ตัวอย่างการจ่าหน้าซอง แบบท่ี ๑๗ ด่วนมาก ชาระค่าฝากส่งเป็ นรายเดอื น สบ.ทบ. ใบอนุญาตท่ี ๑ /๒๕๔๗ ปณ.หน้าพระลาน ท่ี กห ๐๔๒๑/๑๒๓ เรียน ปลดั กระทรวงมหาดไทย พ.ต.สุนทร ลอยความสุข สานักงานปลดั กระทรวง กระทรวงมหาดไทย ( สุนทร ลอยความสุข ) ถนนอษั ฎางค์ ประจา สบ.ทบ. กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐
152
การเกบ็ หนังสือ แบ่งออกเป็น ๓ ลกั ษณะ ๑.การเกบ็ ระหวา่ งปฏิบตั ิ ๒.การเกบ็ เม่ือปฏิบตั ิเสร็จแลว้ ๓.การเกบ็ ไวเ้ พอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบ
การเกบ็ ระหว่างปฏบิ ตั ิ - เป็นการเกบ็ หนงั สือท่ียงั ปฏิบตั ิไม่เสร็จ - อยใู่ นความรับผดิ ชอบของเจา้ ของเร่ือง - กาหนดวธิ ีการเกบ็ ใหเ้ หมาะสมตามข้นั ตอนของการปฏิบตั ิ
การเกบ็ เมื่อปฏิบัตเิ สร็จแล้ว - เป็นการเกบ็ หนงั สือท่ีปฏิบตั ิเสร็จเรียบร้อยแลว้ และไม่มีอะไร ตอ้ งปฏิบตั ิอีกแลว้ - เจา้ ของเรื่องจดั ทาบญั ชีหนงั สือส่งเกบ็ - มีตน้ ฉบบั และสาเนาคู่ฉบบั สาหรับเจา้ ของเรื่องและหน่วยเกบ็ ไวอ้ ยา่ งละฉบบั
การเกบ็ ไว้เพอ่ื ใช้ในการตรวจสอบ - เป็นการเกบ็ หนงั สือที่ปฏิบตั ิเสร็จเรียบร้อยแลว้ แต่ยงั มีความ จาเป็นจะตอ้ งใชใ้ นการตรวจสอบเป็นประจา - ใหเ้ จา้ ของเร่ืองแยกเรื่องเกบ็ เอกเทศโดยแต่งต้งั เจา้ หนา้ ที่ข้ึน รับผดิ ชอบ - เมื่อหมดความจาเป็นใหส้ ่งหนงั สือไปยงั หน่วยเกบ็ ของส่วน ราชการ
การเรียงหนังสือในแฟ้ ม - หนงั สือที่มีวนั ที่มาก่อนใหเ้ รียงไวข้ า้ งล่าง - หนงั สือเร่ืองเดียวกนั มีโตต้ อบหลายฉบบั เม่ือดาเนินการเสร็จแลว้ ใหเ้ รียงฉบบั หลงั สุดไวบ้ น ฉบบั มาก่อนไวด้ า้ นล่างจนจบเรื่องแลว้ เยบ็ รวมไวเ้ ป็นเร่ืองเดียวกนั
ตรากาหนดเกบ็ หนังสือ ๑. ตราท่ีใชป้ ระทบั บนหนงั สือเกบ็ เพ่ือใหท้ ราบกาหนดระยะเวลาการ เกบ็ หนงั สือ ๒. หา้ มทาลาย (เกบ็ ตลอดไป) ๓. เกบ็ ถึง พ.ศ……… (เกบ็ มีกาหนดเวลา) ๔. ขนาดไม่เลก็ กวา่ ตวั พิมพ์ ๒๔ พอยท์ ๕. ประทบั ไวม้ ุมล่างดา้ นขวาของกระดาษแผน่ แรกของหนงั สือ
อายุการเกบ็ หนังสือ โดยปกติใหเ้ กบ็ ไวอ้ ยา่ งนอ้ ย ๑๐ ปี เวน้ แต่หนงั สือดงั ต่อไปน้ี ๑.หนงั สือที่ตอ้ งสงวนเป็นความลบั ใหป้ ฏิบตั ิตามกฎหมาย ระเบียบวา่ ดว้ ยการรักษาความปลอดภยั แห่งชาติหรือระเบียบวา่ ดว้ ยการรักษา ความลบั ของทางราชการ ๒.หนงั สือที่เป็นหลกั ฐานทางอรรถคดี สานวนของศาลหรือของ พนกั งานสอบสวน หรือหนงั สืออ่ืนใดที่ไดม้ ีกฎหมาย หรือระเบียบ แบบแผนกาหนดไวเ้ ป็นพเิ ศษแลว้ การเกบ็ ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายและ ระเบียบแบบแผนวา่ ดว้ ยการน้นั
๓.หนงั สือท่ีมีคุณคา่ ทางประวตั ิศาสตร์ทุกสาขาวชิ าและมีคุณคา่ ต่อ การศึกษา,คน้ ควา้ ,วจิ ยั ใหเ้ กบ็ ไวเ้ ป็นหลกั ฐานสาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ ของชาติตลอดไปหรือตามท่ีสานกั หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรม ศิลปากรกาหนด ๔.หนงั สือที่ไดป้ ฏิบตั ิเสร็จสิ้นแลว้ และเป็นสาเนาท่ีมีตน้ เรื่องจะคน้ ได้ จากที่อื่น ใหเ้ กบ็ ไวไ้ ม่นอ้ ยกวา่ ๕ ปี ๕.หนงั สือที่เป็นเรื่องธรรมดาสามญั ซ่ึงไม่มีความสาคญั และเป็นเร่ืองท่ี เกิดข้ึนเป็นประจาเมื่อดาเนินการแลว้ เสร็จใหเ้ กบ็ ไวไ้ ม่นอ้ ยกวา่ ๑ ปี
๖.หนงั สือหรือเอกสารเก่ียวกบั การรับเงิน การจ่ายเงิน หรือการก่อหน้ี ผกู พนั ทางการเงินที่ไม่เป็นหลกั ฐานแห่งการก่อ,เปลี่ยนแปลง,โอน สงวนหรือระงบั ซ่ึงสิทธิในทางการเงินรวมถึงหนงั สือหรือเอกสาร เกี่ยวกบั การรับเงิน การจ่ายเงิน หรือการก่อหน้ีผกู พนั ทางการเงินท่ี หมดความจาเป็นในการใชเ้ ป็นฐานแห่งการก่อ,เปลี่ยนแปลง,โอน, สงวนหรือระงบั ซ่ึงสิทธิในทางการเงินเพราะไดม้ ีหนงั สือหรือเอกสาร อ่ืนท่ีสามารถนามาใชอ้ า้ งอิงหรือทดแทนหนงั สือหรือเอกสารดงั กล่าว แลว้ เม่ือสานกั งานการตรวจสอบเงินแผน่ ดินตรวจแลว้ ไม่มีปัญหาและ ไม่มีความจาเป็นตอ้ งใชป้ ระกอบการตรวจสอบหรือเพ่ือการใดๆ อีก ใหเ้ กบ็ ไวไ้ ม่นอ้ ยกวา่ ๕ ปี
ข้อยกเว้น หนงั สือเก่ียวกบั การเงิน ซ่ึงเห็นวา่ ไม่มีความจาเป็นตอ้ งเกบ็ ไวถ้ ึง ๑๐ ปี หรือ ๕ ปี แลว้ แต่กรณี ใหท้ าความตกลงกบั กระทรวงการคลงั
หนังสือทมี่ อี ายุครบ ๒๐ ปี ใหส้ ่วนราชการ จดั ส่งหนงั สือพร้อมบญั ชีส่งมอบส่งใหส้ านกั จดหมาย เหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ภายใน วนั ที่ ๓๑ มกราคม ของปี ถดั ไป
เว้นแต่ ๑.หนงั สือที่ตอ้ งสงวนเป็นความลบั ปฏิบตั ิตามกฎหมาย ระเบียบวา่ ดว้ ยการรักษาความปลอดภยั แห่งชาติหรือระเบียบวา่ ดว้ ยการรักษา ความลบั ของทางราชการ ๒.หนงั สือที่มีกฎหมาย ขอ้ บงั คบั หรือระเบียบท่ีออกใชเ้ ป็นการทว่ั ไป กาหนดไวเ้ ป็นอยา่ งอื่น ๓.หนงั สือที่ทางราชการขอเกบ็ ไว้ (ใหจ้ ดั ส่งบญั ชีหนงั สือท่ีขอเกบ็ เอง ใหส้ านกั งานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร)
บญั ชีมอบและบญั ชีหนังสือครบ ๒๐ ปี ใหม้ ีตน้ ฉบบั และสาเนาคู่ฉบบั เพือ่ ใหส้ ่วนราชการผมู้ อบและ สานกั หอจดหมายเหตุแห่งชาติผรู้ ับมอบเกบ็ ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน ฝ่ ายละฉบบั
วธิ ีรักษาหนังสือ ๑.ระมดั ระวงั หนงั สือใหอ้ ยใู่ นสภาพใชร้ าชการไดท้ ุกโอกาส ๒.หากชารุดเสียหายตอ้ งรีบซ่อม ๓.หากสูญหายตอ้ งหาสาเนามาแทน ๔.หากชารุดไม่สามารถซ่อมแซมได้ ตอ้ งรายงานผบู้ งั คบั บญั ชาทราบ ๕.ถา้ หนงั สือที่สูญหายเป็นเอกสารสิทธิตามกฎหมาย หรือหนงั สือสาคญั ท่ีเป็น การแสดงเอกสารสิทธิใหแ้ จง้ ความต่อพนกั งานสอบสวน
วธิ ียมื หนังสือท่สี ่งเกบ็ แล้ว ๑.ผยู้ มื จะตอ้ งแจง้ วา่ จะนาไปใชใ้ นราชการใด ๒.ผยู้ มื จะตอ้ งมอบหลกั ฐานการยมื ๓.การยมื ระหวา่ งส่วนราชการ ผยู้ มื และผอู้ นุญาตตอ้ งเป็นหวั หนา้ ส่วนราชการ ช้นั ผบู้ งั คบั การกรมหรือเทียบเท่า หรือผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ๔.การยมื ในส่วนราชการเดียวกนั ผยู้ มื และผอู้ นุญาตตอ้ งเป็นหวั หนา้ ส่วน ราชการระดบั กองร้อยหรือเทียบเท่า หรือผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
ห้ามบุคคลภายนอกยมื หนังสือราชการเว้นแต่ ๑.ใหด้ ูหรือคดั ลอกหนงั สือ ๒. ตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจากหวั หนา้ ส่วนราชการช้นั ผบู้ งั คบั การ กรมหรือเทียบเท่าหรือผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
การทาลายหนังสือราชการ ๑.สารวจหนงั สือท่ีครบอายกุ ารเกบ็ ในปี น้นั ๒. จดั ทาบญั ชีหนงั สือขอทาลายเสนอหวั หนา้ ส่วนราชการช้นั ผบู้ ญั ชาการ กองพลหรือเทียบเท่าข้ึนไป เพอ่ื พจิ ารณาแต่งต้งั คณะกรรมการทาลายหนงั สือ ๓.คณะกรรมการประกอบดว้ ยประธานและกรรมการอีกอยา่ งนอ้ ย๒ คน ปกติ แต่งต้งั จากขา้ ราชการช้นั สญั ญาบตั ร ๔.มติคณะกรรมการถือเสียงขา้ งมาก ถา้ กรรมการผใู้ ดไม่เห็นดว้ ยใหบ้ นั ทึก ความเห็นแยง้ ไว้ ๕.รายงานใหห้ วั หนา้ ส่วนราชการทราบ
หน้าทข่ี องคณะกรรมการทาลายหนังสือ ๑.พจิ ารณาหนงั สือท่ีจะขอทาลายตามบญั ชี ๒. หนงั สือใดไม่ควรทาลายและควรขยายเวลาการเกบ็ ใหแ้ กไ้ ขอายกุ ารเกบ็ ในตรา กาหนดเกบ็ หนงั สือ ๓.หนงั สือใดควรทาลาย ใหท้ าเครื่องหมาย X ๔.รายงานผลการพจิ ารณาพร้อมท้งั บนั ทึกความเห็นแยง้ ของคณะกรรมการ (ถา้ มี) ต่อหวั หนา้ ส่วนราชการระดบั กองพลหรือเทียบเท่าข้ึนไปเพอ่ื พิจารณาสง่ั การ ๕.ควบคุมทาลายโดยการเผาหรือวิธีอื่นที่จะไม่ตอ้ งใหห้ นงั สือน้นั อ่านเป็นเรื่องได้ ๖.เม่ือทาลายแลว้ ใหท้ าบนั ทึกลงนามร่วมกนั
มาตรฐานกระดาษ โดยปกติใชก้ ระดาษปอนดข์ าว มี ๓ ขนาด คือ ๑.ขนาด เอ ๔ ๒.ขนาด เอ ๕ ๓.ขนาด เอ ๘
มาตรฐานซอง ขนาด ซี ๔ ใชส้ าหรับบรรจุหนงั สือกระดาษตราครุฑโดย ไม่ตอ้ งพบั มีชนิดธรรมดาและขยายขา้ ง ขนาด ซี ๕ ใชส้ าหรับบรรจุหนงั สือกระดาษตราครุฑพบั ๒ ขนาด ซี ๖ ใชส้ าหรับบรรจุหนงั สือกระดาษตราครุฑพบั ๔ ขนาด ดีแอล ใชส้ าหรับบรรจุหนงั สือกระดาษตราครุฑพบั ๓
หลกั การร่างหนังสือ ๑.ผรู้ ่างจะตอ้ งรู้ชนิดและรูปแบบของหนงั สือราชการ ๒.ผรู้ ่างตอ้ งเขา้ ใจในเร่ืองที่จะร่างและรู้จุดประสงคข์ องเรื่อง ๓.แยกประเดน็ ท่ีเป็นเหตุผลและความมุ่งหมายท่ีจะร่างหนงั สือน้นั ๔.ถา้ มีหลายขอ้ ใหแ้ ยกเป็นขอ้ ๆ เพอ่ื ใหช้ ดั เจนและเขา้ ใจง่าย ๕.ความตอนใดอา้ งอิงถึงกฎหมาย ขอ้ บงั คบั ระเบียบ คาสง่ั ตอ้ งระบุ ใหช้ ดั เจน เพียงพอที่ผรู้ ับจะคน้ หามาตรวจสอบไดส้ ะดวก ๖.ใชถ้ อ้ ยคาที่ส้นั แต่เขา้ ใจง่ายและควรใชภ้ าษาแบบแผนเป็นทางการ ๗.ใชค้ าธรรมดาที่ไม่มีความหมายไดห้ ลายทาง
หลกั การร่างหนังสือ ( ต่อ ) ๘.อยา่ ใชส้ านวนที่ไม่เหมาะสมสาหรับใชเ้ ป็นสานวนหนงั สือ ๙.ถกู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ อกั ขรวิธี ตวั สะกด การันตแ์ ละวรรคตอน ๑๐.ตอ้ งรู้จกั ช่ือ ตาแหน่งและช่ือส่วนราชการท่ีถูกตอ้ ง ๑๑.ขอ้ ความสมบรู ณ์ กะทดั รัด ชดั เจน ๑๒.ลาดบั ความดี มีเอกภาพ ๑๓.ผรู้ ับเขา้ ใจไดถ้ กู ตอ้ งตามความประสงคท์ ่ีมีหนงั สือไป ๑๔.ใชถ้ อ้ ยคาสุภาพสมฐานะผรู้ ับ
หลกั การเขียนหนังสือราชการ ควรนึกก่อนเขียนเสมอวา่ ๑.จะเขียนเรื่องอะไร ๒.จะเขียนถึงใคร ๓.จะเขียนทาไม ๔.จะเขียนอยา่ งไร
„ จะเขียนเร่ืองอะไร - เพื่อสื่อความหมายใหเ้ ขา้ ใจตรงเป้ าหมายไดส้ าระครบถว้ นตามท่ีประสงค์ - เพอ่ื จะไดย้ อ่ เร่ืองลงหวั ขอ้ เรื่องไดถ้ กู ตอ้ ง กะทดั รัด ชดั เจน „ จะเขยี นถึงใคร - เพ่อื จะไดเ้ ขียนคาข้ึนตน้ และลงทา้ ยไดถ้ ูกตอ้ ง - เพื่อจะไดใ้ ชถ้ อ้ ยคาใหเ้ หมาะสมกบั ฐานะของผรู้ ับหนงั สือ „ จะเขยี นทาไม - เพือ่ จะไดเ้ ขียนใหบ้ รรลุจุดประสงคห์ รือเกิดผลตามที่ตอ้ งการ „ จะเขียนอยา่ งไร - เพื่อจะไดเ้ ขียนไดด้ ี ถูกตอ้ งตามระเบียบ
ลกั ษณะของหนังสือตดิ ต่อราชการ ๓ ชนิด ๑.หนงั สือภายนอก ๒.หนงั สือภายใน ๓.หนงั สือประทบั ตรา
การเขยี นข้อความในหนังสือติดต่อราชการ มีโครงสร้างประกอบดว้ ย ๔ ส่วนสาคญั ๑.หวั เร่ือง ๒.เน้ือเรื่อง ๓.จุดประสงคข์ องเรื่อง ๔.ทา้ ยเร่ือง
การเขยี นข้อความในส่วนหัวเรื่อง ๑.เรื่อง - คือขอ้ ความท่ียอ่ ส้นั ท่ีสุดของหนงั สือ - ควรมีบรรทดั เดียว หากจาเป็นจริงๆ ไม่ควรยาวเกิน ๒ บรรทดั - เป็นวลีหรือประโยคส้นั ๆ แต่สื่อความหมายไดช้ ดั เจน - ตอ้ งเขียนใหบ้ รรลุจุดมุ่งหมายหรือพอรู้ใจความท่ียอ่ ส้นั ท่ีสุดของหนงั สือ - ตรงประเดน็ และตรงกบั ส่วนสรุป - จะเขียนเฉพาะหนงั สือภายนอกและหนงั สือภายในเท่าน้นั
การเขียนข้อความในส่ วนหัวเร่ือง ๒.คาข้ึนตน้ - ตอ้ งเขียนท้งั ในหนงั สือภายนอก หนงั สือภายใน และหนงั สือประทบั ตรา - ตอ้ งใชต้ ามฐานะของผรู้ ับหนงั สือตามท่ีกาหนดไวใ้ นระเบียบ สานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณ
การเขยี นข้อความในส่วนเนือ้ เร่ือง - คือขอ้ ความที่ผมู้ ีหนงั สือแจง้ ไปยงั ผรู้ ับหนงั สือซ่ึงจะเขียนยอ่ หนา้ ต่อจากคาข้ึนตน้ - อาจจะเป็นขอ้ ความตอนเดียว,๒ ตอน หรือ ๓ ตอนแลว้ แต่กรณี - เน้ือเร่ืองของหนงั สือประทบั ตรามกั จะเป็นขอ้ ความตอนเดียว เพราะเป็นเร่ืองท่ีไม่มีสาระสาคญั มากนกั
กรณเี ขียนข้อความในส่วนเนือ้ เร่ือง „ เน้ือเร่ืองตอนเดียว - กล่าวถึงเหตุที่มีหนงั สือไปเพยี งตอนเดียวแลว้ กแ็ จง้ จุดประสงค์ „ เน้ือเรื่อง ๒ ตอน - กล่าวถึงเรื่องเดิมท่ีเคยติดต่อกนั มาแลว้ ตอนหน่ึงและเร่ืองสืบเนื่องต่อมา อีกตอนหน่ึงแลว้ กแ็ จง้ จุดประสงค์ „ เน้ือเร่ือง ๓ ตอน - กล่าวถึงเรื่องเดิมท่ีเคยติดต่อกนั มาแลว้ ตอนหน่ึง เรื่องสืบเน่ืองต่อมาอีกตอน หน่ึงและผลสืบเน่ืองต่อไปหรือเรื่องเก่ียวขอ้ งอีกตอนหน่ึงแลว้ กแ็ จง้ จุดประสงค์
การเขยี นคาเริ่มต้นเนือ้ เร่ือง มกั เริ่มตน้ ดว้ ยคาใดคาหน่ึงใน ๔ คาต่อไปน้ี ๑.ดว้ ย ๒.เนื่องจาก ๓.ตาม ๔.ตามที่
การเริ่มต้นเร่ืองโดยใช้คาว่า “ด้วย” หรือ “เน่ืองจาก” - ใชใ้ นกรณีที่เป็นเร่ืองใหม่ซ่ึงไม่เคยติดต่อหรือรับรู้กนั มาก่อน - เน้ือเรื่องอาจประกอบดว้ ยขอ้ ความตอนเดียว,๒ ตอน หรือ ๓ ตอนกไ็ ด้ แต่จะไม่มีคาวา่ “น้นั ” อยทู่ า้ ยวรรคตอนใดเลย
การเริ่มต้นเรื่องโดยใช้คาว่า “ตาม” “ตามท”ี่ - ใชใ้ นกรณีที่เคยมีเร่ืองติดต่อหรือรับรู้กนั มาก่อน ซ่ึงจะอา้ ง เร่ืองที่เคยติดต่อหรือรับรู้กนั มาก่อนดงั กล่าวน้นั - เน้ือเรื่องจะมีอยา่ งนอ้ ย ๒ ตอนเสมอ คือมีการอา้ งเร่ืองเดิม ตอนหน่ึงและมีเร่ืองต่อเน่ืองอีกตอนหน่ึงและอาจมีเร่ือง สืบเนื่องต่อมาหรือผลสืบเน่ืองต่อไปหรือเร่ืองเกี่ยวขอ้ งอีกตอน หน่ึงกไ็ ด้ - จะตอ้ งมีคาวา่ “น้นั ”อยทู่ า้ ยตอนแรกของเน้ือเรื่องเสมอ
การเขยี นข้อความในส่วนจุดประสงค์ของเร่ือง - ในรูปแบบหนงั สือติดต่อราชการจะมีส่วนสาคญั ท่ีเรียกวา่ “ขอ้ ความ” - ใน“ขอ้ ความ”อาจแบ่งไดเ้ ป็น ๒ ส่วนยอ่ ย ๑.เน้ือเรื่อง : จะบอกเหตุที่มีหนงั สือไป ดว้ ย,ตาม (เน้ือเร่ือง)………………. ๒.จุดประสงคข์ องเร่ือง : จะบอกความมุ่งหมายที่มีหนงั สือไป วา่ ประสงคจ์ ะใหผ้ รู้ ับหนงั สือทาอะไรหรือทาอยา่ งไร จึง (จุดประสงคข์ องเร่ือง)………………..
การเขยี นให้บรรลุจุดประสงค์ ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ขาทราบ ลงทา้ ย “เพอ่ื ทราบ” ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ขาเขา้ ใจ ช้ีแจงใหส้ มเหตุสมผล ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ขาร่วมมือ นอบนอ้ ม, ขอบคุณ ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ขาพจิ ารณา ช้ีประเดน็ ใหเ้ ห็นชดั ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ขาอนุมตั ิ ช้ีแจงเหตุผล ความจาเป็น ถา้ ตอ้ งการใหเ้ ขารู้วา่ ผดิ ช้ีใหเ้ ขารู้สึกตวั และเสียใจ
การเขียนข้อความในส่ วนท้ายเรื่อง - คาลงทา้ ย ใชต้ ามฐานะของผรู้ ับหนงั สือตามท่ีกาหนดไว้ - หนงั สือภายนอก มีคาลงทา้ ย - หนงั สือภายในและหนงั สือประทบั ตรา ไม่มีคาลงทา้ ย
การเขยี นหนังสือราชการ ๑.เขียนใหถ้ กู แบบ ๒.เขียนใหถ้ ูกเน้ือหา ๓.เขียนใหถ้ กู หลกั ภาษา ๔.เขียนใหช้ ดั เจน ๕.เขียนใหก้ ระจ่างในวรรคตอน ๖.เขียนใหร้ ัดกุมและกะทดั รัด
ระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการกาหนดลาดบั หัวข้อในเอกสารราชการ พ.ศ.๒๕๐๘ ตวั อยา่ งเอกสารที่ไม่มีคาวา่ “ขอ้ ” ตวั อยา่ งเอกสารที่มีคาวา่ “ขอ้ ” ๑. ขอ้ ๑ ๑.๑ ๑.๑ ๑.๒ ๑.๒ ๑.๓ ๑.๓ ๒. ๒.๑ ขอ้ ๒ ๒.๒ ๒.๑ ๒.๒ ๒.๒.๑ ๒.๒.๑ ๒.๒.๒ ๒.๒.๒
ผนวก - คือเอกสารท่ีแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมเพ่อื ขยายความตวั เร่ือง - ใหเ้ รียกขานดว้ ยตวั พยญั ชนะไทยเรียงตามลาดบั ๒๖ ตวั -กขคงจฉชซดตถทนบปผฝพฟมยรวสอฮ
อนุผนวก - คือเอกสารท่ีแสดงรายละเอียดเพ่ิมเติมเพ่ือขยายความผนวก - ใหเ้ รียกขานดว้ ยตวั เลข - เช่น อนุผนวก ๑, อนุผนวก ๒
ใบแทรก - คือเอกสารที่แสดงรายละเอียดเพมิ่ เติมเพอ่ื ขยายความอนุผนวก - ใหเ้ รียกขานดว้ ยตวั พยญั ชนะไทยเรียงตามลาดบั ๒๖ ตวั ทานองเดียวกบั การเรียกขานผนวก - เช่น ใบแทรก ก, ใบแทรก ข
ใบแนบ - คือเอกสารที่แสดงรายละเอียดเพ่มิ เติมเพื่อขยายความใบแทรก - ใหก้ าหนดดว้ ยตวั เลข - เช่น ใบแนบ ๑, ใบแนบ ๒
การใช้ลกั ษณะนามของทหาร ๑. กาลงั พลที่เป็นขา้ ราชการทหาร / ตารวจ ที่มีช้นั ยศ = นาย ๒. กาลงั พลท่ีเป็นขา้ ราชการกลาโหมพลเรือน ลกู จา้ งประจา และพนกั งานราชการ = คน ๓. กาลงั พลท่ีมีท้งั ๑. และ ๒. รวมอยดู่ ว้ ยกนั = คน ๔. กลุ่มบุคคลท่ีมีท้งั ทหาร ตารวจ นิติบุคคล คนทว่ั ไป และมี พระภิกษุรวมอยดู่ ว้ ย = ราย (หนงั สือราชบณั ฑิตยสถาน ท่ี รถ ๐๐๐๓/๒๑๕ ลง ๑๔ พ.ย.๔๔)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196