Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 01 52-01-0004 แผนฯ พระพุทธศาสนา ม 1

01 52-01-0004 แผนฯ พระพุทธศาสนา ม 1

Published by kamonnitkumwang, 2021-06-21 12:40:37

Description: 01 52-01-0004 แผนฯ พระพุทธศาสนา ม 1

Search

Read the Text Version

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  186 ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม สาํ หรับครูประเมินนกั เรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน หมายเหตุ 1. มีวนิ ยั 321 1. มีการวางแผนการทาํ งานและจดั ระบบการทาํ งาน 3 หมายถึง 2. ใฝ่ เรียนรู้ 2. ทาํ งานตามข้นั ตอนต่าง ๆ ที่ไดว้ างแผนไว้ นกั เรียนแสดง 3. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ความเรียบร้อย หรือคุณภาพของงาน พฤติกรรมน้นั 3. อยู่อย่าง 4. มีความกระตือรือร้นและสนใจท่ีจะแสวงหาความรู้ อยา่ งสม่าํ เสมอ พอเพยี ง 5. ชอบสนทนา ซกั ถาม ฟัง หรืออ่านเพอ่ื ใหไ้ ดค้ วามรู้เพ่มิ ข้ึน 6. มีความสุขที่ไดเ้ รียนรู้ในสิ่งที่ตนเองตอ้ งการเรียนรู้ 2 หมายถึง 4. รักความเป็ น 7. ใชจ้ ่ายทรัพยส์ ินของตนเอง เช่น เงิน เส้ือผา้ สิ่งของ อยา่ งประหยดั นกั เรียนแสดง ไทย 8. ใชน้ ้าํ ไฟฟ้ า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ อยา่ งประหยดั และ พฤติกรรมน้นั เป็ นคร้ ังคราว 5. รักชาติ ศาสน์ คุม้ ค่า กษัตริย์ 9. มีส่วนร่วมในการดูแลและรักษาทรัพยส์ ินของส่วนรวม 1 หมายถึง 10. ใชภ้ าษาไทยไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง นกั เรียนแสดง 6. มจี ติ สาธารณะ 11. รู้จกั อ่อนนอ้ มถ่อมตนและมีสมั มาคารวะ พฤติกรรมน้นั 12. มีส่วนร่วมในการเผยแพร่และอนุรักษว์ ฒั นธรรมและ นอ้ ยคร้ัง 7. มคี วาม รับผดิ ชอบ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย 13. ร่วมกิจกรรมท่ีสาํ คญั เกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ 8. ซ่ือสัตย์สุจริต 14. เสียสละ มีน้าํ ใจ รู้จกั เอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผต่ ่อผอู้ ื่น 15. เห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตน 16. ยอมรับผลการกระทาํ ของตนเองท้งั ที่เป็นผลดีและผลเสีย 17. ทาํ งานที่ไดร้ ับมอบหมายใหส้ มบูรณ์ตามกาํ หนดและตรงต่อเวลา 18. บนั ทึกขอ้ มูลตามความเป็นจริงและไม่ใชค้ วามคิดเห็นของตนเอง ไปเกี่ยวขอ้ ง 19. ไม่แอบอา้ งผลงานของผอู้ ่ืนวา่ เป็นของตน 20. เคารพหรือปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎ กติกา หรือระเบียบของกลุ่ม ท่ีกาํ หนดไว้ คะแนนรวม คะแนนเฉลยี่ เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนนเฉลยี่ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉล่ียหาไดจ้ ากการนําเอาคะแนน 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง รวมในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั ระดบั คุณภาพ 3 = ดีมาก นําคะแนนเฉลี่ยที่ได้มาเทียบกับเกณฑ์การตัดสินคุณภาพ และสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมนิ (เขียนเคร่ืองหมาย  ลงใน ) ระดับคุณภาพทไ่ี ด้ 32 1  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  187 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สาํ หรับครูประเมินนกั เรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 3 หมายถึง 1. การสื่อสาร 1. ใชว้ ธิ ีการส่ือสารในการนาํ เสนอขอ้ มลู ความรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม นกั เรียนแสดง 2. การใช้ 2. เลือกรับขอ้ มูลความรู้ดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง พฤติกรรมน้นั 3. ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ความรู้จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ได้ อยา่ งสม่าํ เสมอ เทคโนโลยี 3. การคดิ ดว้ ยตนเอง 2 หมายถึง 4. การแก้ปัญหา 4. เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้ได้ นกั เรียนแสดง พฤติกรรมน้นั 5. กระบวนการ อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมและมีคุณธรรม เป็ นคร้ ังคราว กลุ่ม 5. สรุปความคิดรวบยอดหรือสาระสาํ คญั ของเร่ืองท่ีศึกษา 6. แปลความ ตีความ หรือขยายความของคาํ ขอ้ ความ ภาพ และ 1 หมายถึง นกั เรียนแสดง สญั ลกั ษณ์ในเรื่องท่ีศึกษา พฤติกรรมน้นั 7. วเิ คราะห์หลกั การและนาํ หลกั การไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล นอ้ ยคร้ัง 8. ต้งั คาํ ถามหรือต้งั สมมติฐานต่อเรื่องท่ีศึกษาอยา่ งมีระบบ 9. รวบรวมขอ้ มูลความรู้ที่เก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองท่ีศึกษาจากส่ือและ แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ 10. ตรวจสอบและประเมินความถกู ตอ้ งครบถว้ นของขอ้ มลู ความรู้ ท่ีไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวม 11. นาํ ขอ้ มูลความรู้ท่ีไดจ้ ากการตรวจสอบและประเมินมาวเิ คราะห์ หรือแยกแยะเพอื่ ความสะดวกในการทดสอบสมมติฐาน 12. ทดสอบสมมุติฐานและสรุปเป็นหลกั การดว้ ยภาษาของตนเอง ที่เขา้ ใจง่าย 13. นาํ ขอ้ มูลความรู้ที่ไดไ้ ปใชแ้ กป้ ัญหาต่าง ๆ ที่เกิดข้ึน ในชีวิตประจาํ วนั 14. มีส่วนร่วมในการกาํ หนดเป้ าหมายการทาํ งานของกลุ่ม 15. ร่วมกนั วางแผนและแบ่งหนา้ ท่ีการทาํ งานกบั สมาชิกในกลุ่ม 16. เป็นท้งั ผนู้ าํ และผตู้ ามในการทาํ งานกลุ่ม 17. ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามท่ีไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความรับผิดชอบ 18. ช่วยลดขอ้ ขดั แยง้ และแกป้ ัญหาของกลุ่มไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 19. สร้างสรรคผ์ ลงานเสร็จทนั เวลาและมีคุณภาพ 20. ภูมิใจและพงึ พอใจในผลงานและการทาํ งานกลุ่ม คะแนนรวม คะแนนเฉลย่ี เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉลี่ยหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนน 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง รวมในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั ระดับคุณภาพ 3 = ดีมาก นําคะแนนเฉล่ียที่ได้มาเทียบกับเกณฑ์การตัดสินคุณภาพ และสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมิน (เขยี นเคร่ืองหมาย  ลงใน ) ระดบั คุณภาพทีไ่ ด้ 32 1  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  188 ตอนที่ 3.6 แบบทดสอบปลายภาค ด้านความรู้ ตอนที่ 1 เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. “ความไม่ทอดทงิ้ ธุระ” หรือ “ไม่นิ่งดูดาย” ของพระมหากสั สปะทําให้เกดิ เหตุการณ์อะไรขึน้ ก การสงั คายนา คร้ังที่ 1 ข การฉนั ม้ือเดียวของพระสงฆ์ ค การลาสิกขาของพระสุภทั ทะ ง การถวายพระเพลิงพระพทุ ธสรีระ 2. พระอุบาลไี ด้รับการยกย่องเป็ นเอตทคั คะในด้านใด ก ทรงจาํ พระวินยั ข มีสติปัญญามาก ค ปฏิบตั ิธุดงค์ 3 ขอ้ ง มีไหมพริบปฏิภาณและเขา้ ใจเร็ว 3. คุณธรรมของอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐีข้อใดทส่ี ามารถนํามาเป็ นแบบอย่างทด่ี ีและเหมาะสําหรับนักเรียน มากที่สุด ก ชอบใหท้ าน ข เป็นพอ่ ท่ีดีของลกู ค มีความขยนั หมน่ั เพยี ร ง มีความเป็นอยทู่ ่ีเรียบง่าย 4. นางวสิ าขามหาอุบาสิกาเป็ นผู้ริเริ่มและก่อให้เกดิ ประเพณอี ะไร ก ถวายผา้ กฐิน ข ถวายผา้ ป่ า ค ถวายสงั ฆทาน ง ถวายผา้ อาบน้าํ ฝน 5. การท่ีพระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งพระสมณทูต 9 สาย ไปเผยแผ่พระพทุ ธศาสนายงั ดนิ แดนต่าง ๆ มผี ลดีอย่างไร ก ทาํ ใหม้ ีคนเขา้ มาบวชในพระพทุ ธศาสนามากข้ึน ข ทาํ ใหช้ ่ือเสียงของพระองคข์ จรกระจายไปทว่ั โลก ค ทาํ ใหม้ ีการสงั คายนาในลกั ษณะน้ีเกิดข้ึนหลายคร้ัง ง ทาํ ใหพ้ ระพทุ ธศาสนาแผข่ ยายออกไปนอกดินแดนชมพทู วีป

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  189 6. เราควรปฏิบัตติ นอย่างไรเมอ่ื อยู่ในวดั เพอ่ื ให้สอดคล้องกบั คาํ กล่าวที่ว่า “วดั เป็ นเขตอภัยทาน” ก ไม่ว่ิงเล่นในวดั ข ไม่ฆ่าสตั วใ์ นเขตวดั ค ไม่ทิ้งขยะภายในวดั ง ไม่นาํ สุนขั หรือแมวไปปลอ่ ยในวดั 7. ข้อใดไม่ใช่หน้าท่ีหลกั ของชาวพทุ ธ ก ศึกษาหลกั คาํ สอนของพระพทุ ธศาสนา ข เผยแผห่ ลกั คาํ สอนของพระพทุ ธศาสนา ค ปฏิบตั ิตามหลกั คาํ สอนของพระพทุ ธศาสนา ง ไปเยย่ี มชมสงั เวชนียสถานทางพระพทุ ธศาสนา 8. การบาํ เพญ็ ประโยชน์ต่อวดั ในข้อใดไม่เหมาะกบั นักเรียน ก ซ่อมแซมอาคารสถานที่ ข เกบ็ กวาดขยะบริเวณวดั ค บริจาคเงินเป็นค่าน้าํ ค่าไฟ ง ช่วยดูแลไม่ใหใ้ ครมาทาํ ลายส่ิงก่อสร้างภายในวดั 9. ในการคบเพอ่ื น เราควรเลอื กคบเพอื่ นประเภทใดมากที่สุด ก เพอื่ นท่ีพดู ดีกบั เรา ข เพื่อนที่ทาํ ดีกบั เรา ค เพื่อนที่คิดดีกบั เรา ง เพอ่ื นที่เอาใจเราทุกอยา่ ง 10. คาํ พดู ในข้อใดถูกต้องเมอ่ื พูดกบั พระสงฆ์ ก เชิญทางน้ีครับท่าน ข ท่านทานขา้ วหรือยงั ครับ ค ท่านไม่สบาย อยโู่ รงพยาบาลไหนคะ ง พรุ่งน้ีนิมนตท์ ่านไปฉนั ภตั ตาหารที่บา้ นนะคะ 11. เหตุผลสําคญั ที่สุดของการเรียนรู้วถิ ีชีวติ ของพระสงฆ์คอื ข้อใด ก เขา้ ใจพระสงฆ์ ข จงู ใจใหอ้ ยากบวชตามพระสงฆ์ ค เห็นแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวิตท่ีเรียบง่าย ง ปฏิบตั ิตนต่อท่านไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  190 12. เพอื่ นทีม่ ลี กั ษณะ “หน้าไหว้หลงั หลอก” เราไม่ควรคบเพราะอะไร ก ดีแต่พดู ข ชวนฉิบหาย ค เป็นคนประจบ ง เป็นคนปอกลอก 13. ข้อใดไม่ใช่บทบาทหน้าทขี่ องพระสงฆ์ ก ปลงอาบตั ิ ข ทาํ วตั รสวดมนต์ ค ปลุกเสกเครื่องรางของขลงั ง ทาํ ความสะอาดปัดกวาดวดั 14. เหตุผลท่ีสําคญั ทส่ี ุดในการศึกษาบทบาทของพระสงฆ์ในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาคอื ข้อใด ก พฒั นาตนเองใหเ้ ทศนเ์ ก่งเหมือนท่าน ข มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั วถิ ีชีวติ ของท่าน ค รู้จกั ปฏิบตั ิตนต่อท่านในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ง นาํ แบบอยา่ งการดาํ เนินชีวติ ของท่านมาเป็นแบบอยา่ งในการดาํ เนินชีวติ ของตน 15. การปฏิบัตติ นในข้อใดถูกต้องเมอ่ื ไปพบพระสงฆ์ ก กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ข พดู จาหวั เราะกบั ท่านอยา่ งสนุกสนาน ค นาํ เรื่องครอบครัวและส่วนตวั ไปเล่าใหท้ ่านฟัง ง ข้ึนไปอยชู่ ้นั บนของกุฏิขณะท่ีท่านนงั่ อยชู่ ้นั ล่าง 16. การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์เป็ นการกราบแบมอื โดยใช้อวยั วะท้งั 5 ส่วนตามข้อใด ก เข่า 2 แขน 2 ศีรษะ 1 ข เข่า 2 ศอก 2 ศีรษะ 1 ค เข่า 2 แขน 2 หนา้ ผาก 1 ง เข่า 2 ฝ่ ามือ 2 หนา้ ผาก 1 17. ในสถานการณ์ใดควรแสดงความเคารพพระสงฆ์ด้วยการประนมมอื ก ฟังพระสงฆเ์ ทศน์ ข เขา้ ไปหาพระสงฆ์ ค พระสงฆเ์ ดินผา่ นมา ง ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  191 18. “ยกมอื ท่ปี ระนมขนึ้ จดใบหน้า พร้อมกบั ก้มศีรษะลงให้ปลายนิว้ หัวแม่มอื ท้ังสอง อยู่ระหว่างควิ้ ปลายนิว้ ชี้จดหน้าผาก” ข้อความนีเ้ ป็ นวธิ ีการแสดงความเคารพในข้อใด ก การไหว้ ข การกราบ ค การประนมมือ ง การหมอบกราบ 19. ข้อใดไม่ใช่ศาสนพธิ ี ก การถวายทาน ข การเวียนเทียน ค การทาํ บุญสะเดาะเคราะห์ ง การกรวดน้าํ อุทิศส่วนกศุ ล 20. ในการจดั โต๊ะหมู่บูชา เคร่ืองประกอบโต๊ะหม่บู ูชาที่ไม่จําเป็ นต้องมกี ไ็ ด้ คอื อะไร ก ธูป ข เทียน ค พานดอกไม้ ง แจกนั ดอกไม้ 21. ในขณะจุดธูปบนโต๊ะหมู่บูชา เราควรระลกึ ถงึ อะไร ก พทุ ธคุณ ข พระสงฆ์ ค พระรัตนตรัย ง พระธรรมและพระวนิ ยั 22. ขณะท่ีประธานในพธิ ีหรือเจ้าภาพจุดธูปเทียนเราควรปฏิบัตติ นอย่างไร ก นง่ั ฟังตามสบาย ข กล่าวคาํ บูชาพระรัตนตรัย ค นง่ั ประนมมือ ทาํ จิตใจใหส้ งบ ง กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ 23. ในการฟังพระธรรมเทศนา เราควรปฏิบัตติ นอย่างไรจงึ จะถูกต้องเหมาะสมตามมารยาท ชาวพุทธ ก นง่ั ฟังตามสบาย ข นงั่ พบั เพยี บฟังอยา่ งสงบ ค นง่ั คุกเข่าและประนมมือฟัง ง นง่ั พบั เพียบประนมมือฟังดว้ ยความต้งั ใจ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  192 24. การอาราธนาพระปริตรใช้ในงานพธิ ีใด ก พิธีฟังเทศน์ ข พธิ ีสวดพระอภิธรรม ค พิธีทาํ บุญงานข้ึนบา้ นใหม่ ง พธิ ีทาํ บุญครบรอบ 100 วนั 25. กจิ กรรมใดควรปฏบิ ัตมิ ากทีส่ ุดในวนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนา ก พกั ผอ่ นอยกู่ บั บา้ นใหเ้ วลากบั ครอบครัว ข ไปเท่ียวตามวดั ที่สาํ คญั ๆ ทางพระพทุ ธศาสนา ค ไปวดั นมสั การและถวายอาหารแด่พระสงฆท์ ่ีตนเคารพนบั ถือ ง ชาํ ระกาย วาจา ใจ ใหบ้ ริสุทธ์ิผอ่ งใส และระลึกถึงความสาํ คญั ของวนั น้นั ๆ 26. ในวนั ธรรมสวนะ เมอ่ื กล่าวคาํ อาราธนาอโุ บสถศีลเสร็จแล้ว ข้นั ตอนต่อไปท่ีชาวพทุ ธจะต้องปฏิบัติ คอื อะไร ก ประกาศอุโบสถ ข สมาทานอุโบสถศีล ค ประนมมือนงั่ ฟังธรรม ง แผเ่ มตตาและอุทิศส่วนกศุ ล 27. พระภกิ ษุกลุ่มใดเป็ นต้นเหตุให้มกี ารบัญญัตพิ ระวนิ ัย ห้ามพระภิกษุจาริกไปในทตี่ ่าง ๆ ในช่วงฤดูฝน ก วีสติวคั คีย์ ข ฉพั พคั คีย์ ค ภทั ทวคั คีย์ ง ปัญจวคั คีย์ 28. นกั เรียนช่วยกนั จัดป้ ายนิเทศเกยี่ วกบั ประวตั คิ วามเป็ นมาและความสําคญั ของการถวายผ้าอาบนํา้ ฝน แสดงว่าจะถงึ วนั สําคญั ใด ก วนั อฏั ฐมีบูชา ข วนั เขา้ พรรษา ค วนั ออกพรรษา ง วนั เทโวโรหณะ 29. ชาวพุทธทาํ บุญตกั บาตร รักษาศีล ฟังธรรม ฝึ กสมาธิ และเวยี นเทียนในวนั สําคญั อะไร ก วนั วิสาขบชู า ข วนั เขา้ พรรษา ค วนั ออกพรรษา ง วนั เทโวโรหณะ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  193 30. เหตุการณ์ใดเกยี่ วข้องกบั เทศกาลออกพรรษา ก การตกั บาตรของชาวเมืองสงั กสั สนคร ข การเสดจ็ ไปแสดงธรรมโปรดพระพทุ ธมารดา ค การถวายผา้ อาบน้าํ ฝนของนางวิสาขามหาอุบาสิกา ง การเสดจ็ จากมนุษยโ์ ลกไปยงั สวรรคช์ ้นั ดาวดึงส์ของพระพทุ ธเจา้ 31. เทศกาลหรือวนั สําคญั ทางพระพทุ ธศาสนากบั กจิ กรรมใดมคี วามสัมพนั ธ์กนั ก วนั เขา้ พรรษา–ทอดผา้ ป่ า ข วนั ธรรมสวนะ–ทอดกฐิน ค วนั ออกพรรษา–ตกั บาตรเทโว ง วนั วิสาขบูชา–แห่เทียนพรรษา 32. วนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนาวนั ใดไม่เป็นวนั หยุดราชการ ก วนั มาฆบชู า ข วนั เขา้ พรรษา ค วนั ออกพรรษา ง วนั อาสาฬหบูชา 33. ภาวนามยปัญญาน่าจะสอดคล้องกบั สํานวนใดมากทีส่ ุด ก ตาบอดคลาํ ชา้ ง ข สิบรู้ไม่เท่าชาํ นาญ ค ชา้ ๆ ไดพ้ ร้าเล่มงาม ง เรียนผกู ตอ้ งเรียนแก้ 34. อานาปานสตหิ มายถงึ การปฏิบัตใิ นข้อใด ก การบริกรรมพองหนอ–ยบุ หนอ ข การต้งั สติกาํ หนดอิริยาบถของกาย ค การเพง่ มองภาพใดภาพหน่ึงจนติดตา ง การกาํ หนดลมหายใจเขา้ –ออกเป็นอารมณ์ 35. ปัญญาในทางพระพทุ ธศาสนาหมายถงึ อะไร ก ความรู้ท่ีไดจ้ ากการปฏิบตั ิ ข ความรู้ที่มีพ้ืนฐานจากสมาธิ ค ความรู้รอบดา้ นในเรื่องต่าง ๆ ง ความรอบรู้ในเร่ืองโลกและชีวติ ตามท่ีเป็นจริง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  194 36. หลงั จากฝึ กบริหารจิตตามเวลาที่กาํ หนดแล้ว ควรทาํ กจิ กรรมอะไรต่อไป ก บูชาพระรัตนตรัย ข สมาทานศีลและรับศีล ค แผเ่ มตตาและอุทิศส่วนกศุ ล ง ถวายดอกไมธ้ ูปเทียนบูชาพระ 37. วธิ ีคดิ แบบคุณ–โทษ และทางออกเหมาะสําหรับนํามาใช้ในสถานการณ์ใดมากทีส่ ุด ก การคบเพื่อน ข การจดั งานวนั เกิด ค การเลือกซ้ือเส้ือผา้ ง การรับประทานอาหาร 38. โยนิโสมนสิการเกยี่ วข้องกบั เร่ืองใดมากท่ีสุด ก การนง่ั สมาธิฝึกจิตใหเ้ ขม้ แขง็ ข การใชค้ วามคิดตามหลกั เหตุผล ค การควบคุมตนใหม้ ีระเบียบวินยั ง การใชค้ วามคิดศึกษาขอ้ มูลใหก้ วา้ งขวาง 39. คุณค่าเทียมอาศัยอะไรเป็ นเคร่ืองตคี ่าหรือวดั ราคาของสิ่งของต่าง ๆ ก ตณั หา ข ปัญญา ค ความถูกตอ้ ง ง ประโยชนใ์ ชส้ อย 40. วธิ ีคดิ แบบคุณ–โทษ และทางออกเหมาะสําหรับนํามาใช้ในสถานการณ์ใดมากท่ีสุด ก การแต่งกาย ข การจดั งานวนั เกิด ค การใชอ้ ินเทอร์เน็ต ง การใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถือ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  195 ตอนท่ี 2 ตอบคาํ ถาม 1. การศึกษาประวตั ิพทุ ธสาวก พุทธสาวกิ า และชาวพทุ ธตวั อยา่ งมีผลดีอะไรบา้ ง แนวคาํ ตอบ การศึกษาประวตั ิพทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา และชาวพทุ ธตัวอย่างมีผลดีหลาย ประการ เช่น 1) ได้ทราบประวตั ิ ผลงาน และคณุ ธรรมของพทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา และชาวพทุ ธตวั อย่าง 2) ได้นาํ คุณธรรมของของพทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา และชาวพทุ ธตัวอย่างมาเป็นแบบอย่างในการ ดาํ เนินชีวิต 3) มีกาํ ลงั ใจที่จะทาํ หน้าที่ชาวพทุ ธของตนเองให้สมบูรณ์ 2. มีผกู้ ล่าววา่ “ศาสนพิธีแมจ้ ะเป็นเพียงเปลือกนอกของศาสนา แต่กม็ ีความจาํ เป็นต่อการสร้างศรัทธาและ ความเช่ือของผทู้ ี่นบั ศาสนา” นกั เรียนเห็นดว้ ยกบั คาํ กล่าวน้ีหรือไม่ อยา่ งไร แนวคาํ ตอบ เห็นด้วย เพราะศาสนพิธีจัดว่าเป็นพิธีกรรมท่ีช่วยสร้ างศรัทธา และชักจูงให้ผ้ทู ่ีนบั ถืออยากรู้ อยากศึกษาหลกั ธรรมอันเป็นส่ิงสาํ คัญของศาสนา นอกจากนีศ้ าสนพิธียงั ช่วยเสริมสร้ างกาํ ลังใจให้ผ้ทู ่ี นับถือรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายความวิตกกงั วลลงได้ เช่น เม่ือเราเกิดความทุกข์ทางใจเรากไ็ ปทาํ บญุ ถวายสังฆทาน สวดมนต์ไหว้พระที่วดั เรากจ็ ะรู้สึกสดช่ืน ผ่อนคลายความวิตกกงั วลน้ันลงไปได้บ้าง 3. หลงั จากสวดมนตไ์ หวพ้ ระก่อนนอนแลว้ หากนกั เรียนตอ้ งการฝึกสมาธิหรือท่ีเรียกวา่ บริหารจิตเพื่อทาํ จิตใจใหส้ งบ นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไร แนวคาํ ตอบ ควรปฏิบตั ิ ดังนี้ 1) กาํ หนดเวลาว่าจะใช้เวลาเท่าไร ซ่ึงไม่ควรนานเกินไป 2) ตัง้ ใจสมาทานศีลและรับศีล 5 3) บูชาพระรัตนตรัยและแผ่เมตตา ต่อจากขน้ั ตอนนีบ้ างแห่งจะให้กล่าวคาํ อธิษฐาน เพ่ือเป็นการให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะตงั้ ใจ ฝึ กปฏิบัติบริหารจิตอย่างจริงจัง 3) ตัดความกงั วลทุกอย่างออกไปให้หมดสิ้น ไม่ว่าเรื่องงาน เร่ืองเรียน หรือเร่ืองบคุ คลรอบข้าง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  196 รวมทั้งไม่ ควรคิดถึงเร่ื องอดีตและอนาคตแต่ ควรคิดถึงเร่ื อง สรุปผล คะแนน ปัจจุบัน คือ เรื่องการฝึ กบริหารจิตเท่านั้น การประเมิน เตม็ ได้ ตอนที่ 1 4) ปฏิบตั ิ เลือกฝึ กบริหารจิตด้วยสติปัฏฐานเน้นอานาปานสติ ตอนที่ 2 ผ้ปู ระเมนิ แบบใดแบบหน่ึงที่ถนดั รวม 5) แผ่เมตตาและอทุ ิศส่วนกศุ ลไปให้สรรพสัตว์ ลงชื่อ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  197 ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม สาํ หรับครูประเมินนกั เรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน หมายเหตุ 1. มีวนิ ยั 321 1. มีการวางแผนการทาํ งานและจดั ระบบการทาํ งาน 3 หมายถึง 2. ใฝ่ เรียนรู้ 2. ทาํ งานตามข้นั ตอนต่าง ๆ ท่ีไดว้ างแผนไว้ นกั เรียนแสดง 3. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ความเรียบร้อย หรือคุณภาพของงาน พฤติกรรมน้นั 3. อยู่อย่าง 4. มีความกระตือรือร้นและสนใจท่ีจะแสวงหาความรู้ อยา่ งสม่าํ เสมอ พอเพยี ง 5. ชอบสนทนา ซกั ถาม ฟัง หรืออ่านเพอ่ื ใหไ้ ดค้ วามรู้เพ่มิ ข้ึน 6. มีความสุขที่ไดเ้ รียนรู้ในสิ่งที่ตนเองตอ้ งการเรียนรู้ 2 หมายถึง 4. รักความเป็ น 7. ใชจ้ ่ายทรัพยส์ ินของตนเอง เช่น เงิน เส้ือผา้ สิ่งของ อยา่ งประหยดั นกั เรียนแสดง ไทย 8. ใชน้ ้าํ ไฟฟ้ า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ อยา่ งประหยดั และ พฤติกรรมน้นั เป็ นคร้ ังคราว 5. รักชาติ ศาสน์ คุม้ ค่า กษัตริย์ 9. มีส่วนร่วมในการดูแลและรักษาทรัพยส์ ินของส่วนรวม 1 หมายถึง 10. ใชภ้ าษาไทยไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง นกั เรียนแสดง 6. มจี ติ สาธารณะ 11. รู้จกั อ่อนนอ้ มถ่อมตนและมีสมั มาคารวะ พฤติกรรมน้นั 12. มีส่วนร่วมในการเผยแพร่และอนุรักษว์ ฒั นธรรมและ นอ้ ยคร้ัง 7. มคี วาม รับผดิ ชอบ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย 13. ร่วมกิจกรรมท่ีสาํ คญั เกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ 8. ซ่ือสัตย์สุจริต 14. เสียสละ มีน้าํ ใจ รู้จกั เอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผต่ ่อผอู้ ื่น 15. เห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตน 16. ยอมรับผลการกระทาํ ของตนเองท้งั ที่เป็นผลดีและผลเสีย 17. ทาํ งานที่ไดร้ ับมอบหมายใหส้ มบูรณ์ตามกาํ หนดและตรงต่อเวลา 18. บนั ทึกขอ้ มูลตามความเป็นจริงและไม่ใชค้ วามคิดเห็นของตนเอง ไปเกี่ยวขอ้ ง 19. ไม่แอบอา้ งผลงานของผอู้ ่ืนวา่ เป็นของตน 20. เคารพหรือปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎ กติกา หรือระเบียบของกลุ่ม ท่ีกาํ หนดไว้ คะแนนรวม คะแนนเฉลยี่ เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนนเฉลยี่ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉล่ียหาไดจ้ ากการนําเอาคะแนน 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง รวมในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั ระดบั คุณภาพ 3 = ดีมาก นําคะแนนเฉลี่ยที่ได้มาเทียบกับเกณฑ์การตัดสินคุณภาพ และสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมิน (เขียนเคร่ืองหมาย  ลงใน ) ระดับคุณภาพทไ่ี ด้ 32 1  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  198 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สาํ หรับครูประเมินนกั เรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 3 หมายถึง 1. การสื่อสาร 1. ใชว้ ธิ ีการส่ือสารในการนาํ เสนอขอ้ มลู ความรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม นกั เรียนแสดง 2. การใช้ 2. เลือกรับขอ้ มูลความรู้ดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง พฤติกรรมน้นั 3. ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ความรู้จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ได้ อยา่ งสม่าํ เสมอ เทคโนโลยี 3. การคดิ ดว้ ยตนเอง 2 หมายถึง 4. การแก้ปัญหา 4. เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้ได้ นกั เรียนแสดง พฤติกรรมน้นั 5. กระบวนการ อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมและมีคุณธรรม เป็ นคร้ ังคราว กลุ่ม 5. สรุปความคิดรวบยอดหรือสาระสาํ คญั ของเร่ืองท่ีศึกษา 6. แปลความ ตีความ หรือขยายความของคาํ ขอ้ ความ ภาพ และ 1 หมายถึง นกั เรียนแสดง สญั ลกั ษณ์ในเรื่องท่ีศึกษา พฤติกรรมน้นั 7. วเิ คราะห์หลกั การและนาํ หลกั การไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล นอ้ ยคร้ัง 8. ต้งั คาํ ถามหรือต้งั สมมติฐานต่อเรื่องท่ีศึกษาอยา่ งมีระบบ 9. รวบรวมขอ้ มูลความรู้ที่เก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองท่ีศึกษาจากส่ือและ แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ 10. ตรวจสอบและประเมินความถกู ตอ้ งครบถว้ นของขอ้ มลู ความรู้ ท่ีไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวม 11. นาํ ขอ้ มูลความรู้ท่ีไดจ้ ากการตรวจสอบและประเมินมาวเิ คราะห์ หรือแยกแยะเพอื่ ความสะดวกในการทดสอบสมมติฐาน 12. ทดสอบสมมุติฐานและสรุปเป็นหลกั การดว้ ยภาษาของตนเอง ที่เขา้ ใจง่าย 13. นาํ ขอ้ มูลความรู้ที่ไดไ้ ปใชแ้ กป้ ัญหาต่าง ๆ ที่เกิดข้ึน ในชีวิตประจาํ วนั 14. มีส่วนร่วมในการกาํ หนดเป้ าหมายการทาํ งานของกลุ่ม 15. ร่วมกนั วางแผนและแบ่งหนา้ ท่ีการทาํ งานกบั สมาชิกในกลุ่ม 16. เป็นท้งั ผนู้ าํ และผตู้ ามในการทาํ งานกลุ่ม 17. ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามท่ีไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความรับผดิ ชอบ 18. ช่วยลดขอ้ ขดั แยง้ และแกป้ ัญหาของกลุ่มไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 19. สร้างสรรคผ์ ลงานเสร็จทนั เวลาและมีคุณภาพ 20. ภูมิใจและพงึ พอใจในผลงานและการทาํ งานกลุ่ม คะแนนรวม คะแนนเฉลย่ี เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉลี่ยหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนน 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง รวมในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั ระดับคุณภาพ 3 = ดมี าก นําคะแนนเฉล่ียที่ได้มาเทียบกับเกณฑ์การตัดสินคุณภาพ และสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมิน (เขยี นเครื่องหมาย  ลงใน ) ระดบั คุณภาพทีไ่ ด้ 32 1  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  199 ตอนท่ี 3.7 ใบความรู้ ใบงาน แบบบนั ทึก และแบบประเมนิ ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย ตวั ช่ีวดั ช้ันปี อธิบายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือสู่ประเทศไทย (ส 1.1 ม. 1/1) ประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย 11 ประเทศดังนี้ 1. บรูไนดารุสซาลาม: เนการาบรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam: Negara Brunei Darussalam) 2. กมั พชู า: ราชอาณาจกั รกมั พชู า (Cambodia: Kingdom of Cambodia) 3. อินโดนีเซีย: สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Indonesia: Republic of Indonesia) 4. ลาว: สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Laos: Lao People’s Democratic Republic) 5. มาเลเซีย (Malaysia) 6. เมียนมา: สหภาพเมียนมา (Myanmar: Republic of the Union of Myanmar) 7. ฟิ ลิปปิ นส์: สาธารณรัฐฟิ ลิปปิ นส์ (Philippines: Republic of Philippines) 8. สิงคโปร์: สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Singapore: Republic of Singapore) 9. ไทย: ราชอาณาจกั รไทย (Thailand: Kingdom of Thailand) 10. เวียดนาม: สาธารณรัฐสงั คมนิยมเวยี ดนาม (Vietnam: Socialist Republic of Vietnam ) 11. ติมอร์–เลสเต: สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์–เลสเต (Timor-Leste: Democratic Republic of Timor-Leste)  ประเทศท่ีประชาชนส่วนใหญ่นบั ถือพระพทุ ธศาสนา ไดแ้ ก่ ไทย เมียนมา ลาว กมั พชู า และสิงคโปร์

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  200 ใบงานท่ี 1 เร่ือง อะไรเอ่ย แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือสู่ประเทศไทย (ส 1.1 ม. 1/1) คาํ ชี้แจง พิจารณาขอ้ ความในแต่ละขอ้ แลว้ เขียนคาํ ตอบลงในช่องใหถ้ กู ตอ้ ง (สระหนา้ และสระหลงั อยตู่ ่างช่อง แต่สระบนและสระล่าง อยชู่ ่องเดียวกบั พยญั ชนะ) 1. พระเถระที่นาํ คณะสงฆน์ ิกายลงั กาวงศจ์ ากนครศรีธรรมราชมาเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาท่ีกรุงสุโขทยั ใน สมยั พอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช 2. พระไตรปิ ฎกที่จดั พิมพเ์ ป็นเล่ม จาํ นวน 45 เล่ม ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั 3. พระมหากษตั ริยท์ ี่โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ร้างมณฑปครอบรอยพระพทุ ธบาทที่จงั หวดั สระบุรี 4. วรรณคดีทางพระพทุ ธศาสนาที่แตง่ ข้ึนในสมยั พระเจา้ อยหู่ วั บรมโกศ 5. วดั ที่สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ร้างข้ึน 6. พระพทุ ธรูปท่ีไดช้ ่ือวา่ มีลกั ษณะงดงามที่สุดในสมยั สุโขทยั 7. คณะสงฆใ์ หม่ท่ีเกิดข้ึนในสมยั พระบาทสมเด็จพระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั 8. วดั ท่ีสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชโปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ีการประชุมสงฆเ์ พื่อคดั เลือกผเู้ หมาะสมเป็น สมเดจ็ พระสงั ฆราช 9. การชาํ ระพระไตรปิ ฎก 10. นิกายคณะสงฆไ์ ทยที่ไปเผยแผแ่ ละวางรากฐานพระพทุ ธศาสนาในลงั กาจนมนั่ คง 11. พทุ ธสถานท่ีสร้างข้ึนท่ีจงั หวดั นครปฐมเน่ืองในโอกาสฉลอง 25 พทุ ธศตวรรษ 12. วดั ที่ถือวา่ เป็นศนู ยก์ ลางของพระพทุ ธศาสนานิกายลงั กาวงศใ์ นรัชสมยั ของพระเจา้ กือนา

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  201 12 ส ว น ด อ ก 11 พุ ท ธ ม ณ ฑ ล 10 อุ บ า ลี ว ง ศ์ 9 สั ง ค า ย น า 8 บ า ง ห ว้ า ใ ห ญ่ 7 ธ ร ร ม ยุ ติ ก นิ ก า ย 6 พ ร ะ พุ ท ธ ชิ น ร า ช 5 พ ร ะ ศ รี ส ร ร เ พ ช ญ์ 4 พ ร ะ ม า ลั ย ค หลว ง 3 พ ร ะ เ จ้ า ท ร ง ธ ร ร ม 2 พ ร ะ ไ ต ร ปิ ฏ ก ส ย า ม รั ฐ ะ 1 ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ม ห า เ ถ ร ช่ือ นามสกลุ เลขท่ี ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  202 ใบงานที่ 2 เรื่อง พระราชกรณยี กจิ ด้านพระพทุ ธศาสนาของพระมหากษตั ริย์ไทย สมัยรัตนโกสินทร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือสู่ประเทศไทย (ส 1.1 ม. 1/1) คาํ ชี้แจง แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน แต่ละกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ ในประเดน็ ที่กาํ หนดให้ บนั ทึกผล การศึกษาคน้ ควา้ และส่งตวั แทนกลุ่มนาํ เสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน พระราชกรณยี กจิ ด้านพระพทุ ธศาสนา ของพระมหากษัตริย์ไทยสมยั รัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 รัชกาลท่ี 4 แนวคาํ ตอบ แนวคาํ ตอบ 1. ทรงปรับปรุงการสอบพระปริยตั ิธรรมโดยแบ่ง 1. ทรงสร้ างวัดท่ีสาํ คัญ 5 วดั เช่น วัดบรมนิวาส ออกเป็น 9 ประโยค วดั มกฏุ กษตั ริยาราม 2. ทรงพืน้ ฟูประเพณีวิสาขบูชาให้เป็นพระราชพิธี 2. โปรดเกล้าฯ ให้สร้างปูนียสถานท่ีสาํ คัญหลาย 3. โปรดเกล้าฯ ให้สังคายนาบทสวดมนต์โดยให้ แห่ง เช่น พระนครศรี (เขาวัง) บรมบรรพต แปลเป็ นภาษาไทย (ภเู ขาทอง) 4. โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดท่ีสาํ คัญหลายวัด 3. โปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีเน่ืองใน วนั มาฆบูชา ณ พระอโุ บสถวัดพระศรีรัตน- เช่น วัดอรุณราชวราราม วดั สุทัศน์เทพวราราม ศาสดาราม ฯลฯ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  203 รัชกาลท่ี 6 รัชกาลที่ 8 แนวคาํ ตอบ แนวคาํ ตอบ 1. ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือที่ส่งเสริมพระพุทธ- พระบาทสมเดจ็ พรเจ้าอยู่หัวอานนั ทมหิดลได้ ศาสนาไว้หลายเล่ม เช่น เทศนาเสือป่ า เสดจ็ ครองราชย์สมบตั ิในระยะเวลาอันสั้น พระพทุ ธเจ้าตรัสรู้อะไร ประกอบกับพระองค์ประทับอย่ใู นประเทศไทย 2. โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วดั ที่สาํ คัญหลายวดั ภายในระยะเวลาไม่นาน พระราชกรณียกิจด้าน แต่มิได้ทรงสร้างวัดเพิ่ม ฯลฯ พระพุทธศาสนาจึงน้อย เช่น เสดจ็ พระราชดาํ เนิน ไปวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วดั เทพศิรินทรา- วาส การเสดจ็ ประพาสตามวดั ทรงเห็นว่า “ท่ีจริงไป ตามวัดดีมาก ได้รู้จักกบั พระ ได้เห็นสิ่งท่ีไม่เคย ได้พบเห็น และได้พบปะราษฎร ได้คยุ กับเขา ถามถึงทุกข์สุขของเขาและได้ความรู้ แนวคาํ ตอบ 1. ทรงพระผนวชเป็นภิกษุ 2. ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการสังคายนาพระไตรปิ ฎก 3. ทรงประกาศวนั อาสาฬหบชู าให้เป็นวนั สาํ คัญทางพระพทุ ธศาสนา 4. ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้ างพทุ ธมณฑล รัชกาลท่ี 9 ชื่อ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  204 ใบงานที่ 3 เรื่อง พทุ ธประวตั ิ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 พทุ ธประวตั ิ ตวั ชี้วดั ช้ันปี วเิ คราะห์พทุ ธประวตั ิต้งั แต่ประสูติจนถึงบาํ เพญ็ ทุกรกิริยา หรือประวตั ิศาสดาท่ีตนนบั ถือ ตามท่ีกาํ หนด (ส 1.1 ม. 1/3) คาํ ชี้แจง เรียงลาํ ดบั เหตุการณ์ก่อนหลงั เก่ียวกบั พทุ ธประวตั ิ โดยนาํ หมายเลขหนา้ ขอ้ ความไปใส่ลงใน ช่อง  ขา้ งล่างที่กาํ หนดให้ 1. สิทธตั ถะกมุ ารทรงเขา้ รับการศึกษาในสาํ นกั วิศวามิตร 2. พระเจา้ สุทโธทนะทรงใหส้ ร้างปราสาท 3 องค์ ตามฤดูใหแ้ ก่เจา้ ชายสิทธตั ถะ 3. จา้ ชายสิทธตั ถะทรงอภิเษกสมรสกบั เจา้ หญิงพิมพาหรือยโสธรา 4. พระนางสิริมหามายาเสด็จสวรรคต 5. อสิตดาบสเขา้ เยยี่ มชมพระบารมีและทาํ นายพระลกั ษณะของสิทธตั ถะกมุ าร 6. พระเจา้ สุทโธทนะโปรดใหพ้ ระนางมหาปชาบดีโคตมีมาทาํ หนา้ ที่เล้ียงดูสิทธตั ถะกมุ าร 7. โกณฑญั ญะทาํ นายพระลกั ษณะของสิทธตั ถะกมุ าร 8. พระเจา้ สุทโธทนะทรงเชิญพราหมณ์ 108 ท่าน มาทาํ พธิ ีมงคลและขนานนามสิทธตั ถะกมุ าร 9. เจา้ ชายสิทธตั ถะเสด็จประพาสพระนครไดท้ รงเห็นเทวทูต 4 10. พระนางยโสธราประสูติพระโอรสนามวา่ ราหุล 11. เจา้ ชายสิทธตั ถะเสด็จออกผนวช ณ ริมฝั่งแม่น้าํ อโนมา 12. พระสิทธตั ถะทรงบาํ เพญ็ ทุกกรกิริยา 13. พระสิทธตั ถะทรงศึกษาในสาํ นกั อาฬารดาบสและอุททกดาบส จนสาํ เร็จฌานสมาบตั ิ 14. พระสิทธตั ถะทรงทดลองปฏิบตั ิการทรมานตนใหล้ าํ บาก 15. พระสิทธตั ถะทรงบาํ เพญ็ เพยี รทางจิต และตรัสรู้ธรรมคืออริยสจั 4 5 8 7 4 6 1 2 3 9 10 11 13 14 12 15 ก่อน หลงั ช่ือ นามสกุล เลขท่ี ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  205 ใบงานท่ี 4 เรื่อง ข้อคดิ จากชาดก แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 ชาดก ตวั ชี้วดั ช้ันปี วเิ คราะห์และประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวติ และขอ้ คิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามที่กาํ หนด (ส 1.1 ม. 1/4) คาํ ชี้แจง บอกขอ้ คิดที่ไดจ้ ากชาดกท้งั 2 เร่ือง และตอบคาํ ถาม ข้อคดิ จากอมั พชาดก ข้อคดิ จากตติ ตริ ชาดก แนวคาํ ตอบ แนวคาํ ตอบ ผ้ไู ม่รู้คุณครูอาจารย์ย่อมเป็นคนเสื่อม ทาํ การ นรชนเหล่าใดฉลาดในธรรม มีความนอบน้อม งานกเ็ ส่ือม ส่วนคนกตัญญรู ู้คุณคนอ่ืน ย่อมเป็ น ถ่อมตนต่อผ้ใู หญ่ นรชนเหล่านั้นย่อมได้รับการ คนเจริ ญในที่ทุกสถานในกาลทุกเม่ือ สรรเสริญในปัจจุบนั นีแ้ ละในโอกาสต่อ ๆ ไป 1. ชาดกคืออะไร แนวคาํ ตอบ เร่ืองราวท่ีเล่าถึงอดีตชาติหรือชาติก่อน ๆ ของพระพทุ ธเจ้าท่ีทรงถือกาํ เนิดในชาติต่าง ๆ ก่อนท่ีจะ ประสูติเป็นพระพทุ ธเจ้าในชาติสุดท้าย 2. การศึกษาชาดกมีประโยชนอ์ ยา่ งไร แนวคาํ ตอบ ได้เรียนรู้เร่ืองราวของพระโพธิสัตว์และได้นาํ ข้อคิดจากชาดกมาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาํ วนั ต่อไป 3. นกั เรียนจะนาํ ขอ้ คิดจากชาดกไปประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งไร แนวคาํ ตอบ เราสามารถนาํ ข้อคิดจากอัมพชาดกไปใช้ในการกตัญญรู ู้คุณครูอาจารย์ และนาํ ข้อคิดจากติตติรชาดกไป ใช้ในการนอบน้อมต่อผ้ใู หญ่หรือผ้ทู ี่อาวุโสกว่า ชื่อ นามสกลุ เลขท่ี ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  206 ใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง พุทธคุณ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 พระรัตนตรัย ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายพทุ ธคุณและขอ้ ธรรมสาํ คญั ในกรอบอริยสจั 4 หรือหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ตามท่ีกาํ หนด เห็นคุณค่าและนาํ ไปพฒั นาแกป้ ัญหาของตนเองและครอบครัว (ส 1.1 ม.1/5) พุทธคณุ มนุษยจ์ าํ นวนมากมายไดด้ าํ รงชีวติ อยใู่ นชุมชนต่าง ๆ ทว่ั โลกนบั แต่โบราณกาล มนุษยต์ อ้ ง เผชิญท้งั ความสุขท่ีชวนใหเ้ พลิดเพลินหลงใหล และพบกบั ความทุกข์ ความเจบ็ ปวด ความโศกเศร้า และความยงุ่ ยากนานปั การ ความคิดท่ีต้ืนเขินและหยาบกระดา้ งอยา่ งสตั วท์ าํ ใหม้ นุษยเ์ ห็นแก่ตวั และต่อสูเ้ พอื่ เอาชีวติ รอด จนเกิดสงครามทาํ ลายชีวิตผอู้ ่ืน เพ่อื สนองความอยากไดอ้ นั ไม่มีที่สิ้นสุด ของตนเอง หลายคนตอ้ งดิ้นรนและทุกขท์ รมานเนื่องจากไม่สามารถควบคุมตนเองและไม่สามารถ แกป้ ัญหาของชีวติ ได้ ชีวติ ของมนุษยค์ งจะเวียนวา่ ยอยใู่ นหว้ งหายนะเช่นน้ีไปชวั่ นิรันดร์ หากมิไดม้ ีพระพทุ ธเจา้ บงั เกิดข้ึน พระองคไ์ ดท้ รงพากเพยี รแสวงหาและคน้ พบสจั ธรรม 4 ประการอนั จะช่วยใหม้ นุษย์ สามารถแกป้ ัญหาและดาํ รงชีวิตอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งมีความสุข การคน้ พบลกั ษณะของความ ทุกข์ สาเหตุของความทุกข์ การดบั ทกุ ข์ และหนทาง 8 ประการ ท่ีนาํ ไปสู่การดบั ทุกขท์ ้งั สิ้น รวมท้งั พระธรรมคาํ สงั่ สอนท้งั หลาย ไดแ้ สดงใหเ้ ห็นวา่ พระพทุ ธเจา้ ทรงมีพระปัญญาคุณอยา่ งสูงยง่ิ เมื่อพระองคไ์ ดท้ รงใชป้ ัญญาศึกษาคน้ ควา้ และทดลองจนตรัสรู้เองโดยชอบแลว้ พระพทุ ธเจา้ ทรงมีพระกรุณาคุณ โดยทรงคิดที่จะนาํ หลกั ความรู้ท่ีคน้ พบไปเผยแผเ่ พื่อช่วยเหลือมวลมนุษยใ์ ห้ ไดร้ ับแสงสวา่ งนาํ ทางชีวติ เช่นพระองค์ น้าํ พระทยั ที่เปี่ ยมดว้ ยพระเมตตากรุณา และไดส้ อนประชาชน อยถู่ ึง 45 พรรษาน้นั ไดท้ าํ ใหเ้ กิดหลกั ธรรมและพ้นื ฐานอนั มน่ั คงของพระพทุ ธศาสนาสืบต่อมา จนถึงทุกวนั น้ี เหตุผลอีกประการหน่ึงท่ีเราทุกคนยดึ ถือพระองคเ์ ป็นที่พ่งึ ที่ระลึกอยเู่ สมอน้นั เพราะพระองค์ ทรงเป็นคนดีของโลก พระองคไ์ ดส้ งั่ สมคุณงามความดีมาเป็นเวลานานจนมีความบริสุทธ์ิสะอาด ท้งั กาย วาจา และใจ พระองคไ์ ดก้ าํ จดั สิ่งเศร้าหมองและความข่นุ ขอ้ งท้งั มวลออกไดห้ มดสิ้น และ ไดก้ ลนั่ กรองความคิดจิตใจจนใสสะอาด ดว้ ยพระวิสุทธิคุณของพระองคน์ ้ี จึงทาํ ใหช้ าวพทุ ธท้งั หลาย ท่ีไดใ้ ชพ้ ระธรรมเป็นแนวทางในการฝึกควบคุมกาย วาจา และใจของตนอยา่ งสม่าํ เสมอ จะพบความ สงบสุข ความร่มเยน็ ความประณีตละเอียดอ่อน ความรักเพ่ือนมนุษย์ และลดความเห็นแก่ตวั ลงได้ ดงั น้นั ชาวพทุ ธจึงควรรําลึกถึงพระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระกรุณาคุณของ พระพทุ ธเจา้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  207 ใบงานที่ 1 เรื่อง ความหมายและประเภทของพุทธคุณ 9 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 พระรัตนตรัย ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายพทุ ธคุณและขอ้ ธรรมสาํ คญั ในกรอบอริยสจั 4 หรือหลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือ ตามที่กาํ หนด เห็นคุณคา่ และนาํ ไปพฒั นา แกป้ ัญหาของตนเองและครอบครัว (ส 1.1 ม. 1/5) คาํ ชี้แจง ลากเสน้ จบั คู่ความหมายและประเภทของพทุ ธคุณ 9 ใหถ้ กู ตอ้ ง เสดจ็ ไป ณ ท่ีใดทาํ ความสงบร่มเยน็ อะระหงั ใหเ้ กิดข้ึน ณ ที่น้นั สมั มาสมั พทุ โธ วชิ ชาจะระณะสมั ปันโน ทรงเป็ นครูเป็ นอาจารย์ ของคนทุกหมู่เหลา่ ทุกช้นั วรรณะ สุคะโต ทรงเป็นผบู้ ริสุทธ์ิ หมดจด หมดสิ้นความทุกขท์ ้งั ปวง ตรัสรู้อริยสจั 4 ดว้ ยพระองคเ์ อง โดยไม่มีใครเป็ นครูอาจารย์ ทรงชาํ นาญในการฝึกฝนคน โลกะวิทู ใหเ้ ป็นคนดีอยา่ งยอดเยย่ี ม ทรงเพียบพร้อมดว้ ยความรู้แจง้ อะนุตตะโร และความประพฤติดีงาม ปุริสะทมั มะสาระถิ ทรงรู้สภาพความเป็ นจริ งของโลก สตั ถา เทวะ- ต่าง ๆ วา่ มีสภาพเป็นอยา่ งไร มะนุสสานงั ทรงมีพระอาการต่ืนอยทู่ ุกเมื่อ พทุ โธ มีพระพกั ตร์ผอ่ งใส สง่า น่านบั ถือ ทรงเป็นผมู้ ีความเป็นสิริมงคล ภะคะวา นาํ ประโยชนม์ าใหแ้ ก่ผพู้ บเห็น ช่ือ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  208 ใบงานท่ี 2 เร่ือง ความสัมพนั ธ์ระหว่างพุทธคุณ 9 กบั พทุ ธคุณ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 พระรัตนตรัย ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายพทุ ธคุณและขอ้ ธรรมสาํ คญั ในกรอบอริยสจั 4 หรือหลกั ธรรมของศาสนาที่ตน นบั ถือตามที่กาํ หนด เห็นคุณค่าและนาํ ไปพฒั นา แกป้ ัญหาของตนเองและครอบครัว (ส 1.1 ม. 1/5) คาํ ชี้แจง ปฏิบตั ิตามคาํ ช้ีแจงต่อไปน้ี 1. พทุ ธคุณขอ้ ใดจดั อยใู่ นพระปัญญาคุณ ใหเ้ ขียนหมายเลข 1 ใน 2. พทุ ธคุณขอ้ ใดจดั อยใู่ นพระวิสุทธิคุณ ใหเ้ ขียนหมายเลข 2 ใน 3. พทุ ธคุณขอ้ ใดจดั อยใู่ นพระมหากรุณาคุณ ใหเ้ ขียนหมายเลข 3 ใน ทรงเป็นพระอรหนั ต์ 2 ทรงเป็นผตู้ รัสรู้ดว้ ยพระองคเ์ องโดยชอบ 1 ทรงเป็นผถู้ ึงพร้อมดว้ ยวชิ ชาและจรณะ 2 เสดจ็ ไปดีแลว้ 3 ทรงรู้แจง้ โลก 1 ทรงเป็นสารถีฝึกคนที่ฝึกไดไ้ ม่มีใครยงิ่ กวา่ 3 ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษยท์ ้งั หลาย 3 ทรงเป็นผตู้ ื่นและเบิกบาน 1 2 ทรงเป็นผมู้ ีโชคและจาํ แนกแจกแจงธรรม ช่ือ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  209 ใบงานที่ 3 เร่ือง ความทุกข์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 อริยสัจ 4 ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายพทุ ธคุณและขอ้ ธรรมสาํ คญั ในกรอบอริยสัจ 4 หรือหลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือ ตามท่ีกาํ หนด เห็นคุณคา่ และนาํ ไปพฒั นา แกป้ ัญหาของตนเองและครอบครัว (ส 1.1 ม. 1/5) คาํ ชี้แจง อ่านกรณีตวั อยา่ งต่อไปน้ีแลว้ ช่วยกนั วิเคราะห์ตามประเดน็ ท่ีกาํ หนดให้ เจิมเรียนอยชู่ ้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เป็นลูกชายคนเดียวของพอ่ แม่ พอ่ แม่มีฐานะค่อนขา้ งยากจน จึงตอ้ งทาํ งานหนกั และกลบั บา้ นค่าํ เป็นประจาํ ทาํ ใหไ้ ม่คอ่ ยมีเวลาดูแลเจิม เจิมมีเวลาวา่ งมาก เม่ือกลบั จากโรงเรียนถึงบา้ นไม่พบพอ่ แม่ เขาจึงออกไปเล่นกบั เพื่อน ๆ ซ่ึง อยใู่ นละแวกบา้ นใกลเ้ คียงกนั ตอ้ มและเขียวเป็นเพือ่ นรุ่นพที่ ่ีโตกวา่ เจิมไดช้ วนเขาเล่นไพ่ เขาสนุก มากในระยะแรก เพราะเล่นไดเ้ งิน แต่ในท่ีสุดกลบั เสียเงินจนหมดตวั เจิมขอยมื เงินเพื่อนคนอื่น ๆ ในวนั ต่อมาเขาไปเล่นไพก่ บั เพอ่ื นกลุ่มเดิมเพื่อตอ้ งการเอาเงินที่ เสียไปกลบั คืนมา แต่เขากลบั เสียเพ่ิมข้ึนอีกเร่ือย ๆ ทาํ ใหเ้ ขาเป็นหน้ีเพ่ือน ๆ เจิมมีความทุกขใ์ จมาก 1. เจิมมีความทุกขเ์ ร่ืองอะไร แนวคาํ ตอบ เป็ นหนีเ้ พื่อน ๆ 2. อะไรคือสาเหตุท่ีทาํ ใหเ้ จิมเกิดทุกข์ สอดคลอ้ งกบั สาเหตุที่แทจ้ ริงตามหลกั ธรรมในเรื่องใด แนวคาํ ตอบ สาเหตทุ ี่ทาํ ให้เจิมเกิดทุกข์ คือ ความอยากได้เงินหรืออยากมีเงิน สอดคล้องกบั สาเหตทุ ี่แท้จริงตาม หลกั ธรรมเรื่อง ตัณหา 3

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  210 3. เจิมควรจะใชว้ ธิ ีการใดในการดบั ทุกข์ แนวคาํ ตอบ 1) ระงบั ความอยากได้เงินหรืออยากมีเงินด้วยการเล่นการพนัน 2)ใช้เวลาว่างให้เป็ นประโยชน์ 3) หลีกเลี่ยงการคบเพ่ือนท่ีไม่ดี 4. เจิมควรจะนาํ หลกั ธรรมขอ้ ใดมาใชใ้ นการดาํ เนินชีวติ เพือ่ ดบั ทุกขน์ ้ี แนวคาํ ตอบ 1) คิหิสุข 4 2) มงคล 38 กลุ่มท่ี 4. สมาชิก 1. 5. 6. 2. 3.

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  211 ใบงานที่ 4 เร่ือง รู้จักคดิ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 อริยสัจ 4 และการปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรม ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายพทุ ธคุณและขอ้ ธรรมสาํ คญั ในกรอบอริยสจั 4 หรือหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ตามท่ีกาํ หนด เห็นคุณค่าและนาํ ไปพฒั นาแกป้ ัญหาของตนเองและครอบครัว (ส 1.1 ม. 1/5) คาํ ชี้แจง แต่ละกลุ่มนาํ ข่าวมาวเิ คราะห์ตามประเดน็ ต่อไปน้ี (พิจารณาจากคาํ ตอบของนักเรียน) 1. ข่าวเกี่ยวกบั อบายมุขขอ้ ใด 2. บุคคลที่เก่ียวขอ้ งในข่าวมีใครบา้ ง 3. การกระทาํ ของบุคคลในข่าวจดั เป็นกรรมดีหรือกรรมชว่ั 1) ถา้ เป็นกรรมดี มีใครบา้ ง 2) ถา้ เป็นกรรมชว่ั มีใครบา้ ง 4. การปฏิบตั ิของบุคคลในขอ้ 3 ก่อใหเ้ กิดผลอยา่ งไร และมีความสมั พนั ธ์กบั ธาตุ 4 และหลกั กรรม อยา่ งไร 5. สาเหตุที่แทจ้ ริงท่ีทาํ ใหเ้ กิดขา่ วน้ีคืออะไร ใหน้ กั เรียนลองฝึกคิดโดยใชว้ ธิ ีคิดแบบสืบสาวเหตุ ปัจจยั 6. ถา้ นกั เรียนเป็นบุคคลในข่าวท่ีทาํ กรรมชว่ั ควรจะปรับปรุงตวั หรือจะแกไ้ ขและป้ องกนั ตนเอง เพื่อไม่ใหเ้ กิดผลเสียอยา่ งไร กลุ่มท่ี 4. สมาชิก 1. 5. 6. 2. 3.

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  212 ใบงานที่ 1 เร่ือง ข้อคดิ และคุณธรรมจากพทุ ธสาวกและพทุ ธสาวกิ า แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 พทุ ธสาวกและพุทธสาวกิ า ตวั ชี้วดั ช้ันปี วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวติ และขอ้ คิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามท่ีกาํ หนด (ส 1.1 ม. 1/4) คาํ ชี้แจง วเิ คราะห์ขอ้ คิดและคุณธรรมท่ีไดจ้ ากพทุ ธสาวกและพทุ ธสาวิกา ข้อคดิ และคุณธรรมที่ได้จากพระมหากสั สปะ ข้อคดิ และคุณธรรมที่ได้จากพระอุบาลี 1) มกั น้อย สันโดษ 1) มีความกล้าหาญ 2) เคร่ งครัดในข้อปฏิบตั ิ 2) มีความเดด็ เดี่ยว 3) รักษาเกียรติพระสงฆ์ 3) มีความตั้งใจจริง 4) ไม่ทอดทิง้ ธุระโดยรับภาระหน้าที่พิทักษ์ 4) มีความใฝ่ รู้อย่เู สมอ รักษาพระพทุ ธศาสนา 5) รับภาระหน้าท่ีพิทักษ์รักษาพระพทุ ธศาสนา ข้อคดิ และคุณธรรม ข้อคดิ และคุณธรรม ท่ไี ด้จากอนาถบิณฑกิ เศรษฐี ท่ไี ด้จากนางวสิ าขามหาอบุ าสิกา 1) ใจบุญ 1) มีศรัทธามน่ั คงในพระพทุ ธศาสนา 2) มีความขยนั หม่นั เพียร 2) เคารพเช่ือฟังบิดามารดา 3) เป็นพ่อที่ดีของลกู 3) มีความซื่อสัตย์และมนั่ คงต่อสามี 4) เป็นผ้ทู ่ีมนั่ คงในพระรัตนตรัย 4) มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รู้จักใช้หลกั ธรรม แก้ปัญหาในครอบครัว 5) รู้จักกาลเทศะและความเหมาะสม 6) มีความฉลาดสามารถเปลี่ยนความเชื่อถือ ของบิดาสามีให้หันมานบั ถือพระพทุ ธศาสนาได้ นกั เรียนจะนาํ คุณธรรมจากพทุ ธสาวก: พระมหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี และพทุ ธ- สาวิกา: นางวิสาขามหาอุบาสิกา ไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจาํ วนั อยา่ งไร เราสามารถนาํ คุณธรรมจากพทุ ธสาวกและพทุ ธสาวิกาไปปฏิบตั ิในชีวิตประจาํ วันได้ ดังนี้ 1) เป็นผ้มู ักน้อย สันโดษ 2) ขยนั ต้ังใจเรียน เป็นผ้ใู ฝ่ เรียนใฝ่ รู้อย่เู สมอ 3) เป็นลกู ที่ดีเคารพเช่ือฟังบิดามารดา 4) ใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ช่ือ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  213 ใบงานท่ี 2 เรื่อง ข้อคดิ และคุณธรรมจากชาวพทุ ธตัวอย่าง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 ชาวพุทธตวั อย่าง ตวั ชี้วดั ช้ันปี วิเคราะหแ์ ละประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดาํ เนินชีวติ และขอ้ คิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามที่กาํ หนด (ส 1.1 ม. 1/4) คาํ ชี้แจง วเิ คราะห์ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ไดจ้ ากชาวพทุ ธตวั อยา่ ง: พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ ข้อคดิ และคุณธรรม ข้อคดิ และคุณธรรมท่ีได้จาก ทไ่ี ด้จากพระเจ้าอโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ 1) มีความใฝ่ เรียนใฝ่ รู้อย่เู สมอ 1) ทรงหนักแน่นในเหตุผล 2) มีความตั้งใจในการศึกษาและปฏิบัติธรรม 2) ทรงมีนา้ํ พระหฤทัยเดด็ เดี่ยว 3) มีความกล้าหาญและอดทน 3) ทรงมีธรรมเป็นหลกั ปกครองแผ่นดิน 4) มีสติปัญญาและกลวิธีในการเผยแผ่ธรรม 4) ทรงมีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย และเป็น อบุ าสกที่ดี 1. การศึกษาประวตั ิชาวพทุ ธตวั อยา่ ง: พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร ทาํ ให้ทราบถึงประวัติ ผลงาน และคุณธรรมของชาวพทุ ธตวั อย่าง สามารถนาํ คณุ ธรรมต่าง ๆ ของชาวพทุ ธตัวอย่างไปประยกุ ต์ใช้ในการดาํ เนินชีวิตได้ 2. นกั เรียนจะนาํ คุณธรรมจากชาวพทุ ธตวั อยา่ ง: พระเจา้ อโศกมหาราช พระโสณเถระ และ พระอุตตรเถระไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจาํ วนั อยา่ งไร เราสามารถนาํ คุณธรรมของพระเจ้าอโศกมหาราช พระโสณเถระ และพระอตุ ตรเถระไปปฏิบตั ิ ในชีวิตประจาํ วัน ดังนี้ 1) การนาํ คุณธรรมของพระเจ้าอโศกมหาราชไปใช้ เช่น เป็นผู้หนักแน่นในเหตผุ ล มีจิตใจที่เดด็ เด่ียว มีคุณธรรมในจิตใจ และยึดถือพระรัตนตรัยเป็นหลักในการดาํ เนินชีวิต 2) การนาํ คุณธรรมของพระโสณเถระและพระอุตตรเถระไปใช้ เช่น เป็นผ้ใู ฝ่ เรียนใฝ่ รู้ ตั้งใจใน การศึกษาเล่าเรียน เป็นคนกล้าหาญและอดทน ใช้สติปัญญาในการทาํ สิ่งต่าง ๆ ชื่อ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  214 ใบงานที่ 1 เรื่อง การบําเพญ็ ประโยชน์และการบํารุงรักษาวดั แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11 หน้าท่ชี าวพทุ ธ ตวั ชี้วดั ช้ันปี บาํ เพญ็ ประโยชนต์ ่อศาสนสถานของศาสนาที่ตนนบั ถือ (ส 1.2 ม. 1/1) คาํ ชี้แจง ตอบคาํ ถามต่อไปน้ี 1. นอกจากเป็นที่อยอู่ าศยั ของพระภิกษุและสามเณรแลว้ วดั ยงั มีความสาํ คญั ในดา้ นใดอีก แนวคาํ ตอบ วดั มีความสาํ คัญในด้านต่าง ๆ เช่น 1) เป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมของพระภิกษสุ ามเณร 2) เป็นสถานที่ทาํ บญุ ของชาวบ้าน 3) เป็นสถานท่ีศึกษาเล่าเรียนของเดก็ และเยาวชน 4) เป็นศนู ย์กลางการทาํ กิจกรรมของทางราชการ 5) เป็นแหล่งรวมศิลปะ วฒั นธรรม และประเพณีต่าง ๆ 2. เราในฐานะเป็นชาวพทุ ธ สามารถบาํ เพญ็ ประโยชนแ์ ละบาํ รุงรักษาวดั ไดโ้ ดยวิธีใดบา้ ง แนวคาํ ตอบ เราสามารถบาํ เพญ็ ประโยชน์และบาํ รุงรักษาวดั ได้ด้วยการปฏิบัติตน เช่น 1) ช่วยกนั ดูแลและรักษาความสะอาดวดั เช่น ช่วยเกบ็ กวาดขยะบริเวณวดั เม่ือจะทิง้ ขยะควรทิง้ ให้ลงถงั หรื อให้ เป็ นที่ 2) ไม่ทาํ ให้ทรัพย์สินภายในวดั ชาํ รุดหรือเสียหาย เช่น ไม่ขดู ขีดหรือเขียนบนฝาผนังโบสถ์และกาํ แพงวดั ไม่เล่นฟุตบอลใกล้โบสถ์ วิหาร หรือศาสนสถานท่ีสาํ คัญ 3) ไม่ปล่อยให้ผ้ใู ดมาทาํ ลาย ดดั แปลง หรือกระทาํ การใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่วดั โดยการ ว่ากล่าวตักเตือน หรือแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องทราบเพื่อดาํ เนินการต่อไป 4) ช่วยกันรักษาวัดให้เป็นเขตพระรัตนตรัยอนั ศักด์ิสิทธ์ิ ไม่ปล่อยให้มีการฆ่าสัตว์ การดื่มสุรา และ อบายมขุ ต่าง ๆ ในบริเวณวดั 5) บริจาคทรัพย์สิน ส่ิงของ ค่าก่อสร้ างหรือซ่อมแซมอาคารสถานท่ี ตลอดจนค่านา้ํ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ ถวายวัดตามความเหมาะสม 6) เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาต่าง ๆ เช่น การทาํ บญุ การเวียนเทียน ช่ือ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  215 ใบงานท่ี 2 เร่ือง เพอ่ื นแท้หรือเพอ่ื นเทียม แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 หน้าทีช่ าวพทุ ธ ตวั ชี้วดั ช้ันปี ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนบั ถือตามที่กาํ หนด (ส 1.2 ม. 1/3) คาํ ชี้แจง อภิปรายในประเด็นต่อไปน้ีและเขียนเล่าเร่ืองราวของเพื่อนในหวั ขอ้ “เพ่อื นของฉนั ” พิจารณาจากคาํ ตอบของนักเรียน เพอ่ื นที่นกั เรียนคบหาอยทู่ ่ีโรงเรียนหรือที่บา้ นมีลกั ษณะเป็นเพอ่ื นแทห้ รือเพื่อนเทียม “เพอ่ื นของฉัน” ช่ือ นามสกลุ เลขท่ี ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  216 ใบงานท่ี 3 เร่ือง การปฏิบัตติ นทเ่ี หมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11 หน้าที่ชาวพทุ ธ ตวั ชี้วดั ช้ันปี ปฏิบตั ิตนต่อศาสนิกชนอ่ืนในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (ส 1.1 ม.1/10) คําช้แี จง สร้างแผนท่ีความคิดเกี่ยวกบั วิธีปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมต่อศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ ศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ การปฏิบัตติ นทเ่ี หมาะสมต่อ ศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ วิธีปฏิบตั ิตนที่เหมาะสม ช่ือ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  217 ใบงานที่ 4 เรื่อง เรียนรู้วถิ ชี ีวติ และบทบาทของพระสงฆ์ในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 มารยาทชาวพทุ ธ ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายจริยวตั รของสาวกเพื่อเป็นแบบอยา่ งในการประพฤติปฏิบตั ิตน และปฏิบตั ิตนอยา่ ง เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาที่ตนนบั ถือ (ส 1.2 ม. 1/2) คาํ ชี้แจง เขียนเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ท่ีถูก และเขียนเครื่องหมาย  หนา้ ขอ้ ท่ีผดิ  1. พระภิกษุ หมายถึง ผชู้ ายท่ีบวชในพระพทุ ธศาสนาโดยถกู ตอ้ งตามพระธรรมวนิ ยั แลว้ รักษาศีล 311 ขอ้  2. พระสงฆใ์ นพระพทุ ธศาสนามี 2 ประเภท คือ อริยสงฆแ์ ละสมมติสงฆ์  3. อริยสงฆ์ หมายถึง พระภิกษุที่บวชในพระพทุ ธศาสนาโดยถกู ตอ้ งตามพระธรรมวินยั แต่ยงั ไม่ บรรลุธรรมใด ๆ  4. ผทู้ ี่จะบวชเป็นพระภิกษุไดจ้ ะตอ้ งผา่ นการบวชเป็นสามเณรก่อน ดงั น้นั การบวชเป็นพระภิกษุจึง เรียกวา่ การบรรพชาอุปสมบท  5. ลาํ ดบั วิธีการบวชเป็นพระภิกษุเร่ิมต้งั แต่เอหิภิกขอุ ุปสมั ปทา ญตั ติจตุตถกมั มอุปสมั ปทาและติสรณ- คมนูปสมั ปทา  6. การท่ีพระภิกษุเป็นผไู้ ม่มีบา้ นเรือนอยอู่ าศยั ไม่มีความเก่ียวขอ้ งกบั การอยคู่ รองเรือนเราจึงเรียก ทา่ นวา่ อาคาริก  7. อาหารบิณฑบาต หมายถึง อาหารท่ีชาวบา้ นนาํ มาถวายพระภิกษุดว้ ยจิตศรัทธา  8. การทาํ ความสะอาดกวาดวดั ปลงอาบตั ิ ทาํ วตั รสวดมนตภ์ าวนา เป็นกิจวตั รประจาํ วนั ของ พระภิกษุ  9. การแสดงธรรมหรือการเทศนม์ ีพิธีการมากกวา่ การปาฐกถาธรรม  10. การประพฤติปฏิบตั ิตนใหเ้ ป็นแบบอยา่ งท่ีดีเป็นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาท่ีดีท่ีสุดวธิ ีหน่ึง  11. พระสงฆเ์ ป็นผบู้ อกทางสวรรคใ์ หแ้ ก่ประชาชน โดยแนะนาํ ทางดาํ เนินชีวติ ท่ีดีงามและเป็น ประโยชน์  12. การเรียนรู้บทบาทของพระสงฆใ์ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาทาํ ใหเ้ ราเขา้ ใจเกี่ยวกบั การ ดาํ เนินชีวติ ของท่าน ชื่อ นามสกลุ เลขท่ี ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  218 ใบงานที่ 5 เร่ือง การเข้าพบพระสงฆ์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 มารยาทชาวพทุ ธ ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายจริยวตั รของสาวกเพื่อเป็นแบบอยา่ งในการประพฤติปฏิบตั ิตน และปฏิบตั ิตนอยา่ ง เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาท่ีตนนบั ถือ (ส 1.2 ม. 1/2) คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื่อนเขียนเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ปฏิบตั ิท่ีควรทาํ และเขียน เคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ปฏิบตั ิที่ไม่ควรทํา  1. ผหู้ ญิงที่เป็นญาติเขา้ ไปหาพระภิกษุในกุฏิไดต้ ามลาํ พงั  2. เพอื่ ใหก้ ารสนทนากบั พระภิกษุสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ควรนาํ เรื่องตลกมาคุยกบั ท่านบา้ ง  3. ถา้ พระภิกษุที่เราสนทนาดว้ ยเป็นพระเถระผใู้ หญ่ควรประนมมือพดู กบั ท่าน  4. เมื่อจะเขา้ พบพระภิกษุรูปใดรูปหน่ึง ควรรอดูจงั หวะ หรือสอบถามสามเณรหรือศิษยว์ ดั ก่อน  5. ถา้ พระภิกษุท่ีเราตอ้ งการพบอยใู่ นกฏุ ิ ควรเคาะประตูใหเ้ สียงก่อน เมอื่ ท่านอนุญาตจึงค่อย เขา้ ไปหา สาํ หรับผหู้ ญิงไมค่ วรเขา้ ไปหาท่านในกฏุ ิตามลาํ พงั  6. ถา้ พระภิกษุอยชู่ ้นั ล่างของกฏุ ิ ผชู้ ายสามารถข้ึนไปขา้ งบนได้ แต่ผหู้ ญิงไม่ควรข้ึนไป  7. เห็นวา่ เป็นญาติหรือคุน้ เคยกนั มาก่อน จึงนาํ เร่ืองส่วนตวั ไปเล่าใหพ้ ระภิกษุฟัง  8. เมื่อจะเขา้ ไปหาพระภิกษุภายในกฏุ ิ ผชู้ ายและผหู้ ญิงควรเขา้ ไปพร้อมกนั ผหู้ ญิงไม่ควรเขา้ ไปคนเดียว  9. ผหู้ ญิงไม่ควรสนทนาพดู คุยกบั พระภิกษุสองต่อสองในที่ลบั ตา แตใ่ นท่ีลบั หูสามารถกระทาํ ได้ โดยเฉพาะผหู้ ญิงท่ีเป็นญาติกนั  10. ไม่วา่ จะเป็นญาติหรือเป็นคนคุน้ เคย ชาวพทุ ธก็ไมค่ วรสนทนาพดู คุยกบั พระภิกษุในลกั ษณะตี เสมอหรือพดู จาหยอกลอ้ กบั ท่าน  11. การแสดงความเคารพพระภิกษุ ควรกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ 3 คร้ัง แลว้ นงั่ พบั เพยี บ สนทนากบั ท่าน  12. เม่ือพดู จาธุระเสร็จแลว้ ควรลาท่านกลบั ถา้ เป็นพระเถระผใู้ หญ่ใหก้ ราบลาดว้ ยเบญจางคประดิษฐ์ แต่ถา้ เป็นพระภิกษุทวั่ ไปใหย้ กมือไหว้ ชื่อ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  219 ใบงานที่ 6 เรื่อง วนั อะไร แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 วนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนา ตวั ชี้วดั ช้ันปี อธิบายประวตั ิ ความสาํ คญั และปฏิบตั ิตนในวนั สาํ คญั ทางศาสนาที่ตนนบั ถือตามที่กาํ หนด ไดถ้ กู ตอ้ ง (ส 1.2 ม. 1/5) คาํ ชี้แจง พิจารณาขอ้ ความแต่ละขอ้ วา่ กล่าวถึงวนั สาํ คญั อะไร ใหเ้ ขียนเคร่ืองหมาย  ลงใน  หนา้ วนั สาํ คญั น้นั 1. เรียกอีกชื่อหน่ึงวา่ วนั พระ  วนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา 2. สมยั สุโขทยั เรียกวา่ วนั ศีลนอ้ ยหรือวนั ศีลใหญ่  วนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา 3. ตรงกบั วนั แรม 1 ค่าํ เดือน 8 วนั ธรรมสวนะ  วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา 4. เป็นวนั มหาปวารณา วนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา  วนั ออกพรรษา 5. บางวดั จดั ใหม้ ีพธิ ีตกั บาตรเทโว วนั ธรรมสวนะ วนั เขา้ พรรษา  วนั ออกพรรษา 6. วนั ท่ีพระพทุ ธเจา้ เสด็จลงจากเทวโลกหลงั เสดจ็ ไปแสดงธรรมโปรดพระพทุ ธมารดา วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา  วนั เทโวโรหณะ 7. พระฉพั พคั คียเ์ ป็นตน้ เหตุใหเ้ กิด  วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา วนั เทโวโรหณะ 8. มีการอธิษฐานจิตงดเวน้ อบายมุขบางอยา่ งตลอดเวลา 3 เดือน  วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา วนั เทโวโรหณะ กลุ่มที่ 4. สมาชิก 1. 5. 6. 2. 3.

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  220 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง วันวสิ าขบูชา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 วนั สําคญั ทางพระพทุ ธศาสนา วนั วสิ าขบูชา วนั วิสาขบูชาตรงกบั วนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6 หรือเดือนวสิ าขะ ถา้ ปี ใดมีอธิกมาสคือมีเดือน 8 สองหน กจ็ ะเล่ือนไปเป็นวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 7 วนั วิสาขบูชาจึงอยใู่ นช่วงเดือนพฤษภาคม วนั วิสาขบูชาเป็นวนั สาํ คญั ที่เก่ียวขอ้ งกบั พระพทุ ธเจา้ โดยตรง คือ เป็นวนั คลา้ ยวนั ที่ พระพทุ ธเจา้ ประสูติ ตรัสรู้ และเสดจ็ ปรินิพพาน ซ่ึงแต่ละเหตุการณ์เกิดข้ึนตรงกบั วนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6 กล่าวคือ พระพทุ ธเจา้ ประสูติ ณ ลุมพินีวนั ซ่ึงอยรู่ ะหวา่ งเมืองกบิลพสั ดุก์ บั เมืองเทวทหะ เม่ือวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6 ก่อนพทุ ธศกั ราช 80 ปี ต่อมาพระพทุ ธเจา้ ตรัสรู้ ณ ใตต้ น้ มหาโพธิ ตาํ บลอุรุเวลาเสนานิคม แควน้ มคธ เม่ือวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6 ก่อนพุทธศกั ราช 45 ปี และ พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ปรินิพพาน ณ ใตต้ น้ สาละ เมืองกสุ ินารา แควน้ มลั ละ เม่ือวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6 ก่อนพุทธศกั ราช 1 ปี เหตุการณ์ท้งั สาม น้ีเกิดข้ึนตรงวนั เดียวกนั จึงนบั เป็นเรื่องที่ มหศั จรรยย์ ง่ิ นกั ดว้ ยเหตุที่วนั วสิ าขบชู าจึงเป็นวนั ท่ีเก่ียวเน่ืองกบั พระพุทธเจา้ โดยตรง เรียก วนั น้ีวา่ วนั พระพทุ ธเจ้า เมื่อถึงวนั วิสาขบูชา ชาวพทุ ธจึงร่วมกนั ประกอบพธิ ีบูชาโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื ระลึกถึง พระคุณของพระพทุ ธเจา้ ไดแ้ ก่ พระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระกรุณาคุณ การจดั พิธีวิสาขบชู าในประเทศไทยมีมาต้งั แต่สมยั สุโขทยั แต่เป็นพธิ ีท่ีราษฎรจดั ข้ึน เอง ยงั ไม่เป็นพระราชพธิ ี จนกระทง่ั ถึงสมยั รัตนโกสินทร์ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ทรงกาํ หนดใหจ้ ดั พิธีวิสาขบูชาอยา่ งเป็นแบบแผนเป็นพระราชพธิ ีหรือพิธีหลวง ตามท่ี สมเด็จพระสงั ฆราช (มี) แห่งวดั มหาธาตุยวุ ราชรังสฤษฎ์ิ กรุงเทพฯ ถวายคาํ แนะนาํ ไว้ โดย พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ทรงเป็นประธานในพระราชพิธีวสิ าขบชู า ณ วดั พระ ศรีรัตนศาสดาราม พระมหากษตั ริยพ์ ระองคต์ ่อ ๆ มากท็ รงปฏิบตั ิพระราชพิธีน้ีสืบมาจนถึง ปัจจุบนั การจดั พธิ ีวิสาขบชู าที่เป็นพระราชพธิ ีในปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเป็น ประธานพร้อมดว้ ยพระบรมวงศานุวงศ์ คณะรัฐมนตรี และขา้ ราชการช้นั ผใู้ หญ่ ในตอนเยน็ วนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6 มีพระสงฆเ์ จริญพระพทุ ธมนตแ์ ละแสดงพระธรรมเทศนา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงศีล ทรงธรรม แลว้ ทรงนาํ เวียนเทียนรอบพระอุโบสถวดั พระศรีรัตนศาสดา ราม 3 รอบ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  221 ในส่วนของทางราชการ สาํ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จดั พิธีวิสาขบูชาข้ึนท่ีพทุ ธมณฑล ตาํ บลศาลายา อาํ เภอพทุ ธมณฑล จงั หวดั นครปฐม เป็น ประจาํ ทุกปี และพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั หรือผแู้ ทนพระองคท์ รงเป็นประธาน มีการ เจริญพระพุทธมนต์ แสดงพระธรรมเทศนา เวยี นเทียนรอบองคพ์ ระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ สาํ หรับการจดั พธิ ีวิสาขบูชาของวดั ต่าง ๆ ท้งั ในกรุงเทพมหานครและต่างจงั หวดั จะจดั พิธีวิสาขบชู ากนั ทุกวดั ถา้ จดั เพื่อนกั เรียนโดยเฉพาะ มกั จะจดั เวลาประมาณ 16.00 น. เพือ่ ให้ เสร็จพธิ ีก่อนค่าํ นกั เรียนจะไดก้ ลบั บา้ นโดยสะดวกและปลอดภยั ถา้ จดั สาํ หรับประชาชน ทวั่ ไปมกั จดั เวลา 20.00 น. เพือ่ ใหป้ ระชาชนรับประทานอาหารเยน็ กนั เสร็จแลว้ เดินทางไป ร่วมพธิ ีสะดวก ปัจจุบนั วนั วิสาขบชู าถือเป็นวนั สาํ คญั ของโลกวนั หน่ึง เนื่องจากองคก์ ารสหประชาชาติ ไดป้ ระกาศรับรองใหเ้ ป็น วนั สาํ คัญสากล ดงั น้นั เม่ือถึงวนั สาํ คญั น้ี ชาวพทุ ธทว่ั โลกจึงไดจ้ ดั พธิ ีบูชาราํ ลึกถึงพระคุณของพระพทุ ธเจา้ ข้ึนเป็นพเิ ศษ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  222 ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง วนั อาสาฬหบูชา แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 วนั สําคญั ทางพระพทุ ธศาสนา วนั อาสาฬหบูชา วนั อาสาฬหบชู าตรงกบั วนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 8 หรือเดือนอาสาฬหะ ถา้ ปี ใดมีอธิกมาส ก็จะเล่ือนไปเป็นวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 8 หลงั วนั อาสาฬหบชู าจึงอยใู่ นช่วงเดือนกรกฎาคม วนั อาสาฬหบชู าเป็นวนั สาํ คญั เพราะมีเหตุการณ์สาํ คญั เกิดข้ึนหลายเหตุการณ์ คือ 1. เป็นวนั คลา้ ยวนั ที่พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงปฐมเทศนาช่ือวา่ ธัมมจักกัปปวตั ตนสูตร โปรดปัญจวคั คีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวนั เมืองพาราณสี ซ่ึงธมั มจกั กปั ปวตั ตนสูตรน้ีมี ใจความสาํ คญั กล่าวถึงอริยสจั 4 ไดแ้ ก่ ทุกข์ สมุทยั นิโรธ และมรรค 2. เป็นวนั ที่มีพระสงฆร์ ูปแรกเกิดข้ึนในโลก คือ พระอญั ญาโกณฑญั ญะ กล่าวคือ เมื่อโกณฑญั ญะหวั หนา้ ปัญจวคั คียไ์ ดฟ้ ังปฐมเทศนาแลว้ กเ็ กิดความรู้ความเขา้ ใจพระธรรม อยา่ งลึกซ้ึง ซ่ึงเรียกวา่ เกิดดวงตาเห็นธรรม จึงกราบทูลขอบวชกบั พระพุทธเจา้ เป็น พระสงฆร์ ูปแรกในพระพทุ ธศาสนา 3. เป็นวนั ที่มีพระรัตนตรัยเกิดข้ึนครบท้งั 3 องค์ ไดแ้ ก่ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม และ พระสงฆ์ ดว้ ยเหตุท่ีวนั อาสาฬหบชู าจึงเป็นวนั ท่ีมีพระสงฆร์ ูปแรกเกิดข้ึนในพระพทุ ธศาสนา เรียกวนั น้ีวา่ วันพระสงฆ์ เม่ือถึงวนั อาสาฬหบชู า ชาวพทุ ธจึงร่วมกนั ประกอบพิธีบูชาโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือให้ ชาวพทุ ธไดร้ ะลึกถึงวนั ที่พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมคร้ังแรก ทาํ ใหเ้ กิดพระสงฆร์ ูปแรกใน พระพทุ ธศาสนา และพระรัตนตรัยเกิดข้ึนครบท้งั 3 องค์ การจดั พธิ ีอาสาฬหบชู าในประเทศไทยน้นั คณะสงั ฆมนตรีไทยมีมติใหจ้ ดั มาต้งั แต่ พ.ศ. 2501 และจดั เป็นพระราชพิธี สาํ หรับประเทศอ่ืน ๆ ที่นบั ถือพระพุทธศาสนาไมป่ รากฏ วา่ มีการจดั พธิ ีอาสาฬหบูชา

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  223 ใบความรู้ท่ี 3 เร่ือง วนั มาฆบูชา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 วนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนา วนั มาฆบูชา วนั มาฆบูชาตรงกบั วนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 3 หรือเดือนมาฆะ ถา้ ปี ใดมีอธิกมาสก็จะเลื่อน ไปเป็นวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 4 วนั มาฆบูชาจึงอยใู่ นช่วงเดือนกมุ ภาพนั ธ์ วนั มาฆบูชาเป็นวนั คลา้ ยวนั ท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ 3 คือ การละเวน้ ความชว่ั การทาํ ความดี และการทาํ จิตใจใหบ้ ริสุทธ์ิผอ่ งใส ซ่ึงเป็นหลกั การของ พระพทุ ธศาสนา ในท่ามกลางพระอรหนั ตจ์ าํ นวน 1,250 รูปท่ีมาประชุมกนั โดยมิไดน้ ดั หมาย ณ วดั เวฬุวนั เมืองราชคฤห์ การประชุมคร้ังน้ีเป็นการประชุมคร้ังแรกในพระพทุ ธศาสนา จึงเรียกวา่ มหาสาวกสันนิบาต ในวนั น้ีไดม้ ีเหตุการณ์สาํ คญั 4 ประการ เกิดข้ึนพร้อมกนั จึงเรียกวา่ จาตรุ งคสันนิบาต แปลวา่ การประชุมอนั ประกอบดว้ ยองค์ 4 คือ 1) เป็นวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 3 หรือวนั เพญ็ เดือนมาฆะ 2) เป็นวนั ที่พระสงฆจ์ าํ นวน 1,250 องค์ มาประชุมกนั โดยมิไดน้ ดั หมาย ณ วดั เวฬุวนั กรุงราชคฤห์ แควน้ มคธ 3) พระสงฆท์ ี่มาประชุมกนั น้นั เป็นพระอรหนั ตท์ ้งั สิ้น 4) พระสงฆเ์ หล่าน้ีลว้ นเป็นเอหิภิกขอุ ุปสมั ปทาคือไดร้ ับการอุปสมบทจากพระพทุ ธเจา้ โดยตรง ดว้ ยเหตุท่ีวนั มาฆบชู าเป็นจึงวนั ท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมโอวาทปาติโมกข์ ซ่ึงเป็นหลกั การของพระพทุ ธศาสนา เรียกวนั น้ีวา่ วันพระธรรม นอกจากน้ีในวนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 3 ในปี สุดทา้ ยแห่งพระชนมายขุ องพระพทุ ธเจา้ คือ อีก 45 ปี ต่อมา ไดม้ ีเหตุการณ์สาํ คญั อีกเหตุการณ์หน่ึงเกิดข้ึน ณ ปาวาลเจดีย์ คือ พระพทุ ธเจา้ ทรงปลงอายสุ งั ขาร โดยทรงกาํ หนดพระทยั วา่ อีก 3 เดือนขา้ งหนา้ (วนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6) พระองคจ์ ะปรินิพพาน เมื่อถึงวนั มาฆบูชา ชาวพทุ ธจึงร่วมกนั ประกอบพธิ ีบูชาโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อให้ ชาวพทุ ธไดร้ ะลึกถึงการประชุมใหญ่ของพระสงฆส์ าวก โอวาทปาติโมกขซ์ ่ึงเป็นหลกั การ ของพระพทุ ธศาสนา และการปลงอายสุ งั ขารของพระพุทธเจา้ การจดั พธิ ีมาฆบชู าในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ข้ึนเป็นคร้ังแรก เป็นพระราชพิธี ณ วดั พระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2394 และใหจ้ ดั ทุกปี จนกลายเป็นพระราชพิธีมาถึงปัจจุบนั สาํ หรับประเทศอ่ืน ๆ ที่นบั ถือพระพทุ ธศาสนาไม่ ปรากฏวา่ มีการจดั พธิ ีมาฆบูชา

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  224 ใบความรู้ที่ 3 เร่ือง วนั อฏั ฐมบี ูชา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 วนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนา วันอฏั ฐมีบชู า วนั อฏั ฐมีบูชาตรงกบั วนั แรม 8 ค่าํ เดือน 6 หลงั วนั วสิ าขบูชาไปอีก 7 วนั วนั อฏั ฐมีบชู าเป็น วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาอีกวนั หน่ึง เพราะเป็นวนั คลา้ ยวนั ถวายพระเพลิงพระพทุ ธเจา้ ณ มกฏุ พนั ธนเจดีย์ เมืองกุสินารา เมืองหลวงของแควน้ มลั ละ ปัจจุบนั การจดั พิธีอฏั ฐมีบูชาจะมีทาํ กนั อยเู่ ฉพาะในหมู่ชาวพทุ ธบางส่วนเท่าน้นั โดยเฉพาะ พระสงฆแ์ ละอุบาสกอุบาสิกาของวดั น้นั ๆ ไดพ้ ร้อมใจกนั ประกอบพิธีบูชาข้ึนเป็นการเฉพาะ ภายในวดั เช่นท่ีปฏิบตั ิกนั อยใู่ นวดั มหาธาตุยวุ ราชรังสฤษฎ์ิ เพอ่ื เป็นการระลึกถึงพระพทุ ธคุณ เกม: ปริศนาวันสําคญั ทางพระพุทธศาสนา กติกาในการเล่น : 1. ใหผ้ เู้ ล่นแต่ละกลุ่มศึกษาเน้ือหาวนั สาํ คญั ทางพระพุทธศาสนาในใบความรู้ท่ี 1–4 พร้อม ท้งั บนั ทึกสรุปสาระสาํ คญั เป็นเวลา 20 นาที 2. แต่ละกลุ่มช่วยกนั คดั เลือกตวั แทนของกลุม่ 1 คน ออกมาเพื่อตอบปัญหาแขง่ ขนั กบั กลุ่ม อื่น 3. ครูถามปัญหาทีละขอ้ โดยใหเ้ วลาผแู้ ข่งขนั ขอ้ ละ 30 วินาที ผแู้ ขง่ ขนั คนใดรู้คาํ ตอบก่อน ใหช้ ูป้ ายวนั สาํ คญั ซ่ึงเป็นคาํ ตอบของคาํ ถามน้นั ข้ึน 4. คาํ ถามมีท้งั หมด 15 ขอ้ ผแู้ ข่งขนั คนใดตอบคาํ ถามไดถ้ กู ตอ้ งมากท่ีสุด ผนู้ ้นั เป็นฝ่ ายชนะ และถือเป็ นการชนะของกลุ่ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  225 15 คาํ ถาม วนั สําคญั ทางพระพุทธศาสนา 1. วนั ข้ึน 15 ค่าํ เดือน 6 เป็นวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใด 2. วนั มหาสาวกสนั นิบาต ตรงกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใด 3. พระพทุ ธเจา้ แสดงธมั มจกั กปั ปวตั ตนสูตรเป็นคร้ังแรก ตรงกบั วนั สาํ คญั ทางพระพุทธศาสนา วนั ใด 4. วนั ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพทุ ธเจา้ คือวนั อะไร 5. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใดที่มีการจดั พธิ ีบูชากนั เฉพาะบางวดั ไม่แพร่หลายเหมือน วนั สาํ คญั อ่ืน ๆ 6. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใดที่พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ 7. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใด มีการเวยี นเทียนเฉพาะในบางพ้นื ท่ี 8. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาที่พระพุทธเจา้ ตรัสรู้อริยสจั 4 คือวนั ใด 9. วนั ที่พระพทุ ธเจา้ ทรงไดป้ ฐมสาวก ตรงกบั วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใด 10. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใดเป็นวนั สาํ คญั สากลของโลก 11. วนั ท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงปลงอายสุ งั ขารคือวนั ใด 12. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาวนั ใดเร่ิมจดั ใหม้ ีพิธีบชู ากนั ในสมยั รัตนโกสินทร์ 13. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาท่ีทางราชการไดป้ ระกาศรับรองคร้ังหลงั สุดคือวนั ใด 14. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาท่ีมีการจดั พิธีบูชากนั ทวั่ โลกคือวนั ใด 15. วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาที่ทางราชการไมป่ ระกาศใหเ้ ป็นวนั หยดุ ราชการคือวนั ใด คาํ ตอบ 6. วนั มาฆบูชา 11. วนั มาฆบูชา 1. วนั วิสาขบูชา 7. วนั อฏั ฐมีบูชา 12. วนั มาฆบชู า 2. วนั มาฆบูชา 8. วนั วิสาขบูชา 13. วนั อาสาฬหบชู า 3. วนั อาสาฬหบูชา 9. วนั อาสาฬหบชู า 14. วนั วิสาขบูชา 4. วนั อฏั ฐมีบชู า 10. วนั วิสาขบูชา 15. วนั อฏั ฐมีบชู า 5. วนั อฏั ฐมีบชู า

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  226 ใบงานที่ 7 เรื่อง คดิ แบบโยนิโสมนสิการ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16 การพฒั นาการเรียนรู้ด้วยวธิ ีคดิ แบบโยนิโสมนสิการ ตวั ชี้วดั ช้ันปี เห็นคุณค่าของการพฒั นาจิตเพื่อการเรียนรู้และการดาํ เนินชีวิตดว้ ยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิ- การ คือ วิธีคิดแบบคุณค่าแท–้ คุณค่าเทียม และวธิ ีคิดแบบคุณ–โทษ และทางออก หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถือ (ส 1.1 ม. 1/6) คาํ ชี้แจง แต่ละกลุ่มทาํ กิจกรรมท่ีกาํ หนดใหต้ ่อไปน้ี 1. วิเคราะห์เก่ียวกบั การดาํ เนินชีวติ ประจาํ วนั ของเราในเร่ืองต่อไปน้ีวา่ อะไรคือคุณค่าแท้ และอะไรคือ คุณค่าเทียม ถา้ เราเลือกคุณค่าแทจ้ ะมีผลดีอยา่ งไร และถา้ เราเลือกคุณค่าเทียมจะมีผลเสียอยา่ งไร การสวมใส่ เสื้อผ้า คุณค่าแท้ คือ ปกปิ ดร่างกายไม่ให้น่าเกลียด คุณค่าเทียม คือ ต้องหรูหรา นาํ แฟช่ัน ช่วยเสริมบคุ ลิกภาพให้ดูดี มียี่ห้อ ราคาแพง ผลดี คือ ไม่สิ้นเปลืองเงิน ผลเสีย คือ สิ้นเปลืองเงิน คุณค่าแท้ คือ ใช้ติดต่อส่ือสาร การใช้โทรศัพท์มอื ถือ คุณค่าเทียม คือ รุ่นใหม่ ทันสมยั ย่ีห้อดัง ผลดี คือ ลดค่าใช้จ่าย ไม่สิ้นเปลืองเงิน ผลเสีย คือ เพ่ิมค่าใช้จ่าย สิ้นเปลืองเงิน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  227 การคบเพอื่ น คุณค่าแท้ คือ เป็นเพื่อนคิด เป็นท่ีปรึกษาให้ คุณค่าเทียม คือ ต้องมีฐานะรํ่ารวย ใช้ของมี คาํ แนะนาํ ท่ีดี และชักชวนกนั ทาํ ดี ราคา มียี่ห้อ มีรถยนต์ ผลดี คือ ชีวิตดาํ เนินไปแต่ในทางท่ีดี มีความ ผลเสีย คือ ชีวิตไม่มีความสุข เจริญก้าวหน้า และมีความสุข 2. วิเคราะห์กรณีตวั อยา่ ง โดยใชว้ ธิ ีคิดแบบคุณ–โทษ และทางออกตามประเดน็ คาํ ถามท่ีกาํ หนดให้ แลว้ นาํ ผลวิเคราะห์มาอภิปรายกนั อีกคร้ังในกลุ่มใหญ่ กรณตี วั อย่าง: ยาเสพติดระบาดหนกั ในสถานศึกษา บางแห่งตรวจพบนกั เรียนติดยาเสพติดร้อยละ 10 ประเดน็ คาํ ถาม 1. สาเหตุสาํ คญั ที่ทาํ ใหน้ กั เรียนติดยาเสพติดคืออะไร แนวคาํ ตอบ สาเหตสุ าํ คญั ที่ทาํ ให้นกั เรียนติดยาเสพติด ได้แก่ อยากลอง ทาํ ตามเพื่อน สนุกในการตามใจตนเอง ไม่รู้จักปฏิเสธ ไม่รู้จักแยกแยะคณุ –โทษ ขาดการฝึ กอบรม 2. การกระทาํ ของนกั เรียนมีผลดีหรือผลเสียอยา่ งไร แนวคาํ ตอบ การกระทาํ ของนักเรียนมีแต่ผลเสีย ซึ่งมีผลเสียท้ังต่อตนเอง ผ้ปู กครอง สังคม สถาบนั และประเทศชาติ ผลเสียต่อตนเอง เช่น ทาํ ลายสมอง สุขภาพทรุดโทรม อายสุ ั้น ขาดสติสัมปชัญญะ ไม่รู้สึกระแวงภัย และกลวั ตาย เสียบุคลิกภาพ เสียทรัพย์ ติดคกุ ทาํ ลายอนาคต เสียชื่อเสียง ไม่มีใครต้องการเป็นคู่ครอง ผลเสียต่อผ้ปู กครอง เช่น ทาํ ให้พ่อแม่เสียใจ เสียสุขภาพเพราะคิดมาก ทาํ ให้เครียด เกิดโรคหัวใจ เป็นลม หรือความดันโลหิตสูง เสียทรัพย์เพราะลกู ผลาญหมด มีอันตรายจากลกู เพราะอาจถกู ลกู ทาํ ร้ าย ผลเสียต่อสังคม เช่น ทรัพย์สินอาจถกู โจรกรรม ผ้บู ริสุทธ์ิอาจถกู จับเป็นตัวประกนั ผลเสียต่อสถาบัน เช่น โรงเรียนเสียช่ือเสียง ไม่มีใครต้องการเข้าศึกษาในโรงเรียนท่ีมีผ้เู สพยาเสพติด ผลเสียต่อประเทศชาติ เช่น ประเทศชาติอ่อนแอเพราะประชากรอ่อนแอ ประเทศชาติประสบ ความหายนะ ผ้คู ิดร้ายอาจช่วงชิงเอกราชได้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  228 3. ปัญหานกั เรียนติดยาเสพติดแกไ้ ขไดห้ รือไม่ อยา่ งไร แนวคาํ ตอบ ปัญหานักเรียนติดยาเสพติดสามารถแก้ไขได้ โดยจะต้องแก้ไขท่ีสาเหตนุ ้ัน ๆ เช่น นักเรียนจะต้อง ไม่ทดลอง ไม่ทาํ ตามเพื่อน ไม่ทาํ ตามใจตนเอง รู้จักปฏิเสธ รู้จักแยกแยะคณุ –โทษ หมน่ั ฝึ กฝนตนเอง และในแต่ละวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ จะมีวิธีแยกย่อยออกไปอีก เช่น การแก้ปัญหานกั เรียนติดยาเสพติด ด้วยวิธีให้รู้จักแยกแยะคุณ–โทษ นักเรียนจะต้อง 1) ตระหนักถึงผลเสียอันเกิดจากการไม่รู้จักแยกแยะคณุ –โทษของการเสพยาเสพติด ซึ่งมีผลเสีย ทั้งต่อตนเอง ผ้ปู กครอง สังคม สถาบนั และประเทศชาติ 2) ตระหนักถึงความเป็นจริง โดยยอมรับความจริงในชีวิตความเป็นอย่ขู องนักเรียนว่ามีทั้งข้อดี และข้อเสีย แล้วจึงคิดหาทางออกของปัญหาและเลือกทางออกที่ดีท่ีสุดนาํ ไปปฏิบัติ 3) คิดพิจารณาว่า ในชีวิตประจาํ วนั ที่นักเรียนเข้าไปเกี่ยวข้องกบั สิ่งใด นักเรียนต้องพิจารณาด้วย สติปัญญา แยกแยะให้ได้ว่ามีคุณค่าแท้หรือคุณค่าเทียม ทั้งนีเ้ พ่ือจะได้เลือกเสพคุณค่าท่ีแท้จริง 4. นกั เรียนคิดวา่ ถา้ สามารถแกป้ ัญหานกั เรียนติดยาเสพติดในโรงเรียนไดจ้ ะเกิดผลดีอยา่ งไรบา้ ง แนวคาํ ตอบ ถ้าสามารถแก้ปัญหานักเรียนติดยาเสพติดได้ จะเกิดผลดีเป็นอย่างมาก คือ จะเกิดผลดีทั้งต่อ ตนเอง ผ้ปู กครอง สังคม สถาบัน และประเทศชาติ เช่น ตนเองมีสุขภาพดี พ่อแม่หรือผ้ปู กครอง ไม่เป็นทุกข์ โรงเรียนไม่เสียชื่อเสียง กลุ่มที่ 4. สมาชิก 1. 5. 6. 2. 3.

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  229 แบบบันทึกความรู้ เรื่อง 1. สรุปความรู้ท่ีได้ 2. สรุปแนวคิดใหม่ที่ได้ 3. การนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ ชื่อ นามสกลุ เลขท่ี ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  230 แบบบันทึกการสังเกตการณ์แสดงละคร แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี เร่ือง ชื่อผ้บู ันทกึ การแสดงละคร เนือ้ เร่ืองย่อ ประเดน็ ปัญหาขดั แย้ง ข้อ มูลท่ีได้จากการสังเกต บทบาทของตวั ละครท่ีประทบั ใจ ความคดิ เห็นส่วนตวั ชื่อตวั ละคร ปัญหา/อุปสรรค เหตุผล แนวทางการแกป้ ัญหา/อุปสรรคที่เกิดข้ึน ชื่อ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน โรงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  231 แบบประเมินผลการสาธิตการประนมมือ การไหว้ และการกราบ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 มารยาทชาวพุทธ ตวั ชี้วดั ช้ันปี ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมตอ่ บุคคลต่าง ๆ ตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถือตามท่ีกาํ หนด (ส 1.2 ม. 1/3) คาํ ชี้แจง เขียนเครื่องหมาย  ลงในช่องผลการประเมินใหต้ รงกบั ความเป็นจริง พร้อมระบุขอ้ เสนอแนะ รายการการฝึ กปฏบิ ัติ ผลการประเมนิ ข้อเสนอแนะ ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง 1. การประนมมือ 2. การไหว้ 3. การกราบ 1) ท่านงั่ 2) จงั หวะท่ี 1 3) จงั หวะท่ี 2 4) จงั หวะที่ 3 ลงช่ือ ผ้ปู ระเมนิ / /

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  232 แบบประเมนิ ผลการฝึ กกล่าวคาํ อาราธนาศีล อาราธนาธรรม และอาราธนาพระปริตร แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 13 ศาสนพธิ ี ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี จดั กิจกรรมและปฏิบตั ิตนในศาสนพิธี พิธีกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง (ส 1.2 ม. 1/4) คาํ ชี้แจง ประเมินผลนกั เรียน โดยใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง พร้อมระบุขอ้ เสนอแนะ รายการประเมนิ การอาราธนาศีล การอาราธนา การอาราธนา ธรรม พระปริตร 321321321 1. ความถูกตอ้ ง 2. ความพร้อมเพรียง 3. การออกเสียง 4. การมีส่วนร่วม รวม คะแนนเฉลย่ี 3 = ด,ี 2 = พอใช้, 1 = ควรปรับปรุง ขอเสนอแนะ ลงชื่อ ผูประเมนิ / /

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  233 ตวั อย่างแบบประเมนิ ทักษะการเขยี นเรียงความ เรื่อง หน่วยการเรียนรู้ที่ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี เดือน พ.ศ. ช้ัน วนั รายการประเมิน สรุปผล เลขที่ ช่ือ–สกลุ การเน้นประโยคแรก ผ่าน ไม่ผ่าน (5 คะแนน) ประโยคหลักให้แนว ิคดหลัก ี่ท สําคัญ ่ตอย่อหน้า (5 คะแนน) เ ีขยนประโยค ่ีทสมบูร ์ณ (5 คะแนน) คําสะกดผิดพลาดไ ่มเ ิกน 5 คํา (5 คะแนน) ส ุรปอย่าง ีมเห ุตผล (6 คะแนน) ลาย ืมออ่านออก (4 คะแนน) รวมคะแนน (30 คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ 50 ข้ึนไปถือวา่ ผา่ น

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพุทธศาสนา ม. 1  234 ตวั อย่างแบบประเมนิ ทกั ษะการพูด เร่ือง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ หน่วยการเรียนรู้ที่ ช้ัน วนั เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ สรุปผล เลขที่ ชื่อ–สกลุ การปรากฏตัว (3 คะแนน) ผ่าน ไม่ การเ ่ิรมเ ่ืรอง (3 คะแนน) ผ่าน การออกเ ีสยงและจังหวะ (4 คะแนน) การลําดับเ ้ืนอหา (5 คะแนน) ุบค ิลก ่ทาทาง (2 คะแนน) การใช้ถ้อยคําเหมาะสม (3 คะแนน) ความเ ้ราใจ (2 คะแนน) ความสนใจของผู้ ัฟง (2 คะแนน) ุคณ ่คาของเ ่ืรอง ี่ทพูด (3 คะแนน) การส ุรป ี่ทเหมาะสม (3 คะแนน) รวมคะแนน (30 คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ 50 ข้ึนไปถือวา่ ผา่ น

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา ม. 1  235 ตัวอย่างแบบประเมินผลงาน/กจิ กรรมเป็ นรายบุคคล ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เร่ือง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี หน่วยการเรียนรู้ที่ ช้ัน วนั เดือน พ.ศ. รายการประเมิน ระดับคุณภาพ เลขที่ ชื่อ–สกลุ ความ ูถกต้องของผลงาน/ ิกจกรรม (6 คะแนน) 4321 ุจดเ ่ดนของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน) ความ ิคด ิรเ ่ิรมส ้รางสรรค์ (4 คะแนน) ูรปแบบการนําเสนอผลงาน (3 คะแนน) การนําไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน) รวมคะแนน (20 คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การประเมนิ (ตวั อย่าง) การสรุปผลการประเมินใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาํ หนดเกณฑไ์ ดต้ ามความเหมาะสม หรืออาจใชเ้ กณฑ์ ดงั น้ี 18–20 คะแนน = 4 (ดมี าก) 14–17 คะแนน = 3 (ด)ี 10–13 คะแนน = 2 (พอใช้) 0–9 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook