๑หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ตอน ๔ เสยี งในภาษาไทยและการสรา้ งคา หลักการใชภ้ าษา ตัวช้วี ดั • อธิบายลกั ษณะของเสยี งในภาษาไทย • สรา้ งคาในภาษาไทย
อะไรจะเกิดขนึ้ หากภาษาไทยไรว้ รรณยกุ ต์ นกั เรยี นคดิ ว่าเหตุการณ์หลงั จากนี้ จะเป็นอยา่ งไร เพราะเหตใุ ด
+ความรูพ้ นื้ ฐาน (เสียงในภาษาไทย) + ความรพู้ ้นื ฐาน (การสรา้ งคา) - องค์ประกอบ - อวัยวะท่ีใช้ออกเสียง + การสรา้ งคา +พยัญชนะ - คามลู - คาซา้ - คาประสม - ตวั อยา่ ง - เสยี งและรปู พยัญชนะ - คาซอ้ น - การนาไปใช้ + คาพ้อง - ตัวอยา่ ง เสียงในภาษาไทย - พ้องเสียง - คาพอ้ งรูปพอ้ งเสยี ง และการสร้างคา - พ้องรปู - ตัวอยา่ ง +สระ - พ้องความหมาย - เสยี งและรูปสระ - การนาไปใช้ +วรรณยกุ ต์ - ตวั อย่าง - เสยี งและรปู วรรณยกุ ต์ - การนาไปใช้ - ตัวอยา่ ง
ความรูพ้ น้ื ฐาน (เสียงในภาษาไทย) เสยี งในภาษา องค์ประกอบ - วรรณยุกต์ เสยี งของมนุษย์ท่เี ปลง่ ออกมา กล่องเสยี ง ปา่ -า สระ เพอ่ื ใช้ในการส่ือสารท่มี ีต้นกาเนิด หลอดลม เสยี งมาจาก ปอด หลอดลม และกลอ่ งเสยี ง ผา่ นลาคอสชู่ ว่ ง ปากและจมกู ปปอด พยญั ชนะ
อวัยวะท่ใี ช้ในการออกเสียง ๘ ๑ ริมฝปี าก ๒ ฟัน ๓ ปุ่มเหงือก ๔ เพดานแข็ง ๕ ๔ ๓ ๑ ๕ เพดานอ่อน ๖ ลิ้น ๖ ๒ ๗ เส้นเสียง ๘ โพรงจมกู ๗ น้า • ปุม่ เหงือก ไฟ • ฟัน • ลิน้ • รมิ ฝีปาก • เส้นเสยี ง • เส้นเสียง • ริมฝปี าก • โพรงจมกู
พยัญชนะ ก รปู พยัญชนะ (๔๔ รปู ) เสยี งพยัญชนะ (๒๑ เสียง) กขฃคฅฆงจฉ ช ซ ฌญฎ ฏ ฐฑฒ /ก/ /ค/ /ง/ ณด ต ถ ท ธ นบ ป /จ/ /ช/ /ซ/ ผฝพฟภม ยร ล /ด/ /ต/ /ท/ ว ศ ษ ส ห ฬ อฮ /น/ /บ/ /ป/ /พ/ /ฟ/ /ม/ เสยี งพยัญชนะที่มี ๑ รปู /ย/ /ร/ /ล/ เสียงพยญั ชนะท่มี ี ๒ รูป /ว/ /อ/ /ฮ/ เสยี งพยัญชนะท่มี ตี ้ังแต่ ๓ รปู ข้ึนไป
การนาไปใช้ แมก่ ก แมก่ บ แมก่ ด (ก ข ค ฆ) (บ ป พ ฟ ภ) (ด ฎ ต ฏ จ ช ท ธ เด่ยี ว นก เลข มรรค กราบ รูป ภาพ ศ ษ ส ซ ฐ ฑ ฒ ถ) ค้น จา ขาด นิจ อนาถ นับ งาน พยัญชนะ พยัญชนะ แม่กง ควบกล้า เพลง นาง คง กลวั กรอบ ตน้ ท้าย ควัน ตรวจ แม่กน แมก่ ม (น ณ ญ ร ล ฬ) อักษรนา ยอม ถาม บ้าน ปราณ พล ขยาย ตวดั หมอน อยู่ แม่เกย แมเ่ กอว เนย ลาย คอย ราว แผว่ ผวิ
สระ เสียงสระ ๒ ระดบั ล้นิ รูปปาก อ้าปกติ เช่น อะ อา เออะ เออ มี ๒๑ เสียง ๓ เหยียดปาก เชน่ อิ อี เอะ เอ ๑ เผยอขน้ึ เช่น อึ อือ อวยั วะท่ใี ช้ออกเสยี ง ๔ หอ่ เล็ก เชน่ อุ อู หอ่ กลม เชน่ โอะ โอ เอาะ ออ คอื ลิน้ และริมฝีปาก เหยียดต่า เชน่ เอีย เออื ๑ ลนิ้ ระดับปกติ เชน่ อะ อา ๒ ลิน้ สว่ นหน้ายกสูง เช่น อิ อี ๓ ลิ้นสว่ นหลังยกสูง เชน่ อึ ออื อุ อู ๔ ลิ้นสว่ นหลงั ลดต่า เชน่ เอาะ ออ
รปู และตัวอย่างสระ วิสรรชนีย์ พินท์ุอิ อิ อี อึ อือ เอยี เอือ อะ เอะ แอะ โอะ เอาะ เออะ รูปสระ ไม้ไตค่ ู้ (เช่น คาว่า ก็) ลากข้าง ตัวอักษรทใี่ ช้แทนเสียงสระ อา อา เอา เอาะ ฝนทอง นฤคหิต อี เอยี อา อึ มี ๒๑ รปู ตนี เหยียด ตนี คู้ ฟันหนู ไมห้ ันอากาศ วยอ ตวั ออ ตัววอ ตัวยอ อือ เอือ อวั อุ อู ออ อัว อัวะ เอยี ใ ไไม้ม้วน ไม้มลาย ไม้โอ ไม้หน้า เอ แอ เอะ แอะ เออะ เออ เอาะ เอยี เอือ เอา ใอ ไอ ไอย โอ โอะ
การนาไปใช้ ฤ ฤา อ ตวั อย่างคา ฦ ฦา ก ข ค ง จ วย จา น้า คมุ สบู ฉ ช ญ ... ฮ เห็น เป็น ว บัว ตัว อ เบ่ือ เมอื ง
วรรณยุกต์ เสียงวรรณยุกต์ มี ๕ เสยี ง สามญั เอก โท ตรี และจตั วา ก๋า ตอนต้นต่า ปลายเสียงสงู ข้นึ กา๊ สูง กา ปานกลางคงที่ ก้า ตอนตน้ สงู ตอนปลายต่า กา่ ต่าคงที่
การนาไปใช้ อักษรสูง ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห การผนั วรรณยกุ ต์ เขา่ เข้า เขา ผันตามอักษร ๓ หมู่ สงู กลาง ต่า ขุด ขุ้ด คาเป็น อกั ษรกลาง ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ คาตาย กงุ กงุ่ กุ้ง กุง๊ กุ๋ง สะกดด้วย สะกดดว้ ย • แมก่ ม • แม่เกย กิบ กิ้บ ก๊บิ กบ๋ิ • แม่กก • แมก่ ง • แม่เกอว • แม่กด • แม่กน อกั ษรต่า ค ฅ ฆ ช ซ ฌ ฑ ฒ ท ธ พ ภ • แม่กบ ฟฮงญณนมยรลวฬ คุน คุน่ คนุ้ เสียงสน้ั ค่ึก คกึ เสียงยาว วาก วา้ ก
ถ้าต้องนาคาเหล่าน้ีใสล่ งตาราง เสียงวรรณยุกต์ จะเขยี นไดอ้ ยา่ งไร เข่า เข้า ฉช สซ ตัวอย่าง อกั ษร เคา เคา่ เคา้ เขา น -ม งอ หงอ ขค ข เสียงวรรณยุกต์ เ-า ค งอ่ งอ้ ตัวอย่าง อักษร หงอ่ น หน ง หง ง ม หม แ - - อ หง สงั เกตดี ๆ นะ บางคารปู วรรณยุกตไ์ ม่ตรงเสียง
อกั ษรตา่ คู่ เสยี งวรรณยุกต์ อกั ษร ฉช ฉ ฉนุ่ ฉ้นุ ฉุน น ช ชุน ชนุ้ ชุ๊น เสยี งวรรณยกุ ต์ อักษร สซ ส ส่ม สม้ สม -ม ซ ซม ซม่ ซ๊ม อกั ษรตา่ คู่ คอื อกั ษรตา่ ท่ีมีเสยี งค่กู ับอักษรสงู เช่น ข ถ ผ ค ท พ อกั ษรต่าเดี่ยว คือ อกั ษรต่าที่ไมม่ เี สียงคู่กับอักษรอ่ืน เช่น ง ญ น ย ณ ร ว ม ฬ ล
อกั ษรนา ม หม อกั ษร เสยี งวรรณยกุ ต์ หมี น หน แหน ม มี มี่ มี้ แ- หม หม่ี อักษร เสียงวรรณยุกต์ น แน แน่ แน้ หน แหน่ อักษรนา ห นา หนู หมอน หงิก หวี หลับ หร่ี หยุด อ นา อย่า อยู่ อยา่ ง อยาก
ความรู้พื้นฐานในการสร้างคา คาดัง้ เดมิ สร้างขึน้ ใหม่ กิน นอน ดอก ไม้ ไฟ ยาก ฉาย จน คายมื เกง๋ กรรม เกา้ อี้ คาในภาษาไทย พาด เดก็ ถ่าย เกม คอม พวิ เตอร์ พงิ ๆ เท
คามลู พยางคเ์ ดียว หลาย พยางค์ ไทยแท้ นอ้ ง นาง บา้ น นา กะทิ มะพร้าว คายมื ภาษาจีน (ผนั วรรณยุกต์ตรงตามมาตรา ไมม่ กี ารันต์) คายมื ภาษา บาลี สนั สกฤต โจก๊ เก๊ หนุ้ จ้าง เกา้ อ้ี ตะหลวิ จับกัง เต้าหู้ คายืมภาษา อังกฤษ บญุ ธูป โลก รส ปัญญา สาหัส มงคล สงกรานต์ เคก้ ฟรี ก๊าซ ลิฟต์ ไอศกรมี วติ ามนิ ฟตุ บอล คุกกี้
คาประสม คามลู คามลู คาซอ้ น • นาคามารวมกัน • นาคาทีม่ ีความหมายเหมอื นกนั คลา้ ยกัน หรอื ตรงข้ามกนั มาวาง • เกดิ คาใหม่ เคา้ ความหมายเดิม ชดิ กัน • เกิดคาใหม่ ความหมายเปลย่ี น • เกิดคาใหม่ ความหมายเปลี่ยน คามลู คามูล คาที่สรา้ งขน้ึ ใหม่ เหมอื นกัน ใกลเ้ คียงกัน ตรงขา้ มกนั คาซา้ • นาคาเดิมมากล่าวซ้า • เกิดคาใหม่ ความหมายเปลี่ยน คามูล คามลู (คาเดิม)
ตวั อยา่ ง คาทสี่ ร้างข้นึ ใหม่ คาซา้ กลว้ ย ๆ คาทใ่ี ช้ไมย้ มกกากับ ขาว ๆ คาประสม ที่มีเคา้ ความหมายเดิม นอ้ ง ๆ ใกล้ ๆ ดใี จด๊ ีใจ เกา๊ เก่า ไฟ ฉาย ไม้ กวาด ผา้ ห่ม เรว็ ๆ ดกึ ๆ ที่ความหมายเปลยี่ นไปจากเดมิ คาที่เลน่ เสยี งวรรณยกุ ต์ แพ้ ทาง สาย ยอ่ เอา อยู่ เด๊กเดก็ ค้าวขาว ดา๊ ดา ไกลไ๊ กล
คาซ้อน ซ้อนเพื่อเสียง • สระ ซ้อนเพือ่ ความหมาย • พยัญชนะตน้ • เหมือนกัน เบอ่ื หน่าย นุ่ม น่ิม กกั ขัง เฟอะฟะ ท้อแท้ จ้ิมลม้ิ ราบคาบ • พยัญชนะตน้ และสระ • ซ้อนพยางคท์ ีไ่ ม่มีความหมาย • ใกลเ้ คียงกนั มืด คา่ ขดั ขวาง วน เวียน ถากถาง ออดออ้ น พดู เพิด แว่นเว่นิ • เพิ่มพยางค์ให้เสยี งสมดลุ • สมั ผสั ใน • ตรงขา้ มกนั กระจดั กระจาย วดั วาอาราม คืน วนั เทจ็ จรงิ ช่ัว ดี กระวน กระวาย ไปลามาไหว้
คาพ้องเสยี ง คาพ้องรปู ไม่ ไหม้ ตากลม ตา กลม ตาก ลม รปู เสยี ง ความหมาย รูป เสียง ความหมาย คาพ้อง คาพ้องความหมาย คาพอ้ งรปู พ้องเสยี ง • ดวงอาทิตย์ • ตะวัน ยามเฝ้ายามเมื่อสองยาม 3 • สรุ ยิ า • รพี 12 ยาม 1 = อาชีพ ยาม2 = การอยู่ประจาสถานที่ ยาม3 = หนึ่งในแปดส่วนของวนั รปู เสยี ง ความหมาย รูป เสียง ความหมาย
สรุปบทเรยี น เสียงในภาษาไทย พยัญชนะ สระ • ๒๑ เสียง พยญั ชนะต้น อักษรสงู อกั ษรกลาง อกั ษรต่า เด่ยี ว • ๒๑ เสยี ง • การนาไปใช้ คู่ • สระประสม เชน่ เอยี เออื อัว ตวั สะกด ตามมาตราตวั สะกด • สระเด่ยี ว เชน่ อะ อา อิ อี วรรณยกุ ต์ ตรี จัตวา • ๕ ระดับเสยี ง สามัญ เอก โท อกั ษรกลาง • นาไปใช้ ผนั ตามอักษร ๓ หมู่ เช่น คาเปน็ - คนุ คุ่น คุ้น คาเป็น คาเป็น - เขา่ เข้า เขา - กุง กงุ่ กุง้ ก๊งุ กุง๋ คาตาย - ขุด ขุ้ด อกั ษรต่า เสียงสนั้ - ค่ึก คกึ คาตาย อกั ษรสูง - กบิ กบิ้ กิ๊บ กิ๋บ คาตาย เสยี งยาว - วาก ว้าก
สรปุ บทเรยี น การสรา้ งคาในภาษาไทย คามูล พยางค์เดียว - พ่อ แม่ คาทส่ี ร้างขึน้ ใหม่ • ไทยแท้ หลายพยางค์ - มะพร้าว กะทิ มเี ค้าความหมายเดมิ พยางคเ์ ดยี ว - โจ๊ก • คายมื หลายพยางค์ - เกา้ อ้ี • คาประสม เปลย่ี นความหมายใหม่ คาพอ้ ง • คาซ้า ใชไ้ มย้ มก • พ้องรปู - ตากลม ตา-กลม / ตาก-ลม เล่นเสียงวรรณยกุ ต์ • พอ้ งเสียง - ไม่ / ไหม้ • พ้องรูป + เสยี ง - ยามเฝา้ ยามเมอื่ สองยาม เพื่อเสียง • พ้องความหมาย - ดวงอาทิตย์ ตะวัน สรุ ยิ า รพี • คาซ้อน เพือ่ ความหมาย
๒หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ตอน ๔ ชนดิ และหนา้ ทขี่ องคาในประโยค หลกั การใช้ภาษา ตัวชี้วดั • วิเคราะห์ชนดิ และหนา้ ท่ีของคาในประโยค
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค คา + ประโยค + • โครงสร้างของคา ชนดิ และหนา้ ที่ของคา • โครงสร้างของประโยค • ชนิดของคา ในประโยค • หนา้ ท่ขี องคาในประโยค
การใช้คาให้ถูกตอ้ ง มคี วามสาคญั อยา่ งไร วนั เตรียมงาน วันจรงิ งานบุญพรุ่งน้ีเตรียมพระ ไดค้ รับ ท้งั หมด ๓ องคน์ ะ
คา คาจะมคี วามหมายสมบูรณ์ ในตัวเอง โดยจะมีกพ่ี ยางคก์ ไ็ ด้
โครงสร้างของคา “คา” ประกอบดว้ ยหนว่ ยเสยี งพยัญชนะ เสียงสระ เสียงวรรณยกุ ต์ และความหมาย เสยี งวรรณยกุ ต์ ความหมาย เสยี ง หมายถงึ สง่ิ ปลกู สรา้ งสาหรบั เป็นทอ่ี ยอู่ าศัย บ า นพยญั ชนะตน้ เสียงสระ เสยี งพยัญชนะทา้ ย
ชนดิ ของคา คานาม คอื คาท่ใี ช้เรียกชื่อคน สัตว์ สงิ่ ของ ลกั ษณะ อาการ สามานยนาม วิสามานยนาม สมหุ นาม อาการนาม ลักษณนาม (นามท่ัวไป ) (นามเฉพาะ) (นามบอกหมวดหม)ู่ (นามบอกอาการหรือความรสู้ ึก) (นามบอกลกั ษณะ ) ชา้ ง ช้างชบาแกว้ โขลงชา้ ง ความสุข นก ๑ ตวั . บา้ น ดอกกุหลาบ ฝูง นก การวิ่ง ดินสอ ๑ แทง่ . พอ่ วดั พระแกว้ คณะ ครู ความ, การ ตาย ปากกา ๑ ดา้ ม . ฉนั ดาวอังคาร กอง ขยะ ความ สวย รถ ๑ คัน . ดินสอ ประเทศไทย กรม ทหาร การ กิน เรอื ๑ ลา . ลองเตมิ คาในชอ่ งว่างกนั คะ่
ชนิดของคา คาสรรพนาม คอื คาท่ใี ชเ้ รียกแทนคานามชนดิ ต่าง ๆ บรุ ษุ สรรพนาม (สรรพนามทใี่ ชใ้ นการพูด) ฉัน เธอ เขา นยิ มสรรพนาม (สรรพนามช้ีระยะ) นี่ นน่ั โน่น นน้ั นี้ อนยิ มสรรพนาม (สรรพนามที่บอกความไมช่ เี้ ฉพาะเจาะจง) ไหนๆ ใครๆ ใดๆ ปฤจฉาสรรพนาม (สรรพนามแสดงคาถาม) ไหน ใคร อะไร ทไี่ หน วภิ าคสรรพนาม (สรรพนามบอกความชี้ซา้ แบง่ พวก รวมพวก) ตา่ ง บ้าง บาง กัน ประพันธสรรพนาม (สรรพนามเชื่อมประโยคความซ้อน) ผู้ ท่ี ซง่ึ อัน สรรพนามทีใ่ ชเ้ น้นนาม คณุ ยายทา่ น เสือมันดุรา้ ย
บุรษุ สรรพนาม อนิยมสรรพนาม วภิ าคสรรพนาม วิภาคสรรพนาม วภิ าคเขสารไรปพโรนงาเรมยี น ใคร ๆสกรไ็ รมพร่ กันฉานั มทใ่ี ชนเ้ นักน้เรนียานมบา้ งกอ็ป่ารนะหพนันงั สธอืสรบรา้ พงกน็คาน้ มตารา นักอมนวยิยชมกสกรันรพนาม ปฤจนฉกั าเรสยี รนรตพ่านงทาามหนา้ ทปีข่ รอะงพตนันเธอสงรรพนขาอมงเล่นมันพนังิยมสรขรอพงซน่ึงาวมางอยูใ่ นห้อองนหิยามยไสปรไรหพนนามอะไร ๆ กฉ็ ัน เปธอฤมจาฉกาับสใครรรพนาคมนทเ่ี ปนน็ ยิ คมรตูส้อรงรมพคี นวาามมอดทนอนิยมนสคี่ รอื รหพนังนสาอื มของฉันประพผนั ูใ้ ธดสเปรน็รพคนนดาี มเราควรคบผู้นั้น ปฤนจดี่ ฉินาสสอรขรอพงในคารม นี่คอื บป้านระขพองันฉธันสรรพไนหานมๆ เขาบกุรไ็ ุษปแสลรว้รพนาคมนท่ียนื อยเู่ ปบน็ รุ พษุ ช่ี สารยรขพอนงฉาันม อะไรอยใู่ นกระเป๋า นักเรยี นผู้ทสี่ อบได้ที่หนึ่ง เดีย๊ นชอบเทย่ี วทะเล หลอ่ นเป็นคนใจดี คาทข่ี ีดเส้นใตเ้ ป็นคาสรรพนามชนิดใด
ชนิดของคา คากรยิ า คอื คาแสดงการกระทา อาการ อกรรมกรยิ า (กริยาท่ไี มต่ ้องมกี รรม) เดนิ นอน น่งั บิน สกรรมกรยิ า (กริยาท่ีต้องมีกรรม) กิน เลน่ ดมื่ วกิ ตรรถกริยา (กริยาทต่ี ้องมสี ่วนเตมิ เต็ม) เปน็ คลา้ ย คอื ราวกบั หมายถงึ เหมือน กรยิ านเุ คราะห์ (คาช่วยกริยา) คง จะ กาลัง ยอ่ ม
สกรรมกรยิ า วกิ ตรรถกริยา กริยานเุ คราะห์ กรยิ านุเคราะห์ วิกตรรถกรยิ า น้อองกกนิรขรม้าวกเรชิย้าา แม่เปน็สพกยรารบมากลรยิ า เขากครงจิยะาลนมื ุเกครระาเปะห๋า ์ เด็กสตกอ้ งรนรอมนกแรติย่หาัวคา่ วกิ ตรรูปรถรา่กงรขิยอางลาเหมือนม้า นกบนิ ในอากาศ วิกตเขรารปถลกกู รตยิ ้นาไม้ข้างถนนอกรรมฉกันรเคยิ ยามาทน่ี ่ี กริยาแนมใ่เุ หค้เรงาินะฉหัน์ งูเปอน็ กสรัตรวมเ์ กลอ้ืรยยิ คาลานชนดิ หนึง่ วิกตรรเถขกาครยิือพาอ่ ของฉัน พอ่ หัวเราะเสสยี งกดรังรมกรเยิ ขาาคงหวิ มกากรนิยะานเุ ครฉานั ะเหดิน์ เร็วมากสกรรมกริยา ลูกเปรยี บเสมือวนิกแตกรว้ รตถาดกวรงยิ ใาจของพอ่ แม่ สเธกอรดรม่ื มนก้ารวยิ นั าละ ๘ แกว้ พายกุ าลังพดั วิกตรเขราถดกึงรมิยอื าฉนั ไว้ กระเป๋าใบน้ีเป็นของขวญั วนั เกิดฉัน ฉนั ส่งข้อความถึงเพื่อนทุกคืนกอ่ นนอน พี่ของฉนั เป็นหมอ คาทีข่ ดี เส้นใต้เปน็ คากรยิ าชนดิ ใด?
ชนดิ ของคา คาวเิ ศษณ์ คอื คาที่ใชข้ ยายคานาม คาสรรพนาม คากริยา หรือคาวิเศษณ์ดว้ ยกัน เพอ่ื ให้ได้ความชดั เจนยิง่ ข้ึน วเิ ศษณ์บอกสถานที่ วเิ ศษณบ์ อกปรมิ าณ/จานวน วเิ ศษณบ์ อกเวลา วิเศษณบ์ อกลกั ษณะ วิเศษณแ์ สดงการร้องเรยี ก ขานรับ วิเศษณบ์ อกความไม่ชีเ้ ฉพาะ วิเศษณ์บอกความช้เี ฉพาะ วเิ ศษณ์แสดงคาถาม วเิ ศษณแ์ สดงความปฏิเสธ สุนขั สีดา ฉนั มาสาย หอ้ งสมดุ อยู่ฝง่ั ซา้ ย เธอจะไปไหนจ๊ะ มา้ ว่ิงเรว็ คนโบราณ โรงเรยี นของฉันอยไู่ กล พอ่ ครบั ผมหวิ ขา้ ว ลมพัดแรง พอ่ ตน่ื เช้า ฉันเป็นคนภาคเหนือ คุณแม่คะ โทรศัพทค์ ะ่ วเิ ศษเณฉบ์ ลอยกลักษณะ วเิ ศเษฉณล์บยอกเวลา วิเศษเณฉ์บลอยกสถานท่ี วร้อเิ ศงเษเฉรณียลก์แยสขดางนกราบั ร ประโยคตอ่ ไปนี้เป็นคาวิเศษณช์ นดิ ใด
วเิ ศษณบ์ อกสถานท่ี วเิ ศษณบ์ อกปรมิ าณ/จานวน วเิ ศษณบ์ อกเวลา วเิ ศษณบ์ อกลักษณะ วเิ ศษณ์แสดงการร้องเรียก ขานรบั วเิ ศษณ์บอกความไมช่ เ้ี ฉพาะ วเิ ศษณ์บอกความช้เี ฉพาะ วิเศษณแ์ สดงคาถาม วเิ ศษณแ์ สดงความปฏิเสธ คนโน้นสอบไดค้ ะแนนเต็ม เธอทาอะไรยอ่ มรอู้ ยแู่ กใ่ จ เธออยา่ เล่าเรื่องนี้ใหเ้ ขาฟงั นะ ชายคนนน้ั เปน็ คนไทย ฉนั จะยืมหนงั สือเมอ่ื ไหรก่ ไ็ ด้ หนงั สอื เล่มน้ีไม่ใช่ของฉนั เธอพดู อย่างน้ีฉนั ไม่ชอบ นักเรยี นไมค่ วรนัง่ บรเิ วณนี้ ใส่เสอื้ อะไรกไ็ ดท้ ้ังน้ัน วิเศษณบ์เฉอกลคยวามช้เี ฉพาะ วเิ ศษณ์แเฉสดลงคยวามปฏิเสธ วิเศษณบ์ เอฉกคลวยามไมช่ ี้เฉพาะ สถานทใี่ ดทเ่ี ธอชอบมากท่สี ุด นักเรียนมาชมละครเป็นจานวนมาก ตไู้ หนทแ่ี ม่ใชเ้ ก็บเส้อื ผ้า นอ้ งมเี งนิ ห้าบาท คณุ พ่ออายเุ ท่าไหร่ ฉันออกกาลังกายสม่าเสมอ วเิ ศษเณฉ์แลสยดงคาถาม วิเศษณบ์ เอฉกลปรยมิ าณ/จานวน
ชนดิ ของคา คาบุพบท คอื คาทใี่ ช้เชื่อมคากบั คา เสื้อสขี าวอยู่ ใน ตู้เสอ้ื ผา้ คณุ พ่อไปทางาน แต่, เม่อื เชา้ กระเปา๋ ของ เขา เขาถวายปจั จยั แด่ พระสงฆ์ ลองเติมคาบพุ บทในช่องวา่ งดูคะ่
ชนดิ ของคา คาสนั ธาน คือ คาทใี่ ชเ้ ชอื่ มประโยคใหเ้ ก่ียวเนื่องกัน นอ้ งกับ, และพี่ไปโรงเรียน ถึง เขาจะยากจน แตเ่ ขา ก็ มคี วามสุข เพราะเขาขยันอา่ นหนงั สอื เขา จึง สอบผา่ น เธอจะกินขนมหรือเธอจะกินขา้ ว ลองเตมิ คาสันธานในชอ่ งว่างดูคะ่
ชนดิ ของคา คาอทุ าน คือ คาทใี่ ชแ้ สดงอารมณ์ ความรสู้ ึกของผูพ้ ดู หรอื เปน็ คาสร้อย เพอื่ ให้ขอ้ ความสละสลวย คาอทุ านทั่วไป คาอทุ านเสรมิ บท อุ๊ย ! ฉนั ลมื เอากระเป๋าสตางค์มา ฉันไมช่ อบ สัญญิงสัญญากบั ใครท้ังนนั้ เอ๊ะ ! ใครกนั ทน่ี าดอกไมม้ าวางไว้ทโี่ ต๊ะของฉนั ไม่มีใคร เขา้ อกเขา้ ใจ ฉนั เลย ว้าย ! ตกใจหมดเลย ลูก ไดด้ บิ ไดด้ ี แมก่ ็สบายใจ ลองเติมคาอุทานในช่องวา่ งดูค่ะ
ประโยค ถ้อยคาหรอื ขอ้ ความทีม่ เี นอื้ ความสมบูรณ์ ประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง
โครงสร้างประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง ประธาน สว่ นขยายประธาน กรยิ า ส่วนขยายกริยา กรรม ส่วนขยายกรรม พอ่ ของฉนั กนิ อย่างรวดเรว็ ข้าว เยน็ น่ัง เกา้ อ้ี สมชาย
หน้าท่ขี องคาในประโยค คานาม ทาหนา้ ที่เป็นประธาน กรรม และคาขยาย พ่อ แม่ สุนัข ดนิ สอ ปากกา คาสรรพนาม ทาหน้าทเี่ ป็นประธาน กรรม และคาขยาย ฉัน เธอ เขา มัน ทาหน้าท่ีแสดงอาการและขยายคานาม เดนิ นอน นงั่ กิน ดื่ม คากริยา ทาหน้าท่ีขยายประธาน กรยิ า หรือกรรม ชา้ เร็ว เชา้ สาย คาวเิ ศษณ์ ทาหน้าทเ่ี ช่อื มคาในประโยค ใน กบั เพื่อ แต่ ของ คาบุพบท ทาหน้าที่เชือ่ มประโยคความรวม และ หรือ เพราะ จึง คาสันธาน ทาหนา้ ทแ่ี สดงอารมณแ์ ละความรูส้ ึกของประธาน อุ๊ย ! เอะ๊ ! โอ๊ย ! คาอุทาน
หนา้ ที่ของคาในประโยค ขอ้ ความใดคอื ประโยค นกบิน บ้านริมนา้ ฉนั ชอบกางเกงตัวใหญ่ เธอจะกนิ ขา้ วหรอื เธอจะกินขนม พ่อสมชาย กินจุ เขาฟนั กิง่ ไม้ด้วยมีด นกั เดนิ ทาง แมซ่ อ้ื รถคนั ใหม่ เต้นรา พ่อใจดมี าก คณะกรรมการนกั เรยี น รถตดิ เพราะฝนตก เขาวิ่ง กลา้ และแก้วคงจะกนิ ผัก ฉันออกกาลงั กายทกุ วัน
หนา้ ที่ของคาในประโยค คาอกรรมกริยา ทาหคนาา้ ททแี่ สี่ขดีดงอเาสกาน้ ร ใตเ้ ปขค็นยาาวคยิเศคาษานปณาบ์รมอะคกอืลเภกั คษาทณว่าใะ“ดทกาาหแงนเกล้างท”ะ่ี ทาหนคาา้สาทมา่ีในดยนใานมปทารหะนโา้ ทย่เี ปค็นกรรม นกบนิ บ้านรมิ นา้ ฉนั ชคอาบบกพุ าบทงเทกางหตนัว้าทใหี่เชญื่อม่ คาว่าเธอจะกนิ ขา้ ควาหลักรษอื ณเธนอามจทะากหนิ นขา้ ทนีแ่ มสดง “ก่ิงไม้” กับ “มดี ” ลักษณะของคานาม คอื คาว่า “รถ” พ่อสมชาย กนิ จุ เขาฟันกง่ิ ไมด้ ้วยมีด นกั เดนิ คทาสาันงธาน ทแามหน่ซ้าื้อทร่ี เชถื่อคมนั ปใรหะโมยค่ คาสามานยนาม ทาหน้าที่เปน็ ประธาน “รถติด” กบั “ฝนตก” เตน้ รา พอ่ ใจดคีมาการกิยานเุ ครคาณะหะ์ ทการหรนมา้ ทก่ีชาว่ รยนใหกั ้คเารกยีริยนาหลกั รถตคดิ าวเพเิ ศรษาณะบ์ ฝอกนปตรกิมาณ ทาหนา้ ทีข่ ยาย คาบรุ ษุ สรรพนาม ทาหนา้ ทเ่ี ป็นประธาน คอื คาวา่ “กิน” มีความหมายชดั เจนขน้ึ คากริยา คอื คาว่า “ออกกาลังกาย” เขาวิ่ง กล้าและแกว้ คงจะกินผัก ฉนั ออกกาลังกายทุกวนั
สรปุ บทเรียน การศกึ ษาชนิดของคาโดยทาความเข้าใจถงึ หน้าทีข่ องคานนั้ ๆ ช่วยใหส้ ามารถ ใช้คาในการส่ือสารได้ตรงตามความหมายและถูกหลกั ไวยากรณ์ คา ประโยค โครงสร้าง โครงสรา้ ง • เสียงพยัญชนะ + เสียงสระ + เสยี งวรรณยกุ ต์ + ความหมาย • ภาคประธาน + ภาคแสดง ชนิด หนา้ ทีข่ องคาในประโยค • คานาม -> ใช้เรียกช่อื คน สตั ว์ ส่ิงของ ลกั ษณะ อาการ • คานาม -> เปน็ ประธาน กรรม คาขยาย • คาสรรพนาม -> ใชเ้ รยี กแทนคานาม • คาสรรพนาม -> เปน็ ประธาน กรรม คาขยาย • คากรยิ า -> แสดงการกระทา • คากริยา -> แสดงอาการ ขยายคานาม • คาวิเศษณ์ -> ใช้ขยายนาม สรรพนาม กริยา หรือคาวเิ ศษณ์ • คาวิเศษณ์ -> ขยายประธาน กรยิ า หรือกรรม • คาบุพบท -> ใชเ้ ชื่อมคา • คาบพุ บท -> ใชเ้ ช่ือมคากับคาในประโยค • คาสันธาน -> ใช้เช่อื มประโยค • คาสนั ธาน -> ใช้เชื่อมประโยคความรวม • คาอทุ าน -> ใช้แสดงอารมณ์ ความรู้สึก • คาอุทาน -> ใช้แสดงอารมณ์ ความรู้สึกของประธาน
๓หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ตอน ๔ ความแตกตา่ งของภาษา หลักการใชภ้ าษา ตัวชว้ี ัด • วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียนตามความสนใจ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ความแตกตา่ งของภาษา ภาษาพูด + ความแตกตา่ ง ภาษาเขยี น + ของภาษา • ลกั ษณะของภาษาพูด • ลกั ษณะของภาษาเขยี น • ระดบั ภาษา • ระดับภาษา +การเปรยี บเทียบภาษาพดู กับภาษาเขียน • ความเขา้ ใจ • การใช้อ้างอิง • ความประณตี • ความน่าเชอ่ื ถือ • การใช้ภาษาตา่ งประเทศ • รปู แบบการสอ่ื สาร
ระดบั ภาษามีความสาคญั อย่างไร วนั น้ี วันกอ่ น ฉนั ส่งอีเมลไปสมัครงานที่บรษิ ัทแห่งหน่ึง หลายวันแลว้ แต่ยงั ไม่ตอบกลบั ฉันเลย
ภาษาพูด คอื ภาษาท่ีไม่เป็นทางการ ไมเ่ ครง่ ครัด เรือ่ งหลักเกณฑ์ทางภาษา มกั ใช้พดู หรือเขยี นระหวา่ งผูท้ ส่ี นทิ สนมกนั
ลกั ษณะของภาษาพดู • อาจมคี าฟมุ่ เฟือยและสานวนภาษาต่างประเทศปะปนอยู่ • มักใชค้ าซา้ หรือคาซ้อน เพือ่ เน้นความหมายของคาใหช้ ดั เจนย่ิงข้นึ • ใช้โครงสรา้ งประโยคท่ไี มส่ มบูรณ์ เช่น มกี ารละประธาน กริยา หรือกรรม • มกี ารตัดหรือรวบคา เพ่อื ความสะดวกรวดเรว็ เชน่ ใช่หรือไม่ รวบคาเปน็ ใชม่ ้ัย • ใชค้ าลงทา้ ย เช่น คะ่ ครบั • ออกเสียงไมต่ รงกบั รูปเขียน เชน่ ฉัน ออกเสียงเป็น ช้ัน
ระดับของภาษาพูด ระดับกนั เอง ระดับสนทนา ระดบั กงึ่ ทางการ ระดบั ทางการ ระดบั พธิ ีการ เชน่ การพูดในชีวติ ประจาวัน เช่น การพดู ในชวี ติ ประจาวนั เช่น การรายงานหน้าชน้ั เรียน เชน่ การแสดงปาฐกถา เชน่ การกลา่ วสดุดี สรรเสรญิ การกล่าวคาปราศรัย การกล่าวในพธิ ีสาคญั ตา่ ง ๆ กบั บุคคลที่สนิมสนม กับบุคคลทไ่ี ม่สนิทสนม การรายงานข่าวท่วั ไป การกล่าวสุนทรพจน์ การรายงานขา่ วในพระราชสานกั หรอื ในงานสงั คมต่าง ๆ หรือการประชุม เวลาเตรยี มการ เวลาเตรยี มการ เวลาเตรยี มการ เวลาเตรยี มการ เวลาเตรียมการ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112