คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 86 5. สาระการเรียนรู้ • พทุ ธศาสนสุภาษิต 1. ยํ เว เสวติ ตาทิโส (คบคนเช่นใด เป็นคนเช่นน้นั ) 2. อตฺตนา โจทยตฺตานํ (จงเตือนตนดว้ ยตน) 3. นิสมฺม กรณํ เสยฺโย ( ใคร่ครวญก่อนแลว้ จึงทาํ ) 4. ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา (เรือนท่ีครองไมด่ ี นาํ ทุกขม์ าให)้ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เก่ียวกบั พทุ ธศาสนสุภาษิต จดั ป้ ายนิเทศเผยแพร่เรียงความหรือคาํ ขวญั เก่ียวกบั พทุ ธศาสน ศิลปะ สุภาษิต คน้ หาคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษคาํ วา่ พทุ ธศาสนสุภาษิต และคาํ ที่ ภาษาต่างประเทศ เก่ียวกบั พุทธศาสนสุภาษิต 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นําเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 18 1. ครูสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดลอ้ มในการเรียนรู้เพือ่ ใหเ้ กิดความศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ท่ีเหมาะสม เช่น จดั นงั่ แบบตวั U นาํ นกั เรียนไปเรียนท่ีหอ้ งประชุม หอ้ งจริยธรรม สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ ท่ีวดั ก่อนเรียนใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หวพ้ ระ นงั่ สมาธิ และแผเ่ มตตา 2. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 3. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพสญั ลกั ษณ์ของโรงเรียนหรือหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีมีการระบุพทุ ธศาสนสุภาษิต ไวด้ ว้ ย ซ่ึงบางที่ระบุเป็นภาษาไทย บางท่ีระบุเป็นภาษาบาลี แต่บางท่ีระบุไวท้ ้งั ภาษาไทยและภาษาบาลี เช่น สุวิชาโน ภวํ โหติ (ผมู้ ีความรู้ดีเป็นผเู้ จริญ) นตฺถิ ปญฺญฺา สมาอาภา (แสงสวา่ งเสมอดว้ ยปัญญา ไม่มี) ปญฺญฺา นตฺถิ อฌายโต (ปัญญาไมม่ ีแก่ผไู้ ม่พินิจพจิ ารณา) 4. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งพทุ ธศาสนสุภาษิตอ่ืน ๆ ที่นกั เรียนไดพ้ บเห็นตามสถานที่ ต่าง ๆ จากน้นั ช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบวา่ ปัจจุบนั มีสถานศึกษาและหน่วยงานหลายหน่วยงานไดน้ าํ พทุ ธศาสนสุภาษิตไปเป็นปรัชญาโดยระบุไวใ้ นสญั ลกั ษณ์ของสถาบนั น้นั 5. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คน้ หาคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษคาํ วา่ พทุ ธศาสนสุภาษิต จากน้นั บอกเล่าแหล่ง ท่ีมาของพุทธศาสนสุภาษิตเพื่อเชื่อมโยงไปสู่เน้ือหาที่จะเรียน ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 6. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ จากเรื่องท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านมา โดยครู คอยตอบขอ้ สงสยั และอธิบายเพิ่มเติม จากน้นั อาสาสมคั รนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 87 เรื่องที่ไดร้ ับมอบหมายใหอ้ ่านและสรุป ใหเ้ พื่อน ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและให้ คาํ แนะนาํ หรือความรู้เพิ่มเติม 7. ครูเล่าข่าวเกี่ยวกบั นกั ศึกษา 2 สถาบนั ทะเลาะวิวาทกนั จนถึงข้นั มีผเู้ สียชีวติ ใหน้ กั เรียนฟัง (ข้นั รูป/ ข้นั กาํ หนดและเสนอส่ิงเร้า) 8. ครูเล่าข่าวอยา่ งรายละเอียด พร้อมใหด้ ูภาพประกอบ (ข้นั เวทนา/ข้นั รับรู้) จากน้นั ซกั ถามนกั เรียน ในประเดน็ ต่อไปน้ี เช่น 1) นกั เรียนฟังข่าวน้ีแลว้ รู้สึกอยา่ งไร 2) เหตุการณ์ในข่าวเกิดข้ึนท่ีไหน เมื่อไร ผลเป็นอยา่ งไร 3) มีใครไดร้ ับผลกระทบจากขา่ วน้ีบา้ ง 9.ครูใชค้ าํ ถามกระตุน้ ใหน้ กั เรียนคิดวเิ คราะห์และสงั เคราะห์ถึงเหตุผลของเหตุการณ์ในข่าว(ข้นั สญั ญา/ ข้นั วิเคราะห์และสงั เคราะห์การรับรู้) โดยถามนกั เรียนต่อเน่ืองจากข้นั เวทนาวา่ 1) อะไรเป็นสาเหตุท่ีทาํ ใหเ้ กิดเหตุการณ์เช่นน้ีข้ึน (อาจไดค้ าํ ตอบวา่ เพราะศกั ด์ิศรีของสถาบนั หรือเพราะมีเรื่องบาดหมางกนั มาก่อน) 2) ถา้ ไม่ตอ้ งการใหเ้ กิดเหตุการณ์เช่นน้ีข้ึนควรทาํ เช่นไร (อาจไดค้ าํ ตอบวา่ ลดการถือศกั ด์ิศรี ของสถาบนั ลง หรือหลีกเล่ียงการทะเลาะววิ าท) 10. ครูใชค้ าํ ถามยวั่ ยเุ พ่ือใหน้ กั เรียนวจิ ารณ์ (ข้นั สงั ขาร/ข้นั ตดั สินความดีงาม) โดยถามต่อวา่ 1) เหตุการณ์ในข่าวเป็นผลดีหรือผลเสียแก่ใคร เพราะอะไร 2) การกระทาํ ของบุคคลในข่าวน่าตาํ หนิหรือน่ายกยอ่ ง เพราะอะไร 11. ครูใชค้ าํ ถามเพื่อโนม้ นาํ เอาความถูกตอ้ ง ความดีงาม ความรู้สึกท่ีดีหรือคุณธรรมเขา้ มาไวใ้ น จิตใจของนกั เรียน (ข้นั วิญญาณ/ข้นั กอ่ เกิดอุปนิสยั )โดยใชค้ าํ ถามท่ีคาํ นึงถึงความรู้สึกและจิตใจของตน เองเป็นท่ีต้งั เช่น ถา้ นกั เรียนเป็ นนกั ศึกษาของสถาบนั ใดสถาบนั หน่ึงจะทาํ เช่นน้นั หรือไม่ เพราะอะไร 12. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ (ถา้ นกั เรียนตอบวา่ จะไม่ทาํ เช่นน้นั เดด็ ขาด แปลวา่ ความรู้สึก ในใจของนกั เรียนเกิดการยอมรับในคุณค่าของการไมท่ ะเลาะววิ าทกนั ) เม่ือไดค้ าํ ตอบจากนกั เรียนแลว้ ครูสรุปสาระสาํ คญั โดยเช่ือมโยงกบั พทุ ธศาสนสุภาษิตบทวา่ ยํ เว เสวติ ตาทิโส (คบคนเช่นใด เป็นคน เช่นน้นั ) 13. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาและบนั ทึกสาระสาํ คญั ของพทุ ธศาสนสุภาษิต 2 บท ไดแ้ ก่ 1) ยํ เว เสวติ ตาทิโส (คบคนเช่นใด เป็นคนเช่นน้นั ) 2) อตฺตนา โจทยตฺตานํ (จงเตือนตนดว้ ยตน) โดยใชข้ อ้ มลู จากหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นา พานิช จาํ กดั 14. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั พทุ ธศาสนสุภาษิตเรื่อง ยํ เว เสวติ ตาทิโส (คบคนเช่นใด เป็น คนเช่นน้นั ) และ อตฺตนา โจทยตฺตานํ (จงเตือนตนดว้ ยตน) โดยครูใหน้ กั เรียนเขียนบนั ทึกลงในสมุด
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 88 15. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาเก่ียวกบั พทุ ธศาสนสุภาษิตเร่ืองนิสมฺม กรณํ เสยฺโย (ใคร่ครวญก่อนแลว้ จึงทาํ ) และ ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา (เรือนท่ีครองไมด่ ี นาํ ทุกขม์ าให)้ เป็นการบา้ นเพื่อ เตรียมจกั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป ชั่วโมงที่ 19 16. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ จากเรื่องที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านมา โดยครู คอยตอบขอ้ สงสยั และอธิบายเพ่ิมเติม จากน้นั อาสาสมคั รนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ีไดร้ ับมอบหมายใหอ้ ่านและสรุป ใหเ้ พื่อน ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและให้ คาํ แนะนาํ หรือความรู้เพิ่มเติม 17. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาและบนั ทึกสาระสาํ คญั ของพทุ ธศาสนสุภาษิต 2 บท ไดแ้ ก่ 1) นิสมฺม กรณํ เสยฺโย (ใคร่ครวญก่อนแลว้ จึงทาํ ) 2) ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา (เรือนที่ครองไมด่ ี นาํ ทุกขม์ าให)้ โดยใชข้ อ้ มลู จากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นา พานิช จาํ กดั 18. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั พทุ ธศาสนสุภาษิตเรื่อง นิสมฺม กรณํ เสยฺโย (ใคร่ครวญก่อน แลว้ จึงทาํ ) และ ทุราวาสา ฆรา ทุกฺขา (เรือนท่ีครองไมด่ ี นาํ ทุกขม์ าให)้ โดยครูเขียนขอ้ สรุปลงบนกระดาน ดาํ ใหน้ กั เรียนเขียนบนั ทึกลงในสมุด 19. ครูให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นว่า พุทธศาสนสุภาษิตท้ัง 4 บทนี้ มพี ทุ ธศาสนสุภาษิต บทใดบ้างทส่ี อดคล้องกบั หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งบนพนื้ ฐานของเงอื่ นไขคุณธรรม และสอดคล้องอย่างไร สรุปและบนั ทกึ ผล 20. ครูใหน้ กั เรียนเลือกพทุ ธศาสนสุภาษิตดงั กล่าว 1 บท เขียนเรียงความหรือคาํ ขวญั เพอ่ื กระตุน้ หรือรณรงคใ์ หช้ าวพทุ ธเห็นคุณค่าของขอ้ คิดหรือคติสอนใจท่ีไดจ้ ากพทุ ธศาสนสุภาษิตน้นั 21. ครูและนกั เรียนร่วมกนั คดั เลือกเรียงความหรือคาํ ขวญั 5 อนั ดบั จดั ป้ ายนิเทศหรือเผยแพร่ตอ่ ไปตามเวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ 22. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ครูสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานของนกั เรียนตามแบบ ประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคล ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผ้เู รียน 23. ครูให้นักเรียนสืบค้นพทุ ธศาสนสุภาษิตท่ีเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั ติ น ซึ่งสามารถนํามาปฏิบัตเิ พอ่ื การ อยู่ร่วมกนั เป็ นประชาคมอาเซียนได้ จากน้ันคดั เลอื กพทุ ธศาสนสุภาษิตท่ีตนช่ืนชอบ 1 พทุ ธศาสนสุภาษิต ไปปฏิบตั ิ แล้วบนั ทึกผลดีทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั ิ แล้วนํามาเล่าสู่กนั ฟังในช้ันเรียน 24. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั พทุ ธศาสนสุภาษิต ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 25. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนนาํ ขอ้ คิดหรือคติสอนใจจากพทุ ธศาสนสุภาษิตไปประพฤติปฏิบตั ิให้ เหมาะสมและสอดคลอ้ งกนั สถานการณ์ในชีวติ ประจาํ วนั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 89 ข้นั ที่ 5 สรุป 26. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง พทุ ธศาสนสุภาษิต โดยใหน้ กั เรียนสรุปลงในแบบ บนั ทึกความรู้ หรือสรุปเป็นแผนที่ความคิดพร้อมตกแต่งแผนท่ีความคิดใหส้ วยงาม 27. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนและช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง โดยแจกแบบทดสอบ ใหน้ กั เรียนทุกคน และใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบ โดยเขียนเคร่ืองหมาย ทบั ตวั อกั ษร (ก–ง) หนา้ คาํ ตอบที่ถกู ตอ้ งท่ีสุดเพียงคาํ ตอบเดียว จากน้นั ตรวจใหค้ ะแนน พร้อมเฉลยคาํ ตอบของแบบทดสอบก่อน เรียนและหลงั เรียน เพือ่ ประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียน 28. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั เพอื่ ประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ของนกั เรียน 29. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 พระพทุ ธ และหน่วยการ เรียนรู้ที่ 2 พระธรรม เป็นการบา้ นเพอื่ เตรียมทดสอบกลางภาคในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ครูใหน้ กั เรียนศึกษาและสืบคน้ พทุ ธศาสนสุภาษิตท่ีเก่ียวกบั ตน การคบคน การคิด และการ ปฏิบตั ิตนจากหนงั สือพทุ ธศาสนสุภาษิต แลว้ สรุปวา่ พทุ ธศาสนสุภาษิตน้นั สอนใหป้ ฏิบตั ิตนอยา่ งไร และ นกั เรียนสามารถนาํ ไปปฏิบตั ิไดห้ รือไม่ เพราะอะไร 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน 2. ภาพสญั ลกั ษณ์ของโรงเรียนหรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีการระบุพทุ ธศาสนสุภาษิต 3. ข่าวเก่ียวกบั นกั ศึกษา 2 สถาบนั ทะเลาะววิ าทกนั จนถึงข้นั มีผเู้ สียชีวิต 4. แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคล 5. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 90 10.บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ขปัญหา/อุปสรรค 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน //
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 91 การทดสอบกลางภาค สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 การทดสอบกลางภาค เวลา 1 ช่ัวโมง ช่ัวโมงที่ 20 1. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบกลางภาค 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พระสงฆ์ เรื่อง พทุ ธสาวก เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 92 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เวลา 5 ช่ัวโมง พระสงฆ์ ผงั มโนทัศน์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ความรู้ 1. พทุ ธสาวก 1.1 พระมหากสั สปะ 1.2 พระอุบาลี 1.3 อนาถบิณฑิกเศรษฐี 2. พทุ ธสาวกและพทุ ธสาวกิ า นางวิสาขามหาอุบาสิกา 3. ชาวพทุ ธตวั อยา่ ง 3.1 พระเจา้ อโศกมหาราช 3.2 พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ ทกั ษะ/กระบวนการ พระสงฆ์ คุณธรรม จริยธรรม 1. การสื่อสาร 2. การใชเ้ ทคโนโลยี และค่านิยม 3. การคิด 1. มีวินยั 4. การแกป้ ัญหา 2. ใฝ่ เรียนรู้ 5. กระบวนการกลุ่ม 3. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต 4. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การทาํ แบบทดสอบ 2. การเล่าเรื่องและวเิ คราะห์ขอ้ คิดและคุณธรรมท่ีควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งจากประวตั ิของพระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวิสาขามหาอุบาสิกา 3. การนาํ เสนอประวตั ิ ผลงาน และคุณธรรมที่ควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งของพระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 93 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พระสงฆ์ ข้นั ท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางท่ีต้องการให้เกดิ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช้ันปี วิเคราะหแ์ ละประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวติ และขอ้ คิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามท่ีกาํ หนด (ส 1.1 ม. 1/4) ความเข้าใจทีค่ งทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ที่ทําให้เกดิ ความเข้าใจทีค่ งทน การศึกษาประวตั ิของพระมหากสั สปะ พระ นักเรียนจะเข้าใจว่า... การศึกษาประวตั ิของพระมหากสั สปะ อุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี นางวสิ าขามหาอุบาสิกา พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี นางวสิ าขามหา- อุตตรเถระ แลว้ นาํ มาเป็นแบบอยา่ งในการดาํ เนิน อุบาสิกา พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระ ชีวติ จะเกิดผลดีต่อตนเองและผอู้ ื่นอยา่ งไร และพระอุตตรเถระ ทาํ ใหเ้ ราไดข้ อ้ คิด คุณธรรม และแบบอยา่ งในการดาํ เนินชีวิต ความรู้ของนักเรียนที่นําไปสู่ความเข้าใจท่ีคงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนทน่ี ําไปสู่ นกั เรียนจะรู้ว่า... ความเข้าใจท่คี งทน นักเรียนจะสามารถ... 1. คาํ สาํ คญั ไดแ้ ก่ ธุดงค์ เชตวนั บุพพาราม 1. เล่าประวตั ิโดยยอ่ ของพระมหากสั สปะ พระ โลหะปราสาท เบญจกลั ยาณี ปาฏลีบุตร อุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี นางวสิ าขามหา- จณั ฑาโศก ธรรมราชา อุบาสิกา พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณ- 2. พระมหากสั สปะเป็นพุทธสาวกที่ไดร้ ับการ เถระและพระอุตตรเถระ ยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจา้ วา่ เป็ นผมู้ กั นอ้ ย 2. วิเคราะห์ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ควรยดึ ถือเป็น สนั โดษ เพราะท่านอยงู่ ่าย กินง่าย มีอยา่ งไร แบบอยา่ งจากประวตั ิของพระมหากสั สปะ กบ็ ริโภคอยา่ งน้นั พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี วสิ าขามหา- 3. พระอุบาลีเป็นพทุ ธสาวกท่ีไดร้ ับการยกยอ่ ง อุบาสิกา พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณ- จากพระพทุ ธเจา้ วา่ เป็นผทู้ ่ีมีความสามารถ เถระและพระอุตตรเถระ แตกฉานในพระวินยั เพราะเม่ือเกิดปัญหา 3. ฝึกประพฤติปฏิบตั ิตามคุณธรรมที่ควรยดึ ถือ ดา้ นพระวนิ ยั พระพทุ ธเจา้ ทรงมอบภาระให้ เป็นแบบอยา่ งของพระมหากสั สปะ พระอุบาลี พระอุบาลีดาํ เนินการ อนาถบิณฑิกเศรษฐี นางวสิ าขามหาอุบาสิกา 4. อนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นพทุ ธสาวกท่ีเป็น พระเจา้ อโศกมหาราช และพระโสณเถระและ กาํ ลงั สาํ คญั ของพระพทุ ธเจา้ เพราะท่านเป็นผู้ พระอุตตรเถระ อุปัฏฐากบาํ รุงพระพทุ ธศาสนาและมีศรัทธา มนั่ คงในพระรัตนตรัย
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 94 5. นางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นพทุ ธสาวกิ าที่มี ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยา่ งแรงกลา้ และ ไดบ้ าํ รุงพระพทุ ธศาสนายง่ิ กวา่ อุบาสิกาคน อ่ืน ๆ 6. พระเจา้ อโศกมหาราชเป็นชาวพทุ ธตวั อยา่ งท่ี มีศรัทธามน่ั คงในพระรัตนตรัย และทรงเป็น กษตั ริยท์ ี่ไดร้ ับการขนานพระนามวา่ ธรรม ราชา เพราะพระองคท์ รงใชพ้ ทุ ธธรรมเป็น แนวทางในการปกครองประเทศจนเกิด ระบบธรรมราชา 7. พระโสณเถระและพระอุตตรเถระเป็น ชาวพทุ ธตวั อยา่ งที่มีสติปัญญาและกลวธิ ี ในการเผยแผพ่ ระธรรม ท่านท้งั สองไดน้ าํ พระพุทธศาสนามาเผยแผใ่ นดินแดนสุวรรณ- ภมู ิไดจ้ นสาํ เร็จพระรตั นตรัย ข้นั ที่ 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซึ่งเป็ นหลกั ฐานทีแ่ สดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ ตามที่กาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานท่ีนักเรียนต้องปฏิบตั ิ 1.1 เล่าเร่ืองและวิเคราะห์ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งจากประวตั ิของพระมหา- กสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวสิ าขามหาอุบาสิกา 1.2 นาํ เสนอประวตั ิ ผลงาน และคุณธรรมที่ควรยึดถือเป็นแบบอยา่ งของพระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ โดยใชบ้ ทละคร 2. วธิ ีการและเครื่องมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วธิ ีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน 2) การประเมินผลงาน/กิจกรรม 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 3) แบบประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และค่านิยม 4) การประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 3. ส่ิงท่ีมุ่งประเมนิ 3.1 ความสามารถ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การอธิบาย ช้ีแจง การแปลความและตีความ การประยกุ ต์ ดดั แปลง และนาํ ไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การใหค้ วามสาํ คญั และใส่ใจในความรู้สึก ของผอู้ ื่น และการรู้จกั ตนเอง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 95 3.2 สมรรถนะสาํ คญั ไดแ้ ก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถ ในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.3 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ไดแ้ ก่ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสตั ยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ ข้ันท่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 พทุ ธสาวกและพทุ ธสาวิกา เวลา 3 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 ชาวพทุ ธตวั อยา่ ง เวลา 2 ชวั่ โมง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 96 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 พทุ ธสาวกและพทุ ธสาวกิ า เวลา 3 ช่ัวโมง สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม พระพทุ ธศาสนา หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พระสงฆ์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1 1. สาระสําคญั พระมหากสั สปะเป็นพุทธสาวกท่ีไดร้ ับการยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจา้ วา่ เป็นผมู้ กั นอ้ ย สนั โดษ พระอุบาลีเป็นพทุ ธสาวกท่ีไดร้ ับการยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจา้ วา่ เป็นผทู้ ่ีมีความสามารถแตกฉานในพระวนิ ยั อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นพทุ ธสาวกที่เป็นกาํ ลงั สาํ คญั ของพระพทุ ธเจา้ ในการอุปถมั ภบ์ าํ รุงพระพทุ ธศาสนา ส่วนนางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นพุทธสาวกิ าท่ีมีศรัทธาในพระพทุ ธศาสนาอยา่ งแรงกลา้ และไดบ้ าํ รุง พระพทุ ธศาสนายงิ่ กวา่ อุบาสิกาคนอื่น ๆ การประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวติ ของพทุ ธสาวก และพทุ ธสาวิกาจะช่วยใหป้ ระสบความสาํ เร็จในชีวติ และอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุข 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวิตและขอ้ คิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามท่ีกาํ หนด (ส 1.1 ม. 1/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เล่าประวตั ิและผลงานของพระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวสิ าขามหา- อุบาสิกาได้ (K) 2. วิเคราะห์ขอ้ คิดและคุณธรรมท่ีควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งของพระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวสิ าขามหาอุบาสิกาได้ (K, P) 3. ช่ืนชม นาํ ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งของพระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถ- บิณฑิกเศรษฐี และนางวสิ าขามหาอุบาสิกามาประพฤติปฏิบตั ิในชีวติ ประจาํ วนั (A, P)
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 97 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. ทดสอบก่อนเรียน • ประเมินพฤติกรรมในการ • ประเมินพฤติกรรมในการ 2. ซกั ถามความรู้เรื่อง พทุ ธสาวก ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ และพทุ ธสาวกิ า ความซ่ือสตั ยส์ ุจริตความมี เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม วินยั ความใฝ่ เรียนรู้ ความมี การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม เหตุผล ฯลฯ 5. สาระการเรียนรู้ 1. พทุ ธสาวก 1.1 พระมหากสั สปะ 1.2 พระอุบาลี 1.3 อนาถบิณฑิกเศรษฐี 2. พทุ ธสาวิกา • นางวิสาขามหาอุบาสิกา 6. แนวทางบูรณาการ ฟัง พดู อ่าน และเขียนเรื่อง พระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิก- เศรษฐี และนางวสิ าขามหาอุบาสิกา ภาษาไทย ออกแบบและตกแต่งแผนที่ความคิดเก่ียวกบั เรื่อง พระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวสิ าขามหาอุบาสิกา ศิลปะ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นําเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 21 1. ครูสร้างบรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ มในการเรียนรู้เพ่อื ใหเ้ กิดความศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ท่ีเหมาะสม เช่น จดั นง่ั แบบตวั U นาํ นกั เรียนไปเรียนท่ีหอ้ งประชุม หอ้ งจริยธรรม สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ ก่อนเรียนใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หวพ้ ระ นงั่ สมาธิ และแผเ่ มตตา 2. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 3. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน โดยแจกแบบทดสอบใหน้ กั เรียนทุกคน และใหน้ กั เรียน ทาํ แบบทดสอบ โดยเขียนเครื่องหมาย ทบั ตวั อกั ษร (ก–ง) หนา้ คาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดียว จากน้นั ตรวจใหค้ ะแนน แต่ยงั ไม่เฉลยคาํ ตอบ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 98 4. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั พทุ ธสาวกและพทุ ธสาวกิ าในประเด็นต่าง ๆ เช่น 1) พทุ ธสาวกและพทุ ธสาวกิ าคือใคร 2) นกั เรียนรู้จกั พุทธสาวกหรือพทุ ธสาวิกาท่านใดบา้ ง 3) นกั เรียนประทบั ใจพุทธสาวกและพทุ ธสาวิกาคนใดมากท่ีสุด เพราะเหตุใด 5. หลงั จากสนทนาซกั ถามแลว้ ครูสรุปความหมายของพทุ ธสาวกและพทุ ธสาวิกาและบอกให้ นกั เรียนทราบถึงพทุ ธสาวกและพุทธสาวกิ าที่จะศึกษาในช้นั น้ี ไดแ้ ก่ พระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวิสาขามหาอุบาสิกา ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ พทุ ธสาวก: พระมหากสั สปะและพระอุบาลี 6. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านในชวั่ โมง ที่แลว้ ใหเ้ พ่อื น ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพิ่มเติม 7. ครูใหค้ วามรู้แก่นกั เรียนเกี่ยวกบั พทุ ธสาวกเรื่อง พระมหากสั สปะและพระอุบาลี โดยใชข้ อ้ มูล จากหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2 คน คละความสามารถและเพศ โดยกาํ หนดหมายเลขประจาํ ตวั ของนกั เรียนแต่ละคนเป็น 1 และ 2 9. ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนกลุ่ม 1 คน ออกมาจบั สลากเลือกช่ือพทุ ธสาวก กลุ่มละ 1 ชื่อ 10. ครูแจง้ ประเดน็ ศึกษาใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทราบ พร้อมท้งั แนะนาํ สื่อการเรียนรู้และสารสนเทศ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองดงั กล่าวใหน้ กั เรียนไปศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพ่มิ เติม 11. ครูใหส้ มาชิกภายในกลุ่มจบั คู่เล่าประวตั ิ ผลงาน และคุณธรรมของพทุ ธสาวก ที่กลุ่มจบั สลาก ได้ โดยใชเ้ วลาเท่า ๆ กนั และปฏิบตั ิตามข้นั ตอนดงั น้ี ข้นั ที่ 1 สมาชิกหมายเลข 1 จบั คูก่ บั หมายเลข 2 โดยหมายเลข 1 เป็นผเู้ ล่า ส่วนหมายเลข 2 เป็น ผฟู้ ัง ข้นั ท่ี 2 ใหเ้ ปลี่ยนผเู้ ล่าและผฟู้ ัง โดยใหส้ มาชิกหมายเลข 2 เป็นผเู้ ล่า ส่วนหมายเลข 1 เป็นผฟู้ ัง ข้นั ท่ี 3 รวมกลุ่มกนั ใหแ้ ต่ละคนผลดั กนั เล่าใหส้ มาชิกภายในกลุ่มฟัง โดยเริ่มจากหมายเลข 1 และ 2 ตามลาํ ดบั 12. ครูใหน้ กั เรียนรวมกลุ่มกนั โดยกลุ่มท่ีเล่าเร่ืองเดียวกนั อยกู่ ลุ่มเดียวกนั และกาํ หนดหมาย เลข ประจาํ ตวั ของนกั เรียนในแต่ละกลุ่มใหม่ 13. ครูซกั ถามปัญหาเก่ียวกบั ประเดน็ ที่ศึกษา โดยสุ่มหมายเลขประจาํ ตวั สมาชิกในกลุ่มเป็นผตู้ อบ ปัญหา 14. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั พุทธสาวกเรื่อง พระมหากสั สปะและพระอุบาลี โดยครูให้ นกั เรียนเขียนบนั ทึกลงในสมุด
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 99 ช่ัวโมงที่ 22 พุทธสาวก: อนาถบณิ ฑิกเศรษฐี 15. ครูทบทวนความรู้ของนกั เรียนเก่ียวกบั พทุ ธสาวก เรื่อง พระมหากสั สปะและพระอุบาลี 16. ครูใหค้ วามรู้แก่นกั เรียนเก่ียวกบั พทุ ธสาวกเรื่อง อนาถปิ ณฑิกเศรษฐี โดยใชข้ อ้ มลู จากหนงั สือ เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 17. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2 คน คละความสามารถและเพศ โดยกาํ หนดหมายเลขประจาํ ตวั ของนกั เรียนแตล่ ะคนเป็น 1 และ 2 18. ครูแจง้ ประเดน็ ศึกษาใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทราบ พร้อมท้งั แนะนาํ ส่ือการเรียนรู้และสารสนเทศ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั เรื่องดงั กล่าวใหน้ กั เรียนไปศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพิม่ เติม 19. ครูใหส้ มาชิกภายในกลุ่มจบั คู่เล่าประวตั ิ ผลงาน และคุณธรรมของพทุ ธสาวก ที่กลุ่มจบั สลาก ได้ โดยใชเ้ วลาเท่า ๆ กนั และปฏิบตั ิตามข้นั ตอนดงั น้ี ข้ันที่ 1 สมาชิกหมายเลข 1 จบั คู่กบั หมายเลข 2 โดยหมายเลข 1 เป็นผเู้ ล่า ส่วนหมายเลข 2 เป็น ผฟู้ ัง ข้นั ท่ี 2 ใหเ้ ปลี่ยนผเู้ ล่าและผฟู้ ัง โดยใหส้ มาชิกหมายเลข 2 เป็นผเู้ ล่า ส่วนหมายเลข 1 เป็นผฟู้ ัง ข้ันท่ี 3 รวมกลุ่มกนั ใหแ้ ต่ละคนผลดั กนั เล่าใหส้ มาชิกภายในกลุ่มฟัง โดยเริ่มจากหมายเลข 1 และ 2 ตามลาํ ดบั 20. ครูใหน้ กั เรียนรวมกลุ่มกนั โดยกลุ่มที่เล่าเรื่องเดียวกนั อยกู่ ลุ่มเดียวกนั และกาํ หนดหมายเลข ประจาํ ตวั ของนกั เรียนในแตล่ ะกลุ่มใหม่ 21. ครูซกั ถามปัญหาเกี่ยวกบั ประเดน็ ท่ีศึกษา โดยสุ่มหมายเลขประจาํ ตวั สมาชิกในกลุ่มเป็นผตู้ อบ ปัญหา 22. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั พุทธสาวกเรื่อง อนาถปิ ณฑิกเศรษฐี โดยครูใหน้ กั เรียนเขียน บนั ทึกลงในสมุด 23. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ นางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นพทุ ธสาวกิ าที่มีความเฉลียวฉลาด รู้จกั ใช้ หลกั ธรรมแกป้ ัญหาที่เกิดข้ึนในครอบครัวได้ แลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาเกี่ยวกบั ประวตั ิ ของนางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป ชั่วโมงท่ี 23 พุทธสาวกิ า: นางวสิ าขามหาอุบาสิกา 24. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมานาํ เสนอบทสรุปเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านและสรุปใน ชวั่ โมงท่ีแลว้ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพม่ิ เติม 25. ครูใหค้ วามรู้แก่นกั เรียนเก่ียวกบั พทุ ธสาวิกาเร่ือง นางวิสาขามหาอุบาสิกา โดยใชข้ อ้ มลู จาก หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 26. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2 คน คละความสามารถและเพศ โดยกาํ หนดหมายเลข ประจาํ ตวั ของนกั เรียนแต่ละคนเป็น 1 และ 2
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 100 27. ครูแจง้ ประเดน็ ศึกษาใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทราบ พร้อมท้งั แนะนาํ ส่ือการเรียนรู้และสารสนเทศ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องดงั กล่าวใหน้ กั เรียนไปศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพมิ่ เติม 28. ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มจบั คู่เล่าประวตั ิ ผลงาน และคุณธรรมของพทุ ธสาวก ท่ีกลุ่มจบั สลากได้ โดยใชเ้ วลาเท่า ๆ กนั และปฏิบตั ิตามข้นั ตอนดงั น้ี ข้นั ที่ 1 สมาชิกหมายเลข 1 จบั คู่กบั หมายเลข 2 โดยหมายเลข 1 เป็นผเู้ ล่า ส่วนหมายเลข 2 เป็น ผฟู้ ัง ข้นั ที่ 2 ใหเ้ ปล่ียนผเู้ ล่าและผฟู้ ัง โดยใหส้ มาชิกหมายเลข 2 เป็นผเู้ ล่า ส่วนหมายเลข 1 เป็นผฟู้ ัง ข้ันท่ี 3 รวมกลุ่มกนั ใหแ้ ต่ละคนผลดั กนั เล่าใหส้ มาชิกภายในกลุ่มฟัง โดยเริ่มจากหมายเลข 1 และ 2 ตามลาํ ดบั 29. ครูใหน้ กั เรียนรวมกลุ่มกนั โดยกลุ่มท่ีเล่าเร่ืองเดียวกนั อยกู่ ลุ่มเดียวกนั และกาํ หนดหมาย เลข ประจาํ ตวั ของนกั เรียนในแต่ละกลุ่มใหม่ 30. ครูซกั ถามปัญหาเก่ียวกบั ประเดน็ ท่ีศึกษา โดยสุ่มหมายเลขประจาํ ตวั สมาชิกในกลุ่มเป็นผตู้ อบ ปัญหา จากน้ันครูให้นักเรียนสืบค้นประวตั สิ าวกและคุณธรรมที่ควรยดึ ถอื เป็ นแบบอย่างของศาสนาอนื่ ๆ ท่ีประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนนับถอื เช่น ศาสนาอสิ ลาม คริสต์ศาสนา เขียนสรุปในสมุดบันทึก แล้วนํามาเล่าให้เพอ่ื น ๆ ฟังในช้ันเรียน 31. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั พทุ ธสาวิกาเร่ือง นางวสิ าขามหาอุบาสิกา โดยใหน้ กั เรียน เขียนบนั ทึกลงในสมุด 32. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทาํ ใบงานท่ี 1 เรื่อง ขอ้ คิดและคุณธรรมจากพทุ ธสาวกและพทุ ธสาวิกา แลว้ นาํ เสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน พร้อมเปิ ดโอกาสใหเ้ พ่อื น ๆ ซกั ถามขอ้ สงสยั 33. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมในการทาํ งานและการนาํ เสนอ ผลงานของนกั เรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 34. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั พทุ ธสาวกและพทุ ธสาวกิ า ในแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 35. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนนาํ ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งของพระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวสิ าขามหาอุบาสิกา ไปประพฤติปฏิบตั ิในชีวิตประจาํ วนั บนั ทึก ผล แลว้ นาํ ผลการปฏิบตั ิมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเป็นระยะ ๆ ข้นั ท่ี 5 สรุป 36. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง พทุ ธสาวกและพทุ ธสาวกิ า โดยใหน้ กั เรียนสรุปลงใน แบบบนั ทึกความรู้ หรือสรุปเป็นแผนที่ความคิด พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม 37. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ พระเจา้ อโศกมหาราชเดิมเป็นพระราชาผโู้ หดร้าย ต่อมาเม่ือพระองคห์ นั มานบั ถือพระพุทธศาสนาทรงทาํ คุณงามความดีเป็นอนั มาก จนไดพ้ ระนามใหม่วา่ ธรรมมาโศก แลว้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 101 มอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาเก่ียวกบั ชาวพทุ ธตวั อยา่ งเรื่อง พระเจา้ อโศกมหาราช เป็น การบา้ นเพือ่ เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติมเกี่ยวกบั ประวตั ิและผลงานของพระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวสิ าขามหาอุบาสิกา บนั ทึกความรู้ท่ีไดร้ ับและนาํ เสนอหนา้ ช้นั เรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนเขียนเรียงความ 1 เร่ือง เกี่ยวกบั พทุ ธสาวกและพุทธสาวกิ าที่ตนเองช่ืนชอบ โดย ระบุเหตุผลใหช้ ดั เจนวา่ ช่ืนชอบเพราะอะไร และจะนาํ ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ไดจ้ ากพทุ ธสาวกหรือพทุ ธ- สาวิกาท่านน้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วนั อยา่ งไร 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. ใบงานที่ 1 เร่ือง ขอ้ คิดและคุณธรรมจากพทุ ธสาวกและพุทธสาวกิ า 3. แบบบนั ทึกความรู้ 4. แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 5. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ขปัญหา/อุปสรรค 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน //
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 102 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 ชาวพุทธตัวอย่าง เวลา 2 ชั่วโมง สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม พระพทุ ธศาสนา หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พระสงฆ์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 1. สาระสําคญั พระเจา้ อโศกมหาราชเป็นชาวพทุ ธตวั อยา่ งท่ีมีศรัทธามน่ั คงในพระรัตนตรัย และทรงเป็นกษตั ริย์ ที่ไดร้ ับการขนานพระนามว่า ธรรมราชา เพราะพระองคท์ รงใชพ้ ุทธธรรมเป็ นแนวทางในการปกครอง ประเทศจนเกิดระบบธรรมราชา ส่วนพระโสณเถระและพระอุตตรเถระเป็นชาวพทุ ธตวั อยา่ งท่ีมีสติปัญญา และกลวิธีในการเผยแผพ่ ระธรรม ท่านท้งั สองไดน้ าํ พระพุทธศาสนามาเผยแผใ่ นดินแดนสุวรรณภมู ิไดจ้ น สาํ เร็จ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวติ และขอ้ คิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามท่ีกาํ หนด ( ส1.1 ม. 1/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เล่าประวตั ิและผลงานของพระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระได้ (K) 2. วิเคราะห์ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งของพระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระได้ (K, P) 3. ชื่นชมและนาํ คุณธรรมของพระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ มาเป็น แบบอยา่ งในการดาํ เนินชีวติ ได้ (A, P)
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 103 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านนคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) • ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ทดสอบหลงั เรียน • ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ เป็นกลุ่มในดา้ นการสื่อสาร 2. ซกั ถามความรู้เรื่อง ชาวพุทธ ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ตวั อยา่ ง ความซื่อสตั ยส์ ุจริต ความมี 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม วินยั ความใฝ่ เรียนรู้ ความมี เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม เหตุผล ฯลฯ 5. สาระการเรียนรู้ • ชาวพุทธตวั อยา่ ง 1. พระเจา้ อโศกมหาราช 2. พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขียนเรื่อง พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ ศิลปะ ออกแบบและตกแต่งแผนท่ีความคิดเก่ียวกบั เรื่อง พระเจา้ อโศก มหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ ภาษาต่างประเทศ เรียนรู้คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษเกี่ยวกบั ตวั ละครและชื่อเมืองในวดี ิทศั น์ เรื่อง พระเจา้ อโศกมหาราช 7. กระบวนการจัดการการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 24–25 1. ครูสร้างบรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ มในการเรียนรู้เพื่อใหเ้ กิดศรัทธาเล่ือมใสในพระรัตนตรัยที่ เหมาะสม เช่น จดั นงั่ เรียนแบบตวั U นาํ นกั เรียนไปเรียนท่ีหอ้ งประชุม หอ้ งจริยธรรม สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ ก่อนเรียนใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หวพ้ ระ นงั่ สมาธิ และแผเ่ มตตา 2. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 3. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั ชาวพทุ ธตวั อยา่ งในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) ชาวพุทธตวั อยา่ งคือใคร 2) จากท่ีนกั เรียนไดเ้ คยศึกษาเรื่อง ชาวพทุ ธตวั อยา่ ง นกั เรียนประทบั ใจชาวพทุ ธตวั อยา่ ง คนใดบา้ ง เพราะเหตุใด
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 104 4. หลงั จากสนทนาซกั ถามแลว้ ครูสรุปวา่ ชาวพทุ ธตวั อยา่ ง หมายถึง บุคคลรุ่นหลงั ที่เกิดไม่ทนั ไดเ้ ห็นพระพทุ ธเจา้ ซ่ึงอาจจะไม่เป็นพระอริยบุคคลกไ็ ด้ แตช่ ีวติ ของท่านเป็นแบบอยา่ งของการปฏิบตั ิ หนา้ ท่ีชาวพทุ ธ และบอกใหน้ กั เรียนทราบถึงชาวพทุ ธตวั อยา่ งที่จะศึกษาในช้นั น้ี ไดแ้ ก่ พระเจา้ อโศก- มหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ ชาวพุทธตวั อย่าง: พระเจ้าอโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอตุ ตรเถระ 5. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมานาํ เสนอบทสรุปเก่ียวกบั เรื่องที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านและสรุปใน ชวั่ โมงที่แลว้ ใหเ้ พ่ือน ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพ่มิ เติม 6. ครูใหน้ กั เรียนดูวดี ิทศั นเ์ รื่อง พระเจา้ อโศกมหาราช (Asoka) จบแลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือหา เก่ียวกบั พระเจา้ อโศกมหาราช โดยใชข้ อ้ มลู จากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ซกั ถามนกั เรียนในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) นกั เรียนดูวดี ิทศั นแ์ ลว้ รู้สึกอยา่ งไร 2) เรื่องราวของพระเจา้ อโศกมหาราชจากวดี ิทศั นก์ บั ท่ีไดอ้ ่านจากส่ือหรือหนงั สือเรียนเหมือนกนั หรือไม่ อยา่ งไร 3) ที่กล่าววา่ พระเจา้ อโศกมหาราชเป็นกษตั ริยผ์ โู้ หดเห้ียม ดุร้าย จนไดพ้ ระนามวา่ จณั ฑาโศก นกั เรียนมีความคิดเห็นอยา่ งไร 7. ครูใหน้ กั เรียนเรียนรู้คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษเกี่ยวกบั ตวั ละครและช่ือเมืองในวีดิทศั น์ จากน้นั ให้ นกั เรียนเตรียมตวั เพือ่ เรียนรู้ประวตั ิของพระเจา้ อโศกมหาราช (เพิ่มเติม) พระโสณเถระและพระอุตตร- เถระ โดยใชบ้ ทละคร 8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายถึงวตั ถุประสงคข์ องการใชบ้ ทละครเพื่อเรียนรู้ประวตั ิของ พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ 9. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยใชว้ ธิ ีนบั หมายเลข 1–2 ผทู้ ี่นบั หมายเลข 1 อยกู่ ลุ่มท่ี 1 และหมายเลข 2 อยกู่ ลุม่ ท่ี 2 โดย กลุ่มท่ี 1 ศึกษาพระราชประวตั ิของพระเจา้ อโศกมหาราช กลุ่มท่ี 2 ศึกษาประวตั ิของพระโสณเถระและพระอุตตรเถระ 10. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาประวตั ิของชาวพทุ ธตวั อยา่ งที่กลุ่มไดร้ ับมอบหมายจาก แหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลมากที่สุด 11. แต่ละกลุ่มเลือกประวตั ิตอนใดตอนหน่ึงท่ีน่าสนใจ และแสดงใหเ้ ห็นถึงคุณธรรมขอ้ ใดขอ้ หน่ึง ของท่านผนู้ ้นั เพือ่ นาํ มาแสดงละคร 12. ช่วยกนั เขียนบทละครโดยขอคาํ ปรึกษาแนะนาํ จากครู จากน้นั เลือกผแู้ สดงและวางแผน การแสดง โดยผแู้ สดงแต่ละคนจะตอ้ งศึกษาเร่ืองราวและบทบาทของตนใหล้ ึกซ้ึง จดจาํ และฝึกซอ้ มบท ของตนเองใหค้ ล่อง แลว้ จึงมาฝึกซอ้ มร่วมกนั ในกลุ่ม เพอ่ื เตรียมตวั แสดง 13. ครูใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั ชาวพทุ ธตวั อยา่ งเรื่อง พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระ- อุตตรเถระ โดยใชข้ อ้ มลู จากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพ์
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 105 วฒั นาพานิช จาํ กดั และแจกแบบบนั ทึกการสงั เกตการแสดงละคร แลว้ มอบหมายใหก้ ลุ่มที่ไม่ไดแ้ สดง เร่ืองน้นั เป็นผชู้ มและสงั เกตการแสดงละคร 14. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มแสดงละครตามบทบาทและข้นั ตอนที่กาํ หนดไว้ 15. ขณะที่กาํ ลงั แสดงละคร ครูและนกั เรียนที่เป็นผชู้ มควรชมการแสดงดว้ ยความต้งั ใจ ใหก้ าํ ลงั ใจ ผแู้ สดง เช่น ปรบมือใหเ้ ป็นระยะ ๆ สาํ หรับผชู้ มจะตอ้ งต้งั ใจสงั เกตการณ์แสดงในประเดน็ สาํ คญั ๆ ที่ครู แนะนาํ ไวใ้ นเอกสาร 16. เม่ือแต่ละกลุ่มแสดงละครจบ ครูและนกั เรียนอภิปรายร่วมกนั โดยมุ่งอภิปรายถึงเร่ืองราว ที่แสดงความสามารถของผแู้ สดง และประเด็นท่ีเป็นเน้ือหาสาระสาํ คญั ของเรื่องท่ีแสดง 17. ครูใหน้ กั เรียนทาํ ใบงานที่ 2 เร่ือง ขอ้ คิดและคุณธรรมจากชาวพทุ ธตวั อยา่ ง 18. หลกั จากที่ทาํ ใบงานเสร็จแล้ว ครูมอบหมายให้นักเรียนแบ่งกล่มุ ศึกษาประวตั บิ ุคคลตวั อย่างและ คุณธรรมที่ควรยดึ ถอื เป็ นแบบอย่างของศาสนาต่าง ๆ ทนี่ ับถือกนั ในประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น ศาสนา อสิ ลาม คริสต์ศาสนา คนละ 1 ท่าน ต่อ 1 ศาสนา สรุป บันทึกผล และจัดทําเป็ นรายงานส่งครู 19. ครูให้นักเรียนช่วยกนั สืบค้นข้อมลู เกย่ี วกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซึ่งเป็ นหน่ึงในพระราชดาํ ริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวภูมพิ ลอดุลยเดช สรุป และวเิ คราะห์ร่วมกบั ประวตั ขิ องพระเจ้าอโศกมหาราช ว่าแนวทางการดาํ เนินชีวติ ของพระเจ้าอโศกมหาราช มคี วามสอดคล้องกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ ของพอเพยี ง หรือไม่ อย่างไร แล้วเขียนเป็ นแผนที่ความคดิ โดยครูตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและเสนอแนะให้ ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วนําไปติดป้ ายนิเทศ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม 20. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมในการทาํ งานและการนาํ เสนอ ผลงานของนกั เรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผ้เู รียน 21. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เกี่ยวกบั ชาวพุทธตวั อยา่ ง ในแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 22. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนนาํ ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ควรยดึ ถือเป็นแบบอยา่ งของพระเจา้ อโศก มหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ ไปประพฤติปฏิบตั ิในชีวติ ประจาํ วนั บนั ทึกผล แลว้ นาํ ผลการ ปฏิบตั ิมารายงานหนา้ ช้นั เรียนเป็นระยะ ๆ ข้นั ท่ี 5 สรุป 23. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง ชาวพทุ ธตวั อยา่ ง โดยใหน้ กั เรียนบนั ทึกสรุปลงใน แบบบนั ทึกความรู้ หรือสรุปเป็นแผนท่ีความคิด พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม 24. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนและช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง โดยแจกแบบทดสอบ ใหน้ กั เรียนทุกคน และใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบ โดยเขียนเครื่องหมาย ทบั ตวั อกั ษร (ก–ง) หนา้ คาํ ตอบ ท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพียงคาํ ตอบเดียว จากน้นั ตรวจใหค้ ะแนน พร้อมเฉลยคาํ ตอบของแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียน เพ่ือประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 106 25. ครูให้นกั เรียนทาํ แบบทดสอบการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ในแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐานพระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั เพือ่ ประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ของนกั เรียน 26. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การปฏิบตั ิตนเป็นชาว พทุ ธท่ีดี เร่ือง หนา้ ที่ชาวพทุ ธ เป็นการบา้ นเพือ่ เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพมิ่ เติมเก่ียวกบั ประวตั ิและผลงานของชาวพุทธตวั อยา่ ง: พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ จากส่ือและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต หนงั สือในหอ้ งสมุด 2. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แผน่ พบั เก่ียวกบั ชาวพุทธตวั อยา่ งเพื่อเผยแผค่ วามรู้ 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. วดี ิทศั นเ์ ร่ือง พระเจา้ อโศกมหาราช (Asoka) 2. แบบบนั ทึกการสงั เกตการแสดงละคร 3. ใบงานที่ 2 เรื่อง ขอ้ คิดและคุณธรรมจากชาวพทุ ธตวั ยา่ ง 4. แบบทดสอบหลงั เรียน 5. แบบบนั ทึกความรู้ 6. แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 7. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. คู่มือการสอน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 107 10.บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ขปัญหา/อุปสรรค 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน //
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 108 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การปฏบิ ตั ติ นเป็ นชาวพุทธทด่ี ี เวลา 14 ชั่วโมง ผงั มโนทัศน์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ความรู้ 1. หนา้ ท่ีชาวพทุ ธ 2. มารยาทชาวพทุ ธ 3. ศาสนพธิ ี 4. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 5. การบริหารจิตและการเจริญปัญญา ทกั ษะ/กระบวนการ การปฏิบตั ติ น คุณธรรม จริยธรรม 1. การสื่อสาร เป็ นชาวพทุ ธทดี่ ี 2. การใชเ้ ทคโนโลยี และค่านิยม 3. การคิด 1. มีวนิ ยั 4. การแกป้ ัญหา 2. ใฝ่ เรียนรู้ 5. กระบวนการกลุ่ม 3. มีความรับผดิ ชอบ 4. มีเหตุผล 5. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การทาํ แบบทดสอบ 2. การอภิปรายหาแนวทางการบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละการบาํ รุงรักษาวดั วิธีปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อเพื่อน และต่อศาสนิกชนของศาสนาอื่น ๆ 3. การตอบคาํ ถามเรื่อง วถิ ีชีวติ และบทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา 4. การฝึ กปฏิบตั ิและสาธิตมารยาทชาวพทุ ธในเรื่อง การประนมมือ การไหว้ การกราบ และมารยาทในการฟัง 5. การฝึ กจดั และสาธิตการจดั โต๊ะหม่บู ูชา 6. การฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตร 7. การอภิปรายประวตั ิ ความสาํ คญั และการปฏิบตั ิตนในวนั ธรรมสวนะและเทศกาลสาํ คญั 8. การศึกษาและเล่นเกมปริศนาวนั สาํ คญั ทางพระพุทธศาสนา 9. การฝึกบริหารจิตดว้ ยการนง่ั สมาธิ การเดินจงกรม การยนื สมาธิ และการนอนสมาธิ 10. การออกแบบแผนท่ีความคิดเกี่ยวกบั วธิ ีสร้างปัญญาประเภทต่าง ๆ 11. การวิเคราะห์กรณีตวั อยา่ งโดยใชว้ ธิ ีคิดแบบคุณค่าแท–้ คุณค่าเทียม และแบบคุณ–โทษและทางออก 12. การนาํ เสนอผลงาน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 109 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การปฏิบัตติ นเป็ นชาวพุทธที่ดี ข้ันท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางทีต่ ้องการให้เกดิ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. เห็นคุณค่าของการพฒั นาจิตเพอ่ื การเรียนรู้และการดาํ เนินชีวิตดว้ ยวธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิการ คือวธิ ีคิดแบบคุณค่าแท–้ คุณค่าเทียม และวธิ ีคิดแบบคุณ–โทษ และทางออก หรือการพฒั นาจิต ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนบั ถือ (ส 1. ม. 1/6) 2. สวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาดว้ ยอานาปานสติ หรือตามแนวทางของศาสนา ที่ตนนบั ถือตามท่ีกาํ หนด (ส 1.1 ม. 1/7) 3. วเิ คราะห์เหตุผลความจาํ เป็นท่ีทุกคนตอ้ งศึกษาเรียนรู้ศาสนาอ่ืน ๆ (ส 1.1 ม. 1/9) 4. ปฏิบตั ิตนต่อศาสนิกชนอ่ืนในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (ส 1.1 ม. 1/10) 5. วิเคราะห์การกระทาํ ของบุคคลที่เป็นแบบอยา่ งดา้ นศาสนสมั พนั ธ์ และการนาํ เสนอแนวทางการ ปฏิบตั ิของตนเอง (ส 1.1 ม. 1/11) 6. บาํ เพญ็ ประโยชนต์ ่อศาสนสถานของศาสนาที่ตนนบั ถือ (ส 1.2 ม. 1/1) 7. อธิบายจริยาวตั รของสาวกเพอื่ เป็นแบบอยา่ งในการประพฤติปฏิบตั ิตน และปฏิบตั ิตนอยา่ ง เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาท่ีตนนบั ถือ (ส 1.2 ม. 1/2) 8. ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อบุคคลตา่ ง ๆ ตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถือตามที่กาํ หนด (ส 1.2 ม. 1/3) 9. จดั กิจกรรมและปฏิบตั ิตนในศาสนพธิ ี พิธีกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง (ส 1.2 ม. 1/4) 10. อธิบายประวตั ิ ความสาํ คญั และปฏิบตั ิตนในวนั สาํ คญั ทางศาสนาที่ตนนบั ถือตามท่ีกาํ หนดได้ ถูกตอ้ ง (ส 1.2 ม. 1/5) ความเข้าใจท่ีคงทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ทที่ ําให้เกดิ ความเข้าใจทค่ี งทน นักเรียนจะเข้าใจว่า... 1. ชาวพทุ ธท่ีดีตอ้ งปฏิบตั ิตนอยา่ งไรบา้ งจึงจะ 1. คาํ สาํ คญั ไดแ้ ก่ ทิศ 6 สุหทมิตร มิตตปฏิรูป ก่อใหเ้ กิดผลดีต่อพระพทุ ธศาสนา ศาสนิกชน อริยสงฆ์ บรรพชา เบญจางคประ 2. ชาวพทุ ธแสดงมารยาทต่อกนั อยา่ งไรจึงจะทาํ ดิษฐ์ โตะ๊ ซดั เขา้ พรรษา ตกั บาตรเทโว ใหเ้ กิดผลดีในการอยรู่ ่วมกนั มหาสาวกสนั นิบาต ปลงอายสุ งั ขาร ธมั มจกั - 3. การปฏิบตั ิศาสนพิธีไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมตาม กปั ปวตั นสูตร ปัญจวคั คีย์ แผเ่ มตตา และระเบียบพิธีการและข้นั ตอนมีผลดีอยา่ งไร สติปัฏฐาน เดินจงกรม ขณิกสมาธิ นิวรณ์ 4. เมื่อถึงวนั สาํ คญั ทางพระพุทธศาสนา ในฐานะ โยนิโสมนสิการ ที่เป็นชาวพทุ ธเราควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไร 2. การปฏิบตั ิหนา้ ที่ของชาวพทุ ธท่ีถูกตอ้ ง 5. จะทาํ อยา่ งไรใหม้ ีจิตสงบ มนั่ คง เขม้ แขง็ และ เหมาะสมจะทาํ ใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเจริญ เกิดความรู้ความเขา้ ใจสิ่งต่าง ๆ ตามสภาพท่ี มนั่ คงและดาํ รงอยตู่ ่อไป เป็ นจริ ง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 110 3. การแสดงมารยาทท่ีดีต่อกนั ของชาวพทุ ธจะ ทาํ ใหอ้ ยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุขและสามารถ สืบทอดเอกลกั ษณ์ที่ดีงามเอาไวไ้ ด้ 4. การปฏิบตั ิศาสนพิธีไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมตาม ระเบียบพธิ ีการจะช่วยรักษาวฒั นธรรมและ ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดีงามของชาติไว้ 5. การปฏิบตั ิพิธีกรรมและกิจกรรมในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาของชาวพทุ ธท่ีถูกตอ้ ง เหมาะสมเป็ นวิธีการหน่ึงในการเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนา ทาํ ใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเจริญ มน่ั คงและดาํ รงอยตู่ ่อไป 6. เราควรหมน่ั ฝึกบริหารจิตและเจริญปัญญา อยา่ งสม่าํ เสมอ เพราะจะทาํ ใหเ้ รามีจิตที่สงบ มน่ั คง เขม้ แขง็ และเกิดความรู้ความเขา้ ใจสิ่ง ต่าง ๆ ตามสภาพท่ีเป็นจริง ความรู้ของนักเรียนทนี่ ําไปสู่ความเข้าใจท่ีคงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนทีน่ ําไปสู่ นกั เรียนจะรู้ว่า... ความเข้าใจท่คี งทน นักเรียนจะสามารถ... 1. การบาํ เพญ็ ประโยชน์และการบาํ รุงรักษาวดั 1. อภิปรายหาแนวทางการบาํ เพญ็ ประโยชน์ การปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อเพอ่ื นตามหลกั และการบาํ รุงรักษาวดั พระพทุ ธศาสนา และการปฏิบตั ิตนที่ 2. อภิปรายหาวิธีปฏิบตั ิตนท่ีถกู ตอ้ งเหมาะสมต่อ เหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ เป็น เพอื่ นตามหลกั พระพทุ ธศาสนาและต่อศาสนิก- หนา้ ที่ที่ชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิเพื่อความเจริญ ชนของศาสนาต่าง ๆ มนั่ คงและดาํ รงอยตู่ ่อไปของพระพุทธศาสนา 3. อภิปรายแนวทางการปฏิบตั ิตนที่ถกู ตอ้ ง 2. การเรียนรู้วิถีชีวติ ของพระสงฆ์ การเรียนรู้ เหมาะสมต่อพระสงฆ์ บทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผ่ 4. ฝึกปฏิบตั ิและสาธิตมารยาทชาวพทุ ธในเร่ือง พระพทุ ธศาสนาและการปฏิบตั ิตนท่ี การประนมมือ การไหว้ การกราบ และ เหมาะสมในเร่ืองการเขา้ พบพระสงฆ์ การ มารยาทในการฟัง แสดงความเคารพดว้ ยการประนมมือ การไหว้ 5. ฝึกจดั และสาธิตการจดั โตะ๊ หมู่บชู า การกราบ และการมีมารยาทในการฟัง เป็น 6. ฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และ มารยาทชาวพทุ ธที่ควรปฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ งซ่ึงจะ อาราธนาพระปริตร ทาํ ใหอ้ ยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุขและสามารถ 7. อภิปรายประวตั ิ ความสาํ คญั และการ สืบทอดเอกลกั ษณ์ที่ดีงามเอาไวไ้ ด้ ปฏิบตั ิตนในวนั ธรรมสวนะ 3. การจดั โต๊ะหมบู่ ูชาและเครื่องประกอบโต๊ะหมู่ 8. อภิปรายประวตั ิ ความสาํ คญั และการปฏิบตั ิ บูชา การจุดธูปเทียน และการอาราธนาต่าง ๆ ตนในเทศกาลสาํ คญั ในพระพทุ ธศาสนา
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 111 เป็นศาสนพิธีที่ชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ ง 9. อภิปรายประวตั ิ ความสาํ คญั และการปฏิบตั ิ เพื่อแสดงออกถึงความมีศรัทธาในพระรัตนตรัย ตนที่ถกู ตอ้ งเหมาะสมในวนั สาํ คญั ทาง และเพอื่ รักษาวฒั นธรรมและขนบธรรมเนียม พระพทุ ธศาสนา ประเพณีท่ีดีงามของชาติเอาไว้ 10. สาํ รวจและเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนที่ 4. วนั ธรรมสวนะเป็นวนั ฟังธรรมและเป็นวนั มีสมาธิกบั คนที่ไมม่ ีสมาธิ หลกั แห่งการทาํ ความดี ซ่ึงมีมาต้งั แต่สมยั 11. ฝึกบริหารจิตดว้ ยการนง่ั สมาธิ การเดิน พทุ ธกาลในประเทศไทยเรียกวา่ วนั พระ มี 4 วนั จงกรม การยนื สมาธิ และการนอนสมาธิ เมื่อถึงวนั ธรรมสวนะ ชาวพุทธจะทาํ ความดี 12. ออกแบบแผนท่ีความคิดเก่ียวกบั วธิ ีการสร้าง ต่าง ๆ เช่น ตกั บาตร รักษาศีล ฟังธรรม ทาํ สมาธิ ปัญญาประเภทต่าง ๆ 5. วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา และวนั เทโว- โรหณะ เป็นเทศกาลสาํ คญั ในพระพทุ ธศาสนา เม่ือถึงเทศกาลเหลา่ น้ีชาวพุทธควรปฏิบตั ิตน ใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม 6. วนั วิสาขบูชา วนั อาสาฬหบชู า วนั มาฆบูชา และวนั อฏั ฐมีบูชา เป็นวนั สาํ คญั ทาง พระพุทธศาสนา เม่ือถึงวนั สาํ คญั เหล่าน้ี ในฐานะที่เราเป็นชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิตนให้ ถูกตอ้ งเหมาะสมดว้ ยการละเวน้ ความชว่ั ทาํ ความดี และทาํ จิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิผอ่ งใส 7. การบริหารจิตและการเจริญปัญญาเป็นวธิ ีการ ทาํ จิตใหส้ งบ มนั่ คง เขม้ แขง็ และเกิดความรู้ ความเขา้ ใจในส่ิงต่าง ๆ ตามสภาพท่ีเป็นจริง เราจึงควรหมนั่ ฝึกบริหารจิตและเจริญปัญญา อยา่ งสม่าํ เสมอตามหลกั สติปัฏฐานเนน้ อานา- ปานสติ 8. วธิ ีคิดแบบคุณค่าแท–้ คุณค่าเทียม และวธิ ีคิด แบบคุณ–โทษ และทางออก เป็นวธิ ีคิดแบบ โยนิโสมนสิการท่ีช่วยใหเ้ รารู้จกั คิดวิเคราะห์ อยา่ งมีระบบต่อกิจกรรมท่ีทาํ ในชีวิตประจาํ วนั ข้ันท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็ นหลกั ฐานท่ีแสดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ ตามทีก่ าํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานทีน่ ักเรียนต้องปฏิบตั ิ 1.1 อภิปรายหาแนวทางการบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละการบาํ รุงรักษาวดั วธิ ีปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อ เพ่ือนและต่อศาสนิกชนของศาสนาอื่น ๆ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 112 1.2 ตอบคาํ ถามเรื่อง วถิ ีชีวิตและบทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา 1.3 ฝึกปฏิบตั ิและสาธิตมารยาทชาวพทุ ธในเรื่อง การประนมมือ การไหว้ การกราบ และมารยาท ในการฟัง 1.4 ฝึกจดั และสาธิตการจดั โต๊ะหมู่บชู า 1.5 ฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตร 1.6 อภิปรายประวตั ิ ความสาํ คญั และการปฏิบตั ิตนในวนั ธรรมสวนะและเทศกาลสาํ คญั 1.7 ศึกษาและเล่นเกมปริศนาวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 1.8 ฝึกบริหารจิตดว้ ยการนงั่ สมาธิ การเดินจงกรม การยนื สมาธิ และการนอนสมาธิ 1.9 ออกแบบแผนที่ความคิดเกี่ยวกบั วธิ ีสร้างปัญญาประเภทต่าง ๆ 1.10 วเิ คราะห์กรณีตวั อยา่ งโดยใชว้ ธิ ีคิดแบบคุณค่าแท–้ คุณค่าเทียม และแบบคุณ–โทษ และทางออก 2. วธิ ีการและเคร่ืองมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน 2) การประเมินผลงาน/กิจกรรม 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 3) แบบประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และค่านิยม 4) การประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 3. ส่ิงที่มุ่งประเมนิ 3.1 ความสามารถ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การอธิบาย ช้ีแจง การแปลความและตีความ การประยกุ ต์ ดดั แปลง และนาํ ไปใช้ การมีมุมมองท่ีหลากหลาย การใหค้ วามสาํ คญั และใส่ใจในความรู้สึก ของผอู้ ื่น และการรู้จกั ตนเอง 3.2 สมรรถนะสาํ คญั ไดแ้ ก่ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถ ในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ไดแ้ ก่ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ ข้นั ท่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11 หนา้ ท่ีชาวพทุ ธ เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 มารยาทชาวพทุ ธ เวลา 3 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13 ศาสนพิธี เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 การบริหารจิตและการเจริญปัญญา เวลา 3 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 การพฒั นาการเรียนรู้ดว้ ยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ เวลา 2 ชว่ั โมง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 113 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11 เวลา 2 ชั่วโมง หน้าทชี่ าวพทุ ธ พระพทุ ธศาสนา สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การปฏบิ ตั ิตนเป็ นชาวพทุ ธท่ดี ี 1. สาระสําคญั การบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละการบาํ รุงรักษาวดั การปฏิบตั ิตนที่เหมาะสมต่อเพ่ือนตามหลกั พระพทุ ธ- ศาสนา และการปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ เป็นหนา้ ท่ีที่ชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิให้ ถกู ตอ้ งเหมาะสมเพือ่ ความเจริญมนั่ คงและดาํ รงอยตู่ ่อไปของพระพทุ ธศาสนา 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี 1. วิเคราะห์เหตุผลความจาํ เป็นที่ทุกคนตอ้ งศึกษาเรียนรู้ศาสนาอ่ืน ๆ (ส 1.1 ม. 1/9) 2. ปฏิบตั ิตนตอ่ ศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (ส 1.1 ม. 1/10) 3. บาํ เพญ็ ประโยชนต์ ่อศาสนสถานของศาสนาท่ีตนนบั ถือ (ส 1.2 ม. 1/1) 4. ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถือตามที่กาํ หนด (ส 1.2 ม. 1/3) 5. วิเคราะห์การกระทาํ ของบุคคลท่ีเป็นแบบอยา่ งดา้ นศาสนสมั พนั ธ์ และนาํ เสนอแนวทางการปฏิบตั ิ ของตนเอง (ส 1.1 ม. 1/11) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความสาํ คญั ของวดั และวิธีบาํ เพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อวดั และการบาํ รุงรักษาวดั ที่ถกู ตอ้ งได้ (K) 2. อธิบายลกั ษณะและวิธีปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อเพ่ือนตามหลกั พระพทุ ธศาสนาได้ (K) 3. วเิ คราะห์เหตุผลและความจาํ เป็นท่ีตอ้ งศึกษาเรียนรู้ศาสนาอื่น ๆ (A, P) 4. อธิบายวิธีปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อศาสนิกชนอ่ืนในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (K)
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 114 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านนความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) • ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ทดสอบก่อนเรียน • ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร 2. ซกั ถามความรู้เร่ือง หนา้ ที่ ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ชาวพทุ ธ ความซื่อสตั ยส์ ุจริต ความมี 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม วินยั ความใฝ่ เรียนรู้ ความมี เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม เหตุผล ฯลฯ 5.สาระการเรียนรู้ • หนา้ ที่ชาวพทุ ธ 1. การบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละการบาํ รุงรักษาวดั 2. การปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อเพื่อนตามหลกั พระพทุ ธศาสนา 3. การปฏิบตั ิตนที่เหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เกี่ยวกบั หนา้ ท่ีชาวพทุ ธ จดั กลุ่มเพอ่ื นตามลกั ษณะเพ่อื นแทแ้ ละเพอ่ื นเทียม คณิตศาสตร์ ออกแบบการนาํ เสนอผลการอภิปรายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แผน่ ใส PowerPoint การงานอาชีพฯ ตกแต่งรูปแบบการนาํ เสนอผลการอภิปรายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แผน่ ใส PowerPoint ศิลปะ ฟัง พดู อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษเกี่ยวกบั ศาสนิกชนของ ศาสนาต่าง ๆ ภาษาต่างประเทศ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 26 1. ครูสร้างบรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ มในการเรียนรู้เพอ่ื ใหเ้ กิดศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัยที่ เหมาะสม เช่น จดั นงั่ แบบตวั U นาํ นกั เรียนไปเรียนที่หอ้ งประชุม หอ้ งจริยธรรม สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ ก่อนเรียนใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หวพ้ ระ นง่ั สมาธิ และแผเ่ มตตา
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 115 2. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน โดยแจกแบบทดสอบใหน้ กั เรียนทุกคน และใหน้ กั เรียน ทาํ แบบทดสอบ โดยเขียนเครื่องหมาย ทบั ตวั อกั ษร (ก–ง) หนา้ คาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดียว จากน้นั ตรวจใหค้ ะแนน แต่ยงั ไม่เฉลยคาํ ตอบ 3. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 4. ครูนาํ ภาพเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีชาวพทุ ธในดา้ นต่าง ๆ มาใหน้ กั เรียนดู เช่น ภาพชาวพุทธ กาํ ลงั ฟังพระแสดงธรรมเทศนา (หนา้ ที่ดา้ นการศึกษาหาความรู้เก่ียวกบั หลกั ธรรมและพิธีกรรมทาง พระพทุ ธศาสนา) ภาพชาวพทุ ธกาํ ลงั นงั่ ฝึกสมาธิ (หนา้ ท่ีดา้ นการปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมและพธิ ีกรรมทาง ศาสนา) ภาพชาวพทุ ธกาํ ลงั พดู อภิปรายธรรม (หนา้ ที่ดา้ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา) ภาพชาวพทุ ธยน่ื หนงั สือประทว้ งกรณีมีผดู้ ูหมิ่นพระพทุ ธศาสนา (หนา้ ท่ีดา้ นการปกป้ องและคุม้ ครองพระพทุ ธศาสนา) 5. ครูสุ่มเลือกนกั เรียน 4 คน ออกมาอธิบายใหเ้ พอ่ื นฟังถึงหนา้ ที่ของชาวพทุ ธในภาพวา่ ชาวพทุ ธ กาํ ลงั ทาํ อะไร และเป็นการทาํ หนา้ ท่ีดา้ นใดของชาวพุทธ 6. ครูกล่าวชมเชยนกั เรียน จากน้นั สรุปหนา้ ท่ีหลกั ๆ ของชาวพทุ ธ 4 ประการ ไดแ้ ก่ หนา้ ที่ดา้ น การศึกษาหาความรู้เก่ียวกบั หลกั ธรรมและพิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา หนา้ ที่ดา้ นปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม และพิธีกรรมทางศาสนา หนา้ ที่ดา้ นเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา และหนา้ ที่ดา้ นปกป้ องและคุม้ ครอง พระพทุ ธศาสนา และช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบวา่ นอกจากหนา้ ที่หลกั ๆ ดงั กล่าวน้ีแลว้ ชาวพทุ ธยงั มีหนา้ ท่ียอ่ ย ๆ อื่นอีกท่ีควรศึกษาใหเ้ ขา้ ใจและปฏิบตั ิตนถูกตอ้ ง เช่น การบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละการบาํ รุงรักษา วดั การปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อเพอื่ นตามหลกั พระพทุ ธศาสนา การปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อศาสนิกชน ของศาสนาต่าง ๆ ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ หน้าที่ชาวพทุ ธ: การบําเพญ็ ประโยชน์และการบํารุงรักษาวดั และการปฏิบัตติ นท่เี หมาะสมต่อ เพอ่ื นตามหลกั พระพทุ ธศาสนา 7. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านและสรุป ในชวั่ โมงท่ีแลว้ ใหเ้ พือ่ น ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพ่ิมเติม 8. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6–8 คน โดยวธิ ีนบั หมายเลข เลือกเฉพาะเจาะจง หรือจบั สลาก แลว้ แต่ความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเลือกประเดน็ การอภิปรายท่ีครูได้ กาํ หนดไว้ ไดแ้ ก่ 1) วดั มีความสาํ คญั อยา่ งไร 2) จะปฏิบตั ิตนอยา่ งไรจึงจะไดช้ ื่อวา่ บาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละบาํ รุงรักษาวดั 3) เพ่อื นแทแ้ ละเพอื่ นเทียมมีลกั ษณะต่างกนั อยา่ งไร 4) อยากไดเ้ พอื่ นแทเ้ ป็นเพอ่ื นตอ้ งทาํ อยา่ งไร 9. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ มูลเพิม่ เติมเก่ียวกบั ประเดน็ การอภิปรายจากส่ือ และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น เอกสารความรู้ อินเทอร์เน็ต สอบถามผรู้ ู้ 10. หลงั จากไดข้ อ้ มลู เพียงพอแลว้ ครูใหน้ กั เรียนมารวมกลุ่มกนั ที่หอ้ งประชุมหรือสนามหญา้ ใต้ ตน้ ไม้ นงั่ แยกเป็นกลุ่มคร่ึงวงกลม แต่ละกลุม่ นงั่ ห่างกนั พอสมควร แต่ละกลุ่มเลือกประธาน เลขานุการ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 116 จดบนั ทึก และผนู้ าํ การอภิปราย 11. ครูแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารอภิปราย กฎ กติกา และเวลาในการอภิปราย จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่ม ดาํ เนินการอภิปรายตามประเดน็ ท่ีจบั สลากไดแ้ ละตามเวลาที่กาํ หนด โดยครูคอยเป็นผดู้ แู ลและให้ คาํ แนะนาํ ในการอภิปรายใหด้ าํ เนินไปดว้ ยความเรียบร้อย 12. แต่ละกลุ่มสรุปและบนั ทึกผลการอภิปราย พร้อมท้งั เตรียมตวั นาํ เสนอผลการอภิปรายใน รูปแบบที่หลากหลาย เช่น ภาพประกอบ แผน่ ใส วีดิทศั น์ PowerPoint ในชว่ั โมงต่อไป 13. แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนาํ เสนอผลการอภิปราย กลุ่มละ 10 นาที พร้อมเปิ ดโอกาสใหเ้ พ่อื น นกั เรียนกลุ่มอ่ืนซกั ถามและวิจารณ์ผลงาน 14. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า การบาํ เพญ็ ประโยชน์และการบํารุงรักษาวดั หรือศาสนสถานของ ศาสนาต่าง ๆ ด้วยการบริจาคทรัพย์สินเงนิ ทอง เป็ นค่าก่อสร้าง ค่าบํารุงรักษาวดั หรือศาสนสถานเป็ นการ ปฏิบัตติ นในฐานะเป็ นศาสนิกชนท่ีดขี องศาสนา และยงั เป็ นการช่วยสืบทอดศาสนาด้วย จากน้ันซักถาม นักเรียนว่า นักเรียนจะนําหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกต์ใช้กบั การบริจาคทรัพย์สินเงนิ ทองในกรณีนีอ้ ย่างไร โดยให้นักเรียนช่วยกนั ตอบ ครูเขียนบนกระดานดาํ และให้นักเรียนบนั ทึกลงในสมุด 15. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาเก่ียวกบั หนา้ ที่ชาวพทุ ธเร่ือง การบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละการ บาํ รุงรักษาวดั และการปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อเพือ่ นตามหลกั พระพทุ ธศาสนา โดยครูเขียนขอ้ สรุปลงบน กระดานดาํ ใหน้ กั เรียนเขียนบนั ทึกลงในสมุด ชั่วโมงที่ 26 หน้าที่ชาวพุทธ: การปฏิบัตติ นท่เี หมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ 16. ครูใหน้ กั เรียนส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเลือกประเด็นการอภิปรายท่ีครูไดก้ าํ หนดไว้ ไดแ้ ก่ 1) ทาํ ไมตอ้ งปฏิบตั ิต่อศาสนิกชนของศาสนาอื่นใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม 2) เม่ืออยรู่ ่วมกบั ศาสนิกชนของศาสนาอื่น ๆ ควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไร 17. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ มูลเพม่ิ เติมเก่ียวกบั ประเด็นการอภิปรายจากสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น เอกสารความรู้ อินเทอร์เน็ต สอบถามผรู้ ู้ 18. หลงั จากไดข้ อ้ มลู เพียงพอแลว้ ครูใหน้ กั เรียนมารวมกลุ่มกนั ท่ีหอ้ งประชุมหรือสนามหญา้ ใต้ ตน้ ไม้ นง่ั แยกเป็นกลุ่มคร่ึงวงกลม แต่ละกลุ่มนงั่ ห่างกนั พอสมควร แต่ละกลุ่มเลือกประธาน เลขานุการ จดบนั ทึก และผนู้ าํ การอภิปราย 19. ครูแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารอภิปราย กฎ กติกา และเวลาในการอภิปราย จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่ม ดาํ เนินการอภิปรายตามประเดน็ ท่ีจบั สลากไดแ้ ละตามเวลาที่กาํ หนด โดยครูคอยเป็นผดู้ แู ลและให้ คาํ แนะนาํ ในการอภิปรายใหด้ าํ เนินไปดว้ ยความเรียบร้อย 20. แต่ละกลุ่มสรุปและบนั ทึกผลการอภิปราย พร้อมท้งั เตรียมตวั นาํ เสนอผลการอภิปรายใน รูปแบบที่หลากหลาย เช่น ภาพประกอบ แผน่ ใส วดี ิทศั น์ PowerPoint ในชว่ั โมงต่อไป 21. แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนาํ เสนอผลการอภิปราย กลุ่มละ 10 นาที พร้อมเปิ ดโอกาสใหเ้ พอ่ื น นกั เรียนกลุ่มอื่นซกั ถามและวิจารณ์ผลงาน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 117 22. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ถ้ามโี อกาสไปทัศนศึกษาในประเทศสมาชิกอาเซียน นักเรียนจะปฏิบัตติ นทเี่ หมาะสมต่อศาสนสถานและศาสนบุคคลของศาสนาอนื่ ๆ อย่างไร จากน้ันครูสรุป เป็ นข้อ ๆ เขยี นบนกระดานดาํ แล้วให้นักเรียนบันทกึ ลงในสมดุ 23. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาเก่ียวกบั เก่ียวกบั หนา้ ท่ีชาวพทุ ธเรื่อง การปฏิบตั ิตนที่ เหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ โดยครูเขียนขอ้ สรุปลงบนกระดานดาํ ใหน้ กั เรียนเขียนบนั ทึกลง ในสมุด 24. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ครูคอยใหค้ าํ แนะนาํ คาํ ติ–ชม และสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานของนกั เรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม 25. เม่ือนาํ เสนอผลงานครบทุกกลุ่มแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ท่ีไดร้ ับจากการอภิปราย เกี่ยวกบั หนา้ ท่ีชาวพทุ ธ ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 26. ครูใหน้ กั เรียนทาํ ใบงานที่ 1 เร่ือง การบาํ เพญ็ ประโยชน์และการบาํ รุงรักษาวดั ใบงานท่ี 2 เร่ือง เพ่อื นแทห้ รือเพ่อื นเทียม และใบงานท่ี 3 เร่ือง การปฏิบตั ิตนที่เหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ และช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถูกตอ้ ง 27. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั หนา้ ท่ีชาวพทุ ธ ในแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 28. ครูแนะนาํ ให้นักเรียนนาํ ความรู้เกี่ยวกบั หน้าที่ชาวพุทธในเร่ือง การบาํ เพ็ญประโยชน์และการบาํ รุง รักษาวดั การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมต่อเพื่อนตามหลักพระพุทธศาสนา การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมต่อ ศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ ไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจาํ วนั ใหเ้ หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ ข้นั ที่ 5 สรุป 29. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง หนา้ ที่ชาวพทุ ธ โดยใหน้ กั เรียนสรุปเป็นแผนที่ความคิด และตกแต่งใหส้ วยงาม 30. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ ชาวพทุ ธควรมีกิริยาวาจาที่สุภาพเรียบร้อย งดงามท้งั ทางกายและทางวาจา แลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาเกี่ยวกบั มารยาทชาวพทุ ธ เป็นการบา้ นเพือ่ เตรียมจดั การ เรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ครูนาํ นกั เรียนไปวดั ในโอกาสต่าง ๆ เพือ่ ใหน้ กั เรียนไดบ้ าํ เพญ็ ประโยชน์และบาํ รุงรักษาวดั ใน สถานการณ์จริง 2. ครูใหน้ กั เรียนเขียนเรียงความส้นั ๆ เกี่ยวกบั การคบเพอ่ื น 3. ครูใหน้ กั เรียนสาํ รวจและสอบถามพอ่ แม่ ผปู้ กครอง หรือผรู้ ู้เก่ียวกบั วธิ ีปฏิบตั ิตนท่ีถกู ตอ้ ง เหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 118 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. ภาพเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีชาวพทุ ธในดา้ นต่าง ๆ เช่น ภาพชาวพทุ ธกาํ ลงั ฟังพระแสดงธรรม เทศนา (หนา้ ท่ีดา้ นการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกบั หลกั ธรรมและพิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา) ภาพชาวพทุ ธ กาํ ลงั นง่ั ฝึกสมาธิ (หนา้ ท่ีดา้ นการปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมและพธิ ีกรรมทางศาสนา) ภาพชาวพทุ ธกาํ ลงั พดู อภิปรายธรรม (หนา้ ท่ีดา้ นการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา) ภาพชาวพทุ ธยน่ื หนงั สือประทว้ งกรณีมีผดู้ ูหมิ่น พระพทุ ธศาสนา (หนา้ ท่ีดา้ นการปกป้ องและคุม้ ครองพระพทุ ธศาสนา) 3. ฉลากประเดน็ การอภิปราย 4. ใบงานท่ี 1 เร่ือง การบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละการบาํ รุงรักษาวดั 5. ใบงานที่ 2 เรื่อง เพื่อนแทห้ รือเพอ่ื นเทียม 6. ใบงานที่ 3 เรื่อง การปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ 7. แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 8. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. คู่มือการสอน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 11. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10.บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ขปัญหา/อุปสรรค 3. สิ่งท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผ้สู อน //
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 119 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12 เวลา 3 ชั่วโมง มารยาทชาวพุทธ พระพทุ ธศาสนา สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การปฏบิ ตั ติ นเป็ นชาวพทุ ธทดี่ ี 1. สาระสําคญั การเรียนรู้วิถีชีวติ ของพระสงฆ์ การเรียนรู้บทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา และ การปฏิบตั ิตนที่เหมาะสมในเรื่องการเขา้ พบพระสงฆ์ การแสดงความเคารพดว้ ยการประนมมือ การไหว้ การกราบ และการมีมารยาทในการฟัง เป็นมารยาทชาวพทุ ธที่ควรปฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ ง ซ่ึงจะทาํ ใหอ้ ยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุขและสามารถสืบทอดเอกลกั ษณ์ท่ีดีงามเอาไวไ้ ด้ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี 1. อธิบายจริยวตั รของสาวกเพื่อเป็นแบบอยา่ งในการประพฤติปฏิบตั ิตน และปฏิบตั ิตนอยา่ ง เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาที่ตนนบั ถือ (ส 1.2 ม. 1/2) 2. ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถือตามที่กาํ หนด (ส 1.2 ม. 1/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เล่าวถิ ีชีวิตของพระสงฆไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง (K, P) 2. อธิบายบทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาได้ (K) 3. อธิบายวธิ ีปฏิบตั ิตนและปฏิบตั ิตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมในเร่ืองการประนมมือ การไหว้ การกราบ (K, P) 4. มีมารยาทในการฟังพระเจริญพระพทุ ธมนต์ การฟังพระสวดพระพทุ ธมนต์ การฟังพระสวด พระอภิธรรม และการฟังพระแสดงธรรมเทศนา (A, P)
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 120 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) • ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ซกั ถามความรู้เร่ือง มารยาท • ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลและ เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร ชาวพทุ ธ ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ 2. ตรวจผลงาน/กิจกรรม ความซื่อสตั ยส์ ุจริต ความมี เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม วินยั ความใฝ่ เรียนรู้ ความมี เหตุผล ฯลฯ 5. สาระการเรียนรู้ • มารยาทชาวพทุ ธ 1. การเรียนรู้วิถีชีวิตของพระสงฆ์ 2. การเรียนรู้บทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา 3. การปฏิบตั ิตนที่เหมาะสม 6. แนวทางบูรณาการ ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เก่ียวกบั มารยาทชาวพทุ ธ ออกแบบและตกแต่งแผนที่ความคิดเกี่ยวกบั มารยาทชาวพทุ ธ ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขียนคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษคาํ วา่ พระสงฆ์ วถิ ีชีวติ ศิลปะ ภาษาต่างประเทศ พระพทุ ธศาสนา 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 28 1. ครูสร้างบรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ มในการเรียนรู้เพ่ือใหเ้ กิดศรัทธาเล่ือมใสในพระรัตนตรัยที่ เหมาะสม เช่น จดั นง่ั เรียนเป็นตวั U นาํ นกั เรียนไปเรียนที่หอ้ งประชุม หอ้ งจริยธรรม สนามหญา้ ใต้ ร่มไม้ ก่อนเรียนใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หวพ้ ระ นงั่ สมาธิ และแผเ่ มตตา 2. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 3. ครูใหน้ กั เรียนดูวดี ิทศั นเ์ ก่ียวกบั วถิ ีชีวติ ของพระสงฆ์ พร้อมอ่านคาํ ภาษาองั กฤษต่อไปน้ีให้ นกั เรียนฟังและใหน้ กั เรียนอ่านตาม (Sangha/Monk/Bhikkhu) จากน้นั สนทนากบั นกั เรียนในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) วดี ิทศั นท์ ี่นกั เรียนดูเก่ียวกบั เร่ืองอะไร 2) นกั เรียนดูแลว้ รู้สึกอยา่ งไร
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 121 3) นกั เรียนไดค้ วามรู้อะไรบา้ ง 4) ความรู้น้นั สามารถนาํ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ไดห้ รือไม่ 4. ครูกล่าวชมเชยนกั เรียนที่ช่วยกนั ตอบคาํ ถาม จากน้นั สรุปการสนทนาและเช่ือมโยงไปสู่เน้ือหา ท่ีจะเรียน ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ มารยาทชาวพุทธ: การเรียนรู้วถิ ชี ีวติ ของพระสงฆ์ 5. ครูแจง้ เน้ือหาท่ีจะบรรยายใหน้ กั เรียนทราบ 6. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านและสรุป ในชว่ั โมงท่ีแลว้ ใหเ้ พอื่ น ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพมิ่ เติม 7. ครูอธิบายรายละเอียดของเน้ือหาเรื่อง วิถีชีวิต (Way of Life) ของพระสงฆ์ พร้อมสนทนาและ ซกั ถามนกั เรียนเป็นระยะ ๆ ประเดน็ คาํ ถาม เช่น 1) อริยสงฆก์ บั สมมติสงฆต์ ่างกนั อยา่ งไร 2) ต้งั แต่สมยั พทุ ธกาลมาจนถึงปัจจุบนั การบวชในพระพทุ ธศาสนามีมาแลว้ ก่ีวิธี 3) การบวชของพระสงฆใ์ นปัจจุบนั ใชว้ ธิ ีใด 4) ทาํ ไมจึงเรียกพระสงฆว์ า่ อนาคาริก 5) กิจวตั รของพระสงฆม์ ีอะไรบา้ ง 6) นกั เรียนเรียนรู้เรื่องวิถีชีวติ ของพระสงฆ์ นกั เรียนไดป้ ระโยชนอ์ ะไร ในขณะอธิบายนอกจากใหน้ กั เรียนดูวีดิทศั น์แลว้ ครูควรใหน้ กั เรียนดูภาพประกอบอื่น ๆ เช่น ภาพพระอริยสงฆใ์ นสมยั พุทธกาล ภาพพระอริยสงฆใ์ นสมยั ปัจจุบนั ภาพความเป็นอยขู่ องพระสงฆ์ เพอื่ เปรียบเทียบใหน้ กั เรียนเห็นถึงความแตกต่างวิถีชีวิตของพระสงฆ์ 8. เม่ืออธิบายเน้ือหาครบทุกหวั ขอ้ แลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั ของเน้ือหาอีกคร้ัง พร้อมเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ ชั่วโมงที่ 29 มารยาทชาวพุทธ: บทบาทของพระสงฆ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา 9. ครูทบทวนความรู้ของนกั เรียนเก่ียวกบั การเรียนรู้วิถีชีวิตของพระสงฆ์ จากน้นั อธิบายรายละเอียด ของเน้ือหาเร่ือง บทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา (Buddhism) พร้อมสนทนาและซกั ถาม นกั เรียนเป็นระยะ ๆ ประเดน็ คาํ ถาม เช่น 1) การแสดงธรรมหรือการเทศนก์ บั การปาฐกถาธรรมต่างกนั อยา่ งไร 2) ระหวา่ งการแสดงธรรมหรือการเทศนก์ บั การปาฐกถาธรรม นกั เรียนชอบวธิ ีใดมากกวา่ กนั 3) ท่ีกล่าววา่ “พระสงฆแ์ สดงธรรมแก่ประชาชน ท่านจะมุ่งประโยชนม์ ากกวา่ อามิสสินจา้ ง” นกั เรียนมีความเห็นอยา่ งไรกบั คาํ กล่าวน้ี 4) การเรียนรู้เรื่องบทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนามีประโยชนอ์ ยา่ งไร ในขณะอธิบายนอกจากใหน้ กั เรียนดูวีดิทศั นแ์ ลว้ ครูควรใหน้ กั เรียนดูภาพประกอบอื่น ๆ เช่น
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 122 ภาพพระสงฆแ์ สดงธรรมหรือเทศนภ์ าพพระสงฆป์ าฐกถาธรรม เพ่ือเปรียบเทียบใหน้ กั เรียนเห็นถึงความ แตกต่างของกิจกรรมในภาพ 10. เม่ืออธิบายเน้ือหาครบทุกหวั ขอ้ แลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั ของเน้ือหาอีกคร้ัง พร้อมเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ 11. ครูกล่าวชมเชยนกั เรียนและใหน้ กั เรียนทาํ ใบงานที่ 4 เร่ือง เรียนรู้วิถีชีวติ และบทบาทของ พระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ ง 12. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ครูคอยสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานของนกั เรียนตามแบบ ประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคล 13. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ ชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิตนต่อพระสงฆท์ ่ีดีงามท้งั ทางกายและทางวาจาเพอื่ ความเป็นสิริมงคลต่อตนเอง แลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนไปอ่านและสรุปเน้ือหาเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตนที่ เหมาะสมต่อพระสงฆ์ เป็นการบา้ นเพอ่ื เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป ชั่วโมงท่ี 30 มารยาทชาวพุทธ: การปฏิบัตติ นทีเ่ หมาะสม 14. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านและสรุป ในชว่ั โมงที่แลว้ ใหเ้ พื่อน ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพม่ิ เติม 15. ครูใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือหาเร่ือง การเขา้ พบพระสงฆ์ การแสดงความเคารพ และมารยาทใน การฟัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนสรุปสาระสาํ คญั ลงในแบบบนั ทึกความรู้ และทาํ ใบงานท่ี 5 เร่ือง การเขา้ พบ พระสงฆ์ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถูกตอ้ ง 16. ครูสนทนากบั นกั เรียนเพือ่ ทบทวนความรู้เกี่ยวกบั การแสดงความเคารพในเร่ือง การประนมมือ การไหว้ และการกราบ 17. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน จากน้นั ครูดาํ เนินการสาธิตการประนมมือ การไหว้ และ การกราบพระรัตนตรัยใหน้ กั เรียนดูอยา่ งชา้ ๆ ประกอบการอธิบายอยา่ งชดั เจน 18. ครูใหน้ กั เรียนสรุปผลจากที่ไดเ้ ห็นตามลาํ ดบั ข้นั ตอนต่าง ๆ จากการสาธิต เพอ่ื ประเมินผลวา่ นกั เรียนมีความเขา้ ใจในการเรียนเรื่องการประนมมือ การไหว้ และการกราบพระรัตนตรัยมากนอ้ ยเพยี งใด 19. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มฝึกการประนมมือ การไหว้ และการกราบพระรัตนตรัย แลว้ ออกมา สาธิตให้เพือ่ น ๆ ดู และผลดั กนั ประเมินผลตามแบบประเมิน จากน้ันครูให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความ คดิ เห็นว่า เราสามารถนํามารยาทชาวพทุ ธทีเ่ กยี่ วกบั การประนมมอื การไหว้ และการกราบไปปฏิบัตกิ บั ประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนได้หรือไม่ อย่างไร สรุปและบันทึกผล 20. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ครูคอยใหค้ าํ แนะนาํ คาํ ติ–ชม และสงั เกตพฤติกรรมการ ทาํ งานและการสาธิตของนกั เรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 21. เม่ือสาธิตครบทุกกลุ่มแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความสาํ คญั การนาํ ไปใช้ และข้นั ตอน ของการประนมมือ การไหว้ และการกราบพระรัตนตรัย ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผ้เู รียน 22. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เก่ียวกบั มารยาทชาวพุทธในเรื่อง การประนมมือ การไหว้ การกราบ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 123 และมารยาทในการฟัง ในแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพ์ วฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถูกตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 23. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนนาํ ความรู้เก่ียวกบั มารยาทชาวพทุ ธในเรื่อง การประนมมือ การไหว้ การ กราบ และมารยาทในการฟังไปประพฤติปฏิบตั ิในชีวติ ประจาํ วนั ใหเ้ กิดความเคยชินจนเป็นนิสยั สามารถ นาํ มาใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ข้นั ท่ี 5 สรุป 24. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง มารยาทชาวพทุ ธ โดยใหน้ กั เรียนสรุปลงในแบบบนั ทึก ความรู้ หรือสรุปเป็นแผนท่ีความคิดพร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม 25. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ การจดั โต๊ะหมู่บชู านิยมจดั ในงานศาสนพธิ ีและจดั ไวใ้ นบา้ นเรือนหรือ สถานท่ีทาํ งาน เพ่อื แสดงถึงความมีศรัทธามนั่ คงในพระพุทธศาสนา แลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและ สรุปเน้ือหาเก่ียวกบั การจดั โต๊ะหม่บู ชู าและเคร่ืองประกอบโตะ๊ หมู่บชู า เป็นการบา้ นเพือ่ เตรียมจดั การ เรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ครูนาํ นกั เรียนไปวดั ในโอกาสต่าง ๆ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดฝ้ ึ กปฏิบตั ิในสถานการณ์จริง 2. ครูใหน้ กั เรียนเขียนเรียงความส้นั ๆ ในหวั ขอ้ “พระสงฆก์ บั บทบาททางสงั คม” 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. วดี ิทศั นเ์ ก่ียวกบั วิถีชีวติ ของพระสงฆ์ 2. ภาพวถิ ีชีวติ ของพระสงฆ์ เช่น ภาพพระอริยสงฆใ์ นสมยั พุทธกาล ภาพพระอริยสงฆใ์ นปัจจุบนั ภาพความเป็นอยขู่ องพระสงฆ์ 3. ภาพที่เกี่ยวกบั บทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา เช่น ภาพพระสงฆแ์ สดงธรรม หรือเทศน์ ภาพพระสงฆป์ าฐกถาธรรม 4. ใบงานท่ี 4 เรื่อง เรียนรู้วิถีชีวติ และบทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา 5. ใบงานท่ี 5 เร่ือง การเขา้ พบพระสงฆ์ 6. แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคล 7. แบบบนั ทึกความรู้ 8. แบบประเมินผลการฝึ กปฏิบตั ิการประนมมือ การไหว้ และการกราบ 9. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 11. คู่มือการสอน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 12. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 124 10.บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ขปัญหา/อุปสรรค 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน //
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 125 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 เวลา 2 ชั่วโมง ศาสนพธิ ี พระพทุ ธศาสนา สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การปฏิบัติตนเป็ นชาวพทุ ธที่ดี 1. สาระสําคญั การจดั โต๊ะหมบู่ ูชาและเคร่ืองประกอบโต๊ะหมบู่ ูชา การจุดธูปเทียน และการอาราธนาต่าง ๆ เป็น ศาสนพธิ ีที่ชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิใหถ้ กู ตอ้ งเพื่อแสดงออกถึงความมีศรัทธาในพระรัตนตรัย และเพื่อรักษา วฒั นธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของชาติเอาไว้ 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี จดั กิจกรรมและปฏิบตั ิตนในศาสนพิธี พธิ ีกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง (ส 1.2 ม. 1/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวธิ ีการจดั และจดั โตะ๊ หม่บู ูชาและเครื่องประกอบโตะ๊ หมู่บชู าไดถ้ กู ตอ้ ง (K, P) 2. อธิบายวิธีการจุดธูปเทียนและจุดธูปเทียนไดถ้ กู ตอ้ ง (K) 3. ฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตรไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 4. มีความต้งั ใจในการฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตร (A) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด◌้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) • ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ซกั ถามความรู้เร่ือง ศาสนพิธี • ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร 2. ตรวจผลงาน/กิจกรรม ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต ความมี วนิ ยั ความใฝ่ เรียนรู้ ความมี เหตุผล ฯลฯ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 126 5. สาระการเรียนรู้ • ศาสนพธิ ี 1. การจดั โต๊ะหม่บู ูชาและเคร่ืองประกอบโต๊ะหม่บู ูชา 2. การจุดธูปเทียน 3. การอาราธนาต่าง ๆ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เกี่ยวกบั ศาสนพิธี นบั จาํ นวนอุปกรณ์และเคร่ืองประกอบโตะ๊ หม่บู ชู าแบบต่าง ๆ คณิตศาสตร์ ออกแบบและตกแต่งแผนที่ความคิดเกี่ยวกบั การจดั โตะ๊ หมู่บชู า ศิลปะ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 31 1. ครูสร้างบรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ มในการเรียนรู้เพื่อใหเ้ กิดศรัทธาเล่ือมใสในพระรัตนตรัยที่ เหมาะสม เช่น จดั นกั เรียนนงั่ แยกเป็นกลุ่ม จดั นง่ั เรียนแบบตวั U นาํ นกั เรียนไปเรียนที่หอ้ งประชุม หรือหอ้ งจริยธรรม สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ ก่อนเรียนใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หวพ้ ระ นง่ั สมาธิ และแผเ่ มตตา 2. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 3. ครูใหน้ กั เรียนดูวดี ิทศั นเ์ กี่ยวกบั การประกอบศาสนพิธีพิธีใดพิธีหน่ึง เช่น พธิ ีทาํ บุญข้ึนบา้ นใหม่ พธิ ีทาํ บุญวนั เกิด แลว้ สนทนากบั นกั เรียนในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) วดี ิทศั นท์ ี่นกั เรียนดูเก่ียวขอ้ งกบั ศาสนพิธีอะไร 2) ศาสนพิธีน้นั ทาํ กนั ในโอกาสใด 3) ในศาสนพิธีน้นั มีกิจกรรมและข้นั ตอนที่สาํ คญั อะไรบา้ ง 4) นกั เรียนเคยเขา้ ร่วมศาสนพธิ ีน้นั หรือไม่ 4. ครูกล่าวชมเชยนกั เรียนท่ีช่วยกนั ตอบคาํ ถาม จากน้นั สรุปการสนทนาและเช่ือมโยงไปสู่เน้ือหา ที่จะเรียน ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ ศาสนพธิ ี: การจดั โต๊ะหมู่บูชาและเคร่ืองประกอบโต๊ะหมู่บูชา และการจุดธูปเทียน 5. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองที่ไดร้ ับมอบหมายให้ไปอ่านและสรุปใน ชวั่ โมงที่แลว้ ใหเ้ พ่อื น ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพิ่มเติม 6. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาเรื่อง การจดั โต๊ะหม่บู ูชาและเครื่องประกอบโต๊ะหม่บู ูชา และการจุด ธูปเทียน 7. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4–6 คน แต่ละกลุ่มเขียนแผนที่ความคิดเก่ียวกบั การจดั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 127 โตะ๊ หมู่แบบหมู่ 4 แบบหมู่ 5 แบบหมู่ 7 และแบบหมู่ 9 ตกแต่งแผนที่ความคิดใหส้ วยงาม 8. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายในประเดน็ ต่อไปน้ี 1) จะจุดธูปเทียนบนโต๊ะหม่บู ูชาอยา่ งไรใหถ้ กู วธิ ี 2) ถา้ เราจุดธูปเทียนไม่ถกู วิธีจะมีผลอยา่ งไร 9. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอผลการอภิปรายเร่ือง การจุดธูปเทียนและการ อาราธนาตา่ ง ๆ 10. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพการจดั โต๊ะหม่บู ชู าแบบต่าง ๆ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มฝึกจดั โตะ๊ หมู่ บูชาแบบหมู่ 7 ซ่ึงเป็นแบบท่ีนิยมจดั กนั มากในงานพธิ ีต่าง ๆ ดว้ ยอุปกรณ์และเคร่ืองประกอบโต๊ะหม่บู ูชา ที่ครูไดเ้ ตรียมมา ครูแกไ้ ขขอ้ บกพร่องในการฝึกจดั ของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม พร้อมใหก้ าํ ลงั ใจนกั เรียนทุกคน 11. ครูใหน้ กั เรียนฝึกจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยบนโตะ๊ หม่บู ูชา ครูกล่าวชมเชยหากนกั เรียน ปฏิบตั ิถูกตอ้ ง และหากบกพร่องครูช่วยแกไ้ ขใหก้ าํ ลงั ใจ 12. เมื่อนกั เรียนฝึ กจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยบนโตะ๊ หม่บู ชู าเรียบร้อยแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาํ คญั ของเน้ือหาอีกคร้ังพร้อมเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ 13. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนศึกษาและฝึกกลา่ วคาํ อาราธนาต่าง ๆ เป็นการบา้ นเพื่อจดั การเรียนรู้ใน คร้ังต่อไป ชั่วโมงที่ 32 ศาสนพธิ ี: การอาราธนาต่าง ๆ 14. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกบั การจดั โต๊ะหมบู่ ูชาและเคร่ืองประกอบโต๊ะหม่บู ูชา และการจุดธูป เทียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิม) ร่วมกนั อภิปรายในประเดน็ ต่อไปน้ี 1) การอาราธนาศีล การอาราธนาธรรม และการอาราธนาพระปริตรใชต้ า่ งกนั อยา่ งไร 2) ในการประกอบศาสนพิธีต่าง ๆ ถา้ เราไม่อาราธนาศีล อาราธนาธรรม หรืออาราธนาพระปริตร จะไดห้ รือไม่ เพราะอะไร 15. ครูเปิ ดบทสวดอาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตรจากเคร่ืองบนั ทึกเสียงให้ นกั เรียนฟัง 16. ครูใหน้ กั เรียนฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตรพร้อมกบั ครู ทีละท่อน 17. ครูใหน้ กั เรียนเขา้ กลุ่มฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตร ครู ชมเชยกลุ่มที่กล่าวไดถ้ กู ตอ้ ง และใหก้ าํ ลงั ใจกลุ่มท่ียงั มีขอ้ บกพร่อง พร้อมท้งั ช่วยแกไ้ ขขอ้ บกพร่องน้นั 18. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มฝึกกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตรให้ เพื่อน ๆ ฟัง และผลดั กนั ประเมินผลตามแบบประเมิน 19. แต่ละกลุ่มปรับปรุงแกไ้ ขการกลา่ วคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตรตาม ผลการประเมินจากครูและเพ่ือน จากน้ันครูมอบหมายให้นักเรียนไปสืบค้นข้อมลู เกยี่ วกบั ศาสนพธิ ีของ ศาสนาที่นับถือกนั ในประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น ศาสนาอสิ ลาม คริสต์ศาสนาว่ามอี ะไรบ้าง สรุปและ บันทึกผล แล้วนํามาเล่าสู่กนั ฟังหน้าช้ันเรียน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 128 20. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ครูคอยสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานของนกั เรียนตามแบบ ประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 21. เมื่อฝึกครบทุกกลุ่มแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความสาํ คญั การนาํ ไปใช้ และข้นั ตอน การอาราธนาศีล การอาราธราธรรม และการอาราธนาพระปริตร ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผ้เู รียน 22. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั ศาสนพิธีในเร่ือง การจดั โต๊ะหม่บู ชู าและเครื่องประกอบ โตะ๊ หม่บู ูชา การจุดธูปเทียน และการอาราธนาต่าง ๆ ในแบบฝึ กทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 23. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนนาํ ความรู้เกี่ยวกบั ศาสนพิธีในเร่ือง การจดั โต๊ะหมู่บูชาและเครื่องประกอบ โต๊ะหม่บู ชู า การจุดธูปเทียน และการอาราธนาต่าง ๆ ไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจาํ วนั ใหเ้ กิดความเคยชินจน เป็นนิสยั สามารถนาํ มาใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ข้นั ท่ี 5 สรุป 24. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง ศาสนพิธี โดยใหน้ กั เรียนสรุปลงในแบบบนั ทึกความรู้ 25. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาลว้ นเป็นวนั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั พระพทุ ธเจา้ พระธรรม และพระสงฆ์ แลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาเก่ียวกบั วนั สาํ คญั ทาง พระพทุ ธศาสนา เป็นการบา้ นเพื่อเตรียมจกั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ครูนาํ นกั เรียนไปวดั ในโอกาสต่าง ๆ เพ่อื ใหน้ กั เรียนไดฝ้ ึ กปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ศาสนพธิ ีในเร่ือง การ จดั โต๊ะหม่บู ชู าและเคร่ืองประกอบโตะ๊ หม่บู ูชา การจุดธูปเทียน และการอาราธนาต่าง ๆ ในสถานการณ์ จริง 2. ครูใหน้ กั เรียนเขียนเรียงความส้นั ๆ ในหวั ขอ้ “เขา้ ร่วมศาสนพิธีแลว้ ไดอ้ ะไร” 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. วดี ิทศั นเ์ ก่ียวกบั การประกอบศาสนพิธีพิธีใดพธิ ีหน่ึง เช่น พธิ ีทาํ บุญข้ึนบา้ นใหม่ พิธีทาํ บุญวนั เกิด 2. โตะ๊ หม่บู ชู าและเคร่ืองประกอบโต๊ะหม่บู ูชา 3. เคร่ืองบนั ทึกเสียงบทสวดอาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตร 4. แบบประเมินผลการฝึ กกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตร 5. แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 6. แบบบนั ทึกความรู้ 7. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 129 8. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 9. คู่มือการสอน พระพุทธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ขปัญหา/อุปสรรค 3. สิ่งท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผ้สู อน //
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 130 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 วนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนา เวลา 2 ชั่วโมง สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม พระพทุ ธศาสนา หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การปฏบิ ัติตนเป็ นชาวพุทธทดี่ ี ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1 1. สาระสําคญั วนั ธรรมสวนะเป็นวนั ฟังธรรมและเป็นวนั หลกั แห่งการทาํ ความดี ซ่ึงมีมาต้งั แต่สมยั พุทธกาล ในประเทศไทยเรียกวา่ วนั พระ มี 4 วนั เมื่อถึงวนั ธรรมสวนะชาวพทุ ธจะทาํ ความดีต่าง ๆ เช่น ตกั บาตร รักษาศีล ฟังธรรม ทาํ สมาธิ วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา และวนั เทโวโรหณะ เป็นเทศกาลสาํ คญั ในพระพุทธศาสนา เมื่อถึง เทศกาลเหล่าน้ีชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิตนใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม วนั วิสาขบูชา วนั อาสาฬหบชู า วนั มาฆบูชา และวนั อฏั ฐมีบชู า เป็นวนั สาํ คญั ทางพระพุทธศาสนา เมื่อถึงวนั สาํ คญั เหล่าน้ี ในฐานะที่เราเป็นชาวพทุ ธควรปฏิบตั ิตนใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมดว้ ยการละเวน้ ความชวั่ ทาํ ความดี และทาํ จิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิผอ่ งใส 2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายประวตั ิ ความสาํ คญั และปฏิบตั ิตนในวนั สาํ คญั ทางศาสนาท่ีตนนบั ถือตามที่กาํ หนดได้ ถูกตอ้ ง (ส 1.2 ม. 1/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายประวตั ิและความสาํ คญั ของวนั ธรรมสวนะและเทศกาลสาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาได้ ถกู ตอ้ ง (K) 2. อธิบายประวตั ิและความสาํ คญั ของวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 3. อธิบายระเบียบพธิ ีเวียนเทียนในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาไดถ้ กู ตอ้ ง (K) 4. เห็นคุณค่าและปฏิบตั ิตนไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมเมื่อถึงวนั ธรรมสวนะ เทศกาลสาํ คญั และวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา (A, P)
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 131 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) • ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ซกั ถามความรู้เร่ือง วนั สาํ คญั • ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ เป็นกลุ่มในดา้ นการสื่อสาร ทางพระพทุ ธศาสนา ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ 2. ตรวจผลงาน/กิจกรรม ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต ความมี เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม วนิ ยั ความใฝ่ เรียนรู้ ความมี เหตุผล ฯลฯ 5. สาระการเรียนรู้ • วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 1. ประวตั ิและความสาํ คญั ของวนั ธรรมสวนะและเทศกาลสาํ คญั 2. ประวตั ิและการปฏิบตั ิตนในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 3. ระเบียบพิธีเวียนเทียนในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เกี่ยวกบั วนั สาํ คญั ทาง พระพทุ ธศาสนา ศิลปะ ออกแบบและตกแตง่ แผนที่ความคิดเกี่ยวกบั วนั สาํ คญั ทาง พระพทุ ธศาสนา ภาษาต่างประเทศ คน้ หาคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษคาํ วา่ วนั สาํ คญั สากลของโลก และคาํ ที่เก่ียวกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 33 1. ครูสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดลอ้ มในการเรียนรู้เพอ่ื ใหเ้ กิดศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัยท่ี เหมาะสม เช่น จดั นง่ั เรียนแบบตวั U นาํ นกั เรียนไปเรียนท่ีหอ้ งประชุม หอ้ งจริยธรรม สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ ก่อนเรียนใหน้ กั เรียนสวดมนตไ์ หวพ้ ระ นง่ั สมาธิ และแผเ่ มตตา 2. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 3. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มทาํ ใบงานท่ี 6 เร่ือง วนั อะไร ตามเวลา ท่ีกาํ หนด เมื่อครบกาํ หนดเวลา ใหน้ กั เรียนส่งใบงาน จากน้นั ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครู ตรวจใบงาน ชมเชยและใหก้ าํ ลงั ใจนกั เรียนแต่ละกลุ่ม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 132 4. ครูสรุปความรู้จากใบงานเพื่อเช่ือมโยงไปสู่เน้ือหาท่ีจะเรียน ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ วนั ธรรมสวนะและเทศกาลสําคญั : ประวตั แิ ละความสําคญั ของวนั ธรรมสวนะและเทศกาลสําคญั 5. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนใหอ้ อกมาแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านและสรุป ในชวั่ โมงที่แลว้ ใหเ้ พ่อื น ๆ ฟัง โดยครูสรุปความคิดเห็นของนกั เรียนและใหค้ าํ แนะนาํ หรือความรู้เพ่มิ เติม 6. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาเรื่อง ประวตั ิและความสาํ คญั ของ วนั ธรรมสวนะและเทศกาลสาํ คญั และบนั ทึกสรุปสาระสาํ คญั 7. ครูใหน้ กั เรียนดูวดี ิทศั นเ์ ก่ียวกบั การทาํ กิจกรรมของชาวพทุ ธในวนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา และวนั เทโวโรหณะ 8. ครูแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารดูใหน้ กั เรียนทราบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี 1) วนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา และวนั เทโวโรหณะ มีประวตั ิความเป็นมา อยา่ งไร 2) เม่ือถึงวนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา และวนั เทโวโรหณะ ชาวพทุ ธควรทาํ กิจกรรมหรือปฏิบตั ิตนอยา่ งไร 9. แต่ละกลุ่มสรุปและบนั ทึกผลการอภิปราย แลว้ ส่งตวั แทนกลุ่มออกมานาํ เสนอผลการอภิปราย หนา้ ช้นั เรียน พร้อมเปิ ดโอกาสใหเ้ พือ่ นกลุ่มอื่นซกั ถามขอ้ สงสยั ตวั แทนกลุ่มตอบขอ้ สงสยั โดยครู คอยช่วยเหลือเพิ่มเติมในสาระสาํ คญั 10. เม่ือนาํ เสนอผลการอภิปรายครบทุกกลุ่มแลว้ ครูสรุป กล่าวชมเชย และใหก้ าํ ลงั ใจนกั เรียน แต่ละกลุ่ม 11. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปอา่ นและสรุปเน้ือหาเก่ียวกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาเร่ือง ประวตั ิและการปฏิบตั ิตนในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ชั่วโมงที่ 34 วนั ธรรมสวนะและเทศกาลสําคญั : ประวตั แิ ละการปฏิบตั ติ นในวนั สําคญั ทางพระพทุ ธศาสนา และระเบยี บพธิ ีเวยี นเทียนในวนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนา (ครูจดั การเรียนรู้โดยใชเ้ กม (Game)) 12. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา เพอ่ื ตรวจสอบหรือดูพ้นื ฐาน ของนกั เรียนเกี่ยวกบั ความรู้และการปฏิบตั ิในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาไดแ้ ก่วนั ใดบา้ ง และมีความสาํ คญั อยา่ งไร 2) ใครเคยไปร่วมพิธีกรรมหรือกิจกรรมในวนั สาํ คญั ทางพระพุทธศาสนาบา้ ง และไดเ้ ขา้ ร่วมทาํ กิจกรรมอะไรบา้ ง 13. ครูให้นกั เรียนแบ่ง 4 กลุ่ม โดยใชว้ ธิ ีจบั สลากวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ผทู้ ี่จบั สลากไดว้ นั เดียวกนั อยกู่ ลุ่มเดียวกนั (หรืออาจใชก้ ลุ่มเดิม) จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้ต่อไปน้ี 1) ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง วนั วิสาขบูชา 2) ใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง วนั อาสาฬหบูชา
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 133 3) ใบความรู้ท่ี 3 เรื่อง วนั มาฆบูชา 4) ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง วนั อฏั ฐมีบชู า 14. ครูแจกซองเกมและป้ ายคาํ วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา กลุ่มละ 4 ป้ ายเหมือนกนั คือ ป้ ายวนั วิสาขบูชา ป้ ายวนั อาสาฬหบชู า ป้ ายวนั มาฆบชู า และป้ ายวนั อฏั ฐมีบชู าใหแ้ ก่นกั เรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนเล่นเกม: ปริศนาวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา โดยก่อนเล่นครูช้ีแจงกติกาในการเล่นซ่ึงอยู่ ในซองเกมใหน้ กั เรียนทราบ 15. ในขณะปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียน ครูคอยสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานของนกั เรียนตามแบบ ประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 16. หลงั จากการเล่นเกมสิ้นสุด ครูสรุปคะแนนของแต่ละกลุ่มและประกาศช่ือกลุ่มท่ีไดค้ ะแนน มากที่สุดเป็นฝ่ ายชนะ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ปรบมือ 17. ครูสนทนาซกั ถามความรู้เก่ียวกบั ระเบียบพธิ ีเวียนเทียนในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา จากน้นั ต้งั ประเดน็ คาํ ถามเพ่ือนาํ ไปสู่การอภิปรายและสรุปสาระสาํ คญั ของวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา เช่น 1) วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาที่เก่ียวขอ้ งกบั พระพุทธเจา้ มีวนั อะไรบา้ ง 2) วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใดเป็นวนั สาํ คญั สากลของโลก 3) วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใดเป็นวนั พระธรรมและวนั พระสงฆ์ 4) เมื่อถึงวนั สาํ คญั ทางพระพุทธศาสนา ชาวพทุ ธควรทาํ กิจกรรมหรือประกอบพิธีกรรม อะไรบา้ ง 5) เมื่อถึงวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ถา้ ชาวพทุ ธไม่ทาํ กิจกรรมอะไรเลยจะมีผลอยา่ งไรบา้ ง ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 18. ครูใหน้ กั เรียนคน้ หาคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษคาํ วา่ วนั สาํ คญั สากลของโลกและคาํ ที่เกี่ยวกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา และทาํ กิจกรรมเก่ียวกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ี ถูกตอ้ ง 19. ครูสืบค้นข้อมูลเกยี่ วกบั วนั สําคญั ของศาสนาที่นับถอื กนั ในประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น ศาสนา อสิ ลาม คริสต์ศาสนา จากสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น ห้องสมุด อนิ เทอร์เน็ต แล้วนํามาเล่าให้นักเรียนฟังใน ช้ันเรียน พร้อมท้ังเปิ ดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยต่าง ๆ ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 20. ครูใหน้ กั เรียนจดั ป้ ายนิเทศนาํ เสนอความรู้เกี่ยวกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา และนาํ ความรู้ ที่ไดจ้ ากการเรียนรู้เรื่อง วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ไปประพฤติปฏิบตั ิใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมตามโอกาส เม่ือถึงวนั สาํ คญั น้นั ๆ ข้นั ที่ 5 สรุป 21. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา โดยใหน้ กั เรียนสรุปลง ในแบบบนั ทึกความรู้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1 134 22. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ ชีวิตของเราประกอบดว้ ยส่วนสาํ คญั 2 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนที่เป็นร่างกาย และส่วนท่ีเป็นจิตใจ ในตอนเชา้ เราดูแลร่างกายดว้ ยการลา้ งหนา้ แปรงฟัน แต่ไมไ่ ดด้ ูแลจิตใจเลย การดูแล จิตใจสามารถทาํ ไดด้ ว้ ยการฝึกควบคุมจิต เพราะเมื่อเราควบคุมจิตใจใหส้ งบน่ิงไดแ้ ลว้ ปัญญากจ็ ะเกิดข้ึน แลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปเน้ือหาเก่ียวกบั การบริหารจิตและการเจริญปัญญา เป็นการบา้ น เพือ่ เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาหรือสืบคน้ ขอ้ มูลเรื่อง วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา เพิม่ เติมจากที่ เรียนมา 2. ครูใหน้ กั เรียนเขียนเรียงความส้นั ๆ ในหวั ขอ้ “เม่ือถึงวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ฉนั ได้ ทาํ ความดีอะไรบา้ ง” 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 6 เร่ือง วนั อะไร 2. วดี ิทศั นเ์ กี่ยวกบั การทาํ กิจกรรมของชาวพทุ ธในวนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา และวนั เทโวโรหณะ 3. ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง วนั วิสาขบูชา 4. ใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง วนั อาสาฬหบชู า 5. ใบความรู้ที่ 3 เร่ือง วนั มาฆบชู า 6. ใบความรู้ท่ี 4 เร่ือง วนั อฏั ฐมีบูชา 7. ซองเกม: ปริศนาวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 8. ป้ ายวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ไดแ้ ก่ ป้ ายวนั วสิ าขบชู า ป้ ายวนั อาสาฬหบชู า ป้ ายวนั มาฆบูชา และป้ ายวนั อฏั ฐมีบูชา 9. แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 10. แบบบนั ทึกความรู้ 11. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 12. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 13. คู่มือการสอน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 14. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1 135 10. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ขปัญหา/อุปสรรค 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน //
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263