Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สุขศึกษา ม.1

สุขศึกษา ม.1

Published by ปรีชาพล เอนอ่อน, 2020-11-30 10:59:56

Description: หนังสือเรียนสุขศึกษา ม.1

Search

Read the Text Version

กกรระตะตนุ Eุนnคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Evaluate Engage Explore กระตนุ ความสนใจ Engage ครรู ว มพดู คยุ กบั นกั เรยี นถงึ เรอื่ ง ความหลากหลาย ๔. ความหลากหลายทางเพศ ทางเพศ โดยสอบถามนกั เรยี นวา รจู กั และเขา ใจคาํ วา ความหลากหลายทางเพศหรอื ไม ซงึ่ ครอู าจใหน กั เรยี น ความหลากหลายทางเพศ หมายถึง ความมตี วั ตน ความชอบ และการแสดงออกทางเพศ เลา ประสบการณว า เคยพบเหน็ บคุ คลเหลา นน้ั หรอื ไม ของบคุ คลซึ่งไม่ตรงกบั เพศโดยก�าเนดิ เชน่ เพศหญิงท่ชี อบเพศหญิงดว้ ยกัน (เลสเบยี้ น) เพศชาย และมลี กั ษณะอยา งไร จากนัน้ ครูนาํ เขาสบู ทเรียน ท่ีชอบเพศชายด้วยกัน (เกย์) ผู้ที่ชอบทั้งเพศชายและเพศหญิง (ไบเซ็กชวล) เพศหญิงท่ีมีจิตใจ เปน็ ผู้ชาย (ผ้ชู ายขา้ มเพศ) และเพศชายทมี่ จี ติ ใจเปน็ ผู้หญงิ (ผู้หญงิ ขา้ มเพศ) สาํ รวจคน หา Explore ปัจจุบันเป็นท่ีทราบกันว่ากลุ่มความหลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตนในสังคมมากขึ้น ซ่ึงไม่ได้มีแค่ค�าว่า “กะเทย” เหมือนในอดีต หากแต่มีความหลากหลายทางเพศปรากฏข้ึน ใหน กั เรยี นศกึ ษาเรอ่ื ง ความหลากหลายทางเพศ หลายเพศสภาพในสงั คม เชน่ ชายรกั ชาย (เกย)์ หญงิ รักหญิง (ทอม ดี ้ เลสเบีย้ น) รักสองเพศ จากหนังสือเรียน และแหลงเรียนรูเพิ่มเติมตางๆ (ไบเซ็กชวล) ผู้ชายข้ามเพศ ผู้หญิงข้ามเพศ แสดงให้เห็นความกล้าในการเปิดเผยตนเอง ในประเด็น ดังน้ี และความชดั เจนในอตั ลกั ษณแ์ บบตา่ งๆ อนั เปน็ ผลจากพลวตั ทางสงั คมและวฒั นธรรมทเ่ี ปลย่ี นแปลง อย่างรวดเร็วตามกระแสของโลก การสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่ืออินเทอร์เน็ต วิทยุ โทรทัศน์ • ความหลากหลายทางเพศในอดตี และปจจุบัน หรือส่ือสิ่งพิมพ์ต่างๆ ยังท�าให้เกิดการรวมกลุ่ม หรือเกิดเป็นชุมชนภาคประชาสังคมความ • การอยรู วมกนั ในสงั คมทม่ี ีความหลากหลาย หลากหลายทางเพศ เพื่อเคล่ือนไหวเรียกร้องการเปล่ียนแปลง การยอมรับและความชอบธรรม กทาารงรกับฎรหอมงแายลขะกอางรเพยอศมหรลับาจกาหกลราัฐยใน รซะึ่งดทับ่ีผห่านน่ึงม าเไชด่น้น �ากไาปรสเู่ปควลา่ียมนสแ�าปเลร็จงเใอนกกสาารรแ กส้ไ.ขดแ.๔ละ๓1ป รใับนปการุรง ยกเว้นการเกณฑ์ทหารส�าหรับกลุ่มสาวประเภทสอง หรือผู้หญิงข้ามเพศ เกิดจากการเรียกร้อง ของเครือข่ายบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยการแก้ไขจากค�าว่า “ผิดปกติทางจิตแบบ ถาวร” เปน็ “ภาวะเพศสภาพไมต่ รงกบั เพศก�าเนดิ ” รวมถึงเพื่อการขจดั ปญั หาการถูกเลอื กปฏบิ ัต ิ เช่น การถูกปฏิเสธในการเข้าท�างาน การถูกปฏิเสธในการแต่งกายตามเพศสภาพ หรือเพศวิถี ในสถานศึกษา หรือในสถานที่ท�างาน เนื่องมาจากการถูกตีตราว่าเป็นคนข้ามเพศ ซ่ึงถือว่าเป็น ความก้าวหน้าในการรับรองความเสมอภาคและเท่าเทียมของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ที่สา� คญั ในประเทศไทย สง่ิ เหลา่ นแ้ี สดงใหเ้ หน็ วา่ แนวคดิ เรอื่ งเพศทยี่ ดึ ตดิ กบั ความเปน็ เพศกระแสหลกั คอื มแี คห่ ญงิ และชายหรอื แบง่ แยกตามอวยั วะเพศนนั้ ไมไ่ ดเ้ ปน็ เรอื่ งสากลและไม่ใชค่ วามจรงิ หนงึ่ เดยี วทลี่ บลา้ ง ไมไ่ ด ้ การยดึ ตดิ วา่ เปน็ เพศใดตามอวยั วะเพศทถ่ี อื กา� เนดิ มาเปน็ แนวคดิ ทล่ี า้ สมยั และไมค่ รอบคลมุ ความเปน็ จริงทเี่ กิดข้ึนในสงั คมปจั จบุ ัน โดยทุกคนในสังคมจะต้องสร้างความเข้าใจ ยอมรบั ความ แตกต่างของผู้ท่ีมีความหลากหลายทางเพศว่าเป็นผู้ที่มีความปกติเหมือนบุคคลอ่ืน ไม่ได้ถือว่า เปน็ โรคจติ แตอ่ ยา่ งใด ซงึ่ บคุ คลเหลา่ นก้ี ม็ คี วามร ู้ ความสามารถเชน่ เดยี วกนั ดงั นน้ั จงึ ควรปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้ทม่ี ีความหลากหลายทางเพศอยา่ งเหมาะสม ไมค่ วรแบ่งแยกหรือกดี กัน หรือเลือกปฏบิ ัติเพยี ง เพราะพวกเขาไมไ่ ดม้ เี พศสภาพตรงกบั โดยเพศก�าเนดิ แตค่ วรปฏบิ ตั อิ ยา่ งเทา่ เทยี มกนั รวมถงึ เคารพ และให้เกยี รติซงึ่ กนั และกัน 58 เกรด็ แนะครู ขอสอบเนน การคิด ผทู ม่ี คี วามหลากหลายทางเพศสามารถดําเนินชีวติ ไดเ หมือนกบั ครคู วรเสนอแนะนกั เรยี นวา ในสังคมปจ จบุ ันนี้ไมไ ดม ีแคเพศชายและเพศหญิง บุคคลท่ัวไปหรอื ไม เพราะเหตุใด เทา น้ัน เพราะมกี ลมุ ผูท่ีมีความหลากหลายทางเพศดว ย และบุคคลกลมุ น้ีก็ไมไ ด แนวตอบ ผูท มี่ ีความหลากหลายทางเพศสามารถดําเนินชีวติ ถือวามีความผดิ ปกติทางจติ แตอยา งใด อีกทัง้ ยังมคี วามรู ความสามารถเหมอื น ไดเหมอื นกบั บคุ คลท่ัวไป แมว าจะมเี พศสภาพ หรือเพศวถิ ีที่ไมตรง บคุ คลทั่วไป ดงั น้นั นักเรียนจึงควรใหความเคารพและใหเ กยี รติ ไมควรพูดจา กบั เพศโดยกําเนดิ เพราะบุคคลกลมุ นก้ี ม็ คี วามรู ความสามารถ ลอเลยี น หรอื รงั แกพวกเขา เชน เดียวกนั เชน สามารถเขา รับการศกึ ษาในหลายสาขาวิชา สามารถประกอบวชิ าชีพตางๆ ได นกั เรียนควรรู 1 เอกสาร ส.ด.43 เปน เอกสารท่ีใชเ พ่อื รับรองวาไดเขารบั การตรวจเลือกทหาร กองเกินเขา รบั ราชการทหารกองประจําการ และไดผานการตรวจเลอื กทหาร กองเกนิ เขา รับราชการทหารกองประจาํ การ ประจาํ ปน ้ันๆ หรอื เรยี กวา “ใบผา น การเกณฑทหาร” 58 คมู ือครู

กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๔.๑ ความหลากหลายทางเพศในอดตี และปัจจุบนั ครสู มุ นักเรยี น 2-3 คน ออกมาอธบิ ายความรู ความหลากหลายทางเพศทงั้ ในอดตี และปจั จบุ นั มคี วามแตกตา่ งกนั โดยเฉพาะในเรอ่ื ง เรื่อง ความหลากหลายทางเพศในประเดน็ ตางๆ ของสิทธิและความเท่าเทียมระหวา่ งเพศในด้านตา่ ง ๆ ซ่ึงแบ่งได้ ดังนี้ โดยครูชว ยอธิบายเพ่มิ เติม และใหนกั เรยี นทาํ ๑) ความหลากหลายทางเพศในอดีต ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศไม่ได้รับ กิจกรรมสรางสรรคพัฒนาการเรียนรู กจิ กรรมที่ 3 การคมุ้ ครองตามกฎหมาย ไม่มีสิทธเิ ทา่ เทยี มกับบุคคลอ่ืน และไดร้ ับการเลือกปฏิบตั ใิ นทกุ มติ ิ ๑ ด้านระบบการศกึ ษา ๒ ดา้ นการประกอบอาชพี ถ ูกกีดกันออกจากระบบการศึกษา ถ กู ปฏิเสธไมใ่ ห้รบั เขา้ ทา� งาน ถงึ แม้จะมี เนอ่ื งจากไมย่ อมรบั และไมเ่ คารพในตวั ตน ความรู้ความสามารถอย่างเพียงพอ การแสดงออกของนักเรียน นักศึกษา หรอื ถกู บงั คบั ใหแ้ ตง่ กายตามเพศกา� เนดิ 1 เช่น การจ�ากัดสิทธิการแต่งกายตาม แมว้ า่ สภาพรา่ งกายภายนอกจะขา้ มเพศ เพศสภาพ หรือเพศวิถี การถูกจ�ากัด แลว้ ก็ตาม ในการเขา้ รบั การศึกษาในบางสาขา ๓ ดา้ นบริการสาธารณสุข ๔ ด้านความเทา่ เทียม ถ ูกจ�ากัดสิทธิในการเข้าถึงการบริการ ไ ม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม กฎหมายก็ไม่ได้ ดา้ นสขุ ภาพ เนอ่ื งจากตอ้ งมกี ารพจิ ารณา ให้สิทธิเพ่ือรับการคุ้มครอง ซึ่งท�าให้ วา่ เปน็ เพศสรรี ะใด จงึ สง่ ผลใหเ้ กดิ ความ ไม่สามารถเอาผิดกับผู้กระท�าได้ ไม่ได้ ไม่เป็นธรรมในการเข้ารับบริการ เช่น รับความคุ้มครองตามกฎหมายและถูก การได้รบั การบรกิ ารด้วยความลา่ ชา้ กระท�าความรุนแรง และยังไม่มีการ รับรองการมีสิทธิในการมีครอบครัว ระหว่างเพศเดียวกันและการรับรอง ตามเพศสภาพ เกร็ดนา่ รู้ สทิ ธิหลักประกันสขุ ภาพ ในกรณีส�าหรับบุคคลที่มีลักษณะเพศทางชีววิทยาที่ไม่ชัดเจน ค2ือ ปรากฏว่ามีอวัยวะเพศทั้งสองเพศ ในบุคคลเดียวกัน (Intersex) ส�านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พิจารณาบุคคลท่ีมีความ หลากหลายทางเพศท่ีเข้าข่ายบุคคลที่มีลักษณะเพศที่ไม่ชัดเจนที่จะผ่าตัดเพ่ือการรักษาให้ตรงกับเพศสภาพ ตามที่แพทย์ให้การรับรอง โดยถือว่าเป็นการท�าให้ตรงกับหลักฐานท่ีปรากฏ ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิได้ ในขนั้ ตอนการตรวจวนิ จิ ฉยั การรกั ษาและฟนื้ ฟจู นสน้ิ สดุ การรกั ษา จดั อยใู่ นประเภทและขอบเขตของการบรกิ าร สาธารณสขุ ท่บี ุคคลมสี ิทธิไดร้ บั ตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบญั ญตั ิหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ สามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ เช่น กรณีผู้ป่วยเกิดมามีอวัยวะทั้ง ๒ เพศ เช่น มีมดลูก และมีอวัยวะเพศชาย 59 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรยี นควรรู ขอ ใดคอื ความหลากหลายทางเพศในอดตี 1 ขา มเพศ คนทมี่ อี ตั ลกั ษณ หรอื การแสดงออกทางเพศทแ่ี ตกตา งจากเพศกาํ เนดิ 1. ถกู ปฏิเสธไมใหรับเขาทํางาน มักแสดงออกทางเพศโดยการแตงกาย บุคลิกภาพ การเปล่ียนแปลงดานกายภาพ 2. ไดร ับความคุมครองตามกฎหมาย รวมถึงการผา ตดั ดัดแปลงทางเพศตางดวย 3. มีสทิ ธิเทาเทียมเหมือนกับบุคคลอืน่ 2 สํานักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง ชาติ มีภารกิจหลกั ในการบรหิ ารจดั การเงนิ 4. แตงกายตามเพศสภาพในสถานศึกษาบางแหงได กองทนุ หลักประกนั สุขภาพแหง ชาติ ใหเ กิดประสทิ ธิภาพสูงสุด รวมท้ังพัฒนาระบบ วิเคราะหคาํ ตอบ ในอดตี ผทู มี่ คี วามหลากหลายทางเพศยังไมมี บรกิ ารสาธารณสขุ เพอ่ื ใหป ระชาชนเขา ถงึ บรกิ ารทม่ี คี ณุ ภาพไดม าตรฐาน โดยศกึ ษา สิทธเิ ทาเทยี มเหมอื นกบั บุคคลอ่นื เชน ถูกปฏเิ สธ หรือถูกกดี กัน ขอ มลู ตา ง ๆ ไดจ าก www.nhso.go.th หรอื สอบถามขอ มลู เพม่ิ เตมิ ทส่ี ายดว น สปสช. ไมใหร ับเขา ทาํ งาน ถึงแมจะมีความรู ความสามารถมากพอ 1330 ซง่ึ แสดงใหเหน็ วามกี ารแบง แยก หรอื เลอื กปฏบิ ตั อิ ยางชดั เจน ตอบขอ 1. คมู อื ครู 59

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครูต้ังคําถามเพื่ออธิบายความรู และเพ่ือใหได ๒) ความหลากหลายทางเพศในปัจจุบัน ปัจจุบันสังคมไทยให้การยอมรับผู้ที่มี ขอสรุปเกี่ยวกับเร่ือง ความหลากหลายทางเพศที่ ถกู ตอ งรว มกัน ความหลากหลายทางเพศมากข้ึน และไม่ถือว่ากลุ่มบุคคลท่ีมีความหลากหลายทางเพศมีความ ผดิ ปกตทิ างจติ และไดม้ กี ารเปล่ยี นแปลงท่ีดขี ้ึนในหลายมติ ิ • ยกตัวอยา งความหลากหลายทางเพศในอดตี และในปจจุบัน ๑ ดา้ นระบบการศกึ ษา ๒ ดา้ นการประกอบอาชพี (แนวตอบ ในอดตี เชน ถกู จาํ กดั ดา นการศกึ ษา และการรบั เขา ทาํ งาน ในปจ จบุ นั เชน มโี อกาส มโี อกาสทางการศกึ ษามากขนึ้ สงั คมใหก้ าร ส ามารถเข้าทา� งานในตา� แหน่งตา่ ง ๆ ได้ ทางการศึกษามากข้ึน และสามารถทํางานใน ยอมรบั และเคารพในตวั ตนการแสดงออก เพราะพจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถ ตําแหนงตางๆ ได) ของนกั เรยี น นกั ศกึ ษา เชน่ การอนญุ าต และสามารถแต่งกายตามเพศสภาพ ใหแ้ ตง่ กายตามเพศสภาพ หรอื เพศวถิ ีใน หรอื เพศวถิ ไี ด ้ แตบ่ างแหง่ ยงั ไมส่ ามารถ • ปจ จบุ นั สังคมไทยใหการยอมรบั ผูที่มคี วาม สถานศกึ ษาบางแหง่ สามารถเขา้ ศกึ ษาได้ ทา� ได้ หลากหลายทางเพศหรอื ไม เพราะเหตุใด ทกุ สาขา แตบ่ างแหง่ ยงั ไมส่ ามารถทา� ได้ (แนวตอบ ปจ จุบนั สังคมไทยใหก ารยอมรับ มากขึน้ เพราะเช่ือวา บคุ คลกลมุ น้ีมคี วามรู ๓ ดา้ นบรกิ ารสาธารณสขุ ๔ ด้านความเท่าเทยี ม ความสามารถ และไมไดส รางความเดอื ดรอน มีสิทธิในการเข้าถึงการบริการด้าน ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายตาม ใหแกใ คร) สขุ ภาพทด่ี ีขึ้น รวมทัง้ มกี ารบรกิ ารด้าน พระราชบญั ญตั คิ วามเทา่ เทยี มระหวา่ ง สุขภาพส�าหรับผู้ท่ีมีความหลากหลาย เพศ พ.ศ.๒๕๕๘ ท่ีจะไม่ถกู เลอื กปฏบิ ัติ ทางเพศ เช่น การตรวจหาเช้ือเอชไอวี โดยการแบง่ แยก กดี กนั หรอื จา� กดั สทิ ธิ ประโยชน์ ใดๆ ไม่ว่าทางตรง หรือ หรอื โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพันธ1์ การรบั ทางอ้อม โดยปราศจากความชอบธรรม ดว้ ยเหตทุ บี่ คุ คลนนั้ แสดงออกทแี่ ตกตา่ ง ฮอร ์ โมนส�าหรบั บุคคลขา้ มเพศ จากเพศโดยกา� เนิด ธงสีรุ้ง เป็นสญั ลกั ษณข์ องกลมุ่ ที่มีความหลากหลายทางเพศ 60 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ บคุ คลใดตอไปน้ีเปนผทู ม่ี คี วามหลากหลายทางเพศ ในการใหค วามรกู บั นกั เรยี นในเรอื่ ง ความหลากหลายทางเพศ ครคู วรระมดั ระวงั 1. นา้ํ ฟาชอบแตงตวั เปนผชู าย การใชคําพูดบางคําท่ีอาจจะกระทบกระเทือนตอสภาพจิตใจของนักเรียนบางคน 2. น้ําคางชอบดูภาพดาราสวยๆ ดังน้ันจึงควรใชคาํ พดู ทีเ่ หมาะสม 3. นา้ํ หวานชอบคยุ โทรศพั ทกบั เพอ่ื น 4. น้ําหมกึ ชอบทาํ ศลั ยกรรมเพอื่ ตองการใหต นเองดูดี นกั เรียนควรรู วเิ คราะหค าํ ตอบ การทน่ี ้าํ คางชอบดภู าพดาราสวยๆ น้ําหวาน ชอบคยุ โทรศพั ทก บั เพอื่ น หรอื นา้ํ หมกึ ชอบทาํ ศลั ยกรรมเพอ่ื ตอ งการ 1 ฮอรโ มนสาํ หรบั บคุ คลขา มเพศ ฮอรโ มนทม่ี กี ารใชเ พอื่ การเปลย่ี นแปลงจากชาย ใหตนเองดูดี ถือเปน พฤติกรรมสามารถพบไดใ นบคุ คลท่ัวไป เปนหญงิ มี 3 กลมุ ไดแก ฮอรโมนเอสโตรเจน ฮอรโ มนตา นฤทธ์แิ อนโดรเจน ยกเวนนํ้าฟา ที่ชอบแตงตัวเปน ผูชายนั้น ถอื เปน พฤตกิ รรมท่ีบง บอก (ลดฮอรโมนเพศชาย) และฮอรโมนโปรเจสเตอโรน วา เปน ผูท่มี คี วามหลากหลายทางเพศ ตอบขอ 1. 60 คมู อื ครู

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขาใา จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Evaluate Expand Expand ขยายความเขา ใจ ๔.๒ การอย่รู ว่ มกนั ในสังคมทีม่ คี วามหลากหลาย ใหนักเรยี นเขยี นแสดงความคดิ เห็น ขอดี ขอ เสีย และสถานการณใ นอนาคตเก่ียวกับ การเรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความหลากหลาย ควรปฏิบัติตนเพื่อให้เกิด การแตง งานระหวางชายกบั ชาย และหญงิ กับหญิง ความสขุ ในการอยู่ร่วมกนั โดยยึดแนวทาง ดงั น้ี ทปี่ รากฏตามสือ่ ตา งๆ ในปจ จุบัน ความยาว 1 หนากระดาษรายงาน แลว นําสงครูผูสอน ๑) เคารพสทิ ธซิ ง่ึ กนั และกัน • แสดงกริ ยิ าที่สภุ าพ เคารพและใหเ้ กียรตซิ ึง่ กันและกนั • พูดดีต่อกันทง้ั ต่อหนา้ และลับหลัง • ยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคล เช่น เพศสภาพ ศาสนา ความเชื่อ วฒั นธรรม • รับฟงั ความคดิ เห็นซงึ่ กนั และกนั ๒) มคี วามเมตตาตอ่ ผู้อ่ืน • เอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงจติ ใจของผูอ้ น่ื • แสดงความหว่ งใยต่อผอู้ ่นื • รู้จกั การให้มากกวา่ การรับ • เสยี สละประโยชน์ส่วนตนเพอื่ สว่ นรวม ๓) ชว่ ยเหลือเกอ้ื กลู กนั • ช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า • ช่วยเหลอื ผู้อืน่ ตามความสามารถของตนเอง • ใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและขอ้ กา� หนดของครอบครวั สงั คม ๔) มคี ุณธรรมจรยิ ธรรมต่อกนั • แสดงความจรงิ ใจต่อกนั ทงั้ ต่อหนา้ และลบั หลัง • รกั ษาสจั จะวาจา • ไม่เอาเปรยี บผูอ้ น่ื • ไว้วางใจซงึ่ กนั และกนั • มรี ะเบยี บวนิ ัยในตนเอง ๕) ไม่ลบหลดู่ หู มิน่ กนั • ไมด่ ูถูกผู้อ่นื ดว้ ยค�าพ1ดู ความคดิ และการกระทา� • เคารพสิทธมิ นษุ ยชนด้วยการปฏบิ ัตติ อ่ ผ้อู ่ืนอย่างเทา่ เทยี มกนั 6๑ ๖) การใช้ทกั ษะท่สี �าคญั ในการอย่รู ว่ มกัน • การแกไ้ ขปัญหา การเผชญิ ปัญหา • การปฏิเสธ การตอ่ รอง ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ขอ ใดคอื แนวทางการปองกันพฤตกิ รรมทางเพศทไี่ มเ หมาะสม ครูอาจสรปุ เน้ือหาโดยช้แี นะใหน ักเรยี นเขา ใจผูท ่มี ีความหลากหลายทางเพศวา 1. ไมด สู ื่อลามกอนาจาร ทกุ คนสามารถอยรู ว มกนั ในสงั คมไดอ ยา งมคี วามสขุ หากประพฤตปิ ฏิบตั ติ น 2. ศกึ ษาเร่อื งเพศศึกษาจากเพือ่ น โดยไมส รางความเดือดรอ นใหแกผ อู ืน่ 3. ขอคําปรึกษาเรือ่ งเพศจากรนุ พี่ท่ีโรงเรยี น 4. บุคคลในครอบครวั เปนแบบอยา งที่ดีในเรอื่ งเพศ นักเรียนควรรู วิเคราะหคาํ ตอบ การปองกันพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสม ครอบครวั ควรเปน แบบอยา งทด่ี ใี นเรอ่ื งเพศ เพอื่ ใหบ ตุ รหลานซมึ ซบั 1 สทิ ธมิ นษุ ยชน สทิ ธแิ ละเสรภี าพขนั้ พนื้ ฐานทเ่ี ปน ของทกุ คน ซง่ึ ตงั้ อยบู นพนื้ ฐาน พฤตกิ รรมท่ีดี และนาํ ไปสกู ารแสดงออกทางเพศทเ่ี หมาะสม ของคณุ คาความเปนมนุษย เชน ความมศี กั ด์ิศรี ความยตุ ธิ รรม ความเทา เทียม ความเคารพ ความอิสระ ตอบขอ 4. คมู อื ครู 61

กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขา าใจใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Evaluate Engage Expand Expand ขยายความเขา ใจ ใหนักเรียนสืบคนบุคคลท่ีมีความหลากหลาย 1ปจั จบุ นั สงั คมไดใ้ หก้ ารยอมรบั ผทู้ ม่ี คี วามหลากหลายทางเพศมากขนึ้ ไมว่ า่ จะเปน็ เรอื่ ง ทางเพศ ท่ีสรางคุณประโยชนแกสังคม และเขียน การแปลงเพศของตนเอง การเคารพสทิ ธคิ วามเปน็ พลเมอื งของผทู้ มี่ คี วามหลากหลายทางเพศ และ สรุปเปน บทความ ความยาว 1 หนา กระดาษรายงาน การดา� เนนิ การเพอื่ ออกกฎหมายตอ่ ตา้ นการเลอื กปฏบิ ตั ิ และการรบั รองทางกฎหมายในการสมรส ของบุคคลที่มีเพศเดียวกัน เพ่ือปกป้องสิทธิและศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีจะช่วยให้ ผู้ท่ีมีความหลากหลายทางเพศสามารถเข้าถึงประโยชน์ทางสังคม และเป็นการส่งเสริมสิทธิ ความเท่าเทียมระหว่างเพศได้มากขนึ้ เกรด็ นา่ รู้ ความเท่าเทยี มระหวา่ งเพศ ในอดีตความเท่าเทียมระหว่างเพศมักจะมองเพียงแค่ระหว่างเพศชายและเพศหญิงเท่าน้ัน แต่ปัจจุบัน ต้องมองความเท่าเทียมของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย ซ่ึงจะเห็นได้จากมีพระราชบัญญัติ ความเท่าเทยี มระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ เกิดขึ้น มาตรา ๓ ที่ระบุไว้ว่า “การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ” หมายความว่า การกระท�า หรือไม่กระท�าการใดอันเป็นการแบ่งแยก กีดกัน หรือจ�ากัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยปราศจากความชอบธรรม เพราะเหตทุ บี่ คุ คลนน้ั เปน็ เพศชายหรอื เพศหญงิ หรอื มกี ารแสดงออกทแี่ ตกตา่ ง จากเพศโดยกา� เนดิ ทัง้ นี้ วลที ่ีว่า “การแสดงออกท่แี ตกตา่ งจากเพศโดยก�าเนดิ ” มคี วามหมาย รวมถึงบุคคล ท่แี ตกตา่ งจากเพศชายและเพศหญิง มาตรา ๑7 การก�าหนดนโยบาย กฎ ระเบียบ ประกาศ มาตรการ โครงการ หรือวิธีปฏิบัติของ หน่วยงานของรัฐ องคก์ รเอกชน หรือบคุ คลใดในลักษณะท่ีเปน็ การเลอื กปฏบิ ัติโดยไมเ่ ป็นธรรมระหวา่ งเพศ จะกระทา� มไิ ด้ การดา� เนนิ การตามวรรคหนง่ึ เพอ่ื ขจดั อปุ สรรคหรอื สง่ เสรมิ ใหบ้ คุ คลสามารถใชส้ ทิ ธแิ ละเสรภี าพ ไดเ้ ชน่ เดยี วกบั บคุ คลอนื่ หรอื เพอื่ คมุ้ ครองสวสั ดภิ าพและความปลอดภยั หรอื การปฏบิ ตั ติ ามหลกั การ ทางศาสนา หรอื เพื่อความม่นั คงของประเทศ ย่อมไมถ่ อื เปน็ การเลือกปฏบิ ตั ิโดยไมเ่ ป็นธรรมระหว่างเพศ มาตรา ๑8 บคุ คลใดเหน็ วา่ ตนไดร้ บั หรอื จะไดร้ บั ความเสยี หายจากการกระทา� ในลกั ษณะ ทเ่ี ปน็ การเลอื ก ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และมิใช่เป็นเรื่องท่ีมีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาล หรือท่ีศาลพิพากษา หรอื มคี า� สงั่ เดด็ ขาดแลว้ ใหม้ สี ทิ ธยิ น่ื คา� รอ้ งตอ่ คณะกรรมการ วลพ. เพอ่ื พจิ ารณา วนิ จิ ฉยั วา่ มกี ารเลอื กปฏบิ ตั ิ โดยไมเ่ ปน็ ธรรมระหวา่ งเพศหรอื ไม่ คา� วนิ จิ ฉัยของคณะกรรมการ วลพ. ใหเ้ ป็นทส่ี ดุ ท้ังนี้ หลักเกณฑแ์ ละ วธิ กี ารในการยน่ื คา� รอ้ ง การพจิ ารณา และการวนิ จิ ฉยั ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บทรี่ ฐั มนตรี กา� หนดโดยคา� แนะนา� ของคณะกรรมการ สทพ. พระราชบัญญัติดังกล่าวถือเป็นกฎหมายฉบับแรกของไทยที่ให้การคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของกลุ่ม ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน ซ่ึงแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีเพียงแต่ส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียม ระหวา่ งเพศชายและเพศหญงิ เทา่ นน้ั นอกจากน้ี ยงั เปน็ การเปดิ โอกาสในการเลอื กใชส้ ทิ ธขิ องผทู้ ร่ี บั ผลกระทบ จากการเลือกปฏิบตั ิโดยไมเ่ ป็นธรรมระหวา่ งเพศ เชน่ การฟ้องรอ้ งดา� เนนิ คดตี อ่ ศาล การได้รับการชว่ ยเหลอื เยียวยาหากได้รบั ผลกระทบจากการเลอื กปฏิบตั โิ ดยไม่เป็นธรรมระหวา่ งเพศ รวมถงึ การมสี ทิ ธทิ างเพศ ซึ่งมี สิทธิท่ีจะตัดสินใจในเรื่องเพศของตน เป็นสิทธิท่ีผู้อ่ืนต้องยอมรับและเคารพ โดยไม่กระท�า หรือแสดงออก ทางเพศท่ีท�าใหต้ นเองหรือผูอ้ น่ื ไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ น 6๒ เกร็ดแนะครู กจิ กรรมสรา งเสรมิ ครูควรสรปุ เนอ้ื หาเปน ภาพรวมทั้งหมด เพอ่ื ทบทวนใหนกั เรยี นไดเ กดิ ความรู ใหน กั เรยี นเขยี นลกั ษณะ หรอื พฤตกิ รรมทแี่ สดงใหเ หน็ วา มคี วาม ความเขาใจในหนว ยการเรียนรนู ้ีมากขึ้น นอกจากนี้ครอู าจแนะนําถึงแนวทางปฏิบตั ิ หลากหลายทางเพศ วามีลกั ษณะอยา งไรลงในกระดาษรายงาน ในการยอมรับและปรับตัวตอการเปล่ยี นแปลงทางพฒั นาการทางเพศเพ่มิ เตมิ จาก เน้อื หาใหแกน กั เรยี นรวมดว ย กิจกรรมทาทาย นักเรยี นควรรู ใหน ักเรยี นยกตวั อยางลักษณะ หรือพฤตกิ รรมทแ่ี สดงใหเห็น วา มคี วามหลากหลายทางเพศมา 1 ตวั อยาง จากน้นั ใหนกั เรียน 1 การแปลงเพศ การตรวจสอบสภาพทางจิตใจของผูที่ตองการผาตัดแปลงเพศ เสนอแนะวธิ กี ารอยรู ว มกนั ในสงั คมทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศ เปน สง่ิ สาํ คญั อยา งหนง่ึ เพอ่ื ใชเ ปน ขอ ตดั สนิ วา ผทู ตี่ อ งการแปลงเพศมคี วามเหมาะสม ในรปู ของผังความคดิ ตามจินตนาการของนักเรยี น ท่ีจะผาตัดหรือไม เน่ืองจากเม่ือผาตัดแปลงเพศไปแลวไมสามารถยอนกลับคืน สภาพเดมิ ไดอ ีก 62 คูมือครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขา ใา จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Evaluate Expand Expand ขยายความเขา ใจ เสริมสาระ ครรู ว มพูดคยุ กับนักเรยี นถงึ เร่อื ง สวิ จากน้นั ใหนักเรยี นศึกษาเพ่มิ เติมเรื่อง ทําอยางไรให ทําอยา่ งไรใหสวิ หาย สวิ หายจากเสรมิ สาระ จากน้ันครูตั้งคําถาม สิวเป็นปัญหาท่ีพบได้บ่อยมาก ซ่ึงเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่มักต้องเผชิญกับปัญหาเร่ืองสิวมากบ้างน้อยบ้าง แตกตา่ งกนั ถึงแมว้ ่าสวิ จะหายไดเ้ อง แตก่ ใ็ ชว่ า่ สิวจะไมเ่ ป็นปญั หาใหญ่ เพราะอย่างท่เี รารู้กันอยู่แล้ววา่ การเกดิ สวิ • นกั เรยี นทราบหรือไมว า สวิ เกดิ ข้นึ ไดอยางไร (แนวตอบ ขึ้นอยกู ับคําตอบของนักเรยี น มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนในร่า1งกาย ซ่ึงเม่ือเกิดแล้ววัยรุ่นบางคนที่อยากให้สิวหายเร็ว มักจะหันไปใช้ยารักษาสิว โดยอาจตอบวา เกดิ จากตอ มไขมนั ผลติ ไขมนั มาก และมีการอดุ ตนั ทางเดิน ซงึ่ มสี ว่ นผสมของโรแอคควิ เทน็ เพราะถงึ แมจ้ ะชว่ ยรกั ษาสวิ ไดบ้ า้ ง ซง่ึ กม็ ผี ลขา้ งเคยี ง คอื ตวั ยาจะไปสะสมในรา่ งกาย ของไขมัน ทาํ ใหเปน สิว) อาจทา� ให้เกิดอาการแพ้ไดใ้ นทีส่ ดุ คือ จะมีผน่ื แดงทัว่ รา่ งกาย อนั เปน็ สญั ญาณอนั ตรายท่ีไมด่ ี • เม่ือเปนสวิ นักเรยี นปฏบิ ัตอิ ยางไร สิวหัวดาํ (Blackhead) (แนวตอบ ขน้ึ อยูกบั คาํ ตอบของนักเรียน โดย ชัน้ หนงั กําพรา (Epidermis) อาจตอบวาไปพบแพทย หรอื หาผลิตภณั ฑ รักษาสิวมาใช) ไขมันสว่ นเกิน (Cel ulite) ชัน้ หนังแท (Dermis) ต่อมไขมนั (Sebaceous glands) ปมุ รากขน (Hair Fol icle) ชั้นใตผ วิ หนงั (Subcutaneous) ทางท่ีดีในการรักษาสิวก็คือ เราควรใจเย็นกับการรักษาสิวโดยการใช้อาหารธรรมชาติบ�าบัด เช่น กินข้าวกล้อง ผัก ผลไม้สด ให้มาก เพราะมีวิตามินซีที่ช่วยสร้างคอลลาเจน (Collagen) ซ่ึงเป็นส่วนส�าคัญ ในการท�าให้ผิวหนังชุ่มช้ืน นุ่มนวล และเต่งตึง กระชับ และมีเบตาแคโรทีน (Beta-Carotene) สูง ซึ่งช่วย ลดอาการอักเสบ ท�าให้จุดด่างด�าจางลง นอกจากน้ีธัญพืชบางชนิด เช่น เมล็ดฟักทองก็ช่วยลดการอักเสบได้ ถึงแมจ้ ะหายชา้ แต่ก็ม่นั ใจไดว้ า่ ไม่เป็นอันตรายตอ่ สุขภาพ และยังมีราคาถกู อกี ด้วย ทส่ี �าคญั เพือ่ ป้องกันการเกิดสิวบนใบหน้า เราตอ้ งหมนั่ ดแู ลรักษาทา� ความสะอาดใบหน้าให้สะอาดอยา่ ง สม่�าเสมอ เชา้ -เย็น ด้วยสบู่อ่อนๆ แต่กต็ อ้ งระมดั ระวงั อยา่ ลา้ งหน้าบ่อยๆ เพราะอาจจะทา� ให้หนา้ แห้งจนเกดิ อาการ คันขึ้นได้ อกี ทัง้ ยงั ตอ้ งพกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอและไมเ่ ครยี ดดว้ ย วัยรนุ เปน วยั ทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลงทางดา นรา งกาย จติ ใจ อารมณ และพฒั นาการทางเพศ 6๓ อยางรวดเร็ว วัยรุนจึงควรปฏิบัติตนใหเหมาะสมกับการเปล่ียนแปลงตางๆ หากวัยรุนสามารถ ยอมรบั เขาใจ และปรบั ตัวตอการเปลยี่ นแปลงดงั กลา วไดอ ยางเหมาะสมแลว ก็จะสง ผลดีทงั้ ตอ ตนเองและบุคคลอ่ืนโดยไมกอใหเกิดปญหาทางเพศข้ึนในสังคม ทําใหสามารถดํารงชีวิตอยูได อยา งมคี วามสุข ขอ สอบเนน การคิด เกรด็ แนะครู ขอใดสรปุ ไมถูกตอ ง เกี่ยวกับสิวฮอรโมน ครูควรแนะนาํ นกั เรียนถงึ เรอื่ งการรบั ประทานยารกั ษาสวิ วา ไมควรซือ้ ยามา 1. มกั ไมมีอาการอกั เสบ รบั ประทานเอง เพราะอาจกอ ใหเ กิดอนั ตรายได ควรปรกึ ษาแพทยโ รคผิวหนงั 2. มกั เกดิ บรเิ วณกรามและคาง เพ่ือรบั การรกั ษาอยางเหมาะสม 3. เปนการทํางานของตอ มหมวกไต 4. วยั รุนหญิงมกั จะมีปญ หาดังกลา วมากกวาวัยรุนชาย นกั เรียนควรรู วเิ คราะหค าํ ตอบ สวิ สามารถเกิดขนึ้ ไดกับทุกเพศเมอ่ื เร่ิมเขาสู วยั รุน ซงึ่ การเกดิ สวิ มากหรือนอยน้ัน ขน้ึ อยูกับฮอรโ มนและ 1 โรแอคคิวเทน็ (Roaccutane) คือ ยารกั ษาสิว ประกอบไปดวยตวั ยา สุขอนามัยของแตล ะบคุ คล ไมไ ดเ กยี่ วกับเพศวาเพศหญิงจะเกดิ ไอโซเทรตโิ นอนิ (Isotretinoin) ซึ่งเปน ตวั ยาทใ่ี ชสําหรบั รกั ษาสวิ อักเสบ และดอื้ ตอ ยารกั ษาอ่นื ๆ โดยเปนยาทีม่ ีผลขา งเคียงคอนขางมาก อาจทําใหท ารกพิการได มากกวา เพศชายแตอ ยา งใด ตอบขอ 4. หากใชใ นหญงิ ทตี่ งั้ ครรภ และยงั ทาํ ใหเ กดิ อาการซมึ เศรา รวมทงั้ อาการทางจติ ดว ย ซงึ่ การใชย าดงั กลา วตอ งอยูภายใตการดแู ลของแพทย และเภสชั กรอยา งใกลช ิด คูม ือครู 63

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล Explore Explain Expand Engage Evaluate Evaluate ตรวจสอบผล การเขียนแสดงความคดิ เห็น ขอ ดี ขอ เสยี และ คาํ ถาม ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ สถานการณใ นอนาคต เกี่ยวกบั การแตงงานระหวา ง ชายกบั ชาย และหญงิ กบั หญงิ ทป่ี รากฏตามสอ่ื ตา งๆ ๑. นักเรียนจะมีวิธีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการ ในปจ จบุ นั ทางเพศของตนเองอยา่ งไร หลักฐานแสดงผลการเรยี นรู ๒. พฒั นาการทางเพศมีความส�าคญั อยา่ งไรกบั วัยรนุ่ ๓. นักเรยี นจะอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมท่มี ีความหลากหลายทางเพศไดอ้ ย่างไร รายงานวธิ กี ารปรบั ตวั ตอ การเปล่ียนแปลงทาง รางกาย จติ ใจ อารมณ และพฒั นาการทางเพศ กจิ กรรม สรา้ งสรรคพ ฒั นาการเรยี นรู้ กิจกรรมที ่ ๑ นกั เรยี นหาภาพประกอบ จากเวบ็ ไซตท์ เ่ี ปน็ ตวั อยา่ งเกยี่ วกบั การเปลย่ี นแปลงทาง กิจกรรมที่ ๒ รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ ์ และพฒั นาการทางเพศ เมอื่ เขา้ สวู่ ยั รนุ่ แลว้ ทา� เปน็ รายงาน กจิ กรรมท ี่ ๓ สง่ ครูผ้สู อน นักเรียนช่วยกันค้นคว้าหาข้อมูลเก่ียวกับหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ที่ให้การบริการช่วยเหลือและให้ค�าปรึกษาเก่ียวกับเรื่องเพศ แล้วน�าเสนอ หน้าชั้นเรียน ยกตัวอย่างผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศท่ีประสบความส�าเร็จในชีวิตอย่างน้อย ๑ คน 6๔ แนวตอบ คาํ ถามประจาํ หนว ยการเรยี นรู 1. ยอมรบั และเขาใจวา เปน เรอ่ื งธรรมชาติ ดแู ลรักษาสขุ อนามัยของตนเอง พยายามสรางความเช่อื มัน่ และรจู ักปรบั ตวั ใหเ ขา กบั ผูอน่ื 2. พัฒนาการทางเพศเปนการเปลยี่ นแปลงทางดา นเพศของวัยรุน โดยมีความสาํ คญั ท่วี ยั รุนจะตองเรยี นรู เพ่อื ใหเขาใจถึงภาวะการเปลยี่ นแปลงทางเพศที่เกิดขึน้ กบั ตนเอง และผอู น่ื เพ่ือใหเกดิ พัฒนาการทางเพศท่ีดี อนั จะชวยสง เสริมพฤติกรรมสุขภาพทถ่ี กู ตอ ง 3. ควรปฏบิ ตั ติ นใหเ กดิ ความสขุ ในการอยรู ว มกนั เชน เคารพและใหเ กยี รตซิ งึ่ กนั และกนั ยอมรบั ความแตกตา งระหวา งบคุ คล มคี วามเมตตาตอ ผอู น่ื ชว ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั ไมด ูถูกผอู นื่ ดว ยคําพูด ความคิด และการกระทาํ 64 คมู ือครู

กกรระตะตนุ Eุน nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate เปา หมายการเรยี นรู 1. อธิบายสาเหตุ ผลกระทบ และแนวทาง ปองกนั การลวงละเมดิ ทางเพศได 2. แสดงทักษะปฏเิ สธเพอ่ื ปองกันการ ลวงละเมดิ ทางเพศได สมรรถนะของผเู รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกปญหา 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต ๔หน่วยท่ี คุณลักษณะอนั พึงประสงค การปองกันการลว่ งละเมดิ ทางเพศ 1. ใฝเรียนรู 2. มุงมัน่ ในการทํางาน 3. รักความเปน ไทย 4. มจี ิตสาธารณะ กระตนุ ความสนใจ Engage ตวั ชวี้ ัด ปจจุบันการลวงละเมิดทางเพศ เปน ใหนักเรยี นดูภาพหนาหนว ย จากนน้ั ตง้ั คาํ ถาม เพือ่ กระตนุ ความสนใจของนกั เรยี น ■ แสดงทกั ษะการปฏเิ สธเพอ่ื ปอ้ งกนั ตนเองจากการถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ปญหาท่ีเกิดขึ้นอยูบอยคร้ัง อันเปน (พ ๒.๑ ม.๑/๒) • เมื่อดภู าพแลว นักเรยี นคิดวาผูหญิงในภาพ พฤติกรรมที่สรางความกระทบกระเทือน กําลงั ตกอยูในสถานการณเ สยี่ งตอ การ ลวงละเมดิ ทางเพศหรอื ไม ตอบุคคลและครอบครัวท่ีถูกกระทํา ท้ังทาง • หากนกั เรียนเปนผหู ญงิ คนดงั กลาวนน้ั สาระการเรียนรู้ รา งกาย จติ ใจ และสงั คมเปน อยางมาก ดงั นัน้ นักเรียนจะทําอยา งไร การไดเรียนรูพฤติกรรม สาเหตุ วิธีปองกัน ■ สาเหตขุ องการลว่ งละเมิดทางเพศ ตลอดจนทักษะปฏิเสธเพื่อปองกันพฤติกรรม • หากกลาวถึงการลว งละเมิดทางเพศ ■ การป้องกันและหลีกเล่ียงสถานการณ์เส่ีิยงต่อการล่วงละเมิด และหลีกเลี่ยงสถานการณเส่ียงตอการลวงละเมิด นักเรยี นนึกถึงพฤติกรรมใดบา ง ทางเพศนั้น จะทําใหรอดพนจากการลวงละเมิด ทางเพศ ■ ทกั ษะปฏิเสธเพอื่ ป้องกนั การล่วงละเมิดทางเพศ ทางเพศได เกร็ดแนะครู ครูอาจหาภาพขาวหรือขา วเหตุการณก ารลว งละเมดิ ทางเพศรปู แบบตางๆ มาใหนักเรยี นดู เพ่ือนาํ เขา สบู ทเรยี น และอาจนาํ มาใชป ระกอบการเรยี นการสอน ดวยก็ได คมู ือครู 65

กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Evaluate Engage Explore กระตนุ ความสนใจ Engage ครหู าขาวเก่ยี วกบั พฤติกรรมการลว งละเมิด ๑. ความหมายและลกั ษณะของพฤตกิ รรมการลว่ งละเมดิ ทางเพศ ทางเพศ หรอื เลาเหตกุ ารณใหน กั เรียนฟง เชน การใชโทรศพั ทพ ดู คุยเรือ่ งเพศ (Sex Phone) ๑.๑ ความหมายของการล่วงละเมดิ ทางเพศ การถาํ้ มอง คลิปวิดีโอลามก ขา วการขมขนื เปนตน ความรนุ แรงทางเพศ หรือการลว่ ง จากนน้ั ครตู ง้ั คําถามกระตุนความสนใจ โดยให ละเมดิ ทางเพศ หมายถึง การกระทา� หรอื การ นักเรียนไดแสดงความคดิ เหน็ อยา งอสิ ระ พูดเก่ียวกับเร่ืองทางเพศที่ลามกอนาจาร หรือ การแสดงออกทางเพศต่อผู้อ่ืนโดยบุคคลน้ัน • จากเหตุการณต างๆ ท่คี รนู าํ มาใหดูหรอื เลา ไมย่ นิ ยอม มหี ลากหลายรปู แบบ ไดแ้ ก ่ การคกุ คาม ใหฟงน้ัน นักเรยี นคดิ วา เหตกุ ารณใ ดเปน ทางเพศโดยไมม่ กี ารสมั ผัส การละเมิดทางเพศ พฤติกรรมการลว งละเมดิ ทางเพศบาง โดยการสมั ผสั ไมม่ กี ารสอดใส ่ การพยายามขนื ใจ (แนวตอบ ทุกเหตุการณทคี่ รูยกตวั อยา งมานนั้ ปลกุ ปล�้า เพอ่ื จะร่วมเพศ การขม่ ขนื เพ่ือสนอง ลวนเปน พฤตกิ รรมการลว งละเมดิ ทางเพศ ความใคร่ของผู้กระท�าโดยใช้อวัยวะเพศของ ท้งั สน้ิ ) ผู้กระทา� กระท�ากบั ชอ่ งปาก อวยั วะเพศ หรือ การล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นด้วยคำาพูด สายตา ทวารหนักของผอู้ ่นื หรือการใชส้ งิ่ อนื่ ใดกระทา� • นอกจากเหตุการณต างๆ ท่ีครูยกตัวอยางนนั้ หรือแม้กระทั่งการถูกถ่ายภาพ โดยที่ไม่ได้รับความ กับอวยั วะเพศ หรอื ทวารหนักของผอู้ น่ื ยงั มีพฤติกรรมใดอกี บา งที่เปน พฤติกรรมการ ยินยอมพร้อมใจ ถือเป็นเร่ืองท่ีผิดกฎหมายและศีลธรรม ลวงละเมิดทางเพศ ใหนกั เรียนรวมกัน เป็นอยา่ งมาก ยกตัวอยา ง (แนวตอบ พฤติกรรมการลว งละเมดิ ทางเพศ ๑.2 ลกั ษณะของพฤตกิ รรมการล่วงละเมดิ ทางเพศ เชน การพูดจาหรอื เลาเร่อื งตลกลามก พดู แทะโลมเรอื่ งเพศ การมองหนาอก พฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศ เป็นรูปแบบการกระท�าอนาจารต่อบุคคลอ่ืน โชวอวยั วะเพศ การขมขืน เปน ตน ) โดยการเรียกร้องความพึงพอใจท้ังทางกายและวาจา หรือเข้าแทรกแซงสภาพแวดล้อมอันดี ในการดา� เนนิ ชวี ติ ของบคุ คลอน่ื อยา่ งไรเ้ หตผุ ล มที ง้ั การกระทา� ทรี่ นุ แรงและไมร่ นุ แรง ซงึ่ แบง่ ออก สาํ รวจคน หา Explore เป็น ๓ ลักษณะ คือ ใหนักเรียนแตละคนศึกษาความหมาย ลักษณะ ๑) ล่วงละเมิดทางเพศด้วยวาจา หมายถึง การกระท�าอนาจารต่อบุคคลอื่นด้วย และสาเหตุ และผลกระทบจากการลว งละเมดิ ทางเพศ จากหนังสือเรียนหรือแหลงเรียนรูอ่ืนๆ เพ่ิมเติม คา� พดู เพอ่ื ตอบสนองความพงึ พอใจของตนเองในเรอื่ งเพศ ซงึ่ ถอื วา่ เปน็ การกระทา� ทไ่ี มร่ นุ แรง เชน่ ซงึ่ เมอื่ ศกึ ษาแลว ใหส รปุ สาระสาํ คญั ลงในสมดุ บนั ทกึ ๑. การวิพากษ์ วิจารณ์ เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของผู้อ่ืนท่ีส่อไปในทางลามก จากนนั้ ใหร วมกลมุ กนั กลมุ ละ 5-6 คน รว มกนั อภปิ ราย อนาจาร เรื่องท่ีไดศึกษามา เพ่ือหาตัวแทนเตรียมออกมา ๓๒.. กกาารรตเลา่ามเรจอ่ืบี ง ตตลามกลตาอื๊ ม พก ูดเจราือ่ เงกส้ียอวงพแางร่สาอส1ง ี งทา่ ง้ัม2ๆใ นทเร่ีรื่อวู้ า่งอเพกี ศฝ่ายไมช่ อบ นาํ เสนอหนาชัน้ เรียน ๔. การใชค้ �าพูดแทะโลมหยาบคายเรื่องเพศ ๕. การใชค้ �าพดู เพ่ือกระตุน้ อารมณ์ทางเพศ ๖. การใช้โทรศพั ท์พูดคุยเรื่องเพศ ลวนลาม เพื่อกระตุ้นอารมณท์ างเพศของตน 66 นักเรยี นควรรู ขอสอบเนน การคดิ ขอ ใดไมถ ือวา เปนการลว งละเมิดทางเพศ 1 พูดจาเกีย้ วพาราสี คอื การท่ีหนมุ สาวพยายามพดู จาใหอ กี ฝายหนึ่งรูสกึ 1. การพูดจาแทะโลม เชน เดียวกับตน ซ่งึ ถือเปน พฤตกิ รรมที่ใชแ สวงหาบคุ คลที่ตรงกบั ทม่ี ุง หวงั ไว 2. การไปเที่ยวดวยกัน เพ่อื มาเปน คคู รองตอไปในอนาคต 3. การขอมเี พศสัมพนั ธ 2 สองแงส องงาม เปนการพูดจาในลักษณะทสี่ ามารถตีความได 2 ความหมาย 4. การแอบดูตามหอ งนา้ํ ซง่ึ สวนใหญจะสอไปในทางท่ีหยาบคาย ลามก อนาจาร วเิ คราะหค ําตอบ การลว งละเมดิ ทางเพศเปน การละเมิดสทิ ธิ ของผอู ืน่ ในเรื่องเพศลักษณะตางๆ เชน ดว ยคําพดู ดวยสายตา การบงั คบั ใหม เี พศสมั พันธ ดงั น้นั การไปเท่ยี วดว ยกันจึงไม เปน การลวงละเมดิ ทางเพศ เพราะไมมกี ารแสดงพฤติกรรมดัง กลา วใหเห็นชดั เจน ตอบขอ 2. 66 คูมอื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๒) ล่วงละเมิดทางเพศด้วยการกระทําท่ีไม่ได้ถูกเน้ือต้องตัว หมายถึง ครสู มุ ใหตัวแทนกลมุ 2-3 กลมุ ออกมาสรปุ การกระท�าอนาจารต่อบุคคลอ่ืนด้วยการกระท�าต่างๆ อาจจะด้วยสายตา การอวดอวัยวะเพศ เรอื่ ง ความหมายและลักษณะของพฤติกรรม ตลอดจนการใช้ส่ือต่างๆ เพื่อการตอบสนอง การลวงละเมิดทางเพศใหเ พ่ือนในหองฟง โดย ความพงึ พอใจของตนเองในเร่ืองเพศ เช่น รวมกันคดิ วธิ ีการนาํ เสนอทีน่ า สนใจ จากน้ันครู ๑. การจอ้ งมองของสงวน เชน่ และนักเรยี นรวมกนั อภปิ รายวาหลงั จากท่ศี ึกษา หน้าอก อวยั วะเพศของผอู้ ื่น เปน็ ตน้ แลว นักเรียนมคี วามเขาใจเกี่ยวกับพฤติกรรม ๒. การแอบดูหรือท่ีเรียกว่า การลว งละเมิดทางเพศมากข้ึนหรือไม และให “ถา้� มอง” การแอบตดิ ตง้ั กลอ้ งวงจรปดิ และการ นักเรยี นทาํ กจิ กรรมในแบบวดั และบนั ทกึ ผล แอบถา่ ยภาพนิง่ หรอื แอบถ่ายคลปิ (clip) ตาม การเรยี นรู กิจกรรมท่ี 4.1 หอ้ งน�า้ ห้องลองเส้อื ผ้า ห้องนอน หอ้ งแต่งตัว ใบงาน ✓แบบวดั ฯ แบบฝก ฯ สุขศึกษา ม.1 กจิ กรรมที่ 4.1 บันไดเลื่อน หรอื สถานท่สี ว่ นตวั อืน่ ๆ หนวยท่ี 4 การปองกนั การถูกลว งละเมดิ ๓. การอวดอวัยวะเพศ ๔. การอวดแสดงภาพโป ๊ หรอื ทางเพศ ภาพท่ีส่อไปในทางเพศ กจิ กรรมตามตวั ชี้วัด คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด ๕. การเผยแพรส่ อื่ ลามก หรือ กจิ กรรมที่ ๔.๑ ใหนักเรียนบอกความหมายของพฤติกรรมการลวงละเมิด ñð ทางเพศ และลกั ษณะของพฤตกิ รรมการลว งละเมดิ ทางเพศ คลิปวิดีโอโป๊ แบบตา งๆ (พ ๒.๑ ม.๑/๒) ๖. การแพรภ่ าพถา่ ยคลปิ วดิ โี อ ควรหากิจกรรมทเี่ ปน็ ประโยชน์อย่างอื่นทำา เพื่อผอ่ นคลาย ความหมายของพฤตกิ รรมการลว งละเมดิ ทางเพศ …เ…ป…น…พ……ฤ…ต…ิก…ร…ร…ม…ข…อ…ง…บ……ุค…ค…ล…ท……่ีล…ะ…เม…ิด……ส…ิท…ธ…ิข…อ…ง.. ลามกอนาจารทางอินเทอร์เน็ต ต่อการเกดิ อารมณ์ทางเพศ บ……ุค…ค…ล…อ…ืน่ …ใ…น…เ…ร…อ่ื …ง…เพ…ศ…ล…กั……ษ…ณ…ะ…ต…า…ง…ๆ……โด…ย…ท…่ีผ…ูถ……กู …ก…ร…ะท……ําไ…ม…ย …นิ …ย…อ…ม…พ…ร…อ …ม…ใ…จ……อ…นั …ส…ง…ผ…ล…ก…ร…ะ…ท…บ…ต……อ…รา…ง…ก…า…ย.. จ…ติ……ใจ……อ…า…ร…ม…ณ… …ส…งั …ค…ม……ร…ว…ม…ถ…งึ …ส…ว…สั …ด…ภิ …า…พ…แ…ล…ะ…ก…า…รด……าํ ร…ง…ช…วี …ติ …อ…ย…า …ง…ป…ก…ต…สิ …ขุ …ท…ง้ั …ใ…น…ร…ะ…ย…ะส…น้ั……แ…ล…ะร…ะ…ย…ะ…ย…าว…ข…อ…ง.. ผ…ถู……กู …ก…ร…ะท……ํา…ซ…่งึ …ถ…ือ…เ…ป…น…เร…ื่อ…ง…ท…ผ่ี…ดิ…ก……ฎ…ห…ม…าย……ศ…ลี…ธ…ร…ร…ม……แ…ล…ะ…ค…ว…าม…ส……ง…บ…ส…ุข…ขอ…ง…ส……งั ค……ม……………………………………….. ๓) ล่วงละเมิดทางเพศท่ีเปนการกระทําอย่างชัดแจ้ง หมายถึง การกระท�า พฤติกรรมการลว งละเมดิ ทางเพศ อนาจารด้วยการกระท�าอย่างชัดเจนโดยการถูกเนื้อต้องตัวร่างกายบุคคลอ่ืนที่ไม่ยินยอมพร้อมใจ ดวยวาจา การกระทาํ ทีไ่ มถูกเนอ้ื ตอ งตัว การกระทาํ อยา งชดั แจง เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของตนเอง เฉฉบลบั ย …-……โท…ร…ศ…พั……ท…พ …ดู …ค…ุย…เ…รื่อ…ง…เ…พ…ศ……… ในเรือ่ งเพศซึ่งถอื เป็นการกระทา� ทีร่ ุนแรง เช่น …-……ก…าร…จ…อ…ง…ม…อ…ง…ข…อ…ง…ส…ง…ว…น……เช…น… …-……ก…า…ร…แ…ต…ะ…เน……ื้อ…ต…อ…ง…ต…ัว…โ…ด…ย…ท…่ี ๑. การแตะเน้ือต้องตัวโดยที่ ………เพ…ื่อ…ก…ร…ะ…ต…ุน…อ…า…ร…ม…ณ……ท…า…ง…เพ…ศ… ………ห…น…า …อ…ก……อ…วยั…ว…ะ…เพ…ศ……เ…ป…น…ต…น … ………ผ…ูอ…ืน่ …ไม…พ……ึง…ป…ร…ะส…ง…ค………………… บุคคลอ่ืนไม่พึงประสงค์ เช่น การน่ัง การยืน ………ขอ…ง…ต…น……………………………………… …- ……ก…าร…แ…อ…บ…ม…อ…ง…………………………… …-……ก…าร…ก……ระ…ท…ํา…อ…น…า…จ…า…ร……………… การเดนิ ทใี่ กลช้ ดิ เกนิ ไป การเสยี ดสรี า่ งกาย การ …-……พ…ูด…แ…ท…ะ…โล…ม…ห…ย…า…บ…ค…า…ย…เ…ร…ื่อ…ง… …-……ก…าร…อ…ว…ด…โ…ช…ว…อ…วยั…ว…ะ…เพ…ศ…………… …-……ก…าร…ข…อ…ม…เี …พ…ศ…ส…ัม…พ…ัน…ธ……………… แตะเนอื้ ตอ้ งตวั จบั ตอ้ งเสอื้ ผา้ รา่ งกาย เปน็ ตน้ ………เพ…ศ…………………………………………… …-……ก…าร…อ…ว…ด…โ…ช…ว…ภ …าพ……โป………………… …-……ก…าร…บ……งั …ค…ับ…ให……ม …เี พ…ศ…ส…ัม…พ……นั …ธ… ๒. การกระท�าอนาจาร เช่น …-……เล…า …เร…่ือ…ง…ล…า…ม…ก…อ…น…า…จ…า…ร………… …-……ก…าร…เ…ผ…ย…แ…พ…ร…ส …ื่อ…ล…า…ม…ก…………… …-……ก…า…ร…ข…ม …ขืน………………………………… กอด จบู ลบู คลา� เปน็ ตน้ ซงึ่ เปน็ การแสดง …-……พ…ูด…ก…ร…ะ…ต…ุน …อ…า…ร…ม…ณ…ท…า…ง…เพ……ศ… ………อ…น…า…จ…าร…………………………………… …-……ก…าร…ว…พิ …า…ก…ษ… …วจิ…า…ร…ณ……เ…ก…ย่ี ว…ก…บั… ……………………………………………………… ………ร…ปู …ร…า …ง…ห…น…า …ต…าข…อ…ง…ผ…อู …นื่ …ท…ส่ี…อ… ……………………………………………………… ………ไ…ป…ใน……ท…า…งล……าม…ก…อ…น……าจ…า…ร……… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ความใครท่ างเพศ ๓๒ ๓. การขอมเี พศสมั พนั ธ ์ การถกู วธิ ีแก้ไขวธิ หี น่งึ เมื่อถกู จับเน้ือตอ้ งตวั ทำาได้โดยการจับ บงั คับใหม้ เี พศสัมพันธ ์ การข่มขืน นิว้ ก้อยหักยอ้ นขึ้นอยา่ งแรง 67 ขอสอบเนน การคิด เกรด็ แนะครู เม่ือถกู ฝา ยชายพยายามที่จะลวงเกนิ ฝา ยหญงิ ควรปฏิบตั ิ ครูอาจใหนกั เรียนยกตวั อยา งการถูกลว งละเมดิ ทางเพศทน่ี ักเรียนพบเหน็ อยา งไร ในชวี ิตประจาํ วนั เพือ่ เปน อุทาหรณใ หแกเ พอ่ื นในหอ ง 1. เดนิ หนี บูรณาการอาเซียน 2. ดา วาอยา งรุนแรง 3. ปฏิเสธดว ยทาทางที่จริงจงั การลว งละเมิดทางเพศถอื เปนการละเมดิ สิทธิมนษุ ยชนของบคุ คล ครคู วรให 4. ยอมใหล ว งเกนิ แตไมมากจนเกินไป ความรเู พิม่ เติมกบั นกั เรยี นถงึ เรอ่ื งสิทธิมนุษยชนวา เปน เรอ่ื งใหมในอาเซียนท่ไี ทย วเิ คราะหค าํ ตอบ เมอ่ื ถกู ฝา ยชายพยายามทจ่ี ะลว งเกนิ ฝา ยหญงิ ผลกั ดนั ใหป รากฏในกฎบตั รฯ โดยไดม ีการจัดต้ังองคก รสิทธิมนษุ ยชนของอาเซยี น ควรปฏเิ สธดวยคําพูด น้าํ เสยี ง และทา ทางทีจ่ รงิ จงั เพือ่ แสดง ซง่ึ จะตองมกี ารจัดทํา Terms of Reference เพื่อกําหนดรายละเอยี ดเกีย่ วกบั ความตัง้ ใจอยา งชัดเจนในการปฏิเสธ อกี ท้งั ยังเปนการรักษา อํานาจหนา ทีข่ ององคกรนตี้ อ ไป สัมพันธภาพท่ดี ตี อกนั ไวอ กี ดว ย ตอบขอ 3. คมู ือครู 67

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู จากท่ีครไู ดส ุม ตวั แทนกลุม 2-3 กลุม ออกมา ๒. สาเหตุของการล่วงละเมิดทางเพศ สรุปเรื่อง ความหมายและลกั ษณะของพฤติกรรม ปัญหาการลว่ งละเมดิ ทางเพศที่มักพบบ่อยๆ ตามที่เป็นข่าว มกั เปน็ เร่อื งของการใชอ้ �านาจ การลวงละเมดิ ทางเพศไปแลว เพ่อื ใหเ กดิ ความ ในเรื่องเพศ เช่น ผ้ชู ายกระท�ากบั ผู้หญิง ผ้ใู หญ่ ตอ เนื่องในเนื้อหามากขึน้ ครูเช่ือมโยงเน้ือหาโดยให กระทา� กบั เดก็ หวั หนา้ กระทา� กบั ลกู นอ้ ง เปน็ ตน้ ตวั แทนกลุม 2-3 กลุม ออกมาสรปุ เรอื่ ง สาเหตุ ซงึ่ ปัญหาดงั กล่าวอาจมสี าเหตุดงั ตอ่ ไปนี้ ของการลว งละเมดิ ทางเพศใหเ พอ่ื นในชน้ั เรยี นฟง ๑) สถานภาพและความสมั พนั ธ์ โดยรว มกันคดิ วิธีการนาํ เสนอท่นี าสนใจ เพอ่ื ใหเ กิด ของบุคคล เป็นสาเหตุส�าคัญอย่างหน่ึง ความสนุกสนานในการเรียนมากย่งิ ข้นึ ของการล่วงละเมิดทางเพศ แบ่งออกเป็น ๒ กรณ ี คือ ๑. คนคุ้นเคย คือ บุคคลท่ีมี ความสัมพันธ์รู้จักใกล้ชิดกัน สนิทสนมคุ้นเคย 1 ไว้วางใจกันเป็นอย่างดี ซ่ึงความใกล้ชิดน้ีอาจ ไม่ควรเดินไปในที่เปลี่ยวหรือปลอดจากสายตาผู้คน เป็นบ่อเกิดท่ีท�าให้เกิดการอยากถูกเนื้อต้องตัว เพราะอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการล่วงละเมิดทางเพศ หรอื มกั ใช้ค�าพูดทา่ ทที ี่ไมเ่ หมาะสม ซึง่ นับเปน็ ได้ง่าย ชอ่ งทางในการลว่ งละเมิดทางเพศได้งา่ ยข้ึน ๒. คนแปลกหน้า คือ บุคคลที่ไม่คุ้นเคยหรือรู้จักกันมาก่อน เพราะปัจจุบัน สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการติดต่อส่ือสารผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ที่ สะดวก รวดเรว็ ซ่งึ อาจเปน็ ช่องทางหน่งึ ทีจ่ ะท�าใหพ้ บเจอบคุ คลตา่ งๆ มากข้นึ และบคุ คลเหล่าน้ี อาจจะเปน็ ไดท้ งั้ มติ รแท้และมติ รเทียมก็ได ้ หากเป็นมิตรเทยี มอาจสง่ ผล หรือมแี นวโน้มกอ่ ให้เกิด การลว่ งละเมิดทางเพศได้ ๒) สภาพแวดลอ้ มและภมู คิ มุ้ กนั การอย ู่ในสภาพแวดลอ้ มทไี่ มเ่ หมาะสม และขาด การใหค้ า� แนะนา� จากพอ่ แม ่ ผปู้ กครอง หรอื ผใู้ หญท่ นี่ า่ เชอ่ื ถอื อาจมแี นวโนม้ ใหเ้ กดิ การลว่ งละเมดิ ทางเพศได้ ๓) การถูกกระตุ้นจากส่ือต่างๆ ท้งั สอ่ื ส่ิงพมิ พล์ ามก เวบ็ ไซตท์ เ่ี นน้ เร่อื งเพศต่างๆ คลิปวิดีโอโป๊ เกมลามก ซีดี วีซีดีลามกอนาจาร ซ่ึงมีอิทธิพลต่อทั้งผู้กระท�าและผู้ถูกกระท�า โดยเมื่อถูกกระตุ้นจากส่ือต่างๆ เหล่าน้ี และไม่มีการระบายอารมณ์ทางเพศอย่างเหมาะสม อาจเป็นสาเหตแุ ละสง่ ผลใหเ้ กิดการลว่ งละเมิดทางเพศขน้ึ ได้ ๔) การขาดความระมัดระวังและมีความประมาท โดยการแต่งกายไม่มิดชิด การแสดงทา่ ท ี กริ ยิ า บคุ ลกิ ทไี่ มร่ ะมดั ระวงั อาจทา� ใหส้ อ่ ถงึ การยวั่ ยโุ ดยไมต่ ง้ั ใจ เชน่ การกม้ การนงั่ การยืน การเดิน การพดู จา เปน็ ตน้ 68 เกรด็ แนะครู ขอ สอบเนน การคิด ปจจุบันมสี ื่อตางๆ มากมาย ที่เนนเก่ยี วกบั เรื่องเพศ นักเรยี น ครอู าจสํารวจพ้ืนท่หี รอื สถานท่ีพกั อาศยั ของนักเรยี นบางคนวา มีความเสยี่ ง คดิ วาส่อื เหลานีม้ ีผลกระทบตอการลวงละเมิดทางเพศหรอื ไม หรอื ไม เพอ่ื ชีแ้ นะใหร จู กั ระมดั ระวัง และปอ งกนั ตนเองมากข้ึน อยา งไร แนวตอบ มี เน่อื งจากสื่อที่เนน เร่ืองเพศเหลาน้ี จะไปกระตนุ นักเรียนควรรู อารมณท างเพศของผรู บั ชม ทําใหเกดิ พฤตกิ รรมเลยี นแบบ อนั เปนสาเหตใุ หเ กดิ การลวงละเมดิ ทางเพศข้นึ ได 1 ท่ีเปลี่ยว หากจําเปนตองเดินทางกลับบานยามคํ่าคืนในท่ีเปล่ียว จะตองคอย สงั เกตสภาพแวดลอ มรอบตวั และควรรบี เดนิ อยา งมสี ติ ไมเ หมอ ลอย พดู คยุ โทรศพั ท หรือฟงเพลงระหวางเดิน นอกจากน้ีควรพกอาวุธปองกันติดตัวดวย เชน คัตเตอร กุญแจ สเปรยพ ริกไทย เพอื่ ใชในยามฉุกเฉิน 68 คมู ือครู

กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๕) ผู้ท่ีมีความบกพร่องทางร่างกายและสติปญญาหรือผู้เยาว์ โดยบุคคลท่ี เมอ่ื ทุกกลุมไดอ อกมานาํ เสนอเรอื่ งที่ไดศกึ ษา จนครบหมดทุกกลมุ แลว ครแู ละนกั เรียนในหอ ง ถกู กระทา� ในประเภทนมี้ กั จะมสี ตปิ ญั ญาดอ้ ยกวา่ บคุ คลปกต ิ หรอื มรี า่ งกายไมส่ มประกอบไมส่ ามารถ รว มกนั อภิปรายในประเด็นทวี่ า หากเกิดการ ช่วยเหลือตนเองได้ หรืออาจเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุยังน้อย ไม่รู้เท่าทันโลก ดังน้ัน จึงเป็นเหตุให้ ลว งละเมดิ ทางเพศแลว จะสง ผลกระทบอยา งไร ถกู ลอ่ ลวงด้วยวธิ ีการต่างๆ และเกิดการลว่ งละเมิดทางเพศได้งา่ ย บา ง โดยรว มกนั ยกตวั อยา ง ซง่ึ อาจจะยกตวั อยา ง สถานการณต า งๆ มาเปน กรณีศึกษาใหเ กดิ ความ ๖) สถานการณค์ บั ขนั หรอื เหตกุ ารณท์ ไี่ มค่ าดคดิ เปน็ สถานการณห์ รอื เหตกุ ารณ์ เขาใจมากขึ้น เพ่ือนําเขาสเู นือ้ หาทีจ่ ะทําการ ศกึ ษาตอไป ต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นกับบุคคลโดยท่ีไม่คาดคิดและไม่รู้ตัว เช่น การล่วงละเมิดทางเพศบนรถโดยสาร โดยการถูกถไู ถ ลูบคล�า การพบเห็นการอวดอวยั วะเพศตามสถานที่ต่างๆ การถกู ถ่ายคลปิ วิดีโอ ด้วยโทรศัพทม์ ือถือ เป็นตน้ เกร็ดนา่ รู้ โหลดสกั นิด เพ่อื ชีวิตที่ปลอดภัย ในปัจจุบัน1โทรศัพท์สมาร์ตโฟนได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำาวันของมนุษย์มากขึ้น จึงทำาให้ เกิดแอปพลิเคชัน เพ่ืออำานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานในหลายๆ ด้าน รวมถึงแอปพลิเคชันท่ีมีไว้สำาหรับ แจ้งเหตรุ ้าย เพ่ือให้เกิดความปลอดภัยในการดำารงชีวิตของประชาชน สำานักงาน ตาำ รวจแหง่ ชาตไิ ดร้ ว่ มมอื กบั Anywhere To Go พฒั นาแอปพลเิ คชนั สาำ หรบั แจ้งเหตรุ า้ ยผา่ นสมาร์ตโฟนทีช่ ือ่ ว่า Police i lert u ข้นึ ทาำ ให้แจ้งเหตรุ ้ายถึง ตำารวจไดเ้ รว็ ย่ิงข้นึ ไดข้ อ้ มูลท่คี รบถ้วน เชน่ พิกดั แผนที่จุดเกดิ เหตุ รูปภาพ รายละเอียดเหตุการณ์จากผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งจะส่งถึงตำารวจในท้องท่ีโดยตรง ซ่ึงโหลดไดท้ ้งั บน App Store สำาหรบั ระบบปฏิบตั ิการ iOS และ Play Store สำาหรับระบบปฏิบตั ิการ Android Police Lert u for IOS Police Lert u for android ๑ ๓ ๑. สมัครสมาชิกดว้ ย e-mail ๒. ลงชอื่ เข้าใชง้ าน ๒ ๔ ๓. ถา่ ยภาพสถานทเี่ กดิ เหตุ ๕ ๖ ๔. พมิ พร์ ายละเอยี ดของเหตกุ ารณ์ ๕. เลอื่ นเพอ่ื แจง้ ขอความชว่ ยเหลอื ๖. กดเพอ่ื แจ้งเหตุ ที่มาของขอ้ มลู : https://www.it24hrs.com/2015/polic-i-lert-u-apps/ 69 ขอ สอบเนน การคิด เกรด็ แนะครู ขอใดไมใ ช สาเหตขุ องการลวงละเมดิ ทางเพศ ครูควรแนะนําใหนักเรียนดาวนโหลดแอปพลิเคชันสําหรับแจงเหตุรายผาน 1. นงุ กระโปรงสนั้ มาก สมารต โฟนท่ีชื่อวา Police I lert u เพื่อไวแ จง เหตรุ ายถึงตาํ รวจไดเรว็ ย่ิงขน้ึ โดยครู 2. สวมเส้อื สีขาวบางๆ อาจแนะนาํ ขน้ั ตอนการดาวนโ หลดใหก บั นกั เรยี น หรอื ใหน กั เรยี นดวู ธิ กี ารดาวนโ หลด 3. สวมกางเกงขาสั้นมาก ไดจ ากกลอ งเกรด็ นา รูในหนงั สอื เรียน 4. สวมเส้อื สขี าวลายการต นู วเิ คราะหคําตอบ ปญ หาการลว งละเมดิ ทางเพศสว นใหญแ ลว นักเรียนควรรู เกดิ จากการแตง กายไมเ หมาะสม เชน นงุ กระโปรงหรอื กางเกง สนั้ มาก สวมเสอ้ื บางหรอื รดั จนเกนิ ไป เปน ตน ดงั นนั้ การสวมเสอ้ื 1 แอปพลเิ คชนั คอื โปรแกรม หรอื ชดุ คาํ สงั่ ทใ่ี ชค วบคมุ การทาํ งานของคอมพวิ เตอร สขี าวลายการต นู จงึ เหมาะสมที่สดุ ท่จี ะลดปจจัยเส่ียงในการ เคลื่อนที่และอุปกรณตอพวงตางๆ เพ่ือใหทํางานตามคําสั่งและตอบสนองความ ตองการของผูใช ลวงละเมิดทางเพศได ตอบขอ 4. คูม ือครู 69

กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Expand Evaluate Engage Engage กระตนุ ความสนใจ ครูกลาวทบทวนเน้ือหาที่ไดศึกษามาแลวเพื่อนํา ๓. ลกา่วรงปละอ เงมกิดนั ทแาลงะเพหลศกี เล่ยี งสถานการณเ ส่ยี งต่อการ เขาสูเน้ือหาตอไป โดยเนนถึงสาเหตุและผลกระทบ ท่ีเกดิ ขึ้นวามผี ลเสียตอตนเอง ครอบครัว และสงั คม การล่วงละเมดิ ทางเพศสามารถเกดิ ขึน้ ได้ทุกเวลา ทกุ สถานการณ์ และทุกสถานท่ ี โดยทเ่ี รา ดงั นนั้ จงึ ควรรจู กั การปอ งกนั และหลกี เลย่ี งสถานการณ ไมค่ าดคดิ และไมท่ นั ไดร้ ะวังตัว ซง่ึ ทกุ คนมคี วามเสยี่ ง การร้จู ักปอ้ งกันและหลกี เลีย่ งสถานการณ์ เสี่ยงตอการลว งละเมิดทางเพศ ซ่ึงครูอาจตงั้ คําถาม เส่ียงต่อการล่วงละเมิดทางเพศ จึงเป็นส่ิงจ�าเป็นที่วัยรุ่นต้องเรียนรู้เพื่อดูแลและป้องกันตนเอง เพอ่ื กระตุน ความสนใจของนักเรียน ใหป้ ลอดภัยจากการลว่ งละเมดิ ทางเพศ • นกั เรยี นมวี ธิ ปี อ งกนั และหลกี เลยี่ งสถานการณ ๓.๑ การเตรียมความพรอ้ มในการเดนิ ทาง เส่ยี งตอการลวงละเมิดทางเพศอยา งไร (แนวตอบ ขึ้นอยกู ับคาํ ตอบของนักเรียน เชน การรจู้ กั เตรยี มความพรอ้ มและปอ้ งกนั ตนเองในการเดนิ ทางนบั วา่ เปน็ สง่ิ ทด่ี ที จ่ี ะชว่ ย แตง กายใหเ รยี บรอ ย ไมพ ดู คยุ กบั คนแปลกหนา ให้รอดพ้นและปลอดภัยจากเหตรุ ้ายตา่ งๆ โดยเฉพาะการลว่ งละเมิดทางเพศได ้ ซง่ึ ทุกครง้ั ในการ ไมกลับบานดึก ระมัดระวังตัวในขณะเดินทาง เดินทางเราค๑วร)เตกรายี รมเดควินาทมาพงรดอ้ ้วมย รดถังนโดี้ ยสารหรือรถประจาํ ทาง1 ควรเตรียมพรอ้ มเพื่อป้องกนั ดว ยรถประจาํ ทาง) การลว่ งละเมดิ ทางเพศ ดังน้ี ๑. ไมค่ วรจะพดู คุยกับบุคคลแปลกหนา้ หรือบอกวา่ กา� ลงั จะเดินทางไปไหน ๒. เตรียมพร้อมที่จะเปลีย่ นแผนเส้นทางไดเ้ สมอเมอื่ ตกอยู่ในภาวะคับขนั ๓. ไมค่ วรนงั่ ทา้ ยรถโดยสารเพยี งลา� พัง ควรนั่งบรเิ วณที่มคี นส่วนใหญ่นัง่ ๔. ถ้าสังเกตพบวา่ มีคนตดิ ตาม หลงั ลงจากรถอย่างผิดปกติ ใหร้ ีบเดินตรงไปยงั สถานท่ีที่มีคนอยเู่ ปน็ จ�านวนมาก ๒) การเดนิ ทางดว้ ยรถรบั จา้ ง รถแท็กซ ี่ ควรปฏิบัต ิ ดงั น้ี ๑. ไมค่ วรหลบั ในรถ และไมค่ วร โดยสารไปคนเดยี วในยามวกิ าล ๒. สังเกตบุคลิกท่าทางของคน ขับ ถา้ ไมน่ า่ ไวว้ างใจควรลงจากรถในทีช่ มุ ชน ๓. ก่อนขึ้นรถควรสังเกตชนิด ลักษณะ และหมายเลขทะเบียนรถ รวมทั้ง จดจา� ช่ือ นามสกุลคนขับทีต่ ดิ ปา้ ยไว้ในรถ ๔. ตรวจสอบว่าที่ล็อกประตูอยู่ ตรงไหนและสามารถเปดิ ล็อกประตูได้อยา่ งไร การเบียดเสียดขณะขน้ึ รถหรืออยู่บนรถโดยสารประจาำ ทาง ๕. สังเกตและระมัดระวังตลอด อาจมผี ฉู้ วยโอกาสล่วงละเมิดทางเพศได้ การเดนิ ทางวา่ รถวงิ่ ในเสน้ ทางทค่ี วรจะไปหรอื ไม่ 70 นกั เรยี นควรรู ขอ สอบเนน การคิด เมื่อเกดิ การลวงละเมดิ ทางเพศควรปรกึ ษาใครเปนอนั ดบั แรก 1 การเดนิ ทางดว ยรถโดยสาร หรอื รถประจําทาง สามารถสอบถามเสน ทาง 1. เพ่อื นสนิท การเดนิ รถประจาํ ทางไดท ี่สายดวนของ ขสมก. หมายเลขโทรศัพท 1348 2. ครูประจาํ ชน้ั ตลอด 24 ชั่วโมง หรอื ดูขอมลู สายรถประจาํ ทางไดจากเวบ็ ไซตข อง ขสมก. 3. อาจารยแนะแนว http://www.bmta.co.th/th/index.php 4. ผปู กครอง วเิ คราะหคําตอบ เมื่อเกดิ การลวงละเมดิ ทางเพศควรปรกึ ษา มมุ IT ผปู กครองเปน อนั ดับแรก เพราะทานเปน ผูท่รี กั และหวงั ดกี บั เรา มากกวา ใคร ดงั นน้ั ทา นยอมสามารถชว ยเราแกปญ หาและหา สามารถศกึ ษาเพิม่ เตมิ เกย่ี วกบั วธิ ปี อ งกนั ภัยลว งละเมดิ ทางเพศไดจ ากเวบ็ ไซต ทางออกดวยวธิ ีทดี่ ที ส่ี ดุ ใหก บั เราไดอยางแนนอน ตอบขอ 4. http://issue247.com/life/how-to-protect-yourself-from-sexual-assault/ 70 คูมอื ครู

กระตุนความสนใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explain Expand Evaluate Explore Explore สาํ รวจคน หา ๖. ถา้ ผดิ สงั เกต หรอื รสู้ กึ วา่ กา� ลงั จะมเี หตกุ ารณท์ ่ีไมด่ เี กดิ ขนึ้ ใหโ้ ทรศพั ทถ์ งึ บคุ คล ใหน ักเรียนแบง กลุม กลุมละ 3-5 คน จากน้นั ใกลช้ ดิ ว่าขณะน้อี ยูท่ ่ีใด หรือโทรสอบถามกบั เจา้ หน้าที่ต�ารวจ ใหร วมกนั ศกึ ษาเรื่อง การปอ งกันและหลกี เลยี่ ง ๗. กรณีท่ีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น คนขับเปล่ียนเส้นทางเดินรถ หรือ สถานการณเส่ียงตอการลว งละเมิดทางเพศ แอบมองผู้โดยสารตลอดเวลา รสู้ ึกวา่ ตนเองเริม่ มอี าการผิดปกต ิ ซ่ึงอาจจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ จากหนงั สือเรยี น ในประเดน็ ดังนี้ ให้รีบเปิดหนา้ ต่างเพื่อระบายอากาศ แลว้ รบี หาทางลงจากรถ ๓) การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ควรเตรียมความพร้อมในการป้องกันตนเองให้ • การเตรียมความพรอมในการเดนิ ทาง ปลอดภัยอยูต่ ลอดเวลา โดยปฏิบัต ิ ดงั น้ี • การเตรียมความพรอ มเมื่ออยทู ่บี า น • การเตรยี มตวั ของตนเอง ๑. ควรจอดรถในทที่ ่มี แี สงสวา่ ง มีรถวงิ่ ผ่านหรอื ใกล้ทางขนึ้ ลง ๒. สังเกตว่ามีคนแปลกหน้าตามมาหรือไม่ พร้อมท้ังตรวจสอบภายในรถและ รอบบรเิ วณก่อนเปิดประตรู ถเข้าไป 1 ๓. ปดิ ประตู ลอ็ กประตทู กุ ด้าน พรอ้ มคาดเข็มขัดนริ ภยั ทุกครั้งกอ่ นสตารต์ รถ ๔. ไม่รับคนแปลกหนา้ ข้นึ รถ และไมค่ วรทงิ้ สิง่ ของมีคา่ ไว้ในรถ ๕. หลกี เล่ียงการจอดรถขา้ งรถบรรทกุ เพราะยากตอ่ การมองเหน็ ๖. ในกรณีท่ีเกิดภาวะฉุกเฉินและคับขัน หากถูกจี้ขณะขับรถควรตั้งสติ และคิด หาวิธีแก้สถานการณ์อย่างรอบคอบ เช่น การขับรถไปเฉี่ยวชนรถคันอ่ืน การขับรถไปยังชุมชน ทม่ี กี ารจราจรคบั คงั่ เพื่อใชเ้ ป็นวธิ ีเอาตัวรอด เปน็ ต้น ๔) เมอ่ื อยู่บนท้องถนนหรืออยู่ในท่สี าธารณะ ต้องระมดั ระวัง ดงั นี้ ๑. สงั เกตวา่ มคี นตดิ ตามมาหรอื ไม ่ ถา้ มพี ริ ธุ ไมค่ วรเขา้ บา้ นตนเอง ใหแ้ วะขอความ ช่วยเหลือจากเพ่อื นบา้ น หรอื เดนิ ไปในที่สาธารณะท่มี ีคนอยู่มาก หรอื อาจขอความชว่ ยเหลอื จาก เจ้าหนา้ ท่ีต�ารวจ ๒. ไม่ควรเดินบนถนน ตรอก ซอกซอยท่ีมืดและเปลี่ยว บริเวณที่ดินหรือ ตกึ รกรา้ ง โดยเฉพาะเวลากลางคืน ควรหลกี เล่ยี งการรอรถประจา� ทางท่ปี ้ายเพยี งลา� พัง เมือ่ ตอ้ งเดนิ ทางดว้ ยรถแท็กซ่ี ใหส้ ังเกตชนิด ลกั ษณะ และหมายเลขทะเบยี นรถ รวมทัง้ จดช่ือ-นามสกุล คนขบั ท่ีติดปา้ ย ไวใ้ นรถ พร้อมทง้ั สงั เกตใบหนา้ คนขบั วา่ ตรงกับภาพหรือไม่ ถา้ ไม่ตรงใหโ้ ทรศัพท์แจง้ ๑๕๘๔ กรมการขนส่งทางบก 7๑ กจิ กรรมสรา งเสรมิ เกรด็ แนะครู ใหนกั เรียนยกตวั อยางการลวงละเมิดทางเพศลงในกระดาษ ครคู วรอธบิ ายใหน กั เรยี นทราบวา ผทู ่ีถูกกระทําจากการลว งละเมดิ ทางเพศ รายงาน ไมจาํ เปนตอ งกลายเปนผูขาดโอกาสอนื่ ๆ ในชีวิตไป แตส ามารถเร่มิ ตนใหมได โดยอาศัยกําลังใจจากคนรอบขา ง กจิ กรรมทาทาย นกั เรียนควรรู ใหน กั เรยี นหาขา วการลว งละเมดิ เพศมา 3 เรอ่ื ง (หลากหลาย ลกั ษณะ) แลว นาํ มาวิเคราะหหาสาเหตุ และผลกระทบจากการ 1 คาดเข็มขัดนิรภยั การคาดเขม็ ขดั นิรภยั ทถี่ ูกตองจะตองใหสายสวนบนพาด ลว งละเมดิ ทางเพศดังกลาวลงในกระดาษรายงาน จากนั้นให ทแยงกระดูกไหปลารา และระวังอยางใหพ าดชดิ ลาํ คอมากเกินไป เพราะหาก นักเรียนคัดเลอื กขา วมา 1 เร่ือง เพอ่ื ออกมานําเสนอหนา ช้นั เรยี น ประสบอบุ ตั เิ หตุ จะทําใหถกู เข็มขัดนริ ภยั รดั คอจนขาดอากาศหายใจและเสยี ชีวติ รวมถงึ หามคาดเข็มขดั นริ ภัยใตวงแขน เพราะจะทาํ ใหก ระดกู ซโ่ี ครงหักได สว นลางของเขม็ ขัดนิรภยั ใหทาบไปกบั กระดูกเชงิ กราน โดยอยใู นระดับต่ํากวา เขม็ ขดั ประมาณ 5-10 เซนตเิ มตร คูมือครู 71

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครสู มุ นกั เรยี นแตล ะกลมุ 1 คน ใหอ อกมาสรปุ ๓. ไมค่ วรสวมหฟู งั วทิ ย ุ ขณะเดนิ หรอื ขณะทร่ี อรถประจา� ทาง หรอื ยนื ขา้ งถนน และ สาระสาํ คญั เรอื่ งทศี่ กึ ษา กลมุ ละ 1 ประเดน็ โดยให ถ้าหากมคี นมาถามทางโดยมีทา่ ทางพิรุธ ควรระมัดระวงั ตนเองโดยการเดินหนหี ่างออกไป นกั เรยี นคนอน่ื ๆ รว มกนั เสนอแนะเพม่ิ เตมิ เพอื่ ใหไ ด ขอ สรปุ ทถ่ี กู ตอ งรว มกนั จากนนั้ ครตู งั้ คาํ ถามเพอ่ื ให ๔. หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์ตาม นกั เรยี นรว มกนั อภปิ ราย ลา� พงั หรอื ใชล้ ฟิ ตร์ ว่ มกบั คนแปลกหนา้ ทม่ี พี ริ ธุ และไมน่ า่ ไวว้ างใจ • นกั เรียนมีหลกั ปฏิบตั ิอยางไรเพื่อปองกนั และ ๕. ควรวางแผนการเดนิ ทางไว้ หลีกเลยี่ งสถานการณเ สยี่ งตอการลวงละเมิด อย่างชัดเจน พร้อมท้ังสามารถปรับเปลี่ยนได้ ทางเพศ ถ้าตอ้ งเผชิญกับปัญหาสถานการณเ์ ส่ียงตา่ งๆ (แนวตอบ ข้นึ อยูกบั คาํ ตอบของนักเรยี น เชน ๖. ควรหาเคร่ืองมือป้องกัน1 แตง กายใหเ รยี บรอ ย ไมพ ดู คยุ กบั คนแปลกหนา ตนเองตดิ ตวั ไปขณะเดนิ ทาง เชน่ สเปรยพ์ รกิ ไทย หากมีเหตกุ ารณผ ดิ ปกตคิ วรบอกพอ แม สเปรย์พริกไทย เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวท่ีผู้หญิงนิยมใช ้ หรือนกหวดี เป็นต้น ผปู กครอง รวมทัง้ ควรฝก ทกั ษะการปอ งกัน ตนเอง) ถึงแม้ว่าจะไม่ส่งผลร้ายกับคนร้ายในระยะยาว แต่ก็เป็น ระยะเวลาทเ่ี พียงพอต่อการหนเี อาตวั รอดได้ • หากตกอยใู นสถานการณลวงละเมดิ ทางเพศ นักเรียนคิดวา สง่ิ ใดสําคญั ทส่ี ดุ ๓.2 การเตรยี มพรอ้ มเม่ืออยู่ท่ีบา้ น (แนวตอบ ตอ งรจู ักควบคุมอารมณและมสี ติ เพ่ือหาแนวทางทจี่ ะทาํ ใหห ลุดพนจาก บ้านถือว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็อาจมีอันตรายแฝง สถานการณด งั กลาว) อยดู่ ว้ ย โดยเฉพาะในเรอื่ งของการลว่ งละเมิดทางเพศทีเ่ ราไมส่ ามารถคาดคิดไดว้ า่ ภยั จะมาถงึ ตัว เมื่อไร หากเรามีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ก็จะสามารถป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการ ล่วงละเมิดทางเพศได ้ ดังน้ี ๑. ควรตรวจสอบประต ู หน้าต่าง โดยล็อกให้เรยี บรอ้ ยก่อนเข้านอน ๒. ควรเปดิ ไฟบรเิ วณบ้านในช่วงเวลาค่�า ๓. ไม่เปิดประตูรับคนแปลกหน้า เข้ามาในบ้านไม่ว่าจะด้วยกรณีใดก็ตาม หาก สงสัยหรือผิดสังเกตให้รีบแจ้งผู้ปกครอง หรือ โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าท่ีต�ารวจทันที เพื่อความปลอดภัย ของตนเอง ๔. ควรเปิดวิทยุหรือโทรทัศน์ใน บ้าน เพ่ือท�าให้คนภายนอกเข้าใจว่ามีคนอยู่ ควรเปดิ ไฟบรเิ วณบา้ นใหส้ วา่ ง ไมใ่ หม้ ดื เกนิ ไป เพอื่ ไมเ่ ปดิ หลายคน และไม่ควรบอกให้ใครรับรู้ด้วยว่าอยู่ โอกาสให้คนร้ายเข้ามาในบา้ นไดอ้ ยา่ งง่ายดาย บา้ นเพยี งล�าพังคนเดียว 72 นกั เรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด การปองกันพฤติกรรมเสย่ี งทางเพศของวยั รุนขอ ใดเหมาะสมท่ีสุด 1 สเปรยพ ริกไทย คือ สเปรยปอ งกันตัวท่ปี ระกอบดว ยสารทีก่ อ ใหเ กดิ การ 1. ฟล ม หลีกเลี่ยงการดหู นังสอื ลามก ระคายเคืองตอ ตา ผิวหนงั และระบบทางเดินหายใจ โดยทวั่ ไปมีสว นประกอบเปน 2. ไอซเ ลือกคบเฉพาะเพื่อนเพศเดยี วกัน สารสกดั จากพรกิ แหง หากถูกนาํ ไปใชใ นทางที่ผิดโดยมิจฉาชพี ก็อาจกอ ใหเกดิ 3. แดนใชเ วลาวางในการเลนกีฬาที่ชอบ อันตรายตอบุคคลท่ัวไปได ดังนั้น สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงได 4. บีมไปนั่งสมาธทิ ี่วดั ในวันหยดุ เปน ประจาํ ควบคุมผลิตภัณฑสเปรยพริกไทย เปนวัตถุอันตรายชนิดท่ี 4 ตามพระราชบัญญัติ วเิ คราะหค าํ ตอบ การรูจักควบคุมอารมณทางเพศถือเปนวิธีการ วตั ถอุ ันตราย พ.ศ. 2535 ตัง้ แตป 2538 เปน ตนมา ซึง่ เปนการหา มมใิ หม กี ารผลิต ในการปองกันพฤตกิ รรมเสยี่ งทางเพศทเ่ี หมาะสมทส่ี ดุ ซงึ่ สามารถ นําเขา หรือมีไวครอบครอง ผูฝาฝนตองระวางโทษจําคุกไมเกิน 10 ป หรือปรับ ทําไดโดยใชเวลาวางในการทํากิจกรรมท่ีชอบเพื่อไมใหหมกหมุน ไมเกนิ 1,000,000 หรอื ทั้งจําทั้งปรับ อยกู บั เรอ่ื งเพศมากจนเกนิ ไปสว นการหลกี เลยี่ งการดหู นงั สอื ลามกนน้ั ถอื เปน การปอ งกนั พฤตกิ รรมเสย่ี งทางเพศทดี่ ีแตก ไ็ มไ ดห มายความวา 72 คมู ือครู จะไมก อ ใหเ กดิ อารมณท างเพศหรอื การเลอื กคบเฉพาะเพศเดยี วกนั ยง่ิ ไมถ ือวา เปน การปองกนั อยา งแทจ รงิ และการไปน่ังสมาธทิ ว่ี ัด ในวนั หยดุ เปน ประจาํ นนั้ สามารถปอ งกนั ไดใ นชว งวนั หยดุ แตส าํ หรบั ใตนอวบนั ขธรอรม3ด. าก็สามารถเกิดอารมณท างเพศไดเชน เดียวกัน

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๕. การติดเครื่องตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติอาจก่อให้เกิดอันตราย เพราะในกรณี ใหนกั เรียนแตละกลมุ สรปุ เรอื่ ง การปองกนั ท่ีคนร้ายทราบหมายเลขโทรศัพท์และโทรเข้ามา ซ่ึงหากไม่มีผู้รับสาย เคร่ืองตอบรับโทรศัพท์ และหลกี เล่ยี งสถานการณเ สยี่ งตอการลว งละเมดิ อัตโนมัติก็จะท�างาน ท�าให้คนร้ายทราบได้ว่าไม่มีคนอยู่ในบ้าน นับเป็นการเปิดโอกาสให้คนร้าย ทางเพศ ในรปู แบบของผังความคดิ จากน้ัน ใหแ ตละกลุมออกมานําเสนอหนาชนั้ เรยี น สามารถเข้ามาในบา้ นได้อย่างง่ายดาย ๖. ควรระมัดระวังตนเองในการอยู่บ้านเพียงล�าพังกับบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่น่า ไว้วางใจ แม้จะเป็นบุคคลที่เปน็ เครือญาติกันก็ตาม ๗. ควรบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของสถานีต�ารวจ เพ่ือน และบุคคลท่ีวางใจที่1 อยู่ใกล้เคียงกบั บา้ นไว ้ในโทรศัพท์เพ่อื เตรียมพรอ้ มส�าหรับการขอความช่วยเหลอื ๘. ควรมีสตั วเ์ ลยี้ ง หรือจดั หาอปุ กรณ์ เช่น กลอ้ งวงจรปดิ เพื่อส่งสัญญาณเตอื นให้ ทราบไดว้ ่ามีบคุ คลแปลกหนา้ เขา้ มา ทา� ให้เราสามารถเตรยี มพรอ้ มในการระมัดระวงั ตนเองไดท้ นั ๓.๓ การเตรยี มตัวของตนเอง ส่ิงส�าคัญท่ีสุดที่จะสามารถช่วยในการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศได้ดีที่สุด ประการหนึ่ง น่ันก็คือ ตนเอง ซึ่งการเตรียมตัวของตนเองให้ปลอดภัยจากการล่วงละเมิด ทางเพศไดน้ ้นั มดี ังน้ี ๑. ควรแตง่ กายใหเ้ รยี บรอ้ ย รดั กมุ เหมาะสมกบั วยั และรจู้ กั กาลเทศะ โดยไมส่ วมใส่ เส้ือผา้ ทบี่ างเกนิ ไป กางเกงหรอื กระโปรงส้ันเกินไป ท้ังนี้ เพื่อไม่ใหเ้ ป็นการยวั่ ยุอารมณท์ างเพศ โดยไม่ตั้งใจ ซึง่ อาจกอ่ ใหเ้ กดิ อันตรายแกต่ นเองได้ ๒. หลกี เลี่ยงการไปพบหรือการรบั สง่ิ ของจากคนแปลกหน้า หรือคนทเ่ี พง่ิ รูจ้ ักกนั ๓. หลีกเลี่ยงการกลับบ้านในเวลาดึกดื่นค�่ามืดเพียงล�าพัง แต่หากมีความจ�าเป็น ควรใหพ้ อ่ แม ่ ผปู้ กครอง หรอื ญาตพิ น่ี อ้ ง มาคอย รับตามสถานทที่ น่ี ัดหมาย ๔. บอกเลา่ เหตกุ ารณท์ ผี่ ดิ ปกต ิเชน่ มคี นตามหรอื มที า่ ทลี วนลาม พดู จาเกย้ี วพาราสี ขณะกลบั บา้ น ใหแ้ กพ่ อ่ แมผ่ ปู้ กครองหรือผ ู้ใหญ่ ทเี่ ราไว้ ใจให้ทราบ ๕. หลีกเล่ียงสถานบันเทิงหรือ สถานการณ์ต่างๆ ท่ีเส่ียงต่อการล่วงละเมิด ทางเพศ เชน่ การอยู่ในท่ลี ับตา การมว่ั สมุ ดูสอ่ื ท่ีไมเ่ หมาะสม เชน่ คลิปวดิ ีโอ เกม ภาพลามก วัยรุ่นควรรู้จักเลือกอ่านหนังสือท่ีมีประโยชน์ มีสาระ เป็นต้น เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว และหลกี เล่ยี งสอ่ื ลามกอนาจารตา่ งๆ ยงั อาจกอ่ ใหเ้ กิดอันตรายต่อตนเองได้ง่าย 7๓ ขอ สอบเนน การคิด เกรด็ แนะครู เพอ่ื ปอ งกนั ตนเองจากการลว งละเมดิ ทางเพศ ควรปฏบิ ตั ติ นอยา งไร ครคู วรเช่ือมโยงวธิ ีการปอ งกันการลวงละเมิดทางเพศกับสาเหตขุ องการ 1. ไมยอมคบเพศตรงขาม ลวงละเมดิ ทางเพศท่ไี ดทาํ การศึกษาไปแลว เพ่ือเชอื่ มโยงความรแู ละแนวคิด 2. พาเพ่ือนไปดว ยทกุ ครงั้ 3. ไมอยูในทเ่ี ปลี่ยวลับตาคน นักเรียนควรรู 4. มีเบอรโทรศพั ทฉกุ เฉนิ ตดิ ตัวไว วเิ คราะหค าํ ตอบ ไมค วรอยใู นทเี่ ปลยี่ วลับตาคนหรอื อยเู พียงลําพัง 1 หมายเลขโทรศพั ทข องสถานตี าํ รวจ สามารถแจง เหตุดวนเหตุรา ยไดท ี่ เพราะเปนการเปดโอกาสใหผูที่ไมหวังดีเขามาลวงละเมิดทางเพศได หมายเลข 191 และหมายเลขโทรศัพทข องสถานีตํารวจตา งๆ ไดจากเวบ็ ไซต ของเยลโลเ พจเจส http.//government.yellowpages.co.th/สถานตี ํารวจ ตอบขอ 3. คมู ือครู 73

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขา าใจใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Evaluate Engage Expand Expand ขยายความเขา ใจ ใหนักเรียนอา นเกรด็ นา รูเร่ือง รทู ันภยั กอ นโดน ๖. ควรวางตวั และปฏบิ ัตติ นอยา่ งระมัดระวังและไมป่ ระมาท ไมว่ ่าจะเปน็ เพ่อื น ญาติ แอบถายภาพ ในหนงั สอื เรียน หนา 74 จากน้ัน คนรู้จัก หรือใครก็ตาม ไม่ปล่อยให้ถูกเนื้อต้องตัวหรือไม่เปิดโอกาสให้ใกล้ชิดกับผู้อื่นมากเกินไป ใหนักเรยี นรวมกนั อภิปรายถงึ วธิ กี ารปอ งกนั การ จนขาดการระมดั ระวังตนเอง ถกู แอบถาย และนําความรทู ่ไี ดไปประยกุ ตใ ชใน ๗. ฝึกทักษะในการป้องกันตนเองจากการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะอาจน�าไปสู่ ชวี ิตประจาํ วนั เพื่อปองกันภยั ที่อาจเกิดขึ้น การมเี พศสัมพนั ธแ์ ละปัญหาอนื่ ๆ ตามมาได้ เชน่ ทักษะการปฏเิ สธ ทกั ษะการตดั สนิ ใจ ทักษะการ ปอ้ งกนั ตนเอง เปน็ ตน้ ๘. เม่ืออยู่ในสถานการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ ต้องสามารถควบคุมอารมณ์ ฝึกฝน ตนเองให้มีสติ สามารถเผชญิ ตอ่ ปัญหา และหาทางแก้ปัญหาอยา่ งรอบคอบ เกรด็ นา่ รู้ รทู้ นั ภัยก่อนโดนแอบถา่ ยภาพ ตามหา้ งสรรพสนิ คา้ ตา่ งๆ ทมี่ กั มขี า่ วออกมาใหเ้ หน็ กนั บอ่ ยๆ วา่ มกี ารใชก้ ลอ้ งขนาดเลก็ แอบถา่ ยในหอ้ ง ลองเสือ้ สภุ าพสตร ี ห้องน้ำา หรือตามบันไดเลอ่ื น เป็นต้น ถือเปน็ ภัยใกลต้ วั ทค่ี วรต้องระมดั ระวงั เป็นอยา่ งมาก ดงั นน้ั จึงควรรู้วิธปี ้องกนั ตนเองให้ปลอดภยั และรู้ทันพวกโรคจติ ท่ีชอบแอบถ่ายทัง้ หลายด้วยวิธีป้องกนั ง่ายๆ ดังน้ี • ใชโ้ ทรศพั ท์มอื ถอื โทรออก ณ ช่วงเวลานัน้ หากโทรแล้วไมต่ ิดหรอื ติดแล้วสัญญาณขาดหายทัง้ ๆ ที่ คลื่นกเ็ ตม็ อยู่ แสดงวา่ อาจมกี ลอ้ งซอ่ นอยู ่ ทเี่ ป็นอยา่ งน้เี พราะว่าคล่ืนของโทรศพั ทจ์ ะถูกรบกวนโดยคลน่ื ของ กล้องที่สง่ ไปยังเคร่อื งรับ 1 • วิธีตรวจสอบว่ากล้องติดตั้งอยู่ท่ีไหน กล้องพวกน้ีจะใช้รังสีอินฟราเรด ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถตรวจสอบได้ด้วยโทรศัพท์มือถือท่ีมีกล้องถ่ายรูปหรือวิดีโอ โดยเปิดระบบถ่ายรูปหรือวิดีโอ ของโทรศัพท์ไว้ และส่องดูจุดที่สงสัยว่าติดต้ังกล้องหรือไม่ ถ้าในจอภาพโทรศัพท์มือถือมีจุดสีแดงเกิดขึ้น หมายความวา่ ในหอ้ งน้นั อาจมกี ล้องวงจรปดิ ตดิ ตัง้ อยู่ ซงึ่ หากไมแ่ นใ่ จวา่ ใชไ้ ดจ้ รงิ หรอื ไมอ่ าจจะลองทดสอบกบั รโี มตของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ทบ่ี า้ นดกู ไ็ ด ้ โดยลองนาำ โทรศพั ทม์ อื ถอื เปดิ ระบบวดิ โี อหรอื ถา่ ยรปู ไว ้ แลว้ นาำ รโี มทของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ชนดิ ใดกไ็ ดก้ ดรโี มตคา้ งไว ้ นาำ มอื ถอื ส่องดจู ะเห็นเป็นจุดสีแดงทหี่ วั รีโมต เพราะทต่ี วั รโี มตก็ใชร้ ังสีอินฟราเรดเช่นเดียวกบั กลอ้ งวงจรปดิ อย่างไรกต็ าม ควรร้ทู นั ภัยกอ่ นโดนแอบถ่าย โดยวิธีท่ีดที ีส่ ุด คอื การระมดั ระวังตนเอง ดว้ ยการสังเกต อยู่เสมอวา่ มีคนเข้ามาใกลต้ วั อย่างมีพิรุธหรือไม ่ เช่น เดินตามในลักษณะของการเข้ามาประชิดตัว หรือถอื ถงุ ใสข่ องทมี่ ที า่ ทางผดิ ปกต ิ ซง่ึ ในถงุ อาจมกี ลอ้ งแอบซอ่ นอยกู่ ไ็ ด ้ หากเจอคนในลกั ษณะดงั กลา่ วใหค้ อยระวงั ตนเอง ใหด้ ี พยายามหลกี เล่ียงออกหา่ งโดยเร็วที่สดุ เพื่อใหป้ ลอดภยั จากการล่วงละเมดิ ทางเพศ 74 นกั เรยี นควรรู ขอ สอบเนน การคดิ ขอ ใดไมถือวา เปนสถานการณเ สย่ี งตอการลว งละเมดิ ทางเพศ 1 รงั สีอนิ ฟราเรด เปนคลื่นแมเ หลก็ ไฟฟาที่มีความยาวคลนื่ อยรู ะหวางคล่นื วิทยุ 1. การทํารายงานกลุมกบั เพอื่ น และแสง สามารถนาํ มาใชเ พอ่ื กอ ใหเ กดิ ประโยชนได เชน ทาํ กลอ งถา ยรปู อนิ ฟราเรด 2. ไปเท่ยี วกบั เพ่ือนตางเพศสองตอสอง ทส่ี ามารถมองเหน็ วัตถใุ นความมืดได ใชท าํ เปนรโี มตคอนโทรลในเครอื่ งใชไฟฟา 3. การด่มื สุราหรอื การใชยากลอมประสาท 4. การอยูดวยกนั ตามลําพงั ในสถานท่ีลับตาคน วเิ คราะหค าํ ตอบ การทํารายงานกลมุ กบั เพอ่ื นนนั้ ไมถอื วา เปน สถานการณเ สย่ี งตอการลว งละเมดิ ทางเพศ ซึ่งสถานการณที่ เสี่ยงตอ การลว งละเมิดทางเพศ เชน การดื่มสุราหรือใชย ากลอม ประสาททําใหไ มส ามารถควบคมุ ตนเองได การไปเทีย่ วกบั เพือ่ น ตางเพศสองตอสอง การอยดู วยกันตามลําพังในสถานทีล่ ับตาคน เปน ตน ตอบขอ 1. 74 คมู อื ครู

กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Evaluate Engage Explore Expand Engage กระตนุ ความสนใจ ๔. สทิ ธมิ นษุ ยชน 1 ครูอธิบายใหน กั เรียนฟงวา การลว งละเมิด สทิ ธมิ นษุ ยชน หมายถงึ ศกั ดศิ์ รคี วามเปน็ มนษุ ย ์ สทิ ธ ิ เสรภี าพและความเสมอภาคของบคุ คล ทางเพศถือเปน การละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเปน บรรดาที่ได้รับการรับรองหรือคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมาย หรือตามหนังสือสัญญา การละเมิดสทิ ธิในเนือ้ ตวั รางกายผูอนื่ จากน้ันครู ทป่ี ระเทศไทยเปน็ ภาคแี ละมพี นั ธกรณที จ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม โดยไมค่ า� นงึ ถงึ ฐานะ ตา� แหนง่ ทางสงั คม ต้งั คําถามเพือ่ กระตุนความสนใจของนักเรยี น เช้อื ชาต ิ ศาสนา เพศ อายุ ความเช่อื ทางการเมือง พระราชบญั ญตั คิ ณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาต ิ พ.ศ. ๒๕๔๒ กา� หนดไวว้ า่ สทิ ธมิ นษุ ยชน • ทกุ คนมีสทิ ธิ เสรภี าพหรือไม อยา งไร คือ ศกั ดิ์ศรีความเปน็ มนษุ ย์ สิทธเิ สรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ไดร้ ับการรบั รอง หรอื (แนวตอบ ทกุ คนมสี ิทธิ เสรภี าพ ที่ไดรบั การ คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือตามกฎหมายไทย หรือตามสนธิสัญญา รับรองหรือคมุ ครองตามรฐั ธรรมนญู ตาม ที่ประเทศไทยมีพันธกรณที ี่จะต้องปฏบิ ตั ิตามศกั ด์ิศรีความเป็นมนษุ ย ์ คุณค่าความเปน็ คน โดยไม่ กฎหมาย โดยไมคํานึงถึงฐานะ ตําแหนงทาง สังคม เชอื้ ชาติ ศาสนา เพศ อายุ ความเช่ือ ทางการเมือง) คา� นึงถึงฐานะ ต�าแหน่งทางสังคม เช้อื ชาต ิ ศาสนา เพศ อาย ุ ความเชอ่ื ทางการเมอื ง การละเมดิ สาํ รวจคน หา Explore ศกั ดิ์ศรคี วามเป็นมนุษย ์ การเหยียดหยาม การลดทอน หรือการปฏบิ ตั ิตอ่ คนเสมอื นไม่ใช่คน หรอื ลดฐานะความเปน็ คนเปน็ เพยี งวตั ถสุ งิ่ ของ สทิ ธมิ นษุ ยชน อาจแบง่ เปน็ สทิ ธดิ า้ นตา่ ง ๆ ๕ ดา้ น ดงั นี้ ใหนกั เรียนศกึ ษาเรอ่ื ง สิทธิมนษุ ยชน ในหนังสอื เรียน หนา 75-76 เพื่อรว มกันอภิปราย ๑ สทิ ธพิ ลเมอื ง ในชน้ั เรยี น คำ� วำ่ พลเมอื ง หมำยถงึ ประชำชนทมี่ ำอยูร่ ่วมกนั ในสังคม โดยมสี ัญญำประชำคมรว่ มกันวำ่ ผู้ไดร้ ับเลือกไปเป็นรฐั บำลมีหน้ำทต่ี อ้ งบรหิ ำรประเทศ เพือ่ ประโยชน์ของประชำชนและปกปอ้ ง คุ้มครองพลเมอื งเกีย่ วกับสิทธใิ นชีวิต สิทธิท่จี ะไม่ถูกทรมำน ไมถ่ กู ทำ� รำ้ ยรำ่ งกำย สทิ ธิในกำร ไดร้ บั สัญชำติ สทิ ธใิ นกระบวนกำรยุติธรรม และสิทธิในกำรเคลอ่ื นยำ้ ยถ่นิ ฐำน ๒ สิทธิทางการเมือง สิทธิในกำรลงคะแนนเสียง สิทธิเสรีภำพในควำมเชื่อทำงกำรเมือง กำรนับถือศำสนำ สิทธิ เสรภี ำพในกำรแสดงควำมเห็นในกำรชมุ นมุ ในกำรรวมตวั กนั เป็นสมำคม และกำรด�ำเนนิ กำร ทำงกำรเมอื ง ในกำรตพี ิมพโ์ ฆษณำและในกำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมอื ง ๓ สิทธิทางเศรษฐกจิ สิทธิในกำรท�ำงำน กำรประกอบอำชีพ สิทธิในกำรได้รับค่ำจ้ำงและรำคำผลผลิตอย่ำง เปน็ ธรรม สทิ ธใิ นกำรไดร้ ับกำรจัดสถำนท่ีให้ประกอบอำชีพ เช่น ลำนคำ้ หรอื ตลำดนัด สิทธิ ไดร้ บั กำรคมุ้ ครองในกำรแขง่ ขนั ทำงกำรคำ้ อยำ่ งเปน็ ธรรม สทิ ธไิ ดร้ บั หลกั ประกนั กำรมมี ำตรฐำน ชีวิตอยำ่ งเพยี งพอ สทิ ธมิ ที ่อี ยูอ่ ำศัย และสทิ ธมิ อี ำหำรกำรกนิ อยำ่ งเตม็ อม่ิ รัฐบำลจะต้องดูแล ไมใ่ ห้คนอด ยำกจนขน้ แค้น 75 ขอสอบเนน การคดิ นกั เรยี นควรรู ขอใดคอื สทิ ธิมนษุ ยชนในดา นสทิ ธทิ างเศรษฐกิจ 1 ศักด์ิศรีความเปนมนุษย คุณคาของมนุษยท่ีมีความเกี่ยวของหรือข้ึนอยูกับ 1. การไมถ กู ทรมาน หรือทาํ รายรางกาย ความเปนมนุษย โดยในฐานะมนุษยทุกคนไดรับคุณคาความเปนมนุษยโดยไมตอง 2. การไดร ับคาจา งอยา งเปน ธรรม คํานึงถึงเพศ เชอื้ ชาติ ศาสนา วัย ฐานะ หรอื ตาํ แหนง โดยทกุ คนมีศกั ดศ์ิ รีความเปน 3. การลงคะแนนเสียงเลอื กตง้ั มนุษย เปนสิทธิติดตัวทุกคนตามธรรมชาติต้ังแตเกิด มีความเสมอภาคและหาม 4. การนบั ถือศาสนา การเลือกปฏบิ ัติ วเิ คราะหค าํ ตอบ สิทธมิ นษุ ยชนในดา นสทิ ธิทางเศรษฐกิจ คอื การมีสทิ ธใิ นการทํางาน การประกอบอาชพี สิทธิในการไดร บั คาจา งและราคาผลผลติ อยา งเปน ธรรม ตอบขอ 2. คูมือครู 75

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครใู หน ักเรยี นรวมกันอภิปรายในชนั้ เรียน โดย ๔ สิทธิทางสังคม 1 ครูตงั้ คาํ ถามเพอื่ กระตนุ การเรยี นรูของนักเรียน สิทธิได้รับประกันสุขภำพ ได้รับเงินบ�ำเหน็จบ�ำนำญเล้ียงตัวเมื่อชรำ สิทธิในกำรเลือกคู่ครอง • สิทธิมนุษยชน แบงไดเ ปน ก่ีดาน อะไรบาง สิทธิได้รับกำรรักษำพยำบำลและกำรมียำรำคำถูก สิทธิของแม่ลูกอ่อนในกำรได้รับสวัสดิกำร (แนวตอบ 5 ดา น ไดแก สทิ ธิพลเมอื ง สิทธิ สิทธิของเด็ก ผู้หญิง และคนพิกำร สิทธิไม่ถูกเลือกปฏิบัติอันเนื่องมำจำกควำมแตกต่ำง ทางการเมือง สทิ ธิทางเศรษฐกจิ สทิ ธิทาง ดำ้ นควำมเชอ่ื ทำงกำรเมือง ศำสนำ เชื้อชำติ อำยุ เพศ และผิว สงั คม และสทิ ธทิ างวฒั นธรรม) ๕ สทิ ธิทางวัฒนธรรม • สทิ ธไิ ดร ับประกนั สุขภาพ และสิทธใิ นการ สิทธิในกำรได้รับกำรศึกษำ สิทธิในกำรแต่งกำยตำมควำมเช่ือหรือควำมต้องกำร สิทธิในกำร เลือกคูครอง เปนสิทธิทางดา นใด ปฏบิ ัตติ ำมประเพณแี ละควำมเชอ่ื สทิ ธิในกำรมสี ถำนทสี่ ำธำรณะพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ สิทธใิ นกำร (แนวตอบ สิทธทิ างสงั คม) มีศูนย์ศิลปวัฒนธรรม กำรบันเทิงและกีฬำ กำรใช้สิทธิน้ัน ๆ ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิของคนอื่น หรอื ท�ำให้คนในสังคมมสี ิทธิในทำงทถ่ี กู ท่คี วรลดลง เกรด็ นา่ รู้ สิทธใิ นร่างกายกบั การสัมผสั ท่ีไมด่ ี • เ ด็กๆ ทุกคนมีสิทธิในร่างกายตัวเอง เราเป็นเจ้าของร่างกายไม่มีใครสามารถมาวุ่นวายกับร่างกายเรา ถ้าเราไม่ยินยอม และเรามีสิทธิท่ีจะปฏิเสธใครก็ตามท่ีมายุ่งกับร่างกายเราโดยไม่จำาเป็นต้องรู้สึกผิด เราสามารถพดู เสยี งดงั ๆ ออกไปวา่ “อย่า” “ไมช่ อบแบบน”้ี “ไม่มีสทิ ธิมาทาำ แบบนีน้ ะ” • ไ ม่ว่าเพศไหนก็อาจถูกล่วงละเมิด หรืออาจเป็นผู้ละเมิดคนอื่นเสียเอง ดังนั้น เราจึงควรเรียนรู้เรื่อง “สัมผสั ท่ีไม่ดี” หรอื “สัมผสั ท่เี ราไมต่ ้องการ” ซ่ึงไม่เหมอื นกบั “สัมผัสที่ด”ี • “ สัมผัสที่ไม่ดี“ หรือสัมผัสที่เราไม่ต้องการ เป็นสัมผัสหรือการอยู่ใกล้เกินไปจนทำาให้เราอึดอัด เพราะ ทำาโดยท่ีเราไม่ทันต้ังตัว ไม่ขออนุญาติเราก่อน หรือสัมผัสบางส่วนในร่างกายท่ีส่วนตัวมากๆ เช่น อวัยวะเพศ ก้น หนา้ อก • “สัมผัสท่ีดี” เป็นการสัมผัสร่างกายภายนอกโดยที่เราเต็มใจ ผู้ท่ีมาสัมผัสจะหยุดเม่ือเราไม่ชอบ เช่น คุณแมก่ อดเรา คุณพอ่ ลบู หวั เราเบาๆ คุณลงุ ขา้ งบ้านขอหอมแก้ม โดยถามความเต็มใจของเราเสยี ก่อน • ผ ู้ใหญเ่ องก็ไมม่ สี ิทธมิ าบังคับให้เราไปกอดหรือหอมใคร ถา้ เราไม่ต้องการ เราสามารถปฏเิ สธได้ • ถ ้าเราชอบใคร อยากอยู่ใกล้ชิดเขา อยากกอดเขา ควรขอและรอให้เขาอนุญาตก่อน เพราะไม่ใช่ทุกคน ท่ีจะชอบให้ ใครมาถูกตัว หรืออยู่ใกล้เกินไป และถ้าเราเข้าไปถูกตัวเขา นั่นถือเป็นการละเมิดสิทธิ รา่ งกายเขาแล้ว 76 เกรด็ แนะครู ขอสอบเนน การคดิ ถาถูกลวงเกนิ หรอื ถกู ลวนลาม ควรทาํ อยา งไรเปนลาํ ดับแรก ครสู ามารถแนะนํานกั เรียน โดยใหนกั เรียนศกึ ษาเรื่อง สิทธิมนุษยชนเพ่มิ เตมิ 1. ลกุ หนที ันที ไดจ ากหนงั สอื เรยี นวชิ า สงั คมศกึ ษา หรอื สบื คน ไดจ ากอนิ เทอรเ นต็ เนอ่ื งจากมขี อ มลู 2. ปฏิเสธแสดงทที าไมพ อใจ ท่หี ลากหลายและครบถว นกวาในหนงั สอื เรียน 3. บอกพอ แม หรือผปู กครอง 4. วา กลา วดว ยถอ ยคาํ ท่ีรนุ แรง นกั เรียนควรรู วเิ คราะหค าํ ตอบ หากถกู ลว งเกนิ หรือถกู ลวนลาม สง่ิ ทคี่ วรทาํ เปน ลาํ ดบั แรก คอื พยายามออกจากสถานการณน นั้ ๆ โดยเรว็ ทสี่ ดุ 1 เงินบาํ เหนจ็ บํานาญ คอื เงินตอบแทนความชอบทไ่ี ดร บั ราชการมา ซึ่งจา ย ซึ่งควรรีบไปยงั บริเวณทม่ี ีคนอยจู ํานวนมาก และสามารถขอ เปน เงินกอ นครง้ั เดียว (บาํ เหน็จ) หรือจายเปน รายเดอื น (บาํ นาญ) ความชว ยเหลอื ได คนรา ยจะไดไ มกลา ตามมาอกี ตอบขอ 1. 76 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Expand Evaluate Explore Explain Explore สาํ รวจคน หา เสรมิ สาระ ใหน ักเรียนแตละคนศึกษาเรอ่ื ง เทคนคิ การใชอ วยั วะและส่งิ ของใกลตวั เปนอาวุธ การปองกันตนเองจากการล่วงละเมิดทางเพศ จากหนังสอื เรยี นและแหลง เรียนรเู พม่ิ เติมตางๆ การลว่ งละเมดิ ทางเพศ เปน็ เรอื่ งทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ โดยทเี่ ราไมท่ นั ไดร้ ะมดั ระวงั ตวั การมสี ต ิ และทกั ษะในการ อธบิ ายความรู Explain ป้องกันตัว จะช่วยใหน้ กั เรยี นสามารถป้องกันตนเองใหร้ อดพน้ จากการลว่ งละเมิดทางเพศได้อย่างปลอดภยั ซึ่งมขี อ้ แนะนาำ ดงั นี้ 1 ครสู มุ เลือกตัวแทนนักเรียน 2 คน ออกมา ๑. เทคนิคการใชอ้ วัยวะ อวยั วะในร่างกายของคนเราสามารถใชใ้ นการปอ้ งกันตนเองไดห้ ลายอย่าง สาธิตเทคนิคการใชอ วยั วะเม่ือถกู ผอู น่ื เขา มา ไดแ้ ก่ ลวนลามหรือทํารา ยรางกาย โดยใหน กั เรยี น • มอื สนั มอื ฝา่ มอื หลงั มือ และปลายนิ้ว คนอนื่ ๆ ตง้ั ใจดแู ละเสนอแนะหากมขี อ ผิดพลาด • เทา้ สน้ เท้า ปลายเทา้ ฝ่าเท้า และหลงั เทา้ • เข่า • ศอก • ศีรษะ หน้าผาก กะโหลกศีรษะดา้ นหลัง อวยั วะท้ัง ๕ นี้ จะใชม้ ากหรือน้อย ขน้ึ อยูก่ ับการฝกฝน นอกจากน ี้ หากถงึ คราวคับขัน การใชป้ าก ฟัน และเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือก็สามารถช่วยได้เช่นกัน ตัวอย่างการใช้อวัยวะในการป้องกันตัว สามารถแกไ้ ขไดต้ ามสถานการณ์ ดงั น้ี เม่อื ผูอ้ ื่นเข้ามาประชิดตัว ระวังอยา่ ให้ผู้อื่นเขา้ มาประชิดตวั เกนิ กว่า ๒ กา้ ว จงต้ังสติ และหาโอกาสปอ้ งกนั ตวั โดยการ ใชเ้ ทา้ ถบี ไปท่ขี าตรงบรเิ วณกระดูกขาทอ่ นบน หวั เข่า หรอื หนา้ แข้ง ถ้าผู้อื่นผลีผลามจะเข้ามาประชิดตัวให้เราป้องกันตัวโดยการใช้สันมือฟันไปท่ีซอกคอ หรือริมฝีปาก ดั้งจมูก คอ ไหปลาร้า กกหู หรือใช้สันมือกระแทกยันคางให้หงายหลัง แล้ว ฉวยโอกาสหลบหนี จากนัน้ เรยี กใหค้ นช่วย 77 ขอสอบเนน การคิด เกรด็ แนะครู ขอ ใด ไมใช การปองกนั ตัวโดยการใชอ วยั วะสว นบนของรา งกาย 1. ศีรษะ 2. สนั มอื ครูควรเชญิ เจา หนา ท่ีตาํ รวจหรือบคุ คลท่ีสามารถอบรมใหความรเู กยี่ วกับศลิ ปะ 3. เขา 4. ศอก ปองกนั ตวั มาถายทอดความรูใหแ กน กั เรียน กอ นท่ีนักเรยี นจะสาธติ การฝก ปฏิบัติ วิเคราะหคาํ ตอบ การปอ งกนั โดยการใชอวัยวะสวนบนของ นกั เรียนควรรู รา งกาย เชน ศรี ษะ หนา ผาก สนั มอื ฝา มอื ศอก ปลายนว้ิ เปน ตน แตเ ขา เปนอวยั วะสวนลา งทีอ่ ยูบริเวณขาทงั้ 2 ขา ง จงึ ไมใ ชค ําตอบ 1 เทคนิคการใชอวยั วะ การใชร า งกายในการตอบโตควรเลอื กปฏบิ ัติในข้ันตอน สุดทาย เพราะอาจเสย่ี งตอ การโดนทํารายไดห ากกระทําไมส ําเร็จ ทง้ั น้คี วรต้ังสติ ทีถ่ กู ตอง ตอบขอ 3. เพือ่ หาวธิ กี ารแกไขทีร่ ดั กุม คมู อื ครู 77

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครูสุม ตวั แทนนักเรียนอกี 2 คน ออกมาสาธิต เม่ือถกู จบั มือขณะนัง่ เดิน หรือยนื เทคนคิ การใชอ วัยวะ ใชม้ อื ขา้ งทเ่ี ปน็ อสิ ระจบั นว้ิ กอ้ ยของผทู้ จ่ี บั • เมอ่ื ถกู จับมอื ขณะนงั่ เดนิ หรอื ยนื เตรกาใอจย ู่ แแลลว้ะหเกกั ิดกคลวบั าขมน้ึ เจอ็บยปา่ งวแด1รจงนแตละ้อเงรรว็ ีบ เปพลอื่ ่อใหย้ • เมอ่ื ถกู จับมือทัง้ สองขางทางดานหนา • เม่ือถูกจับมอื ทั้งสองขา งทางดานหลัง มือออก โดยใหน ักเรียนคนอนื่ ๆ ตง้ั ใจดแู ละเสนอแนะ หากมขี อผดิ พลาด เมอื่ ถูกจบั มอื ท้ังสองข้างทางด้านหน้า ๑. ดึงมือกลับ โดยบิดข้อ ๒. เมื่อมือหลุดเป็นอิสระแล้ว ให้ ๓. ให้เตะหน้าแข้งแรงๆ มือให้ฝ่ามือหันเข้าหากัน ตวัดมือข้างที่ถนัดขึ้นสูง แล้วใช้ แล้ววิง่ หนีใหเ้ รว็ ทีส่ ดุ แล้วดึงมือเขา้ หาลาำ ตวั สันมือฟาดลงบนด้ังจมูกอย่าง เตม็ แรง อีกวธิ หี น่ึง คอื เบยี่ งตัวออกโดย หันหน้าเท้าที่ถนัดเข้าหาผู้น้ัน แลว้ เตะหรอื ถบี ไปทหี่ นา้ แขง้ หรอื ใช้ส้นเทา้ กระแทกลงบนหัวเข่า 78 เกร็ดแนะครู กจิ กรรมสรา งเสรมิ ครคู วรใหน กั เรยี นระมดั ระวงั อันตรายขณะทาํ การสาธติ วธิ กี ารแสดงการใช ใหน กั เรียนทาํ แผนพบั เรอื่ ง เทคนคิ การใชอวัยวะเพอ่ื อวัยวะปอ งกนั ตวั ปอ งกนั การลวงละเมดิ ทางเพศ พรอมกบั มีรปู ภาพประกอบ นกั เรยี นควรรู กิจกรรมทาทาย 1 เกิดความเจบ็ ปวด จุดตางๆ ในรา งกายทีเ่ ปน จดุ ออนซึง่ หากถกู กระทบกระทั่ง ใหนักเรยี นปฏบิ ัตเิ ทคนิคการใชอ วยั วะตางๆ เพอื่ ปอ งกนั จะทาํ ใหเ กดิ ความเจบ็ ปวดอยา งมาก เชน กระหมอ ม ขมบั นยั นต า ดง้ั จมกู ทา ยทอย การลวงละเมดิ ทางเพศ จากนั้นใหน ักเรียนเขียนสรุปถึง กกหู ลูกกระเดอื ก ไหปลารา ใตรักแร ลิน้ ป หวั เขา เปนตน ประโยชนท ่ีไดร บั จากการใชเ ทคนิคตางๆ ดวยอวยั วะ พรอมให ขอเสนอแนะตางๆ 78 คูมือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู เมอ่ื ถูกจบั มือทง้ั สองข้างทางดา้ นหลงั ครสู ุม ตวั แทนนักเรยี นอีก 2 คน ออกมาสาธิต ให้เกร็งข้อมือแล้วดึงตัวออกไปข้างหน้า เทคนิคการใชอ วยั วะเม่ือถูกบบี คอทางดานหนา ขณะเดียวกันให้เหลียวดูหัวเข่าของผู้น้ัน และ โดยใหนกั เรยี นคนอ่ืนๆ ตัง้ ใจดแู ละเสนอแนะ ถบี ทีห่ ัวเข่าอย่างแรง แล้ววงิ่ หนอี ย่างเร็ว หากมขี อผดิ พลาด เมอื่ นกั เรยี นสาธิตเรยี บรอ ยแลว ครูใหนกั เรยี นทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทกึ ผล การเรยี นรู กิจกรรมท่ี 4.3 ใบงาน ✓แบบวดั ฯ แบบฝก ฯ สขุ ศึกษา ม.1 กิจกรรมที่ 4.3 หนวยที่ 4 การปองกนั การถูกลว งละเมดิ ทางเพศ กิจกรรมท่ี ๔.๓ ใหน กั เรยี นพจิ ารณาภาพ แลว บอกวา เปน เทคนคิ การใชอ วยั วะ คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได ในรางกายเม่ือตกอยูในสถานการณที่เสี่ยงตอการถูก ñõ ลวงละเมิดทางเพศหรือทํารายรางกายในสถานการณใด และแตล ะสถานการณม วี ธิ กี ารปอ งกนั ตวั อยา งไร (พ ๒.๑ ม.๑/๒) 1 สถานการณ เ…ม…อ่ื …ถ…กู …ค…น…ร…า …ย…จ…บั …ม…อื …ท…ง้ั …ส…อ…ง…ข…า …ง…ท…าง…ด…า…น…ห……น…า วิธีการปองกนั ตัว …ต…ง้ั…ส…ต…ิ…แ…ล…ว…ด…งึ …ม…ือ…ก…ล…บั ……โ…ด…ย…บ…ดิ …ข…อ…ม…ือ.. เมอื่ ถูกบีบคอทางด้านหนา้ …ให…ฝ…า…ม…อื …ห…นั …เ…ข…า ห…า…ก…นั……แ…ล…ว…ด…งึ …ม…อื …เ…ขา…ห…า…ต…วั ……เม…อื่ …ม…อื …ห…ล…ดุ …เ…ป…น .. ให้เกร็งลำาคอไว้จากนั้นประสานมือยกขึ้นกระแทกมือให้ออกจากกัน พร้อมกระแทก …อ…ิส…ร…ะแ…ล…ว……ใ…ห…ต …ว…ดั …ม…ือ…ข…า…ง…ท…่ีถ…น…ัด…ข…ึน้ …ส……งู ……แ…ล…วใ…ช…ส…นั …ม…ือ…ฟ……าด… …ล…ง…บ…น…ด…ง้ั …จ…ม…กู …ค…น…ร…า …ย…อ…ย…า …งเ…ต…ม็ …แ…ร…ง…จ…า…ก…น……นั้ …ให……เ ต…ะ…ห…น…า …แ…ข…ง สน้ เท้าที่หนา้ แข้งแรงๆ หลายๆ ครัง้ เม่ือผ้นู ้นั ปล่อยมือ ใหก้ ระแทกสน้ เท้าลงไปท่ีหวั เข่าอย่างแรง …ค…น…ร…า …ย…แ…ล…ว ว…่งิ …ห…น…ใี…ห…เ…ร…็ว…ท…ส่ี …ุด…………………………………………………… อกี ครั้ง เพือ่ ไม่ใหต้ ้งั ตัวได้ทนั แลว้ วิง่ หนอี ย่างเร็ว ……………………………………………………………………………………………………… เฉฉบลบั ย สถานการณ เ…ม…อ่ื …ถ…กู …ค…น…ร…า …ย…จ…บั …ม…อื …ท…ง้ั …ส…อ…ง…ข…า ง…ท…า…ง…ด…า …น…ห…ล…งั … วธิ ีการปอ งกนั ตัว ……ต…้ัง…ส……ต…ิ …แ…ล…ะ…เ…ก…ร…็ง…ข…อ…ม…ือ…แ…ล…ว…ด…ึง…ไ…ป.. …ขา…ง…ห…น…า……ข…ณ…ะ…เด……ีย…วก…ัน……ให…ใ…ช…ส …า…ย…ต…า…เห…ล…ีย…ว…ด…ูเ…ข…า ข…อ…ง…ค…น…ร…า…ย.. …แล……ะถ…บี…ไ…ป…ท…่หี……ัวเ…ข…า …แ…ล…ว …ว…ิ่ง…ห…น…อี …ย…า…ง…ร…วด……เร…็ว…………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… สถานการณ เ…ม…ื่อ…ถ…ูก…ค…น…ร…า…ย…ก…อ…ด…ท…า…ง…ด…า…น…ห…น……า…………………… วธิ ีการปองกันตัว …ต…ัง้…ส…ต…ิ…แ…ล…ะ…ส…อ…ด…แ…ข…น…ข…า …ง…ท…่ีถ…น…ดั …ข…นึ้ …ม…า.. …แล…ว…ใ…ช…ส …นั …ม…อื …ก…ร…ะ…แ…ท…ก…ใ…ต…ค …าง…ค…น……ร…า ย…อ…ย…า …ง…แ…ร…ง…พ…ร…อ…ม…ก…บั……ใช.. …เข…า …ก…ร…ะแ…ท…ก…ท……อ …งน……อ …ย…ห…ร…อื …เป…า …ก…า…ง…เก…ง…ข…อ…ง…ค…น…ร…า …ย……ห…ร…อื …อ…าจ… …ใช…น…้วิ…ม…อื …จ…ิ้ม…ต…า…ค…น…ร…า…ย……แ…ล…ว…วิง่…ห…น……ีอ…ย…าง…ร…ว…ด…เ…ร…็ว…………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ๓๔ 79 ขอ สอบเนน การคิด เกรด็ แนะครู บุคคลใดมกี ารปฏบิ ัตติ นเพื่อปองกนั การลวงละเมิดทางเพศไดด ที ส่ี ุด ครคู วรแนะนาํ วาหากนกั เรียนตกอยูในสถานการณเส่ียงตอ การลว งละเมดิ 1. ออ มแตงกายสุภาพออกนอกบา น ทางเพศ วิธที ดี่ ที ี่สดุ คือ ควรออกมาจากสถานการณน้นั ๆ อยา งเร็วทส่ี ุด โดยการ 2. หนงิ ไปเทย่ี วกลางคนื กบั คนรักทุกสปั ดาห วงิ่ หนไี ปยังบริเวณชมุ ชนท่ีมคี นอยูจํานวนมาก 3. เปรยี้ วชอบเลน อินเทอรเ นต็ เพอื่ หาเพื่อนใหม 4. เจนนดั รบั ประทานอาหารกับคนรักตามลําพัง ครอู าจยกตวั อยา งขา วของเหยอื่ ผทู ่ถี ูกกระทาํ ลวงละเมดิ ทางเพศท่สี ามารถ วิเคราะหค ําตอบ การแตง กายทส่ี ุภาพ เหมาะสมกับกาลเทศะ ตอบโตและหนพี นจากสถานการณดังกลาวมาใชเ ปน กรณีศึกษาใหแ กน ักเรียน และวัยของตนเองนั้น ถือเปนการรักนวลสงวนตัวทด่ี ีท่หี ญงิ ไทย พงึ กระทาํ เพราะเปน วธิ หี นง่ึ ทจ่ี ะชว ยลดการกระตนุ อารมณท างเพศ นักเรยี นควรรู ของเพศตรงขาม อีกท้ังยังชวยใหไ มต อ งตกอยใู นสถานการณเ สย่ี ง 1 ถูกบบี คอ อยา พยายามใชมือแกะมอื ผูนนั้ ออก เพราะเขาไดใ ชแ รงทง้ั หมดทม่ี อื ตอ การลว งละเมดิ ทางเพศไดอ กี ดว ย ตอบขอ 1. ควรเลอื กทาํ รายจุดออนอ่นื ๆ เชน แขน ขา ดวงตา เปนตน คูมือครู 79

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครูสมุ ตัวแทนนักเรียนอีก 2 คน ออกมาสาธติ เมื่อถกู กอดทางดา้ นหน้า เทคนคิ การใชอวยั วะเมอ่ื ถกู กอดทางดานหนา และ กอดทางดา นหลงั โดยใหนกั เรียนคนอนื่ ๆ ตั้งใจดู แล้วใใชห้ส้สันอมดือ1แกขรนะแข้ทางกทใ่ีตถ้นคาัดงขอ้ึนยม่าาง และเสนอแนะหากมขี อ ผิดพลาด แรง จากนั้น ใช้เข่ากระแทกไปทท่ี ้อง จากนน้ั ครูตง้ั คาํ ถามเพือ่ ใหน ักเรยี นรวมกนั นอ้ ย หรือเปา้ กางเกง อธิบายความรู หรืออกี วธิ ีหนึ่ง คือ อาจใช้นว้ิ มอื จ้ิม • นอกจากการใชอวยั วะเพือ่ ปองกนั ตนเองแลว ตา แลว้ ว่งิ หนี ยงั สามารถใชสิง่ ของใกลต ัวแทนไดอ ีกดวย ใหน กั เรยี นรว มกันยกตวั อยา งการใชสิง่ ของ เม่ือถกู เขา้ มากอดดา้ นหลงั 2 ใกลตวั ในการปองกันตนเอง (แนวตอบ ขน้ึ อยกู บั คาํ ตอบของนักเรียน เชน ให้ใช้ฝ่ามือยันปลายคางให้เงยข้ึน แล้วใช้นิ้ว สันมือ หรือกำาป้ัน กระแทกไปท่ีลูกกระเดือก ใชป ากกา ดนิ สอ หรอื รม แทงไปทบี่ รเิ วณ โดยเรว็ หรอื ใชก้ ำาปั้นทบุ ไปทบ่ี ริเวณดัง้ จมูก จดุ ออน เชน นยั นต า ใตค าง ลูกกระเดือก อกี วธิ หี นงึ่ ใหก้ ระทงุ้ ศอกไปดา้ นหลงั บรเิ วณลนิ้ ปหี่ รอื ทอ้ งนอ้ ย เบย่ี งตวั ออกไปดา้ นขา้ งเลก็ นอ้ ย ลิน้ ป เปน ตน) แลว้ ยกศอกกระแทกไปทค่ี าง หรอื คอ • นกั เรียนสามารถนาํ ความรทู ศ่ี ึกษาไปใชใน ชวี ติ ประจาํ วนั ไดอ ยางไร (แนวตอบ เน่ืองจากนักเรยี นอาจตกอยใู น สถานการณเ สย่ี งตอ การลว งละเมดิ ทางเพศได ดงั น้นั จึงสามารถนําความรเู ก่ียวกับการ ปอ งกนั และหลกี เล่ียงสถานการณเ สยี่ งตอ การ ลวงละเมดิ ทางเพศไปดูแลและปองกันตนเอง ใหป ลอดภัยจากสถานการณดงั กลา วได) 80 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ การกระทําของบุคคลใด แสดงใหเห็นถึงการปองกนั ตนเองจาก 1 สนั มอื คือ สวนขางฝา มอื ดานนิว้ กอย ซึง่ การใชสันมอื ในการปอ งกันการ การลว งละเมดิ ทางเพศไดอ ยางเหมาะสม ลว งละเมดิ ทางเพศนน้ั จะทําใหผนู ้ันไดรบั การบาดเจบ็ ไดงาย เนอ่ื งจากเปนกระดูก 1. โอช อบแตงตวั โปเ ปด เผยสัดสวน ทแี่ ข็งแรง เหมาะแกการนาํ มาใชเปน อวัยวะในการปองกันตัว เชน การสับสันมอื ไป 2. เอนยิ มไปเทย่ี วสถานเริงรมยตางๆ ท่ลี กู กระเดอื ก การใชส ันมือกระแทกไปทใี่ ตค าง เปนตน 3. ออยไมไ ปเทย่ี วกับเพอ่ื นตา งเพศสองตอสอง 2 กอดดา นหลงั เมื่อถกู กอดจากดา นหลงั ไมค วรดนั ตัวหนี หรือแกะมือผูน้ันออก 4. แอนชอบพูดจาสองแงสองงามกับเพศตรงขามเสมอ ควรบดิ ตวั และจดั การบรเิ วณจุดออนอื่นๆ เชน ทอ งนอย ลน้ิ ป เปน ตน วเิ คราะหค าํ ตอบ การกระทาํ ของออยแสดงใหเ หน็ ถงึ การปอ งกนั ตนเองจากการลว งละเมิดทางเพศไดอ ยา งเหมาะสม เน่ืองจาก สาเหตสุ าํ คญั ของการลวงละเมดิ ทางเพศนน้ั มาจากการอยใู น สถานการณเ ส่ยี งโดยไมร ะมดั ระวงั ทั้งการพดู จาสองแงส องงา ม กับเพศตรงขา ม ไปเทยี่ วสถานเริงรมยตา งๆ และการแตง กาย ท่ีไมเ หมาะสมกับกาลเทศะและวัย ตอบขอ 3. 80 คูมอื ครู

กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Evaluate Engage Explore Expand Engage กระตนุ ความสนใจ 1 ครตู ั้งคําถามเพอื่ กระตุนความสนใจของผูเรียน 2. เทคนิคการใช้สิ่งของใกล้ตัว นอกจากใช้อวัยวะเพ่ือป้องกันตัวบางครั้งเราอาจหยิบฉวย • หากเพ่อื นชกั ชวนใหเ ขา ไปอยูในสถานการณ ส่งิ ของที่มีอย ู่ เชน่ ของใช้ ในกระเปา ลูกกุญแจ ปากกา ดนิ สอ ร่ม รองเท้า ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี • การใช้กญุ แจ โดยใช้กุญแจแทงบรเิ วณใต้ลูกกระเดอื กหรือแทงเข้าท่ลี กู ตา เสย่ี งตอ การลว งละเมิดทางเพศ นกั เรียนจะ • การใช้ปากกาหรือดินสอ โดยใช้ปากกา ทาํ อยา งไร หรอื ดนิ สอท่มิ ไปทห่ี ลังมอื (แนวตอบ ปฏิเสธไปทนั ทีดวยคําพูดและ • การใช้รม่ โดยการถอื ร่มในท่าระมดั ระวัง การกระทาํ ที่จรงิ จัง เพื่อแสดงความรสู ึก แลว้ ใชต้ วั รม่ ในทา่ ขวางกระแทกไปทล่ี าำ คอ หรอื อาจใช้ อยางชัดเจนใหอกี ฝา ยหน่ึงรบั รู แตอยา งไร ปลายรม่ แหลมๆ แทงไปที่ล้นิ ป่ี ก็ตามควรจะรักษาสัมพนั ธภาพระหวางกนั • ขวดน้ำาหอม โดยฉีดพ่นบริเวณดวงตา ไวด ว ย) ทง้ั สองข้าง แลว้ รีบวง่ิ หนีให้เร็วทส่ี ุด • นกั เรยี นคดิ วา การปฏเิ สธอยา งไรไดผ ลดที สี่ ดุ • การใชร้ องเทา้ อาจกระทาำ โดยไมต่ อ้ งถอด (แนวตอบ ปฏิเสธอยางตรงไปตรงมา) รองเท้าออก โดยการกะระยะและเล็งไปท่ีจุดอ่อน เชน่ เปา้ กางเกง ชายโครง ใบหนา้ แลว้ ยกเท้าข้นึ ถบี อย่างแรง หรืออาจใช้วิธีถอดรองเท้า เพื่อใช้ในการ สาํ รวจคน หา Explore ตบ ตี โดยการใช้ส้นรองเท้ากระแทกไปที่จุดอ่อน รม่ หรอื กญุ แจ เปน็ อุปกรณใ์ กลต้ วั ทีส่ ามารถนาำ มาใชเ้ ปน็ ใหนักเรียนแตละคนศึกษาเรื่อง ทักษะปฏิเสธ ตา่ งๆ อาวุธในการป้องกนั ตัวได้ เพอื่ ปอ งกนั การลว งละเมดิ ทางเพศ จากหนงั สอื เรยี น • การใช้ไม้กวาด โดยการใช้ด้ามไม้กวาด เพอ่ื ใช้สำาหรับท่ิมแทงไปท่จี ุดออ่ น หรอื โดยการจบั ไมก้ วาดในมอื กระแทกแขนทงั้ สองข้าง พรอ้ มกับเตะ ถีบท่ี หวั เขา่ แลว้ เปลี่ยนเป็นยกไม้กวาดข้ึนกระแทกที่คอหอย นอกจากตัวอย่างท่ีกล่าวมาแล้ว ของใช้ในบ้านหลายๆ อย่างก็สามารถนำามาใช้ได้ เช่น มีด ไม้ กรรไกร ขวด ๕. ทกั ษะปฏเิ สธเพือ่ ปอ งกันการล่วงละเมิดทางเพศ นอกจากจะต้องเรียนรู้ทักษะในการป้องกันตัวแล้ว การเรียนรู้ถึงทักษะในการปฏิเสธก็เป็น ส่ิงส�าคัญ ท้ังน้ีการรู้จักปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาจึงถือว่าเป็นวิธีท่ีดีท่ีสุด ที่จะช่วยให้รอดพ้น จากสถานการณ์เส่ียงนนั้ ๆ ได้ การปฏิเสธ เป็นความสามารถในการใช้ค�าพูด หรือท่าทาง โดยทุกคนมีสิทธิท่ีจะปฏิเสธ ในสิ่งที่ตนเองไม่อยากท�าหรือเส่ียงต่อความปลอดภัยได้ ซึ่งการปฏิเสธท่ีได้ผลดี คือ เราจะต้อง มคี วามต้ังใจทีจ่ ะแสดงความรู้สกึ ใหอ้ ีกฝา่ ยหน่งึ รบั รู้อยา่ งชดั เจนท้ังค�าพดู และการกระท�า ดังน้ี 8๑ ขอสอบเนน การคิด เกรด็ แนะครู ถาเพ่อื นชวนไปดภู าพยนตรร อบดึกสองตอ สอง นักเรียนควร ครคู วรชแี้ นะวา ในสถานการณจ รงิ การตอ สกู บั ผอู น่ื ควรกระทาํ เพอื่ หลกี หนเี ทา นนั้ ปฏิบตั ิตนอยางไร และควรรบี ว่งิ หนีออกมาจากสถานการณน ัน้ อยา งรวดเรว็ พรอ มกบั รอ งเรยี กใหผ ูอ่ืน ชวยเหลือ 1. ปฏเิ สธอยางตรงไปตรงมา 2. ใหเ พ่อื นชวนเพ่ือนทม่ี ีครู กั ไปอีกคู นักเรยี นควรรู 3. ไมป ฏิเสธเพราะกลัวเพ่ือนชายไมพอใจ 4. ลองไปกอนแลว คอยหาโอกาสกลบั บาน 1 เทคนคิ การใชสงิ่ ของใกลตวั ควรระมัดระวงั ในการใช เพราะสิ่งของดงั กลา ว วเิ คราะหค าํ ตอบ การปฏเิ สธเปน สว นหนง่ึ ของการสรา งสมั พนั ธภาพ อาจกลายเปน อาวุธท่ีผูอืน่ ใชมาทํารา ยเราได และการสอื่ สารดว ยความสามารถในการใชค าํ พูด หรอื ทา ทาง โดยทกุ คนมีสิทธิทจ่ี ะปฏเิ สธในสงิ่ ทตี นเองไมอยากทํา หรอื เสีย่ งตอ ความปลอดภยั ได ซึง่ การรจู ักปฏิเสธอยางตรงไปตรงมาถือวาเปน วิธีทด่ี ีที่สดุ ที่จะชวยใหรอดพน จากสถานการณเ ส่ียงนั้นๆ ได ตอบขอ 1. คมู ือครู 81

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขาาใจใจ ตรวจสอบผล Explore Evaluate Engage Explain Explain Expand อธบิ ายความรู ครตู ้งั คําถามเพ่อื ใหน ักเรยี นรว มกนั อภิปราย ๑. ต้ังสติและตั้งใจที่จะปฏิเสธอย่างจริงจังท้ังท่าทาง ค�าพูด และน้�าเสียง เพื่อ • การปฏเิ สธทีด่ มี หี ลักการอยางไร แสดงความตง้ั ใจอยา่ งชัดเจนที่จะขอปฏิเสธกับอีกฝา่ ยหนึง่ โดยไม่ใหค้ วามหวัง ๒. ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายมีข้ออ้าง จนท�าให้อีกฝ่ายจนมุมและใจอ่อนได้ ควร (แนวตอบ จะตองมีความตง้ั ใจท่ีจะแสดง เลอื กใชค้ วามรสู้ กึ ทด่ี ตี อ่ กนั มาเปน็ เหตผุ ลประกอบ เพราะการใชเ้ หตผุ ลที่ไมเ่ กยี่ วขอ้ งกบั ความรสู้ กึ ความรสู กึ ใหอีกฝายหนึ่งรับรูอ ยางชดั เจน เพยี งอย่างเดียวมักถกู โต้แยง้ ได้ ทงั้ คาํ พูดและการกระทํา) ๓. ขอความคิดเห็น ความเห็นชอบ แสดงกิริยาท่าทาง ค�าพูดที่เป็นมิตร • ทกั ษะการปฏเิ สธมคี วามสาํ คัญอยา งไร การแสดงความขอบคณุ เมอื่ อกี ฝา่ ยยอมรับในกา1รปฏเิ สธ (แนวตอบ เนอ่ื งจากทกุ คนมีสทิ ธทิ ่จี ะปฏิเสธ ๔. เมื่อถูกเซ้าซ้ีหรือสบประมาท ไม่ควรต�าหนิ โกรธเคือง เพราะท�าให้ขาดสติ ในสิง่ ที่ตนเองไมอ ยากทาํ หรือสถานการณ ไม่มีสมาธิในการแก้ไขสถานการณ์ ควรยืนยันการปฏิเสธโดยไม่ท�าให้อีกฝ่ายเสียหน้า และเพื่อ เสี่ยงตอ ความปลอดภัย ดงั นัน้ การรจู กั ใช รักษาสัมพนั ธภาพท่ดี ีตอ่ กนั ดังน้ี ทกั ษะปฏเิ สธจะชว ยใหรอดพนจาก • ปฏิเสธซ�า้ โดยไม่ต้องใช้ขอ้ อ้างอกี พรอ้ มทงั้ บอกลา และหาทางหลีกเลย่ี ง สถานการณเสีย่ งนัน้ ๆ ได) จากสถานการณ์ดงั กล่าว • ต่อรอง โดยอาจหากจิ กรรมอน่ื ๆ ที่ไม่มคี วามเส่ยี ง เช่น ชวนไปหอ้ งสมุด ขยายความเขา ใจ Expand ไปท�าบุญท่วี ดั ไปออกก�าลงั กาย เปน็ ต้น มาทดแทน • ผดั ผ่อน โดยการยืดระยะเวลาออกไป เพอ่ื ใหอ้ กี ฝ่ายเปลี่ยนใจ ใหนกั เรยี นศกึ ษากรณตี ัวอยา งการใชท กั ษะ ปฏิเสธ จากหนังสือเรียนหนา 82 จากนั้นให กรณตี วั อยา่ งการใชท้ ักษะปฏิเสธ นกั เรยี นรวมกลมุ กัน กลมุ ละ 5-6 คน รว มกนั คดิ กรณตี วั อยา งที่เส่ยี งตอการลวงละเมดิ ทางเพศ สถานการณ์ท่ีควรปฏิเสธ ตัวอย่างการใชท้ ักษะปฏเิ สธ และการใชทักษะปฏิเสธตอกรณดี งั กลา วน้ัน อยา งนอย 10 กรณี ทาํ เปน ใบงานสงครูผสู อน เพื่อนชวนไปดหู นังตอนเยน็ หลงั เลกิ เรียน “ไปไมไ่ ดน้ ะ รายงานเรายังไมเ่ สร็จเลย” เพื่อนแสดงท่าทางโกรธ น้อยใจ พดู ทา� นองว่า “ถ้าเธอชอบเรา เธอต้องไมค่ ิดอย่างน้นั เราเองก็ ถา้ ไม่ไปแสดงวา่ ไม่รกั จรงิ ชอบเธอนะ แต่เราไปไมไ่ ด้จริงๆ” เพื่อนชวนไปงานเลย้ี งทบี่ า้ นในวันหยุด “ขอโทษด้วยนะ วันนเ้ี รานัดกินขา้ วนอกบ้านกับ คุณพอ่ คณุ แม่ไวแ้ ล้ว” เพอื่ นเลา่ เรอื่ งลามกใหฟ้ งั พรอ้ มเอาคลปิ วดิ โี อโป๊ใหด้ ู “เราว่าเปลีย่ นเรอ่ื งคยุ กันเถอะนะ เพราะถ้าพ่อแมร่ ู้ เราท้งั คอู่ าจจะโดนตา� หนไิ ด้” เพือ่ นทา� ทวี า่ จะโอบกอดขณะกา� ลงั คยุ เร่ืองงานกนั “เราทง้ั คู่ยังเด็กเกินไป อยา่ เพ่ิงทา� อะไรเกนิ เลย อย่ ู ๒ คน มากไปกว่านเี้ ลยนะ” 82 กจิ กรรมสรา งเสรมิ นักเรียนควรรู ใหนักเรยี นสาธติ เทคนิคการใชอวัยวะและส่ิงของใกลต วั กับ ครผู ูส อนนอกเวลาเรยี น 1 สบประมาท การสบประมาทเปนการกลา วดถู ูกดูแคลน โดยคาดการณถงึ สง่ิ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตในความคิดของผูพูดในทางไมดี เชน คงไมไดดีหรอก กจิ กรรมทาทาย คงเรียนไมจ บหรอก เปน ตน ซึ่งมนั อาจจะเปน หรอื ไมเปนเชนนน้ั ในอนาคตกไ็ ด ใหน ักเรยี นจบั คกู ับเพือ่ นแสดงบทบาทสมมตใิ นสถานการณ มุม IT เมอื่ เกิดการลวงละเมิดทางเพศ โดยใชเทคนิคการใชอวยั วะ และสิ่งของใกลตวั รวมถงึ แสดงทกั ษะปฏิเสธเพ่อื ปอ งกันการ สามารถศกึ ษาเพ่ิมเติมเก่ียวกับทกั ษะการปฏิเสธเพ่อื ปอ งกนั การลว งละเมดิ ลวงละเมิดทางเพศหนา ชัน้ เรยี น ทางเพศ ไดจ ากเวบ็ ไซต http://www.youtube.com/watch?v=k8gCJrDZjyo 82 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขา ใา จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Evaluate Expand Expand ขยายความเขา ใจ เสรมิ สาระ ใหนกั เรยี นอานเสรมิ สาระเรอ่ื ง หนวยงานท่ใี ห ความชวยเหลอื เม่อื มกี ารลว งละเมดิ ทางเพศ หน่วยงานท่ใี ห้ความช่วยเหลอื เม่ือมีการล่วงละเมดิ ทางเพศ จากหนงั สือเรียน หนา 83 สว่ นกลาง ใหน กั เรยี นสรปุ สาระสาํ คญั ของเรอ่ื ง จากนัน้ หนว่ ยงานราชการ ใหนักเรยี นนาํ สาระสาํ คญั ทีไ่ ดมารวมกนั อภปิ ราย • สถานตี าำ รวจทุกแห่ง แสดงความคิดเหน็ หนาชั้นเรียน • โรงพยาบาลของรฐั • ศูนย์บรกิ ารสาธารณสขุ ในสังกดั กรงุ เทพมหานคร • ศนู ย์ประชาบดี กระทรวงการพฒั นาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ โทร. ๑๓๐๐ • บา้ นพักเด็กและครอบครัว กรมพัฒนาสงั คม และสวสั ดิการ โทร. ๐-๒๓๕๔-๗๕๘๐ • สำานกั งานอัยการสูงสุด (ฝา่ ยสทิ ธเิ ด็ก) โทร. ๐-๒๑๔๒-๑๔๔๔ (กรณีผกู้ ระทำาการลว่ งละเมิดทางเพศเปน็ บพุ การี) หน่วยงานเอกชน • มลู นธิ ิเพือ่ นหญงิ โทร. ๐-๒๕๓-๑๐๐๑ • มลู นธิ ผิ หู้ ญงิ โทร. ๐-๒๔๓๓-๕๑๔๙ • มลู นธิ ปิ วีณาเพือ่ เด็กและสตร ี โทร. ๐-๒๕๗๗-๐๔๙๖ สคัญวาลมักรษุนณแรโ์ คงตรงอ่ กผาู้หรญรณ1ิง”ร งแคส์ ด“งหใหนเ้่ึงหเส็นียถงึงหกยาดุร • สมาคมบณั ฑติ สตรีทางกฎหมายฯ โทร. ๐-๒๒๔๑-๐๗๓๗ รวมพลังของการร่วมมือกัน เพ่ือหยุดความ รุนแรงต่อผู้หญิง ทั้งการถูกทำาร้ายร่างกาย • มลู นิธิศูนยพ์ ทิ กั ษ์สิทธิเดก็ โทร. ๐-๒๔๑๒-๑๑๙๖, ตลอดจนการล่วงละเมิดทางเพศ ๐-๒๘๖๔-๑๔๒๑ สว่ นภูมิภาค • สถานีตำารวจทกุ แห่ง • โรงพยาบาลของรฐั ทกุ แหง่ (โรงพยาบาลประจำาจงั หวัด โรงพยาบาลประจำาอำาเภอ ศนู ย์สุขภาพ ชุมชน) • สาำ นักงานพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์จงั หวดั (สำานกั งานประชาสงเคราะห์จังหวดั ) • สำานักงานอัยการจงั หวดั การลวงละเมิดทางเพศเปนการละเมิดสิทธิของผูอื่นในเร่ืองเพศ ซ่ึงเกิดขึ้นไดกับ ทกุ คน ทกุ เพศ จงึ ควรระมดั ระวงั และปอ งกนั ตนเอง โดยใชท กั ษะการปอ งกนั ตวั ทกั ษะการปฏเิ สธ เพ่ือชวยใหต นเองรอดพนจากสถานการณท ี่เสยี่ งตอ การลวงละเมิดทางเพศไดอยา งปลอดภยั 8๓ ขอสอบเนน การคิด นักเรยี นควรรู หากนักเรียนตองเผชิญกับสถานการณท่ีเส่ียงตอการลวงละเมิด 1 หนึ่งเสียงหยุดความรุนแรงตอผูหญิง เปนโครงการที่จัดตั้งข้ึนเพ่ือใหสังคม ทางเพศ นักเรยี นจะมีวิธกี ารแกไขและปอ งกันตนเองไดอยา งไร และชุมชนมีสวนรวมเปนหน่ึงเสียงในการปองกัน แกไขปญหา และสรางเครือขาย แนวตอบ เม่อื ตกอยใู นสถานการณเ ส่ยี งดังกลา ว สง่ิ แรกที่ตอ ง เฝาระวังยุติความรุนแรงตอสตรีและเด็ก เพ่ือใหทุกคนอยูรวมกันอยางมีความสุข ปฏบิ ัติ คอื ควรตง้ั สติเพ่ือประเมินสถานการณ และนําทักษะ ตอไป ซง่ึ สญั ลกั ษณข องโครงการเปน รูปนกหวดี ไขวรูปหวั ใจ แสดงใหเ หน็ ถงึ การรวม ในการปองกนั ตนเองมาใชแ กไ ขสถานการณไมวา จะเปน ทักษะ พลงั ของการรวมมอื เพือ่ หยุดความรนุ แรงตอผหู ญงิ ในการปฏเิ สธ หรอื ทักษะในการตอรองตางๆ ตลอดจนเทคนิค การใชอวยั วะและส่ิงของใกลตัว เพอ่ื ใหสามารถรอดพนจาก สถานการณท ่ีเสีย่ งตอการลว งละเมิดทางเพศได คูมอื ครู 83

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล Explore Explain Expand Engage Evaluate Evaluate ตรวจสอบผล นักเรยี นสามารถใชทกั ษะปฏเิ สธเพื่อปองกัน คําถาม ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ การลว งละเมดิ ทางเพศได โดยทาํ เปนใบงาน ๑. นักเรียนรู้สึกอย่างไรเมื่อพบเห็นข่าวการล่วงละเมิดทางเพศ และควรป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิด หลักฐานแสดงผลการเรยี นรู เหตกุ ารณด์ ังกลา่ ว ใบงานกรณีตวั อยางท่เี สี่ยงตอ การลวงละเมดิ ๒. เพราะเหตุใด ปญั หาการลว่ งละเมิดทางเพศจึงเกิดข้นึ บอ่ ยในสังคม ทางเพศ และการใชท ักษะปฏิเสธตอกรณีดังกลา ว ๓. นกั เรียนจะมวี ิธีการเตรียมตัวเพือ่ ปอ้ งกนั ตนเองจากการลว่ งละเมดิ ทางเพศอยา่ งไร ๔. ในการป้องกันความเส่ียงจากการลว่ งละเมดิ ทางเพศ นักเรยี นจะใช้ทกั ษะใด ๕. ถ้ากา� ลังจะเกดิ การล่วงละเมิดทางเพศ นกั เรยี นจะปฏิบตั ติ นอย่างไร เพอ่ื ให้เกิดความปลอดภยั จาก สถานการณ์นั้นๆ กิจกรรม สรา้ งสรรคพ ัฒนาการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี ๑ ก�าหนดสถานการณ์สมมติข้ึน ๕ สถานการณ์ที่จะน�าไปสู่ความเสี่ยงจากการ ล่วงละเมิดทางเพศ แล้วสุ่มคัดเลือกนักเรียนให้ออกมาแสดงการใช้ทักษะปฏิเสธ กิจกรรมที่ ๒ และทกั ษะป้องกนั ตนเอง กจิ กรรมที่ ๓ นักเรียนรวบรวมเทคนิควิธีการใช้ทักษะปฏิเสธเพ่ือป้องกันตนเองจากการ ล่วงละเมิดทางเพศ แลว้ นา� ไปจัดนทิ รรศการ นกั เรียนแต่ละคนเล่าประสบการณ์การล่วงละเมิดทางเพศท่ีพบเหน็ หรอื ทเ่ี กดิ ข้นึ ตามข่าว แล้วน�ามาวิเคราะห์ว่าควรมีทักษะอย่างไรในการป้องกันให้รอดพ้น จากการถกู ลว่ งละเมิดทางเพศ 84 แนวตอบ คาํ ถามประจาํ หนว ยการเรียนรู 1. ข้นึ อยูกับคาํ ตอบของนักเรียน โดยนักเรยี นบางคนอาจรูสึกเกรงกลวั ตอการลว งละเมดิ ทางเพศ โดยกงั วลถึงภยั ใกลตวั ทีอ่ าจเกดิ ขน้ึ ในชวี ิตประจําวนั ซึง่ จากเหตุการณ ดงั กลา วควรปอ งกนั ตนเองโดยการแตงกายใหเรียบรอย ไมใสเ สื้อผา ทบ่ี างหรอื โปเ กนิ ไป หลีกเล่ยี งการพูดคยุ หรอื นดั พบกับบุคคลแปลกหนา รวมทั้งฝกเทคนคิ การปองกนั ตนเองจากการลวงละเมดิ ทางเพศ 2. เพราะสังคมในปจ จุบนั มีความเจรญิ กา วหนามากขน้ึ โดยเฉพาะส่อื และเทคโนโลยตี าง ๆ อาจเปนสาเหตุหนง่ึ ท่ที ําใหเกดิ การลวงละเมิดทางเพศข้นึ ได เชน คลิปวีดิโอ ลามกตา ง ๆ การแชตคยุ กบั บคุ คลทีไ่ มร จู กั ผา นแอปพลิเคชนั หาคู เปนตน 3. แตง กายใหเรียบรอย เหมาะสมกบั วยั และรจู ักกาลเทศะ ไมพ ูดคยุ กบั คนแปลกหนา ไมก ลับบา นในเวลามดื คํ่าเพียงลาํ พัง ฝกทักษะการปอ งกนั ตวั เพอ่ื ใชใ นยามฉกุ เฉิน เมื่อเกดิ อันตราย 4. ทักษะการปฏเิ สธ เพราะเปนทักษะที่ใชความสามารถในการพดู หรอื ทา ทางในการปฏิเสธอยา งตรงไปตรงมา เพ่อื ใหร อดพน จากสถานการณเสีย่ ง โดยจะตอ งแสดง ทาทาง คาํ พดู และน้าํ เสยี งท่ีจริงจังและชดั เจน 5. รบี วงิ่ หนอี อกมาจากสถานทน่ี ั้นอยางรวดเร็ว และควรรองเรียกใหผ ูอ นื่ ท่อี ยใู นบรเิ วณนน้ั ชวยเหลอื 84 คูม อื ครู

กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate เปาหมายการเรียนรู 1. เลือกรับประทานอาหารท่เี หมาะสมกบั วยั ได 2. วิเคราะหปญ หาท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการ ท่มี ีผลกระทบตอสขุ ภาพได สมรรถนะของผูเ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชท ักษะชวี ิต 3. ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี คุณลักษณะอันพงึ ประสงค 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเรยี นรู 3. อยูอยา งพอเพยี ง ๕หนว่ ยที่ กระตนุ ความสนใจ Engage วัยรุ่นกบั โภชนาการเพื่อสรา้ งเสริมสขุ ภาพ ครนู าํ ภาพอาหารมาแสดงใหน กั เรียนดู แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั พิจารณาอาหารในรูปภาพวา มี ตัวชี้วัด อาหารและโภชนาการเปนปจจัยสําคัญ ประโยชนตอ รางกายหรือไม และใหสารอาหารใด แกรางกาย ■ เลอื กกนิ อาหารทีเ่ หมาะสมกบั วยั (พ ๔.๑ ม.๑/๑) ในการดํารงชีวิตของมนุษย ท่ีมีสวนชวย ■ วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดจากภาวะโภชนาการที่มีผลกระทบ เสริมสรางรางกายใหแข็งแรง การไดรับ จากน้ันครสู มุ นักเรยี นออกมา 2-3 คน นําภาพ อาหารที่ครูนํามาแสดงใหดู มารวมกันจัดรายการ ตอ่ สุขภาพ (พ ๔.๑ ม.๑/๒) อาหารทคี่ ดิ วา ควรรบั ประทาน และไดร บั สารอาหาร ครบถว นในแตละวนั สารอาหารท่ีมากหรือนอยเกินไปยอมจะ เมือ่ นักเรยี นจัดรายการอาหารเสรจ็ ส้นิ แลว สาระการเรยี นรู้ ก อ ใ ห เ กิ ด ภ า ว ะ โ ภ ช น า ก า ร เ กิ น ห รื อ ภ า ว ะ ใหครูเชือ่ มโยงเน้ือหาเพอื่ นําเขา สูบทเรยี น โภชนาการต่ําได การเรียนรูถึงหลักการบริโภค ■ หลักการเลอื กอาหารท่เี หมาะสมกบั วยั อาหารและโภชนาการตามหลักโภชนบัญญัติ ■ ปัญหาท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการ จะทาํ ใหส ามารถเลอื กบรโิ ภคอาหารไดอ ยา งถกู ตอ ง - ภาวะการขาดสารอาหาร และเหมาะสมกับวัย ซ่ึงจะเปนผลดีตอการสราง - ภาวะโภชนาการเกิน เสรมิ สุขภาพ เกร็ดแนะครู ครูควรนาํ ภาพอาหารทีม่ คี วามหลากหลายมาแสดงใหนกั เรียนดู และใหนักเรียน สามารถนําภาพอาหารเหลาน้ันมาจัดรายการอาหารใน 1 วันได คูม อื ครู 85

กกรระตะตนุ Eุนnคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Expand Evaluate Engage Engage กระตนุ ความสนใจ ครูรว มพดู คุยกับนกั เรยี นเก่ยี วกบั อาหาร ๑. ความรทู้ ั่วไปเกยี่ วกับอาหาร และโภชนาการ และโภชนาการ จากน้ันครูต้ังคาํ ถามเพือ่ กระตุน คนเราจะมสี ขุ ภาพทดี่ ไี ดน้ นั้ การรบั ประทานอาหารนบั เปน็ ปจั จยั สา� คญั อนั ดบั แรกๆ ซง่ึ จา� เปน็ ความสนใจของนักเรยี น ต้องมีความรู้ท้ังทางด้านโภชนาการและอาหาร เพ่ือจะได้เลือกรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ ได้สัดส่วนท่ีเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย อันเป็นการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้ห่างไกล • โดยปกตแิ ลว นกั เรียนรับประทานอาหาร จากโรคภัยไขเ้ จ็บ ประเภทใด และคิดวา อาหารที่นักเรียน รับประทานเขาไปมีประโยชนหรือไมอ ยางไร ๑.๑ ความหมายของอาหารและโภชนาการ (แนวตอบ ขนึ้ อยูกับคาํ ตอบของนกั เรียน) อาหาร หมายถงึ ส่ิงทีร่ ับประทานแลว้ มปี ระโยชน์ต่อรา่ งกาย อาจอยู่ในรูปของเหลว • นักเรยี นคิดวาอาหารนั้นมคี วามจาํ เปน ตอ หรอื ของแขง็ ก็ได้ หากสง่ิ ใดท่ีไดร้ บั ประทานเขา้ ไปแลว้ ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ละอาจกอ่ ใหเ้ กดิ โทษ รา งกายอยา งไร แก่ร่างกายไดน้ ั้น ไมจ่ ัดเป็นอาหาร เชน่ เคร่ืองด่มื ทม่ี ีแอลกอฮอล์ สารปรุงอาหาร ผงชูรส เปน็ ตน้ (แนวตอบ ชว ยในการเจรญิ เตบิ โต สรา งพลงั งาน และสารอาหารทีจ่ ําเปน ในการทาํ งาน และ โภชนาการ หมายถึง เนื้อหาวิชาการที่เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ ซอ มแซมสว นท่ีสึกหรอของรางกาย) อาหาร เรียกวา่ วิทยาศาสตรก์ ารอาหาร โดยจะเปน็ ความสมั พันธ์ระหว่างอาหารกบั กระบวนการ ทเี่ กยี่ วข้องกับสุขภาพและการเจรญิ เตบิ โต เชน่ การจดั แบ่งประเภทและประโยชนข์ องสารอาหาร • นกั เรยี นคิดวาอาหารและโภชนาการนน้ั แตกตางกนั หรอื ไม อยา งไร การเปล่ียนแปลงของอาหารท่ีรับประทานเข้าไป รวมท้ังการปรุงแต่งอาหารให้ (แนวตอบ ขึน้ อยกู บั คาํ ตอบของนักเรียน เหมาะสมกับสภาพร่างกายในแต่ละวัยของบุคคล เป็นต้น ซ่งึ นกั เรียนจะไดศึกษาในเน้ือหาตอไป) ๑.๒ คณุ คา่ ของอาหารตอ่ สขุ ภาพ การรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ และเหมาะสมกับ การรับประทานอาหารที่ถูกหลัก ความต้องการของร่างกายเป็นการเสริมสร้างสุขภาพท่ีดี โภชนาการจะท�าให้ร่างกายได้รับประโยชน์และ ใหห้ า่ งไกลจากโรคภัยไข้เจบ็ คณุ ค่า ซ่ึงส่งผลตอ่ สุขภาพ ดงั น้ี ๑. ชว่ ยให้ร่างกายเจริญเตบิ โต ๒. ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ของร่างกาย ๓. ให้พลังงานและความอบอุ่น แกร่ า่ งกาย ๔. ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ภายใน ร่างกายท�างานไดต้ ามปกติ ๕. ชว่ ยเสรมิ สรา้ งภมู ติ า้ นทานโรค ใหแ้ กร่ ่างกาย 8๖ ขอสอบเนน การคดิ ขอใดแสดงความสมั พนั ธของพฤตกิ รรมโภชนาการกับสขุ ภาพ บูรณาการอาเซียน ทถ่ี ูกตอง 1. การรบั ประทานอาหารมาก จะชวยใหร า งกายแข็งแรง ครคู วรใหความรเู พม่ิ เติมกับนกั เรียนถึงเรือ่ งอาหารประจําชาติอาเซียน 2. การรบั ประทานอาหารนอ ย จะชว ยใหม ีรูปรา งทส่ี วยงาม 10 ประเทศ ไดแก 3. การรับประทานอาหารเกินความตองการของรา งกายจะ ทําใหเปนโรคอว น • ไทย (Thailand) : ตม ยาํ กุง (Tom Yam Goong) 4. การรบั ประทานอาหารที่มสี ารอาหารครบถวน จะเส่ยี งตอ • เมยี นมาร (Myanmar) : หลา เพ็ด (Lahpet) การเปน โรคเบาหวาน • สงิ คโปร (Singapore) : ลักซา (Laksa) เปนกว ยเตย๋ี วตม ยํา (ใสกะทิ) วิเคราะหค าํ ตอบ การรบั ประทานอาหารควรรบั ประทานใหเ พยี ง • ฟล ปิ ปน ส (Philippines) : อะโดโบ (Adobo) พอตอ ความตอ งการของรางกายและมีสารอาหารครบถวนไมควร • เวยี ดนาม (Vietnam) : Nem หรอื เปาะเปย ะเวียดนาม รบั ประทานมากเกินไปหรือนอ ยเกินไป ซ่งึ การรบั ประทานอาหาร • มาเลเซยี (Malaysia) : นาซิ เลอมกั (Nasi Lemak) ทีม่ ากเกินไปน้ันอาจเสี่ยงตอการเกดิ ภาวะโภชนาการเกินได • ลาว (Laos) : ซบุ ไก (Chicken Soup) สวนการรบั ประทานท่ีนอยเกินไป กอ็ าจเสย่ี งตอ การเกิด • อินโดนเี ซยี (Indonesia) : กาโด กาโด (Gado Gado) โรคขาดสารอาหารเชนกัน ตอบขอ 3. • กัมพชู า (Cambodia) : อาม็อก (Amok) • บรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam) : อัมบยู ัต (Ambuyat) จากนนั้ ใหนกั เรยี นหาภาพอาหารประจําชาตติ างๆ มารวมกันวเิ คราะหว า อาหารแตล ะชาตนิ ั้นมีคณุ คาทางโภชนาการหรอื ไม อยา งไร 86 คูมือครู

กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Evaluate Engage Explore Expand Engage กระตนุ ความสนใจ ๒. ภภาาวะวโภะชโนภากชานร1 หามกาายถรงึ สภาพหรือสภาวะของร่างกาย อนั เน่อื งมาจากการบรโิ ภคอาหาร ครนู ําภาพบุคคลที่มีรปู รางอว นและรูปรางผอม มาใหน กั เรียนดู จากนั้นครตู ั้งคําถามเพือ่ กระตุน ซึ่งร่างกายน�าอาหารท่ีได้รับไปใช้เพื่อความเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอของร่างกาย ความสนใจของนักเรียน ตลอดจนช่วยให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายท�างานได้ตามปกติ โดยมีปัจจัยต่างๆ ที่มีผล ตอ่ ภาวะโภชนาการ ได้แก่ ปจั จัยดา้ นเศรษฐกจิ สังคม การศึกษา สง่ิ แวดล้อม ขนบธรรมเนียม • นกั เรยี นคิดวาบคุ คลทัง้ 2 ภาพนีแ้ ตกตาง ประเพณี วฒั นธรรม รูปแบบการบริโภคอาหาร ตลอดจนสภาพของรา่ งกายและจติ ใจ กันอยา งไร (แนวตอบ อีกคนหนงึ่ อว น และอีกคนหน่งึ ๒.๑ ประเภทของภาวะโภชนาการ ผอม) ภาวะโภชนาการ แบ่งออกเป็น ภาวะโภชนาการท่ีดี และภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งมี • นกั เรยี นคิดวารปู รางของบุคคลทัง้ 2 ภาพนี้ ตท้อ้ังภงกาาวระขโภอชงรนา่างกกาารยต2�่าซ่งึ แอลาะจภทา�าวใะหโม้ภีสชุขนภากาพารรเา่ กงินกายเนท่ือี่ไงมจด่ าไีกดไ้ดโ้รดับยอมารี หายารลไะมเอ่เพยี ดียงดพงั อนหี้ รือเกินความ มสี วนเกีย่ วขอ งกับการบริโภคอาหารของ ๑) ภาวะโภชนาการท่ีดี คือ การท่ีร่างกายน้ันได้บริโภคอาหารในปริมาณท่ี แตละบคุ คลหรือไม อยางไร เพียงพอ ถูกสัดส่วน หลากหลาย เหมาะสม และครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย โดย (แนวตอบ มีสว น เพราะนอกจากกรรมพนั ธุ สามารถนา� สารอาหารทไ่ี ดร้ บั ไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนแ์ กร่ า่ งกายและจติ ใจ เพอื่ สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพ แลว ภาวะโภชนาการของบุคคลจะดีหรอื ทด่ี ีให้แกร่ ่างกาย ไมดนี ัน้ ขนึ้ อยกู ับการบริโภคอาหารวา เหมาะสมกบั ความตองการของรา งกาย หรอื ไม) ๒) ภาวะโภชนาการทไ่ี มด่ ี หรอื ภาวะทพุ โภชนาการ หมายถงึ การทรี่ า่ งกายบรโิ ภค สาํ รวจคน หา Explore อาหารในลกั ษณะทไ่ี มเ่ หมาะสมกบั ความตอ้ งการของรา่ งกาย ทง้ั ในดา้ นปรมิ าณ และสดั สว่ น ทา� ให้ ร่างกายเกิดภาวะโภชนาการทีไ่ ม่ดขี ้ึน ซงึ่ แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ดงั น้ี ใหนักเรยี นแบงกลมุ ศึกษาขอ มลู เกีย่ วกบั ภาวะ ๒.๑) ภาวะโภชนาการต�่า หรือภาวะขาดสารอาหาร หมายถึง ภาวะที่เกิดจาก โภชนาการทีม่ ีผลตอสุขภาพจากหนังสอื เรยี น การบริโภคอาหารไม่เพยี งพอ หรือไดร้ บั สารอาหารไม่ครบถ้วนตามความต้องการของรา่ งกาย ซงึ่ จากนน้ั ใหน กั เรยี นวเิ คราะหป ญ หาทเ่ี กิดจากภาวะ มีผลท�าให้มีสุขภาพไม่แข็งแรง อาจก่อให้เกิด โภชนาการท่มี ีผลกระทบตอ สุขภาพ เพื่อเตรยี ม โรคต่างๆ ไดง้ ่าย นาํ เสนอตอ ไป ๒.๒) ภาวะโภชนาการเกิน หมายถึง ภาวะที่เกดิ จากการบริโภคอาหารหรอื สารอาหารท่ีเกินต่อความต้องการของร่างกาย เช่น บริโภคอาหารที่ให้พลังงานเกินกว่าท่ี รา่ งกายจะใช้ รา่ งกายจงึ เกิดการสะสมพลงั งาน เหลา่ นน้ั ไวใ้ นรปู ของไขมนั ซง่ึ ทา� ใหเ้ กดิ โรคอว้ น หรือการได้รับวิตามินรวมถึงแร่ธาตุมากเกินไป เช่น วิตามินเอ วิตามินดี แคลเซียม ก็อาจ การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสมกับความต้องการของ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสียตอ่ ร่างกายไดเ้ ชน่ กัน รา่ งกายจะสง่ ผลใหร้ า่ งกายเกดิ ภาวะโภชนาการทไี่ มด่ ขี นึ้ ได้ 87 ขอสอบเนน การคิด นักเรยี นควรรู ถานกั เรยี นมนี ํ้าหนกั เกนิ มาตรฐาน อาหารชนดิ ใดท่ีควร 1 ภาวะโภชนาการ วัยรนุ เปน วยั ทีม่ ีการเจริญเตบิ โตเกดิ ขึ้นอยางรวดเร็ว ดังนัน้ หลีกเล่ยี งมากทสี่ ดุ รางกายจงึ จําเปนตอ งไดรับสารอาหารทีค่ รบถวนท้ัง 5 หมู ในปรมิ าณที่เพยี งพอตอ ความตอ งการของรา งกายในแตละวนั โดยอาหาร 1 อยาง อาจประกอบไปดวย 1. ขาวมันไก สารอาหารทเี่ ปน ประโยชนตอรางกายมากกวา 1 ชนดิ หากวัยรนุ สามารถเลอื ก 2. มันตมนํ้าตาล รบั ประทานอาหารใหเหมาะสมกับวยั ของตนเองได กจ็ ะทาํ ใหม ภี าวะโภชนาการทดี่ ี 3. ตมยําปลาชอ น สงผลใหม ีสุขภาพกายและใจทแ่ี ขง็ แรง 4. สลัดผกั ใสไขตม 2 ความตองการของรางกาย กรมอนามัยไดแนะนําวัยรุนไทยอายรุ ะหวา ง วเิ คราะหคําตอบ ผูท่มี ีนํ้าหนกั เกินมาตรฐาน ควรหลกี เลีย่ ง 13-18 ป วา ควรไดร บั ปรมิ าณสารอาหาร ซงึ่ มโี ปรตนี รอ ยละ 10-15 คารโ บไฮเดรต อาหารจานดวนทมี่ ีไขมนั มาก เชน ขาวมนั ไก ขา วขาหมู เปน ตน รอ ยละ 45-65 ไขมนั รอ ยละ 25-35 ของพลงั งานท้ังหมด โดยวยั รนุ ควรไดร ับ เนือ่ งจากจะมปี รมิ าณไขมนั อิม่ ตวั สูง และใหป รมิ าณแคลอรี 596 พลังงานในแตละวันประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี กิโลแคลอรี ตอ 1 จาน ตอบขอ 1. คมู ือครู 87

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ใหน กั เรียนแตละกลมุ ออกมานําเสนอผลการ ๒.๒ ปัญหาการเกดิ โรคจากภาวะทพุ โภชนาการ วิเคราะหจ ากท่ีไดส ํารวจคน หา โดยครชู วยอธิบาย เพม่ิ เตมิ เพอ่ื ใหไดข อ สรปุ ทถี่ กู ตองรว มกัน จากนัน้ อาหารและโภชนาการเปน็ สงิ่ ทส่ี า� คญั อยา่ งมาก การเลอื กบรโิ ภคอาหารทด่ี มี ปี ระโยชน์ ใหน กั เรียนทาํ กจิ กรรมในแบบวดั และบนั ทึกผล และถกู ตอ้ ง ย่อมมผี ลดีตอ่ ร่างกาย แตถ่ า้ เลอื กบริโภคอาหารท่ีไม่ถูกตอ้ ง ยอ่ มกอ่ ใหเ้ กดิ โรคต่างๆ การเรียนรู กจิ กรรมที่ 5.3 และมีโทษต่อร่างกายได้ ซ่ึงโรคที่เกิดจากภาวะทุพโภชนาการสามารถแบ่งออกได้เป็นโรคภาวะ ใบงาน ✓แบบวัดฯ แบบฝกฯ โภชนาการเกนิ และโรคภาวะโภชนาการต่า� ดงั น้ี เช่น๑โ)ร คโครควาอม้วดนนั โลเปห็นติ โสรงู1คซโร่ึงคเกเบิดาจหากวกานา2รมโรีภคาหวัวะใโจภชโนรคาไกขาขรเ้อกอินกั เสสบ่งผโลรใคหเ้เกกี่ยิดวโกรับคตระ่าบงบๆ สุขศึกษา ม.1 กจิ กรรมที่ 5.3 หนว ยที่ 5 วัยรุนกับโภชนาการ ตามมา เพ่ือสรา งเสรม� สุขภาพ ทางเดนิ หายใจ เปน็ ต้น ซึ่งมีสาเหตตุ า่ งๆ ดงั น้ี ๑. รบั ประทานอาหารมากเกนิ กว่าทรี่ ่างกายต้องการ กจิ กรรมที่ ๕.๓ จากภาพท่ีกําหนด ใหนักเรียนวิเคราะหวาเปนอาการของ คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได โรคใด พรอ มทง้ั บอกสาเหตแุ ละวธิ กี ารปอ งกนั โรค (พ๔.๑ม.๑/๒) ñõ ๒. พันธุกรรม จากการศึกษาวิจัยพบว่า หากบิดาหรือมารดาอ้วน หรืออ้วน ท้งั คู่ บตุ รจะมีโอกาสอ้วนสูง โรค…ค…อ…พ…อ…ก………………….. สาเหตแุ ละการปองกันโรค …เ…ก…ิด…จ……า…ก…ก…า…ร.. ข…า…ด…ธ…า…ต…ุไ…อ…โอ…ด…นี………ด…งั …น…้นั ……จ…งึ …ค…ว…ร…ร…ับ…ป…ร…ะ…ท…า…น. ๓. ความผิดปกติของต่อมภายในร่างกาย ได้แก่ ต่อมไทรอยด์ ท่ีผลิตฮอร์โมน อ……าห……าร…ท……่ีม…ีธ…า…ต…ุไ…อ…โอ…ด…ี…น……เ…ช…น……เ…ก…ล…ือ…ส……ม…ุท…ร. “ไทรอกซิน” เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย ซ่ึงถ้ามีการผลิตฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ เ…ก…ล…ือ…ท…ะ…เล………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. โรค…ข…าด……โป…ร…ต…นี…………….. สาเหตแุ ละการปอ งกันโรค …เ…ก…ิด…จ……า…ก…ก…า…ร.. จะท�าใหร้ ่างกายสะสมไขมันไวม้ าก ท�าให้อว้ นได้ ข…า…ด…ส…า…ร…อ…า…ห…า…ร…ป…ร…ะ…เภ…ท……โป…ร…ต…ี…น……ด…ัง…น…้ัน………จ…ึง. ๔. การขาดการออกก�าลังกาย ซ่ึงเม่ือไม่ได้ใช้พลังงานจึงเกิดการสะสมไขมัน ค……วร…ร…ับ……ป…ร…ะท…า…น…อ…า…ห…า…ร…ป…ร…ะ…เภ…ท……เน…ื้อ…ส…ัต……ว……น…ม. ไ…ข… …ถ…ว่ั …ต…าง…ๆ……………………………………………………………. ส่วนเกินไวต้ ามส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย ………………………………………………………………………………. สาเหตแุ ละการปองกันโรค …เ…ก…ิด…จ……า…ก…ก…า…ร.. เฉฉบลบั ย ร…ั…บ…ป…ร…ะ…ท…า…น…อ…า…ห…า…ร…ม…า…ก…เ…ก…ิน…ค……ว…าม…ต……อ…ง…ก…า…ร. โรค…อ…ว …น……………………….. ด……ัง…น…้ัน………จ…ึง…ค…ว…ร…ร…ับ…ป…ร…ะ…ท…า…น…อ……าห……าร…ใ…ห…ค……ร…บ. ๕………ห…ม…ู ……แ…ล…ะ…ห…ล…ีก…เ…ล…ี่ย…ง…อ…า…ห…า…ร…ป…ร…ะ…เภ……ท…แ…ป…ง. เกร็ดนา่ รู้ น……ํา้ ต……าล……แ…ล…ะ…ไ…ขม…ัน…………………………………………………. สาเหตแุ ละการปอ งกันโรค …เ…ก…ิด…จ……า…ก…ก…า…ร.. ๑๐ อันดับผลไม้ทีท่ าำ ให้อว้ น ข…า…ด…ว…ิต…า…ม…ิน……เอ……ด…ั…งน……ั้น……จ…ึง…ค……วร…ร…ับ……ป…ร…ะ…ท…า…น. โรค…ต…า…แ…ด…ง…อ…ัก…เส…บ……….. อ…า…ห…า…ร…ป…ร…ะ…เภ…ท…ไ…ข…แ …ด…ง……น…ม……เน…ย……ต…ับ………ผ…กั …ท…มี่ …ีส.ี ผลไมถ้ งึ แมจ้ ะมีประโยชน์ต่อรา่ งกายมาก แตก่ ็ต้องเลอื กรบั ประทาน เพราะผลไม้บางชนิดที่รับประทาน เ…ห…ล…ือ…ง……………………………………………………………………. เขา้ ไปอาจทาำ ให้เราอ้วนได ้ เนอื่ งจากมีน้าำ ตาลมาก โดย ๑๐ อันดับผลไมท้ ส่ี มั พนั ธก์ บั ความอว้ นนั้น มีดังน้ี ………………………………………………………………………………. โรค…ป…า…ก…น…ก…ก…ร…ะ…จ…อ…ก….. สาเหตุและการปอ งกนั โรค …เ…ก…ิด…จ……า…ก…ก…า…ร.. ลำาดับที่ ผลไม้ ปรมิ าณน้ำาตาล ลาำ ดับท่ี ผลไม้ ปรมิ าณนำา้ ตาล ข…า…ด…ว…ิต…า…ม…ิน…บ…ี …๑……ด……ังน……น้ั ……จ…ึง…ค…ว…ร…ร…ับ…ป…ร…ะ…ท…า…น. (๑๐๐ กรมั ) (๑๐๐ กรมั ) น……ม……เน…ย……เค……ร…อื่ …งใ…น…ส……ัต…ว…แ…ล…ะ…ผ…กั …ใ…บ…เข…ยี …ว…………. ๑ ๕๕.๓๐ ๖ ๑๖.๑๙ ๒ อนิ ทผาลัม ๕๑.๓๕ ๗ น้อยหน่าหนงั ๑๕.๕๔ ………………………………………………………………………………. ๓ พทุ ราจนี แห้ง ๒๓.๖๗ ๘ น้อยหนา่ เนอ้ื ๑๔.๖๓ ๔ กลว้ ยนาำ้ วา้ ๒๑.๘๓ ๙ ออ้ ยควั่น ๑๔.๕๐ ………………………………………………………………………………. ๕ กล้วยไข่ ๒๐.๖๗ ๑๐ องนุ่ เขยี วไรเ้ มลด็ ๑๓.๔๑ กล้วยหอม ล้ินจ่จี กั รพรรดิ ๔๑ เมอื่ ทราบเชน่ นแ้ี ลว้ กใ็ ชว่ า่ จะไมส่ ามารถรบั ประทานผลไมเ้ หลา่ น ี้ แตไ่ มค่ วรรบั ประทานในปรมิ าณทมี่ าก หรอื บอ่ ยเกินไป ทม่ี า : ผลงานการศึกษา วจิ ัย รวบรวม และจัดการองคค์ วามรู้ โครงการปริมาณนา้� ตาลในผลไมไ้ ทย โดย พมิ พร วชั รางคก์ ลุ นนั ทยา จงใจเทศ และปยิ นันท์ เผ่าม่วง กองโภชนาการ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข 88 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด ขอ ใดเปนโรคเร้อื รงั ทม่ี สี าเหตมุ าจากความอวน 1 โรคความดนั โลหติ สงู (Hypertension) ถอื เปน ภยั เงยี บทคี่ กุ คามชวี ติ เนอ่ื งจาก (ใหเลอื ก 3 คําตอบ) ไมม อี าการแสดง หรอื สญั ญาณเตือนใดๆ วาเปน โรคดงั กลา ว โดยจะสามารถทราบ 1. โรคหัวใจ ไดโดยการวัดความดนั โลหติ ซงึ่ คนปกตจิ ะมีความดนั โลหิตอยูทีป่ ระมาณ 120/80 2. โรคไขขออักเสบ มลิ ลเิ มตรปรอท 3. โรคกระดกู พรนุ 2 โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) เกิดไดจ ากหลายสาเหตุ เชน กรรมพันธุ 4. โรคความดันโลหติ สงู การมรี ะดับนํ้าตาลในเลือดสงู เปน ตน ซึ่งระดับน้ําตาลในเลอื ดปกตจิ ะอยทู ่รี ะหวาง วเิ คราะหค าํ ตอบ โรคอว นเปน โรคซงึ่ เกดิ จากการมภี าวะโภชนาการ 70-110 มลิ ลิกรัมเดซิลิตร เกนิ สง ผลใหเกิดโรคตา งๆ ตามมา เชน โรคความดนั โลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขขออักเสบ โรคเก่ยี วกบั ระบบ มุม IT ทางเดินหายใจ เปน ตน ตอบขอ 1. 2. และ 4. สามารถศกึ ษาเพ่มิ เติมเกีย่ วกับภาวะโภชนาการเกนิ ไดจ ากเวบ็ ไซต http://info.thaihealth.or.th/library/hot/12671#12 88 คูม อื ครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขา ใา จใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล Engage Explore Explain Expand Evaluate ขยายความเขา ใจ Expand ๒) โรคขาดสารอาหาร เป็นโรคท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการต�่า ซ่ึงมีสาเหตุมาจาก ใหนักเรยี นสรปุ ผลการวิเคราะหออกมาในรปู ของผงั ความคดิ เกี่ยวกับภาวะโภชนาการทมี่ ีผลตอ การขาดสารอาหาร โรคขาดสารอาหารท่ีพบไดบ้ ่อย มดี งั นี้ สขุ ภาพ เพ่อื ใหน ักเรียนสามารถนาํ ความรทู ่ไี ดไ ป เปน แนวทางในการดแู ลเรอ่ื งภาวะโภชนาการของ โรค สาเหตุ อาการ การป้องกนั ตนเอง และครอบครัวตอ ไป โรคขาดสาร ไดร้ บั สารอาหาร พุงโต หวั โต ก้นปอด และโตช้า มนึ งง ซมึ รับประทานอาหารท่ีมสี ารอาหาร ตรวจสอบผล Evaluate อาหารโปรตนี โปรตนี และ และเบือ่ อาหาร น�้าหนักน้อย ผอมแห้ง โปรตีนและคารโ์ บไฮเดรตอย่าง และแคลอรหี รือ คารโ์ บไฮเดรต เพียงพอ และป้องกันไมใ่ ห้เกิด การเขียนสรปุ ผลการวิเคราะหออกมาในรูป ตานขโมย ไมเ่ พยี งพอ โรคพยาธิ ของผงั ความคดิ เกีย่ วกับภาวะโภชนาการที่มีผล ตอสขุ ภาพ โรคเหน็บชา ขาดวติ ามนิ ชาตามปลายมือปลายเท้า ปวดกล้ามเนอื้ รับประทานอาหารทีม่ วี ิตามนิ บี ๑ โรคโลหิตจาง บี ๑ บรเิ วณนอ่ ง เบื่ออาหาร เหนื่อยงา่ ย ขาลบี อย่างเพยี งพอ เช่น ข้าวซอ้ มมือ ขาดธาตเุ หล็ก ตัวบวมเนอื่ งจากหวั ใจโต เครอ่ื งในสัตว์ประเภทตบั เปน็ ตน้ รบั ประทานอาหารทม่ี ีธาตเุ หลก็ ผิวซดี อ่อนเพลีย เเลบ็บอื่ 1บอาางหเปารราหะงดุ หงิด อย่างเพยี งพอ เชน่ นม เน้อื สัตว์ ไข่ มึนงง ปวดศรี ษะ เปน็ ต้น โรคคอพอก ขาดธาตุ ต่อมไทรอยดบ์ วมโต มกี อ้ นกลมโต รบั ประทานอาหารทมี่ ีธาตไุ อโอดีน ไอโอดนี ท่ีบรเิ วณคอหอย อย่างเพียงพอ เชน่ อาหารทะเล และเกลอื ที่มีสารไอโอดนี เป็นต้น โรคตาฟาง ขาดวิตามินเอ ตาแห้งและย่น เคืองตา น�้าตาไหล ตาไมส่ ู้ รับประทานอาหารทม่ี วี ิตามินเอ แสงจา้ เมอื่ อยใู่ นทีม่ ืดจะมองไม่เหน็ อยา่ งเพียงพอ เช่น นา้� มนั ตบั ปลา มีจุดสเี ทาขาวอยู่ที่บรเิ วณเยอื่ บุตา เรยี กว่า ตับ ไขแ่ ดง ผักใบเขยี ว เป็นต้น “เกร็ดกระด”่ี โรคปาก ขาดวติ ามิน เปน็ แผลท่มี ุมปากทั้ง ๒ ขา้ ง ริมฝีปากแหง้ รบั ประทานอาหารท่มี ีวติ ามนิ บี ๒ นกกระจอก บี ๒ บวมตึง และแตก เมื่อหายจะมีแผลเปน็ อยา่ งเพียงพอ เชน่ นม เครอ่ื งในสัตว์ ล้นิ อักเสบบวมแดงและเจ็บ ผกั ใบเขียว เป็นต้น โรคเลอื ดออก ขาดวิตามนิ ซี เหงอื กบวมแดง มเี ลอื ดออกตามไรฟัน ถา้ มี รับประทานอาหารที่มวี ติ ามินซี ตามไรฟนั (โรค อาการรนุ แรงอาจท�าใหฟ้ ันโยกได้ ไดแ้ ก่ ผักและผลไม้ท่วั ไป ลกั ปดิ ลกั เปดิ ) ๓. โภชนบญั ญัติและธงโภชนาการ จากปัญหาภาวะทุพโภชนาการท่ีก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ส�านักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จงึ ไดจ้ ดั ตง้ั กลมุ่ ท�างาน โดยเชิญนักวิชาการทางดา้ นโภชนาการจากสถาบนั ตา่ งๆ มาระดมความรู้ แสดงความคดิ เหน็ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ เพอ่ื นา� มาสรปุ เปน็ ขอ้ เสนอแนะ ในการรบั ประทานอาหารเพื่อสุขภาพทด่ี ขี องคนไทย เรยี กวา่ “ขอ้ ปฏบิ ตั ิการกินอาหารเพ่อื สขุ ภาพ ทดี่ ีของคนไทยหรือโภชนบญั ญัติ ๙ ประการ” และพรอ้ มกันนยี้ งั ได้คดิ หาสือ่ เพื่อใชเ้ ป็นสัญลกั ษณ์ ให้เกดิ ความเขา้ ใจของประชาชนในดา้ นปริมาณทคี่ วรรบั ประทาน นนั่ คอื “ธงโภชนาการ” 89 กจิ กรรมสรา งเสรมิ นักเรียนควรรู ใหน กั เรียนยกตวั อยางโรคทเี่ กิดจากการมีภาวะโภชนาการเกนิ 1 เล็บ สามารถบงบอกถึงสขุ ภาพของบคุ คลได ดังนี้ และภาวะโภชนาการขาด อยา งละ 10 ตวั อยาง ลงในกระดาษ • เลบ็ สีเขียวคลา้ํ อาจกาํ ลงั ปว ยเปนโรคหอบหืดอยางรนุ แรง โรคหัวใจ รายงาน โรคถุงลมโปงพอง โรคหลอดลมอกั เสบ • เล็บสีเหลอื ง อาจบอกถงึ อาการของโรคเกีย่ วกับระบบทางเดนิ หายใจ กิจกรรมทาทาย หรือรางกายกาํ ลังขาดวิตามินอี • เลบ็ สีนาํ้ เงนิ หากกดบริเวณเล็บแลว ปลอย เลบ็ ยงั คงเปนสีน้าํ เงนิ อยู อาจมี ใหน ักเรยี นเขยี นรายการอาหารทนี่ กั เรียนรบั ประทานเขาไป โอกาสเปน โรคโลหติ จาง โรคหวั ใจ หรือโรคเก่ียวกับระบบไหลเวยี นโลหติ ได ใน 1 วัน แลว วเิ คราะหว า อาหารทร่ี บั ประทานเขา ไปนน้ั มคี ณุ คา • ปลายเล็บเปน สนี ้ําตาลชมพแู ตโ คนขาว อาจบอกถงึ อาการของโรคไตเสอ่ื ม ทางโภชนาการครบถว นหรือไม และกอ ใหเ กิดภาวะโภชนาการตอ • เลบ็ สีเทา หรอื ดําคลา้ํ พบในคนที่ไดรบั ยาบางชนิด เชน Phenolphthalein รางกายอยา งไร ลงในกระดาษรายงาน ในยาระบายและยารักษาโรคมาลาเรีย เปน ตน • เล็บสขี าว บงบอกถงึ ความผิดปกติของตบั และไต หรือโลหติ จาง และถาเปนสขี าวซดี ควรระวงั โรคตบั อกั เสบเรื้อรงั คูมือครู 89

กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Expand Evaluate Engage Engage กระตนุ ความสนใจ ครอู าจนาํ โมเดลอาหาร หรอื ภาพอาหาร 3.๑ โภชนบัญญัติ 9 ประการ (จากที่ครเู คยเตรียมมาก็ได) มาใหนกั เรียนดู แลวต้งั คําถามเพอื่ กระตุน ความสนใจของนกั เรยี น ดังน้ี โภชนบัญญตั ิเปน็ ข้อปฏิบตั กิ ารบรโิ ภคอาหารเพือ่ สขุ ภาพทีด่ ขี องคนไทย ๙ ประการ • นักเรยี นคดิ วาอาหารชนดิ ใดควรรบั ประทาน ๑) รับประทานอาหารใหค้ รบ ๕ หมู่ แตล่ ะหมู่ใหห้ ลากหลาย และหม่นั ดูแล มากทีส่ ดุ มากรองลงมา พอเหมาะพอดี และ น�้าหนักตัว ร่างกายของคนเราต้องการสารอาหารต่างๆ อย่างครบถ้วน ซ่ึงไม่มีอาหารชนิดใด นอยเทาทจ่ี ําเปน ชนดิ เดยี วทใี่ หส้ ารอาหารตา่ งๆ ครบในปรมิ าณทร่ี า่ งกายตอ้ งการได้ จงึ จา� เปน็ ตอ้ งรบั ประทานอาหาร (แนวตอบ ขาวควรรบั ประทานมากท่สี ดุ พืชผกั ให้หลากหลายครบท้ัง ๕ หมู่ และเพียงพอแก่ความตอ้ งการของร่างกาย ซ่งึ ตอ้ งคา� นึงถึงสดั สว่ น ผลไมค วรรบั ประทานรองลงมา เนอ้ื สัตว ถ่วั ปริมาณของอาหารให้พอดีเหมาะสมกบั น�า้ หนักตัว เพราะน้า� หนักตวั จะบง่ บอกถงึ สุขภาพ จงึ ควร ไข และนมควรรบั ประทานในปรมิ าณท่ี หมนั่ ดแู ลน�้าหนกั ตวั เพือ่ ควบคุมและดแู ลภาวะโภชนาการให้เหมาะสม พอเหมาะพอดี และน้ํามนั นํา้ ตาล เกลือ ๒) รับประทานข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป1้งเป็นบางม้ือ ควรจะรับประทานแตนอยเทา ทีจ่ าํ เปน) ข้าวนับว่าเป็นอาหารหลักของคนไทยท่ีให้พลังงาน โดยควรรับประทานข้าวท่ีขัดสีแต่น้อยซึ่งเป็น • นักเรียนคดิ วาอาหารชนิดใดทีค่ วรหลกี เลยี่ ง คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวด�าหรือข้าวแดง และสลับกับอาหาร (แนวตอบ อาหารทมี่ ีรสหวานจดั และเคม็ จัด) ประเภทแปง้ อน่ื ๆ เช่น กวยเตี๋ยว ขนมปัง เผอื ก มัน เปน็ ต้น ๓) รบั ประทานพชื ผกั ใหม้ าก และรบั ประทานผลไมเ้ ปน็ ประจา� พชื ผกั ผลไม้ ใหนักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรมสรา งสรรคพฒั นา นอกจากจะใหว้ ติ ามนิ แรธ่ าตุ และใยอาหารแลว้ ยงั มสี ารอน่ื ๆ ทชี่ ว่ ยปอ้ งกนั ไม่ การเรียนรกู ิจกรรมที่ 1 จากหนงั สือเรียน หนา 110 จากนน้ั ครนู ําเขา สเู น้อื หา ให้ไขมันไปเกาะตามผนังหลอดเลือดและทา� ใหเ้ ยอ่ื บุของเซลล์ รวมถงึ อวัยวะต่างๆ แขง็ แรงอกี ด้วย ๔) รับประทานปลา เนอ้ื สัตว์ ไมต่ ดิ มัน ไข่ และถ่ัวเมลด็ แหง้ เป็นประจา� • เนื้อสัตว์ทุกชนิดมีสาร อาหารโปรตีน แต่ควรรับประทานชนิดไม่ติด มนั เพื่อลดการสะสมของไขมนั ในร่างกาย และควรรับประทานปลาอยา่ งสมา�่ เสมอ • ไข่มีสารอาหารโปรตีน และหาซ้ือได้ง่าย ซึ่งในช่วงวัยรุ่นควร รบั ประทานเปน็ ประจ�า • ถั่วเมล็ดแห้งเป็นแหล่ง สารอาหารโปรตีนท่ีดี สามารถทดแทนการ การรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารอย่างครบถ้วน รับประทานเน้ือสัตว์ได้ และควรรับประทาน จาำ เป็นต้องรับประทานอาหารใหห้ ลากหลาย และเพยี งพอ สลบั กับเน้ือสัตวเ์ ปน็ ประจา� ตอ่ ความต้องการของร่างกาย 9๐ เบศูรณรากษารฐกิจพอเพยี ง ขอสอบเนน การคิด เพราะเหตใุ ดจึงตองมกี ารกําหนด โภชนบญั ญัติ 9 ประการ โภชนบัญญัติ 9 ประการ เปนขอปฏิบัติการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของ แนวตอบ จากปญ หาภาวะทุพโภชนาการท่ีกอใหเกิดผลเสียตอ คนไทย ดังนั้น ครูสามารถใหนักเรียนนําหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใชใน สุขภาพทางสาํ นักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ การปฏิบัติตนในการบริโภคอาหารใหเหมาะสมกับวิถีชีวิตของตนเองอยางเหมาะสม ไดม กี ารกาํ หนดโภชนบญั ญตั ิ 9 ประการขนึ้ เพอื่ ใชเ ปน ขอ เสนอแนะ ดวยการยดึ หลกั ความพอเพยี ง โดยใหน กั เรียนเขียนเรยี งความ 1 หนา กระดาษ A4 ในการรับประทานอาหารเพ่ือการมสี ุขภาพทีด่ ขี องคนไทย เรียกวา แลว ออกมานําเสนอหนา ชนั้ เรียน ขอ ปฏิบัตกิ ารกนิ อาหารเพือ่ สุขภาพท่ดี ขี องคนไทย หรือ โภชนบญั ญตั ิ 9 ประการนน่ั เอง นกั เรยี นควรรู บูรณาการเชือ่ มสาระ 1 ขาวทขี่ ดั สี ขาวถา ถูกขดั สีมากจะมสี ขี าว ซ่งึ ใหแตพลังงานท่ีเปน แปง หรอื สามารถนําเนอื้ หาเรื่องการรับประทานอาหารใหค รบ 5 หมู คารโบไฮเดรต (วิตามนิ และเกลอื แรหลงเหลอื อยนู อย) ดังน้นั ผทู ่ีรบั ประทานแต ไปบูรณาการเชือ่ มโยงกับกลมุ สาระการเรยี นรกู ารงานอาชพี และ ขาวท่ีขัดสี แลวใชพลงั งานนอ ยกวา ทรี่ ับประทานเขาไปจะมีโอกาสเปนโรคอวน เทคโนโลยี วชิ างานบา น เร่ืองการบรโิ ภคอาหารหลกั 5 หมู ไดงาย 90 คูมือครู

กระตนุ ความสนใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explain Expand Evaluate Explore Explore สาํ รวจคน หา ๕) ดมื่ นมใหเ้ หมาะสมตามวยั นมเปน็ อาหารทเี่ หมาะสมสา� หรบั บคุ คลทกุ เพศทกุ วยั ใหน ักเรยี นแบงกลมุ ออกเปน 2 กลุม โดย โดยนมจะมสี ารอาหารโปรตนี วติ ามนิ บี และแคลเซยี ม ซง่ึ สา� คญั ตอ่ การเจรญิ เตบิ โต และเสรมิ สรา้ ง ใหกลมุ หนึ่งศกึ ษาเรอื่ งโภชนบัญญตั ิ 9 ประการ ความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน แต่ส�าหรับ และอกี กลมุ หนง่ึ ศกึ ษาเรื่องธงโภชนาการจาก คนอ้วนควรดื่มนมพร่องมันเนยโดยจะต้องเป็น หนังสอื เรียน และแหลง เรยี นรูเพิม่ เตมิ ตางๆ รสธรรมชาติหรือรสจืด นอกจากนี้ ส�าหรับผู้ที่ จากนั้นใหน กั เรยี นทําแผนพับและสือ่ ประกอบ เร่ืองท่ีศึกษาเพอื่ เตรยี มนําเสนอ แพ้หรือไม่ชอบด่ืมนมวัว สามารถดื่มนมงา นมธัญพชื และนมถั่วเหลอื งแทนได้ ๖) รบั ประทานอาหารทม่ี ไี ขมนั แต่พอควร ไขมันจะให้พลังงานและความ อบอุ่นแก่ร่างกาย ทั้งยังช่วยดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี เค แตไ่ มค่ วรรบั ประทานมากเกนิ ไป เพราะ จะท�าให้อ้วนและเกิดโรคอ่ืนๆ ตามมาได้ ซึ่ง ควรรับประทานอาหารประเภทต้ม นึง่ ย่าง อบ เพ่อื ชว่ ยลด การได้รับไขมันอ่ิมตัวจากสัตว์และอาหารท่ีมี ปริมาณไขมันในอาหาร และนำาไปส่กู ารมีภาวะโภชนาการ คอเลสเตอรอล (cholesterol) เช่น สัตว์ที่มี ท่ีดี กระดองหรือเปลือกแขง็ หุม้ อาทิ ปลาหมึก กงุ้ ปู หอย มากเกินไป จะก่อให้เกิดคอเลสเตอรอลใน เลือดสงู และยงั เสย่ี งต่อการเปน็ โรคหวั ใจ โรคความดันโลหิตสูง จึงควรรับประทานอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง อบ เพ่ือชว่ ยลดปรมิ าณไขมนั ในอาหาร ๗) หลีกเล่ียงการรับประทานอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด การรับประทาน อาหารรสหวานจดั จะทา� ให้ได้พลังงานเพม่ิ ขน้ึ ในร่างกาย และจะไปเก็บสะสมในร่างกาย ซึง่ ถา้ หาก บรโิ ภคเกนิ ๖ ชอ้ นชาต่อวัน จะมแี นวโนม้ อาจกอ่ ใหเ้ กิดโรคอ้วนได้ ส�าหรบั อาหารรสเคม็ จัดหาก บรโิ ภคโซเดียมเกิน ๑ ชอ้ นชาต่อวนั ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคตา่ งๆ เช่น ภาวะความดนั โลหติ สูง โรคไต อาการบวมนา�้ หัวใจวาย เป็นต้น ๘) รับประทานอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปอน การรับประทานอาหาร ท่ีสะอาดปรุงสุกใหม่ๆ มีการป้องกันเชื้อโรคและแมลงวัน โดยการบรรจุในภาชนะที่สะอาด มอี ุปกรณ์หยบิ จับที่ถกู ตอ้ ง ย่อมท�าให้ปลอดภยั จากการเจ็บปว่ ย และร่างกายไดร้ ับประโยชนจ์ าก อาหารอยา่ งเต็มท่ี ๙) งดหรอื ลดเครอ่ื งดม่ื ทม่ี แี อลกอฮอล ์ การดมื่ เครอ่ื งดมื่ ทมี่ แี อลกอฮอลเ์ ปน็ ประจา� จะท�าให้รา่ งกายมีส1มรรถภาพการท�างานทลี่ ดลง ขาดสติ และท�าให้เกิดอุบตั ิเหตไุ ด้งา่ ย เสยี่ งต่อ การเป็นโรคตับแขง็ แผลในกระเพาะอาหารและลา� ไส้ โรคมะเร็งหลอดอาหาร นอกจากนย้ี งั ท�าให้ เกดิ โรคอว้ น เนอ่ื งจากแอลกอฮอลจ์ ะเปน็ ตวั การขดั ขวางการเผาผลาญพลงั งานของรา่ งกาย ดงั นนั้ เราจึงควรงดหรอื ลดเครื่องด่มื ท่ีมแี อลกอฮอล์ และไม่ขับขย่ี านพาหนะในขณะมนึ เมา 9๑ ขอ สอบเนน การคดิ เกรด็ แนะครู ขอใดเปน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิตามโภชนบญั ญัติ 9 ประการ ครอู าจนาํ เพลงโภชนบญั ญตั ิ 9 ประการ ไดจ ากเวบ็ ไซต http://thaiitteacher. 1. นอ งรบั ประทานหมูติดมนั no-ip.info/eLearning/nu_tam_di/musicvdo.html มาเปด ใหน ักเรยี นฟง เพื่อใช 2. นดิ ชอบรับประทานอาหารรสจัด เปนเทคนิคการสอนใหน กั เรียนสามารถเขา ใจและจดจําไดง า ยขน้ึ 3. นมุ รับประทานอาหารทม่ี ไี ขมันนอย 4. นอ ยรบั ประทานอาหารท่ีสกุ จากการปง ยาง นักเรียนควรรู วเิ คราะหค าํ ตอบ โภชนบญั ญัติ 9 ประการ ประกอบดว ย รบั ประทานอาหารใหครบ 5 หมู แตล ะหมใู หหลากหลาย 1 โรคตบั แข็ง คือ ภาวะทม่ี กี ารตายของเซลลต บั แลวมีการงอกใหมของเซลลตบั และหมัน่ ดูแลน้าํ หนักตวั รับประทานขาวเปนอาหารหลักสลบั แตไ มเ ปน ระเบยี บ ทาํ ใหม ลี กั ษณะเปน ตะปมุ ตะปา และมพี งั ผดื กระจดั กระจายทวั่ ตบั กบั อาหารประเภทแปงเปน บางมอ้ื รบั ประทานพชื ผกั ใหม าก และรบั ประทานผลไมเ ปน ประจาํ รบั ประทานปลา เนอ้ื สตั ว ไมตดิ มัน ไข และถว่ั เมลด็ แหง เปน ประจํา ด่มื นมใหเ หมาะสม ตามวยั รบั ประทานอาหารที่มีไขมนั แตพอควร หลกี เลย่ี ง การรบั ประทานอาหารรสหวานจดั และเค็มจดั รับประทาน- อทา่ีมหีแาอรลทกีส่ อะฮออาลด ปตรอาบศขจาอ กก3า.รปนเปอ น งดหรือลดเครอ่ื งด่ืม คูมอื ครู 91


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook