Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนรู้ โลกฯ 1 M401

แผนการเรียนรู้ โลกฯ 1 M401

Published by nattanunya2519, 2021-03-12 12:58:53

Description: แผนการเรียนรู้ โลกฯ 1 M401

Search

Read the Text Version

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 4. สมรรถนะสําคญั ของนกั เรยี นและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค สมรรถนะสําคญั ของนกั เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ รยี นรู 3. มุง ม่ันในการทาํ งาน 2.1 ทักษะการสังเกต 2.2 ทักษะการสาํ รวจคน หา 2.3 ทักษะการวเิ คราะห 3. ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต 5. กจิ กรรมการเรียนรู แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู 5Es (5Es Instructional Model) ªÇèÑ âÁ§·Õè 1 ¢é¹Ñ ¹íÒà¢ÒŒ ʺً ·àÃÂÕ ¹ กระตนุ ความสนใจ (Engage) 1. ครใู หน กั เรียนทําแบบทดสอบกอนเรยี น เพ่อื วัดความรูเดมิ ของนักเรียนกอนเขา สบู ทเรยี น 2. ครูตั้งคาํ ถามกระตนุ ความคดิ โดยใหน ักเรยี นชวยกันระดมความคดิ ในการตอบคาํ ถาม * ถาตอ งการทราบเหตุการณทีเ่ กดิ ข้ึนในอดีต นักเรยี นจะทําอยา งไร แนวตอบ คน หาขอมูลจากหอ งสมุด หรือสบื คนจากอนิ เทอรเนต็ * ถาเหตุการณท เ่ี กิดข้ึนในอดตี ยาวนานนับลานป นกั เรยี นจะทําอยา งไร แนวตอบ ศกึ ษาไดจ ากซากดกึ ดาํ บรรพ หรือรอ งรอยท่ีปรากฏใหเ หน็ ในปจ จบุ ัน * นักวทิ ยาศาสตรม ีวธิ กี ารอยางไร ในการศกึ ษาเหตุการณในอดตี ท่ยี าวนาน เชน ประวัตขิ องโลก แนวตอบ ศึกษาจากหลกั ฐานทางธรณวี ิทยา ประกอบกบั ปรากฏการณใ นปจจุบนั เพื่ออธบิ าย เหตกุ ารณท เ่ี คยเกดิ ขน้ึ ในอดีต 3. ครูถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือเรยี นรายวิชาเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 4 เลม 1 หนา 55 วา ลาํ ดบั ช้ันหิน คอื อะไร แนวตอบ นกั เรียนตอบตามความคิดของตนเอง หรือตอบวา การลาํ ดับชั้นหิน คอื การจัดเรยี งลําดบั หนว ยของชั้นหินตามตาํ แหนง และลาํ ดบั อายุของช้ันหนิ อีกทั้งยังสามารถบอกลาํ ดับเหตกุ ารณ หรอื ปรากฏการณท าง ธรณีวิทยาทเี่ คยเกิดขน้ึ ในบริเวณนนั้ ดว ย â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ¢éѹ¨Ñ´¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ สํารวจคน หา (Explore) 1. ใหน กั เรยี นสบื คนขอมูลเกยี่ วกับการลําดับชน้ั หิน แลว ครถู ามคาํ ถามวา * นักวิทยาศาสตรใชวิธกี ารใดในการลาํ ดับชน้ั หนิ แนวตอบ นาํ ขอมลู อายทุ างธรณวี ิทยาของหิน ซากดึกดําบรรพ และเหตกุ ารณทางธรณวี ิทยาอ่นื ๆ มา จดั เรียงตามลําดบั ประกอบกบั หลกั การในการลําดบั ช้นั หิน เชน กฎการลําดับชนั้ กฎความสมั พนั ธท่ตี ดั กัน หลักเอก รูปนยิ ม * การลาํ ดับชัน้ หนิ มีประโยชนในดานใดบา ง แนวตอบ นกั วิทยาศาสตรจ ัดลําดับชนั้ หินเพือ่ ใชอ างอิงในงานดานธรณวี ทิ ยา และสาขาวิชาที่ เกย่ี วขอ ง นอกจากน้ยี งั สามารถบอกถงึ ประวตั ทิ างธรณีวทิ ยาของพืน้ ท่ี หรอื ปรากฏการณท างธรณวี ทิ ยาทีเ่ คยเกดิ ข้นึ ในอดตี 2. ใหนกั เรียนสืบคนื ขอ มลู เกี่ยวกบั การจําแนกหนวยหนิ เพือ่ เช่ือมโยงเขา สูก จิ กรรมหนว ยหนิ ในประเทศไทย 3. ครูใหน ักเรียนนบั จาํ นวน 1-5 วนไปเรอ่ื ย ๆ จนครบทกุ คน เพ่อื แบง นักเรียนออกเปน กลมุ กลุมละ 5 คน โดย คนท่นี ับจาํ นวนเดยี วกันใหอ ยกู ลมุ เดยี วกนั 4. ครแู จงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนน้ั ใหนกั เรยี นอธบิ ายหลกั การจําแนกหนวยหนิ โดยทํากจิ กรรม หนวยหนิ ในประเทศไทย 5. ครแู จกใบกิจกรรมที่ 1.1 เรือ่ ง หนวยหินในประเทศไทย ใหนกั เรยี น 6. ครูใชรปู แบบการเรยี นรแู บบรวมมือมาจดั กระบวนการเรยี นรู โดยกําหนดใหสมาชกิ แตล ะคนภายในกลุมมี บทบาทหนา ทีข่ องตนเอง ดงั นี้ สมาชกิ คนที่ 1-2 ทาํ หนาทเ่ี ตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ สมาชิกคนที่ 3-4 ทําหนาท่ีอานวธิ กี ารทํากิจกรรม และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายในกลมุ ฟง สมาชิกคนท่ี 5 ทําหนา ที่บนั ทึกผลการทดลอง (# ครปู ระเมินนักเรยี น โดยใชแบบประเมินการปฏิบตั ิกจิ กรรม #) 7. ใหนกั เรยี นแตล ะกลุม ทาํ กจิ กรรมตามขั้นตอน ดังนี้ 1) สืบคนขอมลู เกี่ยวกบั การลําดบั ชน้ั หนิ และการกระจายตวั ของหนิ ในประเทศไทย รวมถงึ ขอ มลู ตาง ๆ ท่ี เก่ียวขอ ง 2) จัดเรียงขอ มูลการลําดบั ช้ันหิน และการกระจายตวั ของหนิ ในพื้นทท่ี น่ี ักเรียนเลือก แลว นาํ มาจดั ทําเปน ลําดับช้ันหินในรูปแบบแผนภาพ หรือ infographic 3) ครแู ละนกั เรียนรวมกนั พจิ ารณาแผนภาพ หรอื infographic เพื่อชว ยกันตรวจสอบขอ มลู 8. ใหนักเรยี นแตละกลุม สงตัวแทนมานาํ เสนอผลการทํากจิ กรรม â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ªèÇÑ âÁ§·èÕ 2 ¢Ñ鹨Ѵ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ อธิบายความรู (Explain) 9. ครแู ละนักเรียนรว มกันอภปิ รายผลการทาํ กิจกรรม โดยครูต้ังคาํ ถามเพื่อใหนกั เรยี นแตละกลุมรวมกนั แสดง ความคดิ เห็น ดังนี้ * กลุม หินท่มี ีอายุมากท่ีสดุ และนอ ยทีส่ ดุ ในประเทศไทย คือกลมุ หนิ ใด แนวตอบ กลมุ หนิ ที่มอี ายุมากทสี่ ุด คือ กลมุ หนิ ทบั ศลิ า กลุมหินทีม่ อี ายุนอ ยทส่ี ดุ คือ กลุมหินแมเมาะ * กลุม หินท่มี อี ายมุ ากท่สี ุดและนอยทส่ี ุดในประเทศไทย ประกอบดว ยหินใดบางและกระจายตัวอยูบริเวณใด ของประเทศ แนวตอบ กลมุ หนิ ท่ีมีอายมุ ากทีส่ ุดสว นใหญประกอบดวยหนิ แปร เชน หินไนส หินชสี ต กระจายตวั อยู บริเวณภาคตะวนั ตกของประเทศ สว นกลุม หนิ ทอ่ี ายุนอ ยทส่ี ุดสว นใหญประกอบดวยช้นั ตะกอนสลับกับ หินตะกอน อยบู รเิ วณภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ 10. ครกู ลา วเช่ือมโยงเขาสเู น้ือหาตอ ไป โดยตั้งประเด็นคาํ ถามวา การลาํ ดับช้นั หิน จาํ เปนตอ งทราบขอ มูลใดบาง ใหนักเรยี นรว มกันอภปิ ราย แนวตอบ อายุทางธรณวี ทิ ยาของช้นั หนิ 11. ครใู หนกั เรียนจบั คูก ันสบื คนขอ มลู เกย่ี วกับเรือ่ งการลําดับชั้นหิน ดงั น้ี - ลําดบั ช้ันหนิ ท่ีสําคญั ในประเทศไทย - ประโยชนข องการลําดบั ช้ันหนิ โดยนักเรยี นอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือแหลง เรยี นรอู น่ื ๆ แลว นาํ ขอ มูลมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และ รว มกนั ตั้งประเดน็ คําถามเกีย่ วกบั เรือ่ งทส่ี ืบคน มา 12. ใหนักเรียนรวมกลมุ กบั เพือ่ นอกี คูห นงึ่ รวมเปน 4 คน แลวแลกเปลี่ยนกนั ถามคําถามที่ตง้ั ไว จากน้นั รวมกัน สรปุ เพือ่ เตรยี มนาํ เสนอหนาชน้ั เรยี น 13. ครูสมุ เลอื กนักเรยี น 2-3 กลมุ ใหอ อกมานาํ เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทัง้ หองรว มกนั ตอบ คาํ ถาม และอภิปรายรว มกนั ¢éѹÊÃØ» ขยายความเขา ใจ (Elaborate) 1. ครแู ละนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอ สรุปเกี่ยวกับการลําดับชนั้ หนิ โดยอาจมแี นวทางสรปุ ดงั นี้ “การลาํ ดบั ชน้ั หนิ คอื การจดั เรยี งลาํ ดบั หนวยของช้ันหนิ ตามตาํ แหนง และลาํ ดับอายุของช้นั หิน อกี ทัง้ ยัง สามารถบอกลาํ ดับเหตุการณ หรอื ปรากฏการณท างธรณวี ทิ ยาทเ่ี คยเกิดข้นึ ในบรเิ วณนัน้ ดว ย ซึง่ การจําแนกหนว ยหินจะ เรยี งจากหนว ยใหญไ ปยังหนวยยอ ย ดงั น้ี กลุมหนิ หมวดหนิ หมหู ินและชัน้ หนิ ” 2. ใหนกั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 3 คน ทําใบงานที่ 1.1 เรื่อง การลาํ ดบั ช้นั หิน ในรปู ของแผนผังความคิดใหม ี ความถูกตอ งและนาสนใจ แลวนําเสนอผลงาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 3. ครูใหนักเรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 3 คน สรา งแบบจาํ ลองการลาํ ดบั ช้ันหนิ ในประเทศไทย ตามความรทู ไ่ี ดเ รยี น มา โดยใหแตล ะกลุมเลือกพ้ืนที่ทไี่ มซํ้ากนั 4. ครสู ุม เลือกนกั เรียน 2-3 กลุม ใหอ อกมานําเสนอแบบจําลองของกลมุ ตนเอง โดยใหนกั เรยี นทั้งหองรวมกันตงั้ คําถาม และอภิปรายรวมกัน 5. ครมู อบหมายการบานใหน ักเรียนทาํ แบบฝก หัด เรื่อง การลําดับชน้ั หนิ จากแบบฝก หัดรายวชิ าเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 4 เลม 1 หนว ยการเรยี นท่ี 4 การลําดบั ช้ันหนิ ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอ นเรยี น 2. ครูประเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ ผลงาน และการนําเสนอผลงาน 3. ครปู ระเมินการปฏิบัติการจากการทาํ ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การลําดบั ชนั้ หนิ 4. ครตู รวจสอบผลการทําแบบฝกหดั 6. การวดั และประเมนิ ผล รายการวดั วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑการประเมิน ประเมินตามสภาพจรงิ 6.1 การประเมนิ กอนเรยี น แบบทดสอบกอนเรียน - พิจารณาผลที่ไดตามจรงิ - แบบทดสอบกอนเรยี น ตรวจแบบทดสอบ - ใบกจิ กรรมที่ 1.1 - ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ - แบบประเมนิ การ รอยละ 60 ผา นเกณฑ หนว ยการเรยี นรูท่ี 4 กอ นเรยี น ปฏิบตั ิกิจกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผานเกณฑ - ใบงานที่ 1.1 ระดับคณุ ภาพ 2 ผานเกณฑ เร่ือง ลําดับชั้นหนิ - แบบประเมินการ นาํ เสนอผลงาน 6.2 ประเมนิ ระหวา งการจดั - แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทํางานรายบคุ คล กิจกรรมการเรยี นรู -ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 1.1 1) หนวยหนิ ในประเทศ - ประเมินการปฏบิ ตั ิ ไทย กจิ กรรม 2) การลําดบั ช้ันหิน - ตรวจใบงานที่ 1.1 3) การนาํ เสนอผลงาน - ประเมินการนําเสนอ ผลงาน 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทาํ งานรายบคุ คล การทาํ งานรายบคุ คล â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 รายการวดั วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑการประเมิน 5) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ การทํางานกลมุ การทํางานกลุม การทาํ งานกลมุ 6) คณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค - สงั เกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 ผา นเกณฑ ใฝเรียนรู และมงุ มั่น คณุ ลกั ษณะ ในการทํางาน อันพึงประสงค 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู 7.1 สอ่ื การเรียนรู 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพ่มิ เติม โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 เลม 1 หนวยการเรยี นรูที่ 4 ลาํ ดับ ชั้นหนิ 2) แบบฝกหัดรายวชิ าเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตรและอวกาศ มัธยมศึกษาปที่ 4 เลม 1 หนวยการเรยี นรูที่ 4 ลําดบั ชน้ั หนิ 3) ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง การลาํ ดบั ชน้ั หิน 4) ใบกิจกรรมที่ 1.1 เร่อื ง การลาํ ดับชนั้ หินในประเทศไทย 5) วัสด-ุ อุปกรณท ่ใี ชในการทาํ กิจกรรมการลาํ ดบั ชน้ั หิน 6) PowerPoint เรื่อง ลําดับชนั้ หนิ 7.2 แหลง การเรียนรู 1) หอ งเรยี น 2) หอ งสมุด 3) บริเวณโรงเรียน 4) แหลง ขอมูลสารสนเทศ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 8. การบูรณาการตามจุดเนนของโรงเรยี น หลักปรชั ญา ครู นักเรียน ของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอประมาณ พอดีดา นเทคโนโลยี พอดดี า นจิตใจ รูจักใชเ ทคโนโลยีมาผลติ ส่ือที่ มีจติ สํานกึ ที่ดี จติ สาธารณะรว ม 2. ความมีเหตุผล อนรุ ักษ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคลองเนือ้ หาเปน สิ่งแวดลอม ประโยชนต อนักเรยี นและพัฒนาจาก ภมู ปิ ญ ญาของนักเรยี น ศึกษาหาความรูดว ยตนเอง เพ่อื คนหา ยึดถือการประกอบอาชีพดว ยความ คาํ ตอบเพือ่ ใหห ลุดพนจากความไมรู ถูกตอ ง สจุ รติ ภูมปิ ญญา : มคี วามรู รอบคอบ 3. มีภมู คิ ุมกันในตวั ทด่ี ี ภูมปิ ญ ญา : มคี วามรู รอบคอบ และ รบั ผดิ ชอบ ระมัดระวัง สรางสรรค 4. เงอื่ นไขความรู ระมัดระวัง ความรอบรู เรือ่ ง ลาํ ดบั ช้นั หิน ใน การปฏิบัติกจิ กรรมตามใบงานท่ี 1.1 ความรอบรู เรือ่ ง ลาํ ดับช้นั หิน และกิจกรรมท่ี 1.1 5. เงือ่ นไขคุณธรรม ความซอ่ื สตั ยส ุจริตและอดทน มี มคี ณุ ธรรม ซอ่ื สตั ยส ุจรติ และอดทน ความเพียร ใชส ติปญญาในการดําเนิน ใชสตปิ ญ ญาในการเรยี นและดําเนนิ ชวี ิต ชวี ิต สวนพฤกษศาสตรโ รงเรียน ครู นกั เรียน ลําดบั ช้นั หิน จดั กิจกรรมการเรียนรู ใหน ักเรยี นอธิบาย นกั เรยี นศกึ ษาหาขอ มูลบริเวณทไี่ ดรับ การวางตัวของชน้ั หนิ - ลําดับช้ันหิน มอบหมาย เพอื่ มารว มอธบิ าย อภปิ รายใน - การวางตัวของชั้นหิน หอ งเรียน ส่งิ แวดลอม (กําหนดบรเิ วณทไี่ ดร บั มอบหมาย) - ลาํ ดับชั้นหนิ - ลําดับชน้ั หิน ครู - การวางตัวของชั้นหนิ - การวางตัวของชน้ั หิน จัดกจิ กรรมการเรยี นรู ใหนกั เรียนอภปิ ราย นักเรียน - ลาํ ดบั ช้นั หนิ - การวางตวั ของช้นั หิน นักเรียนสิบคนขอ มูลเพ่อื นาํ มาอภปิ ราย (กําหนดหวั ขอใหน กั เรียนสืบคนและรว ม อภปิ รายในชน้ั เรยี น) - ลําดับช้นั หิน - การวางตัวของช้นั หิน (ตามหวั ขอทกี่ ําหนด ในหองสมดุ หอง สืบคน สารสนเทศ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 แบบบนั ทึกหลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู หนวยการเรยี นรทู ี่ 4 เร่ือง ลําดบั ชนั้ หิน แผนจดั การเรียนรูที่ 1 เรอื่ ง ¡ÒÃÅíÒ´ºÑ ªéÑ¹Ë¹Ô รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที่ 4 ครูผูสอน นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ตําแหนง ครู คศ. 2 เวลาทีใ่ ช 2 ชั่วโมง (ชวั่ โมงท่ี 1-2) ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู ขอ คน พบระหวา ง ปญ หาทพ่ี บ แนวทางแกไ ข ทม่ี ีการจัดกจิ กรรมการเรียนรู เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู สอ่ื ประกอบการเรียนรู พฤติกรรม/การมีสวนรวมของ นกั เรียน ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผูจัดกจิ กรรมการเรียนรู (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถึง) ตาํ แหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠˹Nj ¡ÒÃàÃÕ¹ÌٷÕè 4 á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ·èÕ 1 â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ใบกิจกรรมที่ 1.1 เร่อื ง ลาํ ดบั ชัน้ หนิ ในประเทศไทย หนว ยการเรยี นรูที่ 4 เรือ่ ง ลาํ ดบั ชนั้ หิน แผนจดั การเรียนรทู ี่ 1 เรอื่ ง ¡ÒÃÅÒí ´ÑºªÑ¹é ËÔ¹ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวชิ า ว31209 ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 4 *********************** คาํ ชีแ้ จง : ใหน กั เรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมตามข้ันตอนทใ่ี ห แลวบนั ทกึ ผลทีไ่ ดจากการสืบคน ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1) สืบคน ขอมลู เกย่ี วกบั การลําดบั ช้นั หนิ และการกระจายตัวของหินในประเทศไทย รวมถงึ ขอ มลู ตา ง ๆ ท่ี เกีย่ วของ 2) จัดเรียงขอ มลู การลาํ ดับช้ันหิน และการกระจายตัวของหินในพืน้ ที่ที่นกั เรียนเลอื ก แลวนาํ มาจัดทําเปน ลําดบั ชน้ั หินในรูปแบบแผนภาพ หรือ infographic บันทกึ ผลที่ไดจากการสบื คน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 à©Å ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 เรอ่ื ง ลําดบั ช้นั หนิ ในประเทศไทย หนวยการเรยี นรทู ่ี 4 เรอ่ื ง ลําดบั ช้ันหิน แผนจดั การเรียนรทู ี่ 1 เรอ่ื ง ¡ÒÃÅíҴѺªé¹Ñ ËÔ¹ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 *********************** คาํ ช้ีแจง : ใหนักเรียนปฏิบัติกจิ กรรมตามข้นั ตอนที่ให แลว บนั ทกึ ผลทไ่ี ดจากการสืบคน ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 1) สบื คน ขอ มูลเกีย่ วกับการลาํ ดับชน้ั หนิ และการกระจายตัวของหนิ ในประเทศไทย รวมถงึ ขอ มูลตางๆ ท่ี เก่ียวขอ ง 2) จัดเรียงขอมลู การลาํ ดบั ชั้นหินและการกระจายตัวของหินในพื้นท่ีท่นี ักเรยี นเลือก แลวนํามาจัดทําเปน ลําดบั ชนั้ หินในรปู แบบแผนภาพ หรอื infographic บนั ทึกผลทไ่ี ดจ ากการสบื คน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 (ข้นึ อยูกับดุลยพนิ ิจผูส อน โดยพิจารณาขอ มูลทนี่ ักเรยี นสืบคน ได) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง การลําดบั ช้ันหิน หนวยการเรียนรทู ่ี 4 เรือ่ ง ลาํ ดับชั้นหนิ แผนจดั การเรียนรูที่ 1 เร่อื ง ¡ÒÃÅÒí ´ºÑ ªéÑ¹Ë¹Ô รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 4 *********************** คําชีแ้ จง : ใหน ักเรยี นสรปุ ความรเู ก่ยี วกับการลาํ ดบั ช้นั หินในรปู แบบของแผนผงั ความคิด และนาํ เสนอผลงาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 à©Å ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การลําดับชน้ั หนิ หนวยการเรียนรูท่ี 4 เร่ือง ลาํ ดบั ชนั้ หิน แผนจดั การเรยี นรูท ่ี 1 เรื่อง ¡ÒÃÅíҴѺª¹Ñé ËÔ¹ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 4 *********************** คําชี้แจง : ใหน กั เรยี นสรุปความรเู กยี่ วกับการลาํ ดบั ชนั้ หนิ ในรปู แบบของแผนผังความคิด และนาํ เสนอผลงาน การลําดบั ชนั้ หนิ การจดั เรยี งลาํ ดับหนวยของชั้นหนิ ตามตาํ แหนง การจาํ แนกหนว ยหิน และลาํ ดบั อายขุ องชัน้ หิน อกี ทั้งยังสามารถบอก ลําดับเหตกุ ารณ หรอื ปรากฏการณทางธรณีวทิ ยา ท่เี คยเกดิ ข้นึ ในบรเิ วณนั้น กลุมหิน หนวยหินซ่งึ มอี ายอุ ยใู นยคุ หรอื มหายุคเดียวกันที่ ประกอบดว ยหมวดหนิ ตัง้ แต 2 หมวดขนึ้ ไป หมวดหิน หนวยหลักในการลาํ ดบั ชั้นหนิ โดยพจิ ารณาจาก หมหู ิน ลักษณะเน้อื หนิ อาจหนานอ ยกวา 1 เมตรจนถงึ ชั้นหนิ หลายพันเมตร หนวยหนิ ซึ่งเปน สวนหนง่ึ ของหมวดหิน แตมี ลักษณะเดนแตกตา งจากสว นอ่นื ของหมวดหนิ หนว ยยอยทส่ี ุดของลาํ ดับชน้ั หนิ มลี ักษณะเดน แตกตางจากช้ันหินอน่ื อาจหนาตัง้ แต 1 เซนติเมตร จนถงึ 3 เมตร (ขน้ึ อยกู บั ดุลพินจิ ผสู อน) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แผนการจดั การเรียนรู หนว ยการเรียนรทู ่ี 4 เร่ือง ลําดบั ชนั้ หนิ แผนจัดการเรียนรูที่ 2 เรอื่ ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÕÇ·Ô ÂÒ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวชิ า ว31209 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปก ารศกึ ษา 2563 น้าํ หนักเวลาเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง/สัปดาห เวลาท่ีใชในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู 6 ช่วั โมง *********************************** 1. สาระสําคญั (ความเขาใจท่ีคงทน) อายุทางธรณวี ิทยา คอื ชวงเวลาทีเ่ วลาทซ่ี ากดึกดาํ บรรพห รือเหตุการณท างธรณีวิทยาไดปรากฏหรือเกิดขึ้น สามารถแสดงไดท้งั อายสุ มบูรณ และอายเุ ปรียบเทยี บ อายุสัมบรู ณ คือ อายุของหนิ ซากดึกดําบรรพ หรือเหตุการณท างธรณวี ทิ ยาทรี่ ะบุเปนจาํ นวนป โดยคาํ นวณ ไดจากไอโซโทปของธาตุ อายเุ ปรยี บเทยี บ คอื อายุของหนิ ซากดึกดาํ บรรพ หรอื เหตกุ ารณทางธรณีวิทยาเมือ่ เทยี บกับหนิ ซากดกึ ดํา บรรพ หรอื เหตุการณท างธรณวี ทิ ยาอนื่ ๆ โดยไมบอกเปน จํานวนป 2. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู/เปาหมายการเรียนรู ผลการเรยี นรู 7. วิเคราะหหลกั ฐานทางธรณวี ิทยาทพี่ บในปจ จบุ นั และอธบิ ายลาํ ดับเหตุการณท างธรณวี ทิ ยาในอดตี จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. อธิบายหลกั การและวธิ กี ารหาอายุทางธรณวี ิทยา (K) 2. อธิบายการนําหลกั การลําดบั ชัน้ หนิ มาใชในการหาอายุเปรียบเทียบ (K) 3. สืบคน ขอมลู เก่ียวกบั ซากดกึ ดําบรรพและการหาอายุสัมบูรณ (P) 4. สนใจใฝรูใ นการศึกษา (A) 3. สาระการเรยี นรู สาระการเรยี นรเู พม่ิ เติม สาระการเรยี นรทู อ งถน่ิ หลักฐานทางธรณีวิทยา ไดแ ก ซากดกึ ดาํ บรรพ หิน และ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา ลกั ษณะโครงสรางทางธรณี ซึง่ นํามาหาอายไุ ด 2 แบบ ไดแก อายุเปรยี บเทียบ คอื อายุของซากดึกดาํ บรรพ หินและ/หรอื เหตกุ ารณท างธรณวี ทิ ยา เมื่อเทียบกบั ซากดึกดาํ บรรพ หิน และ/หรือเหตุการณทางธรณวี ิทยาอื่น ๆ และอายุสัมบรู ณ คอื อายทุ ร่ี ะบุเปน ตวั เลขของหิน และ/หรอื เหตกุ ารณทาง ธรณวี ิทยาซง่ึ คาํ นวณไดจากไอโซโทปของธาตุ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 4. สมรรถนะสําคญั ของนักเรยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค สมรรถนะสําคญั ของนักเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ รียนรู 3. มงุ มัน่ ในการทาํ งาน 2.1 ทักษะการสงั เกต 2.2 ทกั ษะการสํารวจคน หา 2.3 ทักษะการวิเคราะห 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวิต 5. กจิ กรรมการเรียนรู แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู 5Es (5Es Instructional Model) ªÇÑè âÁ§·Õè 1 ¢éѹ¹Òí à¢ÒŒ ʺً ·àÃÂÕ ¹ กระตนุ ความสนใจ (Engage) 1. ครกู ระตนุ ความสนใจ โดยถามคําถาม prior knowledge จากหนังสือเรียนรายวชิ าเพิม่ เติม โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 4 เลม 1 หนา 62 วา การหาอายทุ างธรณวี ิทยามปี ระโยชนอยา งไร แนวตอบ อายุทางธรณีวทิ ยาสามารถบอกประวตั ิของพน้ื ที่ หรอื ชว งเวลาทเ่ี คยเกิดเหตุการณทางธรณีวิทยาที่ เคยข้ึนในพนื้ ท่นี ้นั เพื่อนาํ ขอ มลู ไปใชในการศึกษา การวางแผน การจดั การพน้ื ท่ี) 2. ครูตง้ั คําถามกระตนุ ความคิดโดยใหนกั เรยี นชวยกนั ระดมความคดิ ในการตอบคาํ ถาม * อายุทางธรณวี ิทยาคอื อะไร แนวตอบ อายุทางธรณวี ิทยา คอื ชวงเวลาทีเ่ วลาที่ซากดกึ ดําบรรพห รอื เหตุการณทางธรณีวทิ ยาไดปรากฏ หรอื เกดิ ขน้ึ สามารถแสดงไดท งั้ อายุสมบูรณแ ละอายเุ ปรียบเทียบ * อายเุ ปรียบเทียบและอายสุ มั บรู ณแ ตกตางกันอยา งไร แนวตอบ อายเุ ปรยี บเทยี บจะไมแสดงอายเุ ปน จาํ นวนป อายสุ มั บรู ณจ ะแสดงอายเุ ปน จํานวนป * นักวทิ ยาศาสตรมวี ิธีการหาอายุเปรียบเทยี บไดอยา งไร แนวตอบ หาไดจากกฎและหลักในการลาํ ดับชน้ั หิน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ¢éѹ¨´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠สํารวจคนหา (Explore) 1. ใหนกั เรยี นสืบคนขอ มลู เกย่ี วกับการหาอายเุ ปรยี บเทียบ แลว ครูถามคําถามวา * นักเรยี นคิดวา หลักการและกฎในการลาํ ดบั ชั้นหิน เพอ่ื ใชในการหาอายุเปรียบเทียบ ทคี่ วรทราบ มี อะไรบา ง แนวตอบ กฎการลาํ ดบั ชัน้ กฎความสมั พนั ธท ต่ี ดั กัน กฎการสบื สตั วชาติ กฎชนั้ ตอ เน่ือง กฎชนั้ แนวนอน หลกั เอกรูปนิยม และกฎอน่ื ๆ ตามทนี่ ักเรียนสืบคน ได) * นักเรียนคิดวาการหาอายเุ ปรยี บเทียบของหนิ ตะกอนทวี่ างตวั ซอนทับกนั เปนชน้ั ควรใชหลกั ในการลําดับ ชัน้ หนิ ขอ ใด แนวตอบ กฎการลําดับชัน้ กฎช้ันตอ เนอ่ื ง กฎชนั้ แนวนอนและกฎอนื่ ๆ ตามหลักฐานทางธรณวี ิทยาท่ี พบในชนั้ หนิ ตะกอนดังกลา ว) 2. ใหนกั เรียนสบื คืนขอ มลู เก่ียวกบั กฎการลาํ ดบั ชั้น เพื่อเชื่อมโยงเขา สกู ิจกรรมการวางตัวของหนิ ตะกอน 3. ครูแบงกลมุ นักเรยี น ออกเปน กลมุ กลมุ ละ 3 คน ตามระดับความสามารถ เกง ปานกลาง ออน 4. ครแู จงจุดประสงคข องการทํากจิ กรรม จากนนั้ ใหน ักเรยี นศึกษากฎการลาํ ดับชนั้ โดยทาํ กิจกรรมการวางตัว ของหนิ ตะกอน 5. ครแู จกแบบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 2.1 เรื่อง การวางตวั ของหนิ ตะกอน 6. ครใู ชร ปู แบบการเรียนรแู บบรวมมือมาจดั กระบวนการเรียนรู โดยกาํ หนดใหส มาชกิ แตละคนภายใน กลุมมี บทบาทหนาท่ขี องตนเอง ดงั น้ี สมาชกิ คนท่ี 1 ทําหนา ทเี่ ตรยี มวัสดอุ ุปกรณ สมาชิกคนที่ 2 ทาํ หนาทอี่ า นวธิ กี ารทํากิจกรรม และนํามาอธิบายใหสมาชิกภายในกลุม ฟง สมาชิกคนท่ี 3 ทาํ หนา ทีบ่ ันทึกผลการทาํ กจิ กรรม (# ครปู ระเมินนกั เรยี น โดยใชแบบประเมนิ กจิ กรรม #) 7. ใหนกั เรียนแตล ะกลุมทํากจิ กรรมตามขัน้ ตอน ดังน้ี 1) นําขวดน้าํ พลาสติกใสขนาด 1 ลิตร ตดั สว นบนทางดา นปากขวดออก 2) ใสน้าํ ลงไปในขวดประมาณครง่ึ หน่ึงของขวด 3) ตักกรวดขนาดเล็กใสลงไปในขวดจนมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 4) ตักทรายหยาบใสล งไปในขวดจนชนั้ ทรายมคี วามหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 5) ตักทรายละเอียดใสล งไปในขวดจนชน้ั ทรายมคี วามหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 6) วาดภาพการวางตวั ของกรวด ทรายหยาบและทรายละเอยี ด 8. ใหน กั เรยี นแตละกลุมสงตวั แทนมานาํ เสนอผลการทํากิจกรรม â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ªÑèÇâÁ§·Õè 2 ¢¹éÑ ¨Ñ´¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠อธิบายความรู (Explain) 1. ครูและนกั เรียนรว มกันอภิปรายผลการทํากจิ กรรม โดยครตู ง้ั คําถามเพื่อใหนักเรยี นแตละกลุม รวมกันแสดง ความคิดเหน็ ดังนี้ * ถา เปรยี บเทียบการวางตัวของกรวดและทรายกับชนั้ หิน ชั้นใดมอี ายมุ ากท่ีสุดและชัน้ ใดมีอายนุ อย ที่สุด เพราะเหตใุ ด แนวตอบ ชั้นกรวดมอี ายุมากที่สดุ เพราะเทลงในขวดเปนลาํ ดบั แรก ชน้ั ทรายละเอยี ดมอี ายนุ อยทสี่ ดุ เพราะเทลงในขวดเปน ลําดับสดุ ทา ย) * จากผลการทาํ กจิ กรรม สามารถนาํ มาสรปุ เปนกฎการลาํ ดบั ช้นั ไดอยา งไร แนวตอบ ชนั้ หนิ ทีม่ ีอายุออนจะวางตัวอยบู นชน้ั หนิ ท่มี อี ายแุ กกวา ถา ชนั้ หินไมม กี ารพลกิ กลับ * ช้นั หนิ จะเกิดการพลิกกลบั ไดอยางไร แนวตอบ ชน้ั หนิ เกดิ การพลกิ กลับได เนอื่ งจากถูกกระทาํ โดยกระบวนการทางธรณีวทิ ยา เชน การเกดิ รอยเลื่อน รอยคดโคง 2. ครใู หนักเรยี นจับคูกนั สบื คนขอ มูลเกยี่ วกบั เร่ืองหลักในการหาอายเุ ปรียบเทยี บ ดังนี้ - กฎชน้ั ตอเน่ือง - กฎช้นั แนวนอน - กฎการสบื สัตวชาติ โดยนกั เรยี นอาจสบื คนจากหนังสอื เรยี น หรอื แหลง เรียนรอู นื่ ๆ แลว นาํ ขอมูลมาแลกเปล่ยี นความคิดเห็น และ รว มกนั ตัง้ ประเด็นคาํ ถามเก่ยี วกับเรือ่ งท่สี ืบคน มา (# ครปู ระเมินนกั เรยี น โดยใชแบบประเมินพฤตกิ รรมรายบคุ คล #) 3. ใหนกั เรยี นรวมกลมุ กับเพอื่ นอกี คหู นึ่ง รวมเปน 4 คน แลวแลกเปล่ียนกันถามคําถามทต่ี ง้ั ไว จากนั้นรว มกนั สรปุ เพอ่ื เตรยี มนาํ เสนอหนา ช้ันเรยี น 4. ครสู มุ เลือกนักเรยี น 2-3 กลุม ใหอ อกมานาํ เสนอคาํ ถามของกลุมตนเอง โดยใหนกั เรียนท้ังหอ งรวมกนั ตอบ คาํ ถามและอภิปรายรว มกนั ªÇèÑ âÁ§·èÕ 3 ¢Ñ¹é ¨Ñ´¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠สํารวจคน หา (Explore) 1. ครใู หน ักเรยี นใหน กั เรยี นกลับสกู ลุมเดิม (กลมุ 3 คน) ตามทไี่ ดแ บง ไวใ นชว่ั โมงที่ผานมา 2. ครูแจงจุดประสงคของการทํากิจกรรม จากน้นั ใหน ักเรียนศึกษากฎความสมั พนั ธที่ตัดกนั โดยทํากจิ กรรม เรื่อง การตัดผานของรอยเลื่อนและหนิ อัคนี 3. ครแู จกใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง การตดั ผานของรอยเลอ่ื นและหนิ อคั นี ใหนักเรยี น â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 4. ครใู ชร ปู แบบการเรียนรูแ บบรวมมอื มาจัดกระบวนการเรียนรู โดยกาํ หนดใหส มาชิกแตละคนภายในกลุม มี บทบาทหนา ที่ของตนเอง ดังน้ี สมาชิกคนท่ี 1 ทําหนาทเี่ ตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ สมาชิกคนที่ 2 ทาํ หนา ที่อานวิธกี ารทาํ กิจกรรม และนาํ มาอธิบายใหส มาชกิ ภายในกลมุ ฟง สมาชิกคนท่ี 3 ทาํ หนา ทบี่ ันทกึ ผลการทํากิจกรรม (# ครปู ระเมินนักเรียน โดยใชแบบประเมินกิจกรรม #) 5. ใหน ักเรียนแตละกลมุ ทํากิจกรรมตามขัน้ ตอน ดงั น้ี 1) ปน ดินนาํ้ มันใหเปนแผน ขนาดประมาณ กวาง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สงู 1 เซนติเมตร ให แตละแผน มสี ตี า งกนั จาํ นวน 3 แผน 2) นําดินน้าํ มนั ทั้ง 3 แผน วางซอนกัน แลวกดใหตดิ กันแนน 3) ใชไมบรรทัดตดั ผา นดนิ นํ้ามันท้งั 3 ชั้น สังเกตและบนั ทึกผล 4) ทําซํ้าตามขัน้ ตอนขอที่ 1–3 แลวปนดนิ นาํ้ มนั สีท่ตี างกนั กับชน้ั ดินนํ้ามัน 5) นําดนิ นา้ํ มันไปแทรกไวต รงกลางระหวางช้ันดินน้ํามันทถี่ กู ตัดขาด แลวกดใหต ดิ กันแนน 6) วาดภาพลักษณะของชนั้ ดนิ นํ้ามันหลังการทาํ กจิ กรรม 6. ใหนกั เรียนแตล ะกลมุ สง ตัวแทนมานาํ เสนอผลการทํากิจกรรม อธบิ ายความรู (Explain) 7. ครแู ละนักเรียนรวมกนั อภปิ รายผลการทาํ กจิ กรรม โดยครูตง้ั คําถามเพ่ือใหน ักเรียนแตละกลุมรวมกันแสดง ความคดิ เห็น ดงั นี้ * ถาเปรียบเทยี บชน้ั ดินนํา้ มันกับชั้นหนิ การตดั ของไมบ รรทดั กบั รอยเลื่อน สิง่ ใดมอี ายุมากกวา เพราะเหตุใด แนวตอบ ชัน้ ดินนาํ้ มันมอี ายมุ ากกวา เน่ืองจากไมบรรทดั ตดั ผา นชน้ั ดินนํา้ มนั ทม่ี ีอยูก อ น * ถา เปรียบเทยี บชน้ั ดินนาํ้ มนั กบั ชั้นหิน ดินน้าํ มนั ตา งสกี บั หินอคั นี ส่งิ ใดมีอายมุ ากกวา เพราะเหตุใด แนวตอบ ช้ันดินนาํ้ มันมอี ายมุ ากกวา เนือ่ งจากดินนํ้ามันแทรกเขามาในช้นั ดินนา้ํ มันทม่ี อี ยูกอน * จากผลการทํากิจกรรม สามารถนาํ มาสรปุ เปน กฎความสัมพันธทต่ี ัดกันไดอ ยา งไร แนวตอบ ถา หากมหี นิ แทรกตัวเขา มาในชั้นหินเดมิ หรือรอยเลื่อนตดั ผา นชัน้ หินเดมิ หินหรอื รอยเลอ่ื นที่ ตดั ผานเขามาตอ งมีอายุนอยกวาชั้นหินเดิม 8. ครใู หน ักเรียนจับคูกันสบื คนขอ มลู เก่ียวกบั เร่อื งหลกั ในการหาอายุเปรียบเทยี บ ดังน้ี - การเทยี บสัมพนั ธช นั้ หิน - หลักเอกรปู นยิ ม โดยนกั เรยี นอาจสืบคน จากหนงั สอื เรยี น หรือแหลง เรยี นรอู น่ื ๆ แลว นาํ ขอมลู มาแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ และ รว มกนั ต้งั ประเด็นคาํ ถามเกย่ี วกบั เร่อื งท่สี บื คนมา 9. ใหนักเรียนรวมกลมุ กับเพอ่ื นอีกคหู น่งึ รวมเปน 4 คน แลว แลกเปล่ยี นกันถามคําถามทีต่ ั้งไว จากนัน้ รวมกนั สรุปเพอ่ื เตรียมนําเสนอหนาชั้นเรยี น â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 10. ครูสุมเลอื กนกั เรียน 2-3 กลุม ใหออกมานาํ เสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหน กั เรยี นทง้ั หอ งรวมกันตอบ คาํ ถามและอภปิ รายรวมกัน ªÇèÑ âÁ§·Õè 4 ¢Ñ鹨´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ สํารวจคน หา (Explore) 1. ครใู หน กั เรียนนบั จํานวน 1-3 วนไปเรอ่ื ย ๆ จนครบทกุ คน เพือ่ แบงนกั เรียนออกเปนกลมุ กลุมละ 3 คน โดย คนทนี่ ับจาํ นวนเดียวกันใหอยกู ลมุ เดยี วกัน 2. ครแู จง จุดประสงคข องการทํากิจกรรม จากนน้ั ใหน ักเรียนศึกษารอยช้นั ไมต อ เน่อื ง โดยทํากจิ กรรมรอยช้นั ไมตอเนื่อง 3. ครแู จกใบกิจกรรมที่ 2.3 เรอื่ ง รอยชน้ั ไมต อ เนื่อง 4. ครูใชร ปู แบบการเรยี นรแู บบรวมมือมาจดั กระบวนการเรียนรู โดยกําหนดใหสมาชิกแตละคนภายในกลมุ มี บทบาทหนา ที่ของตนเอง ดังนี้ สมาชกิ คนที่ 1 ทาํ หนาทเ่ี ตรียมวัสดุอุปกรณ สมาชิกคนที่ 2 ทาํ หนาทอ่ี า นวธิ ีการทาํ กจิ กรรม และนํามาอธบิ ายใหส มาชิกภายในกลมุ ฟง สมาชิกคนท่ี 3 ทําหนา ท่บี นั ทึกผลการทาํ กิจกรรม (# ครูประเมนิ นักเรียน โดยใชแบบประเมนิ กจิ กรรม #) 5. ใหน กั เรยี นแตล ะกลุมทาํ กิจกรรมตามขน้ั ตอน ดังน้ี 1) ปนดนิ นํ้ามันใหเ ปน แผน ขนาดประมาณ กวา ง 5 เซนตเิ มตร ยาว 10 เซนตเิ มตร สูง 1 เซนติเมตร ใหแ ตล ะ แผนมีสตี า งกนั จาํ นวน 5 แผน 2) นําดนิ นา้ํ มนั 3 แผน วางซอ นกัน แลว กดใหต ดิ กันแนน 3) ใชไมบ รรทดั ขีดดา นบนของชัน้ ดนิ นํ้ามันใหเ ปนรอยบากลึกลงไปในชัน้ ดินนํ้ามนั 4) นําแผน ดนิ นาํ้ มันอีก 2 แผนวางทับช้ันดนิ มัน แลว กดใหต ดิ กนั แนน 5) วาดภาพลกั ษณะของชน้ั ดนิ นาํ้ มนั หลังการทํากจิ กรรม 6. ใหน กั เรยี นแตละกลมุ สง ตวั แทนมานาํ เสนอผลการทาํ กิจกรรม อธบิ ายความรู (Explain) 7. ครูและนักเรยี นรวมกนั อภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยครตู ั้งคาํ ถามเพ่อื ใหนกั เรยี นแตล ะกลุมรวมกันแสดง ความคิดเห็น ดงั น้ี * รอยบากบนชั้นดนิ นํ้ามัน เปรียบเทยี บไดก ับส่ิงใด แนวตอบ รอยชน้ั ไมตอ เนือ่ ง * รอยชัน้ ไมต อเน่ืองคืออะไร แนวตอบ รอยชั้นไมตอ เนอื่ ง คอื รอยตอของช้ันหนิ ตางชุดทวี่ างซอ นกัน เกิดจากชัน้ หนิ ชดุ ลางที่มี อายุแกกวาขาดหายไปชวงใดชว งหน่ึงเนือ่ งจากมีการกรอนเปนเวลานาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 * รอยช้นั ไมต อเน่อื ง ชวยในการหาอายุเปรยี บเทยี บไดอ ยา งไร แนวตอบ รอยช้นั ไมเ นอื่ งแสดงถึงการหยุดสะสมตัวของชัน้ หินตะกอน แสดงวาชนั้ หินชุดลา งจ ะมี อายุมากกวา และอาจมรี อ งรอยทบ่ี งบอกวา ชัน้ หินมกี ารพลิกกลับหรอื ไมอ ีกดว ย 8. ครูใหนักเรียนจับคกู นั สบื คนขอ มลู เก่ยี วกับเรอื่ งรอยชั้นไมตอ เนอ่ื ง ดงั น้ี - รอยชนั้ ไมต อ เนอ่ื งเชิงมุม - รอยชน้ั ไมต อเนอ่ื งคงระดบั - รอยชั้นไมต อ เนื่องบนหินอัคนี โดยนกั เรียนอาจสืบคนจากหนังสือเรียน หรือแหลง เรียนรอู ืน่ ๆ แลวนาํ ขอ มลู มาแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น และ รว มกันตั้งประเด็นคําถามเกยี่ วกับเรอ่ื งทส่ี ืบคนมา 9. ใหน กั เรยี นรวมกลุมกับเพอื่ นอกี คูหนึ่ง รวมเปน 4 คน แลวแลกเปล่ยี นกันถามคาํ ถามทต่ี ั้งไว จากน้นั รวมกนั สรปุ เพอ่ื เตรยี มนําเสนอหนา ชัน้ เรยี น 10. ครูสมุ เลือกนักเรยี น 2-3 กลมุ ใหออกมานําเสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหน ักเรียนทัง้ หองรวมกนั ตอบ คาํ ถาม และอภิปรายรว มกนั ªèÇÑ âÁ§·èÕ 5 ¢Ñ鹨´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ สํารวจคนหา (Explore) 1. ครใู หน ักเรียนนับจาํ นวน 1-3 วนไปเรอื่ ย ๆ จนครบทกุ คน เพอ่ื แบงนักเรียนออกเปนกลมุ กลมุ ละ 3 คน โดย คนทีน่ บั จาํ นวนเดยี วกนั ใหอ ยกู ลมุ เดียวกัน 2. ครแู จงจุดประสงคของการทํากจิ กรรม จากนัน้ ใหนักเรียนศกึ ษาการหาอายสุ มั บูรณ โดยทํากจิ กรรมอายุ สัมบูรณของหนิ 3. ครูใชรูปแบบการเรยี นรูแบบรวมมือมาจัดกระบวนการเรยี นรู โดยกาํ หนดใหส มาชิกแตละคนภายใน กลุมมี บทบาทหนาท่ขี องตนเอง ดังน้ี สมาชกิ คนที่ 1 ทาํ หนาทเ่ี ตรียมวัสดอุ ุปกรณ สมาชิกคนท่ี 2 ทําหนา ท่ีอา นวธิ ีการทํากจิ กรรม และนํามาอธบิ ายใหส มาชกิ ภายในกลมุ ฟง สมาชิกคนที่ 3 ทาํ หนา ทีบ่ นั ทึกผลการทาํ กจิ กรรม (# ครปู ระเมนิ นกั เรยี น โดยใชแบบสงั เกตพฤติกรรมการทํางานกลุม #) 4. ใหนกั เรยี นแตละกลมุ ทาํ กจิ กรรมตามข้ันตอน ดังน้ี 1) รวมกนั สบื คนขอ มูลวธิ ีการหาอายุสมั บูรณ รวมถงึ ขอมลู ตา ง ๆ ท่ีเกยี่ วของ ดังน้ี - ไอโซโทปของธาตุในหนิ - ชวงเวลาทีเ่ หมาะสมกับไอโซโทปของธาตทุ ใี่ ชในการหาอายุ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 2) พจิ ารณาขอมูลการหาอายุสัมบรู ณทีส่ ืบคน ได แลวนาํ มาสรุปเปนหลกั การหาอายุสมั บรู ณในรปู แบบ แผนภาพ หรอื infographic โดยจัดทาํ อยใู นรูปแบบโปสเตอร (# ครูประเมินนกั เรียน โดยใชแ บบประเมินช้ินงาน #) 3) ครแู ละนักเรยี นรวมกันพิจารณาแผนภาพ หรอื infographic เพื่อชว ยกนั ตรวจสอบขอ มลู 5. ครูใหส ุม นักเรยี นบางกลุมใหอ อกมานาํ เสนอโปสเตอรข องกลุมตนเอง อธิบายความรู (Explain) 6. ครูและนกั เรยี นรวมกันอภปิ รายผลการทาํ กจิ กรรม โดยครตู ้งั คาํ ถามเพือ่ ใหนกั เรยี นแตล ะกลุม รวมกันแสดง ความคิดเห็น ดังนี้ * ไอโซโทปของธาตุที่ใชหาอายขุ องโลกคือธาตุใด แนวตอบ รบู ิเดยี ม * นกั วทิ ยาศาสตรคาํ นวณหาอายุสัมบูรณไ ดอ ยางไร แนวตอบ คาํ นวณจากคร่ึงชีวติ ของธาตทุ พ่ี บในหิน * ถาหากหนิ ท่ีตองการหาอายุ ไมมีไอโซโทปของธาตุที่สามารถจะหาอายสุ ัมบรู ณได จะมวี ธิ กี ารหาอายุของ หนิ นั้นไดอ ยา งไร แนวตอบ ใชหลกั การหาอายเุ ปรียบเทียบ หรือซากดึกดาํ บรรพด ัชนี ªèÑÇâÁ§·èÕ 6 ¢Ñé¹ÊÃØ» ขยายความเขาใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรียนรว มกันอภิปรายเพ่อื ใหไดข อ สรุปเกยี่ วกบั อายุทางธรณวี ทิ ยา โดยอาจมีแนวทางสรุป ดังน้ี “อายุทางธรณวี ิทยา คอื ชวงเวลาที่เวลาทีซ่ ากดกึ ดาํ บรรพหรอื เหตุการณท างธรณีวทิ ยาไดปรากฏหรือ เกดิ ขึ้น สามารถแสดงไดทง้ั อายสุ มบูรณและอายุเปรียบเทยี บ ซ่งึ อายุสมั บรู ณ คือ อายขุ องหิน ซากดึกดําบรรพ หรอื เหตุการณท างธรณีวทิ ยาท่รี ะบุเปน จํานวนป โดยคํานวณไดจากไอโซโทปของธาตุ และอายุเปรยี บเทยี บ คอื อายขุ อง หิน ซากดึกดาํ บรรพหรือเหตกุ ารณทางธรณีวทิ ยาเมื่อเทยี บกบั หนิ ซากดึกดําบรรพ หรือเหตุการณท างธรณีวทิ ยาอน่ื ๆ โดยไมบ อกเปน จํานวนป” 2. ครใู หนักเรียนแบงกลมุ กลมุ ละ 3 คน ทาํ ใบงานท่ี 2.1 โดยสรปุ ความรู เร่ือง การหาอายุทางธรณวี ทิ ยา ในรูป ของแผนผงั ความคิดใหม ีความถกู ตองและนา สนใจ 3. ครูใหทกุ กลมุ นาํ เสนอผลงานของกลุม ตนเองหนาช้ันเรียน เมือ่ นักเรยี นทกุ กลุมนาํ เสนอเสร็จแลว ครกู ับ นักเรยี นรว มกนั รวมกนั อภปิ รายความรทู ่ไี ดอีกครง้ั (# ครูประเมินนกั เรยี น โดยใชแ บบประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน #) 4. ครูมอบหมายการบานใหน ักเรียนทาํ แบบฝก หดั เรอ่ื ง การหาอายทุ างธรณวี ิทยา จากแบบฝกหัดรายวชิ า เพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตรและอวกาศ ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 4 เลม 1 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 ลําดับชน้ั หิน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมินผล โดยการสังเกตการตอบคาํ ถาม การรวมกนั ทาํ ผลงาน และการนาํ เสนอผลงาน 2. ครปู ระเมนิ การปฏบิ ัติการจากการทาํ ใบงานที่ 2.1 เรื่อง การหาอายุทางธรณวี ทิ ยา 3. ครตู รวจสอบผลการทําแบบฝกหดั 6. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑการประเมิน 6.1 ประเมินระหวางการจดั - พจิ ารณาตามผลที่ไดจริง - ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ กิจกรรมการเรียนรู - พจิ ารณาตามผลท่ีไดจรงิ 1) การวางตัวของหนิ - ตรวจใบกจิ กรรมที่ 2.1 - ใบกจิ กรรมที่ 2.1 - ระดบั คุณภาพ 2 ผานเกณฑ - พจิ ารณาตามผลท่ีไดจรงิ ตะกอน - ประเมนิ การปฏบิ ตั ิ - แบบประเมนิ การ - ระดับคณุ ภาพ 2 ผานเกณฑ กจิ กรรม ปฏบิ ัติกจิ กรรม - ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ รอยละ 60 ผา นเกณฑ 2) การตดั ผานของ - ตรวจใบกิจกรรมท่ี 2.2 - ใบกจิ กรรมท่ี 2.2 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา นเกณฑ รอยเลอื่ นและหิน - ประเมนิ การปฏบิ ัติ - แบบประเมินการ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผานเกณฑ อคั นี กจิ กรรม ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผา นเกณฑ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา นเกณฑ 3) รอยช้ันไมต อเนื่อง - ตรวจใบกิจกรรมท่ี 2.3 - ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 - ประเมนิ การปฏบิ ัติ - แบบประเมินการ กจิ กรรม ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 4) อายสุ ัมบรู ณของหนิ - โปสเตอรห ลักการหา - แบบประเมนิ ช้นิ งาน อายุสัมบรู ณ 5) การหาอายุทาง - ตรวจใบงานท่ี 2.1 - ใบงานที่ 2.1 ธรณีวิทยา 6) การนาํ เสนอผลงาน - ประเมนิ การนาํ เสนอ - แบบประเมนิ การ ผลงาน นาํ เสนอผลงาน 7) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ทํางานรายบุคคล การทาํ งานรายบคุ คล การทํางานรายบคุ คล 8) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทาํ งานกลุม การทาํ งานกลุม การทาํ งานกลมุ 9) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน อันพึงประสงค ใฝเรยี นรู และมุงมั่น คุณลกั ษณะ ในการทํางาน อันพึงประสงค â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู 7.1 ส่ือการเรียนรู 1) หนังสือเรียน รายวิชาเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 เลม 1 หนว ยการ เรยี นรูท่ี 4 : ลําดบั ชัน้ หิน 2) แบบฝกหัดรายวิชาเพม่ิ เติม โลก ดาราศาสตรและอวกาศ ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 4 เลม 1 หนว ยการเรยี นรู ที่ 4 : ลาํ ดบั ชนั้ หนิ 3) ใบงานที่ 2.1 เร่ือง การหาอายุทางธรณีวทิ ยา 4) ใบกิจกรรมท่ี 2.1 เรือ่ ง การวางตัวของหนิ ตะกอน 5) ใบกจิ กรรมท่ี 2.2 เรอ่ื ง การตดั ผา นของรอยเล่ือนและหินอัคนี 6) ใบกิจกรรมท่ี 2.3 เรื่อง รอยชั้นไมตอ เนื่อง 7) วสั ด-ุ อปุ กรณท ่ีใชใ นกิจกรรมการวางตัวของหนิ ตะกอน 8) วัสด-ุ อุปกรณท ใ่ี ชใ นกจิ กรรมการตดั ผา นของรอยเลือ่ นและหินอคั นี 9) วสั ด-ุ อุปกรณท ีใ่ ชในกิจกรรมรอยชน้ั ไมตอ เนื่อง 10) วัสด-ุ อุปกรณท ีใ่ ชใ นกิจกรรมอายสุ ัมบูรณข องหนิ 7.2 แหลงการเรียนรู 1) หองเรียน 2) หองสมดุ 3) บรเิ วณโรงเรยี น 4) แหลง ขอ มูลสารสนเทศ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 8. การบรู ณาการตามจดุ เนน ของโรงเรียน หลกั ปรชั ญา ครู นกั เรยี น ของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอประมาณ พอดีดา นเทคโนโลยี พอดีดา นจติ ใจ รูจักใชเ ทคโนโลยีมาผลิตสอื่ ที่ มีจิตสํานกึ ทด่ี ี จิตสาธารณะรว ม 2. ความมีเหตุผล อนรุ ักษ ทรพั ยากรธรรมชาติและ เหมาะสมและสอดคลองเน้ือหาเปน ส่งิ แวดลอม ประโยชนตอ นกั เรียนและพัฒนาจาก ภูมปิ ญญาของนกั เรยี น ศกึ ษาหาความรดู วยตนเอง เพ่อื คน หา ยึดถือการประกอบอาชพี ดว ยความ คําตอบเพอื่ ใหห ลุดพนจากความไมรู ถูกตอ ง สจุ รติ 3. มีภูมคิ มุ กนั ในตวั ทด่ี ี ภูมปิ ญญา : มีความรู รอบคอบ และ ภมู ิปญ ญา : มีความรู รอบคอบ 4. เงอ่ื นไขความรู ระมดั ระวงั รบั ผิดชอบ ระมัดระวงั สรางสรรค ความรอบรู เรื่อง การหาอายุช้นั หิน 5. เง่ือนไขคณุ ธรรม ความรอบรู เรอ่ื ง การหาอายชุ น้ั หิน ในการปฏบิ ัติกิจกรรมตามใบกจิ กรรม ท่ี 2.1 – 2.3 และใบงานท่ี 2.1 ความซ่ือสตั ยสจุ รติ และอดทน มี ความเพียร ใชส ตปิ ญญาในการดําเนนิ มคี ณุ ธรรม ซอ่ื สตั ยส ุจรติ และอดทน ชวี ิต ใชส ตปิ ญญาในการเรยี นและดาํ เนนิ ชีวิต สวนพฤกษศาสตรโ รงเรียน ครู นักเรียน การวางตัวของชนั้ หนิ จดั กิจกรรมการเรียนรู ใหน ักเรยี นอธบิ าย นกั เรยี นศกึ ษาหาขอ มูลบริเวณทไี่ ดร ับ - การวางตวั ของช้นั หิน ส่งิ แวดลอ ม (กาํ หนดบรเิ วณท่ไี ดรับมอบหมาย) มอบหมาย เพือ่ มารว มอธิบาย อภิปรายใน หองเรยี น การวางตวั ของชน้ั หิน ครู - การวางตัวของชนั้ หิน จัดกิจกรรมการเรียนรู ใหนักเรียนอธบิ าย - การวางตัวของชนั้ หิน นักเรียน (กําหนดบรเิ วณที่ไดรับมอบหมาย) นักเรยี นศกึ ษาหาขอมูลบริเวณที่ไดร ับ มอบหมาย เพอื่ มารวมอธบิ าย อภิปรายใน หองเรยี น - การวางตัวของช้นั หนิ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู หนว ยการเรียนรูท ่ี 4 เรือ่ ง ลาํ ดบั ช้ันหิน แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เรอื่ ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÇÕ Ô·ÂÒ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 4 ครผู สู อน นางสาวณัฐธนญั า บุญถงึ ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาทใ่ี ช 6 ชัว่ โมง (ชั่วโมงท่ี 1-2) ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู ขอคนพบระหวา ง ปญ หาทพี่ บ แนวทางแกไ ข ท่มี กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู สือ่ ประกอบการเรยี นรู พฤตกิ รรม/การมีสว นรว มของ นักเรียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครูผจู ดั กิจกรรมการเรียนรู (นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถงึ ) ตําแหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบนั ทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู หนว ยการเรียนรทู ่ี 4 เร่ือง ลําดบั ชั้นหิน แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เรอื่ ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÇÕ Ô·ÂÒ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 4 ครผู สู อน นางสาวณฐั ธนญั า บญุ ถงึ ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาทใ่ี ช 6 ชัว่ โมง (ชั่วโมงท่ี 3-4) ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู ขอคนพบระหวา ง ปญ หาทพ่ี บ แนวทางแกไ ข ท่มี กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู สือ่ ประกอบการเรยี นรู พฤตกิ รรม/การมีสว นรว มของ นักเรียน ลงชื่อ …..........………….......................…….. ครูผจู ดั กิจกรรมการเรียนรู (นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถงึ ) ตําแหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู หนว ยการเรียนรูท ่ี 4 เรือ่ ง ลาํ ดบั ชั้นหิน แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เรอื่ ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÇÕ Ô·ÂÒ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 4 ครผู สู อน นางสาวณัฐธนญั า บุญถงึ ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาทใ่ี ช 6 ชัว่ โมง (ชั่วโมงท่ี 5-6) ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู ขอคนพบระหวา ง ปญ หาทพ่ี บ แนวทางแกไ ข ท่มี กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู สือ่ ประกอบการเรยี นรู พฤตกิ รรม/การมีสว นรว มของ นักเรียน ลงชื่อ …..........………….......................…….. ครูผจู ดั กิจกรรมการเรียนรู (นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถงึ ) ตําแหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠˹Nj ¡ÒÃàÃÕ¹ÌٷÕè 4 á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ·èÕ 2 â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 เรอ่ื ง การวางตวั ของหินตะกอน หนวยการเรยี นรูที่ 4 เร่ือง ลาํ ดับช้นั หิน แผนจัดการเรยี นรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÕÇ·Ô ÂÒ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 *********************** คําชแ้ี จง : ใหนักเรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมตามขน้ั ตอนท่ีให แลวบันทกึ ผลทไ่ี ดจากการสืบคน ชื่อ-สกุลสมาชิกภายในกลุม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ช้ีแจง : ใหนกั เรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามขัน้ ตอนที่ให แลวบันทึกผลท่ีไดพรอ มกับสรุปและอภปิ รายผลท่ีไดการทาํ กิจกรรม ข้นั ตอนการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 1) นาํ ขวดน้าํ พลาสติกใสขนาด 1 ลิตร ตัดสว นบนทางดา นปากขวดออก 2) ใสน ํา้ ลงไปในขวดประมาณคร่ึงหนงึ่ ของขวด 3) ตักกรวดขนาดเล็กใสล งไปในขวดจนมีความหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร 4) ตกั ทรายหยาบใสล งไปในขวดจนชัน้ ทรายมีความหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร 5) ตกั ทรายละเอยี ดใสล งไปในขวดจนชั้นทรายมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 6) วาดภาพการวางตัวของกรวด ทรายหยาบและทรายละเอยี ด บันทกึ ผลการทาํ กจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปและอภปิ รายผลการทํากิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 à©Å ใบกิจกรรมท่ี 2.1 เรือ่ ง การวางตวั ของหินตะกอน หนวยการเรยี นรทู ่ี 4 เรือ่ ง ลําดบั ชั้นหิน แผนจดั การเรียนรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÇÕ Ô·ÂÒ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 4 *********************** คาํ ชแ้ี จง : ใหน ักเรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมตามข้นั ตอนทใ่ี ห แลว บันทกึ ผลท่ีไดจากการสืบคน ชือ่ -สกุลสมาชกิ ภายในกลมุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ช้ีแจง : ใหน ักเรยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมตามขนั้ ตอนทใ่ี ห แลว บนั ทึกผลที่ไดพรอ มกับสรุปและอภิปรายผลท่ีไดการทาํ กิจกรรม ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1) นําขวดนํ้าพลาสติกใสขนาด 1 ลิตร ตัดสวนบนทางดา นปากขวดออก 2) ใสนา้ํ ลงไปในขวดประมาณครึง่ หน่งึ ของขวด 3) ตักกรวดขนาดเล็กใสลงไปในขวดจนมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 4) ตกั ทรายหยาบใสล งไปในขวดจนชนั้ ทรายมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 5) ตักทรายละเอียดใสลงไปในขวดจนชัน้ ทรายมคี วามหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร 6) วาดภาพการวางตัวของกรวด ทรายหยาบ และทรายละเอียด บันทกึ ผลการทาํ กิจกรรม ช้นั กรวดจะกระจายอยใู นแนวระดับและวางตัวอยูช ั้นลางสดุ ถดั มาเปน ชน้ั ทรายหยาบ และชน้ั ทรายละเอียดวางตวั อยดู า นบนสุด มกี ารกระจายตวั เหมอื นกบั ชัน้ กรวด สรุปและอภิปรายผลการทํากิจกรรม ชน้ั กรวดและทรายเปรียบไดกับชนั้ หนิ ตะกอน ซึง่ ช้นั ทอี่ ยดู า นลางสุดจะมอี ายมุ ากที่สุด และชั้นที่อยบู นสดุ จะ มอี ายนุ อยท่สี ดุ ถา หากไมม กี ารพลกิ กลบั (ขนึ้ อยกู บั ดุลยพินจิ ผูส อน โดยพิจารณาจากผลกิจกรรมทน่ี กั เรยี นทําไดจรงิ ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบกจิ กรรมที่ 2.2 เรือ่ ง การตัดผานของรอยเลอ่ื นและหินอัคนี หนวยการเรียนรูที่ 4 เรอ่ื ง ลาํ ดับชนั้ หนิ แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÕÇ·Ô ÂÒ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 *********************** คําชีแ้ จง : ใหนกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมตามขัน้ ตอนทใ่ี ห แลวบันทึกผลที่ไดจากการสืบคน ชอ่ื -สกลุ สมาชิกภายในกลมุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ช้แี จง : ใหน กั เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตามขั้นตอนท่ีให แลวบันทกึ ผลทไ่ี ดพรอมกบั สรปุ และอภิปรายผลทีไ่ ดก าร ทาํ กจิ กรรม ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติกจิ กรรม 1) ปน ดนิ น้าํ มันใหเ ปน แผน ขนาดประมาณ กวาง 5 เซนตเิ มตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนตเิ มตร ใหแตละ แผนมีสีตา งกัน จํานวน 3 แผน 2) นาํ ดนิ นํา้ มันท้ัง 3 แผนวางซอ นกัน แลว กดใหต ิดกันแนน 3) ใชไมบรรทัดตัดผา นดินน้าํ มนั ท้ัง 3 ชั้น สังเกตและบันทึกผล 4) ทําซาํ้ ตามขั้นตอนขอท่ี 1 – 3 แลว ปนดนิ นา้ํ มนั สีท่ตี า งกันกบั ชั้นดินนา้ํ มัน 5) นาํ ดนิ นาํ้ มนั ไปแทรกไวตรงกลางระหวางชนั้ ดนิ น้ํามนั ที่ถูกตดั ขาด แลวกดใหต ิดกนั แนน 6) วาดภาพลกั ษณะของชั้นดินนํา้ มนั หลังการทํากจิ กรรม บนั ทกึ ผลการทํากิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปและอภิปรายผลการทาํ กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 à©Å ใบกจิ กรรมที่ 2.2 เรือ่ ง การตดั ผานของรอยเลื่อนและหินอัคนี หนว ยการเรยี นรูที่ 4 เรอ่ื ง ลําดบั ชนั้ หิน แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÇÕ ·Ô ÂÒ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 4 *********************** คําชแ้ี จง : ใหนักเรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามขนั้ ตอนทใี่ ห แลวบันทกึ ผลท่ีไดจากการสืบคน ชอื่ -สกุลสมาชิกภายในกลุม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ชี้แจง : ใหน กั เรยี นปฏิบัตกิ จิ กรรมตามขัน้ ตอนทีใ่ ห แลวบันทึกผลทไ่ี ดพรอมกับสรุปและอภิปรายผลท่ีไดการทํา กจิ กรรม ขนั้ ตอนการปฏิบัตกิ จิ กรรม 1) ปน ดินนํ้ามันใหเปนแผน ขนาดประมาณ กวา ง 5 เซนตเิ มตร ยาว 10 เซนตเิ มตร สงู 1 เซนตเิ มตร ใหแตละ แผนมสี ีตา งกนั จาํ นวน 3 แผน 2) นาํ ดินน้ํามนั ทง้ั 3 แผนวางซอ นกัน แลวกดใหตดิ กนั แนน 3) ใชไมบ รรทดั ตดั ผานดนิ นาํ้ มนั ทงั้ 3 ชั้น สังเกตและบันทึกผล 4) ทําซํ้าตามขนั้ ตอนขอท่ี 1 – 3 แลว ปน ดินน้าํ มนั สที ่ตี า งกันกบั ชน้ั ดนิ นาํ้ มัน 5) นําดินน้ํามนั ไปแทรกไวต รงกลางระหวา งชน้ั ดินน้าํ มันที่ถูกตัดขาด แลวกดใหตดิ กนั แนน 6) วาดภาพลกั ษณะของชัน้ ดินน้ํามนั หลังการทาํ กิจกรรม บันทึกผลการทาํ กจิ กรรม ดินน้าํ มนั ท้งั สามแผน ถูกไมบรรทัดตดั ผา นเกิดรอ งรอยท่ีแบงชัน้ ดินนา้ํ มันออกเปน สองสวน ดนิ น้ํามนั ที่แยกออกเปนสองสว น มีดนิ นา้ํ มนั ท่มี สี ีตางกันแทรกเขา มาตรงกลาง สรปุ และอภิปรายผลการทํากิจกรรม ดินนาํ้ มันเปรียบเทียบไดก บั ชน้ั หนิ ตะกอน รอยตัดจากไมบ รรทดั เปรยี บเทยี บไดกับรอยเล่ือน และ ดินนํา้ มนั ตางสีท่ีแทรกอยูในช้นั ดนิ น้าํ มันเปรียบเทียบไดกบั หนิ อคั นีท่ีแทรกเขามาในชั้นหินตะกอน ซ่งึ รอยเลื่อนหรือหิน อัคนีที่ตัดผานช้ันหินตะกอนจะมอี ายุนอ ยกวาช้นั หินตะกอนนัน้ (ข้ึนอยูกบั ดุลยพินิจผูสอน โดยพิจารณาจากผลกจิ กรรมท่ีนักเรียนทําไดจ ริง) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบกิจกรรมท่ี 2.3 เรอ่ื ง รอยชั้นไมตอ เนอื่ ง หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 เรือ่ ง ลาํ ดับชนั้ หนิ แผนจดั การเรียนรทู ่ี 2 เร่อื ง ¡ÒÃËÒÍÒÂØ·Ò§¸Ã³ÇÕ Ô·ÂÒ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 *********************** คาํ ชี้แจง : ใหน ักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขนั้ ตอนทีใ่ ห แลวบันทกึ ผลทีไ่ ดจากการสืบคน ชอ่ื -สกุลสมาชิกภายในกลุม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คําชีแ้ จง : ใหน ักเรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามข้นั ตอนทีใ่ ห แลว บนั ทกึ ผลที่ไดพรอ มกับสรุปและอภิปรายผลทไ่ี ดการทํา กิจกรรม ขัน้ ตอนการปฏบิ ัติกจิ กรรม 1) ปน ดินนํ้ามันใหเปนแผนขนาดประมาณ กวา ง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สงู 1 เซนตเิ มตร ใหแ ตละ แผนมีสตี า งกัน จํานวน 5 แผน 2) นําดินนาํ้ มนั 3 แผนวางซอ นกนั แลวกดใหต ดิ กนั แนน 3) ใชไมบ รรทดั ขดี ดา นบนของชัน้ ดนิ นํา้ มนั ใหเปน รอยบากลึกลงไปในชั้นดินนาํ้ มัน 4) นาํ แผนดินนํา้ มนั อีก 2 แผนวางทับช้ันดนิ มัน แลวกดใหต ดิ กันแนน 5) วาดภาพลักษณะของชัน้ ดินนา้ํ มันหลงั การทาํ กิจกรรม บนั ทกึ ผลการทาํ กจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ และอภิปรายผลการทํากิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 à©Å ใบกจิ กรรมที่ 2.3 เร่ือง รอยชั้นไมตอ เน่ือง หนวยการเรียนรูท่ี 4 เรือ่ ง ลําดบั ช้นั หนิ แผนจดั การเรียนรูท่ี 2 เรื่อง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÕÇÔ·ÂÒ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 *********************** คาํ ชีแ้ จง : ใหนกั เรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมตามขน้ั ตอนทใี่ ห แลวบันทึกผลที่ไดจ ากการสบื คน ช่อื -สกลุ สมาชิกภายในกลมุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ชแ้ี จง : ใหน ักเรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมตามข้นั ตอนทีใ่ ห แลวบันทกึ ผลทไี่ ดพรอ มกบั สรุปและอภิปรายผลทไ่ี ดก าร ทาํ กิจกรรม ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 1) ปน ดินน้าํ มันใหเ ปน แผนขนาดประมาณ กวา ง 5 เซนตเิ มตร ยาว 10 เซนตเิ มตร สงู 1 เซนติเมตร ใหแ ตล ะ แผน มสี ตี างกัน จํานวน 5 แผน 2) นาํ ดินนาํ้ มัน 3 แผน วางซอ นกนั แลวกดใหตดิ กันแนน 3) ใชไมบรรทดั ขีดดา นบนของชัน้ ดนิ น้ํามนั ใหเ ปนรอยบากลึกลงไปในช้ันดนิ น้าํ มัน 4) นําแผนดนิ น้ํามันอกี 2 แผน วางทบั ชั้นดนิ มัน แลว กดใหติดกนั แนน 5) วาดภาพลกั ษณะของชนั้ ดนิ น้าํ มันหลังการทํากจิ กรรม บนั ทึกผลการทาํ กิจกรรม ดนิ น้าํ มนั เปรยี บเทียบไดกับชน้ั หนิ ตะกอน รอยตัดจากไมบ รรทดั เปรยี บเทียบไดก บั รอยเลอ่ื น และ ดินนาํ้ มนั ตา งสที ีแ่ ทรกอยูในชน้ั ดนิ น้ํามันเปรียบเทยี บไดกับ หินอคั นที ี่แทรกเขามาในชั้นหินตะกอน ซงึ่ รอยเล่อื นหรือหิน อคั นีทตี่ ัดผานช้ันหินตะกอนจะมีอายนุ อยกวาช้ันหนิ ตะกอนน้นั สรปุ และอภิปรายผลการทาํ กิจกรรม ดินน้ํามันชดุ แรกเปรียบเทียบไดก บั การสะสมตวั ของหินตะกอนชุดทหี่ น่งึ หลงั จากนั้นมกี ารหยดุ การสะสมตัว ไปชว งเวลาหนง่ึ และรอยบากจากไมบ รรทัดเปรียบเทยี บไดกบั การกรอ น และในเวลาตอมา จะมีดินนาํ้ มันชดุ ท่ีสองซง่ึ เปรยี บเทยี บไดก บั หนิ ตะกอนชดุ ที่สองมาปดทับดา นบน รอ งรอยระหวางดนิ น้าํ มนั ทัง้ สองชุดคอื รอยชั้นไมตอ เน่อื ง ซึ่ง แสดงถึงชวงเวลาท่มี ีการหยุดสะสมตวั แสดงวาหนิ ตะกอนชดุ ลางจะมอี ายุแกกวา หินตะกอนท่อี ยดู า นบน และสะสม ตัวไมตอ เนอ่ื งกนั (ข้ึนอยกู ับดลุ ยพนิ ิจผูสอน โดยพิจารณาจากผลกิจกรรมทนี่ ักเรียนทาํ ไดจรงิ ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบงานที่ 2.1 เรื่อง การหาอายทุ างธรณีวทิ ยา หนวยการเรียนรูท ี่ 4 เรอื่ ง ลําดบั ช้นั หิน แผนจัดการเรียนรูที่ 2 เรื่อง ¡ÒÃËÒÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÕÇ·Ô ÂÒ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 *********************** คําชแ้ี จง : ใหน กั เรยี นสรปุ ความรเู ก่ยี วกบั การหาอายทุ างธรณีวทิ ยาในรปู แบบของแผนผงั ความคิด และนาํ เสนอ ผลงาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 à©Å ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง การหาอายุทางธรณีวิทยา หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 เร่อื ง ลาํ ดับชัน้ หนิ แผนจดั การเรียนรทู ่ี 2 เรอื่ ง ¡ÒÃËÒÍÒÂØ·Ò§¸Ã³ÇÕ Ô·ÂÒ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 4 ********************* คําชีแ้ จง : ใหน ักเรยี นสรปุ ความรูเกยี่ วกบั การหาอายทุ างธรณีวิทยาในรูปแบบของแผนผังความคิด และนาํ เสนอ ผลงาน ÍÒÂ·Ø Ò§¸Ã³ÇÕ ·Ô ÂÒ ÍÒÂàØ »ÃÕºà·Õº ÍÒÂÊØ ÁÑ ºÙó ËÅ¡Ñ ã¹¡ÒÃÅÒí ´ÑºªÑ¹é Ë¹Ô ºÍ¡à»š¹¨íҹǹ»‚â´Â - ¡®¡ÒÃÅíÒ´ºÑ ª¹Ñé ¤íҹdz¨Ò¡¤ÃÖ§è ªÕÇµÔ ¢Í§ - ¡®¤ÇÒÁÊÑÁ¾Ñ¹¸· Õµè Ñ´¡Ñ¹ äÍâ«â·»¢Í§¸ÒµØ હ‹ - ¡®¡ÒÃÊº× ÊÑµÇªÒµÔ â¾á·Êà«ÂÕ Á ú٠Ôà´ÂÕ Á - ËÅÑ¡àÍ¡ÃÙ»¹ÔÂÁ ¤ÒϺ͹ ÂàÙ Ãà¹ÕÂÁ - Ãͪé¹Ñ äÁ‹µÍ‹ à¹èÍ× § - ¡ÒÃà·ÕºÊÑÁ¾¹Ñ ¸ª éÑ¹Ë¹Ô (ขนึ้ อยูกบั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู อน) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 แผนการจดั การเรยี นรู หนวยการเรียนรูท ี่ 4 เร่ือง ลาํ ดบั ชั้นหนิ แผนจัดการเรียนรูท่ี 3 เรอื่ ง ÁÒµÃҸó¡Õ ÒÅ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปก ารศึกษา 2563 นํา้ หนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ชั่วโมง/สัปดาห เวลาที่ใชในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู 2 ชวั่ โมง *********************************** 1. สาระสําคัญ (ความเขาใจทคี่ งทน) มาตราธรณีกาล คือ การลาํ ดับอายทุ างธรณวี ิทยาตั้งแตโลกถอื กําเนดิ ข้ึน ซ่งึ มีการเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยา และสง่ิ มีชีวิตมากมาย เพ่ือความเขาใจชดั เจน นักวิทยาศาสตรจ ึงจัดแบงชวงเวลาทางธรณวี ิทยาออกเปน บรมยุค มหายุค ยคุ สมัย ชวงอายุและรนุ ตามลําดับ 2. มาตรฐานการเรียนรู/ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนร/ู เปา หมายการเรียนรู ผลการเรียนรู 7. วเิ คราะหหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาท่พี บในปจ จบุ นั และอธบิ ายลําดบั เหตกุ ารณท างธรณีวทิ ยาในอดีต จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. อธบิ ายหลกั การ และวิธีการจดั ทาํ มาตราธรณกี าล (K) 2. สบื คนขอ มูลเกย่ี วกบั เหตุการณท างธรณีวิทยาทส่ี าํ คญั ในชวงเวลาทางธรณวี ิทยา (P) 3. สนใจใฝร ูในการศกึ ษา (A) 3. สาระการเรียนรู สาระการเรยี นรูเ พมิ่ เติม สาระการเรียนรทู องถิน่ ขอมูลจากอายุเปรียบเทียบและอายสุ ัมบูรณ สามารถ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา นํามาจดั ทาํ มาตราธรณีกาล คอื การลําดบั ชว งเวลาของโลก ต้ังแตเกิดจนถึงปจจุบันแบง ออกเปน บรมยุค มหายุค ยุค และสมัย ซึ่งแตละชวงเวลามีส่งิ มีชีวิต สภาพแวดลอมและ เหตกุ ารณท่ีเกดิ ขึ้นแตกตางกนั â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 4. สมรรถนะสําคญั ของนักเรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค 1. มวี ินยั สมรรถนะสําคญั ของนกั เรยี น 2. ใฝเรยี นรู 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 3. มงุ ม่นั ในการทาํ งาน 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 ทกั ษะการสังเกต 2.2 ทกั ษะการสาํ รวจคน หา 2.3 ทกั ษะการวิเคราะห 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ิต 5. กจิ กรรมการเรยี นรู แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู 5Es (5Es Instructional Model) ªÑÇè âÁ§·èÕ 1 ¢¹Ñé ¹íÒà¢ÒŒ ʺً ·àÃÂÕ ¹ กระตุน ความสนใจ (Engage) 1. ใหนักเรียนรว มกนั อภิปรายวา มาตราธรณกี าลในความคิดของนักเรยี นเปนอยา งไร 2. ครูต้งั คําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียนชวยกนั ระดมความคิดในการตอบคาํ ถาม * ถาตองการทราบวา เหตุการณทางธรณีวทิ ยาใด เกดิ ข้นึ กอ นหรอื หลงั นักเรียนจะทําอยางไร แนวตอบ นําขอ มูลอายทุ างธรณวี ทิ ยาของเหตุการณแ ตละเหตุการณมาเรยี งลําดับ * นักวิทยาศาสตรศ ึกษาเหตกุ ารณท ีเ่ กดิ ขน้ึ ในอดตี ไดอ ยา งไร แนวตอบ ศึกษาไดจากซากดกึ ดําบรรพ รองรอยท่ปี รากฏอยูในหนิ หรือหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาอ่ืน ๆ * มาตราธรณกี าลมคี วามสําคัญอยา งไร แนวตอบ ชวยใหเ ขาใจลําดับเหตุการณทางธรณีวทิ ยานับต้งั แตโ ลกถอื กําเนดิ ข้นึ เมอื่ ประมาณ 4,500 ลา นปก อ นจนถงึ ปจจุบัน 3. ครถู ามคาํ ถาม prior knowledge จากหนงั สือเรยี นรายวิชาเพม่ิ เติม โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ชั้น มธั ยมศึกษาปท่ี 4 เลม 1 หนา 65 วา นกั เรยี นรจู ักยุคตาง ๆ ทางธรณบี างหรือไม อยางไร แนวตอบ นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง เชน ยคุ จแู รสสกิ ซ่ึงเปนชือ่ ของภาพยนตรท ี่มเี นื้อหา เก่ยี วของกบั ไดโนเสารหรือยุคอ่นื ๆ ท่นี ักเรยี นรูจัก â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ¢¹éÑ ¨´Ñ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ สํารวจคน หา (Explore) 1. ใหน กั เรียนสบื คน ขอ มูลเกี่ยวกับการจัดทาํ มาตราธรณีกาล แลว ครูถามคําถามวา * มาตราธรณีกาล จัดทําขน้ึ ดวยวธิ กี ารใด แนวตอบ นําขอมลู อายทุ างธรณีวทิ ยาของหิน ซากดึกดําบรรพ และเหตกุ ารณท างธรณวี ิทยาอ่ืน ๆ มา จัดเรียงโดยเรมิ่ ตั้งโลกถอื กําเนิดขนึ้ จนถึงปจ จบุ ัน โดยแบง ชวงเวลา เปนบรมยคุ มหายุค ยุค สมยั ชวงอายุ และรนุ ตามลําดบั * นกั วทิ ยาศาสตรใ ชหลกั การใดในการแบงชว งเวลาทางธรณีกาล แนวตอบ นักวทิ ยาศาสตรใ ชการเปลย่ี นแปลงโครงสรางของโลก และการเปล่ียนแปลงของส่งิ มชี วี ติ ทงั้ การเปลี่ยนแปลงครงั้ ใหญแ ละยอ ยในการแบง ชวงอายุทางธรณวี ิทยา เชน การสูญพนั ธคร้ังของสตั วท ะเลในยคุ เพอร เมียน และการสูญพันธขุ องไดโนเสารในยุคครีเทเชยี ส 2. ใหนกั เรียนสืบคนื ขอ มูลเก่ียวกบั เหตกุ ารณท างธรณีวทิ ยาทเี่ กิดข้ึนในมาตราธรณกี าล เพ่ือเช่ือมโยงเขา สู กิจกรรมสาํ รวจมาตราธรณกี าล 3. ครูใหน ักเรียนนับจาํ นวน 1-5 วนไปเรอื่ ย ๆ จนครบทกุ คน เพ่อื แบงนกั เรียนออกเปนกลมุ กลมุ ละ 5 คน โดย คนท่ีนับจํานวนเดยี วกนั ใหอยกู ลมุ เดียวกัน 4. ครูแจง จดุ ประสงคข องการทํากิจกรรม จากนัน้ ใหนักเรยี นอธบิ ายเหตกุ ารณท างธรณีวทิ ยาทเ่ี กดิ ขน้ึ ในมาตรา ธรณีกาล โดยทาํ กิจกรรมสาํ รวจมาตราธรณีกาล 5. ครูใชร ปู แบบการเรียนรูแบบรวมมือมาจัดกระบวนการเรยี นรู โดยกาํ หนดใหส มาชกิ แตละคนภายในกลมุ มี บทบาทหนา ทีข่ องตนเอง ดังน้ี สมาชกิ คนที่ 1-2 ทําหนา ทเี่ ตรียมวัสดอุ ปุ กรณ สมาชิกคนที่ 3-4 ทาํ หนาที่อานวธิ กี ารทํากจิ กรรม และนาํ มาอธบิ ายใหส มาชิกภายในกลมุ ฟง สมาชิกคนที่ 5 ทําหนา ท่บี ันทึกผลการทดลอง (# ครปู ระเมนิ นักเรยี น โดยใชแ บบประเมินการทาํ งานกลุม #) 6. ใหน ักเรียนแตละกลมุ ทาํ กิจกรรมตามขั้นตอน ดงั นี้ 1) พิจารณาภาพส่งิ มีชีวติ และขอ มูลเหตกุ ารณทางธรณวี ทิ ยา รวมถึงขอ มูลตา ง ๆ ทเี่ กีย่ วของ 2) จดั เรียงขอมลู ส่งิ มชี วี ติ และเหตุการณท างธรณวี ิทยา แลวนํามาจดั ทาํ เปน มาตราธรณีกาลในรปู แบบ แผนภาพ หรอื infographic 3) ครแู ละนักเรียนรวมกันพจิ ารณาแผนภาพ หรือ infographic เพ่ือชวยกนั ตรวจสอบขอ มลู (# ครปู ระเมินนักเรยี น โดยใชแบบประเมนิ ชิน้ งาน #) 7. ใหน กั เรียนแตละกลมุ สง ตวั แทนมานําเสนอผลการทาํ กิจกรรม 8. ครูและนักเรียนรวมกนั อภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยครตู ง้ั คาํ ถามเพือ่ ใหน ักเรยี นแตล ะกลมุ รวมกันแสดง ความคดิ เห็น ดังนี้ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 * สง่ิ มีชวี ติ บนโลก มกี ารสูญพนั ธคุ รั้งใหญกี่ครง้ั อะไรบาง แนวตอบ 5 คร้ัง ไดแก ชว งยคุ ออโดวีเชียนถงึ ยคุ ไซลเู รียน ชว งปลายยคุ ดีโวเนียน ชวงยคุ เพอรเมียน ถึงยคุ ไทรแอสสิก ชว งยคุ ไทรแอสสิกถงึ ยุคจแู รสสิก ชวงยุคครีเทเชยี สถึงยคุ พาลโี อจนี ) * เหตกุ ารณก ารสูญพนั ธุในชว งยุคเพอรเมยี นถงึ ยุคไทรแอสสิกเปนอยา งไร นาจะเกดิ จากสาเหตุใด แนวตอบ สัตวท ะเลในยุคเพอรเมยี นสูญพันธปุ ระมาณ 90% ของจํานวนชนดิ ของสตั วท ะเลทั้งหมด ซึง่ อาจเกดิ จากการระเบดิ ของภเู ขาไฟ ภาวะขาดแคลนออกซเิ จน อุกกาบาตพุงชนโลก ªÇèÑ âÁ§·èÕ 2 ¢Ñ¹é ¨´Ñ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ อธบิ ายความรู (Explain) 1. ครูกลาวเชือ่ มโยงเขา สเู นอ้ื หาตอ ไป โดยตง้ั ประเด็นคําถามวา มาตราธรณกี าลสามารถเปลยี่ นแปลง ไดหรือไม ใหนักเรยี นรว มกนั อภปิ ราย แนวตอบ ได เพราะถาหากมีการคนพบหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาใหม หรือมเี ทคโนโลยีทส่ี ามารถหาอายุ สัมบรู ณไดแมน ยาํ ข้ึน เชน การขยายเวลาของยุคควอเทอรน ารี การเปลี่ยนแปลงยุคเทอรเ ชียรีเปน ยุคพาลโี อจนี และ นีโอจีน 2. ครูใหน ักเรียนจบั คูก นั สบื คนขอมลู เก่ียวกบั เรอื่ งมาตราธรณกี าล ดงั น้ี - การสูญพนั ธคุ รง้ั ใหญของส่ิงมีชีวติ บนโลก - การเปลี่ยนแปลงขอ มูลในมาตราธรณีกาล โดยนกั เรียนอาจสืบคนจากหนังสอื เรียน หรือแหลงเรยี นรูอ ่ืนๆ แลว นาํ ขอมลู มาแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ และ รวมกนั ตั้งประเดน็ คาํ ถามเก่ยี วกบั เร่ืองทส่ี ืบคน มา ( # ครปู ระเมินนกั เรยี น โดยใชแ บบประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คล #) 3. ใหนักเรียนรวมกลุมกับเพื่อนอกี คูหนงึ่ รวมเปน 4 คน แลวแลกเปล่ียนกนั ถามคาํ ถามทต่ี ้งั ไว จากน้ันรว มกนั สรุปเพื่อเตรียมนาํ เสนอหนาช้นั เรียน 4. ครูสุมเลือกนักเรยี น 2-3 กลมุ ใหอ อกมานาํ เสนอคาํ ถามของกลมุ ตนเอง โดยใหน กั เรียนทั้งหอ งรว มกนั ตอบ คาํ ถาม และอภิปรายรว มกนั ¢¹éÑ ÊÃØ» ขยายความเขา ใจ (Elaborate) 1. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั อภิปรายเพือ่ ใหไ ดขอสรุปเก่ียวกับมาตราธรณกี าล โดยอาจมแี นวทางสรุป ดังน้ี “มาตราธรณีกาล คือ การลําดบั อายุทางธรณีวิทยาตง้ั แตโ ลกถือกาํ เนิดข้ึน ซงึ่ มกี ารเปลย่ี นแปลงทาง ธรณีวิทยา และสง่ิ มีชวี ิตมากมาย เพือ่ ความเขา ใจชดั เจน นักวิทยาศาสตรจึงจัดแบง ชวงเวลาทางธรณีวิทยาออกเปน บรมยุค มหายุค ยุค สมยั ชว งอายุและรุน ตามลําดับ ซงึ่ มาตราธรณกี าลสามารถเปลย่ี นแปลงได ถามหี ลกั ฐานทาง ธรณีวทิ ยามาสนบั สนุน” â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 2. ใหนักเรียนแบง กลุม กลมุ ละ 3 คน ทาํ ใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง มาตราธรณกี าล ในรูปของแผนผงั ความคิดใหม ี ความถูกตอ งและนา สนใจ แลวนําเสนอผลงาน (# ครปู ระเมนิ นักเรยี น โดยใชแ บบประเมินการนําเสนอผลงาน #) 3. ครูใหนกั เรยี นแบง กลุม กลุม ละ 3 คน สรางแบบจาํ ลองมาตราธรณีกาล ตามความรูท ไ่ี ดเรยี นมา โดยแตละ กลมุ เลือกมหายุคที่สนใจ กลมุ ละ 1 มหายคุ 4. ครสู ุมเลอื กนกั เรยี น 2-3 กลมุ ใหออกมานาํ เสนอแบบจําลองของกลมุ ตนเอง โดยใหนักเรียนทั้งหอ งรวมกนั ตั้งคาํ ถามเก่ียวกับมาตราธรณีกาล และอภปิ รายรว มกัน 5. ครูมอบหมายการบานใหนักเรยี นทาํ แบบฝก หดั จาก Unit Question 4 ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเตมิ โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 เลม 1 หนวยการเรยี นรทู ี่ 4 ลําดับชน้ั หิน 6. ครแู ละนกั เรยี นรว มกันสรปุ เนื้อหาเก่ยี วกับลาํ ดับชน้ั หิน จากนน้ั ใหนักเรยี นทาํ แบบทดสอบหลังเรียน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ ผลงาน และการนําเสนอผลงาน 2. ครปู ระเมนิ การปฏิบัติการจากการทําใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง มาตราธรณีกาล 3. ครตู รวจสอบผลการทําแบบฝก หดั จาก Unit Question 4 4. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลงั เรียน 6. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธีการ เครื่องมือ เกณฑการประเมิน 6.1 การประเมินกอ นเรียน - แบบทดสอบหลังเรยี น ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบกอนเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง หนวยการเรียนรูท่ี 4 กอนเรียน เร่อื ง ลาํ ดับชัน้ หิน 7.2 ประเมนิ ระหวา งการจัด กจิ กรรมการเรยี นรู 1) สํารวจมาตรา - ตรวจแผนภาพ - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ ธรณีกาล 2) มาตราธรณีกาล - ตรวจใบงานที่ 3.1 - ใบงานที่ 3.1 รอยละ 60 ผานเกณฑ 3) การนาํ เสนอผลงาน - ประเมินการนาํ เสนอ - แบบประเมนิ การ ระดบั คุณภาพ 2 ผา นเกณฑ ผลงาน นําเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ 4) พฤตกิ รรมการ ทํางานรายบคุ คล - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทํางานรายบคุ คล การทาํ งานรายบคุ คล â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 รายการวดั วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑการประเมิน 5) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ผานเกณฑ การทํางานกลุม การทาํ งานกลุม การทํางานกลมุ 6) คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผานเกณฑ ใฝเ รยี นรู และมุงมั่น คณุ ลกั ษณะ ในการทํางาน อนั พึงประสงค 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู 7.1 ส่ือการเรียนรู 1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตรและอวกาศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 4 เลม 1 หนว ยการเรียนรู ที่ 4 ลาํ ดับช้นั หิน 2) แบบฝกหัดรายวชิ าเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 4 เลม 1 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 ลําดบั ชัน้ หนิ 3) ใบงานท่ี 3.1 เรื่อง มาตราธรณกี าล 4) วัสด-ุ อปุ กรณท ใี่ ชใ นกจิ กรรมสํารวจมาตราธรณกี าล 7.2 แหลงการเรยี นรู 1) หองเรยี น 2) หองสมุด 3) บริเวณโรงเรยี น 4) แหลง ขอมลู สารสนเทศ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 8. การบรู ณาการตามจดุ เนนของโรงเรียน หลักปรชั ญา ครู นักเรียน ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดีดานเทคโนโลยี พอดีดา นจิตใจ รูจักใชเ ทคโนโลยมี าผลติ สอื่ ท่ี มจี ติ สาํ นกึ ท่ดี ี จติ สาธารณะรวม 2. ความมีเหตุผล อนุรกั ษ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคลอ งเน้อื หาเปน ส่ิงแวดลอม ประโยชนตอ นักเรียนและพัฒนาจาก ภูมิปญ ญาของนักเรียน ศึกษาหาความรดู วยตนเอง เพ่อื คนหา ยดึ ถือการประกอบอาชีพดว ยความ คําตอบเพอ่ื ใหหลุดพน จากความไมรู ถกู ตอ ง สุจรติ 3. มภี มู คิ มุ กันในตวั ที่ดี ภมู ปิ ญ ญา : มีความรู รอบคอบ และ ภมู ิปญญา : มีความรู รอบคอบ 4. เงอื่ นไขความรู ระมัดระวัง รบั ผิดชอบ ระมัดระวัง สรางสรรค ความรอบรู เรอื่ ง มาตราธรณีกาล ความรอบรู เรอื่ ง มาตราธรณกี าล ใน การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามใบงานท่ี 3.1 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม ความซ่อื สตั ยสุจริตและอดทน มี มคี ุณธรรม ซอ่ื สัตยสุจรติ และอดทน ความเพียร ใชส ตปิ ญญาในการดําเนนิ ใชส ตปิ ญญาในการเรียนและดาํ เนิน สวนพฤกษศาสตรโรงเรียน ชวี ติ - ชวี ติ ครู นกั เรยี น -- สง่ิ แวดลอม ครู นกั เรยี น - - - â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู หนว ยการเรียนรทู ่ี 4 เร่อื ง ลําดบั ชั้นหิน แผนจัดการเรยี นรทู ี่ 3 เรอ่ื ง ÁÒµÃҸóաÒÅ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 4 ครูผูส อน นางสาวณฐั ธนญั า บุญถงึ ตําแหนง ครู คศ. 2 เวลาทีใ่ ช 2 ช่ัวโมง (ชัว่ โมงท่ี 1-2) ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู ขอคน พบระหวาง ปญ หาทพี่ บ แนวทางแกไข ทม่ี ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู เน้ือหา กจิ กรรมการเรยี นรู สอ่ื ประกอบการเรียนรู พฤตกิ รรม/การมีสว นรว มของ นักเรยี น ลงชือ่ …..........………….......................…….. ครูผูจัดกิจกรรมการเรียนรู (นางสาวณัฐธนญั า บุญถึง) ตําแหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠˹Nj ¡ÒÃàÃÕ¹ÌٷÕè 4 á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙ·Œ èÕ 3 â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง มาตราธรณกี าล หนว ยการเรียนรูที่ 4 เร่ือง ลาํ ดับชน้ั หิน แผนจดั การเรยี นรูท่ี 3 เร่ือง ÁÒµÃҸóաÒÅ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดับช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 4 *********************** คาํ ชแี้ จง : ใหนกั เรียนสรปุ ความรูเ ก่ียวกับ มาตราธรณกี าล ในรปู แบบของแผนผงั ความคิดและนาํ เสนอผลงาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 à©Å ใบงานที่ 3.1 เร่ือง มาตราธรณีกาล หนว ยการเรียนรูที่ 4 เรอ่ื ง ลาํ ดับชน้ั หิน แผนจัดการเรียนรทู ่ี 3 เรอื่ ง ÁÒµÃҸó¡Õ ÒÅ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 *********************** คาํ ชี้แจง : ใหนกั เรียนสรุปความรู เก่ียวกบั มาตราธรณกี าล ในรูปแบบของแผนผังความคดิ และนาํ เสนอผลงาน หนว ยหลกั ในการลําดบั ชั้นหิน โดยพจิ ารณาจาก ลักษณะเนอ้ื หนิ อาจหนานอยกวา 1 เมตรจนถงึ หลายพนั เมตร (ขึ้นอยูกบั ดุลพนิ ิจผูสอน) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃÐªÒ¹àØ¤ÃÒÐˏ 31


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook