Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สัมฤทธิ์

บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สัมฤทธิ์

Published by Thalanglibrary, 2021-01-20 02:47:05

Description: บริหารคนให้สำราญ1-136

Search

Read the Text Version

สถาบนั การศกึ ษา เพือ่ พัฒนาสนั ตภิ าพโลก

บรหิ ารคนใหส้ ำราญ บริหารงานใหส้ มั ฤทธ์ิ ว.วชริ เมธ ี พิมพค์ รง้ั ที่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๕๓ จำนวนพมิ พ์ ๑๐,๐๐๐ เลม่ จดั พมิ พ์โดย สถาบันวิมุตตยาลยั เลขท่ี ๗/๙-๑๘ ซอยอรุณอมรนิ ทร์ ๓๗ ถนนอรุณอมรนิ ทร์ เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร ๑๐๗๐๐ โทรศพั ท์ ๐-๒๔๒๒-๙๑๒๓ โทรสาร ๐-๒๔๒๒-๙๑๒๘ Email: [email protected] www.dhammatoday.com



คำอนโุ มทนา ในบรรดาสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดในโลก ไม่มีอะไรจะซับ ซอ้ นยิง่ ไปกว่าคน ในบรรดาสิ่งที่มีวิวัฒนาการสูงที่สุด ไม่มีอะไรจะ วิวฒั นาการไดด้ ยี ิ่งไปกวา่ คน เพราะคนคอื องคร์ วมของความซบั ซอ้ น เพราะคนคอื องคร์ วมของววิ ฒั นาการสงู สดุ ดงั นน้ั การอยกู่ บั คนใหร้ าบรน่ื จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการบริหารคนให้ประสบความสำเร็จ ย่งิ ต้องใชส้ ติปญั ญาและศิลปะขน้ึ สูง แต่ถ้าหากใครทำได้ คนคนนั้นนับเป็นยอดคน เหมือนกับที่ปราชญ์คนหนึ่งเคยกล่าวว่า “สุดยอดของ การทำงาน ก็คือ การทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับคนให้ประสบ ความสำเร็จ”

เราทำงานกันอยู่ทุกวัน แต่เคยสังเกตไหมว่าทำไม บางคน ยิ่งทำงาน ผลงานยิ่งดีวันดีคืน หยิบ จับ ทำอะไร ก็รุ่งโรจน์โชตนาไปเสียทั้งหมด เหมือนกับสำนวนจีนที่ใช้ เอ่ยชมยามพระเอกยิ่งพบอุปสรรค วรยุทธ์ยิ่งก้าวหน้าว่า “ยิ่งมา...ยงิ่ ด”ี แตใ่ นทางกลบั กนั ทำไมบางคน ย่ิงทำงานหนักทว่า ผลงานกลบั ยง่ิ แยล่ ง สขุ ภาพกลบั เสอ่ื มโทรมลงอยา่ งรวดเรว็ จนน่าตกใจ อะไรคือความแตกต่างระหว่างคนทำงานทั้งสอง ประเภทน้ี เราจะบริหารงานกันอย่างไร จึงสามารถครองตน ครองคน ครองงาน และครองใจ เราจะทำงานกนั อยา่ งไร จงึ จะไดท้ ง้ั งานไดท้ ง้ั คณุ ภาพ ชวี ติ หนงั สอื เล่มน้ี มคี ำตอบ !

หนังสือชื่อ “บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้ สัมฤทธิ์” เล่มนี้ แต่เดิมเป็นบันทึกธรรมบรรยายในชื่อ “The Boss ยอดนักบรหิ าร” ท่ีสถาบนั วิมตุ ตยาลยั จดั ทำ เป็นซดี ธี รรมทานเผยแผ่แก่ผสู้ นใจท่วั ไป ในเวลาตอ่ มาเมื่อคณุ ยุพา เตชะไกรศรี นกั บริหาร ธุรกิจมืออาชีพคนหนึ่งของประเทศไทย ได้ฟังซีดีธรรม บรรยายชุดนี้แล้ว รู้สึกว่าตนได้รับประโยชน์เป็นอันมาก จงึ มคี วามดำรวิ า่ ธรรมบรรยายชดุ น้ี ควรไดร้ บั การเผยแพร่ ให้กว้างขวางออกไปในหมู่นักบริหารและคนทำงานทั่วไป จึงแจ้งความจำนงขออนุญาตมายังทางสถาบันเพื่อจัดทำ เผยแพร่ทั้งในรูปแบบซีดีและหนังสอื เล่ม เมื่อผู้บรรยายได้รับทราบแล้ว จึงรู้สึกอนุโมทนา ในกุศลเจตนาของคุณโยมยุพา เตชะไกรศรีเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกันนั้น ก็ยินดีอนุญาตให้จัดทำเป็นสื่อธรรมทาน เผยแพร่ตามเจตนารมณ์ด้วยความเต็มใจและไม่สงวน ลิขสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากจะมีผู้อื่นร่วมกันจัดพิมพ์เพื่อ เผยแพรเ่ ป็นธรรมทานต่อๆ ไป

“ขอพระธรรมจงแผไ่ พศาล ขอให้เธอเบิกบาน กับการรับใช้เพือ่ นมนษุ ย์” ว.วชริ เมธี ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๓

สารบ ญั คำอนุโมทนา ๔ ธรรมะสำหรับผบู้ รหิ าร ๑๑ ทฤษฏีผบู้ รหิ าร ๑๓ ผู้บรหิ ารแบบพนักงานรถไฟ : ไหลไปตามระบบ ๑๕ ผู้บริหารแบบนายแพทย์ : แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ๑๙ ผู้บรหิ ารแบบชาวนา : รอฝน มุ่งผลผลิตพอเพียง ๒๓ ผู้บริหารแบบชาวประมง : เสี่ยง กล้า ท้าทาย ๒๗ ทกั ษะของผ้บู ริหาร ๓๗ ๑. ผ้อู าวโุ ส ๓๘ ๒. ผดู้ ำรงตำแหน่ง ๔๒ ๓. ผู้บริหารรา่ งทรง ๔๒ ๔. ผนู้ ำการเปล่ียนแปลง ๔๔

ผู้บริหารตอ้ งรบั ไดท้ งั้ ดอกไมแ้ ละก้อนอิฐ ๕๑ ควรมวี ุฒภิ าวะ มคี วามเขา้ ใจชีวติ ๕๙ อย่าทำงานจนป่วยตาย อย่าหลงใหลตัวเอง ๖๗ ๗ ปุจฉาจากผบู้ รหิ าร ๗๓ ๗ ความต้องการจากลกู นอ้ ง ๘๘ ภาคพิเศษ ๑๐๕ ทางออกประเทศไทย ๑๑๔ ประวัติ ว.วชิรเมธ ี



ธรรมะสำหรับ ผู้บริหาร

ธรรมะกับผู้บริหารเป็นสิ่งซึ่งไม่อาจแยกจากกัน ถ้าเราแยกธรรมะออกจากผู้บริหารหรือแยกธรรมะออก จากการบริหารเมื่อไร ก็จะเกิดสภาวะอนาธิปไตยคือการ บริหารนั้นล้มเหลว ไม่มีใครฟัง บริหารแต่ไม่มีคนทำตาม ทุกองคก์ รเป็นอย่างน้ที ัง้ น้นั ถ้าผู้บริหารไม่มีศักยภาพที่จะบริหารเพราะขาด หวั ใจคือธรรมะ ถึงใชอ้ ำนาจบรหิ ารก็ไม่มีคนทำตาม ดังนั้น ธรรมะในการบรหิ ารจึงเปน็ สิ่งท่ีจำเป็น ขาดไม่ได้ ธรรมะในการบริหารมีมาก คงไม่สามารถหยิบมา กล่าวในที่นี้ไดท้ ง้ั หมด จะขอหยิบมาบางแงม่ มุ เพื่อมาแลก เปล่ียนเรยี นร้กู นั พอหอมปากหอมคอ

ทฤษฏีผู้บริหาร ทฤษฏีผ้บู ริหารมี ๔ แบบ คือ ๑. ผบู้ รหิ ารแบบพนกั งานรถไฟ ๒. ผบู้ ริหารแบบนายแพทย์ ๓. ผบู้ ริหารแบบชาวนา ๔. ผู้บริหารแบบชาวประมง



ผู้บริหารแบบพนักงานรถไฟ ไหลไปตามระบบ อาตมาเพง่ิ กลบั จากญป่ี นุ่ มโี อกาสไดน้ ง่ั รถไฟในญป่ี นุ่ รสู้ กึ สบายจงั ถา้ เป็นรถไฟทีเ่ ปน็ หวั จรวดนนั้ สเู้ ครื่องบินไดเ้ ลย อาตมาลองเอาแกว้ นำ้ วางบนถาดรองแกว้ ตง้ั แตอ่ อกสตารท์ จนถึงปลายทางน้ำไม่กระฉอกเลย ถ้าเมืองไทยเรามีรถไฟ ขนาดน้ี สบายแลว้ ปญั หารถตดิ คงไมม่ ี แตใ่ นโลกความเปน็ จรงิ มนั ไม่เปน็ เช่นน้ัน การรถไฟไทยกับการรถไฟญีป่ ุน่ เร่มิ พรอ้ มกัน แต่ ณ เวลาน้ีการรถไฟญ่ปี ุ่นน้นั เทยี บเคร่ืองบิน แตก่ ารรถไฟไทยนน้ั ยงั ไปไมถ่ งึ ไหน ไมเ่ พยี งแตไ่ มต่ รงเวลา แต่ยังตกรางประจำ ว.วชิรเมธี 15

ผู้บริหารแบบพนักงานรถไฟในเมืองไทยก็คือ ไปตามราง มโี บกร้ี ถไฟ มรี างรถไฟ ขน้ึ ไปขบั รถไฟ ไปตามราง จากสถานีต้นทาง ถึงปลายทาง ถ้ามีรางให้วิ่ง อย่างไรก็ถึง ไม่คิดอะไรใหม่ ไม่ท้าทาย ไม่ลงทุน ไม่ปรับปรุงไม่ แสวงหาบรกิ ารเสรมิ ไมข่ ายบรกิ าร ขบั ไปเรอ่ื ยๆ กป่ี กี ช่ี าติ ก็เป็นเช่นนั้นเอง นี่คือผู้บริหารแบบพนักงานรถไฟ ปล่อยให้ระบบไหลไปตามกลไกของมันเองโดยที่ตนเอง แทบไม่แตะส่วนใดๆ เมอื่ ไดข้ ้นึ มาเปน็ ผู้บรหิ ารปุ๊บ นงั่ อยูต่ รงนั้น รบั เรือ่ ง ทำงานไปตามระบบ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ กลายเป็นผู้บริหารประจำ เวลามีใครมาถามอะไร ถ้าเรื่องยังมาไม่ถึง ต่อให้มารบกันอยู่หน้าบริษัทก็ไม่ เรียกประชุม ถามว่าทำไม คำตอบคือ ยังไม่ได้รับรายงาน เขายงั ไมไ่ ดแ้ จง้ เขา้ มาขอโทษนะครบั ยงั ไมไ่ ดร้ บั การประสาน จากผู้ท่ีเก่ยี วข้อง จะรบกร็ บ จะเผากเ็ ผา จะเอม็ เจด็ สิบเก้า มายงิ ก็แลว้ แต่ ถา้ ยงั ไมไ่ ดร้ บั รายงานกใ็ ห้ผเู้ กย่ี วข้องว่ากนั ไป นีค่ อื ผู้บรหิ ารแบบพนกั งานรถไฟ 16 บรหิ ารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานให้สัมฤทธ์ิ

พูดง่ายๆ คือถ้าปัญหาไม่มาถึงตัว เอ็มเจ็ดสิบเก้า ไม่ตกมาหน้าตัก ไม่ทำงาน เพราะคิดว่าของเดิมเขาดี อยู่แล้ว เราจะไปเปลี่ยนทำไม พอได้รับการแต่งตั้งปุ๊บ คุณเลขาคุณว่าไปเลย หัวหน้าว่าไปเลย ปลัดว่าไปเลย ผู้อำนวยการว่าไปเลย แล้วท่านจะว่าอย่างไรก็ว่าตามพวก คุณแหละ นี่คือผู้บริหารแบบพนักงานรถไฟ ไม่คิดอะไร ใหม่ ระบบมอี ะไรก็ปลอ่ ยให้ไหลไปตามระบบอยา่ งนัน้ ผบู้ รหิ ารอยา่ งนจ้ี ะทำใหอ้ งคก์ รอยา่ งดที ส่ี ดุ กค็ อื ทรง อย่างแย่ก็ทรุด แล้วคนเก่งก็ไม่อยู่กับผู้บริหารที่ทำงาน แบบพนักงานรถไฟ เพราะเขาต้องการอนาคต พอมาเจอ ผู้บริหารที่ทำงานในลักษณะเช้าชามเย็นชาม หรือเรื่อยๆ มาเรียงๆ แบบพนักงานรถไฟ อย่างนี้คนเก่งก็ต้องออก ไปสร้างเมืองใหม่กันทั้งนั้น นี่เป็นเหตุให้ผู้บริหารเช่นนี้ จำนวนมากไม่มีคนเก่งในองค์กร เพราะมัวแต่ขับรถไฟไป ตามรางแบบเรยี บๆ เฉ่อื ยๆ ฉวิ ๆ ไมม่ ีการวางแผน ปรัชญา วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ ไมต่ อ้ ง ทกุ อยา่ งเปน็ ไปตามปกตวิ า่ กนั ไป ตามข้นั ตอน ว.วชิรเมธี 17



ผู้บริหารแบบนายแพทย์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ผู้บริหารแบบนายแพทย์ก็คือ เป็นนักแก้ปัญหา เวลา ปัญหาเกิดขึ้นมาจะหาสมมุติฐาน หาสาเหตุ หาวิธีการ แล้วลงมือผ่าตัด เยียวยารักษา ถ้าเยียวยารักษาได้นาย แพทย์จะมีความสุขมาก ดังนั้นผู้บริหารแบบนายแพทย์ ก็เป็นผู้บริหารนักทำงาน แต่ก็เหมือนนายแพทย์ คือ ถ้า ไม่มีการเข็นผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาลก็ไม่ทำอะไรเหมือนกัน ถ้าผู้ป่วยไม่มาถึง ถึงเวลานัดหมายแล้วคนไข้ยังไม่มา กอ็ าจเลน่ บบี ี ทวติ ขอ้ ความขน้ึ ในทวติ เตอร์ หรอื อาจตดิ ตาม ใครสักคนใน Facebook เมื่อมีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามา ว.วชิรเมธี 19

ถึงจะลงมือทำงาน อยา่ งไรก็ดี ผูบ้ ริหารแบบนายแพทยก์ ็ยงั ดีกวา่ แบบ พนักงานรถไฟ เพราะแบบรถไฟว่ากันไปตามขั้นตอนแต่ ผู้บริหารแบบนายแพทย์พอมีปัญหาก็ลุกขึ้นมาแก้ไข ผู้บริหารแบบนี้เป็นนักแก้ปัญหาที่ดีของระบบที่ดี แต่ค่อน ข้างขาดวิสยั ทัศน์ในการรกุ คืบไปขา้ งหนา้ พูดงา่ ยๆ วา่ ทำงานเฉพาะสิง่ ทีอ่ ยูต่ รงหนา้ ไดเ้ ป็น อย่างดี พร้อมทั้งมีปัญหาก็ไม่ถอยพร้อมที่จะลุกขึ้นมา กล้าคดิ กลา้ ทำ กล้านำ กล้ารับผิดชอบ แต่ยังจำกดั พ้นื ที่ อยเู่ ฉพาะในองคก์ รเทา่ นน้ั นน่ั คอื ถา้ ไมม่ ปี ญั หากจ็ ะไมไ่ ด้ เหน็ การลุกข้ึนทำงานของผูบ้ ริหารแบบนายแพทย์ 20 บริหารคนให้สำราญ บรหิ ารงานใหส้ มั ฤทธิ์

ว.วชิรเมธี 21



ผู้บริหารแบบชาวนา รอฝนมุ่งผลผลิตพอเพียง ผู้บริหารแบบชาวนา คือ ผู้บริหารที่เอาธรรมชาติเข้าว่า การเมืองไม่ดีก็ไม่เป็นไร นักท่องเที่ยวไม่มาก็ไม่เป็นไร สบายๆ คือไม่คิดอะไรใหม่ ชาวนาแม้จะมุ่งผลผลิตก็จริง แต่ผลผลิตนั้นจะต้องอยู่ในพื้นที่ของตัวเองเท่านั้นจะไม่ ขยายตลาดเพิ่ม และก็ผู้บริหารชนิดนี้จะจำกัดพื้นที่ที่ได้ รบั ผดิ ชอบมเี ท่าไหรก่ จ็ ะจำกดั อย่แู คน่ น้ั รอฟ้ารอฝน หมายความว่า ไม่ค่อยคิดงานใหม่ ปล่อยให้สถานการณ์แวดล้อมพาไป แล้วแต่ว่าจะจับพลัด จับผลูให้ได้บริหารเรื่องอะไรไม่ค่อยคิดโครงการล่วงหน้า ว.วชิรเมธี 23

ปฎิทินงานไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา ไม่ซับซ้อน เรียกว่า พนักงานในองค์กรนี้ นั่งเซ็งกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่า ผู้บริหารนั้นรอฟ้ารอฝน ไม่มีงานพิเศษเข้ามาไม่มีความ ทา้ ทาย ไมม่ ตี น่ื เตน้ งานอเี วน้ ทก์ ไ็ มท่ ำ หนา้ ตกั มแี คไ่ หนกเ็ อา แคน่ น้ั แลว้ ก็ไม่เส่ียงดว้ ย น่ีก็คอื ผบู้ รหิ ารแบบชาวนา แตผ่ บู้ รหิ ารแบบชาวนากย็ งั ดี คอื มงุ่ ผลผลติ คอื ถงึ แม้จะไม่ทำงานหวือหวาแต่ชาวนาที่ดีก็คือยังหวังที่จะมี ผลผลติ ทด่ี เี สมอ เชน่ เดยี วกนั กบั ผบู้ รหิ ารทไ่ี มเ่ พม่ิ งานใหม่ แต่ก็ยังพยายามที่จะบริหารงานหน้าตักให้มีผลงอกเงยก็ ยังนบั ว่าเปน็ ผู้บริหารท่ใี ชไ้ ด้ 24 บรหิ ารคนให้สำราญ บรหิ ารงานใหส้ มั ฤทธิ์

ว.วชิรเมธี 25



ผู้บริหารแบบชาวประมง เสี่ยง กล้า ท้าทาย ชาวประมง ที่ออกทะเลไปนั้นพื้นที่ไม่จำกัด และมีความ เสี่ยงเพราะว่าตรงที่ที่เส้นขอบฟ้าสิ้นสุดนั้นไม่ใช่ว่าทะเล จบแคน่ น้ั ชาวประมงตอ้ งกลา้ ทจ่ี ะแลน่ เรอื ออกไป ขยายเสน้ ขอบฟ้าออกไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าคลื่นลมจะมาเมื่อไหร่และใต้ มหาสมุทรจะมีปลามากนอ้ ยแค่ไหนชาวประมงไม่รู้ ฉะนั้นผู้บริหารแบบชาวประมงคือเป็นนักเสี่ยง เปน็ นกั ทา้ ทาย เปน็ นกั แสวงโชค เชอ่ื มน่ั ในตนเองสงู กลา้ คดิ กลา้ ทำ กล้านำ กลา้ รับผิดชอบ และกล้าเสยี่ ง ข้อดีของชาวประมงคือถ้าไม่มีทักษะคุณก็จับปลา ว.วชิรเมธี 27

ไม่ได้ แต่ข้อเสียก็คือเสี่ยง แต่ส่วนมากแล้วชาวประมงก็ กล้าท่จี ะเสี่ยง เพราะถา้ เสี่ยงจนเกิดทกั ษะแลว้ เสี่ยงนัน่ เอง ก็กลายเป็นโชค เราจึงเรียกผู้บริหารที่กล้าท้าทายว่า นกั เสยี่ งโชค เหน็ ไหม เส่ยี งตอ้ งมากบั โชค คนไทยมักบอกว่าเสี่ยงต้องมากับเซียมซีเท่านั้น คนไทยคิดได้แค่นี้ ความกล้าเสี่ยงของคนไทยคือกล้า เสี่ยงเซียมซีแต่นักบริหารทั้งหลายต้องกล้าที่จะเสี่ยงโชค ตอ้ งพร้อมท่ีจะเรม่ิ ตน้ จากศนู ย์ ตอนท่ี สตฟี จอบส์ ซง่ึ เปน็ ผกู้ อ่ ตง้ั Apple ถกู ลกู นอ้ ง ของตวั เองเชิญออก น่ีเปน็ ภาษาสภุ าพ แตค่ วามเปน็ จริงคอื ถูกลูกน้องและผู้ถือหุ้นไล่ออกจากบริษัทของตัวเอง สตีฟ จอบส์ ออกไปเหมือนหมาหัวเน่า เดินลงจากตึกด้วยน้ำตา นองหน้า เขาบอกวา่ ในโลกนีม้ ใี ครแย่กวา่ ฉนั อกี ไหม ถกู ไล่ ออกจากบริษัทที่ตัวเองตั้งมากับมือ ตั้งบริษัทแอปเปิลจาก โรงรถ แล้วพอบริษัทมีทรัพย์สินกว่าพันล้าน จู่ๆ โดน ไล่ออก แต่เขาหายไปได้เพียงครึ่งปี เนื่องจากเขามีสัญชาต- 28 บรหิ ารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานใหส้ ัมฤทธ์ิ

ญาณผ้บู ริหารแบบชาวประมง แวบ่ หนึ่ง สตีฟ จอบส์ กค็ ดิ ขึ้นได้ว่า เราแค่ถูกไล่ออกจากบริษัทแต่ศักยภาพในการ คิดงานยังอยู่กับเราครบทุกอย่าง พอปิ๊งแว่บขึ้นมาได้ ก็ไปตัดผมใหม่ แล้วเดินไปจดทะเบียนบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท เน็กซ์ บริษัทนี้ผลิตคอมพิวเตอร์มาเป็นคู่แข่งกับ แอปเปลิ เหมอื นเดิม ภายในไม่ก่ีปียอดขายของบริษทั เนก็ ซ์ก็ทะลทุ ะลวง เคียงบา่ เคียงไหล่หายใจลดตน้ คอกบั บรษิ ัทแมค่ อื แอปเปลิ ผูถ้ ือหุ้นบรษิ ทั เดิมนัง่ คยุ กัน วา่ เราจะปล่อยให้ สตฟี จอบส์ ท้าทายพวกเราอย่างนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นแอปเปิลจะเข้าตาจน ในที่สุดผู้ถือหุ้นทั้งหมดรวมหัวกัน ขอควบรวมกิจการกับ บรษิ ทั ใหมข่ อง สตีฟ จอบส์ เขามองเหน็ ชอ่ งทาง จึงยินดีให้ ควบรวมกิจการบริษัทแอปเปิลกับเน็กซ์จึงกลายมาเป็น บรษิ ทั เดียวกนั สิ่งแรกที่ จอบส์ ทำในฐานะท่เี ขากลับมาอกี ครัง้ หนงึ่ คือเขานึกถึงความผิดพลาดครั้งแรกของเขา นั่นคือเขาตั้ง แอปเปิลขึ้นมาแล้วพอกำไรมากๆ แล้วเขาบริหารไม่ไหว ว.วชิรเมธี 29

จงึ ไปเชิญ super CEO คนหนงึ่ ขนึ้ มาบรหิ ารแทน แล้วเจา้ คนน้ีเองทเ่ี ตะเขาออกไป ฉะนั้นการกลับมาคร้ังนี้ สิ่งแรกท่ี สตฟี จอบส์ ทำคือ ปลด CEO คนนน้ั แลว้ เขาบริหารเอง มาจนทุกวันนี้ แล้วหลังจากนั้น สตีฟ จอบส์ ก็กลายเป็น ผู้ทรงอิทธิพลของโลก ว่ากันว่าทุกครั้งที่ สตีฟ จอบส์ ออกนวัตกรรมใหม่ นั่นหมายความว่า โลกเปลี่ยนแปลง ไปแลว้ อกี ยคุ หนึง่ ไม่นานมานี้อาตมาลงจากเครื่องบินได้ซื้อนิตยสาร Times เล่มหนึ่งมาอ่านฉบับร้อยผู้ทรงอิทธิพลของโลก อาตมาพลกิ ดูคนไทย จะมบี า้ งไหมหนอ ไมเ่ จอเลย อาตมา เจอคนเอเชียเยอะเลย เจ็ท ลี คนเอเชีย และที่ขาดไม่ได้ สตฟี จอบส์ ติดทกุ โผบนเวทโี ลก ปีนี้ก่อนหน้าที่ Times จะจัดให้เป็นหนึ่งในร้อย ผูท้ รงอทิ ธพิ ลของโลก สตฟี จอบสไ์ ดร้ ับการยกย่องใหเ้ ปน็ นักธุรกจิ อันดบั หนง่ึ ในรอบทศวรรษทผ่ี ่านมาเพราะจอบส์ เป็นสุดยอดนักธุรกิจ ความเป็นสุดยอดของเขาเห็นได้จาก การที่เขาป่วยเป็นมะเร็ง หุ้นในบริษัทในเครือตกกันระนาว 30 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานใหส้ ัมฤทธ์ิ

พอเขารักษาเกือบหายขาด เขาปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่งหุ้นดี ขึ้นและธุรกิจทุกตัวที่อยู่ในเครือดีหมด แสดงว่าผู้ชายคน นีถ้ อื ดุลในตลาดทุนบนเวทโี ลกไว้สูงมาก นี่คือตัวอย่างคนที่กล้าจะเสี่ยงแบบชาวประมง คือถูกเตะออกไป เหลือแต่ศูนย์แต่กล้าเสี่ยงที่จะตั้งบริษัท และกล้าที่จะออกนวัตกรรมอย่างไอโฟน ล่าสุดก็ ไอแพด กอ่ นหน้านนั้ เขาออกโทรศัพทม์ อื ถือ ลองคดิ ดวู ่า ก่อนหน้า ที่จะมีโทรศพั ท์มอื ถือ เรามเี พจเจอร์ใช่ไหม โห สิบปีที่แลว้ ใครใช้นี่เท่ห์สุดๆ เลยนะ แล้วก็โทรศัพท์รุ่นต่อมาก็เครื่อง เทา่ กระดกู เลยใหญโ่ ตมาก แตต่ อ่ มาไมน่ านพอโทรศพั ทม์ อื ถอื เครอ่ื งเลก็ ๆ มาเทา่ นน้ั เองโลกกเ็ ปลย่ี น เรายนิ ดปี รดี ากบั มือถืออยู่แป๊บเดียวเองก็มีไอพอดมา ไอพอดมาไม่กี่ปีอายุ สน้ั มาก จากน้ันก็มา ไอโฟน จากนั้นกเ็ ป็นไอแพด คนที่เปลี่ยนแปลงโลกได้นั้นเขาเป็นนักบริหาร ในลกั ษณะชาวประมง คอื มคี วามกลา้ เสย่ี งและขณะเดยี วกนั ก็มีทักษะในการเสี่ยงด้วย ผู้บริหารชนิดนี้มีไม่มาก เพราะ ผบู้ รหิ ารโดยมากมักจะรกั ษาเนือ้ รกั ษาตวั ว.วชิรเมธี 31

ดงั นน้ั ผบู้ รหิ ารสแ่ี บบน้ี ลองคดิ ดสู วิ า่ เราเปน็ ผบู้ รหิ าร ประเภทไหน ฟังแล้วเปลย่ี นใจยงั ทัน ถ้าเป็นแบบพนกั งาน รถไฟกลับไปดูองค์กรตัวเอง เออเรานี้มันบริหารแบบกรม ศิลป์มาตลอด ไม่เสี่ยงเลย ว่าไปตามวงรอบ กลไกทำงาน ไม่เสี่ยง ไม่ท้าทาย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นี่แบบรถไฟ หรอื มปี ญั หาจึงลุกขึ้นมาบรหิ ารแบบแพทย์ หรอื มิเชน่ นนั้ ก็ เอาเท่าที่มีนี้พอละ อย่าไปคิดมากนี่ก็แบบชาวนา พอเพียง พอเพียง แต่ถ้าลุกขึ้นมาวางวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ทุกอย่าง ทำการวิเคราะห์แล้วก็ลงมือทำงาน คนเกง่ อยไู่ หนไปดงึ มาทำงาน บรหิ ารแบบกลา้ ทา้ ทายความ เสี่ยง แล้วก็ประสบความสำเร็จ งานสัมฤทธิ์ชีวิตรื่นรมย์ ถ้าได้อย่างนีก้ เ็ ป็นผ้บู รหิ ารแบบชาวประมง บรรดาผ้บู รหิ ารทัง้ หมดน้ัน อาตมาคดิ วา่ มขี ้อดีมีข้อ เสียอยู่ปะปนกัน เราไม่จำเป็นต้องไปเป็นผู้บริหารแบบ ใดแบบหนึ่ง ต้องเอาความรู้จักระแวดระวังแบบพนักงาน รถไฟ มาบวกกับความกล้าเสี่ยง ก็จะทำให้ได้ผู้บริหาร 32 บรหิ ารคนให้สำราญ บริหารงานให้สมั ฤทธิ์

ที่กล้าเสี่ยงแบบรอบคอบ เราเอานักแก้ปัญหาแบบนาย แพทย์ มาบวกกบั ความกลา้ เสย่ี ง กจ็ ะเปน็ คนทเ่ี สย่ี งไปดว้ ย ขณะเดียวกันก็แก้ปัญหาองค์กรได้ด้วย เราเอาผู้บริหาร แบบชาวนา คือ ทำธุรกิจในสายงานการผลิตที่ตัวเองเชี่ยว ที่สุด ไม่ออกไปในน่านน้ำที่มองไม่เห็นว่าตัวเองจะชนะ ไม่จับปลาในที่ๆ คาดการณ์จำนวนปลาไม่ได้ แต่ทำธุรกิจ เฉพาะทต่ี วั เองเชย่ี วชาญและถนดั เทา่ นน้ั แบบชาวนา เอามา บวกกับความกลา้ เส่ียงแบบชาวประมงกไ็ ด้ ฉะนั้นในสี่แบบนี้เราบูรณาการให้เหลือเพียงแบบ เดียวแต่มีสี่ทักษะก็ได้ ถ้าใครทำได้ นั่นคือผู้บริหารที่พึง ประสงค์ ระมัดระวังแบบพนักงานรถไฟ กล้าผ่าตัดแบบ แพทย์ ทำในสงิ่ ทอ่ี งค์กรของตนเองเช่ียวชาญแบบชาวนา และกล้าท้าทายโอกาส กล้าตัดสินใจกล้าลงทุนแบบชาว ประมง ผู้บริหารสี่แบบเรารวมให้เหลือแบบเดียวเราก็จะ ไดผ้ บู้ รหิ ารทพี่ งึ ประสงค์ แต่ถ้าเป็นแต่ละแบบนั้น อันตรายมากเพราะเสี่ยง อย่างเดียวไม่ระมัดระวังก็อันตราย ระมัดระวังอย่างเดียว ว.วชิรเมธี 33

ไมเ่ ส่ียงเลยก็อยทู่ ี่เกา่ การแก้ปญั หาอย่างเดยี วแตไ่ ม่ลุกข้ึน มาสร้างสรรค์ก็ไม่ไปไหนอีก ทำเฉพาะที่ตัวเองถนัด มันก็ วนอยูใ่ นหนังสือเทา่ นน้ั ผบู้ รหิ ารทด่ี ตี อ้ งรจู้ กั บรู ณาการ บรู ณาการทกั ษะการ บริหารแบบต่างๆ เข้าด้วยกัน นี้คือทฤษฎีผู้บริหารที่ผู้รู้ เขาพูดต่อๆ กนั มาในตะวนั ตก 34 บริหารคนให้สำราญ บรหิ ารงานให้สมั ฤทธ์ิ

ว.วชิรเมธี 35



ทักษะของผู้บริหาร ทีนี้ จากประสบการณ์ของอาตมา ที่ได้ทำงานกับผู้บริหาร มาเยอะแยะมากมาย ในแต่ละองค์กรตั้งแต่ระดับชาติ ลงมาจนถงึ ระดับวัด ระดับ อบต. ระดับเทศบาล อาตมาก็ ไดค้ น้ พบทกั ษะของผบู้ รหิ ารวา่ มี ๔ แบบเหมอื นกนั ลองจดั อนั ดบั ดแู ลว้ ทกุ ทา่ นกล็ องพจิ ารณาดสู วิ า่ เอะ๊ เราเปน็ ผบู้ รหิ าร ประเภทไหน

๑. ผ้อู าวุโส ผู้บริหารคอื ผอู้ าวโุ ส ได้ขน้ึ มาเปน็ ผ้บู ริหารเพราะวา่ ทำมากอ่ นใครเขา สำนวนไทยเขาเรยี กวา่ แกเ่ พราะกินขา้ ว เฒา่ เพราะอยู่นาน มองไปนไ้ี มม่ ีใครแกเ่ ทา่ เขาละทั้งอายตุ ัว ทั้งอายุงาน ลูกน้องก็อัญเชิญขึ้นสู่เก้าอี้ผู้บริหาร ผลคือ บรหิ ารไม่เป็นเพราะหมดแรงเสียก่อน ผู้ใหญ่ที่อาวุโสมากๆ นี้ ผ่านโลกมามาก เวลารุ่น น้องคนรุ่นใหม่ไปปรึกษาอะไร คุณไม่ต้องคิดมากหรอก ผมผา่ นมาหมดคนรนุ่ ใหมก่ จ็ ะไฟมอดไปเลยนค้ี อื ผใู้ หญด่ บั ฝันตัวจริง ไม่ต้องทำอะไร เชื่อผม ผมอาบน้ำร้อนมาก่อน อนั นย้ี งั พอฟงั นะ แตถ่ า้ เปน็ ประเภทวา่ คณุ คดิ วา่ คณุ เปน็ ใคร ถ้าพูดอย่างนี้กับลูกน้อง เป็นอย่างไร คนเก่งๆ จะอยู่ไหม ไมเ่ หลือ ฉะนน้ั ผบู้ รหิ ารประเภทอาวุโสนีก้ ็คือพอขึ้นมาแลว้ ก็มักจะติดกับดักผู้อาวุโส คือไฟในการบริหารจัดการ เหลอื ไม่มากนัก ไม่อยากจะท้าทายอะไร นัง่ ดูลกู ดูหลานไป พับนกไปพับกระดาษไป เลี้ยงแมวไป ไม่ชอบลุ้น ไม่ชอบ ท้าทาย มงุ่ ไปทคี่ วามปลอดภัยขององคก์ ร 38 บริหารคนให้สำราญ บรหิ ารงานใหส้ ัมฤทธิ์

อยู่ไปวันๆ แล้วก็อำลาจากไปด้วยความปลอดภัย ทุกอย่าง ไม่ตัดสินใจ ไม่เรียกร้อง ไม่ต้องมายื่นเงื่อนไข ไม่ต้องมายื่นใบประกาศ ฉันไม่คิดอะไรต่อจากนี้ขอให้ฉัน กลบั ไปเลย้ี งหลานกพ็ อ ขอสบายๆ เพราะวา่ ใกลเ้ กษยี ณเตม็ ทไี ม่ขอทำอะไรแลว้ ผลก็คอื องคก์ รขาดโอกาส เพราะตราบ ใดกต็ ามทผ่ี บู้ รหิ ารทม่ี อี าวโุ สสงู สดุ มอี ายงุ านนาน แตไ่ มค่ ดิ งานใหม่เพราะว่าไม่กล้าเสี่ยง องค์กรก็ขาดโอกาสในการ กา้ วไปขา้ งหนา้ ฉะนนั้ ผบู้ ริหารแบบนจี้ ึงเปน็ ผบู้ รหิ ารแบบท่ี ณ เวลาน้ใี นโลกกเ็ หลือนอ้ ยมากแล้ว แม้แต่ในองค์กรของพระพุทธเจ้าเอง เวลาเลือก ผู้บริหาร พระพุทธเจ้าก็ใช้หลักการในการเลือกเช่นกัน นั่นคือ ในแง่การเคารพกันพระพุทธเจ้าใช้หลักความ อาวุโส ตามเวลาที่บวช คนไหนบวชก่อนคนนั้นได้รับการ เคารพกอ่ น สมมุติอาตมาอายุแค่ยี่สิบห้าอาตมาบวชก่อนมา ห้าปี เมื่อวานนี้มีพระบวชใหม่รูปหนึ่ง อายุหกสิบแต่ใน แง่ของการเคารพ พระพุทธเจ้าบอกว่าให้เคารพตาม ว.วชิรเมธี 39

อายุของสมาชิกภาพ อาตมาเป็นวัยรุ่นก็จริง แต่อาตมา บวชก่อน หลวงตานี้อายุหกสิบเพิ่งมาบวชเมื่อวานจะบอก ว่าผมอายุมากกวา่ พระหน่มุ ตอ้ งมาไหว้ผมไม่ได้ ในทางพระพทุ ธศาสนาความเคารพนท้ี า่ นกใ็ หว้ า่ ตาม วนั เวลาของการเขา้ มาสสู่ มาคมสงฆ์ แตใ่ นแงข่ องการทำงาน พระพทุ ธเจ้าใช้อกี เกณฑ์หนงึ่ นนั่ คอื ในแง่ของการทำงาน พระพุทธเจ้าใช้คนเก่ง แต่ในแง่ของการอยู่ร่วมกันใน องค์กรพระพุทธเจ้าใช้ความอาวุโส ในเรื่องของการเคารพนบนอบนั้น ว่าไปตามอาวุโส ใครมาก่อนคนนั้นก็เป็นพี่ใหญ่ ใครมาหลังคนนั้นก็เป็น น้อง ไม่เอาอายุ เอาวนั เวลาที่เข้ามาสอู่ งค์กรสงฆ์ แต่ในแง่ ของการทำงานพระพทุ ธองคจ์ ะทรงใชค้ นทท่ี ำงานไดไ้ มเ่ นน้ ท่ีอาวโุ ส เชน่ ในโอกาสทจ่ี ะเลือกอคั รสาวกซ้ายขวา ตวั แทน พระสงฆ์นี้โหวตกันเยอะแยะมากมาย ส่งรูปนั้นเข้ามา ส่งรูปนี้เข้ามาพระอรหันต์ทั้งนั้น แต่พระพุทธเจ้าไม่เลือก พระพทุ ธเจา้ เลอื กพระหนมุ่ สองรปู ซ่ึงเพ่ิงบวชใหม่ คนหนุ่มสองคนนั้นเป็นนักปรัชญาที่มีชื่อมากใน 40 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานให้สมั ฤทธ์ิ

อินเดีย เมื่อเดินเข้าวัดมา พระพุทธเจ้าก็กำลังแสดงธรรม อยู่ แตพ่ ระพทุ ธเจา้ ยตุ กิ ารแสดงธรรมแลว้ ชไ้ี ปทส่ี องคนนน้ั และบอกต่อท่ปี ระชุมสงฆว์ ่า พวกเธอดูนะ สองคนน้ตี อ่ ไป จะเป็นอคั รสาวกเบอื้ งขวาและเบอ้ื งซา้ ยของฉัน ในขณะทม่ี ี พระเถระมากมายนั่งอยู่ในที่ชุมนุมสงฆ์ พระพุทธองค์ ไม่เลือก พระอัครสาวกซ้ายขวาก็คือมือซ้ายขวา ที่จะมา เป็นมือทำงาน พระพุทธเจ้าเลือกคนหนุ่ม ที่มีไฟในการ ทำงาน สว่ นผทู้ ม่ี ากอ่ นเปน็ ผอู้ าวโุ สพระพทุ ธองคก์ ใ็ หเ้ คารพ นบนอ้ บกันไป เพอ่ื ใหอ้ ยใู่ นสงั คมอย่างปกตสิ ขุ นี่ก็เป็นตัวอย่างว่า แม้แต่การทำงานในคณะสงฆ์ พระพุทธองค์ก็ทรงแบ่งชัดเจนว่า เรื่องเคารพว่ากันไปตาม สมาชิกภาพ อายุของสมาชิกภาพ แต่ในแง่ของการทำงาน แล้วกต็ อ้ งวา่ กนั ไปตามความรูค้ วามสามารถ ผู้บริหารแบบที่เป็นผู้อาวุโสนั้น ถ้าเป็นผู้อาวุโส ที่มีไฟในการทำงาน มีข้อดี เนื่องจากผ่านวัยมามาก จึงมีความรอบคอบสูง แต่ถ้าเป็นผู้อาวุโสประเภทที่ไฟก็ ไม่เหลือ ความสามารถก็ไม่ถึง แต่เคราะห์กรรมนำท่าน ว.วชิรเมธี 41

ให้ขึ้นมานั่งเก้าอี้ อันนี้ก็เป็นเคราะห์มวลรวมขององค์กร เป็นกรรมหมู่ขององค์กรไป ที่ลูกน้องหรือพนักงานก็ต้อง นั่งเฝ้าท่านจนเกษียณจนลาจากเก้าอี้ไป ฉะนั้นผู้บริหาร คือผู้อาวุโสนี้ ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ดีอย่างเดียวเท่านั้นคือองค์กรมีหัวเอาไว้เซ็นจดหมาย นอกน้นั ประโยชนไ์ ม่มาก ๒. ผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารคือผู้ดำรงตำแหน่ง หมายความว่า ได้ ตำแหน่งมาแต่บริหารงานไม่เป็นซึ่งก็มีมาก เช่น ผู้ใหญ่ สง่ มา ขา้ มหว้ ยมา หรือว่าเปน็ เครอื ญาติของผ้กู อ่ ต้ัง และก็ มานั่งเป็นผู้บริหารในตำแหน่งใหญ่โต แต่ทำอะไรก็ไม่เป็น แบบน้ีก็มีเยอะมาก อันน้ีคงไม่ต้องยกตวั อยา่ งพบไดท้ ว่ั ไป ๓. ผบู้ ริหารร่างทรง นเ่ี ปน็ ศพั ทท์ ท่ี นั สมยั มาก ผบู้ รหิ ารนอมนิ หี รอื รา่ งทรง ก็แล้วแต่คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ถ้าชักใยอยู่เบื้องหลังเก่ง 42 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานให้สมั ฤทธิ์

ก็ดีไป ถ้าชักใยอยู่เบื้องหลังไม่เก่งเบื้องหน้าก็ไม่เก่งก็จบ ไปดว้ ยกนั ทงั้ ข้างหน้าและขา้ งหลงั เดี๋ยวนี้เมืองไทยของเราก็จะมีผู้บริหารแบบนี้ อยู่เยอะมาก คือผู้บริหารประเภทร่างทรงหรือนอมินี ตอนนี้คนทรงตกงานหมด เพราะว่า คนทรงนี้เสกอะไร ไม่ค่อยได้ แต่ว่าผู้บริหารที่เป็นร่างทรงหรือนอมินีนี้ เสกได้ทุกอย่าง เมื่อหลายสิบปีก่อนเราอาจบอกว่า รัฐมนตรีใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลงเล่นการเมืองใครๆ ก็อยากเป็นรัฐมนตรี แต่เดี๋ยวนี้ไม่อยากเป็นแล้วเพราะ เกิดการค้นพบความลับทางการเมืองใหม่ เป็นรัฐมนโท นี่แหละคืออยู่เบื้องหลังนายกรัฐมนตรีนี้ ใหญ่กว่าเยอะ และตัดสินใจอะไรก็ได้ ลงงบได้แค่ไหนก็ได้ไม่ต้องรับผิด ชอบดว้ ย ผู้บริหารร่างทรง ถ้าข้างหลังเก่งข้างหน้าก็เก่ง แต่ ถ้าข้างหลังไม่เก่งข้างหน้าไม่เก่งก็ไปไม่ได้ หรือข้างหน้าเก่ง แต่ขา้ งหลังไมเ่ ก่งกไ็ ปไม่ได้อีก ฉะนัน้ ผบู้ รหิ ารแบบทส่ี ามก็ ไมเ่ ปน็ ตัวของตัวเองเลย ว.วชิรเมธี 43

๔. ผูน้ ำการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารคือผู้นำการเปลี่ยนแปลง นี่จึงเป็น ของจรงิ เปน็ ตวั ของตวั เองกลา้ ทา้ ทายกลา้ เสย่ี ง มบี คุ ลกิ ภาพ พิเศษทีเ่ รียกกันว่า charisma leader เห็นปุบ๊ รูเ้ ลย คนคน นี้ช่างมีเสน่ห์มีแรงดึงดูด ลุกขึ้นพูดลุกขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ทว่ งทลี ลี าในการบรหิ าร เรยี กวา่ คนในองคก์ รเหน็ แลว้ อนุ่ อก อนุ่ ใจ เหมอื นกับ บารัก โอบามา วันที่เขาชนะเลิศเขาประกาศชัยชนะที่ ชิคาโก อาตมาจำได้ดีช่วงที่กำลังหาเสียงกันเป็นช่วงที่อาตมา ได้เดินสายบรรยายธรรมที่สหรัฐอเมริกาเกือบเดือนก็ ได้เห็นบรรยากาศ ช่วงที่เขาไปบอสตัน อาตมาก็อยู่ที่นั่น ช่วงที่ไปชิคาโกอาตมาก็อยู่ที่นั่นเรียกว่า ลูกศิษย์ เป็นห่วงพระอาจารย์กลัวว่าจะตกเทรนด์ ซื้อตั๋วให้ไปฟัง อาตมาก็อยากจะรู้ว่าอะไรกันนักกันหนานะกับคนคนหนึ่ง ที่ชิคาโกอาตมาก็ได้ไป อยู่ไกลๆ ไม่กล้าเข้าไปใกล้หรอก อยู่ไกลๆ ไปดูบรรยากาศ สนามฟุตบอลที่ใหญ่โตจุคน ได้หลายหมื่นคนนี้ คนเต็มหมดแล้ว ทั้งที่ซื้อตั๋วเข้าไปฟัง 44 บรหิ ารคนให้สำราญ บริหารงานให้สมั ฤทธ์ิ

เพราะว่าต้องช่วยเขาหาเสียงต้องจ่ายเงินเข้าไปฟังแล้ว แทบไม่มีที่ยืน ไปฟัง ส.ว. หนุ่มคนหนึ่งพูด ลูกศิษย์ ซื้อตั๋วให้อาตมาตั้งห้าใบอาตมาก็อยากจะรู้ว่าทำไมผู้ชาย คนนี้ถึงมีเสน่ห์นัก เราก็ไปยืนดูอยู่ไกลๆ ก็เห็นท่วงทีลีลา ที่เขาพูดที่เขาปรากฏตัว เรารู้สึกชัดเลยว่าผู้นำที่เรียกว่า charisma leader แม้แต่มองไกลๆ ก็สัมผัสได้ถึงแรง ดงึ ดดู ดังนั้นในทันทีที่เขาชนะจึงมีผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้ โอบามายนื ชดิ ขอบเวทีจบั มอื คณุ ปา้ คณุ ครบั คณุ รอ้ งไหท้ ำไม ผมชนะแล้ว ผมชนะแล้วไม่ต้องลุ้นแล้วนะ คุณป้าบอกว่า ที่ฉันร้องไห้นี้ เพราะว่าฉันรู้สึกว่าวันที่รอมันช่างยาวนาน ใจฉันอยากให้คุณเป็นประธานาธิปดีตั้งแต่วันแรกๆ ที่ลงหาเสียงด้วยซ้ำไป ฉันรอวันนี้แทบไม่ไหวเพราะฉันให้ คุณเปน็ มาต้ังแต่ตน้ แลว้ โอบามาซึ้งน้ำตาไหล เขาก็ถามว่า คุณป้าให้ผม เป็นได้อย่างไร ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณป้าบอก ไม่รู้สิ แต่เห็นหุ่นก็อุ่นใจแล้ว นี่คือ charisma leader ว.วชิรเมธี 45

ผู้นำที่มีศักยภาพพิเศษ ทั้งบุคลิก สติปัญญา วิสัยทัศน์ การปรากฏตัวแล้วก็สำคัญที่สุดคือจิตสำนึก มารวมกัน ได้อยา่ งลงตัว ยิ่งในช่วงที่จะมีการประกาศชัยชนะนั้น เป็นช่วงที่ คณุ ยายโอบามาเสยี ประมาณสามสว่ี นั เขากลบั ไปอยกู่ บั ยาย บุคลิกภาพแบบนี้เป็นบุคลิกภาพที่อเมริกันชนนั้น ไมไ่ ดพ้ บมานานมาก ตลอดแปดปขี องรฐั บาลจอรจ์ ดบั เบลิ ยู บชุ ซ่งึ นำพาอเมรกิ าเข้าสู่สงคราม บุกอฟั กานิสถาน บุกอิรัก แล้วก็ถูกบินลาเดนถล่ม ตลอดเวลาแปดปีนั้นอเมริกันชน นี้เบื่อสุดๆ แล้ว แม้กระทั่งว่า รถยางแตกในนิวยอร์ค ตกใจกนั ไปทัง้ เมอื ง ชว่ งน้ันชาวอเมรกิ ันกลวั มาก แต่พอโอบามามาถึงปับ๊ เขากไ็ ด้นำพาประเทศไปอกี ทางหนง่ึ เปน็ ผชู้ ายท่ีfamilymanอบอนุ่ สนใจคนเลก็ คนนอ้ ย แลว้ ทกุ ครง้ั ทล่ี กุ ขน้ึ พดู กส็ ะกดผฟู้ งั ไดท้ ง้ั หมด แลว้ นน่ั เปน็ เหตใุ ห้ทำงานไดเ้ พยี งเกา้ เดอื นกไ็ ดร้ บั การเสนอชือ่ ใหไ้ ดร้ บั รางวัลโนเบลสาขาสันตภิ าพ คนที่มีโอกาสเช่นนี้มีสองคนในโลก ต่างก็เป็น 46 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานให้สัมฤทธิ์

ประธานาธิบดีด้วยแล้วก็มีของแถมเป็นรางวัลโนเบลซึ่ง เป็นรางวัลสูงสุดของโลก คนแรกคือ เนลสัน มันเดลา และคนท่ีสองคือ บารกั โอบามา ในปีนั้นทุกคนก็รู้สึกว่านโยบายมันจะไม่ change ตามท่ีแถลงไว้ แต่ปีนปี้ รากฏว่า Change พระราชบัญญัติ สขุ ภาพกด็ ี นโยบายเรอ่ื งอาวธุ นวิ เคลยี รซ์ ง่ึ มกี ารตอ่ ตา้ นกด็ ี การแก้วิกฤติเศษฐกจิ ก็ดี เรม่ิ เหน็ ผลมากขึน้ ๆ นี่คือตัวอย่างของผู้บริหารในแบบผู้นำการเปลี่ยน แปลง กล่าวคือมีวิสัยทัศน์ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง มี นโยบายทนี่ ำไปสู่การเปล่ียนแปลง มแี ผนปฏิบตั ิการท่ีนำ ไปสกู่ ารเปลย่ี นแปลง และทส่ี ำคญั ทส่ี ดุ เขาสามารถเปลย่ี น วธิ คี ดิ ของคนทง้ั สงั คมได้ จากการทอ่ี เมรกิ นั เปน็ ตำรวจโลก ก็เปลี่ยนใหม่ บอกว่าอเมริกันไม่ต้องเป็นตำรวจโลกหรอก เหนื่อย เป็นแค่ส่วนหนึ่งของโลกดีกว่า คนอเมริกันเมื่อใช้ ท่าทีนี้ ประเทศอื่นผ่อนคลายเลย ความรู้สึกในเชิงที่จะถูก กดจากอเมรกิ านี้ ผอ่ นคลายหมด ดังนั้นเมื่อเดือนที่แล้วมีการสำรวจทัศนคติของ ว.วชิรเมธี 47

ประชาคมโลกต่อสหรัฐอเมริกาผลก็คือ ดัชนีภาพลักษณ์ ของอเมริกาตีตื้นขึ้นมาในรอบสี่สิบปีองค์กรโลกเล่นบท ตำรวจโลก จรงิ หรอื ไมจ่ รงิ เปน็ อกี เรอ่ื งหนง่ึ แตใ่ นแงข่ องการ ประชาสัมพันธ์ถือว่าเขาทำสำเร็จ นี้แหละก็คือ changing leader ผู้นำที่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารที่กล้าที่จะ เปล่ียนแปลง เราทกุ คนกเ็ ปน็ ผบู้ รหิ ารกนั อยแู่ ลว้ เราสามารถเลอื ก รปู แบบการบรหิ ารได้วา่ จะเอาแบบไหนจะเอาแบบตม้ ยำกไ็ ด้ คือรวมๆ กันไปเลยสี่อย่างนี้ขอให้เหลือฉันหนึ่ง และฉันก็ จะกลายเป็นผู้บริหารแบบใหม่ คือหนึ่งต้องดีสุดหรือไม่ก็ ประหลาดไปเลย แล้วแต่ว่าจะเขย่าให้มันลงตัวได้อย่างไร ถ้าเขย่าให้ลงตัวก็จะเป็นผู้บริหารที่วิเศษมากแต่ถ้าเขย่าไม่ ลงตัวกอ็ าจออกมาประหลาดได้ นค่ี อื ผบู้ รหิ ารสองแบบใหญๆ่ แตก่ ม็ แี ปดแบบยอ่ ยๆ ท่นี ำมาบอกเลา่ เกา้ สิบเพอ่ื ท่ีจะไดท้ บทวนกนั ว่า เรานัน้ เปน็ ผู้บริหารประเภทไหนกันแน่ เป็นประเภทผู้อาวุโสที่เอาแต่ รอวนั เกษยี ณ เปน็ ประเภทผดู้ ำรงตำแหนง่ ทเ่ี อาแตเ่ กาะเกา้ อ้ี 48 บริหารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานใหส้ ัมฤทธ์ิ

เปน็ ประเภทรา่ งทรงหรอื นอมนิ ที แ่ี ลว้ แตค่ นชกั ใยจะสง่ั การ หรือเปน็ ประเภท changing leader ที่เม่ือลกุ ขึน้ มาบรหิ าร แล้วกล้าที่จะประกาศว่าในยุคสมัยของฉันจะเกิดความ เปล่ียนแปลงในดา้ นใดบ้าง ลองทบทวนดูแล้วก็เลือกเอาแบบของผู้บริหารที่ ตนเองประทับใจ ว.วชิรเมธี 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook