การวดั และป รายวชิ าฟิสกิ ส์ 6 รหัสวิชา ว 33204 ช ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภ เป้าหมายการเรยี นรู้ ภาร ชิน้สาระสาคัญ - ออกแ แบบจาลองอะตอมของดอลตนั “อะตอมมลี กั ษณะเป็นทรงกลมตัน จัดทาหน เลก็ เก่ยี วขนาดเลก็ แบ่งแยกไม่ได้” แบบจาล แบบจาลองอะตอมของทอมสัน “อะตอมประกอบด้วยอนุภาคโปรตอน อะตอมซ่งึ มปี ระจบุ วกและอิเล็กตรอนซึง่ มปี ระจลุ บ กระจายอยูท่ ่ัวไปอย่างสม่าเสมอ อะตอมท่ีเปน็ กลางมีจานวนประจบุ วกเท่ากับจานวนประจลุ บ”แบบจาลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด “อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสซึง่ มขี นาดเล็กมากอยตู่ รงกลาง มีประจุไฟฟา้ บวก มีมวลมาก และมีอเิ ลก็ ตรอนซง่ึ มีมวลน้อยว่งิ วนอยู่รอบ ๆ นิวเคลียส“แบบจาลองอะตอมของนลี ส์ โบร์ “อเิ ล็กตรอนเคลื่อนท่ีรอบนวิ เคลยี สเป็นชน้ั ๆ ซง่ึ มีค่าพลังงานเฉพาะตวัแบบจาลองอะตอมกลุ่มหมอก “อะตอมประกอบด้วยกล่มุ หมอกอิเล็กตรอนรอบ ๆ นิวเคลยี ส บริเวณท่ีอย่ใู กลน้ ิวเคลยี สมีกลุ่มหมอกหนาแนน่ กวา่ บริเวณที่อย่ไู กลออกไป บริเวณที่มกี ลุ่มหมอกหนาแน่นมีโอกาสพบอิเล็กตรอนมากกว่า”สเปกตรมั (Spectrum) หมายถึง แถบสี แถบแสงสหี รือเสน้ สขี องพลังงานในรปู คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ เมื่อผา่ นเขา้ ไปปรากฏอยู่ในสเปกโตรสโคป
ประเมนิ ผลการเรียนรู้ช่อื หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง แบบจาลองอะตอมภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2561ระงาน/ วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื วดั ประเด็น/ คะแนนนงาน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบและ - ตรวจหนังสอื - แบบตรวจ - เน้ือหาครบถ้วน 10 คะแนนนงั สอื เล่ม เลม่ เล็ก หนงั สอื เลม่ เลก็ - ภาษาทีใ่ ช้ ผ่านเกณฑ์วกบั - แบบสงั เกต - รปู แบบการนาเสนอ รอ้ ยละ 70ลอง พฤตกิ รรมผู้เรยี น ข้นึ ไป
เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาร ช้นิสาระสาคญั แบบจาลองอะตอมของดอลตัน “อะตอมมลี ักษณะเปน็ ทรงกลมตัน - ออกแ จดั ทาหขนาดเล็กแบ่งแยกไม่ได้” เล็กเก่ีย แบบจาลองอะตอมของทอมสนั “อะตอมประกอบดว้ ยอนภุ าคโปรตอน แบบจา อะตอมซง่ึ มปี ระจุบวกและอเิ ลก็ ตรอนซงึ่ มีประจุลบ กระจายอยทู่ ่ัวไปอยา่ งสมา่ เสมอ อะตอมท่ีเปน็ กลางมีจานวนประจบุ วกเท่ากับจานวนประจลุ บ” แบบจาลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด “อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสซง่ึ มขี นาดเล็กมากอยู่ตรงกลาง มปี ระจไุ ฟฟ้าบวก มมี วลมาก และมีอเิ ลก็ ตรอนซงึ่ มีมวลน้อยวงิ่ วนอยู่รอบ ๆ นวิ เคลยี ส“ แบบจาลองอะตอมของนีลส์ โบร์ “อเิ ลก็ ตรอนเคล่ือนที่รอบนวิ เคลียสเปน็ ชั้น ๆ ซงึ่ มีคา่ พลงั งานเฉพาะตวั แบบจาลองอะตอมกลุม่ หมอก “อะตอมประกอบดว้ ยกล่มุ หมอกอเิ ลก็ ตรอนรอบ ๆ นิวเคลยี ส บรเิ วณทอ่ี ยู่ใกล้นวิ เคลยี สมีกลมุ่ หมอกหนาแน่นกว่าบรเิ วณที่อยูไ่ กลออกไป บรเิ วณท่ีมกี ลุ่มหมอกหนาแน่นมีโอกาสพบอิเล็กตรอนมากกว่า” สเปกตรมั (Spectrum) หมายถึง แถบสี แถบแสงสีหรือเส้นสขี องพลังงานในรปู คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า เมื่อผ่านเข้าไปปรากฏอยู่ในสเปกโตรสโคป
ระงาน/ วิธีวัด เครอ่ื งมือวดั ประเด็น/ คะแนนนงาน เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบและ - ตรวจหนงั สอื - แบบตรวจ - เนือ้ หาครบถ้วน 10 คะแนนหนังสือเล่ม เล่มเล็ก หนังสอื เล่มเลก็ - ภาษาท่ใี ช้ ผา่ นเกณฑ์ยวกบั - แบบสงั เกต - รปู แบบการนาเสนอ รอ้ ยละ 70าลอง พฤตกิ รรมผ้เู รียนม ขึน้ ไป
การวัดและป รายวชิ าฟสิ ิกส์ 6 รหสั วชิ า ว 33204 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภ เปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้นิ งานสาระสาคัญกัมมันตรังสี (radioactivity) เป็น - ออกแบบและทดลอง -ปรากฏการณ์ทีธ่ าตุสามารถแผร่ ังสไี ดเ้ องอย่าง เกยี่ วกบั สถานการณ์จาลอง รตอ่ เนอ่ื ง ปรากฏการณน์ ้ีเป็นการเปลี่ยนแปลงท่ี การสลายของนวิ เคลียส ศเกดิ ขึ้นภายในนวิ เคลียสของไอโซโทปท่ีไมเ่ สถยี ร กมั มนั ตรังสี -ธาตกุ มั มันตรังสี เป็นธาตุท่ีมีสมบัติในการแผ่รังสี - เขียนรายงาน สรปุ ผล ขสามารถแผ่รังสแี ละกลายเป็นอะตอมของธาตุอืน่ ได้ การศกึ ษาทดลองเช่น รงั สีแอลฟา ( - ray ) รังสีบตี า( -ray) หรือรงั สีแกรมมา ( -ray) ซึง่ มีคณุ สมบัติ ประโยชน์ อันตรายที่แตกตา่ งกนั รวมทั้งวธิ ีการปอ้ งกันประโยชน์ของกัมมัตภาพรงั สี ด้านธรณีวิทยาใช้ C-14 คานวณหาอายุของวัตถโุ บราณ/ซากดึกดาบรรพ์ ด้านการแพทย์ ใชร้ กั ษาโรคมะเร็ง ในการรกั ษาโรคมะเรง็ บางชนดิ กระทาไดโ้ ดยการฉายรงั สีแกมมาที่ไดจ้ าก โคบอลต์-60 เข้าไปทาลายเซลลม์ ะเรง็
ประเมนิ ผลการเรียนรู้ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง กัมมนั ตภาพรงั สีภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วดั ประเด็น/ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน 10 คะแนนตรวจการเขยี น - แบบตรวจ - การตั้งจุดประสงค์ ผ่านเกณฑ์ กาหนดปัญหา รอ้ ยละ 70รายงานผลการ รายงานผล และต้งั สมมตฐิ าน - การกาหนดตัวแปร ขึ้นไปศกึ ษาทดลอง การทดลอง - ออกแบบการทดลอง - การบันทกึ ผลการทดลองสงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ - การอภิปรายและรายงานผล การทดลองขณะท่ที าการทดลอง การนาเสนอ - ผลการทดลอง - การนาเสนอ ผลงาน - กระบวนการกลมุ่ - แบบสังเกต พฤตกิ รรมผเู้ รียน ขณะทท่ี าการ ทดลอง
เป้าหมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชิน้ งานสาระสาคัญดา้ นเกษตรกรรม มีการใช้ธาตุกมั มนั ตรังสตี ดิ ตามระยะเวลาการหมุนเวยี นแรธ่ าตใุ นพชื และด้านอุตสาหกรรม ในอตุ สาหกรรมการผลติ แผ่นโลหะจะใชป้ ระโยชน์จากกัมมนั ตภาพรังสีในการควบคุมการรีดแผน่ โลหะ อนั ตรายของธาตุกมั มนั ตรังสี มี 2 ดา้ นคอืผลทางพันธกุ รรมจากรังสี จะมผี ลทาให้การสร้างเซลลใ์ หม่ในร่างกายมนษุ ยเ์ กิดการกลายพันธ์ุโดยเฉพาะเซลลส์ ืบพันธ์ุ และผลที่ทาใหเ้ กิดความป่วยไขจ้ ากรังสี เน่ืองจากเมื่ออวัยวะสว่ นใดสว่ นหน่งึ ของรา่ งกายไดร้ ับรงั สี ทาใหเ้ กดิ อากาปว่ ยไข้ได้ การป้องกันอนั ตรายจากรังสี มีดงั นี้ ใช้เวลาเขา้ ใกลบ้ รเิ วณที่มีกัมมันตภาพรังสีใหน้ อ้ ยท่ีสุด อยู่ให้หา่ งจากกัมมันตภาพรังสใี ห้มากทีส่ ดุ และใช้ตะก่วั คอนกรีต น้า หรือพาราฟนิ เป็นเครื่องกาบังบรเิ วณที่มีการแผร่ ังสี
วธิ วี ดั เคร่อื งมอื วดั ประเด็น/ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน
เกณฑ์การประเมนิ ผล ภาระราน/ชน้ิ ราน รายวิชาฟิสิกส์ 6 รหัสวชิ า ว 33204 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ภาระราน/ผลราน : ใบราน / ใบกิจกรรม / แบบฝกึ ทักษะ / แบบฝึกหัดและแบบทดสอบ (อตั นัย) เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ นา้ หนัก คะแนน ใบงาน 4 3 2 1 ใบกิจกรรม 5แบบฝึกทักษะ ระบุบอกส่ิงท่โี จทย์ ระบุบอกสง่ิ ท่โี จทย์ ระบุบอกสิง่ ทโี่ จทย์ ระบุบอกสง่ิ ที่ แบบฝกึ หัด กาหนดใหไ้ ดค้ รบถว้ น กาหนดให้ไดค้ รบถว้ น กาหนดให้ได้ครบถ้วน โจทยก์ าหนดใหไ้ ด้( แสดงวิธที า) แสดงวิธีทาอย่าง แสดงวิธที าอยา่ งละเอยี ด แสดงวิธที าอย่าง ไม่ครบถ้วน แสดง ละเอยี ดถกู ตอ้ งชดั เจน ถูกตอ้ งและนาสตู รมา ละเอยี ดถูกต้องและนา วธิ ีทาและนาสตู ร นาสูตรมาใช้ไดถ้ ูกตอ้ ง ใช้ไดถ้ ูกตอ้ งแสดงวธิ ที า สตู รมาใชไ้ ด้ถูกตอ้ ง มาใชไ้ ด้ถกู ต้อง แสดงวธิ ีทา คานวณ คานวณตวั เลขได้ แสดงวิธที าคานวณ คานวณตวั เลขทใ่ี ช้ ตัวเลขได้ ถกู ตอ้ งมคี วามเปน็ ตัวเลขไดถ้ ูกตอ้ ง ไม่ชดั เจน มคี วาม ถูกตอ้ ง มีความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย มีความเปน็ ระเบยี บ เป็นระเบยี บ ระเบียบเรียบร้อย พรอ้ มเขียนตอบคาถาม เรยี บร้อย ไม่มกี ารเขยี น เรยี บรอ้ ย พร้อมเขียนตอบ และไมม่ รี ะบุหน่วยทใ่ี ช้ ตอบคาถาม และไม่ระบุ ไมม่ ีการเขยี นตอบ คาถาม และระบุ หนว่ ยทใี่ ช้ คาถาม และไม่ หน่วยทีใ่ ช้ ระบุหนว่ ยที่ใช้หมายเหตุ ใบงาน / ใบกิจกรรม / แบบฝึกทักษะ / แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ ( กรณคี าถามตอบ เขยี นอธิบายรายขอ้ )เกณฑ์ - ตอบถูกตอ้ ง ได้ 1 คะแนน - ไมต่ อบถกู ต้อง ได้ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมนิ ผล ภาระราน/ชน้ิ ราน รายวชิ าฟิสกิ ส์ 6 รหสั วชิ า ว 33204 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561 ภาระราน/ผลราน : ผรั ความคดิ (Concept Mapping)เกณฑ์ 4 ระดับคุณภาพ 2 น้าหนัก 3 1 คะแนน เนือ้ หา เน้ือหาครบถว้ น ถูกต้อง เนอื้ หาครบถ้วน ถกู ตอ้ ง เนอ้ื หาครบถว้ น ถูกต้อง เนื้อหาไม่ครบถว้ น 5ภาษาท่ใี ช้ ชดั เจน หวั ข้อย่อยและ ชัดเจน หัวข้อย่อยและ 5 หัวข้อใหญ่ มีความ หวั ข้อใหญ่ มคี วามสมั พันธ์ ชดั เจน หวั ข้อย่อยและ ถูกตอ้ ง ชัดเจน หัวขอ้ สมั พนั ธก์ นั อา่ นแลว้ กนั อา่ นแล้วเขา้ ใจง่าย เข้าใจง่าย รูปแบบ รปู แบบชน้ิ งานแปลกใหม่ หวั ข้อใหญ่ มคี วามสมั พนั ธ์ ย่อยและหวั ข้อใหญ่ ช้นิ งานแปลกใหม่ สวยงามและไมม่ คี วาม สวยงามและมคี วามสมดลุ สมดลุ กันบางสว่ นอ่านแลว้ เข้าใจ ไม่มีความสมั พันธ์กัน ใชภ้ าษาเขยี นและสะกด ใช้ภาษาเขียนและสะกดคา งา่ ย รปู แบบชน้ิ งานเรียบ อา่ นแล้วเข้าใจงา่ ย คาถกู ต้อง เขียนประโยค ถูกต้อง เขยี นประโยค ไม่ สอดคลอ้ งกบั เน้อื หา เขยี น สอดคล้องกบั เน้อื หา เขียน งา่ ยสวยงามและไมมคี วาม สวยงามและไมม่ คี วาม สรปุ วิเคราะห์ สือ่ สรุป วเิ คราะห์ สื่อ ความหมายได้ถกู ต้อง ความหมายได้ถูกต้อง สมดลุ สมดลุ เขียนเวน้ วรรคตอน เขียนเว้นวรรคตอนไม่ ถกู ต้องและใช้ภาษา ถูกตอ้ งและใช้ภาษา ใช้ภาษาเขยี นและ อย่างเหมาะสมและ อย่างเหมาะสมและ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ ใช้ภาษาเขยี นและสะกดคา สะกดคาถกู ตอ้ ง เขยี น ถูกต้อง เขยี นประโยคผดิ 3- ประโยคผดิ มากกวา่ 5 5 จุดสอดคลอ้ งกบั เน้ือหา จุดไมส่ อดคลอ้ งกบั เขียนสรปุ วิเคราะห์ สอื่ เนื้อหา เขยี นสรุป ความหมายได้ถูกตอ้ ง วิเคราะห์ สอื่ เขียนเว้นวรรคตอนถกู ตอ้ ง ความหมายไดถ้ ูกต้อง และใชภ้ าษาอยา่ ง เขยี นเวน้ วรรคตอน เหมาะสมและสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ งและใช้ภาษา อย่างเหมาะสมและ สรา้ งสรรค์รูปแบบ รปู แบบช้ินงานถกู ต้อง รูปแบบชิ้นงานถกู ตอ้ ง รูปแบบช้นิ งานถกู ต้อง รปู แบบช้ินงานไม่ 5ช้ินราน ตามท่ีกาหนด มีขนาด ถูกต้องตามทก่ี าหนด เหมาะสม แปลกใหม่ ตามทก่ี าหนด มีขนาด ตามที่กาหนด มีขนาด มขี นาดเหมาะสม นา่ สนใจ รปู ภาพสมั พันธ์ รูปแบบไม่ น่าสนใจ กบั เนื้อหาและมีรปู ภาพมี เหมาะสม แปลกใหม่ เหมาะสม รูปแบบไม่ รูปภาพไม่สมั พันธก์ ับ สสี นั สวยงาม เนือ้ หาและมีรูปภาพมี น่าสนใจ รูปภาพไมส่ มั พันธ์ น่าสนใจ รปู ภาพไม่ สสี นั สวยงาม กบั เนือ้ หาและมีรปู ภาพมี สมั พนั ธ์กบั เนอ้ื หาและมี สีสัน สวยงาม รูปภาพมสี สี ัน สวยงาม
เกณฑ์การประเมินผล กจิ กรรมการทดลอร รายวิชาฟิสิกส์ 6 รหสั วชิ า ว 33204 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561เกณฑ์ 4 ระดบั คุณภาพ 1 น้าหนกั 32 คะแนนการตร้ั จุดประสรค์ มีการตง้ั จุดประสงคข์ อง มกี ารต้งั จดุ ประสงค์ มกี ารตงั้ จดุ ประสงค์ มีการต้ังจดุ ประสงค์ 3ก้าหนดปัญหา และ การทดลอง การทดลอง กาหนด ของการทดลอง การทดลอง กาหนดปัญหา ตร้ั สมมติฐาน ไมม่ กี าร ประเด็นและปญั หา กาหนดปญั หา กาหนดปญั หา ต้ังสมมตฐิ าน การทดลอง ตง้ั สมมติฐานของเรอ่ื งที่ ตั้งสมมตฐิ านไดถ้ ูกตอ้ ง ตงั้ สมมติฐานยงั ไม่ จะทดลองไดช้ ัดเจน บางส่วน ชัดเจนและถกู ต้อง ถกู ตอ้ งครบทุกสว่ นการกา้ หนดตัวแปร การกาหนดตัวแปรได้ กาหนดตวั แปรได้ กาหนดตวั แปร ไม่มกี ารกาหนด 3 ถูกต้องชัดเจน ถูกตอ้ งบางสว่ น แต่ยงั ไมถ่ ูกต้อง ตัวแปร ครอบคลมุออกแบบการทดลอร มีการออกแบบการ มกี ารออกแบบการ มีการออกแบบการ ออกแบบการทดลอง 3 ทดลองอยา่ งเป็นขัน้ ตอน ทดลองอยา่ งเปน็ ทดลองอย่างเป็น ไมเ่ ป็นข้นั ตอน ถกู ต้อง มวี ิธีการ ข้นั ตอนถกู ต้อง มี ขน้ั ตอนถูกตอ้ งไมม่ ี หรอื ไมถ่ กู ตอ้ ง ตรวจสอบถกู ตอ้ งชัดเจน วธิ ีการตรวจสอบไม่ วธิ ีการตรวจสอบ ชดั เจนการบันทึกผล มีตารางบันทกึ ผลชัดเจน มีตารางบนั ทกึ ผล มีตารางบนั ทึกผล ไม่มตี ารางบันทึกผล 3การทดลอร แตบ่ นั ทกึ ยงั ไม่ บนั ทึกผล และบนั ทึกผลได้ชัดเจน ชัดเจนและบนั ทึก ถกู ตอ้ ง และไม่ การทดลอง ชัดเจน ไมถ่ กู ตอ้ ง ถกู ต้องครอบคลมุ ผลไดถ้ กู ต้องการอภิปราย และ มีการอภปิ รายผลได้ มกี ารอภปิ รายผลได้ มกี ารอภปิ รายผลได้ ไม่มกี ารอภิปรายผล 3 รายรานผลการ ถกู ตอ้ ง มีคาว่า “แสดง การทดลอง ว่า”ทาใหเ้ หน็ ความ ถูกต้อง มคี าวา่ ถกู ต้องบางส่วน อภปิ รายไมถ่ กู ต้อง ทดลอร ลกึ ซงึ้ กวา่ ผลการทดลอง ไม่ตรงประเดน็ ที่ไดแ้ ละอภิปรายไดค้ รบ “แสดงวา่ ” ไม่ครบทกุ ประเดน็ ปัญหา ทุกประเด็น ทาใหเ้ ห็นความลึกซึง้ กวา่ ผลการทดลองทไี่ ด้ แต่อภปิ รายไมค่ รบทุก ประเด็น
ระดับคุณภาพ เกณฑ์ 4 3 21 น้าหนกั ผลการทดลอร คะแนน การน้าเสนอ มีการสรุปผลการทดลอง มกี ารสรปุ ผลการ มีการสรุปผลการ สรปุ ผลการทดลอง ไดถ้ ูกต้องตรงตาม ทดลองได้ถกู ต้องตาม ทดลองไดถ้ กู ต้อง แต่ไมถ่ ูกตอ้ ง 3กระบวนการกลมุ่ จุดประสงคห์ รือตอบ จดุ ประสงค์ ตอบ บางส่วนและ ตอบปัญหาไม่ตรง ปญั หาได้ครบทุก ปญั หาได้แต่ ไม่ครบทกุ ประเดน็ ประเด็น 3 ประเด็น ไม่ครบทุกประเด็น มกี ารนาเสนอ มีการนาเสนอ มกี ารนาเสนอ 3 มกี ารนาเสนอทแี่ ปลก มีแผนภาพประกอบ มีแผนภาพประกอบ ไมม่ ีแผนภาพ ใหม่ มแี ผนภาพ ชัดเจน อธิบายได้ อธบิ ายไม่ชดั เจน ประกอบ ประกอบ ชดั เจน ถกู ต้อง ตอบขอ้ ตอบขอ้ ซักถามได้ อธิบายไดไ้ ม่ถูกตอ้ ง อธบิ ายไดถ้ ูกต้อง ซักถามส่วนใหญไ่ ด้ เลก็ นอ้ ย ตอบขอ้ ซักถามได้ สว่ นใหญ่ไม่มคี วาม ชัดเจน ถกู ต้อง ทุกคนมคี วาม ทุกคนมคี วาม กระตือรอื ร้น กระตือรือร้น สนใจทา กระตอื รอื ร้น ไมส่ นใจเข้าร่วม ทุกคนมคี วาม กจิ กรรม ทางานเสรจ็ สนใจทากจิ กรรม กิจกรรม กระตอื รอื ร้น สนใจทา ทนั เวลา ถูกตอ้ ง ทางานเสร็จ ถูกต้อง งานเสรจ็ ไมท่ นั กิจกรรมทางานเสรจ็ ทัน ไมม่ กี ารแบ่งหนา้ ที่ แต่ ช้ากวา่ เวลาที่ ตามกาหนดเวลา ทช่ี ัดเจน ขาดความ กาหนด ไมม่ กี าร ถกู ต้อง ชดั เจนมกี าร รว่ มมือจากสมาชกิ แบ่งหน้าทที่ ชี่ ดั เจน แบง่ หนา้ ท่ีทชี่ ัดเจน ให้ บางคน ขาดความรว่ มมือ ความร่วมมอื กบั เพอ่ื น จากสมาชิกบางคน
เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พรึ ประสรค์ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 6 รหัสวชิ า ว 33204 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 ระดบั คณุ ภาพเกณฑ์ 4 32 1 น้าหนกั คะแนนซ่อื สัตยส์ ุจรติ ไม่คดั ลอกงาน / คัดลอกงาน/การบา้ น คัดลอกงาน/ คัดลอกงาน/การบา้ น 3มีความซื่อสตั ย์ตอ่ ตนเอร การบ้าน และข้อสอบ เพอื่ นบางคร้ัง ไมพ่ ดู การบา้ นเพื่อน และข้อสอบเพือ่ นและผ้อู ืน่ เพ่อื น ไมพ่ ดู โกหก โกหก บางครง้ั มกั มขี อ้ อา้ งเสมอ ลอกขอ้ สอบเพื่อน เวลาไมส่ ่งงาน ไมพ่ ดู โกหกมวี นิ ัย เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรยี นสาย เขา้ เรยี นสาย เข้าเรียนสาย 3เขา้ ช้ันเรยี น ทุกครัง้ บางครง้ั มากกวา่ 5 ครัง้ เป็นประจาตรรเวลา แตไ่ มเ่ กนิ 5 ครงั้ แต่ไมเ่ กนิ 10 คร้ังส่รรานตรรเวลา ส่งงานตรงเวลา สง่ งานชา้ เป็นบางคร้ัง ส่งงานช้ามากกวา่ ส่งงานชา้ 3 แต่ไมเ่ กิน 5 ครง้ั 5 ครงั้ แตไ่ ม่เกิน เกือบทกุ ครง้ั 10 ครง้ัท้ากิจกรรมการทดลอร ตัง้ ใจทากจิ กรรมกลุ่ม ตั้งใจทากิจกรรมกลุ่ม ตัง้ ใจทากิจกรรมกล่มุ ไม่ตั้งใจทากจิ กรรม 3กิจกรรมกลุม่ ให้บรรลุ ให้สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ให้สาเรจ็ ตาม ให้สาเรจ็ ตาม กลุ่มและเสร็จไม่เปา้ หมายตามท่ีก้าหนด และเสรจ็ ทนั เวลา เปา้ หมายและเสร็จ เปา้ หมายและ ทันเวลา ทุกครัง้ ไมท่ ันเวลาเปน็ เสร็จไม่ทันเวลา บางคร้งั มากกวา่ 5 คร้งั แตไ่ มเ่ กิน 5 คร้งั แต่ไมเ่ กิน 10 ครง้ัทา้ รานอย่ารเปน็ ระบบ งานทกุ ชน้ิ มรี ะเบียบ งานทกุ ชนิ้ มรี ะเบยี บ งานเกอื บทกุ ช้นิ งานสว่ นใหญไ่ มเ่ ปน็ 3ระเบยี บและละเอียด ละเอียดประณตี และ และไมผ่ ดิ แต่ไม่ มีระเบยี บ แตไ่ ม่ ระเบียบ ไมม่ คี วามรอบคอบ ไมผ่ ดิ ละเอยี ดประณตี ละเอยี ดประณตี ละเอยี ดประณตี และผดิ บา้ ง ผิดมากกวา่ 5 จุด ไมเ่ กนิ 3 จุด
ระดับคุณภาพ เกณฑ์ 4 32 1 นา้ หนกั คะแนนใฝ่เรยี นรู้กระตือรือรน้ ส่งงานครบทกุ ชน้ิ ตั้งใจ สง่ งานไม่ครบขาด สง่ งานไมค่ รบช้ิน ขาดส่งงานเกิน 3ขยนั หมนั่ เพียร เรียนสม่าเสมอและ ขาดไมเ่ กนิ 1 ชน้ิ ขาดไมเ่ กนิ 3 ช้นิ 3 ชิ้น ไมต่ งั้ ใจเรยี นใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น เตรยี มพร้อมในการ ตงั้ ใจเรยี นสม่าเสมอ ตัง้ ใจเรยี นบ้าง และไม่มีความพรอ้ ม เรียนล่วงหนา้ เสมอ มีการเตรียมความ บางครงั้ กอ่ นเรียน พรอ้ มลว่ งหน้าซกั ถามครูทุกครรั้ ท่ี มกี ารซักถามครทู ุกคร้ัง มกี ารซกั ถามครูเกอื บ มีการซักถามครู ไมม่ กี ารซักถาม เมื่อมี 3มขี ้อสรสัย ทีม่ ขี ้อสงสัยและแสดง ทกุ ครั้งที่มีขอ้ สงสยั บางครั้งท่มี ขี อ้ สงสยั ขอ้ สงสัยหรอื ไมส่ นใจ ความคิดเห็นเพิ่มเตมิ ใน ทจ่ี ะซักถามใดๆ บางประเดน็มุ่รมัน่ ในการท้าราน ส่วนใหญ่ผเู้ รยี นใช้เวลา ผ้เู รยี นใช้เวลาใน ผเู้ รยี นใช้เวลาใน สว่ นใหญ่ไม่เคยใช้ 3รจู้ ักใช้เวลาว่ารใหเ้ ป็น ในการศึกษาคน้ คว้าหา การศึกษาค้นควา้ หา การศึกษาคน้ คว้าหา Internetประโยชน์ ความรู้เพมิ่ เติม ทาง ความรเู้ พม่ิ เตมิ ความรู้เพิ่มเติมทาง และไม่เคยใช้ห้องสมุด Internet และ ทางInternetและ Internetและ เลยในแตล่ ะสปั ดาห์ หอ้ งสมดุ โรงเรยี นเป็น หอ้ งสมุดโรงเรยี นเป็น หอ้ งสมดุ โรงเรียนเป็น ประจาสม่าเสมอทกุ วัน ประจา อย่างนอ้ ย บางครงั้ อย่างนอ้ ย อาทิตย์ละ 4 วัน สัปดาหล์ ะ 2 วนัติดตามรานสม่า้ เสมอ เอาใจใส่งานแตล่ ะ เอาใจใสง่ านดเี กือบ เอาใจงานดี เป็นบาง ไมเ่ อาใจใส่ในงาน 3 ข้นั ตอนทุกช้นิ ทีไ่ ด้รับ ทกุ ช้ิน ติดตามงาน ชนิ้ ติดตามงานบา้ ง เกือบทกุ ช้ิน 3 มอบหมาย ที่ครมู อบหมายบ้าง บางครั้ง ไมต่ ดิ ตามงานมงี าน ตดิ ตามงานที่ครู บางครง้ั คา้ งสง่ มอบหมายอยูอ่ ย่าง สมา่ เสมอร้จู กั วารแผนและ มีการวางแผนการ มกี ารวางแผนการ มกี ารวางแผนการ มีการวางแผนการปฏิบตั ริ านตามแผน ทางานและปฏบิ ตั งิ าน ทางานและ ทางานเปน็ บางคร้ัง ทางาน แต่ไม่ปฏบิ ตั ิ ตามแผนทุกครงั้ ปฏบิ ัติงานตามแผน และปฏิบตั ิและ ตามแผน เกอื บทกุ คร้ัง ปฏบิ ัติงานตามแผน เปน็ บางคร้ัง
การออกแบบการจัดการเรยี นรู้อิงมาตรฐานการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 33102 ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 จัดทาโดย นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถงึ ตาแหน่ง ครู คศ. 2 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลช่างเคิง่ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษสานักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คาอธบิ ายรายวิชารายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 33102 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2เวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หน่วยกติ********************************* ศึกษาวิเคราะห์ เก่ียวกับคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และกรดไขมัน โปรตีน ปฏิกิริยาในชีวิตประจาวัน อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี และปัจจัยท่ีมีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี ประโยชน์ของปฏิกิริยาเคมี ผลของปฏิกิริยาเคมีต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ กระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติเทคโนโลยชี ีวภาพ ผลของเทคโนโลยีชวี ภาพทมี่ ตี ่อมนษุ ย์และส่งิ แวดล้อม คลื่นและองค์ประกอบของคล่ืน สมบัติของคลืน่ ธรรมชาตขิ องเสยี งและการได้ยนิ ผลของมลภาวะของเสยี งที่มีตอ่ สขุ ภาพ สเปกตรัม คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าประโยชน์และอันตรายของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการสืบเสาะหาความรู้การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเพื่อให้เกิดความคิดความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถตัดสินใจนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสมมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดัมาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม วิวัฒนาการของ สิง่ มีชวี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชวี ภาพที่มผี ลกระทบตอ่ มนุษย์และ สิ่งแวดลอ้ ม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สาร สิง่ ท่เี รียนรู้ และ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ว 1.2 ม. 4-6/2 สบื ค้นข้อมูลและอภปิ รายผลของเทคโนโลยชี วี ภาพท่ีมตี อ่ มนุษยแ์ ละสิ่งแวดลอ้ มและนาความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์ว 1.2 ม. 4-6/3 สืบค้นขอ้ มูลและอภปิ รายผลของความหลากหลายทางชวี ภาพที่มตี ่อมนุษย์และ สิง่ แวดลอ้ มว 1.2 ม. 4-6/4 อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติต่อความ หลากหลายของสง่ิ มชี วี ติมาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจหลักการและธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การเกิดปฏกิ ิรยิ า มีกระบวนการสบื เสาะ หาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสงิ่ ที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ว 3.2 ม. 4-6/1 ทดลองอธบิ ายและเขยี นสมการของปฏกิ ิริยาเคมีทัว่ ไปที่พบในชวี ติ ประจาวัน รวมทัง้ อธิบายผล ของสารเคมีท่ีมีต่อส่ิงมีชวี ิตและสงิ่ แวดล้อมว 3.2 ม. 4-6/2 ทดลองและอธิบายอัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี ปจั จัยท่มี ีผลต่ออตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ว 3.2 ม. 4-6/7 ทดลองและอธิบายองค์ประกอบ ประโยชนแ์ ละปฏิกิรยิ าบางชนดิ ของคารโ์ บไฮเดรตว 3.2 ม. 4-6/8 ทดลองและอธบิ ายองคป์ ระกอบ ประโยชน์และปฏกิ ิริยาบางชนดิ ของไขมนั และน้ามันว 3.2 ม. 4-6/9 ทดลองและอธิบายองค์ประกอบ ประโยชน์ และปฏิกิรยิ าบางชนิดของโปรตีน และ กรดนิวคลอี กิ
มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างพลงั งานกบั การดารงชีวติ การเปลีย่ นรูปพลงั งาน ปฏสิ ัมพนั ธ์ ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลงั งานตอ่ ชีวิตและสงิ่ แวดล้อม มีกระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ ส่ือสารส่งิ ทเ่ี รียนรูแ้ ละ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ว 5.1 ม. 4-6/1 ทดลองและอธิบายสมบตั ขิ องคลน่ื กล และอธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง อตั ราเร็ว ความถ่ี และความยาวคลน่ืว 5.1 ม. 4-6/2 อธบิ ายการเกดิ คลื่นเสียง บีตส์ของเสียง ความเขม้ เสียง ระดับความเข้มเสยี ง การได้ยิน เสียง คุณภาพเสยี ง และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ว 5.1 ม. 4-6/3 อภปิ รายผลการสบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกับมลพิษทางเสียงที่มตี ่อสขุ ภาพของมนุษย์ และ การเสนอวธิ ีปอ้ งกันว 5.1 ม. 4-6/4 อธิบายคลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า สเปกตรมั คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า และนาเสนอผลการสืบค้นข้อมูล เกยี่ วกับประโยชน์ และการป้องกันอนั ตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารหสั ตัวชี้วัด ว 1.2 ม. 4-6/2 , ว 1.2 ม. 4-6/3 , ว 1.2 ม. 4-6/4 ว 3.2 ม. 4-6/1 , ว 3.2 ม. 4-6/2 , ว 3.2 ม. 4-6/7 , ว 3.2 ม. 4-6/8 , ว 3.2 ม. 4-6/9 ว 5.1 ม. 4-6/1 , ว 5.1 ม. 4-6/2 , ว 5.1 ม. 4-6/3 , ว 5.1 ม. 4-6/4รวมท้ังหมด 14 ตัวชี้วัด
ผังมโนทศั น์รายวชิ าวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 33102 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561 ความหลากหลายทางชวี ภาพ จานวน 10 ชัว่ โมง : 20 คะแนน รายวชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 33102 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 จานวน 40 ชว่ั โมง ปฏกิ ริ ยิ าเคมี คลน่ื กลและ ในชวี ติ ประจาวนั สมบตั ขิ องคลน่ื กลจานวน 15 ชัว่ โมง : 20 คะแนน จานวน 15 ช่ัวโมง : 20 คะแนน
ผงั มโนทศั น์ รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 33102ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ จานวน 10 ชวั่ โมง : 15 คะแนน ความหลากหลายทางชวี ภาพ จานวน 5 ชวั่ โมง : 5 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ จานวน 10 ชว่ั โมง เทคโนโลยชี วี ภาพ กระบวนการจานวน 2 ชั่วโมง : 5 คะแนน คดั เลือกตามธรรมชาติ จานวน 3 ชั่วโมง : 5 คะแนน
ผงั มโนทัศน์ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า 33102ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง ปฏิกริ ยิ าเคมใี นชวี ติ ประจาวนั จานวน 15 ชั่วโมง : 25 คะแนน ปฏกิ ริ ยิ าเคมี จานวน 3 ชั่วโมง : 5 คะแนน อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ปฏกิ ริ ยิ าเคมขี องคาร์โบไฮเดรตจานวน 3 ชั่วโมง : 5 คะแนน จานวน 3 ชั่วโมง : 5 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2เร่ือง ปฏกิ ริ ยิ าเคมใี นชวี ติ ประจาวนั จานวน 15 ชวั่ โมง ปฏกิ ริ ยิ าเคมขี องไขมนั ปฏกิ ริ ยิ าเคมขี องโปรตนีจานวน 3 ชัว่ โมง : 5 คะแนน จานวน 3 ชว่ั โมง : 5 คะแนน
ผังมโนทัศน์ รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 33102ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง คลื่นกลและสมบตั ิ จานวน 15 ชั่วโมง : 20 คะแนน สมบตั ขิ องคลน่ื ความเขม้ และคณุ ภาพเสยี งจานวน 4 ช่ัวโมง : 5 คะแนน จานวน 6 ชว่ั โมง : 5 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3เร่ือง คลนื่ กลและสมบตั ิ จานวน 15 ชวั่ โมง มลพษิ ทางเสยี ง คลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟา้จานวน 2 ชวั่ โมง : 5 คะแนน จานวน 3 ช่ัวโมง : 5 คะแนน
โครงสรายวิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 33102 ช้ันมัธยมศึกษที่ ชื่อหน่วย รหัสมาตรฐาน/ตัวช้ีวดั1 ความหลากหลายทางชีวภาพ ว 1.2 ม.4-6/2 สบื ค้นข้อมลู และ อภปิ รายผลของเทคโนโลยีชีวภาพที่มี มลี กั ต่อมนษุ ย์และสง่ิ แวดล้อมและนา ความ ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ วิศวก การพ ส่งผล สิ่งแว ว 1.2 ม. 4-6/3 สบื ค้นข้อมูลและ 1. อภิปรายผลของความหลากหลายทาง สง่ิ มชี ชวี ภาพทีม่ ตี อ่ มนษุ ยแ์ ละส่งิ แวดลอ้ ม เดยี ว 2 และส ดารง นเิ วศ
สรา้ งรายวิชาษาปที ่ี 6 จานวน 40 ช่วั โมง ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 สาระสาคญั เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 1 การแปรผนั ทางพนั ธกุ รรมทาให้ส่ิงมชี ีวติ ทเี่ กิดใหม่ 3 5 13กษณะท่ีแตกต่างกันหลากหลายชนดิ กอ่ ใหเ้ กดิ เป็นมหลากหลายทางชวี ภาพเทคโนโลยีชวี ภาพดา้ นพนั ธุกรรม การโคลนและการเพาะเล้ยี งเนอื้ เย่ือ มาใช้ในพัฒนาใหเ้ กดิ ความกา้ วหนา้ ในดา้ นตา่ ง ๆ มากข้ึนแต่ลกระทบทั้งทางด้านที่เป็นประโยชน์และโทษต่อวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม. โลกมคี วามหลากหลายของระบบนิเวศซง่ึ มี 5 5 131ชีวิตอาศัยอยู่มากมายหลายสปีชสี ์ สงิ่ มีชวี ิตสปชี ีส์วกันก็ยังมีความหลากหลายทางพนั ธกุ รรม2. ความหลากหลายทางชีวภาพสง่ ผลทาใหม้ นุษย์สิ่งมชี ีวติ อื่น ๆ มีความต้องการปจั จัยต่าง ๆ ในการงชวี ติ แตกต่างกันซ่งึ จะชว่ ยรกั ษาสมดลุ ของระบบศบนโลก
ที่ ช่อื หน่วย รหสั มาตรฐาน/ตัวชี้วัด1 ความหลากหลายทางชีวภาพ ว 1.2 ม.4-6/4 1 อธิบายกระบวนการคัดเลือกตาม แตกต ธรรมชาติ และผลของการคัดเลอื ก สบื ล ตามธรรมชาติตอ่ ความหลากหลาย ของสงิ่ มชี วี ิต 2 พันธ2 ปฏกิ ิริยาเคมีใน ว 3.2 ม.4-6/1 ทดลอง กันไป หลาก ชีวติ ประจาวนั อธบิ ายและเขียนสมการของ 1 ปฏกิ ิรยิ าเคมีท่วั ไปท่ีพบใน มาก ปฏิก ชีวิตประจาวัน รวมท้ัง 2 อธิบายผลของสารเคมที ี่มี การเ อนั ต ตอ่ ส่งิ มีชีวิตและส่ิงแวดล้อม 1 ว 3.2 ม.4-6/2. ทดลอง เปลีย่ และอธิบายอัตราการ เกดิ ป เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ปัจจัยทมี่ ี นัน้ อ ผลต่ออัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ า สาร เคมี และนาความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ 2 เปน็ ป ควบค ทเี่ หม
สาระสาคัญ เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 11. สิ่งมชี วี ติ แต่ละสปชี ีส์จะมีความหลากหลายท่ี ตา่ งกนั สิ่งมีชีวิตในสปชี สี เ์ ดยี วกันจะผสมพันธแ์ุ ละ 2 5 13 1ลกู หลานตอ่ ไปได้2. การคัดเลือกตามธรรมชาติจะสง่ ผลทาใหล้ กั ษณะ 3 5 13ธุกรรมของประชากรในกลุ่มยอ่ ยแต่ละกล่มุ แตกต่างปจนกลายเป็นสปชี สี ใ์ หมท่ าให้เกดิ เป็นความกหลายของสงิ่ มีชวี ิต1. ในชวี ติ ประจาวนั จะพบเหน็ ปฏิกิรยิ าเคมีจานวน ทั้งทเ่ี กดิ ขึน้ ในธรรมชาติและมนุษยเ์ ปน็ ผกู้ ระทากิริยาเคมเี ขยี นแทนไดด้ ้วยสมการเคมี2. มนุษย์นาสารเคมมี าใช้ประโยชน์ท้ังในบา้ นเกษตรและอุตสาหกรรม แต่สารเคมบี างชนิดเป็นตรายต่อส่ิงมชี วี ิตละสิง่ แวดล้อม1. ปริมาณของสารต้งั ตน้ หรอื ผลิตภัณฑท์ ี่ 4 5 131ยนแปลงไปต่อหนว่ ยเวลา เรยี กวา่ อัตราการปฏิกริ ิยาเคมี และปรมิ าณของสารทีเ่ ปล่ียนแปลงไปอาจวัดจากคา่ ความเข้มข้น ปริมาตรหรอื มวลของ ซึง่ ขึน้ อยู่กบั ลกั ษณะของสาร2. ความเขม้ ขน้ พ้นื ทผ่ี วิ อุณหภูมิ ตวั เรง่ ปฏิกิริยาปจั จยั ที่มผี ลต่ออตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี การคุมปจั จยั เหล่าน้ี เพ่ือทาใหป้ ฏกิ ริ ยิ าเกดิ ข้นึ ในอัตรามาะสม สามารถนามาใชใ้ ห้เป็นประโยชนไ์ ด้
ท่ี ชือ่ หน่วย รหัสมาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด2 ปฏิกิริยาเคมีใน ว 3.2 ม.4-6/7 ทดลองและอธบิ าย ค ชีวติ ประจาวัน องค์ประกอบ ประโยชนแ์ ละปฏิกิรยิ า พบได บางชนดิ ของคารโ์ บไฮเดรต เซลล สาคญั ของน ว 3.2 ม.4-6/8 ทดลองและอธิบาย 1 องค์ประกอบ ประโยชนแ์ ละปฏิกิริยา เกดิ จ บางชนดิ ของไขมันและน้ามัน ไขมัน ตรวจ 2 และใ ระมดั ว 3.2 ม.4-6/9 ทดลองและอธบิ าย 1. องคป์ ระกอบ ประโยชน์ และปฏิกิรยิ า เสรมิ บางชนดิ ของโปรตนี และกรดนวิ คลีอิก คือ ก มธี าต โปรต 2. ประก สงิ่ มชี กระบ
สาระสาคัญ เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 1คารโ์ บไฮเดรตจัดเป็นแหลง่ พลงั งานของส่ิงมีชวี ิต 4 5 1 3ด้ท่วั ไปในชีวติ ประจาวนั เชน่ นา้ ตาล แปง้ลูโลส และไกลโคเจน โดยมีนา้ ตาลเปน็ หน่วยยอ่ ยญประกอบด้วยธาตุ C , H , O การตรวจสอบชนดิน้าตาลทาไดโ้ ดยใชส้ ารละลายเบเนดิกต์1. ไขมันและนา้ มันเปน็ สารประกอบไตรกลเี ซอไรด์ 3 5 1 3 1จากการรวมตัวของกรดไขมนั กบั กลีเซอรอล กรดนมที ้ังชนิดอมิ่ ตวั และไม่อ่ิมตวั ซง่ึ สามารถจสอบ ได้โดยใช้สารละลายไอโอดีน2. ไขมันและนา้ มันนามาใชป้ ระโยชน์ท้งั การบรโิ ภคใชใ้ นอุตสาหกรรม การบรโิ ภคไขมนั ที่ขาดความดระวังจะเปน็ อนั ตรายต่อสขุ ภาพได้. โปรตนี เป็นสารท่ชี ว่ ยในการ เจรญิ เติบโต 2 5 131มสร้างและซ่อมแซมเน้ือเย่ือ หน่วยย่อยของโปรตีนกรดอะมโิ น ซง่ึ มีทั้ง กรดอะมโิ นจาเป็นและไม่จาเปน็ตอุ งค์ประกอบสาคัญ คือ C H O N การทดสอบตีนใน อาหารโดยใช้สารละลาย CuSO4 กับ NaOH. กรดนิวคลอี ิกเปน็ สารโมเลกุล ใหญค่ ลา้ ยโปรตีนกอบดว้ ย ธาตุ C H O N ทพ่ี บในเซลลข์ องชีวิตมี 2 ชนิด คือ DNA และ RNA ซึง่ เกี่ยวขอ้ งกับบวนการถ่ายทอดทางพันธกุ รรม
ที่ ชอื่ หน่วย รหัสมาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั3 คล่นื กลและสมบัติ ว 5.1 ม 4-6/1 ทดลองและอธบิ าย คลื่น สมบัติของคลื่นกล และอธบิ าย และก ความสมั พนั ธ์ระหว่าง อตั ราเร็ว ความ ความถ่แี ละความยาวคลนื่ ยาวค ว 5.1 ม 4-6/2 อธบิ ายการเกดิ คลน่ื 1 เสยี งบีตส์ของเสียง ความเขม้ เสยี ง บีตส ระดบั ความเขม้ เสียง การไดย้ ินเสียง แหล คณุ ภาพเสียง และนาความรู้ไปใช้ เสยี ง ประโยชน์ 2. หนง่ึ ห ของเ 3. รปู คล ว 5.1 ม 4-6/3 อภิปรายผลการสืบคน้ เสียง ข้อมลู เก่ยี วกบั มลพิษทางเสยี งท่มี ีต่อ เวลา สุขภาพของมนุษย์ จติ ใจ และการเสนอวิธีป้องกนั ครอบ
สาระสาคญั เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 1นกลมีสมบตั ิการสะท้อน การหกั เห การสอดแทรก 5 5 1 3การเลย้ี วเบน อัตราเร็ว ความถี่และความยาวคลืน่ มีมสมั พนั ธ์กนั โดยอตั ราเร็วเทา่ กับความถค่ี ูณความคลื่น1. คล่นื เสียงเกดิ จากการสั่นของแหล่งกาเนดิ เสยี ง 5 5 1 3 1ส์ของเสยี ง เกิดจากคลื่นเสียงจากแหล่งกาเนิดสองล่งท่มี ีความถี่ตา่ งกนั เลก็ น้อยมารวมกัน ทาให้ไดย้ ินงดัง ค่อยเป็นจังหวะ. ความเข้มเสียง เป็นพลังงานเสยี งท่ีตกต้ังฉากบน หนว่ ยพืน้ ท่ีในหนึ่งหนว่ ยเวลา ระดบั ของความเข้มเสียงจะบอกความดงั ค่อย ของเสียงที่ไดย้ นิ. เครอ่ื งดนตรีแต่ละชนดิ ที่ใช้ตวั โนต๊ เดยี วกนั จะใช้ ลื่นทแี่ ตกต่างกัน เรยี กว่า คุณภาพเสียงตา่ งกัน มลพิษทางเสียงทมี่ ีผลต่อสขุ ภาพมนษุ ย์ การฟัง 2 5 131งที่มีระดับความเขม้ เสยี งสูงกวา่ มาตรฐานเปน็านาน อาจกอ่ ให้เกิดอันตรายตอ่ การไดย้ ินและสภาพจได้ ปอ้ งกันไดโ้ ดยการหลีกเลี่ยง หรอื ใชเ้ ครื่องบหู หรือลดการสัน่ ของแหลง่ กาเนดิ เสยี ง
ท่ี ชอ่ื หน่วย รหสั มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด3 คล่นื กลและสมบตั ิ ว 5.1 ม 4-6/4 อธิบายคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ สเปกตรมั คลนื่ สนาม แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และนาเสนอผลการ แมเ่ ห สบื คน้ ขอ้ มลู เก่ียวกับประโยชน์ และ แมเ่ ห การปอ้ งกันอันตรายจากคลืน่ สามา แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า วทิ ยุ แม่เห ทางา วดั ผลกลางภาค วัดผลปลายภาค รวมท้ังสนิ้
สาระสาคญั เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 1คล่นื แม่เหล็กไฟฟ้าประกอบด้วยสนามแมเ่ หล็กและ 3 5 1 3มไฟฟ้าที่เปลย่ี นแปลงตลอดเวลา สเปกตรัมคลน่ืหล็กไฟฟ้าทีม่ ีความถี่ต่อเนื่องกนั โดยคลนื่หล็กไฟฟา้ ชว่ งความถต่ี ่าง ๆ มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ดแ้ ตกต่างกนั เชน่ การรบั สง่โทรทัศน์ และการป้องกันอนั ตรายจากคล่นืหลก็ ไฟฟ้า เชน่ ไม่อยูใ่ กล้เตาไมโครเวฟขณะเตาาน 20 10 10 20 10 10 40 100 32 46 12
การวเิ คราะห์มาต รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 33102 ช่อื หนว่ ย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรตัวชี้วัด รอู้ ะไร ทาอะไร ภาระงาว 1.2 ม.4-6/2 รู้อะไรสบื ค้นข้อมูลและ การแปรผันทางพนั ธุกรรมทาให้ - เขยี นอธิบายผลขอภปิ รายผลของ ส่ิงมีชวี ิตทีเ่ กดิ ใหม่มีลักษณะท่ีแตกตา่ งกัน ที่มีตอ่ มนษุ ยแ์ ละสิง่เทคโนโลยีชวี ภาพท่ี หลากหลายชนดิ กอ่ ใหเ้ กดิ เป็นความ ความรู้ไปใช้ประโยชมีต่อมนุษย์และ หลากหลายทางชีวภาพเทคโนโลยชี ีวภาพ - พดู นาเสนอผลงานสงิ่ แวดล้อมและนา ดา้ นพันธวุ ศิ วกรรม การโคลนและการ พร้อมสรปุ แสดงควาความรไู้ ปใช้ เพาะเลี้ยงเนือ้ เยื่อ มาใชใ้ นการพัฒนาให้เกิดประโยชน์ ความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ มากข้นึ แต่ สง่ ผลกระทบท้ังทางด้านทีเ่ ป็นประโยชนแ์ ละ โทษต่อส่ิงแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม ทาอะไร สงั เกต ตัง้ คาถาม ค้นคว้า รวบรวม จดั กระทา วิเคราะห์ แปลความ ลงความเหน็ สรุปผล และอภปิ รายผลของเทคโนโลยี ชีวภาพที่มีตอ่ มนุษยแ์ ละสง่ิ แวดล้อมและนา ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์และการนาเสนอ ความร้ใู ห้ผูอ้ ืน่ เข้าใจได้
ตรฐานและตัวชีว้ ัด ยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2561าน/ชิน้ งาน สมรรถนะสาคญั คณุ ลักษณะ คณุ ลกั ษณะ ของวชิ า อันพึงประสงค์ของเทคโนโลยีชวี ภาพ 1. ความสามารถใน - ความรบั ผดิ ชอบ - ซือ่ สัตย์งแวดลอ้ มและนา การสอ่ื สาร - ความรอบคอบ - มวี นิ ัยชน์ (อธบิ าย concept - กระบวนการกลุ่ม - ใฝเ่ รยี นรู้นหน้าชั้นเรยี น ความสัมพันธ์ , - มุง่ ม่นั ในามคดิ เห็น นาเสนอผลงาน การทางาน 2. ความสามารถใน การคดิ (สังเคราะห์ )
ตัวชว้ี ัด รอู้ ะไร ทาอะไร ภาระงาว 1.2 ม. 4-6/3 รู้อะไรสบื คน้ ข้อมูลและ 1. โลกมีความหลากหลายของระบบ - เขยี นอธิบายเกย่ี วอภปิ รายผลของความหลากหลาย นเิ วศซง่ึ มสี งิ่ มชี ีวติ อาศัยอยู่มากมายหลาย ทางชีวภาพที่มตี ่อมทางชวี ภาพทม่ี ตี ่อ สปีชีส์ สิ่งมชี ีวิตสปชี สี ์เดียวกนั ก็ยงั มคี วาม ในรูปของแผนผงั ควมนษุ ยแ์ ละ หลากหลายทางพันธุกรรมส่งิ แวดล้อม 2. ความหลากหลายทางชวี ภาพส่งผลทา ให้มนษุ ย์และส่งิ มีชีวิตอืน่ ๆ มีความตอ้ งการ ปจั จัยตา่ ง ๆ ในการดารงชีวติ แตกต่างกนั ซงึ่ จะช่วยรักษาสมดลุ ของระบบนเิ วศบนโลก ทาอะไร สงั เกต ตง้ั คาถาม ค้นคว้า รวบรวม จดั กระทา วิเคราะห์ แปลความ ลงความเหน็ สรุปผล และอภิปรายผลของความ หลากหลายทางชีวภาพท่ีมตี ่อมนุษย์และ ส่งิ แวดล้อม
าน/ชิน้ งาน สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะ ของวิชา อันพงึ ประสงค์วกับความหลากหลาย 1. ความสามารถใน - ความรับผิดชอบ - ซือ่ สตั ย์มนุษย์และสงิ่ แวดล้อม การส่ือสาร - ความรอบคอบ - มวี ินัยวามคิด (อธิบาย concept - กระบวนการกลุ่ม - ใฝเ่ รียนรู้ - มุ่งม่ันใน ความสัมพนั ธ์ , นาเสนอผลงาน การทางาน 2. ความสามารถใน การคดิ (สังเคราะห์ สรา้ งสรรค)์
ตวั ชี้วดั รอู้ ะไร ทาอะไร ภาระงาว 1.2 ม.4-6/4 รู้อะไรอธิบายกระบวนการ 1. สง่ิ มีชีวิตแต่ละสปชี สี ์จะมคี วาม - เขียนอธบิ ายเก่ีคัดเลือกตาม หลากหลายทีแ่ ตกตา่ งกนั สง่ิ มชี วี ิตในสปีชสี ์ คัดเลอื ก ตามธรรมชธรรมชาติ และผล เดยี วกันจะผสมพันธุแ์ ละสบื ลูกหลานต่อไป หลากหลายของสงิ่ มของการคดั เลือก ได้ - พูดนาเสนอผลงตามธรรมชาติตอ่ 2. การคัดเลือกตามธรรมชาติจะส่งผลทา พรอ้ มสรปุ แสดงควาความหลากหลาย ใหล้ ักษณะพนั ธุกรรมของประชากรในกลมุ่ของสิ่งมชี ีวิต ยอ่ ยแตล่ ะกลุ่มแตกตา่ งกันไปจนกลายเป็นส ปีชีส์ใหม่ทาให้เกดิ เปน็ ความหลากหลายของ ส่งิ มีชวี ิต ทาอะไร สังเกต ตง้ั คาถาม คน้ คว้า รวบรวม จัด กระทา วเิ คราะห์ แปลความ ลงความเห็น สรุปผล และอธบิ ายกระบวนการคัดเลือก ตามธรรมชาติต่อความหลากหลายของ สง่ิ มชี วี ติ และนาเสนอขอ้ มูลให้ผอู้ ่ืนเข้าใจ
าน/ช้ินงาน สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะ คุณลกั ษณะ ของวิชา อันพึงประสงค์ยวกับกระบวนการ 1. ความสามารถใน - ความรับผดิ ชอบ - ซอื่ สตั ย์ชาติต่อความ การสื่อสาร - ความรอบคอบ - มวี ินยัมีชวี ิต (อธิบาย concept - กระบวนการกลุ่ม - ใฝเ่ รียนรู้งานหน้าช้ันเรยี น ความสัมพนั ธ์ , - มุง่ มนั่ ในามคิดเหน็ นาเสนอผลงาน การทางาน 2. ความสามารถใน การคดิ (สงั เคราะห์ )
การวิเคราะหม์ าต รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 33102 ชื่อหน่วย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรตวั ชีว้ ดั รู้อะไร ทาอะไรว 3.2 ม.4-6/1 ทดลอง รูอ้ ะไรอธบิ ายและเขียนสมการของ 1. ในชวี ติ ประจาวันจะพบเห็นปฏกิ ิรยิ าเคมีจานวนปฏกิ ิรยิ าเคมีทว่ั ไปที่พบใน มาก ทัง้ ท่ีเกิดขึ้นในธรรมชาติและมนุษย์เป็นผกู้ ระทาชวี ติ ประจาวนั รวมทง้ั ปฏกิ ริ ิยาเคมเี ขยี นแทนได้ดว้ ยสมการเคมีอธบิ ายผลของสารเคมีท่ีมี 2. มนษุ ย์นาสารเคมีมาใชป้ ระโยชนท์ ัง้ ในบ้านตอ่ สง่ิ มีชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม การเกษตรและอุตสาหกรรม แต่สารเคมีบางชนดิ เป็น อนั ตรายต่อสิง่ มีชีวติ ละส่ิงแวดลอ้ ม ทาอะไร อธิบาย เขียนสมการเคมีของปฏิกริ ิยาเคมี พรอ้ ม ท้ังนาเสนอผลงานที่แสดงถงึ ความตระหนกั ถงึ ผลของ สารเคมีทีม่ ีผลต่อสงิ่ มีชวี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม
ตรฐานและตัวชว้ี ัดยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เร่ือง ปฏิกริ ิยาเคมีในชีวติ ประจาวันรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสาคญั คณุ ลักษณะ คณุ ลกั ษณะ ของวิชา อันพงึ ประสงค์- เขียนอธิบายสมการเคมี 1. ความสามารถใน - ความรับผดิ ชอบ - ซอื่ สัตย์ - ความรอบคอบ - มีวนิ ัยของปฏกิ ิริยาเคมี การสอื่ สาร - กระบวนการกลุ่ม - ใฝเ่ รียนรู้ - มุ่งมน่ั ใน- พดู นาเสนอผลงานหนา้ (อธบิ าย concept การทางานช้นั เรยี น พร้อมสรปุ แสดง ความสัมพนั ธ์ ,ความคิดเหน็ นาเสนอผลงาน 2. ความสามารถใน การคดิ (สังเคราะห์ ) 3. ความสามารถใน การแกป้ ัญหา
ตวั ช้ีวัด รอู้ ะไร ทาอะไรว 3.2 ม.4-6/2. ทดลอง ร้อู ะไรและอธบิ ายอัตราการ 1. ปริมาณของสารต้ังต้นหรือผลติ ภณั ฑ์ที่เกิดปฏกิ ิริยาเคมี ปัจจยั ทมี่ ี เปลี่ยนแปลงไปต่อหน่วยเวลา เรยี กวา่ อตั ราการผลตอ่ อัตราการเกิดปฏิกริ ิยา เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี และปรมิ าณของสารที่เปล่ียนแปลงไปเคมี และนาความรูไ้ ปใช้ น้ัน อาจวดั จากคา่ ความเข้มข้น ปรมิ าตรหรือมวลของประโยชน์ สาร ซ่ึงขน้ึ อยู่กับลกั ษณะของสาร 2. ความเขม้ ข้น พ้นื ท่ผี ิว อุณหภมู ิ ตัวเร่ง ปฏิกริ ยิ า เปน็ ปจั จัยท่ีมผี ลต่ออตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี การ ควบคุมปัจจยั เหลา่ น้ี เพื่อทาให้ปฏกิ ริ ยิ าเกดิ ข้ึนในอัตรา ที่เหมาะสม สามารถนามาใชใ้ หเ้ ปน็ ประโยชนไ์ ด้ ทาอะไร ทดลองและอธิบายอัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี และปจั จัยทม่ี ีผลต่ออัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี พร้อม ทัง้ นาเสนอการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ คุณลักษณะ ของวิชา อนั พงึ ประสงค์- ออกแบบและ 1. ความสามารถ 1. ความสนใจ - ใฝ่เรยี นรู้ทดลองเก่ียวกับ ในการคดิปัจจยั ที่มีผลต่ออตั ราการ (วิเคราะห์) 2. กระบวนการกลุ่ม - มีวนิ ยัเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี- เขยี นรายงาน สรปุ ผล 2. ความสามารถ 3. ทกั ษะ - ม่งุ มน่ั ในการศึกษาทดลองพรอ้ ม ในการส่ือสารนาเสนอผลงงาน (รบั สาร-สง่ สาร) กระบวนการ การทางาน 3. ความสามารถใน ทางวิทยาศาสตร์ การแกป้ ญั หา (การทดลอง) (การทดลอง)
ตัวชี้วัด รอู้ ะไร ทาอะไรว 3.2 ม.4-6/7. ทดลอง รอู้ ะไรและอธิบายองคป์ ระกอบ คาร์โบไฮเดรตจดั เปน็ แหลง่ พลังงานของส่ิงมชี ีวติประโยชน์ และปฏกิ ริ ยิ าบางชนิดของคารโ์ บไฮเดรต พบได้ทั่วไปในชวี ิตประจาวนั เชน่ น้าตาล แป้ง เซลลโู ลส และไกลโคเจน โดยมนี ้าตาลเปน็ หน่วยยอ่ ย สาคัญประกอบด้วยธาตุ C , H , O การตรวจสอบชนดิ ของนา้ ตาลทาได้โดยใช้สารละลายเบเนดิกต์ ทาอะไร ทดลองและอธิบาย องค์ประกอบประโยชน์ และ ปฏิกิริยาของคาร์โบไฮเดรต และนาเสนอการเลอื กใช้ อย่างมีเหตผุ ล
ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะ คุณลกั ษณะ ของวิชา อนั พึงประสงค์- ออกแบบและ 1. ความสามารถ 1. ความสนใจ - ใฝ่เรียนรู้ทดลองเก่ยี วกบั ในการคดิองคป์ ระกอบประโยชน์ (วิเคราะห์) 2. กระบวนการกลุ่ม - มวี ินยัและปฏิกิรยิ าของคารโ์ บไฮเดรต 2. ความสามารถ 3. ทกั ษะ - มุ่งมัน่ ใน- เขียนรายงาน สรุปผล ในการสือ่ สารการศึกษาทดลอง (รับสาร-ส่งสาร) กระบวนการ การทางาน 3. ความสามารถใน ทางวทิ ยาศาสตร์ การแกป้ ัญหา (การทดลอง) (การทดลอง)
ตวั ชีว้ ดั รอู้ ะไร ทาอะไรว 3.2 ม.4-6/8. ทดลอง ร้อู ะไรและอธบิ ายองคป์ ระกอบ 1. ไขมันและนา้ มนั เป็น สารประกอบไตรกลเี ซอไรด์ประโยชน์ และปฏิกิริยาบางชนดิ ของไขมันและ เกิดจากการรวมตวั ของกรดไขมนั กบั กลเี ซอรอล กรดน้ามนั ไขมันมีท้งั ชนดิ อิม่ ตัวและไม่อิ่มตัว ซ่ึงสามารถ ตรวจสอบ ไดโ้ ดยใช้สารละลายไอโอดนี 2. ไขมนั และน้ามนั นามาใชป้ ระโยชน์ท้ังการบริโภค และใชใ้ นอุตสาหกรรม การบริโภคไขมันที่ขาดความ ระมัดระวงั จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ทาอะไร ทดลองและอธบิ ายองคป์ ระกอบประโยชน์ และ ปฏิกิรยิ าของไขมนั และน้ามัน และนาเสนอผลงานที่ แสดงถึงความตระหนักถงึ อนั ตรายในการใช้อยา่ งมี เหตผุ ล
ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะ ของวชิ า อนั พงึ ประสงค์- ออกแบบและ 1. ความสามารถ 1. ความสนใจ - ใฝ่เรยี นรู้ทดลองเก่ยี วกบั ในการคิดองค์ประกอบประโยชน์ (วิเคราะห์) 2. กระบวนการกลุ่ม - มวี นิ ัยและปฏกิ ิรยิ าของไขมันและนา้ มัน 2. ความสามารถ 3. ทักษะ - มุ่งมน่ั ใน- เขยี นรายงาน สรุปผล ในการส่อื สารการศกึ ษาทดลอง (รบั สาร-สง่ สาร) กระบวนการ การทางาน 3. ความสามารถใน ทางวิทยาศาสตร์ การแกป้ ญั หา (การทดลอง) (การทดลอง)
ตวั ชี้วัด ร้อู ะไร ทาอะไรว 3.2 ม.4-6/9. ทดลอง รอู้ ะไรและอธิบายองคป์ ระกอบ 1. โปรตนี เปน็ สารท่ีชว่ ยในการ เจรญิ เตบิ โตประโยชน์ และปฏกิ ริ ิยาบาง เสริมสรา้ งและซ่อมแซมเนื้อเย่ือ หนว่ ยย่อยของโปรตนีชนิดของโปรตีน และกรด คือ กรดอะมโิ น ซ่งึ มที ้ัง กรดอะมิโนจาเป็นและไมจ่ าเปน็นวิ คลีอิก มธี าตอุ งค์ประกอบสาคญั คือ C H O N การทดสอบ โปรตีนใน อาหารโดยใชส้ ารละลาย CuSO4 กบั NaOH 2. กรดนิวคลอี กิ เป็นสารโมเลกุล ใหญค่ ล้ายโปรตีน ประกอบดว้ ย ธาตุ C H O N ทีพ่ บในเซลล์ของ สง่ิ มีชวี ติ มี 2 ชนดิ คอื DNA และ RNA ซ่ึงเกี่ยวข้อง กับกระบวนการถ่ายทอดทางพันธกุ รรม ทาอะไร ทดลองและอธิบายองค์ประกอบ ประโยชน์ และ ปฏิกิริยาของโปรตีน และกรดนวิ คลอิ กิ อย่างมีเหตุผล
ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะ คุณลกั ษณะ ของวชิ า อนั พงึ ประสงค์- ออกแบบและ 1. ความสามารถ 1. ความสนใจ - ใฝเ่ รยี นรู้ทดลองเกี่ยวกบั ในการคิดองค์ประกอบ ประโยชน์ (วิเคราะห์) 2. กระบวนการกลุ่ม - มวี ินยัและปฏิกริ ิยาของโปรตนี- เขียนรายงาน สรุปผล 2. ความสามารถ 3. ทกั ษะ - มุ่งมน่ั ในการศกึ ษาทดลอง ในการสื่อสาร (รับสาร-สง่ สาร) กระบวนการ การทางาน 3. ความสามารถใน ทางวทิ ยาศาสตร์ การแก้ปญั หา (การทดลอง) (การทดลอง)
การวิเคราะห์มาต รายวชิ าวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 33102 ชื่อ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรตวั ช้วี ดั รอู้ ะไร ทาอะไรว 5.1 ม 4-6/1 ทดลองและอธิบาย รู้อะไรสมบัติของคล่ืนกล และอธิบาย คลน่ื กลมสี มบตั กิ ารสะท้อน การหักเห การความสมั พันธร์ ะหวา่ ง อตั ราเร็ว สอดแทรก และการเลี้ยวเบน อัตราเร็ว ความถ่ีและความถ่ีและความยาวคล่ืน ความยาวคลืน่ มีความสัมพันธ์กนั โดยอตั ราเรว็ เท่ากบั ความถคี่ ูณความยาวคล่นื ทาอะไร ทดลองสมบตั ขิ องคลื่นกลบนั ทึกและอธิบาย ผลการทดลองอยา่ งมีเหตุผลอธบิ ายสมบัตกิ าร สะทอ้ น การหกั เห การแทรกสอดและการเลย้ี วเบน ของคล่นื กล และความสมั พนั ธ์ระหว่างอัตราเร็ว ความถแ่ี ละความยาวคล่ืน
ตรฐานและตัวชวี้ ดั คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะอหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรือ่ ง คลืน่ กลและสมบัติ ของวิชา อนั พงึ ประสงค์รียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสาคญั- ออกแบบและ 1. ความสามารถ 1. ความสนใจ - ใฝ่เรียนรู้ทดลองเกยี่ วกบั ในการคิด 2. กระบวนการกลุ่ม - มีวินยัคล่ืนและสมบตั ิของคลนื่ (วเิ คราะห์) 3. ทกั ษะ - มุ่งมนั่ ใน- เขียนรายงาน สรปุ ผล การทางานการศกึ ษาทดลอง 2. ความสามารถ กระบวนการ ในการส่ือสาร ทางวทิ ยาศาสตร์ (รบั สาร-ส่งสาร) (การทดลอง) 3. ความสามารถใน การแก้ปญั หา (การทดลอง)
ตัวช้ีวดั รอู้ ะไร ทาอะไรว 5.1 ม 4-6/2 อธบิ ายการเกดิ ร้อู ะไรคลน่ื เสยี งบตี สข์ องเสยี ง ความ 1. คลน่ื เสยี งเกดิ จากการส่ันของแหลง่ กาเนิดเข้มเสียง ระดบั ความเข้มเสยี งการไดย้ ินเสียง คุณภาพเสยี ง เสียงบีตสข์ องเสียง เกดิ จากคลื่นเสียงจากและนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ แหลง่ กาเนิดสองแหลง่ ท่ีมคี วามถต่ี า่ งกันเลก็ น้อย มารวมกัน ทาให้ไดย้ ินเสียงดงั ค่อยเป็นจงั หวะ 2. ความเข้มเสียง เป็นพลังงานเสยี งทต่ี กตั้งฉาก บนหนง่ึ หน่วยพ้ืนที่ในหนึ่งหน่วยเวลา ระดับของ ความเขม้ ของเสยี งจะบอกความดงั ค่อย ของเสยี ง ทไี่ ด้ยิน 3. เครอ่ื งดนตรีแต่ละชนิดท่ีใชต้ ัวโน๊ตเดยี วกัน จะใชร้ ูปคลืน่ ท่ีแตกตา่ งกัน เรียกวา่ คณุ ภาพเสียง ต่างกนั ทาอะไร สบื คน้ ขอ้ มลู การเกิดคลนื่ เสียงบีตส์ของเสียง ความเข้มเสียง ระดบั ความเข้มเสยี ง การไดย้ นิ เสยี ง คณุ ภาพเสียง และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187