Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ส23103-ประวัติศาสตร์ 4-จิรพล

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ส23103-ประวัติศาสตร์ 4-จิรพล

Published by dlit_sm037, 2021-04-07 04:05:14

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ส23103-ประวัติศาสตร์ 4-จิรพล

Search

Read the Text Version

สาระและมาตรฐานการเรยี นรูก้ ารศกึ ษาขั้นพื้นฐาน 49 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 คุณลกั ษณะอัน รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 พงึ ประสงคด์ า้ น 432 5.3 ปฏบิ ัตติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 6. มุ่งมัน่ ในการ ทางาน 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อ่นื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดือดร้อน พรอ้ มให้อภัย 7. รกั ความเป็น เม่ือผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด ไทย 5.5 วางแผนการเรยี นและการทางานใชช้ ีวิตประจาวันบนพืน้ ฐาน 8. มจี ติ ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร สาธารณะ 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสังคม และ สภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตัวอย่รู ่วมกับผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แมผ่ ปู้ กครองและครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ช่วยทา และแบง่ ปันสงิ่ ของและช่วย แกป้ ญั หาใหผ้ อู้ ่นื 8.3 ดูแลรกั ษาทรัพยส์ ินของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชนข์ อง โรงเรยี นและชุมชน เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ (นายจิรพล ลวิ า) ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ............../.................../................ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

50 พัฒนาโดย นายจริ พล ลิวา | ครชู านาญการ บันทกึ หลงั แผนการสอน ประเดน็ ผลการจัดการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ 1.1 ร้เู ข้าใจเกยี่ วกบั วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ ดา้ นทักษะกระบวนการ 2.1 สามารถนาวิธีการทางประวตั ศิ าสตรม์ าใชอ้ ยา่ ง เป็นระบบ 2.2 สามารถเสนอผลงานทางวิชาการดา้ น ประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 3.1 มวี ินัย 3.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 3.3 มุ่งม่นั ในการทางาน 3.4 รักความเป็นไทย การประเมินผลตามผลการเรียนรู้ ……………ร้อยละของนกั เรยี นที่ผา่ นการประเมิน ……………ร้อยละของนักเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นการประเมิน ปญั หาท่ีพบ แนวทางการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปญั หา ลงชอ่ื ................................................. ( นายจิรพล ลวิ า ) ผู้สอน

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน 51 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3  เห็นควรให้ชนั้ แผนการจดั การเรียนรู้  เห็นควรปรับปรุงแกไ้ ข.......................................................................................................... ลงชื่อ................................................. ( นายจิรพล ลิวา ) หวั หน้ากล่มุ สาระสงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม  เห็นควรให้ชัน้ แผนการจดั การเรยี นรู้  เหน็ ควรปรบั ปรงุ แก้ไข.......................................................................................................... ลงช่อื ................................................. (นางกญั ญารัตน์ สาระพนั ธ์ ) หวั หน้ากล่มุ งานบริหารวิชาการ  เหน็ ควรใหช้ น้ั แผนการจัดการเรียนรู้  เหน็ ควรปรบั ปรงุ แก้ไข.......................................................................................................... ลงชือ่ ................................................. (นางจริ าพร รัตนกลุ ) ผู้อานวยการโรงเรียนสตรีปากพนัง แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนที่ 1

52 พฒั นาโดย นายจริ พล ลวิ า | ครูชานาญการ รหัสวชิ า ส23105 แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษาฯ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที 3 รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ฯ ปกี ารศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เวลา 7 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 1 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื งพฒั นาการทาง เวลา 2 ช่วั โมง วนั ท่ี ........... ประวัตศิ าสตร์ไทยสมัย ปี พ.ศ. 2563 รตั นโกสินทรต์ อนตน้ เรื่อง การสถาปนาราชธานี ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลต่อความมนั่ คงและ ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง เดือน.......................... มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ัด มาตรฐานท่ี ส 4.3เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและ ธารงความเป็นไทย ตวั ช้ีวัด ส 4.3 ม 3/1 วิเคราะห์พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสินทรใ์ นดา้ นต่าง ๆ ส 4.3 ม 3/2 วิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความม่ันคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยในสมัย รัตนโกสินทร์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 รเู้ ขา้ ใจเรอื่ งของการสถาปนาราชธานี และ ปัจจัยทีส่ ่งผลต่อความเจริญรุง่ เรืองของไทยใน สมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น 2. ด้านทักษะกระบวนการ 1.1 สามารถอธบิ ายปจั จยั ทที่ าใหร้ ัตนโกสินทรต์ อนต้นเจรญิ รงุ่ เรืองได้ 1.2 สามารถใชก้ ระบวนการทางประวัติศาสตร์อธิบายผลจากการเจริญรงุ่ เรืองของรัตนโกสินทร์ ตอนต้นได้ 3. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3.1 มีวนิ ัย 3.2 ใฝ่เรยี นรู้ 3.3 มงุ่ ม่ันในการทางาน 3.4 รักความเป็นไทย

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน 53 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด ปัจจยั การก่อต้ังกรุงรตั นโกสินทร์ และปจั จยั ทีท่ าใหก้ รุงรัตนโกสินทร์มีความเจริญรุง่ เรืองและมัน่ คง สาระการเรยี นรู้ 1. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1.1 การสถาปนากรุงเทพมหานครเปน็ ราชธานีของไทย 1.2 ปัจจัยที่ส่งผลตอ่ ความม่ันคงและความเจรญิ ร่งุ เรืองของไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ 2. สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น - ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการส่อื สาร : พูด และบอกเก่ยี วกบั การก่อต้งั รัตนโกสินทร์ได้  ความสามารถในการคิด 1. ทักษะการคิดกวา้ ง : เปรียบเทยี บการก่อตัง้ รัตนโกสินทรก์ ับราชธานีอนื่ 2. ทักษะการให้เหตผุ ล : จาแนกปัจจัยท่ีทาให้รตั นโกสนิ ทรเ์ จริญร่งุ เรอื ง  ความสามารถในการแกป้ ญั หา : นาข้อคดิ จากการก่อต้ังรัตนโกสินทรไ์ ปประยกุ ต์ใช้ได้  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต : นาขอ้ คดิ จากการก่อต้งั รตั นโกสินทร์ไปประยุกต์ใชไ้ ด้  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลางข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยอู่ ย่างพอเพยี ง  ซื่อสตั ย์สุจริต  มุ่งมั่นในการทางาน  มีวินัย  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝ่เรียนรู้  มจี ติ สาธารณะ คาขวญั โรงเรยี น  เรียนดี  ประพฤตดิ ี  ฝมี ือเด่น  เปน็ งาน ดา้ นการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น  การอ่าน  การคิดวิเคราะห์  การเขียน บรู ณาการกับหลกั การเรยี นในศตวรรษท่ี 21 (นักเรียนได้เรยี นร้สู อดคล้องกับหลกั การเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21) Reading Writing Globalization อ่านงานเขยี นทางประวัติศาสตร์ เขยี นงานทางประวัตศิ าสตร์ (สมัย ศกึ ษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ รัตนโกสินทร์ตอนต้น) ผ่าน อนื่ ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกับพัฒนาการ กระบวนการทางประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ ทางประวัติศาสตร์ของ รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้นได้ Critical Thinking & Problem Solving (ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และ ทักษะการในการแก้ไขปญั หา) แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

54 พัฒนาโดย นายจริ พล ลิวา | ครูชานาญการ Reading Writing Globalization Creativity & Innovation (การคดิ เชงิ สร้างสรรค์) Collaboration , Teamwork & Leadership (การทางานร่วมและยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ จากผู้อื่น) Cross – Cultural Understanding (ยอมรับความหลากหลายและความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม) Communication , Information & Media Literacy (กลา้ ซกั ถามและแสดงความคดิ เห็นในการเรยี น) Computing & Media Literacy (สามารถใช้ทักษะดา้ นสารสนเทศประกอบการเรยี นรูไ้ ด)้ Career & Learning Self-Reliance (มคี วามรเู้ ขา้ ใจและคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ เกี่ยวกบั เรื่องทเี่ รยี น) Change (สร้างทศั นคติใหม่ในการเรยี นรายวชิ าประวัตศิ าสตรใ์ ห้นา่ สนใจมากขนึ้ ) Learning Leadership Historical Method Presentation & Lecture พัฒนาทางประวัตศิ าสตร์ของรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น บูรณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (นกั เรียนได้เรยี นร้อู ยู่อย่างพอเพียงจากการเรยี นรูท้ ่บี ูรณาการหลักปรัญชาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง) พอประมาณ มีเหตุผล สรา้ งภูมคิ มุ้ กนั นกั เรียนแบ่งเวลาว่างเพิ่มเติมมาใช้ นกั เรยี นใช้เหตุผลในการเรยี น และ นักเรียนมคี วามรู้และความเข้าใจ ในการเรยี นรู้ด้วยตนเองนอก นาหลกั การของเหตผุ ลไปใชใ้ นการ ของพฒั นาการทางประวัตศิ าสตร์ ห้องเรียน ค้นหาความจรงิ ของประวัตศิ าสตร์ ของรตั นโกสินทร์ตอนต้นมาเป็น ตามหลักวิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ บทเรียนเพื่อเตอื นสติตนเองในการ ดาเนนิ ชวี ติ ความรู้ (นักเรียนมคี วามรู้ในเรื่องพฒั นาการทางประวัติศาสตรข์ องรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้นเปน็ อย่างดี) คุณธรรม (นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน มวี นิ ัยในการจดั ระบบการเรียนด้วยตนเอง) การบรู ณาการฯ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรยี นคุ้มครองเดก็ ระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียน - ใชก้ ระบวนศึกษาวเิ คราะห์ผูเ้ รียนเป็นรายบุคคลเพือ่ ทาความเข้าใจนกั เรียนและแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งทางการ เรียนรขู้ องนักเรยี นได้ ตลอดจนจดั ทาฐานข้อมูล สว่ นตัวของนกั เรยี นเพือ่ ความสะดวกในการศกึ ษา ข้อมูลและพัฒนาผูเ้ รยี นใหไ้ ดเ้ ตม็ ศักยภาพ

สาระและมาตรฐานการเรียนร้กู ารศกึ ษาขั้นพื้นฐาน 55 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบซิปปา (CIPPA Model) ชว่ั โมงที่ 1  ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนเรื่อง “การสถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทร์” ขัน้ ท่ี 1 ทบทวนความรูเ้ ดมิ สอ่ื การเรียนรู้ 1. ภาพเหตกุ ารณ์สาคญั ทางประวัตศิ าสตร์ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นท่เี กิดข้นึ คำถำมกระตนุ้ ควำมคิด “ทาไมรัชกาลที่ 1 ตอ้ งยา้ ยเมืองหลวงจากธนบุรี มายงั รตั นโกสนิ ทร์” ขั้นตอนการเรยี นรู้ 2. ครูให้นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดโดยสุ่มนักเรยี น 3-4 คนในชน้ั เรยี น 3. ครูตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบและชมเชยนักเรียนที่ตอบได้ใกล้เคียงกับ ความเปน็ จรงิ มากทีส่ ดุ ขน้ั ที่ 2 แสวงหาความรใู้ หม่ สอ่ื การเรียนรู้ 1. ภาพเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เช่น พระบรมมหาราชวัง พระท่ีน่ัง พระตาหนัก พระบรมสาทสิ ลักษณ์ของ รชั กาลท่ี 1 ถงึ รัชกาลท่ี 3 คำถำมกระตุ้นควำมคดิ “การย้ายเมอื งหลวงในสมยั รชั กาลที่ 1 มผี ลอยา่ งไรต่อกลุ่มคนไทยในยคุ นนั้ บ้าง” ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม (เก่ง , ปานกลางค่อนข้างเก่ง , ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน , อ่อน) แล้วให้ร่วมกันหาคาอธิบายเกี่ยวกับการย้ายเมืองหลวง ของรัชกาลท่ี 1 3. ครูให้ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาอธบิ ายถึงคาตอบท่ีได้พร้อมทั้งเหตผุ ล ข้นั ท่ี 3 ศกึ ษาขอ้ มูลจากความรใู้ หมแ่ ละผสมผสานกับความรู้เดมิ สือ่ การเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทรเ์ ป็นราชธานี แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

56 พัฒนาโดย นายจิรพล ลิวา | ครชู านาญการ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงความรู้ใหม่ท่ีได้และผสมผสานกับความรู้เดิมที่มี อยู่พร้อมท้ังอธิบายสาเหตุ และปจั จัยของการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราช ธานใี นสมัย รชั กาลท่ี 1 ให้ได้ 2. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานที่ 2.1 และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ชว่ั โมงที่ 2 ขั้นท่ี 4 แลกเปลย่ี นความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม สอ่ื การเรยี นรู้ - คำถำมกระตนุ้ ควำมคดิ “ลกั ษณะการวางผังเมอื งของกรุงเทพมหานครในยุคแรกแสดงให้เห็นถึงอะไรบ้าง” ขั้นตอนการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดอยา่ งเสรี 2. ครูให้นักเรียนที่ทาใบงานที่ 2.1 เสร็จแล้ว จับคู่เพ่ือนในกลุ่มเพ่ืออธิบายตามที่ ตนเองเข้าใจ 3. ครูสุม่ เรียกตัวแทนกลมุ่ มาอธบิ ายหน้าชั้นเรียน ข้ันท่ี 5 สรุปและจัดระเบยี บความรู้ สือ่ การเรยี นรู้ 1. - ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่องปัจจัยท่ีทาให้กรุงรัตนโกสินทร์ เจรญิ รงุ่ เรืองและมน่ั คงพร้อมทัง้ ให้นกั เรยี นจดบันทกึ ลงสมดุ 2. ครูให้นักเรียนจับคู่กันและเขียนอธิบายถึงปัจจัยท่ีทาให้กรุงรัตนโกสินทร์ เจริญรงุ่ เรอื งและมั่นคงในรูปแบบของ Mind Mapping ขัน้ ที่ 6 ปฏิบัติ และ/หรอื แสดงผลงาน สอ่ื การเรยี นรู้ - ข้นั ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูสุ่มเรยี กนักเรียนตัวแทนในช้ันเรียนออกมาแสดง Mind Mapping ของตนเอง พร้อมทั้งอธิบายให้เพ่ือนในช้ันเรียนฟงั และให้เพื่อน ๆ ในช้ันเรียนร่วมกันแสดง ความคิดเหน็ เพมิ่ เติมในส่วนท่บี กพรอ่ ง (ถา้ มี)

สาระและมาตรฐานการเรยี นรูก้ ารศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน 57 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ขนั้ ท่ี 7 การประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ สือ่ การเรียนรู้ - ข้ันตอนการเรยี นรู้ 1. ครูให้นักเรียนสร้างโจทย์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับปัจจัยท่ีทาให้กรุงรัตนโกสินทร์มี ความเจริญรงุ่ เรืองและม่ันคง (สบื คน้ จากหนังสือเพิม่ เติมได้) พร้อมทั้งคาตอบ 2. นกั เรียนนางานรวบรวมสง่ ครู การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ (ประเมินตามสภาพจรงิ ) ด้านความรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ฯ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2.1 เรยี นรู้ที่ 2.1 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรรมการทางาน รายบคุ คล รายบคุ คล สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรรมการทางาน กล่มุ ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง มุง่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์ สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. ภาพหลกั ฐานทางประวัติศาสตรท์ ่ีนา่ สนใจ 2. แบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ งท่ี 1 การเทียบศกั ราช ผ่าน Google Form 3. ใบกิจกรรมท่ี 2.1 เรือ่ ง การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทรเ์ ปน็ ราชธานี ผา่ น Google Form แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

58 พัฒนาโดย นายจริ พล ลวิ า | ครูชานาญการ แหล่งเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ โรงเรียนสตรีปากพนงั 2. ห้องคอมพวิ เตอร์ฯ 3. เว็บไซต์ครูจิรพล ลิวา ผา่ น Google Application ลงชอ่ื ............................................................. (นายจิรพล ลวิ า) ผู้จัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ฯ

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน 59 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 แบบทดสอบการเรยี นเรือ่ งที่ 2.1 การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทร์เป็นราชธานี คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดียว 1. กอ่ นสมยั รตั นโกสินทร์ เปน็ สมัยของพระมหากษตั ริย์พระองคใ์ ด ก. สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช ข. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ค. สมเดจ็ พระเจ้าปราสาททอง ง. สมเดจ็ พระมหาจักรพรรดิ 2. บคุ คลใดท่ีทาให้การจลาจลในกรงุ ธนบรุ ีสงบลงได้ ก. สมเด็จเจา้ พระยามหากษัตรยิ ์ศึก ข. สมเดจ็ พระเจ้ากรุงธนบุรี ค. เจ้าพระยาสุรสงิ หนาท ง. พระยาพิชยั 3. ข้อใดไม่ใช่สาเหตขุ องการย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรไี ปยงั ฝ่ังตะวนั ออกของแมน่ ้าเจ้าพระยา ก. ฝ่ังตะวันออกมีพนื้ ท่ีกว้างขวาง ข. กรงุ ธนบรุ ีคับแคบ ค. เปน็ ชยั ภูมทิ ่ีเหมาะแก่การป้องกนั ขา้ ศึก ง. ฝ่งั ตะวนั ออกมีความงดงามมาก 4. เพราะเหตุใด รัชกาลท่ี 1 จงึ ทรงเห็นวา่ กรงุ ธนบรุ คี บั แคบไม่สามารถขยายออกไปได้อกี ก. มีน้าเซาะตลิ่งพัง ข. ต้ังอยู่ริมแมน่ า้ ค. มวี ัดขนาบสองข้าง ง. มีแมน่ า้ ไหลผ่าน 5. ขอ้ ใดไม่ใช่เหตุผลในการเลือกกรงุ เทพเปน็ ราชธานี ก. พระราชวังเดิมคับแคบ ข. ทาเลที่ต้ังมีความอุดมสมบูรณ์ ค. กรงุ เทพมหานครเป็นเมืองอกแตก ง. เปน็ ชัยภมู ทิ ดี่ ีในการป้องกนั ข้าศึก 6. ขอ้ ใดไม่ใช่ชนช้นั ปกครอง ก. สามัญชน ข. ขุนนาง ค. เชือ้ พระวงศ์ ง. พระมหากษตั รยิ ์ 7. การปกครองในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ เปน็ การปกครองแบบใด ก. ประชาธปิ ไตย ข. สมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ ค. ประธานาธิบดี ง. เผดจ็ การทหาร เฉลย 2. ก 3. ง 4. ค 5. ค 7. ข 1. ก 6. ก แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

60 พัฒนาโดย นายจิรพล ลวิ า | ครชู านาญการ ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 การสถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทรเ์ ป็นราชธานีและ พฒั นาการทางดา้ นการเมืองการปกครองของรัตนโกสินทรต์ อนตน้ คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคาภามตอ่ ไปนีใ้ หถ้ กู ตอ้ งสมบูรณ์ 1. ชอื่ เต็มของ “กรงุ รัตนโกสนิ ทร์” คืออะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. สาเหตุที่ย้ายราชธานีจากตะวันตกของแม่น้าเจ้าพระยามาที่ฝ่ังตะวันออกของแม่น้าเจ้าพระยาเพราะ เหตุใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. หนว่ ยงานราชการท่ีควบคมุ การบริหารแผ่นดินภายใต้การบงั คับบญั ชาของเสนาบดีมีกก่ี รม อะไรบ้าง และแตล่ ะหนว่ ยงานทาหนา้ ทอ่ี ยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. การปกครองส่วนภูมิภาค แบ่งการปกครองออกเป็นหวั เมืองไดแ้ ก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมและชาระข้อกฎหมายเก่า ทใ่ี ชก้ ันมาตง้ั แต่สมยั อยธุ ยาเรียกว่าอะไร และเหตใุ ดจึงเรยี กเชน่ นั้น ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน 61 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เฉลย ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทร์เปน็ ราชธานีและ พัฒนาการทางดา้ นการเมืองการปกครองของรตั นโกสินทร์ตอนตน้ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนตอบคาภามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ งสมบูรณ์ 1. ช่อื เตม็ ของ “กรุงรัตนโกสนิ ทร์” คืออะไร กรงุ เทพมหานคร อมรรตั นโกสินทร์ มหินทรายุธยามหาดิลก ภพนพรตั น์ ราชธานี บรุ รี มน์ อุดมราชนเิ วศนม์ หาสถาน อมรพมิ าน อวตารสถติ สกั กทัตติยวิษณกุ รรมประสิทธ์ิ . 2. สาเหตุที่ยา้ ยราชธานีจากตะวันตกของแม่น้าเจ้าพระยามาท่ีฝ่ังตะวันออกของแม่น้าเจ้าพระยาเพราะ เหตใุ ด ฝ่ังตะวันตกของแมน่ าเจ้าพระยา (1) ,มีความคบั แคบเรนือ่ งจากถกู ขนาบดว้ ยวัดทังสิงดา้ น ยากแกก่ ารขายพนื ที่ ( 2) ความไมเ่ หมาะสมของสภาพภมู ิประเทศ เนอื่ งจากทาเลที่ตงั ถูกนาและคลน่ื กัดเซาะตลงิ่ ไดง้ ่าย (3) ความไม่เหมาะสม ด้านยุทธศาสตร์ เนื่องจากมปี อ้ มปราการทส่ี ร้างเอาไว้ 2 ฝง่ั แม่นาเจ้าพระยา และมแี ม่นาเจ้าพระยาไหลผา่ กลางเมอื ง สว่ นพนื ท่ดี ้านตะวนั ออกเปน็ ทร่ี าบลมุ่ และกวา้ งขวางกว่า สามารถขยายออกไปได้อีกมากในอนาคต และมพี นื ทีน่ อกคู เมืองทเ่ี ปน็ ท่ลี ุ่มตา่ มนี าทว่ มในฤดูฝน การตงั คา่ ยลอ้ มกรงุ ทาได้ยาก 3. หนว่ นงานราชการท่ีควบคุมการบรหิ ารแผ่นดินภายใต้การบงั คับบญั ชาของเสนาบดมี ีกีก่ รม อะไรบ้าง และแตล่ ะหน่วยงานทาหน้าทอี่ ย่างไร มี 6 กรม ได้แก่ 1.) กรมหาดไทย (สมุหพระกลาโหม) ตาแหน่งเจ้าพระยามหาเสนา มีหน้าท่ีดูแลกิจการในราชธานี หัวเมืองฝา่ ยใต้ทังกจิ การทหารและพลเรือน ใช้ตราคชสหี ์เปน็ ตราประจาตาแหนง่ 2.) กรมกลาโหม มสี มหุ นายก ตาแหน่งไม่แน่นอน มีหน้าที่ดแู ลกิจการฝ่ายพลเรือนหัวเมืองฝ่ายเหนือ ใช้ตราราชสีห์ เปน็ ตราประจาตาแหน่ง 3.) กรมเวียง กรมเมอื งหรือนครบาลเสนาบดี คือ เจ้าพระยายมราช มีหนา้ ทดี่ ูแลความสงบ เรียบร้อยภายในราชธานี ใช้ตราพระยมทรงสิงห์เป็นตราประจาตาแหน่ง 4.) กรมวัง หรือธรรมธิกรณ์ เสนาบดี คือ เจ้าพระยาธรรมธิกรณ์ มีหน้าที่ดูแลกิจการราชสานักและกิจการยุติธรรมท่ัวทังพระราชอาณาจักร ใช้ตราเทพยดา ทรงนนทิกการ (พระโค) เป็นตราประจาตาแหน่ง 5.) กรมคลัง หรือโกษาธิบดี เสนาบดี คือ เจ้าพระยาโกษาธิบดี มี หน้าท่ีดูแลทรัพย์สินของแผ่นดิน ตังแต่การจัดเก็บส่วยอากรจากราษฎร การใช้จ่ายในราชการแผ่นดินและส่วน พระองค์ นอกจากนียังมีหน้าที่ดูแลกรมท่า การค้าขายกับต่างประเทศ พระคลังสินค้า การค้าสาเภาหลวง (สมัย รัตนโกสินทร์ตอนต้น มักเรียกว่า กรมท่า) ใช้ตราบัวแก้วเป็นตราประจาตาแหน่ง 6.) กรมนา หรือ เกษตราธิการ เสนาบดี คอื เจ้าพระยาพลเทพ มีหนา้ ทดี่ ูแลเก่ียวกบั เกษตรกรรม เชน่ เกบ็ ภาษีท่ีนา เก็บขา้ วขนึ ฉางหลวง ดแู ลที่นา หลวง พจิ ารณาคดีความเก่ยี วกบั ท่นี า เป็นต้น ใช้ตราพระพิรุณทรงนาคเป็นตราประจาตาแหนง่ 4. การปกครองสว่ นภมู ภิ าค แบง่ การปกครองออกเปน็ หัวเมืองไดแ้ ก่ (1) หัวเมืองชันใน เป็นเมืองท่ีอยู่ใกล้กับราชธานี และมีฐานะเป็นเมืองชันจัตวา มีเจ้าเมืองเรียกว่าผรู้ ัง เปน็ ผูด้ ูแล แต่ อานาจในการบังคับบญั ชาอยู่ทรี่ าชธานี (2) หวั เมืองชันนอก เป็นเมืองท่อี ยู่ห่างไกลราชธานีออกไป แบง่ ความสาคัญ ออกเปน็ เมืองเอก โท และตรี เจา้ เมอื งเปน็ ผู้ดูแลและมอี านาจบังคบั บุญชาหวั เมอื งของตนอย่างเตม็ ที่ ( 3 ) เ มื อ ง แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรียนท่ี 1

62 พัฒนาโดย นายจริ พล ลิวา | ครชู านาญการ ประเทศราช เป็นเมืองของชนต่างชาติต่างภาษาตามชายแดน เจ้าเมืองเดิมเป็นผู้ปกครองตามแบบวิธีการของตน เพียงแตส่ ง่ เคร่ืองราชบรรณราการ ต้นไมเ้ งิน ต้นไมท้ อง มาแสดงความจงรักภักดเี ท่านัน 5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ใหร้ วบรวมและชาระข้อกฎหมายเก่า ท่ใี ชก้ ันมาต้ังแตส่ มัยอยธุ ยาเรยี กว่าอะไร และเหตใุ ดจงึ เรียกเชน่ นั้น เรียกว่า “กฎหมายตราสามดวง”หรือประมวลกฎหมายรัชกาลท่ี 1 และใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศมาจนถงึ สมยั รัชกาลที่ 5 ก่อนที่จะปฏริ ปู กฎหมายและการศาลของไทยใหเ้ ปน็ ระบบสากลเหมือนดงั ในปจั จุบนั และทม่ี ชี ื่อ เรยี กวา่ กฎหมายตราสามดวง เพราะมีการคดั ลอกไว้ 3 ฉบบั ทกุ ฉบับจะประทับตราราชสีห์ ตราคชสหี ์และตราบวั แกว้

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน 63 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลา ช่อื -สกลุ ความตงั้ ใจในการ ความรับผิดชอบ ความตรงตอ่ เวลา ความสะอาด ผลสาเร็จของงาน รวม ดบั (ผู้รบั การประเมนิ ) ทางาน 4321 4321 เรยี บร้อย 20 ท่ี 4321 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน (นายจิรพล ลวิ า) ............../.................../................ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

64 พฒั นาโดย นายจิรพล ลิวา | ครชู านาญการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18-20 ดมี าก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรุง ต่ากว่า 10

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน 65 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลมุ่ คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่อง ทต่ี รงกับระดบั คะแนน ลา ชือ่ -สกุล ความต้ังใจในการ ความรับผดิ ชอบ ความตรงต่อเวลา ความสะอาด ผลสาเรจ็ ของงาน รวม ดับ (ผรู้ บั การประเมนิ ) ทางาน 4321 4321 เรยี บร้อย 20 ที่ 4321 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน (นายจิรพล ลวิ า) ............../.................../................ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

66 พฒั นาโดย นายจิรพล ลิวา | ครชู านาญการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18-20 ดมี าก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรุง ต่ากว่า 10

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน 67 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะอนั รายการประเมิน ระดับคะแนน พึงประสงค์ด้าน 4 3 21 1. รักชาติ 1.1 ยนื ตรงเมื่อไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติ และอธบิ าย ศาสน์ กษัตรยิ ์ ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบตั ติ นสิทธิและหนา้ ทีข่ องพลเมืองดี 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ใน โรงเรยี นและชุมชน 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมทส่ี รา้ งความ สามคั คีปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม ชน่ื ชมความเป็นชาตไิ ทย 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นเองนับถืออย่างสมา่ เสมอเป็น แบบอยา่ งที่ดีของศาสนกิ ชน 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ตามที่ โรงเรียนและชมุ ชนจดั ขึน้ ช่นื ชมในพระราชกรณียกจิ พระปรีชา สามารถของพระมหากษตั ริย์และพระราชวงศ์ 2. ซอ่ื สัตย์สุจริต 2.1 ใหข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ งและเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอายและเกรงกลวั ที่จะกระทา ความผดิ ทาตามสญั ญาที่ตนไดใ้ หไ้ วก้ ับเพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผู้ปกครองและครู เป็นแบบอย่างท่ีดดี ้านความซ่ือสัตย์ 2.3 ปฏิบัตติ อ่ ผอู้ ื่นดว้ ยความซ่ือตรงไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ ถูกตอ้ งและเป็นแบบอย่างที่ดแี กเ่ พื่อนมนษุ ยด์ ้านความซอ่ื สัตย์ 3. มวี นิ ัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คบั ของ รับผดิ ชอบ ครอบครัว และโรงเรยี น ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ นื่ ตรงต่อเวลาใน การปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆในชวี ิตประจาวนั และรับผิดชอบตอ่ การ ทางาน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 5. อยอู่ ย่าง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง เช่น สงิ่ ของเครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ ง พอเพียง ประหยดั คุ้มค่า และเก็บรกั ษาดุแลอย่างดแี ละใชเ้ วลาอย่าง เหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นร่วมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษา แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

68 พัฒนาโดย นายจิรพล ลิวา | ครชู านาญการ คณุ ลักษณะอัน รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 พงึ ประสงคด์ า้ น 432 ดแู ลอย่างดี 6. มุ่งมน่ั ในการ 5.3 ปฏิบัตติ นและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล ทางาน 7. รกั ความเป็น 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผ้อู ื่นและไม่ทาใหผ้ ู้อืน่ เดือดร้อน พรอ้ มให้อภยั ไทย เมื่อผู้อน่ื กระทาผดิ พลาด 8. มจี ิต 5.5 วางแผนการเรียนและการทางานใช้ชวี ิตประจาวันบนพน้ื ฐาน สาธารณะ ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร 5.6 รู้เทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลงทางสงั คม และ สภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตวั อยรู่ ่วมกับผู้อ่ืนไดอ้ ย่างมีความสุข 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ผปู้ กครองและครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปันส่ิงของและชว่ ย แกป้ ัญหาให้ผู้อืน่ 8.3 ดแู ลรักษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ของ โรงเรยี นและชุมชน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ (นายจริ พล ลิวา) ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ............../.................../................ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขัน้ พื้นฐาน 69 กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 บันทกึ หลงั แผนการสอน ประเด็น ผลการจดั การเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1.1 รู้เขา้ ใจเรื่องของการสถาปนาราชธานี และ ปัจจยั ท่สี ง่ ผลต่อความเจริญรุ่งเรอื งของไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ตอนตน้ ดา้ นทักษะกระบวนการ 2.1 สามารถอธิบายปจั จัยที่ทาให้รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น เจริญรุง่ เรอื งได้ 2.2 สามารถใช้กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์อธบิ าย ผลจากการเจริญรุ่งเรืองของรัตนโกสินทรต์ อนต้นได้ ดา้ นคุณลักษณะ 3.1 มวี นิ ยั 3.2 ใฝ่เรยี นรู้ 3.3 มุ่งม่นั ในการทางาน 3.4 รกั ความเป็นไทย การประเมนิ ผลตามผลการเรียนรู้ ………….ร้อยละของนักเรยี นที่ผ่านการประเมิน ………….ร้อยละของนักเรียนท่ีไม่ผ่านการประเมิน ปัญหาที่พบ แนวทางการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา ลงชือ่ ................................................. ( นายจิรพล ลิวา ) ผู้สอน แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

70 พัฒนาโดย นายจิรพล ลิวา | ครูชานาญการ  เห็นควรใหช้ น้ั แผนการจดั การเรียนรู้  เห็นควรปรบั ปรุงแก้ไข.......................................................................................................... ลงชื่อ................................................. ( นายจริ พล ลิวา ) หวั หน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม  เหน็ ควรใหช้ น้ั แผนการจัดการเรียนรู้  เห็นควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข.......................................................................................................... ลงชือ่ ................................................. (นางกญั ญารัตน์ สาระพนั ธ์ ) หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ  เหน็ ควรใหช้ น้ั แผนการจดั การเรียนรู้  เหน็ ควรปรบั ปรุงแก้ไข.......................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (นางจิราพร รตั นกุล ) ผู้อานวยการโรงเรยี นสตรีปากพนงั

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน 71 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 รหสั วชิ า ส23102 แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษาฯ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที 3 รายวชิ า ประวตั ศิ าสตรฯ์ ปกี ารศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เวลา 7 ชว่ั โมง ภาคเรยี นที่ 1 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 4 เรือ่ งพัฒนาการทาง เวลา 3 ชัว่ โมง วนั ที่ ........... ประวัติศาสตรไ์ ทยสมยั ปี พ.ศ. 2563 รัตนโกสินทรต์ อนต้น เรือ่ ง พฒั นาการทาง ประวตั ศิ าสตร์ และ ตวั อยา่ ง เหตกุ ารณส์ าคญั ทม่ี ีผลต่อ พฒั นาการทางประวัตศิ าสตร์ เดอื น.......................... มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั มาตรฐานท่ี ส 4.3เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและ ธารงความเป็นไทย ตวั ช้วี ัด ส 4.3 ม 3/1 วเิ คราะห์พฒั นาการของไทยสมยั รตั นโกสินทรใ์ นด้านตา่ ง ๆ ส 4.3 ม 3/2 วิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความม่ันคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยในสมัย รัตนโกสินทร์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ 1.1 รู้และเข้าใจเรื่องของพฒั นาการทางประวัตศิ าสตร์ในด้านต่าง ๆ 1.2 ร้แู ละเขา้ ใจเกี่ยวกับตัวอยา่ งของพฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ของไทยในดา้ นตา่ ง ๆ 2. ด้านทกั ษะกระบวนการ 2.1 สามารถอธิบายปัจจยั ของการเกดิ พัฒนาการทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยในด้านต่าง ๆ ได้ 2.2 สามารถใช้กระบวนการทางประวตั ิศาสตรอ์ ธบิ ายสาเหตุและผลของพัฒนาการทาง ประวัติศาสตรข์ องไทยในด้านต่าง ๆ ได้ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3.1 มีวินัย 3.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 3.3 มงุ่ มัน่ ในการทางาน 3.4 รกั ความเปน็ ไทย แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรียนท่ี 1

72 พัฒนาโดย นายจริ พล ลิวา | ครชู านาญการ สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด พฒั นาการทางประวัตศิ าสตร์ของไทยในด้านต่าง ๆ สมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ สาระการเรยี นรู้ 1. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1.1 พัฒนาการของไทยในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ทางดา้ นการเมืองการปกครอง สังคม เศรษฐกิจ และความสมั พันธร์ ะหว่างประเทศตามชว่ งเวลาตา่ ง ๆ 1.2 เหตกุ ารณส์ าคัญสมยั รัตนโกสินทร์ทีม่ ผี ลต่อพัฒนาการของชาตไิ ทย 2. สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น - ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน  ความสามารถในการส่ือสาร : พูดและบอกพัฒนาการของไทย  ความสามารถในการคิด 1. ทักษะการคดิ กว้าง : ใช้เหตุการณ์ทางประวัตศิ าสตร์เป็นบทเรียนแก่ตนเอง 2. ทกั ษะการให้เหตผุ ล : อธิบายสาเหตุและผลของเหตุการณป์ ระวตั ิศาสตร์  ความสารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลางข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยู่อยา่ งพอเพียง  ซอื่ สตั ย์สจุ รติ  มุ่งม่นั ในการทางาน  มีวนิ ัย  รักความเปน็ ไทย  ใฝเ่ รยี นรู้  มีจติ สาธารณะ คาขวญั โรงเรียน  เรยี นดี  ประพฤติดี  ฝีมอื เด่น  เปน็ งาน ดา้ นการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น  การอ่าน  การคดิ วิเคราะห์  การเขยี น บูรณาการกับหลกั การเรียนในศตวรรษที่ 21 (นักเรยี นได้เรียนรู้สอดคล้องกับหลักการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21) Reading Writing Globalization อา่ นงานเขยี นทางประวตั ิศาสตร์ เขยี นงานทางประวตั ิศาสตร์ (สมยั ศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้นได้ รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น) ผา่ น อ่ืน ๆ ท่ีเกีย่ วข้องกบั พฒั นาการ กระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ได้ ทางประวตั ศิ าสตร์ของ รตั นโกสินทรต์ อนตน้ ได้

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน 73 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 Reading Writing Globalization Critical Thinking & Problem Solving (ทักษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และ ทกั ษะการในการแกไ้ ขปญั หา) Creativity & Innovation (การคิดเชิงสรา้ งสรรค)์ Collaboration , Teamwork & Leadership (การทางานร่วมและยอมรับฟงั ความคิดเหน็ จากผ้อู ่นื ) Cross – Cultural Understanding (ยอมรบั ความหลากหลายและความแตกต่างทางวฒั นธรรม) Communication , Information & Media Literacy (กลา้ ซกั ถามและแสดงความคดิ เหน็ ในการเรยี น) Computing & Media Literacy (สามารถใชท้ กั ษะด้านสารสนเทศประกอบการเรยี นรู้ได)้ Career & Learning Self-Reliance (มคี วามรเู้ ข้าใจและคน้ คว้าเพมิ่ เตมิ เกีย่ วกับเร่อื งทเ่ี รียน) Change (สรา้ งทัศนคติใหม่ในการเรยี นรายวิชาประวัติศาสตร์ให้นา่ สนใจมากขนึ้ ) Learning Leadership Historical Method Presentation & Lecture พฒั นาทางประวตั ิศาสตร์ของรตั นโกสินทรต์ อนต้น บรู ณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (นักเรียนไดเ้ รยี นรู้อยู่อย่างพอเพียงจากการเรยี นรู้ทบ่ี ูรณาการหลักปรญั ชาของเศรษฐกิจพอเพียง) พอประมาณ มีเหตุผล สร้างภูมิคมุ้ กัน นักเรียนแบง่ เวลาวา่ งเพิ่มเติมมาใช้ นกั เรยี นใชเ้ หตผุ ลในการเรยี น และ นักเรยี นมคี วามรู้และความเข้าใจ ในการเรียนรู้ด้วยตนเองนอก นาหลกั การของเหตุผลไปใช้ในการ ของพฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ หอ้ งเรียน ค้นหาความจรงิ ของประวตั ศิ าสตร์ ของรัตนโกสินทร์ตอนต้นมาเปน็ ตามหลักวิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์ บทเรยี นเพ่ือเตอื นสตติ นเองในการ ดาเนนิ ชวี ิต ความรู้ (นักเรยี นมีความรู้ในเรื่องพฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ของรัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ เปน็ อยา่ งด)ี คุณธรรม (นักเรียนใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน มีวนิ ัยในการจดั ระบบการเรยี นดว้ ยตนเอง) การบูรณาการฯ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โรงเรยี นคุ้มครองเดก็ ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี น - ใชก้ ระบวนศึกษาวเิ คราะหผ์ ู้เรียนเปน็ รายบุคคลเพ่ือ ทาความเข้าใจนกั เรยี นและแกไ้ ขข้อบกพร่อง ทางการเรียนรู้ของนักเรยี นได้ ตลอดจนจดั ทา ฐานขอ้ มูลสว่ นตัวของนกั เรียนเพ่อื ความสะดวกใน การศึกษาข้อมลู และพัฒนาผู้เรยี นใหไ้ ด้เตม็ ศกั ยภาพ แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

74 พฒั นาโดย นายจิรพล ลวิ า | ครูชานาญการ กิจกรรมการเรียนรแู้ บบซิปปา (CIPPA Model) ชว่ั โมงที่ 1  ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง “พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของรัตนโกสินทร์ ตอนตน้ ” ขน้ั ที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ภาพเหตกุ ารณส์ าคญั ทางประวตั ิศาสตรใ์ นสมัยรตั นโกสินทร์ตอนต้น คำถำมกระตนุ้ ควำมคิด “การปกครองของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ เป็นอย่างไร” ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูใหน้ ักเรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ โดยสมุ่ นักเรยี น 3-4 คนในชนั้ เรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบและชมเชยนักเรียนที่ตอบได้ใกล้เคียงกับ ความเปน็ จรงิ มากท่ีสุด ข้นั ท่ี 2 แสวงหาความรู้ใหม่ สือ่ การเรียนรู้ 1. ภาพแผนท่ีประเทศไทยท่ีมีเมืองสาคัญสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (แสดงการ ปกครองหัวเมืองของไทย) คำถำมกระตุ้นควำมคดิ “หวั เมืองชั้นนอก ชัน้ ใน เมืองประเทศราช นักเรยี นคดิ ว่า นครศรฯี อยใู่ นกลุ่มใด” ขัน้ ตอนการเรียนรู้ 1. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม (เก่ง , ปานกลางค่อนข้างเก่ง , ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน , อ่อน) แล้วให้ร่วมกันหาคาอธิบายเก่ียวกับการปกครองส่วน ท้องถ่ินในสมัยรัตนโกสินทรต์ อนต้น 3. ครูให้ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มออกมาอธิบายถึงคาตอบท่ีไดพ้ ร้อมทงั้ เหตุผล ชั่วโมงท่ี 2 ขั้นที่ 3 ศกึ ษาข้อมูลจากความร้ใู หม่และผสมผสานกบั ความรูเ้ ดิม ส่อื การเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง การเมอื งการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน 75 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 2. ใบงานท่ี 2.3 เรื่อง การปกครองสว่ นภูมิภาคในสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น ขั้นตอนการเรียนรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงความรู้ใหม่ท่ีได้และผสมผสานกับความรู้เดิมที่มี อยู่พร้อมทั้งอธิบายลักษณะของการเมืองการปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ให้ได้ 2. ครใู หน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 2.1 และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ 3. ครูให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 2.2 และอธิบายเพมิ่ เตมิ ข้ันท่ี 4 แลกเปล่ียนความร้คู วามเข้าใจกบั กล่มุ สอ่ื การเรยี นรู้ - คำถำมกระตุน้ ควำมคดิ “นกั เรียนคิดว่าเพราะเหตใุ ดรัตนโกสินทรจ์ งึ จัดการปกครองหวั เมืองโดยแบง่ เปน็ ระดับ” ขน้ั ตอนการเรียนรู้ 1. ครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ อย่างเสรี 2. ครูให้นักเรียนที่ทาใบงานที่ 2.1 และ ใบงานที่ 2.2 เสร็จแล้ว จับคู่เพ่ือนในกลุ่ม เพ่ืออธิบายตามทตี่ นเองเขา้ ใจ 3. ครสู มุ่ เรยี กตวั แทนกลมุ่ มาอธิบายหน้าชน้ั เรียน ชั่วโมงที่ 3 ขน้ั ท่ี 5 สรุปและจดั ระเบียบความรู้ สอื่ การเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 2.4 เร่ือง ความสัมพันธ์กับประเทศเพ่ือนบ้านในสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนตน้ 2. ใบงานท่ี 2.5 เรือ่ ง ความสัมพันธ์กับประเทศตะวนั ตกในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้น 3. ใบงานท่ี 2.6 เรอื่ ง ลกั ษณะเศรษฐกจิ ในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น 4. ใบงานที่ 2.7 เรอ่ื ง ลักษณะสังคมในสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ืองพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของไทย สมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ พรอ้ มท้ังใหน้ ักเรียนจดบันทึกลงสมุด 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่ม 4 คน และเขียนอธิบายในรูปแบบของ Mind Mapping ตามหวั ขอ้ ดังนี้ a. ลักษณะการปกครองส่วนกลาง แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

76 พัฒนาโดย นายจิรพล ลิวา | ครูชานาญการ b. ลักษณะการปกครองสว่ นท้องถน่ิ c. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ d. ลักษณะเศรษฐกจิ e. ลกั ษณะสงั คม ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่ตนเองสนใจและ ไมซ่ ้ากนั ในแตล่ ะห้องท่ีจดั การเรียนการสอน 3. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานที่ 2.4 และอธิบายเพม่ิ เติม ขน้ั ท่ี 6 ปฏิบัติ และ/หรือ แสดงผลงาน สือ่ การเรยี นรู้ - ข้นั ตอนการเรยี นรู้ 1. ครสู ุม่ เรยี กนักเรยี นตัวแทนในชน้ั เรียนออกมาแสดง Mind Mapping ของตนเอง พร้อมทั้งอธิบายให้เพื่อนในช้ันเรียนฟงั และให้เพ่ือน ๆ ในชั้นเรียนร่วมกันแสดง ความคิดเหน็ เพม่ิ เตมิ ในสว่ นที่บกพรอ่ ง (ถา้ ม)ี ขน้ั ที่ 7 การประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ สื่อการเรียนรู้ - ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนสร้างโจทย์ที่น่าสนใจเก่ียวกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของ ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (สืบค้นจากหนังสือเพิ่มเติมได้) พร้อมท้ัง คาตอบ 2. นักเรยี นนางานรวบรวมส่งครู การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ วิธีการ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการ (ประเมินตามสภาพจริง) ด้านความรู้ เรยี นร้ทู ่ี 2.2 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ใบงานท่ี 2.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ฯ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2.2 ใบงานที่ 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ฯ ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานที่ 2.4 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑฯ์ ตรวจใบงานที่ 2.3 ใบงานที่ 2.5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ฯ ตรวจใบงานท่ี 2.4 ใบงานท่ี 2.6 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ฯ ตรวจใบงานท่ี 2.5 ใบงานที่ 2.7 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑฯ์ ตรวจใบงานที่ 2.6 ตรวจใบงานท่ี 2.7

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน 77 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ด้านทกั ษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล รายบุคคล สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรรมการทางาน กลุ่ม ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง ม่งุ มั่นในการทางาน ประสงค์ สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทีน่ า่ สนใจ 2. แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ืองที่ 2.2 พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผา่ น Google Form 3. ใบงานที่ 2.2 เร่ือง การเมอื งการปกครองสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น ผา่ น Google Form 4. ใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง การปกครองสว่ นภมู ิภาคในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ ผ่าน Google Form 5. ใบงานที่ 2.4 เรื่อง ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผ่าน Google Form 6. ใบงานท่ี 2.5 เรื่อง ความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตกในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผ่าน Google Form 7. ใบงานที่ 2.6 เรอ่ื ง ลักษณะเศรษฐกจิ ในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้น ผา่ น Google Form 8. ใบงานท่ี 2.7 เร่อื ง ลักษณะสงั คมในสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ ผ่าน Google Form แหล่งเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดโรงเรียนสตรปี ากพนัง 2. หอ้ งคอมพิวเตอร์ฯ 3. เวบ็ ไซต์ของครูจริ พล ลิวา ผ่าน Google Application ลงชอ่ื ............................................................. (นายจิรพล ลวิ า) ผ้จู ัดทาแผนการจัดการเรยี นรฯู้ แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรยี นที่ 1

78 พฒั นาโดย นายจิรพล ลิวา | ครชู านาญการ แบบทดสอบการเรยี นเรอื่ งท่ี 2.2 พฒั นาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนตน้ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบที่ถูกต้องทส่ี ดุ เพียงคาตอบเดยี ว 1. ข้อใดไม่เก่ียวขอ้ งกบั การปกครองส่วนภูมภิ าค ก. จตุสดมภ์ ข. หัวเมืองช้นั ใน ค. หวั เมืองชัน้ นอก ง. เมอื งประเทศราช 2. ขอ้ ใดสรปุ โครงสรา้ งสงั คมไทยสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้นไม่ถูกตอ้ ง ก. เปน็ สงั คมชนบทหรอื สังคมเกษตรกรรม ข. มคี วามแตกต่างในฐานะของบคุ คลในสังคม ค. มีรูปแบบลกั ษณะสังคมทเี่ หมือนสมยั อยุธยาตอนปลาย ง. ฐานะของบุคคลในสังคมถกู กาหนดตายตัวเปลยี่ นแปลงไม่ได้ 3. ชนชั้นใดมีมากที่สุดในสังคม ก. ไพร่ ข. ทาส ค. พระสงฆ์ ง. ขุนนาง 4. การก่อตงั้ ธรรมยตุ กิ นิกายของเจา้ ฟ้ามงกฎุ เกดิ ขน้ึ ในสมยั ใด ก. รัชกาลท่ี 1 ข. รชั กาลที่ 2 ค. รัชกาลท่ี 3 ง. รชั กาลที่ 4 5. วรรณกรรมในข้อใดไม่ได้เกิดข้ึนในสมยั รชั กาลท่ี 1 ก. สามก๊ก ข. อเิ หนา ค. ราชาธิราช ง. รามเกยี รต์ิ 6. ในสมัยรชั กาลที่ 2 ทรงให้การสนับสนนุ ศลิ ปวฒั นธรรมแขนงใดมากเป็นพเิ ศษ จนไดร้ บั สมญานามวา่ เปน็ “ยคุ ทองแห่งศิลปกรรม” ก. จิตรกรรม ข. วรรณกรรม ค. ปฏมิ ากรรม ง. สถาปตั ยกรรม 7. ขอ้ ใดไม่ใช่การปรบั ปรุงประเทศในสมยั รชั กาลท่ี 4 ก. ให้สตรที ี่บรรลุนิติภาวะแล้วมีสิทธเิ ลือกสามีได้ ข. อนญุ าตให้ไพรเ่ สียเงนิ แทนการถูกเกณฑแ์ รงงาน ค. จัดส่งข้าราชการไปศกึ ษาและดงู านต่างประเทศ ง. สง่ เสรมิ เฉพาะวัฒนธรรมไทยแตด่ ง้ั เดมิ ให้ดารงอยตู่ ่อไป 8. ขอ้ ใดเปน็ การปรับปรงุ ทางด้านวฒั นธรรมในสมยั รัชกาลที่ 4 ก. ตอ่ เรอื อนันตนาคราช ข. บรู ณะก่อสร้างองค์พระปฐมเจดีย์จนสาเรจ็ ค. ทรงสรา้ งวงั สราญรมณต์ ามแบบศลิ ปตะวนั ตก ง. ต่อเรือกลไฟตามแบบตะวันตกเพ่ือใชป้ ระโยชนท์ างด้านการคา้ ขาย

สาระและมาตรฐานการเรียนรูก้ ารศึกษาขั้นพนื้ ฐาน 79 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 9. การเปล่ยี นแปลงทางด้านประเพณวี ัฒนธรรมใดในสมัยรชั กาลที่ 4 ทม่ี ใิ หช้ าวตา่ งประเทศดูถูก ข้าราชการไทยว่าเปน็ คนป่าเถ่อื น ก. ชาวตะวนั ตกยนื ถวายคานับได้ ข. ข้าราชการสวมเสอ้ื เขา้ เฝา้ ทุกคน ค. พระราชทานเลยี้ งแก่ชาวตา่ งประเทศพร้อมท้ังแจกของท่ีระลึก ง. ให้ชาวต่างประเทศเข้าเฝ้าพระองค์ได้ในพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก 10. การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นประเพณแี ละวัฒนธรรมข้อใดไม่เกิดข้ึนในสมยั รชั กาลท่ี 4 ก. การจดั ใหม้ ีธงประจาชาติ ข. ให้พระมหากษัตริย์เสวยนา้ พระพิพฒั น์สัตยา ค. การเรยี กพระนามกษัตรยิ ต์ ามแบบอย่างยโุ รป ง. ใหช้ าวต่างประเทศสามารถแสดงความเคารพไดต้ ามธรรมเนยี มไทย เฉลย 2. ง 3. ก 4. ค 5. ข 7. ข 8. ก 9. ข 10. ข 1. ก 6. ข แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

80 พฒั นาโดย นายจิรพล ลวิ า | ครชู านาญการ ใบกิจกรรมที่ 2.2 พัฒนาการทางด้านการเมอื งการปกครองของรตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนตอบคาภามตอ่ ไปนใี้ ห้ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 1. การปกครองสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ ใชก้ ารปกครองระบอบ……………………………… มลี กั ษณะคลา้ ยคลึงกบั การปกครองสมยั ………………………และสมัย…………………… ผ้มู ีอานาจสงู สุดในการปกครองประเทศคือ ………………………………………………… 2. ฐานะของพระมหากษตั ริยใ์ นสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้นเปรยี บเหมอื น……………………… 3. ตาแหนง่ ทีร่ ัชกาลท่ี 1 ทรงแตง่ ต้งั ข้ึนมีอานาจรองจากพระมหากษตั ริย์ มีฐานะเทียบเท่ากับพระมหา อปุ ราชคอื ตาแหนง่ ……………………………………………………. ดารงพระยศเปน็ ……………………………………………. 4. ตาแหน่งอัครมหาเสนาบดี มี 2 ตาแหนง่ ได้แก่ 1……………………2……………………… 5. สมุหพระกลาโหม มยี ศและราชทินนามวา่ ……………………………………….ตราประจาตาแหนง่ คอื ……………………………………………………………………………….มี หน้าที่………………………………………………………………………………………... 6. สมหุ นายก มียศและราชทินนามว่า ………………………………………..ตราประจาตาแหน่ง คือ……………….……………… มีหนา้ ท…่ี …………………………………… 7. หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบดูแลหวั เมอื งชายทะเลตะวนั ออก คือ ………………………………… 8. ตราประจาตาแหนง่ และหน้าที่ เสนาบดจี ตุสดมภส์ มยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น ไดแ้ ก่ 8.1 กรมเวียง ใชต้ รา………………………….มหี น้าท่ี……………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… 8.2 กรมวัง ใช้ตรา……………………………….มหี น้าท…่ี ………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… 8.3 กรมคลงั ใชต้ รา…………………………มีหน้าท่ี………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… 8.4 กรมนา ใช้ตรา………………………….มหี นา้ ที่…………………………………… ……………………………….………………………………………………………………… ……………………………….…………………………………………………………………

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน 81 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เฉลย ใบกจิ กรรมที่ 2.2 พฒั นาการทางด้านการเมืองการปกครองของรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาภามต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 1. การปกครองสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ ใชก้ ารปกครองระบอบ สมบูรณาญาสทิ ธิราชย์ มีลกั ษณะคล้ายคลงึ กับการปกครองสมัย อยุธยาตอนต้น และสมยั อยธุ ยาตอนปลาย ผมู้ ีอานาจสูงสดุ ในการปกครองประเทศคือ พระมหากษัตรยิ ์ 2. ฐานะของพระมหากษัตริย์ในสมยั รตั นโกสินทร์ตอนตน้ เปรยี บเหมือน สมมตเิ ทพ 3. ตาแหนง่ ทรี่ ชั กาลที่ 1 ทรงแต่งตัง้ ขน้ึ มีอานาจรองจากพระมหากษัตริย์ มฐี านะเทียบเท่ากบั พระมหา อุปราชคอื ตาแหน่ง วังหน้า ดารงพระยศเปน็ กรมพระราชวงั บวรสถานมงคล 4. ตาแหน่งอัครมหาเสนาบดี มี 2 ตาแหนง่ ได้แก่ 1 สมุหนายก 2 สมหุ กลาโหม 5. สมุหพระกลาโหม มยี ศและราชทนิ นามวา่ เจ้าพระยามหาเสนา ตราประจาตาแหน่งคือ ตราคชสหี ์ มีหน้าที่ ดแู ลหวั เมอื งฝา่ ยใต้ทงั ด้านทหารและพลเรือน 6. สมุหนายก มียศและราชทนิ นามว่า ไม่กาหนดแนน่ อน ตราประจาตาแหน่งคือ ตราราชสหี ์ มหี นา้ ท่ี ดแู ลหวั เมืองฝา่ ยเหนือและอีสานทงั ด้านทหารและพลเรอื น 7. หน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบดูแลหัวเมอื งชายทะเลตะวันออก คอื กรมพระคลงั 8. ตราประจาตาแหน่งและหนา้ ท่ี เสนาบดีจตสุ ดมภ์สมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ ไดแ้ ก่ 8.1 กรมเวยี ง ใช้ตรา พระยมทรงสงิ ห์ มีหนา้ ที่ ดูแลกิจการทั่วไปในพระนคร 8.2 กรมวัง ใชต้ รา เทพยดาทรงพระนนทิการ มหี น้าที่ ดแู ลพระราชวังและตังศาลพิจาณาคดี 8.3 กรมคลงั ใชต้ รา บวั แก้ว มหี น้าที่ การเงนิ / ตา่ งประเทศ / ตรวจสอบบญั ชี / ดแู ลเมอื งชายทะเล 8.4 กรมนา ใชต้ รา พระพิรุณทรงนาค มหี น้าท่ี ดแุ ลนาหลวง เกบ็ ภาษขี า้ ว พิจารณาคดีเกยี่ วกับนา แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

82 พัฒนาโดย นายจิรพล ลิวา | ครูชานาญการ ใบกิจกรรมท่ี 2.3 การเมืองการปกครองของรตั นโกสินทรต์ อนต้น คาชี้แจง ให้นักเรยี นตอบคาภามต่อไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ งสมบูรณ์ 1. การปกครองสว่ นภูมิภาคสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้นแบ่งเป็น 1…………………………..2………………………..3…………………………………….. 2. หัวเมืองช้นั ใน มีลักษณะ ……………………………………………เดิมเรียกวา่ ………………หรือ……………ผ้ปู กครอง เรยี กวา่ ………………………………ซงึ่ ไมม่ ีอานาจอยา่ งเจ้าเมืองตอ้ งฟังคาส่ังจาก…………………… 3. หวั เมอื งชั้นนอก เรียกอีกอยา่ งหนึง่ ว่า …………………………………………….แบง่ เปน็ หวั เมอื งเอก โท ตรี โดย ยึดตาม………………………………………………………….. 4. หวั เมอื งเอกในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ ได้แก่ 1………………………………….2…………………………. 3……………………….4…………………………….5………………………………………. เจา้ เมืองของหวั เมืองเอกจะได้รับการแตง่ ต้ังจาก ……………………………………… 5. หัวเมอื งเหนอื และอสี าน อยูใ่ นความดูแลของ ………………………………………….. 6. หวั เมอื งฝ่ายใต้ อยู่ในความดูแลของ ………………………………………………. 7. หัวเมอื งชายทะเลตะวนั ออก อย่ใู นความดแู ลของ …………………………………………… 8. เมอื งประเทศราชของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้นไดแ้ ก่ 1………………………………….. 2……………………………..…3………………………….4………………………………… 9. หนา้ ทขี่ องเมืองประเทศราชต่อไทยคอื ……………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….. 10. กฏหมายท่ีรัชกาลท่ี 1 ทรงโปรดใหม้ กี ารชาระและรวบรวมข้นึ ใหม่ เรียกว่า ………………… ใชม้ าจนถงึ สมัย…………………………………กอ่ นทจ่ี ะมีการปฏิรปู กฎหมายตามแบบสากล 11. ตราประทบั ของกฎหมายในข้อ 10 มี 3 ตรา ได้แก่ 1…………………..2……………………3…………………… 12. วิธีการไต่สวนผ้ตู อ้ งหาด้วยการขเู่ ขญ็ ทรมานผตู้ ้องหาด้วยวิธีการตา่ งๆในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้น เรียกวา่ ……………………………ภายหลังถกู ยกเลิกไปในสมยั …………………… เพราะ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………

สาระและมาตรฐานการเรยี นรูก้ ารศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน 83 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 2.3 การเมอื งการปกครองของรัตนโกสินทร์ตอนตน้ คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาภามต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ งสมบูรณ์ 1. การปกครองส่วนภมู ภิ าคสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้นแบ่งเปน็ 1 หวั เมืองชนั ใน 2 หัวเมอื งชันนอก 3 หัวเมืองประเทศราช 2. หวั เมืองช้นั ใน มลี กั ษณะ อยู่ใกลเ้ มืองหลวง เดิมเรียกว่า เมืองลูกหลวง หรอื เมืองหน้าด่าน ผู้ปกครองเรียกว่า ผรู้ ัง ซ่ึงไม่มีอานาจอย่างเจ้าเมืองต้องฟังคาสงั่ จาก เมอื งหลวง 3. หัวเมอื งช้นั นอก เรยี กอีกอยา่ งหน่งึ ว่า เมืองพระยามหานคร แบง่ เป็นหวั เมอื งเอก โท ตรี โดยยึดตาม ขนาดของเมือง 4. หวั เมอื งเอกในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น ได้แก่ 1. พษิ ณุโลก 2. นครราชสมี า 3. ถลาง 4. สงขลา 5. นครศรีธรรมราช เจา้ เมอื งของหวั เมอื งเอกจะได้รับการแตง่ ตง้ั จาก พระมหากษัตริย์ 5. หวั เมอื งเหนอื และอีสาน อยูใ่ นความดแู ลของ สมุหนายก 6. หวั เมอื งฝ่ายใต้ อยู่ในความดูแลของ สมหุ พระกลาโหม 7. หัวเมอื งชายทะเลตะวันออก อยู่ในความดแู ลของ พระคลัง 8. เมืองประเทศราชของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ ไดแ้ ก่ 1. ลา้ นนาไทย 2. เขมร 3. หวั เมอื งมาลายู 4. ลาว 9. หนา้ ทข่ี องเมืองประเทศราชต่อไทยคอื ส่งเครอ่ื งราชบรรณาการ 10. กฏหมายทร่ี ชั กาลท่ี 1 ทรงโปรดให้มกี ารชาระและรวบรวมขึน้ ใหม่ เรียกวา่ กฎหมายตราสามดวง ใชม้ าจนถงึ สมัย รัชกาลท่ี 5 ก่อนที่จะมีการปฏิรูปกฎหมายตามแบบสากล 11. ตราประทับของกฎหมายในข้อ 10 มี 3 ตรา ไดแ้ ก่ 1. คชสีห์ 2. ราชสหี ์ 3. บัวแก้ว 12. วิธกี ารไต่สวนผูต้ ้องหาดว้ ยการขู่เข็ญ ทรมานผตู้ อ้ งหาด้วยวธิ ีการต่างๆในสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ เรยี กว่า กฎหมายพระอัยการ ภายหลงั ถกู ยกเลิกไปในสมยั รชั กาลท่ี 5 เพราะ ลา้ สมยั ปา่ เถ่ือน ป้องกนั ตะวันตกดูถูก แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

84 พฒั นาโดย นายจริ พล ลิวา | ครูชานาญการ ใบกจิ กรรมท่ี 2.4 ความสมั พนั ธ์กบั ประเทศเพื่อนบา้ น คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นตอบคาภามต่อไปน้ีใหถ้ ูกต้องสมบูรณ์ 1. พมา่ ยกทัพมาโจมตีไทยบ่อยครงั้ ที่สุดในสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ ตรงกับรชั กาลที่ …………มถี ึง………..ครง้ั 2. สงครามครั้งสาคญั ที่สดุ ระหว่างไทยกบั พมา่ คือ……………………เกดิ ในสมัยรชั กาล……… 3. สงครามเกา้ ทัพ เกิดข้ึนในสมัย………………………เปน็ กษัตรยิ ์ของพมา่ และรชั กาลที่……….ทรงพระนาม วา่ …………………………………………….เปน็ กษัตริย์ของไทย 4. จดุ ประสงคส์ าคัญที่พมา่ ยกทัพมาโจมตีไทยในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ คือ ………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………….. 5. ในสงครามเกา้ ทัพ ทพั หลวงของพมา่ พ่ายแพ้กองทัพไทย(วังหนา้ )บรเิ วณ……………………จงั หวดั …………… 6. วรี สตรขี องไทยท่ีเกิดขึ้นในคร้ังสงครามเกา้ ทัพได้แก่ 1………………….2…………………… เกิดข้นึ ณ เมือง……………………ปจั จบุ นั คือ จังหวดั ……………………ภาค……………… 7. การทาสงครามระหวา่ งไทยกับพม่าครง้ั ใดทสี่ รา้ งความหวาดหว่นั และทาให้พม่าไม่กลา้ ยกทพั มาโจมตีไทย อีกจนตกเป็นเมืองขึน้ ขององั กฤษ คือ …………………………………………….. 8. ประเทศที่ไทยมักจะเข้าไปช่วยเหลือแก้ปญั หาภายในประเทศให้ คือประเทศ …………… 9. ประเทศทเ่ี ป็นชนวนใหไ้ ทยกับญวน(เวยี ดนาม)ตอ้ งทาสงครามตอ่ กันยาวนานถงึ 14 ปี คือ………………… และ…………………ตรงกบั สมยั รชั กาลที่ …………….ของไทย 10. ญวนมกั จะแผ่อทิ ธิพลเข้าแทรกแซงดินแดนทีเ่ ป็นเมืองข้นึ ของไทยได้แก่ 1…………………….2…………………. 11. ในสมัยรัชกาลที่ 1 ไทยได้คืนพระพุทธรูปสาคัญให้แกล่ าว คอื ……………………………… 12. ความขัดแย้งระหว่างไทยกับลาว เกิดในสมัยรชั กาลที่……………เน่ืองจากเจา้ อนุวงศ์ของลาวยกทพั มาตี เมือง……………ในสงครามครง้ั นเี้ กดิ วรี กรรมของ……………อยใู่ นฐานะ……… …………………………………ภายหลงั ได้รับการโปรดเกล้าฯให้เปน็ ………………… 13. จุดประสงคท์ ี่ไทยยดึ ล้านนาไทยเป็นเมืองข้ึนเพราะ ………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 14. เมอื งข้ึนของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่ไทยยังคงรักษาไว้ไดจ้ นถงึ ปจั จบุ ันคอื …………… 13. หัวเมอื งมลายูที่ตกเป็นเมอื งขึ้นของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นไดแ้ ก่ 1………………………………2………………………………3………………………………

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน 85 กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เฉลย ใบกจิ กรรมท่ี 2.4 ความสัมพนั ธก์ ับประเทศเพ่ือนบ้าน คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาภามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์ 1. พมา่ ยกทัพมาโจมตีไทยบ่อยครั้งทส่ี ุดในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ ตรงกับรัชกาลที่ 1 มีถึง 9 ครง้ั 2. สงครามคร้งั สาคญั ทสี่ ดุ ระหวา่ งไทยกบั พม่าคือ เกา้ ทพั เกิดในสมัยรัชกาล 1 3. สงครามเกา้ ทัพ เกดิ ข้ึนในสมัย พระเจ้าปดุง เปน็ กษตั ริย์ของพมา่ และรัชกาลท่ี 1 ทรง พระนามว่า พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช เป็นกษัตริย์ของไทย 4. จดุ ประสงค์สาคัญท่ีพม่ายกทัพมาโจมตีไทยในสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น คือ ปราบปรามไทยให้ ราบคาบและยึดเปน็ เมืองขนึ 5. ในสงครามเก้าทัพ ทพั หลวงของพมา่ พ่ายแพ้กองทัพไทย(วังหน้า)บรเิ วณ ด่านพระเจดยี ์สามองค์ จังหวัด กาญจนบรุ ี 6. วีรสตรขี องไทยที่เกิดขึ้นในครั้งสงครามเก้าทัพได้แก่ 1. ท้าวเทพกษตั รยี ์ 2. ท้าวศรสี นุ ทร เกดิ ขน้ึ ณ เมือง ถลาง ปจั จบุ ันคือ จังหวัด ภูเก็ต ภาค ใต้ 7. การทาสงครามระหวา่ งไทยกับพมา่ คร้ังใดทสี่ ร้างความหวาดหวัน่ และทาให้พมา่ ไม่กลา้ ยกทัพมาโจมตไี ทย อีกจนตกเป็นเมืองขน้ึ ของอังกฤษ คือ สงครามเก้าทัพ 8. ประเทศท่ีไทยมกั จะเข้าไปช่วยเหลอื แก้ปัญหาภายในประเทศให้ คือประเทศ ลาว 9. ประเทศทีเ่ ปน็ ชนวนใหไ้ ทยกับญวน(เวยี ดนาม)ต้องทาสงครามตอ่ กันยาวนานถึง 14 ปี คือ เขมร และ ลาว ตรงกับสมยั รัชกาลที่ 2 ของไทย 10. ญวนมักจะแผ่อิทธิพลเข้าแทรกแซงดนิ แดนทเ่ี ปน็ เมืองขึ้นของไทยได้แก่ 1. ลาว 2. เขมร 11. ในสมยั รชั กาลที่ 1 ไทยได้คืนพระพทุ ธรูปสาคัญใหแ้ กล่ าว คอื พระบาง 12. ความขัดแย้งระหว่างไทยกับลาว เกดิ ในสมัยรัชกาลที่ 2 เน่ืองจากเจ้าอนวุ งศ์ของลาวยกทัพมาตี เมอื ง นครราชสมี า ในสงครามครั้งนี้เกดิ วรี กรรมของ ทา้ วสรุ นารี อยใู่ นฐานะ ภรรยา เจา้ เมืองราชสมี า ภายหลังได้รบั การโปรดเกลา้ ฯใหเ้ ป็น ท้าวสุรนารี 13. จุดประสงค์ท่ีไทยยึดล้านนาไทยเป็นเมอื งขึน้ เพราะ ป้องกันกานโจมตีจากทางเหนือ และเป็นคลัง เสบียงให้ราชธานี 14. เมืองข้ึนของไทยสมัยรัตนโกสินทรต์ อนต้นที่ไทยยังคงรักษาไวไ้ ดจ้ นถึงปัจจบุ นั คอื นครศรีธรรมราช 13. หัวเมืองมลายูที่ตกเปน็ เมอื งข้ึนของไทยในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนต้นไดแ้ ก่ 1. ปตั ตานี 2. กลันตัน 3. ตรังกานู 4. ปลิส แผนการจดั การเรียนการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

86 พฒั นาโดย นายจริ พล ลวิ า | ครชู านาญการ ใบกิจกรรมท่ี 2.5 ความสมั พนั ธก์ ับประเทศตะวันตก คาชแี้ จง ให้นักเรยี นตอบคาภามตอ่ ไปน้ีให้ถูกต้องสมบูรณ์ 1. ประเทศตะวันตกทีเ่ ขา้ มามบี ทบาทในไทยสมยั รัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้แก่ 1………………………………2………………………….3…………………………… 2. ประเทศตะวนั ตกชาติแรกทเี่ ข้ามาติดต่อสัมพนั ธไมตรกี ับไทยสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ คอื ………………………. 3. กงสลุ ชาวตะวันตกคนแรกท่ีมาประจาในประเทศไทยคือ……………………………………… เปน็ ชาว……………………………..และไดร้ บั พระราชทานตาแหนง่ เป็น…………………… 4. ชาวองั กฤษทเ่ี ขา้ มาตดิ ต่อกับไทยสมัยรชั กาลท่ี 1 คือ………………………………………… และได้รับพระราชทานบรรดาศกั ด์ิเปน็ …………………………………………ถือเปน็ ชาวตะวันตกคนแรกท่ีได้รับ 5. ในสมัยรชั กาลท่ี 2 ชาวองั กฤษท่เี ขา้ มาทาสนธิสญั ญาการค้ากับไทยแต่ไมส่ าเร็จคือ………………………………. 6. สนธสิ ัญญาการคา้ ฉบับแรกที่ไทยทากับประเทศอังกฤษในสมยั รัชกาลท่ี 3 คอื สนธิสัญญา……………………….โดยองั กฤษสง่ ……………………………..เปน็ ตัวแทน 7. ในสนธสิ ญั ญาเบอรน์ ี สนิ ค้าที่ห้ามนาเข้ามาขายในประเทศไทยคือ …………………………… 8. ในชว่ งปลายรชั กาลท่ี 3 ชาวอังกฤษท่ีเข้ามาขอแก้ไขสนธิสัญญาเบอร์น่ีคอื ……………………………………….. แต่ไม่สาเรจ็ เนื่องจาก……………………………… 9. ชาวอเมรกิ นั ทีเ่ ขา้ มาในไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น คอื …………………………………… และได้รบั บรรดาศกั ดเิ์ ป็น …………………………เช้ามาในสมัยรัชกาลที่…………………… 10. ประเทศไทยทาสนธสิ ัญญาการคา้ กับสหรฐั ในสมยั ประธานาธิบดี…………………………….และตรงกบั สมยั รัชกาลท…ี่ ………..โดยสหรัฐส่ง……………………………………………..เป็นหัวหนา้ คณะทูต 11. นายโจเซฟ บัลเลสเตียร์ เป็นชาวอเมริกันเขา้ มาในไทยสมัยรัชกาลที่ 3 เพอ่ื ………………………………………………………….ผ้รู บั ผดิ ชอบ

สาระและมาตรฐานการเรยี นรกู้ ารศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน 87 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เฉลย ใบกจิ กรรมท่ี 2.5 ความสัมพนั ธก์ ับประเทศตะวันตก คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาภามตอ่ ไปนี้ให้ถูกตอ้ งสมบูรณ์ 1. ประเทศตะวันตกทเี่ ข้ามามีบทบาทในไทยสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น ได้แก่ 1. อังกฤษ 2. ฝรงั่ เศส 3. โปรตเุ กส 2. ประเทศตะวันตกชาติแรกทเ่ี ข้ามาตดิ ต่อสมั พันธไมตรีกับไทยสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ คอื โปรตุเกส 3. กงสุลชาวตะวนั ตกคนแรกที่มาประจาในประเทศไทยคือ คาลอส เอ็มมานเู อล ซิลเวร่า เปน็ ชาว โปรตุเกส และไดร้ ับพระราชทานตาแหน่งเป็น หลวงอภยั พาณิช 4. ชาวองั กฤษทเี่ ข้ามาติดต่อกับไทยสมยั รัชกาลที่ 1 คอื ฟรานซสิ ไลท์ และได้รับพระราชทานบรรดาศกั ด์เิ ป็น พระยาราชกปติ ัน ถือเป็นชาวตะวนั ตกคนแรกท่ีไดร้ บั 5. ในสมัยรัชกาลท่ี 2 ชาวอังกฤษท่เี ข้ามาทาสนธสิ ัญญาการค้ากบั ไทยแตไ่ ม่สาเร็จคือ จอห์น ครอเฟิร์ด 6. สนธสิ ญั ญาการคา้ ฉบบั แรกที่ไทยทากบั ประเทศอังกฤษในสมยั รชั กาลท่ี 3 คือ สนธิสัญญา เบอร์นี่ โดยองั กฤษสง่ เฮนร่ี เบอร์น่ี เปน็ ตวั แทน 7. ในสนธิสญั ญาเบอร์นี สินคา้ ที่หา้ มนาเข้ามาขายในประเทศไทยคอื ฝน่ิ 8. ในชว่ งปลายรชั กาลที่ 3 ชาวองั กฤษท่เี ขา้ มาขอแกไ้ ขสนธิสญั ญาเบอรน์ ี่คือ เซอรเ์ จมส์ บรูค แต่ไมส่ าเรจ็ เนื่องจาก รัชกาลท่ี 3 ประชวรอยูเ่ ลยไม่ไดเ้ ข้าเฝา้ 9. ชาวอเมริกนั ทีเ่ ขา้ มาในไทยสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ คอื กปั ตนั แฮน และได้รับบรรดาศกั ด์เิ ปน็ หลวงภักดีราช เชา้ มาในสมยั รชั กาลท่ี 2 10. ประเทศไทยทาสนธิสญั ญาการคา้ กบั สหรฐั ในสมัยประธานาธบิ ดี แอนดรู แจคสนั และตรงกับ สมยั รัชกาลที่ 3 โดยสหรฐั สง่ เอด็ มนั โรเบริ ์ต เป็นหวั หน้าคณะทูต 11. นายโจเซฟ บัลเลสเตียร์ เปน็ ชาวอเมรกิ นั เข้ามาในไทยสมยั รชั กาลที่ 3 เพอ่ื แกไ้ ขสัญญา แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

88 พัฒนาโดย นายจริ พล ลิวา | ครชู านาญการ ใบกิจกรรมท่ี 2.6 เศรษฐกจิ ของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาภามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกต้องสมบรู ณ์ 1. เม่อื แรกสถาปนากรงุ รตั นโกสินทร์ใหมๆ่ การค้ากับตา่ งประเทศยงั มีไม่มากนัก เพราะ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เศรษฐกจิ ไทยเรม่ิ ดีขนึ้ หลงั จากท่ีไทยเอาชนะพม่าในสงคราม………………………………………….. 3. สง่ิ ที่แสดงให้เหน็ ถึงความเจริญดา้ นเศรษฐกิจในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น คือ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. เงนิ ตราทใี่ ช้เปน็ สอื่ กลางในการแลกเปลย่ี นในสมยั รัตนโกสินทรต์ อนต้นมีชื่อเรียกว่า………… มี 4 ราคา ได้แก่ 1………………….2……………….3………………4…………………… 5. แหล่งรายไดส้ าคัญของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ไดจ้ าก 1……………………………..2………………………….3……………………………… 6. สินค้าออกสาคัญในสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้นไดแ้ ก่ ……………………………………… 7. สนิ คา้ เข้าในสมัยรตั นโกสินทร์ตอนตน้ ไดแ้ ก่…………..……………………………………… 8. หนว่ ยงานทีท่ าหน้าท่ตี ดิ ต่อคา้ ขายกับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ เรียกว่า………………อยู่ใน ความดูแลของ กรม…………….. 9. ผู้บังคับบญั ชากรมท่าท่ีมีความสามารถมากท่สี ุดในสมยั รัชกาลที่ 2 คือ ……………………….ต่อมาขน้ึ ครองราชยเ์ ปน็ รชั กาลที่ ……………………… 10. ฤชา หมายถงึ ………………………………………………………………………………… 11. จงั กอบ หมายถงึ ……………………………………………………………………………… 12. อากร หมายถงึ ……………………………………………………………………………… 13. ระบบเจา้ ภาษีนายอากร มีขึ้นคร้งั แรกในสมยั รชั กาลที่ ……………………ตั้งขน้ึ เพือ่ ……………………………...……………………………………………………………… 14. เงินทีเ่ รยี กเกบ็ จากไพรห่ ลวงเพื่อทดแทนแรงงานในสมยั รชั กาลท่ี3 เรยี กว่า…………………… 15. ภาษที ่ีเกบ็ จากเรือสนิ คา้ ต่างประเทศโดยคิดตามความกว้างของปากเรอื เรียกว่า………………………………… 16. อากรค่ารกั ษาเกาะเปน็ ภาษีท่ีเกบ็ จากราษฎรท่ปี ระกอบอาชพี ………………………………… 17. สนิ คา้ ต้องหา้ มมลี ักษณะ……………………………………………………………………. ได้แก่ ……………………………………………………………………………………………

สาระและมาตรฐานการเรียนรูก้ ารศึกษาข้ันพนื้ ฐาน 89 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 2.6 เศรษฐกจิ ของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนตอบคาภามต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ งสมบูรณ์ 1. เมอื่ แรกสถาปนากรงุ รตั นโกสินทรใ์ หม่ๆการค้ากับตา่ งประเทศยงั มีไมม่ ากนักเพราะ สนิ ค้าที่สง่ ออกยังมี ปรมิ าณน้อยอยู่และยังไมม่ ปี ระเทศคูค่ ้ามากมาย รวมทังยงั คิดภาษแี พงมาก 2. เศรษฐกจิ ไทยเรม่ิ ดีขึ้นหลงั จากท่ไี ทยเอาชนะพม่าในสงคราม เก้าทัพ 3. สงิ่ ท่ีแสดงให้เห็นถึงความเจริญดา้ นเศรษฐกิจในสมยั รตั นโกสินทรต์ อนตน้ คือ การค้าสาเภาโดยราช สานักและส่งสนิ ค้าไปค้าขายถึงประเทศจีนและญี่ปนุ่ รวมทังฝง่ั ตะวนั ตกด้วย 4. เงนิ ตราทใี่ ชเ้ ป็นสือ่ กลางในการแลกเปลย่ี นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนตน้ มชี ื่อเรยี กว่า พดด้วง มี 4 ราคา ได้แก่ 1. เฟื้อง 2. สลงึ 3. บาท 4. ตาลึง 5. แหลง่ รายได้สาคัญของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ ไดจ้ าก 1. สว่ ย 2. ฤชา 3. อากร 4. จงั กอบ 6. สนิ คา้ ออกสาคัญในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้นไดแ้ ก่ ของปา่ 7. สินค้าเข้าในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ ไดแ้ ก่ ดนิ ปนื 8. หน่วยงานทท่ี าหนา้ ทต่ี ิดตอ่ คา้ ขายกับต่างประเทศในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนตน้ เรียกวา่ กรมท่า อยู่ในความดแู ลของ กรม พระคลังสินคา้ 9. ผู้บงั คับบญั ชากรมท่าท่ีมีความสามารถมากท่สี ดุ ในสมัยรัชกาลท่ี 2 คือ กรมหมืน่ เจษฏาบดนิ ทร์ ตอ่ มาขนึ้ ครองราชย์เป็นรชั กาลที่ 3 10. ฤชา หมายถงึ คา่ ธรรมเนยี มที่ทางราชการเรียกเกบ็ เฉพาะรายบคุ คล เนือ่ งจากได้รบั การบรกิ ารจาก ราชการ เชน่ ออกโฉนดทีด่ ินให้ 11. จงั กอบ หมายถงึ การเรียกเกบ็ สนิ คา้ ของราษฎร โดยชกั ส่วนสนิ คา้ ที่ผา่ นดา่ นทงั ทางบกและทางนา ใน อตั รา 10 หยิบ 1 หรือ 1 สว่ นตอ่ 10 สว่ น 12. อากร หมายถงึ เงนิ หรอื สง่ิ ของทร่ี ัฐเรยี กเกบ็ จากผลประโยชน์ของราษฎรทีไ่ ดจ้ ากการประกอบอาชพี นอกจากอาชีพค้าขาย เชน่ การทานา เรียกว่า อากรคา่ นา การทาสวน เรยี กว่า อากรสวนใหญ่ หรือ พลากร หรือ สมพตั สร การจับสตั วน์ า เรียกวา่ อากรคา่ นา การเกบ็ ไขเ่ ต่าเก็บรังนก เรียกว่า อากรคา่ รักษาเกาะ นอกจากนยี ังมีการเก็บอากรบ่อนเบีย อากรสรุ า อากรตลาด อากรเกบ็ ของป่า อากรขนอน 13. ระบบเจ้าภาษนี ายอากร มีขึ้นคร้ังแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 ตง้ั ข้นึ เพื่อ ความแน่นอนของรายได้ของรัฐ 14. เงินท่เี รียกเกบ็ จากไพร่หลวงเพือ่ ทดแทนแรงงานในสมัยรัชกาลที่3 เรยี กวา่ สว่ ย 15. ภาษีที่เก็บจากเรือสินคา้ ต่างประเทศโดยคิดตามความกวา้ งของปากเรือเรยี กวา่ ภาษีปากเรอื 16. อากรคา่ รักษาเกาะเปน็ ภาษีท่ีเก็บจากราษฎรทปี่ ระกอบอาชพี เกบ็ รังนก 17. สนิ ค้าตอ้ งหา้ มมลี ักษณะ ของหายากและมรี าคาแพง ได้แก่ งาชา้ ง รังนก ฝาง กฤษณา แผนการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 | ภาคเรียนท่ี 1

90 พัฒนาโดย นายจิรพล ลวิ า | ครูชานาญการ ใบกิจกรรมที่ 2.7 เศรษฐกจิ ของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นตอบคาภามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ งสมบูรณ์ 1. โครงสรา้ งของสงั คมไทยสมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ มลี กั ษณะคล้ายคลึงกบั สมัย……………… 2. สภาพสงั คมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ตอนตน้ มีลักษณะสาคัญคือ……………………………….. 3. ชนชัน้ สูงสดุ ในสงั คมไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ คือ……………………………… 4. ชนชน้ั สว่ นใหญ่ของประเทศในสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนตน้ คือ ……………………………….. 5. ชนชั้นทไี่ มม่ ีอิสระในการดาเนินชีวติ เปน็ ชนชนั้ ต่าสดุ ในสงั คมไทยสมยั รัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น คือ………………… 6. ต้งั ใจจะอปุ ถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา เป็นพระราชปณิธาน ของกษัตริยไ์ ทยรชั กาลที่ …… 7. พระไตรปฎิ กท่ีทาการสงั คายนาครัง้ ใหญใ่ นสมัยรัชกาลท่ี 1 มีชอ่ื วา่ ………………………… 8. รัชกาลที่ 1 ทรงแก้ปญั หาการแตกแยกและหย่อนยานพระธรรมวินยั ในหมู่พระสงฆ์โดย การ…………………………………………………………………………………… 9. ผสู้ ถาปนาธรรมยุตนิ กิ ายข้ึนในประเทศไทยคอื …………………………………………… ในสมัยรชั กาลที่ …………………….ซึง่ ต่อมาได้ขึน้ ครองราชยเ์ ป็นรัชกาลท่ี……………….. 10. วดั ทเ่ี ป็นศูนย์กลางของคณะสงฆ์ฝา่ ยธรรมยตุ ินกิ าย คือวดั …………………………………. 11. วัดประจารัชกาลท่ี 1 คอื วดั ……………………………………………………….. 12. วัดประจารชั กาลที่ 2 คอื วัด ………………………………………………………. 13. วัดประจารัชกาลท่ี 3 คอื วัด ………………………………………………………. 14. วดั ที่ไดช้ ือ่ ว่าเปน็ วทิ ยาลัยแหง่ แรกของไทยคือ วดั …………………………………………… 15. การฟ้ืนฟปู ระเพณวี ิสาขบชู า กระทาขนึ้ ในสมยั รัชกาลที่……………………………………. 16. พระมหากษัตริย์ท่ีทรงให้ความสนใจและทานบุ ารงุ พระพทุ ธศาสนามากท่ีสุดในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ คือรัชกาลที่……………………… 17. ในสมัยรชั กาลที่ 2 ผลงานทางด้านวรรณกรรมไดร้ ับการสนับสนนุ และสง่ เสริมเปน็ อันมากจนไดร้ บั การยก ยอ่ งวา่ เป็นยคุ ทองของ……………………………….. 18. กวีทไ่ี ด้รับการยกย่องมากท่ีสุดในสมยั รชั กาลที่ 2 คือ ………………………………………… 20. ศูนยก์ ลางการศึกษาในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ อยู่ท่ี ……………………………. 21. ชาวตะวนั ตกท่นี าการศกึ ษาแบบใหมเ่ ข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยสมัยรชั กาลที่ 3 คอื พวก ………………………………………………………………………………………………… 22. ผทู้ ่นี าความเจริญด้านการแพทย์และการพิมพม์ าสปู่ ระเทศไทยเปน็ ครั้งแรก คือ …………………………………..………………………………………………………………………………………………………………

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน 91 กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม | รายวิชา ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 เฉลย ใบกจิ กรรมที่ 2.7 เศรษฐกิจของไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ คาชแี้ จง ให้นกั เรียนตอบคาภามต่อไปนี้ใหถ้ ูกต้องสมบูรณ์ 1. โครงสร้างของสงั คมไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ มลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กับสมยั อยุธยา 2. สภาพสงั คมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ตอนต้นมีลักษณะสาคญั คอื มชี นชนั ชัดเจน 3. ชนชัน้ สงู สุดในสงั คมไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ คือ เชือพระวงศ์ 4. ชนช้ันสว่ นใหญข่ องประเทศในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนต้นคอื ไพร่ 5. ชนชั้นทไ่ี มม่ ีอิสระในการดาเนินชีวติ เปน็ ชนชั้นตา่ สุดในสังคมไทยสมัยรตั นโกสินทร์ตอนต้นคอื ทาส 6. ต้งั ใจจะอปุ ถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา เปน็ พระราชปณิธาน ของกษตั รยิ ไ์ ทยรัชกาลที่ 1 7. พระไตรปิฎกท่ีทาการสงั คายนาครั้งใหญใ่ นสมยั รัชกาลที่ 1 มชี ือ่ วา่ พระไตรปิฏกฉบบั ทอง 8. รัชกาลที่ 1 ทรงแก้ปญั หาการแตกแยกและหย่อนยานพระธรรมวินยั ในหมู่พระสงฆ์โดยการ ปฎิรูปศาสนา 9. ผู้สถาปนาธรรมยุตินกิ ายขน้ึ ในประเทศไทยคอื เจ้าฟา้ มงกุฎ ในสมัยรชั กาลที่ 3 ซงึ่ ต่อมาได้ขึ้นครองราชยเ์ ปน็ รชั กาลท่ี 4 10. วัดทเ่ี ปน็ ศูนยก์ ลางของคณะสงฆฝ์ ่ายธรรมยตุ นิ กิ าย คือวดั บวรนิเวศวหิ าร 11. วดั ประจารชั กาลท่ี 1 คือ วดั วดั พระเชตุพลวิมลมังคลาราม 12. วัดประจารัชกาลที่ 2 คอื วัด วัดอรุณราชวราราม 13. วดั ประจารชั กาลที่ 3 คอื วดั วัดราชโอรสาราม 14. วดั ท่ไี ดช้ ่ือว่าเป็นวทิ ยาลัยแห่งแรกของไทยคือ วัด วัดพระเชตพุ ลวิมลมังคลาราม 15. การฟ้นื ฟปู ระเพณวี ิสาขบูชา กระทาขนึ้ ในสมัยรชั กาลท่ี 2 16. พระมหากษัตรยิ ท์ ี่ทรงใหค้ วามสนใจและทานุบารงุ พระพทุ ธศาสนามากทส่ี ดุ ในสมัยรัตนโกสินทรต์ อนต้น คือรชั กาลที่ 3 17. ในสมยั รชั กาลที่ 2 ผลงานทางด้านวรรณกรรมได้รับการสนับสนนุ และสง่ เสริมเปน็ อนั มากจนได้รบั การยก ย่องวา่ เปน็ ยคุ ทองของ วรรณคดีไทย 18. กวีท่ีได้รับการยกย่องมากที่สุดในสมยั รชั กาลที่ 2 คอื สุนทรภู่ 20. ศนู ย์กลางการศึกษาในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น อยู่ที่ วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม 21. ชาวตะวันตกท่ีนาการศึกษาแบบใหม่เขา้ มาเผยแพร่ในประเทศไทยสมัยรชั กาลที่ 3 คอื พวก มชิ ชันนารี 22. ผูท้ ีน่ าความเจริญด้านการแพทยแ์ ละการพิมพ์มาส่ปู ระเทศไทยเปน็ คร้ังแรก คือ หมอบรัดเลย์ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

92 พัฒนาโดย นายจิรพล ลวิ า | ครชู านาญการ แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในช่อง ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน ลา ชื่อ-สกลุ ความต้ังใจในการ ความรับผิดชอบ ความตรงตอ่ เวลา ความสะอาด ผลสาเร็จของงาน รวม ดบั (ผรู้ ับการประเมิน) ทางาน 4321 4321 เรียบรอ้ ย 20 ที่ 4321 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน (นายจิรพล ลิวา) ............../.................../................

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศกึ ษาข้นั พื้นฐาน 93 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรงุ ต่ากว่า 10 แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

94 พัฒนาโดย นายจิรพล ลวิ า | ครชู านาญการ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกับระดบั คะแนน ลา ชอ่ื -สกลุ ความตงั้ ใจในการ ความรับผิดชอบ ความตรงตอ่ เวลา ความสะอาด ผลสาเร็จของงาน รวม ดบั (ผู้รบั การประเมนิ ) ทางาน 4321 4321 เรียบรอ้ ย 20 ที่ 4321 4321 คะแนน 4321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน (นายจริ พล ลวิ า) ............../.................../................

สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ารศกึ ษาข้นั พื้นฐาน 95 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรงุ ต่ากว่า 10 แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นที่ 1

96 พัฒนาโดย นายจริ พล ลวิ า | ครชู านาญการ แบบประเมิน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่อง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะอัน รายการประเมิน ระดับคะแนน พงึ ประสงคด์ ้าน 4 3 21 1. รักชาติ 1.1 ยืนตรงเมื่อไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติ และอธิบาย ศาสน์ กษัตริย์ ความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบตั ติ นสิทธแิ ละหนา้ ท่ขี องพลเมืองดี 1.3 ใหค้ วามร่วมมอื ร่วมใจในการทากิจกรรมกับสมาชกิ ใน โรงเรียนและชมุ ชน 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทสี่ รา้ งความ สามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ชืน่ ชมความเป็นชาตไิ ทย 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นเองนับถอื อย่างสมา่ เสมอเปน็ แบบอย่างที่ดขี องศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมที่เก่ยี วขอ้ งกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามที่ โรงเรยี นและชุมชนจดั ข้นึ ชื่นชมในพระราชกรณยี กิจ พระปรชี า สามารถของพระมหากษัตรยิ ์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสตั ยส์ จุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมลู ทถี่ ูกตอ้ งและเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง ละอายและเกรงกลวั ทจี่ ะกระทา ความผิด ทาตามสญั ญาทต่ี นได้ใหไ้ ว้กบั เพือ่ น พ่อแม่ หรือ ผปู้ กครองและครู เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ดี า้ นความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผ้อู นื่ ดว้ ยความซือ่ ตรงไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ ถูกต้องและเปน็ แบบอยา่ งท่ีดแี กเ่ พ่อื นมนษุ ยด์ า้ นความซือ่ สัตย์ 3. มีวนิ ัย 3.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของ รบั ผดิ ชอบ ครอบครัว และโรงเรียน ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิของผู้อ่ืน ตรงตอ่ เวลาใน การปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆในชีวิตประจาวนั และรบั ผดิ ชอบตอ่ การ ทางาน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ 4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล 5. อย่อู ย่าง 5.1 ใชท้ รัพย์สินของตนเอง เชน่ สงิ่ ของเคร่ืองใช้ ฯลฯ อยา่ ง พอเพยี ง ประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรกั ษาดุแลอยา่ งดแี ละใช้เวลาอยา่ ง เหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรว่ มอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษา ดูแลอยา่ งดี

สาระและมาตรฐานการเรยี นรูก้ ารศกึ ษาขั้นพื้นฐาน 97 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม | รายวิชา ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 คุณลกั ษณะอัน รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 พงึ ประสงคด์ า้ น 432 5.3 ปฏบิ ัตติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 6. มุ่งมัน่ ในการ ทางาน 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อ่นื และไม่ทาใหผ้ ู้อ่ืนเดอื ดร้อน พรอ้ มให้อภัย 7. รกั ความเป็น เม่ือผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด ไทย 5.5 วางแผนการเรยี นและการทางานใช้ชีวติ ประจาวันบนพืน้ ฐาน 8. มจี ติ ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร สาธารณะ 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และ สภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตัวอย่รู ่วมกบั ผอู้ ่ืนได้อยา่ งมคี วามสขุ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แมผ่ ปู้ กครองและครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ชว่ ยทา และแบง่ ปนั ส่งิ ของและช่วย แกป้ ญั หาใหผ้ อู้ ่นื 8.3 ดูแลรกั ษาทรัพยส์ ินของห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชนข์ อง โรงเรยี นและชุมชน เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ (นายจิรพล ลวิ า) ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ............../.................../................ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 4 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน แผนการจดั การเรยี นการสอนรายวชิ า ส23102 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 | ภาคเรยี นท่ี 1

98 พัฒนาโดย นายจริ พล ลวิ า | ครูชานาญการ บนั ทึกหลงั แผนการสอน ประเดน็ ผลการจัดการเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1.1 รู้และเข้าใจเรื่องของพัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ ในดา้ นตา่ ง ๆ 1.2 รูแ้ ละเข้าใจเกีย่ วกับตวั อย่างของพัฒนาการทาง ประวตั ศิ าสตร์ของไทยในดา้ นตา่ ง ๆ ด้านทกั ษะกระบวนการ 2.1 สามารถอธิบายปจั จัยของการเกดิ พัฒนาการทาง ประวัตศิ าสตรไ์ ทยในดา้ นต่าง ๆ ได้ 2.2 สามารถใชก้ ระบวนการทางประวัติศาสตร์อธิบาย สาเหตแุ ละผลของพฒั นาการทางประวัตศิ าสตร์ของ ไทยในด้านตา่ ง ๆ ได้ ด้านคุณลักษณะ 3.1 มีวินัย 3.2 ใฝ่เรียนรู้ 3.3 มุ่งม่ันในการทางาน 3.4 รกั ความเป็นไทย การประเมนิ ผลตามผลการเรียนรู้ ………..ร้อยละของนกั เรยี นทีผ่ ่านการประเมนิ ………..ร้อยละของนกั เรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมิน ปัญหาที่พบ แนวทางการแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ญั หา ลงช่ือ................................................. ( นายจริ พล ลิวา ) ผูส้ อน