๔๗ เกณฑ์การประเมนิ วิธีการ เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ๑) ด้านความรู้ ใช้คำถาม คำถาม ตอบคำถามซักถามได้ รายการประเมิน ๑. บอกวธิ ีการพดู ในโอกาส ตา่ ง ๆ ไดต้ รงตาม วัตถุประสงค์ ๒. อธิบายหลกั การพูดอวย พรได้ ๓. อธบิ ายขอ้ ควรปฏบิ ัติใน การพดู อวยพรได้ ๒) ดา้ นทักษะและกระบวนการ รายการประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ๑. แสดงการพูดในโอกาส สังเกตการพดู อวยพร แบบประเมนิ การพูดอวย ผลจากการสงั เกต ตา่ ง ๆ ได้ตรงตาม พร พฤติกรรมการพดู ร้อยละ วตั ถปุ ระสงค์ ๘๐ ขน้ึ ไปถือว่าผ่าน ๒. พูดในโอกาสต่าง ๆ (พูด เกณฑ์ อวยพร) ตามหัวข้อที่ กำหนดให้ได้ถกู ตอ้ งและ สร้างสรรค์ ๓) ด้านคณุ ลักษณะ รายการประเมิน รายการประเมิน วิธีการ เครอ่ื งมือท่ีใช้ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝ่เรยี นรู้ แบบสังเกตคุณลกั ษณะอนั ได้ผลจากการสังเกต พึงประสงค์ คณุ ลักษณะแตล่ ะขอ้ ไม่ ๓. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน สังเกตคุณลักษณะ ตำ่ กวา่ ระดับ ๒.๕ ๔. ตระหนักถึงการพดู ทต่ี รง ตามวตั ถุประสงค์ เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมการเรยี นโดยมีเกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ๓๐ - ๒๒ แปลว่า ดีเยี่ยม ระดบั ๒๑ - ๑๓ แปลวา่ ดี ระดบั ๑๒ - ๔ แปลว่า พอใช้ ระดบั ๓ แปลว่า ควรปรบั ปรงุ แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๔๘ บันทึกผลหลงั การสอน ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ........................................................................................................................................................................... ......... .......................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... ......................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................................................................. ....... ............................................................................................................................ ........................................................ ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ..................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................ ............................................................................................. ....................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอื่ ..................................................ครูผู้สอน (นายธนากร เหขนุ ทด) ตำแหน่งครู แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๔๙ แบบบนั ทกึ การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมรายบุคคล คำชแ้ี จง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งวา่ งรายการประเมินตามคณุ ภาพการปฏิบัติงานของนักเรยี น พฤติกรรม / ระดับคะแนน ท่ี ช่ือ-สกุล ความสนใจใน การมีส่วน การตอบ การยอมรบั ทำงานตามที่ การทำ รว่ มในการ คำถาม กิจกรรม แสดงความ ฟังความ ได้รบั รวม คดิ เหน็ คิดเหน็ ผู้อ่นื มอบหมาย ๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมนิ คะแนนเตม็ ๑๕ คะแนน ระดับ ๓ หมายถึง มพี ฤตกิ รรมระดบั ดี คะแนน ๑๓ – ๑๕ หมายถงึ ดี ระดับ ๒ หมายถึง มพี ฤตกิ รรมระดับ ปานกลาง คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ปานกลาง ระดบั ๑ หมายถึง มีพฤตกิ รรมระดบั ปรบั ปรุง คะแนน ๕ - ๘ หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ๙ คะแนน ลงชือ่ ............................................................ผู้ประเมนิ (.......................................................) วันท่ี...........เดอื น...............................พ.ศ.............. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๐ นิยาม ตวั ชี้วัด พฤตกิ รรมบง่ ชี้ และเกณฑ์การใหค้ ะแนน ******************* ขอ้ ท่ี ๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ นยิ าม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไว้ซึ่งความ เป็นชาตไิ ทย ศรทั ธา ยดึ มัน่ ในศาสนา และเคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ ผู้ที่มีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความสามัคคี ปรองดอง ภูมิใจ เชิดชูความเป็นชาติไทย ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และแสดงความจงรักภักดีต่อ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ ตวั ช้ีวดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ พฤติกรรมบ่งช้ี ตัวชวี้ ดั ๑.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบายความหมายของเพลง ๑.๑ เปน็ พลเมอื งดีของชาติ ชาติไดถ้ ูกต้อง ๑.๑.๒ ปฏิบัตติ นตามสิทธแิ ละหนา้ ท่ีพลเมอื งดขี องชาติ ๑.๒ ธำรงไว้ซึง่ ความเป็นชาตไิ ทย ๑.๑.๓ มคี วามสามัคคี ปรองดอง ๑.๒.๑ เขา้ รว่ ม สง่ เสริม สนับสนุนกิจกรรมที่สรา้ งความสามคั คี ปรองดอง ท่ี เปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชมุ ชน และสังคม ๑.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่องความเปน็ ชาติไทย ตวั ชีว้ ัดและพฤตกิ รรมบง่ ชี้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ตวั ช้ีวดั ๑.๓.๑ เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ๑.๓ ศรัทธา ยดึ มนั่ และปฏิบตั ติ น ๑.๓.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามหลักของศาสนาที่ตนนับถือ ตามหลักของศาสนา ๑.๓.๓ เป็นแบบอยา่ งทดี่ ขี องศาสนิกชน ๑.๔ เคารพเทดิ ทูนสถาบัน ๑.๔.๑ เขา้ รว่ มและมีสว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ ๑.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธคิ ุณของพระมหากษัตริย์ ๑.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความจงรักภกั ดีตอ่ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เกณฑ์การให้คะแนน (ใชข้ ้อมูลการเขา้ รว่ มกจิ กรรมหนา้ เสาธงของนักเรียนเป็นเกณฑ์พิจารณา) พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยย่ี ม (๓) ตาม ขอ้ ๑.๑ – ๑.๔ ไมเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม หน้า เสาธง หรอื หนา้ เสาธงร้อยละ หน้าเสาธงร้อยละ หน้าเสาธงรอ้ ยละ ๘๐ ๕๐ - ๕๙ ๖๐ - ๗๙ ขึ้นไป แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๑ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓) เขา้ รว่ มกิจกรรม ต่ำกว่ารอ้ ยละ ๕๐ หมายเหตุ ข้อมูลน้ไี ด้รบั จากงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรยี น (งานบุคคล,งานกจิ การนักเรยี น) ข้อที่ ๒ ซื่อสตั ยส์ จุ รติ นิยาม ซื่อสัตย์สุจรติ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมัน่ ในความถูกต้อง ประพฤติตรงตามความเป็น จรงิ ต่อตนเองและผู้อ่นื ทั้งทางกาย วาจา ใจ ผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต คือ ผู้ที่ประพฤติตรงตามความเป็นจริงทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความ จริง ความถูกต้องในการดำเนนิ ชวี ิต มีความละอายและเกรงกลวั ตอ่ การกระทำผดิ ตวั ชวี้ ดั และพฤติกรรมบ่งชี้ พฤติกรรมบ่งช้ี ตัวช้ีวดั ๒.๑.๑ ใหข้ ้อมูลท่ีถกู ต้องและเปน็ จริง ๒.๑ ประพฤติตรงตามความเปน็ ๒.๑.๒ ปฏิบัตติ นโดยคำนึงถงึ ความถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ต่อการกระทำ จริงต่อตนเองทงั้ ทางกาย ผิด วาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏิบตั ติ ามคำมัน่ สัญญา ๒.๒ ประพฤติตรงตามความเป็น ๒.๒.๑ ไมถ่ อื เอาสงิ่ ของหรอื ผลงานของผู้อนื่ มาเป็นของตนเอง จริงตอ่ ผู้อนื่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ ๒.๒.๒ ปฏิบัติตนตอ่ ผู้อืน่ ด้วยความซ่อื ตรง ๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางทีไ่ ม่ถกู ต้อง เกณฑ์การให้คะแนน (ใชข้ ้อมูลจากการสงั เกตตามสภาพจรงิ ของครูผ้สู อน) พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ตามข้อ ๒.๑ – ๒.๒ ไมใ่ หข้ ้อมูลท่ถี กู ตอ้ ง ใหข้ ้อมลู ท่ีถูกตอ้ ง ให้ข้อมูลท่ถี ูกตอ้ ง ใหข้ ้อมูลท่ถี ูกตอ้ งและ เปน็ จริง และเปน็ จริง และเปน็ จรงิ และเปน็ จรงิ ไม่นำส่งิ ของและผลงาน ของผู้อื่นมาเป็นของ มพี ฤติกรรมนำ ไม่นำส่งิ ของและ ไม่นำสิ่งของและ ตนเอง ปฏิบัตติ นต่อผอู้ ่นื ด้วยความซื่อตรง เปน็ สงิ่ ของและผลงาน ผลงานของผู้อ่นื มา ผลงานของผู้อ่ืนมา แบบอย่างท่ดี ีดา้ นความ ซือ่ สัตย์ ของผู้อนื่ มาเปน็ ของ เปน็ ของตนเอง เปน็ ของตนเอง ตนเอง ปฏิบัติตนต่อผอู้ ื่น ดว้ ยความซ่ือตรง แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๒ หมายเหตุ ข้อมูลน้ไี ด้รบั จากงานกิจการนักเรยี น (สมุดบนั ทกึ การทำความดีของนกั เรียน,สมุดบนั ทึกความดีของ โรงเรยี น) ข้อท่ี ๓ มีวนิ ัย นยิ าม มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับของ ครอบครวั โรงเรียน และสังคม ผู้มีวินัย คือ ผู้ที่ปฏิบัติตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และ สังคมเปน็ ปกติวิสยั ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของผูอ้ ่นื ตวั ช้ีวัดและพฤตกิ รรมบ่งช้ี พฤติกรรมบ่งชี้ ตัวชี้วัด ๓.๑.๑ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง โรงเรยี น และสังคม ไมล่ ะเมิดสิทธิของผ้อู ื่น กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของ ๓.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน และ ครอบครัว โรงเรียน และสงั คม รบั ผดิ ชอบในการทำงาน เกณฑ์การให้คะแนน (ใชข้ อ้ มูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครผู สู้ อน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยีย่ ม (๓) ตามข้อ ๓.๑ ไม่ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏิบตั ติ นตาม - ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ระเบียบ ข้อบังคบั ระเบียบ ข้อบังคบั ระเบียบ ข้อบังคบั ขอ้ บงั คบั ของโรงเรียน ของโรงเรียน และ ของโรงเรียน ตรง ของ ตรงต่อเวลา และ ไม่ละเมดิ สิทธิของ ต่อเวลาในการ ในการปฏบิ ัติ ผ้อู นื่ ปฏบิ ัติกิจกรรม กิจกรรมและ - ตรงต่อเวลาในการ รบั ผดิ ชอบในการ ปฏิบตั กิ ิจกรรมและ ทำงาน รบั ผดิ ชอบในการทำงาน หมายเหตุ ข้อมูลน้ไี ดร้ บั จากงานกิจการนักเรยี น (กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของโรงเรียน,แบบบนั ทกึ การสอน, แบบบันทกึ กจิ กรรมโฮมรูม, แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๓ ขอ้ ท่ี ๔ ใฝเ่ รียนรู้ นิยาม ใฝ่เรยี นรู้ หมายถึง คุณลกั ษณะท่ีแสดงออกถงึ ความต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้จาก แหล่งเรยี นรทู้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใช้สื่อ อย่างเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั ได้ ตวั ชี้วัดและพฤตกิ รรมบ่งช้ี ตัวช้ีวดั พฤติกรรมบ่งช้ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการ ๔.๑.๑ ตัง้ ใจเรียน เรยี น และเข้าร่วมกจิ กรรมการ ๔.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้ เรยี นรู้ ๔.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่างๆ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหลง่ ๔.๒.๑ ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้จากหนงั สอื เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สอื่ เทคโนโลยี เรียนรตู้ า่ งๆ ทงั้ ภายในและภายนอก ตา่ งๆ แหล่งเรียนรทู้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สื่อได้อยา่ ง โรงเรียน ดว้ ยการเลือกใช้ส่ืออย่าง เหมาะสม เหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ๔.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากส่งิ ที่เรียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ แลกเปล่ียน ๔.๒.๓ แลกเปล่ยี นเรยี นรูด้ ว้ ยวิธกี ารต่างๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั เรียนรู้ และนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวันได้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใชข้ อ้ มูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ูส้ อน) พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเย่ียม (๓) ตามข้อ ๔.๑ – ๔.๒ ไม่ตงั้ ใจเรยี น เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ ไม่ศึกษาค้นคว้าหา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจ ต้งั ใจเรยี น เอาใจ เรียน เอาใจใส่ในการ ความรู้ ใส่ในการเรยี น ใส่ในการเรยี น เรยี น และมสี ่วนรว่ มใน และมสี ว่ นรว่ มใน และมสี ว่ นรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม การเรยี นรู้ และเข้า การเรยี นรู้ และเข้า กิจกรรมการเรยี นรูต้ ่างๆ รว่ มกจิ กรรมการ ร่วมกิจกรรมการ ทัง้ ภายในและภายนอก เรยี นรูต้ า่ งๆ เปน็ เรียนรตู้ า่ งๆ โรงเรียนเปน็ ประจำ บางครัง้ บ่อยคร้ัง หมายเหตุ ข้อมูลนไี้ ดร้ ับจากแผนการจัดการเรยี นรู้,บันทึกหลงั สอน,แบบสังเกตพฤติกรรม แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๔ ขอ้ ท่ี ๕ อยู่อยา่ งพอเพียง นยิ าม อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม มีภูมิคุม้ กันในตวั ทีด่ ี และปรับตัวเพอ่ื อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ผู้ที่อยู่อย่างพอเพียง คือ ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับ ผู้อ่นื ด้วยความรับผิดชอบ ไม่เบยี ดเบยี นผูอ้ ่ืน เหน็ คุณค่าของทรัพยากรต่างๆ มกี ารวางแผนป้องกนั ความเส่ียง และ พรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลง ตัวชี้วัดและพฤตกิ รรมบ่งชี้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ตัวชว้ี ดั ๕.๑.๑ ใช้ทรพั ย์สินของตนเอง เชน่ เงนิ ส่งิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอยา่ งพอประมาณ ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี รวมทง้ั การใช้เวลาอย่างเหมาะสม มีเหตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม ๕.๑.๒ ใช้ทรพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดแู ล อย่างดี ๕.๒ มภี ูมิคมุ้ กนั ในตวั ท่ีดี ปรับตัว ๕.๑.๓ ปฏิบัตติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล เพอ่ื อยใู่ นสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสุข ๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผอู้ ื่น และไม่ทำใหผ้ ู้อ่ืนเดอื ดร้อน พร้อมให้อภยั เมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด ๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงาน และการใชช้ วี ติ ประจำวันบนพน้ื ฐานของ ความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร ๕.๒.๒ รู้เทา่ ทันการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม ยอมรับและ ปรับตัวเพอ่ื อยรู่ ว่ มกบั ผู้อืน่ ได้อยา่ งมีความสขุ เกณฑ์การให้คะแนน (ใช้ขอ้ มูลจากการสังเกตตามสภาพจรงิ ของครูผสู้ อน) พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยยี่ ม (๓) ตามข้อ ๕.๑ – ๕.๒ ใช้เงนิ และของใช้ ใชท้ รพั ยส์ นิ ของ ใช้ทรพั ยส์ ินของ ใช้ทรัพยส์ ินของตนเอง สว่ นตัวและ ตนเองและ ตนเองและ และทรัพยากรของ ส่วนรวมอยา่ งไม่ ทรัพยากรของ ทรพั ยากรของ สว่ นรวมอย่างประหยดั ประหยัด ส่วนรวมอยา่ ง สว่ นรวมอย่าง ค้มุ ค่า เก็บรกั ษาดูแล ไม่มีการวาง ประหยัด คุ้มค่า ประหยดั ค้มุ ค่า อย่างดี ไมเ่ อาเปรียบ แผนการเรียนและ เก็บรกั ษาดูแล เกบ็ รกั ษาดแู ล ผู้อ่ืน และไมท่ ำให้ผู้อ่ืน การใช้ อย่างดี อยา่ งดี ไม่เอา เดอื ดร้อน ชีวติ ประจำวนั เปรยี บผอู้ ืน่ ใช้ความรูข้ อ้ มลู ข่าวสาร ใชค้ วามรขู้ อ้ มลู ในการ วางแผนการเรยี น ขา่ วสารในการ วาง การทำงาน และใช้ใน ชวี ติ ประจำวัน แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การพูดในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๕ พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเย่ยี ม (๓) แผนการเรียน และ การทำงาน หมายเหตุ ข้อมูลน้ีไดร้ บั จากงานกจิ การนักเรยี น แบบเยยี่ มบา้ น,แบบบนั ทกึ การออม,แผนการจัดการเรียนรู้,ชุมนมุ รกั การออม ขอ้ ท่ี ๖ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน นยิ าม มุ่งมั่นในการทำงาน หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความตั้งใจ และรับผิดชอบในการทำหน้าที่ การงานดว้ ยความเพียรพยายาม อดทน เพอ่ื ให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย ผู้ที่มุ่งม่ันในการทำงาน คือ ผ้ทู ีม่ ลี ักษณะซง่ึ แสดงออกถงึ ความตงั้ ใจปฏิบัติหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมายด้วย ความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่กำหนด ดว้ ยความรบั ผิดชอบ และมีความภาคภมู ิใจในผลงาน ตัวชีว้ ัดและพฤติกรรมบง่ ช้ี ตวั ชวี้ ดั พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการ ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ตั ิหน้าที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ปฏิบตั ิหนา้ ที่การงาน ๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานใหแ้ ล้วเสรจ็ ๖.๑.๓ ปรบั ปรุงและพฒั นาการทำงานดว้ ยตนเอง ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียรพยายาม ๖.๒.๑ ทมุ่ เททำงาน อดทน ไมย่ อ่ ท้อต่อปัญหาและอปุ สรรคในการทำงาน และอดทนเพ่ือใหง้ านสำเรจ็ ตาม ๖.๒.๒ พยายามแก้ปญั หาและอุปสรรคในการทำงานให้แล้วเสร็จ เป้าหมาย ๖.๒.๓ ชื่นชมผลงานดว้ ยความภาคภมู ิใจ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใชข้ ้อมูลจากการสงั เกตตามสภาพจรงิ ของครผู สู้ อน) พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) ตามข้อ ๖.๑ – ๖.๒ ไมต่ ั้งใจปฏบิ ัติ ตัง้ ใจและ ต้งั ใจและ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบใน หนา้ ทก่ี ารงาน รับผดิ ชอบในการ รบั ผดิ ชอบในการ การปฏบิ ตั ิหน้าท่ที ่ีได้รบั ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ท่ี ปฏบิ ตั ิหน้าที่ท่ี มอบหมายให้สำเรจ็ มี ไดร้ บั มอบหมายให้ ไดร้ บั มอบหมายให้ การปรับปรุงและ สำเร็จ สำเร็จ มกี าร พฒั นาการทำงานใหด้ ีข้นึ ปรับปรุงและ ภายในเวลาท่กี ำหนด พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้น หมายเหตุ ข้อมลู นไี้ ดร้ บั จากแผนการจัดการเรยี นรู้,แบบสังเกตพฤติกรรม,สอบถาม แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๖ ขอ้ ที่ ๗ รกั ความเป็นไทย นิยาม รักความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ร่วมอนุรักษ์สืบทอด ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม ผู้ที่รักความเป็นไทย คือ ผู้ที่มีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ใช้ภาษาไทยใน การส่อื สารอยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ตัวช้วี ัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตวั ชี้วดั พฤติกรรมบ่งชี้ ๗.๑ ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียม ๗.๑.๑ แตง่ กายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มสี ัมมาคารวะ กตญั ญูกตเวที ประเพณี ศลิ ปะ วัฒนธรรมไทย ตอ่ ผู้มพี ระคุณ และมีความกตญั ญูกตเวที ๗.๑.๒ รว่ มกิจกรรมที่เกี่ยวขอ้ งกับประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรมไทย ๗.๑.๓ ชกั ชวน แนะนำใหผ้ ู้อ่ืนปฏิบตั ติ ามขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและ วัฒนธรรมไทย ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยใน ๗.๒.๑ ใชภ้ าษาไทยและเลขไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม การสอื่ สารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๗.๒.๒ ชกั ชวน แนะนำให้ผอู้ ่ืนเหน็ คณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทยท่ีถูกตอ้ ง ๗.๓ อนรุ ักษแ์ ละสบื ทอดภมู ิปัญญา ๗.๓.๑ นำภูมิปัญญาไทยมาใช้ใหเ้ หมาะสมในวถิ ชี ีวิต ไทย ๗.๓.๒ รว่ มกิจกรรมทเี่ กี่ยวขอ้ งกับภมู ปิ ญั ญาไทย ๗.๓.๓ แนะนำ มสี ว่ นร่วมในการสืบทอดภมู ิปัญญาไทย เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใช้ขอ้ มลู จากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู สู้ อน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเย่ียม (๓) ตามข้อ ๗.๑ – ๗.๓ ไม่มสี ัมมาคารวะตอ่ มสี ัมมาคารวะตอ่ มสี มั มาคารวะตอ่ มสี มั มาคารวะ ต่อครู อาจารย์ ปฏบิ ัติตนเปน็ ครูอาจารย์ ครอู าจารย์ ครอู าจารย์ ผูม้ มี ารยาทแบบไทย ใชภ้ าษาไทย เลขไทยใน ใช้ภาษาไทย เลข ปฏบิ ัติตนเป็นผู้มี การส่ือสารได้ถกู ต้อง เข้าร่วมกจิ กรรมที่ ไทยในการสื่อสาร มารยาทแบบไทย เกี่ยวขอ้ งกับ ภูมิปัญญาไทย ไดถ้ ูกต้อง ใช้ภาษาไทย เลข และมีส่วนรว่ มในการสืบ ทอดภูมิปญั ญาไทย ไทยในการสือ่ สาร ได้ถูกตอ้ ง เข้ารว่ มกจิ กรรมที่ เกยี่ วขอ้ งกับ ภมู ปิ ัญญาไทย แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๗ หมายเหตุ ข้อมลู นีไ้ ด้รับจากงานกิจกรรมที่เก่ยี วกับประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรมไทย,แหลง่ เรียนรูภ้ มู ิปญั ญา ไทย,แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ข้อท่ี ๘ มีจิตสาธารณะ นยิ าม มีจิตสาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ ก่อให้เกิดประโยชนแ์ ก่ผูอ้ นื่ ชมุ ชน และสงั คม ดว้ ยความเต็มใจ กระตือรือร้น โดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้ที่มีจิตสาธารณะ คือ ผู้ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันความสุขส่วนตนเพื่อทำ ประโยชน์แก่ส่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยแรงกาย สตปิ ัญญา ลงมือปฏบิ ตั เิ พื่อแกป้ ญั หา หรอื ร่วมสร้างสรรค์สิ่งทีด่ งี ามให้เกิดในชุมชน โดยไม่หวงั ส่ิงตอบแทน ตัวชว้ี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้ ตวั ชีว้ ัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๘.๑ ชว่ ยเหลือผอู้ ่ืนดว้ ยความเตม็ ใจ ๘.๑.๑ ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครูทำงานด้วยความเต็มใจ และพงึ พอใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน ๘.๑.๒ อาสาทำงานให้ผู้อนื่ ดว้ ยกำลังกาย กำลังใจ และกำลังสตปิ ัญญาโดยไม่ หวงั ผลตอบแทน ๘.๑.๓ แบ่งปันส่งิ ของ ทรพั ย์สนิ และอ่ืนๆ และช่วยแกป้ ญั หาหรือสร้าง ความสุขใหก้ บั ผู้อ่นื ๘.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ป็น ๘.๒.๑ ดูแล รักษาสาธารณสมบตั ิและสงิ่ แวดล้อมด้วยความเตม็ ใจ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และ ๘.๒.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม สงั คม ๘.๒.๓ เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพื่อแก้ปญั หาหรือร่วมสร้างส่งิ ที่ดงี ามของสว่ นรวม ตามสถานการณ์ที่เกิดข้ึนดว้ ยความกระตอื รือรน้ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใชข้ ้อมลู การเขา้ รว่ มกิจกรรมการดูแลเขตพื้นทข่ี องนักเรียนเปน็ เกณฑ์พจิ ารณา) พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ตามข้อ ๘.๑ – ๘.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมการดูแล การดูแลรกั ษา การดูแลรกั ษา การดูแลรกั ษา รักษาเขตพ้นื ที่ที่ตน เขตพ้ืนที่ ทตี่ น เขตพน้ื ทท่ี ต่ี น เขตพนื้ ที่ท่ตี น รับผดิ ชอบ รอ้ ยละ ๘๐ รบั ผิดชอบ ตำ่ กวา่ รบั ผดิ ชอบ รอ้ ยละ รบั ผิดชอบ ร้อยละ ข้นึ ไป ร้อยละ ๕๐ ๕๐ - ๕๙ ๖๐ - ๗๙ หมายเหตุ ข้อมูลนไ้ี ดร้ บั จากงานดูแลเขตพืน้ ที่ของโรงเรียน (กล่มุ บริหารทั่วไป) ,แบบบันทึกการทำจิตสารธารณะ แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
สรปุ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๕๘ หมายเหตุ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ........... ปีการศกึ ษา .............. จำนวนนักเรยี น ผลการประเมนิ คุณลักษะอนั พึงประสงค์ (คน) ดีเยย่ี ม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน (๓) (๒) (๑) (๐) ลงชอ่ื .................................................................. ผู้รายงาน (................................................................) ครูทปี่ รึกษา .................../ .................../ ................... ลงช่อื .................................................................. ผูร้ ายงาน (................................................................) ครทู ่ีปรึกษา .................../ .................../ ................... แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๕๙ แบบสรุปผลการประเมนิ คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ......... ปกี ารศึกษา .............. ที่ ชอื่ - สกุล ผลการประเมนิ รายขอ้ (ระดบั คุณภาพ) คะแนนรวม สรปุ ผลการ ๑ ๒๓๔๕๖๗๘ ประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๐ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ช่ือ – สกุล ............................................................................................................................. .. เลขที่ ................... ภาคเรียนที.่ ....... ภาคเรยี นท.ี่ ....... คณุ ลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละตัวชี้วดั ดีเยี่ยม ดี ่ผาน ไ ่มผ่าน ีดเย่ียม ดี ผ่าน ไ ่มผ่าน ๓๒๑๐๓๒๑๐ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๑.๑ ชอบเขา้ รว่ มกจิ กรรมแสดงความรกั ชาติ เช่น เชญิ ธง ยนื ตรงเคารพ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ธงชาติ ร้องเพลงชาติ รกั ษาชื่อเสยี งและหวงแหนสมบัติของชาติ ๑.๒ ชอบเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนา และปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมของ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ศาสนา เช่น รักษาศีล ปฏบิ ตั ธิ รรม ๑.๓ ชอบเข้ารว่ มกจิ กรรมเพื่อแสดงความจงรกั ภักดตี อ่ พระมหากษตั ริย์ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรปุ การรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๒. ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต ๒.๑ ให้ข้อมลู ท่ถี ูกต้องและเป็นจรงิ ไมโ่ กหก ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๒.๒ ไม่ถอื เอาสงิ่ ของหรือผลงานของผอู้ น่ื มาเปน็ ของตนเองไม่ลกั ขโมย ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๒.๓ ไมห่ าผลประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ถูกต้อง ไม่คดโกง ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป ความซอ่ื สัตยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ัย ๓.๑ ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลง กฎระเบยี บของครอบครวั โรงเรียนและสังคม ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๓.๒ ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรยี น การปฏบิ ตั งิ าน ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๓.๓ ปฏบิ ัติตนในกิจวัตรประจำวันโดยไมล่ ะเมดิ สทิ ธผิ อู้ ืน่ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรปุ ความมีวินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนสนใจเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๔.๒ แสวงหา ศกึ ษา คน้ ควา้ ความรู้จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๔.๓ บันทึกความรวู้ เิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป การใฝเ่ รียนรู้ ๕. อยอู่ ย่างพอเพียง ๕.๑ ใช้ทรัพย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... รวมทัง้ ใช้เวลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ปฏิบัตติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบมเี หตุผล ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... 5.3 วางแผนการเรยี นการทำงานบนพนื้ ฐานของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... มีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท่ีดี สรุป การอยู่อยา่ งพอเพียง แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๑ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ชือ่ – สกุล ............................................................................................................................. .. เลขท่ี ................... ภาคเรยี นท่ี........ ภาคเรยี นท่ี........ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และตวั ช้วี ัด ดีเ ่ียยม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน ดีเ ่ียยม ดี ผ่าน ไ ่มผ่าน ๓๒๑๐๓๒๑๐ ๖. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ๖.๑ ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๖.๒ ทุ่มเททำงาน อดทนไมย่ อ่ ทอ้ ต่อปญั หาและอปุ สรรค ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๖.๓ ปรบั ปรุงพฒั นาการทำงานและผลงานดว้ ยตนเอง ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป ความมุง่ ม่ันในการทำงาน ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ ปฏบิ ตั ิตามขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย ...... ...... ...... ...... ๗.๒ ใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการส่อื สารได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ...... ...... ...... ...... ๗.๓ ร่วมกิจกรรมที่เก่ียวข้องกบั ภมู ิปัญญาไทย นำมาใชใ้ หเ้ หมาะสมใน ...... ...... ...... ...... วถิ ีชีวติ สรปุ รกั ความเป็นไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ ช่วยเหลือผ้อู ่ืน แบ่งปนั สง่ิ ของ อาสาทำงานให้ดว้ ยความเต็มใจ ไม่ ...... ...... ...... ...... หวังผลตอบแทน ๘.๒ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม ...... ...... ...... ...... ๘.๓ ดูแลรกั ษาสาธารณสมบตั แิ ละสิ่งแวดลอ้ มด้วย ความเต็มใจ ...... ...... ...... ...... สรปุ การมจี ติ สาธารณะ สรุปคะแนนรวม ระดบั คุณภาพ ลงชื่อ .................................................. ผปู้ ระเมิน แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๒ เกณฑ์การให้คะแนน - การให้ และกรอกคะแนนคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องแตล่ ะขอ้ ตามตวั ชี้วดั ใหก้ รอกเป็นตัวเลข ระดบั ๐, ๑, ๒ และ ๒ ซึ่ง ตวั เลขมคี วามหมาย ดงั นี้ ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ระดบั ดเี ยี่ยม ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง ระดบั ดี ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ระดบั ผา่ น ระดบั คณุ ภาพ ๐ หมายถงึ ระดบั ไมผ่ า่ น คะแนนสรปุ แต่ละข้อคณุ ลักษณะฯ ๘ – ๙ คะแนน อย่ใู นเกณฑ์ ระดับ ๓ ๖ – ๗ คะแนน อยใู่ นเกณฑ์ ระดบั ๒ ตำ่ กวา่ ๕ คะแนน อยใู่ นเกณฑ์ ระดบั ๑ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ระดบั คณุ ภาพ) คะแนน ๒๐ - ๒๔ หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (๓) ระดับคณุ ภาพ ดี (๒) คะแนน ๑๒ - ๑๙ หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ผ่าน (๑) ระดับคุณภาพ ไมผ่ า่ น (๐) คะแนน ๘ - ๑๑ หมายถึง คะแนน ๐ - ๗ หมายถงึ แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การพูดในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๓ เกณฑก์ ารประเมินทักษะทางภาษาด้านการพูด แบบบนั ทึกการประเมนิ การพูด ประเด็น/คะแนน ความ ความ การแสดงทา่ ทาง/น้ำเสียง รวม เลขที่ ถกู ต้อง คลอ่ งแคลว่ ประกอบการพดู คะแนน ชอื่ -สกุล ๘๘ ๔ ๒๐ ลงช่ือ.................................................................. ผู้ประเมิน (................................................................) .................../ .................../ ................... เกณฑ์การให้คะแนนการพูด แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๔ ประเด็นการ เกณฑก์ ารให้คะแนน น้ำหนกั / คะแนน ประเมนิ ๔ ๓๒ ๑ ความสำคญั รวม ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ ออกเสยี งคำ/ และประโยคได้ และประโยคได้ และประโยคได้ ประโยคผิด ถกู ต้องตาม ถกู ต้องตาม ถูกต้องเป็นส่วน หลกั การออกเสียง ความถูกต้อง หลักการออก หลกั การออกเสยี ง ใหญ่ขาดการออก ทำใหส้ ่ือสารไมไ่ ด้ ๒ ๘ เสียง ออกเสยี ง มเี สียงเนน้ หนกั ใน เสยี งเน้นหนกั เน้นหนักในคำ/ คำ/ประโยคเปน็ ประโยคอยา่ ง ส่วนใหญ่ สมบรู ณ์ พดู ต่อเน่ืองไม่ พดู ตะกุกตะกกั บ้าง พดู เป็นคำ ๆ หยดุ พูดได้บางคำทำให้ แต่ยังพอสอ่ื สารได้ เป็นช่วง ๆ เพ่ือทำ สือ่ ความหมาย ความ ตดิ ขัด พูดชัดเจน ไม่ได้ ๒ ๘ ใหส้ อื่ สารไม่ได้ ๑ ๔ คลอ่ งแคลว่ ทำให้สอื่ สารได้ ชดั เจน พูดไดน้ ้อยมาก การแสดง แสดงทา่ ทางและ พดู ด้วยนำ้ เสยี ง พูดเหมือนการอ่าน ท่าทาง/ พูดดว้ ยนำ้ เสยี ง เหมาะสมกบั การ ไมเ่ ปน็ ธรรมชาติ นำ้ เสยี ง เหมาะสมกับบท พดู แต่ไมม่ ีท่าทาง ขาดความน่าสนใจ ประกอบการ การพดู ประกอบการพูด พดู แบบประเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๕ จดั ทำโดย นายธนากร เหขุนทด ข้อ รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ ๕๔๓๒๑ ๑ หนว่ ยการเรียนรูม้ คี วามสมบรู ณ์ เหมาะสมและมรี ายละเอยี ดท่สี อดคล้องสัมพนั ธ์กนั ๒ แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคล้องสัมพันธก์ ับหนว่ ยการเรียนรู้ทก่ี ำหนดไว้ ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้มีองคป์ ระกอบสำคัญครบถ้วนรอ้ ยรดั สัมพนั ธ์กัน ๔ การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกตอ้ ง ๕ จุดประสงค์การเรยี นร้สู ตู่ วั ชว้ี ัดมคี วามชดั เจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ ๖ จุดประสงค์การเรยี นรพู้ ัฒนานักเรยี นด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ ๗ จุดประสงค์การเรยี นรู้เรยี งลำดับพฤติกรรมจากง่ายไปยาก ๘ กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกับคาบและเวลา ๙ กจิ กรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหาสาระ ๑๐ กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์และระดับช้ันของนกั เรยี น ๑๑ กจิ กรรมการเรียนร้มู ีความหลากหลายและสามารถปฏิบตั ิไดจ้ รงิ ๑๒ กิจกรรมการเรยี นรเู้ ปน็ กิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น ๑๓ กจิ กรรมเนน้ ให้นักเรียนเรยี นรู้จากการปฏิบัติจรงิ ๑๔ กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านิยมทด่ี ีงาม ๑๕ วัสดุอปุ กรณ์ ส่อื และแหล่งเรียนรู้มคี วามหลากหลาย ๑๖ วัสดอุ ุปกรณ์ สอื่ และแหล่งเรียนรเู้ หมาะสมกบั เนอ้ื หาสาระ ๑๗ นกั เรียนไดใ้ ช้สื่อและแหลง่ เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ๑๘ นกั เรียนทำชิ้นงานที่ได้ใชค้ วามรู้ ความคดิ มากกวา่ การทำตามทคี่ รูกำหนดหรอื การทำแบบฝึกหดั ท่วั ไป ๑๙ มกี ารวัดและประเมินผลท่สี อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒๐ นักเรยี นได้มีสว่ นรว่ มในการวัดและประเมินผล ระดบั คุณภาพของผลงาน ๕ หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดีมาก ๔ หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดี ๓ หมายถึง คุณภาพในระดับพอใช้ ๒ หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดีควรปรบั ปรุง ๑ หมายถึง คุณภาพในระดบั ท่ีไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรปุ การจัดทำแผนการจดั การเรยี นรูน้ ้ี (สรุปจากระดบั คณุ ภาพจาก MODE) อยู่ในระดบั คณุ ภาพ.................... ลงช่ือ.........................................รองผู้อำนวยการฝา่ ยบริหารงานวิชาการ (..................................) ............./...................../……… แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๖ ใบความรู้ เรอื่ ง การพดู ในโอกาสต่างๆ (การพดู อวยพร) หนว่ ยที่ ๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่อื ง การพูดสรปุ ใจความสำคญั จากเรื่องที่ฟังและดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ การพดู อวยพร การกลา่ วอวยพร เป็นการแสดงความยนิ ดใี นโอกาสตา่ งๆ เชน่ งานวนั เกดิ งานมงคลสมรส งานขน้ึ บ้าน ใหม่ งานปใี หม่ งานฉลองการเลอ่ื นยศ มีหลกั การพูดดังนี้ ๑. กลา่ วแสดงความยนิ ดีท่ไี ด้รับเกยี รตใิ หข้ ้นึ มากล่าวอวยพร ๒. กลา่ วถงึ ความสัมพนั ธข์ องผ้พู ดู ตอ่ เจ้าภาพ ๓. กลา่ วถงึ คุณความดีและเกียรติคุณหรือผลงานเด่นๆ ของเจ้าภาพ ๔. กล่าวอวยพรขอให้เจ้าภาพมอี ายยุ นื ยาวนานมีความสขุ ความเจริญกา้ วหนา้ ยง่ิ ๆ ข้นึ ไป ตวั อยา่ ง การอวยพรวันคลา้ ยวนั เกดิ “สวัสดีคะ่ ท่านผู้มเี กยี รติทุกท่าน ดิฉันรู้สึกยินดเี ป็นอย่างยิ่งท่ีได้รบั เกียรตมิ ากล่าวอวยพรคุณยาใจ แม้ว่า คุณยาใจจะมอี ายุครบ ๕๐ ปีบริบูรณแ์ ลว้ แต่ความขยันของท่านมิไดล้ ดลง สุขภาพของท่านก็ยงั แข็งแรงยังสามารถ ทำงานร่วมกับดิฉันได้อีกนาน คุณยาใจเป็นคนที่ทำงานได้ดีมาก มนุษยสัมพันธ์ดีเป็นเลิศไม่เลือกที่รกั มักที่ชงั และ ในโอกาสนี้ดิฉันขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงปกปั กคุ้มครองให้คุณยาใจปราศจาก โรคภัยทง้ั ปวงมีความกา้ วหน้าในการทำงาน มีอายุยนื ยายตลอดไปเทอญ สวสั ดีคะ่ ” การกล่าวตอบคำอวยพร มีวิธกี ารพดู ดังนี้ ๑. ขอบคุณผทู้ ี่มาร่วมงานทุกคนและซาบซ้ึงที่ได้ให้เกียรติมาในงานคร้งั นี้ และขอบคุณผู้ทีม่ ีส่วนร่วม ในการจดั งาน ๒. พดู แสดงความจรงิ ใจต่อคำอวยพรที่ได้ ๓. กล่าวขอให้รว่ มสนกุ ในงานตอ่ ไป ตัวอย่าง การตอบคำอวยพรวันคลา้ ยวนั เกดิ “กระผมขอขอบพระคุณทุกท่านทีไ่ ดใ้ ห้เกียรตมิ าร่วมงานแสดงความยนิ ดีกับกระผมในวนั นี้ พรใดทีท่ ่าน มอบใหผ้ ม ผมขอน้อมรบั ไวแ้ ละขอสญั ญาวา่ ผมจะทำตามคำแนะนำของทุกทา่ นดว้ ยครับ ถา้ มสี ่งิ ใดที่บกพรอ่ งใน งานน้ี ผมขออภยั มา ณ ทีน่ ี้ดว้ ย สวสั ดีครบั ” แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๗ ใบงาน เรอ่ื ง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคาถามจากข้อความทีเ่ หน็ ดงั ต่อไปน้ี ๑. ให้นกั เรียนยกตัวอย่างการกระทาทีไ่ มม่ ีมารยาทในการพูดมา ๕ ตวั อย่าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ใหน้ ักเรยี นจดั ทาต้นร่างเรอื่ งทจ่ี ะพูดในโอกาสต่าง ๆ ดังตอ่ ไปนี้ พูดแนะนาตนเอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… พูดกล่าวต้อนรับ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… พดู กล่าวขอบคณุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… พดู แสดงความคิดเหน็ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๘ แบบทดสอบก่อนเรยี น ๑) การกลา่ วอา้ งถึงส่งิ ศกั ด์ิสทิ ธ์กิ ่อนอวยพร เป็นการกลา่ วอวยพรให้กับบุคคลในข้อใด ก.บคุ คลที่อาวโุ สเสมอกนั ข.บุคคลท่ีอาวุโสน้อยกว่า ค.บุคคลท่ีอาวโุ สสูงกวา่ ง.บคุ คลท่วั ไป ๒) ในการกลา่ วอวยพรวนั เกดิ ไมค่ วรใช้คำในข้อใด ข. แก่ เจบ็ ตาย ก. เจรญิ วยั ง.อายุมน่ั ขวญั ยนื ค.รม่ โพธ์ิร่มไทร ๓) การพูดเพ่ือสร้างความสนิทสนม เป็นการพูดโน้มนา้ วใจโดยอาศยั แนวการปฏบิ ตั ิอยา่ งไร ก.พูดใหเ้ หตุผลดี ข.พูดดมี ีความน่าเชอื่ ถอื ค.พดู ใหม้ ีความร้สู ึกร่วมกัน ง. พดู ผูกสัมพนั ธ์หรรษา ๔) การพดู ดว้ ยวจีสุนทร เปน็ การพดู ในลกั ษณะใด ก.พดู โนม้ น้าวใจดว้ ยการใชศ้ ลิ ปะในการพดู ข.พูดโนม้ น้าวใจด้วยการขอร้องวงิ วอนใหเ้ หน็ ใจ ค.พูดโนม้ น้าวใจดว้ ยการเน้นให้ผูฟ้ งั เกดิ อารมณ์ซาบซึง้ ง.พูดโน้มน้าวใจด้วยการใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างเปรยี บเทียบ ๕) การใช้คำพูดในลกั ษณะทีเ่ ป็นเชงิ คำส่งั หรือบีบบงั คับ จะทำให้ผู้ฟงั เกิดความรู้สกึ อยา่ งไร ก. เกดิ ความรูส้ ึกกลัว ข.เกิดความร้สู กึ กงั วล ค.เกดิ ความรสู้ กึ ฮกึ เหิม ง.เกดิ ความรสู้ ึกต่อต้าน ๖) การพดู ประเภทใด จำเป็นตอ้ งใช้ศิลปะและจิตวิทยาในการพดู สงู ก.การพูดอวยพร ข.การพดู ปลุกใจ ค.การพดู โฆษณา ง.การพดู โนม้ นา้ วใจ ๗) การใชภ้ าษาแสลง หรอื ศัพทแ์ สลง นยิ มใช้ในการพดู ประเภทใด ก.การพูดอวยพร ข.การพดู ปลุกใจ ค.การพดู โฆษณา ง.การพูดโน้มนา้ วใจ ๘) ขอ้ ใดเปน็ ขั้นตอนสดุ ท้ายของการพดู รายงาน ตามรปู แบบท่ีถูกต้อง ก.บอกชือ่ เร่อื งท่ีรายงาน ข.บอกท่ีมาของการพูดรายงาน ค.บอกช่ือบุคคลที่ใหค้ วามรู้ หรือข้อมลู ง.สรปุ และแสดงความคิดเหน็ เพมิ่ เติม แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๖๙ ๙) “ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติ ถ้าคนไทยทุกคนไม่ชว่ ยอนุรักษ์ไว้ ภาษาไทยจะเปน็ เอกลกั ษณ์ของ ชาติ ต่อไปได้อย่างไร”ข้อความนี้ มีการใช้ภาษาพูดเพื่อโน้มนา้ วใจอย่างไร ก. การใช้ภาษาพดู เชงิ ขอร้อง ข. การใชภ้ าษาพูดเชงิ วิงวอน ค. การใช้ภาษาพดู เชงิ คำถาม ง.การใชภ้ าษาพูดเชิงเสนอแนะ ๑๐) “กินร้อน ช้อนกลาง ลา้ งมือ เปน็ สงิ่ ที่ทกุ คนควรถือปฏบิ ัตใิ ห้เปน็ สุขนิสัยที่ดีในการรับประทาน อาหาร” ข้อความามนี้ มีการใช้ภาษาพูดเพ่อื โนม้ น้าวใจอยา่ งไร ก.การใชภ้ าษาพูดเชิงขอรอ้ ง ข.การใช้ภาษาพูดเชิงวงิ วอน ค.การใชภ้ าษาพูดเชิงคำถาม ง.การใช้ภาษาพดู เชิงเสนอแนะ ๑๑) ขอ้ ใดเปน็ ผลดีของการ “พดู เป็น” ข.พูดแลว้ คนฟังมคี วามสขุ ก.พดู แลว้ มีคนเชื่อถือ ง.พดู แล้วสามารถพลกิ ล้นิ ได้ตามสถานการณ์ ค.พูดแลว้ ประสบความสำเรจ็ ๑๒) การพดู กบั บคุ คลในข้อใด ไมส่ มั ฤทธิผลมากท่ีสุด ข.ฟงั ความข้างเดียว ก.ฟงั หูไว้หู ง.ฟังไม่ได้ศพั ทจ์ บั ไปกระเดียด ค.เอาหไู ปนาเอาตาไปไร่ ๑๓) เหตุใดจงึ ตอ้ งทบทวนความรูค้ วามเข้าใจเรอื่ งที่ฟงั หรือดู กอ่ นสรุปใจความสำคัญ ก.เพอ่ื ให้มคี วามถูกต้อง ครบถ้วน ข.เพอ่ื ใหไ้ ด้รายละเอียดเพิม่ มากขนึ้ ค.เพอื่ ให้เลา่ เร่ืองไดต้ งั้ แตต่ น้ จนจบ ง.เพอื่ ให้ชแ้ี จงรายละเอยี ดของเรื่องได้ ๑๔) ขอ้ ใดจัดเป็นการพดู เชิงวิเคราะห์ ข.การเสนอแนะส่ิงท่เี ปน็ ประโยชน์แกผ่ ู้ฟงั ก.การบอกข้อดี ข้อเสยี ทเี่ กิดจากเรอ่ื งน้ันๆ ง.การพูดแยกแยะเรอื่ งน้นั ๆ เปน็ ประเดน็ ย่อยๆ ค.การพูดแสดงความคิดเห็นในแต่ละประเด็น ๑๕) การพดู เชิงวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ เปรียบเสมอื นการพูดในข้อใด ก.เปรียบเสมอื นการคดั แยกสิ่งตา่ งๆ ออกเปน็ กองๆ ข.เปรยี บเสมือนการคดั แยกของดี ของเสยี ให้แยกออกจากกนั ค.เปรียบเสมอื นการบรรจสุ ิ่งของตา่ งๆ ให้อยใู่ นภาชนะเดียวกนั ง.เปรียบเสมือนการรวบรวมส่ิงตา่ งๆ ใหเ้ ปน็ อันหน่งึ อันเดยี วกนั แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๗๐ ๑๖) ใครมีคุณสมบตั ิของผู้พดู ที่ดีมากที่สดุ ก.อ้อมพูดดว้ ยถ้อยคำรนุ แรง เพ่อื กระตุ้นผู้ฟังให้สนใจ ข.เอกมีความรู้ความเข้าใจเรื่องทีจ่ ะพดู อย่างชดั เจน ค.แนนพูดเกนิ เวลาทกี่ ำหนด ประมาณ 1 ชัว่ โมง ง.แพรพดู เสียงเบาไม่กล้าสบตาผ้ฟู งั ๑๗) การรจู้ กั วิเคราะหผ์ ฟู้ งั มีผลดีต่อผู้พดู อยา่ งไร ข.ทำใหส้ ามารถผูกมติ รกบั ผู้ฟังได้ดี ก.ทำใหท้ ราบพ้นื ฐานความสนใจของผู้ฟัง ง.ทำใหเ้ กิดความน่าเชอ่ื ถือ ค.ทำใหส้ ามารถชนะใจผ้ฟู ังได้ ๑๘) ข้อใด ไม่ใช่องค์ประกอบสำคัญของหลักการพูดวเิ คราะห์วิจารณ์ ก.ทราบสาเหตขุ องเรอ่ื ง ข.ทราบเนือ้ หาของเรือ่ ง ค.การให้ข้อเสนอแนะวิธีการแก้ไข ง.การยกตวั อย่างเปรยี บเทียบเรอ่ื งท่ีกลา่ วถงึ ๑๙) บคุ คลท่ีมีมารยาทท่ีดีในการพูด ควรหลกี เลยี่ งพฤติกรรมในข้อใด ก.พดู เชิงดถู ูกผู้ฟงั ข.ใชภ้ าษาเขา้ ใจงา่ ย ค.แสดงทา่ ทางเป็นกนั เองเต็มที่ ง.ออกเสยี งควบกล้ำชัดเจนทุกคำ ๒๐) ความสามารถในการพดู วเิ คราะห์วจิ ารณ์ ไม่ขึ้นอยู่กับปัจจยั ในข้อใด ก.โอกาส ข.ความรู้ ค.วฒุ ภิ าวะ ง.ประสบการณ แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การพูดในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)
๗๑ แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศกึ ษาค้นคว้า
๗๒ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ ตามสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (Covid-19) หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เร่อื ง พัฒนาการเขียน จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ เวลา เรยี น ๓ คาบ รหสั วชิ า ท ๒๒๑๐๒ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ ผ้สู อนนายธนากร เหขุนทด กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ๑. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง เห็นคณุ ค่าและนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตวั ชีว้ ดั ท ๒.๑ ม.๒/ท ๒.๑ ม.๒/๕ เขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ ท ๕.๑ ม.๒/๕ ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทรอ้ ยกรองที่มคี ณุ คา่ ตามความสนใจ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ๑. อธบิ ายหลกั การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ คว้า ๒. อธบิ ายความหมาย องค์ประกอบ การเขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้า ๓. จำแนกประเภทของรายงานได้ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) ๑. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าจากเรือ่ งที่กำหนดให้ได้ ๒. เขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ ตามหลักไดแ้ ม่นยำ ๓. บอกขอ้ บกพรอ่ งทีพ่ บบ่อยในการเขียนรายงานได้ ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) ๑. มีวนิ ยั ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ๔. สามารถทำรายงานไดถ้ ูกต้องตามข้ันตอน แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้
๗๓ ๓. สาระสำคญั การเขียน การเขียนสะกดคำตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ การเขียนเรียงความ ย่อความ เขียนรายงานจากการศึกษาค้นนคว้า เขียนตามจินตนาการ เขยี นวเิ คราะห์วิจารณ์ และเขียนเชงิ สร้างสรรค์ หลักการใช้ภาษาไทย ศึกษาธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเหมาะสม กับโอกาสและบคุ คล การแต่งบทประพันธ์กประเภทตา่ ง ๆ และอิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ข้อมูลสารสนเทศ เรื่องราว ข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดสิ่งหน่ึงที่สามารถสื่อความหมายดว้ ยการพูดบอก เล่า บันทึกเป็นเอกสาร รายงาน หนังสือ แผนที่ แผนภาพ ภาพถ่าย บันทึกด้วยภาพและเสียง บันทึกด้วยเครื่อง คอมพวิ เตอร์ เปน็ การเก็บเร่อื งราวตา่ ง ๆ บนั ทกึ ไวเ้ ป็นหลักฐานดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ ๔. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ✓ ความสามารถในการส่ือสาร ✓ ความสามารถในการคดิ ✓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ✓ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๕. สาระการเรยี นรู้ การเขียนรายงานเป็นการนำเสนอขอ้ มลู ความร้ทู ่ีไดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ โดยเรยี บเรยี งอยา่ งมรี ะบบมี หลักฐานอ้างอิงชดั เจน เพ่ือเผยแพร่ความรู้ใหน้ ่าเชอ่ื ถือและเกิดประโยชนต์ ่อผู้อา่ น ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี ๑ ขนั้ เตรียมความพร้อมในการเรยี น ครูสนทนาซักถามนักเรียน วาเพราะเหตุใดจึงตองมีการจัดทํารายงาน การศึกษาคนควา พรอมนําเขสู่ บทเรยี น ข้ันที่ ๒ ขั้นการสำรวจและค้นคว้า ๑. ใหนักเรียนศึกษาใบความรู เรื่อง การเขียนรายงานการศึกษาคนควา ในสวนของความหมาย ขั้นตอน การเขยี นรายงานการศึกษาคนควา ๒. ครูนําตัวอยางรายงานการศึกษาคนความาใหนักเรียนดูแลวใหนักเรียน ชวยกันบอกถึงองคประกอบ ของการเขียนรายงานการศึกษาคนควา โดยแบง ออกเปน ๓ สวน คือ องคประกอบตอนตน องคประกอบเนื้อเร่ือง องคประกอบ ตอนทาย ๓. ใหนักเรียนชวยกันบอกองคประกอบตอนตนในการเขียนรายงาน การศึกษาคนควา โดยประกอบไปด วย ปกนอก ปกใน คาํ นํา สารบญั (สารบัญ ตาราง สารบญั ภาพ สารบัญแผนภูมิ) พรอมครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ ๔. ครูและนักเรียนรวมกันสนทนาในเรื่องของการเลือกหัวขอเรื่องหรือ ประเด็นเพื่อเขียนรายงาน การศึกษาคนควา แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า
๗๔ ๕. ใหนกั เรียนแบงกลุม กลุมละ ๔ คน ชวยกันหาหัวขอหรอื ประเดน็ ใน การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน คว้า และนําเสนอหวั ขอในช่วั โมงเรียนถัดไป ขน้ั ที่ ๓ ข้ันการอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ ๑. นักเรยี นรวมกันสรุปความรู เร่ือง การเขียนรายงานการศึกษาคนควา ๒. ครใู ห้ความรใู้ นเรื่องของการสืบค้นข้อมลู ในการเขยี นรายงานการศึกษาค้นควา้ ขน้ั ท่ี ๔ ขัน้ การประเมนิ ผล ๑. ครู ถาม-ตอบผ้เู รียน ในเรอ่ื งท่ีเรียนมา พรอ้ มทบทวนบทเรยี น ๗. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ ๗.๑ สอื่ การเรยี นรู้ ๑. Powerpoint เรือ่ ง การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า ๒. ใบความรู้ เร่อื งการเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า ๓. ตวั อย่างการเขียนหนา้ ปกรายงาน และ คำนำ ๗.๒ แหลง่ การเรียนรู้ ๑. มลู นิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (DLTV) ๒. หนงั สอื เรยี น สาระความรูพน้ื ฐาน รายวิชา ภาษาไทย ๘. ชิน้ งาน/ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู)้ ๑. ใบงาน เร่อื งการเขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ ๒. ใบงานแบบทดสอบ ๓. แบบทดสอบก่อนนเรียน-หลังเรียน ๙. การวัดและประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล สงิ่ ที่วดั ถาม-ตอบ ในช้นั เรียน คำถามจากบทเรียน ตอบคำถามซักถามได้ ผลจากการสงั เกต ด้านความรู้ (K) แบบประเมินการเขียน พฤติกรรมการเขียนร้อย รายงาน ละ ๘๐ ข้ึนไปถือวา่ ผา่ น ด้านทักษะกระบวนการ (P) วธิ กี ารเขยี นรายงาน เกณฑ์ การศึกษาค้นคว้า แบบสังเกตคุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ผา่ น/ไมผ่ ่าน ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) การเข้าเรียนสมำ่ เสมอ แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้า
๗๕ เกณฑก์ ารประเมนิ วธิ กี าร เครื่องมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ ๑) ด้านความรู้ ใชค้ ำถาม คำถาม ตอบคำถามซักถามได้ รายการประเมิน ๑. อธบิ ายหลักการเขียน รายงานการศึกษาคน้ ควา้ ๒. อธบิ ายความหมาย องค์ประกอบ การเขียน รายงานการศึกษาคน้ ควา้ ๓. จำแนกประเภทของ รายงานได้ ๒) ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ รายการประเมิน วธิ กี าร เครือ่ งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ๑. เขียนรายงานการศึกษา แบบประเมินการเขยี น ผลจากการสังเกต ค้นควา้ จากเรื่องท่ีกำหนดให้ รายงานการศึกษาคน้ คว้า พฤติกรรมการเขียน ได้ รายงานการศึกษา ๒. เขียนรายงานการศึกษา สังเกตวธิ ีการเขียน คน้ คว้าร้อยละ ๘๐ ขน้ึ คน้ คว้าตามหลกั ได้แม่นยำ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์ ๓. บอกขอ้ บกพรอ่ งท่ีพบ บ่อยในการเขยี นรายงานได้ ๓) ด้านคณุ ลักษณะ รายการประเมนิ รายการประเมิน วิธีการ เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝ่เรยี นรู้ แบบสงั เกตคุณลักษณะอัน ได้ผลจากการสงั เกต พึงประสงค์ คุณลักษณะแต่ละขอ้ ไม่ ๓. มุง่ ม่ันในการทำงาน สังเกตคณุ ลักษณะ ต่ำกว่าระดับ ๒.๕ ๔. สามารถทำรายงานได้ ถกู ต้องตามขัน้ ตอน เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมการเรยี นโดยมีเกณฑ์การให้คะแนน ระดับ ๓๐ - ๒๒ แปลวา่ ดีเยย่ี ม ระดบั ๒๑ - ๑๓ แปลว่า ดี ระดบั ๑๒ - ๔ แปลว่า พอใช้ ระดับ ๓ แปลวา่ ควรปรบั ปรงุ แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้
๗๖ บนั ทึกผลหลงั การสอน ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .......................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................ ........................................ ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................................ ........................ .............................................................................................................. ...................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................ .................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชือ่ ..................................................ครผู ู้สอน (นายธนากร เหขนุ ทด) ตำแหน่งครู แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ คว้า
๗๗ แบบบันทกึ การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมรายบคุ คล คำชี้แจง ใหท้ ำเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งวา่ งรายการประเมินตามคณุ ภาพการปฏบิ ัติงานของนักเรยี น พฤตกิ รรม / ระดับคะแนน ที่ ชอ่ื -สกุล ความสนใจใน การมีสว่ น การตอบ การยอมรบั ทำงานตามที่ การทำ รว่ มในการ คำถาม กิจกรรม แสดงความ ฟงั ความ ได้รับ รวม คิดเหน็ คิดเห็นผ้อู ืน่ มอบหมาย ๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน ระดับ ๓ หมายถงึ มีพฤตกิ รรมระดบั ดี คะแนน ๑๓ – ๑๕ หมายถึง ดี ระดับ ๒ หมายถงึ มพี ฤตกิ รรมระดบั ปานกลาง คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ปานกลาง ระดับ ๑ หมายถงึ มีพฤติกรรมระดบั ปรับปรุง คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น ๙ คะแนน ลงช่อื ............................................................ผปู้ ระเมิน (.......................................................) วันที่...........เดอื น...............................พ.ศ.............. แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศึกษาค้นควา้
๗๘ นยิ าม ตวั ช้วี ดั พฤตกิ รรมบ่งช้ี และเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ******************* ขอ้ ท่ี ๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นิยาม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไว้ซึ่งความ เปน็ ชาติไทย ศรทั ธา ยดึ มน่ั ในศาสนา และเคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ ผู้ที่มีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความสามัคคี ปรองดอง ภูมิใจ เชิดชูความเป็นชาติไทย ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และแสดงความจงรักภักดีต่อ สถาบนั พระมหากษัตริย์ ตัวชี้วดั และพฤติกรรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบ่งช้ี ตัวช้วี ดั ๑.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบายความหมายของเพลง ๑.๑ เปน็ พลเมอื งดีของชาติ ชาตไิ ด้ถกู ตอ้ ง ๑.๑.๒ ปฏิบตั ติ นตามสิทธิและหนา้ ที่พลเมอื งดีของชาติ ๑.๒ ธำรงไวซ้ ึง่ ความเป็นชาติไทย ๑.๑.๓ มคี วามสามัคคี ปรองดอง ๑.๒.๑ เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนนุ กจิ กรรมที่สร้างความสามคั คี ปรองดอง ท่ี เปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม ๑.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่องความเปน็ ชาติไทย ตัวช้ีวดั และพฤตกิ รรมบ่งช้ี พฤติกรรมบ่งช้ี ตัวช้วี ัด ๑.๓.๑ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ ๑.๓ ศรัทธา ยดึ มัน่ และปฏบิ ตั ิตน ๑.๓.๒ ปฏบิ ัตติ นตามหลักของศาสนาทตี่ นนับถือ ตามหลกั ของศาสนา ๑.๓.๓ เป็นแบบอยา่ งทีด่ ขี องศาสนกิ ชน ๑.๔ เคารพเทดิ ทูนสถาบนั ๑.๔.๑ เข้ารว่ มและมีส่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทีเ่ กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ ๑.๔.๒ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ ๑.๔.๓ แสดงออกซงึ่ ความจงรักภกั ดตี ่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เกณฑ์การให้คะแนน (ใช้ข้อมูลการเขา้ รว่ มกจิ กรรมหนา้ เสาธงของนักเรยี นเปน็ เกณฑ์พิจารณา) พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยย่ี ม (๓) ตาม ข้อ ๑.๑ – ๑.๔ ไมเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม หน้า เสาธง หรอื หน้าเสาธงร้อยละ หน้าเสาธงรอ้ ยละ หนา้ เสาธงรอ้ ยละ ๘๐ ๕๐ - ๕๙ ๖๐ - ๗๙ ขนึ้ ไป แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้
๗๙ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓) เขา้ รว่ มกจิ กรรม ต่ำกว่าร้อยละ ๕๐ หมายเหตุ ข้อมลู น้ีไดร้ ับจากงานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน (งานบคุ คล,งานกจิ การนกั เรยี น) ข้อท่ี ๒ ซื่อสัตยส์ จุ รติ นิยาม ซื่อสัตย์สุจรติ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติตรงตามความเป็น จรงิ ต่อตนเองและผู้อื่น ท้ังทางกาย วาจา ใจ ผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต คือ ผู้ที่ประพฤติตรงตามความเป็นจริงทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความ จรงิ ความถูกต้องในการดำเนินชวี ิต มีความละอายและเกรงกลัวตอ่ การกระทำผิด ตัวชว้ี ดั และพฤตกิ รรมบ่งช้ี พฤติกรรมบ่งช้ี ตัวชวี้ ัด ๒.๑.๑ ให้ขอ้ มลู ทถ่ี ูกต้องและเปน็ จริง ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ ๒.๑.๒ ปฏิบัติตนโดยคำนงึ ถึงความถูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ต่อการกระทำ จรงิ ต่อตนเองทงั้ ทางกาย ผดิ วาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏิบตั ติ ามคำมัน่ สัญญา ๒.๒ ประพฤติตรงตามความเปน็ ๒.๒.๑ ไม่ถือเอาสง่ิ ของหรือผลงานของผู้อ่ืนมาเปน็ ของตนเอง จรงิ ตอ่ ผู้อ่ืนทั้งทางกาย วาจา ใจ ๒.๒.๒ ปฏิบตั ิตนต่อผูอ้ ่นื ดว้ ยความซือ่ ตรง ๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชน์ในทางท่ไี ม่ถูกต้อง เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใช้ขอ้ มลู จากการสงั เกตตามสภาพจรงิ ของครูผูส้ อน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ตามข้อ ๒.๑ – ๒.๒ ไมใ่ ห้ข้อมลู ทถี่ กู ตอ้ ง ให้ขอ้ มลู ท่ถี ูกตอ้ ง ให้ข้อมูลท่ีถูกต้อง ใหข้ อ้ มูลท่ถี ูกตอ้ งและ เปน็ จริง และเป็นจริง และเป็นจรงิ และเปน็ จรงิ ไม่นำสิ่งของและผลงาน ของผู้อื่นมาเป็นของ มีพฤติกรรมนำ ไม่นำส่ิงของและ ไมน่ ำสิง่ ของและ ตนเอง ปฏิบัตติ นต่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซื่อตรง เปน็ ส่ิงของและผลงาน ผลงานของผู้อน่ื มา ผลงานของผู้อน่ื มา แบบอย่างท่ดี ีดา้ นความ ซอื่ สัตย์ ของผู้อ่นื มาเปน็ ของ เป็นของตนเอง เป็นของตนเอง ตนเอง ปฏิบตั ติ นต่อผู้อืน่ ดว้ ยความซื่อตรง แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้
๘๐ หมายเหตุ ข้อมลู น้ีได้รับจากงานกิจการนักเรยี น (สมุดบนั ทึกการทำความดีของนกั เรียน,สมุดบันทกึ ความดีของ โรงเรียน) ขอ้ ที่ ๓ มวี นิ ัย นิยาม มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับของ ครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม ผู้มีวินัย คือ ผู้ที่ปฏิบัติตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และ สังคมเป็นปกตวิ ิสัย ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของผูอ้ น่ื ตัวชี้วัดและพฤติกรรมบง่ ช้ี พฤติกรรมบ่งช้ี ตัวช้วี ดั ๓.๑.๑ ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั ๓.๑ ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง โรงเรยี น และสังคม ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของผู้อ่ืน กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของ ๓.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน และ ครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม รบั ผิดชอบในการทำงาน เกณฑ์การใหค้ ะแนน (ใชข้ อ้ มูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครูผสู้ อน) พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓) ตามข้อ ๓.๑ ไมป่ ฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ัติตนตาม - ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ระเบยี บ ข้อบังคบั ระเบียบ ข้อบงั คับ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ข้อบังคับของโรงเรียน ของโรงเรยี น และ ของโรงเรียน ตรง ของ ตรงต่อเวลา และ ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิของ ต่อเวลาในการ ในการปฏิบัติ ผ้อู ่ืน ปฏิบตั กิ ิจกรรม กิจกรรมและ - ตรงต่อเวลาในการ รับผิดชอบในการ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและ ทำงาน รับผิดชอบในการทำงาน หมายเหตุ ข้อมลู นี้ได้รับจากงานกิจการนักเรยี น (กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของโรงเรียน,แบบบนั ทึกการสอน, แบบบนั ทกึ กจิ กรรมโฮมรมู , แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้
๘๑ ขอ้ ท่ี ๔ ใฝ่เรียนรู้ นิยาม ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ คณุ ลกั ษณะท่ีแสดงออกถงึ ความตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้จาก แหล่งเรยี นรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใช้สื่อ อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้ แลกเปล่ียนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ ตวั ชี้วัดและพฤตกิ รรมบง่ ช้ี ตวั ชี้วัด พฤติกรรมบ่งชี้ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการ ๔.๑.๑ ต้ังใจเรยี น เรยี น และเขา้ ร่วมกจิ กรรมการ ๔.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ เรยี นรู้ ๔.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนร้ตู า่ งๆ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหลง่ ๔.๒.๑ ศกึ ษาค้นคว้าหาความรจู้ ากหนังสือ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สอื่ เทคโนโลยี เรยี นรตู้ า่ งๆ ทั้งภายในและภายนอก ตา่ งๆ แหล่งเรยี นรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สื่อได้อยา่ ง โรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ ื่ออย่าง เหมาะสม เหมาะสม บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ๔.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบจากสิง่ ที่เรียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ แลกเปลี่ยน ๔.๒.๓ แลกเปลีย่ นเรียนรดู้ ว้ ยวิธีการต่างๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั เรยี นรู้ และนำไปใช้ใน ชีวติ ประจำวนั ได้ เกณฑ์การให้คะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครูผสู้ อน) พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเย่ียม (๓) ตามข้อ ๔.๑ – ๔.๒ ไม่ตง้ั ใจเรียน เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ ไมศ่ ึกษาค้นคว้าหา ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจ เรียน เอาใจใส่ในการ ความรู้ ใส่ในการเรียน ใส่ในการเรียน เรยี น และมสี ่วนรว่ มใน และมีส่วนร่วมใน และมสี ่วนรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้า การเรยี นรู้ และเข้า กิจกรรมการเรยี นรูต้ ่างๆ ร่วมกจิ กรรมการ รว่ มกิจกรรมการ ท้งั ภายในและภายนอก เรยี นร้ตู ่างๆ เป็น เรียนรู้ตา่ งๆ โรงเรียนเปน็ ประจำ บางครัง้ บอ่ ยครงั้ หมายเหตุ ข้อมลู นไี้ ด้รับจากแผนการจัดการเรียนร,ู้ บนั ทึกหลงั สอน,แบบสงั เกตพฤติกรรม แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้
๘๒ ขอ้ ที่ ๕ อยู่อย่างพอเพียง นิยาม อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม มีภูมคิ ุ้มกันในตวั ทดี่ ี และปรบั ตัวเพอื่ อยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ผู้ที่อยู่อย่างพอเพียง คือ ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับ ผอู้ ืน่ ดว้ ยความรับผิดชอบ ไม่เบียดเบยี นผู้อ่ืน เห็นคณุ คา่ ของทรัพยากรต่างๆ มีการวางแผนป้องกันความเส่ียง และ พรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลง ตวั ชี้วดั และพฤติกรรมบ่งชี้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ตัวชี้วดั ๕.๑.๑ ใช้ทรพั ย์สนิ ของตนเอง เช่น เงิน สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด ๕.๑ ดำเนนิ ชีวติ อยา่ งพอประมาณ คมุ้ ค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี รวมทั้งการใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม มีเหตุผล รอบคอบ มคี ุณธรรม ๕.๑.๒ ใช้ทรพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษาดแู ล อย่างดี ๕.๒ มีภูมิค้มุ กนั ในตวั ที่ดี ปรับตัว ๕.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ นและตดั สินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล เพอ่ื อยู่ในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ ๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรียบผู้อนื่ และไม่ทำใหผ้ ู้อื่นเดอื ดร้อน พร้อมใหอ้ ภัยเม่ือผู้อื่น กระทำผิดพลาด ๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวติ ประจำวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร ๕.๒.๒ ร้เู ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม ยอมรบั และ ปรับตวั เพื่ออย่รู ว่ มกบั ผู้อ่ืนได้อยา่ งมีความสุข เกณฑ์การให้คะแนน (ใชข้ อ้ มูลจากการสังเกตตามสภาพจรงิ ของครูผสู้ อน) พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ย่ียม (๓) ตามข้อ ๕.๑ – ๕.๒ ใชเ้ งินและของใช้ ใช้ทรพั ยส์ นิ ของ ใชท้ รัพยส์ นิ ของ ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง ส่วนตัวและ ตนเองและ ตนเองและ และทรัพยากรของ ส่วนรวมอย่างไม่ ทรพั ยากรของ ทรัพยากรของ สว่ นรวมอย่างประหยดั ประหยัด สว่ นรวมอยา่ ง ส่วนรวมอย่าง คุ้มคา่ เกบ็ รกั ษาดูแล ไมม่ ีการวาง ประหยดั ค้มุ คา่ ประหยัด คมุ้ คา่ อยา่ งดี ไม่เอาเปรียบ แผนการเรยี นและ เก็บรกั ษาดแู ล เกบ็ รกั ษาดูแล ผูอ้ ่นื และไม่ทำใหผ้ ู้อ่ืน การใช้ อยา่ งดี อย่างดี ไม่เอา เดอื ดร้อน ชีวติ ประจำวนั เปรยี บผ้อู ืน่ ใชค้ วามร้ขู อ้ มลู ขา่ วสาร ใชค้ วามรขู้ อ้ มูล ในการ วางแผนการเรยี น ขา่ วสารในการ วาง การทำงาน และใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศกึ ษาค้นควา้
๘๓ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเย่ยี ม (๓) แผนการเรยี น และ การทำงาน หมายเหตุ ข้อมลู นี้ไดร้ ับจากงานกจิ การนักเรียน แบบเยย่ี มบ้าน,แบบบนั ทึกการออม,แผนการจัดการเรียนรู้,ชุมนมุ รกั การออม ขอ้ ที่ ๖ มุ่งม่นั ในการทำงาน นยิ าม มุ่งมั่นในการทำงาน หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความตั้งใจ และรับผิดชอบในการทำหน้าที่ การงานด้วยความเพยี รพยายาม อดทน เพอื่ ให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย ผู้ที่มุ่งมั่นในการทำงาน คือ ผู้ท่มี ีลักษณะซ่งึ แสดงออกถงึ ความตั้งใจปฏิบตั ิหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมายด้วย ความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่กำหนด ดว้ ยความรับผิดชอบ และมีความภาคภูมิใจในผลงาน ตัวช้วี ดั และพฤติกรรมบง่ ช้ี ตัวชี้วดั พฤติกรรมบ่งช้ี ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในการ ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ อ่ การปฏิบตั ิหน้าที่ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ปฏบิ ัตหิ น้าท่กี ารงาน ๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหแ้ ล้วเสร็จ ๖.๑.๓ ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานด้วยตนเอง ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม ๖.๒.๑ ทมุ่ เททำงาน อดทน ไมย่ ่อท้อต่อปญั หาและอุปสรรคในการทำงาน และอดทนเพื่อใหง้ านสำเร็จตาม ๖.๒.๒ พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้แล้วเสร็จ เป้าหมาย ๖.๒.๓ ชน่ื ชมผลงานด้วยความภาคภูมใิ จ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใช้ข้อมลู จากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผสู้ อน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) ตามข้อ ๖.๑ – ๖.๒ ไมต่ ัง้ ใจปฏิบัติ ตั้งใจและ ต้งั ใจและ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบใน หนา้ ทก่ี ารงาน รับผดิ ชอบในการ รบั ผดิ ชอบในการ การปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ที ่ีได้รบั ปฏิบตั หิ น้าทท่ี ่ี ปฏิบัติหนา้ ท่ีที่ มอบหมายให้สำเรจ็ มี ได้รบั มอบหมายให้ ไดร้ บั มอบหมายให้ การปรบั ปรุงและ สำเร็จ สำเรจ็ มกี าร พฒั นาการทำงานใหด้ ีข้นึ ปรับปรงุ และ ภายในเวลาทกี่ ำหนด พฒั นาการทำงาน ใหด้ ขี ้นึ หมายเหตุ ข้อมูลนี้ไดร้ ับจากแผนการจัดการเรียนรู้,แบบสังเกตพฤติกรรม,สอบถาม แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้
๘๔ ขอ้ ที่ ๗ รกั ความเปน็ ไทย นิยาม รักความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ร่วมอนุรักษ์สืบทอด ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม ผู้ที่รักความเป็นไทย คือ ผู้ที่มีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ใช้ภาษาไทยใน การสือ่ สารอย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ตัวชว้ี ัดและพฤติกรรมบง่ ชี้ ตัวช้วี ดั พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๗.๑ ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี ม ๗.๑.๑ แตง่ กายและมมี ารยาทงดงามแบบไทย มสี มั มาคารวะ กตญั ญูกตเวที ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ตอ่ ผมู้ ีพระคุณ และมีความกตัญญกู ตเวที ๗.๑.๒ รว่ มกิจกรรมทเ่ี ก่ียวข้องกบั ประเพณี ศลิ ปะ และวฒั นธรรมไทย ๗.๑.๓ ชักชวน แนะนำใหผ้ ู้อ่ืนปฏบิ ตั ิตามขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะและ วัฒนธรรมไทย ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยใน ๗.๒.๑ ใชภ้ าษาไทยและเลขไทยในการส่ือสารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม การสอื่ สารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๗.๒.๒ ชกั ชวน แนะนำให้ผูอ้ ่ืนเห็นคุณค่าของการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง ๗.๓ อนรุ กั ษแ์ ละสืบทอดภูมปิ ัญญา ๗.๓.๑ นำภูมิปญั ญาไทยมาใช้ให้เหมาะสมในวถิ ีชีวติ ไทย ๗.๓.๒ รว่ มกจิ กรรมท่เี กยี่ วขอ้ งกับภมู ิปญั ญาไทย ๗.๓.๓ แนะนำ มีสว่ นรว่ มในการสืบทอดภมู ปิ ญั ญาไทย เกณฑ์การให้คะแนน (ใชข้ ้อมลู จากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผู้สอน) พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ตามข้อ ๗.๑ – ๗.๓ ไม่มสี ัมมาคารวะตอ่ มีสัมมาคารวะตอ่ มสี มั มาคารวะตอ่ มสี ัมมาคารวะ ต่อครู อาจารย์ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ครูอาจารย์ ครอู าจารย์ ครอู าจารย์ ผมู้ ีมารยาทแบบไทย ใช้ภาษาไทย เลขไทยใน ใชภ้ าษาไทย เลข ปฏบิ ัติตนเป็นผู้มี การสื่อสารได้ถูกต้อง เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ ไทยในการส่อื สาร มารยาทแบบไทย เกีย่ วขอ้ งกับ ภูมิปญั ญาไทย ได้ถูกตอ้ ง ใช้ภาษาไทย เลข และมสี ว่ นร่วมในการสืบ ทอดภูมิปญั ญาไทย ไทยในการสอื่ สาร ไดถ้ ูกต้อง เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ เกี่ยวขอ้ งกับ ภมู ิปญั ญาไทย แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า
๘๕ หมายเหตุ ข้อมลู นไี้ ดร้ บั จากงานกิจกรรมท่เี กีย่ วกับประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรมไทย,แหลง่ เรียนรูภ้ ูมปิ ญั ญา ไทย,แบบสังเกตพฤตกิ รรม ข้อที่ ๘ มีจติ สาธารณะ นยิ าม มีจิตสาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ ก่อให้เกดิ ประโยชนแ์ กผ่ อู้ น่ื ชุมชน และสังคม ด้วยความเต็มใจ กระตอื รือรน้ โดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้ที่มีจิตสาธารณะ คือ ผู้ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันความสุขส่วนตนเพื่อทำ ประโยชน์แก่ส่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยแรงกาย สติปัญญา ลงมอื ปฏิบตั เิ พอ่ื แก้ปัญหา หรอื รว่ มสร้างสรรคส์ ่งิ ท่ดี ีงามให้เกดิ ในชุมชน โดยไม่หวงั ส่ิงตอบแทน ตัวช้ีวดั และพฤติกรรมบง่ ช้ี ตวั ชว้ี ัด พฤติกรรมบ่งช้ี ๘.๑ ชว่ ยเหลือผ้อู ื่นดว้ ยความเต็มใจ ๘.๑.๑ ช่วยพ่อแม่ ผูป้ กครอง ครทู ำงานด้วยความเต็มใจ และพงึ พอใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน ๘.๑.๒ อาสาทำงานให้ผู้อื่นด้วยกำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญาโดยไม่ หวงั ผลตอบแทน ๘.๑.๓ แบง่ ปนั ส่ิงของ ทรพั ย์สนิ และอ่ืนๆ และช่วยแกป้ ญั หาหรอื สร้าง ความสขุ ให้กับผู้อื่น ๘.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรมที่เปน็ ๘.๒.๑ ดแู ล รกั ษาสาธารณสมบตั ิและส่ิงแวดล้อมดว้ ยความเตม็ ใจ ประโยชน์ต่อโรงเรียน ชมุ ชน และ ๘.๒.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม สงั คม ๘.๒.๓ เข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือแก้ปญั หาหรือร่วมสร้างส่งิ ที่ดงี ามของส่วนรวม ตามสถานการณท์ ่เี กิดขนึ้ ดว้ ยความกระตอื รือรน้ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใช้ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมการดูแลเขตพน้ื ท่ีของนักเรียนเปน็ เกณฑ์พจิ ารณา) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยยี่ ม (๓) ตามข้อ ๘.๑ – ๘.๒ เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมการดูแล การดูแลรกั ษา การดูแลรกั ษา การดูแลรกั ษา รักษาเขตพื้นที่ที่ตน เขตพ้นื ที่ ทต่ี น เขตพืน้ ท่ที ต่ี น เขตพ้ืนที่ท่ตี น รับผดิ ชอบ ร้อยละ ๘๐ รับผดิ ชอบ ต่ำกว่า รบั ผิดชอบ รอ้ ยละ รบั ผดิ ชอบ ร้อยละ ข้นึ ไป รอ้ ยละ ๕๐ ๕๐ - ๕๙ ๖๐ - ๗๙ หมายเหตุ ข้อมูลนไ้ี ด้รบั จากงานดูแลเขตพื้นท่ีของโรงเรยี น (กลมุ่ บรหิ ารทัว่ ไป) ,แบบบันทึกการทำจิตสารธารณะ แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า
สรปุ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๘๖ หมายเหตุ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนท่ี ........... ปีการศึกษา .............. จำนวนนกั เรยี น ผลการประเมินคณุ ลกั ษะอันพึงประสงค์ (คน) ดีเย่ยี ม ดี ผา่ น ไม่ผ่าน (๓) (๒) (๑) (๐) ลงชือ่ .................................................................. ผู้รายงาน (................................................................) ครูที่ปรึกษา .................../ .................../ ................... ลงช่ือ.................................................................. ผูร้ ายงาน (................................................................) ครูทปี่ รกึ ษา .................../ .................../ ................... แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า
๘๗ แบบสรปุ ผลการประเมนิ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ นักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ......... ปกี ารศึกษา .............. ที่ ชือ่ - สกุล ผลการประเมนิ รายขอ้ (ระดบั คณุ ภาพ) คะแนนรวม สรปุ ผลการ ๑ ๒๓๔๕๖๗๘ ประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้
๘๘ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ชอ่ื – สกุล ............................................................................................................................. .. เลขที่ ................... ภาคเรียนท.่ี ....... ภาคเรยี นท.ี่ ....... คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์และตวั ช้ีวัด ดีเยี่ยม ดี ่ผาน ไ ่มผ่าน ีดเย่ียม ดี ผ่าน ไ ่มผ่าน ๓๒๑๐๓๒๑๐ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๑.๑ ชอบเขา้ รว่ มกจิ กรรมแสดงความรกั ชาติ เช่น เชญิ ธง ยนื ตรงเคารพ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ รกั ษาชอื่ เสียงและหวงแหนสมบตั ขิ องชาติ ๑.๒ ชอบเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนา และปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมของ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ศาสนา เช่น รักษาศลี ปฏบิ ัติธรรม ๑.๓ ชอบเข้ารว่ มกิจกรรมเพ่ือแสดงความจงรกั ภักดตี ่อพระมหากษัตรยิ ์ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป การรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ ๒.๑ ให้ข้อมลู ทีถ่ กู ตอ้ งและเป็นจรงิ ไมโ่ กหก ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๒.๒ ไมถ่ ือเอาสิ่งของหรอื ผลงานของผูอ้ ่นื มาเป็นของตนเองไม่ลกั ขโมย ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๒.๓ ไม่หาผลประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง ไมค่ ดโกง ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป ความซือ่ สตั ย์สจุ ริต ๓. มวี นิ ยั ๓.๑ ปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครวั โรงเรียนและสงั คม ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๓.๒ ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรียน การปฏบิ ตั งิ าน ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๓.๓ ปฏบิ ัติตนในกิจวตั รประจำวนั โดยไมล่ ะเมดิ สทิ ธผิ ้อู ืน่ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป ความมวี นิ ัย ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๔.๑ ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี นสนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรตู้ ่าง ๆ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๔.๒ แสวงหา ศึกษา คน้ ควา้ ความรู้จากแหล่งการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๔.๓ บนั ทกึ ความรู้วิเคราะห์ตรวจสอบ แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรปุ การใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพยี ง ๕.๑ ใช้ทรัพย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... รวมทง้ั ใช้เวลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ปฏิบัตติ นและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบมีเหตผุ ล ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... 5.3 วางแผนการเรียนการทำงานบนพนื้ ฐานของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ท่ีดี สรปุ การอยอู่ ย่างพอเพียง แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศึกษาค้นควา้
๘๙ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ช่ือ – สกุล ............................................................................................................................. .. เลขที่ ................... ภาคเรียนที่........ ภาคเรยี นท.ี่ ....... คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคแ์ ละตัวชี้วัด ดีเ ่ียยม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน ดีเ ่ียยม ดี ผ่าน ไ ่มผ่าน ๓๒๑๐๓๒๑๐ ๖. มุง่ ม่นั ในการทำงาน ๖.๑ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๖.๒ ทมุ่ เททำงาน อดทนไมย่ อ่ ทอ้ ต่อปญั หาและอปุ สรรค ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๖.๓ ปรับปรงุ พฒั นาการทำงานและผลงานดว้ ยตนเอง ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป ความมงุ่ มัน่ ในการทำงาน ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๗.๑ ปฏบิ ตั ติ ามขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย ...... ...... ...... ...... ๗.๒ ใช้ภาษาไทย เลขไทยในการสือ่ สารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ...... ...... ...... ...... ๗.๓ รว่ มกจิ กรรมทเี่ กีย่ วข้องกับภูมิปัญญาไทย นำมาใช้ใหเ้ หมาะสมใน ...... ...... ...... ...... วิถชี ีวิต สรปุ รักความเป็นไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ ๘.๑ ชว่ ยเหลือผ้อู น่ื แบ่งปันสงิ่ ของ อาสาทำงานใหด้ ้วยความเตม็ ใจ ไม่ ...... ...... ...... ...... หวังผลตอบแทน ๘.๒ เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม ...... ...... ...... ...... ๘.๓ ดูแลรกั ษาสาธารณสมบัตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มดว้ ย ความเต็มใจ ...... ...... ...... ...... สรปุ การมีจิตสาธารณะ สรุปคะแนนรวม ระดับคณุ ภาพ ลงชื่อ .................................................. ผู้ประเมิน แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศึกษาค้นควา้
๙๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน - การให้ และกรอกคะแนนคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ของแต่ละข้อตามตัวชวี้ ดั ใหก้ รอกเปน็ ตวั เลข ระดบั ๐, ๑, ๒ และ ๒ ซึ่ง ตวั เลขมคี วามหมาย ดังนี้ ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ระดบั ดเี ยีย่ ม ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ ระดบั ดี ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ระดบั ผา่ น ระดบั คณุ ภาพ ๐ หมายถึง ระดบั ไม่ผา่ น คะแนนสรปุ แตล่ ะขอ้ คณุ ลกั ษณะฯ ๘ – ๙ คะแนน อยูใ่ นเกณฑ์ ระดบั ๓ ๖ – ๗ คะแนน อยู่ในเกณฑ์ ระดบั ๒ ต่ำกวา่ ๕ คะแนน อยูใ่ นเกณฑ์ ระดับ ๑ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ระดับคุณภาพ) คะแนน ๒๐ - ๒๔ หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดเี ยย่ี ม (๓) ระดับคณุ ภาพ ดี (๒) คะแนน ๑๒ - ๑๙ หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ผา่ น (๑) ระดบั คณุ ภาพ ไมผ่ า่ น (๐) คะแนน ๘ - ๑๑ หมายถึง คะแนน ๐ - ๗ หมายถงึ แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า
๙๑ แบบบนั ทกึ เกณฑก์ ารประเมินการเขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้ เลขที่ ชอ่ื -สกุล รูปเ ่ลม รวม เน้ือหาสาระ คะแนน ิว ีธดำเนินการ การเ ีขยนรายงานเ ิชง ิวชาการ การใ ้ช ้ขอมูลสารสนเทศ ้อางอิง มารยาทในการเขียน ๔๔๔๔๔๔ ลงชือ่ .................................................................. ผู้ประเมิน (................................................................) .................../ .................../ ................... แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้
๙๒ เกณฑก์ ารประเมินการเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า รายการประเมนิ ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพของเกณฑ์ ๑ (ปรับปรุง) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) (๑) รปู เล่ม ๑.๑ ปก ๑.๒ สวยงาม ๑.๓ สว่ นประกอบ ๑.๔ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ (๒) เน้ือหาสาระ ๒.๑ ตรงตามจุดประสงค์ หมายเหตุ ระดับคุณภาพ ๒.๒ เนือ้ หาถูกตอ้ ง ๔ ขอ้ ได้ ๔ คะแนน ๒.๓ เนื้อหาครบถ้วน ๓ ข้อ ได้ ๓ คะแนน ๒.๔ นำไปใช้ประโยชน์ได้ ๒ ขอ้ ได้ ๒ คะแนน ๑ ข้อ ได้ ๑ คะแนน (๓) วธิ ดี ำเนินการ ๓.๑ มกี ารวางแผน ๓.๒ ใช้กระบวนการกลมุ่ ๓.๓ ดำเนนิ การตามแผน ๓.๔ สรุป / ข้อเสนอแนะ (๔) การเขียน เขยี นรายงานเชิงวิชาการ เขยี นรายงานเชิงวิชาการ เขยี นรายงานเชิงวิชาการ เขียนรายงานเชิง รายงานเชิงวิชาการ ถูกต้องตามหลักการเขียน ถกู ต้องตามหลักการ ถกู ต้องตามหลักการ วชิ าการไม่ถูกต้องตาม เขยี นเป็นส่วนใหญ่ เขียนเป็นบางส่วน หลกั การเขียน (๕) การใช้ข้อมลู ใช้ข้อมูลสารสนเทศอา้ งองิ ใชข้ ้อมลู สารสนเทศ ใช้ขอ้ มูลสารสนเทศ ใชข้ ้อมลู สารสนเทศ สารสนเทศอ้างองิ บอกที่มาของขอ้ มูลถูกต้อง อ้างองิ บอกทม่ี าของ อ้างองิ บอกท่มี าของ อา้ งอิง แตบ่ อกที่มา ตามหลักการเขยี น ขอ้ มลู ถูกต้องเปน็ ส่วน ขอ้ มูลถกู ต้องเปน็ ของข้อมูลไม่ถูกต้อง ใหญต่ ามหลกั การเขียน บางส่วนตามหลักการ ตามหลักการเขียน เขยี น (๖) มารยาทในการ ปฏบิ ตั ติ ามมารยาทในการ ปฏิบตั ติ ามมารยาทใน ปฏบิ ัตติ ามมารยาทใน ปฏิบตั ิตามมารยาทใน เขยี น เขียนรายงานเชงิ วิชาการ ไม่ การเขยี นรายงานเชงิ การเขียนรายงานเชงิ การเขียนรายงานเชิง ลอกเลียนงานเขียนของผู้อื่น วิชาการเป็นสว่ นใหญ่ ไม่ วิชาการเป็นบางส่วน ไม่ วิชาการเปน็ บางสว่ น ลอกเลยี นงานเขยี นของ ลอกเลยี นงานเขียนของ แต่ลอกเลียนงานเขยี น ผ้อู ื่น ผ้อู ่ืน ของผู้อน่ื เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ๒๔ - ๒๒ ๒๑- ๑๙ ๑๘ - ๑๖ ต่ำกวำ่ ๑๕ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ปรับปรุง ดีมำก ดี ไมผ่ า่ น เกณฑก์ ารผา่ น ผา่ น ตัง้ แต่ระดบั คุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป สรุป แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้
๙๓ แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย จดั ทำโดย นายธนากร เหขุนทด ขอ้ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ๕๔๓๒๑ ๑ หน่วยการเรียนร้มู ีความสมบรู ณ์ เหมาะสมและมรี ายละเอยี ดทีส่ อดคล้องสัมพันธก์ ัน ๒ แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคล้องสัมพนั ธ์กับหน่วยการเรียนรู้ทกี่ ำหนดไว้ ๓ แผนการจัดการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ นรอ้ ยรดั สัมพนั ธก์ ัน ๔ การเขียนสาระสำคญั ในแผนถูกตอ้ ง ๕ จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ูต่ วั ช้ีวัดมีความชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ ๖ จดุ ประสงค์การเรยี นรพู้ ฒั นานักเรียนดา้ นความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ ๗ จดุ ประสงค์การเรยี นรเู้ รียงลำดบั พฤติกรรมจากงา่ ยไปยาก ๘ กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกบั คาบและเวลา ๙ กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหาสาระ ๑๐ กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์และระดับช้ันของนกั เรียน ๑๑ กิจกรรมการเรียนรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏิบตั ิได้จรงิ ๑๒ กจิ กรรมการเรียนร้เู ป็นกิจกรรมทสี่ ง่ เสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น ๑๓ กิจกรรมเนน้ ใหน้ ักเรียนเรียนรู้จากการปฏิบตั จิ ริง ๑๔ กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคล้องแทรกคุณธรรมและค่านิยมทีด่ ีงาม ๑๕ วสั ดอุ ปุ กรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรียนรมู้ คี วามหลากหลาย ๑๖ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ส่อื และแหล่งเรียนรูเ้ หมาะสมกับเนือ้ หาสาระ ๑๗ นักเรียนไดใ้ ชส้ ือ่ และแหล่งเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ๑๘ นักเรียนทำชิน้ งานทไ่ี ดใ้ ชค้ วามรู้ ความคิดมากกว่าการทำตามที่ครกู ำหนดหรอื การทำแบบฝกึ หดั ทวั่ ไป ๑๙ มกี ารวดั และประเมินผลท่ีสอดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒๐ นกั เรียนได้มสี ่วนรว่ มในการวดั และประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพของผลงาน ๕ หมายถึง คณุ ภาพในระดับดีมาก ๔ หมายถึง คุณภาพในระดับดี ๓ หมายถึง คณุ ภาพในระดบั พอใช้ ๒ หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีควรปรบั ปรุง ๑ หมายถึง คณุ ภาพในระดับท่ีไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ สรุปการจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้น้ี (สรุปจากระดับคุณภาพจาก MODE) อยใู่ นระดับคณุ ภาพ.................... ลงชื่อ.........................................รองผู้อำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการ (..................................) ............./...................../……… แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า
๙๔ ตราโรงเรยี น รายงานการศึกษาค้นคว้า เร่อื ง ............................................................................................................ จดั ทำโดย ชอ่ื – สกลุ ........................................................................................................ เลขท่ี ........... ชื่อ – สกลุ ........................................................................................................ เลขท่ี ........... ชื่อ – สกุล ........................................................................................................ เลขท่ี ........... ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ / .......... เสนอ คุณครูธนากร เหขุนทด รายงานการศึกษาคน้ คว้าฉบบั น้ีเป็นสว่ นหนึง่ ของรายวชิ ภาษาไทย เร่ือง การพฒั นาการเขยี น ภาคเรยี นท่ี ........... ปีการศึกษา ..................... โรงเรียนแกว้ โกมคำศรนี ครพิงค์ (นพบรุ ีย่เี ปง็ ) สำนกั นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาเชยี งใหม่ เขต 16 แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า
๙๕ คำนำ รายงานการศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนาการเขียนเป็นส่วนหนง่ึ ของรายวิชาภาษาไทย ในระดับชั้น ....................... เพื่อให้ได้ความรู้ในเรื่อง ...................................... และผู้จัดทำได้ศึกษาอย่างเขา้ ใจเพื่อ เปน็ ประโยชน์กับการเรยี น ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหา ข้อมูลเรื่องน้ีอย่หู ากมขี ้อแนะนำ ผจู้ ดั ทำยินดีรบั ไว้เพอ่ื เปน็ แนวทางปรับใชต้ ่อไปในอนาคต คณะผจู้ ัดทำ ..................................... ..................................... ..................................... …………../……………/…………… . แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้
๙๖ ใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ๑. เรยี งลาดับขนั้ ตอนในการเขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ใหถ้ กู ตอ้ ง กาหนดเรื่องท่จี ะเขียน เรยี บเรยี งเนือ้ หาและจดั ทาเปน็ รายงานทส่ี มบูรรณ์ วางโครงเรอ่ื ง กาหนดขอบเขตและหวั ขอ้ เรอื่ ง คน้ ควา้ และรวบรวมขอ้ มลู ขั้นที่ ๑ ขัน้ ที่ ๒ ข้ันที่ ๓ ขน้ั ที่ ๔ ขน้ั ที่ ๕ ๒. การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ ประกอบไปดว้ ยอะไรบ้าง ส่วนที่ ๑ สว่ นท่ี ๒ ส่วนที่ ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การเขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168