งานนำเสนอการจัดกิจกรรมทางศิลปะระดับการศ

https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



https://www.parentsone.com/



พฒั นาการทางภาษา ข ข ข ข ข

การอ่าน ขนั้ 1 การอ่านขนั้ แรกเริ่ม เดก็ จะดหู นังสือเรอ่ื งท่ีชอบพดู ข้อความหนังสือด้วยภาษาของ ขนั ้ 2 ตน ทาท่าทางเหมือนอ่านหนังสือโดยไม่สนใจข้อความ การอ่านขนั้ แรกเริ่มในระยะก้าวหน้า เดก็ จะกวาดตามองข้อความตามบรรทดั ดขู ้อความที่มีตวั หนังสือตวั ขนั ้ 3 ใหญ่ ตรวจสอบความถกู ต้องโดยการเดาจากประสบการณ์เดิม การอ่านในระยะที่กาลงั จะก้าวไปส่กู ารอ่านขนั้ ต้น เดก็ จะรจู้ กั คาท่ีอยใู่ นชีวิตประจาวนั เมื่อเหน็ คานัน้ ในบริบทหรอื ขนั ้ 4 ส่ิงแวดล้อม ร้จู กั การคาดเดาคาใหม่โดยดรู ปู ประโยคและความหมาย การอ่านขนั้ ต้น เดก็ จะชี้หรือกวาดตามองจดุ เริ่มต้นและจดุ จบของบางคา ใช้เสียง ขนั ้ 5 พยญั ชนะต้นที่รจู้ กั ในการคาดเดา การอ่านขนั้ ต้นในระยะก้าวหน้า เดก็ คาดเดาจากสิ่งชี้แนะโดยดตู วั พยญั ชนะตวั แรกของคาประกอบกบั ความรเู้ ดิมเกี่ยวกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งรปู ตวั อกั ษรกบั เสียงตวั อกั ษร

พฒั นาการทางภาษา ขน เด

การเขยี น นั้ ที่1 วาดแทนเขียน ดก็ จะสื่อความคิดโดยใช้การวาดภาพแทนการเขียน

พฒั นาการทางภาษา ขน เด เข เข ขีด มา

การเขยี น นั้ ที่2 ขีดเขี่ยแทนเขียน ดก็ พยายามท่ีจะเขียนตวั หนังสือแบบผใู้ หญ่ แต่การ ขียนของเดก็ คือการขีดเขียน ในระยะแรกเดก็ อาจขีด ข่ียไปทวั ่ หน้ากระดาษอย่างไม่มีระบบ ต่อมาเดก็ จะร้จู กั ดเขี่ยจากซ้ายไปขวา ส่ิงท่ีขีดเขี่ยดคู ล้ายตวั หนังสือ ากกว่าภาพ

พฒั นาการทางภาษา ขนั้ เด ตว

การเขยี น นที่3 เขียนโดยการทาเครื่องหมายคล้ายคลึงกบั ตวั หนังสือ ดก็ พยายามเขียนตวั หนังสือบางตวั คล้ายตวั อกั ษร บาง วั ไม่คล้าย แต่เป็นรปู ร่างที่เดก็ คิดขึน้ เอง

พฒั นาการทางภาษา ขน เด หร

การเขยี น นั้ ท่ี4 เขียนตวั อกั ษรท่ีร้จู กั ด้วยวิธีที่คิดขึ้นเอง ดก็ อาจเขียนคาที่เขียนได้แล้วด้วยการสลบั ท่ีตวั อกั ษร รือเขียนตวั อกั ษรกลบั

พฒั นาการทางภาษา ขน เด ผใู้ บา คด

การเขยี น นั้ ที่5 คดั ลอกตวั อกั ษร ดก็ อาจคดั ลอกตวั อกั ษรท่ีเหน็ อย่รู อบตวั หรอื บอกให้ ใหญ่ช่วยเขียนข้อความที่ต้องการแล้วนาไปคดั ลอก างครงั้ อาจเป็นการคดั ลอกหมดทกุ ตวั บางครงั้ เป็นการ ดั ลอกเฉพาะคาท่ีต้องการไปผสมกบั คาที่เขียนได้แล้ว

พฒั นาการทางภาษา ขน เด ไม วิธ แบ

การเขยี น นั้ ท่ี6 เขียนโดยคิดวิธีสะกดขึ้นเอง ดก็ เร่ิมตระหนักว่าตวั อกั ษรแต่ละตวั ม่ีเสียงเฉพาะเมอ่ื ม่ทราบวิธีสะกดแบบผใู้ หญ่ เดก็ จึงพยายามสะกดตาม ธีของตนเอง อาจเขียนเฉพาะพยญั ชนะต้นหรอื มีสระ บบที่เดก็ คิดขึน้

พฒั นาการทางภาษา ขนั้ ที่7 เ เด อา

การเขยี น เขียนสะกดคาได้ใกล้เคียงหรือเหมือนวิธีสะกดของผใู้ หญ่ ดก็ พยายามสะกดคาโดยการผสมพยญั ชนะและสระแต่ าจไม่ถกู ต้องเหมือนผใู้ หญ่

หลกั การ แนวคิด แล เพยี เจท์ หลกั การ 1.ขนั้ ประสาทสมั ผสั และการเคลื่อนไหว เดก็ เรียนร้คู าโดยเชื่อมโยงคากบั กิจกรรม 2.ขนั้ ความคิดก่อนเกิดปฏิบตั ิการ เดก็ ใช้สญั ลกั ษณ์แทนวตั ถหุ รือประสบการณ์ เช่นใช้บลอ็ กแ 3.ขนั้ ปฏิบตั ิการคิดแบบรปู ธรรม เดก็ คิดได้มากกวา่ 1 มมุ มอง สรา้ งประโยคและเข้าใจได้เมอ่ื 4.ขนั้ ปฏิบตั ิการคิดแบบนามธรรม เดก็ เข้าใจเหตผุ ลซึ่งเป็นนามธรรม จึงเข้าใจสญั ลกั ษณ์ทาง แนวคิด ภาษาท่ีเดก็ ใช้เป็นสิ่งท่ีแสดงให้เหน็ ระดบั พฒั นาการทางสติปัญญาของเดก็ ทฤษฎี สติปัญญาของมนุษยเ์ ป็นสิ่งท่ีติดตวั มาแต่เกิด และเป็นส่ิงท่ีเน่ืองมาจากประสบการณ์จากส่ิงแ ก่อให้เกิดพฒั นาการทางสติปัญญาคือ วฒุ ิภาวะ ประสบการณ์ การถ่ายทอดทางสงั คม

ละทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง แทนบา้ น ใช้เส้นขีดเข่ียแทนคา อตวั อกั ษรตวั เดียวกนั อย่ใู นท่ีต่างกนั งภาษาได้ดี แวดล้อม โดยองคป์ ระกอบที่

หลกั การ แนวคิด แล บรูเนอร์ หลกั การ ลาดบั ขนั้ พฒั นาการทางสติปัญญา 1.ขนั้ การกระทา อายแุ รกเกิดถึง 2 ปี เดก็ มีปฏิสมั พนั ธก์ บั สิ่งแวดล้อมโดยการสมั ผสั รวมทงั้ ก 2.ขนั้ การแสดงภาพแทนใจ อายุ 5-8 ปี เดก็ สรา้ งจินตนาการขึน้ ในใจและเขา้ ใจรปู ภาพท่ีใช้แท 3.ขนั้ การใช้สญั ลกั ษณ์ เดก็ ใช้สญั ลกั ษณ์ในการเรียนรู้ สามารถเขา้ ใจส่ิงที่เป็นนามธรรม สรา้ ง แนวคิด การเรียนรเู้ ป็นการเกบ็ เกี่ยวประสบการณ์รอบตวั เองและใช้ประสบการณ์เกบ็ รวบรวมไว้เป็นเ ทฤษฎี การเรียนรจู้ ะเกิดขึน้ เม่ือผ้เู รียนได้มีปฏิสมั พนั ธก์ บั สิ่งแวดล้อม ซ่ึงนาไปส่กู ารค้นพบและแก้ปัญ

ละทฤษฎีที่เก่ียวข้อง การท่ีเดก็ ใช้ปากกบั วตั ถสุ ่ิงของ ทนของจริงแม้ขนาดและสีเปล่ียนไป งและพิสจู น์สมมติฐานได้ เครอ่ื งมือ ญหา เรียกว่า การเรียนรโู้ ดยการค้นพบ

หลกั การ แนวคิด แล ไวกอ็ ตสกี้ หลกั การ ขนั้ ที่1 ภาษาสงั คม อายแุ รกเกิดถงึ 3ปี เดก็ ใช้ภาษาเพอ่ื แสดงความคิดและควบคมุ พฤติกรรมผ ขนั้ ท่ี2 ภาษาท่ีพดู กบั ตนเอง อายุ 3-7 ปี เดก็ ใช้ภาษาพดู กบั ตนเองไมจ่ าเป็นต้องเก่ียวกบั ใคร ม ขนั้ ท่ี3 ภาษาที่พดู ในใจเฉพาะตนเอง อาย7ุ ปี ขนึ้ ไป การคิดทกุ อย่างใช้ภาษาที่พดู ในใจ เป็นตวั แนวคิด ภาษาขึน้ อย่กู บั การท่ีเดก็ มีปฏิสมั พนั ธก์ บั ผ้คู นและวตั ถใุ นสภาพแวดล้อม ทฤษฎี การเรียนร้ตู ้องคานึงถึงระดบั พฒั นาการ2ระดบั คือ ระดบั พฒั นาการที่เป็นจริง และ ระดบั พฒั เรียกวา่ พืน้ ที่รอยต่อพฒั นาการ

ละทฤษฎีท่ีเกี่ยวข้อง ผ้อู ื่น โดยใช้คาพยางคเ์ ดียว เช่น ไม่ มกั จะออกเสียให้ผื่นได้ยินด้วย วแปรในการพฒั นาสติปัญญาขนั้ สงู ฒนาการท่ีจะเป็ นไปได้

หลกั การ แนวคิด แล กานเย หลกั การ ขนั้ 2 แจ้งจดุ ประสงค์ ขนั้ 1 สร้างความสนใจ ขนั้ 3 กระต้นุ ให้เดก็ ระลึกถึงความร้เู ดิมที่จาเป็น ขนั้ 4 เสนอบทเรียนใหม่ ขนั้ 5 ให้แนวทางการเรียนรู้ ขนั้ 6 ให้ลงมอื ปฏิบตั ิ ขนั้ 8 ประเมินพฤติกรรมการเรียนร ขนั้ 7 ให้ขอ้ มลู ป้อมกลบั ขนั้ 9 ส่งเสริมความแมนยาและการถ่ายโอนการเรียนรู้ แนวคิด ผสมผสานระหวา่ งพฤติกรรมนิยมกบั พทุ ธินิยม กล่าว การเรียนรภู้ าษา เกิดจากการเชื่อโยงภาษ ตอบสนอง ทฤษฎี 2.การเรียนรสู้ ิ่งเรา้ 3.การ 1.การเรียนร้สู ญั ญาณ 5.การเรียนรคู้ วามแตกต่าง 6.การ 4.การเชื่อมโยงทางภาษา 8. การเรียนร้กู ารแก้ปัญหา 7.การเรียนรกู้ ฎ

ละทฤษฎีที่เก่ียวข้อง รตู้ ามจดุ ประสงค์ ษาผา่ นกระบวนการสิ่งเร้าและ รเรียนร้กู ารเชื่อมโยงต่อเนื่อง รเรียนร้คู วามคิดรวบยอด

ภาษาแบบธรรมชาติ ( ความเป็ นมา การสอนภาษาธรรมชาติหรือการสอนภาษาโดยอ ภาษาเดก็ ตามธรรมชาติซ่ึงนามาแกป้ ัญหาการเรียนภาษาแบ “เดก็ เกิดมาพร้อมกบั ความสามารถท่ีจะเรียนร โดยผา่ นการ ฟัง พดู อา่ น เขียนโดยมีเดก็ เป็นศูน การฝึกใหเ้ ดก็ ท่องจาเป็นคาๆ

(Whole Language) องคร์ วมเป็นนวตั กรรมการศึกษาแนวคิดใหม่ในการสอน บบท่องจา โดยมีแนวคิดท่ีวา่ รู้ภาษาไดด้ ว้ ยตวั เองจากสิ่งแวดลอ้ มรอบตวั ” นยก์ ลางการเรียนรู้เนน้ ใหเ้ ดก็ ลงมือทาดว้ ยตนเองไม่ใช่