Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เมฆที่มองไม่เห็น

เมฆที่มองไม่เห็น

Published by Thalanglibrary, 2020-12-22 03:04:22

Description: รวมบทความเกี่ยวกับเมฆ พิมพ์ครั้งแรก 24 มิถุนายน 2555 สารบัญ - เมฆบ้า อิกคิวซัง - การดูเมฆเบื้องต้น - การทับศัพท์ชื่อเมฆเป็นภาษาไทย - เมฆในตำราพิชัยสงคราม - เมฆในพระไตรปิฎก พระคริสตธรรมคัมภีร์ และพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน - การดูทรงกลดเบื้องต้น - การเขียนทับศัพท์ halo แบบต่าง ๆ เป็นภาษาไทย

Search

Read the Text Version

เมฆท่มี องไม่เหน็ โดย พงศธร กิจเวช (อฐั ) ผ้อู าํ นวยการสถานีหางดง เชียงใหม่ 1

เมฆท่มี องไม่เหน็ โดย พงศธร กิจเวช (อฐั ) ผ้อู ํานวยการสถานีหางดง เชียงใหม่ พมิ พ์ครัง้ แรก 24 มถิ นุ ายน 2555 หนงั สอื เลม่ นีแ้ จกฟรี และไมส่ งวนลขิ สทิ ธิ์สาํ หรับเผยแพร่เพ่อื การศกึ ษา สามารถดาวน์โหลดได้ท่ี https://skydrive.live.com/?cid=229E6A28EDC0BA76&id=229E6A28EDC0BA76%21122 ทา่ นสามารถสนบั สนนุ ผ้เู ขียนได้โดยการให้คาํ แนะนาํ ตชิ ม หรืออาจบริจาคเงินเข้าบญั ชี นายพงศธร กิจเวช ธนาคารกรุงเทพ สาขากาดสวนแก้ว เลขที่บญั ชี 531-0-29798-0 ขอขอบพระคณุ มา ณ โอกาสนี ้(^_^) ภาพประกอบทงั้ หมดในที่นใี ้ ช้เพอ่ื การศกึ ษาเทา่ นนั้ All images are for education only. ภาพปกหน้า : อาทิตย์ทรงกลดแบบผลกึ พรี ะมดิ (pyramidal crystal halo) อาทิตย์ทรงกลดทหี่ ายากชนดิ หนง่ึ 15 สงิ หาคม 2553 เวลา 15:57:37 น. อ.หางดง เชียงใหม่ กล้อง Canon PowerShot SX10 IS, 1/1250 วินาท,ี f/8, ISO 80 ถา่ ยโดยผ้เู ขยี น 2

คาํ นํา วนั นคี ้ ณุ มองท้องฟ้ าหรือยงั ? ตงั้ แตเ่ ดก็ ผมชอบมองดดู าว และไมช่ อบเวลามีเมฆมาบงั ดาว จะชอบเมฆบ้างบางครัง้ ที่รู้สกึ วา่ เมฆช่วยทาํ ให้ท้องฟ้ าสวย เหน็ เมฆ เป็ นแคเ่ พยี งองค์ประกอบหนง่ึ ในท้องฟ้ ากว้างใหญ่เทา่ นนั้ ตอนเริ่มเลน่ Facebook ใหม่ ๆ ประมาณปลายปี 2553 เห็นเพอื่ นบางคนไปคลกิ Like กลมุ่ “ชมรมคนรักมวลเมฆ” ที่ก่อตงั้ โดย ดร.บญั ชา ธนบญุ สมบตั ิ ผมลองเข้าไปดู เห็นมรี ูปเมฆสวย ๆ แปลก ๆ อยมู่ าก อาจารย์บญั ชาและสมาชิกหลายคนก็มาช่วยกนั ให้ความรู้เรื่อง เมฆ ทาํ ให้ผมเริ่มสนใจเมฆมากขนึ ้ จดุ เปลย่ี นสาํ คญั ทที่ าํ ให้ผมหนั มาศกึ ษาเร่ืองเมฆอยา่ งจริงจงั ขนึ ้ เกิดเมอ่ื วนั ท่ี 26 มถิ นุ ายน 2553 ตอนบา่ ย ผมกําลงั ขบั รถ มอเตอร์ไซค์นาํ ทางรถยนต์ของเพอ่ื น ท่จี ะมาดจู นั ทรุปราคาแถวบ้านผม ขณะเลยี ้ วรถขนึ ้ เนนิ เลก็ ๆ ในหมบู่ ้านธารดง เชียงใหม่ สายตาผมก็ มองขนึ ้ ฟ้ าโดยบงั เอญิ ทนั ใดนนั้ ได้เห็นเมฆ mamma (แมมมา, เมฆเต้านม) ขนาดใหญ่มากอยเู่ บอื ้ งหน้า ตอนนนั้ รู้สกึ อศั จรรย์เป็ นทสี่ ดุ ขนลกุ ซทู่ งั้ ตวั ไมเ่ คยคาดคดิ มากอ่ นวา่ จะได้เหน็ อะไรอยา่ งนี ้ หลงั จากนนั้ เป็ นต้นมาผมกเ็ ริ่มศกึ ษาเร่ืองเมฆจากหนงั สอื และเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ หนงั สอื บางเลม่ จําเป็ นต้องสงั่ ซอื ้ จากตา่ งประเทศ ยิ่ง ศกึ ษาก็ยง่ิ พบวา่ มเี ร่ืองนา่ สนใจเกี่ยวกบั เมฆมากมาย เราอาจเดินทางไกลเพ่ือไปสมั ผสั ความงามของธรรมชาตติ ามสถานทตี่ า่ ง ๆ แตค่ วามงามและความอศั จรรย์ของธรรมชาตนิ นั้ อาจพบ ได้โดยไมต่ ้องเดนิ ทาง เพียงเราแหงนหน้ามองขนึ ้ ไปบนท้องฟ้ า “เมฆทมี่ องไมเ่ ห็น” คือเมฆที่เราไมม่ อง เม่ือไมม่ องจงึ ไมเ่ ห็น หนงั สอื เลม่ นเี ้ป็ นการรวบรวมบทความตา่ ง ๆ เกี่ยวกบั เมฆทผ่ี มเคยเขยี นไว้ตงั้ แต่ 19 กนั ยายน 2553 จนถงึ 24 มถิ นุ ายน 2555 3

ขอขอบคณุ • พระเจ้าท่ีทรงสร้างเมฆและปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ บนท้องฟ้ า • คณุ พอ่ พนิ ิจ กจิ เวช และคณุ แม่ ภทั รวดี กจิ เวช ผ้สู ง่ เสริมการอา่ นมาตงั้ แตผ่ มป็ นเดก็ • ดร.บญั ชา ธนบุญสมบัติ ผ้กู อ่ ตงั้ “ชมรมคนรักมวลเมฆ” ทาํ ให้ผมได้เข้าสดู่ นิ แดนแหง่ ความรู้ใหม่ http://cloudloverclub.com • Gavin Pretor-Pinney ผ้กู ่อตงั้ The Cloud Appreciation Society http://cloudappreciationsociety.org • Luke Howard ผ้ตู งั้ ชื่อเมฆ และบกุ เบิกการศกึ ษาเร่ืองเมฆ • องค์การอุตุนิยมวทิ ยาโลก (World Meteorological Organization) ที่นยิ ามและให้ความรู้เรื่องเมฆ • Les Cowley ผ้กู อ่ ตงั้ เวบ็ ไซต์ Atmospheric Optics ให้ความรู้เกี่ยวกบั ปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ บนท้องฟ้ า http://www.atoptics.co.uk • เวบ็ ไซต์, หนงั สอื และนติ ยสารทกุ เลม่ ท่ีให้ความรู้เรื่องเมฆและปรากฏการณ์บนท้องฟ้ า • เหม่ียว กบั ตก๊ิ ที่มาดจู นั ทรุปราคาแถวบ้านผม ทาํ ให้ได้เห็นเมฆ mamma ขนาดใหญ่ เป็ นจดุ เปลย่ี นสาํ คญั ในชีวติ ผม • คณุ จันทรา กจิ เวช ภรรยาของผม ผ้อู ยเู่ คียงข้างเวลามองท้องฟ้ า หากทา่ นผ้อู า่ นมีความคิดเหน็ คาํ แนะนาํ หรือเห็นสงิ่ ใดผดิ พลาดบกพร่อง ขอความกรุณาชว่ ยแจ้งให้ผมทราบ เพอ่ื จะได้ปรับปรุง แก้ไขตอ่ ไป ขอขอบพระคณุ มา ณ ท่นี ี ้ หวงั วา่ หนงั สอื เลม่ นคี ้ งมีสว่ นชว่ ยให้ทกุ ทา่ นได้มองท้องฟ้ าด้วยความรู้สกึ อศั จรรย์ พงศธร กิจเวช (อฐั ) 4

เมฆแมมมา (mamma) ท่เี ปลยี่ นชีวิตผม 26 มิถนุ ายน 2010 เวลา 19:00:04 น., อ.หางดง เชียงใหม่ กล้อง Canon PowerShot SX10 IS, 1/125 วินาท,ี f/4, ISO 80, Day light 5

ภาพขยาย 6

ภาพขยาย และปรับ contrast ให้เห็นชดั เจนขนึ ้ แตล่ ะเต้ามขี นาดประมาณ 1-3 กิโลเมตร 7

สถานีหางดง เชียงใหม่ ก่อตงั้ เม่ือ 22 เมษายน 2554 โดย พงศธร กิจเวช (อฐั ) เป็ นสถานีเอกชนทศ่ี กึ ษาปรากฏการณ์การณ์ตา่ ง ๆ บนท้องฟ้ า ทงั้ ปรากฏการณ์ทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยา และปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ เช่น เมฆ, ทรงกลด (halo และ corona), รุ้ง, ดาว, ดวงอาทิตย์, จดุ มืดดวงอาทติ ย์ (sunspot), ดวงจนั ทร์, สรุ ิยปุ ราคา, จนั ทรุปราคา, ดาวตก ฯลฯ ทกุ วนั ในเวลา 7.00 และ 13.00 น. หรือเวลาท่ีมีปรากฏการณ์พเิ ศษ ทางสถานีจะถ่ายรูปแตล่ ะทศิ คือ ทิศเหนือ ใต้ ตะวนั ออก ตะวนั ตก และกลางศีรษะ และถา่ ยวดี โิ อ 360 องศาหมนุ รอบตวั หลงั จากนนั้ จะจดั ทําเป็ นรายงานประจําวนั ทาง Facebook จดั ทาํ รายงาน ประจําเดือนและประจาํ ปี, จดั ทําบทความวชิ าการทางอตุ นุ ิยมวิทยาและดาราศาสตร์ ให้ดาวน์โหลดฟรีในรูปแบบไฟล์ PDF นอกจากนีย้ งั จดั กิจกรรมบรรยายเกี่ยวกบั การดเู มฆและการดดู าวเบือ้ งต้น (รวมทงั้ นทิ านดาว) ให้เดก็ นกั เรียน นกั ศกึ ษา และประชาชนทว่ั ไป ตามโรงเรียน มหาวิทยาลยั และสถานท่ีตา่ ง ๆ รวมทงั้ ให้บริการภาพถ่ายและวดี โิ อต้นฉบบั โดยไมค่ ดิ คา่ ใช้จา่ ยใด ๆ ในปี 2555 นี ้สถานีหางดง เชียงใหม่ ร่วมกบั ศนู ยอ์ ตุ นุ ิยมวทิ ยาภาคเหนอื กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา, ภาควิชาภมู ศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม,่ สาํ นกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต 1, สาํ นกั งานเขตพนื ้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต 4, สาํ นกั งานเขตพนื ้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 34 และเทศบาลนครเชียงใหม่ จดั โครงการเดก็ ดูเมฆ ให้ความรู้เรื่องเมฆตามหลกั สตู รใหม่ ของกระทรวงศกึ ษาธิการคอื หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ให้กบั เดก็ นกั เรียน ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 และมธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1 ในจงั หวดั เชียงใหม่ สถานีหางดง เชียงใหม่ 88/172 หมู่ 8 ต.บ้านแหวน อ.หางดง เชียงใหม่ 50230 โทรศพั ท์ 08 1531 8541, 0 5333 6217 อเี มล [email protected] เว็บไซต์ http://www.facebook.com/hangdongstation http://www.youtube.com/hangdongstation 8

พงศธร กจิ เวช (อฐั ) เกิด วนั พฤหสั บดีที่ 4 สงิ หาคม 2509 การศึกษา ปริญญาตรี สาขาบรรณารักษศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ผลงาน บทความ เรื่องสนั้ บทกวี ลงพิมพ์ในนติ ยสารเพอ่ื นเดก็ , วารสารถนนดนตรี, หนงั สอื พิมพ์ผ้จู ดั การ, หนงั สอื พิมพ์พลเมืองเหนือ, หนงั สอื ต้อนรับน้องใหมข่ ององค์การบริหารสโมสรนิสติ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั และสหกรณ์จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , หนงั สอื ศิลปศาสตร์ 30 ปี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, หนงั สอื และจลุ สารของชมุ นมุ วรรณศลิ ป์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, จลุ สารไม้ขีด มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ และรูปภาพลงในนติ ยสารสารคดี ปัจจุบนั เป็ นผ้อู าํ นวยการสถานีหางดง เชียงใหม,่ นกั เขียน และนกั วชิ าการอิสระ ติดต่อ 88/172 หมู่ 8 ต.บ้านแหวน อ.หางดง เชียงใหม่ 50230 โทรศพั ท์ 08 1531 8541, 0 5333 6217 อเี มล [email protected] เว็บไซต์ 1. พงศธร กิจเวช (อฐั ) http://www.facebook.com/atphongsathon http://www.facebook.com/lovethisman123 http://www.youtube.com/lovethisman123 2. สถานีหางดง เชยี งใหม่ http://www.facebook.com/hangdongstation 3. คนดูดาว http://www.facebook.com/khondudao http://www.facebook.com/groups/114988275219013 4. โครงการมังสวิรัตเิ ชียงใหม่ http://www.facebook.com/chiangmaivegetarian2006 5. ลัดดาแลนด์ (สถานท่ีจริง) 2513 http://www.facebook.com/laddaland2513 9

บทความของพงศธร กิจเวช (อฐั ) เรียงตามลาํ ดบั เวลาที่พมิ พ์ครัง้ แรก 1. เมฆเศวตฉตั รในก้านกล้วย พิมพ์ครัง้ แรก 19 กนั ยายน 2553, พมิ พ์ครัง้ ท่ี 4 ปรับปรุงและเพ่มิ เตมิ 24 มิถนุ ายน 2555 2. เมฆในพระไตรปิ ฎก พระคริสตธรรมคัมภรี ์ และพระมหาคัมภรี ์อลั กุรอาน พมิ พ์ครัง้ แรก 31 ตลุ าคม 2553, พมิ พ์ครัง้ ที่ 2 ปรับปรุง 24 มิถนุ ายน 2555 3. เมฆในตาํ ราพชิ ยั สงคราม พิมพ์ครัง้ แรก 14 พฤศจิกายน 2553, พิมพ์ครัง้ ท่ี 2 ปรับปรุง 24 มิถนุ ายน 2555 4. เมฆบ้า อิกคิวซัง พิมพ์ครัง้ แรก 15 พฤศจิกายน 2553 พิมพ์ครัง้ ที่ 3 ปรับปรุง 24 มิถนุ ายน 2555 5. halo, corona, ฯลฯ กบั ปัญหาการนิยามของราชบัณฑติ ยสถาน พมิ พ์ครัง้ แรก 21 ธนั วาคม 2553, พมิ พ์ครัง้ ที่ 2 แก้ไขและเพิ่มเตมิ 29 ธนั วาคม 2553 6. การทบั ศัพท์ช่อื เมฆเป็ นภาษาไทย พมิ พ์ครัง้ แรก 28 มกราคม 2554, พมิ พ์ครัง้ ที่ 11 ปรับปรุงแก้ไขและเพ่ิมเติม 24 มถิ นุ ายน 2555 7. ความคดิ เห็นเร่ือง คาํ ศพั ท์เก่ียวกบั เมฆในหนังสอื พจนานุกรมศพั ท์ภมู ศิ าสตร์ ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พิมพ์ครัง้ แรก 29 มกราคม 2554 8. การใช้โปรแกรม Google Earth หาตาํ แหน่งพกิ ดั ภมู ศิ าสตร์ พมิ พ์ครัง้ แรก 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2554 9. การใช้โปรแกรม HaloSim จาํ ลองการเกิด halo (วงแสง, ทรงกลด) เบอื้ งต้น พมิ พ์ครัง้ แรก 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2554 10. การใช้โปรแกรม Stellarium หาความสงู ของดวงอาทติ ย์และดวงจนั ทร์ พิมพ์ครัง้ แรก 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2554 11. ศพั ท์อุตุนิยมวทิ ยาเก่ียวกับเมฆ พิมพ์ครัง้ แรก 22 เมษายน 2554, พมิ พ์ครัง้ ท่ี 2 ปรับปรุง 17 พฤษภาคม 2554 12. ลัดดาแลนด์ (สถานท่ีจริง) : เวลาและความเปล่ียนแปลง พิมพ์ครัง้ แรก 2 มถิ นุ ายน 2554 แก้ไขและปรับปรุง 23 มถิ นุ ายน 2554 13. การทบั ศพั ท์ halo แบบต่าง ๆ เป็ นภาษาไทย พิมพ์ครัง้ แรก 22 มถิ นุ ายน 2554, พมิ พค์ รัง้ ท่ี 7 ปรับปรุง 24 มถิ นุ ายน 2555 14. การแก้ปัญหาตวั อักษรเป็ นส่ีเหล่ียมในโปรแกรม Stellarium พมิ พ์ครัง้ แรก 10 กรกฎาคม 2554 15. การดเู มฆเบอื้ งต้น พิมพค์ รัง้ แรก 9 กนั ยายน 2554, พิมพ์ครัง้ ท่ี 4 ปรับปรุง 24 มิถนุ ายน 2555 16. อาทติ ย์ทรงกลดในภาพยนตร์เร่ือง “ตาํ นานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” พิมพ์ครัง้ แรก 14 สงิ หาคม 2554, พิมพ์ครัง้ ท่ี 7 ปรับปรุง 24 มิถนุ ายน 2555 17. เมฆในหนังสอื เรียน พมิ พค์ รัง้ แรก 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 พิมพ์ครงั้ ท่ี 2 เพิ่มเตมิ 24 มิถนุ ายน 2555 18. การดทู รงกลดเบือ้ งต้น พมิ พ์ครัง้ แรก 20 มีนาคม 2555 พิมพ์ครงั้ ที่ 2 ปรับปรุงและเพม่ิ เตมิ 24 มถิ นุ ายน 2555 สามารถดาวน์โหลด (ฟรี) ได้ที่ https://skydrive.live.com/?cid=1abaa53681bf9ae0&sc=documents&id=1ABAA53681BF9AE0%21103 10

สารบญั คํานํา หน้า 3 สถานหี างดง เชียงใหม่ 8 ประวตั ผิ ้เู ขยี น 9 เมฆทมี่ องไมเ่ ห็น 1. เมฆบ้า อกิ คิวซงั 12 2. การดเู มฆเบือ้ งต้น 16 3. การทบั ศพั ท์ชื่อเมฆเป็ นภาษาไทย 70 4. เมฆในตําราพิชยั สงคราม 88 5. เมฆในพระไตรปิ ฎก พระคริสตธรรมคมั ภีร์ และพระมหาคมั ภรี ์อลั กรุ อาน 92 6. การดทู รงกลดเบือ้ งต้น 119 7. การเขยี นทบั ศพั ท์ halo แบบตา่ ง ๆ เป็ นภาษาไทย 147 11

เมฆบ้า อกิ ควิ ซัง พิมพ์ครัง้ แรก 15 พฤศจิกายน 2553 พิมพ์ครัง้ ท่ี 3 ปรับปรุง 24 มถิ นุ ายน 2555 การ์ตนู เณรน้อยเจ้าปัญญา ทมี่ า : เวบ็ ไซต์ทางการของอิกควิ ซงั ( 一休さん) Toei Animation http://www.toei-anim.co.jp/lineup/tv/ikkyu 12

\"อกิ ควิ ซัง” (Ikkyu san, 一休さん) หรือชื่อภาษาไทย \"เณรน้อยเจ้าปัญญา\" เป็ นการ์ตนู ทวี ีญ่ีป่ นุ ในดวงใจเรื่องหนงึ่ ออกอากาศ ในประเทศญ่ีป่ นุ 15 ตลุ าคม ค.ศ. 1975 - 28 มิถนุ ายน 1982 รวม 296 ตอน ตอ่ มาออกอากาศในประเทศไทยทางช่อง 3 ประสบความสาํ เร็จ อยา่ งมาก จนออกอากาศซาํ ้ อีกหลายครัง้ เป็ นเรื่องเก่ียวกบั เณรในพทุ ธศาสนานกิ ายเซนของญี่ป่ นุ ชอ่ื \"อกิ ควิ \" ท่มี สี ตปิ ัญญาหลกั แหลม คอยแก้ปัญหาตา่ ง ๆ นอกจากนยี ้ งั ได้ สอดแทรกเรื่องตา่ ง ๆ เช่น ความรักของแมล่ กู ปรัชญาชีวิตและสงั คม ความรู้ อารมณ์ขนั ฯลฯ ทําให้เป็ นการ์ตนู ท่ที งั้ สนกุ และได้สาระ และทนี่ า่ สนใจอยา่ งย่ิงก็คอื \"อิกคิว\" นนั้ มตี วั ตนจริง ๆ ภาพอกิ คิว โดยลกู ศษิ ย์ของอกิ ควิ ช่ือ โบกไุ ซ (Bokusai) ท่ีมา : http://www.asiamodena.it/appuntiyoga/ay/006/ay6.6.html 13

วดั องั โคะคุ (Ankoku-ji) เมืองฟกู ยุ ามา จงั หวดั ฮิโรชิมา ประเทศญ่ีป่ นุ เป็ นวดั ทอ่ี ิกคิวบวช ที่มา : http://en.wikipedia.org/wiki/Ankoku-ji อิกคิวตวั จริงเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1394 และเสยี ชวี ติ ปี 1481 หรือประมาณ 500 กวา่ ปี มาแล้ว เป็ นพระเซนทมี่ ีชื่อเสยี งที่สดุ รูปหนง่ึ เป็ นผ้มู ี อิทธิพลอยา่ งมากตอ่ ศลิ ปะและวรรณกรรมแบบเซนของญ่ีป่ นุ ด้วยพฤติกรรมแปลกประหลาด แหวกประเพณี ตอ่ ต้านและเสยี ดสสี งั คม อกิ ควิ ยงั เป็ นกวอี ีกด้วย มนี ามปากกาคอื \"เมฆบ้า\" บทกวบี ทหนงึ่ ของอิกควิ ช่ือ “บทโศลกแหง่ เมฆบ้า\" \"เมฆขาวพราวฟ้ า บ้าคลง่ั ละลอ่ งลอย ระร่ืนไหล ไอระเหย ละลอ่ งลวิ ้ พลวิ ้ แรงลม มาชมเชย หยาดฝนเอย คือ หยาดฟ้ านา่ ช่ืนชม” (แปลโดย สวุ นิ ยั ภรณวลยั ) 14

ชีวิตของอกิ ควิ นนั้ ไมธ่ รรมดาและนา่ ศกึ ษาอยา่ งยิง่ ลองหาอา่ นดนู ะขอรับ ข้อมลู เพ่มิ เตมิ : 1. วกิ ิพเี ดีย :เณรน้อยเจ้าปัญญา http://th.wikipedia.org/wiki/เณรน้อยเจ้าปัญญา 2. วกิ ิพเี ดีย : อิกคิว โซจนุ http://th.wikipedia.org/wiki/อิกควิ _โซจนุ 3. Wikipedia: Ikkyu http://en.wikipedia.org/wiki/Ikkyu 4. Toei Animation : 一休さんhttp://www.toei-anim.co.jp/lineup/tv/ikkyu (ภาษาญี่ป่ นุ ) 5. สวุ นิ ยั ภรณวลยั . พระบ้า เมฆบ้า. http://www.onopen.com/2006/01/582 6. สวุ นิ ยั ภรณวลยั . ยอดคนพทุ ธทาส Intergral Buddha ชวี ประวัติพทุ ธทาสภกิ ขุ ฉบบั ท่าพระจันทร์. กรุงเทพฯ : มงั กรบรู ณา, 2550. พระบ้า เมฆบ้า. 7. โคงเุ ร, มาซาโอะ. อิกคิวซงั ตวั จริง / แปลโดย พรอนงค์ นยิ มค้า. พมิ พ์ครัง้ ที่ 2. กรุงเทพฯ : ทวิ ลปิ , 2550. 15

การดเู มฆเบอื้ งต้น พิมพ์ครัง้ แรก 9 กนั ยายน 2554, พมิ พ์ครัง้ ท่ี 4 ปรับปรุง 24 มิถนุ ายน 2555 “จงมองดทู ้องฟ้ าเถิด ดเู มฆซงึ่ อยสู่ งู กวา่ ทา่ น” พระคริสตธรรมคมั ภรี ์ โยบ 35: 5 ภาพถ่ายโดยผ้เู ขียน 4 พฤษภาคม 2011, เวลา 07:17:42 น., อ.หางดง เชียงใหม,่ กล้อง Canon PowerShot SX10 IS, 1/80 วนิ าท,ี f/8, ISO 80 16

มนษุ ย์กบั เมฆเป็ นของคกู่ นั ถ้าไมม่ เี มฆก็ไมม่ ฝี น ไมม่ ฝี นก็ไมม่ นี าํ ้ ไมม่ นี าํ ้ ก็ไมม่ ีอาหาร ไมม่ ีอาหารเราก็ไมส่ ามารถมชี ีวติ อยไู่ ด้ การดเู มฆเป็ นเร่ืองมปี ระโยชน์มาก ชว่ ยให้เราสามารถทาํ นายสภาพอากาศ เชน่ จะมีฝนตกไหม ชว่ ยให้ปลอดภยั จากฟ้ าผา่ ชว่ ยให้รู้จกั และ รักธรรมชาติมากยง่ิ ขนึ ้ เป็ นกจิ กรรมที่สนกุ สนาน ได้เพลดิ เพลนิ กบั ความงามและความอศั จรรย์ของเมฆ สะดวก ดไู ด้ทกุ เวลา ทกุ สถานท่ี และ ประหยดั ไมต่ ้องใช้อปุ กรณ์ใด ๆ เลย เมฆ (cloud) คอื ไอนํา้ ในอากาศกลน่ั ตวั เป็ นหยดนาํ ้ เลก็ ๆ หรือเป็นนาํ ้ แขง็ อาจมอี นภุ าคของแขง็ ในควนั หรือฝ่ นุ ด้วย ถ้าเกิดติดกบั พนื ้ ดนิ จะเรียกวา่ “หมอก” เราอาจเร่ิมต้นดเู มฆโดยสงั เกต 1. รูปร่าง เป็ นก้อน, เป็ นแผน่ หรือเป็ นฝอย อาจดวู า่ เหมือนอะไร 2. ขนาด ใหญ่หรือเลก็ 3. สี ขาว เทา ดํา เขียว เหลอื ง แดง ฯลฯ หรือสรี ุ้ง 4. ความหนา เมฆบงั ดวงอาทติ ย์หรือดวงจนั ทร์จนมองไมเ่ ห็นหรือเปลา่ 5. ความสงู วดั จากพนื ้ ดนิ ถึงฐานเมฆ และวดั จากฐานเมฆถงึ ยอดเมฆ อาจเทยี บกบั ภเู ขา ตกึ ฯลฯ 6. จาํ นวน เตม็ ท้องฟ้ าไหม 7. การเรียงตัว เป็ นระเบยี บหรือเปลา่ มีซ้อนกนั ไหม 8. การเปล่ยี นแปลง รูปร่าง, ขนาด, สี ฯลฯ 9. การเคล่อื นท่ี อยกู่ บั ที่หรือเปลา่ 10. ทศิ ทาง ลอยไปไหน 11. ความเร็ว มากหรือน้อย 12. ของแถม มีปรากฏการณ์อ่ืน ๆ ด้วยไหม เชน่ ฝน, ฟ้ าผา่ , รุ้ง, ทรงกลด ฯลฯ เมฆรูปช้าง ถา่ ยเมอื่ 5 มีนาคม 2005 รัฐ Georgia ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Ben Kennedy (Bravo_Kilo) ที่มา : http://www.flickr.com/photos/fly_tosser/15570103/ 17

ภาพโลกมองจากอวกาศ เหน็ เมฆมากมาย ถา่ ยโดยนกั บนิ อวกาศยาน Apollo 17 เมือ่ วนั ท่ี 7 ธนั วาคม ค.ศ. 1972 ขณะเดนิ ทางไปดวงจนั ทร์ เป็ นภาพโลกท่มี ชี ่ือเสยี งมากที่สดุ ภาพหนง่ึ ทม่ี า : http://nssdc.gsfc.nasa.gov/imgcat/html/object_page/a17_h_148_22727.html เมฆไมไ่ ด้มเี ฉพาะในโลกเทา่ นนั้ ภาพนเี ้ป็ นภาพดาวพฤหสั บดี (Jupiter) ทีป่ กคลมุ ไปด้วยเมฆ ถ่ายโดยยานอวกาศ Cassini เม่อื วนั ท่ี 7 ธนั วาคม ค.ศ. 2000 ที่มา : http://solarsystem.nasa.gov//multimedia/display.cfm?IM_ID=9523 18

การเรียกช่ือเมฆ เพอื่ ให้เข้าใจงา่ ย ผมแบง่ ชื่อเมฆเป็ น 2 ประเภทคอื 1. ช่ือเลน่ 2. ชื่อจริง ตวั อยา่ ง ช่ือเลน่ : mares' tail (เมฆหางม้าตวั เมยี ) ชื่อจริง : Cirrus uncinus (ซีร์รัส อนั ไซนสั ) ภาพเมฆ Cirrus uncinus จาก The Cloud Appreciation Society โดย Frank Howie ที่มา : http://cloudappreciationsociety.org/collecting/frank-howie/ ช่ือเลน่ คอื ช่ือทีค่ นทว่ั ไปตงั้ ขนึ ้ โดยดวู า่ เหมอื นมีรูปร่างเหมอื นอะไรจากตวั อยา่ งข้างต้น ฝรั่งเหน็ วา่ เมฆเหมือนหางม้าตวั เมีย จึง เรียกวา่ เมฆหางม้าตวั เมยี เน่อื งจากแตล่ ะคนอาจเห็นเมฆเป็ นรูปร่างตา่ งกนั เช่น ฝร่ังเห็นเป็ นหางม้า คนไทยอาจเหน็ เป็ นตะขอ, เส้นผมทีง่ อ ตรงปลาย ฯลฯหรือบางครัง้ ก็บอกไมถ่ กู วา่ เมฆก้อนนนั้ มีรูปร่างเหมอื นอะไร ดงั นนั้ จงึ มกี ารตงั้ ชื่อจริง เพ่ือให้เป็ นมาตรฐานเดยี วกนั ทวั่ โลก จะได้ สะดวกในการศกึ ษาและการนาํ ไปใช้ 19

ผ้ทู ีร่ ิเริ่มตงั้ ชื่อเมฆให้เป็ นมาตรฐานเดียวกนั นีค้ ือ ชอง-แบปตสิ ต์ ลามาร์ก (Jean-Baptiste Lamarck, ค.ศ. 1744-1829) นกั ธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส ได้เสนอช่ือเมฆไว้ในวารสาร Annuaire météorologique เลม่ 3 ปี 1802 แตช่ ื่อทล่ี ามาร์กตงั้ นนั้ (เป็นภาษา ฝรั่งเศส) ไมไ่ ด้รับการยอมรับ ในปี เดยี วกนั ลุก โฮเวิร์ด (Luke Howard, ค.ศ. 1772-1864) นกั อตุ นุ ยิ มวิทยาสมคั รเลน่ ชาวองั กฤษ ได้เสนอ เรื่องการตงั้ ช่ือเมฆตอ่ สมาคมเอสกีเซยี น (Askesian Society) และพมิ พ์เป็ นหนงั สอื ช่ือ \"Essay on the Modifications of Clouds\" ในปี ตอ่ มา คือ ค.ศ. 1803 หนงั สอื เลม่ นสี ้ ามารถอา่ นและดาวน์โหลด (ฟรี) ได้ท่ี Google Books (เป็ นฉบบั พมิ พ์ครัง้ ท่ี 3 ค.ศ. 1865) ไฟล์ PDF 77 หน้า 4.7 MB http://books.google.com/books?id=HvADAAAAQAAJ&dq=Essay+on+the+Modifications+of+Clouds&pg=PR3#v=onepage&q& f=false ภาพ Luke Howard วาดโดย John Opie ปัจจบุ นั ภาพนีเ้ก็บอยทู่ ่ี Royal Meteorological Society ประเทศองั กฤษ ท่ีมา : http://www.rmets.org/cloudbank/detail.php?ID=105 โฮเวริ ์ดได้ตงั้ ชื่อเมฆไว้ 7 ชนดิ คือ Cirrus, Cumulus, Stratus, Cirro-cumulus, Cirro-stratus, Cumulo-stratus และ Cumulo-cirro- stratus (หรืออีกชื่อหนง่ึ คือ Nimbus) ช่ือสว่ นใหญ่ที่โฮเวิร์ดตงั้ ขนึ ้ เราก็ยงั ใช้กนั อยจู่ นถงึ ทกุ วนั นี ้โดยมีผ้ปู รับปรุงและเพม่ิ เตมิ 20

ช่ืออยา่ งเป็ นทางการของเมฆในปัจจบุ นั นนั้ กําหนดโดย องค์การอุตุนิยมวทิ ยาโลก (World Meteorological Organization หรือยอ่ วา่ WMO) ซง่ึ เป็ นหนว่ ยงานหนงึ่ ของสหประชาชาติ ลา่ สดุ นนั้ อยใู่ นหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 ค.ศ. 1975 แบง่ เมฆเป็ น 1. Genera 10 สกลุ 2. Species 14 ชนดิ 3. Varieties 9 พนั ธ์ุ 4. Supplementary features 6 ลกั ษณะเสริม 5. Accessory clouds 3 เมฆประกอบ 6. Mother-clouds 16 เมฆแม่ 7. Special clouds 8 เมฆพิเศษ ชื่อจริงนมี ้ ลี กั ษณะคล้ายชื่อวิทยาศาสตร์ (scientific name หรือ binomial nomenclature) ที่ใช้กบั พืชและสตั ว์ โดยช่ือสกลุ จะ ขนึ ้ ต้นด้วยตวั อกั ษรตวั ใหญ่ ตา่ งกนั ตรงทชี่ ื่อเมฆบางครัง้ อาจจะมเี ฉพาะชื่อสกลุ อยา่ งเดยี วก็ได้ หรืออาจเพมิ่ เติมชื่อชนิด, พนั ธ์,ุ ลกั ษณะเสริม, เมฆประกอบ และเมฆแม่ เข้าไปด้วยก็ได้ ตวั อยา่ งช่ือเมฆ Cirrus spissatus cumulonimbogenitus มีชื่อสกลุ Cirrus (ตวั อกั ษรภาษาองั กฤษตวั แรกของชื่อสกลุ จะใช้ตวั ใหญเ่ สมอ) ชื่อชนิด spissatus และช่ือเมฆแม่ cumulonimbogenitus 21

1. สกุล (genera) ในเบอื ้ งต้นเราอาจเริ่มจาํ เมฆ 10 สกลุ หลกั (แบง่ ตามลกั ษณะเมฆและความสงู จากระดบั นาํ ้ ทะเล) 1.1 Cirrus (ซรี ์รัส) ยอ่ วา่ Ci เป็ นเส้นหรือปยุ สขี าว อยสู่ งู 1.2 Cirrocumulus (ซีร์โรคิวมวิ ลสั )* ยอ่ วา่ Cc เห็นเป็ นก้อนเลก็ ๆ สขี าว อยสู่ งู 1.3 Cirrostratus (ซีร์โรสเตรตสั ) ยอ่ วา่ Cs เป็ นมา่ นสขี าว อยสู่ งู ทาํ ให้เกิดอาทิตย์ทรงกลดและจนั ทร์ทรงกลด 1.4 Altocumulus (แอลโตคิวมวิ ลสั )* ยอ่ วา่ Ac เป็ นก้อนสขี าวหรือสเี ทา อยสู่ งู ปานกลาง 1.5 Altostratus (แอลโตสเตรตสั ) ยอ่ วา่ As เป็ นแผน่ สเี ทาหรือสนี ํา้ เงิน อยสู่ งู ปานกลาง 1.6 Nimbostratus (นิมโบสเตรตสั ) ยอ่ วา่ Ns เป็ นแผน่ สเี ทาหรือสดี ํา อยสู่ งู ปานกลาง หนา บงั ดวงอาทติ ยจ์ นไมเ่ ห็น มกั มฝี น 1.7 Stratocumulus (สเตรโตคิวมวิ ลสั )* ยอ่ วา่ Sc เป็ นแผน่ สเี ทาหรือสขี าว ฐานไมเ่ รียบ อยตู่ ํา่ 1.8 Stratus (สเตรตสั ) ยอ่ วา่ St เป็ นแผน่ สเี ทา ฐานเรียบอยตู่ า่ํ 1.9 Cumulus (คิวมวิ ลสั )*ยอ่ วา่ Cu เป็ นก้อนสขี าว ฐานสดี าํ อยตู่ า่ํ 1.10 Cumulonimbus (คิวมิวโลนมิ บสั )* ยอ่ วา่ Cb เป็ นเมฆสงู ใหญ่ ฐานอยตู่ าํ่ และมกั มสี ดี าํ ยอดอยสู่ งู อาจมีฟ้ าผา่ * คาํ ภาษาไทยในวงเลบ็ ทม่ี เี ครื่องหมายดอกจนั * เป็ นคาํ ทท่ี บั ศพั ท์ตา่ งจากพจนานุกรมศัพท์ภมู ศิ าสตร์ ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2549 เพ่ือให้ใกล้เคยี งกบั การออกเสยี งภาษาองั กฤษมากยงิ่ ขนึ ้ รายละเอียดดไู ด้จากบทความของผมเรื่อง “การทบั ศพั ท์ช่ือเมฆเป็ น ภาษาไทย” 22

เมฆ 10 สกุล เมฆชัน้ สงู 6-18 กิโลเมตรจากพนื ้ ดนิ ซรี ์รัส ซีร์โรควิ มิวลสั ซีร์โรสเตรตสั เมฆชัน้ กลาง 2-8 กิโลเมตรจากพนื ้ ดิน แอลโตคิวมวิ ลสั แอลโตสเตรตสั นิมโบสเตรตสั เมฆชนั้ ต่าํ ฐานไมเ่ กิน 2 กิโลเมตรจากพืน้ ดนิ สเตรโตคิวมวิ ลสั สเตรตสั ควิ มวิ ลสั ควิ มิวโลนิมบสั ทีม่ าของภาพ : หนงั สอื International Cloud Atlas Volume II. Geneva : World Meteorological Organization, 1987. 23

ความแตกต่างท่สี าํ คญั สรุปจากหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 26-52 • Cirrus เป็ นเส้นใยหรือแผน่ เรียบเงา แต่ Cirrocumulus เป็ นเมด็ เลก็ ๆ สว่ น Altocumulus เป็ นก้อน • Cirrus ไมต่ อ่ เนอ่ื ง หรือเป็ นแถบแคบ แต่ Cirrostratus จะตอ่ เนอ่ื งเป็ นแผน่ ใหญ่ หรือเป็ นมา่ น • Cirrus ที่หนาไมข่ ยายทางแนวนอนเหมอื น Altostratus • Cirrus มสี ขี าว แต่ Altostratus สเี ทา • Cirrocumulus แตล่ ะก้อนจะเลก็ กวา่ 1 องศา (เลก็ กวา่ ความกว้างของนวิ ้ ก้อย เม่อื เหยียดแขนให้สดุ และเมฆอยสู่ งู กวา่ 30 องศา จากขอบฟ้ า) • Cirrocumulus จะไมม่ ีเงา แต่ Altocumulus มีเงา • Cirrostratus เรียบกวา่ Cirrocumulus และ Altocumulus • Cirrostratus บางกวา่ Altostratus และ Cirrostratus ไมบ่ งั ดวงอาทิตย์จนมองไมเ่ หน็ • Cirrostratus ทําให้เกิดอาทติ ย์ทรงกลดหรือจนั ทร์ทรงกลดแบบเฮโล่ (halo) ได้ แต่ Altostratus และ Stratus ไมเ่ กิดทรงกลด (ยกเว้น Stratus ท่ีเย็นจดั อาจเกิดทรงกลดได้) • Cirrostratus มีสขี าว แต่ Altostratus และ Stratus มีสเี ทา • Altocumulus แตล่ ะก้อนจะมขี นาด 1-5 องศา แต่ Stratocumulus (แตล่ ะก้อนยอ่ ย) และ Cumulus จะใหญ่กวา่ 5 องศา (ใหญ่กวา่ ความกว้างของ 3 นวิ ้ คอื นวิ ้ ชี ้นวิ ้ กลาง และนวิ ้ นาง รวมกนั ) • Nimbostratus มสี เี ทาเข้มกวา่ Altostratus และ Nimbostratus จะบงั ดวงอาทติ ยจ์ นมองไมเ่ ห็นเสมอ • Stratus ไมท่ าํ ให้เกิดฝน (rain), หิมะ หรือลกู เห็บ แตอ่ าจมฝี นละออง (drizzle) • Cumulonimbus เป็ นเมฆชนดิ เดยี วท่ที าํ ให้เกิดฟ้ าผา่ ฟ้ าแลบ ฟ้ าร้อง และลกู เห็บ 24

ตารางการแยกแยะสกุลเมฆ จากหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 70-71 ลกั ษณะ Ci Cc Cs Ac As Ns Sc St Cu Cb รูปร่ างและการรวมกล่ ุม แยกกนั ในลกั ษณะแบนราบ....................................................................... กอ่ ตวั แนวตงั้ ด - แยกกนั ………………………………………………………………………. ด ด ด ด บบ - ฐานเดียวกนั …………………………………………………………………. ด ด บาง, เป็ นเส้นแยกกนั ………………………………………………………….. บ ด ด บาง, รวมกลมุ่ หรือปลายเป็ นตะขอ หรือเป็ นปยุ ……………………………... บ แผอ่ อกเป็ นแผน่ หรือชนั้ แตล่ ะก้อนยอ่ ยมีความกว้าง - น้อยกวา่ 1 องศา…………………………………………………………….. ส - ระหวา่ ง 1-5 องศา…………………………………………………………… - มากกวา่ 5 องศา…………………………………………………………….. บ แผอ่ อกเป็ นมา่ น........................................................................................ ส ส สส บ โครงสร้างและพืน้ ผวิ เรียบลน่ื มนั วาว………………………………………………………………... บ ด ด ย เส้นใย...................................................................................................... บ ดดด เม็ดเลก็ ๆ................................................................................................. ย บ ด ลอนคลนื่ .................................................................................................. บดดด รุ่งริ่ง......................................................................................................... ดด ดด ฐานเรียบ.................................................................................................. บ บบ บบด ฐานแผก่ ว้าง............................................................................................. ดบ ด ด ความหนา บาง สามารถเห็นดวงอาทติ ย์หรือดวงจนั ทร์………………………………….. บ บ ส ด โปร่งแสง เห็นเพียงตาํ แหนง่ ของดวงอาทติ ย์หรือดวงจนั ทร์............................ ด ด บบ ดดด ดดด ทบึ แสง .................................................................................................... ดบสบบบส เงา ไมม่ ีเงา..................................................................................................... บ ส บ ด ดดด มีเงาบางสว่ น............................................................................................ ด ดบดดบดบบ มเี งาทงั้ หมด............................................................................................. ดบบดบ ด ลกั ษณะเสริมและเมฆประกอบ Incus………………………………………………………………………….. ย Mamma………………………………………………………………………. ด ด ดด ด ด Virga………………………………………………………………………….. ด Praecipitatio ดบบด ดด ฝนตกเป็ นระยะ ๆ หรือตอ่ เนอื่ ง……………………………………………….. ดบดด ฝนซหู่ รือฝนไลช่ ้าง (showers) ตกและหยดุ ฉบั พลนั เปลย่ี นความแรงอยา่ งเร็ว ดบ 25

ลักษณะ Ci Cc Cs Ac As Ns Sc St Cu Cb Arcus…………………………………………………………………………. ดบ Tuba…………………………………………………………………………... Pileus…………………………………………………………………………. ดด ดด Velum…………………………………………………………………………. ดด Pannus……………………………………………………………………….. ดบ ดบ นํา้ ท่ตี กลงมา ฝน (rain).................................................................................................. ดบด ด ดบ ฝนละออง (drizzle)................................................................................... หมิ ะ......................................................................................................... ดดดดดด ลกู ปรายหิมะ (snow pellets)………………………………………………… ด ดด เม็ดหิมะ (snow grains)………………………………………………………. ด ลกู ปรายนาํ ้ แข็ง (ice pellets)………………………………………………… ดด ด ลกู เห็บ..................................................................................................... ด ปรากฏการณ์แสง ทรงกลดแบเฮโล่ (halo)……………………………………………………….. ด บด ดย ทรงกลดแบบคอโรนา (corona)……………………………………………… ดดบด ดดด สรี ุ้ง (irisation)………………………………………………………………… ด ด ด รุ้งกินนาํ ้ (rainbow)…………………………………………………………… ดด ปรากฏการณ์ไฟฟ้ า ฟ้ าผา่ ฟ้ าแลบ ฟ้ าร้อง................................................ ด ความหมายของตวั ยอ่ ส เป็ นลกั ษณะสาํ คญั ของเมฆสกลุ นนั้ บ เกิดบอ่ ย เป็ นปกติ ด เกิดได้บางครงั้ ย เกิดเฉพาะตรงยอดเมฆ 26

2. ชนิด (species) แบง่ ตามรูปร่างและโครงสร้างภายในเมฆ การบอกช่ือเมฆแตล่ ะครัง้ จะระบชุ นดิ ได้เพียงชนิดเดียวเทา่ นนั้ 2.1 fibratus (ไฟเบรตสั ) เป็ นเส้นใย 2.2 uncinus (อนั ไซนสั ) ปลายเป็นตะขอ 2.3 spissatus (สปิ สเซตสั ) หนา 2.4 castellanus (แคสเทลเลนสั ) สว่ นบนสงู เหมอื นป้ อมปราการ 2.5 floccus (ฟลอกคสั ) ปยุ หรือกระจกุ 2.6 stratiformis (สแตรตฟิ อร์มิส) แผแ่ นวนอน 2.7 nebulosus (เนบิวโลซสั ) เหมือนมา่ น ไมเ่ ห็นรายละเอยี ด 2.8 lenticularis (เลนตคิ วิ ลาริส) คล้ายเลนส์ มกั ยาวเรียว 2.9 fractus (แฟรกตสั ) เศษเลก็ เศษน้อยไมเ่ ป็ นระเบียบ ขาดรุ่งริ่ง 2.10 humilis (ฮิวมลิ สิ ) สงู เพยี งเลก็ น้อย มกั แบน 2.11 mediocris (มดี โี อคริส) สงู ปานกลาง ยอดมีโหนกเลก็ ๆ 2.12 congestus (คอนเจสตสั )สงู มาก ยอดคล้ายกะหลา่ํ ดอก 2.13 calvus (แคลวสั ) ยอดเมฆมเี ส้นขอบไมช่ ดั เจน 2.14 capillatus (แคพิลเลตสั ) ยอดเป็ นเส้นใยคล้ายผมหรือทง่ั ตเี หลก็ 3. พนั ธ์ุ (varieties) แบง่ ตามการจดั เรียงตวั ของอนภุ าคใหญแ่ ละความโปร่งของเมฆ ช่ือเมฆอาจระบไุ ด้หลายพนั ธ์พุ ร้อมกนั 3.1 intortus (อนิ ตอร์ตสั ) เส้นยงุ่ เหยงิ 3.2 vertebratus (เวอร์ทิเบรตสั ) คล้ายกระดกู ซโี่ ครงหรือก้างปลา 3.3 undulatus (อนั ดเู ลตสั ) เป็ นคลน่ื 3.4 radiatus (เรดเี อตสั ) เป็ นแนวเส้นรัศมจี ากขอบฟ้ า 3.5 lacunosus (ลาควิ โนซสั ) มหี ลมุ ดคู ล้ายตาขา่ ยหรือรังผงึ ้ 3.6 duplicatus (ดพู ลเิ คตสั ) ตา่ งระดบั ซ้อนกนั 3.7 translucidus (แทรนส์ลซู ดิ สั ) โปร่งแสงพอเห็นตาํ แหนง่ ดวงอาทติ ย์หรือดวงจนั ทร์ 3.8 perlucidus (เพอร์ลซู ิดสั ) มชี อ่ งเลก็ ๆ ระหวา่ งเมฆ ให้มองเหน็ ดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์ สนี ํา้ เงินของท้องฟ้ า หรือเมฆที่เหนือขนึ ้ ไป 3.9 opacus (โอเพคสั ) บงั ดวงอาทติ ย์หรือดวงจนั ทร์ได้หมด 27

4. ลกั ษณะเสริม (supplementary features) 4.1 incus (อิงคสั ) ยอดเมฆ Cumulonimbus ทีแ่ ผอ่ อกเป็ รูปทง่ั 4.2 mamma (แมมมา) ถงุ ห้อยใต้เมฆ คล้ายเต้านม 4.3 virga (เวอร์กา) สายฝน หิมะ หรือนาํ ้ ฟ้ าอน่ื ๆ ที่ตกไมถ่ งึ พืน้ 4.4 praecipitatio (พรีซิพเิ ตชีโอ) นาํ ้ ฟ้ า เช่น ฝน หมิ ะ ลกู เหบ็ ฯลฯ ท่ตี กถึงพนื ้ 4.5 arcus (อาร์คสั ) ม้วนหนาแนวนอน ใต้สว่ นหน้าของเมฆ 4.6 tuba (ทบู า) ลาํ หรือกรวยควา่ํ ยื่นลงมาจากฐานเมฆ 5. เมฆประกอบ (accessory clouds) 5.1 pileus (ไพลอี สั ) คล้ายหมวก อยเู่ หนอื หรือตดิ กบั สว่ นบนของมฆ 5.2 velum (วีลมั ) มา่ นแนวนอน อยเู่ หนือหรือติดกบั สว่ นบนของมฆ 5.3 pannus (แพนนสั ) เศษรุ่งรุ่งอยใู่ ต้หรือตดิ กบั เมฆอื่น 6. เมฆแม่ (mother-clouds) คอื เมฆทีท่ ําให้เกิดเมฆสกลุ อื่น มี 2 แบบคือ 6.1 genitus (เจนติ สั ) เพยี งบางสว่ นของเมฆนนั้ กลายเป็ นเมฆสกลุ ใหม่ ตวั อยา่ งเช่น เมฆ Cirrus ทเ่ี กดิ จากบางสว่ นของเมฆ Altocumulus จะเรียกวา่ Cirrus altocumulogenitus 6.1.1 cirrocumulogenitus (ซรี ์โรควิ มวิ โลเจนติ สั ) 6.1.2 altocumulogenitus (แอลโตคิวมวิ โลเจนติ สั ) 6.1.3 altostratogenitus (แอลโตสเตรโตเจนติ สั ) 6.1.4 nimbostratogenitus (นิมโบสเตรโตเจนติ สั ) 6.1.5 stratocumulogenitus (สเตรโตควิ มวิ โลเจนติ สั ) 6.1.6 cumulogenitus (ควิ มวิ โลเจนติ สั ) 6.1.7 cumulonimbogenitus (ควิ มวิ โลนมิ โบเจนติ สั ) 28

6.2 mutatus (มวิ เตตสั ) ทงั้ หมดหรือสว่ นใหญ่ของเมฆกลายเป็ นเมฆสกลุ อ่นื ตวั อยา่ งเชน่ เมฆ Cirrostratus ทงั้ หมดกลายเป็ นเมฆ Cirrus จะเรียกวา่ Cirrus cirrostratomutatus 6.2.1 cirromutatus (ซีร์โรมิวเตตสั ) 6.2.2 cirrocumulomutatus (ซีร์โรควิ มวิ โลมวิ เตตสั ) 6.2.3 cirrostratomutatus (ซีร์โรสเตรโตมวิ เตตสั ) 6.2.4 altocumulomutatus (แอลโตควิ มวิ โลมวิ เตตสั ) 6.2.5 altostratomutatus (แอลโตสเตรโตมวิ เตตสั ) 6.2.6 nimbostratomutatus (นิมโบสเตรโตมวิ เตตสั ) 6.2.7 stratocumulomutatus (สเตรโตคิวมวิ โลมวิ เตตสั ) 6.2.8 stratomutatus (สเตรโตมวิ เตตสั ) 6.2.9 cumulomutatus (คิวมิวโลมิวเตตสั ) 7. เมฆพิเศษ (special clouds) 7.1 nacreous (เนครีอสั ) หรือเมฆมกุ คล้ายเมฆ Cirrus หรือ Altocumulus lenticularis แตส่ งู กวา่ คือ 21-30 กิโลเมตร มสี รี ุ้งชดั เจนคล้ายหอยมกุ เห็นชดั เจนเมอื่ ดวงอาทติ ย์อยใู่ ต้เส้นขอบฟ้ า เมฆนีอ้ ยสู่ งู พบใกล้ขวั้ โลก เชน่ ยโุ รปตอนเหนอื 7.2 noctilucent (นอกตลิ เู ซนต์) หรือเมฆสกุ ใส คล้ายเมฆ Cirrus แตอ่ ยสู่ งู กวา่ มากคอื 75-90 กิโลเมตร มกั มีสนี าํ ้ เงินหรือสเี งิน บางครัง้ อาจมสี สี ้มหรือแดง เหน็ ได้ในเวลากลางคนื โดยเฉพาะตอนใกล้เท่ยี งคนื จะสวา่ งขนึ ้ พบใกล้ขวั้ โลก 7.3 condensation trail (คอนเดนเซชนั เทรล) หรือ contrail (คอนเทรล) เป็ นเมฆท่เี กิดจากเครื่องบนิ 7.4 เมฆทเี่ กิดจากนาํ ้ ตก 7.5 เมฆทเ่ี กิดจากไฟไหม้ 7.6 เมฆทเี่ กิดจากภเู ขาไฟระเบดิ 7.7 เมฆทเี่ กิดจากอตุ สาหกรรม 7.8 เมฆทเ่ี กิดจากการระเบดิ 29

คาํ นิยามของเมฆตา่ ง ๆ โดยละเอียด ภาษาไทยสามารถอา่ นได้ทีเ่ วบ็ ไซต์กรมอตุ ุนิยมวิทยา : ศัพท์อุตุนิยมวทิ ยา http://www.tmd.go.th/met_dict.php ภาษาองั กฤษ จากหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 อา่ นได้ที่ Facebook ของสถานหี างดง เชียงใหม่ http://www.facebook.com/media/set/?set=a.231538480230337.77760.179685445415641&type=3 หรือ http://www.facebook.com/hangdongstation คลกิ Photos > See All > International Cloud Atlas เมฆอ่นื ๆ ท่นี ่าสนใจ เป็ นเมฆที่ไมม่ ใี นหนงั สอื International Cloud Atlas asperatus (แอสเพอเรตสั ) เมฆ Altocumulus หรือ Stratocumulus คล้ายคลน่ื หรือคล้าย undulattus ผสม mamma dissipation trail (ดสิ ซิปเพชนั เทรล) หรือ distrail (ดสิ เทรล) ชอ่ งวา่ งระหวา่ งเมฆทเ่ี กดิ จากเครื่องบนิ ลกั ษณะตรงข้ามกบั คอนเทรล Kelvin-Helmholtz (เคลวนิ -เฮลม์ โฮลตซ์) คล้ายม้วนคลนื่ Morning Glory (มอร์นิงกลอรี) เมฆม้วนแนวนอนขนาดใหญ่ พบทางเหนอื ของ Queensland ประเทศออสเตรเลยี 30

ตารางการจัดหมู่เมฆ (cloud classification) จากหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 13 31

ตารางช่ือย่อและสญั ลกั ษณ์ของเมฆ จากหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 14 32

ตารางการจดั หมู่เมฆ (cloud classification) ดดั แปลงจากหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 13-23 Genera Ci Cc Cs Ac As Ns Sc St Cu Cb Species fibratus (fib) + + uncinus (unc) + spissatus (spi) + castellanus (cas) + + + + floccus (flo) ++ + stratiformis (str) ++ + nebulosus (neb) + + lenticularis (len) ++ + fractus (fra) ++ humillis (hum) + mediocris (med) + congestus (con) + calvus (cal) + capillatus (cap) + Varieties intortus (in) + vertebratus (ve) + undulatus (un) ++++ ++ radiatus (ra) + ++ + + lacunosus (la) ++ + duplicatus (du) + +++ + translucidus (tr) ++ ++ perlucidus (pe) ++ opacus (op) ++ ++ Supplementary features incus (inc) + mamma (mam) + + ++ + + virga (vir) + ++++ ++ praecipitatio (pra) ++++++ arcus (arc) ++ tuba (tub) ++ Accessory clouds pileus (pil) ++ velum (vel) ++ pannus (pan) ++ ++ + คอื เกดิ กบั เมฆสกลุ นนั้ ตวั อยา่ งการใช้ตาราง uncinus เกิดกบั เมฆ Cirrus เทา่ นนั้ เรียกวา่ Cirrus uncinus ไมม่ ี Cirrocumulus uncinus, Cirrostratus uncinus, Altocumulus uncinus ฯลฯ 33

ความหมายของช่ือเมฆ (รากศพั ท์ภาษาละตนิ ) เรียบเรียงจากหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 133-134 1. Genera (สกุล) Cirrus – กระจกุ หรือปอยผม ขนม้า ขนนก Cirrocumulus – มาจากคาํ วา่ cirrus และ cumulus Cirrostratus – มาจากคาํ วา่ cirrus และ stratus Altocumulus – มาจากคาํ วา่ altum แปลวา่ สงู , อากาศชนั้ บน และคําวา่ cumulus Altostratus – มาจากคาํ วา่ altum และ stratus Nimbostratus – มาจากคาํ วา่ nimbus แปลวา่ เมฆฝน และคาํ วา่ stratus Stratocumulus – มาจากคาํ วา่ stratus และ cumulus Stratus – ขยาย, แผอ่ อก, แบน, ปกคลมุ Cumulus – สะสม, กอง Cumulonimbus - – มาจากคาํ วา่ cumulus และ nimbus 2. Species (ชนิด) fibratus – เส้นใย uncinus – ตะขอ spissatus – ทําให้หนา, บีบ castellanus – ปราสาท, ป้ อมปราการ floccus – ปยุ ขนแกะ, ขนออ่ น stratiformis – มาจากคําวา่ stratus และ forma รูปแบบ, ปรากฏ nebulosus – หมอก lenticularis – เม็ดถวั่ fractus – แตก humilis – ใกล้พืน้ ดิน, ตา่ํ , เลก็ mediocris – ขนาดกลาง congestus – กองสงู ขนึ ้ , สะสม calvus – (หวั ) ล้าน, ถอด, เปิดออก capillatus – มีเส้นผม 34

3. Varieties (พนั ธ์ุ) intortus – พวั พนั vertebratus – มีกระดกู สนั หลงั undulatus – คลน่ื radiatus – แผร่ ังสี lacunosus – มหี ลมุ หรือรอยยน่ duplicatus – สองเทา่ , ซาํ ้ translucidus – โปร่งใส perlucidus – ยอมให้แสงผา่ น opacus – ร่มเงา, หนา 4. Supplementary features (ลกั ษณะเสริม) incus – ทงั่ ตีเหลก็ mamma – เต้านม, หน้าอก virga – กิ่งก้าน praecipitatio – ตก (หน้าผา) arcus – โค้ง, ซุ้มโค้ง tuba – แตร, หลอด, ทอ่ 5. Accessory clouds (เมฆประกอบ) pileus – หมวก velum – ใบเรือ, แผน่ รอง, เตน็ ท์ pannus – เศษผ้า, ผ้าขีร้ ิว้ 35

แผนผงั แสดงเมฆแม่ (mother-clouds) ผมสร้างโดยใช้ข้อมลู จากตารางในหนงั สอื International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 13 ตวั อยา่ งการใช้แผนผงั : เมฆ Cirrocumulus (Cc) บางสว่ นกลายเป็ นเมฆ Cirrus (Ci) เรียกเมฆทเี่ กิดใหมว่ า่ Cirrus cirrocumulogenitus เมฆ Cirrocumulus (Cc) ทงั้ หมดหรือสว่ นใหญ่กลายเป็ นเมฆ Cirrostratus (Cs) เรียกเมฆทเี่ กิดใหมว่ า่ Cirrostratus cirrocumulomutatus 36

รหสั เมฆ (codes) เพื่อประโยชน์ในการรายงานสภาพท้องฟ้ า จงึ กําหนดรหสั เมฆไว้ดงั นี ้ CL คอื เมฆ Stratocumulus, Cumulus และ Cumulonimbus CL = 0 ไมม่ เี มฆ Stratocumulus, Cumulus หรือ Cumulonimbus CL = 1 Cumulus humillis หรือ fractus สภาพอากาศดี CL = 2 Cumulus mediocis หรือ congestus CL = 3 Cumulonimbus calvus CL = 4 Stratocumulus cumulogenitus CL = 5 Stratocumulus ทีไ่ มใ่ ช่ Strotocumulus cumulogenitus CL = 6 Stratus nebulosus หรือ fractus สภาพอากาศดี CL = 7 Stratus fractus หรือ Cumulus fractus สภาพอากาศไมด่ ี CL = 8 Cumulus และ Stratocumulus (ทไ่ี มใ่ ช่ Stratocumulus cumulogenitus) อยคู่ นละระดบั CL = 9 Cumulonimbus capillatus CL = / ไมส่ ามารถเหน็ เมฆ CL เน่อื งจากความมดื , หมอก, ฝ่ นุ หรือสาเหตอุ ่นื ๆ CM เมฆ Altocumulus, Altostratus และ Nimbostratus CM = 0 ไมม่ เี มฆ Altocumulus, Altostratus หรือ Nimbostratus CM = 1 Altostratus translucidus CM = 2 Altostratus opacus หรือ Nimbostratus CM = 3 Altocumulus translucidus ระดบั เดยี ว CM = 4 แผน่ Altocumulus translucidus (มกั เป็ น lenticularis) กําลงั เปลยี่ นแปลงอยา่ งตอ่ เน่ือง CM = 5 Altocumulus translucidus หรือ opacus กําลงั แผข่ ยาย CM = 6 Altocumulus cumulogenitus CM = 7 Altocumulus translucidus หรือ opacus ตงั้ แต่ 2 ชนั้ ขนึ ้ ไป, หรือ Altocumulus opacus ชนั้ เดียว ที่ไมแ่ ผข่ ยาย หรือ Altocumulus อยกู่ บั Altostratus หรือ Nimbostratus CM = 8 Altocumulus castellanus หรือ floccus CM = 9 Altocumulus ในท้องฟ้ าทีส่ บั สน (chaotic sky) มกั มหี ลายระดบั CM = / ไมส่ ามารถเหน็ เมฆ CM เน่ืองจากความมดื , หมอก, ฝ่ นุ หรือสาเหตอุ ื่น ๆ 37

CH เมฆ Cirrus, Cirrocumulus และ Cirrostratus CH = 0 ไมม่ ีเมฆ Cirrus, Cirrocumulus และ Cirrostratus CH = 1 Cirrus fibratus บางครัง้ เป็ น uncinus ไมแ่ ผข่ ยาย CH = 2 Cirrus spissatus (ทไี่ มใ่ ช่ Cirrus spissatus cumulonimbogenitus), Cirrus castellanus หรือ floccus CH = 3 Cirrus spissatus cumulonimbogenitus CH = 4 Cirrus uncinus หรือ fibratus กาํ ลงั แผข่ ยาย CH = 5 Cirrostratus กําลงั แผข่ ยาย แตไ่ มถ่ งึ 45 องศา จากขอบฟ้ า CH = 6 Cirrostratus กําลงั แผข่ ยายเกิน 45 องศา จากขอบฟ้ า CH = 7 Cirrostratus ปกคลมุ ทงั้ ท้องฟ้ า CH = 8 Cirrostratus ไมแ่ ผข่ ยาย และไมป่ กคลมุ ทงั้ ท้องฟ้ า CH = 9 Cirrocumulus CH = / ไมส่ ามารถเห็นเมฆ CH เนือ่ งจากความมดื , หมอก, ฝ่ นุ หรือสาเหตอุ น่ื ๆ สญั ลกั ษณ์รหสั เมฆ ทีม่ า : International Cloud Atlas เลม่ 1 หน้า 102 38

Cumulus humilis และ Cumulus fractus CL = 1, CM = 0, CH = 0 ทมี่ า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 5 Stratocumulus stratiformis translucidus CL = 5, CM = /, CH = / ทีม่ า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 25 39

Stratus nebulosus CL = 6, CM = /, CH = / ที่มา : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 29 Cumulonimbus capillatus, Cumulus congestus และ Cumulus mediocris CL = 9, CM = 6, CH = 0 ท่มี า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 39 40

Altostratus translucidus CL = 0, CM = 1, CH = / ท่มี า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 49 Nimbostratus และ Stratus fractus CL = 7, CM = 2, CH = / ท่มี า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 53 41

Altocumulus stratiformis translucidus perlucidus CL = 0, CM = 3, CH = 0 ทมี่ า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 57 Altocumulus stratiformis perlucidus undulatus CL = 0, CM = 5, CH = 0 ทมี่ า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 68 42

Cirrus fibratus และ Cirrus uncinus CL = 0, CM = 0, CH = 1 ทมี่ า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 89 Cirrostratus translucidus fibratus CL = 1, CM = 0, CH = 7 ทมี่ า : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 113 43

Cirrocumulus stratiformis undulatus CL = 0, CM = 0, CH = 9 ที่มา : International Cloud Atlas เลม่ 2 หน้า 117 Cumulonimbus tuba จากพายุ tornado รัฐ Oklahoma ประเทศสหรัฐอเมริกา 3 พฤษภาคม 1999 โดย Daphne Zaras ท่ีมา : http://www.nssl.noaa.gov/headlines/dszpics.html 44

virga ประเทศฝร่ังเศส โดย Jurgen Oste ที่มา : http://cloudappreciationsociety.org/collecting/jurgen-oste/ praecipitatio 13 เมษายน 2010 โดย Ryan McGinnis (ryanmcginnisphoto) ทมี่ า : http://www.flickr.com/photos/digicana/4538874204/ 45

mamma หรือเมฆเต้านม 12 มิถนุ ายน 2004 Hastings, Nebraska สหรัฐอเมริกา โดย Jorn C Olsen ที่มา : http://www.jornolsen.com/index.php?module=media&pId=102&id=95&category=gallery/Cloudscapes&start=36/ Pileus (ไพลอี สั ) หรือหมวกเมฆ เมอื งดไู บ สหรัฐอาหรับเอมเิ รตส์ ถา่ ยโดย Sandra Malone ทม่ี า : http://cloudappreciationsociety.org/collecting/sandra-malone/ 46

เมฆ nacreous (เนครีอสั ) หรือเมฆมกุ เมือง Oslo ประเทศนอร์เวย์ โดย Bilal Chaudhry ที่มา : http://cloudappreciationsociety.org/collecting/bilal-chaudhry/ เมฆ noctilucent (นอกตลิ เู ซนต)์ หรือเมฆสกุ ใส ประเทศไอซ์แลนด์ โดย Bill Valentine ทมี่ า : http://cloudappreciationsociety.org/collecting/bill-valentine/ 47

contrail (คอนเทรล) เมฆทเี่ กิดจากเครื่องบนิ ถา่ ยเมอ่ื วนั ท่ี 1 เมษายน 2007 เมือง Stockholm ประเทศสวเี ดน โดย Michael Wåhlin ท่ีมา : http://www.flickr.com/photos/mwahlin/6972168126/ distrail (ดิสเทรล) ร่องเมฆทเี่ กิดจากเครื่องบิน ถา่ ยเมอ่ื 29 มกราคม 2007 รัฐ Texas สหรัฐอเมริกา โดย Shannon L. ท่มี า : http://epod.usra.edu/blog/2007/05/distrail-over-ft-worth-texas.html 48

เมฆทีเ่ กิดจากนาํ ้ ตก Niagara ระหวา่ งประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา 24 พฤศจิกายน 2010 โดย jonathansomers ทีม่ า : http://www.flickr.com/photos/jonsomers2003/5263879358/ เมฆท่ีเกิดจากไฟป่ า 1 สงิ หาคม 2008 อทุ ยานแหง่ ชาติ Yellowstone สหรัฐอเมริกา โดย Brocken Inaglory ท่มี า : http://en.wikipedia.org/wiki/File:Wildfire_in_Yellowstone_Natinal_Park_produces_Pyrocumulus_clouds1.jpg 49

เมฆท่เี กิดจากภเู ขาไฟ Stromboli 28 กนั ยายน 2004 โดย Steven W. Dengler ท่ีมา : http://en.wikipedia.org/wiki/File:DenglerSW-Stromboli-20040928-1230x800.jpg เมฆทีเ่ กิดจากโรงไฟฟ้ านวิ เคลยี ร์ Fermi 2 สหรัฐอเมริกา 12 พฤษภาคม 2007 โดย John Richardson (JohnnyRR) ทมี่ า : http://www.flickr.com/photos/93114883@N00/495312122/ 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook