ค. 2 – 3 ง. 2 - 4 ตอบ ก. 4 - 2 มาตรา ๕ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งต้งั มีวาระอยใู่ นตาแหน่งคราวละส่ีปี นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับ แต่งต้งั และอาจไดร้ ับแต่งต้งั อีกได้ แต่ตอ้ งไม่เกินสองวาระติดต่อกนั ใหก้ รรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิท่ีพน้ จากตาแหน่งตามวาระปฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไปจนกวา่ จะมีการแต่งต้งั กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิข้ึนใหม่ ในกรณีที่กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิพน้ จากตาแหน่งก่อนครบวาระหรือในกรณีท่ีมีการแต่งต้งั กรรมการ ผทู้ รงคุณวฒุ ิเพมิ่ ข้ึนในระหวา่ งที่กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงแต่งต้งั ไวแ้ ลว้ ยงั มีวาระอยใู่ นตาแหน่ง ใหผ้ ไู้ ดร้ ับ แต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งแทนหรือใหเ้ ป็นกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิเพิม่ ข้ึนอยใู่ นตาแหน่งเท่ากบั วาระท่ีเหลืออยู่ ของกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงไดร้ ับแต่งต้งั ไวแ้ ลว้ 8.กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิพน้ จากตาแหน่ง เม่ือ ก. ตาย ข. ลาออก ค. เป็นบุคคลลม้ ละลาย ง.ถูกทุกขอ้ ตอบ ง.ถกู ทุกขอ้ มาตรา ๖ นอกจากการพน้ ตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๕ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ พน้ จากตาแหน่ง เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) เป็นบุคคลลม้ ละลาย (๔) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๕) คณะรัฐมนตรีใหอ้ อกเพราะบกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหนา้ ที่ มีความประพฤติ เสื่อมเสีย หรือหยอ่ นความสามารถ (๖) ไดร้ ับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดใหจ้ าคุก
9. การประชุมของคณะกรรมการ ตอ้ งมีกรรมการมาประชุมไม่นอ้ ยกวา่ ..............ของจานวนกรรมการ ท้งั หมด จึงจะเป็นองคป์ ระชุม ก. สามในหา้ ข. ก่ึงหน่ึง ค. สองในสาม ง. สามในสี่ ตอบ ข. ก่ึงหน่ึง มาตรา ๗ การประชุมของคณะกรรมการ ตอ้ งมีกรรมการมาประชุมไม่นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ของจานวนกรรมการท้งั หมด จึงจะเป็นองคป์ ระชุม ในกรณีท่ีประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ที่ได้ ใหร้ อง ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถา้ ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่มาประชุม หรือไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ีได้ ใหก้ รรมการซ่ึงมาประชุมเลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานในท่ีประชุม สาหรับการประชุมคราวน้นั การวนิ ิจฉยั ช้ีขาดของที่ประชุมใหถ้ ือเสียงขา้ งมาก กรรมการคนหน่ึงใหม้ ีเสียงหน่ึงเสียง ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสียงเท่ากนั ใหป้ ระธานในท่ีประชุมออกเสียงเพ่ิมข้ึนอีกเสียงหน่ึงเป็นเสียงช้ี ขาด ใหม้ ีการประชุมคณะกรรมการไม่นอ้ ยกวา่ ปี ละสองคร้ัง 10. ขอ้ ใดคืออานาจคณะกรรมการผสู้ ูงอายแุ ห่งชาติ ก.กาหนดนโยบายและแผนหลกั เกี่ยวกบั การคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุน สถานภาพ บทบาท และกิจรรมของผสู้ ูงอายโุ ดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ท้งั น้ี ตอ้ งส่งเสริมและสนบั สนุนใหส้ ถาบนั ครอบครัวไดม้ ีส่วนร่วมในการช่วยดูแลผสู้ ูงอายุ ข.พจิ ารณาใหก้ ารสนบั สนุนและช่วยเหลือกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐและ ภาคเอกชนเก่ียวกบั การสงเคราะหแ์ ละการพฒั นาผสู้ ูงอายุ ค.เสนอความเห็นและขอ้ สงั เกตต่อคณะรัฐมนตรีใหม้ ีหรือแกไ้ ขกฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การคุม้ ครอง ส่งเสริม และการสนบั สนุนสถานภาพ บทบาท และกิจกรรมของผสู้ ูงอายุ ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง. ถกู ทุกขอ้
มาตรา ๙ ใหค้ ณะกรรมการมีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (๑) กาหนดนโยบายและแผนหลกั เกี่ยวกบั การคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุน สถานภาพ บทบาท และกิจรรมของผสู้ ูงอายโุ ดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ท้งั น้ีตอ้ งส่งเสริมและสนบั สนุนใหส้ ถาบนั ครอบครัวไดม้ ีส่วนร่วมในการช่วยดูแลผสู้ ูงอายุ (๒) กาหนดแนวทางปฏิบตั ิตามนโยบายและแผนหลกั ตาม (๑) ตลอดจนประสานงานติดตามและประเมินผล การปฏิบตั ิตามนโยบายและแผนหลกั ดงั กล่าว (๓) พิจารณาใหก้ ารสนบั สนุนและช่วยเหลือกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนเก่ียวกบั การ สงเคราะห์และการพฒั นาผสู้ ูงอายุ (๔) กาหนดระเบียบเกี่ยวกบั การบริหารกองทุน การจดั หาผลประโยชนแ์ ละการจดั การ กองทุนโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลงั ตามมาตรา ๒๐ (๑) (๕) กาหนดระเบียบเก่ียวกบั การพิจารณาอนุมตั ิการจ่ายเงินเพ่ือการคุม้ ครอง การส่งเสริม การสนบั สนุน และการจดั สวสั ดิการแก่ผสู้ ูงอายตุ ามมาตรา ๒๐ (๒) (๖) กาหนดระเบียบเกี่ยวกบั การจดั ทารายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนตามมาตรา ๒๐ (๓) (๗) กาหนดระเบียบเก่ียวกบั การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเกบ็ รักษาเงินกองทุนโดยความเห็นชอบของ กระทรวงการคลงั ตามมาตรา ๒๑ (๘) กาหนดระเบียบอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ งเพ่อื ปฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๙) เสนอความเห็นและขอ้ สังเกตต่อคณะรัฐมนตรีใหม้ ีหรือแกไ้ ขกฎหมายที่เก่ียวกบั การคุม้ ครอง ส่งเสริม และการสนบั สนุนสถานภาพ บทบาท และกิจกรรมของผสู้ ูงอายุ (๑๐) เสนอรายงานสถานการณ์เกี่ยวกบั ผสู้ ูงอายขุ องประเทศต่อคณะรัฐมนตรีอยา่ งนอ้ ย ปี ละหน่ึงคร้ัง (๑๑) พิจารณาเรื่องอื่นใดเก่ียวกบั ผสู้ ูงอายตุ ามท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอื่น บญั ญตั ิใหเ้ ป็นอานาจหนา้ ท่ีของคณะกรรมการหรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย 11. ใหส้ านกั ส่งเสริมและพิทกั ษผ์ สู้ ูงอายุ สานกั งานส่งเสริมสวสั ดิภาพและ พทิ กั ษเ์ ดก็ เยาวชน ผดู้ อ้ ยโอกาส คนพิการและผสู้ ูงอายุ สงั กดั หน่วยงานใด ก.สานกั นายกรัฐมนตรี ข.กระทรวงมหาดไทย ค. กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์
ง.ไม่มีขอ้ ถกู ตอบ ค. กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ 12.ขอ้ ใดคืออานาจสานกั ส่งเสริมและพทิ กั ษผ์ สู้ ูงอายุ สานกั งานส่งเสริมสวสั ดิภาพและ พทิ กั ษเ์ ดก็ เยาวชน ผดู้ อ้ ยโอกาส คนพิการและผสู้ ูงอายุ ก.จดั ทาแนวทางปฏิบตั ิตามนโยบายและแผนหลกั เกี่ยวกบั การคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุนสถานภาพ บทบาทและกิจกรรมของผสู้ ูงอายเุ สนอต่อคณะกรรมการ ข.รวบรวมขอ้ มลู ศกึ ษา วจิ ยั และพฒั นาเกี่ยวกบั งานคุม้ ครอง ส่งเสริม และ สนบั สนุนท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ผสู้ ูงอายุ ค.เป็นศนู ยก์ ลางในการประสานงาน เผยแพร่ และประชาสมั พนั ธง์ านหรือกิจกรรม เก่ียวกบั ผสู้ ูงอายุ ง. ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. ถูกทุกขอ้ มาตรา ๑๐ ใหส้ านกั ส่งเสริมและพทิ กั ษผ์ สู้ ูงอายุ สานกั งานส่งเสริมสวสั ดิภาพและ พทิ กั ษเ์ ดก็ เยาวชน ผดู้ อ้ ยโอกาส คนพิการและผสู้ ูงอายุ กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ มีอานาจหนา้ ท่ีดาเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกบั การคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุนที่เกี่ยวขอ้ งกบั ผสู้ ูงอายุ และรับผดิ ชอบในงานธุรการและงานวชิ าการของคณะกรรม การ และใหม้ ีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (๑) จดั ทาแนวทางปฏิบตั ิตามนโยบายและแผนหลกั เก่ียวกบั การคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุนสถานภาพ บทบาทและกิจกรรมของผสู้ ูงอายเุ สนอต่อคณะกรรมการ (๒) รวบรวมขอ้ มูล ศกึ ษา วจิ ยั และพฒั นาเกี่ยวกบั งานคุม้ ครอง ส่งเสริม และ สนบั สนุนที่เก่ียวขอ้ งกบั ผสู้ ูงอายุ (๓) เป็นศนู ยก์ ลางในการประสานงาน เผยแพร่ และประชาสัมพนั ธ์งานหรือกิจกรรม เกี่ยวกบั ผสู้ ูงอายุ (๔) สร้างระบบการดูแลผสู้ ูงอายใุ นชุมชน (๕) ร่วมมือและประสานงานกบั ราชการบริหารส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนภูมิภาค ราชการบริหารส่วนทอ้ งถ่ิน และรัฐวสิ าหกิจ ตลอดจนองคก์ รอื่นในการจดั ใหผ้ สู้ ูงอายไุ ดร้ ับการคุม้ ครองการ ส่งเสริม และการสนบั สนุนตามพระราชบญั ญตั ิน้ีและกฎหมายอ่ืนที่เกี่ยวขอ้ ง
(๖) ติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิตามแผนหลกั ของหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งแลว้ รายงานต่อคณะกรรมการ (๗) พจิ ารณาเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการในการใหม้ ีหรือแกไ้ ขกฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุนสถานภาพ บทบาท และกิจกรรมของผสู้ ูงอายุ (๘) ปฏิบตั ิหนา้ ที่อ่ืนตามท่ีคณะกรรมการมอบหมาย 13. ผสู้ ูงอายมุ ีสิทธิไดร้ ับการคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุนในดา้ นใด ก.การบริการทางการแพทยแ์ ละการสาธารณสุขที่จดั ไวโ้ ดยใหค้ วามสะดวกและ รวดเร็วแก่ผสู้ ูงอายเุ ป็นกรณีพิเศษ ข.การประกอบอาชีพหรือฝึ กอาชีพที่เหมาะสม ค. การพฒั นาตนเองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุ่มในลกั ษณะ เครือข่ายหรือชุมชน ง.ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. ถกู ทุกขอ้ มาตรา ๑๑ ผสู้ ูงอายมุ ีสิทธิไดร้ ับการคุม้ ครอง การส่งเสริม และการสนบั สนุนในดา้ น ต่าง ๆ ดงั น้ี (๑) การบริการทางการแพทยแ์ ละการสาธารณสุขที่จดั ไวโ้ ดยใหค้ วามสะดวกและ รวดเร็วแก่ผสู้ ูงอายเุ ป็นกรณีพิเศษ (๒) การศกึ ษา การศาสนา และขอ้ มลู ข่าวสารที่เป็ประโยชนต์ ่อการดาเนินชีวิต (๓) การประกอบอาชีพหรือฝึกอาชีพที่เหมาะสม (๔) การพฒั นาตนเองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสงั คม การรวมกลุ่มในลกั ษณะ เครือข่ายหรือชุมชน (๕) การอานวยความสะดวกและความปลอดภยั โดยตรงแก่ผสู้ ูงอายใุ นอาคารสถานที่ ยานพาหนะหรือการ บริการสาธารณะอ่ืน (๖) การช่วยเหลือดา้ นค่าโดยสารยานพาหนะตามความเหมาะสม (๗) การยกเวน้ ค่าเขา้ ชมสถาท่ีของรัฐ (๘) การช่วยเหลือผสู้ ูงอายซุ ่ึงไดร้ ับอนั ตรายจากการถกู ทารุณกรรมหรือถูกแสวงหา ประโยชนโ์ ดยมิชอบดว้ ยกฎหมาย หรือถูกทอดทิ้ง
(๙) การใหค้ าแนะนา ปรึกษา ดาเนินการอ่ืนที่เกี่ยวขอ้ งในทางคดี หรือในทางการ แกไ้ ขปัญหาครอบครัว (๑๐) การจดั ท่ีพกั อาศยั อาหารและเครื่องนุ่งห่มใหต้ ามความจาเป็นอยา่ งทวั่ ถึง (๑๑) การจ่ายเงินเบ้ียยงั ชีพเป็นรายเดือนอยา่ งทว่ั ถึงและเป็นธรรม (๑๒) การสงเคราะห์ในการจดั การศพตามประเพณี (๑๓) การอื่นตามท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนด ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ใหค้ ณะกรรมการเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรี เพอ่ื พิจารณาและประกาศกาหนดใหห้ น่วยงานหน่ึงหน่วยงานใดของกระทรวงหรือทบวงในราชการบริหาร ส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนภมู ิภาค ราชการบริหารส่วนทอ้ งถ่ิน และรัฐวสิ าหกิจ เป็นผมู้ ีอานาจหนา้ ท่ี รับผดิ ชอบดาเนินการ ท้งั น้ี โดยคานึงถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะดา้ น ความสัมพนั ธก์ บั ภารกิจหลกั และปริมาณ งานในความรับผดิ ชอบ รวมท้งั การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนประกอบดว้ ยเป็นสาคญั การคุม้ ครอง การ ส่งเสริม และการสนบั สนุนตามวรรคหน่ึง ใหห้ น่วยงานตามวรรคสองดาเนินการใหโ้ ดยไม่คิดมลู ค่าหรือโดย ใหส้ ่วนลดเป็นกรณีพเิ ศษกไ็ ด้ แลว้ แต่กรณี ท้งั น้ี ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่ีรัฐมนตรี ผรู้ ับผดิ ชอบประกาศกาหนด 14. ใหจ้ ดั ต้งั กองทุนข้ึนกองทุนหน่ึงในสานกั งานส่งเสริมสวสั ดิภาพและพิทกั ษเ์ ดก็ เยาวชน ผดู้ อ้ ยโอกาส คน พิการและผสู้ ูงอายุ เรียกวา่ “..................” เพื่อเป็นทุนใชจ้ ่ายเกี่ยวกบั การคุม้ ครอง การส่งเสริมและการ สนบั สนุนผสู้ ูงอายตุ ามพระราชบญั ญตั ิน้ี ก.กองทุนพฒั นาผสู้ ูงอายุ ข.กองทุนส่งเสริมผสู้ ูงอายุ ค.กองทุนผสู้ ูงอายุ ง.กองทุนผคู้ นชรา ตอบ ค.กองทุนผสู้ ูงอายุ มาตรา ๑๓ ใหจ้ ดั ต้งั กองทุนข้ึนกองทุนหน่ึงในสานกั งานส่งเสริมสวสั ดิภาพและพิทกั ษเ์ ดก็ เยาวชน ผดู้ อ้ ยโอกาส คนพกิ ารและผสู้ ูงอายุ เรียกวา่ “กองทุนผสู้ ูงอาย”ุ เพื่อเป็นทุนใชจ้ ่ายเกี่ยวกบั การคุม้ ครอง การ ส่งเสริมและการสนบั สนุนผสู้ ูงอายตุ ามพระราชบญั ญตั ิน้ี 15. มาตรา ๑๔ กองทุน ประกอบดว้ ย
ก. เงินทุนประเดิมท่ีรัฐบาลจดั สรรให้ ข. เงินที่ไดร้ ับจากงบประมาณรายจ่ายประจาปี ค. เงินหรือทรัพยส์ ินท่ีมีผบู้ ริจาคหรือมอบให้ ง.ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. ถูกทุกขอ้ มาตรา ๑๔ กองทุน ประกอบดว้ ย (๑) เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจดั สรรให้ (๒) เงินที่ไดร้ ับจากงบประมาณรายจ่ายประจาปี (๓) เงินหรือทรัพยส์ ินท่ีมีผบู้ ริจาคหรือมอบให้ (๔) เงินอุดหนุนจากต่างประเทศหรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศ (๕) เงินหรือทรัพยส์ ินท่ีตกเป็นของกองทุนหรือท่ีกองทุนไดร้ ับตามกฎหมายหรือ โดยนิติกรรมอ่ืน (๖) ดอกผลที่เกิดจากเงินหรือทรัพยส์ ินของกองทุน มาตรา ๑๕ เงินและดอกผลตามมาตรา ๑๔ ไม่ตอ้ งนาส่งกระทรวงการคลงั เป็น รายไดแ้ ผน่ ดิน 16. ผบู้ ริจาคเงินหรือทรัพยส์ ินใหแ้ ก่กองทุน มีสิทธินาไปลดหยอ่ นในการ คานวณภาษเี งินไดห้ รือไดร้ ับการยกเวน้ ภาษสี าหรับทรัพยส์ ินที่บริจาค แลว้ แต่กรณี ท้งั น้ี ตาม หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขที่กาหนดใน............... ก.ประมวลรัษฎากร ข.กฎกระทรวง ค.พระราชกฤษฏีกา ง.พระราชกาหนด ตอบ ก.ประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๖ ผบู้ ริจาคเงินหรือทรัพยส์ ินใหแ้ ก่กองทุน มีสิทธินาไปลดหยอ่ นในการ คานวณภาษเี งินไดห้ รือไดร้ ับการยกเวน้ ภาษีสาหรับทรัพยส์ ินที่บริจาค แลว้ แต่กรณี ท้งั น้ี ตาม หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในประมวลรัษฎากร
17. คณะกรรมการบริหารกองทุนผใู้ ดเป็นประธาน ก.นายกรัฐมนตรี ข.รองนายกรัฐมนตรี ค.รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ ง.ปลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ ตอบ ง.ปลดั กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ มาตรา ๑๘ ใหม้ ีคณะกรรมการบริหารกองทุนคณะหน่ึง ประกอบดว้ ย ปลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ เป็นประธานกรรมการ ผอู้ านวยการ สานกั งานส่งเสริมสวสั ดิภาพและพิทกั ษเ์ ดก็ เยาวชน ผดู้ อ้ ยโอกาส คนพกิ ารและผสู้ ูงอายุ เป็นรองประธาน กรรมการ ผแู้ ทนกระทรวงสาธารณสุข ผแู้ ทนสานกั งบประมาณ ผแู้ ทนกรมบญั ชีกลาง และผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึง คณะกรรมการแต่งต้งั จานวนหา้ คน ในจานวนน้ีตอ้ งเป็นผแู้ ทนองคก์ รของผสู้ ูงอายจุ านวนหน่ึงคน ผแู้ ทน องคก์ รเอกชนท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งานในดา้ นการคุม้ ครอง การส่งเสริมและการสนบั สนุนสถานภาพ บทบาท และ กิจกรรมของผสู้ ูงอายจุ านวนหน่ึงคน และผมู้ ีความรู้ความเชี่ยวชาญในการระดมทุนจานวนหน่ึงคน เป็น กรรมการ และใหผ้ อู้ านวยการสานกั ส่งเสริมและพทิ กั ษผ์ สู้ ูงอายเุ ป็นกรรมการและเลขานุการ 18. คณะกรรมการบริหารกองทุนมีอานาจตามขอ้ ใด ก. บริหารกองทุน รวมท้งั ดาเนินการเก่ียวกบั การจดั หาผลประโยชนแ์ ละการจดั การ กองทุนใหเ้ ป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด ข. พิจารณาอนุมตั ิการจ่ายเงิน เพือ่ การคุม้ ครอง การส่งเสริม การสนบั สนุน และ การจดั สวสั ดิการแก่ผสู้ ูงอายุ ท้งั น้ี ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการกาหนด ค. รายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนต่อคณะกรรมการตามระเบียบ ท่ีคณะกรรมการกาหนด ง.ถูกทุกขอ้ ตอบ ง. ถกู ทุกขอ้ มาตรา ๒๐ ใหค้ ณะกรรมการบริหารกองทุนมีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑) บริหารกองทุน รวมท้งั ดาเนินการเกี่ยวกบั การจดั หาผลประโยชนแ์ ละการจดั การ กองทุนใหเ้ ป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด (๒) พจิ ารณาอนุมตั ิการจ่ายเงิน เพ่อื การคุม้ ครอง การส่งเสริม การสนบั สนุน และ
การจดั สวสั ดิการแก่ผสู้ ูงอายุ ท้งั น้ี ตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด (๓) รายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนต่อคณะกรรมการตามระเบียบ ท่ีคณะกรรมการกาหนด 19. ใหค้ ณะกรรมการบริหารกองทุนจดั ทางบดุลและบญั ชีทาการส่งผสู้ อบบญั ชีตรวจสอบภายใน............นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชีทุกปี ก.60 วนั ข.90 วนั ค.120 วนั ง. 150 วนั ตอบ ค.120 วนั มาตรา ๒๒ ใหค้ ณะกรรมการบริหารกองทุนจดั ทางบดุลและบญั ชีทาการส่งผสู้ อบ บญั ชีตรวจสอบภายในหน่ึงร้อยยสี่ ิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชีทุกปี ใหส้ านกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินเป็นผสู้ อบบญั ชีของกองทุนทุกรอบปี แลว้ ทารายงาน ผลการสอบบญั ชีของกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการ 20.ใหผ้ ใู้ ดรักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และมีอานาจออกประกาศหรือระเบียบเพือ่ ปฏิบตั ิตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี ท้งั น้ี ในส่วนท่ีเก่ียวกบั ราชการของกระทรวงน้นั ก.นายกรัฐมนตรี ข.รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ ค.ไม่มีขอ้ ถูก ง.ถูกท้งั ก. และ ข. ตอบ ง.ถูกท้งั ก. และ ข. มาตรา ๒๔ ใหน้ ายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการพฒั นาสังคมและ ความมน่ั คงของมนุษยร์ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และมีอานาจออกประกาศหรือระเบียบเพื่อปฏิบตั ิตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี ท้งั น้ี ในส่วนท่ีเก่ียวกบั ราชการของกระทรวงน้นั ประกาศหรือระเบียบเม่ือไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้
ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พนั ตารวจโท ทกั ษณิ ชินวตั ร นายกรัฐมนตรี
สรุประเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยคณะกรรมการพฒั นาสตรี (ฉบับท่ี ๓)พ.ศ. ๒๕๕๕ 1. คณะกรรมการพฒั นาสตรี มี 4 ระดับ ใหค้ ณะกรรมการพฒั นาสตรีมี 4 ระดบั คือ หม่บู า้ น ตาบล อาเภอ และจงั หวดั ประกอบดว้ ย ผมู้ ีตาแหน่งทางการบริหารดงั น้ี ประธาน รองประธาน เลขานุการ เหรัญญิก ประชาสมั พนั ธ์ และตาแหน่งอ่ืน ตามความจาเป็นและเหมาะสม (ขอ้ 3) 2. คณะกรรมการพฒั นาสตรีหมู่บ้าน คณะกรรมการพฒั นาสตรีหม่บู า้ น เรียกชื่อโดยยอ่ วา่ “กพสม.” ประกอบดว้ ย สตรีท่ีไดร้ ับ การคดั เลือกจากประชาชนในหมู่บา้ นน้นั มีจานวนอยา่ งนอ้ ยเกา้ คนแต่ไม่เกินสิบหา้ คน โดยใหน้ ายอาเภอ หรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจาก่ิงอาเภอเป็นผแู้ ต่งต้งั มีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (ขอ้ 4) (1) สารวจปัญหาความตอ้ งการของสตรีในหมู่บา้ น (2) เสนอปัญหาและจดั ทาแผนโครงการพฒั นาสตรี (3) เสนอแผนงานโครงการแก่คณะกรรมการหมู่บา้ น (กม.) เพื่อบรรจุในแผนพฒั นาตาบล (4) สนบั สนุนกิจกรรมในการแกไ้ ขปัญหาเร่งด่วนที่เก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชน (5) ปฏิบตั ิงานโครงการร่วมกบั กลุ่มสตรีในหมู่บา้ น (6) จดั ทาทะเบียนครุภณั ฑข์ ององคก์ รสตรีท่ีรับผดิ ชอบ (7) ติดตามผลและประชาสมั พนั ธ์การดาเนินงาน (8) จดั ประชุมคณะกรรมการพฒั นาสตรีหมู่บา้ นอยา่ งนอ้ ยเดือนละหน่ึงคร้ัง 3. คณะกรรมการพฒั นาสตรีตาบล คณะกรรมการพฒั นาสตรีตาบล เรียกชื่อโดยยอ่ วา่ “กพสต.” ประกอบดว้ ย ประธานและ
กรรมการพฒั นาสตรีหมู่บา้ น หมู่บา้ นละสองคน โดยใหน้ ายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจากิ่ง อาเภอเป็นผแู้ ต่งต้งั มีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (ขอ้ 5) (1) รวบรวมปัญหาและความตอ้ งการของสตรีในตาบล (2) วเิ คราะห์ปัญหา สาเหตุ แนวทางแกไ้ ข (3) จดั ทาแผนงาน โครงการ กิจกรรมนอกเหนือจากท่ีคณะกรรมการพฒั นาสตรีหม่บู า้ นเสนอแลว้ นาเสนอสภาตาบลหรือองคก์ ารบริหารส่วนตาบล เพอ่ื บรรจุในแผนพฒั นาตาบล 5 ปี และแผนพฒั นาตาบล ประจาปี (4) ประสานงานกบั สภาตาบลและองคก์ ารบริหารส่วนตาบล หน่วยงานภาครัฐบาลและ เอกชนเพอ่ื ขอรับการสนบั สนุนดา้ นวชิ าการ งบประมาณและวสั ดุอุปกรณ์ (5) ปฏิบตั ิงานร่วมกบั กลุ่ม องคก์ รต่าง ๆ ในการพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชน รวมท้งั กิจกรรมพฒั นาต่าง ๆ ในตาบล (6) ใหก้ ารสนบั สนุนการดาเนินงานของคณะกรรมการพฒั นาสตรีในตาบล (7) ติดตาม ประเมินผล การดาเนินงานและแกไ้ ขปัญหาอุปสรรค (8) จดั ทาทะเบียนขอ้ มูลเกี่ยวกบั สตรี เดก็ และเยาวชนในตาบล (9) ประชาสัมพนั ธ์เกี่ยวกบั การดาเนินงานพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชนในตาบล (10) ดาเนินงานอ่ืนตามที่สภาตาบลหรือองคก์ ารบริหารส่วนตาบลและทางราชการมอบหมาย (11) จดั ประชุมคณะกรรมการพฒั นาสตรีตาบล อยา่ งนอ้ ยเดือนละหน่ึงคร้ัง 4. คณะกรรมการพฒั นาสตรีอาเภอ คณะกรรมการพฒั นาสตรีอาเภอ เรียกชื่อโดยยอ่ วา่ “กพสอ.” ประกอบดว้ ย ประธาน และ
กรรมการพฒั นาสตรีตาบล ตาบลละสองคน และสตรีที่ทาประโยชนใ์ นดา้ นการพฒั นาสตรีของอาเภออีก จานวนหา้ ถึงสิบคน โดยใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั เป็นผแู้ ต่งต้งั มีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (ขอ้ 6) (1) รวบรวมปัญหาและความตอ้ งการของสตรี เดก็ และเยาวชนในอาเภอ (2) วเิ คราะห์ปัญหา สาเหตุ แนวทางแกไ้ ข และจดั ทาแผนงานโครงการเร่งด่วนหรือ กิจกรรมนอกเหนือจากท่ีคณะกรรมการพฒั นาสตรีตาบล เสนอในแผนพฒั นาตาบล เสนอคณะกรรมการ พฒั นาสตรีจงั หวดั เพ่อื ขอรับการสนบั สนุน (3) ประสานงานกบั คณะกรรมการพฒั นาอาเภอ (กพอ.) หน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อขอรับ การสนบั สนุนดา้ นวชิ าการ งบประมาณและวสั ดุอุปกรณ์ (4) ปฏิบตั ิงานร่วมกบั กลุ่ม องคก์ รต่าง ๆ ในการพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชน รวมท้งั กิจกรรมพฒั นาต่าง ๆ ในอาเภอ (5) ใหก้ ารสนบั สนุนการดาเนินงานของคณะกรรมการพฒั นาสตรีตาบล และคณะกรรมการพฒั นา สตรีหมู่บา้ น (6) จดั กิจกรรมเนื่องในวนั สาคญั เกี่ยวกบั สตรี เดก็ และเยาวชน เช่น วนั แม่แห่งชาติ วนั ครอบครัววนั สตรีสากล วนั เดก็ แห่งชาติ วนั กตญั ญู และวนั สาคญั อื่น ๆ ของทางราชการ (7) ติดตาม ประเมินผล การดาเนินงานและแกไ้ ขปัญหาอุปสรรค (8) จดั ทาทะเบียนขอ้ มลู เกี่ยวกบั สตรี เด็ก และเยาวชนในอาเภอ (9) ประชาสมั พนั ธ์เก่ียวกบั การดาเนินงานพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชนในอาเภอ (10) ดาเนินงานอ่ืนตามที่คณะกรรมการพฒั นาอาเภอและทางราชการมอบหมาย (11) จดั ประชุมคณะกรรมการพฒั นาสตรีอาเภอ อยา่ งนอ้ ยเดือนละหน่ึงคร้ัง 5. คณะกรรมการพฒั นาสตรีจังหวดั คณะกรรมการพฒั นาสตรีจงั หวดั เรียกชื่อโดยยอ่ วา่ “กพสจ.” ประกอบดว้ ย ประธาน และ
กรรมการพฒั นาสตรีอาเภอ อาเภอละสองคน และสตรีที่ทาประโยชนใ์ นดา้ นการพฒั นาสตรีของจงั หวดั อีกจานวนหา้ ถึงยส่ี ิบคน โดยใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั เป็นผแู้ ต่งต้งั มีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (ขอ้ 7) (1) กาหนดเป้ าหมายและแผนการดาเนินงานโดยประสานกบั คณะกรรมการส่งเสริมและ ประสานงานสตรีแห่งชาติ (กสส.) ในการสนบั สนุนองคก์ รสตรีในส่วนภมู ิภาค (2) รวบรวมปัญหาและความตอ้ งการของสตรี เด็ก และเยาวชนในจงั หวดั (3) วเิ คราะห์ปัญหา สาเหตุ แนวทางแกไ้ ข และจดั ทาแผนงานโครงการเร่งด่วนหรือกิจกรรม นอกเหนือจากที่คณะกรรมการพฒั นาสตรีอาเภอเสนอ (4) ประสานงานกบั คณะกรรมการพฒั นาจงั หวดั (กพจ.) หน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อขอรับ การสนบั สนุนดา้ นวชิ าการ งบประมาณและวสั ดุอุปกรณ์ (5) ปฏิบตั ิงานร่วมกบั กลุ่ม องคก์ รต่าง ๆ ในการพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชน รวมท้งั กิจกรรมพฒั นาต่าง ๆ ในจงั หวดั (6) ใหก้ ารสนบั สนุนการดาเนินงานของคณะกรรมการพฒั นาสตรีอาเภอ คณะกรรมการ พฒั นาสตรีตาบล และคณะกรรมการพฒั นาสตรีหมู่บา้ น (7) จดั กิจกรรมเนื่องในวนั สาคญั เก่ียวกบั สตรี เด็ก และเยาวชน เช่น วนั แม่แห่งชาติ วนั ครอบครัว วนั สตรีสากล วนั เดก็ แห่งชาติ วนั กตญั ญู และวนั สาคญั อื่น ๆ ของทางราชการ (8) ติดตาม ประเมินผล การดาเนินงานและแกไ้ ขปัญหาอุปสรรค (9) จดั ต้งั ชมรม เพื่อสนบั สนุนการดาเนินงานพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชนในจงั หวดั (10) จดั ทาทะเบียนขอ้ มูลเก่ียวกบั สตรี เด็ก และเยาวชนในจงั หวดั (11) ประชาสมั พนั ธ์เกี่ยวกบั การดาเนินงานพฒั นาสตรี เดก็ และเยาวชนในจงั หวดั (12) ดาเนินงานอื่นตามท่ีคณะกรรมการพฒั นาจงั หวดั และทางราชการมอบหมาย
(13) จดั ประชุมคณะกรรมการพฒั นาสตรีจงั หวดั อยา่ งนอ้ ยเดือนละหน่ึงคร้ัง 6. คุณสมบัตแิ ละไม่มลี กั ษณะต้องห้ามของคณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั ผทู้ ่ีจะไดร้ ับการคดั เลือกและแต่งต้งั เป็นคณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั ตอ้ งมี คุณสมบตั ิ และไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ต่อไปน้ี (ขอ้ 8) (1) เป็นสตรีและมีสญั ชาติไทย (2) มีอายไุ ม่ต่ากวา่ สิบแปดปี บริบูรณ์ (3) มีภูมิลาเนาหรือถิ่นที่อยเู่ ป็นประจาในหมู่บา้ นน้นั มาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ สามเดือน (4) เป็นผเู้ ลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญดว้ ยความบริสุทธ์ใจ (5) มีพ้นื ความรู้ไม่ต่ากวา่ ประถมศึกษาตอนตน้ หรือท่ีกระทรวงศกึ ษาธิการเทียบเท่าไม่ต่ากวา่ ประโยคประถมศึกษาตอนตน้ (6) เป็นนกั พรต หรือนกั บวช (7) เป็นผมู้ ีร่างกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ที่ได้ วกิ ลจริต หรือจิตฟั่นเฟื อน ไม่สมประกอบ (8) เป็นผปู้ ระกอบสัมมาอาชีวะ ไม่บกพร่องในศีลธรรมอนั ดี 7. วาระการดารงตาแหน่ง คณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั มีวาระอยใู่ นตาแหน่งไดค้ ราวละสี่ปี นบั แต่วนั แต่งต้งั เป็นตน้ ไป และอาจไดร้ ับการคดั เลือกใหป้ ฏิบตั ิงานต่อไปไดอ้ ีก (ขอ้ 9)
8. องค์ประชุมและมตขิ องทป่ี ระชุม การประชุมคณะกรรมการแต่ละระดบั ตอ้ งมีกรรมการมาประชุมไม่นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึงของ กรรมการท้งั หมดที่อยใู่ นตาแหน่งจึงจะเป็นองคป์ ระชุม (ขอ้ 10) 9. อานาจหน้าทข่ี องนายอาเภอและผู้ว่าราชการจงั หวดั 9.1 ใหน้ ายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจาก่ิงอาเภอหรือผวู้ า่ ราชการจงั หวดั แลว้ แต่กรณีพจิ ารณา ใหบ้ ุคคลท่ีเป็นคณะกรรมการพฒั นาสตรีท่ีไดร้ ับแต่งต้งั พน้ จากตาแหน่งก่อนครบวาระ ดว้ ยเหตุใดเหตุหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี (ขอ้ 11) (1) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ตามขอ้ 8 (2) ตาย (3) ลาออก (4) ไปจากหมู่บา้ น ตาบล อาเภอ หรือจงั หวดั ที่ตนประกอบอาชีพอยเู่ กินสามเดือน (5) คณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั แลว้ แต่กรณี มีมติไม่นอ้ ยกวา่ สองในสาม ของคณะกรรมการมีมติใหพ้ น้ ตากตาแหน่งโดยเห็นวา่ มีความประพฤติในทางท่ีจะนามาซ่ึงความเส่ือมเสียแก่ หม่บู า้ น ตาบล อาเภอ หรือจงั หวดั 9.2 ในกรณีท่ีบุคคลซ่ึงเป็นคณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั พน้ จากตาแหน่งก่อนครบวาระ และมีวาระการปฏิบตั ิงานเหลืออยไู่ ม่นอ้ ยกวา่ หน่ึงร้อยแปดสิบวนั ใหด้ าเนินการคดั เลือกข้ึนใหม่แทนบุคคล เก่าภายในหกสิบวนั นบั แต่วนั ที่ตาแหน่งน้นั วา่ งตามวธิ ีการที่กาหนดไวใ้ นระเบียบน้ี และใหผ้ ทู้ ่ีไดร้ ับการ แต่งต้งั อยใู่ นตาแหน่งตามวาระของผซู้ ่ึงตนมาดารงตาแหน่งแทน (ขอ้ 12) 9.3 ใหก้ รมการพฒั นาชุมชนกาหนดรูปแบบเครื่องหมายสัญลกั ษณ์ขององคก์ รสตรีและ
บตั รประจาตวั ของคณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั โดยนายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ป็นหวั หนา้ ประจา ก่ิงอาเภอหรือผซู้ ่ึงนายอาเภอมอบหมาย และผวู้ า่ ราชการจงั หวดั หรือผซู้ ่ึงผวู้ า่ ราชการจงั หวดั มอบหมายเป็นผู้ ลงนามในบตั รประจาตวั ของคณะกรรมการพฒั นาสตรีในแต่ละระดบั (ขอ้ 19) 10. ทปี่ รึกษาคณะกรรมการพฒั นาสตรี 10.1 คณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั อาจมีที่ปรึกษาไดต้ ามความเหมาะสมโดยใหผ้ มู้ ี อานาจมีคาส่งั แต่งต้งั ไดต้ ามขอ้ 4 ขอ้ 5 ขอ้ 6 และขอ้ 7 (ขอ้ 13) 10.2 ท่ีปรึกษาคณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั มีหนา้ ท่ีใหค้ าปรึกษาดา้ นวชิ าการ ระเบียบ กฎหมาย และช่วยเหลือสนบั สนุนการดาเนินงานของคณะกรรมการพฒั นาสตรี หรือตามท่ี คณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั ร้องขอ (ขอ้ 14) 11. การส่งเสริมและสนับสนุนสตรี 11.1 ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีของกรมการพฒั นาชุมชนส่งเสริมและสนบั สนุนใหส้ ตรีท่ีมีลกั ษณะเป็นผนู้ า มีโอกาสเป็นคณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั โดยพิจารณาจากสตรีท่ีมีลกั ษณะเป็นผนู้ าที่อยใู่ นหม่บู า้ น ตาบล อาเภอ จงั หวดั เป็นคณะกรรมการพฒั นาสตรีในแต่ละระดบั (ขอ้ 15) 11.2 โครงการต่าง ๆ ท่ีกรมการพฒั นาชุมชนสนบั สนุนตามระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยการบริหารการพฒั นาชนบทและการกระจายความเจริญไปสู่ภมู ิภาค พ.ศ. 2535 ดาเนินงานในหมบู่ า้ น และตาบล ใหส้ านกั งานพฒั นาชุมชนจงั หวดั และหรือ สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอร่วมกบั องคก์ รสตรีเป็นผู้ ดาเนินงานและรับผดิ ชอบ (ขอ้ 16)
12. การฝึ กอบรมหรือประชุมสัมมนาคณะกรรมการพฒั นาสตรี ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีของกรมการพฒั นาชุมชนจดั ฝึกอบรมหรือประชุมสมั มนาคณะกรรมการพฒั นาสตรี หม่บู า้ น คณะกรรมการพฒั นาสตรีตาบล คณะกรรมการพฒั นาสตรีอาเภอ และคณะกรรมการพฒั นาสตรี จงั หวดั ที่ไดร้ ับการคดั เลือกและแต่งต้งั เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจบทบาทหนา้ ที่ของตน และสามารถนาไปปฏิบตั ิงานอยา่ ง มีประสิทธิภาพ (ขอ้ 17) 13. การเผยแพร่ข่าวสารเกย่ี วกบั การพฒั นาสตรี ใหก้ รมการพฒั นาชุมชนเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกบั การพฒั นาองคก์ รสตรีและการพฒั นาสตรี โดยประสานการดาเนินงานกบั หน่วยงานของรัฐและองคก์ รเอกชนท่ีเกี่ยวขอ้ งท้งั ในส่วนกลาง และภูมิภาค ในการวางแผนและส่งเสริมกิจกรรมการพฒั นาสตรี (ขอ้ 18) 14. การรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านของคณะกรรมการพฒั นาสตรี ใหค้ ณะกรรมการพฒั นาสตรีแต่ละระดบั รายงานผลการปฏิบตั ิงานให้ อาเภอ จงั หวดั และ กระทรวงมหาดไทยทราบ ภายในเดือน มกราคม พฤษภาคม และกนั ยายน ของทุกปี การรายงานผลการ ปฏิบตั ิงานใหเ้ ป็นไปตามแบบท่ีกรมการพฒั นาชุมชนกาหนด (ขอ้ 20) 15. การรักษาการตามระเบยี บ ใหอ้ ธิบดีกรมการพฒั นาชุมชน รักษาการตามระเบียบน้ีและใหม้ ีอานาจตีความ วนิ ิจฉยั ปัญหา ท่ีเกิดข้ึนจากการปฏิบตั ิตามระเบียบน้ี คาวนิ ิจฉยั ของอธิบดีกรมการพฒั นาชุมชน ใหเ้ ป็นท่ีสุด (ขอ้ 21)
แนวข้อสอบ ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทาแผนและประสานแผนพฒั นาพนื้ ทใ่ี นระดับอาเภอ และตาบล พ.ศ. 2562 1.การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนท่ีหมู่บา้ น ชุมชน ตาบล และอาเภอ ใหเ้ กิดความ เช่ือมโยงสอดคลอ้ งกบั ทิศทางการพฒั นาในระดบั จงั หวดั กลุ่มจงั หวดั ภาค และประเทศ ไปในทิศทาง เดียวกนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เกิดความคุม้ ค่า นาไปสู่ส่ิงใด ก.ความมนั่ คง ข.มงั่ คง่ั ค.ยง่ั ยนื ง.ถูกทุกขอ้ 2.ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาพ้นื ที่ในระดบั อาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 ออกระเบียบโดยอาศยั อานาจใด ก. มาตรา ๒๐ แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 และในฐานะที่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามมาตรา 6 แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๔๐ ข. มาตรา 77 แห่งพระราชบญั ญตั ิเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ ค.มาตรา 5 แห่งพระราชบญั ญตั ิสภาตาบลและองคก์ ารบริหารส่วนตาบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และมาตรา 6 แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการเมืองพทั ยา พ.ศ. ๒๕๔๒ ง.ถกู ทุกขอ้ 3.ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาพ้ืนที่ในระดบั อาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 ผใู้ ดเป็นคนออกระเบียบ ก.รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ข.รองนายกรัฐมนตรี ค.นายรัฐมนตรี ง.รัฐมนตรีประจาสานกั นายกรัฐมนตรี 4.ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาพ้นื ท่ีในระดบั อาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 บงั คบั ใช่เม่ือใด ก.พน้ สามสิบวนั หลงั ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข.วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ค.วนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ง.พน้ เจด็ วนั หลงั ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
5.แผนพฒั นาหมู่บา้ น แผนชุมชน แผนพฒั นา ตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน แผนพฒั นาอาเภอ และแผนพฒั นา ของส่วนราชการหรือหน่วยงานอ่ืน ที่ดาเนินการในพ้นื ที่อาเภอ หมายความวา่ อะไร ก.แผนพฒั นาในระดบั ทอ้ งถ่ิน ข.แผนพฒั นาในระดบั ชุมชน ค.แผนพฒั นาในระดบั พ้นื ท่ี ง.แผนพฒั นาในระดบั พ้ืนฐาน 6.การจดั ทาแผน และประสานแผนพฒั นาหมู่บา้ น แผนชุมชน แผนพฒั นาตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน แผนพฒั นาอาเภอ และแผนพฒั นาของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่น รวมท้งั องคก์ รภาคเอกชนและ ประชาชน ท่ีดาเนินการในพ้ืนที่ใหม้ ีความเช่ือมโยงและสอดคลอ้ งในทุกระดบั เป็นแผนเดียวกนั เพื่อให้ สะทอ้ นปัญหา และความตอ้ งการของประชาชนในพ้ืนที่ และสอดคลอ้ งกบั แนวทางตามแผนพฒั นาจงั หวดั แผนพฒั นา กลุ่มจงั หวดั และแผนพฒั นาภาค ที่เป็นการบูรณาการการทางานของทุกหน่วยงานในพ้ืนที่ หมายความวา่ อยา่ งไร ก. การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั ทอ้ งถิ่น ข.การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั ชุมชน ค.การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนฐาน ง.การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนท่ี 7. “หมู่บา้ น” หมายความวา่ ก.หม่บู า้ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยลกั ษณะปกครองทอ้ งที่ ข.หม่บู า้ นตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ค.หม่บู า้ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยลกั ษณะทอ้ งท่ีอาเภอ ง.หม่บู า้ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยลกั ษณะหมู่บา้ น 8. “ชุมชน” หมายความวา่ ก. ชุมชนที่ไม่มีตาแหน่งกานนั ผใู้ หญ่บา้ น ข. อยใู่ นพ้ืนที่ความรับผดิ ชอบ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ค. การรวมกลุ่มของบา้ นเรือน ง. ก. และ ข. ถูกตอ้ ง
9. “องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน” หมายความวา่ ก. องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั เทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนตาบล และราชการส่วนทอ้ งถิ่นอ่ืนตามที่ มีกฎหมายกาหนดแต่ไม่รวมถึง กรุงเทพมหานคร เมืองพทั ยา ข.องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั เทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนตาบล เมืองพทั ยา และราชการส่วน ทอ้ งถ่ินอ่ืนตามท่ีมีกฎหมายกาหนดแต่ไม่รวมถึง กรุงเทพมหานคร ค.องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั เทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนตาบล เมืองพทั ยา กรุงเทพมหานคร และ ราชการส่วนทอ้ งถ่ินอื่นตามท่ีมีกฎหมายกาหนด ง.องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั องคก์ ารบริหารส่วนตาบล เมืองพทั ยา และราชการส่วนทอ้ งถิ่นอ่ืน ตามที่มีกฎหมายกาหนดแต่ไม่รวมถึง กรุงเทพมหานคร 10. “คณะกรรมการชุมชน” หมายความวา่ ก.คณะกรรมการของชุมชนท่ีอยใู่ นพ้นื ท่ีความรับผิดชอบ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นในเขต เทศบาลและเมืองพทั ยา ข.คณะกรรมการของชุมชนท่ีอยใู่ นพ้นื ท่ีความรับผิดชอบ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นในเขต กรุงเทพมหานคร ค. คณะกรรมการของชุมชนท่ีอยใู่ นพ้นื ท่ีความรับผดิ ชอบ ง.คณะกรรมการของชุมชนท่ีอยใู่ นพ้ืนที่ความรับผิดชอบ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น 11. คณะกรรมการหม่บู า้ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยลกั ษณะ ปกครองทอ้ งที่ และคณะกรรมการกลางหม่บู า้ นอาสา พฒั นาและป้ องกนั ตนเองตามกฎหมายวา่ ดว้ ย จดั ระเบียบบริหารหมู่บา้ นอาสาพฒั นาและป้ องกนั ตนเอง หมายถึงขอ้ ใด ก.คณะกรรมการหมู่บา้ น ข.คณะกรรมการชุมชน ค.คณะกรรมการตาบล ง.คณะกรรมการอาเภอ 12.แผนพฒั นาท่ีรวบรวมรายการโครงการและแผนงานต่างๆ ของอาเภอท่ีสะทอ้ นถึงปัญหาและความ ตอ้ งการของประชาชน ตลอดจนความตอ้ งการของทุกภาคส่วน ในพ้ืนท่ีอาเภอโดยแผนพฒั นาอาเภอ
จาเป็นตอ้ งจดั ทาเพือ่ ใหเ้ ป็นเครื่องมือในการดาเนินงานตามวตั ถุประสงค์ และทิศทางการพฒั นาของอาเภอใน อนาคตหมายถึงขอ้ ใด ก.แผนพฒั นาอาเภอ ข.แผนพฒั นาชุมชน ค.แผนพฒั นาจงั หวดั ง.แผนพฒั นาทอ้ งที่ 13.รายการเกี่ยวกบั โครงการและแผนงานต่างๆ ที่จาเป็นตอ้ งดาเนินการในพ้ืนที่อาเภอในแต่ละปี งบประมาณ ที่ระบุถึงปัญหาและความตอ้ งการของ ประชาชนในพ้ืนท่ีอาเภอและเป็นไปตามลาดบั ความสาคญั ท่ีมาจาก แผนพฒั นาหม่บู า้ น แผนชุมชน แผนพฒั นาตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน และแผนของส่วนราชการหรือ หน่วยงานอื่น ที่ดาเนินการในพ้นื ท่ี โดยจดั กลุ่มของปัญหาและความตอ้ งการออกเป็นหมวดหมู่และส่งไปยงั จงั หวดั หรือหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ ง เพ่อื ประกอบการจดั ทาแผนพฒั นาจงั หวดั และแผนปฏิบตั ิราชการประจาปี ของจงั หวดั หรือแผนปฏิบตั ิ ราชการประจาปี ของส่วนราชการ หมายถึงขอ้ ใด ก.แผนความตอ้ งการระดบั ชุมชน ข.แผนความตอ้ งการระดบั จงั หวดั ค.แผนความตอ้ งการระดบั อาเภอ ง.แผนความตอ้ งการระดบั ทอ้ งท่ี 14.แผนพฒั นาท่ีรวบรวมรายการแผนงานหรือโครงการ หรือกิจกรรม ที่จาเป็นตอ้ งทาเพื่อการพฒั นาแกไ้ ข ปัญหาและความตอ้ งการของประชาชนในพ้นื ที่ระดบั ตาบล ที่มาจากแผนพฒั นาหมู่บา้ น แผนชุมชน แผนพฒั นาทอ้ งถิ่น และแผนของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่น ที่ดาเนินการในพ้ืนท่ี หมายถึงขอ้ ใด ก.แผนพฒั นาอาเภอ ข.แผนพฒั นาชุมชน ค.แผนพฒั นาตาบล ง.แผนพฒั นาทอ้ งท่ี 15.แผนพฒั นาที่กาหนดแผนงานหรือโครงการ หรือกิจกรรม ท่ีมาจากกระบวนการเรียนรู้เพ่ือจดั การตนเองท่ี คณะกรรมการหมู่บา้ นและประชาชนในหมู่บา้ นร่วมคิด วเิ คราะห์ปัญหา ศกั ยภาพความพร้อมของหมู่บา้ น ภายใตเ้ วทีประชาคมหม่บู า้ น และขอ้ มูลท่ีคน ในหม่บู า้ นจดั เกบ็ รวมถึงขอ้ มลู จากแผนชนิดต่าง ๆ ท่ีมีอยใู่ น หมู่บา้ น ไม่วา่ จะเป็นแผนที่ส่วนราชการ หน่วยงาน องคก์ รต่าง ๆ ใหก้ ารสนบั สนุน หรือจดั ทาข้ึน เพอื่
รวบรวมใหเ้ ป็นกรอบแนวทางการป้ องกนั แกไ้ ขปัญหา และพฒั นาหมู่บา้ นใหส้ อดคลอ้ งกบั ปัญหาและความ ตอ้ งการท่ีแทจ้ ริงของหมู่บา้ น หมายถึงขอ้ ใด ก.แผนพฒั นาอาเภอ ข.แผนพฒั นาชุมชน ค.แผนพฒั นาตาบล ง.แผนพฒั นาหม่บู า้ น 16.การจดั ทาเวทีประชาคมร่วมกนั ระหวา่ งประชาชน คณะกรรมการหม่บู า้ น คณะกรรมการชุมชน และส่วน ราชการหรือหน่วยงานอื่น ที่ดาเนินการในพ้นื ที่ เพอื่ รวบรวม วเิ คราะหป์ ัญหา และความตอ้ งการของ ประชาชนในพ้นื ท่ี เพ่ือใช้ ประกอบการจดั ทาแผนพฒั นาหม่บู า้ น แผนพฒั นาทอ้ งถิ่น และแผนของส่วน ราชการหรือหน่วยงานอ่ืน ท่ีดาเนินการในพ้นื ที่ หมายถึงขอ้ ใด ก.การจดั ทาเวทีประชาคมชุมชน ข.การจดั ทาเวทีประชาคมตาบลนและชุมชน ค.การจดั ทาเวทีประชาคมหมู่บา้ น ง.การจดั ทาเวทีประชาคมหมู่บา้ นและชุมชน 17.ใครรักษาการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาพ้นื ที่ใน ระดบั อาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 ก.รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ข.ปลดั กระทรวงมหาดไทย ค.นายรัฐมนตรี ง.รัฐมนตรีประจาสานกั นายกรัฐมนตรี 18.จดั ทาเวทีประชาคมหม่บู า้ นและชุมชน เพอ่ื อะไร ก. เพือ่ รวบรวมขอ้ มูลปัญหาความตอ้ งการต่าง ๆ ของหม่บู า้ นและชุมชน ท้งั ในดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม และคุณภาพชีวติ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ข.ความมนั่ คงและความสงบเรียบร้อย ค.การบริหารจดั การ หรืออื่น ๆ ง. ถูกทุกขอ้
19. ใหใ้ ครดาเนินการพฒั นาศกั ยภาพ คณะกรรมการหมู่บา้ น และคณะกรรมการชุมชน หรือหน่วยงานอ่ืนที่ เก่ียวขอ้ งในการบูรณาการ และประสานงานในการจดั ทาแผนพฒั นาหม่บู า้ นและแผนชุมชน ก.ใหน้ ายอาเภอ ข.ผบู้ ริหารองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ค.ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ง. ถกู ท้งั ก. และ ข. 20.เพอ่ื ใหเ้ กิดการบูรณาการในการจดั ทาแผนพฒั นาหมู่บา้ นและแผนชุมชน ใหใ้ คร เป็นหน่วยงานหลกั ร่วมกนั ในการจดั ทาแผนพฒั นาหม่บู า้ นและแผนชุมชน ก.อาเภอ และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ข.จงั หวดั และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ค.ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และนายก อบจ. ง.อาเภอ และ ตาบล 21.หน่วยงานใดสนบั สนุนในการจดั ทาแผนพฒั นาหมู่บา้ น และแผนชุมชน ก.สานกั งานอาเภอ ข.สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอ ค.สานกั งานพฒั นาชุมชน ง.สานกั งานพฒั นาอาเภอ 22.ในตาบลหน่ึง ใหม้ ีคณะกรรมการบริหารงานตาบลแบบบูรณาการ ข้ึนคณะหน่ึง เรียกโดยยอ่ วา่ อะไร ก. ก.บ.ล. ข.ก.บ.ต. ค.กบต. ง.ก.บต. 23. คณะกรรมการบริหารงานตาบลแบบบรู ณาการ ผใู้ ดเป็นประธาน ก.ปลดั อาเภอผรู้ ับผดิ ชอบประจาตาบลที่นายอาเภอมอบหมาย ข ปลดั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินในตาบล ค. กานนั ง.นายอาเภอ
24.การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาอาเภอ ในอาเภอหน่ึง ใหม้ ีคณะกรรมการบริหารงานอาเภอแบบ บูรณาการ ข้ึนคณะหน่ึง เรียกโดยยอ่ วา่ ก. ก.บ.อ. ข.กบอ. ค. ก.บอ. ง. กบ.อ. 25.จดั ทาแผนปฏิบตั ิงานประจาปี ของอาเภอ โดยรวบรวมโครงการหรือกิจกรรมของส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจในสังกดั กระทรวงมหาดไทย องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นที่ไดร้ ับการจดั สรรงบประมาณ รายจ่าย ประจาปี ท่ีตอ้ งดาเนินการในพ้ืนท่ีอาเภอ และรายงานใหใ้ ครทราบ ก.ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ข.คณะกรรมการบริหารงานจงั หวดั ค คณะกรรมการจงั หวดั ง.ปลดั จงั หวดั 26.แผนพฒั นาอาเภอ และแผนความตอ้ งการระดบั อาเภอ เสนอผใู้ ดเห็นชอบ ก.ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ข.คณะกรรมการบริหารงานจงั หวดั ค คณะกรรมการจงั หวดั ง.ปลดั จงั หวดั 27.เพ่อื ใหเ้ กิดการบูรณาการและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้นื ท่ี ใหด้ าเนินการ ตามแนวทาง ตามขอ้ ใด ก. จดั ทาเวทีประชาคม เพอื่ ใหท้ ุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็นของประชาชน เพ่อื ให้ ไดม้ าซ่ึงปัญหา และความตอ้ งการจากประชาชนในพ้นื ที่ ข. ใหม้ ีการประสานแผนในระดบั พ้นื ที่ โดยการรวบรวมและจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา และ ความตอ้ งการของประชาชนในพ้ืนที่ ผา่ นกลไกการจดั ทาแผนพฒั นาหมู่บา้ น แผนชุมชน แผนพฒั นาตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน และแผนความตอ้ งการระดบั อาเภอ เพื่อใหแ้ ผนมีความเชื่อมโยง สอดคลอ้ งกนั ในทุก ระดบั เป็นแผนเดียวกนั
ค. ในกรณีแผนงานหรือโครงการ หรือพ้ืนท่ี มีความซ้าซอ้ นกนั ในการจดั ทาแผนระดบั อาเภอ กบั แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน ใหห้ ารือร่วมกนั ระหวา่ งคณะกรรมการบริหารงานอาเภอแบบบูรณาการกบั องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ินที่เก่ียวขอ้ ง ง.ถกู ทุกขอ้ 28.ผใู้ ดมีหนา้ ที่กากบั ดูแล และใหค้ าแนะนาในการประสานแผนพฒั นาหม่บู า้ น แผนชุมชน แผนพฒั นา ตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถิ่น แผนพฒั นาอาเภอ ที่ดาเนินการในพ้ืนที่อาเภอ เพื่อใหก้ ารดาเนินการตามระเบียบน้ี เกิดผลสมั ฤทธ์ิ ก.ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ข.คณะกรรมการบริหารงานจงั หวดั ค คณะกรรมการจงั หวดั ง.นายอาเภอ 29.เพื่อใหก้ ารประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนที่เกิดผลสมั ฤทธ์ิ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั มีอานาจหนา้ ท่ีกากบั ดูแล และใหค้ าแนะนาที่เป็นประโยชนต์ ามหลกั เกณฑ์ ขอ้ ใด ก. บรู ณาการการจดั ทาแผนพฒั นาในระดบั พ้นื ที่กบั ทุกภาคส่วน และสอดคลอ้ งเช่ือมโยงกบั แผนพฒั นาจงั หวดั ข. ประเมินประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และผลกระทบ ที่เกิดข้ึนจากการประสานแผนพฒั นา ในระดบั พ้นื ที่ ค.พจิ ารณาใหห้ น่วยงานใดเป็นผดู้ าเนินการ ในกรณีที่มีความซ้าซอ้ นกนั ในเร่ืองงบประมาณ ระยะเวลาดาเนินการ ผดู้ าเนินการ หรือโครงการ ง.ถกู ทุกขอ้ 30.ใครกากบั ดูแล และใหค้ าแนะนาเพ่ือใหอ้ งคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่นดาเนินการจดั ทาแผนพฒั นาทอ้ งถิ่น และการประสานแผนพฒั นาทอ้ งถิ่นใหส้ อดคลอ้ ง กบั แผนพฒั นาในระดบั จงั หวดั เพื่อใหเ้ ป็นไปตาม กฎหมาย กฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั ต้งั องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถิ่น และกฎหมายวา่ ดว้ ยการกาหนดแผนและ ข้นั ตอนการกระจายอานาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถิ่น ก.ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ข.นายอาเภอ ค.ปลดั อาเภอ ง. ก. และ ข. ถูกตอ้ ง
31.หน่วยงานใดติดตามและประเมินผลคุณภาพแผนพฒั นาหม่บู า้ น แผนชุมชน แผนพฒั นาตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน และแผนพฒั นาอาเภอ เป็นประจาทุกปี เพ่อื ปรับปรุงคุณภาพ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความ ตอ้ งการและปัญหาของประชาชนในพ้ืนท่ี ก.สานกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ข.กรมการปกครอง กรมการพฒั นาชุมชน ค.กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถ่ิน ง.ถกู ทุกขอ้ เฉลยแนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทาแผนและประสานแผนพฒั นาพนื้ ทใ่ี นระดับ อาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 1.ตอบ ง. ถกู ทุกขอ้ กาหนดใหภ้ าครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียทุ ธศาสตร์ชาติเป็นเป้ าหมาย และเชื่อมโยงการ พฒั นาในทุกระดบั ทุกประเดน็ ทุกภารกิจ ทุกพ้นื ท่ี จึงสมควรกาหนดแนวทาง เพือ่ บรู ณาการในการจดั ทา แผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้นื ที่หมู่บา้ น ชุมชน ตาบล และอาเภอ ใหเ้ กิดความเชื่อมโยง สอดคลอ้ งกบั ทิศทางการพฒั นาในระดบั จงั หวดั กลุ่มจงั หวดั ภาค และประเทศ ไปในทิศทางเดียวกนั ได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ เกิดความคุม้ ค่า นาไปสู่ความมนั่ คง มงั่ คง่ั และยง่ั ยนื
2.ตอบ ง. ถูกทุกขอ้ อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 และในฐานะท่ีรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามมาตรา 6 แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ าร บริหารส่วนจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา 77 แห่งพระราชบญั ญตั ิเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา 5 แห่ง พระราชบญั ญตั ิสภาตาบลและองคก์ ารบริหารส่วนตาบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และมาตรา 6 แห่งพระราชบญั ญตั ิ ระเบียบบริหารราชการเมืองพทั ยา พ.ศ. ๒๕๔๒ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย จึงออกระเบียบไว้ 3.ตอบ ก.รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 และในฐานะที่รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามมาตรา 6 แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ าร บริหารส่วนจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา 77 แห่งพระราชบญั ญตั ิเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา 5 แห่ง พระราชบญั ญตั ิสภาตาบลและองคก์ ารบริหารส่วนตาบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และมาตรา 6 แห่งพระราชบญั ญตั ิ ระเบียบบริหารราชการเมืองพทั ยา พ.ศ. ๒๕๔๒ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย จึงออกระเบียบไว้ 4.ตอบ ข. ขอ้ ๒ ระเบียบน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป 5.ตอบ ค.แผนพฒั นาในระดบั พ้ืนที่ “แผนพฒั นาในระดบั พ้ืนท่ี” หมายความวา่ แผนพฒั นาหม่บู า้ น แผนชุมชน แผนพฒั นา ตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน แผนพฒั นาอาเภอ และแผนพฒั นาของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่น ที่ดาเนินการใน พ้ืนที่อาเภอ 6. ตอบ ง.การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนท่ี การจดั ทาแผนและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนที่” หมายความวา่ การจดั ทาแผน และประสาน แผนพฒั นาหมู่บา้ น แผนชุมชน แผนพฒั นาตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถิ่น แผนพฒั นาอาเภอ และแผนพฒั นาของ ส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่น รวมท้งั องคก์ รภาคเอกชนและประชาชน ที่ดาเนินการในพ้ืนท่ีใหม้ ีความ เช่ือมโยงและสอดคลอ้ งในทุกระดบั เป็นแผนเดียวกนั เพือ่ ใหส้ ะทอ้ นปัญหา และความตอ้ งการของประชาชน ในพ้ืนที่ และสอดคลอ้ งกบั แนวทางตามแผนพฒั นาจงั หวดั แผนพฒั นา กลุ่มจงั หวดั และแผนพฒั นาภาค ท่ี เป็นการบรู ณาการการทางานของทุกหน่วยงานในพ้ืนที่
7. ตอบ ก. “หมู่บา้ น” หมายความวา่ หมู่บา้ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยลกั ษณะปกครองทอ้ งท่ี 8. ตอบ ง. ก. และ ข. ถกู ตอ้ ง “ชุมชน” หมายความวา่ ชุมชนที่ไม่มีตาแหน่งกานนั ผใู้ หญ่บา้ น และอยใู่ นพ้นื ท่ีความรับผดิ ชอบ ของ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น 9. ตอบ ข.องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั เทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนตาบล เมืองพทั ยา และราชการส่วน ทอ้ งถิ่นอื่นตามท่ีมีกฎหมายกาหนดแต่ไม่รวมถึง กรุงเทพมหานคร 10. ตอบ ก.คณะกรรมการของชุมชนที่อยใู่ นพ้นื ท่ีความรับผดิ ชอบ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นในเขต เทศบาลและเมืองพทั ยา 11.ตอบ ก.คณะกรรมการหมู่บา้ น “คณะกรรมการหมู่บา้ น” หมายความวา่ คณะกรรมการหมู่บา้ นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยลกั ษณะ ปกครอง ทอ้ งท่ี และคณะกรรมการกลางหมู่บา้ นอาสาพฒั นาและป้ องกนั ตนเองตามกฎหมายวา่ ดว้ ย จดั ระเบียบบริหาร หม่บู า้ นอาสาพฒั นาและป้ องกนั ตนเอง 12.ตอบ ก. แผนพฒั นาอาเภอ 13.ตอบ ค.แผนความตอ้ งการระดบั อาเภอ 14.ตอบ ค.แผนพฒั นาตาบล 15.ตอบ ง.แผนพฒั นาหม่บู า้ น
16.ตอบ ง.การจดั ทาเวทีประชาคมหม่บู า้ นและชุมชน 17. ตอบ ข.ปลดั กระทรวงมหาดไทย 18. ตอบ ง. ถกู ทุกขอ้ จดั ทาเวทีประชาคมหมู่บา้ นและชุมชน เพือ่ รวบรวมขอ้ มลู ปัญหาความตอ้ งการต่าง ๆ ของหม่บู า้ น และชุมชน ท้งั ในดา้ นเศรษฐกิจ สงั คมและคุณภาพชีวติ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ความมนั่ คงและ ความสงบเรียบร้อย และการบริหารจดั การ หรืออ่ืน ๆ 19. ตอบ ง. ถกู ท้งั ก. และ ข. ขอ้ 7 ใหน้ ายอาเภอและผบู้ ริหารองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ดาเนินการพฒั นาศกั ยภาพ คณะกรรมการหมู่บา้ น และคณะกรรมการชุมชน หรือหน่วยงานอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ งในการบูรณาการ และ ประสานงานในการจดั ทาแผนพฒั นาหม่บู า้ นและแผนชุมชน 20. ตอบ .ก.อาเภอ และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น 21. ตอบ ข.สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอ 22. ตอบ ข.ก.บ.ต. 23.ตอบ ก. ก.ปลดั อาเภอผรู้ ับผดิ ชอบประจาตาบลที่นายอาเภอมอบหมาย ขอ้ 9 ในตาบลหน่ึง ใหม้ ีคณะกรรมการบริหารงานตาบลแบบบูรณาการ ข้ึนคณะหน่ึง เรียกโดยยอ่ วา่ ก.บ.ต. โดยประกอบดว้ ย (1) ปลดั อาเภอผรู้ ับผดิ ชอบประจาตาบลที่นายอาเภอมอบหมาย ประธานกรรมการ (2) ปลดั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินในตาบล กรรมการ (3) ขา้ ราชการที่ปฏิบตั ิงานในตาบลที่นายอาเภอแต่งต้งั จานวนไม่เกินสามคน กรรมการ (4) กานนั ผใู้ หญ่บา้ นในตาบล กรรมการ (5) ผทู้ รงคุณวฒุ ิที่นายอาเภอแต่งต้งั จานวนไม่เกินหา้ คน กรรมการ (6) พฒั นากรผรู้ ับผดิ ชอบตาบล กรรมการและเลขานุการ ในการแต่งต้งั ผทู้ รงคุณวฒุ ิตาม (5)
ใหค้ านึงถึงผมู้ ีความรู้ความสามารถเกี่ยวกบั การพฒั นา ชุมชนในระดบั ตาบล หรือมีประสบการณ์ในการ จดั ทาแผนพฒั นาในระดบั ตาบล องคป์ ระชุมและการประชุมของ ก.บ.ต. ใหน้ าหมวด 5 คณะกรรมการที่มี อานาจดาเนินการ พิจารณาทางปกครองตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง มาใชบ้ งั คบั โดย อนุโลม 24.ตอบ ก. ก.บ.อ. ขอ้ 12 ในอาเภอหน่ึง ใหม้ ีคณะกรรมการบริหารงานอาเภอแบบบูรณาการ ข้ึนคณะหน่ึง เรียกโดยยอ่ วา่ ก.บ.อ. โดยประกอบดว้ ย (1) นายอาเภอ ประธานกรรมการ (2) ปลดั อาเภอหวั หนา้ กลุ่มงานหรือปลดั อาเภอ รองประธานกรรมการ หวั หนา้ ฝ่ ายบริหารงานปกครอง (3) พฒั นาการอาเภอ กรรมการ (4) ทอ้ งถิ่นอาเภอ กรรมการ (5) หวั หนา้ ส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ในระดบั อาเภอ กรรมการ ที่นายอาเภอแต่งต้งั จานวนไม่เกินสิบสองคน (6) ผแู้ ทนผบู้ ริหารองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินในอาเภอซ่ึงคดั เลือกกนั เอง กรรมการ ประเภทละหน่ึงคน ยกเวน้ องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั และเมืองพทั ยา (7) ผทู้ รงคุณวฒุ ิท่ีนายอาเภอแต่งต้งั จานวนไม่เกินหา้ คน กรรมการ (8) ปลดั อาเภอผรู้ ับผดิ ชอบสานกั งานอาเภอ กรรมการและเลขานุการ (9) ขา้ ราชการสานกั งานส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่นจงั หวดั กรรมการและผชู้ ่วยเลขานุการ ที่ทอ้ งถิ่น จงั หวดั มอบหมายจานวนหน่ึงคน (10) ขา้ ราชการในสานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอ กรรมการและผชู้ ่วยเลขานุการ ท่ีนายอาเภอแต่งต้งั จานวน หน่ึงคน กรรมการตาม (5) (6) และ (7) มีวาระอยใู่ นตาแหน่งคราวละหา้ ปี ในการแต่งต้งั ผทู้ รงคุณวฒุ ิตาม (7) ใหน้ ายอาเภอแต่งต้งั โดยคานึงถึงผทู้ ี่มีความรู้ความสามารถ เก่ียวกบั การ พฒั นาระดบั อาเภอ ดา้ นการศึกษา หรือมีประสบการณ์ในการจดั ทาแผนพฒั นาอาเภอ รวมท้งั ดา้ นภาคประชา สังคมและเอกชน องคป์ ระชุมและการประชุมของ ก.บ.อ. ใหน้ าหมวด 5 คณะกรรมการที่มีอานาจดาเนินการ พจิ ารณาทางปกครองตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม 25.ข.คณะกรรมการบริหารงานจงั หวดั
จดั ทาแผนปฏิบตั ิงานประจาปี ของอาเภอ โดยรวบรวมโครงการหรือกิจกรรมของส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจในสงั กดั กระทรวงมหาดไทย องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นท่ีไดร้ ับการจดั สรรงบประมาณ รายจ่าย ประจาปี ท่ีตอ้ งดาเนินการในพ้นื ที่อาเภอ และรายงานให้ คณะกรรมการบริหารงานจงั หวดั แบบบรู ณาการ (ก.บ.จ.) ทราบ 26 ตอบ ก.ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ขอ้ 14 ให้ ก.บ.อ. นากรอบทิศทางการพฒั นาอาเภอและยทุ ธศาสตร์การพฒั นาจงั หวดั มาเป็นแนวทาง ในการจดั ทาแผนพฒั นาอาเภอ และแผนความตอ้ งการระดบั อาเภอ โดยกาหนดให้ แผนพฒั นาอาเภอมี ระยะเวลาสอดคลอ้ งกบั หว้ งเวลาของแผนพฒั นาจงั หวดั การกาหนดโครงร่างแผนพฒั นาอาเภอ และแผนความตอ้ งการระดบั อาเภอ ใหเ้ ป็นไปตามที่ กระทรวงมหาดไทยกาหนด ขอ้ 15 ให้ ก.บ.อ. นาแผนพฒั นาอาเภอ ตามขอ้ 14 เสนอผวู้ า่ ราชการจงั หวดั พจิ ารณา ใหค้ วาม เห็นชอบ เม่ือผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ใหค้ วามเห็นชอบแผนพฒั นาอาเภอตามวรรคหน่ึงแลว้ ให้ ก.บ.อ. ประกาศใชแ้ ผนพฒั นาอาเภอและจดั ส่งแผนพฒั นาอาเภอใหห้ น่วยงานราชการและรัฐวสิ าหกิจ รวมท้งั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นในพ้นื ท่ี เพื่อใหท้ ุกภาคส่วนนาไปใชเ้ ป็นแนวทางในการพฒั นาพ้ืนท่ี ระดบั อาเภอในทิศทางการพฒั นาอาเภอเดียวกนั 27. ตอบ ง.ถกู ทุกขอ้ ขอ้ 21 เพอ่ื ใหเ้ กิดการบรู ณาการและประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนที่ ใหด้ าเนินการ ตามแนวทาง ดงั น้ี (๑) จดั ทาเวทีประชาคม เพ่อื ใหท้ ุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็นของประชาชน เพอื่ ใหไ้ ดม้ า ซ่ึงปัญหา และความตอ้ งการจากประชาชนในพ้ืนท่ี (๒) ใหม้ ีการประสานแผนในระดบั พ้นื ท่ี โดยการรวบรวมและจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา และความ ตอ้ งการของประชาชนในพ้ืนที่ ผา่ นกลไกการจดั ทาแผนพฒั นาหม่บู า้ น แผนชุมชน แผนพฒั นาตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถิ่น และแผนความตอ้ งการระดบั อาเภอ เพอ่ื ใหแ้ ผนมีความเช่ือมโยง สอดคลอ้ งกนั ในทุก ระดบั เป็นแผนเดียวกนั
(๓) ในกรณีแผนงานหรือโครงการ หรือพ้นื ท่ี มีความซ้าซอ้ นกนั ในการจดั ทาแผนระดบั อาเภอ กบั แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน ใหห้ ารือร่วมกนั ระหวา่ งคณะกรรมการบริหารงานอาเภอแบบบรู ณาการกบั องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่นที่เกี่ยวขอ้ ง (4) บรู ณาการการงบประมาณ และประสานความร่วมมือเพอื่ ขอรับการสนบั สนุนงบประมาณ ใหเ้ ป็นไปตาม แผนพฒั นาในระดบั พ้ืนท่ี โดยการแสวงหาความร่วมมือ และการบรู ณาการจากทุกภาคส่วน 28.ตอบ ง.นายอาเภอ ขอ้ 28 ใหน้ ายอาเภอมีหนา้ ที่กากบั ดูแล และใหค้ าแนะนาในการประสานแผนพฒั นาหม่บู า้ น แผน ชุมชน แผนพฒั นาตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน แผนพฒั นาอาเภอ ท่ีดาเนินการในพ้ืนที่อาเภอ เพ่ือใหก้ าร ดาเนินการตามระเบียบน้ีเกิดผลสมั ฤทธ์ิ 29. ตอบ ง.ถูกทุกขอ้ เพอื่ ใหก้ ารประสานแผนพฒั นาในระดบั พ้ืนท่ีเกิดผลสัมฤทธ์ิ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั มีอานาจหนา้ ท่ี กากบั ดูแล และใหค้ าแนะนาที่เป็นประโยชนต์ ามหลกั เกณฑ์ ดงั น้ี (1) บรู ณาการการจดั ทาแผนพฒั นาในระดบั พ้นื ท่ีกบั ทุกภาคส่วน และสอดคลอ้ งเช่ือมโยงกบั แผนพฒั นา จงั หวดั (2) ประเมินประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และผลกระทบ ที่เกิดข้ึนจากการประสานแผนพฒั นา ในระดบั พ้ืนที่ (3) การมีส่วนร่วมของประชาชน และการบริหารกิจการบา้ นเมืองท่ีดี (4) พจิ ารณาใหห้ น่วยงานใดเป็นผดู้ าเนินการ ในกรณีท่ีมีความซ้าซอ้ นกนั ในเร่ืองงบประมาณ ระยะเวลา ดาเนินการ ผดู้ าเนินการ หรือโครงการ 30 ตอบ ง. ก. และ ข. ถูกตอ้ ง ขอ้ 30 ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั และนายอาเภอกากบั ดูแล และใหค้ าแนะนาเพื่อใหอ้ งคก์ ร ปกครองส่วน ทอ้ งถิ่นดาเนินการจดั ทาแผนพฒั นาทอ้ งถิ่นและการประสานแผนพฒั นาทอ้ งถิ่นใหส้ อดคลอ้ ง กบั แผนพฒั นา ในระดบั จงั หวดั เพื่อใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย กฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั ต้งั องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถิ่น และ กฎหมายวา่ ดว้ ยการกาหนดแผนและข้นั ตอนการกระจายอานาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถ่ิน 31. ตอบ ง.ถกู ทุกขอ้
ขอ้ 31 ใหส้ านกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ร่วมกบั กรมการปกครอง กรมการพฒั นาชุมชน และ กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่น ติดตามและประเมินผลคุณภาพแผนพฒั นาหม่บู า้ น แผนชุมชน แผนพฒั นา ตาบล แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน และแผนพฒั นาอาเภอ เป็นประจาทุกปี เพอ่ื ปรับปรุงคุณภาพ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการและปัญหาของประชาชนในพ้ืนที่
แนวข้อสอบหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอพยี ง 1.ความอ่อนแอของเศรษฐกิจไทยมีสาเหตุมาจาก ปัจจยั ในดา้ นใดมากท่ีสุด ก. ความอ่อนแอทางวฒั นธรรม ข. การพ่งึ พิงการส่งออกมากเกินไป ค. การกีดกนั ทางการคา้ ระหวา่ งประเทศ ง. ความนิยมสินคา้ จากต่างประเทศ 2.การสร้างความสมดุลของแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งเนน้ ใหเ้ กิดกบั ส่ิงใดมากที่สุด ก. ความสมดุลระหวา่ งมนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม ข. ความสมดุลระหวา่ งสินคา้ ต่างประเทศกบั สินคา้ ไทย ค. ความสมดุลระหวา่ งอุตสาหกรรมกบั เกษตรกรรม ง. ความสมดุลของความเจริญทางเทคโนโลยกี บั ภูมิปัญญาไทย 3. สาเหตุใดจึงตอ้ งมีการประกาศใชเ้ ศรษฐกิจพอเพยี ง ก. สินคา้ เกษตรมีราคาสูง ข. เศรษฐกิจมีการขยายตวั สูงข้ึน ค. ปริมาณสินคา้ ในการบริโภคมากเกินไป ง. เกิดภาวะขาดแคลนสินคา้ อุปโภคบริโภค 4.แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบบั แรกในปี พ.ศ. 2504 เป็นตน้ มาไทยมีการเนน้ หนกั ในการ พฒั นาในดา้ นใด ก. การทหาร ข. การเกษตร ค. อุตสาหกรรม ง. ดา้ นการบริการ 5.จุดกาเนิดของแนวคิดทฤษฎีใหม่ของหลกั การเศรษฐกิจพอเพียงเกิดข้ึนในพ้ืนที่จงั หวดั ใด ก. จงั หวดั สระบุรี ข. จงั หวดั เชียงใหม่ ค. จงั หวดั กาฬสินธ์ ง. จงั หวดั ฉะเชิงเทรา
6.แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทยเนน้ การพฒั นาในดา้ นใดเป็นสาคญั ก. เนน้ การส่งออก ข. เนน้ การออม ค. โครงสร้างพ้ืนฐาน ง. เนน้ การกระจายรายได้ 7.ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่หลกั การพ่ึงพอตนเองตาม แนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง ก. การพ่งึ ตนเองทางดา้ นสงั คม ข. การพ่ึงตนเองทางดา้ นจิตใจ ค. การพ่งึ ตนเองทางดา้ นเศรษฐกิจ ง. การพ่งึ ตนเองทางดา้ นการเมืองการปกครอง 8. หลกั การใดไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง ก. การพ่งึ ตนเองเป็นสาคญั ข. การสร้างนิสยั นิยมไทย ค. การบริการดินและน้าอยา่ งเหมาะสม ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพื่อการผลิตสินคา้ 9. แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งส่งเสริมใหป้ ระชาชน ดาเนินชีวติ ในลกั ษณะใด ก. ดาเนินชีวติ ในลกั ษณะใด ข. ดาเนินชีวติ อยา่ งเคร่งครัด ค. ดาเนินชีวติ ทางสายกลางยดึ ความพอดี ง. ดาเนินชีวติ เพอ่ื สร้างความสะดวกสบายตนเอง 10.ความพอเพยี งทางเทคโนโลยตี ามหลกั การเศรษฐกิจพอเพียงมีความหมายวา่ อยา่ งไร ก. การใชเ้ ทคโนโลยแี บบผสมผสาน ข. การไม่ใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลิต ค. การใชเ้ ทคโนโลยขี ้นั สูงเพื่อการผลิต ง. การใชภ้ มู ิปัญญาทอ้ งถิ่นเพ่ือการผลิต 11.ความพอเพียงดา้ นสังคมตามหลกั การเศรษฐกิจพอเพยี งหมายถึงส่ิงใด ก. สงั คมเขม้ แขง็ ข. สังคมมีหลากหลาย
ค. คนในสังคมมีความเป็นอยทู่ ่ีดี ง. คนในสังคมไม่ตอ้ งการความช่วยเหลือจากใคร 12.การสร้างความพอเพยี งดา้ นจิตใจของประชาชนหน่วยทางสงั คมใดที่มีบทบาทสาคญั ท่ีสุดในการสร้าง ความพอเพยี ง ก. ศาสนา ข. การปกครอง ค. ทางการศึกษา ง. สถาบนั ครอบครัว 13.คุณธรรมดา้ นใดท่ีมีความสาคญั กบั หลกั เศรษฐกิจ พอเพียงมากท่ีสุด ก. เป็นคนมีศีลธรรม ข. มีความละอายต่อบาป ค. เป็นผมู้ ีความโอบออ้ มอารี ง. มีความซื่อสตั ย์ ขยนั หมน่ั เพยี ร 14.หลกั การใดไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพยี ง ก. การพ่งึ ตนเองเป็นสาคญั ข. การสร้างนิสัยนิยมไทย ค. การบริการดินและน้าอยา่ งเหมาะสม ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพ่ือการผลิตสินคา้ 15.แนวทฤษฎีใหม่ใหค้ วามสาคญั กบั การจดั การทรัพยากรใดมากที่สุด ก. มนุษย์ ข. ทรัพยากรน้า ค. ทรัพยากรดิน ง. ทรัพยากรป่ าไม้ 16.ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดาริขององค์ ดาเนินชีวติ แบบใด ก. ดาเนินชีวติ ที่พอเพียง ข. ตามยถากรรม ค. ดาเนินชีวติ ตามปกติ ง. ดาเนินชีวติ อยา่ งฟ่ ุมเฟื อย
17.การทดลองเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่คร้ังแรกที่จงั หวดั ใด ก. จงั หวดั กาฬสินธุ์ ข. จงั หวดั ฉะเชิงเซา ค. จงั หวดั สระบุรี ง. จงั หวดั สุราษฎธ์ านี 18.เน้ือท่ีในการทาการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่จะตอ้ งมีเน้ือท่ีประมาณกี่ไร่ ก. ประมาณ 5 ไร่ ข. ประมาณ 10 ไร่ ค. ประมาณ 20 ไร่ ง. ประมาณ 30 ไร่ 19.ทฤษฎีใหม่และการดาเนินชีวติ ตามหลกั เศรษฐกิจ พอเพียงมุ่งแกไ้ ขปัญหาในดา้ นใดในสงั คมเป็นสาคญั ก. ความยากจน ข. ปัญหาการก่อการร้าย ค. ปัญหาความขดั แยง้ ทางสงั คม ง. ปัญหาความแตกแยกของประชาชน 20.หลกั การของทฤษฎีใหม่มีท้งั หมดจานวนกี่ข้นั ก. 2 ข้นั ข. 3 ข้นั ค. 4 ข้นั ง. 5 ข้นั 21.พ้นื ท่ีส่วนท่ี 2 ในทฤษฎีเนน้ ใหป้ ระชาชนปลกู ขา้ วเพ่อื วตั ถุประสงคใ์ ด ก. ไวจ้ าหน่ายในทอ้ งถิ่น ข. แลกเปลี่ยนกบั สินคา้ ชนิดอื่น ค. เพอื่ ใชบ้ ริโภคภายในครอบครัว ง. เพ่ือส่งไปยงั ต่างประเทศเพ่ือจาหน่าย 22.ทฤษฎีใหม่ในข้นั ที่ 2 เป็นการสร้างความเขม้ แขง็ ใหแ้ ก่ระดบั ใด ก. ระดบั บุคคล ข. ระดบั ครอบครัว
ค. ระดบั สังคมหรือชุมชน ง. สร้างความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ญาติพี่นอ้ ง 23.เศรษฐกิจแบบฟองสบ่เู ร่ิมปรากฏในประเทศไทยเมื่อใด ก. ปี พ.ศ. 2537 ข. ปี พ.ศ. 2538 ค. ปี พ.ศ. 2539 ง. ปี พ.ศ. 2540 24.ปัญหาเศรษฐกิจแบบฟองสบ่ขู องไทยมีสาเหตุมาจากปัจจยั ใดมากที่สุด ก. การขยายตวั ทางดา้ นเกษตรกรรม ข. การขยายตวั ทางดา้ นอุตสาหกรรม ค. การขยายตวั ของการลงทุนจากนกั ลงทุนต่างชาติ ง. การขยายตวั ทางดา้ นการลงทุนดา้ น อสังหาริมทรัพย์ 25.ก่อนเกิดวกิ ฤติเศรษฐกิจไทยรัฐบาลไดน้ าค่าเงินบาทไปผกู ยดึ ติดกบั ค่าเงินของประเทศใด ก. องั กฤษ ข. ฝร่ังเศส ค. สหรัฐอเมริกา ง. แคนนาดา 26.การแกป้ ัญหาวกิ ฤติของไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงส่งเสริมใหป้ ระชาชนหนั มาประกอบอาชีพใด ก. รับจา้ ง ข. การทาการเกษตร ค. การทาธุรกิจส่วนตวั ง. ลูกจา้ งบริษทั เอกชน 27.เศรษฐกิจแบบฟองสบ่เู กิดข้ึนในสมยั รัฐบาลชุดใด ก. พลเอกสุจินดา คราประยรู ข. รัฐบาลชุด นายชวน หลีกภยั ค. รัฐบาลชุด นายบรรหาร ศลิ ปอาชา ง. รัฐบาลชุด นายธานินทร์ กรัยวิเชียร 28.การประกาศลอยตวั ค่าเงินบาทเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดใด
ก. นายสมชาย วงคส์ วสั ด์ิ ข. พนั ตารวจโททกั ษิณ ชินวตั ร ค. พลเอกเชาวลิต ยงใจยทุ ธ ง. นายชวน หลีกภยั 29. ขอ้ ใดไม่ใช่หลกั การสาคญั ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ก.หลกั การจดั การ ข.พ่ึงพากนั เองเป็นหลกั ค. พ่ึงพาตนเองเป็นหลกั ง. หลกั การประหยดั มธั ยสั ถใ์ หม้ ากที่สุด 30. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวไดอ้ ยา่ งไร ก.ต้งั ใจศึกษาเล่าเรียน ข. หารายไดเ้ ขา้ ครอบครัว ค.พฒั นาสิ่งแวดลอ้ มของทอ้ งถิ่น ง. อบรมสั่งสอนสมาชิกในครอบครัว 31. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเกี่ยวกบั เศรษฐกิจพอเพียงระดบั เกษตรกร ก. เป็นเศรษฐกิจเพื่อการเกษตรที่เนน้ พ่ึงพาตนเอง ข. เนน้ การใชเ้ ทคโนโลยที ่ีทนั สมยั ค.ส่งเสริมใหล้ งทุนเพอ่ื หวงั ผลกาไร ง. อบรมส่ังสอนสมาชิกในครอบครัว 32. จุดมุ่งหมายของการผลิตสินคา้ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง มีลกั ษณะอยา่ งไร ก.สนองความตอ้ งการของตนเองเป็นหลกั ข. สนองความตอ้ งการของครอบครัวเป็นหลกั ค. สนองความตอ้ งการของชุมชนเป็นหลกั ง. สนองความตอ้ งการของต่างประเทศเป็นหลกั 33. การพระราชทานแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในปี พ.ศ.๒๕๔๐ เน่ืองจาก ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ใด ก.เกิดความวนุ่ วายทางการเมือง ข. เกิดภยั ธรรมชาติรุนแรง
ค.เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่า ง. เกิดความแตกแยกในสงั คมอยา่ งหนกั 34. วธิ ีการแกป้ ัญหาท่ีเกิดข้ึนตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียงจะใชแ้ นวทางใด ก.การสง่ั การของผนู้ าท่ีมีประสิทธิภาพ ข. การใชค้ วามคิดอยา่ งรอบคอบของตนเองเป็นสาคญั ค.การใชป้ ัญญาในการแกป้ ัญหา ง. การใชก้ าลงั ความเดด็ ขาดในการแกป้ ัญหา 35.การจะดาเนินงานใหป้ ระสบความสาเร็จตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผปู้ ฏิบตั ิจะตอ้ งมีคุณธรรมสาคญั ใน ขอ้ ใดสาคญั ที่สุด ก.ความขยนั หมนั่ เพียร ข. ความซ่ือสัตยส์ ุจริต ค. ความกตญั ญูกตเวที ง. ความเมตตากรุณา 36. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ลกั ษณะที่สาคญั ของหลกั การ “ เศรษฐกิจพอเพยี ง ” ก.พ่ึงตนเองเป็ นหลกั ข. รวมตวั กนั และช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ค. ใชศ้ กั ยภาพที่มีอยใู่ หเ้ ตม็ ที่ ง.ใหค้ วามสาคญั กบั การอุตสาหกรรม 37. อาชีพใดน่าจะเก่ียวขอ้ งกบั “ ทฤษฎีใหม่ ” มากท่ีสุด ก.ขา้ ราชการ ข. คา้ ขาย ค. นกั ธุรกิจ ง.เกษตรกรรม 38. การจดั สรรที่ดินในการทาการเกษตรตามแนว “ การเกษตรทฤษฎีใหม่ ” แบ่งพ้นื ที่ สระน้า:ปลกู ขา้ ว:ปลูก พืช:ท่ีอยอู่ าศยั ตามหลกั ไดถ้ ูกตอ้ งตรงกบั ขอ้ ใด ก.30% : 30% : 30% : 10% ข. 20% : 40% : 10% : 30%
ค. 20% : 30% : 20% : 30% ง. 20% : 10% : 30% : 40% 39. ตามหลกั ทฤษฎีใหม่ใหแ้ บ่งพ้นื ท่ีเป็น ๔ ส่วน กิจกรรมใดรวมอยใู่ นส่วนของที่อยอู่ าศยั ก. ปลกู ไมย้ นื ตน้ ข. เล้ียงปลา ค. เล้ียงเป็ด ไก่ ง. ปลูกพืชผกั และสมุนไพร 40. “มีภมู ิคุม้ กนั ในตวั ท่ีดี” ตามเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ก. มีความพร้อมรับสถานการณ์ ข. มีภมู ิคุม้ กนั โรคต่างๆ ค. ภูมิความรู้ ง. มีความกระตือรือร้น 41. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั การแกไ้ ขปัญหาเศรษฐกิจ โดยใชห้ ลกั เศรษฐกิจพอเพียงมากที่สุด ก.การส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ ข. การสง่ั สินคา้ ฟ่ ุมเฟื อยจากต่างประเทศ ค.การสร้างลกั ษณะนิสัยอุปโภคบริโภคแต่พอควรไม่ใชจ้ ่ายเกินฐานะ ง. การส่งเสริมสินคา้ ท่ีผลิตเพอ่ื บริโภคในชุมชนออกไปขาย 42.หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสอดคลอ้ งกบั การดาเนินชีวติ ตามหลกั พุทธศาสนาเร่ืองใด ก. มชั ฌิมาปฏิปทา ข. สติสมั ปะชญั ญะ ค. ศลี สมาธิ ปัญญา ง. สัมมาอาชีวะ 43. หลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ที่วา่ “ระเบิดจากขา้ งใน” หมายถึง ก.ขยายชุมชนจากเลก็ ไปใหญ่ ข. สร้างความเขม้ แขง็ ใหช้ ุมชน ค. เนน้ การเอ้ือเฟื่ อเผอื่ แผใ่ นชุมชน
ง. การใชเ้ ทคโนโลยที ี่ทนั สมยั 44. โครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ท่ีเนน้ การแกป้ ัญหาความยากจนของราษฎร ก.โครงการแกม้ ลิง ข. โครงการแกลง้ ดิน ค.โครงการธนาคารขา้ ว ง. โครงการปลูกหญา้ แฝก 45. โครงการแกไ้ ขและป้ องกนั น้าท่วมกรุงเทพมหานคร ก.โครงการแกลง้ ดิน ข. โครงการแกม้ ลิง ค. โครงการธนาคารขา้ ว ง. โครงการปลูกหญา้ แฝก 46. โครงการลดปัญหาดินเปร้ียว ก.โครงการแกม้ ลิง ข. โครงการแกลง้ ดิน ค. โครงการธนาคารขา้ ว ง. โครงการปลกู หญา้ แฝก 47. โครงการป้ องกนั ปัญหาดินพงั ทลาย ก.โครงการแกม้ ลิง ข. โครงการแกลง้ ดิน ค. โครงการธนาคารขา้ ว ง.โครงการปลกู หญา้ แฝก 48. หลกั การพฒั นาตามโครงการพระราชดาริที่ทรงเนน้ มากท่ีสุด คือ ก.ความทนั สมยั ข. ความยง่ั ยนื ค. ความเหมาะสมกบั พ้นื ท่ี ง. ความจาเป็น เฉลยแนวข้อสอบหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอพยี ง 1. ง. ความนิยมสินคา้ จากต่างประเทศ
2. ง. ความสมดุลของความเจริญทางเทคโนโลยกี บั ภมู ิปัญญาไทย 3. ก. สินคา้ เกษตรมีราคาสูง 4. ข. การเกษตร 5. ก. จงั หวดั สระบุรี 6. ข. เนน้ การออม 7.ง. การพ่ึงตนเองทางดา้ นการเมืองการปกครอง 8. ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพ่อื การผลิตสินคา้ 9. ค. ดาเนินชีวติ ทางสายกลางยดึ ความพอดี 10. ก. การใชเ้ ทคโนโลยแี บบผสมผสาน 11. ก. ศาสนา 12. ง. มีความซื่อสตั ย์ ขยนั หมน่ั เพียร 13. มีความซ่ือสตั ย์ ขยนั หมน่ั เพยี ร 14.ง. การลงทุนขนาดใหญ่เพือ่ การผลิตสินคา้ 15. ค. ทรัพยากรดิน 16. ก. ดาเนินชีวติ ท่ีพอเพยี ง 17. ค. จงั หวดั สระบุรี 18.ข. ประมาณ 10 ไร่ 19.ก. ความยากจน 20.ข. 3 ข้นั 21.ค. เพ่ือใชบ้ ริโภคภายในครอบครัว 22. ค. ระดบั สังคมหรือชุมชน 23.ง. ปี พ.ศ. 2540 24.ง. การขยายตวั ทางดา้ นการลงทุนดา้ น อสังหาริมทรัพย์ 25. ค. สหรัฐอเมริกา 26. ข. การทาการเกษตร 27.ข. รัฐบาลชุด นายชวน หลีกภยั 28 .ค. พลเอกเชาวลิต ยงใจยทุ ธ 29.ข
30.ค 31.ก 32.ข 33.ค 34.ค 35.ก 36.ง 37.ง 38.ก 39.ค 40.ก 41.ค 42.ก 43.ข 44.ค 45.ข 46.ข 47.ง 48.ข
แนวข้อสอบแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 1. แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 บงั คบั ใชจ้ ากปี ใดถึงปี ใด ก.2559 -2564 ข.2560 - 2565 ค.2559 - 2563 ง.2560- 2564 2. แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาวนั ที่เท่าใด ก.28 ธนั วาคม 2559 ข.29 ธนั วาคม 2559 ค.30 ธนั วาคม 2559 ง.3 มกราคม 2560 3. แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12 ใหใ้ ชแ้ ผนพฒั นาดา้ นใดของประเทศ ก.การต่างประเทศและสงั คม ข.การเมืองและสังคม ค.เศรษฐกิจและสงั คม ง.เศรษฐกิจและการเมือง 4. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ไดน้ อ้ มนามาใชใ้ นแผนพฒั นาฯ ต้งั แตฉ่ บบั ท่ีเท่าใด ก.ฉบบั ที่ 5 ข.ฉบบั ที่ 6 ค.ฉบบั ที่ 7 ง.ฉบบั ที่ 9 5. เราเห็นข่าวตามสื่อต่างๆ ท่ีกล่าวถึงยทุ ธศาสตร์ชาติ อยากทราบวา่ ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี หมายถึงปี พ.ศ. ใด ก.2558 - 2577 ข.2559 - 2578 ค.2560 - 2579 ง.2561 - 2580 6. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาประเทศ ตามแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12 มีกี่ยทุ ธศาสตร์ ก.9 ยทุ ธศาสตร์
ข.10 ยทุ ธศาสตร์ ค.11 ยทุ ธศาสตร์ ง.12 ยทุ ธศาสตร์ 7. แผนพฒั นาฯ ตอ้ งดาเนินการให้ เห็นผลเป็นรูปธรรมในช่วงกี่ปี แรกของการขบั เคล่ือนยทุ ธศาสตร์ชาติเพ่ือ เตรียมความพร้อมคน สงั คม และ ระบบเศรษฐกิจ ก.1 ปี ข.3 ปี ค.5 ปี ง.10 ปี 8. ขอ้ ใดคือ เป้ าหมายการพฒั นาที่ยงั่ ยนื ก.Sustainable Development Goals ข.Sustainable Development Target ค.Long Development Goals ง.Sustainable Continue Target 9. หลกั การสาคญั ของแผนพฒั นาฯ มีสิ่งท่ีตอ้ ง ยดึ เพือ่ ใหบ้ รรลุเป้ าหมายการพฒั นาระยะยาวตามยทุ ธศาสตร์ ชาติ 20 ปี ก่ีประการ ก.6 ประการ ข.7 ประการ ค.8 ประการ ง.9 ประการ 10. มนั่ คง มงั่ คงั่ ยงั่ ยนื คืออะไรภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก.คติพจน์ ข.วสิ ยั ทศั น์ ค.เป้ าหมาย ง.การพฒั นา 11. ขอ้ ใดไม่ใช่ปัญหาของเงื่อนไขและสภาพแวดลอ้ มของการพฒั นา ตามท่ีระไวใ้ นแผนพฒั นา ก.ดา้ นเศรษฐกิจ ข.ดา้ นสังคม
ค.ดา้ นการเมือง ง.ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 12. หลกั การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีลดความเหลื่อมล้าฯ ตอ้ งการเพิม่ รายไดใ้ หส้ ูงข้ึนร้อยละเท่าใดของ กลุ่มประชากร ก.ร้อยละ 10 ข.ร้อยละ 20 ค.ร้อยละ 30 ง.ร้อยละ 40 13. เป้ าหมายของการพฒั นา การลดความเหล่ือมล้าทางดา้ นรายไดแ้ ละความยากจนตอ้ งการใหก้ ลุ่มรายได ต่าสุด ใหม้ ีรายไดเ้ พ่มิ ข้ึนอยา่ งนอ้ ยร้อยละเท่าใด ก.ร้อยละ 5 ข.ร้อยละ 10 ค.ร้อยละ 15 ง.ร้อยละ 25 14. เป้ าหมายของการพฒั นา ทางธรรมชาติและภาพส่ิงแวดลอ้ มสามารถสนบั สนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม โดยเพ่ิมพ้ืนที่ป่ าไมใ้ หไ้ ดร้ ้อยละเท่าใดของพ้ืนท่ีประเทศ ก.ร้อยละ 10 ข.ร้อยละ 30 ค.ร้อยละ 40 ง.ร้อยละ 50 15. เป้ าหมายของการพฒั นา ที่ตอ้ งการลดการปล่อยกา๊ ซเรือนกระจกในภาคพลงั งานและขนส่งไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละเท่าใดภายในปี 2563 ก.ร้อยละ 3 ข.ร้อยละ 5 ค.ร้อยละ 7 ง.ร้อยละ 10 16. ยทุ ธศาสตร์และแนวทางการพฒั นาในแผนพฒั นาฯ ถูกกาหนดจากยทุ ธศาสตร์กี่ดา้ น ภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ ชาติ 20 ปี
ก.6 ดา้ น ข.8 ดา้ น ค.9 ดา้ น ง.10 ดา้ น 17. ยทุ ธศาสตร์และแนวทางการพฒั นาในแผนพฒั นาฯ จากท้งั หมด 10 ยทุ ธศาสตร์ ประกอบดว้ ยยทุ ธศาสตร์ ท่ีมุ่งเนน้ การพฒั นาพ้นื ฐานเชิงยทุ ธศาสตร์จานวนก่ียทุ ธศาสตร์ ก.4 ยทุ ธศาสตร์ ข.5 ยทุ ธศาสตร์ ค.6 ยทุ ธศาสตร์ ง.7 ยทุ ธศาสตร์ 18. การประเมินสภาพแวดลอ้ มภายนอกที่คาดวา่ จะเกิดสาขาอุตสาหกรรมและบริการใหม่ๆ ท่ีผสมผสานการ ใชเ้ ทคโนโลยสี มยั ใหม่ หลากหลายสาขา เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการในภาคการผลิต บริการ และ พฤติกรรมของผบู้ ริโภค ที่เปล่ียนแปลงไป กี่กลุ่มหลกั ก.3 กลุ่มหลกั ข.5 กลุ่มหลกั ค.7 กลุ่มหลกั ง.9 กลุ่มหลกั 19. แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12 มีการคาดการณ์วา่ ในปี ใด ประชากรโลกประมาณ 2-3 พนั ลา้ นคน จะสามารถเขา้ ถึงอินเทอร์เน็ตได้ ก.2020 ข.2021 ค.2025 ง.2030 20. สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานท่ีทาแผนพฒั นาฯ ปัจจุบนั สังกดั ส่วนราชากรใด ก.สานกั นายกรัฐมนตรี ข.สานกั งานปลดั นายกรัฐมนตรี
ค.กระทรวงการคลงั ง.องคก์ รอิสระ เฉลย แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12 ขอ้ ท่ี 1 : ตอบ : ง. ขอ้ ที่ 2 : ตอบ : ค. ขอ้ ที่ 3 : ตอบ : ค. ขอ้ ที่ 4 : ตอบ : ง. ขอ้ ท่ี 5 : ตอบ : ค. ขอ้ ท่ี 6 : ตอบ : ข. ขอ้ ที่ 7 : ตอบ : ค. ขอ้ ที่ 8 : ตอบ : ก. ขอ้ ท่ี 9 : ตอบ : ก. ขอ้ ท่ี 10 : ตอบ : ก. ขอ้ ที่ 11 : ตอบ : ค. ขอ้ ที่ 12 : ตอบ : ง. ขอ้ ที่ 13 : ตอบ : ค. ขอ้ ที่ 14 : ตอบ : ค. ขอ้ ท่ี 15 : ตอบ : ค. ขอ้ ที่ 16 : ตอบ : ก. ขอ้ ที่ 17 : ตอบ : ก. ขอ้ ที่ 18 : ตอบ : ข. ขอ้ ท่ี 19 : ตอบ : ค. ขอ้ ที่ 20 : ตอบ : ก.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127