ทาการแทนโดยการมอบหมาย - หวั หนา้ ส่วนราชการหรือหวั หนา้ หน่วยข้ึนตรงต่อกองทพั บกท่ี เทียบเท่าตาแหน่งช้นั แม่ทพั จะมอบหมายเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ใหข้ า้ ราชการตาแหน่งใดในสงั กดั มีอานาจหนา้ ที่ทาการแทน หวั หนา้ หน่วยน้นั ๆ ในบางกรณีกไ็ ด้ - ผดู้ ารงตาแหน่ง รอง ผชู้ ่วย เสนาธิการ รองเสนาธิการ หรือผชู้ ่วย เสนาธิการของส่วนราชการหรือหน่วยใด มีอานาจหนา้ ท่ีทาการ แทนในนามของผบู้ งั คบั บญั ชาส่วนราชการหรือหน่วยน้นั ๆ ตามที่ รับมอบหมายได้
ทาการแทนโดยอตั โนมตั ิ - กรณีตาแหน่งวา่ ง หรือผดู้ ารงตาแหน่งในส่วนราชการหรือหน่วย ใดไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ีไดเ้ ป็นคร้ังคราว และยงั มิไดแ้ ต่งต้งั ผรู้ ักษาราชการหรือรักษาราชการแทน ให้ รอง ผชู้ ่วย เสนาธิการ ทาการแทนเป็นการชวั่ คราว - ในกรณีตาแหน่งน้นั ไม่มี รอง ผชู้ ่วย เสนาธิการ หรือมีแต่วา่ รอง ผชู้ ่วย เสนาธิการ ไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ีไดเ้ ป็นคร้ังคราว ใหผ้ มู้ ี ตาแหน่ง ยศ หรืออาวโุ สในยศ รองจากตาแหน่งที่วา่ งลง ทาการ แทนชวั่ คราว
การลงช่ือในหนังสือราชการเมอื่ เป็ นการสั่งการตามทไี่ ด้รับมอบหมาย ใชใ้ นกรณีดงั ต่อไปน้ี ๑. หวั หนา้ ส่วนราชการหรือหวั หนา้ หน่วยข้ึนตรงต่อกองทพั บก ที่เทียบเท่าช้นั แม่ทพั จะมอบหมายเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ให้ ขา้ ราชการตาแหน่งใดในสงั กดั มีอานาจสงั่ การในนามของหวั หนา้ ส่วนราชการหรือหน่วยน้นั ในบางกรณีกไ็ ด้ ๒. ผดู้ ารงตาแหน่ง รอง ผชู้ ่วย เสนาธิการ รองเสนาธิการ หรือ ผชู้ ่วยเสนาธิการของส่วนราชการหรือหน่วยใดมีอานาจสง่ั การใน นามของผบู้ งั คบั บญั ชาส่วนราชการหรือหน่วยน้นั ๆ ตามท่ีรับ มอบหมายได้
การลงช่ือในหนังสือราชการเมื่อเป็ นการส่ังการตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย(ต่อ) ๒.๑การสงั่ การในนามของผบู้ งั คบั บญั ชาตามที่ไดร้ ับมอบท่ีใช้ ภายในหน่วย ใหใ้ ชค้ าวา่ “รับคาสงั่ ” ลงทา้ ยเรื่องที่สง่ั น้นั ๒.๒ในกรณีท่ีผรู้ ับมอบอานาจลงนามในเอกสารที่ออกนอกหน่วย ใหใ้ ชค้ าวา่ “ทาการแทน”
การลงชื่อในหนังสือราชการเมอ่ื เป็ นการส่ังการตามท่ีได้รับมอบหมาย(ต่อ) ๓.ในกรณีท่ีเป็นการรักษาราชการ หรือรักษาราชการแทน ในตาแหน่งที่มิใช่ หวั หนา้ ส่วนราชการ เช่น รอง หรือเสนาธิการและตาแหน่งน้นั ไดร้ ับมอบอานาจ จากหวั หนา้ ส่วนราชการใหล้ งนามในเอกสารหรือสง่ั การในนามหวั หนา้ ส่วน ราชการไว้ การลงตาแหน่งของผทู้ ี่ไปรักษาราชการหรือรักษาราชการแทนในฐานะ ตาแหน่งที่ไดร้ ับมอบอานาจน้นั ใหล้ งตาแหน่งของผทู้ ่ีไปรักษาราชการหรือรักษา ราชการแทนต่อดว้ ยอานาจในการลงช่ือไวใ้ นบรรทดั เดียวกนั และใหอ้ ยเู่ หนือ ตาแหน่งของเจา้ ของหนงั สือ ส่วนกรณีสง่ั การโดยรับคาสงั่ ไม่ตอ้ งมีอานาจในการ ลงช่ือและตาแหน่งเจา้ ของหนงั สือ เน่ืองจากไดน้ าอานาจในการลงช่ือ (รับคาสง่ั ) และตาแหน่งเจา้ ของหนงั สือ (ตาแหน่งหวั หนา้ ส่วนราชการ)ไปไวเ้ หนือลายมือช่ือ แลว้
การลงช่ือในหนังสือราชการเมือ่ เป็ นการส่ังการตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย(ต่อ) ๓.๑ในกรณีท่ีเป็นการสงั่ การภายในหน่วย ใหใ้ ชค้ าวา่ “รับคาสง่ั ” ลงทา้ ยเร่ืองท่ีสง่ั น้นั ๓.๒ ในกรณีท่ีเป็นหนงั สือออกนอกหน่วย ใหใ้ ชค้ าวา่ “ทาการแทน”
หนังสือภายนอกที่ใช้ภายใน กห. „ ใชก้ ระดาษตราครุฑ „ ใชค้ ายอ่ „ เป็นแบบพธิ ี ติดต่อภายในกระทรวงกลาโหม „ ผบู้ งั คบั บญั ชามีถึงผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา หรือผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาเรียน ผบู้ งั คบั บญั ชาหรือผบู้ งั คบั บญั ชามีติดต่อถึงกนั
58
59
60
การใช้คาขนึ้ ต้น - ลงท้าย ตาแหน่ง คาขนึ้ ต้น คาลงท้าย ผู้บงั คบั บญั ชา - ผู้ใต้บงั คบั บญั ชา เรียน ไม่ต้องมีคาลงท้าย ผู้ใต้บงั คบั บญั ชา - ผู้บงั คบั บญั ชา เรียน ควรมิควรแล้วแต่จะกรุณา ผู้บงั คบั บญั ชา - ผู้บงั คบั บญั ชา เรียน ขอแสดงความนับถอื 61
๒.หนังสือภายใน - หนงั สือติดต่อราชการท่ีเป็นแบบพธิ ีนอ้ ยกวา่ หนงั สือภายนอก - ติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรมหรือส่วนราชการเดียวกนั - ใชก้ ระดาษบนั ทึกขอ้ ความ - ไม่มีคาลงทา้ ย
63
64
65
66
คาขนึ้ ต้นหนังสือภายในและบันทกึ - เรียน ใชใ้ นกรณีถึง ตาแหน่ง หรือช่ือบุคคล - เสนอ ใชใ้ นกรณีถึง ส่วนราชการ หรือหน่วยงาน - ส่ง ใชใ้ นกรณี ผบู้ งั คบั บญั ชามีถึงผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาหรือหน่วย ในบงั คบั บญั ชา - ถึง ใชใ้ นกรณีถึง ตาแหน่ง ช่ือบุคคล ส่วนราชการ หรือหน่วยงานในระดบั ต่ากวา่ เจา้ ของหนงั สือ 67
บันทึก คือขอ้ ความท่ีมีลกั ษณะดงั น้ี - ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาเสนอผบู้ งั คบั บญั ชา - ผบู้ งั คบั บญั ชาสงั่ การแก่ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา - ระหวา่ งหน่วยราชการเดียวกนั ติดต่อกนั - ใชก้ ระดาษบนั ทึกขอ้ ความ
ประเภทของการบันทกึ แบ่งเป็น ๕ ประเภท ๑. บนั ทึกยอ่ เรื่อง ๒. บนั ทึกรายงาน ๓. บนั ทึกความเห็น ๔. บนั ทึกสง่ั การ ๕. บนั ทึกติดต่อ
บันทกึ ย่อเรื่อง การเขียนหรือพิมพ์ โดยการเกบ็ ขอ้ ความยอ่ จากตน้ เร่ือง เฉพาะประเดน็ สาคญั แต่ใหเ้ ขา้ ใจเร่ืองเพยี งพอท่ีจะสง่ั งานได้ โดยไม่ผดิ พลาด
บันทึกรายงาน - การรายงานเสนอผบู้ งั คบั บญั ชาในเร่ืองที่ปฏิบตั ิหรือประสบพบ เห็นหรือสารวจสืบสวนซ่ึงเกี่ยวกบั ราชการ - ถา้ เป็นรายงานเรื่องหนา้ ที่ ใหเ้ ขียนรายงานขอ้ เทจ็ จริงใหล้ ะเอียด - ถา้ เป็นรายงานเรื่องท่ีไดร้ ับมอบหมายเฉพาะ ใหร้ ายงานทุก เร่ืองท่ีผบู้ งั คบั บญั ชาตอ้ งการทราบหรือสนใจ - ถา้ เป็นเร่ืองนอกเหนือหนา้ ท่ีซ่ึงอาจเป็นประโยชนแ์ ก่ราชการ ดว้ ยความหวงั ดี ใหเ้ ขียนรายงานใหส้ ้นั เอาแต่ขอ้ ความที่จาเป็น แต่แยกเป็นหวั ขอ้ ไวต้ ่างหาก
บนั ทกึ ความเห็น - ขอ้ ความที่เขียนหรือพมิ พแ์ สดงความรู้สึกนึกคิดของตน เก่ียวกบั เรื่องที่บนั ทึกวา่ ใคร อะไร เมื่อไร ทาไม อยา่ งไร เร่ืองใดเรื่องหน่ึง เพอื่ ช่วยประกอบการพิจารณาสงั่ การ - บนั ทึกน้ีจะทาเป็นบนั ทึกต่อเน่ืองเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงหรือ ต่อทา้ ยบนั ทึกยอ่ เร่ืองหรือบนั ทึกรายงานกไ็ ด้ โดยสรุป ประเดน็ ที่เป็นเหตุแลว้ จึงเขียนความเห็นที่เป็นผล
บันทึกความเห็น (ต่อ) - ในกรณีที่เป็นบนั ทึกเสนอผบู้ งั คบั บญั ชา ถา้ เป็นเร่ืองท่ีจะ สงั่ การไดห้ ลายทางใหบ้ นั ทึกความเห็นถึงผลดีผลเสียในการ เลือกสง่ั การทางใดทางหน่ึง - ถา้ ความเห็นน้นั เก่ียวกบั กฎหมาย กฎ ขอ้ บงั คบั ระเบียบ คาสง่ั ใด กใ็ หแ้ นบตวั บทหรือขอ้ ความของกฎหมาย กฎ ขอ้ บงั คบั ระเบียบ คาสง่ั ที่เก่ียวกบั เร่ืองน้นั เสนอไปดว้ ย
หัวข้อในบนั ทกึ ความเห็น ๑.ปัญหา กล่าวถึงสาเหตุของการทาบนั ทึกอยา่ งส้นั ๆ ช้ีวา่ อะไรคือปัญหา ๒.ขอ้ เทจ็ จริง กล่าวถึงหลกั ฐาน ขอ้ มลู ที่เก่ียวขอ้ งกบั ปัญหาและมีความ จาเป็นตอ้ งการวิเคราะห์ ๓.ขอ้ พิจารณา วิเคราะห์ปัจจยั ต่างๆ โดยอาศยั ขอ้ เทจ็ จริงนาไปสู่ทาง แกป้ ัญหาและมีขอ้ สรุปทางแกป้ ัญหาที่ดีที่สุด ๔.ขอ้ เสนอ นาขอ้ สรุปจากขอ้ พิจารณามาเสนอแนะถึงการปฏิบตั ิให้ ผบู้ งั คบั บญั ชาสง่ั การ
บนั ทึกสั่งการ „ ขอ้ ความท่ีผบู้ งั คบั บญั ชาเขียนหรือพิมพส์ งั่ การไปยงั ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาในเรื่องใดเรื่องหน่ึง
บนั ทึกติดต่อ „ การเขียนหรือพิมพข์ อ้ ความติดต่อภายในระหวา่ ง หน่วยงานหรือระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีในสงั กดั เดียวกนั „ ในกรณีท่ีมีการอา้ งถึงหนงั สือท่ีเคยติดต่อกนั หรือมีส่ิงท่ีส่ง มาดว้ ย ใหร้ ะบุไวใ้ นขอ้ ความท่ีบนั ทึกดว้ ย
77
78
79
ภาพสังเขปแสดงการเปรียบเทียบ หนังสือภายใน บันทกึ ลบั ครุฑ บันทกึ ข้อความ ส่ วนราชการ……(ไม่ระบุ)……………………………………… ครุฑ ด่วน บันทกึ ข้อความ ท.่ี ....(ไม่ระบุ)................ วนั ท…ี่ ..…..(ไม่ต้องระบุ).................. ส่วนราชการ รร.สบ.สบ.ทบ. (กองธุรการและกาลงั พล โทร.) เรื่อง........(ไม่ต้องระบุ)............................................................... ท่ี กห วนั ท่ี เม.ย.๕๐ (คาขนึ้ ต้น) เรื่อง (คาขนึ้ ต้น) (ข้อความ).......................................................... อ้างถึง (ถ้าม)ี ................................................................................................... ส่ิงทสี่ ่งมาด้วย (ถ้าม)ี ................................................................................................... ................................................................................................... (ข้อความ)..................................................... ............................................................................................. ........................................................................... .................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................. (ลงช่ือ)..................................... พล.ต……………….………. (ตาแหน่ง)………………………. (.....................................) วนั เดือน ปี ผบ.รร.สบ.สบ.ทบ. ลบั ทบ.101-003-1 80 หมายเหตุ : หนังสือภายใน ถ้าส่วนราชการเจ้าของหนังสือ เป็ น กองร้อย หมายเลขโทรศัพท์ไม่ต้องใส่ในวงเลบ็
๓.หนังสือประทับตรา หนงั สือที่ใชป้ ระทบั ตราแทนการลงช่ือของหวั หนา้ ส่วนราชการระดบั กองพล หรือเทียบเท่าข้ึนไปโดยให้ หวั หนา้ ส่วนราชการช้นั ผบู้ งั คบั การกรม หรือเทียบเท่า หรือ ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมายจากหวั หนา้ ส่วนราชการระดบั กองพล หรือเทียบเท่าข้ึนไปเป็นผรู้ ับผดิ ชอบลงช่ือยอ่ กากบั ตรา
หนังสือประทบั ตราให้ใช้ดงั นี้ - ใชร้ ะหวา่ งส่วนราชการกบั ส่วนราชการหรือระหวา่ ง ส่วนราชการกบั บุคคลภายนอก - คาข้ึนตน้ มีใชเ้ พยี งคาเดียวคือ“ถึง” - ไม่มีหวั ขอ้ อา้ งถึงและส่ิงที่ส่งมาดว้ ย
83
84
85
86
กรณที ่ีไม่ใช่เร่ืองสาคญั ๑. การขอทราบรายละเอียดเพ่ิมเติม ๒. การส่งสาเนาหนงั สือ ๓. การตอบรับทราบท่ีไม่เกี่ยวกบั ราชการสาคญั หรือการเงิน ๔. การแจง้ ผลงานที่ไดด้ าเนินการไปแลว้ ใหส้ ่วนราชการท่ีเก่ียวขอ้ งทราบ ๕. การเตือนเร่ืองที่คา้ ง ๖. เร่ืองซ่ึงหวั หนา้ ส่วนราชการระดบั กองพลหรือเทียบเท่าข้ึนไปกาหนด โดยทาเป็นคาสง่ั ใหใ้ ชห้ นงั สือประทบั ตรา
ช้ันความลบั (ใช้ตัวอกั ษรสีแดง) ๑.ลบั : ขอ้ มลู ข่าวสารลบั ซ่ึงหากเปิ ดเผยท้งั หมดหรือเพยี งบางส่วน จะก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐ ๒.ลบั มาก : ขอ้ มูลขา่ วสารลบั ซ่ึงหากเปิ ดเผยท้งั หมดหรือเพียงบางส่วน จะก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่ประโยชนแ์ ห่งรัฐอยา่ งร้ายแรง ๓.ลบั ทส่ี ุด : ขอ้ มลู ขา่ วสารลบั ซ่ึงหากเปิ ดเผยท้งั หมดหรือเพยี งบางส่วน จะก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่ประโยชนแ์ ห่งรัฐอยา่ งร้ายแรงท่ีสุด (ระเบียบวา่ ดว้ ยการรักษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔)
ผู้มีอานาจกาหนดช้ันความลบั - หวั หนา้ หน่วยงานของราชการ - หวั หนา้ หน่วยงานของราชการอาจมอบหมายผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาตาม กฏหมายกาหนดช้นั ความลบั ไดใ้ นกรณีจาเป็น - ในกรณีเร่งด่วน จนท.ท่ีเกี่ยวขอ้ งมีอานาจกาหนดช้นั ความลบั เป็นการ ชว่ั คราวไดแ้ ต่ตอ้ งรีบเสนอต่อผมู้ ีอานาจกาหนดช้นั ความลบั เพอ่ื สงั่ การ ในทนั ที (ระเบียบวา่ ดว้ ยการรักษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔)
ช้ันความเร่งด่วน ๑.ด่วนทส่ี ุด : ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ปฏิบตั ิในทนั ทีท่ีไดร้ ับหนงั สือน้นั ๒.ด่วนมาก : ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีปฏิบตั ิโดยเร็ว ๓.ด่วน : ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ปฏิบตั ิเร็วกวา่ ปกติเท่าท่ีจะทาได้ (ใช้ตัวอกั ษรสีแดงขนาดไม่เลก็ กว่าตวั พมิ พ์ขนาด ๓๒ พอยท์)
กรณที ตี่ ้องการให้หนังสือส่งถงึ มอื ผู้รับภายในเวลาทกี่ าหนด ให้ระบุคาว่า “ ด่วนภายใน แล้วลง วนั เดอื น ปี และกาหนดเวลาทต่ี ้องการให้หนังสือไป ถึงผู้รับกบั ให้เจ้าหน้าทส่ี ่งถึงผู้รับซ่ึงระบุบนหน้าซองภายในเวลาท่ี กาหนด” ด่วนภายใน ๒๖ เม.ย.๕๑ ,๐๙๓๐ (*** ไม่มีด่วนภายในวนั นี้ ***)
๔. หนังสือส่ังการ มี ๓ ชนิด ๑. คาสง่ั ๒.ระเบียบ ๓.ขอ้ บงั คบั
อานาจในการออกแบบธรรมเนียม รัฐสภา(นิติบญั ญตั ิ) ๑.พระราชบญั ญตั ิ ๒.พระราชกาหนด ๓.พระราชกฤษฎีกา ๔.กฏ ๕.ขอ้ บงั คบั ๖.คาสัง่ ฝ่ ายบริหาร กระทรวง ๗.ระเบียบ นขต.รองลงไป นขต.กระทรวง ๘.ประกาศ ๙.ขา่ ว ๑๐.แถลงการณ์ ๑๑.มติ
คาส่ัง คอื บรรดาข้อความทผ่ี ้บู ังคบั บญั ชาสั่งการให้ปฏิบตั โิ ดยชอบด้วยกฎหมาย แบ่งเป็ น ๒ ประเภท คาสั่งทวั่ ไป : เป็ นคาสั่งทใี่ ห้ส่วนราชการ หรือหน่วย หรือผู้ใต้บังคบั บญั ชา ทั่วไปปฏบิ ตั แิ ละทราบทวั่ กนั คาส่ังเฉพาะ : เป็ นคาสั่งทใี่ ห้ส่วนราชการ หรือหน่วยหรือผู้ใต้บังคบั บญั ชา ผู้มหี น้าทเ่ี กยี่ วข้องโดยเฉพาะปฏบิ ัติ **คาส่ัง ออกได้ต้งั แต่ระดับกองร้อยหรือเทยี บเท่าขึน้ ไป
95
96
97
98
ระเบยี บ คือบรรดาขอ้ ความท่ีผมู้ ีอานาจหนา้ ที่ไดว้ างไวเ้ พอ่ื เป็นหลกั ปฏิบตั ิงาน เป็ นการประจา - ใชก้ ระดาษตราครุฑ - ถา้ เป็นระเบียบที่กล่าวถึงคร้ังแรกในเรื่องน้นั ไม่ตอ้ งลงวา่ เป็นฉบบั ที่ เท่าใด แต่ถา้ เป็นระเบียบเรื่องเดียวกนั ที่มีการแกไ้ ขเพมิ่ เติม ใหล้ งเป็น ฉบบั ท่ี ๒ และท่ีถดั ๆ ไปตามลาดบั - ออกไดต้ ้งั แต่ระดบั กองร้อยหรือเทียบเท่าข้ึนไป
100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196