การสอนภาษาแบบธรรมชาติ การจดั ประสบการณ์การเรียนการสอนที่เนน้ ภาษาจากสิ่งต่างๆในชีวิตประจาวนั โดยการจดั สภาพ ไดใ้ ชภ้ าษาในการสื่อสารภาษาใหเ้ ดก็ พฒั นาทกั ษะท ๆ กนั
หมายถงึ นการสอนภาษาอยา่ งมีความหมายใหเ้ ดก็ ไดเ้ รียนรู้ พแวดลอ้ มที่เอ้ือต่อการเรียนภาษา เปิ ดโอกาสใหเ้ ดก็ ทางภาษาท้งั ในการ ฟัง พดู อ่าน และเขียน ไปพร้อม
ราเคล (Rachel Keidar) ไดก้ ล่าวถึงการจด เร่ืองการศึกษาปฐมวยั สร้างคน สร้างชาติ ไดอ้ ธิบายท เขียนไวค้ ือ การฟังและการพูดของเดก็ เมื่อเดก็ มีโอกาสไดย้ นิ เสียงแม่พดู แมว้ า่ ยงั พดู ไม่ได เดก็ จาเป็นตอ้ งไดย้ นิ ไดฟ้ ังภาษาพูดก่อนยงิ่ ไดฟ้ ังมากจะเขา้ ใจ ประโยคยาวๆทาใหเ้ ดก็ มีพฒั นาการดา้ นภาษาอยา่ งรวดเร็วยงิ่ พฒั นาการทางภาษาท่ีดีไดก้ ารสนทนาการซกั ถามเกี่ยวกบั กิจ ดา้ นการเขา้ ใจความหมายของภาษา
ดั กิจกรรมภาษาสาหรับเดก็ ปฐมวยั ใน การสมั มนา ทกั ษะความสามารถทางภาษาท้งั 4 ดา้ นฟังพดู อ่าน ดแ้ ต่จะเกิดการเรียนรู้ภาษาพูดเพราะการสอนเดก็ ใหพ้ ูดน้นั จชดั เจนยงิ่ เรียนรู้คาศพั ทต์ ่าง ๆ มากการเรียนรู้วิธีพูดเป็น งข้ึนในเดก็ วยั 2-3 ขวบการพดู ของแม่จะช่วยใหล้ ูกมี จวตั รประจาวนั เป็นส่ิงท่ีจาเป็นในการพฒั นาการเรียนรู้ใน
การอ่านและการเขยี น การเขียน หมายถึง การสื่อสารการแสดงความคิดค การอ่านจะดาเนินไปพร้อมกนั เนื่องจากการเป็นนกั เขียนที่ด ฝึกฝนใหเ้ ดก็ เขียนหนงั สือไดน้ ้นั ครูตอ้ งตระหนกั วา่ การฝึกเ การฝึกกลา้ มเน้ือมือหรือฝึ กเฉพาะความสวยงามของลายมือ เกิดข้ึนจากการฝึ กคิดและถา่ ยทอดความคิดออกมาเป็นภาษา มากไดอ้ ่านมามากจนสามารถถ่ายทอดเองไดแ้ ละมาฝึกฝนค
ความรู้สึกออกมาอยา่ งมีความหมาย ดงั น้นั การเขียนและ ดีไดน้ ้นั ตอ้ งอาศยั การอ่านท่ีแตกฉานในเรื่องน้นั ๆ ส่วนการ เขียนท่ีใหล้ อกเลียนแบบโดยเดก็ ไม่ไดใ้ ชค้ วามคิดแต่เป็น อน้นั แตกต่างโดยสิ้นเชิงกบั การเขียนท่ีมาจากความคิดซ่ึง าสัญลกั ษณ์คือตวั อกั ษรอยา่ งธรรมชาติจากการไดฟ้ ังมา ความถูกตอ้ งสวยงามภายหลงั
นักทฤษฎีสาคญั ท่ีให้ความเ ดวิ อี้ ไดก้ ล่าวถึง การเรียนรู้ภาษาของเดก็ ก่อนการ ภาษาวา่ เกิดจากการประสบการณ์โดยตรงการลงมือ สาคญั ของความคิดเรื่องพลงั ของการสะทอ้ นความ ของกระบวนการเรียนรู้ครูผสู้ อนควรบูรณาการดา้ น หลกั สูตร
เข้าใจเร่ืองภาษาธรรมชาติ รพฒั นาเขา้ สู่การใชภ้ าษาอยา่ งถูกตอ้ งตามหลกั อกระทาดว้ ยตนเองและไดส้ ร้างทฤษฎีเป็นกญุ แจ มคิดต่อการสอนของครูที่ผเู้ รียนตอ้ งเป็นศูนยก์ ลาง นภาษาใหก้ ลมกลืนไปกบั การเรียนรู้ทุกเรื่องใน
เพยี เจต์ ที่มีอิทธิพลตอ่ กระบวนการสอนภาษาธรรมชาติโด ตนเองจากการไดส้ มั ผสั กบั สิ่งแวดลอ้ มและสร้างองคค์ วามรู้ข เพียงอยา่ งเดียวเดก็ จะเป็นผกู้ ระทาการเรียนรู้ในการคิดดว้ ยตน สิ่งแวดลอ้ มผา่ นการเลน่ จะช่วยใหเ้ ดก็ ไดเ้ รียนรู้ภาษาจากกิจก
ดยกลา่ ววา่ เดก็ จะเรียนรู้จากกิจกรรมโดยการเคลื่อนไหวของ ข้ึนภายในตนกระบวนการเรียนรู้มิใช่เกิดจากการรับเขา้ แต่ นเองการเรียนรู้ของเดก็ เกิดข้ึนจากการมีปฏิสัมพนั ธ์กบั กรรมที่ทาร่วมกนั และเป็นรายบุคคล
ไวกอตสกี ไดก้ ล่าวถึง การเรียนรู้ภาษาของเดก็ วา่ เก เช่นพอ่ แม่เพ่อื นครูและอิทธิพลของบริบทส่ิงรอบตว ผา่ นการเล่นและกิจกรรมช่วยใหเ้ กิดการเรียนรู้ภาษา
กิดข้ึนไดจ้ ากการปฏิสมั พนั ธ์กบั บุคคลใกลเ้ คียง วั เดก็ การช่วยเหลือและลงมือทาเป็นข้นั ตอน าผา่ นการใชส้ ญั ลกั ษณ์
ก๊ดู แมน เชื่อวา่ การสอนภาษา เป็นเร่ืองสาคญั สาหรับชีวติ เรียนรู้ ครูจะตอ้ งตระหนกั ในความสาคญั ดงั กล่าว และจากก ปรัชญา การรู้หนงั สือ และการจดั หลกั สูตร กดู๊ แมนไดร้ ับกา จนมีผใู้ หค้ วามสนใจนาความคิดไปใชใ้ นประเทศต่าง ๆ และ ในปี พ.ศ .2513 เป็นตน้
ตเดก็ และโดยท่ีเดก็ ตอ้ งเรียนรู้ภาษา และตอ้ งใชภ้ าษาเพ่อื การ การศึกษาภาษาศาสตร์เชิงจิตวิทยา สังคมวทิ ยา มานุษยวทิ ยา ารยกยอ่ งในฐานะผบู้ ุกเบิกแนวการสอนภาษาโดยองคร์ วม ะหมู่ผใู้ หก้ ารสนบั สนุนเพอ่ื เผยแพร่ออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง
ทกั ษะการฟังตามแนวก เดก็ จะไดฟ้ ังจากการเลา่ นิทาน ฟังเพลงนิทาน และเพ เป็นภาษาที่ถูกตอ้ ง ชดั เจน และเม่ือเดก็ ฟังแลว้ จะไดเ้ ช่ือมโยงส รับประทาน เดก็ กจ็ ะเช่ือมโยงคาวา่ ชอ้ นเขา้ กบั การใชช้ อ้ นตกั อ
การสอนภาษาธรรมชาติ พลงต่าง ๆ ซ่ึงจะช่วยพฒั นาทกั ษะทางการฟังภาษา โดยจะตอ้ ง สิ่งท่ีอยรู่ อบตวั เขา้ กบั คาท่ีไดย้ นิ เช่น ใชช้ อ้ นตกั อาหาร อาหารรับประทาน เป็นตน้
ทกั ษะการพดู การอ่าน ตามแ ผปู้ กครองหรือครูจะใชค้ าถามเพ่ือใหเ้ ดก็ ตอบและ บทบาทสมมติกบั เดก็ ๆ สลบั กบั การเล่านิทาน เพอ่ื เปิ ดโอกา ซ่ึงสิ่งที่เดก็ เล่าออกมา อาจมาจากจินตนาการของตวั เดก็ เอง เห็นภาพและเชื่อมโยงออกมาเป็นคาพดู เพราะการอ่านและก จะตอ้ งคอยสนบั สนุนใหเ้ ดก็ กลา้ ใชภ้ าษา และหากคาไหนพ เดก็ พดู ตามไดช้ ดั เจนแบบคอ่ ยเป็นคอ่ ยไป
แนวการสอนภาษาธรรมชาติ ะกลา้ แสดงความคิดออกมาเป็นคาพูด อาจใชก้ ารแสดง าสใหเ้ ดก็ ๆ ไดเ้ ปิ ดหนงั สือดูภาพและเล่าเรื่องจากภาพเอง เน้ือเรื่องอาจไม่ไดต้ รงตามหนงั สือ แต่จะเนน้ ใหเ้ ดก็ ได้ การพดู น้นั ไม่มีถูกหรือผดิ แต่ผปู้ กครองและคุณครูผดู้ ูแล พดู ไม่ชดั ผดิ เพ้ียน ผปู้ กครองและคุณครูกจ็ ะช่วยแนะนาให้
พฒั นาการด้านการเขียนตามแนว ข้ันท่ี 1 ขีดเข่ียนเป็นเส ข้ันที่ 2 เขียนโดยการทาเค
วการสอนภาษาธรรมชาติ ส้นยงุ่ ๆ ตามจินตนาการ ครื่องหมายคลา้ ยตวั หนงั สือ
ข้นั ที่ 3 เขียนโดยคดั ลอกตวั อกั ษ ข้ันท่ี 4 เขียนโดยคดั ลอกตวั อกั ษ
ษรและเขียนโดยวธิ ีสะกดข้ึนเอง ษรและเขียนโดยวธิ ีสะกดข้ึนเอง
พฒั นาการด้านการเขียนตาม ระยะแรก เป็นระยะท่ีเดก็ เร่ิมแยกแยะความแตกต่างระหว สญั ลกั ษณ์ท่ีเขาคิดมาเองแทนอกั ษรมีการจดั เรียงอกั ษรเป็น สญั ลกั ษณ์แทนคาหน่ึงคาแต่ละอกั ษรมีลกั ษณะที่แตกตา่ งก ของวตั ถุเราสามารถมองเห็นความแตกต่างอยา่ งชดั เจนระห ระยะที่ 2 การเขียนตวั อกั ษรท่ีต่างกนั สาหรับคาพดู แต่ละ โดยเขียนอกั ษรที่ตา่ งกนั โดยมีลาดบั และจานวนอกั ษรตามท แตกต่างของถอ้ ยคานนั่ เอง
มแนวการสอนภาษาธรรมชาติ วา่ งสัญลกั ษณ์ท่ีใชแ้ ทนอกั ษรและท่ีไม่ใช่อกั ษรเขาจะใช้ นเสน้ ตรงบางคร้ังเขียนโดยใชท้ ิศทางคงท่ีบางคร้ังจะใชห้ น่ึง กนั เดก็ รู้ดีวา่ การเขียนจะสมั พนั ธ์กบั อกั ษรมากกวา่ รูปร่าง หวา่ งส่วนที่เดก็ วาดและส่วนท่ีเดก็ เขียน ะคาพูดเดก็ จะเริ่มแสดงความแตกต่างของขอ้ ความแตล่ ะขอ้ ท่ีเขาคิดวา่ เหมาะสมคือเดก็ เริ่มรู้จกั เขียนแสดงความ
ระยะท่ี 3 เป็นระยะท่ีเดก็ เร่ิมใชล้ กั ษณะการออกเสียงในการ ใกลเ้ คียงกบั การเขียนตามแบบแผนยงิ่ ข้ึนในที่สุดเดก็ จะสาม เดก็ เขียนอธิบายลกั ษณะบา้ นแม่มดโดยเขียนคาวา่ house
รเขียนเดก็ พฒั นาการเขียนมาถึงข้นั ท่ีการเขียนของเขาจะ มารถเขา้ ใจหลกั การเขียนหนงั สือในภาษาของตนเองไดเ้ ช่น e ไดถ้ ูกตอ้ ง
การท ของส
ทางาน สมอง
โครงสรา้ งและหนา้ ท 01 02 06 Your Text -ออล -ซีรีบ Here -Fr ความ -Te -Oc -P การร
ทข่ี องสมองแตล่ ะสว่ น ส่วนประกอบ 3 ส่วน ere สมองส่วนหน้า (Forebrain) ลเฟกทอรีบลั บ์ (olfactory bulb) ทาหนา้ ที่เกี่ยวกบั การดมกลิ่น บรัม (Cerebrum) ทาหนา้ ท่ีเก่ียวกบั การเรียนรู้และอารมณ์ rontal lobe ทาหนา้ ที่ควบคุมการ เคลื่อนไหว การออกเสียง มคิด ความจ า สติปัญญา บุคลิก ความรู้สึก พ้ืนอารมณ์ emporal lobe ทาหนา้ ท่ีควบคุมการไดย้ นิ การดมกล่ิน ccipital lobe ทาหนา้ ที่ควบคุมการ มองเห็น Parietal lobe ทาหนา้ ท่ีควบคุมความรู้สึก ดา้ นการสมั ผสั การพดู รับรส
โครงสรา้ งและหนา้ ท midbrain
ทขี่ องสมองแตล่ ะสว่ น สมองส่วนกลาง (Midbrain) เป็น สมองที่ต่อจากสมองส่วนหนา้ เป็นสถานีรับส่ง ประสาท ระหวา่ ง สมองส่วนหนา้ กบั ส่วนทา้ ยและ n ส่วน หนา้ กบั นยั นต์ าท าหนา้ ที่เกี่ยวกบั การ เคลื่อนไหวของลูกตาและม่านตา
โครงสรา้ งและหนา้ ท Cerebellum P Medulla
ทข่ี องสมองแตล่ ะสว่ น สมองส่วนท้าย (Hindbrain) -พอนส์(Pons) ท าหนา้ ท่ีควบคุมการ เคลื่อนไหวของกลา้ มเน้ือบริเวณใบหนา้ การหายใจ การฟังการเค้ียวอาหาร การ หลงั่ น้าลาย -เมดลั ลา (Medulla) เป็นทางผา่ นของ กระแส Pons ประสาทระหวา่ งสมองกบั ไขสนั หลงั เป็นศูนยก์ ลาง การควบคุมการท างาน เหนืออ านาจจิตใจ เช่น ไอ จาม สะอึก หายใจ การเตน้ ของหวั ใจ เป็นตน้ -ซีรีเบลลมั (Cerebellum) ควบคุมระบบ การเคลื่อนไหวของอวยั วะต่างๆ ควบคุม การทรงตวั ของร่างกาย การประสานงาน ของกลา้ มเน้ือมดั เลก็ ใหส้ มั พนั ธก์ นั
วเิ คราะหค์ วามสมั A ส S แป B ส ระ W คา P ระ
มพนั ธส์ มองกบั ภาษา Angular Gyrus เป็นศูนยก์ ารมองเห็น ในส่วน สมองส่วนทา้ ยทอย แปลความหมายที่อ่าน Supramarginal Gyrus การอ่าน การเขียน ปลความหมายสิ่งท่ีเขียน Broca’s Area ควบคุมการทางานกบั วอวยั วะการพดู สายเสียง กล่องเสียง ปาก ขากรรไกร กลา้ มเน้ือใบหนา้ ะหวา่ งพดู Wernicke’s Area แปลความหมายส่ือภาษา เลือก า วางแผนเขียนไวยากรณ์ Primary Auditory Cortex เกี่ยวขอ้ งกบั ะบบความจาทางการมองเห็น ประมวลความรู้สึก
หล ปรชั เศรษ พอเพ
ลกั ชญา ษฐกิจ พียง
พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิค้มุ กนั ที่ดี เงอ่ื นไขความรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม
หเศลรกัษปฐรกชั จิ ญพาอเพยี ง นําวสั ดอุ ุปกรณ์ทใ่ี ชม้ าประยกุ ต์ ในการ 1 สอ่ื สารใหม่ 2 รจู้ กั นําความรจู้ ากทฤษฎมี าจดั กจิ กรรม ปพู น้ื ฐานทางภาษา หากเป็นเดก็ 2ภาษา 3 พอ่ แมต่ อ้ งปพู น้ื ฐานทางภาษา 4 นําความรหู้ รอื ประสบการณ์เดมิ มาใช้ ตระหนกั ในคณุ ธรรม ความอดทน ความ 5 ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
กิจกรรมพฒั นาภา สญั ลกั ษณ์ทา่ ทาง การเล่าเรอ่ื งราว
าษาและการสื่อสาร การสอ่ื สาร
ความพอประมาน การส กิจกรรมส มเี หตุผล นาวสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ช้แล้ว รู้จกั นาความรู้จากทฤษฎี มาประยุกต์ใช้ในการ มาจดั กจิ กรรม สื่อสาร
สื่อสาร พฒั นาการสมอง ส่งต่อคา มภี ูมคิ มุ้ กนั ทดี่ ี เดก็ จะนาความรู้และระ อายุ 1-2 ปี เข้าใจประโยค สบการณ์ไปใช้ใน คาถาม อายุ 3-4 ปี ท่องพยญั ชนะได้ ชีวติ ประจาวนั
สญั ลกั ษณ ความพอประมาน ใชบ้ ตั มเี หตผุ ล การนากระดาษทเี่ หลือมา การมคี วามรู้เกยี่ วกบั ใช้ให้คุ้มค่าทส่ี ุด อวจั นภาษามาใช้ในการ จัดกจิ กรรม
ณ์ท่าทาง ตรคา พฒั นาการสมอง มภี ูมคิ มุ้ กนั ทดี่ ี เดก็ มคี วามพร้อมในการ พฒั นาสมองส่วนoccip lobe ใช้กล้ามเนื้อมดั ใหญ่และ คือการควบคุมการมองเห็น มดั เลก็ และเซรีบรัม
การเล่าเ ความพอประมาน เล่านิทาน มเี หตผุ ล ระยะเวลาในการจัด การใช้ทกั ษะการพดู และ กจิ กรรม การคดิ ในการทากจิ กรรม
เรือ่ งราว นจากภาพ พฒั นาการสมอง มภี ูมคิ มุ้ กนั ทดี่ ี พฒั นาสมองส่วนFrontal lobe ควบคุม เดก็ จะนาความรู้และ การเคล่ือนไหวTemporal lobe ควบคุม ประสบการณ์ในชีวติ ประจาวัน การได้ยนิ และการดมกลนิ่ Occip lobe ควบคุมการมองเห็น Parietal lobe มาเล่าเร่ือง ควบคุมความรู้สึกด้านการสัมผสั การพดู การรับรส
แบบประเม พฤตกิ รรม 1 1. ฟังนิทานหรือเร่ืองราวสัน้ ๆได้อย่างตงั้ จจ 2. เข้าจจคาส่ังครูและปฎบิ ตั ติ ามได้ 3.ปฎบิ ตั ติ ามคาส่ัง2-3ขัน้ ตอน 4.เดก็ สามารถตอบคาถามจากการฟังนิทาน ได้ 5.สามารถบอกได้ว่าจนนิทานมีตัวละคร อะไรบ้าง รวมคะแนน
มนิ การฟัง 4 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 23
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407