Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา เหล่าทหารราบ ปี5

วิชา เหล่าทหารราบ ปี5

Published by military2 student, 2022-05-17 02:57:08

Description: วิชา เหล่าทหารราบ ปี5

Search

Read the Text Version

ท่ีรวมพลของหมู่ปืนเล็กต่าง ๆ ตามความเหมาะสมก็ได้ ส่วนกองบังคับการหมวดที่เหลือ เหล่าทหารราบ 91 ซง่ึ ประกอบด้วย ผู้บังคบั หมวด รองผู้บงั คบั หมวด และนายสิบประจ�ำหมวดน้ัน โดยปกติ จะประจำ� อยู่ในพ้นื ที่ย่านกลางของพ้นื ท่ีรวมพล เม่ือผู้บังคับหมวดปืนเล็กได้น�ำก�ำลังของตนเข้าไปในพ้ืนที่รวมพลเรียบร้อย แล้ว ผู้บังคบั หมวดจะต้องปฏบิ ัติและก�ำกับดูแลให้มกี ารปฏบิ ตั ิในเรอ่ื งต่าง ๆ ดงั ต่อไปนี้ (1) แจ้งคำ� ส่งั เตรียมการเข้าตีให้ผู้บังคับหมู่ต่าง ๆ ทราบ (2) ให้กำ� ลงั พลของหมู่ต่าง ๆ พยายามแสวงประโยชน์จากการกำ� บงั และ การซอ่ นพรางทมี่ อี ยตู่ ามธรรมชาตใิ หม้ ากทส่ี ดุ ถา้ ธรรมชาตไิ มอ่ ำ� นวยใหจ้ ะตอ้ งจดั ใหม้ กี าร พราง เพอื่ ให้สามารถซ่อนพรางได้ทง้ั ทางพื้นดนิ และทางอากาศ (3) ก�ำลังพลของหมู่ต่าง ๆ จะต้องประจ�ำอยู่ในที่รวมพลในลักษณะที่ กระจายกำ� ลัง เพ่อื ไม่ให้เป็นอนั ตรายจากกระสนุ ปืนใหญ่นัดเดียวกันได้ และอยู่สงบเงียบ (4) ตรวจตราการจัดการระวังป้องกันของหน่วยรอง ตลอดจนท่ีต้ังยิงของ อาวุธประจ�ำหน่วย จะสามารถให้การระวังป้องกันที่รวมพลของหมวดได้ หากจ�ำเป็นควร ให้มกี ารดดั แปลงภมู ิประเทศตามลำ� ดบั ความเร่งด่วนของงานด้วย (5) ต้องก�ำหนดให้มีการจัดยามรักษาการณ์ไว้ตามจุดต่าง ๆ ตามจ�ำนวน ทเ่ี ห็นสมควร (6) กำ� กบั ดูแลให้ก�ำลังพลทุกส่วนตรวจสภาพอาวธุ และยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมรบได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ (7) เบกิ จา่ ยกระสนุ ประจำ� อาวธุ แตล่ ะชนดิ และสง่ คนื ยทุ โธปกรณเ์ กนิ อตั รา ให้เป็นไปตามท่ีผู้บังคับกองร้อยก�ำหนดไว้ในค�ำสั่งเตรียม ตลอดจนการเบิกรับอาวุธพิเศษ ตามความจำ� เป็นด้วย  (8) จัดการเร่ืองเสบียงอาหารท่ีต้องน�ำติดตัวไปใช้ระหว่างการปฏิบัติการ เข้าตตี ามท่ผี ู้บงั คับกองร้อยกำ� หนดไว้ในคำ� สั่งเตรยี ม (9) ดำ� เนนิ งานทางธรุ การอื่น ๆ ตามความจ�ำเป็น เช่น ให้ทหารปลดเป้หลงั ประจำ� กาย และรวบรวมเกบ็ ไว้ตามท่ีผู้บังคบั กองร้อยกำ� หนด (10) มีการปลอบขวัญแก่ก�ำลังพลภายในหมวดเพ่ือให้มีขวัญดีตามความ เหมาะสม

92 เหลา่ ทหารราบ ข. การรบั ค�ำส่งั การเข้าตี ในขณะทผี่ ู้บังคบั หมวดควบคมุ กำ� ลงั ของตนอยู่ใน ทร่ี วมพลนน้ั ผบู้ งั คบั หมวดจะไดร้ บั คำ� สงั่ จากผบู้ งั คบั กองรอ้ ยใหข้ นึ้ ไปรบั คำ� สง่ั การเขา้ ตจี าก ผู้บังคบั กองร้อย ณ ตำ� บลและเวลาทก่ี ำ� หนด ผู้บังคบั หมวดจะต้องไปรับคำ� ส่งั ให้ตรงตาม เวลาและสถานทต่ี ามท่ผี ู้บงั คับกองร้อยกำ� หนด ในการไปรับค�ำสั่งของผู้หมวดน้ัน ผู้บังคับหมวดจะต้องพึงยึดถือหนทาง ปฏบิ ัติ ดงั ต่อไปน้ี คือ (1) พจิ ารณานำ� บุคคลต่าง ๆ ร่วมไปรบั คำ� สงั่ กับตนด้วย ได้แก่ รองผู้บังคบั หมวด ผู้บงั คับหมู่ปืนกล พลนำ� สาร และผู้บังคบั หน่วยอ่นื ๆ ที่มาสมทบ (2) ก่อนท่ีจะออกไปจากท่ีรวมพล ให้มอบหน้าท่ีให้นายสิบประจ�ำหมวด ปฏบิ ตั หิ น้าทแ่ี ทน เพอื่ ควบคมุ การเตรียมการต่าง ๆ ดงั กล่าวในข้อ 5 ข้างต้นให้เสร็จ เม่ือเดินทางไปถึงต�ำบลท่ีผู้บังคับกองร้อยจะใช้เป็นท่ีส่ังการเข้าตีตามเวลา ที่ก�ำหนดแล้ว บุคคลท่ีผู้บังคับหมวดน�ำไปร่วมในการรับค�ำสั่งเข้าตีจากผู้บังคับกองร้อย ได้แก่ รองผู้บังคับหมวด ผู้บังคับหมู่ปืนกล และผู้บังคับหน่วยสมทบ ส่วนพลน�ำสารน้ัน ควรก�ำหนดให้รอคอยอยู่ในท่ีซึ่งมีการก�ำบังซ่อนพราง มีใกล้ ๆ บริเวณต�ำบลสั่งการของ ผู้บงั คบั กองร้อย ในขณะท่ีรับค�ำส่ังการเข้าตีน้ัน มีสิ่งที่ผู้บังคับหมวดพึงยึดถือเป็นหนทาง ปฏบิ ัติ คือ (ก) พยายามจดบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ผู้บังคับกองร้อยสั่งการ อย่างละเอยี ดเท่าที่สามารถกระทำ� ได้ (ข) รายละเอียดต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับภูมิประเทศควรได้พิจารณาให้เห็นจริง ทัง้ ในแผนทแ่ี ละภมู ปิ ระเทศ (ค) ข้อความใดที่มีความสงสัยหรือไม่เข้าใจจะต้องไต่ถามจนเป็นที่เข้าใจ อย่างแจ่มแจ้ง (ง) ภารกจิ ใดทมี่ คี วามจำ� เปน็ ตอ้ งเกยี่ วขอ้ งกบั หนว่ ยอน่ื ๆ เซน่ หมวดปนื เลก็ อ่ืน ๆ ผู้บังคับหน่วยอาวุธยิงสนับสนุน เป็นต้น จะต้องประสานงานหรือท�ำความตกลง ในลักษณะการสนทนาวสิ าสะกนั ให้เป็นทเ่ี ข้าใจอย่างแจ่มแจ้งก่อนทจ่ี ะแยกย้ายกันไป (จ) ตัง้ นาฬิกาให้ตรงกนั กบั ผู้บังคับกองร้อยทกุ ครั้งท่รี ับคำ� สัง่ เสรจ็  

ค. ระเบียบการน�ำหนว่ ย เหล่าทหารราบ 93 1. กลา่ วทว่ั ไป 1.1 ผู้บังคับหมวดจะได้ระเบียบการน�ำหน่วยเพ่ือให้เกิดมีความมั่นใจ ไดว้ า่ ขนั้ การปฏบิ ตั ทิ จ่ี ำ� เปน็ ทงั้ มวลไดก้ ระทำ� ไปอยา่ งถกู ตอ้ งและเปน็ ระบบเพอื่ ใหพ้ รอ้ มทจ่ี ะ ปฏบิ ตั กิ ารรบได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนรี้ ะเบยี บการนำ� หน่วยจะช่วยใหก้ ารได้เวลา ได้เหมาะสมท่สี ุด ทงั้ เป็นการลำ� ดับเร่ืองที่ต้องคดิ หรือต้องท�ำได้อย่างอตั โนมตั ิอกี ด้วย 1.2 ระเบียบการน้ีมิได้ก�ำหนดไว้ตายตัว หัวข้อปฏิบัติในข้ันต่าง ๆ ท่ี จะกระทำ� นน้ั อาจเปลย่ี นแปลงใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ หรอื บางขน้ั อาจกระทำ� ไปพรอ้ ม กัน และในขณะทข่ี ั้นตอนอน่ื ๆ อาจจะต้องกระทำ� ต่อเนอ่ื งตลอดการรบก็ได้ ผู้บังคับหมวด ท่ดี นี น้ั ต้องไม่มองข้ามในส่งิ ที่ตนจะได้รู้เห็นมาแล้วก็ตาม 2. ขน้ั ระเบยี บของการน�ำหน่วย 2.1 ขนั้ ท่ี 1 รบั ภารกจิ ภารกิจอาจได้รบั มาจากคำ� ส่ังเตรียม ค�ำสง่ั ยทุ ธการ หรือค�ำส่งั เป็นส่วน ๆ เมอ่ื รบั คำ� สัง่ แล้วจะต้องวิเคราะห์ภารกิจและวางแผนการใช้ เวลาทีม่ อี ยู่อย่างเหมาะสม คำ� แนะนำ� ประการแรก ได้แก่ การให้ค�ำสั่งเตรียม ในคำ� สง่ั เตรยี มจะมี ข่าวสารเพยี งพอท่หี น่วยจะเรม่ิ ต้นในการเตรยี มการปฏบิ ัตไิ ด้ ระเบยี บปฏบิ ตั ปิ ระจำ� (รปจ.) ของหนว่ ยควรมรี ายละเอยี ดวา่ จะตอ้ งปฏบิ ตั ิ อย่างไรบ้างเม่อื ได้รบั ค�ำสง่ั เตรยี ม เช่น การเบกิ กระสุน เสบยี ง นำ�้ เครอ่ื งมือสื่อสาร เป็นต้น ทันทีท่ไี ด้รบั คำ� สงั่ ผบ.หมวดจะต้องตงั้ คำ� ถามตนเองในเร่อื งต่อไปน้ี - ภารกิจให้เราทำ� อะไรบ้าง - ทำ� อย่างไรจงึ ทราบข่าวเกย่ี วกับข้าศกึ - ภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศจะมีผลกระทบต่อการปฏิบัติของเรา อย่างไรบ้าง - กำ� ลังฝ่ายเรามีหน่วยอะไรบ้าง - จะใช้เวลาทม่ี อี ยู่ให้เกดิ มากท่สี ุดได้อย่างไรบ้าง - สง่ิ อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ทตี่ ้องการมอี ะไรบ้าง - มีกจิ พเิ ศษอะไรบ้างทจ่ี ะต้องมอบหมายให้ปฏิบัติ

94 เหลา่ ทหารราบ ผบู้ งั คบั หมวดจะตอ้ งแบง่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ โดยหลกั ทวั่ ไปแลว้ ผบ.มว. จะใช้เวลาไม่เกินหน่ึงในสามของเวลาที่มีอยู่ และใช้เวลาท่ีเหลือให้ ผบ.หน่วยรองในการ เตรยี มการ จะต้องสงั่ หน่วยว่าให้พร้อมหรอื แล้วเสรจ็ ผบ.มว.จะต้องระบสุ ง่ิ ทจี่ ะต้องกระทำ� ตามล�ำดับ เวลาย้อนหลังจากเวลาที่ต้องการให้พร้อมเพื่อปฏิบัติภารกิจ โดยให้ทหารได้มี เวลาเพยี งพอในการปฏบิ ัติกจิ ต่าง ๆ   ตวั อยา่ งการวางแผนการใชเ้ วลายอ้ นหลังของ ผบ.มว.ปล. 1420 เวลาพร้อมปฏบิ ตั ิ 1415 ตรวจท่ีรวมพล (เพ่ือให้แน่ใจได้ว่ามีการรื้อถอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไม่หลงลมื กระสนุ ฯลฯ) 1300 ตรวจความเรยี บร้อยของทหารแต่ละคนภายในหมวด 1205 ออกคำ� สง่ั ยทุ ธการ 1200 ท�ำคำ� สง่ั ยทุ ธการของ มว.ให้สมบูรณ์ 1105 ลว.ภมู ิประเทศของ ผบ.ร้อย. รับคำ� สั่งของ ผบ.ร้อย. 1050 ออกคำ� สง่ั เตรยี มให้กับ ผบ.หน่วยรอง ตวั อย่างคำ� ส่ังเตรียมของ ผบ.มว. หมวดของเราจะท�ำการเข้าตีเขาแหลม เวลา 1430 ข้าศึกอยู่ในท่ีม่ันดัดแปลง แข็งแรง มคี ูตดิ ต่อ และท่กี �ำบงั เหนือศรี ษะ มอี าวุธจรวดต่อสู้รถถังด้วย ให้เบกิ รับลูกระเบดิ คนละ 6 ลกู และเครอ่ื งยงิ จรวด อารพ์ จี .ี 7 หมลู่ ะ 1 เครอ่ื ง เบกิ จรวด เอม็ . 73 10 นดั ใหแ้ ตล่ ะ หมเู่ ตรยี มดนิ ระเบดิ 10 แทง่ พรอ้ มเชอ้ื ปะทชุ นวน เครอื่ งจดุ 10 ชดุ ฝกั แคเวลา 10 ฟตุ ฝกั แค ระเบดิ 100 ฟุต รอง ผบ.มว.จะเป็นผู้นำ� ไปรับของ ถ้ามปี ัญหาเก่ียวกบั วิทยแุ จ้งให้ ผบ.มว. ทราบเวลา 1045 พบกนั ทน่ี เี่ วลา 1105 เพ่ือไปตรวจภมู ิประเทศบนเขาชนไก่ แล้วผู้หมวด จะได้ออกคำ� สั่งยทุ ธการบนเขานน้ั 2.2 ขน้ั ท่ี 2 ออกค�ำสัง่ เตรียม ผบ.มว.ออกคำ� สงั่ เตรยี มใหท้ ง้ั ผบ.หมู่ รอง ผบ.มว. นายสบิ ประจำ� มว. และผู้ตรวจการณ์หน้าของหมู่ ค.60 (ถ้ามี) ผบ.หมู่จะออกค�ำสั่งเตรียมทั้งหมดให้แก่ ทหารภายในหมู่ คำ� ส่งั เตรียมอย่างน้อยทส่ี ุดจะต้องกล่าวถึงเร่อื ง ต่อไปน้ี

2.2.1 ภารกิจ เหล่าทหารราบ 95 2.2.2 เวลาปฏบิ ตั กิ าร 2.2.3 การแนะนำ� โดยเฉพาะเจาะจง ถ้ามี 2.2.4 เวลาและสถานทอี่ อกค�ำสัง่ สมบูรณ์ ภายหลังจากได้รับค�ำส่ังเตรียมจาก ผบ.มว. แต่ละหมู่ก็ให้ค�ำสั่ง เตรียมทำ� นองเดียวกนั ดงั น้ี ภารกจิ ของเรา คอื ทำ� การเข้าตแี หลมเวลา 1430 โดยเป็นส่วนหนงึ่ (ในกรอบ) ของหมวดข้าศกึ มีการดัดแปลงทมี่ ่ันแขง็ แรงตามลาดหน้าเนินเขาแหลม มีอาวธุ จรวดตอ่ สรู้ ถถงั ดว้ ย แตล่ ะคนเบกิ รบั ลกู ระเบดิ ขวา้ งคนละ 6 ลกู พลยงิ เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ เบกิ รับ อาร์พีจี 7 1 เครอ่ื ง ลกู จรวด 10 นดั หมู่หวนั และชุดยิงเบกิ รับดินระเบิด 10 แท่ง เช้ือ ปะทชุ นวน 10 ดอก เครอื่ งจดุ ชนวนฝกั แคระเบดิ 100 ฟตุ ฝกั แคเวลา 10 ฟตุ และใหท้ ดสอบการ จุดถ่วงเวลาของชนวนฝักแคเวลาดูด้วยพลฯ...น�ำเชือกไต่หน้าผาและห่วงเกาะเชือกพลฯ... นำ� โทรศพั ท์ ที เอ 1 และล้อสาย ดี อาร์ 8 จ�ำนวน 2 ล้อ รอง ผบ.มว.จะมาที่นีอ่ ีก 20 นาที เพ่ือมาบอกว่าจะรับของที่ไหน เม่ือใด หมู่จะรับค�ำสั่งจากผู้หมวด หมู่สันติรับผิดชอบหมู่ จนกว่าหมู่จะกลบั เรามาพบกนั ทน่ี เ่ี วลา 1205 เพ่ือรับค�ำสั่งยุทธการ 2.3 ขน้ั ท่ี 3 วางแผนขั้นตน้ ผู้บังคับ มว.วางแผนข้ันต้นโดยอาศัยมูลฐานจากภารกิจ ข้าศึก ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ลมฟ้าอากาศ และกำ� ลังท่มี ีอยู่ (ปัจจัย METT) แผนข้ันต้นจะช่วยให้ ผนู้ ำ� หนว่ ยไดใ้ ชเ้ ปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ ทสี่ ามารถนำ� ไปใชใ้ นการประสานงานลาดตระเวนการจดั กำ� ลงั และการเคล่อื นย้ายได้ต่อไป อะไรคอื ภารกจิ ของหมวด (เราตอ้ งทำ� การเขา้ ตเี พอื่ ยดึ ทหี่ มายแหง่ นี้ ในเวลา 1400) หน่วยอะไรของข้าศกึ ทเ่ี ป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา มขี นาดเท่าใด วาง กำ� ลงั อยู่ท่ไี หน มีอาวธุ อะไรสนบั สนนุ มีทหารช่างสนบั สนนุ หรือไม่ เป็นทหารราบธรรมดา หรอื ยานเกราะ หรอื ทง้ั 2 อย่าง เราจะใช้ภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศให้เกิดประโยชน์แก่เราได้ อย่างไร เพอ่ื จะให้สามารถตอบคำ� ถามเหล่าน้ไี ด้ ผบ.หน่วยจะพิจารณาในเรื่องตรวจการณ์

96 เหลา่ ทหารราบ และพ้ืนยิง การก�ำบัง และการซ่อนพราง เครื่องกีดขวางภูมิประเทศส�ำคัญ และแนวทาง ในการเคลื่อนท่ี การตรวจการณ์และพ้ืนยิง มีอิทธิพลต่อการวางก�ำลังหมู่ อาวุธ ตก.ปก.ต้องให้วางในที่ที่สามารถจะสังหารที่มีไว้ได้มากท่ีสุด ในการเข้าตีส่วนยิงสนับสนุน จะต้องก�ำหนดทต่ี งั้ ยิงให้สามารถสนับสนนุ ส่วนด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ และพ้นื ยิงคุ้มครองแนวทาง เคล่ือนท่ี ผบ.มว.จะตรวจการณ์พื้นยิงจากข้างหน้าแนวเช่นเดียวกับการตรวจการณ์ของ ข้าศึกจะมองเห็นที่มั่นหรือเส้นทางท่ีใช้ในการเข้าตีจะต้องปกปิดก�ำบังจากจุดที่ข้าศึก ตงั้ รับอยู่หรอื ไม่ การก�ำบังและการซ่อนพราง มีอิทธิพลต่อการเลือกเส้นทางท่ีตั้ง หรือทว่ี างกำ� ลัง และก�ำหนดเป้าหมายหรอื ไม่ เครื่องกีดขวาง ก็มีอิทธิพลต่อการเลือกเส้นทางในการเข้าตี ภูมิประเทศส�ำคัญมีผลต่อการตัดสินใจเก่ียวกับการก�ำหนดเป็นท่ีหมาย และเส้นทางการ เข้าตี แนวทางการเคลื่อนท่ี เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัย อน่ื ๆ มอี ทิ ธพิ ลต่อการเลอื กเสน้ ทางเขา้ ตแี ละทศิ ทางเข้าตี ซง่ึ จะมผี ลกระทบต่อการปฏบิ ตั ิ การรบของหน่วยอย่างไรบ้าง  ก�ำลังที่มีอยู่ มีอิทธิพลต่อการเลือกที่วางก�ำลัง เส้นทาง รูปแบบ และแผนการยิงสนับสนุนอย่างไรบ้าง ผบ.มว.จะพิจารณาปัจจัยแต่ละอย่างและน�ำมา เปรียบเทียบกันโดยการวิเคราะห์ ลักษณะเช่นน้ีจะช่วยให้ ผบ.มว.ตกลงใจเกี่ยวกับแผนที่ วางไว้ได้ ซ่งึ ตรวจสอบแผนแล้วกจ็ ะเป็นค�ำส่งั ต่อไป 2.4 ขัน้ ท่ี 4 เคลอื่ นย้ายหนว่ ยทีจ่ �ำเป็นกอ่ น เมอ่ื ถงึ เวลา ผบ.รอ้ ย.จะนำ� ผบ.มว.ไปยงั ทต่ี รวจการณแ์ ละใหค้ ำ� สงั่ การเข้าตเี พอื่ ประหยัดเวลา ผบ.มว. หรือนายสิบประจำ� มว. เคลือ่ นย้าย มว.ไปยงั พ้นื ที่ท่ี จะปฏบิ ัตกิ ารได้ 2.5 ขน้ั ที่ 5 การลาดตระเวน ผู้บังคับ มว.จะต้องลาดตระเวนตรวจดูลักษณะภูมิประเทศ และ ประเมินค่าภูมิประเทศที่จะต้องใช้ในการรบ เพื่อให้การใช้ก�ำลังพลและยุทโธปกรณ์ได้

ดที สี่ ดุ ถา้ มเี วลานอ้ ยกจ็ ะตอ้ งลาดตระเวนบนแผนทใี่ หไ้ ด้ ในขนั้ นส้ี ามารถยนื ยนั หรอื ปรบั แผน เหล่าทหารราบ 97 ขัน้ ต้นได้ 2.6 ข้ันที่ 6 ท�ำแผนสมบูรณ์ อาศัยการลาดตระเวนภูมิประเทศน�ำมาเปรียบเทียบกัน ผบ.มว. กจ็ ะทำ� แผนสมบรู ณใ์ นการเขา้ ตี ซงึ่ สามารถจะตกลงใจไดว้ า่ จะเคลอ่ื นที่ และเขา้ ยดึ ทหี่ มาย อย่างไร 2.7 ข้ันที่ 7 ออกค�ำสัง่ ยทุ ธการ (การสัง่ การ) คำ� สง่ั ยทุ ธการของ มว. และหมนู่ นั้ มกั จะออกดว้ ยวาจา ในการเขา้ ตี ผบ.มว.ควรออกค�ำสั่งในที่ที่ ผบ.หมู่สามารถมองเห็นที่หมายได้ ถ้าหากท�ำได้ก็ควรใช้ แบบจ�ำลองภูมิประเทศหรือแผนท่ีสังเขปเพ่ือช่วยในการอธิบาย ผบ.หมู่จะออกค�ำสั่งเข้าตี จากจดุ ท่ที หารมองเหน็ ทีห่ มายได้ หรอื ใช้แบบทีจ่ ำ� ลองภมู ิประเทศเพือ่ ให้หมู่ของตนได้เห็น สภาพภมู ปิ ระเทศ ผบู้ งั คบั หนว่ ยจะตอ้ งใหท้ หารของตนทราบแผนทว่ี างไวด้ ว้ ยเสมอ ตอ่ ไปนี้ เป็นรปู แบบของคำ� สง่ั ยุทธการทอ่ี อกด้วยวาจา สถานการณ์ กำ� ลังฝ่ายข้าศกึ ข่าวเก่ยี วกบั ก�ำลงั ทต่ี ้ัง จดุ อ่อน และพฤตกิ ารณ์ กำ� ลงั ฝา่ ยเรา ภารกจิ ของหนว่ ยเหนอื 1 ระดบั หนว่ ยทางซา้ ย ทางขวา ข้างหลงั (ข้างเคียง) ระดบั หมวด กค็ อื มว. ระดบั หมู่ คอื หมู่ข้างเคียง หน่วยสมทบและหน่วยแยก มีใครบ้าง และเวลาที่มีผลบังคับ ภารกิจชดั เจน กะทดั รดั ระบภุ ารกจิ กระทำ� ให้สำ� เรจ็ โดยหมู่และ มว. (ใคร อะไร เมื่อใด ที่ไหน ทำ� ไม) การปฏิบัติ แนวความคิดในการปฏิบัติแผนกลยุทธ์และการยิง สนับสนนุ ผบ. หน่วยต้องการให้บรรลภุ ารกจิ อย่างไร กิจท่ีมอบให้หน่วยรอง ผบ.มว. บอก หมู่ว่าจะให้ทำ� อะไร ผบ. หมู่กบ็ อกชดุ ยงิ และทหารว่าต้องการให้เขาทำ� อะไร  ค�ำแนะน�ำประสานงาน ผบ.มว. ให้รายละเอยี ดท่ีจะใช้ 2 หมู่ข้ึนไป หรือ ผบ.หมู่ให้รายละเอยี ดทีจ่ ะให้ทั้งหมู่ เช่น แนวออกตี แนวตะลุมบอน รปู ขบวนเส้นทาง เวลาออกตี การปฏบิ ตั ใิ นระหว่างการเสรมิ ความม่นั คงและการจัดระเบียบใหม่

98 เหลา่ ทหารราบ การช่วยรบ ข่าวสารเกย่ี วกบั เสบยี ง กระสนุ เวชภัณฑ์ การปฏิบัติ ต่อเชลยศกึ และอืน่ ๆ ทีเ่ กย่ี วกบั การธรุ การและการส่งกำ� ลัง การบังคับบัญชาและการสอื่ สาร การบังคับบัญชา ผู้บังคับ มว.จะอยู่ท่ีไหนระหว่างปฏิบัติการรบ และมีสายการบงั คับบญั ชาอย่างไร (คำ� ส่ังท,่ี ให้ ผบ.หน่วยรองทำ� การแทนเม่ือไม่อยู่) การสื่อสาร ความถี่และนามเรียกขาน สัญญาณ สัญญาณผ่าน ประมวลลบั 2.8 ข้ันท่ี 8 การกำ� กบั ดูแล ภายหลังออกค�ำส่งั ผบ.มว.กำ� กับดูแลเพ่ือให้แน่ใจได้ว่าทหารของ หน่วยได้เตรยี มการเพ่อื ให้งานบรรลุผลสำ� เรจ็ - การยงิ การดำ� เนินกลยทุ ธ์ - การปฏิบตั เิ มอื่ ปะทะข้าศึกโดยไม่คาดคิด - การปฏบิ ัตติ ะลมุ บอน การรื้อถอนสนามทุ่นระเบดิ การตะลุมบอนบนหลมุ สนามเพลาะ การร้อื ลวดหนาม การโจมตี ที่บงั เกอร์ และตึก การให้อาวธุ พิเศษ และการท�ำลาย การตรวจเสบียง น้าํ อาวุธ กระสุน การแต่งกาย และยทุ โธปกรณ์ การพราง ภารกจิ พิเศษ วตั ถรุ ะเบิด เคร่อื งจุดชนวน ง. การประมาณสถานการณ์ กล่าวทั่วไป ผู้บังคับหมวดจะต้องให้ประมาณสถานการณ์เพ่ือพิจารณา ปัจจยั ต่าง ๆ ท่จี ะกระทบกระเทอื นต่อการให้หน่วยของตน การประมาณสถานการณ์เป็น กรรมวิธีอันหนึ่งในการแก้ปัญหา เป็นกรรมวิธีเลือกหนทางปฏิบัติเพ่ือหาหนทางปฏิบัติท่ีดี ทส่ี ดุ จะสำ� เรจ็ ภารกจิ ได้ การประมาณสถานการณน์ น้ั เปน็ กรรมวธิ ที กี่ ระทำ� อยใู่ นใจ เวลาทใี่ ห้ ในการประมาณสถานการณน์ น้ั ขนึ้ อยกู่ บั เวลาทม่ี อี ยู่ ซงึ่ ตอ้ งกระทำ� ตดิ ตอ่ กนั ไปอยา่ งตอ่ เนอื่ ง และจะต้องทำ� เสมอ ถงึ แม้ว่าจะต้องตกลงใจอย่างรวดเรว็ เพียงใดกต็ าม การประมาณสถานการณ์ มขี ้อพึงพจิ ารณา ดังต่อไปน้ี 1) ภารกจิ ซงึ่ จะตอ้ งชดั เจน สนั้ และบง่ ถงึ งานทจ่ี ะตอ้ งทำ� ดว้ ยภาษางา่ ย ๆ จะวิเคราะห์อย่างรอบคอบ และเข้าใจโดยถ่องแท้ 

2) สถานการณแ์ ละหนทางปฏิบตั ิ เหล่าทหารราบ 99 ความมงุ่ หมายของขน้ั น้ี คอื เพอื่ นำ� เอาขอ้ เทจ็ จรงิ ทมี่ อี ย่ใู นสถานการณ์ ขีดความสามารถของข้าศึก และหนทางปฏิบัติท่ีน่าจะท�ำให้บรรลุภารกิจมาพิจารณา ข้อเท็จจริงต่าง ๆ น้ันอาจได้จากการพิจารณาแผนที่ การลาดตระเวน ตรวจภูมิประเทศ การติดต่อและการประสานงาน การพจิ ารณาผลกระทบกระเทือนต่อหนทางปฏิบัติต่าง ๆ ทน่ี ำ� จะปฏบิ ัตไิ ด้ (1) ลมฟา้ อากาศ ทงั้ น้ี รวมถงึ ความรใู้ นเรอื่ งลมฟา้ อากาศทเ่ี ปน็ อยใู่ น ปจั จบุ นั และจากพยากรณอ์ ากาศ การพจิ ารณาจะพจิ ารณาในเรอ่ื งทมี่ ผี ลกระทบกระเทอื น ต่อก�ำลงั พล อาวธุ ยทุ โธปกรณ์ ทศั นวิสัย และความสามารถในการจราจร (2) ภูมิประเทศ วิเคราะห์อย่างถ่องแท้ถึงลักษณะภูมิประเทศ โดย พิจารณาทั้งในทัศนะของฝ่ายข้าศึก ลักษณะของภูมิประเทศที่จะได้พิจารณาน้ันควร วิเคราะห์ในหวั ข้อดงั ต่อไปน้ี 1. การตรวจการณ์และพน้ื ยงิ การตรวจการณ์ เป็นความสามารถของหน่วยท่ีจะตรวจพบ ข้าศึกได้ในลักษณะภูมิประเทศ และสภาพลมฟ้าอากาศในลักษณะต่าง ๆ กัน และ ตรวจการณ์น้ัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องส�ำคัญต่อการใช้อ�ำนาจการยิงอย่างได้ผลไปยังข้าศึก การควบคุมการเคลื่อนย้ายหน่วย และต่อการป้องกันการจู่โจม จากแง่คิดของการ ตรวจการณ์ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศที่ดที ส่ี ดุ นั้น จะต้องสามารถตรวจการณ์ได้ ทง้ั ในระยะไกล เข้าไปจนถงึ พ้ืนท่ที ่ขี ้าศกึ ยดึ ครองอยู่ และตรวจการณ์ระยะใกล้ต่อหน่วยต่าง ๆ ของข้าศึก ทอี่ ยู่ข้างหน้าได้ พ้ืนยิง คือพื้นที่ซึ่งอาวุธหรือกลุ่มอาวุธสามารถท�ำการยิง ครอบคลมุ อยา่ งไดผ้ ลจากทตี่ งั้ ยงิ ทกี่ ำ� หนดให้ เมอ่ื พจิ ารณาภมู ปิ ระเทศในเรอื่ งเกยี่ วกบั พน้ื ยงิ , ประเภทของอาวธุ ทม่ี ีอยู่เป็นปัจจยั ท่สี ำ� คัญทจี่ ะต้องพจิ ารณาด้วย 2. การซ่อนพรางและการก�ำบัง การซ่อนพราง คือการซ่อนหรือ ปลอมแปลงหนว่ ยและการปฏบิ ตั กิ ารของหนว่ ยตอ่ การตรวจการณ์ของข้าศกึ การกำ� บงั คอื การปอ้ งกนั จากการยงิ ของขา้ ศกึ ทงั้ จากอาวธุ นวิ เคลยี รแ์ ละอาวธุ ธรรมดา ในพนื้ ทสี่ ว่ นมากท่ี ใหก้ ารกำ� บงั และการซอ่ นพรางนนั้ ไดแ้ ก่ พนื้ ทท่ี เี่ ปน็ ปา่ อาคาร หบุ เขา เนนิ เขา หว้ ย ลำ� ธารลกึ , เนนิ ดนิ และลกั ษณะภมู ิประเทศท่คี ล้ายกนั ลักษณะภูมปิ ระเทศทใี่ ห้ความกำ� บังนน้ั มกั ให้

100 เหล่าทหารราบ การซ่อนพรางด้วย ลักษณะภูมปิ ระเทศทีม่ คี วามสูง ๆ ต่ำ� ๆ นั้นยงิ่ มมี ากเท่าใดย่อมให้การ ซ่อนพรางมากข้นึ เท่าน้นั ต่อการตรวจการณ์ทางพื้นดนิ 3. เครอื่ งกดี ขวาง คอื ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทางธรรมชาตหิ รอื สรา้ งขนึ้ ซงึ่ ทำ� ใหต้ อ้ งหยดุ ลา่ ชา้ หรอื ขดั ขวางการเคลอื่ นทท่ี างการทหาร เครอื่ งกดี ขวางทางธรรมชาติ น้ันอาจได้แก่ ล�ำธารลึกลยุ ข้ามไม่ได้ ท่ีลุ่มหนอง บงึ หิมะหนา หน้าผาชนั ลาดชนั พ้นื ที่ น้ำ� ท่วม ดงทบึ ป่าไม้เตย้ี พนื้ ทท่ี ี่มหี ินก้อนใหญ่อยู่ท่วั ไป ทะเลสาบ ภเู ขา และดินทีจ่ ราจร ไมไ่ ด้ เครอ่ื งกดี ขวางทสี่ รา้ งขนึ้ อาจไดแ้ ก่ สง่ิ ทที่ ำ� ขน้ึ เพอื่ หนว่ งเวลาและหยดุ ยงั้ การเคลอ่ื นท่ี ของทหาร เช่น พน้ื ท่ีอาบพษิ สนามทุ่นระเบิด คสู นามเพลาะ คูดักรถถงั หรือเคร่อื งปิดกั้น ต่าง ๆ เครื่องปิดกั้นถนน การท�ำหลุมบนถนน ลาดกระโจม และเคร่ืองกีดขวางประเภท ตา่ ง ๆ ตามชายหาดและใตน้ ำ�้ เครอื่ งกดี ขวางนน้ั ยงั รวมถงึ สงิ่ ตา่ ง ๆ ทมี่ นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ซง่ึ ไมม่ ี ความมงุ่ หมายเดมิ ในการให้เป็นเครอ่ื งกดี ขวางการเคลอ่ื นทที่ างการทหาร เช่น คลอง เขอื่ น กั้นนํ้า และอ่างเกบ็ นํา้ เครอื่ งกดี ขวางอาจเกอ้ื กูลหรอื เป็นอุปสรรคต่อหน่วย ท้งั น้ี ขน้ึ อยู่กบั ทต่ี ง้ั ลกั ษณะของเครอื่ งกดี ขวางนน้ั ๆ ตวั อย่างเช่น ห้วยลกึ ทอดขวางเสน้ ทางรกุ จะเปน็ การ ขัดขวางฝ่ายรุกให้ช้าลง ถ้าห้วยอย่างเดียวกันน้ีไปอยู่ทางด้านปีกของฝ่ายรุกจะกลายเป็น เครื่องให้การป้องกันไป โดยทั่ว ๆ ไปแล้วเครื่องกีดขวางท่ีตั้งฉากกับเส้นทางรุกจะเก้ือกูล แก่ก�ำลังตั้งรับ แต่หากขนานไปกับเส้นทางรุกแล้วจะอ�ำนวยประโยชน์ให้แก่ฝ่ายรุก โดย ป้องกันทางปีกให้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องจ�ำกัดการเคล่ือนที่ทางข้างและการด�ำเนินกลยุทธ์ ไปบ้างก็ตาม 4. ภูมิประเทศส�ำคัญ คือบริเวณหรือพื้นที่ซ่ึงเม่ือฝ่ายใดเข้ายึด หรือเข้าควบคุมได้แล้วจะอ�ำนวยประโยชน์ให้อย่างเด่นชัด การเลือกภูมิประเทศส�ำคัญนั้น ข้ึนอยู่กับภารกจิ ของหน่วย ภมู ปิ ระเทศสำ� คัญท้งั มวลท่ีได้เลอื กไว้แล้ว ถ้าอยู่ภายในความ ควบคมุ ของเราจะอำ� นวยประโยชนใ์ นการบรรลภุ ารกจิ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี หรอื หากตกอยใู่ นความ ครอบครองหรือควบคุมของฝ่ายข้าศึกก็ย่อมเป็นการขัดขวางต่อการบรรลุภารกิจของเรา ตวั อยา่ งเชน่ สะพานทท่ี อดหา้ มแมน่ ำ้� ทลี่ ยุ หา้ มไมไ่ ด้ เปน็ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทสี่ ำ� คญั เพราะ สามารถใหข้ า้ มไปยงั ฝงั่ ตรงขา้ มได้โดยไม่ต้องทำ� การโจมตขี ้ามลำ� นำ�้ ในการตงั้ รบั ปกตแิ ลว้ ภมู ิประเทศทส่ี �ำคญั จะอยู่ในเขตรบั ผดิ ชอบในการรกุ ภูมปิ ระเทศท่สี ำ� คัญคอื ภูมิประเทศท่ี จะช่วยในการเข้ายดึ ท่หี มาย

5. แนวทางเคลอื่ นที่ คอื พน้ื ภมู ปิ ระเทศซงึ่ อำ� นวยให้สะดวกในการ เหล่าทหารราบ 101 เคลื่อนที่ของหน่วยก�ำลังตามขนาดและประเภทโดยเฉพาะของตน แนวทางเคล่ือนที่ควรมี ลักษณะ ดังน้ี - เคลอ่ื นท่ตี รงไปยงั ที่หมายสะดวก - ซอ่ นพราง และกำ� บงั จากการตรวจการณแ์ ละการยงิ ของฝา่ ย ต้งั รับ - เกอ้ื กลู การตรวจการณ์ และพน้ื ยิงสำ� หรับฝ่ายรกุ   - มพี นื้ ทพ่ี อสำ� หรบั การดำ� เนนิ กลยทุ ธข์ องฝา่ ยเขา้ ตี ในการตง้ั รบั จะต้องพิจารณาภูมิประเทศ เพ่ือก�ำหนดแนวทางเคล่ือนที่ซึ่งคาดว่าข้าศึกอาจใช้ได้ โดย ปกตมิ กั จะเปน็ เสน้ ทางทม่ี งุ่ ไปสลู่ กั ษณะภมู ปิ ระเทศทสี่ ำ� คญั ในการตรวจการณแ์ ละพนื้ ยงิ ดี ให้การซ่อนพรางและก�ำบังดี หลีกเลี่ยงหรืออาศัยเครื่องกีดขวางได้ ในการเลือกแนวทาง เคลื่อนท่ีส�ำหรับปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกน้ัน คงมีหัวข้อพิจารณาเช่นเดียวกันกับท่ีกล่าวมา แล้วข้างต้น 3) อื่น ๆ 1. สถานการณ์ข้าศึก การวางก�ำลัง การประกอบก�ำลัง ก�ำลังและ อาวุธยงิ สนบั สนนุ อ่ืน ๆ 2. สถานการณ์ฝ่ายเรา การวางก�ำลัง การประกอบก�ำลัง ก�ำลังและ อาวธุ ยิงสนบั สนนุ อื่น ๆ 3. หนทางปฏบิ ัติของฝ่ายเราลงรายการหนทางปฏบิ ัตทิ มี่ เี หตผุ ล และ คาดว่าเม่อื ปฏิบัติแล้วน่าจะสำ� เรจ็ ภารกจิ อย่างมากท่ีสุดไว้ (3) การวิเคราะห์หนทางปฏิบตั ทิ ้งั สองฝ่าย 1. ตดั หนทางปฏบิ ตั ติ า่ ง ๆ ของขา้ ศกึ ซง่ึ ไมม่ ผี ลกระทบกระเทอื น หรอื มอี ทิ ธพิ ลต่อหนทางปฏบิ ัตขิ องฝ่ายเราออก 2. นำ� หนทางปฏบิ ตั ขิ องฝา่ ยเราแตล่ ะหนทางมาวเิ คราะหเ์ ขา้ กบั แต่ละขีดความสามารถของข้าศึก กระท�ำโดยการคิดพิจารณา วาดภาพการรบโดยตลอด นบั ตงั้ แตข่ น้ั เตรยี มการไปจนถงึ ขนั้ ปฏบิ ตั กิ ารใหท้ ำ� การคดิ พจิ ารณาโดยเอาขอ้ เทจ็ จรงิ ในขอ้ 2) ก) ข้างต้นมาร่วมพิจารณาด้วย วิธีการอันนี้เป็นการรวมเอาภาพเหตุการณ์ท้ังมวลน้ี มาพิจารณาเพ่อื ให้เห็นจดุ แข็งและจุดอ่อนของแต่ละหนทางปฏบิ ัติ

102 เหล่าทหารราบ 3. จากการวเิ คราะห์นจ้ี ะได้ปัจจยั ต่าง ๆ ทมี่ ีอิทธิพลต่อความ ส�ำเรจ็ ของหนทางปฏิบตั ิต่าง ๆ ซึง่ ปัจจัยเหล่าน้เี รียกว่า ปัจจยั ควบคมุ ซงึ่ ตามปกตจิ ะได้แก่ ภารกิจ ภูมปิ ระเทศ การวางกำ� ลงั ของข้าศกึ การวางก�ำลังของฝ่ายเรา ขดี ความสามารถ ของข้าศกึ และในบางโอกาสอาจได้แก่เวลาด้วย 4) การเปรยี บเทยี บหนทางปฏบิ ัติของฝ่ายเรา 1. ลงรายการปจั จยั ควบคมุ ทไี่ ดม้ าจากการวเิ คราะหห์ นทางปฏบิ ตั ขิ อง ท้งั สองฝ่าย 2. นำ� ปจั จยั เหลา่ นแี้ ตล่ ะขอ้ มาเปรยี บเทยี บกบั หนทางปฏบิ ตั ขิ องฝา่ ยเรา 3. ผลจากการวเิ คราะห์จะได้หนทางปฏิบตั ิท่ีดีทส่ี ดุ 5) ขอ้ ตกลงใจ ข้อสรปุ ตามข้อ 4) (3) นนั้ จะเป็นข้อทีเ่ ลอื ก และแปลงเป็น ค�ำส่ัง โดยระบวุ ่าใคร อะไร เม่อื ไร ท่ีไหน อย่างไร และทำ� ไม 6. แผนการเข้าตีของหมวด เมอ่ื ไดร้ บั คำ� สงั่ การเขา้ ตจี าก ผบ.รอ้ ย.ผบ.หมวดตอ้ งทำ� การประมาณสถานการณ์ ทนั ทีแล้วเร่มิ ปฏิบตั ิตามระเบยี บการน�ำหน่วย อาศัยมลู ฐานจากการประมาณสถานการณ์ และการปฏิบัติตามระเบียบการน�ำหน่วย ผบ.หมวดท�ำแผนการเข้าตีขึ้น ซ่ึงประกอบด้วย ส่วนท่สี ำ� คญั สองส่วน คอื แผนการด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ และแผนการยงิ สนบั สนนุ 6.1 แผนการด�ำเนินกลยุทธ์ คือแผนการใช้หมู่ต่าง ๆ ซ่ึงเป็นส่วนในการ ด�ำเนินกลยทุ ธ์ แผนนจ้ี ะต้องง่าย อ่อนตวั และให้การจู่โจม ซึง่ ได้แก่ 1) เส้นทาง เส้นทางควรอาศัยสิ่งปกปิดก�ำลังและซ่อนพราง การยิง สนับสนุน มุ่งเข้าตีข้าศกึ ทางปีกหรอื ทางหลงั อย่างไรก็ตาม ผบ.ร้อย.อาจกวดขันการเลอื ก เส้นทางเพ่อื ให้สอดคล้องกบั แผนส่วนรวมของกองร้อย 2) รูปขบวน ผบ.หมวดเลือกรูปขบวนในการเข้าตีข้ึนต้นและอาจ เปล่ียนแปลงรูปขบวนในระหว่างการเคล่ือนทไ่ี ป การเลอื กรูปขบวนนยี้ ่อมขึน้ อยู่กบั ภารกจิ สถานการณ์ ขา้ ศกึ ภมู ปิ ระเทศ ลมฟา้ อากาศ และทศั นวสิ ยั และความตอ้ งการในเรอ่ื งความเรว็ และความออ่ นตวั สำ� หรบั รปู ขบวนของหมวดและหม่นู น้ั คงเป็นไปตามทไี่ ดก้ ล่าวมาแล้วใน ข้อ 4) และรูปขบวนซ่งึ ได้รับการฝึกมาแล้วจากขนึ้ ปีท่ี 3

3) การเข้าตะลุมบอน เหล่าทหารราบ 103 ถา้ ผบ.รอ้ ย.มไิ ดก้ ำ� หนดแนวประสานงานขน้ั สดุ ทา้ ยขนึ้ ตน้ ขน้ึ ผบ.หมวด จะเป็นผู้เลือกเอง ในการเลือกแนวประสานงานขึ้นสุดท้าย ผบ.หมวดจะต้องพิจารณาว่า หมวดจะสามารถเข้าใกล้ท่หี มายได้เพียงใด ในขณะทอี่ าวธุ ยงิ จ�ำลองยิงทห่ี มาย การกำ� บัง ตอ่ อาวธุ ยงิ สนบั สนนุ ซง่ึ ยงิ เลง็ ตรง การกำ� บงั ทมี่ อี ยู่ และการซอ่ นพรางจากการยงิ ของข้าศกึ รปู ที่ 20 วธิ แี บง่ มอบพน้ื ทใ่ี หแ้ กห่ มตู่ า่ ง ๆ ในการเสรมิ สรา้ งความมนั่ คง ณ ทห่ี มาย 4) การเสรมิ สรา้ งความมั่นคง ณ ท่หี มาย ผบ.หมวดกำ� หนดพนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบใหแ้ กห่ มตู่ า่ ง ๆ และทต่ี งั้ โดยครา่ ว ๆ ให้กับอาวุธประจ�ำหน่วยและอาวุธยิงสนับสนุนเพ่ือท�ำการผลักดัน การตีโต้ตอบของข้าศึก วิธีท่ีสุดในการแบ่งมอบพ้ืนท่ีรับผิดชอบคือ ช้ีลงไปในภูมิประเทศหมายเขตจ�ำกัดของพ้ืนที่ ตา่ ง ๆ (รปู ที่ 20) ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศบางแหง่ อาจไมม่ ที ห่ี มายทจี่ ะกำ� หนดใหช้ ดั เจนลงไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผบ.หมวดต้องแบ่งพื้นที่โดยใช้ระบบนาฬิกาก�ำหนดภาพนาฬิกาขึ้นบน ทหี่ มายใหจ้ ดุ ศนู ย์กลางของนาฬกิ าทบั บนกง่ึ กลางทห่ี มายของหมวด ใหเ้ สน้ แกน 6 นาฬิกา กับ 12 นาฬิกาทับลงบนพน้ื ดินตรงลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทเ่ี ด่นอนั หน่ึงแล้ว ขยายเลยไปอกี ตำ� บลหนง่ึ ซง่ึ เหน็ ไดใ้ นพน้ื ทน่ี น้ั และโดยปกตแิ ลว้ จะเปน็ ทศิ ทางเดยี วกบั ทศิ ทางตะลมุ บอน แล้วจงึ แบ่งมอบพ้นื ทีใ่ ห้กบั หมู่และอาวธุ ต่าง ๆ โดยการกำ� หนดเป็นชว่ั โมง (รูปท่ี 21)

104 เหล่าทหารราบ หมู่ 1 เสร9มิ -1ค1วามม่งั คง รปู ที่ 21 การกำ� หนดแบง่ พน้ื ทใ่ี หแ้ กห่ มใู่ นการเสรมิ สรา้ งความมน่ั คงโดยใชร้ ะบบนาฬกิ า

5) การควบคุม เหล่าทหารราบ 105 ผบ.หมวดวางตวั อยู่ ณ ทซ่ี งึ่ ตนสามารถควบคมุ หมวดของตนและอำ� นวย การปฏบิ ตั ขิ องหมวดไดด้ ที ส่ี ดุ นายสบิ ประจำ� หมวดอยู่ ณ ทซ่ี งึ่ ตนสามารถชว่ ยเหลอื ผบ.หมวด ได้ดีท่ีสุด การควบคุมหมวดนั้นโดยปกติกระท�ำโดยการก�ำหนดหมู่หลัก ส่ังการด้วยวาจา ใช้วิทยุ ใช้พลุส่องแสงและควนั สญั ญาณ ใช้ท่าสัญญาณ 6.2 แผนการยงิ สนบั สนนุ การยงิ ของอาวธุ ตา่ ง ๆ ของกองร้อยและของหน่วยเหนอื นน้ั จะวางแผนไว้ เพอ่ื สนบั สนนุ การเขา้ ตโี ดยยงิ ทำ� ลายทต่ี งั้ ของขา้ ศกึ ในขณะทห่ี มวดเคลอื่ นทเี่ ขา้ ประชดิ ขา้ ศกึ การยงิ เหลา่ นจ้ี ะระบไุ วใ้ นกำ� ลงั ของกองรอ้ ย ผบ.หมวดจะตอ้ งพจิ ารณาดวู า่ เปน็ การเพยี งพอ ทจ่ี ะสนับสนนุ แผนดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ของตนได้หรอื ไม่ ถ้า ผบ.หมวดต้องการการยิงสนับสนุน เพ่ิมเติมร้องขอได้จาก ผบ.ร้อย. ผบ.หมวดมักจะได้รับผู้ตรวจการณ์หน้าของ ค.81 มม. มาประจำ� อยกู่ บั หมวดของตนบอ่ ย ๆ ซง่ึ ผบ.หมวดอาจใหช้ ว่ ยเหลอื ในการทำ� แผนการยงิ ได้ นอกเหนือจากพิจารณาอาวุธยิงสนับสนุนซึ่งไม่อยู่ในอัตราของตนแล้ว ผบ.หมวดวางแผน การใช้อาวุธในอัตราและที่มาสมทบด้วย ถ้าอาวุธยิงสนับสนุนมีไม่พอท่ีจะสนับสนุนแผน การยงิ ของตนแล้ว ผบ.หมวดอาจใช้หมปู่ นื เลก็ ทำ� การยงิ สนบั สนนุ เพม่ิ เตมิ กไ็ ด้ แผนสำ� หรบั อาวุธยิงสนบั สนุนในอัตราและท่มี าสมทบของ ผบ.หมวดนั้นรวมถงึ 1) การใช้ขั้นต้น ผบ.หมวดก�ำหนดที่ต้ังยิงกว้าง ๆ และมอบที่หมายให้ ข้อตกลงใจในการใช้อาวธุ ต่าง ๆ เหล่านไ้ี ด้มาจากการตรวจการณ์, พนื้ ยงิ และคุณลกั ษณะ ของอาวธุ น้ัน ๆ ก) ปืนกล ถ้ามีท่ีตั้งท่ีเหมาะสมใกล้ ๆ แนวออกตี ซึ่งอ�ำนวยให้การ ตรวจการณ์ และพ้ืนยิงครอบคลุมเส้นทางไปสู่ท่ีหมายขั้นต้นแล้ว ปืนกลในหมู่ ปก. อาจ เข้าประจ�ำในที่ต้ังเหล่าน้ีก่อนเวลาออกตีเล็กน้อย ถ้ามีบางส่วนของเส้นทางไม่สามารถ จะยิงคุ้มครองได้จากท่ีตั้งเหล่านี้ การยิงสนับสนุนอย่างดีท่ีสุดอาจกระท�ำได้โดยให้ปืนกล กระบอกหนง่ึ เข้าประจ�ำทต่ี ง้ั ใกล้ ๆ แนวออกตี และให้ปืนกลทเี่ หลือร่วมเคลื่อนท่ีไปกับส่วน ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ ถ้าไม่มพี นื้ ยงิ และการตรวจการณ์ ณ ทตี่ งั้ ใกล้ ๆ แนวออกตเี ลย ปนื กลกค็ วร จะให้ร่วมไปกบั หน่วยดำ� เนินกลยุทธ์ท้งั หมด ข) อาวุธต่อสู้รถถังในอัตรา เนื่องจากอาวุธต่อสู้รถถังของหมวดเป็น อาวุธที่มรี ะยะยิงใกล้ ๆ ดังนน้ั โดยปกตมิ ักจะร่วมไปกบั ส่วนดำ� เนนิ กลยุทธ์จนกว่าจะพบ ที่ต้ังยิงที่เหมาะสม ถ้าไม่ถูกรบกวนจากยานเกราะของข้าศึกอาจยิงต่อกลุ่มทหาร ที่ต้ัง อาวธุ ข้าศกึ  

106 เหล่าทหารราบ 2) ตามเส้นทางเคลื่อนที่ วางแผนส�ำหรับการเปลี่ยนย้ายไปเข้าที่ต้ังยิง ใหม่ของปืนกล เมือ่ การยงิ ถูกทหารฝ่ายเดยี วกันเคลอ่ื นที่ไปข้างหน้าบงั ทางยิง หรอื เม่ือการ ควบคมุ กระทำ� ได้ยาก 3) การใช้ในระหว่างการตะลุมบอนปืนกล อาวุธต่อสู้รถถัง อาวุธสมทบ จะตอ้ งเขา้ ทต่ี งั้ ยงิ เพอ่ื คมุ้ ครองการเคลอื่ นทเี่ ขา้ ตะลมุ บอนของหมปู่ นื เลก็ อาวธุ เหลา่ นจ้ี ะให้ การยงิ สนบั สนนุ อยา่ งสงู สดุ ในระหวา่ งการตะลมุ บอน การยงิ คงกระทำ� อยา่ งตอ่ เนอื่ งจนกวา่ ทหารฝ่ายเดียวกันจะเคล่ือนที่เข้ามาบังทิศทางยิงปืนกล อาจเข้าร่วมตะลุมบอนไปกับหมู่ ปืนเล็กกไ็ ด้ 4) การเสรมิ สรา้ งความมน่ั คง ณ ทหี่ มาย อาวธุ แตล่ ะกระบอกจะตอ้ งกำ� หนด ทตี่ งั้ ยงิ ณ ทห่ี มายไวใ้ หอ้ ยา่ งกวา้ ง ๆ เพอ่ื ยงิ คมุ้ ครองช่องทางทค่ี าดว่าขา้ ศกึ นา่ จะใชใ้ นการ ตีโต้ตอบ เส้นทางต่าง ๆ ส�ำหรับย้ายท่ีต้ังยิงไปยังที่หมายนั้นควรให้สามารถเคล่ือนที่ได้ รวดเรว็ และเข้าประจำ� ทต่ี ้ังได้แต่เน่ิน ๆ 5) การควบคมุ ผบ.หมวดวางแผนใหอ้ าวธุ สนบั สนนุ ทง้ั ในอตั ราและมาสมทบอยภู่ ายใน ระยะการตดิ ตอ่ สอื่ สาร เพอ่ื ใหส้ ามารถควบคมุ อาวธุ เหลา่ นไี้ ดโ้ ดยตลอดในระหวา่ งการเขา้ ตี ถ้าไม่สามารถทำ� ได้จะต้องให้นายสบิ ประจ�ำหมวดหรอื ผบ.หมู่ปืนกล ช่วยในการควบคุมน้ี เครื่องมอื ซ่งึ จะใช้ควบคมุ คอื วิทยุ เสยี งสญั ญาณ เพือ่ หลีกเลย่ี งต่อการเปิดเผยต่อการยิง และการตรวจการณข์ องขา้ ศกึ พลประจำ� ปนื ควรใชเ้ สน้ ทางทปี่ กปดิ กำ� บงั ในการเขา้ ประจำ� ทตี่ งั้ 6.3 ผบ.หมวด จะต้องวางแผนในการร้ือถนน เครื่องกดี ขวาง และป้อมสนาม ของขา้ ศกึ ซงึ่ อาจตอ้ งเผชญิ ตลอดเสน้ ทางเคลอื่ นทแ่ี ละบนพน้ื ทหี่ มาย เมอื่ สงสยั วา่ จะมหี ลมุ ปนื ของขา้ ศกึ อยใู่ นพน้ื ท่ี แตย่ งั ไมท่ ราบทต่ี ง้ั ทแ่ี นน่ อน ผบ.หมวดจะตอ้ งเตรยี มการเปน็ พเิ ศษ เพ่ือเผชิญกบั หลมุ ปืนที่สงสยั นน้ั ๆ การเตรยี มการพิเศษนี้ ได้แก่ 1) แจ้งให้ ผบ.หมู่ต่าง ๆ ทราบทีต่ ง้ั ทีค่ าดว่าจะเป็นหลมุ ปืน และอาจเป็น หลมุ ปืนข้าศกึ ได้ 2) เพ่ิมเติมลูกระเบิดขว้างฟอสฟอรัสขาวและสังหารให้กับหมวด หมวด จะต้องได้รับยุทโธปกรณ์พิเศษและอาวุธตามต้องการ เช่น คีมตัดลวด, บังกะโลตอร์ปิโด เครื่องฉดี ไฟ ชดุ ระเบิดท�ำลายฯ 3) ก�ำหนดให้ส่วนต่าง ๆ ของหมวดท�ำหน้าท่ีเป็นส่วนยิงสนับสนุนและ ส่วนดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ และมอบหมายงานพิเศษให้กับส่วนดำ� เนนิ กลยุทธ์

ก) ส่วนยงิ สนบั สนนุ ของหมวด ประกอบด้วย อาวธุ ประจำ� หน่วยของ เหล่าทหารราบ 107 หมวดคอื หมู่ปืนกล และอาวธุ สมทบท้งั หมดหรอื บางส่วน ขนาดของส่วนยิงสนบั สนุนนั้น พิจารณาจากช่องยิงหรือที่หมายท่ีจะต้องยิง ส่วนยิงสนับสนุนของหมวด โดยการร่วมมือ ประสานกบั การยงิ ของอาวธุ สนบั สนนุ นอกอตั ราของหมวดทำ� การยงิ ทำ� ลาย การยงิ ของทตี่ งั้ ข้าศึกท่เี ข้าตียงิ ข้าศกึ ทอ่ี ยู่รอบ ๆ ท่ตี งั้ และยิงไปยังที่ซึ่งคาดว่าจะมีข้าศกึ อยู่ และขัดขวาง การดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ อาวธุ ยงิ สนบั สนนุ คงยงิ รบกวนและทำ� ลายการตดิ ตอ่ สอ่ื สารและเครอ่ื งมอื ส่งก�ำลังของข้าศึก ด้วยก�ำหนดให้อาวุธสนับสนุนเล็งตรงของหมวดยิงตรงไปยังช่องยิง ตา่ ง ๆ ของหลมุ บคุ คล ใชล้ กู ระเบดิ ควนั ทำ� ฉากควนั กำ� บงั ชอ่ งยงิ และทต่ี รวจการณข์ องขา้ ศกึ ในขณะท่กี ารยงิ ของส่วนยงิ สนับสนนุ ของหมวดและอาวุธยงิ สนบั สนุนอ่ืน ๆ ถูกส่วนด�ำเนิน กลยุทธ์บังทางยิง อาวุธต่าง ๆ เหล่านั้นจะต้องย้ายการยิงไปแล้วยังคงท�ำการยิงท�ำลาย แต่ท่ตี ้งั ข้าศกึ ที่ทราบหรอื สงสัยต่อไปอย่างต่อเน่ือง ข) สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ (รปู ที่ 22) สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธป์ ฏบิ ตั งิ านทง้ั สาม เพ่ือเข้าประชิดและท�ำลายท่ีต้ังของข้าศึก การแบ่งมอบและการปฏิบัติงานทั้งสามจะต้อง อ่อนตวั เพ่อื ให้สามารถเผชญิ กับสถานการณ์และปัญหาต่าง ๆ ได้ รปู ที่ 22 งานท้งั 3 ของสว่ นด�ำเนินกลยทุ ธ์

108 เหล่าทหารราบ งานทง้ั 3 ของส่วนดำ� เนินกลยทุ ธ์ ได้แก่ (1) งานหมายเลขหน่ึง วางการยิงไปยังและรอบ ๆ ที่ตั้งของข้าศึก ซ่ึงโดยปกติแล้วจะเป็นระยะใกล้กว่าการยิงของส่วนสนับสนุนของหมวด การยิงเป็นการ เพม่ิ เตมิ การยงิ ใหก้ บั สว่ นสนบั สนนุ การยงิ หมปู่ นื เลก็ ซง่ึ บรรลคุ วามสำ� เรจ็ ตามงานหมายเลข หนึง่ นี้ อาจช่วยในการปฏบิ ัตงิ านหมายเลขสามให้ส�ำเร็จลลุ ่วงไปด้วยอีกก็ได้ (2) งานหมายเลขสอง ทำ� ลายทตี่ ง้ั ของขา้ ศกึ โดยการเขา้ ตะลมุ บอนใช้ อำ� นาจการยงิ เครอื่ งฉดี ไฟ และการระเบดิ ทำ� ลาย งานจะสำ� เรจ็ ลลุ ว่ งไปไดโ้ ดยหมไู่ ดใ้ ชอ้ าวธุ ในอัตราและยุทโธปกรณ์พิเศษ ยุทโธปกรณ์น้ันต้องแจกจ่ายให้เหมาะ โดยท่ีการบาดเจ็บ ของเจ้าหน้าที่หรือการขัดข้องในการท�ำงานของเครื่องมือจะไม่เป็นสาเหตุให้ก�ำลังท่ีเข้า ตะลุมบอนเกิดความล้มเหลวในการท�ำลายที่ต้ังของข้าศึกลง การแก้ไขอันนี้ท�ำได้โดย ใช้ยุทโธปกรณ์แต่ละรายการสองช้นิ และจ่ายมอบให้แก่ทหารสองคนคนละชน้ิ แยกกนั ไป (3) งานหมายเลขสาม ในระหว่างการเคลอ่ื นที่ไปยงั แนวประสานการ ปฏิบัติข้ันสุดท้าย และระหว่างการปฏิบัติงานหมายเลขสาม ใช้อาวุธปืนเล็กป้องกันหมู่ท่ี ปฏิบัติงานหมายเลขสอง เม่ือได้รับค�ำสั่งหมู่ที่ปฏิบัติงานหมายเลขสามเข้าตะลุมบอนต่อ ขา้ ศกึ ซง่ึ อยใู่ นหลมุ เปดิ รอบ ๆ หลมุ ปดิ หมซู่ ง่ึ ปฏบิ ตั งิ านหมายเลขสามอาจไดร้ บั มอบภารกจิ ขน้ั ต้นให้ยงิ เพิม่ เตมิ อ�ำนาจการยงิ ให้ส่วนสนบั สนนุ ของหมวดกไ็ ด้ การปฏบิ ตั เิ พอื่ ใหส้ ำ� เรจ็ ของงานทง้ั สามมไิ ดม้ รี ะเบยี บตายตวั ไวส้ ำ� หรบั การปฏิบัตเิ พือ่ ให้งานทงั้ สามสำ� เรจ็ ในการปฏบิ ตั แิ ต่ละคร้ังอาจดำ� เนนิ การดงั น้ีกไ็ ด้ คอื การปฏบิ ตั งิ านหมายเลขหน่งึ แล้วตามด้วยงานหมายเลขสาม แล้วจึง ตามด้วยหมายเลขสองเป็นล�ำดับสุดท้าย การเข้าตีอาจด�ำเนินการโดยท�ำลายการยิงของ ขา้ ศกึ ตะลมุ บอนทตี่ งั้ ของขา้ ศกึ ในหลมุ เปดิ รอบหลมุ ปดิ แลว้ จงึ เขา้ ยดึ หลมุ ปดิ จากทางขา้ ง หรอื ทางหลงั วิธีการน้ีอาจใช้เม่อื การยงิ ของทต่ี ้งั ซ่งึ เป็นหลมุ ปิด สามารถท�ำลายอย่างกว้าง ขวางจนสามารถเข้าตะลมุ บอนต่อคแู ละหลุมบคุ คลต่าง ๆ ได้อย่างได้ผล ปฏบิ ตั งิ านหมายเลขหนง่ึ แลว้ ตามดว้ ยงานหมายเลขสองและสามตาม ลำ� ดบั วธิ กี ารนกี้ ารเขา้ ตจี ะดำ� เนนิ การโดยทำ� ลายการยงิ ของขา้ ศกึ เขา้ ตะลมุ บอนตอ่ ทต่ี งั้ หลมุ ปิด แล้วเข้าตะลมุ บอนต่อข้าศกึ ซึ่งอยู่ในหลมุ เปิดรอบ ๆ หลุมปิด วิธีการนม้ี กั จะบังคับให้ ฝา่ ยเขา้ ตตี อ้ งใชอ้ ยเู่ สมอ ๆ เพราะวา่ ตามปกตหิ ลมุ ปดิ มกั จะตงั้ คมุ้ ครองแนวทางเคลอื่ นทอ่ี ยู่

7. ค�ำ สัง่ การเข้าตขี องหมวด เหล่าทหารราบ 109 ถ้าสามารถกระท�ำได้ ผู้บังคับหมวดควรส่ังการเข้าตีแก่หน่วยรองและบุคคล อน่ื ๆ ทมี่ าสมทบ ณ จดุ ทม่ี คี วามสงู เดน่ ซง่ึ สามารถมองเหน็ พน้ื ทปี่ ฏบิ ตั กิ ารของหมวด ตงั้ แต่ แนวออกตไี ปจนถึงทห่ี มายของหมวดได้ตลอด และก่อนทีจ่ ะสัง่ การเข้าตคี วรชแี้ จงลกั ษณะ ภมู ปิ ระเทศให้หน่วยรองทราบก่อน แล้วจงึ ส่งั การในรายละเอียดอ่ืน ๆ ในทป่ี ลอดภัยและ ไม่ล่อแหลมต่อการตรวจการณ์ของข้าศกึ ถ้าไม่สามารถช้ีแจงภมู ปิ ระเทศได้ ในการสั่งการ ผู้บังคบั หมวดจะต้องใช้แผนท่แี บบจ�ำลองภูมปิ ระเทศซึ่งทำ� ขนึ้ ง่าย ๆ บนพ้ืนดนิ หรอื ภาพ สงั เขปประกอบการส่งั การ คำ� ส่ังการเข้าตีของผู้บงั คบั หมวดคงยดึ ถือตามรายละเอียดของ คำ� สงั่ ยทุ ธการทง้ั 5 ขอ้ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบมาจากผบู้ งั คบั กองรอ้ ย จะผดิ กนั อยบู่ า้ งในเรอ่ื งคำ� สง่ั ในข้อท่ี 3 ซึ่งจะต้องเป็นไปตามแผนการเข้าตีที่ตนได้ตกลงใจไปแล้ว ค�ำส่ังการเข้าตีของ หมวดควรประกอบด้วยเร่อื งต่าง ๆ ดงั นี้ ค�ำส่งั การเข้าตี ก. สถานการณ์ (1) กำ� ลังฝ่ายขา้ ศึก ควรจะกล่าวถึงก�ำลัง ท่ีตั้ง ขีดความสามารถ และ สิ่งบอกเหตุ ตามที่ได้รบั ทราบมาจากผู้บังคบั กองร้อย (2) ก�ำลังฝ่ายเรา ควรจะกล่าวถึงกำ� ลงั ของฝ่ายเรา หน่วยข้างเคยี ง และ หน่วยทใ่ี ห้การสนับสนนุ (3) หน่วยข้ึนสมทบและหน่วยแยก กล่าวถึงหน่วยที่มาขึ้นสมทบหรือ หน่วยในอตั ราทแ่ี ยกไปสมทบกบั หน่วยอน่ื ข. ภารกจิ กล่าวถึงภารกิจของหมวดตามท่ีไดัรับมอบมาจากผู้บังคับกองร้อยโดยย่อ ๆ (ใคร ทำ� อะไร เม่อื ไร ทีไ่ หน ทำ� ไม) ค. การปฏบิ ตั ิ กล่าวถึงรายละเอียดต่าง ๆ ไปตามลำ� ดบั ดังน้ี

110 เหล่าทหารราบ (1) แนวความคดิ ในการปฏบิ ตั ิ เป็นการกล่าวถงึ แผน ปฏิบตั ิทางยทุ ธวิธี ของหมวดในการด�ำเนินกลยุทธ์ และการใช้การยิงสนับสนุนแนวความคิดในข้อน้ีอาจแบ่ง เป็น 2 ข้อย่อย คือ ข้อแรก กล่าวถงึ การดำ� เนินกลยทุ ธ์ โดยใช้หัวข้อว่า “กลยทุ ธ์” ข้อทีส่ อง กล่าวถึงแผนการยงิ สนบั สนุน ใช้หวั ข้อว่า “การยงิ ” (2) การมอบภารกจิ ใหก้ บั หนว่ ยรองทเี่ ปน็ หนว่ ยดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ ใหม้ อบ ภารกิจให้กับหมู่ปืนเล็กที่จะก�ำหนดให้เป็นหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์เป็นหน่วย ๆ ไป โดยข้ึน หวั ข้อใหม่เป็นหน่วย ๆ ไป ภารกิจท่จี ะมอบให้กับหน่วยรองดังกล่าวน้จี ะต้องมริ ายละเอียด ครบสมบูรณ์ในลักษณะเป็นหน่วย ๆ เพื่อให้หน่วยน้ัน ๆ เข้าใจในภารกิจของตนอย่าง แจ่มแจ้ง  (3) การมอบภารกิจให้กับหมูปืนกล มอบภารกิจให้กับหมู่ปืนกลตาม แผนการยงิ ท่ผี ู้บงั คบั หมวดได้ตกลงใจไว้ ซง่ึ มักจะระบถุ งึ ภารกจิ ยิงสนับสนุน ทีต่ ง้ั ยิงขน้ั ต้น ทต่ี ง้ั ยงิ ขนั้ ตอ่ ไป การยงิ ในระหวา่ งการตะลมุ บอน การควบคมุ การยงิ และการคดั ไปสมทบกบั หมู่ปืนเลก็ อื่น ๆ (4) การมอบภารกิจให้กับหน่วยอาวุธที่จัดมาสมทบ (ถ้ามี) ให้มอบ ภารกิจให้กบั หน่วยอาวธุ ทมี่ าสมทบต่าง ๆ เป็นรายหน่วยไป โดยแยกสง่ั การเป็นข้อ ๆ ไป ตามล�ำดับหน่วยท่ีมาสมทบ ได้แก่ ภารกิจยิงสนับสนุน ที่ตั้งยิงข้ันต้น ท่ีตั้งยิงข้ันต่อไป การยงิ ในระหว่างการตะลมุ บอน และการควบคมุ การยิง เป็นต้น (5) การมอบภารกิจใหก้ ับหมู่ปืนเล็กท่ีเปน็ หมูห่ นนุ ให้มอบภารกิจให้ กับหมู่ปืนเล็กท่ีก�ำหนดให้เป็นหมู่หนุนซ่ึงจะต้องมีรายละเอียดครบสมบูรณ์ในลักษณะที่ หมู่หนนุ มีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง และควรมรี ายละเอียดทค่ี รอบคลมุ ถึงเร่ืองต่าง ๆ คือ เวลาหรอื วธิ เี คลื่อนท่ผี ่านแนวออกตี ขน้ั การเคลอ่ื นที่ และทศิ ทางเคลอื่ นที่ (6) คำ� แนะนำ� ในการประสานงาน ให้กล่าวถงึ เร่อื งต่าง ๆ ไปตามล�ำดับ ดงั ต่อไปน้ี คือ (ก) วนั เวลาท่มี ผี ลใช้บังคบั ส�ำหรับการคัดขน้ึ สมทบ (ถ้าม)ี (ข) เวลาเรมิ่ ยงิ เตรียมของปืนใหญ่ฝ่ายเรา (ค) ท่ีตง้ั แนวออกตี (ง) เวลาทก่ี ำ� หนดให้หน่วยดำ� เนนิ กลยทุ ธ์เคลอื่ นทผ่ี ่านแนวออกตี

(จ) ขั้นการเคลอ่ื นที่ (ถ้ากำ� หนด) เหล่าทหารราบ 111 (ฉ) ที่ตัง้ แนวประสานการปฏิบตั ขิ ัน้ สดุ ท้าย (ซ) การปฏบิ ตั เิ ก่ียวกบั การทำ� ลายเครอ่ื งกีดขวาง (ถ้ามี) (ซ) การควบคมุ การยงิ (ฌ) การปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับการเสรมิ สร้างความม่นั คง ณ ท่หี มาย ง. การชว่ ยรบ ให้กล่าวถงึ รายละเอียดในเรอ่ื ง (1) การจ่ายกระสนุ ตดิ ตวั ทหาร (2) เสบียงอาหารท่จี ะต้องนำ� ตดิ ตัว (3) ทีต่ ้งั พยาบาลกองพนั (4) รายละเอียดทางธุรการอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วข้อง เช่น รายละเอยี ดในเรอื่ งการ ปลดเป้หลังประจำ� กาย เป็นต้น จ. การบงั คบั บญั ชาและการสือ่ สาร (1) ระบบการติดต่อส่ือสารภายในหมวด เช่น ท่าสัญญาณแขนและมือ เสียงสญั ญาณ และการใช้พลสุ ญั ญาณต่าง ๆ เป็นต้น  (2) ท่ีอยู่ของผู้บังคับหมวด รองผู้บังคับหมวด และนายสิบประจ�ำหมวด ในระหว่างปฏบิ ตั กิ ารเข้าตี 8. การเคล่อื นทีจ่ ากท่รี วมพลไปยงั ฐานออกตี โดยปกติแล้วท่ีรวมพลจะอยู่ห่างจากฐานออกตีในระยะเดิมภายใน 1 ชั่วโมง ดงั น้นั ก�ำลงั ทัง้ หมดของหมวดปืนเล็กจะต้องเคลื่อนที่ออกจากทร่ี วมพลตามเวลาที่ผู้บังคบั หมวดกำ� หนด ภายใตก้ ารควบคมุ ของนายสบิ ประจำ� หมวด การเคลอื่ นทอ่ี อกจากทร่ี วมพลของ หมวดปืนเล็ก อาจมุ่งตรงไปยังฐานออกตี หรือไปเข้าพักคอยอยู่ในที่รวมพลอีกแห่งหนึ่ง ขา้ งหนา้ กไ็ ด้ ถา้ จะตอ้ งเคลอื่ นทไี่ ปยงั ฐานออกตี โดยธรรมดาแลว้ ผบู้ งั คบั หมตู่ า่ ง ๆ หลงั จากที่ รบั คำ� สงั่ เขา้ ตจี ากผบู้ งั คบั หมวดและปฏบิ ตั งิ านตามระเบยี บการนำ� หนว่ ยแลว้ จะตอ้ งกลบั ไป พบกำ� ลงั พลหมู่ของตน ณ ทรี่ วมพลอีกครง้ั หน่งึ เพอื่ สั่งการเข้าตแี ก่หมู่ของตน ณ ที่รวมพล ก่อนเคล่ือนที่ออกจากท่ีรวมพลไป แต่ถ้าก�ำลังของหมวดจะต้องเคล่ือนที่เข้าพักรอใน

112 เหล่าทหารราบ ท่ีรวมพลอีกแห่งหน่ึงข้างหน้าแล้ว ผู้บังคับหมู่ต่าง ๆ ก็อาจส่ังการเข้าตีแก่หมู่ของตน ณ ที่รวมพลขน้ั ท่สี อง ซ่ึงอยู่ใกล้ฐานออกตเี ข้ามาพอสมควร หรือไม่มเี วลาพอทจ่ี ะสงั่ การเข้าตี ในทร่ี วมพลได้ กจ็ ะใช้ตำ� บลหนง่ึ ซง่ึ กำ� หนดไว้ก่อนแล้ว ซงึ่ สามารถมองเหน็ โดยตลอดตงั้ แต่ แนวออกตไี ปจนถงึ ท่ีหมายในเขตปฏิบตั ิการของตน ในการเคลอ่ื นทเ่ี ขา้ ฐานออกตี หรอื ทร่ี วมพลขนั้ ทสี่ องกต็ าม นายสบิ ประจำ� หมวด จะต้องก�ำหนดรูปขบวนเดินให้เหมาะสมกับลักษณะภูมิประเทศและสถานการณ์ท่ีเป็นอยู่ โดยปกติแล้วการเคลื่อนที่จากการรวมพลไปยังฐานออกตีมักจะใช้รูปขบวนแถวตอน ซึ่ง จะแสวงประโยชน์จากการซ่อนพรางของภูมิประเทศให้มากที่สุด และจะต้องกระท�ำอย่าง เงียบสงบ และอย่างราดเรว็ 9. การปฏบิ ัติในฐานออกตี ผบู้ งั คบั หมวดหรอื ผแู้ ทนจะตอ้ งทำ� การกำ� กบั ดแู ลใหก้ ำ� ลงั ของหมตู่ า่ ง ๆ ตลอดจน อาวุธยงิ สนบั สนุนท่ีได้รบั การสมทบเข้าประจ�ำในฐานออกตอี ย่างมรี ะเบยี บ เงียบสงบ และ ตรงตามจุดที่ผู้บังคับหมวดก�ำหนด เพ่ือให้เกิดความม่ันใจว่าตนจะด�ำรงเอกภาพในการ บังคับบัญชาหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นหลักประกันว่าการเคลื่อนที่ผ่านแนว ออกตใี นขน้ั ต่อไปจะสามารถกระทำ� ได้อย่างมรี ะเบยี บมากทีส่ ุด โดยปกตหิ มวดจะนำ� กำ� ลงั เขา้ ประจำ� อยใู่ นฐานออกตี ใชเ้ วลานอ้ ยทส่ี ดุ เทา่ ทจี่ ะ ท�ำได้ เพยี งเพ่ือปรับรปู ขบวนการเข้าตใี ห้เรยี บร้อย เพอื่ ความพร้อมรบ และเพือ่ สงั่ การใน สงิ่ ทจี่ ำ� เปน็ สำ� คญั ๆ บางประการเทา่ นนั้ เพราะฉะนนั้ ผบู้ งั คบั หมวดจะตอ้ งประมาณเวลาให้ หนว่ ยรองเขา้ มาสฐู่ านออกตไี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทง้ั นี้ เพอ่ื ปอ้ งกนั ไมใ่ หห้ นว่ ยตอ้ งเสยี เวลารอ เวลาผ่านแนวออกตี อยู่ในฐานออกตีนานเกินไป และการติดดาบของทหารทุกคนจะต้อง กระท�ำก่อนเคล่อื นทผ่ี ่านแนวออกตี 10. การเคล่อื นทผี่ ่านแนวออกตี ผู้บังคับหมวดจะต้องรับผิดชอบให้หน่วยของตนเคล่ือนท่ีผ่านแนวออกตีตาม ก�ำหนดเวลาท่ีผู้บังคับกองร้อยก�ำหนดอย่างเคร่งครัด ก�ำลังของหมวดคงเคล่ือนที่ผ่าน แนวออกตีตามเวลาท่ีก�ำหนด เฉพาะก�ำลังส่วนท่ีผู้บังคับหมวดก�ำหนดให้เป็นส่วนด�ำเนิน

กลยุทธ์เท่าน้ัน เพ่ือให้การเคลื่อนที่ผ่านแนวออกตีของหมวดเป็นไปอย่างมีระเบียบและ เหล่าทหารราบ 113 พรอ้ มเพรยี งกนั ผบู้ งั คบั หมวดจะตอ้ งเปน็ ผใู้ หส้ ญั ญาณดว้ ยตนเองเทา่ นน้ั ดงั นนั้ ระหวา่ งอยู่ ในฐานออกตี ผู้บงั คับหมวดควรจะต้องมองเหน็ ตวั ผู้บงั คบั หมู่ต่าง ๆ ของตนอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถส่งสัญญาณแขนและมือได้ โดยพยายามหลีกเลี่ยงให้สัญญาณผ่านแนว ออกตดี ้วยการใช้เสยี งสัญญาณ ในขณะทกี่ ำ� ลงั ของหมวดอยู่ในฐานออกตนี น้ั มกั จะเป็นเวลาทป่ี ืนใหญ่ของฝ่าย เราเร่ิมท�ำการยิงเตรียมไปยังท่ีหมาย เพราะฉะน้ันสถานการณ์ท่ีหมวดมักจะต้องเผชิญใน ขณะเคลื่อนท่ีผ่านแนวออกตีก็คือ มักจะถูกระดมยิงจากปืนใหญ่ของฝ่ายข้าศึก เช่นกัน ถ้าเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นน้ี ผู้บังคับหมวดจะต้องเคล่ือนที่ผ่านแนวออกตีไปใน ลกั ษณะทร่ี วดเรว็ จนกวา่ จะพน้ ยา่ นตำ� บลกระสนุ ปนื ใหญข่ องขา้ ศกึ มาตก แลว้ จงึ รบี ปรบั ปรงุ รปู ขบวนใหม่อย่างราดเรว็ แต่อย่างไรกต็ าม ถ้าไม่เผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวหมวดอาจ จะเคล่อื นทผ่ี ่านแนวออกตใี นลักษณะเดินผ่านไปอย่างธรรมดากไ็ ด้ 11. การปฏิบตั ิการเข้าตี การควบคมุ หมู่ปืนเล็กในการเข้าตนี ั้นเป็นการยากลำ� บาก ดังน้ัน ผบ.หมวดจะ ต้องใช้ ผบ.หมู่ซ่ึงเป็นหน่วยรอง ใช้วิทยุทัศนสัญญาณในการควบคุม ผบ.หมวดก�ำหนด มอบหมายภารกจิ โดยเฉพาะเจาะจงใหก้ บั ผบ.หมู่ และทหารแตล่ ะคน ผบ.หมวดจะตอ้ งคาด คิดถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา และท�ำแผนการเข้าตีของตนให้อ่อนตัว อยู่เสมอ ในการปฏบิ ัตกิ ารเข้าตนี น้ั ด�ำเนนิ การตามลำ� ดับข้ัน ดังต่อไปน้ี 1. การเคล่ือนที่จากท่ีรวมพลไปยิงแนวออกตี หมวดปืนเล็กเคล่ือนที่ไป ข้างหน้าจากทร่ี วมพลภายใต้การควบคมุ ของกองร้อยในการเคลอ่ื นย้ายนนั้ หมวดมกั จะอยู่ ภายใต้การควบคุมของนายสิบประจ�ำหมวด หรือ ผบ.หมู่ปืนเล็กที่มีอาวุโสสูง ส่วนหมู่ ปนื กลอาจเคลอ่ื นทลี่ ว่ งหนา้ สว่ นอนื่ ๆ ของหมวดไปกอ่ นเพอื่ ไปเขา้ ประจำ� ทต่ี ง้ั ยงิ ณ แนวออกตี หรอื ใกล้ ๆ กับแนวออกตี ถ้าการเข้าตีในคราวนนั้ ใช้ฐานออกตหี มวด จะจัดรปู ขบวนในการ เขา้ ตขี นั้ ตน้ จดั วางยามรกั ษาความปลอดภยั และประสานงานขน้ั สดุ ทา้ ยในฐานออกตี โดย ปกติการเคลือ่ นย้ายจากทร่ี วมพลน้นั จะเป็นไปตามกำ� หนดเวลา ดงั นนั้ กำ� ลังส่วนหน้าของ

114 เหล่าทหารราบ หมวดจึงผ่านแนวออกตีตามเวลาท่ีก�ำหนดไว้โดยไม่ต้องหยุดลงในฐานออกตี ในบางกรณี การปรบั รปู ขบวนข้นั ต้นของหมวดและหมู่ในการเข้าตี และการตดิ ดาบจะท�ำก่อนที่จะผ่าน แนวออกตี 2. การเคล่ือนทีจ่ ากแนวออกตไี ปถงึ แนวประสานการปฏบิ ัติข้นั สดุ ทา้ ย 2.1 สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธข์ องหมวดปนื เลก็ เคลอื่ นทอ่ี ยา่ งเรว็ และตอ่ เนอ่ื งจาก แนวออกตีไปยังแนวประสานงานข้ันสุดท้าย จะต้องใช้ความปกปิดก�ำบัง การซ่อนพราง อาวธุ ยิงช่วย ควนั ให้เกดิ ประโยชน์อย่างสูงสุด 2.2 ส่วนก�ำลังในหมู่ปืนกลและอาวุธสมทบจะสนับสนุนการเคลื่อนท่ีไป ขา้ งหนา้ ของสว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธไ์ ดป้ ลอดภยั ผบ.หมหู่ รอื พลยงิ เลอื กใชว้ ธิ แี ละอตั ราความเรว็ ในการยิงให้เหมาะสม และเป็นผู้ส่ังเริ่มยิงต่อเป้าหมาย การยิงต่อเป้าหมายจะต้องให้มี ความหนาแนน่ พอทจ่ี ะทำ� ลายได้ แตจ่ ะตอ้ งพจิ ารณาในแงก่ ารประหยดั กระสนุ ไว้ เพอื่ ยงิ ตอ่ ทหี่ มายอน่ื ๆ ซงึ่ จะเกดิ ขนึ้ ในระหวา่ งการเขา้ ตดี ว้ ยกนั ผบ.หมหู่ รอื พลยงิ ตอ้ งคอยสงั เกตการ คืบหน้าของส่วนดำ� เนนิ กลยุทธ์อยู่ตลอดเวลา แล้วท�ำการยิงต่อเป้าหมายทจี่ ะเป็นอนั ตราย ต่อส่วนดำ� เนินกลยุทธ์ เมอ่ื ปืนทงั้ สองกระบอกตัง้ ยิงอยู่ใกล้ ๆ กัน ผบ.หมู่จะเป็นผู้สัง่ ย้าย ทตี่ ง้ั ยงิ และการยา้ ยใหก้ ระทำ� ครง้ั ละกระบอก การเปลยี่ นทต่ี ง้ั ยงิ ทลี ะกระบอกนี้ คอื ใหป้ นื กล หน่ึงกระบอก ย้ายท่ตี ้งั ยงิ ก่อนทจี่ ะถูกบงั ทางยงิ จากฝ่ายเดียวกัน ให้ปืนกระบอกทเ่ี หลอื คง ทำ� การยงิ สนับสนนุ อย่างต่อเนอ่ื งต่อไปจนกว่าทางยงิ จะถูกส่วนดำ� เนนิ กลยุทธ์บัง การย้าย ทต่ี ง้ั ยงิ ของอาวธุ ยงิ สนบั สนนุ ทงั้ มวลควรจะทำ� ใหเ้ หมาะกบั เวลา เพอ่ื ใหห้ มวดสามารถทำ� การ ยงิ สนบั สนนุ ได้อย่างใกล้ชดิ และต่อเนือ่ ง เม่อื อาวธุ ของหมู่ตัง้ แยกกนั การย้ายที่ต้งั อาวธุ อยู่ ในความอ�ำนวยการของพลยิง การย้ายอาจท�ำเมื่อทิศทางยิงถูกบังจากฝ่ายเดียวกัน หรือ เมือ่ ไม่สามารถจะสนบั สนุนอย่างใกล้ชดิ ได้ต่อไปอีกแล้ว 2.3 ถา้ หมวดถกู ยงิ จากปนื ใหญห่ รอื เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ ในขณะเคลอ่ื นทไ่ี ป จะต้องเคล่อื นทผ่ี ่านหรอื อ้อมพืน้ ทก่ี ระสุนตกไปโดยเรว็ 2.4 เมอื่ เผชญิ กบั การตา้ นทานของขา้ ศกึ ใกล้ ๆ จะถงึ ทหี่ มาย ใหห้ มตู่ า่ ง ๆ ท่ี อยใู่ นสภาพยงิ โตต้ อบไดใ้ นทนั ที อาวธุ ในอตั ราและอาวธุ สนบั สนนุ ทมี่ าสมทบยงิ ไปยงั ขา้ ศกึ แล้ว ผบ.หมวดร้องขอการยงิ สนบั สนุนเพิ่มเตมิ ตามต้องการไปยงั กองร้อย ในบางครัง้ อาจ

ออ้ มผา่ น การตา้ นทานของขา้ ศกึ ไปได้ แตท่ ง้ั น้ี ยอ่ มขนึ้ อยกู่ บั ทตี่ ง้ั และลกั ษณะการตา้ นทาน เหล่าทหารราบ 115 ของขา้ ศกึ และแผนการเขา้ ตกี ารออ้ มผา่ นนนั้ ควรกระทำ� ตอ่ เมอื่ ไดพ้ จิ ารณาเหน็ วา่ ไมส่ ามารถ จะท�ำลายข้าศึกให้หมดลงได้และข้าศึกน้ันเมื่อทิ้งไว้จะไม่กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติ ภารกิจของตนให้ลลุ ่วงไป เม่อื อ้อมผ่านไปแล้วจะต้องรายงานให้ ผบ.ร้อย.ทราบ 2.5 ต้องเข้าท�ำลายล้างการต้านทานของข้าศึกอย่างกล้าหาญเด็ดเด่ียว การใชก้ ารยงิ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพยี งอยา่ งเดยี วเทา่ นน้ั จะไมเ่ ปน็ การเดด็ ขาดเพยี งพอ และจะยงั ผลใหก้ ารเขา้ ตตี อ้ งหยดุ ชะงกั ลง และเกดิ การสญู เสยี อนั ไมจ่ ำ� เปน็ ขน้ึ ถา้ หมเู่ ปน็ สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ ผบ. หมตู่ อ้ งประมาณการณอ์ ยา่ งรวดเรว็ เพอื่ พจิ ารณาวา่ จะใชว้ ธิ รี บของหมเู่ พอื่ เขา้ ประชดิ และทำ� ลายเขา้ ตไี ดห้ รอื ไม่ กำ� ลงั และผลการยงิ จากอาวธุ ยงิ ของขา้ ศกึ อาจขดั ขวางการ ใชว้ ธิ รี บของหมไู่ ด้ ในกรณเี ชน่ นหี้ มทู่ ำ� การยงิ ตามคำ� สง่ั ของ ผบ.หมวดตอ่ ไป กอ่ นจะดำ� เนนิ กลยุทธ์จ�ำเป็นต้องมีอ�ำนาจการยิงเหนือข้าศึก ถ้าหมู่สามารถใช้วิธีรบของหมู่ได้ ผบ.หมู่ ใช้เส้นทางท่ปี กปิดกำ� บงั และซ่อนพรางดำ� เนนิ กลยทุ ธ์เข้าโจมตขี ้าศึกทางปีกหรอื ทางหลัง 2.6 เมอ่ื ปะทะกบั ขา้ ศกึ ครงั้ แรก หมนู่ ำ� ทำ� การยงิ โตต้ อบทนั ที ผบ. หมวดจะ สามารถเหน็ การปฏิบตั ขิ องหมู่นำ� ได้เพราะท่ีอยู่ของ ผบ.หมวดจะอยู่ค่อนไปข้างหน้า ในรูป ขบวนของหมวด ผบ.หมวดทำ� การประมาณการณแ์ ละวางแผนอยา่ งรวดเรว็ แลว้ สงั่ การหรอื ใหส้ ญั ญาณใหห้ นว่ ยปฏบิ ตั ติ ามแผนนนั้ ทนั ที ผบ.หมวดตอ้ งไมใ่ ชห้ มตู่ า่ ง ๆ ในลกั ษณะปลกี ยอ่ ยแตจ่ ะใหป้ ฏบิ ตั อิ ยา่ งมกี ารประสานกนั เปน็ อยา่ งดเี พอ่ื ใหข้ า้ ศกึ ตอ้ งเผชญิ กบั อำ� นาจอยา่ ง สูงสดุ ของหมวด การปฏบิ ตั ใิ นทนั ทที นั ใดของ ผบ.หมวดนับว่าจำ� เป็นมาก ท้ังน้ี เพ่อื ให้การ ควบคุมและการประสานงานเป็นไปโดยถูกต้อง ผบ.หมวดพยายามด�ำเนินกลยุทธ์โดยใช้ หน่วยเข้าโจมตที ี่ตงั้ ข้าศกึ ทางปีกหรอื ทางหลงั เม่อื ข้าศึกถกู ทำ� ลายลงแล้วหมวดจะต้องรีบ เคล่อื นทต่ี ่อไปโดยเรว็ เพ่อื ปฏิบตั ิภารกจิ ในการเข้าตใี ห้สำ� เรจ็ ลลุ ่วงไป 2.7 เครอื่ งกดี ขวางซง่ึ ตอ้ งเผชญิ ในระหวา่ งการเคลอื่ นทเ่ี ขา้ ตี จะตอ้ งรอื้ ถอน ด้วยเครื่องมือท่ีมีอยู่หรืออ้อมผ่านไป ผบ.หมวดจะเป็นผู้ตกลงใจว่าจะด�ำเนินการอย่างไร กับเครื่องกีดขวางโดยไม่เสยี แรงผลกั ดันในการเข้าตี และต้องรายงานให้ ผบ.ร้อย.ทราบถึง เครือ่ งกดี ขวางต่าง ๆ ทอ่ี าจกระทบกระเทอื นต่อหน่วยท่ีตามมาข้างหลงั

116 เหล่าทหารราบ 3. การเคลื่อนที่จากแนวประสานการปฏบิ ัติขั้นสดุ ทา้ ยไปยิงทหี่ มาย การตะลุมบอนน้ันควบคุมและประสานการปฏิบัติโดยใช้แนวประสานการ ปฏิบตั ิขัน้ สุดท้าย แนวประสานการปฏิบตั ขิ ้นั สดุ ท้ายเป็นแนวซ่งึ ก�ำหนดลงบนพืน้ ดนิ และ เป็นที่ซ่ึงหมวดใช้ในการปรับรูปขบวนเพื่อเตรียมการตะลุมบอนต�ำบลท่ีจะก�ำหนดเป็นแนว ประสานการปฏิบัตขิ ้ันสุดท้ายน้ัน พิจารณาจากระยะซึ่งก�ำลังที่เข้าตีสามารถถึงท่ีหมายได้ โดยไม่เกิดการสูญเสียในการเข้าตีจากอาวุธยิงช่วยของฝ่ายเดียวกัน ดังนั้น แนวประสาน การปฏบิ ตั ขิ นั้ สดุ ทา้ ยจงึ มกั จะอยหู่ า่ งจากทห่ี มายประมาณ 100 - 150 เมตร แตร่ ะยะทก่ี ลา่ วน้ี อาจลดลงได้ถ้าลักษณะภูมิประเทศอ�ำนวยให้ หรือเม่ือ ผบ.หมวดพิจารณาแล้วเห็นว่า จะเกิดการสูญเสียเพียงเล็กน้อย เม่ือส่วนเข้าตีเคลื่อนท่ีใกล้ที่ต้ังข้าศึกเข้าไปภายใต้การ คุ้มครองของอาวธุ สนบั สนนุ เช่น ในกรณเี ข้าตีท่มี นั่ ตั้งรับท่มี กี ารดัดแปลงดี เป็นต้น ถ้ามิได้ ก�ำหนดแนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้ายขั้นต้นก่อนการเริ่มออกตี หรือ ผบ.ร้อย. มิได้ กำ� หนดขน้ึ ในระหวา่ งการเขา้ ตี ผบ.หมวดจะตอ้ งกำ� หนดขน้ึ ใหเ้ รว็ ทสี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะสามารถทำ� ได้ เพอ่ื การประสานการปฏบิ ตั ติ า่ ง ๆ ในการเตรยี มตะลมุ บอน ผบ.หมวดอาจกำ� หนดขนึ้ ไดโ้ ดย อาศยั อา้ งจดุ ตรวจสอบหรอื ขนั้ การเคลอื่ นทซี่ งึ่ ไดก้ ำ� หนดไวแ้ ลว้ หรอื โดยการอา้ งตำ� บลทร่ี จู้ กั ดแี ล้วในภูมปิ ระเทศก็ได้ เมือ่ ได้เลือกแนวประสานการปฏิบัตขิ ้ันสดุ ท้ายขัน้ ต้นไว้แล้ว หรอื มีการเปลย่ี นแปลง จะต้องแจ้งให้ ผบ.ร้อย. และ ผบ.หน่วยยงิ สนบั สนุนทราบทนั ที ในขณะท่หี มวดเคลอ่ื นท่ีเข้าหาแนวประสานการปฏบิ ัติขั้นสดุ ท้าย อาวธุ ยงิ สนบั สนนุ ซง่ึ ทำ� การยงิ ตอ่ ทมี่ นั่ ขา้ ศกึ เพมิ่ ความรนุ แรงในการยงิ ยงิ่ ขนึ้ หมวดปรบั รปู ขบวนให้ แล้วเสร็จเพื่อให้สามารถผ่านแนวประสานการปฏิบัติข้ันสุดท้ายในรูปขบวนการตะลุมบอน ในบางสถานการณ์กำ� ลงั ของหน่วยเข้าตอี าจหยดุ ลงได้ เมอื่ หยุดลงจะต้องปรับรปู ขบวนให้ แลว้ เสรจ็ ใหส้ ามารถเคลอื่ นทผี่ า่ นแนวประสานการปฏบิ ตั ขิ นั้ สดุ ทา้ ยไดพ้ รอ้ มกนั ถา้ ตอ้ งการ หยุดตามท่ีกล่าวมาแล้ว ควรหยุดลงก่อนถึงแนวประสานการปฏิบัติข้ันสุดท้ายเล็กน้อย เพ่ือให้อาวธุ ยงิ สนบั สนนุ สามารถยงิ ต่อทต่ี ้งั ของข้าศึกได้ต่อไป (รปู ที่ 23)

รูปท่ี 23 หมวดปืนเลก็ เคลือ่ นทผ่ี ่านแนวประสานงานขน้ั สุดทา้ ย เหล่าทหารราบ 117 เม่ือปรับรูปขบวนเสร็จแล้วหมวดจึงเคลื่อนท่ีผ่านแนวประสานการปฏิบัติ ขน้ั สดุ ท้าย ในขณะเดียวกบั ท่ีหมวดเคลื่อนทอี่ าวุธยิงสนับสนุนท่ีอาจเป็นอันตรายต่อหน่วย เขา้ ตเี ลอ่ื นหรอื ยา้ ยการยงิ ไป สว่ นอาวธุ อน่ื ๆ คงทำ� การยงิ ตอ่ ทต่ี ง้ั ของขา้ ศกึ ตอ่ ไป หนว่ ยเขา้ ตี และอาวุธยิงสนับสนุนเล็งตรงเพิ่มอ�ำนาจการยิงให้หนาแน่นข้ึนเพ่ือรักษาอ�ำนาจการยิงไว้ ให้เหนือกว่าข้าศึก การย้ายหรือการเลื่อนการยิงสนับสนุนน้ี โดยปกติอยู่ในความควบคุม ของ ผบ.ร้อย. และต้องประสานกับการเคลื่อนที่ของหน่วยเข้าตีอย่างใกล้ชิด ผบ.ร้อย. จะอาศัยการรายงานหรอื สญั ญาณจาก ผบ.หมวด และจากการสงั เกตการเข้าตดี ้วยตนเอง เป็นเครือ่ งช่วยในการดำ� เนนิ การนี้ เมอ่ื การยงิ ของอาวธุ ยงิ สนบั สนนุ เล็งตรงถกู ทหารท่ีเข้าตี บังทศิ ทางยงิ พลยงิ จะต้องย้ายการยงิ ทันที

118 เหล่าทหารราบ รปู ที่ 24 การตะลมุ บอน เมือ่ มีอ�ำนาจการยิงเหนือข้าศกึ ความส�ำเร็จในการเคล่ือนท่ีของหน่วยเข้าตีน้ันส่วนใหญ่ข้ึนอยู่กับผลของ การยิงของอาวธุ ยงิ สนบั สนนุ โดยปกติแล้วการต้านทานของข้าศึกจะบงั คบั ให้การเคลื่อนที่ ต้องกระทำ� โดยการเคลือ่ นทป่ี ระกอบการยิง ในกรณีเช่นน้ี ผบ.หมวด และ ผบ.หมู่ต้องแบ่ง ย่อยทตี่ ั้งต่าง ๆ ของข้าศึกซ่งึ ทำ� การต่อต้านออกเป็นทีห่ มายเป็นแห่ง ๆ ไป และต้องระลกึ อยเู่ สมอวา่ แนวประสานการปฏบิ ตั ขิ น้ั สดุ ทา้ ยโดยปกตจิ ะไมใ่ ชต่ ำ� บล ซงึ่ เรมิ่ ใชเ้ ทคนคิ ในการ ยงิ ตะลมุ บอนเสมอไป เมอ่ื การยงิ ของหนว่ ยเขา้ ตสี ามารถลดอำ� นาจหรอื ทำ� ลายการยงิ ของขา้ ศกึ ลง ไดใ้ หใ้ ชเ้ ทคนคิ ในการตะลมุ บอน สภาพการณเ์ ชน่ นจี้ ะไมส่ ามารถคาดลว่ งหนา้ กอ่ นผา่ นแนว ประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้ายได้ แต่อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ระหว่างการเคล่ือนที่จากแนว ประสานการปฏบิ ตั ิขน้ั สดุ ท้ายไปยงั ทต่ี ง้ั ข้าศกึ ในเขตรับผดิ ชอบของตน ซึ่งการนี้จะเป็นการ ช่วยตรงึ ข้าศกึ ไว้ เม่ือข้าศกึ เปิดเผยตนเองหรือปรากฏทีห่ มายทแี่ น่ชัดขนึ้ พลปืนเล็กต้องยิง ทนั ที ไมว่ า่ จะเปน็ การยงิ โดยการประทบั ไหลห่ รอื หนบี รกั แรก้ ต็ าม โดยปกตแิ ลว้ จำ� เปน็ จะตอ้ ง

หยดุ เพอื่ ใหเ้ ลง็ ปนื ตรงไปยงั ทหี่ มาย การหยดุ เพอื่ ยงิ ตะลมุ บอนนจ้ี ะทำ� ใหอ้ ำ� นาจการยงิ และ เหล่าทหารราบ 119 ความแม่นยำ� ดีขน้ึ และการปฏิบัตกิ ารตะลุมบอนจะรนุ แรงเด็ดขาดขึ้น การปฏบิ ัติการเช่นนี้ จะสังหารและข่มขวัญข้าศึก ท�ำให้ข้าศึกต้องหลบอยู่ในท่ีก�ำบังจนพลปืนเล็กสามารถเข้า ประชิดและสังหารหรือจับข้าศึกเป็นเชลยได้ อาวุธกลของหน่วยซึ่งตะลุมบอนเข้าประชิด กบั ข้าศกึ ทำ� ลายท่ีมน่ั ของข้าศึก แล้วเคลื่อนทีผ่ ่านทหี่ มายไปให้ไกลพอทจี่ ะวางการยิงไปยัง หน่วยต่าง ๆ ของข้าศกึ ซึง่ ถอนตวั ไปและป้องกนั การตีตอบโต้ได้ (รูปท่ี 24) การควบคมุ ในการตะลมุ บอนคงดำ� เนนิ การ ดังต่อไปนี้ 1) ผบ.หมวดวางตวั อยู่ ณ ทซี่ ง่ึ สามารถควบคมุ ปฏบิ ตั ไิ ดด้ ที ส่ี ดุ ซง่ึ อาจเปน็ โดยรว่ มไปอยกู่ บั หมปู่ นื เลก็ ทเ่ี ขา้ ตะลมุ บอนหมใู่ ดหมหู่ นงึ่ หรอื อาจอยกู่ ง่ึ กลางตอนหลงั ของ หมวด 2) ในกรณีมีหมวดท่ีเข้าร่วมการตะลุมบอนมากกว่าหนึ่งหมวด ผบ.ร้อย. จะต้องก�ำหนดหมวดหลกั ข้ึน และหมวดเหล่าน้ันจะต้องกำ� หนดหมู่หลกั ขึน้ หมู่หลกั จะเป็น หมู่น�ำของหมู่อ่นื ๆ ผบ.หมู่หลกั จะกำ� หนดชดุ ยงิ หลักขน้ึ ภายในหมู่ของตน หมู่อ่ืน ๆ ชุดยิง ซ่งึ อยู่ใกล้กบั หมู่หลกั ถอื ว่าเป็นชดุ ยงิ หลกั 3) ผบ.หน่วยทุกคนต้องมั่นใจว่าได้วางอ�ำนาจการยิงท่ีแม่นย�ำอย่าง หนาแนน่ คลมุ เปา้ หมายและการเคลอ่ื นทเี่ ขา้ ตะลมุ บอนไดก้ ระทำ� อยา่ งหา้ วหาญ เนอ่ื งจาก เสยี งและความสบั สนของการรบมกั จะทำ� ใหก้ ารควบคมุ โดยใชเ้ สยี งไดย้ ากลำ� บาก ผบ.หนว่ ย มักต้องเคลอ่ื นทไ่ี ปยงั ตำ� บลซ่งึ คบั ขัน เพ่ืออำ� นวยการปฏบิ ัติและควบคุมให้บังเกิดผล 4) เน่ืองจากหน่วยต้องเตรียมการเพื่อผลักดันการตีโต้ตอบ หรือเร่ิมเข้าตี ต่อไป หลังจากท่ียึดท่ีหมายได้แล้ว ผบ.หน่วยทุกคนจะต้องควบคุมให้ทหารทุกคนรู้จัก ประหยัดกระสนุ

120 เห ่ลาทหารราบ รปู ท่ี 25 การเขา้ ตะลุมบอนต่อท่มี ั่นขา้ ศึกท่แี ข็งแรง

11.1 การเข้าตะลมุ บอนต่อข้าศกึ ตัง้ รบั อยา่ งแขง็ แรง (รูปท่ี 25) เหล่าทหารราบ 121 1) ถา้ มเี วลาเพยี งพอ ขา้ ศกึ จะปรบั ปรงุ ทมี่ นั่ ตง้ั รบั โดยสรา้ งทป่ี กปดิ กำ� บงั เหนือศีรษะส�ำหรับหลุมบุคคลและหลุมปืน ปรับปรุงเครื่องกีดขวางท่ีมีอยู่ให้ดีขึ้น รวมทั้ง เครื่องกีดขวางตามธรรมชาติและเครื่องกีดขวางที่สร้างขึ้น หลักการในการเข้าตะลุมบอน ตามทไี่ ด้กล่าวไว้ในข้อ 4) นน้ั คงนำ� มาใช้ในการตะลมุ บอนทมี่ น่ั ตง้ั รบั ทแี่ ขง็ แรงของข้าศกึ ได้ แต่การนำ� ไปใช้น้ันย่อมจะต้องแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ท่ีเกิดขึน้ 2) เมอื่ ขา้ ศกึ มเี ครอ่ื งกดี ขวางขา้ งหนา้ ทมี่ น่ั ตง้ั รบั ของตน จะตอ้ งใช้อาวธุ สนบั สนนุ เลง็ จำ� ลองทม่ี กี วา้ งปากลำ� กลอ้ งใหญอ่ ยา่ งมากทส่ี ดุ ใหร้ ะดมยงิ ไปยงั พน้ื ทข่ี า้ งหนา้ ทีม่ น่ั ของข้าศกึ เพื่อท�ำลายหรอื เปิดช่องทางผ่านเครื่องกีดขวางนน้ั ๆ ในสภาพการณ์เช่นนี้ การทจี่ ะเขา้ ทำ� การตะลมุ บอนจะตอ้ งกระทำ� โดยใชก้ ารยงิ ประกอบการเคลอื่ นที่ โดยกำ� หนด ใหส้ ว่ นหนง่ึ ทำ� การยงิ ตอ่ ทตี่ งั้ ขา้ ศกึ ทท่ี ราบ และกำ� ลงั อกี สว่ นหนง่ึ เคลอื่ นทผี่ า่ นเครอื่ งกดี ขวาง ไปแล้วจัดตง้ั ฐานยงิ ขึน้ เพอ่ื ยิงคุ้มครองการเคล่อื นทีผ่ ่านเคร่อื งกดี ขวางของกำ� ลงั ส่วนอ่ืน ๆ ทเี่ หลอื ในระหวา่ งการปฏบิ ตั นิ ต้ี อ้ งใชอ้ าวธุ ยงิ สนบั สนนุ ใหม้ ากทสี่ ดุ เพอื่ ขยายผลการทำ� ลาย การยิงของข้าศึก การใช้ควันจะเกิดประโยชน์ในการลดผลการตรวจการณ์และการยิงของ ข้าศึก เมื่อก�ำลังส่วนใหญ่ของส่วนตะลุมบอนเคล่ือนท่ีผ่านเครื่องกีดขวางเข้าไปได้แล้ว และอยู่ในระยะท่จี ะตะลมุ บอน ให้เข้าตะลุมบอนทันที โดยใช้ความเรว็ ความรนุ แรง และ อาวุธยทุ โธปกรณ์ทง้ั มวลทม่ี อี ยู่อย่างเตม็ ท่ี 3) โดยปกตหิ มวดซง่ึ เขา้ ตตี อ่ ทมี่ น่ั ซงึ่ มกี ารดดั แปลงอยา่ งดขี องขา้ ศกึ จะ ไดร้ บั อาวธุ ยทุ โธปกรณพ์ เิ ศษ อาจไดแ้ ก่ บงั กะโลตอรป์ โิ ต เครอ่ื งฉดี ไฟ เครอ่ื งมอื ระเบดิ ทำ� ลาย รถถังติดใบมีด และรถถังติดต้ังเคร่ืองมือกวาดทุ่นระเบิดยุทโธปกรณ์เหล่านี้จะช่วยในการ รอื้ ถอนเครือ่ งกดี ขวางของข้าศกึ ได้เป็นอย่างดี 4) โดยปกตกิ ารยงิ เตรยี มตอ่ ทห่ี มายตามแผนทไ่ี ดว้ างไว้ จะทำ� ลายเครอ่ื ง กีดขวางลวดหนามและอาวุธสังหารบุคคล ควบคุมระยะไกลที่ใช้ข้างหน้าท่ีม่ันของข้าศึก และเปน็ การเปดิ ชอ่ งทางผา่ นสนามทนุ่ ระเบดิ ของขา้ ศกึ ผบ.หมวดปนื เลก็ จะตอ้ งรำ� ลกึ ถงึ ผล อันจะเกิดข้ึนจากการใช้อาวุธเหล่านี้อยู่เสมอ และพยายามฉวยโอกาสอันเป็นประโยชน์ ทเ่ี กดิ จากการยงิ นี้

122 เห ่ลาทหารราบ รปู ท่ี 26 การเข้าตะลมุ บอนเม่อื ไมม่ อี �ำนาจการยงิ เหนือขา้ ศกึ

11.2 การปฏิบัติการตะลุมบอนเมอ่ื ไมม่ ีอ�ำนาจการยิงเหนือขา้ ศกึ เหล่าทหารราบ 123 เม่ือการยิงสนับสนุนไม่ได้ผลอย่างเต็มที่ หรือในกรณีที่การยิงสนับสนุน มไี มพ่ อทจี่ ะทำ� ลายการยงิ ของขา้ ศกึ ลงได้ หรอื ในขณะทอี่ ำ� นาจการยงิ กา้ํ กง่ึ กนั นน้ั ฝา่ ยเขา้ ตี จะสามารถคบื หน้าไปได้กโ็ ดยอาศัยการยิงประกอบการเคล่ือนที่ ส่วนทเ่ี คล่อื นทตี่ ้องอาศัย การปกปิด กำ� บงั และซ่อนพราง (เคลอ่ื นทด่ี ้วยการคลานเม่อื จ�ำเป็น) ส่วนต่าง ๆ ของหน่วย จะต้องใช้การยิงและการเคลื่อนที่สลับกันไปจนกว่าอ�ำนาจการยิงจะมีเหนือกว่าข้าศึกหรือ ยดึ ทห่ี มายได้ ปญั หาเรอ่ื งอำ� นาจการยงิ เหนอื ขา้ ศกึ นอ้ี าจหาขอ้ ยตุ ไิ มไ่ ด้ แมใ้ นบางคราวกำ� ลงั บางส่วนอยู่ภายในทต่ี ง้ั ของข้าศกึ แต่ส่วนท่ีเหลอื ยงั คงต้องได้การเคล่ือนทีโ่ ดยอาศัยการยิง ประกอบการเคลอ่ื นที่ ในสถานการณ์เช่นน้ี การตะลมุ บอนต้องได้อาวธุ ในอัตราของหมวด คอื ปนื กลอาวธุ ตอ่ ส้รู ถถงั เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ อย่างสงู สดุ ถา้ ภมู ปิ ระเทศอำ� นวยให้ อาวธุ เหลา่ น้ี ควรไดค้ อ่ นไปขา้ งหนา้ เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลอยา่ งสงู สดุ สำ� หรบั ปนื กลนนั้ ควรจะใชท้ างปกี ทง้ั สองของ สว่ นตะลมุ บอน เพอ่ื ใหส้ ามารถสนบั สนนุ ดว้ ยวธิ เี ลง็ ตรงไดน้ านทส่ี ดุ กอ่ นทจี่ ะถกู กำ� บงั ทศิ ทาง ยงิ โดยกำ� ลงั ทเ่ี ขา้ ตะลมุ บอนอาวธุ ตอ่ สรู้ ถถงั ของหมวดอาจใช้อย่างได้ผลตอ่ ทต่ี งั้ ของขา้ ศกึ ทท่ี ราบแลว้ และอาจใหร้ ว่ มไปกบั สว่ นตะลมุ บอนหรอื สนบั สนนุ การตะลมุ บอน โดยเขา้ ตง้ั ยงิ ในระยะซ่ึงยิงต่อท่ีหมายตะลุมบอนได้ เครื่องยิงลูกระเบิดน้ันการใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะ ภูมิประเทศและเหตุการณ์ในบริเวณพ้ืนท่ีท่ีหมาย อาจให้ร่วมไปกับส่วนตะลุมบอนหรือให้ สนับสนุนส่วนตะลุมบอน โดยเข้าที่ตั้งยิงข้างหลังส่วนตะลุมบอนแล้วท�ำการยิงสนับสนุน ดว้ ยการยงิ ขา้ ม เนอ่ื งจากขดี ความสามารถและคณุ ลกั ษณะในการยงิ ของเครอื่ งยงิ ลกู ระเบดิ จึงอาจใช้ทดแทนการขาดแคลนหรอื การยงิ ทีไ่ ม่ได้ผลของอาวธุ เล็งจำ� ลองได้ บรรดาสว่ นตา่ ง ๆ ของสว่ นตะลมุ บอน ซงึ่ สามารถเขา้ ถงึ ทตี่ งั้ ของขา้ ศกึ สนบั สนนุ สว่ นตะลมุ บอนอนื่ ๆ ดว้ ยการยงิ และการใชล้ กู ระเบดิ ขวา้ งสงั หารขา้ ศกึ ทอ่ี ยใู่ นทม่ี นั่ ใกลเ้ คยี ง สถานการณ์เช่นนี้ ผบ.หน่วยทุกหน่วยในหมวดปืนเล็กจะต้องปฏิบัติการอย่างหาญกล้า เด็ดเด่ียวเพื่อขยายผลการได้เปรียบ และจะต้องแสดงลักษณะผู้น�ำและความกล้าหาญให้ ปรากฏ โดยการนำ� ส่วนตะลมุ บอนของตนเข้าตะลุมบอนด้วยตนเอง

124 เหล่าทหารราบ 12. การเสริมความมนั่ คง ณ ทีห่ มาย และการจดั ระเบียบใหม่ 12.1 การเสริมสรา้ งความม่นั คง ณ ท่ีหมาย ทันทที นั ใดหลังจากยึดท่หี มายได้ หมวดจะต้องเตรยี มการเพื่อขับไล่การ ตโี ตต้ อบของขา้ ศกึ หมเู่ คลอื่ นทตี่ รงไปยงั พน้ื ทร่ี บั ผดิ ชอบของตน จดั การวางการระวงั ปอ้ งกนั เพ่อื แจ้งการเคล่อื นทเี่ ข้ามาของข้าศกึ แผนในการเสรมิ สร้างความมน่ั คงน้ีจะต้องทำ� ไว้ก่อน เรม่ิ เคลอ่ื นทอ่ี อกตี และถอื เป็นมลู ฐานในการเสรมิ สร้างความมนั่ คง การปรบั แผนคงกระทำ� ไปตามสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น ข้ันตอนต่าง ๆ ท่ี ผบ.หมวดจะต้องปฏิบัติเม่ือยึดที่หมายได้ แล้วนน้ั คอื 1. ประมาณสถานการณ์ หมวดท�ำการประมาณสถานการณ์พร้อมกับ ศกึ ษาภมู ปิ ระเทศ เพอื่ พจิ ารณาแผนเสรมิ สรา้ งความมน่ั คงเดมิ ทไ่ี ดท้ ำ� ไว้ และเพอื่ ใหม้ น่ั ใจวา่ หมวดไดเ้ ขา้ ยดึ ภมู ปิ ระเทศสำ� คญั ทค่ี วบคมุ เสน้ ทาง ซง่ึ ขา้ ศกึ อาจใชเ้ ขา้ มาสทู่ ม่ี นั่ ของหมวดไว้ หมดแล้ว แผนการเสริมสร้างความม่ันคงซึ่งได้ท�ำไว้เดิมนั้นอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป บา้ ง แตจ่ ะมกี ารเปลย่ี นแปลงเพยี งใดกต็ าม หมตู่ า่ ง ๆ และอาวธุ ยงิ สนบั สนนุ ตอ้ งเขา้ ประจำ� ท่ีต้ังของตนโดยทนั ทไี ม่ชกั ช้า 2. การเข้าประจำ� ทตี่ ้งั ของหมู่ต่าง ๆ และอาวุธประจำ� หน่วย ผบ.หมวด ก�ำหนดทต่ี ้งั ปีกทง้ั สองของแต่ละหมู่ลงบนพื้นดิน ผบ.หมวดต้องม่นั ใจว่าเขตการยิงของหมู่ ตา่ ง ๆ นนั้ คาบทบั กนั อาวธุ ประจำ� หนว่ ยจะกำ� หนดทต่ี งั้ โดยประมาณให้ ณ ทซี่ ง่ึ จะสามารถ ยงิ คุ้มครองแนวทางเคล่อื นท่ที เี่ ป็นอนั ตรายต่อการเข้ามาของข้าศกึ ได้ ผบ.หมู่ปืนเลก็ โดยการช่วยเหลอื ของหวั หน้าชุดยิงจะกำ� หนดทต่ี ัง้ ให้ ทหารแต่ละคน และมอบเขตการยงิ ให้อาวธุ กลของหมนู่ นั้ จะกำ� หนดเขตการยงิ และทศิ ทาง ยงิ หลกั ให้ เพอื่ คมุ้ ครองแนวทางเคลอ่ื นทที่ สี่ ำ� คญั ๆ ทหารทกุ คนเมอ่ื ได้ประจำ� ทแ่ี ลว้ จะตอ้ ง ขุดหลมุ บคุ คลในทันที ผบ.หมู่ปืนกล และ ผบ.หน่วยอาวธุ ท่ีมาสมทบเลือกที่ตัง้ ยงิ ทแ่ี น่นอน ให้แต่อาวุธของตน อาวุธต่าง ๆ เหล่าน้ีถือว่าเป็นโครงร่างท่ีส�ำคัญในการต้ังรับของหมวด และมีล�ำดบั ความเร่งด่วนในการเลอื กทีต่ ้ังก่อนเป็นอันดบั แรก

หมวดจะต้องส่งรายงานย่อการเสริมสร้างความมั่นคงให้ ผบ.ร้อย. เหล่าทหารราบ 125 ทราบ ผบ.หมวดต้องตรวจพ้ืนที่ของหมวดและปรับปรุงการต้ังรับให้มั่นคงแข็งแรงข้ึนตาม ลำ� ดบั ถา้ จะตอ้ งทำ� การเขา้ ตตี อ่ ไป ผบ.หนว่ ยตา่ ง ๆ ลาดตระเวนตรวจภมู ปิ ระเทศตามความ จ�ำเป็น แล้วทำ� แผนและส่งั การ 12.2 การจดั ระเบียบใหม่ การจัดระเบียบใหม่นั้นเป็นวิธีการกระท�ำอย่างต่อเนื่องกันไป และต้อง เพ่งเล็งเป็นพิเศษเม่ือยึดท่ีหมายได้แล้ว ในระหว่างการเข้าตี หมวดอาจสูญเสียก�ำลังพล ความสนิ้ เปลอื งกระสนุ และบางครงั้ อาจสญู เสยี ยทุ โธปกรณด์ ว้ ย เจา้ หนา้ ทต่ี ำ� แหนง่ สำ� คญั ๆ ซึ่งได้รับบาดเจบ็ จะต้องจดั คนอ่ืนข้ึนทดแทน กระสุนน้นั ผบ.หมู่ และหัวหน้าชดุ ยงิ จะแบ่ง เฉลี่ยภายในหมู่ นายสบิ ประจำ� หมวดจะต้องสนใจเป็นพิเศษต่อการแบ่งกระสุนระหว่างหมู่ ต่าง ๆ และการส่งกลบั ผู้บาดเจ็บ เชลยศึก ผู้บาดเจ็บจะต้องให้อยู่ในท่กี �ำบงั ขณะรอการ ส่งกลับ ผบ. หมู่จะต้องรายงานสถานการณ์ยอดก�ำลังพลและกระสุนให้ ผบ.หมวดทราบ และในทำ� นองเดยี วกัน ผบ.หมวดกต็ ้องรายงานให้ ผบ.ร้อย.ทราบ   หนังสืออ้างอิง 1. รส.7-15 หมู่หมวดทหารราบ ทหารราบส่งทางอากาศ และทหารราบ ยานเกราะ พ.ศ. 2512 2. คฝ. 7-26 การฝึกและการประเมนิ ผล การฝึกเป็นหน่วยทางยุทธวธิ ,ี หมวด ปืนเลก็ , พ.ศ. 2537 3. คมู่ อื การฝกึ วา่ ดว้ ยรปู ขบวนทำ� การรบและการฝกึ ทำ� การรบ สำ� หรบั หมแู่ ละ หมวดปืนเลก็ พ.ศ. 2532

126 เหล่าทหารราบ บทท่ี หมวดปืนเลก็ ในการเข้าตเี วลากลางคนื 1. กล่าวท่วั ไป 1. การเขา้ ตเี วลากลางคนื อาจกระทำ� เพอ่ื ใหไ้ ดล้ กั ษณะการจโู่ จม เพอื่ รกั ษา ความกดดัน เพื่อขยายผลต่อจากความส�ำเร็จในการปฏิบัติการในเวลากลางวัน เพื่อ ยดึ ภมู ปิ ระเทศสำ� หรบั ใชใ้ นการปฏบิ ตั กิ ารตอ่ ไป หรอื เพอ่ื หลกี เลยี่ งการสญู เสยี อยา่ งหนกั โดยใชค้ วามมดื ชว่ ยในการซอ่ นพราง การเขา้ ตเี วลากลางคนื เปน็ สว่ นหนงึ่ ของการปฏบิ ตั ิ การรบตามธรรมดา และการเข้าตกี ลางคนื นม้ี กั จะต้องทำ� บ่อยยง่ิ ขน้ึ เมอ่ื อำ� นาจการยงิ ของข้าศกึ เพิม่ ข้ึนจากการเข้าตเี วลากลางวนั เป็นอันตรายมากขึ้น 2. ในห้วงระยะเวลาท่ที ศั นวสิ ยั ต่�ำ (หมอกหรอื ควนั ) เทคนิคบางส่วนหรือ ทงั้ หมดของการเข้าตเี วลากลางคนื อาจน�ำไปใช้กบั การเข้าตีเวลากลางวนั ได้ 3. การรบในเวลากลางคนื นั้นโดยลักษณะทวั่ ๆ ไปแล้ว ขดี ความสามารถ ในการเล็งยิงของอาวุธต่อข้าศึกจะลดลงไป ความส�ำคัญของการรบประชิดจะเพ่ิม มากขน้ึ กลมุ่ ความหนาแนน่ ของการยงิ การยงิ ของอาวธุ บางประเภทซง่ึ ได้วางการยงิ ไว้ ต่อเป้าหมายต่าง ๆ โดยเฉพาะ หรือพื้นที่ที่หมายในเวลากลางวัน ความยากล�ำบาก ในการเคลอ่ื นที่ ความยากลำ� บากในการควบคมุ กำ� หนดทศิ ทางและการตดิ ตอ่ ถงึ แมว้ า่

จะมีความยากล�ำบากต่าง ๆ ตามท่ีกล่าวมาแล้วก็ตาม การเข้าตีกลางคืนก็ยังก่อ เหล่าทหารราบ 127 ให้ฝ่ายเข้าตีได้เปรียบทางจิตวิทยาอยู่ เพราะท�ำให้ฝ่ายตั้งรับเกิดความสงสัย กังวลใจ และเกิดความกลวั ในสง่ิ ซ่ึงตนไม่ทราบ 4. เทคนคิ ทใ่ี ชใ้ นการเขา้ ตโี ดยการลกั ลอบ ซง่ึ ฝา่ ยเขา้ ตพี ยายามรกั ษาความลบั และใช้การจู่โจมเข้าประชิดข้าศึกก่อนท่ีข้าศึกจะทราบ เทคนิคบางประการซ่ึงกล่าวถึงนี้ อาจน�ำไปใช้กบั การเข้าตใี นเวลากลางวันโดยท่วั ๆ ไปกไ็ ด้  5. การเขา้ ตเี วลากลางคนื นนั้ อาจกระทำ� ดว้ ยการลกั ลอบ หรอื ใชเ้ ทคนคิ การเขา้ ตี เวลากลางวัน หรือโดยการผสมกันท้ังสองอย่างก็ได้ เทคนิคโดยเฉพาะซ่ึงจะใช้น้ันย่อมข้ึน อยู่กับปัจจยั ต่าง ๆ เช่น ก�ำลงั ของข้าศึก และการเตรยี มการตง้ั รบั ของข้าศึก มาตรการระวัง ป้องกันของข้าศกึ ลักษณะภมู ปิ ระเทศ สภาพแสงสว่าง สถานการณ์อาจอำ� นวยให้ท�ำการ เข้าตีแบบลักลอบเพอ่ื เข้าตียึดท่ีหมายข้นั ต้น แล้วท�ำการเข้าตีต่อไปโดยใช้เทคนิคการเข้าตี เวลากลางวนั ในบางสถานการณอ์ าจตอ้ งใชเ้ ทคนคิ ในการเขา้ ตเี วลากลางวนั โดยตลอดกไ็ ด้ 6. ต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อประกันการรักษา ความลับและการจู่โจม นอกจากการจำ� กัดการลาดตระเวนเป็นกลุ่มก้อนแล้ว จะต้องจ�ำกดั ใหก้ ารเคลอ่ื นยา้ ยของยานพาหนะ และอาวธุ มนี อ้ ยทสี่ ดุ จะตอ้ งบงั คบั ใหก้ ารปฏบิ ตั ติ ามวนิ ยั การใช้แสงและเสียงเป็นไปอย่างเข้มงวดกวดขัน บุคคลและยุทโธปกรณ์จะต้องได้รับการ พรางอย่างดี ควรหลกี เลย่ี งการยงิ ทดสอบของอาวุธต่าง ๆ หรอื หาวธิ ที �ำอย่างอื่นเพื่อไม่ให้ เป็นการเปิดเผยให้ทราบถึงการเข้าตีซ่ึงจะด�ำเนินการในอนาคต ต้องไม่ปฏิบัติการใด ๆ ให้เปล่ียนแปลงไปจากปกตจิ นเหน็ ได้เด่นชัด 2. มาตรการควบคมุ (รูปที่ 27 และ 28) ทศั นวสิ ยั จะเปน็ ตวั บง่ ถงึ มาตรการทจ่ี ำ� เปน็ ในการควบคมุ มาตรการควบคมุ ตาม หัวข้อต่อไปน้ี โดยปกติ ผบ.ร้อย.จะใช้ในการควบคุมหน่วยของตนในการเข้าตีกลางคืนแบบ ลักลอบ คือ

128 เหล่าทหารราบ 1. มาตรการควบคุมทางยุทธวิธี ลักษณะภูมิประเทศซึ่งใช้เป็นมาตรการ ควบคมุ ทางยทุ ธวธิ ี ถา้ สงั เกตไดย้ ากในเวลากลางคนื อาจทำ� เครอ่ื งหมายไว้ โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื อนิ ฟราเรด (1) ทรี่ วมพล ทร่ี วมพลอาจใกล้กบั แนวออกตมี ากกว่าการเข้าตเี วลากลางวนั (2) ฐานออกตี ฐานออกตีควรอยู่หลังท่ีก�ำบัง แต่ไม่จ�ำเป็นต้องให้การ ซ่อนพรางดเี ท่ากับฐานออกตใี นเวลากลางวนั พ้นื ทซ่ี งึ่ เลอื กเป็นฐานออกตคี วรจะเป็นพนื้ ท่ี ซึง่ เข้าได้สะดวกในเวลากลางคนื (3) ต�ำบลและแนวออกตี ต�ำบลออกตีต่าง ๆ น้ัน โดยปกติ ผบ.ร้อย. จะเป็นผู้เลอื กขนึ้ ณ ต�ำบลเหล่าน้ี หมวดต่าง ๆ จะผ่านแนวออกตีตามทกี่ �ำหนดขนึ้ ไว้ (4) เส้นทาง ผบ.ร้อย.เลือกเส้นทางจากที่รวมพลไปถึงต�ำบลแยกหมวด ผบ.หมวดเลือกเส้นทางจากต�ำบลแยกหมวดไปถึงต�ำบลแยกหมู่ โดยปกติแล้วการเลือกนี้ ถอึ การตรวจการณพ์ นื้ ทต่ี ำ� บลซง่ึ อยขู่ า้ งหลงั แนวออกตเี ปน็ หลกั เนอื่ งจากทศั นวสิ ยั มกั จะถกู จ�ำกัดลง ดังนั้น การควบคุมการด�ำเนินกลยุทธ์จึงท�ำให้หมวดเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงเข้าหา ท่ีหมายในพื้นที่โล่งแจ้ง ดังน้ัน เส้นทางจากต�ำบลแยกหมวดถึงต�ำบลแยกหมู่จึงมักจะ ก�ำหนดเป็นทิศทางโดยบอกเป็นมุมภาคทิศเหนือ และระยะตามปกติจะต้องใช้เจ้าหน้าที่ ลาดตระเวนรกั ษาความปลอดภยั เป็นผู้ช่วยเหลอื น�ำไปยงั แนวปรับรปู ขบวน

เหล่าทหารราบ 129 รปู ท่ี 27 การเข้าตเี วลากลางคืน กองรอ้ ยในรปู ขบวนแถวตอนหมวด 

130 เหล่าทหารราบ รปู ท่ี 28 การเขา้ ตเี วลากลางคนื กองร้อยในรปู ขบวนแถวหนา้ กระดานหมวด ในรูปขบวนแถวตอน 

(5) ตำ� บลแยกหนว่ ย คอื ตำ� บลทส่ี ว่ นเขา้ ตแี ยกการควบคมุ จากหนว่ ยเหนอื เหล่าทหารราบ 131 ไปอยู่ในความควบคุมของ ผบ.หน่วยที่แยกไปเอง ผบ.ร้อย.เป็นผู้ก�ำหนดจุดแยกหมวดให้ และ ผบ.หมวดในสว่ นเขา้ ตเี ปน็ ผกู้ ำ� หนดจดุ แยกหมใู่ หแ้ ตล่ ะหมู่ ตำ� บลแยกหนว่ ยนจ้ี ะกำ� หนด ข้ึน ณ จุดซ่ึงจะเป็นการแปรรูปขบวนของกองร้อยทีละน้อย ๆ ในระหว่างการเคล่ือนท่ีไป ยังแนวปรับรูปขบวน จุดแยกหน่วยนี้ควรจะอยู่ใกล้กับแนวปรับรูปขบวนมากท่ีสุดเท่าที่จะ ทำ� ได้ และ ณ จุดนน้ั จะต้องสามารถเคล่อื นย้ายก�ำลังทางข้างได้อย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะถึง แนวปรบั รปู ขบวน  (6) แนวปรับรูปขบวน คือต�ำบลที่ ผบ.ร้อย.ได้วางแผนไว้ส�ำหรับปรับ รูปขบวนข้ันสุดท้ายให้เสร็จก่อนที่จะเคล่ือนท่ีไปข้างหน้า โดยท่ีหมู่และหมวดอยู่ในขบวน แถวหนา้ กระดานแนวนค้ี วรจะสงั เกตไดง้ า่ ยในลกั ษณะภมู ปิ ระเทศในเวลากลางคนื , ควรจะ ตั้งฉากกบั ทศิ ทางเข้าตี และใกล้กบั ทตี่ ง้ั ของข้าศึกท่ที ราบแล้ว ณ ท่หี มาย ท้ังได้ประมาณ การณ์แล้วว่ากองร้อยสามารถเคล่ือนที่เข้าถึงได้โดยท่ีข้าศึกไม่ทราบ ถ้าข้าศึกใช้เคร่ือง กดี ขวางลวดหนามหนา้ แนวของตน แนวปรบั รปู ขบวนนคี้ วรจะอยเู่ ลยแนวลวดหนามเขา้ ไป ทางข้าศกึ (7) เขตปฏบิ ตั กิ ารและทห่ี มาย โดยปกตกิ องรอ้ ยจะกำ� หนดเขตปฏบิ ตั กิ าร ให้หมวด โดยก�ำหนดขอบเขตในแนวปรับรูปขบวนและท่ีหมายให้แก่แต่ละหมวด ทีห่ มายของหมวดต้องก�ำหนดให้ชดั เจนไม่ให้เข้าใจผดิ ในลักษณะภูมิประเทศได้ เนือ่ งจาก ทัศนวิสัยจ�ำกัดและปัญหาในการควบคุมมีมาก ดังน้ัน ที่หมายที่ก�ำหนดให้จึงมักต้อง เล็กกว่าท่หี มายในการเข้าตเี วลากลางวนั และมักจะไม่ก�ำหนดทหี่ มายตามล�ำดับขั้นขึน้ (8) ขั้นการเคลื่อนท่ี ขั้นการเคล่ือนท่ีนี้จะก�ำหนดข้ึนเลยท่ีหมายออกไป เพื่อจ�ำกัดการเคลื่อนท่ีของกำ� ลังส่วนเข้าตี ข้ันการเคล่ือนท่ีน้ีต้องสังเกตเห็นได้ง่ายในเวลา มืด (สำ� ธาร, ถนน ฯลฯ) และไกลเลยทห่ี มายออกไปเพียงพอทส่ี ่วนระวงั ป้องกนั จะมีพนื้ ท่ี ปฏิบตั ิการได้ การยงิ สนบั สนนุ จะยงิ ได้โดยเสรตี ่อเป้าหมายซง่ึ เลยแนวนีอ้ อกไปแล้ว (9) เวลาออกตี การเขา้ ตกี ลางคนื มกั จะกระท�ำในตอนดกึ เพอ่ื ใหส้ ามารถ ยดึ ทหี่ มายขน้ั ตน้ ไดใ้ นตอนกลางคนื แลว้ ทำ� การเขา้ ตตี อ่ ไปจากเวลานน้ั ถา้ ทหี่ มายมคี วามลกึ มาก หรือภารกจิ ของกองร้อยต้องการให้เข้าตตี ่อไปในทนั ที การเข้าตอี าจเร่ิมในตอนหวั คํา่ และเข้าตตี ่อไปเพื่อยดึ ทหี่ มายข้นั สุดท้ายในระหว่างเวลามืด

132 เหล่าทหารราบ 2. เทคนคิ ตา่ ง ๆ เพมิ่ เตมิ มาตรการเพมิ่ เตมิ ทใี่ ชเ้ พอ่ื ใหก้ ารควบคมุ สะดวกขนึ้ อาจได้แก่ (1) การใช้มุมภาคทิศเหนือ, เคร่ืองยิงหรือปืนใหญ่ยิงท่ีหมาย หรือใช้ กระสุนส่องวถิ ชี ่วยในการรกั ษาทศิ ทาง (2) การใช้ผู้น�ำทางและทหารต่อ (3) ก�ำหนดระยะเคียงระยะต่อที่จะต้องรักษาไว้ระหว่างบุคคลและหมู่ ต่าง ๆ (4) ก�ำหนดหมู่หลกั ขึน้ แล้วใช้หมู่อน่ื ๆ ถอื การเคล่อื นทต่ี ามหมู่หลัก (5) ใช้เครือ่ งมืออนิ ฟราเรด หรอื เคร่ืองช่วยในการมองเห็นในเวลากลางคนื อ่ืน ๆ (6) ใชก้ ระดมุ หรอื แถบเรอื งแสง, ปลอกแขนสขี าวเพอื่ แสดงตวั ผบู้ งั คบั บญั ชา และกำ� ลังฝ่ายเดยี วกัน (7) เข้าตเี ข้าสู่ท่หี มาย 3. การติดต่อส่ือสาร เครื่องมือการติดต่อสื่อสารท่ีใช้ภายในกองร้อยในการ เข้าตีเวลากลางคืนน้ัน ได้แก่ โทรศัพท์, วิทยุ, ทัศนสัญญาณ, (อินฟราเรด, ไฟฉายและ พลุส่องแสง) การติดต่อเป็นบุคคล และพลน�ำสาร โทรศัพท์น้ันวางการติดต่อระหว่าง ผบ.ร้อย. กับ ผบ. หมวด การได้วทิ ยนุ ัน้ ตามปกตจิ ะห้ามได้จนกว่าหมวดต่าง ๆ จะปรบั รูปขบวนบนแนวปรบั รูปขบวนเสรจ็ เรยี บร้อยแล้ว หรอื จนกว่าข้าศกึ จะตรวจพบการเข้าตี 3. รูปขบวน 1. รปู ขบวนของกองร้อย เพื่อสะดวกในการควบคุม กองร้อยจะใช้รปู ขบวน แถวตอนเคล่ือนท่ีขึ้นไปข้างหน้าไกลที่สุดเท่าท่ีจะท�ำได้ ข้อพิจารณาที่เป็นหลักส�ำคัญ ในการเลอื กรปู ขบวนของกองรอ้ ย คอื ทศั นวสิ ยั , ระยะทางไปยงั ทหี่ มาย และการปฏบิ ตั กิ าร ของข้าศึกที่คาดว่าจะมีตอบโต้ โดยอาศัยข้อพิจารณาตามท่ีกล่าวมาแล้วนี้ กองร้อยจึง มักจะผ่านแนวออกตีด้วยรูปขบวนกองร้อยแถวตอนหมวดแถวตอน หรือกองร้อยแถวหน้า กระดานหมวดแถวตอน

(1) เมอื่ ทศั นวิสัยเลว หรอื ระยะทางไปยงั ท่ีหมายไกลมาก หรือเมอื่ คาดว่า เหล่าทหารราบ 133 ยงั จะไม่มกี ารปะทะกับข้าศกึ ในเรว็ ๆ นี้ กองร้อยอาจเคลอ่ื นทผ่ี ่านแนวออกตดี ้วยรปู ขบวน แถวตอน และคงเคลื่อนที่ต่อไปด้วยรูปขบวนน้ีจนถึงจุดแยกหมวด หรือจ�ำเป็นต้องปรับ รปู ขบวนใหม่โดยการบบี บงั คบั ของข้าศึก (2) เม่ือทัศนวิสัยดีพอที่จะอ�ำนวยให้การควบคุมรูปขบวนที่กระจายกัน ออกไปได้ หรือระยะทางไปยังท่ีหมายใกล้ หรือเม่ือคาดว่าจะปะทะกับข้าศึกแต่เนิ่นแล้ว การเคลอ่ื นทผ่ี ่านแนวออกตคี วรได้รปู ขบวนกองร้อยแถวหน้ากระดานหมวดแถวตอน (3) เม่ือกองร้อยปะทะอยู่กับข้าศึก และระยะไปยังที่หมายใกล้แล้วอาจ มีความจ�ำเป็นท่ีจะต้องให้หมวด ซึ่งเข้าตีเคลื่อนที่จากท่ีต้ังของตนไปข้างหน้าในรูปขบวน แถวหน้ากระดาน ในกรณเี ช่นน้ถี ือว่าแนวปะทะ คอื แนวปรบั รูปขบวน 2. รูปขบวนของหมวด ถ้าไม่ถูกบีบบังคับจากข้าศึกให้ต้องจัดรูปขบวน แต่เน่ินแล้ว การเคล่ือนที่ของหมวดจากท่ีรวมพลไปยังจุดแยกหมู่จะได้ขบวนแถวตอน จากแนวปรบั รูปขบวนขนึ้ ไปยงั ทหี่ มายหมวด จะได้รปู ขบวนแถวหน้ากระดาน 3. รูปขบวนของหมู่ โดยปกติจะได้ขบวนหมู่แถวตอนไปจนหมวดจัดขบวน แถวหน้ากระดาน หมู่จะได้แถวตอนเรยี งหนงึ่ กต็ ่อเมอื่ ไม่สามารถจะได้แถวตอนเรยี งสองได้ เน่ืองจากทัศนวิสัยจ�ำกัดท�ำให้ควบคุมท�ำไม่ได้ หรือลักษณะภูมิประเทศจ�ำกัดเท่าน้ัน การไดแ้ ถวตอนเรยี งหนง่ึ จะเปน็ การเพม่ิ ความยาวขบวนของหมวดขนึ้ อกี เทา่ ตวั และจำ� เปน็ ต้องเพ่ิมเวลาในการปรบั รปู ขบวนแถวหน้ากระดานอกี ด้วย 4. ที่อยู่ของผู้น�ำหน่วย เมื่อได้รูปขบวนแถวตอน ผู้น�ำหน่วยโดยปกติจะอยู่ ที่ต้นขบวนของหน่วยของตน เพ่ือให้สามารถควบคุมหน่วยของตนได้สะดวก เม่ืออยู่ใน รปู ขบวนแถวหนา้ กระดานจะอยู่ ณ ทซ่ี ง่ึ สามารถควบคมุ หนว่ ยของตนไดด้ ที สี่ ดุ ซง่ึ ทง้ั นยี้ อ่ ม ข้ึนอยู่ กบั ภมู ิประเทศและเหตกุ ารณ์ 4. การลาดตระเวนระวังปอ้ งกัน 1. โดยปกติหมวดจะส่งหน่วยลาดตระเวนระวังป้องกันซึ่งมีก�ำลังขนาดสี่ถึง หกนายออกไปก่อนการเริ่มเข้าตีเวลากลางคืน เพ่ือป้องกันแนวปรับรูปขบวนในเขตของ

134 เหล่าทหารราบ หมวด เจา้ หนา้ ทล่ี าดตระเวนนห้ี นงึ่ หรอื สองนายของแตล่ ะหมวดจะกลบั มาสมทบกบั หมวด ของตน และทำ� หน้าท่เี ป็นคนน�ำทางให้แก่หมวด การลาดตระเวนต่าง ๆ ของหมวดนัน้ โดย ปกติจะรวมกันเป็นหน่วยลาดตระเวนของกองร้อยเพียงหน่วยเดียว ผบ.ร้อย.ก�ำหนดเวลา และสถานที่ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งกลับจากลาดตระเวนไปรายงานเป็นผู้ชี้แจง ผบ.หน่วย ลาดตระเวนของหมวดในเร่ืองเส้นทางข้างหน้าที่จะไปยังจุดแยกหมวด เวลาท่ีจะขจัดท่ีฟัง การตา่ ง ๆ ของข้าศกึ ทขี่ ดั ขวางตามแนวปรบั รปู ขบวน, เขตทแ่ี นน่ อนของหมวด ณ แนวปรบั รูปขบวน และข่าวสารอ่ืนๆ ท่ี ผบ.หน่วยลาดตระเวนต้องการทราบเพื่อปฏิบัติภารกิจ ให้ลุล่วงไปได้ ผบ.หมวดแจ้งให้ ผบ.หน่วยลาดตระเวนของตนทราบเส้นทางจากจุดแยก หมวดไปยงั จดุ แยกหมู่ และทตี่ ง้ั ของจดุ แยกหมู่ และสง่ั การเกย่ี วกบั การวางตวั ของเจา้ หนา้ ท่ี ลาดตระเวน ณ แนวปรบั รูปขบวนได้อย่างดที ี่สุด 2. ที่คอยเหตตุ ่าง ๆ ของข้าศกึ ที่อยู่ ณ แนวปรับรูปขบวนหรอื ใกล้ ๆ กับแนว ปรับรูปขบวนจะต้องเฝ้าตรวจอยู่ตลอดเวลา และก�ำจัดเสียก่อนท่ีหมวดจะถึงแนวปรับ รูปขบวนเล็กน้อย ข้าศึกท่ีขัดขวางระหว่างแนวออกตีถึงแนวปรับรูปขบวนนั้นจะต้องก�ำจัด เสยี หรอื อ้อมผ่านไปอย่างเงยี บทสี่ ดุ เท่าทจ่ี ะท�ำได้ 3. นอกเหนอื จากการจดั ลาดตระเวน ณ แนวปรบั รปู ขบวนแล้ว หมวดจะต้อง จัดการระวังป้องกันตนเองท้ังทางหน้าและทางข้างในขณะท่ีเคลื่อนท่ีจากจุดแยกหมวด ไปยังจุดแยกหมู่ ขนาดของก�ำลังป้องกันน้ีย่อมแตกต่างกันไปตามรายละเอียดข่าวข้าศึก, ภูมิประเทศ และการตอบโต้ของข้าศึกที่น่าจะกระท�ำ ระยะท่ีส่วนระวังป้องกันเหล่าน้ี จะออกไปปฏบิ ัตนิ ั้นขน้ึ อยู่กับความสามารถในการควบคมุ ของ ผบ.หมวด 5. การสอ่ งสว่าง 1. โดยธรรมดาแล้ว ผบ.ร้อย.จะเป็นผู้พิจารณาถึงระดับของการส่องสว่างที่ จะต้องจัดขึ้น ถึงแม้ว่าการเข้าตีจะกระท�ำโดยใช้การลักลอบก็ตาม ต้องท�ำแผนการใช้การ ส่องสว่างท่มี ีอยู่ไว้เพ่อื ให้สามารถใช้ได้เม่ือเกดิ ความต้องการขึ้นระหว่างการเข้าตี และเพอ่ื ชว่ ยในการขบั ไลก่ ารตโี ตต้ อบ เครอื่ งมอื สอ่ งสวา่ งทม่ี อี ยนู่ น้ั อาจไดแ้ ก่ ไฟฉาย, ไฟฉายรถถงั , พลสุ ่องแสง, พลสุ ่องแสงที่ยงิ จากเครอ่ื งยิงลกู ระเบิด, ปืนใหญ่หรอื อากาศยาน

2. ตามปกตกิ ารเขา้ ตแี บบลกั ลอบจะไมใ่ ชก้ ารสอ่ งแสงระหวา่ งการเคลอ่ื นทไ่ี ป เหล่าทหารราบ 135 ยงั แนวปรบั รปู ขบวน ในระหวา่ งการตะลมุ บอนอาจใชก้ ารสอ่ งสวา่ งโดยตรงจากไฟฉายหรอื พลสุ อ่ งแสงเพอื่ ทำ� ใหข้ า้ ศกึ ตามดื และเกดิ ความสบั สน และเพอ่ื ชว่ ยในการควบคมุ สว่ นทเี่ ขา้ ตะลุมบอน การส่องสว่างที่ใช้ช่วยในการเสริมสร้างความม่ันคงหลังจากยึดท่ีหมายได้แล้ว น้ัน ตามปกติจะใช้การส่องสว่างโดยการสะท้อนแสงของไฟฉายเท่าน้ัน (แสงจันทร์เทียม) การส่องสว่างโดยตรงจากพลสุ ่องแสง โดยปกตจิ ะใช้ช่วยในการขับไล่การตีโต้ตอบ 3. การส่องสวา่ งโดยใชอ้ นิ ฟราเรดใชร้ ่วมกบั เครอื่ งมอื ชว่ ยในการมองเหน็ เวลา กลางคืนอ่ืน ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งอาจใช้ช่วยในการเคล่ือนย้าย, การควบคุม และ การยิงอาวธุ ต่าง ๆ 4. เรดาร์อาจใช้ช่วยน�ำหน่วยเข้าตีไปยังที่หมาย 5. ถ้าในการเข้าตีเวลากลางคืนโดยมีการส่องสว่างแล้ว ยุทธวิธีและเทคนิคที่ ใชน้ น้ั โดยทว่ั ๆ ไปคงเชน่ เดยี วกนั กบั การเขา้ ตใี นเวลากลางวนั อยา่ งไรกต็ าม ปญั หาในการ ควบคุมหน่วยคงมีมากและยุ่งยากกว่าการเข้าตีเวลากลางวัน ส่วนการกระจายก�ำลังคง มนี ้อยกว่า และการเคลอ่ื นท่ชี ้ากว่าเวลากลางวัน 6. การยงิ สนับสนุน 1. ผบ.ร้อย.ควบคุมการยิงของอาวุธยิงสนับสนุนต่าง ๆ ถ้าการเข้าตีกระท�ำ โดยการลักลอบ การยิงจะต้องวางแผนไว้อย่างละเอียดรอบคอบ แต่จะยิงได้เมื่อร้องขอ เทา่ นนั้ อยา่ งไรกต็ าม การยงิ บางอยา่ งอาจคงการยงิ ไว้ เพอ่ื ใหค้ งสภาพเหมอื นกอ่ นการเขา้ ตี ต้องวางแผนการยิง ณ ท่ีหมายไว้เพ่ือสนับสนุนการเข้าตี ถ้าข้าศึกได้ตรวจพบการเข้าตี ก่อนก�ำหนดทั้งต้องวางแผนการยิงป้องกันทางปีก และยิงตัดให้ที่หมายอยู่โดดเดี่ยวใน ระหวา่ งการตะลมุ บอน และเสรมิ สรา้ งความมน่ั คงเพมิ่ เตมิ จากแผน ซงึ่ กลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ ด้วย 2. ถ้าการเข้าตีเป็นการเข้าตีต่อท่ีม่ันซึ่งดัดแปลงแข็งแรง, จะต้องใช้อาวุธยิง สนับสนุนอย่างหนัก ซ่ึงท้ังนี้อาจรวมถึงการใช้ปืนใหญ่ยิงโดยวิธีเล็งตรง ใช้กระสุนระเบิด ชนวนเจาะเกราะด้วย การใช้การส่องสว่างนน้ั อาจท�ำได้หรอื ไม่ได้เท่า ๆ กนั การวางแผน การยิงและการยงิ นัน้ คงเช่นเดยี วกับการเข้าตีเวลากลางวนั  

136 เหล่าทหารราบ 7. อาวธุ ในอตั ราและที่มาสมทบหน่วย 1. โดยปกติในระหว่างการเคลื่อนที่ไปยังแนวปรับรูปขบวน หมู่ปืนกลจะ เคลอื่ นทใ่ี นรปู ขบวนแถวตอนและเคลอ่ื นทใ่ี นตอนท้ายสดุ ของหมวด ทศั นวสิ ยั และลกั ษณะ ภมู ิประเทศจะเป็นปัจจยั ส�ำคญั ในการพจิ ารณาใช้หมู่ปืนกลในการตะลุมบอน ถ้าทศั นวิสัย เลว พวกปืนกลและอาวุธต่อสู้รถถังควรจะเคล่ือนที่ตามหมู่เข้าตะลุมบอนไปในระยะห่าง พอเหมาะสม และพร้อมท่จี ะให้ ผบ.หมวดเรยี กใช้เพอ่ื แก้ปัญหาได้ตามต้องการ ทศั นวสิ ัย อ�ำนวยให้และมีท่ีตั้งยิงเพื่อท�ำการยิงสนับสนุนได้เหมาะสมและเพียงพอ อาจใช้อาวุธ ท้ังสองนี้สนับสนุนส่วนเข้าตะลุมบอน หรือป้องกันทางปีกหรือทางหลังก็ได้ โดยปกติหมู่ ปืนกลจะไม่เคลอ่ื นท่ไี ปในแนวเดยี วกับก�ำลังท่เี ข้าตะลมุ บอน 2. เครอ่ื งฉดี ไฟชนดิ ทนี่ ำ� ตดิ ตวั ไปได้ อาจสมทบใหก้ บั หมวดทเี่ ขา้ ตเี วลากลางคนื ไฟมีผลทางจิตวิทยาและการท�ำลายมากในเวลากลางคืน และจะช่วยส่องสว่างให้กับ ส่วนเข้าตใี นขณะตะลมุ บอน เคร่อื งฉีดไฟนจ้ี ะใช้เฉพาะเมื่อเรมิ่ การตะลุมบอนแล้วเท่านัน้ 8. แผนการเขา้ ตขี องหมวด ความยงุ่ ยากในการเขา้ ตเี วลากลางคนื นน้ั สามารถทจี่ ะขจดั ใหห้ มดสน้ิ ไปไดโ้ ดย การวางแผนและเตรยี มการอยา่ งเพยี งพอ และการฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารรบในเวลากลางคนื ใหเ้ ขา้ ใจ โดยถอ่ งแท้ โดยปกตกิ ารเขา้ ตเี วลากลางคนื นนั้ ตอ้ งการเวลาในการวางแผนและประสานงาน มากกว่าการเข้าตเี วลากลางวนั ความยากลำ� บากในการควบคุมจะเป็นเครื่องก�ำหนดให้ใช้ แผนด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ง่าย ๆ 1. เมอื่ ไดร้ บั คำ� สง่ั เตอื นเพอื่ การเขา้ ตเี วลากลางคนื ผบ.หมวดจะเรมิ่ ตน้ วางแผน และเตรยี มการ 2. หลงั จากได้รบั ค�ำสง่ั การเข้าตจี ากกองร้อยแล้ว ผบ. หมวดท�ำแผนการเข้าตี ของตนและวางแผน (1) ก�ำหนดผู้บังคับหน่วยท่ีส�ำคัญท�ำการลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศ ระหวา่ งเวลากลางวนั , พลบคำ่� และเวลากลางคนื ลาดตระเวนตรวจภมู ปิ ระเทศทจ่ี ะเผชญิ ใน ระหว่างการเข้าตี โดยปกติ ผบ.ร้อย.จะจ�ำกัดขนาดของชุดลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศ และจำ� กัดการเคลอ่ื นไหวต่าง ๆ บางประการไว้ด้วยเพอื่ ประกันการรกั ษาความลับ

(2) เลอื ก, ชแี้ จงสรปุ และส่งลาดตระเวนป้องกันออกไป เหล่าทหารราบ 137 (3) มาตรการควบคุม และรปู ขบวนจากท่รี วมพลไปยังท่ีหมาย (4) การปฏบิ ตั เิ มอ่ื ถงึ แนวปรบั รูปขบวน  (5) การปฏบิ ัติเมือ่ ข้าศกึ ทราบการเข้าตี (6) การปฏิบตั กิ ารเข้าตะลมุ บอนต่อท่หี มาย (7) การเสรมิ สร้างความมน่ั คง ณ ทีห่ มาย (8) การใช้อาวธุ ยงิ ในอตั ราและอาวธุ ยงิ สนับสนุน 3. ผบ.หมวดส่ังการแก่หมวด ตามหัวข้อตามแบบฟอร์มมาตรฐานในการ สั่งการ แม้ว่าแผนของการเข้าตีต้องการให้มีความง่ายมากท่ีสุดเท่าที่จะท�ำได้ก็ตาม แต่ คำ� สงั่ เขา้ ตใี นเวลากลางคนื ตอ้ งยาวและมรี ายละเอยี ดมาก ทงั้ นี้ เพราะตอ้ งเพม่ิ เตมิ มาตรการ ในการควบคมุ และค�ำชแี้ จงพเิ ศษต่าง ๆ ลงไป พร้อม ๆ กับค�ำสงั่ การน้จี �ำเป็นจะต้องชี้แจง รายละเอยี ดของภูมปิ ระเทศให้เข้าใจด้วย 9. การเตรยี มการเข้าตี การเตรียมการเข้าตีเวลากลางคืนน้ี ส่วนใหญ่คงเช่นเดียวกับการเตรียมการ เข้าตใี นเวลากลางวนั ตามทก่ี ล่าวมาแล้ว แต่จะต้องเน้นเป็นพเิ ศษในเรอ่ื ง 1. การซักซ้อมให้ปฏิบัติทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน การซักซ้อมควร รวมถึงการใช้รปู ขบวน, เสียงและทศั นสัญญาณ และการปฏิบตั ขิ องหมวดจากทรี่ วมพลไป ยงั ทหี่ มาย 2. ให้ทหารภายในหมวดได้พักก่อนเข้าตี 3. ใหน้ ำ� ยทุ โธปกรณไ์ ปเฉพาะเทา่ ทจี่ ำ� เปน็ จรงิ ๆ ในการทจี่ ะใชเ้ ขา้ ตใี หส้ ำ� เรจ็ ได้ ยุทโธปกรณ์อน่ื ๆ ควรทิ้งไว้ข้างหลงั และก�ำหนดนดั หมายให้นำ� ไปส่ง ณ ทห่ี มายต่อไป 4. การพรางบคุ คลและยทุ โธปกรณ์ ยทุ โธปกรณ์ท่ีส่นั ดังต้องผูกมัดให้แน่น 5. หลีกเล่ยี งการยิงทดสอบและการเคลือ่ นย้ายที่ไม่จ�ำเป็นเสีย หรือถ้าจะท�ำก็ ให้หาหนทางท�ำในลกั ษณะท่จี ะไม่เป็นการเปิดเผยให้ทราบถงึ การเข้าตที ่จี ะกระท�ำต่อไป 6. ตอ้ งมน่ั ใจวา่ การมองเหน็ ในเวลากลางคนื ของทหารภายในหมวดตอ้ งไมถ่ กู ทำ� ลายลงโดยการใช้แสงสว่างก่อนการเข้าตี

138 เหล่าทหารราบ 10. การปฏิบัติการเข้าตี 1. ส่วนลาดตระเวนป้องกันเคลื่อนที่ออกจากท่ีรวมพลของกองร้อย ให้มีเวลา เพยี งพอทจ่ี ะบรรลภุ ารกจิ ของตนได้ ก่อนที่หมวดต่าง ๆ จะเคลอ่ื นทไี่ ปถงึ แนวปรับรปู ขบวน ถ้าพบท่ีตั้งคอยเหตุของข้าศึกในระหว่างทางที่เคล่ือนที่ไปยังแนวปรับรูปขบวนส่วน ลาดตระเวน จะต้องคอยอยู่จนถึงเวลาที่ ผบ.ร้อย.ก�ำหนดให้ แล้วก�ำจัดยามคอยเหตุ น้ันเสีย โดยใช้วิธีซ่ึงเงียบท่ีสุดเท่าท่ีจะท�ำได้ แล้วจึงเคลื่อนท่ีต่อไป เพ่ือป้องกันแนวปรับ รปู ขบวนในกรณที ขี่ า้ ศกึ พบสว่ นลาดตระเวนปอ้ งกนั สว่ นลาดตระเวนปอ้ งกนั อาจเขา้ ทำ� ลาย หรอื ถอนตวั กลบั กไ็ ด้ ท้งั น้ีแล้วแต่ ผบ.ร้อย.จะสั่ง 2. หมวดจะเคล่อื นท่ใี นรูปขบวนแถวตอนกองร้อย จากทรี่ วมพลไปยงั จุดแยก หมวด ณ จดุ แยกหมวดจะพบผนู้ ำ� ทาง ซง่ึ มาจากสว่ นลาดตระเวนระวงั ปอ้ งกนั แลว้ เคลอ่ื นที่ ต่อไปตามเส้นทางท่กี �ำหนดไปยงั จดุ แยกหมู่ สายการตดิ ต่อทางโทรศพั ท์ของหมวดจะพ่วง เข้ากับตู้สลบั สายของกองร้อย ก่อนทจ่ี ะเคลื่อนทผ่ี ่านแนวออกตีจากจุดแยกหมวดไปยงั จุด แยกหมู่ จะต้องจดั การระวงั ป้องกันทางหน้าและทางข้างให้เพียงพอด้วย 3. เม่ือหมวดได้เคลอื่ นทผ่ี ่านแนวออกตไี ปแล้ว การเคลอ่ื นทต่ี ่อไปยังแนวปรบั รูปขบวนจะต้องกระท�ำอย่างต่อเน่ือง อัตราความเร็วในการเคล่ือนที่ต้องช้าพอ เพ่ือให้ เคลอื่ นทเ่ี งยี บ ๆ ได้ ขา้ ศกึ ทพี่ บตลอดเสน้ ทางเคลอื่ นทไ่ี ปยงั แนวปรบั รปู ขบวน จะตอ้ งก�ำจดั โดยวิธีซ่งึ เงยี บที่สดุ เท่าทจ่ี ะท�ำได้ 4. ในระหว่างการเคล่ือนที่ไปข้างหน้ายังแนวปรับรูปขบวนนั้น ถ้ามีการยิง พลสุ อ่ งแสงขนึ้ ทหารทกุ คนจะตอ้ งนอนลงโดยเรว็ ในทนั ทจี นกวา่ พลสุ อ่ งแสงนน้ั จะดบั ลง การ ใชพ้ ลสุ อ่ งแสงจะตอ้ งมกี ารประสานงานกนั โดยใกลช้ ดิ การใชพ้ ลสุ อ่ งแสงซง่ึ ไมเ่ หมาะสมนน้ั จะยงั ผลให้เสยี การจู่โจมไปได้ ถ้าการเข้าตกี ระทำ� โดยการส่องสว่าง ฝ่ายเดยี วกนั จะต้องยงิ พลสุ อ่ งแสงตามทไ่ี ดร้ บั สญั ญาณจากสว่ นเขา้ ตี (โดยปกตหิ ลงั จากถงึ แนวปรบั รปู ขบวนแลว้ ) 5. เมื่อถงึ จดุ แยกหมู่ หมู่ปืนเลก็ จะแยกออกไปจากขบวนแถวตอนหมวด เพื่อ จัดเป็นแถวหน้ากระดาน ณ แนวปรับรูปขบวน เจ้าหน้าท่ีซ่ึงอยู่ในส่วนลาดตระเวนระวัง ป้องกันจะช่วยเหลอื ผบ.หมู่ ในการวางกำ� ลังของหมู่ ณ แนวปรบั รูปขบวน แล้วกลบั ไปยงั หมู่เดมิ ของตน หมู่ปืนกลคงอยู่ในขบวนแถวตอนและอยู่ใกล้ ๆ กบั จุดแยกหมู่

6. เม่ือหมวดได้จัดรูปขบวนเสร็จแล้ว ผบ.หมวด รายงานให้ ผบ.ร้อย.ทราบ เหล่าทหารราบ 139 ทางโทรศพั ท์ วิทยุ หรอื พลนำ� สาร เมื่อได้รบั ค�ำส่ังจาก ผบ.ร้อย. หมวดเคลื่อนทไี่ ปข้างหน้า อยา่ งเงยี บ ๆ จากแนวปรบั รปู ขบวน รกั ษารปู ขบวนแถวหนา้ กระดานของหมวดไว้ และอาศยั หมวดหลักเป็นหมวดน�ำ หมู่ปืนกลคงอยู่ในขบวนแถวตอน และเคลื่อนท่ีตามหมู่ปืนเล็ก ตามระยะทก่ี �ำหนดให้ 7. เมื่อข้าศึกทราบการเข้าตีให้เร่ิมเข้าตะลุมบอน อ�ำนาจในการเริ่มเข้า ตะลุมบอนนี้ ตามปกติจะมอบให้ถึง ผบ.หมวด และในบางกรณีอาจมอบให้ถึง ผบ.หมู่ การยิงประปรายโดยหน่วยย่อย ๆ ของข้าศกึ นนั้ ต้องไม่ท�ำให้ต้องเสียลักษณะการจู่โจมของ เราไป โดยการรบี ให้สญั ญาณเรม่ิ การตะลุมบอน 8. ความส�ำคัญในการสร้างอ�ำนาจการยิงอย่างหนาแน่น ในระหว่างการ ตะลุมบอนนั้นต้องไม่มองข้ามไปเสีย ในขณะตะลุมบอนน้ีอ�ำนาจการยิงเหนือข้าศึกจะ ต้องสร้างให้มีข้ึนแล้วด�ำรงไว้ให้ได้ การเข้าตะลุมบอนจะต้องท�ำด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดยี่ ว ทหารจะต้องตะโกนและท�ำเสยี งอกึ ทกึ และสับสนขน้ึ ให้มากทส่ี ดุ ควรใช้กระสุน ส่องวิถีเพ่ือเพิ่มความแม่นย�ำในการยิง และท�ำลายขวัญข้าศึก ร้องขอการยิงด้วยวิธีเล็ง จ�ำลอง ซ่ึงได้วางแผนไว้ล่วงหน้าให้ยิงสกัดที่หมายให้อยู่โดดเด่ียว การเข้าตะลุมบอนน้ัน คงปฏบิ ตั เิ ชน่ เดยี วกบั ทกี่ ลา่ วมาแลว้ และเคลอ่ื นทผี่ า่ นเลยทห่ี มายไปจนถงึ สนั เนนิ ทางทหาร ซงึ่ อยู่หลงั ทหี่ มาย 9. เมื่อยดึ ท่หี มายได้แล้ว หมวดต่าง ๆ เสรมิ สร้างความม่นั คง ผบ.หมวด และ ผบ. หมู่ต่าง ๆ ก�ำหนดปีกของหน่วยตนตามท่ีได้ส่ังไว้แล้ว และวางการติดต่อกับหน่วย ข้างเคียงอาวุธในอัตรา และที่มาสมทบเคล่ือนท่ีเข้าท่ีตั้งตามที่ได้ก�ำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว อย่างรวดเร็ว จัดวางการป้องกันเฉพาะต�ำบลขึ้น และเตือนหน่วยถึงการตีโต้ตอบที่อาจมี ขึ้น หน่วยระวังป้องกันต้องไม่เคลอ่ื นที่เลยแนวขึ้นการเคลอ่ื นทีอ่ อกไป (รปู ท่ี 27 และ 28) การจ่ายกระสุนจะต้องมีการเฉล่ียจ่ายให้เหมาะสม สิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ จะต้องน�ำขึ้นมา ข้างหน้า, เจ้าหน้าท่ีหลักของหมวดซึ่งบาดเจ็บจะต้องจัดทดแทน, ผู้บาดเจ็บต้องส่งกลับ, และผู้บังคับหน่วยทุกคนต้องรายงานสถานภาพผู้ตรวจการณ์หน้าของเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ร้องขอ และปรับการยิงต่อไปต่อเป้าหมายข้าศึก และช่องทางเคล่ือนที่ซึ่ง ข้าศึกน่าจะใช้

140 เหล่าทหารราบ 10. การปฏบิ ัตกิ ารเข้าตตี ามที่กล่าวแล้วข้างต้นน้นั เป็นการปฏบิ ัตทิ ี่ส่วนเข้าตี ถึงแนวปรับรูปขบวนโดยที่ข้าศึกไม่ทราบ ถ้าส่วนเข้าตีถูกข้าศึกทราบก่อนที่จะถึงแนวปรับ รปู ขบวน จะต้องปฏบิ ัติการตามหวั ข้อต่อไปน้ี 1) ผบ.ร้อย. จะต้องขอการยิงสนับสนุนตามแผนที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า ต่อทห่ี มาย เพอื่ ทำ� ลายการยงิ ของข้าศึก และจะต้องขอยิงส่องสว่างตามที่ได้เตรยี มแผนไว้ เพอื่ ใหก้ ารควบคมุ สะดวกขนึ้ และการเคลอื่ นทไี่ ดร้ วดเรว็ ขน้ึ ถา้ หมวดยงั อยใู่ นรปู ขบวนแถว ตอนของกองรอ้ ย ผบ.รอ้ ย. จะสงั่ ใหห้ มวดแยกจากกองรอ้ ยในขณะน้ี และใหห้ มวดเคลอื่ นท่ี ไปยงั แนวปรบั รูปขบวนโดยเรว็ 2) หมวดจะตอ้ งพยายามเคลอื่ นทไ่ี ปยงั แนวปรบั รปู ขบวน ในรปู ขบวนแถว ตอน, ปรบั รปู ขบวนทนั ทเี มอื่ ถงึ แนวปรบั รปู ขบวน แลว้ ดำ� เนนิ การตอ่ ไปเชน่ เดยี วกบั การเขา้ ตี เวลากลางวนั โดยใช้แนวปรบั รูปขบวนในลกั ษณะเช่นเดียวกบั แนวประสานงานข้ันสุดท้าย ถ้าไม่สามารถจะเคลื่อนที่ต่อไปในรูปขบวนแถวตอนได้ อันเน่ืองจากจะเกิดการสูญเสีย อย่างหนกั จะต้องปรบั ขบวนและใช้การยงิ ประกอบการเคลื่อนทไ่ี ปจนกว่าจะถึงต�ำบล ซ่งึ สามารถจะเรม่ิ ต้นเข้าตะลมุ บอนได้ (ควรจะเป็นแนวปรับรูปขบวน) แล้วเริม่ เข้าตะลมุ บอน ณ ตำ� บลนนั้ 3) เมอ่ื อาวธุ ยงิ สนบั สนนุ ถกู กำ� บงั ทศิ ทางยงิ ลง ผบ.รอ้ ย. จะเลอ่ื นการยงิ ไป เพ่อื ยงิ ตดั ท่หี มายให้อยู่โดดเดย่ี ว 4) เม่อื เร่มิ ต้นการเข้าตะลมุ บอนแล้ว การเข้าตคี งดำ� เนินการเช่นเดียวกบั ท่กี ล่าวมาแล้วข้างต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook