Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิวัฒนาการของเอกภพ ดาราจักร ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ

วิวัฒนาการของเอกภพ ดาราจักร ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ

Published by tumii1769, 2020-05-18 07:45:51

Description: วิวัฒนาการของเอกภพ ดาราจักร ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ

Search

Read the Text Version

ระยะหา่ งของดาวฤกษ์

ระยะหา่ งของดาวฤกษ์ วิธีการคานวณ ตอ้ งการหนว่ ยพาร์เซกใช้ 1 ส่วน พลิ ิปดา ต้องการหน่วยปแี สงใช้ 3.26 ส่วน พลิ ปิ ดา

ตวั อย่างการคานวณ ดาวซรี ีอสั มแี พรัลแลกซ์เทา่ กับ 0.379 พลิ ปิ ดา ตดิ ตามชมคาตอบบนกระดานไวท์บอรด์

เฉลยการคานวณ ดาวซีรอี ัสมีแพรัลแลกซ์เท่ากบั 0.379 พิลปิ ดา พาร์เซก S = 1 = 1 = 2.64 P 0.379 ปีแสง S = 3.26 = 3.26 = 8.6 P 0.379

ระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล Solar System

การกาเนิดระบบสุริยะ 1) 5,000 ล้านปีก่อน กลมุ่ แกส๊ และฝนุ่ ท่ีมีการเคลื่อน ตลอดเวลา จะมารวมตัวกันตรงบริเวณศนู ย์กลางของกลมุ่ แก๊สและฝุน่ - มีความหนาแน่นสูงข้ึน - มีมวลเพ่ิมข้นึ - มแี รงดึงดดู เพมิ่ ขน้ึ

การกาเนิดระบบสรุ ิยะ แรงดึงดดู เพม่ิ ขึน้ ส่งผลทาให้ ดึงดดู สสารต่างๆ เข้ามาสู่ด้านในให้มารวมกัน ทาให้ ขนาดของกลุม่ แก๊สและฝนุ่ มีขนาดเล็กลงดว้ ยแรงโน้มถ่วง ทบี่ ริเวณศนู ยก์ ลาง และจะหมนุ ไปรอบๆ

การกาเนดิ ระบบสุริยะ 2) ขณะทกี่ ลุ่มแกส๊ และฝุน่ หมุนไปรอบๆ สสารท่ีอยู่ตรง บริเวณศูนยก์ ลางมกี ารอดั แนน่ มากขึน้ ความดนั เพิม่ ขน้ึ อุณหภมู ิสงู ข้นึ เกดิ เป็นดวงอาทิตยก์ ่อนเกิด หรือ ดวง อาทิตยย์ คุ แรก

การกาเนิดระบบสรุ ยิ ะ แรงโน้มถ่วงมคี ่ามากกว่าความดัน ทาใหม้ วลของ ดาวเกิดการยุบตัวลงอีก อณุ หภูมิทศ่ี ูนยก์ ลางจึงสูงขึ้น ประมาณ 15 ลา้ นเคลวิน ทาใหเ้ กิดเปน็ ปฏิกริ ยิ านวิ เคลียร์ ฟิวชนั ใหพ้ ลงั งานมหาศาลออกมา กลายเปน็ ดวงอาทติ ย์ ทม่ี พี ลังงานเกิดข้ึน

การกาเนดิ ระบบสุรยิ ะ 3) แก๊สและฝุ่นทห่ี ลงเหลอื อยู่ลอ้ มรอบส่วนนูนตรงกลาง ของกลุ่มแกส๊ และฝุ่นได้แฟบแบนลงจนกลายเป็นแผ่นกลม แบน หมนุ วน รอบดวงอาทิตย์ก่อนเกิด

การกาเนิดระบบสรุ ิยะ 4) บริเวณส่วนตรงกลางของแผ่นกลมแบนมอี ุณหภมู ิ สงู ข้นึ อยา่ งต่อเนอ่ื ง บริเวณขอบนอกเยน็ ตัวลง แกส๊ และ ฝ่นุ ละอองจบั ตวั กันแน่นเปน็ อนุภาค เป็นกล่มุ ก้อนรวมตวั เปน็ ของแข็ง โดยมีเศษโลหะ เหลก็ นกิ เกิล หนิ และ น้าแข็ง มารวมตวั กันกลายเปน็ ดาวเคราะหก์ ่อนเกดิ หรอื ดาวเคราะหด์ วงนอ้ ย จานวนเป็นลา้ นๆ ดวง

การกาเนิดระบบสุริยะ 5) ในบางคร้งั ดาวเคราะห์ก่อนเกดิ มีการกระแทกแตกออก มีการรวมมวลเขา้ ดว้ ยกนั เป็นกอ้ นเดียวกัน ซ่งึ ต่อมา พัฒนาเป็นดาวเคราะห์ เกดิ เปน็ ดาวเคราะห์ช้ันใน 4 ดวง คือ ดาวพธุ ดาวศุกร์ โลก และดาวองั คาร ซงึ่ เปน็ ดาว เคราะหข์ นาดเล็ก

การกาเนิดระบบสรุ ิยะ ดาวเคราะห์ก่อนเกิดที่อยูไ่ กลออกไป มอี ุณหภูมติ า่ จะ ดึงเอาดาวเคราะหก์ อ่ นเกิดขนาดเลก็ รวมทง้ั สารประกอบ ของไฮโดรเจนทเ่ี ป็นของแขง็ เขา้ มารวมไว้ ทาใหก้ ลายเป็น ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ มวลมากขน้ึ แรงโนม้ ถว่ งมากข้นึ

การกาเนดิ ระบบสรุ ยิ ะ จนแรงโน้มถ่วงมากพอทีจ่ ะดงึ เอาแกส๊ ไฮโดรเจนและฮเี ลยี ม ท่ดี วงอาทติ ย์ผลกั ดันมาจากการแผร่ ังสี แก๊สไฮโดรเจนและ ฮีเลยี มรวมตวั กันกับดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ จะพัฒนาจนได้ ดาวเคราะห์แก๊สจานวน 4 ดวง คอื ดาวพฤหสั บดี ดาว เสาร์ ดาวยเู รนสั และดาวเนปจนู ซง่ึ เป็นดาวเคราะห์ ชน้ั นอก หรือ ดาวเคราะห์ยักษ์

การกาเนิดระบบสรุ ยิ ะ 6) ของแขง็ ที่เหลอื จากการรวมตัวเป็นดาวเคราะหก์ อ่ น เกดิ โดยเฉพาะตรงบรเิ วณช่องว่างระหว่างวงโคจรของ ดาวอังคารกบั ดาวพฤหัสบดี จะกลายเปน็ แถบดาวเคราะห์ นอ้ ย ท่ีโคจรรอบดวงอาทติ ย์

การกาเนิดระบบสรุ ยิ ะ สสารฝนุ่ และแกส๊ ท่ีกระจายอย่ไู กลจากดาวเคราะห์ ก่อนเกดิ มาก จะพฒั นากลายไปเป็นแหล่งกาเนดิ ดาวหาง



องค์ประกอบของระบบสรุ ิยะ 1. ดวงอาทิตย์ ซงึ่ เปน็ ดาวฤกษ์ และเปน็ ศนู ยก์ ลางของระบบสุริยะ 2. ดาวเคราะห์ทง้ั 8 ดวง ไดแ้ ก่ ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั และดาวเนปจูน 3. บริวารดาวเคราะห์ ไดแ้ ก่ ดวงจนั ทร์

องค์ประกอบของระบบสุริยะ 4. ดาวเคราะหน์ อ้ ย ดาวเคราะห์แคระ ดาวหาง 5. วตั ถขุ นาดเลก็ อืน่ ๆ

การแบ่งเขตพื้นทีร่ อบดวงอาทิตย์ เกณฑท์ ่ใี ชใ้ นการแบง่ เขต 1. การเกดิ ของดาวเคราะห์ 2. ลักษณะขององค์ประกอบของดาวเคราะห์

การแบ่งเขตพ้ืนทีร่ อบดวงอาทิตย์ แบ่งออกเปน็ 4 เขต คือ 1. เขตดาวเคราะหช์ ้นั ใน 2. แถบดาวเคราะห์น้อย 3.เขตดาวเคราะหช์ ้นั นอก 4.เขตดาวหาง หรือเมฆของออรต์

ดวงอาทิตย์ เป็นศูนยก์ ลางของระบบสรุ ิยะ เปน็ ดาวฤกษท์ ใ่ี กลโ้ ลกมากท่สี ดุ เปน็ ดาวฤกษท์ ่ีมีมวลน้อยเม่อื เทยี บกับดาวฤกษ์ดวงอ่นื ๆ ประกอบไปด้วยกล่มุ แก๊สบนพน้ื ผิว

ลกั ษณะของดวงอาทิตย์ (ตอ่ ) มีพลงั งานความร้อนเกดิ ขึ้นไดจ้ ากการรวมตวั ของอะตอมของ H เกดิ ปฏิกริ ยิ านวิ เคลียร์ฟิวชนั เปน็ แหลง่ พลงั งานความรอ้ นทีส่ าคญั ของโลก



ดาวเคราะหช์ ้นั ในมี 4 ดวง ไดแ้ ก่ ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก และดาวองั คาร

ไม่มชี ัน้ บรรยากาศห่อหมุ้ พน้ื ผิวขรุขระ หมุนรอบดวงอาทิตย์ใชเ้ วลา 88 วัน อุณหภูมิบนดาวพุธสงู ถึง 350 และ -170 องศา ดาวพุธ หมุนรอบตัวเองใช้เวลา (Mercury) 58 วัน 15 ช่ัวโมง 30 นาที หมนุ จากตะวันตกไปตะวนั ออก

ฝาแฝดของโลก พืน้ ผิวเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกรนุ แรงมาก หมุนรอบดวงอาทิตย์ใชเ้ วลา 58.5 วนั อณุ หภมู ิบนดาวศุกรส์ งู ถึง 467 องศาเซลเซียส หมุนรอบตัวเองใช้เวลา 243 วนั หมนุ จากตะวันตกไปตะวันออก ดาวศกุ ร์ (Venus) หมนุ จากตะวันออกไปตะวนั ตก

มีดวงจนั ทร์เปน็ บริวารเพียงดวงเดยี ว การเอียงของแกนโลกทาใหเ้ กิดฤดกู าลต่างๆ หมุนรอบดวงอาทติ ยใ์ ชเ้ วลา 365.25 วนั อณุ หภมู ิเหมาะสมให้ส่งิ มีชวี ติ อาศัยอย่ไู ด้ หมนุ รอบตัวเองใช้เวลา 24 ช่วั โมง โลก (Earth) หมุนจากตะวนั ตกไปตะวันออก

มดี วงจันทร์บริวาร 2 ดวง โฟโบส & ไดโมส มภี เู ขาที่สงู ทสี่ ุดในระบบสุรยิ ะชอ่ื “โอลมิ ปสั ” มีหบุ เขาช่ือ เมริเนริส (Merineris) พ้นื ผิวคล้ายคลงึ กับหลมุ อกุ กาบาตบนดวงจันทร์ หมุนรอบตวั เองใช้เวลา 24 ชวั่ โมง 37 นาที 23 วนิ าที ดาวอังคาร (Mars) หมนุ จากตะวนั ตกไปตะวันออก

ดาวเคราะหน์ อ้ ยขนาดใหญ่ทส่ี ดุ ชอื่ “ซีเรส” (Ceres) รองลงมาชอ่ื ดาวเคราะหน์ อ้ ยพาลลสั (Pallas) แถบดาวเคราะหน์ อ้ ย (Adteroid belt)



ดาวเคราะห์ช้นั นอก ดาวเคราะห์ชน้ั นอกมี 4 ดวง ไดแ้ ก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจนู

มีดวงจนั ทรบ์ รวิ าร 61 ดวง มไี ฮโดรเจนและฮเี ลียมเป็นองคป์ ระกอบ หมนุ รอบดวงอาทิตยใ์ ชเ้ วลา 11.9 ปี บริเวณซกี ใต้มจี ดุ แดงขนาดใหญ่ หมนุ รอบตัวเองใชเ้ วลา นอ้ ยกว่า 10 ชั่วโมง ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) หมุนจากตะวนั ตกไปตะวนั ออก

มดี วงจนั ทร์บรวิ าร 31 ดวง มีแถบสวา่ งหมนุ เวยี นเปน็ วงแหวน 7 แถบ หมนุ รอบดวงอาทติ ย์ใช้เวลา 29.5 ปี ดวงจันทรบ์ รวิ ารใหญท่ ่สี ดุ ชื่อ “ไตตนั ” (Titan) หมนุ รอบตวั เองใช้เวลา 10 ชว่ั โมง 30 นาที ดาวเสาร์ (Saturn) หมนุ จากตะวันตกไปตะวันออก

มดี วงจันทรบ์ รวิ ารไม่น้อยกวา่ 21 ดวง มวี งแหวนบางๆ ถึง 10 วง อุณหภมู ิพ้นื ผิวประมาณ -216 องศาเซลเซยี ส หมุนรอบดวงอาทิตยใ์ ชเ้ วลา 84 ปี หมุนรอบตัวเองใช้เวลา 17 ช่ัวโมง 14 นาที ดาวยเู รนัส (Urenus) หมนุ จากตะวนั ตกไปตะวนั ออก

มดี วงจนั ทรบ์ รวิ าร 11 ดวง ในบรรยากาศมกี ระแสลมทพ่ี ัดรนุ แรง อุณหภมู ิพื้นผวิ ประมาณ -223 องศาเซลเซยี ส หมนุ รอบดวงอาทิตยใ์ ชเ้ วลา 164.8 ปี หมุนรอบตัวเองใชเ้ วลา 16 ชวั่ โมง 6 นาที ดาวเนปจนู (Neptune) หมุนจากตะวันตกไปตะวนั ออก

คารอน (double planet) ดาวพลโู ต (Pluto)

การประชมุ สมชั ชาใหญ่แห่งสหพนั ธด์ าราศาสตรส์ ากล (IAU General Assembly) ณ กรุงปราก สาธารณรฐั เชก็ 14 – 25 สิงหาคม 2549 ทาให้ดาวพลูโตสญู เสยี สถานภาพการเปน็ ดาวเคราะห์

ดาวเคราะห์ คอื วัตถทุ อ้ งฟ้าท่มี มี วลมากพอทแ่ี รงโน้มถว่ งจะทาให้มนั อยู่ ในภาวะสมดลุ สถติ (hydrostatic equilibrium) โคจรรอบดาวฤกษ์ โดยท่มี นั เองไม่เปน็ ทง้ั ดาวฤกษแ์ ละดวงจนั ทรบ์ รวิ ารของดาวเคราะหด์ วงอื่น

แยกแยะความต่างกนั ระหวา่ งวตั ถอุ น่ื ที่เขา้ ข่ายขอ้ แรกออกจากดาวเคราะห์ ทง้ั 8 ซง่ึ มวี งโคจรรอบดวงอาทิตย์เกอื บเปน็ วงกลม และโคจรอยูใ่ นระนาบ ใกล้เคยี ง อนั จะทาให้ดาวซีเรสทเ่ี ปน็ ดาวเคราะหน์ ้อย กลายเปน็ ดาว เคราะห์

นอกจากกาหนดนยิ ามดาวเคราะห์แลว้ ยังมีการกาหนดประเภทของวตั ถุ ชนดิ ใหมใ่ นระบบสรุ ิยะวา่ พลตู อน (pluton) มีดาวพลโู ตเปน็ วตั ถุ ต้นแบบ ใชก้ ับวตั ถทุ ่ีโคจรรอบดวงอาทติ ยย์ าวนานกว่า 200 ปี

กาหนดใหว้ ัตถอุ ืน่ นอกเหนือจากขอ้ 1-3 ถูกเรยี กวา่ “วัตถุขนาดเลก็ ใน ระบบสรุ ิยะ” (small solar system bodies) และยกเลกิ ศัพท์คาวา่ “ดาวเคราะหน์ ้อย” (minor planet)

ถ้ายอมรบั ขอ้ เสนอทงั้ 4 ขอ้ ท่ีกลา่ วมา จะทาใหร้ ะบบสรุ ยิ ะของเรามีดาว เคราะห์เพม่ิ ขน้ึ มาอกี 3 ดวง รวมเปน็ 12 ดวง คือ - ดาวคารอน - ดาวซีเรส - ดาว 2003 ยูบี 313 (2003 UB 313)

บทสรุปของการประชมุ

ดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะ หมายถงึ วตั ถทุ ี่ - โคจรรอบดวงอาทิตย์ - มีมวลมากพอที่ทาใหร้ ปู รา่ งใกลเ้ คยี งทรงกลม - ไมม่ ีวัตถอุ ่ืนทม่ี ขี นาดใกลเ้ คยี งกนั และลกั ษณะทางกายภาพคลา้ ยคลงึ กันอยู่ใกลว้ งโคจร

ดาวเคราะห์แคระในระบบสรุ ยิ ะ หมายถงึ วตั ถทุ ี่ - โคจรรอบดวงอาทิตย์ - มมี วลมากพอท่ีทาให้รปู รา่ งใกลเ้ คยี งทรงกลม - มีวตั ถอุ ื่นทีม่ ขี นาดใกลเ้ คยี งกนั และลกั ษณะทางกายภาพคลา้ ยคลึงกนั อยู่ใกล้วงโคจร - ไมใ่ ชด่ วงจนั ทรบ์ รวิ ารของดาวเคราะห์



เขตดาวหาง หรือ ดงดาวหางของออรต์ (Oort’s comet cloud) แจน ออร์ต (Jan Oort) ดาวหางมีถ่นิ กาเนดิ มาจากดาวหาง ทีอ่ ยู่ไกลออกไปท่ีสดุ ขอบของระบบสรุ ิยะ แถบคอยเปอร์ ดาวหาง ประกอบด้วย กลุ่มก้อนของวตั ถุชิ้นเลก็ ๆ มที ัง้ ฝุ่นผงปนกบั แก๊ส และไอน้าทจ่ี บั กนั เป็นกอ้ นน้าแขง็ (กอ้ นน้าแขง็ สกปรก)

เขตดาวหาง หรือ ดงดาวหางของออร์ต (Oort’s comet cloud) วตั ถเุ หลา่ น้จี ะอย่โู ดยใช้แรงดึงดูดซ่ึงกันและกัน เมอ่ื เคลอื่ นที่เขา้ ใกลด้ วงอาทิตย์ พลังงานความจากดวงอาทติ ยจ์ ะทาใหด้ า้ น นอกของกอ้ นนา้ แข็งสกปรกระเหดิ กลายเปน็ ไอ ปรากฏเป็นหวั และหางสะทอ้ นแสงจากดวงอาทติ ย์และเกิดปฏกิ ริ ยิ าเรอื งแสง จากการแผร่ ังสีของดวงอาทติ ยท์ าให้ดาวหางลกุ โชนจนหัวกลายเปน็ หาง ยาว แตไ่ มม่ ีสิ่งใดอยภู่ ายในหาง แตป่ ระกอบดว้ ย H2 และ CO2

เขตดาวหาง หรอื ดงดาวหางของออรต์ (Oort’s comet cloud) ดาวหางทค่ี วรทราบ ดาวหางฮลั เลย์ ดาวหางเวสต์ ดาวหางอเิ คยา-เซกิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook