75 กจิ กรรมท้ายเรอื่ งที่ 2 วิธกี ารใช้แผนท่ี – เขม็ ทิศ คาชี้แจง ใหผ้ ้เู รียนตอบคาถาม ดงั ต่อไปน้ี 1. วิธกี ารใชแ้ ผนท่ี 2. วิธีการใช้เข็มทศิ 1. วิธีการใช้แผนที่ ตอบ การใช้แผนท่ี มีวธิ ีการ ดงั น้ี วางแผนทีใ่ นแนวระนาบบนพน้ื ใหไ้ ดร้ ะดบั ทิศเหนือ ของแผนท่ีชไี้ ปทางทิศเหนือ จัดใหแ้ นวต่าง ๆ บนแผนท่ีขนานกับแนวทเ่ี ปน็ จริงของภมู ปิ ระเทศ ทกุ แนว 2. วิธีการใช้เข็มทศิ ตอบ การใชเ้ ขม็ ทิศ มวี ิธีการ ดงั น้ี 1. ยกเข็มทศิ ให้ได้ระดับ 2. ปรับมุมอะซมิ ทุ ใหเ้ ท่ากับมมุ ที่กาหนดในแผนที่ 3. เล็งตามแนวลูกศรช้ที ศิ ทาง เป็นเสน้ ทางทีจ่ ะเดนิ ไป 4. เดินไปเท่ากับระยะทางท่กี าหนดในแผนที่ กิจกรรมทา้ ยเรื่องที่ 3 เงือ่ นเชือก คาชี้แจง ให้ผเู้ รียนตอบคาถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ความหมายและความสาคัญของเงือ่ นเชือก 2. การผกู เงือ่ นเชือก 1. ความหมายและความสาคัญของเง่ือนเชอื ก ตอบ เง่ือนเชือก หมายถึง การนาปลายเชือกเส้นหน่ึง ผูกกับปลายเชือกอีกเส้นหน่ึง เพ่ือเป็นการตอ่ เชือก หรอื นาเชือกไปผกู กบั วตั ถุ หรือผูกเป็นบว่ งคลอ้ งวตั ถุ การผกู เงื่อนแตล่ ะชนิดมคี วามยากง่ายแตกต่างกนั ออกไป ความสาคัญของเง่ือนเชือก ใช้เพื่อการต่อเชือก หรือผูกวัตถุตามแต่ละชนิดของเชือก และเมอื่ ลากจงู สง่ิ ของและใชช้ ่วยชวี ิต
76 2. การผกู เง่ือนเชือก และประโยชนข์ องเง่อื นเชือก ชอ่ื เง่อื นเชอื ก ประโยชนข์ องเงอื่ นเชือก 1. เงอื่ นพริ อด 1. ใชต้ ่อเชือก 2 เส้น ท่มี ีขนาดเทา่ กัน 2. เงื่อนขดั สมาธิ 2. ใช้ผูกปลายเชอื กเสน้ เดียวกนั เพื่อผูกมัดส่งิ ของและวัตถตุ ่าง ๆ 3. เงื่อนตะกรุดเบ็ด 3. ใชผ้ ูกเชอื กรองเท้า (ผูกเงอ่ื นพิรอดกระตกุ ปลาย 2 ข้าง) 4 ใช้ผูกโบ ผูกชายผ้าพนั แผล ผกู ชายผ้าทาสลงิ คล้องคอ 1. ใช้ตอ่ เชือกที่มีขนาดเดยี วกนั หรือต่างกนั 2. ใชต้ อ่ เชอื กออ่ นกับเชือกแขง็ 3. ใชผ้ ูกกบั ขอ หรอื บ่วง 1. ใชผ้ กู เชือกกบั เสาหรอื สิ่งอืน่ ๆ ปมเชอื กจะไม่คลาย 2. ใชท้ าบนั ไดเชือก บันไดลิง 3. ใชใ้ นการผูกเงื่อนแนน่ ประกบ กากบาท 4. ใชผ้ ูกปากถุงขยะ
77 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 10 ความปลอดภัยในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมลูกเสอื กิจกรรมทา้ ยเร่ืองท่ี 1 ความความปลอดภยั ในการเขา้ รว่ มกิจกรรมลูกเสอื คาชี้แจง ให้ผเู้ รียนตอบคาถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ ความหมายและความสาคัญของความปลอดภยั ในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมลูกเสือ ความหมายและความสาคัญของความปลอดภยั ในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมลูกเสอื ตอบ ความปลอดภัย หมายถึง การที่ร่างกายปราศจากอุบัติภัย อยู่ในสภาวะท่ี ปราศจากอันตราย หรือสภาวะท่ีปราศจากการบาดเจ็บ เจ็บปวด เจ็บป่วย จะมากหรือน้อย ข้นึ อยูก่ ับการปฏิบตั ิหรอื การกระทาของตนเอง ความสาคัญของความปลอดภัยในการเข้ารว่ มกิจกรรมลูกเสอื เป็นความจาเป็น พื้นฐานสาหรับการป้องกันหรือช่วยเหลืออย่างทันท่วงที หรือการสร้างความปลอดภัย ในกิจกรรมต่าง ๆ ก่อนท่ีจะมีภัยเกิดขึ้นบางประการหรือเตรียมการรองรับในเบ้ืองต้น เพ่ือป้องกัน การสญู เสยี กจิ กรรมท้ายเรือ่ งที่ 2 การเฝ้าระวงั เบ้อื งต้นในการเข้าร่วมกจิ กรรมลูกเสือ คาชีแ้ จง ใหผ้ ู้เรียนยกตวั อยา่ งการเฝา้ ระวังเบื้องตน้ ในการเข้าร่วมกิจกรรมลกู เสอื กจิ กรรมลกู เสือ ยกตัวอย่างการเฝ้าระวงั เบือ้ งต้น กจิ กรรมบุกเบกิ ตรวจสอบอุปกรณ์ เครื่องมือ เคร่ืองใช้ สาหรับการ กจิ กรรมผจญภัย แผ้วถางทาง บุกเบิกเส้นทาง เพื่ออานวยความสะดวก และความปลอดภัยใหแ้ กผ่ ู้เดนิ ตามมาภายหลงั ตรวจสอบ คุณลกั ษณะและคณุ ภาพของวสั ดุ ไม้ เชอื ก หรือลวดท่ีนาไปใช้ในการสร้างฐานผจญภยั
78 กจิ กรรมทา้ ยเรื่องที่ 3 การช่วยเหลอื เมือ่ เกิดเหตุความไม่ปลอดภยั ในการเข้าร่วมกจิ กรรม ลกู เสือ คาชี้แจง ใหผ้ ู้เรียนอธบิ ายวธิ กี ารช่วยเหลอื เมอ่ื เกิดเหตุความไม่ปลอดภัยในการเข้าร่วมกิจกรรม ลกู เสอื กรณีต่อไปนี้ กรณอี บุ ตั เิ หตุ การช่วยเหลือ อบุ ัตเิ หตทุ างน้า 1. จัดใหน้ อนตะแคงกึ่งควา่ อบุ ัตเิ หตทุ างรถยนตห์ รือทางถนน 2. ตรวจสอบการหายใจ ถ้าไม่มีการหายใจให้ช่วยกู้ชพี ทันที อุบัตเิ หตทุ ั่วไป 3. ใหค้ วามอบอนุ่ กับร่างกายผ้จู มนา้ โดยถอดเส้ือผา้ 1. ตกจากที่สงู เปยี กออกและใชผ้ า้ แหง้ คลุมตวั 2. หกลม้ 3. ไฟไหม้ 1. การใชเ้ ครือ่ งหมายบอกสญั ญาณ เพอ่ื สง่ สัญญาณ 4. น้าร้อนลวก เตือนในการเพิม่ ความระมัดระวงั โดยสัญญาณฉกุ เฉิน 2. ประเมินสถานการณ์จากสภาพแวดลอ้ มและสภาพ จราจร 3. โทรศัพทแ์ จ้งหน่วยงานท่เี กย่ี วข้อง เช่น หน่วย แพทยฉ์ กุ เฉิน มลู นธิ ิ โรงพยาบาล ควรเคลอื่ นย้ายดว้ ยความระมดั ระวัง
79 กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งที่ 4 การปฏิบตั ติ นตามหลกั ความปลอดภยั คาช้ีแจง ให้ผูเ้ รยี นยกตวั อย่างการปฏบิ ัตติ นตามหลักความปลอดภยั หลักความปลอดภัย ยกตัวอย่างการปฏบิ ตั ติ นตามหลัก ด้านร่างกาย ความปลอดภยั ดา้ นจติ ใจ ตอ้ งเตรยี มร่างกาย ด้วยการออกกาลงั กาย รกั ษาร่างกายไม่ให้เจ็บปว่ ย หาความรู้เกีย่ วกับกจิ กรรมลูกเสอื กศน. เปน็ การ เตรยี มพร้อมด้านจิตใจในการปฏิบัติตนเองและ ให้ความชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ ตามความเหมาะสม
80 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 11 การปฐมพยาบาล กจิ กรรมทา้ ยเร่อื งท่ี 1 การปฐมพยาบาล คาชแ้ี จง ใหผ้ ู้เรยี นตอบคาถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ความหมายของการปฐมพยาบาล 2. ความสาคญั ของการปฐมพยาบาล 1. ความหมายของการปฐมพยาบาล ตอบ การปฐมพยาบาล หมายถึง การให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบ้ืองต้น โดยใช้ เคร่ืองมือหรอื อปุ กรณท์ หี่ าไดใ้ นบรเิ วณน้นั ๆ เพ่ือช่วยบรรเทาอาการและช่วยให้ผู้บาดเจ็บได้รับ อนั ตรายน้อยลงกอ่ นที่จะสง่ โรงพยาบาล เพ่ือใหแ้ พทยท์ าการรักษา 2. ความสาคัญของการปฐมพยาบาล ตอบ 1. เพอื่ ชว่ ยเหลือผู้บาดเจ็บ 2. เพื่อปอ้ งกนั และลดความพกิ ารท่อี าจเกิดขึ้น 3. เพ่อื บรรเทาความเจบ็ ปวดและป้องกนั อันตราย กิจกรรมท้ายเร่ืองท่ี 2 วธิ กี ารปฐมพยาบาล คาช้แี จง ให้ผเู้ รียนอธบิ ายวธิ กี ารปฐมพยาบาล กรณตี อ่ ไปน้ี กรณผี ้ปู ่วย วิธกี ารปฐมพยาบาล เป็นลมวงิ เวยี นศรี ษะ 1. พาเขา้ ทรี่ ่มอากาศถ่ายเทสะดวก 2. นอนราบไม่หนนุ หมอน หรือยกปลายเทา้ ให้สูงเล็กนอ้ ย 3. คลายเสือ้ ผ้าใหห้ ลวม 4. พดั หรอื ใช้ผา้ ชบุ น้าเชด็ เหงื่อตามหนา้ มอื และเท้า 5. ใหด้ มแอมโมเนยี 6. ให้ดื่มนา้ 7. ถา้ รู้สกึ ตัวหรือมอี าการดีขนึ้ นาส่งแพทย์ต่อไป
81 กรณีผปู้ ว่ ย วธิ ีการปฐมพยาบาล เป็นลมแดด 1. นาผทู้ ่มี อี าการเข้าท่ีร่ม 2. นอนราบ ยกเท้าสูง เลอื ดกาเดาไหล 3. ใช้ผ้าชบุ นา้ ประคบบริเวณใบหนา้ ขอ้ พับ ขาหนีบ เชด็ ตัว เพอื่ ระบายความรอ้ น 4. ถา้ รู้สกึ ตัวหรอื มอี าการดขี ึ้น ให้จิบนา้ เยน็ รบี นาส่งแพทย์ 1. ให้ผปู้ ่วยนั่งนิง่ ๆ เอนตวั ไปข้างหน้าเลก็ นอ้ ย 2. ใช้มือบีบปลายจมูก ร่วมกับการประคบเย็น 3. ถ้ามีเลือดออกมาก ใหผ้ ู้ป่วยบว้ นเลอื ดหรือน้าลายลงในอ่าง 4. เม่ือเลอื ดหยุดแล้ว ใช้ผ้าสะอาดเชด็ บริเวณจมกู และปาก 5. หา้ มส่งั น้ามูกหรือล้วงแคะ ขย้ีจมูก กิจกรรมท้ายเร่ืองท่ี 3 การวดั สญั ญาณชีพและการประเมินเบอื้ งต้น คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รียนอธบิ ายวิธกี ารวดั สัญญาณชพี และการประเมินเบ้ืองต้น การวัดสญั ญาณชพี วธิ กี ารวัด การประเมนิ เบื้องต้น 1. การวัดสญั ญาณชพี ใช้น้วิ มือ 3 น้ิว (น้วิ ชี้ น้วิ กลาง นิว้ นาง) คนปกติ การบีบหัวใจ ประมาณ ดา้ นขวา แตะที่ขอ้ มือผู้ปว่ ยและสงั เกต 60 - 100 ครงั้ ต่อนาที การเตน้ ของชีพจร 2. การวดั อัตรา สงั เกตจากการหายใจนาเอาออกซิเจน การขยายตัวของชอ่ งอก การหายใจ เขา้ สรู่ า่ งกาย โดยดจู ากการขยายตวั คนปกติ 12 – 20 ครงั้ ตอ่ นาที ของชอ่ งอก 3. การวดั อุณหภูมิ เป็นการวัดความร้อนของร่างกายโดย คนปกติ อุณหภูมิ 37 องศา ร่างกาย ใชป้ รอท เซลเซยี ส +/- 0.5 องศาเซลเซยี ส 4. การวดั ความดัน ใช้เคร่ืองวัดความดนั วดั ทต่ี น้ แขน คนปกตมิ ีความดันโลหติ โลหิต แล้วบบี ประมาณ 90/60 120/80 มิลลิเมตรปรอท
82 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 12 การเดินทางไกล อยคู่ ่ายพกั แรม และชวี ติ ชาวคา่ ย กจิ กรรมทา้ ยเรอื่ งที่ 1 การเดนิ ทางไกล คาช้ีแจง 1.1 ใหผ้ เู้ รียนอธิบายความหมาย วตั ถปุ ระสงค์ และหลกั การของการเดนิ ทางไกล ดังตอ่ ไปนี้ 1. ความหมายของการเดนิ ทางไกล 2. วัตถุประสงค์ของการเดินทางไกล 3. หลักการของการเดินทางไกล 1. ความหมายของการเดินทางไกล ตอบ การเดินทางไกล หมายถึง การเดินทางของลูกเสือจากกอง หรือกลุ่มลูกเสือ เพื่อไปทากิจกรรมท่ีใดที่หน่ึง โดยมีผู้กากับและนายหมู่ลูกเสือเป็นผู้กาหนดร่วมกัน เพื่อนาลูกเสือไปฝึกทักษะวิชาการลูกเสือเพ่ิมเติม ให้รู้จักการใช้ชีวิตกลางแจ้งและสัมผัสกับ ธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยลูกเสือได้ใช้ความสามารถของตนเอง การเดินทางไกล การเดินทาง ด้วยเทา้ เรือ หรือจกั รยาน และรถยนต์ 2. วตั ถปุ ระสงค์ของการเดินทางไกล ตอบ 1. เพ่อื ฝกึ ความอดทน ความมรี ะเบียบวนิ ัย และเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพอนามยั ใหแ้ กล่ กู เสือ 2. เพ่อื ให้ลูกเสือมีเจตนารมณ์ และเจตคตทิ ด่ี ี รู้จกั ดแู ลตนเอง และร้จู กั ทางานรว่ มกับผู้อนื่ 3. เพ่ือให้มีโอกาสปฏิบัติตามคติพจน์ของลูกเสือและมีโอกาสบริการต่อชุมชนท่ีไปอยู่ คา่ ยพกั แรม 4. เพ่อื เป็นการฝึกและปฏบิ ตั ิตามกฎของลูกเสอื 3. หลักการของการเดินทางไกล ตอบ การเดินทางไกล ใช้ระบบหมู่ เพ่ือฝึกความอดทน ความสามัคคี ความมีระเบียบวินัย การชว่ ยเหลอื ซึ่งกนั และกนั รจู้ กั การระมัดระวังตัวจากอุบัติเหตุขณะเดินทาง และการเตรียมตัว ในการเดินทางให้ได้ใช้ชีวิตกลางแจ้ง โดยมีการบรรจุเคร่ืองหลังสาหรับเดินทางไกล เตรียมอุปกรณ์ เฉพาะบุคคล เตรยี มอปุ กรณ์สาหรับหมู่กอง
83 การบรรจุเครอื่ งหลัง สาหรับการเดนิ ทางไกล คาช้แี จง 1.2 ให้ผ้เู รยี นระบุการเตรยี มอุปกรณ์ส่วนตัว สาหรับการบรรจุเครื่องหลงั ในการเดิน ทางไกล ลงในตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ อุปกรณ์ทีต่ อ้ งเตรยี ม การเตรียมอุปกรณ์ประจาตัว 1. เคร่อื งแตง่ กาย ไดแ้ ก่ เคร่ืองแบบลูกเสอื และเครอื่ งหมาย สาหรบั การบรรจเุ ครื่องหลัง ประกอบเครอื่ งแบบ คือ หมวก ผา้ ผกู คอ เส้ือ กางเกงหรือ ในการเดินทางไกล กระโปรง เขม็ ขดั ถงุ เท้า รองเท้าหรอื ชุดลาลองหรอื ชุดสภุ าพ ชุดกีฬา ชดุ นอน 2. เครือ่ งใชป้ ระจาตัว ได้แก่ สบู่ แปรงสีฟนั ยาสีฟัน ผา้ เชด็ ตวั ผ้าขาวม้า ผ้าถุง ไฟฉาย ขันน้า รองเท้าแตะ จาน ชาม ช้อน ยากันยุง ยาขัดโลหะ เชือก หรือยาง สาหรับผูกหรือรัด อุปกรณเ์ ลก็ ๆ น้อย ๆ ถุงพลาสติก สาหรับใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว หรอื เปียกชน้ื 3. ยาประจาตัว หรอื อปุ กรณป์ ฐมพยาบาล 4. อปุ กรณป์ ระกอบการเรียนรู้ และการจดบนั ทึกกจิ กรรม เช่น สมุด ปากกา ดินสอ แผนที่ - เข็มทศิ 5. อปุ กรณท์ จ่ี าเป็นตามฤดกู าล เช่น เส้อื กันฝน เสือ้ กนั หนาว 6. อุปกรณ์เครอื่ งนอน เชน่ ผ้าหม่ ถุงนอน 7. อุปกรณ์ทปี่ ระจากายลูกเสือ เช่น ไม้งา่ ม กระตกิ น้า เชือกลกู เสือ
84 กิจกรรมท้ายเร่อื งท่ี 2 การอยู่คา่ ยพกั แรม คาช้แี จง ให้ผู้เรยี นอธบิ ายความหมาย วัตถปุ ระสงค์ และหลักการของการอยู่ค่ายพักแรม ขอ้ ประเด็นคาถาม คาอธบิ าย 1. ความหมายของการอย่คู ่ายพักแรม องค์รวมของการเรียนรู้ทง้ั ภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบตั ิ โดยมนี วัตกรรมและขบวนการถา่ ยทอด การทดสอบ การเสริมสร้างพัฒนาการให้แกล่ กู เสือ โดยการนาลูกเสอื ออกจากทตี่ ้ังปกตไิ ปพักแรมคนื ในสภาพที่เหมาะสม โดยจัดกิจกรรมให้สอดคลอ้ งกับการเรยี นรู้ 2. วตั ถุประสงค์ของการอยคู่ ่ายพกั แรม 1. เพ่อื ให้ลกู เสือทบทวนส่ิงที่ได้เรียนรู้จากทฤษฎี และ การฝึกปฏบิ ัติ 2. เพอื่ เปน็ การฝกึ ทกั ษะทางลูกเสอื ให้มรี ะเบียบวนิ ัย มีเจตคติ มคี ่านยิ มทดี่ งี าม 3. เพื่อใหล้ ูกเสือปฏบิ ตั ิตามคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื 3. หลักการของการอย่คู ่ายพักแรม 1. ยดึ หลกั การมสี ว่ นร่วม โดยให้ผบู้ ังคับบญั ชาลูกเสอื และชมุ ชน มีสว่ นร่วม ในการจัดกจิ กรรม 2. ใชก้ ระบวนการเรยี นรู้ที่เนน้ ใหล้ ูกเสือมที ักษะในการ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรใู้ นชมุ ชน 3. ใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ฝกึ ให้คิดวิเคราะห์ สรา้ งสรรค์ ท่ีเปน็ ประโยชนแ์ ละ สัมพนั ธก์ บั วถิ ีชวี ติ 4. มกี จิ กรรมวิชาการและกจิ กรรมนันทนาการที่ให้ ลูกเสือได้รบั ความรู้ และความสนุกสนาน ทางานร่วมกัน เปน็ กลมุ่ เพือ่ เสรมิ สรา้ ง ความสามัคคี มนุษยสมั พันธ์ ความเปน็ ผู้นา 5. ต้องคานงึ ถึงความปลอดภยั ในดา้ นต่าง ๆ ระหวา่ ง การทากิจกรรม
85 กิจกรรมท้ายเรอื่ งท่ี 3 ชีวติ ชาวคา่ ย คาช้ีแจง 3.1 ให้ผเู้ รยี นอธิบายความหมายของคาวา่ ชวี ติ ชาวคา่ ย ชวี ติ ชาวค่าย หมายถงึ การทีบ่ ุคคลหลาย ๆ คน มาอยู่รวมกนั ทากจิ กรรมต่าง ๆ ด้วยกนั นอน กิน เรียนรู้ ฝกึ ทักษะ เดนิ ทางไกล ผจญภยั โดยพักค้างในคา่ ยด้วยกัน คาช้แี จง 3.2 ใหผ้ ู้เรยี นระบเุ หตผุ ลของการเตรียมอุปกรณ์สว่ นรวมของหมูห่ รือของกองลกู เสอื ในการอยู่คา่ ยพักแรม ทรี่ ะบใุ นตารางตอ่ ไปนี้ พรอ้ มท้งั ให้เหตุผลประกอบ อปุ กรณส์ ว่ นรวมที่ต้องเตรยี ม เหตุผลของการจัดเตรียมอุปกรณ์สว่ นรวม 1. มีดพร้า พลวั่ สนาม จอบ เสียม ไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอยคู่ ่ายพกั แรม กวาดทางมะพร้าว เพื่อใช้เปน็ อุปกรณก์ ารจดั การคา่ ยและฐาน กจิ กรรมบุกเบกิ 2. มดี ทาครวั หม้อ ทพั พี กระทะ เขยี ง เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มสาหรับการอยูค่ ่ายพกั แรม จาน ชาม กะละมัง ถังนา้ นา้ ยาล้างจาน ในกิจกรรมการทาครัว ชีวิตชาวคา่ ย 3. เครอ่ื งปรงุ สาหรับการประกอบอาหาร เพอ่ื เตรยี มสาหรับการปรุงอาหาร ในการอยูค่ ่าย น้ามนั น้าปลา น้าตาล ฯลฯ พักแรม 4. เตน็ ท์ เชือก ลวด ยาง ถงุ ดา ตะเกยี ง เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มสาหรบั การอยคู่ ่ายพักแรม ไฟฉาย แผนท่ี เขม็ ทศิ และใช้ในกิจกรรมชีวติ ชาวค่าย 5. อุปกรณ์ประกอบจังหวะชดุ การแสดง เพอ่ื ใชป้ ระกอบการจดั กิจกรรมประกอบการแสดง ในการอยู่ค่ายพกั แรม 6. กระเป๋ายา และอุปกรณก์ ารปฐม เพือ่ เตรยี มความพร้อมและสาหรับปอ้ งกนั ในยาม พยาบาลเบ้อื งต้น ฉกุ เฉนิ การอย่คู า่ ยพักแรม และเดินทางไกล
86 คาชแ้ี จง 3.3 ใหผ้ ู้เรียนยกตวั อยา่ งอปุ กรณท์ ่ใี ช้ในชีวิตชาวค่าย ตามประเดน็ ต่อไปน้ี กิจกรรมชวี ิตชาวค่าย ยกตวั อย่างอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นชีวิตชาวค่าย การสรา้ งค่าย 1. มีด ไว้ตดั เฉือน สบั หัน่ ปาด 2. ขวาน ใชต้ ัดไม้ ฟนั ไม้ ผ่าไม้ ตอกไม้ การสรา้ งครัวชาวคา่ ย 3. เลอ่ื ย ใชส้ าหรบั งานทัว่ ไป การสรา้ งเตาประเภทตา่ ง ๆ 4. จอบ ใชส้ าหรบั ขดุ ดิน ทาหลมุ ถากหญา้ 5. เสยี ม ใชข้ ุดดิน ขุดลอก การประกอบอาหารแบบชาวค่าย 6. พลว่ั ใชต้ ักดิน ตักทราย 7. ค้อน ใช้ตอก ทบุ ทาลาย 1. ทที่ าครัว มีเขตทาครัวโดยเฉพาะ มีความเหมาะสม 2. เตาไฟ เลอื กแบบท่เี หมาะกบั พื้นท่ที าครวั 3. กองฟนื กองเป็นระเบียบ อยไู่ ม่หา่ งจากเตาไฟ 4. เครื่องใช้ตา่ ง ๆ หมอ้ กระทะ มีด เขียง พรอ้ มท่ีเก็บ 5. หลุมเปยี ก หลมุ แห้ง 1. เตาสามเส้า นากอ้ นหินสามกอ้ นมาวางบนพื้น จัดระยะห่างให้พอดีกับก้นหม้อเป็นสามมุมให้อากาศ ถ่ายเทสะดวก 2. เตาหลมุ ขุดหลมุ ให้มขี นาดกวา้ งพอเท่ากบั หมอ้ ลึก พอประมาณ แล้วเจาะรู เพื่อใส่ฟืนด้านหน้า แล้วรูระบาย อากาศ ดา้ นขา้ งเพ่อื ใหค้ วันออก 3. เตาลอย ขุดหลมุ สม่ี ุม แล้วนาทอ่ นไมแ้ ข็งแรงส่ีต้น ทาเป็นเสาส่มี มุ นามาวางพาดผกู เปน็ สี่เหล่ียมและวางคาน ให้เต็มพน้ื ที่ ใช้ใบไม้ปูให้ราบ เอาดินปูพื้นให้หนพอสมควร ใชก้ อ้ นหินทาเปน็ เตาสามเสา้ 1. การหุงข้าวดว้ ยหมอ้ หู แบบเชด็ นา้ และไมเ่ ชด็ น้า 2. การตม้ โดยใส่ของลงไปพร้อมน้าแลว้ ต้ม และใสข่ อง หลงั จากต้มนา้ เดือดแล้ว
87 กจิ กรรมชีวิตชาวค่าย ยกตัวอย่างอุปกรณท์ ใี่ ช้ในชวี ติ ชาวคา่ ย การกางเตน็ ท์ และการเก็บเต็นท์ 3. การผดั ใชน้ ้ามนั หรอื กะทิ ใส่ของทจ่ี ะผดั ลงไป ทาให้ สุกและปรุงรส 4. การทอด ใส่น้ามันในภาชนะให้ทว่ มของท่ที อด โดยให้ น้ามันรอ้ นจดั กอ่ น 1. เต็นท์สาเร็จรูป ประกอบเสาเต็นท์แล้วสอดเข้าตัวเตน็ ท์ ตามรูปโค้ง ให้ทะลุถึงกันเป็นสะพานไขว้ เสาเต็นท์จะโผล่ ท่ีมุมท้ัง 4 ด้าน ให้นาขอยึดห่วงท้ัง 4 ด้านตอกกับพื้น เพือ่ ยึดใหแ้ นน่ 2. การเก็บเต็นท์ กอ่ นพบั เก็บเตน็ ท์ ควรผึ่งแดดให้แหง้ และ ถอดขอที่ยึดทั้ง 4 มุม ถอดเสาเต็นท์และพับเก็บตามเดิม พับผา้ เตน็ ท์ โดยไล่ลมออก กิจกรรมทา้ ยเร่อื งที่ 4 วธิ กี ารจดั การคา่ ยพักแรม คาช้แี จง ให้ผู้เรียนตอบคาถาม ดังต่อไปนี้ 1. ค่ายพักแรม หมายความว่าอยา่ งไร 2. อธิบายการสุขาภิบาล (การทาหลุมเปียก) ในคา่ ยพักแรมมาพอเขา้ ใจ 1. คา่ ยพกั แรม หมายความว่าอยา่ งไร ตอบ คา่ ยพกั แรม หมายถึง การท่ีกลุ่มบุคคลไปใช้ชีวิตร่วมกันในบริเวณแห่งใดแห่งหน่ึง อาจเปน็ ที่โล่งแจง้ หรือนอกเมือง หรือสถานที่ที่เหมาะสมอ่ืน ๆ ในระยะเวลาหนึ่ง เพ่ือกิจกรรม อยา่ งใดอย่างหน่งึ หรอื พกั ผอ่ นหย่อนใจ ภายใตค้ าแนะนาของผูน้ าค่ายทด่ี รี ับการฝึกมาแล้ว 2. อธิบายการสขุ าภบิ าล (การทาหลมุ เปียก) ในคา่ ยพกั แรมมาพอเข้าใจ ตอบ การทาหลุมเปียกในค่ายพักแรม มีดังน้ี ขุดหลุมขนาดใหญ่ และลึกพอสมควร ทปี่ ากหลุมใช้กงิ่ ไม้ ใบไม้ สานเปน็ แผงปิดไว้ แลว้ หาหญ้าโรยขา้ งบนแผงกิง่ ไม้อกี ชน้ั หลุมเปียกนี้ มไี วส้ าหรบั เทน้าท่ไี มใ่ ช้แลว้ ลงไปในหลุม เช่น น้าปนไขมัน น้าปนเศษอาหาร ซ่ึงเมื่อเทลงไปแล้ว ไขมันและเศษอาหารต่าง ๆ จะติดอยู่ที่หญ้า มีแต่น้าเท่านั้นท่ีไหลลงไปในหลุม ต้องเปลี่ยนแผง กิ่งไม้ ใบไม้ท่ปี ากหลุมทุกวัน และนาแผงทใี่ ชแ้ ล้วไปเผาทุกวันเชน่ กนั
88 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 13 การฝกึ ปฏิบัติการเดนิ ทางไกล อยคู่ า่ ยพักแรม และชวี ติ ชาวค่าย กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 1 การวางแผนและปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการเดนิ ทางไกล อยู่ค่ายพักแรม และชีวิตชาวคา่ ย คาชแ้ี จง ใหผ้ ู้เรยี นวางแผนการแสดงในกิจกรรมนันทนาการและชมุ นมุ รอบกองไฟ ในประเดน็ ต่อไปน้ี (ใหผ้ ู้เรียนวางแผนการแสดงในกจิ กรรมนันทนาการและชมุ นมุ รอบกองไฟตามประเดน็ ที่กาหนด) กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 2 การใชช้ วี ิตชาวค่ายรว่ มกบั ผู้อืน่ ในค่ายพกั แรม คาช้แี จง ใหผ้ ู้เรยี นเข้าร่วมกจิ กรรมทกุ กจิ กรรมท่ีกาหนด พร้อมทัง้ แสดงความคิดเห็นและ สะทอ้ นความร้สู กึ ของการใช้ชวี ิตชาวคา่ ยร่วมกับผ้อู ่ืนในค่ายพกั แรม ในชั่วโมงสุดทา้ ย ก่อนปิดการฝกึ ปฏิบตั ิ (ใหผ้ ้เู รยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรมและแสดงความคิดเห็น และสะท้อนความรู้สึกของการใช้ชีวิตชาวค่าย ร่วมกับผู้อ่ืนในค่ายพักแรม กอ่ นปิดการฝึกปฏิบัติ)
89 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 1. ง 11. ก 21. ก 2. ค 12. ก 22. ค 3. ง 13. ก 23. ข 4. ค 14. ข 24. ง 5. ก 15. ก 25. ก 6. ง 16. ง 26. ค 7. ก 17. ก 27. ก 8. ก 18. ง 28. ข 9. ค 19. ง 29. ง 10. ง 20. ข 30. ง
90 รายชอ่ื ผเู้ ขา้ ร่วมประชมุ ปฏบิ ัตกิ ารจดั ทาต้นฉบบั ชดุ วชิ า รายวชิ าเลือกบังคับ และสมดุ บันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าลูกเสอื กศน. ทั้ง 3 ระดบั การศึกษา ระหว่างวันท่ี 5 – 9 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงแรมนนทบุรีพาเลซ จงั หวัดนนทบุรี 1. นายกฤตชยั อรุณรตั น์ เลขาธกิ าร กศน. 2. นางสาววิเลขา ลสี ุวรรณ์ รองเลขาธกิ าร กศน. 3. นางสุรีวัลย์ ล้มิ พพิ ฒั นกุล ผเู้ ชี่ยวชาญเฉพาะดา้ นมาตรฐานการศึกษา 4. นางรุ่งอรุณ ไสยโสภณ ผ้อู านวยการกล่มุ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย 5. นางสาววราภรณ์ ศริ วิ รรณ ขา้ ราชการบานาญ 6. นางสาวเนาวเรศ นอ้ ยพานิชย์ ขา้ ราชการบานาญ 7. นายไพฑรู ย์ ลิศนันท์ ขา้ ราชการบานาญ 8. นายเจรญิ ศักด์ิ ดแี สน ผอู้ านวยการศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษาลาปาง 9. นายอนนั ต์ คงชมุ รองผู้อานวยการสานักงาน กศน. จงั หวดั สุโขทัย 10. นายวรวฒุ ิ หุนมาตรา ผู้อานวยการ กศน.เขตคลองสาน กทม. 11. นางสาววิมลรตั น์ ภรู ิคปุ ต์ ผู้อานวยการ กศน.เขตบางเขน กทม. 12. นางอบุ ลรัตน์ ชุนหพันธ์ ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอเมอื ง จงั หวัดจันทบุรี 13. นายไพโรจน์ กันทพงศ์ ผูอ้ านวยการโรงเรียนลามหาเมฆ (ประชาราตรอี นุสรณ)์ จงั หวัดปทุมธานี 14. ว่าท่ีร้อยตรี สเุ มธ สุจริยวงศ์ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นงามมานะ (แผน – ทบั อุทศิ ) 15. นายบวรวทิ ย์ เลศิ ไกร รองผ้อู านวยการโรงเรียนศุภกรณ์วิทยา 16. นายบนั เทิง จันทร์นิเวศน์ โรงเรยี นบางมดวิทยา“สีสุกหวาดจวนอุปถมั ภ์” 17. นางสาวสโรชา บุรศี รี เลขานกุ ารฯ สานักงาน ก.ค.ศ. 18. นายกฤตพฒั น์ นชิ ัยวรุตมะ สานกั การลกู เสอื ยุวกาชาด และกจิ การนกั เรียน 19. นางกนกวรรณ นิม่ เจรญิ สานกั การลูกเสอื ยุวกาชาด และกจิ การนักเรยี น 20. นายเอกสทิ ธ์ิ สวัสดิว์ งค์ สานกั งานลกู เสอื แห่งชาติ 21. นายเอกชัย ลาเหลอื สานกั งานลูกเสอื แห่งชาติ 22. นายศรัณยพงศ์ ขัตยิ ะนนท์ กศน.อาเภอเมอื ง จังหวัดจันทบรุ ี
23. นายขวญั ชัย เนียมหอม 91 24. นางสาววรรณพร ปัทมานนท์ 25. นางสาวเบ็ญจวรรณ อาไพศรี กศน.อาเภอบา้ นนา จงั หวัดนครนายก 26. นางเยาวรตั น์ ป่ินมณีวงศ์ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา 27. นางสาวฐิติมา วงศ์บัณฑวรรณ ตามอัธยาศัย 28. นางกมลทิพย์ ช่วยแก้ว กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา 29. นางสาวสุจริยา พุม่ ไสล ตามอัธยาศัย 30. นายจตุรงค์ ทองดารา กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา 31. นางสกุ ญั ญา กุลเลิศพิทยา ตามอัธยาศัย 32. นายชัยวิชติ สารญั กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย กลุม่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย
92 รายช่ือผู้เข้าร่วมประชมุ ปฏบิ ตั กิ ารบรรณาธิการต้นฉบบั ชดุ วิชา รายวชิ าเลอื กบังคับ และสมุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนรู้ รายวิชาลกู เสอื กศน. ท้ัง 3 ระดับการศกึ ษา ครั้งที่ 1 วันที่ 12 – 16 มนี าคม 2561 ณ หัองประชมุ อารยี ์ กุลตณั ฑ์ อาคาร กศน.ชนั้ 6 นางร่งุ อรุณ ไสยโสภณ ผูอ้ านวยการกลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย นางสาววราภรณ์ ศิรวิ รรณ ข้าราชการบานาญ นางสาวเนาวเรศ นอ้ ยพานิช ข้าราชการบานาญ นายเจรญิ ศักดิ์ ดีแสน ผ้อู านวยการศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พอื่ การศกึ ษาลาปาง นายบนั เทงิ จันทรน์ ิเวศน์ โรงเรียนบางมดวทิ ยา “สีสกุ หวาดอปุ ถมั ภ์” นายขวัญชยั เนยี มหอม กศน.อาเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก นายชัยวชิ ิต สารัญ กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั
93 รายชื่อผู้เข้าร่วมประชมุ ปฏิบัติการบรรณาธิการตน้ ฉบับชดุ วิชา รายวชิ าเลือกบังคบั และสมดุ บนั ทกึ กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าลกู เสือ กศน. ท้ัง 3 ระดบั การศึกษา ครง้ั ท่ี 2 วันที่ 26 – 30 มนี าคม 2561 ณ โรงแรมชลพฤกษ์ รสี อรท์ จังหวดั นครนายก นางรงุ่ อรุณ ไสยโสภณ ผอู้ านวยการกลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั นางสาววราภรณ์ ศิริวรรณ ข้าราชการบานาญ นางสาวเนาวเรศ นอ้ ยพานิช ขา้ ราชการบานาญ นายเจรญิ ศักดิ์ ดีแสน ผอู้ านวยการศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษาลาปาง นายบนั เทิง จันทร์นเิ วศน์ โรงเรียนบางมดวิทยา “สีสุกหวาดอปุ ถมั ภ์” นายขวญั ชยั เนยี มหอม กศน.อาเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก นายชัยวิชติ สารัญ กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย
94 รายชอ่ื ผูเ้ ขา้ รว่ มประชมุ ปฏบิ ัตกิ ารบรรณาธกิ ารต้นฉบับชดุ วิชา รายวิชาเลอื กบังคบั และสมุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวิชาลูกเสอื กศน. ท้งั 3 ระดับการศกึ ษา ครัง้ ที่ 3 วันท่ี 7 – 9 พฤษภาคม 2561 ณ โรงแรมนนทบุรี พาเลซ นนทบุรี นางรงุ่ อรุณ ไสยโสภณ ผู้อานวยการกลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย นางสาววราภรณ์ ศริ ิวรรณ ขา้ ราชการบานาญ นางสาวเนาวเรศ นอ้ ยพานชิ ขา้ ราชการบานาญ นางนพรตั น์ เวโรจนเ์ สรีวงศ์ ขา้ ราชการบานาญ
95 คณะผู้จัดทา ที่ปรกึ ษา เลขาธกิ าร กศน. นายกฤตชัย อรณุ รัตน์ รองเลขาธกิ าร กศน. นางสาววเิ ลขา ลสี ุวรรณ์ ขา้ ราชการบานาญ นางสาววราภรณ์ ศริ ิวรรณ ผู้อานวยการกลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบ นางรุง่ อรณุ ไสยโสภณ และการศึกษาตามอธั ยาศยั คณะทางาน หวั หน้ากลุ่มงานพฒั นาสื่อการเรยี นรู้ นายศุภโชค ศรีรตั นศิลป์ กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาวทิพวรรณ วงค์เรอื น กลุ่มพัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั นางสาวชมพนู ท สังขพ์ ชิ ยั กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ผพู้ ิมพต์ น้ ฉบับ กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาวทิพวรรณ วงค์เรือน กลุ่มพัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาววิยะดา ทองดี กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาวนภาพร อมรเดชาวฒั น์ กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางวรรณี ศรศี ริ วิ รรณกลุ กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั นางสาวชาลินี ธรรมธิษา กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั นางสาวชมพูนท สังข์พิชยั นางสาวขวัญฤดี ลิวรรโณ กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ผอู้ อกแบบปก นายศุภโชค ศรีรตั นศลิ ป์
96
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272