Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน

รายงาน

Published by terada kawboonpun, 2020-08-09 04:02:23

Description: รายงานประกันคุณภาพภายใน

Keywords: ประกัน

Search

Read the Text Version

38 2.9 ผลการประเมินครูดา้ นการจดั การเรียนการสอนท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั 2.10 รายงานผลการประเมินตนเองประจาปี ของครู 2.11 บนั ทึกความดีของครูและผบู้ ริหารสถานศึกษา 2.12 ผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 2.13 บนั ทึกการนิเทศ/การสงั เกตการณ์สอน แฟ้มสะสมงานของครู เป็นตน้ 3. ขอ้ มูลดา้ นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เช่น 3.1แหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกสถานศึกษา สถานประกอบการ ปราชญช์ าวบา้ น และภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน 3.2 ผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 3.3 บนั ทึกการประชุมครู ผปู้ กครอง ผเู้ รียนและคณะกรรมการสถานศึกษา ข้นั พ้นื ฐาน 3.4 ความร่วมมือของชุมชนในการสนบั สนุนการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 3.5 ลกั ษณะสภาพแวดลอ้ มของชุมชน เป็ นตน้ 4. ขอ้ มูลดา้ นอตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษา เช่น 4.1ศาสนา เอกลกั ษณ์ของชุมชน ความเช่ือ วฒั นธรรม ประเพณี ของทอ้ งถิ่น 4.2โครงการ/กิจกรรมที่ส่งเสริมใหบ้ รรลุตามเป้าหมาย วสิ ยั ทศั น์ ปรัชญาและจุดเนน้ ของสถานศึกษา เป็นตน้ 5. ขอ้ มูลดา้ นมาตรการส่งเสริม ข้นั ท่ี 3 การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สภาพภายในและสภาพภายนอกของสถานศึกษา การวเิ คราะห์ขอ้ มูลท่ีเก่ียวกบั สภาพภายในดา้ นจุดเด่น จุดท่ีควรพฒั นา และสภาพ ภายนอกโอกาสและอุปสรรคของสถานศึกษาน้นั มีการวเิ คราะห์หลายแนวทาง แต่ที่นิยมใชอ้ ยา่ ง แพร่หลายไดแ้ ก่ รูปแบบการวเิ คราะห์ตามแนวทาง SWOT Analysis ซ่ึงมีขอ้ ควรคานึง ดงั น้ี 1.วเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายนอกของสถานศึกษา(External Environment)โดยวเิ คราะห์ สภาพท่ีเป็นโอกาส(Opportunity)หรือสภาพที่สถานศึกษาสามารถนามาพฒั นาจุดแขง็ หรือปรับปรุง แกป้ ัญหาจุดท่ีควรพฒั นาและสภาพท่ีเป็นอุปสรรค(Threats) หรือสถานที่สถานศึกษาตอ้ งหาทาง หลีกเล่ียง โดยพิจารณาจากองคป์ ระกอบดา้ นสังคมและวฒั นธรรม(Social & Cultural) เทคโนโลยี (Technology) สภาพเศรษฐกิจ(Economics) การเมืองและกฎหมาย(Political&Legal) ที่มีผลกระทบ ต่อสถานศึกษาโดยใชห้ ลกั การระดมสมอง ผลการวเิ คราะห์ไดส้ ภาพที่เป็นโอกาสและปัญหา อุปสรรคของสภาพแวดลอ้ มภายนอก

39 2.วเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายในของสถานศึกษา(Internal Environment) โดยวเิ คราะห์ สภาพที่เป็นจุดแขง็ (Strengths) เพือ่ คงสภาพหรือพฒั นาใหด้ ียง่ิ ข้ึนหรือสภาพที่เป็ นจุดที่ควรพฒั นา (Weakness) หรือสภาพท่ีตอ้ งปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือยบุ เลิก โดยพจิ ารณาจากองคป์ ระกอบดา้ น โครงสร้างและนโยบายการบริหาร(Structure & Policy) การบริการและผลผลิต(Service & Product) คน(Man) การเงิน(Money) วสั ดุอุปกรณ์(Materials)และการบริหารจดั การ(Management) 3. ประมวลผลการวเิ คราะห์สภาพที่เป็นโอกาส ปัญหาและอุปสรรค จุดแขง็ และจุดอ่อน และสงั เคราะห์หาสภาพปัจจุบนั และปัญหาของสถานศึกษาซ่ึงเป็นจุดยนื หรือจุดเร่ิมตน้ ของการ พฒั นาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา สรุปไดว้ า่ ขอ้ มูลผลการวิเคราะห์ใหช้ ดั เจนวา่ สถานศึกษามีจุดเด่นดา้ นใดบา้ งเพอ่ื พฒั นา ส่งเสริมต่อไป มีจุดท่ีควรพฒั นาดา้ นใดบา้ งเพื่อปรับปรุงแกไ้ ข ภายใตส้ ภาพโอกาสและอุปสรรค ของสถานศึกษา แลว้ นาขอ้ มูลเหล่าน้ีไปสู่การกาหนดจุดยนื ของสถานศึกษาในลกั ษณะของ วสิ ยั ทศั น์ ข้นั ท่ี 4 การนาผลการวเิ คราะห์สภาพภายในและสภาพภายนอกของสถานศึกษา ประมวล เป็นวสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ และเป้าหมายของสถานศึกษา การนาผลการวิเคราะห์สภาพภายในและสภาพภายนอกของสถานศึกษา ประมวลเป็น วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ และเป้าหมายของสถานศึกษามีแนวทางการดาเนินการ ดงั น้ี 4.1 วสิ ัยทศั น์ เป็นทิศทางหรือสภาพสถานศึกษาที่พึงปรารถนาในอนาคตของ สถานศึกษา ควรมีการกาหนดระยะเวลาที่ชดั เจน อาจจะเป็น 3 ปี หรือ 5 ปี ที่มีความเป็นไปได้ โดย เมื่อสถานศึกษาไดพ้ ฒั นาคุณภาพสถานศึกษาจนประสบความสาเร็จตามวสิ ัยทศั น์ สถานศึกษาควร แกไ้ ขและพฒั นาจุดที่ควรพฒั นาไดด้ ียง่ิ ข้ึน คงหรือเพิ่ม จุดเด่นของสถานศึกษาใหม้ ากข้ึน จนบรรลุ วสิ ัยทศั นข์ องสถานศึกษา และเมื่อครบรอบระยะเวลาของวสิ ัยทศั น์ท่ีกาหนดสถานศึกษาสามารถ ปรับวสิ ัยทศั นข์ องสถานศึกษาเพอ่ื พฒั นาคุณภาพสถานศึกษาใหส้ ูงข้ึน 4.2 การกาหนดพนั ธกิจ ดาเนินการโดยนาวสิ ยั ทศั น์ของสถานศึกษา แต่ละคา แต่ละ ขอ้ ความ แต่ละส่วน มากาหนดภาระงานซ่ึงเป็นแนวทางการดาเนินงานเพ่ือใหบ้ รรลุผลตามกิจกรรม คาสาคญั (Key Words) ขอ้ ความในวสิ ยั ทศั นข์ องสถานศึกษา 4.3 การกาหนดเป้าหมาย ดาเนินการโดยนาพนั ธกิจแต่ละขอ้ มาพิจารณาวา่ ถา้ ดาเนินการตามพนั ธกิจท่ีกาหนดไวแ้ ลว้ จะเกิดผลผลิตอะไร ผลผลิตที่จะเกิดข้ึนน้นั คือเป้าหมายที่ ตอ้ งการ ซ่ึงจะตอ้ งตอบการบรรลุวสิ ัยทศั นข์ องสถานศึกษาไดอ้ ยา่ งครบถว้ น ข้นั ที่ 5 กาหนดกลยทุ ธ์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ และชื่อโครงการ/กิจกรรม

40 เมื่อกาหนดวสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ และเป้าหมายของสถานศึกษาชดั เจนแลว้ ใหน้ าขอ้ มูล วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมายเหล่าน้นั ไปเป็นฐานคิดในการกาหนดกลยทุ ธ์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ และ ช่ือโครงการ/กิจกรรม 5.1 กาหนดกลยทุ ธ์(ระดบั องคก์ ร) การกาหนดกลยทุ ธ์ระดบั องคก์ ร ซ่ึงเป็นกลยทุ ธ์ของโรงเรียน ดาเนินการโดยนา เป้าหมายมาจดั หมวดหมู่หรือกลุ่มตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา แลว้ นากลุ่มเป้าหมายมา พจิ ารณาวา่ จะใชข้ อ้ ความหรือคาท่ีครอบคลุมส่ือความไดช้ ดั เจน สาหรับต้งั เป็นกลยทุ ธ์ของโรงเรียน 5.2 การกาหนดตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ การกาหนดตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ ดาเนินการโดยนาเป้าหมายมาพิจารณาวา่ แตล่ ะ เป้าหมาย ช้ีวดั ความสาเร็จไดจ้ ากตวั บุคคล งาน หรือหน่วยงาน เช่น นกั เรียน ครู ผบู้ ริหาร บุคลากร งานสารสนเทศ งานวดั และประเมินผล หรือชุมชน ฯลฯ 5.3 การกาหนดชื่อโครงการ/กิจกรรม การกาหนดช่ือโครงการ/กิจกรรมจะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั กลยทุ ธ์ที่กาหนดไว้ แลว้ พจิ ารณาช่ือ โครงการกิจกรรมท่ีครอบคลุมกลยทุ ธ์น้นั ๆและเป็นรูปธรรมสามารถนาไปสู่การปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ เมื่อไดข้ อ้ มูลต่างๆไดแ้ ก่ วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย กลยทุ ธ์ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ ช่ือ โครงการ/กิจกรรม แลว้ จะเป็ นการนาขอ้ มูลท้งั หมดเขา้ สู่ระบบการจดั ทาเอกสารรูปเล่ม แผนพฒั นา การจดั การศึกษาของสถานศึกษาที่มุง่ คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา(ระยะ 3-5ปี ) ซ่ึงมีองคป์ ระกอบ ดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลสถานศึกษาในภาพรวม เช่นขอ้ มูลทวั่ ไปของชุมชน ประวตั ิความเป็นมา ของสถานศึกษา ขอ้ มูลดา้ นการบริหาร ขอ้ มูลบุคลากร ขอ้ มูลนกั เรียน ขอ้ มูลอาคารสถานท่ีและ แหล่งการเรียนรู้ ผลงานท่ีผา่ นมารอบ 3 ปี ฯลฯ ส่วนที่ 2 ทิศทางการพฒั นาคุณภาพสถานศึกษา เช่น วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย ส่วนที่ 3 กลยทุ ธ์การพฒั นาคุณภาพสถานศึกษา และตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ ส่วนท่ี 4 โครงการและกิจกรรมตามกลยทุ ธ์ระดบั องคก์ รพร้อมเป้าหมายและงบประมาณ (แสดงเป็น 3-5 ปี ) ส่วนที่ 5 การกากบั ติตาม ประเมินและรายงาน ภาคผนวกประกอบดว้ ย สาเนาคาสง่ั คณะทางาน/คณะกรรมการจดั ทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา บนั ทึกการใหค้ วามเห็นชอบแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ของคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน

41 ภาพที่ 6 แสดงข้นั ตอนการจดั ทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา แต่งต้งั คณะทางาน รวบรวมขอ้ มูลสารสนเทศเกี่ยวกบั สภาพภายในและ สภาพภายนอกของสถานศึกษา การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเก่ียวกบั สภาพภายในและสภาพ ภายนอกของสถานศึกษา การนาผลการวิเคราะห์สภาพภายในและสภาพภายนอกของสถานศึกษาประมวลเป็นวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ และเป้าหมายของสถานศึกษา กาหนดกลยทุ ธ์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ และช่ือโครงการ/กิจกรรม จดั ทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่ง คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน( 2554ก : 19) การจดั ทาแผนปฏิบตั ิการประจาปี เพื่อพฒั นาคุณภาพสถานศึกษาอาจดาเนินการเป็น ปี งบประมาณหรือปี การศึกษา ท้งั น้ี ใหเ้ ป็นไปตามความพร้อมและการพิจารณาของสถานศึกษาและ นโยบายของหน่วยงานตน้ สังกดั มีขนั ตอนสาคญั คือ 1.การแต่งต้งั คณะทางาน คณะทางานควรประกอบดว้ ยคณะบุคคลจากหลายฝ่ ายท้งั ในและนอกสถานศึกษา เช่น หวั หนา้ งาน ผแู้ ทนครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผแู้ ทนผูป้ กครอง ผแู้ ทนหน่วยงาน องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน องคก์ รเอกชนและชุมชน ความเหมาะสม

42 2.การศึกษาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาที่มุง่ คุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา การดาเนินการในข้นั น้ี คณะทางานควรทาความเขา้ ใจสาระสาคญั ของแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาที่มุง่ คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาตามเป้าหมายแตล่ ะปี ใหช้ ดั เจน เพื่อนาไปสู่การจดั ลาดบั โครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบตั ิการประจาปี 1. การวเิ คราะห์จดั ทารายละเอียดโครงการ/กิจกรรม การจดั ทารายละเอียดโครงการ/กิจกรรม ควรมีองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ดงั น้ี 1.1 ชื่อโครงการ ช่ือกิจกรรม(ถา้ มี) ลกั ษณะของโครงการ(โครงการใหม/่ โครงการต่อเนื่อง) สนองกลยทุ ธ์ระดบั องคก์ ร สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ/กิจกรรม/กลุ่มท่ีรับผดิ ชอบ 1.2 หลกั การและเหตุผล หลกั การ เป็นการนาเสนอที่มาของโครงการ โดยคานึงถึงกฎหมาย นโยบายทางการ ศึกษาระดบั ตา่ งๆจุดหมายในการจดั การศึกษาหรือกระแสสงั คมที่เก่ียวขอ้ ง วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจของ สถานศึกษา เป็นตน้ ส่วนเหตุผลน้นั เป็ นการนาเสนอขอ้ เสนอขอ้ ความท่ีสนบั สนุนหรือยนื ยนั แสดง แนวโนม้ ใหเ้ ห็นวา่ โครงการ/กิจกรรมมีความจาเป็นอยา่ งไร หากไมด่ าเนินการจะมีผลเสียหายตอ่ คุณภาพการศึกษาอยา่ งไร และหากดาเนินการแลว้ จะเป็ นผลดีตอ่ คุณภาพการศึกษาอยา่ งไร ในส่วน น้ีควรนาเสนอขอ้ มูลสนบั สนุนเชิงปริมารและคุณภาพ รวมท้งั ขอ้ เสนอแนะจากการประเมินคุณภาพ ท้งั ภายในและภายนอกไว้ ก็จะเป็นหลกั ฐานแสดงถึงความตระหนกั และความพยายามของ สถานศึกษาซ่ึงจะช่วยใหโ้ ครงการ/กิจกรรมน้นั ๆ มีความสาคญั และสมบูรณ์ยง่ิ ข้ึน 3.3วตั ถุประสงค์ เป็นส่วนท่ีบอกใหท้ ราบถึงผลท่ีจะเกิดข้ึนจากการดาเนินงานโครงการ/ กิจกรรม โดยระบุเป็นขอ้ ๆประมาณ 1-3 ขอ้ เป็นรูปธรรมสามารถวดั และปฏิบตั ิได้ 3.4 เป้าหมาย ควรระบุ 2 ประเดน็ ที่สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคโ์ ครงการ/กิจกรรม 3.4.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ เป็ นเป้าหมายที่แสดงผลเชิงตวั เลข 3.4.2เป้าหมายเชิงคุณภาพ เป็นเป้าหมายที่ระบุคุณภาพที่รองรับหลกั การและ เหตุผล หรือประโยชน์ของโครงการ 3.5 วธิ ีดาเนินการ/ข้นั ตอนดาเนินงาน เป็นข้นั ตอนการนาเสนอภารกิจหรือกิจกรรม

43 ต่างๆท่ีสาคญั เพือ่ ใหง้ านบรรลุวตั ถุประสงค์ โดยระบุใหช้ ดั เจนวา่ “จะทาอะไร ใครเป็ นผทู้ า ทาท่ี ไหน ทาอยา่ งไร เริ่มตน้ เมื่อใด ไดผ้ ลประการใด” 3.6 ระยะเวลาดาเนินการ เป็ นหวั ขอ้ หรือองคป์ ระกอบที่ระบุเวลาต้งั แต่เริ่มตน้ โครงการ/กิจกรรม จนเสร็จสิ้นโครงการ โดยระบุ วนั เดือน ปี ที่เร่ิมตน้ และเสร็จสิ้นโครงการ 3.7 งบประมาณ เป็ นการนาเสนอประมาณการค่าใชจ้ ่ายท้งั สิ้นของโครงการ/ กิจกรรมควรจาแนกรายการค่าใชจ้ า่ ยอยา่ งชดั เจน การระบุยอดงบประมาณ ควรระบุแหล่งที่มาของ งบประมาณดว้ ย รวมท้งั อาจระบุทรัพยากรอื่นที่ตอ้ งการ เช่น คน วสั ดุ เป็ นตน้ 3.8 หน่วยงาน/ผเู้ ก่ียวขอ้ ง เป็นการใหแ้ นวทางแก่ผอู้ นุมตั ิและปฏิบตั ิวา่ ในการ ดาเนินการโครงการ/กิจกรรมน้นั ควรประสานและขอความร่วมมือกบั หน่วยงานใดบา้ งเพ่อื บรรลุ วตั ถุประสงคท์ ี่ต้งั ไว้ 3.9 ระดบั ความสาเร็จ บอกตวั ช้ีวดั ความสาเร็จของโครงการ/กิจกรรมตามวตั ถุประสงค์ และแสดงไดท้ ้งั เชิงปริมาณและคุณภาพ เป็นการระบุใหท้ ราบวา่ โครงการจะไดร้ ับการประเมินส่วน ใดบา้ ง โดยวธิ ีการและเคร่ืองมือประเมินประเภทใด ใหส้ อดคลอ้ งครอบคลุมกบั ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ 3.10 ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ เมื่อสิ้นสุดโครงการแลว้ จะเกิดผลอยา่ งไรบา้ ง ใครเป็นผไู้ ดร้ ับ ผลประโยชน์ สามารถระบุประโยชน์ท้งั ทางตรงและทางออ้ ม ท้งั น้ี ไม่ใช่การนาวตั ถุประสงคม์ า เขียนเป็นประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ 4. การจดั ทารูปเล่มแผนปฏิบตั ิการประจาปี รูปเล่มแผนปฏิบตั ิการประจาปี มีองคป์ ระกอบ ดงั น้ี 1.ปกนอก 2.ปกใน 3.คานา 4.สารบญั 5.เน้ือหา ประกอบดว้ ย ส่วนท่ี 1 บทนา ควรมีเน้ือหาเก่ียวกบั สรุปยอ่ ความเป็นมาของสถานศึกษา ภาระงาน/ปริมาณงาน ผลงานท่ีประสบความสาเร็จในปี การศึกษาท่ีผา่ นมา ประมาณการจานวน นกั เรียนและรายรับของสถานศึกษา ปี การศึกษาที่นามาจดั ทาแผนปฏิบตั ิการ ส่วนท่ี 2 ทิศทางการพฒั นาคุณภาพสถานศึกษาควรมีเน้ือหาเก่ียวกบั วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย อตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษา สภาพความสาเร็จที่คาดวา่ จะเกิดข้ึนเมื่อสิ้นปี การศึกษา ส่วนท่ี 3 รายละเอียดของแผนงาน(กลยทุ ธ์ระดบั องคก์ ร) โครงการ/กิจกรรมและ งบประมาณ

44 ส่วนท่ี 4 การกากบั ติดตาม ประเมิน และรายงาน ภาคผนวก ประกอบดว้ ย สาเนาคาสงั่ คณะทางาน/คณะกรรมการจดั ทา แผนปฏิบตั ิการประจาปี ของสถานศึกษา บนั ทึกการใหค้ วามเห็นชอบแผนปฏิบตั ิการประจาปี ของ สถานศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ภาพท่ี 7 แสดงข้นั ตอนการจดั ทาแผนปฏิบตั ิการประจาปี แต่งต้งั คณะทางาน การศึกษาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ท่ีมุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา วเิ คราะห์จดั ทารายละเอียดโครงการ/กิจกรรม จดั ทารูปเล่มแผนปฏิบตั ิการประจาปี สานกั งานคณะกรรมการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(2554 ก : 49) สรุปไดว้ า่ การจดั ทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาที่มุง่ คุณภาพตาม มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา เป็ นการจดั ทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาเพอ่ื พฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งทุกฝ่ ายร่วมกนั คิด พจิ ารณาอยา่ งละเอียดรอบคอบ สาหรับเป็นเคร่ืองช้ีนาการดาเนินการใดๆ ที่สอดรับกบั เป้าหมาย วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจของสถานศึกษา มีการกาหนดวตั ถุประสงค์ เป้าหมาย และกรอบเวลาของการ ดาเนินการตามแผนอยา่ งชดั เจน ประกอบดว้ ย แผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา และ แผนปฏิบตั ิการประจาปี

45 การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(2549: 8) กล่าววา่ สถานศึกษาควรจดั โครงสร้างการบริหารจดั การที่เอ้ือต่อการพฒั นางาน และการสร้างระบบการประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาขนาดใหญแ่ ละขนาดกลาง ควรมีคณะทางานทาหนา้ ที่วางแผนติดตามตรวจสอบ คุณภาพและจดั ทารายงานการพฒั นาคุณภาพการศึกษาประจาปี ของสถานศึกษา โดยแต่งต้งั คณะทางานท่ีมีตวั แทนบุคลากรจากหลายฝ่ ายมาร่วมคิดร่วมวางแผน และร่วมติดตามตรวจสอบ เกบ็ ขอ้ มูล ส่วนสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีจานวนครูนอ้ ยมาก ควรร่วมกนั วางแผนจดั ระบบการเกบ็ และ รวบรวมขอ้ มูลเป็ นหมวดหมู่ต้งั แต่ตน้ ปี การศึกษา ทาใหไ้ ดแ้ ผนที่วางไว้ เพือ่ ไมใ่ หส้ ะสมจนทาไม่ สาเร็จเม่ือถึงสิ้นปี การศึกษา สาหรับการจดั ระบบสารสนเทศน้นั สถานศึกษายอ่ มทราบดีวา่ มีอยมู่ ากมาย เช่นขอ้ มูล ผเู้ รียน ครูและบุคลากร ขอ้ มูลอาคารและสถานที่ ส่ิงอานวยความสะดวก ขอ้ มูลการพฒั นาบุคลากร ขอ้ มูลทรัพยากร ขอ้ มูลงบประมาณ ฯลฯ สถานศึกษาควรจดั ระบบสารสนเทศใหเ้ ป็นหมวดหมู่ ให้ ครอบคลุมและขอ้ มูลมีความสมบูรณ์ คน้ ไดง้ ่ายและสะดวกรวดเร็ว มีการนาขอ้ มูลมาใชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์อยเู่ สมอ การจดั หมวดหมูข่ อ้ มูลสารสนเทศอาจแบ่งเป็นดา้ นก็ได้ เช่น ดา้ นคุณภาพผเู้ รียน คุณภาพการเรียนการสอน คุณภาพการบริหารและการจดั การ และคุณภาพการพฒั นาชุมชนแห่งการ เรียนรู้ หรือจะจดั โดยวธิ ีอ่ืนท่ีสถานศึกษาเห็นวา่ เหมาะสมกไ็ ด้ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(2554 ก :21-22) ไดก้ ล่าววา่ การพฒั นา สถานศึกษาใหบ้ รรลุตามมาตรฐานที่สถานศึกษากาหนดไว้ มีความจาเป้นอยา่ งยง่ิ ท่ีจะตอ้ งจดั ระบบ การบริหารสถานศึกษาและระบบสารสนเทศเพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ดงั น้ี 1.การจดั ระบบบริหารสถานศึกษา สถานศึกษาสามารถจดั ระบบบริหารโดยอาศยั แนวคิด ทฤษฎี หรือผลงานวจิ ยั ท่ีมีความ เหมาะสมกบั บริบทของสถานศึกษา โดยเนน้ การมีส่วนร่วมของบุคลากรท่ีเกี่ยวขอ้ งทุกฝ่ ายใช้ เทคนิคการบริหารและการจดั การใหส้ ามารถดาเนินงานบรรลุเป้าหมาย เช่น การใชว้ งจรการพฒั นา คุณภาพ(PDCA : Plan Do Check Act) ของเดมม่ิง(Deming Cycle) การบริหารโดยใชโ้ รงเรียน เป็นฐาน(SBM) การบริหารแบบมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ(TQM)เป็นตน้ การจดั โครงสร้างการบริหารสถานศึกษา ควรจดั ใหส้ อดคลอ้ งกบั บริบทของสถานศึกษา และหน่วยงานตน้ สงั กดั ที่มีการแบ่งงานเป็น 4 ดา้ น ไดแ้ ก่ การบริหารงานวชิ าการ การบริหารงาน งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารงานทวั่ ไป ท้งั น้ี การบริหารงานตามโครงสร้าง ของสถานศึกษา สถานศึกษาที่มีขนาดใหญ่หรือใหญพ่ ิเศษจาเป็นอยา่ งยงิ่ ท่ีจะตอ้ งมีคณะกรรมการ หลายระดบั หลายฝ่ าย นบั ต้งั แต่ระดบั บริหาร/อานวยการ ระดบั กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดบั ช้นั หรือมี

46 การต้งั คณะทางานเฉพาะข้ึน เพือ่ รับผดิ ชอบงานเป้นคราวๆไป สถานศึกษาขนาดกลาง ซ่ึงดูจะ คล่องตวั มากที่สุดก็จาเป็ นตอ้ งมีการแตง่ ต้งั คณะกรรมการ กาหนดผรู้ ับผดิ ชอบงานท่ีเหมาะสม เนน้ การทางานร่วมกนั เป็นทีมให้มากที่สุด สาหรับสถานศึกษาขนาดเลก็ ควรเนน้ ลกั ษณะการทางาน แบบบูรณาการ เช่น รวมงานวชิ าการและงานงบประมาณไวด้ ว้ ยกนั เพราะทุกงานตอ้ งเก่ียวขอ้ งกบั การใชเ้ งิน หรือรวมงานวชิ าการกบั งานบุคลากร เพราะการพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอนตอ้ ง เก่ียวขอ้ งกบั ครู ครูทุกคนตอ้ งทางานบริหารทวั่ ไปได้ เป็ นตน้ การทางานในรูปคณะกรรมการอาจมี ความจาเป็นนอ้ ยมากสาหรับสถานศึกษาขนาดเลก็ เพราะบุคลากรมีอยเู่ พยี งไม่กี่คนดงั น้นั ทุกคนจึง ตอ้ งมีแผนการทางานของตนเองควบคู่กบั แผนการสอนดว้ ย เพ่อื เป็นการตรวจสอบการทางานเป็น ระยะตามวงจรคุณภาพ มีการปรับปรุงงานทนั ทว่ งที ไมท่ าใหง้ านคง่ั คา้ ง จึงมีเวลาใหก้ บั การ พฒั นาการเรียนการสอนไดเ้ ตม็ ที่ 2.การจดั ระบบสารสนเทศ สถานศึกษาควรมีการจดั ระบบสารสนเทศใหเ้ ป็ นหมวดหมูค่ รอบคลุมและเพียงพอต่อการ นาไปใชใ้ นการวางแผนการจดั การศึกษา สืบคน้ ไดง้ ่ายและรวดเร็ว ผรู้ ับผดิ ชอบดูแลสารสนเทศ ของสถานศึกษาตอ้ งทางานอยา่ งมีระบบ โดยมีการกาหนดกรอบการเก็บขอ้ มูลเฉพาะที่จาเป็นวาง แผนการเก็บขอ้ มูลซ่ึงตอ้ งทางานอยา่ งมีระบบ โดยมีการกาหนดกรอบการเก็บขอ้ มูลเฉพาะที่จาเป็น วางแผนการเกบ็ ขอ้ มูลซ่ึงตอ้ งอาศยั ความร่วมมือจากบุคลากรทุกฝ่ าย สร้างความเขา้ ใจใหท้ ุกฝ่ ายมี ความตระหนกั ถึงความจาเป็ นในการเก็บขอ้ มูลและสารสนเทศ เพ่ือใหเ้ กิดความร่วมมือและให้ ขอ้ มูลท่ีถูกตอ้ งขอ้ มูลสารสนเทศท้งั หลายลว้ นตอ้ งไดจ้ ากครูและบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา ท้งั สิ้น เม่ือมีความเขา้ ใจที่ถูกตอ้ ง การไดม้ าซ่ึงขอ้ มูลก็จะมีความถูกตอ้ งและไดข้ อ้ มูลท่ีเป็นปัจจุบนั การศึกษาของสถานศึกษามีหลายดา้ น เช่น ขอ้ มูลสารสนเทศเกี่ยวกบั ผเู้ รียนวธิ ีการ/ รูปแบบ/นวตั กรรมการจดั การเรียนการสอนของครู วธิ ีการ/รูปแบบการบริหารจดั การของ สถานศึกษา การมีส่วนร่วมพฒั นาการจดั การศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษา สถิติและผลการ ใชแ้ หล่งเรียนรู้ในและนอกสถานศึกษา วธิ ีการ/จานวนคร้ัง/จานวนโครงการท่ีสถานศึกษาและ ชุมชนร่วมกนั พฒั นาเพ่ือสร้างใหเ้ กิดองคก์ รแห่งการเรียนรู้ในชุมชน เป็ นตน้ แต่อยา่ งไรก็ตาม ขอ้ มูลและสารสนเทศท่ีนบั วา่ มีความสาคญั และจาเป็นที่สุดคือ ขอ้ มูลและสารสนเทศที่เกี่ยวกบั ผเู้ รียนสถานศึกษาจะตอ้ งจดั เกบ็ ขอ้ มูลและสารสนเทศเกี่ยวกบั ผเู้ รียนเป็นรายบุคคล และตอ้ งทาให้ เป็นปัจจุบนั ในทุกภาคเรียน เพ่ือการวางแผนและปรับปรุง การดาเนินงานไดท้ นั เหตุการณ์ การมี ระบบขอ้ มูลและสารสนเทศ จึงนบั วา่ ไดป้ ระโยชน์อยา่ งแทจ้ ริง การจดั เก็บขอ้ มูลและสารสนเทศ สามารถจดั เก็บในรูปของแฟ้มเอกสาร หรือจดั เกบ็ โดย ใชร้ ะบบต่างๆ จากคอมพวิ เตอร์ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั จานวนผเู้ รียนแลบุคลากรของสถานศึกษา ปัจจุบนั

47 สถานศึกษาขนาดใหญใ่ ชค้ อมพวิ เตอร์ช่วยในการบนั ทึกขอ้ มูล ประมวลผล แลว้ สรุปเป็ น สารสนเทศเพอ่ื การใชง้ านไดท้ นั ที เช่นเดียวกนั สถานศึกษาขนาดกลางและขนาดเล็ก ซ่ึงมีบุคลากร ไม่เพียงพอควรใชค้ อมพิวเตอร์ในการเกบ็ ขอ้ มูลและสารสนเทศเช่นเดียวกนั เทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์ช่วยลดภาระในเรื่องน้ีไดอ้ ยา่ งมาก สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน(2554 ง: 23-51) ไดก้ ล่าวถึง ความหมายการ จดั ระบบสารสนเทศ และแนวดาเนินการจดั ระบบบริหารและสารสนเทศ ดงั น้ี ขอ้ มูล(Data) หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริงตา่ งๆซ่ึงอาจแสดงเป็ นตวั เลข ตวั หนงั สือ หรือ สญั ลกั ษณ์ ขอ้ เทจ็ จริงเหล่าน้ีเป็นส่ิงที่เกบ็ รวบรวมมาโดยยงั ไม่ไดป้ ระมวลผล วเิ คราะห์หรือจดั กระทา จึงทาใหข้ อ้ มูลไม่สมบูรณ์พอท่ีจะไปใชป้ ระกอบการตดั สินใจ เช่น จานวนหอ้ งเรียน จานวน นกั เรียน น้าหนกั ส่วนสูง เกรดเฉลี่ย คะแนนสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนระดบั ชาติ(NT, O-NET) ผลการประเมินตวั ช้ีวดั ตามมาตรฐานหลกั สูตรสถานศึกษา เป็นตน้ สารสนเทศ(Information) หมายถึง ขอ้ มูลที่ไดผ้ า่ นการประเมินผลหรือการวเิ คราะห์ดว้ ย วธิ ีการตา่ งๆจนอยใู่ นรูปแบบท่ีมีความหมาย สามารถนาไปใชป้ ระกอบการตดั สินใจหรือนาไปใช้ ในเรื่องตา่ งๆไดต้ ามวตั ถุประสงค์ เช่น อตั ราส่วนครูต่อนกั เรียน การเปรียบเทียบผลการดาเนินงาน ต้งั แต่เริ่มดาเนินการ การจดั เรียงลาดบั คะแนนของนกั เรียน ร้อยละของนกั เรียนท่ีมีผลการเรียนต้งั แต่ ระดบั 3 ข้ึนไป ร้อยละของนกั เรียนที่ผา่ นการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลกั สูตร สถานศึกษาในระดบั ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น เป็ นตน้ ระบบสารสนเทศ(Information System) หมายถึง กระบวนการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลการ ประมวลผลใหอ้ ยใู่ นรูปสารสนเทศที่เป็นประโยชน์สูงสุด และการเก็บรักษาอยา่ งมีระบบเพื่อ สะดวกต่อการนาไปใช้ สารสนเทศที่ถูกจดั เก็บอยา่ งเป็ นระบบสามารถนาไปใชส้ นบั สนุนการ บริหารและการตดั สินใจท้งั ในระดบั ผปู้ ฏิบตั ิและระดบั ผบู้ ริหารเพ่อื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจที่ตรงกนั ยงิ่ ข้ึน กระบวนการจดั ระบบบริหารและสารสนเทศของสถานศึกษา สถานศึกษามีแนวในการดาเนินการจดั ระบบบริหารและสารสนเทศ ดงั น้ี 1. การจดั โครงสร้างหรือระบบบริหารงานท่ีเอ้ือต่อการพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพ ภายใน 1.1 ภารกิจในการบริหารสถานศึกษา พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เติม(ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 มาตร 39 และกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการกระจายอานาจการบริหารและการจดั การศึกษา พ.ศ. 2550 ใหก้ ระทรวงกระจายอานาจการบริหารและการจดั การศึกษาท้งั ในดา้ นการ

48 บริหารงานวชิ าการ การบริหารงบประมาณ การบริหารบุคคล และการบริหารงานทวั่ ไปไปยงั เขต พ้นื ที่การศึกษาและสถานศึกษาโดยตรง เม่ือพิจารณาภารกิจของสถานศึกษาท้งั 4 ดา้ น พบวา่ แมจ้ ะมีการกาหนดภารกิจ เกี่ยวกบั ขอ้ มูลสารสนเทศไวอ้ ยา่ งชดั เจนในงานบริหารทว่ั ไปแลว้ ก็ตาม เพอ่ื ใหก้ ารบริหารและ จดั การของสถานศึกษามีประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน สถานศึกษาควรจดั ใหท้ ุกงานมีระบบขอ้ มูลสารสนเทศ ของแต่ละหน่วยงานไวด้ ว้ ย 1.2 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งระบบบริหารและสารสนเทศกบั ระบบการประกนั คุณภาพ ภายในของสถานศึกษา การจดั ระบบบริหารและสารสนเทศของสถานศึกษานบั วา่ มีความสาคญั และจาเป็น อยา่ งยง่ิ ในการดาเนินการประกนั คุณภาพการศึกษา ซ่ึงจะนาไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการพฒั นา คุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐานท่ีตอ้ งการและครอบคลุมภารกิจดา้ นการบริหารจดั การของ สถานศึกษาไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ สถานศึกษาจึงตอ้ งมีระบบการบริหารและการจดั การศึกษาที่นาไปสู่ คุณภาพของผเู้ รียน รวมถึงระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ เป็ นระบบ ถูกตอ้ ง สมบูรณ์ เป็น ปัจจุบนั และสามารถเรียกใชข้ อ้ มูลสารสนเทศไดต้ ลอดเวลาโดยผบู้ ริหารสถานศึกษาสามารถ นาไปใชใ้ นการตดั สินใจดาเนินการตา่ งๆตามระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ 2.การกาหนดผรู้ ับผดิ ชอบและจดั ระบบสารสนเทศ 2.1การจดั ระบบบริหารและสารสนเทศที่เอ้ือตอ่ การพฒั นาระบบประกนั คุณภาพ ภายในสถานศึกษา จาเป็นตอ้ งมีกาหนดใหม้ ีผูร้ ับผดิ ชอบและจดั ระบบสารสนเทศใหเ้ ป็ นหวมดหมู่ ครอบคลุม เป็ นปัจจุบนั สะดวกต่อการเขา้ ถึงและการใหบ้ ริการ การดาเนินการดงั กล่าวควรคานึงถึง หลกั การมีส่วนร่วม โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของผปู้ กครอง ชุมชน องคก์ ร หรือ หน่วยงานใน ทอ้ งถิ่น นอกจากน้ี ควรคานึงถึงหลกั ธรรมาภิบาล การกระจายอานาจ ความโปร่งใสตรวจสอบได้ รวมท้งั บุคลากรทุกกลุ่มงานควรมีการรับรู้หรือร่วมงานอยา่ งทวั่ ถึง ดงั น้นั ผบู้ ริหารจึงควรมีบทบาท หนา้ ที่สาคญั ในการขบั เคลื่อนใหก้ ารบริหารงานขอ้ มูลสารสนเทศเป็ นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงมี แนวทางดงั น้ี 2.1.1คดั เลือกบุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถในการใชน้ วตั กรรมและ เทคโนโลยขี อ้ มูลสารสนเทศใหม้ ีหนา้ ที่จดั ทาขอ้ มูลตามระบบการใชโ้ ปรแกรมขอ้ มูลสารสนเทศให้ เขา้ รับการอบรมในโปรแกรมตา่ งๆที่หน่วยงานตน้ สงั กดั จดั ข้ึน บุคลากรในดา้ นน้ีจะตอ้ งเป็ นผทู้ ่ีมี ความรับผดิ ชอบและมีความต้งั ใจในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ 2.1.2จดั ใหม้ ีระบบติดตามการปฏิบตั ิงานของบุคลากรท่ีไดร้ ับการแต่งต้งั ให้

49 ดาเนินการกรอกขอ้ มูลและปรับปรุงขอ้ มูลให้เป็นปัจจุบนั 2.1.2ใหก้ ารสนบั สนุนบุคลากรในสถานศึกษาใหไ้ ดร้ ับการอบรมพฒั นา ทกั ษะดา้ นการใชน้ วตั กรรมและเทคโนโลยขี อ้ มูลสารสนเทศในดา้ นตา่ งๆอยา่ งต่อเนื่อง 2.1.3มีบทบาทในการตรวจสอบความถูกตอ้ งสมบูรณ์ของขอ้ มูลสารสนเทศที่ ทางสถานศึกษาไดจ้ ดั ทาข้ึนก่อนนาไปใช้ เพ่ือใหเ้ กิดผลดีต่อภาพพจนข์ องสถานศึกษา 2.1.4สนบั สนุนใหบ้ ุคลากรในสถานศึกษาทุกคนมีความรู้และสามารถสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีทางสถานศึกษาจดั ทาข้ึนไดด้ ว้ ยตนเอง โดยมีการจดั ทาหอ้ งปฏิบตั ิการ คอมพิวเตอร์ไวใ้ หบ้ ริการและผทู้ ่ีเป็นเจา้ หนา้ ท่ีจดั ทาขอ้ มูลสารสนเทศในดา้ นตา่ งๆเป็ นผแู้ นะนา ข้นั ตอนการสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศ การกาหนดผูร้ ับผดิ ชอบเพ่ือนาไปสู่การพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในน้นั สถานศึกษาทุกขนาด ไม่วา่ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ ควรจดั ทาคาสงั่ มอบหมายงานให้ ชดั เจน ให้เป็นไปตามความเหมาะสมกบั บริบท สภาพแวดลอ้ ม และจานวนบุคลากร ส่วนในการ ดาเนินงานน้นั สถานศึกษาที่มีบุคลากรจากดั อาจเชิญบุคลากรในทอ้ งถ่ิน ไดแ้ ก่ ผแู้ ทนชุมชน ผปู้ กครอง ผทู้ ่ีมีความสามารถเฉพาะดา้ นหรือผทู้ ่ีสนใจเขา้ มามีส่วนร่วมตามหลกั การมีส่วนร่วม ดงั กล่าวแลว้ ขา้ งตน้ ท้งั น้ี บุคลากรหน่ึงคนอาจตอ้ งรับผดิ ชอบมากกวา่ 1 หรือ 2 งานก็ได้ 1.3 การจดั ระบบสารสนเทศใหเ้ ป็นหมวดหมู่ สถานศึกษามีขอ้ มูลมากมาย การะจดั กระจายอยใู่ นส่วนต่างๆตามภารกิจหนา้ ท่ีและ ความรับผดิ ชอบของครูและบุคลากรแตล่ ะคน หากไมม่ ีการจดั ระบบขอ้ มูลสารสนเทศใหเ้ ป็นระบบ แลว้ จะเกิดความไม่สะดวกหรือเกิดความยงุ่ ยากในการนาไปใช้ หรือมีขอ้ มูลสารสนเทศท่ีไมต่ รงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ ซ่ึงไมเ่ กิดประโยชน์ต่อการพฒั นาคุณภาพของสถานศึกษา การปฏิบตั ิงานตามภาระหนา้ ท่ีและความรับผดิ ชอบของบุคลากรแตล่ ะคน อนั ส่งผล ตอ่ คุณภาพผเู้ รียนและในการประเมินคุณภาพผเู้ รียนเพ่ือจดั ทาขอ้ มูลสารสนเทศน้นั สถานศึกษาควร จดั เก็บผลการดาเนินงานของสถานศึกษาใหค้ รอบคลุมมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และควร จดั เก็บขอ้ มูลสารสนเทศยอ้ นหลงั อยา่ งนอ้ ย 3 ปี ซ่ึงจะทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลสารสนเทศท่ีสมบูรณ์ นาไปสู่ ประโยชนใ์ นการพฒั นาคุณภาพการศึกษาและเตรียมความพร้อมในการรองรับการประเมินคุณภาพ ภายนอกอยา่ งแทจ้ ริง โดยไม่แยกจากภารกิจประจาหรือเพ่ิมภาระงาน ท้งั น้ี สถานศึกษาตอ้ งเร่ิมตน้ จากการนาผลการประเมินของการเรียนรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษา ผลการดาเนินงานตาม แผนปฏิบตั ิการประจาปี และผลการดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามนโยบายพิเศษ มาวเิ คราะห์หา จุดเด่น จุดควรพฒั นา ท้งั น้ีลกั ษณะหรือรูปแบบการจดั เก็บระบบขอ้ มูลสารสนเทศอาจทาไดห้ ลาย รูปแบบ ดงั น้ี

50 รูปแบบท่ี 1 จดั ระบบตามลกั ษณะขอ้ มูล ไดแ้ ก่ 1.1 ขอ้ มูลพ้ืนฐานของสถานศึกษา ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลทว่ั ไปของสถานศึกษา สภาพ การบริหารและการจดั การตามโครงสร้างการบริหารและภารกิจ ศกั ยภาพของสถานศึกษา ความ ตอ้ งการของสถานศึกษา แนวโนม้ ในการพฒั นาทอ้ งถ่ิน แนวทางในการจดั การศึกษา การมีส่วนร่วม ของคณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน คณะนกั เรียน 1.2 ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีเกิดจากการจดั การเรียนรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษา ไดแ้ ก่ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผเู้ รียน สุขภาพอนามยั ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ผลการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน ผลงานและการแสดงออกของผูเ้ รียน และรูปแบบ การเรียนรู้ของผเู้ รียน เป็ นตน้ 1.3 ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีเกิดจากการดาเนินงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี ไดแ้ ก่ ผลการดาเนินงานตามเป้าหมายของโครงการ/กิจกรรมต่างๆผลการประเมินคุณภาพภายในของ สถานศึกษา(SAR)เป็ นตน้ รูปแบบท่ี 2 จดั ระบบเพื่อเตรียมพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอก ไดแ้ ก่ 1.1 ผลการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา(ผลจากรายงานประจาปี ของ สถานศึกษายอ้ นหลงั อยา่ งนอ้ ย 3 ปี ติดต่อกนั ) 1.2 ผลการดาเนินงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี ยอ้ นหลงั อยา่ งนอ้ ย 3 ปี ติดต่อกนั 1.3 ผลการจดั การเรียนรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษายอ้ นหลงั อยา่ งนอ้ ย 3 ปี ติดต่อกนั รูปแบบท่ี 3 จดั ระบบตามลกั ษณะขอ้ มูลสารสนเทศท่ีจาเป็ นเพื่อการพฒั นาคุณภาพ การศึกษา 2.5 ขอ้ มูลสารสนเทศพ้ืนฐานของสถานศึกษา ไดแ้ ก่ขอ้ มูลทว่ั ไปของสถานศึกษา สภาพการบริหารและการจดั การตามโครงสร้างการบริหารและภารกิจศกั ยภาพของสถานศึกษา ความตอ้ งการของสถานศึกษา แนวโนม้ ในการพฒั นาทอ้ งถ่ิน แนวทางการจดั การศึกษา การมีส่วน ร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน คณะนกั เรียน 2.6 ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ผเู้ รียน ไดแ้ ก่ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ผลงานและการแสดงออกของผเู้ รียน และรูปแบบการเรียนรู้ ของผเู้ รียน เป็ นตน้ 2.7 ขอ้ มูลสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวชิ าการ ไดแ้ ก่ หลกั สูตรสถานศึกษาและ

51 การจดั การเรียนการสอน การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน การจดั กิจกรรมแนะแนว การวจิ ยั ในช้นั เรียน 2.8 ขอ้ มูลสารสนเทศเพ่ือการบริหารจดั การ ไดแ้ ก่ สภาพและบรรยากาศ การเรียนรู้ ทรัพยากรและส่ิงอานวยความสะดวก การพฒั นาบุคลากร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสถานศึกษากบั ผปู้ กครองและชุมชน 2.9 ขอ้ มูลสารสนเทศเพื่อการรายงาน ไดแ้ ก่ คุณภาพผเู้ รียน คุณภาพดา้ นการจดั การ เรียนการสอน คุณภาพดา้ นการบริหารจดั การ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสถานศึกษากบั ชุมชน รูปแบบท่ี 4 จดั ระบบตามภารกิจการบริหารและจดั การศึกษาของสถานศึกษาและ บุคลากร 4.1 งานวชิ าการ ขอ้ มูลที่สาคญั ไดแ้ ก่ แผนงาน/โครงการ/กิจกรรมดา้ นวชิ าการการ พฒั นาหลกั สูตรของสถานศึกษา แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน การพฒั นาการเรียนรู้การวดั และประเมินผล การวจิ ยั ในช้นั เรียน การนิเทศการเรียนการสอน การพฒั นาระบบประกนั คุณภาพ ภายในและมาตรฐานการศึกษา การพฒั นาสื่อเทคโนโลยเี พ่อื การศึกษาการพฒั นางานวิชาการ ขอ้ มูล เกี่ยวกบั ผเู้ รียนทุกดา้ น 4.2 งานบุคลากร ขอ้ มูลท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ แผนงาน/โครงการ/กิจกรรมดา้ นบุคลากร ขอ้ มูลทุกดา้ นของครู เช่น อายตุ วั อายรุ าชการ วฒุ ิการศึกษา การศึกษาตอ่ การพฒั นาวชิ าชีพ เป็นตน้ 4.3 งานงบประมาณ ขอ้ มูลท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ แผนงาน/โครงการ/กิจกรรมดา้ นแผนและ งบประมาณ การจดั สรรงบประมาณ การดาเนินงานตามแผน รายงานการเบิก-จา่ ยหรือใช้ งบประมาณ การจดั ซ้ือจดั จา้ ง การเบิกจ่ายพสั ดุ ครุภณั ฑ์ การจดั ทาบญั ชี รายงานประจาปี เป็นตน้ 4.4 งานบริหารทวั่ ไป ขอ้ มูลท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ แผนงาน/โครงการ/กิจกรรมดา้ นงาน บริหารทวั่ ไป ระบบเครือข่ายขอ้ มูลสารสนเทศ ระบบการบริหารและพฒั นาองคก์ ร ขอ้ มูลเก่ียวกบั อาคารสถานท่ี ส่ิงอานวยความสะดวกและสภาพแวดลอ้ ม งานกิจการนกั เรียน ขอ้ มูลระบบ สารบรรณ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั คณะกรรมการสถานศึกษา การบนั ทึกการประชุมของสถานศึกษา รายงาน โครงการ/กิจกรรม เป็นตน้ รูปแบบการจดั เก็บระบบขอ้ มูลสารสนเทศท่ีกล่าวขา้ งตน้ น้ี เป็นเพยี งแนวทางหน่ึงใน การดาเนินการเท่าน้นั สถานศึกษาสามารถนาไปพจิ ารณาจดั ทาหรือจดั หมวดหมู่แบบใดก็ได้ นอกเหนือจากรูปแบบที่กล่าวขา้ งตน้ ตามท่ีเห็นวา่ สะดวกและเหมาะสมกบั สภาพของสถานศึกษา 3.การนาขอ้ มูลสารสนเทศไปใชป้ ระโยชน์

52 3.1 การใชป้ ระโยชน์จากการใชเ้ ทคโนโลยใี นการจดั ระบบสารสนเทศใน สถานศึกษาในรูปของโปรแกรมประยกุ ต์ พฒั นาโดยสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ซ่ึงเป็นรูปแบบหน่ึงของการนาขอ้ มูลสารสนเทศไปใชป้ ระโยชน์ 3.2 การใชป้ ระโยชน์จากขอ้ มูลสารสนเทศทว่ั ไป การใชป้ ระโยชน์จากระบบขอ้ มูลสารสนเทศของแตล่ ะหน่วยงานหรือแตล่ ะดา้ นมิได้ แยกส่วนขาดจากกนั หลายงานอาจใชข้ อ้ มูลสารสนเทศร่วมกนั และขอ้ มูลสารสนเทศระบบหน่ึงก็ อาจใชไ้ ดก้ บั งานหลายงาน ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั การวเิ คราะห์และการมองเห็นประโยชน์ของผใู้ ช้ นอกจากน้ียงั ข้ึนอยกู่ บั วตั ถุประสงคแ์ ละการออกแบบการจดั เก็บขอ้ มูลของสถานศึกษาอีกดว้ ย สรุปไดว้ า่ การจดั ระบบบริหารและสารสนเทศ เป็ นการจดั โครงสร้างหรือระบบ บริหารงานของสถานศึกษาที่เอ้ือตอ่ การพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา มี กาหนดผรู้ ับผดิ ชอบและจดั ระบบสารสนเทศใหเ้ ป็นหมวดหมู่ ครอบคลุม เป็นปัจจุบนั สะดวกต่อ การเขา้ ถึงและใหบ้ ริการ โดยนาขอ้ มูลสารสนเทศไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ในการบริหารและการ พฒั นาการเรียนการสอน การดาเนินงานตามแผนพฒั นาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(2549:9-12) กล่าววา่ ในแผนพฒั นา สถานศึกษาท่ีมุ่งเนน้ คุณภาพการศึกษา มีโครงการ/กิจกรรม ท่ีตอ้ งดาเนินงานใหบ้ รรลุตาม วตั ถุประสงคแ์ ละเกิดผลสาเร็จตามที่ระบุไวใ้ นตวั ช้ีวดั ของโครงการ การดาเนินงานตามแผนน้นั สถานศึกษาตอ้ งสร้างระบบการทางานท่ีเขม้ แขง็ เนน้ การมีส่วนร่วม ใชเ้ ทคนิคการบริหารและการ จดั การท่ีจะใหก้ ารดาเนินงานตามแผนพฒั นาสถานศึกษาบรรลุเป้าหมาย ตวั อยา่ งเทคนิคการบริหารและการจดั การที่ใชแ้ ลว้ ประสบผลสาเร็จ 1.วงจรพฒั นาคุณภาพ PDCA ของเดมมม่ิง (Deming Cycle)เป็นเทคนิคที่ผบู้ ริหารส่วน ใหญ่ นิยมใชก้ นั แพร่หลาย เพราะเป็นกระบวนการที่มีการตรวจสอบตนเองอยตู่ ลอดเวลา ต้งั แต่ข้นั การวางแผน(Plan) การปฏิบตั ิตามแผนหรือข้นั ตอนที่วางไว(้ Do) การตรวจสอบหรือการประเมิน (Check) และการนาผลการประเมินยอ้ นกลบั ไปทบทวน ปรับปรุงแกไ้ ข วางมาตรฐาน/มาตรการ กาหนดข้นั ตอนใหม(่ Act) เพอ่ื การดาเนินงานต่อๆไป

53 ภาพที่ 8 แสดงกระบวนการดาเนินงานตามวงจร PDCA ในแต่ละงานท่ีดาเนินไปพร้อมๆกนั การ P การพฒั นาบุคลากร สนบั สนุน D C A โครงการ P DCAP D ผลสาเร็จ คุณภาพ โครงการ โครงการ ผเู้ รียน โครงการ ระบบขอ้ มูลสารสนเทศ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน (2549: 10) 1. แนวคิด Balanced Scorecard สถานศึกษาหลายแห่งใชแ้ นวคิดในการกาหนดผลสาเร็จอยา่ งสมดุลรอบดา้ น(Balanced Scorecard) เป็นเทคนิคการบริหาร เช่นโรงเรียนในฝัน โดยใชก้ ารกาหนดมุมมองท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ผลสาเร็จของการดาเนินงาน 4 ดา้ น คือ 1.1 มุมมองดา้ นนกั เรียน(Student Perspective) โดยพิจารณาความตอ้ งการท่ีเก่ียวขอ้ ง กบั คุณลกั ษณะของผเู้ รียนที่คาดหวงั 1.2 มุมมองดา้ นกระบวนการจดั การศึกษาภายใน(Internal Process Perspective) โดยพจิ ารณาผลความสาเร็จและแนวทางในการพฒั นาประสิทธิภาพและคุณภาพของกระบวนการ บริหารจดั การและการจดั การหลกั สูตรกระบวนการเรียนการสอน 1.3 มุมมองดา้ นการเรียนรู้และการพฒั นา(Learning and Growth Perspective)

54 โดยพิจารณาปัจจยั ที่ใชข้ บั เคล่ือนใหผ้ เู้ รียนไดร้ ับการพฒั นาคุณภาพตามท่ีคาดหวงั ไดแ้ ก่ การสร้าง ความเขม้ แขง็ ใหส้ ถานศึกษาเป็นองคก์ รแห่งการเรียนรู้ การพฒั นาศกั ยภาพและทกั ษะของครู ผบู้ ริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา การเพม่ิ สมรรถนะของสถานศึกษาในการใช้ นวตั กรรมเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารเพ่ือการศึกษา 1.4 มุมมองดา้ นงบประมาณและทรัพยากร(Budget and Resource Perspective)โดย พิจารณาปัจจยั ส่งเสริมใหด้ าเนินงานบรรลุ ภาพความสาเร็จในดา้ นงบประมาณและทรัพยากรโดย คานึงถึงแหล่งสนบั สนุน อตั รากาลงั คา่ ใชจ้ ่าย ประสิทธิภาพในการใชท้ รัพยากรและงบประมาณ จากมุมมองท้งั ส่ีดา้ นนามากาหนดวตั ถุประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์(Strategic Objective)ที่จะ นาไปสู่ความสาเร็จโดยคานึงถึงความครอบคลุมและสมดุล จดั ทาแผนกลยทุ ธ์(Strategy Map)เพ่ือ ตรวจสอบ ลาดบั ความสาคญั และความเหมาะสมของวตั ถุประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์ท่ีกาหนดไดอ้ ยา่ งไร แลว้ จดั ทา กรอบกลยทุ ธ์(Strategy Framework) โดยการนาวตั ถุประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์มาทาตวั ช้ีวดั (Measures)เป้าหมาย(Targets)และกลยทุ ธ์ริเร่ิม(Strategy Initiatives)ดงั แสดงในภาพต่อไปน้ี ภาพท่ี 9 แสดงรูปแบบการกาหนดผลสาเร็จอยา่ งสมดุลรอบดา้ น ผเู้ รียน วตั ถุ ตวั เป้า กลยทุ ธ์ ประสงค์ ช้ีวดั หมาย ริเริ่ม วตั ถุ ผเู้ รียน กลยทุ ธ์ วสิ ยั ทศั น์ วตั ถุ ผเู้ รียน กลยทุ ธ์ ประสงค์ ตวั เป้า ริเริ่ม พนั ธกิจ ประสงค์ ตวั เป้า ริเร่ิม ช้ีวดั หมาย กลยทุ ธ์ ช้ีวดั หมาย วตั ถุ ผเู้ รียน กลยทุ ธ์ ประสงค์ ตวั เป้า ริเริ่ม ช้ีวดั หมาย สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ( 2549:11)

55 นอกจากน้ีวงจรการพฒั นา PDCA และเทคนิค Balanced Scorecard แลว้ ยงั มีเทคนิคการ บริหารอีกหลายรูปแบบที่ผบู้ ริหารนามาใชแ้ ลว้ ประสบความสาเร็จ เช่น เทคนิค 5 ส, TQM, QC,Six Sigma,Benchmarking, ToPSTAR เป้นตน้ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ความสามารถของผบู้ ริหารเป็ นสาคญั อยา่ งไรก็ตาม การพฒั นาคุณภาพสถานศึกษาในปัจจุบนั ผูบ้ ริหารตอ้ งใหค้ วามสาคญั กบั คุณภาพเชิง วชิ าการใหม้ ากยงิ่ ข้ึน สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน(2554 ก:24 ) ไดก้ ล่าววา่ แผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาน้นั เปรียบเสมือนเขม็ ทิศช้ีทางการทางาน เพื่อใหท้ ุกคนทุกฝ่ ายมีเป้าหมาย และแนวทางการดาเนินงานที่ไม่ขดั แยง้ กนั แต่แผนจะไม่มีความหมาย ถา้ การดาเนินงานของ บุคลากรในสถานศึกษาไมด่ าเนินงานตามแผน ผบู้ ริหารสถานศึกษาที่มีภาวะผนู้ าทางวชิ าการควบคู่ กบั การบริหารจดั การดา้ นระบบคุณภาพและระบบคุณธรรม ยอ่ มสร้างคนท่ีมีคุณภาพใหเ้ กิดข้ึนได้ ไมย่ ากนกั ผบู้ ริหารจะทาหนา้ ที่จดั สิ่งอานวยความสะดวก สนบั สนุนทรัพยากรตา่ งๆเพ่ือใหก้ าร ปฏิบตั ิงานเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดูแล กากบั ติดตาม และนิเทศผลงานของ บุคลากรทุกคน/ทุกฝ่ าย เพ่อื กระตุน้ และส่งเสริมใหป้ ฏิบตั ิงานตามแผนที่กาหนดไว้ ใหค้ วามสาคญั การดาเนินงานและปรับปรุงงานอยา่ งต่อเน่ืองจนเป็นปกติวสิ ยั ครูตอ้ งทาหนา้ ท่ีจดั การเรียนการ สอนอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพและเต็มเวลา แบง่ เวลาหรือบริหารเวลาในการปฏิบตั ิงาน ตามแผนงาน/ โครงการ/กิจกรรมท่ีกาหนดไวใ้ นแผนปฏิบตั ิการประจาปี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและบรรลุผลสาเร็จตาม แผนทุกฝ่ าย มีส่วนร่วมในการจดั ทารายงานผลการดาเนินงานตามแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเม่ือ สิ้นสุดการดาเนินงาน ซ่ึงทุกคนท่ีเก่ียวขอ้ งจะปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ี และบทบาทของตนเองอยา่ งดีท่ีสุด และภาคภูมิใจในความสาเร็จร่วมกนั ดงั น้นั ผบู้ ริหารสถานศึกษา จึงเป็นหวั ใจสาคญั ของการพฒั นา สถานศึกษา ผบู้ ริหารจึงควรเป็นผูน้ าในการปฏิบตั ิงานตามแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมที่กาหนดไว้ รวมท้งั มีการส่งเสริม สนบั สนุน กากบั ติดตาม และใหค้ วามช่วยเหลือแก่บุคลากรทุกคน/ทุกฝ่ าย ให้ สามารถปฏิบตั ิงานไดบ้ รรลุตามวตั ถุประสงคต์ ามที่กาหนดไว้ วรรณา เอกตะ (2550)ไดศ้ ึกษาเรื่อง การจดั ระบบสารสนเทศเพือ่ การประกนั คุณภาพภายใน ของสถานศึกษาขนาดเลก็ เขตพ้นื ที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 วตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาสภาพ ปัญหา และขอ้ เสนอแนะการจดั ระบบสารสนเทศเพื่อการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาขนาดเล็ก เขต พ้ืนท่ีการศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เครื่องมือที่ใชใ้ นการศึกษาคือ แบบสอบถามและ แบบสมั ภาษณ์ แบบมีโครงสร้าง ผลการศึกษาพบวา่ สภาพการจดั ระบบสารสนเทศเพือ่ การประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาขนาดเล็กส่วนมากไมม่ ีการปฏิบตั ิใน ทุกข้นั ตอน โดยข้นั วางแผนเพื่อการจดั ระบบ ขอ้ มูล รายการท่ีไม่มีการปฏิบตั ิมากท่ีสุดคือ การกาหนดขอบขา่ ยลกั ษณะของขอ้ มูล ที่ควรจดั เกบ็ รวบรวม ช้นั สร้างเคร่ืองมือเพอื่ เกบ็ ขอ้ มูล รายการที่ไม่ปฏิบตั ิมากท่ีสุดคือ เคร่ืองมือ ในการเก็บ

56 รวบรวมขอ้ มูลการศึกษามีหลากหลาย ข้นั การรวบรวมขอ้ มูล รายการที่ไม่มีการปฏิบตั ิมากท่ีสุดคือ การนาผลของการตรวจสอบขอ้ มูลไปปรับปรุงแกไ้ ข ข้นั การประมวลผลขอ้ มูล รายการท่ีไมม่ ีการ ปฏิบตั ิมากท่ีสุดคือ การพิจารณาแต่งต้งั ผรู้ ับผิดชอบในการประมวลผลขอ้ มูลโดยคานึงถึงความรู้ ความสามารถ ข้นั การนาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ รายการท่ีไม่มีการปฏิบตั ิมากท่ีสุดคือ การ นาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศต่อผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งและสาธารณชน และข้นั การจดั เกบ็ ขอ้ มูลและ สารสนเทศ รายการที่ไม่มีการปฏิบตั ิมากที่สุดคือ การแตง่ ต้งั ผรู้ ับผิดชอบงานจดั เกบ็ ขอ้ มูล สารสนเทศ ของโรงเรียน ส่วนปัญหาท่ีพบ คือ การขาดแคลนบุคลากร วสั ดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยี ในการจดั ระบบสารสนเทศเพ่ือการประกนั คุณภาพการศึกษาภายในของสถานศึกษา สมจิต ตาคาแสง (2548) ไดด้ าเนินการศึกษาเรื่อง การดาเนินงานประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาขนาดเล็ก อาเภอแม่สะเรียง จงั หวดั แม่ฮ่องสอน โดยใชแ้ บบสอบถามผลการศึกษาพบวา่ ในการดาเนินงานประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาขนาดเลก็ อาเภอแม่สะเรียง ที่เก่ียวกบั การจดั ทา แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา ผบู้ ริหารและครูผสู้ อนมุ่งเนน้ คุณภาพผเู้ รียนเป็ นสาคญั ให้ ความสาคญั กบั การจดั แหล่งการเรียนรู้สาหรับผเู้ รียน ส่งเสริมกิจกรรมทางวชิ าการใหน้ กั เรียน ได้ เรียนรู้พ้นื ฐานตามหลกั สูตร บางส่วนยงั ไมไ่ ดม้ ีการดาเนินงานตามแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาไดร้ ายงาน คุณภาพการศึกษาประจาปี ดาเนินงาน ตามกิจกรรมท่ีกาหนดไวใ้ นแผน ส่วนท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิคืออบรมเร่ืองแผนปฏิบตั ิงานใหก้ บั บุคลากร ประชาสมั พนั ธ์แผนปฏิบตั ิงานของ โรงเรียน จดั ทาแผนการติดตามการดาเนินงานและจดั ทาปฏิทินการปฏิบตั ิงาน สาหรับการ ตรวจสอบและทบทวนแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาไดป้ ระเมินตามภารกิจของบุคลากรที่ไดร้ ับ มอบ ผบู้ ริหารสร้างความตระหนกั ใหแ้ ก่คณะครูไดเ้ ห็นความสาคญั ของการประเมิน ร่วมกนั วาง แผนการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษาอยา่ งเป็ นระบบ และจดั ทาคู่มือการปฏิบตั ิงานของ โรงเรียนประกอบการตรวจสอบ สรุปไดว้ า่ การดาเนินงานตามแผนพฒั นาการจดั การการศึกษาของสถานศึกษา เป็นการ นาเอาแผนปฏิบตั ิการประจาปี แต่ละปี สู่การปฏิบตั ิ ตามกรอบระยะเวลาและกิจกรรม/โครงการท่ี กาหนดไว้ โดยผรู้ ับผิดชอบและผเู้ กี่ยวขอ้ งทุกฝ่ ายปฏิบตั ิตามบทบาทหนา้ ที่และความรับผดิ ชอบ ตามที่ไดก้ าหนดอยา่ งมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(2554 ก:25-26) กล่าววา่ การติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เป็นกระบวนการติดตามตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของการปฏิบตั ิงาน ตามแผนการพฒั นาคุณภาพการศึกษา รวมถึงการจดั ทารายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพ การศึกษาพร้อมท้งั เสนอแนะมาตรการเร่งรัดการพฒั นาคุณภาพการศึกษา

57 ในการติดตามตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของการปฏิบตั ิงานตามแผนพฒั นาคุณภาพ การศึกษาน้นั สถานศึกษาจาเป็นตอ้ งมีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลและสารสนเทศที่ต่อเนื่องเพอื่ ใหเ้ ห็น แนวโนม้ การปฏิบตั ิงานดีข้ึนหรือกาลงั ถอยลง และควรมีการปรับปรุงแกไ้ ขหรือเร่งพฒั นาในเรื่อง ใดบา้ ง การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาจึงควรกระทาทุกปี ถือเป็นการ ประเมินตนเองของสถานศึกษาท่ีตอ้ งดาเนินการอยา่ งเป็ นระบบต่อเนื่อง การดาเนินงานทาไดท้ ้งั ระหวา่ งและหลงั การดาเนินงาน โดยความร่วมมือของบุคลากรในสถานศึกษา ผปู้ กครอง และ ชุมชน การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาควรใหค้ วามสาคญั กบั คุณภาพ ผเู้ รียนเป็นอนั ดบั แรก และเชื่อมโยงถึงมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาในดา้ นอ่ืนๆรวมถึง เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษาดว้ ย ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาในแต่ละคร้ัง เป็นขอ้ มูลเชิง ประจกั ษใ์ หก้ บั ผเู้ ก่ียวขอ้ งทุกฝ่ ายในการปรับปรุงและพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาดา้ นการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ การส่งเสริมการเรียนรู้ การวดั และประเมินผลการ พฒั นาบุคลากรและการบริหารจดั การ เพอ่ื นาไปสู่มาตรฐานการศึกษาท่ีกาหนดไว้ นอกจากน้ี กฎกระทรวงยงั กาหนดใหห้ น่วยงานตน้ สังกดั ของสถานศึกษา มีหนา้ ท่ีในการ ติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาอีกทางหน่ึงดว้ ย โดยใหด้ าเนินการติดตามตรวจสอบอยา่ งนอ้ ย หน่ึงคร้ังในทุกสามปี ท้งั น้ี ในส่วนของสถานศึกษาควรจดั ทาแผนการติดตามตรวจสอบคุณภาพ สถานศึกษาภายในเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพื่อใหส้ ถานศึกษาทุกแห่ง ไดร้ ับการตรวจสอบคุณภาพและ ไดร้ ับประโยชนจ์ ากการติดตามตรวจสอบครบถว้ น กรณีที่เขตพ้ืนที่การศึกษาใดมีสถานศึกษาใน ความดูแลรับผิดชอบจานวนไม่มาก ควรมีการติดตามตรวจสอบเป็นประจาทุกปี ส่วนเขตพ้นื ท่ีการศึกษาที่มีสถานศึกษาอยใู่ นความดูแลรับผดิ ชอบจานวนมากไม่สามารถ ตรวจสอบใหค้ รบไดภ้ ายใน 3 ปี ก็ควรมีการประสานงานโดยอาศยั บุคลากร/ผทู้ รงคุณวฒุ ิ ที่มีความรู้ ความสามารถมาร่วมปฏิบตั ิการได้ ควรมีการแตง่ ต้งั คณะทางานในการออกติดตามตรวจสอบ มีการ กาหนดกรอบการตรวจสอบท่ีชดั เจน ซ่ึงประเดน็ การตรวจสอบตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยเขตพ้ืนท่ีการศึกษาอยา่ ง สม่าเสมอน้นั จะทาใหผ้ ปู้ กครอง ชุมชน หรือแมแ้ ตผ่ เู้ รียนเองรับรู้ถึงปัญหาอุปสรรค การดาเนินงาน พฒั นาสถานศึกษาและหาแนวทางปรับปรุงและพฒั นาร่วมกนั รวมท้งั นาผลการตรวจสอบคุณภาพ ไปปรับแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา หรือแผนปฏิบตั ิการประจาปี และใหเ้ ป็นขอ้ มูล เพ่อื รองรับการประเมินคุณภาพภายนอกดว้ ย สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน(2554 จ: 7-15) ไดก้ ล่าวถึง วตั ถุประสงค์ รูปแบบและกระบวนการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ดงั น้ี

58 วตั ถุประสงคก์ ารติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา มีรายละเอียดดงั น้ี 1.เพื่อใหส้ ถานศึกษาสามารถติดตามรวบรวมขอ้ มูลความกา้ วหนา้ ของการดาเนินงาน และปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง 2.เพอ่ื รวบรวมและจดั ระบบขอ้ มูลสารสนเทศ และนาไปใชใ้ นการวางแผนพฒั นา คุณภาพการศึกษาใหเ้ ป็นไปตามเป้าหมายท่ีกาหนด 3.เพือ่ ปรับปรุงและพฒั นาคุณภาพการศึกษาใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาและเป็น ท่ียอมรับ 4.เพ่อื สร้างความพงึ พอใจแก่ผเู้ กี่ยวขอ้ ง 5.เพื่อเตรียมพร้อมรับการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาจากหน่วยงานตน้ สงั กดั และรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก รูปแบบการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา มีรายละเอียด ดงั น้ี รูปแบบท่ี 1 ผบู้ ริหารสถานศึกษาเป็นผตู้ ิดตามตรวจสอบ เป็นการติดตามตรวจสอบการปฏิบตั ิงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี เป็นระยะๆอยา่ ง ต่อเน่ืองดว้ ยผบู้ ริหารสถานศึกษาเองตามโครงการ/กิจกรรมต่างๆที่กาหนดไว้ สามารถดาเนินงานได้ ตามแผนหรือไม่ มีการปรับแผนหรือไม่ ถา้ มีเพราะเหตุใด ผลการดาเนินงานบรรลุตาม วตั ถุประสงค/์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จของโครงการ/กิจกรรมหรือไม่ เพียงใด แลว้ สรุปเป็นรายงานการ ติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา รูปแบบท่ี 2 คณะกรรมการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เป็นการติดตามตรวจสอบของคณะกรรมการของสถานศึกษาท่ีไดร้ ับแต่งต้งั เป็น ผตู้ รวจสอบการปฏิบตั ิงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี เป็ นระยะๆ ตามที่สถานศึกษากาหนดคือ โครงการ/กิจกรรมต่างๆท่ีกาหนดไวส้ ามารถดาเนินงานไดต้ ามแผนหรือไม่ มีการปรับแผนหรือไม่ ถา้ มีเพราะเหตุใด ผลการดาเนินงานบรรลุตามวตั ถุประสงค/์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จของโครงการ/ กิจกรรมหรือไม่ เพียงใด แลว้ สรุปรายงานผลการติดตามตรวจสอบพร้อมใหข้ อ้ สงั เกต ขอ้ เสนอแนะ เพอ่ื การปรับปรุงแกไ้ ข เสนอผบู้ ริหารสถานศึกษาพจิ ารณาดาเนินการต่อไป รูปแบบท่ี 3 หวั หนา้ กลุ่มงาน/ฝ่ ายงานติดตามตรวจสอบ เป็นการติดตามตรวจสอบคุณภาพโดยผปู้ ฏิบตั ิงานเสนอหวั หนา้ กลุ่มงาน/ฝ่ ายงาน หวั หนา้ กลุ่มงาน/ฝ่ ายงานเป็นผตู้ ิดตามตรวจสอบการปฏิบตั ิงานจากรายงานดงั กล่าวและตรวจสอบ การปฏิบตั ิงานจริง ขอ้ สงั เกตขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกบั การดาเนินงานใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค/์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จของโครงการ/กิจกรรม แลว้ สรุปเป็นรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี ของกลุ่มงาน/ฝ่ าย เสนอต่อคณะกรรมการติดตามตรวจสอบคุณภาพ

59 การศึกษาของสถานศึกษาติดตามตรวจสอบการปฏิบตั ิงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี โรงเรียนจาก รายงานกลุ่มงาน/ฝ่ ายงานศึกษาเอกสาร สอบถาม สัมภาษณ์ผเู้ กี่ยวขอ้ ง แลว้ สรุปรายงานผลการ ติดตาม ตรวจสอบ พร้อมใหข้ อ้ สังเกต ขอ้ เสนอแนะ เพื่อการปรับปรุงแกไ้ ข เสนอผบู้ ริหาร สถานศึกษาพิจารณาดาเนินการต่อไป รูปแบบท่ี 4 ผปู้ ฏิบตั ิงานรายการปฏิบตั ิงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี เป็นการติดตามตรวจสอบการปฏิบตั ิงานของผปู้ ฏิบตั ิงานตามท่ีสถานศึกษากาหนดคือ โครงการ/กิจกรรมตา่ งๆ ทีกาหนดไว้ สามารถดาเนินงานไดต้ ามแผนหรือไม่ มีการปรับแผนหรือไม่ ถา้ มีเพราะเหตุใด ผลการดาเนินงานบรรลุวตั ถุประสงค/์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จของโครงการ/กิจกรรม หรือไม่ เพียงใด และผบู้ ริหารสถานศึกษาเป็นผตู้ ิดตามตรวจสอบจากรายงานดงั กล่าวและติดตาม ตรวจสอบการปฏิบตั ิงานจริงดว้ ยตนเอง พร้อมท้งั ใหข้ อ้ สงั เกต ขอ้ เสนอแนะเก่ียวกบั การดาเนินงาน ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค/์ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จของโครงงาน/กิจกรรม แลว้ สรุปเป็ นรายงานการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา กระบวนการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาเป้นกระบวนการท่ีตอ้ งการดาเนินการอยา่ ง ตอ่ เนื่องเป็นการติดตามตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของการปฏิบตั ิงานตามแผนพฒั นาการจดั การของ สถานศึกษา ซ่ึงมีการดาเนินงานใน 2 ลกั ษณะ คือการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาโดย หน่วยงานตน้ สังกดั และการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาโดยสถานศึกษา ดงั น้ี 1.การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาโดยหน่วยงานตน้ สังกดั หน่วยงานตน้ สังกดั ดาเนินการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาอยา่ งนอ้ ยปี ละ 1 คร้ัง และแจง้ ใหส้ ถานศึกษาทราบ พร้อมเปิ ดเผยผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาตอ่ สาธารณชน ซ่ึงในการดาเนินการดงั กล่าวน้ี หน่วยงานตน้ สังกดั ควรมีการแตง่ ต้งั คณะกรรมการที่ทา หนา้ ท่ีในการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาแตล่ ะแห่งอยา่ งนอ้ ย 3-5 คน โดยเปิ ดโอกาสใหผ้ มู้ ี ส่วนเกี่ยวขอ้ งต่างๆไดเ้ ขา้ มามีส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมการติดตามตรวจสอบคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษา ซ่ึงสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 กลุ่ม ดงั น้ี 1.1 บุคลากรภายในสงั กดั ประกอบดว้ ย ผูอ้ านวยการ/รองผอู้ านวยการสานกั งานเขต พ้ืนที่การศึกษา องคค์ ณะกรรมการบุคคลท้งั 4 คณะ(ประกอบดว้ ยคณะกรรมการเขตพ้ืนที่การศึกษา คณะอนุกรรมการขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการติดตามตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษาของเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษา) ผอู้ านวยการ/หวั หนา้ กลุ่มงาน ศึกษานิเทศก์ นกั วชิ าการศึกษา เจา้ หนา้ ท่ีกลุ่มงานตา่ งๆ อาจรวมถึง ผบู้ ริหารสถานศึกษาและครูเป็นตน้

60 1.2 บุคลากรจากภาคส่วนอื่น ประกอบดว้ ย ขา้ ราชการบานาญ คณะกรรมการ สถานศึกษา ผปู้ กครองนกั เรียน สถาบนั อุดมศึกษา บุคลากรในชุมชน และทอ้ งถิ่นท่ีมีส่วนไดส้ ่วน เสียและมีความรู้เร่ืองการจดั การศึกษา เป็นตน้ หน่วยงานตน้ สังกดั ตอ้ งกาหนดระยะเวลาที่ใชใ้ นการติดตามตรวจสอบคุณภาพท่ี เหมาะสมกบั สภาพบริบทของโรงเรียน เช่นโรงเรียนขนาดใหญ่อาจใชเ้ วลา 2 วนั หรือโรงเรียน ขนาดเล็ก 1 วนั เป็นตน้ โดยคณะกรรมการติดตามตรวจสอบที่ไดร้ ับแต่งต้งั โดยหน่วยงานตน้ สังกดั จะตอ้ งดาเนินการติดตามตรวจสอบตา่ งๆสามารถดาเนินงานไดต้ ามแผนหรือไม่ มีการปรับแผน หรือไม่ ถา้ มีเพราะเหตุใด ผลการดาเนินงานเป็ นข้นั ตอนของระบบประกนั คุณภาพเป็ นอยา่ งๆรมี ปัญหาและอุปสรรคหรือไม่ อยา่ งไร เป็นตน้ รวมท้งั ควรมีการใหข้ อ้ เสนอแนะการดาเนินงานและ มาตรการเร่งรัดการพฒั นาคุณภาพการศึกษาแก่สถานศึกษา 2.การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาโดยสถานศึกษา การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาโดยสถานศึกษา เป้นกระบวนการที่สถานศึกษา สามารถตรวจสอบคุณภาพไดต้ ามบริบทของสถานศึกษาซ่ึงในการตรวจสอบคุณภาพการศึกษาตาม กฎกระทรวงฯ เป็ นการติดตามตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของการปฏิบตั ิงานตามแผนพฒั นาการจดั การศึกษา ประกอบดว้ ย การปฏิบตั ิงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี การดาเนินงานตามโครงการ/ กิจกรรมที่กาหนดไวไ้ ดต้ ามแผนหรือไม่ มีการปรับแผนหรือไม่ มีเพราะเหตุใด มีการสรุปผลการ ดาเนินงานบรรลุตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการ การติดตามตรวจสอบมีการใหข้ อ้ สังเกต ให้ ขอ้ เสนอแนะเพ่ือดาเนินการต่อไป การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เป้นกระบวนการติดตามตรวจสอบ ความกา้ วหนา้ ของการดาเนินงาน ไดแ้ ก่ปัจจยั ดา้ นกระบวนการและดา้ นผลผลิต/ผลลพั ธ์เพ่ือใหก้ าร บริหารจดั การคุณภาพมีประสิทธิภาพใชว้ งจรการบริหารงานเชิงระบบหรือวงจรเดมมิ่ง(PDCA) เป็ นเครื่ องมือในการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา กระบวนการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 2.1วางแผนติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เป็นองคป์ ระกอบแรกท่ีสาคญั ท่ีสุด การ วางระบบท่ีดีจะตอ้ งกาหนดข้นั ตอนการทางานท่ีมีวธิ ีการปฏิบตั ิที่เป็นมาตรฐานและการบนั ทึกการ ทางานทุกข้นั ตอนเป็ นปัจจุบนั ขอ้ มูลจากบนั ทึกน้ีจะนาไปสู่การตรวจสอบประเมินตนเอง และผอู้ ่ืน ตรวจสอบไดเ้ พราะขอ้ มูลท่ีไดเ้ ป็นสารสนเทศที่สะทอ้ นใหเ้ ห็นคุณภาพมาตรฐานและตวั บ่งช้ีของ ระบบยอ่ ยหลายๆระบบยอ่ ย เป็นคุณภาพรวมของสถานศึกษาท้งั หมด 2.2แต่งต้งั บุคลากรติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา

61 1.1 ช้ีแจงแนวการดาเนินงาน วตั ถุประสงค์ ขอบข่ายสาระสาคญั ของการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 1.2 จดั ทาปฏิทินการติดตามคุณภาพการศึกษา 1.3 ทบทวนเอกสารต่างๆที่เก่ียวขอ้ งกบั การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 1.4 สรุปและกาหนดประเดน็ สาคญั ของการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 1.5 สร้างเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 2.ดาเนินการติดตามแผนการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เป็นการติดตามตรวจสอบความกา้ วหนา้ ดา้ นปัจจยั ดา้ นกระบวนการ และดา้ นผลผลิต/ ผลลพั ธ์ การปฏิบตั ิร่วมกนั ของบุคลากรที่ไดร้ ับมอบหมายตามกระบวนการ วธิ ีการที่กาหนด และ ตอ้ งปฏิบตั ิอยา่ งตอ่ เนื่องเป็นระยะๆ เพอ่ื ใหก้ ารติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา มีประสิทธิภาพควรใชแ้ นวทางในการดาเนินดงั น้ี 2.2กาหนดใหก้ ารติดตามตรวจสอบคุณภาพเป็ นรายกิจกรรมครอบคลุมภารกิจของ สถานศึกษา 2.3สร้างความตระหนกั ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา แก่ครูและบุคลากรท่ีเกี่ยวขอ้ งทุกฝ่ าย 2.4วางระบบการทางานและมอบหมายการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ดาเนินการเป็ นระยะๆตลอดช่วงเวลาท่ีปฏิบตั ิ โดยกาหนดเร่ืองและปฏิทินปฏิบตั ิการ 2.5ครูและบุคลากรปฏิบตั ิงานตามแผนปฏิบตั ิงานตามปฏิบตั ิการประจาปี หรือ กิจกรรมที่สถานศึกษากาหนดข้ึนเป็นผตู้ รวจสอบผลการปฏิบตั ิงานของตนเองตามปฏิทิน ปฏิบตั ิงาน รวมท้งั ดาเนินการแกไ้ ขปรับปรุงการดาเนินงานของตนเองใหเ้ ป็นไปตามแผน 2.6ครูและบุคลากรรวบรวมร่องรอย หลกั ฐานการดาเนินงานและผลการตรวจสอบ มาปรับปรุงและพฒั นาการปฏิบตั ิไปสู่เป้าหมาย 2.7คณะทางานที่สถานศึกษาแต่งต้งั ใหท้ าหนา้ ที่ติดตาม ตรวจสอบ รวบรวมขอ้ มูล ร่องรอย หลกั ฐานการดาเนินงานท้งั หมดในภาพรวมของแผนพฒั นาการจดั การศึกษา และจดั ทา รายงานเสนอเพื่อดาเนินงานการพฒั นาคุณภาพต่อไป 3.รายงานผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เป็ นการตรวจสอบ/ประเมิน ตนเองร่วมกนั หรือผลดั เปลี่ยนกนั ประเมินเพือ่ เป็นการทบทวนการปฏิบตั ิงาน มีความสาคญั และ จาเป็นในการพฒั นาคุณภาพของสถานศึกษา สาระสาคญั ของการรายงาน ประกอบดว้ ย 3.1ระยะเวลาของการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 3.2ขอบเขตและวตั ถุประสงค์

62 3.3 วธิ ีการที่ใชใ้ นการตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 3.4 กิจกรรมที่ทาไดส้ าเร็จเป็นท่ีน่าพงึ พอใจ และกิจกรรมท่ีไม่เป็นไปตามสภาพ ท่ีคาดหวงั 3.5 ขอ้ เสนอแนะเพื่อพฒั นาและแกไ้ ขปรับปรุง เพอ่ื พฒั นาคุณภาพอยา่ งต่อเนื่อง 4.รายงานพฒั นาอยา่ งต่อเน่ือง เป็นการเสนอแนะมาตรการเร่งรัดพฒั นาคุณภาพ การศึกษาอยา่ งเป็นระบบ โดยนาผลประเมินมาพฒั นา ประกอบดว้ ย 3.6 ระบุกิจกรรมท่ีทาไดส้ าเร็จเป็ นท่ีน่าพอใจ และประเด็นที่ไม่เป็นไปตาม สภาพท่ีคาดหวงั 3.7 จดั ทาและบนั ทึกขอ้ เสนอแนะ 3.8 กาหนดระยะเวลาในการพฒั นา 3.9 ตรวจสอบการดาเนินงานซ้า เพือ่ นาผลไปใชใ้ นการพฒั นาอยา่ งต่อเนื่อง สรุปไดว้ า่ การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เป็ นกระบวนการ ติดตามตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของการปฏิบตั ิงานตามแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา รวมถึงการ จดั ทารายงานผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา พร้อมท้งั เสนอแนะมาตรการเร่งรัดการ พฒั นาคุณภาพการศึกษา การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน(2554 ก:26-27) กล่าววา่ การประเมิน คุณภาพภายในเป็ นกระบวนการประเมินผลการดาเนินงานของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษาที่กระทาโดยบุคลากรภายในหรือผเู้ ก่ียวขอ้ งอยา่ งต่อเน่ือง การประเมินคุณภาพ ภายในถือวา่ เป็นส่วนหน่ึงของการบริหารจดั การเพ่ือท่ีจะไดท้ ราบขีดความสามารถในการจดั การศึกษาของสถานศึกษาวา่ บรรลุตามเป้าหมายหรือมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาหรือไม่ นา ผลการประเมินไปแกไ้ ขขอ้ บกพร่องไดท้ นั ที เพื่อการพฒั นาอยา่ งต่อเนื่อง(Continuous Improvement)การประเมินภายในถือเป็ นกระบวนการตรวจสอบการทางานหรือการประเมินตนเอง (Self – Evaluation)ของสถานศึกษา การประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาควรยดึ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา เป็นหลกั แต่อยา่ งไรกต็ ามควรสะทอ้ นภาพความสาเร็จท่ีชดั เจนอยา่ งนอ้ ย 2 ดา้ น คือ 1.คุณภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงคต์ ามหลกั สูตรของสถานศึกษา ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผเู้ รียนในทุกระดบั ช้นั พฤติกรรมการแสดงออกของผเู้ รียน โดยระบุไดถ้ ึงกลุ่มผเู้ รียนที่มีความสามารถพเิ ศษ กลุ่มผเู้ รียนที่ มีความเสี่ยง กลุ่มผเู้ รียนท่ีมีปัญหาในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน กลุ่มผเู้ รียนท่ีมีคุณลกั ษณะยงั

63 ไมเ่ ป็นไปตามที่พงึ ประสงค์ เพราะขอ้ มูลจากการประเมินเหล่าน้ีจะสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ การจดั การ ศึกษาของสถานศึกษาประสบความสาเร็จตามที่กาหนดไวห้ รือไม่ อนั นาไปสู่การปรับปรุงการ บริหารจดั การต่อไป 2.คุณภาพการศึกษาดา้ นการบริหารจดั การของสถานศึกษา สถานศึกษาสามารถ ดาเนินการประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาท่ีสถานศึกษากาหนดไวแ้ ลว้ ในทุก มาตรฐาน ดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลายและเหมาะสมกบั สิ่งที่ตอ้ งการประเมิน เช่น ใชก้ ารสังเกต การ สมั ภาษณ์ การตรวจสอบจากเอกสารขอ้ มูลเชิงประจกั ษ์ เป็ นตน้ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน(2554 ฉ: 7-18) ไดก้ ล่าวถึง ความหมาย หลกั การ วตั ถุประสงค์ ข้นั ตอน และแนวทางการประเมินคุณภาพภายใน ดงั น้ี การประเมินคุณภาพภายใน(Internal Quality Assessment) หมายถึง ระบบและกลไกใน การควบคุม ตรวจสอบ และประเมินผลการดาเนินงานของสถานศึกษา ใหเ้ ป็นไปตามนโยบายท่ี กาหนดโดยสถานศึกษาและ/หน่วยงานตน้ สังกดั ตอ้ งดาเนินงานใหเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของกระบวนการ บริหารการศึกษาอยา่ งต่อเนื่อง กระบวนการการประเมินคุณภาพภายในเป็นการประเมินคุณภาพ การศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา หลกั การสาคญั ของการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา 1.จุดมุ่งหมายของการประเมินคุณภาพภายใน คือ การที่สถานศึกษาร่วมกนั พฒั นา ปรับปรุงพฒั นาใหเ้ ป็ นไปตามมาตรฐานการศึกษา โดยมีเป้าหมายสาคญั อยทู่ ่ีการพฒั นาคุณภาพให้ เกิดข้ึนกบั ผเู้ รียน 2.การที่ดาเนินการใหบ้ รรลุเป้าหมายตามขอ้ 1 ตอ้ งทาใหก้ ารประกนั คุณภาพภายใน เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการบริหารจดั การและการทางานของบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา และ ไมเ่ ป็นกระบวนการท่ีแยกส่วนมาจากการดาเนินงานตามปกติของสถานศึกษา โดยสถานศึกษาตอ้ ง ร่วมแผนพฒั นาจดั การศึกษาของสถานศึกษาของสถานศึกษาและแผนปฏิบตั ิการที่ชดั เจน มีการทา ตามแผน มีการตรวจสอบประเมินผล และพฒั นาปรับปรุงอยา่ งตอ่ เน่ืองท่ีเป็นระบบที่มีความ โปร่งใส และมีจิตสานึกในการพฒั นาคุณภาพการทางาน 3.การประเมินคุณภาพภายในเป็นหนา้ ที่ของบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา ไมว่ า่ เป็น ผบู้ ริหาร ครู อาจารย์ และบุคลากรอ่ืนๆ ในสถานศึกษาโดยในการดาเนินงานจะตอ้ งใหม้ ีส่วน เกี่ยวขอ้ ง เช่นผบู้ ริหาร ครู ผเู้ รียน ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน เขตพ้นื ที่การศึกษา หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวขอ้ งเขา้ มามีส่วนร่วมในการกาหนดเป้าหมาย วางแผน ติดตามประเมินผล การดาเนินงานของสถานศึกษา พฒั นา ปรับปรุง ร่วมกนั คิด ร่วมกนั ทา และร่วมกนั ผลกั ดนั ให้

64 สถานศึกษามีคุณภาพ เพ่ือใหผ้ เู้ รียนไดร้ ับการศึกษาที่ดีมีคุณภาพเป็นไปตามความตอ้ งการของ ผปู้ กครอง ชุมชน ผเู้ ก่ียวขอ้ ง สังคม และประเทศชาติ วตั ถุประสงคข์ องประเมินคุณภาพภายใน ดงั น้ี 1.พ่อื ตรวจสอบคุณภาพและผลการปฏิบตั ิงานของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา ข้นั พ้นื ฐานและมาตรฐานสถานศึกษา 2.เพอ่ื นาผลการประเมินคุณภาพภายในมาใชเ้ ป็นขอ้ มูลประกอบในการตดั สินใจ วางแผนพฒั นาและปรับปรุงคุณภาพศึกษา 3.เพ่อื พฒั นาระบบการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 4.เพือ่ นาขอ้ มูลผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษามี รายละเอียด 1.ข้นั การเตรียมการ 1.1 การเตรียมพร้อมของบุคลากรทุกคนโดยทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การประเมิน คุณภาพภายในประเด็นท่ีสาคญั ๆเช่น การประเมินคุณภาพคืออะไร มีความความสาคญั ตอ่ การ พฒั นาอยา่ งไร ข้นั ตอนการประเมินคุณภาพเป็นอยา่ งไร เนน้ ย้ากบั บุคลากรในการใหค้ วามร่วมมือ การตอบคาถามหรือการสมั ภาษณ์โดยยดึ หลกั การตอบตามส่ิงท่ีปฏิบตั ิจริงและผลที่เกิดข้ึนจริง เนน้ ย้าใหบ้ ุคลากรทุกคนตระหนกั วา่ การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษาและการทางานเป็นทีม และตอ้ งพฒั นาความรู้ ทกั ษะเก่ียวกบั การประเมินคุณภาพ ภายใน ตามมาตรฐานการศึกษาและตวั บ่งช้ี โดยเนน้ เน้ือหาการกาหนดกรอบมาตรฐานการประเมิน การสร้างเคร่ืองมือประเมินตามมาตรฐานการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากผลการ ประเมิน และการเขียนรายงานผลการประเมินคุณภาพภายในมาตรฐาน 1.2 การแตง่ ต้งั คณะกรรมการหรือคณะทางานดา้ นการประเมินคุณภาพภายใน ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา รับผดิ ชอบในการประสานงาน กากบั ดูแล ช่วยเหลือ สนบั สนุนใหท้ ุกฝ่ ายทาร่วมกนั เป็นทีม ซ่ึงคณะกรรมการหรือคณะทางานควรจะประกอบดว้ ย ผบู้ ริหาร ครู นกั เรียน บุคลากรในสถานศึกษา รวมไปถึงผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานและผทู้ ่ีมีส่วนเกี่ยวกบั สถานศึกษา 2.ข้นั การดาเนินงาน ข้นั การดาเนินงานเป็นกระบวนการบริหารอยา่ งมีคุณภาพครบวงจร(PDCA)ของเดิมมิ่ง ซ่ึงวงจรของเดมม่ิงประกอบดว้ ย การวางแผน(Plan) ปฏิบตั ิตามแผน(Do) ตรวจสอบผล การ ดาเนินงานตามมาตรฐานการศึกษา(Check) และพฒั นาปรับปรุงอยเู่ สมอ(Act) โดยมีลกั ษณะเป็ น วงจรต่อเนื่อง

65 2.1 การวางแผนการปฏิบตั ิงาน(P) วตั ถุประสงค/์ เป้าหมายของการประเมินใหช้ ดั เจน โดยใชก้ รอบมาตรฐานการศึกษาเป็นแนวทางการดาเนินงาน รวมไปถึงการวางแผนผรู้ ับผดิ ชอบใน การดาเนินงาน ระยะเวลาและทรัพยากรที่ตอ้ งใชส้ าหรับการจดั ทาแผนของสถานศึกษา เช่น แผนปฏิบตั ิการประจาปี แผนพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา แผนงบประมาณ แผนการจดั การเรียนการสอน เป็นตน้ กาหนดวกี ารประเมินตวั บ่งช้ีความสาเร็จตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาเตรียมเครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมิน วางแผนการเกบ็ ขอ้ มูล วางแผนการ วเิ คราะห์/สรุปรายงานผล 2.2 การดาเนินการตามแผน(D)ศึกษามาตรฐานการศึกษาตวั บ่งช้ี ผบู้ ริหารควรให้ ควรส่งเสริม สนบั สนุนใหบ้ ุคลากรทางานอยา่ งมีความสุขโดยจดั ส่ิงอานวยความสะดวก สนบั สนุน ทรัพยากรเพอื่ การปฏิบตั ิ กากบั ติดตามการทางานใหเ้ ป็ นไปตามแผนที่วางไวแ้ ละใหก้ ารนิเทศ 2.3 การตรวจสอบผลการดาเนินงานตามมาตรฐานการศึกษา (C) โดยวางกรอบการ ตรวจสอบผลการดาเนินงานตามมาตรฐานการศึกษาสร้างเครื่องมือการประเมินมาตรฐานการศึกษา ดาเนินการตรวจสอบการดาเนินงานและสรุปผลการตรวจสอบการดาเนินงานตามมาตรฐาน การศึกษา 2.4 การนาผลการประเมินคุณภาพภายในมาปรับปรุง(A) สถานศึกษานาผลการ ประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษามาวเิ คราะห์วางแผนการแกไ้ ขปรับปรุงการ ดาเนินงานในส่วนท่ีเป็ นจุดท่ีควรพฒั นา ดาเนินการแกไ้ ขปรับปรุงการดาเนินงานของสถานศึกษา ตามแนวทางท่ีสถานศึกษาเลือกใช้ แลว้ ดาเนินการตรวจสอบผลการดาเนินงานวา่ เป็นไปตาม เป้าหมายท่ีตอ้ งการบรรลุผลหรือไม่ ซ่ึงเป็ นการยอ้ นกลบั ไปดาเนินการตามข้นั ตอนที่ 1.ใหม่ เพ่ือ นาไปวางแผนพฒั นาการปฏิบตั ิงานในระยะเวลาตอ่ ไป สาหรับงานท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาใหพ้ ฒั นาการปฏิบตั ิงานใหม้ ีประสิทธิภาพดียงิ่ ข้ึนตอ่ ไป 3.ข้นั การจดั ทารายงานผลการประเมิน เมื่อสถานศึกษาดาเนินการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาเสร็จแลว้ จดั ทารายงานการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา พร้อมสรุปจุดแขง็ และจุดที่ควร พฒั นาของสถานศึกษา ใหห้ น่วยงานสังกดั ผเู้ กี่ยวขอ้ ง และสาธารณชนทราบ

66 ภาพท่ี 10 แสดงข้นั ตอนการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา การเตรียมการ การดาเนินการ การรายงาน 1.เตรียมความพร้อมของ 1.วางแผนการปฏิบตั ิงาน(P) จดั ทารายงานประเมินตนเองหรือ บุคลากร รายงานประจาปี - กาหนดวตั ถุประสงค/์ เป้าหมายจาก - สร้างความตระหนกั ให้ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา - รวบรวมผลการดาเนินงาน ความรู้ ความเขา้ ใจ และผลการประเมนิ - กาหนดแนวทางการดาเนินงานวางแผน - พฒั นาความรู้และทกั ษะ ผรู้ ับผดิ ชอบการดาเนินงาน วกี ารประเมินตวั - วเิ คราะหต์ ามมาตรฐาน 2. แตง่ ต้งั คณะกรรมการหรือ บ่งช้ี ความสาเร็จ - เขียนรายงาน คณะทางานดา้ นการประเมิน คุณภาพภายในตามมาตรฐาน - กาหนดระยะเวลา,งบประมาณ การศึกษาของสถานศึกษา - เตรียมเครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมิน 2.ดาเนินงานตามแผน(D) - ส่งเสริมสนบั สนุน - กากบั ติดตาม - ใหก้ ารนิเทศ 3.ตรวจสอบผลการดาเนินงานตามมาตรฐาน การศึกษา(C) - วางกรอบการตรวจสอบผลการดาเนินงาน ตามมาตรฐานการศึกษา - จดั ทาเคร่ืองมือการประเมิน - กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ - ดาเนินการตรวจสอบผลการดาเนินงาน ตามมาตรฐานการศึกษา - สรุปผลการตรวจสอบการดาเนินงาน 4.นาผลการประเมินคุณภาพภายในมา ปรับปรุง(A) - ปรับปรุงการปฏิบตั งิ านท่ีไมเ่ ป็ นไปตาม เป้าหมายมาตรฐานการศึกษา - วางแผนการปฏิบตั ิงานในระยะตอ่ ไป สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน (2554 ฉ: 16)

67 สรุปไดว้ า่ การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานของสถานศึกษา เป้นกระบวนการ ประเมินผลการดาเนินงานของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาท่ีกระทาโดยบุคลากรภายในหรือ ผมู้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งอยา่ งตอ่ เนื่อง โดยใชว้ ธิ ีการและเคร่ืองมือที่หลากหลายและเหมาะสม เพอื่ ใหไ้ ด้ ขอ้ มูลท่ีช่วยในการปรับปรุงพฒั นาการดาเนินงานใหบ้ รรลุเป้าหมายตามที่กาหนด ถือเป้นกระบวน การตรวจสอบการทางานของตนเอง โดยประเมินผลการปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่นาไปสู่การพฒั นาปรับปรุงตนเองและพร้อมท่ีจะไดร้ ับการประเมิน คุณภาพจากหน่วยงานตน้ สงั กดั การจัดทารายงานประจาปี ที่เป็ นรายงานประเมินคุณภาพภายใน สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน (2554 ก: 28) กล่าววา่ จากการประเมิน คุณภาพภายในสถานศึกษา สถานศึกษาสามารถสรุปและจดั ทารายงานผลการประเมินคุณภาพ ภายในของสถานศึกษาและถือวา่ เป็นรายงานประจาปี ของสถานศึกษาได้ ท้งั น้ีเพอื่ ไม่ให้ สถานศึกษามีภาระในการจดั ทารายงานหลายเล่ม การจดั ทารายงานประจาปี ถือเป็นเรื่องปกติท่ี สถานศึกษาตอ้ งจดั ทาหลงั การจดั การศึกษาผา่ นไปแตล่ ะปี ท้งั น้ีนอกจากเพ่ือนาเสนอต่อ คณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานตน้ สงั กดั และหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง แลว้ สถานศึกษาตอ้ ง เปิ ดเผยรายงานน้นั ต่อสาธารณชนดว้ ย รายงานประจาปี ที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายในของ สถานศึกษาน้ีจะนาไปเป็นฐานขอ้ มูลและหลกั ฐานยนื ยนั การพฒั นาสถานศึกษารองรับการประเมิน คุณภาพภายนอกดว้ ย สถานศึกษาสามารถกาหนดรูปแบบของรายงานประจาปี ไดต้ ามความเหมาะสม โดยใช้ ภาษาที่อ่านเขา้ ใจง่ายนาเสนอท้งั ขอ้ มูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ สาระสาคญั อาจแบ่งไดเ้ ป็ น 4 ส่วน คือ 1. ขอ้ มูลพ้นื ฐาน 2. แผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 3. ผลการพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 4.สรุปผลการพฒั นาและการนาผลไปใช้ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน (2554 ช:7 – 20) ไดใ้ หค้ วามหมาย วตั ถุประสงคแ์ ละประโยชน์ ข้นั ตอนและองคป์ ระกอบของรายงานประจาปี ของสถานศึกษาไดด้ งั น้ี การจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา หมาย การจดั ทารายงานการพฒั นาการจดั สถานศึกษาในรอบปี ท่ีเป็นผลมาจากการดาเนินงานท้งั หมดของสถานศึกษา ซ่ึงครอบคลุม มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและนามาเสนอรายการแก่ผเู้ กี่ยวขอ้ ง วตั ถุประสงคก์ ารจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา กเ็ พอ่ื นาเสนอผลการพฒั นา การ จดั การศึกษาของสถานศึกษาในรอบปี ที่ผา่ นมาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานตน้ สงั กดั หน่วยงานที่เก่ียวขอ้ ง และเปิ ดเผยต่อสาธารณชน และเพ่ือเป็นฐานขอ้ มูลของสถานศึกษาในการ

68 จดั ทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาในปี ต่อไป และเป็นฐานขอ้ มูลสาหรับรองรับการ ประเมินคุณภาพภายนอก ประโยชน์การจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา มีดงั น้ี 1.ทาใหส้ ถานศึกษามีฐานขอ้ มูลการดาเนินงานพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาท้งั ในดา้ น จุดเด่น จุดที่ตอ้ งพฒั นา โอกาส และขอ้ จากดั นาไปใชป้ ระโยชน์ต่อการปรับปรุงและพฒั นา คุณภาพการจดั การศึกษาในปี ถดั ไป 2. ทาใหส้ ถานศึกษามีขอ้ มูลสารสนเทศเชิงประจกั ษซ์ ่ึงจะช่วยกระตุน้ ใหผ้ บู้ ริหาร สถานศึกษา ครูและผเู้ กี่ยวขอ้ งใหค้ วามสาคญั และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานเพ่อื เป้าหมายที่กาหนดไวร้ ่วมกนั 3.ทาใหพ้ อ่ แม่ ผปู้ กครอง ตลอดจนผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งทุกฝ่ ายไดร้ ับทราบผลการ พฒั นาการจดั การศึกษาท้งั ในส่วนท่ีดีและส่วนที่ควรพฒั นา โดยมีการประชาสมั พนั ธ์ในวงกวา้ ง และใหค้ วามช่วยเหลือสนบั สนุนอยา่ งเหมาะสม 4.หน่วยงานตน้ สังกดั ไดแ้ ก่ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน และ สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา มีฐานขอ้ มูลในการกาหนดนโยบายการพฒั นาการจดั การศึกษา ท้งั ระดบั ประเทศและระดบั เขตพ้นื ที่ 5.สถานศึกษาใชร้ ายงานประจาปี เพอื่ รองรับการประเมินคุณภาพภายในโดยหน่วยงาน ตน้ สงั กดั และการประเมินคุณภาพภายนอกจากสานกั งานรับรองมาตรฐานการศึกษาและการ ประเมินคุณภาพการศึกษา (องคก์ ารมหาชน) ข้นั ตอนการจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา ข้นั ตอนการจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษาท่ีเป็นรายงานประเมินคุณภาพภายในมี รายละเอียดสรุปไดด้ งั น้ี 1.แตง่ ต้งั คณะทางานจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา สถานศึกษาควรแตง่ ต้งั คณะทางานจากบุคคลผรู้ ับผดิ ชอบในการพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ประกอบดว้ ย 1.1 ผอู้ านวยการโรงเรียน 1.2 รองผอู้ านวยการโรงเรียน 1.3 หวั หนา้ กลุ่มฝ่ ายตามโครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียน 1.4 หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้/หวั หนา้ งาน 1.5 ครูและบุคลากรที่เกี่ยวขอ้ ง

69 ในกรณีท่ีเป็ นสถานศึกษาขนาดเล็กอาจกาหนดให้มีผรู้ ับผิดชอบจดั ทารายงานประจาปี ของ สถานศึกษาไดต้ ามความเหมาะสม การดาเนินงานของคณะทางานจะตอ้ งวางแผนการจดั ทารายงาน ประจาปี โดยมีการกาหนดช่วงระยะเวลาการจดั ทา รายละเอียดการรายงาน รวมถึงการแสดงความ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ ต่าง ๆ ท้งั น้ีจะตอ้ งรายงานต่อผเู้ ก่ียวขอ้ งก่อนเร่ิมปี การศึกษาใหม่ของทุกปี 2. รวมรวมขอ้ มูลสารสนเทศ วเิ คราะห์ และแปลผล การรวบรวมขอ้ มูลสารสนเทศ วเิ คราะห์ และแปลผลเป็ นข้นั ตอนสาคญั ที่จะทาใหร้ ายงาน ประจาปี มีความสมบูรณ์ มีคุณภาพตรงตามสภาพของการศึกษา ซ่ึงภาระงานที่สถานศึกษาจะตอ้ ง ดาเนินงาน มีดงั น้ี 2.1 การรวบรวมข้อมูลสารสนเทศจากการดาเนินงานประจา ได้แก่ ข้อมูล พ้ืนฐานของสถานศึกษา ผลการจดั การเรียนรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษาและผลการดาเนินงานตาม แผลปฏิบตั ิการประจาปี ที่ครอบคลุมมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 2.2 ออกแบบการนาเสนอข้อมูลสารสนเทศท่ีรวบรวมไวใ้ นแต่ละมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา 2.3 วเิ คราะห์แปลผลเพ่อื การจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา 3. เขียนรายงานประจาปี ของสถานศึกษา สถานศึกษาสามารถกาหนดรูปแบบรายงานประจาปี ของสถานศึกษาไดต้ ามเหมาะสมโดย ใช้ภาษาที่อ่านเขา้ ใจง่ายนาเสนอท้งั จอ้ มูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ สาระสาคญั อาจแบ่งเป็ น 4 ตอน ดงั น้ี 3.1 ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐาน 3.2 ตอนท่ี 2 การพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี ของ สถานศึกษา 3.3 ตอนที่ 3 ผลการพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 3.4 ตอนที่ 4 สรุปผลการพฒั นาและการนาไปใช้ 3.5 ภาคผนวก 4. นาเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณาใหค้ วามเห็นชอบ หลังจากเขียนรายงานประจาปี เสร็จสมบูรณ์สถานศึกษาต้องนาเสนอคณะกรรมการ สถานศึกษาและหรือคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาพิจารณาใหค้ วามเห็นชอบเพื่อรับรองผลการ ประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา

70 5. รายงานการเปิ ดเผยตอ่ ผเู้ กี่ยวขอ้ ง เมื่อสถานศึกษาจดั ทารายงานประจาปี และได้รับความเห็นขอบจากคณะกรรมการ สถานศึกษาหรือคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาแลว้ จะตอ้ งรายงานและเปิ ดเผยผลการประกนั คุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษาต่อผเู้ ก่ียวขอ้ ง ไดแ้ ก่ ครู ผปู้ กครอง หน่วยงานจน้ สังกดั หน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งชุมชน ทอ้ งถิ่น ซ่ึงสามารถดาเนินการไดห้ ลากหลายวธิ ีตามความเหมาะสม เช่น รายงานประจาปี ฉบบั สมบูรณ์ เปิ ดเผยผา่ น Website ของสถานศึกษา จุลสาร อนุสาร แผ่น พบั รายงานเสียงตามสายและช้ีแจงในการประชุม ภาพท่ี 11 แสดงข้นั ตอนการจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา 1. แตง่ ต้งั คณะทางานจดั ทารายงานประจาปี ของสถานศึกษา 2. รวบรวมขอ้ มูลสารสนเทศวเิ คราะห์ และแปลผล 3. เขียนรายงานประจาปี ของสถานศึกษา 4. นาเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณาใหค้ วามเห็นชอบ 5. รายงานและเปิ ดเผยตอ่ ผเู้ ก่ียวขอ้ ง สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ( 2554 ช: 9)

71 องคป์ ระกอบของรายงานประจาปี ของสถานศึกษา ตอนที่ 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐาน 1. ขอ้ มูลทว่ั ไป ระบุชื่อโรงเรียน ท่ีต้งั สังกดั หมายเลขโทรศพั ท์ e-Mail ระดบั การศึกษาที่เปิ ดสอน เขตพ้ืนท่ีบริการ เน้ือท่ี ประวตั ิโรงเรียนโดยยอ่ และแผนท่ีโรงเรียน 2.ขอ้ มูลผบู้ ริหาร ระบุชื่อและขอ้ มูลของผอู้ านวยการและรองผอู้ านวยการโรงเรียน กรณีโรงเรียนสงั กดั อื่นสามารถปรับขอ้ มูลใหต้ รงกบั สภาพไดต้ ามความเหมาะสม 3.ขอ้ มูลนกั เรียน ระบุจานวนนกั เรียนในเขตพ้ืนที่บริการ จานวนนกั เรียนท้งั หมด จานวนนักเรียนจาแนกตามระดับช้ันท่ีสอน นักเรียนเรียนร่วมท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา นกั เรียนปัญญาเลิศ นกั เรียนท่ีตอ้ งการความช่วยเหลือพิเศษ อตั ราส่วนครูต่อนกั เรียน จานวนนักเรียนต่อห้องเรียน สถิติการออกกลางคนั นักเรียนท่ีเรียนซ้าช้ัน และนักเรียนที่จบ หลกั สูตร 4. ขอ้ มูลครูและบุคลากร ระบุจานวนครูและบุคลากรจาแนกตามวุฒิการศึกษา อายุ วิชาเอก วิชาที่สอน/ช้ัน สถิติการอบรม การพฒั นาของครูและบุคลากรทางการศึกษาและ ขอ้ มูลครูอตั ราจา้ ง 5. ขอ้ มูลอาคารสถานศึกษา ระบุจานวนอาคารเรียน อาคารประกอบ 6. ขอ้ มูลงบประมาณ ระบุงบประมาณท่ีไดร้ ับ – จา่ ย เพอ่ื ใชใ้ นการจดั การศึกษา 7. ขอ้ มูลสภาพชุมชนโดยรวม ระบุอาชีพ ศาสนา รายได้ ระดบั การศึกษาของ ผปู้ กครอง แนวโนม้ ความตอ้ งการของผปู้ กครองและชุมชน 8. โครงสร้างหลกั สูตรสถานศึกษา ระบุโครงสร้างหลกั สูตรสถานศึกษา 9. แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ระบุขนาดห้องสมุด จานวนหนังสือใน หอ้ งสมุด ห้องปฏิบตั ิการ จานวนคอมพิวเตอร์ แหล่งติดต้งั อินเทอร์เน็ต แหล่งเรียนรู้ภายในและ ภายนอกสถานศึกษา รวมท้งั ปราชญช์ าวบา้ นและภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน 10. ผลงานดีเด่นในรอบปี ท่ีผ่านมา ระบุผลงานดีเด่นของสถานศึกษา ผูบ้ ริหาร ครู นกั เรียนและโครงการ/กิจกรรมท่ีประสบความสาเร็จ 11. ผลการประเมินคุณภาพภายในรอบท่ีผา่ นมา 11.1 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ระบุผลการประเมินคุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ขอ้ เสนอแนะ จุดเด่น และจุดที่ควรพฒั นาของปี การศึกษา ท่ีผา่ นมา 11.2 ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาใน หน่วยงานตน้ สังกดั พร้อมท้งั ขอ้ เสนอแนะ จุดเด่น และจุดท่ีควรพฒั นา

72 12. ผลการประเมินคุณภาพภายนอกราอบท่ีผา่ นมา ระบุผลการประเมินคุณภาพภายนอกในรองท่ีผา่ นมา รวมท้งั ขอ้ เสนอแนะ จุดเด่น และจุดท่ีควรพฒั นา 13. ขอ้ เสนอแนะจากการประเมินคุณภาพภายในและภายนอก ระบุขอ้ เสนอแนะจากการประเมินคุณภาพภายในและภายนอก 14. สรุปสภาพปัญหา จุดเด่น จุดที่ควรพฒั นาในการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ระบุสภาพปัญหา จุดเด่นและจุดที่ควรพัฒนาจากผลการวิเคราะห์สภาพของ สถานศึกษาโดยทุกฝ่ ายท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การจดั การศึกษาของสถานศึกษา ตอนท่ี 2 การพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี ของสถานศึกษา 1.การบริหารจดั การศึกษา ระบุรายละเอียดโครงสร้างและหลกั การบริหาร 2. วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย อตั ลกั ษณ์ และเอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา ระบุวสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย อตั ลกั ษณ์ และเอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา 3.แนวทางการพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ระบุการดาเนินงานการพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษาตาม ขอ้ เสนอแนะ จากการประเมินคุณภาพภายในและภายนอก การส่งเสริมจุดเด่น โอกาส การแกไ้ ข จุดท่ีควรพฒั นาและปัญหาอุปสรรคท่ีสอดคลอ้ งกบั วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย อตั ลกั ษณ์ และ เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา ที่นาไปสู่การกาหนดกลยทุ ธ์การพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของ สถานศึกษา 4.กลยทุ ธ์การพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ระบุกลยทุ ธ์การพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 5.การดาเนินงานตามกลยทุ ธ์ของสถานศึกษา ระบุความสัมพนั ธ์ของกลยทุ ธ์งาน/โครงการ/กิจกรรม เป้าหมายที่สนองมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาตามงาน/โครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบตั ิการประจาปี และตามนโยบาย/ กิจกรรมพเิ ศษ ตอนท่ี 3 ผลการพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 1.ผลการดาเนินงานตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี ของสถานศึกษา 1.1 ผลการดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี 1.2 ผลการดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามนโยบายพิเศษ 2.ผลการดาเนินงานตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา

73 2.1 ระดบั การศึกษาปฐมวยั 2.2 ระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 3.สรุปผลการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 3.1 ระดบั การศึกษาปฐมวยั 3.2 ระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน 4.ผลการจดั การเรียนรู้ตามหลกั สูตรสถานศึกษา 4.1 ระดบั การศึกษาปฐมวยั ผลพฒั นาการเดก็ ช้นั อนุบาลปี ท่ี 2 – 3 4.2 ระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน 4.2.1 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนระดับสถานศึกษาทุกกลุ่มสาระการ เรียนรู้ทุกระดบั ช้นั 4.2.2 ผลการทดสอบระดับชาติ (NT : National Test, O – NET : Ordinary National Educational Test) 4.2.3 ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับเขตพ้ืนท่ี ( LAS : Local Assessment System) 4.2.4 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 4.2.5 ผลกาประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน 4.2.6 ผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 4.2.7 ผลการประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ตอนท่ี 4 สรุปผลการพฒั นาและการนาไปใช้ การสรุปผลการพฒั นาและการนาไปใช้ 1.สรุปผลการดาเนินงานในภาพรวม ระบุผลการดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมท้ังท่ีเป็ นผลสาเร็จและไม่สาเร็จตาม เป้าหมายพร้อมท้งั ระบุปัจจยั หรือสาเหตุท่ีทาใหส้ าเร็จหรือไม่สาเร็จ 2.จุดเด่นและจุดที่ควรพฒั นา ระบุจุดเด่น จุดท่ีควรพฒั นาดา้ นคุณภาพผเู้ รียน ดา้ นการจดั การศึกษา ดา้ นการสร้าง สังคมแห่งการเรียนรู้ อตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษา และดา้ นมาตรการส่งเสริม 3.แนวทางการพฒั นาในอนาคต ระบุปัญหาและความต้องการที่จาเป็ นในการพัฒนาจากข้อค้นพบโดยระบุ โครงการ/กิจกรรมและวธิ ีการพฒั นา

74 การพฒั นาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน (2549: 15) กล่าววา่ ในการทาใหค้ ุณภาพ ของสถานศึกษาดารงอยอู่ ยา่ งยงั่ ยนื น้นั สถานศึกษาควรตรวจสอบและทบทวนการดาเนินงานตาม โครงการ/กิจกรรมอยเู่ สมอ โครงการ/กิจกรรมท่ีทาตอ้ งคุม้ ค่า และเกิดประโยชน์ ส่งผลถึงผเู้ รียน การพจิ ารณาโครงการ/กิจกรรมที่จะทาต่อไปหรือไม่น้นั ควรพิจารณาดงั น้ี 1. ถา้ เป็นโครงการที่ดี สมควรดาเนินการต่อไปก็ดารงโครงการน้นั ไว้ 2. ถา้ เป็นโครงการที่ดี แต่ยงั ดาเนินการไม่สาเร็จหรือไมบ่ รรลุเป้าหมายเพราะมีจุดบกพร่อง ถา้ ปรับปรุงแกไ้ ขสามารถบรรลุผลสาเร็จไดก้ ็ดาเนินการต่อไปและทาใหด้ ียงิ่ ข้ึน 3. ถา้ เป็นโครงการท่ีมีความกา้ วหนา้ ในการดาเนินงานอยตู่ ลอดเวลา กพ็ ฒั นาดาเนิน โครงการน้นั ตอ่ ไปไมห่ ยดุ ย้งั 4. หากมีเหตุการณ์หรือส่ิงท่ีส่อเคา้ วา่ จะเกิดปัญหาตอ้ งหาทางป้องกนั ไวก้ ่อน ก็จาเป็นตอ้ ง จดั ทาโครงการใหม่ๆข้ึนเพอ่ื ป้องกนั ปัญหา อยา่ งไรก็ตามในการทาใหค้ ุณภาพการการศึกษาของสถานศึกษาพฒั นาอยา่ งต่อเนื่องน้นั สถานศึกษาตอ้ งคานึงถึงส่ิงตอ่ ไปน้ี 1. สร้างจิตสานึกการพฒั นาใหเ้ กิดข้ึนในหมู่คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. เนน้ ย้าหรือกาหนดเป็ นนโยบายการทางานอยา่ งมีระบบ รวมท้งั ตอ้ งทางานอยา่ งมี เป้าหมายทางานเป็นหมูค่ ณะ และตอ้ งอยา่ งต่อเน่ือง 3. พฒั นาสถานศึกษาใหเ้ ป็นองคก์ รแห่งการเรียนรู้(Learning Organization) การจะทาให้ สถานศึกษาเป็นองคก์ รแห่งการเรียนรู้ได้ ตอ้ งทาใหบ้ ุคลากรทุกคนในสถานศึกษาเป็นบุคคลแห่ง การเรียนรู้ คือรู้จกั พฒั นาตนเอง ใฝ่ รู้ หมนั่ แสวงหาความรู้อยเู่ สมอ มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ แบ่งปัน ความรู้กนั อยตู่ ลอดเวลา เกิดทีมผเู้ ช่ียวชาญในเร่ืองตา่ งๆหลากหลายจนไดร้ ับการยอมรับจาก ผเู้ ก่ียวขอ้ ง มีการเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์และแลกเปล่ียนความรู้กบั องคก์ รอื่นๆ สถานศึกษาก็จะเป็น องคก์ รแห่งการเรียนรู้ท่ีมีความเคล่ือนไหวในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาอยตู่ ลอดเวลา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน(2554 ก:29) กล่าววา่ การพฒั นาคุณภาพ การศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง ความยงั่ ยนื ของการดาเนินโครงการ/กิจกรรมตามแผนพฒั นาการจดั ศึกษา ของสถานศึกษาท่ีมีการปรับเปลี่ยนในทางท่ีดีข้ึนอยา่ งสม่าเสมอ มีการใชผ้ ลการประเมินคุณภาพ และผลการประเมินอ่ืนๆที่เกี่ยวขอ้ งมาเป็นฐานวางแผนพฒั นาทุกระยะหรือทุกรอบการพฒั นา

75 กระบวนการพฒั นาคุณภาพการศึกษาน้นั สถานศึกษาตอ้ งยดึ คุณภาพท่ีสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน การศึกษาของชาติ มาตรฐานการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน โดยมีการกาหนดมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษาเอง จดั ระบบโครงสร้างที่เหมาะสม วางแผนและการดาเนินงานตามแผน การทาใหค้ ุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาพฒั นาอยา่ งต่อเนื่องน้นั สถานศึกษาควร คานึงถึงส่ิงตอ่ ไปน้ี 1. การสร้างจิตสานึก การพฒั นาใหเ้ กิดข้ึนกบั ครูและบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา โดยถือ วา่ การพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาเป็นวฒั นธรรมการทางานปกติของ สถานศึกษา 2. กาหนดมาตรฐานการศึกษาที่แสดงถึงอตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษาอยา่ งเด่นชดั เพ่ือสร้าง ความรู้สึกเป็นเจา้ ของสถานศึกษา ร่วมจดั ระบบและโครงสร้างท่ีเหมาะสม วางแผนและดาเนินงาน ตามแผนโดยเนน้ ระบบคุณภาพมีการติดตามและประเมินผลการดาเนินงานตามรอบระยะเวลาที่ เหมาะสมและปฏิบตั ิอยา่ งตอ่ เน่ือง 3.นาผลการประเมินคุณภานพภายในของสถานศึกษาจากการประเมินตนเองหรือจาก หน่วยงานตน้ สงั กดั ไปใชใ้ นการปรับปรุงและพฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยมีการใชข้ อ้ มูลและการ สนเทศอยา่ งชาญฉลาด 4.พฒั นาสถานศึกษาใหเ้ ป็นองคก์ รแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)โดยคณะครูและ บุคลากรทุกคนในสถานศึกษาตอ้ งเป็ นบุคคลแห่งการเรียนรู้ กล่าวคือ รู้จกั พฒั นาตนเอง ใฝ่ เรียนรู้ มี การแลกเปล่ียนเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ตลอดเวลา เกิดทีมผเู้ ช่ียวชาญในเรื่องต่างๆอยา่ ง หลากหลายจนไดร้ ับการยอมรับจากผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง มีการเผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์และแลกเปล่ียน ความรู้กบั องคก์ รอื่นๆ มีนวตั กรรมใหม่ๆ ที่สถานศึกษาจดั ทาข้ึน สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน(2554 ซ: 9-40) กล่าววา่ การพฒั นา คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเนื่องเป็นกระบวนการที่สถานศึกษาตอ้ งดาเนินงานตามแนวทางการ ประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา โดยมีแนวคิดที่น่าสนใจและไดร้ ับการยอมรับอยา่ ง แพร่หลาย เช่นกระบวนการพฒั นาโดยการใชข้ อ้ มูลอยา่ งชาญฉลาด(Data Wise Improvement Process) การจดั การความรู้(Knowledge Management) การสร้างเครือขา่ ยการเรียนรู้(Networking) การนาผลการประเมินไปใชป้ ระโยชน์ (Evaluation Utilization) ซ่ึงการนาแนวคิดเหล่าน้ีไป

76 ดาเนินงานเพ่ือพฒั นาคุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเนื่องของสถานศึกษา เพอื่ เป็นการส่งเสริมหรือ สนบั สนุนใหโ้ รงเรียนมีรูปแบบหรือวธิ ีการที่จะพฒั นาโรงดเรียนตามวงจรคุณภาพ PDCA โดยใช้ ระบบประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาเป็นฐานในการขบั เคลื่อนใหเ้ กิดความต่อเนื่องและ ยงั่ ยนื โดยมีรายละเอียดดงั น้ี 1.กระบวนการพฒั นาโดยการใชข้ อ้ มูลอยา่ งชาญฉลาด (Data Wise Improvement Process) ข้นั ตอนการนาขอ้ มูลไปใชอ้ ยา่ งชาญฉลาด แบ่งไดเ้ ป็ น 3 ระยะ ดงั น้ี ระยะท่ี 1 การจดั เตรียมขอ้ มูล เป็นระยะที่สถานศึกษาจดั ทาขอ้ มูลพ้ืนฐานดา้ นตา่ งๆ สาหรับใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพการศึกษาเช่น เช่น ขอ้ มูลการบริหารจดั การ ขอ้ มูลการจดั การเรียนรู้ เป็นตน้ ซ่ึงขอ้ มูลที่ใชใ้ นการเตรียมการคร้ังน้ีไดม้ าจากกระบวนการติดตามตรวจสอบหรือ ประเมินผลการดาเนินงานของสถานศึกษา ระยะท่ี 2 การสืบเสาะเพ่อื วางแผนการใชข้ อ้ มูล เป็นระยะท่ีสถานศึกษาตอ้ งกาหนด แบบ หาแนวทาง และแบบแผน เพื่อนาขอ้ มูลไปใชท้ ้งั ในดา้ นการบริหารจดั การหรือการจดั การ เรียนการสอน ระยะท่ี 3 การลงมือปฏิบตั ิงาน เป็นระยะที่สถานศึกษาลงมือปฏิบตั ิงานตามแนวทาง และแบบแผนที่กาหนดไวข้ า้ งตน้ ซ่ึงถือเป็นข้นั ตอนการพฒั นาคุณภาพการจดั การของสถานศึกษา หรือการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้ตามแนวทางหรือแบบแผนที่กาหนดไว้ ข้นั ตอนน้ีสถานศึกษานาผลจากการปฏิบตั ิงานไปใชส้ ะทอ้ กลบั (Reflect) เพือ่ ปรับปรุงจุดดอ้ ยของ การดาเนินงานในระยะแรกเพ่อื ใหเ้ กิดเป็ นวงจรของการพฒั นาคุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง กระบวนการพฒั นาคุณภาพการศึกษาโดยการใชข้ อ้ มูลอยา่ งชาญฉลาดเป็น กระบวนการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนทว่ั ท้งั โรงเรียนที่ตอ้ งอาศยั การใชข้ อ้ มูลใหเ้ กิดข้ึนในสถานศึกษา และจุดเนน้ ที่ควรพฒั นาอยทู่ ี่คุณภาพของผูเ้ รียนเป็นสาคญั ผบู้ ริหารถือเป็ นกลไกหลกั สาคญั ในการ สนบั สนุนส่งเสริม และเป็นผูน้ าในการดาเนินงานตา่ งๆเพ่ือใหเ้ กิดการพฒั นาคุณภาพการศึกษาอยา่ ง ต่อเนื่องและเป็นวงจรการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ต่อไปได้ 2. การจดั การความรู้ (Knowledge Management) การจดั การความรู้แตล่ ะข้นั ตอนมีรายละเอียดดงั น้ี ข้นั ตอนท่ี 1 การสร้างความรู้ ( Knowledge Creation) เป็นข้นั ตอนของการไดม้ าซ่ึง

77 ความรู้ที่จะนาไปใช้ วธิ ีการท่ีไดม้ าขององคค์ วามรู้ ไดแ้ ก่ การประชุม การพบปะพดู คุย การ แลกเปล่ียนประสบการณ์ระหวา่ งกนั ตลอดจนการคน้ ควา้ จากตารา เอกสาร งานวจิ ยั และรายงาน ผลการประเมินงานตา่ งๆ ข้นั ตอนที่ 2 การจดั เกบ็ ความรู้ (Knowledge Storage) เป็นข้นั ตอนการจดั เกบ็ รักษา องคค์ วามรู้ท่ีไดม้ าจากการสร้างในข้นั ตอนท่ี 1 ใหอ้ ยใู่ นรูปแบบท่ีเหมาะสม สามารถสืบคน้ หยบิ จบั หรือนามาใชไ้ ดอ้ ยา่ งสะดวก เช่น การจดั เกบ็ ในรูปแบบรูปเล่มรายงงาน การจดั ทาแฟ้มเอกสาร การ บนั ทึกขอ้ มูลลงในคอมพวิ เตอร์ หรือความรู้ท่ีอยใู่ นตวั คน เป็นตน้ ข้นั ตอนที่ 3 การถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer) เป็นข้นั ตอนการเขา้ ถึงขอ้ มูล หรือการเผยแพร่ขอ้ มูลที่อยใู่ นรูปแบบตา่ งๆที่สามารถถ่ายโอนจากแหล่งหน่ึงไปยงั แหล่งหน่ึงดว้ ย วธิ ีการต่างๆ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ การประชุม การนาเสนอผลงานผา่ นระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ สื่อหรือกระบวนการทางการศึกษาเป็นตน้ ข้นั ตอนท่ี 4 การใชค้ วามรู้ (Knowledge Utilization) เป็นการนาความรู้ท่ีไดส้ ร้างข้ึนไป ใชป้ ระโยชนเ์ พ่ือใหบ้ รรลุเป้าหมายขององคก์ รหรือการบรรลุวตั ถุประสงคท์ ี่ต้งั ไว้ ข้นั ตอนการจดั การความรู้ท้งั 4 ข้นั ตอนขา้ งตน้ จะมีการดาเนินการหรือปฏิบตั ิ เป็นวฏั จกั รตอ่ เน่ือง กล่าวคือ เมื่อมีการดาเนินการหรือการปฏิบตั ิต้งั แต่ข้นั ตอนท่ี 1 ข้นั ตอนการ สร้างความรู้จนถึงข้นั ที่ 4 คือ ข้นั ตอนการใชค้ วามรู้ซ่ึงเป็นข้นั ตอนสุดทา้ ยก็จะไดผ้ ลท่ีสะทอ้ นให้ เป็นวา่ เป็ นไปตามเป้าหมายหรือวตั ถุประสงคห์ รือไม่ จากน้นั ตอ้ งมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขบคิด วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ หรือ หาขอ้ มูลใหมเ่ พิ่มเติมเพอ่ื มาสนบั สนุนหรืออธิบายผลที่เกิดข้ึนท้งั ที่เป็น ปัญหาและประสบความสาเร็จ การอธิบายผลท่ีเกิดข้ึนดงั กล่าวคือความรู้ใหม่ที่เกิดข้ึนเอง และเมื่อมี การนาความรู้ใหม่ท่ีเกิดข้ึนน้ีไปผา่ นข้นั ตอนตา่ งๆของการจดั การความรู้อีกคร้ัง และเป็ นวงจร ต่อเน่ืองซ่ึงถือเป็นการพฒั นางานอยา่ งต่อเนื่องนน่ั เอง 3.การสร้างเครือขา่ ยการเรียนรู้ (Networking) การสร้างเครือขา่ ยการเรียนรู้ แต่ละข้นั ตอนมีรายละเอียดดงั น้ี ข้นั ตอนท่ี 1 คือ วธิ ีการแสวงหา ซ่ึงเป็นการประชาสัมพนั ธ์เพอ่ื หาสมาชิก เช่น การ ประชาสัมพนั ธ์ผา่ นส่ือส่ิงพิมพต์ ่างๆ การใชว้ ธิ ีการบอกต่อการใชว้ ธิ ีการรับสมคั รสมาชิกท่ีมีความ สมคั รใจ รวมท้งั การเชิญชวนบุคคลตา่ งๆ ตลอดการชุมนุมเขา้ ร่วมเป็นเครือข่ายท่ีเขม้ แขง็

78 ข้นั ตอนที่ 2 คือยทุ ธศาสตร์การรณรงค์ ซ่ึงตอ้ งดาเนินการดงั น้ี 1.1 สร้างความตระหนกั ของการสร้างเครือขา่ ย เช่น การส่งเสริมใหเ้ กิด ความตระหนกั วา่ เครือขา่ ยมีประโยชน์อยา่ งไร 1.2 ใหค้ วามสาคญั กบั สมาชิกเครือข่ายและส่งเสริมใหม้ ีบทบาทและมี ส่วนร่วม 1.3 สร้างผลงานใหเ้ ป็นท่ียอมรับเพือ่ ใหย้ ทุ ธศาสตร์การรณรงคไ์ ดร้ ับการ ยอมรับมากยง่ิ ข้ึน 1.4 สร้างความรู้สึกที่เป็นเจา้ ของแก่สมาชิกเครือขา่ ยและกระตุน้ ให้ สมาชิกร่วมเป็ นแกนนาในการดาเนินงาน 1.5 ใชย้ ทุ ธศาสตร์ในการจูงใจและเสริมดว้ ยยทุ ธศาสตร์การ ประชาสัมพนั ธ์เพ่ือใหก้ ารรณรงคป์ ระสบผลสาเร็จมากยง่ิ ข้ึน ข้นั ตอนท่ี 3 คือกิจกรรมการดาเนินงาน โดยการดาเนินการ ดงั น้ี 3.1 ศึกษาปัญหา กาหนดเป้าหมาย วตั ถุประสงค์ และแผนท่ีชดั เจน 3.2 สร้างแกนนาเผยแพร่วตั ถุประสงคข์ องการต้งั เครือขา่ ย 1.3 หาสมาชิกและจดั ทาทาเนียบสมาชิก 3.4 ระดมความคิดร่วมกนั ท้งั รูปแบบท่ีเป็ นทางการ เช่นการประชุมหรือ รูปแบบไม่เป็นทางการ เช่น การพบปะหารือ 3.5 แบง่ บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิก พฒั นา จุดดอ้ ยและส่งเสริมจุดเด่นของ เครือขา่ ย 3.6 เผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ ขยายผลการเช่ือมโยงเครือขา่ ยอื่นๆ 3.7 มีการระดมทรัพยากรเพ่ือใชใ้ นการดาเนินงานเครือขา่ ย 3.8 จดั ต้งั คลินิกเครือข่ายเพอื่ ใหค้ าแนะนาแก่สมาชิก 3.9 มีการรายงานผลการปฏิบตั ิงานและติดตามประเมินผลการดาเนินงาน 4.การนาผลการประเมินไปใชป้ ระโยชน์ (Evaluation Utilization) รูปแบบการนาผลการประเมินไปใช้ มี 4 รูปแบบ ดงั น้ี 1.การใชผ้ ลการประเมินในเชิงความคิด เป็นการนาผลการประเมินไปใชเ้ พ่ือจุด

79 ประกายความคิดหรือสะทอ้ นความคิดของผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งต่อสภาพการณ์ที่เกิดข้ึน ทาให้ผเู้ ก่ียวขอ้ งเกิด ความรู้ความเขา้ ใจต่อส่ิงที่มุ่งประเมินมากข้ึนโดยไมไ่ ดน้ าผลการประเมินไปสู่การตดั สินใจโดยตรง เพื่อการจดั ทาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม 2.การใชผ้ ลการประเมินในเชิงตรวจสอบยนื ยนั เป็ นการนาผลการประเมินไปใช้ เป็นเหตุผลหรือสนบั สนุน หรือยนื ยนั ผลการตดั สินใจในการกาหนดแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมท่ี กาหนดไวล้ ่วงหนา้ ทาใหแ้ นวทาง/นโยบายท่ีเลือกใชม้ ีน้าหนกั และมีความถูกตอ้ ง เหมาะสมมากข้ึน 3.การใชผ้ ลการประเมินในเชิงสัญลกั ษณ์ เป็นการนาผลการประเมินไปใชเ้ พอ่ื เป็น เครื่องมือติดตาม กากบั หรือควบคุมการประเมินวา่ ไดม้ ีการดาเนินงานตามแนวทาง ระเบียบ ข้นั ตอนที่กาหนดไว้ เพอ่ื ใหก้ ระบวนการประเมินมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับ 4.การใชผ้ ลการประเมินในเชิงปฏิบตั ิ เป็นการนาผลการประเมินในเชิงปฏิบตั ิ เป็น การนาผลการประเมินไปใชโ้ ดยตรงในทางปฏิบตั ิ ถือเป็นเครื่องมือหรือวธิ ีการในการพฒั นา ปรับปรุงและแกไ้ ขในการปฏิบตั ิงาน เพ่ือทาใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ การเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนตามมา การนาผลการประเมินไปใชส้ ถานศึกษาควรดาเนินการ ดงั น้ี 1.ศึกษาผลการประเมินหรือขอ้ มูลสารสนเทศตา่ งๆของสถานศึกษาเพอื่ ใชใ้ นการ วางแผนพฒั นาการจดั การศึกษาใหไ้ ดม้ าตรฐาน โดยวเิ คราะห์ปัญหาและสภาพต่างๆท่ีเกิดข้ึน รวมท้งั หาสาเหตุและแนวทางการพฒั นาเพื่อกาหนดกลยทุ ธ์หรือแนวทางการพฒั นา ปรับปรุง และ แกไ้ ขปัญหาที่เกิดข้ึนภายใตผ้ ลการประเมินของสถานศึกษา 2.กาหนดเป้าหมายการพฒั นาคุณภาพการศึกษาท้งั ในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ 3.จดั ทาและดาเนินงานตามแผนพฒั นาการจดั การศึกษาที่เนน้ คุณภาพผเู้ รียน 4.นิเทศ กากบั ติดตาม และตรวจสอบการดาเนินงานอยา่ งเป็นระบบและต่อเน่ือง ตามแผนท่ีจดั ทาไว้ 5.ประเมินผลการพฒั นาคุณภาพการศึกษา ในกรณีท่ีผลการประเมินผา่ นหรือ เป็นไปตามเป้าหมายท่ีกาหนด กใ็ หต้ ้งั เป้าหมายใหม่เพอื่ ใหเ้ กิดการพฒั นาคุณภาพการศึกษาให้ สูงข้ึน และกรณีท่ีผลการประเมินไม่ผา่ นหรือไม่เป็นไปตามท่ีเป้าหมายกาหนด ก็นาไปสู่การ ปรับปรุงแกไ้ ข โดยการเริ่มตน้ วงจรการพฒั นาคุณภาพใหมต่ ่อไป

80 สรุปไดว้ า่ การพฒั นาคุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง เป็นความยงั่ ยนื ของการ ดาเนินโครงการ/กิจกรรมตามแผนการพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาท่ีมีการปรับเปล่ียน ในทางท่ีดีข้ึนอยา่ งสม่าเสมอ มีการใชผ้ ลการประเมินคุณภาพภายใน ผลการตรวจสอบคุณภาพ ผล การประเมินที่เกี่ยวขอ้ งมาเป็ นฐานวางแผนพฒั นาทุกระยะหรือทุกรอบการพฒั นา จนเป็น วฒั นธรรมคุณภาพภายในการทางานปกติของสถานศึกษา โดยมีการเผยแพร่ผลการพฒั นาคุณภาพ การศึกษาและแลกเปล่ียนความรู้เพ่อื ให้เกิดการพฒั นา 5.ความพงึ พอใจต่อการประกนั คุณภาพภายใน ความพงึ พอใจเป็นกระบวนการทางจิตวทิ ยา ไมส่ ามารถมองเห็นไดช้ ดั เจนแต่สามารถ คาดคะเนไดว้ า่ มีหรือไมม่ ี จากการสงั เกตพฤติกรรมของเหล่าน้นั ไดม้ ีการศึกษาถึงปัจจยั และ องคป์ ระกอบท่ีทาใหเ้ กิดความพงึ พอใจหรือไม่พึงพอใจข้ึน ดงั น้ี ราชบณั ฑิตยสถาน (2542: 775) ไดใ้ หค้ วามหมายของความพงึ พอใจ หมายถึง พอใจ ชอบ ใจพฤติกรรมเก่ียวกบั ความพึงพอใจของมนุษยค์ ือความพยายามที่จะขจดั ความตึงเครียด หรือ ความ กระวนกระวาย หรือภาวะไม่ไดด้ ุลยภาพในร่างกาย ซ่ึงเม่ือมนุษยส์ ามารถขจดั ส่ิงตา่ ง ๆ ดงั กล่าว ได้ แลว้ มนุษยย์ อ่ มไดร้ ับความพึงพอใจในส่ิงท่ีตนตอ้ งการ อุทยั พรรณ สุดใจ (2545: 7) ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกหรือทศั นคติของบุคคล ที่มีตอ่ สิ่งใดส่ิงหน่ึงโดยอาจจะเป็นไปในเชิงประเมินคา่ วา่ ความรู้สึกหรือทศั นคติต่อสิ่งหน่ึงสิ่งใด น้นั เป็นไปในทางบวกหรือทางลบ จรวยพร สุดสวาท และคณะ (2545: 19) ไดก้ ล่าววา่ ความพึงพอใจ หมายถึง สภาพ สภาวะจิตท่ีปราศจากความเครียด ท้งั น้ีเพราะธรรมชาติของมนุษยน์ ้นั มีความตอ้ งการถา้ ความ ตอ้ งการน้นั ไดร้ ับการตอบสนองท้งั หมดหรือบางส่วน ความเครียดจะนอ้ ยลง ความพึงพอใจจะ เกิดข้ึน และในทางกลบั กนั ถา้ ความตอ้ งการน้นั ไม่ไดร้ ับการตอบสนองความเครียดและความไม่ พึงพอใจจะเกิดข้ึน ปรียาพร วงศอ์ นุตรโรจน์ (2551: 133) สรุปวา่ ความพึงพอใจในการทางาน หมายถึง ความรู้สึกพงึ พอใจที่มีต่อองคป์ ระกอบและสิ่งจูงใจในดา้ นต่างๆ ของงาน และผปู้ ฏิบตั ิงานน้นั ไดร้ ับการตอบสนองตามความตอ้ งการ สรุปไดว้ า่ ความพงึ พอใจเป็ นความสุข ความสบายที่ไดจ้ ากการทางาน ความสุขจากการ ทางานร่วมกบั เพ่ือนร่วมงานและความพงึ พอใจเก่ียวกบั รายไดจ้ ากองคก์ ร รวมถึงความรู้สึกพอใจที่ มีตอ่ องคป์ ระกอบและสิ่งจูงใจในงานดา้ นต่างๆ ของงานน้นั ๆ ท่ีเป็นไปตามความตอ้ งการ

81 องค์ประกอบของความพงึ พอใจ กรวยี ์ เมฆหมอก(2542: 27) ไดร้ วบรวมองค์ประกอบของเจตคติ หรือความพึงพอใจ ไว้ ดงั น้ี 1.องค์ประกอบด้านความรู้ หมายถึง การรับรู้เกี่ยวกบั บุคคลท่ีเกี่ยวกบั วสั ดุหรือ เหตุการณ์ต่างๆรวมท้งั ความเชื่อของบุคคลที่มีต่อสิ่งเหล่าน้นั ดว้ ย 2.องคป์ ระกอบดา้ นความรู้สึก หมายถึง ความรู้สึกของบุคคลท่ีมีต่อส่ิงที่ไดร้ ับรู้ อาจ เป็ นไปในทางท่ีดี หรือไม่ดี ถา้ บุคคลมีความรู้สึกที่ดีต่อส่ิงใดก็จะชอบส่ิงน้นั ถา้ มีความรู้ที่ไม่ดีต่อ สิ่งใด กจ็ ะไมช่ อบส่ิงน้นั 3.องค์ประกอบดา้ นแนวโน้มท่ีจะกระทา หมายถึง ความโน้มเอียงของบุคคลท่ีจะ แสดงพฤติกรรมให้สอดคลอ้ งกบั ความรู้สึกของตนคือการที่จะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ยอมปฏิบตั ิ หรือไมย่ อมปฏิบตั ิ จากขอ้ ความขา้ งตน้ สรุปไดว้ า่ องคป์ ระกอบของความพึงพอใจ คือ ดา้ นความรู้ ความรู้สึก และแนวโน้มที่จะกระทา ซ่ึงมีความสัมพนั ธ์กนั คือ ความรู้สึก เป็ นผลสืบเน่ืองจากการรับรู้ และ ส่งผลไปถึงพฤติกรรมการกระทาของบุคคล และสามารถเปลี่ยนแปลงไดต้ ามสถานการณ์ ความสาคัญของความพงึ พอใจ ความพงึ พอใจมีความสาคญั ต่อการเรียนการสอนไม่วา่ จะเป็นวชิ าใด การมีความพงึ พอใจที่ ดีเท่ากบั เป็ นการเริ่มตน้ ทางานท่ีดี ความคิดเก่ียวกับเร่ืองน้ีมีมาต้งั แต่สมยั โบราณ แม้ Rousseau (กรวีร์ เมฆหมอก: 2542: 40) ก็ให้ความสาคญั ของความพึงพอใจ ดงั น้ันความสาคญั ของความพึง พอใจท่ีมีต่อการเขียนคาคลอ้ งจองจึงเป็ นเร่ืองที่ครูควรคานึงถึง ถ้านกั เรียนมีความรู้สึกท่ีดีต่อการ เขียน ก็มีความตอ้ งการที่จะเขียน แต่ถ้ามีความรู้สึกท่ีไม่ดี ความตอ้ งการในการเรียนก็ลดลง ได้ นอกจากน้นั ยงั กล่าวถึงความสาคญั ของความพึงพอใจ ดงั น้ี 1. ช่วยให้บุคคลเขา้ ใจสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตวั สามารถจดั รวมหรือแยกเป็ น กลุ่มไดถ้ ูกตอ้ ง 2. ทาใหบ้ ุคคลรู้จกั ปิ ดบงั ความรู้สึกท่ีแทจ้ ริงในโอกาสที่เหมาะสมและรู้จกั เปิ ดเผย ความรู้สึกที่แทจ้ ริงในบางโอกาส 3. ช่วยใหป้ รับตวั เขา้ กบั ส่ิงแวดลอ้ มไดเ้ หมาะสม โดยอาศยั พ้ืนฐานความรู้สึกที่ดีที่ ตนเคยมี ตอ่ ส่ิงน้นั มาก่อน ความพึงพอใจท่ีดีจะมีความสาคญั สาหรับการพฒั นาระบบประกนั คุณภาพภายในของ สถานศึกษา เพราะสามารถใชเ้ ป็ นพ้ืนฐานของการเริ่มตน้ ในการดาเนินงานท่ีดีได้ นกั วชิ าการศึกษา ไดก้ ล่าวว่า ความพึงพอใจมีผลต่อผูม้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งท้งั ในดา้ นบวกและดา้ นลบ ส่ิงสาคญั ก็คือควร

82 พยายามสร้างเสริมความพึงพอใจที่ดีให้เกิดข้ึนกบั ผมู้ ีส่วนร่วมในการบริหารจดั การระบบประกนั คุณภาพภายในของโรงเรียนเพ่ือประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาให้มี ประสิทธิภาพดีข้ึน สรุปไดว้ า่ ความพึงพอใจมีความสาคญั ต่อการพฒั นาระบบประกนั คุณภาพภายใน การ มีความพงึ พอใจท่ีดีจะช่วยใหผ้ มู้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั การประกนั คุณภาพภายในเกิดความรู้สึกตอ้ งการ ใหค้ วามร่วมมือในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาร่วมกนั ต่อไป 6.งานวจิ ัยทเ่ี กย่ี วข้อง งานวจิ ัยภายในประเทศ อรทยั ชุมพลกลุ (2545) ศึกษาความรู้ความเขา้ ใจของบุคลากร ศึกษาสภาพความพร้อม และแนวทางการพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียนวฒั นศึกษา อ.พาน จ.เชียงราย มีขอบเขตการวจิ ยั โดยใชย้ ทุ ธศาสตร์ของวงจร PDCA ดา้ นการปฏิรูปการเรียนรู้ของผเู้ รียน การเรียนการสอนท่ีเนน้ เด็กเป็นสาคญั และการบริหารจดั การโดยใชห้ ลกั 4 Mการวจิ ยั เป็นเชิงพรรณา โดยการสมั ภาษณ์ระดบั ลึก การสนทนากลุ่ม และใชข้ อ้ มูลที่เป็นเชิงปริมาณคือแบบสอบถามแบบ ประเมินผลตนเอง โดยกาหนดกลุ่มผใู้ หข้ อ้ มูลที่เกี่ยวขอ้ งอยา่ งครอบคลุมเพื่อความสมบูรณ์ใน การศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ คน้ พบที่ปรากฏ บุคลากรในสถานศึกษามีความรู้ความเขา้ ใจในการประกนั คุณภาพ ดา้ นการประเมินมาตรฐานของโรงเรียน ดา้ นปฏิรูปการเรียนรู้และการเรียนการสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ดา้ นการบริหารจดั การในระดบั มากโรงเรียนมีสภาพและความพร้อมดา้ นการ ปฏิบตั ิการดา้ นปฏิรูปการเรียนรู้ของผเู้ รียน สภาพการเรียนการสอนที่เนน้ เดก็ เป็ นสาคญั สภาพการ บริหารจดั การ สภาพความพร้อมของบุคลากร และสภาพความพร้อมดา้ นสื่อนวตั กรรมและ งบประมาณอยใู่ นระดบั มากเช่นเดียวกนั แนวทางพฒั นาดา้ นการปฏิรูปการเรียนรู้และการเรียนการ สอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั โดยสร้างความตระหนกั ใหบ้ ุคลากรเกิดการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงท้งั ผเู้ รียน ผสู้ อน ส่งเสริมใหค้ รูผสู้ อนมีการหาความรู้โดยการประชุม สัมมนา อบรม ศึกษาดูงาน ผบู้ ริหารโรงเรียนตอ้ งไดร้ ับการพฒั นาดา้ นความรู้ ความสามารถ ตลอดจนตอ้ งมีการกาหนด นโยบายและมาตรการใหผ้ บู้ ริหารใส่ใจในการพฒั นาดา้ นการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา งบประมาณท่ีมีอยตู่ อ้ งเพิม่ ใหพ้ อเพยี งกบั การบริหารงานที่ตอ้ งพฒั นาหลายๆ ดา้ น ดา้ นบริหาร จดั การ ตอ้ งอาศยั การมีส่วนร่วมของบุคลากรในโรงเรียน ทาใหบ้ ุคลากรมีความภาคภูมิใจท่ีเป็นส่วน หน่ึงของหน่วยงาน ใชภ้ ูมิปัญญาทอ้ งถิ่นเพ่ือการเรียนการสอน ใหผ้ เู้ รียนเลือกเรียนในสิ่งท่ีชอบและ มีความถนดั ผบู้ ริหารร่วมกบั ครูผสู้ อนร่วมมือกนั ใชห้ ลกั สูตรท่ีทนั สมยั สร้างความ

83 พึงพอใจและสนใจต่อผูเ้ รียนและชุมชน การดาเนินงานของสถานศึกษา ผบู้ ริหารตอ้ งสร้างความ ตระหนกั และเตรียมความพร้อมใหบ้ ุคลากรในโรงเรียน โดยมีสายการบงั คบั บญั ชาท่ีแน่นอน เป็น ระบบ มีการกากบั นิเทศและติดตามงานใหเ้ ขม้ ขน้ และจริงจงั ควรมีการสนบั สนุนงบประมาณให้ เพียงพอกบั ความตอ้ งการ การพฒั นาเพอ่ื ให้เป็นไปตามวตั ถุประสงคต์ อ้ งพฒั นาปัจจยั หลายๆ ดา้ น เช่น คน เงิน วสั ดุ และการจดั การใหด้ ีก่อน การพฒั นาท่ีดีและสมบูรณ์ตอ้ งพฒั นาไปพร้อมกนั ทุกดา้ น ดวงสมร สมุทรโมฬี (2545) ศึกษาระดบั การบริหารระบบขอ้ มูลสารสนเทศเพื่อ การ ประกนั คุณภาพภายในโรงเรียนประถมศึกษา สังกดั สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั สมุทรสาคร เปรียบเทียบสภาพการบริหารระบบขอ้ มูลสารสนเทศเพื่อการประกนั คุณภาพภายใน โรงเรียน ประถมศึกษาจาแนก ตามขนาดและประเภทของโรงเรียน และ ศึกษาความตอ้ งการในการพฒั นา การบริหารระบบขอ้ มูลสารสนเทศ เพือ่ การประกนั คุณภาพภายในโรงเรียนประถมศึกษา สังกดั สานกั งาน การประถมศึกษาจงั หวดั สมุทรสาคร พบวา่ การบริหารระบบขอ้ มูลสารสนเทศเพอื่ การ ประกนั คุณภาพภายในโรงเรียนประถมศึกษา สังกดั สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั สมุทรสาคร โดยภาพรวม อยใู่ นระดบั มาก ดา้ นการวางแผนการจดั ทาระบบขอ้ มูลสารสนเทศอยใู่ นอนั ดบั สูงสุด ส่วนดา้ นการตรวจสอบการจดั ทาระบบขอ้ มูลสารสนเทศอยใู่ นอนั ดบั ต่าสุด การบริหารระบบขอ้ มูล สารสนเทศเพอ่ื การประกนั คุณภาพ ของโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนขนาดกลาง และโรงเรียนขนาด ใหญ่แตกต่างกนั อยา่ งไมม่ ีนยั สาคญั ทางสถิติ การบริหารระบบขอ้ มูลสารสนเทศ ระหวา่ งโรงเรียน ที่ไดร้ ับการประเมินภายนอกและโรงเรียนที่ยงั ไมไ่ ดร้ ับการ ประเมินภายนอกแตกต่างกนั อยา่ งมี นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05 ท้งั ในภาพรวมและ รายดา้ น โรงเรียนมีความตอ้ งการในการพฒั นาการ บริหารระบบขอ้ มูลสารสนเทศ ตามรายการที่กาหนดแต่ละขอ้ อยใู่ นระดบั สูงเกินร้อยละ 95 วฒั นะ เหาะสูงเนิน (2546) ศึกษาสภาพและปัญหาการดาเนินงาน ประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาและเปรียบเทียบสภาพและปัญหาการดาเนินงาน ประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาของ โรงเรียนประถมศึกษา สังกดั สานกั งาน การประถมศึกษาจงั หวดั นครราชสีมา จาแนกตามขนาด โรงเรียน ผลการวจิ ยั พบวา่

84 1. สภาพการดาเนินงานประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา สงั กดั สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั นครราชสีมา โดยภาพรวมอยใู่ นระดบั ปานกลางเมื่อ พจิ ารณาเป็ นรายดา้ น พบวา่ ดา้ นการเตรียมการ และดา้ นการดาเนินงาน อยใู่ นระดบั มาก ส่วนดา้ น การรายงานการประเมินตนเองอยใู่ นระดบั ปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็ นรายดา้ นจาแนกตามขนาด โรงเรียน พบวา่ 1.1 ดา้ นการเตรียมการพบวา่ โรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดกลางมี การ ดาเนินงานอยใู่ นระดบั มาก โรงเรียนขนาดเลก็ มีการดาเนินงานอยใู่ นระดบั ปานกลาง ดา้ นการ ดาเนินงาน เม่ือพิจารณาเป็นรายดา้ นยอ่ ย พบวา่ ดา้ นการวางแผน และดา้ นการดาเนินงานตามแผน โรงเรียนขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กมีการดาเนินงานอยใู่ นระดบั มาก ส่วนดา้ นการ ตรวจสอบประเมินผล และดา้ นการนาผลการประเมินมาปรับปรุงงาน โรงเรียนขนาดใหญ่ ขนาด กลางและขนาดเล็กมีการดาเนินงานอยใู่ นระดบั ปานกลาง ดา้ นการรายงานการประเมินตนเอง พบวา่ โรงเรียนขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ มีการดาเนินงาน อยใู่ นระดบั ปานกลาง 2. ปัญหาการดาเนินงานประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียน ประถมศึกษา สงั กดั สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั นครราชสีมาโดยภาพรวมอยใู่ น ระดบั ปานกลาง เม่ือ พจิ ารณาเป็ นรายดา้ น พบวา่ ดา้ นการเตรียมการและดา้ นการรายงาน การประเมินตนเองมีปัญหาอยู่ ในระดบั ปานกลาง ส่วนดา้ นการดาเนินงานมีปัญหาอยใู่ นระดบั มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายดา้ น จาแนกตามขนาดโรงเรียน พบวา่ โรงเรียนขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ มีปัญหาอยใู่ น ระดบั ปานกลาง ทุกดา้ น 3. การเปรียบเทียบ สภาพการดาเนินงานประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาของ โรงเรียน ประถมศึกษา สังกดั สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั นครราชสีมา ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และ ขนาดเลก็ โดยภาพรวมแตกต่างกนั อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 เม่ือเปรียบเทียบความ แตกต่างเป็ นรายคู่ตามขนาดโรงเรียน พบวา่ โรงเรียนขนาดใหญ่ มีสภาพ การดาเนินงานโดย ภาพรวมสูงกวา่ ในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก เม่ือเปรียบเทียบ เป็นรายดา้ น พบวา่ แตกต่าง กนั อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05 จานวน 2 ดา้ น คือ ดา้ นการเตรียมการ และดา้ นการรายงาน การประเมินตนเอง เม่ือเปรียบเทียบเป็นรายคู่ พบวา่ โรงเรียนขนาดใหญ่ มีสภาพการดาเนินงานดา้ น การเตรียมการ และดา้ นการรายงาน การประเมินตนเองสูงกวา่ ในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก ส่วนดา้ นการดาเนินงาน พบวา่ แตกต่างกนั อยา่ งไมม่ ีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 4. การเปรียบเทียบปัญหาการดาเนินงานประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาของ โรงเรียน ประถมศึกษา สงั กดั สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั นครราชสีมา พบวา่ โรงเรียนขนาดใหญ่

85 ขนาดกลางและขนาดเล็กมีปัญหาการดาเนินงานประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาแตกตา่ งกนั อยา่ งไมม่ ีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 ท้งั เมื่อพิจารณาในภาพรวมและเป็ นรายดา้ นยอ่ ย บุญลือ มูลสวสั ด์ิ (2546) ศึกษากระบวนการการพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายใน ของสถานศึกษาที่ไดร้ ับการประเมินคุณภาพภายนอกสังกดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 1 กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการวจิ ยั ไดจ้ ากการสุ่มตวั อยา่ งแบบเจาะจง ไดแ้ ก่ ผบู้ ริหารโรงเรียน ผชู้ ่วย ผบู้ ริหารโรงเรียน และครูผสู้ อนในโรงเรียนประถมศึกษาจานวน 6 แห่ง ซ่ึงไดร้ ับการประเมิน คุณภาพภายนอกจากสานกั งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา เคร่ืองมือท่ีใชใ้ น การวจิ ยั เป็นแบบสมั ภาษณ์ การศึกษาเอกสารและการสงั เกตพฤติกรรมการเรียนและการสอน แนะนาเสนอขอ้ มูลในลกั ษณะของการบรรยายตามขอบเขตของการวจิ ยั ผลการวจิ ยั พบวา่ 1. โรงเรียนจดั ระบบการบริหารภายในสถานศึกษา มีโครงสร้างการบริหารงานชดั เจน กาหนดบทบาทหนา้ ที่รับผดิ ชอบและกากบั นิเทศ ติดตามประเมินผล จดั ระบบสารสนเทศและมี ขอ้ มูลอยา่ งเพยี งพอในการดาเนินงาน 2. โรงเรียนกาหนดมาตรฐานการศึกษา มีข้นั ตอนท่ีชดั เจนสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ท่ีเหมาะสม กบั ผเู้ รียนสถานศึกษาและทอ้ งถิ่น โดยชุมชนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งมีส่วนร่วม 3. โรงเรียนจดั ทาแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการศึกษาระดบั สถานศึกษา สภาพความตอ้ งการของโรงเรียนและทอ้ งถิ่นท่ีมุง่ เนน้ คุณภาพนกั เรียนเกิดจากการมี ส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง 4. โรงเรียนดาเนินโครงการ/กิจกรรมตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี ทุกกิจกรรมมีการ ควบคุมกากบั ติดตามและนิเทศใหก้ ารดาเนินงานบรรลุตามแผนปฏิบตั ิการประจาปี 5. โรงเรียนวางแผนการตรวจสอบทบทวนคุณภาพการศึกษาโดยกาหนดผรู้ ับผดิ ชอบ และใหบ้ ุคลากรกรทุกฝ่ ายมีส่วนร่วมและใชว้ ธิ ีท่ีหลากหลายครอบคลุมมาตรฐานการศึกษาระดบั สถานศึกษา การบริหารจดั การ การจดั การการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ และดาเนินงานอยา่ งต่อเนื่อง นา ผลการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษาไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพการศึกษา 6. โรงเรียนประเมินคุณภาพการศึกษาครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ การอา่ น การเขียน การคิดวเิ คราะห์ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ดว้ ยเคร่ืองมือท่ีหลากหลาย และดาเนินตามมาตรฐานการศึกษาระดบั สถานศึกษา 7. โรงเรียนจดั ทารายงานคุณภาพการศึกษาประจาปี เสนอต่อหน่วยงานตน้ สงั กดั หน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งและสาธารณชน ครอบคลุมมาตรฐานการศึกษา การบริหารจดั การการจดั การ

86 เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ จุดเด่น / ดอ้ ย แนวทางการพฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยมีผรู้ ับผดิ ชอบชดั เจน และทุกฝ่ ายที่เก่ียวขอ้ งมีส่วนร่วม 8. โรงเรียนปรับปรุง พฒั นา และรักษาระบบการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาใหม้ ี ประสิทธิภาพอยา่ งต่อเน่ือง ปัญหาการดาเนินงานตามระบบการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ไดแ้ ก่ ปัญหาดา้ นบุคลากรซ่ึงขาดทกั ษะและเทคนิคในการวดั ผลและประเมินผล ขาดทกั ษะดา้ นการ วางแผน ครูส่วนใหญ่ยงั ไม่เปล่ียนแปลงพฤติกรรมการสอนยงั คงใชว้ ธิ ีการสอนแบบเดิม วสั ดุ อุปกรณ์การเรียนการสอนมีนอ้ ยและเก่าไม่เพยี งพอกบั ความตอ้ งการ การดาเนินงานตามแผนไม่ เป็ นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด อเนก ตาเจริญเมือง(2547) ไดศ้ ึกษาสภาพการดาเนินการประกนั คุณภาพภายในของ โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก ในสังกดั สานกั งานประถมศึกษา อาเภอหางดง จงั หวดั เชียงใหม่ พบวา่ โดยภาพรวมการดาเนินการประกนั คุณภาพภายในโรงเรียนดา้ นการเตรียมความพร้อมของ บุคลากร บุคคลท่ีเห็นวา่ มีความสาคญั ในการประกนั คุณภาพภายในโรงเรียน คือ ผบู้ ริหารโรงเรียน ส่วนบุคลากรในสถานศึกษายงั ไม่เขา้ ใจข้นั ตอนการดาเนินการประกนั คุณภาพภายใน ดา้ นการ ดาเนินการวางแผน จากการศึกษา มีการจดั ทาขอ้ มูลสารสนเทศและนาขอ้ มูลสารสนเทศไปใชใ้ น การวางแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยกาหนดวสิ ัยทศั น์ ภารกิจและทิศทางในการจดั การศึกษา และนามาจดั เป็นแผนปฏิบตั ิงานประจาปี โดยสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคส์ ่วนปัญหาในการ ดาเนินการวางแผน บุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวขอ้ งยงั ขาดการมีส่วนร่วมในการวางแผน ขอ้ มูลที่นามาใช้ ในการวางแผนไม่เพยี งพอดา้ นการรายงานผลจากการศึกษาโรงเรียนส่วนใหญ่ไม่มีการรายงาน คุณภาพการศึกษาประจาปี ต่อตน้ สังกดั และสาธารณชน ส่วนปัญหาในการรายงานผลจากการศึกษา การจดั ทารายงานไมถ่ ูกตอ้ งกบั ความเป็นจริง ธงไชย บุญเรือง (2547) ศึกษารูปแบบการพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน จงั หวดั จนั ทบุรีผลการวจิ ยั พบวา่

87 1. ปัญหาการดาเนินงานตามระบบการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ข้นั พ้ืนฐาน จงั หวดั ชลบุรี โดยรวมและรายดา้ น อยใู่ นระดบั ปานกลาง 2. ปัญหาการดาเนินงานตามระบบการประกนั คุณภาพภายในสถาน ศึกษาข้นั พ้ืนฐาน จงั หวดั จนั ทบุรี โดยรวมจาแนกตามลกั ษณะของสถานศึกษา แตกตา่ งกนั อยา่ งไมม่ ีนยั สาคญั ทาง สถิติ 3. รูปแบบการพฒั นาระบบประกนั คุณภาพภาย ในสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน จงั หวดั จนั ทบุรี ดงั น้ี 3.1 การจดั ระบบบริหารและสารสนเทศไดแ้ ก่ใหค้ วามรู้แก่บุคลากร และผเู้ ก่ียวขอ้ ง กระจายการมีส่วนร่วมทุกฝ่ าย และกาหนดคณะทางานดา้ นระบบสารสนเทศ 3.2 การพฒั นามาตรฐานการศึกษาไดแ้ ก่ผเู้ ช่ียวชาญใหค้ วามรู้และเทคนิคการ วเิ คราะห์มาตรฐาน ประชุมเชิงปฏิบตั ิการ และจดั ทาเอกสารประกอบมาตรฐาน 3.3 การจดั ทาแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาไดแ้ ก่ ระดมความคิดคณะกรรมการ ประเมินความตอ้ งการจาเป็ น กาหนดยทุ ธศาสตร์และแผนปฏิบตั ิการ และประชุมช้ีแจงผเู้ กี่ยวขอ้ ง 3.4 การดาเนินงานตามแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาไดแ้ ก่ จดั ทาแผนปฏิบตั ิการ ประจาปี มอบหมายงาน กระจายอานาจ ทางานเป็นทีม สนบั สนุน อานวยความสะดวก และนิเทศ ติดตาม 3.5 การตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษาไดแ้ ก่ อบรมใหค้ วามรู้และทกั ษะ โดยผเู้ ชี่ยวชาญ 3.6 การประเมินคุณภาพการศึกษาไดแ้ ก่ ประชุมช้ีแจงทุกฝ่ าย วางแผนการประเมิน อยา่ งเป็นระบบ ติดตามการประเมิน และพฒั นาคุณภาพอยา่ งตอ่ เน่ือง 3.7 การรายงานคุณภาพการศึกษาประจาปี ไดแ้ ก่ แต่งต้งั ผรู้ ับผดิ ชอบท่ีเหมาะสม กาหนดขอ้ มูล วธิ ีการเกบ็ ขอ้ มูล รูปแบบรายงาน และระดมความคิดหาแนวทางพฒั นา การผดุงระบบการประกนั คุณภาพการศึกษา ไดแ้ ก่ ประชุมช้ีแจง ระดมความคิดวเิ คราะห์ผล หาทาง พฒั นา และวางแผนการดาเนินงานต่อไป สรกมล แจ่มจนั ทร์ (2547) ศึกษาการดาเนินการประกนั คุณภาพในสถานศึกษาของ โรงเรียนประถมศึกษา สังกดั กรุงเทพมหานคร ตวั อยา่ งประชากร ไดแ้ ก่ ผบู้ ริหารโรงเรียน 102 คน ครู 102 คน และผรู้ ับผดิ ชอบการดาเนินงานประกนั คุณภาพในสถานศึกษา 102 คน รวม 306 คน จาก 102 โรงเรียน เครื่องมือที่ใชใ้ นการวจิ ยั คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และแบบศึกษา เอกสาร วเิ คราะห์ขอ้ มูลโดยหาค่าร้อยละ ผลการวจิ ยั พบวา่ โรงเรียนมีการดาเนินการในดา้ นต่างๆ ดงั น้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook