Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ

การบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ

Published by chalong19bt, 2019-12-03 07:52:50

Description: นายฉลอง บุญถึง

Search

Read the Text Version

ผู้บรหิ าร ผนู้ า - มีตาแหน่งหน้าที่ -ไดร้ บั การยอมรบั จากสมาชิก -ไดร้ ับการแต่งตัง้ ใหด้ ารง องคก์ ารใหเ้ ป็นหวั หน้า ตาแหนง่ หน้าที่ โดยวิธกี ารเลอื กตั้งหรือคดั สรร - มอี านาจตามกฎหมาย จากสมาชิกในองค์การนั้น ๆ - ยึดครองตาแหนง่ และพยายาม -ไม่ติดยดึ กับตาแหนง่ รกั ษาสถานภาพตามตาแหนง่ เพ่ือ - ชอบความเปลี่ยนแปลงและ รกั ษาอานาจไว้ การพฒั นาทดี่ ขี นึ้ ตลอดเวลา

ผบู้ ริหาร ผูน้ า -รักษาระเบยี บ กฎหมาย - กลา้ คดิ กล้าทาและสามารถ กฎเกณฑท์ กี่ าหนดไว้ เปลย่ี นแปลงระเบยี บกฎเกณฑ์ -ไม่ทาอะไรท่ีขดั แย้งกับระเบยี บ เพื่อประโยชน์และ กฎเกณฑ์ ความก้าวหนา้ ขององค์การ - สนใจผลงานระยะสน้ั ๆ - สนใจในสง่ิ ที่ใหผ้ ลในระยะยาว - สรา้ งระบบการควบคมุ งาน - ทาใหส้ มาชิกองค์การมแี รงดล โดยใช้อานาจที่มอี ยู่ ใจในการทางาน จงรักภักดีต่อ องคก์ าร มีวิสยั ทศั น์ในการทางาน

ผบู้ รหิ าร ผ้นู า - เปา้ หมายการปฏบิ ัติงาน - ใหส้ มาชิกร้จู ักปรบั เป้าหมายส่วน มจี ดุ เน้นท่อี งค์การโดยรวม บคุ คลให้สอดคลอ้ งกับเปา้ หมาย ขององคก์ าร - เน้นงาน (Task Oriented) - เนน้ คน (Human Oriented)

ผบู้ ริหาร ผนู้ า - อาจเป็นบคุ คลท่ีไมช่ อบ - มักจะเปน็ คนเปดิ เผย ใจกวา้ ง การเข้าสังคม เก็บตวั และสนใจบุคคลรอบขา้ ง

ผนู้ ากับอานาจ อานาจ คือ เครือ่ งมือทผี่ ูบ้ รหิ าร หรือผ้นู าใช้เพ่อื ทาใหค้ นอื่น ปฏบิ ัติหนา้ ทีต่ ามทตี่ ้องการ

ผนู้ ากับอานาจ (ตอ่ ) พลังอานาจ (Power) หมายถึง อานาจโดยรวม เปน็ พลังทงั้ ซอ่ นเรน้ และเปดิ เผยทม่ี ีอยู่ในตัวบุคคล > อานาจหน้าท่ีโดยกฎหมาย > ฐานะทางสังคม ศรทั ธา บารมี > บคุ ลิกลักษณะ ทีเ่ ปน็ เสน่ห์

ผนู้ ากับอานาจ (ตอ่ ) อิทธพิ ล (Influence เปน็ รปู หนึ่งของพลงั อานาจ อทิ ธพิ ลในทางไมด่ ี - อทิ ธพิ ลจากความโหดเห้ียมทารณุ หรือในฐานะอันธพาล ผู้ย่งิ ใหญ่ อทิ ธพิ ลอานาจ เงินตรา) อทิ ธพิ ลในทางท่ีดี - ความมีเสนห่ ใ์ นตัวบุคคล - สถานภาพทางสงั คมทเี่ ปน็ ที่นับถือของคนทั่วไป บารมี - คณุ งานความดที ่ีสะสมมานาน

ผนู้ ากบั อานาจ (ตอ่ ) อานาจหน้าท่ี (Authority) คือ อานาจตามตัวบท ก ฎ ห ม า ย ที่ ก า ห น ด ไ ว้ ส า ห รั บ ผู้ ค ร อ ง ต า แ ห น่ ง ผบู้ ริหารในองคก์ าร

ผนู้ ากบั อานาจ (ตอ่ ) ภาวะผ้นู ากบั พลังอานาจมคี วามสมั พนั ธก์ ัน คนที่มีอานาจหน้าที่ (Authority) และมี อิทธิพล (Influence) สูง ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ย่อมมีภาวะผู้นาสูงตามไปด้วย ตรงข้ามกันผู้มี อานาจหน้าท่ี (Authority) แต่ไม่มีอิทธิพล อ่นื ๆ คอยเสริมยอ่ มมภี าวะผู้นาต่า

ผนู้ ากบั อานาจ (ตอ่ ) ผู้บริหารท่ีต้องการสร้างฐานอานาจ (Power) ให้มากขึ้น ควรเรียนรู้ประเภทของฐานอานาจ (Bases of Power)

ผ้นู ากับอานาจ (ต่อ) ท่ีมาของฐานอานาจตามแนวความคิดของ เฟรนซ์ และราเวน (French and Raven)

ผู้นากบั อานาจ (ต่อ) 1. ฐานอานาจบงั คับ (Coercive Power) 2. ฐานอานาจการให้รางวัล (Reward Power) 3. ฐานอานาจตามกฎหมาย (Legitimate Power) 4. ฐานอานาจจากความเช่ียวชาญ (Expert Power) 5. ฐานอานาจจากอ้างองิ (Reference Power)

ผนู้ ากับอานาจ (ตอ่ ) ฐานอานาจบังคบั (Coercive Power) อานาจท่มี าจากพื้นฐานของการทาให้กลัว - การบังคบั ขูเ่ ขญ็ ลงโทษ - คกุ คามความปลอดภัย

ผนู้ ากับอานาจ (ตอ่ ) ฐานอานาจการใหร้ างวลั (Reward Power) อานาจทส่ี ามารถใหค้ ุณประโยชน์ คา่ ตอบแทน สวัสดกิ าร การเลอ่ื นตาแหน่ง การโยกยา้ ยท่ดี ี กว่าเดิม

ผนู้ ากบั อานาจ (ต่อ) ฐานอานาจตามกฎหมาย (Legitimate Power) อานาจท่เี กิดจากตาแหน่งหน้าท่ี มากน้อยตามระดบั และสายงานการบังคับบัญชา

ผนู้ ากบั อานาจ (ต่อ) ฐานอานาจจากความเชย่ี วชาญ (Expert Power) อานาจที่เกิดจากความเชี่ยวชาญของบุคคล ทักษะ ความสามารถเฉพาะตัว เป็นฐานอานาจที่มี คุณภาพสูงในโลกแห่งเทคโนโลยี เช่น ผู้เชี่ยวชาญ ด้านคอมพิวเตอร์ ผู้เช่ียวชาญด้านการเงินการคลัง ผเู้ ชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคม

ผนู้ ากบั อานาจ (ต่อ) ฐานอานาจจากอา้ งองิ (Reference Power) อานาจเฉพาะตัวบุคคลที่เป็นท่ีนิยมชมชอบสามารถ อ้างอิง หรือเอาเป็นแบบอย่าง อานาจข้อน้ีเกิดจาก ความพึงพอใจต่อบุคคล และปรารถนาจะเอาเป็น แบบอย่าง เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความมีเมตตา ตอ่ บคุ คลอ่นื ๆ

การพฒั นาภาวะผ้นู า ผนู้ าตอ้ งเรยี นทฤษฎี เก่ียวกบั ภาวะผู้นา และเรียนรวู้ ธิ กี าร พัฒนาภาวะผนู้ า

การเรียนรู้จากการทางาน การเรียนรู้จากคนอ่นื การเรียนร้จู ากความผดิ พลาด การเรยี นรู้จากการฝึกอบรม

การเรยี นรจู้ ากการทางาน ภาวะผู้นาย่อมเรียนรู้จากการทางานได้ งานท่ีท้าทาย งานที่แปลกใหม่จะกระตุ้นให้เกิดภาวะผู้นาได้ ผู้บริหารต้องรู้จักวิธีกาจัดความเครียด เพื่อสร้าง ผลงานใหด้ ีทส่ี ดุ

การเรยี นรู้จากคนอ่นื การสร้างภาวะผู้นาอาจดูจากคนอ่ืนเป็นตัวแบบ จากบคุ คลทีป่ ระสบความสาเรจ็ ในการงาน เป็นผู้นาระดับสูง ตัวแบบจากผู้บังคับบัญชาหรือ เพอื่ นรว่ มงานทม่ี ีคณุ ลกั ษณะของการเปน็ ผนู้ า

การเรียนรูจ้ ากความผิดพลาด วเิ คราะห์ความผดิ พลาดลม้ เหลว และร้จู กั ปรับปรงุ ตวั เองให้ดขี น้ึ

การเรยี นร้จู ากการฝึกอบรม เป็นวิธีการที่สาคัญมากในการพัฒนาภาวะผู้นา ผู้บริหารย่อมสนใจใฝูรู้ท่ีจะเข้ารับการฝึกอบรม เพ่ือให้เข้าใจเทคนิควิธีต่าง ๆ ในการพัฒนา ความเป็นผู้นา

การสร้างอานาจให้กับตนเองแล้วหวังว่า เมื่อตนเองมีอานาจก็จะเป็นผู้นาไปด้วย ความคิดเช่นน้ีอาจไม่ถูกต้องนัก เพราะ การสรา้ งอานาจโดยขู่เข็ญใหเ้ กิดความกลัว จะไม่มีใครยอมรับ เม่ือไม่มีการยอมรับ ภาวะผู้นาก็ไม่เกิดขนึ้

❶ การสร้างอานาจให้กับตนเองแล้วหวังว่าเม่ือ ตนเองมีอานาจก็จะเป็นผู้นาไปด้วย ความคิด เช่นน้ีอาจไม่ถูกต้องนัก เพราะการสร้างอานาจ โดยขู่เข็ญให้เกิดความกลัวจะไม่มีใครยอมรับ เม่ือไม่มกี ารยอมรับภาวะผู้นาก็ไมเ่ กดิ ขน้ึ

❷ ผู้นากลุ่มหน่ึง อาจเป็นผู้ตามในอีกกลุ่มหน่ึง น้ อ ย ค น นั ก ที่ จ ะ เ ป็ น ผู้ น า ใ น ทุ ก เ ว ล า แ ล ะ ทุกสถานการณ์ ท้ั ง น้ี . . . เ พ ร า ะ ก ลุ่ ม ห น่ึ ง อ า จ ย อ ม รั บ อ า น า จ แต่อีกกลุ่มอาจไม่ยอมรบั อานาจ



บุคคลแต่ละคนย่อมมีความสามารถในกิจกรรม ตา่ ง ๆ ไม่เทา่ กัน กิจการบางอย่างมีผู้ยอมรับมาก ความเป็นผู้นาก็สูง กิจการใดทม่ี ีผูย้ อมรับนอ้ ยความเปน็ ผู้นากต็ ่า ดังนั้นบุคคลจึงไม่สามารถท่ีจะเป็นผู้นาได้ ในทุกอยา่ ง และทกุ สถานการณ์

❸ภาวะผู้นาเป็นบทบาทของกลุ่ม เพ่ือท่ีจะให้คน ยอมรับ จาเป็นต้องมีพวก อยู่คนเดียวเป็นผู้นาไม่ได้ เดินในถนนคนเดยี วจะเป็นผู้นาไมไ่ ด้ ถ้าไม่มีผู้ตาม

❹ บุ ค ค ล จ ะ เ ป็ น ผู้ น า ขึ้ น กั บ ค ว า ม ถ่ี แ ล ะ ค ว า ม สม่าเสมอของปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ระหว่าง บคุ คล ทาใหค้ นยอมรับง่ายข้นึ ดังนั้น หัวหน้างานท่ีเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้อง ทางานย่อมเปน็ ผู้นาได้ยาก

> ในหน่วยงาน การเป็นผู้นาอาจมีอยู่ในบคุ คลมากกวา่ หนึ่งคน ในสถานศึกษาคนหน่ึงอาจเป็นผู้นาทางด้าน การสอน อีกคนหน่ึงอาจเป็นผู้นาทางด้านกิจกรรม ลักษณะการนาทั้งสองอย่าง ไม่จาเป็น ต้องอยู่ใน คน ๆ เดียวกัน

>ปทัสถาน (norms) ของกลุ่ม เป็นตัวกาหนดท่ีสาคัญ ในการเลือกผู้นา คคลที่มีลักษณะแตกต่างจากสมาชิก มาก ๆ ย่อมไมใ่ ครอยากเลือกใหเ้ ปน็ ผูน้ า

บุคคลท่ีพยายามชักจูงให้ผู้อื่นไปตามแนวของ ตนเอง หรือบุคคลท่พี ยายามวางอานาจกบั พวก ค น พ ว ก น้ี ส ม า ชิ ก มั ก จ ะ ไ ม่ ค่ อ ย ย อ ม รั บ จงึ เกดิ ความเปน็ ผนู้ าไดน้ อ้ ย

ภาวะผู้นาย่อมเปล่ียนจากสถานการณ์หนึ่งไปสู่ อกี สถานการณ์หน่ึง การท่ีบุคคลพยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา ย่อมช่วยทา ให้สมาชิกยอมรับ เปน็ ผลส่งเสรมิ ให้มภี าวะผนู้ า

ปฏิบัติงานมากกว่ากาหนด อย่าพยามมอบภาระ บางอย่างให้เพื่อนร่วมงานในเม่ืองานน้ัน ๆ ผู้นาก็ไม่ อยากทา หม่ันถามตนเองว่าเราได้ทางานคุ้ม กับเงนิ เดอื นที่เขาจา้ งแลว้ หรือยงั

ทางานตรงเวลาและสม่าเสมอ ทาตนให้เป็น ตัวอย่างในการทางาน ทางานด้วยใจรักไม่ใช่ฝืนใจทา เพ่ือนร่วมงานอาจบ่นในการทางาน แต่ผู้นาน่าจะ ปฏิเสธการกระทาแบบน้ี

มีใจจดจ่อในงานที่ต้องปฏิบัติมากกว่าจะน่ังจ้องดู เวลาว่าเมื่อไรจะหมดเวลาเสียที มีความสุขกับ การทางาน ทางานเพอ่ื งานมากกว่าเพือ่ อยา่ งอ่นื

บริหารงานตามนโยบายท่ีหมู่คณะช่วยกันวางไว้ ผู้นาเองก็จะต้องปฏิบัติตามนโยบาย ไม่ควรมี ข้อยกเว้น

กล้าเผชิญกับปัญหาท่ียุ่งยากซับซ้อน มีความเด็ด เดี่ยวในการตัดสินใจพยายามแก้ปัญหามากกว่าท่ีจะ ปัดปัญหาให้พ้น ยกย่องผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความ เตม็ ใจเมื่อเขาแก้ปญั หาได้

กล้าเผชิญกับปัญหาท่ียุ่งยากซับซ้อน มีความเด็ด เดี่ยวในการตัดสินใจพยายามแก้ปัญหามากกว่าท่ีจะ ปัดปัญหาให้พ้น ยกย่องผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความ เตม็ ใจเมื่อเขาแก้ปญั หาได้

ไม่ควรตามใจผู้ใต้บังคับบัญชาจนเกินไป ควรมี เทคนิคการคัดค้านหรือตาหนิบ้าง การตาหนินั้น ค ว ร จ ะ เ ป็ น ก า ร ต า ห นิ เ ร่ื อ ง ง า น มิ ใ ช่ ต า ห นิ เร่ืองสว่ นตวั ไม่ควรตาหนิต่อหน้าคน การตาหนินั้น เพ่อื การแกไ้ ขปรับปรงุ มใิ ชเ่ พ่ือให้เสียนา้ ใจ

ผู้นาจะยืนบนถนน แล้วมุ่งไปข้างหน้าเพียง คนเดียวย่อมไมไ่ ดต้ อ้ งใหเ้ พอื่ นรว่ มงานรว่ มทางด้วย



ให้สวัสดิการแก่เพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นการสร้างขวัญ ในการทางาน มนุษย์เราน้ันเมื่อท้องหิวความคิดที่จะ ทางานกล็ ดลง

ให้ความเชื่อถือในเพ่ือนร่วมงาน เม่ือเราระแวงหรือ สงสัยคนอื่น คนอ่ืนก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะระแวงหรือ สงสยั เราได้

การทางานจงึ ควรให้เปน็ ทพ่ี ึงใจของคนส่วนใหญ่อย่า ทางานให้เร็วเกินไปนัก เพราะเพื่อนร่วมงานอาจจะ หลงทางตามไมท่ ัน

ให้ข้อมูลแก่เพ่ือนร่วมงานให้มากท่ีสุดเท่าที่จะทาได้ ความไม่ลงรอยกันภายในอาจเกิดจากการที่ไม่ได้ ข้อเท็จจรงิ กเ็ ปน็ ได้

ในการทางานนน้ั ควรเนน้ ว่าอะไรถกู มากกวา่ ที่จะ เน้นว่าใครถูก ในการประชมุ หรอื ปรกึ ษาหารอื ยอมเสยี เวลาเพือ่ ให้ มีมติเอกฉันทด์ กี ว่าท่ีจะรีบออกเสียง (Vote)

รับผิดชอบต่อผลการกระทาของกลุ่ม ไม่ว่าผล จะออกมาในรูปใดกต็ าม แสดงให้เพ่ือนร่วมงานเห็นความจริงใจท่ีจะทางาน มีความจริงใจท่ีจะร่วมทางานกับเขา มิใช่เพ่ือจะเป็น นายเขา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook