ชาวบ้าน เช่นครูบาสุทธินันท์ พ่ีอ้อย (ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์) พหี่ ว่ น(คณุ วลั ลภาแวนวลิ เลยี นสว์ ารด์ )พวี่ ฑิ รู ย์(คณุ วฑิ รู ย์เลยี่ นจาํ รญู ) พระอาจารย์ไพศาล (พระอาจารย์ไพศาล วสิ าโล) คนเหลา่ นเี้ ปน็ ตวั จรงิ ในพนื้ ทข่ี องเขา บางคนเปน็ ผทู้ ท่ี ำ� งานในระดบั นโยบาย เชน่ อาจารย์เสน่ห์ จามริก ประธานองค์กรสทิ ธิมนุษยชน บาง ครงั้ ผมชวนใหน้ กั ศกึ ษาคดิ วา่ เขาอยากจะเจอใคร (ซง่ึ นกั ศกึ ษากไ็ มค่ อ่ ย รู้หรอกว่าเขาอยากจะเจอใคร เพราะโลกของเขามีแต่ห้องเรียนกับหน้า จอมือถอื ) แขกรับเชิญท�ำให้คลาสของเราจริงขึ้น ปกติเราเรียนเพื่อจะมอง รู้ และตัดสิน เราเปน็ ผ้สู งั เกต ทำ� ตัวเป็นพระเจา้ มองลงมาแล้ววิพากษ์ วจิ ารณ์ ซง่ึ หลายครง้ั กน็ ำ� มาซง่ึ การยอมแพ้ สนิ้ หวงั พดู จาประชดประชนั แดกดนั กระทบกระเทยี บ ซง่ึ เราจะเหน็ ไดว้ า่ มปี รากฏการณอ์ ยา่ งนเ้ี ยอะ มากในสงั คมออนไลน์ การที่ได้เจอตัวจรงิ ได้เห็น ไดค้ ยุ ทำ� ให้โลกของ พวกเราจรงิ ขนึ้ เหน็ ภาพของประเทศไทย ทำ� ใหร้ สู้ กึ วา่ เรอื่ งสงิ่ แวดลอ้ ม ทเ่ี กดิ ขน้ึ เปน็ เรอื่ งใกลต้ วั ใกล้ใจของเรา ทำ� ใหเ้ ราสนใจทจ่ี ะลงมอื ทำ� อะไร สักอยา่ งตอ่ ประเด็นทเ่ี ราสนใจมากขนึ้ แขกรบั เชิญ 3 ทา่ น • Dr.Lynne Born Myers ผจู้ ดั การโครงการ Project Dragonfly มหาวิทยาลยั ไมอามี สหรัฐอเมริกา • โชคนธิ ิ คงชุม่ (เกง่ กลุ่มใบไม้) นกั พัฒนารุ่นใหม่ ศิษยเ์ ก่า มหาวิทยาลัยมหดิ ล หอ้ งเรียนเปลย่ี นโลก 101
• ดร.เดชรัต สุขกำ�เนิด หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์ เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วทิ ยากรพิเศษ • โชติศักย์ กิจพรยงพันธ์ นกั จดั กระบวนการเรอ่ื งการรับฟัง บนพื้นฐานสุนทรียสนทนา (Dialogue) จากธนาคาร จติ อาสา • ธรี ะพล เตม็ อุดม ผนู้ ำ�กระบวนการเรือ่ งการประเมินแบบ ฉนั ทามติ (consensus) ผู้อำ�นวยการธนาคารจิตอาสา 102 NREM
หอ้ งเรยี นเปล่ียนโลก 103
ผมเอาสิ่งท่เี รียกวา่ “การประเมนิ ” กลับลงมา เพ่อื ทเี่ ราจะเห็นไดว้ า่ มนษุ ยส์ ามารถจะเอนเอยี ง และเฉไฉไปได้อยา่ งไรบ้าง ชวี ิตจริงๆ ไมไ่ ด้ ตรงไปตรงมา แต่มนั มี ตัวแปรอีกมากมาย การเรยี นรูเ้ รื่อง การประเมนิ จะทำ�ให้เรา นำ�ความเป็นมนษุ ย์กลับมา
IV การวดั ความรแู้ ละการประเมนิ ผล Exam ร้สู กึ อยา่ งไรทวี่ ิชานี้ไม่มกี ารสอบ แอบงง ! เพราะมนั ไมเ่ คยมี --- สุทธิคุณ แพง่ ผอ่ งใส
ผู้ที่สนใจจะลงทะเบียนเพื่อเรียน NREM จะรู้ตั้งแต่วันแรกท่ีเปิดชั้น เรียน ว่าเรียนวิชาน้ีไม่มีการสอบปลายภาคซึ่งเรียกความสนใจได้ พอสมควรเลยทเี ดียว ทีน่ ่าตืน่ เต้นยิ่งกว่าน้นั คอื คะแนนสว่ นหนึ่งมาจาก การทผ่ี เู้ รียนให้คะแนนตัวเอง คะแนนในวชิ าน้มี ี 3 สว่ นคือ • คะแนนจากตวั ผเู้ รยี นใหค้ ะแนนตวั เอง (ประเมนิ ตวั เอง) 34 % • คะแนนจากเพอื่ นรว่ มชน้ั เรยี น (เพอ่ื นประเมนิ เพอ่ื น) 33% • คะแนนจากคณะผสู้ อน (ผสู้ อนประเมินผ้เู รยี น) 33% บทเรียนส�ำคัญบทเรียนหน่ึงของการเรียนการสอนในวิชาน้ี คือ ทุกคนจะไดเ้ รียนร้กู ารประเมนิ ผล ทง้ั การประเมนิ ผลสำ� หรบั ตวั เอง และ การประเมนิ ผลเพอ่ื นรว่ มชนั้ เรยี น และบทเรยี นทเี่ รยี กสสี นั ได้ไมน่ อ้ ยคอื การประเมนิ ผลแบบฉนั ทามติ (consensus) ขนั้ ตอนคอื ทกุ คนในชนั้ เรยี น จะชว่ ยกนั ใหค้ ะแนนเพอ่ื นตามความเหน็ ของตนเอง จากนนั้ แตล่ ะคนขาน คะแนนของตนเองใหท้ กุ คนทราบ แลว้ เรม่ิ เวทแี ลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ วา่ คะแนนเอกฉนั ทค์ วรจะเปน็ เทา่ ไร เหตผุ ลเบ้อื งหลังของการให้คะแนนคอื อะไร จนกระท่งั สุดท้ายไดค้ ะแนนเอกฉนั ทค์ ะแนนเดยี ว ทที่ ุกคนเห็นพ้อง ตอ้ งกนั การเรยี นรเู้ รอื่ งการประเมนิ เพอื่ หาฉนั ทามตนิ ี้ อาศยั ทกั ษะการฟงั และการสอ่ื สารทด่ี เี ปน็ พนื้ ฐานสำ� คญั รวมถงึ บรรยากาศของความไวว้ างใจ จากสมาชกิ ในหอ้ ง ความเปดิ เผยและเป็นกลั ยาณมติ รต่อกัน ซงึ่ ทง้ั หมด น้ชี ั้นเรยี น NREM ได้ปูพ้นื ฐานไว้แล้วต้ังแตเ่ รมิ่ เปิดชน้ั เรียน ห้องเรยี นเปลี่ยนโลก 107
หนูชอบการประเมินแบบฉนั ทามติมาก รูส้ กึ ว่าเป็นการประเมิน เป็นการตัดสินที่ดีที่สุด เท่าท่ีเคยเจอมา ประโยชน์ท่ีได้ไม่ใช่เร่ือง คะแนน แต่เป็นประโยชน์กับเจ้าของเรื่องท่ี ถกู ประเมนิ มนั ชว่ ยใหเ้ หน็ วา่ อะไรทเ่ี ราทำ� ได้ ดี อะไรที่เราต้องปรับปรุง ท�ำให้เราเห็นว่า คะแนนท่ีเราได้มา คะแนนที่คนนั้นให้เรา เขาเหน็ อะไร มเี หตุผล มที ่ีมาทอี่ ย่เู บ้อื งหลงั --- จิตรณา เก่งการนา ท�ำไมอาจารย์จึงออกแบบให้ คลาส NREM ไมม่ กี ารสอบคะ ง่ายๆ และตรงไปตรงมาก็คือ ผมคิดว่าการสอบในรูปแบบเดิมๆ ไมใ่ ช่การช่วยนกั ศกึ ษา และอะไรกต็ ามที่ไม่ได้ชว่ ยนกั ศกึ ษากอ็ ยา่ ท�ำเลย เอาเวลาไปทำ� อย่างอื่นดกี วา่ ในวชิ านี้ การเรยี นทกุ ครง้ั คอื การสอบและการเขา้ เรยี นทกุ ครง้ั มกี าร ประเมนิ ผมสอนเรอ่ื งการประเมนิ เพอื่ ใหเ้ รานำ� การประเมนิ กลบั มาในชวี ติ จรงิ ๆ แทนที่การประเมินจะเปน็ หนา้ ท่ีของผู้สอน นกั ศึกษาแตะต้องไม่ได้ ผมใหท้ กุ คนไดท้ ำ� หนา้ ทน่ี ดี้ ว้ ยกนั เอาสง่ิ ทเี่ รยี กวา่ “การประเมนิ ” กลบั ลง มา เพอ่ื ทเี่ ราจะเหน็ ไดว้ า่ มนษุ ยส์ ามารถจะเอนเอยี งและเฉไฉไปไดอ้ ยา่ งไร 108 NREM
บา้ ง ชวี ติ จรงิ ๆ ไมไ่ ดต้ รงไปตรงมา แตม่ นั มตี วั แปรอกี มากมาย การเรยี น รู้เร่ืองการประเมนิ จะทำ� ให้เรานำ� ความเป็นมนุษย์กลับมา ความจรงิ แล้ว เราอาจจะแบง่ การประเมินได้ 2 แบบใหญ่ๆ คอื การ ประเมินครั้งเดียวในตอนท้าย (summative) และการประเมินระหว่าง ทาง (formative) ในสว่ นของการประเมินท่เี รยี กว่า summative ก็ยงั แบ่งคร่าวๆ ออก เปน็ 3 แบบ คือ อิงเกณฑ์ คะแนนเตม็ 100 ถา้ สอบได้ 80 ถือได้ A อิงกลุ่ม คือเอาคะแนนทกุ คนมาเรียง มีคะแนนเฉลีย่ คนท่ไี ดค้ ะแนน หอ้ งเรยี นเปล่ยี นโลก 109
สงู กว่าคะแนนเฉลยี่ ได้ A B คนทีไ่ ด้คะแนนตำ�่ กว่าคะแนนเฉล่ียได้ C D อิงการพัฒนา เช่น กอ่ นเขา้ เรยี น คนแรกสอบ pre-test คะแนนเต็ม 100 สอบได้ 20 เมอื่ เรยี นแลว้ สอบใหม่ คะแนนเต็ม 100 ได้ 80 พัฒนา ขนึ้ มา 60 คะแนน แต่อกี คน pre-test เตม็ 100 ได้ 70 เมอื่ เรยี นแล้ว สอบใหม่คะแนนเตม็ 100 ได้ 81 พฒั นาขน้ึ มา 11 คะแนน --- ถ้าเรา เปน็ ครูเราจะให้คะแนนอย่างไร? คนแรกไดค้ ะแนนเพ่มิ ข้ึน 60 แตม้ แต่ คนทสี่ องได้คะแนนเพ่ิมขึน้ 11 แต้ม แตไ่ ดค้ ะแนนรวมมากกวา่ ตวั ผมเอง เม่อื มีมติ ิการเรยี นรดู้ า้ นจิตตปญั ญา ผมกส็ นใจว่าแลว้ จะ น�ำการประเมินเข้ามาอยู่ในช้ันเรียนได้อย่างไร ในฐานะผู้สอนก็ต้องฟังผู้ เรยี น พร้อมกนั นนั้ ตวั ผูเ้ รียนเองกค็ วรจะไดย้ นิ เสียงเพ่ือนๆ ของเขาดว้ ย ในฐานะผู้สอนซ่ึงเห็นภาพกว้าง ได้เห็นหลายอย่างท่ีนักศึกษายังไม่เคย เห็น ก็จำ� เป็นท่จี ะตอ้ งให้เครอ่ื งมือ ให้เกณฑ์บางอยา่ งท่ีเขาจะเอาไปใช้ใน การประเมิน เขาจะไดป้ ระเมินเป็น ผมเองเห็นว่า คะแนนท่ีเขาประเมินตัวเองจ�ำเป็นต้องมีสัดส่วนมาก เพราะเขาคอื คนทจ่ี ะต้องอยู่กบั ตวั เองไปตลอดชีวติ ของเขา เขาอยูก่ บั ทีม สอนแค่ 15 สปั ดาห์ ในแต่ละสปั ดาห์เขาอยกู่ บั พวกเราแค่ 3 ชว่ั โมง แล้ว จะบอกว่าคะแนนของเราส�ำคัญทสี่ ุดสำ� หรบั เขาได้อย่างไร ดงั น้นั ถา้ เขามี เครื่องมือท่ีจะชว่ ยให้เขาไดส้ ังเกตชีวติ สงั เกตตัวเอง ประเมินตัวเองเปน็ รจู้ กั กระบวนการเรยี นรขู้ องตนเอง รวู้ า่ ตวั เองอยใู่ นสภาวะไหน ดแู ลตวั เอง อยา่ งไร เหล่านจ้ี ะเกดิ ประโยชน์กบั ชีวติ เขามาก 110 NREM
เวลาคยุ เรอื่ งการสอบ ผมจะ ‘ของขน้ึ ’ เลก็ นอ้ ย เพราะผมรสู้ กึ วา่ การ สอบในปจั จบุ ันนที้ ำ� รา้ ยผเู้ รยี น มนั ไมไ่ ดช้ ว่ ยใหเ้ ขาใสใ่ จในสงิ่ ที่เขาควรจะ ใส่ใจ การสอบแบบที่ทำ� กนั อย่นู ี้ทำ� ใหท้ ุกคนสนใจเพยี งแค่วา่ ‘ข้อสอบจะ ออกอะไร’ นอกจากนั้นฉันไม่สนใจท่ีจะรู้ --- เป็นเรื่องน่าเศร้านะครับ ประเทศท่ีเป็นผู้น�ำทางการศึกษาล้วนเคล่ือนออกจากความคิดความเชื่อ เรื่องการสอบแบบน้ีมานานแล้ว เราไปดงู านท่สี งิ คโปร์ ฟนิ แลนด์ สวเี ดน ประเทศเหล่านเ้ี ลกิ สอบแบบนี้ไปตง้ั นานแลว้ หากเราจะพูดถึงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ (Cognitive Learning Objectives) ของ Bloom ซง่ึ มี 6 ข้อ 1. รจู้ �ำ (Knowledge) 2. เขา้ ใจ (Comprehension) 3. นำ� ไปใช้ (Application) 4. วเิ คราะห์ (Analysis) 5. สังเคราะห์ (Synthesis) 6. ประเมิน (Evaluation) ชั้นเรียนส่วนใหญ่ก็จะอยู่เพียงแค่รู้จ�ำ คือท่องจ�ำ (การเรียนรู้ข้ันที่ 1) ยังไม่เข้าใจด้วยซ้�ำ แค่บิดค�ำถาม หรือให้เล่าใหม่ก็ท�ำไม่ได้ เพราะ ไม่ตรงกบั ส่ิงท่ที ่องมา ไม่ต้องคิดเลยวา่ เราจะไปถงึ ข้ันนำ� ไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ อยา่ งไร แตช่ น้ั เรยี น NREM เขาจะตอ้ งนำ� โปรเจค็ ของ เขามาแยกเปน็ สว่ นๆ แลว้ เกดิ ความรู้หรอื การเรยี นรู้ใหมว่ า่ ถ้าท�ำแบบน้ี ห้องเรยี นเปลย่ี นโลก 111
จงึ เกดิ แบบน้ี จากนนั้ กป็ ระเมนิ ตอ่ ไปไดว้ า่ แลว้ ถา้ ทำ� อกี ผลจะเปน็ อยา่ งไร แต่การเรียนรู้ในระบบปัจจุบันที่เป็นอยู่ไม่ได้เอ้ือให้เกิดสิ่งเหล่าน้ี เพราะ ผูเ้ รียนสนใจเพียงวา่ จะให้ทอ่ งอะไรเพือ่ จะจ�ำได้ แล้วไปคายในหอ้ งสอบ การเรยี นรู้ในคลาส NREM นกั ศกึ ษาจะไดป้ ระเมนิ ตั้งแตแ่ รก เขาจะ รูว้ า่ ตัวเองรู้จำ� ไหม เขา้ ใจไหม น�ำไปใช้ได้ไหม เมอ่ื นำ� ทงั้ 6 ข้ันตอนน้มี า ใช้ ชนั้ เรียนนี้จะพานกั ศึกษาไปสู่ higher advanced learning Action Project การลงมือท�ำของพวกเขา คอื การสอบว่า เขาได้ใช้ สิง่ ที่เรยี นไปลงมือท�ำบา้ งไหม เม่อื ลงมือท�ำแล้วมนั เป็นอย่างไร ทั้งหมด นเ้ี ปน็ การสอบเพยี งแตม่ นั ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นรปู แบบทเี่ ราคนุ้ เคย การสอบแบบน้ี 112 NREM
จะอยู่ในชีวติ ไม่ใชเ่ พยี งแค่การท่องจำ� ทที่ อ่ งๆ ยัดๆ เขา้ ไปในหัว พอสอบ เสรจ็ ก็ลืม เปน็ เพยี งความจ�ำระยะส้ันแต่ไมไ่ ด้เปน็ ส่วนหนงึ่ ของชวี ติ จติ รณา เกง่ การนา: หนูรู้สึกว่าที่ผ่านมาเราประเมินกันด้วยความรู้สึก ไม่ค่อยมีเหตุผล หรือเกณฑ์ทช่ี ัดเจน พออาจารยพ์ ดู ถึงการใหค้ ะแนนของเราท่ีจะมีผลต่อ เพ่ือน มันท�ำให้เราต้องคิดถึงเกณฑ์ว่าท�ำไมเราจึงให้คะแนนเพ่ือนแบบ นั้น ซึง่ มนั เหมือนกบั สอนเราในการท�ำงานในอนาคต วนั ขา้ งหน้าเม่ือจบ ออกไปเราจะไดม้ ีหลักเกณฑ์ที่แนน่ อนในการประเมนิ คนอน่ื ไมไ่ ด้ท�ำไป เพราะอารมณ์ จะได้ไม่เป็นเพราะ ‘กไ็ มร่ ู้ ฉันรู้สึกวา่ มนั ดี ฉนั เลยให้’ นรตุ ม์ เหลา่ นิพนธ:์ ตอนแรกท่ตี ้องให้คะแนนเพือ่ น ผมก็มเี กณฑอ์ ย่บู ้างแล้ว แตเ่ มอ่ื ได้ ฟังการคุยในชั้นเรียน ฟังอาจารย์พูด ก็ย่ิงสร้างเกณฑ์ได้ชัดเจนมากขึ้น บางทกี ็มีความรสู้ ึกเข้ามาเหมือนกันนะครบั เชน่ สงสารนอ้ ง แตพ่ อนกึ ถึง เกณฑ์ทีเ่ ราท�ำเพื่อทกุ ๆ คนกร็ ู้สกึ ว่า เกณฑเ์ ป็นเรือ่ งหนงึ่ ความรูส้ กึ เป็น อีกเร่อื งหน่ึง มันทำ� ให้เรามัน่ คงมากข้นึ หอ้ งเรยี นเปลีย่ นโลก 113
สทุ ธคิ ณุ แพง่ ผ่องใส: พอวิชานี้ไม่มีสอบ ผมก็รู้สึกว่าทุกอย่างคือการประเมิน ทุกอย่าง อยู่ระหว่างทางต้ังแต่ต้นจนจบ บางทีผมก็รู้สึกว่า การวัดผลแบบที่ผ่าน มาของการเรียนไมไ่ ด้วัดอะไรสักเทา่ ไรนัก เช่น นกั ศึกษาคนหน่งึ เปน็ คน ท่ีวเิ คราะห์เก่ง ความจำ� ดี แล้วเขาก็เร่งอ่านหนังสอื กอ่ นสอบ 5 วัน เทยี บ กบั อกี นกั ศกึ ษาคนหนง่ึ ซงึ่ เปน็ คนเขา้ ใจเนอื้ หาวชิ า เขา้ ใจแกน่ แทข้ องวชิ า แต่เขาจ�ำไมเ่ ก่ง แต่ถ้าให้เวลาเขาจะอธิบายได้ วเิ คราะห์ได้ --- การสอบ ในปัจจุบนั บอกว่า เรามเี วลา 2 ชวั่ โมง และคณุ ต้องสรปุ ทกุ อย่างออกมา ตอบ ดงั น้ันคนทีค่ วามจ�ำดีแต่ไมเ่ ข้าใจเขาจะท�ำได้ แตค่ นทีค่ วามจ�ำไม่ดี เรียบเรียงไมเ่ ก่ง จะตอบไดย้ ากมาก แต่เขารู้ เขาเขา้ ใจนะครับ แตเ่ ขาก็ จะได้คะแนนไม่ดี เกรดไมด่ ี NREM แบ่งคะแนนเป็น 3 ส่วน คือใหเ้ ราประเมินตัวเอง ใหเ้ พื่อน ประเมินเราและเราประเมินเพื่อน และมีส่วนท่ีอาจารย์ประเมินเราด้วย --- ผมชอบการประเมินแบบนี้นะครับ มันเป็นความหลากหลายทาง ชวี ภาพดว้ ยเหมอื นกนั คอื เราฟงั ตวั เอง แลว้ กฟ็ งั วา่ เพอ่ื นเขาประเมนิ เราอยา่ งไร แลว้ เรา ก็กลับมาฟังตัวเองอีก ผมรู้สึกว่า วิชานี้ให้ คุณค่ากับความหลากหลายมากแม้กระท่ัง การประเมิน (ย้ิม) และผมชอบมากท่ีให้ โอกาสตวั เราได้ประเมินตวั เอง 114 NREM
คลาส NREM ท�ำให้พวกเรารูส้ กึ ดแี ละยอมรบั กบั การประเมนิ ใครๆ กร็ วู้ า่ พวกเราเกลยี ดการประเมนิ เพราะเมอ่ื เราถกู ประเมนิ แยๆ่ ผปู้ กครอง กร็ สู้ ึกแย่ เพื่อนก็ดูถูก ครูกว็ ่า ซงึ่ ท�ำรา้ ยกนั มากเลย แทนทกี่ ารไดค้ ะแนน นอ้ ยจะเปน็ การบอกวา่ เออ..คณุ ไดค้ ะแนนนอ้ ยนะ คณุ มสี งิ่ ทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ แบบนี้ คณุ มอี ะไรทย่ี งั ไมเ่ ขา้ ใจหรอื เปลา่ คณุ ยงั มศี กั ยภาพทจี่ ะไปไดอ้ กี นะ ถา้ คณุ ลองให้ความสนใจสิ่งนี้ --- ผมคดิ วา่ คะแนนน้อยนา่ จะเปน็ เคร่ือง เหนี่ยวนำ� ใหเ้ กดิ การพฒั นา ไม่ใช่ท�ำใหร้ ู้สึกดอ้ ยหรอื อับอาย ผมวา่ ระบบ การศกึ ษาทำ� ใหค้ นเปน็ ซมึ เศรา้ ได้นะครับ ห้องเรียนเปลี่ยนโลก 115
นรตุ ม์ เหล่านพิ นธ:์ ผมกช็ อบมาก เพราะมนั ทำ� ใหเ้ ราไดเ้ หน็ มมุ ทเ่ี ราไมไ่ ดเ้ หน็ ไมว่ า่ เรา จะคิดรอบคอบขนาดไหนแต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีมุมท่ีเราไม่เห็นอยู่ดี โดย เฉพาะเมอื่ มที มี อาจารยอ์ ยดู่ ว้ ย ดว้ ยประสบการณท์ ก่ี วา้ งกวา่ เหน็ มาเยอะ กว่า เขาก็ต้องเห็นอะไรมากกว่าเราอยู่แล้ว ซ่ึงมันสุดยอดมาก เป็นการ ประเมินทีด่ ีมากๆ ไมไ่ ดท้ ำ� กนั ไดง้ า่ ยๆ หรอกนะครบั คอมเมนท์ท่ีได้มา หลายอยา่ งเอาไปใชก้ บั เรอ่ื งอน่ื ๆ ไดด้ ว้ ย ไมใ่ ชแ่ คเ่ รอื่ งโปรเจค็ เทา่ นน้ั การ ประเมินแบบนี้ชว่ ยเรามากเลย จติ รณา เก่งการนา: การประเมินแบบน้ีช่วยผู้ท่ีถูกประเมินมากๆ เลยค่ะ เพราะบางที แมว้ า่ เราจะไดค้ ะแนนดมี าก หรอื เราเตรยี มมาดมี าก แตเ่ รากจ็ ะไดเ้ หน็ วา่ ในมุมมองของคนอนื่ มันไมไ่ ดเ้ ป็นอยา่ งนัน้ ทง้ั หมดหรอกนะ เปน็ ช่องทาง ที่เปิดให้เรายอมรับความจริง หนูคิดว่าการที่เราเปิดท่ีจะรับฟังความจริงมันช่วยให้เราปรับปรุง และพัฒนาไปได้มากเลยค่ะ ดีกว่ามีแต่ค�ำชมๆๆๆ หนูว่าการเรียนส่ิง น้ีเป็นประโยชน์ ถา้ การประเมินแบบฉนั ทามตดิ ีมากอย่างที่วา่ มา ท�ำไมเราจึงไม่เคยเรยี น เร่อื งนี้เลย และประเทศของก็แทบไม่มกี ารใชฉ้ นั ทามติในการตัดสินใจ ประเด็นสำ� คญั ๆ ของประเทศเลย 116 NREM
นรุตม์ เหลา่ นพิ นธ์: ผมว่ามนั เสยี เวลาครบั (ฮา) ผมคิดว่าการประเมินเพ่ือหาฉันทามติ อาศัยการฟังและการรู้จักใช้ ค�ำพดู มากๆ เวลาทีเ่ ราฟังในคลาส ทมี พ่ๆี ทมี อาจารย์ท่ีคอมเมนท์ เขามี การใช้ค�ำพูดท่ีทำ� ใหค้ นทีฟ่ ังไม่เจ็บ ไมเ่ ปน็ บาดแผล แต่ช้ใี ห้เห็นว่านน่ั คือ ขอ้ บกพรอ่ งทเ่ี รานา่ จะไดเ้ รยี นรู้ --- เรอ่ื งนสี้ ำ� คญั นะครบั เพราะบางครงั้ ตวั เราเองประเมนิ ตวั เอง เราวจิ ารณต์ วั เอง เรายงั เจบ็ เลย เราจงึ ไมช่ อบการ ประเมนิ มนั เลยนำ� มาซงึ่ การใหค้ ะแนนแบบจบๆ กนั ไป ไมต่ อ้ งพดู ไมต่ อ้ ง รู้ ฝา่ ยที่ถูกประเมนิ ก็มีแต่คำ� ถามในใจ นีเ่ ราคงแยม่ ากใชไ่ หม หรือยังไง การประเมนิ แบบฉนั ทามตนิ ที้ ำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจ ทำ� ใหเ้ รารสู้ กึ เตม็ ใจทจ่ี ะ ไดร้ บั การประเมิน ไมใ่ ชเ่ รอื่ งคะแนนมากหรือนอ้ ย แตเ่ รารู้ เราพอใจทไี่ ด้ คะแนนนี้ เพราะมนั มเี หตผุ ล มที ม่ี า ทำ� ใหเ้ ราเหน็ วา่ สง่ิ ทเ่ี ราไดด้ ใี นสายตา คนอืน่ คอื อะไร สง่ิ ท่ีบกพร่องคอื อะไร บางครงั้ เราคิดวา่ เราเป็นอย่างหน่ึง แต่จรงิ ๆ แลว้ เราอาจจะเป็นอีกอย่างหนง่ึ ก็ได้ในสายตาคนอนื่ ผมคิดว่าคนที่รับค�ำประเมินก็น่าจะต้องมีการฝึกตัวเองระดับหนึ่ง นะครับ ต้องเห็นวา่ เขาไมไ่ ดต้ ้องการจะทำ� ร้ายเรา คนทเ่ี ป็นฝ่ายประเมนิ ก็ต้องดูด้วยว่าเจตนาท่ีเราคอมเมนท์คืออะไร จะพูดอย่างไร ไม่พูดด้วย อารมณ์ เพราะการพูดดว้ ยอารมณท์ �ำให้คนฟงั เจบ็ แม้ว่าคนพูดจะไม่ได้ มเี จตนาที่จะสร้างบาดแผลก็ตาม ห้องเรียนเปลยี่ นโลก 117
V ปิดคลาส ความสุขจากการเรียนรู้ - สมดุ บันทกึ และ บทสมั ภาษณ์ลูกศษิ ย์ NREM16
หลงั จากเรยี น NREM มา หนอู ยากจะขอขอบคณุ อาจารยแ์ ละพๆ่ี ทกุ คนทช่ี ว่ ยจดั class นม้ี า หนไู ดเ้ รยี นรอู้ ะไรมากมาย รจู้ กั ตวั เอง รจู้ กั เพอื่ น รจู้ กั สงิ่ แวดลอ้ ม รจู้ กั โปรเจค รจู้ กั อาจารย์ รจู้ กั พๆ่ี รถู้ งึ การดแู ลตวั เอง ดแู ลเพอ่ื น และ class รว่ มไปกบั ทกุ คน ตอนแรกเขา้ คลาสมา กห็ วงั วา่ จะหาตวั เองเจอ แตเ่ อาจรงิ ๆ กย็ งั ไมเ่ จอ ฮา่ ฮา่ ฮา่ แต่ class มเี ครอ่ื งมอื บางอยา่ งทมี่ อบใหน้ ำ้� นำ้� รสู้ กึ วา่ นำ้� จะใชเ้ ครอื่ งมอื นใี้ น การหาตวั เอง เขา้ ใจตวั เอง บอกวา่ ตวั เอง ชอบ/ไมช่ อบอะไรได้ในอนาคต ไมร่ ู้ ฮา่ ฮ่า ฮา่ พดู ไม่ถูก น้�ำรู้สกึ ว่า น�ำ้ ได้อะไรหลายอย่างจากคลาสน้ีท่ี ‘จำ� เปน็ ’ ต่อการ เดนิ ทางไปขา้ งหนา้ รวมถงึ บทเรยี นหลายๆ อยา่ งทตี่ อ้ งปรบั ปรงุ ตวั เองในอนาคต ห้องเรยี นเปลย่ี นโลก 121
122 NREM
ไมเ่ คยคดิ วา่ การอา่ นหนงั สอื สกั เลม่ จะเขา้ มาตแี ผค่ วาม รู้สึกได้มากแค่ไหน ไม่เคยคิดว่าการเรียนสักวิชาใน ตอนน้ีมันจะน�าออกมาใช้นอกห้องเรียน ห้องแล็บได้ ไม่เคยคิดว่าบางความรู้สึกจะเข้ามาสอดแทรกเกือบ ทุกการกระท�าในชีวิตตอนนี้ พอหลับตาแล้วมองย้อน กลับไปต้ังแตว่ ันแรก ทุกความรสู้ กึ ไหลมาท้ังหมด ตง้ั แต่หนังสืออิชมาเอล ท่ีไม่คิดเลยว่าจะท�าให้ เราเข้าใจ โครงสรา้ งทางความรูส้ ึกของตวั เราไดม้ ากมายขนาดนี้ การพูดๆ กันทั้งคาบ ก็ไม่เข้าใจว่าจะได้ ประโยชน์อะไร ข้อสรุปก็ไม่มี จนเมื่อเราเรียนรู้มันมา เรอ่ื ยๆ เฮย้ ความรมู้ นั เกดิ เมอ่ื เราฟง เปน็ นนี่ า วงสนทนา มนั ไมไ่ ดม้ ใี หเ้ ราพดู อยา่ งเดยี ว แตม่ นั มใี หเ้ ราฟง คนอน่ื ด้วย แล้วการที่เราฟงน่ีแหละท�าให้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง เชื่อมโยงได้เห็นความส�าคัญแล้วพอเราใส่เรื่อง ธรรมชาตเิ ขา้ มาในนก้ี ็ ทา� ใหเ้ ราเขา้ ใจมนั เปลย่ี นไปดว้ ย นี่ไงเลยท�าให้มันเข้ามาอยู่ในทุกการกระท�าตอนนี้เลย แปลกเหมอื นกนั บางเรอื่ งทเี่ รารมู้ าทงั้ ชวี ติ วา่ มนั ดี เชน่ การอนุรักษ์ธรรมชาติ เกบ็ ขยะ แยกขยะ เรากไ็ ม่เคย ได้ท�าหรือให้ความส�าคัญเท่าท่ีควรแต่พอมาเรียนไม่ก่ี สัปดาห์มันกลับท�าให้เราเห็นความส�าคัญมากขึ้นและ จริงจงั กับมัน จนเกิดการกระท�าน้นั ขนึ้ มาได้ภายในไม่ กี่สัปดาห์ น่าจะดีนะคะ ถ้าเราให้การเรียนแบบนี้เป็น พื้นฐานการเรียนรู้ของเราทุกคนเพ่ือสร้างความเข้าใจ ใหเ้ รากอ่ น แตเ่ สยี ดายทหี่ ลายคนยงั ไมเ่ หน็ ความสา� คญั หลายคลาสที่เราเรียนรู้แล้วผ่านไปความรู้กลับคืนสู่ อาจารย์ ฮา่ ฮา่ แตไ่ มใ่ ชก่ บั คลาสนแ้ี นน่ อน มนั เขา้ มาอยู่ ในกระบวนการคดิ การกระทา� ชีวติ ประจา� วนั ขอบคณุ มากคะ่ ทีท่ �าใหห้ นกู ล้าในหลายอยา่ งได้ทา� อะไรแปลก แปลกใหมใ่ หม่ มหี ลากหลายอารมณ์เกิดข้ึน นนั่ แหละ คะ่ แตพ่ อหลบั ตาแลว้ มแี ตค่ วามสนกุ ของการเรยี นรสู้ งิ่ ตา่ งๆ ไหลเข้ามา วันน้ันจึงรู้สึกอารมณ์ดมี าก หอ งเรย� นเปล่ียนโลก 123
124 NREM
ถ้ารนุ่ นอ้ งมาถามถึงวา่ เรียนวชิ านด้ี ีไหม กค็ งบอกเหมอื นกับทอ่ี าจารย์บอกเราน่ี แหละวา่ ‘งานเยอะนะ’ ต้องมีความรับผิดชอบ (อย่างมาก) ดว้ ย ต้องเขา้ เรยี น ให้ตรงเวลา ต้องว่างทุกบ่ายวันพุธ แต่เช่ือว่าวิชาน้ีจะเปล่ียนทัศนคติของคน ท่ีมาเรียนได้จริงๆ ทุกอย่างมันเร่ิมจากระดับบุคคล ล่าสุดได้คุยกับเพื่อนเรื่อง ส่ิงแวดล้อม เพ่ือนตอบคลา้ ยกับความคิดของเราในวันแรกท่ีมาเรยี นเลย คอื ต่อ ให้เราแกไ้ ขท่ีตัวเรา พวก Head ทส่ี รา้ งปญหาระดับประเทศมันกย็ ังอยู่ แต่พอ มาเรียนเราก็คิดได้ว่า ถึงคนมีอ�านาจจะห่วยยังไง แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลท่ีเราจะ ไม่ทา� อะไรเลย เพื่อช่วยเหลอื สง่ิ แวดลอ้ มนี่ ถึงมนั จะเศรา้ ๆ ตรงท่ีบางอย่างกไ็ ม่ สไปามหารรือถแGกr้ไeขatไดb้แarลr้วierอrยe่าeทf ี่พท่ีเีป่ กร๊ิกะบกอาศกวเรา่ ื่อตงาคย่าแลCว้ O(2รใอนบอทาเี่กทาา่ ศไทรก่ีเพไ็ ่ิงมจ่ระู้)มสา่ิงกทเกน่ี ิน่า กลวั ขนาดนก้ี แ็ ทบจะไมไ่ ดช้ ว่ ยเปลย่ี นแปลงจติ สา� นกึ และพฤตกิ รรมของคนทว่ั ไป เทา่ ไรเลย เรากร็ ูถ้ ึงปญหา เราต่างกร็ ู้ เหตุใดจงึ เพิกเฉยกนั อย่เู ลา่ หอ งเร�ยนเปล่ียนโลก 125
126 NREM
ทราบจากศษิ ย์เก่าว่า นักศกึ ษาของช้ันเรียน NREM จะกลบั มาเจอกันปี ละ 2 ครง้ั ช่วงกลางปีและปลายปี อยากเรียนถามอาจารยว์ า่ ความคิด เบ้ืองหลังของสง่ิ น้คี อื อะไรคะ ผมคิดว่ามนษุ ยต์ อ้ งมีการเรียนร้ตู ลอดชีวติ ชน้ั เรยี นเปน็ การมาเจอ กนั ในชว่ งเวลาสนั้ ๆ ซงึ่ กด็ มี ากครบั แตผ่ มกอ็ ยากใหเ้ ขามกี ารศกึ ษาอยา่ ง ตอ่ เนื่องด้วย การออกไปใชช้ วี ติ นอกมหาวทิ ยาลยั นนั้ ไมง่ า่ ย และการเดนิ ทางตาม ลำ� พงั กเ็ ปน็ เรอื่ งยาก การมกี ลมุ่ มชี มุ ชนทไี่ วเ้ นอ้ื เชอื่ ใจทจี่ ะคอยชว่ ยเหลอื กันจะช่วยได้มาก คนที่จบออกไปแล้วพอได้กลับมาเจอกันก็คล้ายการ กลับมาเจอกนั ท่ีแหล่งนำ�้ ไดก้ ลบั มาชารจ์ พลัง แน่นอนว่าแหลง่ พลงั งาน ท่ีดีท่ีสุดน้ันอยู่ภายในตัวเรา แต่ชุมชนคือส่วนท่ีจะช่วย ที่จะเกื้อกูล ใหแ้ ตล่ ะคนกลบั มาเชอื่ มโยงกบั แหลง่ พลงั ในตวั เองไดด้ ขี นึ้ เพราะในสงั คม ปจั จบุ ันน้ีเราจะร้สู ึกแปลกแยก โดดเดี่ยว ท่ามกลางฝูงชนไดง้ ่าย ศิษย์เก่าหลายคนพูดว่า เขาเพิ่งจะเข้าใจสิ่งท่ีพูดไว้ในช้ันเรียนก็ เมื่อเขาจบไปแล้ว เพ่ิงเข้าใจส่ิงท่ีผมพยายามบอกว่า ‘มันส�ำคัญนะ’ ก็ เมื่อได้ใช้ชีวิตคนท�ำงาน ตอนเรียนเขาไม่เห็นความส�ำคัญเพราะยังไม่มี ประสบการณช์ วี ติ ตอ้ งรอจนมปี ระสบการณช์ วี ติ จงึ จะเขา้ ใจสง่ิ ทเี่ คยเรยี น แลว้ เขาจะกลบั ไปทำ� ความเขา้ ใจสง่ิ นน้ั ใหมอ่ กี ครงั้ แลว้ กเ็ กดิ เปน็ การเรยี น รแู้ ละเขา้ ใจใหม่ การมาเจอกนั แบบนก้ี เ็ รยี กวา่ เปน็ ชมุ ชนผปู้ ฏบิ ตั ิ (com- munity of practice) รปู แบบหนึง่ ครบั ห้องเรียนเปลยี่ นโลก 127
ขณะนีค้ ลาส NREM ปิดคอรส์ แลว้ คิดวา่ ตวั เราและเพื่อนๆ ของเราท่ี เรยี นดว้ ยกนั มกี ารเปลย่ี นแปลงบ้างไหมคะ นรุตม์ เหลา่ นิพนธ:์ พวกเราก็เปล่ียนทางความคิดกันทุกคน จากท่ีเคยมองอยู่มุมเดียว ก็เห็นมุมอื่นมากข้ึนและยอมรับแง่มุมใหม่ๆ น้ันด้วย แต่เพ่ือนบางคนก็ ดูจะเปลี่ยนมากในเชิงพฤติกรรม คือมีลักษณะของการรณรงค์อยู่นิดๆ ตลอดเวลา จติ รณา เกง่ การนา: คลาสนส้ี ง่ ผลกบั ทกุ คน เปลย่ี นมากนอ้ ยตา่ งๆ กนั ไป หนคู ดิ วา่ โปรเจค็ ของทกุ คนเป็นสง่ิ ทท่ี ำ� ให้เปล่ียนอยา่ งมาก ตวั หนูเองทำ� เรอื่ งกระตกิ น�้ำ ก็ ชวนคนอนื่ ในคลาสก็ชวนกันใช้ เพื่อนสนิทของหนูคนหน่ึงก็เปลี่ยนมาก เราคุยเร่ืองช้ันเรียนนี้บ่อย ปกติเขาเป็นหัวเศรษฐกิจ เวลาเราคุยกัน เขาก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับหนู แต่พอได้อา่ นอิชมาเอล หนูว่าส่งิ นี้เปน็ ปัจจัยทพ่ี ลิกความคิดของเขามาก 128 NREM
การเรยี นการสอนแบบคลาส NREM จะนำ� ไปใช้ในชัน้ เรยี นอื่นๆ ได้ไหม คะ นรุตม์ เหลา่ นพิ นธ์: ผมอยากให้มีการเรียนการสอนแบบนี้เพิ่มข้ึน แต่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะการบังคับ เพราะเด็กไทยไม่ได้ถูกฝึกมาให้เรียนแบบน้ี ถ้าเขาไม่ ชอบ ไมอ่ ยากเรียน ไมส่ นใจ กจ็ ะไม่ได้อะไรเลย ชั้นเรยี น NREM เปิดให้ ได้ลองเรียน ให้ผู้เรียนได้ตกลงใจ และผู้สอนก็คัดเลือกด้วย คลาสของ เรากเ็ ลยไปได้ อย่างไรก็ตาม ผมก็เหน็ วา่ คลาสเรียน NREM ดมี ากครับ ดมี ากๆ เพยี งแต่อาศัยเวลาและคอ่ ยเป็นคอ่ ยไป จิตรณา เกง่ การนา: หนูคิดว่าต้องอาศัยทั้งตัวครูและตัวนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัว นกั เรยี น ถา้ เขาไมเ่ ปดิ ใจทจ่ี ะเรยี น ไมเ่ ปดิ ใจทจี่ ะฟงั เขาแทบจะไมไ่ ดอ้ ะไร เลยจากการเรียนรูแ้ บบน้ี ครตู ้องเปน็ คนทีท่ �ำในสิ่งทตี่ วั เองสอนได้ เช่น ครูบอกวา่ เราควรฟงั โดยไม่ตัดสิน ถ้าครูท�ำไม่ได้ ครูเอาตัวเองเป็นหลัก การเรียนการสอน แบบนก้ี ็คงเปน็ ไปไมไ่ ด้ จบเลย หอ้ งเรียนเปล่ียนโลก 129
นรตุ ม์ เหลา่ นพิ นธ์: ครคู งตอ้ งกลบั มาโฟกัสทีต่ ัวผูเ้ รียนมากๆ ดูว่าเขาสนใจอะไร พรอ้ ม แคไ่ หน ไปตอ่ ได้แคไ่ หน ต้องมกี ลยุทธพอสมควรเลยครบั ชน้ั เรียน NREM เหมาะกับคนแบบไหน และ ไม่เหมาะกับคนแบบไหน สัณหส์ ินี บญุ กิจ: เหมาะกบั คนท่ีเปดิ ใจ พรอ้ มทจ่ี ะเปล่ียนแปลง พร้อมท่จี ะยอมรบั ตวั เอง ยอมรับคนอื่น ต้องเป็นคนท่ีพร้อมต่อการเปล่ียนแปลงเพราะตลอด การเรียนน้ีเราจะพบแต่การเปล่ียนแปลงท้ังตัวเราและคนรอบๆ ตัวเรา ถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เราจมปลักอยู่กับตัวเองเรียนคลาสน้ีก็จะไม่ ไดอ้ ะไร สธุ ินี ศริ ิโสดา: หนวู า่ คลาสนเ้ี หมาะกบั คนทม่ี เี วลาทจี่ ะใหก้ บั คลาสนค้ี ะ่ คอื เราทกุ คน ก็มเี วลาเท่ากันแหละนะ แตบ่ างคนอาจจะเอาเวลาไปลงกับเกมส์ กค็ งไม่ ค่อยเหมาะกับคลาสนี้ อยา่ งน้อยถ้าจะเรยี นวชิ านก้ี ็ตอ้ งวา่ งทกุ บ่ายวันพธุ “ตอ้ ง วา่ ง ทุก บา่ ย วันพธุ ” (หัวเราะ) ถ้าทำ� อย่างน้เี ราก็จะไดป้ ระโยชน์ จากชนั้ เรียนมากๆ เลยคะ่ หนเู องหัวด้อื เอาเหตผุ ลตัวเองนำ� พอเรียนแลว้ ตัวหนูยงั เปลีย่ นเลย 130 NREM
ค่ะ หนูคิดว่าคลาสน้ีก็เหมาะกบั ทกุ คนแหละ แต่ตอ้ งมเี วลาค่ะ รัชพล ปลูกออ้ ม: เหมาะกบั คนทอ่ี ยากเจออะไรใหมๆ่ อยากลองเจอสงิ่ ทต่ี า่ งไปจากเดมิ จรงิ ๆ กไ็ มไ่ ดจ้ ำ� กดั วา่ ตอ้ งเปน็ คนแบบไหน แตอ่ ยา่ งนอ้ ยกต็ อ้ งอยากเรยี น รตู้ วั เอง สนใจชวี ติ สนใจวา่ เราจะทำ� อะไรไดบ้ า้ ง และกส็ นใจอยากจะเขา้ ใจ ผู้อนื่ เหมาะกบั คนทอ่ี ยากจะเหน็ องคป์ ระกอบของโลก คน ความสมั พนั ธ์ ไม่เหมาะกับคนท่ีไม่อยากรับรู้ ไมอ่ ยากเปล่ยี นแปลง ไมเ่ หมาะกับ คนทีอ่ อกจะสิ้นหวัง ยอมแพ้ เห็นวา่ โลกกเ็ ปน็ แบบนี้ ห้องเรยี นเปลย่ี นโลก 131
หนเู คยบอกวา่ โตขึน้ อยากเป็นอาจารย์ เปน็ NREM ครสู อน ไมร่ ู้อ.เอเชยี กบั พเ่ี กกิ๊ จำ� ไดไ้ หม แลว้ หนูก็เคยบ่นว่าจะไปหาคลาสแบบ NREM อีกได้ทไี่ หน แลว้ อาจารยก์ บ็ อกให้สร้างมัน ขึน้ มาเลย ยงั กับ inspiration เพราะจริงๆ หนกู เ็ คยคดิ วา่ ถา้ โตขนึ้ กจ็ ะเอาการสอนแบบ คลาสนี้แหละไปประยุกต์ใช้ ให้เร่ิมต้ังแต่ การ tune in กอ่ นเรียนเลย และกอ็ ยากเหน็ คลาสท่ีนักเรียนมีค�ำถามพูดคุยกัน active learning แบบน้ีนแ่ี หละ มนั นา่ จะสร้างการ เรียนรูร้ ว่ มกัน และเป็นประโยชนก์ ับตัวเขา ต่อไปในอนาคตแน่ๆ...แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าต่อ ไปจะไดท้ ำ� จรงิ ไหม...แตถ่ า้ มโี อกาสกจ็ ะลอง ท�ำดแู นๆ่ ^_^ 132
136 NREM
รปู นเ้ี กดิ ขน้ึ มาในหวั อยบู่ อ่ ยๆ มนั เกดิ ขน้ึ เปน็ ประจำ� ในเวลาทผ่ี มคดิ เร่อื ยเปือ่ ยอยู่คนเดยี ว เป็นรปู ตน้ ไมอ้ ย่รู มิ ซ้าย ด้านหนา้ เปน็ ทะเล มีดวง อาทติ ย์ใกลต้ ก เปน็ ภาพทผ่ี มคดิ ถงึ ทไี รกร็ สู้ กึ หดหมู่ าก (ซง่ึ กไ็ มร่ วู้ า่ ทำ� ไม ถึงคดิ ออกมาเปน็ รปู แบบนี)้ ผมว่ามันแสดงถึงความผิดหวังของโลกใบนี้ มันใกล้จบลงไป แตใ่ นคลาส NREM ผมเตมิ ดอกไมช้ อ่ เลก็ ๆ ไวท้ ่ีก่งิ กิง่ หนงึ่ เพอื่ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ภายใตค้ วามผดิ หวงั มดื มน ยงั คงมดี อกไมบ้ านให้ เหน็ ความสวยงาม ความสดใส ผมไดแ้ รงบนั ดาลใจมากจากเพลงดอกไม้ จะบานที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแต่ง แต่ทุกครั้งที่ผมฟังมันดูเป็นเพลงท่ีให้ ความหวังส�ำหรับคนรุ่นใหม่ๆ มาก (แต่ในใจก็แอบคิดว่าท�ำไมให้ ความรู้สึกเหมือนเพลงแนวการเมือง) ผมก็เลยเลือกรูปน้ีมาเติมดอกไม้ ครบั หวังว่าคลาสน้ีและตัวผมจะเป็นหนงึ่ ในดอกไม้ของช่อน้ัน We are the leaf of one tree. We are the wave of one sea. We are the star of one sky. The time has come for all to live as one. หอ้ งเรียนเปลีย่ นโลก 137
VI ความสขุ ของการเปน็ ครู
อยากถามอาจารย์เอเชียวา่ ทำ� ไมถึงยังเป็นครู ยังคงสอนนกั ศึกษาเปน็ ครง้ั คราว ทัง้ ทล่ี าออกจากราชการแลว้ และมีการงานอ่นื ๆ ให้ทำ� อกี เยอะ แยะ คำ� ตอบแรกก็คือ เป็น เสียงเพรียกจากภายในทบ่ี อกว่า ‘เราควรจะ ท�ำส่งิ นี้’ ถ้าตอบอีกแบบหน่ึงก็คือ การเป็นครูเป็นภารกิจของชีวิต ค�ำว่า ‘ภารกจิ ของชวี ติ ’ บางคนอาจจะผา่ นการคดิ วเิ คราะห์ ประเมนิ แตส่ ำ� หรบั ผม ผมไม่ไดค้ ดิ แบบนั้น --- ส�ำหรับตัวผม ภารกิจของชวี ติ หมายถงึ ห้องเรียนเปลย่ี นโลก 139
การพาตัวเองไปอยู่ในสนาม พาตัวเองไปอยู่ Flow ไปอยู่ในท่ที ี่เราควรจะ อยู่ และเมอื่ เราไปอยตู่ รงนน้ั แลว้ เมอื่ เรายอมใหต้ วั เองอยใู่ นเงอื่ นไขปจั จยั และบรบิ ทนั้นๆ แล้ว จกั รวาลกจ็ ะเผยปรากฏผา่ นคุณ เรากจ็ ะไดท้ �ำงาน บางอย่างทจ่ี ักรวาลสง่ ใหเ้ รามาท�ำ --- ฟังดนู ิวเอจ นอกโลกไปสกั หน่อย นะครับ (ย้ิม) ส�ำหรับผม ภารกิจแห่งชีวิตเกิดขึ้นผ่านการใช้ชีวิต ไม่ไดเ้ กิดข้ึนเพราะการวิเคราะห์ ไมใ่ ช่เพราะผมเรยี นจบดา้ นน้ี ผมถนัด สง่ิ นี้ ถา้ ทำ� เรอื่ งนแี้ ลว้ จะเกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คม บลา บลา บลา --- บางที ภารกจิ ของชวี ติ เกดิ เพยี งวา่ เราทำ� สง่ิ นี้ไดด้ ี เรารกั ทจ่ี ะทำ� เมอื่ ทำ� แลว้ มนั เกิดประโยชน์ต่อโลก ตอบแบบมนุษยก์ ็คือ การเปน็ ครู เปน็ สงิ่ ทีเ่ ราจะสร้างประโยชน์ให้ โลกและเพอ่ื นมนุษย์ได้ดีท่ีสุดอยา่ งหนึง่ ทเ่ี ราท�ำได้ สำ� หรับคนทตี่ อ้ งเปน็ ครโู ดยความจำ� เปน็ ไม่ได้อยากท�ำแต่จำ� ต้องท�ำ อาจจะเพราะเรียนจบมาทางดา้ นนี้ จับพลัดจบั ผลูตอ้ งเปน็ ครู-อาจารย์ เพื่อใช้หนี้ ใช้ทนุ ฯลฯ ครู-อาจารยเ์ หลา่ นี้จะวางใจอยา่ งไร คนท่ีเป็นครูตามเงื่อนไขปัจจัย อาจจะเพราะทุนบังคับ หรือเพราะ ครอบครวั บงั คบั หรอื เพราะการศกึ ษาบงั คบั ใดๆ กต็ าม ผมคดิ วา่ อาชพี ครู เป็นโอกาส เป็นสนามท่ใี ห้คนๆ นั้น ไดเ้ ปล่งศกั ยภาพ ใหเ้ ขาได้ประโยชน์ และใหป้ ระโยชน์ ทงั้ กบั ตัวเองและ/หรือคนอ่นื ไมว่ า่ เขาจะเลือกเองหรอื เง่อื นไขบังคบั แต่ไหนๆ กต็ อ้ งทำ� แล้ว ก็ดีกว่ามิใชห่ รอื ที่จะทำ� ด้วยความ ตงั้ ใจใสใ่ จตามเงอื่ นไขทม่ี ีณตรงนน้ั แทนทจ่ี ะมวั จดจอ่ อยวู่ า่ เราไมอ่ ยากทำ� 140 NREM
มีนักศึกษาในคลาสของผมคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กดี เรียบร้อย เป็นผ้าพับไว้ การพูดแบ่งปนั ในช้ันเรียนทกุ คร้ังแทบจะเปน็ เรอ่ื ง เดิมประเด็นเดิม จนผมมีความรู้สึกว่าแค่เธออ้าปากผมก็รู้แล้ว ว่าจะได้ฟงั อะไร สง่ิ ที่ผมมกั จะทำ�โดยไมร่ ตู้ วั กค็ อื เมื่อนกั ศึกษา คนนี้เริ่มพูด ผมก็ลุกไปเข้าห้องนำ้ � หรือเช็คมือถือ หรือก้ม ตรวจการบ้าน เหล่านี้ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่มันเป็นพฤติกรรม unconscious ของผม เปน็ ระบบขบั เคลอ่ื นอัตโนมัติ วนั หน่ึง เขาถามผมวา่ “อาจารยไ์ มช่ อบหนเู หรอคะ เพราะทกุ ครง้ั ทห่ี นพู ดู อาจารย์ไม่สนใจหน”ู ตอนน้ันผมรสู้ กึ หนา้ ชา เหมอื นถูกตบหนา้ กลางท่ีสาธารณะ เราท�ำเพราะเงือ่ นไข บลา บลา บลา ลองย้ายพลงั งานไปที่ใหม่ ลองตั้ง หลักเสียใหม่ว่า น่ีคืองานท่ีอยู่เบ้ืองหน้า เป็นสิ่งดีงาม เป็นโอกาสในการ สรา้ งความดีงามในโลก กท็ ำ� ไปกอ่ น แล้วถ้ารสู้ ึกว่าไม่ใช่ ก็ค่อยๆ ส�ำรวจ ไปวา่ แลว้ เราเหมาะทจี่ ะทำ� อะไร แทนทจี่ ะทำ� แบบเสยี ไมไ่ ด้ ไมเ่ ตม็ ใจ กใ็ ห้ ทำ� อยา่ งเตม็ ท่ี แล้วหากไมใ่ ช่ก็คอ่ ยเลอื่ นไปท�ำอยา่ งอ่นื ไมเ่ สียหายอะไร ส�ำหรับผม การสอนวิชานเ้ี หมอื นการข้นึ รถไฟเหาะตีลงั กา อดุ มไป ด้วยความตื่นเต้น น่าสนใจ แต่พร้อมกันนั้นก็เต็มไปด้วยความหวั่นไหว และหว่ันกลัว ทุกครั้งก่อนเข้าช้ันเรียนคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าช้ันเรียน ของวันนจ้ี ะเป็นอยา่ งไร ไมม่ ที าง --- อาจจะมีเดก็ วนี อีโม (emotional) หอ้ งเรียนเปลี่ยนโลก 141
หรือแม้แตต่ ัวเราจะเปน็ อย่างไรบา้ ง เราอาจจะคาดเดาการเรยี นการสอน ไดบ้ ้าง เตรยี มการได้ แต่หลายตอ่ หลายคร้ังทีค่ ลาสไมไ่ ด้จบอยา่ งท่คี าด ไว้เลย บางทีแค่เช็คอินก็ปาเข้าไป 2 ชั่วโมง เพราะมีเรื่องที่จะต้องดูแล และท�ำให้เข้าใจได้จริงๆ ว่าท�ำไมครูจ�ำนวนมากจึงไม่อยากสอน ไม่กล้า สอน เพราะชนั้ เรียนทม่ี ีชวี ติ นัน้ พร้อมจะท�ำใหเ้ ราหน้าแตก ทำ� ให้เรารวู้ า่ เราไม่มคี วามสามารถ เราโง่ เรานา่ อาย ทุกคร้ังที่เข้าช้ันเรียน บางคร้ังผมรู้สึกเหมือนเข้าสู่สนามรบ เพราะ ไมม่ ที างรเู้ ลยวา่ ในชน้ั เรยี นวนั นจ้ี ะเกดิ อะไรขนึ้ เดก็ คนไหนจะวนี ตอ่ มไหน ของเราจะถกู กระตนุ้ เปน็ พเิ ศษ ดา้ นหนงึ่ คอื การเขา้ ไปทำ� หนา้ ทผี่ สู้ อน แต่ อกี ดา้ นกเ็ ปน็ การเขา้ ชน้ั เพอื่ เรยี นรตู้ วั เองอยา่ งมาก เพอื่ ทต่ี วั ผมจะไดร้ จู้ กั ตวั เอง ไดเ้ หน็ สภาวะของตวั เองทข่ี น้ึ -ลง ไดร้ วู้ า่ ความรขู้ องเราลกึ แคไ่ หน เราฝกึ ตวั เองมาแคไ่ หนแลว้ ทกุ ครงั้ ของการเขา้ ชนั้ เรยี นในบรบิ ทของการ เป็นครู ผมมีเรอ่ื งใหเ้ รียนมากมายมหาศาล เพียงแคเ่ ราหรีค่ วามคดิ ทว่ี า่ เราถูกบังคับให้มาสอน หรีค่ วามไมพ่ อใจของเรา แล้วหันมามองสง่ิ ทเี่ รา ได้เรียนร้ตู รงหนา้ หากครูไดม้ องความสขุ ในการเปน็ ครใู นทศิ ทางแบบนี้ บา้ ง ชวี ติ ครูก็มคี วามสุขมากครบั และเปน็ ความสขุ ทหี่ าได้ง่ายมาก เปน็ ความสขุ สำ� เรจ็ รูป ทนั ทที นั ใด ไมต่ ้องเตมิ น�ำ้ ร้อนด้วยซ�้ำ (ย้มิ ) การจะมีความสขุ ส�ำเรจ็ รูปอย่างท่อี าจารย์ว่ามา คนเปน็ ครูต้องเตรยี ม ตัวอยา่ งไร เราต้องมีวิธี grounded เช่น หัดการอยู่กับเน้ือกับตัว ท�ำการบ้าน 142 NREM
เตรยี มใจ และยอมรับความจรงิ ผมคดิ วา่ Honesty is the best policy (ความสัตย์ซ่ือจริงใจเป็นนโยบายท่ีดีที่สุด) บอกกับนักศึกษาของเราว่า อะไรก�ำลังเกิดขึ้น เราก�ำลังรู้สึกอย่างไร ช้ันเรียนนี้เป็นช้ันเรียนของผม (ผู้สอน) เท่าๆ กับเป็นช้ันเรียนของนักศึกษาด้วยเช่นกัน ส่ิงนี้ท�ำให้ครู ไดเ้ ชอ่ื มโยงกบั ตัวเอง เรยี นรู้ตัวเองมากข้นึ เรอื่ ยๆ มีนักศึกษาในคลาสของผมคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กดี เรียบร้อยเป็นผ้า พับไว้ การพูดแบ่งปันในช้ันเรียนทุกครั้งแทบจะเป็นเรื่องเดิมประเด็น เดิม จนผมมีความรู้สึกว่าแค่เธออ้าปากผมก็รู้แล้วว่าจะได้ฟังอะไร สิ่ง ที่ผมมักจะท�ำโดยไม่รู้ตัวก็คือ เมื่อนักศึกษาคนน้ีเริ่มพูด ผมก็ลุกไปเข้า ห้องน้ำ� หรือเชค็ มอื ถอื หรอื ก้มตรวจการบา้ น เหล่านีผ้ มไมไ่ ด้ต้งั ใจ แต่ มันเป็นพฤติกรรม unconscious ของผม เป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ วันหนึ่งเขาถามผมว่า “อาจารย์ไม่ชอบหนูเหรอคะ เพราะทุกครั้งท่ีหนู พดู อาจารย์ไม่สนใจหน”ู ตอนนน้ั ผมรูส้ กึ หน้าชา เหมอื นถูกตบหนา้ กลาง ทส่ี าธารณะ ผมอาย ตอนนน้ั เหมอื นผมกำ� ลังอยู่บนทางแยก ทางหนึ่งคือ กลบเกลอ่ื น เสแสรง้ อกี ทางหนง่ึ คอื ซอ่ื สตั ยแ์ ละจรงิ แทก้ บั ตวั เอง ซง่ึ ไมใ่ ช่ เรอ่ื งงา่ ย ผมเลอื กทางทสี่ อง ผมขอโทษเธอ และผมบอกวา่ ผมจะพยายาม ทำ� ใหด้ ขี น้ึ ไดอ้ ยา่ งไร --- มนั ไมง่ า่ ยหรอกนะครบั เมอื่ เรอ่ื งราวแบบนเี้ กดิ กับเรา มนั ยากทีเดยี ว ครตู อ้ งมี orientation ทดี่ สี ำ� หรบั ตวั เอง ฝกึ ทจี่ ะรแู้ ละเขา้ ใจกลไกการ เกิดความทุกข์ในตัวเรา เมอ่ื มคี วามคาดหวงั เราจะทกุ ข์ ผมคดิ วา่ สิง่ ทค่ี รู หอ้ งเรยี นเปล่ยี นโลก 143
นา่ จะทำ� คอื เรานา่ จะรว่ มกนั สรา้ งชนั้ เรยี นใหเ้ ปน็ พนื้ ทเี่ รยี นรรู้ ว่ มกนั ของ เรากบั นกั เรยี น สรา้ งสรรคส์ งิ่ ดๆี ดว้ ยกนั เฝา้ มองความงอกงามทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ จะงอกไดม้ ากนอ้ ยก็เป็นอกี เรื่องหนงึ่ เราจะทุกขถ์ ้าตั้งความหวงั วา่ อยากให้งอกทงั้ รอ้ ยเปอร์เซน็ ต์ หรอื งอกสัก หา้ สบิ เปอร์เซน็ ต์ แตถ่ า้ เรามองเสียใหม่ใหเ้ ป็นการเรยี นรู้รว่ มกัน เรยี น รวู้ า่ องค์ประกอบแบบไหนท่จี ะท�ำใหง้ อกเร็ว องค์ประกอบแบบไหนงอก ชา้ องค์ประกอบแบบไหนไม่งอก ทกุ ครงั้ ทจ่ี บการสอน คนใกลช้ ดิ จะรวู้ า่ สภาพภายนอกของผมคอื นอน สลบเหมอื ด เหมอื นถกู สบู พลงั แตภ่ ายในนนั้ มคี วามสขุ มาก เปน็ ความสขุ ทะลชุ ารต์ ซง่ึ ผมมคี วามสขุ อยา่ งนหี้ ลายตอ่ หลายครงั้ แมว้ า่ จะมเี รอื่ งยากๆ ในคลาสก็ตาม การสอนทุกคร้ังใช้พลังเยอะมากเพราะเราต้องให้ความ สนใจกับคนทุกคน ตลอดเวลา 3-4 ช่ัวโมง เราต้องรักษาพลังในคลาส และรักษาระดับพลังของตัวเองตลอดเวลา เหน่ือยมากครับแต่พร้อมกัน นนั้ มนั กใ็ ห้ผลตอบแทนทค่ี มุ้ ค่ามาก ในมติ ิหนึ่งมนั จงึ เปน็ การท�ำงานทใ่ี ห้ พลงั มาก แตพ่ ร้อมกันนั้นมันก็สบู พลังในขณะนน้ั ๆ เยอะมากด้วย ถา้ จะ เทียบกับการรูดบัตรเครดิตก็คือ เรารูดบัตรจนเต็มวงเงินแต่การรูดบัตร นนั้ ท�ำให้เราไดว้ งเงนิ เพิม่ ขึน้ ด้วย ผมคิดว่า มนุษย์ควรเรียนรู้ที่จะหาความสุขจากสิ่งท่ีมี จากตรงนี้ ขณะน้ี คนจำ� นวนมากทกุ ขเ์ พราะโหยหาสงิ่ ท่ีผ่านมาแล้ว หรอื ไขวค่ วา้ สิง่ ทย่ี งั มาไมถ่ งึ หาความสขุ ท(่ี อาจจะ)อยใู่ นอนาคต ความสขุ ของคนเปน็ ครู 144 NREM
คอื การเปน็ ครู การไดอ้ ยกู่ บั นกั เรยี นทอี่ ยตู่ รงหนา้ ตรงไปตรงมามากเลย ครับ ถ้าครูไม่มีความสุขกับการเป็นครูแล้วเราจะหาความสุขจากที่ไหน เราท�ำใหว้ ชิ าชีพครเู ปน็ ทางออกของชวี ติ ได้นะครบั อาชพี ครูเป็นอาชพี ท่ี สร้างความสขุ ไดง้ ่าย ท้ังความสขุ ที่เกดิ จากการเปน็ ครู ความสขุ จากการ ทำ� งาน และ ความสุขจากการเรยี นรู้ ห้องเรยี นเปลยี่ นโลก 145
VII ผลสบื เนอ่ื งจากคลาส NREM
คืนส่เู หย้า สมั ภาษณ์ศิษย์เก่า NREM
พัฒอนัญฌ์ เผือกสงู เนนิ (เมย์) เจ้าหนา้ ที่พัฒนาองค์กรธุรกจิ เซรามคิ บริษัท เซรามิคซิเมนตไ์ ทย จำ�กดั ศษิ ย์เก่า NREM04
อยากใหเ้ มยเ์ ล่าถงึ สถานการณ์ชีวิตปจั จุบัน ทำ� งานท่ีไหน รบั ผดิ ชอบ อะไรบา้ ง ขณะนที้ ำ� งานเปน็ พนกั งานบรษิ ทั เอกชน เปน็ นกั พฒั นาองคก์ ร มหี นา้ ที่หลักคือจัดฝึกอบรมให้กับพนักงานระดับหัวหน้างาน (supervisor) ที่ อย่ใู นเครือ SCG (บมจ.ปนู ซิเมนต์ไทย) เพื่อจะให้เขาเป็นหัวหน้าทดี่ ี ฟัง ลูกน้องเป็น มีทักษะพ้ืนฐานในการเป็น life coach และ performance coach ใหเ้ ขาดแู ลลกู นอ้ งไดท้ ง้ั ในมติ ขิ องการทำ� งานและการแกป้ ญั หาชวี ติ เพ่ือให้พนักงานระดับล่างมีความสามารถท่ีจะพัฒนาและขยายศักยภาพ ของตนเองได้ --- ปัญหาที่แท้จริงของพนักงานที่เป็นแรงงานส�ำคัญใน สายการผลติ ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งทกั ษะความรู้ในการทำ� งานเทา่ นนั้ แตส่ ว่ นใหญม่ กั ตดิ เรอ่ื งปญั หาส่วนตัว ปญั หาครอบครัว หนสี้ นิ เป็นปญั หาทเ่ี กดิ ซำ้� ไปซำ้� มา เชน่ ติดอบายมุข เป็นหนี้ ลาออกเพราะหนหี นี้ เกดิ ปัญหาครอบครวั ดังนั้น การให้ทักษะชีวิตจึงเป็นสิ่งส�ำคัญที่จะท�ำให้เขาดูแลตัวเองได้และ ดแู ลลกู นอ้ งได้ การอบรมทีใ่ หเ้ ฉพาะความรู้ เทคนคิ ในการทำ� งานเป็นการส่งเสริม ใหพ้ นกั งานทำ� งานเกง่ ขนึ้ แตถ่ า้ เขาแกป้ ญั หาชวี ติ ไมไ่ ด้ หนปี ญั หาชวี ติ ตวั เองไมพ่ น้ แบกเอาความทกุ ขจ์ ากบา้ นมาทำ� งานดว้ ย เขากจ็ ะทำ� งานไมไ่ ด้ อยูด่ ี ถ้าหวั หนา้ รจู้ ักฟงั ลกู นอ้ ง มคี วามสามารถทีจ่ ะเห็นปัญหาและความ ซบั ซอ้ นของปญั หา เขาจะชว่ ยลกู นอ้ งไดม้ ากกวา่ เชน่ ปญั หาเรอื่ งลกู นอ้ ง ติดหน้ี การเคลียร์หนี้ไมใ่ ช่การเอาเงินไปย่นื ให้ลกู น้องไปใช้หน้ี แต่ทำ� ให้ 150 NREM
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216