12) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยใบงานเรื่อง การวเิ คราะหข์ ้อมลู การแยกสารเนอ้ื ผสมด้วย วิธีการตา่ ง ๆ โดยให้นักเรยี นมีบทบาทสำคญั ในการเสนอคำตอบ สว่ นครูคอยพจิ ารณาและคำแนะนำเพิ่มเตมิ เพือ่ ใหไ้ ดส้ าระความรคู้ รบถว้ น 13) ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายข้อดีของการเปรียบเทียบวธิ กี ารแยกสารด้วยวธิ ีการต่าง ๆ (แนวคำตอบ : ช่วยใหต้ ัดสินใจเลือกวิธกี ารท่ีเหมาะสมกบั สารผสมมากย่งิ ขน้ึ ) ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล 14) ครูสุ่มนักเรียน 2 คน สรุปความรู้ทีไ่ ด้จากการทำกิจกรรม เรื่อง การเปรียบเทียบวธิ กี าร แยกสารด้วยวิธีการต่าง ๆ จากน้ันให้เพือ่ น ๆ ในหอ้ งร่วมกนั แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ 15) ครตู ั้งคำถามเพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในประเด็นต่าง ๆ ดงั น้ี - การแยกของแข็ง + สารท่ีแมเ่ หล็กดดู ได้ ควรทำอยา่ งไร (แนวคำตอบ : ใชแ้ ม่เหล็กดดู ) - ผา้ ขาวบางเหมาะกับการนำมารอ่ นหรือไม่เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ : ไมเ่ หมาะสม ผา้ ขาวบางควรนำไปใชก้ บั การกรองเพราะเมื่อทำการ สา่ ยผา้ ขาวไปมาอย่าทำให้สารผสมหกเลอะเทอะได้) 16) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจใบงาน เรื่อง การเปรียบเทียบวิธีการแยกสารด้วย วธิ ีการต่าง ๆ การนำเสนอหน้าชั้นเรียน และการมสี ่วนร่วมในการตอบคำถามในช้ันเรียน 11. ส่ือการเรียนรู้ 1) สอ่ื การเรยี นรู้ 1.1) หนงั สอื เรยี น วิทยาศาสตร์ ป.6 1.2) ใบงาน เรอ่ื ง การวเิ คราะห์ขอ้ มูลการแยกสารเนอื้ ผสมดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ 1.3) กระดาษบร๊ฟู 1.4) ปากกาเคมี 2) แหลง่ การเรียนรู้ 2.1) ห้องเรยี น 2.2) ห้องสมุด
12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ท่ี วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ 1 ตรวจใบงาน แบบประเมินการทำงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2 สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นรว่ ม แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ การทำงานรายบุคคล ในกจิ กรรม แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ อันพึงประสงค์ 3 สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน บนั ทึกการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการสอน ปญั หาและอปุ สรรค ข้อเสนอแนะ/ แนวทางแกไ้ ข ลงชือ่ ผู้สอน (นางสาวสุกาญจนา แก้วขาว) ตำแหนง่ ครโู รงเรียนวดั ศาลาตึกสิทธชิ ัยวิศาล วันที่ เดือน พ.ศ.
แบบประเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้สาระวทิ ยาศาสตร์ ลำดบั เกณฑค์ ณุ ภาพ คณุ ภาพ 321 1 เขียนสาระสำคญั ครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมคา่ 2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมสอดคล้องกบั KAP 3 สาระเรยี นร้คู รอบคลุมเน้ือหา เนอ้ื หา กระบวนการ คุณลกั ษณะ 4 กจิ กรรมการเรียนรู้เนน้ สมอง RL เกิด Active Learning 5 ออกแบบแตล่ ะกจิ กรรมเหมาะสมกับผเู้ รียน 6 ออกแบบการวัดประเมนิ จากชิ้นงานกลมุ่ /เดีย่ วของผเู้ รยี น 7 มคี วามสัมพันธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท1ี่ -6 8 สอื่ การเรยี นรู้สอดคล้อง จุดประสงค์ ตรงเนอ้ื หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวยั สะดวกใช้ รวม เฉล่ีย เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพ 2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถงึ ดี 1.5 – 2.49 ระดบั 2 หมายถงึ พอใช้ 0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษาหรือผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ลงช่ือ ผู้ประเมนิ (นายอดุ มศกั ดิ์ เตยี วตอ๋ ย) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ศาลาตกึ สิทธิชัยวิศาล วนั ที่ เดอื น พ.ศ.
ภาคผนวก ใบงานเร่ือง การเปรียบเทยี บวธิ ีการแยกสารดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ
แบบประเมนิ การทำงานเรือ่ ง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ เลขที่ ช่อื – นามสกุล รายการประเมนิ รวมคะแนน ผลการ ความ ความ ความตรง (10) ประเมิน 1 ถูกตอ้ ง สวยงาม ต่อเวลา 2 (5) (3) (2) 3 4 ลงช่อื ผู้ประเมนิ 5 ( ) 6 วันท่ี เดือน 7 พ.ศ. 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 9-10 ดมี าก 7-8 ดี 5-6 พอใช้ 1-4 ต้องปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการทำงาน รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 21 ความถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย ระบุหรอื อธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ความสวยงาม คำตอบทกุ ข้อ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ ครบถว้ นถูกต้อง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกข้อ แต่ ทกุ ขอ้ และ ถกู ต้องบางส่วน ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ต้อง ถูกต้องบางสว่ น (ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกวา่ 2 จุด) ตกแตง่ ระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี - - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่ เรยี บร้อย สะอาด ความตรงต่อ - - ส่งงานตาม สง่ งานช้ากวา่ เวลา - ระยะเวลาท่ี ระยะเวลาท่ี กำหนด กำหนด
แบบสงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานท่ีได้รบั ความคดิ เห็น ฟงั คนอนื่ มอบหมาย สรุป ชอ่ื -สกลุ 432143214321432143 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑก์ ารวัดผลให้คะแนนระดบั คุณภาพของแต่ละพฤตกิ รรมดังนี้ ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พดู คุยในช้นั ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานส่งครบตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50% ปรบั ปรงุ = 1 เขา้ ชั้นเรียนแต่การแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา ลงช่อื ผสู้ งั เกต ( ) พ.ศ. วนั ที่ เดอื น
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษัตรยิ ์ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรียนจดั ขึ้น 2. ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ตั ิในสง่ิ ทีถ่ กู ตอ้ ง 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มคี วามตรงตอ่ เวลา 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 ร้จู กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบตั ิได้ 4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม 5. อยูอ่ ย่าง 4.3 เชือ่ ฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ พอเพยี ง 4.4 ตงั้ ใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด 6. มุ่งมัน่ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ ในการทำงาน 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 7. รกั ความเปน็ ไทย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็ 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 8. มีจิตสาธารณะ 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครทู ำงาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิ่งแวดล้อม รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน 30 - 45 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง ลงช่อื ผู้สงั เกต ( ) พ.ศ. วันที่ เดอื น
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 16 เร่อื ง วิธกี ารแยกสารเพ่ือนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง การแยกสารเนอ้ื ผสม เวลา 17 ช่ัวโมง สอนวันท่ี เดอื น พ.ศ. เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบัตขิ องสสาร กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี 3. ตวั ช้วี ัด ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา ในชีวติ ประจำวันเกย่ี วกับการแยกสาร 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด ในการดำเนินชวี ติ ของมนษุ ย์มกี ารแยกสารผสมด้วยวิธีการต่าง ๆ มากมาย เช่น การร่อนแป้งทำขนม การรินน้ำซาวข้าว การกรองนำ้ เปน็ ตน้ 5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายวธิ กี ารแยกสารเนื้อผสมด้วยวธิ ีต่างๆ ได้ (K) 2) เลอื กวธิ ีการทีเ่ หมาะสมกับสารผสมท่พี บในชวี ิตประจำวนั (P) 3) รับผิดชอบและมงุ่ ม่นั ในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย (A) 6. คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1) มวี ินยั 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุง่ มนั่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะท่ีสำคญั 1) ความสามารถในการคิด 1.1) ทักษะการสังเกต 1.2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 1.3) ทกั ษะการจำแนกประเภท 2) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
8. ทกั ษะกระบวนการคิด การคดิ วเิ คราะห์ คดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 9. เนอ้ื หาสาระ การดำเนินชวี ติ ของมนษุ ยม์ ีการแยกสารผสมด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ มากมาย ดงั ตาราง สถานะของสารผสม ลักษณะของสารผสม วิธีการ ตวั อยา่ งสารผสม ของแข็ง + ของแข็ง ของแข็งผสมมขี นาดใหญ่ การหยบิ ออก การแยกเมลด็ ขา้ วเปลอื ก ของแข็งผสมมขี นาดเลก็ การรอ่ น การร่อนแป้งทำขนม ของแขง็ ตกตะกอนกน้ การรนิ การรินน้ำซาวข้าว ภาชนะ การบำบัดนำ้ เสยี กรองกากมะพร้าวออกจากนำ้ ของแข็ง + ของเหลว ของแข็งเป็นสาร การแกวง่ (ของแขง็ ไมร่ วมกับ แขวนลอย สารสม้ ของเหลว) ของแข็งมีขนาดใหญ่กวา่ การกรอง รพู รนุ ของแขง็ + สารทแ่ี มเ่ หลก็ สารที่แม่เหล็กดูดได้ แมเ่ หล็กดูด การคดั แยกขยะทเ่ี ปน็ โลหะ ดูดได้ 10. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ • วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ข้ันท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ 1) ครูและนักเรียนร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกับการดำเนินชวี ติ ใน 1 วันของนักเรียนมคี วาม เกีย่ วขอ้ งกับการแยกสารอะไรบา้ ง หรอื มีความเกย่ี วข้องมากนอ้ ยเพยี งใด 2) ครยู กตัวอยา่ งสถานการณ์เพือ่ กระตุ้นความคดิ ของนักเรยี น “พลอยใสตื่นเช้ามาหุงขา้ ว ซาวน้ำซาวข้าว 2 ในระหว่างทรี่ อข้าวสุก พลอยใสกค็ ัดแยกขยะทไี่ ม่จำเปน็ ออกจากห้องนอน หลังจากนัน้ เธอก็ เดนิ ไปช่วยแม่ทำกบั ข้าวโดยการคน้ั นำ้ กะทิ” จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีการแยกสารใหช้ ่วงใดบ้าง - ซาวขา้ ว > การรนิ ออก - การแยกขยะ > การหยิบออก - ค้ันนำ้ กะทิ > การกรอง 3) ครชู ีแ้ จงจุดประสงคใ์ นการเรยี นให้แกน่ ักเรยี นทราบ
ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา 4) ครูแบ่งกลุม่ ให้นักเรยี น กลุ่มละ 5 – 6 คนเท่า ๆ กัน เพื่อให้นักเรยี นทำกิจกรรมการแยก สารในชีวิตประจำวัน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกแบบบทละครการดำเนินชีวิตประจำวันที่ต้องมีความ เกยี่ วข้องในการแยกสารผสม โดยความยาวของละครเร่ืองนี้ไมค่ วรเกิน 3 - 4 นาที 5) ครูให้นักเรียนระดมความคิดเห็นร่วมกันในการเขียนบทละคร โดยละครแต่ละเรื่องจะมี วธิ ีการแยกสารกว่ี ธิ ีก็ได้ตามความสนใจของนักเรียน แตถ่ ้าวธิ ีการแยกสารสอดแทรกในละครมากเท่าไรกลุ่มนั้น จะได้รับคะแนนเพม่ิ มากขน้ึ 6) ครใู หน้ กั เรียนไดม้ กี ารซักซอ่ มทำความคนุ้ เคยกับบทละคร 10 นาที ก่อนการนำเสนอ ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ 7) ครใู ห้นักเรยี นนำเสนอวิธีการแยกสารเพ่ือนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันหน้าชั้นเรยี น 8) ในละครทกุ เรอ่ื ง นกั เรียนทีเ่ ป็นผู้ชมจะตอ้ งรว่ มกันวเิ คราะหก์ ารกระทำของตัวละครวา่ แต่ ละกลมุ่ มกี ารสอดแทรกการแยกสารในชว่ งใดบ้าง บนั ทึกลงในสมดุ ของตนเอง 9) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการแสดงละคร และให้นกั เรียนในห้องรว่ มกนั โหวตละคร ยอดเยยี่ มประจำชั้นป.6 โดยกลมุ่ ทรี่ บั คะแนนโหวตสูงท่ีสดุ จะได้รบั รางวัลจากครูผู้สอน ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ 10) ครยู กตัวอยา่ งการทำนาเกลอื โดยให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นวา่ น้ำเกลอื จัดเป็นเนอื้ ผสมหรอื ไม่ หากต้องการแยกเกลอื อกจากนำ้ จะทำไดอ้ ยา่ งไร (แนวคำตอบ : น้ำเกลือไม่ใชส่ ารเนอ้ื ผสม หากต้องการจะแยกต้องทำการระเหยนำ้ ออกกอ่ น) 11) ครูขยายความเขา้ ใจของนักเรียนเพมิ่ เติมเกย่ี วกับการแยกสารท่ีมีสถานะเป็นของแข็งแต่ ละลายรวมกนั ในของเหลว สามารถแยกได้โดยการให้ความรอ้ น ความรอ้ นจะทำให้ของเหลวระเหยเปล่ยี น สถานะเปน็ แก๊ส จะเหลอื สว่ นท่ีเป็นของแขง็ ตดิ ทกี่ ้นภาชนะ ดังเชน่ ตัวอยา่ งการทำนาเกลือ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 12) ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม เรื่อง การแยกสารใน ชีวิตประจำวัน จากนัน้ ให้เพ่อื น ๆ ในหอ้ งร่วมกันแลกเปลีย่ นความคิดเห็น 13) ครูให้นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายการนำความรู้จากการเรยี นเรื่อง การแยกสารเน้ือผสมไป ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้อย่างไร 14) ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง การแยกสารเน้ือผสม 15) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจสมุด การนำเสนอหน้าชั้นเรียน การทำแบบทดสอบ หลงั เรยี น และการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในชัน้ เรยี น
11. สือ่ การเรยี นรู้ 1) ส่ือการเรียนรู้ 1.1) หนังสอื เรยี น วทิ ยาศาสตร์ ป.6 1.2) สมดุ 2) แหลง่ การเรยี นรู้ 2.1) ห้องเรยี น 2.2) หอ้ งสมุด 12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ท่ี วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์ 1 ตรวจสมดุ แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2 สังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนรว่ ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ การทำงานรายบคุ คล ในกิจกรรม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ อันพงึ ประสงค์ 3 สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน
บนั ทึกการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะ/ แนวทางแก้ไข ลงชื่อ ผสู้ อน (นางสาวสกุ าญจนา แก้วขาว) ตำแหนง่ ครโู รงเรยี นวัดศาลาตกึ สิทธิชัยวิศาล วันที่ เดอื น พ.ศ.
แบบประเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้สาระวทิ ยาศาสตร์ ลำดบั เกณฑ์คุณภาพ คณุ ภาพ 321 1 เขียนสาระสำคญั ครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏบิ ัตคิ ุมคา่ 2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมสอดคล้องกบั KAP 3 สาระเรยี นร้คู รอบคลุมเน้ือหา เนอ้ื หา กระบวนการ คุณลกั ษณะ 4 กจิ กรรมการเรียนรู้เนน้ สมอง RL เกิด Active Learning 5 ออกแบบแตล่ ะกจิ กรรมเหมาะสมกับผเู้ รียน 6 ออกแบบการวัดประเมนิ จากชิ้นงานกลมุ่ /เดยี่ วของผเู้ รยี น 7 มคี วามสัมพันธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท1ี่ -6 8 สอื่ การเรยี นรู้สอดคล้อง จุดประสงค์ ตรงเน้อื หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวยั สะดวกใช้ รวม เฉล่ีย เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพ 2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถงึ ดี 1.5 – 2.49 ระดบั 2 หมายถงึ พอใช้ 0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษาหรือผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ลงชอื่ ผู้ประเมนิ (นายอดุ มศกั ดิ์ เตยี วตอ๋ ย) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ศาลาตกึ สิทธิชัยวิศาล วนั ที่ เดอื น พ.ศ.
แบบประเมนิ การทำงานเรือ่ ง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ เลขที่ ช่อื – นามสกุล รายการประเมนิ รวมคะแนน ผลการ ความ ความ ความตรง (10) ประเมิน 1 ถูกตอ้ ง สวยงาม ต่อเวลา 2 (5) (3) (2) 3 4 ลงช่อื ผู้ประเมนิ 5 ( ) 6 วันท่ี เดือน 7 พ.ศ. 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 9-10 ดมี าก 7-8 ดี 5-6 พอใช้ 1-4 ต้องปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการทำงาน รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 21 ความถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย ระบุหรอื อธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ความสวยงาม คำตอบทกุ ข้อ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ ครบถว้ นถูกต้อง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกข้อ แต่ ทกุ ขอ้ และ ถกู ต้องบางส่วน ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ต้อง ถูกต้องบางสว่ น (ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกวา่ 2 จุด) ตกแตง่ ระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี - - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่ เรยี บร้อย สะอาด ความตรงต่อ - - ส่งงานตาม สง่ งานช้ากวา่ เวลา - ระยะเวลาท่ี ระยะเวลาท่ี กำหนด กำหนด
แบบสงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานท่ีได้รบั ความคดิ เห็น ฟงั คนอนื่ มอบหมาย สรุป ชอ่ื -สกลุ 432143214321432143 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑก์ ารวัดผลให้คะแนนระดบั คุณภาพของแต่ละพฤตกิ รรมดังนี้ ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พดู คุยในช้นั ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานส่งครบตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50% ปรบั ปรงุ = 1 เขา้ ชั้นเรียนแต่การแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา ลงช่อื ผสู้ งั เกต ( ) พ.ศ. วนั ที่ เดอื น
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษัตรยิ ์ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรียนจดั ขึ้น 2. ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ตั ิในสง่ิ ทีถ่ กู ตอ้ ง 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มคี วามตรงตอ่ เวลา 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 ร้จู กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบตั ิได้ 4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม 5. อยูอ่ ย่าง 4.3 เชือ่ ฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ พอเพยี ง 4.4 ตงั้ ใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด 6. มุ่งมัน่ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ ในการทำงาน 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 7. รกั ความเปน็ ไทย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็ 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 8. มีจิตสาธารณะ 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครทู ำงาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิ่งแวดล้อม รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน 30 - 45 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง ลงช่อื ผู้สงั เกต ( ) พ.ศ. วันที่ เดอื น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169