Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Published by ปริญญา, 2021-11-07 03:53:27

Description: คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Keywords: ลูกเสือ,ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่,มัธยมศึกษา,ลูกเสือโลก,ทักษะชีวิต

Search

Read the Text Version

แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่(เครอื่ งหมายลูกเสอื โลก) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยท่ี 9 ทักษะเงื่อนเชือก เวลา 3 ชว่ั โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 16 เงอื่ นเชอื กลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ 1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ลูกเสอื สามารถผูกเงอ่ื น 10 เง่ือน และผกู แนน่ ได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายและใช้ประโยชนจ์ ากเงื่อนทั้ง 10 เงอื่ นได้ 1.3 ลกู เสอื มเี จตคติทีด่ ตี อ่ กิจการลกู เสอื ได้ 2. เนอื้ หา กิจกรรมการบุกเบกิ และการผจญภยั ต้องอาศยั ทกั ษะการใช้เงอื่ นเชอื กมาประกอบดว้ ย ดังนัน้ การเรียนร้เู รอื่ งเงอ่ื นเชือก จะชว่ ยใหล้ ูกเสือสามารถเลือกใช้ประโยชนจ์ ากเงอ่ื นเชือกไดอ้ ยา่ ง รวดเรว็ และปลอดภัย 3. สอ่ื การเรียนรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 เชือก, ตัวอย่างรถมา้ โรมนั 3.3 ใบความรู้ เรอ่ื ง เง่ือนประเภทต่าง ๆ 3.4 เร่อื งสน้ั ที่เปน็ ประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 กิจกรรมครัง้ ท่ี 1 1) พธิ ีเปิดประชุมกอง (ชักธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลงเรามาสนกุ กนั 3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (1) ผู้กํากบั ลูกเสอื ใหล้ กู เสือทบทวน ประโยชนข์ องการใชเ้ งือ่ นเชอื กชนดิ ต่างๆ และ ทบทวนการผูกเงอื่ นจากแบบจาํ ลองเง่อื น ต่อไปน้ี - เงือ่ นพิรอด - เงอ่ื นขัดสมาธิ - เงอื่ นกระหวดั ไม้ - เงื่อนบว่ งสายธนู - เงือ่ นตะกรดุ เบด็ - เงื่อนประมง - เงื่อนผกู ซงุ - เงื่อนผกู รง้ั - เง่อื นปมตาไก่ - เงอ่ื นผกู แน่น (ผูกประกบ ผูกทแยง ผูกกากบาท) 14ค2ูม่ อื สง่ เสชคมู่ัน้ริมือมแสัธ่งลยเมะสพศรึกฒัิมษแนลาาปะกพที จิ ี่ฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูกั เษสะือชทวี ักติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรนุ่กู เใสหอื ญส่ามชัญัน้ มรุ่นธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ี่ 1 149

(2) ลกู เสือฝึกปฏิบัติเง่อื นประจาํ ฐาน โดยผกู้ าํ กับลูกเสอื และนายหมู่ลูกเสือ อธบิ าย ประโยชนพ์ รอ้ มสาธิตการผกู เงอ่ื น ต่อไปนี้ ฐานท่ี 1 เง่อื นปมตาไก่ ฐานที่ 2 เงอื่ นผกู ซงุ ฐานที่ 3 เงือ่ นผูกรั้ง ฐานท่ี 4 เงือ่ นประมง ฐานรวม ทบทวนและสรุปการปฏิบัตผิ ูกเงื่อน ทงั้ 4 ฐาน 4) ผู้กํากับลกู เสือเล่าเรอื่ งสั้นที่เป็นประโยชน์ เร่ือง บุตรดมี กี ตัญํู 5) พธิ ีปดิ ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธงลง เลิก) - ผกู้ าํ กับลูกเสอื นัดหมายลูกเสอื เตรยี มเชือกลกู เสอื เพอ่ื ปฏบิ ัติกจิ กรรมในสปั ดาหต์ ่อไป 4.2 กิจกรรมครัง้ ที่ 2 1) พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง (ชักธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลงเงื่อน 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ (1) ลกู เสือฝึกปฏบิ ัติประจําฐานผูกเงอ่ื น โดยผู้กาํ กบั ลกู เสือ และนายหมสู่ าธติ ประกอบการ อธบิ ายการนาํ เงอ่ื นไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวนั ฐานที่ 1 ผูกประกบ ฐานท่ี 2 ผูกทแยง ฐานที่ 3 ผูกกากบาท ฐานรวม ผกู แนน่ (2) ผกู้ ํากับลกู เสือและลกู เสอื สรปุ ขอ้ สังเกต และความปลอดภัยในการใชเ้ ชอื ก การนํา เงอื่ นไปใช้ประโยชนอ์ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 4) ผกู้ ํากับลกู เสอื เล่าเรอื่ งสั้นทเี่ ปน็ ประโยชน์ เรอ่ื ง คดิ กอ่ นพูด 5) พธิ ีปิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชกั ธงลง เลิก) - ผกู้ ํากับลูกเสอื มอบแบบจําลองเสาธงลอย ใหห้ มลู่ ูกเสอื ศกึ ษา วางแผน เตรยี มการ สร้าง เสาธงลอยจากไม้งา่ มประจําตวั ด้วยเง่อื นที่เรียนรูม้ า เพ่ือปฏิบตั ใิ นการประชุมกองคร้งั ต่อไป 4.3 กิจกรรมครงั้ ที่ 3 1) พิธีเปดิ ประชุมกอง (ชักธงขึน้ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เกมการแขง่ ขันผกู เงอ่ื น 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) ผกู้ ํากับลกู เสอื ช้ีแจงวัตถุประสงค์การสรา้ งเสาธงลอย เพือ่ การแข่งขนั “สร้างเสาธงลอยจากไมง้ ่าม” 2) หมลู่ ูกเสอื ร่วมกันสร้างเสาธงลอย ดว้ ยเงอื่ นเชือกและการผกู แนน่ ด้วยไมง้ ่ามประจําตัว 8 อนั ตามแบบจาํ ลองและแตล่ ะหมไู่ ด้วางแผนเตรียมการไว้ 150 คูม่ อื สง่ เสรคิมู่มแอื ลสะ่งพเสฒั รมิ นแาลกะิจพกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรือรมทลกั กูษเะสชือวี ทติ ักใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศูกกึ เษสาอื ปสารมะเัญภทรนุ่ลชกูใั้นหเมสญธัือย่สมชาศน้ัมกึัญมษธัรานุ่ยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปีท1่ี 143

3) เมอื่ ไดร้ บั สญั ญาณเร่มิ ตน้ ใหท้ กุ หมเู่ ร่มิ ทาํ เสาธงลอย ภายในเวลา 30 นาที (4) เมอื่ หมดเวลาใหท้ กุ หมนู่ าํ เสาธงลอยท่สี ร้างเสรจ็ มาสง่ เพ่ือประเมนิ ความสวยงาม ม่นั คง แขง็ แรงและใช้งานได้จรงิ (5) หม่ลู กู เสือทชี่ นะสรุปกระบวนการวางแผนการปฏิบัติกจิ กรรม ผกู้ าํ กับลูกเสอื ให้ ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม 4) ผูก้ าํ กับลกู เสอื เล่าเรอื่ งส้นั ท่เี ป็นประโยชน์ เรอ่ื ง แมวกับหนู 5) พิธีปิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธงลง เลิก) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตการมีสว่ นร่วมในการทาํ กิจกรรม การผกู เง่อื นทั้ง 10 เงอื่ น 5.2 อธบิ ายขน้ั ตอนและประโยชน์ของเง่ือนท้ัง 10 เงอื่ น 5.3 แบบประเมนิ การมีเจตคติทด่ี ีตอ่ กจิ การลกู เสือ 14ค4่มู อื สง่ เสชคมู่้ันรมิอืมแสัธ่งลยเมะสพศรกึฒัมิ ษแนลาาปะกพีทิจ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูกั เษสะือชทีวกั ิตษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลึกูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหือญส่ามชัญน้ั มรุ่นธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ี่ 1 151

เพลง ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 16 เรามาสนกุ กัน มาเถิดเรามา มาร่วมร้องเพลงกัน พวกเราทัง้ นน้ั ลุกขึ้นพลันทนั ที แลว้ เรามาหนั หน้ามาหากนั ยกมือไหว้กนั แล้วตบมือสามที (เอา้ 1..2..3) เสรจ็ พลนั แล้วก็หันกลับมา สนุกหนักหนา แล้วส่ายเอว 5 ที (เอ้า 1..2…3..4..5) เชือกขนาดเทา่ กนั เงื่อน ตอ่ กนั เป็นเงอ่ื นพิรอด สองเส้นไม่เท่าตลอด สมาธิสอดตอ่ เป็นเส้นยาว บว่ งสายธนูอาจช่วยกู้ชีวติ ยนื ยาว กระหวัดไมใ้ ช้เชือกยาว ลากอ้าว ๆ ไม่ขาดหลุดเลย เกม เกมการแข่งขันผูกเง่ือน1 สถานที่ หน้าเสาธง ใต้รม่ ไมห้ รอื สนามหญา้ อปุ กรณ์ เชอื กประจาํ ตวั ลูกเสอื จํานวนผู้เลน่ ไม่จาํ กดั จาํ นวน วธิ ีเลน่ 1. แบ่งลกู เสือออกเปน็ 2 พวก (ลูกเสอื ทุกคนต้องมเี ชือก) 2. ต้ังแถวหน้ากระดานเขา้ หากนั 2 แถว แต่ละแถวห่างกนั 5 เมตร 3. เม่อื ผกู้ าํ กบั บอกเรมิ่ ใหท้ ้งั สองว่ิงเขา้ หากนั เปน็ คู่ ๆ ต่างคนต่างเอา เชอื กคลอ้ งเอวซึ่งกันและกนั และผูกเงอ่ื นพิรอด 4. เม่อื ใครผกู เสรจ็ กอ่ นรบี ดงึ คู่ของตนไปยงั แดนตน เกณฑต์ ดั สิน 1. ฝา่ ยใดผกู เสรจ็ และดึงคมู่ าแดนของตนไดม้ าก เปน็ ฝ่ายชนะ 2. ผ้กู ํากบั ต้องตรวจความถกู ตอ้ งของเงอื่ นดว้ ย ประโยชน์ ทบทวนการผูกเงอ่ื นพิรอด ความสนกุ สนาน ทดสอบไหวพรบิ ขอ้ เสนอแนะ ผกู้ ํากบั ต้องอธบิ ายวธิ กี ารเลน่ ให้ทุกคนเขา้ ใจ 152 คูม่ ือสง่ เสรคิมูม่ แอื ลสะ่งพเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกูกิจเกสรอืรมทลกั กูษเะสชอื วี ทิตกั ใษนะสชถวี าติ นในศสึกถษาานลศกูกึ เษสาอื ปสารมะเญั ภทรนุ่ลชูกใั้นหเมสญธัือย่สมชาศัน้มึกญัมษัธรานุ่ยปมใีทหศี่ญึก1่ษาปีท1ี่ 145

ใบความรู้ เง่อื นประเภทต่าง ๆ เงื่อนปมตาไก่ ( A Figure of Eight Knot) ใชข้ มวดปลายเชอื กให้เป็นปม ถ้าต้องการปมขนาดใหญใ่ หข้ มวดหลายๆ ครัง้ ประโยชน์ 1. ใชผ้ ูกปลายเชือกใหเ้ ป็นปม เพอ่ื ให้ถนดั ในการถือหรอื ห้ิว 2. ใชผ้ กู กนั หวั เชือกลยุ่ ชว่ั คราว ขนั้ ตอนการผกู เง่ือนปมตาไก่ ข้นั ตอนท่ี 1 ใชป้ ลายเชือก A ทบั บนตัวเชอื ก ดงั รปู ขน้ั ตอนท่ี 2 ใช้ปลายเชือก A พนั ทับตัวเชอื ก 2 รอบ ดังรปู เงอ่ื นผูกซงุ ( Timber Hitch ) ใชส้ าํ หรบั ผกู สิ่งของต่าง ๆใหย้ ดึ ติดกนั แนน่ เปน็ เงอื่ นทผี่ กู ง่าย แกง้ า่ ย แต่ยิง่ ดงึ ยิ่งแนน่ ประโยชน์ 1. ใชผ้ ูกสัตว์ เรือ หรือแพ ไวก้ บั หลกั 2. ใช้มัดลากวัตถทุ รงกระบอก หรอื ทรงกลม เช่น ลากซงุ 3. ใช้ผูกหนิ แทนสมอเรอื หรอื ใช้ผูกกับหินแทนสมอบกก็ได้ 14ค6มู่ อื สง่ เสคชูม่น้ัรมิอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที ิจ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทูกกั เษสะือชทวี ักิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรนุ่กู เใสหอื ญส่ามชัญั้นมรนุ่ัธใยหมญศ่กึ ษาปีท่ี 1 153

4. ใช้เป็นเงอ่ื นเรมิ่ ต้นในการผูกแทยง วิธผี ูกเงอ่ื นผูกซุง ขัน้ ตอนการผกู เง่ือนผูกซุง ขั้นตอนท่ี 1 นําปลายเชือก A พันรอบไม้ 1 รอบ แลว้ พนั ทับตัวเชือก ดงั รปู ขั้นตอนที่ 2 ดงึ ทีป่ ลายเชอื ก B ใหต้ งึ จะได้เงื่อนผูกซงุ ดงั รปู เงอ่ื นผูกรั้ง ( Tarbuck Knot ) ใชผ้ กู ยึดกบั ส่งิ อนื่ มีลกั ษณะพิเศษคอื สามารถปรบั ใหต้ งึ หรือหยอ่ นไดต้ ามความต้องการ ประโยชน์ 1. ใชผ้ ูกยึดสายเตน้ ท์ เสาธง สมอบก 2. ใชผ้ กู รงั้ ต้นไม้ 3. ใช้ผกู กบั หว่ งตา่ ง ๆ 154 คมู่ อื สง่ เสรคิมมู่ แือลสะ่งพเสัฒริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลักูกษเะสชือวี ทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลชกูในั้ หเมสญธัือย่สมชาศนั้มกึญัมษธัราุน่ยปมใทีหศ่ีญึก1่ษาปีท1ี่ 147

ขัน้ ตอนการผกู เง่ือนผกู ร้งั ขัน้ ตอนท่ี 1 ให้นาํ ปลายเชือกข้างใดขา้ งหนึง่ พนั หลักหรือเสา 2 รอบ ใชป้ ลายเชือกเสน้ บน พนั ทบั เชอื กเสน้ ล่าง แลว้ สอดกลบั มาด้านหนา้ 1 รอบโดยให้รอยทบั ห่างจากหลกั หรอื เสา พอประมาณ ขน้ั ตอนที่ 2 ใช้ปลายเชอื กเสน้ เดมิ พนั ทบั เหมือนขัน้ ตอนท่ี 1 อกี 1 รอบ หา่ งจากรอยทับ แรกพอประมาณ ตอ่ จากนนั้ จงึ ใช้ปลายเสน้ เดมิ พนั ทบั เหมอื นขนั้ ตอนที่ 1 อกี 3 รอบ ห่าง จากรอบทับที่ 2 พอประมาณ เงือ่ นประมง (Fisherman's Knot) ใชส้ าํ หรับต่อเชอื กทมี่ ขี นาดเดยี วกนั ร้จู ักกนั ท่วั ไปอีกชือ่ หน่ึงว่า เงอ่ื นหวั ล้านชนกนั ประโยชน์ 1. ใช้ตอ่ เชอื กที่มขี นาดเล็กเชน่ สายเบด็ สายเอน็ 2. ใช้ต่อเชอื กที่มขี นาดเทา่ กนั 3. ผกู คอขวดสาํ หรบั เปน็ ที่ถอื หว้ิ 4. ใชต้ ่อเชือกทมี่ ขี นาดใหญ่ เพ่ือใช้ลากจูงเพราะสามารถรบั กาํ ลงั ลากได้ดี 14ค8ู่มอื สง่ เสคชู่มั้นรมิือมแสธั ่งลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพีทจิ ่ีัฒก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูกั เษสะอื ชทีวักิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกกูษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุ่นกู เใสหอื ญส่ามชญััน้ มรุ่นัธใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 155

ขัน้ ตอนการผูกเงอื่ นประมง ข้นั ตอนที่ 1 นําเชอื ก 2 เสน้ พนั กนั ดงั รปู ข้นั ตอนท่ี 2 หลังจากผกู ข้ันตอนที่ 1 แลว้ จะได้ปมเชอื กดงั รูป ข้นั ตอนท่ี 3 ดงึ เชือกทั้ง 2 เสน้ ให้ปมเชอื กเข้าหากันดงั รูป เชอื กทง้ั 2 เสน้ จะตอ่ กนั แนน่ 156 คมู่ อื สง่ เสรคิมู่มแือลสะ่งพเสัฒริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลกั กูษเะสชือีวทิตกั ใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศกูึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทร่นุลชกูในั้ หเมสญัธือย่สมชาศน้ัมึกัญมษธัรานุ่ยปมใทีหศ่ีญึก1่ษาปที 1ี่ 149

การผูกแน่น การผกู แน่นเปน็ การผกู วตั ถุให้ตดิ แนน่ เขา้ ด้วยกัน โดยใช้เชือกหรอื วสั ดุทคี่ ลา้ ยเชือก แบ่งออกเป็น 3 ประเภท 1. ผกู ประกบ (sheer Lashing) 2. ผูกกากบาท (square Lashing) 3. ผกู ทแยง (Diagonal Lashing) ผูกประกบ (sheer Lashing) เปน็ การผูกไม้ท่อนที่วางขนานกันให้แน่น สามารถผกู ไดห้ ลายวธิ ี ทน่ี ยิ มได้แก่ ผูกประกบ 2 ท่อน และผกู ประกบ 3 ท่อน ประโยชน์ 1. ใช้ต่อไม้หลาย ๆ ท่อนให้ยาวออกไป 2. ใชผ้ ูกต่อไม้ในการกอ่ สร้าง 3. ใชผ้ กู ตอ่ พลองทาํ เสาธงลอย วิธีผกู ผกู ประกบ 2 ทอ่ น วิธีการผูกประกบ 2 ทอ่ น ขั้นตอนที่ 1 เอาไม้ทจ่ี ะต่อมาวางซอ้ นใหข้ นานกนั ตรงปลายท่จี ะตอ่ วางซ้อนกันประมาณ 1/4 ของความยาวไมห้ รอื เสา เรม่ิ ตน้ ดว้ ยการเอาเชอื กมาผูกกับไม้ ขนึ้ ตน้ ด้วยเง่ือน ตะกรดุ เบด็ กับเสาไม้ท่ีเปน็ หลกั หรือต้นใดตน้ หน่งึ แล้วบิดพนั ปลายเชือกเข้ากับตวั เชือก (แต่งงานเชือก) แล้วจึงใช้ลม่ิ ยดั ระหว่างเสา 15ค0มู่ ือสง่ เสชคู่ม้นัริมือมแสธั ง่ลยเมะสพศรกึัฒิมษแนลาาปะกพที ิจ่ีฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทูกักเษสะอื ชทีวักิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรนุ่กู เใสหอื ญส่ามชัญน้ั มรุ่นัธใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 157

ขนั้ ตอนท่ี 2 พันเชือกรอบเสาไมท้ ั้ง 2 ตน้ ให้เชอื กเรยี งกัน ความหนาของเชอื กทพี่ ัน มขี นาดกว้างเท่ากับความกว้างของเสาไมท้ ง้ั 2 ตน้ รวมกนั ขนั้ ตอนท่ี 3 สอดเชอื กเขา้ ตรงกลางระหว่างไมท้ ัง้ 2 แลว้ เอาปลายเชือกพนั หกั คอไก่ (พันรอบเส้นเชอื กชว่ งทอี่ ยู่ระหว่างไม้ 2 - 3 รอบและควรดึงใหแ้ น่น ผูกปลายเชือกดว้ ย เงือ่ นตะกรดุ เบ็ดบนไม้ต้นที่นาํ มาตอ่ หรอื บนไมอ้ ีกตน้ หนง่ึ ทไี่ ม่ใชอ่ นั ท่เี ริม่ ต้นผกู 158 คู่มือสง่ เสรคิมมู่ แอื ลสะ่งพเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลกั กูษเะสชือวี ทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเัญภทรนุ่ลชูกใ้นั หเมสญธัอื ย่สมชาศน้ัมกึัญมษัธราุน่ยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปที 1่ี 151

ผกู ประกบ 3 ทอ่ น (Tripod Lashing) วิธีผกู ประกบ 3 ท่อน ขน้ั ตอนที่ 1 เรม่ิ ต้นดว้ ยการผกู ตะกรดุ เบ็ดทเ่ี สาไม้ตน้ กลาง (เสาหลกั ) แล้วเอาปลายเชือกบดิ พนั เข้าดว้ ยกนั ขน้ั ตอนท่ี 2 ใช้เชือกพนั รอบเสาทัง้ 3 ต้น โดยตอ้ ง พนั รอบเสาหลักจนเชอื กท่พี ันมคี วามหนาอยา่ งนอ้ ยเทา่ กับ เสน้ ผา่ ศูนย์กลางของเสาหลกั ขั้นตอนท่ี 3 เอาปลายเชือกพนั หกั คอไก่ ดงึ ให้แน่น แลว้ ผูกปลายเชือกด้วยเงอ่ื นตะกรดุ เบ็ดทเ่ี สาต้นรมิ 15ค2มู่ อื สง่ เสคชูม่น้ัรมิือมแสธั ่งลยเมะสพศรึกฒัิมษแนลาาปะกพีทจิ ่ีฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมือลทูกกั เษสะอื ชทีวกั ิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกกูษเาสปอื รสะาเมภญัทลรุ่นูกเใสหือญส่ามชัญนั้ มรุน่ัธใยหมญศ่ึกษาปีท่ี 1 159

ผูกทแยง (Diagonal Lashing) เป็นการผูกทอ่ นไมท้ ีไ่ ขวก้ ันอยู่ใหต้ ดิ แน่นเข้าดว้ ยกนั เช่น ผกู นัง่ ร้านในการก่อสร้าง ผกู ตอม่อสะพาน สร้างทีพ่ ักอาศยั ดว้ ยไมไ้ ผ่ เปน็ ตน้ ประโยชน์ 1. ใช้ผูกนงั่ รา้ นในการกอ่ สรา้ งให้เกดิ ความม่นั คง 2. ใช้ผูกไม้คาํ้ ยนั เสาเพอ่ื ป้องกนั เสาล้ม 3. ใช้ผูกตอม่อเสาสะพาน วธิ ีการผูกทแยง ขน้ั ตอนท่ี 1 ใชเ้ ชือกพนั รอบเสาหรือไม้ทั้ง 2 ต้น ระหว่างมมุ ตรงขา้ มกนั แล้วผกู ด้วยเงื่อนผกู ซุง ขน้ั ตอนที่ 2 เอาปลายเชือกบิดพนั กับตวั เชือก แล้วพันทแยงไขว้ไปมาขา้ งละ 2 - 3 รอบ จากนนั้ พนั หักคอไก่ (เอาปลายเชอื กพนั รอบเชอื กระหวา่ งเสาไม้) ประมาณ 3 รอบ 160 คู่มอื สง่ เสรคมิู่มแือลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลักกูษเะสชอื ีวทติ ักใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลชูกใ้นั หเมสญัธอื ย่สมชาศน้ัมกึัญมษัธราุ่นยปมใทีหศ่ีญึก1่ษาปที 1ี่ 153

ข้ันตอนท่ี 3 เอาปลายเชือกผกู ตะกรดุ เบด็ ทเ่ี สาไม้ตน้ ใดตน้ หนึ่ง แลว้ เกบ็ ปลายเชอื ก ใหเ้ รียบร้อย ผูกกากบาท (Square Lashing) เป็นการผกู ทอ่ นไม้ทไ่ี ขวก้ นั อยใู่ หต้ ดิ แนน่ เข้าดว้ ยกนั คลา้ ยกนั กับการผูกทแยง ประโยชน์ 1. ใชผ้ ูกนงั่ รา้ นในการกอ่ สร้าง เชน่ ทาํ นงั่ รา้ นทาสอี าคาร 2. ใชผ้ ูกสรา้ งค่ายพกั แรมและอุปกรณค์ า่ ยพกั แรม 3. ใชผ้ ูกทํารว้ั หรอื คอกสตั ว์ และผกู ตอม่อเสาสะพาน ขั้นตอนการผูกกากบาท ข้ันตอนที่ 1 ใชเ้ ชือกผกู ตะกรุดเบ็ดทไ่ี มอ้ ันตง้ั (หรืออนั ขวางก็ได)้ แล้วเอาปลายเชือก บิดใหเ้ ขา้ กบั ตัวเชอื ก (แต่งงานเชอื ก) ให้เรียบร้อย 15ค4ู่มอื สง่ เสคชมู่ั้นริมอืมแสัธง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที ิจี่ฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมือลทูกักเษสะอื ชทวี กั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปอื รสะาเมภญัทลร่นุกู เใสหือญส่ามชัญั้นมรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปีท่ี 1 161

ขน้ั ตอนที่ 2 ดงึ เชอื กลอดใตไ้ มอ้ นั นอนทางดา้ นขวาของไม้อนั ตง้ั แลว้ อ้อมหลงั ไมอ้ นั ขวาง ดงึ ข้นึ ข้างบนทางขวาของไมอ้ นั ตัง้ จากน้นั ดงึ ให้เชือกออ้ มมาขา้ งหนา้ ไมอ้ นั ตัง้ และใหเ้ ชือกอยู่ เหนือไมอ้ นั ขวาง ออ้ มเชือกไปทางด้านหลังไมอ้ ันขวาง (ทางซา้ ยของไมอ้ นั ตงั้ ) แลว้ ออ้ มใตไ้ มอ้ นั ขวาง ดงึ เชอื กออ้ มมาทางขา้ งหนา้ ไมอ้ นั ตง้ั จนครบรอบ พันอยา่ งนป้ี ระมาณ 3 - 4 รอบ และดงึ เชอื กใหต้ งึ ทุกรอบ ขน้ั ตอนท่ี 3 หกั คอไก่ 2 - 3 รอบ แล้วเอาปลายเชอื กผกู ตะกรดุ เบ็ดทไ่ี มอ้ ันขวาง และเกบ็ ปลายเชือกใหเ้ รียบร้อย 162 คมู่ ือสง่ เสรคิมมู่ แือลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูิจเกสรือรมทลกั กูษเะสชอื วี ทติ กั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทรนุ่ลชกูในั้ หเมสญัธอื ย่สมชาศั้นมกึัญมษธัราุ่นยปมใทีหศ่ีญึก1่ษาปีท1ี่ 155

เร่ืองสน้ั ทเี่ ป็นประโยชน์ บุตรดมี กี ตญั ํู ชายคนหนงึ่ เปน็ ลูกจ้างทาํ งานกับเศรษฐี ได้อาหารสามมือ้ แลกเปน็ ค่าแรง เมื่อถงึ เวลากนิ อาหาร เขาคิดถึงแม่ซง่ึ อดอยากอยู่ทบี่ ้านไมม่ ีใครดแู ล จึงจัดแบ่งอาหารห่อไปฝากแม่ท่ีบ้าน เศรษฐีเห็นชายคนนั้น แบ่งอาหารใส่ห่อทุกวันก็เรียกมาถาม ชายคนนั้นจึงตอบว่า “พ่อแม่มีพระคุณล้นเหลือกระผมจึงแบ่งปัน ให้ท่านกินตามแต่จะได้รับ ถ้ากระผมทอดทิ้งไม่เหลียวแลแม่ก็คงเป็นบาปหนัก” เศรษฐีได้ยินดังนั้น จงึ พดู ขนึ้ วา่ “เราขอชมเชยเจา้ วา่ เป็นผูก้ ตญั ํู เอาเถอะแม่ของเจา้ น้นั เราจะรบั อุปการะเลย้ี งดูเอง” เรอ่ื งนีส้ อนให้รู้ว่า พอ่ แม่เปน็ ผูม้ พี ระคณุ มากมาย ควรตอบแทนบญุ คุณท่านเตม็ กาํ ลังทกี่ ระทําได้” คิดกอ่ นพดู ชาย 2 คนเป็นพ่ีน้องกัน พวกเขาเล้ียงหมาสีขาวตัวหนึ่ง วันหนึ่งชายผู้น้องออกไปเยี่ยมญาติ ระหว่างทางฝนเทลงมาอย่างหนักทําให้เสื้อผ้าสีขาวของเขาเปียกโชก เม่ือไปถึงบ้านญาติจึงเปล่ียนใส่ เส้อื ผ้าชดุ ดําแทน เมอ่ื กลบั บ้านในตอนเยน็ หมาจาํ เขาไม่ได้จึงเหา่ กระโชกเป็นการใหญ่ ชายผู้น้องโกรธ มาก ร้องด่าพลางไล่ตีหมาไปรอบๆ บ้าน ชายผู้พ่ีมาพบเข้าจึงร้องห้ามพร้อมกับพูดว่า “อย่าตีมัน อย่าตีมัน” ชายผู้น้องก็พูดว่า “ตีให้ตาย หมาระยํา จําเจ้าของไม่ได้” ชายผู้พ่ีจึงกล่าวเตือนสติผู้น้องว่า “ถ้าหมาสีขาวของเรามันออกจากบ้านไปแล้วกลายเป็นหมาดํา เมื่อกลับมาเจ้าจะจําได้หรือไ ม่” ชายผู้นอ้ งจงึ ได้สตเิ พราะไม่สามารถตอบคําถามของพี่ได้ เรอื่ งนี้สอนใหร้ วู้ ่า เวลาเราจะทาํ หรือพูดอะไรกต็ ามจะตอ้ งคดิ ใหร้ อบคอบเสยี ก่อน แมวกบั หนู เจ้าของบ้านหลังหน่ึงรําคาญฝูงหนูท่ีเข้ามาอยู่ในบ้าน จึงเอาแมวมาเลี้ยงไว้ ไม่นานแมว กก็ าํ จดั หนไู ปจํานวนมาก พวกหนูท่ียังรอดชวี ิตอยจู่ ึงประชุมกัน ตกลงกนั ว่าจะไมล่ งไปที่ห้องเก็บอาหาร ช้ันล่างอีก เม่ือแมวไม่เห็นพวกหนูจึงคิดวางอุบายล่อให้พวกหนูตายใจด้วยการน่ังน่ิงเฉยอยู่ท่ีพ้ืน เก็บซ่อนอุ้งเล็บทั้งส่ีเอาไว้เพ่ือให้พวกหนูเข้าใจว่า ตัวมันเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณของกระต่าย หรอื ลกู ไกเ่ ทา่ นน้ั ในไม่ช้า หนูตัวหนึ่งก็ไต่ลงมาจากชั้นวางของแล้วพูดกับแมวว่า “สวัสดี เจ้าแมวจอมโหด! เจ้าหลอกพวกเราไม่สําเร็จหรอก เพราะพวกเรารู้จักนิสัยเจ้าดี พวกเราไม่หลงกลอุบายตื้นๆ ของเจ้าแน่ ๆ” เรื่องน้สี อนให้รู้ว่า ความรอบคอบและไมป่ ระมาท ชว่ ยให้พ้นภยั 15ค6ูม่ อื สง่ เสคชมู่้ันรมิือมแสัธ่งลยเมะสพศรกึฒัิมษแนลาาปะกพีทจิ ่ีัฒก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทกูกั เษสะือชทีวกั ติ ษใะนชสวี ถติ าในนสศถกึ าษนาศลึกกูษเาสปอื รสะาเมภญัทลรุ่นูกเใสหอื ญส่ามชัญัน้ มรุน่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปีท่ี 1 163

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่(เคร่อื งหมายลูกเสือโลก) ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยที่ 10 การปฐมพยาบาล เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 17 การปฐมพยาบาล 1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถอธิบายวิธีการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นได้ 1.2 ลกู เสือสามารถสาธิตการปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้นได้ 1.3 ลกู เสือมีเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ กจิ การลกู เสอื ได้ 2. เน้อื หา กจิ กรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมทีท่ ้าทายความสามารถของผ้ปู ฏิบัติในวยั รุ่น แต่ละกจิ กรรม ทีจ่ ัดขนึ้ เช่น การเดินทางไกล การบุกเบิกผจญภยั ฯลฯ อาจเกดิ อุบตั เิ หตุหรอื การเจ็บป่วยได้ ลูกเสือจงึ จําเปน็ ตอ้ งเรยี นรู้เร่อื งการปฐมพยาบาลเพื่อเปน็ พน้ื ฐานในการชว่ ยเหลอื ตนเองและผอู้ ่ืน 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู ิเพลง หรอื เกม 3.2 อุปกรณ์สําหรบั การปฐมพยาบาล 3.3 เร่ืองสั้นทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 กจิ กรรมครงั้ ที่ 1 1) พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง (ชักธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลงนม (ประกอบทา่ ทาง) 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (1) ผู้กาํ กับลกู เสือสนทนากบั ลกู เสอื เกยี่ วกับหลักทว่ั ไปของการปฐมพยาบาล (2) ผูก้ ํากับลกู เสอื ขออาสาสมัครลกู เสือ เล่าประสบการณ์ที่เคยปฏบิ ัติเกยี่ วกับ การปฐมพยาบาล และเพ่อื นลกู เสอื ใหข้ อ้ เสนอแนะเพิ่มเติม (3) ผูก้ ํากบั ลูกเสอื แบง่ งานให้ลูกเสือแตล่ ะหมูร่ บั ผดิ ชอบ จดั เตรียมอุปกรณ์ และเป็น วิทยากร อธบิ ายประกอบการสาธิตการปฐมพยาบาล ในกรณตี อ่ ไปน้ี ใหเ้ วลากรณีละ 5 นาที 1) การปฐมพยาบาลคนเป็นลมหมดสติ 2) การปฐมพยาบาลคนทม่ี ีบาดแผล 3) การปฐมพยาบาลผูถ้ กู สัตว์มพี ษิ กดั ตอ่ ย 4) การปฐมพยาบาลผู้ถูกไฟไหมน้ ้ําร้อนลวก 5) การปฐมพยาบาลขอ้ เทา้ แพลง 6) การผายปอด 164 คูม่ อื สง่ เสรคิมู่มแือลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกูกจิ เกสรือรมทลกั ูกษเะสชือีวทติ ักใษนะสชถวี าติ นในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเัญภทรนุ่ลชูกใ้นั หเมสญัธอื ย่สมชาศน้ัมึกัญมษัธราุ่นยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปที 1่ี 157

(4) ลูกเสือหมอู่ ่ืน ฝกึ ปฏิบตั ิตามโดยจบั คู่ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ับลกู เสอื อกี คนหนึง่ (5) ผกู้ ํากับลกู เสอื และลกู เสอื ร่วมกนั ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติ 4) ผู้กํากับลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสัน้ ที่เปน็ ประโยชน์ เรอื่ ง นกเหยยี่ วกบั ไกป่ า่ 5) พิธีปดิ ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธงลง เลกิ ) - ผกู้ ํากับลูกเสอื นัดหมายลกู เสอื เตรยี มอปุ กรณส์ ําหรบั การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในสปั ดาห์ต่อไป 4.2 กิจกรรมคร้ังที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2) เพลงมารช์ ปฐมพยาบาล 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (1) ผู้กาํ กับลกู เสือนาํ สนทนากบั ลูกเสอื เรอ่ื งเกย่ี วกบั การเคลอื่ นย้ายผู้ป่วย (2) ผกู้ ํากับลูกเสืออธิบายประกอบการสาธิต การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยใชร้ า่ งกาย หรอื วัสดอุ ปุ กรณ์ท่มี อี ยรู่ อบตวั (3) หมู่ลกู เสอื ฝกึ ปฏบิ ตั ิการเคล่ือนยา้ ยผู้ป่วยตามแบบสาธิต (4) หมลู่ กู เสอื แขง่ ขันเกมการเคลอื่ นยา้ ยผปู้ ่วย 2 รอบ โดยสมมตุ ลิ ูกเสอื เปน็ ผู้ป่วย 1 คน เคล่ือนย้ายจากจดุ เร่ิมตน้ ไปยงั จดุ เส้นชัย หมู่ใดถึงเสน้ ชัยกอ่ นเป็นฝา่ ยชนะ รอบแรก - เคลอ่ื นย้ายโดยใช้รา่ งกาย โดยผชู้ ่วยเหลือ 1 คน รอบท่ี 2 - เคลื่อนยา้ ยโดยใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีอยใู่ กล้ตวั ลกู เสอื (5) หมู่ลกู เสอื ทช่ี นะนําเสนอวิธีการปฏบิ ตั ิงานทที่ ําใหเ้ กดิ ความสาํ เร็จ 4) ผูก้ าํ กบั ลูกเสอื เล่าเรือ่ งสน้ั ทีเ่ ป็นประโยชน์ เรอื่ ง หมาป่ากบั ต้นไมศ้ กั ดิส์ ิทธิ์ 5) พิธีปดิ ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบ ชกั ธงลง เลิก) - ผกู้ ํากับลูกเสือนัดหมายลกู เสอื เตรียมอปุ กรณส์ าํ หรบั การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมในสัปดาห์ตอ่ ไป 5. การประเมนิ ผล 5.1 อธบิ ายหลกั การท่ัวไปของการปฐมพยาบาล 5.2 สังเกตการมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม และการเคลือ่ นยา้ ยผู้ป่วยโดยใชร้ า่ งกาย หรือใช้วัสดุ อุปกรณใ์ กลต้ ัว 5.3 แบบประเมินการมีเจตคติทด่ี ตี ่อกิจการลกู เสือ 15ค8มู่ ือสง่ เสคชู่มัน้ริมอืมแสัธง่ลยเมะสพศรกึัฒิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีัฒก1รนรามกลิจกูกรเสรมอื ลทูกักเษสะอื ชทวี กั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภัญทลร่นุูกเใสหือญส่ามชญัั้นมรนุ่ัธใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 165

ท่ี 17 เพลง นม (ประกอบท่าทาง) นมคอื อะไร ร้ไู หมเธอจ๋า นมคอื ยาบาํ รุงกาํ ลงั ใครไดด้ ื่มนม คงสมใจจงั นมมพี ลัง คอื นมจากเต้า มารช์ ปฐมพยาบาล นกั ปฐมพยาบาล งานของเราช้ันตน้ คือคดิ จะช่วยคน ที่ปว่ ย กะทันหัน หากใจหยุดเตน้ กน็ วดเฟน้ และผายปอดพลัน เลือดออกมากนนั้ เรว็ ไว ห้ามไว้กอ่ น จบั นอนตะแคง เครือ่ งแตง่ กาย น้นั ชว่ ยคลายผอ่ น ซบเซาเฝา้ นอน หา้ มใหย้ า ห้ามอาหาร ใหค้ วามอุน่ พอ และรบี ตามหมอจัดการ เราต้องชว่ ยพยาบาล ก่อนนาํ ส่งหมอ 166 ค่มู ือสง่ เสรคิมมู่ แอื ลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลักกูษเะสชือวี ทติ ักใษนะสชถีวาิตนในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเัญภทร่นุลชูกใัน้ หเมสญัธอื ย่สมชาศ้ันมกึัญมษธัรา่นุยปมใทีหศ่ีญึก1่ษาปที 1่ี 159

เร่ืองสั้นที่เปน็ ประโยชน์ นกเหย่ียวกบั ไกป่ า่ ณ ชายป่าแหง่ หน่ึง มไี ก่ป่าสองตัวอาศัยอย่บู นเนนิ ดนิ ใกล้ปากถ้าํ ท่ีพวกมนั ใช้เปน็ ทห่ี ลบภยั จากเหยี่ยวศัตรูตัวร้ายของมัน ทุกครั้งท่ีเหย่ียวบินผ่าน พวกมันจะหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ ในถ้ํา พอเหย่ยี วบนิ ผ่านไป พวกมันจงึ จะออกจากท่ีซอ่ น พวกมันทําเช่นนที้ ุกวนั และรอดพน้ จากเหยีย่ วทุกครั้ง ตอ่ มาวันหนึ่งท้ังสองตัวเกิดต่อสู้กันข้ึนเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่เหนือเนินดินแห่งนี้ ตัวที่ชนะดีใจมาก มันรีบออกจากที่ซ่อนเพ่อื โกง่ คอขันแสดงความเปน็ ใหญเ่ หนือเนนิ ดินแห่งน้ใี หไ้ กป่ ่าตัวอื่นได้ทราบ ขณะน้ันเหย่ียวบินผ่านมาพอดี พอได้ยินเสียงไก่ขันมันก็บินโฉบไปเหนือปากถ้ําทันที และยังมิทันท่ีไก่ป่าตัวชนะจะหลบหนีได้ทัน มันก็ถูกเหยี่ยวโฉบไปเป็นอาหารทันที ปล่อยให้ไก่ป่า ตัวแพ้ซงึ่ ซ่อนตัวอยภู่ ายในถํา้ กลายเปน็ ผู้ชนะครอบครองเนนิ ดนิ แหง่ นั้นแทน เร่ืองน้สี อนให้รวู้ ่า อย่าสาํ คัญตนวา่ เกง่ กวา่ ใคร ท่แี ทย้ ังมีคนเก่งกวา่ เราอกี มาก หมาป่ากับตน้ ไม้ศักดส์ิ ทิ ธ์ิ หมาป่าผอมโซตวั หนงึ่ ไดไ้ ปบนบานกับตน้ ไม้ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ขอเป็นวัวบา้ นตัวอ้วนพี เมือ่ ได้กลายร่าง เป็นวัวตามท่ีต้องการจึงถูกชาวบ้านใช้ไถนา มันเกิดความเหน่ือยและเม่ือยล้ามาก จึงไปบนบานกับ ต้นไม้ศักด์ิสิทธ์ิขอเปลย่ี นเปน็ ม้าปา่ แทน อยู่ได้ไม่นานมันก็ถูกทหารจับตัวไปเป็นพาหนะของพระราชาผู้ครองนคร ทําให้เกิดความ เบ่อื หน่ายอีก จึงไปบนบานกับต้นไม้ศกั ด์ิสทิ ธิว์ ่าขอเป็นพระราชาเสยี เอง เม่อื ได้เปน็ พระราชามีความสุข อยใู่ นวงั ไมน่ านก็เริ่มเบอื่ อกี อยากเดินทางทอ่ งเท่ียวไปในทตี่ ่างๆ พระราชาจึงส่ังทหารใหไ้ ปตดั ต้นไม้ศกั ดส์ิ ิทธ์เิ พื่อต่อเรือ ตน้ ไมศ้ กั ดสิ์ ิทธ์ิโกรธมากท่ีทําคุณไม่ข้ึน จึงบอกให้ทหารไปตามพระราชามาตัดเอง เม่ือพระราชามาถึง ต้นไม้ศักด์ิสิทธ์ิได้กล่าวตําหนิในความ ไมร่ จู้ ักพอและสาปให้กลายร่างกลบั เปน็ หมาปา่ ผอมโซเช่นเดิม เรอ่ื งนีส้ อนใหร้ วู้ ่า ความไมร่ ้จู กั พอของมนุษย์ ในทีส่ ุดก็ไมไ่ ดอ้ ะไรเลย ตรงกบั สาํ นวนที่วา่ \"โลภมากลาภหาย\" 16ค0ู่มือสง่ เสชคู่มั้นรมิอืมแสัธ่งลยเมะสพศรกึฒัิมษแนลาาปะกพที ิจี่ฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทกูกั เษสะอื ชทีวกั ติ ษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภัญทลรุ่นกู เใสหอื ญส่ามชัญนั้ มรุน่ัธใยหมญศ่กึ ษาปีท่ี 1 167

แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื สามัญรุ่นใหญ่(เครอ่ื งหมายลกู เสือโลก) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หนว่ ยท่ี 11 ความปลอดภัย เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 18 ภยั สงั คมทางอินเทอร์เนต 1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ลูกเสอื ร้เู ทา่ ทันภยั สังคมหรอื การลอ่ ลวงที่เกดิ ทางสงั คมอินเทอรเ์ น็ตได้ 1.2 ลูกเสอื อธบิ ายถึงแนวทางในการปอ้ งกนั ตนเองจากภยั สังคมหรอื การล่อลวงท่ีเกดิ ทางสังคม อินเทอรเ์ นต็ ได้ 1.3 ลกู เสือมีเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ กจิ การลกู เสือได้ 2. เนอ้ื หา อนิ เทอร์เน็ต เป็นการสอื่ สารท่ใี ห้ประโยชนอ์ ย่างมาก โดยเฉพาะด้านการศกึ ษาและการสื่อสาร แต่เน่ืองจากสังคมอินเทอร์เน็ต เป็นสังคมที่ไม่สามารถมองเห็นซ่ึงกันและกัน จึงมีท้ังคนดีและคนไม่ดี ดงั น้ันการเรยี นรูถ้ ึงภัยท่ีเคยมมี าและภยั ทค่ี าดการณ์วา่ อาจเกดิ ขน้ึ ได้ และหาวธิ รี ะวงั ป้องกันภัยเหล่าน้ัน จงึ เปน็ สิ่งทจี่ าํ เป็นอยา่ งมาก 3. สอื่ การเรียนรู้ 3.1 แผนภูมิเพลง 3.2 ใบความรู้ 1) เรอ่ื ง ภัยทางอินเทอร์เนต็ 2) เร่อื ง การตดิ ต่อกับเพื่อนใหม่ 3.3 เรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง (ชกั ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงมาสนกุ กบั ฉนั 4.3 กิจกรรมตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผ้กู าํ กับลกู เสือนาํ สนทนาเรือ่ งการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ และขออาสาสมคั รลูกเสือร่วมกัน ใหข้ อ้ มลู หรอื ประสบการณ์ การใชส้ ื่ออินเทอร์เนต็ ในการสือ่ สารทางสังคมออนไลนเ์ ชน่ Facebook, Twitter, Chatroom, Email, hi5 ฯลฯ โดยใชเ้ วลาประมาณ 5 นาที 2) ผ้กู าํ กบั ลกู เสือขออาสาสมัครลูกเสอื อ่านบทความเรื่อง ภัยจากอนิ เทอร์เนต็ 3) ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื ใหห้ มู่ลกู เสอื รว่ มกนั อภิปราย ประเด็นตอ่ ไปนี้ และสง่ ตัวแทน รายงานในกองลูกเสอื (1) มีความคดิ เห็นอยา่ งไรต่อบทความทไ่ี ดฟ้ งั (2) ลกู เสือคดิ วา่ ควรมแี นวทางในการตดิ ตอ่ ส่ือสารในสงั คมออนไลน์อย่างไร จึงจะเกิดประโยชน์สงู สุด และไม่เกดิ ผลเสียหรอื ภัยอนั ตรายตา่ งๆ ตามมา(เปิดกวา้ งให้ลูกเสอื แสดงความ คิดเหน็ ผู้กากับลกู เสอื รวบรวมเพื่อเพ่มิ เตมิ สิง่ ที่ยังขาด ตามใบความรู้เร่อื ง การตดิ ตอ่ กับเพื่อนใหม่ ) 4) ผู้กาํ กับลูกเสอื สุ่มใหห้ มลู่ ูกสือรายงานทลี ะประเด็น และนาํ อภปิ ราย ให้หม่ทู เี่ หลอื เพมิ่ เตมิ จนครบทกุ ประเด็น 168 ค่มู ือสง่ เสรคิม่มู แอื ลสะง่ พเสัฒริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรือรมทลักกูษเะสชือวี ทิตกั ใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศกูึกเษสาือปสารมะเัญภทรนุ่ลชูกใน้ั หเมสญัธือย่สมชาศั้นมึกัญมษัธราุ่นยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปีท1ี่ 161

5) ผู้กํากับลูกเสอื ชว่ ยเพม่ิ เตมิ (ใบความร้เู รื่อง การติดตอ่ กบั เพือ่ นใหม)่ และให้กองลูกเสอื นําขอ้ สรุปท่ไี ดอ้ อกเผยแพร่รณรงค์ในโรงเรยี น 4.4 ผู้กาํ กับลกู เสือเลา่ เร่อื งสน้ั ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ เร่อื ง สุนขั จง้ิ จอกกบั นกกระสา 4.5 พธิ ีปดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 อธบิ ายถงึ ภยั สังคม หรอื การลอ่ ลวงท่ีเกิดจากสังคมอนิ เทอร์เนต็ 5.2 สงั เกตการมสี ว่ นร่วมในการหาแนวทางในการป้องกันตนเองจากภยั สังคมหรอื การลอ่ ลวงท่ี เกิดทางสังคมอนิ เทอรเ์ นต็ 5.3 แบบประเมนิ การมเี จตคตทิ ดี่ ีต่อกจิ การลกู เสือ 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คัญท่ีเกิดจากกิจกรรม คือ ความคดิ วิเคราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั รถู้ ึงภยั สงั คมทางอินเทอร์เน็ตท่ีอยใู่ กล้ตวั 16ค2ู่มือสง่ เสคชู่มนั้ริมอืมแสธั ่งลยเมะสพศรกึฒัิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูักเษสะอื ชทวี กั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภญัทลร่นุกู เใสหือญส่ามชญั้ันมรุ่นธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 169

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 18 เพลง มาสนกุ กับฉนั มาสนกุ กนั หนามาสัญญารว่ มผูกพนั (สร้อย) มาสนกุ กับฉันเหลา่ ลูกเสอื เช้ือชาตไิ ทย (สรอ้ ย) แผ่นดนิ ถน่ิ น้ที ้งั กลางเหนือใตอ้ ีสาน สามคั คีคงอยู่ รวมกันไมม่ เี สอ่ื มคลาย (สร้อย) (สรอ้ ย) ตาลาแร็ก แทก็ ๆ 170 คมู่ อื สง่ เสรคมิ่มู แือลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะิจพกัฒรรนมาลกูกิจเกสรือรมทลักกูษเะสชอื ีวทติ ักใษนะสชถีวาิตนในศสกึ ถษาานลศูกกึ เษสาอื ปสารมะเญั ภทรุ่นลชกูในั้ หเมสญธัือย่สมชาศน้ัมกึัญมษัธรา่นุยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปีท1่ี 163

ใบความรู้ ภัยทางอนิ เทอรเ์ น็ต ปจั จบุ นั เด็กและเยาวชน มีโอกาสเข้าถึงสื่ออนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งสะดวกและทั่วถึง ร้านอินเทอรเ์ น็ต มอี ยูม่ ากมาย อินเทอร์เน็ตไดร้ ับการติดต้ังในโรงเรียน ในบ้าน และเปน็ เหมอื นของเลน่ ของเดก็ เล็กๆ ในขณะท่ีอนิ เทอร์เน็ตทาํ ใหก้ ารสอ่ื สารและชีวติ ของผคู้ นจํานวนมากดขี นึ้ แตก่ ็ไดถ้ ูกผู้ทม่ี ุง่ แสวง ผลประโยชน์จากเดก็ นาํ ไปใช้ดว้ ย เพราะอนิ เทอร์เน็ตเป็นสอื่ ท่ีตรวจสอบและปอ้ งกนั ไดย้ าก สามารถตดิ ตอ่ สอื่ สารกับเดก็ ๆ ไดง้ า่ ย โอกาสทจี่ ะถกู จับไดม้ ีนอ้ ย ดงั จะเหน็ ได้จากกรณีทีป่ รากฎ เปน็ ขา่ วอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นอันตรายตอ่ เดก็ ไดอ้ ย่างน้อย 2 แบบ คือ 1. ไดพ้ บกบั เนอ้ื หาทีผ่ ดิ กฎหมายหรือเปน็ อนั ตราย เชน่ การคา้ ยาเสพตดิ ภาพลามกอนาจาร ข้อมลู ทส่ี ง่ เสรมิ การใชค้ วามรนุ แรง เวบ็ ไซตท์ ี่ลอ่ ลวงเอาประโยชนจ์ ากเดก็ โดยท่เี ด็กๆ ไมร่ เู้ ทา่ ทัน เลห่ ์เหล่ยี มเหล่านี้ จึงอาจถูกลอ่ ลวงและถกู ประทุษรา้ ยทางเพศได้ ดงั นัน้ การจะปกป้องเดก็ ใหป้ ลอดภยั จึงจําเป็นทจ่ี ะตอ้ งคมุ้ ครองเดก็ จากการเข้าถงึ สงิ่ เหล่านี้ 2. อาจถกู ติดตอ่ โดยนกั ลว่ งละเมดิ ทางเพศ หรอื ผู้ที่ประสงคร์ า้ ยตอ่ เดก็ โดยตรง ผู้ผลติ สอื่ ลามก เดก็ มกั จะเปน็ คนกลมุ่ เดยี วกับผ้ทู ่ตี ดิ ตอ่ กับเดก็ ทางอินเทอรเ์ นต็ เพื่อกระทาํ ชาํ เรานน่ั เอง ผูท้ ่ีช่นื ชอบการมเี พศสมั พนั ธก์ ับเดก็ มกั จะเขา้ ไปในแช็ตรูม และปลอมตวั เป็นเด็กเสยี เอง และคอยหลอกลอ่ พดู คุยกบั เด็ก พยายามโนม้ นา้ วให้ไปคยุ ในแช็ตรูมส่วนตวั เพือ่ พดู คยุ กันอย่างใกลช้ ิด มากข้ึน สว่ นมากบคุ คลเหล่านม้ี ักจะใช้เวลาในการพดู คุยจนกวา่ เด็กจะไวใ้ จ จากนน้ั กพ็ ยายามนดั หมาย ใหเ้ ดก็ ออกมาพบกันจริงๆ อีกวธิ ีหนึง่ ก็คอื การลกั พาตวั เดก็ จากขอ้ มูลส่วนตวั ท่ีเด็กไมท่ ันระวงั และให้ขอ้ มลู ไปโดยรู้เท่าไม่ถงึ การณ์ เด็กไทยใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อย่างไร รอ้ ยละ 42 เข้าอนิ เทอรเ์ น็ตโดยใชค้ อมพวิ เตอร์ทโ่ี รงเรียน รอ้ ยละ 31 ใช้ทีบ่ ้านและร้อยละ 24 ใช้ท่ีรา้ นอนิ เทอร์เน็ต การพดู คยุ กบั เพ่อื นใหมบ่ นอนิ เทอรเ์ น็ตเป็นกิจกรรมยอดนิยมอย่างหนึง่ จากการสาํ รวจโดย มหาวิทยาลัยเอแบค ในพ.ศ.2542 เร่อื งวัยรนุ่ ไทยกบั การใชแ้ ช็ตรมู พบวา่ รอ้ ยละ 74.4 ใชแ้ ชต็ รูม เพอ่ื หาเพื่อนใหม่ ร้อยละ 44.8 เคยออกไปพบเพ่ือนที่ตนรจู้ กั ทางอนิ เทอร์เน็ตมาแลว้ และยิง่ ไปกวา่ นัน้ รอ้ ยละ 75 ระบวุ า่ ตนอยากจะไปพบกับเพ่อื นทางอินเทอร์เนต็ หากมีโอกาส คาํ ตอบเหล่านีส้ ะทอ้ น ใหเ้ หน็ ว่า เดก็ และเยาวชนจาํ นวนมากยงั ไม่รตู้ วั ว่า การกระทาํ เช่นนี้อาจเกดิ ความเสยี่ งตอ่ อันตราย อยา่ งไรบ้าง ทาํ อยา่ งไรเด็กไทยจงึ จะรทู้ นั และระวังตนเองใหป้ ลอดภยั ได้? 16ค4่มู ือสง่ เสชคู่ม้ันริมือมแสธั ่งลยเมะสพศรึกัฒมิ ษแนลาาปะกพที ิจ่ีฒั ก1รนรามกลิจกูกรเสรมอื ลทูกักเษสะือชทวี ักติ ษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภัญทลรุนู่กเใสหอื ญส่ามชัญน้ั มรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 171

การตดิ ต่อกับเพ่ือนใหม่ การติดตอ่ คบหากบั เพือ่ นใหมเ่ กดิ ขึ้นได้เสมอและมหี ลากหลายวธิ ี เชน่ การแนะนําโดยตรง จากเพ่อื น การตดิ ต่อทางจดหมายหามิตรทางไปรษณีย์ การติดตอ่ กันทางสงั คมออนไลน์ทางอนิ เทอรเ์ นต็ การใชบ้ ริการโทรศัพทท์ ี่จัดบริการเป็นการเฉพาะที่เรยี กว่า Chat Line หรือ Party Line เปน็ ตน้ คนส่วนใหญท่ ่เี ขา้ มาใชบ้ รกิ ารเหล่านจี้ ะไมใ่ ชช้ ่อื จรงิ ในการตดิ ต่อ ความสมั พนั ธ์ท่มี ีตอ่ กนั จึงเป็น แบบฉาบฉวย เล่นๆ ไมจ่ ริงจัง ข้อมลู ทใี่ หอ้ าจจรงิ บา้ งไมจ่ รงิ บ้าง การตดิ ต่อด้วยวิธนี ้ีจึงมีท้ังขอ้ ดีและขอ้ เสียหลายประการ เชน่ ข้อดี ไดแ้ ก่  ได้พูดคยุ เพื่อความสนกุ สนานโดยไมต่ อ้ งระมดั ระวงั ตัว  ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ที่เป็นประโยชน์ หากคนทต่ี ดิ ตอ่ กนั มคี วามสุจรติ ใจ ในการตดิ ตอ่ ข้อเสีย ได้แก่  ข้อมลู ทีใ่ หแ้ ก่กนั อาจเป็นการหลอกลวงด้วยจดุ มุ่งหมายทไ่ี ม่สจุ รติ บางอยา่ ง  วเิ คราะห์ไดย้ าก วา่ ผู้ติดตอ่ กันมคี วามจริงใจหรอื ไม่  อาจตกเปน็ เหยอ่ื ของผไู้ ม่ประสงค์ดีท่แี ฝงเข้ามาตดิ ต่อ คําแนะนําในการติดต่อเพ่อื นใหม่ ควรปฏบิ ตั ิด้วยความระมดั ระวงั เพอื่ ป้องกนั บคุ คลทมี่ ีเจตนาแอบแฝงเขา้ มาทาํ อันตราย มหี ลกั ในการปฏบิ ัติดังน้ี 1. ไม่ใหข้ ้อมูลส่วนตัว เชน่ ช่อื พอ่ แม่ บ้านเลขที่ รปู ถา่ ย ฯลฯ ควรสนทนาเรือ่ งท่ัวๆ ไปมากกว่า 2. ถา้ เร่มิ ใชค้ าํ พูดท่รี ุกลาํ้ เข้ามาในเรื่องส่วนตัว เชน่ ถามเร่ืองรปู ร่าง หนา้ ตา สดั ส่วน ชุดชน้ั ใน เป็นตน้ ใหห้ ยุดสนทนากันที และไมจ่ ําเปน็ ตอ้ งตอบ 3. การนัดพบดตู วั กันเปน็ สง่ิ ทม่ี กั เกิดข้นึ ตามมาเสมอ จึงควรหลกี เลีย่ งการนดั พบดูตัว ถ้ายงั เพ่งิ คบกนั ใหม่ ๆ และยงั ไมแ่ นใ่ จวา่ จะปลอดภยั 4. ถา้ ตดั สนิ ใจนดั พบดตู ัวกนั ควรนดั พบในสถานทท่ี ี่เปิดเผย ในเวลากลางวนั และควรมเี พ่อื นไปด้วยหลายคน ถ้าจะให้ดยี ิง่ ข้นึ ควรบอกพ่อแม่ให้รู้ว่าจะไปไหนกับใคร จะกลบั เมอ่ื ไร 172 คูม่ ือสง่ เสรคมิมู่ แือลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลกั ูกษเะสชือีวทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศกูกึ เษสาอื ปสารมะเญั ภทรุ่นลชกูใ้ันหเมสญัธอื ย่สมชาศน้ัมึกัญมษัธราุน่ยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปีท1่ี 165

เร่ืองสน้ั ทเี่ ป็นตสิ อนใจ สุนัขจง้ิ จอกกบั นกกระสา วันหน่งึ …สนุ ขั จง้ิ จอกเอย่ ปากชวนนกกระสาว่า “ฉนั อยากจะเชิญเธอไปกนิ อาหารท่บี า้ นของฉนั สักหนอ่ ย” “ขอบใจมาก” นกกระสาตอบรบั “ฉันยินดจี ะไป” แตเ่ มื่อนกกระสาไปถงึ บา้ นสุนขั จิง้ จอก มันไดพ้ บว่าสนุ ขั จง้ิ จอกไดจ้ ัดอาหารที่จะเล้ียงไวใ้ นจานแบนๆ 2 จาน นกกระสาจึงไมส่ ามารถจะกนิ อะไรได้ เพราะจงอยปากของมันยาว ส่วนเจา้ สุนขั จิง้ จอกกลับกนิ อาหารในจานของมนั อย่าง สะดวกสบาย ซ้าํ ยังกลา่ วกับนกกระสาอกี ว่า “เธอไม่ชอบอาหารในจานของเธอหรอื ถ้าเธอกนิ อะไร ไมไ่ ด้ละกอ้ ฉันจะช่วยกินแทนเธอเอง” ดังนนั้ สุนัขจง้ิ จอกจงึ กนิ อาหารทงั้ ในจานของมนั และในจาน ของนกกระสาจนหมด ตอ่ มาไมน่ าน นกกระสากอ็ อกปากเชญิ สุนขั จ้ิงจอกไปกนิ อาหารทบ่ี ้านของมันบา้ ง นกกระสาจดั อาหารใสไ่ ว้ในเหยือกคอสูงสองใบ คราวน้ี จึงถงึ คราวที่เจ้าสนุ ัขจง้ิ จอกไมส่ ามารถจะกนิ อาหารทอี่ ยู่ในเหยอื กนน้ั ได้ มนั จึงต้องเปน็ ฝา่ ยน่ังเฝ้าดู ขณะท่นี กกระสากนิ อาหารในเหยอื กทง้ั สองใบ อย่างเอร็ดอรอ่ ย เรอื่ งน้สี อนให้ร้วู า่ เมอ่ื ใชเ้ ล่หก์ ลกบั คนอ่ืน คนอนื่ กอ็ าจจะใชเ้ ล่หก์ ลกบั เราดว้ ยเช่นกัน 16ค6มู่ อื สง่ เสชคูม่นั้รมิือมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกฒัิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีฒั ก1รนรามกลิจกูกรเสรมอื ลทกูกั เษสะอื ชทวี ักิตษใะนชสวี ถติ าในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปอื รสะาเมภญัทลร่นุูกเใสหอื ญส่ามชัญนั้ มรุน่ัธใยหมญศ่ึกษาปีท่ี 1 173

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุ่นใหญ่(เครอื่ งหมายลกู เสือโลก) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หนว่ ยท่ี 11 ความปลอดภัย เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 19 เบือ้ งหลงั ก๋วยเตี๋ยว 1. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื อธบิ ายถึงความสาํ คัญในเรอื่ งความปลอดภยั ของอาหารและน้าํ ด่ืมได้ 1.2 ลกู เสือสามารถตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภยั ของอาหาร ด้วยวธิ ีทดสอบเบ้ืองตน้ และสืบคน้ ที่มาของเคร่อื งปรุงทใ่ี ช้ประกอบอาหารได้ 1.3 ลูกเสอื มเี จตคติทดี่ ีต่อกจิ การลกู เสือได้ 2. เนือ้ หา 2.1 ประสบการณ์ตรวจสอบสารพษิ และสบื คน้ ท่ีมาของเครอ่ื งปรงุ ก๋วยเตยี๋ ว 2.2 การดาํ เนินการเพื่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารและน้าํ ดม่ื ในโรงเรียน 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมิเพลง, เกม 3.2 ชุดตรวจสอบสารพษิ ในอาหาร ของ อย. (องค์การอาหารและยา) 3.3 ใบความรู้ เรอื่ ง สารพิษในก๋วยเตยี๋ ว อนั ตรายผ่อนสง่ 3.4 เร่อื งส้ันท่เี ปน็ ประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พิธเี ปดิ ประชมุ กอง (ชกั ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงก๋วยเต๋ยี วบะหมี่ 4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) ผกู้ าํ กับลูกเสอื นาํ สนทนาดว้ ยคาํ ถาม “ใครชอบรับประทานกว๋ ยเต๋ียวบ้าง” และ ”ทําไมจงึ ชอบรบั ประทาน” ลกู เสอื รว่ มกันนําเสนอเหตผุ ลในการรับประทานก๋วยเต๋ยี ว 2) ผู้กํากับลกู เสอื ต้งั คาํ ถามใหล้ กู เสอื ชว่ ยกนั ตอบ “ในกว๋ ยเตีย๋ วท่รี บั ประทาน มีส่วนผสมของอะไรบ้าง และ เครอ่ื งปรุงแตล่ ะอย่างมีประโยชน์และโทษต่อรา่ งกายอยา่ งไร” 3) ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื ขออาสาสมคั รอา่ นบทความเรอื่ ง “สารพิษในก๋วยเตย๋ี ว ชวี ติ ผอ่ นส่ง” ให้กองลกู เสอื ฟัง 4) ผ้กู าํ กับลูกเสอื แบ่งงานใหห้ มู่ลกู เสอื ทาํ การทดสอบสารพษิ ในส่วนผสมของกว๋ ยเต๋ียว ที่ขายในโรงเรียน เชน่ เส้นก๋วยเตี๋ยว เครอ่ื งกว๋ ยเต๋ยี ว ถวั่ งอกและผกั เครอ่ื งปรุงรส นา้ํ ซปุ ผงชรู ส ฯลฯ โดยใช้ชุดตรวจของ อย. (ผ้กู ากบั ลกู เสอื ควรประสานทาความเขา้ ใจกับรา้ นก๋วยเตยี๋ วของโรงเรยี น เพอื่ ขอ ความรว่ มมอื ใหล้ กู เสอื ไดม้ ีประสบการณ์ เพ่ือให้เหน็ ความสาคญั ในความปลอดภยั ของอาหารที่ตนเอง รับประทาน) 174 คู่มอื สง่ เสรคมิ่มู แอื ลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลักูกษเะสชือีวทติ ักใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศกูกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลชูกใ้นั หเมสญธัือย่สมชาศ้นัมึกัญมษัธราุ่นยปมใีทหศี่ญกึ1่ษาปีท1่ี 167

5) หมู่ลูกเสอื ทําการทดสอบตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย และวางแผนดาํ เนนิ การสบื คน้ ที่มา ของส่วนผสมทท่ี ําการตรวจว่ามมี าตรฐานและความปลอดภยั เพยี งใด เพ่ือรายงานผล ในคาบต่อไป (เชน่ นา้ สม้ เป็นนา้ สม้ สายชูแทห้ รอื ไม่ ย่ีหอ้ อะไร มีตรา อย.รับรองหรือไม่ / ถัว่ ลสิ งปน่ มที ีม่ าอยา่ งไร ที่ร้านค่ัวเองใหม่ ๆ หรือซือ้ มาจากทไ่ี หน เปน็ ต้น) 4.4 ผู้กํากบั ลูกเสอื เลา่ เรื่องสน้ั ทเ่ี ป็นประโยชน์ เรื่อง ชายหนุม่ กับต้นไผ่ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 ตรวจผลงานในการดาํ เนนิ การเพอื่ ความปลอดภยั ในการบรโิ ภคอาหารและน้ําด่มื ในโรงเรียน 5.2 สงั เกตการร่วมกิจกรรมในการตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภัยของอาหาร ดว้ ยวิธี ทดสอบเบอื้ งตน้ 5.3 แบบประเมนิ การมีเจตคติทดี่ ีตอ่ กจิ การลกู เสอื 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิตทไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรม คือ ความคดิ วิเคราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนักรู้ถึงความสาํ คญั ของอาหารและนา้ํ ดม่ื ที่ ปลอดภัย 16ค8มู่ อื สง่ เสคชมู่ั้นรมิอืมแสัธ่งลยเมะสพศรึกัฒมิ ษแนลาาปะกพีทิจ่ีัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมอื ลทูกกั เษสะอื ชทวี ักิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกกูษเาสปือรสะาเมภัญทลรนุู่กเใสหือญส่ามชัญนั้ มรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปีที่ 1 175

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมท่ี 19 เพลง ก๋วยเต๋ยี วบะหม่ี ก๋วยเต๋ยี วบะหมี่ (ซา้ํ ) แกงกะหรม่ี สั มนั่ ขนมจีนทอดมัน (ซาํ้ ) เนอื้ สเต็กสตู แกงเนื้อ แกงหมู แกงไกใ่ สพ่ ริกไทย โอโ้ ฮ แกงเนอ้ื แกงหมู แกงไกใ่ ส่ พรกิ ไทย โอโ้ ฮ เกม วิง่ สองขา วิธีเลน่ 1. หมู่ลกู เสอื คดั เลอื กตวั แทนหมลู่ ะ 2 คน ผูกขาขวาและขาซ้ายของคเู่ ขา้ ดว้ ยกันแล้ว เข้าแขง่ ขันวงิ่ 2 ขา กบั หมอู่ ่นื ๆ 2. หมู่ใดถึงเสน้ ชยั กอ่ นเปน็ ผู้ชนะ 176 คู่มือสง่ เสรคิม่มู แอื ลสะง่ พเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลกั กูษเะสชอื ีวทติ กั ใษนะสชถวี าติ นในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเญั ภทร่นุลชูกใัน้ หเมสญธัอื ย่สมชาศน้ัมกึัญมษัธราุ่นยปมใทีหศ่ีญึก1่ษาปีท1ี่ 169

ใบความรู้ สารพิษในก๋วยเตย๋ี ว อนั ตรายผ่อนส่ง กว๋ ยเต๋ียวเป็นอาหารยอดนิยมของคนทุกวยั แต่เราเคยรู้บา้ งไหมวา่ เคร่ืองปรงุ แต่ละอย่าง ที่เป็นส่วนผสมของกว๋ ยเตย๋ี วทส่ี ดุ แสนอรอ่ ยนน้ั อาจจะมีสารพษิ ท่ีปนเปอื้ นตดิ มาด้วย ตัวอย่างเช่น 1. ยาฆา่ แมลงทีใ่ ช้ปราบศัตรพู ชื ทปี่ นเป้ือนมากบั ผักสดทใ่ี ส่ในกว๋ ยเตี๋ยวถ้าล้างออกไมห่ มด และเมอื่ กนิ เขา้ ไปสะสมในร่างกายมาก ๆ จะทาํ ใหอ้ อ่ นเพลยี คลื่นไส้ ปวดทอ้ ง จนถงึ ขั้นหมดสติได้ 2. นา้ํ สม้ สายชูปลอม โดยใช้กรดเกลือหรอื กรดกํามะถนั ซงึ่ เปน็ กรดท่กี ดั กรอ่ นอยา่ งแรง กินไม่ได้ เมอ่ื รา่ งกายได้รับน้าํ สม้ สายชปู ลอมในปรมิ าณมาก จะเกดิ แผลในกระเพาะอาหารและลําไส้ บางคร้ังอาจรา้ ยแรงถึงขน้ั กระเพาะทะลุได้ 3. ถวั่ ลิสงและพริกป่น ถ้าเก็บไว้นานหรอื อยู่ในท่อี บั ชน้ื จนขนึ้ รา จะมีสารอลั ฟาทอ๊ กซิน ซึ่งเป็นสารพษิ ท่ีเช้ือราสรา้ งขึ้น เมอ่ื กนิ เข้าไปสะสมในรา่ งกาย จะทําให้เซลตับถกู ทาํ ลาย ในท่ีสุดอาจกลายเปน็ มะเรง็ ทีต่ ับได้ 4. สารตะกั่ว เกิดจากการใช้หม้อถูก ๆ ประเภทที่บัดกรีโดยใช้วัสดุท่ีมีสารตะก่ัวปนอยู่ เม่ือถูกน้ําร้อนสารตะก่ัวจะละลายออกมาปนกับน้ําซุป เมื่อกินเข้าไปสะสมในร่างกาย จะทําลายระบบ ประสาท ไต และเมด็ เลอื ด ผู้ที่เป็นพษิ เฉียบพลันจะทําให้สมองบวมและชกั หรอื เป็นอัมพาตได้ 5. สารบอแรกซ์ เป็นสารที่มักใส่ในลูกชิ้น และอาหารที่ต้องการความกรอบ ทําให้เกิดอาการ ปวดหัว คล่นื ไส้ อาเจียน ทอ้ งรว่ ง และถา้ สะสมในรา่ งกายมาก ๆ อาจทาํ ใหเ้ สียชีวิตได้ 6. สารฟอกขาว พบในถั่วงอกทําให้ขาวอวบน่ากิน ทําให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง ถ้าสะสมนานๆ ทาํ ใหเ้ ปน็ โรคหอบหืดได้ 7. สารเร่งเนื้อแดง ฟาร์มที่ไม่ได้มาตรฐานจะเลี้ยงหมูด้วยสารน้ี เพื่อให้เนื้อมีสีแดงสด ถ้าสะสมในรา่ งกายมาก ๆ ทําให้เกดิ อาการ ปวดหัว อาเจยี น กลา้ มเน้ือกระตุกได้ 8. นํ้ามันเก่า เครื่องปรุงท่ีทอดมาจากน้ํามันท่ีทอดซํ้าหลาย ๆ ครั้ง จะมีสารอนุมูลอิสระ ซ่ึงเป็นสารก่อมะเรง็ 9. เชื้อจุลินทรีย์ การลวกก๋วยเตี๋ยวไม่นานพอ หรือลวกเน้ือแค่พอดิบ ๆ สุกๆ รวมท้ัง การล้างผักไม่สะอาด เครื่องปรุงรสที่ไม่มีฝาปิด คนทําก๋วยเต๋ียวใช้มือท่ีไม่สะอาดหรือมีแผลหยิบ เคร่ืองปรุงฯลฯ เหล่าน้ี อาจเป็นสาเหตุให้มีเชื้อจุลินทรีย์ปนเป้ือนเข้าสู่ร่างกายได้ ทําให้เกิดอาการ ปวดทอ้ ง ทอ้ งรว่ ง ชอ็ กหมดสติ ไปจนถงึ เสียชีวติ ได้ 10. สารโพลาร์ ใช้เคลือบเส้นก๋วยเต๋ียวให้เป็นมันเงาดูน่ากิน สารตัวนี้ทําให้เกิดมะเร็งตับ และมะเร็งเมด็ เลอื ดขาวได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรจะระมัดระวังตรวจสอบความปลอดภัย ถ้าไม่แน่ใจว่าปลอดภัย ควรหลกี เลี่ยงไม่กนิ 17ค0มู่ อื สง่ เสคช่มูั้นริมือมแสธั ่งลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที จิ ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูักเษสะอื ชทีวกั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลึกกูษเาสปือรสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหอื ญส่ามชัญนั้ มรุ่นัธใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 177

เรอ่ื งส้ันท่เี ป็นประโยชน์ ชายหนุ่มกับตน้ ไผ่ ในวนั หนึ่งลกู ชายเจา้ ของสวนผลไม้กาํ ลงั เดินเลน่ อยูใ่ นสวนผลไมต้ ามปกติ เขากส็ งั เกตเห็น ตน้ ไผท่ ป่ี ลกู ไวร้ อบๆ สวนแล้วคดิ ขน้ึ มาไดว้ า่ “ตน้ ไผเ่ หลา่ น้ีไมม่ ีประโยชนอ์ ันใดเลย ไม่มที ง้ั ดอก ท่สี วยงามและผลใหเ้ ก็บกนิ ทําไมเราตอ้ งปลูกมันไว้ดว้ ยก็ไมร่ ู้” เมอ่ื คดิ ไดด้ งั นน้ั เขาจึงไดส้ ่งั ใหค้ นงานชว่ ยกันตดั ต้นไผ่ออกให้หมด หลายวันต่อมาเมอ่ื ต้นไผ่ รอบๆ สวนถกู โค่นลงจนหมด ทําใหเ้ หลา่ สัตวน์ อ้ ยใหญ่ในป่าโดยรอบต่างสงั เกตเห็นผลไม้ในสวนของเขา จงึ พากนั เขา้ มาขโมยกนิ ผลไมข้ องเขาทงั้ หมด เหลือทง้ิ ไวเ้ พียงสวนท่ีไดร้ ับความเสยี หายเปน็ อย่างมาก ลกู ชายเจา้ ของสวนผลไม้เหน็ เขา้ ดังนนั้ จงึ คิดขน้ึ ได้วา่ “ข้าไม่นา่ ตัดต้นไผ่ท่เี ป็นเสมอื นรว้ั บา้ นของข้า ทง้ิ ไปเลย” เรื่องนสี้ อนให้รู้วา่ ทุกส่ิงทุกอย่างย่อมมคี ุณค่าและประโยชนใ์ นตวั เอง 178 ค่มู ือสง่ เสรคิมูม่ แอื ลสะง่ พเสฒั รมิ นแาลกะิจพกัฒรรนมาลกูกิจเกสรอืรมทลกั ูกษเะสชอื ีวทิตกั ใษนะสชถวี าติ นในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลชกูใน้ั หเมสญัธอื ย่สมชาศน้ัมกึญัมษัธราุ่นยปมใีทหศี่ญกึ1่ษาปีท1่ี 171

แผนการจัดกิจกรรมลกู เสอื สามัญรุ่นใหญ่(เครือ่ งหมายลกู เสือโลก) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หน่วยที่ 11 ความปลอดภัย แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 20 รเู้ ทา่ ทนั สอ่ื เวลา 1 ช่วั โมง 1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.1 ลกู เสือเห็นความสาํ คัญและเข้าใจแนวทางในการร้เู ท่าทนั สื่อได้ 1.2 ลกู เสือมสี ว่ นร่วมในการทํากจิ กรรม และการแสดงความคิดเห็นในหมแู่ ละกองลกู เสอื ได้ 1.3 ลกู เสอื มีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ กจิ การลกู เสือได้ 2. เน้ือหา การรูเ้ ท่าทันส่อื คอื การรู้ทนั สงิ่ ที่สือ่ กาํ ลังนาํ เสนอ โดยอาศยั ฐานความคดิ ของคนท่ไี ม่ตกอยู่ ภายใต้อทิ ธิพลใดๆ ไมเ่ ชอ่ื อะไรง่าย ๆ และไมป่ ระมาท แตใ่ ช้ปัญญาและเหตผุ ลในการคิดวิเคราะห์ ผู้รู้เท่าทันส่ือเท่าน้ัน จึงจะสามารถดําเนินชีวิตท่ามกลางการชี้นําของส่ือในสังคมยุคใหม่ได้ อย่างฉลาด และมเี หตผุ ล 3.สอ่ื การเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมิเพลง 3.2 หนงั สอื พมิ พ์ / นติ ยสาร ที่มีโฆษณา 3.3 ใบความรู้ เรื่อง การรู้เทา่ ทนั สอื่ 3.4 เรอื่ งสัน้ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 พธิ ีเปดิ ประชุมกอง (ชักธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงชา่ งโชคดี 4.3 กิจกรรมตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) หมลู่ ูกเสอื รว่ มกนั ตัดโฆษณา จากหนังสอื พมิ พ์ /นิตยสาร จํานวนหมู่ละ 20 ชิน้ 2) ลกู เสอื แตล่ ะหม่รู ว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละสรปุ ว่า สินค้าในโฆษณาแต่ละช้นิ นนั้ เป็นส่งิ จาํ เปน็ ตอ่ ครอบครัวของลูกเสอื หรอื ไม่ แลว้ วางแยกออกเป็น 2 กอง คือ จาํ เปน็ และไม่จาํ เปน็ 3) หมู่ลูกเสอื สง่ ตัวแทนรายงานในกองลกู เสอื 4) ผกู้ าํ กับลกู เสอื นําอภิปรายในประเดน็ “สินคา้ สว่ นใหญ่ เมือ่ วิเคราะห์อยา่ งละเอยี ด จะพบว่าไมใ่ ชข่ องจาํ เป็นในชวี ติ ประจําวันเลย แตเ่ หตุใดสนิ คา้ เหลา่ น้ีจงึ ยังมีผูซ้ อื้ อยจู่ ํานวนมาก” 5) ผูก้ าํ กบั ลูกเสอื และลูกเสอื ร่วมกันสรปุ (สินคา้ สว่ นใหญ่ ไม่เป็นสง่ิ จาเปน็ ตอ่ ครอบครัว แต่ การโฆษณาของสอื่ มีผลกระตุ้นให้เกดิ ความอยากซือ้ ทงั้ ทไี่ มจ่ าเป็น) 6) ผกู้ าํ กับลูกเสอื เสนอแนะ เพมิ่ เตมิ เร่ืองการรู้เทา่ ทนั สอื่ 4.4 ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื เลา่ เรื่องสนั้ ทเี่ ป็นประโยชน์ เร่ือง สนุ ขั จงิ้ จอกกับแพะ 4.5 พิธีปิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธงลง เลิก) 17ค2มู่ ือสง่ เสคชมู่น้ัรมิอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกฒัิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทกูักเษสะือชทวี ักติ ษใะนชสวี ถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปอื รสะาเมภัญทลรนุ่กู เใสหือญส่ามชัญั้นมรนุ่ธั ใยหมญศ่ึกษาปที ี่ 1 179

5. การประเมินผล 5.1 อธิบายความสาํ คัญและเข้าใจแนวทางในการร้เู ทา่ ทนั สอ่ื 5.2 สงั เกตการมสี ่วนร่วมในการทํากจิ กรรม และการแสดงความคดิ เหน็ ในหมแู่ ละกองลกู เสอื 5.3 แบบประเมนิ การมเี จตคติทด่ี ีตอ่ กิจการลกู เสอื 6.องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สร้างสรรค์ ตระหนักและรู้เท่าทนั ส่ือว่าควรเชื่อถือได้แคไ่ หน 180 ค่มู ือสง่ เสรคมิู่มแือลสะง่ พเสัฒริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลักูกษเะสชอื ีวทิตักใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลชูกใั้นหเมสญัธือย่สมชาศั้นมกึัญมษธัรานุ่ยปมใีทหศ่ีญึก1่ษาปีท1่ี 173

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 20 เพลง ช่างโชคดี ช่างโชคดีวนั นี้มาพบเธอ (ซํา้ ) ฉนั ดใี จจรงิ นะเออมาพบเธอฉนั สุขใจ เธอนั้นอยสู่ บายดหี รอื ไร (ซา้ํ ) มารอ้ งราํ เพลนิ ฤทยั ใหห้ ัวใจสขุ สาํ ราญ ตบมอื ไปกนั ใหพ้ รอ้ มเพรยี ง (ซํา้ ) ยกมอื ไกว ส่ายหวั เอยี ง ให้พรอ้ มเพรยี งตามกนั แลว้ หมุนกลับปรบั ตวั เสียใหท้ นั (ซ้าํ ) มอื เท้าเอว ซอยเท้าพลนั ให้พร้อมกนั เถดิ เอย 17ค4ู่มอื สง่ เสคชู่มนั้รมิอืมแสธั ่งลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที จิ ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมอื ลทูกักเษสะือชทีวกั ติ ษใะนชสวี ถติ าในนสศถึกาษนาศลึกูกษเาสปอื รสะาเมภญัทลรุ่นูกเใสหอื ญส่ามชัญัน้ มร่นุธั ใยหมญศ่กึ ษาปีท่ี 1 181

ใบความรู้ การรู้เทา่ ทันสื่อ (Media Literacy) สือ่ ทกุ ชนดิ เช่น โทรทศั น์ วทิ ยุ หนังสอื พมิ พ์ นติ ยสาร ฯลฯ เป็นธรุ กจิ ทล่ี งทุนสงู และมีรายได้ หลกั จากโฆษณาท่เี จ้าของสนิ ค้ามาใช้บรกิ าร โฆษณาจงึ เปน็ สิ่งท่ตี ง้ั ใจออกแบบมา เพ่อื จงู ใจและกระตุ้นให้กลมุ่ เป้าหมายซอื้ สนิ ค้าใหม้ ากๆ กระบวนการผลิตสอ่ื โฆษณา จงึ ให้แตข่ ้อมูลดา้ นดีเท่านน้ั โฆษณาบางอยา่ งใช้เทคโนโลยเี ขา้ ชว่ ย ทําให้ดเู สมือนจริงแตไ่ ม่จรงิ จงึ มีผลตอ่ พฤตกิ รรมของผู้ซอ้ื อยา่ งมาก เชน่ ผลติ ภณั ฑเ์ สริมความงาม ทท่ี ําใหห้ น้าขาว ลดสวิ ฝ้า เปน็ ตน้ บางชนดิ เนน้ การสร้างภาพลกั ษณแ์ ตไ่ มใ่ หข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั สนิ คา้ เช่น ชาพร้อมด่ืมยหี่ อ้ ตา่ งๆ ทสี่ ว่ นใหญ่เนน้ ภาพลกั ษณ์ความเปน็ ญ่ปี ุน่ แตใ่ นความเปน็ จริงเคร่อื งดมื่ ประเภทนี้มกั มีปรมิ าณนํา้ ตาลที่สูงมาก ซง่ึ เป็นผลเสยี อยา่ งมากตอ่ ผบู้ ริโภค นอกจากนสี้ ่อื ยงั นาํ เสนอขอ้ มูล ข่าวสาร อกี หลายด้าน ทง้ั สงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื ง สอื่ จึงมี อิทธพิ ลช้ีนําได้สงู โดยเฉพาะสาํ หรบั ผทู้ ีข่ าดประสบการณ์ และผู้ทไ่ี มส่ ามารถเขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มูลที่หลาก หลายเพอื่ เปรยี บเทยี บ คนเหลา่ นมี้ กั จะเชือ่ ทุกสง่ิ ท่ีสอ่ื นาํ เสนอ ผู้ผลิตส่ือและผู้ที่ใช้สอ่ื เปน็ เคร่ืองมอื จึงสามารถช้นี าํ ผ้รู บั สื่อไปในทางทเ่ี ขาตอ้ งการได้ ข้อสําคัญตอ้ งเขา้ ใจให้ถ่องแท้วา่ ผทู้ ที่ ําหน้าทีส่ ือ่ ข่าวสารตา่ ง ๆ ล้วนเปน็ ผลผลติ ของสังคมเชน่ กนั ดังนนั้ จงึ อาจเตม็ ไปด้วยอวิชชา อคติและกเิ ลส ท่เี ราในฐานะ \"ผูร้ บั สาร\"ตอ้ งรู้เทา่ ทนั และสร้างภูมคิ มุ้ กนั ให้ตนเอง นค่ี ือสง่ิ ท่แี วดวงวชิ าการเรยี กว่า \"การรเู้ ท่าทันสอื่ \" การรูท้ ันสอ่ื จงึ เปน็ การรู้ทนั สิง่ ทสี่ อื่ กาํ ลังนําเสนอ โดยอาศัยฐานคดิ ของคนทไ่ี มต่ กอย่ภู ายใต้ อทิ ธพิ ลใดๆไม่เชือ่ อะไรง่ายๆและไมป่ ระมาท แต่ใช้ปญั ญาและเหตุผลในการคดิ วิเคราะห์ ต้ังขอ้ สงสยั รวมทง้ั เปน็ ผบู้ ริโภคทกี่ ระตอื รือรน้ แสวงหาขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ และเปรยี บเทยี บจากแหล่งต่างๆ อยู่เสมอ ผรู้ เู้ ท่าทนั สอื่ เท่านนั้ จงึ จะสามารถดาํ เนนิ ชวี ิตทา่ มกลางการชน้ี ําของสื่อในสงั คมยคุ ใหมไ่ ดอ้ ยา่ งฉลาด และมีเหตุผล สรุปสั้นๆได้ว่าการรู้เทา่ ทันสือ่ คือการรู้เทา่ ทันบรโิ ภคนยิ ม รู้เทา่ ทนั การเมอื ง รเู้ ท่าทนั สงั คมและตนเอง 182 คมู่ ือสง่ เสรคมิมู่ แือลสะ่งพเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรอืรมทลักกูษเะสชือวี ทิตักใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาอื ปสารมะเัญภทรนุ่ลชกูใัน้ หเมสญัธอื ย่สมชาศน้ัมกึัญมษัธรานุ่ยปมใีทหศ่ีญกึ1่ษาปีท1่ี 175

เรอ่ื งสน้ั ท่ีเปน็ ประโยชน์ สุนัขจงิ้ จอกกับแพะ สุนัขจ้ิงจอกกับแพะเป็นเพื่อนกัน พวกมันมักจะถกเถียงกันอยู่เร่ือยๆ ว่าใครจะฉลาดกว่ากัน วันหน่ึงขณะทพี่ วกมนั ชวนกันกระโดดลงไปด่ืมนํา้ ในบอ่ ทช่ี าวบ้านช่วยกนั สร้างขนึ้ มาเพื่อเกบ็ นาํ้ แตเ่ พราะความหวิ เลยไมท่ ันสงั เกตวา่ บ่อน้าํ น้ันลึกมาก พอกินน้ําในบอ่ จนอม่ิ แล้ว ต่างก็พยายามหาทาง ขึน้ จากบ่อ แตก่ ็จนปญั ญา สุนขั จ้งิ จอกผ้ฉู ลาดและเจา้ เล่ห์กวา่ จึงออกอบุ ายให้แพะยืนเอาขาหน้า ทั้งสองเกาะกําแพงบอ่ ไว้ แลว้ ยดื ตวั ใหเ้ ต็มท่เี พอื่ ผลัดกันปีนขึน้ ไป สุนัขจง้ิ จอกใช้โอกาสนน้ั เหยยี บ ตัวแพะแล้วกระโดดข้นึ ไปได้ก่อน แลว้ มนั จงึ หนั มาพดู เยาะเยย้ แพะวา่ “ถา้ เจา้ ฉลาดอย่างท่เี จ้าวา่ เจ้าก็จงหาทางปนี ขน้ึ มาจากบอ่ เอาเองเถดิ ขา้ ไปกอ่ นนะ” เรอื่ งนส้ี อนใหร้ ้วู า่ ผ้ทู ีม่ คี วามฉลาด ยอ่ มเอาตวั รอดไดเ้ สมอ 17ค6มู่ ือสง่ เสชคมู่้นัริมอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพีทิจี่ฒั ก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทูกักเษสะอื ชทีวักิตษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลึกกูษเาสปอื รสะาเมภัญทลรนุู่กเใสหือญส่ามชัญน้ั มร่นุธั ใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 183

แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ (เคร่อื งหมายลูกเสือโลก) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยท่ี 11 ความปลอดภัย เวลา 2 ชัว่ โมง แผนการจัดกิจกรรมท่ี 21 โฆษณาเปน็ พษิ 1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.1 ลกู เสือสามารถอธิบายปญั หาสงั คมท่ีมีอยู่ได้ 1.2 ลกู เสอื มที กั ษะในการสํารวจ สังเกต และรูเ้ ท่าทนั ปญั หาทางดา้ นสงั คมได้ 1.3 ลูกเสอื มเี จตคติท่ดี ตี อ่ กจิ การลกู เสอื ได้ 2. เนอื้ หา กิจกรรมสํารวจเป็นทักษะทีท่ า้ ทายความสามารถของลูกเสือ นอกจากจะสํารวจธรรมชาติแลว้ การสํารวจสังคมยังเปน็ กจิ กรรมทช่ี ่วยใหผ้ ูป้ ฏิบตั ิเกดิ ความตระหนกั ในปญั หาสังคมที่มอี ยู่ และรจู้ ักระวังปอ้ งกันตนเองได้ 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมิเพลง, เกม 3.2 ใบความรู้ เร่ือง สรปุ เนอ้ื หาพระราชบญั ญัตคิ วบคมุ เคร่อื งดม่ื แอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 3.3 เร่อื งสน้ั ที่เปน็ ประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมคร้งั ท่ี 1 1) พิธเี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 2) เพลงใตร้ ม่ ธงไทย 3) กิจกรรมตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ าํ กับลูกเสือนําสนทนาเรอื่ งกฎหมายหา้ มโฆษณา เหลา้ พร้อมแจกใบความรู้ “สรปุ เนื้อหาพระราชบญั ญตั คิ วบคุมเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลพ์ .ศ. 2551”ใหล้ กู เสือแตล่ ะหม่ศู ึกษาร่วมกัน ในเวลา 10 นาที (2) ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื ถามความเหน็ ของกองลูกเสอื ว่าเหน็ ด้วยกับกฎหมายฉบบั น้หี รือไม่ เพราะอะไร (3) ผกู้ ํากับลกู เสือมอบหมายงานใหห้ มลู่ กู เสอื ทาํ การสาํ รวจ สังเกตและวิเคราะห์ (สอดแนม) ว่าในชมุ ชนของเรามกี ารละเมดิ โฆษณาตามพรบ.ฉบับนีห้ รอื ไม่ และละเมดิ อยา่ งไร โดยการสงั เกตแบบเงียบๆไมไ่ ด้เกี่ยวข้องกบั การเอาผิด หรอื ร้องเรยี นใดๆเพอื่ ป้องกนั ความเขา้ ใจผดิ ของผู้ประกอบการคา้ เคร่อื งด่มื แอลกอฮอล์ (4) ลกู เสือแต่ละหมู่วางแผนออกสาํ รวจ เพอ่ื รายงานในครัง้ ต่อไป 4) ผ้กู าํ กบั ลูกเสอื เล่าเรอื่ งส้ันทเ่ี ปน็ ประโยชน์ เรอื่ ง ทมี่ าของเคร่อื งหมายลูกเสือโลก 5) พิธปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธงลง เลกิ ) 184 คมู่ ือสง่ เสรคิมู่มแือลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูิจเกสรือรมทลักูกษเะสชือีวทติ กั ใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลชกูใั้นหเมสญธัือย่สมชาศน้ัมกึัญมษธัราุ่นยปมใีทหศ่ีญึก1่ษาปที 1ี่ 177

4.2 กจิ กรรมคร้งั ท่ี 2 1) พิธีเปิดประชมุ กอง (ชักธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2) เกมการแขง่ ขนั โฆษณา 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (1) ลูกเสอื แต่ละหมู่รายงานผลการสาํ รวจ(สอดแนม) โดยเล่ารายละเอยี ดรปู แบบ ท่ลี ะเมิดการหา้ มโฆษณาให้เพ่อื นฟงั (2) ผู้กํากบั ลูกเสอื เปิดโอกาสใหล้ กู เสอื แสดงความคดิ เห็นตอ่ ผลการสาํ รวจ (3) ผกู้ าํ กับลูกเสือนาํ อภปิ ราย สรปุ และช่วยเพมิ่ เติม ในประเดน็ “ลูกเสอื ควรมสี ่วนร่วม ในเรอ่ื งทาํ นองเดยี วกนั น้ีอยา่ งไร เชน่ การละเมดิ สบู บหุ รี่ในทห่ี า้ มสูบ การละเมดิ กฎหมายยอมให้ผ้เู ยาว์ ทีอ่ ายนุ อ้ ยกวา่ 18 ปี เขา้ ไปเทย่ี วในสถานทเ่ี ทย่ี วกลางคนื เป็นต้น” 4) ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื เล่าเร่อื งส้นั ทเ่ี ป็นประโยชน์ เรอื่ ง ผง้ึ ขอพร 5) พิธีปดิ ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธงลง เลกิ ) - ผกู้ ํากบั ลกู เสอื นัดหมายลูกเสอื เตรียมอปุ กรณ์สาํ หรับการปฏิบตั กิ จิ กรรมในสปั ดาหต์ อ่ ไป 5. การประเมินผล 5.1 อธบิ ายเกยี่ วกับปญั หาสงั คมทมี่ อี ยู่ 5.2 สังเกตการมสี ่วนรว่ มในการทาํ กจิ กรรมสาํ รวจ สังเกต และรเู้ ทา่ ทันปัญหาทางดา้ นสงั คม 5.3 แบบประเมนิ การมเี จตคติทด่ี ีตอ่ กิจการลกู เสือ 6. องคป์ ระกอบทักษะชีวติ สําคัญที่เกดิ จากกิจกรรม คอื ความคิดวเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ รับผดิ ชอบสงั คม 17ค8่มู อื สง่ เสคชู่มั้นริมือมแสธั ่งลยเมะสพศรึกฒัิมษแนลาาปะกพที จิ ี่ฒั ก1รนรามกลจิ กกู รเสรมอื ลทกูักเษสะือชทีวกั ิตษใะนชสวี ถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภญัทลรนุ่กู เใสหอื ญส่ามชญั้นั มรนุ่ัธใยหมญศ่กึ ษาปที ี่ 1 185

ที่ 21 เพลง ใต้รม่ ธงไทย ใต้รม่ ธงไทย รม่ เยน็ เหมอื นด่ังอยู่ในร่มโพธ์ริ ่มไทร ท่มี ีกิ่งใบแน่นหนา ชาตไิ ทยใหญ่หลวงแตกกระจดั กระจาย ถกู แบ่งแยกยา้ ยไปอยหู่ ลายสาขา เชิญพวกพอ้ งพนี่ อ้ งมาพรอ้ มกนั เชญิ อย่ใู ต้ร่มธงไทย เลอื ดเนอ้ื เผ่าไทยนค้ี วรจะมสี มานฉนั ท์ เหมือนนอ้ งพเ่ี ลือดเน้ือเรามสี ายเดยี วเกยี่ วพัน ใต้รม่ ธงไทยร่มเหมอื นดงั โพธไ์ิ ทร ใต้รม่ ธงไทยเยน็ เหมอื นใต้แสงจนั ทร์ เกม การแขง่ ขันโฆษณา ให้ลูกเสอื แตล่ ะหมูส่ ่งตวั แทนออกมาเลยี นแบบโฆษณาจากสอื่ (โทรทัศน)์ แลว้ หมทู่ ี่เหลอื ชว่ ยกนั ทายวา่ เปน็ การโฆษณาอะไร ทาํ จนครบทกุ หมู่ 186 ค่มู ือสง่ เสรคิมู่มแอื ลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลักกูษเะสชอื วี ทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศกูึกเษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลชูกใ้นั หเมสญัธือย่สมชาศัน้มึกญัมษธัราุ่นยปมใีทหศ่ีญกึ1่ษาปที 1ี่ 179

ใบความรู้ สรุป พระราชบัญญัตคิ วบคมุ เครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 พระราชบญั ญตั ิ ควบคมุ เคร่ืองด่มื แอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ให้ไว้ ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยท่ีเป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พระราชบญั ญัติน้ีมีบทบญั ญัติบางประการเกีย่ วกบั การจาํ กดั สิทธิและเสรภี าพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกบั มาตรา 41 มาตรา 43 และมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้ โดยอาศัยอาํ นาจตามบทบัญญตั แิ หง่ กฎหมายจงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบญั ญตั ขิ ้ึนไว้ โดยคาํ แนะนาํ และยินยอมของสภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติ ดังตอ่ ไปน้ี มาตรา 1 พระราชบญั ญตั ินเ้ี รียกวา่ พระราชบัญญัตคิ วบคุมเคร่ืองดมื่ แอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 2 พระราชบญั ญัตินี้ใหใ้ ช้บังคับตง้ั แตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เป็นตน้ ไป มาตรา 27 หา้ มขายเครือ่ งดม่ื แอลกอฮอลใ์ นสถานทห่ี รือบรเิ วณดังตอ่ ไปนี้ (1) วดั หรอื สถานท่สี าํ หรับปฏิบัตพิ ิธกี รรมทางศาสนา (2) สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั สถานพยาบาลตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถานพยาบาล และรา้ นขายยาตามกฎหมายวา่ ด้วยยา (3) สถานทรี่ าชการ ยกเว้นบรเิ วณทีจ่ ดั ไว้เปน็ รา้ นคา้ หรอื สโมสร (4) หอพกั ตามกฎหมายว่าด้วยหอพกั (5) สถานศกึ ษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแหง่ ชาติ (6) สถานบี ริการน้าํ มนั เชอื้ เพลงิ ตามกฎหมายวา่ ด้วยการควบคุมน้าํ มนั เชอ้ื เพลิง หรือรา้ นค้าในบริเวณสถานีบรกิ ารน้ํามนั เชือ้ เพลิง (7) สวนสาธารณะของทางราชการทจี่ ดั ไว้เพื่อการพักผ่อนของประชาชนโดยทัว่ ไป (8) สถานทอ่ี นื่ ทีร่ ฐั มนตรีประกาศกําหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมาตรา 28 หา้ มมใิ หผ้ ใู้ ดขายเครื่องดืม่ แอลกอฮอลใ์ นวัน หรอื เวลาท่รี ัฐมนตรปี ระกาศกาํ หนดโดยคาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการ ท้งั นี้ประกาศดงั กล่าวจะกําหนดเงอ่ื นไขหรอื ขอ้ ยกเว้นใดๆ เท่าทีจ่ าํ เป็นไวด้ ้วยก็ได้ บทบญั ญตั ิในวรรคหนง่ึ มิให้ใช้บังคับกับการขายของผูผ้ ลิตผ้นู าํ เข้าหรอื ตัวแทนของผผู้ ลิตหรอื ผนู้ าํ เขา้ ไปยงั ผูข้ ายซึ่งไดร้ ับอนุญาตตามกฎหมายว่าดว้ ยสรุ า มาตรา 29 หา้ มมิใหผ้ ู้ใดขายเครอ่ื งด่มื แอลกอฮอลแ์ ก่บุคคลดงั ตอ่ ไปน้ี (1) บคุ คลซง่ึ มีอายตุ ํา่ กว่ายสี่ ิบปบี ริบูรณ์ (2) บุคคลท่มี อี าการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ มาตรา 30 หา้ มมิให้ผูใ้ ดขายเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์โดยวิธีการหรอื ในลกั ษณะ ดังตอ่ ไปน้ี (1) ใชเ้ คร่อื งขายอตั โนมตั ิ (2) การเร่ขาย 18ค0มู่ ือสง่ เสชค่มูน้ัรมิือมแสัธง่ลยเมะสพศรึกัฒิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทกูกั เษสะอื ชทีวักติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลึกกูษเาสปอื รสะาเมภญัทลร่นุกู เใสหือญส่ามชัญัน้ มรุน่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปีที่ 1 187

(3) การลดราคาเพอื่ ประโยชน์ในการส่งเสรมิ การขาย หนา้ 45 เลม่ 125 ตอนที่ 33 ก ราชกจิ จานเุ บกษา 13 กุมภาพนั ธ์ 2551 (4) ให้หรอื เสนอให้สทิ ธิในการเข้าชมการแข่งขนั การแสดง การใหบ้ ริการ การชงิ โชคการ ชงิ รางวัล หรอื สิทธปิ ระโยชนอ์ น่ื ใดเปน็ การตอบแทนแก่ผ้ซู ้ือเครือ่ งดมื่ แอลกอฮอล์ หรอื แกผ่ นู้ ําหีบห่อ หรือสลากหรอื สงิ่ อนื่ ใดเกย่ี วกับเคร่อื งดื่มแอลกอฮอลม์ าแลกเปล่ยี นหรือแลกซื้อ (5) โดยแจก แถม ให้ หรอื แลกเปลย่ี นกับเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ หรอื กับสินคา้ อืน่ หรือการใหบ้ ริการอยา่ งอ่ืนแลว้ แต่กรณี หรือแจกจ่ายเคร่อื งดมื่ แอลกอฮอลใ์ นลกั ษณะเป็นตัวอย่าง ของเคร่ืองดมื่ แอลกอฮอล์ หรือเปน็ การจูงใจสาธารณชนใหบ้ รโิ ภคเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ รวมถงึ การกําหนดเงอ่ื นไขการขายในลกั ษณะท่ีเปน็ การบังคบั ซอ้ื เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล์โดยทางตรงหรอื ทางออ้ ม (6) โดยวิธีหรือลกั ษณะอน่ื ใดตามทร่ี ฐั มนตรปี ระกาศกาํ หนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการ มาตรา 31 หา้ มมใิ หผ้ ู้ใดบรโิ ภคเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ในสถานทห่ี รอื บรเิ วณดงั ต่อไปนี้ (1) วัดหรือสถานทส่ี าํ หรับปฏิบัตพิ ิธกี รรมทางศาสนา เวน้ แต่เป็นส่วนหนึง่ ของพธิ กี รรมทางศาสนา (2) สถานบรกิ ารสาธารณสุขของรฐั สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และรา้ นขายยาตามกฎหมายว่าดว้ ยยา ยกเว้นบรเิ วณท่ีจดั ไวเ้ ป็นท่พี กั ส่วนบคุ คล (3) สถานทรี่ าชการ ยกเว้นบรเิ วณทจี่ ัดไวเ้ ปน็ ท่ีพกั สว่ นบุคคล หรอื สโมสร หรือการจดั เล้ยี ง ตามประเพณี (4) สถานศกึ ษาตามกฎหมายวา่ ด้วยการศกึ ษาแหง่ ชาติ ยกเวน้ บริเวณทจ่ี ดั ไว้เป็นทพ่ี ัก ส่วนบุคคลหรอื สโมสร หรือการจดั เลยี้ งตามประเพณี หรือสถานศกึ ษาท่สี อนการผสมเคร่อื งดม่ื แอลกอฮอลแ์ ละได้รบั อนญุ าตตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาแห่งชาติ (5) สถานีบรกิ ารนา้ํ มนั เชอื้ เพลิงตามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคมุ นา้ํ มันเชอ้ื เพลิงหรอื ร้านคา้ ในบริเวณสถานบี รกิ ารนา้ํ มันเชอ้ื เพลงิ (6) สวนสาธารณะของทางราชการทจี่ ดั ไว้เพอ่ื การพักผอ่ นของประชาชนโดยทัว่ ไป (7) สถานทอ่ี นื่ ที่รัฐมนตรปี ระกาศกาํ หนดโดยคาํ แนะนําของคณะกรรมการ 188 คูม่ ือสง่ เสรคมิมู่ แือลสะง่ พเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกูกิจเกสรอืรมทลกั ูกษเะสชือีวทิตกั ใษนะสชถวี าิตนในศสึกถษาานลศกูึกเษสาือปสารมะเัญภทรุ่นลชูกใน้ั หเมสญัธือย่สมชาศัน้มกึัญมษธัราุ่นยปมใทีหศ่ีญกึ1่ษาปีท1ี่ 181

เร่อื งสั้นทเี่ ป็นคติสอนใจ ทีม่ าของเครอ่ื งหมายลูกเสือโลก 1. ดอกลลิ ล่สี ขี าว มี 3 กลีบ ดอกลลิ ลเ่ี ปน็ สญั ลกั ษณ์แหง่ การทาํ ความดี สว่ น 3 กลบี หมายถึงคําปฏญิ าณ 3 ขอ้ 2. รูปดาว 5 แฉก 2 ดวง ในกลีบดอกลลิ ล่ดี า้ นซา้ ยและขวา รวมกันเปน็ 10 แฉก หมายถงึ กฎลกู เสือ 10 ข้อ 3. เส้นเชือกสขี าวที่ลอ้ มรอบดอกลลิ ล่แี สดงถึงโลกใบน้ี เกลยี วเชือก หมายถึงสมาชกิ ลกู เสอื ทว่ั โลก 4. ปลายเชือกทัง้ สองมาผกู กนั เปน็ เงอื่ นพิรอด แสดงถงึ การจบั มอื กนั แบบลูกเสอื “ลกู เสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเปน็ พ่ีน้องกบั ลกู เสือท่ัวโลก” ผ้ึงขอพร พระอศิ วรตรสั ถามผ้งึ ท่ีมกั จะนําน้าํ ผ้งึ สดๆ เตม็ รวงมาถวาย อยเู่ สมอวา่ \"เจา้ อยากไดพ้ รใด จงขอมา ข้าจะให้พรเเก่เจ้า\" ผึง้ คิดอยชู่ ่ัวขณะจงึ ทูลตอบว่า \"ข้าอยากได้เหลก็ ในพระเจ้าข้า เม่อื ต่อยเหลก็ ในมพี ษิ ใส่ใคร ผ้นู ัน้ จะตอ้ งตายทนั ท\"ี คาํ ขอของผึ้งทาํ ใหพ้ ระอศิ วรทรงกรวิ้ ทผี่ ง้ึ คดิ ทําร้ายผู้อื่น เเตพ่ ระองคก์ ท็ รงจาํ ตอ้ งใหพ้ ร ตามทล่ี นั่ วาจาไว้ \"ได้ ขา้ จะใหพ้ รเเกเ่ จ้า เเตค่ นหรอื สัตวท์ ีถ่ กู เจา้ ตอ่ ยจะไม่ตายในทนั ที ส่วนเจา้ น้นั เมื่อปล่อยเหล็กในเมื่อใดก็ตอ้ งตายเมือ่ นัน้ \" เร่อื งนีส้ อนใหร้ ้วู า่ ผทู้ ค่ี ดิ ให้ร้ายผู้อนื่ มกั ตอ้ งได้รบั กรรมดว้ ย 18ค2่มู อื สง่ เสชคู่มน้ัริมอืมแสัธง่ลยเมะสพศรกึฒัมิ ษแนลาาปะกพีทิจี่ฒั ก1รนรามกลิจกูกรเสรมอื ลทูกักเษสะือชทีวกั ติ ษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลึกกูษเาสปือรสะาเมภัญทลรุ่นูกเใสหอื ญส่ามชญัน้ั มรุ่นัธใยหมญศ่ึกษาปที ี่ 1 189

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ (เครอ่ื งหมายลูกเสอื โลก) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หนว่ ยท่ี 12 ประเมนิ ผล เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 22 การประเมนิ ผล 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 เพือ่ ให้ลูกเสอื เขา้ ใจการประเมนิ ผลเพอ่ื การตดั สนิ ผลการผ่านหรือ ไมผ่ า่ นกิจกรรมได้ 1.2 เพื่อให้ลกู เสอื สามารถรับการประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชีวติ ที่ลกู เสือได้รบั การพัฒนาได้ 1.3 เพ่อื ให้ลกู เสอื เตรียมความพรอ้ มรบั การประเมนิ ตามวิธกี ารของผูก้ ํากับกองลกู เสอื ได้ 2. เน้ือหา 2.1 เกณฑก์ ารตัดสินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พ.ศ. 2551 2.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะชีวิต 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 Flow Chart การประเมินเพื่อตดั สินผลการเลือ่ นช้ันของลูกเสอื และจบการศึกษา 3.2 การประเมินทักษะชวี ิตของลูกเสือรายบุคคลหรือรายหม่ลู ูกเสือ 3.3 ใบความรู้ 4. กิจกรรม 4.1 ผู้กาํ กับลูกเสืออธบิ ายหลกั เกณฑ์ วธิ ีการเรยี นรู้และวธิ ีการประเมินผลการเรียนรูต้ ามท่ี หลักสตู รการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พ.ศ. 2551 เพ่อื ตดั สนิ การจบการศกึ ษา 4.2 ผู้กาํ กบั ลกู เสอื อธบิ ายถึงพฤติกรรมของลกู เสือท่ีได้รับการเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ิตผา่ นกจิ กรรม ลกู เสอื 4.3 ลกู เสือประเมินความพรอ้ มของตนเองเพื่อรบั การประเมนิ และวางแผนพฒั นาตนเอง ในสว่ นทไี่ ม่มน่ั ใจ 4.4 ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื และลูกเสือกําหนดขอ้ ตกลงรว่ มกนั ถงึ ช่วงเวลาการประเมนิ 4.5 ผ้กู าํ กับลกู เสอื นดั หมายและดาํ เนินการประเมนิ 5. การประเมนิ ผล 5.1 สังเกตจากผลการประเมนิ ตนเองของลูกเสอื 5.2 สังเกตความม่ันใจและการยืนยนั ความพรอ้ มของลกู เสือ 190 คู่มือสง่ เสรคิมูม่ แอื ลสะง่ พเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลกั กูษเะสชือวี ทติ ักใษนะสชถวี าติ นในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเัญภทรนุ่ลชกูใน้ั หเมสญัธอื ย่สมชาศัน้มกึัญมษัธรา่นุยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปที 1่ี 183

6.บันทกึ ผลหลงั สอน 1. ดา้ นความรู้ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. ดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. ด้านคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ลงชอื่ ..................................................................ผสู้ อน (.............................................) บันทึกความเห็นขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ ของหวั หน้ากลมุ่ งานวิชาการ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ลงช่อื .................................................................... (...........................................) หัวหนา้ ฝ่ายงานวิชาการ บันทกึ ความเหน็ ขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ ของรองผอู้ าํ นวยการฝ่ายวชิ าการ ........................................................................................................................................................... ลงช่ือ.................................................................... (...........................................) รองผอู้ าํ นวยการฝ่ายวชิ าการ บนั ทกึ ความเหน็ ข้อเสนอแนะการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ ของผอู้ ํานวยการโรงเรยี น ........................................................................................................................................................... ลงช่ือ.................................................................... (...............................................) ผอู้ าํ นวยการโรงเรยี น.......................... 18ค4มู่ อื สง่ เสชคู่ม้นัรมิอืมแสัธง่ลยเมะสพศรกึฒัมิ ษแนลาาปะกพที จิ ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมอื ลทกูกั เษสะือชทวี กั ิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกกูษเาสปือรสะาเมภัญทลร่นุูกเใสหอื ญส่ามชญันั้ มร่นุธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 191

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 22 1. การประเมินผลตามเกณฑ์ของหลักสูตรการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 Flow Chartกระบวนการประเมนิ ผลลูกเสอื ลูกเสือเรยี นรจู้ ากกิจกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ ลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวติ 1. เวลาเข้ารว่ มกิจกรรม 2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ผู้กากับประเมนิ ผลเรยี นของลูกเสอื ท่ีรว่ ม 3. ผลงาน / ชนิ้ งาน กิจกรรม 4. พฤตกิ รรม/คณุ ลักษณะของลูกเสอื ไมผ่ า่ น - ซอ่ มเสรมิ - พัฒนาซา้ ผลการประเมิน ผ่าน ผ่าน ตัดสินผลการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์ รบั เครอื่ งหมายช้นั ลูกเสือ ตามประเภทลกู เสือ 192 ค่มู ือสง่ เสรคมิูม่ แอื ลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลกั ูกษเะสชอื วี ทติ กั ใษนะสชถวี าิตนในศสกึ ถษาานลศกูกึ เษสาือปสารมะเัญภทรุน่ลชกูในั้ หเมสญัธือย่สมชาศ้นัมกึัญมษธัรานุ่ยปมใีทหศี่ญึก1่ษาปที 1่ี 185

แบบประเมนิ การเรยี นรูท้ ักษะจากกจิ กรรมตามแผน ชอ่ื ..........................................................ประเภทลกู เสอื ...........................ชน้ั ................................ ที่ รายการท่ีรบั การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 3 21 1 การแตง่ เคร่ืองแบบลูกเสอื 2 ความเขา้ ใจในเรื่องกจิ การของลกู เสอื 3 ดตี ิดดาว 4 การคบเพอ่ื น 5 วถิ ไี ทยและภูมิปัญญาท้องถน่ิ 6 เดก็ ติดเกม 7 ปฏบิ ัติตามคําปฏญิ าณ และกฎของลกู เสอื 8 ความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ 9 ความเปน็ สภุ าพบุรษุ และสภาพสตรี 10 ขยะนมี้ มี ูลคา่ 11 ระเบียบแถวลูกเสือ 12 การกางเตน้ ท์และร้ือเตน็ ท์ท่พี กั แรม 13 การบรรจุเครื่องหลังสําหรับการเดนิ ทางไกลไปพักแรม 14 การก่อและจดุ ไฟกลางแจง้ และการปรงุ อาหาร 15 การอ่านและใช้แผนท่เี ข็มทศิ 16 เง่ือนเชอื กลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ 17 การปฐมพยาบาล 18 ภัยสังคมทางอินเตอร์เนต็ 19 เบอ้ื งหลังกว๋ ยเตย๋ี ว 20 รเู้ ทา่ ทันสอ่ื 21 โฆษณาเป็นพิษ ผ่าน สรปุ คะแนน 47 – 63 ได้ระดบั คุณภาพ 1 (ดีมาก) คะแนน 22 – 46 ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 (ดี) คะแนน 1 – 21 ได้ระดับคณุ ภาพ 1 (พอใช)้ 186 คมู่ อื คสู่มง่ ือเสสร่งมิเสแรลมิ ะแพลฒั ะพนัฒากนิจากกริจรกมรลรมกู ลเสกู ือเสทือักทษักะษชะวี ชติ วี ใติ นใสนถสาถนาศนึกศกึษษาาลปกู รเสะเอื ภสทาลมกู ัญเสรอืุ่นสใาหมญญั ่ รชนุ่ ้ันใมหธัญย่ มศกึ ษาปีที่ 1 193 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1

เกณฑ์การประเมิน รายการ ดีมาก (3) ระดบั คุณภาพ พอใช(้ 1) ด(ี 2) แตง่ เครือ่ งแบบลกู เสือ 1. แต่งเครอ่ื งแบบลกู เสอื ตาม แตง่ เครื่องแบบลูกเสอื แต่งเคร่อื งแบบลกู เสอื แสดงความเข้าใจใน กฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบได้ ตามกฎกระทรวงว่า แตไ่ ม่ถูกตอ้ งตาม เร่ืองกิจการของลกู เสอื กฎกระทรวงวา่ ดว้ ย ไดถ้ กู ตอ้ ง 2 หวั ขอ้ อยา่ งถูกตอ้ ง ดว้ ยเครอื่ งแบบได้ เครอ่ื งแบบได้ แสดงความเขา้ ใจใน สรุปผลการวเิ คราะห์ อย่างถกู ตอ้ ง เรอื่ งกิจการของลูกเสอื ความเหน็ ของเพอื่ นๆ ไดถ้ กู ต้อง 3 หัวขอ้ แล้วยอมรับเฉพาะขอ้ ดี 2. ความเขา้ ใจในเรือ่ งกจิ การของ แสดงความเข้าใจใน ของตนเอง สรปุ ผลการวิเคราะห์ ลูกเสอื ในเรอ่ื งต่อไปนี้ เรอื่ งกจิ การของลูกเสอื ความเหน็ ของเพอื่ นๆ รคู้ วามสาํ คัญของการ แลว้ ร้จู กั และเข้าใจ คบเพอื่ น และมี 2.1 บอกกิจการลกู เสอื โลก ได้ถูกต้องทงั้ 4 หวั ขอ้ ขอ้ ดขี องตนเองได้ แนวทางในการสร้าง สัมพนั ธภาพที่ โดยสังเขป เห็นความสําคัญของ เหมาะสมกบั เพอื่ น การคบเพอ่ื น และมี ทั้งเพอ่ื นเพศเดียวกนั 2.2 อธบิ ายความสมั พันธ์ แนวทางในการสรา้ ง และเพ่ือนต่างเพศ สมั พันธภาพที่ ลูกเสือปฏิบตั ติ ามวถิ ี ระหวา่ งลกู เสอื นานาชาติ เหมาะสมกบั เพอื่ น ไทยและภมู ปิ ัญญา ทงั้ เพ่ือนเพศเดยี วกนั ทอ้ งถิ่นตามที่มีผู้ 2.3 อธบิ ายโครงสรา้ งการการ และเพอื่ นตา่ งเพศ แนะนาํ ลกู เสือปฏิบตั ติ ามวิถี บริหารคณะลกู เสือแหง่ ชาติ ไทยและภมู ิปัญญา ท้องถนิ่ อยา่ งสมา่ํ เสมอ 2.4 บอกบทบาทของตนเองใน ฐานะทเ่ี ป็นลกู เสอื สามัญรุ่นใหญ่ ทีม่ ตี ่อชมุ ชน 3. ดีตดิ ดาว สรุปผลการวิเคราะห์ ความเหน็ ของเพอื่ นๆ แลว้ ยอมรับ รจู้ ักและ เข้าใจข้อดขี องตนเอง ได้ 4 การคบเพอื่ น ตระหนกั ความสาํ คญั ของการคบเพอ่ื น และ มแี นวทางในการสร้าง สัมพันธภาพที่ เหมาะสมกบั เพอ่ื น ท้ังเพอื่ นเพศเดียวกนั และเพอ่ื นตา่ งเพศ 5 วถิ ีไทยและภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น ลกู เสือมจี ติ สํานึกและ ปฏบิ ัติตามวิถีไทยและ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ อยา่ งเป็นนสิ ัย 194 คมู่ ือสง่ เสรคิมู่มแอื ลสะ่งพเสัฒริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลกั กูษเะสชือีวทิตักใษนะสชถวี าิตนในศสึกถษาานลศกูกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลชกูใัน้ หเมสญธัือย่สมชาศ้นัมึกัญมษธัรานุ่ยปมใทีหศ่ีญึก1่ษาปีท1่ี 187

เกณฑ์การประเมิน รายการ ดมี าก (3) ระดับคุณภาพ พอใช(้ 1) ด(ี 2) 6 เดก็ ติดเกม ตระหนักถงึ ปญั หาและ ตระหนักถงึ ปัญหาและ ตระหนกั ถงึ ปญั หาและ ผลกระทบเนื่องจาก ผลกระทบเน่ืองจากการ ผลกระทบเนือ่ งจาก การตดิ เกมจากสื่อ ติดเกมจากสอื่ การติดเกมจากสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และมี อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และ อเิ ล็กทรอนิกส์ และไม่ แนวทางไดอ้ ยา่ ง บอกแนวทางในการ สามารถบอกแนวทาง ถกู ตอ้ ง ป้องกนั การตดิ เกมได้ ในการปอ้ งกนั การตดิ บ้าง เกมได้บา้ ง 7 ปฏบิ ัตติ ามคําปฏิญาณ และกฎ ลกู เสือบอกความหมาย ลกู เสอื บอกความหมาย ลูกเสือบอกความหมาย ของลกู เสือ ของคาํ ปฏญิ าณและกฎ ของคาํ ปฏิญาณและกฎ ของคาํ ปฏิญาณและกฎ ของลูกเสอื ได้ วางแผน ของลูกเสอื ได้ วางแผน ของลูกเสือได้ วางแผน นําไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ - นาํ ไปใชใ้ นชวี ิตประจํา- นําไปใช้ในชวี ติ ประจํา- วนั ได้ และ ปฏิบตั ิตน วันได้ และ ปฏบิ ตั ิตน วันได้ และ ปฏบิ ตั ิตน ตามคาํ ปฏิญาณและ ตามคาํ ปฏญิ าณและกฎ ตามคําปฏิญาณและกฎ กฎของลกู เสือไดอ้ ยา่ ง ของลูกเสือได้เปน็ ของลูกเสือได้โดยมี เปน็ นสิ ัย ประจาํ แบบอย่างหรอื มผี ู้ แนะนาํ 8 ความซื่อสตั ย์สุจรติ ลูกเสือแสดงออกถึง ลกู เสือแสดงออกถึง ลกู เสอื แสดงออกถึง ความเปน็ ผมู้ คี วาม ความเป็นผมู้ คี วาม ความเปน็ ผู้มคี วาม ซื่อสัตยส์ จุ ริตอยา่ ง ซ่ือสัตย์สจุ ริตอยา่ ง ซ่ือสัตยส์ จุ ริตโดยตอ้ งมี เป็นนิสยั สมํ่าเสมอ ผูแ้ นะนํา 9 ความเปน็ สุภาพบรุ ุษและ เหน็ คุณคา่ และ เห็นคณุ คา่ และ เหน็ คณุ คา่ และ สภาพสตรี แสดงออกถงึ ความเป็น แสดงออกถึงความเปน็ แสดงออกถึงความเป็น สภุ าพบุรุษสภุ าพสตรี สภุ าพบุรุษสุภาพสตรี สุภาพบุรษุ สุภาพสตรี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ได้ โดยทม่ี ผี ูแ้ นะนาํ 10 ขยะนม้ี ีมลู คา่ เห็นความสําคญั และ เห็นความสําคญั และมี มีส่วนรว่ มในการ วางแผนการทํา ส่วนรว่ มแก้ปญั หาเรอื่ ง จัดการขยะในโรงเรียน กิจกรรมในการ ขยะซง่ึ เปน็ สาเหตหุ ลัก และบรเิ วณโดยรอบ แก้ปญั หาเรือ่ งขยะ ของปญั หาส่ิงแวดล้อม ซ่งึ เป็นสาเหตหุ ลกั ของ ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม 18ค8ู่มอื สง่ เสชคมู่้นัรมิือมแสธั ่งลยเมะสพศรึกัฒิมษแนลาาปะกพที จิ ่ีัฒก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทูกกั เษสะือชทวี กั ติ ษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภญัทลรุ่นูกเใสหอื ญส่ามชญััน้ มรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 195

รายการ ดีมาก (3) ระดบั คุณภาพ พอใช(้ 1) 11 ระเบยี บแถวลกู เสอื ลูกเสอื ปฏบิ ัติระเบียบ ด(ี 2) ลกู เสอื ปฏบิ ัติระเบยี บ 11.1 ปฏิบตั ติ ามสัญญาณ แถวไดท้ กุ รายการ ลกู เสือปฏบิ ตั ริ ะเบียบ แถวได้ 1 รายการ นกหวีด สัญญาณมอื และ แถวได้ 2 รายการ สัญญาณมือลกู เสือสากล บอกส่วนประกอบ บอกสว่ นประกอบ บอกส่วนประกอบ 11.2 ปฏบิ ัติกจิ กรรมระเบยี บ แถวบคุ คลทา่ มอื เปล่า บคุ คลทา่ วิธีการเก็บและดูแล วธิ ีการเกบ็ และดแู ล วิธีการเกบ็ และดแู ล ประกอบอาวธุ และทา่ เคลื่อนท่ี รกั ษาเตน๊ ทท์ ่ีพกั แรม รกั ษาเต๊นทท์ ่ีพักแรม รกั ษาเตน๊ ทท์ พี่ กั แรม 11.3 ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการสวน รวมถึงการปฏิบัติการ รวมถงึ การปฏิบตั กิ าร รวมถึงการปฏิบตั กิ าร สนาม 12 การกางเตน้ ท์และรื้อเตน็ ท์ท่ี กาง และ รอื้ เตน็ ทไ์ ด้ กาง และ รื้อเตน็ ทไ์ ด้ กาง และ รอื้ เตน็ ท์ได้ พักแรม อย่างถกู ตอ้ ง รวดเร็ว อยา่ ง รวดเร็วและ 13 การบรรจุเคร่อื งหลังสําหรับ การเดินทางไกลไปพักแรม และว่องไวได้ ว่องไวได้ 14 การก่อและจุดไฟกลางแจง้ สามารถวางแผน สามารถวางแผนเตรียม สามารถวางแผนเตรยี ม และการปรุงอาหาร เตรียมอุปกรณ์ วัสดุ อปุ กรณ์ วัสดุ สง่ิ ของ อปุ กรณ์ วสั ดุ ส่งิ ของ ส่ิงของเคร่อื งใชส้ ว่ นตวั เคร่ืองใช้สว่ นตวั และ เครือ่ งใชส้ ่วนตัวและ และส่วนรวมบรรจุ สว่ นรวมบรรจเุ คร่อื ง สว่ นรวมบรรจุเครื่อง เคร่ืองหลงั สาํ หรบั เดนิ หลงั สําหรบั เดนิ หลังได้แตไ่ มถ่ กู ตอ้ ง ทางไกลไปพกั แรมค้าง ทางไกลไปพกั แรมค้าง คนื ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง คนื ได้ ลกู เสอื สามารถปฏิบัติ ลูกเสอื สามารถปฏบิ ตั ิ ลกู เสอื สามารถปฏบิ ตั ิ กิจกรรมกอ่ และจุดไฟ กิจกรรมกอ่ และจุดไฟ กิจกรรมกอ่ และจุดไฟ กลางแจง้ และปรุง กลางแจง้ และปรุง กลางแจ้ง และปรงุ อาหารสาํ หรบั 2 คนได้ อาหารสาํ หรบั 2 คนได้ อาหารสาํ หรับ 2 คนได้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ อยา่ งเหมาะสม 196 คมู่ ือสง่ เสรคมิมู่ แือลสะง่ พเสัฒริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรอืรมทลกั ูกษเะสชือวี ทิตักใษนะสชถวี าิตนในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาอื ปสารมะเัญภทรนุ่ลชกูใั้นหเมสญธัอื ย่สมชาศ้นัมกึัญมษัธราุ่นยปมใีทหศ่ีญึก1่ษาปีท1ี่ 189

รายการ ดมี าก (3) ระดับคณุ ภาพ พอใช(้ 1) 15 การอา่ นและใช้แผนทเ่ี ขม็ ทศิ สามารถอา่ น จดั ทํา สามารถอา่ น จดั ทาํ ดี(2) แผนท่ี และ ใชเ้ ข็มทศิ 16 เงอ่ื นเชือกลูกเสือสามัญรนุ่ แผนท่ี และ ใช้เขม็ ทิศ สามารถอา่ น จดั ทํา นําทางไปสเู่ ปา้ หมาย ใหญ่ นําทางไปสู่เปา้ หมาย แผนท่ี และ ใชเ้ ข็มทศิ และบอกทศิ โดยอาศยั 17 การปฐมพยาบาล และบอกทศิ โดยอาศยั นําทางไปสู่เปา้ หมาย ธรรมชาติได้ ธรรมชาติไดอ้ ย่างมี และบอกทิศโดยอาศัย 18 ภยั สังคมทางอินเตอรเ์ นต็ ประสทิ ธภิ าพ ธรรมชาติไดอ้ ยา่ ง สามารถผูกเงอื่ น 1-5 เหมาะสม เงือ่ น และผกู แน่น สามารถผูกเงอ่ื น 8-10 สามารถผกู เงอื่ น 6-7 รวมทง้ั สามารถบอก เงื่อน และผกู แนน่ เงอื่ น และผกู แน่น และใชป้ ระโยชนจ์ าก รวมท้งั สามารถบอก รวมทั้งสามารถบอก เงื่อนทั้ง 1-5 เงือ่ นได้ และใชป้ ระโยชน์จาก และใชป้ ระโยชน์จาก ร้วู ธิ กี ารปฐมพยาบาล เงอื่ นทงั้ 8-10 เงอ่ื นได้ เงื่อนทง้ั 6-7 เงอ่ื นได้ เบอื้ งตน้ และสาธติ การ รวู้ ธิ กี ารปฐมพยาบาล ปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ รู้วิธีการปฐมพยาบาล เบอื้ งต้น และสาธิตการ ได้ เบอื้ งต้น และสาธิตการ ปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ ปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง รเู้ ทา่ ทันและระวัง ได้อยา่ งถกู ตอ้ งและมี ตนเองจากภยั สังคม ประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทนั และระวัง หรือการลอ่ ลวงที่เกดิ ตนเองจากภยั สังคม ทางสังคมอนิ เทอรเ์ นต็ รเู้ ทา่ ทันและระวงั หรอื การลอ่ ลวงที่เกดิ ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล และ ตนเองจากภยั สังคม ทางสงั คมอนิ เทอรเ์ นต็ ปลอดภัย หรือการลอ่ ลวงท่ีเกิด รวมทงั้ มแี นวทางใน ทางสังคมอนิ เทอร์เนต็ การปอ้ งกนั ไดอ้ ย่าง รวมทงั้ มีแนวทางใน ปลอดภยั การปอ้ งกนั ไดอ้ ย่างมี เหตุผล และปลอดภยั 19ค0ู่มือสง่ เสคชมู่้นัริมือมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกัฒิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีฒั ก1รนรามกลิจกูกรเสรมือลทกูกั เษสะือชทวี กั ิตษใะนชสีวถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุ่นูกเใสหือญส่ามชัญน้ั มรนุ่ัธใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 197

รายการ ระดับคณุ ภาพ 19 เบื้องหลงั กว๋ ยเต๋ียว ดีมาก (3) ดี(2) พอใช(้ 1) 20 รูเ้ ทา่ ทันสอ่ื 21 โฆษณาเป็นพิษ เห็นความสาํ คัญใน เห็นความสาํ คญั ในเรอื่ ง เห็นความสาํ คญั ใน เร่ืองความปลอดภยั ความปลอดภัยของ เรอื่ งความปลอดภยั ของอาหารและนํา้ ด่มื อาหารและนา้ํ ดื่มและ ของอาหารและนํา้ ดม่ื และสามารถตรวจสอบ สามารถตรวจสอบ และสามารถตรวจสอบ มาตรฐานและความ มาตรฐานและความ มาตรฐานและความ ปลอดภัยของอาหาร ปลอดภยั ของอาหาร ปลอดภัยของอาหาร ด้วยวธิ ที ดสอบ ด้วยวิธที ดสอบเบือ้ งตน้ ดว้ ยวธิ ีทดสอบเบอ้ื งตน้ เบื้องตน้ รวมท้ังสืบคน้ รวมทงั้ สืบค้นท่มี าของ รวมทง้ั สืบค้นทีม่ าของ ทมี่ าของเครอื่ งปรงุ ท่ใี ช้ เครือ่ งปรงุ ท่ใี ช้ประกอบ เครื่องปรงุ ที่ใชป้ ระกอบ ประกอบอาหาร ท้ัง 3 อาหาร 2 รายการ อาหาร 1 รายการ รายการ เหน็ ความสําคญั และ เห็นความสําคัญและ รู้และเขา้ ใจแนวทางใน เขา้ ใจแนวทางในการ เข้าใจแนวทางในการ การรเู้ ทา่ ทนั ส่ือ รเู้ ท่าทันสอ่ื อยา่ งมี รูเ้ ทา่ ทนั สอื่ ประสทิ ธิภาพ มที กั ษะในการสาํ รวจ มีทักษะการสงั เกต และ รเู้ ทา่ ทนั ปญั หาทาง สังเกต และรเู้ ท่าทนั รเู้ ทา่ ทันปัญหาทางดา้ น ดา้ นสังคม ปญั หาทางดา้ นสงั คม สงั คม 198 คมู่ อื สง่ เสรคิมู่มแือลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลกั ูกษเะสชอื ีวทิตักใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทรนุ่ลชกูใน้ั หเมสญัธือย่สมชาศั้นมกึัญมษัธรานุ่ยปมใีทหศ่ีญกึ1่ษาปที 1ี่ 191