แผนการเรียนรู้ โลกฯ 1 M401

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 2. ใหนักเรียนสืบคนื ขอมูลเกย่ี วกับหลักฐานทางธรณีวทิ ยาท่ีสนบั สนุนการแผข ยายของพืน้ มหาสมุทร เพื่อ เชอ่ื มโยงเขา สกู จิ กรรม 3. ครูใหน กั เรยี นจบั กลุม กลมุ ละ 3 คน อยา งอิสระ โดยสมาชิกในกลมุ จะตองไมซํา้ กับกลมุ ทที่ ํากจิ กรร มใน ชว่ั โมงทีผ่ านมา 4. ครแู จงจดุ ประสงคข องการทํากจิ กรรม จากนัน้ ใหน กั เรยี นจากน้นั ใหนกั เรยี นอธิบายการแผขยายของพื้น มหาสมทุ ร โดยทํากจิ กรรมการแผข ยายของพื้นมหาสมทุ ร 5. ครใู ชรปู แบบการเรยี นรูแบบรวมมอื มาจดั กระบวนการเรยี นรู โดยกาํ หนดใหสมาชิกแตละคนภายในกลุมมี บทบาทหนา ท่ีของตนเอง ดังน้ี สมาชกิ คนที่ 1 ทาํ หนา ท่ีเตรียมวัสดอุ ปุ กรณ สมาชกิ คนที่ 2 ทาํ หนาทอี่ านวธิ ีการทํากจิ กรรม และนํามาอธบิ ายใหส มาชกิ ภายในกลมุ ฟง สมาชิกคนท่ี 3 ทาํ หนา ทบ่ี นั ทกึ ผลการทํากจิ กรรม (#ครปู ระเมนิ นักเรยี น โดยใชแ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ ) 6. ใหนักเรยี นแตละกลุมทํากิจกรรมตามข้ันตอน ดงั น้ี 1) รวมกนั สืบคนขอ มูลหลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีสนบั สนนุ การแผข ยายของพ้ืนมหาสมุทร รวมถึงขอมูล ตาง ๆ ที่เกยี่ วของ ดงั นี้ - ธรณีสัณฐานบนพน้ื มหาสมทุ ร - อายุของหนิ บริเวณพ้นื มหาสมุทร - ภาวะแมเหลก็ บรรพกาล 2) พจิ ารณาหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาท่สี นบั สนุนการแผข ยายของพ้ืนมหาสมุทรทีส่ บื คน ได แลว นาํ มาสรุป เปน หลกั การแบงโครงสรางโลกในรูปแบบแผนภาพ หรือ infographic 3) ครแู ละนกั เรยี นรวมกันพจิ ารณาแผนภาพ หรอื infographic เพอ่ื ชว ยกนั ตรวจสอบขอ มูล 4) ครเู ลือกนกั เรยี นมา 3 กลมุ ใหแตละกลุมสง แทนมานําเสนอในรปู แบบโปสเตอร กลุม ละ 1 เร่ือง (#ครูประเมนิ นกั เรียน โดยใชแบบประเมินชิน้ งาน) 7. ครูและนักเรียนรว มกันอภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยใหนักเรียนท้ังหองรว มกันอภิปราย และตอบ คาํ ถาม ªÑèÇâÁ§·èÕ 4 ¢Ñ鹨´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠อธบิ ายความรู (Explain) 1. ครกู ลาวเชอื่ มโยงเขา สเู น้อื หาตอ ไป โดยตั้งประเด็นคาํ ถาม ดงั นี้ * ธรณสี ัณฐานบริเวณพืน้ มหาสมทุ รบอกใหทราบถึงขอมูลใด แนวตอบ มหาสมทุ รมกี ารแผขยายออกที่บรเิ วณสันเขากลางสมุทร â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 * อายุของหนิ บรเิ วณพื้นมหาสมุทรบอกใหท ราบถงึ ขอมูลใด แนวตอบ หนิ บนพื้นมหาสมุทรมีอายนุ อ ยทีส่ ุดบริเวณสันเขากลางสมทุ ร และมีอายุมากขึ้นเมอื่ อยูหาง ออกไปท้ังสองขางของสันเขากลางสมทุ ร ขอมูลอายุของหินยังแสดงสมมาตรซา ยและขวาโดยมีสัน เขา กลางสมุทรเปน แกนสมมาตร * ภาวะแมเ หล็กบรรพกาลบอกใหทราบถงึ ขอ มูลใด แนวตอบ รปู แบบการเรยี งตัวของสารแมเหล็กในหินที่สมมาตรกันระหวางสองขา งของสนั เขากลาง สมทุ ร ซึ่งสอดคลองกบั ขอ มลู อายหุ นิ บนพน้ื มหาสมุทร * ทฤษฎีการแผขยายพื้นมหาสมทุ รสนับสนนุ แนวคิดของทฤษฎที วปี เลื่อนอยา งไร แนวตอบ ทฤษฎกี ารแผข ยายพืน้ สมทุ รอธิบายวา พื้นมหาสมุทรมีการแผขยายออกไปจากแนวสนั เขา กลางสมุทรเนื่องจากการแทรกดันของแมกมาข้นึ มาบนเปลอื กโลก ซงึ่ สนบั สนุนแนวคดิ ของทฤษฎี ทวปี เลอ่ื น วา ทวปี เคลือ่ นทแ่ี ยกออกจากกันเน่ืองจากมหาสมทุ รมีการแผขยายออก ¢¹éÑ lÊÃ»Ø ขยายความเขาใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรยี นรว มกนั อภิปรายเพื่อใหไดขอสรปุ เก่ียวกบั ทฤษฎีการแผข ยายพน้ื มหาสมุทร โดยอาจมี แนวทางสรปุ ดงั น้ี “ทฤษฎีการแผข ยายพนื้ สมทุ รอธิบายวา พื้นมหาสมุทรมกี ารแผขยายออกไปจากแนวสนั เขากลาง สมทุ รเนอ่ื งจากการแทรกดนั ของแมกมาขึน้ มาบนเปลือกโลก” โดยทฤษฎีการแผขยายพ้นื มหาสมุทร มหี ลักฐาน ทางธรณีวทิ ยาทส่ี นับสนุนแนวคดิ ดังนี้ สนั เขากลางสมุทร เปน บรเิ วณท่มี กี ารแทรกดันของแมกมาขนึ้ มาบนเปลือกโลก ทาํ ใหเ ปลอื กโลก โกงตวั ขึ้นและแตกออกจากกัน เปลอื กโลกสวนทีบ่ างจะทรุดตัวลงเกิดเปนหุบเขาทรดุ ลาวาทีอ่ ณุ หภูมิลดลงจ ะ แขง็ ตวั เปน หนิ ที่เปนสว นหนึ่งของเปลือกโลก การแทรกดันอยางตอ เน่อื งของแมกมาทําใหเกิดแรงดนั ข้ึนที่เปลือก โลก กอ นเคล่อื นทอี่ อกหา งจากแนวสันเขากลางสมทุ ร การนําเครือ่ งวัดความเขม ของสนามแมเ หลก็ ตรวจวดั สภาพความเปน แมเหลก็ ของหนิ พบวา มี รูปแบบการเรยี งตัวของสารแมเหล็กในหินทสี่ มมาตรกนั ระหวา งสองขางของสันเขากลางสมทุ ร หนิ บนพืน้ มหาสมทุ รท่อี ยูใกลก บั แนวสนั เขากลางสมุทรจะมีอายุนอยกวาหนิ บนพ้นื มหาสมุทรท่ี อยหู า งออกไป จากการแทรกดนั ของแมกมาอยางตอเนื่องทําใหเกดิ เปลอื กโลกมหาสมทุ รขึ้นใหมตลอดเวลาเปน สาเหตทุ าํ ใหพ้นื มหาสมุทรแผขยายออกไป 3. ครมู อบหมายใหน ักเรยี นทาํ แบบฝก หัด เรือ่ ง ทฤษฎกี ารแผขยายพื้นมหาสมทุ ร จากแบบฝกหดั รายวิชา เพิม่ เติม โลก ดาราศาสตร และอวกาศ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 เลม 1 หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 ธรณแี ปรสัณฐาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ªÇÑè âÁ§·Õè 5 ¢¹éÑ ¹Òí à¢ÒŒ ʺ‹Ù ·àÃÂÕ ¹ กระตนุ ความสนใจ (Engage) 1. ครูกระตนุ ความสนใจ โดยครตู ัง้ คําถามเพือ่ ใหน กั เรยี นรวมกนั แสดงความคดิ เหน็ ดังนี้ * ทฤษฎีทวปี เล่ือน ไมไ ดร ับการยอมรับในชวงแรก เพราะเหตใุ ด แนวตอบ ไมสามารถอธิบายกระบวนการเคลอ่ื นทีข่ องแผน ธรณีได * ทฤษฎที วปี เลื่อน และทฤษฎกี ารแผขยายพ้นื มหาสมุทร สามารถอธิบายการเคล่ือนทแี่ ยกออกจากกัน ของทวีปไดหรือไม เพราะเหตุใด แนวตอบ ไมไ ด เพราะจากหลักฐานและขอ มูลทีพ่ บไมส ามารถอธิบายกลไกการแทรกดันของแมกมา ขึน้ มาบนเปลอื กโลกได * นักเรียนคดิ วาแผนธรณี คืออะไร แตกตา งจากเปลือกโลกอยา งไร แนวตอบ แผน ธรณี คอื ธรณีภาคท่ีแตกออกเปนแผน มจี ํานวนหลายแผน ซึ่งธรณีภาคคอื สว นของ เปลือกโลกรวมกบั เน้ือโลกตอนบนสุด ¢Ñ鹨 Ñ´ ¡ Ô¨ ¡ ÃÃÁ¡ ÒÃà ÃÕ¹ÃÙŒ สํารวจคน หา (Explore) 1. ใหน ักเรยี นสบื คนขอมลู เกยี่ วกับทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน แลว ครูถามคาํ ถามวา * อะไรเปนสาเหตุทีท่ ําให มหาสมุทรแผขยายกวา งขึ้นเรือ่ ย ๆ แนวตอบ การแทรกดันของแมกมาข้ึนมาบรเิ วณสนั เขากลางสมุทร และเกิดแรงดันใหเ ปลอื กโลก แยกตวั ของหางจากสนั เขากลางสมุทร * นักวทิ ยาศาสตรสามารถสํารวจภายในโลก เพื่อศกึ ษาการแทรกดันของแมกมาไดห รอื ไม เพราะเหตใุ ด แนวตอบ ไมได เพราะในปจ จบุ ันยงั ไมม เี ทคโนโลยีท่สี ามารถเจาะสํารวจภายในโลกได * นักเรียนคิดวา นักวิทยาศาสตรศึกษาส่ิงใด ในการอธิบายการเคลื่อนทข่ี องแผนธรณี แนวตอบ การทดลองเลยี นแบบ และลักษณะธรณีสัณฐานทพ่ี บบนผิวโลก 2. ใหนักเรียนสืบคืนขอมูลเกี่ยวกับกลไกการเคลื่อนที่ของแผนธรณี และทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน เพอ่ื เชื่อมโยงเขา สูกิจกรรม ªèÇÑ âÁ§·èÕ 6 ¢Ñ鹨 Ñ´ ¡ Ô¨ ¡ ÃÃÁ¡ ÒÃà ÃÕ¹Ì٠สํารวจคน หา (Explore) (ตอ) 3. ครใู หนักเรียนนับจาํ นวน 1-3 วนไปเรอื่ ย ๆ จนครบทุกคน เพ่อื แบง นักเรยี นออกเปนกลมุ กลุม ละ 3 คน โดยคนที่นับจํานวนเดยี วกนั ใหอยูก ลมุ เดยี วกัน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 4. ครแู จงจุดประสงคของการทาํ กจิ กรรมแบบจําลองวงจรการพาความรอน จากนัน้ ใหน ักเรยี นจากน้ันให นักเรียนอธบิ ายกลไกการเคลือ่ นที่ของแผน ธรณี 5. ครแู จกใบกจิ กรรมท่ี 2.1 กิจกรรมแบบจาํ ลองวงจรการพาความรอน ใหน กั เรียน 6. ครใู ชร ูปแบบการเรียนรูแ บบรวมมือมาจดั กระบวนการเรียนรู โดยกาํ หนดใหส มาชกิ แตล ะคนภายในกลุมมี บทบาทหนา ท่ขี องตนเอง ดงั นี้ สมาชิกคนท่ี 1 ทาํ หนาทเี่ ตรียมวสั ดุอปุ กรณ สมาชิกคนที่ 2 ทําหนา ทอี่ านวิธีการทําการทดลอง และนาํ มาอธบิ ายใหสมาชิกภายในกลมุ ฟง สมาชิกคนที่ 3 ทําหนา ที่บันทึกผลการทดลอง (#ครูประเมินนักเรียน โดยใชแบบประเมนิ กจิ กรรม) 7. ใหน ักเรยี นแตล ะกลมุ ทํากิจกรรมตามขนั้ ตอน ดังนี้ 1) ตดั แผนโฟมบางขนาดประมาณ กวาง 2 เซนตเิ มตร ยาว 4 เซนตเิ มตร จํานวน 2 แผน 2) เทนํ้ามันพืชลงในถาดแกวทนไฟขนาดประมาณ กวาง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ใหมีปริมาตรประมาณสามสวนส่ีของถาดแกว แลวนําถาดแกวไปตั้งไฟบนชุดตะเกียง แอลกอฮอล 3) ใสผงพรกิ ปน หรอื พริกไทยบดหยาบลงในน้ํามัน 4) วางแผน โฟมสองแผนใหช ดิ ติดกนั ตรงกลางถาดแกว 5) สงั เกตการณการเปลยี่ นแปลงของผงพรกิ ปน และแผน โฟม แลวบันทึกผล 8. ครแู ละนกั เรยี นรวมกันอภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยใหน กั เรยี นท้ังหอ งรวมกันอภิปราย และตอบ คาํ ถาม ªèÑÇâÁ§·Õè 7 อธบิ ายความรู (Explain) 1. ครกู ลา วเช่ือมโยงเขา สเู น้ือหาจากการทาํ กิจกรรมในช่ัวโมงทผ่ี า นมา โดยตง้ั ประเด็นคําถาม ดงั นี้ * จากการทํากิจกรรมแบบจําลองวงจรการพาความรอน เปรยี บเทยี บไดกับสิง่ ใด แนวตอบ วงจรการพาความรอนภายในโลก * แผนธรณเี คลอ่ื นทีแ่ ยกออกจากกันได เพราะเหตใุ ด แนวตอบเนื่องจากภายในแกนโลกมอี ณุ หภูมสิ งู มากทาํ ใหเ กิดการพาความรอ น แมกมาในฐานธรณี ภาคเม่ือไดร บั ความรอนจะเคลือ่ นทข่ี ึน้ สผู ิวโลก เมอ่ื เคลอ่ื นทข่ี น้ึ มาใกลผิวโลกซง่ึ หา งจากแกนโลกที่เปนตน กําเนิด ความรอ นอุณหภูมิจะลดลงและเคลื่อนทีก่ ลับลงไปในเนอื้ โลก ถาหากไดรบั ความเพิม่ จะเคล่อื นทขี่ ึ้นมาสผู วิ โลกใหม หมนุ วนเปนวงจรไปตลอด â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ¢é¹Ñ lÊÃ»Ø ขยายความเขา ใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรียนรวมกนั อภปิ รายเพอื่ ใหไ ดขอสรปุ เกีย่ วกบั ทฤษฎีการแผขยายพืน้ มหาสมทุ ร โดยอาจมี แนวทางสรุป ดงั นี้ “ทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผนธรณี อธิบายวา ธรณีภาคท่มี สี ถานะเปน ของแข็งประกอบดวย เปลอื กโลกและเน้อื โลกสวนบนสุด แตกออกเปนแผน เรียกวา แผน ธรณี (plate) และเคลื่อนทอี่ ยา งชา ๆ อยูบน ฐานธรณีภาค เน่อื งจากการพาความรอ นของแมกมาในฐานธรณีภาค การเคลื่อนทีข่ องแผน ธรณีในรูปแบบตาง ๆ ทําใหเ กิดธรณีสณั ฐานและปรากฏการณท างธรณีวทิ ยา เชน แนวเทอื กเขา รอ งลึกกน สมทุ ร แผน ดินไหว ภเู ขาไฟ ระเบิด บรเิ วณขอบของแผนธรณี ” ครูมอบหมายการบา นใหน ักเรยี นทําแบบฝกหัด โลก ดาราศาสตร และอวกาศ มัธยมศึกษาปท ่ี 4 หนว ยการ เรียนรูท่ี 2 ธรณแี ปรสัณฐาน ªÑÇè âÁ§·Õè 8 ¢¹éÑ lÊÃØ» ขยายความเขาใจ (Elaborate) 1. ครใู หนักเรียนแบง กลุม กลมุ ละ 3 คน ตามความสมัครใจ แลวใหรว มกันทําใบงานท่ี 1.1 โดยสรปุ ความรู เรื่องทฤษฎธี รณีแปรสัณฐาน ในรูปของแผนผงั ความคิดใหม ีความถกู ตองและนาสนใจ (# ครปู ระเมนิ นักเรยี น โดยใชแ บบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลมุ #) 2. ครใู หนักเรียนทกุ กลมุ นาํ แผนผังความคดิ ของกลุมตนเองออกมานาํ เสนอหนา ชัน้ เรยี น กลมุ ละ 3 นาที 3. ครมู อบหมายการบานใหนกั เรยี นทาํ แบบฝก หดั จาก Unit Question 2 ในหนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิ่มเตมิ โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ มัธยมศึกษาปที่ 4 เลม 1 หนว ยการเรยี นรูท ่ี 2 ธรณีแปรสัณฐาน (# ครูประเมินนักเรยี น โดยใชแ บบประเมินชนิ้ งาน #) ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลการทาํ แบบทดสอบกอ นเรยี น 2. ครูประเมินผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม การรว มกนั ทาํ ผลงาน และการนาํ เสนอผลงาน 3. ครปู ระเมนิ การปฏบิ ตั ิการจากการทําใบงานที่ 1.1 เรื่อง ทฤษฎีธรณแี ปรสณั ฐาน 4. ครูตรวจสอบผลการทาํ แบบฝกหดั จาก Unit Question 2 5. ครตู รวจสอบผลการทาํ แบบฝก หดั จากแบบฝก หัด หนวยการเรียนรทู ี่ 2 â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 6. การวดั และประเมินผล รายการวดั วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑการประเมนิ 6.1 การประเมนิ กอนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบกอนเรียน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบกอน กอนเรียน เรียน - ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ หนว ยการเรียนรูที่ 2 - รอ ยละ 60 ผา นเกณฑ เร่อื ง ธรณแี ปรสณั ฐาน - ประเมนิ การปฏบิ ตั ิ - ประเมนิ การปฏบิ ตั ิ - รอยละ 60 ผา นเกณฑ 6.2 ประเมินระหวา งการ - พิจารณาตามผลท่ไี ดจริง จัดกิจกรรมการเรยี นรู กจิ กรรม กจิ กรรม - ระดบั คุณภาพ 2 ผา นเกณฑ 1) การเคลือ่ นที่ของ ระดับคุณภาพ 2 ผา นเกณฑ - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 แผนธรณีภาค ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา นเกณฑ 2) การแผขยายของ - ตรวจแบบฝก หดั - แบบฝก หัด ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ พ้นื มหาสมทุ ร - ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 1.1 - ใบกิจกรรมที่ 1.1 ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ 3) แบบจาํ ลองวงจร - ประเมนิ การปฏิบัติ - ประเมินการปฏบิ ัติ ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ การพาความรอน กจิ กรรม กิจกรรม 4) แผนผงั ความคดิ เรอ่ื ง ทฤษฎีธรณี - ตรวจและประเมิน - แบบประเมิน แปรสัณฐาน แผนผงั ความคิด ช้ินงาน 5) การนาํ เสนอผลงาน - ประเมินการนาํ เสนอ - แบบประเมนิ การ 6) พฤติกรรมการ ผลงาน นําเสนอผลงาน ทํางานรายบคุ คล - สังเกตพฤตกิ รรมการ - แบบสังเกต ทาํ งานรายบุคคล พฤติกรรม 7) พฤติกรรม การทาํ งาน การทาํ งานกลุม - สงั เกตพฤตกิ รรม รายบุคคล การทํางานกลมุ 8) คณุ ลกั ษณะ - แบบสงั เกต อันพงึ ประสงค - สงั เกตความมีวนิ ยั พฤติกรรม ใฝเรยี นรู และมุงมัน่ การทํางานกลุม ในการทํางาน - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 7. สื่อ/แหลง การเรียนรู 7.1 สอื่ การเรยี นรู 1) หนังสอื เรยี นรายวิชาเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 เลม 1 หนวย การเรียนรูที่ 2 ธรณแี ปรสณั ฐาน 2) แบบฝก หดั รายวิชาเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 4 เลม 1 หนวย การเรยี นรทู ่ี 2 ธรณีแปรสัณฐาน 3) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน 4) ใบกจิ กรรมที่ 1.1 เรื่อง กจิ กรรมแบบจาํ ลองวงจรการพาความรอ น 5) วัสดุ-อุปกรณท ี่ใชใ นการทาํ กจิ กรรมแบบจําลองวงจรการพาความรอ น 6) วสั ดุ-อุปกรณที่ใชในการทํากจิ กรรมการเคลื่อนท่ีของแผน ธรณีภาค 7) PowerPoint เร่ือง ธรณแี ปรสัณฐาน 8) ภาพแผนท่โี ลก 7.2 แหลงการเรียนรู 1) หอ งเรยี น 2) หองสมดุ 3) บรเิ วณโรงเรียน 4) แหลงขอมูลสารสนเทศ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 9. การบรู ณาการตามจดุ เนน ของโรงเรยี น หลกั ปรัชญา ครู นักเรยี น ของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ พอดดี านเทคโนโลยี พอดดี านจิตใจ รูจักใชเทคโนโลยีมาผลิตสอื่ ที่ มีจิตสาํ นกึ ทดี่ ี จิตสาธารณะรวม 2. ความมเี หตุผล อนรุ ักษ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคลอ งเนื้อหาเปน ส่ิงแวดลอม ประโยชนตอ นักเรียนและพัฒนาจาก ภูมิปญญาของนักเรียน ศึกษาหาความรูดวยตนเอง เพอื่ คน หา ยดึ ถือการประกอบอาชพี ดวยความ คาํ ตอบเพื่อใหห ลดุ พนจากความไมรู ถกู ตอ ง สจุ ริต 3. มภี ูมคิ มุ กันในตัวทด่ี ี ภมู ปิ ญญา : มีความรู รอบคอบ และ ภมู ปิ ญญา : มีความรู รอบคอบ 4. เงอื่ นไขความรู ระมัดระวัง รบั ผดิ ชอบ ระมดั ระวงั สรา งสรรค 5. เง่อื นไขคณุ ธรรม ความรอบรู เร่อื ง ทฤษฎธี รณีแปร ความรอบรู เร่ือง ทฤษฎธี รณแี ปร สวนพฤกษศาสตรโรงเรียน สณั ฐาน สณั ฐาน ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมตามใบ ทฤษฎธี รณีแปรสัณฐาน งานท่ี 1.1 และ ใบกิจกรรมท่ี 1.1 สงิ่ แวดลอม ความซ่ือสัตยสจุ ริตและอดทน มีความ มคี ณุ ธรรม ซือ่ สัตยส ุจรติ และอดทน ทฤษฎีธรณีแปรสณั ฐาน เพยี ร ใชส ตปิ ญญาในการดาํ เนินชีวิต ใชสตปิ ญ ญาในการเรียนและดําเนิน ชีวิต ครู นกั เรยี น จดั กิจกรรมการเรียนรู ใหน กั เรียนอธิบาย นกั เรียนศกึ ษาหาขอ มลู บรเิ วณท่ีไดร บั - ทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน มอบหมาย เพอื่ มารว มอธบิ าย อภปิ รายใน - การพาความรอน หอ งเรยี น (กาํ หนดบรเิ วณทไ่ี ดรบั มอบหมาย) - ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน - การพาความรอ น ครู นักเรยี น จัดกิจกรรมการเรียนรู ใหนกั เรียนอภิปราย นกั เรยี นสบิ คน ขอมูลเพ่ือนาํ มาอภปิ ราย - ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน - ทฤษฎธี รณีแปรสัณฐาน - การพาความรอ น - การพาความรอ น (กาํ หนดหวั ขอ ใหนักเรียนสบื คน และรวม (ตามหัวขอ ที่กาํ หนด ในหอ งสมุด หอ ง อภปิ รายในช้นั เรยี น) สบื คน สารสนเทศ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เร่อื ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจดั การเรียนรูที่ 1 เร่ือง ·ÄɮոóáÕ »ÃÊѳ°Ò¹ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 4 ครูผูสอน นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถงึ ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาที่ใช 8 ชัว่ โมง (ชวั่ โมงที่ 1-2 ) ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ขอ คน พบระหวา ง ปญ หาทีพ่ บ แนวทางแกไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู สือ่ ประกอบการเรียนรู พฤติกรรม/การมีสว นรวมของ นกั เรียน ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ) ตําแหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจัดการเรยี นรทู ี่ 1 เร่ือง ·ÄÉ®¸Õ óáÕ »ÃÊѳ°Ò¹ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 4 ครูผูสอน นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถึง ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาที่ใช 8 ชัว่ โมง (ชวั่ โมงที่ 3-4 ) ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู ขอ คน พบระหวา ง ปญ หาทพ่ี บ แนวทางแกไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู สือ่ ประกอบการเรียนรู พฤติกรรม/การมีสวนรวมของ นกั เรียน ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ) ตาํ แหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจัดการเรยี นรทู ี่ 1 เร่ือง ·ÄÉ®¸Õ óáÕ »ÃÊѳ°Ò¹ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 4 ครูผูสอน นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถึง ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาที่ใช 8 ชัว่ โมง (ชวั่ โมงที่ 5-6 ) ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู ขอ คน พบระหวา ง ปญ หาทพ่ี บ แนวทางแกไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู สือ่ ประกอบการเรียนรู พฤติกรรม/การมีสวนรวมของ นกั เรียน ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ) ตาํ แหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจัดการเรยี นรทู ี่ 1 เร่ือง ·ÄɮոóÕá»ÃÊѳ°Ò¹ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 4 ครูผูส อน นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถึง ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาที่ใช 8 ชัว่ โมง (ชวั่ โมงที่ 7-8 ) ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู ขอ คน พบระหวา ง ปญ หาทพ่ี บ แนวทางแกไ ข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู เน้อื หา กิจกรรมการเรียนรู สื่อประกอบการเรียนรู พฤติกรรม/การมีสวนรวมของ นกั เรยี น ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผจู ัดกิจกรรมการเรียนรู (นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ) ตาํ แหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ˹‹Ç¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒ·Ù èÕ 2 á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ·èÕ 1 â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 เรื่อง แบบจําลองวงจรการพาความรอน หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรื่อง ธรณีแปรสัณฐาน แผนจัดการเรยี นรทู ี่ 1 เร่ือง ·ÄÉ®¸Õ óáÕ »ÃÊѳ°Ò¹ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 4 *********************** ช่อื -สกลุ สมาชิกภายในกลุม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คําช้แี จง : ใหน ักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามขนั้ ตอนทใ่ี ห แลวบันทึกผลท่ไี ดพรอมกับสรุปและอภปิ รายผลท่ีได การทํากิจกรรม ขั้นตอนการปฏิบตั ิกิจกรรม 1) ตัดแผนโฟมบางขนาดประมาณ กวา ง 2 เซนตเิ มตร ยาว 4 เซนติเมตร จํานวน 2 แผน 2) เทนํ้ามันพืชลงในถาดแกวทนไฟขนาดประมาณ กวาง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ใหมีปริมาตรประมาณสามสวนส่ีของถาดแกว แลวนําถาดแกวไปต้ังไฟบนชุดตะเกยี ง แอลกอฮอล 3) ใสผงพริกปน หรอื พริกไทยบดหยาบลงในนา้ํ มนั 4) วางแผนโฟมสองแผนใหช ดิ ติดกันตรงกลางถาดแกว 5) สังเกตการณเปลี่ยนแปลงของผงพริกปน และแผน โฟม แลวบนั ทกึ ผล บนั ทกึ ผลการทาํ กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ และอภปิ รายผลการทาํ กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 à©Å ใบกิจกรรมท่ี 1.1 เร่ือง แบบจาํ ลองวงจรการพาความรอน หนวยการเรียนรูที่ 2 เรือ่ ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจดั การเรยี นรูที่ 1 เรื่อง ·ÄɮոóÕá»ÃÊ³Ñ °Ò¹ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 4 *********************** ชือ่ -สกลุ สมาชิกภายในกลุม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ชแี้ จง : ใหน กั เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมตามขัน้ ตอนทใ่ี ห แลวบนั ทึกผลที่ไดพรอ มกับสรุปและอภปิ รายผลท่ีได การทาํ กจิ กรรม 1) ตดั แผน โฟมบางขนาดประมาณ กวา ง 2 เซนตเิ มตร ยาว 4 เซนติเมตร จํานวน 2 แผน 2) เทนํ้ามันพืชลงในถาดแกวทนไฟขนาดประมาณ กวาง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ใหมีปริมาตรประมาณสามสวนสี่ของถาดแกว แลวนําถาดแกวไปตั้งไฟบนชุดตะเกยี ง แอลกอฮอล 3) ใสผงพรกิ ปน หรือพริกไทยบดหยาบลงในน้ํามัน 4) วางแผน โฟมสองแผนใหช ิดติดกนั ตรงกลางถาดแกว 5) สงั เกตการณก ารเปลีย่ นแปลงของผงพริกปน และแผนโฟม แลวบนั ทึกผล บนั ทึกผลการทํากจิ กรรม เมื่อนาํ้ มันรอ นจะผงพรกิ ปนจะลอยขึ้นสูผวิ หนา ของน้ํามนั และเคล่อื นทแี่ ยกออกจากกนั จากนั้นจะจมลง สูกน ถาด และลอยขึน้ มาใหม หมนุ วนเปนวงจร และเมอื่ วางแผน โฟมลงไป แผนโฟมจะเคลอ่ื นที่แยกออกจากกัน อยางชา ๆ สรปุ และอภปิ รายผลการทาํ กิจกรรม จากการทดลอง พบวา เมือ่ น้ํามนั ไดรับความรอ นจากตะเกียงแอลกอฮอล จะเกดิ การพาความรอ นภายใน น้าํ มนั ทําใหผ งพริกปนลอยขนึ้ สูผิวหนาของน้าํ มัน และเคลอ่ื นที่แยกออกจากกนั จากน้นั จะจมลงสูกน ถาด และ ลอยขึ้นมาใหม หมนุ วนเปน วงจร เม่อื วางแผน โฟมลงไปบนนํ้ามัน แผนโฟมจะเคลือ่ นทีแ่ ยกออกจากกนั อยา งชา ๆ เมือ่ ทาํ ไปเปรียบเทยี บกบั วงจรการพาความรอนภายในโลก จะไดว า นํา้ มันจะเปรียบไดกับแมกมาภายใน โลก ตะเกยี งแอลกอฮอลเปรียบไดกบั ความรอ นภายในโลก แผนโฟมเปรียบไดก บั แผนธรณี (ขึ้นอยกู บั ดลุ ยพินจิ ของผูสอน โดยใหผสู อนพิจารณาจากผลกิจกรรมทนี่ กั เรียนทาํ ไดจรงิ ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ธรณีแปรสัณฐาน แผนจัดการเรยี นรูท่ี 1 เรื่อง ·ÄɮոóáÕ »ÃÊ³Ñ °Ò¹ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 4 *********************** คาํ ชี้แจง : ใหน กั เรียนสรปุ ความรูเกยี่ วกับทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐานในรูปแบบของแผนผังความคิด และนาํ เสนอ ผลงาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 à©Å ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ทฤษฎีธรณแี ปรสัณฐาน หนวยการเรยี นรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจดั การเรียนรูที่ 1 เรือ่ ง ·ÄɮոóáÕ »ÃÊѳ°Ò¹ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวชิ า ว31209 ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 4 *********************** คําช้แี จง : ใหน กั เรียนสรุปความรเู กีย่ วกบั ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐานในรปู แบบของแผนผังความคดิ และนาํ เสนอ ทฤษฎที วีปเลื่อน ทวีปในปจจบุ ันอยูต ดิ กนั เปนแผนดินเดียว เรียกวา พนั เจยี ในเวลาตอ มาพันเจยี เร่ิมแยกตวั ออกจากกนั ออกเปนสอง ทวีปขนาดใหญช ื่อ ลอเรเซียและกอนดว านา และทั้งสอง ทวปี กม็ กี ารแยกตวั ออกจากกนั ชา ๆ จนมลี ักษณะดงั เชน ปจจบุ นั ทฤษฎกี ารแผขยายพืน้ พื้นมหาสมุทรมีการแผขยายออกไปจากแนวสนั เขา กลางสมุทรเนือ่ งจากการแทรกดนั ของแมกมาข้ึนมาบน เปลือกโลก ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ธรณีภาคแตกออกเปนแผน เรียกวา แผนธรณี และ เคลื่อนท่ีอยางชา ๆ อยูบนฐานธรณีภาค เนอื่ งจากการ พาความรอนของแมกมาในฐานธรณีภาค ซึ่งมีการ เคล่อื นที่ 3 รปู แบบ ไดแก แนวแผนธรณีเคลอื่ นที่หากนั แนวแผน ธรณเี คล่ือนท่แี ยกออกจากกนั แนวแผน ธรณี เคลอื่ นท่ผี านกัน (ขนึ้ อยูกบั ดุลยพินิจของครูผูสอน) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 แผนการจดั การเรยี นรู หนว ยการเรยี นรูท่ี 2 เร่อื ง ธรณีแปรสัณฐาน แผนจดั การเรียนรทู ี่ 2 เร่อื ง ÃٻẺ¡ÒÃà¤Åè×͹·èբͧἹ‹ ¸Ã³Õ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปก ารศึกษา 2563 นาํ้ หนักเวลาเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห เวลาที่ใชในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู 6 ชวั่ โมง *********************************** 1. สาระสําคัญ (ความเขา ใจท่คี งทน) นกั วทิ ยาศาสตรศึกษาธรณสี ัณฐานบริเวณแนวรอยตอของแผน ธรณี และอธิบายวาธรณีสณั ฐานตา ง ๆ เกดิ จากลกั ษณะการเคล่ือนที่ของแผนธรณีทแ่ี ตกตางกนั ไดแก แนวแผน ธรณแี ยกตวั ออกจากกัน แนวแผน ธรณเี คล่ือนท่ี เขาหากนั และแนวแผนธรณีเคลอื่ นที่ผานกันตามแนวระดบั การเคลอ่ื นที่ของแผนธรณีท้ัง 3 รูปแบบ ทาํ ใหเ กดิ ธรณี สณั ฐาน เชน รองลกึ กนสมทุ ร หมูเกาะภเู ขาไฟรูปโคง แนวภูเขาไฟ แนวเทอื กเขา หบุ เขาทรุดสันเขากลางสมทุ ร และ ธรณีพบิ ตั ิภยั เชน แผนดนิ ไหว ภูเขาไฟระเบดิ สนึ ามิ บรเิ วณขอบของแผนธรณี 2. มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู/เปาหมายการเรยี นรู ผลการเรยี นรู 3. อธิบายระบสุ าเหตแุ ละอธิบายแนวรอยตอของแผน ธรณีทสี่ มั พันธก ับการเคลอ่ื นทข่ี องแผนธรณีพรอ ม ยกตวั อยา งหลกั ฐานทางธรณีวิทยาทพ่ี บ จุดประสงคก ารเรียนรู 1. อธิบายรูปแบบการเคล่อื นท่ขี องแผน ธรณี ที่ทําใหเกดิ ธรณสี ณั ฐานแบบตา ง ๆ (K) 2. อธบิ ายหลกั ฐานทางธรณวี ิทยาที่เปน ผลมาจากการเคลอื่ นท่ีของแผน ธรณี (K) 3. สบื คนขอมูลเกยี่ วกับผลที่เกดิ จากการเคลื่อนที่ของแผน ธรณี (P) 4. สนใจใฝร ูในการศกึ ษา (A) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 3. สาระการเรยี นรู สาระการเรยี นรเู พม่ิ เติม สาระการเรยี นรูท องถน่ิ - การพาความรอนของแมกมาภายในโลก ทาํ ใหเกดิ การเคล่ือนท่ี พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา ของแผนธรณี ตามทฤษฎธี รณีแปรสัณฐาน ซ่ึงนกั วทิ ยาศาสตรได สํารวจพบหลกั ฐานทางธรณีวิทยา ไดแก ธรณสี ัณฐาน และธรณี โครงสรางที่บริเวณแนวรอยตอของแผนธรณี เชน รองลึกกน สมทุ ร หมเู กาะภเู ขาไฟรูปโคง แนวภเู ขาไฟ แนวเทอื กเขา หบุ เขา ทรดุ และสนั เขากลางสมุทร รอยเลอ่ื น นอกจากน้ยี ังพบการ เกิด ธรณีพบิ ัตภิ ยั ท่บี ริเวณแนวรอยตอของแผนธรณี เชน แผน ดนิ ไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ซ่ึงหลักฐานดังกลาวสัมพันธกับรูปแบบ การเคลื่อนท่ีของแผนธรณี นักวิทยาศาสตรจึงสรุปไดวาแนว รอยตอของแผนธรณีมี 3 รปู แบบ ไดแ ก แนวแผน ธรณีแย กตัว แนวแผนธรณีเคล่ือนที่เขา หากัน แนวแผนธรณเี คล่อื นท่ีผาน กัน ในแนวราบ 4. สมรรถนะสําคญั ของนักเรยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค 1. มี สมรรถนะสําคญั ของนกั เรียน วินยั 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ใฝเรยี นรู 2. ความสามารถในการคดิ 3. มุง ม่ันในการทํางาน 2.1 ทักษะการสงั เกต 2.2 ทกั ษะการสํารวจคน หา 2.3 ทักษะการสาํ รวจและคนหา 3. ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 5. กจิ กรรมการเรยี นรู แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู 5Es (5Es Instructional Model) ªÑèÇâÁ§·èÕ 1 ¢éѹ¹íÒࢌÒʺً ·àÃÂÕ ¹ กระตุนความสนใจ (Engage) 1. ครถู ามคําถามเพอื่ เปนการเปด ประเด็นชักชวนนักเรียนคยุ วา นักเรยี นคดิ วาเปลอื กโลกเกดิ การเคลอื่ นทไี่ ด หรือไม โดยครใู หน ักเรียนอภปิ รายเพ่อื หาคําตอบอยา งอสิ ระ 2. ครกู ระตุนความสนใจ โดยครตู ั้งคาํ ถามเพ่อื ใหน ักเรยี นรวมกันแสดงความคิดเหน็ ดงั น้ี * การเคลื่อนทข่ี องแผนธรณีตามทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐานมีลักษณะเปนอยางไร แนวตอบ ธรณีภาคแตกออกเปนแผนหลายแผน เรยี กวา แผน ธรณี แผนธรณีแตละแผน มีรูปแบบการ เคลื่อนที่ทแี่ ตกตา งกนั * จากทฤษฎกี ารแผข ยายพน้ื มหาสมทุ ร แผน ธรณบี รเิ วณทมี่ หาสมุทรมีการแผขยายมรี ูปแบบการเคลอ่ื นที่ อยางไร แนวตอบ แผน ธรณีเคล่ือนท่ีแยกออกจากกัน * นักเรียนคิดวาแผน ธรณมี ีรูปแบบการเคลือ่ นที่ เปนแบบใดไดอ กี แนวตอบ แผนธรณเี คลอ่ื นท่หี ากัน แผนธรณเี คลื่อนที่ผา นกนั หรือนักเรยี นตอบตามความคิดของ ตนเอง ¢é¹Ñ ¨Ñ´¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠สํารวจคน หา (Explore) 1. ครถู ามคําถาม prior knowledge จากหนังสอื เรยี นรายวิชาเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร และอวกาศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 เลม 1 หนา 28 วา แผนธรณีเคล่ือนท่ไี ดอยา งไร แนวตอบ แผนธรณีเคลอื่ นทไ่ี ดเน่ืองจาก วงจรการพาความรอ นภายในโลก 2. ใหน ักเรียนสืบคน ขอมูลเกี่ยวกบั รูปแบบการเคล่ือนทีข่ องแผนธรณี รวมทั้งขอ มลู อืน่ ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ ง แลว ครถู าม คําถามวา * แผนธรณีมอี ตั ราการเคลือ่ นทีป่ ระมาณเทาไร แนวตอบ ประมาณ 1 – 2.5 เซนตเิ มตร ตอ ป * นกั วิทยาศาสตรใ ชวธิ กี ารใดในการหาอัตราการเคลอ่ื นที่ของแผน ธรณี แนวตอบ ใชเ คร่อื งมือ GPS บอกการเปลีย่ นแปลงตาํ แหนง ของแผนธรณี * นักเรยี นคดิ วา นักวิทยาศาสตรส ามารถสังเกตการณเคลื่อนทข่ี องแผน ธรณี ไดหรอื ไม เพราะเหตุใด แนวตอบ ไมได เนื่องจากแผนธรณเี คล่อื นทชี่ ามาก และไมเ หน็ การเปลยี่ นแปลงในระยะเวลาอันส้ัน 3. ใหนักเรียนสบื คนื ขอ มลู เก่ียวกับธรณีสณั ฐานทเ่ี กิดจากการเคล่ือนทข่ี องแผน ธรณี เพือ่ เชื่อมโยงเขา สู กิจกรรม â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ªèÑÇâÁ§·èÕ 2 ¢Ñ鹨´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ สํารวจคนหา (Explore) (ตอ ) 4. ครูใหน ักเรียนนบั จาํ นวน 1-3 วนไปเรอื่ ย ๆ จนครบทกุ คน เพ่อื แบงนกั เรียนออกเปน กลุม กลุมละ 3 คน โดยคนทนี่ บั จาํ นวนเดยี วกันใหอยูกลุมเดียวกัน 5. ครแู จง จดุ ประสงคข องการทํากิจกรรม จากน้นั ใหนักเรียนศึกษารูปแบบการเคลื่อนที่ของแผนธรณี โดยทํา กิจกรรมธรณสี ณั ฐานทเ่ี กิดจากการเคลอ่ื นท่ีของแผน ธรณี 6. ครแู จกใบกจิ กรรมที่ 2.1 เร่อื ง ธรณีสัณฐานท่เี กิดจากการเคลื่อนทข่ี องแผนธรณี (# ครปู ระเมินนักเรียน โดยใชแ บบประเมนิ การปฏบิ ตั ิกิจกรรม) 7. ครใู ชรปู แบบการเรียนรูแบบรว มมือมาจัดกระบวนการเรยี นรู โดยกาํ หนดใหสมาชิกแตล ะคนภายในกลุมมี บทบาทหนา ทีข่ องตนเอง ดังนี้ สมาชิกคนที่ 1 ทาํ หนา ทีเ่ ตรยี มวัสดอุ ุปกรณ สมาชิกคนที่ 2 ทาํ หนาท่อี านวิธีการทํากจิ กรรม และนาํ มาอธิบายใหส มาชกิ ภายในกลุม ฟง สมาชกิ คนท่ี 3 ทาํ หนาที่บนั ทึกผลการทาํ กิจกรรม 8. ใหน ักเรียนแตล ะกลมุ ทาํ กิจกรรมตามขนั้ ตอน ดังนี้ 1) ใหนักเรยี นศึกษาภาพทศิ ทางการเคลื่อนทีข่ องแผนธรณี 2) ใหน ักเรียนใชโปรแกรม google earth สํารวจธรณสี ณั ฐานบริเวณแนวรอยตอ ของแผนธรณี 3) วิเคราะหข อมลู ท่สี ํารวจได และหาความสัมพันธร ะหวางธรณสี ัณฐานกบั รูปแบบการเคลือ่ นที่ของแผน ธรณี 4) พิจารณาขอมูลที่สาํ รวจไดท ้งั หมด แลวนาํ มาสรปุ เปนรปู แบบการเคลอื่ นทข่ี องแผนธรณี และธรณีสัณฐานท่ี เกิดข้นึ จากการเคล่อื นทีข่ องแผนธรณแี ตล ะรปู แบบ ในรปู แบบแผนภาพ หรอื infographic 5) ครูและนักเรยี นรว มกันพจิ ารณาแผนภาพ หรอื infographic เพ่อื ชวยกนั ตรวจสอบขอมูล 9. ใหนกั เรียนแตล ะกลมุ สงตัวแทนมานาํ เสนอผลการทํากจิ กรรม 10. ครแู ละนักเรยี นรวมกันอภปิ รายผลการทํากิจกรรม โดยครตู ั้งคาํ ถามเพือ่ ใหน ักเรยี นแตละกลมุ รว มกนั แสดง ความคดิ เห็น ดงั นี้ * การเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณมี ีกี่รูปแบบ อะไรบาง แนวตอบ 3 รปู แบบ ไดแก แนวแผน ธรณเี คล่อื นทแ่ี ยกออกจากกนั แนวแผนธรณีเคล่อื นท่ีหากัน และ แนวแผนธรณีเคล่ือนท่ผี านกนั * นักวทิ ยาศาสตรร วบรวมขอมูลและสรปุ เปน รปู แบบการเคลอื่ นทีแ่ ผนธรณไี ดอยางไร แนวตอบ ศกึ ษาธรณีสณั ฐานที่พบบนผวิ โลก และวิเคราะหว า ธรณสี ณั ฐานดังกลา วเกิดจากการเคล่ือนที่ ของแผนธรณีในรูปแบบใด แลว รวบรวมขอมูล สรุปเปนรปู แบบการเคลื่อนท่ขี องแผน ธรณี â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 * ธรณสี ณั ฐานที่เกิดจากแนวแผน ธรณีเคล่อื นทแ่ี ยกออกจากกันมอี ะไรบา ง แนวตอบ สนั เขากลางสมทุ ร และหบุ เขาทรดุ * ธรณสี ัณฐานทเี่ กิดจากแนวแผน ธรณีเคลื่อนท่หี ากนั มอี ะไรบาง แนวตอบ แนวเทอื กเขา รองลึกกนสมุทร และหมเู กาะภูเขาไฟรูปโคง * ธรณสี ณั ฐานที่เกิดจากแนวแผนธรณเี คลื่อนทีห่ ากนั มีอะไรบา ง แนวตอบ ไมเกิดเปนธรณสี ณั ฐาน แตพ บรอยเล่ือนตามแนวระดับขนาดใหญ ªÑèÇâÁ§·èÕ 3 ¢é¹Ñ ¨´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠อธิบายความรู (Explain) 1. ครูใหน ักเรียนจับคกู ันสบื คนขอมูลเกย่ี วกบั เรอื่ งการเคลอื่ นทีข่ องแผน ธรณีท้ัง 3 รปู แบบ ดงั น้ี - แผน ธรณีมหาสมทุ รเคลื่อนทแ่ี ยกออกจากแผน ธรณีมหาสมทุ ร - แผนธรณที วีปเคลอ่ื นทแี่ ยกออกจากแผนธรณที วีป - แผน ธรณีทวีปเคลอื่ นที่หาแผนธรณที วีป - แผน ธรณีมหาสมทุ รเคลอ่ื นที่หาแผนธรณีมหาสมทุ ร - แผนธรณที วปี เคล่อื นทีห่ าแผน ธรณมี หาสมทุ ร - แผนธรณที วปี เคลื่อนทผ่ี านแผนธรณที วปี - แผนธรณมี หาสมุทรเคลือ่ นที่ผา นแผน ธรณมี หาสมทุ ร โดยนักเรยี นอาจสืบคน จากหนงั สือเรียน หรอื แหลงเรียนรอู ื่นๆ แลว นําขอมลู มาแลกเปล่ยี นความคิดเห็น และ รว มกันตงั้ ประเด็นคาํ ถามเกี่ยวกับเร่ืองทส่ี ืบคนมา (# ครปู ระเมินนักเรียน โดยใชแบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบคุ คล) 2. ใหนักเรียนรวมกลมุ กบั เพือ่ นอีกคหู นงึ่ รวมเปน 4 คน แลว แลกเปลย่ี นกันถามคําถามที่ต้ังไว จากนั้นรว มกัน สรุปเพอ่ื เตรยี มนําเสนอหนาช้นั เรยี น 3. ครสู ุมเลือกนกั เรียน 2-3 กลุม ใหอ อกมานําเสนอคาํ ถามของกลุมตนเอง โดยใหนกั เรียนท้งั หองรวมกนั ตอบ คําถาม และอภิปรายรวมกนั ¢Ñ¹é ÊÃØ» ขยายความเขาใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรียนรว มกันอภปิ รายเพอ่ื ใหไดขอสรปุ เก่ยี วกับรปู แบบการเคล่อื นทข่ี องแผน ธรณี โดยอาจมี แนวทางสรปุ แสดงดงั ตาราง â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 แนวแผนธรณี ชนิดของแผน ธรณี ธรณสี ณั ฐาน บริเวณทพี่ บ แยกออกจาก กนั มหาสมุทร-มหาสมทุ ร สันเขากลางสมุทร มหาสมทุ รแอตแลนตกิ หบุ เขาทรดุ เขาหากนั ทวีป-ทวีป หบุ เขาทรุด หุบเขาทรดุ แอฟรกิ าตะวนั ออก ทวีป-ทวีป แนวเทือกเขา เทือกเขาหมิ าลยั ทวีป-มหาสมุทร แนวเทือกเขารองลกึ กน สมทุ ร เทือกเขาแอนดีส แนวภูเขาไฟรูปโคง รอ งลกึ กนสมุทร เกาะสุมาตรา ประเทศญี่ปุน มหาสมุทร-มหาสมุทร - มหาสมุทรแอตแลนติก - รอยเลอื่ นซานแอนเดรยี ส ผานกันในแนว มหาสมุทร-มหาสมทุ ร ระดับ ทวีป-ทวีป 2. ครมู อบหมายการบานใหน ักเรยี นทาํ แบบฝก หัดเรอ่ื ง รูปแบบการเคลือ่ นทขี่ องแผน ธรณี จากแบบฝกหัด รายวิชาเพมิ่ เติม โลก ดาราศาสตร และอวกาศ มธั ยมศึกษาปท ่ี 4 หนว ยการเรยี นรูที่ 2 ธรณีแปรสณั ฐาน ªèÇÑ âÁ§·èÕ 4 ¢Ñé¹¹íÒà¢ÒŒ ʺً ·àÃÂÕ ¹ กระตนุ ความสนใจ (Engage) 1. ครกู ระตุนความสนใจ โดยครตู ้งั คาํ ถามเพือ่ ใหนักเรยี นรวมกันแสดงความคดิ เห็น ดงั นี้ * ประเทศท่ีอยูบ รเิ วณแนวรอยตอของแผนธรณี มีลกั ษณะเปนอยา งไร แนวตอบ ประเทศญปี่ นุ และประเทศอินโดนเี ซีย มีลกั ษณะเปน หมเู กาะภูเขาไฟรปู โคง ประเทศใน ทวปี อเมริกาใตมแี นวเทือกเขาสงู อยทู างดานตะวันตกของประเทศ * ประเทศดงั กลาวมักมขี า ว หรอื เหตกุ ารณใดบอยคร้งั แนวตอบ มีขาวธรณพี บิ ตั ภิ ัย เชน แผน ดินไหว บอ ยคร้ัง * นกั เรียนคิดวา การเคลอื่ นที่ของแผนธรณีนอกจากจะทําใหเ กิดธรณสี ัณฐานแลวยังทําใหเกดิ สิ่งใด แนวตอบ ทาํ ใหเกดิ ธรณพี ิบัตภิ ยั เชน แผนดนิ ไหว ภเู ขาไฟระเบิด สนึ ามิ ¢Ñ¹é ¨Ñ´¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ สํารวจคน หา (Explore) 1. ใหนักเรียนสืบคน ขอมลู เกี่ยวกับธรณีพิบตั ภิ ัยบรเิ วณแนวรอยตอ ของแผน ธรณี แลว ครถู ามคําถามวา * บริเวณแนวแผน ธรณีเคลื่อนท่อี อกจากกัน พบธรณีพิบัตภิ ยั ใดบาง แนวตอบ แผนดนิ ไหวระดบั ตน้ื และภูเขาไฟระเบดิ * บรเิ วณแนวแผน ธรณีเคลือ่ นทหี่ ากนั พบธรณีพิบตั ิภัยใดบา ง แนวตอบ แผน ดนิ ไหวระดับลึก ภเู ขาไฟระเบดิ และสนึ ามิ * บรเิ วณแนวแผนธรณีเคลือ่ นที่ผานกนั พบธรณพี บิ ัติภยั ใดบาง แนวตอบ แผนดินไหวระดบั ตน้ื 2. ใหน ักเรียนสืบคืนขอ มลู เก่ียวกบั การเปลีย่ นลักษณะของเปลือกโลก เพอ่ื เชอื่ มโยงเขาสกู จิ กรรม â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 3. ครใู หน ักเรียนแบงกลมุ กลุม ละ 3 คนอยา งอสิ ระ โดยสมาชิกในกลมุ จะตอ งไมซาํ้ กบั การจับกลุมในช่วั โมง ทผี่ านมา 4. ครูแจง จุดประสงคของการทํากิจกรรม จากนัน้ ใหนกั เรียนจากน้นั ใหนักเรียนอธิบายผลท่เี กดิ จากเคล่ือนที่ของ แผนธรณี โดยทํากจิ กรรมการเปลีย่ นลกั ษณะของเปลือกโลก 5. ครแู จกใบกิจกรรมที่ 2.2 เรือ่ ง การเปลีย่ นลกั ษณะของเปลอื กโลก ใหน กั เรียน ( # ครปู ระเมนิ นักเรยี น โดยใชแ บบประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรม) 6. ครใู ชร ปู แบบการเรียนรแู บบรว มมือมาจัดกระบวนการเรยี นรู โดยกาํ หนดใหสมาชกิ แตล ะคนภายในกลุม มี บทบาทหนา ทขี่ องตนเอง ดงั นี้ สมาชกิ คนท่ี 1 ทาํ หนา ทเ่ี ตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ สมาชิกคนท่ี 2 ทําหนา ที่อานวธิ กี ารทํากจิ กรรม และนาํ มาอธิบายใหส มาชกิ ภายในกลมุ ฟง สมาชกิ คนที่ 3 ทําหนา ท่ีบนั ทกึ ผลการทาํ กิจกรรม 7. ใหนกั เรียนแตล ะกลุม ทาํ กิจกรรมตามขั้นตอน ดังน้ี 1) ปนดนิ มนั ใหเปนรปู สี่เหลีย่ ม ขนาดประมาณ กวา ง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนตเิ มตร สูง 1 เซนติเมตร จาํ นวน 4 แผน ใหม สี ีตางกัน 2) นาํ ดินนํา้ มัน 3 แผนวางซอนกนั และออกแรงดนั เขา หากัน สังเกตการเปลี่ยนแปลงและบันทกึ ผล 3) นํามาดนิ นํา้ มัน 1 แผน มาออกแรงดึงท้งั สองขา ง สังเกตการเปล่ียนแปลงและบันทกึ ผล 4) เปล่ยี นจากดินนาํ้ มันเปน ขนมปงกรอบ ออกแรงดันเขา หากนั สงั เกตการเปลีย่ นแปลงและบนั ทึกผล 5) นําขนมปง กรอบมาออกแรงดึงทั้งสองขา ง สังเกตการเปลยี่ นแปลงและบันทกึ ผล 8. ใหน ักเรยี นแตล ะกลมุ นําเสนอผลการทาํ กจิ กรรม ªÇèÑ âÁ§·Õè 5 ¢Ñ鹨 Ñ´ ¡ Ô¨ ¡ ÃÃÁ¡ ÒÃà ÃÕ¹ÃÙŒ อธิบายความรู (Explain) 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั อภิปรายผลการทํากจิ กรรม โดยครูตั้งคาํ ถามเพ่อื ใหน ักเรยี นแตละกลุมรว มกนั แสดง ความคดิ เหน็ ดงั น้ี * ดนิ นา้ํ มันมีการเปล่ยี นแปลงอยา งไร เมือ่ ถกู แรงมากระทาํ แนวตอบ เม่อื ออกแรงดันดินน้ํามนั จะโกง ตัวขนึ้ เมอื่ ออกแรงดงึ ดินน้ํามนั จะขาดออกจากกนั * การเปล่ียนแปลงของดนิ นาํ้ มนั เปรียบเทยี บกับการเปล่ยี นแปลงของเปลือกโลกไดอยา งไร แนวตอบ เปลอื กโลกที่มสี มบัตเิ ปนของแขง็ แบบพลาสติกคลายกับดินน้าํ มันจะมีการเปลี่ยนแปลง คลา ยกบั ดินนํ้ามัน เกิดเปน รอยคดโคง หรอื แนวเทือกเขา * ขนมปง กรอบมีการเปลี่ยนแปลงอยา งไร เม่ือถกู แรงมากระทํา แนวตอบ เมือ่ ออกแรงดันขนมปง กรอบจะโกง ตวั ขึน้ เลก็ นอ ยและแตกหกั ออกจากนั เมื่อออกแรงดัน ขนมปงกรอบจะแตก และแยกออกจากกัน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 * การเปลย่ี นแปลงของขนมปงกรอบ เปรยี บเทยี บกบั การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกไดอ ยางไร แนวตอบ เปลือกโลกทมี่ สี มบตั ิเปนของแขง็ แบบแข็งแกรง คลา ยกับขนมปง กรอบจะมีการ เปลยี่ นแปลงคลายกับขนมปงกรอบ เกิดเปน รอยแตก หรอื รอยเลื่อน ¢éѹlÊÃØ» ขยายความเขา ใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรยี นรว มกนั อภิปรายเพอื่ ใหไดข อสรปุ เกี่ยวกับผลการเคล่ือนท่ขี องแผนธรณี โดยอาจมแี นวทาง สรุป แสดงดงั ตาราง แนวแผน ธรณี ชนดิ ของแผนธรณี ธรณีสณั ฐาน เหตุการณทางธรณี บริเวณท่พี บ แยกออกจากกนั มหาสมทุ ร-มหาสมุทร สันเขากลางสมทุ ร การแผข ยายพ้ืนสมทุ ร มหาสมุทรแอตแลนตกิ หบุ เขาทรุด แผนดินไหว ภเู ขาไฟระเบดิ หบุ เขาทรุดแอฟริกา เขาหากนั ทวปี -ทวปี หบุ เขาทรดุ แผนดินไหว ตะวันออก ภูเขาไฟระเบิด เทอื กเขาหิมาลยั ทวปี -ทวปี แนวเทอื กเขา เทอื กเขาแอนดีส ทวปี -มหาสมทุ ร แนวเทือกเขา แผนดนิ ไหวระดบั ลึก รอ งลกึ กนสมุทร เกาะสมุ าตรา เขตมุดตวั ประเทศญีป่ ุน มหาสมทุ ร-มหาสมุทร แนวภูเขาไฟรปู โคง แผน ดนิ ไหวระดบั ลกึ รอ งลึกกนสมุทร ภเู ขาไฟระเบดิ มหาสมทุ รแอตแลนติก เขตมดุ ตวั รอยเลือ่ น ผา นกนั ในแนว มหาสมทุ ร-มหาสมทุ ร - แผนดนิ ไหวระดบั ลึก ซานแอนเดรยี ส ระดับ ทวีป-ทวีป - ภูเขาไฟระเบดิ แผนดินไหว แผนดนิ ไหว 2. ครูใหน กั เรียนจบั คูกนั สืบคนขอมลู เกย่ี วกบั เรื่องผลที่เกดิ จากการเคล่ือนท่ีของแผนธรณี ดังนี้ - รูปรา งของทวปี ในอนาคต - รปู รางของบรเิ วณตา งๆในโรงเรียน - ผลกระทบตอสภาพภูมอิ ากาศ - ผลกระทบตอสง่ิ มชี วี ติ โดยนักเรียนอาจสบื คนจากบรเิ วณตามทไ่ี ดรับมอบหมาย(ศึกษาสภาพจริง)หนงั สอื เรยี นหรอื แหลง เรียนรอู ืน่ ๆ แลวนําขอ มลู มาแลกเปลย่ี นความคิดเห็น และรวมกันตง้ั ประเดน็ คําถามเกีย่ วกบั เรอ่ื งทส่ี ืบคน มา 3. ใหนักเรยี นรวมกลมุ กบั เพ่ือนอีกคูหนงึ่ รวมเปน 4 คน แลว แลกเปลีย่ นกันถามคาํ ถามท่ตี ัง้ ไว จากน้นั รวมกัน สรุปเพอ่ื เตรียมนาํ เสนอหนาชั้นเรยี น (# ครูประเมินนกั เรยี น โดยใชแบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุม) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 4. ครสู มุ เลอื กนกั เรียน 2-3 กลุม ใหอ อกมานําเสนอคําถามของกลุม ตนเอง โดยใหนกั เรียนทงั้ หอ งรวมกันตอบ คาํ ถาม และอภปิ รายรวมกนั 5. ครูถามคําถาม big question การเคลอื่ นตัวของแผนเปลือกโลกจะสง ผลอยา งไรกับส่ิงมชี วี ิตในอนาคต ขางหนา แนวตอบ เม่อื แผนธรณีมีการเคลอื่ นทีเ่ ปล่ียนแปลงตาํ แหนงไปจากเดิม ทาํ ใหรูปรา งของทวีปและ มหาสมทุ รเปลี่ยนแปลงไปจากเดมิ สง ตอการเปลี่ยนแปลงระดบั นาํ้ ทะเล และสภาพภูมอิ ากาศ ซึง่ อาจทาํ ใหส งิ่ มชี วี ิต บางชนดิ สญู พนั ธุ เน่อื งจากการเพม่ิ ขึ้นหรือลดลงของระดับนํ้าทะเล ภาวะขาดแคลนออกซเิ จน สภาพอากาศท่รี อ นจัด หรือเยน็ จดั ªÑÇè âÁ§·èÕ 6 ¢¹Ñé lÊÃ»Ø ขยายความเขาใจ (Elaborate) (ตอ) 6. ครใู หน กั เรยี นแบงกลมุ กลมุ ละ 3 คน ทาํ ใบงานที่ 2.1 โดยสรปุ ความรูเรื่องรปู แบบการเคลอ่ื นทขี่ องแผนธรณี ในรปู ของแผนผังความคิดใหม ีความถูกตองและนาสนใจ แลว นําเสนอผลงาน (#: ครปู ระเมนิ นักเรยี น โดยใชแ บบประเมนิ การนําเสนอผลงาน) 7. ครูมอบหมายการบา นใหนกั เรยี นทําแบบฝก หดั จาก Unit Question 2 จากหนงั สอื รายวิชาเพม่ิ เติม โลก ดาราศาสตร และอวกาศ มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน 8. ครแู ละนักเรยี นรว มกนั สรปุ เนื้อหาเกีย่ วกบั รปู แบบการเคลือ่ นทีข่ องแผนธรณี และผลทีเ่ กิดจากการเคลื่อนท่ี ของแผนธรณี จากน้นั ใหน ักเรยี นทาํ แบบทดสอบหลังเรยี น ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน 2. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคาํ ถาม การรวมกันทาํ ผลงานและการนาํ เสนอผลงาน 3. ครปู ระเมนิ การปฏิบตั กิ ารจากการทาํ ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง รปู แบบการเคลื่อนทขี่ องแผนธรณี 4. ครูตรวจผลการทําแบบฝก หดั จาก Unit Question 2 5. ครตู รวจสอบผลการทําแบบฝกหัด â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 6. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑการประเมนิ รอ ยละ 60 ผา นเกณฑ 6.1 การประเมนิ กอนเรยี น - พิจารณาตามผลทไ่ี ดจ รงิ - แบบทดสอบหลงั เรียน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบหลังเรียน - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผานเกณฑ - พจิ ารณาตามผลทไี่ ดจ รงิ หนว ยการเรยี นรูที่ 2 หลังเรียน - ระดับคณุ ภาพ 2 ผา นเกณฑ - รอ ยละ 60 ผา นเกณฑ เรอื่ ง ธรณแี ปรสัณฐาน - รอ ยละ 60 ผานเกณฑ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา นเกณฑ 6.2 ประเมนิ ระหวา งการ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา นเกณฑ ระดับคณุ ภาพ 2 ผานเกณฑ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู ระดบั คุณภาพ 2 ผานเกณฑ 1) ธรณีสัณฐานที่เกดิ - ตรวจใบกิจกรรมที่ 2.1 - ใบกิจกรรมท่ี 2.1 จากการเคล่อื นที่ - ประเมนิ การปฏิบตั ิ - แบบประเมนิ การ ของแผน ธรณี กจิ กรรม ปฏบิ ัติกจิ กรรม 2) การเปลย่ี นลักษณะ - ตรวจใบกิจกรรมท่ี 2.2 - ใบกจิ กรรมที่ 2.2 ของเปลือกโลก - ประเมนิ การปฏบิ ัติ - แบบประเมนิ การ กิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรม 3) การเคลื่อนทข่ี อง - ตรวจใบงานท่ี 2.1 - ใบงานท่ี 2.1 แผนธรณี - ตรวจแบบฝก หัด - แบบฝกหดั 4) การนาํ เสนอผลงาน - ประเมินการนําเสนอ - แบบประเมินการ ผลงาน นาํ เสนอผลงาน 5) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ทาํ งานรายบคุ คล การทาํ งานรายบคุ คล การทํางานรายบคุ คล 6) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม การทาํ งานกลมุ การทาํ งานกลุม การทาํ งานกลุม 7) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ อนั พงึ ประสงค ใฝเรยี นรู และมุงมน่ั ใน คุณลักษณะ การทํางาน อนั พงึ ประสงค â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 7. สอื่ /แหลง การเรียนรู 7.1 สือ่ การเรียนรู 1) หนงั สอื เรียนรายวชิ าเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตรและอวกาศ มัธยมศึกษาปท่ี 4 เลม 1 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 ธรณีแปรสณั ฐาน 2) แบบฝก หดั รายวิชาเพ่ิมเตมิ โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ มัธยมศึกษาปท่ี 4 เลม 1 หนวยการเรยี นรทู ่ี 2 ธรณแี ปรสณั ฐาน 3) ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง การเคลื่อนที่ของแผน ธรณี 4) ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 ธรณีสัณฐานท่เี กิดจากการเคลื่อนท่ขี องแผนธรณี 5) ใบกจิ กรรมท่ี 2.2 การเปลี่ยนลกั ษณะของเปลือกโลก 6) วัสดุ-อุปกรณท ีใ่ ชใ นการทาํ กจิ กรรมธรณสี ัณฐานที่เกดิ จากการเคล่อื นที่ของแผน ธรณี 7) วสั ดุ-อุปกรณที่ใชใ นการทํากิจกรรมการเปลยี่ นลกั ษณะของเปลอื กโลก 8) ภาพทิศทางการเคลือ่ นที่ของแผนธรณี 9) โปรแกรม google earth 7.2 แหลง การเรยี นรู 1) หอ งเรยี น 2) หองสมดุ 3) บริเวณโรงเรียน 4) แหลง ขอ มูลสารสนเทศ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 8. การบูรณาการตามจดุ เนน ของโรงเรยี น หลกั ปรัชญา ครู นกั เรียน ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดดี า นเทคโนโลยี พอดีดานจิตใจ รูจกั ใชเ ทคโนโลยมี าผลติ สอื่ ท่ี มจี ิตสํานึกทีด่ ี จติ สาธารณะรว ม 2. ความมเี หตผุ ล อนรุ ักษ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคลอ งเนือ้ หาเปน สิง่ แวดลอ ม ประโยชนต อ นกั เรยี นและพัฒนาจาก ภมู ิปญ ญาของนักเรยี น ศึกษาหาความรดู วยตนเอง เพอื่ คนหา ยึดถอื การประกอบอาชพี ดว ยความ คําตอบเพื่อใหห ลดุ พนจากความไมรู ถูกตอ ง สุจรติ 3. มีภมู ิคุมกันในตวั ที่ดี ภมู ปิ ญ ญา : มคี วามรู รอบคอบ และ ภมู ิปญญา : มคี วามรู รอบคอบ 4. เง่อื นไขความรู ระมัดระวัง รบั ผิดชอบ ระมัดระวงั สรางสรรค ความรอบรู เรื่อง ธรณีแปรสณั ฐาน 5. เง่ือนไขคณุ ธรรม ความรอบรู เรื่อง ธรณีแปรสณั ฐาน ในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตามใบงานที่ 2.1 และ ใบกิจกรรมท่ี 2.1 และ 2.2 ความซอื่ สตั ยสจุ รติ และอดทน มี ความเพยี ร ใชสติปญญาในการดาํ เนิน มคี ุณธรรม ซือ่ สตั ยสุจรติ และอดทน ชวี ติ ใชส ตปิ ญ ญาในการเรยี นและดําเนิน ชวี ิต สวนพฤกษศาสตรโ รงเรียน ครู นักเรียน - การเคลื่อนท่ขี องแผนธรณี จัดกิจกรรมการเรียนรู ใหน ักเรยี นอธบิ าย นักเรยี นศึกษาหาขอ มูลบริเวณท่ีไดรบั - การเปลยี่ นลกั ษณะของเปลือกโลก - การเคลอื่ นทขี่ องแผนธรณี มอบหมาย เพื่อมารวมอธบิ าย อภปิ รายใน หองเรียน - การเปลี่ยนลักษณะของเปลอื กโลก - การเคลื่อนทีข่ องแผน ธรณี (กาํ หนดบรเิ วณท่ีไดรบั มอบหมาย) - การเปลี่ยนลกั ษณะของเปลอื กโลก ส่งิ แวดลอ ม ครู นกั เรยี น การเคลือ่ นทขี่ องแผน ธรณี จัดกจิ กรรมการเรียนรู ใหน กั เรยี นอภปิ ราย นักเรยี นสิบคนขอ มลู เพอื่ นํามาอภิปราย การเปลย่ี นลกั ษณะของเปลือกโลก - การเคลือ่ นท่ขี องแผนธรณี - การเคลือ่ นที่ของแผนธรณี - การเปลยี่ นลกั ษณะของเปลือกโลก - การเปลีย่ นลักษณะของเปลือกโลก (กําหนดหัวขอใหน กั เรียนสบื คน และรว ม (ตามหวั ขอที่กําหนด ในหอ งสมุด หอ ง อภิปรายในชนั้ เรียน) สบื คน สารสนเทศ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู หนว ยการเรียนรูท่ี 2 เร่อื ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจัดการเรียนรูท ี่ 2 เรื่อง û٠Ẻ¡ÒÃà¤ÅÍ×è ¹·¢èÕ Í§á¼‹¹¸Ã³Õ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 4 ครูผสู อน นางสาวณฐั ธนญั า บุญถงึ ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาท่ีใช 6 ชว่ั โมง (ชว่ั โมงที่ 1-2) ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู ขอคน พบระหวา ง ปญ หาทีพ่ บ แนวทางแกไ ข ท่มี ีการจัดกิจกรรมการเรียนรู เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู ส่อื ประกอบการเรยี นรู พฤติกรรม/การมีสวนรวมของ นกั เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผูจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (นางสาวณัฐธนญั า บุญถึง) ตาํ แหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู หนว ยการเรียนรูท ่ี 2 เร่ือง ธรณแี ปรสณั ฐาน แผนจดั การเรยี นรูที่ 2 เรอ่ื ง û٠Ẻ¡ÒÃà¤Å×Íè ¹·Õ¢è ͧἋ¹¸Ã³Õ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วิชา ว31209 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 4 ครผู สู อน นางสาวณฐั ธนัญา บญุ ถงึ ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาที่ใช 6 ชัว่ โมง (ชั่วโมงท่ี 3-4) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู ขอ คนพบระหวาง ปญหาทพี่ บ แนวทางแกไ ข ท่มี กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู เนื้อหา กิจกรรมการเรยี นรู สอื่ ประกอบการเรียนรู พฤติกรรม/การมีสว นรวมของ นกั เรยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผูจดั กิจกรรมการเรียนรู (นางสาวณฐั ธนญั า บุญถงึ ) ตําแหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 แบบบันทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู หนว ยการเรียนรูท่ี 2 เรอ่ื ง ธรณแี ปรสัณฐาน แผนจัดการเรียนรทู ี่ 2 เรอื่ ง û٠Ẻ¡ÒÃà¤ÅÍè× ¹·Õ¢è ͧἹ‹ ¸Ã³Õ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวชิ า ว31209 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 4 ครูผสู อน นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ตาํ แหนง ครู คศ. 2 เวลาที่ใช 6 ชัว่ โมง (ชั่วโมงท่ี 5-6) ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู ขอคน พบระหวาง ปญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ ข ท่ีมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู เน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู สอื่ ประกอบการเรียนรู พฤตกิ รรม/การมสี ว นรว มของ นกั เรียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผูจดั กจิ กรรมการเรียนรู (นางสาวณฐั ธนญั า บุญถงึ ) ตาํ แหนง ครู คศ. 2 ………../………………../…………….. â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ˹‹Ç¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ÙŒ èÕ 2 á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ·èÕ 2 â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 เรอื่ ง ธรณสี ณั ฐานทเ่ี กิดจากการเคลื่อนทขี่ องแผน ธรณี หนวยการเรยี นรูท่ี 2 เรอ่ื ง ธรณีแปรสัณฐาน แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เร่ือง ÃٻẺ¡ÒÃà¤Å×è͹·Õ¢è ͧἹ‹ ¸Ã³Õ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวชิ า ว31209 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 4 *********************** ช่อื -สกลุ สมาชิกภายในกลมุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คําชี้แจง : ใหนกั เรยี นปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามขนั้ ตอนที่ให แลว บันทกึ ผลที่ไดพรอมกับสรุปและอภปิ รายผลท่ีได การทํากจิ กรรม ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิกิจกรรม 1) ใหน ักเรียนศึกษาภาพทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ีของแผน ธรณี 2) ใหนกั เรียนใชโปรแกรม google earth สํารวจธรณีสัณฐานบริเวณแนวรอยตอของแผนธรณี 3) วเิ คราะหข อมูลทีส่ ํารวจได และหาความสัมพันธร ะหวางธรณสี ัณฐานกับรปู แบบการเคล่ือนที่ของแผนธรณี 4) พิจารณาขอมลู ทส่ี าํ รวจไดทัง้ หมด แลวนาํ มาสรุปเปนรูปแบบการเคล่อื นทีข่ องแผนธรณี และธรณีสณั ฐานที่ เกิดขึน้ จากการเคล่อื นทขี่ องแผนธรณีแตละรปู แบบ ในรูปแบบแผนภาพ หรือ infographic บนั ทกึ ผลการทาํ กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 สรุปและอภิปรายผลการทาํ กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 à©Å ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 เรอื่ ง ธรณีสณั ฐานทีเ่ กดิ จากการเคล่ือนทข่ี องแผนธรณี หนวยการเรยี นรูท่ี 2 เร่ือง ธรณแี ปรสณั ฐาน แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เรื่อง ÃٻẺ¡ÒÃà¤ÅèÍ× ¹·è¢Õ ͧἹ‹ ¸Ã³Õ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหัสวชิ า ว31209 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 4 *********************** ช่ือ-สกลุ สมาชิกภายในกลุม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คําชแี้ จง : ใหนกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมตามขัน้ ตอนที่ให แลว บนั ทกึ ผลทไ่ี ดพรอ มกับสรุปและอภปิ รายผลท่ีไดการทํา กจิ กรรม ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิกิจกรรม 1) ใหนกั เรยี นศึกภาพทศิ ทางการเคล่อื นทขี่ องแผน ธรณี 2) ใหน ักเรียนใชโ ปรแกรม google earth สํารวจธรณสี ณั ฐานบริเวณแนวรอยตอ ของแผนธรณี 3) วเิ คราะหขอมลู ท่ีสาํ รวจได และหาความสมั พนั ธร ะหวางธรณสี ัณฐานกับรปู แบบการเคลอื่ นท่ขี องแผน ธรณี 4) พิจารณาขอมลู ทีส่ าํ รวจไดท้ังหมด แลว นํามาสรุปเปนรูปแบบการเคล่ือนท่ขี องแผนธรณี และธรณสี ณั ฐานที่ เกดิ ข้นึ จากการเคลอ่ื นทขี่ องแผนธรณีแตล ะรปู แบบ ในรปู แบบแผนภาพ หรือ infographic บันทึกผลการทํากิจกรรม แนวแผนธรณี ชนดิ ของแผนธรณี ธรณสี ัณฐาน บรเิ วณทพี่ บ แยกออกจากกัน มหาสมทุ ร-มหาสมทุ ร สนั เขากลางสมุทร มหาสมุทรแอตแลนตกิ หุบเขาทรุด เขาหากนั ทวปี -ทวปี หุบเขาทรุด หุบเขาทรดุ แอฟริกา ทวปี -ทวปี ตะวันออก ทวปี -มหาสมทุ ร แนวเทือกเขา เทอื กเขาหิมาลัย มหาสมทุ ร-มหาสมทุ ร แนวเทือกเขา เทือกเขาแอนดสี รองลกึ กน สมทุ ร ผานกันในแนว มหาสมทุ ร-มหาสมทุ ร แนวภูเขาไฟรูปโคง เกาะสุมาตรา ระดบั ทวีป-ทวปี รอ งลกึ กนสมุทร ประเทศญ่ปี นุ - มหาสมทุ รแอตแลนติก - รอยเล่ือน ซานแอนเดรียส â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง การเคลอ่ื นที่ของแผน ธรณีแตล ะรูปแบบทําใหเกดิ ธรณีสัณฐานท่แี ตกตางกนั ซง่ึ การศึกษาธรณสี ัณฐานที่พบบน ผวิ โลกทาํ ใหส ามารถสรปุ ไดวา การเคลื่อนท่ีของแผนธรณมี ี 3 รูปแบบ ไดแก แนวแผนธรณีเคล่อื นที่ออกจากกัน แนว แผนธรณเี คลอ่ื นทห่ี ากนั และแนวแผนธรณเี คล่อื นทผ่ี า นกนั (ข้ึนอยูกับดุลยพนิ ิจของผูสอน โดยใหผูสอนพิจารณาจากผลกิจกรรมที่นกั เรียนทาํ ไดจ รงิ ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบกิจกรรมที่ 2.2 เรื่อง การเปลยี่ นลักษณะของเปลือกโลก หนวยการเรียนรูที่ 2 เรื่อง ธรณแี ปรสณั ฐาน แผนจดั การเรียนรูที่ 2 เร่อื ง ÃٻẺ¡ÒÃà¤ÅÍè× ¹·¢èÕ Í§á¼¹‹ ¸Ã³Õ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวิชา ว31209 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 *********************** ช่อื -สกลุ สมาชิกภายในกลุม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ช้ีแจง : ใหน กั เรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามขนั้ ตอนที่ให แลว บนั ทึกผลทไ่ี ดพรอ มกับสรุปและอภิปรายผลที่ไดการทาํ กิจกรรม ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติกจิ กรรม 1) ปน ดนิ มนั ใหเปนรูปสี่เหลย่ี ม ขนาดประมาณ กวาง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนตเิ มตร สงู 1 เซนติเมตร จาํ นวน 4 แผนใหมีสตี า งกัน 2) นําดินนาํ้ มนั 3 แผนวางซอนกนั และออกแรงดันเขา หากนั สังเกตการเปลย่ี นแปลงและบันทกึ ผล 3) นาํ มาดินน้าํ มนั 1 แผน มาออกแรงดึงท้ังสองขาง สังเกตการเปลยี่ นแปลงและบันทกึ ผล 4) เปล่ยี นจากดนิ นาํ้ มันเปน ขนมปง กรอบ ออกแรงดันเขาหากนั สังเกตการเปลย่ี นแปลงและบันทึกผล 5) นาํ ขนมปงกรอบมาออกแรงดึงทัง้ สองขาง สงั เกตการเปลีย่ นแปลงและบนั ทึกผล บนั ทึกผลการทาํ กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปและอภิปรายผลการทาํ กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ใบกิจกรรมท่ี 2.2 เรอ่ื ง การเปลีย่ นลักษณะของเปลอื กโลก à©Å หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 เร่ือง ธรณแี ปรสณั ฐาน แผนจดั การเรยี นรทู ี่ 2 เร่อื ง ÃٻẺ¡ÒÃà¤ÅèÍ× ¹·è¢Õ ͧἹ‹ ¸Ã³Õ รายวชิ า โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 4 *********************** ช่อื -สกลุ สมาชิกภายในกลมุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คาํ ชแี้ จง : ใหน ักเรยี นปฏิบตั กิ ิจกรรมตามขัน้ ตอนทใ่ี ห แลว บันทกึ ผลทไ่ี ดพรอ มกับสรุปและอภิปรายผลท่ีไดการทาํ กิจกรรม ขัน้ ตอนการปฏิบัติกิจกรรม 1) ปน ดนิ มันใหเ ปนรูปส่ีเหลย่ี ม ขนาดประมาณ กวา ง 5 เซนตเิ มตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนตเิ มตร จาํ นวน 4 แผน ใหม ีสตี างกัน 2) นาํ ดนิ น้ํามัน 3 แผนวางซอ นกนั และออกแรงดนั เขาหากนั สังเกตการเปลยี่ นแปลงและบันทึกผล 3) นํามาดินน้ํามัน 1 แผน มาออกแรงดงึ ท้ังสองขา ง สงั เกตการเปล่ียนแปลงและบนั ทึกผล 4) เปลี่ยนจากดินนํ้ามนั เปน ขนมปงกรอบ ออกแรงดนั เขา หากัน สงั เกตการเปลย่ี นแปลงและบันทึกผล 5) นําขนมปงกรอบมาออกแรงดึงทง้ั สองขาง สงั เกตการเปลย่ี นแปลงและบนั ทึกผล บันทึกผลการทํากจิ กรรม ดินนาํ้ มนั ท่ีถกู แรงดันเขาหากนั จะเกดิ การโคง งอ สว นดนิ นํ้ามนั ทถี่ กู แรงดึงออกจากกนั จะขาดออกเปนสอง สว น ขนมปง กรอบท่ีถกู แรงดนั เขา หากนั จะแตกหักเปนสองสวน อาจมีบางสว นเกยกัน สว นขนมปง กรอบทีถ่ กู แรง ดงึ ออกจากกนั จะแตกหักออกเปนสองสวน สรปุ และอภปิ รายผลการทํากิจกรรม ดินนํา้ มนั เปรยี บเทียบไดก บั เปลือกโลกท่มี สี ภาพพลาสติก เม่อื ถูกแรงมากระทําจะเกดิ การโคง งอ ถา มีขนาด เลก็ จะเกิดเปน รอยคดโคง ถา เปน แนวรอยตอของแผน ธรณีเปลือกโลกจะโกงตัวขึ้นเกดิ เปน แนวเทือกเขา แตถา ถูกแรง ดงึ จะบางลงและแยกออกจากกัน ขนมปงกรอบเปรียบไดก ับเปลอื กโลกที่มสี ภาพเปน ของแขง็ แกรง เม่อื ถกู แรงมากระทาํ จะเกดิ การแตก เปน รอยเลือ่ น หรือรอยแตก (ข้นึ อยกู บั ดุลยพนิ ิจของผสู อน โดยใหผูสอนพจิ ารณาจากผลกจิ กรรมท่นี กั เรียนทาํ ไดจ รงิ ) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªé¹Ñ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง การเคลื่อนทข่ี องแผนธรณี หนว ยการเรยี นรูท่ี 2 เรอ่ื ง ธรณีแปรสัณฐาน แผนจัดการเรยี นรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ÃٻẺ¡ÒÃà¤ÅÍ×è ¹·¢Õè ͧἹ‹ ¸Ã³Õ รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ 1 รหัสวชิ า ว31209 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 4 *********************** คาํ ช้แี จง : ใหนักเรียนสรปุ ความรเู กยี่ วกับการเคลื่อนทขี่ องแผนธรณใี นรปู แบบของแผนผงั ความคิด และนําเสนอ ผลงาน â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง การเคลือ่ นทขี่ องแผนธรณี à©Å หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 เรื่อง ธรณแี ปรสณั ฐาน แผนจัดการเรียนรทู ี่ 2 เรอื่ ง ÃٻẺ¡ÒÃà¤ÅÍè× ¹·Õ¢è ͧἹ‹ ¸Ã³Õ รายวิชา โลก ดาราศาสตรและอวกาศ 1 รหสั วชิ า ว31209 ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 4 *********************** คําชแ้ี จง : ใหน กั เรียนสรุปความรูเ กยี่ วกับการเคลื่อนท่ีของแผน ธรณใี นรูปแบบของแผนผังความคิด และนาํ เสนอ ผลงาน รปู แบบการเคลื่อนท่ขี องแผนธรณี แนวแผนธรณีเคล่อื นทีอ่ อกจากกนั แนวแผน ธรณีเคล่อื นทห่ี ากัน แนวแผน ธรณีเคล่ือนท่ีผานกนั ผลจากการเคล่อื นท่ี ผลจากการเคลอ่ื นท่ี ผลจากการเคลอ่ื นท่ี ธรณสี ัณฐาน ธรณีพบิ ัติภัย ธรณสี ณั ฐาน ธรณพี ิบัติภัย แผนดนิ ไหว รอยเลอ่ื น สนั เขากลางสมุทร รองลกึ กนสมทุ ร หุบเขาทรุด แนวเทอื กเขา หมเู กาะภูเขาไฟรปู โคง แผน ดนิ ไหว แผน ดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ภเู ขาไฟระเบิด สึนามิ (ขึ้นอยูกับดุลยพนิ จิ ผสู อน) â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 การออกแบบการจดั การเรยี นรู กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 ÃËÑÊÇÔªÒ Ç31209 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 4 ˹Nj ¡ÒÃàÃչ̷٠Õè 3 àÃ×èͧ ¸Ã³Õ¾ºÔ µÑ Ô จดั ทาํ โดย ¹Ò§ÊÒdzѰ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö µíÒá˹‹§ ¤ÃÙ ¤È. 2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห 31 ตาํ บลชา งเคิ่ง อําเภอแมแจม จังหวดั เชยี งใหม สํานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สาํ นกั งานการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙ·Œ èÕ 3 : ¸Ã³¾Õ ºÔ µÑ Ô ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 ª¹éÑ ÁѸÂÁÈÖ¡ÉÒ»‚·èÕ 4 àÇÅÒ㪨Œ ´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ 10 ªÇÑè âÁ§ 1. ผลการเรียนรู เขา ใจกระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก ธรณพี ิบัตภิ ัย และผลตอส่งิ มชี วี ติ และสงิ่ แวดลอม รวมทั้ง การศึกษาลาํ ดบั ชั้นหนิ ทรัพยากรธรณี แผนท่ี และการนําไปใชป ระโยชน 4) อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบดิ และปจจัยท่ีทาํ ใหความรุนแรงของการปะทุและ รปู รางของภูเขาไฟแตกตางกัน รวมทั้งสบื คนขอมูลพื้นทีเ่ สยี่ งภัย ออกแบบและนําเสนอแนว ทางการเฝา ระวงั และการปฏบิ ัติตนใหปลอดภยั ได 5) อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรงและผลจากแผนดินไหว รวมทั้งสืบคน ขอมลู พนื้ ทเ่ี สยี่ งภัย ออกแบบและนําเสนอแนวทางการเฝาระวังและการปฏิบตั ติ นใหป ลอดภยั ได 6) อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดและผลจากสึนามิ รวมท้งั สบื คน ขอ มูลพน้ื ท่ีเส่ียงภัย ออกแบบและ นําเสนอแนวทางการเฝา ระวังและการปฏบิ ตั ติ นใหปลอดภยั ได 2. สาระการเรียนรู 2.1 สาระการเรียนรูเพิ่มเติม 1. ภเู ขาไฟระเบิดเกดิ จากการแทรกดันตัวของหนิ หนดื ข้นึ มาตามสวนเปราะบางหรือรอยแตกบนเปลอื กโลก มักพบหนาแนนบรเิ วณรอยตอระหวา งแผนธรณี ทําใหบริเวณดังกลาวเปน พ้ืนที่เส่ยี งภยั ความรุนแรงของการปะทุ และรปู รางของภเู ขาไฟท่ีแตกตางกันขน้ึ อยูกบั องคประกอบของหินหนืด ผลจากภูเขาไฟระเบดิ มที ้งั ประโยชนและ โทษ จงึ ตอ งศกึ ษาแนวทางในการเฝาระวงั และการปฏบิ ัติตนใหปลอดภัย 2. แผน ดินไหวเกิดจากการปลดปลอ ยพลงั งานที่สะสมไวข องเปลือกโลกในรปู ของคลื่นไหวสะเทอื น แผนดินไหวมีขนาดและความรุนแรงแตกตางกนั ทําลายทรัพยส ิน ศูนยเกิดแผน ดนิ ไหวมักอยบู รเิ วณรอยตอ ของแผน ธรณี และพื้นที่ภายใตอิทธพิ ลของการเคลอ่ื นของแผน ธรณีที่ระดับความลกึ ตางกัน ใหบ รเิ วณดังกลาวเปนพืน้ ที่เสยี่ ง ภัยแผนดนิ ไหว ซงึ่ สงผลใหส ิ่งกอสรางเสียหาย เกิดอนั ตรายตอ ชีวติ และทรัพยสิน จงึ ตองศึกษาแนวทางในการเฝา ระวงั และการปฏบิ ัตติ นใหป ลอดภยั 3. สนึ ามิ คือ คลนื่ นํ้าที่เกิดจากการแทนท่ีมวลนํ้าในปริมาณมหาศาล สว นมากเกดิ ในทะเลหรอื มหาสมทุ ร โดยคลน่ื มลี ักษณะเฉพาะ คือ ความยาวคลื่นมากและเคลอื่ นท่ดี วยความเร็วสูง เมื่ออยูก ลางมหาสมุทรจะมีความสูง คล่ืนนอยและอาจเพม่ิ ความสงู ขึ้นอยา งรวดเร็วเมื่อคล่ืนเคลอื่ นทีผ่ านบริเวณนาต้นื จึงทําใหพ ื้นท่ีบรเิ วณชายฝงบาง บริเวณเปน พื้นทเ่ี สี่ยงภัย สนึ ามิกอใหเกิดอันตรายแกมนุษยแ ละสงิ่ กอสรางในบรเิ วณชายหาด จงึ ตอ งศึกษาแนวทาง ในการเฝา ระวังและการปฏบิ ัติตนใหปลอดภยั â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 2.2 สาระการเรยี นรทู องถิ่น (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา) 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด ภูเขาไฟ คือ ลักษณะธรณีสัณฐานทเี่ กิดจากการปะทุของแมกมา แกส และเถาภเู ขาไฟจากภายในโลก ภเู ขา ไฟมีรปู รางแตกตางกนั หลายลักษณะขน้ึ อยูกับความรนุ แรงในการปะทุ มักพบหนาแนนบรเิ วณรอยตอระหวาง แผนธรณี ซ่งึ ผลจากการระเบิดของภูเขาไฟมีทั้งประโยชนและโทษ จึงตอ งศึกษาแนวทางในการเฝาระวังและการ ปฏิบัติตนใหปลอดภัย แผน ดินไหว คอื การสน่ั สะเทอื นของแผน ดินทรี่ บั รูได ณ จุดใดจดุ หนึง่ บนโลก เกดิ จากการปลดปลอยพลงั งาน ทีส่ ะสมไวใ นเปลือกโลกออกมาในรูปของคล่ืนไหวสะเทือน ซงึ่ มสี าเหตุจากกระบวนการในธรรมชาตแิ ละกิจกรรม ของมนุษย สง ผลใหส่ิงกอสรา งเสียหาย เกิดอันตรายตอชีวติ และทรัพยสนิ จึงตอ งศึกษาแนวทางในการเฝาระวัง และการปฏิบัติตนใหป ลอดภัย สนึ ามิ คือ คล่ืนนาํ้ ท่ีเกิดจากมวลน้ําถูกแทนทีใ่ นปรมิ าณมหาศาล มีลกั ษณะทแ่ี ตกตา งจากคลื่นนา้ํ ท่ัวไป คือ คลืน่ เคลอื่ นที่ดว ยความเร็วสูง มีความยาวคลน่ื ยาวมาก ความสงู คล่นื นอ ยเม่ืออยูในน้ําลึก สว นมากจะเกิดในทะเล หรือมหาสมุทรและสามารถเคลื่อนที่ในมหาสมุทรไดเปนระยะทางหลายพันกิโลเมตร เมอื่ คลื่นเคลือ่ นที่เขาสู ชายฝงความเรว็ จะลดลงและความสูงคลื่นจะเพิม่ ขน้ึ จึงทําใหพื้นทีบ่ ริเวณชายฝง บางบริเวณเปนพนื้ ทเ่ี สี่ยงภัย จึง ตองศกึ ษาแนวทางในการเฝาระวงั และการปฏิบัตติ นใหป ลอดภัย 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ รียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ รียนรู 3. มงุ มั่นในการทาํ งาน 2.1 ทกั ษะการสงั เกต 2.2 ทกั ษะการสาํ รวจคนหา 2.3 ทักษะการวเิ คราะห 2.4 ทกั ษะการลงความเห็นจากขอมูล 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวิต 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง ภูเขาไฟระเบดิ - ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง ผลจากการเกิดแผนดินไหว â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ Õè 4 6. การวัดและการประเมินผล วธิ ีวดั เครือ่ งมือ เกณฑการประเมิน รายการวัด ประเมินการปฏิบัติ แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 2 ผานเกณฑ กจิ กรรมจากใบงานที่ 6.1 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ 3.2 การปฏบิ ัตกิ าร ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจใบงานท่ี 3.1 - ใบงานที่ 3.1 รอ ยละ 60 ผา นเกณฑ 6.3 การประเมินระหวาง - ตรวจแบบฝก หดั - แบบฝก หดั รอยละ 60 ผานเกณฑ การจัดกจิ กรรม - ตรวจใบงานที่ 3.2 - ใบงานท่ี 3.2 รอยละ 60 ผา นเกณฑ 1) ภเู ขาไฟระเบดิ - ตรวจแบบฝกหดั - แบบฝกหัด รอยละ 60 ผา นเกณฑ 2) แผนดินไหว 3) สนึ ามิ - ตรวจแบบฝกหดั - แบบฝกหัด รอ ยละ 60 ผา นเกณฑ 4) การปฏิบตั ิการ - ประเมินการ - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2 ผา นเกณฑ ปฏิบัติการ ปฏบิ ัติการ 5) พฤติกรรม การทาํ งาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ผา นเกณฑ รายบคุ คล การทํางาน การทํางานรายบคุ คล รายบคุ คล 6) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ผา นเกณฑ การทํางานกลมุ การทํางานกลมุ การทํางานกลุม 7) คุณลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ยั อันพึงประสงค ใฝเ รยี นรู - แบบประเมคิ ณุ ระดับคุณภาพ 2 ผา นเกณฑ 6.3 การประเมนิ ระหวา ง ลักษณะอันพึง การจัดกิจกรรม 1) ภูเขาไฟระเบิด ประสงค 6.4 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 3.1 - ใบงานที่ 3.1 รอ ยละ 60 ผา นเกณฑ - แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบฝก หัด - แบบฝกหัด รอ ยละ 60 ผานเกณฑ หนวยการเรียนรูที่ 3 เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิภัย ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรียน รอยละ 60 ผานเกณฑ หลังเรยี น â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 7. กิจกรรมการเรยี นรู • แผนการเรยี นรูท่ี 1 : ภูเขาไฟระเบดิ เวลา 3 ชั่วโมง วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู (5Es Instructional Model) • แผนการเรียนรูที่ 2 : แผนดนิ ไหว เวลา 4 ชัว่ โมง วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู (5Es Instructional Model) • แผนการเรยี นรทู ่ี 3 : สนึ ามิ เวลา 3 ช่วั โมง วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู (5Es Instructional Model) (รวมเวลา 10 ชัว่ โมง) 8. สือ่ /แหลงการเรยี นรู 8.1 สอื่ การเรยี นรู 1) หนังสอื เรียนรายวชิ าเพมิ่ เตมิ โลก ดาราศาสตรและอวกาศ ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 4 เลม 1 หนว ยการเรียนรู ท่ี 3 : ธรณพี ิบัติ 2) แบบฝก หัดรายวิชาเพ่มิ เตมิ โลก ดาราศาสตรแ ละอวกาศ ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 4 เลม 1 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 : ธรณพี ิบตั ิ 3) ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง ภเู ขาไฟระเบิด 4) ใบงานที่ 3.2 เรื่อง ผลจากการเกิดแผน ดนิ ไหว 5) PowerPoint เรอ่ื ง ภูเขาไฟระเบดิ 6) PowerPoint เรอ่ื ง แผนดนิ ไหว 7) PowerPoint เรอื่ ง สึนามิ 8) วีดิทัศนเ กย่ี วกับภยั ธรรมชาติ 9) วีดทิ ัศนเ หตกุ ารณส นึ ามิ 8.2 แหลงการเรียนรู 1) หองเรียน 2) หอ งสมดุ 3) บรเิ วณโรงเรยี น 4) แหลงขอมูลสารสนเทศ â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÞÑ Ò ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 Ẻ·´Êͺ¡‹Í¹àÃÕ¹ ˹‹Ç¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ·èÕ 3 : ¸Ã³Õ¾ºÔ µÑ Ô ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 ªéѹÁ¸Ñ ÂÁÈÖ¡ÉÒ»·‚ Õè 4 *************************** คําช้ีแจง : ใหนักเรยี นเลือกคาํ ตอบที่ถูกตองท่ีสุดเพียงขอเดียว 1. นกั วทิ ยาศาสตรใชเ ครอ่ื งมอื ใดวดั คลืน่ ไหวสะเทือน 1. ไซสโมแกรม 2. ไซสโมมิเตอร 3. ริกเตอรสเกล 4. มลั ตมิ ิเตอร 5. เมอรค ัลลีกราฟ 2. ขอใดเปน มาตราวัดขนาดของแผน ดินไหว 1. มาตราเมตริก 2. มาตราอังกฤษ 3. มาตรารกิ เตอร 4. มาตราเมอรค ลั ลี 5. มาตราเมอรค ัลลปี รบั ปรงุ 3. เหตกุ ารณใ นขอใด ไมได เปน สาเหตใุ หเ กดิ แผน ดนิ ไหว 1. การกกั เก็บนาํ้ ในเข่ือนขนาดใหญ 2. การผุพังทางเคมีของเปลอื กโลก 3. การทดลองระเบดิ ปรมาณใู ตดิน 4. การปะทขุ องภูเขาไฟอยางรนุ แรง 5. การเคลอื่ นท่ีเขาหากันของแผน ธรณี 4. ขอ ใดกลาวเกย่ี วกับสนึ ามิ ไมถูกตอง 1. ความเร็วของคล่นื จะข้นึ อยูกับความลึก 2. มักเกดิ ข้นึ บรเิ วณชายฝงมหาสมทุ รแปซิฟก 3. เกดิ ขน้ึ ทกุ คร้งั เม่อื เกดิ แผน ดนิ ไหวขนาด 6.5 ตามมาตรารกิ เตอรขึน้ ไป 4. เปน คลื่นนา้ํ ทเี่ คล่ือนท่ดี วยความเรว็ สูงเมอ่ื อยกู ลางมหาสมุทร 5. เม่ืออยูกลางมหาสมุทรจะมีความสูงคล่ืนนอย แตเ ม่อื เขาใกลช ายฝง ความสูงคลื่นจะเพมิ่ มากข้ึน 5. เหตุการณส ึนามเิ ม่ือวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เกิดจากแผน ดนิ ไหวทม่ี ีศูนยเ กดิ แผนดนิ ไหวอยบู รเิ วณ ประเทศใด 1. ญ่ปี นุ 2. กัมพูชา 3. สิงคโปร 4. ฟลปิ ปนส 5. อนิ โดนเี ซีย 6. แผนดินไหวทร่ี ูส กึ ไดใ นประเทศไทยสว นใหญมศี ูนยเกิดแผนดินไหวอยูในประเทศใด 1. ลาว 2. เมยี นมา 3. สิงคโปร 4. เวียดนาม 5. อนิ โดนเี ซีย 7. หากเกิดแผนดนิ ไหวในขณะทน่ี กั เรยี นกําลังเรียนหนังสืออยใู นหองเรียน ควรปฏบิ ัตอิ ยางไร 1. มุดตวั อยใู ตโตะ ทม่ี ีความแข็งแรง 2. รบี ปด ประตูและหนาตางใหม ิดชดิ 3. รบี ว่งิ ออกจากหอ งเรยี นใหเ รว็ ทีส่ ดุ 4. หากมีลิฟต ใหรีบใชลิฟตเพื่อออกจากอาคาร 5. รบี ไปอยบู ริเวณใกลกับกาํ แพงทมี่ ีความแข็งแรง â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 8. เมื่อเกิดเหตุการณภ ูเขาไฟระเบิด มหี ลายสิง่ ทป่ี ะทุออกมาจากภูเขาไฟ ยกเวนขอ ใด 1. เถาภเู ขาไฟ 2. แกส 3. ลาวา 4. เศษหนิ 5. หยดนํา้ 9. บรเิ วณใดท่ีมโี อกาสเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ มากท่สี ุด 1. แนวเทอื กเขาหิมาลัย 2. บรเิ วณวงแหวนแหง ไฟ 3. บรเิ วณกลางมหาสมุทรแปซฟิ ก 4. แนวสนั เขากลางมหาสมทุ รแปซิฟก 5. แนวสันเขากลางมหาสมทุ รแอตแลนติก 10. วงแหวนแหงไฟคือพนื้ ทบ่ี รเิ วณใด 1. บริเวณรอบมหาสมุทรแปซิฟก 2. บริเวณประเทศอนิ โดนเี ซยี ทเ่ี กิดสึนามิ 3. แนวรอยตอของเทอื กเขาเอลปใ นทวปี ยโุ ยป 4. บรเิ วณเทอื กเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก 5. แนวรอยตอของเทือกเขาหิมาลัยในทวีปเอเชีย â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹Ñé Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 à©ÅÂẺ·´Êͺ¡Í‹ ¹àÃÕ¹ ˹Nj ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè 3 : ¸Ã³Õ¾ÔºµÑ Ô ÃÒÂÇÔªÒ âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 ªÑ¹é Á¸Ñ ÂÁÈÖ¡ÉÒ»‚·èÕ 4 ¢ŒÍ ¤íҵͺ 12 23 32 43 55 62 71 85 94 10 1 â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁØ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹Ãnj٠·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31

á¼¹¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ÃÒÂÇªÔ Ò âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÃᏠÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 Ç31209 ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ 4 Ẻ·´ÊͺËÅѧàÃÂÕ ¹ ˹Nj ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ Õè 3 : ¸Ã³Õ¾ÔºÑµÔ ÃÒÂÇÔªÒ âÅ¡ ´ÒÃÒÈÒʵÏáÅÐÍÇ¡ÒÈ 1 ªÑé¹Á¸Ñ ÂÁÈÖ¡ÉÒ»·‚ Õè 4 คาํ ชีแ้ จง : ใหน ักเรียนเลือกคาํ ตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว 1. เม่อื เกดิ เหตุการณภ เู ขาไฟระเบิด มหี ลายสิ่งที่ปะทุออกมาจากภูเขาไฟ ยกเวน ขอใด 1. เถาภูเขาไฟ 2. แกส 3. ลาวา 4. เศษหิน 5. หยดนา้ํ 2. วงแหวนแหง ไฟคอื พ้นื ที่บริเวณใด 1. บริเวณรอบมหาสมุทรแปซฟิ ก 2. บริเวณประเทศอนิ โดนีเซยี ท่ีเกดิ สึนามิ 3. แนวรอยตอของเทอื กเขาเอลปใ นทวีปยโุ ยป 4. บรเิ วณเทอื กเขากลางมหาสมทุ รแอตแลนตกิ 5. แนวรอยตอของเทอื กเขาหมิ าลยั ในทวีปเอเชยี 3. บรเิ วณใดที่มโี อกาสเกดิ ภเู ขาไฟระเบิด มากทส่ี ดุ 1. แนวเทอื กเขาหิมาลัย 2. บรเิ วณกลางมหาสมุทรแปซิฟก 3. แนวสนั เขากลางมหาสมุทรแปซิฟก 4. บริเวณวงแหวนแหง ไฟ 4. แนวสนั เขากลางมหาสมทุ รแอตแลนตกิ 4. เหตุการณใ นขอ ใดไมไดเปนสาเหตุใหเกิดแผนดินไหว 1. การกักเกบ็ น้าํ ในเขือ่ นขนาดใหญ 2. การผพุ ังทางเคมีของเปลือกโลก 3. การทดลองระเบิดปรมาณูใตดิน 4. การปะทขุ องภูเขาไฟอยางรุนแรง 5. การเคลอ่ื นทเ่ี ขา หากันของแผนธรณี 5. นกั วิทยาศาสตรใชเ ครอื่ งมือใดวดั คลืน่ ไหวสะเทอื น 1. ไซสโมแกรม 2. ไซสโมมเิ ตอร 3. รกิ เตอรส เกล 4. มัลติมิเตอร 5. เมอรค ลั ลีกราฟ 6. ขอ ใดเปน มาตราวดั ขนาดของแผนดนิ ไหว 1. มาตราเมตรกิ 2. มาตราอังกฤษ 3. มาตราริกเตอร 4. มาตราเมอรค ลั ลี 5. มาตราเมอรคัลลปี รับปรงุ 7. แผนดินไหวที่รูสึกไดในประเทศไทยสวนใหญมีศนู ยเกิดแผน ดนิ ไหวอยใู นประเทศใด 1. ลาว 2. เมยี นมา 3. สิงคโปร 4. เวยี ดนาม 5. อินโดนีเซีย â´Â ¹Ò§ÊÒdz°Ñ ¸¹ÑÞÒ ºÞØ ¶§Ö ¤ÃÙ ¤È.2 ¡ÅÁ‹Ø ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÇÙŒ ·Ô ÂÒÈÒʵÃᏠÅÐà·¤â¹âÅÂÕ âçàÃÂÕ ¹ÃÒª»ÃЪҹàؤÃÒÐˏ 31