งไทยกบั ลาว เกิดในสมัยรัชกาลที่ 2 เน่ืองจากเจา้ อนวุ งศ์ของลาวยกทัพมาตี เมือง นครราชสมี า ในสงครามครง้ั นเ้ี กิดวรี กรรมของ ทา้ วสรุ นารี อยู่ในฐานะ ภรรยา เจ้าเมืองราชสีมา ภายหลงั ไดร้ ับการโปรดเกลา้ ฯให้เปน็ ท้าวสรุ นารี 13. จุดประสงคท์ ่ไี ทยยึดลา้ นนาไทยเปน็ เมอื งขึ้นเพราะ ป้องกันกานโจมตจี ากทางเหนอื และเป็นคลงั เสบียงใหร้ าชธานี 14. เมืองขนึ้ ของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่ไทยยงั คงรกั ษาไวไ้ ดจ้ นถงึ ปจั จุบนั คือ นครศรธี รรมราช 13. หวั เมืองมลายทู ่ตี กเปน็ เมืองขึ้นของไทยในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ ไดแ้ ก่ 1. ปัตตานี 2. กลันตัน 3. ตรงั กานู 4. ปลสิ แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน 83 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ใบกจิ กรรมท่ี 2.5 ความสัมพันธก์ ับประเทศตะวนั ตก คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาภามต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 1. ประเทศตะวนั ตกทเ่ี ขา้ มามีบทบาทในไทยสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ ไดแ้ ก่ 1………………………………2………………………….3…………………………… 2. ประเทศตะวนั ตกชาตแิ รกทีเ่ ขา้ มาตดิ ต่อสมั พันธไมตรกี ับไทยสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ คอื ………………………. 3. กงสุลชาวตะวันตกคนแรกท่ีมาประจาในประเทศไทยคอื ……………………………………… เป็นชาว……………………………..และไดร้ ับพระราชทานตาแหนง่ เปน็ …………………… 4. ชาวอังกฤษที่เขา้ มาตดิ ตอ่ กับไทยสมัยรัชกาลที่ 1 คอื ………………………………………… และไดร้ บั พระราชทานบรรดาศักดิ์เปน็ …………………………………………ถอื เปน็ ชาวตะวนั ตกคนแรกทีไ่ ดร้ ับ 5. ในสมยั รัชกาลที่ 2 ชาวองั กฤษทเ่ี ข้ามาทาสนธิสญั ญาการค้ากับไทยแตไ่ ม่สาเร็จคอื ………………………………. 6. สนธิสัญญาการค้าฉบบั แรกทไ่ี ทยทากับประเทศอังกฤษในสมัยรัชกาลที่ 3 คือ สนธสิ ญั ญา……………………….โดยอังกฤษสง่ ……………………………..เปน็ ตวั แทน 7. ในสนธิสัญญาเบอร์นี สนิ คา้ ที่หา้ มนาเข้ามาขายในประเทศไทยคอื …………………………… 8. ในชว่ งปลายรชั กาลท่ี 3 ชาวอังกฤษท่เี ข้ามาขอแก้ไขสนธิสัญญาเบอร์น่คี อื ……………………………………….. แต่ไมส่ าเรจ็ เนอ่ื งจาก……………………………… 9. ชาวอเมริกนั ทีเ่ ขา้ มาในไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ คอื …………………………………… และได้รบั บรรดาศกั ดเิ์ ป็น …………………………เชา้ มาในสมยั รชั กาลท่ี…………………… 10. ประเทศไทยทาสนธิสญั ญาการคา้ กับสหรัฐในสมยั ประธานาธบิ ดี…………………………….และตรงกบั สมยั รชั กาลท่ี…………..โดยสหรัฐสง่ ……………………………………………..เป็นหวั หน้าคณะทตู 11. นายโจเซฟ บัลเลสเตยี ร์ เป็นชาวอเมรกิ นั เขา้ มาในไทยสมยั รชั กาลที่ 3 เพ่ือ………………………………………………………….ผู้รับผิดชอบ แผนการจัดการเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนร้กู ารศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน 84 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เฉลย ใบกจิ กรรมท่ี 2.5 ความสัมพนั ธ์กบั ประเทศตะวันตก คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นตอบคาภามตอ่ ไปนีใ้ ห้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 1. ประเทศตะวันตกท่ีเขา้ มามีบทบาทในไทยสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ ไดแ้ ก่ 1. อังกฤษ 2. ฝร่ังเศส 3. โปรตุเกส 2. ประเทศตะวันตกชาติแรกทเ่ี ขา้ มาตดิ ตอ่ สัมพนั ธไมตรกี บั ไทยสมัยรัตนโกสินทรต์ อนตน้ คือ โปรตุเกส 3. กงสุลชาวตะวนั ตกคนแรกท่มี าประจาในประเทศไทยคือ คาลอส เอม็ มานูเอล ซลิ เวรา่ เปน็ ชาว โปรตุเกส และไดร้ ับพระราชทานตาแหน่งเปน็ หลวงอภยั พาณชิ 4. ชาวองั กฤษทีเ่ ข้ามาตดิ ต่อกบั ไทยสมัยรชั กาลท่ี 1 คือ ฟรานซิส ไลท์ และไดร้ ับพระราชทานบรรดาศกั ดเ์ิ ป็น พระยาราชกปิตนั ถือเปน็ ชาวตะวันตกคนแรกทไ่ี ด้รบั 5. ในสมยั รัชกาลท่ี 2 ชาวองั กฤษทีเ่ ข้ามาทาสนธสิ ัญญาการค้ากับไทยแตไ่ มส่ าเร็จคอื จอหน์ ครอเฟิรด์ 6. สนธิสัญญาการคา้ ฉบับแรกทไี่ ทยทากับประเทศองั กฤษในสมยั รัชกาลที่ 3 คอื สนธิสญั ญา เบอรน์ ่ี โดยองั กฤษสง่ เฮนรี่ เบอร์นี่ เป็นตวั แทน 7. ในสนธสิ ญั ญาเบอร์นี สนิ คา้ ท่หี า้ มนาเข้ามาขายในประเทศไทยคือ ฝนิ่ 8. ในช่วงปลายรชั กาลท่ี 3 ชาวองั กฤษท่เี ข้ามาขอแก้ไขสนธสิ ัญญาเบอรน์ ค่ี ือ เซอรเ์ จมส์ บรคู แตไ่ มส่ าเร็จเนือ่ งจาก รชั กาลท่ี 3 ประชวรอยูเ่ ลยไม่ไดเ้ ข้าเฝ้า 9. ชาวอเมรกิ ันทเ่ี ข้ามาในไทยสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น คอื กปั ตนั แฮน และไดร้ ับบรรดาศักดิเ์ ป็น หลวงภักดีราช เช้ามาในสมัยรัชกาลท่ี 2 10. ประเทศไทยทาสนธิสัญญาการคา้ กับสหรัฐในสมยั ประธานาธิบดี แอนดรู แจคสนั และตรงกบั สมัยรัชกาลท่ี 3 โดยสหรฐั สง่ เอด็ มัน โรเบิรต์ เป็นหวั หน้าคณะทูต 11. นายโจเซฟ บัลเลสเตียร์ เป็นชาวอเมริกนั เขา้ มาในไทยสมัยรชั กาลท่ี 3 เพอื่ แก้ไขสญั ญา แผนการจัดการเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขนั้ พื้นฐาน 85 กล่มุ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ใบกิจกรรมที่ 2.6 เศรษฐกจิ ของไทยสมัยรตั นโกสินทร์ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาภามต่อไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 1. เมื่อแรกสถาปนากรงุ รตั นโกสนิ ทร์ใหมๆ่ การค้ากับต่างประเทศยังมไี มม่ ากนัก เพราะ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เศรษฐกจิ ไทยเรม่ิ ดีข้ึนหลังจากที่ไทยเอาชนะพมา่ ในสงคราม………………………………………….. 3. สงิ่ ทีแ่ สดงให้เห็นถึงความเจรญิ ดา้ นเศรษฐกจิ ในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนต้น คอื ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. เงนิ ตราท่ใี ช้เปน็ สอ่ื กลางในการแลกเปลยี่ นในสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้นมชี ือ่ เรยี กว่า………… มี 4 ราคา ไดแ้ ก่ 1………………….2……………….3………………4…………………… 5. แหล่งรายได้สาคญั ของไทยสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ ไดจ้ าก 1……………………………..2………………………….3……………………………… 6. สินค้าออกสาคญั ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้แก่ ……………………………………… 7. สนิ คา้ เข้าในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ ไดแ้ ก่…………..……………………………………… 8. หนว่ ยงานที่ทาหนา้ ทีต่ ดิ ต่อค้าขายกบั ต่างประเทศในสมยั รัตนโกสินทรต์ อนตน้ เรยี กว่า………………อย่ใู น ความดแู ลของ กรม…………….. 9. ผบู้ งั คับบัญชากรมท่าทมี่ ีความสามารถมากที่สดุ ในสมยั รชั กาลท่ี 2 คือ ……………………….ตอ่ มาขึ้น ครองราชยเ์ ปน็ รัชกาลที่ ……………………… 10. ฤชา หมายถงึ ………………………………………………………………………………… 11. จังกอบ หมายถึง……………………………………………………………………………… 12. อากร หมายถึง……………………………………………………………………………… 13. ระบบเจ้าภาษนี ายอากร มีข้นึ ครงั้ แรกในสมัยรัชกาลท่ี ……………………ตัง้ ขน้ึ เพ่อื ……………………………...……………………………………………………………… 14. เงนิ ท่เี รียกเกบ็ จากไพรห่ ลวงเพ่อื ทดแทนแรงงานในสมัยรชั กาลที่3 เรียกว่า…………………… 15. ภาษที เี่ กบ็ จากเรือสินค้าต่างประเทศโดยคิดตามความกวา้ งของปากเรอื เรียกวา่ ………………………………… 16. อากรค่ารักษาเกาะเป็นภาษีท่ีเกบ็ จากราษฎรที่ประกอบอาชีพ………………………………… 17. สินค้าต้องห้ามมีลักษณะ……………………………………………………………………. ได้แก่ …………………………………………………………………………………………… แผนการจัดการเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 86 กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เฉลย ใบกจิ กรรมท่ี 2.6 เศรษฐกจิ ของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นตอบคาภามต่อไปนใี้ ห้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 1. เมือ่ แรกสถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทร์ใหม่ๆการคา้ กับต่างประเทศยังมีไมม่ ากนกั เพราะ สนิ ค้าที่สง่ ออกยงั มี ปริมาณนอ้ ยอยแู่ ละยังไมม่ ีประเทศคคู่ ้ามากมาย รวมทัง้ ยงั คิดภาษแี พงมาก 2. เศรษฐกจิ ไทยเรม่ิ ดีขึ้นหลังจากท่ไี ทยเอาชนะพม่าในสงคราม เก้าทพั 3. สิ่งทแี่ สดงให้เหน็ ถึงความเจรญิ ด้านเศรษฐกิจในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นคอื การค้าสาเภาโดยราช สานักและสง่ สนิ ค้าไปค้าขายถึงประเทศจีนและญีป่ ุ่น รวมท้งั ฝ่งั ตะวนั ตกดว้ ย 4. เงนิ ตราทีใ่ ช้เปน็ ส่ือกลางในการแลกเปล่ียนในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้นมชี ่ือเรียกว่า พดดว้ ง มี 4 ราคา ไดแ้ ก่ 1. เฟอื้ ง 2. สลึง 3. บาท 4. ตาลงึ 5. แหล่งรายไดส้ าคัญของไทยสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ ได้จาก 1. ส่วย 2. ฤชา 3. อากร 4. จังกอบ 6. สนิ คา้ ออกสาคัญในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้นได้แก่ ของปา่ 7. สนิ คา้ เข้าในสมยั รตั นโกสินทร์ตอนตน้ ไดแ้ ก่ ดนิ ปืน 8. หนว่ ยงานที่ทาหน้าทต่ี ิดต่อค้าขายกบั ต่างประเทศในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ เรยี กวา่ กรมทา่ อย่ใู นความดแู ลของ กรม พระคลงั สน้ิ ค้า 9. ผู้บังคบั บัญชากรมท่าทีม่ ีความสามารถมากที่สดุ ในสมัยรัชกาลท่ี 2 คือ กรมหมน่ื เจษฏาบดนิ ทร์ ตอ่ มาขนึ้ ครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 3 10. ฤชา หมายถึง ค่าธรรมเนยี มท่ีทางราชการเรียกเกบ็ เฉพาะรายบคุ คล เน่อื งจากได้รับการบรกิ ารจาก ราชการ เชน่ ออกโฉนดท่ีดนิ ให้ 11. จังกอบ หมายถึง การเรียกเก็บสินค้าของราษฎร โดยชกั ส่วนสินคา้ ที่ผา่ นด่านทง้ั ทางบกและทางนา้ ใน อัตรา 10 หยบิ 1 หรือ 1 สว่ นต่อ 10 สว่ น 12. อากร หมายถึง เงินหรอื ส่ิงของท่รี ัฐเรียกเก็บจากผลประโยชนข์ องราษฎรทีไ่ ดจ้ ากการประกอบอาชพี นอกจากอาชีพค้าขาย เชน่ การทานา เรียกว่า อากรคา่ นา การทาสวน เรยี กว่า อากรสวนใหญ่ หรือ พลากร หรอื สมพตั สร การจับสตั ว์นา้ เรียกวา่ อากรค่าน้า การเก็บไข่เต่าเก็บรังนก เรยี กวา่ อากรคา่ รกั ษาเกาะ นอกจากนยี้ ังมกี ารเก็บอากรบอ่ นเบีย้ อากรสรุ า อากรตลาด อากรเก็บของปา่ อากรขนอน 13. ระบบเจ้าภาษนี ายอากร มีข้นึ ครงั้ แรกในสมัยรัชกาลที่ 3 ต้ังขึน้ เพ่อื ความแนน่ อนของรายไดข้ องรฐั 14. เงนิ ทเ่ี รยี กเก็บจากไพรห่ ลวงเพ่อื ทดแทนแรงงานในสมยั รชั กาลที่3 เรยี กว่า สว่ ย 15. ภาษีท่เี กบ็ จากเรือสินค้าต่างประเทศโดยคิดตามความกว้างของปากเรอื เรียกว่า ภาษปี ากเรอื 16. อากรคา่ รกั ษาเกาะเป็นภาษีที่เก็บจากราษฎรท่ีประกอบอาชีพ เก็บรงั นก 17. สนิ ค้าต้องห้ามมลี กั ษณะ ของหายากและมีราคาแพง ได้แก่ งาชา้ ง รังนก ฝาง กฤษณา แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นร้กู ารศึกษาขั้นพ้นื ฐาน 87 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ใบกิจกรรมท่ี 2.7 เศรษฐกจิ ของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ คาช้แี จง ให้นกั เรียนตอบคาภามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ต้องสมบรู ณ์ 1. โครงสร้างของสังคมไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนต้นมลี กั ษณะคล้ายคลึงกับสมัย……………… 2. สภาพสังคมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนตน้ มลี ักษณะสาคญั คือ……………………………….. 3. ชนชนั้ สงู สุดในสงั คมไทยสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้นคอื ……………………………… 4. ชนช้ันสว่ นใหญ่ของประเทศในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ คือ ……………………………….. 5. ชนชั้นท่ไี ม่มีอิสระในการดาเนนิ ชวี ิต เปน็ ชนช้นั ต่าสดุ ในสงั คมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น คอื ………………… 6. ต้ังใจจะอุปถมั ภก ยอยกพระพทุ ธศาสนา เป็นพระราชปณิธาน ของกษตั ริยไ์ ทยรัชกาลที่ …… 7. พระไตรปฎิ กที่ทาการสงั คายนาคร้งั ใหญ่ในสมัยรชั กาลที่ 1 มีชือ่ วา่ ………………………… 8. รัชกาลท่ี 1 ทรงแก้ปญั หาการแตกแยกและหย่อนยานพระธรรมวินยั ในหมู่พระสงฆโ์ ดย การ…………………………………………………………………………………… 9. ผสู้ ถาปนาธรรมยตุ ินิกายขน้ึ ในประเทศไทยคือ…………………………………………… ในสมัยรชั กาลท่ี …………………….ซง่ึ ตอ่ มาไดข้ ึน้ ครองราชย์เป็นรัชกาลท่ี……………….. 10. วัดทเ่ี ปน็ ศูนย์กลางของคณะสงฆฝ์ ่ายธรรมยุตินกิ าย คือวดั …………………………………. 11. วัดประจารัชกาลที่ 1 คือ วัด……………………………………………………….. 12. วดั ประจารัชกาลที่ 2 คอื วัด ………………………………………………………. 13. วัดประจารชั กาลท่ี 3 คือ วัด ………………………………………………………. 14. วดั ทไี่ ด้ชือ่ วา่ เปน็ วทิ ยาลยั แหง่ แรกของไทยคอื วดั …………………………………………… 15. การฟน้ื ฟปู ระเพณวี สิ าขบูชา กระทาข้ึนในสมยั รชั กาลท่ี……………………………………. 16. พระมหากษตั ริย์ทีท่ รงให้ความสนใจและทานุบารุงพระพทุ ธศาสนามากที่สุดในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น คือรัชกาลที่……………………… 17. ในสมัยรัชกาลที่ 2 ผลงานทางด้านวรรณกรรมไดร้ บั การสนับสนุนและสง่ เสรมิ เปน็ อนั มากจนไดร้ ับการยก ย่องวา่ เปน็ ยุคทองของ……………………………….. 18. กวีท่ไี ด้รับการยกยอ่ งมากทสี่ ดุ ในสมยั รัชกาลที่ 2 คือ ………………………………………… 20. ศนู ย์กลางการศกึ ษาในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น อยู่ท่ี ……………………………. 21. ชาวตะวันตกท่นี าการศกึ ษาแบบใหมเ่ ข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยสมยั รัชกาลที่ 3 คือพวก ………………………………………………………………………………………………… 22. ผู้ท่นี าความเจริญดา้ นการแพทย์และการพิมพม์ าสู่ประเทศไทยเป็นครง้ั แรก คอื …………………………………..……………………………………………………………………………………………………………… แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 88 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เฉลย ใบกจิ กรรมท่ี 2.7 เศรษฐกิจของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาภามต่อไปน้ใี ห้ถูกต้องสมบูรณ์ 1. โครงสร้างของสงั คมไทยสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ มลี กั ษณะคล้ายคลงึ กบั สมัย อยุธยา 2. สภาพสงั คมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมลี กั ษณะสาคัญคอื มีชนช้ันชดั เจน 3. ชนช้ันสงู สุดในสังคมไทยสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ คอื เชอ้ื พระวงศ์ 4. ชนชนั้ ส่วนใหญ่ของประเทศในสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้นคือ ไพร่ 5. ชนชัน้ ที่ไมม่ อี ิสระในการดาเนนิ ชวี ิต เปน็ ชนช้นั ต่าสุดในสงั คมไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนต้นคอื ทาส 6. ตั้งใจจะอปุ ถัมภก ยอยกพระพทุ ธศาสนา เปน็ พระราชปณธิ าน ของกษัตริย์ไทยรชั กาลท่ี 1 7. พระไตรปฎิ กที่ทาการสงั คายนาคร้งั ใหญใ่ นสมยั รชั กาลที่ 1 มชี อ่ื ว่า พระไตรปิฏกฉบบั ทอง 8. รัชกาลที่ 1 ทรงแก้ปัญหาการแตกแยกและหย่อนยานพระธรรมวนิ ัยในหมพู่ ระสงฆโ์ ดยการ ปฎิรูปศาสนา 9. ผสู้ ถาปนาธรรมยุตนิ กิ ายข้ึนในประเทศไทยคือ เจ้าฟ้ามงกฎุ ในสมัยรชั กาลที่ 3 ซึ่งต่อมาได้ขน้ึ ครองราชย์เปน็ รัชกาลที่ 4 10. วัดท่เี ป็นศนู ย์กลางของคณะสงฆ์ฝา่ ยธรรมยตุ ินกิ าย คอื วดั บวรนเิ วศวิหาร 11. วัดประจารชั กาลท่ี 1 คอื วดั วดั พระเชตุพลวิมลมังคลาราม 12. วัดประจารชั กาลที่ 2 คือ วัด วัดอรุณราชวราราม 13. วัดประจารชั กาลท่ี 3 คือ วัด วัดราชโอรสาราม 14. วดั ทไ่ี ด้ชือ่ ว่าเป็นวทิ ยาลัยแหง่ แรกของไทยคอื วัด วดั พระเชตพุ ลวิมลมังคลาราม 15. การฟ้นื ฟปู ระเพณวี ิสาขบูชา กระทาขนึ้ ในสมัยรัชกาลที่ 2 16. พระมหากษัตรยิ ท์ ่ที รงใหค้ วามสนใจและทานุบารุงพระพุทธศาสนามากที่สดุ ในสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ คอื รชั กาลท่ี 3 17. ในสมยั รชั กาลที่ 2 ผลงานทางด้านวรรณกรรมได้รบั การสนบั สนุนและส่งเสริมเปน็ อนั มากจนได้รับการยก ยอ่ งว่าเป็นยคุ ทองของ วรรณคดไี ทย 18. กวที ีไ่ ดร้ ับการยกย่องมากท่สี ดุ ในสมยั รัชกาลท่ี 2 คอื สนุ ทรภู่ 20. ศนู ย์กลางการศกึ ษาในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ อยทู่ ่ี วดั พระเชตพุ ลวิมลมังคลาราม 21. ชาวตะวนั ตกท่นี าการศกึ ษาแบบใหม่เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยสมยั รชั กาลท่ี 3 คอื พวก มชิ ชนั นารี 22. ผทู้ น่ี าความเจรญิ ดา้ นการแพทย์และการพมิ พ์มาสู่ประเทศไทยเปน็ คร้งั แรก คือ หมอบรดั เลย์ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศึกษาขั้นพน้ื ฐาน 89 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาช้ีแจง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดบั คะแนน ลา ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจในการ ความรบั ผดิ ชอบ ความตรงต่อเวลา ความสะอาด ผลสาเรจ็ ของงาน รวม ดบั (ผูร้ ับการประเมิน) ทางาน 4321 4321 เรยี บรอ้ ย 4321 20 ท่ี 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน (นายจริ พล ลวิ า) ............../.................../................ แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 90 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18-20 ดมี าก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรงุ ตา่ กวา่ 10 แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน 91 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม คาช้แี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลา ชื่อ-สกลุ ความตง้ั ใจในการ ความรบั ผดิ ชอบ ความตรงตอ่ เวลา ความสะอาด ผลสาเรจ็ ของงาน รวม ดบั (ผู้รบั การประเมนิ ) ทางาน 4321 4321 เรยี บรอ้ ย 4321 20 ที่ 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน (นายจิรพล ลวิ า) ............../.................../................ แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 92 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18-20 ดมี าก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรงุ ตา่ กวา่ 10 แผนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศึกษาขัน้ พื้นฐาน 93 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะอนั รายการประเมิน ระดับคะแนน พงึ ประสงคด์ ้าน 4 3 21 1. รกั ชาติ 1.1 ยืนตรงเมอ่ื ได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบาย ศาสน์ กษัตริย์ ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นสทิ ธิและหนา้ ที่ของพลเมืองดี 1.3 ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจในการทากจิ กรรมกบั สมาชิกใน โรงเรียนและชุมชน 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมและมีสว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมทีส่ รา้ งความ สามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม ช่ืนชมความเป็นชาติไทย 1.5 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนเองนับถอื อยา่ งสมา่ เสมอเป็น แบบอย่างที่ดีของศาสนกิ ชน 1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี กยี่ วขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามที่ โรงเรียนและชมุ ชนจดั ขึ้น ชนื่ ชมในพระราชกรณียกจิ พระปรชี า สามารถของพระมหากษัตรยิ ์และพระราชวงศ์ 2. ซ่ือสตั ย์สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถกู ตอ้ งและเปน็ จริง 3. มวี นิ ยั 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ท่ถี กู ต้อง ละอายและเกรงกลัวทีจ่ ะกระทา รบั ผิดชอบ ความผิด ทาตามสัญญาท่ีตนได้ใหไ้ ว้กบั เพ่อื น พ่อแม่ หรือ ผู้ปกครองและครู เป็นแบบอย่างที่ดดี ้านความซอ่ื สตั ย์ 2.3 ปฏบิ ัติต่อผูอ้ น่ื ด้วยความซอ่ื ตรงไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ไม่ ถูกต้องและเป็นแบบอย่างท่ดี แี ก่เพือ่ นมนุษย์ดา้ นความซอ่ื สตั ย์ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บงั คบั ของ ครอบครวั และโรงเรียน ไม่ละเมิดสิทธขิ องผู้อ่ืน ตรงต่อเวลาใน การปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆในชวี ิตประจาวนั และรับผดิ ชอบต่อการ ทางาน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่าง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สง่ิ ของเคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ ง พอเพยี ง ประหยัด คุม้ ค่า และเก็บรกั ษาดแุ ลอยา่ งดแี ละใช้เวลาอย่าง เหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนร่วมอยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า และเก็บรักษา แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศึกษาขั้นพื้นฐาน 94 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 คณุ ลักษณะอัน รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 พงึ ประสงคด์ า้ น 432 ดูแลอยา่ งดี 6. มงุ่ มน่ั ในการ 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล ทางาน 7. รักความเป็น 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไม่ทาใหผ้ ู้อน่ื เดือดร้อน พร้อมให้อภยั ไทย เม่ือผู้อ่นื กระทาผิดพลาด 8. มีจิต 5.5 วางแผนการเรียนและการทางานใชช้ วี ิตประจาวนั บนพ้นื ฐาน สาธารณะ ของความรู้ ข้อมูลข่าวสาร 5.6 รเู้ ท่าทันการเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และ สภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรับตวั อยู่รว่ มกับผอู้ นื่ ได้อย่างมีความสุข 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ผปู้ กครองและครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ช่วยทา และแบง่ ปนั ส่งิ ของและช่วย แกป้ ัญหาให้ผู้อื่น 8.3 ดแู ลรักษาทรพั ย์สนิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณะประโยชนข์ อง โรงเรียนและชมุ ชน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ (นายจิรพล ลิวา) ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ............../.................../................ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้งั ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศึกษาข้นั พื้นฐาน 95 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 บนั ทกึ หลงั แผนการสอน ผลการจดั การเรียนรู้ ประเดน็ ด้านความรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ การประเมนิ ผลตามผลการเรยี นรู้ ร้อยละของนักเรียนทผี่ ่านการประเมนิ รอ้ ยละของนักเรยี นทไี่ ม่ผา่ นการประเมนิ ปญั หาทพ่ี บ แนวทางการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา ลงชือ่ ................................................. ( นายจิรพล ลิวา ) ผูส้ อน  เห็นควรให้ชั้นแผนการจัดการเรียนรู้  เหน็ ควรปรบั ปรงุ แก้ไข.......................................................................................................... ลงชื่อ................................................. ( นางปวีณา ฑียาพงศ์ ) หัวหน้ากลุม่ สาระสงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม  เห็นควรใหช้ น้ั แผนการจดั การเรียนรู้  เห็นควรปรบั ปรุงแกไ้ ข.......................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (นางกญั ญารัตน์ สาระพันธ์ ) หัวหน้ากลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ  เห็นควรให้ชั้นแผนการจัดการเรียนรู้  เห็นควรปรับปรุงแก้ไข.......................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (นางจิราพร รัตนกุล ) ผอู้ านวยการโรงเรียนสตรปี ากพนงั แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 | ภาคเรียนที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน 96 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 รหัสวิชา ส23105 แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษาฯ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที 3 รายวิชา ประวัติศาสตร์ฯ ปีการศึกษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เวลา 7 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ งพัฒนาการทาง เวลา 2 ชัว่ โมง วันที่ ........... ประวตั ศิ าสตร์ไทยสมัย ปี พ.ศ. 256…. รัตนโกสินทรต์ อนต้น เรื่อง บทบาทของ พระมหากษตั ริย์ในราชวงศ์จักรี ตอ่ ความม่ันคงและความ เจริญรุง่ เรอื งของชาติ เดอื น.......................... มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวัด มาตรฐานท่ี ส 4.3เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและ ธารงความเป็นไทย ตวั ชีว้ ัด ส 4.3 ม 3/2 วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยในสมัย รตั นโกสนิ ทร์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.3 ร้แู ละเขา้ ใจเรื่องของบทบาทของพระมหากษัตรยิ ์ไทยในการพฒั นาประเทศ 1.4 รูแ้ ละเข้าใจเกี่ยวกับตัวอย่างของผลงานการพฒั นาประเทศของพระมหากษัตรยิ ์ไทยในสมัย รัตนโกสินทร์ 2. ดา้ นทักษะกระบวนการ 2.1 สามารถอธิบายบทบาทของการพัฒนาประเทศของพระมหากษัตริย์ไทยในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ได้ 2.2 สามารถใช้กระบวนการทางประวัติศาสตรป์ ัจจยั และผล ของการพัฒนาประเทศชาติให้ รุ่งเรืองของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยได้ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3.1 มวี นิ ยั 3.2 ใฝเ่ รียนรู้ 3.3 ม่งุ ม่นั ในการทางาน แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน 97 กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 3.4 รักความเปน็ ไทย สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด บทบาทของพระมหากษัตรยิ ในราชวงศ์จักรใี นการการสรา้ งสรรค์ความเจริญและความม่ันคงของชาติ สาระการเรียนรู้ 1. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2.1 บทบาทของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยในราชวงศจ์ กั รีในการสร้างสรรคค์ วามเจริญและความ มนั่ คงของชาติ 2. สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ - ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการส่อื สาร : พดู และบอกพฒั นาการของไทย  ความสามารถในการคิด 1. ทักษะการคดิ กว้าง : ใช้เหตกุ ารณท์ างประวัตศิ าสตร์เปน็ บทเรยี นแกต่ นเอง 2. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล : อธิบายสาเหตุและผลของเหตกุ ารณ์ประวัติศาสตร์  ความสารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คุณลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามหลักสูตรแกนกลางข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551  รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซอ่ื สตั ย์สุจริต  มุง่ มนั่ ในการทางาน  มีวนิ ยั  รักความเป็นไทย  ใฝเ่ รยี นรู้  มจี ิตสาธารณะ คาขวญั โรงเรียน  เรียนดี  ประพฤตดิ ี  ฝีมอื เดน่  เป็นงาน ด้านการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน  การอา่ น  การคิดวเิ คราะห์  การเขียน บรู ณาการกบั หลักการเรยี นในศตวรรษที่ 21 (นักเรียนได้เรียนรูส้ อดคล้องกับหลักการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี 21) Reading Writing Globalization อา่ นงานเขยี นทางประวัติศาสตร์ เขียนงานทางประวตั ศิ าสตร์ (สมยั ศึกษาหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ ได้ รัตนโกสินทรต์ อนตน้ ) ผา่ น อ่ืน ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั พฒั นาการ กระบวนการทางประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ ทางประวัตศิ าสตรข์ อง รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ ได้ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

สาระและมาตรฐานการเรยี นรกู้ ารศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน 98 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 Reading Writing Globalization Critical Thinking & Problem Solving (ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และ ทักษะการในการแกไ้ ขปญั หา) Creativity & Innovation (การคิดเชงิ สรา้ งสรรค์) Collaboration , Teamwork & Leadership (การทางานรว่ มและยอมรบั ฟังความคดิ เห็นจากผอู้ ่นื ) Cross – Cultural Understanding (ยอมรับความหลากหลายและความแตกต่างทางวฒั นธรรม) Communication , Information & Media Literacy (กลา้ ซกั ถามและแสดงความคดิ เห็นในการเรียน) Computing & Media Literacy (สามารถใชท้ ักษะด้านสารสนเทศประกอบการเรียนรู้ได)้ Career & Learning Self-Reliance (มคี วามรู้เขา้ ใจและคน้ คว้าเพ่มิ เติมเกยี่ วกับเร่อื งทีเ่ รียน) Change (สร้างทศั นคตใิ หม่ในการเรยี นรายวชิ าประวตั ิศาสตรใ์ ห้น่าสนใจมากขึน้ ) Learning Leadership Historical Method Presentation & Lecture บทบาทของพระมหากษตั ริย์ไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ ตอนต้น บรู ณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (นกั เรียนได้เรยี นรอู้ ยูอ่ ย่างพอเพยี งจากการเรียนรทู้ บ่ี ูรณาการหลักปรญั ชาของเศรษฐกิจพอเพียง) พอประมาณ มีเหตุผล สรา้ งภูมิคุ้มกัน นกั เรยี นแบ่งเวลาวา่ งเพิม่ เติมมาใช้ นกั เรยี นใชเ้ หตผุ ลในการเรียน และ นกั เรียนมคี วามรแู้ ละความเข้าใจ ในการเรียนรู้ด้วยตนเองนอก นาหลกั การของเหตุผลไปใช้ในการ ของบทบาทและผลงานของ ห้องเรยี น คน้ หาความจรงิ ของประวัตศิ าสตร์ พระมหากษตั ริยไ์ ทยในการพัฒนา ตามหลักวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ประเทศเพื่อเปน็ แบบอย่างในการ บาเพญ็ ตนให้เป็นประโยชน์แก่ สงั คม ความรู้ (นกั เรียนมีความรใู้ นเร่ืองบทบาทของพระมหากษัตรยิ ์ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเปน็ อย่างดี) คุณธรรม (นกั เรยี นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมัน่ ในการทางาน มีวินยั ในการจัดระบบการเรียนด้วยตนเอง) การบูรณาการฯ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โรงเรยี นคุ้มครองเด็กระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน - ใชก้ ระบวนศึกษาวิเคราะหผ์ ู้เรยี นเป็นรายบุคคลเพื่อ ทาความเขา้ ใจนกั เรยี นและแกไ้ ขข้อบกพร่อง ทางการเรียนรขู้ องนกั เรียนได้ ตลอดจนจดั ทา แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 | ภาคเรียนที่ 1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook