คำนำ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาสั่งกระทรวงศกึ ษาธิการท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาส่ังสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาสั่งให้โรงเรียนดาเนินการใช้หลักสูตรในปี การศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เปน็ ต้นมา ซ่งึ หลักสตู ร กลุม่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าดว้ ยการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมทม่ี คี วามเช่ือมสมั พนั ธ์กัน และมคี วามแตกตา่ งกนั อย่างหลากหลาย เพ่ือใหช้ ว่ ยสามารถปรับตวั เองกับบรบิ ทสภาพแวดล้อม เปน็ พลเมืองดี มีความรบั ผดิ ชอบ มคี วามรู้ ทักษะ คุณธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม โรงเรียนบ้านวังปืน โดยความร่วมมือของกับคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และคณะครู ได้ จัดทาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมสาหรับการจัดการเรียนการ สอน สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดที่กาหนดในหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 พ.ศ. 2561 ขอขอบพระคณุ คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพืน้ ฐานโรงเรียนบ้านวังปืน และคณะครูท่ีทาให้หลกั สตู ร สถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐานฉบับน้สี าเรจ็ ไปด้วยดี หวงั วา่ หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบบั น้ี คงจะเปน็ ประโยชนต์ ่อครผู ู้สอน ประวัตศิ าสตรแ์ ละผ้สู นใจในการจดั การศึกษาขั้นพนื้ ฐานต่อไป โรงเรียนบ้ำนวัง ปืน
สำรบัญ หนำ้ 1 คำนำ 1 สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 2 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 3 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 4 คุณภาพผเู้ รียน โครงสร้างหลักสูตรสถานศกึ ษา 5 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 6 14 คาอธบิ ายรายวิชา ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง 20 โครงสร้างรายวิชา 22 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 32 คาอธิบายรายวิชา ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง 35 โครงสร้างรายวชิ า 37 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 46 คาอธิบายรายวิชา ตัวชวี้ ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง 50 โครงสร้างรายวชิ า 52 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 62 คาอธิบายรายวชิ า ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 70 โครงสร้างรายวชิ า 71 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 81 คาอธิบายรายวชิ า ตัวชวี้ ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง 89 โครงสรา้ งรายวชิ า 90 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 102 คาอธิบายรายวชิ า ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนร้แู กนกลาง โครงสร้างรายวชิ า
๑ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม สมรรถนะทสี่ ำคัญของผเู้ รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร มีความรู้ทางวิชาการ สามารถในการรับและส่งสาร ท่ีใช้ถ่ายทอด ความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรูส้ ึก และทศั นะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความ ขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้ วิธกี ารสือ่ สารท่มี ีประสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่ีมตี ่อตนเองและสงั คม 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด มีทักษะกระบวนการคดิ สามารถคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การ คิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพ่ือการตดั สนิ ใจเกี่ยวกับตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ มีจติ สานึกด้านคุณธรรม สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ท่ีเผชิญได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมบนพืน้ ฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เข้าใจสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปญั หา และมีการตัดสนิ ใจทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสงิ่ แวดล้อม 4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวิต ปฏิบตั ติ ามระเบียบวินัย รกั ษาไวซ้ ึ่งวฒั นธรรม นาชมุ ชนร่วม ดาเนินการ สืบสานภูมิปัญญาไทย ร่วมใจอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ยึดวิถีประชาธิปไตย มีพลานามัยสมบูรณ์ สามารถในการนากระบวนการตา่ งๆ ไปใช้ในการดาเนินชวี ิตประจาวัน การเรียนรูด้ ้วยตนเอง การเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การ จัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและ สภาพแวดล้อม และการรจู้ กั หลกี เลย่ี งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผูอ้ ่นื 5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี พร้อมด้วยเทคโนโลยี สามารถในการเลอื ก และใช้เทคโนโลยี ด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การ สือ่ สาร การทางาน การแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสตั ยส์ ุจริต 3. มวี ินยั 4.ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งม่นั ในการทางาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ
๒ สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระที่ 1 ศำสนำ ศลี ธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดม่ัน และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ืออยู่ รว่ มกนั อยา่ งสันตสิ ขุ มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธารงรักษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถอื สำระที่ 2 หน้ำทพี่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และกำรดำเนนิ ชีวิตในสังคม มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารง รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลก อยา่ งสันตสิ ุข มาตรฐาน ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจบุ นั ยดึ มัน่ ศรทั ธา และธารงรกั ษาไว้ ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข สำระที่ 3 เศรษฐศำสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรทมี่ ีอย่จู ากัดไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพและคมุ้ ค่า รวมทัง้ เขา้ ใจ หลักการของ เศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่ือการดารงชวี ติ อย่างมีดลุ ยภาพ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจ และความจาเปน็ ของการรว่ มมือกันทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก สำระที่ 5 ภูมศิ ำสตร์ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผล ต่อกัน มาตรฐาน ส 5.1 และกันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ ้อมูลภมู สิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิด การสร้างสรรค์วัฒนธรรม มจี ิตสานึก และมสี ่วนร่วมในการอนุรักษ์ ทรพั ยากรและ ส่ิงแวดล้อม เพ่ือการพฒั นาที่ยัง่ ยืน
๓ คุณภำพผู้เรียน จบชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 3 มีความรู้เกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของส่ิงต่างๆ ที่อยู่รอบตัวและชุมชน และสามารถปรับตัว เท่าทนั การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ และมสี ่วนรว่ มในการจัดการทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ มใกล้ตัว ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีทักษะกระบวนการ และมีข้อมูลท่ีจาเป็นต่อการพัฒนาให้เป็น ผู้มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ประพฤตปิ ฏิบตั ิตามหลักคาสอนของศาสนาท่ตี นนบั ถือ มคี วามเป็นพลเมืองดี มี ความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกันและการทางานกับผู้อ่ืน มีส่วนรว่ มในกิจกรรมของห้องเรียน และได้ฝึกหัดใน การตัดสนิ ใจ ได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลักษณะการบูรณาการ ผู้เรียนได้เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับปัจจุบันและอดีต มีความรู้พ้ืนฐานทางเศรษฐกิจได้ข้อคิดเกี่ยวกับรายรับ - รายจา่ ยของครอบครวั เขา้ ใจถึงการเป็นผผู้ ลติ ผู้บรโิ ภค รูจ้ ักการออมขนั้ ตน้ และวธิ ีการเศรษฐกิจพอเพียง ได้รบั การพัฒนาแนวคิดพืน้ ฐานเก่ียวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ เพ่อื เป็นพื้นฐานในการทาความเขา้ ใจในข้ันท่สี งู ต่อไป จบชั้นประถมศึกษำปที ่ี 6 มีความรู้เกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ ภัยพิบัติ ลักษณะกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมใน จังหวัด ภาค และประเทศไทย สามารถเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพกับภัยพิบัติต่างๆ ใน ประเทศไทย และหาแนวทางในการจดั การทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม ได้รับการพฒั นาความรแู้ ละความเข้าใจ ในเรื่องศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม ปฏิบัติตนตามหลักคา สอนของศาสนาทีต่ นนับถือ รวมท้งั มสี ว่ นรว่ มศาสนพิธี และพธิ กี รรมทางศาสนามากยิ่งขึ้น ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าท่ีในฐานะพลเมืองดีของท้องถิ่น จังหวัด ภาค และประเทศ รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในกจิ กรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ของทอ้ งถิ่นตนเอง มากย่งิ ขน้ึ ได้ศกึ ษาเปรยี บเทียบเรื่องราวของจังหวดั และภาคตา่ งๆของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบา้ น ไดร้ ับ การพัฒนาแนวคิดทางสังคมศาสตร์ เก่ียวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าท่ีพลเมือง เศรษฐศาสตร์ และ ภูมิศาสตร์เพ่ือขยายประสบการณ์ไปสู่การทาความเข้าใจในภูมิภาค ซีกโลกตะวันออกและตะวันตกเกี่ยวกับ ศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การดาเนินชีวิต การจัด ระเบียบทางสงั คม
๔ โครงสรำ้ งเวลำเรยี นของหลกั สูตรโรงเรยี นบ้ำนวงั ปนื พทุ ธศกั รำช 2561 ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 1-6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ / กิจกรรม เวลำเรยี น / ปี ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ 200 200 200 160 160 160 - ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160 - คณติ ศาสตร์ 80 80 80 80 80 80 - วทิ ยาศาสตร์ 120 120 120 120 120 120 - สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม (40) (40) (40) (40) (40) (40) 1) ประวตั ศิ าสตร์ (80) (80) (80) (80) (80) (80) 2) ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม 3) หนา้ ที่พลเมอื ง วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ 40 40 40 80 80 80 4) เศรษฐศาสตร์ 40 40 40 80 80 80 5) ภูมศิ าสตร์ 40 40 40 80 80 80 - สุขศกึ ษาและพลศึกษา 120 120 120 80 80 80 - ศิลปะ 840 840 840 840 840 840 - การงานอาชพี และเทคโนโลยี - ภาษาตา่ งประเทศ 40 40 40 40 40 40 รวมเวลำเรยี นพ้ืนฐำน 40 40 40 40 40 40 40 40 40 40 40 40 กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รยี น (10) (10) (10) (10) (10) (10) 120 120 120 120 120 120 - กจิ กรรมแนะแนว 80 - - - - - - กจิ กรรมนักเรยี น - 80 - - - - 1. ลกู เสอื – เนตรนารี - - 80 - - - 2. ชมุ นุม - - - 80 - - - - - - 80 - - กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ - - - - - 80 รวมเวลำเรียนกจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน 80 80 80 80 80 80 รำยวชิ ำเพ่มิ เตมิ 1,040 1,040 1,040 1,040 1,040 1,040 - ภาษาองั กฤษเพือ่ การสอื่ สาร 1 - ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 2 - ภาษาอังกฤษเพ่อื การสื่อสาร 3 - คอมพวิ เตอรใ์ นชีวติ ประจาวัน 1 - คอมพิวเตอร์ในชีวติ ประจาวัน 2 - คอมพวิ เตอร์ในชวี ติ ประจาวนั 3 รวมเวลำเรียนเพมิ่ เตมิ รวมเวลำเรยี น / ปี
๕ คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน ส 11101 สงั คมศกึ ษำ ๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้สู ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑ เวลำ 80 ชัว่ โมง มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับพุทธประวัติ หรือประวัติของศาสดาท่ีตนนับถือ ความหมาย ความสาคัญ และเคารพพระรัตนตรัย ประโยชน์การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน ยกตัวอย่างความสามารถและความดีของตนเอง ผู้อ่ืนและบอกผลจากการกระทาน้ัน โครงสร้างบทบาทและ หน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน บทบาทสิทธิหน้าท่ีของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน ระบุ สนิ ค้าและบรกิ ารทใ่ี ชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ยกตัวอย่างความสามารถและความดขี องตนเอง ผู้อนื่ และบอก ผลจากการกระทานั้น การใช้จ่ายเงินในชีวิตประจาวันท่ีไม่เกินตัวและการออมและการใช้ทรัพยากรใน ชีวิตประจาวันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เหตุผลความจาเป็นท่ีคนต้องทางานอย่างสุจริต การ แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการโดยวิธีต่าง ๆความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติและทมี่ นุษย์สรา้ งขนึ้ ท่ีบา้ นและที่โรงเรยี น ความสัมพันธ์ของตาแหน่ง ระยะ ทิศ ของส่ิงต่างๆรอบตัว เช่น ท่ีอยู่อาศัย บ้านของเพื่อนบ้าน ถนน ต้นไม้ ทุ่งนา ไร่ สวน ที่ราบ ภูเขา แหล่งน้า และทิศหลักและที่ต้ัง ของสิ่งต่างๆรอบตัวการเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศในรอบวัน เช่น กลางวนั กลางคืน ความร้อนของอากาศ ฝน-เมฆ-ลม ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพท่ีส่งผลตอ่ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดล้อมท่ีอยู่ รอบตัว และอิทธิพลของส่ิงแวดล้อมท่ีส่งผลต่อการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมความสาคัญของสิ่งแวดล้อมทาง ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมทีม่ นษุ ยส์ ร้างขึน้ ในการดาเนนิ ชีวิต และการดูแลรกั ษาสิ่งแวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ใช้กระบวนการสังเกตเปรียบเทียบ อธิบาย บอก ระบุวิเคราะห์แยกแยะ การปฏิบัติตาม หลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด การบาเพ็ญ ประโยชน์ต่อวัด หรือศาสนสถานของศาสนาที่ตนนับถือ แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือแสดงตนเป็นศาสนิก ชนของศาสนาท่ีตนนับถือปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสาคัญทางศาสนาตามที่กาหนดได้ถูกต้อง ปฏิบัติตนเปน็ สมาชกิ ท่ดี ีของครอบครัวและโรงเรียนมีสว่ นรว่ มในการตัดสินใจและทากิจกรรมในครอบครัวและ โรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตยการใช้แผนผังแสดงตาแหน่งสิ่งต่างๆในห้องเรียนการปฏิบัติตนในการ รกั ษาส่ิงแวดล้อมในบ้านและห้องเรียนเห็นคุณค่า ความสาคัญประโยชน์ของการดาเนินชีวิตและนาข้อคิดจาก ประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่างตามท่ีกาหนดการสวดมนต์ แผ่เมตตา การมีสติที่เป็น พ้ืนฐานของสมาธิ ในพระพุทธศาสนา การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ ตามที่กาหนด เห็น ประโยชน์การออมการใช้ทรพั ยากรในชีวิตประจาวันอย่างประหยัดการปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว และโรงเรยี นยกตัวอย่างความสามารถและความดขี องตนเองผู้อน่ื และบอกผลจากการกระทา รหัสตัวชวี้ ดั ส 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4 ส 1.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ส 2.1 ป.1/1, ป.1/2 ส 2.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ส 3.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ส 3.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 ส 5.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4 ส 5.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 รวมทงั้ หมด 25 ตวั ชวี้ ัด
๖ ตัวชวี้ ัดและสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 1 สำระท่ี 1 ศำสนำ ศีลธรรม จรยิ ธรรม มำตรฐำน ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง สำระกำรเรยี นรู้ท้องถน่ิ ส 1.1 รู้ และเข้าใจ 1. บอกพุทธประวัติ พุทธประวตั ิ ประวัติ ความสาคัญ หรือประวัติของ - ประสูติ ศาสดา หลักธรรมของ ศาสดาทต่ี นนับถอื - ตรัสรู้ พระพทุ ธศาสนาหรอื โดยสังเขป - ปรินิพพาน ศาสนา ท่ีตนนับถอื และ ศาสนาอื่น มศี รัทธาท่ี 2. ช่นื ชมและบอก พทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา ถูกตอ้ ง ยึดมนั่ และปฏิบตั ิ แบบอย่างการดาเนิน - สามเณรบัณฑติ ตามหลกั ธรรมเพอ่ื อยู่ ชีวติ และขอ้ คดิ จาก ร่วมกันอยา่ งสันติสุข ประวตั สิ าวก ชาดก/ ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนิก - วณั ณุปถชาดก - สุวัณณสามชาดก ชนตัวอย่างตามท่ี กาหนด ศาสนิกชนตัวอยา่ ง - พระบาทสมเดจ็ พระ เจ้าอยหู่ ัว ภูมพิ ลอดลุ ยเดช - เจ้าพระยาสธุ รรมมนตรี (หนพู รอ้ ม) 3. บอกความหมาย พระรตั นตรัย ความสาคัญ และ - ศรัทธาพระพุทธ พระ เคารพพระรัตนตรัย ธรรม พระสงฆ์ ปฏบิ ัตติ ามหลักธรรม โอวาท 3 โอวาท 3ใน - ไมท่ าช่ัว พระพทุ ธศาสนา หรือ - เบญจศีล หลกั ธรรมของศาสนา - ทาความดี ที่ตนนับถือตามท่ี : เบญจธรรม กาหนด : สังคหวตั ถุ 4 - กตัญญกู ตเวทีตอ่ พอ่ แม่ และ ครอบครัว - มงคล 38 :ทาตวั ดี :ว่าง่าย :รับใช้พ่อแม่ - ทาจติ ให้บรสิ ทุ ธิ์ (บรหิ าร จติ และเจรญิ ปัญญา)
๗ มำตรฐำน ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ พุทธศาสนสุภาษติ - อตฺตา หิ อตตฺ โน นาโถ ตนแลเป็นทพ่ี ึง่ ของตน - มาตา มิตฺต สเก ฆเร มารดาเปน็ มติ รในเรอื นของ ตน 4. เห็นคณุ คา่ และ ฝกึ สวดมนต์และแผ่ สวดมนต์ แผ่เมตตา เมตตา มสี ติท่เี ป็นพน้ื ฐาน ของสมาธใิ น - รคู้ วามหมายและ พระพุทธศาสนา ประโยชน์ของสติ หรอื การพฒั นาจิต - ฟงั เพลงและรอ้ ง ตามแนวทางของ เพลงอยา่ งมสี ติ ศาสนาที่ตนนับถอื ตามทก่ี าหนด - เลน่ และทางาน อยา่ ง มีสติ - ฝกึ ใหม้ ีสติในการฟัง การอา่ น การคดิ การถามและ การเขยี น
๘ มำตรฐำน ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง สำระกำรเรยี นร้ทู อ้ งถน่ิ ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนกั 1. บาเพ็ญประโยชน์ การบาเพญ็ ประโยชนต์ อ่ และปฏบิ ัติตนเป็นศาสนิก ต่อวัด หรอื ศาสน วัด หรือศาสนสถาน ชนที่ดี และธารงรักษา สถานของศาสนาที่ - การพัฒนาทาความสะอาด พระพุทธศาสนาหรอื ตนนบั ถือ ศาสนาที่ตนนบั ถอื - การบรจิ าค - การร่วมกิจกรรมทาง ศาสนา 2. แสดงตนเป็น การแสดงตนเปน็ พุทธ พุทธมามกะ หรอื มามกะ แสดงตนเปน็ ศาสนิก - ขน้ั เตรียมการ ชนของศาสนาท่ตี น - ขัน้ พิธกี าร นับถอื 3. ปฏิบัติตนใน ประวตั ิโดยสงั เขปของ ศาสนพธิ ี พธิ กี รรม วันสาคญั ทาง และวนั สาคญั ทาง พระพทุ ธศาสนา ศาสนา ตามท่ี - วนั มาฆบชู า กาหนดไดถ้ กู ต้อง - วนั วสิ าขบชู า - วันอาสาฬหบชู า - วนั อัฏฐมบี ชู า การบูชาพระรัตนตรยั
๙ สำระที่ 2 หน้ำทพี่ ลเมือง วัฒนธรรมและกำรดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม มำตรฐำน ตัวชีว้ ดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง สำระกำรเรียนรทู้ ้องถน่ิ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติ 1. บอกประโยชน์ การเป็นสมาชิกทีด่ ขี อง ตนตามหน้าทีข่ องการเปน็ และปฏิบัติตนเปน็ ครอบครัวและโรงเรยี น เชน่ พลเมอื งดี มคี ่านยิ มที่ดี สมาชกิ ที่ดีของ - กตญั ญกู ตเวทแี ละเคารพ งามและธารงรกั ษา ครอบครวั และ รบั ฟงั คาแนะนาของพอ่ แม่ ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย โรงเรยี น ญาตผิ ู้ใหญ่ และครู ดารงชวี ิตอยรู่ ว่ มกันใน - รู้จักกล่าวคาขอบคณุ ขอโทษ การไหว้ผู้ใหญ่ สังคมไทยและสงั คมโลก - ปฏิบัติตาม ขอ้ ตกลง อยา่ งสันติสุข กตกิ า กฎ ระเบยี บของ ครอบครัวและโรงเรยี น - มสี ่วนร่วมในกิจกรรมของ ครอบครัวและโรงเรยี น - มีเหตุผลและยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่ืน - มรี ะเบยี บ วนิ ยั มีนา้ ใจ ประโยชน์ของการปฏบิ ตั ิ ตนเป็นสมาชิก ท่ีดีของ ครอบครวั และโรงเรยี น 2. ยกตวั อยา่ ง ลกั ษณะความสามารถและ ความสามารถและ ลกั ษณะ ความดขี องตนเอง ความดขี องตนเอง และผอู้ ่ืน เชน่ ผู้อ่ืนและบอกผลจาก - ความกตัญญกู ตเวที การกระทานน้ั - ความมรี ะเบยี บวนิ ยั - ความรับผดิ ชอบ - ความขยนั - การเออ้ื เฟื้อเผอื่ แผ่และ ชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื - ความซื่อสตั ย์สจุ รติ - ความเมตตากรณุ า
๑๐ มำตรฐำน ตวั ชีว้ ัด สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง สำระกำรเรียนร้ทู อ้ งถนิ่ 1. บอกโครงสรา้ ง 2.2 เข้าใจระบบการเมอื ง บทบาทและหนา้ ที่ โครงสร้างของครอบครัว การปกครองในสังคม ของสมาชกิ ใน และความสัมพันธข์ องบทบาท ปัจจบุ ัน ยดึ มนั่ ศรัทธา ครอบครัวและ หนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครวั และธารงรกั ษาไว้ซงึ่ การ โรงเรียน โครงสรา้ งของโรงเรยี น ปกครองระบอบ ความสมั พนั ธ์ของบทบาท ประชาธิปไตยอันมี 2. ระบบุ ทบาท สิทธิ หน้าทข่ี องสมาชิกในโรงเรยี น พระมหากษัตริยท์ รงเปน็ หน้าที่ของตนเองใน ประมุข ครอบครวั และ ความหมายและความ โรงเรียน แตกต่างของอานาจตาม บทบาท สทิ ธิ หน้าทใ่ี น ครอบครัวและโรงเรียน การใช้อานาจในครอบครวั ตามบทบาท สทิ ธหิ น้าที่ 3. มีสว่ นรว่ มในการ กจิ กรรมตามกระบวนการ ตัดสนิ ใจและทา ประชาธิปไตยในครอบครวั กจิ กรรมในครอบครวั เช่น การแบง่ หน้าท่คี วาม และโรงเรียนตาม รับผดิ ชอบในครอบครวั การ กระบวนการ รับฟงั และแสดงความคิดเห็น ประชาธิปไตย กจิ กรรมตามกระบวนการ ประชาธิปไตยในโรงเรยี น เชน่ เลอื กหวั หน้าหอ้ ง ประธาน ชมุ นุม ประธานนักเรยี น
๑๑ สำระที่ 3 เศรษฐศำสตร์ มำตรฐำน ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ ส 3.1 เข้าใจและสามารถ 1. ระบุสนิ ค้าและ สินคา้ และบรกิ ารทีใ่ ชอ้ ยู่ - การออมและการใช้ บริหารจัดการทรพั ยากรใน บริการที่ใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจาวัน เช่น ดินสอ ทรพั ยากรใน การผลิตและการบรโิ ภค ในชวี ิตประจาวนั กระดาษ ยาสฟี นั ชีวติ ประจาวันตามหลกั การใช้ทรัพยากร ที่มีอยู่ สนิ ค้าและบริการทไ่ี ด้มา ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง จากัดได้อย่างมี โดยไมใ่ ชเ้ งิน เช่น มผี ู้ให้ ประสทิ ธิภาพและค้มุ คา่ หรือการใชข้ องแลกของ สนิ ค้าและบริการทไ่ี ด้มา รวมทัง้ เขา้ ใจหลักการของ จากการใชเ้ งินซื้อ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่ือ ใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และ การดารงชวี ิตอยา่ งมี บรกิ ารให้คุม้ คา่ ดุลยภาพ 2. ยกตัวอยา่ งการใช้ การใช้จา่ ยเงนิ ใน จ่ายเงนิ ในชวี ิต ชีวติ ประจาวนั เพอ่ื ซอ้ื สนิ ค้า ประจาวนั ท่ไี มเ่ กนิ ตวั และบรกิ าร และเหน็ ประโยชน์ ของ ประโยชน์ของการใช้ การออม จา่ ยเงนิ ที่ไมเ่ กนิ ตวั ประโยชนข์ องการออม โทษของการใช้จ่ายเงนิ เกนิ ตวั วางแผนการใชจ้ า่ ย 3. ยกตัวอย่างการใช้ ทรพั ยากรท่ใี ช้ในชวี ิต ทรัพยากรใน ประจาวนั เช่น ดินสอ ชีวิตประจาวนั อยา่ ง กระดาษ เสือ้ ผ้า อาหาร ประหยัด ทรัพยากรสว่ นรวม เชน่ โต๊ะ เก้าอ้ี นักเรยี น สาธารณูปโภคต่าง ๆ วธิ ีการใช้ทรพั ยากรทัง้ ของ ส่วนตวั และ ส่วนรวมอยา่ ง ถูกตอ้ ง และประหยัดและ คมุ้ คา่
๑๒ มำตรฐำน ตัวช้ีวดั สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรูท้ ้องถนิ่ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและ 1. อธบิ ายเหตผุ ล ความหมาย ประเภทและ สถาบันทางเศรษฐกิจ ความจาเป็นท่คี นต้อง ความสาคัญของการทางาน ต่าง ๆ ความสมั พันธท์ าง ทางานอยา่ งสุจรติ เหตุผลของการทางาน เศรษฐกิจและความจาเปน็ ของการรว่ มมอื กนั ทาง ผลของการทางานประเภท เศรษฐกิจในสงั คมโลก ตา่ ง ๆ ท่ีมีต่อครอบครวั และ สงั คม การทางานอยา่ งสจุ ริตทาให้ สังคมสงบสุข สำระที่ 5 ภมู ิศำสตร์ มำตรฐำน ตัวชวี้ ัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง สำระกำรเรียนรู้ท้องถน่ิ ส 5.1 เข้าใจลักษณะทาง 1. จาแนกส่ิงตา่ งๆ ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั ทเี่ กดิ ขึน้ กายภาพของโลกและ รอบตัวที่เกิดขนึ้ เอง เองตามธรรมชาติและที่มนุษย์ ความสัมพันธ์ของสรรพสง่ิ ตามธรรมชาติและท่ี สรา้ งขนึ้ ท่ีบา้ นและทโ่ี รงเรียน ซ่ึงมผี ลต่อกนั ใชแ้ ผนท่ีและ มนุษยส์ ร้างขน้ึ เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตรใ์ น การค้นหา วิเคราะห์ และ 2. ระบุความสัมพนั ธ์ ความสมั พันธข์ องตาแหนง่ สรุปขอ้ มลู ตามกระบวนการ ของตาแหนง่ ระยะ ระยะ ทิศของส่ิงตา่ ง ๆ ทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ ทิศของสงิ่ ต่างๆ รอบตวั เชน่ ท่ีอยอู่ าศยั บ้าน เพอ่ื นบา้ น ต้นไม้ ถนน ภมู ิสารสนเทศอย่างมี ทงุ่ นา ไร่ สวน ที่ราบ ภเู ขา ประสิทธภิ าพ แหลง่ น้า ทิศหลกั (เหนอื ตะวนั ออก ใต้ ตะวันตก) และ ที่ตัง้ ของสิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั 3. ใชแ้ ผนผงั แสดง ใชแ้ ผนผงั แสดง ตาแหนง่ ของสงิ่ ต่างๆใน ตาแหน่งของสงิ่ ตา่ งๆ ห้องเรยี น ในหอ้ งเรียน 4. สงั เกตและบอก การเปล่ียนแปลงของ การเปลีย่ นแปลงของ สภาพอากาศในรอบวันเช่น สภาพอากาศในรอบ กลางวัน กลางคนื ความรอ้ น วนั ของอากาศ ฝน -เมฆ-ลม
๑๓ มำตรฐำน ตัวชวี้ ัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง สำระกำรเรียนร้ทู ้องถนิ่ ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสมั พันธ์ 1. บอกสิ่งแวดล้อม ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพ - การดแู ลรกั ษาส่ิงแวดลอ้ ม ระหว่างมนุษย์กบั ทเี่ กิดตามธรรมชาตทิ ี่ ท่ีผลต่อการเป็นอยขู่ องมนุษย์ ในท้องถน่ิ สิง่ แวดลอ้ มทางกายภาพที่ ส่งผลตอ่ ความเปน็ อยู่ เชน่ ภูมอิ ากาศมีผลตอ่ กอ่ ให้เกิดการสร้างสรรคว์ ิถี ของมนษุ ย์ การดาเนินชวี ติ มีจติ สานกึ ลกั ษณะตอ่ ทอ่ี ยอู่ าศยั และ และมีสว่ นรว่ มในการ จดั การทรพั ยากร และ เครื่องแต่งกาย สิ่งแวดลอ้ มเพื่อการพัฒนา ทย่ี ่ังยนื 2. สงั เกตและ การเปลย่ี นแปลงของ สิ่งแวดลอ้ มทอ่ี ยรู่ อบตวั เปรียบเทียบการ เปลี่ยนแปลงของ อิทธพิ ลของสิง่ แวดลอ้ มท่ี สิ่งแวดลอ้ มเพื่อการ สง่ ผลตอ่ การปฏิบตั ติ นอยา่ ง ปฏิบตั ิตนอย่าง เหมาะสม เหมาะสม 3. มีส่วนร่วมใน การปฏบิ ตั ติ นในการ การดูแลส่งิ แวดล้อม รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มในบา้ นและ ทีบ่ ้านและหอ้ งเรยี น หอ้ งเรียน
๑๔ โครงสร้ำงรำยวชิ ำ ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 1 เวลำ 80 ช่ัวโมง/ปี รำยวิชำ สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม รหัสวชิ ำ ส 11101 หน่วยท่ี ชือ่ หนว่ ย มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ นำ้ หนัก กำรเรยี นรู้ / (ชัว่ โมง) คะแนน 1.1 พระพุทธศาสนา - ประสตู ิ (100) และศาสนาอืน่ ๆ ตัวชวี้ ดั - ตรสั รู้ ๒ ส 1.1 ป.1/1 - ปรินิพพาน 3 1.2 แบบอย่างทดี่ ี ๒ ส 1.1 ป.1/2 - พุทธสาวก พุทธสาวิกา 3 - สามเณรบัณฑิต - ชาดก - วณั ณุปถชาดก - สวุ ัณณสามชาดก - ศาสนิกชนตัวอยา่ ง - พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช - เจา้ พระยาสธุ รรมมนตรี (หนู พร้อม) 1.3 หลกั ธรรมนา ส 1.1 ป.1/3 - พระรตั นตรยั ๕๖ ความสขุ ส 1.1 ป.1/4 - ศรทั ธาพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ - โอวาท 3 - ไม่ทาชวั่ - เบญจศีล - ทาความดี : เบญจธรรม : สังคหวตั ถุ 4 - กตัญญูกตเวทีตอ่ พ่อแม่ และ ครอบครวั - มงคล 38 :ทาตวั ดี :วา่ ง่าย :รบั ใชพ้ ่อแม่
๑๕ หน่วยท่ี ชือ่ หนว่ ย มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ นำ้ หนัก กำรเรยี นรู้ / (ชัว่ โมง) คะแนน - ทาจิตให้บริสทุ ธิ์ (บริหารจติ (100) ตวั ชว้ี ัด และเจรญิ ปัญญา) - พทุ ธศาสนสภุ าษิต - อตฺตา หิ อตตฺ โน นาโถ ตนแลเปน็ ที่พึ่งของตน - มาตา มติ ฺต สเก ฆเร มารดาเป็นมิตรในเรอื นของตน - ฝึกสวดมนตแ์ ละแผเ่ มตตา - รู้ความหมายและประโยชนข์ อง สติ - ฟงั เพลงและรอ้ งเพลงอย่างมีสติ - เลน่ และทางานอย่างมสี ติ - ฝึกใหม้ ีสติในการฟงั การอา่ น การคิด การถามและการเขียน 1.4 ชาวพุทธทีด่ ี ส 1.2 ป.1/1 - การบาเพ็ญประโยชนต์ อ่ วดั 6 8 ส 1.2 ป.1/2 หรือศาสนสถาน ส 1.2 ป.1/3 - การพัฒนาทาความสะอาด - การบริจาค - การร่วมกจิ กรรมทางศาสนา - การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ - ขน้ั เตรียมการ - ขั้นพิธกี าร - ประวัตโิ ดยสังเขปของวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา - วันมาฆบูชา - วันวสิ าขบูชา - วันอาสาฬหบชู า - วนั อัฏฐมีบูชา - การบูชาพระรตั นตรยั
๑๖ หนว่ ยที่ ชอื่ หน่วย มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ น้ำหนกั กำรเรยี นรู้ / เวลำ คะแนน 2.1 การเปน็ - การเป็นสมาชิกทีด่ ขี อง (ชวั่ โมง) (100 ) พลเมอื งดี ตัวช้วี ัด ครอบครัวและโรงเรยี น เชน่ - กตญั ญกู ตเวทแี ละเคารพรบั ๕5 ส 2.1 ป.1/1 ฟังคาแนะนาของพอ่ แม่ ญาติ ส 2.1 ป.1/2 ผู้ใหญ่ และครู - รู้จกั กลา่ วคาขอบคุณ ขอโทษ การไหว้ผใู้ หญ่ - ปฏบิ ัติตาม ข้อตกลง กติกา กฎ ระเบยี บของครอบครวั และ โรงเรยี น - มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมของ ครอบครัวและโรงเรียน - มเี หตผุ ลและยอมรบั ฟงั ความ คิดเห็นของผอู้ ่ืน - มรี ะเบียบ วินัย มนี ้าใจ - ประโยชน์ของการปฏบิ ัตติ นเป็น สมาชิก ทดี่ ีของครอบครวั และ โรงเรยี น - ลักษณะความสามารถและ ลักษณะ ความดีของตนเองและ ผอู้ ่นื เชน่ - ความกตญั ญกู ตเวที - ความมรี ะเบยี บวนิ ยั - ความรบั ผิดชอบ - ความขยนั - การเอือ้ เฟอื้ เผอ่ื แผ่และ ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่ืน - ความซอื่ สตั ยส์ ุจริต - ความเมตตากรณุ า
๑๗ หน่วยที่ ชือ่ หนว่ ย มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนกั กำรเรยี นรู้ / (ช่ัวโมง) คะแนน 2.2 โครงสร้างและ - โครงสร้างของครอบครวั และ (100 ) บทบาทหนา้ ที่ ตวั ชีว้ ดั ความสมั พันธข์ องบทบาท หน้าท่ี ของสมาชกิ ใน ของสมาชกิ ในครอบครวั 35 ครอบครัวและ ส 2.2 ป.1/1 - โครงสรา้ งของโรงเรียน โรงเรยี น ส 2.2 ป.1/2 ความสมั พันธ์ของบทบาท หน้าท่ี ของสมาชกิ ในโรงเรยี น - ความหมายและความแตกตา่ ง ของอานาจตามบทบาท สิทธิ หน้าที่ในครอบครวั และโรงเรยี น - การใช้อานาจในครอบครวั ตาม บทบาท สิทธิหน้าท่ี 2.3 การมสี ว่ นรว่ ม ส 2.2 ป.1/3 - กจิ กรรมตามกระบวนการ ๓ 2 ๔ 4 ตาม ประชาธปิ ไตยในครอบครวั เช่น กระบวนการ การแบ่งหนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบใน ประชาธปิ ไตย ครอบครวั การรับฟังและแสดง ความคิดเหน็ - กจิ กรรมตามกระบวนการ ประชาธิปไตยในโรงเรียน เชน่ เลือกหวั หน้าหอ้ ง ประธานชมุ นุม ประธานนักเรยี น 3.1 การใช้จา่ ยเงนิ ส 3.1 ป.1/1 • สินค้าและบริการทีใ่ ชอ้ ยู่ เพื่อซอ้ื สนิ ค้า ส 3.1 ป.1/2 ในชวี ติ ประจาวนั เช่น ดนิ สอ และบรกิ าร กระดาษ ยาสีฟนั อย่างคมุ้ คา่ • สินค้าและบรกิ ารที่ได้มา โดยไมใ่ ชเ้ งนิ เช่น มผี ู้ให้ หรอื การใชข้ องแลกของ • สินค้าและบรกิ ารท่ไี ดม้ า จากการใชเ้ งนิ ซอื้ • ใชป้ ระโยชน์จากสินค้าและ บรกิ ารให้คุ้มคา่ • การใชจ้ า่ ยเงินใน ชวี ิตประจาวนั เพอ่ื ซอื้ สินค้าและ บรกิ าร
๑๘ หน่วยท่ี ช่ือหนว่ ย มำตรฐำน สำระกำรเรียนรู้ น้ำหนัก กำรเรยี นรู้ / เวลำ คะแนน 3.2 การบริการ • ประโยชนข์ องการใช้ (ชั่วโมง) (100 ) จดั การ ตัวชีว้ ดั จา่ ยเงินที่ไมเ่ กินตวั ทรัพยากร • ประโยชน์ของการออม ๓2 ส 3.1 ป.1/3 • โทษของการใชจ้ ่ายเงนิ เกนิ ตัว • วางแผนการใชจ้ ่าย • ทรพั ยากรท่ใี ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน เช่น ดนิ สอ กระดาษ เส้อื ผา้ อาหาร • ทรพั ยากรสว่ นรวม เช่น โต๊ะ เก้าอี้ นักเรยี น สาธารณูปโภคต่าง ๆ • วธิ กี ารใช้ทรพั ยากรทงั้ ของ ส่วนตวั และ สว่ นรวมอย่างถูกตอ้ ง และประหยัดและคุ้มค่า 3.3 การทางาน ส 3.2 ป.1/1 • ความหมาย ประเภทและ 2 2 ความสาคัญของการทางาน • เหตผุ ลของการทางาน ๕ ๑0 • ผลของการทางานประเภท ๒ ๔ ตา่ ง ๆ ทม่ี ตี อ่ ครอบครวั และ สงั คม • การทางานอย่างสุจริตทาให้ สงั คมสงบสขุ 4 สรุปทบทวนภำพรวม (สอบปลำยภำคเรียนท่ี 1 ) 5.1 สิ่งตา่ งๆรอบตวั ส 5.1 ป.1/1 • สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัว ทเี่ กดิ ขน้ึ เอง ตามธรรมชาตแิ ละทีม่ นษุ ย์สรา้ งขึ้น ความสัมพันธ์ ส 5.1 ป.1/1 • สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตวั ทเ่ี กิดข้นึ เอง ๓ ๕ 5.2 ของตาแหน่ง ตามธรรมชาติและทมี่ นษุ ย์สรา้ งขึ้น ระยะและทศิ
๑๙ หน่วยท่ี ชื่อหน่วย มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรียนรู้ เวลำ น้ำหนกั / ตวั ชี้วัด (ช่วั โมง) คะแนน 5.3 แผนผงั - ทิศหลัก (เหนอื ตะวันออก ( 100 ) ห้องเรยี น ส 5.1 ป.1/3 ใต้ ตะวันตก) และ ทีต่ ัง้ ของสงิ่ ๕ ต่าง ๆ รอบตัว ๗ 5.4 การ ส 5.1 ป.1/4 - ลักษณะการเปลยี่ นแปลงของ ๔ ๖ เปลีย่ นแปลง ของสภาพอากาศ ของสภาพ อากาศ 5.5 ภมู ปิ ระเทศและ ส 5.2 ป.1/1 - ลักษณะภูมิประเทศ ๖ ๘ ภมู อิ ากาศ ภูมอิ ากาศมผี ลต่อความเปน็ อยู่ ของมนษุ ย์ เชน่ ท่ีอยู่อาศัย เครอื่ งแตง่ กายและอาหาร 5.6 สง่ิ แวดลอ้ ม ส 5.2 ป.1/2 - การเปล่ียนแปลงของสภาพ ๘ ๑๐ ส 5.2 ป.1/3 แวดลอ้ มทอี่ ยรู่ อบตวั ๑๒ ๑๐ ๘0 100 - การรเู้ ท่าทนั สงิ่ แวดลอ้ มและ ปรบั ตวั เขา้ กับสง่ิ แวดลอ้ ม 6 สรปุ ทบทวนภำพรวม (สอบปลำยภำคเรียนท่ี 2 ) รวมทง้ั สิน้ ตลอดปี
๒๐ คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน ส 1๒101 สงั คมศกึ ษำ ๒ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 2 เวลำ 80 ชวั่ โมง ศึกษาความสาคัญ ความหมาย ความสัมพันธ์ของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือ ในฐานะที่ เป็นรากฐานสาคัญของวัฒนธรรมไทยพุทธประวัติต้ังแต่การบาเพ็ญเพียรจนถึงปรินิพพาน หรือประวัติของ ศาสดาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนดการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเล่าและ ศาสนิกชน ตัวอย่าง ตามท่ีกาหนดพระไตรปิฎก หรอื คมั ภีรข์ องศาสนาท่ีตนนบั ถือศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล ของศาสนาอ่ืนๆแบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง ตามที่กาหนดการทาความดีของตนเองและบุคคลในครอบครัวและในโรงเรียนการสวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติท่ี เป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถือตามที่กาหนด ความสัมพันธ์ของตนเอง และสมาชิกในครอบครัวในฐานะเป็นส่วนหน่ึงของชุมชนมีบทบาท อานาจในการ ตดั สินใจในโรงเรียน และชุมชนทรพั ยากรทีน่ ามาผลิตสนิ ค้าและบริการท่ีใชใ้ นชีวติ ประจาวันที่มาของรายไดแ้ ละ รายจ่ายของตนเองและครอบครัว การจัดทาบันทึกรายรับรายจ่ายของตนเองผลดีของการใช้จ่ายที่เหมาะสม กับรายได้และการออมสินค้าและบรกิ ารทร่ี ฐั จดั หาและใหบ้ ริการแกป่ ระชาชนภาษแี ละบทบาทของประชาชนใน การเสียภาษีเหตุผลการแข่งขันทางการค้า ที่มีผลทาให้ราคาสินค้าลดลงส่ิงต่างๆ ท่ีเป็นธรรมชาติกับท่ีมนุษย์ สร้างข้ึนซ่ึงปรากฏระหว่างโรงเรียนกับบ้านตาแหน่งและลักษณะทางกายภาพของส่ิงต่างๆ ที่ปรากฏในลูกโลก แผนท่ี แผนผงั และภาพถ่ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งโลก ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ท่ที าใหเ้ กิดปรากฏการณ์ เช่น ข้างขึ้น ขา้ งแรม ฤดกู าลต่างๆ ใช้กระบวนการสังเกต แยกแยะ บอก อธิบาย ระบุ และปฏิบัติในการแสดงความเคารพ พระ รัตนตรัย และปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ี กาหนด ปฏบิ ัติตนอย่างเหมาะสมตอ่ สาวกของศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามทกี่ าหนดไดถ้ ูกต้องปฏิบัตติ นในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสาคัญทางศาสนา ตามท่ีกาหนดได้ถูกต้องปฏิบัติตนตามข้อตกลง กติกา กฎระเบียบและ หน้าที่ท่ีต้องปฏิบัติในชีวิตประจาวันปฏิบัติตนตนตามมารยาทไทยแสดงพฤติกรรมในการยอมรับความคิด ความเชื่อและการปฏิบัตขิ องบุคคลอ่ืนที่แตกต่างกันโดยปราศจากอคตเิ คารพในสทิ ธเิ สรภี าพของผูอ้ ื่น บันทึก รายรับรายจ่ายของตนเอง จาแนกและใช้ทรัพยากรธรรมชาติท่ีใช้แล้วไม่หมดไป ที่ใช้แล้วหมดไป และสร้าง ทดแทนใหม่ได้อย่างค้มุ คา่ อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างฤดูกาลกับการดาเนินชวี ิตของมนุษย์และมีส่วนรวมใน การจดั การส่งิ แวดล้อมในโรงเรยี น ตระหนักในความสาคัญ เห็นคุณค่าของการปฏิบัติ แสดงความช่ืนชมในเร่ืองท่ีได้ศึกษาและปฏิบัติ ด้วยความจริงใจเกี่ยวกับการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เร่ืองเล่าและ ศาสนิกชนตัวอย่าง ตามท่ีกาหนดเห็นคุณค่าการสวดมนต์ แผ่เมตตา การมีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิ หรือการพัฒนาจิตตาม แนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กาหนดการใช้ทรัพยากรในชุมชนอย่างประหยัดตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งและเห็นคุณคา่ ของส่ิงแวดลอ้ มในท้องถ่นิ
๒๑ รหสั ตัวช้วี ดั ส 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7 ส 1.2 ป.2/1, ป.2/2 ส 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 ส 2.2 ป.2/1, ป.2/2 ส 3.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 ส 3.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 ส 5.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 ส 5.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 รวมทง้ั หมด 29 ตวั ชวี้ ดั
๒๒ ตัวช้ีวดั และสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 2 สำระท่ี 1 ศำสนำ ศีลธรรม จรยิ ธรรม มำตรฐำน ตวั ชวี้ ัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง สำระกำรเรียนรทู้ อ้ งถนิ่ ส 1.1 รู้ และเข้าใจ 1. บอกความสาคญั พระพทุ ธศาสนาเป็น ประวัติ ความสาคญั ของพระพุทธศาสนา เอกลักษณ์ของ ชาติไทย ศาสดา หลักธรรมของ หรือศาสนาทตี่ นนบั พระพทุ ธศาสนาหรอื ถือ ศาสนา ท่ีตนนบั ถอื และ 2. สรุปพุทธประวัติ สรปุ พุทธประวตั ิ ศาสนาอ่ืน มศี รทั ธาที่ ต้ังแต่ประสูตจิ นถงึ ถกู ต้อง ยึดมัน่ และปฏบิ ตั ิ การออกผนวชหรอื ประสตู ิ ตามหลกั ธรรมเพอื่ อยู่ ประวัตศิ าสดาที่ตน - เหตกุ ารณห์ ลงั ประสูติ ร่วมกนั อย่างสนั ตสิ ขุ นับถือตามท่ีกาหนด - แรกนาขวญั - การศกึ ษา - การอภิเษกสมรส - เทวทตู 4 - การออกผนวช 3. ชืน่ ชมและบอก พุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า แบบอยา่ งการดาเนนิ - สามเณรราหุล ชีวติ และข้อคิดจาก ชาดก ประวัตสิ าวก ชาดก/ - วรณุ ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนิก - วานรินทชาดก ชนตวั อย่างตามท่ี ศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง กาหนด - สมเดจ็ พระญาณสังวร (ศขุ ไก่เถื่อน) - สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสงั ฆราช (เจรญิ สวุ ฑฺฒโน)
๒๓ มำตรฐำน ตัวชี้วดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง สำระกำรเรียนรทู้ อ้ งถนิ่ 4. บอกความหมาย พระรัตนตรยั ความสาคญั และ - ศรทั ธา เคารพพระรัตนตรยั โอวาท 3 ปฏบิ ตั ติ ามหลักธรรม - ไม่ทาชัว่ โอวาท 3 ใน : เบญจศลี พระพุทธศาสนา - ทาความดี หรือหลักธรรมของ : เบญจธรรม ศาสนาที่ตน : หริ ิ-โอตตัปปะ นบั ถือตามท่ีกาหนด : สังคหวตั ถุ 4 : ฆราวาสธรรม 4 : กตัญญูกตเวทีตอ่ ครู อาจารย์ และโรงเรยี น : มงคล 38 - กตัญญู - สงเคราะห์ญาตพิ ่ี นอ้ ง - ทาจิตให้บริสทุ ธิ์ (บรหิ ารจิตและเจรญิ ปญั ญา) พทุ ธศาสนสุภาษิต - นิมิตฺต สาธรุ ูปาน กตเวทติ า ความกตญั ญ กตเวทีเป็นเครื่องหมาย ของคนดี - พฺรหมฺ าติ มาตาปติ โร มารดาบิดาเป็นพรหมของบตุ ร 5. ช่ืนชมการทา ตัวอยา่ งการกระทาความ ความดีของตนเอง ดีของตนเองและบคุ คลใน บุคคลในครอบครวั ครอบครวั ในโรงเรยี น และ ในชมุ ชน โรงเรียนและชมุ ชน ตามหลักศาสนา พร้อมท้งั บอกแนว ปฏบิ ตั ิในการดาเนนิ ชีวิต
๒๔ มำตรฐำน ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง สำระกำรเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ 6. เหน็ คณุ คา่ และ ฝกึ สวดมนต์ไหวพ้ ระและ สวดมนต์ แผ่เมตตา แผ่เมตตา มสี ตทิ เ่ี ป็นพ้ืนฐาน ของสมาธใิ น - รคู้ วามหมายและ พระพุทธศาสนา ประโยชน์ของสตแิ ละสมาธิ หรอื การพฒั นาจติ ตามแนวทางของ - ฝกึ สมาธเิ บือ้ งตน้ ศาสนาที่ตนนับถอื - ฝึกสติเบ้ืองต้นด้วย ตามทก่ี าหนด กจิ กรรมการเคลือ่ นไหวอย่างมี สติ - ฝกึ ใหม้ ีสมาธใิ นการฟัง การอ่าน การคดิ การถาม และการเขยี น 7. บอกช่ือศาสนา ชอ่ื ศาสนา ศาสดา และ ศาสดา และ คัมภีรข์ องศาสนาตา่ ง ๆ ความสาคญั ของ - พระพทุ ธศาสนา คมั ภีรข์ องศาสนาที่ : ศาสดา : พระพุทธเจ้า : คัมภีร์ : พระไตรปิฎก ตนนับถือและศาสนา - ศาสนาอสิ ลาม : ศาสดา : มุฮมั มดั อ่นื ๆ : คัมภีร์ : อัลกรุ อาน - ครสิ ตศ์ าสนา : ศาสดา : พระเยซู : คัมภีร์ : ไบเบิล - ศาสนาฮินดู : ศาสดา : ไมม่ ีศาสดา : คมั ภรี ์ : พระเวท พราหมณะ อุปนษิ ทั อารณั ยกะ
๒๕ มำตรฐำน ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง สำระกำรเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนกั 1. ปฏบิ ัตติ นอย่าง การฝึกปฏบิ ตั มิ รรยาท และปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนิก เหมาะสมตอ่ สาวก ชาวพทุ ธ ชนท่ดี ี และธารงรกั ษา ของศาสนาท่ตี น นบั - การพนมมือ พระพทุ ธศาสนาหรอื ถือ ตามที่กาหนดได้ - การไหว้ ศาสนาที่ตน ถูกต้อง - การกราบ นับถอื - การน่งั - การยนื การเดนิ 2. ปฏบิ ัติตนในศาสน การเข้ารว่ มกจิ กรรมและ พิธี พธิ กี รรม และวัน พิธกี รรม ท่ี สาคญั ทางศาสนา เก่ยี วเนอื่ งกับวันสาคญั ทาง ตามทก่ี าหนดได้ พุทธศาสนา - ระเบียบพธิ ีการบชู าพระ รัตนตรัย - การทาบญุ ตักบาตร
๒๖ สำระท่ี 2 หน้ำทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรมและกำรดำเนินชวี ติ ในสังคม มำตรฐำน ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง สำระกำรเรยี นร้ทู ้องถน่ิ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติ 1. ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลง กติกา กฎ ตนตามหน้าท่ขี องการเป็น ข้อตกลง กติกา กฎ ระเบยี บ หนา้ ท่ีที่ตอ้ งปฏิบตั ิ พลเมอื งดี มคี ่านยิ มทด่ี ี ระเบยี บและหนา้ ทีท่ ่ี ในครอบครวั โรงเรยี น งามและธารงรักษา ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ น ประเพณีและวฒั นธรรมไทย สถานท่ีสาธารณะ เช่น ดารงชวี ติ อยรู่ ว่ มกันใน ชีวติ ประจาวนั โรงภาพยนตร์ โบราณสถาน สังคมไทยและสงั คมโลก อยา่ งสันตสิ ุข ฯลฯ 2. ปฏบิ ตั ิตนตนตาม กริ ิยามารยาทไทยเก่ียวกบั มารยาทไทย ความเคารพ การยืน การ เดนิ การนงั่ การพดู การ ทักทาย การรับประทาน 3. แสดงพฤตกิ รรม การยอมรบั ความแตกตา่ ง ของคนในสังคม ในเรอ่ื ง ในการยอมรับ ความคิด ความเชอื่ ความคดิ ความเชอื่ ความสามารถและการปฏิบตั ิ และการปฏิบัติของ ตนของบุคคลอื่นท่ี แตกต่าง บุคคลอื่นทแ่ี ตกต่าง กัน เช่น กนั โดยปราศจากอคติ - บุคคลยอ่ มมีความคดิ ทมี่ ี เหตผุ ล - การปฏิบตั ิตนตาม พิธกี รรมตามความ เชื่อของ บุคคล - บุคคลย่อมมีความสามารถ แตกต่างกนั - ไม่พูดหรือแสดงอาการดู ถูกรังเกียจผู้อน่ื ในเรอื่ งของ รูปร่างหนา้ ตา สผี ม สีผิว ที่ แตกตา่ งกัน
๒๗ มำตรฐำน ตัวช้วี ัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรูท้ อ้ งถนิ่ 4. เคารพในสทิ ธิ ส 2.2 เข้าใจระบบ เสรภี าพของผู้อน่ื สทิ ธิและเสรภี าพของตนเอง การเมอื งการปกครองใน และผอู้ น่ื เชน่ สงั คมปจั จุบนั ยึดมั่น 1. อธิบาย ศรัทธาและธารงรกั ษา ความสมั พันธข์ อง - เสรีภาพในการแสดงความ ไวซ้ ง่ึ การปกครองระบอบ ตนเอง และสมาชกิ คิดเหน็ ประชาธิปไตยอนั มี ในครอบครวั ใน พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ฐานะเป็นสว่ นหนง่ึ - สทิ ธิ เสรภี าพในชวี ิตและ ประมขุ ของชุมชน รา่ งกาย - สิทธใิ นทรัพย์สนิ ความสัมพนั ธ์ของตนเอง และสมาชิกในครอบครวั กับ ชุมชน เช่น การชว่ ยเหลอื กจิ กรรมของชมุ ชน 2. ระบผุ มู้ บี ทบาท ผู้มีบทบาท อานาจในการ อานาจในการ ตัดสนิ ใจ ในโรงเรียน และชุมชน ตัดสนิ ใจในโรงเรยี น เชน่ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ผ้นู า ท้องถน่ิ กานัน ผใู้ หญ่บา้ น และชุมชน สำระท่ี 3 เศรษฐศำสตร์ มำตรฐำน ตวั ช้วี ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ ส 3.1 เข้าใจและสามารถ 1. ระบทุ รัพยากรที่ ทรัพยากรท่ีนามาใช้ในการ บริหารจดั การทรพั ยากรใน นามาผลิตสินคา้ และ ผลติ สนิ คา้ และบริการท่ีใช้ใน การผลติ และการบรโิ ภค บริการท่ใี ชใ้ น ครอบครัวและโรงเรยี น เชน่ การใชท้ รัพยากร ท่มี อี ยู่ ชีวติ ประจาวนั ดินสอและกระดาษท่ผี ลิตจาก จากดั ได้อยา่ งมี ไม้ รวมทั้งเครอื่ งจักรและ ประสทิ ธิภาพและค้มุ คา่ แรงงานการผลติ รวมทงั้ เขา้ ใจหลกั การของ ผลของการใชท้ รพั ยากรใน เศรษฐกจิ พอเพยี งเพื่อการ การผลติ ทห่ี ลากหลายท่มี ีตอ่ ดารงชวี ิตอยา่ งมดี ุลยภาพ ราคา คณุ คา่ และประโยชน์ ของสินคา้ และบรกิ าร รวมทงั้ สิง่ แวดลอ้ ม
๒๘ มำตรฐำน ตัวชีว้ ัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง สำระกำรเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ 2. บอกที่มาของ การประกอบอาชพี ของ - จัดทาบันทกึ รายรบั รายได้และรายจา่ ย รายจ่ายของตนเอง ของตนเองและ ครอบครัว ตระหนักในการใช้ ครอบครัว การแสวงหารายไดท้ ่ีสจุ รติ ทรัพยากรในชมุ ชนอย่าง 3. บนั ทึกรายรับ และเหมาะสม ประหยดั ตามหลกั ปรัชญา รายจ่ายของตนเอง รายได้และรายจา่ ยใน เศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. สรปุ ผลดขี องการ ภาพรวมของครอบครวั ใช้จ่ายท่เี หมาะสมกบั รายไดแ้ ละรายจา่ ยของ รายไดแ้ ละการออม ตนเอง วธิ ีการทาบญั ชีรายรับ - รายจา่ ยของตนเองอยา่ งงา่ ย ๆ รายการของรายรับท่เี ปน็ รายไดท้ ่เี หมาะสม และไม่ เหมาะสม รายการของรายจ่ายที่ เหมาะสมและไมเ่ หมาะสม ท่มี าของรายได้ที่สจุ รติ การใชจ้ ่ายทเ่ี หมาะสม ผลดขี องการใชจ้ ่ายท่ี เหมาะสมกับรายได้ การออมและผลดีของการ ออม การนาเงนิ ทอี่ อมมาใช้ให้ เกดิ ประโยชน์ เชน่ การ ช่วยเหลอื สาธารณกศุ ล
๒๙ มำตรฐำน ตัวชวี้ ัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง สำระกำรเรยี นร้ทู อ้ งถน่ิ ส 3.2 เขา้ ใจระบบและ 1. อธบิ ายการ ความหมายและ สถาบันทางเศรษฐกิจตา่ ง แลกเปลย่ี นสินคา้ ความสาคัญของการ ๆ ความสมั พันธ์ทาง และบริการโดยวธิ ี แลกเปลี่ยนสนิ ค้าและบริการ เศรษฐกิจและความจาเปน็ ตา่ ง ๆ ลกั ษณะของการ ของการรว่ มมือกนั ทาง แลกเปล่ียนสินค้าและบรกิ าร เศรษฐกจิ ในสังคมโลก โดยไม่ใช้เงนิ รวมทัง้ การ แบง่ ปนั การชว่ ยเหลอื ลักษณะการแลกเปลี่ยน สนิ ค้าและบรกิ ารโดยการใช้ เงนิ 2. บอกความสัมพันธ์ ความหมายและบทบาท ระหวา่ งผซู้ อื้ และ ของผู้ซอื้ และผู้ขาย ผู้ผลิต ผขู้ าย และผบู้ ริโภคพอสังเขป ความสัมพนั ธ์ระหว่างผูซ้ ้อื และผู้ขายในการกาหนดราคา สนิ ค้าและบรกิ าร ความสัมพนั ธร์ ะหว่างผซู้ ้อื และผู้ขายทาใหส้ ังคมสงบสขุ และประเทศมนั่ คง
๓๐ สำระท่ี 5 ภูมศิ ำสตร์ ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง สำระกำรเรยี นรู้ท้องถนิ่ มำตรฐำน 1. ระบสุ งิ่ ตา่ ง ๆ ที่ สิง่ ต่าง ๆ ทเ่ี ป็นธรรมชาติ เป็นธรรมชาติกับที่ กบั ท่มี นษุ ย์สรา้ งขึน้ ซ่งึ ส 5.1 เขา้ ใจลักษณะของ มนุษย์สรา้ งขนึ้ ซึ่ง ปรากฏระหวา่ งโรงเรียนกบั โลกทางกายภาพ และ ปรากฏระหวา่ ง บ้าน ความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิง โรงเรยี นกับบ้าน ซึ่งมผี ลตอ่ กนั และกัน ใน ระบบของธรรมชาติ ใช้ 2. ระบตุ าแหน่ง ตาแหนง่ อยา่ งงา่ ยและ แผนทีแ่ ละเครอ่ื งมือทาง อย่างง่ายและ ลกั ษณะทางกายภาพของสงิ่ ตา่ งๆ ภมู ิศาสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใช้ ลักษณะทางกายภาพ ที่ปรากฏในลกู โลก แผนท่ีแผนผงั ขอ้ มูลภูมิสารสนเทศอยา่ ง ของสิ่งต่างๆ ที่ และภาพถ่ายเช่น ภูเขา มีประสทิ ธภิ าพ ปรากฏในลกู โลก ทีร่ าบ แมน่ า้ ตน้ ไม้ อากาศ แผนท่ี แผนผัง และ ทะเล ภาพถา่ ย 3. อธบิ าย ความสัมพันธข์ อง ความสัมพนั ธ์ของ ปรากฏการณ์ระหว่างโลก ปรากฏการณ์ระหวา่ ง ดวงอาทติ ยแ์ ละดวงจนั ทร์ โลก ดวงอาทิตย์และ เช่น ข้างขนึ้ ข้างแรม ฤดกู าล ตา่ งๆ ดวงจันทร์ 1. อธิบาย คณุ ค่าของส่งิ แวดลอ้ มทาง - ความสาคญั และเห็น ธรรมชาติ เชน่ ในการ คณุ ค่าของสง่ิ แวดล้อมใน ความสาคัญและ ประกอบอาชพี ทอ้ งถ่นิ คุณค่า ของ สงิ่ แวดลอ้ มทาง คณุ ค่าของสิง่ แวดลอ้ มทาง ธรรมชาติและ สังคม เชน่ สิ่งปลกู สรา้ งเพ่ือ ทางสงั คม การดารงชพี 2. แยกแยะและใช้ ความหมายของ ทรพั ยากรธรรมชาติท่ี ทรัพยากรธรรมชาติ ใชแ้ ลว้ ไมห่ มดไปและ ประเภททรพั ยากรธรรมชาติ ที่ใชแ้ ลว้ หมดไปได้ อย่างคุ้มคา่ - ใช้แล้วหมดไป เชน่ แร่ - ใชแ้ ล้วมีการเกิดขน้ึ มา
๓๑ มำตรฐำน ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง สำระกำรเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ - ใช้แล้วไม่หมด เช่น บรรยากาศ น้า - ใชแ้ ล้วมีการเกดิ ข้ึนมา ทดแทนหรอื รักษาไว้ได้ เช่น ดนิ ปา่ ไม้ สัตว์ป่า - วธิ ใี ช้ทรพั ยากรอยา่ งคุ้มค่า 3. อธบิ าย ความสัมพันธข์ องฤดูกาล ความสมั พนั ธ์ของ กับการดาเนินชีวิตของมนุษย์ ฤดูกาลกบั การดาเนิน ชีวิตของมนษุ ย์ 4. มสี ว่ นรว่ มในการ การเปลี่ยนแปลงของ ฟนื้ ฟปู รับปรงุ ส่งิ แวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ มใน การรกั ษาและฟืน้ ฟู โรงเรียนและชมุ ชน ส่งิ แวดลอ้ ม
๓๒ โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 2 เวลำ ๘0 ชวั่ โมง/ปี รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม รหสั วชิ ำ ส 12101 หนว่ ยท่ี ช่อื หนว่ ย มำตรฐำนกำร สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนัก 1 ศาสนา เรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน ศลี ธรรม ส 1.1 ป.2/1 - พระพุทธศาสนาเป็นเอกลกั ษณ์ (100 ) จริยธรรม ส 1.1 ป.2/2 ของชาติไทย ๑๕ ส 1.1 ป.2/3 - สรุปพทุ ธประวัติ ๑๕ 2 หน้าทีพ่ ลเมอื ง ส 1.1 ป.2/4 - ประสตู ิ 1๐ วัฒนธรรมและ ส 1.1 ป.2/5 - พุทธสาวก พุทธสาวกิ า 10 การดาเนนิ ชวี ติ ส 1.1 ป.2/6 - ชาดก ในสงั คม ส 1.1 ป.2/7 - ศาสนกิ ชนตวั อย่าง ส 1.2 ป.2/1 - พระรัตนตรยั ส 1.2 ป.2/2 - โอวาท 3 - พทุ ธศาสนสภุ าษิต ส 2.1 ป.2/1 - ยกตัวอยา่ งการกระทาความดี ส 2.1 ป.2/2 - ฝึกสวดมนตไ์ หวพ้ ระและแผ่ ส 2.1 ป.2/3 เมตตา ส 2.1 ป.2/4 - ช่อื ศาสนา ศาสดา และคัมภีร์ ส 2.2 ป.2/1 ของศาสนาตา่ ง ๆ ส 2.2 ป.2/2 - การฝกึ ปฏิบตั ิมรรยาทชาวพุทธ - การเข้ารว่ มกจิ กรรมและ พธิ กี รรมทเ่ี กยี่ วเนอื่ งกับวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา - ข้อตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บ หนา้ ที่ ทต่ี ้องปฏบิ ัตใิ นครอบครัว โรงเรียน สถานท่สี าธารณะ - กริ ยิ ามารยาทไทยเกี่ยวกบั ความ เคารพ การยนื การเดิน การนง่ั การพูด การทักทาย การแต่งกาย - ความสัมพันธข์ องตนเองและ สมาชิกในครอบครวั กบั ชุมชน - ผู้มบี ทบาท อานาจในการ ตัดสนิ ใจในโรงเรียนและชมุ ชน
๓๓ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ เวลำ น้ำหนกั 3 เศรษฐศาสตร์ / ตวั ชว้ี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน ( 100 ) ส 3.1 ป.2/1 - ทรัพยากรทน่ี ามาใชใ้ นการผลิต ๑๐ ๑๓ ส 3.1 ป.2/2 สินคา้ และบรกิ ารทใ่ี ชใ้ นครอบครวั ส 3.1 ป.2/3 และโรงเรียน ส 3.1 ป.2/4 - ผลของการใชท้ รัพยากรในการ ส 3.2 ป.2/1 ผลติ ท่ีหลากหลายทีม่ ตี อ่ ราคา ส 3.2 ป.2/1 คณุ คา่ และประโยชน์ของสนิ คา้ และบรกิ ารรวมทง้ั สงิ่ แวดลอ้ ม - การประกอบอาชพี ของ ครอบครัว - การแสวงหารายได้ทสี่ ุจรติ และ เหมาะสม - รายได้และรายจา่ ยในภาพรวม ของครอบครวั - รายได้และรายจ่ายของตนเอง - วธิ กี ารทาบัญชรี ายรับ – รายจา่ ยของตนเองอย่างงา่ ย ๆ - รายการของรายรบั ทเี่ ปน็ รายได้ ทเ่ี หมาะสมและไม่เหมาะสม - รายการของรายจา่ ยทเ่ี หมาะสม และไมเ่ หมาะสม - ท่ีมาของรายได้ทสี่ จุ ริต การใชจ้ ่ายทเ่ี หมาะสม - ผลดีของการใชจ้ ่ายทเี่ หมาะสม กับกบั รายได้ - การออมและผลดีของการออม - ลักษณะการแลกเปลยี่ นสนิ คา้ และบริการโดยการใชเ้ งนิ - ความหมายและบทบาทของผู้ ซ้อื และผ้ขู าย ผู้ผลิตและผบู้ รโิ ภค พอสงั เขป - ความสัมพันธ์ระหวา่ งผซู้ ้ือและ ผู้ขายในการกาหนดราคาสนิ ค้าและ บรกิ าร
๓๔ หน่วยท่ี ช่ือหนว่ ย มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนกั 4 / ตวั ชว้ี ัด (ช่วั โมง) คะแนน 5 ( 100 ) - ความสัมพนั ธ์ระหว่างผซู้ ือ้ และ 5 6 ผู้ขายทาให้สังคมสงบสขุ และ 22 ๑๒ ประเทศม่ันคง 15 5 สรปุ ทบทวนภำพรวม (สอบปลำยภำคเรียนท่ี 1) 80 20 100 ภมู ิศาสตร์ ส 5.1 ป.2/1 - สิง่ ต่าง ๆ ทีเ่ ป็นธรรมชาติ กบั ท่ี ส 5.1ป.2/2 มนษุ ย์สร้างขึน้ ซ่งึ ปรากฏระหวา่ ง ส 5.1 ป.1/3 โรงเรยี นกับบา้ น ส 5.2 ป.1/1 - ตาแหน่งอย่างงา่ ยและลกั ษณะ ส 5.2 ป.1/2 ทางกายภาพของสง่ิ ต่าง ๆ ที่ ส 5.2 ป.1/3 ปรากฏในลูกโลก แผนที่ แผนผัง ส 5.2 ป.1/4 และภาพถ่าย - ความสมั พนั ธ์ของปรากฏการณ์ ระหวา่ งโลก ดวงอาทติ ย์ และดวง จนั ทร์ - คุณค่าของส่ิงแวดล้อมทาง ธรรมชาติ - คณุ คา่ ของส่งิ แวดลอ้ มทางสังคม - ความสาคญั และเหน็ คุณคา่ ของ สิ่งแวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ - ความหมายของ ทรัพยากรธรรมชาติ - ประเภทของ ทรัพยากรธรรมชาติ - ความสมั พนั ธ์ของฤดกู าลกบั การ ดาเนนิ ชวี ิตของมนษุ ย์ - การเปล่ยี นแปลงของ สิ่งแวดลอ้ ม - การรักษาฟน้ื ฟูสิ่งแวดลอ้ ม สรุปทบทวนภำพรวม(สอบปลำยภำคเรยี นที่ 2 ) รวมทั้งส้นิ ตลอดปี
๓๕ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน ส 1๓101 สงั คมศกึ ษำ ๓ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เวลำ 80 ชวั่ โมง อธิบายความสาคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะที่เป็นรากฐานสาคัญของ วัฒนธรรมไทยสรุปพุทธประวัติต้ังแต่การบาเพ็ญเพียรจนถึงปรินิพพาน หรือประวัติของศาสดาที่ตนนับถือ ตามท่ีกาหนด บอกความหมาย ความสาคัญของพระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาที่ตนนับถือ บอกช่ือ ความสาคัญของศาสนวัตถุศาสนสถาน และศาสนบุคคลของศาสนาอ่ืนๆ สรุปประโยชน์และปฏิบัติตนตาม ประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัวและท้องถ่ินเช่นประเพณีสงกรานต์ บอกพฤติกรรมการดาเนินชีวิตของ ตนเอง และผู้อื่นท่ีอยู่ในกระแสวัฒนธรรมท่ีหลากหลายอธิบายความสาคัญของวันหยุดราชการที่สาคัญ วิเคราะห์ความแตกต่างของกระบวนการการตัดสินใจในช้ันเรียน /โรงเรียนและชุมชนโดยวิธีการออกเสียง โดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสียง ระบุบทบาทหน้าท่ีของสมาชิกของชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรม ต่าง ๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย เช่น สมาชิกสภาเทศบาล นายกเทศมนตรี สมาชิกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในชุมชน จาแนกความต้องการและความจาเป็นในการใช้สินค้าและ บริการในการดารงชีวิตอธิบายได้ว่าทรัพยากรท่ีมีอยู่จากัดมีผลต่อการผลิตและบริโภคสินค้าและบริการบอก สนิ ค้าและบริการท่รี ัฐจัดหาและให้บริการแก่ประชาชนบอกความสาคัญของภาษีและบทบาทของประชาชนใน การเสียภาษีอธบิ ายเหตุผลการแข่งขันทางการค้า ที่มีผลทาให้ราคาสินค้าลดลงบอกความสัมพันธ์ของลักษณะ กายภาพกับลักษณะทางสังคมของชุมชนอธิบายการใช้ประโยชน์จากส่ิงแวดล้อมในการดาเนินชีวิตของมนุษย์ เช่น การคมนาคม บ้านเรือนและการประกอบอาชีพในชุมชน อธิบายการประกอบอาชีพที่เป็นผลมาจาก สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาตใิ นชุมชน อธบิ ายความหมายและประเภทของมลพษิ และสาเหตขุ องการเกิดมลพษิ ท่ี เกิดจากการกระทาของมนุษย์ อธิบายความแตกต่างของลักษณะของเมืองและชนบท อธิบายความสัมพันธ์ ระหวา่ งภูมิประเทศและภูมอิ ากาศท่มี ีผลต่อการดาเนินชีวิตของคนในชมุ ชน อธบิ ายผลกระทบการเปล่ียนแปลง ส่งิ แวดลอ้ มทีม่ ีต่อชมุ ชน การมสี ว่ นรว่ มในการจัดการส่งิ แวดลอ้ มในชมุ ชน ใช้กระบวนการสังเกต วิเคราะห์ แยกแยะ อธิบาย บอก ระบุ และแสดงความเคารพพระ รัตนตรัย และปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือตามท่ี กาหนด ปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมต่อศาสนวัตถุศาสนสถาน และศาสนบุคคลของศาสนาอื่นๆปฏิบัติตน อย่างเหมาะสมต่อสาวก ศาสนสถาน ศาสนวัตถุของศาสนาท่ีตนนับถือ ตามที่กาหนดได้ถูกต้องแสดงตนเป็น พทุ ธมามกะ หรือแสดงตนเป็น ศาสนิกชนของศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏิบตั ติ นตามประเพณีและวฒั นธรรมใน ครอบครัวและท้องถิ่น ยกตัวอย่างบุคคลซ่ึงมีผลงานที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนและท้องถิ่นของตน เช่น สมาชิก สภาเทศบาล นายกเทศมนตรี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในชุมชน ยกตัวอย่างการเปล่ียนแปลงในช้ันเรียน/โรงเรียนและชุมชนที่เป็นผลจากการตัดสินใจของบุคคลและกลุ่ม วิเคราะห์การใช้จ่ายของตนเอง สารวจข้อมูลทางภูมิศาสตร์ในโรงเรียนและชุมชน โดยวาดแผนผัง แผนท่ี และรูปถ่ายเพ่ือแสดงความสัมพันธ์ของตาแหน่ง ระยะ ทิศทาง และแสดงตาแหน่งที่ตั้งของสถานท่ีสาคัญใน บริเวณโรงเรียนและชุมชน เช่น สถานที่ราชการ ตลาด โรงพยาบาล ไปรษณีย์เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง ส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทีม่ นษุ ยส์ รา้ งข้นึ ของชมุ ชนในอดตี กบั ปจั จุบัน
๓๖ ตระหนัก เห็นคุณค่าและชื่นชม แบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เรื่อง เล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง ตามที่กาหนดการสวดมนต์ แผ่เมตตา การมีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิใน พระพุทธศาสนา หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนดการปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวนั สาคญั ทางศาสนา ตามท่ีกาหนดได้ รหัสตัวช้ีวัด ส 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7 ส 1.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 ส 2.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 3.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 5.1 ป.3/1, ป.3/2 ส 5.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6 รวมท้งั หมด 31 ตวั ช้ีวดั
๓๗ ตัวช้วี ดั และสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 3 สำระท่ี 1 ศำสนำ ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มำตรฐำน ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง สำระกำรเรยี นร้ทู ้องถน่ิ ส 1.1 รู้ และเข้าใจ 1. อธบิ ายความสาคัญ ความสมั พันธ์ของ ประวตั ิ ความสาคัญ ของพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนากบั การดาเนิน ศาสดา หลักธรรมของ หรือศาสนาท่ีตนนบั ชีวติ ประจาวัน เช่น พระพุทธศาสนาหรอื ถือ ในฐานะท่เี ป็น การสวดมนต์ การทาบญุ ใส่ ศาสนา ทตี่ นนับถือและ รากฐานสาคญั ของ บาตร การแสดงความเคารพ วฒั นธรรมไทย ศาสนาอ่นื มศี รทั ธาที่ การใชภ้ าษา ถกู ตอ้ ง ยดึ มนั่ และปฏบิ ตั ิ ตามหลักธรรมเพอ่ื อยู่ พระพทุ ธศาสนามอี ิทธิพล ร่วมกนั อย่างสันตสิ ขุ ตอ่ การสรา้ งสรรค์ผลงานทาง วัฒนธรรมไทยอนั เกิดจาก ความศรัทธา เชน่ วัด ภาพวาด พระพุทธรปู วรรณคดี สถาปตั ยกรรมไทย 2. สรปุ พุทธประวตั ิ สรุปพทุ ธประวัติ (ทบทวน) ต้งั แตก่ ารบาเพญ็ - การบาเพญ็ เพยี ร เพียรจนถงึ - ผจญมาร ปรินิพพาน หรอื - ตรัสรู้ ประวัตขิ องศาสดาท่ี - ปฐมเทศนา ตนนบั ถือตามที่ - ปรนิ พิ พาน กาหนด 3. ชืน่ ชมและบอก พุทธสาวก พุทธสาวิกา แบบอย่างการดาเนนิ - สามเณรสงั กิจจะ ชวี ติ และข้อคดิ จาก ชาดก ประวตั สิ าวก ชาดก/ - อารามทูสกชาดก เรอ่ื งเลา่ และศาสนกิ - มหาวาณชิ ชาดก ชนตัวอย่าง ตามท่ี • ศาสนกิ ชนตัวอย่าง กาหนด - สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (โต พฺรหมฺ รส)ี - สมเดจ็ พระเจ้าตากสิน มหาราช
๓๘ มำตรฐำน ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรู้ท้องถน่ิ 4. บอกความหมาย ความสาคัญของ ความสาคญั ของ พระไตรปิฎก เชน่ เป็นแหล่ง พระไตรปฎิ ก หรอื อา้ งอิง ของหลักธรรมคาสอน คมั ภีรข์ องศาสนาท่ี ตนนับถอื 5. แสดงความเคารพ พระรตั นตรัย พระรตั นตรยั และ - ศรทั ธา ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรม โอวาท 3 โอวาท 3 ใน - ไมท่ าชว่ั พระพทุ ธศาสนา หรอื : เบญจศลี หลกั ธรรมของศาสนา - ทาความดี ท่ีตนนบั ถือตามที่ : เบญจธรรม กาหนด : สต-ิ สมั ปชัญญะ : สงั คหวัตถุ 4 : ฆราวาสธรรม 4 : อัตถะ 3 (อัตตตั ถะ, ปรตั ถะ, อภุ ยัต ถะ) : กตญั ญูกตเวทีตอ่ ชมุ ชน, สง่ิ แวดลอ้ ม : มงคล 38 - รจู้ กั ให้ - พดู ไพเราะ - อยใู่ น สิ่งแวดลอ้ มท่ีดี - ทาจติ ใหบ้ ริสุทธิ์ (บรหิ าร จิตและเจรญิ ปญั ญา) พทุ ธศาสนสุภาษติ - ททมาโน ปิโย โหติ ผใู้ หย้ อ่ มเปน็ ทีร่ กั
๓๙ มำตรฐำน ตัวชว้ี ดั สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง สำระกำรเรียนรูท้ อ้ งถนิ่ 6. เห็นคณุ คา่ และ - โมกฺโข กลยฺ าณยิ า สาธุ สวดมนต์ แผเ่ มตตา เปล่งวำจำไพเรำะใหส้ ำเร็จ มีสตทิ ี่เป็นพนื้ ฐาน ประโยชน์ ของสมาธใิ น พระพทุ ธศาสนา ฝึกสวดมนต์ ไหว้พระ หรือการพัฒนาจติ สรรเสรญิ คณุ พระรตั นตรยั ตามแนวทางของ และแผเ่ มตตา ศาสนาทต่ี นนับถือ ตามที่กาหนด - รคู้ วามหมายและ ประโยชน์ของสตแิ ละสมาธิ - รปู้ ระโยชนข์ องการฝกึ สติ - ฝกึ สมาธิเบอื้ งต้นดว้ ยการ นบั ลมหายใจ - ฝกึ การยนื การเดิน การ น่งั และ การนอน อยา่ งมีสติ - ฝึกใหม้ ีสมาธใิ นการฟัง การ อ่าน การคดิ การถาม และ การเขยี น 7. บอกชอ่ื ชอื่ และความสาคญั ของ ความสาคญั และ ศาสนวัตถุ ศาสนสถานและ ปฏบิ ตั ิตน ได้อยา่ ง ศาสนบุคคลใน เหมาะสมตอ่ พระพุทธศาสนา ศาสนา อิสลาม คริสต์ศาสนา ศาสนวตั ถุ ศาสนาฮินดู ศาสนสถาน และศาสนบุคคลของ การปฏิบัติตนทเ่ี หมาะสม ศาสนาอ่ืน ๆ ต่อศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคลในศาสนา อน่ื ๆ
๔๐ มำตรฐำน ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง สำระกำรเรยี นร้ทู อ้ งถนิ่ ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนัก 1. ปฏบิ ัติตนอยา่ ง ฝกึ ปฏบิ ตั ิมรรยาทชาวพทุ ธ และปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนิก เหมาะสมตอ่ สาวก - การลุกขึ้นยนื รบั ชนท่ีดี และธารงรกั ษา ศาสนสถาน - การตอ้ นรบั พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนวตั ถุของ - การรบั – สง่ ส่ิงของแก่ ศาสนาท่ตี นนับถือ ศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามท่ีกาหนดได้ พระภกิ ษุ ถูกตอ้ ง - มรรยาทในการสนทนา - การสารวมกิริยามารยาท การแตง่ กายท่ีเหมาะสมเมอื่ - อยู่ในวัดและพุทธสถาน - การดูแลรักษาศาสนวัตถุ และ ศาสนสถาน 2. เห็นคณุ คา่ และ ปฏิบตั ใิ นศาสนพธิ ี ปฏบิ ตั ิตนในศาสนพธิ ี - การอาราธนาศีล พิธีกรรม และวนั - การสมาทานศีล สาคญั ทางศาสนา - เครอ่ื งประกอบโตะ๊ หมู่ ตามทก่ี าหนดได้ บูชา การจดั โต๊ะหม่บู ชู า ถกู ตอ้ ง 3. แสดงตนเป็น ความเป็นมาของการแสดง พทุ ธมามกะ หรือ ตนเปน็ พุทธมามกะ แสดงตนเปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาท่ตี น การแสดงตนเปน็ นบั ถือ พทุ ธมามกะ - ขน้ั เตรยี มการ - ข้นั พิธีการ
๔๑ สำระที่ 2 หน้ำทพี่ ลเมอื ง วฒั นธรรมและกำรดำเนนิ ชวี ติ ในสงั คม มำตรฐำน ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง สำระกำรเรยี นรทู้ ้องถน่ิ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติ 1. สรปุ ประโยชน์ ประเพณแี ละวฒั นธรรมใน ตนตามหนา้ ท่ขี องการเปน็ พลเมอื งดี มคี ่านิยมทดี่ ี และปฏิบัติตนตาม ครอบครัว เช่น การแสดง งามและธารงรกั ษา ประเพณแี ละ ประเพณีและวัฒนธรรมไทย วฒั นธรรมใน ความเคารพและการเชอ่ื ฟัง ดารงชวี ิตอยรู่ ว่ มกันใน ครอบครัวและ ท้องถิ่น ผู้ใหญ่ การกระทากิจกรรม สังคมไทยและสงั คมโลก อยา่ งสนั ตสิ ุข รว่ มกัน ในครอบครวั ประเพณแี ละวฒั นธรรมใน ทอ้ งถิ่น เชน่ การเข้าร่วม ประเพณที างศาสนา ประเพณี เกย่ี วกับการดาเนนิ ชวี ิต ประโยชน์ของการปฏิบัติตน ตามประเพณีและวัฒนธรรม ในครอบครวั และทอ้ งถนิ่ 2. บอกพฤติกรรม พฤติกรรมของตนเองและ การดาเนินชวี ิตของ เพือ่ น ๆ ในชวี ิตประจาวนั ตนเอง และผอู้ ื่นทอ่ี ยู่ เช่น การทักทาย การทาความ ในกระแสวัฒนธรรม เคารพ การปฏบิ ตั ติ าม ศาสนพิธี การรบั ประทาน ที่หลากหลาย อาหาร การใชภ้ าษา (ภาษา ถนิ่ กบั ภาษาราชการ และ ภาษาอื่นๆ ฯลฯ ) สาเหตุทท่ี าใหพ้ ฤตกิ รรม การดาเนนิ ชวี ติ ในปจั จบุ ันของ นกั เรยี น และผู้อ่ืนแตกต่างกนั 3. อธิบาย วนั หยดุ ราชการท่สี าคญั ความสาคัญของ เชน่ วันหยุดราชการท่ี สาคัญ - วนั หยุดเกย่ี วกบั ชาติและ พระมหากษัตริย์ เช่น วันจกั รี วันรฐั ธรรมนูญ วนั ฉตั รมงคล วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา - วันหยดุ ราชการเกี่ยวกับ ศาสนา เช่น วันมาฆบชู า วนั วสิ าขบชู าวันอาสาฬหบูชา วนั เขา้ พรรษา
๔๒ มำตรฐำน ตัวชี้วดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง สำระกำรเรียนร้ทู ้องถน่ิ - วันหยดุ ราชการเก่ยี วกับ ประเพณีและวฒั นธรรม เช่น วนั สงกรานต์ วันพชื มงคล ส 2.2 เข้าใจระบบ 4. ยกตวั อยา่ งบุคคล บคุ คลท่ีมีผลงานเปน็ การเมอื งการปกครองใน ซง่ึ มผี ลงานทีเ่ ปน็ ประโยชน์แกช่ ุมชนและ ประโยชน์แก่ชมุ ชน ท้องถิน่ ของตน สังคมปัจจุบนั ยึดมน่ั และท้องถน่ิ ของตน ศรทั ธาและธารงรักษาไวซ้ ึง่ ลกั ษณะผลงานทเ่ี ป็น การปกครองระบอบ 1. ระบุบทบาท ประโยชน์แก่ชมุ ชนและ ประชาธิปไตยอนั มี หน้าท่ีของสมาชกิ ทอ้ งถิ่น พระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ของชมุ ชนในการมี - การเปลยี่ นแปลงในชมุ ชน ประมขุ ส่วนรว่ มในกิจกรรม เชน่ การเลอื กผู้ใหญ่บ้าน ต่าง ๆ ตาม กานนั สมาชกิ อบต. อบจ. กระบวนการ ประชาธิปไตย 2. วเิ คราะหค์ วาม แตกตา่ งของ กระบวนการการ ตดั สินใจในชัน้ เรยี น/ โรงเรยี นและชมุ ชน โดยวธิ กี ารออกเสยี ง โดยตรงและการเลอื ก ตัวแทนออกเสยี ง 3. ยกตัวอยา่ งการ เปลยี่ นแปลงในชนั้ เรยี น/โรงเรยี นและ ชมุ ชนทเี่ ปน็ ผลจาก การตัดสนิ ใจของ บคุ คลและกลุ่ม
๔๓ สำระที่ 3 เศรษฐศำสตร์ ตวั ชีว้ ัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง สำระกำรเรยี นรทู้ ้องถนิ่ 1. จาแนกความ มำตรฐำน ต้องการและความ สินคา้ ท่ีจาเป็นในการ จาเปน็ ในการใช้ ดารงชวี ิตท่ี เรยี กวา่ ปัจจัย 4 ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถ สนิ คา้ และบรกิ ารใน สินคา้ ท่ีเปน็ ความตอ้ งการ บริหารจดั การทรพั ยากรใน การดารง ชวี ิต ของมนุษยอ์ าจ เปน็ สนิ ค้าที่ การผลติ และการบรโิ ภค จาเปน็ หรอื ไมจ่ าเปน็ ต่อการ การใชท้ รพั ยากรทีม่ อี ยู่ 2. วิเคราะหก์ ารใช้ ดารงชวี ติ จากัดได้อยา่ งมี จ่ายของตนเอง ประโยชน์และคณุ คา่ ของ ประสิทธิภาพและคุ้มค่า สินคา้ และบริการ ทสี่ นอง รวมทั้งเข้าใจหลกั การของ ความตอ้ งการของมนษุ ย์ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เพือ่ หลกั การเลอื กสนิ คา้ ที่ การดารงชวี ิตอยา่ งมดี ลุ ย จาเปน็ ภาพ ใช้บญั ชรี ับจ่ายวเิ คราะห์ การใชจ้ ่ายที่จาเปน็ และ - วางแผนการใช้จ่ายของ เหมาะสม ตนเองและการใช้ วางแผนการใชจ้ า่ ยเงนิ ของ ทรพั ยากรในชมุ ชนอยา่ ง ตนเอง ประหยัดและคุ้มค่าตาม วางแผนการแสวงหา รายได้ที่สุจริตและเหมาะสม หลักปรชั ญาเศรษฐกิจ วางแผนการนาเงนิ ทเี่ หลอื พอเพยี ง จา่ ยมาใชอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. อธบิ ายไดว้ ่า ความหมายของผผู้ ลิตและ ทรัพยากรทมี่ ีอยู่ ผู้บริโภค จากดั มผี ลต่อการ ผลติ และบรโิ ภค ความหมายของสินค้าและ บริการ สินค้าและบริการ ปญั หาพน้ื ฐานทางเศรษฐกิจ ท่ีเกิดจากความ หายากของ ทรัพยากรกับความตอ้ งการของ มนษุ ย์ท่มี ไี มจ่ ากดั
๔๔ มำตรฐำน ตวั ชวี้ ัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรู้ท้องถน่ิ ส 3.2 เข้าใจระบบและ 1. บอกสินค้าและ สนิ คา้ และบริการที่ภาครฐั สถาบันทางเศรษฐกจิ ตา่ ง บริการทรี่ ัฐจดั หาและ ทกุ ระดบั จัดหาและให้บรกิ าร ๆ ความสมั พันธ์ทาง ใหบ้ รกิ ารแก่ เศรษฐกจิ และความจาเป็น แก่ประชาชน เชน่ ถนน ของการรว่ มมือกันทาง ประชาชน เศรษฐกิจในสังคมโลก โรงเรยี น สวนสาธารณะ การ สาธารณสขุ การบรรเทาสา ธารณภยั 2. บอกความสาคัญ ความหมายและ ของภาษีและบทบาท ของประชาชนในการ ความสาคัญของภาษที ี่รฐั เสียภาษี นามาสรา้ งความเจริญและ ใหบ้ ริการแก่ประชาชน ตวั อยา่ งของภาษี เช่นภาษี รายไดบ้ คุ คลธรรมดา ภาษีมลู คา่ เพ่ิม ฯลฯ บทบาทหน้าที่ของ ประชาชนในการเสยี ภาษี 3. อธบิ ายเหตุผลการ ความสาคัญและผลกระทบ แขง่ ขนั ทางการคา้ ท่ี ของการแขง่ ขันทางการคา้ ทีม่ ี มผี ลทาให้ราคาสนิ ค้า ผลทาใหร้ าคาสนิ ค้าลดลง ลดลง สำระที่ 5 ภมู ศิ ำสตร์ มำตรฐำน ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง สำระกำรเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ส 5.1 เข้าใจลักษณะของ 1. ใชแ้ ผนที่ แผนผงั แผนที่ แผนผัง และ โลกทางกายภาพ และ และภาพถา่ ยในการ ภาพถ่าย ความสมั พนั ธ์ของสรรพสิง่ ซ่งึ มีผลต่อกันและกนั ใน หาขอ้ มลู ทาง ระบบของธรรมชาติ ใช้ ภูมิศาสตรใ์ นชมุ ชนได้ แผนทแ่ี ละเครอื่ งมือทาง อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ภูมิศาสตรใ์ นการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใช้ 2. เขยี นแผนผังงา่ ยๆ ความสัมพนั ธ์ของตาแหนง่ เพือ่ แสดงตาแหนง่ ระยะ ทศิ ทาง ข้อมลู ภมู สิ ารสนเทศอยา่ ง ทีต่ ง้ั ของสถานที่ มปี ระสิทธภิ าพ สาคญั ในบรเิ วณ โรงเรยี นและชมุ ชน
๔๕ มำตรฐำน ตัวช้วี ัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง สำระกำรเรียนรทู้ ้องถน่ิ 3. บอกความสมั พันธ์ ตาแหน่งทต่ี ั้งสัมพันธข์ อง ของลกั ษณะกายภาพ สถานท่ีสาคญั ในบรเิ วณ กับลกั ษณะทางสงั คม ของชุมชน โรงเรยี นและชุมชน เชน่ สถานที่ราชการ อาเภอ ตลาด โรงพยาบาล ไปรษณยี ์ ฯลฯ ส 5.2 เข้าใจปฏิสมั พันธ์ 1. เปรียบเทยี บการ ภมู ปิ ระเทศ และภูมอิ ากาศ ระหวา่ งมนษุ ยก์ บั เปลี่ยนแปลง ทม่ี ีผลต่อสภาพสงั คมใน สภาพแวดลอ้ มทาง สภาพแวดลอ้ มใน ชุมชน กายภาพที่ก่อใหเ้ กิดการ ชมุ ชนจากอดีตถึง สรา้ งสรรค์วฒั นธรรม มี ปจั จุบัน จติ สานึกและมีสว่ นรว่ มใน 2. อธิบายการพึง่ พา สภาพแวดล้อมในชมุ ชน การอนรุ กั ษท์ รพั ยากร สงิ่ แวดลอ้ ม และ และสง่ิ แวดลอ้ ม เพอื่ การ ทรพั ยากรธรรมชาติ ในอดตี และปจั จุบัน พัฒนาท่ียง่ั ยนื ในการสนองความ ตอ้ งการพ้ืนฐานของ การพง่ึ พาสิง่ แวดล้อม ใน มนษุ ยแ์ ละการ การดารงชีวิตของมนษุ ย์ เช่น ประกอบอาชพี การคมนาคม บา้ นเรอื น และ การประกอบอาชพี ใน ชุมชน 3. อธิบายเกย่ี วกับ การประกอบอาชพี ทีเ่ ป็น - ความสมั พันธ์ของ มลพษิ และการ ผลมาจากสภาพแวดลอ้ มทาง สิง่ แวดลอ้ มในท้องถิ่น กอ่ ให้เกิดมลพษิ โดย ธรรมชาตใิ นชุมชน มนษุ ย์ มลพิษทีเ่ กดิ จากการ กระทาของมนุษย์ 4. อธิบายความ ลักษณะของเมอื งและ แตกตา่ งของเมอื ง ชนบท และชนบท 5. ตระหนกั ถึงการ การเพ่ิมและสญู เสยี เปลย่ี นแปลงของ ส่ิงแวดลอ้ มทาใหช้ ุมชน สิ่งแวดลอ้ มในชมุ ชน เปลยี่ นแปลง
๔๖ โครงสรำ้ งรำยวิชำ ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 3 เวลำ ๘0 ช่ัวโมง/ปี รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม รหสั วชิ ำ ส 13101 หนว่ ยที่ ช่อื หนว่ ย มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนกั กำรเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 1 ศาสนา ( 100 ) ศีลธรรม จริยธรรม ส 1.1 ป.3/1 - ความสมั พนั ธข์ อง ๑๕ 20 ส 1.1 ป.3/2 พระพทุ ธศาสนากับการดาเนนิ ส 1.1 ป.3/3 ชีวิตประจาวนั ส 1.1 ป.3/4 - พระพุทธศาสนามอี ิทธิพลตอ่ ส 1.1 ป.3/5 การสรา้ งสรรคผ์ ลงานทาง ส 1.1 ป.3/6 วฒั นธรรมไทยอนั เกิดจากความ ส 1.1 ป.3/7 ศรัทธา ส 1.2 ป.3/1 - สรุปพุทธประวัติ ส 1.2 ป.3/2 - พุทธสาวก พทุ ธสาวิกา ส 1.2 ป.3/3 - ชาดก - ศาสนิกชนตัวอยา่ ง - ความสาคัญของพระไตรปฏิ ก - พระรตั นตรัย - โอวาท 3 - พทุ ธศาสนสภุ าษิต - ฝกึ สวดมนต์ไหว้พระ สรรเสรญิ คณุ พระรัตนตรยั และแผ่ เมตตา - ชือ่ และความสาคัญของศาสน วัตถุ ศาสนสถานและศาสนบคุ ล ในพระพทุ ธศาสนา ศาสนา อิสลาม ครสิ ตศ์ าสนา ศาสนา ฮนิ ดู - การปฏบิ ัติตนทเี่ หมาะสมตอ่ ศาสนวัตถุ ศาสนสถานและ ศาสนบุคลในศาสนาอืน่ ๆ
๔๗ หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนกั ที่ กำรเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน / ตวั ช้ีวัด ( 100) - ฝึกปฏิบตั ิมรรยาทชาวพุทธ - ปฎิบตั ิตนในศาสนพธิ ี - ความเปน็ มาของการแสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ - การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ 2 หน้าที่ ส 2. 1 ป. - ประเพณแี ละวฒั นธรรมในครอบครวั 15 10 พลเมอื ง 3/1 - ประเพณแี ละวฒั นธรรมในทอ้ งถนิ่ วฒั นธรรม ส 2.1 ป. - พฤติกรรมของตนเองและเพอ่ื น ๆ ใน และการ 3/2 ชีวิตประจาวนั ดาเนินชวี ติ ส 2.1 ป. - สาเหตุทีท่ าใหพ้ ฤติกรรมการดาเนินชีวิตใน ในสงั คม 3/3 ปัจจุบนั ของนักเรยี น ส 2.1 ป. และผอู้ น่ื แตกตา่ งกนั 3/4 - วันหยุดราชการท่สี าคญั ส 2. 2 ป. - บคุ คลทม่ี ผี ลงานเป็นประโยชน์แก่ชุมชนและ 3/1 ทอ้ งถนิ่ ของตน ส 2.2 ป. - ลักษณะผลงานที่เปน็ ประโยชนแ์ ก่ชมุ ชนและ 3/2 ท้องถิ่น ส 2.2 ป. - บทบาทหน้าที่ของสมาชกิ ในชมุ ชน 3/3 - การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรม ตา่ ง ๆ ตาม กระบวนการประชาธิปไตย - การออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตัวแทนออก เสยี ง - วิธีการเลอื กตัวแทนอย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม - การตัดสนิ ใจของบุคคล และกลุ่มท่ีมผี ลต่อการ เปลี่ยนแปลงในชั้นเรียน โรงเรียนและชุมชน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115