Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore SoulMate_Marriage_คู่รัก_คู่ชีวิต_[ว.วชิรเมธี]

SoulMate_Marriage_คู่รัก_คู่ชีวิต_[ว.วชิรเมธี]

Published by Thalanglibrary, 2020-11-27 11:16:12

Description: SoulMate_Marriage_คู่รัก_คู่ชีวิต_[ว.วชิรเมธี]

Search

Read the Text Version

1 : ครู กั & คชู วี ติ

เรอ่ื ง : ว.วชริ ะเมธี ทีป่ รกึ ษา : วรรณภา ต้งั บรรยงค ปก และ รูปเลม : กนก เศรษฐธำรงค พิสจู นอ ักษร ภาพประกอบ : ศภุ วัฒน เจริญลาภ คัดลอกขอ ความ : วรมน วกิ รยานนท ฝอยฝน ชยั มงคล พิมพค รั้งท่ี 1 : วันที่ 11 กันยายน 2554 ผูจัดพิมพ : บรษิ ัท เบนซอ มรรัชดา จำกดั พิมพเ พอ่ื แจกเปน ธรรมทานเทา นัน้ ไมส งวนสทิ ธิจ์ ดั ทำจากตน ฉบับ เพอื่ เผยแผในทกุ กรณี หากตอ งการพมิ พเ พ่ือนำไปใชในงานมงคลสมรส ตดิ ตอ ไดที่ บรษิ ัท เบนซอมรรัชดา จำกัด 02 939 0055 2 : SoulMate & Marriage

เนอ้ื หาในหนังสือฉบับน้ี นำมาจากสว นหนง่ึ ของหนงั สือ Love Analysis มหศั จรรยแหงรัก เลมที่ ๑ โดยทาน ว. วชิรเมธี โดยไดนำเนอื้ หาในสวนของภาคที่ ๒ วเิ คราะหเจาะรัก มิติที่ ๓ วาดว ยเร่ือง SoulMate: คูรัก และ มิติที่ ๔ วาดว ยเรือ่ ง Marriage: คชู วี ติ มาจดั รูปเลม ใหม ใหกระทัดรัด เพ่อื นำมาเปน ทีร่ ะลึกในงานมงคลสมรส 3 : ครู กั & คูชีวติ Dhammaintrend รว่ มเผยแพรแ่ ละแบง่ ปันเป็ นธรรมทาน

อนุโมทนา การแตงงานเปนจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญท่ีสุดครั้งหนึ่ง ในชวี ติ ของคนเราทบ่ี อกวา เปน จดุ เปลย่ี นครง้ั สำคญั ทส่ี ดุ ครง้ั หนง่ึ ในชีวิตก็เพราะวาการแตงงานจะเปล่ยี นคนโสดสองคนใหเปน คนที่ไมโสดอีกตอไปคำวาไมโสดไมไดมีนัยะตื้นๆ แคคนที่มี คูครองแลวเทาน้ันแตยอมหมายรวมถึงการที่ปจเจกบุคคล สองคนตองนำเอาชีวิตทั้งชีวิตของตนเองมารวมเขาดวยกัน ในลักษณะท้ิงความเปนเธอทิ้งความเปนฉันหลอมกันเปน “เรา” ซึ่งคนที่แตกตางกันทั้งเพศ อายุ การศึกษา สถานภาพ การเลย้ี งดู นสิ ยั ใจคอพน้ื เพภมู หิ ลงั ความคดิ ความเชอ่ื รสนยิ ม สองคนจะมาอยูดวยกันแลวปรับความแตกตางเหลานี้ให เปนความ “ลงตัว” เพื่อสราง “ครอบครัว” ขึ้นมาใหม ยอม ไมใชเรื่องงายและเพราะไมใชเรื่องงายนี่เอง สังคมจึงสราง “พิธีแตงงาน”ขึ้นมาเปนกรอบของการใชชีวิตคูอีกชั้นหน่ึง พิธีแตงงานหรือมงคลสมรสนี้จึงนับเปนพันธสัญญาทาง สังคมใหคูรักดูแลกันและกันอยางดีที่สุดใหสมกับที่ตางฝาย 4 : SoulMate & Marriage

ตางก็เลือกกันและกันมาเปนคูชีวิตความสำคัญประการตอมา ก็คือ การแตงงานกันของคนทั้งสองจะกอใหเกิด “ชีวิตใหม” ขึ้นมาในโลกอาจจะเปนหนึ่งชีวิต สองชีวิต สามชีวิตหรือ มากกวา นน้ั นบั สบิ ชวี ติ กไ็ ดท ง้ั นน้ั ดงั นน้ั จากคนโสดพอแตง งาน ก็กลายเปนคนที่ตองใชชีวิตรวมกับอีกคนหนึ่งในลักษณะ สองกายแตมีหน่ึงจิตวิญญาณ(ตามความเชื่ออินเดียโบราณ) ชีวิตจึงมีพันธะเพิ่มข้ึนและจากนั้นก็จะมีความรับผิดชอบ ในฐานะผูใหกำเนิดชีวิตใหมชีวิตก็จะกาวไปสูอีกบทบาทหน่ึง คือการเปนพอแมของลูกๆพอสถานภาพเคล่ือนยายมาเปน พอแม คราวนี้ยิ่งตองการศิลปะในการครองรักครองเรือน เพม่ิ ขน้ึ ยง่ิ ลกู ๆ กำลงั อยใู นวยั เตบิ โต กำลงั เรยี นหนงั สอื กำลงั สรางเน้ือสรางตัวคนท่ีเปนพอแมย่ิงตองใชความอดทนและ ความวริ ยิ อตุ สาหะในการเลย้ี งดพู วกเขามากเปน พเิ ศษ 5 : คูรกั & คชู วี ิต

โดยเหตุท่ีการแตงงานเปล่ียนคนอยางนอยสาม สถานภาพ คือเปลีย่ นคนโสดมาเปนคนทม่ี ีเจา ของเปลี่ยนคน ทม่ี เี จา ของใหม าเปน คนทต่ี อ งหารชวี ติ ของตวั เองกบั ครู กั คคู รอง ในแทบทุกเร่ืองจนคนสองคนแทบจะกลายเปนคนเดียวกัน จากนน้ั เปลย่ี นอกี ครง้ั หนง่ึ คอื จากครู กั คคู รองธรรมดากลายเปน พอแมของชีวิตใหมเพราะการแตงงานทำใหเกิดสถานภาพ อยา งนอ ยกส็ ามสถานภาพเชน ทก่ี ลา วมานเ้ี องดงั นน้ั การแตง งาน จึงตองการ “ธรรมะ” เปนอยางยิ่ง หากขาดธรรมะเสียแลว ชีวิตคูก็ยากที่จะราบรื่น และธรรมะที่วานี้ไมใชธรรมะที่เปน ขอๆเพียงขอใดขอหนึ่งแตตองเปนสารพัดขอเลยทีเดียว ทั้งนี้ เพราะชีวิตคูน้ันไมใชสูตรสำเร็จท่ีใชสมการเดียวแลวตอบได ทกุ ปญ หาพระพทุ ธองคท รงเขา ใจสจั ธรรมขอ นดี้ ี ดังน้นั จงึ ทรง แสดงธรรมเก่ียวกับการครองเรือนครองรักไวหลายหมวดให นำมาปรบั ใชใ หสอดคลองกับแตละสถานการณข องชวี ิตคู 6 : SoulMate & Marriage

ในโอกาสทค่ี ณุ วรี ะยทุ ธ รตั นพลิ าศวานชิ และ คณุ วรมน วทิ กรยานนท จะเขา สพู ธิ มี งคลสมรสแลว มคี วามคดิ รเิ รม่ิ ในทาง สรางสรรคโดยการจัดพิมพหนังสือธรรมะแจกเปนธรรมทาน ในวนั สำคญั ยง่ิ ของชวี ติ นน้ั จงึ นบั เปน กศุ ลกจิ กรรมทคี วรแกก าร อนุโมทนาอยางยง่ิ เพราะคำวา “มงคลสมรส”กบ็ อกอยใู นตัว แลวทีเดียววาการแตงงานตองเริ่มดวยส่ิงท่ีเปนมงคลและ มงคลท่ีวาน้ีก็คือธรรมะน่ันเองในเมื่อคูบาวสาวเร่ิมตนชีวิตคู ดวยธรรมะและแจกธรรมะเปนธรรมทานผูเขียนก็เช่ือมั่นวา ผลแหงธรรมทานและธรรมปฏิบัติในชีวิตจริงคงจะเปนพร อันประเสริฐที่สุดที่จะทำใหทั้งคูครองรักครองเรือน และ ครองธรรมอยา งยง่ั ยนื สมดงั มโนปณธิ านปรารถนาทกุ ประการ ว.วชริ เมธี วมิ ุตตยารามอังกฤษ สหราชอาณาจกั ร ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๕๔ 7 : ครู ัก & คูช วี ิต

คำนำในการจัดรปู เลม ใหม พิธีมงคลสมรส หรือการแตงงานนั้น ไมใชบทสรุปที่ สวยงามของความรักของคนสองคน แตเปนเพียงจุดเริ่มตน ของคูบาวสาวในการเริ่มตนชีวิตคูดวยกันเทานั้น หลังจาก ผา นพน พธิ ใี นวนั สำคญั นแ้ี ลว ขา พเจา เชอ่ื วา คบู า วสาวจะตอ ง เผชญิ กบั ทง้ั ความสขุ และอปุ สรรคตา งๆไปพรอ มๆกนั โดยการท่ี คนสองคนจากตา งครอบครวั จะมาครองรกั ครองเรอื นรว มกนั และประคับประครองความรักไปไดอ ยางยืนยาวน้นั ขาพเจา เชื่อวา คนทั้งคูจะตองเขาใจในหลักธรรมชาติของความรัก หรือนั่นก็คอื หลกั ธรรมในการครองรักนัน่ เอง ดงั ทีท่ า น ว.วชริ เมธีกลาวไวว า “ถาเราจะสมรสใหเปน มงคลแกช วี ติ เราจะตองเอาธรรมนำหนา แลว สามภี รยิ าตามหลัง” 8 : SoulMate & Marriage

และเพอ่ื เปน มงคลแกก ารเรม่ิ ตน ชวี ติ คใู หมข องขา พเจา โดยความเมตตาจากทาน พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือทาน ว.วชิรเมธี ไดอนุญาตใหนำเนื้อหาบางสวนจากหนังสือ Love Analysis มหัศจรรยแหงรัก เลมที่ ๑ มาจัดพิมพ รูปเลมใหม เพื่อแจกจายเปนของที่ระลึกในงานมงคลสมรส ครัง้ น้ี ในฐานะของพทุ ธศาสนกิ ชน ขา พเจา มคี วามปรารถนา เปนอยางยิ่งวา จะไดเปนสวนหนึ่งในการชวยเผยแพรขอคิด ขอ ปฎบิ ตั อิ นั ดงี ามในการครองรกั ครองเรอื น ตามหลกั พระพทุ ธ ศาสนา ใหแกค ูรัก หรือคคู รองเพือ่ ชว ยลดปญหาในครอบครัว และสังคม ที่เกิดมาจากความละเลยที่จะปฎิบัติตนใหเปน คูรัก คูครองที่ดีตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจา สืบตอไป มิถุนายน ๒๕๕๔ วรี ะยุทธ รัตนพิลาศวานิช วรมน วิกรยานนท 9 : คูรกั & คชู ีวิต

คำนิยม “ขอแสดงความยนิ ดคี บู า วสาว” คุณวีระยุทธ รัตนพิลาศวานิช คุณวรมน วิกรยานนทในวัน สำคัญวันหนึ่งในชีวิต วันเริ่มตนของคำวา “เรา” พี่สาวคนนี้ ไดรับรูถึงความสุขจากความรัก และความปรารถนาดีที่นอง ทั้งสองตองการมอบหนังสือเลมนี้ใหแกทุกคนท่ีมารวมเปน สักขีพยาน เพียงแคเราทั้งสองตั้งใจ ทุกอยางก็ราบรื่นดวยดี ก็เพราะพลังความรักของนองทั้งสอง จึงทำใหหนังสือเลมนี้ ปรากฏออกมาอยา งงดงามขออนโุ มทนากบั ทกุ ทา นทม่ี สี ว นรว ม ในการจดั พมิ พห นงั สอื เลม นเ้ี ปน ธรรมทาน ณ ทแ่ี หง น้ี ..ขอให “เรา” ทง้ั คมู พี ลงั มคี วามสขุ มคี วามเขม แขง็ “รกั คอื สง่ิ สวยงาม” โดยเฉพาะความรักท่ีใชธรรมะขององคสัมมาสัมพุทธเจา นำทาง ..... รัก วรรณภา ตงั้ บรรยงค ... พีจ่ ุบ ๒๘ มถิ ุนายน ๒๕๕๔ 10 : SoulMate & Marriage

กราบขอบพระคุณ พระมหาวุฒชิ ัย วชริ เมธี (ว.วชิรเมธ)ี ใหค วามเมตตาอนุญาติใหนำเนอ้ื หาบางสว นจากหนังสือ Love Analysis มหัศจรรยแหง รัก มาจัดพิมพใ หมใ นครั้งน้ี คณุ เงิน รัตนพลิ าศวานชิ คณุ วพิ ินธ รตั นพิลาศวานิช คุณธวัชชัย วกิ รยานนท คุณโสภา วิกรยานนท บดิ า-มารดาผใู หก ำเนดิ ใหโ อกาสใหค วามรกั อยา งไมม ที ส่ี น้ิ สดุ ขอบคณุ คุณวรรณภา ตั้งบรรยงค พ่สี าวแสนสวยและใจดี ทค่ี อยชวยเหลอื นอ งคนนใ้ี นทกุ ๆเร่ือง รวมไปถึงเปนบุคคลสำคัญที่สนับสนุน และทำใหเกิดการจัด พมิ พในครง้ั นี้ คุณกนก เศรษฐธำรงค ที่เสียสละเวลาอันแสนจะนอ ยนิดมาชวยเหลือเรยี บเรยี ง รูปเลม เพ่ือนๆพๆ่ี นองๆทุกทาน ที่คอยใหความชว ยเหลอื ใหความ เมตตากับเราทั้งสองคนดว ยดตี ลอดมา 11 : ครู กั & คูชวี ติ

สาระคูรกั คชู วี ิต 13 15 SoulMate : ครู กั 17 28 - คำจำกดั ความ 32 - เพราะเราคกู นั 41 - ผมเลอื กคุณ 49 - น้วิ นางขางซาย 51 Marriage : คูชีวติ - คำจำกัดความ - คูร กั Idol - เร่อื งจรงิ หรือ เรือ่ งในอดุ มคติ - ปจุ ฉาประสารกั ? 12 : SoulMate & Marriage

SoulMate คูรกั คำจำกัดความ ความรักระหวางชายหนุมหญิงสาว หรือความรักที่ องิ กามารมณน น้ั เปน ความรกั ทว่ี างรากฐานอยบู นสญั ชาตญาณ ของการดำรงเผาพันธุ ซึ่งมีอยูในสิ่งมีชีวิต ทั้งคน ทั้งสัตว ทง้ั พืชพรรณ ทัง้ ตนไมใ บหญา ตลอดจนถงึ จุลนิ ทรียชนิดตางๆ เชน พวกแบคทเี รยี ไวรสั และพวกปรสติ บางประเภทสญั ชาตญาณ ในการดำรงเผา พนั ธนุ น้ั กจ็ ะมอี ยอู ยา งเทา เทยี มเสมอกนั ความรักระหวางชายหนุมหญิงสาว หรือความรักที่ องิ กามารมณน น้ั เปน ความรกั ทถ่ี กู กลา วถงึ มากทส่ี ดุ และเกย่ี ว ขอ งกบั ชวิี ติ ของคนเราคอ นขา งจะเขม ขน รนุ แรง ทง้ั ยงั มอี ทิ ธพิ ล ทางจิตใจอยางมากท่ีสุดดวย 13 : ครู กั & คชู ีวติ

เนื่องจากคำวา “รัก” มีผูสันนิษฐานวา อาจมาจาก คำวา “ราคะ” อนั เปน ผลจากการทีค่ วามรกั ระหวา งชายหนมุ หญิงสาวนั้นก็เปนความรักที่อิงราคะนั่นคือความใครความ ปรารถนา ความตองการ ความคลง่ั ไคลใ หลหลง ความรักในทางชูสาวท่ีมปี ลายทางเปน กามารมณ เชนท่ีกลาวมานี้ ในทางพุทธศาสนาทา นกลา วไววา เกดิ ข้นึ ไดจ ากเหตปุ จ จัย ๒ ประการดว ยกนั คอื 14 : SoulMate & Marriage

เพราะเราคูก ัน ๑. บุพเพสันนิวาส ไดแก การเคยมีความเกี่ยวของ สัมพันธกันมาในชาติปางกอน ทั้งในฐานะของคูสามีภรรยา หรอื ในสถานภาพอน่ื ๆ เชน บดิ า มารดา พน่ี อ ง หรอื ญาตสิ นทิ มิตรสหาย แตใ นมิติของการครองคู คำวา “บพุ เพสันนิวาส” เจาะจงลงไปเลยวา หมายถึงการเคยเปนคูสามีภรรยากันมา กอน หรือเคยผูกสมัครรกั ใครกนั มากอ นนัน่ เอง ๒. เกดิ จากการเกอ้ื กลู กนั ในปจ จบุ นั ไดแ ก การทำงาน รวมกัน ผานความทกุ ขย ากลำบากมาดว ยกัน อยูใ นที่ทำงาน เดียวกัน สถาบันเดียวกัน บานเดียวกัน สิ่งแวดลอมเดียวกัน หรือพบวิกฤติการณบางอยางมาดวยกัน อันเปนเหตุใหเกิด ความเห็นอกเห็นใจซึง่ กันและกนั เชนนเ้ี ปน ตน เราไมอาจรูไดเลยวา ในชั่วชีวิตเรา ความรักระหวาง ชายหนุมหญิงสาวที่เกิดขึ้นในแตละครั้งนั้น จะเกิดขึ้นจาก บุพเพสันนิวาส หรือวาเกิดขึ้นจากเหตุปจจัยในปจจุบัน ขณะมาประสานสอดคลอ งกันอยา งพอดี 15 : ครู ัก & คูช วี ติ

ในเมอ่ื เราไมร วู า ความรกั ของเราเกดิ ขน้ึ มาจากสาเหตใุ ด แตส่งิ ท่ดี ีท่สี ุดท่เี ราจะสามารถทำไดเม่ือเรามีความรักระหวาง ชายหนมุ หญงิ สาว สง่ิ นน้ั กค็ อื “การเรยี นรซู ง่ึ กนั และกนั อยา งดี ที่สุด” พระพุทธเจาทรงตรัสไววา การที่คนสองคนจะเปน คูรักกันจะตองมีธรรมะในการเลือกคู ในการครองคู ถาเรามี ธรรมะในการเลอื กคู ธรรมะในการครองคู กจ็ ะทำใหเ ราสามารถ ครองรักครองเรือนอยางประสบความสำเร็จได จนกระทั่ง ถอื ไมเ ทา ยอดทอง กระบองยอดเพชรเหมอื นดง่ั คำทค่ี นโบราณ ไดกลาวไว ในสวนของธรรมะในการเลือกคนรัก หรือคูรักที่ เหมาะสมนั้น พระพุทธเจาก็ทรงตรัสเอาไวอีกเชนกัน สิ่งนี้ เรยี กวา สมชีวธิ รรม ๔ 16 : SoulMate & Marriage

ผมเลือกคุณ สมชีวิธรรม ก็คือ ธรรมที่จะทำใหมีความเสมอกัน ในการดำรงชวี ติ คู ซ่ึงประกอบดว ยหลกั ๔ ประการ คือ ๑. มคี วามเช่อื เสมอกนั (สมสัทธา) ๒. มคี วามดีเสมอกนั (สมสีลา) ๓. มีความเสียสละเสมอกัน (สมจาคา) ๔. มปี ญ ญาเสมอกนั (สมปญ ญา) ชายหนมุ หญงิ สาวทม่ี คี ณุ สมบตั ิ ๔ ประการนเ้ี สมอกนั หรือใกลเคียงกัน ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเปนคูรักที่ประสบ ความสำเร็จ รว มกันในการครองเรอื นครองรกั และรวมสรา ง ครอบครัวที่รม เย็นเปนสขุ ไดในอนาคต โดยรายละเอียดของสมชวี ธิ รรม ๔ ประกอบดว ย ๑. มีความเชื่อเสมอกัน (สมสัทธา) ก็คือ มีระบบ ความเชื่อ ความยึดถือ ความศรัทธา ที่เปนไปในแนวทาง เดยี วกนั ทเ่ี สมอหรอื ใกลเ คยี งกนั เชน ศรทั ธาในศาสนาเดยี วกนั ศรทั ธาในลทั ธนิ กิ ายเดยี วกนั ศรทั ธาในพรรคการเมอื งเดยี วกนั ศรัทธาในระบบเหตผุ ลเดยี วกัน ตลอดจนถงึ ศรทั ธาในวถิ ชี วี ิต แบบเดียวกัน 17 : ครู ัก & คูช ีวติ

คำวา สมสัทธา ถากลา วอยางงายๆ ก็คือการเปน คนคอเดียวกนั นั่นเอง ถา เราเปนคนคอเดียวกนั แลว กจ็ ะทำใหพ ดู จาภาษาเดียวกนั และเขาอกเขาใจกันไดเปน อยางดี หากสงั เกตดจู ะพบวา คูรักท่คี บกนั อยา งยั่งยนื มกั จะ เปน ครู กั ทม่ี ที ศั นคตไิ ปในแนวทางเดยี วกนั เมอ่ื มที ศั นคตไิ ปใน แนวทางเดียวกัน ก็จะสามารถเปนคนรักของกันและกันได อยางยาวนาน ในทางตรงกันขาม ถาทัศนคติไปดวยกันไมได นั่นก็จะเปนสาเหตุ ที่ทำ ใหคูรักตองเลิกรางหางเหินกันไป ดวยเหตุนี้ เวลาเราไดยิน ใครก็ตามที่ตองยุติความสัมพันธตอกัน เขาเหลานั้น จึงมัก กลาวประโยคที่วา “เราไปดวยกันไมได” คำวา “เราไป ดวยกันไมได” ก็คือ ทัศนคติ ศรัทธา หรือความเชื่อไมเสมอ กนั นนั่ เอง 18 : SoulMate & Marriage

และหากเกดิ คำถามขน้ึ มาในใจวา เอะ ! ถา เชน นน้ั แลว เราควรจะใชหลักอะไร เพื่อเปนเกณฑวัดวา เราทั้งสองมี ความเชื่อหรอื ความศรทั ธาทเี่ สมอกนั หรือไม ทางพุทธศาสนา ทา นกไ็ ดว างแนวทางไวเ พอ่ื พจิ ารณา ในเรอ่ื งของความศรทั ธา ที่เสมอกนั ท้ัง ๔ ประการ ดงั ตอไปนีค้ ือ (๑.๑) เชอื่ มัน่ ในการกระทำ (กมั มสทั ธา) กลา วคือ เชื่อมั่นวาชีวิตของเรานั้น จะดีขึ้นหรือจะเลวลง เปนเพราะ ผลจากการกระทำของตวั เราเอง ไมไ ดเ ปน เพราะการดลบนั ดาล ของสิ่งศักดิ์สิทธิเทวฤทธิ์ปาฏิหาริย ไมไดเปนเพราะกรรมเกา นำพาแตเพียงอยางเดียว หรือไมไดเปนเพราะไมมีเหตุไมมี ปจ จัย แตช ีวติ เราจะเปนไปอยางไรนั้น ก็เปน เพราะวาเราเปน ผลู งมือกระทำเหตุ นน่ั คือ ตัวของเราเปนผูกระทำส่ิงนนั้ ดวย ตัวของเราเอง ฉะน้ัน ชวี ิตของเรานี้จงึ กลา วไดว า เปนผลผลิต ของการสรางเหตุ เมื่อเราสรางเหตุดี ชีวิตก็ดี ถาเหตุไมดี ชีวิตกไ็ มดี 19 : คูรกั & คูชีวติ

(๑.๒) เช่อื มัน่ ในผลของการกระทำ (วิปากสัทธา) กลา วคือ ขอใหเราเชื่อมนั่ วา ทุกสิง่ ทุกอยา งทเี่ รากระทำเอาไว ยอ มสงผลตอ ชวี ิตของเราไมทางใดกท็ างหนง่ึ เสมอไป เมอื่ เรา เชื่อมั่นในผลของการกระทำ ก็จะทำใหเราเรียนรูที่จะสราง แตเหตุทดี่ ี เพอ่ื ทีจ่ ะรับในผลท่ีดี กลา วอยางงายท่ีสุดวา สราง เหตทุ ด่ี เี พอื่ ที่จะรอรับผลท่ีดี แลวก็หลีกหนีเหตทุ ่ไี มดี เพอ่ื ที่จะ ไมตองรอรบั กบั ผลทไ่ี มด ี (๑.๓) เชอ่ื มน่ั วา เรามกี รรมเปน ของตน และเราเอง จะเปนทายาทผูรบั ผลแหงกรรมนัน้ (กัมมสั สกตาสัทธา) กลาวคือ ความศรัทธาหรือความเชื่อที่วา เราทุกคนลวนแต มีกรรมเปนสมบัติของตนเอง เมื่อเราทำกรรมอะไรไว ไมวาดี หรือชั่วก็ตาม เรานั่นเอง จะเปนทายาทผูรับผลแหงกรรมนั้น ความเชอ่ื มน่ั ทว่ี า เราจะเปน ทายาทผรู บั ผลแหง กรรมทก่ี ระทำไว นั่นเอง จะทำใหเรารับผิดชอบตอผลของการกระทำของเรา และจะทำใหเ ราดำเนนิ ชวี ติ อยา งมคี ณุ ภาพ นน่ั คอื ไมว า จะคดิ จะพูด จะทำอะไรก็ตาม เราจะทำแตพฤติกรรมเชิงคุณภาพ จะไมท ำอะไรในลักษณะท่ขี าดความรับผดิ ชอบอีกตอไป 20 : SoulMate & Marriage

(๑.๔) เชื่อมั่นในปญญาตรัสรูของพระพุทธเจา (ตถาคต โพธิสัทธา) กลาวคือ เชื่อมั่นในปญญาตรัสรูใน พระพุทธเจา เชอื่ มนั่ ในสงิ่ ท่ีพระพทุ ธเจาทานตรสั รูและนำมา สง่ั สอน กลา วอยา งสน้ั ทส่ี ดุ กค็ อื เชอ่ื มน่ั ในศกั ยภาพของมนษุ ย วา มนษุ ยท กุ คน มศี กั ยภาพ ทจ่ี ะบรรลสุ จั ธรรม เฉกเชน เดยี วกบั พระสัมมาสัมพุทธเจาทานไดบรรลุ เมื่อเราเชื่อมั่นเชนนี้ เราก็จะหันมายืนดวยขาของเราเอง ดวยการสรางสรรค พัฒนาชีวิ ติ ของเราใหดีงาม ใหล ้ำเลศิ ย่งิ ๆข้นึ ไป คนทีเ่ ปน คูรักกนั ถามีศรทั ธาในกรรม ศรัทธาในผลของ กรรม ศรทั ธาในภาวะทส่ี ตั วม กี รรมเปน ของของตน และศรทั ธา ในพระสมั มาสมั พทุ ธเจา รวมถงึ ศรทั ธาในศกั ยภาพของตนเอง แลว ก็จะทำใหเราสามารถหยัดยืนในการสรางเนื้อสรางตัว หรือสรางสรรคพัฒนาชีวิตของเราใหดียิ่งๆขึ้น และเมื่อเรามี ศรทั ธาทเ่ี สมอกนั จะทำใหเ รามคี วามคดิ ความเหน็ ทล่ี งรอยกนั พูดจาภาษาเดยี วกนั นน่ั จะทำใหเ มอ่ื เราทำอะไรกต็ าม สิ่งนั้น กจ็ ะงา ยดายขน้ึ เนอ่ื งจากเรากำลงั ดำเนนิ ชวี ติ เปน ไปในทศิ ทาง เดียวกัน เสมอื นหน่ึงวา ถาเรา 21 : ครู กั & คชู ีวติ

มงุ ทจ่ี ะเดนิ ทางไปในมหาสมทุ ร และเราตง้ั เขม็ ทศิ ไวอ ยา งชดั เจน วา เราจะเดินทางไปทางทิศตะวันออก ตอใหมหาสมุทร นน้ั จะกวา งใหญไ พศาลสกั แคไ หนกต็ าม เรอื ของเรากจ็ ะไมห ลง ทิศหลงทาง เพราะฉะนั้น การที่เรามีศรัทธาที่ชัดเจน หรือมี ศรัทธาที่เสมอกัน จึงเปรียบไดกับกัปตันที่มีเปาหมายอยาง ชดั เจนในการเดนิ เรอื ในมหาสมทุ รอนั กวา งใหญไ พศาลนน่ั เอง จะเห็นไดวา ศรัทธานั้นจะทำหนาที่กำหนดเปาหมาย ในการเดินทางชีวิตของเรา ฉะนั้น ถาเรามีศรัทธาที่เสมอกัน การเดินทางในเสนทางแหงชีวิตคูของเรานั้น ก็จะเปนการเดนิ ทางทีม่ เี ปา หมายชดั เจน ไมหลงทาง และไมเ สยี เวลาไปในเรื่องท่ีไรแกนสาร 22 : SoulMate & Marriage

๒. มคี วามดีเสมอกัน (สมสีลา) กค็ อื มศี ลี เสมอกนั มีความประพฤติเสมอกัน เชน ถาสามีเปนผูที่มีศีล ๕ และ ภรรยาเองก็มีศีล ๕ เชนกัน ก็จะทำใหเคารพในคุณคาของ กันและกัน แตในขณะเดียวกัน ถาสามีเปนผูที่ไมมีศีล ๕ แตบังเอิญภรรยาเปนผูที่มีศีล ๕ ภรรยาก็จะใหความเคารพ สามีไดไมเต็มที่นักและฝายสามีเองก็จะรูสึกไดวาตนเอง ดอ ยกวา ภรรยาในแงข องความประพฤติ นน่ั อาจเปน เหตใุ หเ กดิ การดหู มิ่นถนิ่ แคลนซงึ่ กันและกนั ถาศีลไมเสมอกนั แลว ก็จะ ทำใหค วามเคารพซง่ึ กนั และกนั เปน ไปไดย าก หรือทำใหการ เห็นคุณคาซึ่งกันและกันมีนอยลง เมื่อตางฝายตางก็ไม เคารพในคุณคาและศักดศิ์ รขี องกันและกนั เวลาจะคดิ จะพดู จะทำอะไรก็ตาม ก็จะไมย ำเกรงกัน เม่ือไมย ำเกรงกัน กเ็ ปน เหตุใหเกิดความราวฉานในการครองเรือนครองรักกันอยาง งายดายน่ันเอง 23 : ครู กั & คชู วี ิต

หากสังเกตดู จะพบวามีคูรักเปนจำนวนมากที่มีศีล ไมเ สมอกัน เชน สามชี อบเท่ยี วกลางคนื แตภ รรยาชอบอยกู ับ เหยา เฝากับเรือน เมื่อผานหว งเวลาไปสักระยะทัง้ คูกม็ กั จะไป ดวยกันไมได บางครั้งสามีชอบออกงานสังคม แตภรรยานั้น รกั สนั โดษ ชอบเกบ็ ตวั เงยี บๆอยูภายในบานสกั ระยะหน่งึ ท้งั คู ก็จะตอ งเลกิ รา งหา งเหนิ กนั ไป เพราะฉะนนั้ คำวา ศลี เสมอกนั ถาจะนิยาม ใหกวา งขวางกวานัน้ ก็คอื การมรี สนิยม ในการดำเนินชวี ิตทีเ่ สมอกันนนั่ เอง 24 : SoulMate & Marriage

๓.มคี วามเสยี สละเสมอกนั (สมจาคา)คำวา “เสยี สละ เสมอกัน” ในที่นี้หมายความวา เราจะตองเสียสละกิเลส สวนตัวของเราทิ้งไป หรือกลาวอีกนัยหนึ่งวา เราจะตองทิ้ง อตั ตาของเรา อยาถอื เธอถอื ฉัน ใหท ้ิงความเปนเธอความเปน ฉนั แลว หลอมรวมกันเปน เรา หากเราสามารถละทิ้งอตั ตาของ แตล ะฝา ยไปได ทิง้ ความเปน เธอ ทิ้งความเปน ฉนั ไปได แลว รวมกันเปน “เรา” ไดเมื่อไหร เมื่อนั้นเราก็จะเดินกาวไป พรอมๆกัน เมื่อตางฝายตางไมถือตนเองเปนใหญ ก็จะเกิด ความถอยทีถอยอาศัย เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และนั่น ก็จะทำใหคนท้ังคูสามารถประคับประคองความรักของกัน และกนั ไดอยา งยืนยาว 25 : ครู กั & คูชีวิต

๔. มีปญญาเสมอกัน (สมปญญา) หมายความวา มีขีดความสามารถในการใชปญ ญา ขีดความสามารถในการ ใชเหตุผลเสมอกัน เมื่อเรามีระดับสติปญญาเสมอกันหรือ ใกลเคียงกันนั้น เวลาที่เราคุยกันเวลาที่เราวางแผนทำอะไร รว มกนั หรอื เวลาทเ่ี ราวางโครงการวา เราจะแตง งานกนั หรอื เรา จะสรางเนื้อสรางตัวดวยวิธีการอยางนั้นอยางนี้รวมกัน ก็จะ ทำใหพูดจากันรูเรื่องในลักษณะที่วาพูดจาภาษาเดียวกัน พอพดู จาภาษาเดยี วกนั อยใู นระดบั ชน้ั ทางปญ ญาใกลเ คยี งกนั ก็จะมคี วามคดิ ความเหน็ ไปในทศิ ทางเดียวกัน ก็จะทำใหง าย ตอ การทำความเขา ใจ แตถ า สามเี ปน คนทฉ่ี ลาดมาก แตภ รรยา เปน คนทต่ี ามความคดิ ของสามไี มท นั สกั ระยะหนง่ึ คนทง้ั คกู จ็ ะ เกดิ อาการ “นำ้ แยกสาย ไผแ ยกกอ” ซง่ึ จะนำไปสู “การแยกทาง” กนั ในทส่ี ดุ แตถ า สามแี ละภรรยาเปน คนทม่ี คี วามคดิ ความอา น 26 : SoulMate & Marriage

อยูในระดับเดียวกัน ทั้งคูก็จะคุยกันรูเรื่อง สามีคิด ภรรยาก็ สนบั สนนุ ภรรยาคดิ สามกี ็สนับสนนุ กจ็ ะกลายเปนคูเตมิ เต็ม ซึ่งกันและกันอยางถึงที่สุด แตถาฝายหนึง่ คิด ฝายหนงึ่ ตาม ไมท ัน ในทีส่ ดุ จะกลายเปนวา คนหนึ่งหรอื ฝายหนง่ึ กำลงั กา ว ไปขางหนาแตอีกฝายหนึ่งกลายเปนลูกตุมถวงอยูขางหลัง กรณีเชนนี้ ก็จะทำใหการครองรักนั้นมีปญหาเกิดขึ้นอยาง แนน อน ฉะนั้น ถาคนทั้งคูมีปญญาเสมอกันแลว คิดก็คิด ใกลเคียงกัน พูดก็พูดใกลเคียงกัน ทำก็ทำใกลเคียงกัน ก็จะ ทำใหทุกสิ่งทุกอยางนั้นเปนไปไดโดยงาย อุปสรรคตางๆก็จะ ไดร บั การแกไ ขโดยไมย ากเย็นนัก 27 : คูร ัก & คชู ีวติ

น้ิวนางขา งซา ย หากวาจะเลือกครู ักมาเปนคคู รอง ก็ควรพิจารณาครู กั ของเราวามีธรรมทั้ง ๔ ประการนี้เสมอเหมือนกับเราหรือไม กลาวคือ มรี ะบบความเชอื่ เสมอกนั มีความประพฤตเิ สมอกนั มคี วามเสียสละเสมอกนั และมปี ญญาเสมอกนั อาจมีคำถามแทรกขึ้นมาวา เอะ ! แลวเราจะทราบได อยา งไรวา คนรกั ของเรา เขาหรอื เธอจะมธี รรมทง้ั ๔ ประการน้ี เสมอกนั กบั เรา คนโบราณทา นชาญฉลาดมาก ทานกลา วไวว า ถาอยากจะรูวาคูรักของเรา มธี รรมท้งั ๔ ประการนี้ เสมอกับเราหรือไม กใ็ หหมนั้ กนั ไวก อ น 28 : SoulMate & Marriage

การหม้ัน กค็ ือการจองไวกอน จองไวเ พือ่ อะไร จองไวเ พ่อื ศกึ ษาซึง่ กนั และกนั นี่คือปรีชาญาณของคนแตโบราณกาล ทานไมนิยม ใหช ายหนมุ หญงิ สาวทพ่ี งึ ใจกนั แลว กม็ าใชช วี ติ อยรู ว มกนั เลย ไมเหมอื นในยุคสมัยนี้ สมัยกอนผูหลักผูใหญทานชาญฉลาดมาก เมื่อทาน เห็นวาตางฝายตางก็รักใครชอบพอกัน ก็ใหหมั้นหมายกัน ไวก อ น อยา เพง่ิ เรง รบี แตง งาน หมน้ั เพอ่ื ใหเ รยี นรซู ง่ึ กนั และกนั เปนชวงเวลาของการเรยี นรูร ะหวางชายหนุม และหญิงสาว เมื่อศึกษาและเรียนรูกันไปแลว ก็พบวา สมสัทธา ก็ไมม ี สมจาคาก็ไมม ี สมสลี าก็ไมม ี สมปญ ญาก็ไมมี ในที่สดุ ทา นกส็ ามารถใหถ อนหมน้ั ได สง่ิ นเ้ี อง คอื ปรชี าญาณในการ เลือกคูครองของคนแตโบราณกาล ซึ่ง ณ เวลานี้ เปนที่นา เสียดายวา คนหนุมสาวในยุคปจจุบันไดมองขาม และได ทอดทิง้ ส่งิ สำคัญสง่ิ น้ีไป 29 : คูรัก & คูช ีวิต

และนน่ั จงึ เปน เหตใุ หส ถติ กิ ารหยา รา ง มตี วั เลขทส่ี งู มาก สูงเทียบเคยี งกบั สถิตกิ ารแตง งานเลยทีเดียว กลาวคอื มกี าร แตง งานสูง ก็มกี ารหยารางสงู ตามมาเชนกัน และนั่นเปน เหตุ ใหใ นปจ จบุ นั น้ี มสี ถานภาพทเ่ี รยี กกนั วา Single Mom เกดิ ขน้ึ และกระจายอยูอยางมากมาย ไมเฉพาะในสังคมไทยเทานั้น หากแตกระจายไปทว่ั ทุกมุมโลก น่ันกเ็ พราะวา เราไดทอดทิง้ ขั้นตอนสำคัญ คือ ขนั้ ตอนของการศึกษาซ่ึงกนั และกนั กอ น นั่นเอง ถามวา ทำไมการหมนั้ จงึ สำคัญ เพราะเมอื่ แรกคบกันนั้น มนษุ ยแ ตละคนจะยังไมเ ผย ตัวตนที่แทออกมาใหเห็น แตเมื่อคนทั้งคูอยูระหวางศึกษา ดูใจกันไปเรื่อยๆนั้นเอง ก็จะคนพบวา ตัวตนที่แทจริงของ อีกฝายหนึ่งเปนเชนไร ยิ่งศึกษากันนานไป ก็จะยิ่งทำใหการ ตดั สินใจครองคมู คี วามมนั่ คงมากยงิ่ ขึน้ 30 : SoulMate & Marriage

บางคร้ัง การหมนั้ อาจมผี ลทำใหก ารตดั สนิ ใจ แตง งานชา ลง หากมองอยางผิวเผิน เหมือนการหมั้นเปนอปุ สรรคของการครองเรอื น ตามทแี่ ตล ะฝา ยวาดหวังเอาไวไ มท นั ใจวยั รนุ คน หนมุ สาว แตห ากมองอีกมมุ หนึ่ง แมการหม้ัน จะทำใหอะไรหลายอยา งชา ลงไปบา ง แตก็ยังดกี วาแตง งานกันไปอยา งรวดเรว็ เพือ่ ทจี่ ะแยกทางกนั อยางรวดเร็วดวยเชน เดียวกนั 31 : คูร ัก & คูชีวิต

Marriage คูชีวิต “เมอ่ื เรามาอยรู ว มกนั มาครองเรือนรวมกนั แลว เราจะตอ งปลอ ยวางกิเลสของตนเองทงิ้ ความเปนเธอ ทง้ิ ความเปน ฉันแลวหลอมรวมกันเปน เรา เหมือนกนั กับอฐิ หิน ดนิ ทราย ปนู ท่ีมาจาก คนละทิศละทางแตพ อมาเรยี นรซู ึง่ กนั และกัน ก็สามารถหลอมรวมกนั กลายเปนซีเมนต ทีพ่ รอ มจะสรางบา น สรางโดมสรา งปราสาท สรางวหิ ารใหญโตมโหฬารสักเพยี งไหนก็ได” คำจำกัดความ เมื่อเราเลือกคูรักที่มั่นใจแลววา เขาหรือเธอผูนั้น มีธรรมทั้ง ๔ ประการ เสมอหรือใกลเคียงกับเรา ก็จะถึงเวลา ที่เราจะเขาสูพิธีมงคลสมรส คำวา “มงคลสมรส” นี้ เปนคำ ทน่ี าศึกษา นา วเิ คราะหเ ปนอยางยิ่ง วาเหตใุ ดจึงตองใชคำวา “มงคลสมรส” 32 : SoulMate & Marriage

โดยความหมาย หรือนัยสำคัญของคำน้ี ทซี่ อนไวก ็คอื “ถาเราจะสมรสใหเปนมงคลแกชีวิต เราจะตองเอาธรรม นำหนาแลวสามภี รยิ าตามหลัง” ถอื ไมเทา ยอดทอง กระบองยอดเพชร เมอ่ื แตง งานกนั แลว เราทง้ั คจู ะตอ งมธี รรมอกี ๔ ประการ นำหนาในการครองเรือน ครองรัก และครองชีวิต สิ่งนั้นก็คือ ฆราวาสธรรม ๔ (ธรรมสำหรับการครองเรือน ๔ ประการ) อนั ไดแก ๑. รักเพียงหน่ึง (สัจจะ) คือ รักเดียวใจเดยี ว ๒. พงึ เรยี นรู (ทมะ) คือ ความพรอ มท่จี ะเรียนรู ซงึ่ กนั และกัน ๓. สูอ ดทน (ขันต)ิ คอื ความอดทนตอ กันและกัน ๔. ฝกฝนการให (จาคะ) คือ ความเสยี สละ 33 : คูรกั & คชู วี ติ

๑. รกั เพยี งหนง่ึ (สจั จะ) หมายความวา บคุ คลทง้ั สอง จะตอ งมคี วามซอ่ื สตั ยจ รงิ ใจ รกั เดยี วใจเดยี วตอ คสู มรสของตน เบอ้ื งตน อยา งไร เบอ้ื งปลายกอ็ ยา งนน้ั ไมม ภี รยิ านอ ย ไมม กี ก๊ิ ไมมีกั๊ก ไมมีควิก กลาวอยางงายๆก็คือ ไมมีการละเมิด จริยธรรมทางเพศตอคูส มรสของตนน่นั เอง ๒. พงึ เรยี นรู (ทมะ) หมายความวา พรอ มทจ่ี ะเรียนรู ซึ่งกันและกัน ซึ่งก็คือ”การรูจักยืดหยุน”นั่นเอง เมื่อเรามา อยูดวยกันนั้น ตางคนก็ตางมา ตางคนตางคิด ตางคนตาง มีความตองการ จะเสมอกันเพียงแคเรื่องเดียว ก็คือเรื่อง ของความรักนั้นเอง ที่ดึงดูดเรามา ฉะนั้น เมื่อเรามีภูมิหลัง ที่แตกตางกัน มีประสบการณชีวิตที่แตกตางกัน มีระบบ ความคิดความเชอ่ื ท่แี ตกตางกนั ถาเราไมพรอ มท่ีจะเรียนรูซ่งึ กนั และกนั เมอ่ื อยรู ว มกนั ไปสกั ระยะหนง่ึ ในทส่ี ดุ แลว กจ็ ะตอ ง เลิกรา งหางหายกนั ไป 34 : SoulMate & Marriage

ชวี ติ คถู าจะใหยั่งยืน ท้ังสองสามีภรยิ าตองบอกตนเอง อยูเสมอวา เรามาแตงงานกันก็เหมือนกับเรามาลงทะเบียน เรยี นวชิ าสรา งครอบครวั ดว ยกนั ใหค ดิ เสมอวา เราทง้ั สองคนเปน เสมือนนักเรียนนอยๆ ของมหาวิทยาลัยชีวิต ที่เราจะตองลง ทะเบยี นเรียนซง่ึ กันและกัน ใหอีกฝายหน่ึงมองอีกฝายหน่ึงวาเปนครูของตนเอง อยาไปมองวาอีกฝายเปนคูเวรคูกรรมของตนเอง แตจะตอง มองวา เวลาที่สามีรอนมา ภริยาตองเรียนรูที่จะเย็นกลับไป และถาภรยิ ารอ นมา สามีกต็ องเรยี นรทู ี่จะเยน็ กลบั ไป อยา งน้ี เปนตน ตองเรียนรูที่จะมองถึงจุดออนของกันและกัน แลวจึง ปรบั เขาหากนั ใหได เหมือนกับอิฐ หิน ดิน ทราย ปนู ทม่ี าจาก คนละทิศละทาง แตพอมาเรียนรูซึ่งกันและกัน ก็สามารถ หลอมรวมกนั กลายเปน ซเี มนต ทพ่ี รอ มจะสรา งบา น สรา งโดม สรางปราสาท สรางวิหาร ใหญโตมโหฬารสักเพียงไหนก็ได 35 : คูรัก & คชู ีวติ

ถา อฐิ หิน ดิน ทราย ปูน ไมเ รยี นรซู ่ึงกนั และกัน ก็ไม สามารถจะหลอมรวมกนั เปน ซเี มนต กไ็ มส ามารถจะสรา งบา น สรางวหิ าร สรา งปราสาทราชวงั ใดๆได ดังนั้น คนที่แตงงานดวยกัน ใหถือหลักวา เราจะมา เรยี นรซู ง่ึ กนั และกนั จะผดิ เรากเ็ รยี นรู จะถกู เรากเ็ รยี นรู จะตกตำ่ ยำ่ แย จะรอ นจะแรง จะเย็นจะชา จะจดื จะชืด เรากพ็ รอมที่จะ เรียนรูซ ง่ึ กนั และกนั เมื่อเราต้ังเปา วา เราจะเปนนักเรียนนอยๆของกนั และกนั ก็จะทำใหเรา เคารพซง่ึ กนั และกนั โดยวธิ นี จ้ี ะทำใหเ รารจู กั มองขา มขอ บกพรอ ง ของแตละฝาย และจะทำใหอีกฝายเปนสวนเติมเต็มที่ลงตัว ของกันและกนั ไดต ลอดไป 36 : SoulMate & Marriage

๓. สูอดทน (ขนั ติ) หมายความถงึ ความมนี ำ้ อด น้ำทน เนื่องจากเราแตละคน มาจากตางพอตางแม ตาง ครอบครวั ตางภมู หิ ลงั ทางสงั คม ตา งวัฒนธรรม ในบางครั้ง อาจตางชาติ ตางภาษา และตางศาสนาดวย เมื่อเรามาอยู ดวยกันแลว เราจึงตองอดทนตอความหลากหลายนี้ใหได ถา เราอดทนไมไ ด นน่ั กห็ มายถงึ เราไมส ามารถประคบั ประคอง เรอื รกั ของเราใหส ำเรจ็ ลลุ ว งไปอยา งตลอดรอดฝง ความอดทน นี้จึงเปนหลักธรรมที่สำคัญมาก นอกจากเราตองอดทนตอ ความแตกตา งหลากหลายนแ้ี ลว ผทู ค่ี รองเรอื นยงั จะตอ งทนตอ ความลำบากตรากตรำในการสรางเนื้อสรางตัวเพราะการที่ เราแยกมาสรางครอบครัวใหม เราไมไดสรางแคบานเพียง ๑ หลัง แตเราตองสรางหลักฐานใหกับสถาบันครอบครัว ของเราใหม น่ั คงดวย 37 : ครู กั & คูชีวิต

นน่ั กค็ อื เราจะตอ งทำมาหากนิ รจู กั อดออม รจู กั อดทน ตอ กเิ ลสตา งๆ ทจ่ี ะมายว่ั ยวนยว่ั ยใุ หช วี ติ คขู องเรานน้ั ตอ งแตก หกั อับปางลงไป และสำคญั ท่สี ดุ ก็คือ เราจะตอ งอดทนตอ การ ยุแยงตะแคงรั่วของมือที่สาม เพราะชีวิตคูเปนจำนวนมากที่ ลมสลายลงไป เปน เพราะวามีมอื ท่ีสามเขา มาแทรกแซง คูสมรสจะตองอดทนที่จะไมหวั่นไหวตอคำยุแยง ตะแคงรั่วของมือที่สาม เพราะมือที่สามเปนผูไมปรารถนา ใหชีวติ คูข องเรานัน้ ประสบความสำเรจ็ และยืนยงตลอดกาล ๔. ฝก ฝนการให (จาคะ) หมายความถึง ความมีใจ เสียสละความสุขสวนตน ในขอนี้หากสังเกตใหดีจะพบวา พระพุทธเจาทรงใหความสำคัญเปนอันมาก เพราะปรากฏ อยทู ง้ั ในหลกั ของการเลอื กคนรกั (สมชวี ธิ รรม ๔) และหลกั ของ การครองเรอื น (ฆราวาสธรรม๔) ซง่ึ หลกั ธรรมทง้ั ๒ ประการน้ี คอื หลักสำคัญในการเลอื กคนรักเพอ่ื การครองเรือนใหประสบ ความสำเรจ็ อยางม่ันคงและยัง่ ยืน 38 : SoulMate & Marriage

จาคะ คือ ความเสียสละ ในที่นี้ก็คือความเสียสละ กิเลสของตนเองนั่นเอง กลาวอยางงายๆก็คือ เมื่อเรามาอยู รว มกนั มาครองเรอื นรว มกนั แลว เราจะตอ งปลอ ยวางกเิ ลสของตนเอง “ทง้ิ ความเปน เธอ ทิ้งความเปนฉัน แลวหลอมรวมเปนเรา” ถาเปนสามี ภรยิ ากนั แลว ฝา ยสามถี อื อำนาจบาตรใหญ ยดึ ความเปน ใหญ ในบาน ยดึ ความเปนใหญในชวี ติ ทรัพยสนิ ยึดความเปนใหญ ในการตดั สนิ ใจของภรยิ าใหม าขน้ึ กบั ตนเองทง้ั หมด ภรยิ ากจ็ ะ อยใู นสถาบนั ครอบครวั เสมอื นเปน ทาสในเรอื นเบย้ี ยง่ิ อยดู ว ยกนั ก็ยิ่งเหมือนถูกกักขังจองจำ เหมือนมีโซมีตรวนพันธนาการ อยูตลอดเวลา ถาปลอยใหภาวะเชนนี้คงอยูตอไป ในที่สุด คนท้งั คูก็จะตองเลิกรางหางกัน 39 : คูรกั & คชู ีวิต

ฉะนั้น ตางฝายตางก็ตองเสียสละกิเลสของตนเอง อยาคิดวาฉันเปนผูเผด็จการภายในบาน เปนผูบัญชาการ ทบี่ านแตเพยี งผเู ดียว แตใหค ิดเสมอวา เธอก็ดี ฉันกด็ ี มสี ิทธิ และเสรภี าพพอๆกนั ในบา นหลงั น้ี ในครอบครวั น้ี เมอ่ื เราระลกึ อยางน้เี สมอ ก็จะทำใหม บี รรยากาศของประชาธปิ ไตยในการ ครองเรอื นเกิดขนึ้ และนน่ั จะทำใหช วี ิตของคนท้งั คกู าวตอไป อยางมั่นคงและย่ังยืน การเสยี สละกเิ ลส หรอื อตั ตาของตนเองทง้ิ น้ี หากจะให มน่ั คงกต็ อ งลงลกึ ถงึ การ “การเคารพในศกั ดศ์ิ รแี หง ความเปน มนุษย” ของแตละฝาย เพราะเมื่อตางฝายตางเคารพใน ความเปนมนษุ ยของกันและกันแลว การเสียสละท่ีแทจ รงิ กจ็ ะ เกดิ ขน้ึ การใหเกียรติทีแ่ ทจริงกจ็ ะงอกงาม การยอมรบั ในตวั ตนของกันและกันก็จะไมเปนเพียงการ “รอมชอม” ชั่วครั้ง ชว่ั คราว แตจ ะเปน การ “ยอมรับจดุ ตา ง แสวงจุดรวม” ทีม่ ีความม่นั คงตลอดไป 40 : SoulMate & Marriage

คูรกั idol ในสมัยพุทธกาลนั้น มีคูรักอยูคูหนึ่ง คือ นกุลบิดา และ นกุลมารดา ทง้ั คูนเี้ ปน คูรักที่พระพุทธเจาใหก ารยกยอง มาก ถึงกับทรงกลา วไวว า ถาจะครองเรอื นครองรกั ใหป ระสบ ความสำเรจ็ ขอใหดตู วั อยา งของนกุลบดิ าและนกลุ มารดา วันหนึ่งท้ังสองสามีภริยาน้ีไดเขาเฝาพระพุทธเจาแลว ขอปวารณาใหทั้งคูไดพบกันในทุกภพทุกชาติ ดวยคำกลาว ทีว่ า “ขาแตพ ระองคผ เู จริญ นับแตเ วลาท่ตี ระกูล นำนกุลมารดาคหปตานี ซึง่ ยังเปนสาว มาเพอื่ ขาพระองคผูย งั เปน หนุมขาพระองค มิไดร สู ึกจะประพฤตินอกใจ นกุลมารดาคหปตานีเลยแมดว ยใจ ท่ไี หนจะประพฤตนิ อกใจดวยกาย ขาพระองคท ั้งสองปรารถนาพบกนั ท้ังในปจ จุบัน และในสมั ปรายภพ” 41 : คูรกั & คูชีวติ

และนกุลมารดาเองก็ไดกราบทูลพระองคดวยถอยคำในแบบ เดียวกัน พระองคจ งึ ทรงตรสั วา “ดกู รคฤหบดี และคฤหปตานี ถาภรรยาและสามีทั้งสองหวังจะพบกันและกัน ทั้งใน ปจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร ทั้งสองเทียว พึงเปนผูมี ศรทั ธาเสมอกนั มศี ลี เสมอกนั มจี าคะเสมอกนั มปี ญ ญา เสมอกัน ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ยอมไดพบกันและ กนั ทัง้ ในปจจบุ ัน ท้ังในสมั ปรายภพ” 42 : SoulMate & Marriage

จากพระพทุ ธวจั นะขา งตน น้ี เปน อนั สรปุ ไดว า พระสมั มา สัมพุทธเจาทรงตรัสไวอยางชัดเจน วา ถาสามีภรรยาคูใด ปรารถนาจะครองคกู นั ตลอดไปในทกุ ชาตภิ พ สง่ิ นน้ั กส็ ามารถ เปน ไปได ไมใ ชเ รอ่ื งเหลอื วสิ ยั แตอ ยา งใดขอเพยี งนำหลกั ธรรม ของคูชีวิต คือ สมสัทธา สมสีลา สมจาคา สมปญญา (สมชีวิ- ธรรม๔) และหลกั ธรรมของการครองเรอื น คอื สจั จะ ทมะ ขนั ติ จาคะ (ฆราวาสธรรม๔) ไปประพฤติปฎิบัติ ถาประพฤติ ปฎิบัติได คูรักนั้นๆ ก็มีโอกาสที่จะพบกันและไดครองรักกัน ในทุกภพทกุ ชาติ คูรักตัวอยางนั้นเคยปรากฏมาแลว และที่สามารถ ปรากฏไดป ระสบความสำเร็จได กเ็ พราะท้ังคลู วนปฎิบตั ิธรรม กข็ อใหถ อื วา การปฏบิ ตั ธิ รรมนน้ั เปน สว นหนง่ึ ของการครองเรอื น ครองรัก หรือกลาวอกี นัยหน่งึ วา กอ นท่จี ะครองรัก กอ นท่ีจะครองเรือน จะตอ งครองธรรมใหไ ดเ สียกอ น 43 : คูรกั & คูช วี ติ

หรอื กลา วอีกอยางหนง่ึ วา “ครองรกั ครองเรือนดว ยการครองธรรม คูไหนทำได คนู ั้นก็จะเปนครู ักท่ีประสบความสำเร็จ อยางยง่ั ยนื ตลอดไป” ในวฒั นธรรมอนิ เดยี มเี รือ่ งเลาทีใ่ หแ งค ิดและมมุ มอง ที่ดีมากอยูเรื่องหนึ่ง ซึ่งผูคนมักเลาสืบตอกันมา ผูเขียนจึง อยากถายทอดไว ณ ที่นี้ เพื่อฝากเปนแงคิดไวกับผูอานวา เวลาที่เราจะมองหาใครสักคนหนึ่งมาเปนคูสมรส ผูชาย ใหมองผูหญิงจนทะลุถึงความเปนแมที่มีอยูในตัวของผูหญิง และผูหญิงก็ใหมองผูชายจนทะลุถึงความเปนพอที่มีอยูใน ตวั ของผชู าย หากเรามองไมท ะลจุ ากรปู ลกั ษณภายนอก เขาไปถงึ คุณคาแทที่อยูภายในของทั้งสองฝาย ทายที่สุดเมื่อแตงงาน กนั ไปแลว ก็จะคน พบในภายหลังวา เราเลือกคนผดิ ทุกวนั นี้ มคี นจำนวนมากทีเ่ ลือกคนผิด เพราะวนิ ิจฉัยครู กั ของตนจาก บุคลิกภายนอก โดยหารูไมวา เมื่อผานพนเวลาที่หวานชื่น ไปแลว ธาตุแทของแตละคนก็จะแสดงตัวออกมา 44 : SoulMate & Marriage

ดงั นัน้ สภุ าษิตของอนิ เดียทกี่ ลา ววา เวลามองผหู ญิง ใหมองทะลุไปถึงความเปนแม ถาเธอมีความเปนแมในตัว นั่นแสดงวา เธอมีคุณสมบัติความเปนภรรยาของคุณไดใน อนาคต ขณะเดียวกนั ผหู ญิงถามองผชู าย กต็ องมองใหทะลุ ไปถึงความเปนพอที่มีในตัวของเขา ถาคุณเห็นความเปนพอ ทม่ี อี ยใู นตวั เขา นน่ั กห็ มายความวา เขาพรอ มแลว ทจ่ี ะมาเปน สามีของคณุ ไดใ นอนาคต บางครั้งในวัฒนธรรมอินเดียโบราณก็กลาววา ผูชาย และผูหญิงที่แตงงานกัน ตางกันเปนสวนหนึ่งของกันและกัน ทานใชคำวา อรธางคินี (ผูเปนครึ่งหนึ่งของสามี, ครึ่งหนึ่ง ของภรรยาเสมอมา) หมายความวา ทั้งเธอและฉันตางก็เปน สวนหนงึ่ ของกันและกัน ดวยเหตุนี้ เมื่อคูสมรสมาแตงงานกันก็ขอใหคิด อยเู สมอวา ชวี ติ ของเรานน้ั มสี ดั สว นของเธออยคู รง่ึ หนง่ึ ผหู ญงิ ก็ขอใหคิดอยูเสมอวา ชีวิตนี้มีสัดสวนของสามีอยูครึ่งหนึ่ง ดวยวิธีคดิ แบบน้ี เวลาภรรยาหรอื สามีจะทำอะไรกต็ าม กจ็ ะ เกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน ก็จะเคารพ นับถือ ใหเกียรติ 45 : ครู กั & คชู ีวิต

ไวว างใจซงึ่ กนั และกนั ถา เรามองวา ท้ังเธอและฉนั ตางก็เปน สวนหน่งึ ของกนั และกัน เรากจ็ ะระมัดระวงั ในการดำเนนิ ชีวิต ไมล ะเมดิ จริยธรรมทางเพศตอคสู มรส สิง่ น้นี ับวาเปน คติธรรม ทางวัฒนธรรมอินเดียท่ีงดงามและนาหยิบยกมาเปนแบบ อยา งมาก นอกเหนือจากหลักธรรมทั้งหมดที่กลาวมาแลว ยังมี หลกั ธรรมสำหรบั คสู มรส ทธ่ี นญั ชยั เศรษฐบี ดิ าของนางวสิ าขา มอบใหไ วแ กบ ุตรสาวของตน กอนที่จะเขาพิธีววิ าหกบั ปณุ ณ- วฒั นกมุ ารแหง เมอื งสาวตั ถไี ว ๑๐ ประการดว ยกนั อนั ประกอบ ไปดว ย 46 : SoulMate & Marriage

๑. ไฟในอยา นำออก หมายความวา อยานำเอาความไมดีของพอแมสามี และสามี ออกไปเปด เผยกับคนภายนอก ๒. ไฟนอกอยา นำเขา หมายความวา เมอื่ คนภายนอกตำหนิพอ แมสามี และ สามอี ยา งไร อยา นำมาบอกเลา ภายในบา น ๓. ควรใหแกค นท่ใี หเ ทา นั้น หมายความวา ควรใหแกคนที่ยืมของไป แลวนำมา สง คนื ๔. ไมควรใหแ กค นท่ไี มใ ห หมายความวา ไมควรใหแกคนที่ยืมของไป แลวไม นำมาสง คืน ๕. ควรใหท้งั แกค นท่ีใหแ ละไมใ ห หมายความวา เมอ่ื มญี าตผิ ลู ำบากมาขอความชว ยเหลอื พึ่งพาอาศัย เมื่อใหไปแลว เขาจะนำมาคืนใหหรือไมคืนให กค็ วรท่ีจะให 47 : ครู กั & คชู ีวิต

๖. พงึ น่ังใหเปน สุข หมายความวา ไมน ่งั ในทกี่ ีดขวางพอ แมสามี และสามี ๗. พงึ นอนใหเปน สขุ หมายความวา ไมค วรนอนกอนพอ แมส ามี และสามี ๘. พงึ บรโิ ภคใหเปน สุข หมายความวา ควรจดั ใหพ อ แมส ามีและสามบี รโิ ภคกอ น แลวจึงบริโภคภายหลงั ๙. พึงบำเรอไฟ หมายความวา ใหระลึกอยูเสมอวา พอแมสามี และ สามี เปนเสมอื นกองไฟและพญานาคที่จะตอ งบำรงุ ดแู ล ๑๐. พึงนอบนอ มเทวดาภายใน หมายความวา ใหร ะลกึ อยเู สมอวา พอ แมส ามี และสามี เปนเสมือนเทวดาทีจ่ ะตอ งใหค วามนอบนอม 48 : SoulMate & Marriage

และโอวาททงั้ ๑๐ประการทก่ี ลา วมานี้นางวสิ าขา กถ็ ือปฎิบตั เิ ปนอยางดีจนสามารถรักษาประคบั ประคอง ชวี ิตคใู หย ั่งยืนดว ยความสุข ตราบจนสน้ิ กาลอายุขัย เร่ืองจริง หรือเรื่องในอุดมคติ เร่ืองท้งั หมดท่กี ลา วยกมาขา งตน ไมใ ชเรอื่ งทีไ่ มม จี รงิ หรือเปนเรื่องในอุดมคติเทานั้น มีอยูมากมายทีเดียวที่เปน ตัวอยางของผูที่ครองเรือน ครองรัก และครองธรรมไดประสบ ความสำเร็จในยุคสมัยปจจุบัน มีอยูคูหนึ่งที่ผูเขียนรูจักและ อยากจะหยิบยกเพื่อเปนตัวอยาง ไดแก อาจารยกรุณาและ อาจารยเ รืองอุไร กศุ ลาสัย สองทานนี้เปนคูรักที่ครองเรือนดวยการครองธรรม กลาวคือ อาจารณกรุณา เปนอาจารยสอนภาษาบาลีสัน- สกฤตใหอาจารยเรืองอุไร ตอมาทั้งอาจารยและลูกศิษยก็ได แตงงานกนั และครองเรือนครองรกั กนั มาอยา งม่ันคงยง่ั ยืน 49 : คูรัก & คูชวี ิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook