Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สนุกกับนิทานดาว

สนุกกับนิทานดาว

Published by NaraSci, 2021-11-21 06:47:31

Description: ผลงานผู้เข้าประกวดนิทานดาว
โครงการสานฝัน ปั้นนักดาราศาสตร์

Search

Read the Text Version

เรอ่ื ง ดาวเหนอื ณ คายลูกเสือแหงหนึ่ง มีครูฝกอยู 3 คน คนแรกชื่อแดง คนที่สองช่ือดํา คนที่สามชื่อ สม ทั้งสามคนน้ีจะ เปนครูฝกที่อยูในคายแหงน้ี และวันน้ีนั้นมีโรงเรียนหน่ึงท่ีมาจากในเมืองซึ่งจะมาทําการเขาคายพักแรมท่ีน้ี ครูท้ัง 3 คนก็ไดท ําการตอ นรบั นักเรียนและใหแบงกลุมกิจกรรมฐานเดินเปน 3 ฐานใหญๆ ประกอบดว ยฐาน การเอาเดินทาง ดว ยแผนท่แี ละเข็มทิศ ฐานท่ี 2 การเอาชีวติ รอดในปา และฐานสุดทายเปนฐานการทําอาหาร เมื่อนักเรยี นไดเขามา เรียนในแตล ะฐานแลว ก็จะเขา ไปในโรงนอนเพ่อื เตรยี มอาบนา้ํ และทํากิจกรรมกลางคืน แตในกลุมนักเรยี นนั้นจะมีอยู กลุมหนึ่งที่เปนเด็กด้ือไมยอมเขากิจกรรมและแอบหนีไปเพ่ือไมใหครูจับไดวาไมเขากิจกรรมเมื่อมาตรวจที่โรงนอน ระหวางทห่ี นีนน้ั เด็กนักเรียนกลมุ นัน้ ไดหลงเดินเขาไปในปาและไมรูว าตัวเองน้ันเดนิ ไปไกลแคไหนแลวจึงรสู ึกเหนอ่ื ย เลยแวะพกั และบังเอญิ หลับไปพอตื่นขึ้นมาอีกทีฟาเริ่มมืดมากแลวและพวกเขานั้นไมมีไฟฉายมาเลยสักอันทําใหพวก เขานั้นหลงปาไมรูทิศทางวาตวั เองน้ันอยูจุดไหน เพราะคายลูกเสือแหงนี้อยูในปาและอยูกลางภูเขา ดวยความกลัว พวกเดก็ น้ันและไดบังเอิญมองไปบนฟาและเห็นจุดสีขาวสวางโดดเดนและมีเด็กคนหน่ึงไดร องวา น้ัน “ดาวเหนือ” ใน ฐานเขม็ ทิศและแผนท่ีมสี อนอยเู ก่ียวกบั การหาทิศในตอนกลางคืนดวยการดูดาวเหนือที่สวางอยูเหนือหัวเราเดก็ จงึ ได กําหนดทศิ และไดเ ดินกลบั มาถงึ คายอยา งปลอดภยั โดยทีไ่ มมใี ครรวู าพวกเขาน้ันหนกี ิจกรรม เรยี บเรียงโดย นายอภิชยั ฮามิ จงั หวัดนราธวิ าส 144

เร่ือง ยายเเจส ตนิ กบั ตาํ นานดาวเคราะห กาลครง้ั หน่งึ ซึ่งนานมาแลว ณ บา นหลงั หนึง่ ในประเทศ..ชว งฤดูหิมะตกของปน้ี ไดม ีลูกๆของคุณยายแจสติน 4 คนกลับมาอยางพรอ มหนาพรอมตากนั มาฝากลูกๆ ใหคณุ ยายอบรมสง่ั สอนในชว งปดเทอม เด็กๆ ทั้ง 4 คนนัน้ อายุ ราวๆ 7-8 ขวบ ซ่ึงเด็กท้ัง4คน ถกู เล้ียงมาโดยการตามใจมาโดยตลอด อยากไดอะไร ตองไดทกุ อยาง ซึ่งมนั ทําใหเด็ก ท้ัง4 คนไมสามารถเขากันได เจอที่ไรเอาเปนวาตองเกิดสงครามเล็กๆ ภายในบานท้ังท่ี ซ่ึงเด็กทั้ง4 คนเติบโตมาใน สภาพแวดลอ มที่ผคู นตางแยงชงิ ดี ชิงเดน กนั ความเจรญิ รงุ เรอื งตางๆ ทําใหผูคนตอ งแขงขันกันตลอดเวลา และจะไม มีใครยอมใคร มุงแตทาํ ประโยชนส วนตวั ไมส นใจในประโยชนสวนรวม ตางคนตางจะเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ซึ่งเด็ก ทั้ง 4 คนนี้ก็เชนกัน ถึงแมว าพวกเขาจะเปนลกู พี่ลูกนองกัน แตพวกเขาตางโออวดใสกันและแยงของตางๆ แมวาจะ เปนหอ งนอนของเลนขนม เปน ตน ในครงั้ หนง่ึ เมือ่ ทุกคนกําลังนง่ั รับประทานอาหาร โดยจะมีคุณยายแจสตนิ อยูหัวโตะ อยูๆก็เกิดเหตุแยง ชิงเกาอ้ี และ อาหารท่ีวางไวบนโตะ หนาคุณยาย คุณยายเลยดุ พรอมดวยกลาวแกเดก็ ๆทั้ง 4 คนวา หลานๆ เอยย ในคํ่าคนื น้ีคุณ ยายมี เร่ืองราวตํานานสงครามเทพเจาดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาล จะเลาใหหลานฟง เด็กๆ ซึ่งมาจากในเมือง ยอ มไมเคยไดย ินเร่อื งราวดงั กลา วมากอน จงึ ทําใหเ ด็กๆ ทั้ง4คน ตางใหความสนใจ และพรอ มที่จะรับฟงเรื่องเลาจาก คุณยายของเขา อยางใจจดใจจอ เลยท่ีเดย่ี ว... เม่ือนานมาแลว ในระบบสรุ ยิ ะจกั รวาลของเรา มีกลุมดาวเคราะห จํานวน8 ดวง ซงึ่ ประกอบไปดวย ดาวพุธ ดาวศุกร โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร ดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน ซึ่งดาวเหลาน้ีเปนดาวที่ โคจรรอบดาวฤกษ ซึ่ง ในที่นห้ี มายถงึ ดวงอาทิตย นัน่ เอง ดาวเคราะหท้ัง 8 ดวงก็จะมีเทพเจาผูอาศัยอยูในแตละดวง ซ่ึงเทพเจาเหลาน้ัน ตางก็โออวดถึง ลักษณะ เดนของ ดวงดาวตัวเอง พวกเขาตางก็ไมย อมท่ีจะรวมมือสามัคคีกัน ตางคนตางตอวาซ่ึงกันและกันมาเปนเวลายาวนาน ดาว พุธเปนดาวเคราะหท่ีอยูใกลดวงอาทิตยมากที่สุด และเปนดาวเคราะหท่ีเล็กท่ีสุดในระบบสุริยะ ดาวพุธมีหลุม อุกกาบาตจาํ นวนมาก ทําใหเปลอื กดาวของพุธยนยับ พ้ืนท่ีสว นใหญของดาวพุธปกคลุมดวยที่ราบ มักจะถูกกลุมดาว ตางๆ บูลล่ีเปนประจํา ดาวศุกรเปนวัตถุทองฟาท่ีสวางท่ีสุดเปนลําดับที่ 3 รองจากดวงอาทิตยและดวงจันทร เนือ่ งจากดาวศกุ รมีวงโคจรใกลดวงอาทิตยม ากกวาโลก ชาวบาบิโลนโบราณรูจักดาวศกุ รมาตั้งแตราว 1,600 ปกอน คริสตกาล แตเช่ือวาดวยความสวางสุกใสของดาวศุกร นาจะเปนที่รูจักมากอนหนาน้ันนานแลวนับตั้งแตยุคกอน ประวตั ศิ าสตร มนั ทาํ ใหดาวศุกร โอหัง ไมสนใจใคร เพราะคิดวาตัวเองดังและเดนกวาใครๆ ในสวนของโลกเปนดาว เคราะหลําดบั ที่สามจากดวงอาทิตย และเปนวตั ถุทางดาราศาสตรเพียงหนึ่งเดียวทที่ ราบวามสี ิ่งมีชีวิต และโลกยังมี ดวงจนั ทรเ ปน บริวารถาวร 1 ดวง โลกถกู ปกคลมุ ดวยนาํ้ เปนสวนมาก ทาํ ใหโลกรูสึกวาตัวเองมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยูแ ละ เปนดาวที่พิเศษกวาดาวเคราะหอื่นอีกดวยดาวอังคารเปนดาวเคราะหที่เล็กเปนอันดับสองรองจากดาวพุธ และดาว อังคารยังเปนดาวท่ีมีสีแดงซึ่งถูกขนานนามวาเปนดาวแหงสงคราม มันทําใหดาวอังคารไมเกรงใจและใชวาจาตอวา ดาวเคราะหอ นื่ ๆในระบบสุริยะตามใจชอบมันทําใหดาวดวงอ่ืนเกลียดชังดาวอังคารเปนอยา งมากดาวพฤหัสบดี เปน ดาวที่ใหญลําดับท่ี 5 ในระบบสรุ ิยะและยังเปนวัตถุท่ีสวางอันดบั ที่ 4 ในทอ งฟา และดาวพฤหัสยังมีนํ้าหนักหนักกวา โลก 318 เทาอีกดวยดาวเสาร เปนดาวเคราะหดวงท่ี 6 จากดวงอาทิตย ถัดจากดาวพฤหัสบดี เปนดาวเคราะหที่มี ขนาดใหญเปน อันดบั 2 ของระบบสรุ ยิ ะ รองจาก ดาวพฤหสั บดี ดาวเสารเปนดาวแกสยักษทมี่ ีรัศมีเฉลี่ยมากกวา โลก 145

ประมาณเกาเทาดาวยูเรนัส เปนดาวเคราะหที่อยูหางจากดวงอาทิตยเปนลําดับท่ี 7 ในระบบสุริยะ จัดเปนดาว เคราะหแกส มีเสนผานศูนยกลาง 50,724 กิโลเมตร นับไดว ามีขนาดใหญเปนอันดับที่3 ในระบบสุริยะของเราดาว เนปจูนมีสนี ํ้าเงิน เน่ืองจากองคป ระกอบหลักของบรรยากาศผิวนอกเปน ไฮโดรเจน ฮีเลยี ม และมเี ทน บรรยากาศ ของดาวเนปจูน มีกระแสลมที่รนุ แรง (2500 กม/ชม.) อุณหภมู ิพืน้ ผิวอยูท่ปี ระมาณ -220℃ (-364 °F) ซ่ึงหนาวเย็น มาก เน่ืองจาก ดาวเนปจูนอยูไกลดวงอาทิตยมากดวงดาวท้ัง 8 ดวงตามก็โออวดสรรพคุณและจุดเดนของตนเอง พวกเขาทง้ั 8 ดวงตางก็หลงตวั เองวาหากไมมีเขาสักดวงทําใหบรรยากาศในระบบสุริยะจักรวาลจะไมส วยงาม ทําให ในระบบสรุ ิยะไดย นิ แตเสียงโตเ ถยี งของเหลา บรรดาดาวเคราะหท ง้ั 8 ดวง จนมาวันหนึ่งดวงอาทิตยเกิดรูสกึ รําคาญและเอือมระอา กับบรรดาดวงดาว 8 ดวง จึงทําใหดวงอาทิตยพูด กับบรรดาดาวท้ังหลายวา ฉันเปนดวงอาทิตยที่ใหญที่สุดในระบบจักรวาลและฉันยังเปนดวงดาวท่ีอยูศูนยกลาง ระหวางพวกทาน แลวฉันก็คิดวาพวกเราทุกคนตางก็มีดีกันทุกดวง ตางตองพ่ึงพาอาศัยกัน พวกเราถูกสรางมาเพื่อ เกื้อกูลกันทาํ ใหระบบสุริยะจักรวาลน้ีสวยงามมากขึ้น ทุกดวงมีความสําคัญตอกัน หากขาดดวงใดตัวหน่ึงอาจจะทําให ระบบสรุ ิยะจกั รวาลของเราแตกสลายไดใ นที่สุด ดวยคําพูดของดวงอาทิตยบรรดาเหลาดาวเคราะหทั้ง 8 ดวงก็คดิ ได วาพวกเราทุกคนตางมีความสําคัญตอกันตางคนตางมีหนาที่ของตนเอง ทําใหดาวเคราะหทั้ง 8 ดวงรองไหและขอ อภยั ตอ กัน จึงทําใหใ นระบบสรุ ยิ ะเกดิ ความสงบสุขตลอดกาล นิทานเร่ืองน้ีสอนใหรูวา พวกเราทกุ คนตางมีดีทุกคน เจาจะตองมีความสามัคคี ความรกั อยาไดทะเลาะ เบาะแวงตอกัน มันจะทําใหในบานของเรามี ความสุข สงบ รมเย็นตางคนตางตองพ่ึงพาอาศัยกันรวมกันเราอยู แยกกนั เราตาย เรยี บเรยี งโดย นางสาวการมี าน มะเซง็ จงั หวดั นราธิวาส 146

เรื่อง ดาวหนิ นองในหมบู า นกลบู ี กาลครั้งหนง่ึ ในหมบู านกลูบีในค่ําคืนทท่ี อ งฟา เตม็ ไปดว ยดวงดาวนับลา น ดาวบนทอ งฟาทอแสงระยิบระยบั ราวกบั แขง ขนั กนั วา ดาวดวงใดจะเปลงประกายแสงออกมาไดส วยท่สี ุดในทอ งฟา แตมีเพียงดาวดวงหนึ่งดวงเทาน้ัน ที่ ไมสามารถเปลงประกายแสงออกมาได เพราะตง้ั แตด าวดวงนเ้ี กิดมากเ็ หมอื นกอ นหินกอนหนึ่งที่ประดับอยูบนทอ งฟา ดาวดวงนี้ไมเคยทอแสงออกมา เพ่ือนๆของดวงดาวทัง้ หมดตางกันหัวเราะเยาะ และดาวทุกดวงตางเรยี กเขาวา \"ดาว หินนอ ย\" ดาวหินนอยรูสึกวาเขาแปลกวาคนอ่ืนไดวามันชางนาอับอายเหลือเกิน ท้ังท่ีดาวหินนอยไดเกิดเปนดวงดาว บนทองฟา ไมใชกอนหินที่วางอยูบนพื้นโลก ทําไมกันนะ แคแสงเพียงนิดเดียว ทําไมเขาถึงไมมี เขาอยางเปลง ประกายเหมอื นดาวดวงอื่น ถึงแมจ ะไมสวยทส่ี ุด แคแ สงท่ีทําใหเขาเปนดวงดาวอยางเต็มตัวเพียงจุดเล็กๆ จุดเดียวก็ พอ ดาวหินนอ ยจึงตัดสนิ ใจออกเดินทาง เพ่ือตามหาส่ิงที่ชวยทําใหเขานั้นสามารถมีแสงเปนของตวั เอง เขาขาม นํา้ ขา มทะเล และ ขามภเู ขาลูกใหญๆ อกี สิบลกู ดเู หมอื นเจา ดาวหินนอยไมมที ีทาจะเหน่ือยแมแตน ิดเดียว เขายงั คง มุงหนาตอไป ระหวางทางน้ัน ดาวหินนอยก็เจอกับเหลากอนเมฆ เหลากอนเมฆท้ังหลายน้ันกําลังลองลอยไปตาม กระแสลมอยบู นทองฟา ต้ังแตน น้ั มา ดาวหนิ นอยก็มชี ่อื ใหมวา \"ดาวสีทอง\" ซึ่งเปนดาวที่สวยที่สุดในโลก แตถึงกระนั้น ดาวหินนอย กไ็ มอวดวา ตวั สวยแมแ ตครงั้ เดียวเลย และเขายงั ยึดมน่ั ในความซอื่ สัตย ซ่ึงมันทําใหเขามีวนั นี้ วันท่ีเขาไดเปนดวงดาว ท่ีสามารถทอแสงเปลง ประกายทา มกลางทองฟายามคํ่าคืน ถาผูใดมีความซื่อสัตยตอ ตนเอง และ ผูอื่นละก็ ผูนั้นก็จะ ไดร ับของขวัญทีว่ ิเศษทส่ี ดุ เชนกัน เรยี บเรยี งโดย นางสาวนูรลุ ฮสุ ณา มะแซ จังหวดั นราธิวาส 147

เรื่อง The star กาลคร้ังหน่ึงนานมาแลว ณ โรงเรียนแหงหน่ึง ไดเปดรับสมัครนักเรียนใหม ซ่ึงมีนักเรียนท่ีเขามาสมัครกัน เปนจาํ นวนมากเมือ่ ถงึ วันเปดเทอม ณ หองหนึ่งมีนักเรียนคนหนง่ึ ซ่งึ เธอแปลกไปจากทุกคนเธอไมเ กงอะไรเลยไมเคย สนใจอะไรเลยแตมีส่ิงหนึ่งที่เธอชอบและตั้งใจมากคือวิชาดาราศาสตรเธอสนใจเรื่องราวท่ีอยูบนทองฟามากๆเเละ เปน สง่ิ เดยี วท่ีเธอถนัดเธอมนี ามวาลูกไกทีผ่ า นมา ไมมใี ครสนใจเธอและเธอเองกไ็ มส นใจใคร เธอใขชีวิตอยูคนเดียวมา โดยตลอด จนมีวันหน่ึง อาจารยไดมอบหมายงานใหทุกคนไปศึกษาเก่ียวกับดาวคนละดวงและใหทุกคนออกมา นาํ เสนอหนา ช้ันเรียนซงึ่ วันน้นั ลกู ไก ไดออกมานาํ เสนอเปน คนสดุ ทาย ดาวที่เธอไดศ ึกษานน้ั ก็คอื ดาวศุกรเธอไดเลาวา เทพีวนี ัส (องั กฤษ: Venus) เปนเทพีแหงเทพปกรณมั โรมันท่ีมีความเกี่ยวของโดยตรงกับความรกั และความงาม หรือ อีกชื่อคือ อโฟรไดท (Aphrodite) แหง เทพปกรณัมกรกี พระนางเปนชายาของเทพวัลคัน (Vulcan)หรอื เฮฟเฟสตุส เทพแหงงานชา ง เทพวี นี ัสตามตาํ ราวาเกิดข้นึ เองจากฟองทะเล ดวยพระนามของพระนาง อะโฟรไดท น้นั มาจากคาํ วา 'Aphros'ทแ่ี ปลวาฟอง ซึง่ มตี ํานานวา พระนางเกิดในทะเลใกลเกาะไซเธอรา และถูกคล่ืนซัดไปยังเกาะไซปรัส แต บางตําราวา เปนธิดาของเทพซุสที่เกิดจากนางอัปสรไดโอนี แตที่ตรงกันคือพระนางมีความงดงามท่ีไมมีใครเทียมได แมก ระทั่งเทพธิดาดว ย กนั และสามารถสะกดใจผูชายทุกคนไดภ ายในพริบตาแรกทีม่ องเห็นพระนาง อีกท้ังพระนาง กช็ อบใจในความสวยงามของตนเองมากเสียดวย พระนางจึงไมยอมเด็ดขาดหากใครจะกลาลํ้าเสนเทพีความงามของ พระนาง ดว ยแรงริษยาที่รุนแรงพอๆกบั รูปโฉมสะสวยทําใหเทพวี นี สั เปน ท่หี วาดหว่ันของ เทพหลายๆองคในวันแรกท่ี เทพีวีนสั ปรากฏตัวบนเขาโอลิมปส เทพชายทุกองคโดยเฉพาะเทพซุสเองก็อยากไดพระนางมาครอบครอง แตเทพี วีนสั ไมใชหญิงสาวเรียบรอยหัวออนวางาย ทาํ ใหเทพซุสเกิดความโมโหและแกเผ็ดพระนาง โดยจับพระนางแตงงาน กับเทพวัลแคนพระโอรสของพระองค ซ่ึงเทพวัลแคนชอบขลุกอยูในโรงงาน กอสราง และประดิษฐสิ่งตางๆเน้ือตัว มอมแมม แถมยังเปนเทพขาเป ทาํ ใหเทพีวีนัสโกรธเคืองอยา งมาก แตพระนางก็กลาทําในส่ิงท่ีเทพีอื่นๆ ไมกลา น่ัน คือการคบชูสูชายแบบตามใจชอบ ดงั เชนเทพอาเรส เทพแหงสงคราม โอรสอีกองคของเทพซุสและเปนนองชายรวม ทอ งของเทพวัลแคน ดว ยความที่มีรปู รางหนา ตางดงามหลอเหลา ทําใหทั้งสองเทพเทพีเกิดรักใครกันในใจเงียบๆแต แรกเจอ แตเ มอื่ เทพีวีนสั ถูกจับคลมุ ถงุ ชน ทั้งสองจึงยอมอยูกินกันแบบชูรักอยางมีความสุข กระท่ังมพี ยานรักดวยกัน ถงึ 4 องค คอื คิวปด กามเทพ เทพเจาแหงความรัก มีชายาเปนคูแคนเกาของมารดานามวา เทพีไซคี และมีธิดาหนึง่ องคกับพระชายา นามวา เดลซิ ิโอแอนตีรอส โอรสองครอง เปนเทพเจาแหงการรักตอบฮารโมเนียหรือ เฮอรไมโอนี ธิดาองคทส่ี าม ซงึ่ เทพอาเรสยกใหแตงงานกับแคดมสั ผกู อตั้งเมืองธีบส โดยเทพอาเรสไมร เู ลยวา พระองคไ ดสาปแชง แคดมัสไว ธดิ าองคน้ใี นทส่ี ุดก็กลายรางเปนงูตามสวามี และลูกหลานสืบตอมาจึงประสบกับชะตาอันนาเศรา อยางท่ี รจู ักกันดีคอื โอดิปสุ ผซู ึ่งฆา พอ ของตนและไดแ มเ ปน ภรรยาอัลซิปเปธิดา องคสุดทอง มีรูปโฉมงดงามจนถูกโอรสเทพ โพไซดอนลักพาตัวไป ทายสุดเทพอาเรสตามชิงธิดากลับมาได และฆาโอรสเทพโพไซดอนตาย เทพโพไซดอนโกรธ เคืองมากถงึ ขนาดตอ งข้นึ ศาลกับเทพอาเรส แตทา ยทส่ี ุดเทพอาเรสชนะความเทพเฮอรมีส ซึ่งเปนนอ งชายตางมารดา กบั เทพอาเรสและเทพวัลแคน เปน เทพแหง การตอิ ตอสอ่ื สาร การโกหก และการขโมย ทั้งสองมโี อรสชายดวยกันหน่ึง องคค ือ เฮอรมาโฟไดทัส แตภายหลังก็กลายเปนเทพสองเพศ เพราะมีนางอัปสรช่ือ ซาลมากิส มาหลงรักเฮอรมาโฟ ไดทัส ทวาเขาไมไยดีตอนางเลย นางจึงวิงวอนแกเทพเจาใหนางไดติดตามเขาไปทุกที่ ทายสุด นางซาลมากิสก็ถูก หลอมรวมเปนหนึ่งเดียวกับเฮอรมาโฟไดทัสตามแรงอธษิ ฐาน ทําใหเฮอรมาโฟไดทัสมีสองเพศนับแตนั้นมาอาโดนิส ชายรูปงามซึ่งเปนตนกําเนิดของดอกกุหลาบ เลามาวา ครั้งหนึ่งในปาใหญ ขณะเทพีวีนัสกําลังประพาสปา เกิดพบ 148

ตนไมใหญงดงามตนหนึ่งหักโคนลง และภายในมเี ด็กชายหนา ตานารกั อยู พระนางจึงรับเด็กชายไวและต้ังชื่อเขาวา อาโดนสิ พระนางฝากเทพเี พอรเ ซโฟน่มี เหสแี หง เทพฮาเดสดูแล จนกระทง่ั เวลาลว งเลยผานมา เทพีวีนัสบังเอิญถูกศร รักของโอรสสะกิดจนเปนแผลเล็ก และเวลาประจวบเหมาะกับท่ีอาโดนสิ เม่ือโตเปนหนุม แลวมาปรากฏตรงหนาพระ นาง ทําใหเทพีวีนัสหลงรกั อาโดนิสปกใจ และขออาโดนิสคืนจากเทพีเพอรเซโฟน่ี แตองคเทพีไมยินยอมดวยความ ผูกพันท่ีมีตอชายหนุม ทั้งสองเทพีจึงเกิดเบาะแวงกันใหญโต เทพซุสจึงตัดสินใหอาโดนิสสามารถอยูกับเทพีวีนัสสี่ เดือนบนโลกมนุษย อยูอีกสี่เดือนในยมโลกกับเทพีเพอรเซโฟน่ี และอีกสี่เดือนอาโดนิสจะอยูท่ีไหนก็ไดตามใจ (บาง ตําราก็วา แบงระหวางสองเทพีองคล ะ 6 เดือน) แตเทพอาเรสหึงหวงชายา(ลับ)ของตนมาก จึงแปลงเปนหมปู าท่ีอา โดนิสชอบลาลวงเขาเขาปาไปและฆาทง้ิ เทพีวีนัสเสียใจมากที่พบแตศพของชายคนรัก พระนางจึงเนรมิตดอกไมงาม ข้ึนมาจากเลือดของอาโดนิส ซ่ึงเปนดอกไมสัญลักษณแหงความรัก ดอกกุหลาบน่ันเองแอนไคซีส แอนไคซีสเปน มนุษยธรรมดา เปน บุตรเขยของทาวอิลัสปูของทาวเพรียมฝายทรอย ทง้ั ๆที่เขามีชายาอยูแลว แตเทพีวีนัสก็หลงใหล ในตวั ของแอนไคซสี มาก พระนางแปลงตวั มาเปนนางอัปสรประจําเขาไอดา และหาโอกาสใกลชิดกับแอนไคซีส จนมี บตุ รดว ยกนั หน่ึงคนคอื อเี นยี ส วรี บรุ ษุ ฝา ยทรอยในสงครามทรอย ผกู อตัง้ อาณาจกั รโรมนั อนั ยิ่งใหญ เปน ตน พอลกู ไกน าํ เสนอเสร็จทกุ คนตา งกนั ปรบมอื ใหเปนคร้ังแรกท่ีเธอรูสึกวาเธอมีเพื่อนเเละไมไดอยูคนเดยี วเธอหันไปมอง ใครๆทกุ คนก็ตา งย้มิ และปรบมือใหเธอ การนําเสนอในคร้ังน้ี ทําใหเธอพบกับชีวิตใหมในโรงเรียนเเหงนี้เธอมีเพ่ือนและไมไดอยูคนเดียวเหมือนท่ี ผานๆมาแลว หรือเรียกอยางวาเธอไดรับการยอมรับในหมูเพื่อนนั้นเองแตอยางที่บอกเลามาขางตนลูกไกไมมี ความสามารถดานอืน่ เลยเพอ่ื นเลยต้งั ฉายาใหเธอวา The star เรยี บเรยี งโดย นางสาวมูบาสีเรา ะ โตะแย จงั หวดั ปต ตานี 149

เรอ่ื ง ครอบครวั ดาวเคราะห กาลคร้ังหน่ึงนานมาแลว มีครอบครัวหนึ่ง ณ หมูบานแหงหนึ่ง และครอบครัวนี้มีชื่อวา ครอบครัวดาว เคราะห เขามีลูกทั้งหมด แปดคน ลูกท้ังแปดคนของครอบครวั ดาวเคราะห มีความสามารถ ความสวยและลักษณะ เดนทตี่ างกัน ส่ิงท่ีตา งกันพี่นองของครอบครัวดาวเคราะห หน่ึงมีมหาสมุทรที่เตม็ ไปดวยนํ้า ดาวเคราะหท่ีคลายโลกมาก ท่ีสดุ คือดาวอังคารครัง้ หน่งึ ก็เคยมมี หาสมทุ รหรือทะเล แตส ง่ิ ท่ีดาวอังคารและดาวเคราะหดวงอ่ืนไมมีอยางโลกน่ันคอื กาซออกซิเจนจํานวนมากในชั้นบรรยากาศ สอง จุดแดงใหญ (The Great Red Spot) รูปไขสีแดง มันคือพายุขนาด ใหญทเี่ หน็ มานานกวา 300 ปแ ลว พายุนี้มีขนาดใหญประมาณสามเทาของโลก สาม ยานแคสสินคี นพบปรากฏการณ ท่ีนา ตื่นตะลึง น่ันคือรูปทรงหกเหล่ียมของดาวเสาร (Hexagon Shape) กวางขนาดเทากับโลกสองดวง และยงั เปน ดาวเคราะหท ่สี วยที่สุดในระบบสุริยะเพราะวงแหวนที่สวยงามของมนั แตวงแหวนใหมท ี่คนพบลา สุดเมือ่ ป 2009 น้ัน ไกลเกินกวา นักดาราศาสตรจะจินตนาการได สี่ พายุฝุน ขนาดใหญท่สี ุดในระบบสุรยิ ะครอบคลุมพื้นที่ดาวอังคารไดทั้ง ดวงและกินเวลานานหลายเดือน และยังมีภูเขาสูงที่สดุ และหุบเหว (valley) ที่ลึกและยาวที่สุดในระบบสุริยะ หาไม เหมอื นดาวเคราะหไดๆเลย หมุนรอบตัวเองในลักษณะตะแคงขาง ท่ีเปนเชนน้ีเพราะแกนของมันเอียง หก มกี ระแส ลมที่ความเร็วมากวา 1,500 ไมลตอ ช่ัวโมงปรากฏการณนี้ยังคงเปนปริศนาวาดาวเนปจูนไดรับพลังงานที่ทําใหเกิด กระแสลมทเี่ ร็วท่ีสุดในบรรดาดาวเคราะหท ุกดวงไดอ ยางไร เจ็ด อณุ หภมู ิแตกตา งกนั สดุ สดุ และแปดอณุ หภูมิสูงทส่ี ดุ พี่นองทั้งแปดในครอบครัวดาวเคราะหมีความสามารถที่หลากหลาย ทั้งความสวย ลักษณะเดน ถึงพวกเขา จะมคี วามแตกตา งกนั พวกเขายังรัก ชว ยเหลือกัน เปนครอบครัวท่อี บอุนได เร่ืองน้ี สอนใหรวู า ความตาง ไมไ ดท ําใหแตกแยก เรียบเรยี งโดย นางสาวซาวาตี ตาเละ จังหวัดนราธิวาส 150

เรอื่ ง ทีมสิ กบั ปริศนาทองคํา กาลคร้ังหน่ึงนานมาแลวมีเด็กสาวนอยนามวา“ทีมิส” อาศัยอยูกับพอและแมของเธอทีมิสเปนเด็กที่มี ความสุขและมีความเฉลียวฉลาดตางจากเด็กทั่วไป เธอใชความฉลาดของเธอชวยเหลือชาวบานอยูบอยคร้ังยาม ชาวบานมปี ญหากจ็ ะมาใหเ ธอชวยในตอนเชาของทกุ วนั ทีมิสกับแมของเธอไดเดนิ ทางไปในเมืองสาครบุรีเพื่อซ้ือผามา ตัดเสื้อขายแตแลวเหตุการณไมคาดฝนก็เกิดขึ้น ในระหวางที่แมของเธอกําลังเลือกผาอยูน้ันก็มีเสียงโวยวายดังขึ้น ผูคนท่ีกําลังจับจายซื้อของตางตกใจ ในเหตุการณที่แมคา กับโจรขี้ขโมยกําลังทะเลาะกันแยงทองอยูนั้น ทีมิสไดเห็น เหตุการณท้ังหมด จึงออกอุบายหาเจาของทองท่ีแทจริง โดยขาจะมีคําถามถามพวกเจาท้ังสองเพียงสามขอเทาน้ัน ถาหากผูใดตอบถูกหมดถือวาทองน้ันเปนของตนนาชายทองของทานมีตําหนิหรือไม นาชายตอบวาไมมีตําหนิแต อยางใดและเจา ของรานละทองของทา นมีตําหนิหรือไมเ จาของรานตอบมีตําหนิ คําถามท่ีสอง ทีมิสถามวา ทองที่เขา ถอื มีนํา้ หนกั หรอื ไม นา ชายตอบวา มีน้าํ หนักเบาเพราะเห็นวาทองชิ้นนน้ั มีขนาดเล็ก ตางจากแมคาที่ตอบวา ถึงแมดู ภายนอกวา ทองน้ันจะมรี ูปลักษณขนาดเล็กแตถา หากไดชั่งตาช่ังแลวจะพบวาน้ําหนักทองน้ันมีน้าํ หนักมากทมี ิสจึงบ อกขอ นี้เปนขอสุดทายทานท้ังสองคิดวาทองอันนี้จะสามารถลอยนํ้าไดหรอื ไมนาชายตอบอยางมั่นใจวา ลอยได ทอง อันเล็กขนาดนั้นหากจะจมนํ้าก็คงเปนไปไมได แตแมคากลับตอบถึงแมวาทองอันน้ันจะดูท่ีมีขนาดเล็กแตมีนํ้าหนัก มาก ขามั่นใจวาทองอันน้ีตองจมนํ้าอยางแนนอน เม่ือถึงอยางนั้นแลว ชาวบานตางพากันสงสัยในส่ิงท่ีทีมิสถามทั้ง สอง จๆู กม็ เี สียงดังขนึ้ มา แลว ใครกันแนท ่ีเปนเจาของทองทีมิสจึงพิสจู นใหทกุ คนดู โดยนําทองท่อี ยูในมือของเขา เริ่ม พิสูจนท ันทีทองกอนน้ีมีรอยตําหนิจริงแตน่ีเปนเพียงขอแรกเทา น้ันยังไมสามารถท่ีจะรับรูไดวาใครคือเจาของทองที มสิ ไมร อชาจึงไดทาํ ไขปริศนาขอ 2 และขอ 3 ทนั ที เมื่อเขาไดนําทองมาแชในน้ําปรากฏวาทองกอนนัน้ ไดจมด่ิงลงไป อยูใตกนหมอ ซึ่งหมายความวา ทองน้ีมีนํ้าหนักและจมน้ํา เพียงเทานี้หลักฐานทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นวา นาชายคือโจร นั้นท่ีพูดผิดทั้งหมด คนท่ีพูดถูกคือแมคา ความจริงก็ไดปรากฏข้ึนแลววาใครคอื เจาของที่แทจ ริงของทองกอนนี้ เม่ือ ความจริงปรากฏทําใหโจรไมสามารถดิ้นหลุดจากหลกั ฐาน โจรตองยอมจํานนเพราะหลักฐานมัดตวั ทําใหโจรด้ินไม หลุด โจรคดิ ท่ีจะวงิ่ หนี แตแลว ก็หนีไ้ มรอดชาวบานไดรวมประชาทนั โจร เมอ่ื โจรไดติดคุกและคิดวาหากออกมาจาก คุกจะกลับมาแกแคนทีมิสเม่ือเวลาผานไปโจรไดออกจากคุกและออกตามหาตัวทีมิสวันหน่ึงโจรไดพบทีมิสเขาโดย บงั เอญิ ดว ยความอาฆาตจึงไดเขาไปทํารา ยทีมิสจนเสียชีวิต เมื่อชาวบานทราบขาวของทีมิสทุกคนตางเสียใจตอการ จากไปของนาง ทุกคนจึงไดท ํารูปปน เทพีทีมิสข้ึนกลางหมูบาน เพื่อเปนที่สักการะและระลึกถึงคุณงามความดีของที มิสทุกวันชาวบานก็ตางพากันสวดมนตขอพรขอใหดวงวิญญาณทีมิสไปอยูบนทองฟา และเม่ือทุกคนไดแหงนขึ้นไป มอง ก็พบวากลุมดาวแปลกๆปรากฏขึ้นมีลักษณะเปนคันชั่งเหมือนกับสิ่งทีมิสกระทําตอนมีชีวิตอยู นั่นก็คือ ความ ยุตธิ รรมในทุกๆชว งปลายเดือนตุลาคมของทกุ ปเปนวันระลึกเทพีทีมิสผูเปนเทพีแหงความยุตธิ รรมเปนเทพีในกลุมไท ทนั ตามเทพปกรณมั กรีกซ่งึ ไดร ับการพรรณนาวาสามารถ “ใหคําปรึกษาทดี่ ี” และเปนบุคคลของความสงบเรียบรอย กฎหมาย และจารีตประเพณี ส่ิงที่นางไดทําตอนชีวิตอยูบนโลกมนุษย และต้ังแตน้ันมาชาวบานก็อาศัยอยูรวมกัน อยา งมคี วามสขุ โดยยดึ หลักความยตุ ิธรรมเปน หลกั ในการดาํ รงตนตอ ไป เรียบเรยี งโดย นางสาวเบญจภรณ รุงมี จังหวัดสมุทรสาคร 151

เรอ่ื ง ดาวลูกไก ณ หมบู านแหงหนง่ึ ที่ลอมรอบไปดวยหุบเขามีครอบครัวหน่ึงอาศัยอยูในคํ่าคนื ท่ีเตม็ ไปดวยดวงดาวเด็กชาย วนั กําลงั ดูดาวอยหู นาบา นอยา งเพลดิ เพลินๆในระหวางน้ันเดก็ ชายวัน ซ่ึงเปนเดก็ ทชี่ อบสังเกตจึงไดเห็นดาวดวงหนึง่ ที่สะดุดตาและไดถ ามคุณพอ ท่ีอยูขางๆ ถึงดวงดาวท่ีมีแสงเจิดจาอยูบ นฟาและเกาะกันเปนกลมุ คอื ดาวอะไรครับ พอ ไดต อบและไดเ ลาถงึ ประวตั ขิ องดาวดวงนนั้ ”ก็เมือ่ กอ นมีตายายสองคนอาศัยอยทู ี่บานหลังหน่ึงในเชิงเขาและไดเล้ียง ไก ในคนื หนึ่งซ่ึงตรงกับคืน 15 ค่ําไดม ีพระธุดงคเ ดนิ ผา นมา ดวยความทีไ่ มม ีอะไรไห สองตายายเลยคิดไดวามีไกท่ีตน เลี้ยงไว จะนํามาเปนอาหารใหกับพระธุดงคยายจึงใหตาไปฆาแมไก เม่ือแมไกไดยินจึงรีบไปบอกลูกไกทั้ง 7 ตัววา \" ลกู จาๆ ตายายจะฆา แมใ นไมช า \" ลูกท้ัง 7 รองไหต ามแม เมอื่ คณุ ตาไดเอาแมไ กไปฆาแมไกไปทําแมไกถวาย ลูกไกทั้ง 7 ตัวจึงกระโดดเขากองไฟตายตามแมไ กดวยทาํ ใหวิญญาณลูกไกท้ัง 7 ไดไปอยูบนดวงดาว 7 ดวงออ ! เปนอยางนี้ น่ีเองตอมาเมอ่ื เวลาผานไปเขาชวงฤดฝู น เดก็ ชายวันจึงไดสังเกตดวงดาวตามเคย เด็กชายวันจึงไดถามพอวา พอครบั ทาํ ไมคืนน้ีไมเห็นดาวลูกไกแลวครับ “พอ ในชวงฤดูฝน ชวงนํ้าทวม ไมส ามารถเห็นดาวลกู ไก จากคนแกเลาสืบทอด กันวา ประมาณเดอื นพฤศจิกายน-มกราคม เรียกวา ตีกอจาโตะห “ดาวลกู ไกตก” เปนชวงฤดูฝนนน่ั เอง ไมสามารถ เห็นดาวลกู ไกไ ดในชว ง 2-3 เดือนนี้ เมื่อฤดูฝนผา นไป ก็จะเห็นดาวลูกไก และเมอ่ื หางกันประมาณ 40-50 วัน จะเห็น ดาวบลาเตะ “ดาวจระเข” เห็นไดชัดเจนซ่ึงจะอยูใกลๆ กับดาวลูกไก แตดาวจระเขจะเห็นแสง 3จุดออเขาใจแลว ครบั พอ หลังฤดฝู นผมจะสงั เกตดาวลกู ไกอ กี ที “อา งอิงจาก (นางแมะ มเู นาะ)” เรียบเรียงโดย นางสาวซารีฮะห สะรีสาเมาะ จังหวดั นราธวิ าส 152

เร่ือง สัปปะปรารมภ มนษุ ยคอื สิ่งมีชีวิตที่พรอ มดวยสติปญญาและความสามารถ เหมือนดง่ั ของขวัญสงู สุดจากพระเจา มนษุ ยคอื สัตวที่มีความรูในหลากหลายดานและพัฒนาตัวเองมานับลานป ชางนาช่ืนชมเหลือเกิน ต้ังแตเ กิดมาเขาไมเคยเห็น สิ่งมีชีวิตไหนท่ีพยายามเทามนุษยเลย สัตวเล้ือยคลานที่กินและนอนไปวันๆอยางเขาคงไมมีความคิดท่ีจะพัฒนาส่ิง รอบตัวอยา งสดุ ขดี เชนมนุษยไดหรอก เขารจู ักเพียงหาอาหาร กิน และนอนก็เทานั้น อยางไรก็ตามเวลากวา คร่งึ ชีวิต ท่ีเขาไดใชไปกับการสังเกตพวกมนุษยก็สรางความสงสยั สายหน่ึงขึ้นมาในหัว ทําไมมนุษยถ ึงกลัวงกู ันละ? ทั้งๆที่ตอง เปนพวกเขาตางหากท่ีตองหวาดกลัวมนุษย ความสงสัยน้ีเกิดข้ึนมานานต้ังแตตอนที่เขาเดินทางไปหาอาหารแลว เผลอขึ้นไปบนบานคน เสียงกรีดรองอยา งหวาดผวาและแทงไมทฟ่ี าดลงมาหลายคร้ังทั่วลําตัวเปนภาพจําที่เขาคงไม ลมื ไปอกี นานทีเดียว ‘แคเ ขาไปหาอาหารนิดเดยี วเอง กลวั อะไรขนาดน้นั กันนะ’ เขารําพึงในใจขณะท่ีแลบลิ้นดมกลิ่น หามอื้ เย็นตอ น่ีอาจจะเปน สิง่ เดยี วท่ไี มเปลยี่ นไปทามกลางยคุ สมยั ท่ีเปลี่ยนแปลงก็เปนได มนุษยนะ เปนสัตวท่ีตัดสิน ทุกอยางจากความเช่อื มากทส่ี ุดแลว เขาก็ไมแนใจเหมือนกันวาภาพจําของสายพันธุตัวเองกลายเปนสิ่งนากลัวไปต้ังแตเมื่อไหร ในชวงกอน คริสตศักราชเขายังเปนตัวแทนของการฟนฟูรักษาและการมีชีวิตใหมอยูเลย จากตํานานของเทพแอสคลีเพียสที่รู วิธีการรักษาเทพกลาวคัสใหฟนคืนจากความตายเพราะเห็นงูนําสมุนไพรชุบชีวิตมาวางบนหัวเพ่ือนงูอีกตัว เม่ือเทพ แอสคลเี พียสถูกเทพจปู เตอรสังหาร เขาก็ไดรับเกียรติไปอยบู นฟาเปนเพื่อนทานเทพเสียดวยกลายเปนกลุมดาวคน แบกงู(Ophiuchus) กลุมดาวจักรราศีท่ี 13 ที่ถูกลืมนน่ั เอง ชางเปนชวงเวลาท่ีนาปลาบปล้ืมใจจริงๆ ย่ิงไปกวานั้นงู อยา งเขายังไดไ ปพันเกลียวรอบไมคทาแหงแอสคลีเพียสเปนตราสัญลักษณข องการแพทยท ่ัวโลกอีกดวย ภาพลักษณ สายพันธุของเขาในชวงเวลาน้ีไมไดแยเลยออกจะดีเสียดวยซ้ํา ถึงกระนั้นชวงเวลาท่ีนาร่ืนรมยแบบนี้ก็ไมไดคงอยู ตลอดไป เม่ือศาสนาคริสตแพรหลายไปท่ัวทั้งทวีปยุโรป ภาพจําของปศาจงูซ่ึงแทจริงแลวเปนซาตานที่หลอกลวง ใหอดัมกับอีฟลองชิมผลไมแ หงความรูดรี ูชั่วก็กลายเปนตราประทับใหมของเขา เขากลายเปนปศาจรายท่ีทาํ ใหอดัม กับอีฟถูกไลออกจากสวนของพระเจาและแตงแตมบาปแตกําเนิดใหกับมนุษย ตํานานน้ีสรางภาพลักษณที่เลวราย ใหกับสายพันธุของเขาเหลือเกิน จากตัวแทนของการรักษากลายเปนตัวแทนของความช่ัวราย เรื่องไมดีและการ หลอกลวงไปเสียได หลังจากนั้นประตูบานของมนุษยก็ไมเคยเปดรับพวกเขาอีกเลย ท้ังๆท่หี ากมองในความเปนจริง แลวเขาก็เปน เพียงสตั วสายพันธุหน่ึงเทานนั้ ไมใชตัวแทนของการรักษาหรือซาตานใดใดท้ังสิ้น พวกมนุษยนะ ยึดตึด กับความเช่ือและเรื่องเลาจากอดีตมากเกินไป ถาหากสงสัยวาพวกเขาเปนอยางไรก็มาสังเกตและลองทําความรูจัก ชวี ิตจรงิ ๆของงดู สู ิ ไมใ ชฟง จากตํานานแลว ใชมนั ตัดสินกันแบบน้ี แตสุดทายแลวเขาก็บอกความคิดของเขากับมนุษย ไมไ ดห รอก แคเขาเขาไปในระยะสายตาก็เกือบจะถูกฆาตายแลว ถาขืนเลอื้ ยเขาไปพูดดวยละก็ เขาคงจะไดขึ้นไปอยู บนฟาเปนเพือ่ นกบั งูที่ทา นเทพแอสคลเี พียสแบกอยูเปนแน เรยี บเรียงโดย นางสาวชาลิสา พรสขุ จนั ทรา จงั หวัดกรงุ เทพมหานคร 153

เรื่อง ดวงดาวและจินตนาการ ยอนเวลาไปในชวงท่ีมนุษยถือกําเนิดขึ้น เปนชวงที่ยังไมมวี ัฒนธรรม มนุษยไดอาศัยอยภู ายในถํ้า มนุษยได รองขอความมืด เพราะมีแตแสงสวางทําใหไมสามารถนอนหลับหรือพักผอนได พระผูสรางจึงประทานความมืดแก มนษุ ย ทาํ ใหมนษุ ยดใี จเพราะมีชวงกลางวันใหทํางานและมีกลางคืนใหหลับพักผอน และแลวกาลเวลาก็ไดผานไปยัง ยคุ ท่ีมนุษยมีวัฒนธรรมและมีการพัฒนาเทคโนโลยี ความรูดานตางๆมากมาย ซ่งึ ณ ขณะนัน้ การศกึ วัตถุบนทองฟา แตยังไมไดรับการยอมรับ มีเด็กชายคนหนงึ่ ที่อาศัยอยูในชนบทและไดรับการศึกษาจากนักเดินทางที่ผานไปมา นัก เดินทางไดเ ลา เรอ่ื งวัตถุบนทอ งฟา เดก็ ชายดงั กลา วสนใจเรอื่ งเลานัน่ มาก จงึ ไดไ ปฟงนักเดินทางเลาเรือ่ งบอยคร้งั มาก ตกกลางคนื ของคืนหนง่ึ เด็กชายดังกลา วไปยืนดวู ัตถุบนทองฟาและสังเกตเห็นวา มีสิ่งที่เคลื่อนที่ตกลงมา เด็กชายได วิ่งไปตามวัตถนุ ั้น แลวเห็นวา มคี นนอนอยู เด็กชายไดไ ปชวยคนๆนั้น ปรากฏวาคนที่เด็กชายชวยไวเปนพอมด พอมด ถามเด็กชายวาเจาอยากไดส่ิงใดตอบแทน เด็กชายปฏิเสธ แตเมื่อคิดดูอีกที เด็กชายบอกวาอยากข้ึนไปดูวัตถุบน ทองฟา พอมดจึงเสกใหพรไป แตก ลับเสกใหเดก็ ชายน้ันฝนวาตนไดไปบนทองฟา เด็กชายไดไปดูและศึกษาส่ิงตางๆ เจอทั้งมังกร คนยิงธนู ปูยักษสิงโต ปลาคู แมงปองและอ่ืนอีกมากมาย แตส่ิงท่ีเด็กชายตกใจคือเขาเห็นโลก ดวง อาทติ ย ดวงจนั ทร มนั ใหญมาก เด็กชายไปท่ีโลกทเ่ี ขาอาศัยและยม้ิ ออกมา จากนั้นพอมดก็ไดพูดวา เจาเด็กนอยหมด เวลาสนกุ ของเจา แลว จากน้หี ากเจาตอ งการเหน็ มนั อกี คร้งั เจา ตอ งคน ควาหาความรู และสะสมมัน แลวสักวันเจาจะ ไดเ หน็ มันอกี ครง้ั โดยไมตองพง่ึ พรวิเศษจากขาหรือเทพใดๆท้งั สน้ิ เด็กชายไดต่ืนข้ึนและตั้งม่นั หาความรูเพ่ือจะไดเห็น วัตถุบนทองฟาจากความรูและความสามารถของตนเอง เวลาผานไปเด็กชายเติบโตเปนนักวิชาการดานวัตถุบน ทองฟาและไดสรางยานพาหนะท่ีสามารถทยานออกนอกโลก เด็กชายไดเห็นสง่ิ ที่ตนอยากเห็นมาตลอด นี่เปนเร่ือง เลา ตํานานของเดก็ ชายทส่ี นใจวัตถบุ นทองฟาและต้งั ม่นั ในการหารความรู ทเ่ี ลาโดยชายแกท่ีไดรับพรวิเศษจากพอมด ...... นิทานเร่ืองนี้สอนใหรูวา ความฝนสามารถเปนจริงได หากเรามีความมุงมั่น อดทน จดจอกับสิ่งที่ตัวเองทํา และมี ความเช่ือมน่ั ในตวั เอง เรยี บเรยี งโดย นางสาว ทศั นมี ยะโกะ จังหวดั นราธวิ าส 154

เร่อื ง เสน ทางแหง มติ รภาพ กาลคร้ังหน่ึงนานมาแลวมกี ลุม ดาวเคราะหกลุมหนง่ึ พวกเขามาจากดวงละดินแดนกันดวงแรกมนี ามวา ดาว เสาร ดวงที่2มีนามวา ดาวพฤหัสบดี ดวงท่ีสามมีนามวาดาวอังคาร พวกเขาไดมาเจอกันที่ดินแดนโลก พวกเขาได ทักทายกัน ดาวเสาร สวัสดีพวกเธอจะไปไหนกัน\"ดาวพฤหัส,ดาวอังคารไดตอบพรอมกันวา\"จะไปดูพระอาทิตยตก\" ดาวเสารก ็ตอบวา \"ฉนั ก็จะไปดูพระอาทติ ยต กเหมือนกันฉนั ขอเดนิ ทางรวมอีกคนไดไหม\"ดาวเสารตอบวา\"ไดส ิพวกเรา ตอ งการเพอ่ื นรว มทางกนั อยพู อด\"ี และแลว ทง้ั 3ดวงกไ็ ดออกเดนิ ทางไปยังเปาหมาย เปาหมายของทัง้ 3ดวงคือการไปดู พระอาทิตยในดินแดนของดาวพุธ เมื่อท้ัง3ไดเดินทางออกไปไดคร่ึงทางก็ไดเจอกับพายุลูกใหญแตพายุก็ไมสามารถ ทาํ ลายพวกเขาไดเ พราะความสามคั คีกันเกาะกลุมกันทําใหผานพนอุปสรรคคร้ังนไ้ี ปได ระยะทางท่ีจะไปดนิ แดนดาว พุธตองผา นดินแดนดาวศกุ รพ วกเขาทง้ั 3ไดชวนดาวศุกรไปเทียวชมพระอาทติ ยตกกัน ดาวศกุ รตอบวา \"ไดส \"ิ และดาว ศุกรไดถามวา ไดเ ดนิ ทางผานดาวโลกหรือเปลา \"ดาวท้ัง3ตอบวา \"พวกเราเจอกันท่ีดาวโลก\"ดาวศุกรต อบวาชวงน้ีดาว โลกโควดิ กาํ ลงั ระบาดถา เปนไปไดใ หผ า นอยา แวะนานเดยี วจะติด\"ดาวท้ัง4ก็ไดออกเดินทางไปยังดินแดนดาวพุธ ดาว ทงั้ 4 ไดอ ยเู รยี งกันดูพระอาทิตยค อยๆหลับขอบฟาไปเม่ือพระอาทิตยตกแสงก็หมดดาวท้ัง4ก็ไดเดนิ ทางกลบั ดินแดน ตัวเองจากดาวพุธไปยังดาวศุกรสงดาวศุกรเสร็จก็ไปยังดาวโลกและแลวพอถึงดาวโลกก็ไดเจอกับดาวยูเรนัสที่กําลัง เอานาฬิกาของนกั อวกาศที่ทําตกไวแ ลวดาวทง้ั 4ก็ไดเดินทางออกจากดาวโลกเน่อื งจากอยูนานไมไดกลัวโรคติดตอเลย เดินทางไปสง ดาวอังคารจากดาวอังคารไปยงั ดาวพฤหัสจากดาวพฤหัสไปยังดาวเสารสุดทายดาวยูเรนสั ก็ไดกลับบาน ดวงเดียวอยางเหงาๆระหวางทางดาวยูเรนัสไดดนู าฬิกาที่ตัวเองเก็บไดดูวาทาํ ไหมนาฬิกาท่ีเขาเก็บไดถึงไดหมุนตรง ขา มกับดวงดาวท้งั 4ดนิ แดนที่เขาไดเ ดินทางมาดาวยูเรนัสจึงไดหมุนตามนาฬกิ าทีเ่ ขาเก็บได และเขาไดตั้งช่ือเลนของ ตวั เองตามยหี่ อนาฬกิ าคือดาวมฤตยู แตเ ขายังไมร วู าดาวอกี ดวงทีห่ มุนแบบเขาคือดาวศุกร นิทานเร่ืองนี้สอนใหรวู า การมเี พื่อนรวมทางท่ีดยี อ มดกี วาการมีเพ่ือนรวมทางหลายคน แตข าดความรักความ สามัคคีความสามัคคีความรักเห็นอกเห็นใจกันเปนเร่ืองสําคัญมากเวลาท่ีเจออุปสรรค เหมือนคําท่ีเขาไดกลาวไววา เพ่ือนแทค อื ยารกั ษาชีวิตอยาปลอ ยใหต วั เองวางแลวฟุงซาน เพราะอาจเกิดอันตรายตอตัวเองและคนใกลตัว เรยี บเรียงโดย นางสาวมมุ ีนะห เจะนิ จังหวัดยะลา 155

เร่อื ง เด็กนอ ยพลูโต อยูมาวนั หนงึ่ มเี ด็กนอยคนหน่ึงอยูในชนบทเล็กๆทห่ี างไกลจากตัวเมืองเด็กนอยคนนมี่ ีชื่อวา พลูโต เขาเปน เด็กท่ีเกง ย้ิมกับทุกปญหาไดเสมอ เดก็ นอยพลูโตชอบออกไปเดนิ เลน ตอนกลางคนื บางคนื เด็กนอยพลโู ตนั่งเหงาอยู ใตต นไม เวลาเหงาชอบมองทองฟานบั ดวงดาวไปดวย อยูๆมีความคิดข้ึนมาวา… ถาดาวดวงอื่นไมตองการดาวดวงน้ี ดวงเดยี ว ดาวดวงนจี้ ะมีความรูสึกเปน อยา งไรเมื่อตองแยกกับดาวดวงอ่ืน ดาวดวงนี้รูสึกวาตนเองไมมีใครยอมรับ ยิ่ง คิดย่ิงรูสึกวาตนเองไมมีคาและอาจจะเปนตัวปญหากับดาวดวงอื่นๆก็ได บางทีก็สมควรแลวท่ีถูกดาวดวงอ่ืนๆไม ตอ งการ แตดาวดวงน้ยี ังคงตองเดนิ หนาตอ ไป ระหวา งทางนั้นดาวดวงนี้ไปเจอกับดวงจันทร ดวงจันทรจึงทักวาทาํ ไม ถงึ อยูเพียงลาํ พัง ดาวดวงนก้ี เ็ ลาส่ิงท่ีเกิดข้ึนใหกับดวงจันทรฟ ง ดวงจันทรก็บอกกับดาวดวงนว้ี า ถึงจะอยูตามลําพังก็ มีคณุ คาในตัวของตนเอง แตละคุณคานั้นไมเหมอื นกัน ไมวาจะเปนอยา งไรก็รักษาส่ิงน้ันไวตามธรรมชาติ ดาวดวงน้ี จึงไดส ติ จริงๆแลว การใชชีวิตอยตู ามลําพังก็มีความสุข ดาวดวงน้ีไดเ ห็นความแตกตางระหวางการอยูรว มกันกับการ อยตู ามลําพัง ทาํ ใหร ูวา ความสุขกเ็ กดิ ข้ึนกับตนเองไดเ ด็กนอ ยพลโู ตไดข อ คิดวา การอยูคนเดยี วก็ไมไดแ ยเ สมอไป เรยี บเรยี งโดย นางสาวนรู อาฟน ี สะมะแอ จังหวัดนราธวิ าส 156

เรอ่ื ง การเดนิ ทางของดาวเคราะหส ีแดง ใครจะรูวาบนทอ งฟา ยามค่ําคนื ในคนื ท่ีเงยี บสงดั ทส่ี ดุ เราจะพบหลักฐานของความรกั และความเศรา บนนัน้ … นานมาแลวมดี าวดวงหนึ่งที่หลงใหลในแสงสีเหลอื งนวลทม่ี ันมองเหน็ มันมักจะนง่ั มองแสงน้ันอยูเปนประจาํ จากความชอบ..กลายเปนความหลงใหล เขาเฝาคิดวาแสงสวางสีเหลืองทองน้ันมีที่มาจากไหนหนอ?ดาวอะไรกันที่ สามารถเปลง แสงที่นมุ นวลชวนฝน ไดเ ชนนัน้ “มันตอ งเปน ดาวทสี่ วยสงาและงดงามกวาใครแนๆ”ดาวดวงนอยคดิ ความหลงใหลเร่มิ กลายเปนเปาหมายของมัน ดาวดวงนอยจึงเร่ิมออกเดนิ ทางออกจากวงโคจรของตน เพ่ือที่จะไปพบ กับดาวที่เปลงแสงสีเหลืองนวลนั้นสักคร้ังเพื่อท่ีจะเดินทางไปหาดาวดวงน้ัน ดาวดวงนอยจึงไปถามคุณปูดาวแคระ ขาวผอู าวโุ สเพื่อท่จี ะถามถึงเสนทางและวิธกี ารไป “เจาจะไปที่นั่นจรงิ ๆเรอะ?”ปูดาวแคระขาวถามดวยความประหลาดใจ “ขาจะไป” “อืม…ถาเจายืนยันวา จะไปละก็เจา ก็ควรรูไ วก อน วา การจะไปถงึ ท่ีนน่ั ไดเจาตองผานเสนทางทยี่ าวไกลและอุปสรรคที่ หนกั หนาอกี 2อยา งคอื 1.แนวแถบอุกกาบาตของดาวเสารร แู ลวเจายังจะไปอยูม ัย้ ?” “ขาจะไป..แตท า นยังไมไ ดบ อกขา เร่อื งถงึ เรื่องอุปสรรคท่ี2เลย” “อืม.. อุปสรรคท2ี่ น้ัน จรงิ ๆขาเองก็ไมรูหรอกวามนั คืออะไรแตนานมาแลวเคยมีดาวดวงหนึ่ง ที่คิดอยากจะไปที่นั่น แบบเจา นีแ่ หละ..นางมชี ือ่ วา..ลนู า” ดาวนอ ยตาโพลงดว ยความประหลาดใจ “นางออกจากท่ีนี่และผานอุปสรรคทั้ง2ไปไดแตขาไมรูเพราะเหตุใดขาจึงไมเคยพบนางอีกเลย..นางคงพบเจออะไร บางอยา งทีแ่ มแ ตข า เองกย็ ังไมรูจัก..ขา จึงเรยี กมนั วา อุปสรรคที่3เจาแนใจจรงิ ๆรึวา จะไป?” ดาวนอ ยแปลกใจทีไ่ ดฟ งเรอื่ งราวน้ีแตเขากต็ อบอยา งไมลงั เลแมแตน อ ย“ขา จะไป” การเดินทางอันซ่ือตรงของดาวดวงนอยจึงเริ่มตนข้ึนอุปสรรคแรกท่ีดาวนอยตองเจอก็คือ เหลาอุกกาบาตมหาศาล บริเวณรอบดาวเสารน ัน่ เอง ดาวนอยผา เหลา อุกกาบาตไปอยางไมเ กรงกลวั จนสดุ ทา ยดาวนอยก็ผานมันไปจนได แตก็ แลกมาดวยหลุมอกุ กาบาตมากมายท่ีเพ่ิมขน้ึ บนตวั ดาวนอ ยไมส นใจยังคงมงุ หนาตอ ไป ในท่ีสดุ มนั ก็พบกับดวงดาวที่เปลงแสงสนี วลน้นั จนได.. มนั ดใี จมากรีบเขาไปหาเม่อื ดาวนอ ยเขาใกลข้ึนเทาไหรมันก็ยิ่ง เหน็ หนา ดาวดวงน้ันชัดขนึ้ เทา นัน้ จนกระทงั่ … ดาวดวงนอยสังเกตเห็นอะไรบางอยาง.. หนา ของดาวท่ีเปลงแสงสีนวล นัน้ เตม็ ไปดว ยรอยอกุ กาบาตเพราะไมมที างท่ดี าวดวงไหนจะมีรอยอุกกาบาตบนตัวไดมากเทาน้ีแนๆนอกซะจาก..จะ เคยผา นวงโคจรของดาวเสารม ากอ น.. ดาวนอยรูใ นทันทวี า ดาวดวงนี้คอื ดาวอกี ดวงท่ีทา นผเู ฒาเคยเลาแนน อน “เออทา น..ทา นคอื ลูนา หรือเลาว”ดาวนอยเอย ถาม “เจารไู ดอ ยางไร”นางหนั มามองดาวนอยดว ยความประหลาดใจ 157

“ขา มาจากทเี่ ดียวกนั กับทา นขา มาเพราะขาหลงใหลในแสงของทานเหลอื เกิน.” เมอ่ื ลูนาไดฟงดังนั้นจงึ เขาใจเรอ่ื งทั้งหมดในทันทีแลวจงึ เลาเร่อื งราวของตนใหฟ ง “..ขา เขา ใจหละ ท่ีแทเจา เองกเ็ ปน เหมอื นขา น่ีเอง” “เหมอื นทานหรอ…ทา นมาที่นเี่ พ่ือตามหาดาวดวงหนึ่งเหมือนกันหรอ?” “ใชแ ลวขา มาตามหาแสงสนี า้ํ เงนิ ทข่ี า เคยเหน็ แตต อนนีข้ าพบเขาแลว ”ลนู า พดู ตอไปอยา งออนโยน “ดาวสีนํ้าเงินทข่ี าตามหาอยนู นั้ คอื โลก ดาวท่ีขาโคจรอยูรอบๆตอนนี้น่ันเองขาออกเดินทางมาแสนไกลเพื่อหวังจะได กลายเปน ดาวเคราะหค กู ับดาวดวงน้ี แตนา เสียดายเหลือเกินท่ีรางกายของขาถูกกัดเซาะโดยเหลาอุกกาบาตจนขาไม สามารถเปนดาวเคราะหไ ดอกี ตอไปขาจงึ ทําไดเพียงกลายเปนดาวบริวารของดาวโลกท่ีขา รักเพื่อคอยปกปองเขาจาก อุกกาบาต.. ”แมจะเปนเรื่องนาเศราแตนางยงั คงพูดออกมาดวยรอยยม้ิ พรอมกับบอกวา ดาวนอยโชคดีเพียงไหนที่ มาถงึ ไดโดยที่ยงั มีรา งกายเพยี งพอทจี่ ะเปนดาวเคราะห เมอื่ ดาวนอยไดฟ งเรื่องของลูนา เขาก็ยิง่ ประทบั ใจในตวั เธอแตใ นขณะเดยี วกันเขาเองก็เศราใจเหลือเกินเพราะรูดีวาไม วาจะทําอยางไรลูนาก็คงไมกลับไปกับเขาแนนอน มนั จึงตัดสินใจกลายเปนดาวเคราะหสีแดงทีอ่ ยูขางๆกับดาวโลก เพื่ออยูใกลกับดวงดาวที่มันรักถึงแมวามันจะรูดีวาไมมีทางครอบครองไดก็ตาม ความสัมพันธของทั้งคูนั้นแมจะนา เศราแตกล็ วนเกิดจากความรัก ดาวนอยรูแลว วาอุปสรรคที่2น้ันไมมีอยูจริงหรอก แตเปนเขาเองตางหากที่เลือกที่จะ อยูตรงนี้และไมกลบั ไป ในคาํ่ คืนบางคนื ทีเ่ ราเห็นดาวท้งั 2อยูใกลกนั เราจึงเหน็ พระจนั ทรข องเรายิม้ เสมอ เรยี บเรียงโดย นายแผน ดนิ ไลเลศิ จังหวดั สิงหบ ุรี 158

เรือ่ ง ชาวประมงกบั ความเช่ือในการดทู ศิ ทางจากดาว ณ ดินแดนแหงหนึ่ง มีชาวประมงชาย 2 คน ช่ือนายสมมุติ กับนายสมศักดิ์ ออกเรือหาปลาชวงเชาเวลา 07:00 น. โดยไดออกเรือ 2 คน เหมือนปกติ และนายสมมุติถามนายสมศกั ดิ์วา (ทําไมวันน้ที างเดินเรือของเรามัน แปลกๆวะ สมศักดิ์)สมศักดิ์ก็เลยตอบขําๆไปวา (หรือคืนน้ีเราจะหลงทาง 5555)สมมติไดยินแบบน้ันเลยไดเงียบไป พรอมกังวลในใจวา คืนนห้ี ลงทางแนๆ กลับไมไดแนๆ ก็เลยเงียบอยูสักพัก แลวจึงหาปลาตอไปเรอื่ ยๆ พอเวลาผาน ไปสักพกั ประมาณบา ย 15:00 น. สมศักดเ์ิ ลยถามสมมุตไิ ปวา (เอง็ ไดป ลาเยอะหรือยังวะ ขารูสึกวันน้ีงวงๆเหน่ือยๆดี นะ พักกินขาว นอนกอนไหมสมศกั ดิ์ สัก 2 ช่ัวโมง เด๋ียวประมาณ 5 โมงเราตืน่ กันแลวเดินเรือกลับบานกัน) สมมุติ เลยตอบกลับไปวา (เอ็งพักกอนเลย ขาจะหากุงอีกนิด เด๋ียวขาก็จะพักละ)สมศักดิ์ไดยินแบบน้ัน เลยไมรอชา รีบกิน ขาวดว ยความหิวโหยของตวั เอง กนิ เสร็จกร็ บี นอน เลยไมทนั ทจ่ี ะชวนสมมตุ คิ ยุ พอสมมุติไดกุงแลว จึงหยุดพักและกิน ขา ว พอกินเสร็จแลว สมมุติก็รีบนอนเลยไมท ันดูเวลา เพราะดวยความเหน่ือยของตัวเอง ระหวา งเขาหากุงก็ปาไป 2 ชั่วโมงแลว แลวพักกินขาว นอน ตอนท่ีสมมุติจะนอนก็เวลา 5 โมงแลว พวกเขานอนจนเพลินจนถึงเวลา 20:00 น. สมศักดิ์พึ่งตื่น จึงรีบลุกดูนาฬิกาเพราะตอนสมศักดิ์ตื่นเขารูสึกมืดมากแลว จึงรีบปลุกสมมุติ แลวบอกสมมุติไปวา (สมมุติต่นื นนนนนน…… เหยตื่นนๆ นี่มัน 2 ทุมแลว เรานัดกันจะกลับตอน 5 โมงไมใชหรอ ทําไมเอ็งไมปลุกขาวะ) สมมุติเลยตอบ (หะ 2 ทุมแลวหรอ ทาํ ไมเร็วจังวะ โทษทที ี่ขาไมปลุกเอง เพราะขาหากุงเพลินไปหนอย หากุงเสร็จ รีบกินขาวแลวนอนเลย ไมทนั ดูนาฬกิ า เพราะเหน่อื ยมากกกกก)สมศักดิ์ตอบ(เออๆไมเปนไร ขาเขาใจๆ แลวเราจะ กลับยงั ไง เพราะทางมดื หมดแลวเนี่ย หรอื เราตองนอนท่ีนี่วะ สมมุติ)สมมุติตอบ (สมัยกอน ตอนท่ีปขู องขายังอยู เขา เคยสอนขาวา ถาปลายเดือนพฤศจิกายน ชาวประมงจะดูดาวลูกไกเปนเข็มทิศในการกลับถึงฝง โชคดีของเราทเี่ ราก็ มาหาปลาปลายเดือนพฤศจกิ ายนพอดี เหย ยยเราโคตรโชคดเี ลยวะสมศักด์ิ) สมศกั ดิ์เลยถาม (แลวเราจะดูดาวไหน ดู ยังไง เพราะบนทอ งฟา มดี าวเยอะแยะเต็มไปหมด) อีกอยางดาวบนทองฟาก็เหมือนๆกัน สมมุติช้ีบนทองฟาแลวตอบ ไปวา (เอ็นดูดาวดวงนน้ั สิ ทอ่ี ยูตดิ ๆกัน หลายๆดวง 7 ดวงนั้น มันมีช่ือวาดาวลกู ไก ดาวลกู ไกจะมองเห็นไดชัด ดาว น้ันเปรียบเสมอื นเข็มทิศของชาวประมงสมัยกอน เพราะคนสมยั กอนใชดาวลูกไก เปนเข็มทิศในการชี้ทางกลบั ถึงฝง สมศักดิ์เลยถามสมมติไปวา (แลวเราจะตามดาวไกนั้น ไมกลัววาจะหลงทางหรอ) สมมุติเลยตอบไปวา (ไมหลง แนนอน เพราะชาวประมงสมัยกอนทํามาแลว ถาเอ็งไมเชื่อก็ลองตามดาวลูกไกดูซิ สมศักดิ์ก็เลยรีบเดนิ เรือโดยมอง ทิศทางของดาวลูกไกตามท่ีสมมุติบอก เดินเรือไปเร่ือยๆจนใกลจะถึงฝง สมศักดิ์ก็เลยบอกสมมุติไปวา (เหยยยยย ดาวลูกไกเหมอื นเข็มทิศบอกทิศทางจริงๆดวยวะ เราใกลจะถึงฝงแลวสมมตุ ิ) สมมตุ ิก็เลยบอก (ดีนะท่ีเรามาเดินเรือ ปลายเดือนพฤศจิกายน เราจะไดเห็นดาวลูกไก และใชดาวลูกไกในการเดินเรือจนถึงฝงในครั้งน้ี โชคดีมากๆเนอะ เพราะนานๆทเี ราจะไดเหน็ ดาวลกู ไก ดาวลกู ไกห รือกระจุกดาวลกู ไก เราจะเห็นในปลายเดือนพฤศจิกายน เพราะเปน ชวงท่ีถือวาไดส ังเกตกระจกุ ดาวลูกไกไดด ีทสี่ ุด เพราะมันอยูเหนอื ทองฟาสามารถมองเห็นไดต้งั แตเวลาหัวคํ่าไปจนถึง เชามืดกันเลยทีเดียว) สมศักดิ์ก็ตอบไปวา ออออ อยางน้ีน่ีเอง ง้ันเรารีบลงจากเรือแลวกลับบานกันเถอะ ปานน้ี ภรรยาและลูกของเราคงเปนหวงเราอยู และแลว ทั้งสองก็แยกยายกนั กลบั บาน… เรยี บเรยี งโดย นางสาวสาปรู า ดอื เระ จังหวัดนราธวิ าส 159

เรื่อง เขม็ ทิศบนทองฟา (ดาวเหนือ) ณ ปาแหงหนงึ่ ในเวลาใกลค าํ่ ของวนั หน่งึ มีชายชราคนหนึ่งไดออกเดินทางไปหาอาหารซึ่งปกตแิ ลว ชายชรา คนน้จี ะหาอาหารในบรเิ วณท่คี ุนเคย แตในวันนั้นบรเิ วณที่เขาเคยหากลบั ไมม ีอะไรใหเขาสามารถนํากลับไปประกอบ อาหารไดเ ลย ทาํ ใหเขาตอ งเดินเขา ไปในปา ทล่ี กึ กวาปกติ ซ่ึงเปนเสนทางท่เี ขาน้นั ไมค ุนเคยนกั เมือ่ ชายชราผูน้ีไดส ่ิงตดิ ไมติดมือสําหรับนํากลับไปประกอบอาหารแลว เขาจึงรีบเดินทางกลับบานแตดวยเวลาใกลมืดแลวบวกกับเสนทางท่ี เขาไมคุนเคยเขาจึงเกิดความสับสนกับเสนทาง ซ่ึงเมื่อเขายิ่งเดนิ เขารูสึกวายิ่งเขาไปลึกกวาเดิม เขาพยายามหาทาง ออกจากปาลกึ แหง นั้นจนเขาเริม่ มอี าการเหนือ่ ยลา เขาจึงน่งั พักท่ีใตต น ไมใหญ เขาไดเ งยหนามองบนทอ งฟาทเี่ ต็มไป ดวยดวงดาวระยบิ ระยับและไดสังเกตเหน็ ดาวดวงหนึ่งที่มแี สงสวางมากกวาดาวดวงอ่ืน ดาวดวงน้ันจึงไดทักทายชาย ชราผนู ีว้ า .... ดาว : เจา นงั่ ทาํ อะไรอยตู รงนี้ ? ชายชรา : ฉันเดินมาหาอาหารและหลงทางหาทางกลับบานไมไ ด เธอพอชวยฉันไดไหม ? ดาว : ไดอยูแ ลว ดาวดวงจงึ ไดน าํ ทางใหก ับชายชรา ในระหวา งการเดนิ ทางไดมีการพดู คยุ ถามไถถ งึ ช่อื ของดาวดวงนน้ั ชายชรา :เจามีช่ือวาอะไร ? ดาว : ฉนั มีชื่อวา “ดาวเหนือ” หรือ ชื่ออนิ เตอรของฉนั ชอื่ “โพลาริส” ฉันเปนดวงดาวท่ีสวา งที่สุดในกลุมดาวหมีเล็ก ผูคนจะมองหาฉันเวลาท่ีหลงทางในตอนกลางคืน เพราะผูคนจะคิดวาฉันเปนเข็มทิศบนทองฟาในเวลากลางคืน น้นั เอง ฉันเปนดวงดาวท่ีปรากฏอยูกับทไ่ี มเคล่ือนทไี่ ปไหน ซ่ึงฉันจะเปนดาวสวางทอ่ี ยูตรงกลางตามเสนโคง ทางเดิน ของดาว ชายชรา : ดีเลย ฉันดีใจท่ีไดเจอเธอในคาํ่ คืนนี้ น่ีก็ใกลถึงบานของฉันแลว ฉันตองขอบคุณเธอมากๆสําหรับวันน้ีท่ี ชว ยฉนั ออกจากปาลกึ แหง นั้นได เธอวเิ ศษจริงๆเลย เธอจะอยูในความทรงจําของฉันไมเ ลือนหายไป และฉันจะมองดู เธอทุกคืนเลย ดาว : ดวยความยินดี ฉันกจ็ ะเฝามองเจาจากขา งบนและคอยชว ยเหลือผูค นท่หี ลงทาง ชายชรา : แลวฉันก็จะเลา เรอ่ื งของเธอใหคนรุนหลังไดฟ ง และแลวชายชรากไ็ ดกลบั ไปถึงบา นอยางปลอดภยั และรับประทานอาหารอยางเอรด็ อรอย..... เรยี บเรียงโดย นางสาวแวรุสนา มะดีเยาะ จังหวัดนราธวิ าส 160

เรื่อง เด็กสาวในชดุ นอนลายกลมุ ดาว “การเดนิ ทางของดวงดาวชางยาวนาน แมกาลเวลาจะเปลี่ยนผัน แมก็จะเลาใหหนูฟงทุกคืน” เปนประโยค สุดทา ยหลังจากเลานิทานกอนเขานอนแมของฉันประกอบอาชีพแมบาน แมรับทําขนมสงตามสถานท่ตี างๆ แมช อบ มองทอ งฟายามค่ําคืน ฉันสังเกตเห็นแมเงยหนามองทอ งฟา แลวนาํ้ ตาไหลทุกครัง้ ฉันสงสัยวาเพราะแมเจ็บตาหรือ แมแพแสง ฉันเห็นแมสนใจเรียนรูดวงดาวตางๆบนทองฟาฉันจึงใชเวลาเรยี นรูไปพรอมกับแม ฉันแปลกใจทุกคร้ังที่ ดวงดาวเหลาน้ันมีช่ือและตําแหนงการโคจรทีหมุนเวียนมาบรรจบทุกป ฉันจึงเริ่มอานนิยายท่ัวไปเกี่ยวกับดวงดาว หนงั สือแบบเรยี นดาราศาสตรรวมไปถึงการคนควาในเว็บไซตต างๆ ฉันพบวาดวงดาวตางๆ รวมทั้งดาวเคราะหโคจร รอบดวงอาทิตยเปนวงรี โดยมีความเร็วในวงโคจรไมเทากัน ระยะหางจากดวงอาทิตยกับคาบเวลาในการโคจรของ ดาวเคราะหแตละดวงเปนสัดสวนคงท่ี โดยมีนักวิทยาศาสตรท่ีช่ือนิวตันไดอธิบายวาท่ีเปนเชนนี้เปนเพราะอิทธิพล ของแรงโนม ถวงนน้ั เอง ในคืนท่ีฟาเปดฉันว่ิงไปในสนามหญาหนาบาน ฉันพบดาวคูหนึ่ง ท่ีเรียงกันสวางไสว ฉันเรียกแมมาถามวา ดาวคูน้ีมีชื่อเรียกวาอะไร แมจึงเริ่มบรรยาย “ดาวสองดวงน้ี คือ ดาวที่มีช่ือวา พอลลักซ (Pollux) กับคาสเตอร (Caster)” หรือเรียกวากลุมดาวคนคู หรือ Gemini ในความเปนจริงยังมีดาวฤกษสกุ สวางอีกหลายสิบดวง เรียงตัว กันจนมีลักษณะคลายมนุษยแ มย ังเลาตออีกวา กรีกโบราณเขามีตํานานเลาขานกันมาวาดาวสองดวงนี้คือดาวฝาแฝด ในตํานานกรกี โบราณ ทงั้ คูเ ปน ลูกของราชนิ ี “เลดา” แหงเมอื งสปารตา แตเปนลูกชายตา งพอ โดยพอลลักซ เปนลูก ท่ีเกิดจากเทพเจาซุส จึงเปนครึ่งมนุษยคร่ึงเทพ ขณะท่ีคาสเตอรเปนลูกท่ีเกิดจากกษัตริยสปาร จากน้ันไมนานคา สเตอรไ ดเสียชีวิตในงานเล้ียงงานแหงหน่ึง สงผลใหพอลลักซโศกเศราเสียใจเปนอยางมาก เนื่องจากพอลลักซม ีชีวิต เปนอมตะ จึงขอรองตอพอหรอื เทพเจา ซสุ ใหคาสเตอรฟนคืนชีพอีกคร้ัง เมื่อเทพเจาซุสเห็นถึงความผูกพันอันลึกซึ้ง ของพ่ีนองคูนี้ จึงนําพอลลักซและคาสเตอรใหอยูดวยกันบนสวรรคจนกลายเปนกลุมดาวคนคูบนท่ียืนเคียงกันบน ทองฟาตลอดไป นอกจากตํานานเลาของกรีกโบราณ ยังมีตานานเลาจากอื่นๆอีก แตแมไมทันไดเลาใหฟงในคืนน้ี เพราะดึกมากแลว เราสองของจึงชวนกนั เขา นอน เชา วนั ใหมท ีเ่ รงรบี ในการสงขนมของแม ฉนั ชวยแมแพ็กขนมใหเสรจ็ กอ นเวลา วันไหนที่แมมีออเดอรสงขนม วันน้ันเราทั้งวันจะวุนวายในการเตรียมของทําขนม แพ็กขนม และการสงขนมดว ยกันคูกับมอเตอรสีขาวคันเกาจาก เดิมท่ีเราสองคนรูสึกรอนและเหนื่อยมาก มันเปล่ียนความรูสึกไปหลังจากที่เราไดรับออเดอรการส่ังขนมเรื่อยๆ เพราะการสง ขนมกลายเปนการเทีย่ วท่ีสนกุ มากๆของฉัน สนุกที่เราทั้งสองไดเรียนรูเสนทางตางๆเพื่อไปถึงของลูกคา สนุกท่ีเราไดทําความรูจักและสรางสัมพันธท่ีดีใหม ฉันและแมดีใจทุกคร้ังที่ลูกคาเกาส่ังขนมเราทุกรอบ แมเคยทําขนมชั้นสีรุงขาย และแมยังต้ังใจจะทําเมนูคุกกี้ลายกาแล็กซี่อีกดวย เพ่ือเปลี่ยนมิติใหมของคุกกี้ใหนา ตนื่ เตน ทกุ ครง้ั ที่แมคิดเมนใู หม แมพยายามเอาเรื่องราวของดวงดาวมาใสใ นขนมทัง่ รูปลักษณและสสี ันทส่ี วยงาม อาทิตยคลอยบาย แมและฉันขับรถมอเตอรไซคมาถึงบา นพรอมดวยรอยยม้ิ “วันนี้สงขนมเสร็จแลว พรุงนี้ แมจะพาไปซ้ือของขวัญ เปนรางวัล” แมพูดจบแลวหันมายิ้มใหฉัน ฉันดีใจมาก “ของขวัญที่อยากไดคืออะไร” แม ถาม ฉันรบี ตอบแมโดยพลัน “ของขวัญที่อยากไดคือชุดนอนลายกลุมดาว” เพราะฉันอยากใหแมเ ลา นิทานกลุมดาว แตละกลุมใหฉันฟงทุกคืนกอนนอน เพื่อวันหนึ่งท่ีไมมีแมอยางนอยฉันก็ยังมีกลุมดาวบนทองฟาคอยเปนเพ่ือนฉัน ตลอดไป แมยมิ้ ไมหบุ ปากเลย แลว เราสองคนก็เดินกอดคอกันเขา ไปในบาน 161

เรียบเรียงโดย นางสาวซรู ซี า อาลี จังหวดั นราธวิ าส 162


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook