ข้อ 6. หนังสอื ประทบั ตราจาก สานกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ลงวนั ที่ ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๕ เลขทีห่ นังสอื มท ๐๒๑๒.๑/ ๒๓๐๙ ถึง จงั หวดั ทกุ จงั หวัด ภาคเหตุ ตามที่กระทรวงมหาดไทยไดม้ หี นงั สือดว่ นทส่ี ดุ ที่ มท ๐๒๑๒.๒/ว ๕๓๘๐ ลงวันท่ี ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ แจง้ ให้จงั หวัดควบคุมกาชบั และเรง่ รัดผูร้ ับผดิ ชอบจดั ทาข้อมลู ผลการใชจ้ า่ ย งบประมาณการปฏิบตั ิงาน และการจดั ซอื้ จดั จา้ ง งบกลาง รายการคา่ ใช้จา่ ยงบประมาณการปฏบิ ัตงิ าน และการจัดซ้ือจดั จา้ ง งบกลาง รายการคา่ ใชจ้ ่ายในการเยยี วยา ฟ้ืนฟู และป้องกนั ความเสยี หายจาก อุทกภยั อย่างบูรณาการ (๑๒๐,0๐๐ ลา้ นบาท) ใน Website ของสานักงบประมาณผา่ นระบบ (http:/ww.bb.go.th ระบบรายงานแผน/ผลการฟน้ื ฟู เยยี วยาผปู้ ระสบอทุ กภัย) ให้แล้วเสร็จอยา่ ง รวดเรว็ และถกู ตอ้ งน้นั ภาคความประสงค์ กระทรวงมหาดไทยไดร้ ับการประสานจากสานกั งบประมาณว่ายังมหี ลายจงั หวดั ทยี่ ังไม่ไดบ้ นั ทึกขอ้ มูลในระบบดังกลา่ ว ประกอบกับสานักงบประมาณจะใชข้ อ้ มูลน้ีสาหรบั การเตรยี มขอ้ มูล เพื่อประกอบการเตรียมการอภปิ รายไมไ่ ว้วางใจรฐั บาล ดังน้ัน จงึ ขอให้ทุกจงั หวัดเรง่ รตั ผู้รับผิดชอบจดั ทา ข้อมลู ผลการใชจ้ า่ ยงบประมาณ การปฏิบัตงิ านและการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง งบกลาง รายการคา่ ใชจ้ า่ ยในการเยียวยา ฟื้นฟแู ละปอ้ งกนั ความเสยี หายจากอุทกภยั อย่างบรู ณาการ (๑๒0,.๐. ล้านบาท) ใน Website ของ สานักงบประมาณให้เป็นปัจจบุ นั ภายในวันพฤหัสบดีท่ี ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ภาคสรปุ จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดพิจารณาดาเนนิ การตอ่ ไป ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง ส่วนประสานยทุ ธศาสตรแ์ ละการพฒั นาจงั หวดั สานกั พัฒนาและสง่ เสริม การบรหิ ารราชการจงั หวดั โทร/โทรสาร ๑-๒๒๒๑-๙๒๐๐, ๕๐๕๘๓
หนว่ ยที่ 7 จดหมายธรุ กจิ 1.สาระสาคัญ จดหมายธรุ กจิ เป็นจดหมายท่ใี ชต้ ิดตอ่ ระหวา่ งกนั ในวงธรุ กจิ โดยมีจดุ ประสงคอ์ ย่างใดอยา่ งหนงึ่ ในการ ดาเนินการทางธรุ กิจ การเขียนจดหมายธรุ กจิ เปน็ การสอ่ื สารทม่ี คี วามสาคญั ต่อธุรกิจ เพราะเป็นวธิ ีการทส่ี ะดวก ประหยัด มคี วามสะดวกรวดเรว็ การให้รายละเอยี ดข้อมูล และเปน็ หลักฐานในการตดิ ต่อเมอ่ื เกดิ มปี ัญหาข้นึ ดงั นนั้ การเขยี นจดหมาย จงึ ควรให้ความระมดั ระวงั เรอ่ื งการใช้ถอ้ ยคาภาษาให้ถกู ตอ้ ง ชดั เจน เพอ่ื ให้การประกอบกจิ ธรุ ะ หรือการทางานของตนเปน็ ไปด้วยความเรยี บร้อยและประสบผลสาเรจ็ 2.สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความร้เู ก่ยี วกับการพมิ พจ์ ดหมายธรุ กิจดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 2. ประยุกต์ใชค้ วามรเู้ กี่ยวกบั จดหมายธรุ กจิ ในชวี ติ ประจาวันและการประกอบอาชพี 3.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป เพ่ือให้ผเู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับจดหมายธุรกิจ จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เม่ือผเู้ รยี นศึกษาจบหนว่ ยการเรียนนแี้ ล้ว ผเู้ รยี นสามารถ 1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ของจดหมายธรุ กิจได้ 2. บอกสว่ นประกอบของจดหมายธุรกิจได้ถูกตอ้ ง 3. อธิบายลกั ษณะของจดหมายธรุ กิจท่ีดไี ด้ 4. หลกั ในการพิมพ์จดหมายธุรกิจแตล่ ะประเภท 5. ปฏิบัติงานด้วยความมวี นิ ัย ขยัน ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ สุภาพ ดาเนินชวี ติ โดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 4.สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องจดหมายธุรกจิ 2. ส่วนประกอบของจดหมายธุรกจิ 3. ลักษณะของจดหมายธุรกจิ ที่ดี 4. หลกั ในการพิมพ์จดหมายธุรกจิ 5.รูปแบบของจดหมายธรุ กิจแต่ละประเภทได้ถกู ตอ้ ง 6.บอกรูปแบบของจดหมายธุรกจิ ทน่ี ยิ มใช้มากในปจั จบุ นั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
1. ความหมาย ความสาคัญ และประโยชน์ของจดหมายธรุ กจิ จดหมายธุรกิจ (Business Letter) ถือเป็นการส่ือสารธุรกิจรูปแบบหนึ่งเป็นจดหมายที่ใช้ติดต่อระหว่าง กันในวงธุรกิจโดยมีจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งในการดาเนินธุรกิจ เช่น เสนอขายสินค้าหรือบริการสั่งซ้ือสินค้า และจดหมายตอบรับการส่งั ซือ้ จดหมายตดิ ตามหนี้ จดหมายรอ้ งเรยี นเกยี่ วกับขอ้ ผดิ พลาดหรือความเสียหาย เป็น ต้น จดหมายธุรกิจมีความแตกต่างจากจดหมายส่วนตัวบ้าง ในด้านรูปแบบและการใช้ถ้อยคาภาษากล่าวคือ จดหมายธุรกิจส่วนใหญ่มีรูปแบบและการใช้ภาษาเป็นทางการหรือค่อนข้างเป็นส่ิงท่ีผู้พิมพ์งานจดหมายต้อง คานึงถึงมีดังนี้ 1. ความสะอาดของงานพมิ พส์ ขี องกระดาษพิมพ์ 2. ขนาดของกระดาษ 3.รปู แบบของจดหมาย 4.ความถูกต้องของตัวอักษรทุกตัวบนจดหมายรวมทั้งบนซองจดหมาย ต้องไม่มีคาผิดส่ิงที่ต้องคานึงถึง ดงั กล่าวจะสร้างเสริมความน่าเชื่อถอื ของธรุ กิจซ่ึงหมายถงึ ความเช่ือถือในคุณภาพของสินค้า และบรกิ ารของธุรกิจ นั้นๆ ความสาคัญของจดหมายธุรกจิ จดหมายธรุ กิจมีความสาคญั ต่อธรุ กจิ ประเภทตา่ งๆ มาก อาจสรปุ ได้ดงั นี้ 1. สะดวก สามารถตดิ ตอ่ กนั ไดใ้ นระยะทางไกลๆ 2.ประหยดั ทัง้ เวลาและคา่ ใช้จา่ ย 3.สามารถตดิ ต่อกนั ไดใ้ นวงกว้างทัง้ ผทู้ ่เี รารจู้ ักและไมร่ ูจ้ ัก 4.เปน็ สื่อก่อสมั พันธภาพที่ดี สร้างความประทับใจแกผ่ รู้ บั 5.ขอ้ ความส่ือสารสมบูรณ์ เนือ่ งจากสามารถเขียนให้รายละเอยี ดที่สมบรู ณ์กว่าการพูด 6.เก็บเปน็ หลกั ฐาน มีประโยชน์เพ่ือการอา้ งองิ และค้นเรอื่ งเมอื่ จาเป็น 7.สามารถแจง้ ขา่ วสารไดอ้ ย่างทั่วถงึ ตามเวลาทกี่ าหนด ประโยชน์ของจดหมายธุรกจิ จดหมายธรุ กจิ มีประโยชนต์ อ่ กจิ การเป็นอยา่ งมาก ทาให้เกิดความสะดวกหลายประการ เชน่ 1.เป็นเอกสารปอ้ งกันการคลาดเคลือ่ น ป้องกันการสอื่ สารกันดว้ ยวาจาซง่ึ อาจคลาดเคลื่อนหรอื ลืมได้ อาจทาให้เกดิ ความเขา้ ใจผดิ หรอื จงใจ บิดเบอื นขอ้ มลู การใช้จดหมายจงึ เป็นวธิ ีทส่ี ามารถแกป้ ญั หาน้ไี ด้ 2.เป็นเคร่อื งมือใหร้ ายละเอียดขอ้ มลู
การเตรยี มการการตรวจสอบขอ้ มูลตา่ งๆ ก่อนสง่ ไปใหล้ กู คา้ สามารถให้รายละเอยี ดท่ีถกู ต้องชัดเจน ทาให้ ลูกค้าไดร้ ับรายละเอยี ดครบถ้วนและชดั เจน 3.เป็นหลักฐานในการอา้ งองิ ข้อมลู การส่ือสารด้วยจดหมายเป็นลายลักษณอ์ ักษรชัดเจน ใช้สาหรบั อา้ งอิงเรือ่ งทธี่ รุ กจิ ติดตอ่ กนั จงึ นามาเป็น หลักฐานในการอ้างองิ และหลักฐานทางกฎหมายกรณีที่เกิดขอ้ ชัดแยง้ 4.เป็นสือ่ สัมพันธ์ทด่ี ีในการตดิ ตอ่ ทางธุรกจิ ช่วยเสรมิ สรา้ งความสัมพนั ธท์ ่ดี รี ะหวา่ งธรุ กจิ เป็นเครอ่ื งมอื ในการแกไ้ ขความเข้าใจผดิ หรือขอ้ มลู ที่ คลาดเคลอ่ื นไดเ้ ป็นอย่างดี เชน่ จดหมายปรบั ความเขา้ ใจ 5.เป็นเครอื่ งมือทป่ี ระหยัดเวลาและค่าใชจ้ า่ ย การสอ่ื สารทม่ี คี วามเร่งดว่ นและมีผ้รู บั จานวนมาก การใชจ้ ดหมายจึงมีความสะดวก ประหยดั และรวดเร็ว ในการตดิ ต่อสื่อสาร เสยี เวลานอ้ ยกว่าการเดินทางในการตดิ ต่อสือ่ สาร 2. ส่วนประกอบของจดหมายธรุ กจิ จดหมายธรุ กจิ โดยทว่ั ไปมีสว่ นประกอบดงั น้ี ที่อยู่ผู้ส่ง เป็นส่วนของการระบุช่ือและที่ตั้งของบริษัท ห้างร้าน หรือกิจการเจ้าของจดหมายเพื่อให้ผู้อ่าน ทราบว่าจดหมายฉบับน้ันมาจากที่ใดและจะตอบจดหมายส่งกลับไปยังท่ีใด โดยอาจกลางหน้ากระดาษ ทาง ดา้ นซา้ ยหรือทางด้านขวามือก็ได้ โดยปกตบิ ริษัท ห้างร้านหรือกิจการทวั่ กระดาษพิมพ์หัวจดหมายสาเร็จรปู ไว้แล้ว ซึ่งมีการออกแบบแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่นิยมใส่ตราบริษัท (Logo)หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทสารของ บริษัทไว้ด้วยเพื่อสะดวกในการติดต่อและเพื่อประชาสัมพันธ์ไปในตัวและเน่ืองจากในปัจจุบันนอกจากการติดต่อ ธุรกิจภายในประเทศติดต่อค้าขายยังขยายกว้างไกลสนู่ านาประเทศมากข้ึนและเพ่ือให้เกิดความสะดวกอยา่ งเต็มท่ี บริษัทส่วนใหญ่นิยมพิมพ์หัวจดหมายสาเร็จรูปท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษควบคู่กันไปหากเป็นกรณีที่ไม่มี กระดาษพมิ พ์หวั จดหมายสาเรจ็ รูปไวใ้ ห้พิมพ์ช่อื และทตี่ งั้ ของบริษัทเอง โดยมีรายละเอียดไม่ควรเกิน3-4 บรรทัด เลขทีจ่ ดหมาย/ปี พ.ศ.ใหร้ ะบุเลขที่จดหมายและปพี ุทธศักราชทจ่ี ดั ทาจดหมายฉบับดังกลา่ ว เพื่อประโยชน์ในการจดั เก็บเอกสารและการอา้ งองิ ตอ่ ไป เลขทจี่ ดหมายนิยมกาหนดขน้ึ โดยเรียงตามลาดับ ของจดหมายท่ีจัดทาข้ึนในแต่ละปี เริ่มต้ังแต่เลข 1เรียงเป็นลาดับไปจนถึงปีปฏิทิน อย่างไรก็ตามแต่ละหน่วยงาน อาจมวี ธิ ีการกาหนดเลขท่จี ดหมายแตกตา่ งกนั ออกไป วนั เดือน ปี หมายถึง วัน เดือน ปี ที่เขียนจดหมายเพอ่ื เป็นข้อมูลในการอา้ งอิงหรอื การตดิ ต่ออันอาอาจ เกิดขน้ึ ในภายหลังโดยให้ลงเฉพาะตวั เลขของวันท่ี ชื่อเตม็ ของเดือน และตวั เลขของปี พ.ศ.
ท่ีอยู่ผู้รับ เป็นการระบุช่ือ ตาแหน่งและท่ีอยู่ของผู้รับเพ่ือประโยชน์ในการเก็บจดหมายไว้เป็นหลักฐานใน ส่วนของท่ีอยู่ผู้รับน้ี นิยมระบุชื่อตาแหน่งและท่ีอยู่ของผู้รับรวมถึงรหัสไปรษณีย์ด้วยควรให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน และไม่ควรใช้ตัวย่อ หากไม่แน่ใจเก่ียวกับข้อมูลใดควรตรวจสอบหาข้อมูลที่ถูกต้องไม่ควรใช้วิธีการคาดเดาเพราะ อาจทาให้ข้อมูลไม่ถูกต้องซ่งึ ยอ่ มส่งผลให้ผ้รู ับจดหมายเกิดความไม่พอใจไดอ้ ยา่ งไรก็ตามผู้เขียนจดหมายธุรกิจบาง รายไม่นิยมใส่ท่ีอยู่ผู้รับไว้เนื่องจากไม่เห็นความจาเป็น ท้ังนี้ก็สุดแล้วแต่ความสะดวกความเหมาะสม และความ ต้องการของผูเ้ ขยี นแตล่ ะรายดว้ ย หมายถึง เร่ืองหรือสาระสาคัญสั้นๆ ของจดหมายฉบับน้ันซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเร่ืองในจดหมายติดต่อ ราชการหรือบนั ทึกข้อความ เป็นสว่ นทใี่ หข้ ้อมูลแกผ่ ู้รับจดหมายก่อนทจ่ี ะอา่ นเนอ้ื ความในจดหมายเพอื่ ใหพ้ อทราบ ว่าจดหมายฉบบั นัน้ มีจุดประสงค์อย่างไร เร่ืองควรมลี ักษณะส้นั กะทดั รดั แต่ได้ใจความครอบคลุมรายละเอียดและ จุดประสงค์ของจดหมาย ซึ่งควรมีความยาวอยู่ระหว่าง1/2-1 บรรทดั แต่หากมีสาระสาคญั มาก อาจมีความยาวถึง 2 บรรทัดได้ แต่ไม่ควรเกินกว่านี้ ในจดหมายธุรกิจส่วนมากนิยมวางตาแหน่งของเรื่องไว้ก่อนขึ้นส่วนข้อความ อย่างไรกด็ ีอาจมีหน่วยงานบางแห่งยึดถอื ตามรปู แบบของจดหมายติดต่อราชการ กลา่ วคือ วางตาแหนง่ ของเรอ่ื งไว้ ก่อนสว่ นคาข้นึ ต้นทั้งน้สี ดุ แลว้ แต่ความตอ้ งการของแตล่ ะหน่วยงาน คาข้ึนต้น เป็นข้อความทักทายท่ีแสดงการเร่ิมต้นจดหมายซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับการเริ่มต้นการสนทนา อาจใช้คาว่า \"สวัสดี\" แต่การใช้คาข้ึนต้นในจดหมายธุรกิจท่ัวไปนิยมใช้ \"เรียน\" ตามด้วยตาแหน่งหรือช่ือของผู้รับ จดหมายแต่ทง้ั นีต้ ้องใช้ให้ถูกต้องกับระดับชั้นของบคุ คลตามที่กาหนดไว้ในระเบียบสานักนายกรัฐมนตรวี ่าด้วยงาน สารบรรณ พ.ศ. 2526 เนอ้ื หา หมายถงึ สว่ นที่เสนอเน้อื หาหรอื สาระสาคญั ของจดหมายทเี่ ขียน ตามปกติแล้วจะแบ่งเนื้อหา ออกเปน็ ตอนๆ เพอ่ื ใหช้ ัดเจนและเข้าใจงา่ ยอาจมีมากกวา่ หน่งึ ย่อหนา้ ก็ได้ ในการพิมพ์จดหมายใหเ้ ว้นแต่ละ บรรทัดห่างกัน 1 ชว่ งบรรทัดพิมพเ์ ด่ยี ว และแตล่ ะยอ่ หน้าห่างกนั 2 ชว่ งบรรทดั พมิ พ์เด่ยี ว คาลงท้าย เป็นการอาลาผอู้ ่านโดยทั่วไปนิยมใชค้ าว่า \"ขอแสดงความนับถือ\" แต่ท้ังนี้ต้องใช้ให้สอดคล้องกับ คาข้ึนต้นและถูกต้องกับระดับช้ันของบุคคลตามที่กาหนดไว้ในระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ลายมือชื่อ เปน็ การลงลายมอื ชือ่ เจ้าของจดหมาย ช่ือเต็ม หมายถึงการพิมพ์ช่ือเต็มของเจ้าของลายมือชื่ออันได้แก่ ช่ือ นามสกุลและคานาหน้าเพื่อบอกสถานภาพ ตลอดจนตาแหน่ง โดยพิมพ์ห่างจากคาลงท้ายประมาณ 4 ช่วงบรรทัดพิมพ์เดี่ยวทั้งน้ีเพื่อเว้นท่ีว่างไว้สาหรับลง ลายมอื ช่ือนอกจากการพมิ พช์ ่อื เตม็ แลว้ บริษัทบางแหง่ นิยมพิมพช์ ่ือบริษทั ไว้ในสว่ นนีด้ ว้ ยโดยอาจพิมพ์ให้อย่เู หนือ หรอื ใตช้ อ่ื ท่พี มิ พ์เตม็ 3. ลักษณะของจดหมายธุรกิจที่ดี
การเขียนจดหมายธรุ กจิ ท่ดี นี น้ั ควรคานึงถงึ ลกั ษณะดังต่อไปน้ี ความชัดเจน คือเนอื้ หาที่เขียนตรงจุดประสงค์เมอื่ ผู้รบั อา่ นแลว้ เข้าใจสาระท่ีอยู่ในจดหมายไดต้ รงตาม ประสงค์ของผ้เู ขียน ความสมบูรณ์ คอื เขียนขอ้ ความได้ครบถว้ นตามทต่ี อ้ งการ ความกะทัดรัด คือเขยี นส้ันแต่ได้ใจความครอบคลมุ เรอื่ งราวทงั้ หมด ความสภุ าพ คือการใช้ภาษาท่ีสภุ าพจรงิ ใจ และมคี วามเป็นมิตรแสดงถึงความเคารพยกย่องผ้อู า่ น ใช้คา หรอื สานวนภาษาทีเ่ ป็นแบบแผน ความถกู ต้อง คือการใชภ้ าษาถูกตอ้ งตามความนยิ มกาลเทศะและเหมาะสมกับฐานะของผอู้ า่ นการเรยี บ เรยี งถอ้ ยคาการสะกดการนั ต์ การใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน ใช้คายอ่ ตลอดจนรูปแบบต่างๆ ของตวั จดหมายการจา่ หน้าซองการผนึกดวงตราไปรษณียากร การระลกึ ถึงผ้อู ่าน หมายถงึ การเขยี นที่คานงึ ถึงความรู้สกึ ของผู้อา่ นควรเขียนใหผ้ ู้รับอา่ นแล้วเกดิ ความพงึ พอใจมขี ้อความนา่ สนใจและทาให้เกิดศรัทธา มีความสะอาดเรยี บร้อย คอื ควรระมัดระวังไม่ใหม้ ีรอยลบ ขดี ฆ่า หรอื รอยเปือ้ นใดๆเละควรเลอื กใช้ รูปแบบทส่ี วยงาม สรา้ งความประทับใจแกผ่ รู้ บั 4. หลกั ในการพิมพ์จดหมายธุรกจิ การพิมพจ์ ดหมายธรุ กจิ ไทยแบบราชการ ใช้หลักการพิมพห์ นังสือราชการแต่มีการปรับเปล่ียนบางส่วนออกไปบ้าง การวางสว่ นต่างๆ ของจดหมาย เป็นการประยุกต์ใช้จากแบบหนังสือราชการให้มีส่วนคล้ายคลึง ส่วนต่างๆ ของจดหมายจึงคล้ายๆ กับหนังสือ ราชการภายนอก แต่ในธุรกิจได้ปรับเปลี่ยนหรอื เพม่ิ เติมบางส่วนของจดหมายไปบา้ งเล็กนอ้ ย เช่น 1. ใช้กระดาษหัวจดหมาย 2. คาว่า \"เรียน\" บางแหง่ อาจพมิ พ์ก่อนเรื่อง โดยเล่ือนชอื่ เร่อื งมาไวต้ รงกลางกระดาษเพือ่ ให้เดน่ ชดั ข้ึน 3. หลงั คาลงทา้ ยอาจมชี อ่ื บรษิ ทั ก็ใหเ้ ว้น 1.5 บรรทัด โดยวางศูนย์กับคาลงทา้ ย, 4. ช่ือผเู้ ซ็นจดหมายธรุ กจิ บางแห่งไม่ใส่ พมิ พแ์ ตต่ าแหน่งเพยี งอย่างเดียว 5.ชอ่ื ย่ออ้างองิ (ชือ่ ย่อผพู้ ิมพ์) พมิ พ์ไวช้ ดิ ซ้ายใตต้ าแหน่ง โดยเวน้ 1-1.5 บรรทดั
5.รปู แบบของจดหมายธรุ กิจ รูปแบบของจดหมายธุรกจิ ไทยแบบตา่ งประเทศ (Style of Business Letter) ท่ใี ชก้ ันอย่มู ี 7 รูปแบบ 1.Full Block Style เปน็ จดหมายธรุ กิจทที่ กุ ส่วนของจดหมายจะพิมพช์ ดิ ด้านซ้าย 2.Modified Block Style เป็นจดหมายธุรกิจที่ส่วนเลขท่ีจดหมาย ท่ีอยู่ของผู้รับ คาขึ้นต้นและส่ิงที่ส่ง มาด้วยอยู่ชิดเส้นกั้นหน้า (ชิดซ้าย) และส่วนท่ีอยู่ของผู้ส่ง วัน เดือน ปี คาลงท้าย ลายมือช่ือชื่อเต็ม และตาแหน่ง อยกู่ ลางหน้ากระดาษหรอื ค่อนไปทางขวาเล็กนอ้ ย ส่วนเร่อื ง จะพมิ พ์กงึ่ กลางหนา้ กระดาษ 3.Semi Block Style เป็นจดหมายทีห่ นว่ ยงาน หรอื บริษทั ต่างๆ ใช้เพ่อื ติดตอ่ ธรุ กิจกับลูกล้าหรือบรษิ ัท กบั บรษิ ทั ฯลฯ เป็นสงิ่ ทส่ี ร้างความประทบั ใจให้กบั ผู้รบั ในดา้ นความสวยงาม สะอาด เปน็ รปู แบปของจดหมาย ธรุ กจิ ท่ไี ดร้ ับความนิยม 4.Indented Style เป็นจดหมายธุรกิจท่ีบางคนเรียกว่า \"จดหมายแบบเฉียง\" เนื่องจากสว่ นของช่ือ-ท่อี ยู่ ผรู้ บั คาลงท้าย ช่อื ผูล้ งนาม และตาแหนง่ ของผู้ลงนาม จะพมิ พ์เฉยี งเขา้ ไปทางดา้ นขวามอื 5.Invented Style หรอื Hanging Style เปน็ จดหมายธรุ กิจทจ่ี ะพมิ พเ์ ฉียงเข้าไปทางด้านขวามอื ใน สว่ นของคาลงทา้ ย ช่อื ผลู้ งนาม และตาแหนง่ ของผ้ลู งนาม 6.Square Block Style เป็นจดมายธุรกิจทมี่ ีลกั ษณะเช่นเดียวกนั กับแบบ Full Block Style และมี รปู แบบของจดหมายทีท่ าให้ขอ้ ความในจดหมายมีลกั ษณะเป็นรปู สีเ่ หล่ียมจตั รุ ัส โดยจะมกี ารยา้ ยสว่ นของวันท่ี และชื่อย่ออา้ งอิง ไปพมิ พ์ไว้ทางดา้ นขวาใหช้ ิดกน้ั ขวา 7.Official Form เป็นจดหมายธรุ กิจที่มลี ักษณะเปน็ ทางการ ซง่ึ จะใชร้ ปู แบบจดหมายแบบใดกไ็ ด้ เพยี งแต่จะตอ้ งพมิ พ์สว่ นของช่ือ-ท่อี ยู่ผู้รบั ชดิ ซา้ ย และพมิ พต์ อ่ จากบรรทดั ของชื่อ ผู้ลงนาม หรอื ตาแหนง่ ของผู้ลง นามในจดหมาย โดยห่างกนั 2 บรรทัด หรือตามความเหมาะสม การพมิ พจ์ ดหมายธุรกิจดว้ ยคอมพวิ เตอร์ การกาหนดค่าของระยะบรรทัดใน การกาหนดค่าในการพิมพ์จดหมายธุรกิจด้วยคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันนิยมใช้กระดาษขนาด A4(ตาม ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรวี ่าด้วยงานสารบรรณฯ กาหนดให้ใช้กระดาษ A4) และเพือ่ การกาหนดให้เปน็ บรรทัด ฐานในการพิมพ์จดหมายท้ังราชการและจดหมายธุรกิจ จะอ้างอิงตามระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสาร บรรณฯ ในการกาหนดระยะบรรทัดในการพมิ พ์จดหมาย การตั้งระยะขอบ (กรณสี ร้างหัวกระดาษบรษิ ัท) การกาหนดระยะขอบกระดาษ คือ บน 1.25 ชม. ล่าง 2 ชม. ซ้าย 3 ชม. ขวา 2 ชม.(ระยะขอบนีส้ ามารถ ปรบั ไดต้ ามความเหมาะสมของข้อความ) การใช้ตัวอกั ษร
นิยมใชต้ ัวอักษร Angsana New หรอื Angsana UPC ขนาดตวั อักษร 16 หรือตวั อกั ษรทธ่ี ุรกิจกาหนด เป็นมาตรฐานเอง การกาหนดระยะบรรทดั ระเบียบสานักนายกรฐั มนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณฯ ไดก้ าหนดระยะบรรทัดในการพมิ พ์หนังสอื ราชการด้วย เคร่อื งพมิ พด์ ีดธรรมดาไว้ 3 ระยะดว้ ยกนั ดงั น้ี บรรทดั 1. ระยะ ก = ระยะ ปัด 1 = ระยะ 1 บรรทดั 2. ระยะ ข = ระยะ ปัด 1 บิดขึ้น 2 = 1.5 บรรทดั 3. ระยะ ค = ระยะ ปัด 2 = 2 บรรทดั จากระยะบรรทัดข้างต้น สามารถนามาเทียบเคยี งเพ่อื กาหนดระยะบรรทัดสาหรบั ใช้ในการพิมพ์ หนงั สอื ราชการดว้ ยเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ไดด้ งั นี้ 1. วธิ ที ่ีหนึ่ง เคาะปุ่ม Enter 1 ครัง้ = ระยะ ก เคาะป่มุ Enter 2 ครงั้ เม่อื เคาะ Enter คร้งั ท่ี 2 แลว้ กลบั ไปปรับขนาดตวั อกั ษร 16 ก็ปรบั ลดเหลอื 8 ระยะบรรทดั จะปรับเป็นระยะ ข เคาะปุ่ม Enter 2 ครง้ั จะเปน็ ระยะ ค 2. วิธที ่สี อง คลกิ ท่ีเมนู > รูปแบบ > เลอื ก ยอ่ หน้า เลอื ก > ระยะห่าง โดยกาหนดค่ากอ่ นหนา้ เป็น 12 Point > ตกลง ซง่ึ เท่ากบั ระยะ ก กาหนดคา่ เปน็ 18 Point จะเท่ากบั ระยะ ข ถา้ กาหนดคา่ เปน็ 24 Point จะ เทา่ กบั ระยะ ค 3. วธิ ที ่ี 3 คลิกท่ีเมนู > รปู แบบ > เลอื ก ระยะหา่ งระหว่างบรรทัด เลือกใชร้ ายการ คอื หนึง่ เทา่ ระยะ ก 1.5 บรรทดั = ระยะ ข สองเทา่ = ระยะ คุ โดยเคอร์เซอร์จะต้องอย่ทู บี่ รรทัดก่อนหน้าทจี่ ะตงั้ ระยะบรรทัด หลกั การพิมพจ์ ดหมายธรุ กิจ การพมิ พ์จดหมายธรุ กจิ ไทยแบบก่ึงราชการ เลขทอ่ี อกหนังสอื อาจจะมีหรอื ไมก่ ็ได้ ถา้ มีให้กาหนดระยะบรรทัด 1.5 บรรทดั Paragraph ท่ี Before เปน็ 18 Point จากหัวจดหมาย เร่มิ พมิ พ์ชดิ ดา้ นซา้ ยกระดาษ วัน เดอื น ปี ให้กาหนดระยะบรรทัด 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ที่ Before เป็น 18 Point ตอ่ จากเลขทอี่ อกหนังสือ หรอื จากหวั จดหมาย (กรณีไมไ่ ด้ใส่เลขทอ่ี อกหนงั สือ) เร่มิ พิมพจ์ ากกง่ึ กลางกระดาษ คาขนึ้ ตน้ ให้กาหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรือกาหนด Paragraph ท่ี Before เป็น 18 Point จากวัน เดือน ปี ขอ้ ความ ใหก้ าหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรือกาหนด Paragraph ท่ี Before เป็น 18 Point จากคา ขน้ึ ตน้ ยอ่ หนา้ 10 เคาะ
คาลงท้าย ใหก้ าหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ที่ Before เปน็ 18 Point จาก ข้อความพิมพ์ตรงกบั วัน เดอื น ปี จากก่ึงกลางกระดาษ ชอ่ื บรษิ ัท (ถา้ ม)ี กาหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ที่ Before เปน็ 18 Point จากคาลงทา้ ย พิมพต์ รงกับคาลงท้าย ชือ่ ผู้ลงนาม กาหนดระยะบรรทัด 2.5 บรรทัด หรือกาหนด Paragraph ท่ี Before เป็น 42 Point จากคา ลงทา้ ยหรือจากชอ่ื บริษัท (แล้วแต่กรณ)ี พมิ พว์ างศนู ย์กบั คาลงท้าย ตาแหน่ง โดยกด Enter 1 คร้ังจากชือ่ ผลู้ งนามพมิ พว์ างศนู ย์กับคาลงทา้ ยหรอื ช่อื ผ้ลู งนาม ชื่อย่ออ้างองิ ให้กาหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรือกาหนด Paragraph ที่ Before เปน็ 18 Point จาก ตาแหน่ง สง่ิ ที่ส่งมาดว้ ย (ถา้ มี) กาหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ที่ Before เปน็ 18 Point จากชือ่ ยอ่ อา้ งอิง การพมิ พจ์ ดหมายธรุ กิจไทยแบบต่างประเทศ จดหมายธรุ กจิ แบบฟลู บล็อก (Full Block Style) เปน็ จดหมายธุรกิจทท่ี กุ ส่วนของจดหมายเรมิ่ พมิ พ์ชิดกั้น ระยะซ้ายทุกบรรทดั หลักการพมิ พ์สว่ นตา่ งๆ ของจดหมายธรุ กิจไทยแบบต่างประเทศ มดี งั นี้ วนั เดือน ปี โดยกาหนดระยะบรรทัด 1.5 บรรทดั หรือกาหนด Paragraph ที่ Beforeเปน็ 18 Point จากหวั จดหมาย ที่อย่ผู ูร้ บั ใหก้ าหนดระยะบรรทดั 2.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ที่ Before เป็น 42 Point จาก วันท่ี ซงึ่ ขน้ึ อยูก่ ับขนาดของข้อความของจดหมายทีพ่ มิ พ์ สว่ นของที่อยผู่ ู้รบั จดหมายนี้ควรมีอยา่ งนอ้ ย 3 บรรทดั และไมค่ วรเกิน 4 บรรทดั คาขึน้ ต้น ใหก้ าหนดระยะบรรทัด 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ท่ี Before เป็น18 Point จากท่ี อยู่ผู้รับจดหมาย ข้อความ ให้กาหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรือกาหนด Paragraph ท่ี Before เป็น18 Point จากคา ขนึ้ ต้น คาลงทา้ ย ใหก้ าหนดระยะบรรทัด 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ท่ี Before เปน็ 18 Point จาก ขอ้ ความ ช่ือบรษิ ัท (ถา้ มี) โดยกาหนดระยะบรรทัด 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ท่ี Before เปน็ 18 Point จากคาลงทา้ ย
ช่ือผูล้ งนาม ใหก้ าหนดระยะบรรทัด 2.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ท่ี Before เป็น 42 Point จาก คาลงทา้ ยหรอื จากชอ่ื บรษิ ทั (แล้วแตก่ รณ)ี การพมิ พ์ชอื่ ผ้ลู งนาม ถา้ เปน็ ผชู้ ายไม่ตอ้ ง พิมพค์ านาหน้านาม \"นาย\" ให้พมิ พ์ช่อื ได้เลยแต่ถ้าเป็นผหู้ ญิงให้พมิ พ์คานาหน้านาม \"นาง\" หรือ \"นางสาว\" ตาแหนง่ ให้ Enter 1 คร้งั จากชือ่ ผู้ลงนาม ช่ือยอ่ อา้ งองิ ให้กาหนดระยะบรรทดั 1.5 บรรทดั หรือกาหนด Paragraph ท่ี Before เปน็ 18 Point จากตาแหน่ง (ถา้ มี) ใหก้ าหนดระยะบรรทัด 1.5 บรรทดั หรอื กาหนด Paragraph ที่ Before เป็น 18 Point จากช่อื ย่ออา้ งอิง 6.บอกรูปแบบของจดหมายธรุ กจิ ท่นี ิยมใช้มากในปจั จบุ ัน รปู แบบการเขียนจดหมายธรุ กิจทนี่ ิยมใชก้ นั อยูใ่ นปจั จบุ นั น้ี ไดแ้ ก่ 1.แบบส่ีเหลย่ี มเตม็ รูป (Full-block style) เป็นแบบท่ีเขียนให้ทกุ บรรทัดชิดขอบซา้ ยของกระดาษ จดหมาย 2.แบบสี่เหล่ยี ม (Block style) เป็นแบบที่เขยี นให้ทกุ บรรทดั ชดิ ขอบซ้ายของกระดาษ ยกเวน้ วนั เดือนปี คาลงทา้ ย ลายมือช่ือ อยกู่ ง่ึ กลางกระดาษ 3.แบบกง่ึ สี่เหลยี่ ม (Semi-block style) เป็นแบบท่ีคล้ายกบั แบบสีเ่ หลี่ยม แตใ่ ห้เนือ้ หาหรอื ข้อความของ จดหมายยอ่ หน้าเข้าไปประมาณ 1 นิ้วหรอื ประมาณ 10 เคาะ รปู แบบจดหมายดังกล่าวนั้นเป็นรูปแบบของจดหมายธุรกจิ ของตา่ งประเทศทนี่ ิยมใชก้ ันแต่ในทางปฏิบัติ อาจจะมีการดดั แปลงให้เหมาะสมหรือความสะดวกแก่การปฏิบตั งิ านของหนว่ ยงานทีท่ ากไ็ ด้ และการใชร้ ปู แบบ ของจดหมายตามรูปแบบของหนงั สือราชการ ทั้งนี้ขน้ึ อยกู่ ับหน่วยงานนนั้ ๆ ว่าตอ้ งการใชร้ ปู แบบของจดหมายแบบ ใด ผเู้ รยี นสามารถแสกนคิวอารโ์ คด๊ (QR Code) เพื่อศึกษาเนอ้ื หาหน่วยที่ 7 ผ่าน Power Point
แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 7 เร่อื ง จดหมายธรุ กิจ คาชแ้ี จง : ให้เติมคาส่งั ในชอ่ งว่างให้สมบูรณ์ 1. จงบอกประโยชนข์ องจดหมายธรุ กจิ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 2. การกาหนดระยะบรรทัดสาหรับการพมิ พ์จดหมายธรุ กิจ มวี ธิ กี ารกาหนดไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 3. การพมิ พ์จดหมายธุรกจิ ควรคานึงถงึ สิง่ ใดบา้ ง .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 4. จดหมายธุรกจิ แบบตา่ งประเทศท่ีนิยมใช้มอี ะไรบา้ ง .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 5. ใหอ้ ธบิ ายขั้นตอนการกาหนดระยะบรรทัดระหวา่ งวนั ที่กบั ผรู้ ับ มวี ธิ กี ารทาอยา่ งไร .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
แบบฝึกปฏบิ ัติ คาชี้แจง ข้อ 1. ให้พมิ พจ์ ดหมายธรุ กจิ แบบก่งึ ราชการ ของวิทยาลัยเอมพนั ธ์ กาหนดที่อยู่เอง บนั ทึกไฟล์ซ่อื EX7_ 01 สร้าง หวั กระดาษท่อี ยขู่ องผสู้ ่งจดหมายโดยใชค้ าสง่ั Insert > Header และหารปู โลโ่ ก้มาใส่เอง จดหมายลงวนั ท่ี 20 มนี าคม 25 /เร่ือง ขอความอนเุ คราะห์ประชาสมั พนั ธ์การรบั สมคั รงานพนกั งาน/เรยี น หัวหนา้ งานฝา่ ยแนะแนวอาชพี (P) เนื่องดว้ ย บริษัท สง่ เสรมิ อาหารไทย จากดั มีความประสงค์ท่จี ะรับพนกั งานฝา่ ยผลติ จานวน 10 อัตรา และดว้ ยตระหนักดวี า่ วิทยาลยั เอมพนั ธ์เปน็ สถานท่ีท่มี ีชอื่ เสียงดเี ดน่ ในการเรียนการสอนวชิ าชพี ด้านน้ีและผู้สาเร็จการศกึ ษาจากวิทยาลยั ฯสว่ นใหญ่มคี ุณภาพสงู เกินกว่ามาตรฐาน (P) ดังนัน้ บรษิ ทั ฯ จึงใคร่ขอ ความอนเุ คราะหจ์ ากวทิ ยาลยั ฯเพ่ือโปรดประชาสัมพนั ธ์การรับสมัครพนกั งานดงั กลา่ วใหแ้ กผ่ ู้สนใจทั่วไปในพืน้ ท่ี ของวิทยาลัยฯไดท้ ราบโดยทวั่ กัน พรอ้ มกนั น้บี ริษัทฯ ได้แนบประกาศมาด้วยแล้ว (P) จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดอนุญาต และขอขอบพระคุณเป็นอย่างสงู ณ โอกาสน/้ี ขอแสดงความนับถือ/นายยอดหลา้ สมั พันธ/์ ผูจ้ ัดการฝ่ายทรพั ยากร บุคคล/สง่ิ ท่สี ง่ มาดว้ ย ประกาศรบั สมคั รพนกั งานจานวน 1 ชดุ ข้อ 2. ให้พมิ พ์จดหมายธรุ กิจแบบฟลู บลอ็ ก บันทึกไฟล์ชอ่ื EX7_ 02 สรา้ งหวั กระดาษทีอ่ ย่ขู องผสู้ ่งจดหมายโดยใช้ คาสั่ง Insert > Header และหารูปโลโก้ของบรษิ ทั มาใส่ ชือ่ บริษัทและทอี่ ยู่ใหก้ าหนดเอง จดหมายลงวันท่ี 10 มกราคม 25 / เรอ่ื ง ขอเสนอผลิตภัณฑจ์ ากรังนกแทผ้ สมดว้ ยคอลลาเจน (สารสกดั จากปลาทะเล และนาโนโคควิ เทน เรยี น/ท่านผู้จดั การ (P) บริษทั เชเรบอส(ประเทศไทย) จากัด ขอแนะนา \"ผลิตภณั ฑจ์ ากรังนกแท้ผสมดว้ ยคอลลาเจน (สารสกดั จากปลาทะเล) และนาโนโคคิวเทน\" สะอาด ถกู สขุ ลกั ษณะ ไมเ่ จือสี ไมใ่ ช้วตั ถกุ นั เสีย หวานอรอ่ ยดว้ ยซอรบ์ ทิ อลและไซสิทอล จากธรรมชาติ ดื่มไดใ้ น อุณหภมู ปิ กติ แซเ่ ย็น หรอื อุ่นใหร้ ้อนสามารถเกบ็ ไว้ไดน้ านโดยไมต่ ้องแช่เย็น ช่วยประหยัดเวลาในการเตรยี มรงั นก เม่อื เปิดแล้วควรด่มื ใหห้ มดทันที ตงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี (P) สินคา้ แนะนา ขนาดบรรจุหอ่ ราคาสง่ ราคาปลกี แบรนดร์ ังนกแท้สาเรจ็ รปู สตู รไมม่ ีน้าตาล 42 ซซี ี จานวน 12 ขวด 1,060 1,188 แบรนดร์ งั นกแทส้ าเรจ็ รปู สตู รไม่มีนา้ ตาล 70 ซซี ี จานวน 12 ขวด 1,640 1,836 แบรนด์รังนกแทส้ าเร็จรปู สูตรไม่มนี า้ ตาล 42 ซซี ี จานวน 72 ขวด 6,360 7,128 แถมฟรีชุดผา้ ปทู น่ี อน 6 ฟตุ (มูลคา่ 950 บาท) (P) จงึ เรยี นมาเพือ่ ให้ท่านพจิ ารณา /ขอแสดงความนับถอื /นายสมโภช ชวาลเวชกลุ / ผอู้ านวยการ
ข้อ 3. ใหพ้ มิ พ์จดหมายธรุ กจิ แบบมอดิไฟล์บลอ็ ก บันทึกไฟลช์ ่ือ EX7 _ 03 สรา้ งหัวกระดาษทีอ่ ยขู่ องผสู้ ง่ จดหมาย โดยใชค้ าสง่ั Insert > Header และหารูปโลโก้ของบริษทั มาใส่ ช่ือบริษัทและท่ีอยูใ่ ห้กาหนดเอง จดหมายลงวันที่ 2 มถิ ุนายน 25/ เรือ่ ง ขอนาเสนอโครงการวิชาชีพนักศกึ ษา/เรยี น ผอู้ านวยการ (P) เป็นทีท่ ราบ กนั ดีวา่ ในปัจจุบันนปี้ ัญหาเศรษฐกิจอยใู่ นข้ันตกตา่ และเปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ โดยเฉพาะนกั ศึกษาท่เี รียนจบใหม่และ ไมม่ งี านทา เพอื่ ส่งเสริมให้นักศึกษาไดป้ ระกอบอาชีพและมปี ระสบการณ์ บรษิ ทั เอวอนคอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จากัด ไดข้ ยายสาขาและกอ่ กาเนิดขน้ึ ในประเทศไทย ถือเปน็ บรษิ ัทขายตรงดา้ นความงามแหง่ แรกทก่ี ่อตง้ั ข้นึ ใน ประเทศไทย และประสบความสาเรจ็ มาจนทกุ วนั น้ีโดยบรษิ ัทฯ ขอมีสว่ นรว่ มในการพัฒนาศกั ยภาพของนักศกึ ษา ด้านวิชาชพี เพ่ือสร้างเสรมิ รายไดใ้ ห้นักศึกษาในการนี้ ไดข้ อความอนเุ คราะห์มายังทา่ นการนาเสนอรูปแบบ วธิ กี าร และแนวทางในการทางานของธรุ กิจขายตรงให้แกน่ ักศึกเพ่ือใหไ้ ดป้ ระกอบอาชพี และมรี ายได้ รวมทัง้ พฒั นา ตนเองเป็นนกั ขายมืออาชพี ระดับ (P) รปู แบบในการนาเสนอประกอบด้วย (P) 1. การบรรยายความเป็นมาของบริษัท (P) 2. บรรยายผลิตภณั ฑ์ของบริษทั (P) 3. บรรยายเทคนิคการขายรูปแบบต่างๆ (P) 4. บรรยายโอกาสความก้าวหนา้ ประโยชน์และผลตอบแทนท่จี ะได้ (P) 5. การแสดงและสาธติ ผลงานของบริษทั (P) โดยผนู้ าเสนอประกอบดว้ ยผ้จู ดั การฝา่ ยขาย พนักงานขายที่ประสบความสาเร็จของบรษิ ทั ฯและวนั เวลาในการ นาเสนอน้ัน ขอความกรณุ าให้ท่านชว่ ยแจ้งกลบั ไปยงั คณุ มายา แก้วสวา่ งหมายเลขโทรศัพท์ 02-7299700 กด 0 หรอื [email protected] (P) จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและขอความอนเุ คราะห์มายังท่าน/ขอแสดงความนับถือ/ นายธนชัย กติ ตสิ วุ รรณ/ผจู้ ดั การฝ่ายพัฒนาทรพั ยากรบุคคล ข้อ 4. ให้พมิ พจ์ ดหมายธรุ กจิ แบบเซมิบลอ็ ก บนั ทึกไฟลช์ ือ่ EX7 04 สรา้ งหวั กระดาษทอ่ี ยู่ของผสู้ ่งจดหมายโดยใช้ คาสัง่ Insert > Header และหารูปโลโกข้ องบริษัทมาใส่ ช่ือบริษัทและท่อี ยู่ให้กาหนดเองจดหมายจาก ธนาคาร ไทยธนกจิ จากดั (มหาชน) บรกิ ารข้อมูลลูกคา้ ชน้ั 6 โซนเอ เลขท่ี 9 ถนนรชั ดาภิเษก แขวงจตจุ กั ร เขตจตุจกั ร กรุงเทพฯ 10900 ลงวนั ท่ี 14 มกราคม 2550 เรยี นผมู้ ีอปุ การคณุ เน้อื หาคือ ธนาคารขอชอบคณุ เป็นอยา่ งยิ่งท่ี ทา่ นให้เกยี รตใิ ชบ้ ริการธนาคารไทยพาณชิ ยด์ ว้ ยดเี สมอมา ซึ่งธนาคารตระหนกั ถงึ ความสาคัญในการปรบั ปรุงขอ้ มลู ลกู ค้าให้ถูกต้อง ครบถ้วนและทันสมยั อยู่เสมอ แตข่ ้อมลู ของท่านในปจั จุบนั อาจมีการเปลย่ี นแปลงและไม่มีโอกาส แจ้งใหธ้ นาคารทราบ/ดังนั้น เพอ่ื ทีจ่ ะให้บรกิ ารทา่ น เพอื่ โปรดกรอกรายละเอียดต่างๆ ด้านหลังเอกสารน้ีและติด ผนกึ นาสง่ ไปรษณยี ์ กลบั มายังธนาคารทางบริการธรุ กจิ ตอบรับ หากทา่ นมขี ้อสงสยั ประการใดสามารถสอบถาม
ข้อมูลเพิม่ เตมิ ได้ท่ี ศูนยบ์ รกิ ารลกู คา้ ไทยธนกิจโทรศพั ท์ 0-2777-7777ขอขอบคณุ เป็นอยา่ งยงิ่ ที่ท่านไวว้ างใจ ธนาคารเสมอมา/ขอแสดงความนับถือ ลงชอื่ นางศริ ิลกั ษณ์ตนั สุภาพ ตาแหนง่ ผจู้ ัดการวางแผนกลยุทธล์ กู ค้า ธนาคารไทยธนกจิ จากัด (มหาชน)
หน่วยที่ 8 จดหมายเวียน 1.สาระสาคัญ จดหมายเวยี นมีไวเ้ พอ่ื อานวยความสะดวกในการแจ้งขา่ วประชาสัมพันธ์หรอื เรอื่ งอนื่ ๆ ภายในแผนกหรอื หนว่ ยงานของเราได้ อีกทง้ั ยงั สามารถสรา้ งเอกสารเรื่องเดยี วกนั และสง่ ไปยังหน่วยงานหลายๆ หน่วยงาน หรือ บคุ คลหลายๆ คนได้อย่างง่ายดายดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2010 การสรา้ งเอกสารหลายๆ ฉบับดว้ ย “จดหมายเวยี น” น้นั ยังช่วยให้เราประหยัดเวลา และประหยดั พน้ื ท่ีในหน่วยความจาไดอ้ ีกดว้ ย 2.สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. แสดงการสร้างจดหมายเวยี นดว้ ยโปรแกรมโปรแกรม Microsoft Word 2016 2. ประยกุ ตใ์ ช้ความรูเ้ ก่ยี วกบั จดหมายเวียนในชีวิตประจาวนั และการประกอบอาชพี 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงคท์ ่ัวไป เพอื่ ให้ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั จดหมายเวียน จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เม่อื ผเู้ รยี นศึกษาจบหนว่ ยการเรยี นนแ้ี ลว้ ผู้เรียนสามารถ 1. บอกองคป์ ระกอบของจดหมายเวียนได้ 2. สร้างจดหมายเวยี นด้วยตวั ช่วยสร้างได้ 3. สง่ั พิมพจ์ ดหมายเวยี นออกทางเครอื่ งพมิ พ์ได้ 4. ปฏิบตั ิงานดว้ ยความมวี นิ ยั ขยัน ซอื่ สัตย์ รับผิดชอบ สุภาพ ดาเนนิ ชวี ติ โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 4.สาระการเรยี นรู้ 1.องค์ประกอบของจดหมายเวียน 2. การสรา้ งจดหมายเวียนด้วยตวั ชว่ ยสร้าง 3. การพิมพจ์ ดหมายเวยี นออกทางเคร่อื งพิมพ์
1.องคป์ ระกอบของจดหมายเวยี น จดหมายเวียน Merge กค็ อื การทาจดหมายหลายๆ ฉบับโดยมเี นื้อความเหมอื นกนั แตม่ ชี ่อื และที่อยู่ทีไ่ ม่ เหมอื นกันเทา่ นน้ั ซึง่ แทนทจ่ี ะตอ้ งพิมพจ์ ดหมายแตล่ ะฉบับสาหรับผู้รบั แต่ละรายสร้างไฟลท์ เี่ ก็บชือ่ และทอ่ี ยู่ไว้ กอ่ น และสร้างไฟล์ท่เี กบ็ ขอ้ ความในจดหมายไวอ้ กี ไฟลห์ นึง่ แยกจากกนั แลว้ จึงนาข้อมูลท้ังสองไปรวมหรอื ผนวกกัน ทาใหไ้ ด้จดหมายทม่ี รี ูปแบบและข้อความทเี่ หมือนกันหมดเว้นแตช่ อ่ื และท่อี ยู่ของผู้รบั เทา่ นั้น เม่อื ต้องการทา จดหมายเวยี นในลักษณะนี้อกี กเ็ พียงสรา้ งไฟลีท่ีเก็บขอ้ ความในจดหมายใหม่ แลว้ นาไฟลร์ ายชอ่ื ของผู้รับทไ่ี ดส้ รา้ ง ไวแ้ ล้วมาใช้อกี ชว่ ยทาใหท้ างานเร็วขึ้น 1. เอกสารหลัก (Main document) คือเอกสารทเี่ รมิ่ ต้นจะเปน็ จดหมาย แบบฟอรม์ ขอ้ ความอมี ลของ จดหมาย หรอื ป้ายเลเบล ที่ได้กาหนดใหม้ ขี อ้ ความ ขนาดและรปู รา่ งที่เหมอื นกนั ไว้เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ต้นแบบของการพิมพ์ จานวนมาก 2. แหลง่ ข้อมลู (Data Source) คอื รายช่อื และท่อี ยูข่ องผรู้ ับ e mail Address \"เมลฯ ซ่ึงส่วนใหญ่จะ เกบ็ อยู่ในรูปแบบของตารางของ Word ตารางรายชื่อของ Excel ตารางฐานขอ้ มูลของ Accessเพอ่ื นามาผนวกเข้า กบั ตัวเอกสารหลกั เม่อื สง่ั พิมพ์จดหมาย ซอง หรอื ปา้ ยเลเบล โปรแกรมจะเปลี่ยนรายชือ่ ในเอกสารแตล่ ะชุดใหโ้ ดย อตั โนมัติ เอกสารหลัก (main document )ท่สี ามรถสรา้ งเป็นจดหมายเวียนได้ จะมใี ห้เลอื กในข้นั ตอนที่ 1 ของ Wizard หรือตวั ชว่ ยของการสร้างจดหมายเวียน ดังน้ี 1. Letters (จดหมาย) สง่ จดหมายไปยงั ผู้รับจานวนมาก 2. E-mail message (ขอ้ ความอีเมล) สง่ ข้อความแบบอีเมลไปยงั รายช่อื ผู้รบั 3.Envelopes (ซองจดหมาย) พิมพช์ อ่ื -ท่อี ยูล่ งบนชองจดหมาย 4.Labels (ปา้ ยผนึก) พิมพ์ชือ่ -ท่อี ยลู่ งบนป้ายผนกึ หรือฉลาก 5.Directory (ใดเรกทอร)่ี จะเป็นการรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ มาไวใ้ นเอกสาร เชน่ รายชอื่ สมาชกิ ,ท่ีอยู่, เบอร์ โทรศัพท์ 2.การสรา้ งจดหมายเวยี นด้วยตัวชว่ ยสร้าง การสร้างจดหมายเวยี นดว้ ยตวั ชว่ ยสรา้ งจดหมายเวยี น (Mail Merge Wizard) เป็นเครื่องมอื ทมี่ ขี นั้ ตอน การทางานท่อี านวยความสะดวก และงา่ ยในการสรา้ งจดหมาย สามารถสรา้ งเอกสาร ซองจดหมายสาหรับสง่ ไปยัง ผู้รับหลายๆ คนไดอ้ กี ดว้ ย ซ่งึ มขี ้นั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี ขั้นตอนท่ี 1 : พมิ พจ์ ดหมายที่จะทาจดหมายเวียน โดยพมิ พเ์ ฉพาะส่วนทเ่ี หมือนกนั ทกุ ฉบับสว่ นท่ี เปลี่ยนไป อย่างเช่น ชือ่ ให้เว้นเอาไว้ ดงั ภาพ เมอื่ พมิ พเ์ สร็จแลว้ ให้ Save เกบ็ ไว้ จากตัวอยา่ งบันทึก
ขั้นตอนที่ 2 : สร้างรายการผู้รับจดหมาย โดยเลือกรบิ บอน Mailings แล้วเลอื ก Start Mail Merge คลิก ท่คี าส่งั Step by Step Mail Merge Wizard
หลังจากนัน้ จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Mail Merge ขน้ึ มา ให้เลือก 'Letter' แล้วคลิก [Next: Starting document\" ไดอะลอ็ กบอ็ กซข์ อง Mail Merge จะเปลี่ยนหน้าไป เลอื กเอกสารท่จี ะใช้ ในตวั อย่างเลอื กเอกสารท่ี ทางานในปัจจบุ ัน โดยคลิกเลอื กที่ Use the current document แล้วคลกิ ท่[ี Next Select recipientsเพือ่ เลอื ก รายการผรู้ บั ตอ่ ไป
ขั้นตอนต่อไปเป็นขนั้ ตอนการเลือกรายชอื่ ผรู้ ับ ซงึ่ มีวธิ ีดาเนนิ การได้ 3 วธิ ี แตจ่ ะยกมาเปน็ ตวั อยา่ ง2 วธิ ี ดังนี้ 1. กรณที ีย่ งั ไมไ่ ด้สร้างฐานข้อมูลรายชือ่ ผูร้ ับ ให้เลือกผูร้ บั โดยคลิกเลอื กท่ี [Type a new list] เพ่อื ท่จี ะพิมพร์ ายการผรู้ ับใหม่ หลงั จากน้ันให้ คลกิ ท่ี Create...เพอ่ื พมิ พร์ ายการผู้รบั ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซข์ อง New Address List ข้ึนมา ในกรณีท่นี ักเรียนตอ้ งลบฟิลด์ทไี่ มต่ ้องการ ให้ ปฏิบัตดิ งั น้ี 1.คลิกที่ปุ่ม Customize Columns... 2.เลอื กรายการฟลิ ดท์ ต่ี อ้ งการจะลบ เช่น ต้องการลบฟลิ ด์ Title
3.คลกิ ทีป่ ่มุ Delete และตอบ OK (หากตอ้ งการลบฟลิ ต์อน่ื อีก ใหท้ าเชน่ เดิมไปเร่ือย ๆ) หลังจากน้ันพิมพ์ข้อมูลผรู้ ับจดหมาย ดงั ภาพ (เมื่อพิมพ์เสรจ็ แตล่ ะบรรทดั แล้วต้องการพิมพ์รายการอกี ก็ ให้คลิกที่ New Entry) หากนักเรียนใสข่ ้อมลู ผู้รับจดหมายเสร็จแลว้ ใหค้ ลกิ ท่ี OK หลังจากน้ันพมิ พข์ ้อมูลผรู้ ับจดหมาย (เม่อื พมิ พเ์ สร็จแต่ละบรรทดั แลว้ ต้องการพิมพร์ ายการอีกกใ็ ห้คลกิ ท่ี New Entry) หากนักเรยี นใสข่ อ้ มูลผ้รู ับจดหมายเสรจ็ แล้ว ให้คลิกที่ OK 2. กรณที ีร่ ายชอ่ื ผรู้ บั แลว้ สร้างจากโปรแกรม Microsoft Excel กรณีที่มไี ฟล์ Database อยู่แลว้ ใหเ้ ลอื กท่ี Use an existing list หรือสามารถสร้างจากโปรแกรม Microsoft Excel กไ็ ด้แล้วบันทกึ ไฟล์ ในตวั อยา่ งบันทึกช่อื NameListo1
เลอื กผู้รับ โดยคลิกเลือกที่ Use an existing list เพอ่ื เปดิ ไฟล์รายชื่อผ้รู ับทีไ่ ด้สรา้ งไว้ จากนน้ั คลิก Open เพอื่ เปดิ ไฟลร์ ายการผรู้ บั ปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์รายชือ่ ผู้รบั ให้คลิก OK 3. การพิมพ์จดหมายเวยี นออกทางเครือ่ งพิมพ์ เม่อื ผสานรายการข้อมลู ทสี่ รา้ งขึ้นเข้ากับเอกสารหลกั เรยี บรอ้ ยแลว้ อาจจะบนั ทกึ เอกสาร ไวก้ อ่ นหรือจะ พิมพ์จดหมายเวียนออกทางเคร่ืองพมิ พ์เลยก็ได้ ซึ่งในการพิมพน์ ัน้ จะแตกต่างจาก การพมิ พเ์ อกสารปกติ โด สามารถปฏิบัติไดด้ ังต่อไปนี้ 1. คลิกปมุ่ Finish & Merge บนริบบอน Mailings 2. เลือกคาสง่ั Print Documents… 3. จะปรากฏไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Merge to Printer ให้เลือก All: เมื่อต้องการพมิ พ์ทกุ เรคคอรด์ หรอื ทกุ รายการที่เราสรา้ งขึ้น Current record: เมอื่ ต้องการพมิ พเ์ ฉพาะรายการปจั จุบนั ทป่ี รากฏในหนา้ จอ from: ใส่ รายการเรม่ิ ตน้ , To: ใสร่ ายการสุดทา้ ยทต่ี ้องการพมิ พ์
4. คลิกปมุ่ OK 5. หลงั จากนั้นให้เราเลือกรายการเครอื่ งพมิ พต์ ามปกติ ผ้เู รียนสามารถแสกนคิวอารโ์ ค๊ด (QR Code) เพอื่ ศึกษาเน้ือหาหน่วยที่ 8 ผา่ น Power Point
แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 8 เร่ือง จดหมายเวียน คาช้ีแจง : ให้เตมิ คาสั่งในชอ่ งวา่ งใหส้ มบูรณ์ 1. ใหอ้ ธิบายความหมายของ “จดหมายเวยี น” .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 2. จดหมายเวยี นประกอบด้วยอะไรบา้ ง .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 3. ให้อธิบายขนั้ ตอนการสรา้ งขอ้ มลู และการเรียกใชข้ ้อมลู ผรู้ ับโดยการใช้โปรแกรม Microsoft Excel .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 4. การแกไ้ ขฟิลด์ที่ไมต่ ้องการ มขี ้นั ตอนทาอย่างไร .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 5. จงอธิบายขั้นตอนการส่ังพมิ พจ์ ดหมายเวยี น .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
แบบฝกึ ปฏิบตั ิ ใหพ้ มิ พห์ นงั สือราชการภายนอกดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ 1. ใหพ้ ิมพจ์ ดหมายธรุ กิจ (ใชร้ ปู แบบจดหมายก่ึงราชการ) โดย 1.บนั ทึกเอกสารหลกั ไว้ทไ่ี ฟล์ช่อื Letter 01.docx 2.สร้างแหล่งข้อมลู สมาชกิ ไวท้ ี่ไฟล์ชอ่ื NameList0 1.mdb (สร้างใหมจ่ ากตวั ชว่ ยสร้าง) 3.ผนึกรวมจดหมายกบั รายชือ่ บนั ทึกไฟล์ซื่อ MailMerge01.docx 4.สร้างของจดหมายและใสช่ อื่ ที่อยูผ่ ู้รบั และผสู้ ง่ บันทกึ ไฟล์ช่อื Evelope01.docx จดหมายจาก บรษิ ทั สพุ รมี เซอรว์ สิ จากดั ลงวนั ที่ 25 เมษายน 2557 เรียน <<First Name>><<last Name> เนอ้ื หาคอื สพุ รมี โกลดเ์ ซอร์วสิ ขอแสดงความยนิ ดี และขอเรียนเชิญทา่ นเปน็ ลูกคา้ สพุ รมี โกลดช์ อรว์ สิ ระ ดบั โกลด์ ตงั้ แต่ 1 พฤษภาคม 2557 ถึง 30 เมษายน 2559 เพ่อื ตอบแทนที่ท่านมอบ ความไวว้ างใจ และใชบ้ รกิ ารสพุ รีม เซอร์วสิ มานานกว่า 10 ปี เราจึงคดั สรรบริการและสทิ ธพิ ิเศษท่ีดีทีส่ ดุ เพ่ือมอบ ใหแ้ กล่ ูกคา้ คนสาคญั เชน่ ท่าน/แทนคาขอบคณุ ทท่ี า่ นไว้วางใจเลือกใช้บรกิ ารด้วยดีเสมอมา เออเอสหวงั เปน็ อย่างยิง่ วา่ บริการและสิทธปิ ระโยชนท์ เี่ ราคดั สรรมามอบแก่ท่านจะไดร้ บั ความพอใจ สูงสดุ และไว้วางใจในบริการของเราตลอดไป/ขอแสดงความนับถือ ลงชือ่ นายสัญชัย ปรญิ ญาวุฒิคณุ ตาแหนง่ รองกรรมกรผ้อู านวยการ สายงานบริการลูกค้าและการบรกิ าร บริษัท สพุ รมี เซอรว์ ิส จากัด รายชอ่ื ผรู้ บั จดหมาย Last Name Address 1 Address 2 First Name รกั เพือ่ นพ้อง 5/22 ถนนงามวงศ์วาน เขตลาดยาว กรงุ เทพฯ 10900 นายประชา จริงใจเสมอ 36 ถนนวภิ าวดี เขตจตุจกั ร 10900 นายสัญญา สารพัน 45/13 ถนนเพรชเกษม เขตบางแค กรงุ เทพฯ 10610 นางสาวสโรชา รัตนชวี านันท์ 45 ถนนรามอินทรา เขตมีนบุรี กรงุ เทพฯ 10510 นางธัญญา
ขอ้ 2.ใหพ้ ิมพ์จดหมายเชญิ ประชุมสง่ ไปให้สมาชกิ (ใชร้ ูปแบบจดหมาย Semi Block Style) โดย 1. บันทึกเอกสารหลักไวท้ ีไ่ ฟล์ซอื่ Letter 02.docx 2. สรา้ งแหล่งข้อมูลสมาชกิ ไวท้ ี่ไฟลช์ อ่ื Name List02.x5x (สรา้ งจาก MS Excel) 3. ผนกึ รวมจดหมายกบั รายช่อื บันทึกไว้ซอื่ MalMerge02.docx 4. สรา้ งชองจดหมายและใส่ช่อื ท่อี ยู่ผ้รู บั และผ้สู ง่ บนั ทึกไฟล์ชอ่ื Envelope02.doc
บรษิ ทั Computer Service จากัด 788 ถนนเพชรบรุ ี แขวงทงุ่ พญาไท เขตราชเทวี กรงุ เทพฯ 10400 เรียน คุณ <<ช่อื >><<นามสกุล>> เรื่อง ขอเสนอขายเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ บริษทั Computer Service จากัด เป็นบริษัทตวั แทนจาหน่ายเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ทุกย่ีหอ้ ทกุ รุ่น ซ่ึงให้การรบั ประกนั คณุ ภาพ 3 ปี บรษิ ทั ฯ มีความเชื่อม่นั อย่างยงิ่ ท่จี ะสามารถนาเสนอผลติ ภณั ฑ์ และการบริการท่ีมคี ณุ ภาพในราคายอ่ มเยา พร้อมกันนี้ทางบรษิ ัทฯ ได้จดั ส่งเอกสารแนบมาเพอื่ โปรดรับการพจิ ารณาบรษิ ทั ฯ มคี วามยนิ ดยี ิ่ง ท่ีจะนาเครอ่ื งมาทดสอบและสาธติ ใหช้ ม จึงเรยี นมาเพื่อโปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถือ เจริญ แสงศักดิจ์ นั ทร์ ผู้จัดการฝา่ ยขาย จล สง่ิ ท่มี าด้วย รายการสนิ คา้ และบริการ ชอ่ื นามสกุล ทอี่ ยู่ 1 ทอี่ ยู่ 2 ปราโมทย์ ปญั ญาดี 78 ถนนรามคาแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 สุรชัย ใสสะอาด 15/11 ถนนกาแพงเพรช เขตจตจุ ักร 10900 โสภดิ า เจนพิทกั ษ์ 45/13 ถนนเพรบุรี เขตราชเทวี กรงุ เทพฯ 10400 ดวงใจ ย่ังยนื ยง 78 ถนนราชพกฤกษ์ ต.มหาสวสั ด์ิ อ.บางกรวย จ.นนทบรุ ี 11130
ข้อ 3. ให้พิมพจ์ ดหมายประชาสัมพนั ธ์ (ใชร้ ูปแบบจดหมายกึง่ ราชการ) โดย 1.บันทกึ เอกสารหลักไว้ทไี่ ฟล์ช่ือ Letter 01.docx 2.สร้างแหล่งขอ้ มลู สมาชกิ ไว้ทไ่ี ฟล์ชอ่ื Name List0 1.x(six (สรา้ งจาก MS Excel) 3.ผนกึ รวมจดหมายกบั รายชื่อบนั ทกึ ไว้ชอื่ Mail Merge01.docx 4. สรา้ งซองจดหมายและใส่ชอ่ื ที่อยผู่ ู้รบั และผู้สง่ บันทกึ ไฟล์ชอ่ื Envelope03.docx หมายเหตุ 1. ใหส้ รา้ งหัวจดหมาย กาหนดทอี่ ย่ขู องบรษิ ทั เอง 2. การสรา้ งชองจดหมายใหใ้ สช่ อื่ ตาแหน่งและที่อยูข่ องผูร้ ับ จดหมายลงวันที่ 20 กรกฎาคม 25_ /เรื่อง ขอความอนเุ คราะหป์ ระชาสมั พนั ธก์ ารรบั สมคั รงาน พนักงาน /เรียน <<ตาแหน่ง>> (P) เนอ่ื งดว้ ย บริษทั ส่งเสรมิ อาหารไทย จากดั มคี วามประสงคท์ จ่ี ะรบั พนักงานฝา่ ยผลิตจานวน 10 อัตรา และด้วยตระหนกั ดวี า่ โรงเรียน <<โรงเรยี น>>เปน็ สถานท่ีที่มชี ่ือเสียงดเี ด่นในการเรียนการสอนวชิ าชพี ดา้ นน้แี ละผูส้ าเร็จการศกึ ษาจากวทิ ยาลัยฯ ส่วนใหญ่มีคณุ ภาพสูงเกนิ กวา่ มาตรฐาน (P) ดังนน้ั บริษทั ฯจึงใคร่ขอ ความอนเุ คราะห์จากโรงเรียน เพ่อื โปรดประชาสัมพันธก์ ารรบั สมคั รพนกั งานดังกล่าวใหแ้ ก่ผสู้ นใจทวั่ ไปในพื้นที่ ของวทิ ยาลัยฯ ไดท้ ราบโดยทว่ั กนั พรอ้ มกนั นีบ้ ริษทั ฯ ได้แนบประกาศมาดว้ ยแล้ว (P) จงึ เรียนมาเพอ่ื โปรดอนุญาต และขอขอบพระคณุ เปน็ อยา่ งสูง ณ โอกาสนี้ / ขอแสดงความนับถอื / นายยิ่งยวด สวุ รรณภพ /ผู้จดั การฝ่าย ทรัพยากรบุคคล / สิ่งท่ีสง่ มาดว้ ย ประกาศรับสมคั รพนกั งานจานวน 1 ชดุ รายชอ่ื ผ้รู ับจดหมาย ชื่อ นามสกุล ตาแหน่ง โรงเรียน ท่ีอยู่ 1 ทอ่ี ยู่ 2 นายวิชิต สนิทใจ ผ้อู านวยการ นายจรลั ปญั ญาดี ศกึ ษาสงเคราะห์ ต.วังดงั อ.เมือง จ.กาญจนบรุ ี 71190 ผูจ้ ดั การ นาง จรวยริ เจรญิ วิทยา ต.สกั งาม อ.คลอง จ.กาแพงเพรช จิตรา รนิ ทร์ อาจารย์ใหญ่ นางญา มาศรศี กั ดิ์ ลาน 62180 ดา รองผู้จัดการ จรสั วทิ ยาคม ต.โนนหัน อ.ชมุ แพ จ.ขอนแก่น 40130 ปญั ญาศึกษา ต.รับรอ่ อ.ทา่ แซะ จ.ชุมพร 86190
หน่วยท่ี 9 การทานามบัตรบัตรอวยพรและแผน่ พบั 1.สาระสาคัญ รูปแบบการติดต่อส่ือสารด้วยเอกสารมหี ลากหลายรปู แบบ เพอ่ื ใหเ้ กิดความประทับใจความเข้าใจอนั ดี ระหว่างกนั การแนะนาตวั เองการเผยแพรค่ วามรแู้ ละการประชาสัมพันธก์ จิ กรรมทด่ี าเนินการ การสรา้ งนามบตั ร การทาบัตรอวยพร การทาแผน่ พับ และวุฒิบัตรเพ่ืออานวยความสะดวกในการปฏิบัตงิ านกับหน่วยงานตา่ งๆ เพราะนอกจากงานเอกสารทวั่ ไปแล้วนน้ั จะตอ้ งมีส่งิ พิมพ์พิเศษอนื่ ๆ อีกหลายประเภททใี่ ชใ้ นการติดต่อ ประสานงาน และใช้ประกอบเปน็ หลกั ฐาน 2.สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงการทานามบัตร บตั รอวยพร และแผน่ ผับดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 2. ประยุกต์ใช้ความรูเ้ กยี่ วกบั การทานามบัตรบตั รอวยพรและแผ่นพับในชีวิตประจาวนั และการประกอบ อาชพี 3.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ท่ัวไป เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การทานามบตั รบตั รอวยพรและแผ่นพับ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม เม่อื ผู้เรยี นศกึ ษาจบหน่วยการเรยี นนแี้ ลว้ ผ้เู รียนสามารถ 1. สร้างนามบัตรได้ 2. ทาบัตรอวยพรได้ 3. ปฏบิ ตั ิงานด้วยความมวี นิ ัย ขยัน ซอื่ สตั ย์ รบั ผดิ ชอบ สุภาพ ดาเนินชวี ิตโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง 4.สาระการเรยี นรู้ 1. การสรา้ งนามบัตร 2. การทาบตั รอวยพร 3. ทาแผ่นพับได้ 4. ทาวุฒิบตั รได้
1. การสรา้ งนามบัตร นามบัตรเป็นเอกสารท่ีใช้ในการแนะนาตนเอง ห้างร้าน หรือบริษัท ให้กับผู้อ่ืนได้รู้จัก เพื่อทาให้ กรติดต่อกันได้สะดวกโดยไม่ต้องเสียเวลาบันทึกในกระดาบโน้ตหรือสมุดจดบันทึก การสร้างนามบัตร สามารถทาได้จากโปรแกรมสาเร็จรูปโดยเฉพาะ หรือใช้โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016 ซ่ึงเป็นโปรแกรมท่ีใช้งานกันทั่วไปอยู่แล้วมาประยุกต์ใช้ และทาได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ซึ่งสามารถทาได้หลายวิธี ดว้ ยกัน 1. การสรา้ งตาราง 2. การใช้กลอ่ งขอ้ ความ 3.การใช้เครอื่ งมือสว่ นประกอบดว่ น 1. การสรา้ งนามบัตรดว้ ยการแทรกตาราง การทานามบัตรด้วยวธิ นี ้ี เราจะต้องแทรกตารางลง ในเอกสารก่อนท่จี ะพมิ พข์ ้อความ หรือใสร่ ปู ภาพในนามบัตร ซง่ึ มขี ัน้ ตอนการทาดงั ต่อไปน้ี 1. ท่ีปมุ่ คาสัง่ ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Inset)คลกิ ท่ีลูกศรหวั ลง จะปรากฏหนา้ ตา่ ง ตาราง เลอื่ นเมาส์ไปยงั Shapes MAรูปตาราง โดยเลือกที่คอลัมน์เปน็ 2 คอลมั น์ และจานวนแถว เป็น 4 แถว จะไดต้ ารางที่จะใช้ทานามบัตร 8 ตาราง 2. กาหนดขนาดของตารางใหม้ ีขนาดเท่ากับบัตรมาตรฐานคือ 5.4 x 9.0 ซม. คลกิ ที่แท็บ
Layout จากนั้นใหก้ าหนดความสูงและความกวา้ งใหเ้ ทา่ กับขนาดนามบตั ร 3. วางเคอร์เซอรไ์ ว้ในเซลลแ์ รก แล้วแทรกรปู ภาพหรอื โลโก้ท่เี ตรยี มไว้ลงในนามบตั ร โดยคลกิ ป่มุ รูปภาพ (Picture) บนริบบอน แทรก (Insert) แล้วเลือกดบั เบลิ คลิกท่ีภาพทเ่ี ราตอ้ งการ 4. เม่ือไดร้ ูปภาพหรอื โลโก้แลว้ ให้พมิ พ์ข้อความทตี่ ้องการลงในนามบตั ร (โดยปกตินามบัตรจะใส่ ชื่อ-สกุล ตาแหนง่ สถานทท่ี า งาน ท่ีอยู่ และเบอรโ์ ทรศพั ท)์ เม่ือทา นามบตั รแลว้ 1 ใบ ให้ Copy ไปจานวน 8 ใบ ลงใน 8 เซลล์ทเี่ ราเตรยี มไวใ้ นตาราง โดยมีขนั้ ตอน ดงั ต่อไปน้ี 1. ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลมุ นามบัตรที่เราสร้างเสร็จแล้ว 2. กดคยี ์ Ctrl+C หรือคลกิ ปุ่ม คัดลอก (Copy) บนริบบอน หนา้ แรก (Home) 3. เลอ่ื นเคอรเ์ ซอรไ์ ปวาง ไวใ้ นเซลลถ์ ัดไป แลว้ กดคยี ์ CTRL หรือคลกิ ปุม่ วาง (Paste) 4. ทา เช่นน้ไี ปเรือ่ ย ๆ จนครบจานวน 8 เซลล์ จะได้ นามบัตร 8 ใบ
4.เลื่อนเคอร์เซอรไ์ ปวางไวใ้ นเซลล์ถัดไป แล้วกดคยี ์ Ctrl+V หรือคลิกป่มุ วาง (Paste) 5.ทาเชน่ น้ีไปเรื่อย ๆ จนครบจานวน 8 เซลล์ จะไดน้ ามบตั ร 8 ใบ
2. การสรา้ งนามบัตรดว้ ยการใชก้ ลอ่ งขอ้ ความ การทานามบัตรดว้ ยวธิ ีนใี้ ห้แทรกกลอ่ งลงในหน้าเอกสาร กอ่ นที่จะพมิ พข์ อ้ ความ หรอื ใสร่ ูปภาพในนามบัตร ซึ่งมีชน้ั ตอนการทาดงั ตอ่ ไปนี้ 1. แทรกกลอ่ งข้อความจากแท็บ Insert และปรับขนาดกลอ่ งข้อความเท่ากบั ขนาดของนามบตั รคือ 5.4 x 9.0 ชม. 2. วางเคอร์เซอรไ์ ว้ในกลอ่ งขอ้ ความ แล้วแทรก รปู ภาพหรือโลโกท้ ี่เตรียมไวล้ งในนามบตั ร โดยคลกิ นุ่ม (Picture) บนริบบอน แทรก (Insert) แลว้ เลอื กดับเบลิ คลิกท่ีภาพทีเ่ ราตอ้ งการใหพ้ ิมพข์ ้อความทตี่ ้องการลงใน นามบัตร 3. คัดลอก (Copy) กล่องข้อความไปวาง (Paste) ให้ครบจานวน 8 ใบ จัดวางนามบัตรทส่ี รา้ งจากกล่อง
ข้อความ 3.การใชเ้ ครือ่ งมอื ส่วนประกอบดว่ น (Quick Parts) วธิ กี ารสรา้ งมีข้ันตอนเดียวกบั การ ใช้กล่อง ข้อความ เมอื่ สรา้ งกลอ่ งขอ้ ความทเี่ ป็นนามบตั รเสร็จเรยี บร้อยแล้วบันทึกรปู แบบเป็น AutoText ดงั นี้ 1. ใหล้ ากเมาส์คลุมกล่องข้อความทัง้ หมด คลกิ ทปี่ มุ่ คาสั่งส่วนประกอบดว่ น (Quick Parts) คลิกท่ี Save Selection to Quick part Gallery เพอื่ บนั ทึกรปู แบบสาเร็จรูป 2. ขัน้ ตอนต่อไปการทา นามบตั รดว้ ย AutoText ใหค้ ลกิ เลอื กบรเิ วณทีต่ อ้ งการทา นามบตั ร จากนั้นไปท่ี ปมุ่ เครื่องมอื Quick Parts เลื่อนเมาสม์ าท่คี าสัง่ AutoText จะมีรูปแบบนามบัตร ท่ีไดบ้ ันทกึ ไว้ ใหค้ ลิกเลอื ก รูป นามบตั รจะถกู แทรกลงในเอกสาร ทาจนครบ 8 ใบ
2. การทาบตั รอวยพร 1. กาหนดการวางรปู แบบของการ์ดในกระดาษวา่ ตอ้ งการการด์ แบบใด เช่น การด์ หน้าเดียว, การด์ 2 หนา้ พบั แนวต้งั , การด์ 2 หนา้ พับแนวนอน หรือแบบอ่นื ๆ เพ่ือไม่ใหส้ ับสนในการพิมพ์การด์ จงึ ควร วางรปู แบบ ในกระดาษกอ่ นทจ่ี ะพิมพ์ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 2. ในทน่ี จ้ี ะขอยกตวั อย่างการด์ 2 หน้า พบั แนวตั้ง เราจะตอ้ งต้ังคา่ หน้ากระดาษใหเ้ ทา่ กับกระดาษ พมิ พ์ การด์ ทเ่ี ตรยี มไว้ (ยกตวั อยา่ งเป็นกระดาษ A4) โดยคลิกทปี่ ุ่มคาส่งั การวางแนว (Orientation) บนริบบอน เค้า โครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) แลว้ เลือกคาสั่ง แนวนอน (Landscape) 3. สร้างขอบกระดาษ คลิกทปี่ ่มุ คาสง่ั Page Borders คลิกเลอื กที่ปุ่ม Box จะมขี อบกระดาษ ขน้ึ มา ใหแ้ บ่งครง่ึ ขอบกระดาษโดยใชเ้ คร่ืองมือแทรก Shape เลอื กเส้นตรงลากเส้นตรงกลางของ หน้ากระดาษ เพอ่ื แบง่ เป็น 2 ส่วน 4. หนา้ แรกใหพ้ ิมพ์หนา้ ปกของการด์ ตามทีว่ างรปู แบบไว้ โดยแทรกรปู ภาพหรอื จะพมิ พ์ข้อความ ตา่ ง ๆ เพม่ิ เตมิ กไ็ ด้
5. หนา้ ท่สี องให้พิมพด์ า้ นในของการ์ด โดยแทรกรูปภาพ และพิมพข์ ้อความในท่ีน้จี ะใชเ้ ครื่องมือ กลอ่ ง ข้อความ Text Box และเครอื่ งส่วนประกอบดว่ น (Quick Parts) 5.1 แทรกรปู ภาพแล้วใหใ้ ช้กล่องขอ้ ความ พมิ พว์ นั ท่ี และวรรค 2 เคาะแลว้ แทรกวันที่ โดยเลอื กทปี่ มุ่ เครอื่ งมือด่วนท่คี า สัง่ Document Property คลิกเลือกท่ี Publish Date ปรับแต่งรูปแบบข้อความให้สวยงาม 5.3 รูปแบบการ์ดดา้ นใน เมอื่ ทา เสร็จแลว้ ให้บนั ทกึ ไฟลไ์ วส้ า หรับใชใ้ นครง้ั ตอ่ ไปได้ โดยเปลี่ยนแปลงรปู หรอื ขอ้ ความในการ์ดได้ และพมิ พอ์ อกทางเครือ่ งพมิ พโ์ ดยพมิ พท์ หี่ นา้ ปกหน้าท่ี 1 ก่อนแล้วจึงกลบั ด้านกระดาษพมิ พ์ ดา้ นใน (ระมดั ระวังในการปอ้ นกระดาษอยา่ ให้กลบั ดา้ นกัน)
3.การทาแผน่ พับ แผน่ พบั (Brochure) จดั ทาข้ึนโดยส่วนมากจะมวี ตั ถปุ ระสงค์มใี นดา้ นการประชาสัมพันธ์ ประชาสมั พนั ธโ์ ครงการต่างๆ เพอ่ื หวังผลทางธุรกิจ หรือประชาสมั พนั ธด์ า้ นความร้ตู า่ งๆ หรือแนะนา สถานที่ เป็นตนั ก่อนจดั ทาแผน่ พับควรออกแบบเน้ือหาของแผน่ พับโดยเรียงลาตบั ใหน้ า่ สนใจ และครบ ร่างแบบแผน่ พับกอ่ นจัดทา รูปแบบของแฟนพับตอ้ งพิมพโ์ ดยการกลบั หนา้ กระดาษ เพราะตอ้ งใช้กระดาษ ทัง้ 2 หนา้ แลว้ นามาพบั รูปแบบแผน่ พับทจี่ ะพิมพ์ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2010 จะเรียงลาดับ ดังนี้ แผน่ พับดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2010 ดว้ ยการนาเอาคาสงั่ คอลมั น์
เข้ามาใช้งานร่วมด้วย ซึ่งมีข้นั ตอนดังต่อไปนี้ 1. ตั้งค่าหนา้ กระดาษ โดยคลิกทปี่ มุ่ คาส่ัง การวางแนว (Orientation) บนริบบอน เคา้ โครงหน้ากระดาษ (Page Laout) แลว้ คาสงั่ เลือก แนวนอน (Landscape) กาหนดระยะห่างดา้ นหนา้ ด้านหลงั ดา้ นบนและดา้ นล่าง 1 ชม. (อาจจะกาหนดต่างกนั กไ็ ด้ ตามความเหมาะสม) 2. แบ่งคอลัมน์ โดยคลิกทป่ี ่มุ คาสง่ั คอลมั น์ (Columns) บนริบบอน เค้าโครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) 3. เลอื กแบ่งเป็น 3 คอลมั น์ กาหนดระยะหา่ งระหวา่ งคอลมั น์ เท่ากบั 1-2 ชม. 4. แทรกรปู ภาพ และพมิ พ์ขอ้ ความลงในแผ่นพบั ตามท่ีเรา ตอ้ งการ ตัวอย่างแผ่นพบั
4. การทาวฒุ บิ ัตร คาว่า \"วฒุ บิ ัตร \" หมายถงึ เอกสารแสดงความสาเรจ็ หรือรับรองวา่ ไดผ้ ่านการฝกึ การอบรม การศกึ ษา พิเศษ ในระยะเวลาส้ันๆ ซึง่ แตกต่างกบั คาว่า \"เกยี รติบตั ร\" เพราะเกียรตบิ ัตร เป็นเอกสาร ใช้เพอื่ การยกยอ่ งบุคคล ที่มีเกยี รติพงึ ใหค้ าชื่นชมตอ่ หน้าสาธารณชน สว่ นประกอบของวุฒบิ ัตร 1. ตราสัญลกั ษณ์ เป็นส่วนทีแ่ สดงตราสญั ลักษณห์ รอื โลโก้ของสถาบัน หน่วยงาน หรือองคก์ รทีอ่ อก วฒุ ิบตั ร 2. ชนิดของวฒุ ิบัตร คือสว่ นท่บี อกวา่ วฒุ ิบตั รน้ีเป็นประเกทใด เช่น หนงั สอื สาคญั ประกาศนยี บตั รเกยี รติ คุณเป็นตน้ 3.ช่อื ของผู้ทไี่ ดร้ บั วฒุ ิบัตร 4.คาประกาศเกียรตคิ ณุ ว่าได้รบั วฒุ ิบตั รนี้เนื่องในโอกาสใด 5.คาอวยพร 6.วันที่มอบใบวุฒบิ ตั ร 7.ลงนาม ชอื่ -สกลุ และตาแหน่งของผบู้ ังคบั บัญชาสูงสดุ ของหน่วยงานทใี่ หว้ ุฒบิ ตั รนนั้
1.ขน้ั ตอนการทาใบวฒุ ิบตั ร เมอื่ เราทราบสว่ นประกอบต่างๆ ของวฒุ บิ ัตรแลว้ มาถงึ ขัน้ ตอนการพิมพว์ ฒุ บิ ตั รด้วยโปรแกรมMicrosoft Word 2010 ซึง่ สามารถทาได้ดังตอ่ ไปน้ี 1.ตง้ั คาหน้ากระดาษให้ตรงกับรปู แบบของวุฒบิ ตั รทเ่ี ราจะพิมพ์ เชน่ กาหนดเป็นกระดาษ A4แบบ แนวนอน ด้านบน ล่าง ซา้ ย และขวา หา่ งจากขอบกระดาษ 1.27 ซม. โดยปฏิบตั ดิ ังน้ี 2.คลกิ ท่ปี ่มุ คาสง่ั ขนาด (Size) บนรบิ บอน เค้าโครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) แลว้ เลอื กขนาด A4คลกิ ท่ปี ุม่ คาสง่ั การวางแนว (Orientation) บนรบิ บอนเค้าโครง หนา้ กระดาษ (Page Layout) แลว้ เลอื กคาส่ัง แนวนอน (Landscape) 3.คลิกปุ่มระยะขอบ (Margins) บนรบิ บอนเค้าโครง หนา้ กระดาษ (Page Layout) เลือก (Narrow Top: 1.27 cm Bottom: 1.27 cm Left: 1.27 cm Right :1.27 cm) หรอื เลอื ก Custom Margins หากต้องการปรบั ระยะ ขอบกระดาษดว้ ยตัวเอง 2. สรา้ งกรอบวฒุ ิบตั ร โดย 1. คลิกปมุ่ (Shapes) บนริบบอน แทรก (Insert) 2.เลอื ก Rectangle แล้วลากกรอบท่ีตอ้ งการ 3.จะได้กรอบทีเ่ ราตอ้ งการ
3. การสรา้ งกรอบทา ได้โดย 3.1 การใชเ้ ครอ่ื งมอื วาดรปู รา่ งใหเ้ ปน็ สีเ่ หลีย่ ม ปกตเิ มื่อเราสรา้ งกรอบแลว้ ใหก้ าหนด คุณสมบตั ขิ องกรอบ โดย 1. คลกิ ทปี่ ุม่ (Shape Styles) หรอื คลกิ ขวาบริเวณเส้นกรอบ แล้วเลือกคาสั่ง (Format Shape) กาหนดลกั ษณะของเสน้ กรอบโดย 2. ที่คาสั่ง Fill ใหเ้ ลอื ก No Fill เพ่ือเอาสพี ้นื ของกรอบออก 3. ทค่ี าสงั่ Line Color กาหนดสีของเสน้ กรอบ เลอื กสีของเส้นตามตอ้ งการ 4. ทีค่ าสัง่ Line Style กาหนดขนาดเส้นกรอบ เลือกลกั ษณะเสน้ กรอบที่ Line Style: แล้ว คลกิ ตกลง (OK) 3.2 การใชเ้ ครอ่ื งมือการสรา้ งขอบกระดาษ 1. คลกิ ปมุ่ Page Borders ทีร่ บิ บิน Page Layout 2. เลือก Box แลว้ เลือก Style สีและขนาดเสน้ ขอบตามตอ้ งการ 3. จะได้กรอบทเี่ ราตอ้ งการ
4. แทรกโลโก้สัญลักษณข์ องหนว่ ยงานทอ่ี อกวฒุ บิ ตั ร โดย 4.1 คลกิ ทปี่ ุ่มรปู ภาพ (Picture) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 4.2 เลอื กรปู ภาพในโฟลเดอรท์ เ่ี ราเตรยี มไว้ แล้วคลิกป่มุ แทรก (Insert) 4.3 จะไดภ้ าพที่เราตอ้ งการ 5. พมิ พ์ข้อความในวุฒิบัตรตามข้อมูลในสว่ นประกอบของวุฒบิ ตั รดังกล่าวไปข้างตน้ โดยจดั กง่ึ กลางกระดาษ และ จัดระยะห่างของแต่ละบรรทดั ตามความเหมาะสม
ผเู้ รียนสามารถแสกนคิวอารโ์ ค๊ด (QR Code) เพอื่ ศกึ ษาเน้อื หาหน่วยท่ี 9 ผา่ น Power Point
แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 9 คาชี้แจง : ให้เติมคาส่งั ในช่องว่างให้สมบรู ณ์ 1.อธบิ ายขน้ั ตอนการสรา้ งนามบัตรด้วยการแทรกตาราง .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 2.อธิบายข้ันตอนการสรา้ งนามบตั รด้วยเคร่อื งมอื สว่ นประกอบดว่ น .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 3.อธิบายขน้ั ตอนการสรา้ งบตั รอวยพร .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 4.อธิบายความหมายและประโยชน์ของแผ่นพบั .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 5.อธบิ ายขั้นตอนการทาวุฒิบัตร .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
แบบฝกึ ปฏิบตั ิ คาชีแ้ จง : ให้พิมพน์ ามบตั รและบัตรอวยพรตามแต่ละกรณดี งั ต่อไปนี้ ข้อ 1. ใหท้ านามบัตรแนะนาตวั เอง โดยกาหนดให้ใชท้ ี่อย่เู ปน็ บ้านของตนเอง แทรกรปู ภาพ ข้อ 2. ให้ทานามบัตรแนะนาตัวเอง โดยกาหนดใหใ้ ช้ทอี่ ยเู่ ป็นสถานศึกษาที่กาลงั ใหส้ วยงาม โดยใชว้ ธิ กี ารแทรก ตาราง บนั ทกึ ไฟลช์ ือ่ Ex9-01โดยขอ้ ความประกอบด้วยชื่อผเู้ รียน ระดับชั้นเรยี น แทรกรูปภาพโลโกข้ อง สถานศกึ ษาโดยวางตาแหน่งให้สวยงาม และใช้วธิ กี ารแทรกกลอ่ งขอ้ ความ บนั ทกึ ไฟลช์ ่อื Ex9-02 ข้อ 3. ใหท้ านามบตั รแนะนาตัวเอง โดยกาหนดให้สมมตุ ิชอื่ บริษัท ตาแหนง่ และทีอ่ ยขู่ องบริษทั เองข้อความ ประกอบดว้ ยช่ือของตนเอง ตาแหน่ง แทรกรูปภาพโลโกของบรษิ ัท วางตาแหนง่ ใหส้ วยงามโดยใช้เครือ่ งมือ สว่ นประกอบด่วน บันทกึ ไฟล์ช่ือ Ex9-03 ข้อ 4. ให้ทาบตั รอวยพรวันเกิดใหเ้ พอ่ื นโดยใช้เครอ่ื งมอื และรปู แบบในเน้ือหาทเ่ี รียนมา และบันทึกไฟล์ ชื่อ Ex9-04 ขอ้ 5. ให้นกั เรียนทาบตั รอวยพรวันทจี่ บการศกึ ษาให้เพ่อื น โดยใชเ้ ครื่องมือและรูปแบบในเนื้อหา ท่เี รยี นมา และบันทึกไฟล์ช่อื Ex9-05 ขอ้ 6. ให้ทาบตั รอวยพรใหค้ รูทีป่ รกึ ษาหรอื ครผู สู้ อน แบบหน้าเดียวตามแบบ โดยหารูปภาพประกอบ และข้อความมาใสเ่ อง บันทึกไฟลช์ อ่ื Ex9-07
ข้อ 7. ให้ทา แผ่นพับ ประชาสัมพนั ธ์สถานศึกษา โดยหาข้อมลู รปู ภาพทเี่ ก่ียวขอ้ งกับสถานศึกษา (จัดหารปู ภาพท่ี สอดคล้องมาแตง่ แผ่นพบั ให้เหมาะสมและสวยงาม) และบนั ทกึ ไฟลช์ อื่ Ex9-08 ขอ้ 8. ใหท้ าแผน่ พับ โดยมีเนื้อหาตอ่ ไปน้(ี จดั หารปู ภาพที่สอดคลอ้ งมาแต่งแผ่นพบั ใหเ้ หมาะสมและ สวยงาม) และ บนั ทึกไฟล์ช่ือ Ex9-09 ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง พระราชดารัส = \"ใครว่าเราเชยก็ชา่ งเขา ขอให้เราพออยูพ่ อกนิ และมีไมตรีจติ ต่อกนั \" เชย = ไม่โมเดิรน์ พออยพู่ อกิน =พอเพียง ไม่จนกนั ทว่ั หน้า โมเดิรน์ หมายถึง เศรษฐกจิ กระแสหลกั ทีส่ ร้างความรา่ รวย เศรษฐกิจพอเพยี ง จึงเป็นทั้ง ๑) แนวทาง ทไ่ี มใ่ ชแ่ นวทางสรา้ งความรา่ รวย แต่เป็นแนวทางแหง่ ความพอเพยี ง หรือแนวทางขจัดความ ยากจน ๒) บอ่ กสภาพวา่ หายจนกนั ทว่ั หน้า \"พออยพู่ อกิน\" ๓) ไมใ่ ชเ่ ฉพาะเศรษฐกจิ แบบตวั ใครตวั มันเท่านน้ั แตเ่ ป็นสังคมทีม่ ีไมตรจี ติ ต่อกันดว้ ย\"เศรษฐกิจพอเพยี ง\" (Sufficiency Economy) เป็นปรัชญาทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวมพี ระราชดารสั ช้ีแนะแนวทางการดาเนนิ ชวี ิตแกพ่ สกนกิ รชาวไทยมาโดยตลอด รวมถงึ การพัฒนาและบริหารประเทศทีต่ ง้ั อยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง คานงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสรา้ งภูมิคุม้ กันที่ดใี นตวั ตลอดจนใชค้ วามรู้ ความรอบคอบ และ คุณธรรม ประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจ และการกระทาอยา่ งไรกต็ าม ประชาชนส่วนใหญย่ ังมคี วามเขา้ ใจที่
หลากหลายและไม่ชดั เจน ถึงความหมายและหลกั แนวคดิ ที่แท้จรงิ ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังน้นั สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ (สศช.) จงึ ได้จัดทาหนงั สอื \"เศรษฐกิจพอเพยี งคือ อะไร\" ขึน้ โดยมีวัตถปุ ระสงคท์ ีต่ ้องการจะอธบิ ายความหมายของหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง รวมท้ังกรอบ แนวคดิ ของหลักปรัชญาฯ ทม่ี ุ่งเนน้ ความมน่ั คงและความย่ังยนื ของการพฒั นา อันมีคุณลกั ษณะทสี่ าคัญ คือ สามารถประยุกตใ์ ชไ้ ดใ้ นทกุ ระดบั ตลอดจนได้อธบิ ายคานยิ ามของความพอเพยี ง ที่ประกอบด้วย ความ พอประมาณ ความมเี หตมุ ผี ล มีภมู คิ ุ้มกนั ทด่ี ใี นตวั ภายใตเ้ งือ่ นไขของการตดั สินใจและการดาเนนิ กิจกรรมทีต่ อ้ ง อาศัยเงื่อนไขความร้แู ละเงอ่ื นไขคุณธรรม ลกั ษณะเศรษฐกจิ พอเพยี งจงึ มคี วามพอเพยี ง ๕ ประการดังนี้ ๑.เศรษฐกิจพอเพียง หายจน พออยพู่ อกินถว้ นหน้า ๒. สังคมพอเพยี ง คดิ ถึงการอยรู่ ว่ มกนั ไมใ่ ชต่ ัวใครตวั มัน มีไมตรจี ติ ตอ่ กัน เป็นสงั คม “รูร้ กั สามัคค”ี ไม่เบียดเบยี นและทาร้ายกนั ๓. ทรัพยากรธรรมชาตพิ อเพยี ง อนุรกั ษ์และเพิ่มพูนทรพั ยากรธรรมชาติ มกี ารใชอ้ ย่าง เป็นธรรมและยัง่ ยนื ๔.มปี ัญญาพอเพยี ง ไม่โลภ มีไมตรจี ิต พึ่งตนเอง วิริยะ อนรุ ักษ์ทรัพยากร ๕.มรี ะบบการศกึ ษาท่ีสรา้ งปัญญาพอเพียง ตอ้ งมีระบบการศกึ ษาทป่ี ้องกนั คนกลับไปตกอย่ใู นโมห (มหาวิชชา) อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ภมู อิ ีก การมแี ค่มหาวทิ ยาลัยสอนความรไู้ มพ่ อ แตต่ ้อง เปน็ มหาวชิ ชาทีน่ าคนออกจากโมหภูมิ ลกั ษณะสังคม ๕ ประการ หรอื เบญจลกั ษณด์ ังกล่าวข้างต้นจงึ เปน็ สงั คมท่ขี จัดความยากจน และมกี ารนา อยา่ งยงั่ ยนื ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีพระมหาชนกจงึ สามารถนามาเปน็ หลกั ในการทายุทธศาสตร์ขจัด ความยากจนและการพฒั นาอย่างยัง่ ยืนได้ ๑. ตวั ทาลายเศรษฐกิจพอเพียง ตวั ทาลายเศรษฐกจิ พอเพียง คือ ทุนนยิ มข้ามชาติท่อี าศยั โลภจรติ เปน็ ตัวขบั เคลอ่ื นและใชอ้ านาจ และเคร่ืองมอื ไปบีบบงั คับใหป้ ระเทศตา่ งๆ เปิดเสรีใหท้ นุ ขนาดใหญเ่ ขา้ ไปทาการได้อย่างเสรี กอ่ ใหเ้ กดิ การทาลาย เบญจลกั ษณท์ ี่ กล่าวถงึ ข้างตน้ กลา่ วคอื (๑) ทาลายเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชอ่ งว่างทางเศรษฐกจิ ถ่างกวา้ งมากขนึ้ ๆ (๒) ทาลายสงั คมพอเพยี ง สงั คมแตกฉานชานเซน็ ตวั ใครตัวมัน ทาร้ายแยง่ ชิงกนั (๓) ทาลายทรพั ยากรพอเพียง ทาลายทรพั ยากรเพอ่ื เปลี่ยนไปเปน็ เงินจะไดด้ ดู ไดง้ า่ ยๆ (๔) ทาลายปัญญาพอเพยี ง ทาให้เกิดความโลภ แยง่ ชิงกันหวงั พ่ึงพิงตา่ งชาติ ไมใ่ ชค้ วามเพียร อนั บริสทุ ธิ์ หวงั รวยทางรดั
(๕) มีระบบการศกึ ษาทสี่ ง่ เสริม เพราะไปลอกวิถีคิดเขามา ให้คนท้ังปวงตกอยู่ในโมหภูมิ ระบบทนุ นยิ มข้ามชาตจิ งึ ทาลายเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา่ งรนุ แรง ฉะนั้นในยุทธศาสตร์เศรษฐกิจพอเพยี ง ต้องปกป้องกนั ผลร้ายจากเศรษฐกจิ ทนุ ยมข้ามชาติ และพยายามปรับใหเ้ ป็นทนุ นิยมชาติทสี่ ง่ เสริมเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒.แนวทางขจดั ความยากจนและการพฒั นาอย่างยัง่ ยืน (๓) ส่งเสรมิ เศรษฐกิจพอเพยี งใหเ้ ตม็ พื้นที่ (๒) จากดั และลดการทาลายจากเศรษฐกิจทนุ นิยมขา้ มชาตแิ ละปรบั มาสทู่ ุนนิยมชาติทส่ี ง่ เสรมิ เศรษฐกิจ พอเพยี ง ขอ้ 9. ใหท้ าแผ่นพับ ประชาสัมพนั ธ์สถานศึกษาโดยหาขอ้ มลู รูปภาพทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับสถานศึกษา (จดั หา รูปภาพท่ีสอดคลอ้ งมาแตง่ แผ่นพับให้เหมาะสมและสวยงาม) และบนั ทึกไฟล์ชอื่ Ex9-09 ขอ้ 10. ใหท้ าวฒุ บิ ตั รหลกั สตู รนักบริหารน้อย ของสถาบันสง่ เสริมนักบริหารระหวา่ งวนั ที่ 23-24 เมษายน 2557 โดยกาหนดใหค้ รผู สู้ อนเปน็ ผอู้ อกวุฒบิ ตั ร ผูเ้ รียนเปน็ ผู้เข้าอบรม และบันทกึ ไฟล์ชื่อ Ex9-10 ขอ้ 11. ให้ทาวฒุ บิ ัตรหลกั สตู รการใช้โปรแกรมประมวลผล ของสถานศกึ ษาท่ีตนเองศึกษาอยู่ โดยกาหนด วัน เวลาเอง ผเู้ รยี นเปน็ ผูเ้ ขา้ อบรม บันทึกไฟล์ชอ่ื Ex9-11 ให้ผเู้ รียนจัดทาฐานขอ้ มลู ผเู้ ขา้ อบรม ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Excel จานวนอยา่ งนอ้ ย 5 รายชอื่ และบันทกึ ไฟล์ชอื่ NameList_Stu โดยใช้คาสง่ั Mailing ในการสร้างรายชือ่ ให้กบั วฒุ บิ ตั ร และทาการผนึกไฟล์วุฒิบตั รท่สี รา้ งข้นึ บนั ทกึ ไฟลช์ ื่อ Cert _1
หน่วยท่ี 10 การพมิ พ์เอกสารทางวิชาการ 1.สาระสาคญั การพิมพ์เอกสารทางวิชาการจะมีรูปแบบและกฎเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานหรือสถาบัน แต่จะมีลักษณะ คล้ายกันการใช้โปรแกรม Microsoft Word 2016 มีเคร่ืองมือและคาสั่งที่สามารถสร้างเอกสารทางวิชาการได้ อย่างครบถ้วน ท้ังยังมีความสามารถในการพิมพ์รูปแบบทางคณิตศาสตร์ การสร้างเชิงอรรถ สร้างดัชนีท้ายเล่ม และสารบญั รวมทง้ั พมิ พเ์ อกสารทางเครอ่ื งพิมพ์ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ 2.สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงการสรา้ งตารางข้อมลู ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 2. ประยุกตใ์ ชค้ วามร้เู กยี่ วกบั การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการในชวี ติ ประจาวันและการประกอบอาชีพ 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ทัว่ ไป เพอ่ื ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เมื่อผเู้ รียนศึกษาจบหน่วยการเรียนนี้แล้ว ผเู้ รียนสามารถ 1. พมิ พ์เอกสารทางวิชาการได้ 2. สร้างที่คัน่ หนา้ ได้ 3. แทรกเชิงอรรถได้ 4. ทาดชั นที า้ ยเลม่ ได้ 5. แทรกสารบัญได้ 6. ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความมวี นิ ัย ขยนั ซื่อสตั ย์ รบั ผดิ ชอบ สภุ าพ ดาเนนิ ชวี ิตโดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 4.สาระการเรยี นรู้ 1. การพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ 2. การสร้างที่ค่ันหน้า 3. การแทรกเชงิ อรรถ 4. การแทรกสารบัญ
1.การพิมพ์เอกสารทางวิชาการ เอกสารทางวิชาการ เป็นเอกสารท่ีใช้เผยแพรข่ ้อมลู และความรูท้ างวิชาการท่เี ป็นประโยชน์ท้ังทางค้าน สงั คม เศรษฐกิจ การเมือง และการศกึ ษาเปน็ ตน้ ซ่ึงแบ่งออกไดด้ งั น้ี เอกสารประกอบการสอน หมายถงึ เอกสารหรือสอ่ื อ่ืนๆ ทีใ่ ช้ประกอบการสอนวชิ าใดวิชาหนงึ่ ตม หลกั สูตรของมหาวิทยาลยั ทส่ี ะทอ้ นให้เหน็ เน้อื หาวชิ าและวธิ กี ารสอนอยา่ งเป็นระบบ เอกสารคาสอน หมายถงึ เอกสารคาบรรยายหรอื สือ่ อืน่ ๆ ทใี่ ชส้ อนวชิ าใดวชิ าหนง่ึ ตามหลักสตู รของ มหาวทิ ยาลยั ท่สี ะทอ้ นใหเ้ ห็นเนือ้ หาวชิ าและวิธกี ารสอนอยา่ งเปน็ ระบบ และมคี วามสมบูรณ์กวา่ เอกสารประกอบการสอน บทความทางวิชาการ หมายถงึ งานเขยี นซ่งึ มกี ารกาหนดประเด็นทชี่ ดั เจน มกี ารวเิ คราะหป์ ระเดน็ ดังกล่าวตามหลกั วิชาการ และมีการสรปุ ประเด็น อาจเปน็ การนาความร้จู ากแหล่งต่างๆมาสงั เคราะห์ โดยที่ผู้เขยี น สามารถใหท้ ัศนะทางวิชาการของตนได้อยา่ งชดั เจน ดารา หมายถึง เอกสารทางวิชาการที่เรยี บเรียงอยา่ งเปน็ ระบบ อาจเขียนเพ่ือตอบสนองเนื้อหาทงั้ หมด ของรายวชิ า หรอื สว่ นหน่ึงของวชิ า หรอื หลกั สตู รกไ็ ด้ โดยมกี ารวิเคราะหแ์ ละสังเคราะห์ความรูท้ เี่ กยี่ วซ้องและ สะท้อนให้เห็นความสามารถในการถา่ ยทอดวชิ าในระดับอดุ มศกึ ษา ในบางกรณผี ู้เขยี นอาจเสนอตารามาในรปู ของ สื่ออื่นๆ เช่น ซีดีรอม หรอื อาจใชท้ ั้งเอกสารและสอื่ อื่นๆ ประกอบกันตามความเหมาะสม หนังสือ หมายถึง เอกสารทางวชิ าการที่เขยี นขน้ึ เพ่ือเผยแพร่ความรู้ไปสวู่ งวชิ าการ และ/หรือผอู้ ่านทั่วไป โดยไมจ่ าเป็นต้องเปน็ ไปตามขอ้ กาหนดของหลกั สตู ร หรือต้องนามาประกอบการเรียนการสอนในวชิ าใดวชิ าหน่งึ ทัง้ น้จี ะต้องเป็นเอกสารท่ีเรียบเรยี งขึ้นอยา่ งมเี อกภาพ มรี ากฐานทางวิซาการมนั่ คง และให้ทศั นะของผู้เขยี นที่สร้าง เสรมิ ปัญญาความคิด และสร้างความแข็งแกรง่ ทางวซิ าการใหแ้ กส่ าขาวชิ านน้ั ๆและ/หรือสาขาวิชาท่ีเกี่ยวเนือ่ ง ใน บางกรณผี ู้เขียนอาจเสนอหนังสอื มาในรูปของส่ืออน่ื ๆ เชน่ ซดี ีรอมหรืออาจใชท้ ้ังเอกสารหรอื ส่อื อนื่ ๆ ประกอบกัน ตามความเหมาะสม งานวิจยั หมายถึง งานคน้ ควา้ อยา่ งมรี ะบบและมีวตั ถปุ ระสงคท์ ชี่ ัดเจนเพอ่ื ใหไ้ ด้มาซ่งึ ข้อมูลหลักการหรอื ข้อสรุปรวม ทีจ่ ะนาไปสู่ความก้าวหน้าทางวิซาการหรือเออื้ ต่อการนาวิซาการนั้นไปประยุกต์มีลกั ษณะเปน็ เอกสาร ท่ีมรี ะเบยี บวธิ ีวิจัยทเ่ี หมาะสมกับธรรมชาติของวชิ า ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื หมายถงึ ผลงานอยา่ งอ่นื ที่มีใชเ่ อกสารประกอบการสอนเอกสารคา สอน หนงั สือ บทความทางวชิ าการ ตาราหรอื งานวิจัย โดยปกตหิ มายถงึ สงิ่ ประงานสร้างสรรค์ อาทิ เครอื่ งทุน่ แรง ผลงานการสร้างสิง่ ทม่ี ีชวี ติ พนั ธ์ุใหม่ วคั ซนี หรือสง่ิ กอ่ สรา้ งงานดา้ นศิลปะ ฯลฯ ผลงานทางวชิ าการดังกล่าวอาจ บนั ทึกเปน็ ภาพยนตรห์ รือแถบเสียงได้ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอืน่ ทีเ่ สนอนั้น จะต้องประกอบดว้ ยคาอธบิ ายท่ี ชใี้ ห้เหน็ ว่างานดงั กลา่ วทาใหเ้ กิดความก้าวหน้าทางวิชาการหรือเสริมสร้างองคค์ วามรู้ หรือใหว้ ิธกี ารท่จี ะเป็น
ประโยชน์ต่อสาขาวชิ านนั้ สดงถงึ ความสามารถในการบุกเบกิ ในสาขาวชิ านนั้ สาหรับผลงานท่ีมุ่งผลเชิงปฏบิ ัติ จะต้องพสิ ูจน์หรอื มีหลักฐานรายละเอียดต่างๆ ประกอบแสดงให้เหน็ คุณค่าของผลงาน งานแปล หมายถึง งานแปลจากตัวงานตน้ แบบท่ีเปน็ งานวรรณกรรมหรอื งานดา้ นปรัชญาหรือ ประวัติศาสตร์ หรือวทิ ยาการสาขาอ่ืนบางสาขาท่ีมีความสาคัญและทรงคุณค่าในสาขานน้ั ๆ ซึง่ เมอ่ื ได้นามาแปล แลว้ จะเปน็ การเสรมิ ความก้าวหนา้ ทางวิชาการทเี่ หน็ ได้ประจกั ษช์ ดั เปน็ การแปลจากภาษาตา่ งประเทศเป็น ภาษาไทย หรอื จากภาษาไทยเปน็ ภาษาต่างประเทศ หรือแปลจากภาษาตา่ งประเทศหนึ่งเป็นภาษาต่างประเทศอกี ภาษาหนงึ่ การกาหนดการจัดรูปแบบและการพิมพ์เอกสารทางวชิ าการ การพิมพเ์ อกสารทางวิชาการจะมกี ารกาหนดรูปแบบการนาเสนอทแี่ ตกตา่ งกันไปตามสถาบัน หรือ หน่วยงานซง่ึ อาจมีการจดั รูปแบบและหลกั เกณฑท์ ่แี ตกต่างกนั เช่น การตง้ั ค่ากระดาษ กาหนดเลขที่หนา้ การกาหนดตวั อักษร การกาหนดการสร้างสารบญั ข้อความและสารบัญภาพ เป็นตน้ นอกจากการกาหนด รายละเอยี ดรูปแบบตา่ งๆ แลว้ บางคร้งั ในเอกสารวิชาการต้องมกี ารพิมพแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดอื่นเพ่มิ เดมิ โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 มีเครื่องมือในการจดั ทาและอานวยความสะดวก ในการจดั ทาเอกสารทางวิชาการอยา่ งครบถว้ น 2.การสรา้ งที่คน่ั หนา้ การพิมพเ์ อกสารจานวนหลายหนา้ อาจมปี ญั หาในการคน้ หาหวั ขอ้ ท่ีสาคญั เพอ่ื ให้สามารถยอ้ นไปอา่ น หรอื แกไ้ ขได้ ดงั นน้ั คาสั่งท่คี ั่นหน้า จะช่วยค้นหาหัวข้อทต่ี ้องการไดร้ วดเรว็ ขึ้นการกาหนด Bookmark หรือทค่ี ่ัน หนงั สอื \" ในเอกสารนน้ั จะมปี ระโยซน์สาหรบั นามาใช้อา้ งองิ ในการทางานต่างๆ เช่นการทาอ้างองิ ไขว้ เปน็ ตน้ โดยข้อความนีจ้ ะถกู นาไปเก็บไวใ้ นรายการของทค่ี น่ั หนังสือ (Bookmark) และเม่อื เรยี กขอ้ ความน้ีจากรายการที่คัน่ หนังสอื หรอื จะเรยี กจากคาสั่งคันหาก็ได้ โปรแกรมจะทาการคน้ หาและแสดงไปยังคาคานัน้ ทนั ที การกาหนดท่คี น่ั หนงั สือ (Bookmark) สามารถทาไดด้ ังน้ี 1. ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมข้อความทต่ี อ้ งการสรา้ งท่ีคน่ั หน้า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158