Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Published by ปริญญา, 2021-11-07 03:53:27

Description: คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Keywords: ลูกเสือ,ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่,มัธยมศึกษา,ลูกเสือโลก,ทักษะชีวิต

Search

Read the Text Version

3) ผลกระทบทีส่ ําคัญตอ่ เดก็ ตดิ เกมมอี ะไรบ้าง (ใบความร้ขู ้อ 2,4,5) 4) ผกู้ ํากับลกู เสอื เลา่ เรือ่ งสน้ั ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ เรอื่ งแม่เหย่ียวกับลูก 5) พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธงลง เลกิ ) 4.2 กจิ กรรมคร้งั ที่ 2 1) พธิ เี ปดิ ประชุมกอง (ชักธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เกมทายใจ 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (1) ผู้กํากับลกู เสอื ให้ลกู เสอื แตล่ ะหม่รู ว่ มกันอภิปรายในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี และสง่ ตวั แทนรายงานในกองลูกเสอื 1) อะไรเปน็ สาเหตุท่ที าํ ให้เด็กและเยาวชนคลง่ั ไคลใ้ นเกม จนพัฒนาไปสู่ การตดิ เกมในทส่ี ดุ (ใบความรขู้ อ้ 6) 2) ทาํ ไมจึงมเี ด็กทลี่ องเลน่ เกม แตไ่ มต่ ดิ (ใบความรู้ขอ้ 7) 3) ลูกเสอื คิดวา่ ควรมแี นวทางอย่างไรในการเลน่ เกมอยา่ งสรา้ งสรรค์ เป็น ประโยชนแ์ ละไม่เกิดปญั หาการตดิ เกมตามมา (ใบความรขู้ อ้ 8) (2) ผู้กํากบั ลกู เสือส่มุ ตวั แทนหมลู่ ูกเสอื รายงาน หมลู่ ะ 1 ประเดน็ ผู้กาํ กับลูกเสอื นาํ อภิปรายใหล้ กู เสอื หมูอ่ นื่ เพม่ิ เติม และสรุปทลี ะประเด็นจนครบ (3) ผกู้ าํ กับลกู เสือมอบหมายให้หมลู่ ูกเสอื เขยี นคําขวัญการรณรงคแ์ ก้ปญั หา “เดก็ ตดิ เกม”ในโรงเรียน หมลู่ ะ 1 คําขวัญ เขยี นตดิ บอร์ดในที่เห็นได้ชัดเจน 4) ผู้กาํ กับลกู เสอื เลา่ เรอื่ งสน้ั ท่ีเปน็ ประโยชน์ เรอื่ ง นกั โทษประหารกบั มารดา 5) พิธีปดิ ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธงลง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล 5.1 ซักถามถึงปัญหาและผลกระทบเนอ่ื งจากการตดิ เกมจากสือ่ อเี ลคโทรนกิ ส์ และบอกแนวทาง ในการป้องกนั การติดเกม 5.2 สงั เกตการมสี ่วนร่วมในการทํากิจกรรม และการแสดงความคิดเหน็ ในหม่แู ละกองลกู เสอื 5.3 ประเมนิ จากเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ กจิ การลูกเสอื 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คัญท่เี กดิ จากกิจกรรม คือ ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สร้างสรรค์ ตระหนกั ถงึ ปัญหาและผลกระทบเนอ่ื งจากการติดเกม 42คู่มอื สง่ เสคชูม่้ันรมิอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรกึฒัิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมือลทกูกั เษสะอื ชทวี ักิตษใะนชสวี ถติ าในนสศถึกาษนาศลึกกูษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุ่นูกเใสหือญส่ามชัญัน้ มรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปีที่ 1 49

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 6 เพลง เพลงตบมือให้ดัง ตบมอื ใหด้ งั อย่ามวั น่ังน่ิงเฉย ตบมอื กนั เถิดเหวย เพอื่ นเอย๋ พีน่ อ้ งกนั ตบมอื ใหด้ งั เจบ็ มอื ช่างปะไร ตบมือกนั ......คน บะ บะ โอ บะ บะ โอ บะ บะ โอ บะ (ซํ้า) เกมจ้ําจ้ี จาํ นวนผูเ้ ล่น ประมาณ 2-3 คนข้นึ ไป วธิ เี ลน่ ผู้เล่นนั่งล้อมวงกนั ควํ่ามอื ท้งั สองลงบนพนื้ คนหน่งึ เป็นคนจี้ โดยใช้นว้ิ ช้จี มิ้ ไปทนี่ ้ิวของผ้เู ลน่ ไลไ่ ปทีละ นิ้วใหร้ อบวง พรอ้ มท้ังรอ้ งเพลงไปด้วย เมอ่ื รอ้ งจบแลว้ จมิ้ อยู่ที่นิว้ ใดคนนนั้ ตอ้ งพบั นิว้ น้นั เขา้ ไป ผจู้ ม้ิ ก็ เร่ิมเลน่ ใหมไ่ ปเร่ือยๆ ใครตอ้ งพับนว้ิ ท้งั หมดเปน็ คนแรกแพ้ บทรอ้ งประกอบ \"จ้ําจมี้ ะเขอื เปราะ กระเทาะหน้าแวน่ พายเรืออกแอ่น กระแทน่ ต้นกมุ่ สาวๆ หนุม่ ๆ อาบนา้ํ ท่าไหน อาบนํ้าทา่ วดั เอาแป้งทไ่ี หนผัด เอากระจกทีไ่ หนสอ่ ง เย่ียมๆ มองๆ นกขุนทองร้องฮู้ เกมทายใจ วิธีเลน่ แบ่งลกู เสอื ออกเปน็ 2 แถวเทา่ ๆกัน แล้วเขา้ แถว 2 แถวหน้ากระดานหนั หลังชนกัน เร่มิ โดยให้ลูกเสอื แถวที่หน่ึงเปน็ หลักจะหนั หนา้ ไปทางด้านซา้ ยหรือดา้ นขวากไ็ ด้เมอื่ ไดร้ บั สญั ญาณใหห้ นั หนา้ ลกู เสอื แถวท่ี 1 จะต้องทายใจแถวท่ีหนง่ึ ที่เปน็ คู่ของตนเองใหไ้ ด้ว่าจะหนั หน้าไปทางซา้ ยหรอื ขวา และจาํ ทนั ทพี รอ้ มกนั เมอ่ื ได้รับสัญญาณใหเ้ ลน่ ขณะหันหนา้ ไปใหอ้ อกเสียงรอ้ ง “จะ๊ เอ๋” ไปดว้ ย ถา้ ลกู เสือแถวท่ีสองทายใจลกู เสือแถวทีห่ นง่ึ ถกู คืนหันหนา้ ไปเจอกนั พอดี ลูกเสอื แถวท่ีหนง่ึ ต้องออก จากการแขง่ ขนั แตถ่ ้าหนั หนา้ ไปไมเ่ จอ ลกู เสอื แถวท่ีสองตอ้ งออกจากการแขง่ ขัน เริม่ เลน่ ใหม่โดยให้ ลกู เสือแถวทีส่ องเปน็ หลักบ้าง สลับกันไปเรอ่ื ยๆ การตดั สนิ ลูกเสอื ทเ่ี หลือคนสดุ ท้ายจะเปน็ ผ้ชู นะ 50 ค่มู อื สง่ เสรคิมู่มแือลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลักูกษเะสชอื วี ทติ ักใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศกูกึ เษสาือปสารมะเัญภทร่นุลูกใหเสญือ่สชา้นัมัญมัธรนุ่ยมใหศญกึ ่ษาปีที่ 413 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1

ใบความรู้ เดก็ ติดเกม 1. ขอ้ มลู ของศูนยป์ อ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาเด็กตดิ เกม ระบุวา่ วยั รนุ่ ทมี่ อี ายุ 12 ปีขึน้ ไป ราว 1,500,000 คนนิยมเลน่ เกมออนไลนใ์ ช้เวลาเล่นเกมเฉลี่ย 4.5 ชม.ต่อวัน เสียเงนิ กว่า 50-300 บาท ตอ่ ครัง้ หรอื เฉล่ยี ประมาณ 1,114 บาทตอ่ เดอื น บรเิ วณใกล้บ้านมีร้านเลน่ เกมเฉลีย่ 5 รา้ น ใชเ้ วลา เดินทางจากบ้านไปรา้ นเกมไม่ถึง 10 นาที 2. การเลน่ เกมจึงเป็นกจิ กรรมทงั้ ยามว่างและไม่วา่ งของเดก็ เป็นผลให้ไมม่ กี ิจกรรมอื่น ขาดการออกกาํ ลังกาย ไมก่ นิ หรือกนิ อาหารไมเ่ ป็นเวลา อดนอน ขาดการปฏิสมั พันธก์ ับผอู้ ืน่ หนีเรยี นไปมั่วสุมตามร้านเกม มีผลกระทบตอ่ การเรยี นรู้ และพัฒนาการในด้านต่างๆ ทง้ั ทางรา่ งกาย อารมณ์ สงั คม ความคดิ การตดั สนิ ใจ เจตคติ และการแสดงออกทางพฤตกิ รรม ทําใหเ้ กดิ ปญั หา ตา่ งๆ ตามมา เช่น การคดิ /การตัดสนิ ใจโดยขาดเหตุผล ไม่มกี ารยบั ยง้ั ช่งั ใจ ขาดการควบคมุ ตนเอง และอาจนําไปสู่การใช้สารเสพตดิ มเี พศสัมพนั ธ์กอ่ นวัยอันควร หรอื เลียนแบบพฤตกิ รรมก้าวร้าว จากเกมที่มเี นอ้ื หารุนแรง อาทิ การตอ่ สู้ เตะ ตอ่ ย ฆ่าฟนั ขม่ ขืน และการทาํ ลายลา้ งคตู่ อ่ สู้ เนอื่ งจากความชนิ ชา และรสู้ กึ วา่ ความรนุ แรงเปน็ เร่อื งปกติ ไมผ่ ิด เป็นต้น มีผลกระทบทาํ ให้ เสียการเรยี นและเสียอนาคตในทสี่ ุด 3. ความนยิ มอยา่ งมาก ทาํ ใหเ้ ว็บไซตเ์ กมออนไลน์เปดิ ตวั เพมิ่ ข้นึ จาํ นวนมาก ปี 2547 มปี ระมาณ 10,000,000, เวบ็ ไซต์พุ่งสงู ข้นึ เป็น 75,500,000 เวบ็ ไซตใ์ นปี 2548 4. ตัวเลขท่ีน่าตกใจกค็ อื ในผู้ท่ไี ปขอรบั คาํ ปรกึ ษาทางโทรศัพทก์ ับสถาบันสุขภาพจิตเด็ก และวัยรนุ่ ราชนครินทร์ กรมสขุ ภาพจติ ในระหวา่ งเดือน พ.ย.2547 – เดือน มี.ค.2548 พบวา่ จาํ นวนเกนิ ครง่ึ เกิดจากปญั หาเด็กประถมและมธั ยมที่ตดิ เกม 5. สถติ ิจํานวนเดก็ และวัยรนุ่ ทเี่ คยประสบปญั หาในร้านอนิ เทอรเ์ น็ตคาเฟ่ เคยถกู รีดไถ มถี ึง 60,560 คน/เคยถกู ทาํ ร้ายรา่ งกาย 57,606 คน/เป็นหน้รี ้านอินเทอรเ์ นต็ 53,175 คน และถกู บงั คับ ให้ทาํ สิ่งที่ไมอ่ ยากทํา เดก็ ในสถานพนิ จิ จาํ นวนมากทาํ ผิดกฎหมายดว้ ยสาเหตตุ อ้ งการเงนิ มาเลน่ เกม 6. ระดบั การติดเกม ของเด็กมกี ารพฒั นาแบ่งเป็น 3 ระดับคือ 6.1 เรมิ่ ชอบ แรกๆ มักเลน่ ตามเพ่อื น อยากรอู้ ยากเหน็ ตามวยั เลน่ เพอ่ื สนกุ ระยะน้ีการเรียนและการดาํ รงชวี ติ ยังเป็นปกติ ถา้ ไม่ไดเ้ ล่นก็ไม่เป็นไร เดก็ บางคนเมอ่ื หมดความสนใจ หรือมสี ่งิ ใหมท่ ่สี นใจกว่ากจ็ ะเลกิ เล่นไป 6.2 หลงใหลหรอื คลงั่ ไคล้ เลน่ แลว้ สนกุ เพลดิ เพลนิ เกดิ ความพึงพอใจ ภมู ใิ จท่ี ชนะเกมได้ มีเพื่อนทีเ่ ลน่ ด้วยกัน คยุ เรอื่ งเดยี วกัน และเปรยี บเทียบกนั ได้ เกดิ แรงจงู ใจใหอ้ ยากเล่น ต่อไปเรื่อยๆระดบั นี้ยังเลน่ ยามว่างเปน็ งานอดิเรก การเรียนไมเ่ สยี และชีวติ ประจําวนั ยังเป็นปกติ เด็กกลมุ่ น้ีมจี าํ นวน รอ้ ยละ 10 ของเดก็ ทวั่ ไป 6.3 ตดิ เกม เป็นระยะทีพ่ ฒั นาจากเลน่ เร่อื ยๆ เปน็ เลน่ ประจาํ จนเป็นความเคยชิน ปลกี ตวั ได้เมอื่ ไหรก่ ็จะเลน่ เกมในทสี่ ดุ ก็เล่นเกมไม่สนใจอยา่ งอนื่ หมกมนุ่ อยกู่ บั เกมท้งั วัน หนเี รยี น และมีผลกระทบตอ่ ร่ายกาย และจติ ใจ ได้แก่ กนิ ข้าวไม่เป็นเวลา ขาดการออกกาํ ลังกาย นอนดึก 44ค่มู อื สง่ เสคชู่ม้นัริมือมแสัธง่ลยเมะสพศรกึฒัิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมอื ลทูกักเษสะือชทวี กั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถกึ าษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภัญทลรนุ่กู เใสหือญส่ามชญััน้ มรุน่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ี่ 1 51

หรือนอนไมห่ ลบั เลย ในความคิดจะมีแต่เร่ืองเกม มองเห็นภาพในสมองของตนเอง พยายามเลน่ พนนั ในเกม กา้ วร้าวกบั พ่อแม่ เป็นตน้ ระดับนม้ี ีจาํ นวนรอ้ ยละ 5 ของเดก็ ท่วั ไป พบว่าเดก็ ติดเกมอายุ นอ้ ยที่สดุ คอื 6 ปี 7. อย่างไรก็ตามยังมีเด็กที่เลน่ เกมแตไ่ มต่ ดิ เป็นเพราะเดก็ เหล่านน้ั เป็นผู้มีวินยั คอื การไมท่ ํา ในสง่ิ ที่ไม่ควรทําและเปน็ ผมู้ คี วามรบั ผิดชอบ คอื การทาํ ในสง่ิ ที่ควรทํา ซึ่งมีรากฐานมาจากการคิด และตัดสินใจอย่างมเี หตุผล การร้จู กั ยับยัง้ ช่งั ใจและควบคุมตนเอง รวมท้งั การจัดการเวลาอย่างเหมาะสม และใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ 8. แนวทางการเลน่ เกมอยา่ งสรา้ งสรรค์ 8.1 กาํ หนดเวลาท่เี หมาะสมจํากดั เวลาในการเล่น และตอ้ งไมเ่ กินเวลาท่ตี ั้งใจไว้ 8.2 เลือกเลน่ เกมทส่ี รา้ งสรรคไ์ ดฝ้ ึกประสาทสมั ผัสหลายดา้ น ฝึกสมอง ฝึกการแก้ไข ปญั หาทีเ่ ป็นขนั้ ตอน เกมฝกึ ฝนความรู้และคณุ ธรรม เกมท่ตี อ้ งเคลื่อนไหวเนน้ การออกกําลัง เนือ้ หา และรายละเอยี ดของเกมเหมาะสมกบั วัยไมม่ ีเนอ้ื หาทร่ี ุนแรง 8.3 ใหค้ วามรูส้ กึ ผ่อนคลาย สนกุ สนาน ไม่เครยี ดหรอื หมกม่นุ กับการเอาชนะ 8.4 เกมที่เลน่ พรอ้ มกนั 2 คนขน้ึ ไป จะช่วยใหม้ ปี ฏสิ มั พนั ธก์ ับผ้อู น่ื ไมแ่ ยกตัว และช่วยกนั ควบคมุ เวลาได้ 52 คมู่ ือสง่ เสรคิมูม่ แือลสะ่งพเสัฒริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลกั ูกษเะสชอื ีวทติ กั ใษนะสชถวี าติ นในศสกึ ถษาานลศูกกึ เษสาอื ปสารมะเญั ภทรุ่นลูกใหเสญอื ่สชา้นัมัญมธัรุ่นยมใหศญกึ ่ษาปที ่ี 415 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1

เรอ่ื งสน้ั ที่เป็นประโยชน์ เเม่เหยยี่ วกบั ลกู เเมเ่ หยีย่ วเป็นทกุ ขใ์ จนกั ท่เี หน็ ลกู นกเหยยี่ วของตน นอนป่วยมาหลายวันเเล้วเมือ่ ลกู นก มอี าการทรดุ หนกั ลงทกุ วัน เเม่เหยี่ยวก็รํ่าไห้ สะอกึ สะอน้ื ปานจะขาดใจ ลกู นกจงึ เอย่ ข้ึนว่า \"อยา่ มวั ร้องไห้เลย เเมจ่ า๋ เเมล่ องไปไหวบ้ นบาน เทพยดา ทศ่ี าลซิจ๊ะ ทา่ นจะไดช้ ว่ ยชวี ติ ลูก ทา่ นจะ ได้ ช่วยใหล้ กู หายเจบ็ ไข\"้ เเม่เหยีย่ วฟังเเลว้ กย็ ง่ิ ร้องไหห้ นักขึน้ เเล้ววา่ \"เเมก่ อ็ ยากทําเช่นนั้นจ๊ะลกู เเต่เเม่ไปขโมยอาหาร ท่คี นนํามาถวาย ทา่ นทุกๆ วนั เเลว้ เทพยดาจะ ช่วยเราทําไมล่ะ โธเ่ อย๊ ! เเม่ไม่น่าทาํ เช่นนั้นเลย ไมค่ วรไป ขโมยของทา่ นเลย\" เรื่องน้ีสอนให้รู้ว่า \"เมอ่ื สํานกึ ความผิดได้ บางครัง้ กส็ ายเกนิ ไป” เรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์ นักโทษประหารกับมารดา กาลครง้ั หนึ่งนานมาแล้ว มเี ดก็ คนหนึ่งขโมยหนงั สือของเพอื่ นกลบั มาบา้ น แมข่ องเขาเหน็ เข้า แทนที่จะหา้ มปรามและส่ังให้นาํ ไปคืน กลับกลา่ วชมเชยวา่ ลกู ของตนนน้ั เกง่ เด็กคนน้นั จงึ รสู้ ึกภูมิใจ และคอยลักเล็กขโมยนอ้ ยเอาของ ของผอู้ น่ื มาให้แมอ่ ยเู่ รอ่ื ยๆ แม่ของเขากแ็ สดงความพอใจทกุ คร้งั คร้นั โตเปน็ หนมุ่ เขาไดเ้ ขา้ ไปขโมยของในบ้านหลังหนึง่ และพลัง้ มอื ฆา่ ผเู้ ปน็ เจา้ ของบ้านตาย เมอื่ เจา้ หน้าท่ีบา้ นเมืองจับตวั ได้จงึ ถกู ตดั สนิ ใหป้ ระหารชวี ติ ขณะท่กี าํ ลงั ถกู นาํ ตัวไปประหาร ผเู้ ป็นแม่ไดร้ ้องไหฟ้ ูมฟายวงิ่ ตามลกู ไปอยขู่ า้ งๆ พรอ้ มกบั คร่ําครวญวา่ “โธ่ลูกเอ๋ย ทาํ ไมเจา้ ถงึ ทําผิดคดิ รา้ ยถึงเพยี งนี้” นักโทษผูเ้ ปน็ ลูกชายจงึ กลา่ วกับแม่ว่า “แมอ่ ยา่ ร้องไห้เลย ตอนทีผ่ มเปน็ เดก็ เทยี่ วลักขโมย ของผ้อู ื่นมาให้ ถา้ แมด่ ุด่าสง่ั สอนแทนทจี่ ะชมเชยให้ทา้ ย วนั นผี้ มกค็ งไม่ตอ้ งถกู ประหาร” เร่ืองนี้สอนใหร้ ูว้ า่ รักวัวให้ผกู รักลูกให้ตี อยากให้ลูกให้ดี ตอ้ งอบรมสง่ั สอน 46คู่มอื สง่ เสคชู่มั้นรมิือมแสัธง่ลยเมะสพศรกึฒัมิ ษแนลาาปะกพที จิ ่ีัฒก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูกั เษสะอื ชทีวกั ิตษใะนชสวี ถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภัญทลรุ่นกู เใสหือญส่ามชัญน้ั มรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปีที่ 1 53

แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่(เครอ่ื งหมายลกู เสอื โลก) ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 หนว่ ยท่ี 3 คําปฏิญาณและกฎของลูกเสือ เวลา 2 ช่ัวโมง แผนการจัดกิจกรรมท่ี 7 ปฏบิ ตั ติ ามคาํ ปฏญิ าณ และกฎของลูกเสอื 1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.1 ลูกเสืออธบิ ายความหมายของคําปฏิญาณและกฎของลกู เสอื ได้ 1.2 ลูกเสอื วางแผนการนาํ คาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสอื ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั ได้ 1.3 ลกู เสอื ปฏบิ ตั ิตนตามคาํ ปฏิญาณและกฎของลกู เสอื ได้ 1.4 ลกู เสอื มเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ กิจการของลกู เสือ 2. เนอื้ หา 2.1 ความหมายของคาํ ปฏญิ าณ และกฎของลกู เสือ 2.2 วางแผนนําคาํ ปฏญิ าณ และกฎของลกู เสอื ไปใช้ในชวี ิตประจําวนั 2.3 การปฏิบตั ติ นตามคําปฏิญาณ และกฎของลกู เสือ 3. สือ่ การเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู ิเพลง หรอื เกม 3.2 ใบความรู้ เรื่อง คาํ ปฏิญาณ กฎ และคตพิ จน์ลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ 3.3 เรอ่ื งส้ันทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 กิจกรรมครัง้ ท่ี 1 1) พธิ ีเปิดประชุมกอง (ชักธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลงกฎลูกเสอื 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (1) ผู้กาํ กับลูกเสอื ให้ลกู เสือทบทวนคาํ ปฏิญาณ และกฎของลกู เสือ (2) ผู้กาํ กับลูกเสอื แจกใบความรู้ และแบง่ งานใหห้ มู่ลกู เสอื วิเคราะห์ ความหมาย การกระทําที่แสดงออกถึงการยอมรบั และปฏบิ ัตติ ามคาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสอื ในเรอ่ื งต่อไปนี้ 1) ความจงรกั ภกั ดีต่อชาติ 2) ความรักและศรทั ธาในศาสนา 3) ความจงรักภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ 4) การช่วยเหลอื ผอู้ น่ื ทุกเม่อื (3) ผู้กํากบั ลูกเสือให้หมู่ลกู เสอื รายงาน ผกู้ ํากับลกู เสอื นาํ อภิปรายใหห้ มู่อนื่ ๆ เพม่ิ เตมิ ผูก้ าํ กับลกู เสอื ช่วยเพมิ่ เติมจนครบ (4) ผู้กาํ กับลกู เสือให้กองลูกเสอื รว่ มกนั จัดทาํ ตารางกิจกรรมวนั สําคญั ของ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และกําหนดเป็นแผนงานของกองลกู เสือ ว่าจะทาํ กจิ กรรมอะไรบา้ งในวันสําคญั แต่ละวนั 54 คู่มอื สง่ เสรคมิ่มู แอื ลสะ่งพเสัฒริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกูกจิ เกสรือรมทลกั กูษเะสชอื ีวทติ กั ใษนะสชถวี าติ นในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเัญภทรุ่นลูกใหเสญือ่สชาน้ัมัญมธัรุ่นยมใหศญกึ ่ษาปีท่ี 417 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1

4) ผู้กาํ กบั ลูกเสอื เลา่ เรอื่ งส้ันทเี่ ป็นประโยชน์ เรอื่ ง เพอื่ นทรยศ 5) พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครง้ั ท่ี 2 1) พธิ เี ปดิ ประชมุ กอง (ชักธงข้ึน สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เกมสง่ ไม้งา่ ม 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ํากบั ลูกเสอื ใหก้ องลกู เสือกําหนดการปฏบิ ตั ิในวนั สําคญั ตามแผนงาน ทไี่ ดก้ าํ หนดไว้ในกิจกรรมคร้ังที่ 1 และบันทึกไว้เปน็ หลกั ฐาน (2) ผู้กาํ กบั ลกู เสอื ใหก้ องลกู เสือรวบรวมผลการปฏบิ ัติ แล้วนําออกเผยแพร่ ตามสอื่ ตา่ งๆ ของโรงเรยี น หรอื ในโอกาสทเ่ี หมาะสม 4) ผกู้ ํากบั ลูกเสอื เลา่ เรือ่ งสน้ั ท่เี ปน็ ประโยชน์ เรอ่ื งกวางป่ากบั พวงองนุ่ 5) พิธปี ิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชักธงลง เลิก) 5. การประเมนิ ผล 5.1 อธิบายความหมายของคาํ ปฏิญาณและกฎของลกู เสือ 5.2 สังเกตการนาํ กฎและคาํ ปฏญิ าณของลูกเสอื ไปใชใ้ นชวี ิตประจําวนั 5.3 สังเกตการมสี ว่ นร่วมในการวางแผนและแสดงความคิดเห็นภายในหมขู่ องตน 5.4 แบบประเมินเจตคตทิ ่ดี ีต่อกิจการลกู เสอื 48คู่มือสง่ เสคช่มู้ันริมอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกัฒมิ ษแนลาาปะกพีทจิ ี่ฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทกูกั เษสะอื ชทวี กั ติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุ่นูกเใสหือญส่ามชญัน้ั มรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ี่ 1 55

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 7 เพลง กฎลกู เสือ กฎข้อหนึง่ พงึ จาํ ใหด้ ี ลกู เสือตอ้ งมี เกียรติเชอ่ื ถอื ได้ กฎขอ้ สอง น้ันรองลงไป ตอ้ งภักดี ในผมู้ พี ระคณุ กฎขอ้ สาม น้ันบาํ เพ็ญบญุ ช่วยเหลือเกอ้ื กูล ผอู้ น่ื เร่อื ยไปนะเธอ อยา่ ลมื ๆ (ซ้ํา) กฎข้อส่ี ทนี่ ้ีนา่ คดิ น้ีจะเปน็ มติ รกับคนท่ัวไป กฎข้อห้า ท่านวา่ เอาไว้ มารยาทน้นั ไซรด้ ัดให้งามๆ กฎขอ้ หก นรกไม่ตามเพราะนาํ้ ใจงามกรุณาสัตว์มัน นะเธอ อย่าลมื ๆ (ซํ้า) กฎขอ้ เจ็ด จงเชื่อฟัง ในคาํ ส่ังโดยดุษฎี กฎขอ้ แปด ยม้ิ ๆไว้ซี ลกู เสอื ไมห่ นีตอ่ ความลําบาก กฎข้อทเ่ี กา้ ออมไว้ยามยาก จะไม่ลําบาก เงินทองมากมี กฎข้อสิบ ประพฤตคิ วามดที งั้ กาย วจี มโน พร้อมกัน นะเธอ อย่าลืมๆ (ซํ้า) เกม ส่งไม้ง่าม วธิ ีเล่น 1) ลกู เสือแต่ละหมเู่ ข้าแถวตอน โดยมจี าํ นวนคนในแต่ละหมู่เทา่ กนั แต่ละแถวให้อยู่หา่ งกนั ประมาณ 2 เมตร แจกไมง้ ่ามให้คนอยหู่ ัวแถว โดยวางไวท้ ีด่ า้ นหน้า 2) ลกู เสอื ทกุ คนนัง่ ลง เมอื่ ไดย้ นิ สัญญาณ ใหค้ นแรกสง่ ไมง้ ่ามขา้ มศีรษะของตนเอง ใหค้ นทอ่ี ยดู่ า้ นหลงั รบั และส่งตอ่ ไปเรือ่ ย ๆ จนถึงคนสดุ ทา้ ย 3) คนสดุ ทา้ ยเมอ่ื ได้รับไม้งา่ มแล้วใหถ้ ือไม้งา่ มต้งั ข้นึ หม่ใู ดเสร็จกอ่ นจะเปน็ ผู้ชนะ 56 ค่มู อื สง่ เสรคมิู่มแือลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรือรมทลกั ูกษเะสชือีวทติ กั ใษนะสชถวี าิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเัญภทรุน่ลกูใหเสญือ่สชา้นัมญัมัธรนุ่ยมใหศญกึ ่ษาปที ่ี 419 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1

ใบความรู้ คําปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์ลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่ คําปฏญิ าณ คือ การให้คาํ ม่ันสัญญาวา่ จะประพฤติปฏิบัตติ ามสิ่งที่พดู ด้วยความเตม็ ใจ ก่อนทลี่ ูกเสือ จะกลา่ วคําปฏิญาณต้องข้ึนต้นวา่ \"ขา้ สญั ญาวา่ \" แลว้ จึงตามดว้ ยคาํ ปฏิญาณ กฎ คอื หลักเกณฑท์ ่ลี ูกเสอื ต้องยดึ เป็นหลกั ปฏิบัตอิ ยเู่ สมอ คําปฏิญาณลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ มี 3 ข้อ ดังนี้ ด้วยเกยี รตขิ องข้า ขา้ ฯสญั ญาวา่ ข้อ 1 ขา้ จะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ (ลูกเสอื จะตอ้ งมีความศรัทธา เชื่อม่ันใน ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ของตน เคารพเทดิ ทูนท้งั 3 สถาบนั ด้วยความซ่ือสตั ย์) ขอ้ 2 ขา้ จะช่วยเหลอื ผู้อน่ื ทกุ เม่อื (ลูกเสอื จะตอ้ งประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อผู้อืน่ ในทกุ โอกาส ทกุ สถานการณ์ เทา่ ที่จะทาํ ได้ โดยเรม่ิ ตั้งแต่ครอบครวั จนถึงสงั คมภายนอก) ขอ้ 3 ข้าจะปฏบิ ตั ิตามกฎของลูกเสอื (ลูกเสือตอ้ งปฏบิ ตั ิตนตามกฎ 10 ข้อ ของลกู เสอื ซงึ่ เปน็ หลกั ยดึ เหนยี่ วใหล้ ูกเสอื ปฏบิ ัตแิ ตส่ งิ่ ดงี าม) ลกู เสือควรปฏิบัติตอ่ ชาติ ดงั นี้ 1) ประพฤติตนเปน็ พลเมืองดีหม่นั ศึกษาหาความรูใ้ ส่ตัว 2) ไม่ประพฤติตนผิดตอ่ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และกฎหมายของบา้ นเมอื ง 3) เป็นผปู้ ระกอบอาชีพสจุ ริต มคี วามซอ่ื สัตย์ 4) รกั และหวงแหนแผน่ ดินถ่ินเกดิ ของตน เป็นผเู้ สยี สละและกลา้ หาญ ลกู เสือควรปฏบิ ัติตอ่ ศาสนา ดงั นี้ 1) ปฏิบตั ิกจิ ทางศาสนาตามจารีตประเพณที ต่ี นนบั ถือดว้ ยใจบริสุทธิ์ 2) ปฏิบตั ติ ามคําสอนของศาสนาที่ตนนับถือ 3) ไมแ่ สดงอาการลบหลศู่ าสนาอ่ืน 4) ละเวน้ การประพฤติชั่วกระทําแตค่ วามดี 5) เขา้ รว่ มพธิ ที างศาสนาตามเวลาและโอกาสอนั ควร ลูกเสอื ควรปฏบิ ัติตอ่ พระมหากษตั ริย์ ดังน้ี 1) แสดงความเคารพตอ่ พระมหากษัตรยิ แ์ ละพระบรมฉายาลกั ษณ์ 2) ไมก่ ระทําการใดๆ ท่ีจะสง่ ผลให้เสอื่ มเสยี พระเกยี รตคิ ุณ และตอ้ งช่วยปอ้ งกนั ไม่ใหค้ นอ่นื กระทาํ ดว้ ยเชน่ กนั กฎของลกู เสือสามญั รนุ่ ใหญ่ มี 10 ขอ้ ดงั น้ี ขอ้ 1 ลูกเสอื มีเกยี รตเิ ชื่อถือได้ (ยึดมัน่ ในความซ่ือสัตย์ ปฏบิ ัตติ ามคํามนั่ สญั ญา กระทําตนให้ เปน็ ทเ่ี ช่อื ถอื และไว้วางใจได)้ ขอ้ 2 ลูกเสอื มีความจงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์และซอื่ ตรงต่อผมู้ ีพระคุณ (ปกปอ้ งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และยึดมน่ั ในความซ่อื สัตย์ กตญั ํูต่อผู้มพี ระคุณทุกทา่ น) 50คู่มือสง่ เสคชู่ม้นัริมอืมแสัธง่ลยเมะสพศรึกัฒิมษแนลาาปะกพที จิ ี่ฒั ก1รนรามกลิจกูกรเสรมือลทกูกั เษสะอื ชทวี กั ติ ษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุน่กู เใสหือญส่ามชญัน้ั มรุน่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 57

ข้อ 3 ลกู เสือมีหน้าท่ีกระทาํ ตนให้เปน็ ประโยชน์และชว่ ยเหลือผู้อ่ืน (พร้อมอยู่เสมอทจ่ี ะบําเพญ็ ประโยชน์ และเป็นที่พึ่งแกผ่ อู้ น่ื ได)้ ขอ้ 4 ลูกเสอื เปน็ มิตรของคนทกุ คน และเปน็ พี่น้องกบั ลูกเสืออืน่ ทวั่ โลก (มีใจโอบออ้ มอารี มีความ เออื้ เฟอื้ เผือ่ แผ่แก่ทุกคน โดยไมเ่ ลือกเช้อื ชาติ ศาสนา และปฏบิ ตั ติ ่อเขาเหมอื นญาตพิ ่นี ้อง) ขอ้ 5 ลูกเสือเปน็ ผู้สุภาพเรยี บรอ้ ย (เป็นผู้มีกิริยาวาจาสภุ าพ ออ่ นโยน ออ่ นน้อม มคี วาม สัมมาคาราวะตอ่ บคุ คลทวั่ ไป) ขอ้ 6 ลกู เสือมคี วามเมตตากรุณาต่อสัตว์ (มีใจเมตตากรุณา สงสารสตั ว์ ไม่รังแกหรือทรมาน สัตว์ หรอื เม่ือพบสัตว์บาดเจบ็ ตอ้ งให้การชว่ ยเหลอื ) ข้อ 7 ลูกเสอื เช่อื ฟงั คําสั่งของบดิ า มารดา และผบู้ ังคบั บญั ชาด้วยความเคารพ (ปฏิบัติตาม คาํ สั่งสอน คําชีแ้ นะของบิดามารดา ครูอาจารย์ และผู้บงั คบั บัญชาดว้ ยความเตม็ ใจ และเคารพ) ขอ้ 8 ลูกเสือมีใจร่าเริงและไมย่ ่อท้อตอ่ ความยากลาํ บาก (มีความรา่ เริง ย้ิมแยม้ แจม่ ใสอยู่เสมอ ถึงแมจ้ ะตกอยใู่ นความยากลําบาก ก็จะไม่แสดงอาการยอ่ ทอ้ ให้เห็น ข้อ 9 ลูกเสอื เปน็ ผูม้ ัธยสั ถ์ (รู้จกั ประหยดั ทรัพยท์ ัง้ ของตนเองและผ้อู ่ืนไม่สุรุ่ยสุรา่ ย) ขอ้ 10 ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ (รจู้ ักสํารวม และระวงั กาย วาจา ใจ ไมใ่ หม้ ี ความอจิ ฉารษิ ยา มีความบริสทุ ธใิ์ จตอ่ ทกุ คน) คติพจน์ ของลูกเสอื คติพจน์ เปน็ คําพูดหรอื ขอ้ ความทเี่ ปน็ คตสิ อนใจใหย้ ดึ ถอื ปฏบิ ัติ เพอื่ ประโยชน์ของตนเอง และสว่ นรวม คําคติพจนล์ กู เสือ (ทกุ ประเภท) \"เสียชีพอย่าเสยี สตั ย์\" มีความหมายวา่ ใหล้ กู เสือรกั ษาความซอ่ื สตั ย์ จะไม่ยอมละความสตั ย์ ถึงแมจ้ ะถูกบบี บังคบั จนเปน็ อันตรายถงึ แก่ชีวิตกต็ าม คติพจน์ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ มองไกล (Look wide) หมายถงึ การมองใหก้ วา้ งและไกล ฉลาดทจี่ ะมองเหน็ ความจรงิ ของสง่ิ ตา่ งๆ วา่ ผลจากการกระทาํ ภารกจิ ของตน อาจสง่ ผลกระทบถึงภารกจิ อ่ืน บคุ คลอนื่ จะประสบผลดี ผลเสยี ตอ่ องคก์ รส่วนรวมหรอื ไม่อยา่ งไร วเิ คราะหแ์ ละสามารถกําหนดทิศทางเปา้ หมาย วางแผนได้ อย่างถูกตอ้ ง ชัดเจน 58 คู่มือสง่ เสรคมิมู่ แือลสะง่ พเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลักกูษเะสชอื วี ทติ ักใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศกูึกเษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลูกใหเสญอื ่สชา้ันมญัมธัรุ่นยมใหศญึก่ษาปีที่ 511 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1

เร่อื งสนั้ ที่เป็นประโยชน์ เพือ่ นทรยศ สนุ ัขจง้ิ จอกกบั ลาเปน็ เพ่อื นกัน มันสญั ญากนั ว่าจะคอยชว่ ยเหลอื ซึง่ กนั และกนั เม่อื ยามมีภัย วนั หน่ึงขณะทส่ี ตั ว์ท้งั สองตัวออกไปล่าเหยื่อด้วยกัน สุนัขจ้ิงจอกเหลือบไปเห็นสิงโตตัวหน่ึงกําลังเดินตรงมา มันรีบบอกลาว่า “ลาเพ่ือนรัก ท่านรออยู่ที่น่ีก่อนนะ ข้าจะอาสาเดินไปเจรจาผูกมิตรกับสิงโตตัวน้ันเสียก่อน พวกเราจะได้ปลอดภัย” ว่าแล้วสุนัขจิ้งจอกก็เดินตรงเข้าไปหาสิงโต มันบอกกับสิงโตว่าถ้าสิงโตปล่อยมันไป มนั จะลอ่ ลวงลามาให้กนิ อยา่ งสะดวกสบาย ไมต่ อ้ งว่งิ ไลจ่ ับให้เหนอ่ื ย ในที่สุดลาก็ตกเป็นเหย่ือของสิงโต พอกินเสร็จ สิงโตก็หันมาตะปบสุนัขจ้ิงจอกกิน เป็นอาหารอีกตัวหน่ึง ก่อนตายสุนัขจิ้งจอกก็พูดเป็นเชิงตัดพ้อว่า “ท่านไม่น่าทรยศกับข้าเลย” สิงโตหัวเราะก่อนจะตอบว่า “ทเี จา้ ยงั ทรยศกบั ลาที่เป็นเพอ่ื นของเจ้าได้ ทําไมข้าจะทรยศต่อเจ้าไมไ่ ด้” เร่อื งน้ีสอนให้รู้วา่ บคุ คลทไ่ี รส้ ัจจะ อยา่ พึงหวังสจั จะจากผ้อู นื่ กวางปา่ กับพวงองนุ่ กวางปา่ ว่ิงไปในเพิงองุ่นเพื่อซ่อนตัวจากการตามล่า ของนายพราน \" ขอใหข้ ้าซอ่ นตัวด้วยเถดิ นะอง่นุ \" กวางป่ากลา่ วอย่างนอบน้อม องุ่นก็อนญุ าต เม่อื พรานตามมาถงึ บริเวณนั้นเเตไ่ มพ่ บกวางปา่ ก็จงึ ว่ิงไปอกี ทางหนึง่ กวางป่าเหน็ ว่าปลอดภัยเเลว้ จงึ กัดพวงอง่นุ อยา่ ง เอรด็ อรอ่ ย \" เจา้ กนิ ขา้ ทําไมเพอื่ นเอ๋ย \" ตวั อง่นุ ถามอยา่ งน้อยใจ กวางป่าจงึ ว่า \" ถ้าข้าไมก่ ินเจา้ กม็ ีคนอนื่ มากนิ เจ้า อยู่ดนี น่ั เเหละ \" ขณะที่กัดกนิ พวงองนุ่ เอง พรานอีกคนหนึง่ ผ่านมาเหน็ ว่ามีบางสง่ิ เคลอื่ นไหว อยู่ใต้เพงิ อง่นุ จึงเล็งธนยู งิ ใสก่ วางปา่ ทนั ที เรอ่ื งนสี้ อนใหร้ วู้ า่ \"คนไม่รู้บญุ คุณคนมกั ประสพความหายนะ” 52คูม่ ือสง่ เสชคมู่้ันรมิอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกัฒมิ ษแนลาาปะกพที ิจี่ัฒก1รนรามกลจิ กูกรเสรมอื ลทูกักเษสะือชทวี กั ติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลึกกูษเาสปอื รสะาเมภัญทลรนุู่กเใสหอื ญส่ามชัญนั้ มรนุ่ธั ใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 59

แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามัญรุ่นใหญ่(เครื่องหมายลกู เสือโลก) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยท่ี 3 คาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื เวลา 2 ชัว่ โมง แผนการจัดกิจกรรมที่ 8 ความซ่อื สตั ย์สจุ ริต 1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสืออธิบายถงึ ความสําคญั ของความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริตได้ 1.2 ลูกเสือแสดงออกถึงความเปน็ ผู้มีความซอื่ สตั ย์สุจรติ ได้ 1.3 ลกู เสอื มสี ่วนร่วมในการทาํ กจิ กรรมและเสนอความคิดเหน็ ได้ 1.4 ลูกเสือมีเจตคติท่ีดีตอ่ กิจการลูกเสอื ได้ 2. เน้อื หา ความซ่อื สตั ย์สุจรติ เปน็ พ้นื ฐานของความดที ุกอย่าง ลูกเสือจึงต้องหม่นั อบรมและฝกึ ฝน ให้เกดิ มี ขึ้นในตนเอง ตามคําขวัญท่ีพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชทานให้ ลกู เสือว่า “เสยี ชพี อยา่ เสยี สตั ย์” 3. สอ่ื การเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 เร่ืองสน้ั ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครั้งท่ี 1 1) พิธีเปิดประชุมกอง (ชกั ธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เพลงความซอ่ื สัตย์ 3) กจิ กรรมตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ผู้กํากับลูกเสือมอบหมายให้ลูกเสือแต่ละหมู่เขียนบทละครสั้น ท่ีแสดงออกถึง ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ หม่ลู ะ 1 เร่ือง ทําการซ้อมเพอ่ื แสดงในกองลูกเสอื คาบตอ่ ไป โดยให้เวลาเตรยี ม ประมาณ 30 นาที และเวลาในการแสดงหมู่ละไม่เกิน 5 นาที (ตัวอย่างเช่น เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ แลว้ คนื เจา้ ของ การรักษาคาพูด/คามัน่ สญั ญา ไม่โกหกหลอกลวง การไมเ่ อาเปรยี บคดโกงผูอ้ ่นื การตรงต่อเวลา การรักษาระเบียบวินัย ไมล่ อกขอ้ สอบ ไม่รับเงินสนิ บน และประกอบอาชีพสจุ รติ เปน็ ตน้ ) 4) ผ้กู าํ กบั ลูกเสอื เล่าเรื่องสนั้ ทเี่ ป็นประโยชน์ เรอื่ ง เตา่ กนั นกอินทรี 5) พิธปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครั้งท่ี 2 1) พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เกมปดิ ตาตหี ม้อ 3) กิจกรรมตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ 60 คู่มือสง่ เสรคมิู่มแอื ลสะง่ พเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลกั ูกษเะสชอื วี ทติ กั ใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทรนุ่ลกูใหเสญอื ่สชาั้นมญัมัธรุน่ยมใหศญึก่ษาปที ่ี 513 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

(1) หมูล่ ูกเสอื ใชเ้ วลาแสดงหมูล่ ะไม่เกนิ 5 นาที (2) ผู้กาํ กับลูกเสอื นําอภปิ รายในประเด็นตอ่ ไปน้ี และสรุปว่า - จากละครส้นั ท้ัง 4 เรอื่ ง ลกู เสือคดิ ว่าคําว่า “ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ “ มีความหมายอยา่ งไร (การประพฤติปฏิบตั ใิ นทางท่ถี กู ตอ้ งตามความเปน็ จรงิ ทงั้ กาย วาจา และใจ ทั้งตอ่ ตนเอง ผู้อื่น และหนา้ ที่การงาน) - เหตใุ ดพระบาทสมเดจ็ พระมงกฏุ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว รัชกาลท่ี 6 จึงใหค้ วามสาํ คญั กบั ความซอื่ สัตยม์ ากโดยถงึ กับพระราชทานคําขวญั ลกู เสอื ไทยว่า “เสียชพี อย่าเสยี สัตย”์ (ความซอ่ื สตั ย์ สจุ ริตเป็นรากฐานของความดที กุ อย่าง เราจะทาดีไมไ่ ด้เลยถา้ ปราศจากความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ) - ถา้ สมาชกิ ในหม่ลู กู เสือเปน็ คนไม่ซ่อื สตั ย์ โกหกหลอกลวงไมร่ กั ษาสญั ญา ไมร่ ักษากฎระเบยี บ หมูล่ ูกเสอื น้ีจะเปน็ อยา่ งไร (จะขาดความสัมพันธท์ ด่ี ใี นหมู่ ทางานหมไู่ มส่ าเร็จ ไมเ่ ป็นทย่ี อมรับของลูกเสอื หมู่อ่ืนและครูอาจารย)์ - ลกู เสอื ได้ขอ้ คดิ อะไรบ้างจากกจิ กรรม และจะนาํ ไปใช้ในชีวติ ประจาํ วนั อย่างไร (ควร เปิดกวา้ งใหล้ กู เสอื ออกความเหน็ ) 4) ผูก้ ํากับลูกเสอื เลา่ เร่อื งส้ันที่เป็นประโยชน์ เรอื่ ง นก สัตว์ป่า กบั ค้างคาว 5) พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธงลง เลิก) 5. การประเมินผล 5.1 ซกั ถามถงึ ความสาํ คญั ของความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 5.2 สงั เกตการแสดงออกถงึ ความเปน็ ผู้มคี วามซือ่ สัตยส์ จุ ริต 5.3 สังเกตการมสี ว่ นร่วมในการทาํ กิจกรรม และการแสดงความคดิ เห็นในหมแู่ ละกองลกู เสอื 5.4 แบบประเมนิ เจตคติทดี่ ีต่อกิจการลกู เสือ 6. องค์ประกอบทักษะชีวติ สาํ คญั ทเี่ กดิ จากกจิ กรรม คือ ความคิดวิเคราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ รับผิดชอบต่อตนเอง สังคม ตระหนกั ถงึ ความสาํ คัญ ของความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต 54คู่มอื สง่ เสชคู่มน้ัริมอืมแสธั ่งลยเมะสพศรกึฒัมิ ษแนลาาปะกพที ิจ่ีัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมอื ลทกูกั เษสะอื ชทีวักิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภญัทลรนุู่กเใสหือญส่ามชัญนั้ มรุน่ัธใยหมญศ่ึกษาปที ี่ 1 61

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 8 เพลง ความซ่อื สัตย์ ความซอ่ื สตั ยเ์ ปน็ สมบตั ขิ องคนดี หากวา่ ใครไมม่ ีชาตินเ้ี อาดไี มไ่ ด้ มคี วามรทู้ ว่ มหวั เอาตวั ไมร่ อดถมไป คดโกงแล้วใครจะรบั ไวใ้ ห้รว่ มงานเอย จะยากจนเท่าใดมัน่ ไวค้ วามดนี ี้เอย ใครไมซ่ ่อื เป็นเสยี ชื่อเหมน็ รํ่าไป แม้ตายแล้วเอยจะเสวยผลบาปโลกนั ต์ จงอย่าเสยี ชือ่ เสียงเพราะเพยี งความโลภนเี้ ลย อยากจะเป็นผูด้ สี ิ่งนต้ี ้องมียดึ มนั่ ความซอื่ สัตยเ์ ราตอ้ งหดั ใหม้ นั มี ถงึ กายสูญพลันชอื่ เสยี งนนั้ มิดับตามไป ชอื่ จะหอมจะหวลทวนลมไปช่วั นิรนั ดร์ เกม เกมปิดตาตีหม้อ เตรยี มอปุ กรณ์ : 1 หมอ้ ดิน หรอื ป๊ีบ 2 ไมข้ นาดจับถนดั มอื ความยาวประมาณ 1.5 เมตร 3 ผา้ สําหรับปดิ ตา ตอ้ งหนานดิ นงึ จะไดม้ องไม่เหน็ จาํ นวนของอุปกรณ์ ตามจาํ นวนทีมทจี่ ะเล่น วิธกี ารเล่น ใหเ้ ดก็ ๆ แบ่งเป็นทมี แล้วเลือกคนท่จี ะปิดตา 1 คน โดยคนทถี่ กู ปดิ ตาจะเปน็ คนตหี มอ้ สว่ นคนทเ่ี หลอื ใหบ้ อกทิศทาง จนกว่าเพอ่ื นจะตถี ูกหม้อ โดยมขี อ้ แมว้ า่ .. หา้ มพูดภาษาไทย ถา้ ทมี ใดพดู ภาษาไทยให้ปรับแพ้ทนั ที ทีมทต่ี ีหมอ้ ไดก้ ่อน เปน็ ฝ่ายชนะ แลว้ ก็ให้เดก็ ๆ ผลดั เปลีย่ นกนั จากคนตกี เ็ ป็นคนบอกทิศทาง คนบอกทศิ ทางเปลยี่ นไป เป็นคนตี 62 คมู่ ือสง่ เสรคมิู่มแอื ลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกูกิจเกสรือรมทลกั ูกษเะสชือีวทิตกั ใษนะสชถวี าติ นในศสกึ ถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลูกใหเสญอื ่สชานั้มญัมัธรุ่นยมใหศญึก่ษาปที ่ี 515 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1

เรอื่ งสน้ั ทเี่ ปน็ ประโยชน์ เตา่ กับนกอนิ ทรี เต่าตัวหนึ่งรู้สึกเบ่ือท่ีได้แต่คลานอย่างเช่ืองช้าอยู่บนพื้นดิน จึงได้ร้องบอกสัตว์ปีกท้ังหลายว่า ถ้ามีผใู้ ดสามารถพามันขนึ้ ไปชมโลกเบื้องบนได้ มนั จะมอบทรพั ยส์ มบตั ิมหาศาลทซี่ อ่ นเอาไว้ใหท้ งั้ หมด นกอนิ ทรีเป็นผู้ท่ีมอี ุง้ เลบ็ อันแข็งแรง จึงตกลงใจท่จี ะพาเต่าบินขึ้นไปบนท้องฟ้า เม่ือมันได้ลอย เล่นลมอยู่บนท้องฟ้าจนพอใจแล้ว นกอินทรีก็พาเต่ากลับลงมาถึงพ้ืนอย่างปลอดภัย พร้อมกับทวง รางวัล แตเ่ จ้าเตา่ กลับตอบด้วยเสยี งอ้อมแอ้มว่า “ฉันไม่มีทรัพย์สมบัติใดจะมอบให้หรอกที่พูดออกไปก็ เพยี งแตต่ อ้ งการจะไดข้ ้ึนไปบนท้องฟา้ บ้างเท่าน้ัน” ดงั นนั้ นกอนิ ทรจี ึงตะปบเจ้าเต่าลอยข้นึ ไปจนสงู จาก พื้นดินอกี ครัง้ แล้วปลอ่ ยรา่ งเต่าตกลงมาท่ีพนื้ ส้นิ ใจตายในที่สดุ เร่อื งนสี้ อนใหร้ ูว้ า่ ความทะเยอะทะยานและการเสยี สตั ย์ นํามาซึ่งผลรา้ ยในภายหลัง นก สัตวป์ ่า กับคา้ งคาว คร้งั หนงึ่ นานมาแลว้ ในสมัยท่คี า้ งคาวยงั สามารถบินออกไป หากนิ ในตอนกลางวนั ได้ เกิดเหตุการณท์ ะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างฝงู นกและสัตว์ป่าจนลกุ ลามกลายเปน็ สงคราม โดยท่ีฝูงคา้ งคาวไม่ได้เข้าร่วมกบั ฝา่ ยใดมนั ประกาศวางตัวเป็นกลาง ผลการต่อสู้ ปรากฏว่าฝ่ายสัตวป์ ่ามชี ยั เหนือฝ่ายนก ค้างคาวเห็นเปน็ โอกาสเหมาะ จงึ สมัครใจเข้าร่วมอย่กู บั ฝ่ายสตั วป์ า่ ผชู้ นะทนั ที ต่อมาไมน่ าน ฝูงนกทัง้ หลายตา่ งรวมตัวกันอยา่ งแขง็ ขนั และเข้าจกิ ตีฝูงสตั ว์ป่า จนแตกกระเจิง และสามารถชิงชยั ชนะกลบั คืนมาได้ เม่อื ฝูงค้างคาวเห็นฝ่ายสัตว์ป่าพ่ายแพ้ กข็ อเปลยี่ นมาเข้าร่วมกบั ฝูงนกแทน แต่ฝูงนกกลับขับไล่ค้างคาวออกไปดว้ ยความรงั เกียจ ในทสี่ ุด คา้ งคาวกถ็ ูกสตั ว์ต่าง ๆ ขบั ไล่ จนต้องคอยหลบซอ่ นตวั ในยามกลางวัน และออกหากินในเวลากลางคนื จวบจนทกุ วันน้ี เรอื่ งนี้สอนให้รูว้ ่า ผ้ทู ่ไี มซ่ อื่ สัตย์ตอ่ ผู้อน่ื จะถกู ทอดทง้ิ ในท่ีสุด 56คมู่ อื สง่ เสชคู่มนั้รมิอืมแสัธง่ลยเมะสพศรึกัฒมิ ษแนลาาปะกพีทจิ ี่ฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมือลทกูักเษสะือชทีวกั ิตษใะนชสีวถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภัญทลรนุู่กเใสหือญส่ามชัญน้ั มรุ่นัธใยหมญศ่กึ ษาปีที่ 1 63

แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สามญั รนุ่ ใหญ่(เคร่ืองหมายลกู เสอื โลก) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยที่ 3 คําปฏิญาณและกฎของลูกเสอื เวลา 1 ช่ัวโมง แผนการจัดกจิ กรรมที่ 9 ความเปน็ สภุ าพบุรุษและสภาพสตรี 1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.1 ลกู เสืออธบิ ายถงึ คณุ คา่ ความเป็นสภุ าพบรุ ุษ สุภาพสตรีไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 1.2 ลูกเสือมสี ว่ นร่วมในการทาํ กิจกรรมและเสนอความคดิ เห็นได้ 1.3 ลกู เสอื มีเจตคติทด่ี ีตอ่ กจิ การลกู เสือได้ 2. เนื้อหา ความเปน็ สภุ าพบุรษุ และสภุ าพสตรี อยู่ท่คี วามภมู ใิ จในคุณค่าของความเปน็ มนุษย์ และเพศของตน ซงึ่ ขนึ้ กบั ว่าตนเองไดส้ ร้างคุณคา่ ไว้มากนอ้ ยแคไ่ หน คณุ คา่ ท่ีสําคญั ประกอบดว้ ย รจู้ กั เอาใจเขามาใสใ่ จเรา ใหเ้ กยี รตผิ ู้อน่ื รักษาเกยี รตติ นเอง เสยี สละ และมคี วามรับผดิ ชอบ ซึ่งเนือ้ หาท้งั หมดลว้ นเปน็ สิง่ ท่รี ะบุไวใ้ นคาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสือทงั้ สิน้ 3. สอ่ื วัสดุอปุ กรณ์ 3.1 แผนภูมิเพลง 3.2 กระดาษแผน่ เล็ก และกระดาษสาํ หรบั การเขียนบันทกึ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ท่เี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง (ชกั ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เกมหาคู่ 4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) หมลู่ ูกเสอื นงั่ ล้อมวง ผูก้ าํ กบั ลกู เสอื แจกกระดาษแผ่นเลก็ คนละ 2 แผน่ 2) ผู้กํากับลกู เสอื ใหล้ ูกเสือเขยี น “คณุ สมบัตทิ ่สี าํ คัญของสุภาพบรุ ษุ ” และ “คุณสมบัติที่สําคญั ของสภุ าพสตรี” อย่างละ 1 ขอ้ ลงกระดาษแตล่ ะแผน่ 3) นายหมูร่ วบรวม จดั ลาํ ดับคุณสมบัตทิ ส่ี าํ คญั ของสภุ าพบุรุษและสุภาพสตรี ฝา่ ยละ 4 ข้อ 4) ผูก้ ํากบั ลกู เสอื นาํ อภิปรายคุณสมบตั แิ ตล่ ะขอ้ วา่ มคี วามสาํ คญั อยา่ งไร 5) ผู้กาํ กับลูกเสอื ใหส้ มาชิกออกเสยี งเลอื กคณุ สมบัติทสี่ ําคญั ทส่ี ดุ ฝา่ ยละ 3 ข้อ 6) ผกู้ ํากบั ลกู เสอื ให้สมาชิกออกเสยี ง เลอื กคุณสมบตั ิท่ีสาํ คัญท่สี ดุ จากฝ่ายละ 3 ข้อ ใหเ้ หลอื เพียงฝา่ ยละ 2 ขอ้ 7) นายหมนู่ ําผลการออกเสยี งทง้ั 2 ครงั้ รายงานในกองลูกเสอื 8) ผ้กู าํ กบั ลูกเสอื นําอภิปรายในประเด็นต่อไปนี้ และสรปุ (1) คาํ ปฏิญาณและกฎลูกเสอื ขอ้ ใดบ้างทส่ี อ่ื ความหมายถงึ คณุ ลกั ษณะของความเป็น สุภาพบุรุษ สุภาพสตรี (คําปฏิญาณ ท้ัง 3 ขอ้ และ กฎลูกเสือ ท้ัง 10 ขอ้ ) 64 คู่มอื สง่ เสรคมิู่มแอื ลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูิจเกสรือรมทลกั ูกษเะสชือวี ทิตกั ใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเัญภทรนุ่ลูกใหเสญอื ่สชา้ันมัญมธัรุน่ยมใหศญกึ ่ษาปที ี่ 517 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1

(2) ลกู เสือไดข้ ้อคดิ อะไรบา้ งจากกิจกรรม (ในคณุ สมบตั ิทด่ี ีทั้งหมดเมอ่ื ดูจากเหตุผลแล้ว พบวา่ มีบางคุณสมบัติทจ่ี าเป็นมาก และเป็นแกน่ ของคณุ สมบตั ทิ งั้ ปวง) 9) ผ้กู ํากับลกู เสอื เพิม่ เติมนยิ ามของคาํ ว่าสภุ าพบรุ ุษและสภุ าพสตรีดงั น้ี “แกน่ แท้ของความเป็นสภุ าพบุรษุ และสุภาพสตรอี ย่ทู ค่ี วามภมู ิใจในคุณคา่ ของความเปน็ มนษุ ย์ และเพศของตน ซงึ่ ขึ้นกบั ว่าตนเองไดส้ ร้างคุณคา่ ไว้มากนอ้ ยแคไ่ หน คณุ คา่ ที่สาํ คญั น้นั ประกอบดว้ ย การรู้จกั เอาใจเขามาใส่ใจเรา การให้เกยี รติผูอ้ ่นื รูจ้ ักรักษาเกยี รตติ นเอง เปน็ ผู้เสยี สละและต้องมีความ รบั ผิดชอบ” 4.4 ผกู้ ํากับลูกเสอื เลา่ เร่ืองสนั้ ท่ีเปน็ ประโยชน์ เร่ือง พกิ ลุ ทอง 4.5 พธิ ีปิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธงลง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล 5.1 อธิบายคณุ ค่าและแสดงออกถงึ ความเป็นสุภาพบุรุษสภุ าพสตรี 5.2 สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในการทํากิจกรรม และการแสดงความคิดเหน็ ในหมูแ่ ละกองลกู เสอื 5.3 แบบประเมินจากเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ กจิ การลกู เสอื 6. องค์ประกอบทกั ษะชีวติ ท่ีไดจ้ ากกิจกรรม คือ ความคิดวิเคราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนักร้ถู ึงความสาํ คัญของการสร้างคณุ คา่ ใน ตนเอง ความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม 58ค่มู ือสง่ เสคชมู่้ันริมอืมแสธั ่งลยเมะสพศรกึฒัมิ ษแนลาาปะกพที จิ ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูกั เษสะือชทีวกั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถึกาษนาศลึกูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรุน่กู เใสหอื ญส่ามชญััน้ มรนุ่ัธใยหมญศ่กึ ษาปีท่ี 1 65

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมที่ 9 เกม เกมหาคู่ วิธเี ลน่ 1. ใหล้ ูกเสือเปน็ วงกลม 2 วง ซอ้ นกัน โดยยืนหนั หนา้ เขา้ หากนั แลว้ จาํ ไวว้ า่ คขู่ องตนคือใคร 2. ใหว้ งกลมท้ังสองทาํ ขวาหนั แล้วเดนิ สวนกนั ในวงกลมตามเพลง (เปิดเกมวิทยุหรอื ให้ลูกเสือ ร้องเพลงง่ายๆ ตามท่ผี กู้ าํ กับกาํ หนด) 3. เมอ่ื ผกู้ าํ กบั เป่านกหวีด ให้ลกู เสอื เขา้ หาคขู่ องตนเอง เมอื่ เจอแล้วใหจ้ ับมือน่งั ลง คทู่ หี่ าคู่ ชา้ ที่สดุ จะต้องออกจากการแข่งขนั เสรจ็ แลว้ เร่ิมใหม่ 4. คทู่ ่เี หลือเปน็ คูส่ ดุ ท้ายจะเป็นผชู้ นะ 66 คูม่ อื สง่ เสรคมิมู่ แือลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกูกิจเกสรือรมทลักกูษเะสชอื วี ทติ ักใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศกูกึ เษสาอื ปสารมะเญั ภทรุ่นลูกใหเสญือ่สชาั้นมญัมธัรุน่ยมใหศญึก่ษาปีท่ี 519 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

เรอ่ื งสัน้ ทีเ่ ปน็ คตสิ อนใจ เรื่อง พิกลุ ทอง หญิงหมา้ ยคนหน่ึงมลี กู สาว 2 คน คนโตช่ือมะลิ คนรองช่ือพกิ ลุ หญิงหมา้ ยนน้ั รกั มะลมิ าก เพราะมรี ูปรา่ งหนา้ ตาและนสิ ยั เหมอื นตน ส่วนพกิ ุลเป็นหญิงสาวท่หี นา้ ตาสะสวย กริ ยิ ามารยาท เรยี บรอ้ ย พดู จาไพเราะและนา้ํ ใจงาม พกิ ุลต้องทาํ งานหนักเนอื่ งจากความลําเอยี งของมารดา แต่ดว้ ยความมนี ํา้ ใจตอ่ คนอ่ืน ทาํ ใหพ้ กิ ลุ ไดร้ ับพรจากรกุ ขเทวดาใหม้ ีดอกพิกุลทองรว่ งออกมาจากปาก ทกุ คร้ังทพ่ี ูด หญิงหมา้ ยมคี วามละโมบ จงึ บบี คนั้ ให้พกิ ุลทองพูดเพอื่ เอาทองคํา และใหม้ ะลิไปขอพร รุกขเทวดาบา้ ง แต่มะลเิ ปน็ ผ้ทู ่ีหยาบคายจึงไดร้ ับผลตรงกนั ข้ามกับพกิ ลุ พกิ ลุ ถูกมารดาทาํ รา้ ย จนต้องหนอี อกจากบ้าน และได้พบกบั เจ้าชายรปู งาม ครองคอู่ ยู่ดว้ ยกนั อย่างมีความสขุ เร่ืองนสี้ อนให้รูว้ า่ ความมนี า้ํ ใจและความสภุ าพเป็นเคร่อื งผูกมิตรต่อผ้อู น่ื 60คู่มือสง่ เสชค่มู้นัริมอืมแสธั ่งลยเมะสพศรึกฒัิมษแนลาาปะกพที จิ ี่ฒั ก1รนรามกลิจกูกรเสรมอื ลทกูักเษสะอื ชทีวักิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกูกษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุ่นูกเใสหือญส่ามชัญน้ั มร่นุัธใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 67

แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่(เคร่ืองหมายลูกเสอื โลก) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 หน่วยท่ี 3 คําปฏิญาณและกฎของลกู เสอื เวลา 3 ช่วั โมง แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 10 ขยะนีม้ ีมูลค่า 1. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 ลูกเสือเหน็ ความสําคญั ของการแกป้ ญั หาเรอ่ื งขยะได้ 1.2 ลกู เสอื มสี ว่ นรว่ มในการจัดการขยะในโรงเรยี น และบริเวณโดยรอบได้ 1.3 ลูกเสือมีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ กิจการลกู เสือได้ 2. เน้อื หา ปัจจบุ ันขยะเปน็ ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มท่ีสาํ คัญมาก การท่ลี กู เสอื เหน็ ความสําคญั และมีความรู้ ความเขา้ ใจในการจดั การขยะ จะชว่ ยลดปญั หาสง่ิ แวดล้อมลงได้ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ ตารางเทียบมูลคา่ ขยะ, เรื่อง เมอื่ “ไสเ้ ดอื น”สร้างมูลคา่ และแก้ปญั หาขยะให้เมอื งรงั สติ 3.3 เรื่องสน้ั ท่ีเป็นประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 กิจกรรมครั้งท่ี 1 1) พธิ ีเปิดประชมุ กอง (ชักธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เกมแยกขยะ 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ (1) ผ้กู าํ กับลูกเสือนาํ สนทนาเรอ่ื งปัญหาขยะ และขออาสาสมคั รอา่ นใบความรู้เร่ือง “เมือ่ ไสเ้ ดอื นสรา้ งมลู คา่ และแกป้ ัญหาขยะใหเ้ มอื งรังสิต” (2) สุ่มถามความคดิ เห็นของลกู เสือ 2 – 3 คน ตอ่ เรอ่ื งทไ่ี ด้ฟัง (3) ผูก้ าํ กับลกู เสือเสนอกิจกรรมการเก็บขยะรไี ซเคิล โดยแจก ตารางเทยี บมลู ค่าขยะ ใหห้ มลู่ กู เสือร่วมกันวางแผนเพ่ือแขง่ ขันกนั เกบ็ ขยะใหไ้ ดม้ ลู ค่าสูงสดุ ในเวลา 20 นาที (4) เมอ่ื ครบเวลา หมลู่ ูกเสอื แยกประเภทขยะ ชง่ั และประเมินมูลค่าขยะทไ่ี ด้ รายงานในกองลูกเสอื (5) ผู้กาํ กบั ลูกเสอื ประกาศหมู่ลกู เสือท่ีเก็บขยะได้มูลคา่ สงู สุด และสมั ภาษณ์เคล็ดลบั ในการเก็บขยะให้ไดม้ ูลค่ามาก (6) ผ้กู ํากับลกู เสือรวบรวมมลู คา่ ขยะทเ่ี ก็บในเวลา 20 นาทขี องทง้ั กองลูกเสอื และต้งั คาํ ถามวา่ “ถ้ามกี ารทาํ เชน่ นอี้ ย่างตอ่ เนอ่ื งลูกเสอื คดิ วา่ จะเกดิ ประโยชน์อยา่ งไรบา้ ง” (เปดิ กว้าง ใหล้ กู เสอื แสดงความคดิ เหน็ ) 68 คู่มอื สง่ เสรคมิู่มแอื ลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลกั กูษเะสชอื วี ทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลกูใหเสญือ่สชาน้ัมญัมัธรุ่นยมใหศญกึ ่ษาปีที่ 611 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1

(7) ผ้กู ํากับลูกเสือรวบรวมคาํ ตอบ สรุป และนดั หมายการทํากิจกรรมครง้ั ตอ่ ไป คอื การแปลงขยะให้เปน็ มูลคา่ จรงิ 4) ผกู้ าํ กบั ลูกเสือเลา่ เรอ่ื งส้นั ทมี่ คี ตสิ อนใจ เรอ่ื ง โลกกว้าง 5) พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธงลง เลิก) 4.2 กิจกรรมคร้ังที่ 2 1) พธิ เี ปดิ ประชมุ กอง (ชักธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2) เกมเชื้อโรคติดต่อ 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผ้กู าํ กับลูกเสือชแี้ จงสงิ่ ทกี่ องลูกเสอื ต้องทาํ ในกจิ กรรมคร้งั น้ี - รวบรวมและแยกประเภทขยะทง้ั หมด จดบันทกึ ประเภท และปริมาณ ของขยะท่ไี ด้เพอ่ื แปลงเป็นมลู คา่ จรงิ โดยการขายใหพ้ อ่ คา้ ทีม่ ารบั ซอื้ - ประชุมตกลงกนั ว่า จะนาํ เงินที่ไดไ้ ปทาํ ประโยชนแ์ กส่ ว่ นรวมอย่างไร - กองลกู เสอื จะมสี ว่ นรว่ มสง่ เสริมการจดั การขยะในโรงเรียน และบริเวณโดยรอบ อย่างไรให้เป็นระบบและต่อเนอ่ื ง (2) กองลกู เสอื ดาํ เนนิ การตามที่ผู้กาํ กบั ลกู เสือได้ช้ีแจง และวางแผนการจดั การขยะ ในโรงเรียนและบรเิ วณโดยรอบ (3) กองลูกเสือสรุปผลการประชุมและแบง่ งานให้หม่ลู ูกเสอื รบั ผดิ ชอบดําเนนิ การ ในครงั้ ต่อไป (4) ผู้กาํ กับลกู เสอื รบั ทราบผลการประชมุ และให้คาํ แนะนาํ เพม่ิ เติม 4) ผกู้ าํ กับลกู เสอื เลา่ เร่อื งสัน้ ท่ีเป็นประโยชน์ เรอื่ ง บทเรยี นจากกบ 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลิก) 4.3 กจิ กรรมคร้ังที่ 3 1) พิธีเปดิ ประชมุ กอง (ชกั ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลงอยา่ ทิ้งขยะ 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (1) หมู่ลูกเสอื ร่วมกันปฏิบตั ิงานตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย (2) ผู้กาํ กบั ลกู เสือให้คําปรกึ ษาแนะนาํ ตามหมู่ลกู เสือที่กาํ ลงั ปฏิบตั งิ านทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (3) ผ้กู ํากับลูกเสอื ให้รวมกองและตัง้ คําถาม “ลูกเสือไดข้ ้อคดิ อะไรบ้างจากการ ทํากจิ กรรมเร่อื งขยะ” ลูกเสือรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ 4) ผกู้ าํ กับลูกเสอื เล่าเร่อื งสัน้ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ เรอ่ื ง แพะกับองุ่น 5) พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธงลง เลกิ ) 62คู่มอื สง่ เสคชู่ม้นัริมือมแสัธ่งลยเมะสพศรกึัฒมิ ษแนลาาปะกพที จิ ่ีัฒก1รนรามกลจิ กูกรเสรมอื ลทกูักเษสะือชทีวกั ติ ษใะนชสวี ถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหือญส่ามชัญั้นมรนุ่ัธใยหมญศ่กึ ษาปีที่ 1 69

5. การประเมินผล 5.1 อธิบายถงึ ความสําคญั ของการแกป้ ัญหาเรอื่ งขยะซ่ึงเป็นสาเหตหุ ลักของปญั หาสงิ่ แวดล้อม 5.2 สงั เกตการมสี ว่ นร่วมในการจดั การขยะในโรงเรยี น และบริเวณโดยรอบ 5.3 แบบประเมนิ เจตคติทด่ี ีต่อกิจการลกู เสือ 6. องค์ประกอบทักษะชวี ิตสาํ คัญท่ีเกิดจากกจิ กรรม คือ ความคิดวเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระนักรถู้ ึงปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มจากขยะ และความ รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 70 คู่มือสง่ เสรคมิมู่ แอื ลสะ่งพเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลักูกษเะสชอื วี ทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลูกใหเสญอื ่สชาัน้มญัมัธรนุ่ยมใหศญึก่ษาปที ่ี 613 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 10 เกมแยกขยะ อปุ กรณ์ 1. ผ้าประเภทขยะ 2. ป้ายขยะชนดิ ต่าง ๆ จํานวน 32 แผน่ กตกิ า 1. แบง่ ผู้เล่นออกเป็น 2 ทมี ทมี กระดมุ สีเขียว และทมี กระดมุ สนี ้าํ ตาล 2. นาํ แผ่นป้ายรูปขยะวางไวบ้ นพนื้ แลว้ จะให้เวลาแตล่ ะกลุ่มมายนื ดวู ่ามขี ยะอะไรบ้าง และปรึกษากนั วา่ รปู ไหนจดั อยใู่ นขยะประเภทใด โดยใหเ้ วลา 5 นาที 3. เม่อื แตล่ ะกล่มุ ปรึกษากนั เรยี บร้อยแลว้ ให้ออกมายนื เรยี งเปน็ แถวตอนลกึ 4. ให้กลุ่มหนง่ึ เป็นสีเขยี ว อกี กลมุ่ เป็นสนี ้าํ ตาล คือ เมอ่ื ได้ยนิ เสยี งนกหวดี แลว้ คนแรก (หวั แถว) วง่ิ ไปหยบิ ขยะ 1 ชนดิ และนําไปตดิ ไว้ตามประเภทของขยะ และสกี ระดมุ ของกลมุ่ ตนเอง (หากอยู่กลมุ่ เขยี วจะตอ้ งนําขยะไปแขวนทกี่ ระดมุ สีเขยี ว) 5. เม่ือคนแรกนําขยะไปตดิ ตามประเภทแลว้ ใหว้ ง่ิ มาแตะมอื คนที่ 2 และไปตอ่ ทา้ ยแถว ส่วนคนท่ี 2 ก็วงิ่ ไปหยบิ ขยะและนาํ ไปแขวนตามประเภท ทาํ เช่นนีจ้ นครบจํานวนขยะ 6. พฐี่ านทาํ การตรวจวา่ ทมี ไหนแยกขยะได้ถกู หรือผิด หากตดิ ถกู จะได้ปา้ ยละ 1 คะแนน ติดผิดโดนหกั 1 คะแนน ใครไดค้ ะแนนมากกว่าเปน็ ฝ่ายชนะ 7. ทมี แพโ้ ดนทาํ โทษ แล้วแต่ทมี ชนะจะส่งั ใหท้ าํ อะไร เกมเชอ้ื โรคตดิ ตอ่ วิธีเล่น 1. เขยี นวงกลมรศั มพี อสมควรใหค้ นอยู่ในวงกลมหลบคนทว่ี งิ่ รอบๆ วงได้ 2. ใหล้ ูกเสอื คนหนงึ่ เปน็ เช้อื โรค วงิ่ รอบๆวงกลม 3. ลูกเสอื ทอ่ี ยูใ่ นวงกลมอยา่ ให้เชอื้ โรคแตะถูกตัวได้ ใครถูกแตะต้องออกไปเปน็ เช้อื โรค เพลงอยา่ ทิ้งขยะ เกะกะ เกะกะ เกะกะ อย่าทิง้ ขยะเกะกะกลางถนน จาํ ไว้เดก็ ๆ ทกุ คน (ซํา้ ) ทิง้ กลางถนน เกะกะ เกะกะ 64คู่มอื สง่ เสคชู่มนั้ริมอืมแสัธง่ลยเมะสพศรกึัฒมิ ษแนลาาปะกพีทจิ ่ีัฒก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทูกักเษสะือชทวี ักติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภญัทลร่นุูกเใสหือญส่ามชัญั้นมรุ่นธั ใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 71

ใบความรู้ ตารางเทียบมลู คา่ ขยะ ประเภทกระดาษ กระดาษแข็ง 4.8 บาท ต่อกโิ ลกรมั กลอ่ งลังน้าํ ตาล กระดาษสี กลอ่ งรองเทา้ กระดาษหนงั สอื อา่ นเลน่ เศษกระดาษยอ่ ย(สวย) 2 บาทตอ่ กโิ ลกรมั เศษกระดาษยอ่ ย(ขยะ) 0.9 บาทตอ่ กโิ ลกรัม กระดาษหนงั สอื พมิ พ์ 4 บาทตอ่ กิโลกรมั กระดาษสมดุ 5.7 บาทตอ่ กิโลกรมั กระดาษขาวดํา (เศษ,ฝอย) 5.7 บาทต่อกิโลกรัม ประเภทเศษขวด,แกว้ ขวดแม่โขงกลม 1.5 บาท ต่อกิโลกรมั ขวดแบน-กลมแม่โขง,แสงโสม 8 บาทตอ่ กโิ ลกรัม ขวดแมโ่ ขงกลมพรอ้ มกล่อง 12 ขวด ราคาตลาด 24 บาทต่อกล่อง ขวดเบยี รช์ า้ ง – เบยี ร์สิงห์ (ใหญ)่ ราคาตลาด 0.5 บาทต่อขวด ขวดเบียร์ชา้ งพร้อมกลอ่ ง 12 ขวด ราคาตลาด 10.5 บาทต่อกลอ่ ง เบยี ร์สิงหพ์ ร้อมกล่อง 12 ขวด ราคาตลาด 8 บาทตอ่ กล่อง ขวดโซดาสงิ ห์ , ขวดนํ้าปลา ราคาตลาด 1 บาทต่อกิโลกรมั เศษแกว้ แดง , ขวดลโิ พ , ขวดเอม็ รอ้ ย ราคาตลาด 1 บาทต่อกโิ ลกรมั พลาสติกและอ่ืนๆ ราคาตอ่ กิโลกรมั พลาสตกิ รวม 9 บาท ขวดน้าํ ดม่ื 19 บาท ขวดนาํ้ (ใส) ,นํา้ มนั พชื 14 บาท สายยางออ่ น 6 บาท สายยางแข็ง , รองเท้าบู๊ท 5 บาท สายยางเขยี ว , รองเทา้ ยาง 4 บาท ทอ่ พวี ีซี (สฟี ้า ) 9 บาท อะลูมเิ นยี มกระป๋องโคก้ 40 บาท 72 คู่มอื สง่ เสรคิม่มู แือลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกกูิจเกสรือรมทลกั กูษเะสชือวี ทติ ักใษนะสชถีวาิตนในศสกึ ถษาานลศกูึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทรุ่นลูกใหเสญอื ่สชา้นัมญัมัธร่นุยมใหศญกึ ่ษาปีที่ 615 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

เมือ่ “ไสเ้ ดอื น” สร้างมลู คา่ และแก้ปัญหาขยะใหเ้ มืองรังสิต ปัจจุบัน “ขยะ” เป็นปัญหาหนักอกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) บางพ้ืนที่ มีแนวโน้มรนุ แรงถึงข้นั วกิ ฤตเพราะหาทีท่ งิ้ ไมไ่ ด้ และคนในท้องถิ่นคัดค้านการสร้างโรงกําจัดขยะ อปท. หลายแห่งจึงหาทางออกดว้ ยการลดปริมาณขยะ คัดแยกขยะ นํากลับมาใชใ้ หม่ รวมทั้งทาํ ธนาคารขยะ จังหวัดปทมุ ธานี มีปัญหาถึงข้ันวิกฤต เน่ืองจากเป็นเขตปริมณฑล เมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ละวันมีปริมาณขยะมากกว่า 1,000 ตัน แม้จะมีศูนย์กําจัดขยะ 2 แห่ง ใช้งบประมาณก่อสร้าง ไปมากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ก็ถูกปิดตายมานาน เพราะถูกประชาชนคัดค้านอย่างหนัก ต้องสูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ เฉพาะเทศบาลเมืองรังสิต มีปริมาณขยะวันละ 150 ตัน เป็นขยะเปียกจากตลาดสด 50 ตัน และมีแนวโน้มเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ือง แม้ปัญหาจะวิกฤติ แต่ “เดชา กลิ่นกุสุม” นายกเทศมนตรีเทศบาล เมืองรังสิตก็ไม่ย่อท้อ เขาศึกษาค้นคว้าจนได้แนวทางจัดการขยะท่ีเหมาะสม และสามารถนําผลผลิต ทีไ่ ด้จากขยะกลบั มาใชป้ ระโยชน์ไดอ้ กี บริษัทจัดการขยะครบวงจร ได้จัดตั้งขึ้นท่ีสถานีขนถ่ายขยะของเทศบาล ในพ้ืนที่ 51 ไร่ ที่ อ.หนองเสอื มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดปริมาณขยะเปียก โดยนําไส้เดือนเข้ามาใช้ในกระบวนการกินขยะ ส่วนขยะแห้งจะคัดแยกออกเพื่อนําไปขาย ขยะส่วนที่เหลือจากการคัดแยกก็ใช้เคร่ืองบีบอัดทําเป็น เช้ือเพลิงก้อน จําหน่ายใหอ้ ุตสาหกรรมปนู ซเี มนต์เพอ่ื นาํ ไปใชแ้ ทนน้ํามันเชื้อเพลิง ไส้เดือนดินที่ใช้เป็นไส้เดือนพันธุ์ขี้ตาแร่จากโครงการหลวง โดยเริ่มจากจํานวน 15 กิโลกรัม มีอัตราเฉลี่ย 1,200 ตัวต่อกิโลกรัม นํามาขยายพันธ์ุต่อ ซึ่งพบว่าไส้เดือนเจริญเติบโตได้เร็วมาก เพราะมีขยะสดเป็นอาหารช้ันดี ขณะเดียวกันไส้เดือนจะขับถ่ายออกมาเป็นปุ๋ยน้ํา ซ่ึงเป็นท่ี ต้องการมากของเกษตรกร จงึ ขายได้ราคาดี เม่ือเทียบกับปริมาณขยะสดในพ้ืนท่ี จะต้องใช้ไส้เดือนถึง 25 ตันต่อการกําจัดขยะสด 50 ตัน ต่อวัน เทศบาลจึงขยายโครงการโดยส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้จากการผลิตปุ๋ยนํ้าชีวภาพที่ไส้เดือน ขับถ่าย โดยนํามาผสมน้ําบรรจุขวดขนาด 750 ซีซี ขายราคา 40 บาท ปุ๋ยผงชีวภาพซ่ึงได้จากมูลไส้เดือน ตากแห้ง กิโลกรัมละ 100 บาท และขายไส้เดือนกิโลกรัมละ 400 บาท เนื่องจากกําลังเป็นท่ีต้องการ ของตลาด โดยเฉพาะ อปท.ทัว่ ประเทศ สาํ หรบั ขยะอินทรยี ์บางส่วนท่ีไส้เดือนไม่ต้องการ ก็สามารถนําไปผสมกับสิ่งปฏิกูลจากรถดูดส้วม เพ่ือหมักทําไบโอก๊าซต่อ โดยเทศบาลมีอุปกรณ์พร้อม ใช้เป็นเชื้อเพลิงสําหรับเครื่องยนต์ดัดแปลง สว่ นทเ่ี หลือใชก้ ็ขายให้การไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแห่งประเทศไทยตอ่ ไป หาก อปท.ท่วั ประเทศพร้อมใจกนั ทาํ ตั้งแตค่ รัวเรอื นจนถึงสถานกาํ จดั ขยะ รณรงค์สรา้ งจิตสํานกึ ใหป้ ระชาชนคัดแยกขยะก่อนทง้ิ โดยเฉพาะขยะเปียกและเศษอาหาร จะชว่ ยลดดุลการนําเข้าปยุ๋ เคมี ลดการนําเข้าเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีจากตา่ งประเทศลงไดม้ าก และยังได้แก้ปัญหาสิง่ แวดล้อม อย่างตรงจดุ (ย่อความจาก : หนงั สอื พิมพม์ ตชิ นรายวนั ฉบบั ประจําวนั จันทร์ท่ี 30 มิถุนายน พ.ศ.2551 หนา้ 8) 66คมู่ อื สง่ เสชคูม่น้ัรมิอืมแสัธง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที จิ ี่ฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูักเษสะือชทวี กั ิตษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหอื ญส่ามชัญั้นมรนุ่ธั ใยหมญศ่ึกษาปีท่ี 1 73

เรื่องส้ันทเ่ี ป็นประโยชน์ โลกกวา้ ง ยพุ าหนีตามมน่ั มาตั้งรกรากที่จงั หวัดเพชรบรุ ี ทง้ั ค่ขู ยัน มานะอดทน รู้คดิ รู้ทําและร้จู ักเก็บหอม รอมริบ จงึ คอ่ ยๆกา้ วขน้ึ เป็นเจา้ ของกิจการเรือประมงและมีสวนของตนเอง ท้ังคู่มีลูกส่ีคน คือ ลาภ ยศ สรรเสรญิ และสุข จากน้ันทั้งม่นั และยุพาก็ลุ่มหลงการพนัน กว่าจะรู้สึกตัวก็สูญเสียทรัพย์สินท่ีหามาได้ ท้งั หมด มั่นซึ่งเปน็ หวั หน้าครอบครัวจงึ ออกหาปลา ได้ถกู โจรทเ่ี ข้ามาขโมยเรอื ฆา่ ตาย สว่ นยพุ าเสียชวี ติ หลงั ม่นั ไม่นาน ขณะนน้ั ลาภ ลกู ชายคนโตอายเุ พียง 13 ปเี ทา่ น้ัน ลาภมุ่งมั่นท่ีจะดูแลน้องๆและสร้างฐานะของ ครอบครัวขึ้นมาใหม่ให้ได้ เขาลาออกจากโรงเรียนเป็นลูกจ้างเรือประมง ให้ยศมาช่วยกันถางป่าทําไร่ ส่วนสรรเสริญและสุขยังคงเรียนหนังสือและช่วยพ่ีน้องตามความสามารถ ท้ังสี่คนพี่น้องช่วยกันคิด ช่วยกันทําท้ังปลูกพืช เล้ียงสัตว์ และแปรรูปผลผลิตต่างๆจนประสบผลสําเร็จ จนสามารถสร้างฐานะ ขน้ึ มาจนเปน็ ปึกแผน่ เหมือนเดิม เรอื่ งนสี้ อนใหร้ ู้วา่ ความมุ่งมน่ั ขยนั และอดออม ทาํ ใหค้ รอบครัวมนั่ คงมีสขุ การพนันเป็นเหตใุ ห้ สิ้นเนื้อประดาตัว บทเรียนจากกบ กาลครั้งหน่ึง ฝงู กบได้จดั การแข่งขันปีนข้ึนยอดเสาสูง มีกบสมคั รเข้าแขง่ ขนั จาํ นวนมาก และผชู้ มการแข่งขนั มารอดกู นั อยเู่ ตม็ สนาม การแขง่ ขนั เร่ิมขนึ้ ผแู้ ข่งขนั ต่างพยายามปนี ขึ้นยอดเสาสงู เสียงเชียรด์ งั สน่นั แตไ่ มน่ าน ผชู้ มต่างก็เร่ิมวพิ ากย์วจิ ารณ์ตา่ งๆ นา ๆ “สูงออกอย่างน้ี ฉนั วา่ ไมม่ กี บตัวไหนปนี ถงึ ยอดเสาหรอก” “โอย๊ มนั ยากจะตาย กลัวจะตกลงมาตายซะมากกวา่ จะเส่ียงแขง่ กันไปทําไมนะ” “ เลกิ แขง่ เถอะ แขง่ ไปกไ็ มส่ าํ เร็จหรอก นา่ จะมาแข่งอยา่ งอืน่ กนั ดกี วา่ ” “ แน่ะ เห็นไหม พูดขาดคํากม็ กี บหล่นลงมาแลว้ เฮอ้ ! จะสงสารดีไหมเน่ยี ” เจา้ กบตัวนอ้ ย ๆ ตา่ งทะยอยร่วงหล่นลงมาทลี ะตัว ....ทลี ะตวั ... ยกเว้นกบตวั หนงึ่ ท่ียงั คงปีน ตอ่ ไปด้วยความมงุ่ ม่นั มิใยทีผ่ ู้ชมต่างสง่ เสยี งหา้ มปราม เรยี กใหล้ งมา “อย่าข้ึนสูงไปกว่านัน้ มนั อันตราย ลงมาเถอะ นกี่ ร็ ่วงกนั ลงมาเยอะมากแล้ว” กบทีเ่ หลอื ยอมแพ้ คอ่ ย ๆ ทยอยกลบั ลงมา คงเหลอื เจ้ากบตวั น้ันทไ่ี ม่ยอมแพ้ ยงั คงข้ึนตอ่ ไปอีก เรือ่ ยๆ จนในทสี่ ุดกไ็ ปถงึ ยอดเสา ไดร้ บั ชยั ชนะในทส่ี ุด ฝงู กบพากนั ซักถามว่ามนั ทําสาํ เร็จได้อยา่ งไร แตถ่ ามหลายคร้ัง มนั กไ็ ม่ตอบ เนอื่ งจากกบผชู้ นะ นนั้ หหู นวก นทิ านเรอ่ื งนีส้ อนให้รู้วา่ คาํ พดู ด้านลบจะลดทอนพลงั ความสามารถและความฝันใหส้ ลายลงไป จง ระวงั พลงั แหง่ คาํ พดู เสมอ ทุกส่ิงท่เี ราพดู หรือได้ยิน มีผลต่อการกระทําของเรา จงหหู นวกตอ่ คาํ พดู ที่ ลดทอนพลงั ความสามารถของเรา และจงคิดเสมอว่า “เราทาํ ได้ 74 ค่มู ือสง่ เสรคิมมู่ แือลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลักกูษเะสชอื ีวทิตกั ใษนะสชถวี าติ นในศสึกถษาานลศกูึกเษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลกูใหเสญอื ่สชาัน้มัญมธัร่นุยมใหศญกึ ่ษาปีที่ 617 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1

เรอ่ื ง แพะกบั องนุ่ แพะตวั หน่งึ หนกี ารไล่ลา่ ของนายพรานเข้าไปหมอบตวั หลบซอ่ นอย่ใู ต้ตน้ องนุ่ เมอื่ เหน็ วา่ พ้น จากอนั ตรายแลว้ มันจึงลกุ ขึ้น แลว้ เร่ิมแทะเลม็ ผลและใบของต้นองุ่นทมี่ ันใช้อาศยั กาํ บงั ตัวอย่นู ่ันเอง นายพรานทีอ่ ยู่ไม่ไกลนักได้ยนิ เสยี งใบไมไ้ หว จึงหวนกลบั มาแล้วพบวา่ แพะกาํ ลงั กนิ ใบองุ่นอยู่ จงึ ยงิ ธนจู นแพะถงึ แกค่ วามตาย เรอื่ งนี้สอนใหร้ วู้ า่ การไมร่ ู้จกั สํานกึ บุญคณุ ซ้ํายงั ทาํ รา้ ยผู้มพี ระคุณย่อมจะไดร้ บั ผลร้ายในวนั หน้า 68คู่มอื สง่ เสคชู่มนั้ริมอืมแสัธ่งลยเมะสพศรกึฒัิมษแนลาาปะกพที ิจ่ีัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทูกกั เษสะอื ชทวี ักิตษใะนชสีวถติ าในนสศถกึ าษนาศลึกูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหอื ญส่ามชัญน้ั มรุน่ธั ใยหมญศ่ึกษาปีท่ี 1 75

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุ่นใหญ่(เครอ่ื งหมายลกู เสือโลก) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยที่ 4 ระเบยี บแถว แผนการจัดกจิ กรรมที่ 11 ระเบียบแถวลกู เสอื เวลา 3 ช่วั โมง 1. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ลูกเสือปฏิบตั ติ ามสัญญาณนกหวดี และสญั ญาณมือได้ 1.2 ลกู เสอื ปฏบิ ัติกจิ กรรมระเบียบแถวบุคคลท่ามอื เปล่า บคุ คลท่าประกอบอาวุธ และท่าเคลือ่ นทไี่ ด้ 1.3 ลกู เสือปฏบิ ตั ิกิจกรรมการสวนสนามได้ 2. เน้อื หา 2.1 การปฏิบัติตามสัญญาณนกหวดี สญั ญาณมือ และสัญญาณมอื ลูกเสอื สากล 2.2 การฝกึ บคุ คลทา่ มอื เปล่า บุคคลท่าประกอบอาวุธ และ ทา่ เคล่ือนที่ 2.3 การสวนสนาม 3. สือ่ การเรียนรู้ 3.1 แผนภูมิเพลง 3.2 ใบความรู้เรือ่ ง ระเบยี บแถวลกู เสอื 3.3 เร่ืองสน้ั ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครัง้ ที่ 1 1) พิธีเปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2) เพลงวชริ าวุธรําลกึ 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผ้กู าํ กับลูกเสอื มอบหมายให้นายหม่ใู ชค้ าํ บอกคาํ สัง่ ทบทวนทักษะการปฏบิ ัตริ ะเบยี บ แถวในหมู่ของตนเอง และให้สมาชกิ ลกู เสือปฏบิ ัตติ าม 1) สญั ญาณนกหวดี สัญญาณมือ 2) ระเบยี บแถวบุคคลทา่ มอื เปลา่ 3) ระเบยี บแถวบคุ คลท่าประกอบอาวุธ และทา่ เคลอ่ื นท่ี (2) ลูกเสอื ฝกึ ปฏบิ ัตทิ ักษะตามคําบอกคาํ สงั่ สญั ญาณนกหวีด สญั ญาณมอื ระเบียบแถว บุคคลท่ามือเปลา่ ระเบยี บแถวบุคคลท่าประกอบอาวธุ และท่าเคลอื่ นท่ี ผู้กํากับลูกเสอื ให้คาํ แนะนํา เพม่ิ เตมิ เพอื่ ใหล้ กู เสอื มคี วามมั่นใจในการปฏิบตั ิกิจกรรม (3) ผูก้ ํากับลูกเสือมอบหมายให้หัวหน้านายหมู่ใชค้ ําบอกคําสงั่ ในการฝกึ เปน็ กอง เพอ่ื ใหเ้ กดิ ทกั ษะความพรอ้ มเพรยี งในกองลกู เสอื 4) ผูก้ ํากบั ลูกเสอื เลา่ เรื่องสัน้ ทีเ่ ป็นประโยชน์ เร่ือง ความสามัคคี 5) พิธีปดิ ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธงลง เลิก) - ผกู้ าํ กับลกู เสอื นดั หมายหัวหนา้ นายหมู่ลกู เสือทบทวนทกั ษะการใช้สัญญาณมอื ลูกเสอื สากล 76 ค่มู อื สง่ เสรคิมมู่ แอื ลสะง่ พเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูิจเกสรือรมทลกั กูษเะสชือีวทิตกั ใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศกูกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลูกใหเสญือ่สชาัน้มัญมัธรนุ่ยมใหศญกึ ่ษาปที ี่ 619 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

4.2 กิจกรรมครัง้ ที่ 2 1) พิธีเปดิ (ชักธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลงเกยี รตคิ ณุ ลกู เสอื 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (1) ผู้กํากับลกู เสอื ให้หวั หนา้ นายหมลู่ ูกเสอื ใชค้ ําบอกคาํ สง่ั และปฏบิ ัติการใชส้ ัญญาณ มือ ท้งั 9 สัญญาณ โดยกองลูกเสอื ปฏิบัตติ าม (2) ผู้กาํ กับลูกเสือให้คําแนะนาํ การปฏบิ ตั ิการใชส้ ญั ญาณมอื ท่เี กิดความรวดเร็วและ พรอ้ มเพรยี ง (3) ผ้กู ํากบั ลกู เสอื และลูกเสือรว่ มกันสรุปการฝกึ ปฏิบตั ิการใช้คาํ บอกคาํ สั่ง ปฏิบัติการใช้ สัญญาณมือ ทง้ั 9 สัญญาณ และการเขา้ แถวตามรปู แบบ 4) ผู้กํากับลูกเสือเลา่ เร่ืองส้ันท่ีเปน็ ประโยชน์ เรือ่ งหัวใจไรเ้ ดียงสา 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธงลง เลิก) 4.3 กิจกรรมคร้ังที่ 3 1) พธิ เี ปิด (ชกั ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เพลงมารช์ ลกู เสือ 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (1) ผูก้ ํากับลูกเสือและลกู เสือสนทนาร่วมกนั ถงึ ประสบการณ์ในการเดนิ สวนสนาม ของลกู เสือทกุ ปที ่ีผา่ นมา (2) ผ้กู ํากบั ลกู เสอื จดั แบ่งหมลู่ กู เสอื ออกเปน็ 3 กลุ่ม เพอื่ ฝึกปฏิบตั กิ ิจกรรมเป็นฐาน ฐานที่ 1 เรือ่ ง การถอื ธงประจาํ กองลูกเสือ ฐานที่ 2 เร่ือง การถอื ปา้ ยกองลกู เสอื ฐานท่ี 3 เรอื่ ง การเดนิ สวนสนาม (3) ผกู้ าํ กับลูกเสือและลกู เสอื ร่วมกันสรปุ การฝกึ ปฏบิ ัติและวางแผนการฝึกสวนสนาม นอกเวลาเพอื่ เข้าร่วมกจิ กรรมพธิ ีสวนสนามลกู เสอื ประจาํ ปี 4) ผกู้ าํ กับลูกเสือเล่าเร่อื งส้ันทเี่ ปน็ ประโยชน์ เรอ่ื ง ต้นไทรกบั ต้นอ้อ 5) พธิ ีปิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ ชักธงลง เลิก) 5. การประเมินผล 5.1 สังเกตจากการทีล่ กู เสอื ใชแ้ ละปฏิบัตติ าม คาํ บอกคาํ สง่ั สัญญาณนกหวีด สัญญาณมือได้ ถูกตอ้ งรวดเร็วและพรอ้ มเพรียง 5.2 สงั เกตจากการที่นายหมลู่ ูกเสอื วางแผนการจัดกิจกรรมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 70คู่มอื สง่ เสคชู่มัน้รมิือมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกฒัิมษแนลาาปะกพีทจิ ี่ฒั ก1รนรามกลจิ กกู รเสรมอื ลทกูักเษสะอื ชทีวกั ติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลึกกูษเาสปือรสะาเมภัญทลรุ่นูกเใสหอื ญส่ามชญัั้นมรุ่นัธใยหมญศ่กึ ษาปที ี่ 1 77

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 11 เพลง วชิราวุธราํ ลึก วชิราวธุ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าประชากอ่ กําเนดิ ลกู เสอื มาขา้ เลอ่ื มใส พวกเราลูกเสอื เชื้อชาตไิ ทย เทอดเกยี รติพระองค์ไวด้ ว้ ยภกั ดี ลกู เสอื ราํ ลกึ นกึ พระคณุ เทอดบูชา ปฏญิ าณรักกษตั รยิ ์ชาตศิ าสน์ศรี มาเถดิ ลกู เสอื สร้างความดี เพ่อื ศักด์ศิ รีลูกเสอื ไทย ดงั่ ใจปอง เกียรตคิ ุณลกู เสอื ไทย เกียรติคณุ ลกู เสอื แพรไ่ ปท่ัวสากล ลูกเสือไทยทกุ คนตอ้ งรักษา มุ่งทําดยี นื ยนั ตามคาํ ม่ันสัญญา ดว้ ยศรทั ธาสามัคคี มีนาํ้ ใจ มาเถิดมา เรามาชา้ อยูไ่ ย ลูกเสอื ไทยมาเรว็ ไว กา้ วเดินไปทหี่ มายขา้ งหนา้ อยู่กนั คนละกองก็เป็นพีน่ อ้ งกนั มคี วามรู้ ส้งู านไมห่ ว่นั ไหว มวี นิ ัยใจเย็นเป็นมติ รคนทัว่ ไป อยู่แห่งใดสุขสนกุ ทกุ เวลา มาร์ชลกู เสอื ลกู เสอื ลกู เสอื ไวศ้ ักดศ์ิ รีลกู ผู้ชาย ลูกเสือ ลกู เสอื ไวล้ ายซลิ ูกเสือไทย รักเกยี รตริ ักวินยั แข็งแรงและอดทน เราจะบําเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อผอู้ น่ื แมล้ าํ บากตรากตรํากต็ อ้ งทาํ ใหส้ าํ เร็จ ทํา ทาํ ทํา ขา้ สญั ญาวา่ จะทํา เสียชีพ อย่าเสยี สัตย์ รกั ชาตใิ หม้ ่นั ไว้ ดว้ ยนามอนั เกรยี งไกร พระมงกุฎทรงประธาน 78 คู่มอื สง่ เสรคิมมู่ แอื ลสะง่ พเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลักูกษเะสชอื ีวทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเัญภทรุน่ลูกใหเสญือ่สชา้ันมญัมธัรุน่ยมใหศญึก่ษาปที ี่ 711 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1

ใบความรู้ ระเบียบแถวลูกเสือ วิธีสัง่ การในการฝึกระเบียบแถว มีหลายวิธี ไดแ้ ก่ 1. การใช้คําบอก/ คาํ ส่ัง 2. การใชส้ ญั ญาณแตร/ สัญญาณนกหวีด 3. การใช้สัญญาณมือ และสัญญาณมือลูกเสือสากล การใชส้ ญั ญาณนกหวดี ใช้ในการออกคําส่ังแกล่ กู เสือในการฝึกประจําวนั หรือในโอกาสท่ีผูบ้ ังคบั บัญชาลูกเสอื อยูห่ ่างไกลจากลกู เสือ สญั ญาณท่คี วรรมู้ ดี ังน้ี 1. หวีดยาว 1 ครง้ั () ความหมาย - ถา้ เคลอ่ื นทอ่ี ย่ใู ห้หยดุ - ถ้าหยดุ อยู่ใหถ้ อื ว่าเปน็ สัญญาณเตอื น, เตรียมตัว หรอื คอยฟงั คาํ สง่ั 2. หวดี ยาว 2 ครงั้ ( ),( ) ความหมาย - เดนิ ต่อไป, เคลอ่ื นที่ตอ่ ไป, ทาํ งานตอ่ ไป ผปู้ ฏิบตั ิ - ปฏิบตั กิ ิจกรรมทก่ี าํ ลังปฏิบตั ิอยู่น้ันตอ่ ไป หรือ ใหป้ ฏิบัติ กิจกรรมท่ีสั่งน้ันต่อไป 3. หวดี สัน้ 1 คร้งั หวีดยาว 1 ครงั้ สลับกันไป หลายๆ ครั้ง ( ),( ) ความหมาย - เกดิ เหตุ ผูป้ ฏบิ ตั ิ - ตรวจดเู หตุการณ์กอ่ นว่ามอี ะไรเกดิ ข้ึน ควรรวมกันท่ีผกู้ ํากับลกู เสอื (ผู้บังคับบญั ชา) กอ่ น เพ่อื การสงั่ การตอ่ ไป แลว้ แต่กรณี 4. หวดี สน้ั 3 ครัง้ หวีดยาว 1 คร้ัง ตดิ ต่อกนั ไปหลายๆ ชุด ( ),( ) ความหมาย - เรียกนายหมู่ลกู เสอื ให้มารับคําสงั่ ผปู้ ฏบิ ัติ - นายหม่รู บี มาพบผใู้ ห้สญั ญาณ ถา้ นายหมู่ไมอ่ ยู่ หรอื ไปพบไม่ได้ให้ส่งตัวแทนไป 5. หวดี ส้นั ติดต่อกันหลายๆ ครั้ง ( ),( ) ความหมาย - รวม, ประชุม หรอื รวมกอง ผูป้ ฏิบัติ - ทุกคนไปรวมกนั ท่ผี ู้ใหส้ ญั ญาณ 6. หวดี ยาว 3 ครั้ง หวีดสัน้ 1 คร้ัง (เปา่ ได้เพียงชุดเดียว) () 72คมู่ ือสง่ เสคช่มู้นัริมอืมแสัธ่งลยเมะสพศรึกัฒิมษแนลาาปะกพที ิจ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทูกักเษสะอื ชทีวักติ ษใะนชสีวถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปือรสะาเมภัญทลรุ่นูกเใสหือญส่ามชัญ้ันมร่นุธั ใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 79

ความหมาย - ชักธงชาติลงเวลา 18.00 น. โดยลูกเสอื บรกิ าร 2คน ผปู้ ฏิบตั ิ - ในกรณอี ยคู่ ่ายพกั แรม เวลา 18.00 น. หมู่บรกิ ารจะสง่ ตวั แทน 2 คน ทาํ หนา้ ท่ชี กั ธง ชาติลงทกุ คนท่อี ยใู่ นคา่ ยพกั แรมยนื ตรงหันหนา้ ไปทางเสาธง และ วันทยหตั ถ์ จนสน้ิ สดุ สัญญาณ หมายเหตุ เมอื่ จะใช้สัญญาณ (2) (3) (4) (5) หรือ (6) ให้ใชส้ ัญญาณ (1) กอ่ นทุกครงั้ เพอื่ เป็นการเตือนใหร้ ้วู ่าจะใช้สัญญาณอะไร (เพิ่มเตมิ ) 80 คมู่ อื สง่ เสรคมิู่มแือลสะง่ พเสัฒริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลักกูษเะสชือวี ทิตักใษนะสชถวี าติ นในศสกึ ถษาานลศกูกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลูกใหเสญือ่สชาน้ัมัญมัธรนุ่ยมใหศญกึ ่ษาปที ่ี 713 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1

การใชส้ ญั ญาณมอื ใช้แทนคําบอกคาํ ส่งั ขณะที่ผูบ้ ังคบั บัญชาอยหู่ ่างไกลจากลกู เสือ หรอื ไมส่ ามารถทีจ่ ะใช้คาํ บอก ใหล้ กู เสอื ไดย้ นิ ท่วั ถงึ หรอื ในกรณที ่ตี อ้ งการความสงบเงียบ ได้แก่ 1) เตรียม คอยฟังคําสั่ง หรอื หยุด การใหส้ ัญญาณ เหยยี ดแขนขวาข้ึนตรงเหนอื ศีรษะ มอื แบ นว้ิ ทง้ั ห้าเรียงชดิ ตดิ กนั หนั ฝา่ มอื ไป ข้างหนา้ เมอ่ื เหน็ สัญญาณน้ี ให้ลกู เสอื หยุดการเคล่ือนไหวหรือการกระทําใด ๆ ทง้ั สน้ิ พรอ้ มกบั นิง่ คอย ฟงั คาํ ส่งั โดยหนั หนา้ ไปยงั ผบู้ งั คับบญั ชาเพือ่ คอยฟงั คาํ สง่ั แต่ถ้าอยูใ่ นแถวใหย้ ืนในทา่ ตรง 2) รวม หรอื กลบั มา การให้สญั ญาณ เหยยี ดแขนขวาขน้ึ ตรงเหนอื ศรี ษะ แบมือไปข้างหนา้ นว้ิ มือท้ังหา้ ชิดตดิ กนั และหมนุ มอื เป็นวงกลมจากซ้ายไปขวา เม่อื เหน็ สญั ญาณนี้ ใหล้ ูกเสือรวมกองรบี มาเข้าแถวรวมกนั 74คูม่ อื สง่ เสคชมู่ั้นริมอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรกึัฒิมษแนลาาปะกพที จิ ี่ฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมอื ลทกูักเษสะอื ชทีวกั ิตษใะนชสวี ถติ าในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุ่นกู เใสหือญส่ามชญััน้ มรุ่นัธใยหมญศ่ึกษาปที ี่ 1 81

3) จัดแถวหนา้ กระดานการใหส้ ญั ญาณ เหยยี ดแขนทั้งสอง ออกไปด้านข้างเสมอแนวไหล่ ฝา่ มือแบไปข้างหนา้ น้ิวเรียงชดิ ติดกนั เมอ่ื เห็นสัญญาณนี้ ให้ ลกู เสือจดั แถวหนา้ กระดาน หนั หนา้ ไปหาผใู้ ห้สญั ญาณ 4) จดั แถวตอน การใหส้ ญั ญาณ เหยยี ดแขนทงั้ สองข้างไปข้างหนา้ แนวเดยี วกับไหล่ โดยใหแ้ ขนขนานกันและ ฝา่ มือแบเขา้ หากนั เมอื่ เหน็ สัญญาณน้ี ใหล้ กู เสอื เข้าแถว ตอน หนั หนา้ ไปหาผ้ใู หส้ ญั ญาณ 82 คูม่ ือสง่ เสรคิมู่มแอื ลสะง่ พเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรือรมทลักูกษเะสชอื ีวทิตักใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเัญภทรุ่นลกูใหเสญอื ่สชา้นัมญัมัธรนุ่ยมใหศญกึ ่ษาปีท่ี 715 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1

5) เคล่ือนทไ่ี ปยังทศิ ทางที่ตอ้ งการ (ด้านหนา้ ขวา/ซ้าย ก่ึงขวา/กงึ่ ซ้าย และด้านหลัง) การให้สัญญาณ ผูใ้ หส้ ัญญาณหันหนา้ ไปยังทศิ ทางที่ตอ้ งการ โดยชแู ขนขวาข้ึนเหนอื ศีรษะสุด แขนฝ่ามอื แบไปข้างหนา้ น้ิวชิดกนั แล้วลดแขนลงขา้ งหน้าใหเ้ สมอแนวไหล่ เม่ือเหน็ สญั ญาณนี้ ให้ลูกเสอื วงิ่ ไปยังทิศทางทมี่ อื ผใู้ ห้สัญญาณชี้ไป 6) เรง่ จังหวะหรอื ทําให้เรว็ ข้นึ การให้สัญญาณ ผู้ใหส้ ัญญาณงอแขนขวามือ กาํ เสมอบา่ ชขู ้นึ ตรงเหนอื ศรี ษะแลว้ ลดลงหลายๆ ครง้ั ติดต่อกัน เม่อื เหน็ สัญญาณน้ี ใหล้ ูกเสอื รีบวิง่ หรอื เรง่ จงั หวะสง่ิ ท่ีทาํ อยใู่ ห้เร็วขน้ึ 76ค่มู อื สง่ เสคชูม่น้ัริมือมแสัธง่ลยเมะสพศรกึัฒิมษแนลาาปะกพีทิจี่ฒั ก1รนรามกลจิ กกู รเสรมอื ลทกูักเษสะือชทีวักิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภญัทลร่นุูกเใสหอื ญส่ามชัญ้ันมรุ่นัธใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 83

7) นอนลงหรือเขา้ ทก่ี ําบัง การให้สญั ญาณ ผใู้ ห้สัญญาณเหยยี ดแขนขวาตรงไปข้างหน้าใหเ้ สมอแนวไหล่ ฝ่ามอื แบคว่ําลง น้ิวชิดกัน พร้อมกับลดแขนลงข้างหน้า แล้วยกข้ึนท่เี ดมิ หลายๆ คร้ัง เมอ่ื ลูกเสอื เหน็ สัญญาณนีใ้ หร้ ีบนอนหรือเขา้ ท่ีกาํ บังทันที หมายเหตุ กอ่ นการใหส้ ัญญาณแตล่ ะท่าใหท้ าํ สญั ญาณ ขอ้ 1) กอ่ นทกุ คร้ังไป เพื่อเป็นการเตอื นให้รู้วา่ จะให้สญั ญาณอะไร การใช้ สญั ญาณมอื ในการเรียกแถวของลูกเสือสากล การฝึกอบรมลกู เสอื ตามแบบสากลของลกู เสอื ทกุ ประเภท ผบู้ ังคบั บญั ชาท่ีจะเรยี กแถวตอ้ ง เลือกสถานทโ่ี ล่งและกว้างพอเหมาะกบั จาํ นวนของลกู เสอื ผูใ้ ห้สัญญาณยนื ตรงแลว้ จึงใหส้ ัญญาณเรยี ก แถว คาํ เรยี กแถวของลูกเสอื สาํ รองใช้คําว่า “แพค” ส่วนลกู เสอื สามัญ สามญั รนุ่ ใหญ่ และวสิ ามัญ ใช้คํา ว่า “กอง” 1) ท่าพกั ตามระเบยี บ ขณะท่ลี กู เสอื อยใู่ นแถว ผูเ้ รยี กแถวจะทาํ สญั ญาณมือเป็น 2 จังหวะ ดงั นี้ จงั หวะที่ 1 กํามือขวา งอขอ้ ศอกใหม้ ือที่กาํ อยปู่ ระมาณหวั เข็มขดั หนั ฝ่ามือทกี่ าํ เข้าหาหัวเขม็ ขัด จงั หวะที่ 2 สลดั มือทกี่ าํ และหนา้ แขนออกไปทางขวา เป็นมมุ 180 องศา ประมาณแนวเดียวกับ เข็มขดั เปน็ สัญญาณให้ลกู เสอื “พกั ” ตามระเบยี บ 84 คมู่ ือสง่ เสรคิมมู่ แอื ลสะง่ พเสัฒรมิ นแาลกะิจพกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรือรมทลกั ูกษเะสชือวี ทิตกั ใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศกูึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทรนุ่ลกูใหเสญือ่สชาน้ัมญัมัธร่นุยมใหศญกึ ่ษาปีท่ี 717 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1

2) ทา่ ตรง ขณะลูกเสือกาํ ลงั พกั ตามระเบียบ ผ้เู รียกแถวจะทําสญั ญาณมอื เป็น 2 จงั หวะดังนี้ จังหวะท่ี 1 กาํ มือขวา แขนเหยยี ดตรงไปทางขวา ใหม้ อื กาํ อย่ใู นระดับเดยี วกับเข็มขัด (เหมอื นกับการ สลัดแขนสั่ง “พัก” ในจงั หวะที่ 2) จงั หวะที่ 2 กระตกุ หน้าแขนเขา้ หาตัว ใหม้ อื ทกี่ าํ กลับมาอยตู่ รงหวั เขม็ ขดั (เหมอื นจังหวะท่ี 1 ของ สัญญาณสงั่ พกั ”) เมือ่ เหน็ สญั ญาณนี้ ให้ลกู เสอื ชักเท้าซ้ายมาชดิ เทา้ ขวา ลดแขนทไี่ ขวห้ ลงั มาอยใู่ นทา่ ตรง 3) แถวหน้ากระดานแถวเด่ียว การให้สัญญาณ ผ้เู รยี กแถวอยูใ่ นทา่ ตรงเหยยี ดแขนท้งั สองไปดา้ นข้างเสมอแนวไหล่ มอื แบ หนั ฝ่ามือไปขา้ งหน้า น้ิวมือเรยี งชดิ ติดกนั ลูกเสอื เข้าแถวหนา้ กระดานแถวเดย่ี ว หนั หนา้ เขา้ หาผูเ้ รียก โดย นายหมู่ยืนทางซา้ ยมอื ของผู้เรียก กะใหผ้ ูเ้ รยี กอยู่กึ่งกลางแถวและห่างจากแถวประมาณ 6 กา้ ว ลูกหมู่ ยนื ต่อกนั ไปทางซา้ ยมอื ของนายหมจู่ นถงึ คนสดุ ท้ายคอื รองนายหมู่ การจัดระยะเคียง ถา้ เป็น “ปิดระยะ” ระยะเคยี งจะเป็น 1 ชว่ งศอก คอื ใหล้ กู เสอื ยกมอื ซา้ ยขน้ึ เท้าสะโพก นวิ้ เหยยี ดชดิ ตดิ กันอยูป่ ระมาณแนวตะเข็บกางเกง แขนขวาแนบกบั ลาํ ตัวและจดปลายศอก ซ้ายของคนทอี่ ยูด่ ้านขวา จดั แถวให้ตรงโดยสะบดั หน้าแลขวา ให้เหน็ หนา้ อกคนท่ี 4 นบั จากตวั ลกู เสือ เองเมอ่ื ผเู้ รยี กตรวจแถวสั่งว่า “นิ่ง” ให้ลดมอื ลงพรอ้ มกบั สะบัดหนา้ มาอย่ใู นทา่ ตรงและนงิ่ ถ้า “เปิดระยะ” ระยะเคียงจะเปน็ สุดช่วงแขนซ้ายของลกู เสอื โดยใหท้ ุกคน (ยกเวน้ คนทา้ ยแถว) ยกแขนซ้ายขึน้ เสมอไหล่ เหยยี ดแขนตรงออกไปทางข้าง คว่ําฝา่ มือลง นิว้ ชิดติดกนั ใหป้ ลายนิ้วซา้ ย จดไหลข่ วาของคนตอ่ ไป จัดแถวใหต้ รงโดยนายหมู่ยนื แลตรงเปน็ หลกั ลูกหมสู่ ะบัดหนา้ แลขวา ให้เหน็ หน้าอกคนท่ี 4 เมื่อได้ยนิ คําส่ังว่า “น่งิ ” จงึ ลดมอื ลง สะบัดหน้ากลับมาอย่ใู นทา่ ตรงและน่ิง 78คมู่ ือสง่ เสคชมู่้ันรมิือมแสธั ่งลยเมะสพศรกึฒัิมษแนลาาปะกพที ิจ่ีฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทูกกั เษสะอื ชทวี ักติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถกึ าษนาศลึกูกษเาสปอื รสะาเมภัญทลรนุู่กเใสหอื ญส่ามชญััน้ มรุน่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ี่ 1 85

4) แถวตอนเรียงหนงึ่ (กรณมี หี ลายหมจู่ ะเรียกวา่ “แถวตอนหมู่”) การให้สญั ญาณ ผ้เู รยี กแถวอยู่ในท่าตรงเหยียดแขนท้งั สองไปขา้ งหนา้ เสมอแนวไหล่ มือแบหนั ฝา่ มือเข้าหากนั นวิ้ เรียงชดิ ติดกัน ลูกเสือเข้าแถวตอนเรียงหน่ึงโดยนายหมยู่ ืนตรงเปน็ หลกั ขา้ งหนา้ ผูเ้ รยี ก กะใหห้ า่ งจากผเู้ รียก ประมาณ 6 ก้าว ลกู หมูเ่ ข้าแถวตอ่ หลงั นายหมตู่ ่อๆ กนั ไปจัดแถวให้ตรงคอคนหนา้ ระยะตอ่ ระหว่าง บุคคล 1 ช่วงแขน และปิดท้ายดว้ ยรองนายหมู่ 5) แถวตอนหมู่ แถวตอนเรียงหนึง่ หลายหมูเ่ รียกว่า “แถวตอนหม”ู่ สมมุติวา่ มี 5 หมู่ ใหห้ มู่ทอ่ี ยูต่ รงกลางคอื หมทู่ ่ี 3 ยืนเปน็ หลกั ตรงหน้าผเู้ รยี ก หา่ งจาก ผเู้ รียกประมาณ 6 ก้าว หมทู่ ่ี 2 และหม่ทู ี่ 1 เขา้ แถวอยู่ใน แนวเดยี วกันไปทางซ้ายมอื ของผู้เรยี ก ส่วนหมทู่ ่ี 4 และหมทู่ ี่ 5 กเ็ ข้าแถวอยใู่ นแนวเดียวกนั แต่ไปทางขวามือของผูเ้ รียก ระยะเคยี งระหว่างหมู่ประมาณ 1 ชว่ งศอก ส่วนระยะตอ่ ระหว่างบคุ คล 1 ช่วงแขน 6) แถวหน้ากระดานหมู่ ปดิ ระยะ การใหส้ ัญญาณ ผู้เรียกแถวยืนในท่าตรง กํามอื ท้ัง 2 ข้าง เหยยี ดแขนตรงไปขา้ งหนา้ ขนานกับพืน้ งอขอ้ ศอกข้นึ เปน็ มมุ ฉาก หนั หนา้ มือเขา้ หากนั ลูกเสือหมแู่ รกเขา้ แถวตรงหน้าผ้เู รียก อย่หู า่ งจากผู้เรยี กประมาณ 6 กา้ ว นายหมู่ อย่ทู างซ้ายมือของผเู้ รียก กะใหก้ ึ่งกลางของหมอู่ ยู่ตรงหนา้ ผูเ้ รียก ลกู หมู่ยนื ตอ่ ๆ ไปทางซา้ ย ของนายหมู่ เวน้ ระยะเคยี ง 1 ชว่ งศอก 86 ค่มู อื สง่ เสรคิมมู่ แอื ลสะง่ พเสฒั รมิ นแาลกะิจพกัฒรรนมาลกกูจิ เกสรอืรมทลักูกษเะสชอื วี ทติ ักใษนะสชถวี าิตนในศสกึ ถษาานลศกูึกเษสาอื ปสารมะเัญภทร่นุลกูใหเสญอื ่สชาั้นมญัมัธรุ่นยมใหศญึก่ษาปีที่ 719 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

หมอู่ ่นื ๆ เขา้ แถวหน้ากระดานขา้ งหลงั หมูแ่ รก ซอ้ น ๆ กนั ไปตามลาํ ดบั เวน้ ระยะตอ่ ระหวา่ งหมู่ประมาณ 1 ช่วงแขน การจัดแถว เมอื่ ผูส้ ่ังวา่ “จดั แถว” ให้ทุกคน (ยกเว้นคนสุดทา้ ย) ยกมอื ซ้ายข้นึ เท้าสะโพก นวิ้ เหยยี ดชิดกัน นิว้ กลางอยู่ในแนวตะเข็บกางเกง แขนขวาแนบลําตัว จัดแถวใหต้ รงโดยนายหมู่ ยืนแลตรงเป็นหลัก ลกู หมสู่ ะบัดหนา้ แลขวาให้เห็นหนา้ อกคนท่ี 4 การตรวจแถว ผูเ้ รียกแถวตรวจการจัดแถวแล้ว จึงสง่ั “นิง่ ” ลูกเสอื ทกุ คนลดแขนลง พร้อมสะบดั หน้ากลบั มาอยูใ่ นทา่ ตรงและนิ่ง 7) แถวหนา้ กระดานหมู่ เปดิ ระยะ ผ้เู รียกยนื ในทา่ ตรง กาํ มอื ทง้ั 2 ข้าง งอขอ้ ศอกเปน็ มมุ ฉาก แขนท่อนบนแบะออกจนเป็นแนวเดียวกบั ไหล่ หนั หน้ามอื ไปขา้ งหน้า ให้ลกู เสอื เขา้ แถวเช่นเดียวกับแถวหนา้ กระดานหมูป่ ดิ ระยะ แตเ่ ว้นระยะต่อระหวา่ งหมขู่ ยายออกไปทางด้านหลงั ห่างกนั หมู่ละประมาณ 3 ช่วงแขน หรอื 3 กา้ ว การจัดแถว และตรวจแถว ใหป้ ฏบิ ตั ิเชน่ เดียวกบั แถวหน้ากระดานหมปู่ ดิ ระยะ 8) แถวรูปคร่งึ วงกลม การให้สญั ญาณ ผู้เรียกแถวยืนในทา่ ตรง แบมอื ท้งั 2 ข้าง แขนเหยยี ดตรงด้านหนา้ และลงข้างล่าง ควํา่ ฝ่ามอื เขาหาตัว ขอ้ มอื ขวาไขว้ทบั ขอ้ มอื ซา้ ย แล้วโบกผา่ นลาํ ตวั ช้า ๆ เป็นรปู คร่ึงวงกลม 3 คร้ัง นายหมลู่ ูกเสอื หม่แู รกยนื อยใู่ นแนวเดยี วกับผูเ้ รยี กทางดา้ นซ้าย หา่ งจากผู้เรียกพอสมควร ลกู หมูย่ นื ตอ่ ๆ กนั ไปทางซ้ายมือของนายหมู่ เวน้ ระยะเคียง 1 ชว่ งศอก (มือเท้าสะโพก) สะบัดหน้าไปทางขวารอคาํ สง่ั “น่งิ ” 80คมู่ อื สง่ เสชคูม่นั้ริมอืมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกัฒมิ ษแนลาาปะกพที จิ ี่ฒั ก1รนรามกลิจกูกรเสรมอื ลทกูักเษสะือชทีวักิตษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรนุ่กู เใสหอื ญส่ามชญัน้ั มรนุ่ัธใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 87

หมู่ที่ 2 และหมูอ่ น่ื ๆ เขา้ แถวต่อจากดา้ นซ้ายของหมู่แรก ตามลาํ ดับ เวน้ ระยะระหว่างหมู่ 1 ชว่ งศอก รองนายหมู่สุดทา้ ย จะยนื ตรงดา้ นขวาของผูเ้ รยี ก ในแนวเดยี วกันกับนายหมู่ หมแู่ รก การจดั แถว ยกมอื ซา้ ยข้นึ ทาบสะโพก สะบัดหน้าไปทางขวา (ยกเว้นนายหมู่ หมูแ่ รก) จดั แถวใหเ้ ป็นรปู ครง่ึ วงกลม การตรวจแถว ผเู้ รียกแถวตรวจการจดั แถวแล้ว จงึ สง่ั “น่งิ ” ลูกเสือทกุ คนลดแขนลงพร้อมกบั สะบดั หนา้ กลับมาอยู่ในท่าตรง 9) แถวรปู วงกลม ก. การเรียกแถวแบบผูเ้ รียกแถวยนื อยู่กึ่งกลางของวงกลม(แก้ไขจากเดมิ ) การใหส้ ัญญาณ ผเู้ รยี กแถวยนื ในทา่ ตรง แบมอื ทง้ั 2 ข้าง แขนเหยียดตรงลงขา้ งล่าง ควํ่าฝา่ มอื เขา้ หาตัว ข้อมือขวาไขวท้ บั ขอ้ มอื ซ้าย แลว้ โบกผา่ นลําตวั ประสานกันจากด้านหนา้ จดด้านหลงั (โบกผา่ นลาํ ตัว 3 คร้ัง) ลูกเสอื หมูแ่ รกยนื ด้านซา้ ยมอื ของผเู้ รยี ก เขา้ แถวเชน่ เดียวกบั แถวคร่งึ วงกลม ส่วนหมู่ 2 และหมู่ ต่อ ๆ ไปอยูท่ างด้านซา้ ยของหมทู่ อี่ ยกู่ ่อนตามลําดบั จนคนสุดทา้ ย(รองนายหม)ู่ ของหมสู่ ดุ ทา้ ยไปจดกบั นายหมขู่ องหมู่แรก ถอื ผู้เรยี กเป็นศูนยก์ ลาง การจดั แถว ลูกเสอื ยกมอื ซ้ายข้นึ เท้าสะโพก สะบัดหน้า ไปทางขวา (ยกเว้นนายหมู่ หม่แู รก) จัดแถวใหเ้ ปน็ รูปวงกลมการตรวจแถว ผ้เู รียกแถวตรวจการจัด แถวแลว้ จงึ สงั่ “นิง่ ” ลกู เสอื ทกุ คนลดแขนลงพรอ้ มกับสะบดั หน้ากลบั มาอยู่ในทา่ ตรง และน่ิง 88 ค่มู อื สง่ เสรคิมู่มแอื ลสะ่งพเสัฒริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกูกิจเกสรือรมทลกั กูษเะสชอื ีวทิตักใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลกูใหเสญอื ่สชาน้ัมญัมัธรุ่นยมใหศญึก่ษาปีท่ี 811 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1

ข. การเรยี กแถวแบบผเู้ รียกอยทู่ เี่ สน้ รอบวง การใหส้ ญั ญาณ ผู้เรียกแถวยนื ในทา่ ตรง กํามอื ขวา เหยยี ดแขนขวาตรงไปข้างหนา้ ยกขึ้นบน และเลยไปขา้ งหลงั หมนุ กลบั มาดา้ นหน้า ทาํ 3 ครง้ั ลกู เสือหม่แู รกยนื ชดิ ดา้ นซ้ายมอื ของผเู้ รยี ก หมทู่ ี่ 2 และหมูต่ อ่ ๆ ไปอยทู่ างซา้ ยมอื ของหมู่ ทอี่ ยู่กอ่ นตามลําดบั จนรองนายหมู่ของหมู่สุดทา้ ยไปจดขวามอื ของผู้เรียกให้ผเู้ รียกอยใู่ นเสน้ รอบวง การจัดแถวและการตรวจแถว กระทําเช่นเดยี วกบั แบบแรก ผู้เรยี กแถว 10) แถวรศั มีหรอื ล้อเกวียน (CART WHEEL) (เพ่มิ เตมิ ) ผ้เู รยี กแถวยืนอย่ใู นท่าตรง มือขวาแบคว่ํากางนิ้วออกทุกน้ิว ชูแขนไปข้างหน้าทํามุมประมาณ 45 องศา ใหม้ องเหน็ ได้ แล้วเรียก “แพ็ค” หรือ “กอง” ใหล้ กู เสือทกุ หมู่มาเข้าแถวเปน็ รปู หม่แู ถวตอนหนา้ ผู้เรียก ห่างจากผู้เรียกประมาณ 6 ก้าว เป็น รปู รัศมีโดยให้หมู่แรกอยู่ด้านหน้าทางซ้ายมือผู้เรียกประมาณ 45 องศา หมู่ที่ 2 และหมู่ต่อ ๆ ไปอยู่ ดา้ นซา้ ยของหมแู่ รกตามลาํ ดบั ถือผูเ้ รยี กเปน็ จุดศนู ยก์ ลาง ระยะตอ่ ของแตล่ ะหมรู่ ะหว่างบคุ คลประมาณ 1 ชว่ งแขน ระยะเคยี งระหวา่ งนายหมู่ต่อนายหมู่พอสมควร และนายหมู่ หมู่สุดท้ายจะอยู่ด้านหน้าทาง ขวามอื ของผู้เรียกประมาณ 45 องศา การเข้าแถว ให้ลูกเสือทุกคน (เว้นคนอยู่หัวแถวของแต่ละหมู่) เหยียดแขนซ้ายไปข้างหน้า สูง เสมอแนวไหลค่ วํา่ ฝ่ามอื ใหป้ ลายน้ิวมือจดหลังของคนหน้าพอดี ผู้เรียกแถวจัดแถวแล้วส่ัง “นิ่ง” ลูกเสือ ทกุ คนลดแขนลงพร้อมกนั และนิง่ 82ค่มู ือสง่ เสคชู่มั้นรมิอืมแสัธ่งลยเมะสพศรึกัฒิมษแนลาาปะกพีทจิ ี่ฒั ก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทูกกั เษสะอื ชทีวักติ ษใะนชสวี ถติ าในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปือรสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหือญส่ามชัญัน้ มรุ่นัธใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 89

11) แถวสี่เหล่ยี มเปดิ ด้านหนึ่ง (เพิม่ เติม) ผเู้ รียกแถวยนื อยู่ด้านหนงึ่ (ซง่ึ เป็นด้านเปดิ ) ศอกงอยกแขนทัง้ สองข้นึ ขา้ งหน้า ให้หน้าแขนท้ัง สองไขว้กนั ตรงฝา่ มือ ฝ่ามือทั้งสองแบเหยียดหนั ไปข้างหน้า ฝา่ มือขวาทับหลงั มือซ้าย ประมาณแนวลกู คาง เป็นสัญญาณ ถ้ามีลูกเสือ 3 หมู่ ให้เข้าแถวในอีก 2 ด้านท่ีเหลือ โดยมีนายหมู่ 1 เข้าแถวหน้า กระดานแถวเด่ียวทางด้านซ้ายของผู้เรียก หันหน้าเข้าในรูปเหลี่ยม หมู่ 2 เข้าแถวหน้ากระดานแถว เดียวดา้ นตรงขา้ มกบั ผเู้ รยี ก หันหนา้ เข้าหาผ้เู รยี ก และหมู่ 3 เข้าแถวหน้ากระดานแถวเดี่ยวตรงข้ามกับ หมู่ 1 ทางดา้ นขวาของผู้เรียก การเขา้ แถวให้ลกู เสอื ทกุ คนปฏบิ ตั เิ หมือนกบั การเขา้ แถวหนา้ กระดาน เว้นระยะตรงมุมของแต่ ละด้านให้เท่ากันพอควรไม่ซ้อนหรือตรงกัน ถ้ามีลูกเสอื มากกว่า 3 หมู่ ใหอ้ ยใู่ นดุลพนิ จิ ของผูเ้ รียกแถว แตค่ วรให้ด้านซ้ายมอื กบั ด้านขวามอื มีจาํ นวนเท่ากนั เม่อื มีผูเ้ รียกแถวตรวจแถวเรียบร้อยแล้วสงั่ น่งิ ลกู เสือทุกคนลดแขนลงพรอ้ มสะบัดหนา้ อยู่ใน ทา่ ตรง (อ้างคมู่ ือการฝกึ ระเบยี บแถวลูกเสือ ของ สาํ นักงานคณะกรรมการลูกเสอื แหง่ ชาติ พ.ศ. 2520) 90 คู่มือสง่ เสรคิมู่มแือลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะิจพกัฒรรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลกั ูกษเะสชือวี ทติ ักใษนะสชถวี าติ นในศสกึ ถษาานลศกูึกเษสาือปสารมะเัญภทรุ่นลูกใหเสญือ่สชาน้ัมญัมธัรุน่ยมใหศญึก่ษาปีท่ี 813 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1

การฝกึ ระเบียบแถวบคุ คลทา่ มอื เปล่า การฝึกระเบียบแถว เป็นการฝึกให้ลกู เสอื เกดิ ความพรอ้ มเพรียง มีระเบียบวินัย และความ สามคั คีรวมทงั้ สามารถฟังและปฏิบัติตามคําสั่งได้ 1. ทา่ ตรง คาํ บอก “แถว - ตรง” การปฏิบตั ิ ยืนใหส้ น้ เท้าชิดและอยู่ในแนวเดียวกัน ปลายเท้าแบะออกข้างละเท่ากัน ห่างกันประมาณ 1 คบื (ทาํ มุม 45 องศา) เข่าเหยียดตงึ และบบี เขา้ หากัน ลาํ ตัวยดื ตรงอกผาย ไหลเ่ สมอกนั แขนทง้ั สอง ห้อยอยู่ข้างตัวและเหยียดตรง พลิกศอกไปข้างหน้าเล็กน้อยจนไหล่ตึง นิ้วมือเหยียดและชิดกัน น้ิวกลางตดิ ขาตรงกงึ่ กลางประมาณแนวตะเข็บกางเกง เปดิ ฝา่ มือออกเลก็ นอ้ ย ลําคอยืดตรงไมย่ น่ื คาง ตาแลตรงไปข้างหน้าได้ระดับ นํา้ หนักตัวอยบู่ นเท้าท้ังสองเท่า ๆ กัน และน่งิ หมายเหตุ 1. ท่าตรงเปน็ ท่าเบ้ืองต้นและเป็นรากฐานของการปฏบิ ตั ทิ า่ อ่ืน ๆ 2. ใช้เปน็ ท่าสาํ หรบั แสดงการเคารพไดท้ ่าหนง่ึ 2. ทา่ พัก ก. ทา่ พกั เปน็ ทา่ เปล่ยี นอริ ิยาบถจากทา่ ตรง เพ่อื ชว่ ยผ่อนคลายความตงึ เครยี ดซ่งึ มี 4 ทา่ ดงั น้ี คาํ บอก “พกั ” การปฏบิ ตั ิ หยอ่ นเขา่ ขวาก่อน ต่อไปจึงหย่อนและเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและเปล่ียนเข่า พักได้ตามสมควร แตเ่ ทา้ ทง้ั สองคงอยกู่ ับท่ี ห้ามพูด เม่ือได้ยินคําบอกว่า “แถว” ให้ยืดตัวขึ้นและจัดทุก สว่ นของร่างกายอยใู่ นท่าตรง นอกจากเข่าขวา ครน้ั เมื่อไดย้ ินคาํ บอกว่า “ตรง” ให้กระตกุ เขา่ ขวาโดยเร็ว และแข็งแรง กลบั ไปอยู่ในลกั ษณะของทา่ ตรง ข. ทา่ พกั ตามระเบยี บ ใช้พกั ในโอกาสรอพิธกี ารตา่ งๆ เช่น รอรับการตรวจพลสวนสนาม หรอื รออยูใ่ นแถวกองเกยี รตยิ ศ ฯลฯ คําบอก “ตามระเบยี บ, พกั ” การปฏิบัติ แยกเท้าซ้ายออกไปทางซ้ายประมาณ ๓๐ ซม. (หรือประมาณเกือบครึ่งก้าวปกติ) อย่าง แข็งแรงและองอาจ พร้อมกับจับมอื ไขวห้ ลงั ใหห้ ลังมอื เข้าหาตัว มอื ขวาทบั มือซา้ ยนว้ิ หวั แม่มอื ขวาจบั นิว้ หัวแม่มือซ้าย หลังมือซ้ายแนบติดลําตัวในแนวก่ึงกลางหลังและอยู่ใต้เข็มขัดเล็กน้อย ขาท้ังสองตึง นาํ้ หนักตัวอยู่บนเท้าทั้งสองเทา่ ๆ กัน และนิ่ง เมอื่ ไดย้ นิ คาํ บอกว่า “แถว - ตรง” ให้ชักเท้าซ้ายชิดเท้าขวาอย่างแข็งแรง พร้อมกับมือทั้งสอง กลบั ไปอยใู่ นลักษณะท่าตรงตามเดมิ ค. ท่าพกั ตามสบาย ใช้พักในโอกาสที่รอรบั คาํ สงั่ เพือ่ ปฏิบัติตอ่ ไปเป็นระยะเวลาสน้ั ๆ เช่น เมอ่ื ผู้ควบคมุ แถวตอ้ งไปรบั คําส่ังจากผู้บังคับบญั ชา เปน็ ตน้ คาํ บอก “ตามสบาย, พกั ” การปฏิบัติ หย่อนเขา่ ขวาก่อนเชน่ เดียวกับ “พกั ” ต่อไปจงึ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างสบายและพูดจากัน ได้ แตเ่ ท้าขา้ งหนึ่งตอ้ งอยกู่ ับที่ ถา้ มไิ ด้รับอนุญาตใหน้ งั่ จะน่ังไม่ได้ เมื่อไดย้ ินคาํ บอกว่า “แถว - ตรง” ใหป้ ฏิบัติอยา่ งเดียวกับทา่ พกั ปกติ 84คู่มือสง่ เสคชู่มนั้ริมอืมแสัธง่ลยเมะสพศรึกัฒมิ ษแนลาาปะกพที จิ ี่ัฒก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูักเษสะือชทีวกั ติ ษใะนชสวี ถิตาในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปอื รสะาเมภัญทลรุนู่กเใสหอื ญส่ามชญัั้นมร่นุัธใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 91

ง. ท่าพักนอกแถว ใชพ้ ักในโอกาสทต่ี อ้ งรอคาํ ส่งั เพ่อื ปฏบิ ัติต่อไปเปน็ ระยะเวลานานๆ คําบอก “พักแถว” การปฏิบัติ ต่างคนตา่ งแยกออกจากแถวทันที แต่ต้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียงน้ัน และไม่ทําเสียงอึกทึก เม่ือได้ยินคําบอกว่า “แถว” ให้รีบกลับมาเข้าแถวตรงที่เดิมโดยเร็ว ในรูปแถวเดิม และเมื่อจัดแถว เรยี บร้อยแลว้ ใหอ้ ยู่ในท่าตรงจนกว่าจะมีคาํ บอกคําส่งั ต่อไป หมายเหตุ สาํ หรับทา่ พัก ทา่ พกั เป็นท่าทีเ่ ปลยี่ นอิริยาบถจากทา่ ตรง เพ่ือผ่อนคลายความเครง่ เครียดตามโอกาสต่าง ๆ คือ 1.พักตามปกติ ใช้พกั ในโอกาสระหวา่ งฝึกสอน เพือ่ อธบิ ายหรอื แสดงตัวอยา่ งแก่ลกู เสือ 2.พักตามระเบียบ ใชพ้ ักในโอกาสเกี่ยวกับพธิ ีการต่าง ๆ เช่น ตรวจพลสวนสนาม หรือ อยใู่ นแถวกองเกียรติยศ ฯลฯ 3.พักตามสบาย ใช้พักในโอกาสที่ต้องรอรับคําสั่งเพ่ือปฏิบัติต่อไปเป็นระยะเวลาส้ัน ๆ เช่น เม่อื ผู้ควบคมุ แถวต้องไปรับคาํ สง่ั จากผบู้ งั คบั บญั ชา เปน็ ต้น 4.พกั นอกแถว ใชพ้ กั ในโอกาสทต่ี อ้ งรอรับคําสั่ง เพอ่ื ปฏิบัติต่อไปเป็นระยะเวลานาน ๆ จ. ทา่ เลิกแถว คําบอก “เลิกแถว” การปฏบิ ัติ เม่อื ไดย้ ินคาํ วา่ “เลิกแถว” ใหล้ ูกเสอื ทุกคนที่อยใู่ นแถวกระจายออกไปจากแถวโดยเร็ว 3. ท่าเคารพ 1) วันทยหตั ถ์ เป็นทา่ แสดงการเคารพเม่ือย่ลู าํ พงั นอกแถวของลกู เสือทกุ ประเภท โดยปฏบิ ัตติ อ่ จากทา่ ตรง แบ่งออกเปน็ การฝึกขนั้ ต้น และเมอ่ื มีผรู้ ับการเคารพ 1.1 การฝึกข้นั ตน้ คาบอก \"วนั ทยหตั ถ\"์ และ “มือลง” การปฏิบัติ ยกมอื ขวาขนึ้ โดยเรว็ และแข็งแรง จดั น้ิวแบบเดยี วกบั ท่ารหัสของลกู เสอื ปลายน้วิ ชี้แตะขอบล่าง ของหมวกคอ่ นไปข้างหนา้ เลก็ นอ้ ยในแนวหางตาขวา (ถา้ ไมส่ วมหมวกใหป้ ลายนิ้วช้แี ตะทห่ี างตาขวา) เหยยี ดมือตามแนวแขนขวาทอ่ นลา่ ง แขนขวาท่อนบนยน่ื ไปทางขา้ งประมาณแนวไหล่ นวิ้ เหยยี ดตรง เรียงชิดติดกนั ขอ้ มอื ไมห่ ัก และเปิดฝา่ มอื ข้ึนประมาณ 30 องศา ถ้าอยู่ในท่ีแคบให้ลดศอกลง ไดต้ ามความเหมาะสม แตร่ า่ งกายส่วนอนื่ ต้องไมเ่ สียลักษณะท่าตรง เมื่อไดย้ ินคําบอกว่า “มอื ลง” ให้ลดมือขวาลงอยใู่ นทา่ ตรงโดยเร็วและแขง็ แรง (สาํ หรับลกู เสือสํารองให้ทําวันทยหตั ถ์ 2 นว้ิ คอื น้ิวชแ้ี ละนิ้วกลางเหยียดตรง สว่ นนว้ิ ทเี่ หลอื งอเขา้ หาฝา่ มอื ) 1.2 เมอ่ื มผี ูร้ บั การเคารพเคลอื่ นทีม่ าจากทางขวาหรือทางซ้าย คาบอก \"ทางขวา (ทางซา้ ย, ตรงหนา้ ) – วนั ทยหตั ถ์\" 92 คู่มอื สง่ เสรคมิมู่ แอื ลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูิจเกสรือรมทลักกูษเะสชอื ีวทติ ักใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศกูึกเษสาือปสารมะเัญภทรนุ่ลูกใหเสญือ่สชา้นัมญัมัธรนุ่ยมใหศญกึ ่ษาปีท่ี 815 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1

การปฏบิ ัติ สะบัดหนา้ ไปยังผรู้ ับการเคารพ พรอ้ มกับยกมอื ขวาทําวนั ทยหัตถก์ ่อนถึงผรู้ บั การเคารพ 3 กา้ ว ตามองจบั ไปทผ่ี ู้รบั การเคารพ และหนั หนา้ ตาม จนกวา่ ผูร้ บั การเคารพจะผ่านพ้นไปแลว้ 2 กา้ ว จากนน้ั สะบดั หน้ากลบั พรอ้ มกบั ลดมอื ลง ถ้าผู้รบั การเคารพไมไ่ ด้เคลอื่ นทผ่ี า่ น ใหส้ ะบดั หนา้ กลับพรอ้ มกบั ลดมอื ลงตามคําบอกวา่ “มือลง” ถ้าผรู้ ับการเคารพอย่ตู รงหนา้ ก็ปฏิบัติไดโ้ ดยไมต่ ้องสะบดั หน้า 2) แลขวา (ซา้ ย) – ทํา เป็นท่าแสดงการเคารพ เมอ่ื ลกู เสอื อยู่ในแถวมอื เปลา่ หรอื ถอื อาวุธ ท่ีทาํ ทา่ วนั ทยาวุธไมไ่ ด้ และเปน็ ทา่ แสดงการเคารพตามลาํ พังนอกแถวของลกู เสอื ในกรณที ่ไี มส่ ามารถ แสดงการเคารพดว้ ยท่าวันทยหตั ถ์ คาบอก \"แลขวา (ซา้ ย) – ทาํ \" การปฏบิ ัติ สะบัดหน้าไปทางขวา(ซา้ ย) ประมาณกง่ึ ขวา(ซา้ ย) ก่อนถงึ ผูร้ บั การเคารพ 3 กา้ ว ตามองจบั ไป ท่ผี ้รู ับการเคารพ พรอ้ มกับหนั หนา้ ตามจนกว่าผรู้ บั การเคารพจะผา่ นพน้ ไปแล้ว 2 ก้าว แลว้ สะบดั หน้า กลบั ทีเ่ ดิม ถ้าผ้รู ับการเคารพไมไ่ ด้เคล่อื นทผ่ี า่ น ให้สะบัดหนา้ กลบั ท่ีเดมิ ตามคาํ บอกวา่ “แล – ตรง” ข้อแนะนาในการแสดงการเคารพ  การแสดงการเคารพในเวลาเคล่อื นท่ี แขนตอ้ งไม่แกว่ง คงเหยยี ดตรงตลอดปลายนวิ้ และห้อยอยขู่ า้ งตัว(มอื ไม่ตดิ ขาเหมอื นอย่างอยกู่ บั ท่ี)  รัศมีแสดงการเคารพ ถอื เอาระยะท่มี องเหน็ เครอื่ งหมายหรอื จาํ ไดเ้ ปน็ เกณฑ์  กรณีเข้าแถวรวมกบั ลูกเสอื ถืออาวธุ เมอื่ ไดย้ ินคาํ บอก “ทางขวา(ซา้ ย) – ระวงั – วนั ทยา – วธุ ” ให้ทาํ ทา่ แลขวา(ซ้าย) พรอ้ มกบั ผู้ทําวันทยาวุธ และทาํ ท่า “แลตรง” เม่ือขาดคาํ บอกว่า “เรยี บ – อาวธุ ”  ในเวลาเคลื่อนท่ี เม่อื จะตอ้ งแสดงการเคารพโดยวิธหี ยดุ กอ่ นผรู้ ับการเคารพจะเขา้ มาถึง ระยะแสดงการเคารพ ให้ทําท่าหนั ในเวลาเดนิ ไปทางทศิ ทีผ่ ู้รับการเคารพจะผ่านมา โดยหยุดชดิ เทา้ ในทา่ ตรงแล้วแสดงการเคารพ เมือ่ เลกิ การเคารพแลว้ ให้ทาํ ท่าหนั ไป ในทศิ ทางเดมิ และกา้ วเทา้ หลังเคล่อื นทีต่ อ่ ไปโดยไม่ตอ้ งชดิ เทา้  ในโอกาสทีผ่ ู้รบั การเคารพอยู่กับท่ี ผแู้ สดงการเคารพไม่ตอ้ งหยุดแสดงการเคารพ  การแสดงการเคารพประกอบการรายงาน เช่น ในหนา้ ที่เวรยาม ให้ว่งิ เขา้ ไป หยุดยนื ห่างจากผรู้ ับการเคารพ 3 กา้ ว แล้วแสดงการเคารพ หลงั จากท่ีรายงานจบ หรือซักถามเสรจ็ แลว้ ให้ลดมอื ลง(จากวนั ทยหตั ถ์)หรือเรยี บอาวธุ (จากวนั ทยาวุธ) และกลบั ไปปฏิบัติหนา้ ท่ตี ่อไป 86คูม่ อื สง่ เสคชู่มั้นริมือมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพีทิจ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทูกักเษสะอื ชทีวกั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกูกษเาสปือรสะาเมภญัทลร่นุูกเใสหอื ญส่ามชัญ้ันมรุ่นธั ใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 93

4. ทา่ หนั อยู่กับที่ เป็นท่าทช่ี ่วยปรับเปลี่ยนทิศทางการหันหนา้ ของแถว แตก่ อ่ นท่ีจะมีคาํ บอกให้แถวหนั ไป ยังดา้ นใด ต้องให้แถวอยใู่ นท่าตรงเสยี กอ่ น ท่าหันอยูก่ บั ทม่ี ี 3 ทา่ ดงั น้ี 1) ท่าขวาหัน เปน็ ท่าทีท่ าํ ใหแ้ ถวหันไปทางดา้ นขวา คาบอก \"ขวา – หนั \" การปฏิบัติ มี 2 จงั หวะ จงั หวะท่ี 1 เปิดปลายเทา้ ขวาและยกสน้ เท้าซา้ ย ทันใดน้ันให้หนั ตัวไปทางขวาจนได้ 90 องศา พรอ้ มกบั หมนุ เทา้ ท้ัง 2 ข้างตาม โดยใหส้ ้นเท้าและปลายเท้าซง่ึ เป็นหลักตดิ อยู่กบั พ้ืน นาํ้ หนกั ตวั อยทู่ ่ี เท้าขวา ขาซา้ ยเหยยี ดตงึ บดิ ส้นเทา้ ซา้ ยออกขา้ งนอกเล็กนอ้ ย ลาํ ตัวยืดตรง แขนแนบชดิ กบั ลาํ ตัว จงั หวะที่ 2 ชกั เทา้ ซา้ ยมาชดิ เทา้ ขวาในลกั ษณะท่าตรงอย่างรวดเรว็ และแขง็ แรง 2) ทา่ ซ้ายหนั เป็นทา่ ทที่ าํ ใหแ้ ถวหนั ไปทางดา้ นซา้ ย คาบอก \"ซ้าย – หนั \" การปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ัติเปน็ 2 จังหวะเช่นเดยี วกับท่าขวาหนั แตเ่ ปลี่ยนหันไปทางซา้ ยแทน และใหเ้ ท้าซ้ายเปน็ หลักอยกู่ บั ท่แี ล้วดึงเท้าขวามาชิด 3) ท่ากลับหลงั หนั เป็นท่าสําหรับเปลีย่ นการหันหนา้ ของแถว จากดา้ นหน้าเป็นดา้ นหลัง คาบอก \"กลับหลงั – หนั \" การปฏิบัติ ทาํ เปน็ 2 จังหวะ จังหวะที่ 1 ทาํ เช่นเดยี วกบั ท่าขวาหันจงั หวะท่ี 1 แต่หนั เลยไปจนกลับจากหนา้ เป็นหลัง ครบ 180 องศา ให้ปลายเท้าซ้ายหันไปหยุดอยขู่ า้ งหลัง เฉยี งซ้ายประมาณครึง่ ก้าวและอยใู่ นแนว สน้ เทา้ ขวา จังหวะท่ี 2 ชักเท้าซา้ ยมาชดิ เทา้ ขวาในลกั ษณะทา่ ตรงอยา่ งรวดเร็วและแขง็ แรง 5. ทา่ เดิน เป็นทา่ ท่ีชว่ ยใหก้ ารเคลอ่ื นยา้ ยหรอื การเดนิ ขบวนของแถวดูเปน็ ระเบียบและสงา่ งาม กอ่ นทจ่ี ะมีคาํ บอกใหเ้ ดนิ ต้องให้แถวอยู่ในทา่ ตรงเสยี กอ่ น มี 6 ทา่ 1) เดินตามปกติ คาบอก \"หน้า – เดิน\" การปฏิบัติ โน้มน้าํ หนักตวั ไปขา้ งหนา้ พรอ้ มกับก้าวเทา้ ซา้ ยออกเดนิ ก่อน ขาเหยยี ดตงึ ปลายเท้างมุ้ สน้ เท้าสูงจากพืน้ ประมาณ 1 คืบ เมอ่ื จะวางเทา้ และกา้ วเทา้ ต่อไป ให้โนม้ น้ําหนักตัวไปขา้ งหน้า ตบเตม็ ฝา่ เท้าอยา่ งแขง็ แรง แลว้ จึงก้าวเทา้ ขวาตาม โดยเดินตบเทา้ ซา้ ยและขวาสลับกันเปน็ จงั หวะ อยา่ งตอ่ เนือ่ ง ทรงตัวและศรี ษะอย่ใู นทา่ ตรง แกว่งแขนตามปกตเิ ฉยี งไปขา้ งหน้าและข้างหลงั พองาม เมื่อแกวง่ แขนไปข้างหนา้ ขอ้ ศอกงอเลก็ นอ้ ย เมอ่ื แกว่งแขนไปขา้ งหลังให้แขนเหยียดตรง ตามธรรมชาติ หันหลังมือออกนอกตัว แบมือ นว้ิ มอื เรยี งชิดติดกนั 94 คูม่ อื สง่ เสรคิมมู่ แอื ลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกูกิจเกสรือรมทลักกูษเะสชือวี ทติ กั ใษนะสชถวี าิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลูกใหเสญือ่สชา้ันมญัมัธรุ่นยมใหศญึก่ษาปที ี่ 817 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

ความยาวของกา้ วนบั จากส้นเทา้ ถงึ สน้ เท้า ประมาณ 40 – 60 ซม. รกั ษาความยาวของก้าว ใหค้ งท่ี อัตราความเรว็ ในการเดนิ นาทลี ะ 90 – 100 กา้ ว การเดนิ เปน็ หม่ตู อ้ งเดนิ ใหพ้ ร้อมกนั ถ้ามจี งั หวะตอ้ งเดินให้เขา้ จงั หวะ 2) เดนิ ตามสบาย คาบอก \"เดนิ ตามสบาย\" การปฏบิ ตั ิ เปลย่ี นจากเดนิ ตามปกติเปน็ เดนิ ตามสบาย ระยะก้าวเช่นเดยี วกบั เดินปกติ แต่อตั ราความเรว็ ในการเดนิ นาทีละ 120 – 150 ก้าว ไมต่ อ้ งรกั ษาท่าทางใหเ้ ครง่ ครดั การเดนิ เปน็ หม่ไู มจ่ ําเป็น ตอ้ งเดินให้พรอ้ มกนั อาจพดู กันได้เวน้ แต่จะมคี ําสัง่ หา้ ม 3) เปลี่ยนเทา้ คาบอก \"เปลี่ยนเทา้ \" การปฏิบตั ิ กา้ วเทา้ ไปขา้ งหน้าอกี 1 กา้ ว ยั้งตัวพร้อมกบั กา้ วเทา้ หลังให้ปลายเท้าหลงั ชิดสน้ เท้าหนา้ และกา้ วเทา้ หนา้ ออกเดนิ ต่อไป 4) เดนิ ครึง่ ก้าว คาบอก \"คร่ึงก้าว – เดนิ \" การปฏบิ ตั ิ เปลี่ยนจากเดินตามปกตเิ ปน็ เดนิ ตามสบาย ระยะก้าวเช่นเดยี วกบั เดนิ ปกติ แตอ่ ตั ราความเร็ว ในการเดนิ นาทลี ะ 120 – 150 ก้าว ไมต่ อ้ งรกั ษาทา่ ทางให้เครง่ ครดั การเดนิ เปน็ หมู่ไมจ่ ําเป็นตอ้ งเดินให้ พร้อมกัน อาจพูดกนั ได้เวน้ แตจ่ ะมคี าํ สง่ั หา้ ม ถ้าจะให้เดนิ เต็มกา้ วตอ่ ไป ใหใ้ ชค้ าํ บอกว่า “หน้า – เดิน” ส่วนท่าหยดุ จากทา่ เดนิ ครึง่ กา้ วปฏบิ ตั ิ เช่นเดียวกบั ท่าเดนิ ปกติ 5) ซอยเทา้ คาบอก \"ซอยเทา้ – ทํา” การปฏบิ ตั ิ เมือ่ หยุดอยูก่ บั ที่ ถา้ ไดย้ ินคาํ บอกว่า \"ซอยเทา้ – ทาํ ” ให้ยกเท้าข้ึนลงสลับกนั อยู่กบั ที่ ตามจงั หวะการเดินในคร้ังนั้น โดยยกเทา้ ซา้ ยขน้ึ ก่อน เทา้ ท่ียกข้ึนนั้นพ้นื รองเทา้ ตอ้ งสงู จากพน้ื ประมาณ 1 คืบ มอื และการแกว่งแขนเปน็ ไปตามทา่ เดนิ คร้งั นนั้ ถา้ กําลงั เดนิ เมอ่ื ไดย้ ินคําบอกว่า \"ซอยเทา้ – ทาํ ” ไมว่ า่ เท้าใดจะตกถึงพนื้ กต็ าม ใหเ้ ดินตอ่ ไป อกี 1 ก้าว แลว้ กา้ วเทา้ หลงั ใหส้ น้ เท้าหลังเสมอแนวเดยี วกบั สน้ เทา้ หนา้ และยกเท้าเดมิ นน้ั ข้นึ กอ่ น ตอ่ ไปเป็นการปฏิบตั เิ ชน่ เดยี วกับเมือ่ หยุดอยกู่ บั ที่ ทั้ง 2 แบบ เม่อื จะให้เดนิ ต่อไป ใชค้ ําบอกวา่ “หนา้ – เดิน” เม่อื เท้าซา้ ยตกถึงพน้ื ซอยเท้าขวา อยู่กบั ท่ี แลว้ กา้ วเท้าซา้ ยออกเดนิ ตอ่ ไป ถ้าจะใหห้ ยดุ ใชค้ าํ บอกวา่ “แถว – หยดุ ” เชน่ เดยี วกบั ทา่ หยดุ ในเวลาเดนิ ในการฝึกถา้ ลกู เสือคนใดซอยเทา้ ผดิ ใหซ้ อยเทา้ ซาํ้ เท้าเดมิ อีกหนึง่ คร้งั 88ค่มู อื สง่ เสชคมู่้นัรมิือมแสัธง่ลยเมะสพศรกึัฒมิ ษแนลาาปะกพที จิ ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูักเษสะอื ชทีวกั ติ ษใะนชสวี ถิตาในนสศถกึ าษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหอื ญส่ามชัญ้นั มร่นุัธใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 95

6) เดินเฉียง คาบอก \"เฉยี งขวา (ซา้ ย), ทาํ \" การปฏิบตั ิ เมือ่ ขาดคาํ บอกวา่ “ทํา” ในขณะทเี่ ทา้ ขวา(ซา้ ย)ตกถึงพื้น ใหก้ ้าวเทา้ ซ้าย(ขวา)ออกเดนิ ตอ่ ไป พร้อมกบั บดิ ปลายเท้าและหนั ตวั ไปทางกงึ่ ขวา(ซ้าย) แลว้ ก้าวเทา้ หลังเดนิ ไปในทิศทางใหมท่ ่ีเปน็ มุม 45 องศากับทศิ ทางเดมิ โดยตอ่ เนอ่ื ง ไมม่ กี ารหยุดชะงัก จงั หวะก้าวเปน็ ไปตามจงั หวะของทา่ เดินครั้งนน้ั ถ้าจะให้กลับมาเดินในทศิ ทางเดิม ใชค้ าํ บอกวา่ “เดนิ ตรง” ลกู เสอื กา้ วเทา้ ทาํ กง่ึ ซ้าย(ขวา) แล้วเดินตรงไปขา้ งหนา้ ตอ่ ไป คาํ บอกตอ้ งบอกในขณะทเ่ี ทา้ ซา้ ย(ขวา)ตกถึงพืน้ 6. ทา่ หยดุ เป็นทา่ ท่ีติดตามมาจากท่าเดนิ ซ่งึ ช่วยทําใหก้ ารหยุดแถวของลูกเสอื มคี วามพรอ้ มเพรยี งกนั คาบอก \"แถว – หยุด\" การปฏบิ ตั ิ ขณะกําลงั เดินตามปกติ เมื่อไดย้ ินคาํ บอก \"แถว – หยดุ \" ไมว่ า่ เท้าข้างใดข้างหนึ่ง จะตกถงึ พื้นก็ตาม ให้ปฏิบตั เิ ป็น 2 จังหวะ คอื จงั หวะที่ 1 ก้าวเทา้ ตอ่ ไปอกี 1 กา้ ว จังหวะที่ 2 ชกั เท้าหลังชิดเท้าหนา้ ในลกั ษณะทา่ ตรง อยา่ งแขง็ แรง 7. ท่าก้าวทางข้าง ใช้ฝกึ ลกู เสือเพ่ือนาํ ไปใช้ตามลาํ พงั ในแถว และเมื่อมกี ารจัดหรอื ร่นแถวในระยะสนั้ ๆ ซ่งึ ต้องการความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย เช่น ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เป็นตน้ คาบอก \"ก้าวทางขวา (ซา้ ย), ทํา\" การปฏบิ ัติ ยกส้นเทา้ ทั้งสองขา้ ง แลว้ ก้าวเทา้ ขวา(ซ้าย)ไปทางขวา(ซ้าย) 30 ซม. (หรือประมาณ ครึ่งกา้ วปกต)ิ แล้วชักเทา้ ซา้ ย(ขวา) ไปชิดอยา่ งแข็งแรง ระหวา่ งท่ีใชเ้ ทา้ เคลอ่ื นท่ีนน้ั เขา่ ท้ังสอง ตอ้ งตึง สน้ เท้ายก และก้าวทางขา้ งต่อไปในจังหวะเดนิ ปกติ ถา้ จะใหห้ ยดุ จากท่าก้าวทางขา้ ง ใหใ้ ช้คาํ บอกวา่ \"แถว – หยุด\" ในขณะท่ีเทา้ ทัง้ สองขา้ ง มาชิดกนั ให้ปฏิบตั โิ ดยกา้ วไปทางขวา (ซา้ ย) อกี 1 กา้ ว และหยดุ ด้วยการก้าวเทา้ อกี ขา้ งหนงึ่ ไปชดิ จากนั้นให้อยใู่ นลกั ษณะท่าตรงทนั ที ถ้ามกี ารกาํ หนดจาํ นวนกา้ วให้ ลกู เสือคงก้าวตอ่ ไปตามจาํ นวนก้าวที่กาํ หนด แล้วหยุดเอง โดยไม่ตอ้ งใชค้ ําบอก \"แถว – หยดุ \" 8. ท่ากา้ วถอยหลัง ใช้ในการจดั แถวเมอื่ อยกู่ บั ที่ และทาํ ในระยะสน้ั ๆ เท่านน้ั เปน็ การฝกึ ลกู เสือเพอื่ นาํ ไปใช้ ตามลําพงั ในแถว หรือในความควบคมุ ตามคําบอก เช่น “กา้ วถอยหลงั 3 กา้ ว, ทาํ ” เป็นตน้ คาบอก “กา้ วถอยหลัง, ทาํ ” 96 คมู่ อื สง่ เสรคิมมู่ แือลสะง่ พเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรอืรมทลกั กูษเะสชือีวทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกึกเษสาอื ปสารมะเัญภทรุ่นลกูใหเสญือ่สชานั้มญัมัธรนุ่ยมใหศญกึ ่ษาปีที่ 819 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1

การปฏบิ ัติ เอนตวั ไปขา้ งหลังเล็กน้อย พรอ้ มกับก้าวเทา้ ซ้ายถอยหลัง วางเท้าลงให้ปลายเทา้ ลงก่อน แกวง่ แขนตามปกติ ระยะก้าว 30 ซม. (ครงึ่ กา้ วปกติ) จังหวะกา้ วเช่นเดียวกบั ทา่ เดนิ ตามปกติ ถ้าจะให้หยดุ จากท่ากา้ วถอยหลงั ให้ใชค้ ําบอกวา่ \"แถว – หยุด\" ไม่ว่าเทา้ ขา้ งใดจะตกถงึ พนื้ ใหก้ า้ วถอยหลงั ไปอกี 1 กา้ ว แลว้ ชักเท้าทอี่ ยขู่ า้ งหน้าไปชดิ ส้นเทา้ ทอี่ ยขู่ า้ งหลัง และอยใู่ นลักษณะ ทา่ ตรงทันที ถา้ มีการกาํ หนดจํานวนกา้ วให้ ลูกเสือคงกา้ วตอ่ ไปตามจาํ นวนก้าวทก่ี าํ หนด แลว้ หยุดเอง โดยไมต่ อ้ งใช้คําบอก \"แถว – หยดุ \" 9. ท่าว่งิ ใช้ในโอกาสทตี่ ้องการความรวดเรว็ ในการเคลอ่ื นท่ี ระยะใกล้ ๆ หรือใชเ้ พอ่ื การออกกาํ ลังกาย ของลูกเสอื 1) การวิง่ คาบอก “ว่งิ , หน้า – วิ่ง” การปฏบิ ัติ ออกว่งิ ด้วยเท้าซา้ ย และวางปลายเทา้ ลงพน้ื กอ่ น งอเขา่ เล็กนอ้ ย โนม้ ตัวไปขา้ งหนา้ ขาหลงั ไมต่ อ้ งเหยยี ดตงึ ปลายเทา้ ยกสงู จากพน้ื พอควร มือยกขนึ้ เสมอราวนม กาํ มอื หันฝา่ มอื เข้าหาตวั ยืดอก ศรี ษะตั้งตรง ขณะวง่ิ ให้แกว่งแขนทงี่ อตามจงั หวะก้าวไดพ้ อสมควร ระยะก้าวประมาณ 50 – 60 ซม. พยายามรกั ษาระยะกา้ วให้คงที่ อตั ราความเร็วนาทีละ 150 – 160 กา้ ว ทา่ น้ีเร่ิมได้ทง้ั เวลาอยกู่ ับที่และขณะกาํ ลงั เดนิ ถ้ากําลังเดนิ อยู่ เมอ่ื สิ้นคําบอกไมว่ า่ เท้าใด จะตกถงึ พืน้ ก็ตาม ใหก้ ้าวต่อไปอีก 1 ก้าวแลว้ เร่ิมว่ิงทันที (ปกติควรบอกเมอ่ื ตกเทา้ ขวา) 2) การหยดุ คาบอก \"แถว – หยุด\" การปฏิบัติ เมอื่ สิ้นคาํ บอกไมว่ า่ เท้าใดจะตกถงึ พนื้ กต็ าม ใหค้ งว่ิงดว้ ยอาการย้ังตัวตอ่ ไปขา้ งหนา้ อกี 3 กา้ ว และทําท่าหยดุ เชน่ เดยี วกบั การหยดุ ในเวลาเดนิ 3) เปล่ยี นเปน็ เดิน คาบอก \"เดิน – ทาํ \" การปฏิบตั ิ เมอื่ สิน้ คาํ บอกไม่ว่าเท้าใดจะตกถงึ พื้นก็ตาม ให้คงวง่ิ ด้วยอาการยง้ั ตัวต่อไปข้างหนา้ อีก 3 ก้าว แล้วทําท่าเดนิ ตามปกติ 4) เปลย่ี นเท้า ใช้ในโอกาสเปล่ียนเทา้ ใหพ้ รอ้ มกับส่วนรวมของแถว คาบอก \"เปล่ียนเท้า” 90คู่มือสง่ เสคช่มู้ันรมิือมแสัธง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที ิจ่ีัฒก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทูกักเษสะอื ชทวี กั ติ ษใะนชสีวถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภญัทลร่นุูกเใสหือญส่ามชัญ้ันมรนุ่ธั ใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 97

การปฏิบตั ิ ทา่ น้ีให้ทาํ เป็นจังหวะเดียว โดยใช้คําบอกในขณะท่เี ทา้ ซ้ายและขวาตกถึงพน้ื ในลําดับตดิ ตอ่ กนั ใหก้ า้ วเทา้ ไปขา้ งหนา้ อกี 2 ก้าว(ซ้าย, ขวา) จากนั้นจึงกระโดดกา้ วซาํ้ เทา้ ขวาไปข้างหนา้ อกี 1 กา้ ว และกา้ วเทา้ ซา้ ยวิง่ ต่อไปอกี ตามระยะของการกา้ วปกติ 10. ท่าหันในเวลาเดนิ 1) ทา่ ขวาหัน ใชใ้ นโอกาสตอ้ งการเปล่ียนทิศทางหรือหนา้ แถวในระหว่างการเดนิ คาบอก \"ขวา – หัน\" การปฏบิ ตั ิ ใชค้ าํ บอกในจังหวะท่เี ท้าขวาจดถึงพ้ืนในลําดับตดิ ตอ่ กนั ปฏิบตั เิ ป็น 2 จังหวะ จงั หวะท่ี 1 ก้าวเท้าซา้ ยไปขา้ งหน้าในแนวปลายเทา้ ขวาประมาณคร่ึงกา้ ว พรอ้ มกับบดิ ปลายเทา้ ใหไ้ ปทางกึง่ ขวาดว้ ย ขณะเดยี วกนั ใหย้ กสน้ เทา้ ขวาและหมนุ ตัวด้วยสะโพก โดยใชป้ ลายเทา้ ทัง้ สองเป็นหลกั หนั ไปทางขวาจนได้ 90 องศา จังหวะท่ี 2 กา้ วเทา้ ขวาตอ่ ไปตามจงั หวะการเดนิ แบบเดิมในทิศทางใหม่ 2) ทา่ ซา้ ยหัน ใชใ้ นโอกาสตอ้ งการเปลยี่ นทิศทางหรอื หน้าแถวในระหว่างการเดนิ คาบอก \"ซ้าย – หนั \" การปฏบิ ตั ิ ใชค้ ําบอกในจังหวะที่เทา้ ซา้ ยจดถงึ พืน้ ในลําดบั ตดิ ต่อกัน ปฏบิ ัตเิ ปน็ 2 จงั หวะ เช่นเดยี วกบั ท่าขวาหนั โดยเปลยี่ นคาํ บอกวา่ ขวามาเป็นซา้ ยแทน ท่าขวาหนั และซา้ ยหัน เมอ่ื ปฏบิ ัตเิ ปิดจงั หวะตอ้ งไมห่ ยดุ ชะงกั และแกวง่ แขนตามจงั หวะ ก้าวโดยตอ่ เนอื่ งกนั 3) ท่ากลบั หลังหัน เป็นท่าสําหรับเปล่ียนการหนั หนา้ ของแถว จากดา้ นหนา้ เปน็ ดา้ นหลงั ในระหว่างเดนิ คาบอก \"กลบั หลัง – หัน\" การปฏบิ ตั ิ ใช้คาํ บอกในจังหวะทีเ่ ทา้ ซา้ ยจดถึงพ้นื ในลําดบั ตดิ ต่อกัน ปฏบิ ตั เิ ป็น 3 จงั หวะ จังหวะที่ 1 ก้าวเทา้ ขวาไปข้างหนา้ 1 กา้ ว จังหวะท่ี 2 ชักเทา้ ซ้ายไปขา้ งหนา้ เฉยี งขวา และตบลงกับพ้นื ดว้ ยปลายเท้าในแนวทางขวา ของปลายเท้าขวาเลก็ น้อยพอเขา่ ซ้ายตงึ ทนั ใดนั้นยกส้นเท้าขวาและหมนุ ตัวด้วยสะโพก โดยใช้ ปลายเทา้ ท้งั สองเป็นหลกั ไปข้างหลงั จนได้ 180 องศา ขณะหมุนตัวนิ้วมอื ทง้ั สองติดอย่กู บั ขา้ งขา จังหวะที่ 3 กา้ วเทา้ ซา้ ยออกเดิน พร้อมยกมอื และแกวง่ แขนตามจงั หวะของท่าเดนิ ครง้ั นั้นตอ่ ไป การหดั ในข้นั แรก ๆ ควรให้ลกู เสอื นับจังหวะด้วยเสยี งดงั กอ่ น จนทาํ ได้คลอ่ งแล้วจึงนับในใจ 11. ทา่ หันในเวลาวิ่ง ใชใ้ นโอกาสตอ้ งการเปลย่ี นทศิ ทางหรอื หนา้ แถวในเวลาวงิ่ 1) ท่าขวาหนั คาบอก \"ขวา – หนั \" การปฏิบตั ิ ใช้คาํ บอกในจงั หวะท่ีเทา้ ขวาจดถงึ พน้ื ปฏบิ ตั ิเป็น 4 จังหวะ ดังน้ี จงั หวะท่ี 1 ก้าวเท้าซา้ ยไปข้างหนา้ 1 กา้ วเพอื่ ยงั้ ตวั จังหวะท่ี 2 ก้าวเท้าขวาไปข้างหนา้ อกี 1 กา้ ว พร้อมกับหมนุ ตวั ไปทางกง่ึ ขวา 98 คูม่ ือสง่ เสรคิมู่มแือลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลักูกษเะสชือวี ทติ ักใษนะสชถวี าติ นในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลกูใหเสญอื ่สชาั้นมัญมธัรุ่นยมใหศญึก่ษาปีท่ี 911 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1