Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมทุกตัวชีวัด

รวมทุกตัวชีวัด

Published by pim, 2019-10-26 05:11:01

Description: รวมทุกตัวชีวัด

Search

Read the Text Version

ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม (ส จานวน 2 มาตรฐาน3112071ต)วั ชวี้ ดั เวลาเรยี น 60 ชว่ั โมง มาตรฐาน ส1.1 9 ตวั ชวี้ ดั 1-5 ส 1.1 ม.4/1 วเิ คราะหส์ งั คมชมพูทวปี และคตคิ วามเชอื่ ทางศาสนา สมยั กอ่ นพระพุทธเจา้ หรอื สงั คม สมยั ของศาสนาทตี่ นนบั ถอื ส 1.1 ม.4/2 วเิ คราะหพ์ ระพุทธเจา้ ในฐานะเป็ นมนุษยผ์ ูฝ้ ึ กตน ไดอ้ ย่าง สูงสุดในการตรสั รู ้ การกอ่ ตง้ั วธิ กี ารสอนและการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา หรอื วเิ คราะห ์ ประวตั ศิ าสดาทตี่ นนบั ถอื ตามที่ กาหนด ส 1.1 ม.4/3 วเิ คราะหพ์ ุทธประวตั ดิ า้ นบรหิ ารและการธารงรกั ษา พระพุทธศาสนาหรอื วเิ คราะหป์ ระวตั ิ ศาสดาทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด ส 1.1 ม.4/4 วเิ คราะหข์ อ้ ปฏบิ ตั ทิ างสายกลางในพระพุทธศาสนา หรอื ่

มาตรฐาน ส1.1ตวั ชวี้ ดั 6- ส 1.1 ม.4/6 วเิ คร1า0ะหล์ กั ษณะประชาธปิ ไตยใน พระพุทธศาสนา หรอื แนวคดิ ของ ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด ส 1.1 ม.4/7 วเิ คราะหห์ ลกั การของพระพุทธศาสนากบั หลกั วทิ ยาศาสตร ์ หรอื แนวคดิ ของศาสนาทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด ส 1.1 ม.4/8 วเิ คราะหก์ ารฝึ กฝนและพฒั นา การพงึ่ ตนเองและ การมุง่ อสิ รภาพใน พระพุทธศาสนาหรอื แนวคดิ ของศาสนาทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด ส 1.1 ม.4/9 วเิ คราะหพ์ ระพุทธศาสนาวา่ เป็ นศาสตรแ์ ห่ง การศกึ ษา ซงึ่ เน้น ความสมั พนั ธข์ องเหตุปัจจยั กบั วธิ กี ารแกป้ ัญหา หรอื แนวคดิ ของศาสนา ทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด

มาตรฐาน ส 1.1ตวั ชวี้ ดั 11- 15 ส 1.1 ม.4/11 วเิ คราะหพ์ ระพุทธศาสนากบั ปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพยี งและการ พฒั นาประเทศแบบยง่ั ยนื หรอื แนวคดิ ของ ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด ส 1.1 ม.4/12 วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของพระพุทธศาสนา เกยี่ วกบั การศกึ ษาที่ สมบูรณ์ การเมอื งและสนั ตภิ าพ ส 1.1 ม.4/13 วเิ คราะหห์ ลกั ธรรมในกรอบอรยิ สจั 4 หรอื หลกั คาสอนของ ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ส 1.1 ม.4/14วเิ คราะหข์ อ้ คดิ และแบบอยา่ งการดาเนิน ชวี ติ จากประวตั สิ าวก

มาตรฐาน ส 1.1 ตวั ชวี้ ดั 16-20 ส 1.1 ม.4/16 เชอื่ มน่ั ตอ่ ผลของการทาความดี ความชว่ั สามารถ วเิ คราะหส์ ถานการณท์ ตี่ อ้ ง เผชญิ และตดั สนิ ใจเลอื กดาเนินการ หรอื ปฏบิ ตั ติ นได้ อย่างมเี หตุผลถูกตอ้ ง ตามหลกั ธรรมจรยิ ธรรมและกาหนดเป้ าหมาย บทบาทการดาเนินชวี ติ เพอื่ การอยูร่ ว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ุขและอยูร่ ว่ มกนั เป็ นชาติ อยา่ งสมานฉนั ท ์ ส 1.1 ม.4/17 อธบิ ายประวตั ศิ าสดาของศาสนาอนื่ ๆ โดยสงั เขป ส 1.1 ม.4/18 ตระหนกั ในคุณคา่ และความสาคญั ของคา่ นิยม จรยิ ธรรมทเี่ ป็ นตวั กาหนด ความเชอื่ และพฤตกิ รรมทแี่ ตกตา่ งกนั ของศาสนิก ชนศาสนาตา่ งๆ เพอื่ ขจดั ความขดั แยง้ และอยู่รว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งสนั ตสิ ุข ส 1.1 ม.4/19 เหน็ คุณคา่ เชอื่ มน่ั และมุง่ มน่ั พฒั นาชวี ติ ดว้ ยการ

มาตรฐานที่ 1.1ตวั ชวี้ ดั ที่ 21-22 ส 1.1 ม.4/21 วเิ คราะหห์ ลกั ธรรมสาคญั ใน การอยู่รว่ มกนั อย่าง สนั ตสิ ุขของศาสนาอนื่ ๆ และ ชกั ชวน สง่ เสรมิ สนบั สนุนใหบ้ คุ คลอนื่ เหน็ ความสาคญั ของการทา ความดตี อ่ กนั ส 1.1 ม.4/22 เสนอแนวทางการจดั กจิ กรรม ความรว่ มมอื ของ

มาตรฐาน ส 1.2 ตวั ชวี้ ดั 1-5 ส 1.2 ม.4/1 ปฏบิ ตั ติ นเป็ นศาสนิกชนทดี่ ตี ่อสาวก สมาชกิ ในครอบครวั และ คนรอบขา้ ง ส 1.2 ม.4/2 ปฏบิ ตั ติ นถูกตอ้ งตามศาสนพธิ ี พธิ กี รรม ตามหลกั ศาสนาทตี่ น นบั ถอื ส 1.2 ม.4/3 แสดงตนเป็ นพุทธมามกะ หรอื แสดงตน เป็ นศาสนิกชนของ ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ส 1.2 ม.4/4 วเิ คราะหห์ ลกั ธรรม คตธิ รรมทเี่ กยี่ วเนื่องกบั วนั สาคญั ทาง ศาสนาและเทศกาลทสี่ าคญั ของศาสนาที่

ศาสนา ศลี ธรรม ส 31101จรยิ ธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๔

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ สงั คมชมพูทวปี และคตคิ วามเชอื่ ทางศาสนาสมยั กอ่ นพระพทุ ธเจา้ ตวั ชวี้ ดั วเิ คราะหส์ งั คมชมพูทวปี และคตคิ วามเชอื่ ทางศาสนา สมยั กอ่ นพระพุทธเจา้ หรอื สงั คม สมยั ของศาสดาทตี่ นนบั ถอื (ส 1.1 ม. 4/1)

ผงั การเรยี นรู ้ 2 คตคิ วาม เชอื่ ทาง 1 ความ ศาสนา เป็ นมา สมยั กอ่ น สงั คม ลกั ษณะ พระพุทธเ ชมพู (ดนิ แดน) กเชจาอาื่ร้ แบง่ ความ ทวปี สงั คม จติ ศาสนา ลทั ธิ (วรรณะ, วญิ ญาณ (พราหม ชนชนั้ ) (นกั บวช) ณ)์ 3 ประวตั ิ ครสิ ต ์ ลกั ษณะ ศาสนาทตี่ น อสิ ลาม สงั คม อนื่ ๆ ความ

ประวตั คิ วามเป็ นมาของ พระไตรปิ ฎกกล่าวไวด้ งั นี้ ชมพูทวปี 1. เป็ นทอี่ ยูข่ องมนุษยห์ รอื มนุสสภูมนิ น้ั อยูบ่ นพนื้ ดนิ 2. ตง้ั อยูท่ างทศิ ใตข้ องเขาพระสุเมรุ 3. มไี มห้ วา้ เป็ นพญาไมป้ ระจาทวปี หรอื เกาะแห่งตน้ หวา้ (ตน้ ชมพู แปลวา่ ตน้ หวา้ ) สมยั กอ่ นพุทธกาล สมยั 1.มชี นพนื้ เมอื งดงั้ เดมิ เรยี กวา่ พวกด พ1.พุทรธะกบดิาาลของพระพุทธเจา้ มี ราวเิ ดยี นและถูกพวกอารยนั รุกราน ได้ ดนิ แดนเล็กๆ ของชมพูทวปี ครอบครองตอนเหนือ 2.มอี าณาเขตกวา้ งขวาง เรยี กวา่ ป2.กเปค็ นรอแงหล่งกาเนิดของ มหาชนบท ชนบทเหล่านีแ้ บง่ เป็ น 2 พระพุทธศาสนา สว่ น คอื ส่วนกลาง เรยี กวา่ มชั ฌมิ ชนบท (16 แควน้ ) หรอื มธั ยมประเทศ 3. ปัจจบุ นั ไดแ้ ก่ อาณาบรเิ วณ ส่วนที่ เป็ นหวั เมอื งชน้ั นอก เรยี กวา่ ทเี่ ป็ นประเทศอนิ เดยี ประเทศ ปากสี ถาน ประเทศเนปาล และ ประเทศบงั คลาเทศ

ตน้ หวา้ ชมพูทวปี เหตุทเี่ รยี กชอื่ นี้ เพราะ ทวปี นีม้ ไี มห้ วา้ เป็ นพญาไมป้ ระจา ทวปี (ตน้ ชมพู แปลวา่ ตน้ หวา้ ) ไมห้ วา้ ตน้ นีอ้ ยูใ่ นป่ าหมิ พานต ์ ลาตน้ วดั โดยรอบ 15 โยชน์ จาก โคนถงึ ยอดสูงสุด 100 โยชน์ จาก โคนถงึ คา่ คบสูง 50 โยชน์ ที่ คา่ คบมกี งิ่ ทอดออกไปในทศิ ทงั้ 4 แตล่ ะกงิ่ ยาว 50 โยชน์ วดั จาก โคนตน้ ไปทางทศิ ไหนกจ็ ะสูง เท่ากบั ความยาวในแตล่ ะทศิ คอื 100 โยชน์ ใตก้ งิ่ หวา้ ทง้ั 4 นน้ั เป็ นแมน่ ้าใหญไ่ หลผ่านไปในทศิ ทง้ั หลาย ผลหวา้ มกี ลนิ่ หอม รส หวานปานน้าผงึ้ หมูน่ กทงั้ หลาย ชวนกนั มากนิ ผลหวา้ สุกนน้ั บาง ทผี ลสุกกห็ ลน่ ลงตามฝ่ังแม่น้า ้

ดอก หวา้ ผลหวา้ มกี ลนิ่ หอม รสหวานปานน้าผงึ้ หมูน่ กทง้ั หลายชวนกนั มากนิ ผลหวา้ สุกนนั้ บางที ผลสุกกห็ ล่นลงตามฝ่ั งแม่น้า แลว้ งอกออกเป็ นเนือ้ ทอง และถูกน้าพดั ออกไปจมลงในมหาสมุทร เรยี กทองนนั้ วา่ ทองชมพูนุท เพราะอาศยั เกดิ มาจาก ชมพูนที

มหาชนบท 16 แควน้

มหาชนบท 16 แควน้ องั ปคระะกอบดว้ ยกรุ ุ และแควน้ ปัญจาละ เลก็ ๆ อกี 5 มคธะ แควน้ คอื กาสี มจั ฉะ สกั กะ โกลิ สุรเสนะ ยะ ภคั คะ โกศล วเิ ทหะ และ อสั สกะ องั คตุ ตรา วชั ชี ปะ อวนั ตี มลั ละ เจตี คนั ธาระ กมั โพชะ วงั สะ

สงั คมในชมพู ทคววปีาม เชป็านวมพานื้ เมอื งคอื พวกดราวเิ ดยี น เมอื่ ประมาณ 800 ปี กอ่ นพุทธกาล พวกอารยนั ซงึ่ เป็ นชนผวิ ขาวไดอ้ พยพเขา้ มายดึ ครองดนิ แดนสว่ นทอี่ ดุ มสมบูรณข์ องชมพูทวปี ไล่ ชนพนื้ เมอื งคอื พวกดราวเิ ดยี นใหถ้ อยรน่ ไปทางทศิ ใตแ้ ละ ทศิ ตะวนั ออกแถบลุม่ แม่น้าคงคา สว่ นพวกอารยนั กไ็ ดเ้ ขา้ ครอบครองดนิ แดนตอนเหนือ ไดแ้ ก่ ภาคเหนือของ ประเทศอนิ เดยี ในปัจจุบนั ในสมยั พุทธกาลเรยี กวา่ มชั ฌมิ ชนบท หรอื มธั ยมประเทศ พวกอารยนั เมอื่ เขา้ มายดึ ครองดนิ แดนชมพูทวปี แลว้ ไดเ้ รยี กชนพนื้ เมอื งหรอื ดราวเิ ดยี นวา่ ทสั ยุ หรอื ่

ลกั ษณะสงั คมชมพู ทวปีดา้ นการเมอื งการ ปกครอง ระบอบการปกครอง •ราชาธปิ ไตย/สมบูรณาญาสทิ ธริ าช –กษตั รยิ ม์ ี อานาจเดด็ ขาด รชั ทายาทสบื สนั ตวิ งศ ์ เชน่ แควน้ มคธ แควน้ โกศล แคว้ อวนั ตี (กษตั รยิ ย์ ดึ ปกครอง โดยธรรม) •สามคั คธี รรม/ประชาธปิ ไตยระดบั หนึ่ง กษตั รยิ ์ ไมม่ อี านาจเดด็ ขาด ไมม่ กี ารสบื สนั ตวิ งศ ์ มี “สณั ฐาคาร”เป็ นประมุกดารงตาแหน่งตาม ระยะเวลาทกี่ าหนด

ดา้ นสงั คม มกี ารแบ่งวรรณะ 4 วรรณะคอื วรรณะพราหมณ์ = พวกศกึ ษาคมั ภรี พ์ ระเวท หน้าทตี่ ดิ ตอ่ พระเจา้ +ทาพธิ กี รรม สปี ระจา วรรณะคอื สขี าว วรรณะกษตั รยิ ์ = พวกนกั รบ นกั ปกครอง สี ประจาวรรณะคอื สแี ดง วรรณะแพศย ์ หรอื ไวศยะ = ประชาชน ประกอบ พานิชยกรรม เกษตรกรรม ฯลฯ สี

ลกั ษณะสงั คมชมพูทวปี ดา้ น(คตวอ่ า) ม 1เ.เชชอื่ อื่ ในเรอื่ งการลา้ งบาป อนิ เดยี ในสมยั ชมพูทวปี เชอื่ ถอื เรอื่ งการลา้ งบาป โดยเฉพาะในแม่น้าคงคา ซงึ่ ถอื วา่ เป็ นแมน่ ้า ศกั ดสิ์ ทิ ธทิ์ ไี่ หลมาจากสวรรคค์ อื ภูเขา หมิ าลยั เมอื่ ไดด้ มื่ หรอื อาบจะไดบ้ ุญมาก ความชว่ั ทที่ าไวท้ ง้ั หมดจะถูกลอยไปกบั สายน้ากลายเป็ นผูบ้ รสิ ทุ ธทิ์ ง้ั กายและใจ เมอื่ มพี ระพทุ ธเจา้ ความเชอื่ เหล่านีก้ จ็ างไป เพราะพระองคต์ รสั วา่ การลา้ งบาปวธิ นี ี้ ลา้ งได้

ดา้ น อศนิ าเสดยีนในาสมยั ชมพูทวปี เป็ นศาสนา พราหมณม์ กี ารเชอื่ ถอื เกยี่ วกบั การเวยี น เกดิ เวยี นตายของวญิ ญาณ การแสวงหา ทางหลดุ พน้ จากความทุกข ์ มกั จะมอี ยู่ 2 ทาง คอื 1. กามสขุ ลั ลกิ านโุ ยค คอื การหมกหมนุ่ เสพสขุ ทางกามารมณ์ โดยถอื วา่ กามสุข นน้ั เป็ นเครอื่ งหลดุ พน้ 2. อตั ตกลิ มถานโุ ยค คอื การทาตนให้ ลาบากดว้ ยการบาเพญ็ ตบะรวมทงั้ การ

สงั คมในชมพูทวปี : การแบง่ ชน้ั วสรมรยั ณชมพะูทวปี แบง่ ชนชน้ั เป็ น 4 วรรณะ พราหม พวกศกึ ษาคมั ภรี พ์ ระเวท หน้าที่ ณ์ ตดิ ตอ่ พระเจา้ + รวม 4 กษตั รยิ ์ ทาพพวธิ กกี นรกั รรมบสนปี กั รปะจกาควรรอรงณสะี คอื สี ขาปวระจาวรรณะคอื สแี ดง วรรณะ แพศย ์ พวกประชาชน พอ่ คา้ เกษตรกรรม ฯลฯ ศูทร สปี รพะจวากวกรรรณมะกครอื ผสูใ้ เี ชหล้ อื ง แรงงาน สปี ระจาวรรณะส จณั ฑาล อะไรกไ็ ดย้ กเวน้ สขี อง วรรณะทง้ั สามขา้ งตน้

นอกจากนีย้ งั มชี นชนั้ ตา่ อกี ประเภทหนึ่ง เรยี กวา่ “จณั ฑาล” ถอื วา่ เป็ นคนนอก วรรณะ เพราะถอื กาเนิดมาจากบดิ า มารดาเป็ นคนตา่ งวรรณะกนั คอื มารดา อยู่ในวรรณะสูง บดิ าอยู่ในวรรณะตา่ เชน่ มารดาเป็ นพราหมณ์ บดิ าเป็ นศูทร บตุ รที่ เกดิ มาจะกลายเป็ นจณั ฑาล พวกนีจ้ ะถูก เหยยี ดหยามจากวรรณะอนื่ ๆ ไมม่ สี ทิ ธิ ใด ๆ ในสงั คม มสี ถานภาพตา่ กวา่ สตั ว ์ เดรจั ฉาน แมก้ ระทง่ั เดนิ ผ่านใหพ้ ราหมณ์ เหน็ หรอื ใหเ้ งาไปทบั กบั เงาของพราหมณ์

วรรณะพราหมณ์

วรรณะ กษตั รยิ ์

วรรณะ แพศย ์

วรรณะ แล จณั ฑา ศูทร ะล

คตคิ วามเชอื่ ใน จติ สงั คมชมพู ศวาญิ สญนาาณ ทวปี สมยั กอ่ น พระพทุ ธเจา้ (พราหมณ)์ ลทั ธติ า่ ง ๆ

ความเชอื่ ในเรอื่ งจติ วญิ ญาณ เชอื่ ในเรอื่ งสภาพดนิ ฟ้ า อากาศ ตน้ ไม้ ☠ ภูเขา เชอื่ ในเรอื่ งของความเปลยี่ นแปลงทาง ธรรมชาติ เชอื่ วา่ มวี ญิ ญาณของเทพเจา้ สงิ สถติ อยูใ่ นธรรมชาติ เชน่ ตน้ ไมม้ เี ทพเจา้ สงิ สถติ

ความเชอื่ ในศาสนา พราหมเชณอื่ ใน์ คมั ภรี พ์ ระเวททมี่ ี เทพเจา้ คอื พระพรหม เป็ นผูส้ รา้ ง สรา้ ง โลก สจราก้ั งรสวงิ่ ามลชี วี ติ ทงั้ สรา้ งชวี ติ มนุษย ์ ปวง เชอื่ วา่ การบวงสรวงตอ่ เทพเจา้ ดว้ ยการใชส้ ตั วบ์ ูชายญั เทพเจา้

คตคิ วามเชอื่ ทางศาสนาสมยั กอ่ น สพมยัรกะอ่พนุทอาธรเยจนั า้ เขา้ สูอ่ นิ เดยี (๒,๐๐๐ – ๑,๕๐๐ ปี กอ่ น พ.ศ.เ)ขา้ มารวมตวั เป็ น นอกจากนน้ั ยงั นบั ถอื และบูชาวญิ ญาณของ กลุม่ แถบภูเขา บรรพบุรุษอกี ดว้ ย โดย คอเคซสั และยา้ ย เขา้ ใจวา่ มนุษยแ์ ละสตั วต์ าย มาปากแมน่ ้า ไปแตเ่ พยี งรา่ ยกาย สว่ น วอลกา้ ม.อูราล เหนือ ทะเลสาบแค วญิ ญาณยงั คงอยู่ ยงั มกี าร สเปี้ ยน บรโิ ภคอาหารเหมอื นกบั มนุษยท์ ยี่ งั ไมต่ าย ทาใหเ้ กดิ พวกอารยนั ชน มกี ารเคารพพระเจา้ มกี ารบวงสรวงและเซน่ ผวิ ขาวทเี่ ขา้ มา หลายองคซ์ งึ่ เป็ น วญิ ญาณกนั ความเชอื่ อกี ยดึ ชมพูทวปี รูปแบบของธรรมชาติ วา่ วญิ ญาณของคนทตี่ ายไป เชน่ ดนิ น้า ลม ไฟ แลว้ นนั้ ยงั มภี พอยู่เบอื้ งบน พระอาทติ ย ์ พระจนั ทร ์ เพอื่ การบูชาวญิ ญาณของ และดวงดาว เป็ นตน้ คนเหลา่ นน้ั จงึ ไดเ้ ผาเครอื่ ง เชอื่ วา่ ธรรมชาตใิ ห้ คุณใหโ้ ทษแกเ่ ขาถอื วา่ บูชายญั ใหค้ วนั ไฟลอยขนึ้ ไป จงึ ทาใหเ้ กดิ มลี ทั ธบิ ูชา

สมยั พระเวท (๘๐๐ – ๓๐๐ ปี กอ่ น พุทธศกั ราช) พระเวทเป็ นคมั ภรี ท์ างศาสนา ทพี่ วก พราหมณไ์ ดร้ วบรวมขนึ้ จากบทเพลงสวด ในเวลาทาศกึ และการสงั เวย เรยี กวา่ ฤคเวท ประกอบดว้ ย 4 สว่ น เรยี กวา่ จตเุ พทางคศาสตร ์ คอื สมยั พระเวทนี้ ฤคเวท บทสวดสรรเสรญิ เทพเจา้ พวกอารยนั ไดน้ บั สามเวท บทสวดออ้ นวอนในพธิ บี ูชายญั ถอื พระอนิ ทรเ์ ป็ น ตา่ งๆ เทพเจา้ สูงสุด ยชรุ เวท บทเพลงขบั สาหรบั สวดหรอื รอ้ ง พระอนิ ทรท์ า เป็ นทานองบูชายญั หน้าทคี่ ลา้ ยตวั ผอูค้ านถไรดรท้ พาเพวทลบี ูชวา่ าดแว้ลยะอสาวคดมขทบั ากงลไอ่สมยศาสตร ์ สรรเสรญิ พระเจา้ ดว้ ยน้าโสม เพอื่ จะให้ เทพเหลา่ นน้ั โปรดปรานชว่ ยเหลอื ตน เป็ น การออ้ นวอนขอความเหน็ ใจจากพระเจา้

สมยั พราหมณ์ (๓๐๐ – ๑๐๐ ปี กอ่ น พทุ ธศกั ราช) พราหมณม์ บี ทบาทและอานาจมาก หรอื พวกพราหมณเ์ จา้ พระยศ คนทว่ั ไปเคารพนบั ถอื พราหมณใ์ หค้ วามศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ เพราะถอื วา่ พราหมณเ์ ป็ นตวั แทนของพระเจา้ เป็ น ตวั กลางตดิ ตอ่ ระหวา่ งพระเจา้ กบั ประชาชน เป็ นผูถ้ า่ ยบาปใหแ้ ก่ประชาชน ตามอดุ มคติ ความเชอื่ ดว้ ยความเมตตาปรานี ไมค่ ดิ คา่ ตอบแทน มุง่ มน่ั เพยี รเพ่งเครง่ ครดั ใน พธิ กี รรม ประกอบดว้ ย ความซอื่ สตั ยม์ คี วาม ในสมยั พราหมณน์ ี้ เมพกียี ารรเพปร่งะกมอคี บวพามธิ กเี ครรรง่ มครทดั าปกฏาบิ รตับพิ วงรสหรมวจงไรหรวย้ ์ วมอา้ นมอนยาุ่ษงยห์ เนพกั อื่ สเพงั เอื่วใมเยสหพคี ยีพ้ วรสราะละเมจเะจขทา้ า้ ยาโดนตัปว้นศรยใดกึ หคปษวเ้ ราปาา็คนมนมัทปภพรี่ มรีะงึ่กีสพ์ ขางรอรคะฆงทเ์ วป่าจี่ทรวะะแเวัชขลาาะ้แมชรพว่คี นะมวทอาแามยกงู่ ะ กบั พระพรหม การปจรติะใกจอบพธิ บี ูชายญั นีไ้ ดแ้ พรก่ ระจายไปทว่ั ทุก หนทุกแหง่ ตามเทวาลยั และสถานทอี่ นั ศกั ดสิ์ ทิ ธเิ์ ตม็ ไปดว้ ยเลอื ด อนั แดงฉาน มคี วนั ไฟแหง่ การบูชายญั ลุกโขมงขนึ้ ทุกหนแหง่

สมยั อปุ นิษทั (๑๕๐ – ๕๐ ปี ก่อน พทุ ธศกั ราช) อปุ นิษทั เป็ นคมั ภรี ห์ นึ่งใน ๑) การปฏบิ ตั พิ ธิ กี รรม ศาสนาพราหมณ์ หมายถงึ ปลาย ทางศาสนา การบวงสรวง การ แหง่ ยุคพระเวท หรอื เวทานตะ สวดเวทมนต ์ คาถาอาคม การ เป็ นยุคทบี่ ุคคลแสวงหาความ บูชายญั เป็ นตน้ หลุดพน้ จากทุกข ์ ดว้ ยวธิ กี าร ๒) การบาเพญ็ พรต ตา่ งๆ ดว้ ยความรู ้ ความคดิ ทเี่ ป็ น ไดแ้ กก่ ารบาเพ็ญตบะ การ ปรชั ญาหลงั จากทยี่ ุ่งยากสบั สน ทรมานรา่ งกาย เป็ นตน้ อยูก่ บั ยุคของพราหมณม์ าเป็ น ๓) การแสวงหาความ เวลานาน ยุคนี้ เคารพนบั ถอื พระ หลุดพน้ ดว้ ยปัญญา

ความเชอื่ ในลทั ธิ ตา่ ง ๆ ประกอบดว้ ยลทั ธติ า่ งๆ 6 ลทั ธิ ☞

๑.ลทั ธิ ๖) นิครนถ ์ ปู รณะกสั ๒) ลทั ธิ นาฎ ส มกั ขลโิ ค บตุ รหรอื สาล ศาสดา ลทั ธทิ ง้ั มหาวรี ะ แห่ง ศาสนาเชน ๖ ๓.ลทั ธิ อชติ เกส ๕) ลทั ธสิ ญั กมั พล ชยั เวลฏั ฐบุต๔ร) ลทั ธิ ปกชุ กจั จายนะ

ความเชอื่ : ลทั ธติ า่ ง ๆ สมยั กอ่ น พระพทุ ธเจา้ มคี วามเหน็ และเชอื่ 2 ส่วน นิ่งเฉย ไมไ่ ด้ ทาอะไร ลทั ธทิ ี่ ลทั ธิ 1. จงึ ไมต่ อ้ ง วญิ ญาณ รบั ผดิ ชอบอะไร 1 ปูรณะกสั ส ตอ่ บุญและบาป ปะ ทรี่ า่ งกาย กระทาไว ้ ทาดไี ม่ไดด้ ี ทาชว่ั 2. ทางาน จงึ ไมไ่ ดช้ ว่ั รา่ งกาย เป็ น ผูก้ ระทาไม่ วา่ บญุ หรอื

☞ สงิ่ ทง้ั หลายไมม่ วี นั ดบั สูญ ตอ้ งฟื้ น คนื ชพี ขนึ้ มา ไมว่ า่ จะอยู่ภพไหน สูงหรอื ตา่ ของ สตั วท์ งั้ หลายย่อมไมม่ เี ปลยี่ นแปลง ลทั ธทิ ี่ การกระทาทุกอยา่ ง 2 เกดิ จาก ลทั ธมิ กั ขลิ ความ โชควาสนา โคสาล บงั เอญิ อานาจของ ชะตากรรม แมก้ ระทง่ั พระ ดวงดาว เจา้

ลกั ษณ หม่ ผา้ ดว้ ยเสน้ ะ ผเปม็ นลทั ธหิ ยาบคาย น่า ลทั ธทิ ี่ มเกคี ลวยีามดคดิ รุนแรง คดั คา้ น ล3ทั ธิ ใลนทัโลธกอิ นนื่ ีไ้ มม่ ชี วี ติ ไม่วา่ จะเป็ นคน อชติ เกส มี โดยเฉพาะมารดา บดิ า หรอื สตั ว ์ กมั พล ควไา่มวาม่ มกี เหา็นรเคาหรรพอื สกงิ่ รมาชี บวไี ติหว้ ไมว่ งิ วอนตอ่ สงิ่ ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ทไมา่มสกี งิ่ าใรดเไวปยี ไนมว่มา่ ตผี าลยเเกกดดิิ ขชนึว้ี ติ จบสนิ้ ที่ ป่ าชา้ ไม่มบี าปบุญ คณุ โทษ การทาบุญคอื คนโง่ การแสวงหาความสุขจงึ เป็ นสงิ่ ทคี่ วรทา ความสุข ไดม้ าจากการปลน้ สดมภ ์ ยอ่ งเบา เผาบา้ นสงั หาร

ลทั ธทิ ี่ เชอื่ วา่ ทุกสงิ่ ทุกอยา่ ง 4 เกดิ ขนึ้ เกดิ สภาวะ7 อยา่ งคอื ดนิ น้า ลม ลทั ธปิ กชุ กจั ไฟ สุข ทกุ ข ์ จายนะ วญิ ญาณ ไม่มกี าร เปลยี่ นแปลงไป ไมไ่ ด้ เกดิ จากใครทาหรอื ยกบไงา่ัมายหปม่ นื นกแี ดนรข่รนนึ้ มอเนป็ นสภาพที่

ผูน้ าลทั ธเิ คยเป็ นอาจารยข์ องพระโมคคลั ลานะ แลลทัะพธนิ รีม้ะสี ารบี ตุ ร ความเห็นวา่ พูดฟั งยาก เอาแน่นอนอะไร ลทั ธทิ ี่ ไมไ่ ด้ พูดส่ายไปสา่ ยมาเหมอื น 5 ปลาไหล คอื พูดซดั ไปซดั มา ลทั ธสิ ญั ชยั เว พูดอยา่ งคนตาบอด ไม่ ลฏั ฐบตุ ร สามารถนาตนและผูอ้ นื่ ให้ เขา้ ถงึ ความจรงิ ได้ เชน่ โลกนี้ โลกหน้าไมม่ ี จะวา่ ไม่มกี ไ็ ม่ใช่ มปี ัญญาทราม โจงะ่เวขา่ ลมากี ไ็ ไมมใ่ ่กชล่ ไา้ มตม่ดั ทสี นิงั้ สใจอใงดอๆยา่ ง ไดอ้ ยา่ งเดด็ ขาด เพราะไม่รูจ้ รงิ ตามสภาวะนน้ั

ลทั ธนิ ีเ้ กดิ ขนึ้ กอ่ นพุทธศาสนา ปหรละงมั จาาณกออ4ก3บปวีชและแสวงหาโมกขธรรมอยู่ 12 ปี จงึ ได้ สาเรจ็ โมกษะ(การหลุดพน้ ) รวมเวลาสง่ั สอนได้ 30 ปี จงึ นิพพาน หลกั ธรรมทสี่ าคญั คอื ความไมเ่ บยี ดเบยี น (อหงิ สา) มคี วามเชอื่ ใกลเ้ คยี งกบั ลทั ธทิ ี่ 6 พระพุทธศาสนา จดุ ประสงคเ์ พอื่ ความหลุด นนลล6ิคาททัั ฎรธธนบททิิ ตุถีี่่ 6ร์ พลนท้ั จธานิ กีม้ สแี งั นสวาครดิวฎวั า่เหสมงิ่ อื ทนจี่ กะนนั าไปสูโ่ มกษะได้ หรอื นนั้ คอื แกว้ 3 ดวง ไดแ้ ก่ มคี วามเห็นชอบ ศาสดา มคี วามรูช้ อบ มคี วามประพฤตชิ อบ มหา การบาเพญ็ ตนใหล้ าบาก หรอื อตั ตกลิ มถา วรี ะ แหง่ นโุ ยค เป็ นทางนาไปสู่การบรรลุธรรมคอื ศาสนา โมกษะ ผูใ้ ดฝึ กฝนตนดแี ลว้ ย่อมไม่ เชน หวน่ั ไหวตอ่ ทุกสงิ่ ทุกอยา่ ง ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั ้

ลทั ธทิ ี่ 6 นิครนถน์ าฎบุตรหรอื ศาสดามหาวรี ะ แห่ง ศาสนาเชน ตวั ท่านศาสดา คอื มหาวรี ะไดบ้ าเพ็ญขนั ตธิ รรม นาน ไมข่ ยบั เขยอื้ นจากทจี่ นเถาวลั ยเ์ ลอื้ ยขนึ้ พนั รอบกายตนเอง นกั บวชเชนตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม ศลี 5 ขอ้ คอื 1.เวน้ จากการฆา่ สงิ่ ทมี่ ชี วี ติ รวมทง้ั พชื 2.เวน้ จากการพูดเท็จ 3.เวน้ จากการถอื เอาสงิ่ ของทเี่ จา้ ของไม่ไดใ้ ห้ 4. เวน้ จากการประพฤตผิ ดิ ในกาม 5.ไม่ยนิ ดใี นกามวตั ถุ

สงั คมชมพูทวปี และคตคิ วามเชอื่ ทางศาสนาใน สมยั กอ่ นพระพุทธเจา้ กบั ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ดา้ นสงั คมชมพูทวปี 1 ศาสนาพุทธมสี ่วน เกยี่ วขอ้ งในเรอื่ ง ดนิ แดน ศาสนา พบว่ พุทธ หรอื อาณาเขตไดแ้ ก่ แควน้ า สกั กะ ทพี่ ระบดิ าหรอื พระ ดหาล้ นกั คธรตรคิ มวแาลมะเ2หชลอื่ กั มปลี ฏทั บิ ธตัดเกใจิ ทิานิ นา้ เใี่แสนศกดทุาิดลนโสพเธ้ นครทแยีาะนลพเงชกะะทุ เนบเัปธค็ศทนศยามีด่ าปสนีสิ กนนแคาดารนองที่ พทุ ธ คอื มกี ารปฏบิ ตั ติ นใหพ้ น้ จากความหลุดพน้ และเป็ นตน้ แบบของศาสนาพุทธกอ่ นที่

สงั คมชมพูทวปี ฯ : ศาสนาทตี่ นนบั ถอื (ตอ่ ) สว่ นคตคิ วามเชอื่ เป็ นศาสนาทนี่ บั เฉพาะศาสนา ถอื เทพเจา้ คอื พระ พรหมทเี่ ชอื่ วา่ ศาสนา พราหมณม์ สี ว่ น เกยี่ วขอ้ งกบั สงั คม ชมพูทวปี ในเรอื่ ง พราหมณ์ ของการ พระพรหมเป็ น ผูส้ รา้ งสงิ่ มชี วี ติ ทงั้ -ฮนิ ดู ครอบครอง ดนิ แดนในชมพู ปวง ชว่ งหลงั ได้ ทวปี ของชาว ผนวกรวมศาสนา อารยนั และการ ฮนิ ดูเขา้ มาดว้ ย จดั ระบบชนั้ แตร่ วมหลงั จาก วรรณะใหก้ บั ศาสนาพุทธ

ไม่มกี ารบนั ทกึ ไว้ ศาสนา อาจจะเนื่องจาก ศาสนา ครสิ ต ์ เป็ นศาสนาที่ อนื่ ๆ เชน่ ศาสนา เกดิ ขนึ้ ภายหลงั อสิ ลาม ศาสนาพุทธ จงึ ศาสนาอนื่ ยงั ไม่มสี ว่ น ๆ .............. เกยี่ วขอ้ งกบั สงั คมชมพูทวปี

แบบฝึ กหดั หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง สงั คมชมพูทวปี และคตคิ วามเชอื่ ทาง ศาสนา สมยั กอ่ นพระพุทธเจา้ ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหเ์ นือ้ หาทไี่ ดร้ บั จากการเรยี นหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 โดยสรุปออกมาเป็ นผงั ความคดิ (Mindmap) ใน 1 หนา้ กระดาษ สามารถเล่ารายละเอยี ดไดค้ รบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook