คูม่ ือสอ่ื มวลชน งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร วันที่ ๒๕-๒๙ ตลุ าคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
ค�ำ น�ำ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตเม่ือวันพฤหัสบดีท่ี ๑๓ตลุ าคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เวลา ๑๕ นาฬกิ า ๕๒ นาทีสริ พิ ระชนมพรรษาปที ่ี ๘๙ ทรงครองสริ ริ าชสมบตั ไิ ด้ ๗๐ ปี การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร นบั เปน็ความสูญเสียคร้ังยิ่งใหญ่ส�ำหรับพสกนิกรชาวไทย และประชาคมโลก พระราชกรณียกิจนานัปการตลอดรัชสมัยของพระองค์สะท้อนให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณพระอัจฉริยภาพ และความมุ่งม่ันพระราชหฤทัยท่ีจะทรงครองแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ทรงอุทิศพระองค์เพ่ือส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยใหพ้ ฒั นาไปอยา่ งยง่ั ยนื จนเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์แก่สาธารณชน เปน็ ที่ยอมรับและสดุดีของนานาชาติ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรจัดพิมพ์หนังสือคู่มือส่ือมวลชนเล่มนี้ข้ึน เพ่ือให้ข้อมูลพน้ื ฐานทสี่ ำ� คญั และจำ� เปน็ ในการปฏบิ ตั งิ าน ไดแ้ ก่ ความรู้เรอ่ื งพระราชประวตั ิ พระราชกรณยี กจิ โบราณราชประเพณีการถวายพระเพลงิ พระบรมศพ หมายกำ� หนดการพระราชพธิ ี
ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ระหว่างวันท่ี ๒๕-๒๙ตลุ าคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ การเชิญพระโกศพระบรมศพเพ่ือถวายพระเพลิง ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวงการเชิญพระบรมอัฐิ และพระบรมราชสรีรางคารกลับสู่พระบรมมหาราชวัง ซ่ึงล้วนมีแนวทางปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นงานมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ คู่มือส่ือมวลชนเล่มน้ียังได้ให้รายละเอียดเร่ืองสถานที่ปฏิบัติงานของส่ือมวลชน การให้บริการต่าง ๆในศูนย์สื่อมวลชน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติอย่างสูงสุดแด่พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร คณะกรรมการฝา่ ยประชาสมั พนั ธ์ งานพระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร
สารบัญคพพบ�ำรรรนะมะบรำ�นาาาชทถปสบมรพะเดิตว็จรตั พิ ระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช ๒ ๑๑ • พระราชประวัติ ๑๓ • พระราชกรณียกิจ ๒๕ • เสดจ็ สวรรคต ๕๗บพการรระมจบนดั าางทถาสบนมพพเดริตะ็จรรพารชะพปิธรถี มวนิ าทยรพมรหะาเพภลมู งิพิ พลรอะดบลุ รยมเศดพช ๖๑ • โบราณราชประเพณีการถวายพระเพลงิ พระบรมศพ ๖๓ • หมายกำ�หนดการงานพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ ๗๓ • การจัดขบวนพระบรมราชอิสรยิ ยศ ๗๗พระเมรุมาศและสงิ่ กอ่ สร้าง ๙๓ภายในมณฑลพิธที อ้ งสนามหลวง ๙๓ • มณฑลพิธี ๙๗ • พระเมรมุ าศ ๑๐๑ • พระเบญจา ๑๐๑ • พระจติ กาธาน ๑๐๓ • ฉากบังเพลิง ๑๐๙ • ซ่าง หรือ สำ�สา้ ง ๑๐๙ • หอเปลอ้ื ง ๑๑๑ • ชาลา ๑๑๑ • พระท่ีนั่งทรงธรรม
• ศาลาลกู ขนุ ๑๑๕ • คด ๑๑๕ • ทับเกษตร ๑๑๕ • ทมิ ๑๑๗ • พลับพลายก ๑๑๗ • ราชวัติ ๑๑๙ • สตั วห์ มิ พานต์ ๑๑๙สงิ่ กอ่ สร้างภายนอกมณฑลพธิ ที ้องสนามหลวง ๑๒๒ • เกยลา ๑๒๒ • พลบั พลายก ๑๒๓เครื่องสูงสำ�คญั ส�ำ หรับพระบรมราชอสิ รยิ ยศ ๑๒๔ • ฉตั ร ๑๒๗ • ฉัตรแขวนหรือปัก ๑๒๗ • ฉัตรท่ีใช้ประดับบนยอดพระโกศพระบรมอัฐิ ๑๒๗ • ฉัตรปักพระเบญจา ๑๒๘ • ฉตั รสำ�หรบั ตั้งในพธิ ี ๑๒๘ • นพปฎลมหาเศวตฉัตร ๑๒๘พระโกศ ๑๓๑ • พระโกศจันทน์ ๑๓๑ • พระโกศทองใหญ่ ๑๓๔ • พระโกศพระบรมอัฐิ ๑๓๕ • ช่อไมจ้ ันทน์ ๑๓๙
ราชรถ ราชยาน ๑๔๑ • ความหมายของราชรถ ราชยาน ๑๔๑ • พระมหาพิชยั ราชรถ ๑๔๕ • เวชยันตราชรถ ๑๔๗ • ราชรถนอ้ ย ๑๔๙ • ราชรถปนื ใหญ/่ ราชรถรางปนื ๑๕๑ • พระที่นั่งราเชนทรยาน ๑๕๓ • พระทีน่ ่งั ราเชนทรยานน้อย ๑๕๕ • พระยานมาศสามลำ�คาน ๑๕๕ • พระเสลี่ยงกลีบบัว ๑๕๙ • พระเสลี่ยงแวน่ ฟา้ ๑๕๙ • เกรนิ บันไดนาค ๑๖๑ • เครอ่ื งแตง่ กายสำ�หรบั รว้ิ ขบวนพระบรมราชอสิ รยิ ยศ ๑๖๒ ๑๗๗ดอกไมจ้ นั ทนแ์ ละจุดถวายดอกไม้จนั ทน์ ๑๘๒การเกบ็ พระบรมอฐั ิและพระบรมราชสรีรางคาร ๑๘๗เครือ่ งสังเค็ด ๑๙๑การแสดงมหรสพสมโภช ๑๙๖หนงั สอื ทร่ี ะลกึ และจดหมายเหตุศูนย์สื่อมวลชน ๒๐๑ • ศนู ยถ์ ่ายทอดวิทยกุ ระจายเสยี งและ ๒๑๗ ศูนยถ์ ่ายทอดวทิ ยุโทรทศั น์
“เราจะครองแผ่นดนิ โดยธรรม ”เพ่ือประโยชน์สุข แหง่ มหาชนชาวสยาม พระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จกั รีนฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธริ าช บรมนาถบพติ ร ในพระราชพิธบี รมราชาภิเษก วนั ท่ี ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓
10
พระราชประวตั ิพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร 11
พระราชประวัติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหติ ลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธริ าชบรมนาถบพติ ร เสดจ็ พระราชสมภพเมอื่ วนั จนั ทร์ ขน้ึ ๑๒ คำ่�เดอื นอา้ ย ปเี ถาะ จลุ ศกั ราช ๑๒๘๙ ตรงกบั วนั ท่ี ๕ ธนั วาคมพ.ศ. ๒๔๗๐ เวลา ๐๘.๔๕ น. (ตรงกับเวลา ๒๐.๔๕ น.ในประเทศไทย) ณ โรงพยาบาลเคมบรดิ จ์ (ภายหลงั เปลย่ี นชื่อเป็นโรงพยาบาลเมานท์ ออเบอร์น) เมืองเคมบริดจ์รฐั แมสซาชเู สตต์ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า เปน็ พระโอรสพระองคเ์ ลก็ในสมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนกและสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี พระบาทสมเดจ็พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๗ พระราชทานพระนามวา่พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ ภมู พิ ลอดลุ เดช มคี วามหมายวา่“พลงั ของแผน่ ดนิ ” มสี มเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าชและสมเดจ็พระโสทรเชษฐภคินคี ือ ๑. สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประสูติเม่ือวันท่ี ๖พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ๒. พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ลพระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลท่ี ๘ เสด็จพระราชสมภพเม่ือวนั ท่ี ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร โดยเสดจ็ สมเดจ็ พระบรมราชชนก สมเดจ็พระบรมราชชนนี สมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าช และสมเดจ็ 13
พระโสทรเชษฐภคินีนิวัตประเทศไทยเมื่อพ.ศ. ๒๔๗๑ในขณะมีพระชนมายุ ๑ พรรษาเศษ สมเด็จพระบรมราชชนกเสดจ็ สวรรคตวนั ที่ ๒๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๒การศกึ ษา ทรงศกึ ษาระดบั อนบุ าลกบั ครมู สิ ซสิ เดวสี ซงึ่ เปดิ สอนท่ีบ้าน เมื่อพระชนมายุ ๕ พรรษา ทรงเข้ารับการศึกษาชั้นต้น ณ โรงเรียนมาแตร์เดอี ต่อมาเม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๖เสด็จพระราชด�ำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนีสมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าช และสมเดจ็ พระโสทรเชษฐภคนิ ีไปประทับ ณ เมือง โลซานน์ (Lausanne) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงศึกษาชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมยี รม์ องต์ (Ecole Miremont) ทรงศกึ ษาวชิ าภาษาฝรง่ั เศสภาษาองั กฤษ และภาษาเยอรมนั จากนัน้ ทรงย้ายมาศึกษาต่อชั้นประถมศึกษาและช้ันมัธยมศึกษา ณ เอกอล นูแวลเดอลา สวิส โรม็องด์ (Ecole Nouvelle de la SuisseRomande) เมอื งไชยี ซรู ์ โลซานน์ (Chailly-sur-Lausanne)หลงั ทรงไดร้ บั ประกาศนยี บตั รทางอกั ษรศาสตร์ (Diplomede Bachelier es Lettres) จากยมิ นาส กลาซคี กังโตนาลเมอื งโลซานน์ (Gymnase Classique Cantonal Lausanne)แล้ว ทรงเลือกศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโลซานน์ในแขนงวิชาวทิ ยาศาสตร์14
ในวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๗ ทรงสละราชสมบัติคณะรฐั บาลไทยไดก้ ราบบงั คมทลู เชญิ พระโอรสพระองคใ์ หญ่ในสมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนกคอื พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ อานนั ทมหดิ ล พระชนมายุ ๙พรรษา เสดจ็ ขนึ้ ครองราชยเ์ ปน็ พระมหากษตั รยิ ร์ ชั กาลที่ ๘แห่งพระบรมราชจกั รีวงศ์ เม่อื สมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าชเสดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั เิ ปน็ พระมหากษตั รยิ ร์ ชั กาลที่ ๘ทรงไดร้ บั การสถาปนาเปน็ สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ภูมิพลอดลุ ยเดช เมอ่ื วนั ท่ี ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๘เสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการชวั่ คราว ในพ.ศ. ๒๔๘๑ โดยเสดจ็ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๘(พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล พระอฐั มรามาธบิ ดนิ ทร) นวิ ตั ประเทศไทย พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระบรมราชชนนีประทับอยู่ราว ๒ เดือน จึงเสด็จพระราชด�ำเนินกลับสวิตเซอร์แลนด์ ช่วงเวลาระหว่าง พ.ศ. ๒๔๘๓-๒๔๙๒เกิดสงครามแผ่ขยายออกไปทั่วโลก หลังสงครามในทวีปเอเชยี สน้ิ สดุ ลงเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๘๘ จงึ โดยเสดจ็ พระบาทสมเดจ็พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล นิวัตประเทศไทยเป็นครั้งทส่ี อง 15
เสด็จขนึ้ ครองราชย์ วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จสวรรคตณ พระทน่ี งั่ บรมพมิ าน คณะรฐั บาลจงึ ไดก้ ราบบงั คมทลู เชญิสมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจ้าฟา้ ภมู ิพลอดลุ ยเดช เสดจ็ ขนึ้ครองราชสมบัติ สืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์รชั กาลที่ ๙ แหง่ พระบรมราชจกั รวี งศ์ ขณะนนั้ มพี ระชนมายุ๑๘ พรรษาเศษ เฉลิมพระนามว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช และรฐั บาลไดแ้ ตง่ ตง้ั คณะผสู้ ำ� เรจ็ ราชการเพื่อบริหารราชการแผ่นดินแทนพระองค์ เนื่องจากยงั ทรงพระเยาวแ์ ละยงั ทรงมพี ระราชภารกจิ ดา้ นการศึกษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชด�ำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อเมื่อวันท่ี ๑๙สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ณ มหาวิทยาลัยโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เช่นเดิม แต่คร้ังน้ีทรงเลือกศึกษาวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ แทนวิชาวิทยาศาสตร์และวศิ วกรรมศาสตร์ทท่ี รงศกึ ษาอยู่16
ทรงหม้นั ระหว่างประทับอยู่ท่ีเมืองโลซานน์ ทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ธิดาในหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร และหม่อมหลวงบัว กิติยากรในวันท่ี ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศข่าวทรงหม้ันกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เม่ือวันท่ี ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทรงอภิเษกสมรส พ.ศ. ๒๔๙๓ เสดจ็ นวิ ตั ประเทศไทย ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล เมอ่ื วนั ท่ี๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ต่อมาในวันท่ี ๒๘ เมษายนพ.ศ. ๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากรณ พระต�ำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีพระพนั วสั สาอยั ยกิ าเจา้ ณ วงั สระปทมุ ทรงจดทะเบยี นสมรสตามกฎหมายเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิต์ิกติ ยิ ากร เป็นสมเด็จพระราชนิ ีสริ ิกติ ์ิ 17
18
พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก วันท่ี ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหม้ พี ระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกตามโบราณราชประเพณี ณ พระทน่ี งั่ ไพศาลทกั ษณิ ในพระบรมมหาราชวงัเฉลิมพระปรมาภิไธยตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหติ ลาธิเบศรรามาธบิ ดี จักรีนฤบดนิ ทร สยามินทราธิราชบรมนาถบพติ ร” และพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ทรงหล่ังทักษิโณทก ต้ังพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจปกครองราชอาณาจักรโดยทศพิธราชธรรม ขณะประทับเหนือพระทน่ี ่ังภทั รบิฐภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉตั ร ในโอกาสนี้ทรงสถาปนาสมเดจ็ พระราชนิ สี ริ กิ ติ ิ์ เปน็ “สมเดจ็ พระนางเจา้สริ ิกิติ์ พระบรมราชินี” วันท่ี ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี กลับไปสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้งเพื่อรักษาพระพลานนามัยตามท่ีคณะแพทย์ถวายค�ำแนะน�ำ และเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวรเม่ือวันท่ี ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ ประทับณ พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐาน และพระทน่ี ั่งอมั พรสถาน 19
20
พระราชโอรส พระราชธิดา พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินนี าถ มีพระราชโอรสและพระราชธดิ า ๔ พระองค์คอื ๑. ทลู กระหมอ่ มหญงิ อบุ ลรตั นราชกญั ญา สริ วิ ฒั นาพรรณวดี ประสูติเม่ือวันท่ี ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔ณ เมอื งโลซานน์ ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ ๒. สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู เสดจ็ พระราชสมภพเมอื่ วนั ที่ ๒๘ กรกฎาคมพ.ศ. ๒๔๙๕ ณ พระทน่ี ่ังอัมพรสถาน พระราชวังดุสติ ๓. สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารีเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันท่ี ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๘ณ พระท่ีนงั่ อมั พรสถาน พระราชวังดุสติ ๔. สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์อัครราชกมุ ารี ประสตู เิ มอ่ื วนั ที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ณ พระท่ีนง่ั อัมพรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ 21
22
ทรงพระผนวช วันท่ี ๒๒ ตุลาคม-๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพติ ร ทรงพระผนวช ณ วดั พระศรรี ตั นศาสดารามทรงจ�ำพรรษา ณ พระต�ำหนักปั้นหย่า วัดบวรนิเวศวิหารและปฏิบัติพระศาสนกิจเป็นเวลา ๑๕ วัน ระหว่างนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์เป็นท่ีเรียบร้อยสมกับที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย จึงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระราชอิสริยศักดิ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นับเป็นพระองค์ที่ ๒ ในพระบรมราชจักรีวงศ์ 23
24
พระราชกรณยี กิจ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ตลอดรัชสมัยของพระองค์ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปยงั ทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ ทกุ ภมู ภิ าคของประเทศ โดยเฉพาะในพน้ื ที่ชนบททุรกนั ดาร เพ่ือทรงเย่ียมเยียนและซักถามเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนดว้ ยนำ้� พระราชหฤทยั มงุ่ หวงั ใหป้ ระชาชนของพระองคพ์ น้จากความทกุ ข์ยากในการดำ� เนินชวี ิต กลา่ วกนั ว่าไมม่ แี หง่หนต�ำบลใดในประเทศไทยท่ีพระองค์ไม่เคยย่างพระบาทไปถึง การทรงงานในแต่ละพ้ืนท่ีก่อให้เกิดโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รกิ วา่ ๔,๐๐๐ โครงการ ครอบคลมุการพัฒนาชวี ิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกด้านด้านการเกษตร การชลประทาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิต พ.ศ. ๒๔๙๖ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยยี่ มราษฎรในเขตทรี่ าบภาคกลางเปน็ ครง้ั แรก และเสดจ็ พระราชดำ� เนนิขน้ึ ไปยงั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ซง่ึ ถกู ทอดทง้ิ และไมไ่ ดร้ บัการพฒั นา พน้ื ทเี่ ตม็ ไปดว้ ยความแหง้ แลง้ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๘ การเกษตรถอื เปน็ รากฐานชวี ติ ของคนไทย นำ้� คอื ชวี ติของประชาชนชาวไทยสว่ นใหญซ่ ง่ึ ประกอบอาชพี เกษตรกรรมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร จึงทรงให้ความสนพระราชหฤหัย 25
ในโครงการพฒั นาทรพั ยากรนำ�้ เปน็ พเิ ศษ ดงั พระราชดำ� รสัณ พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐานเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคมพ.ศ. ๒๕๒๙ ความตอนหน่งึ ว่า “หลกั สำ� คญั ตอ้ งมนี ำ�้ บรโิ ภค นำ้� ใชเ้ พอ่ื การเพาะปลกูเพราะว่าชีวิตอยู่ท่ีนั่น ถ้ามีน�้ำ คนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้�ำคนอยู่ไมไ่ ด้ ไมม่ ไี ฟฟา้ คนอยไู่ ด้ แตถ่ า้ มไี ฟฟา้ ไมม่ นี ำ�้ คนอยไู่ มไ่ ด”้ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริเกี่ยวกับแหล่งน้�ำโครงการแรกเกิดขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๙๖ เมื่อเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านเขาเต่า ต�ำบลหนองแก อำ� เภอหวั หนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เกดิ เหตกุ ารณ์รถยนตพ์ ระทนี่ ง่ั ตดิ หลม่ ทรงเหน็ ชาวบา้ นหาบนำ้� ดว้ ยความเหนอ่ื ยยาก จงึ พระราชทานพระราชดำ� รใิ หส้ รา้ งอา่ งเกบ็ นำ้�เขาเต่า เพอ่ื บรรเทาความแหง้ แลง้ และความเดอื ดรอ้ นของราษฎรจากการขาดแคลนนำ�้ อปุ โภคบรโิ ภค อา่ งเกบ็ นำ้� แหง่ นี้สรา้ งเสรจ็ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๐๖ ตอ่ มามโี ครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รเิ กย่ี วกบัน้�ำเกิดข้ึนเปน็ จ�ำนวนมากเพื่อแก้ไขปญั หาภยั แล้ง อุทกภยัและเพอื่ บำ� บดั นำ้� เสยี โครงการพฒั นาแหลง่ นำ้� มที ง้ั โครงการขนาดใหญ่ เพ่อื ช่วยแกไ้ ขปัญหาท้ังภัยแลง้ และน�ำ้ ทว่ ม ไปจนถึงโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก ขึ้นอยู่กับสภาพภมู ปิ ระเทศ สภาพเศรษฐกจิ และประโยชนท์ ป่ี ระชาชนจะได้รับ โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริเกี่ยวกับน้�ำ ยงัรวมถึงโครงการพัฒนาพ้ืนท่ีลุ่มน�้ำส�ำคัญ โครงการแก้มลิงและโครงการฝนหลวง26
สภาพแวดล้อมในพื้นที่หลายส่วนของประเทศไทยถกู ทำ� ลาย เนอื่ งมาจากการตดั ไม้ หรอื การปลกู พชื ชนดิ เดยี วซำ�้ ๆ บนทด่ี นิ เดมิ พน้ื ทน่ี บั ลา้ นไรใ่ นภมู ภิ าคตา่ ง ๆ มปี ญั หาเร่ืองดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ราษฎรเพาะปลูกได้ผลผลิตต่�ำจงึ มีฐานะยากจน พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯใหจ้ ดั ตงั้ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ ขน้ึในพน้ื ทที่ ม่ี ปี ญั หาสภาพดินเส่อื มโทรม เพอ่ื เผยแพร่ความรู้ดา้ นการพฒั นาการเกษตร และเปน็ ศนู ยก์ ลางสง่ ตอ่ เทคโนโลยีดา้ นการเกษตรและฝกึ อบรมอาชพี เพอื่ เกษตรกร ศนู ยศ์ กึ ษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการจัดตั้งข้ึนเป็นแห่งแรกเมอื่ พ.ศ. ๒๕๒๒ จากนน้ั จงึ มกี ารจดั ตง้ั ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาอน่ื ๆ ตามมา ไดแ้ ก่ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาอา่ วคงุ้ กระเบนอนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริ จังหวดั จนั ทบุรี ศูนย์ศกึ ษาการพฒั นาพิกุลทอง อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดนราธิวาสศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไครอ้ นั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริจงั หวดั เชยี งใหม่ ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านอนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดสกลนคร และศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดเพชรบุรีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพติ ร มพี ระราชประสงคใ์ หศ้ นู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาท้ัง ๖ แห่ง ท�ำหน้าท่ีเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” 27
เพ่ือให้บทเรียนด้านการพัฒนาท่ีประชาชนสามารถมาศึกษา และน�ำไปประยุกต์ใชก้ ับชีวิตและงานของตนเองได้พระองค์มีพระราชด�ำริให้ทดลองแก้ปัญหาดินเปร้ียวในแนวทางทที่ รงเรยี กวา่ “แกลง้ ดนิ ” และโครงการหญา้ แฝกเพื่อป้องกนั การเส่ือมโทรมและการพังทลายของหนา้ ดนิ เมื่อครั้งเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเย่ียมราษฎรชาวไทยภูเขาบนดอยสูงในพ้ืนท่ีจังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้งแรกเม่ือพ.ศ. ๒๕๑๒ ได้ทอดพระเนตรเห็นคุณภาพชีวิตของราษฎรชาวไทยภเู ขาทลี่ ำ� บากยากจน ดำ� รงชวี ติ ดว้ ยการท�ำไร่เล่อื นลอยและปลูกฝนิ่ จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งโครงการหลวงเพื่อพัฒนาชีวิตชาวไทยภูเขาโดยใหห้ นั มาปลกู พชื อนื่ ทดแทนฝน่ิ ละทงิ้ การทำ� ไรเ่ ลอื่ นลอยและการถางป่า ซ่ึงเป็นการท�ำลายสิ่งแวดล้อม ในช่วงเรมิ่ แรกจะไมบ่ งั คบั ใหช้ าวไทยภเู ขาเลกิ ปลกู ฝน่ิ แตจ่ ะนำ� พชืเมอื งหนาวไปใหท้ ดลองปลูก หากเหน็ ว่าดี ก็ค่อยใหข้ ยายพ้ืนท่ีปลูกต่อ ๆ ไป ส่งผลให้ชาวไทยภูเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน ป่าที่เคยถูกบุกรุกกลับมาสมบูรณ์เขียวขจีอีกคร้ังต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งมูลนิธิโครงการหลวงเพ่ือรวบรวมหน่วยงานต่าง ๆ กลายเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เกิดขึ้นในบรเิ วณพระตำ� หนกั จติ รลดารโหฐาน ซงึ่ ทรงใชเ้ ปน็ ทท่ี ดลองวิจัยโครงการตามพระราชด�ำริทางการเกษตร เพื่อน�ำผล28
การศึกษาพระราชทานแก่ประชาชน บริเวณพระต�ำหนักจะมีโครงการต่าง ๆ เช่น ปา่ ไม้สาธิต (พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๐๔)นาข้าวทดลอง (พ.ศ. ๒๕๐๔) โรงโคนมสวนจิตรลดา(พ.ศ. ๒๕๐๕) บอ่ เพาะพนั ธป์ุ ลานลิ (พ.ศ.๒๕๐๘) โรงนมผงสวนดุสิต (พ.ศ.๒๕๑๒) โรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา(พ.ศ. ๒๕๑๔) โรงบดแกลบ (พ.ศ. ๒๕๑๘) งานผลิตภัณฑ์บรรจุกระป๋อง (พ.ศ. ๒๕๓๕) โครงการไบโอดีเซล (พ.ศ.๒๕๔๖) การสาธิตการใช้ประโยชน์จากพลังงานลมเพอ่ื ผลติ พลงั งานไฟฟา้ (พ.ศ. ๒๕๕๐) ฯลฯ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ทีเ่ ข้าถงึ ได้ง่าย สามารถนำ� ความรไู้ ปประยุกต์ใช้ได้จรงิ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพติ ร ไดพ้ ระราชทานแนวทางรปู แบบการจดั การทดี่ นิ และนำ�้ เพอ่ื การเกษตรในทดี่ นิ ขนาดเลก็ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด ที่เรียกว่า ทฤษฎีใหม่ ซ่ึงจะช่วยให้ประชาชนมีกินตามอัตภาพ คืออาจไม่รวยมาก แต่ก็พอกิน ไม่อดอยากทฤษฎีน้คี ือการแบง่ ที่ดินออกเป็นอตั ราส่วน ๓๐, ๖๐ และ๑๐ ท่ีดิน ๓๐ เปอร์เซ็นต์แรกขุดสระเก็บกักน้�ำไว้ใช้และเล้ียงปลา ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ต่อมาแบ่งเป็นพ้ืนที่ท�ำนาข้าวและปลูกผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์อย่างละคร่ึง ท่ีเหลืออีก ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นท่ีอยู่อาศัย ลานบ้านและถนนทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นท่ีวัดมงคลชัยพัฒนาต�ำบลห้วยบง อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สระบุรี เป็นแปลงสาธติถา่ ยทอดทฤษฎใี หมน่ ี้อยา่ งเปน็ รปู ธรรม 29
“ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเสมอื นรากฐานของชีวิต รากฐานความมัน่ คงของชวี ติ รากฐานความมัน่ คงของแผ่นดนิเปรียบเสมือนเสาเข็มท่ีถกู ตอกรองรบั บา้ นเรอื นตวั อาคารไว้น่ันเองส่งิ ก่อสร้างจะมั่นคงไดก้ อ็ ยูท่ ่เี สาเขม็ แต่คนส่วนมากมองไมเ่ หน็ เสาเขม็ ”และลมื เสาเข็มเสยี ด้วยซำ้� ไป พระราชดำ�รสั พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร พระราชทานเนอ่ื งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสดิ าลยั สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วนั ท่ี ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ 30
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (SufficiencyEconomy) เป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงชี้แนะแนวทางในการด�ำเนินชีวิตให้แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๒๕ ปี เม่ือเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๔๐พระราชด�ำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” ได้รับความสนใจจากประชาชน ทรงเนน้ ยำ�้ วา่ เศรษฐกจิ พอเพยี งจะเปน็ แนวทางแก้ไขเพ่ือให้ประเทศไทยรอดพ้นและสามารถด�ำรงอยู่ได้อย่างม่ันคงและย่ังยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ของโลก หลักใหญ่ของทฤษฎีน้ีอยทู่ ก่ี ารใหเ้ ดนิ ทางสายกลาง การคำ� นงึ ถงึ ความพอประมาณความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดี ตลอดจนให้มีความร้คู วามรอบคอบ และคุณธรรมประกอบการวางแผนการตดั สินใจ และการกระทำ�ด้านการแพทย์และสาธารณสขุ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร ทรงมีความห่วงใยเร่ืองสุขภาพอนามัยของประชาชน เม่ือแรกเสด็จข้ึนเถลิงถวัลยราชสมบัติระบบสาธารณสุขของประเทศไทยอยู่ในสภาพย่�ำแย่การเข้าถึงสาธารณสุขเกือบจะเป็นไปไม่ได้ในแถบชนบทห่างไกล และยังมีโรคระบาดเกิดข้ึน พระองค์ทรงพัฒนาการสาธารณสขุ โดยทรงริเร่มิ โครงการทม่ี ุง่ เนน้ 31
การควบคมุ และรกั ษาโรคตดิ ตอ่ ไดพ้ ระราชทานพระราชทรพั ย์สว่ นพระองคแ์ กห่ อ้ งทดลองผลติ และจดั เกบ็ วคั ซนี เพอ่ื ยบั ยง้ัการระบาดของวณั โรคในประเทศไทย พระราชทานทนุ ทรพั ย์แกโ่ ครงการขจดั โรคเรอื้ น ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตงั้สถาบันราชประชาสมาสัยเพ่ือดูแลผู้ป่วยโรคเร้ือน และทรงเป็นพลังส�ำคัญในการเปล่ียนแปลงทัศนคติต่อผู้ป่วยโรคเรอื้ น พระราชทานความชว่ ยเหลอื จดั ตง้ั กองทนุ สงเคราะห์ผปู้ ว่ ยโรคโปลโิ อ การผลติ น�้ำเกลอื เพอื่ ผูป้ ่วยอหวิ าตกโรค เมอื่ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยยี่ มราษฎรตามทอ้ งที่ต่าง ๆ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีหน่วยแพทย์ตามเสดจ็ พระราชดำ� เนินเพอ่ื ใหก้ ารรักษาพยาบาลราษฎรผปู้ ว่ ยไข้ พระราชทานกลอ่ งยาแกว่ ดั ทเ่ี สดจ็ พระราชดำ� เนนิไปทรงเยยี่ มเพอ่ื ภกิ ษอุ าพาธ ในเดอื นมกราคม พ.ศ. ๒๔๙๘พระราชทานเรือเวชพาหน์ เป็นหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาพยาบาลประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น�้ำโดยไม่คิดมูลค่า ทรงริเร่ิมโครงการหน่วยแพทย์พระราชทานโครงการแพทยห์ ลวงเคลอื่ นทพี่ ระราชทาน หนว่ ยทนั ตกรรมเคล่ือนที่พระราชทาน โครงการฝึกอบรมหมอหมู่บ้านในพระราชประสงค์ โครงการน�ำร่องเพื่อป้องกันภาวะขาดสารไอโอดีน ทรงสง่ เสรมิ สุขภาพประชาชนใหม้ อี าหารทีม่ ีคณุ คา่ ทางโภชนาการรบั ประทานมากขนึ้ ผา่ นโครงการตามพระราชดำ� รเิ รอ่ื งเลยี้ งโคนมและผสมพนั ธป์ุ ลา พระราชทานทุนการศึกษาและรางวัลต่าง ๆ เพ่ือสนับสนุนการศึกษาทางการแพทยช์ ้นั สูง32
พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพติ ร ไดร้ บั การยกยอ่ งจากนานาประเทศ องคก์ รต่างประเทศหลายแหง่ ทูลเกลา้ ฯ ถวายรางวลั เช่น รางวลัเหรยี ญทองสาธารณสขุ เพอื่ มวลชนจากองคก์ ารอนามยั โลกเม่อื วันที่ ๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๓๕ รางวัล Partneringfor World Health จากวิทยาลัยแพทย์โรคทรวงอกแห่งสหรัฐอเมริกาส�ำหรับพระราชกรณียกิจด้านการต่อต้านวัณโรคเมื่อวันท่ี ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙รางวลั เหรยี ญทองจากองคก์ ารสภานานาชาตเิ พอื่ การควบคมุโรคขาดสารไอโอดนี (International Council for Controlof Iodine Deficiency Disorder: ICCIDD) เมื่อวันท่ี๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ในฐานะที่ทรงเป็นผู้น�ำทางแก่สภานานาชาติในการเผยแพร่เกลือเสริมไอโอดีนและการก่อตั้งกระบวนการขจัดการขาดสารไอโอดีน รางวัลเหรียญทองจากสหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ (International Union AgainstTuberculosis and Lung Disease: IUATLD) เม่ือวันที่๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ในฐานะท่ีทรงอุทิศพระองค์เพอื่ รณรงค์เกี่ยวกับปญั หาสขุ ภาพปอดระดบั โลก 33
ดา้ นการศกึ ษา พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร ทรงเปน็ ครูแห่งแผ่นดนิ สมดังที่กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดถ้ วายพระราชสมญั ญาน้ี เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ทรงมพี ระวสิ ยั ทัศน์ดา้ นการศกึ ษาแบบการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ซง่ึ การแสวงหาความรู้สามารถเกดิ ขนึ้ ไดใ้ นสภาพแวดลอ้ มทหี่ ลากหลาย ทงั้ ในระบบและนอกระบบโรงเรยี น มไิ ดถ้ กู จำ� กดั ดว้ ยเวลาและสถานท่ี ในรัชสมัยของพระองค์ การศึกษาของไทยพัฒนาก้าวหน้าครอบคลุมท้ังการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯให้ตงั้ โรงเรยี นจติ รลดา ส�ำหรบั พระราชโอรส พระราชธิดาบุตรข้าราชบริพารในพระราชวัง ตลอดจนเปิดโอกาสให้บุคคลท่ัวไปได้เข้าศึกษาด้วย เมื่อเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยยี่ มราษฎรบรเิ วณชายแดนทรุ กนั ดาร ทรงไดร้ บั ทราบปัญหาการขาดแคลนสถานศึกษาของเด็กและเยาวชนจึงมีพระราชด�ำริให้จัดสร้างโรงเรียนแก่เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา นอกจากน้ี ยังมีโรงเรียนที่จัดตั้งตามพระราชประสงค์ พระราชด�ำริ และท่ีทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ชว่ ยเหลอื ทรงอปุ ถมั ภ์ หรอื ทรงใหค้ ำ� แนะนำ� เชน่ โรงเรยี น34
จิตรลดา โรงเรียนราชวินิต โรงเรียนวังไกลกังวล โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรยี นราชประชาสมาสัย โรงเรียนภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจนในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งโรงเรียนที่จัดตั้งข้ึนเพ่ือเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ แม้แต่ในสมัยท่ียังมีความรุนแรงจากการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมวิ นสิ ต์ กท็ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตงั้ โรงเรยี นในพื้นทีส่ รู้ บ พระราชทานนามวา่ โรงเรยี นรม่ เกลา้ ดา้ นการศกึ ษานอกระบบ ทรงพระราชดำ� รใิ หจ้ ดั ตงั้โครงการพระดาบส เพ่ือให้ผู้ต้องการแสวงหาความรู้แต่ขาดโอกาสในการศึกษาเรียนรู้ ได้ศึกษาวชิ าแขนงต่าง ๆจนสามารถไปประกอบอาชีพได้ สว่ นการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ไดพ้ ระราชทานความรู้ผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริท่ีทรงตั้งข้ึนให้เป็นแหล่งรวมสรรพวิชา การค้นคว้าการทดลอง และการสาธิตด้านเกษตรกรรม เพื่อเผยแพร่ความรู้สำ� หรับน�ำไปสู่การปฏบิ ัติจริงของเกษตรกร นอกจากนี้ ได้ทรงริเร่ิมโครงการส่งเสริมการศึกษาเช่น โครงการสารานุกรมไทยส�ำหรับเยาวชน และการจัดการศึกษาระดับมัธยมด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียมเพอ่ื เปน็ ประโยชนส์ ำ� หรบั นกั เรยี นในชนบทหา่ งไกลใหม้ คี วามรู้และประสบการณ์ที่มีคุณภาพ ไม่ด้อยกว่าโรงเรียนท่ีได้ 35
มาตรฐานอน่ื ๆ ทรงสละพระราชทรพั ยจ์ ดั ตงั้ กองทนุ ตา่ ง ๆเพอ่ื สง่ เสรมิ การศกึ ษาของชาติ เชน่ ทนุ มลู นธิ อิ านนั ทมหดิ ลทุนเล่าเรียนหลวง ทุนพระราชทานแก่นักเรียนชาวเขาทุนปริญญาเอกกาญจนาภิเษก เสด็จพระราชด�ำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรและมีพระบรมราโชวาทแกบ่ ณั ฑิต36
ด้านศาสนา พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพติ ร ทรงพระราชศรทั ธาในพทุ ธศาสนาโดยทรงพระผนวชเป็นเวลา ๑๕ วัน ระหว่างวันท่ี ๒๒ ตุลาคม-๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙ นับเป็นคร้ังที่ ๒ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทรท์ พ่ี ระมหากษตั รยิ ์ทรงพระผนวชระหวา่ งทรงครองราชย์ นบั แตช่ ว่ งตน้ รชั กาลพระองคใ์ สพ่ ระราชหฤทยัสืบทอดพระราชพิธีอันเก่ียวเน่ืองกับพุทธศาสนา เช่นพระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา เม่ือพ.ศ. ๒๕๐๑ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลอาสาฬหบูชารวมเข้าไว้กับการพระราชกุศลเข้าพรรษา เรียกว่า พระราชพิธีทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษาในพ.ศ. ๒๕๐๒ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหฟ้ น้ื ฟกู ารเสดจ็พระราชด�ำเนินไปทรงถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราชลมารค ทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นในโอกาสส�ำคญั และพระราชทานใหก้ ับวัดในจงั หวัดตา่ ง ๆ ในโอกาสครบ ๒๕ พุทธศตวรรษเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ ไดม้ พี ระมหากรณุ าธคิ ณุ ในการจดั สรา้ งพทุ ธมณฑลจังหวัดนครปฐม จนส�ำเร็จลุล่วงและพระราชทานนามพระพุทธรูปลีลา ประธานพุทธมณฑลว่า 37
พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑล สุทรรศน์ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี เม่ือพ.ศ. ๒๕๒๕ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหบ้ รู ณปฏสิ งั ขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวังเป็นงานส�ำคัญของแผ่นดิน ต่อมาในพ.ศ. ๒๕๓๘ มีพระราชด�ำริให้สร้างวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ขึ้นในบริเวณชุมชนบึงพระราม ๙ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจและศรัทธา เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ทางศาสนา ศีลธรรมจรรยาแก่เยาวชนและประชาชนตามแนวคดิ เรอ่ื ง “บวร” (บา้ น วดั โรงเรยี น) อนั เปน็ ความสมั พนั ธ์ตามวิถไี ทยมาแตอ่ ดตี ทรงสืบสานพระพุทธศาสนาด้วยการส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์ พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์แกส่ ามเณรทสี่ อบไลไ่ ดเ้ ปรยี ญธรรม ๙ ประโยค เพอ่ื อปุ สมบทนาคหลวง ทรงสถาปนาพระราชาคณะ พระราชทานสมณศักด์ิและพัดยศแก่พระภิกษุ ทรงโปรดสนทนาและศึกษาธรรมกับพระเถระผู้ใหญ่ พระราชทานพระราชทรัพย์ปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม และปูชนียสถานต่าง ๆ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้จดั ตัง้ โครงการแปลงพระไตรปิฎก เป็นไฟล์ดิจิทัลข้ึนที่ศูนย์คอมพิวเตอร์มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ในฐานะที่ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกทรงอปุ ถมั ภบ์ ำ� รงุ ศาสนาทกุ ศาสนาทป่ี ระชาชนนบั ถอื อยา่ ง38
ทวั่ ถงึ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงเยย่ี มผนู้ ำ� ศาสนาอสิ ลามในจงั หวดั ภาคใต้ ณ มสั ยดิ กลาง จังหวดั ปัตตานี เมอ่ื วนั ที่๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ พระราชทานพระราชทรัพยส์ ่วนพระองค์จัดต้ังและปรับปรุงมัสยิด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จุฬาราชมนตรีในขณะนั้นแปลพระมหาคมั ภรี อ์ ลั กรุ อานจากภาษาอาหรบั เปน็ ภาษาไทยเพื่อให้อิสลามิกชนในประเทศไทยท่ีไม่รู้ภาษาอาหรับศึกษาเล่าเรียนได้สะดวก และจัดพิมพ์พระราชทานไปยังมสั ยดิ ต่าง ๆ ท่วั ราชอาณาจักร วันท่ี ๑๐-๑๑ พฤษภาคมพ.ศ. ๒๕๒๗ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลท่ี ๒ประมขุ แหง่ ครสิ ตจกั รโรมนั คาทอลกิ เสดจ็ เยอื นประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะ แสดงถึงความช่ืนชมของประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกตอ่ พระประมขุ ของประเทศไทยทที่ รงพระกรณุ าทำ� นบุ ำ� รงุคริสต์ศาสนาตลอดมา ทรงส่งเสริมให้ทุกศาสนาดำ� เนินกจิ กรรมเพื่อประโยชน์ตอ่ สังคม 39
40
ด้านการตา่ งประเทศ ในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พรอ้ มดว้ ยสมเด็จพระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ ไดเ้ สดจ็พระราชดำ� เนนิ ไปเยอื นประเทศตา่ ง ๆ ทง้ั ในทวปี เอเชยี ยโุ รปและอเมรกิ าเหนอื รวม ๒๗ ประเทศ เพอ่ื เจรญิ ทางพระราชไมตรีกบั บรรดามติ รประเทศเหลา่ นน้ั ใหม้ คี วามสมั พนั ธแ์ นน่ แฟน้และเพอ่ื นำ� ความปรารถนาดขี องประชาชนชาวไทยไปมอบให้กบั ประชาชนในประเทศตา่ ง ๆ โดยทรงเยอื นสาธารณรฐั เวยี ดนามอยา่ งเปน็ ทางการเปน็ ประเทศแรกและภายหลงั จากการเสดจ็พระราชดำ� เนนิ ไปเยอื นประเทศแคนาดาในพ.ศ. ๒๕๑๐ แลว้ 41
ก็มิไดเ้ สด็จพระราชดำ� เนนิ ไปเยือนประเทศใดอกี ด้วยทรงเห็นว่าพระราชกรณียกิจภายในประเทศน้ันยังมีอีกมากจนกระทั่งระหว่างวันที่ ๘-๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ จึงได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นับเป็นการเสด็จพระราชด�ำเนินไปเยือนตา่ งประเทศครง้ั สดุ ทา้ ย พระองคไ์ ดม้ พี ระราชดำ� รสั ตอนหนงึ่เก่ียวกับพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชด�ำเนินไปเยอื นตา่ งประเทศวา่ “....... การไปตา่ งประเทศคราวนก้ี ไ็ ปเปน็ ทางราชการแผน่ ดนิ เปน็ การทำ� ตามหนา้ ทขี่ องขา้ พเจา้ ในฐานะประมขุ ของประเทศ เป็นที่ทราบกันอย่แู ล้วว่า ในสมยั นป้ี ระเทศตา่ ง ๆไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ต้องพ่ึงพาอาศัยกันอยู่เสมอ จะว่าชนทุกชาติเป็นญาติพ่ีน้องกันก็ว่าได้ จึงควรพยายามให้รู้นิสัยใจคอกนั ทงั้ ตอ้ งผกู นำ้� ใจกนั ไวใ้ หด้ ดี ว้ ย การผกู นำ้� ใจกนั ไวน้ น้ัธรรมดาญาตพิ นี่ อ้ งกไ็ ปเยย่ี มเยยี นถามทกุ ขส์ ขุ ซง่ึ กนั และกนัแตส่ ำ� หรบั ประเทศไทยนนั้ ประชาชนนบั แสนนบั ลา้ นจะไปเยยี่ มเยยี นกนั กย็ าก เขาจงึ ยกใหเ้ ปน็ หนา้ ทขี่ องประมขุ ของประเทศในการเยยี่ มเยยี นประเทศตา่ ง ๆ ขา้ พเจา้ กจ็ ะแสดงต่อประชาชนของประเทศเหล่าน้ันว่า ประชาชนชาวไทยมีมิตรจิตมิตรใจต่อเขา และข้าพเจ้าจะพยายามเต็มท่ีเพอ่ื ใหฝ้ า่ ยเขารจู้ กั เมอื งไทย และเกดิ มนี ำ�้ ใจทด่ี ตี อ่ ชาวไทย” พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร ทรงต้อนรับพระราชอาคันตุกะจาก42
ประเทศต่าง ๆ ท่ีเดินทางมาเยือนประเทศไทยหลายครั้งพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้บรรดาทูตานุทูตเข้าเฝ้าฯ ถวายสาส์นตราตั้งในการเข้ามารับต�ำแหน่งในประเทศไทย และกราบถวายบงั คมทลู ลาเมอ่ื ครบวาระ รวมทงั้มีพระราชสาส์นถงึ ผู้น�ำประเทศตา่ ง ๆ ทัง้ แสดงความยนิ ดีและแสดงความเสยี พระราชหฤทยั สำ� หรบั การกราบบงั คมทลู เชญิ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปเยอืิ นตา่ งประเทศ หลงั จากนน้ัทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระราชโอรสหรอื พระราชธดิ าเสดจ็ พระราชด�ำเนินแทนพระองค์ ในพระราชพิธีฉลองสริ ริ าชสมบัตคิ รบ ๖๐ ปี วนั ที่๑๒ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๙ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร เสดจ็ พระราชดำ� เนนิไปทรงรบั การถวายพระพรชยั มงคลจากพระราชอาคนั ตกุ ะได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และผู้แทนพระองค์จาก ๒๕ ประเทศ ที่เสด็จพระราชด�ำเนินมาร่วมพระราชพิธีเฉลิมฉลอง ณ พระท่ีนั่งอนันตสมาคม การท่ีพระราชวงศท์ วั่ โลกเสดจ็ พระราชพระราชดำ� เนนิ มารวมกนัล้วนเป็นผลจากพระราชไมตรีที่มีต่อกนั มาช้านาน 43
ด้านการทหาร พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพติ ร ทรงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ ดา้ นการทหารมาอย่างต่อเนื่อง เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเย่ียมทหารทป่ี ฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นพน้ื ทต่ี า่ ง ๆ แมใ้ นระหวา่ งทม่ี เี หตกุ ารณส์ รู้ บเพอื่ ทรงเปน็ มงิ่ ขวญั และพระราชทานกำ� ลงั ใจ ทรงเยย่ี มทหารท่ีบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าท่ีพร้อมท้ังพระราชทานพระบรมราชานเุ คราะหแ์ กค่ รอบครวั ผบู้ าดเจบ็ หรอื เสยี ชวี ติเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปพระราชทานเพลงิ ศพทหาร ตำ� รวจพลเรอื น และอาสาสมคั รทเ่ี สยี ชวี ติ ในการสรู้ บ พระราชทานพระราชดำ� รแิ ละพระบรมราชวนิ จิ ฉยั เกยี่ วกบั กจิ การทหารเชน่ การตอ่ เรอื ตรวจการณใ์ กลฝ้ ง่ั เพอื่ การพง่ึ พาตนเองของกองทพั เรอื และทอดพระเนตรการฝึกของกองทพั ในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๑๒ ประเทศไทยประสบปัญหาภัยจากการก่อการร้ายของฝ่ายคอมมิวนิสต์ในเขตชนบทหลายแห่ง ประกอบกับประเทศไทยได้ส่งทหารไปชว่ ยสหรฐั อเมรกิ ารบในสงครามเวยี ดนาม เปน็ เหตใุ ห้ต้องสูญเสียทหาร ต�ำรวจ และพลเรือนจากความขัดแย้งดงั กลา่ ว ใน พ.ศ. ๒๕๒๐ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ตงั้ศูนย์ฝึกอาชีพส�ำหรับทหารผ่านศึกที่พิการในสงครามข้ึนท่ีโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเพื่อเป็นศูนย์กลางการสงเคราะหแ์ ละฟนื้ ฟทู หารผ่านศกึ ทพุ พลภาพมาต้งั แต่44
พ.ศ. ๒๔๙๓-๒๕๐๒ เมื่อสงครามในคาบสมุทรอินโดจีนและการก่อความไม่สงบในประเทศไทยทวีความรุนแรงข้ึนทรงริเริ่มโครงการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เป็นจุดเร่ิมต้นของมูลนิธิสายใจไทย ซ่ึงก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒ เมษายนพ.ศ. ๒๕๑๘ เพ่ือช่วยเหลือและฝึกสอนอาชีพแก่ทหารต�ำรวจ พลเรือน และอาสาสมัคร ผู้บาดเจ็บ หรือพิการจากการสรู้ บ รวมท้ังครอบครวั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงด�ำรงต�ำแหนง่ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร ในฐานะทรงเป็นจอมทัพไทย ทรงเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทหารทั้งปวง ทรงประกอบพิธีตรงึ หมดุ ธงชยั เฉลมิ พลในพระอโุ บสถวดั พระศรรี ตั นศาสดารามเพ่อื พระราชทานแกห่ น่วยทหารทงั้ กองทัพบก กองทพั เรือและกองทพั อากาศ พระราชทานกระบแ่ี กผ่ สู้ ำ� เรจ็ การศกึ ษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือโรงเรียนนายเรืออากาศ ทรงตรวจพลสวนสนามและรับการถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคมณ ลานพระราชวังดุสิต 45
46
ด้านสวสั ดกิ ารสงั คม พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้จัดต้ังมูลนธิ ิหลายแห่งเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของราษฎรเมื่อเกิดมหันตภัยทางธรรมชาติ อุบัติเหตุหรือเกิดโรคระบาดรา้ ยแรง เชน่ มลู นธิ ิราชประชาสมาสัย เพือ่ ช่วยเหลือบุตรของผปู้ ว่ ยโรคเรอ้ื นไมใ่ หต้ ดิ เชอื้ จากพอ่ แม่ ใหไ้ ดร้ บั การศกึ ษาและสามารถประกอบอาชีพได้โดยไม่เป็นภาระแก่สังคมและทรงรับมูลนิธิน้ีไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เม่ือวันที่ ๑๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๔ ในพ.ศ. ๒๕๐๕ เมื่อเกิดวาตภัยและอุทกภัยในจงั หวดั ภาคใต้ ทรงชักชวนประชาชนใหช้ ว่ ยเหลอื พนี่ ้องร่วมชาติผู้ประสบเคราะห์ภัย มีผู้โดยเสด็จพระราชกุศลจ�ำนวนมาก เม่ือพระราชทานความช่วยเหลือแล้ว ยังมีเงินเหลืออยู่อีก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดต้ังมลู นธิ ริ าชประชานเุ คราะห ์ พรอ้ มพระราชทานทนุ ประเดมิเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยโดยฉับพลัน นอกจากการชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบสาธารณภยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทว่ั ประเทศแลว้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ยังให้ทุนการศึกษาแก่เด็กก�ำพร้า อนาถาท่ีครอบครัวประสบภยั อีกดว้ ย 47
ในพ.ศ. ๒๕๐๔ ทรงรับสมาคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนประเดิมสร้างตึกที่ท�ำการและเป็นค่าเช่าท่ีดินของสมาคมฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่โรงพยาบาลเพ่ือคนพิการและเพื่อจัดต้ังศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ “ย้ิมสู้” เพ่ือเป็นขวัญและก�ำลังใจแก่ผู้พิการทางสายตา พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหค้ นพกิ ารเขา้ เฝา้ ฯ อยา่ งใกลช้ ิด ทรงฝึกให้พระราชโอรสและพระราชธดิ าคนุ้ เคยกบั คนพกิ ารประเภทตา่ ง ๆ มาตงั้ แต่ยงั ทรงพระเยาวด์ ว้ ยการพระราชทานเลยี้ งอาหารคนพกิ ารอยเู่ สมอดา้ นการจราจรและคมนาคมขนสง่ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชบรมนาถบพิตร ทรงสนับสนุนการสร้างเส้นทางคมนาคมสาธารณูปโภคพื้นฐานแก่ราษฎรในชนบทห่างไกลท่ีเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยม ในพ.ศ. ๒๔๙๕ มีพระราชด�ำริให้สร้างถนนบ้านห้วยมงคล อ�ำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการแรกท่ีท�ำให้ราษฎรสามารถสญั จรไปมาไดส้ ะดวก โครงการสรา้ งถนนในทอ้ งถนิ่ ชนบท เรม่ิ ตงั้ แต่ พ.ศ.๒๕๒๑ เป็นต้นมา ลักษณะของถนนในโครงการอันเนื่อง48
มาจากพระราชดำ� รแิ บง่ ไดเ้ ปน็ ๔ ประเภท คอื ถนนทปี่ รบั ปรงุจากเส้นทางเดิม ถนนที่สร้างใหม่ เพื่อช่วยให้มีการน�ำทรัพยากรในท้องถ่ินที่เกี่ยวข้องมาใช้ประโยชน์ ถนนท่ีสร้างเพ่ือรองรบั การจราจรที่เพ่มิ ขน้ึ เน่ืองจากการขยายตวัทางเศรษฐกจิ การเพม่ิ ของประชากรและกจิ กรรมในชนบทและถนนที่สร้างเพื่อเชื่อมต่อชุมชนท่ีอยู่ในระหว่างพัฒนาไปบ้างแล้วกับชุมชนที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควรพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทรงศึกษาและวางแผนปรับปรุงการคมนาคมและขนส่งในชนบท โดยพิจารณาประโยชน์ที่จะเกิดแก่ท้องถิ่นเป็นหลัก เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเก็บข้อมูลในพื้นที่เพื่อประกอบการพิจารณาลักษณะเช่ือมต่อและแนวของถนน จากนั้นพระราชทานให้หน่วยงานทีเ่ หมาะสมรับไปดำ� เนนิ การตอ่ ไป ในพ.ศ. ๒๕๑๔ มีพระราชด�ำริให้สร้างถนนในเขตกรุงเทพฯ - ธนบุรี เป็นคร้ังแรก โดยสร้างถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนวงแหวน เพื่อพระราชทานเป็นของขวัญแก่ประชาชนแทนการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์เนอื่ งในพระราชพธิ รี ชั ดาภเิ ษก ตอ่ มาระหวา่ งพ.ศ. ๒๕๓๔ -๒๕๓๘ เม่ือครั้งเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยี่ยมสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งประทับรักษาพระอาการประชวรทโี่ รงพยาบาลศริ ริ าช ไดท้ อดพระเนตรเห็นปัญหาการจราจรที่ติดขัดคร้ังละนาน ๆ ในบริเวณ 49
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220