1 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสตรีปากพนัง ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551(ปรบั ปรงุ 2563) สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 12
2 คำนำ กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานได้ดำเนินการ ทบทวนหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยนำข้อมูลจากแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 มาใช้เปน็ กรอบและทศิ ทาง ในการพัฒนาหลักสูตรให้มีความเหมาะสมชัดเจน ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นรากฐาน สำคัญที่จะช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตผุ ล เป็นระบบ สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือ สถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถ่ีถ้วน สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีที่ เหมาะสม โดยได้มอบหมายให้เขตพ้ืนท่ีการศึกษาและสถานศึกษาที่จัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน ใช้หลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง 2560) เป็นกรอบและทิศทางในการพฒั นา หลักสูตรและจัดการเรียนการสอน การกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั และผลการเรียนรู้ เพ่ือให้มีความเหมาะสม ชัดเจนยิ่งข้ึน ทั้งเป้าหมายของหลักสูตรในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และ กระบวนการนำหลกั สตู รไปสู่การปฏบิ ตั ิ โรงเรียนสตรีปากพนังจึงไดจ้ ดั ทำหลักสตู รสถานศกึ ษาสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ซ่ึงประกอบด้วย วิสัยทัศน์ เป้าหมาย สมรรถนะผู้เรียน โครงสร้าง หลกั สตู ร เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล เพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการปฏิบัตแิ ละจดั การเรยี นรู้ ขอขอบคณุ คณะครูและคณะผทู้ ่ีเกยี่ วข้องและมีส่วนร่วมในการจัดทำทกุ ฝา่ ย คณะกรรมการสถานศกึ ษา นกั เรยี น และผู้ปกครองนักเรยี น ท่ีทำใหก้ ารจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนสตรีปากพนงั สำเร็จไดด้ ้วยดี คณะผู้จัดทำ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
สารบัญ 3 บทนำ หน้า 1 หลกั การ 1 1 จุดหมาย 2 3 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4 5 ความสำคัญของสาระการเรียนรู้ 6 6 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 6 7 คณุ ภาพผู้เรียน 7 15 โครงสร้างเวลาเรยี น 18 21 1. สาระการเรยี นรู้พ้ืนฐาน 24 26 2. สาระการเรียนรเู้ พม่ิ เติม/วชิ าเลอื กเสรี 27 28 ตัวชี้วดั และสาระการเรียนร้แู กนกลาง 31 34 สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม 35 38 สาระท่ี 2 หน้าที่พลเมือง วฒั นธรรมและการดำเนนิ ชีวิตในสงั คม 39 40 สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ 43 45 สาระท่ี 4 ประวัติศาสตร์ 47 50 สาระท่ี 5 ภูมิศาสตร์ 51 คำอธิบายรายวิชา/สาระการเรยี นร้แู ละโครงสรา้ งเวลารายวชิ าพน้ื ฐาน คำอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า ส31101 ชื่อวิชา สังคมศึกษา 1 สาระการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ส31101 ชอ่ื วิชา สังคมศกึ ษา 1 หน่วยการเรยี นรู้ รหัสวิชา ส31101 ชอ่ื วิชา สงั คมศกึ ษา 1 คำอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา ส31102 ชอื่ วิชา สงั คมศึกษา 2 สาระการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส31102 ชื่อวิชา สังคมศึกษา 2 หน่วยการเรียนรู้ รหัสวชิ า ส31102 ช่อื วิชา สังคมศกึ ษา 2 คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ส32101 ชอ่ื วิชา สังคมศกึ ษา 3 สาระการเรียนรู้ รหสั วิชา ส32101 ชื่อวิชา สังคมศึกษา 3 หน่วยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส32101 ชือ่ วิชา สงั คมศกึ ษา 3 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ส32102 ชื่อวิชา สงั คมศึกษา 4 สาระการเรียนรู้ รหสั วชิ า ส32102 ชอ่ื วิชา สงั คมศึกษา 4 หนว่ ยการเรียนรู้ รหัสวชิ า ส32102 ชื่อวิชา สังคมศึกษา 4 คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วชิ า ส33101 ช่ือวิชา ประวัติศาสตรไ์ ทย
4 สาระการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส33101 ชอื่ วิชา ประวัตศิ าสตร์ไทย 52 หนว่ ยการเรียนรู้ รหัสวิชา ส33101 ช่ือวิชา ประวัติศาสตร์ไทย 53 คำอธิบายรายวิชา รหสั วิชา ส33102 ชอ่ื วิชา ประวตั ศิ าสตรส์ ากล 55 สาระการเรียนรู้ รหัสวชิ า ส33102 ชอ่ื วิชา ประวตั ิศาสตร์สากล 56 หน่วยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส33102 ช่ือวิชา ประวัตศิ าสตรส์ ากล 58 คำอธบิ ายรายวิชา/สาระการเรียนร้แู ละโครงสร้างเวลาเรียน รายวิชาเพ่ิมเตมิ /วชิ าเลอื กเสรี 60 61 คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ส30231 ชอ่ื วิชา หน้าทพ่ี ลเมอื ง 1 63 64 สาระการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ส30231 ชอ่ื วิชา หนา้ ท่พี ลเมอื ง 1 65 67 หน่วยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส30231 ชื่อวิชา หน้าที่พลเมอื ง 1 68 69 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ส30232 ชื่อวิชา หนา้ ที่พลเมอื ง 2 71 72 สาระการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส30232 ชื่อวิชา หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 2 73 75 หน่วยการเรียนรู้ รหสั วชิ า ส30232 ช่อื วิชา หนา้ ที่พลเมือง 2 76 77 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ส30233 ชื่อวิชา หนา้ ท่พี ลเมอื ง 3 78 79 สาระการเรียนรู้ รหัสวิชา ส30233 ชื่อวิชา หนา้ ทีพ่ ลเมือง 3 80 81 หน่วยการเรียนรู้ รหสั วิชา ส30233 ชอื่ วิชา หน้าทพ่ี ลเมอื ง 3 82 83 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ส30234 ชื่อวิชา หน้าทพ่ี ลเมอื ง 4 85 86 สาระการเรียนรู้ รหสั วิชา ส30234 ชอ่ื วิชา หนา้ ที่พลเมือง 4 88 89 หน่วยการเรยี นรู้ รหัสวิชา ส30234 ชื่อวิชา หน้าทพ่ี ลเมือง 4 91 คำอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา ส30201 ชื่อวิชา อาเซยี นศกึ ษา สาระการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ส30201 ชื่อวิชา อาเซียนศกึ ษา หนว่ ยการเรียนรู้ รหัสวชิ า ส30201 ชอ่ื วิชา อาเซียนศึกษา คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ส30202 ชื่อวิชา เศรษฐกิจพอเพยี ง สาระการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ส30202 ชอ่ื วิชา เศรษฐกิจพอเพยี ง หน่วยการเรียนรู้ รหัสวิชา ส30202 ชอ่ื วิชา เศรษฐกจิ พอเพยี ง คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ส32201 ชอ่ื วิชา เงนิ ทองของมคี ่า สาระการเรียนรู้ รหัสวิชา ส32201 ชอ่ื วิชา เงนิ ทองของมีค่า หนว่ ยการเรียนรู้ รหสั วิชา ส32201 ชอื่ วิชา เงนิ ทองของมีค่า คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วิชา ส32203 ชื่อวิชา การปกครองท้องถน่ิ สาระการเรียนรู้ รหัสวชิ า ส32203 ชื่อวิชา การปกครองทอ้ งถน่ิ หน่วยการเรียนรู้ รหสั วชิ า ส32203 ชอื่ วิชา การปกครองท้องถนิ่
5 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ส33202 ชือ่ วิชา โลกศกึ ษา 93 สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ รหสั วชิ า ส33202 ช่ือวิชา โลกศกึ ษา 94 คำอธบิ ายรายวิชา สาระการเรียนรู้ รหสั วิชา ส33202 ชอื่ วิชา โลกศกึ ษา 95 หนว่ ยการเรยี นรู้ คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วชิ า ส30203 ชื่อวชิ า กฎหมายทีป่ ระชาชนควรรู9้ 6 สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส30203 ช่อื วชิ า กฎหมายท่ปี ระชาชนควรรู้97 คำอธิบายรายวชิ า สาระการเรียนรู้ รหัสวิชา ส30203 ชอ่ื วชิ า กฎหมายท่ีประชาชนควรร้9ู 8 หนว่ ยการเรยี นรู้ รหสั วิชา ส33204 ชื่อวิชา ประชากรกับสง่ิ แวดลอ้ ม 99 รหัสวิชา ส33204 ชอ่ื วิชา ประชากรกับสง่ิ แวดล้อม 100 รหสั วิชา ส33204 ชือ่ วิชา ประชากรกับสิ่งแวดลอ้ ม 101 รหสั วิชา ส30204 ชอ่ื วิชา ประวัตศิ าสตรท์ ้องถ่ิน 103 รหสั วิชา ส30204 ช่ือวิชา ประวตั ศิ าสตรท์ ้องถ่ิน 105 รหสั วิชา ส30204 ช่อื วชิ า ประวตั ิศาสตรท์ อ้ งถิ่น 107
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม บทนำ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสตรปี ากพนัง ได้จัดทำขึ้นโดยใช้กรอบและแนวทางท่ีหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551(ปรบั ปรุง 2560) ไดว้ างไว้โดยใหท้ ้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศ ทางการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันเพื่อสนองเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนไทย ทุกคน ในระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานมีคุณภาพด้านความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสังคม ทีม่ ีการเปล่ียนแปลงและแสวงหาความรู้เพอ่ื พฒั นาตนเองอย่างต่อเนอ่ื งตลอดชีวติ หลกั การ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสตรีปากพนัง ได้ใช้หลักการพัฒนาหลักสูตรตามแบบของหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐานซ่ึงมีหลักการท่ีสำคัญ ดงั น้ี 1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็น เป้าหมายสำหรบั พัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐาน ของความเป็นไทย ควบคู่กบั ความเปน็ สากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ท่ีประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และ มคี ณุ ภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพและความตอ้ งการของท้องถิ่น 4. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาทม่ี ีโครงสร้างยดื หยุน่ ท้งั ดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลาและการจดั การเรียนรู้ 5. เป็นหลกั สูตรการศกึ ษาท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ ท่ีครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบ โอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์ได้ จดุ หมาย หลักสูตรสถานศึกษามีความมุ่งหมายในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีควา มสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพ่ือให้เกิดกับผู้เรียน เม่ือจบ การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ดงั นี้ 1. มคี ุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มที่พึงประสงค์ เห็นคณุ คา่ ของตนเอง มวี ินัยและปฏิบตั ติ นตาม หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทีต่ นนบั ถอื ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. มีความรู้ ความสามารถในการสือ่ สาร การคิด การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยีและมีทกั ษะชวี ติ 3. มสี ุขภาพกายและสุขภาพจติ ท่ีดี มีสขุ นิสยั และรกั การออกกำลังกาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถชี ีวติ และการปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ 5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม มีจิตสาธารณะท่ี มุ่งทำประโยชน์และสรา้ งส่งิ ทด่ี งี ามในสังคมและอยรู่ ว่ มกันในสังคมอยา่ งมคี วามสุข
2 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรสถานศึกษามุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีสมรรถนะสำคัญและ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั นี้ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลด ปญั หาความขัดแย้งตา่ ง ๆ การเลือกรับหรอื ไม่รับขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลอื กใชว้ ธิ ีการสอ่ื สาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทีม่ ตี อ่ ตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบ เพอ่ื นำไปสู่การสรา้ งองคค์ วามร้หู รือสารสนเทศ เพ่อื การตดั สินใจเก่ยี วกับตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรมู้ าใช้ในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีเกิดขึ้น ต่อตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ดำเนินชวี ิตประจำวัน การเรียนรูด้ ้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่รว่ มกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึง ประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่นื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และ มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม คุณลกั ษณะของผเู้ รยี นที่พึงประสงค์ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสตรีปากพนัง มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้ สามารถอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ่ืนในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง การปฏิบัติตนเป็นคนดีในสังคม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
3 2. ซ่อื สัตยส์ ุจริต หมายถงึ ปฏบิ ตั ิตนอย่างตรงไปตรงมา ทง้ั กาย วาจา ใจ 3. มีวนิ ยั หมายถึง ปฏบิ ตั ิตามกฎเกณฑ์ของโรงเรียน ครอบครัวชุมชน และกิจกรรมในห้องเรยี น เช่น สมดุ งาน ชน้ิ งาน สะอาดเรียบร้อยปฏบิ ัตติ นอยใู่ นข้อตกลงทก่ี ำหนดให้ร่วมกนั ทุกครัง้ 4. ใฝ่เรียนรู้ หมายถึง ลักษณะของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นในการเรียน รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็น ประโยชน์ แสวงหาความรูจ้ ากแหล่งเรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย และสามารถถา่ ยทอดเผยแพร่ องคค์ วามรใู้ ห้กับผู้อน่ื 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง หมายถึง มีความเปน็ อยูอ่ ย่างพอเพียง รู้จกั การดำรงชวี ิตให้มีคุณคา่ 6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน หมายถึง มุ่งมนั่ ทำงานอยา่ งรอบคอบ จนประสบผลสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย หมายถึง มีความตระหนักเห็นคุณค่าของความเป็นไทย และมีเจตคตทิ ี่ดี รักษา เอกลักษณ์ ไทย และขนบธรรมเนยี มประเพณี 8. มีจิตสาธารณะ หมายถึงมีความสำนึกและมุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ ร่วมกันในสงั คมอย่างมคี วามสขุ ความสำคัญของสาระเรยี นรู้ สงั คมโลกมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็วตลอดเวลา กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม ช่วยให้ผ้เู รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจ ว่ามนุษย์ดำรงชวี ิตอย่างไร ทง้ั ในฐานะปจั เจกบคุ คล และการ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรพั ยากรทมี่ อี ย่อู ย่างจำกัด นอกจากน้ี ยังชว่ ย ใหผ้ ูเ้ รียนเขา้ ใจถงึ การพฒั นา เปลย่ี นแปลงตามยคุ สมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจยั ต่างๆ ทำใหเ้ กิดความเข้าใจใน ตนเอง และผู้อื่น มีความอดทน อดกลนั้ ยอมรับในความแตกต่าง และมีคณุ ธรรม สามารถนำความรู้ไปปรบั ใช้ ในการดำเนนิ ชวี ิต เป็นพลเมอื งดขี องประเทศชาติ และสังคมโลก กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม ทม่ี ีความเชอื่ ม สมั พันธ์กัน และมีความแตกต่างกนั อย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบทสภาพแวดล้อม เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม โดยได้กำหนดสาระ ต่างๆไว้ ดงั นี้ • ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพื้นฐานเก่ียวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรม ของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ ร่วมกนั อย่างสนั ติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านยิ มที่ดีงาม พฒั นาตนเองอยู่เสมอ รวมท้ังบำเพญ็ ประโยชน์ต่อ สงั คมและส่วนรวม • หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การเป็น พลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเช่ือ ปลูกฝังค่านิยมด้าน ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าท่ี เสรีภาพการดำเนินชีวิตอย่างสันติสุขใน สังคมไทยและสงั คมโลก
4 • เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการ ทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ และการนำหลักเศรษฐกิจ พอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวัน • ประวัติศาสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบท่ีเกิดจาก เหตุการณ์สำคัญในอดีต บุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆในอดีต ความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย แหล่งอารยธรรมท่สี ำคัญของโลก • ภมู ศิ าสตร์ ลกั ษณะทางกายภาพของโลก ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างมนษุ ย์กับสิง่ แวดล้อมท่ีกอ่ ใหเ้ กิดการ สร้างสรรค์วถิ ีการดำเนนิ ชีวิต เพ่ือใหร้ ู้เท่าทนั ปรบั ตวั ตามการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสามารถใช้ ทกั ษะกระบวนการ ความสามารถทางภูมิศาสตร์และเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์จดั การทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม ตามสาเหตุและปจั จัยอนั จะนำไปส่กู ารปรับใช้ในการดำเนินชีวติ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ี ตนนบั ถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาทถ่ี ูกต้อง ยึดมัน่ และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ืออยู่ ร่วมกันอยา่ งสันตสิ ขุ มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนับถือ สาระท่ี 2 หน้าที่พลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสงั คม มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทข่ี องการเปน็ พลเมอื งดี มีค่านยิ มทีด่ งี าม และ ธำรงรักษาประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคม โลกอยา่ งสันตสิ ขุ มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรักษา ไวซ้ ึง่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบรโิ ภคการใช้ ทรพั ยากรทมี่ อี ยจู่ ำกดั ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคมุ้ ค่า รวมท้ังเข้าใจ หลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำรงชวี ิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ มาตรฐาน ส 3.2 เขา้ ใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พันธท์ างเศรษฐกจิ และความจำเป็นของการร่วมมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก
5 สาระท่ี 4 ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์มาวเิ คราะห์เหตกุ ารณ์ต่างๆ อยา่ งเปน็ ระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดตี จนถงึ ปัจจุบนั ในด้านความสมั พนั ธแ์ ละการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒ นธรรม ภูมิปัญ ญ าไทย มีความรัก ความภูมใิ จและธำรงความเป็นไทย สาระที่ 5 ภมู ศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกัน ใช้แผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหาวิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตาม กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ตลอดจนใช้ภมู สิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธร์ ะหว่างมนุษยก์ ับสภาพแวดล้อมทางกายภาพทก่ี ่อใหเ้ กิด การสรา้ งสรรค์วถิ กี ารดำเนนิ ชีวติ มีจิตสำนกึ และมสี ว่ นร่วมในการจดั การ ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม เพอื่ การพัฒนาท่ีย่ังยนื คุณภาพผเู้ รียน จบชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 • ได้เรียนรแู้ ละศกึ ษาความเป็นไปของโลกอยา่ งกวา้ งขวางและลกึ ซึง้ ยิ่งขึน้ • ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้พัฒนาตนเองเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตาม หลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ รวมท้ังมีค่านิยมอันพึงประสงค์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนและอยู่ในสังคมได้ อย่างมคี วามสขุ รวมท้งั มศี ักยภาพเพื่อการศกึ ษาต่อในชน้ั สูงตามความประสงค์ได้ • ได้เรียนรู้เร่ืองภูมิปัญญาไทย ความภูมิใจในความเป็นไทย ประวัติศาสตร์ของชาติไทย ยึดม่นั ในวิถชี ีวติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข • ไดร้ บั การส่งเสรมิ ให้มีนิสัยทด่ี ีในการบริโภค เลอื กและตัดสินใจบรโิ ภคได้อย่างเหมาะสมมจี ติ สำนึก และมีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรมไทย และสิง่ แวดล้อม มีความรักท้องถิ่นและประเทศชาติ มุ่ง ทำประโยชน์ และสร้างสงิ่ ท่ดี ีงามใหก้ ับสงั คม • เป็นผ้มู ีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของตนเอง ช้ีนำตนเองได้ และสามารถแสวงหา ความรู้จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆในสงั คมไดต้ ลอดชวี ิต
6 โครงสรา้ งเวลาเรยี น หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับช้ันมัธยมศึกษา ตอนปลาย กำหนดวิชาและโครงสรา้ งเวลาเรยี นดังนี้ 1. สาระการเรียนร้พู ้นื ฐาน ระดบั ชน้ั รหัสวชิ า ช่อื รายวชิ า จำนวนชั่วโมง/ภาค มัธยมศึกษาปีที่ 4 ส31101 สงั คมศกึ ษา 1 60 มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ส31102 สังคมศึกษา 2 60 มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ส32101 สงั คมศึกษา 3 60 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ส32102 สงั คมศึกษา 4 60 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ส33101 ประวัติศาสตร์ไทย 40 มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ส33102 ประวตั ิศาสตรส์ ากล 40 2. สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม/วิชาเลอื กเสรี ระดบั ชนั้ รหัสวชิ า ชอ่ื รายวชิ า จำนวนชั่วโมง/ภาค หน้าทีพ่ ลเมือง 1 20 มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ส30231 หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง 2 20 หนา้ ท่ีพลเมือง 3 20 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ส30232 หน้าทพี่ ลเมือง 4 20 อาเซยี นศกึ ษา 1 40 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ส30233 เศรษฐกจิ พอเพยี ง 40 เงินทองของมีค่า 40 มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ส30234 การปกครองทอ้ งถน่ิ 40 โลกศกึ ษา 40 มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ส30201 40 กฎหมายท่ีประชาชนควรรู้ 40 มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 ส30202 40 ประชากรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ส32201 ประวัติศาสตร์ทอ้ งถนิ่ 1 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ส32203 มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ส33202 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ส30203 มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ส33204 มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ส30204
7 ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ที่ตนนบั ถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถกู ต้อง ยึดมัน่ และปฏบิ ัติตามหลักธรรมเพ่อื อยู่ รว่ มกันอย่างสนั ติสุข ชั้น ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4-6 1.วิเคราะห์สงั คมชมพทู วปี และคติความ ลักษณะของสงั คมชมพทู วีป และคตคิ วาม เชื่อทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า หรือ เชอื่ ทางศาสนาสมยั ก่อนพระพทุ ธเจ้า สังคมสมัยของศาสดาทีต่ นนบั ถอื 2. วิเคราะห์ พระพุทธเจ้าในฐานะเปน็ พระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนุษย์ ผู้ฝึกตนได้ มนษุ ย์ผูฝ้ ึกตนได้อยา่ งสงู สดุ ในการตรัสรู้ อยา่ งสูงสดุ (การตรสั ร)ู้ การก่อตัง้ วิธีการสอนและการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา หรือวิเคราะหป์ ระวัติ การก่อตงั้ พระพทุ ธศาสนา วธิ กี ารสอน และ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาตามแนวพุทธจริยา ศาสดาที่ตนนบั ถือ ตามทีก่ ำหนด 3.วเิ คราะหพ์ ทุ ธประวตั ิด้านการบริหาร และ พทุ ธประวัตดิ า้ นการบรหิ ารและการธำรง รักษาพระพทุ ธศาสนา การธำรงรักษาศาสนา หรือ วิเคราะห์ ประวตั ศิ าสดาท่ตี นนับถือ ตามท่กี ำหนด 4. วเิ คราะห์ข้อปฏิบัติทางสายกลางใน พระพุทธศาสนามที ฤษฎแี ละวธิ ีการที่เป็น พระพุทธศาสนา หรอื แนวคดิ ของศาสนาท่ี สากลและมขี ้อปฏิบัติท่ยี ดึ ทางสายกลาง ตนนบั ถือ ตามทก่ี ำหนด 5. วิเคราะห์การพัฒนาศรัทธา และปญั ญาที่ พระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและ ถูกต้องในพระพทุ ธศาสนา หรือแนวคดิ ของ ปัญญาที่ถูกตอ้ ง ศาสนาท่ีตนนับถือ ตามทกี่ ำหนด 6. วเิ คราะหล์ ักษณะประชาธิปไตยใน ลกั ษณะประชาธิปไตยในพระพุทธ- ศาสนา พระพุทธศาสนา หรอื แนวคิดของศาสนาที่ ตนนับถือตามท่กี ำหนด 7. วิเคราะห์หลักการของพระพุทธศาสนา หลักการของพระพทุ ธศาสนากบั หลัก กับหลักวิทยาศาสตร์ หรือแนวคดิ ของ วทิ ยาศาสตร์ ศาสนาท่ีตนนับถอื ตามท่ีกำหนด การคิดตามนยั แห่งพระพุทธศาสนาและการ คิดแบบวิทยาศาสตร์ 8. วเิ คราะหก์ ารฝกึ ฝนและพัฒนาตนเอง พระพทุ ธศาสนาเน้นการฝึกหดั อบรมตน
8 ชัน้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง การพ่ึงตนเอง และการม่งุ อสิ รภาพใน การพ่งึ ตนเอง และการมุ่งอิสรภาพ พระพุทธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาทีต่ น นบั ถือตามทีก่ ำหนด ม.4-6 9. วิเคราะหพ์ ระพทุ ธศาสนาวา่ พระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสตรแ์ ห่งการศึกษา เป็นศาสตรแ์ ห่งการศึกษาซง่ึ เนน้ พระพุทธศาสนาเน้นความสมั พนั ธ์ ของ ความสัมพันธข์ องเหตุปจั จัยกับ เหตปุ ัจจัยและวธิ กี ารแก้ปัญหา วิธีการแกป้ ัญหา หรือแนวคิดของศาสนาที่ ตนนับถอื ตามทกี่ ำหนด 10. วเิ คราะห์พระพทุ ธศาสนาในการฝกึ ตน พระพทุ ธศาสนาฝึกตนไม่ใหป้ ระมาท ไมใ่ หป้ ระมาท ม่งุ ประโยชน์และสนั ติภาพ พระพุทธศาสนามงุ่ ประโยชนส์ ขุ และสนั ติภาพ บุคคล สงั คมและโลก หรอื แนวคดิ ของ แก่บคุ คล สงั คมและโลก ศาสนาท่ีตนนบั ถือตามท่ีกำหนด 11. วิเคราะหพ์ ระพุทธศาสนากับปรชั ญา พระพุทธศาสนากบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ ของเศรษฐกจิ พอเพียงและการพัฒนา พอเพยี งและการพฒั นาแบบยัง่ ยืน ประเทศแบบย่งั ยืน หรือแนวคดิ ของศาสนา ที่ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด 12. วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของ ความสำคญั ของพระพุทธศาสนากับการศกึ ษา พระพุทธศาสนาเกี่ยวกบั การศึกษา ท่สี มบูรณ์ ท่สี มบูรณ์ การเมืองและสนั ติภาพ ความสำคญั ของพระพุทธศาสนากับการเมอื ง 13. วิเคราะห์หลกั ธรรมในกรอบ อริยสัจ 4 ➢ พระรัตนตรยั หรือหลกั คำสอนของศาสนา ท่ีตนนับถือ วเิ คราะห์ความหมายและคุณค่าของ พทุ ธะ ธรรมะ สังฆะ ➢ อรยิ สจั 4 ทกุ ข์ (ธรรมที่ควรรู้) o ขันธ์ 5 - นามรูป - โลกธรรม 8 - จิต, เจตสิก สมทุ ัย (ธรรมที่ควรละ) o หลกั กรรม - นยิ าม 5 - กรรมนิยาม ( กรรม 12)
ชน้ั ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ 9 ม.4-6 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - ธรรมนยิ าม(ปฏจิ จสมุปบาท) - วิตก 3 - มจิ ฉาวณชิ ชา 5 - นวิ รณ์ 5 - อุปาทาน 4 นโิ รธ (ธรรมทีค่ วรบรรล)ุ - ภาวนา 4 - วิมตุ ติ 5 - นิพพาน มรรค (ธรรมท่ีควรเจรญิ ) o พระสทั ธรรม 3 o ปัญญาวุฒิธรรม 4 o พละ 5 o อบุ าสกธรรม 5 o อปริหานยิ ธรรม 7 o ปาปณกิ ธรรม 3 o ทิฏฐธัมมกิ ัตถสังวตั ตนิกธรรม 4 o โภคอาทยิ ะ 5 o อรยิ วฑั ฒิ 5 o อธิปไตย 3 o สาราณยี ธรรม 6 o ทศพิธราชธรรม 10 o วิปัสสนาญาณ 9 o มงคล 38 - สงเคราะหบ์ ุตร - สงเคราะหภ์ รรยา - สนั โดษ - ถูกโลกธรรมจติ ไม่หวัน่ ไหว - จิตไม่เศร้าโศก - จิตไมม่ วั หมอง - จติ เกษม - ความเพียรเผากิเลส - ประพฤติพรหมจรรย์
10 ช้นั ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - เหน็ อรยิ สจั - บรรลนุ พิ พาน ม.4-6 ➢ พทุ ธศาสนสภุ าษิต จิตตฺ ํ ทนฺตํ สขุ าวหํ จิตท่ฝี ึกดีแล้วนำสุขมาให้ นอุจจฺ าวจํ ปณฑฺ ติ า ทสฺสยนฺติ บณั ฑติ ยอ่ มไม่แสดงอาการข้นึ ๆ ลง ๆ นตถฺ ิ โลเก อนนิ ทฺ ิโต คนท่ไี มถ่ ูกนินทา ไม่มีในโลก โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ ฆา่ ความโกรธได้ย่อมอยเู่ ปน็ สุข ปฏริ ปู การี ธรุ วา อุฎฺฐาตา วินทฺ เต ธนํ คนขยนั เอาการเอางาน กระทำเหมาะสม ย่อมหาทรัพยไ์ ด้ วายเมถว ปุรโิ ส ยาว อตฺถสสฺ นปิ ปฺ ทา เกดิ เปน็ คนควรจะพยายามจนกว่าจะ ประสบความสำเร็จ สนตฺ ฎฐฺ ี ปรมํ ธนํ ความสันโดษเป็นทรพั ยอ์ ยา่ งย่ิง อิณาทานํ ทกุ ฺขํ โลเก การเป็นหน้ีเปน็ ทกุ ขใ์ นโลก ราชา มุขํ มนุสฺสานํ พระราชาเปน็ ประมขุ ของประชาชน สติ โลกสฺมิ ชาคโร สติเปน็ เครอ่ื งต่นื ในโลก นตถฺ ิ สนตฺ ปิ รํ สขุ ํ สุขอ่ืนยงิ่ กว่าความสงบไมม่ ี นพิ ฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเปน็ สขุ อยา่ งย่งิ ม.4-6 14. วิเคราะห์ข้อคดิ และแบบอยา่ ง ➢ พทุ ธสาวก พทุ ธสาวกิ การดำเนินชีวิตจากประวตั สิ าวก ชาดก พระอสั สชิ เรอื่ งเลา่ และศาสนิกชนตัวอยา่ ง ตามที่ พระกสี าโคตมีเถรี
11 ชั้น ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง กำหนด พระนางมลั ลกิ า 15. วิเคราะหค์ ุณคา่ และความสำคัญของ หมอชีวก โกมารภจั พระอนุรุทธะ พระองคลุ ิมาล พระธัมมทินนาเถรี จิตตคหบดี พระอานนท์ พระปฏาจาราเถรี จูฬสุภัททา สุมนมาลาการ ➢ ชาดก เวสสันดรชาดก มโหสธชาดก มหาชนกชาดก ➢ ชาวพุทธตวั อย่าง พระนาคเสน - พระยามิลินท์ สมเด็จพระวนั รัต (เฮง เขมจาร)ี พระอาจารยม์ ่นั ภูริทตโฺ ต สุชีพ ปญุ ญานุภาพ สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช พระธรรมโกศาจารย์ (พทุ ธทาสภิกขุ) วธิ ีการศกึ ษาและค้นคว้าพระไตรปิฏก และ การสงั คายนา พระไตรปิฎก หรอื คัมภรี ์ของ คัมภรี ข์ องศาสนาอื่น ๆ การสงั คายนาและการ ศาสนาที่ตนนบั ถือ และการเผยแผ่ เผยแผพ่ ระไตรปฏิ ก ความสำคญั และคณุ ค่าของพระไตรปิฏก 16. เช่ือมัน่ ตอ่ ผลของการทำความดี ตัวอย่างผลทเ่ี กิดจากการทำความดี ความชวั่ สามารถวเิ คราะห์สถานการณ์ที่ ความชัว่ ตอ้ งเผชญิ และตัดสินใจเลอื กดำเนนิ การ โยนิโสมนสิการด้วยวิธคี ดิ แบบอรยิ สัจ หรอื ปฏิบตั ิตนได้อยา่ งมเี หตผุ ลถกู ต้องตาม หลักธรรมตามสาระการเรียนรขู้ ้อ 13 หลักธรรม จริยธรรม และกำหนดเป้าหมาย บทบาทการดำเนินชวี ติ เพือ่ การอยรู่ ่วมกัน อยา่ งสันตสิ ุข และอยรู่ ว่ มกันเปน็ ชาติอย่าง สมานฉนั ท์ ชัน้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
12 ชนั้ ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4-6 17. อธบิ ายประวตั ิศาสดาของศาสนาอน่ื ๆ ◆ ประวตั พิ ระพุทธเจา้ มุฮัมมดั พระเยซู โดยสังเขป 18.ตระหนกั ในคุณค่าและความสำคญั ของ ◆ คณุ ค่าและความสำคญั ของค่านยิ มและ คา่ นยิ ม จริยธรรมที่เปน็ ตวั กำหนดความเชือ่ จรยิ ธรรม และพฤติกรรมทีแ่ ตกต่างกนั ของศาสนิกชน ◆ การขจดั ความขัดแย้งเพื่ออยู่รว่ มกนั อย่างสันติ ศาสนาต่างๆ เพอ่ื ขจัดความขัดแยง้ และอยู่ สุข รว่ มกันในสงั คมอย่างสนั ตสิ ขุ 19. เห็นคณุ ค่า เชือ่ มน่ั และมุ่งม่นั พัฒนา พัฒนาการเรียนร้ดู ว้ ยวธิ คี ิดแบบโยนโิ ส ชวี ติ ดว้ ยการพัฒนาจติ และพัฒนาการเรียนรู้ มนสิการ 10 วิธี (เนน้ วธิ ีคิดแบบแยกแยะ ดว้ ยวิธีคดิ แบบโยนิโสมนสกิ าร หรอื การ ส่วนประกอบ แบบสามญั ญลกั ษณะ พัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตน แบบเปน็ อยูใ่ นขณะปจั จบุ นั และแบบวิภชั ชวาท ) นับถือ 1) วธิ ีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย 2) วิธีคิดแบบแยกแยะสว่ นประกอบ 3) วธิ คี ิดแบบสามญั ลกั ษณะ 4) วิธีคดิ แบบอริยสจั 5) วธิ คี ดิ แบบอรรถธรรมสมั พนั ธ์ 6) วิธีคิดแบบคุณคา่ แท้- คณุ ค่าเทยี ม 7) วิธคี ิดแบบคุณ-โทษ และทางออก 8) วธิ คี ิดแบบอุบาย ปลุกเรา้ คุณธรรม 9) วิธคี ิดแบบเปน็ อยู่ในขณะปัจจบุ นั 10) วธิ คี ิดแบบวภิ ัชชวาท 20. สวดมนต์ แผเ่ มตตา และบริหารจิตและ ➢ สวดมนตแ์ ปล และแผ่เมตตา เจริญปัญญาตามหลักสติปฏั ฐาน หรือตาม ร้แู ละเขา้ ใจวธิ ปี ฏิบัติและประโยชนข์ องการ แนวทางของศาสนาท่ตี นนบั ถือ บรหิ ารจิตและเจริญปญั ญา ฝกึ การบรหิ ารจิตและเจรญิ ปญั ญาตาม หลกั สติปัฎฐาน นำวิธกี ารบริหารจติ และเจริญปญั ญาไป ใช้ในการพัฒนาการเรยี นรู้ คุณภาพชีวติ และสังคม 21. วเิ คราะห์หลกั ธรรมสำคัญในการอยู่ ◆ หลักธรรมสำคญั ในการอยรู่ ่วมกนั อย่าง ร่วมกันอยา่ งสนั ติสุขของศาสนาอ่นื ๆ และ สนั ติสุข ชกั ชวน สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหบ้ ุคคลอน่ื เห็น o หลกั ธรรมในพระพทุ ธศาสนา เชน่ ความสำคญั ของการทำความดีต่อกนั สาราณยี ธรรม 6 อธิปไตย 3 มิจฉาวณชิ ชา 5
13 ช้นั ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง อรยิ วฑั ฆิ 5 โภคอาทยิ ะ 5 ◆ คริสตศ์ าสนา ไดแ้ ก่ บัญญัติ 10ประการ ◆ ศาสนาอิสลาม ได้แก่ หลักจรยิ ธรรม (เฉพาะทเ่ี กยี่ วข้อง) ชน้ั ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 22. เสนอแนวทางการจัดกิจกรรม ความ ◆ สภาพปัญหาในชุมชน และสังคม รว่ มมือของทุกศาสนาในการแกป้ ญั หาและ พัฒนาสงั คม มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนกั และปฏิบตั ติ นเป็นศาสนกิ ชนท่ีดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนบั ถอื ชัน้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ม.4-ม.6 1. ปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนิกชนทด่ี ีต่อสาวก ➢ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ชาวพุทธทดี่ ีต่อพระภกิ ษุ สมาชิกในครอบครวั และคนรอบข้าง การเขา้ ใจในกิจของพระภกิ ษุ เชน่ การศึกษา การปฏิบัติธรรม และการเปน็ นักบวชที่ดี คุณสมบัติทายกและปฏคิ าหก หน้าท่แี ละบทบาทของพระภกิ ษุ ใน ฐานะพระนกั เทศก์ พระธรรมทตู พระธรรมจาริก พระวทิ ยากร พระ วปิ ัสสนาจารย์ และพระนกั พฒั นา การปกป้องคุ้มครอง พระพทุ ธศาสนา ของพุทธบริษทั ในสังคมไทย การปฏิบตั ิตนตอ่ พระภิกษทุ างกาย วาจา และใจ ทีป่ ระกอบด้วยเมตตา การปฏสิ ันถารท่ีเหมาะสมต่อพระภกิ ษุ ในโอกาสต่าง ๆ ➢ ปฏิบัตติ นเป็นสมาชกิ ทดี่ ีของครอบครัวและ สังคม การรักษาศีล 8 การเข้ารว่ มกิจกรรมและเปน็ สมาชิกของ
14 องคก์ รชาวพุทธ การเปน็ ชาวพทุ ธท่ดี ี ตามหลกั ทิศเบอื้ ง บน ในทิศ 6 การปฏบิ ัติตนท่เี หมาะสมในฐานะ ผปู้ กครองและ ผ้อู ยู่ในปกครอง ตาม หลักทิศเบ้ืองล่าง ในทิศ 6
15 ช้ัน ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.4-ม.6 2. ปฏบิ ตั ติ นถกู ตอ้ งตามศาสนพิธพี ิธีกรรม การปฏสิ ันถารตามหลัก ปฏิสันถาร 2 ตามหลักศาสนาทีต่ นนับถอื หน้าที่และบทบาทของอบุ าสก 3. แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะหรือ อบุ าสกิ าท่ีมตี ่อสงั คมไทยในปัจจบุ นั แสดงตนเป็นศาสนกิ ชนของศาสนา การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกท่ดี ขี อง ที่ตนนับถอื 4. วิเคราะหห์ ลักธรรม คติธรรมที่ ครอบครัว ตามหลักทิศเบ้ืองหลัง เก่ียวเนือ่ งกบั วันสำคญั ทางศาสนา และ ในทิศ 6 เทศกาลที่สำคญั ของศาสนาท่ีตนนับถอื การบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ ครอบครวั และปฏิบตั ิตนไดถ้ ูกตอ้ ง ชุมชน ประเทศชาติ และโลก ➢ ประเภทของศาสนพิธใี นพระพุทธศาสนา ศาสนพธิ เี น่อื งด้วยพทุ ธบัญญัติ เช่น พิธี แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ พธิ ีเวียนเทยี น ถวาย สังฆทาน ถวายผ้าอาบนำ้ ฝน พิธีทอดกฐนิ พิธีปวารณา เป็นต้น ศาสนพิธที ่ีนำพระพุทธศาสนา เขา้ ไป เกยี่ วเน่อื ง เชน่ การทำบุญเล้ยี งพระในโอกาส ต่างๆ ➢ ความหมาย ความสำคญั คตธิ รรม ในพธิ ีกรรม บทสวดมนต์ของนกั เรยี น งานพิธี คณุ ค่าและประโยชน์ ➢ พิธบี รรพชาอปุ สมบท คณุ สมบตั ิของ ผูข้ อบรรพชาอปุ สมบท เคร่อื ง อฏั ฐบริขาร ประโยชน์ของการ บรรพชาอุปสมบท ➢ บุญพธิ ี ทานพธิ ี กุศลพธิ ี ➢ คุณค่าและประโยชนข์ องศาสนพิธี ➢ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ข้ันเตรยี มการ ข้ันพธิ ีการ หลกั ธรรม/คติธรรมทีเ่ กีย่ วเน่อื งกับ วันสำคัญ และเทศกาลทส่ี ำคญั ใน พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาอื่น การปฏิบตั ติ นทีถ่ กู ตอ้ งในวันสำคญั และเทศกาลที่สำคัญในพระพุทธศาสนา หรือ ศาสนาอ่นื
16 ชน้ั ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ม.4-ม.6 5. สมั มนาและเสนอแนะแนวทางในการ การปกปอ้ ง คุ้มครอง ธำรงรกั ษา ธำรงรักษาศาสนาทต่ี นนับถือ อนั ส่งผลถึง พระพุทธศาสนาของพทุ ธบริษทั ในสงั คมไทย การพัฒนาตน พฒั นาชาตแิ ละโลก การปลกู จติ สำนึก และการมีส่วนรว่ ม ในสังคมพทุ ธ สาระท่ี 2 หนา้ ทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสงั คม มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทีข่ องการเป็นพลเมืองดี มคี ่านิยมทดี่ ีงามและธำรงรักษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยูร่ ่วมกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ช้ัน ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.4-ม.6 1. วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามกฎหมายที่ เกย่ี วขอ้ งกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน กฎหมายเพ่งเก่ยี วกับนิติกรรมสัญญา เชน่ ประเทศชาติ และสงั คมโลก ซ้ือขาย ขายฝาก เช่าทรพั ย์ เช่าซ้ือ กู้ยืมเงิน จำนำ จำนอง 2. วเิ คราะหค์ วามสำคัญของโครงสร้างทาง สงั คม การขัดเกลาทางสังคม และ การ กฎหมายอาญา เช่น ความผิดเก่ยี วกบั ทรพั ย์ เปลยี่ นแปลงทางสังคม ความผดิ เกย่ี วกบั ชวี ิตและรา่ งกาย 3. ปฏิบัตติ นและมีส่วนสนบั สนุนใหผ้ ู้อืน่ กฎหมายอ่ืนท่ีสำคญั เชน่ รัฐธรรมนูญแหง่ ประพฤติปฏิบตั เิ พื่อเปน็ พลเมอื งดขี อง ราชอาณาจกั รไทยฉบับปัจจบุ ัน กฎหมาย การรับราชการทหาร กฎหมายภาษีอากร กฎหมายคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ เชน่ ปฏิญญา สากลว่าดว้ ยสทิ ธิมนษุ ยชน กฎหมาย มนษุ ยธรรมระหว่างประเทศ โครงสรา้ งทางสังคม - การจดั ระเบยี บทางสงั คม - สถาบนั ทางสงั คม การขัดเกลาทางสงั คม การเปลย่ี นแปลงทางสังคม การแก้ปญั หาและแนวทางการพัฒนาทาง สงั คม คุณลักษณะพลเมืองดขี องประเทศชาติ และ สังคมโลก เชน่
17 ประเทศชาติ และสงั คมโลก - เคารพกฎหมาย และกติกาสังคม - เคารพสทิ ธิ เสรภี าพของตนเองและ บคุ คลอ่นื - มเี หตผุ ล รบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน ชั้น ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.4-ม.6 - มีความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง สังคม ชุมชน ประเทศชาติและสังคม - เขา้ รว่ มกิจกรรมทางการเมอื ง การปกครอง - มีส่วนรว่ มในการปอ้ งกัน แก้ไขปญั หา เศรษฐกิจ สงั คม การเมืองการปกครอง สงิ่ แวดล้อม - มีคุณธรรมจรยิ ธรรม ใชเ้ ป็นตัวกำหนด ความคดิ 4. ประเมินสถานการณ์สทิ ธมิ นุษยชนใน ความหมาย ความสำคญั แนวคิดและ ประเทศไทย และเสนอแนวทางพฒั นา หลักการของสิทธมิ นษุ ยชน บทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศ ในเวทโี ลกทม่ี ีผลตอ่ ประทศไทย สาระสำคัญของปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิ มนษุ ยชน บทบญั ญัตขิ องรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบับปจั จบุ ัน เกย่ี วกบั สิทธิมนุษยชน ปญั หาสิทธมิ นษุ ยชนในประเทศ และแนวทางแกป้ ญั หาและพฒั นา 5. วเิ คราะหค์ วามจำเป็นทต่ี ้องมีการ ความหมายและความสำคญั ของวัฒนธรรม ปรับปรงุ เปล่ียนแปลงและอนุรกั ษ์วัฒนธรรม ลักษณะและ ความสำคัญของวฒั นธรรมไทยที่ ไทยและเลือกรบั วัฒนธรรมสากล สำคญั การปรับปรงุ เปล่ียนแปลงและอนุรักษ์วฒั นธรรม ไทย ความแตกตา่ งระหว่างวัฒนธรรมไทยกับ วฒั นธรรมสากล
18 แนวทางการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทยทีด่ งี าม วิธกี ารเลือกรับวฒั นธรรมสากล มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จุบนั ยึดมนั่ ศรทั ธาและธำรงรักษา ไว้ซง่ึ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ช้ัน ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.4-ม.6 1. วิเคราะหป์ ัญหาการเมืองท่สี ำคัญใน ปัญหาการเมอื งสำคญั ที่เกิดขึ้น ประเทศ จากแหลง่ ข้อมูลตา่ งๆ พร้อมท้งั เสนอแนวทางแกไ้ ข ภายในประเทศ สถานการณก์ ารเมอื งการปกครอง 2. เสนอแนวทาง ทางการเมืองการปกครอง ทน่ี ำไปสู่ความเขา้ ใจ และ ของสงั คมไทย และสงั คมโลก และ การประสานประโยชนร์ ่วมกนั ระหว่าง การประสานประโยชน์ร่วมกนั ประเทศ อิทธิพลของระบบการเมอื งการปกครอง ทม่ี ผี ลต่อการดำเนนิ ชวี ติ และความสัมพนั ธ์ 3. วเิ คราะห์ความสำคัญและ ความจำเปน็ ท่ี ระหวา่ งประเทศ ต้องธำรงรักษาไวซ้ ่งึ การปกครองตามระบอบ การประสานประโยชนร์ ่วมกนั ระหวา่ ง ประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประเทศ เชน่ การสร้างความสมั พันธ์ ประมขุ ระหวา่ งไทยกับประเทศต่าง ๆ การแลกเปล่ยี นเพ่ือช่วยเหลอื และสง่ เสริม ด้านวัฒนธรรม การศกึ ษา เศรษฐกิจ สังคม การปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ - รปู แบบของรฐั - ฐานะและพระราชอำนาจของ
4. เสนอแนวทางและมีส่วนรว่ มในการ 19 ตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั พระมหากษตั ริย์ การตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั ตาม รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบับ ปัจจุบัน ทม่ี ีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น การตรวจสอบโดยองคก์ รอสิ ระ การ ตรวจสอบโดยประชาชน สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ทรัพยากร ท่ี มอี ยู่จำกัดไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่ือการดำรงชีวติ อย่างมดี ุลยภาพ ช้นั ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.4–ม.6 1. อภิปรายการกำหนดราคาและคา่ จ้างใน ระบบเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบัน ผลดีและ ระบบเศรษฐกจิ ผลเสยี ของระบบเศรษฐกจิ แบบต่างๆ ตลาดและประเภทของตลาด ขอ้ ดีและ ขอ้ เสียของตลาดประเภทตา่ ง ๆ การกำหนดราคาตามอุปสงค์ และอปุ ทาน การกำหนดราคาในเชงิ กลยุทธท์ ี่มีในสงั คมไทย การกำหนดคา่ จ้าง กฎหมายที่เกยี่ วขอ้ งและ อัตราค่าจ้างแรงงานในสงั คมไทย บทบาทของรัฐในการแทรกแซงราคา และการ ควบคุมราคาเพื่อการแจกจ่าย และจัดสรรในทาง เศรษฐกิจ
20 2. ตระหนักถงึ ความสำคญั ของปรัชญาของ การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกจิ พอเพยี งท่มี ตี ่อเศรษฐกิจสังคมของ ในการดำเนนิ ชวี ติ ของตนเอง และครอบครวั ประเทศ การประยกุ ต์ใช้เศรษฐกิจพอเพยี งใน ภาคเกษตร อตุ สาหกรรม การค้าและบริการ ปญั หาการพฒั นาประเทศที่ผ่านมา โดย การศกึ ษาวเิ คราะห์แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และ สังคมฉบับท่ีผ่านมา การพัฒนาประเทศทน่ี ำปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ ในการวางแผนพฒั นา เศรษฐกิจ และสงั คมฉบับปัจจบุ นั 3. ตระหนักถึงความสำคญั ของระบบ ววิ ฒั นาการของสหกรณ์ในประเทศไทย สหกรณ์ในการพัฒนาเศรษฐกจิ ในระดับ ความหมายความสำคญั และหลักการของระบบ ชมุ ชนและประเทศ สหกรณ์ ตัวอย่างและประเภทของสหกรณ์ในประเทศไทย ความสำคัญของระบบสหกรณ์ในการพัฒนา เศรษฐกิจในชุมชนและประเทศ ช้นั ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 4. วิเคราะหป์ ัญหาทางเศรษฐกจิ ปัญหาทางเศรษฐกิจในชุมชน ในชมุ ชนและเสนอแนวทางแก้ไข แนวทางการพัฒนาเศรษฐกจิ ของชุมชน ตัวอย่างของการรวมกลมุ่ ท่ีประสบ ความสำเร็จในการแกป้ ญั หาทางเศรษฐกิจ ของชมุ ชน มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความจำเป็น ของการร่วมมอื กนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก ช้ัน ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4–ม.6 1. อธิบายบทบาทของรัฐบาลด้านนโยบาย บทบาทของนโยบายการเงนิ และการคลงั ของ การเงิน การคลังในการพัฒนาเศรษฐกิจของ รฐั บาลในด้าน ประเทศ - การรกั ษาเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ - การสรา้ งการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจ - การรักษาดลุ การค้าระหวา่ งประเทศ
21 - การแทรกแซงราคาและการควบคมุ ราคา รายรับและรายจ่ายของรัฐท่มี ีผลต่อ งบประมาณ หนี้สาธารณะ การพฒั นาทาง เศรษฐกจิ และคุณภาพชีวิตของประชาชน - นโยบายการเกบ็ ภาษปี ระเภทตา่ ง ๆ และการใชจ้ ่ายของรฐั - แนวทางการแก้ปญั หาการวา่ งงาน ความหมาย สาเหตุ และผลกระทบที่เกิดจาก ภาวะทางเศรษฐกจิ เช่น เงนิ เฟอ้ เงินฝดื ตัวชวี้ ัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เชน่ GDP , GNP รายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ บุคคล แนวทางการแก้ปัญหาของนโยบายการเงินการ คลงั ช้ัน ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4–ม.6 2. วเิ คราะห์ผลกระทบของการเปิดเสรีทาง ววิ ฒั นาการของการเปิดเสรที างเศรษฐกิจใน เศรษฐกิจในยุคโลกาภิวตั นท์ ่มี ีผลตอ่ ยคุ โลกาภิวตั นข์ องไทย สงั คมไทย ปัจจยั ทางเศรษฐกิจท่มี ีผลต่อการเปิดเสรีทาง เศรษฐกิจของประเทศ ผลกระทบของการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจของ ประเทศทม่ี ีต่อภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้าและบริการ การค้าและการลงทนุ ระหวา่ งประเทศ บทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศในเวที การเงินโลกท่ีมีผลกับประเทศไทย 3. วิเคราะห์ผลดี ผลเสียของความรว่ มมือ แนวคิดพ้ืนฐานที่เก่ียวข้องกบั การค้าระหว่าง ทางเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศในรปู แบบ ประเทศ ต่าง ๆ บทบาทขององคก์ ารความร่วมมือทาง
22 เศรษฐกจิ ที่สำคญั ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก เช่น WTO , NAFTA , EU , IMF , ADB , OPEC , FTA , APECในระดับต่าง ๆ เขต สเ่ี หล่ียมเศรษฐกิจ ปัจจัยต่าง ๆ ทน่ี ำไปส่กู ารพึ่งพา การแข่งขัน การขัดแย้ง และการประสานประโยชน์ทาง เศรษฐกิจ ตัวอยา่ งเหตกุ ารณท์ นี่ ำไปสกู่ ารพงึ พาทาง เศรษฐกิจ ผลกระทบจากการดำเนนิ กจิ กรรมทาง เศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ ปัจจัยต่าง ๆ ท่นี ำไปสกู่ ารพึ่งพาการแข่งขนั การขดั แยง้ และการประสารประโยชน์ทาง เศรษฐกจิ วธิ ีการกีดกนั ทางการค้าในการค้า ระหวา่ งประเทศ สาระท่ี 4 ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใชว้ ธิ กี าร ทางประวตั ิศาสตรม์ าวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ ชนั้ ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4 –ม. 6 1. ตระหนกั ถึงความสำคัญของเวลาและ เวลาและยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ท่ีปรากฏ ยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ท่ีแสดงถึงการ ในหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ไทยและ เปลย่ี นแปลงของมนุษยชาติ ประวตั ิศาสตรส์ ากล ตัวอยา่ งเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ ของสงั คมมนษุ ยท์ ี่มปี รากฏในหลักฐานทาง
23 ประวัตศิ าสตร์ (เช่อื มโยงกบั มฐ. ส 4.3) ความสำคัญของเวลาและยคุ สมยั ทาง ประวตั ิศาสตร์ 2. สร้างองคค์ วามรใู้ หมท่ างประวตั ศิ าสตร์ ขั้นตอนของวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ โดย โดยใชว้ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตรอ์ ย่างเป็น นำเสนอตัวอย่างทีละขัน้ ตอนอยา่ งชดั เจน ระบบ คุณค่าและประโยชน์ของวธิ กี ารทาง ประวัตศิ าสตร์ที่มีตอ่ การศึกษาทาง ประวตั ิศาสตร์ ผลการศึกษาหรือโครงงานทาง ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึงปัจจบุ นั ในด้านความสัมพันธแ์ ละ การเปลย่ี นแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบท่ี เกิดข้ึน ชน้ั ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.4 –ม. 6 1.วิเคราะหอ์ ิทธิพลของอารยธรรรมโบราณ อารยธรรมของโลกยุคโบราณ ได้แก่ อารย และการติดต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลก ตะวนั ตกทม่ี ีผลตอ่ พฒั นาการและการ ธรรมลมุ่ แมน่ ้ำไทกรีส-ยเู ฟรตีส ไนล์ ฮวงโห เปล่ยี นแปลงของโลก สนิ ธุ และอารยธรรมกรีก-โรมนั 2. วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์สำคญั ตา่ งๆทีส่ ่งผล การติดต่อระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลก
24 ตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ ตะวันตก และอิทธพิ ลทางวฒั นธรรมทีม่ ีต่อกนั และการเมอื ง เขา้ สูโ่ ลกสมยั ปัจจบุ นั และกัน เหตกุ ารณ์สำคญั ตา่ งๆที่ส่งผลตอ่ การ 3. วิเคราะห์ผลกระทบของการขยาย เปลย่ี นแปลงของโลกในปัจจบุ นั เชน่ ระบอบ อิทธพิ ลของประเทศในยโุ รปไปยังทวีป ฟิวดลั การฟนื้ ฟู ศลิ ปวิทยาการสงครามครู อเมริกา แอฟรกิ าและเอเชีย เสด การสำรวจทางทะเล การปฏิรปู ศาสนา 4. วิเคราะหส์ ถานการณ์ของโลกใน การปฏวิ ัติทาง คริสตศ์ ตวรรษท่ี ๒๑ วิทยาศาสตร์ การปฏวิ ตั ิอุตสาหกรรม จักรวรรดนิ ยิ ม ลทั ธิชาตินิยม เป็นตน้ ความร่วมมือ และความขดั แย้งของมนษุ ยชาติ ในโลก สถานการณส์ ำคัญของโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 เชน่ - เหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 (Nine Eleven ) - การขาดแคลนทรัพยากร - การกอ่ การรา้ ย - ความขดั แย้งทางศาสนา ฯลฯ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมิใจและธำรง ความเป็นไทย ช้นั ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
25 ม.4 –ม. 6 1.วเิ คราะห์ประเด็นสำคัญของ ประเดน็ สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เชน่ แนวคดิ เกย่ี วกบั ความเปน็ มาของชาติไทย ประวัตศิ าสตรไ์ ทย อาณาจักรโบราณในดินแดนไทย และ อทิ ธพิ ลทีม่ ีตอ่ สงั คมไทย ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อการ 2. วิเคราะหค์ วามสำคญั ของสถาบัน สถาปนาอาณาจักรไทยในชว่ งเวลาต่างๆ สาเหตุและ พระมหากษตั ริยต์ ่อชาติไทย ผลของการปฏิรูป ฯลฯ 3. วิเคราะห์ปจั จัยท่ีส่งเสรมิ ความ บทบาทของสถาบนั พระมหากษัตริยใ์ นการ สรา้ งสรรค์ภูมปิ ญั ญาไทย และวฒั นธรรม พฒั นาชาตไิ ทยในดา้ นตา่ งๆ เช่น การป้องกนั ไทย ซึ่งมีผลตอ่ สังคมไทยในยคุ ปจั จุบนั และรักษาเอกราชของชาติ การสร้างสรรค์ วฒั นธรรมไทย 4. วิเคราะหผ์ ลงานของบุคคลสำคัญทัง้ ชาว ไทยและต่างประเทศ ทม่ี สี ่วนสร้างสรรค์ อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตก และ วฒั นธรรมไทย และประวัตศิ าสตรไ์ ทย ตะวนั ออกทีม่ ีต่อสงั คมไทย 5. วางแผนกำหนดแนวทางและการมสี ่วน ผลงานของบุคคลสำคัญทัง้ ชาวไทยและ ร่วมการอนุรกั ษภ์ มู ปิ ญั ญาไทยและ ตา่ งประเทศ ที่มีส่วนสรา้ งสรรค์ วัฒนธรรม วัฒนธรรมไทย ไทย และประวตั ิศาสตรไ์ ทย ปัจจัยท่ีส่งเสรมิ ความสรา้ งสรรค์ภมู ิปัญญา ไทย และวัฒนธรรมไทย ซ่งึ มผี ลต่อสังคมไทย ในยุคปจั จุบนั สภาพแวดล้อมท่มี ีผลต่อการสร้างสรรค์ภมู ิ ปัญญาและวัฒนธรรมไทย วิถีชวี ิตของคนไทยในสมัยตา่ งๆ การสืบทอดและเปลยี่ นแปลงของวัฒนธรรม ไทย แนวทางการอนุรักษภ์ ูมิปัญญาและวฒั นธรรม ไทยและการมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษ์ วิธีการมสี ่วนรว่ มอนุรกั ษ์ภมู ปิ ัญญาและ วัฒนธรรมไทย
26 สาระที่ 5 ภูมิศาสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลก และความสมั พันธ์ของสรรพสง่ิ ซงึ่ มีผลต่อกนั ใชแ้ ผนที่ และ เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ ในการคน้ คว้า วเิ คราะห์และสรปุ ข้อมลู ตามกระบวนการทาง ภูมศิ าสตร์ตลอดจนใชภ้ ูมิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ชั้น ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4-6 1.วเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงทางกายภาพใน • การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ (ประกอบด้วย ประเทศและภูมิภาคต่างๆ ของโลก ซงึ่ ได้รับ 1. ธรณภี าค อทิ ธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ 2. บรรยากาศภาค 3. อุทกภาค 4. ชีวภาค ) ของพนื้ ทใี่ นประเทศไทย และ ภูมิภาคตา่ งๆ ของโลกซึ่งไดร้ บั อิทธพิ ลจากปัจจัย ทางภูมศิ าสตร์ • การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพที่สง่ ผลต่อภูมิ ประเทศ ภูมอิ ากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ 2.วเิ คราะห์ลกั ษณะทางกายภาพ ซง่ึ ทำให้ • ปัญหาทางกายภาพะและภยั พบิ ตั ทิ าง เกดิ ปัญหาและภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติใน ธรรมชาตใิ นประเทศและภมู ิภาคตา่ งๆ ประเทศไทยและภมู ภิ าคตา่ งๆของโลก ของโลก 3.ใช้แผนท่ีและเครื่องมอื ทางภูมศิ าสตร์ใน • แผนที่และองค์ประกอบ การค้นหา วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ขอ้ มูล ตาม • การอา่ นแผนทเี่ ฉพาะเร่อื ง กระบวนการทางภมู ศิ าสตรแ์ ละนำภูมิ • การแปลความหมายรปู ถา่ ยทางอากาศและ สารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั ภาพถา่ ยทางดาวเทยี ม • การนำภูมิสารสนเทศไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งมนษุ ยก์ ับสภาพแวดล้อมทางกายภาพท่กี อ่ ให้เกิด การสร้างสรรค์วิถกี ารดำเนนิ ชีวติ มีจิตสำนกึ และมสี ่วนร่วมในการจดั การ ทรัพยากรและ ส่ิงแวดล้อม เพอ่ื การพัฒนาท่ียงั่ ยนื ชน้ั ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.4-6 1.วิเคราะหป์ ฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งสง่ิ แวดลอ้ ม • ปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างสง่ิ แวดล้อมทางกายภาพ ทางกายภาพกบั กิจกรรมของมนุษย์ในการ กับการดำเนินชวี ติ ภายใต้กระแสโลกาภวิ ตั น์
27 สร้างสรรค์วิถกี ารดำเนินชวี ิตของทอ้ งถ่นิ ทั้ง ไดแ้ ก่ ในประเทศไทยและภูมภิ าคต่างๆของโลก และเหน็ ความสำคญั ของสิง่ แวดล้อมทม่ี ีผล • ประชากรและการตงั้ ถิ่นฐาน(การกระจาย ต่อการดำรงชีวิตของมนษุ ย์ และการเปล่ียนแปลงของประชากรชุมชน เมอื งและชนบทและการกลายเปน็ เมอื ง) • การกระจายของกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ (เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การผลิต การ บริการและการทอ่ งเท่ยี ว) ชนั้ ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.4-6 2.วิเคราะห์สถานการณ์ สาเหตุ และ • สถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ผลกระทบของการเปล่ยี นแปลงด้าน สง่ิ แวดล้อมไดแ้ กก่ ารเปลย่ี นแปลงสภาพ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มของ ภมู ิอากาศความเส่อื มโทรมของสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยและภมู ิภาคต่างๆของโลก ความหลากหลายทางชีวภาพและภยั พบิ ตั ิ • สาเหตุ และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง ดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มของ ประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆของโลก • การจัดการภัยพบิ ัติ 3.ระบมุ าตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา • มาตรการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา กฎหมายและนโยบายด้าน ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มระหวา่ ง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ประเทศตามแนวทางการพัฒนาท่ีย่ังยนื ความ บทบาทขององค์การทเ่ี กยี่ วข้องและการ มัน่ คงของมนุษยแ์ ละการบรโิ ภคอยา่ ง ประสานความรว่ มมอื ทัง้ ในประเทศและ รบั ผิดชอบ ระหวา่ งประเทศ • กฎหมายและนโยบายด้านทรพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดลอ้ มทั้งในประเทศและระหวา่ ง ประเทศ • บทบาทขององค์การท่เี ก่ยี วข้องและการ ประสานความร่วมมือทงั้ ในประเทศและ ระหวา่ งประเทศ 4.วิเคราะหแ์ นวทางและมสี ่วนร่วมในการ • แนวทางและมีส่วนร่วมในการจัดการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพ่อื การพัฒนาท่ยี ่งั ยืน • การมสี ว่ นร่วมในการแกป้ ัญหาและการดำเนิน
28 ชีวติ ตามแนวทางการจัดการทรัพยากรและ สิ่งแวดล้อมเพ่ือการพฒั นาทีย่ ่งั ยนื คำอธิบายรายวิชา /สาระการเรียนรู้ และโครงสรา้ งเวลาเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน
29 คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ส31101 ช่ือวิชา สังคมศึกษา 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา 60 ช่วั โมง/ ภาคเรยี น ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ศึกษา วิเคราะห์ลักษณะของสังคมชมพูทวีปและคติความเช่ือทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนามีทฤษฎีและวิธีการที่เป็นสากลและมีข้อปฏิบัติท่ียึดสายกลาง การพัฒนาศรัทธาและปัญญา ท่ีถูกต้องในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนุษย์ผู้ฝึกตนได้อย่างสูงสุดในการตรัสรู้ การก่อต้ัง วธิ ีการสอนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พุทธประวัติด้านการบริหารและการธำรงรักษาศาสนา ข้อปฏิบัติ ทางสายกลางในพระพุทธศาสนาหรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือ การพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง ลักษณะประชาธิปไตยในพระพุทธศาสนา หลักการของพระพุทธศาสนากับหลักวิทยาศาสตร์ การคิดตามนัย และการคิดแบบวทิ ยาศาสตร์ การฝึกฝนและพฒั นาตนเอง การพึง่ ตนเอง และการมุ่งอิสรภาพ พระพุทธศาสนา เป็นศาสตร์แห่งการศึกษาซึ่งเน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยกับวิธีการแก้ปัญหา การฝึกตนไม่ให้ประมาท ม่งุ ประโยชน์สุขและสนั ติภาพแก่บุคคล สังคมและโลก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาประเทศ แบบย่ังยนื การศึกษาท่ีสมบูรณ์ การเมอื ง และสนั ติภาพ ข้อคดิ และแบบอยา่ งการดำเนนิ ชีวติ จากประวตั ิพุทธ สาวก พทุ ธสาวกิ า พทุ ธศาสนิกชนตัวอยา่ ง ชาดก
30 ศกึ ษา วิเคราะห์ ความสำคญั ของโครงสร้างทางสงั คม การขัดเกลาทางสงั คมและการเปลย่ี นแปลงทาง สงั คม การแก้ปญั หาและแนวทางการพัฒนาทางสังคม การปฏบิ ัติตนและสนับสนุนให้ผู้อื่นประพฤติปฏิบัติตน เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก วัฒนธรรมไทยท่ีสำคัญ การปรับปรุงเปล่ียนแปลงและอนุรักษ์ วัฒนธรรมไทย และเลอื กรับวัฒนธรรมสากล สถานการณส์ ทิ ธิมนุษยชนในประเทศไทยและแนวทางการพฒั นา บทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปัจจบุ นั เกย่ี วกับสิทธมิ นษุ ยชน โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการป ฏิบัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแก้ปญั หา กระบวนการกลมุ่ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปประยุกต์ปฏิบัติในการดำเนินชีวิต นำไปแก้ปัญหาของ ตนเองและครอบครัว มีคุณธรรมจริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกันได้อย่างสนั ติสขุ ในสงั คมไทยและสงั คมโลก ตัวช้ีวัด ส1.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ม.4-6/5 ม.4-6/6 ม.4-6/7 ม.4-6/8 ม.4-6/9 ม.4-6/10 ม.4-6/11 ม.4-6/12 ม.4-6/13 ม.4-6/14 ส1.2 ม.4-6/2 ม.4-6/4 ส2.1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ม.4-6/5 รวม 20 ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้ รหัสวิชา ส31101 ชอื่ วิชา สังคมศึกษา 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา 60 ชวั่ โมง/ ภาคเรียน ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ขอ้ ที่ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้ 1 ส 1.1 ม.4-6/1 วเิ คราะหส์ งั คมชมพทู วปี สังคมชมพูทวปี และคตคิ วามเชอ่ื ทางศาสนา และคติความเช่ือทางศาสนาสมยั กอ่ น สมัยก่อน พระพุทธเจา้ มีคตคิ วามเช่อื ทาง พระพุทธเจา้ หรอื สงั คมสมยั ของศาสดาทต่ี น ศาสนาแตกตา่ งกับพระพุทธศาสนาซ่งึ มี นบั ถอื ทฤษฎแี ละวธิ กี ารที่เปน็ สากล มีข้อปฏิบัติที่ ม.4-6/4 วิเคราะห์ขอ้ ปฏิบตั ิทางสายกลางใน ยึดทางสายกลาง และเน้นการพฒั นาศรัทธา
31 พระพทุ ธศาสนา หรือแนวคดิ ของศาสนาท่ตี น และปัญญาท่ถี กู ตอ้ ง นับถือ ตามทีก่ ำหนด ม.4-6/5 วิเคราะหก์ ารพฒั นาศรัทธา และ ปญั ญาทีถ่ ูกต้องในพระพุทธศาสนา หรือ แนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามที่กำหนด ม.4-6/6 วเิ คราะห์ลักษณะประชาธปิ ไตยใน พระพุทธศาสนา หรอื แนวคดิ ของศาสนาท่ีตน นับถอื ตามท่ีกำหนด ม.4-6/7วเิ คราะหห์ ลกั การของพระพุทธศาสนา กบั หลักวทิ ยาศาสตร์ หรือแนวคิดของศาสนาท่ี ตนนบั ถือ ตามท่ีกำหนด ม.4-6/8 วิเคราะห์การฝกึ ฝนและพฒั นาตนเอง การพง่ึ ตนเอง และการมงุ่ อสิ รภาพใน พระพทุ ธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามทีก่ ำหนด ม.4-6/9 วเิ คราะหพ์ ระพุทธศาสนาวา่ เปน็ ศาสตรแ์ ห่งการศกึ ษาซ่ึงเนน้ ความสมั พันธ์ ของเหตปุ ัจจยั กบั วธิ กี ารแกป้ ัญหา หรือแนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนบั ถือตามท่กี ำหนด ม.4-6/10 วเิ คราะหพ์ ระพทุ ธศาสนาในการฝึก ตนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์และสนั ตภิ าพ บุคคล สังคมและโลก หรือแนวคิดของศาสนาท่ี ตนนับถอื ตามท่ีกำหนด ม.4-6/11วเิ คราะหพ์ ระพทุ ธศาสนากบั ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงและการพัฒนาประเทศ แบบยั่งยืน หรอื แนวคดิ ของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามท่ีกำหนด ขอ้ ท่ี ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรู้ ม.4-6/12วิเคราะห์ความสำคัญของ พระพุทธศาสนาเก่ยี วกับการศกึ ษา ทส่ี มบรู ณ์ การเมอื งและสนั ตภิ าพ
32 2 ส 1.1 ม.4-6/2 วิเคราะห์ พระพุทธเจ้าใน พระพทุ ธเจ้า เป็นผู้ฝึกตนไดอ้ ย่างสูงสดุ ฐานะเปน็ มนุษย์ผฝู้ กึ ตนไดอ้ ย่างสูงสดุ ในการ ในการตรสั รู้ การกอ่ ตั้ง วธิ ีการสอนและ ตรัสรู้ การก่อตงั้ วธิ กี ารสอนและการเผยแผ่ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การศึกษา พระพุทธศาสนา หรอื วเิ คราะหป์ ระวตั ิศาสดาที่ พทุ ธประวตั ิ ชาดก เรื่องเล่า จะไดข้ ้อคดิ เพ่อื ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด นำไปใช้เปน็ แบบอย่างในการดำเนินชวี ติ ม.4-6/3 วเิ คราะหพ์ ุทธประวัติด้านการบรหิ าร และการธำรงรกั ษาศาสนา หรอื วเิ คราะห์ ประวตั ิศาสดาทตี่ นนบั ถือ ตามทก่ี ำหนด ม.4-6/14 วเิ คราะห์ขอ้ คดิ และแบบอยา่ ง การดำเนินชีวิตจากประวตั สิ าวก ชาดก เรอ่ื งเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่าง ตามท่ีกำหนด 3 ส 1.2 ม.4-6/2 ปฏิบตั ิตนถกู ตอ้ งตามศาสน พุทธศาสนิกชนทุกคนพงึ ปฏิบตั ิตนอยา่ ง พิธีพิธีกรรมตามหลักศาสนาทต่ี นนับถอื ถกู ตอ้ งในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม วันสำคัญทาง ม.4-6/4 วเิ คราะหห์ ลกั ธรรม คตธิ รรมที่ พระพุทธศาสนา และแสดงตนเปน็ เกี่ยวเนื่องกับวันสำคญั ทางศาสนา และ พุทธมามกะ ซง่ึ ถอื เป็นการธำรงรกั ษา เทศกาลท่ีสำคญั ของศาสนาที่ตนนับถอื และ พระพุทธศาสนา ปฏบิ ัตติ นได้ถูกต้อง 4 ส 1.1 ม.4-6/13 วเิ คราะห์หลกั ธรรมในกรอบ พระรตั นตรยั มคี ณุ ค่าตอ่ การดำเนินชีวิตของ มนุษย์ การวเิ คราะห์หลักธรรมในกรอบ อรยิ สจั 4 หรอื หลักคำสอนของศาสนาท่ีตน อริยสจั 4 ในหมวดทกุ ข์และสมุทยั ย่อมทำให้ นับถอื รปู้ ัญหาหรอื ความทุกข์ และสาเหตขุ อง ปญั หาหรอื ความทกุ ข์ 5 ส 1.1 ม.4-6/14วิเคราะห์ข้อคิดและ การศกึ ษาประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวกิ า แบบอย่างการดำเนนิ ชวี ติ จากประวัตสิ าวก และศาสนิกชนตวั อยา่ ง จะทำใหเ้ หน็ ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตวั อยา่ ง ตามที่ แบบอย่างท่ดี ีในการดำเนนิ ชีวติ ซ่งึ เรา กำหนด สามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กดิ ผลดีต่อการ ดำเนินชวี ติ ของเราไดอ้ ยา่ งมีความสุข ข้อท่ี ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้
33 6 ส 2.1 ม. 4-6/2วิเคราะหค์ วามสำคญั ของ โครงสร้างทางสงั คมมสี ถาบันทางสังคมเป็น โครงสรา้ งทางสงั คม การขัดเกลาทางสังคม สว่ นสำคญั ท่ที ำหนา้ ทใ่ี นการขัดเกลาทาง และ การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม สังคม และมีสว่ นในการแก้ปญั หาและพัฒนา สังคม 7 ส 2.1 ม. 4-6/5วเิ คราะห์ความจำเปน็ ท่ีตอ้ งมี วัฒนธรรมไทย มีคุณค่าและความสำคญั การปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลงและอนุรกั ษ์ ตอ่ การดำเนนิ ชวี ติ ของชาวไทย ซงึ่ จะตอ้ ง วัฒนธรรมไทยและเลอื กรบั วัฒนธรรมสากล รู้จักการปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลง และอนุรกั ษ์ วฒั นธรรมไทย และเลือกรับวฒั นธรรมสากล อยา่ งเหมาะสม 8 ส 2.1 ม. 4-6/3ปฏิบัตติ นและมีสว่ นสนับสนุน การปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดขี องประเทศ ให้ผูอ้ นื่ ประพฤติปฏบิ ตั เิ พอ่ื เปน็ พลเมอื งดขี อง ชาติและสงั คมโลกนนั้ ย่อมส่งผลต่อการอยู่ ร่วมกันอย่างสันตสิ ขุ ประเทศชาติ และสังคมโลก 9 ส 2.1 ม. 4-6/4ประเมินสถานการณส์ ิทธิ ปจั จุบันนอ้ี งค์กรต่างๆ ทง้ั ในประเทศ และองค์กรระหวา่ งประเทศต่างๆ ให้ มนษุ ยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทาง ความสำคญั กับสิทธมิ นุษยชนในประเทศไทย พฒั นา และรว่ มมือกันแก้ไขปัญหาสทิ ธมิ นุษยชนให้ เปน็ ไปตามปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธิ มนษุ ยชน
34 หนว่ ยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส31101 ช่อื วิชา สังคมศกึ ษา 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา 60 ชว่ั โมง/ ภาคเรียน ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 หนว่ ยท่ี ชือ่ หนว่ ย / เนอ้ื หายอ่ ย เวลาเรยี น สดั สว่ นคะแนน 1 (ชวั่ โมง) ประวตั แิ ละความสำคัญของ ระหว่างเรียน กลางภาค ปลายภาค 2 พระพุทธศาสนา 8 3 1. ลกั ษณะของสงั คมชมพูทวปี และคติ 4 (2) 2 1 5 ความเชือ่ ทางศาสนาสมัยก่อน พระพทุ ธเจ้า (6) 5 5 2. พระพุทธศาสนามีทฤษฎแี ละวธิ ีการ ทเี่ ปน็ สากลและมีขอ้ ปฏิบัตทิ ี่ยึดทาง 6 สายกลาง (3) 3 2 พทุ ธประวัติและชาดก (3) 3 2 1. พุทธประวัติ 6 2. ชาดก วนั สำคญั ทางพระพุทธศาสนาและ (3) 3 2 ศาสนพิธี (3) 3 2 1. วนั สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา 12 2. ศาสนพิธี (3) 3 2 หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา (1) (4) 4 3 1. พระรตั นตรัย (5) 4 1 3 2.หลักธรรม : ทกุ ข์ 3.หลักธรรม : สมทุ ยั 8 พุทธสาวก พุทธสาวกิ า และศาสนกิ ชน ตัวอยา่ ง (4) 4 3 1. พทุ ธสาวก พุทธสาวกิ า (4) 4 3 2. ศาสนิกชนตัวอยา่ ง
สังคมมนุษย์ 5 35 6 1. ความหมาย การอย่รู ว่ มกนั องค์ประ (3) 2 3 1 2 กอโครงสร้าง สถาบนั การจัดระเบยี บ และการขดั เกลาทางสงั คม 2. การเปลีย่ นแปลงในสงั คม ปัญหา (2) สงั คมไทย แนวทางการแก้ไขปัญหา และ พฒั นาทางสงั คม หน่วยท่ี ชื่อหน่วย / เนื้อหาย่อย เวลาเรยี น สัดสว่ นคะแนน 7 (ช่วั โมง) วัฒนธรรมไทย ระหว่างเรียน กลางภาค ปลายภาค 8 1. ความหมาย ความสำคัญ ประเภทของ 5 วัฒนธรรม ลกั ษณะและความสำคญั ของ (2) 12 วฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมในภูมภิ าค ต่างๆ ของไทย (3) 23 2. การปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลงวฒั นธรรม ไทย ความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรม 5 23 ไทยกับวฒั นธรรมสากล และแนวทาง 12 การอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมไทยท่ีดงี าม และ (3) วธิ กี ารเลอื กรบั วฒั นธรรมสากล (2) พลเมอื งดีของประเทศชาติและสังคม โลก 1. ความสำคัญ คุณลกั ษณะพลเมอื งดี และคณุ ธรรม จรยิ ธรรมของการเป็น พลเมอื งดีของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก 2. แนวทางการพฒั นาตน และบทบาท
หน้าท่ขี องพลเมอื งดีต่อประเทศชาติและ 36 สงั คมโลก 2 2 9 สทิ ธิมนษุ ยชน 5 1. ความหมาย ความสำคัญ แนวคิด หลกั การของ สิทธมิ นษุ ยชน และ (2) 1 1 ปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสิทธิมนุษยชนแห่ง สหประชาชาติ 2. บทบญั ญัตขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ (2) ราชอาณาจกั รไทยเก่ียวกับสทิ ธิมนษุ ยชน และบทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศ ในเวทโี ลกทมี่ ีผลตอ่ ประเทศไทย หน่วยที่ ชอื่ หน่วย / เนอ้ื หายอ่ ย เวลาเรียน สัดสว่ นคะแนน (ชั่วโมง) 3. ปัญหาสทิ ธมิ นุษยชนในประเทศ ระหว่างเรยี น กลางภาค ปลายภาค แนวทาง แกไ้ ขปัญหาและพัฒนา (1) อุปสรรคและการพัฒนาสิทธิมนุษยชนใน 12 ประเทศ ไทย และข้อตกลงระหวา่ ง ประเทศ 20 60 50 20 30 รวม รวมทั้งสน้ิ
37 คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ส31102 ช่อื วิชา สงั คมศกึ ษา 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา 60 ช่ัวโมง/ ภาคเรยี น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา พระรัตนตรัย หลกั ธรรมในกรอบอริยสัจ 4 ประกอบด้วย ทุกข์ (ขันธ์ 5) สมุทัย (หลักกรรม ในเรื่อง นิยาม 5 และวติ ก 3) นิโรธ (ภาวนา 4) มรรค (พระ สัทธรรม 3 ปัญญาวุฒิธรรม 4 พละ 5 อุบาสกธรรม 5) มงคล (สงเคราะห์บุตร สงเคราะห์ภรรยาหรือสามี สันโดษ) พุทธศาสนสุภาษิตในเรอ่ื ง จิตท่ีฝึกดีแล้วนำสุขมาให้ บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้นๆ ลงๆ คนท่ีไม่ถูก นินทาไม่มีในโลก ฆ่าความโกรธได้ย่อมอยู่เป็นสุข คนขยันเอาการเอางาน กระทำเหมาะสม ย่อมหาทรัพย์ได้ เกิดเปน็ คนควรจะพยายามจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ความสนั โดษเปน็ ทรัพย์อยา่ งยิ่ง การเป็นหนเ้ี ปน็ ทุกข์ ในโลก พระราชาเป็นประมุขของประชาชน สติเป็นเคร่ืองต่ืนในโลก สุขอ่ืนยิ่งกว่าความสงบไม่มี นิพพานเป็น สุขอยา่ งยิ่ง การสังคายนาพระไตรปิฎก การปฏบิ ัติตนเปน็ ชาวพุทธท่ีดีตอ่ พระภิกษุ การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกท่ี ดขี องครอบครวั และสงั คม ศาสนพิธีเก่ียวกับพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ พิธเี วียนเทียน พธิ ีถวายสังฆทาน พิธี ถวายผ้าอาบน้ำฝน พิธีทอดกฐิน พิธีปวารณา การทำบุญเล้ียงพระในโอกาสต่างๆ หลักธรรม คติธรรมท่ี เกี่ยวเน่ืองกับวันสำคัญและเทศกาลสำคญั ในพระพทุ ธศาสนา การเป็นชาวพทุ ธที่ดีตอ่ พระภกิ ษุ เปน็ สมาชกิ ทดี่ ี ของครอบครัวและสังคม การสวดมนตแ์ ปล แผเ่ มตตา และบริหารจิตและเจรญิ ปญั ญาตามหลกั สติปฏั ฐาน การ
38 พัฒนาการเรียนรู้ดว้ ยวธิ ีคดิ แบบโยนิโสมนสกิ าร (คิดแบบรู้เทา่ ทันธรรมดา คดิ แบบเปน็ อย่ใู นขณะปัจจุบัน) การ สัมมนาและเสนอแนวทางในการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาอันส่งผลถึงการพัฒนาคน พัฒนาชาติและโลก ประวตั ขิ องศาสดาของศาสนาอ่นื และหลักคำสอนพืน้ ฐาน ศึกษา วิเคราะห์ ปัญหาการเมืองที่สำคัญในประเทศไทย การเมือง การปกครอง การประสาน ประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมด้านวัฒนธรรม การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม ความสำคัญและความจำเป็นท่ีต้องธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข การมสี ่วนร่วมในการตรวจสอบ การใชอ้ ำนาจรัฐ กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับ ตนเองและครอบครัว กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับนิติกรรมสัญญา กฎหมายอาญาในเรื่องความผิดเก่ียวกับทรัพย์ ความผิดเกีย่ วกบั ชวี ติ และรา่ งกาย กฎหมายอื่นท่สี ำคัญ ข้อตกลงระหวา่ งประเทศ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแก้ปญั หา กระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปประยุกต์ปฏิบัติในการดำเนินชีวิต นำไปแก้ปัญหาของ ตนเองและครอบครัว มีคุณธรรมจริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยูร่ ว่ มกันไดอ้ ย่างสันตสิ ุขในสงั คมไทยและสงั คมโลก ตวั ชี้วัด ส1.1 ม.4-6/5 ม.4-6/13 ม.4-6/15 ม.4-6/17 ม.4-6/19 ม.4-6/20 ม.4-6/21 ม.4-6/22 ส1.2 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ส 2.1 ม.4-6/1 ส 2.2 ม. 4-6/1 ม. 4-6/2 ม. 4-6/3 ม. 4-6/4 รวม 17 ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ส31102 ช่อื วิชา สังคมศกึ ษา 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา 60 ช่วั โมง/ ภาคเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ขอ้ ท่ี ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้ 1 ส 1.1 ม.4-6/13 วเิ คราะห์หลกั ธรรมในกรอบ ข้อธรรมในกรอบอริยสจั 4 เป็นหลกั สำคัญ อริยสจั 4 หรือหลักคำสอนของศาสนา ท่ีตน ในการดำเนินชวี ติ ท่จี ะทำให้ผู้ปฏบิ ตั พิ น้ ทุกข์ นับถอื หรือหมดปญั หา ซึ่งพุทธศาสนกิ ชน ทุกคนพึงสำนึกในคุณคา่ และนำไปเป็นหลัก ในการปฏบิ ัตติ น
39 2 ส 1.1 ม.4-6/13 วเิ คราะห์หลกั ธรรมในกรอบ พระไตรปฎิ ก และพทุ ธศาสนสุภาษิตมี อรยิ สัจ 4 หรอื หลักคำสอนของศาสนา ท่ตี น หลักธรรมสำคญั ท่เี ปน็ คตเิ ตือนใจบุคคล นับถอื ให้นำไปเปน็ แนวทางในการปฏบิ ัติในทาง ม.4-6/15 วิเคราะหค์ ุณคา่ และความสำคญั ของ ทถ่ี ูกตอ้ ง การสงั คายนา พระไตรปิฎก หรอื คมั ภีร์ของ ศาสนาท่ีตนนับถอื และการเผยแผ่ 3 ส 1.1 ม.4-6/19 เหน็ คณุ ค่า เช่ือมัน่ และมงุ่ มนั่ การสวดมนต์แปล แผ่เมตตา และการเจริญ พัฒนาชวี ิตด้วยการพัฒนาจติ และพฒั นาการ ปัญญาตามหลักสติปฏั ฐาน และการใชว้ ิธีคิด เรียนรดู้ ้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ หรือการ แบบโยนิโสมนสิการ ย่อมทำให้การดำเนิน พัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถอื ชวี ิตประจำวนั เป็นไปในทาง ม.4-6/20 สวดมนต์ แผ่เมตตา และบรหิ ารจิต ทถี่ ูกต้อง และเจรญิ ปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน หรอื ตาม แนวทางของศาสนาทตี่ นนับถือ 4 ส 1.2 ม.4-6/1วเิ คราะหส์ ังคมชมพูทวีป และ ชาวพุทธทีด่ ีพงึ ปฏิบัตติ นตอ่ พระภิกษุอยา่ ง คตคิ วามเชือ่ ทางศาสนาสมัยก่อนพระพทุ ธเจา้ เหมาะสมทัง้ กาย วาจา และใจ โดยรักษาศลี หรอื สังคมสมัยของศาสดาท่ีตนนับถือ และปฏิบัตติ นตอ่ สมาชิกในครอบครัวและ ม.4-6/2 วเิ คราะห์ พระพทุ ธเจ้าในฐานะเป็น คนรอบข้างตามหลกั ทิศ 6 มนษุ ยผ์ ู้ฝึกตนได้อย่างสงู สดุ ในการตรัสรู้ การกอ่ ต้งั วิธีการสอนและการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา หรือวิเคราะห์ประวตั ิศาสดาท่ี ตนนบั ถอื ตามทกี่ ำหนด ม.4-6/3 วิเคราะห์พุทธประวัตดิ ้านการบริหาร และการธำรงรกั ษาศาสนา หรือ วิเคราะห์ ประวัติศาสดาท่ีตนนบั ถือ ตามท่กี ำหนด ม.4-6/4 วิเคราะหข์ อ้ ปฏิบตั ิทางสายกลางใน พระพทุ ธศาสนา หรอื แนวคดิ ของศาสนาทตี่ น นบั ถอื ตามทก่ี ำหนด ขอ้ ที่ ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้ ม.4-6/5 วิเคราะห์การพัฒนาศรัทธา และ ปญั ญาทถ่ี กู ตอ้ งในพระพทุ ธศาสนา หรือ แนวคิดของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามทก่ี ำหนด 5 ส 1.1 ม.4-6/18 ตระหนักในคณุ ค่าและ ศาสนาเป็นเครือ่ งยึดเหนี่ยวจิตใจและเปน็
40 ความสำคญั ของค่านิยม จริยธรรมทเี่ ป็น แนวทางเพ่อื ใหม้ นุษย์สามารถปฏบิ ัตติ นได้ ตวั กำหนดความเชื่อและพฤตกิ รรมทีแ่ ตกต่าง อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมเพ่อื ขจัดความขดั แย้ง กันของศาสนิกชนศาสนาต่างๆ เพ่อื ขจดั ความ และอยู่ร่วมกันในสงั คมอย่างสนั ติ ขดั แยง้ และอยรู่ ว่ มกันในสงั คมอย่างสันตสิ ขุ ม.4-6/21วเิ คราะหห์ ลกั ธรรมสำคัญในการอยู่ รว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ ของศาสนาอ่ืนๆ และ ชกั ชวน สง่ เสริม สนับสนุนใหบ้ คุ คลอื่นเหน็ ความสำคญั ของการทำความดีตอ่ กนั ม.4-6/22เสนอแนวทางการจดั กจิ กรรม ความ ร่วมมือของทกุ ศาสนาในการแก้ปญั หาและ พฒั นาสงั คม 6 ส 1.1 ม.4-6/17อธิบายประวตั ศิ าสดาของ การศกึ ษาประวตั ิศาสดาของศาสนาสำคญั ใน ศาสนาอน่ื ๆ โดยสังเขป ประเทศไทยย่อมทำให้ได้ขอ้ คิดจากแนว ทางการปฏบิ ตั ิของทา่ นมาเป็นแบบอยา่ ง ส่งผลต่อการอยูร่ ่วมกันในสงั คมไดอ้ ย่างปกติ สขุ 7 ส 2.2 ม. 4-6/1วเิ คราะหป์ ญั หาการเมืองที่ การรว่ มมอื กนั แกป้ ัญหาการเมืองการปกครอง สำคัญในประเทศ จากแหล่งขอ้ มลู ต่างๆ พร้อม และประสานประโยชน์รว่ มกันระหว่าง ทงั้ เสนอแนวทางแก้ไข ประเทศ เปน็ สว่ นสำคัญในการธำรงรักษาไว้ ม. 4-6/2 เสนอแนวทาง ทางการเมืองการ ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมี ปกครองท่ีนำไปสูค่ วามเข้าใจ และ พระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข การประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหว่างประเทศ ม. 4-6/3 วิเคราะหค์ วามสำคญั และ ความ จำเป็นที่ตอ้ งธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษัตริยท์ รง เป็นประมขุ ขอ้ ท่ี ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้
41 8 ส 2.2 ม. 4-6/4 เสนอแนวทางและมีส่วนรว่ ม การตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั ตาม ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ บทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทยนน้ั สามารถตรวจสอบได้ โดยองคก์ รอสิ ระและตรวจสอบโดย ประชาชน ดังนน้ั ประชาชน ทุกคนจงึ ควรมสี ว่ นรว่ มในการตรวจสอบ การใชอ้ ำนาจรัฐ 9 ส 2.1 ม. 4-6/1วเิ คราะหแ์ ละปฏิบตั ติ นตาม การปฏิบัติตนตามกฎหมายท่ีเกี่ยวกับตนเอง กฎหมายทเี่ กี่ยวขอ้ งกับตนเอง ครอบครวั ครอบครัว กฎหมายแพ่งเกีย่ วกบั นติ ิกรรม ชุมชน ประเทศชาติ และสงั คมโลก สัญญา กฎหมายอาญา กฎหมายท่ีสำคญั ของประเทศ และขอ้ ตกลงระหว่างประเทศ ยอ่ มสง่ ผลดตี อ่ ความสงบเรยี บร้อยในสังคม ระดับประเทศ และสังคมโลก
42 หน่วยการเรียนรู้ รหสั วชิ า ส31102 ช่อื วิชา สงั คมศึกษา 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา 60 ช่วั โมง/ ภาคเรยี น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน่วยที่ ชอ่ื หน่วย / เน้ือหายอ่ ย เวลาเรยี น สดั สว่ นคะแนน (ช่ัวโมง) 1 หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (2) ระหวา่ งเรยี น กลางภาค ปลายภาค 1. หลักธรรม : นโิ รธ 12 2. หลกั ธรรม : มรรค มอี งค์ 8 (3) 32 3. มงคล 38 (6) 55 (3) 32 2 พระไตรปิฎกและพุทธศาสนสภุ าษติ 6 1.พระไตรปิฎก (3) 32 2.พทุ ธศาสนสภุ าษิต (3) 32 5 3 การบรหิ ารจิตและเจรญิ ปญั ญา (3) 32 1. การบริหารจติ (2) 21 2. การเจรญิ ปญั ญาตามหลักโยนิโส มนสิการ 7 (4) 5 2 4 หน้าที่และมารยาทชาวพทุ ธ (3) 3 2 1. หนา้ ทีช่ าวพทุ ธ 2. มารยาทชาวพทุ ธ 5 ความร้ทู วั่ ไปเกยี่ วกับศาสนา 43 4 6 ศาสนาสำคญั ในประเทศไทย 65 5 7 ระบอบการเมอื งการปกครอง 8 รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย 65 5 9 กฎหมายในชวี ติ ประจำวัน 54 4 รวม 93 12 60 50 20 30
43 คำอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา ส32101 ชอ่ื วิชา สังคมศึกษา 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา 60 ชัว่ โมง/ ภาคเรยี น ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ศกึ ษา ใช้แผนท่ีและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลกระบวนการทาง ภมู ิศาสตร์ และนำภูมสิ นเทศมาใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของพ้ืนที่ซึ่งได้รับ อิทธิพลจากปัจจัยภูมิศาสตร์ลักษณะทางกายภาพซึ่งทำให้เกิดปัญหาหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ และ ปฏสิ ัมพันธร์ ะหว่างส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกับกจิ กรรมของมนุษย์ในการสร้างสรรคว์ ิธกี ารดำเนินของมนุษย์ทั้ง ในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ของโลก ความสำคัญของส่ิงแวดล้อมท่ีมีผลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สถานการณ์ สาเหตุ และผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมของประเทศ ไทยและภูมิภาคต่างๆ ของโลก ระบุมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหากฎหมายและนโยบายด้าน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม บทบาทขององค์การท่ีเก่ียวข้อง การประสานการร่วมมือทั้งในประเทศ และระหวา่ งประเทศวิเคราะหแ์ นวทางและมีสว่ นรว่ มในการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมเพ่ือการ พฒั นาอยา่ งย่งั ยืน ศกึ ษา วิเคราะห์ลักษณะประชาธิปไตยในพระพุทธศาสนา หลักการของพระพุทธศาสนากับหลักการ ทางวิทยาศาสตร์ การฝึกฝนและพัฒนาตนเอง การพ่ึงตนเอง การมุ่งอิสรภาพในพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้า ในฐานะเป็นมนุษย์ผูฝ้ ึกฝนได้อยา่ งสูงสดุ ในการตรัสรู้ การกอ่ ต้ัง วธิ ีสอน และการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ประวัตพิ ทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา (พระอนรุ ุทธเถระ พระองคุลมิ าลเถระ พระธมั มทนิ นาเถรี จิตตคหบด)ี ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง (สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระธรรมโกศาจารย์ พระพรหมมังคลาจารย์) ชาดก(มโหสถ ชาดก) โดยใช้ทักษะทางภูมิศาสตร์ด้านการสังเกต การแปลความข้อมูลทางภูมิศาสตร์ การใช้เทคนิคและ เครื่องมือทางภูมิศาสตรก์ ารคิดเชิงพน้ื ที่ การคดิ แบบองค์รวม การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้สถติ ิพ้ืนฐาน
44 ใช้แผนที่เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการสืบค้น วิเคราะห์และสรุปข้อมูลตามขบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะความรู้ รวมท่งั ดา้ นการสือ่ สารและการรู้เทา่ ทนั สอื่ ใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และแกป้ ัญหา กระบวนการปฏิบตั ิและกระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ทักษะ ภูมิศาสตร์ และมีทักษะในศตวรรษท่ี 21สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต นำไปแก้ปัญหาและพัฒนา ตนเองและครอบครัว มีคุณลักษณะด้านจิตสาธารณะ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันการทำงาน มีส่วนร่วมในการ จัดการ พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มอย่างยง่ั ยืน ตวั ชีว้ ัด ส 5.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ส 5.2 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ส. 1.1 ม.4-6/2 ม.4-6/6 ม.4-6/7 ม.4-6/8 ม.4-6/13 ม.4-6/14 ม.4-6/16 รวม 14 ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้ รหัสวิชา ส32101 ชอ่ื วิชา สงั คมศกึ ษา 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา 60 ชัว่ โมง/ ภาคเรียน ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ขอ้ ท่ี ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้ 1 ส 5.1 ม.4-6/3 ใช้แผนทแ่ี ละเคร่ืองมือทาง 1.การใช้แผนทแ่ี ละเครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ ภมู ศิ าสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์และสรปุ ตามกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ จะชว่ ยให้ ขอ้ มูล ตามกระบวนการทางภูมศิ าสตร์และนำ สามารถนำภูมสิ ารสนเทศมาใช้ใน ภูมสิ ารสนเทศมาใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน ชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2 ส 5.1 ม.4-6/1 วเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงทาง 1. ปจั จัยทางภูมศิ าสตร์มีอทิ ธพิ ลตอ่ การ เปล่ียนแปลงทางกายภาพในประเทศไทย กายภาพในประเทศและภมู ิภาคต่างๆ ของโลก และภูมิภาคต่างๆของโลก ซ่ึงส่งผลตอ่ ภูมิ ซ่งึ ไดร้ บั อิทธพิ ลจากปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ ประเทศ ภมู อิ ากาศ และ ทรพั ยากรธรรมชาติ 3 ส 5.2 ม.4-6/1 วเิ คราะหป์ ฏิสมั พนั ธ์ระหว่าง 1. วถิ กี ารดำเนินชีวิตของท้องถน่ิ ท้ังใน สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพกบั กจิ กรรมของมนุษย์ ประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆ ของโลกเกิด ในการสรา้ งสรรคว์ ิถกี ารดำเนินชวี ิตของทอ้ งถิ่น จากปฏสิ ัมพันธร์ ะหว่างส่งิ แวดล้อมทาง ทง้ั ในประเทศไทยและภูมภิ าคต่างๆของโลก กายภาพกบั กจิ กรรมของมนุษย์นอกจากนี้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130