ก. การพฒั นาระบบชลประทาน ข. การประหารชีวิตผ้กู ระทำผิด ค. การใชเ้ ศรษฐกิจแบบทุนนยิ ม ง. การกำหนดปฏิทนิ การทำงานให้แก่ประชาชน 2. ข้อใดเป็นผลมาจากการประดิษฐต์ ัวอกั ษรของอารยธรรมโบราณ ก. ระบบโทรทศั น์วงจรปิด ข. การส่ือสารกันดว้ ยอีเมล ค. การแข่งขันกฬี าโอลิมปกิ ง. ระบบโทรศพั ทร์ ะหว่างประเทศ 3. การขอหวยจากต้นไม้ของคนไทย สะท้อนถงึ ความเชือ่ โบราณเรอ่ื งใด ก. ต้นไม้ให้ประโยชนต์ ่อมนษุ ย์ไดท้ กุ เรือ่ ง ข. หวา่ นพืชต้องหวังผล เป็นคนตอ้ งหมน่ั ขวนขวาย ค. มีเทพเจา้ หรือวิญญาณในส่ิงตา่ งๆ ตามธรรมชาติ ง. ส่ิงตา่ งๆ ในธรรมชาตสิ ามารถพยากรณเ์ หตุการณ์ล่วงหนา้ ได้ 4. อารยธรรมเมโสโปเตเมียด้านใด มอี ทิ ธิพลต่อมนุษยใ์ นปัจจบุ ันมากที่สดุ ก. ระบบการคา้ ข. ระบบเวลา ค. ระบบกฎหมาย ง. ระบบชลประทาน 5. เหตุใดบรเิ วณเมโสโปเตเมยี จงึ มีกลมุ่ ชนตา่ งๆ เข้ามาสร้างอารยธรรมจำนวนมาก ก. เพราะมีทรพั ยากรทสี่ ่งเสริมการสรา้ งอารยธรรม ข. เพราะตอ้ งอยู่บนเสน้ ทางคมนาคมในสมัยโบราณ ค. เพราะเปน็ พนื้ ที่ราบที่สะดวกต่อการเขา้ ยึดครองของชนกลุ่มต่างๆ ง. เพราะมีชนกลมุ่ ตา่ งๆ เข้ามาอาศยั ตงั้ ถ่นิ ฐานอยู่บริเวณสองฝ่งั แมน่ ้ำ 6. ความเช่อื ของอยี ปิ ต์ในเรอื่ งใด ท่ีมีอทิ ธิพลตอ่ ความเชือ่ ของมนุษย์ในเวลาต่อมา ก. ชีวติ หลังความตาย ข. มีเทพเจ้าประจำเมอื ง ค. ชีวติ อมตะไม่มวี ันตาย ง. มีเทพเจา้ ในธรรมชาติ 85
7. พรี ะมิดแสดงถงึ ความเจริญด้านใดของอารยธรรมอียิปต์ ก. ความเชือ่ ข. การปกครอง ค. ภูมิศาสตร์ ง. สถาปัตยกรรม 8. การทำมัมมข่ี องอียปิ ตแ์ สดงถึงความเจริญของอารยธรรมอยี ปิ ตใ์ นดา้ นใด ก. สงิ่ ทอ ข. การแพทย์ ค. ความเชอื่ ง. ประตมิ ากรรม 9. สถาปัตยกรรมของอารยธรรมกรกี ในเรอ่ื งใด ทมี่ ีอิทธพิ ลตอ่ สถาปตั ยกรรมในปัจจบุ ัน ก. การสร้างอาคารยกพ้ืนสงู ข. การป้ันรปู ผชู้ ายเปลือยกาย ค. การสร้างหลงั คามงุ อาคาร ง. การใช้เสาและคานรบั น้ำหนกั อาคาร 10. เหตุใดจงึ ถอื ว่ากรีกเป็นประเทศประชาธิปไตยแหง่ แรกของโลก ก. ประชาชนมเี สรีภาพในการปกครองตนเอง ข. มกี ารออกกฎหมายตามความตอ้ งการของประชาชน ค. มีการเลือกตั้งผู้นำของตนจากตัวแทนของนครรฐั ต่างๆ ง. ประชาชนมีสทิ ธเิ ลอื กต้งั และเปน็ ผปู้ กครองจากการเลือกตงั้ 11. ความเชอื่ เรือ่ งอาณัตสิ วรรคส์ ง่ ผลตอ่ ชาวจนี อย่างไร ก. เกดิ การลกุ ฮอื ของประชาชนขึน้ ล้มลา้ งราชวงศ์เดิมตง้ั ราชวงศ์ใหม่ ข. ชาวจีนขาดความกระตือรือร้นเพราะรอความช่วยเหลือจากสวรรค์ ค. ชาวจีนอยู่อย่างสันติสุขเพราะทุกคนยอมรับผ้ปู กครองที่สวรรค์เลอื กให้ ง. เกิดการเลือกผ้นู ำดว้ ยวธิ ีการเส่ียงทาย เพ่ือท่ีจะได้ผนู้ ำตามท่ีสวรรค์ต้องการ 12. ลทั ธิขงจื๊อให้ความสำคญั ในเรอื่ งใด 86
ก. การค้า ข. การศกึ ษา ค. การเขา้ รบั ราชการ ง. การสรา้ งครอบครวั 13. อารยธรรมจนี ด้านใดท่สี ง่ ผลต่อการพฒั นาด้านการทหารของมนุษย์ ก. ประดษิ ฐ์ดินปนื ข. การใชไ้ ฟฟ้าทำลายขา้ ศึก ค. การสร้างกำแพงปอ้ งกันขา้ ศกึ ง. การประดษิ ฐ์อาวุธโจมตีระยะไกล 14. อารยธรรมล่มุ แมน่ ้ำสนิ ธุมคี วามสมั พนั ธก์ ับอารยธรรมอนิ เดยี อยา่ งไร ก. อารยธรรมลุม่ แม่น้ำสินธุอยู่ใกลก้ บั อารยธรรมอินเดีย ข. อารยธรรมลุ่มแมน่ ้ำสินธุเป็นต้นแบบของอารยธรรมอินเดยี ค. อารยธรรมล่มุ แม่น้ำสนิ ธุกับอารยธรรมอนิ เดยี มีความเจรญิ แบบเดยี วกัน ง . อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ สินธมุ ีการแลกเปลีย่ นอารยธรรมกบั อารยธรรมอินเดีย 15. ระบบวรรณะในอารยธรรมอนิ เดียแสดงถงึ ความเชื่อในเร่ืองใด ก. มนษุ ย์ไม่สามารถเปล่ียนแปลงสถานภาพของคนได้ ข. คนผิวขาวมีความเจรญิ ทางอารยธรรมมากกว่าคนผวิ ดำ ค. มนษุ ยเ์ กิดมามีฐานะไม่เทา่ กนั เพราะผลกรรมท่ที ำไว้ในอดีต ง. พระพรหมได้ลขิ ิตชะตาชวี ิตมนษุ ยไ์ ว้แล้ว จึงไม่อาจเปล่ียนแปลงได้ เฉลย 2. ข 3. ค 4. ข 5. ค 7. ง 8. ข 9. ง 10. ง 1. ก 12. ข 13. ก 14. ข 15. ค 6. ก 11. ก 87
88
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 6 ช่วั โมง ประวตั ศิ าสตรส์ ากล หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 อารยธรรมของโลกยุคโบราณ เรือ่ ง อารยธรรมสำคัญของโลกตะวนั ตก สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด อารยธรรมสำคัญของโลกมักเริ่มต้นบริเวณลุ่มแม่น้ำ แต่ละอารยธรรมต่างมีลักษณะเฉพาะของตนเอง และมีอทิ ธพิ ลตอ่ อารยธรรมและความเจรญิ ของมนุษย์ในยคุ ต่อมา ตวั ชว้ี ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตัวชวี้ ัด ส 4.2 ม.4-6/1 วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ต่อระหวา่ งโลกตะวันออก กับโลกตะวันตกทมี่ ีผลตอ่ พฒั นาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายลักษณะทางภมู ิศาสตร์ทม่ี ีอิทธพิ ลตอ่ การสรา้ งสรรค์อารยธรรมของโลกตะวันตกได้ 2. สรปุ พฒั นาการของอารยธรรมโลกตะวนั ตกได้ 3. วเิ คราะห์อิทธพิ ลของอารยธรรมโลกตะวนั ตกทม่ี ตี ่อโลกปจั จุบันได้ สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง อารยธรรมของโลกยุคโบราณ ได้แก่ - อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ ไทกรสิ -ยเู ฟรทสี ไนล์ หวางเหอ สนิ ธุ และอารยธรรมกรีกโรมนั 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน - 87
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ - ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการแก้ปญั หา 4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต - กระบวนการทำงานกล่มุ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ (วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนิค การจัดทีมแขง่ ขนั ) นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ช่ัวโมงที่ 1-2 1. ให้นักเรียนทบทวนขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์โดยซักถามนักเรียนในแต่ละข้ันตอน เพื่อเตรียม ความพร้อมของนักเรียนในการนำวธิ ีการทางประวัติศาสตร์มาใช้ในการศึกษาแหล่งอารยธรรม ของโลก ตะวนั ออกและอารยธรรมของโลกตะวนั ตก 2. ครูแสดงแผนที่โลก แล้วตั้งคำถามให้นักเรียนบอกแหล่งอารยธรรมสำคัญของโลกต้ังอยู่ท่ีใดบ้าง นกั เรียนตอบพร้อมชแ้ี ผนทปี่ ระกอบ 3. ครตู ั้งคำถามใหน้ กั เรียนช่วยกันวิเคราะหว์ า่ มปี ัจจยั ใดบา้ งท่ีสนับสนุนการสรา้ งอารยธรรมแหล่งนนั้ ๆ 4. ให้นกั เรยี นดภู าพอารยธรรมโบราณ ครซู กั ถามนกั เรยี นด้วยคำถามว่า เป็นรปู อะไร ทำไมจงึ เปน็ เช่นน้ัน (รปู ภาพ แผนท่ี ตอ้ งมคี วามสอดคล้องกัน) 5. นกั เรียนปรึกษาหารอื กนั ในเรอ่ื งเกีย่ วกับภาพว่า ลกั ษณะภมู ศิ าสตร์ ภมู ิประเทศมีความสมั พันธก์ ับการ เกิดอารยธรรมอยา่ งไร 88
6. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ศึกษาหาข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการค้นคว้าเก่ียวกับอารยธรรม โบราณ พร้อมกับนำเสนอรายช่ือหนงั สอื แหลง่ ค้นควา้ ใหเ้ พื่อนฟงั นกั เรยี นคนอืน่ ซักถามขอ้ สงสยั 7. นักเรียนแจกขอ้ มลู เกี่ยวกบั แหลง่ อารยธรรมใหเ้ พื่อนกลมุ่ อ่ืนทราบ 8. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันวิเคราะหว์ า่ หลกั ฐานทนี่ ำมาใช้ในการศกึ ษามคี วามน่าเชอ่ื ถือหรือไม่ อย่างไร แลว้ รว่ มกันอภิปรายในกลุ่มของตน 9. ครูและนักเรยี นช่วยกันสรุปปัจจยั ทางภูมศิ าสตรก์ ับการเกดิ อารยธรรม ชั่วโมงท่ี 3 1. ครูแสดงแผนท่ีทแ่ี สดงแหลง่ อารยธรรมเมโสโปเตเมียให้นกั เรยี นดู แลว้ ซักถามนักเรยี นวา่ แหล่งอารยธรรมอย่บู ริเวณใดไดบ้ า้ ง ให้นักเรียนบอกพรอ้ มช้แี ผนทป่ี ระกอบ 2. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาเรื่อง ปจั จัยทางภมู ศิ าสตร์กบั การตั้งถน่ิ ฐานในบรเิ วณลุ่มนำ้ ไทกริส- ยเู ฟรทีส จากหนงั สอื เรยี น และหนังสืออา่ นประกอบท่ีครเู ตรยี มไว้ให้ 3. ครูส่มุ เรียกนักเรยี นบางกลุ่มออกมาสรปุ สาระสำคัญให้เพ่อื นกลุ่มอืน่ ฟงั และเปิดโอกาสใหซ้ กั ถามข้อ สงสัย 4. นักเรยี นกลุ่มเดมิ ศกึ ษาเน้อื หาเพมิ่ เติม ในประเด็นต่อไปนี้ - มีกลมุ่ คนใดบ้างท่ีเข้ามาอาศัยอยูบ่ ริเวณน้ี - แตล่ ะกลุม่ มีลักษณะเดน่ เรื่องใด - พวกเขาเหลา่ นี้สร้างอารยธรรมใดให้กับโลกปัจจุบัน 5. ใหแ้ ต่ละกลุ่มนำเร่ืองทีต่ นศึกษามาเล่าให้เพอื่ นกลุม่ อนื่ ฟัง ครูคอยซกั ถามและอธิบายเพม่ิ เติม 6. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเน้ือหาของอารยธรรมเมโสโปเตเมยี ชั่วโมงที่ 4-5 1. ครูใหน้ กั เรยี นดวู ดี ิทัศน์เร่ือง Prince of Egypt แล้วซกั ถามนกั เรียนถึงแหล่งทต่ี ั้งของอารยธรรม อยี ิปต์ 2. ครูสมุ่ เรยี กนกั เรยี นให้วเิ คราะห์ปจั จยั ทางภูมศิ าสตร์กับการสร้างอารยธรรมของอยี ิปตว์ า่ มี อะไรบา้ ง ครอู ธิบายสรุปเพิม่ เตมิ 3. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ศกึ ษาเพิม่ เตมิ จากหนังสอื เรียนในประเดน็ ท่กี ำหนด ดงั นี้ - อารยธรรมอยี ิปต์แบง่ เป็นเรอื่ งใดบ้าง 89
- เปรยี บเทียบอารยธรรมอยี ิปตก์ บั อารยธรรมเมโสโปเตเมีย เหมือนหรือต่างกัน อย่างไรบา้ ง 4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอความรู้เกี่ยวกบั อารยธรรมอยี ิปต์ แล้วนำเสนอครูผู้สอน 5. ครตู รวจผลงานนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ แกไ้ ขข้อผิดพลาด อธบิ ายเพิ่มเตมิ ในส่ิงท่ีนักเรยี นไม่เข้าใจ แลว้ นำ ผลงานติดป้ายนเิ ทศในชน้ั เรยี น 6. ครนู ำภาพเกี่ยวกับอารยธรรมกรกี ใหน้ กั เรียนดู สอบถามความรูเ้ กยี่ วกบั ภาพวา่ เปน็ อารยธรรมใด ตั้งอยทู่ ใี่ ด ใหน้ กั เรียนออกมาช้แี ผนทป่ี ระกอบ 7. นกั เรยี นชว่ ยกนั วิเคราะหถ์ งึ ทีต่ ้งั กบั ปัจจยั ทางภมู ิศาสตรว์ ่ามีอิทธิพลตอ่ การตัง้ ถน่ิ ฐานของชาวกรีก อย่างไร ครซู กั ถามและอธิบายเพม่ิ เติม 8. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ แลว้ ช่วยกันตงั้ คำถามและหา คำตอบเกยี่ วกับอารยธรรมกรกี จากหนงั สอื เรยี น กลุ่มละ 10 ขอ้ แลว้ นำมาให้ครูตรวจสอบความ ถกู ตอ้ ง 9. ครูส่งคำถามคำตอบคนื ให้สมาชิกในกลุ่มจบั คกู่ ันซักถามคำถามคำตอบ และแลกเปล่ยี นความรกู้ ับ กล่มุ อืน่ เพอ่ื เตรียมตัวในการแขง่ ขนั ตอบปัญหา 10. ครจู บั เวลาขณะอา่ นคำถามใหน้ ักเรยี นตอบลงในกระดาษคำตอบท่เี ตรยี มไว้ (ตอบเป็นกลุ่ม) 11. ให้แตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนออกมาตอบคำถามครั้งละ 1 คน (ทุกคนไดต้ อบคำถามเท่ากนั ) 12. นักเรยี นตรวจคำตอบของเพ่อื นจากเฉลยของครู ถ้าตอบถูกได้ 1 คะแนน แต่ถา้ ตอบผิดได้ 0 คะแนน 13. ครูนำคะแนนของแต่ละคนท่ตี อบคำถามมารวมเป็นคะแนนกลุ่ม กลุม่ ใดไดค้ ะแนนสูงสดุ ครูกล่าว ชมเชย แลว้ นำคะแนนตดิ ประกาศท่ีป้ายนิเทศ 14. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความร้เู ก่ยี วกับอารยธรรมกรีก ช่ัวโมงที่ 6 1. ใหน้ กั เรยี นชมวดี ทิ ศั น์เกย่ี วกบั อาณาจกั รโรมนั แล้วใหน้ กั เรยี นชี้แผนที่อาณาจักรโรมันพรอ้ มทงั้ สรุป ความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการชมภาพยนตร์ 2. ให้นกั เรยี นวิเคราะหป์ ัจจยั ทางภูมิศาสตรข์ องอาณาจักรโรมนั วา่ มอี ะไรบ้าง แตกต่างจากปัจจยั ทาง ภูมศิ าสตร์ของกรกี อยา่ งไร 3. นักเรียนศึกษาอารยธรรมโรมนั จากส่ือทคี่ รูเตรียมไวใ้ ห้ เช่น แผน่ พับ เอกสารประกอบการเรยี น การต์ นู เป็นตน้ แล้วให้นกั เรียนสรปุ เรอ่ื งท่รี ลู้ งในใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง อารยธรรมตะวันตก 4. ให้นักเรียนจดั อภิปรายกล่มุ ย่อยในประเด็นทวี่ า่ อารยธรรมโรมันมีอิทธพิ ลตอ่ อารยธรรมตะวันตกจรงิ หรอื ไม่ 90
5. นกั เรียนอภปิ รายตามประเดน็ ท่ีกำหนด โดยครคู อยใหค้ วามชว่ ยเหลอื ใหก้ ารอภิปรายตรงประเด็นและ ไดส้ าระความรู้ 6. ให้แต่ละกลุ่มสรปุ บันทึก และนำเสนอผลการอภิปรายเพ่อื แลกเปลยี่ นความรู้กบั เพอื่ นรว่ มชนั้ 7. ครูและนักเรียนช่วยกนั สรปุ ความรู้ทไี่ ดจ้ ากเนอื้ หา การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์ นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นกั เรียนทำใบงานที่ 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ใบงานที่ 1.1 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกล่มุ ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน ประวัติศาสตร์สากล ม.4-ม.6 2. แผนท่โี ลก / แผนทแี่ หลง่ อารยธรรมเมโสโปเตเมยี 3. วีดทิ ัศน์ เรอื่ ง Prince of Egypt 4. วดี ิทัศน์เก่ยี วกบั อาณาจักรโรมนั 5. ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง อารยธรรมตะวนั ตก 6. google classroom 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ หรอื ห้องสมุดประชาชน 2. สำนักหอสมดุ แห่งชาติ 3. ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. google classroom 91
บนั ทึกผลหลงั การสอน ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ญั หา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ….………………………………ผูส้ อน ( นางสุชาดา ประมขุ ) ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นสตรีปากพนงั เหน็ ควรให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เห็นควรปรับปรุงแก้ไข ........................................................................................................................................ ลงช่อื ................................................. ( นายจิรพล ลิวา ) หวั หนา้ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เหน็ ควรใหใ้ ช้แผนการจัดการเรยี นรู้ 92
เหน็ ควรปรับปรงุ แกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงชอื่ .............................................. ( นางกญั ญารัตน์ สาระพนั ธ์ ) หัวหนา้ กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ เหน็ ควรใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ เหน็ ควรปรับปรุงแก้ไข ........................................................................................................................................ ลงชอื่ ................................................. ( นางจริ าพร รัตนกลุ ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นสตรีปากพนัง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล ลำดับ ช่ือ – มีความตั้งใจ มคี วาม ความสะอาด ผลสำเร็จ รวม ท่ี สกุล ในการ รับผิดชอบ ตรงตอ่ เวลา เรียบร้อย ของงาน 20 ทำงาน คะแนน 43214321432143214321 93
เกณฑ์การใหค้ ะแนน = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง = ปรบั ปรงุ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครงั้ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรงุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ลำดับ ชอ่ื – ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟัง การตงั้ ใจ การรว่ ม รวม ท่ี สกุล 4321 ความคิดเห็น ความคดิ เหน็ ทำงาน ปรบั ปรุง 20 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 4321 4321 94
เกณฑ์การใหค้ ะแนน = ดมี าก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง = ปรับปรุงให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรบั ปรุง ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง อารยธรรมตะวนั ตก คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นสรปุ อารยธรรมตะวันตกท่ีสนใจ 1 อารยธรรม พรอ้ มยกตัวอยา่ งมรดก ทางวฒั นธรรมทีป่ รากฏ และวาดภาพประกอบ อารยธรรม 95
ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง อารยธรรมตะวนั ตก คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรุปอารยธรรมตะวันตกทส่ี นใจ 1 อารยธรรม พร้อมยกตัวอย่างมรดก ทางวัฒนธรรมท่ปี รากฏ และวาดภาพประกอบ อารยธรรม 96
เฉลยตามคาตอบของนักเรียน โดยอย่ใู นดุลยพินิจของครูผ้สู อน 97
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 6 ชัว่ โมง ประวตั ิศาสตร์สากล หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 อารยธรรมของโลกยุคโบราณ เรอ่ื ง อารยธรรมสำคัญของโลกตะวันออก สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด โลกตะวันออก เปน็ แหลง่ ทม่ี ีความเจรญิ ทางอารยธรรมมายาวนาน โดยเฉพาะอารยธรรมด้านศาสนา อารยธรรมบางอยา่ งไดถ้ ่ายทอดให้กับดินแดนใกล้เคียงและโลกตะวนั ตก ดังนน้ั การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันตก และโลกตะวนั ออกจงึ มผี ลต่อการพฒั นาและการเปลีย่ นแปลงของโลก ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1ตัวชว้ี ัด ส 4.2 ม.4-6/1 วิเคราะห์อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ต่อระหวา่ งโลก ตะวันออกกบั โลกตะวนั ตกที่มีผลตอ่ พฒั นาการและการเปลย่ี นแปลง ของโลก 2.2จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายลกั ษณะทางภมู ศิ าสตรท์ ม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การสร้างสรรค์อารยธรรมของโลกตะวันออก 2. สรุปพฒั นาการของอารยธรรมโลกตะวนั ออกได้ 3. วเิ คราะห์อทิ ธิพลของอารยธรรมโลกตะวันออกทม่ี ีตอ่ โลกปจั จบุ ันได้ 4. วิเคราะห์อทิ ธพิ ลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก ท่ีมีผลต่อพฒั นาการและการเปล่ียนแปลงของโลก สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1. อารยธรรมของโลกยคุ โบราณ ไดแ้ ก่ - อารยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ ไทกรสิ -ยเู ฟรทีส ไนล์ หวางเหอ สินธุ และอารยธรรมกรกี โรมัน 2. การติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก และอิทธพิ ลทางวัฒนธรรมทม่ี ตี อ่ กัน และกนั 96
3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น - สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดสรา้ งสรรค์ - ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการทำงานกลุม่ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ กลุ่มสืบคน้ ) ชัว่ โมงท่ี 1-2 1. ครูแจกจกิ ซอวภ์ าพกำแพงเมืองจนี ใหน้ ักเรยี นคนละ 1 ชน้ิ แล้วใหน้ ักเรียนนำแตล่ ะช้ินมาตอ่ ให้ เป็นภาพ และบอกชอ่ื แหล่งอารยธรรมจนี พรอ้ มท้ังชีใ้ นแผนทปี่ ระกอบ 2. ให้นักเรยี นช่วยกันวเิ คราะหว์ ่า อารยธรรมจีน มีความเกี่ยวข้องกบั ปจั จัยทางภมู ศิ าสตรด์ ้วยหรอื ไม่ อย่างไร ครใู ช้คำถามนำในการซักถาม 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ให้แต่ละกลมุ่ ศกึ ษาเรือ่ ง อารยธรรมจนี จากหนงั สือเรียน แล้วครตู ั้งคำถามนำเพ่ือ การศึกษา เชน่ - อารยธรรมจนี เก่ียวข้องกบั เรื่องใด - อารยธรรมจนี มคี วามเจริญก้าวหนา้ กวา่ อารยธรรมอืน่ ๆในเร่อื งใด - อารยธรรมจีนแพร่หลายไปยงั บริเวณใกล้เคียงไดอ้ ยา่ งไร 97
- ไทยรบั อารยธรรมจนี ในเร่อื งใดบ้าง 4. นักเรียนรวบรวมความเจริญของอารยธรรมจีนออกมาเป็นข้อๆ ครูซักถามแล้วเขียนข้ึนกระดาน ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มเลือกศึกษา ดังน้ี - การเมอื งการปกครอง - เศรษฐกิจ - สงั คมวัฒนธรรม - ศิลปกรรม - วิทยาการ - การถ่ายทอดอารยธรรม 5. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมาเสนอผลงานที่ไดศ้ กึ ษาในรปู แบบที่ตนเองสนใจ 6. ครฉู ายวดี ิทศั นเ์ กี่ยวกบั อารยธรรมลมุ่ แม่นำ้ หวางเหอ ใหน้ ักเรยี นชม เพ่ือสรปุ ความร้เู ก่ียวกับ อารยธรรมจนี ชวั่ โมงที่ 3-4 1. ใหน้ ักเรียนดูภาพซากเมอื งโบราณในอินเดยี (ฮารบั ปา โมเฮนโจดาโร) แลว้ ให้นกั เรียนวเิ คราะห์วา่ ภาพ ให้ความร้นู กั เรยี นในเรื่องใดบ้าง 2. ครตู งั้ คำถามถามนักเรียนว่า อารยธรรมอินเดียทน่ี ักเรียนรู้จักมอี ะไรบ้าง นกั เรยี นตอบและครู อธิบายเพ่ิมเตมิ 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม คละกันตามความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับสลาก เลอื กหัวขอ้ ดังนี้ - การเมอื งการปกครอง - เศรษฐกิจ - สงั คมวฒั นธรรม - ศลิ ปกรรม - วิทยาการ - การถา่ ยทอดอารยธรรมอินเดยี 4. ให้แต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าในห้องสมดุ ศนู ยค์ ้นควา้ ทางอินเทอรเ์ นต็ หรอื ชอ่ งทางอื่น แลว้ จัดทำ เปน็ โครงงานสำรวจอารยธรรมอินเดยี 5. ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ นำเสนอผลงานการศกึ ษาท่หี ลากหลาย ครแู ละนักเรยี นซกั ถามข้อสงสัย ครอู ธบิ าย เพม่ิ เติม 6. นักเรียนกลมุ่ เดิมหาภาพเก่ยี วกบั อารยธรรมอินเดีย มาจดั นิทรรศการหลังหอ้ งเรยี น แล้วให้ 98
นกั เรยี นกลมุ่ อน่ื รว่ มกนั ตชิ ม และบนั ทกึ ความรู้ 7. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปความรู้เกย่ี วกบั อารยธรรมอินเดยี จากน้ันให้นักเรยี นทำใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง อารยธรรมตะวนั ออก เสร็จแลว้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบในใบงาน ช่ัวโมงที่ 5-6 1. ให้นกั เรียนช่วยกันยกตัวอย่างเหตุการณ์การตดิ ต่อระหวา่ งกนั ของโลกตะวันตกและโลกตะวนั ออก เช่น - เส้นทางสายไหม (Silk Road) - เส้นทางเครือ่ งเทศ (Spice Road) 2. ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ ให้นักเรียนทราบวา่ โลกตะวันตกและโลกตะวนั ออกมีการตดิ ตอ่ กนั มาเป็นเวลา กวา่ 2000 ปี ด้วยเหตผุ ลทางเศรษฐกิจ การทตู การสงคราม และการเผยแผ่ศาสนา การ ติดตอ่ กนั ทำใหม้ ีการแลกเปล่ียนอารยธรรมซง่ึ กนั และกัน 3. ให้นักเรยี นศึกษาความรูเ้ พิม่ เติมเกี่ยวกบั สาเหตุและรูปแบบการตดิ ต่อ จากหนงั สอื เรยี นและแหลง่ การเรียนรอู้ ื่นๆ 4. ให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างการแลกเปล่ียนอารยธรรมระหว่างโลกตะวนั ตกกบั โลกตะวนั ออก 5. ใหน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง การแลกเปล่ียนอารยธรรม ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบใน ใบงาน 6. ครูให้นักเรยี นกลุม่ เดมิ รว่ มกันวิเคราะห์อิทธิพลของอารยธรรมโบราณ และการติดต่อระหวา่ ง โลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตกท่มี ีผลต่อพฒั นาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก แลว้ บันทึก ลงในแบบบันทึกความรู้ นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ ใบงานท่ี 2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ นกั เรียนทำใบงานท่ี 2.1 ใบงานที่ 2.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2.2 นักเรียนร่วมกนั วิเคราะห์ แบบประเมนิ การบนั ทึกความรู้ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และบนั ทึกความรู้ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 99
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ทำงานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การทำงานกลุ่ม แบบทดสอบหลังเรียน ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ประวัตศิ าสตร์สากล ม.4-ม.6 2. จกิ ซอว์ภาพกำแพงเมืองจนี 3. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง อารยธรรมตะวนั ออก 4. ใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง การแลกเปลย่ี นอารยธรรม 5. google classroom 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ หรอื ห้องสมดุ ประชาชน 2. สำนกั หอสมุดแหง่ ชาติ 3. google classroom บันทึกผลหลงั การสอน ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ….………………………………ผู้สอน 100
( นางสุชาดา ประมุข ) ครชู ำนาญการพิเศษ โรงเรยี นสตรีปากพนัง เหน็ ควรให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เห็นควรปรับปรุงแกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงชอื่ ................................................. ( นายจิรพล ลิวา ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เห็นควรใหใ้ ช้แผนการจัดการเรียนรู้ เหน็ ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงชอื่ .............................................. ( นางกญั ญารัตน์ สาระพนั ธ์ ) หัวหนา้ กลุ่มงานบริหารวชิ าการ เหน็ ควรให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เห็นควรปรับปรงุ แกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงช่อื ................................................. ( นางจริ าพร รตั นกุล ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสตรีปากพนงั แบบประเมนิ การบนั ทกึ ความรู้ ลำดับท่ี รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 ประเดน็ สำคญั ในการวเิ คราะห์ 2 การวเิ คราะห์อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณ 3 การวเิ คราะห์การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออก กับโลกตะวนั ตก 101
4 ความสมบรู ณ์ของเน้ือหา รวม ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน ( ) // เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ชว่ งคะแนน 3 หมายถงึ ดี 13-16 2 หมายถึง พอใช้ 9-12 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง 5-8 1-4 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 102
ลำดับ ชือ่ – มคี วามตงั้ ใจ มีความ ความสะอาด ผลสำเร็จ รวม ท่ี สกลุ ในการ รบั ผิดชอบ ตรงต่อเวลา เรยี บร้อย ของงาน 20 ทำงาน คะแนน 43214321432143214321 เกณฑ์การให้คะแนน = ดมี าก ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั = ปรับปรงุ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 103
9 - 12 พอใช้ 5 - 8 ปรบั ปรงุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ลำดบั ช่อื – ความร่วมมือ การแสดง การรับฟงั การตง้ั ใจ การร่วม รวม ท่ี สกุล 4321 ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น ทำงาน ปรับปรุง 20 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 4321 4321 เกณฑก์ ารให้คะแนน = ดมี าก ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ = ปรับปรุงให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง 104
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรงุ ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง อารยธรรมตะวันออก คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนยกตวั อย่างความเจรญิ ทางอารยธรรมจนี และอารยธรรมอนิ เดีย พร้อมวเิ คราะหว์ า่ มีอิทธพิ ลต่อโลกปัจจุบันอย่างไร อารยธรรมจีน อารยธรรมอนิ เดีย 105
ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง อารยธรรมตะวันออก คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งความเจริญทางอารยธรรมจนี และอารยธรรมอนิ เดีย พรอ้ มวเิ คราะห์ว่า มอี ิทธิพลต่อโลกปัจจุบนั อย่างไร อารยธรรมจีน อารยธรรมอนิ เดีย 1. ปรัชญาจีน (ลัทธิขงจือ้ ) สอนให้คนในสังคม 1. พระพุทธศาสนา และศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อาศยั อย่รู ่วมกันอย่างเป็นสุข โดยทาหน้าท่ขี อง มีต้นกาเนิดมาจากประเทศอินเดยี และแผ่ขยาย ตนเอง และปฏิบัติต่อผ้อู ่ืนตามสถานภาพ ไปยังเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวนั ออก เฉียงใต้ 2. กระดาษและการพิมพ์ จีนได้ประดิษฐ์ 2.วรรณคดที ่สี าคัญ ได้แก่ มหากาพย์มหาภารตะ กระดาษและวิธีการพิมพ์ขึน้ เพื่อใช้ในการ และมหากาพย์รามายณะ ได้มอี ิทธิพลต่อ สื่อสาร ซ่ึงในปัจจุบันยงั คงใช้วิธีการพิมพ์และ วรรณกรรมของชาติต่างๆ กระดาษในการสื่อสารอยู่ แต่ได้มีการพฒั นา เทคโนโลยีให้ ทันสมัย 3. ภาษามอี ิทธิพลอย่างมากต่อประเทศในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยการรับภาษาบาลี 3. ดินปื น ชาวจีนค้นพบการใช้ประโยชน์จาก สันสกฤตมาประยกุ ต์ใช้ในการเขยี นหนังสือ ดินปื นเม่ือหลายร้อยปี ก่อน ซ่ึงมนษุ ย์ใน ปัจจบุ นั ได้นาดินปื นมาใช้ประโยชน์ในด้าน 106 ต่างๆ เช่น อาวธุ ปื น ประทัด ดอกไม้ไฟ
ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การแลกเปล่ยี นอารยธรรม คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่างและอธิบายเกีย่ วกบั การติดต่อระหวา่ งโลกตะวันตกและโลกตะวนั ออก ซ่งึ ส่งผลทำใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงทางอารยธรรม อารยธรรมท่โี ลกตะวันตกรบั จากโลกตะวันออก 107
อารยธรรมท่ีโลกตะวันออกรบั จากโลกตะวันตก ใบงานท่ี 2.2 เรื่อง การแลกเปลีย่ นอารยธรรม คำชี้แจง ให้นักเรียนยกตวั อยา่ งและอธบิ ายเกยี่ วกับการตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันตกและโลกตะวนั ออก ซึ่งสง่ ผลทำให้เกิดการเปลยี่ นแปลงทางอารยธรรม อารยธรรมที่โลกตะวันตกรับจากโลกตะวนั ออก 108
1. ดา้ นวิทยาการ เช่น ความรทู้ างด้านคณิตศาสตร์ เรขาคณิต พีชคณติ 2. ด้านปรชั ญา ศาสนา เช่น หลักปรชั ญาขงจ๊อื ที่เน้นการใช้เหตผุ ล ซึ่งไดม้ อี ทิ ธิพลตอ่ นักคดิ ยุโรป เชน่ วอลแตร์ อดมั สมธิ 3. ดา้ นประดิษฐกรรม เช่น ผ้าไหม กระดาษ ดินปืน เข็มทิศ การตอ่ เรอื การใช้หางเสือ เคร่ืองปั่นด้าย 4. ดา้ นวัฒนธรรมการดำรงชีวติ เช่น วฒั นธรรมการด่ืมชา สนิ คา้ เคร่ืองเทศ อารยธรรมทีโ่ ลกตะวนั ออกรบั จากโลกตะวันตก 1. ด้านวิทยาการ เช่น ความรู้เก่ียวกบั ตรีโกณมิติ เรขาคณิต พชี คณิต ความรทู้ างการแพทย์ เช่น การฉีด วคั ซีน การผ่าตดั การศึกษาแบบตะวันตก 2. ด้านศิลปกรรม เชน่ การป้นั หรอื แกะสลกั รูปเหมอื นมนษุ ย์ การกอ่ สรา้ งโดม ประตโู ค้ง 3. ด้านปรชั ญา ศาสนา เชน่ ปรัชญาการเมอื งต่างๆ 4. ดา้ นประดษิ ฐกรรม เชน่ รถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน รถถงั อาวธุ ปนื ระเบดิ ปรมาณู 5. ดา้ นวัฒนธรรมการดำรงชีวิต ไดแ้ ก่ การแต่งกายแบบตะวนั ตก (ใส่สูทผกู เนคไท สวมกระโปรง สวมหมวก) การรับประทานอาหารแบบตะวนั ตก (ใช้ช้อนส้อม การดม่ื กาแฟ ขนมปัง ขนมเค้ก) 109
4 ประวัตศิ าสตรส์ ากล กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลาเรียน 14 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั ส 4.2 ม.4-6/2 วเิ คราะห์เหตุการณ์สำคัญตา่ งๆ ที่ส่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงทางสงั คม เศรษฐกจิ ม.4-6/3 และการเมอื งเขา้ สโู่ ลกสมัยปัจจุบนั วเิ คราะหผ์ ลกระทบของการขยายอิทธพิ ลของประเทศในยโุ รปไปยังทวีป อเมริกา แอฟริกา และเอเชีย สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด เหตุการณ์สำคญั ในโลกตะวันตกและตะวันออก การขยายและการลา่ อาณานคิ มของประเทศในยุโรปไป ยงั ทวปี อเมริกา แอฟรกิ า และเอเชยี ส่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองเขา้ ส่โู ลกสมัย ปัจจุบนั สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1. เหตุการณ์สำคัญตา่ งๆ ท่ีส่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงของโลกในปัจจุบัน เชน่ - ระบอบศกั ดนิ าสวามภิ กั ดิ์ - สงครามครูเสด - การฟ้นื ฟูศลิ ปวทิ ยาการ - การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ - การสำรวจทางทะเล - การปฏริ ปู ศาสนา - การปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม - แนวคิดเสรนี ยิ ม แนวคิดจักรวรรดินยิ ม แนวคดิ ชาตนิ ิยม 2. การขยาย การล่าอาณานคิ ม และผลกระทบ 3. ความรว่ มมอื และความขัดแยง้ ของมนุษยชาติในโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 20 108
3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ - สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ - ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ 4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - กระบวนการทำงานกลุ่ม - กระบวนการปฏิบตั ิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การทำแผน่ พับเกย่ี วกบั เหตุการณส์ ำคัญทางประวตั ิศาสตร์ทีม่ ผี ลต่อโลกปัจจุบนั การวดั และการประเมนิ ผล 7.1การประเมินก่อนเรยี น - นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 7.2การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ระบอบฟิวดัล 2. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง สงครามครเู สด 3. ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ลัทธเิ สรนี ิยม จักรวรรดนิ ิยม ชาตินยิ ม และสังคมนยิ ม 4. ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ความขดั แยง้ ระหวา่ งประเทศ 5. ใบงานที่ 3.2 เรอื่ ง ความร่วมมอื ระหว่างประเทศ 109
6. สังเกตการนำเสนอผลงานที่หนา้ ชั้น 7. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 7.3การประเมนิ หลังเรยี น - นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน / ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ แผน่ พับเหตกุ ารณส์ ำคัญทางประวัตศิ าสตร์ทมี่ ผี ลตอ่ โลกปจั จบุ นั 110
การประเมินชิ้นงาน / ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินแผ่นพับเหตกุ ารณ์สำคญั ทางประวตั ศิ าสตรท์ ี่มผี ลต่อโลกปัจจุบนั รายการประเมิน ดมี าก (4) คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรับปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การวิเคราะห์ เขียนวิเคราะหเ์ หตุการณ์ เขยี นวิเคราะห์ เขียนวเิ คราะห์ เขยี นวิเคราะห์ เหตุการณ์สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ทมี่ ผี ล เหตุการณท์ าง เหตุการณ์ทาง เหตุการณท์ าง ทางประวัตศิ าสตร์ ตอ่ โลกปัจจุบนั ได้ถกู ต้อง ประวตั ิศาสตร์ทมี่ ผี ลตอ่ ประวัตศิ าสตรท์ ี่มีผล ประวัติศาสตรท์ ่ีมผี ล ท่มี ผี ลตอ่ โลก ชดั เจน และครบถ้วน โลกปจั จุบันได้ถูกต้อง ต่อโลกปจั จุบนั ได้ ตอ่ โลกปจั จุบนั ไดบ้ าง ปจั จบุ นั ทกุ ประเด็น ชดั เจนเปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้อง แต่มีความ ประเดน็ และมคี วาม และครบทกุ ประเด็น บกพร่องบางประเด็น บกพรอ่ งมาก 2. การวิเคราะห์ อธิบายผลกระทบของการ อธิบายผลกระทบของ อธิบายผลกระทบของ อธบิ ายผลกระทบของ ผลกระทบของ ขยายอทิ ธพิ ลของประเทศ การขยายอิทธิพลของ การขยายอทิ ธิพลของ การขยายอิทธิพลของ การขยายอิทธพิ ล ในยุโรปไปยงั ทวปี ตา่ งๆ ประเทศในยุโรปไปยัง ประเทศในยโุ รปไปยงั ประเทศในยุโรปไปยงั ของประเทศในยุโรป ไดอ้ ย่างชัดเจนมเี หตผุ ล ทวปี ตา่ งๆ ไดอ้ ย่าง ทวปี ต่างๆ ไดอ้ ย่าง ทวีปต่างๆ ไม่ชัดเจน เหมาะสม ชดั เจนมีเหตผุ ล ชดั เจนมีเหตุผลเป็น มเี หตผุ ลเป็นบาง เหมาะสมเป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น ประเดน็ 3. การเรียบเรียง เรยี บเรียงเน้ือหาไดด้ ี เรียบเรยี งเนอื้ หาได้ดี เรยี บเรยี งเนอื้ หาได้ดี เรียบเรียงเนอ้ื หาไดไ้ ม่ เนือ้ หา มาก มคี วามสละสลวย เปน็ ส่วนใหญ่ ใชภ้ าษา เปน็ บางตอน แตม่ ี ดี อา่ นเข้าใจยาก ใช้ภาษาได้เหมาะสม ได้เหมาะสม เขา้ ใจงา่ ย ความบกพรอ่ งในการ เข้าใจงา่ ย ใชค้ ำในการสอื่ สาร 4. รปู แบบ รปู แบบมีความสวยงาม รูปแบบมคี วามสวยงาม รปู แบบมีความ รูปแบบไมส่ วยงาม ดึงดดู ความสนใจไดด้ ี ดึงดดู ความสนใจ สวยงาม แต่ไมม่ ี ไมม่ ีความสรา้ งสรรค์ มีความสร้างสรรค์ มคี วามสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ และเป็นรูปแบบทพ่ี บ แปลกใหม่ แปลกใหม่ ไดท้ ว่ั ไป ชว่ งคะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ 14-16 ระดบั คุณภาพ ดมี าก 111
11-13 ดี 8-10 พอใช้ 5-7 ปรบั ปรงุ กจิ กรรมการเรียนรู้ • นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กิจกรรมท่ี 1 เหตกุ ารณส์ ำคัญในสมยั กลาง เวลา 4 ชั่วโมง วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการคิดวิเคราะห์, กระบวนการกล่มุ 1. ครูเปดิ วดี ิทศั นเ์ กี่ยวกับสงครามครเู สด หรือระบอบฟิวดัลให้นกั เรียนชม ภายหลงั ชมเสร็จแลว้ ครูต้งั คำถามเพอื่ กระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์ 2. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเปน็ 4 กลุ่ม และให้สมาชกิ กลุม่ เลอื กประธาน รองประธาน เลขานุการ เพ่ือศกึ ษาเก่ยี วกบั ระบอบฟิวดัลและสงครามครเู สด จากหนงั สอื เรยี น และแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ 3. ใหท้ กุ กลุ่มส่งตวั แทนออกมาจบั สลากหวั ข้อทจ่ี ะทำการศึกษาคน้ คว้า กลุ่มละ 1 หวั ขอ้ 4. ทุกกลุ่มประชุมเพ่อื ระดมสมองสรุปเหตกุ ารณว์ างแผนศกึ ษาค้นคว้าตามหัวข้อทีก่ ลุ่มของตนได้รับ 5. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอหน้าช้นั เรียน โดยเรม่ิ ต้ังแต่กลุ่มที่ 1- 4 6. ครูใหน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ระบอบฟวิ ดลั และใบงานที่ 1.2 เร่อื ง สงครามครูเสด 7. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ สาระสำคญั เกย่ี วกบั ระบอบฟิวดลั และสงครามครูเสด 8. ครูเลา่ ประวตั ิของฟรนั เซสโก เปตรากา ชาวอิตาเลยี น ผู้ท่ีมีชีวติ อยใู่ นสมยั ทม่ี ีการฟ้ืนฟศู ลิ ป วทิ ยาการ ใหน้ ักเรยี นฟัง 9. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เร่ือง การฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการ จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อ่ืนๆ เพ่มิ เตมิ โดยครูกำหนดประเด็นการศึกษา 10. นกั เรียนและครสู รุปความรู้เก่ยี วกับการฟน้ื ฟูศลิ ปะวิทยาการ 112
กิจกรรมที่ 2 เหตกุ ารณส์ ำคัญในสมัยใหม่ - ปัจจุบนั วิธีสอนแบบบรรยาย เวลา 6 ชั่วโมง วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม 1. ครูนำภาพเจ้าชายเฮนรี ราชนาวิก คริสโตเฟอร์ โคลมั บสั เฟอรด์ ินานด์ แมกเจลแลน มาให้นักเรยี นดู แล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบในประเดน็ คำถาม 2. นักเรยี นแบ่งเปน็ 4 กลมุ่ สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มเลอื กประธาน รองประธาน เลขานุการ แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากหัวขอ้ ครชู ีแ้ จงใหท้ ุกกล่มุ ทราบวา่ เมือ่ แต่ละกลุ่ม ได้รับหวั ขอ้ ไปแลว้ ใหไ้ ปศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูลจากหนงั สอื เรยี นและแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 3. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ เตรียมความพรอ้ ม 5 นาที จากน้ันเร่ิมจากกลุ่มท่ี 1-4 ตามลำดบั 4. นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ สาระสำคญั เกย่ี วกบั การสำรวจทางทะเล การปฏริ ปู ศาสนา การปฏวิ ตั ิ ทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิวัติอตุ สาหกรรมเพื่อเป็นการทบทวนความรู้ 5. ครูนำวดี ทิ ศั นเ์ ก่ยี วกับการปฏวิ ัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 มาให้นักเรยี นชม ภายหลังการชมวีดทิ ัศน์ ครตู ั้งคำถามแล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ 6. ครูอธบิ ายใหน้ กั เรียนเข้าใจวา่ การปฏิวัติฝร่งั เศส ค.ศ. 1789 เพอ่ื ล้มล้างการปกครองระบอบ สมบรู ณาญาสิทธริ าชย์ 7. ครูใหน้ ักเรียนศึกษาเกี่ยวกับลัทธเิ สรีนิยม ลัทธิจักรวรรดนิ ิยม ลทั ธชิ าตินิยม และลทั ธสิ ังคมนิยม จากหนงั สอื เรยี น 8. ใหน้ ักเรยี นภายในห้องจบั คูก่ ัน และทำใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง ลัทธเิ สรีนยิ ม จักรวรรดนิ ิยม ชาตินยิ ม และสงั คมนยิ ม 9. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปสาระสำคัญเก่ียวกับลัทธิเสรีนิยม จักรวรรดินิยม ชาตินิยม และ สังคมนยิ ม ความรว่ มมือและความขัดแยง้ ของมนุษยชาติในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 20 - ปจั จบุ นั กจิ กรรมที่ 3 วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม, เวลา 4 ชั่วโมง กระบวนการคิดวิเคราะห์ 1. ครูนำวดี ทิ ศั นเ์ กี่ยวกบั สงครามโลกคร้งั ที่ 1 หรือสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 มาให้นกั เรียนชม แลว้ ครตู ง้ั 113
คำถามเพ่อื กระต้นุ ให้นักเรียนคดิ วิเคราะห์ 2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปถึงความขัดแย้งของมนษุ ยชาตนิ ับตงั้ แต่อดีตจนถึงปจั จบุ นั ครูแบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม คละกันตามความสามารถ ให้ตัวแทนกลุ่มออกมาจับสลากหมายเลข กลุ่มเพ่ือศกึ ษาในหวั ขอ้ ท่กี ำหนด 3. ครูใหน้ ักเรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากหนังสือเรยี นและแหลง่ การเรียนร้อู ่ืนๆ 4. ครูสนทนากบั นกั เรียนถงึ ความพรอ้ มในการคน้ หาข้อมลู ตามท่คี รูมอบหมาย โดยซกั ถามถึงวิธีการหา ขอ้ มลู และการแบง่ หน้าที่กันรบั ผดิ ชอบภายในกลุ่ม 5. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น โดยกลมุ่ อ่นื แสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเตมิ 6. นักเรียนและครูร่วมกันประเมนิ การนำเสนอผลงานของกลุ่มต่างๆ จากนัน้ ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำ ผลงานไปจดั ท่ปี ้ายนิเทศหน้าชนั้ เรยี น 7. ให้นักเรียนกลุ่มเดมิ ทำใบงานท่ี 3.1 เรื่อง ความขัดแยง้ ระหวา่ งประเทศ 8. ครูนำบตั รคำเก่ียวกับอักษรยอ่ ขององคก์ ารต่างๆ เช่น UN EU NATO OPEC APEC WTO UNESCO ASEAN เปน็ ตน้ มาใหน้ ักเรียนดู แล้วต้ังคำถามถามให้นกั เรยี นตอบ 9. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 6 คน จากน้ันใหจ้ ับค่กู นั เปน็ 3 คู่ โดยแตล่ ะคู่รบั ผิดชอบศึกษาค้นคว้า ตามหวั ข้อท่ีกำหนดให้ 10. ครสู นทนากับนกั เรียนในกลุม่ ถึงความพรอ้ มของแตล่ ะคใู่ นการสบื ค้นข้อมลู เกี่ยวกับความรว่ มมอื ของมนุษยชาตทิ ี่กำหนดให้ 11. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะค่ผู ลดั กนั เล่าเรอื่ งรอบวงในหวั ข้อทต่ี นได้รบั มอบหมายให้เพอ่ื นฟงั จนทกุ คนมี ความเข้าใจเนื้อหาสาระสำคญั ท้ังหมด 12. ให้แต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันวเิ คราะหเ์ ก่ียวกบั ความรว่ มมอื ของมนุษยชาติลงในใบงานท่ี 3.2 เร่ือง ความร่วมมือระหวา่ งประเทศ 13. ใหน้ ักเรยี นทำแผน่ พับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตรท์ ีม่ ผี ลต่อโลกปัจจุบัน นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น ประวัตศิ าสตร์สากล ม.4-ม.6 2. วดี ทิ ศั น์เก่ียวกบั สงครามครูเสด หรอื ระบอบฟวิ ดัล 3. วดี ทิ ศั นเ์ กี่ยวกบั การปฏิวัตฝิ รั่งเศส ค.ศ. 1789 4. วดี ทิ ัศนเ์ ก่ียวกบั สงครามโลกครงั้ ท่ี 1-2 5. เอกสารเพมิ่ เตมิ สำหรับครู 114
6. ใบงาน 7. google classroom 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. สำนักหอสมุดแห่งชาติ 3. ราชบัณฑิตยสถาน 4. หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ 5. google classroom แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพยี งคำตอบเดยี ว 1. ในระบอบฟิวดลั บคุ คลใดเป็นผู้ทีม่ ฐี านะสงู ทีส่ ุดและต่ำท่ีสุด ก. ขุนนาง-อัศวนิ ข. กษตั ริย์-ขนุ นาง ค. กษตั ริย์-ชาวนาและทาสติดทีด่ ิน ง. ขุนนาง-ชาวนาและทาสตดิ ท่ีดิน 2. ข้อใดเปน็ สาเหตทุ ่ีทำใหร้ ะบอบฟวิ ดัลเสอื่ มอำนาจลงในสังคมยโุ รป ก. เกิดสงครามครเู สด ข. ขุนนางแย่งชิงอำนาจกนั เองภายใน ค. ชาวนาและทาสติดทดี่ นิ พากนั ประท้วง 115
ง. กษตั ริยส์ ่ังยุบอำนาจและดูแลขุนนางและราษฎรโดยตรง 3. เหตุใดชาวครสิ ตแ์ ละชาวมสุ ลิมจึงตอ้ งทำสงครามแยง่ ชิงดินแดนปาเลสไตน์ ก. เป็นเมืองทา่ ท่ีเหมาะแก่การค้าขาย ข. เปน็ เมอื งทีม่ อี ำนาจมากทสี่ ุดในยโุ รป ค. เปน็ เมืองทม่ี ีทรพั ยากรธรรมชาตอิ ุดมสมบรู ณ์ ง. เป็นดินแดนศักดิส์ ิทธิ์โดยเปน็ ทป่ี ระสูติของพระเยซู 4. สงครามครเู สดส่งผลต่อยโุ รปหลายประการ ยกเวน้ ข้อใด ก. ทำลายระบอบฟิวดลั ข. เกิดการปฏิรปู ศาสนา ค. เกดิ การฟนื้ ตัวทางการคา้ ง. เกิดการแลกเปลยี่ นศิลปวิทยาการ 5. ภาพโมนา ลซิ า เป็นผลงานของศลิ ปนิ คนใด ก. ราฟาเอล ข. มาซักซิโอ ค. ไมเคิล แองเจโล ง. ลีโอนารโ์ ด ดา วนิ ชี 6. ข้อใด ไม่ได้ มีสว่ นสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การสำรวจทางทะเล ก. ผลประโยชนท์ างการค้า ข. การอปุ ถมั ภข์ องกษตั ริย์ ค. องคก์ รครสิ ตศาสนจักร ง. ความเจริญก้าวหนา้ ทางวทิ ยาการ 7. ขอ้ ใดคือผลงานสำคัญของครสิ โตเฟอร์ โคลมั บัส ก. การค้นพบทวีปอเมริกา ข. การค้นพบทวีปออสเตรเลยี ค. การเดินเรือรอบโลกเปน็ ครงั้ แรก ง. การเดินทางมาถึงอินเดยี เปน็ คร้งั แรก 8. ข้อใดเป็นผลของการสำรวจทางทะเลดา้ นสังคม ก. การผกู ขาดการคา้ เครือ่ งเทศ ข. เกิดการปฏวิ ตั ิทางนิเวศวทิ ยา 116
ค. การทำลายวฒั นธรรมพน้ื เมืองในพนื้ ท่ีตา่ งๆ ง. การยึดครองดินแดนต่างๆ ในทวีปอเมริกาใต้และเอเชยี 9. เหตุผลของการปฏริ ูปศาสนาในขอ้ ใดท่ีแตกตา่ งจากขอ้ อน่ื ก. การแยกออกเปน็ นิกายอังกฤษ ข. การปฏริ ูปศาสนาของพวกอูเกอโน ค. การปฏริ ปู ศาสนาของมาร์ตนิ ลูเทอร์ ง. การปฏิรูปศาสนาของจอห์น คาลวนิ 10. การปฏริ ปู ศาสนาส่งผลตอ่ โลกปัจจุบันอยา่ งไร ก. กษตั รยิ ม์ อี ำนาจสูงสุดแต่ผเู้ ดยี ว ข. การมเี สรีภาพในการนับถือศาสนา ค. นกั บวชไม่มีอิทธพิ ลตอ่ ชาวยโุ รปอีกต่อไป ง. นกิ ายโรมันคาทอลกิ เป็นนกิ ายทางศาสนาทดี่ ีท่ีสุดในโลก 11. ผ้คู น้ พบทฤษฎีสุรยิ จักรวาลคือใคร ก. เรอเน เดสก์ ารต์ ส์ ข. โจฮนั เนส เคปเลอร์ ค. กาลิเลโอ กาลิเลอิ ง. นิโคลัส โคเปอรน์ ิคสั 12. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ผลของลัทธจิ ักรวรรดนิ ิยมทม่ี ตี อ่ ดนิ แดนต่างๆ ที่ตกเป็นอาณานคิ ม ก. การบังคับให้ปลกู พชื เศรษฐกิจ ข. การถกู ปกครองอย่างกดขข่ี ่มเหง ค. การบงั คับให้นบั ถือคริสต์ศาสนา ง. การได้รับอิทธพิ ลของวฒั นธรรมตะวนั ตก 13. ลัทธจิ กั รวรรดนิ ิยมในช่วงคริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 มจี ุดประสงคห์ ลกั เพ่อื อะไร ก. ตอ้ งการขยายอำนาจ ข. ตอ้ งการตลาดค้าขาย ค. ต้องการสนิ คา้ แปลกใหม่ 117
ง. ต้องการแสวงหาโชคลาภ 14. ข้อใด ไมใ่ ช่ วธิ ีการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ก. ปลูกต้นไม้ใหม้ าก ข. ใชถ้ ุงพลาสติกรไี ซเคลิ ค. ขบั รถในการเดนิ ทางอยู่เสมอ ง. ปดิ เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ เม่อื ไม่ใช้งาน 15. หากน้ำมันมีราคาสงู ขึน้ บุคคลใดท่ไี ดร้ ับผลประโยชนม์ ากทสี่ ุด ก. ประชาชน ข. บรษิ ัทขนส่ง ค. บรษิ ทั ผลิตสินคา้ ง. ประเทศผู้ผลิตนำ้ มนั เฉลย 2. ก 3. ง 4. ข 5. ง 7. ก 8. ค 9. ก 10. ข 1. ค 12. ค 13. ก 14. ค 15. ง 6. ค 11. ง 118
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลา 4 ช่ัวโมง ประวตั ิศาสตรส์ ากล หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เหตกุ ารณ์สำคัญทางประวตั ศิ าสตร์ทีม่ ผี ลตอ่ โลกปัจจบุ นั เรื่อง เหตุการณ์สำคญั ในสมัยกลาง สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด ระบอบการปกครองแบบฟวิ ดัลหรือระบอบศกั ดินาสวามภิ กั ดิ์ อำนาจท่ีแท้จรงิ ตกอยใู่ นมอื ของขุนนาง ตามแวน่ แควน้ และคริสตจกั รได้มอี ิทธิพลทางจติ ใจของชาวยโุ รป จนกระท่งั เกดิ สงครามครูเสดขนึ้ ทำให้อำนาจ ของขุนนาง ลดลงและกษตั ริย์มีอำนาจมากข้นึ จนสามารถสถาปนารัฐประชาชาตไิ ด้สำเร็จ ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1ตวั ชวี้ ดั ส 4.2 ม.4-6/2 วเิ คราะหเ์ หตุการณ์สำคญั ต่างๆ ที่สง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งเข้าสูโ่ ลกสมยั ปจั จุบนั 2.2จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สรุปเหตุการณ์ของระบอบฟวิ ดัลและสงครามครูเสดได้ 2. วิเคราะหเ์ หตุการณ์และผลกระทบของระบอบฟวิ ดัลและสงครามครูเสดได้ 3. สรปุ เหตกุ ารณ์เกี่ยวกบั การฟน้ื ฟศู ลิ ปวทิ ยาการได้ 4. วิเคราะห์เหตุการณ์เก่ยี วกับการฟนื้ ฟศู ลิ ปวิทยาการได้ สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง เหตุการณ์สำคญั ตา่ งๆ ที่สง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของโลกในปัจจบุ ัน เชน่ - ระบอบศกั ดนิ าสวามิภักดิ์ - สงครามครูเสด - การฟนื้ ฟูศลิ ปวิทยาการ 3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ - 119
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 4.2 ความสามารถในการแกป้ ัญหา - กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - กระบวนการทำงานกลุม่ - กระบวนการปฏบิ ตั ิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ (วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม) • นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 ชั่วโมงท่ี 1-2 1. ครูเปดิ วีดิทัศน์เกย่ี วกบั สงครามครเู สด หรอื ระบอบฟิวดลั ให้นักเรยี นชม ภายหลงั ชมเสร็จแลว้ ครูต้ังคำถามเพอ่ื กระต้นุ ให้นักเรยี นเกดิ การคิดวิเคราะหว์ า่ - เป็นเหตุการณใ์ ด - เกดิ ขึน้ ในช่วงเวลาใด - ส่งผลสำคญั ตอ่ โลกปัจจบุ นั อยา่ งไร 2. เม่อื นกั เรียนตอบแล้ว ครจู งึ เฉลยคำตอบแล้วอธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่าระบอบฟิวดัลและสงคราม ครเู สดเป็นเหตุการณส์ ำคัญทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสมยั กลางท่ีสง่ ผลต่อวิถชี ีวิตของชาวยโุ รปท้ังด้าน การเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรม โดยระบอบฟิวดลั เป็นการปกครองแบบกระจายอำนาจ ทอี่ ำนาจอยทู่ ข่ี นุ นางมิใช่กษัตรยิ ์ ประชาชนสว่ นใหญ่เป็นทาสตดิ ทดี่ นิ และดำรงชวี ิตอยู่ในเขต 120
แมเนอร์ของขนุ นาง จนกระท่งั เกิดสงครามครเู สด ทำใหร้ ะบอบฟวิ ดัลถกู ทำลายลงมกี าร แลกเปลีย่ นวทิ ยาการตา่ งๆ ระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม และให้สมาชิกกลุ่มเลือกประธาน รองประธาน เลขานุการ เพื่อศึกษา เก่ยี วกบั ระบอบฟวิ ดัลและสงครามครูเสด จากหนังสือเรียน และแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ 4. ให้ทกุ กล่มุ ส่งตัวแทนออกมาจับสลากหวั ข้อทจ่ี ะทำการศกึ ษาคน้ ควา้ กลมุ่ ละ 1 หวั ข้อ ดังนี้ - กล่มุ ที่ 1 ระบอบฟวิ ดัล - กลุ่มท่ี 2 ระบบเศรษฐกจิ แบบแมเนอร์ - กลุ่มที่ 3 สาเหตขุ องสงครามครูเสด - กล่มุ ท่ี 4 ผลของสงครามครเู สด 5. ทุกกลุ่มประชมุ เพอ่ื ระดมสมองวางแผนศึกษาค้นคว้าตามหวั ขอ้ ท่ีกล่มุ ของตนได้รับ 6. ครนู ัดหมายใหท้ กุ กลมุ่ เตรยี มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี นในช่ัวโมงต่อไป ชั่วโมงท่ี 3 1. ให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอหนา้ ชั้นเรยี น โดยเร่มิ ตั้งแตก่ ล่มุ ท่ี 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดบั เมอื่ แต่ละกล่มุ นำเสนอเสร็จแลว้ เปิดโอกาสให้กลุ่มอนื่ ซักถามขอ้ สงสยั และอธิบาย จนเข้าใจ จากนั้นครคู ดั เลือกผลงานท่ดี ีทส่ี ดุ ไปตดิ ทีป่ า้ ยนิเทศของชนั้ เรียน 2. ครูแจกใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ระบอบฟิวดลั และใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง สงครามครูเสด ให้นกั เรียนทำ เสรจ็ แลว้ ครูและนกั เรียนชว่ ยกันเฉลยคำตอบ 3. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปสาระสำคัญเกย่ี วกับระบอบฟิวดัลและสงครามครเู สด ช่ัวโมงท่ี 4 1. ครเู ลา่ ถงึ ประวัติของฟรนั เซสโก เปตรากา ชาวอติ าเลียน ผู้ที่มีชีวิตอย่ใู นสมัยทม่ี ีการฟ้นื ฟูศลิ ป วทิ ยาการ ใหน้ กั เรียนฟงั แล้วให้นกั เรียนช่วยกันยกตวั อย่างผลงานสำคญั ท่ีทำให้เขาเปน็ ทีร่ ้จู กั ของคนทวั่ โลก 2. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการ จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ เพมิ่ เตมิ โดยครกู ำหนดประเด็นการศึกษา ดงั นี้ - สาเหตขุ องการฟื้นฟศู ิลปวิทยาการ - ลักษณะของการฟ้ืนฟศู ิลปวทิ ยาการ - มรดกทางวัฒนธรรม 3. ใหน้ ักเรียนรว่ มกันสรุปประเด็นความรู้ โดยครคู อยอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ในสว่ นท่ีบกพร่อง 4. นกั เรยี นและครูชว่ ยกนั สรปุ ความรู้เกย่ี วกบั การฟ้นื ฟศู ลิ ปวทิ ยาการ 121
การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นกั เรยี นทำใบงานท่ี 1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 1.2 ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ใบงานที่ 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ทำงานรายบุคคล สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ การทำงานกลมุ่ สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น ประวตั ิศาสตรส์ ากล ม.4-ม.6 2. วีดทิ ศั นเ์ กยี่ วกบั สงครามครเู สด หรือระบอบฟวิ ดลั 3. เอกสารเพ่มิ เติมสำหรบั ครู 4. ใบงานที่ 1.1 เร่ือง ระบอบฟวิ ดลั 5. ใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง สงครามครเู สด 6. google classroom 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. ห้องสมดุ หรือหอ้ งสมดุ ประชาชน 2. สำนกั หอสมุดแหง่ ชาติ 3. ราชบณั ฑติ ยสถาน 122
4. หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ 5. google classroom บันทกึ ผลหลังการสอน ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ัญหา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ….………………………………ผสู้ อน ( นางสุชาดา ประมุข ) ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นสตรปี ากพนัง เห็นควรใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เห็นควรปรบั ปรุงแกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงชื่อ................................................. 123
( นายจิรพล ลิวา ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เห็นควรให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ เห็นควรปรับปรุงแก้ไข ........................................................................................................................................ ลงชอ่ื .............................................. ( นางกัญญารัตน์ สาระพันธ์ ) หวั หนา้ กล่มุ งานบริหารวิชาการ เหน็ ควรใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เห็นควรปรบั ปรุงแก้ไข ........................................................................................................................................ ลงชอ่ื ................................................. ( นางจริ าพร รัตนกุล ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นสตรีปากพนงั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล ลำดบั ชอื่ – มคี วามต้งั ใจ มคี วาม ความสะอาด ผลสำเร็จ รวม ท่ี สกุล ในการ รับผดิ ชอบ ตรงต่อเวลา เรียบรอ้ ย ของงาน 20 ทำงาน คะแนน 43214321432143214321 124
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั = ปรบั ปรุงให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรบั ปรุง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ลำดบั ชอ่ื – ความร่วมมอื การแสดง การรับฟัง การต้ังใจ การร่วม รวม ท่ี สกลุ ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น ทำงาน ปรบั ปรงุ 20 ผลงานกลุ่ม คะแนน 43214321432143214321 125
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง = ปรบั ปรุงให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรงุ เอกสารเพ่ิมเติมสำหรับครู เรอื่ ง สงครามครเู สด 126
สงครามครเู สดเป็นสงครามศาสนาระหวา่ งชาวคริสต์กับชาวมสุ ลิมทเี่ ข้ามายึดครองนครเยรูซาเล็ม ซ่ึง เป็นนครศกั ดิส์ ิทธ์ิทีช่ าวคริสต์พากนั ไปจารกิ แสวงบญุ มาต้ังแต่ตน้ คริสตกาล สงครามครูเสดเกดิ ขึน้ ประมาณ 8 ครัง้ เริ่มตัง้ แต่ ค.ศ. 1096-1270 (แต่ในบางความคิดเห็นอาจมีมากกวา่ นี้ถึง 10 ครงั้ ) ดังมสี าระสำคัญสรปุ ได้ ดังน้ี สงครามครเู สดคร้ังท่ี 1 เกดิ ข้นึ ระหว่าง ค.ศ. 1096-1099 ผ้ทู ่ีเข้าร่วมสงครามส่วนใหญ่เป็นขนุ นาง และประชาชน ไม่มีกษตั รยิ เ์ ขา้ ร่วมดว้ ย จงึ ไม่มแี สนยานุภาพทางการรบเท่าทค่ี วร ใช้อาวุธเท่าท่ีจะหาได้ ขาดระเบยี บวินยั และเสบยี งอาหาร ในระหว่างเดนิ ทางจงึ ล้มตายเป็นจำนวนมาก และถูกพวกเติร์กตีแตกพา่ ย ง่ายดาย ต่อมาได้มีการรวมกนั ขึ้นใหมป่ ระกอบด้วยอศั วนิ และทหารภายใต้การคมุ ทัพของเจ้าผู้ครองนครตา่ งๆ ในยุโรป จงึ มคี วามพร้อมมากกว่าทัพราษฎรในคราวแรก ในชว่ งแรก ทัพครูเสดตีได้ เมอื งตา่ งๆตามทาง รวมทัง้ เมืองอันตอิ อก (Antioch) เมอื งหลวงของซเี รยี จากนั้นจงึ มงุ่ ตรงไปยงั นครเยรซู าเลมซ่ึงขณะนนั้ ตกเปน็ ของ อียิปต์ ทัพครเู สดจงึ ตไี ดน้ ครเยรซู าเล็มเม่ือ ค.ศ. 1099 และต้ังก็อดเฟรยแ์ หง่ บยุ อนิ ยอง (Godfrey of Bouillon) ดุ๊กแห่งแควน้ ลอรเ์ รนภาคใต้เป็นกษตั รยิ ์ปกครอง สว่ นนกั รบครูเสดก็ไดแ้ ยกย้ายกนั กลับบ้าน สงครามครเู สดคร้ังท่ี 2 เกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1147-1149 หลังจากสงบศึกมาไดห้ ลายสบิ ปี พวกมสุ ลิม กย็ กทัพเขา้ มารกุ รานอกี ชาวคริสตจ์ งึ รวบรวมกองทัพข้นึ มาภายใตก้ ารนำของพระเจา้ คอนราดที่ 3 แหง่ เยอรมนี กับพระเจา้ หลุยสท์ ี่ 7 แห่งฝร่ังเศส แต่ก็ถูกพวกมุสลมิ ตีแตกพ่ายกอ่ นถงึ นครเยรูซาเล็ม ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 1187 สลุ ต่าน ซาลาดินจึงตีนครเยรซู าเล็มกลับคนื ไปได้ภายหลัง สงครามครูเสดครั้งที่ 3 เกดิ ขึ้นระหวา่ ง ค.ศ. 1189-1192 ทัพครูเสดคร้ังน้ีประกอบด้วยพระเจ้าเฟร- เดอริก บาบารอสซาแหง่ เยอรมนี (Frederick Babarossa) พระเจา้ ริชารด์ ใจสงิ ห์ (Richard the Lionhearted) พระเจ้าฟิลิป ออกสั ตัส แห่งฝร่งั เศส แตเ่ นอ่ื งจากพระเจา้ เฟรเดอรกิ ทรงจมน้ำสนิ้ พระชนม์ใน ค.ศ. 1190 สว่ น พระเจา้ ฟิลิปกับพระเจ้ารชิ ารด์ ใจสงิ หท์ รงขัดแย้งกันอยเู่ สมอ จึงไมส่ ามารถยึดนครเยรซู าเลม็ ได้ นอกจากนี้ พระเจา้ ริชารด์ ทรงมีความสัมพนั ธฉ์ นั มิตรกับสลุ ต่าน ซาลาดนิ ทั้งสองต่างยอมรบั ฝมี ือซ่ึงกนั และกัน จงึ ไดม้ ีการ เจรจาพักรบกันเปน็ ครั้งคราวโดยตา่ งฝา่ ยตา่ งรกั ษาสัจจะกนั อยา่ งเครง่ ครดั สงครามครเู สดครั้งท่ี 4 ประมาณ ค.ศ. 1202-1204 โดยสันตะปาปาอนิ โนเซนต์ที่ 3ไดร้ วบรวมพวกครู เสดให้ไปตนี ครเยรูซาเล็มกลับคนื มา แตพ่ วกครเู สดกลบั เข้าตีกรงุ คอนสแตนตโิ นเปิลและเปลย่ี นชื่อใหม่เปน็ จักรวรรดิละตนิ แห่งคอนสแตนตโิ นเปิล ใน ค.ศ. 1261 เจ้าผคู้ รองนครรัฐช่ือ ไมเคิล พาเลโอกสั ได้แยง่ กรุง คอนสแตนติโนเปิลมาจากพวกละตนิ ทำใหจ้ กั รวรรดิละตินถูกยุบสลายไป กลา่ วได้ว่าสงครามครั้งนี้ไม่ไดเ้ ปน็ การทำเพื่อศาสนาแต่เป็นการแสวงหาผลประโยชนส์ ว่ นตวั แทน สงครามครูเสดคร้ังที่ 5 ประมาณ ค.ศ. 1218-1221 สงครามคร้งั น้ี มีผู้นำเป็นกษตั รยิ ์ฮังการี ชอื่ แอนดรทู ่ี 2 ไดย้ กทัพไปรบกับพวกมสุ ลิมในอยี ิปต์ และยึดเมอื งดาเมียตตาได้ แตใ่ นทส่ี ุดกถ็ กู ยดึ กลับคืนได้ 127
สงครามครเู สดครั้งที่ 6 เกิดข้ึนระหว่าง ค.ศ. 1228-1229 ผู้นำทัพ คือ พระเจ้าเฟรเดอรกิ ท่ี 2 แห่ง จักรวรรดโิ รมันอนั ศักดิส์ ทิ ธิ์ ซึง่ ไดถ้ ูกสันตะปาปาเกรกอรีที่ 9 ขับไลอ่ อกจากศาสนจักรคาทอลกิ เพราะไม่ยอมไป รบ โดยได้มกี ารเจรจาทางการทูตกบั พวกมุสลิม สลุ ต่านอยี ิปตจ์ ึงยกราชธิดาให้อภิเษกสมรสด้วยและทำพิธี ราชาภเิ ษกให้เปน็ กษัตริย์ครองนครเยรูซาเลม็ จากนั้นพระองค์ได้เดนิ ทางกลับโดยไมต่ อ้ งทำสงคราม แต่นคร เยรซู าเล็มก็ถูกมุสลิมตกี ลับคืนไปไดอ้ ีก สงครามครูเสดคร้ังท่ี 7 ค.ศ. 1248-1254 พวกมองโกลนำโดยเจงกสิ ขา่ น ได้ขยายอทิ ธิพลท่ัวเอเชยี รวมถงึ กรงุ แบกแดด สนั ตะปาปาจึงชักชวนให้ชาวครสิ ตเ์ ดินทางไปทำสงครามกับพวกมสุ ลมิ อีก แต่ชาวยุโรป ต่างรสู้ กึ เบื่อหนา่ ยกับสงครามท่ไี ม่ใหป้ ระโยชน์มากเท่าใดนัก อย่างไรกด็ ี พระเจ้าหลุยส์ท่ี 9 แห่งฝร่ังเศสได้ รวบรวมทพั ครเู สดข้ึนและสามารถยึดเมืองดาเมยี ตตาของอยี ิปตไ์ ด้ แตย่ งั ไมท่ นั ยกทัพไปถึงกรงุ ไคโรก็ถูก กองทพั สลุ ต่านโจมตีจนต้องยอมแพ้ ส่วนพระองคถ์ กู จบั เปน็ เชลย แต่ไดร้ บั การไถ่ตวั คนื ดว้ ยเงินจำนวนมาก สงครามครเู สดคร้ังท่ี 8 ค.ศ. 1270 พระเจ้าหลุยสท์ ่ี 9 แห่งฝรง่ั เศสทรงเปน็ ผู้นำทพั อีกครัง้ แต่เมอ่ื ยก ทัพไปถึงเมืองตูนสิ ในแอฟริกาเหนอื ก็เกดิ กาฬโรคระบาด ทำใหพ้ ระองค์ทรงประชวรและสวรรคตกอ่ นทำการ รบ พวกครูเสดท่ีรอดไดเ้ ดินทางกลบั ฝรัง่ เศส สว่ นพระเจา้ เอดเวริ ์ดแห่งองั กฤษไดเ้ ดนิ ทางไปยังปาเลสไตน์แตไ่ ม่ ประสบความสำเร็จ สุดท้ายได้เดนิ ทางกลบั องั กฤษและขนึ้ เป็นกษตั ริยเ์ อดเวริ ด์ ท่ี 1 นบั เป็นการทำสงครามคร้ัง สุดทา้ ยในดนิ แดนอนั ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ กลา่ วได้ว่าความล้มเหลวของกองทพั ครเู สดเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น การขาดผู้บงั คบั บัญชาที่ มอี ำนาจสงู สุด การทะเลาะวิวาทภายในกองทัพ รวมทั้งการแสวงหาประโยชน์ สว่ นตนมากกวา่ ทำเพอ่ื ศาสนา 128
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225