หลักสตู รโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
ประกาศ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพืน้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
สารบญั หน้ำ ประกำศใชห้ ลักสตู ร ก 1.ส่วนนำ ข ข ควำมนำ ค วสิ ัยทศั น์ ง สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ง คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โครงสร้ำงหลักสูตรสถำนศกึ ษำ 1 รำยวิชำของโรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) 2 3 2.หลกั สตู รกลุ่มสำระกำรเรยี นภำษำตำ่ งประเทศ 2.1 คณุ ภำพผูเ้ รยี น ช่วงชน้ั ที่ 1 6 2.2 คณุ ภำพผู้เรยี น ชว่ งช้นั ท่ี 2 11 12 3. ช้ันประถมศึกษำปที ี่ 1 3.1 ตวั ชว้ี ัดและหนว่ ยกำรเรยี นรชู้ ัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 1 15 3.2 คำอธบิ ำยรำยวิชำพืน้ ฐำน 21 3.3 โครงสร้ำงรำยวชิ ำ ภำษำอังกฤษ 22 4. ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 2 25 4.1 ตัวชี้วดั และหนว่ ยกำรเรียนรูช้ ั้นประถมศึกษำปที ี่ 2 33 4.2 คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน 34 4.3 โครงสร้ำงรำยวิชำ ภำษำอังกฤษ 38 5. ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 3 48 5.1 ตวั ช้วี ัดและหนว่ ยกำรเรียนรชู้ น้ั ประถมศึกษำปที ่ี 3 49 5.2 คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน 5.3 โครงสรำ้ งรำยวิชำ ภำษำองั กฤษ 6. ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 4 6.1 ตัวชว้ี ัดและหน่วยกำรเรยี นร้ชู น้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 4 6.2 คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน 6.3 โครงสร้ำงรำยวิชำ ภำษำอังกฤษ หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คำสวัสด์ริ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพนื้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
7. ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 5 53 7.1 ตวั ช้วี ัดและหน่วยกำรเรียนรู้ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 5 64 7.2 คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน 65 7.3 โครงสรำ้ งรำยวิชำ ภำษำองั กฤษ 68 8. ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 6 79 8.1 ตวั ชี้วัดและหนว่ ยกำรเรียนรูช้ ั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 6 80 8.2 คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน 8.3 โครงสรำ้ งรำยวิชำ ภำษำอังกฤษ 84 85 9. รำยวิชำเพมิ่ เติม ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ 1 9.1 คำอธิบำยรำยวิชำเพมิ่ เตมิ ผลกำรเรียนรู้ 87 9.2 โครงสร้ำงรำยวชิ ำเพิม่ เตมิ 88 10.รำยวิชำเพ่ิมเติม ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ 2 90 10.1 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ ผลกำรเรียนรู้ 91 10.2 โครงสรำ้ งรำยวิชำเพมิ่ เติม 93 11 รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ช้ันประถมศึกษำปที ่ี 3 94 11.1 คำอธิบำยรำยวิชำเพมิ่ เตมิ ผลกำรเรียนรู้ 11.2 โครงสรำ้ งรำยวิชำเพม่ิ เติม 97 98 12.รำยวชิ ำเพิ่มเติม ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี 4 12.1 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ผลกำรเรยี นรู้ 101 12.2 โครงสร้ำงรำยวชิ ำเพ่มิ เตมิ 102 13.รำยวิชำเพิ่มเตมิ ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 5 13.1 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ผลกำรเรียนรู้ 13.2 โครงสรำ้ งรำยวิชำเพิ่มเตมิ 14.รำยวชิ ำเพิ่มเติม ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี 6 13.1 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ผลกำรเรียนรู้ 13.2 โครงสร้ำงรำยวิชำเพ่ิมเติม หลกั สตู รโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
9.เกณฑก์ ำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ 99 109 10. อภธิ ำนศัพท์ 11. ภำคผนวก 11.1 คำสงั่ หลักสูตรโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวสั ดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พ้นื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
ความนา กระทรวงศึกษำธกิ ำรได้ประกำศใช้มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชีว้ ดั กลมุ่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ และสำระภมู ศิ ำสตรใ์ นกลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตำม หลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 ตำมคำส่ังกระทรวงศึกษำธกิ ำรท่ี สพฐ. 1239/2560 ลงวนั ท่ี 7 สงิ หำคม 2560 และคำสง่ั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกรำคม ๒๕๖๑ ใหเ้ ปลีย่ นแปลงมำตรฐำนกำรเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ัด กลุ่มสำระกำรเรียนรคู้ ณิตศำสตรแ์ ละ วิทยำศำสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคำสั่งให้โรงเรยี นดำเนินกำรใช้หลกั สูตรในปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๑ โดย ให้ใชใ้ นชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี ๑ และ ๔ ตงั้ แตป่ ีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ เปน็ ต้นมำ ให้เปน็ หลักสตู รแกนกลำงของประเทศ โดยกำหนดจุดหมำย และมำตรฐำนกำรเรยี นรู้เปน็ เป้ำหมำยและกรอบทิศทำงในกำรพฒั นำคุณภำพผเู้ รียนมี พฒั นำกำรเตม็ ตำมศักยภำพ มคี ุณภำพและมที ักษะกำรเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบำยและ เป้ำหมำยของสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน โรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรุง) จึงไดท้ ำกำรปรับปรงุ หลักสูตรสถำนศึกษำพุทธศักรำช 2561 ตำม หลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 ในกลมุ่ สำระกำรเรียนรคู้ ณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ และสำระภมู ศิ ำสตร์ในกลุม่ สำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม เพือ่ นำไปใชป้ ระโยชน์และเปน็ กรอบในกำรวำงแผนและพฒั นำหลกั สูตรของสถำนศกึ ษำและจัดกำรเรยี นกำรสอน โดยมีเปำ้ หมำยในกำรพฒั นำ คุณภำพผเู้ รียน ให้มกี ระบวนกำรนำหลักสูตรไปสกู่ ำรปฏบิ ัติ โดยมกี ำรกำหนดวสิ ัยทัศน์ จดุ หมำย สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ัด โครงสรำ้ งเวลำเรยี น ตลอดจนเกณฑก์ ำร วัดประเมนิ ผลใหม้ คี วำมสอดคลอ้ งกบั มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ เปดิ โอกำสให้โรงเรียนสำมำรถกำหนดทิศทำงในกำร จัดทำหลกั สตู รกำรเรยี นกำรสอนในแต่ละระดับตำมควำมพรอ้ มและจดุ เนน้ โดยมีกรอบแกนกลำงเป็นแนวทำงท่ี ชัดเจนเพอื่ ตอบสนองนโยบำยไทยแลนด์ ๔.๐ มคี วำมพร้อมในกำรก้ำวสสู่ ังคมคุณภำพ มคี วำมรูอ้ ยำ่ งแทจ้ รงิ และ มีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ัดท่กี ำหนดไวใ้ นเอกสำรนี้ ชว่ ยทำให้หนว่ ยงำนท่เี ก่ยี วขอ้ ง ในทุกระดับเห็น ผลคำดหวงั ท่ีต้องกำรในกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ของผู้เรยี นที่ชดั เจนตลอดแนว ซ่งึ จะสำมำรถชว่ ยใหห้ น่วยงำนที่ เกี่ยวข้องในระดบั ทอ้ งถิ่นและสถำนศึกษำร่วมกนั พฒั นำหลักสูตรไดอ้ ย่ำงม่นั ใจ ทำให้กำรจดั ทำหลกั สูตรในระดบั สถำนศกึ ษำมีคุณภำพและมคี วำมเป็นเอกภำพยง่ิ ขนึ้ อีกทงั้ ยงั ชว่ ยให้เกดิ ควำมชัดเจนเร่อื งกำรวดั และประเมนิ ผล กำรเรียนรู้ และชว่ ยแก้ปญั หำกำรเทยี บโอนระหวำ่ งสถำนศึกษำ ดังน้ันในกำรพฒั นำหลักสตู รในทกุ ระดบั ตั้งแต่ ระดับชำตจิ นกระท่งั ถงึ สถำนศึกษำ จะตอ้ งสะทอ้ นคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชว้ี ดั ท่ีกำหนดไวใ้ น หลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พืน้ ฐำน รวมทง้ั เป็นกรอบทศิ ทำงในกำรจดั กำรศึกษำทุกรูปแบบ และครอบคลุม ผ้เู รยี นทุกกล่มุ เปำ้ หมำยในระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กำรจัดหลกั สตู รกำรศกึ ษำขัน้ พ้ืนฐำนจะประสบควำมสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำยท่คี ำดหวงั ได้ ทุกฝ่ำย ที่ เก่ยี วข้องทง้ั ระดบั ชำติ ชมุ ชน ครอบครัว และบคุ คลตอ้ งรว่ มรบั ผดิ ชอบ โดยรว่ มกนั ทำงำนอย่ำงเป็นระบบ และ ต่อเน่อื ง ในกำรวำงแผน ดำเนนิ กำร สง่ เสรมิ สนบั สนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรบั ปรงุ แก้ไข เพ่ือพัฒนำเยำวชนของ ชำติไปสูค่ ณุ ภำพตำมมำตรฐำนกำรเรยี นรทู้ กี่ ำหนดไว้ หลักสตู รโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
ข วสิ ัยทศั นห์ ลักสูตรสถานศกึ ษา หลักสูตรโรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวสั ดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) พทุ ธศักรำช ๒๕61 ตำมหลักสูตรแกนกลำง กำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ เป็นหลกั สูตรท่มี ุ่งพฒั นำผเู้ รียนทกุ คนเป็นบคุ คลแห่งกำรเรยี นรแู้ ละ เปน็ มนษุ ยท์ มี่ ีควำมสมดลุ ทงั้ รำ่ งกำย ควำมรคู้ ่คู ณุ ธรรม มีควำมเป็นผู้นำของสงั คมมจี ิตสำนกึ ในควำมเป็นพลเมอื ง ไทยและเป็นพลโลกโดยใชห้ ลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งยึดมั่นในกำรปกครองตำมระบอบประชำธิปไตยอันมี พระมหำกษัตริยเ์ ป็นประมขุ มีควำมรูแ้ ละทกั ษะพ้ืนฐำนสำมำรถใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยี มงุ่ เนน้ ผู้เรียนเป็น สำคญั บนพ้ืนฐำนควำมเช่อื ว่ำทกุ คนสำมำรถเรียนร้แู ละพฒั นำตนเองไดเ้ ต็มตำมศักยภำพ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน หลักสูตรโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ดร์ิ ำษฎรบ์ ำรงุ ) มุง่ พฒั นำผ้เู รียนใหม้ ีคุณภำพตำมมำตรฐำนของ หลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ กำหนด ซึ่งกำรพฒั นำผเู้ รียนใหบ้ รรลมุ ำตรฐำน กำรเรยี นรทู้ ี่กำหนดนนั้ จะชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นเกิดสมรรถนะสำคญั ๕ ประกำร ดงั นี้ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นควำมสำมำรถในกำรรับและสง่ สำร มีวฒั นธรรมในกำรใชภ้ ำษำ ถำ่ ยทอดควำมคิด ควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจ ควำมรูส้ ึก และทศั นะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียนข้อมลู ข่ำวสำรและ ประสบกำรณอ์ ันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ กำรพฒั นำตนเองและสงั คม รวมทง้ั กำรเจรจำตอ่ รองเพอื่ ขจัดและลดปญั หำ ควำมขดั แย้งตำ่ ง ๆ กำรเลือกรบั หรือไมร่ ับขอ้ มูลขำ่ วสำรดว้ ยหลักเหตผุ ลและควำมถูกต้อง ตลอดจนกำรเลอื กใช้ วิธกี ำรสอ่ื สำร ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ ำพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบที่มตี อ่ ตนเองและสงั คม ๒.ความสามารถในการคดิ เปน็ ควำมสำมำรถในกำรคดิ วเิ ครำะห์ กำรคิดสงั เครำะห์ กำรคิดสรำ้ งสรรค์ กำรคดิ อย่ำงมวี จิ ำรณญำณ และกำรคดิ เปน็ ระบบ เพอื่ นำไปสกู่ ำรสร้ำงองค์ควำมร้หู รอื สำรสนเทศเพือ่ กำรตัดสนิ ใจ เก่ยี วกับตนเองและสงั คมไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เปน็ ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ญั หำและอุปสรรคต่ำง ๆ ทีเ่ ผชญิ ได้อยำ่ งถูกตอ้ ง เหมำะสมบนพ้ืนฐำนของหลักเหตผุ ล คณุ ธรรมและขอ้ มลู สำรสนเทศ เขำ้ ใจควำมสมั พนั ธ์และกำรเปลย่ี นแปลงของ เหตกุ ำรณ์ต่ำง ๆ ในสังคม แสวงหำควำมรู้ ประยุกตค์ วำมรมู้ ำใชใ้ นกำรป้องกันและแก้ไขปญั หำ และมกี ำรตดั สินใจ ท่มี ปี ระสทิ ธิภำพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทเี่ กดิ ขึ้นตอ่ ตนเอง สงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ เป็นควำมสำมำรถในกำรนำกระบวนกำรต่ำง ๆ ไปใช้ในกำร ดำเนินชีวติ ประจำวัน กำรเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง กำรเรียนรูอ้ ย่ำงตอ่ เนอื่ ง กำรทำงำน และกำรอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมดว้ ย กำรสรำ้ งเสรมิ ควำมสัมพนั ธ์อนั ดรี ะหวำ่ งบุคคล กำรจัดกำรปัญหำและควำมขัดแย้งตำ่ ง ๆ อย่ำงเหมำะสม กำร ปรับตัวใหท้ นั กบั กำรเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภำพแวดลอ้ ม และกำรรจู้ กั หลีกเล่ยี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ่ี สง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นควำมสำมำรถในกำรเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีดำ้ นต่ำง ๆ และมที ักษะ กระบวนกำรทำงเทคโนโลยี เพ่ือกำรพฒั นำตนเองและสังคม ในด้ำนกำรเรียนรู้ กำรส่อื สำรกำรทำงำน กำร แก้ปัญหำอย่ำงสรำ้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมำะสม และมีคณุ ธรรม หลักสตู รโรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
ค คุณลักษณะอันพึงประสงค์ โรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) มุง่ พฒั นำผเู้ รียนใหม้ ีคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์เพ่อื ให้ สำมำรถอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื ในสังคมไดอ้ ยำ่ งมีควำมสขุ ในฐำนะเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้ ๑. รกั ชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ ๒. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ ๓. มีวนิ ยั ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยู่อยำ่ งพอเพยี ง ๖. มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน ๗. รกั ควำมเปน็ ไทย ๘. มจี ติ สำธำรณะ ค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ 1. มคี วำมรักชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตรยิ ์ 2. ซ่ือสตั ย์ เสียสละ อดทน มีอุดมกำรณใ์ นสง่ิ ที่ดงี ำมเพอ่ื สว่ นรวม 3. กตญั ญูตอ่ พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครบู ำอำจำรย์ 4. ใฝ่หำควำมรู้ หม่ันศึกษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรง และทำงออ้ ม 5. รกั ษำวฒั นธรรมประเพณีไทยอันงดงำม 6. มศี ลี ธรรม รกั ษำควำมสตั ย์ หวงั ดตี ่อผอู้ ื่น เผอื่ แผ่และแบง่ ปัน 7. เขำ้ ใจเรียนรู้กำรเป็นประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุขที่ถกู ต้อง 8. มีระเบียบวินัย เคำรพกฎหมำย ผ้นู ้อยร้จู กั กำรเคำรพผใู้ หญ่ 9. มีสติรู้ตวั รู้คิด ร้ทู ำ ร้ปู ฏบิ ตั ติ ำมพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดำรงตนอย่โู ดยใช้หลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งตำมพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ ัว ร้จู ักอดออมไว้ใชเ้ มื่อยำมจำเปน็ มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถำ้ เหลอื กแ็ จกจำ่ ยจำหน่ำย และพร้อมทจี่ ะขยำยกิจกำร เมอ่ื มีควำมพร้อม เมื่อมภี ูมคิ ุ้มกนั ที่ดี 11. มีควำมเข้มแข็งทั้งรำ่ งกำย และจติ ใจ ไม่ยอมแพต้ ่ออำนำจฝำ่ ยตำ่ หรือกเิ ลส มีควำมละอำย เกรงกลัวต่อบำปตำมหลักของศำสนำ 12. คำนึงถงึ ผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชำติมำกกวำ่ ผลประโยชนข์ องตนเอง หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ด์ริ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
ง โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษา โครงสร้างเวลาเรียน หลักสตู รโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ได้กำหนดเวลำเรยี นของกล่มุ สำระกำรเรียนรู้ 8 กลมุ่ สำระ ทเี่ ปน็ เวลำเรยี นพ้ืนฐำน เวลำเรยี นเพม่ิ เตมิ และเวลำในกำรจัดกจิ กรรมพฒั นำผเู้ รยี น จำแนกแต่ละชน้ั ปี ดังนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม เวลาเรยี นระดบั ประถมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ • กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย 200 200 200 ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ คณิตศาสตร์ 200 200 200 ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๘๐ ๘๐ 120 120 120 สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 40 40 40 80 80 80 ประวตั ิศาสตร์ 40 40 40 40 40 40 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 40 40 40 80 8๐ 80 ศิลปะ 40 40 40 40 4๐ 40 การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ 40 4๐ 4๐ 40 ภาษาอังกฤษ 160 160 160 120 120 120 รวมเวลาเรียน (พ้นื ฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘4๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘4๐ • รายวชิ าเพิ่มเตมิ ภำษำองั กฤษ 40 40 40 40 40 40 กำรป้องกนั กำรทจุ รติ 40 40 40 40 40 40 รวมเวลาเรยี น (เพมิ่ เติม) 80 80 80 80 80 80 • กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น แนะแนว 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ ลกู เสอื -เนตรนำรี 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ กิจกรรมเพือ่ สังคมและสำธำรณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ชุมนมุ 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ รวมเวลา กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ รวมเวลาเรยี นตามโครงสร้างหลกั สตู ร ๑,040 ๑,040 ๑,040 ๑,040 ๑,040 ๑,040 • กิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร/ กจิ กรรมลดเวลำ เรยี นเพม่ิ เวลำรู้ 40 40 40 40 40 40 ภำษำไทยเสรมิ 40 40 40 40 40 40 คณิตศำสตรเ์ สรมิ 40 40 40 40 40 40 วิทยำศำสตรเ์ สริม 40 40 40 40 40 40 รวมเวลาเรียนท้ังหมด ๑,200 ๑,200 ๑,200 ๑,200 ๑,200 ๑,200 หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพน้ื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
จ หมายเหตุ * จดั บูรณำกำรกำรเรยี นร้รู ่วมกนั ตำมควำมสอดคลอ้ งของเน้ือหำและกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ทม่ี ำ : อ้ำงองิ จำกค่มู อื บรหิ ำรจัดกำรเวลำเรยี น ตำมนโยบำย “ลดเวลำเรียน เพมิ่ เวลำรู้ หนำ้ ที่ ๗ - ๑๒ ของสำนกั วิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน ทม่ี ำ : อำ้ งอิง จำก ประกำศกระทรวงศึกษำธกิ ำร เรอ่ื งกำรบริหำรจัดกำรเวลำเรยี นภำษำองั กฤษ ช้นั ประถมศึกษำ ปที ี่ ๑ - ๓ ลงวนั ที่ ๓๑ ตุลำคม ๒๕๕๙ ทม่ี ำ : อำ้ งองิ จำกประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เรอ่ื งแนวทำงกำรบรหิ ำรจัดกำรเวลำเรียนของสถำนศึกษำขนั้ พืน้ ฐำน ลงวนั ท่ี 1๑ กรกฎำคม ๒๕60 หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พื้นฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
1 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ทาไมตอ้ งเรยี นภาษาตา่ งประเทศ ในสงั คมโลกปจั จุบัน กำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศมีควำมสำคญั และจำเปน็ อยำ่ งยงิ่ ในชวี ิตประจำวนั เน่ืองจำกเป็นเครื่องมอื สำคญั ในกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำร กำรศกึ ษำ กำรแสวงหำควำมรู้ กำรประกอบอำชีพ กำรสรำ้ ง ควำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั วฒั นธรรมและวสิ ยั ทัศนข์ องชมุ ชนโลก และตระหนกั ถงึ ควำมหลำกหลำยทำงวฒั นธรรมและ มมุ มองของสงั คมโลก นำมำซงึ่ มิตรไมตรแี ละควำมร่วมมอื กบั ประเทศตำ่ งๆ ชว่ ยพัฒนำผเู้ รยี นใหม้ คี วำมเข้ำใจ ตนเองและผอู้ ่นื ดขี ึน้ เรียนรู้และเขำ้ ใจควำมแตกตำ่ งของภำษำและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี กำรคิด สงั คม เศรษฐกิจ กำรเมอื ง กำรปกครอง มเี จตคติท่ีดตี ่อกำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศ และใชภ้ ำษำต่ำงประเทศ เพือ่ กำรสอื่ สำรได้ รวมทง้ั เขำ้ ถงึ องคค์ วำมรู้ตำ่ งๆ ได้ง่ำยและ กวำ้ งข้ึน และมีวิสยั ทศั นใ์ นกำรดำเนนิ ชีวิต ภำษำต่ำงประเทศท่ีเปน็ สำระกำรเรียนรพู้ ื้นฐำนซงึ่ กำหนดใหเ้ รียนตลอดหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน คอื ภำษำอังกฤษ ส่วนภำษำต่ำงประเทศอนื่ เช่น ภำษำฝรง่ั เศส เยอรมนั จีน ญป่ี ุ่น อำหรบั บำลี และภำษำ กลุ่มประเทศเพอื่ นบ้ำน หรอื ภำษำอืน่ ๆ ให้อย่ใู นดุลยพินจิ ของสถำนศึกษำทีจ่ ะจดั ทำรำยวชิ ำและจดั กำรเรียนรู้ ตำมควำมเหมำะสม เรยี นรอู้ ะไรในภาษาตา่ งประเทศ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ มุ่งหวังให้ผ้เู รียนมีเจตคติท่ดี ีต่อภำษำต่ำงประเทศ สำมำรถใช้ ภำษำต่ำงประเทศ ส่ือสำรในสถำนกำรณต์ ่ำงๆ แสวงหำควำมรู้ ประกอบอำชีพ และศึกษำตอ่ ในระดบั ท่ีสงู ขึ้น รวมทั้งมีควำมรู้ควำมเข้ำใจในเรอื่ งรำวและวัฒนธรรมอันหลำกหลำยของประชำคมโลก และสำมำรถถ่ำยทอด ควำมคดิ และวฒั นธรรมไทยไปยังสงั คมโลกได้อย่ำงสร้ำงสรรค์ ประกอบดว้ ยสำระสำคญั ดงั นี้ ภาษาเพื่อการสื่อสาร กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรฟัง – พดู – อ่ำน – เขยี น แลกเปล่ียนข้อมูล ข่ ำ ว ส ำ ร แ ส ด ง ค ว ำ ม รู้ สึ ก แ ล ะ ค ว ำ ม คิ ด เ ห็ น ตี ค ว ำ ม น ำ เ ส น อ ข้ อ มู ล ค ว ำ ม คิ ด รวบยอด และควำมคดิ เหน็ ในเรือ่ งตำ่ งๆ และสรำ้ งควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งบคุ คลอยำ่ งเหมำะสม ภาษาและวัฒนธรรม กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศตำมวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ ควำมสัมพันธ์ ควำมเหมือน และควำมแตกต่ำงระหวำ่ งภำษำและวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำกบั ภำษำและวัฒนธรรมไทยและ นำไปใช้อยำ่ งเหมำะสม ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู น่ื กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรเชือ่ มโยงควำมรู้ กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อืน่ เปน็ พนื้ ฐำนในกำรพฒั นำ แสวงหำควำมรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ท้ังใน ห้องเรยี นและนอกหอ้ งเรียน ชุมชน และสังคมโลก เปน็ เครื่องมือพน้ื ฐำนในกำรศึกษำต่อ ประกอบอำชีพและ แลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวัสด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พ้นื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
2 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มำตรฐำน ต 1.1 เขำ้ ใจและตคี วำมเรอ่ื งทฟี่ งั และอำ่ นจำกส่ือประเภทต่ำงๆ และแสดงควำมคดิ เห็นอยำ่ ง มีเหตผุ ล มำตรฐำน ต 1.2 มีทักษะกำรสอ่ื สำรทำงภำษำในกำรแลกเปลี่ยนข้อมลู ข่ำวสำร แสดงควำมร้สู กึ และ ควำมคดิ เหน็ อยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ มำตรฐำน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขำ่ วสำร ควำมคิดรวบยอด และควำมคิดเหน็ ในเรื่องต่ำงๆ โดยกำรพูดและกำรเขียน สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มำตรฐำน ต 2.1 เข้ำใจควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงภำษำกบั วฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ และนำไปใช้ไดอ้ ย่ำง เหมำะสมกบั กำลเทศะ มำตรฐำน ต 2.2 เข้ำใจควำมเหมอื นและควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งภำษำและวฒั นธรรมของ เจ้ำของภำษำ กับภำษำและวฒั นธรรมไทย และนำมำใช้อย่ำงถูกตอ้ งและเหมำะสม สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ ับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน มำตรฐำน ต 3.1 ใช้ภำษำตำ่ งประเทศในกำรเช่อื มโยงควำมรกู้ บั กลมุ่ สำระกำรเรยี นรอู้ ืน่ และเปน็ พ้นื ฐำนในกำรพฒั นำ แสวงหำควำมรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ ับชุมชนและโลก มำตรฐำน ต 4.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในสถำนกำรณ์ตำ่ งๆ ท้งั ในสถำนศึกษำ ชมุ ชน และสงั คม มำตรฐำน ต 4.2 ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศเป็นเคร่ืองมือพื้นฐำนในกำรศึกษำต่อ กำรประกอบอำชีพ และ กำรแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ ับสังคมโลก คุณภาพผูเ้ รยี น ช่วงชนั้ ท่ี 1 จบช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 ปฏิบัตติ ำมคำสง่ั คำขอร้องท่ีฟงั อ่ำนออกเสียงตวั อกั ษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคง่ำยๆ และบทพูด เข้ำจงั หวะงำ่ ยๆ ถูกตอ้ งตำมหลกั กำรอำ่ น บอกควำมหมำยของคำและกลมุ่ คำที่ฟงั ตรงตำมควำมหมำย ตอบ คำถำมจำกกำรฟังหรืออำ่ นประโยค บทสนทนำหรือนทิ ำนงำ่ ยๆ พูดโตต้ อบด้วยคำส้นั ๆ งำ่ ยๆ ในกำรส่ือสำรระหำงบคุ คลตำมแบบทฟ่ี ัง ใชค้ ำสั่งและคำขอรอ้ งงำ่ ยๆ บอกควำมต้องกำรงำ่ ยๆ ของตนเอง พดู ขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั ตนเองและเพือ่ น บอกควำมรู้สกึ ของตนเอง เกยี่ วกบั สง่ิ ต่ำงๆ ใกล้ตัวหรอื กจิ กรรมต่ำงๆ ตำมแบบทฟ่ี งั พูดให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว จดั หมวดหมู่คำตำมประเภทของบคุ คล สตั ว์ และ สิ่งของตำมทฟี่ งั หรอื อ่ำน หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดร์ิ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพ้นื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
3 พูดและทำท่ำประกอบตำมำรยำทสงั คม/วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ บอกชอ่ื และคำศัพท์งำ่ ยๆ เกย่ี วกับเทศกำล/วันสำคญั /งำนฉลอง และชีวิตควำมเปน็ อยู่ของเจ้ำของภำษำ เข้ำร่วมกจิ กรรมทำงภำษำและ วฒั นธรรมที่เหมำะกบั วยั บอกควำมแตกต่ำงของเสียงตัวอักษร คำ กล่มุ คำ และประโยคงำ่ ยๆ ของภำษำตำ่ งประเทศและ ภำษำไทย บอกคำศัพท์ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั กล่มุ สำระกำรเรยี นรอู้ น่ื ฟงั /พูด ในสถำนกำรณ์ง่ำยๆ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในห้องเรียน ใช้ภำษำตำ่ งประเทศ เพือ่ รวบรวมคำศพั ทท์ ่เี กีย่ วขอ้ งใกล้ตวั มีทกั ษะกำรใช้ภำษำตำ่ งประเทศ (เน้นกำรฟงั – พูด) สอื่ สำรตำมหัวเรอ่ื งเกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น ส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตวั อำหำร เครอื่ งด่ืม และเวลำวำ่ งและนันทนำกำร ภำยในวงคำศัพทป์ ระมำณ 300 – 450 คำ (คำศัพทท์ เ่ี ป็นรปู ธรรม) ใช้ประโยคคำเดียว (One Word Sentence) ประโยคเดยี่ ว (Simple Sentence) ในกำรสนทนำ โตต้ อบตำมสถำนกำรณใ์ นชวี ิตประจำวัน คุณภาพผเู้ รียน ชว่ งชัน้ ที่ 2 จบช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปฏิบตั ติ ำมคำสงั่ คำขอรอ้ ง และคำแนะนำทฟี่ งั และอ่ำน อำ่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ควำม นิทำน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตำมหลกั กำรอำ่ น เลอื ก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ควำม ตรงตำมควำมหมำยของสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมำยที่อำ่ น บอกใจควำมสำคญั และตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอ่ำนบทสนทนำนทิ ำนง่ำยๆ และเรอื่ ง ที่เลำ่ พดู /เขยี นโตต้ อบในกำรสอ่ื สำรระหว่ำงบคุ คล ใชค้ ำสง่ั คำขอร้อง คำขออนญุ ำต และให้คำแนะนำ พดู /เขียนแสดงควำมต้องกำร ขอควำมชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏเิ สธกำรให้ ควำมช่วยเหลือในสถำนกำรณง์ ่ำยๆ พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และ เรื่องใกล้ตัว พดู /เขียนแสดงควำมรเู้ กีย่ วกบั เร่อื งต่ำงๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมต่ำงๆ พรอ้ มทง้ั ให้เหตผุ ลส้ันๆ ประกอบ พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น และส่งิ แวดล้อมใกลต้ ัว เขยี นแผนภำพ แผนผงั และ ตำรำงแสดงขอ้ มลู ตำ่ งๆ ท่ฟี งั และอำ่ น พูด/เขียนแสดงควำมคิดเห็นเกย่ี วกบั เร่อื งต่ำงๆ ใกล้ตัว ใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสียง และกริ ยิ ำท่ำทำงอย่ำงสภุ ำพ เหมำะสม ตำมมำรยำทสงั คมและวฒั นธรรมของ เจำ้ ของภำษำ ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับเทศกำล/วนั สำคญั /งำนฉลอง/ชวี ิตควำมเป็นอยู่ของเจำ้ ของภำษำ เข้ำรว่ ม กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรมตำมควำมสนใจ บอกควำมเหมอื น/ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งกำรออกเสียงประโยคชนิดต่ำงๆ กำรใชเ้ ครื่องหมำยวรรค ตอน และกำรลำดบั คำตำมโครงสร้ำงประโยคของภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย เปรยี บเทียบควำมเหมอื น/ ควำมตำ่ งระหว่ำงเทศกำล งำนฉลอง และประเพณขี องเจำ้ ของภำษำกับของไทย ค้นคว้ำ รวบรวมคำศัพทท์ ีเ่ ก่ยี วข้องกบั กลมุ่ สำระกำรเรียนรอู้ นื่ จำกแหลง่ กำรเรียนรูแ้ ละนำเสนอด้วย กำรพูด/กำรเขียน ใชภ้ ำษำสือ่ สำรในสถำนกำรณต์ ำ่ งๆ ทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรยี นและสถำนศึกษำ ใช้ภำษำตำ่ งประเทศในกำรสบื ค้นและรวบรวมข้อมูลต่ำงๆ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
4 มีทกั ษะกำรใช้ภำษำตำ่ งประเทศ (เนน้ กำรฟงั – พูด – อำ่ น – เขยี น) ส่อื สำรตำม หวั เรือ่ ง เกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สิง่ แวดล้อม อำหำร เครื่องดมื่ และเวลำว่ำงและนันทนำกำร สขุ ภำพและ สวสั ดกิ ำร กำรซอ้ื – ขำย และลมฟ้ำอำกำศ ภำยในวงคำศพั ทป์ ระมำณ 1,050 – 1,200 คำ (คำศัพท์ทีเ่ ปน็ รปู ธรรม) ใช้ประโยคเดี่ยวและประโยคผสม(Compound Sentence) สอ่ื ควำมหมำยตำมบริบทตำ่ งๆ หลักสตู รโรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวัสด์ริ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
5 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสด์ริ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
6 ตวั ชวี้ ัดและหนว่ ยการเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดง ความคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ล ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.1 1. ปฏิบัตติ ำมคำสงั่ งำ่ ยๆ ทฟี่ งั คำส่งั ทใ่ี ชใ้ นห้องเรียน เช่น Stand up./Sit down./Listen./Repeat./ Quiet!/Stop! etc. 2. ระบตุ ัวอักษรและเสยี ง อ่ำนออกเสียง ตัวอักษร (letter names) เสยี งตัวอกั ษรและ และสะกดคำงำ่ ยๆ ถกู ตอ้ งตำม สระ (letter sounds) และกำรสะกดคำ หลกั กำรอ่ำน หลกั กำรอำ่ นออกเสยี ง เช่น กำรอำ่ นออกเสียงพยัญชนะตน้ คำ และ พยัญชนะทำ้ ยคำ กำรออกเสียงเน้นหนกั – เบำ (stress) ในคำ และกล่มุ คำ กำรออกเสยี งตำมระดับเสยี งสงู – ตำ่ (Intonation) ในประโยค 3. เลือกภำพตรงตำมควำมหมำยของคำ คำ กลุ่มคำ และควำมหมำยเก่ยี วกบั ตนเอง กล่มุ คำและประโยคทฟ่ี งั ครอบครัว โรงเรียน สงิ่ แวดล้อมใกลต้ วั อำหำร เคร่อื งดมื่ และนันทนำกำร และเปน็ วงคำศพั ท์ สะสมประมำณ 150 – 200 คำ (คำศัพทท์ เี่ ป็นรปู ธรรม) สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟี่ งั และอ่านจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมเี หตุผล ชนั้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.1 4. ตอบคำถำมจำกกำรฟังเรือ่ งใกลต้ ัว บทอำ่ นเก่ียวกับเร่อื งใกลต้ ัวหรอื นทิ ำนที่มี ภำพประกอบ ประโยคคำถำมและคำตอบ Yes/No Question เชน่ Is it a/an…? Yes, it is./ No, it is not. etc. Wh – Question เชน่ What is it? It is a/an… etc. หลักสตู รโรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ด์ิรำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
7 สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดง ความร้สู ึก และความคิดเห็นอย่างมีประสทิ ธิภาพ ชั้น ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.1 1. พดู โตต้ อบด้วยคำส้นั ๆ งำ่ ยๆ บทสนทนำที่ใช้ในกำรทักทำย กลำ่ วลำ ขอบคณุ ขอ ในกำรสอื่ สำรระหว่ำงบคุ คล โทษ ประโยค/ ข้อควำมที่ใชแ้ นะนำตนเอง เชน่ ตำมแบบทฟ่ี งั Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/I am…/Goodbye./Bye./Thank you./ I am sorry. etc. 2. ใช้คำส่งั งำ่ ยๆ ตำมแบบทีฟ่ งั คำส่ังทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น 3. บอกควำมต้องกำรงำ่ ยๆ ของ คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยค ท่ใี ชบ้ อกควำม ตนเอง ตำมแบบท่ีฟงั ต้องกำร เชน่ I want…/Please… etc. 4. พูดขอและใหข้ อ้ มลู ง่ำยๆ คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยค เกย่ี วกบั ตนเองตำมแบบทฟี่ งั ที่ใช้ขอและใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง เช่น What’s your name? My name is…/ I am…/ How are you? I am fine. etc. สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสือ่ สาร มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่อื ง ตา่ งๆ โดยการพูดและการเขยี น ช้ัน ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.1 1. พดู ให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง และ คำและประโยคทใ่ี ชใ้ นกำรพดู เรอ่ื งใกลต้ ัว ใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง บคุ คลใกลต้ วั และเรอ่ื งใกลต้ วั เช่น บอกชอื่ อำยุ รูปร่ำง ส่วนสูง สงิ่ ตำ่ งๆ จำนวน 1-20 สี ขนำด ตำแหนง่ ของสง่ิ ของ หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวสั ดร์ิ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
8 สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และ นาไปใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ชนั้ ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.1 1. พูดและทำทำ่ ประกอบตำมวฒั นธรรม วัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ เชน่ กำร ของเจ้ำของภำษำ ใช้สีหน้ำท่ำทำงประกอบกำรพูดขณะ แนะนำตนเอง กำรสมั ผัสมอื กำรโบก มอื กำรแสดงอำกำรตอบรับหรอื ปฏเิ สธ 2. บอกชื่อและคำศัพทเ์ กีย่ วกับเทศกำล คำศัพท์เกยี่ วกบั เทศกำลสำคญั ของเจ้ำของ สำคัญของเจำ้ ของภำษำ ภำษำ เช่น วนั ครสิ ต์มำส วันขึ้นปใี หม่ วนั วำเลนไทน์ 3. เข้ำร่วมกจิ กรรมทำงภำษำและ กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่ วฒั นธรรมท่ีเหมำะกบั วยั กำรเล่นเกม กำรรอ้ งเพลง กำรเลำ่ นทิ ำน ประกอบทำ่ ทำง วันคริสตม์ ำส วันข้ึนปี ใหม่ วันวำเลนไทน์ สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของ เจ้าของภาษากับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.1 1. ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตวั อักษรของ ตวั อกั ษรและเสียงตวั อักษรของ ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ บั กลุม่ สาระการเรยี นรูอ้ นื่ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ื่น และเป็นพน้ื ฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.1 1. บอกคำศัพท์ทเี่ กย่ี วข้องกบั กล่มุ สำระ คำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกบั กลมุ่ สำระ กำรเรียนรอู้ น่ื กำรเรียนรอู้ ่นื หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คำสวสั ดิ์รำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
9 สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พนั ธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.1 1. ฟงั /พดู ในสถำนกำรณ์งำ่ ยๆ ที่ กำรใชภ้ ำษำในกำรฟงั /พดู เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ในสถำนกำรณง์ ่ำยๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเคร่อื งมอื พ้ืนฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั สังคมโลก ชน้ั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.1 1. ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศเพอ่ื รวบรวม กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวม คำศัพท์ทเี่ กีย่ วขอ้ งใกลต้ วั คำศพั ท์ทีเ่ กย่ี วขอ้ งใกล้ตวั จำกสอื่ ตำ่ งๆ หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
10 โครงสรา้ งหลักสูตรชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 รหัส กลุ่มสาระการเรยี นร้/ู กิจกรรม เวลาเรยี น(ชม./ปี) รายวชิ าพ้ืนฐาน (๘๔๐) ท ๑๑๑๐๑ ภำษำไทย ๒๐๐ ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศำสตร์ ๒๐๐ ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 8๐ ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม 4๐ ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ศิ ำสตร์ ๔๐ พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ ๔๐ ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ง ๑๑๑๐๑ กำรงำนอำชพี ๔๐ อ ๑๑๑๐๑ ภำษำองั กฤษ 160 รายวิชาเพ่ิมเตมิ (8๐) อ 11201 ภำษำอังกฤษ 40 ส ๑๑2๐3 กำรป้องกนั กำรทจุ ริต 40 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (๑๒๐) ก 11901 แนะแนว 40 ก 11902 ลูกเสอื -เนตรนำรี 40 ก 11903 กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสำธำรณประโยชน์ 10 ก 11904 ชมุ นมุ 30 ๑,040 รวมเวลาเรียนตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร (160) รายวิชา/กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะ 1,200 รวมเวลาเรียนทง้ั หมด หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวัสด์ริ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
11 คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ11101 วชิ า ภาษาองั กฤษ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 160 ช่วั โมง คำสัง่ ท่ีใช้ในห้องเรียน ตวั อักษร (letter names) เสียงตวั อกั ษรและสระ (letter sounds) และกำร สะกดคำ หลกั กำรอำ่ นออกเสยี ง คำ กลมุ่ คำ และควำมหมำยเกี่ยวกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน ส่งิ แวดล้อม ใกล้ตัว อำหำร เครือ่ งดม่ื และนันทนำกำร บทอ่ำนเกีย่ วกับเร่ืองใกลต้ ัว นิทำน ภำพประกอบ ประโยคคำถำม และคำตอบ บทสนทนำ กลำ่ วลำ ขอบคุณ ขอโทษ คำศัพท์ สำนวน ประโยคแสดงควำมต้องกำร ประโยคท่ี ใช้ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง บุคคลใกล้ตัว วัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ เทศกำลสำคัญ กิจกรรมทำง ภำษำและวัฒนธรรม คำศพั ทท์ เ่ี ก่ียวข้องกับกลุม่ สำระกำรเรียนรูอ้ ่นื กำรใช้ภำษำในกำรฟัง/พูด ในสถำนกำรณ์ ง่ำยๆ กำรรวบรวมคำศัพท์ ท่ีใกล้ตัวจำกสื่อตำ่ งๆ โดยใช้กระบวนกำรปฏิบัติ อำ่ น เลือกภำพ ตอบคำถำม ฟัง พดู ใชค้ ำสัง่ บอกทำทำ่ ทำง ระบุใช้ภำษำ และเข้ำร่วมกจิ กรรม เหน็ ประโยชน์ เหน็ คุณค่ำของกำรเรียนภำษำองั กฤษ เข้ำใจภำษำและวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ และ สำมำรถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ รหสั ตวั ชว้ี ดั ต 1.1 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 ต 1.2 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 ต 1.3 ป.1/1 ต 2.1 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 ต 2.2 ป.1/1 ต 3.1 ป.1/1 ต 4.1 ป.1/1 ต 4.2 ป.1/1 รวมท้ังหมด 16 ตวั ชี้วัด หลักสตู รโรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คำสวสั ดริ์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
12 โครงสร้างรายวชิ า ภาษาต่างประเทศ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ11101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลารวม 160 ช่วั โมง หน่วยที่ ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด เวลา นา้ หนักคะแนน การเรียนรู้ ชว่ั โมง (100) Starter Welcome! ต 1.2 ป.1/1 5 - Hello English ต 1.3 ป.1/1 55 ต 2.1 ป.1/1, ป.1/3 ต 4.1 ป.1/1 1 First day at school ต 1.1 ป.1/1 , ป.1/2 - Review A-Z - Myself ต 1.2 ป.1/1 , ป.1/2 ,ป.1/4 - Phonics A-Z ต 2.1 ป.1/1, ป.1/3 5 10 ต 2.2 ป.1/1 10 ต 4.1 ป.1/1 10 2 My school things ต 1.1 ป.1/2 , ป.1/3 - Days and Months ต 1.3 ป.1/1 5 - Numbers 1-10 ต 2.1 ป.1/3 5 10 5 - colours ต 3.1 ป.1/1 5 - My school things ต 4.1 ป.1/1 ต 4.2 ป.1/1 3 My family ต 1.1 ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 - Members in your ต 1.2 ป.1/1 , ต 1.2 ป.1/4 family ต 1.3 ป.1/1, 10 - Family tree ต 2.1 ป.1/3, 10 - Who is this? 5 15 - Who is that? ต 3.1 ป.1/1 5 10 ต 4.1 ป.1/1, 5 ต 4.2 ป.1/1 1 สอบปลำยภำคเรียนที่ 1 5 4 My face ต 1.1 ป.1/1, ป.1/3, - Part of your face ต 1.2 ป.1/2, ป.1/4 หลักสูตรโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ด์ิรำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
หน่วยท่ี ชื่อหนว่ ย มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั 13 การเรียนรู้ เวลา นา้ หนักคะแนน ชวั่ โมง (100) - Shape ต 1.3 ป.1/1 - Part of body ต 2.1 ป.1/3 5 10 ต 3.1 ป.1/1, ป.1/3, ป.1/4 ต 4.1 ป.1/1 5 ต 4.2 ป.1/1 5 10 5 5 My pets ต 1.1 ป.1/2,ป.1/3 - Vocabulary: pets ต 1.3 ป.1/1 5 - What is it? ต 2.1 ป.1/3 5 - Do you have pet? ต 4.1 ป.1/1 10 - Can / Can’t ต 4.2 ป.1/1 5 5 6 My favourite foods ต 1.1 ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 5 - Vocabulary: food ต 1.2 ป.1/3, ป.1/๔ 5 - I like ต 1.3 ป.1/1 55 - I don’t like ต 2.1 ป.1/1 , ป.1/3 5 5 - Do you like? ต 4.1 ป.1/1 1 15 160 100 ต 4.2 ป.1/1 7 Festivals ต 1.1 ป.1/1 , -Happy Mother’s ต 1.2 ป.1/1, ป.1/3,ป.1/๔ day ต 1.3 ป.1/1 - Happy Father’s ต 2.1 ป.1/2 , ป.1/๓ day - Merry Christmas - Loykratong days สอบปลายภาคเรียนที่ 2 รวมทั้งรายวชิ า 1 หลกั สูตรโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
14 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พืน้ ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
15 ตวั ชี้วัดและหนว่ ยการเรยี นรู้ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟงั และอ่านจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความ คิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ล ชัน้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.2 1. ปฏบิ ัติตำมคำสั่ง และคำขอร้องงำ่ ยๆ คำส่ังและคำขอร้องทใี่ ช้ในห้องเรียน ทฟี่ งั คำสงั่ เช่น Show me a/an…/ Open your book./ Don’t talk in class. etc. คำขอร้อง เช่น Please come here. / Come here, please. Don’t make a loud noise, please./ Please don’t make a loud noise. etc. 2. ระบุตวั อกั ษรและเสียง อ่ำนออก ตวั อักษร เสยี งตวั อักษรและสระ เสยี งคำ สะกดคำ และอำ่ นประโยค กำรสะกดคำ และประโยค หลักกำร ง่ำยๆ ถกู ตอ้ งตำมหลักกำรอำ่ น อ่ำนออกเสียง เช่น กำรอ่ำนออกเสยี งพยัญชนะตน้ คำ และพยญั ชนะท้ำยคำ กำรออกเสยี งเนน้ หนกั – เบำ ในคำ และกลุ่มคำ กำรออกเสียงตำมระดบั เสียงสงู – ตำ่ ในประโยค หลักสตู รโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
16 สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร มาตรฐาน ต 1.1เขา้ ใจและตคี วามเรื่องทฟี่ งั และอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็นอย่างมีเหตผุ ล ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.2 3. เลือกภำพตรงตำมควำมหมำยของ คำ กลมุ่ คำ ประโยคเดย่ี ว (Simple คำกล่มุ คำและประโยคที่ฟงั sentence) และควำมหมำยเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สิง่ แวดล้อมใกล้ตวั อำหำร เครอื่ งด่มื และนนั ทนำกำร และเป็นวงคำศพั ท์ สะสมประมำณ 250 – 300 คำ (คำศพั ท์ทีเ่ ปน็ รปู ธรรม) 4. ตอบคำถำมจำกกำรฟังประโยค ประโยค บทสนทนำ หรอื นทิ ำน บทสนทนำ หรอื นทิ ำนงำ่ ยๆ ทีม่ ีภำพประกอบ ประโยคคำถำมและ ทมี่ ีภำพประกอบ คำตอบ Yes/No Question เช่น Is this/that a/an…? Yes, it is./No, it isn’t. etc. Wh – Question เชน่ What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is the…? It is in/on/under… etc. หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พ้นื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
17 สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดง ความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.2 1. พดู โต้ตอบด้วยคำส้นั ๆ งำ่ ยๆ ใน บทสนทนำทใ่ี ช้ในกำรทักทำย กำรสอื่ สำรระหว่ำงบคุ คลตำมแบบท่ี กล่ำวลำ ขอบคณุ ขอโทษ ประโยค/ ฟัง ขอ้ ควำมที่ใชแ้ นะนำตนเอง เชน่ Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/ How are you?/I’m fine./I am…/ Goodbye./Bye./Thank you./ I am sorry. etc. 2. ใชค้ ำสง่ั และคำขอร้องงำ่ ยๆ คำส่ังและคำขอร้องท่ใี ช้ในห้องเรียน ตำมแบบทฟี่ งั 3. บอกควำมตอ้ งกำรงำ่ ยๆ ของตนเอง คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยค ตำมแบบทฟี่ งั ทใี่ ช้บอกควำมตอ้ งกำร เชน่ I want…/Please… etc. 4. พูดขอและใหข้ ้อมลู งำ่ ยๆ เกี่ยวกบั คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยค ตนเองตำมแบบทฟ่ี ัง ท่ใี ช้ขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง เชน่ What’s your name? My name is…/ I am…/ How are you? I am fine. etc. หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
18 สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.3นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและการเขียน ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.2 1. พดู ใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง และ คำและประโยคทีใ่ ชใ้ นกำรพูด เรอ่ื งใกลต้ ัว ให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง บคุ คลใกล้ตวั และเรอื่ งใกล้ตวั เช่น บอกชื่อ อำยุ รูปรำ่ ง ส่วนสงู สง่ิ ต่ำงๆ จำนวน 1-30 สี ขนำด ตำแหน่งของส่ิงของ สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และ นาไปใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ชน้ั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.2 1. พูดและทำท่ำประกอบตำมวัฒนธรรม วฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ เช่น ของเจ้ำของภำษำ กำรใช้สีหนำ้ ท่ำทำงประกอบกำรพดู ขณะแนะนำตนเอง กำรสมั ผสั มอื กำรโบกมอื กำรแสดงอำกำรตอบรบั หรอื ปฏิเสธ 2. บอกชอื่ และคำศัพทเ์ กี่ยวกบั เทศกำล คำศัพทเ์ ก่ียวกับเทศกำลสำคัญของ สำคญั ของเจ้ำของภำษำ เจ้ำของภำษำ เชน่ วันครสิ ต์มำส วนั ขึ้นปีใหม่ วันวำเลนไทน์ 3. เขำ้ รว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและ กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เช่น วฒั นธรรมทีเ่ หมำะกบั วยั กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนทิ ำน ประกอบท่ำทำง วนั ครสิ ตม์ ำส วนั ขึน้ ปใี หม่ วันวำเลนไทน์ หลักสูตรโรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
19 สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.2เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม ช้นั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.2 1. บอกควำมแตกต่ำงของเสยี งตวั อักษร ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ และประโยคงำ่ ยๆ ของ คำ กลมุ่ คำ และประโยคของ ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น มาตรฐาน ต 3.1ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และ เป็นพื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.2 1. บอกคำศพั ท์ทเี่ กี่ยวข้องกบั กลมุ่ สำระ คำศพั ท์ท่เี กยี่ วขอ้ งกับกล่มุ สำระ กำรเรียนรอู้ ืน่ กำรเรยี นรอู้ ื่น สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชมุ ชน และ สงั คม ชน้ั ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.2 1. ฟงั /พดู ในสถำนกำรณง์ ำ่ ยๆ ท่ี กำรใชภ้ ำษำในกำรฟงั /พดู เกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียน ในสถำนกำรณ์งำ่ ยๆ ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน มาตรฐาน ต 4.2ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเคร่ืองมอื พื้นฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กับสงั คมโลก ชน้ั ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.2 1. ใช้ภำษำต่ำงประเทศเพอื่ รวบรวม กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวม คำศพั ท์ทเ่ี กยี่ วข้องใกล้ตัว คำศพั ทท์ ี่เกย่ี วข้องใกล้ตวั จำกสอ่ื ตำ่ ง หลักสตู รโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดริ์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
20 โครงสร้างหลักสตู รชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ รหัส กลมุ่ สาระการเรยี นรู/้ กจิ กรรม เวลาเรียน(ชม./ป)ี รายวชิ าพืน้ ฐาน (๘๔๐) ท ๑๒๑๐๑ ภำษำไทย ๒๐๐ ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศำสตร์ ๒๐๐ ว ๑๒๑๐๑ วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 8๐ ส ๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม 4๐ ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ ำสตร์ 4๐ พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ ๔๐ ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๔๐ ง ๑๒๑๐๑ กำรงำนอำชีพ ๔๐ อ ๑๒๑๐๑ ภำษำอังกฤษ 160 รายวชิ าเพม่ิ เติม (8๐) อ 12201 ภำษำองั กฤษ 40 ส ๑22๐3 กำรปอ้ งกันกำรทจุ ริต 40 กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน (๑๒๐) ก 12901 แนะแนว 40 ก 12902 ลูกเสอื -เนตรนำรี 40 ก 12903 กิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ 10 ก 12904 ชมุ นมุ 30 ๑,040 รวมเวลาเรียนตามโครงสร้างหลกั สตู ร (160) รายวชิ า/กิจกรรมเสริมทักษะ 1,200 รวมเวลาเรียนท้ังหมด หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
21 คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน รหสั วชิ า อ12101 วิชา ภาษาองั กฤษ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 160 ชว่ั โมง คำสั่ง คำขอร้อง ตัวอักษร เสียงตัวอักษรและสระ กำรสะกดคำ ประโยค หลักกำรอ่ำน ออกเสียง คำ กลุ่มคำ ประโยคเด่ียว และควำมหมำยเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อำหำร เคร่ืองด่ืม นันทนำกำร ประโยคสนทนำ หรือนิทำนภำพประกอบ ประโยคคำถำม คำตอบ บทสนทนำทใี่ ชใ้ นกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ ขอ้ ควำมทีใ่ ชแ้ นะนำตนเอง คำสั่ง คำขอร้องท่ีใช้ในห้องเรยี น คำศพั ท์สำนวนประโยคท่ีใช้บอกควำม ตอ้ งกำร คำศัพท์ สำนวน ประโยค ที่ใช้ขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง บุคคลใกลต้ วั เรื่องใกล้ ตัว วัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ คำศัพท์เก่ียวกับเทศกำลสำคัญของเจ้ำของภำษำ กิจกรรมทำง ภำษำและวัฒนธรรม ตัวอักษร เสียงตัวอักษรของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย คำศัพท์ที่ เก่ียวข้องกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อ่ืน กำรใช้ภำษำในกำรฟัง พูด ในสถำนกำรณ์ง่ำยๆ ที่เกิดขน้ึ ใน หอ้ งเรียน ใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศ เพ่อื รวบรวมคำศัพท์ทเี่ กย่ี วข้องใกล้ตวั จำกส่ือตำ่ งๆ โดยใช้กระบวนกำรฟัง พูด อ่ำน สะกดคำ เลือกตอบคำถำม สนทนำ พูดโต้ตอบ ส่ัง ขอร้อง บอก ทำทำ่ ทำง ร่วมกิจกรรม รวบรวม คำศพั ท์ และปฏบิ ัตติ ำม เหน็ ประโยชน์ เห็นคุณคำ่ ของกำรเรยี นภำษำองั กฤษ เข้ำใจภำษำและวัฒนธรรมของเจ้ำของ ภำษำ และสำมำรถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ รหสั ตวั ชวี้ ัด ต 1.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 ต 1.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 ต 1.3 ป.2/1 ต 2.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 ต 2.2 ป.2/1 ต 3.1 ป.2/1 ต 4.1 ป.2/1 ต 4.2 ป.2/1 รวมทั้งหมด 16 ตัวชว้ี ัด หลกั สตู รโรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คำสวัสด์ริ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
22 โครงสร้างรายวิชา ภาษาตา่ งประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รหสั วชิ า อ12101 รายวิชา ภาษาองั กฤษ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลารวม 160 ชวั่ โมง หน่วยท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั เวลา นา้ หนกั คะแนน การเรยี นรู้ ชวั่ โมง (100) Starter Hello again! ต 1.1 ป.2/๒, ป.2/4 - Introducing ต 1.2 ป.2/1 , ป.2/4 5 - Days and ต 1.3 ป.2/1 5 10 Months ต 2.1 ป.2/1, ป.2/3 - Phonics ต 4.1 ป.2/1 5 1 Back to school ต 1.1 ป.2/๒, ป.2/๓, ป.2/4 - Classroom objects ต 1.2 ป.2/4 5 - Have got ต 1.3 ป.2/1 5 - Numbers ต 2.1 ป.2/1, ป.2/3 5 10 - How many are ต 2.2 ป.2/1 5 there? ต 4.1 ป.2/1 - There is / There are ต 4.2 ป.2/1 5 2 All about me ต 1.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , - Parts of body ต 1.1 ป.2/4 5 - adjective ต 1.2 ป.2/2 , ป.2/4 5 - Describe people ต 1.3 ป.2/1 10 10 - Giving and ต 2.1 ป.2/1, ป.2/3 5 following commands ต 2.2 ป.2/1 ต 4.1 ป.2/1 ต 4.2 ป.2/1 3 On the farm ต 1.1 ป.2/2, ป.2/๓, ป.2/4 - Farm animal ต 1.2 ป.2/๔ 5 - Can / Can’t ต 1.๓ ป.2/1 5 - Numbers 21-30 ต 2.1 ป.2/1, ป.2/3 5 10 - How many…? ต 2.2 ป.2/1 5 - Preposition ต 4.1 ป.2/1 5 ต 4.2 ป.2/1 สอบปลายภาคเรียนท่ี 1 1 15 หลกั สตู รโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
หน่วยท่ี ชือ่ หน่วย มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตัวช้วี ัด 23 4 กำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนกั คะแนน 5 ชว่ั โมง (100) Nice weather ต 1.1 ป.2/1 , ป.2/๒ ,ป.2/๓ , ป.2/4 6 5 - Vocabulary ต 1.2 ป.2/๒ ,ป.2/4 5 - What’s the weather ต 1.3 ป.2/1 10 5 like today? ต 2.1 ป.2/1 , ป.2/3 5 - Clothes ต 2.๒ ป.2/1 5 10 - What are you ต 4.1 ป.2/1 10 wearing? ต 4.2 ป.2/1 ๑๐ Play days ต 1.1 ป.2/2,ป.2/๓, ป.2/4 5 - Vocabulary ต 1.2 ป.2/4 5 10 - What are you ต 1.3 ป.2/1 5 doing? ต 2.1 ป.2/๑, ป.2/3 5 - What day is it ต 2.๒ ป.2/๑ ๕ 1 15 today? ต 4.1 ป.2/1 160 100 ต 4.2 ป.2/1 Festivals ต 1.1 ป.2/๑ -Happy Mother’s ต 1.2 ป.2/๑ day ต 2.1 ป.2/๒, ป.2/3 - Happy Father’s day - Merry Christmas - Happy New Year’s Day! - Loykratong days สอบปลายภาคเรยี นท่ี 2 รวมทั้งรายวชิ า หลักสตู รโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
24 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พืน้ ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
25 ตวั ชี้วดั และหนว่ ยการเรียนรู้ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความ คิดเหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล ชน้ั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.3 1. ปฏบิ ัตติ ำมคำสง่ั และคำขอร้องท่ีฟงั คำส่ังและคำขอร้องท่ีใช้ในห้องเรียน หรืออ่ำน คำสง่ั เชน่ Give me a/an…/ Draw and color the picture./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t eat in class. etc. คำขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./ Don’t make a loud noise./ Can you help me, please? etc. 2. อ่ำนออกเสยี งคำ สะกดคำ คำ กลมุ่ คำ ประโยคเดยี่ ว และบทพดู อำ่ นกล่มุ คำ ประโยค และบทพูด เข้ำจงั หวะ และกำรสะกดคำ เข้ำจงั หวะ (chant) ง่ำยๆ ถกู ต้อง กำรใช้พจนำนุกรม ตำมหลกั กำรอำ่ น หลกั กำรอำ่ นออกเสยี ง เช่น กำรอำ่ นออกเสียงพยัญชนะต้นคำ และพยญั ชนะทำ้ ยคำ กำรออกเสยี งเนน้ หนกั – เบำ ในคำ และกลุ่มคำ กำรออกเสียงตำมระดบั เสียงสงู – ตำ่ ในประโยค หลักสตู รโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
26 สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร มาตรฐาน ต 1.1เขา้ ใจและตีความเรือ่ งท่ฟี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความ คิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล ช้นั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.3 3. เลอื ก/ระบภุ ำพหรอื สญั ลักษณ์ กลมุ่ คำ ประโยคเด่ียว สญั ลกั ษณ์ ตำมควำมหมำยของกลุ่มคำและ และควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง ประโยคท่ีฟัง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดล้อมใกล้ ตัว อำหำร เคร่อื งดม่ื และ นันทนำกำร และเป็นวงคำศัพทส์ ะสม ประมำณ 350 – 450 คำ (คำศพั ทท์ ี่เปน็ รปู ธรรม) 4. ตอบคำถำมจำกกำรฟังหรืออ่ำน ประโยค บทสนทนำ หรอื นทิ ำน ประโยค บทสนทนำ หรอื นทิ ำน ที่มภี ำพประกอบ งำ่ ยๆ ประโยคคำถำมและคำตอบ Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. etc. Wh – Question เชน่ What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is/are…? It is They are etc. in/on/under หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพนื้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
27 สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.2มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู ึก และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ ชัน้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.3 1. พดู โต้ตอบด้วยคำสน้ั ๆ งำ่ ยๆ ใน บทสนทนำท่ใี ชใ้ นกำรทกั ทำย กำรสอ่ื สำรระหวำ่ งบุคคลตำมแบบ กลำ่ วลำ ขอบคณุ ขอโทษ ประโยค/ ทฟี่ ัง ขอ้ ควำมที่ใช้แนะนำตนเอง เช่น Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/ I am sorry./How are you?/ I’m fine. Thank you. And you?/ Nice to see you. Nice to see you, too./ Goodbye./Bye./ See you soon/ later./Thanks /Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome. etc. 2. ใช้คำสัง่ และคำขอรอ้ งงำ่ ยๆ คำสัง่ และคำขอรอ้ งทใ่ี ช้ในหอ้ งเรยี น ตำมแบบทฟ่ี งั คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยค 3. บอกควำมตอ้ งกำรงำ่ ยๆ ของตนเอง ท่ีใชบ้ อกควำมต้องกำร เช่น ตำมแบบทฟ่ี ัง Please…/May I go out?/ May I come in? etc. หลักสตู รโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสด์ริ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
28 สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.2มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.3 4. พูดขอและให้ขอ้ มลู ง่ำยๆ เก่ยี วกบั คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยค ตนเองและเพอื่ นตำมแบบทีฟ่ งั ท่ใี ช้ขอและให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง และเพอ่ื น เชน่ What’s your name? My name is… How are you? I am fine. What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/There are… Who is…? He/She is… etc. 5. บอกควำมรู้สกึ ของตนเองเก่ียวกับ คำและประโยคทใี่ ชแ้ สดงควำมรู้สกึ สิง่ ตำ่ งๆ ใกลต้ ัว หรอื กจิ กรรมตำ่ งๆ เช่น ดีใจ เสยี ใจ ชอบ ไม่ชอบ เช่น ตำมแบบทฟ่ี งั Yeah!/Great!/Cool!/I’m happy./ I like cats./I don’t like snakes. etc. หลักสตู รโรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
29 สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งตา่ งๆ โดยการพดู และการเขยี น ชั้น ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.3 1. พดู ให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง และ คำและประโยคที่ใชใ้ นกำรพดู เร่ืองใกลต้ ัว ให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง บคุ คลใกลต้ วั และเรื่องใกล้ตัว เชน่ บอกชอ่ื อำยุ รปู ร่ำง ส่วนสงู สง่ิ ตำ่ งๆ จำนวน 1-50 สี ขนำด ตำแหน่งของสิง่ ของ 2. จดั หมวดหมู่คำตำมประเภทของ คำ กล่มุ คำทมี่ ีควำมหมำยเกย่ี วกับ บคุ คล สตั ว์ และสง่ิ ของตำมท่ฟี งั บคุ คล สตั ว์ และสิ่งของ เช่น หรอื อ่ำน กำรระบ/ุ เช่อื มโยงควำมสัมพนั ธข์ อง ภำพกับคำหรอื กลมุ่ คำโดยใชภ้ ำพ แผนภมู ิ แผนภำพ แผนผงั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ นาไปใชไ้ ด้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ช้ัน ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.3 1. พดู และทำท่ำประกอบตำมมำรยำท มำรยำทสงั คม/วฒั นธรรมของเจำ้ ของ สังคม/วัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ ภำษำ เชน่ กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรใชส้ ีหนำ้ ทำ่ ทำงประกอบ กำรพูด ขณะแนะนำตนเอง กำรสมั ผสั มอื กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำรตอบรับ หรอื ปฏิเสธ 2. บอกชือ่ และคำศพั ทง์ ่ำยๆ เกย่ี วกบั คำศัพทเ์ กี่ยวกับเทศกำล/วนั สำคัญ/ เทศกำล/วันสำคญั /งำนฉลอง และ งำนฉลอง และชวี ติ ควำมเปน็ อยู่ของ ชวี ติ ควำมเป็นอยู่ของเจำ้ ของภำษำ เจ้ำของภำษำ เชน่ วันคริสต์มำส วันข้นึ ปีใหม่ วันวำเลนไทน์ เครอ่ื งแตง่ กำย อำหำร เครื่องด่ืม หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพน้ื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
ช้ัน ตัวชว้ี ดั 30 3. เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงภำษำและ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง วัฒนธรรมท่เี หมำะกบั วัย กิจกรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เช่น กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนทิ ำน ประกอบทำ่ ทำง วนั คริสต์มำส วนั ขึน้ ปใี หม่ วันวำเลนไทน์ สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2. 2เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ชั้น ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.3 1. บอกควำมแตกต่ำงของเสยี งตัวอกั ษร ควำมแตกต่ำงของเสยี งตวั อักษร คำ กลมุ่ คำ และประโยคงำ่ ยๆ ของ คำ กลมุ่ คำ และประโยคของ ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน มาตรฐาน ต 3.1ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื และ เป็นพนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน ชน้ั ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.3 1. บอกคำศัพท์ทเี่ ก่ียวข้องกบั กลุม่ สำระ คำศัพท์ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับกลุ่มสำระ กำรเรยี นรอู้ น่ื กำรเรียนรอู้ นื่ สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ ับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และ สังคม ชนั้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.3 1. ฟัง/พดู ในสถำนกำรณง์ ำ่ ยๆ ท่ี กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูด เกิดขนึ้ ในห้องเรียน ในสถำนกำรณง์ ่ำยๆ ท่เี กดิ ขึ้น ในห้องเรยี น หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พ้นื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
31 มาตรฐาน ต 4.2ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเคร่ืองมือพ้ืนฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรยี นรูก้ ับสังคมโลก ชั้น ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.3 1. ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศเพ่ือรวบรวม กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวม คำศัพท์ที่เกย่ี วขอ้ งใกล้ตัว คำศัพท์ทีเ่ กีย่ วข้องใกลต้ ัว จำกสอ่ื ต่ำงๆ หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พ้นื ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
32 โครงสร้างหลกั สูตรชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ รหสั กล่มุ สาระการเรียนรู/้ กจิ กรรม เวลาเรียน(ชม./ปี) รายวิชาพ้ืนฐาน (๘๔๐) ท ๑๓๑๐๑ ภำษำไทย ๒๐๐ ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศำสตร์ ๒๐๐ ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี 8๐ ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม 4๐ ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ ำสตร์ ๔๐ พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ๔๐ ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๔๐ ง ๑๓๑๐๑ กำรงำนอำชพี ๔๐ อ ๑๓๑๐๓ ภำษำองั กฤษ 160 รายวชิ าเพมิ่ เตมิ (8๐) อ 13201 ภำษำองั กฤษ 40 ส ๑32๐3 กำรป้องกนั กำรทจุ ริต 40 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน (๑๒๐) ก 13901 แนะแนว 40 ก 13902 ลกู เสือ-เนตรนำรี 40 ก 13903 กิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ 10 ก 13904 ชมุ นุม 30 ๑,040 รวมเวลาเรียนตามโครงสรา้ งหลักสตู ร (160) รายวิชา/กิจกรรมเสริมทกั ษะ 1,200 รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
33 คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน รหัสวชิ า อ13101 วชิ า ภาษาองั กฤษ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 160 ชว่ั โมง คำส่งั คำขอร้องทใ่ี ช้ในหอ้ งเรยี น คำ กล่มุ ประโยคเดีย่ ว และบทพูดเขำ้ จงั หวะ (Chant) และกำรสะกดคำ กำรใช้พจนำนุกรม หลกั กำรอ่ำนออกเสยี ง กลมุ่ คำ ประโยคเดยี่ ว สญั ลกั ษณแ์ ละ ควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สง่ิ แวดล้อมใกล้ตวั อำหำร เครอ่ื งดมื่ และ นนั ทนำกำร เปน็ วงศ์คำศพั ทป์ ระมำณ 350 – 450 คำ ประโยคบทสนทนำหรอื นทิ ำนท่ีมี ภำพประกอบ ประโยคคำถำมและคำตอบ บทสนทนำ ทกั ทำย กลำ่ วลำ ขอบคณุ ขอโทษและ ประโยคข้อควำมท่ีใชแ้ นะนำตนเอง คำสั่งและขอรอ้ งทใ่ี ช้ในห้องเรยี น คำศพั ท์ สำนวน และประโยค ทใี่ ช้บอกควำมต้องกำร คำศพั ท์ สำนวน ประโยคทีใ่ ช้ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเองและเพื่อน คำ และประโยคทใี่ ชแ้ สดงควำมรสู้ กึ พูดให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่อื งใกลต้ วั คำ กลุม่ คำ ทม่ี ี ควำมหมำยเก่ยี วกบั บคุ คล สตั วแ์ ละสงิ่ ของ มำรยำทสงั คม วัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ คำศัพท์ เก่ียวกับเทศกำล วันสำคัญ งำนฉลอง และชีวิต ควำมเป็นอยูข่ องเจ้ำของภำษำ กิจกรรมทำงภำษำ และวฒั นธรรม ควำมแตกตำ่ งของตวั อกั ษร คำ กลุม่ คำ และประโยคของภำษำตำ่ ง ประเทศและ ภำษำไทย คำศพั ท์ท่ีเกีย่ วข้องกับกลุม่ สำระกำรเรียนร้อู ่นื กำรใช้ภำษำในกำรฟงั พูด ในสถำนกำรณ์ งำ่ ยๆ ทเี่ กดิ ขึน้ ในห้องเรียน ใช้ภำษำตำ่ งประเทศเพอื่ รวบรวมคำศพั ท์ ทเ่ี กย่ี วข้องใกล้ตวั โดยใช้ กระบวนกำรฟงั พูด อำ่ น สะกดคำ ตอบคำถำม สนทนำ เลอื กระบุ พดู โต้ตอบ สง่ั ขอรอ้ ง บอก จัดหมวดหมู่ ทำท่ำทำง ร่วมกจิ กรรม รวบรวมคำศพั ท์ และปฏิบัตติ ำม เห็นประโยชน์ เหน็ คณุ คำ่ ของกำรเรียนภำษำองั กฤษ เข้ำใจภำษำและวฒั นธรรมของเจ้ำของ ภำษำ และสำมำรถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ รหัสตวั ช้วี ดั ต 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 ต 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 ต 1.3 ป.3/1 , ป.3/2 ต 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 ต 2.2 ป.3/1 ต 3.1 ป.3/1 ต 4.1 ป.3/1 ต 4.2 ป.3/1 รวมทัง้ หมด 18 ตัวช้ีวัด หลกั สูตรโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
34 โครงสร้างรายวิชา กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวชิ า อ13101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลารวม 160 ช่ัวโมง หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชี้วดั เวลา น้าหนักคะแนน ที่ การเรียนรู้ ช่วั โมง (100) 0 Starter: Hello friends! ต 1.๑ ป.3/1 - Introducing ต 1.2 ป.3/1,ป.3/๒ ,ป.3/๓ 5 5 - May I go out? ต 2.1 ป.3/1 , ป.3/3 10 5 10 May I come in? ต 4.1 ป.3/1 5 5 10 1 Back to school again - ต 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 Country 5 15 - Hi / Hello ต 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , 5 15 ป.3/5 5 - Where are you from? ต 1.3 ป.3/1 , ป.3/2 5 - Daily activities - Telling the time ต 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 5 ต 2.2 ป.3/1 5 ต ๓.๑ ป.3/1 5 ต 4.1 ป.3/1 5 ต 4.๒ ป.3/1 5 5 2 All year round ต 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 5 - Vocabulary ต 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/5 1 - What is the weather ต 1.3 ป.3/1 , ป.3/2 like? ต 2.1 ป.3/2 , ป.3/3 - Weather and Months - Seasons ต 2.2 ป.3/1 ต ๓.๑ ป.3/1 ต 4.1 ป.3/1 ต 4.๒ ป.3/1 3 Family and friends ต 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 - Vocabulary: family ต 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/4 - Descriptive adjective ต 1.3 ป.3/1 , ป.3/2 - Is it…..? ต 2.1 ป.3/1 , ป.3/3 - Numbers 30-100 ต 2.2 ป.3/1 - How old are you? ต ๓.๑ ป.3/1 ต 4.1 ป.3/1 ต 4.๒ ป.3/1 สอบปลายภาคเรียนที่ 1 หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พืน้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑
35 หน่วย ช่อื หนว่ ย มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ดั เวลา นา้ หนกั คะแนน ท่ี การเรยี นรู้ ชว่ั โมง (100) 4 Around town ต 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 - Vocabulary: place ต 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/4 5 - Prepositions ต 1.3 ป.3/1 , ป.3/2 5 - Subject + go/goes ต 2.1 ป.3/1 , ป.3/3 5 10 + to + (สถำนท)ี่ + ต 2.2 ป.3/1 by + (ยำนพำหนะ). ต 4.1 ป.3/1 5 - Present Simple ต 4.๒ ป.3/1 5 Yummy food ต 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 5 - Favorite food ต 1.2 ป.3/1 , ป.3/3 , ป.3/4 5 - a /an / some ต 1.๓ ป.3/1, ป.3/๒ 5 10 - Wh - questions ต 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 5 - Ordinal number ต 2.2 ป.3/1 ต ๓.๑ ป.3/1 10 6 Playtime ต 4.1 ป.3/1 10 - Telling the time ต 4.๒ ป.3/1 - Present continuous ต 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 10 tense ต 1.2 ป.3/1 , ป.3/4 , ป.3/5 ต 1.3 ป.3/1 , ป.3/2 ต 2.1 ป.3/3 ต 3.1 ป.3/1 ต 4.1 ป.3/1 ต 4.2 ป.3/1 7 Festivals 5 -Happy Mother’s day ต 1.1 ป.3/1 10 - Happy Father’s day ต 2.1 ป.3/2 , ป.3/3 - Merry Christmas 5 - Loykratong days 5 5 สอบปลายภาคเรียนที่ 2 1 15 รวมทงั้ รายวชิ า 160 100 หลกั สตู รโรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพนื้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
36 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑
37 ตัวชีว้ ดั และหนว่ ยการเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความ คดิ เห็นอยา่ งมีเหตผุ ล ชัน้ ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.4 1. ปฏบิ ัติตำมคำสง่ั คำขอร้อง และ คำสัง่ และคำขอรอ้ งทใี่ ช้ในหอ้ งเรยี น คำแนะนำทฟี่ งั และอ่ำน ภำษำท่ำทำง และคำแนะนำในกำร เลน่ เกม กำรวำดภำพหรือกำร ทำอำหำรและเคร่อื งดม่ื คำสงั่ เช่น Look at the…/here/ over there./Say it again./ Read and draw./Put a/an…in/on/ under a/an…/Don’t go over there. etc. คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./Can you help me, please? etc. คำแนะนำ เชน่ You should read everyday./ Think before you speak./ คำศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นกำรเลน่ เกม Start./ My turn./Your turn./ Roll the dice./Count the number./ Finish. คำบอกลำดบั ข้นั ตอน First,… Second,… Next,… Then,… Finally,… etc. หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
38 สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร มาตรฐาน ต 1.1เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล ช้ัน ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.4 2. อ่ำนออกเสยี งคำ สะกดคำ คำ กลุ่มคำ ประโยค ขอ้ ควำม บท อำ่ นกลมุ่ คำ ประโยค ขอ้ ควำมงำ่ ยๆ พดู เข้ำจงั หวะ และกำรสะกดคำ และบทพดู เขำ้ จงั หวะถกู ต้อง กำรใชพ้ จนำนุกรม ตำมหลกั กำรอ่ำน หลักกำรอำ่ นออกเสียง เช่น กำรอำ่ นออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำ และพยญั ชนะท้ำยคำ กำรออกเสยี งเน้นหนกั – เบำ ในคำ และกลมุ่ คำ กำรออกเสียงตำมระดบั เสียงสงู – ต่ำ ในประโยค ป.4 3. เลอื ก/ระบภุ ำพหรอื สัญลกั ษณ์ กลุ่มคำ ประโยคเดยี่ ว สัญลกั ษณ์ เคร่อื งหมำยตรงตำมควำมหมำยของ เครือ่ งหมำยและควำมหมำยเก่ยี วกบั ประโยคและข้อควำมส้นั ๆ ทฟี่ ัง หรือ ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น อำ่ น สิง่ แวดล้อม อำหำร เคร่ืองดืม่ เวลำว่ำงและนันทนำกำร สุขภำพและ สวสั ดกิ ำร กำรซอื้ – ขำย และ ลมฟำ้ อำกำศ และเป็นวงคำศพั ทส์ ะสม ประมำณ 550 – 700 คำ (คำศพั ท์ทเี่ ป็นรปู ธรรมและนำมธรรม) หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
39 สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1เข้าใจและตคี วามเรือ่ งทีฟ่ งั และอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ช้นั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.4 4. ตอบคำถำมจำกกำรฟงั และ ประโยค บทสนทนำ นิทำนทมี่ ี อ่ำนประโยคบทสนทนำ และนทิ ำน ภำพประกอบ คำถำมเก่ียวกบั ง่ำยๆ ใจควำมสำคญั ของเรอ่ื ง เช่น ใคร ทำอะไร ท่ีไหน Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t Do/Does/Can/Is/Are… ? Yes/No… etc. Wh – Question เชน่ Who is/are… ? He/She is…/They are… What… ?/Where… ? It is …/They are… What…doing ? …is/am/are… etc. Or – Question เชน่ Is this/it a/an…or a/an… ? It is a/an… etc. หลักสูตรโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑
40 สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.2มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความร้สู กึ และความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ช้นั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.4 1. พดู /เขียนโตต้ อบในกำรสอ่ื สำร บทสนทนำท่ีใช้ในกำรทกั ทำย ระหว่ำงบุคคล กลำ่ วลำ ขอบคณุ ขอโทษ กำรพดู แทรกอย่ำงสุภำพ ประโยค/ ข้อควำมที่ใชแ้ นะนำตนเอง เพื่อน และบคุ คลใกลต้ ัวและสำนวน กำรตอบรบั เช่น Hi/Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/I am sorry./ How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/Hello, I am…/ Hello, I am… This is my sister. Her name is…/Hello,…/ Nice to see you. Nice to see you, too./Goodbye./Bye./ See you soon/later./Thanks / Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome./It’s O.K. etc. 2. ใช้คำสัง่ คำขอรอ้ ง และ คำสงั่ คำขอรอ้ ง คำขออนุญำต ที่ใช้ คำขออนุญำตง่ำยๆ ในห้องเรียน หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124