พระบรมสารีริกธาตุวรรณะสณั ฐานตางๆ ท่คี ัดแยกใสผอบแลว ๑๔๙
ภาพผอบของคณะญาตธิ รรมทกุ ทา นทมี่ ีพระธาตุ พระบรมสารรี กิ ธาตุ ที่เสดจ็ มาในผอบของขาพเจา เสดจ็ มา ทําใหท ุกทานไดร ับความปลื้มปต ติ ั้งแต เชาตรู ของวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ พระบรมสารีรกิ ธาตุ ทีเ่ สด็จมาในผอบของคุณ พระบรมสารรี ิกธาตุ ที่เสด็จมาในผอบของคณุ บุดดี้ พอ คุณแมขา พเจา ทเี่ ขียนวา อํานวยและประเสรฐิ ดานลางสองผอบคือ ของเพือ่ นขาพเจาสองคน พระบรมสารีรกิ ธาตุ ที่เสด็จมาในผอบของไกดชาว พระอาจารยปดฝาผอบ ไทยสามทา น (สามผอบบริเวณมุมขวาลางของภาพ) กอ นที่จะมอบแตละผอบใหค ณะญาตธิ รรม ๑๕๐
ผอบพระธาตุที่พระอาจารยต งั้ ใจจะอญั เชิญกลบั เมอื งไทย นาํ มาบรรจใุ นผอบทองเหลือง ทรงระฆังคว่ําที่ไดรบั จากเจา อาวาสวัดนาฯ เพือ่ อัญเชญิ พระธาตุสวู ดั ตาลเอน คุณภารษิ า มธรุ พงศากุล เปน ตวั แทนของคณะญาตธิ รรมไทย มอบพระบรมสารรี กิ ธาตุทีพ่ ่ึงเสดจ็ มา ใหแกค ณุ สลุ ังคะ และคุณบุดด้ี ๑๕๑
พระธาตเุ สด็จท่ี จ. นครศรีธรรมราช วันท่ี ๒ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ และ สหภาพพมา ชวงวนั ท่ี ๒๑ – ๒๕ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ระหวา งการปฏิบัตศิ าสนกิจของพระครสู มุหจริ ยุทธ อธิฉนฺโท และญาติธรรม จดหมายเรื่องเลาของผูปฏิบัติธรรมท่อี ยูในคณะ และเหน็ เหตุการณจริง ๑๕๒
ผอบทองนอ มถวายพระสมั มา . . . จากลังกาสูนครศรี ฯ หลังจากกลับจากศรีลังกาแลว มีเหตุใหขาพเจาไดรับอาสาจัดหาผอบสําหรับใชบรรจุพระบรม สารีริกธาตุเพื่อนําไปประดิษฐาน ณ สถานท่ีสําคัญแหงหน่ึง เบ้ืองตนทานพระครูตองการเพียงผอบเงิน เทาน้นั แตดว ยความศรทั ธา ขาพเจา จึงจัดหามาท้งั ผอบหนิ ออน ผอบเงนิ ผอบทองเลยทีเดียว ประสบการณล้ําคาแหงศรีลังกาไมอาจลืมเลือน พาใหคํานึงถึงตํานานเจาชายทันตกุมารและเจาหญิง เหมมาลา (เจาชายทนตกุมารและเจาหญิงเหมชลา ตามเสียงของคนนครศรีธรรมราช) เห็นทีเราจะตองพา กันไปคารวะสองศรีพ่ีนองนี้กันอีกสักคร้ังที่เมืองลิกอรหรือนครศรีธรรมราช ในวันท่ีผูคนลืมเลือนผูอัญเชิญ พระธาตุขามน้ําขามทะเลมาพรอมกับพระพุทธศาสนาท่ีพ่ึงพาทางจิตวิญญาณใหพวกเราไดพนทุกข ผานมา ๒,๖๐๐ ปแหงการประกาศบอกทางออกจากทุกขของพระพุทธองค เหลือผูคนเพียงนอยนิดที่จะเห็นคุณคา หาทางเดินตาม กลับมองหาแตหนทางแหงสุข ทําชีวิตใหผูกติดอยูกับวัตถุที่มีราคามากกวาคุณคาทางจิตใจ ใครๆตางพากนั กราบไหวบวงสรวงเทพเทวดา หวังเพยี งทา นจะนําพาใหร ่ํารวย จนมิไดคํานึงวา บุญ คือ การชาํ ระกเิ ลสแตอยา งใด พระบรมธาตนุ ครศรีธรรมราช เปน เจดยี ทรงระฆังควาํ่ แบบลังกา โดยพระบรมสารีรกิ ธาตุบรรจุอยูใน กรุใตพ้ืนธรณี เลากันวา ถาผใู ดมีบุญเม่ือเอาหแู นบกับองคพระธาตุจะไดยนิ เสยี งน้ําหยด พวกเราก็เลยพากัน นอนเรียงรายทําตามกันเปน แถว จนลืมอายุของตัวเองกันไปเสียส้ิน เวนแตผูมีบุญแทจริงอยางทานพระครูที่ ยืนมองพวกเราดว ยความเมตตา ดวยความเปนปุถุชนคนซึ่งยังมีกิเลสอยางเราๆ กลับไดยินแตเสียงเตนของ หวั ใจท่ไี หวๆ อยกู ับความคดิ โลดแลนไปมาอยมู ิวาย วันน้ีเปนการเดินทางบินลัดอาวไทยแบบไปเชาเย็นกลับ โดยทานพระครู เมตตานําพาคณะของเรา รวม ๑๑ ทาน โดยท่ีขาพเจาไมลืมที่จะนําผอบทองคําไปดวย พวกเราจะไดพบกับความเปนม่ิงมงคลในวันนี้ เปนแนแท หลังจากท่ีไดข้ึนไปถวายผาหมองคพระธาตุเจดีย และไดพบวาไมมีเงาขององคเจดียทอดลงบน พื้นดินไมวา เวลาใดดังคาํ ราํ่ ลอื แลว ทานพระครูไดนําคณะลงมาท่ีวิหารรายดานลาง นําสวดมนตภาวนากันเปนเวลาพอสมควร หลังจาก ทานนําแผเมตตาแลว พวกเราไดพบกับความชุมฉํ่าใจโดยประมาณมิได ท่ีไดเห็นพระธาตุเสด็จมาบนยาม ของทานพระครู แมแตเด็กนอยอายุสองขวบที่ไดรวมคณะไปดวย ยังกลาวออกมาวา “ช่ืนใจจัง” และแลว คณะของเรากไ็ ดร ว มกันถวายผอบทองคําแดทานพระครู เพื่อเปนการรับเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ และถวาย เปนพทุ ธบูชาแดองคส มเดจ็ พระสัมมาสัมพุทธเจา จนิ ตนา จิตรสิงห ๑๕๓
ประมวลภาพพระธาตุเสด็จท่ี จ. นครศรีธรรมราช ภาพบน - หลงั จากพระอาจารยน ั่ง สมาธิเสรจ็ มีพระธาตเุ สด็จมาบนยา ม ๙ องค โปรดสังเกตจุดสีขาวเลก็ ๆ บนยาม ภาพซา ย - ภาพพระบรมสารีรกิ ธาตุ ท่ี เสด็จมาบนยาม และอัญเชญิ ใสในผอบ ทองคาํ คณะญาติธรรมเอาหแู นบกับองคพ ระธาตุ หวงั วา จะไดยินเสยี งนํ้าหยด ๑๕๔
เม่ือกลาวถึงพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุแลว เปนส่ิงอันเปนมงคลสูงคา ท้ังรูปธรรม และนามธรรมของเราชาวพุทธศาสนิกชนที่ไดมีปรากฏไวเพื่อกราบสักการบูชาและปฏิบัติบูชาในสถานท่ี สําคัญตางๆ ในการกราบสักการบูชาของเราชาวพุทธน้ัน ควรมองตามความเปนจริงท่ีมีแงคิดอันเปน ประโยชน เพอ่ื ใหเกดิ ปญ ญาในการกราบสักการบูชา ดังนี้ ๑. เพอื่ ใหระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธองคและพระอรหันตสาวก เพ่ือนอมนําพระธรรม มาประพฤติปฏบิ ัติ ๒. ความจริงท่ีวาเมื่อเราไดประพฤติปฏิบัติธรรมเพ่ือขัดเกลากิเลสตัณหาอุปาทานออกจากจิตใจ ไดแ ลว ก็ยงั สามารถขดั ธาตุขนั ธของเราใหมีความบริสุทธิ์ได เกิดเปนธาตุในลักษณะตางๆ แลว ยังมี ความศักดิส์ ิทธ์ขิ ึ้นมาได ๓. ความเปนจริงที่ทําใหเราไดระลึกวา เมื่อคนเราเกิด แก เจ็บ ตาย สุดทายรางกายตองสลาย กลายไปเปน ธาตุสี่ดังเดมิ ทาํ ใหเราไดเห็นสัจจะธรรมของชีวิตวา ทุกส่ิงทุกอยางลวนตกอยูในพระไตร ลกั ษณ คือ อนิจจงั ทุกขงั อนตั ตา เพื่อการใชชวี ิตอยา งมสี ตแิ ละไมป ระมาท ประสบการณพ ระธาตเุ สด็จทอี่ าตมาไดเ ห็น เกิดข้ึนเมื่ออาตมาไดเดินทางไปยังประเทศพมา ซ่ึงนํา คณะโดยพระอาจารยจิรยทุ ธ อธิฉนฺโท ในวนั สุดทายกอ นกลับ ไดเดนิ ทางไปท่ีวัดท่ีมีเทพทันใจอันศักด์ิสิทธ์ิ ของชาวพมา และพระอาจารยจิรยุทธ ก็ไดนําชาวคณะน่ังสมาธิท่ีหนาพระพุทธรูปภายในวัด ตัวอาตมาเอง ไดนงั่ อยตู ดิ กบั พระอาจารย เม่ือน่ังถึงเวลาอันสมควรก็ไดแผเมตตา ขณะท่ีอาตมาขยับตัว สายตาก็เหลือบ เห็นพระอาจารยยน่ื มือมาใหดู และมีส่ิงหน่ึงอยูในมือทาน อาตมาเห็นก็เอะใจ ตองเปนพระธาตุแนๆ และ มาไดอยางไรกัน เมื่อนับแลวไดจํานวน ๑๒ องค นี่เปนครั้งแรกเลยท่ีอาตมาเห็นการเสด็จมาไดเองของ พระธาตุ ทําใหอัศจรรยใจอยางมาก ทําใหจิตใจอาตมาปลาบปล้ืม และชื่นชมบารมีคุณความดีของพระ อาจารยม าก กเ็ ลยถามทานวา ทําอยางไรพระธาตุจงึ ไดเสด็จมา ทานกต็ อบวา กใ็ ชก ารอธษิ ฐานบารมี อาตมาขออนุโมทนากับผูที่มีสวนรวม ในการดําเนินงานทําหนังสือและผูรวมบริจาค หนังสือน้ีมีประโยชน และมีคุณคายิ่งใน พระพุทธศาสนา เพ่ือรวมถวายเปน พุทธบูชา ในโอกาสเปนป พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปแหง การตรัสรู พระขตั ตยิ า สุทธญิ าโณ และ พระครสู มุหจ ริ ยุทธ สดุ ทายขออาํ นาจคุณพระศรีรัตนตรัย และบญุ กุศลท้ังหลายชี้นําใหทุกทาน ทั้งผูรวม ดําเนนิ งาน และทงั้ ผอู านไดถึงซ่ึงพระธรรมคํา สอนขององคสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจา จน เขาถึงความส้ินไปแหงทุกขทั้งปวงทั้งกายและ ใจ เขา ถงึ พระนิพพานกันทุกทานเทอญ พระขตั ตยิ า สุทธฺ ิญาโณ ๑๕๕
เมื่อพระธาตเุ สดจ็ ท่ี ... มหานทีแหงเจดียส พ่ี นั องค มหาเจดียชเวดากอง ณ กรุงยางกุง ประเทศพมา มหาเจดียอันงดงาม ย่ิงใหญกวาที่ใดๆ ในโลก หลา สัญลกั ษณแหงความศรัทธาอันลํ้าเลศิ เปน เจดยี บรรจไุ วซง่ึ พระเกศาธาตุ ท่ีไดมาในขณะที่พระพุทธเจา ยังมีพระชนมชีพอยู เม่ือพระองคตรัสรูแลว ขณะประทับอยูใตตนเกด มีนายวานิชสองพ่ีนองนามตปุสสะ และภลั ลิกะ แสดงความเล่ือมใสดวยการถวายขา วสตั ตุ (ขาวตากแหงกวนดวยนํ้าผ้ึง) ใหเสวย แลวถวายตัว เปนปฐมอุบาสกในพระพุทธศาสนา ครั้นจะจากลาก็กราบทูลขอใหพระพุทธองคพระราชทานสิ่งหน่ึงสิ่งใด เพ่ือเปนอนุสรณสําหรับการบูชาพระพุทธคุณ พระพุทธองคจึงเสยพระเศียรไดพระเกศา ๘ เสน ประทาน แกอบุ าสกท้งั สองสมตามความปรารถนา ปจจุบันองคเจดียชเวดากองมีทองหอหุมอยูถึง ๑,๑๐๐ กิโลกรัม โดยที่กษัตริยเกือบทุกพระองค ตองถือเปนราชภารกิจที่จะตองบูรณะองคเจดียใหงดงามสูงใหญขึ้น โดยชางชาวพมาจะใชทองคําแทตีเปน แผน เรยี บปด รอบองคเ จดีย ครั้นเมื่อแผนทองคําหมองคล้ํา ก็จะถอดหมุดแลวแกะแผนทองออกมาขัดลาง จนเราไดเ ห็นเจดยี ท องคําสุกปลั่งสวยงามอยูเปนนิจ ดังเชนเจดียทางภาคเหนือของไทยเราไดรับอิทธิพลมา ประเทศที่ทําสงครามตอกัน มิไดมีเพียงความแกงแยงและชิงชัง บางชวงเวลายังนําพาศรัทธา และ ความประณตี งดงามทางวฒั นธรรม และสถาปตยกรรมถา ยทอดใหแ กกันและกนั ทามกลางแสงทองของยามเย็น มีหนุมสาวชาวพมาในชุดพื้นเมืองเรียบงายรวมแรงกายใจ กวาดถู ลานเจดียกันอยางพรอมเพรียง หลังจากขจัดความสกปรกใหออกไปจากสถานที่อันเปนท่ีเคารพบูชาแลว ถงึ เวลาชําระจิตกนั ตอไป ดว ยการสวดมนตบาํ เพญ็ ภาวนากันเปน ประจาํ ทุกวนั การเดินเขาวัดของชาวพมาน้ีจะตองสละรองเทากันตั้งแตร้ัววัดเลยทีเดียว แมพมาน้ันจะไมมี เสรภี าพในดา นประชาธิปไตย แตเ มื่อเขา มาในรมเงาแหงพุทธะ ทุกคนตางมีความเทาเทียม ไมมีสูงตํ่า รวย จน เสมือนการถอดเปลือกแหงอัตตาออกไปอยางส้ินเชิง ชาวพมานี้จะยึดมั่นในพระนิพพานกันทุกลม หายใจทีเดียว แมแตผาซ่ินท่ีพวกเธอสวมใสก็ยังเปนลายคลื่น เพ่ือระลึกอยูเสมอวา น่ีคือสัญลักษณ มหานทีสที ันดร ทจี่ ะตอ งกา วขามไปใหได ทุกๆตระกูลจะตอ งสรา งเจดยี เพือ่ เปนทางไปสูพระนิพพาน จน เมืองๆ หนึ่งคือ พุกาม ตองกลายเปนเมืองท่ีแหงแลงไป เพราะปาไมถูกตัดมาเปนฟนเผาอิฐในการสราง เจดยี ดินก็คงเหลือแตด นิ ทรายเพราะดนิ เหนียวถกู ใชห มดไป เจดียโ บตาทาวน เจดียแหงเดียวท่ีเราสามารถเห็นพระเกศาธาตุในผอบแกวใสได วันน้ีเปนวัน สดุ ทายที่เราจะตองลาจากประเทศพมา หลังจากรอนแรมบินลองทองมหานทีแหงเจดียส่ีพันองคกันมาเปน เวลาหลายวัน แตยังมิอาจเปนวันสุดทายแหงมหานทีสีทันดรได ยังคงตองหลงวายวนกันอีกตอไปไมรูจบ หากมไิ ดนอมนําธรรมะมาเปน สมั มาปฏบิ ตั ิ เปน ธรรมเนียมปฏบิ ัตทิ หี่ ากทา นพระครไู ดนาํ คณะผูม จี ติ ศรทั ธาไปเคารพสักการะสถานท่ีศักด์ิสิทธิ์ แลวตอ งมกี ารเจริญสมาธภิ าวนา เปนอีกครั้งท่ีพวกเราไดพบกับความอัศจรรยที่พระพุทธองคทรงประทาน พทุ ธสรรี ะ พระบรมสารรี ิกธาตุ มาใหคณะของเราไดอ ัญเชญิ กลับอยธุ ยาดวยความปต ิกันทั่วหนา โดยไมลืม ท่ีจะระลึกถึงพระพุทธคุณ และพระธรรมคําส่ังสอน ท่ีจะนําพาใหพวกเรารูแจงในวิถีแหงปญญา ตัด ตัณหาอุปาทานจบสน้ิ ทางเดนิ แหง วฏั ฏะกันเสยี ที ๑๕๖
สําหรับทานที่ขุนของหมองใจวา ทองคําแหงเจดียในพมา จะเปนทองของบรรพบุรุษเราหรือ อยางไรจนพาใหเคียดแคนชิงชัง จนไมอยากไปเหยียบดินแดนแหงนี้ จะจริงเท็จอยางไรก็ไมอาจทราบได ถาเชื่อเชนน้ัน ขอไดโปรดยินดีและอนุโมทนา ที่มีผูนําพาไปเปนเคร่ืองสักการบูชาแดองคสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจา ซง่ึ มีคา เลศิ ลาํ้ กวาสง่ิ ใดในใจของชาวพุทธ จินตนา จิตรสงิ ห คุณจนิ ตนา จิตรสิงห (คุณตา) ๑๕๗
ความประทับใจ พระธาตุเสดจ็ ขาพเจา เบญญาภา หาญญานันท ทํางานอยูท่ีฝายทรัพยากรบุคคล โรงพยาบาลราชวิถี ไดเขา ปฏิบตั กิ รรมฐานที่วัดอัมพวัน คร้ังแรกในชวงวันสงกรานต เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งมีผูคนหล่ังไหล มามากมาย เพ่อื แสดงความกตัญูกตเวทิตาจิตแดหลวงพอจรัญ จากนั้นเปนตนมาขาพเจาก็ไดเขาปฏิบัติ กรรมฐานท่ีวัดอมั พวนั เทาทโ่ี อกาสจะอํานวย การปฏิบัตธิ รรมของขาพเจา ประสบปญหาเรอื่ งสภาวธรรมอยูบาง ซึ่งไมรูจะไปถามผูใด จนกระท่ัง ไดมีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารยบุญสง ซ่ึงพักอยูท่ีตึกปริยัติธรรมชั้น ๒ ทานไดใหความเมตตา ให ความรู และแนวทางในปฏิบัติธรรมอยูเนืองๆ อีกทั้งยังไดแนะนําใหดิฉันสมัครเขารวมปฏิบัติธรรมกับ ชมรมพุทธศาสตร-ทางสายเอก ในชวงป พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๕๐ อีกดวย เพราะการปฏิบัติธรรมใน โครงการนี้จะมีการสอบอารมณสภาวธรรมของผูปฏิบัติเปนรายบุคคล ซึ่งอาจจะทําใหการปฏิบัติของ ขา พเจา กาวหนาข้ึน โครงการนี้มพี ระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโทเปนวิทยากร เปนโครงการปฏิบัติธรรมถวาย เปนพระราชกุศลแดพระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั ภมู ิพลอดุลยเดช และพระธรรมสงิ หบรุ าจารยครบ ๘๐ ป เพ่ือตอบแทนคุณของครูบาอาจารย และพระมหากรุณาธิคุณพอหลวงของแผนดินท่ีทรงเหน่ือยพระวรกาย ใหเราชาวไทยทกุ คนอยูรม เย็นเปน สุขและพอเพยี ง ทรงเปย มลน พระเมตตาอยา งหาทสี่ ุดมิได การไดเ ขาปฏิบตั ิธรรมกับชมรมพุทธศาสตร-ทางสายเอกนั้น ทําใหขาพเจาไดรูจัก และเรียนรูการ ปฏิบัติธรรมจากพระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท เปนคร้ังแรก ทําใหขาพเจารูสึกเลื่อมใส ศรัทธา ซาบซ้ึงหา ประมาณมิได ในความเมตตาของทานพระครู ท่ีทานไดใหความรูเรื่องธรรมะและแงคิดตางๆในทางธรรม ไดอยา งลมุ ลกึ ลกึ ซ้ึง นุม นวล และกระจางแจง เปนอยา งยงิ่ ในปพ.ศ. ๒๕๕๐ ขา พเจาไดทราบขา วจากคณุ วภิ าวรรณ ศรีมุข (ประธานชมรมฯ) วา ทานพระครู สมุหฯ ไดมาเปนเจาอาวาสท่ีวัดตาลเอน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเปนบานเกิดของทาน ตอมาในกลางป นั้นเอง ขาพเจาจึงไดมีโอกาสมาปฏิบัติธรรมที่วัดตาลเอน และไดมาปฏิบัติอยูเนืองๆ ทําใหไดรูจักกับคุณ จินตนา (พ่ีตา) ซึ่งจัดโปรมแกรมกราบนมัสการพุทธสถานในกรุงยางกุง-สิเรียม-พุกาม-มัณฑเลย ใน ระหวางวันที่ ๒๑ – ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยไดนิมนตพระครูสมุหฯไปดวย เน่ืองจากสถานที่ใน โปรแกรมน้ีเปนสถานท่ีที่ขา พเจายังไมเคยไปมากอ นเลย ขาพเจาจึงไดตอบตกลงที่จะเดินทางไปยังสหภาพ พมา ดวย ในการเดินทางไปกราบนมัสการพุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ตางๆ ณ สหภาพพมา มีผูรวมเดินทาง จํานวน ๒๕ คน โดยมีพระอาจารยจิรยุทธ และหลวงพ่ีจากวัดอัมพวัน ๓ รูป ซ่ึงสถานท่ีที่สําคัญท่ีสุดและ เราจะเดินทางไปในคร้ังนี้ คือ พระเจดียชเวดากอง แปลตรงตัววา พระเจดียทอง แหงเมืองดากอง เปน ปูชนียสถานที่สําคัญที่สุดของชาวพมา เปนเจดียคูบานคูเมืองและงดงามมาก เลาวาพระมหากษัตริยมอญ คือ พระเจาโอกะลาปะ ทรงเส่ือมใส ศรัทธาพระพุทธศาสนา ไดทรงกอสรางองคพระเจดียชเวดากอง ขึ้นมาเมือ่ กวา ๒,๐๐๐ ป เปนที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจา (เสนผม ๘ เสน) โดยมีพอคาสอง พ่ีนองเดินทางไปประเทศอินเดีย ไดเขาเฝาพระพุทธเจา และไดรับพระเกศาจากพระพุทธองค และได อัญเชิญกลับมายัง ประเทศพมา พระเจาโอกะลาปะไดสรางเจดียบนเนินเขาเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุ เปน เจดียท ีห่ มุ ดวยทองคาํ ท้ังองค ยอดบนสุดของเจดียประดับดวยเพชร ทับทิม นิล และพลอย หลังจากท่ีสราง ๑๕๘
เจดยี ชเวดากองเสร็จแลว เกศาธาตุแสดงปฏิหาริยเพิ่มจํานวนมากข้ึน ทรงแบงเกศาธาตุ ๑ เสนมาไวที่ เจดียโบตาทาวน แปลวา เจดียนายทหาร ๑,๐๐๐ คน และกษัตริยมอญทรงบัญชาใหนายทหารระดับแม ทพั ตั้งแถวถวายสักการะแดพระเกศาธาตุทม่ี าบรรจุที่เจดยี โบตาทาวน ในอาณาบริเวณเจดียโบตาทาวน จะมีพระพุทธรูปทองคําที่งดงามมาก ประดิษฐานในวิหาร ดา นขวา ซึ่งเปนพระพุทธรูปปางมารวชิ ัย งดงามย่ิงนัก เคยประดิษฐานอยูในพระราชวังมัณฑะเลย ซ่ึงพระ ครูสมุหฯ บรรยายวา ในสมัยท่ีสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ) ไดมารุกรานสหภาพพมาไดนํา พระพุทธรูปทองคําองคนี้กลับไปดวย แตควีนอลิซาเบธท่ี ๑ ทรงฝนเห็นพระพุทธรูปองคน้ีอยูเปนประจํา เกิดความหวาดกลวั จงึ ไดนําพระพทุ ธรูปทองคําองคน ส้ี ง คนื กลบั สู ณ สหภาพพมา พระอาจารยไ ดนาํ คณะไปสวดมนตและนั่งสมาธิหนา พระพทุ ธรูปองคนี้ประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อน่ัง สมาธิเสร็จแลว ขาพเจา ไดย นิ เสยี งพระอาจารยพูดวา “โยมตา เอาผอบมา” ขาพเจาไดลุกข้ึนเดินมาบอกพ่ี ตาวา พระอาจารยเรียก พ่ีตาจึงไดเดินมา ทุกคนจึงไดเห็นวา มีพระธาตุเสด็จมาอยูในมือพระอาจารย ๑๒ องค ในชวงที่ทา นกําลังนั่งสมาธิอยู ขาพเจาและคณะท่ีไปครั้งน้ี รูสึกตื่นเตนกับปาฎิหาริยท่ีพระธาตุ เสด็จกันทุกคน พ่ีตาจึงไดถวายผอบใหพระอาจารยเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และอัญเชิญกลับ ประเทศไทย ขาพเจาคิดวาสิ่งที่สําคัญที่สุดในการที่พระธาตุเสด็จมาโปรด ในขณะท่ีพระครูสมุหฯ นั่งสมาธิอยู เพือ่ บูชา พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ นน้ั แสดงถึงพุทธานุภาพ ขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา ที่ยังคงอยูคูพุทธศาสนา ถึงแมวาพระองคจะปรินิพพานกวาสองพันหารอยปแลวก็ตาม อีกประการหน่ึง พระครูสมุหฯ เปนพระปฏิบัติ เปนพระสุปฎิบันโน ที่จริยวัตรงดงาม เช่ือม่ันศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขาพเจาและคณะศิษยจะปฏิบัติตามคําสอนของพระพุทธศาสนา โดยดูแบบอยางท่ีดีของพระอาจารย เพือ่ ใหชวี ิตพบแตสงิ่ ที่ดๆี มีความสขุ และเขา ถงึ มรรคผลนพิ พานดว ยเทอญ เบญญาภา หาญญานนั ท คุณเบญญาภา หาญญานันท ๑๕๙
ประมวลภาพพระธาตุเสดจ็ ที่ สหภาพพมา สหภาพพมา ดินแดนแหง ทะเลเจดยี สีพ่ นั องค ภาพบน - มหาธาตุเจดียชเวดากอง ภาพลาง – เม่อื ไปถึงยังพุทธสถานที่สําคญั ๆ ของ ภาพบน - พระครูสมุหจ ริ ยุทธ อธิฉนโฺ ท ประเทศตา ง ๆ แลว พระอาจารย จะนําคณะ กราบนมสั การพระมหามยั มนุ ี พระภกิ ษสุ งฆ และญาติธรรม สวดมนตน่ังสมาธิ เชนนเี้ สมอ ภาพลา ง – พระอาจารย และพระสงฆจากวัดอัมพวัน เบอ้ื งหนา พระพุทธรูปทองคํา ท่ีเจดียโบตาทาวน ๑๖๐
พระเกศาธาตุ บรรจุอยใู นผอบแกว ณ เจดยี โ บตาทาวน พระอาจารย และพระสงฆจ ากวดั อมั พวัน นง่ั สมาธติ อหนาพระพักตรพระพทุ ธรูปทองคําองคน ้ี แลว พระบรมสารีรกิ ธาตุก็เสด็จมา พระบรมสารรี ิกธาตุทเ่ี สด็จมา เมอ่ื พระอาจารยไ ปเจดียโบตาทาวน สหภาพพมา จํานวน ๑๒ พระองค ๑๖๑
พระธาตุเสดจ็ ท่ี หนากฏุ ิ ชว งวันท่ี ๑๘ – ๒๐ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๕๔ ระหวางการเขาปฏิบัตกิ รรมฐานของพระครูสมุหจ ริ ยุทธ อธฉิ นโฺ ท เปน เวลา ๑ เดือน จดหมายเรอ่ื งเลาของผูปฏบิ ัตธิ รรมทอี่ ยใู นเหตุการณจ รงิ ๑๖๒
ประสบการณพ ระธาตเุ สด็จ จากปาเลก็ ขาพเจา นางอุไร ชมชพี (แมเลก็ อายุ ๘๑ ป) ไดสัมผสั กับพระธาตคุ ร้ังแรก เมื่อมีพระใหมา ก็บูชา ไวบนหิ้ง ไมไดสนใจเทาไร จนมาอยูวัดอัมพวันไดไปปฏิบัติพระกรรมฐาน และไดรูจักกับพระครูสมุหจิร ยุทธ อธฉิ นโฺ ท ไดไปทก่ี ุฏทิ า น ไดเ หน็ พระธาตทุ ี่ทานบชู าไว อยูในขวดโหลแกวใหญคลายแจกัน ก็ไดสังเกต วา มีคนมาขอพระธาตุจากทานเยอะ แตแปลก ไมเห็นพระธาตุจะยุบไปจากขวดโหลเลย มีแตเพิ่มขึ้น ก็ สงสยั ตลอดมา พิสูจนไ มได จึงขอทานไปบา ง ก็มาบูชาไว นานไปเปดดู ก็รวู าเพม่ิ ไดจรงิ ๆ จนไดไปศรีลังกากับทาน พระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท จึงไดพบความอัศจรรยจริงๆ คือ เราไป สวดมนตตามสถานท่ีศักด์ิสิทธิ์หลายแหง ปรากฏวา พระธาตุเสด็จเต็มผาขาวเลย ก็ไมแนใจ นึกวาแขก อาจจะเอามาใสใหกไ็ ด แตมาทโี่ รงแรง กต็ กั พระธาตใุ สผ อบที่เราเตรียมมาไว แลวพระอาจารยก็เอาไปเก็บ ทหี่ อ งของทาน พอเชา ก็เอามาแกะดู แปลกท่ีขาพเจาไดพบ คือ พระธาตุท่ีใสผอบไวแลว มีเพิ่มข้ึนได และ มีองคเ ลก็ ๆ ๒ องคอ ยขู า งนอก ขา พเจา ขอ พระอาจารยก เ็ อาใสผ อบไว รงุ ขน้ึ ในผอบของขาพเจาท่ีฝากทาน ไวเพ่มิ เปน ๖ องค จนคืนวันจะกลับเมอื งไทย ทานใหเอาผอบมาคนละผอบ มารวมกันไวที่หองทาน มีพระ ๒ รูป คือ พระครูสมุหจริ ยทุ ธ และพระไกรวลั ย ทา นสวดมนตก ัน แลวพวกเราก็ไดสวดมนตนั่งกรรมฐานตามหองกัน ทุกคน พอเชาทานก็เรียกขาพเจาไปดูกอน ตกใจมาก ท่ีทุกผอบของพวกเรา มีพระธาตุทุกผอบเทากัน ผอบละ ๕ องค เหมือนกันหมด ทานก็มอบใหทุกคน ตัวขาพเจาก็ฝากทานไว ฝากไวในโบสถ นานๆจึงจะ เขาไปดูสักครั้งหนง่ึ รูสึกวา เพิ่มขน้ึ เรือ่ ยๆ แตสวนทีน่ ํากลบั มาทีบ่ าน กต็ องแปลกใจ เม่ือเปดดูพบองคพระ ธาตจุ ากท่ีมอี ยู องคใหญ ๓ องค องคเล็ก ๒ องค ก็กลายมาเปนเหลือ ๓ องค แตใหญกวาเกา พระทานก็ เมตตาถามดิฉนั วา จะเอาพระธาตุไหม จะใหใหม ขาพเจาบอกวา “ไมตองหรอกคะ” เพราะความรูสึกใน ขณะนั้น รูสึกวาพระธาตุทานคงจะเสด็จจากที่บานปา มาท่ีโบสถ เพราะตัวปาต้ังใจจะนําพระธาตุที่บานไป รวมกบั พระธาตทุ ีโ่ บสถอยแู ลว จะไดกราบทานทุกวัน เพราะปาเองใชชีวติ อยทู วี่ ัดมากกวาอยูทบ่ี า น ประสบการณครั้งที่ ๒ ที่วัดตาลเอนนี้เอง เพราะปาอยูประจําท่ีวัด เม่ือเดือนกุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๔ พระอาจารยจิรยุทธ ทานเขากรรมฐาน ๑ เดือนในกุฏิของทาน โดยไมออกมาเลย ไมพูดกับใคร เลย มีปา ที่ดแู ลอยูภายนอกกุฏิตลอดเวลา ทานสรางพระเจ็ดกษัตริยไว ๑๐,๐๐๐ องค ตัวปาจึงนําไปใสลัง เรียงไวหนากุฏิทานได ๗ ลัง แลวจึงเอาสายสิญจนวนรอบลังท้ังหมด แลวโยงเขาไปที่หองของทาน ตัวปา จะใชเวลาสวนใหญในการสวดมนต เพราะต้ังจิตตั้งใจจะถวายทาน พอเชาวันท่ี ๒๐ กุมภาพันธ ทาน เขียนหนังสือสงออกมาวา “ปาเล็ก ดูบนลังสิ มีพระธาตุไหม” ปาจึงยืนขึ้นดู ตกใจ ขนลุก เพราะพระธาตุ เสด็จมาเต็มผาขาวท่ีคลุมไว คนมาดู มาขอถายรูปกันใหญ พอตกกลางคืนไดผอบใหญมาใสพระธาตุ นับ ได ๗๒๓ องค เด๋ียวน้อี ยูใ นโบสถวดั ตาลเอน ไปดูไดเ ลย พอทานออกมาจากกรรมฐาน ตัวปาเองกราบเทา ทาน ทานบอกวา “พระธาตมุ าโปรดปา เลก็ วันเกิด” (วันเกิดปาคือ วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ) ทานใหพระธาตุ ปา เล็ก ตัวปา ซ้งึ ใจ และปต ิเปน ทส่ี ุด ทีท่ า นเมตตาตวั ปาตลอดมา ตวั ปา เองก็ซ้อื ผอบเจดยี รับมาบูชา และไว ท่วี ดั ตาลเอนทกี่ ุฏิทา น ๑๖๓
ในระยะเวลาทผ่ี านมา ตวั ปาเองสวดมนตถวายทานมาตลอด มีความต้ังใจอยากใหทานมีรางกายที่ แข็งแรงสมบูรณ เพราะทานจะเปนไขบอยๆ ปาจึงสวดมนตบทตางๆ ถวายทานดวยความตั้งใจจริงๆ บท สวดมนตที่ปาสวดจบไปแลว มดี ังน้ี คอื ๑. สวดธัมมจักกัปปวตั ตนสูตร ๑,๐๐๐ จบ ๒. สวดพุทธคุณอิตปิ โส ๘๔,๐๐๐ จบ ๓. สวดมงกุฎพระพทุ ธเจา ๘๔,๐๐๐ จบ ๔. สวดพาหุงฯ มหากา ๑,๐๐๐ จบ ๕. สวดชนิ บญั ชร ๑,๐๐๐ จบ ขา พเจา ขอกราบเทาถวายแดทา นพระอาจารยท ีเ่ คารพ โยมปา เลก็ คณุ อไุ ร ชมชพี (ปา เลก็ ) ๑๖๔
ประสบการณเ กี่ยวของและเห็นสง่ิ มหศั จรรย ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ วดั ตาลเอน ขาพเจาไดเขากรรมฐานท่ีวัดอัมพวันโดยมีหลวงพอจรัญ ฐิตธมฺโม เปนเจาอาวาส และไดรับ คาํ แนะนาํ สั่งสอนจากพระอาจารย คือ พระครูสมุหจริยุทธ อธิฉนฺโท ซึ่งเปนพระดูแลคุมกรรมฐานตั้งแตป พ.ศ. ๒๕๔๘ พอป พ.ศ. ๒๕๕๐ พระอาจารยไดรับนิมนตใหมาเปนเจาอาวาสวัดตาลเอน ขาพเจาก็ได ตามมาทําบุญ ปฏิบัติธรรม และทํางานเปนเจาหนาท่ีใหกับวัดจนถึงปจจุบันนี้ ซ่ึงในปจจุบันนี้วัดตาลเอน ไดรับการแตงต้ังใหเปนสํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แหงที่ ๑๕ และไดรับรางวัล สาํ นักปฏิบัตธิ รรมดีเดนเฉลิมพระเกยี รตปิ ระจําป พ.ศ. ๒๕๕๔ อกี ดวย ขาพเจาไดเขาวัดทําบุญมาต้ังแตเด็กๆ โดยมีมารดาเปนผูนํา สมัยนั้นจะมีการทําบุญกันเปนปกติ คือ ทุกวันพระกจ็ ะนาํ ขาวปลาอาหารของหวานไปใสบาตร และภาชนะที่ทางวัดจัดเตรียมให พอพระเทศน เสรจ็ พวกเรากท็ านอาหารกนั แลวก็กลับโดยรับศลี หา เพราะท่ีวัดไมมีการปฏิบัติธรรม ถานอนคางท่ีวัดก็จะ รับศีลอุโบสถ บานเดิมของขาพเจาอยูแถวจังหวัดนนทบุรี วัดก็มีเยอะพอสมควร แตไมมีวัดปฏิบัติธรรม ภายหลงั ออกเรือนก็มาอยูก บั สามี โดยรวบรวมเงินมาดาวนตึกแถวสองช้ัน กําหนดผอน ๑๕ ป แตเราผอน แค ๗ ป ก็หมด เขาไปอยูคร้ังแรกก็ทําการเปดรานขายของจําพวกอะไหลรถมอเตอรไซคและจักรยาน กจิ การดีขนึ้ มเี งนิ ทนุ มากข้ึน เวลาไมสบายใจก็จะเขาหองพระสวดมนตนั่งสมาธิ ครั้งแรกจะใชวิธีการอาน หนังสือช่ือ วิปสสนากรรมฐานสื่อวิญญาณ ของ แสง อรุณกุล ไดเขียนถึงแนวทางการปฏิบัติของหลวงปูโต พรหมรังสี ไดอานและปฏิบัติตาม ก็บังเกิดผลและประสบการณตางๆ ทําใหใจเย็นลง สามารถแกไข สถานการณไ ด ประมาณป พ.ศ.๒๕๒๘ กไ็ ดย ินคนพดู กันถงึ “วดั สังฆทาน” วา มีการปฏิบัติธรรม หลวงพอสนอง เปน พระธุดงคม าสรา งวดั ใหม พระในวดั มีความเพียรและเครงครัดในวินัย นาสนใจ ก็ลองไปรับกรรมฐาน และปฏิบัติ แรกๆ ก็ไปเฉพาะวันพระและวันเสารจะมีการรับศีลอุโบสถ ตอมาก็จะไปเขากรรมฐานคร้ังละ ๗ วันบา ง ๓ วนั ๕ วนั บาง บางทกี ็ไปตามวดั สาขาของทา น เขา วัดปฏิบัติต้ังแตป พ.ศ. ๒๕๒๘ จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๙ กจ็ ะหางวัดไปบาง จะเขาเฉพาะวันสาํ คญั และวนั เกดิ หลวงพอ เนือ่ งจากมงี านและมีภาระเพม่ิ ขึ้น ชว งทข่ี า พเจาไปวดั สังฆทานจําไมไดวาเปนปท่ีเทาไหร ไดมีการสรางโบถสแกวแปดเหลี่ยมและปด ทองฝงลูกนิมิต ตอนนั้นหลวงพอสนองไดแจก “ผงพระสีวลี” ท่ีไดมาจากหลวงพอสังวาลยเปนพระ อาจารยของหลวงพออีกที ซ่ึงทานไดธุดงด ไปในถํ้าแหงหนึ่งและไดผงพระสีวลีมาจํานวนหน่ึง มีลักษณะ เปนผงละเอียดสีดอกพิกุล เม่ือขาพเจาไดมา ก็ไดใสผอบเก็บไวบนโตะหมู รวมกับพระพุทธรูปและรูป หลอหลวงปูตา งๆ อีกหลายทาน หลังจากน้ันก็ไมไดสนใจอะไร แมจะเขาไปสวดมนตไหวพระปฏิบัติธรรม ในหองทุกวัน ถัดมาประมาณ ๒ ถึง ๓ ป มีอยูวันหน่ึงขาพเจาเขาไปทําความสะอาดหองพระ และไดขอ อนุญาตเปดผอบดู ก็ตองประหลาดใจต่ืนเตนและปติเปนอยางมาก เพราะจากเดิมที่เปนผงละเอียด เหมอื นเมด็ ทรายทองธรรมดา กลับจับตัวกันเปนกอน กอนใหญ ๑ กอน กอนเล็ก ๒ กอน ยังคงเหลือ เปน ผงอกี เลก็ นอ ย แตท ่ีแปลกมากคือ มผี ลึกแกวแข็งๆ สีนิล สีทอง และผลึกใส เปนกอนเล็กๆ เพ่ิม เขา มาอยใู นผอบดวย ๑๖๕
เม่อื ป พ.ศ.๒๕๕๒ ขา พเจาไดนําผอบผงพระสีวลีที่จับตัวเปนกอนแลวทั้งผอบนั้น มาถวายใหพระ อาจารยจิรยุทธ ทานก็ไดเก็บไว ๒ กอน คือ กอนใหญ ๑ กอน และกอนเล็ก ๑ กอน และไดมอบกลับคืน มาใหขาพเจา ๑ กอนเล็ก ชวงนั้นรูสึกวาจะบูรณะพระเจดีย ไมทราบวาทานใสไปในเจดียหรือเปลา สวน กอนท่อี ยูที่บานขา พเจา จะมีลกั ษณะใหญข้ึน เวลาออกจากวัดกลับไปบานก็จะขอชมบารมีทุกคร้ัง รูสึกวามี ความสขุ และสงบท่ไี ดน ่งั อยใู นหอ งพระ พระอาจารยจิรยุทธ อธิฉนฺโท ไดจัดโครงการปฏิบัติธรรมทางสายเอกคร้ังแรกที่วัดตาลเอน เมื่อ เดือนเมษายน ป พ.ศ.๒๕๕๐ ขาพเจาก็ไดเขารวมดวย และไดเขาปฏิบัติเกือบทุกโครงการ พรอมทั้งได ทาํ งานเปน เจาหนาท่ี จนในที่สุดไดทําหนาท่ี ทําอาหารถวายพระอาจารย สืบเน่ืองมาจากการทําอาหารน้ี ก็ ไดเห็นเหตุมหัศจรรย คือ ประมาณเดือนกุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๔ พระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท ไดเขา กรรมฐานที่กุฏิทานเปนเวลา ๑ เดือน ชวงนั้นทานไดสรางพระผงเจ็ดกษัตริยไวเปนจํานวนมากและนํามา บรรจใุ สก ลองกระดาษใหญๆ หลายกลอง ประดิษฐานไวหนาหองทาน โดยท่ีทานใหเอาผาขาวคลุมกลองไว อกี ที แลวโยงสายสญิ จนออกมาจากในหอ งของทา น พันสายสิญจนวนจนรอบกลอง มีอยูวันหนึ่ง นาจะเปน คืนวนั ที่ ๑๘ กมุ ภาพันธ (ซ่ึงเปนวันมาฆะบูชา) ไฟฟาเกิดดับทั้งวัด ทั่วบริเวณวัดมืดสนิท ตองจุดเทียนให ความสวาง ตรงท่ีขาพเจาเขาทํางานอยูเปนหอฉันของวัด ซ่ึงอยูตรงขามเยื้องๆ จากกุฏิท่ีพระอาจารยอยู ขาพเจานั่งเช็ดแกวนํ้า สายตาก็มองออกไปขางหนาตรงกับหนาตางดานทิศตะวันออกของกุฏิพระอาจารย พอดี สกั ครูเห็นมแี สงสวางเปนดวงใหญ สวางแวบ มีประกายเหมือนแสงดาว แลวก็หายไป ทีแรกคิด วา ใครฉายไฟฉาย ก็พยายามมองแลวมองอีก ก็ไมเห็นมีแสงอะไร ถาเปนไฟฉายก็นาจะสองไปสองมาอีก แตน่ีสวางแควาบเดียวแลวก็หายไป ก็ไมไดคิดอะไร เชาขึ้นก็เขียนไปถามพระอาจารยวา ทานทําอะไรอยู หรอื เปลา โยมเห็นแสงไฟดวงใหญท่ีหนาตางของทา น ทานกต็ อบออกมาวา นา จะเปนแสงพระธาตุเสดจ็ ประมาณวนั ที่ ๒๐ กมุ ภาพนั ธ ตอนเชาไดนําปนโตไปสงใหทานตามปกติ ก็ไมไดสังเกตอะไร ทาน ออกมารบั ปนโตเขา ไป และยื่นจดหมายออกมา โดยใหพระยอดเกียรติชัยภพ (พระยอด) ซึ่งตอนนั้นทาน พระยอดไดเปนพระอุปฏฐาก คอยรับประเคนปนโตใหทาน มีใจความวา “ทานยอด ชวยดูบนผาขาวท่ี คลุมหลวงพอเจ็ดกษัตริยใหที เม่ือคืนอาตมามีความรูสึกวา พระธาตุเสด็จมา ถามี ก็ใหสวดบทพระ พทุ ธคณุ พระธรรมคณุ พระสงั ฆคุณ และหาภาชนะท่ีเหมาะสมนํามาใส เก็บไวในโบสถ ถาไมมี ก็ไม เปนไร” เหมือนนัดกันไว ขาพเจาและทานยอดรีบคลานเขาไปชะโงกดูบนผาขาวทันที และก็ตองตื่นเตน ปติ ขาพเจาไดพูดเสียงดังวา “มีเจาคะ” มากดวย หลายหลากสีสัน หลายสัณฐาน ทั้งองคเล็กและองค ใหญ เหมือนจับวางใหเ ปน กลีบดอกไม สวยงามมาก พอเรื่องรูไปถึงศาลา ๘๐ ป ท้ังพระและผูปฏิบัติ ธรรมก็ผลัดเวียนกันมากราบตลอดท้ังวัน พอชวงหัวค่ําพระอาจารยจุย และพระในวัดก็ชวยกันนับ และ อัญเชญิ เสด็จลงภาชนะทีส่ วยงามสมควรแกบารมีของทาน ปรากฏวานบั ได ๗๒๓ องค นับวาเปนบุญบารมี ของวัดตาลเอน และพระอาจารยพระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท เปนอยางยิ่ง ท่ีเกิดเหตุการณมหัศจรรย เชน น้ี และนไี่ มใ ชค ร้งั แรกท่มี พี ระธาตุเสด็จอันเน่ืองมาจากบุญบารมีของพระอาจารย แตมีหลายครั้งหลาย หน และจากตางประเทศกม็ ี ซ่งึ จะนํามาเขียนใหท า นไดอ า นในครงั้ ตอ ไปถามีโอกาส นับวาเปนบุญกุศล และผลแหงความดีท่ีขาพเจาไดปฏิบัติตามรอยบาท รอยธรรมขององคสมเด็จ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา จงึ ไดม โี อกาสพบกับพระสุปฏิปนโน ไดรับใชทาน ฟงธรรมจากทาน เปนเคร่ืองหลอ เลี้ยงชีวิต ใหเกิดสติ มีปญญา สามารถแกไขและยืนหยัดตอสูอุปสรรคนานาได และเปนบุญอยางยิ่งที่ได ๑๖๖
เกิดมาเปนมนุษยไดพบพระพุทธศาสนา ไดฟงธรรม ปฏิบัติธรรม ธรรมะท่ีเกิดจากการท่ีพระผูมีพระภาค เจาไดตอสูกับกิเลสตัวเอง จนชนะทุกส่ิงทุกอยางอยางบริสุทธิ พระพุทธองคทรงคนพบความเปนจริงของ ธรรมชาติ คือ ความเกิด ความแก ความเจ็บ และความตาย และหนทางความหลุดพนจากความเปนจริง ของชวี ติ น้นั แลว ทรงนาํ มาเผยแผส ั่งสอนใหป ถุ ุชน สามัญชน ไดนําไปประพฤติปฏิบัติ จนเขาสูช้ันอริยะชน สามารถถงึ ความสขุ สงบพบพระนพิ พานได สดุ ทา ยนขี้ อฝากเตอื นสติเปนคติวา “ธรรมยอ มชนะอธรรม กฎแหง กรรมเปน ผลของเหตุแหง การกระทํา” อรวรรณ ทองอยู คณุ อรวรรณ ทองอยู (ปา เปยก) ๑๖๗
ประมวลภาพพระธาตุเสด็จที่ หนากุฏิ พระธาตุที่เสดจ็ มาหนา กุฏพิ ระครสู มหุ จิรยุทธ อธิฉนฺโท ในชวงวนั มาฆะบูชา พ.ศ. ๒๕๕๔ ขณะพระครูสมุหฯ เขา กรรมฐานเปน เวลา ๑ เดือน พระธาตเุ สด็จมาบนผาขาว ที่คลุมลังบรรจุพระเจ็ดกษตั รยิ ภาพถายระยะใกลข องพระธาตุที่เสด็จมา มีหลายวรรณะสณั ฐาน ๑๖๘
เรื่องของผูมีจติ ศรทั ธา สง มารว มปน ประสบการณ จดหมายของผูปฏบิ ัตธิ รรมที่มปี ระสบการณจริงเกี่ยวกบั พระธาตเุ สดจ็ ๑๖๙
เรื่องพระธาตุของอาตมา อาตมาไดเ ริม่ รจู กั พระบรมสารรี กิ ธาตคุ รง้ั แรกก็จากหลวงปู (พอ ของพอ ไมข อออกนามทาน) ของ อาตมา เมื่ออาตมาเปนเด็กวัดอยูกับหลวงปูก็ป พ.ศ. ๒๕๓๗ ขอกลาวถึงหลวงปูของอาตมากอน หลวงปู ของอาตมาบวชตัง้ แตอาตมาอาตมาอายุ ๔-๕ ขวบ ทานเคยเปนลูกศิษยคนสนิทของพระราชสังวราภิมณฑ หรอื หลวงปโู ตะ วัดประดูฉิมพลี หลวงปูโตะกับทางบานของอาตมาจะสนิทสนมกันเปนอันมาก ทานมักมา แวะเยย่ี มเยียนหลวงปขู องอาตมาทบ่ี านบอยๆ อาตมาไดรับมอบหมายจากโยมพอของอาตมาใหไปอยูคอยรับใชหลวงปู อาตมาก็ไปเปนเด็กวัด อยูหลายป ตอนอาตมาเด็กๆ เคยนึกวา ปลาทํามาจากผา เพราะวาเคยเห็นหลวงปูจับปลาออกมาจากตู ปลา พอพนนํา้ มาได มันกลบั กลายเปน ผา สีดาํ พอหลวงปูนําผาสีดํานั้นกลับเขาตูปลาลงน้ํา มันก็กลายเปน ปลาดังเดิม นี้เปนความคิดของเด็กทีเ่ หน็ อาตมามีหนาที่ทําความสะอาดกุฏิ จึงมีโอกาสทําความสะอาดโตะหมูบูชาในหองของทาน เม่ือ อาตมาเห็นผอบก็นึกวาเปนโกฏิคนตาย จึงถามหลวงปูวากระดูกใครครับ หลวงปูบอกอาตมาวาเปนพระ บรมสารีริกธาตุ หรือกระดูกของพระพุทธเจา อาตมาจึงขอเปดดู เห็นพระบรมสารีริกธาตุเปนองคกลม วรรณะขาวนวล ขนาดเทานิว้ หัวแมโ ปง หลวงปูจึงไดเลาประวัติความเปนมาใหอาตมาฟงวา เม่ือคร้ังที่ทาน ไปสรา งวดั อยูจ งั หวดั กาํ แพงเพชร ทา นหาเงินสรางวัด ซ้ือไมกระดาน เสา ปูน อิฐ มาเพื่อสรางวัด ชาวบาน ทน่ี ่นั กค็ อยกล่ันแกลง ขโมยขาวของทห่ี ลวงปูอาตมาหามาได หลวงปูของอาตมารูสึกออนใจ หมดกําลังใจในการสรางคุณงามความดี มีอยูคืนหน่ึงขณะที่หลวง ปูเหนื่อยลาจากการทํางานกอสราง ก็ไดสรงนํ้าชําระรางกาย แลวเขาปฏิบัติกรรมฐาน พอออกจาก กรรมฐาน ทานก็เห็นดวงไฟดวงใหญมาแตไกล ทานจึงคิดวา นาจะเปนพระธาตุเสด็จ จึงไดทําการหาพาน และผาขาวมาวางไวบนที่เหมาะสม แลวอธิษฐานจิตวา ถามีบุญวาสนามีบารมีสรางสมมาในชาติน้ี และ ชาติแตกอนมา ก็ขออัญเชิญเสด็จพระธาตุมาสูผาขาวท่ีไดจัดเตรียมไว เพื่อบูชากราบไหวเปนสิริ มงคลตอตัวเอง และเปนกําลังใจในการเจริญพระกรรมฐาน หลวงปูก็เลาตอวา พระธาตุก็ไดลอยเสด็จ มาลงบนพานผาขาวทีท่ านเตรียมไว (ทานกไ็ ดเคารพสักการะมาจนทานมรณภาพ) เม่ืออาตมาไดฟงก็รูสึก ศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น ไมเ คยรูเลยวา พระธาตกุ เ็ สดจ็ มาได อาตมาก็ลมื เรือ่ งพระบรมสารีริกธาตนุ ้ไี ปนาน ตอมาเมอื่ ไดม โี อกาสอุปสมบทที่วัดตาลเอน ป พ.ศ. ๒๕๕๐ คนทไี่ ดร้อื ฟนเร่ืองพระบรมสารีรกิ ธาตุกห็ ลวงพีห่ นอย (พระสุธี สมาหโิ ต) ทานนนั่ แหละ ทานก็ได ถวายพระบรมสารีริกธาตุแกอาตมาเปนครั้งแรกเลย อาตมาดีใจมาก เพราะพึ่งจะมีพระบรมสารีริกธาตุไว บูชาเปนสมบัติสวนตัวก็คราวนเ้ี อง เวลาผานไปไมนานนักพระอาจารยจิรยุทธก็ไดบูรณะอุโบสถวัดตาลเอน อาตมาเปนสวนหน่ึงที่คอยเปน ลูกมือหลวงพ่ีที่อาวุโสกวาอาตมา เชน หลวงพี่พล (ทิดพล) เม่ืออาตมามองไปท่ีองคพระประธานหรือ หลวงพอ ปลัง่ อาตมากเ็ หน็ ดวงไฟขาวเต็มไปหมด ก็สงสัย เลยลองถา ยรูปไว เมอื่ เอามาดู กส็ ามารถถา ย ๑๗๐
ติดเปนดวงเต็มองคหลวงพอปลั่ง แลวอาตมาก็ลบภาพเหลาน้ันทิ้ง เพราะไมอยากใหเปนที่วิพากษวิจารณ เก็บไวใ นใจคนเดียวดีกวา ตอมาไดมีโยมนําหินออนมาถวายพระอาจารยจิรยุทธ พระอาจารยทานจึงตองการนํามาปูที่โบสถ อาตมากไ็ ดไปนั่งเรียงเลือกสีของแผนหินออนใหไดสีใกลเคียงกัน จนมืดตอนไหนไมรู แตดูเหมือนไมมืด เพราะมแี สงสวา งมาจากเจดยี หลงั โบสถ เม่ืออาตมาพิจารณาดูแลวก็ตองตกใจ เพราะที่เจดียไมมีใคร มาติดหลอดไฟ แลวแสงสวางมาจากไหนกัน อาตมาจึงหันไปมองที่เจดีย เพราะอยูหางกันไมมาก ประมาณซมุ เสมา ก็เห็นดวงไฟดวงใหญสีขาวนวลสวยงามมากที่เจดยี อาตมาก็คิดวาตาฝาด จึงหันมอง ไปทางอ่นื แลว ก็หนั กลบั ไป กย็ ังเห็นดวงไฟดวงน้ี อาตมาก็ยืนมอง ไมรูจะทําอยางไร ไมกลาบอกใคร กลัว เขาหาวาบา กเ็ กบ็ ไวใ นใจ จนอาตมามีโอกาสไปนมสั การสังเวชนียสถาน ๔ แหง ท่ีประเทศอินเดียกับคณะผูปฏิบัติธรรมและ พระอาจารยจิรยุทธ นาจะป พ.ศ. ๒๕๕๒ พระอาจารยจิรยุทธทานก็ไดพาพระและญาติโยมสวดมนตทุก ท่ีๆ ไดไปกราบนมัสการ สถานท่ีตางๆ ที่อาตมาจําไดก็มีท่ีหน่ึง คือ ท่ีพระกุฎีของพระพุทธเจา ทานไดพา สวดพระธมั มจกั กปั ปวัตตนสตู ร และนั่งสมาธิ เมอื่ เสร็จจากการสวดมนตและน่ังสมาธิแลว ทานก็ไดเปดผา ขาวท่ีทานไดนํามาวางไว เม่ือเปดออกดูก็เห็นพระบรมสารีริกธาตุมากมาย ตอมาพระอาจารยก็ใหอาตมา เก็บรักษา แลวแจกใหพระและญาติโยมทุกคน เมื่อถึงที่พักอาตมาก็ไดทําการนับพระบรมสารีริกธาตุ นับอยูหลายรอบก็ได ๘๐ พระองคพอดี แตพอจะเอามาแจก อาตมาก็นับอีก ปรากฏวาเสด็จมาเพิ่ม อีก ๑๖ พระองค ก็รูสึกแปลกใจ ก็ยังคุยกับนองชายของพระอาจารยจิรยุทธ (โยมตั้ม) กันเลยวา พระ ธาตเุ สดจ็ มาเพิม่ เร่ืองของอาตมาก็มีเพียงเทานี้ เพราะไมคอยคิดเร่ืองอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริยสักเทาไร แตพวกเรื่อง แบบน้กี ม็ ักจะเขามาสูตวั อาตมาเสมอ ความจริงอาตมาก็ไมอยากเลาเร่ืองแบบนี้ใหใครฟง แตทนรบเราตอ วาตอขานจากคณะผจู ดั ทาํ ไมได กข็ อเลาพอหอมปากหอมคอกนั ไป สุดทายส่ิงที่พระพุทธองคไดท้ิงไวหลังจากปรินิพพานแลวไมใชแตเพียงพระบรมสารีริกธาตุ เทานนั้ แตพ ระองคยังฝากแผนท่ใี หเ ราไดเขาถงึ “ พระธรรมธาตุ ” ดว ยนะ เจรญิ พร พระมหาภาณพุ งศ สติสมั ปนโฺ น ๑๗๑
ความประทับใจในการเสดจ็ ของพระธาตุ ดิฉันไดเริ่มปฏิบัติธรรมครั้งแรกที่วัดอัมพวัน จ. สิงหบุรี ประมาณ ๑๐ กวาปที่แลว และไดอาน หนังสือธรรมะของหลวงพอจรัญ ฐิตธมฺโม หนังสือธรรมนิยายชุดสัตวโลกยอมเปนไปตามกรรมของคุณ สุทัสสา ออนคอม และอานหนังสือธรรมะจากหลายๆ อาจารย ความเขาใจในธรรมะของดิฉัน คือ ตองมี ปญญาแกไขปญหาท่ีเกิดขึ้นในชีวิต เขาใจในกฏพระไตรลักษณ มีสติ รูเทาทันอารมณ ในชวงปแรกๆ ไม คอ ยเขาใจแตกพ็ ยายามทาํ ความเขาใจและปฏบิ ตั ติ ามที่หลวงพอจรัญสอน คือ ใหกําหนดอิริยาบถทุกอยาง และกาํ หนดส่ิงทม่ี ากระทบทางตา หู จมกู ล้ิน กาย และใจ หรือท่ีเรียกวาอายตนะทั้งหก แลวปฏิบัติตามมา เร่ือยๆ ก็เร่ิมเขาใจในส่ิงท่ีหลวงพอจรัญสอน คือทุกส่ิงทุกอยาง มีเกิดข้ึน ตั้งอยู และดับไป ตามกฏพระ ไตรลกั ษณ ที่วา อนจิ จงั ทุกขงั อนัตตา ซง่ึ เปน พระธรรมของพระพุทธองคน น่ั เอง เมื่อประมาณส่ีปที่แลวดิฉันไดรับคําชักชวนแนะนําจากพี่ท่ีทํางานเดียวกัน พาไปกราบบูชา พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ ท่ีชมรมพระบรมสารีริกธาตุ แถวถนนสีลม และพ่ีเขาก็ไดมอบพระธาตุ ของพระสีวลใี หแกด ิฉัน โดยดิฉนั ไดนําไปบรรจใุ นผอบสองชัน้ และนํามาบูชาท่ีบาน ดฉิ นั ไดด ําเนนิ ชวี ติ ตามปกติ สวดมนตกอ นนอน และสวดมนตตอนเชากอนออกจากบาน ถวายนํ้า พระพุทธรูปท่ีหองพระทุกวัน ใชชีวิตโดยพยายามไมใหศีล ๕ บกพรองในทุกๆ วัน และเม่ือวันวิสาขบูชา ตรงกับวนั ท่ี ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ดิฉันไดไปชมงานวันวิสาขบูชาที่ทองสนามหลวง และไดเขาไป ทซี่ มุ จดั แสดงพระบรมสารรี กิ ธาตแุ ละพระธาตุ มองเห็นผอบบรรจุพระธาตุอยูหน่ึงผอบ ซึ่งไมไดสังเกตวา เปนพระธาตุของพระอริยสงฆทานใด ไดแตนึกในใจวาพระธาตุแบบน้ีก็มีดวยหรือ คือเปนแทงเหมือน แกวแตก แทงเล็ก แทง ใหญ ส่ีหา องค แตไมไดพูดออกมา ไดแตนึกในใจ แลวก็เดินชมพระธาตุในผอบ อ่ืนๆ เรื่อยไป นองสาวของดิฉันเขาก็ซ้ือผอบใหมมา เพื่อมาขอบูชาพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุจาก ดิฉัน เมือ่ กลบั จากทองสนามหลวงในตอนเยน็ วนั นนั้ ดิฉันเขาไปไหวพระในหองพระ และหยิบพระบรม สารีริกธาตุและพระธาตุ เพ่ือจะมอบบางสวนใหนองสาวก็พบเหตุการณท่ีไมคาดฝนมากอน คือ พบพระ บรมสารีริกธาตุเพิ่มจํานวนมากขึ้นกวาเดิม และพระธาตุองคใหมเพ่ิมข้ึนในผอบ ซ่ึงมีลักษณะเปน แทงๆ เหมือนพระธาตุที่นึกคิดในใจตอนไปเจอที่ซุมพระธาตุที่ทองสนามหลวง จึงไดใหนองสาวและ แมชวยดู ทุกคนก็มีความเห็นเหมือนกันคือ เปนพระธาตุท่ีเสด็จมาใหม ไมเคยมีมากอนในผอบ ดิฉันก็ พยายามหาคาํ ตอบวา พระธาตุที่เสด็จมาเปนของพระอริยสงฆองคใด จึงไดไปคนหาขอมูลในอินเตอรเน็ต ดู พบวาเปนพระธาตุของหลวงปูมั่น ภูริทัตโต สรางความประทับใจในปาฏิหาริยที่เกิดขึ้นในชีวิตของดิฉัน เปน อยา งยิ่ง นี่เปนเหตุการณท่ียิ่งเพิ่มความศรัทธา ในพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ ทําให ดิฉันเขาใจในพระธรรมมากยิ่งขึ้นที่บอกวา ธรรมะเปน ปจจัตตัง ดิฉันอยากใหพุทธศาสนิกชนทุกทาน เขาใจในพระธรรมของพระพุทธองคที่โปรดสัตวโลกจนถึงปจจุบันน้ี ๒,๖๐๐ ปแลว ถาเราปฏิบัติและ ดาํ เนินชีวิตตามหลักธรรมคําสอน และศรัทธาเชื่อม่ันในพุทธานุภาพขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา แลว ชวี ิตกจ็ ะพบแตสิ่งท่ีดๆี และมคี วามสุข นิภาภทั ร จรแกว ๑๗๒
ภาพผอบบรรจพุ ระบรมสารีรกิ ธาตุของคณุ นิภาภทั ร คณุ นิภาภัทร จรแกว และรปู ถา ยหลวงปมู น่ั ภรู ิทัตโต ภาพพระบรมสารีริกธาตรุ วมทกุ สณั ฐาน ภาพพระธาตุทมี่ ีลกั ษณะคลายแทงแกว ท่ีคณุ นิภาภัทร สักการบูชา ท่ีเสดจ็ เพิ่มขน้ึ มาในผอบของคณุ นภิ าภทั ร ๑๗๓
พระธาตมุ หศั จรรย หนึ่งเดียวในโลก ขา พเจา มพี ระบรมสารรี กิ ธาตุ (จะเรียกส้ันๆ ในลําดับตอไปวาพระธาตุ) องคแรกหรือคร้ังแรกใน ชีวิต เปนวรรณะขาวสารหัก มีรอยหักหรือบิ่นท่ีปลายพระธาตุ หรือเรียกวาจมูกขาว เหมือนเมล็ดขาวสาร จรงิ ๆ แตมีสขี าวมันละเล่ือมด่ังมุก และไดใหค ุณหมอตักกวย (พศิ าล เทยี นถาวร) ไป ตอมาก็ไดพระธาตุจากพอ พ่ีชาย และนองสาว โดยเฉพาะพ่ีชายน้ัน ไดกลึงทองเหลืองเปนเจดีย ฝมือประณีตใสพระธาตุใหขาพเจาดวย และขาพเจาไดมอบใหลูกสาวถวายพระทางภาคอีสานพรอมท้ัง พระธาตเุ ปน จาํ นวนมาก เพอื่ บรรจใุ นองคพ ระพุทธรูปซงึ่ เปน พระประธานของวดั (จาํ ชอ่ื ไมได) ขาพเจาอยูวัดตาลเอนตั้งแตป พ.ศ. ๒๕๕๐ จนถึงปจจุบัน เหตุเพราะหัวแตกเลือดโชก และตก ศาลาแลว จึงไดดีเพราะเช่ือพระอาจารยจิรยุทธ ทานบอกใหอยูวัดปฏิบัติธรรม เพราะเชื่ออาจารยจึงไดดี อยูดี กินดี และคิดดี แถมอวนพีอีกตางหาก ขาพเจาไดเดินทางไปอินเดีย ศรีลังกา และเมียนมาร อยูวัด ตาลเอนแดนศกั ด์สิ ทิ ธ์ิ และมหศั จรรยเ พราะมีพระธาตเุ ยอะ ทาํ ใหข าพเจาพลอยมพี ระธาตุเยอะไปดวย ที่มี มากก็พระธาตุปุพโพ (พระธาตุนํ้าเหลืองซึ่งมีเฉพาะพระพุทธเจาพระองคเดียวเทานั้น) มีสีครบท้ัง ๗ สี เลย นค่ี อื ความมหศั จรรย พระพุทธเจาทา นทรงมีพระเมตตาในมวลมนษุ ยไมเลือกชน้ั วรรณะเลย เม่ือขาพเจามีพระธาตุมากก็ถวายพระ คือ หลวงพออุทัย เจาอาวาสวัดเสมียนนารีในวันเกิดของ ทา น ๖๐ องค ทานอาจารยมหาสมฤทัย ผูสอนกรรมฐานของวัด เนื่องในวันเกิดทาน และผูปฏิบัติธรรมใน วัดอกี มากนอยเทา ไรก็จาํ ไมไ ด พระธาตุนั้น คร้ังหน่ึงเปนที่หวงแหนของขาพเจามากที่สุด แตตองทวนกระแสกิเลส ตัดใจใหเลย เอาอยางครูบาอาจารยทั้งหลาย ทานยังไมหลง ย่ิงให ยิ่งมี หากพิจารณาขอเขียนของขาพเจามาต้ังแตตน ขาพเจาใหมาตั้งแตตนแลว จึงไมตองสงสัย เรื่องพระธาตุขาพเจาไมขอคุยอะไรมาก ขาพเจามีมากเพราะ ขาพเจาชอบสวดมนต อยบู านภรรยาบน อยูวัดก็ยังมคี นบน ก็แปลกใจจัง ทาํ ไมทานไมกําหนดตามเสียงไป เสียงหนอ ๆๆๆ ตามไป อยาสงไปทางอื่น ขาพเจาจะสวดมนตทั้งคืน สวดจบก็แผเมตตา บางทีอาจมีชื่อ ทานอยูในคําแผเมตตาดวย เห็นไหมละ! ไดประโยชนโดยตรงและโดยออม หลวงพอพุธ ฐานิโย อดีตเจา อาวาสวัดปา สาละวัน ทา นบอกวา สวดมนตใหอ อกเสยี ง เพราะเทวดาทานชอบฟง และเราก็กําหนดจิตตาม เสียงที่เราสวดมนตดวย จะไดเกิดสมาธิ หลวงปูดุล อตุโล ทานสวดมนตอยูที่วัดไมใชเคร่ืองขยายเสียง แตเสียงทานดังไปทั่วทั้งวัด ครูบาอาจารยทานทําเปนตัวอยางไว ขาพเจาก็จําตัวอยางท่ีดีๆไวเปนสิริมงคล ก็แปลกใจจัง (อกี แลว) คนแหกปากรองเพลงยงั ช่นื ชอบ ขาพเจา สวดมนตดัง ยงั มีคนบน ขาพเจามองดูพระธาตุเทาท่ีมีอยู เกิดความอ่ิมเอิบในใจ และบารมีบุญกุศลท่ีไดทํามา เปน พลังใจใหสดช่ืนแลวสวดมนต ขาพเจาไมลืมคุณยาย หมูญาติพี่นอง ลูกหลาน ผูปฏิบัติธรรมท้ังชายหญิง กินขาวเสร็จก็ยกมือไหวพระแมโพสพ และพระอาจารย ท้ังผูเปนเจาของอาหาร และผูบริการทุกทานท่ียก อาหารมาใหขาพเจาทุกวัน ดวยจตุพรชัย คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ทานอยาเขาใจวา ขาพเจาพูดเลน วันน้ีอายุ ๗๙ ก็ยังไดยินอยู พระทานต้ังใจใหพร เราก็ควรตั้งใจรับ ไอคําวามีตังคเยอะๆ แตตองขยันหา เงนิ นะครบั เงนิ จงึ จะมา นีข้ า พเจา พดู เอง และพูดมา ๕ ปแ ลว ทานขยันแลว เงินมา การใหพระธาตุก็เหมือนกัน ตองขยันสวดมนต และมีศีล บวกกับมีศรัทธา ขันติ วิริยะดวย ชวง เขาพรรษาของทุกป ขาพเจาจะต้ังสัจจะอธิษฐานสวด “ อิติปโส” วันละ ๑,๕๐๐ จบ ตามกําลังวันเกิด คือ ๑๗๔
วันจันทร ๑๕ เลขศูนยอยาคิดวาไมมีคา ขาพเจาเติมเองใหมันมีคามากขึ้นเพราะศรัทธา พรรษาแรก ๓ เดือน พรรษาสอง ๔ เดือน บางวันมีเวลามาก สวดเผื่อขาดเผื่อเหลือไวอีก ๒,๐๐๐ บาง ๒,๕๐๐ บาง ๓,๐๐๐ บา ง มีอยวู ันหน่ึง คือ วนั เกดิ หลวงพอ จรญั ทางวดั ตาลเอนมีการสวดมนตเพ่ือสรางวัตถุมงคลทั้งที่ หอสวดมนตและศาลา ๘๐ ป พระอาจารยน่ังสวดมนตในพิธีดวย วันน้ันขาพเจาสวดอิติปโส ๓,๒๐๐ จบ ต้ังแต ๘ โมงเชาถึง ๒ ทุม และในงานวันสถาปนา (สราง) หลวงพอทันใจก็เชนกัน มีการสวดมนตตลอด หน่ึงวันหน่ึงคืน ขาพเจาก็รวมสวดดวย และยังไดถวายพระธาตุอีก ๒ หรือ ๓ ตลับแดพระอาจารยจิรยุทธ เพอ่ื บรรจตุ รงจดุ ทเ่ี ปนหัวใจของหลวงพอ ทันใจ ขาพเจา ปฏบิ ตั ดิ ังน้ีมาโดยตลอด การแจกพระหรือพระธาตุนั้น อุปมาด่ังแจกเทียนท่ีจุดสวางแลว ยอมสวางในท่ีมืด ดังปญญา สองสวางไปทั่วโลก ทั้งผูใหและผูรับ ยอมไดบุญและบารมีรวมกัน เปนธรรมทานที่ใหโดยไมมีพิษมีภัย และไมหวังส่ิงตอบแทน ลองไปถามคุณหนูเล็ก (จําชื่อจริง สกุลจริงไมได) คุณมาลัย กุลทอง โดยเฉพาะ คุณสิรกิ าญจน เจียมอนกุ ุลกิจ เธอถายรปู ไวเ ปนประจักษพ ยานดว ย และใหพ ระธาตุแกข าพเจาดวย ทา นท่ีกลา วนามมาทั้งหมดนี้ก็เปนนักปฏิบัติของวัดตาลเอนท้ังน้ัน และคุณมาลัย กุลทอง น้ันเธอ เช่ือขาพเจา แผเมตตา จบการปฏิบัติธรรมแลว อยาเพิ่งรีบลุก ใหทําใจใหนิ่งๆ กลาวคําบูชาพระบรม สารรี กิ ธาตุในใจเปน การยา้ํ อีกที บทสวดบชู าก็ใชบทเดียวกับท่ีพระอาจารยทา นไดสวดนาํ ที่วัดน่ันเอง ขันติ คือ ความอดทน คือ ทนได เพียรได ยอมไดชัยชนะ คือ ความสําเร็จท่ีมุงหวัง และคิดดี ทาํ ดี พดู ดี หลวงพอ จรัญพูดไว เราลกู ศิษยค วรเช่ือและปฏิบัตติ าม วันน้ีเปนวันคลายวันเกิดของขาพเจา เมื่อวานเกา (๗๘ ป) วันน้ีใหม (๗๙ ป) ขอจบดวยกลอน ปด ทา ยหนอ ย จบั ปากกาแลวเกิดกลอน เขียนใหอานคลายเครยี ด ดงั น้ี ย่ีสิบหกกุมภา ครบวนั เกดิ บรรเจดิ เจา เจ็ดสบิ เกา อายใุ หม กายใจเกา กราบขอบพระคณุ พระอาจารย และพีน่ อ งเรา ไดบ ุญเกา เสริมบุญใหม ใจเบกิ บาน แตป างกอน เคยทาํ บุญ กันมาแลว ใจผองแผว ทาํ บุญได เหมอื นกอนกาล ดวยบญุ นี้ และบุญใหม ทําไมนาน บุญบนั ดาล ใหท านพบ สขุ พนทกุ ขเ อย สรปุ กอ นทาํ บุญวนั เกิด มีเงินมาหมน่ื หนงึ่ พนั คาอาหารจายไปแลว มีเงนิ เหลอื ตดิ กระเปาสองรอย กวาบาท งานผานไปแลวดวยความอิ่มอกอ่ิมใจ ไดของขวัญและซองใสเงินชวยเกือบคร่ึงหน่ึงที่ทําบุญไป ไดของขวัญเปนพระเครื่องเกา ๒ องค รูปหลอลอยองคเน้ือเงินสมเด็จโต ๑ องค ไมทราบใครให เจดียใส พระธาตุ ๒ องค องคหน่งึ มีพระธาตุใสดุจเพชรใหม าดว ย สาธุ บรรเจิด จนั ทรเ ช้อื ๒๖ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๕๕ ๑๗๕
ประสบการณกบั การเสด็จของพระบรมสารรี กิ ธาตุ ขาพเจาต้ังใจเขียนเร่ืองการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ เพ่ือนอมถวายเปนพุทธบูชา เนื่องในป พุทธชยันตี ตรัสรูธรรมครบ ๒,๖๐๐ ป ขององคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา ซ่ึงเปนประสบการณตรงท่ี เกดิ ขน้ึ จรงิ กบั ตวั ขา พเจา เอง ตามความรูความเขาใจของขาพเจาเก่ียวกับการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ จากการอานใน หนังสือ หรือไดยนิ ไดฟ งจากบคุ คลผรู ู ผูมปี ระสบการณวา “พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาไดเอง” แตบุคคล ผูนั้นจะตองเปนผูท่ีหมั่นทําบุญ ใหทาน สวดมนตไหวพระ รักษาศีล ประพฤติและปฏิบัติธรรมเปนประจํา แตในทางกลับกันหากประพฤติและปฏิบัติตนไมเหมาะสมดีงาม พระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จกลับ เสด็จ หายไปได หรอื พระบรมสารีริกธาตุเสดจ็ มาโดยไดรบั จากบคุ คลอืน่ เม่ือประมาณป พ.ศ. ๒๕๔๗ ขาพเจาไดรับพระบรมสารีริกธาตุครั้งแรก จากปาที่รูจักใหมาบูชา ตั้งแตป พ.ศ. ๒๕๕๑ เปนตนมา ไดร ับเพมิ่ จากคุณณัฐฐิญา นิธโิ ชตสิ กลุ ชัย (คุณติ๋ว) ที่ไดอัญเชิญพระบรม สารีริกธาตุพระพุทธเจากัสสะปะ มาจากประเทศอินเดีย ไดรับจากพระอาจารย (พระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท) เจาอาวาสวัดตาลเอน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไดรับจากหลวงพี่จิ๋ว (พระวิชชา มหาปุญโญ) ไดรบั จากคุณลงุ บรรเจิด จนั ทรเ ชือ้ และไดรับจากบุคคลอน่ื ๆ อีก ทกุ ครงั้ ทีข่ าพเจา ไดรับพระบรมสารีริกธาตุ ขาพเจาจะรูสึกปติ ดีใจ และไดอัญเชิญกลับมาบูชาบน หิ้งพระธาตุในหองพระที่บาน พอเวลาผานไปสักระยะ ขาพเจาไดสังเกตเห็นลักษณะขององคพระบรม สารีริกธาตุไดเปลี่ยนไป เชน มีลักษณะเปลี่ยนสี เปล่ียนรูปทรงสัณฐาน มีขนาดโตข้ึน เพิ่มจํานวนขึ้น บางองคม แี ตกคอื แบงแยกเปน เสยี้ ว บางองคม ีงอกคือ พระบรมสารรี ิกธาตเุ สดจ็ ซอ นข้ึนมาใหเ ห็น ขาพเจาเริ่มปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานครั้งแรกท่ีวัดอัมพวัน อําเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงหบุรี ในป พ.ศ. ๒๕๔๙ และจะไปปฏิบัติธรรมท่ีวัด ๗ วันบาง ๕ วันบาง ๓ วันบาง แลวแตโอกาสจะอํานวย พอ กลบั มาท่บี า นขา พเจาก็ปฏบิ ัตติ อบาง ไมป ฏิบัตบิ า ง แลว แตเวลาเหมาะสม จนกระท่ังขาพเจาไดเขาโครงการปฏิบัติธรรมมุทิตาสักการบูชาพระเดชพระคุณพระธรรม - สงิ หบุราจารย หลวงพอจรญั ฐติ ธมโฺ ม รนุ ท่ี ๑๒/๑ ณ วัดอัมพวัน อําเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงหบุรี ระหวาง วันที่ ๔-๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔ จากการปฏิบัติธรรมจนจบโครงการครั้งน้ัน ทําใหมีความคิดเกิดข้ึนใน ใจวา อยากปฏิบตั กิ รรมฐานใหตอ เน่อื ง นึกถงึ คําสอนของหลวงพอจรัญที่วา “ทําอะไร ทําใหจริงเถอะ ถา ไมจ ริง จม้ิ ๆ จ้ําๆ ไมไ ดอะไร” พอจบโครงการ ขาพเจาเลยตั้งสัจจะอธิษฐานวาจะปฏิบัติกรรมฐานทุก วัน วันละ ๑ ช่วั โมง เดินจงกรม ๓๐ นาที และนั่งสมาธิ ๓๐ นาที จนถึงวันออกพรรษาในปน้ัน ท้ังๆ ท่ี เม่ือกอนไมเคยมีความคิดท่ีจะตั้งสัจจะเขาพรรษาเก่ียวกับการปฏิบัติกรรมฐานเลย มีแตสวดมนต บทธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร และสวดมนตบทเมตตาพรหมวิหาระภาวนา (บทมหาเมตตาใหญ) สวนใน เร่ืองการปฏิบัติกรรมฐาน คิดวาทําไมไดแนๆ เปนเร่ืองท่ียากมากๆ ที่จะปฏิบัติกรรมฐานทุกๆ วัน แต หลังจากท่ีไดต้ังสัจจะอธิษฐานแลวน้ัน ขาพเจาก็สามารถปฏิบัติกรรมฐานไดไมเคยขาดเลยสักวัน จนครบ กาํ หนดดงั สัจจะทไี่ ดตง้ั เอาไว ๑๗๖
หลังจากน้ันขาพเจายังต้ังสัจจะอธิษฐานตอไปอีกวา จะปฏิบัติกรรมฐานทุกๆ วันจนถึงสิ้น เดือนธันวาคม ป พ.ศ. ๒๕๕๔ จากการปฏิบัติกรรมฐานอยางตอเนื่องน้ัน หากวันไหนไมไดปฏิบัติจะ รูส กึ ไมสบายใจ จงึ เปน เหตุและปจ จัยใหขาพเจาปฏบิ ัติกรรมฐานทกุ วันจนถึงทุกวนั น้ี พระบรมสารรี ิกธาตุเสด็จปรากฏใหเ ห็นครง้ั แรก เมื่อประมาณวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ หลังจากการปฏิบัติกรรมฐานที่บานชวงเชาเสร็จ ขาพเจามาจัดกระเปาเตรียมตัวไปทํางานตามปกติของทุกวัน แตไดสังเกตเห็นวา มีเม็ดเล็กๆ สีเหลือง หลายๆ เม็ดอยูในกระเปา พอเหน็ กเ็ กิดความรูสึกข้ึนในใจวา “พระธาตุเสด็จ” ขาพเจารูสึกดีใจ ปติเปน อยางมาก แตก็เกดิ ความคดิ ข้นึ มาแวบหน่งึ วา หรอื จะเปนเม็ดกันชื้นท่ีติดอยูในกระเปา หรือทํานํ้าตาลแดง หกใสใ นกระเปา เมือ่ คิดเชนนน้ั กเ็ ลยเก็บใสถ งุ ใสเอาไวก อน จนกระทั่งเม่ือวันท่ี ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕ ขาพเจาไดไปถืออุโบสถศีลที่วัดตาลเอน จังหวัด พระนครศรีอยุธยา กับคณุ ณฐั ฐญิ า นธิ โิ ชตสิ กุลชัย (คุณติ๋ว) โดยไดนําถุงใสใสเม็ดเล็กๆ สีเหลืองติดตัวไป ดว ย เม่อื มีโอกาสไดส นทนากับพระอาจารย (พระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนโท) จึงกราบขอความเมตตาเรียน ถามถึงสง่ิ ที่อยูในถุง ทา นหยิบถุงขึ้นมาพิจารณาดู แลวถามขาพเจาวา “โยมไดมาอยางไร” ขาพเจาตอบไป วา “ไดม าจากในกระเปา เจาคะ ” ทานอมยิ้มและเมตตาตอบวา “มีอยู ๒ อยางนะโยม คือ พระธาตุ หรือจะ เปนเม็ดกันช้ืน” (เหมือนกับทานรูส่ิงท่ีขาพเจาสงสัยอยูในใจวา เปนเม็ดกันช้ืนหรือเปลา) แลวทานก็ แนะนําใหพิสูจนโ ดยนําเมด็ ดังกลา วใสใ นแกวน้าํ ต้ังไวห นาองคพระพุทธมหาจักรพรรดิ ๑ คืน และบอกอีก วา “ถา เปน เมด็ กนั ชนื้ กจ็ ะละลายน้ํา แตถ า พรงุ นไี้ มละลายก็คือ พระธาตุ” พอตอนเชา ขาพเจารีบไปดูกับคุณณัฐฐิญา ปรากฏวา ยังอยูเหมือนเดิม (ไมละลายหายไป) และ ยงั ไดสงั เกตเห็นอกี วา องคพ ระธาตุทอี่ ยูในแกว นํา้ น้นั แบง ออกเปน ๒ กลุม กลุมแรกองคพระธาตุเกาะกัน ลอยอยูบนนํ้า กลมุ สององคพระธาตเุ กาะกนั จมอยูในน้าํ ขา พเจา จึงไดน ําผาขาวมารองแลวเทน้ําออก (ตาม คําแนะนําของพระอาจารย) ก็ยิ่งสังเกตเห็นไดชัดวารูปทรงสัณฐานของพระบรมสารีริกธาตุไ ดมีการ เปล่ียนแปลงไป คือ บางองคมีลักษณะโตข้ึน บางองคมีลักษณะกลม บางองคมีลักษณะเปนรูปรี สีเหลือง ใส มรี ศั มีประกายสวยงาม (ตามท่ีไดบันทึกภาพเอาไวในวนั นนั้ ) หลังจากน้ันพระอาจารยใหคํารับรองวา “เปนพระบรมสารีริกธาตุ ไมใชเม็ดกันช้ืนนะโยม” และ ยังใหค วามรูเพิ่มเติมอีกวา เปน พระบรมสารีริกธาตุในสวนน้ําเหลืองของพระพุทธเจา ชื่อวา พระปุพโพ ธาตุ ซ่ึงไมมีปรากฏใหเห็น เทวดาเปนผูขอกราบอาราธนาอัญเชิญใหปรากฏขึ้น ขาพเจาไดยินดังนั้นก็เกิด ความรูสึกปติดีใจเปนอยางมาก กราบขอบพระคุณพระอาจารยที่เมตตาใหคําตอบ และความรูเพิ่มเติม แถมยังไดพิสูจนความจริงดวยตัวของขาพเจาเอง จนหมดความสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ขาพเจานั่ง พิจารณาองคพระธาตุและเก็บรูปอยูนนั้ กน็ ึกขึ้นไดว า ไมไดเตรียมผอบมา อยูๆ คุณอรวรรณ ทองอยู (ปา เปย ก) กเ็ ดินเขา มาถาม พอทราบเรอื่ งราว ก็ไดมอบผอบเซรามิกสวยงาม เพื่อใหขาพเจาอัญเชิญพระบรม สารีรกิ ธาตุกลับบาน จากเหตุการณในคร้ังนั้น ทําใหขาพเจายิ่งเช่ือมั่นในคุณของพระรัตนตรัย คุณของพระพุทธเจา (พระเมตตาธคิ ณุ พระกรุณาธคิ ุณ พระปญ ญาธิคณุ ) ถึงแมพระองคจ ะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานแลว พระองคย ังทรงแสดงพทุ ธานุภาพใหเ ปนทปี่ ระจกั ษตอผูที่ไดพบไดเห็น และยังเช่ือมั่นในคุณของพระธรรม ๑๗๗
เจา คณุ ของพระสงฆเจาอยา งหาที่สดุ ประมาณมไิ ด เชอ่ื ในองคธ รรม เช่ือผลของการกระทําวา มีเหตุและ มีผลของการกระทําเสมอ ไมมีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ และยังเชื่อผลของกรรม ทําดีไดดี ทําช่ัวไดชั่ว ทําจรงิ ไดข องจริง ดังคาํ สอนทีห่ ลวงพอ จรัญไดส อนไว ขา พเจา มีความรูนอย หากเขียนผิดพลาดประการใด ขออยาใหมีโทษแกตัวขาพเจาและผูที่ไดอาน เรื่องท่ีขาพเจาเขียนเลย ขาพเจาต้ังใจเขียนเร่ืองนี้ขึ้นเพ่ือนอมถวายเปนพุทธบูชาแดองคสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจา บูชาพระคุณของบิดามารดา บูชาพระคุณของครูบาอาจารย พระเดชพระคุณ พระธรรมสงิ หบรุ าจารย หลวงพอ จรญั ฐิตธมฺโม และพระคุณของพระครูสมหุ จ ิรยุทธ อธิฉนฺโท ขาพเจาขอขอบคุณกัลยาณมิตรและญาติธรรมทุกๆ ทาน ขอใหทานไดมีสวนแหงบุญท่ีขาพเจาได กระทํามาดีแลวนี้ จงสงผลใหทุกๆ ทานประสบแตความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม จนเปน เหตุปจจยั ใหเ ขาถึงมรรคผลนิพพานดวยกันทุกทา นเทอญ สริ ิกาญจน เจียมอนกุ ลู กจิ ๒๘ กุมภาพันธ พ.ศ.๒๕๕๕ จากซายมอื คณุ ณฐั ฐิญา นธิ ิโชติสกลุ ชัย และ คุณสิริกาญจน เจยี มอนุกูลกจิ ๑๗๘
ภาพพระบรมสารีรกิ ธาตุที่เสด็จมาเอง ใหคณุ สิริกาญจนไ ดบชู า เปนสว นที่ช่ือวา พระปพุ โพธาตุ (สว นนาํ้ เหลืองของ พระพุทธเจา ) ๑๗๙
ประสบการณเ กี่ยวกบั พระบรมสารรี ิกธาตุ และพระธาตุ ท่ีเกดิ ขนึ้ กบั ขา พเจา และบคุ คลใกลช ิด ขาพเจาขอยอนไปเมื่อตอนเปนเด็กยังไมเขาโรงเรียนจําไดวาไดไปทําบุญใสบาตร และถวาย ภตั ตาหารเชาและภตั ตาหารเพลกบั คุณยายเปน ประจาํ ทุกวัน พอเริ่มโตเรียนหนังสือไดแตใสบาตรเชากอน ไปโรงเรียน ไปวัดแคว นั เสารอาทติ ย พอเริ่มทาํ งานไดม าทาํ ทกี่ รุงเทพ ดว ยภาระหนาท่ีการงานท่ีดึงเอาเวลา สว นใหญใ นชีวิตไป ทําใหหางจากการทําบุญ และไมไดใสใจในการทําบุญมากนัก จะไดทําบุญตอเม่ือกลับ บานที่จังหวัดอุดรธานี หรือการทําบุญตามประเพณี เชน กฐิน ผาปา และวันสําคัญทางศาสนา หรือมี ปญ หาดา นชีวติ การงาน ก็จะพึ่งหมอดู เขาวดั ไปหาพระ ใหรดนํ้ามนต ทําบญุ สะเดาะเคราะห แลวไมวาพระ หรือหมอดูบอกอะไรมา ก็จะเช่ือตามนั้น โดยไมไดใชปญญาพิจารณาอะไรเลย จนมาบัดนี้ถึงไดรูวา ใน ตอนน้ันขาพเจาทําบุญแบบทางโลก คือ มีแตโมหะ อวิชชาครอบงํา ทําทุกอยางเพราะความอยาก นําหนา เพื่อหวังผลในทางโลก เขาวัดแตไมไดเขาถึงธรรม ทําบุญแตไมรูจักบุญท่ีแทจริง ทําบุญเพื่อ หวงั ผลตอบแทน มุงแตงาน เงนิ กนิ เทยี่ ว และสังคม วันหน่ึงขาพเจาไดเขารวมประชุมกับผูบริหารระดับสูงของบริษัท ทานไดเลาถึงเหตุการณท่ีไดไป ประเทศอินเดีย เพ่ือกราบสักการบูชาสังเวชนียสถานทั้ง ๔ คือ สถานท่ีประสูติ ตรัสรู แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่ตางๆ ที่องคพระสัมมาสัมพุทธเจาเคยประทับอยู ทําใหขาพเจาเกิดความ ปติเปนอยางมาก มีความต้ังใจวา จะตองไปใหไดสักคร้ังในชีวิต และโอกาสน้ันก็มาถึง เมื่อขาพเจาไดรวม เดนิ ทางไปกบั บริษัทเอไอเอ นําทมี โดยคุณสวุ ลี ปติกถา ในวันท่ี ๖ – ๑๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยการ เดินทางไปในคร้ังนั้นจะเริ่มท่ีพุทธคยา จะมีการบวชพระ ถือศีลแปด ถวายกฐินผาปา สวดมนตอิติปโส ๑๐๘ นั่งสมาธิเจริญภาวนา ถวายผาหม ๕๐๐ ผืน ขาวสาร ๕๐๐ ถุง ถ่ัว ๕๐๐ ถุง และปจจัยสรางโรง พยายาล วัดไทยสิริราชคฤห และกุสินารา ซื้อวัวใหคนอินเดีย ๕ ตัว ในการจัดไปทําบุญท่ีประเทศอินเดีย โดยผนู ําคณะคอื คณุ สุวลี ปตกิ ถา จะจัดทําบุญเชนนท้ี ุกครง้ั คะ ทันทีท่ีไดสัมผัสพ้ืนดินของสถานท่ีซ่ึงองคพระสัมมาสัมพุทธเจาเคยประทับ ณ สนามบินพุทธคยา น้ันเอง ขา พเจาก็ไดกม กราบพ้นื ดิน รสู กึ ปลม้ื ปต ิจนไมสามารถบรรยายออกมาเปนคําพูดได สถานที่แรกที่ ไปคอื เมอื งพุทธคยา เปน สถานที่ซ่งึ พระพทุ ธเจาตรัสรูใตตนพระศรีมหาโพธิ์ เมื่อขาพเจาไดกราบนมัสการ พระพุทธเมตตา ในมหาเจดียพุทธคยา และกราบพระแทนวัชระอาสนนั้น ขาพเจามีความรูสึกเย็นสบาย อยางไมเคยรูสึกมากอน ปลื้มปติจนนํ้าตาไหล ราวกับวาไดเขามาน่ังตอหนาพระพักตรองคสมเด็จพระ สมั มาสมั พทุ ธเจา สถานท่นี เ้ี องทพ่ี ระองคไ ดทรงชนะพญามาร จนตรสั รูพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ท้ังยัง ทรงมีพระเมตตาประกาศพระศาสนา จนมาถึงวันน้ี พระธรรมของพุทธองคดํารงมากวาสองพันปแลว ทํา ใหมีความรูสึกวา ตลอดชีวิตท่ีผานมาน้ัน เราไปอยูที่ไหน เราไปใชชีวิตทําอะไรอยู ทําไมไมเคยไดซาบซ้ึง ๑๘๐
กบั ธรรมะของพระองคเลย แตถงึ อยางไรเรากน็ บั วาเปนคนที่โชคดีท่ีสุด ท่ีไดเกิดมาพบพระพุทธศาสนา และไดมากราบสกั การะสถานท่ซี ง่ึ พระองคเ คยประทบั อยเู ชน นี้ ตอจากน้ัน ขาพเจาไดเดินทางไปสถานท่ีแสดงปฐมเทศนา พระวิทยากรทานไดนําสวดมนตบท “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ซ่ึงขาพเจาก็เคยสวดมากอน แตไมเคยทราบความหมาย ในวันน้ีเม่ือไดฟงคํา แปลท่ีพระวิทยากรทานแปลใหฟง เมื่อถึงชวงท่ีวา “โกณฑัญญะ รูแลวหนอ โกณฑัญญะ รูแลวหนอ” ขาพเจารูสกึ ซาบซง้ึ วา ณ สถานท่ีแหงน้ไี ดมีผูบรรลธุ รรมขององคส มเดจ็ พระศาสดา พระอริยสงฆสาวกองค แรกไดเกิดขึน้ แลว ณ ทนี่ ้ี หมายความวา ธรรมะเปนสิ่งทเี่ ขาถึงไดจริงๆ พระพุทธองคไมทรงเดียวดายอีก ตอไป และในชวงที่สวดวา “ยัง กิญจิ สะมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมัน ติ” แปลวา “ส่ิงใดสิ่ง หน่งึ มคี วามเกดิ ข้ึนเปนธรรมดา สิ่งทั้งปวงนั้น มีความดับไปเปนธรรมดา” เมื่อไดฟงแลว มีความรูสึก หลากหลายเกิดขึ้นกับขาพเจา คละเคลาระคนกันท้ังสงสัย เสียใจ และเปนสุข ที่รูสึกสงสัย คือ สงสัยวา ชีวิตของเราทําไมไมเคยรูธรรมะขอนี้มากอน เสียใจท่ีวา หากเรารูธรรมะขอน้ีมากอน ชีวิตเราคงไมตองยึด และทุกขม ากอยา งทีเ่ ปน อยู เปนสุขตรงท่ี เมอ่ื ไดฟ งธรรมะขอน้ีแลว ความทุกขท่ีมีอยูก็เหมือนถูกชะลางให สลายลงไปไดมากกวาครึ่ง ซึ่งทําใหขาพเจาเกิดศรัทธามาก เมื่อกลับมาเมืองไทยแลว ขาพเจาก็ไดสวด มนตบทธัมมจักฯ น้ีอยางสม่ําเสมอ โดยเฉพาะชวงเขาพรรษา จะสวดทุกวันไมขาดเลย และยังไดถาย เอกสารบทธัมมจกั ฯ พรอ มคําแปล แจกจายใหแกเพ่อื นๆ ดวย ขาพเจาไดเดินทางตอไปยังสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ตรงจุดน้ีพระวิทยากรทานไดเลาถึง พุทธโอวาสกอนจะเสด็จดับขันธปรินิพพานวา “ภิกษุท้ังหลาย บัดน้ีเปนวาระสุดทายแหงเราแลว เราขอ เตอื นเธอทั้งหลายใหจํามั่นไววา ส่ิงท้ังปวงมีความเส่ือม และสิ้นไปเปนธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังความไม ประมาทใหถึงพรอมเถิด” เม่ือไดฟงเชนนี้ ทําใหขาพเจารูสึกเสียใจ รองไหออกมาเยอะมาก เพราะรูสึก อาลัยอาวรณพระพุทธองคอยางบอกไมถูก รูแตเพียงวา พระสัมมาสัมพุทธเจาทรงมีเมตตาธิคุณ พระ กรุณาธิคุณ พระปญญาธิคุณ ตอสรรพสัตวทั้งหลายอยางหาที่สุดมิได ทรงชี้ทางออกจากกองทุกขไวให สรรพสัตวทั้งหลายเปนเวลานานกวาสองพันปแลว แตมีสรรพสัตวเพียงจํานวนนอยนิดเทาน้ันที่ ขวนขวายเดนิ ตามทางเสน น้ีดว ยความมุง มั่นศรัทธาอยางแทจ ริง สถานที่ตอไปท่ีพวกเราไปกราบสักการะกัน คือ พระสถูปท่ีไดถวายพระเพลิงพระบรมศพองค สมเด็จพระสมั มาสมั พุทธเจา พระวทิ ยากรไดเลาถึง พระสรีระของพระพุทธองคภายหลังจากการถวายพระ เพลิงวา ไดกลายเปนพระบรมสารรี กิ ธาตุสว นตา งๆ ซึ่งไดประดิษฐานไวในสถานที่ตางๆ กัน ทําใหขาพเจา รูสึกดีใจเปนอยางมาก ถึงแมพระองคทานจะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานแลว แตก็ยังมีพระสรีระ หลงเหลอื ไวใ หพ ทุ ธบริษัทไดระลึกถึงและเคารพบูชา จนมาภายหลังคือชวงปลายป พ.ศ. ๒๕๕๐ ขาพเจา ไดไปกราบสกั การะพระบรมสารรี ิกธาตทุ ว่ี ัดยานนาวา อาคารมหาเจษฎาบดินทร ชั้น ๑ คิดในใจวา เราโชค ดีมากท่ีไดมากราบสักการะ สวดมนต และไดชมบารมีที่งดงามของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจา ๑๘๑
และของพระอรหันตสาวก ขาพเจาเดินชมดวยความเพลิดเพลิน และเมื่อมีโอกาส ขาพเจาก็จะไปกราบ สักการะอยเู สมอ หลังจากท่ีขาพเจากลับมาจากประเทศอินเดียแลว ก็เกิดความเขาใจเพิ่มมากขึ้นในเร่ือง การทํา ความดีใหถูกทาง ตอมาคุณสิริกาญจน เจียมอนุกูลกิจ ไดชักนําใหไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ซึ่งตรงกับ วนั มาฆบชู า พ.ศ. ๒๕๕๐ และไดฟง เทศนข องหลวงพอ จรญั ฐิตธมโฺ ม ทาํ ใหขาพเจา เขาใจเร่ืองอานิสงสของ การสวดมนตเ จริญภาวนา โดยเฉพาะอยางยิง่ ไดเรยี นรเู รือ่ งสติปฏฐาน ๔ ซ่ึงทําใหขาพเจายิ่งปติเปนทวีคูณ คิดวาเราเดินมาถูกทางแลว เพราะหนทางเสนนี้นี่เองที่เมื่อเราเดินตามแลว ชีวิตก็เหมือนถูกดึงขึ้นมาจาก นรก เปนชีวิตที่ไดเกิดใหมอีกคร้ัง ไดรูวาอะไรควรทํา อะไรควรละเวน และทําดีไดดี ทําช่ัวไดชั่ว มีความ ละอายตอ บาป ขาพเจาจงึ ไดไปปฏิบัติธรรมท่วี ดั อมั พวันอยา งตอเนอื่ งเกอื บทุกเดือน ขาพเจาไดมีโอกาสเดินทางไปประเทศอินเดียอีกเปนครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๑๒ – ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เปนจุดเร่ิมตนท่ีขาพเจาไดพระบรมสารีริกธาตุมาบูชา และสรางความปติดีใจในการมาประเทศ อินเดียมากกวาครั้งแรก เพราะเปนส่ิงท่ีขาพเจาไมเคยคาดคิดมากอนวา ในชีวิตขาพเจาจะไดรับพระบรม สารีริกธาตุมาบูชา เพราะไดยินการบอกเลาวา ตองเปนบุคคลท่ีมีบุญมากๆ ตองเปนคนที่ทําทาน ศีล ภาวนา มีการปฏิบัติธรรม หรือ สวดมนตตลอดเวลา พระบรมสารีริกธาตุ หรือพระธาตุจึงจะเสด็จมาเอง หรือมบี ุคคลนาํ มาใหเ ทา น้นั การท่ีขาพเจาไดรับพระบรมสารีริกธาตุมาบูชาในคร้ังนี้ เพราะทานพระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ (พระมหา ดร. วิเชียร วชิรวโส) เจาอาวาสวัดไทยสิริราชคฤห รัฐพิหาร ทานมีความประสงคที่จะมอบ พระบรมสารีริกธาติใหกับญาติโยมในการเดินทางมาประเทศอินเดียในคร้ังน้ี แตจํานวนคน ๑๔๐ กวาคน นนั้ พระธาตุคงจะไมพอแจกแน ทานจงึ ตง้ั จิตอธิษฐานถึงพระบรมสารรี กิ ธาตุวา ขอใหตักใสผอบใหไดครบ ทุกคน และเมือ่ ถงึ เวลาตัก กเ็ ปนเรอ่ื งอศั จรรยใจมาก ตักเทาไร พระธาตุก็ไมพรองเลย โดยมีพยานรูเห็น หลายทาน เพราะเปนคนชวยทานพระครูปลัดฯ ตักใสผอบแจกจายญาติโยม คนละ ๓ – ๕ องคบาง ๑๐ องคบาง สวนขาพเจาไดมา ๖ องค โดยพระบรมสารีริกธาตุนี้เปนของพระพุทธเจาพระมหากัสปะ ทําให ขาพเจาดีใจมาก นี่เปนครั้งแรกในชีวิตของขาพเจาที่ไดมีโอกาสไดสัมผัสพระบรมสารีริกธาตุ ชางงดงาม จรงิ ๆ เพราไมเ คยคาดคดิ เลยวา เราจะมีโอกาสอยางนี้ ชางเปนสริ ิมงคลในชีวิตจริงๆ ย่ิงเพ่ิมความปติ และ จิตใจต้งั มน่ั ในพระพทุ ธศาสนา ต้ังมัน่ ในการทาํ ความดีถวายเปน พทุ ธบูชาแดพระพทุ ธเจา หลังจากการ ทําบุญกราบไหวสักการะนมัสการพุทธสถานในอินเดียตามกําหนดการจนครบทุกแหงแลว ก็เดินทางกลับ ประเทศไทยดวยความอ่ิมเอิบใจอยา งที่สดุ เม่ือมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ขาพเจาตัดสินใจซ้ือตั๋วเคร่ืองบินไปจังหวัดอุดรธานีทันที เพื่อไป กราบมารดากอนจะไปทํากิจอื่นใด และเพื่อจะไดมอบพระบรมสารีริกธาตุใหมารดาไวบูชา จากนั้นก็เลา เหตกุ ารณท ี่เกิดข้ึนใหทา นฟง ทา นก็ปตยิ นิ ดมี ากเชน กนั และบอกใหขาพเจาพยายามหม่ันสวดมนตภาวนา ใหตลอด เพราะ ไดสิ่งมีคามาแลว ตองอยาละทิ้งการทําความดีและการปฏิบัติธรรม ตอจากน้ัน ๑๘๒
ขาพเจาก็เดนิ ทางกลับกรุงเทพ เกดิ ความรสู ึกวาเราไดส ิง่ มีคา มาจากประเทศอินเดีย เราก็อยากมอบส่ิงน้ีให บุคคลที่ปรารถนาดีกับเรา และเราก็ปรารถนาดีกับเขา จึงไดมอบพระบรมสารีริกธาตุอีกสวนหน่ึงให คุณสิริกาญจน เจียมอนุกูลกิจ เพราะเปนกัลยาณมิตรที่ชักนําขาพเจาเขาสูหนทางการปฏิบัติท่ีถูกตอง คือ ชักนาํ ไปวดั อมั พวนั ขาพเจาเก็บพระบรมสารีริกธาตุสวนท่ีเหลือไวบูชาเอง ซ่ึงทําใหไดพบเร่ืองท่ีแปลกมากวา เม่ือเรา ยิ่งใหพระบรมสารีริกธาตุไป ก็ย่ิงไดเพ่ิมมาอีก โดยตอมา พระอาจารยวิเชียรไดกลับมาทําบุญที่วัดดานใน จังหวัดนครราชสีมา ขาพเจาไปรวมทําบุญกับทาน และมีโอกาสเลาใหทานฟงถึงการที่เราไดมอบพระบรม สารีริกธาตุใหกับมารดาและเพ่ือน สักพักทานก็ไดมอบพระบรมสารีริกธาตุใหอีกจํานวนหนึ่ง ซึ่งมากกวา คร้ังท่ีแลวถึง ๑๘ องค ย่ิงทําใหขาพเจาแนใจในการทําความดีของตัวเอง คือ การแบงปนของมีคาใหกับ บคุ คลอน่ื ไป เรากย็ ่งิ ไดรบั กลับมา เมือ่ ไดร ับแลวขาพเจาจงึ นําไปถวายใหทานพระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท สวนหน่งึ และมอบใหเพือ่ นไปอกี สว นหน่ึง หลังจากนั้น ขาพเจาก็ไดรับพระบรมสารีริกธาตุเพ่ิมมาเรื่อยๆ เชน จากการไปรวมการหลอ พระสีวลี ท่ีโรงหลอคุณตอย ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท ไดตัก พระบรมสารีรกิ ธาตุ และพระธาตุตา งๆ ใหแกผไู ปรว มงาน ก็ยิ่งทําใหขาพเจาปติเปนอยางมากถึงการเสด็จ ของพระบรมสารีรธิ าตุ ยงิ่ ทาํ ใหข าพเจา ตง้ั ใจในการสวดมนตภ าวนาปฏิบตั ิมากยิ่งข้นึ ตอ มาขาพเจา กบั เพ่ือ ไดมีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารยจิรยุทธ อธิฉนฺโท ทานเมตตาเลาถึง เหตกุ ารณท ีไ่ ปประเทศศรีลงั กา และมพี ระธาตุเสด็จ และทา นก็ไดเปด ผอบพระธาตุทอี่ ยูในพระอุโบสถใหดู สัณฐานของพระธาตุที่เสด็จมาสวยงามมากๆ พระอาจารยเลาใหฟงวา เม่ือคราวไปศรีลังกาคร้ังแรกนั้น ทานรูสึกสํานึกในพระคุณของพระมหินทรเถระ และพระสังฆมิตตาเถรีเปนอยางย่ิง ที่ไดเผยแผ พระพทุ ธศาสนา และอัญเชิญหนอของตนพระศรมี หาโพธ์ิจากประเทศอินเดยี มายังประเทศศรีลังกา เพราะ ในขณะท่พี ระพทุ ธศาสนาในอนิ เดยี เร่มิ เสอ่ื มสลายลง แตพ ทุ ธศาสนาในศรีลังกากลับคอยๆเร่ิมดํารงคงม่ัน และเผยแผตอมายังประเทศไทยดวย จึงทําใหพระพุทธศาสนาไมสูญหายไปจากโลก ทานจึงไดน่ังสมาธิ อธิษฐานจิตขออัญเชิญพระธาตุของพระมหินทรเถระ และพระสังฆมิตตาเถรี ใหเสด็จมา โดยความ ต้ังใจวาหากพระธาตุเสด็จมา ก็จะไดอัญเชิญมาใหประชาชนชาวไทยไดกราบสักการบูชากัน ไมตอง เดินทางไปไกลถึงประเทศศรีลังกา แลวพระธาตุก็เสด็จมาจริงๆ และเมื่อปท่ีแลวขาพเจาทราบวา พระ บรมสารีริกธาตุเสด็จมาท่ีหนากุฏิของพระอาจารยอีกเปนจํานวนมาก ซ่ึงเปนเดือนที่พระอาจารยปฏิบัติ กรรมฐานแบบอกุ ฤษฎอยูเฉพาะในกุฏิ ขาพเจายิ่งแนใจชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติเดินตามรอยบาทของ พระศาสดา ตอมาในชวงเขาพรรษา ขาพเจาไดรวมกลุมกับเพ่ือนที่ทํางานประมาณ ๒๐ คนไปสวดมนตตอน เย็นหลังเลิกงานท่ีบานของพ่ีท่ีทํางานทานหนึ่ง โดยสวดอิติปโส ๑๐๘ จบทุกคืนตลอดพรรษา กวา ๑๘๓
ขาพเจาจะกลับถึงบานก็เปนเวลาประมาณตีหนึ่ง เปนเชนน้ีทุกวัน เมื่อออกพรรษาแลว ขาพเจาจึงไดมอบ พระโลหิตธาตุใหแกกลุมเพื่อนที่รวมสวดมนตดวยกัน ซ่ึงพระโลหิตธาตุนี้ พระวิชชา มหาปุญโญ (หลวงพ่ี จ๋ิว) ไดมอบใหขาพเจามากอนหนาน้ี โดยทานใหมาหลายสัณฐาน และมีจํานวนมากพอที่ขาพเจาจะแบง ใหกับเพื่อน ๆ ได การท่ีขาพเจาแบงพระบรมสารีริกธาตุใหกับเพ่ือนน้ี เปนการตอกยํ้าอีกคร้ังหน่ึงถึงคํา สอนของหลวงพอจรัญท่ีวา “ยิ่งให ย่ิงได” เพราะเมื่อขาพเจาใหพระบรมสารีริกธาตุกับเพื่อนๆ ไป ก็ยิ่ง ไดรบั เพ่ิมมามากขนึ้ คือ ไดเ พม่ิ จาก ลงุ บรรเจดิ จันทรเชื้อ และไดจากพระสงฆท่ีพบท่ีวัดพระแกวมรกตอีก และจากการท่ขี าพเจาไปรวมสวดมนตตลอดพรรษานั้น ยังมีผลท่ีไดรับกับตัวเองอีกประการ คือ การเสด็จ มาของเพชรพญานาค โดยเสด็จมาอยูในผอบท่ีปดสนิทไวไมมีใครเขาไปยุงเก่ียว เพชรพญานาคน้ี มี ลักษณะคลายเพชรจริงๆ ขาวใส และแสนงดงาม ขาพเจาทั้งดีใจและก็ไมอยากเช่ือในสิ่งที่เกิดข้ึน แต ใน จิตมีความรูสึกวา เปนผลตอบแทนที่เราแบงปนพระธาตุใหเพื่อนและผลจากการสวดมนตภาวนาตลอด พรรษา ขา พเจา จงึ นําไปใหพ ระอาจารยด ู และใหท า นจิว๋ ดูวา คืออะไร พระอาจารยก็ตอบวา นาจะเปนเพชร พญานาค ทา นถามวา ไดมาอยางไร ขาพเจาก็ตอบวา เสด็จมาในผอบบนหิ้งพระ ทานก็วา ไมคอยมีความรู ดา นน้ี แตใหเราเกบ็ ไวบชู า ทานจิ๋วกว็ า มีจรงิ แตส งิ่ ทท่ี าํ ใหขาพเจาปลาบปลืม้ มาก คือ พระบรมสารีริกธาตุที่ไดมาจากประเทศอินเดียนั้น มีการ เปลี่ยนแปลง คือ มีการเปล่ียนสีแวววาวเงางามมากข้ึน และมีอยูองคหน่ึงท่ีโตข้ึนจากสัญฐานเดิม คือ เมื่อตอนแรกที่ไดมานั้นเปนเพียงเสี้ยวเล็กๆ บางมากๆ แตตอนนี้สัณฐานโตข้ึนเหมือนถวยท่ีเติมเต็มไป ดว ยนาํ้ สีทองใส งามมากๆ ยง่ิ เพ่มิ ความมัน่ ใจในแนวทางการปฏิบตั ิ และทําความดี ทําใหเราเชื่อมั่นใน สงิ่ ท่เี ราปฏิบัตอิ ยู สุดทาย ขอเลาถึงเหตุการณของคนใกลชิด คือ คุณสิริกาญจน เจียมอนุกูลกิจ เพ่ือยืนยันถึง เหตุการณเสด็จมาของพระบรมสารีริกธาตุ โดยเสด็จมาในกระเปาเงิน ขาพเจาก็ไดดู และไดมีโอกาส สนทนากบั พระอาจารย ทานบอกวา เปน พระบรมสารีรกิ ธาตุ ทช่ี ือ่ วา พระบุพโพธาตุ ขาพเจาปติดีใจมาก กบั ผลของการทําดขี องคุณสิริกาญจน ผลของการปฏิบัติไดผลจริงๆ ไมวาใครก็ตามที่เดินทางตามแนวทาง ที่พระพุทธเจาทรงช้ีทางไวใหแลว และขาพเจาก็กําลังปฏิบัติตามเพื่อถวายเปนพุทธบูชาแดองค พระสัมมาสัมพุทธเจา ถวายแดหลวงพอจรัญ ฐิตธมฺโม พระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท และครูบาอาจารย พระอริยสงฆ ทกุ รปู ท่ีทา นไดส่ังสอนใหเรารกั ษาศลี ๕ ใหบ ริสุทธ์ิ ทาํ ทาน และเจริญภาวนา บัดนี้ขาพเจาทราบแลววา เพราะอวิชาครอบงําในชวงชีวิตท่ีผานมา ทําใหขาพเจามองไมเห็นโทษ ของราคะ โทสะ โมหะ ไมรูเทาทันกิเลส จึงอยูภายใตอํานาจนั้น แตโชคดีมากท่ีเกิดมาไดพบ พระพุทธศาสนา และมีลมหายใจอยูจนถึงทุกวนั นี้ ไดเขาปฏิบัติธรรมเจริญพระกรรมฐานโดยมีคําสอนของ หลวงพอจรัญ ฐิตธมฺโม เปนแบบอยาง คําสอนท่ีหลวงพอสอนไว ขาพเจาจําไดจําข้ึนใจ คือ “อานตัวออก บอกตัวได ใชตัวเปน เห็นตัวตาย จะไดคลายทิฎฐิ ดําริชอบ ประกอบกุศล ไดผลอนันต เปนหลักฐาน ๑๘๔
สําคัญ” เราจะไดรูเทาทันอารมณที่มากระทบ ไมไหลไปปรุงแตง เพลิดเพลินกับรูป รส กล่ิน เสียง และ สัมผัส มีแตการสรางภพ สรางชาติ เพราะถากําหนดไมทัน ไฟของราคะ โมหะ โทสะจะเผาใจเรากอน เพราะเม่ือมีเหตุเกิด ผลก็ตองตามมาอยางแนนอน อีกท้ังคําสอนตางๆ ของพระครุสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท ที่ทานไดพรํ่าสอนมาตลอด แตที่ขาพเจาจําไดขึ้นใจ คือ “แมน้ํายังมีวันข้ึนและลง แตกิเลสในใจคน ไม เคยลงแมแตนิดเดียว” พระสงฆผูสุปฏิปนโนท้ังสองไดปฏิบัติตนเปนแนวทางใหลูกศิษยไดปฏิบัติตาม และดําเนินตามรอยพระบาทขององคพระศาสดา ขาพเจาก็จะปฏิบัติตามเชนกัน คือ ทําทาน รักษาศีล ๕ ใหบริสุทธิ์ และเจริญภาวนาเพ่ือขัดเกลากิเลสใหเบาบางลงไปเรื่อยๆ จนกวาจะถึงเวลาท่ีมุงหมาย น่ันคือ มรรคผล และนิพพาน เทอญ..... นางสาวณัฐฐิญา นิธิโชติสกลุ ชยั ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ภาพซาย – ผอบบรรจุพระบรมสารีรกิ ธาตุของคุณณฐั ฐิญา ภาพกลาง – พระบรมสารีรกิ ธาตุ ทีค่ ณุ ณัฐฐญิ า ไดร บั มาจากพระมหา ดร. วิเชยี ร ภาพขวา เมอ่ื ครัง้ ไปประเทศอินเดีย – พระบรมสารรี กิ ธาตุ องคท่ีโตขน้ึ จากสัณฐานเดิม จากตอนแรกทีไ่ ดรบั มา เปนเสย้ี วบางๆ ขณะนีใ้ หญข้ึนจนเกอื บกลม ๑๘๕
บทสงทา ย องคสมเด็จพระชินสีหพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจา ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณตอสรรพสัตว ทง้ั หลายมากมายนกั ทรงตรัสสอนธรรมะจนกระทั่งถึงชว งเวลาสุดทายแหงพระชนมชีพ และกอนที่จะเสด็จ ดับขันธปรินิพพาน ยังทรงหวงใยปุถุชนทั้งหลายวา จะเวียนวายตายเกิดอยูในสังสารวัฏมิรูจบ จึงมีพระ เมตตา ใชเ ศษซากของพระวรกาย คือ พระบรมสารรี กิ ธาตุ ทีจ่ ะเปน เครอื่ งมือในการสั่งสอนปุถุชนทั้งหลาย เพ่ือเปนการเตือนสติวา “ ยัง กิญจิ สะมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมัน - สิ่งใดส่ิงหน่ึง มีสภาพ เกิดข้ึนเปนธรรมดา สง่ิ ทงั้ ปวงน้ัน มีสภาพดับไปเปนธรรมดา ” แมแตตัวพระองคเอง ผูประเสริฐเลิศยิ่ง กวามนุษยก็มิไดเปนขอยกเวน พระวาจาสุดทายแหงพระชนมชีพจึงไดตรัสวา “ วะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สมั ปาเทถะ - สงั ขารท้ังหลายมคี วามเส่ือมไปเปนธรรมดา ทานทั้งหลายจงทําความไม ประมาทใหถงึ พรอ มเถิด ” น่นั คือ พระองคทรงยํ้าเตอื น ใหปุถุชนทัง้ หลายอยาไดประมาทในการดํารงอยู ของชีวิตน้ี ใหปุถุชนท้ังหลาย จงนอมนําธรรมะของพระองคมาประพฤติ ปฏิบัติ เพ่ือซักฟอก เบญจขันธ คอื รปู เวทนา สญั ญา สังขาร และวิญญาณ ใหบริสุทธิ์ เพื่อจะไดหลุดพนจากกองทุกข มิตองกลับมาเวียน วายตายเกดิ และเผชญิ กบั ความทกุ ขในวัฏสงสารอีกตอ ไป นับจากวันที่พระผูมีพระภาคเจาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะไดทรงตรัสรูพระสัมมาสัมโพธิญาณ กาลเวลาลว งผานมา ๒,๖๐๐ ปแลว ชางเปน เวลาทเ่ี นนิ่ นาน หลายสิ่งหลายอยางเส่ือมสลายไป จนหลายคน คิดวา องคพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจามิไดมีอยูจริง สงผลทําใหเกิดความระแวงสงสัยในพระธรรมคําส่ัง สอนทย่ี งั คงมอี ยู และในท่สี ุดก็ละเลยตอ การประพฤติตนใหอ ยูในธรรมสัมมาปฏิบัติ แตจากเหตุการณพระ ธาตุเสด็จ ที่มีประจักษพยานยืนยันได แสดงใหเห็นวา องคพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจามีอยูจริง และ พระพุทธานุภาพของพระองค ยังคงดํารงอยูจวบจนถึงปจจุบัน พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณก็ยังคงมี อยู นับวาเปนบุญชีวิตของพวกเราเหลือเกินแลว ท่ีไดเกิดมาพบพระพุทธศาสนา และไดมีพระธรรม สงิ หบรุ าจารย (จรัญ ฐิตธมโฺ ม) และพระครูสมุหจิรยุทธ อธิฉนฺโท เปนครูบาอาจารย ทานไดอบรมสั่งสอน แสดง “ธรรมะทแ่ี ท” ใหเ ราไดรับรู แลวเราเหลาพุทธศาสนิกชนท้ังหลายละ นับถือศาสนาพุทธ แตเพียง ในบัตรประชาชนเทานั้นหรอื ? เน่ืองในโอกาสที่ปนี้เปน ปพุทธชยันตี คือ ครบ ๒,๖๐๐ ป ที่องคพระสัพพัญูไดทรงชนะพญา มาร ไดทรงชนะพระทัยของพระองคเอง ไดทรงตรัสรูบรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ และไดทรง ประกาศพระศาสนาเพอ่ื โปรดเหลาเวไนยนิกรใหพ น จากวัฏสงสาร จึงขอรณรงคใหพุทธศาสนิกชนท้ังหลาย ไดนอมนําเอาพระธรรม คําสั่งสอนขององคพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจามาประพฤติ ปฏิบัติเถิด แมเพียง สักขอหนึ่งก็ยังถือวาดี เพ่ือถวายเปนพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา ผลดีแหงการปฏิบัติบูชาก็มิไดตก อยูกับผูอื่น แตตัวทานผูปฏิบัติเองที่จะไดรับผลแหงความดีน้ัน จัดเปนสมบัติบุญที่จะติดตามตัวไปไดถึง ภพหนาชาติหนา โดยเฉพาะอยางย่ิง ขอใหเราทานท้ังหลายไดพยายาม ทําทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ ภาวนา ใหดีท่ีสุดตามแตกําลังสติ ปญญา และความสามารถของแตละทานจะทําได จนประจักษแกใจของ ๑๘๖
ตนเถิดวา “ เราเปนพุทธบริษัทแท ทั้งกายและใจ ” แลวเมื่อน้ันเราทานจะรูแนแกใจตนวา “เมื่อเรา รักษาศีล ศลี จะรักษาเรา เม่ือเรารักษาธรรม ธรรมะนน่ั ละจะรกั ษาเรา” เม่ือ ทาน ศีล ภาวนา พร่ังพรอมแลว มรรค ผล นิพพาน ก็เปนส่ิงที่เขาถึงได ตามรอยบาท พระศาสดาสมั มาสัมพุทธเจาน่ันเอง สาธุ...สาธ.ุ ..สาธุ...อนุโมทามิ ทายที่สุดน้ี หากหนังสือ “พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ วัดตาลเอน อ.บางปะหัน จ. พระนครศรีอยุธยา” ที่สรางขึ้นมาโดยมีเจตนาเพื่อถวายเปนพุทธบูชาในปพุทธชยันตีนี้ มีความผิดพลาด ขาดตกบกพรอง ในดานหน่ึงประการใดก็ตาม ผูรวบรวมตองขออภัยเปนอยางมาก และขอนอมรับ ความผิดไวแตเพียงผูเดียว แตหากหนังสือเลมนี้มีความดีความชอบ หรือบังเกิดอานิสงสผลบุญในดาน หนึ่งดานใด ขอใหกุศลผลบุญน้ันจงสําเร็จแด ผูท่ีไดรวมบริจาคทรัพยในการพิมพ ผูท่ีรวมเขียนบทความ และผูท่ีชวยเหลือสนับสนุนในทุกๆ ดาน ท้ังกําลังกาย กําลังใจ และกําลังสติปญญา จนหนังสือเลมน้ีพิมพ สําเร็จไดดวยดี ตลอดจนถึงทานผูอานทุกทาน ขออานิสงสนี้จงเปนพลวปจจัยใหทุกทาน ประสบแต ความสุขความเจรญิ รุงเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม ประกอบกิจสิ่งใดที่ดีแลว ขอใหสําเร็จในกิจท้ังปวงน้ัน มีความปรารถนาสิ่งใดท่ีชอบประกอบดวยธรรมแลว ขอใหความปรารถนาน้ันเปนจริงจงทุกประการ และ บงั เกิดสติปญญาญาณเพ่ือบรรลุมรรค ผล นิพพาน อันเปนทส่ี ้นิ ไปแหง กเิ ลสเทอญ. “พระพุทธเปนผูนาํ พระธรรมเปนแผนที่ พระสงฆเ ปนผูช ี้ เรานั่นแหละ ที่เดนิ เอง” อายบุ วร ๑๘๗
ภาคผนวก ๑ ภาพพระบรมสารรี ิกธาตุ และพระอรหนั ตธาตุ ภายในพระอุโบสถ วัดตาลเอน ต.ตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรอี ยธุ ยา ๑๘๘
พระอรหนั ตธาตุ ทีเ่ สดจ็ จากการเดนิ ทางจาริกธรรม ณ ประเทศศรลี งั กา (ครงั้ ที่ ๑) พระอรหนั ตธาตุ วรรณะ องคท ห่ี น่ึง ดํามัน องคท สี่ อง ใสมีเสนเรื่อ ๆ ภายใน สัณฐาน กลม และดจุ แกวผลึก เปนพระธาตุ ๒ องคแรก ท่เี สด็จ ณ อัมพัตถลเจดยี เมอื งอนรุ าธปุระ พระอรหันตธาตุ พระสังฆมติ ตาเถรี วรรณะ ใสมีสชี มพเู รื่อๆ สณั ฐาน ดจุ แกวผลกึ เสด็จท่ี เมืองแคนดี พระอรหนั ตธาตุ วรรณะ ดุจแกวใส สณั ฐาน ดจุ แกวผลึก พระอรหนั ตธาตุ วรรณะ ดุจแกวใส สณั ฐาน ดุจแกวผลึก ๑๘๙
พระบรมสารีริกธาตุ ทเ่ี สดจ็ จากการเดนิ ทางจาริกธรรม ณ ประเทศศรีลงั กา (ครง้ั ท่ี ๒) สวนหน่งึ ของพระบรมสารีริกธาตทุ เี่ สดจ็ ณ ถปู ารามเจดีย อนรุ าธปุระ จากการเดนิ ทาง จารกิ ธรรม ณ ประเทศศรีลังกา ครัง้ ท่ี ๒ พระบรมสารีริกธาตุ วรรณะ สสี ังขข ัด สัณฐาน เรียวยาวโคง มน มีรพู รุนท้งั องค พระบรมสารีริกธาตุ วรรณะ สสี งั ขข ดั สณั ฐาน เรยี วยาวโคง มน คลา ยกระดูก มรี ูพรนุ ทัง้ องค พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ สสี ังขข ดั สัณฐาน เรยี วยาวโคง มน คลายกระดูก มีรพู รนุ ทัง้ องค ๑๙๐
พระบรมสารีริกธาตุ วรรณะ สีสงั ขข ัด สัณฐาน เรยี วโคงมน คลายกระดูก มีรูพรนุ แตล ่ืนเรยี บท้งั องค พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ สีงาชา ง มีเขยี วอมน้ําตาลเร่อื ๆ สัณฐาน เมล็ดถ่ัวใหญ พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ ใส สงี าชาง สณั ฐาน รวม พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ ใส มีสีชมพูเรือ่ ๆ สณั ฐาน ดุจแกว ผลึก พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ ใส มีสีเขยี วขาบอมเล็กนอ ย สัณฐาน ดุจแกวผลึก (รวม) ๑๙๑
พระบรมสารรี กิ ธาตุ วรรณะ ใส มสี เี หลืองพิกลุ สดเร่อื ๆ สณั ฐาน ดจุ แกวใส พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ ใส สัณฐาน ดจุ แกว ผลกึ พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ สีชมพใู ส สัณฐาน ดจุ แกว ผลกึ พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ ชมพู สณั ฐาน ดุจแกว ผลึก พระบรมสารรี กิ ธาตุ วรรณะ ใส มีเสนแดงเร่อื ๆ สณั ฐาน ดจุ แกวผลึก ๑๙๒
พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ สีงาชาง, ใส สณั ฐาน รวม พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ ใส สณั ฐาน ดจุ แกว ผลกึ พระบรมสารีริกธาตุ วรรณะ ใสดุจเพชร สณั ฐาน ดุจแกวผลึก พระบรมสารีริกธาตุ วรรณะ ใสดจุ เพชร สัณฐาน ดุจแกว ผลกึ พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ ใส สณั ฐาน ดุจแกวผลึก ๑๙๓
พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ ใส สณั ฐาน ดจุ แกว ผลึก พระบรมสารีริกธาตุ วรรณะ ดุจสีงาชา ง สัณฐาน รวม พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ ดุจสงี าชา ง สัณฐาน รวม พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ ดจุ สีงาชาง สัณฐาน รวม กลม, รี, เมลด็ พนั ธุ ผกั กาด, เมล็ดถั่วแตก พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ ดจุ สงี าชา ง สณั ฐาน รวม ๑๙๔
พระบรมสารรี กิ ธาตุ วรรณะ ทองอําพัน สณั ฐาน ดจุ แกว ผลกึ ๑๙๕
พระบรมสารรี กิ ธาตุ ที่เสดจ็ ในพระอโุ บสถวดั ตาลเอน ป พ.ศ. ๒๕๕๒ พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ หลากสี สณั ฐาน กลม เสด็จในพระอโุ บสถวัดตาลเอน พระบรมสารรี กิ ธาตุ วรรณะ ดจุ สีงาชา ง สัณฐาน รวม เสด็จในพระอโุ บสถวัดตาลเอน พระบรมสารีรกิ ธาตุ วรรณะ ดจุ สงี าชาง สัณฐาน รวม เสดจ็ ในพระอโุ บสถวัดตาลเอน ๑๙๖
พระบรมสารรี ิกธาตุ วรรณะ หลากสี สณั ฐาน รวม เสดจ็ ในพระอโุ บสถวดั ตาลเอน พระบรมสารรี กิ ธาตุ วรรณะ รวม สัณฐาน รวม เสดจ็ ในพระอโุ บสถวัดตาลเอน ๑๙๗
พระบรมสารรี ิกธาตุ ที่เสดจ็ ชวงวันมาฆะบูชา ป พ.ศ. ๒๕๕๔ ขณะพระครสู มหุ จริ ยทุ ธ อธิฉนโฺ ท เขา กรรมฐาน พระบรมสารีริกธาตุ วรรณะ รวม สณั ฐาน รวม เสดจ็ มาฆะบูชา พ.ศ.๒๕๕๔ ระหวาง พระครสู มหุ จิรยทุ ธ อธิฉนฺโท เขากรรมฐาน พระบรมสารรี กิ ธาตุ วรรณะ ดุจสีงาชาง และสพี ิกุลแหง สัณฐาน กลม เสด็จ มาฆะบูชา พ.ศ.๒๕๕๔ ระหวาง พระครสู มุหจิรยทุ ธ อธฉิ นฺโท เขา กรรมฐาน ๑๙๘
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222