196 เรยี นรเู้ พมิ่ เตมิ ไดท้ ่ี https://youtu.be/B-1epFI9Yio การปกครองในระบอบต่างๆ https://youtu.be/n19wNu3KFkc
197 แบบทดสอบรำยวิชำสงั คมศกึ ษำ สค21001 จงเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดยี ว 4. “พายุทีเ่ กิดขนึ้ จากลมร้อนและลมเยน็ มาเจอกัน 1. ขอ้ ใดจับคูค่ วามสัมพนั ธร์ ะหว่างทร่ี าบล่มุ แมน่ า้ และกอ่ ตวั ให้เกดิ ลมหมุน เกดิ ไดท้ ัง้ บนบกและ ทะเลนับว่าเปน็ พายหุ มุนทมี่ คี วามรนุ แรงทส่ี ุด กบั ภูมภิ าคต่างๆ ในทวปี เอเชียไดถ้ กู ตอ้ ง และอันตรายมาก” คือพายุประเภทใด ก. เอเชยี ใต้ – ท่ีราบลมุ่ แมน่ ้าสินธุ ทรี่ าบลมุ่ ก. พายทุ อรน์ าโด ข. พายุฝนฟ้าคะนอง แม่นา้ คงคา ค. พายุหมนุ เขตรอ้ น ข. เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ – ที่ราบลุ่ม ง. ความกดอากาศต่า 5. บรเิ วณภาคใตข้ องประเทศไทย มาเลเซยี แม่น้าไนล์ ทีร่ าบล่มุ แมน่ ้าไรน์ สงิ คโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินสม์ ี ค. เอเชียตะวันออก – ทร่ี าบลุม่ แม่นา้ ฮวงโห ภมู อิ ากาศแบบใด ก. ภูมอิ ากาศแบบรอ้ นช้ืนหรอื แบบปา่ ดงดิบชนื่ ท่ีราบล่มุ แมน่ ้าแยงซีเกยี ง ข. ภมู ิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ง. เอเชียตะวันตกเฮียงใต้ – ที่ราบล่มุ แมน่ ้า ค. ภมู ิอากาศแบบทงุ่ หญ้าเมืองร้อน ง. ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น ไทกรีส ทร่ี าบลุ่มแม่น้ายูเฟรตีส 2. โอเอซิส (OasisX) หมายถงึ อะไร 6. สนธิสัญญาฉบับใดทที่ าให้พม่าต้องสูญเสีย ดนิ แดนอัสสมั มณปี รุ ะ ยะไข่ และตะนาวศรี ก. บรเิ วณทีม่ ีแหลง่ น้าและต้นไมข้ ึ้นใน ให้กับองั กฤษหลังพา่ ยแพส้ งคราม ทะเลทราย ก. สนธสิ ัญญาเบาว์ร่ิง ข. สนธิสัญญาไซเตส ข. บรเิ วณที่พบแหลแ่ ร่ และทองคาเป็นจานวน ค. สนธสิ ัญญายนั ดาโบ มาก ง. สนธิสญั ญาแวร์ซาย ค. ชือ่ ของพายุไต้ฝนุ่ ท่ีจะพดั เขา้ มาในช่วงเดือน 7. ประเทศไทยทาสนธสิ ัญญาเบาว์รงิ องั กฤษเมอ่ื เมษายน - มิถุนายน ของทุกปี พ.ศ. 2398 ซ่ึงตรงกับรชั สมัยของ พระมหากษตั ริยพ์ ระองค์ใด ง. ชือ่ ของผลไม้ชนิดหนึ่งทีม่ รี สหวาน พบไดม้ าก ก. สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช เป็นประเทศแถบอาหรบั ข. สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช ค. พระบาทสมเด็จพระจอมเก้าเจา้ อย่หู วั 3. “ดินแดนทางภาคเหนอื ของทวบี รเิ วณไซบเี รีย ง. พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หัว มีพชื พรรณธรรมชาติเป็นป่าสน ฤดูหนาว ยาวนานและหนาวจัด ฤดูรอ้ นสั้น มีน้าค้างแข็ง ไดท้ ุกเวลา และฝนตกในรูปของหิมะ” ข้อความข้างตน้ เปน็ ลกั ษณะภมู ิอากาศแบบใด ก. ภมู อิ ากาศแบบทะเลทราย ข. ภูมิอากาศแบบมรสุมเขตอบอนุ่ ค. ภูมิอากาศแบบไทกา(กึ่งขว้ั โลก) ง. ภมู อิ ากาศแบบอบอุ่นภาคพนื้ ทวปี
198 8. ขอ้ ใดเปน็ ประโยนชจ์ ากการใช้รีโมตเซนซงิ . 12. “ปฏญิ ญากรงุ เทพ” เปน็ จุดเรมิ่ ตน้ ของการ ก. นาขอ้ มูลไปใชว้ างแผนทาการก่อการร้ายขา้ ม รวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจในข้อใด ชาติ ก. องคก์ ารคา้ โลก ข. การจัดการข้อมลู ทางภูมิศาสตรอ์ ยา่ งมี ข. สมาคมอาเซยี น ประสทิ ธภาพ ค. เขตการค้าเสรีแห่งทวีอเมริกาใต้ ค. นาข้อมูลมาวางแผนในการลักลอบตัดไม้ใน ง. เขตการค้าเสรแี ห่งทวอี เมรกิ าเหนอื เขตหวงห้าม 13. เศรษฐกิจศาสตรเ์ ปน็ ศาสตร์ทศี่ กึ ษาเกี่ยวกบั ง. การวงแผนการบรกิ ารทรัพยากรธรรมชาติ อะไร และสภาพแวดล้อม ก. การใช้ทรพั ยากรบาบดั ความตอ้ งการ 9. อังกฤษยดึ เอาดนิ แดนบนแหลมมลายูเป็น ข. การเลือกทรัพยากรในการผลติ และบรกิ าร อาณานคิ ม เมือ่ มีการพบแรช่ นดิ ใด ค. การวิเคราะหค์ วามขาดแคลนของทรพั ยากร ก. เงนิ ง. การเลือกวธิ หี รอื รูปแบบการใชท้ รพั ยากรท่ี ข. ดีบกุ ขาดแคลน ค. ตะก่ัว 14. ปญั หาพนื้ ฐานทางเศรษฐกิจในหวั ข้อ “จะผลติ ง. ทองคา สนิ คา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ เพอื่ ใคร”หมายถึงขอ้ ใด 10. การปฏวิ ัติของจนี คร้งั ท่สี องปี ค.ศ.1949 เป็น ก. การจดั สรรทรัพยากร การปฏวิ ัติเปลย่ี นแปลงการปกครองจากระบอบ ข. การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยเข้าส่รู ะบอบสังคม ค. การกระจายรายไดป้ ระชาชาติ นยิ มหรือคอมมวิ นิสต์ โดยการนาของใคร ง. การรกั ษาเสรภิ าพทางเศรษฐกิจ ก. ยวน ซีไข 15. การตดั ส้ินใจว่าจะทาอะไรในทางเศรษฐศาสตร์ ข. เติ้ง เส่ยี วผิง ควรตัง้ อยู่บนพื้นฐานในข้อใดมากท่สี ุด ค. เหมา เจ๋อตุง ก. ใชท้ รพั ยากรน้อยท่ีสุด ง. ดร.ซุน ยตั เซน็ ข. ใชท้ รัพยากรคมุ้ ค่ามากท่ีสดุ 11. “กลมุ่ เอเปก”มวี ตั ถปุ ระสงค์เพือ่ อะไร ค. ใช้ต้นทุนการผลิตต่าทสี่ ดุ ก. เพ่ือพฒั นาเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ ง. ประเทศอนิ โดนีเซีย อนิ โดนีเซยี มาเลเซีย และไทย 16. ระบอบประชาธปิ ไตยรปู แบบใดท่หี ัวหนา้ ฝา่ ย ข. เพอื่ พัฒนาความร่วมมอื ทางด้านการค้าของ บรหิ ารคอื นายกรัฐมนตรี แต่ประมุขของประเทศ ประเทศบรเิ วณลุม่ แม่น้าโขง ไมไ่ ดท้ าหนา้ ทีใ่ นการบรหิ ารงานโดยตรง ค. เพอ่ื ส่งเสรมิ และสนับสนนุ พัฒนาความรว่ มมอื ก. ประชาธปิ ไตยแบบรฐั สภา ระหวา่ งประเทศในกล่มุ อาฟตา ข. ประชาธิปไตยแบบประธานาธิบดี ง. เพ่อื ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การค้าการลงทุนใน ค. ประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตรยิ ์ ประเทศที่ต้ังอยชู่ ายฝ่ังมหาสมุทรแปซิฟกิ ง. ประชาธปิ ไตยแบบกง่ึ รฐั สภากง่ึ ประธานาธบิ ดี
199 17. การปกครองแบบประชาธปิ ไตยมขี ้อดีหลาย 19. ประเทศใดมีพระมหากษตั รยิ ์เปน็ ประมขุ ประการ ยกเว้นข้อใด เชน่ เดียวกับประเทศไทย ก. ชว่ ยให้ประชาชนมสี ่วนในการปกครองตนเอง ก. ประเทศอนิ เดีย ได้ ข. ประเทศสหรฐั อเมรกิ า ข. ช่วยพัฒนาประเทศใหเ้ กดิ ความเจริญก้าวหนา้ ค. ประเทศเกาหลีใต้ ประชาชนกินดีอย่ดู ี ง. ประเทศภูฏาน ค. ชว่ ยใหพ้ รรคการเมอื งมีอานาจเดด็ ขาดและมี 20. สง่ิ ท่เี รยี กว่า “สิทธิ” ของประชาชน อิทธพิ ลในการปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตย หมายถงึ อะไร ง. ช่วยใหป้ ระชาชนมสี ิทธิ เสริภาพ ความเสมอ ก. อานาจอนั ชอบธรรม ตามกาหนดไว้ใน ภาคตามกฎหมายรฐั ธรรมนญู รัฐธรรมนญู 18. ข้อใดตอ่ ไปน้ี คือขอ้ ดีของการปกครองแบบ ข. การกระทาสิ่งใด ตามความปรารถนาของตน เผดจ็ การ ค. อานาจได้รบั จากสภาผู้แทนราษฎร ก. จากดั ข้อขัดดขวางสทิ ธิเสรีภาพของประชาชน ง. เสรภี าพและความเสมอภาค ข. การปกครองมปี ระสทิ ธิภาพและบรรลุ เป้าหมายอย่างรวดเร็ว ค. ผู้ปกครองและพรรคพวกอาจใชอ้ านาจเขา้ มา แสวงหาผลประโยชน์ ง. สกดั ก้ันมใิ ห้ผู้มคี วามสามารถเขา้ มามีส่วน รว่ มในการสรา้ งความเจรญิ ก้าวหน้าของ ประเทศ
200 สรปุ เน้อื หำรำยวชิ ำศำสนำและหน้ำท่ีพลเมือง สค21002 จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. มีความรแู้ ละเข้าใจเกีย่ วกับความเปน็ มาและหลักธรรมของศาสนาในประเทศไทย 2. มีความรู้เกย่ี วกับวัฒนธรรมประเพณแี ละการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย ขอบเขตเนื้อหำ ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกับเร่ืองต่อไปนี้ 1. ความเปน็ มาและหลกั ธรรมของศาสนา 2. วฒั นธรรม ประเพณีและการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย หนว่ ยที่ 1 ศำสนำในประเทศไทยและในเอเชยี ความเป็นมาของศาสนาในประเทศไทย ศาสนาในประเทศไทยที่รัฐบาลให้การอุปถัมภ์ดูแล มีทั้งสิ้น 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดู และศาสนาซิกซ์ โดยประเทศไทย มีศาสนาพุทธเปน็ ศาสนาประจาชาตแิ ละมผี ู้นบั ถือมากทส่ี ดุ โดยพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาในประเทศ ไทย ประมาณปี พ.ศ. 270 หลงั จากพระพทุ ธเจ้าเสด็จปรนิ ิพพาน ในสมัยทวารวดี ทวีปเอเชียเป็นแหล่งกาเนิดศาสนาที่สาคัญของโลก เช่น ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนา พุทธศาสนาฮินดู และยูดาห์ ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูกว่า 500 ลา้ นคนในอนิ เดียรองลงมา คือ ศาสนาอิสลาม มีผู้นับถือประมาณ 450 ล้านคน นอกจากน้ียังมีลัทธิเต๋า ลัทธขิ งจอ๊ื ท่ีแพรห่ ลายในจีน ลัทธิชนิ โตในญ่ปี นุ่ ประเทศฝ่ังแผน่ ดินใหญ่ในทวปี เอเชียจะนับถือศาสนาพทุ ธ เป็นส่วนมาก ประเทศเหล่าน้ัน คือ ไทย เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า และสิงคโปร์ ส่วนทางด้าน คาบสมุทรมลายูและหมู่เกาะอินโดนีเซียจะนับถือศาสนาอิสลาม ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน สาหรับประเทศฟิลิปปินส์นับถือศาสนาคริสต์ ประเทศติมอร์ตะวันออก นั้นก็นับถือศาสนา ครสิ ต์ เปน็ หลกั
201 หนว่ ยท่ี 2 วัฒนธรรม ประเพณขี องประเทศไทยและเอเชยี วฒั นะ หมายถงึ ความเจรญิ งอกงามรุ่งเรอื ง ธรรม หมายถงึ การกระทาหรือข้อปฏิบตั ิ วฒั นธรรม คอื ข้อปฏบิ ัตเิ พ่อื ให้เกดิ ความเจรญิ งอกงาม วัฒนธรรม หมายถึง ทกุ สิ่งทกุ อยา่ งที่มนษุ ย์สร้างขนึ้ ไว้เพื่อนาเอาไปช่วยพัฒนา ชีวิตความเป็นอยู่ ในสังคม ซ่งึ จะรวมถึงช่วยแก้ปัญหาและช่วยสนองความต้องการของสังคม ประเพณไี ทย เป็นวฒั นธรรมทส่ี บื ทอดกันมา เป็นสิ่งที่แสดงถึงวิธีชีวิตของคนไทย ท้ังในอดีตและ ปัจจุบัน ประเพณีแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทยที่สืบเนื่องกันมาและเป็นสิ่งที่คนไทยควร ศึกษา ทาความเขา้ ใจและชว่ ยกันอนรุ กั ษ์ ประเพณไี ทยจาแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ พระราชพิธี และ ประเพณใี นท้องถ่ินต่าง ๆ วฒั นธรรมประเพณขี องประเทศในทวีปเอเชีย มีลกั ษณะสำคญั อยู่ 2 ลกั ษณะไดแ้ ก่ 1. ลักษณะสาคัญทางประชากร 2. สิง่ ท่มี ีอทิ ธพิ ลสาคญั ตอ่ วฒั นธรรมของเอเชีย คอื ภาษาและอทิ ธิพลอารยธรรมภายนอก หนว่ ยท่ี 3 รฐั ธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทย รฐั ธรรมนูญ (Constitution) หมายถึง กฎหมายสงู สุดในการจัดการปกครองรัฐ โดยประเทศไทย เร่ิมใช้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศเมื่อเกิดการปฏิวัติโดยคณะราษฎร เพ่ือ เปลย่ี นแปลง การปกครองประเทศจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประประมุขที่ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ เม่ือวันท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ในรัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อย่หู วั รัชกาลที่ 7 แหง่ ราชวงศจ์ ักรี
202 หนว่ ยที่ 4 พฒั นำกำรทำงกำรเมอื งและกำรอยรู่ ว่ มกนั ในระบอบประชำธปิ ไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ ทรงเปน็ ประมุข การอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมท่ีมีความแตกต่างทง้ั ความคดิ อาชีพ สถานะทางสังคม และสภาพแวดล้อม การศึกษาเรียนรู้ การพัฒนาทางการเมือง และการมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองตามระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นส่วนหน่ึงท่ีจะทาให้สังคมอยู่ได้อย่างสงบสุข ตามวิถีประชาธิปไตย หน่วยท่ี 5 สิทธิมนษุ ยชน สิทธิมนุษยชน หมายถึง สิทธิต่าง ๆ ที่แสดงถึงคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ ในช่วงปลาย สงครามโลกคร้งั ที่ 2 มกี ารดาเนนิ การจดั ตงั้ องคก์ ารสหประชาชาตขิ ้ึน โดยผ้นู าของประเทศสมาชิกด้ังเดิม 50 ประเทศ ได้ร่วมลงนามในกฎบัตรสหประชาชาติ (Charter of the United Nations) เมื่อวันท่ี 26 มถิ นุ ายน ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) ซง่ึ ประกาศเป้าหมายหลักขององค์การสหประชาชาติ ได้ถือกาเนิดข้ึน อยา่ งเป็นทางการ ในวนั ที่ 24 ตลุ าคม ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) วา่ “เพอ่ื ปกป้องคนรนุ่ ต่อไปจากภัยพิบัติ สงคราม และเพือ่ ยนื ยันความศรัทธาในสทิ ธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในศักดิ์ศรีและคุณค่าของมนุษย์ และใน สิทธอิ ันเทา่ เทยี มของบุรุษและสตรี” หมำยเหตุ : ให้นักศึกษา ได้ศกึ ษาเพม่ิ เติมจากหนังสือแบบเรยี นรายวชิ าศาสนาและหน้าท่ีพลเมือง สค 21002
203 แบบทดสอบรำยวิชำศำสนำและหนำ้ ทพ่ี ลเมอื ง สค 21002 จงเลือกคำตอบท่ีถูกต้องทส่ี ุดเพียงคำตอบเดียว 5. ศาสนาใดไมไ่ ด้ถือกาเนดิ ในประเทศอินเดีย 1. พระพทุ ธเจ้า ประสูติ ตรสั รู้ ปรนิ พิ าน ในวนั ก. ซกิ ข์ เดยี วกันเป็นวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนาตาม ข. พทุ ธ ขอ้ ใด ค. ฮนิ ดู ก. มาฆบุชา ง. อสิ ลาม ข. วสิ าขบชู า ค. อัฎฐมีบชู า 6. ปจั จยั หลกั ท่สี ง่ เสรมิ ใหพ้ ุทธศาสนาเผยแผ่ไปยงั ง. อาสาฬหบชู า 2. ขอ้ ใดกล่าวได้ถกู ต้องทสี่ ุด ดินแดนต่าง ๆ ในสมยั โบราณได้แก่ขอ้ ใด ก. พระบิดา พระบุตร พระจติ เรยี กว่า ไตรเพท ข. พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ เรียกวา่ ก. อุบาสก ตรเี ทพ ข. อุบาสกิ า ค. พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ เรยี กว่า ค. ประชาชน ไตรรัตน์ ง. พระมหากษัตริย์ ง. พระพรหม พระนารายณ์ พระพฆิ เนศ 7. ทิศเบื้องหน้าในทศิ 6 คอื บุคคลใด เรยี กวา่ ตรีมรู ติ 3. ประเทศใดเปน็ ต้นกาเนิดของศาสนาพุทธ ก. อาจารย์ ก. จนี ข. ไทย ข. มิตรสหาย ค. ญปี่ ุ่น ง. อนิ เดีย ค. สามี ภรรยา 4. ข้อใด คือหลักธรรมของศาสนาพทุ ธตามทางสาย กลางทท่ี าใหบ้ ุคคลมศี ีลธรรมในตนเอง ง. บิดา มารดา ก. สัมมาทฐิ ิ ข. สมั มาวาจา 8. ขอ้ ใดคือประเพณีท่ีเกิดจากการผสมผสานของ ค. สมั มาวายามะ ง. สัมมาสังกปั ปะ สังคมไทยและชาวมอญ ก. ประเพณปี อย ข. ประเพณรี ับบัว ค. ประเพณีชกั พระ ง. ประเพณีปล่อยนกปลอ่ ยปลา 9. ข้อใดเป็นการสร้างจิตสานกึ ทด่ี ใี นการอนุรกั ษ์ วัฒนธรรมประเพณี ก. การกตัญญู ข. การแต่งกาย ค. การดแู ลสวนสาธารณะ ง. การภาคภูมใิ จในภาษาท้องถ่ิน
204 10. การกระทาข้อใดทแี่ สดงใหเ้ ห็นถึงลักษณะของ 15. หลักการออกเสยี งประชามติตามรฐั ธรรมนญู วฒั นธรรมไทยแบบเกษตรกรรม ตรงกบั ข้อใด ก. การทาขวัญขา้ ว ก. ใหอ้ อกเสียงอนุมตั ิ หรือไม่อนุมัติ ข. ใหอ้ อกเสยี งเห็นด้วย หรือไมเ่ ห็นดว้ ย ข. การเลน่ รรี ขี า้ วสาร ค. ใหอ้ อกเสียงเหน็ ชอบ หรอื ไมเ่ หน็ ชอบ ง. ใหอ้ อกเสยี งเหน็ สมควร หรือไมเ่ ห็นสมควร ค. การแหน่ าคด้วยแตรวง 16. รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ง. การเลน่ กลองยาวในงานสงั สรรค์ 2560 หมวดท่ี 2 บญั ญตั ิไวเ้ ก่ียวกบั เรื่องอะไร ก. รัฐสภา 11. การจดั ทาระบบข้อมลู เครอื ข่ายเก่ยี วกับ ข. หน้าทข่ี องรฐั วฒั นธรรม ประเพณที อ้ งถ่ินจดั เปน็ การอนุรกั ษ์ ค. พระมหากษัตรยิ ์ วัฒนธรรมเรอื่ งใด ง. หน้าทีข่ องปวงชนชาวไทย ก. การฟ้นื ฟวู ัฒนธรรม ข. การเผยแผ่วัฒนาธรรม 17. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย เนน้ เร่อื งใด ค. การแลกเปล่ียนวฒั นธรรม ง. การสร้างจิตสานกึ ในตนเอง เปน็ สาคญั 12. การปกครองทีเ่ ปิดโอกาสให้ประชาชนมีสว่ นรว่ ม ก. ความม่นั คงของประเทศ ในการปกครองตรงตามข้อใด ข. เสียงขา้ งมากในสภาแตย่ ังฟงั เสียงข้างนอ้ ย ก. สังคมนิยม ค. การปฏิบตั ติ ามกฎกติกาของคณะผ้บู ริหาร ข. ประชาธปิ ไตย ประเทศ ง. ความเปน็ อสิ ระ สิทธเิ สรภี าพในด้านการ ค. เผด็จการเบด็ เสรจ็ แสดงความคดิ เห็น ง. เผดจ็ การอานาจนยิ ม 18. ทศพธิ ราชธรรมเปน็ หลกั ธรรมท่เี หมาะอยา่ งยง่ิ 13. การใช้ชีวติ อย่างอสิ ระ ความเป็นอิสระจากกลมุ่ สาหรับใคร และสมาคมใด ๆ จดั เป็นหลักการพน้ื ฐานของ สทิ ธมิ นษุ ย์ชนตามขอ้ ใด ก. ทหาร ก. เสรภี าพ ข. ภราดรภาพ ข. ข้าราชการ ค. ความยตุ ิธรรม ง. ความเสมอภาค ค. ประชาชน 14. โทษของการกระทาผิดทางแพ่งคอื ขอ้ ใด ง. พระมหากษตั ริย์ ก. กักขงั ข. จาคกุ ค. จองจา ง. ชดใชค้ ่าเสียหาย
19. สิทธมิ นษุ ย์ชนคืออะไร 205 ก. สิทธขิ องบคุ คล ข. เสรภี าพของบคุ คล 20. องค์กรใดทาหน้าท่ีคุม้ ครองและตรวจสอบการ ค. ศกั ดิ์ศรขี องความเปน็ มนุษย์ ละเมิดสทิ ธิมนุษย์ชน ง. ถกู ทุกข้อ ก. องคก์ รนิรโทษกรรมสากล ข. คณะกรรมการสิทธิมนษุ ย์ชนแหง่ ชาติ ค. คณะกรรมธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษย์ชน ง. คณะกรรมการประสานงานองค์กรสทิ ธิ มนุษยช์ น
206 สรุปเนื้อหำรำยวิชำกำรพฒั นำตนเอง ชมุ ชน สงั คม (สค21003) จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ มคี วามรู้ ความเข้าใจ หลักการพัฒนาชมุ ชน สังคม สามารถวิเคราะห์ ขอ้ มลู และกาหนดแนว ทางการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพการเปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณ์ ปจั จุบนั ขอบเขตเนอ้ื หำ 1. ความรู้เบอ้ื งตน้ เกยี่ วกับการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 2. ขอ้ มลู ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับการพัฒนาชุมชน 3. การจดั ทาแผนชมุ ชน 4. การเผยแพรผ่ ลการปฏิบัติ หนว่ ยท่ี 1 ควำมรู้เบ้ืองตน้ เกีย่ วกับกำรพัฒนำตนเอง ชมุ ชน สงั คม การพัฒนาตนเอง (Self-Development) หมายถึง การปรับปรุงตนเอง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณแ์ ละสังคมตลอดจนด้านความร้คู วามสามารถ เพื่อให้สามารถทากิจกรรมที่พึงประสงค์ตามท่ีต้ังไว้ และยงั สามารถทาใหต้ นเองดารงชวี ติ อยู่รว่ มกบั ครอบครัว ชมุ ชน และสังคมไดอ้ ยา่ งปกติสุข การพัฒนาชมุ ชน (Community Development) หมายถึง การพฒั นาชมุ ชน คือการกระทาที่มุ่ง ปรับปรงุ ส่งเสรมิ ใหก้ ลมุ่ คนที่อยู่รวมกนั มีการเปลย่ี นแปลงไปในทิศทางทีด่ ีข้นึ ในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านท่ีอยู่ อาศยั อาหาร เคร่อื งนุ่งห่ม สขุ ภาพรา่ งกาย อาชพี ทีม่ น่ั คง ความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพย์สิน โดยอาศัย ความร่วมมอื จากประชาชนภายในชุมชน และหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ทั้งจากภายในและภายนอกชมุ ชน การพัฒนาสังคม (Social development) เป็นกระบวนการเปล่ียนแปลงในทางที่ดีในด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคม การปกครองและวฒั นธรรม เพือ่ ใหป้ ระชาชนในสงั คมมีความเป็นอยทู่ ่ีดีข้ึน ทั้ง ดา้ นทอ่ี ยู่อาศยั อาหาร สขุ ภาพอนามัยการศกึ ษาการมีงานทาและมีรายไดเ้ พยี งพอสาหรบั การครองชีพ หน่วยที่ 2 ขอ้ มลู กับกำรพฒั นำชมุ ชน ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนเก่ียวกับคน สัตว์ ส่ิงของ ที่เป็นข้อความ ตวั เลข สญั ลกั ษณ์ ภาพ หรอื เสยี ง ทีไ่ ดม้ าจากวธิ กี ารต่างๆ เชน่ การสังเกต การสัมภาษณ์ การนับ การวัด และบันทกึ เปน็ หลักฐานเพ่อื คน้ หาความจริง หรือนาไปใชป้ ระโยชน์ต่อไป ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ความหมาย คือข้อมูลที่มีลักษณะเป็นตัวเลขแสดงปริมาณเรียกว่า ข้อมูล เชงิ ปรมิ ำณ และขอ้ มูลท่ีไม่ใช่ตัวเลขเรียกว่า ข้อมลู เชิงคณุ ภำพ
207 ควำมสำคญั และประโยชนข์ องขอ้ มูล ข้อมูลท่ีเป็นข้อเท็จจริงของส่ิงต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราล้วนมีประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองชุมชน และสงั คม ทง้ั นข้ี นึ้ อยู่กบั การเลือกนามาใช้ใหถ้ กู ต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ และโอกาสโดยท่ัวไปข้อมูล จะใหป้ ระโยชนม์ ากมายประโยชน์ของข้อมูลในการช่วย การตัดสินใจ เช่น ถ่ายรูปข้อมูลเกี่ยวกับคะแนน การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ผลคะแนนระหว่าง เรียนไม่น่าพึงพอใจ แต่ผู้เรียนต้องการให้สอบผ่านวิชานี้ ผเู้ รยี นจะต้องวางแผนการเรียนและ เตรียมพร้อมกับการสอบให้ดี ขยันเรียน ขยันทาแบบฝึกหัดมากขึ้น ผลการเรียนวิชานี้น่าจะผ่าน แต่ถ้าไม่รู้ข้อมูลเลยโอกาสที่จะสอบไม่ผ่านก็จะมีมากกว่า ในการพัฒนา ชุมชนและสังคมจาเปน็ ตอ้ งอาศัยขอ้ มลู ดา้ นต่างๆ ได้แก่ ข้อมูลเก่ียวกับ ด้านความเป็นมา ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ทรัพยากร ส่ิงแวดล้อม สาธารณสุข และการศกึ ษา ข้อมลู ทเี่ กยี่ วข้องกบั กำรพัฒนำชมุ ชน การพฒั นาชมุ ชน จาเป็นต้องอาศยั ข้อมูลหลายๆ ดา้ น เพอื่ ใช้ในการเรียนรู้และค้นหา ความจริงท่ี เป็นพลังภายในของชุมชนท่ียังไม่ได้พัฒนา หรือยังพัฒนาไม่เต็มที่ ข้อมูลที่สาคัญที่ เก่ียวข้องกับการ พัฒนาชุมชน ประเภทของขอ้ มูล จำแนกได้ดงั น้ี 1. ขอ้ มลู ปฐมภูมิ (Primary Data) เปน็ ข้อมลู ท่ผี ใู้ ช้เป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลเอง อาจได้มาจากการ สัมภาษณ์ การสังเกต การทดลอง 2. ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) เป็นข้อมูลท่ีผู้ใช้นามาจากแหล่งท่ีมีผู้เก็บรวบรวมไว้แล้ว เช่น ข้อมูลเก่ียวกับจานวนประชากรในอาเภอแห่งหนึ่ง ข้อมูลเก่ียวกับอาชีพของประชาชน สถิติ ผู้ว่างงาน โดยแบ่งประเภทของข้อมลู ออกเป็น 2.1 ข้อมลู เชงิ คุณภาพ เปน็ ข้อมลู ที่ไมไ่ ดบ้ อกเป็นตัวเลข หรือจานวน แต่เป็นการบอกถึง ลกั ษณะ คุณภาพ ความพงึ พอใจ เพศ ศาสนา อาชีพ เป็นตน้ 2.2 ข้อมูลเชิงปริมาณ เป็นข้อมูลที่แสดงค่าออกมาเป็นตัวเลข เช่น จานวนประชากร จานวนวันข้อมูลที่สาคัญสาหรับการพัฒนาชุมชน คือ 1) ข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ 2) ข้อมูลด้าน ประวัตศิ าสตร์ 3) ข้อมูลด้านเศรษฐศาสตร์ 4) ข้อมูลด้านการเมือง 5) ข้อมูลด้านการปกครอง 6) ข้อมูล ด้านศาสนา วัฒนธรรมประเพณี 7) ข้อมูลด้านหน้าท่ีพลเมือง 8) ข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมสิ่งแวดล้อม 9) ขอ้ มูลด้านสาธารณสุข 10) ข้อมูลดา้ นการศึกษา
208 กำรจัดเวทปี ระชำคม องค์ประกอบของการจัดเวทีประชาคม ควรมีองค์ประกอบดังน้ี 1) ประเด็นปัญหา 2) วัตถุประสงค์ 3) ลาดับขั้นตอน 4) ผู้เข้าร่วมประชาคม 5) ผู้อานวยการให้เกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้ 6) บรรยากาศที่ดี 7) มรี ะยะเวลาทเ่ี หมาะสม 8) ข้อสรปุ 9) สอื่ และอปุ กรณ์ 10) การประสานงานท่ีดี กำรจดั ทำแผนพัฒนำชุมชน แผนพัฒนาชุมชน หมายถึง กิจกรรมพัฒนาที่เกิดขึ้นจากคนในชุมชนรวมตัวกันจัดทาข้ึนเพ่ื อ ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนหรอื ทอ้ งถ่นิ ของตนเองให้เปน็ ไปตามที่ต้องการ และสามารถแก้ปัญหา ทีช่ ุมชนเผชญิ อย่ใู หส้ ามารถอยูร่ ่วมกันได้อย่างมีความสุข กระบวนการจัดทาแผนพัฒนาชุมชน มีดังน้ี 1) เตรียมวิทยากรกระบวนการ 2) เตรียมชุมชน ในการจัดทาแผน 3) ประเมินศักยภาพของชุมชน 4) กาหนดวิสัยทัศน์ 5) กาหนดยุทธศาสตร์ในการ พัฒนาชุมชน 6) กาหนดแผนงาน หมำยเหตุ : ใหน้ ักศกึ ษา ได้ศึกษาเพ่มิ เติมจากหนังสือแบบเรียนรายวิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม สค21003 คลิปสรุปเน้อื หารายวิชา การพัฒนาตนเองชมุ ชนสงั คม หนังสอื เรยี นการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม
209 แบบทดสอบรำยวชิ ำกำรพฒั นำตนเอง ชมุ ชน สงั คม สค21003 จงเลอื กคำตอบที่ถูกต้องท่สี ุดเพียงคำตอบเดยี ว 1. เปา้ หมายสงู สุดของการพัฒนาชุมชนคือข้อใด 1. 5. สถาบนั ใดทมี่ ีส่วนสาคัญเป็นลาดับแรกป้องกนั ก. ครอบครวั มีฐานะมัน่ คง 2. ไมใ่ ห้เกดิ ปัญหาสังคม ข. อาชีพท่ีย่ังยืนเกดิ ในชุมชน ก. สถาบันการเงนิ ค. ชมุ ชนมีความเป็นอยูท่ ่ดี ขี ้นึ ข. สถาบันศาสนา ง. ความขัดแย้งในชมุ ชนลดลง ค. สถาบนั ครอบครวั 2. การพฒั นาชมุ ชนต้องยดึ หลักการใด ง. สถาบนั การศึกษา ก. การลงประชามติ 6. หลักมงุ่ เน้นการพฒั นาเศรษฐกจิ คอื ขอ้ ใด ข. ขนั้ ตอนการปฏิบัติ ก. ลดกาลังผลิต ค. การมีส่วนร่วมของประชาชน ข. สังคมเมืองมีรายไดส้ ูง ง. การปกครองแบบประชาธปิ ไตย ค. รายได้ประชาชนสงู ขึ้น ง. กระแสเงินสดหมุนเวยี นมีสภาพคล่อง 3. ขอ้ ใดเป็นบทบาทที่สาคัญทส่ี ุดของประชาชน ในการดูแลชุมชน 7. ข้อใด ไมใ่ ช่ เทคนิคการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลใน ก. เข้ารว่ มประชุมทุกคร้ัง ชุมชน ข. เห็นคล้อยตามผนู้ าทุกเรื่อง ก. อธบิ าย ค. แสดงความคิดเหน็ ในการประชุม ข. สังเกต ง. ทากจิ กรรมพัฒนาชุมชนรว่ มกนั ทกุ ครง้ั ค. สัมภาษณ์ ง. สนทนากลมุ่ 4. การพัฒนาศักยภาพของมนษุ ย์ควรเนน้ ดา้ นใด ก. รายได้ 8. วัตถุประสงค์ของการทาประชาพิจารณค์ ือ ข. การศึกษา ขอ้ ใด ค. เทคโนโลยี ก. ตอบสนองความต้องการของผู้บริหาร ง. ความเป็นอยู่ ข. รวบรวมความคดิ เห็นของผเู้ กย่ี วข้อง ค. ป้องกนั การประทว้ งของผ้เู สียประโยชน์ ก. ง. ให้เกิดความคดิ รวบยอดในการปฏบิ ตั ิงาน
210 9. ข้อใดตอ่ ไปนีไ้ ม่เกยี่ วขอ้ งกับผลสาเรจ็ ของการ 14. ในการทาเวทปี ระชาคมมีกข่ี ้ันตอน พัฒนาชมุ ชน ก. 1 ขัน้ ตอน ก. ส่งเสรมิ ด้านการศึกษา ข. 2 ข้นั ตอน ข. ลดความเหล่อื มลา้ ในสงั คม ค. 3 ข้นั ตอน ค. ความเป็นอยู่ท่ีดีทางดา้ นอนามัย ง. 4 ข้ันตอน ง. รายไดน้ ามาพัฒนาดา้ นวัตถุนิยม 15. ข้อใดต่อไปนเ้ี ปน็ วิธกี ารเกบ็ ขอ้ มูลทปี่ ระกอบ 10. ขนั้ ตอนการจดั ทาแผนมกี ่ีขน้ั ตอน ด้วยคาช้แี จง วัตถุประสงค์ รายการขอ้ มูลท่ี ก. 2 ข้นั ตอน ต้องการถาม จาแนกเปน็ รายข้อ ข. 3 ขัน้ ตอน ก. การสารวจ ค. 4 ขนั้ ตอน ข. การสัมภาษณ์ ง. 5 ข้นั ตอน ค. การใชแ้ บบทดสอบ 11. ข้อใดเป็นขอ้ มลู ที่เก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นาชมุ ชน ง. การจดั เวทีประชาคม ก. ข้อมูลครอบครัว 16.สนับสนุนใหป้ ระชาชนพึ่งตนเองได้โดยการ ข. ขอ้ มูลดา้ นสงั คม สรา้ งพลังชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชน อย่ใู นหลกั การ ค. ข้อมลู ดา้ นเศรษฐกิจ ใด ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. หลกั ประชาธิปไตย 12. ข้อใดตอ่ ไปนี้ ไม่ จัดวา่ เป็นขอ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ข. หลักความมศี กั ด์ิศรี การพัฒนาชมุ ชน ค. หลกั การมีส่วนรว่ มของประชาชน ก. ข้อมลู เศรษฐกจิ ง. หลักการพงึ่ ตนเองของประชาชน ข. ขอ้ มลู ด้านประเพณีและวัฒนธรรม 17.รปู แบบการทางานการตดั สนิ ใจ จัดอยู่ ค. ข้อมูลดา้ นระบบนเิ วศและสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบใดของความเป็นผนู้ าใด ง. ทกุ ข้อท่กี ลา่ วมาถอื ว่าเป็นข้อมูลท่ี ก. ความรู้ ข. ความคิด เกี่ยวข้องกับการพฒั นาชมุ ชน ค. บุคลิกภาพ 13. “สงั เกตไปเรอ่ื ยๆ ตามส่งิ ที่พบเหน็ ท่ี ง. ความสามารถ ตอ้ งการ”เป็นการสังเกตแบบใด 18. ความสาคญั ของการพัฒนาชมุ ชนมกี ่ีขอ้ ก. การสงั เกตรอบด้าน ก. 2 ขอ้ ข. การสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง ข. 3 ขอ้ ค. การสังเกตแบบมีโครงสรา้ ง ค. 4 ขอ้ ง. การสังเกตแบบไมม่ โี ครงสร้างและแบบมี ง. 5 ขอ้ โครงสรา้ ง
19. โครงการที่ดีต้องมีลกั ษณะอย่างไร 211 ก. ม่งุ แก้ปัญหามากกวา่ พฒั นา 20. ในการเขยี นแผนพัฒนาชุมชนควรกาหนด ข. มตี ัวบ่งชท้ี น่ี าไปส่กู ารพัฒนา ภาพอนาคตทีจ่ ะไปใหถ้ งึ ไว้ในหัวขอ้ ใด ค. ต้องไม่จากัดระยะเวลาในการทางาน ก. เป้าหมาย ง. ไมจ่ าเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งนาไปปฏบิ ัติไดจ้ รงิ ข. วิสัยทศั น์ ค. ยทุ ธศาสตร์ ง. วัตถุประสงค์
212 เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร21001 1. ก 2. ง 3. ค 4. ค 5. ง 6. ข 7. ข 8. ง 9. ก 10. ข 11. ง 12. ง 13. ก 14. ค 15. ง 16. ง 17. ข 18. ค 19. ค 20. ค 21. ข 22. ค 23. ข 24. ข 25. ก 26. ง 27. ค 28. ข 29. ง 30. ง เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าภาษาไทย พท 21001 1.ข 2.ง 3.ง 4.ง 5.ค 6.ข 7.ข 8.ก 9.ก 10.ง 11.ง 12.ก 13.ง 14.ค 15.ค 16.ข 17.ง 18.ค 19.ค 20.ข เฉลยแบบทดสอบรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวัน พต 21001 1.B 2.A 3.A 4.B 5.C 6.D 7.B 8.D 9.B 10.A 11.D 12.B 13.C 14.C 15.B 16.C 17.B 18.A 19.C 20.D 21.A 22.C 23.C 24.D 25.B 26.A 27.C 28.C 29.C 30.B เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าคณติ ศาสตร์ พค21001 1.ข 2.ง 3.ข 4.ค 5.ค 6.ค 7.ก 8.ง 9.ก 10.ค 11.ค 12.ง 13.ง 14.ข 15.ข 16.ง 17.ค 18.ก 19.ค 20.ข 21.ค 22.ข 23.ก 24.ข 25.ข 26.ง 27.ก 28.ก 29.ง 30.ง เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ พว21001 1.ง 2.ข 3.ก 4.ข 5.ก 6.ข 7.ค 8.ง 9.ง 10.ข 11.ค 12.ก 13.ข 14.ข 15.ค 16.ค 17.ก 18.ข 19.ก 20.ค เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าชอ่ งทางการพฒั นาอาชีพ อช 21001 1. ข 2. ค 3. ค 4. ค 5. ค 6. ง 7. ค 8. ก 9. ก 10. ก 11. ข 12. ก 13. ข 14. ค 15. ข 16. ค 17. ง 18. ข 19. ง 20. ค
213 เฉลยแบบทดสอบวชิ าทักษะการพัฒนาอาชีพ อช21002 1.ง 2.ค 3.ง 4.ค 5.ง 6.ข 7.ง 8.ข 9.ข 10.ง 11.ก 12.ง 13.ก 14.ข 15.ก 16.ข 17.ค 18.ก 19.ก 20.ง เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าพฒั นาอาชีพให้มีความเข้มแขง็ อช21003 1.ค 2.ข 3.ง 4.ง 5.ข 6.ข 7.ก 8.ง 9.ข 10.ค 11.ง 12.ข 13.ก 14.ค 15.ง 16.ก 17.ข 18.ข 19.ค 20.ค เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทช21001 1. ก 2. ก 3. ก 4. ง 5. ข 6. ค 7. ค 8. ง 9. ง 10. ก 11. ง 12. ง 13. ค 14. ง 15. ง 16. ค 17. ค 18. ก 19. ข 20. ก เฉลยแบบทดสอบรายวิชาสุขศึกษา พลศึกษา ทช21002 1. ง 2. ค 3. ง 4. ค 5. ก 6. ง 7. ค 8. ก 9. ข 10. ข 11. ค 12. ข 13. ง 14. ค 15. ก 16. ง 17. ข 18. ก 19. ข 20. ค เฉลยแบบทดสอบรายวชิ าศิลปศึกษา ทช21003 1.ก 2.ค 3.ง 4.ก 5.ง 6.ค 7.ข 8.ค 9.ข 10.ข 11.ค 12.ง 13.ค 14.ค 15.ข 16.ก 17.ค 18.ค 19.ข 20.ง เฉลยแบบทดสอบรายวิชาสังคมศกึ ษา สค21001 1.ข 2.ก 3.ค 4.ก 5.ก 6.ค 7.ค 8.ง 9.ข 10.ค 11.ง 12.ข 13.ก 14.ก 15.ข 16.ก 17.ค 18.ข 19.ข 20.ก เฉลยแบบทดสอบรายวิชาศาสนาและหน้าที่พลเมอื ง สค21002 1.ข 2.ค 3.ง 4.ข 5.ง 6.ค 7.ง 8.ข 9.ง 10.ก 11.ข 12.ข 13.ก 14.ง 15.ค 16.ค 17.ง 18.ง 19.ง 20.ข เฉลยแบบทดสอบรายวิชาการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค21003 9.ง 10.ข 19.ข 20.ข 1.ค 2.ค 3.ง 4.ข 5.ก 6.ค 7.ก 8.ข 11.ค 12.ง 13.ง 14.ค 15.ข 16.ง 17.ง 18.ง
214 แบบบนั ทึกกำรพฒั นำยกระดับผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนรำยบุคคล ระดบั มัธยมศึกษำตอนตน้ *********************** ชอ่ื - สกลุ ..................................................................... รหสั นักศกึ ษา................................... กศน.ตาบล............................................ กศน.อาเภอ........................................... จงั หวัดพิจติ ร จากการท่ผี เู้ รียนไดศ้ ึกษาเรียนรจู้ ากแบบเรียน และสรุปเนอื้ หาจากบทเรยี นในรายวชิ าต่าง ๆ ตามเอกสารเลม่ น้ีแล้ว ผู้เรียนสามารถทราบได้วา่ ทาแบบทดสอบในรายวิชาต่าง ๆ ถูกต้องจานวนก่ขี อ้ โดยการบนั ทึกในแบบบนั ทึกการพัฒนาการเรียนรู้ รายวชิ าบังคับ ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ดังน้ี ท่ี วิชำ คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ ผลกำรประเมิน 1 ทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001 30 2 ภาษาไทย พท11001 20 3 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน พต11001 30 4 คณติ ศาสตร์ พค11001 30 5 วิทยาศาสตร์ พว11001 20 6 ชอ่ งทางการเขา้ สู่อาชีพ อช11001 20 7 ทกั ษะการประกอบอาชพี อช11002 20 8 พฒั นาอาชพี ใหม้ อี ยมู่ กี ิน อช11003 20 9 เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 20 10 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ทช11002 20 11 ศลิ ปศึกษา ทช11003 20 12 สงั คมศึกษา สค11001 20 13 ศาสนา และหน้าท่พี ลเมอื ง สค11002 20 14 การพัฒนาตนเองชุมชนสงั คม สค11003 20
215 เกณฑก์ ำรประเมินผลกำรยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรียนรำยบุคคล ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น ****************** เม่ือทาแบบทดสอบในแต่ละรายวิชาบังคับระดับมัธยมศึกษาตอนต้นแล้ว ซึ่งมีแบบทดสอบ รายวิชาละ 20 ขอ้ และ 30 ขอ้ ผู้เรยี นสามารถทราบได้วา่ มีความรู้อยู่ในระดบั ใด ดังน้ี เกณฑ์การใหค้ ะแนน รายวชิ าท่ีมขี ้อสอบจานวน 20 ขอ้ จำนวนขอ้ สอบทผี่ เู้ รียนทำถกู ตอ้ ง อยู่ในระดับ หมำยเหตุ 18 - 20 ข้อ ดมี าก 16 - 17 ขอ้ ดี 14 - 15 ขอ้ ปานกลาง 10 - 13 ขอ้ พอใช้ ต่ากว่า 10 ข้อ ควรปรับปรุง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รายวชิ าท่ีมขี ้อสอบจานวน 30 ข้อ จำนวนข้อสอบที่ผู้เรยี นทำถูกตอ้ ง อยใู่ นระดบั หมำยเหตุ 26 - 30 ขอ้ ดีมาก 21 - 25 ขอ้ ดี 19 - 20 ขอ้ ปานกลาง 15 - 18 ขอ้ พอใช้ ตา่ กวา่ 15 ขอ้ ควรปรับปรงุ หมำยเหตุ: ผลจากการประเมิน ผู้เรียนสามารถนาไปปรบั ปรุงตนเองเพื่อใหเ้ กดิ การพฒั นาต่อไป
216 บรรณำนกุ รม จินตนชุ กลุ ทนนั ท.์ หนงั สือเรยี นสำระควำมรู้พ้ืนฐำน รำยวชิ ำภำษำองั กฤษในชีวติ ประจำวนั (พต21001) ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนต้น (ฉบับปรบั ปรุง 2554). กรุงเทพฯ : บริษัท เจ.ดี.แอสโซซิเอท จากดั , 2556. ชยั วฒั น์ ผดุงญาต.ิ หนังสือเรียนสำระควำมรพู้ ืน้ ฐำน รำยวชิ ำคณติ ศำสตร์ (พค21001) ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น (ฉบบั ปรับปรงุ 2554). กรงุ เทพฯ : บริษัท เจ.ด.ี แอสโซซิเอท จากดั , 2554. แนง่ นอ้ ย ค้มุ ทรพั ย์. หนังสือเรียนสำระควำมรู้พนื้ ฐำน รำยวชิ ำวิทยำศำสตร(์ พว21001) ระดบั มัธยมศึกษำตอนตน้ (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2554). กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั เจ.ด.ี แอสโซซิเอท จากดั , 2556. เพ็ญศรี เลศิ เกยี รติวทิ ยา และ สิฏฐากร ชูทรพั ย์. หนงั สอื เรียนสำระทกั ษะกำรประกอบอำชีพ รำยวชิ ำ ทักษะกำรพฒั นำอำชพี (อช21002) ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนตน้ (ฉบับปรบั ปรุง 2554). กรงุ เทพฯ : บริษทั สานกั พมิ พ์เอมพันธ์ จากัด, 2561. เพ็ญศรี เลศิ เกียรตวิ ิทยา และ สิฏฐากร ชูทรัพย์. หนงั สือเรยี นสำระทักษะกำรประกอบอำชีพ รำยวชิ ำ พัฒนำอำชีพใหม้ ีควำมเข้มแข็ง (อช21003) ระดับมัธยมศกึ ษำตอนตน้ (ฉบบั ปรบั ปรุง 2554). กรุงเทพฯ : บรษิ ัท สานักพมิ พเ์ อมพันธ์ จากดั , 2561. โสภณ เสือพันธ์ และ สุชาดา วราหพันธ์. หนังสือเรยี นสำระทักษะกำรดำเนนิ ชีวติ รำยวชิ ำ เศรษฐกจิ พอเพยี ง(ทช21001) ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนต้น (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2554). กรงุ เทพฯ : บริษัท สานกั พิมพเ์ อมพันธ์ จากัด, 2561. โสภณ เสือพันธ์ และ สชุ าดา วราหพนั ธ.์ หนังสอื เรียนสำระทักษะกำรพัฒนำสังคม รำยวิชำ กำรพฒั นำตนเอง ชมุ ชน สงั คม(สค21003) ระดับมัธยมศกึ ษำตอนต้น (ฉบบั ปรบั ปรุง 2554). พิมพ์ครงั้ ที่ 1. กรุงเทพฯ : บริษัท สานักพมิ พ์เอมพันธ์ จากัด, 2561. สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ. หนังสอื เรยี นสำระทักษะกำรดำเนินชวี ติ รำยวชิ ำ ศลิ ป์ศึกษำ (ทช21003) ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น (ฉบับปรับปรงุ 2554). กรุงเทพฯ : สานักงาน กศน., 2555. สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร. หนังสอื เรียนสำระทกั ษะกำรประกอบอำชพี รำยวชิ ำ ช่องทำงกำรพัฒนำอำชีพ (อช21001) ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนต้น (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2554). กรงุ เทพฯ : สานกั งาน กศน., 2555. สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ. หนงั สือเรยี นสำระทกั ษะกำรพัฒนำสงั คม รำยวิชำ ศำสนำและหนำ้ ท่ีพลเมือง (สค21002) ระดบั มธั ยมศึกษำตอนตน้ (ฉบบั ปรบั ปรุง 2554). กรงุ เทพฯ : สานกั งาน กศน., 2555.
217 สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร. หนังสือเรียนสำระทักษะกำรพัฒนำสงั คม รำยวิชำสงั คมศึกษำ (สค21001) ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ (ฉบบั ปรบั ปรุง 2554). กรุงเทพฯ : สานักงาน กศน., 2555. สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ. หนังสอื เรยี นสำระทักษะกำรเรียนรู้ รำยวิชำทักษะกำรเรยี นรู้ (ทร21001) ระดับมัธยมศกึ ษำตอนต้น (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2554). กรงุ เทพฯ : สานกั งาน กศน., 2555. สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ. หนังสือเรยี นสำระควำมรพู้ ้นื ฐำน รำยวิชำภำษำไทย (พท21001) ระดบั มัธยมศึกษำตอนตน้ (ฉบับปรบั ปรุง 2554). กรุงเทพฯ : สานกั งาน กศน., 2555. สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดขอนแก่น. (2563). เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการผ้เู รียนรายบุคคล ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ปีการศึกษา 2563. สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวัดพิจิตร. (2563). คูม่ ือยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น รายบุคคล ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ปกี ารศกึ ษา 2563. อัญชษิ ฐา สุขกาย. หนังสอื เรยี นสำระทกั ษะกำรดำเนนิ ชีวิต รำยวชิ ำสขุ ศกึ ษำ พลศึกษำ (ทช21002) ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น. กรุงเทพฯ : บริษัท เจ.ดี.แอสโซซิเอท จากัด, 2556. \"คู่มือพัฒนาทกั ษะการอ่านและทักษะวชิ าการผู้เรยี นรายบุคคล\" สานักงาน กศน.จงั หวัด สมุทรปราการ
218 คณะผ้จู ดั ทำ ที่ปรึกษำ สหพัฒนสมบตั ิ ผอู้ านวยการสานักงาน กศน.จงั หวัดพิจิตร 1. นายกญั จนโ์ ชติ ทองแลง ศึกษานเิ ทศก์ชานาญการพเิ ศษ โชคครองยศ ศกึ ษานเิ ทศกช์ านาญการ 2. นางสุดา ขนุ งามขา นักวิชาการศกึ ษา 3. นายคณิศร 4. นางหทัยรัตน์ คณะทำงำน ครู กศน.อาเภอทบั คลอ้ 1. นางสาวสมฤทยั พงษ์จานงค์ ครูผู้ชว่ ย กศน.อาเภอโพธ์ปิ ระทับชา้ ง 2. นายศกั ดศิ์ กล นนั ทะสขุ ครูผชู้ ว่ ย กศน.อาเภอสากเหล็ก 3. นางสาวเครือวลั ย์ ยรรยงค์ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอเมอื งพจิ ิตร 4. นางสาวภรณี เลาวกลุ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอสามง่าม 5. นายฉตั รชัย บัณฑติ ย์ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอดงเจริญ 6. นางสาวหนงึ่ ฤทยั นนทอง ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอบงึ นาราง 7. นางทิวาพร ผวิ งาม ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอวงั ทรายพนู 8. นางสาวบานเยน็ จูบา้ นไร่ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอตะพานหิน 9. นางประสบพร พุกชนื่ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอโพทะเล 10. นางสาวนลิ ยา เงนิ เสง็ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอบางมลู นาก 11. นางสาวชตุ ิมา ด้วงเงนิ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอวชริ บารมี 12. นายนภดล หริ ัญ บรรณำธิกำร 1. นายคณศิ ร โชคครองยศ ศึกษานิเทศก์ชานาญการ ครู กศน.อาเภอทบั คลอ้ 2. นางสาวสมฤทยั พงษ์จานงค์ ครูผู้ชว่ ย กศน.อาเภอโพธ์ปิ ระทับชา้ ง ครูผ้ชู ว่ ย กศน.อาเภอสากเหล็ก 3. นายศกั ดิศ์ กล นนั ทะสขุ 4. นางสาวเครอื วัลย์ ยรรยงค์
พิมพ/์ รปู เลม่ 219 1. นางสาวสมฤทยั พงษ์จานงค์ 2. นายศักด์ศิ กล นนั ทะสุข ครู กศน.อาเภอทับคลอ้ 3. นางสาวเครือวลั ย์ ยรรยงค์ ครูผู้ช่วย กศน.อาเภอโพธ์ิประทบั ชา้ ง 4. นางสาวภรณี เลาวกุล ครูผชู้ ว่ ย กศน.อาเภอสากเหล็ก 5. นายฉตั รชยั บัณฑติ ย์ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอเมืองพจิ ติ ร 6. นางสาวหน่ึงฤทัย นนทอง ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอสามงา่ ม 7. นางทิวาพร ผิวงาม ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอดงเจริญ 8. นางสาวบานเยน็ จบู า้ นไร่ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอบงึ นาราง 9. นางประสบพร พกุ ช่นื ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอวังทรายพูน 10. นางสาวนลิ ยา เงินเส็ง ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอตะพานหิน 11. นางสาวชตุ มิ า ด้วงเงนิ ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอโพทะเล 12. นายนภดล หิรญั ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอบางมลู นาก ครูกศน.ตาบล กศน.อาเภอวชิรบารมี ออกแบบปก วงศ์แสงธรรม นายณัชนนั ท์ นักเทคโนโลยสี ารสนเทศ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225