แนวทางการอ่านได้-คล่อง และเขียนได้-คล่อง

ใบความรู้ เรือ่ ง คำพอ้ ง คำพ้อง หมายถึง คำท่ีมีลักษณะเหมือนกัน หรือซ้ำกัน คำพ้อง เเบง่ ออกเปน็ 2 ชนดิ ดงั นี้ 1. คำพ้องรูป คอื คำที่เขยี นเหมือนกนั แตอ่ อกเสียงต่างกนั และมี ความหมายต่างกัน การอ่านคำพ้องรูปให้ถูกต้อง ต้องดูข้อความอ่ืนๆ ประกอบวา่ คำพอ้ งรปู นนั้ หมายถงึ อะไร อา่ นอยา่ งไร แลว้ จงึ อา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง ตวั อยา่ งคำพอ้ งรปู ❖ ปกั เปา้ ปัก - กะ - เป้า หมายถงึ ช่ือปลาชนดิ หนงึ่ ปกั - เป้า หมายถงึ ชอื่ วา่ วชนิดหนงึ่ ❖ สมาธิ สะ - มา - ท ิ หมายถงึ การสำรวมใจเเนว่ เเน่ สะ - หมาด หมายถงึ ท่านง่ั ขดั สมาธิ ❖ สระ สะ - หระ หมายถงึ อักษรเเทนเสียงสระ สะ หมายถงึ แอ่งนำ้ ขนาดใหญ่ เทคนคิ วธิ ีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เพือ่ ขบั เคลื่อนจดุ เน้นการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง 93

2. คำพ้องเสียง คือ คำท่ีเขียนไม่เหมือนกัน แต่ออกเสยี งเหมือนกัน และมีความหมายตา่ งกนั ตวั อย่างคำพอ้ งเสียง ❖ กรรณ (หู) กัณฐ์ (คอ) กนั ต์ (ตัด โกน) อา่ นว่า กนั ❖ ขา้ (คนรบั ใช)้ ค่า (คุณประโยชน)์ ฆ่า (ทำใหต้ าย) อ่านว่า ขา้ ❖ ควาน (เอามอื ค้นหาของ) ควาญ (ผู้เลย้ี งเเละขับขี่ชา้ ง) อา่ นว่า ควาน ❖ ศรี (สริ มิ งคล) สี (สง่ิ ท่ที ำใหเ้ ปน็ สตี ่างๆ) อ่านวา่ สี เทคนคิ วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พอ่ื ขับเคล่อื นจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น 94 ด้านอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง

ใบกจิ กรรมท่ี 1 เตมิ คำพอ้ งเสยี ง ตอนที่ 1 เลือกคำท่กี ำหนดให้ เตมิ คำพอ้ งเสยี งใหถ้ กู ตอ้ ง สรรค ์ สุข พัน พุด สรร กาด สกุ พรรณ พุทธ สนั กาจ กาศ พธุ พันธ์ ศุกร ์ ความ......... วนั ........... ข้าว.......... ผูก............. สมั ........... ผิว............ ดอก........... วัน........... พระ.......... สี................ จัด........... สร้าง......... ผัก............. เก่ง.......... ประ.......... ตอนท่ี 2 ให้นักเรียนเติมคำพ้องรูปใหถ้ กู ตอ้ ง ว่าว.......... ปลา........... จอก......... หวง........... เพลา........ เพลา......... ตน้ ........... ใบ............. ...........น้ำ เสยี ง.......... เทคนคิ วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่ือขับเคล่อื นจดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน ดา้ นอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคล่อง 95

ใบกจิ กรรมที่ 2 นำไปใช ้ ตอนท่ี 1 เขยี นคำอา่ นของคำพ้องรปู ต่อไปน้ ี 1. หมบู่ า้ นจดั ใหม้ กี ารแขง่ ขนั วา่ วระหวา่ งวา่ วจฬุ ากบั ปกั เปา้ (..............) ปลาปกั เป้า (....................) เปน็ ปลาท่มี พี ษิ 2. อาวธุ ของกงุ้ คอื กรี (....................) อาวธุ ของกรี (....................) คอื งา 3. คณุ แมร่ ักและหวงแหน (....................) ลกู สาวคนน้ีมาก คุณพ่อช้อนแหน (....................) มาใหเ้ ปด็ กิน 4. พระสงฆน์ ่งั ขัดสมาธิ (....................) เพ่อื ทำสมาธิ (....................) อยใู่ นโบสถ ์ 5. นักเรียนทบทวนเร่ืองสระ (....................) ต่างๆ อย่ทู ่รี มิ สระ (....................) น้ำของโรงเรียน 6. เพลา (....................) รถของพ่อฉนั หัก เมื่อเพลา (....................) เย็นแล้ว 7. มานเี ฝา้ ดแู ลสระบวั ดว้ ยความหวงแหน (....................) และตอ้ งคอยกำจดั แหน (....................) ทข่ี ้นึ ปนอยู่ในสระนำ้ เทคนิค วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ พอ่ื ขับเคล่อื นจดุ เน้นการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน 96 ด้านอ่านออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคล่อง

ตอนท่ี 2 เติมคำพอ้ งเสยี งในประโยคตอ่ ไปน ี้ 1. ฉันมีความ...............มากทไ่ี ดก้ ินมะมว่ ง............... (สกุ สุข) 2. ประชุมน่งั มองดวง...............อยู่ในใต้ตน้ ............... (จันทร์ จันทน์) 3. คุณพ่อเอาน้ำทีใ่ ช้ล้าง...............ไป...............นำ้ ตน้ ไม้ (รด รถ) 4. พี่ชว่ ยคุณ...............ถอน...............ในแปลงผัก (หญ้า ยา่ ) 5. คณุ แม่เก็บดอก...............ไปขายทต่ี ลาดในวัน............... (พดุ พธุ ) 6. คนไทยเชื่อว่าถ้ากนิ ...............แล้วจะมีโชค............... (ลาภ ลาบ) 7. ฉันทำ...............บ้านด้วยความต้ังใจ เมื่อย้ายไปเรียนท่ีจังหวัด .............สนิ ธุ์ (กาฬ การ) 8. บ้านจดั ...............หลงั น้นั มสี .ี ..............สวยงามมาก (สัน สรร) 9. หนังสือพิมพ์ประ...............ถึงความเก่ง...............ของนักกีฬาไทย (กาศ กาจ) 10. คุณยายทำกลว้ ย...............ชไี ปรว่ มงาน................นาค (บวด บวช) เทคนิค วิธกี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพอื่ ขบั เคลือ่ นจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ดา้ นอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง 97

ตอนที่ 3 นำคำที่กำหนดใหเ้ ติมลงในช่องวา่ งใหม้ คี วามหมาย สุข ศกุ ร ์ จันทร์ จนั ทน ์ พันธุ ์ พัน ปกั เปา้ ปักเป้า สระ สระ กาล กาฬ 1. วนั ............................ 2. ผูก............................ 3. ดวง.......................... 4. ............................นำ้ 5. ...........................เวลา เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรยี นรูเ้ พือ่ ขบั เคล่ือนจุดเนน้ การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น 98 ดา้ นอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคล่อง

ตวั อย่างคำและประโยคในหนงั สอื Big Book เร่อื ง คำพอ้ งเสยี ง ดวงจนั ทร ์ ตน้ จันทน ์ เดชาน่ังมองดวงจันทรอ์ ยใู่ ตต้ ้นจันทน ์ ตน้ เสมา ใบเสมา ตน้ เสมา (สะ - เหมา) ทห่ี ลวงพอ่ ปลกู ไวข้ า้ งโบสถส์ งู เกอื บเทา่ ใบเสมา (เส - มา) แลว้ เทคนคิ วธิ กี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือขบั เคลอื่ นจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคล่อง 99

การประเมนิ ผลงาน หนังสือ Big Book การประเมินการจัดทำหนงั สือ ประเด็น 4 ระดับคะแนน 1 น้ำหนัก คะแนน การประเมิน 3 2 รวม 1. การนำ นา่ สนใจ เนอื้ หา น่าสนใจ เน้ือหา เนือ้ หาสอดคล้อง ไมน่ า่ สนใจ 5 20 เสนอเนอื้ หา สอดคล้องกับ สอดคล้องกับ กับเรื่อง แตไ่ ม่ แต่อา่ นแล้ว 3 12 2 8 เรอื่ ง สะท้อนให้ เรื่อง แต่ขาด แสดงแนวคิดใดๆ พอเป็นเรือ่ งราว 40 เห็นแนวคิด การสะทอ้ น เชงิ สรา้ งสรรค ์ ให้ไดข้ อ้ คดิ 2. การใช้ ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง ใช้ภาษาถกู ต้อง ใชภ้ าษาบางตอน ใชภ้ าษา ภาษา กบั เรือ่ งทแ่ี สดง กับเร่ือง ไม่สอดคล้องกบั ไมส่ อดคล้อง ถงึ ความสามารถ เปน็ ภาษา เร่ือง ขาดความ ในการใช้ภาษา ทไี่ ม่โดดเดน่ สามารถในการ ใชภ้ าษา 3. ภาพ ภาพสอดคล้อง ภาพสอดคล้อง ภาพบางตอน ภาษายงั ไมถ่ กู ตอ้ ง ประกอบ กบั เรอื่ ง และภาษา กบั เรอื่ ง และภาษา ยังขาดความ ขาดการเชอื่ มโยง ใหร้ ายละเอียด แตข่ าดรายละเอยี ด สอดคลอ้ งกบั เรอ่ื ง และสอื่ ความหมาย ทีด่ ี ไปบ้าง และภาษาไมม่ ี ไมช่ ดั เจน รายละเอยี ด คะแนนรวม เกณฑ์การตดั สิน 33-40 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 25-32 หมายถึง ด ี คะแนน 17-24 หมายถึง พอใช ้ คะแนน 10-16 หมายถงึ ปรับปรงุ คะแนน เกณฑก์ ารผ่าน ได้ตัง้ แตร่ ะดับดีข้นึ ไป เทคนิค วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พือ่ ขบั เคลอ่ื นจดุ เน้นการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น 100 ดา้ นอา่ นออก อ่านคล่อง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง

เทคนคิ วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรียนร ู้ โดยการศกึ ษาด้วยตนเอง (Self-study Method) 1. แนวคดิ /ทฤษฎี การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการศึกษาด้วยตนเอง (Self - study Method) เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ท่ีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้า ดว้ ยตนเอง ไดแ้ ก่ การศกึ ษาจากหนังสือ ส่อื วีดิทัศน์ และการศกึ ษานอกสถานท่ี เพ่อื ใหน้ ักเรยี นเกิดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองภายใตก้ ารดแู ลและการแนะนำของครู สำหรบั กจิ กรรมทจี่ ะนำเสนอตอ่ ไปนเี้ ปน็ การใหน้ กั เรยี นศกึ ษาดว้ ยตนเอง จากบทเรียนสำเร็จรูป 2. วตั ถปุ ระสงค์/เป้าหมายท่ีม่งุ ใหเ้ กิดกบั ผูเ้ รียน 2.1 เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกความหมายของคำสมั ผสั คลอ้ งจองได ้ 2.2 เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถบอกลักษณะของคำสัมผัสสระและสัมผัส อกั ษรได ้ 2.3 เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนสามารถแต่งบทร้อยกรองได ้ 3. ความสอดคล้อง/ความเชื่อมโยง 3.1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 3.2 สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย เทคนิค วธิ กี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พอื่ ขับเคล่ือนจดุ เนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคล่อง 101

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและ หลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ป.6/5 แตง่ บทรอ้ ยกรอง 4. กระบวนการท่ีใชใ้ นการพัฒนาผเู้ รยี น 4.1 กิจกรรมการเรยี นร ู้ 1) แบง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 - 5 คน โดยคละความสามารถ ของผเู้ รียน (เก่ง ปานกลาง ออ่ น) ให้ท่องบทอาขยาน 2) ครูและนกั เรียนสนทนาถงึ ส่งิ ทีไ่ ด้รับจากบทอาขยาน 3) ให้นกั เรียนเรียนรู้จากบทเรยี นสำเรจ็ รูป โดยก่อนเรยี นแนะนำ ใหร้ จู้ ักบทเรยี นสำเรจ็ รูป ดงั น้ ี 3.1) เริ่มปฏิบัติตั้งแต่กรอบแรกเรียงไปตามลำดับ โดยไม่ข้าม กรอบใดกรอบหนง่ึ 3.2) อ่านคำอธิบายและคำถามช้าๆ ให้เข้าใจ แล้วจึงเขียน คำตอบลงในกระดาษเปล่า อยา่ ขีดเขียนลงในบทเรยี นสำเร็จรปู น ี้ 3.3) เมื่อตอบคำถามเสร็จกรอบหนึ่ง แล้วจึงเปิดไปดูคำตอบ ในกรอบต่อไป เพอ่ื ตรวจคำตอบวา่ ตอบถกู หรือไม่ ถ้าตอบถกู กใ็ ห้ทำกรอบตอ่ ไป 3.4) ถ้าคำตอบผิด ให้ย้อนอ่านข้อความในกรอบที่ผ่านมา ให้เข้าใจ แล้วตอบคำถาม เทคนิค วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื ขับเคลื่อนจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น 102 ดา้ นอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคล่อง

3.5) ทำไปเรอ่ื ยๆ อยา่ งเขา้ ใจ ไมต่ อ้ งรบี รอ้ น ถา้ รสู้ กึ ลา้ กใ็ หพ้ กั สักครู่แล้วมาทำใหม ่ 3.6) เม่ือทำจบทุกกรอบแล้ว ให้ทำแบบทดสอบหลังเรียน เสร็จแล้วตรวจคำตอบ เพ่ือดผู ลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 3.7) ตอ้ งมคี วามซอื่ สัตย์ตอ่ ตนเอง ไม่เปิดดคู ำตอบก่อน 4) เรมิ่ ปฏบิ ัติศกึ ษาดว้ ยตนเองจากบทเรยี นสำเรจ็ รูป (กรอบที่ 1 และกรอบที่ 10) 5) ร่วมกันอ่านออกเสียงบทเรียนสำเร็จรูป เร่ือง วัวขาดสามัคคี แล้วร่วมกันสรุปใจความสำคัญในแต่ละกรอบของนิทาน และร่วมกันอ่านความร้ ู เรอ่ื ง คำสมั ผัสคล้องจอง จากใบความรู้ 6) ใหจ้ บั คูร่ ว่ มกนั สรุปลักษณะคำสมั ผสั คลอ้ งจอง 7) ใหแ้ ตง่ กลอนส่ี เร่อื ง ตวั ฉัน อยา่ งนอ้ ย 2 บท เปน็ รายบุคคล 8) ใหันักเรียนอาสาสมัครนำเสนอผลงาน 2 ผลงาน โดยอ่าน ให้เพือ่ นฟงั 9) ร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติม ด้านฉันทลักษณ์ อักขรวธิ ี ความคดิ /เนอื้ หา กวโี วหาร เพอื่ ให้บทประพนั ธ์มีความสมบูรณม์ ากขนึ้ 10) ร่วมกันสรุปประมวลความรู้ เร่ือง คำสัมผัสคล้องจอง เพื่อ สร้างความตระหนักว่าภาษาไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ควรช่วยกัน อนุรกั ษ์สบื ไป เทคนิค วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื ขับเคล่ือนจุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ดา้ นอา่ นออก อ่านคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง 103

4.2 สอ่ื ประกอบการเรียนร ู้ 1) ใบความรู้ เรือ่ ง คำสัมผัสคลอ้ งจอง 2) ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง จบั คคู่ ำสัมผัส 3) ใบกิจกรรมท่ี 2 เร่ือง คำสมั ผสั บทร้อยกรอง 4) ใบกจิ กรรมที่ 3 เรือ่ ง ทบทวนคำสมั ผสั คลอ้ งจอง 5) ใบกจิ กรรมท่ี 4 เร่อื ง การแตง่ กลอนส่ี เรือ่ ง ตัวฉนั 6) แบบบันทึกการประเมนิ ผลงานการแตง่ กลอนส่ ี 4.3 การวดั และประเมินผล 1) สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน 2) ตรวจผลงานชนิ้ งานนกั เรียน 5. จดุ เด่น (จดุ เดน่ ของเทคนิค/วิธที นี่ ำมาใช้) 5.1 ผเู้ รยี นไดร้ บั การพฒั นาความงอกงามทางสตปิ ญั ญา 5.2 สง่ เสรมิ นสิ ยั ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การตดั สนิ ใจ และการเลอื กวธิ ี แกป้ ัญหา 5.3 ผู้เรียนมีนิสัยรักการค้นคว้า รับผิดชอบตนเองได้ และมุ่งเน้น เรยี นร้ดู ้วยตนเอง เทคนิค วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื ขบั เคลอื่ นจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น 104 ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง

6. ผลทเ่ี กิดกับผูเ้ รียน (ความรู้ สมรรถนะ คณุ ลักษณะ) 6.1 ความรู้ : ผู้เรียนรู้ลักษณะของคำสัมผัสคล้องจอง ทั้งสระและ พยญั ชนะ และนำไปแตง่ บทรอ้ ยกรอง 6.2 สมรรถนะ : ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การประเมนิ คา่ และการสอ่ื สาร 6.3 คุณลักษณะ : ผู้เรียนรักและภูมิใจในความเป็นไทย มีความ รบั ผิดชอบ ซื่อสัตย์ แหล่งที่มาของขอ้ มูล โรงเรยี นพิพัฒน์ราษฎร์บำรุง 1. นางสริ ินาฎ บาลลา สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา ประถมศกึ ษากาฬสนิ ธุ์ เขต 1 โรงเรยี นอนบุ าลศิลาลาด 2 นางพิณยา ทองขอน สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา ประถมศกึ ษาศรีสะเกษ เขต 2 โรงเรยี นวดั อ่างทอง 3. นางเครือรตั น์ ฤทธเิ ดช สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา ประถมศกึ ษาสงขลา เขต 1 เทคนคิ วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พื่อขบั เคลื่อนจดุ เนน้ การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง 105



ภาคผนวก ❖ ใบความรู้ เรื่อง คำสัมผสั คล้องจอง ❖ ใบกจิ กรรมที่ 1 เรือ่ ง จับคคู่ ำสัมผสั ❖ ใบกจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื ง คำสมั ผสั บทรอ้ ยกรอง ❖ ใบกจิ กรรมท่ี 3 เรือ่ ง ทบทวนคำสัมผสั คล้องจอง ❖ ใบกจิ กรรมท่ี 4 เรือ่ ง การแต่งกลอนส่ี เร่อื ง ตวั ฉนั ❖ ตวั อยา่ งบทเรยี นสำเรจ็ รปู กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชดุ เขา้ ใจเสยี งสมั ผสั ฝกึ หดั เขยี นคำคลอ้ งจองจากนทิ าน ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เรอ่ื ง ววั ขาดสามคั ค ี ❖ แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผลงานการแตง่ กลอนสี่ เทคนิค วธิ กี ารจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่ือขับเคลือ่ นจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี น ด้านอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคล่อง 107



ใบความร ู้ เร่อื ง คำสัมผสั คลอ้ งจอง ให้นกั เรยี นศึกษา เรื่อง คำสมั ผสั คลอ้ งจอง ใหเ้ ขา้ ใจ ถา้ สงสยั ใหถ้ ามเพอ่ื นๆ หรอื คณุ ครนู ะคะ คำสมั ผสั หมายถงึ สมั ผสั คอื ลกั ษณะทบี่ งั คบั ใหใ้ ชค้ ำคลอ้ งจองกนั ซึ่งเป็นลักษณะบังคับท่ีสำคัญที่สุดในร้อยกรองทุกประเภท คำท่ี คล้องจองกัน อาจจะหมายถึงคำท่ีใช้สระและมาตราสะกดอย่างเดียวกัน หรือคำท่ีใช้พยัญชนะต้นเสียงเดียวกันก็ได้ นอกจากน้ีสัมผัสในร้อยกรอง ซึ่งมีท้ังบังคับและไม่บังคับอีกด้วย ดังนั้นจึงควรทราบว่า สัมผัสมีอยู่ 4 อยา่ ง คอื 1. สมั ผัสสระ คือ คำท่ีมเี สียงสระคลอ้ งจองเปน็ เสยี งเดยี วกัน เช่น ตวั อย่างคำทีส่ ัมผสั สระ คน - หน รกั - พกั ตร์ จาน - พาน ขยนั อย่าหฉลนั กี แ บ่ง ใหเ้ ธอ อย่าเผลอทำอกี สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั เทคนิค วิธีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พื่อขับเคลอื่ นจดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ดา้ นอ่านออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคล่อง 109

2. สัมผัสพยัญชนะหรือสัมผัสอักษร คือ คำท่ีใช้พยัญชนะต้นเสียง เดียวกัน อาจเป็นคำท่ีข้ึนต้นด้วยอักษรตัวเดียวกัน หรือพยัญชนะที่มี เสียงสูง - ตำ่ เขา้ คกู่ ันหรอื เป็นพยัญชนะควบกล้ำชดุ เดียวกนั 3. สระ ตัวสะกด หรือเสียงวรรณยุกตต์ ่างกันก็ได้ เชน่ ตวั อย่างคำ ท่สี มั ผสั พยัญชนะ ปลา - ปลวก เรอื่ ง - เรยี น ไกล - เกลอื่ น นม่ิ - เนอื้ หลอน - หลอ สมั ผัสใน คือ สัมผสั ท่คี ลอ้ งจองกันอยภู่ ายในวรรคเดียวกัน ไมเ่ ป็น สัมผัสบังคับ และจะใช้สัมผัสสระหรือสัมผัสพยัญชนะก็ได้ แล้วแต ่ ความเหมาะสม ไม่มีกฎเกณฑ์จำกัดว่าจะต้องมีตำแหน่งแน่นอนเหมือน สัมผัสนอก แต่กม็ คี วามสำคัญทช่ี ่วยใหร้ อ้ ยกรองมคี วามไพเราะมากยิ่งขนึ้ ดงั ตวั อย่างต่อไปนี้ ตัวอย่างการใชส้ มั ผัสในในกลอนส ี่ ดดี เลน่ กตี า้ ร์ ปญั ญามดน้อย สว่ นเจา้ จิง้ หรีด หัวเราะเรงิ รา่ ที่มา : สิรนิ าฎ บาลลา เทคนิค วธิ กี ารจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พอ่ื ขบั เคล่อื นจดุ เนน้ การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น 110 ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง

4. สัมผัสนอก คือ สัมผัสท่ีส่งและรับสัมผัสกันระหว่างวรรค คือ ส่งจากคำสุดท้ายของวรรคหน้าไปยังคำใดคำหน่ึงในวรรคต่อๆ ไป สัมผัสนอกนี้เป็นสัมผัสบังคับในร้อยกรองทุกประเภท จะไม่มีไม่ได้ และ กำหนดใหใ้ ช้สัมผสั สระเท่านั้น ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี ตวั อยา่ งการใช้สัมผสั นอกในกลอนส ี่ ฉันแบ่งให้เธอ อยา่ เผลอทำอีก ขย นั อยา่ หลีก สรา้ งภมู คิ ุม้ กัน นทิ านเรือ่ งน ้ี ช้ีใหร้ ู้ทนั ประหยัดขยัน นนั้ เปน็ ส่ิงด ี เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พอื่ ขับเคลื่อนจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ด้านอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง 111

รอ้ ยกรองส่ีคำ (กลอนส่)ี ร้อยกรองสี่คำในท่ีน้ี คือ ร้อยกรองท่ีอนุโลมคณะวรรค และ บทแบบกลอน คอื บทหน่ึงมี 4 วรรค ดงั แผนผงั ฉันทลกั ษณ์กลอนส ่ี วรรคที่ 1 วรรคที่ 2 วรรคที่ 3 วรรคท่ี 4 ฉันทลักษณ์ หมายถึง ตำราว่าดว้ ยคำประพนั ธ์ 1 บท มี 4 วรรค แตล่ ะวรรค มี 4 คำ เทคนิค วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือขับเคล่อื นจดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน 112 ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคล่อง

ใบกิจกรรมที่ 1 เร่อื ง จับคู่คำสมั ผสั ชอื่ ......................สกุล...................เลขท่ี..........ช้นั ............โรงเรยี น................... ให้นำคำในกรอบ ก. ไปเตมิ ลงในช่องวา่ ง ให้สมั ผสั คลอ้ งจอง ดใี จ กบั คำทีก่ ำหนดให้ ทนไหว กรอบ ก เลอื กคำจบั คู่คำสัมผัส ฉำ่ ใจ วง่ิ ชน ฟังชัด ฟา้ สาง ทงุ่ หญา้ ....... เสยี งดัง ....... ร้อนรน ....... วันน้ ี ....... ไมน่ ิง่ ....... ตอนคำ่ ....... เทคนคิ วิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พื่อขับเคลอื่ นจดุ เนน้ การพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน ด้านอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง 113

ใบกจิ กรรมที่ 2 เร่อื ง คำสัมผัสบทรอ้ ยกรอง ชอ่ื ......................สกุล...................เลขท.ี่ .........ชน้ั ............โรงเรียน................... เลือกคำเติมสัมผสั บทรอ้ ยกรอง และวาดภาพประกอบ เรื่อง ววั ขาดสามคั คี ตอน ก เลอื กคำในกรอบ เติมลงในบทร้อยกรอง เพื่อให้สัมผสั คลอ้ งจอง พร้อมโยงสมั ผสั ไมเ้ ถา เงา ให ้ ชงโคตน้ ใหญ่ ปลูก.........รม่ ......... พวงแสด......... พนั เสารั้วงาม เทคนคิ วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่อื ขับเคล่ือนจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น 114 ดา้ นอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง

ตอน ข ให้วาดภาพระบายสี ประกอบบทร้อยกรองตามจินตนาการ ของตนเอง เกณฑ์การประเมินตอน ก เกณฑก์ ารประเมนิ ตอน ข (คะแนนเต็ม 3 คะแนน) (คะแนนเต็ม 2 คะแนน) เติมถูกต้อง 1 ช่อง ได้ 1 คะแนน วาดส่วนประกอบได้น้อยกว่า 2 อยา่ ง ได้ 1 คะแนน วาดส่วนประกอบได้มากกว่า 2 อยา่ ง ได้ 2 คะแนน เทคนิค วิธีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื ขับเคลอ่ื นจุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รยี น ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคล่อง 115

ใบกจิ กรรมท่ี 3 เร่ือง ทบทวนคำสัมผัสคลอ้ งจอง นำคำที่กำหนดให้ เตมิ ลงในชอ่ งว่างให้ถกู ต้อง เตมิ ถกู 1 ช่อง ได้ 1 คะแนน (5 คะแนน) (แน่ แขง่ ตา ท้า เธอ) ฉันวา่ พวก.....1. สามเกลอเธอ.....2. ดำนำ้ ตาลแก่ แพ้ในไมช่ า้ พอถึงวนั .....3. วัวแดงขอ.....4. สู้ให้ยิบ.....5. ใครเก่งสพู้ ลนั ช่อื ........................สกลุ ..................เลขที่..........ช้นั .........โรงเรียน...................... เทคนคิ วิธกี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพือ่ ขับเคล่อื นจุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน 116 ด้านอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง

ใบกิจกรรมท่ี 4 เรอ่ื ง การแตง่ กลอนสี่ เรอ่ื ง ตวั ฉัน ให้นักเรียนแตง่ กลอนส่ี เรอ่ื ง ตัวฉนั อย่างนอ้ ย 2 บท ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ชอ่ื .........................สกลุ ..................เลขที.่ .........ชนั้ .........โรงเรียน.................... เทคนคิ วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พอ่ื ขบั เคล่อื นจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ดา้ นอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคล่อง 117



ตวั อยา่ ง บทเรยี นสำเรจ็ รปู กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชดุ เขา้ ใจเสยี งสัมผสั ฝึกหดั เขียนคำคลอ้ งจองจากนิทาน ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 เร่ือง ววั ขาดสามคั ค ี เทคนคิ วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรูเ้ พ่อื ขบั เคล่อื นจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน ด้านอา่ นออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง 119

กรอบท่ี 1 คร้ังหน่ึงสิงโต วางโกใ้ จร้าย ในใจนน้ั หมาย จะกนิ เจา้ วัว เทคนิค วิธกี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่อื ขบั เคลือ่ นจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 120 ดา้ นอ่านออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง

กรอบท่ี 1 จับคู่คำสัมผสั คลอ้ งจองช่องท่ี 1 ให้สอดคล้องกบั การสะกดประสมคำ ของชอ่ งที่ 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งท่ี 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งที่ 1 ให้ถกู ตอ้ ง ชอ่ งท่ี 1 ช่องท่ี 2 ………1. โต - โก้ ก. ไม่ใช่คำคลอ้ งจองเพราะไมใ่ ช่สระและ ตัวสะกดเดยี วกนั ………2. รา้ ย - หมาย ข. ประสมดว้ ยสระโอ ตวั สะกดแม่ ก กา ………3. โต - ใจ ค. ประสมด้วยสระอา และตวั สะกดแม่ เกย เฉลยกรอบท่ี 1 1. ข 2. ค 3. ก เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพอื่ ขับเคลือ่ นจุดเนน้ การพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ดา้ นอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคล่อง 121

ก รอบที่ 2 แตย่ ังไม่เหมาะ เพราะมนั ยังกลวั เจา้ ววั สามตัว รักสามัคค ี เทคนิค วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พ่อื ขบั เคลื่อนจดุ เน้นการพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียน 122 ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง

กรอบท่ี 2 จับค่คู ำสมั ผสั คล้องจองช่องที่ 1 ให้สอดคล้องกับการสะกดประสมคำ ของชอ่ งท่ี 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งที่ 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งที่ 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ช่องท่ี 1 ชอ่ งที่ 2 ………1. เหมาะ - เพราะ ก. ไม่ใช่คำคล้องจองเพราะไม่ใชต่ ัวสะกด ………2. กลัว - ตัว เดยี วกัน ………3. มนั - ยัง ข. ประสมดว้ ยสระเอาะ ตัวสะกดแม่ ก กา ค. ประสมดว้ ยสระอวั และตัวสะกดแม่ ก กา เฉลยกรอบที่ 2 1. ข 2. ค 3. ก เทคนิค วิธีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื ขับเคลอ่ื นจุดเนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ด้านอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง 123

ก รอบท่ี 3 จงึ คดิ อุบาย สลายครัง้ นี้ กลมเกลียวไมม่ ี เรานส้ี บาย เทคนคิ วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรียนร้เู พื่อขับเคลอ่ื นจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น 124 ดา้ นอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคล่อง

กรอบที่ 3 จบั คคู่ ำสมั ผสั คลอ้ งจองชอ่ งที่ 1 ใหส้ อดคล้องกับการสะกดประสมคำ ของชอ่ งท่ี 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งที่ 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งที่ 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ช่องที่ 1 ช่องท่ี 2 ………1. บาย - สลาย ก. ไม่ใชค่ ำคลอ้ งจองเพราะไม่ใชส่ ระและ ………2. คร้ัง - นี ้ ………3. นี้ - มี ตวั สะกดเดยี วกนั ข. ประสมด้วยสระอี ตวั สะกดแม่ ก กา ค. ประสมดว้ ยสระอา และตวั สะกดแม่ เกย เฉลยกรอบท่ี 3 1. ค 2. ก 3. ข เทคนิค วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื ขับเคล่อื นจดุ เน้นการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขยี นได้ เขยี นคล่อง 125

ก รอบท่ี 4 เรมิ่ กลวิธ ี เปดิ ชอ้ี บุ าย พดู สง่ิ เลวร้าย ใหว้ ัวแดงฟงั เทคนิค วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพื่อขับเคลอ่ื นจุดเนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน 126 ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง

กรอบท่ี 4 จับคคู่ ำสัมผัสคลอ้ งจองช่องที่ 1 ใหส้ อดคลอ้ งกับการสะกดประสมคำ ของชอ่ งท่ี 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งที่ 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งท่ี 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ช่องที่ 1 ช่องท่ี 2 ………1. วิธี - ช ี้ ก. ไม่ใชค่ ำคลอ้ งจอง ………2. อบุ าย - ร้าย ข. ประสมด้วยสระอี ตวั สะกดแม่ ก กา ………3. เร่มิ - เปดิ ค. ประสมดว้ ยสระอา และตวั สะกดแม่ เกย เฉลยกรอบท่ี 4 1. ข 2. ค 3. ก เทคนคิ วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พื่อขบั เคล่ือนจดุ เน้นการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ด้านอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง 127

ก รอบที่ 5 ววั ดำน้ำตาล พาลเจ้าคิดชงั พดู ไมห่ ยดุ ยั้ง ว่าเจ้าอ่อนแอ เทคนคิ วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพ่ือขบั เคล่ือนจุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น 128 ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคล่อง

กรอบท่ี 5 จบั คูค่ ำสมั ผสั คลอ้ งจองชอ่ งท่ี 1 ให้สอดคลอ้ งกับการสะกดประสมคำ ของชอ่ งที่ 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งที่ 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งที่ 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ชอ่ งท่ี 1 ช่องท่ี 2 ………1. ตาล - พาล ก. ไมใ่ ช่คำคลอ้ งจองเพราะไม่ใชส่ ระและ ………2. ชัง - ย้งั ………3. หยดุ - ย้ัง ตัวสะกดเดียวกัน ข. ประสมดว้ ยสระอะ ตวั สะกดแม่ กง ค. ประสมดว้ ยสระอา และตัวสะกดแม่ กน เฉลยกรอบท่ี 5 1. ค 2. ข 3. ก เทคนคิ วิธกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู พื่อขบั เคลอ่ื นจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียน ดา้ นอ่านออก อา่ นคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง 129

ก รอบท่ี 6 ฉนั วา่ พวกเธอ สามเกลอเธอแน ่ ดำน้ำตาลแก ่ แพ้ในไม่ช้า เทคนิค วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นร้เู พือ่ ขบั เคล่ือนจดุ เน้นการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น 130 ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคล่อง

กรอบท่ี 6 จับคู่คำสัมผสั คล้องจองชอ่ งที่ 1 ใหส้ อดคล้องกบั การสะกดประสมคำ ของชอ่ งที่ 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งที่ 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งท่ี 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ชอ่ งท่ี 1 ชอ่ งที่ 2 ………1. เธอ - เกลอ ก. ไม่ใชค่ ำสมั ผสั ระหวา่ งวรรค ………2. แน่ - แก่ - แพ ้ ข. ประสมดว้ ยสระเออ ตวั สะกดแม่ ก กา ………3. แน่ - แพ้ ค. เป็นคำสมั ผสั ระหวา่ งวรรค เฉลยกรอบที่ 6 1. ข 2. ค 3. ก เทคนคิ วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื ขบั เคล่อื นจุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ด้านอา่ นออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง 131

ก รอบที่ 7 พอถงึ วนั แข่ง วัวแดงขอทา้ สูใ้ หย้ ิบตา ใครเก่งสู้พลัน เทคนคิ วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือขับเคลอ่ื นจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน 132 ดา้ นอา่ นออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง

กรอบท่ี 7 จบั ค่คู ำสมั ผัสคลอ้ งจองชอ่ งท่ี 1 ให้สอดคลอ้ งกบั การสะกดประสมคำ ของชอ่ งท่ี 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งท่ี 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งที่ 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ชอ่ งที่ 1 ช่องที่ 2 ………1. แขง่ - แดง ก. ไมใ่ ชค่ ำสัมผัสระหว่างวรรค ………2. ท้า - ตา ข. ประสมด้วยสระอา ตัวสะกดแม่ ก กา ………3. ตา - เก่ง ค. ประสมด้วยสระแอ และตวั สะกดแม่ กง เฉลยกรอบที่ 7 1. ค 2. ข 3. ก เทคนคิ วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรูเ้ พ่อื ขับเคลอื่ นจุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ดา้ นอ่านออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคล่อง 133

ก รอบท่ี 8 ทง้ั สามอ่อนแรง แข้งขาหักกนั สิงโตรบี พลัน ใชฟ้ นั กัดคอ เทคนิค วธิ ีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื ขับเคล่ือนจดุ เน้นการพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียน 134 ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง

กรอบที่ 8 จบั คูค่ ำสมั ผัสคลอ้ งจองช่องท่ี 1 ให้สอดคลอ้ งกับการสะกดประสมคำ ของชอ่ งที่ 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งที่ 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งที่ 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ช่องที่ 1 ชอ่ งท่ี 2 ………1. แรง - แขง้ ก. ท้งั 3 คำ เป็นคำสัมผัสระหว่างวรรค ………2. กัน - พลนั ข. ประสมด้วยสระแอ ตวั สะกดแม่ กง ………3. กนั - พลนั - ฟนั ค. ประสมด้วยสระอะ และตวั สะกดแม่ กน เฉลยกรอบท่ี 8 1. ข 2. ค 3. ก เทคนิค วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรียนร้เู พ่ือขบั เคล่ือนจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น ดา้ นอา่ นออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง 135

ก รอบที่ 9 ตายหมดทง้ั สาม ตามเชื่อสอพลอ สงิ โตพดู ลอ้ แตกคอสามัคคี เทคนคิ วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพอื่ ขับเคล่ือนจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี น 136 ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขยี นคล่อง

กรอบที่ 9 จบั คูค่ ำสมั ผสั คลอ้ งจองชอ่ งที่ 1 ให้สอดคลอ้ งกับการสะกดประสมคำ ของชอ่ งที่ 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งที่ 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งที่ 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ช่องท่ี 1 ชอ่ งท่ี 2 ………1. สาม - ตาม ก. ประสมดว้ ยสระออ ตัวสะกดแม่ ก กา ………2. พลอ - ลอ้ ข. ท้ัง 2 คำ เป็นคำสัมผสั ระหว่างวรรค ………3. พลอ - ลอ้ - คอ ค. ประสมดว้ ยสระอา และตัวสะกดแม่ กม เฉลยกรอบที่ 9 1. ค 2. ก 3. ข เทคนิค วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อขบั เคลอ่ื นจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี น ด้านอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง 137

ก รอบท่ี 10 นิทานเร่ืองน้ี ชี้ให้เหน็ ท่ ี คณุ คา่ สามคั คี พาหนเี ภทภยั เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พือ่ ขบั เคลอื่ นจดุ เนน้ การพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น 138 ดา้ นอา่ นออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง

กรอบที่ 10 จบั คคู่ ำสมั ผสั คลอ้ งจองชอ่ งท่ี 1 ใหส้ อดคลอ้ งกบั การสะกดประสมคำ ของชอ่ งที่ 2 โดยนำตวั อกั ษรจากชอ่ งท่ี 2 มาวางไวห้ นา้ ขอ้ ของชอ่ งท่ี 1 ใหถ้ กู ตอ้ ง ช่องท่ี 1 ช่องท่ี 2 ………1. นี้ - ช ้ี ก. ไม่ใชค่ ำสัมผัสระหว่างวรรค ………2. ชี้ - ท ี่ ข. ประสมด้วยสระอี ตวั สะกดแม่ ก กา ………3. ที่ - คี - หน ี ค. ทง้ั 3 คำ เปน็ คำสมั ผัสระหว่างวรรค เฉลยกรอบที่ 10 1. ข 2. ก 3. ค เทคนคิ วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพือ่ ขบั เคลอ่ื นจดุ เน้นการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง 139

แบบบนั ทกึ การประเมินผลงานการแต่งกลอนส ่ี คำชแี้ จง แบบประเมินนี้ใช้สำหรับการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน ในการรว่ มกจิ กรรมตา่ งๆ ของการแต่งกลอนสี่ รายการประเมนิ เลขที ่ การมี ่สวน ่รวมอ ิภปราย รวม ระดบั และแสดงความ ิคดเห็น คะแนน คณุ ภาพ (5) 15 ฉันทลักษณ์ ัอกขรวิ ีธ (3) ความ ิคด/เน้ือหา (น่าสนใจ แปลกใหม่) (3) กวีโวหาร (3) การนำเสนอผลงาน (3) ลงช่ือ...............................................................ผู้ประเมนิ วนั ท่ี……….เดือน…………………………….พ.ศ. ............... เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน 13-15 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 10-12 หมายถงึ ดี คะแนน 7-9 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 6-0 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ได้ต้ังแต่ระดบั พอใชข้ นึ้ ไป เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื ขับเคลื่อนจดุ เน้นการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียน 140 ด้านอา่ นออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง

เทคนคิ วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบรว่ มมอื (Instructional Models of Cooperative Learning) 1. แนวคดิ /ทฤษฎี การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือมุ่งส่งเสริมให้นักเรียนทำงาน รว่ มกนั มกี ารแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ มกี ารชว่ ยเหลอื พงึ่ พาซงึ่ กนั และกนั และมคี วาม รับผิดชอบร่วมกันทั้งในส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคน ในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ และชี้ให้เห็นว่าผู้เรียนควร ร่วมมือกันในการเรียนรู้มากกว่าการแข่งขัน เพราะการแข่งขันกันก่อให้เกิด สภาพการณ์ของการแพ้ - ชนะ ตา่ งจากการรว่ มมือกนั ซ่งึ กอ่ ใหเ้ กดิ สภาพการณ์ ของการชนะ - ชนะ อันเป็นสภาพการณ์ท่ีดีกว่าท้ังทางด้านจิตใจและสติปัญญา หลกั การเรยี นรู้แบบร่วมมือ มี 5 ประการ ประกอบดว้ ย 1. การเรยี นรตู้ อ้ งอาศยั หลกั การพง่ึ พากนั (Positive Interdependence) โดยถือว่าทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน และจะต้องพึ่งพากันเพ่ือความสำเร็จ ร่วมกนั 2. การเรียนรู้ท่ีดีต้องอาศัยการหันหน้าเข้าหากัน มีปฏิสัมพันธ์กัน (Face - to - Face Interaction) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อมูล และ การเรียนรูต้ า่ งๆ เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพื่อขบั เคลื่อนจุดเนน้ การพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 141