151คาถามท้ายบท 1. จงอธิบายความหมายของคาวา่ Synchronous Learning และ Asynchronous Learning 2. องคป์ ระกอบของการจดั การเรียนการสอนผา่ นอนิ เทอร์เนต็ มีอะไรบ้าง จงอธิบาย 3. จงยกตวั อยา่ งอปุ กรณ์ท่ีเหมาะสมกบั การจดั การเรียนการสอนแบบ m learning 1 ประเภทพร้อมให้เหตผุ ลประกอบ 4. บทบาทของผู้เรียนและผู้สอนของการจัดการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายมีลักษณะเป็ นอยา่ งไรบ้าง จงอธิบาย 5. จงอธิบายถึงลกั ษณะท่ีสาคญั ในการออกแบบการเรียนการสอนผา่ นระบบเครือขา่ ยเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
152เอกสารอ้างองิกิต ติพันธ์ อุดมเศรษ ฐ์. (2546). E - Learning มิ ติ ใหม่ ของการจัด http://reocities.com/Paris /lights/9642/comment.htmlใจทพิ ยณ์ สงขลา. (2542). “การสอนผา่ นเครอื ขา่ ยเวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ .”วารสารครศุ าสตร์ 27, 3 : 18 – 28พูลศรี เวศย์อุฬาร.(กันยายน 2556). Mobile Learning (mLearning) เอ็มเลิร์นน่ิง – การเรียนทาง เครือข่ายไร้สาย. http://thaimlearning.blogspot.com/วชิ ุดา รตั นเพยี ร. (2542).การเรยี นการสอนผ่านเวบ็ : ทางเลอื กใหม่ของเทคโนโลยกี ารศึกษาไทย. วารสารครศุ าสตร.์ 27, 3: 29 – 35.Chute, A. G. Sayers, P. K., Gardner, RP. (1997). “Networking Learning Environment”.In Teaching and Learning at a Distance: What It Takes to Effectively Design, Deliver, and Evaluate Programs.T. E. Cyrs, (Ed.) San Francisco : Jossey –Bass Publishers.Keegan, D. (2006). The future of learning: From eLearning to mLearning, Chapter 3. From eLearning to mLearning. Retrieved 1 3 Nov,2 0 13, fromhttp://learning.ericsson.net /mlearning2/project_one/thebook/chapter3.htmlWatson, H., & White, G. (2006). MLEARNING IN EDUCATION – A SUMMARY. Retrieved 20 Feb,2013,fromhttp://www.educationau.edu.au/jahia/webdav/site/myjahiasite /shared/site/mLearning.pdfเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
153 แผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 8เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพ่อื การเรียนรู้ตลอดชีวติหวั ข้อเนือ้ หา 1. แนวคดิ เก่ียวกบั การเรียนรู้ตลอดชีวิต 2. ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสาหรับการจดั การเรียนรู้ตลอดชีวิต 3. แหลง่ การเรียนรู้ในระบบสารสนเทศวัตถปุ ระสงค์ 1. สามารถอธิบายความหมาย ลกั ษณะและรูปแบบของการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2. สามารถอธิบายความสาคญั ของส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารสาหรับการ จดั การเรียนรู้ตลอดชีวิต 3. วเิ คราะห์และเลือกใช้แหลง่ การเรียนรู้ในระบบสารสนเทศได้อยา่ งเหมาะสมวิธีสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอน 1. วิธีสอน 1.1 สอนแบบบรรยาย และอภิปราย 1.2 สอนแบบ Collaborative learning 1.3 ฝึกปฏิบตั ิการสืบค้นข้อมลู ผา่ นแหลง่ การเรียนรู้ในระบบสารสนเทศ 2. กิจกรรมการเรียนการสอน 2.1 ผ้สู อนอธิบายความหมาย ลกั ษณะและรูปแบบของการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2.2 ผู้สอนแนะนาส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและสาธิตวิธีการสืบค้นข้อมูลผ่านแหล่งการเรียนรู้ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 2.3 ผู้สอนให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มเพ่ือฝึ กปฏิบตั ิการสืบค้นข้อมูลเชิงวิชาการผ่านแหล่งการเรียนรู้ในระบบสารสนเทศ 2.4 ผู้สอนและผู้เรียนวิเคราะห์และสรุปแนวทางการเลือกใช้แหล่งการเรียนรู้ในระบบสารสนเทศ 3. ส่ือการเรียนการสอน 3.1 เอกสารประกอบการสอน 3.2 เอกสารประกอบการบรรยาย โดยใช้โปรแกรม Power point 3.3 แหลง่ การเรียนรู้ในระบบสารสนเทศเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
154การวัดผลและการประเมิน 1. สงั เกตความสนใจของผ้เู รียนในการศกึ ษา 2. ความร่วมมือในการทางานภายในกลมุ่ 3. การนาเสนอผลการฝึกหาข้อมลู ผา่ นแหบว่ การเรียนรู้บนเครือขา่ ย 4. คาถามท้ายบทเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
155 บทท่ี 8 เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพ่อื การเรียนรู้ตลอดชีวติ 8.1 บทนา 8.2 แนวคดิ เก่ียวกบั การเรียนรู้ตลอดชีวิต 8.3 สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสาหรับการจดั การเรียนรู้ตลอดชีวิต 8.4 แหลง่ การเรียนรู้ในระบบสารสนเทศ 8.5 สรุป 8.6 คาถามท้ายบท 8.7 เอกสารอ้างองิ8.1 บทนา เทคโนโลยีการส่ือสารและโทรคมนาคมได้เกิดขึน้ มากมายในปลายยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนกระท่ังต้นยุคของสังคมสารสนเทศ เช่นโทรศพั ท์ โทรสาร วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทศั น์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็ นต้น ซ่ึงเทคโนโลยีเหล่านีไ้ ด้ขยายขีดความสามารถในหลายด้านของสังคม โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา ทาให้เกิดระบบการศึกษารูปแบบต่างๆ ขึน้ เช่นการศึกษาทางไกล (Distance Learning) การศึกษาระบบเปิ ด (Open Learning) มหาวิทยาลัยเปิ ด (OpenUniversity) การประยุกต์ใช้ระบบทางการศกึ ษาใหม่ๆ เหล่านี ้ทาให้เกิดแนวคิดที่เกี่ยวข้องกบั การจดัก า รศึ ก ษ า ต ล อ ด ชี วิ ต ต า ม ม า เช่ น แ น ว คิ ด ก า รเรี ย น รู้ ต ล อ ด ชี วิ ต (Lifelong Learning)สิกขชีวี (Life along Education) และการศึกษาระบบสังคมการเรียนรู้ (Learning Society System)จนเกิดแนวทางการศึกษาตลอดชีวิตในสังคมยุคข่าวสารท่ีสรุปได้ว่า การศึกษาตลอดชีวิต เป็ นการศึกษาด้วยระบบและวิธีการใดๆ ก็ได้ท่ีสามารถตอบสนองต่อระบบทางการศึกษาทุกรูปแบบได้สามารถเรียนได้ ทุกสถานท่ี ทุกช่วงเวลา ทุกช่วงอายุ ซ่ึงแนวทางการจัดการศึกษาในยุคสงั คมสารสนเทศดงั กล่าวจึงได้พฒั นามาเป็ นการศึกษาตงั้ แตเ่ กิดจนตาย สาหรับทุกคน (Educationfor all) ดงั นนั้ อาจกล่าวได้ว่าการศึกษาในทุกระบบ สามารถส่งผลให้ผ้เู รียนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตทงั้ สนิ ้ โดยมีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นปัจจยั พืน้ ฐานเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
1568.2 แนวคิดเก่ียวกับการเรียนรู้ตลอดชีวติ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 4 ได้ บัญญัติความหมายของการศึกษาตลอดชีวิตไว้ว่า หมายถึง การศึกษาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั เพ่ือให้สามารถพฒั นาคณุ ภาพชีวิตได้อยา่ งตอ่ เนื่องตลอดชีวิต ดังนัน้ การจัดกระบวนการทางการศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็ นการจัดการศึกษาในรูปแบบของการศึกษาในระบบโรงเรียน (Formal Education) การศึกษานอกระบบโรงเรียน (Non - Formal Education) และการศึกษาตามอัธยาศัย (Informal Education) โดยมุ่งให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจท่ีจะเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self - directed Learning) มุ่งพัฒนาบุคคลให้สามารถพฒั นาตนเอง และปรับตนเองให้ก้าวทนั ความเปล่ียนแปลงของสงั คมการเมืองและเศรษฐกิจของโลก จากความหมายและแนวการจดั กระบวนการทางการศกึ ษาดงั กลา่ วจะพบวา่ การสง่ เสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตนนั้ สามารถทาได้ในรูปแบบการศกึ ษาในระบบ รูปแบบการศกึ ษานอกระบบรูปแบบการศกึ ษาตามอธั ยาศยั โดยเฉพาะการจดั การศกึ ษาตามอธั ยาศยั นนั้ เป็ นการศกึ ษาที่บุคคลจะได้รับข้อมูลข่าวสารและการเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ จากสภาพแวดล้อม สังคมและกิจกรรมในการดารงชีวิตของตนเอง โดยบคุ คลอาจได้รับความรู้ ความสามารถ และความคดิ เห็นจากกิจกรรมในการดารงชีวิต โดยแบง่ เป็น 3 ด้าน ได้แก่ - การศกึ ษาโดยบงั เอิญ (Incidental Education) เป็ นการศึกษาที่บุคคลจะได้รับความรู้ความสามารถและความคดิ จากสภาพแวดล้อมรอบตวั โดยไม่ได้มีเจตนาในการแสวงหาโดยตรง เช่นการอา่ นหนงั สือพิมพ์ การสนทานากบั เพื่อนบ้าน การฟังรายการวิทยุ เป็นต้น - สิกขาบันเทิง (Edutainment) เป็ นการศึกษาท่ีบุคคลได้ รับความรู้จากกิจกรรมนันทนาการ งานรื่นเริง งานเทศกาล จารีตประเพณี งานอดิเรก เช่น การเล่นวีดิโอเกมท่ีเป็ นเกมแก้ปัญหาตา่ งๆ การชมภาพยนตร์ โขน ละคร ซ่ึงเป็ นกิจกรรมเพ่ือความเพลดิ เพลินแตไ่ ด้รับความรู้จากการทากิจกรรมนนั้ ด้วย -สิกขชีวี (Life Along Education หรือ Just in time Education) เป็ นการศึกษาท่ีบุคคลได้รับความรู้ความสามารถและความคดิ จากประสบการณ์ใน ชีวิตประจาวนั ของตนซ่ึงพฒั นามาจากองค์ประกอบของสงั คมการเรียนรู้ ที่ทกุ คน ทกุ หน่วยงาน ในสงั คมทาหน้าที่เป็ นทงั้ ผ้ผู ลิตและผ้บู ริโภคและเป็ นผู้ให้การศึกษาไปในตวั เช่น องค์หรือหน่วยงานที่มีชื่อเสียงทางด้านใดก็ตาม ถ้าสามารถให้ความรู้แก่บคุ คลทว่ั ไปในองค์ความรู้ท่ีตนมีช่ือเสียงก็จะเป็ นที่นิยมของลกู ค้า อีกตวั อยา่ งเช่นบริษัทขายคอมพิวเตอร์ในปัจจบุ นั นอกจากจะนาเสนอเทคโนโลยีของตนแล้วยงั ต้องแขง่ ขนั กนั ในส่วนของการให้ความรู้แก่ลกู ค้าด้วย ดงั นนั้ สิกขชีวิเป็นความรู้ท่ีได้จากการใช้ชีวิตประจาวนั ในช่วงเวลาหนง่ึเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
1578.3 ส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารสาหรับการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเป็ นสื่อท่ีเป็ นพืน้ ฐานสาคญั ของการจดั การศึกษาเพ่ือการเรียนรู้ตลอดชีวิตทกุ รูปแบบการศกึ ษา โดยมีสื่อท่ีสาคญั ในปัจจบุ นั ดงั นี ้ 8.3.1 วีดิทัศน์ตามประสงค์ (Video on Demand) เป็ นระบบท่ีกาลังได้ รับความนิยมนามาใช้ ในหลายประเทศโดยอาศยั เครือข่ายคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงทาให้ผู้ชมตามบ้านสามารถเลือกรายการวีดทิ ศั น์ท่ีตนเองต้องการชมได้โดยเลือกตามรายการ (Menu) และเลือกชมได้ตลอดเวลา การใช้งานวีดิทัศน์ตามประสงค์จะให้ความสะดวกต่อผู้ใช้มากกว่าระบบวิดีโอท่ัวๆ ไปซึ่ง ผู้ใช้แต่ละคนสามารถเลือกดูรายการที่ตนเองสนใจเวลาใดก็ได้ไม่ขึน้ กับผู้อื่น และไม่ต้องการรอตารางเวลา แตก่ ็ต้องใช้ความเร็วของเครือขา่ ยส่ือสารมาก เน่ืองจากต้องส่งสญั ญาณวิดีโอแยกสาหรับผ้ใู ช้แตล่ ะคน (1 stream ตอ่ 1 คน) ดงั นนั้ เครือขา่ ยสื่อสารจึงต้องมีความเร็วสูงมาก สามารถนาระบบวีดิทัศน์ตามประสงค์มาใช้เพื่อการศึกษาได้เป็ นอย่างดี เช่น นามาใช้เพ่ือการเรียนการสอนทางไกล(Distance Learning) โดยนักเรียนสามารถลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรใดหลักสูตรหน่ึง และเม่ือต้องการเรียนโดยเลือกบทเรียนจากวีดิทศั น์ที่เก็บอย่ใู นวิดีโอเซอร์ฟเวอร์ ทาให้นกั เรียนสามารถเรียนและทบทวนบทเรียนได้ทกุ เวลาตามความต้องการด้วยตนเอง ภาพประกอบท่ี 8.1ตวั อยา่ งหน้าจอของระบบวดี ิทศั น์ตามประสงค์ ท่มี า http://emonteal.blogspot.com/2010/09/video-on-demand_12.htmlเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
158 ประโยชน์ของวีดทิ ศั น์ตามประสงคเ์ มื่อนามาใช้ในการศกึ ษามีดงั ตอ่ ไปนี ้ - สื่อตา่ งๆที่เก่ียวข้องกบั การสอนสามารถนามาเข้ารหสั และจดั เก็บไว้ในเคร่ืองบริการสื่อและยงั สามารถเลือกใช้ส่ือตา่ งๆ เหลา่ นีไ้ ด้ในพร้อมกนั และเหมือนเป็นการถ่ายทอดจริงๆ -. ส่ือตา่ งสามารถดงึ มาใช้ได้โดยตรงจากเคร่ืองให้บริการท่ีเก็บสื่อ ทาให้ไมต่ ้องเสียเวลาในการจดั เตรียมส่ือ แตจ่ ะต้องมีการนาเอาอปุ กรณ์ที่เก่ียวข้องกบั ภาพและเสียงมาใช้ร่วมด้วย - วีดิทศั น์การประชุมตา่ งๆจากต่างสถาบนั การสาธิตตา่ งๆในห้องทดลอง การฝึ กอบรมและการสอนเนือ้ หา สามารถทาการบนั ทึกไว้ก่อนโดยผู้ดาเนินรายการและอาจารย์ ส่ือที่กล่าวมาสามารถเรียกดไู ด้ใหมไ่ ด้ทกุ เวลา 8.3.2 วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์(Video Conference) การประชุมทางจอภาพโดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทนั สมยั เป็นการประชมุ ร่วมกนั ระหว่างบคุ คลหรือคณะบคุ คลที่อยตู่ า่ งสถานท่ีและหา่ งไกลคนละซีกโลก ด้วยสื่อทางด้านมลั ติมีเดียท่ีให้ทงั้ ภาพเคล่ือนไหว ภาพน่ิง เสียง และข้อมลู ตวั อกั ษรในการประชุมเวลาเดียวกัน และเป็ นการสื่อสาร 2 ทาง จึงทาให้ ดูเหมือนว่าได้เข้าร่วมประชุมร่วมกันตามปกติ ด้านการศกึ ษาวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ ทาให้ผ้เู รียนและผ้สู อนสามารถตดิ ตอ่ ส่ือสารกนั ได้ผ่านทางจอภาพ โทรทศั น์และเสียง นักเรียนในห้องเรียนที่อยู่ห่างไกลสามารถเห็นภาพและเสียงของครูสามารถเหน็ อากบั กิริยาของ ผ้สู อน เห็นการเคล่ือนไหวและสีหน้าของครูในขณะเรียน คณุ ภาพของภาพและเสียงขนึ ้ อยกู่ บั ความเร็วของชอ่ งทางการสื่อสารท่ีใช้เช่ือมตอ่ ระหว่างสองฝ่ังที่มีการประชมุ กนั ได้แก่ จอโทรทศั น์ หรือจอคอมพิวเตอร์ ลาโพง ไมโครโฟน กล้อง อปุ กรณ์เข้ารหสัและถอดรหสั ผา่ นเครือขา่ ยการสื่อสารความเร็วสงู ภาพประกอบท่ี 8.2การใช้ระบบวีดโิ อคอนเฟอเรนซ์เพอื่ การศกึ ษา ท่มี า www.securedgenetworks.com/secure-edge-networks-blog/bid/76155/4-Ways-to-Use-Video- Conferencing-Technology-in-the-Classroomเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
159 แนวทางการใช้ระบบวีดโิ อคอนเฟอเรนซ์ในการจดั การศกึ ษา -การเรียนภาคสนามแบบเสมือน (Virtual Field Trips) การใช้วีดิโอคอนเฟอเรนซ์ในการลงพืน้ ท่ีจริง หรือการเรียนภาคสนามโดยเป็ นการถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงจากสถานท่ีท่ีเป็ นแหล่งความรู้โดยตรงของเนือ้ หาในเร่ืองนนั้ ๆ แล้วถ่ายทอดข้อมลู กลบั มาให้ผ้เู รียนในห้องเรียนได้ชม ซง่ึจะชว่ ยให้การจดั การเรียนการสอนมีชีวติ ชีวาขนึ ้ - การเข้าถึงผู้เช่ียวชาญ (Connect with Experts) ผู้สอนอาจใช้วีดิโอคอนเฟอเรนซ์ในการเชื่อมถึงผ้เู ชี่ยวชาญในเนือ้ หาด้านนนั้ ๆ เพื่อให้ผ้เู รียนมีโอกาสได้พดู คณุ และสอบถามข้อมลู ท่ีกาลงัศึกษาแก่ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งนอกจากจะได้รับความรู้แล้วยังเป็ นการสร้ างแรงบันดานใจให้กับผ้เู รียนด้วย - ผู้ เรี ย น ไ ด้ เรี ย น รู้ ไ ป ด้ ว ย กั น (Students working together) ก า ร ใ ช้ ร ะ บ บวีดิโอคอนเฟอเรนซ์จะช่วยให้ผู้เรียนก้าวข้ามผ่านการเรียนรู้แบบห้องเรียนเดียว ซึ่งผู้เรียนสามารถแลกเปล่ียนข้อคิดเห็นใหม่ๆ แลกเปลี่ยนแนวคิด และวัฒนธรรม ซ่ึงเป็ นการเรียนรู้ไปด้วยกันของนกั เรียนในระดบั เดียวกนั แตต่ า่ งท้องถิ่นได้ - เรียนได้หลายกล่มุ เรียน (More Courses are Available) ในการใช้วีดิโอคอนเฟอเรนซ์รูปแบบนีจ้ ะชว่ ยในการแบง่ เบาภาระงานสอนของอาจารย์ ได้เป็ นอย่างดี ชว่ ยในการบริหารจดั การของหน่วยงานการจดั การศกึ ษาท่ีมีปริมาณผ้สู อนไม่เพียงพอ จึงอาจต้องมีการแบ่งกล่มุ ผ้เู รียนเพ่ือเรียนให้เรียนผ่านระบบการสอนทางไกลได้ในเวลาเดียวกนั และยังสามารถบนั ทึกเก็บไว้ใช้ในระบบ วีดิทศั น์ตามประสงคไ์ ด้ 8.3.3 วิทยุเพื่อการศึกษา วิทยุกระจายเสียงเป็ นส่ือสารธารณะในยุคสงั คมฐานความรู้ที่มีความสาคญั ตอ่ การเผยแพร่ข้อมลู ขา่ วสารโดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในการจดั การศกึ ษาตามอธั ยาศยั โดยในปัจจบุ นั นีร้ ายการวิทยเุ ป็นสื่อประเภทเสียงที่สามารถถ่ายทอดไปถึงผ้ฟู ังได้ทงั้ ผา่ นอากาศตามคลื่นวทิ ยุและการถ่ายทอดผา่ นระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ ลกั ษณะเดน่ ของสื่อเทคโนโลยีและการส่ือสารเพื่อการศกึ ษาประเภทวิทยุ ได้แก่ เป็ นส่ือที่มีลกั ษณะเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็ว ให้ความรู้ได้ทกุ เวลา และเป็ นสื่อท่ีง่ายต่อการเข้าถึง สามารถรับฟังรายการพร้อมกบั ทากิจกรรมอย่างอื่นได้ จึงทาให้สื่อประเภทวิทยเุ พ่ือการศึกษายงั ได้รับความนิยมในปัจจบุ นั แนวทางการใช้สื่อวิทยเุ พ่ือการศกึ ษานนั้ สามารถทาได้ทงั้ การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั เชน่ - การใช้รายการวิทยุกระจายเสียงเสริมความรู้สาหรับการทางาน แนวคิดนีเ้ ป็ นการนาเสนอเนือ้ หาสาระความรู้ท่ีเป็ นประโยชน์ตอ่ การทางาน โดยรายการประเภทนีอ้ าจไม่จาเป็ นต้องอยู่ในรายการวิทยเุ พื่อการศกึ ษาก็ได้ แตอ่ าจแทรกอยชู่ ว่ งหนง่ึ ของรายการปกติเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
160 - การใช้รายการวทิ ยเุ ป็นส่ือหลกั และสื่อเสริมในการจดั การเรียนกาสอนทางไกล โดยการจดั การศึกษาในมหาวิทยาลัยเปิ ดในต่างประเทศจะมีการจัดทาส่ือวิทยุกระจายเสียงสาหรับแต่ละรายวิชาเพื่อให้ผ้เู รียนสามารถมีทางเลือกในการเข้าถึงเนือ้ หาวิชามากขนึ ้ หรือในบางครัง้ ก็อาจทาเป็ นสื่อเสริมเพื่อเพม่ิ ชอ่ งทางในการศกึ ษาของผ้เู รียนโดยเน้นการนาเสนอเนือ้ หาในลกั ษณะสรุปความรู้ ภาพประกอบท่ี 8.2 หน้า web page ของรายการวทิ ยเุ พ่ือการศกึ ษา ท่มี า www.moeradiothai.net/home.php?webid=1 8.3.3 สื่อสงั คมออนไลน์ (Social media) หมายถึง ส่ือสงั คมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสงั คมได้หลายทศิ ทาง โดยผา่ นระบบเครือขา่ ย ท่ีสามารถมีปฏิสมั พนั ธ์โต้ตอบกนั ได้ สื่อสงั คมออนไลน์พฒั นามาจากความต้องการตดิ ตอ่ สื่อสารหรือมีปฏิสมั พนั ธ์กนั จากเดมิ เรามีเวบ็ ในยคุ 1.0 ซงึ่ ก็คือเว็บท่ีแสดงเนือ้ หาอยา่ งเดียว บคุ คลแตล่ ะคนไมส่ ามารถตดิ ตอ่ หรือโต้ตอบกนั ได้จนกระทง่ั เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าส่ยู ุค 2.0 ก็มีการพฒั นาเว็บไซต์ที่เรียกว่าเว็บแอพลิเคชนั webapplication ซงึ่ ก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชนั (Application) หรือโปรแกรมตา่ งๆ ท่ีมีการโต้ตอบกบั ผ้ใู ช้งานมากขนึ ้ ผ้ใู ช้งานแตล่ ะคนสามารถโต้ตอบกนั ได้ผา่ นหน้าเว็บ วิถีชีวติ ของคนในสงั คมเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจบุ นั มีแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีประเภทส่ือสังคมออนไลน์มากขึน้ ซ่ึงเป็ นไปตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ดงั นัน้ จึงเกิดรูปแบบการจัดการศกึ ษาที่นาเอาส่ือสงั คมออนไลน์มาใช้ประโยชน์ทางการศกึ ษามากขนึ ้เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
161 ในการจัดการเรียนการสอนนัน้ ในประเทศไทยนัน้ ได้มีการส่งเสริมให้มีการนาสื่อสังคมออนไลน์มาใช้เป็นเคร่ืองมือในการจดั การเรียนการสอนด้วยเครื่องมือของส่ือสงั คมออนไลน์เพ่ือนาไปใช้ในการจดั การเรียนรู้ มีดงั นี ้ - WordPress.com เป็ นเว็บล็อก หรือบล็อก สร้างเป็ นบล็อกกลางสาหรับแลกเปล่ียนเรียนรู้และเป็นสื่อกลางในการแจ้งขา่ วสาร - Facebook.com ทาหน้าท่ีเป็ นกระดานขา่ ว คล้ายๆ กบั hi5 ครูและนกั เรียนสามารถส่ือสารและแลกเปลี่ยนข้อมลู ได้ที่นี่เชน่ กนั - Twitter.com ใช้ในการสื่อสารข้อความสันๆ ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ทาหน้าท่ีคล้าย SMSสามารถ โต้ตอบกนั ได้อยา่ งรวดเร็ว - Slideshare.net ใช้ในการแบ่งบนั สไลด์ ในกรณีทีคุณครูสร้างสไลด์เป็ นสื่อในการจัดการเรียนการสอนสามารถนาไปฝากไว้ แล้วให้นกั เรียนไปดาวน์โหลดมาชมหลงั จากเรียนเสร็จแล้วก็ได้ - Flickr.com ใช้ ในการแบง่ ปันไฟล์ภาพ - Scribd.com ใช้ในการแบง่ ปันไฟล์เอกสาร เชน่ ใบความรู้ ใบงาน แบบฝึก - youtube.com ใช้ ในการแบ่งปันไฟล์วีดีทัศน์ คุณครูสามารถเลือกใช้เคร่ืองมือเหล่านีไ้ ด้ตามความเหมาะสม ภาพประกอบท่ี 8.3 หน้า web page ของ Scribd.com เพื่อแบง่ ปันเอกสาร ท่มี า www.scribd.com/เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
162 8.3.4 Search Engineคือ เคร่ืองมือการค้นหาข้อมลู ผา่ นอินเทอร์เน็ต ท่ีทกุ คนสามารถเข้าไปค้นหาข้อมลู ผ่านอินเทอร์เน็ตก็ได้ โดยกรอกข้อมูลที่ต้องการค้นหา หรือ Keyword (คีย์เวิร์ด) เข้าไปท่ีช่อง Search Box แล้วกด Enter แค่นีข้ ้อมูลที่เราค้นหาก็จะถูกแสดงออกมาอย่างมากมายก่ายกองเพื่อให้เราเลือกข้อมลู ตรงกบั ความต้องการท่ีสุดเอามาใช้งาน โดยลกั ษณะการแสดงผลของ SearchEngine นนั้ จะทาการแสดงผลแบบ เรียงอนั ดบั Search Results ผา่ นหน้าจอคอมพวิ เตอร์ของเรา ตวั อยา่ งของ เซอิ ร์ชเอน็ จิน ท่ีได้รับความนยิ มในปัจจบุ นั เชน่ - www.google.com เป็ นเซิร์ชเอ็นจินท่ีนิยมใช้มากที่สุดบนอินเทอร์เน็ต เพราะสามารถค้นได้ทงั้ ภาษาองั กฤษและภาษาไทย ซง่ึ ผ้ทู ี่ผลิตกเู กิล้ นนั้ เป็ นนกั ศกึ ษาของมหาวิทยาลยั Stanford ที่มีชื่อว่า Sergey Bin และ Larry Page ในการค้นหาเราใส่คาป้ อนไปสามคา จะค้นทงั้ สามคาออกมาโดยไมจ่ าเป็นวา่ สามคานนั้ จะต้องตดิ กนั ปัจจบุ นั นีก้ เู กิล้ ได้พฒั นา Google Earth ซึ่งมีลกั ษณะเป็ น สามมิติ ที่สามารถดภู าพถ่ายในการแสดงพืน้ ที่ต่างๆบนโลก ตลอดจนมีการพฒั นา Google Map เพ่ือใช้แสดงแผนที่เส้นทางต่างๆบนโลกเพื่อใช้ในการสืบค้นเส้นทางและสถานท่ีท่ีต้องการ ภาพประกอบท่ี 8.4 หน้า web page ของ Google ท่มี า www.google.com - www.sanook.com เป็ นเซิร์ชเอ็นจินของไทยที่ได้รับความนิยมสามารถสืบค้นเป็ นภาษาไทยได้ลกั ษณะเดน่ ของเซิร์จเอ็นจินนี ้คือได้มีการจดั หมวดหม่ขู องข้อมูลท่ีต้องการสืบค้น โดยมีหมวดหมเู่ ป็นหวั ข้อใหญ่ หวั ข้อยอ่ ย ซงึ่ สามารถค้นหาโดยป้ อนข้อความท่ีต้องการจะค้นหาได้โดยงา่ ยเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
163 - www.yahoo.com เป็ นเซิร์ชเอ็นจิน้ แบบท่ีค้นหาแบบไดเร็คทอร่ี มีลกั ษณะการค้นหาแบบเมนู แบง่ เมนอู อกเป็นหวั ข้อหลกั และหวั ข้อยอ่ ย และสามารถค้นหาแบบตรรกะได้ในเซริ ์ชอปชน่ั - www.excite.comเป็ นเซิร์จเอ็นจินประเภทหน่ึง ที่คนนิยมใช้กันมาก เนื่องจากมีฐานประเภทหน่ึงที่คนนิยมใช้กันมาก เน่ืองจากมีฐานข้อมูลจานวนมาก โดยใช้เทคนิคการค้นท่ีเรียกว่าconcept base เซิร์ชเอ็นจินนีต้ อบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ มากกว่าการเปรียบเทียบคาท่ีเหมือนกนั แตเ่ พียงอยา่ งเดยี ว แตร่ ูปแบบการสืบค้นข้อมลู จะมีการแบง่ เป็นหวั ข้อตา่ งๆ ภาพประกอบท่ี 8.4 หน้า web page ของ excite ท่มี า www.excite.com เทคนคิ การค้นหาข้อมลู ผา่ นเซิร์จเอ็นจนิ ในระบบเครือขา่ ย พฒั นาการของเทคโนโลยีเว็บในปัจจุบนั ทาให้มีเว็บไซต์เพิ่มขึน้ เป็ นปริมาณมาก ความรู้ต่างๆ ถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็ นฐานข้ อมูลขนาดใหญ่ ในสงั คมสารสนเทศ การหาข้อมูลในโลกเครือข่ายดังกล่าวจึงต้องอาศยั โปรแกรมที่ช่วยในการหาข้อมูล เช่นเซิร์จเอ็นจินดงั ที่กล่าวข้างต้น ดงั นนั้ จึงต้องมีการศึกษาถึงวิธีการในการสืบค้นเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมลู ได้เร็วขนึ ้ และตรงประเดน็ โดยมีเทคนคิ ดงั นี ้ 1) อ่านคาแนะนาการค้นของแตล่ ะเครื่องมือ เน่ืองจากเครื่องมือค้นแตล่ ะแบบ หรือการแบง่ หมวดหมขู่ ้อมลู ท่ีตา่ งกนัเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
164 2) การค้นหาข้อมูลไม่ควรใช้ เซิร์จเอ็นจินหรือเว็บไซต์ในการค้นหาข้อมูลเพียงเว็บไซต์เดียว เพราะถึงแม้วา่ เราจะค้นหาด้วยคาเดียวกนั แตห่ ากค้นหาใน เซริ ์จเอ็นจินท่ีคา่ งกนั ก็อาจให้ผลในการสืบค้นข้อมลู ที่ตา่ งกนั ด้วย 3) เซิร์จเอน็ จินหรือแตล่ ะเว็บไซต์จะมีส่วนชว่ ยในการอธิบายวิธีใช้ในส่วนท่ีเรียกวา่ HelpหรือAbout เชน่ Yahoo มีวธิ ีกาหนดคาค้นเพ่ือให้ได้ผลค้นที่เฉพาะเจาะจงหรือตรงต่อความต้องการซง่ึ สามารถทาได้โดย - ใช้เครื่องหมายดอกจนั ทร์ (*) เพ่ือค้นหาคาท่ีมีการสกดคล้ายกนั เชน่ smok*หมายความวา่ ให้ค้นหาคาทงั้ หมดท่ีขนึ ้ ด้วย 5 ตวั อกั ษรแรก เชน่ smoke smoker เป็นต้น - ใช้เคร่ืองหมาย + สาหรับกาหนดให้แสดงผลการค้นเฉพาะเว็บไซต์ ท่ีปรากฏคาทงั้ สองคา เชน่ Secondary + education - ใช้เครื่องหมาย “ ” สาหรับการค้นหาคาที่เป็นวลี เชน่ “great barrier reaf” นอกจากนนั้ ยงั มีวธิ ีการสืบค้นเนือ้ หาเพื่อให้สามารถกาหนดการค้นหาที่แคบเข้ามา โดยใช้คาAND OR NOT ชว่ ยในการค้นหา หรือกาหนดคาค้น เพ่ือให้สามารถค้นหาได้อยา่ งเฉพาะเจาะจงมากยงิ่ ขนึ ้ ดงั ตวั อยา่ งเชน่ - การใช้AND ซ่ึงการกาหนดใช้ AND จะใช้เมื่อต้องการกาหนดให้ค้นรายการที่ปรากฏคาท่ีมีความเกี่ยวข้องกนั ในรายการเดียวกัน เช่น water and soilการกาหนดแบบนีห้ มายความว่าผลการค้นต้องการ คือ เฉพาะรายการที่มีคาวา่ water และ soil เทา่ นนั้ หากรายการใดท่ีมีแตค่ าวา่ waterหรือ soil ไมต่ ้องการ - การใช้ OR เป็ นการขยายคาค้น โดยกาหนดคาหลายท่ีเห็นว่ามีความหมายคล้ายกันหรือสามารถสะกดได้หลายแบบ - การใช้ NOT จะใช้ในเมื่อต้องการจากดั การค้นเข้ามา คือไมต่ ้องการรายการท่ีมีเนือ้ หาส่วนที่ไม่ต้องการปรากฏอยู่ โดยกาหนดให้ตัดคาที่ไม่ต้องการออกเช่น water not soilหมายถึงให้ค้นหารายการท่ีมีคาว่า water แตห่ ากรายการใดมีคาว่า soil อย่ดู ้วย ไม่ต้องการ และผลสืบค้นที่ได้ทุกรายการท่ีมีคาวา่ water และหากมีคาวา่ Soil ให้คดั ออกทกุ รายการ8.4 แหล่งการเรียนรู้ในระบบสารสนเทศ ผลของรูปแบบสงั คมในลกั ษณะสังคมสารสนเทศทาให้เกิดคลังความรู้จานวนมหาศาลในระบบเครือขา่ ยซ่ึงกลายเป็ นฐานข้อมลู ฝนการเรียนรู้ขนาดใหญ่ ซ่ึงผ้ทู ่ีทาหน้าท่ีครูจะต้องแนะนาให้กบัผ้เู รียน เพื่อที่จะเข้าถงึ แหลง่ การเรียนรู้ได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสมตอ่ การนาไปใช้ ตวั อยา่ งของแหลง่ ข้อมลู ที่สามารถอ้างอิงและนามาใช้ในการศกึ ษามีดงั จอ่ ไปนี ้เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
165 - ฐานข้อมูลโปรเควสท์ (Pro Quest) เป็ นฐานข้อมูลท่ีรวบรวมข้อมูลทางด้านธุรกิจ การโฆษณา การตลาด เศรษฐศาสตร์ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การเงิน ภาษี คอมพิวเตอร์ มากกว่า1,100 รายช่ือ รวมถึงสารสนเทศของบริษัทต่าง ๆ อีกมากกว่า 60,000 บริษัท และสามารถสืบค้นบทความฉบบั เตม็ ได้จากวารสารทว่ั โลกกวา่ 800 รายชื่อ ภาพประกอบท่ี 8.5หน้า web page ของฐานข้อมลู โปรเควสท์ ท่มี า http://search.proquest.com/autologin - ฐานข้อมูล IEEE Xplore เป็ นฐานข้อมูลที่รวบรวมสารสนเทศจาก 2 แหล่งข้อมูล คือ TheInstitute of Electrical and Electronics Engineers ( IEEE) แ ล ะ The Institution of Engineeringand Technology (IET) ซง่ึ ใน IEL ประกอบด้วยเอกสารมากกว่า1.2 ล้านจากพมิ พ์มากกวา่ 12,000 ชื่อ ภาพประกอบท่ี 8.6 หน้า web page ของฐานข้อมลู IEEE Xplore ท่มี า http://ieeexplore.ieee.org/Xplore/home.jspเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
166 ฐานข้อมลู งานวิจยั ด้านการศึกษาของ EBSCOเป็ นฐานข้อมูลเฉพาะทางด้านการศกึ ษาที่มีเนือ้ หาครอบคลมุ การศกึ ษาทงั้ ในและตา่ งประเทศ โดยให้ข้อมลู วารสารทงั้ หมดมากกวา่ 1,870 ช่ือเรื่องเป็ นวารสารฉบบั เต็มมากกว่า 1,060 ช่ือเร่ือง ซ่ึงรวบรวมวารสารหลกั ( Core journals ) ตงั้ แต่ระดบัอนบุ าลไปจนถึงระดบั การศึกษาขนั้ สงู และรวมถึงหนงั สือ ( Books and monographs ) และงานวิจยัเฉพาะทางตา่ ง ๆ อีกมากมาย ภาพประกอบท่ี 8.6 หน้า web page ของฐานข้อมลู EBSCO ท่มี า http://ehis.ebscohost.com/ehost/search/selectdb?sid=9e41337e-ff23-4716-b862- 103a7d86fedf%40sessionmgr14&vid=1&hid=7 - ฐานข้อมลู Emerald เป็ นฐานข้อมลู ครอบคลมุ สาขาวิชาทางด้านการจดั การ ได้แก่ การเงินและการบัญชีระบบอัตโนมัติขัน้ สูง กฎหมายและจริยธรรมทางธุรกิจ คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์เศรษฐศาสตร์การศึกษา การผลิตและการบรรจุภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทและนวตั กรรมการดแู ลสขุ ภาพ การจดั การทรัพยากรมนษุ ย์ อตุ สาหกรรมการจดั การภาครัฐบาล การจดั การข้อมลู ขา่ วสารและความรู้ ธุรกิจระหว่างประเทศ การเรียนรู้และการพัฒนาการ บรรณารักษ์ศาสตร์และสารสนเทศวิทยาศาสตร์การจดั การและการจดั คณุ ภาพ การตลาด วสั ดศุ าสตร์และวิศวกรรม การปฏิบตั ิการและการจัดการการขนส่งสินค้า การจัดองค์กร การจัดการและประเมินผล การเมืองและนโยบายอสงั หาริมทรัพย์ สงั คมวทิ ยาและมานษุ ยวิทยาเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
167 - ฐานข้อมลู TDC (Thai Digital Collection) เป็ นฐานข้อมูลท่ีส่วนหนึ่งของโครงการ ThaiLIS(Thai Library Integrated System )มีเป้ าหมายเพ่ือให้บริการสืบค้นฐานข้อมลู เอกสารฉบบั เต็มซง่ึ เป็ นเอกสารฉบบั เต็มของ วิทยานิพนธ์รายงานการวิจยั ของอาจารย์รวบรวมจากมหาวิทยาลยั ต่าง ๆ ท่วัประเทศ นกั ศึกษา อาจารย์ และบุคลากรในการเข้าใช้บริการนนั้ จะต้องเข้าใช้งานจากคอมพิวเตอร์ภายในห้องสมดุ สมาชิกซึง่ ได้จากทางเลือกมหาวิทยาลยั /สถาบนั ท่ีมีจดุ ม่งุ หมายในการให้ความรู้และต้องการเผยแพร่ผลงานต่าง ๆให้สงั คมเพ่ือให้สงั คมได้นาความรู้เหล่านีไ้ ปปรับใช้เพ่ือเป็ นการตอ่ ยอดความรู้เดมิ และพฒั นาประเทศตอ่ ไป ภาพประกอบท่ี 8.7 หน้า web page ของฐานข้อมลู TDC (Thai Digital Collection) ท่มี า http://tdc.thailis.or.th/tdc/basic.php8.5 สรุป การศึกษาตลอดชีวิตเป็ นการศึกษาท่ีเกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั เพื่อให้สามารถพฒั นาคณุ ภาพชีวิตได้อยา่ งตอ่ เน่ืองตลอดชีวิต อาจเกิดขึน้ ได้ สามรูปแบบได้แก่ การศึกษาโดยบังเอิญ (Incidental Education) สิกขาบนั เทงิ (Edutainment) และสกิ ขชีวี(Life Along Education หรือ Just in time Education) ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารท่ีนามาใช้ในการจดั การศกึ ษาตลอดชีวิตได้แก่ วีดิทศั น์ตามประสงค์ (Video on Demand), วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference)รายการวิทยุเพื่อการศึกษา, ส่ือสงั คมออนไลน์ และการใช้เซิร์จเอ็นจิน เป็ นต้น ซง่ึ ครูสามารถนาเทคโนโลยีเหล่านี ้มาใช้ในการเรียนการสอน และแนะนาให้ผู้เรียนใช้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิต นอกจากนนั้ แล้ว แหล่งข้อมูลต่างๆ ท่ีมีอย่ใู นระบบเครือข่ายเป็ นสิ่งจาเป็ นสาหรับครูที่จะเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
168แนะนาให้ผ้เู รียนได้ศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเติมในแหล่งสารสนเทศท่ีน่าเช่ือถือ เช่น ฐานข้อมูลโปรเควสท์(ProQuest), ฐานข้อมลู IEEE Xplore, ฐานข้อมลู งานวิจยั ด้านการศึกษาของ EBSCO, ฐานข้อมลู Emeraldและฐานข้อมูล TDC (Thai Digital Collection) เป็ นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฐานข้อมูล TDC ซึ่งเป็ นฐานข้อมลู ใหญ่ท่ีสาคญั สาหรับนกั เรียนและนกั ศกึ ษาในประเทศไทย การจัดการศึกษาสาหรับคนในศตวรรษท่ี 21 หรือในยุคของสังคมสารสนเทศแนวทางท่ีสาคญั อยา่ งหนงึ่ คือการส่งเสริมให้ผ้เู รียนสามารถมีทกั ษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็ นผ้ทู ี่สามารถเรียนรู้วิธีการเรียนรู้ได้ (learning how to learning) แหล่งการเรียนรู้และการใช้ เครื่องมือในการเข้ าถึงสารสนเทศดงั กลา่ วจงึ เป็นส่ิงที่จาเป็นสาหรับนกั เรียนและครูในอนาคตเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
169คาถามท้ายบท 1. รูปแบบการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สามารถแบง่ เป็นก่ีรูปแบบ จงอธิบายพอสงั เขป 2. นักศึกษามีแนวทางการใช้ วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference)ในการจัดการเรียนการสอนอยา่ งไรบ้าง จงอธิบาย 3. จงอธิบายประโยชน์ของการใช้วีดิทัศน์ตามประสงค์ (Video on Demand) ในการจัดการศกึ ษา มาพอสงั เขป 4. หากนกั ศกึ ษาต้องนาส่ือสังคมออนไลน์มาช่วยในการจดั การเรียนการสอน นกั ศึกษาจะเลือกใช้ส่ือสงั คมออนไลน์ชนดิ ใด และใช้อยา่ งไรจงอธิบาย 5. จงสืบค้นข้อมูลงานวิจยั เกี่ยวกบั การผลิตส่ือ หรือการใช้ส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการศกึ ษาของประเทศไทย มา 1 เร่ือง (เฉพาะบทคดั ยอ่ ) โดยระบแุ หลง่ ข้อมลู ที่ใช้ในการสืบค้นเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
170เอกสารอ้างองิกุลวธิดา เพชรการณ์.(กันยายน 2556). เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา. http://www.etc48. site90.com/ict/lesson3/3-6.htmlชัย ย งค์ พ รห ม วงศ์ .(2553).ป ระม วล ส าระ ชุด วิ ช าสื่ อ อิ เล็ ก ท รอ นิ ก ส์ แ ล ะ โท รค ม น าค ม เพื่อการศึกษาหน่วยที่ 1-8.นนทบุรี: บัณฑิตศึกษา สาขาวิชาศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัย สโุ ขทยั ธรรมาธิราช.โซ เชี ย ล มี เดี ย . (ก รก ฏ า ค ม 2556) ก า ร น า Social media ม า ใช้ ใน ก า ร จั ด ก า ร เรี ย น รู้ . http://kasmos52.wordpress.com/2013/05/25/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0 %B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B3-social-media-%E0%B8%A1%E0%B8%B2 %E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0% B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94% E0%B8%81%E0%B8%B2/นายมีเดีย.(กันยายน 2556). การจัดการศึกษาตลอดชีวิต.http://mediathailand.blogspot.com /2012/05/blog-post_5750.htmlวิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี- สฤษดวิ์ งศ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.(กันยายน 2556). ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อ การสืบคน้ .สืบค้นhttp://lib.arit.rmutp.ac.th/%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99% E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5% E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81% E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81% E0%B8%AA-3/Ashley Wainwright. ( 2012). 4 Ways to Use Video Conferencing Technology in the Classroom. Retrieved 20 Oct, 2013, fromhttp://www.securedgenetworks.com/ secure-edge-networks-blog/bid/7 6 1 5 5 / 4 -Ways-to-Use-Video-Conferencing- Technology-in-the-Classroomเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
171 ภาคผนวกเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
172แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 1 1. ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของคาว่าข้ อมูล, สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศมาพอเข้าใจ ตอบ ข้อมลู คือ ข้อเทจ็ จริงเกี่ยวกบั เหตกุ ารณ์ ที่ยงั ไมผ่ า่ นการประมวลผล สารสนเทศ คือ ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ท่ีได้รับการสรุป คานวณ จัดเรียง หรือประมวลแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การนาเอาเทคโนโลยีมาใช้ช่วยในการจัดเก็บ วิเคราะห์ประมวลผล ข้อมลู เพื่อให้ได้สารสนเทศท่ีถกู ต้อง และสะดวกในการนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 2. ให้นักศึกษาอธิบายถึงลักษณะของสังคมสารสนเทศ (Information Society) และความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมีต่อการดารงชีวิตในสังคมสารสนเทศอย่างน้อย 3ด้าน ตอบ สงั คมสารสนเทศ เป็ นสงั คมท่ีมีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็ นปัจจยั หลกัในการพฒั นาประเทศชาติ และมีเทคโนโลยีสารสนเทศเป็ นสว่ นหน่งึ ของการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั โดยครอบคลมุ วถิ ีชีวิตในด้านตา่ งๆ เชน่ (1) ด้านการศกึ ษา สงั คมสารสนเทศจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็ นเครื่องมือหลกั ในการบริหารจดั การและให้บริการทางการศกึ ษาทงั้ ในระบบ นอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั (2) ด้านการบริหาร สงั คมสารสนเทศจะนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารมาใช้ในการบริหารจดั การ เพื่อเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมลู เพ่ือการตดั สินใจ (3) ด้านสงั คม ผลจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทาให้เกิดผลกับสงั คมที่สาคญั ประการหนึ่งในด้านการแบง่ แยกชนชนั้ ในเร่ืองการเข้าถึงเทคโนโลยี ที่เรียกว่า ความเหล่ือมลา้ทางดจิ ิทลั (Digital Divide) 3. นักศึกษาคิดว่าปั จจัยใดบ้างท่ีส่งผลให้เกิดความล้มเหลวในการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในหน่วยงาน จงอธิบาย ตอบ (1) การขาดการวางแผนท่ีดี (2) การนาเทคโนโลยีมาใช้ไมเ่ หมาะสมกบั งาน (3) ขาดการสนบั สนนุ จากผ้บู ริหารเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
173 4. ให้นักศึกษาอธิบายว่าทักษะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของคนในศตวรรษท่ี 21 ประกอบด้วยอะไรบ้าง ตอบ (1) ความรู้ด้านสารสนเทศ (2) ความรู้เกี่ยวกบั สื่อ (3) ความรู้ด้านเทคโนโลยี 5. ให้นักศึกษาอธิบายว่าพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติได้ให้ความสาคัญกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารไว้อย่างไรบ้าง ตอบ พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติได้ให้ความสาคญั กับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไว้โดยระบุในหมวดท่ี 9 เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา ประกอบด้วย 7 มาตรา ได้แก่ มาตราที่63-69 ซึ่งมุ่งเน้นให้เกิดการนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดการศกึ ษาทงั้ การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 6. ให้ นักศึกษาอธิบายว่ าผู้ท่ีจะประกอบวิชาชีพครูต้ องมีมาตรฐานความรู้และสมรรถนะท่เี ก่ียวข้องกับเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในเร่ืองใดบ้าง ตอบ ผู้ประกอบวิชาชีพครูต้องมีมารตราฐานความรู้และสมรรถนะที่เกี่ยวข้ องกับเทคโนโลยีสารสนเทศดงั ตอ่ ไปนี ้ (1) ภาษาและเทคโนโลยีสาหรับครู โดยมุ่งให้เกิดสมรรถนะด้านเทคโนโลยีได้แก่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ขนั้ พืน้ ฐาน (2) นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ม่งุ ให้เกิดสมรรถนะในด้านความสามารถเลือกใช้ ออกแบบ สร้าง และปรับปรุงนวตั กรรมเพ่ือให้ผ้เู รียน เกิดการเรียนรู้ท่ีด,ี สามารถพัฒ นาเทคโนโลยี และสารสนเทศเพ่ื อให้ ผ้ ูเรี ยนเกิดการเรี ยนร้ ูท่ี ดีสามารถแสวงหาแหล่งเรี ยนร้ ู ท่ีหลากหลายเพ่ือสง่ เสริมการเรียนรู้ ของผ้เู รียนเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
174แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 2 1. จงอธิบายองค์ประกอบของอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ตามวงจร IPOS อย่างละเอียด ตอบ I หมายถึง อุปกรณ์รับข้อมูล (Input Device) ซึ่งเป็ นหน่วยรับข้อมูลเป็ นส่วนท่ีทาหน้าท่ีนาข้อมลู จากภายนอกเข้าส่เู ครื่องคอมพิวเตอร์ ตวั อย่างของอปุ กรณ์นาเข้าข้อมลู เช่น แป้ นพิมพ์(Keyboard), เมาส์ (Mouse), สแกนเนอร์ (Scanner) เป็ นต้น P หมายถงึ อปุ กรณ์ในสว่ นประมวลผลข้อมลู (Processing Device) ประกอบด้วย - หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ซ่ึงเป็ นหน่วยท่ีสาคัญของคอมพิวเตอร์เปรียบได้กบั สมองในการสง่ั งานแบง่ เป็นสองสว่ นหลกั ๆ คอื สว่ นควบคมุ และสว่ นคานวณ - ห น่วยค วาม จาห ลัก (Main Memory) เป็ น ห น่วยความ จาพื น้ ฐานในคอมพิวเตอร์ทกุ เคร่ือง แบง่ เป็ น 2 ประเภทหลกั ได้แก่ หน่วยความจาแบบถาวร (Read Only Memory- ROM) สามารถเก็บรักษาข้ อมูลไว้ได้โดยไม่ต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้ าในการรักษาข้ อมูล และหน่วยความจาชั่วคราว (Random Access Memory - RAM) เป็ นหน่วยความจาท่ีสามารถบันทึกข้อมูลหรืออ่านข้อมูล ณ เวลาใดๆ ได้ตามต้องการ ต้องอาศยั สญั ญาณไฟฟ้ าในการเก็บรักษาข้อมูลและอ่านข้อมูล แรมเป็ นหน่วยความจาที่เป็ นตัวบ่งชีป้ ระสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีสาคญัหนว่ ยความจาแรม มีหนว่ ยวดั เป็นไบต์ O หมายถึง อปุ กรณ์แสดงผล (Output Device) เป็ นหนว่ ยแสดงผลเป็ นสว่ นที่แสดงข้อมูลของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภท คือ อุปกรณ์แสดงผลท่ีมนุษย์จับต้องไม่ได้(Softcopy Output Device) เช่น ข้อมลู ตวั อกั ษรหรือภาพบนจอภาพ หรือข้อมูลเสียงจากลาโพง และอปุ กรณ์แสดงผลที่มนษุ ย์จบั ต้องได้ (Hardcopy Output Device) เชน่ เครื่องพิมพ์ (Printer) เป็นต้น S หมายถึง อุปกรณ์เก็บข้อมูลสารอง (Storage) ใช้สาหรับจัดเก็บข้อมูลเพื่อการประมวลผลโดยสามารถจัดเก็บไว้ได้ แม้ ไม่มีกระแสไฟฟ้ ามาหล่อเลีย้ งก็ตาม เช่น ฮาร์ดดิสก์(Hard Disk) ซีดีรอม (CD-ROM : Compact Disk Read Only Memory) ดีวีดี (Digital Video Disk)เป็ นต้น 2. ซอฟท์แวร์คอมพวิ เตอร์แบ่งเป็ นก่ีประเภท จงอธิบาย ตอบ แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ(System Software) และซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ (Application Software) - ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบตั ิการ (OS: Operating System) หมายถึง โปรแกรมที่มีหน้าที่ควบคมุ การทางานของฮาร์ดแวร์ทกุ อย่างและอานวยความสะดวกให้กบั ผ้ใู ช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เช่นเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
175ระบบปฏิบัติการ WINDOWS ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk operating System) ระบบปฏิบัติการLinux - ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) คือ โปรแกรมท่ีผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็ นผู้เขียนมาใช้งานเอง เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทางานอย่างใดอย่างหน่ึงตามที่ต้องการแบ่งเป็ น UserProgram คือ โปรแกรมที่ผู้ใช้เขียนมาใช้เอง และ Package Program คือโปรแกรมสาเร็จรูปซ่ึงเป็ นโปรแกรมท่ีถูกสร้ างหรือเขียนขึน้ มาโดยบริษัทต่างๆ เช่น โปรแกรมทางด้าน Word Processorโปรแกรมทางด้านการคานวณ (Spreadsheet) โปรแกรมทางด้าน Graphic โปรแกรมทางด้านการนาเสนองาน (Presentation) เป็นต้น 3. บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์มีก่ีระดับ แบ่งเป็ นอะไรบ้างจงอธิบาย ตอบ - ผ้อู อกแบบฐานข้อมลู คือผ้ทู ่ีทาหน้าท่ีในการวิเคราะห์ และออกแบบโครงสร้างของฐานข้อมลู ให้เหมาะกบั การบริหาร - ผ้บู ริหารฐานข้อมลู ทาหน้าท่ีกาหนดนโยบายของฐานข้อมลู การดแู ลฐานข้อมูลกาหนดผู้มีสิทธ์ิในการเข้าถึงฐานข้อมูลในระดับต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและความถูกต้องตามวตั ถปุ ระสงค์ของการใช้ ฐานข้อมลู - ผ้บู ริหารระบบ คือบุคคลที่ทาหน้าที่ดแู ลระบบเพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทางานได้อยา่ งตอ่ เน่ืองและมีประสิทธิภาพ - นกั วิชาการด้านเนือ้ หาและผ้เู ขียนโปรแกรมนกั วิชาการด้านเนือ้ หาหรือผ้สู อนทาหน้าท่ีในการ ออกแบบเนือ้ หาและวธิ ีการสอน - ผ้เู รียนหรือผ้ใู ช้คอมพิวเตอร์ คอื ผ้ทู ี่เข้ามาใช้ฐานข้อมลู หรือเข้าถึงบทเรียนตามที่ผ้สู อนได้เตรียมไว้ 4.หากท่านได้รับมอบหมายให้ซือ้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ประเภท สมาร์ทโฟน ท่านจะมีเกณฑ์ในการพจิ ารณาอย่างไรบ้าง เพราะเหตใุ ด ตอบ - ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ในเคร่ืองเช่น ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลาง(CPU) และ หนว่ ยความจาชวั่ คราว (RAM) - โปรแกรมระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟน เพราะจะส่งผลต่อการใช้โปรแกรมประยกุ ต์ ท่ีจะสามารถใช้งานร่วมกนั ได้ - ราคาและความเหมาะสมกับการใช้งาน ก่อนซือ้ อุปกรณ์สมาร์ทโฟนควรศึกษาคณุ ลกั ษณะเฉพาะและความสามารถในการทางานท่ีสอดคล้องกบั ความต้องการเพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนที่ค้มุ ราคาและตรงกบั ความต้องการมากท่ีสดุเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
176 - ขนาดของเคร่ือง เนื่องจากสมาร์ทโฟน เป็ นคอมพิวเตอร์ประเภทพกพาดงั นัน้ การเลือกขนาดท่ีเหมาะสมกับการพกพาและความสะดวกในการใช้ชีวิตประจาวนั จงึ ควรเป็ นสิ่งหน่ึงที่ควรพิจารณาด้วย 5. นักศึกษาคดิ ว่าแนวโน้มการใช้คอมพวิ เตอร์เพ่ือการศึกษาในอนาคตจะเป็ นอย่างไรบ้าง จงอธิบาย ตอบ แนวโน้ มการใช้ คอมพิวเตอร์ในอนาคตเพ่ือการศึกษานัน้ ในส่วนของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จะมีขนาดเล็กลงสามารถพกพาได้ง่ายขึน้ กว่าในปัจจบุ นั อาจมีการพฒั นาหน้าจอหรืออปุ กรณ์ในสว่ นของ Out Put Device จะมีขนาดบางลงและมีความสะดวกในการนาเสนอง่ายขนึ ้ ทางด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะมีการพัฒนาโปรแกรมเพื่อสนับสนนุ ในการจดัการศกึ ษามากขนึ ้ จนอาจกลายเป็ นแหลง่ การเรียนรู้ขนาดใหญ่ในการใช้หาความรู้ของผ้เู รียน ลกั ษณะของสื่อการเรียนจะมีความเป็ นมลั ติมีเดียมากขนึ ้ และมีปฏิสมั พนั ธ์กับผ้เู รียน โดยอาจมีลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์สมองกล (AI) บคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์จะมีความสามารถในการใช้อปุ กรณ์ได้ดีขนึ ้ เนื่องจากคอมพวิ เตอร์ในอนาคตจะถกู ออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย อีกทงั้ ระบบคอมพวิ เตอร์ในอนาคตจะกลายเป็ นสว่ นหนง่ึ ของวิถีชีวิตของคนในอนาคตเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
177 แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 3 1. ให้นักศึกษาอธิบายรายละเอียดเก่ียวกับประเภทของเทคโนโลยีโทรคมนาคมเพ่ือการศกึ ษา ตอบ การจาแนกประเภทของโทรคมนาคมเพื่อการการศกึ ษา สรุปเป็น 2 ลกั ษณะได้แก่ 1) จาแนกตามลกั ษณะการใช้งาน แบง่ เป็น 3 ลกั ษณะ ได้แก่ - โทรคมนาคมเพ่ือการศึกษาประเภทใช้แบบเอกเทศ (Stand Alone) สามารถนามาใช้ได้ตามลาพงั เชน่ แผน่ บนั ทกึ เสียง แผน่ ซีดี แผน่ ดวี ีดี - โทรคมนาคมเพื่อการศกึ ษาผ่านระบบเครือข่าย เป็ นการส่งข้อมลู ทางการศกึ ษาผา่ นระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต - โทรคมนาคมเพื่อการศกึ ษาผา่ นระบบกระจายสญั ญาณ เชน่ วิทยกุ ระจายเสียงวทิ ยโุ ทรทศั น์ และดาวทียม 2) จาแนกตามลกั ษณะของสญั ญาณและชอ่ งทางในการสง่ สญั ญาณ แบง่ ได้เป็น - โทรคมนาคมเพื่อการศึกษาตามสญั ญาณเสียง ทัง้ แบบมีสายและแบบไร้สายเชน่ โทรศพั ท์ ระบบวทิ ยกุ ระจายเสียง ตลอดจนวสั ดบุ นั ทกึ เสียง เชน่ ซีดี และเทปเสียง - โทรคมนาคมเพื่อการศึกษาตามสญั ญาณภาพ เป็ นการแพร่สญั ญาณภาพผ่านวสั ดบุ นั ทกึ การแพร่สญั ญาณภาพผา่ นสาย และการแพร่สญั ญาณภาพแบบไร้สาย - โทรคมนาคมเพ่ือการศกึ ษาตามสญั ญาณภาพและเสียง ประกอบด้วย การแพร่สญั ญาณภาพและเสียงผ่านวสั ดบุ นั ทกึ , การแพร่สญั ญาณภาพและเสียงผ่านสายสญั ญาณ, การแพร่สญั ญาณภาพและเสียงแบบไร้สาย 2. จงอธิบายลักษณะของสัญญาณดิจิทัลและหน่วยวัดในการส่งสัญญาณดจิ ิทัลมาพอสังเขป ตอบ สัญญาณแบบดิจิทัล(Digital Signal )เป็ นสัญญาณที่ไม่ต่อเนื่อง ลักษณะของสญั ญาณจะแบง่ ออกเป็ นสองระดบั เพื่อแทนสถานะสองสถานะ คือ สถานะของบติ 0 และสถานะของบติ 1 หนว่ ยในการวดั การส่งสญั ญาณดจิ ิทลั เรียกวา่ “บทิ เรท” (Bit Rate) วิธีวดั ความเร็วจะนบั จานวนบติ ข้อมลู ท่ีสง่ ได้ในชว่ งระยะเวลาใน 1 วินาที หรือใช้หนว่ ยยอ่ วา่ bps (bit per second) 3. ให้นักศึกษาอธิบายลักษณะของสายนาสัญญาณ ข้อมูลมา 3 ประเภท ตอบ 1) สายเกลียวคู่ (Twisted pair Cable) สายลวดทองแดง 2 เส้น แตล่ ะเส้นมีฉนวนห้มุพนั กนั เป็ นเกลียว สามารถลดการรบกวนจากสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้ า แบง่ เป็ น 2 ประเภทได้แก่ สายคบู่ ิดเกลียวชนิดหุ้มฉนวน (Shielded Twisted Pair: STP) และ สายคู่บิดเกลียวชนิดไม่หุ้มฉนวน(Unshielded Twisted Pair : UTP)เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
178 2) สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) มีคณุ ภาพดกี วา่ และราคาแพงกว่าสายเกลียวคู่โครงสร้างของสายประกอบด้วยสายทองแดงเป็ นแกนกลางแล้วหอ่ หุ้มด้วยวสั ดทุ ี่เป็ นฉนวน สายโคแอกมีความคงทนสามารถฝังเดนิ สายใต้พืน้ ดนิ ได้ 3) เส้นใยแก้วนาแสงหรือ ไฟเบอร์ออพตกิ ส์ (Fiber Optic Cable) เป็ นตวั นาสญั ญาณเพ่ือการส่ือสารและโทรคมนาคมจากจดุ หน่ึงไปยงั อีกจดุ หนึ่ง โดยมีการสูญเสียสญั ญาณน้อยมาก ซึ่งการส่งสญั ญาณจะทาการเปลี่ยนสญั ญาณ (ข้อมูล) ไฟฟ้ าให้เป็ นคล่ืนแสงก่อน จากนนั้ จึงส่งออกไปเป็นพลั ส์ของแสงผา่ นสายใยแก้วนาแสง เป็นสายนาสญั ญาณท่ีคณุ ภาพดแี ละราคาสงู 4. อุปกรณ์ท่ีสาคัญในการส่ือสารของคอมพิวเตอร์แบบไร้สายมีอะไรบ้าง จงอธิบายอย่างละเอียด ตอบ 1) แลนการ์ดไร้สาย (Wireless LAN Card) จะแปลงข้อมูลดจิ ิทลั ท่ีได้ให้เป็ นคลื่นวิทยุแล้วสง่ ผา่ นสายอากาศให้กระจายออกไปและทาหน้าที่ในการรับเอาคล่ืนวิทยทุ ี่แพร่กระจายแปลงเป็ นข้อมลู ดจิ ิทลั สง่ ให้เครื่องคอมพวิ เตอร์ประมวลผล 2) อุปกรณ์เข้าใช้งานเครือข่าย (Wireless Access Point) ทาหน้าท่ีเสมือน ฮบั เชื่อมเคร่ืองคอมพิวเตอร์ไร้สายและอปุ กรณ์เช่ือมตอ่ ไร้สายแบบตา่ งๆ 3) อุปกรณ์ไวเลสบอร์ดแบรนด์เราท์เตอร์ (Wireless Broadband Router) ทาหน้าท่ีในการตอ่ เข้ากบั ระบบอนิ เทอร์เน็ตความเร็วสงู ผา่ นคสู่ ายโทรศพั ท์ (ADSL) 5. ให้นักศึกษาหาข้อมูลเพ่ิมเติมเก่ียวกับเทคโนโลยีท่ีใช้สาหรับการส่ือสารแบบไร้สายในระดบั WPAN ในปัจจุบันมา 3 รูปแบบ ตอบ 1) อินฟาเรด IR (Infra-Red) ป็ นมาตรฐานการสื่อสารแบบเครือขา่ ยส่วนบคุ คลทาการรับ-สง่ ข้อมลู กนั ภายในรัศมีหรือระยะทางที่ไมไ่ กลมากนกั เชน่ อปุ กรณ์ประเภทรีโมทคอนโทรลส์ 2) บลทู ธู (Bluetooth) เป็ นเทคโนโลยีเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คลแบบไร้สายโดยใช้ความถ่ีของวทิ ยคุ ล่ืนสนั้ รับสง่ ข้อมลู โดยใช้พลงั งานท่ีน้อยกวา่ เทคโนโลยีวาย-ฟาย (Wi-Fi) 3) NFC (Near Filed Communication) เป็ นเทคโนโลยีใหม่ในการรับส่งข้ อมูลระยะใกล้มากโดยปัจจบุ นั โทรศพั ท์สว่ นใหญ่จะตดิ ตงั้ เทคโนโลยีนีใ้ นการรับสง่ ข้อมลู ให้แก่กนั 6. ให้นักศึกษาอธิบายว่าออกแบบเครือข่ายทางกายภาพ (Network Topology) ท่ีท่านรู้จักมีก่ีประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไรเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
179 ตอบ 1) โครงสร้างแบบบสั (Bus Topology) เครื่องคอมพิวเตอร์จะถกู เชื่อมตอ่ กันโดยผ่ายสายสญั ญาณแกนหลกั ที่เรียกวา่ BUS หรือ แบค็ โบน (Backbone) คือ สายรับสง่ สญั ญาณข้อมลู หลกั 2) โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING Topology) เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบเครือข่าย ทัง้ เคร่ืองท่ีเป็ นผู้ให้บริการ (Server) และ เคร่ืองท่ีเป็ นผู้ขอใช้บริการ(Client) ทุกเคร่ืองถูกเชื่อมตอ่ กนั เป็นวงกลม 3) เครอื ข่ายแบบดาว (STAR TOPOLOGY)เป็ นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทกุ เครื่องท่ีเชื่อมตอ่ เข้าด้วยกนั ในเครือขา่ ย จะต้องเชื่อมตอ่ กบั อปุ กรณ์ตวั กลางตวั หนง่ึ ที่เรียกวา่ ฮบั (HUB) 4) โทโปโลยีแบบเมช (Mesh Topology) เป็ นรูปแบบท่ีใช้วิธีการเดนิ สายของแตเ่ ครื่องไปเช่ือมการติดต่อกับทุกเครื่องในระบบเครือข่าย สามารถป้ องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึน้ กับระบบได้ดีท่ีสดุ 5) โทโปโลยีแบบผสม (Hybrid Topology) เป็ นรูปแบบใหม่ ท่ีเกิดจากการผสมผสานกนั ของโทโปโลยีแบบ STAR , BUS , RING เข้าด้วยกนัเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
180แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 4 1. จงอธิบายว่าเทคโนโลยสี ารสนเทศมีบทบาทต่อหน่วยงานการศกึ ษาอย่างไร ตอบ 1) เทคโนโลยีสารสนเทศมีสว่ นช่วยเร่ืองการเรียนรู้ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)การค้นหาข้อมลู ขา่ วสารเพื่อการเรียนรู้ในระบบเครือขา่ ย 2) งานด้านการบริหารจัดการของหน่วยงานเพ่ือการวางแผน การดาเนินการ การตดิ ตามและประเมินผล 3) เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการสื่อสารระหว่างบุคคล เช่น การสื่อสารระหว่างผ้สู อนกบั ผ้เู รียนผา่ นระบบเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส์ และการประชมุ ทางไกล 4) พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน ทาให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในบทเรียนมากยงิ่ ขนึ ้ ไมซ่ า้ ซากจาเจผ้เู รียนสามารถเรียนรู้สิ่งตา่ งๆ ได้ด้วยระบบที่เป็นมลั ตมิ ีเดยี 2. จงยกตัวอย่างอุปกรณ์ท่ีใช้ในการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน 5 ชนิด และอธิบายมาพอสังเขป ตอบ 1) กล้องโทรทศั น์หรือกล้องวีดิทศั น์ ใช้ในการบนั ทกึ ภาพและเสียงในการจดั การเรียนการสอนและกิจกรรมตา่ งๆ ที่สนบั สนนุ ตอ่ การเรียนรู้ของผ้เู รียน 2) โทรทศั น์อจั ฉริยะ (Smart TV) หมายถึง โทรทศั น์ท่ีสามารถใช้ในการเช่ือมต่อกับระบบเครือขา่ ยได้โดยมีโปรแกรมประยกุ ต์อยใู่ นเครื่องโทรทศั น์ด้วย 3) กระดานอจั ฉริยะ หรือ แอคทีฟบอร์ด (Activboard) เป็นนวตั กรรมของไวท์บอร์ดในห้องเรียน มีการควบคุมการทางานของคอมพิวเตอร์ เป็ นการนาเอาแอคทีฟบอร์ดและเคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ตอ่ เช่ือมเข้าด้วยกนั ทาให้ภาพจากคอมพวิ เตอร์ปรากฏขนึ ้ บนบอร์ด 4) เคร่ืองเล่นดีวีดี (DVD Player) เป็ นอปุ กรณ์อา่ นข้อมลู ดจิ ิทลั จากวสั ดเุ ช่นแผน่ ดีวีดีที่บนั ทกึ เนือ้ หาท่ีเก่ียวข้องกบั การเรียนการสอน 5) ) เครื่องวชิ วลไลเซอร์ (visaulizer)เป็ นอปุ กรณ์ในการรับภาพ หรือวสั ดุ 2 มิติ และ 3มติ ิ โดยทาการตอ่ สญั ญาณกบั เคร่ืองฉายเพื่อชว่ ยให้ผ้เู รียนเหน็ ภาพหรือวสั ดไุ ด้ชดั เจนยิ่งขนึ ้ 3. จงหาข้อมูลโปแกรมประยุกต์สาหรับอุปกรณ์แบบพกพา ท่ีเหมาะกับการสอนในสาขาวิชาของท่าน 3 โปแกรมพร้อมบอกข้อดีและวิธีการใช้ในการสอน ตอบ ตอบตามลกั ษณะของโปรแกรมประยกุ ต์ที่สอดคล้องกบั เนือ้ หาในแตล่ ะสาขาวชิ าเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
181 4. จงยกตัวอย่างโปรแกรมประยุกต์ท่ีสามารถใช้ในการบริหารจัดการโรงเรียน 2โปรแกรม พร้อมอธิบาย ตอบ 1) School ICT เป็ นระบบการจัดการบริหารงานในโรงเรียน โดยจัดเป็ นระบบฐานข้อมลู เพื่อจดั เก็บข้อมลู ของหนว่ ยงานตา่ งๆ อยา่ งเป็นระบบ 2) School for Web เป็ นโปรแกรมในการบริหารจัดการท่ีมีการออกแบบให้สามารถเลือกจัดการตามลักษณะของระบบการบริหารจัดการโดยใช้ ICT ให้มีลักษณะเฉพาะของหนว่ ยงานการศกึ ษาซง่ึ ดาเนนิ การโดยหนว่ ยงานภาคเอกชนที่ทาการพฒั นาระบบบริหารจดั การ5. จงอธิบายกระบวนการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการจัดการเรียนการสอนอย่างละเอียด ตอบ กระบวนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอนนัน้ ประกอบด้วยกระบวนการใน 3ขนั้ ตอน ได้แก่ การเตรียมการสอน การสอน และการประเมนิ 1) การเตรียมการสอน การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษานัน้ผ้สู อนต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนเรียน เพื่อให้บรรลุเป้ าหมายของหลกั สตู ร ส่ิงท่ีผ้สู อนพิจารณาความพร้อม ประกอบด้วย 3 ประการ คือ (1) การกาหนดกิจกรรมที่สง่ เสริมให้ผ้เู รียนเกิดการเรียนรู้จากการสื่อสารผ่านอุปกรณ์เคร่ืองมือเทคโนโลยีสาสนเทศและการส่ือสาร (2) การกาหนดเครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (3) การกาหนดบทบาทของบคุ ลากรท่ีเก่ียวข้อง 2) ขนั้ การสอนในขนั้ นีผ้ ้สู อนมีบทบาทอย่างย่ิงในการเลือกวิธีการสอน และการสร้างบรรยากาศการเรียนผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย (1) การเลือกวิธีการสอนท่ีเหมาะสมโดยเน้นการส่งเสริมให้ผ้เู รียนมีส่วนร่วมในกระบวนการสื่อสารเพื่อการเรียนการสอนมากที่สดุ และ (2)การสร้ างบรรยากาศในการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเมื่อการเรียนการสอนเปลี่ยนไปเป็ นการเรียนการสอนทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (Facilitator) ผ้ทู ี่ให้คาแนะนา (Mentor)เป็ นผ้นู ากลมุ่ หรือทีม(Team Leader)และเป็ นผ้สู ร้างแรงจูงใจ(Motivator)ให้กับผ้เู รียนที่ต้องเรียนรู้จากสื่อบทเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ 3) ขัน้ การประเมิน การประเมินการเรียนการสอนโดยใช้เคร่ืองมือส่ือสารเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้สอนสามารถนาข้อมูลท่ีได้จากการสื่อสาร การสนทนา และอภิปรายของผู้เรียนมาใช้ประกอบการประเมินการเรียนซึง่ แบง่ ออกได้เป็ น 2 แนวทางคือ (1) การประเมินการเรียนรู้ของผ้เู รียนโดยพิจารณาระดบั การเรียนรู้ของผ้เู รียนตามทกั ษะการเรียนรู้3 ด้าน คือ ด้านพุทธิพิสัย ด้านจิตพิสัยด้านทกั ษะพิสยั (2) การประเมินกิจกรรมระหวา่ งเรียนโดยผ้สู อนสามารถนาข้อมลู ท่ีได้จากการสนทนากบั ผ้เู รียน หรือการสนทนาระหวา่ งผ้เู รียนกบั ผ้เู รียนมาใช้ในการประเมนิ ผลการสอนเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
182แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 5 1. จงบอกโปรแกรมประยุกต์พืน้ ฐานท่ีครูสามารถนามาใช้ ในการทางานมา 5ประเภท พร้อมทงั้ อธิบายมาพอสังเขป ตอบ 1) โปรแกรมประเภทประมวลผลคา เพื่อใช้ในการจดั ทาเอกสาร หนงั สือราชการ เช่นโปรแกรม Ms Word 2) โปรแกรมประเภทที่ใช้ในการคานวณ เพื่อนามาสามารถจัดทาการประมวลผลข้อมลู ด้านผลการเรียนของผ้เู รียน ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีได้รับความนยิ มเชน่ Ms Excel 3) โปรแกรมท่ีใช้ในการนาเสนอ เป็นโปรแกรมท่ีจะชว่ ยผลิตสื่อประกอบการเรียนการการสอนท่ีสามารถช่วยให้ผ้เู รียนสนใจในเนือ้ หา และทาให้ขยายความเข้าใจในเนือ้ หามากขนึ ้ ตวั อยา่ งโปรแกรม เชน่ MS Power Point 4) โปรแกรมท่ีใช้ในการตกแตง่ รูปภาพหรือกราฟิ ก เป็ นโปรแกรมพืน้ ฐานอีกประเภทที่จะนามาปรับใช้ประกอบการผลติ ส่ือให้มีความสวยงามและนา่ สนใจมากย่งิ ขนึ ้ เชน่ โปรแกรม AdobePhotoshop 5) โปรแกรมที่ใช้ในการผลิตส่ือประเภทบทเรียนคอมพิวเตอร์ ที่ผู้สอนจะสามารถนามาใช้สร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนท่ีมีลกั ษณะเป็ นมลั ติมีเดียได้ ซ่ึงนอกจากจะดงึ ดดู ความสนใจของผู้เรียนแล้ว ยังส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองด้วย โปรแกรมท่ีนิยมใช้ในปัจจุบนั เช่นAdobe Captivate 2. จงหาข้อมูลโปรแกรมประเภทประมวลผลคา1 โปรแกรม นอกเหนือจากโปรแกรมMS Word พร้อมทงั้ อธิบายลักษณะข้อดขี องโปรแกรมนัน้ มาโดยละเอียด ตอบ เป็ นไปตามกระบวนการศกึ ษาข้อมลู ของผ้เู รียน ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีนา่ สนใจ เช่นโปรแกรม Kingsoft Writer เป็นต้น 3. จงหาข้อมูลโปรแกรมประเภทคานวณ 1 โปรแกรม นอกเหนือจากโปรแกรม MSExcel พร้อมทงั้ อธิบายลักษณะข้อดขี องโปรแกรมนัน้ มาโดยละเอียด ตอบ เป็ นไปตามกระบวนการศกึ ษาข้อมลู ของผ้เู รียน ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีน่าสนใจ เชน่โปรแกรม Gnumeric เป็นต้น 4. จงหาข้อมูลโปรแกรมประเภทการนาเสนออ่ืนๆ มา 1 โปรแกรม นอกเหนือจากโปรแกรม MS Power Point พร้อมทงั้ อธิบายลักษณะข้อดีของโปรแกรมนัน้ มาโดยละเอียด ตอบ เป็ นไปตามกระบวนการศึกษาข้อมูลของผู้เรียน ตัวอย่างโปรแกรมที่น่าสนใจ เช่นโปรแกรม Keynote สาหรับระบบปฏิบตั กิ าร ios หรือ ของบริษัท Apple เป็นต้นเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
183 5. ให้นักศึกษาใช้โปรแกรม MS Power Point ในการผลิตส่ือประกอบการนาเสนอในเนือ้ หาท่นี ักศกึ ษาสนใจมา 1เร่ือง ตอบ เป็ นไปตามกระบวนการดาเนินการฝึ กปฏิบัติของนักศึกษา โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณาในด้านโครงสร้างที่สมบรู ณ์ มีหลกั การออกแบบหน้าจอ มีความเป็ นมลั ติมีเดีย และมีเทคนิคในการนาเสนอท่ีนา่ สนใจเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
184แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 6 1. ให้ นักศึกษาอธิบายความสาคัญ ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่ วยสอนในสังคมสารสนเทศมาพอเข้าใจ ตอบ ในสงั คมสารสนเทศเป็ นสงั คมที่มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็ นส่ือการเรียนการสอนท่ีสาคญั อาจกล่าวได้ว่าเป็ นปัจจัยพืน้ ฐานของสังคมปัจจุบัน ดงั นัน้ การนาบทเรียนคอมพิวเตอร์มาช่วยในการจดั การเรียนการสอนจึงมีความสาคญั มากเน่ืองจากจะส่งเสริมผ้เู รียนเรียนได้ตามความช้าเร็วของตนเอง ซึ่งเป็ นไปตามความถนดั ของแต่ละบุคคล สามารถลดเวลา ลดต้นทุนและท่นุ แรงผ้สู อนและประสิทธิผลในแง่ที่ทาให้ผ้เู รียนบรรลุจุดม่งุ หมาย ตลอดจนสามารถเก็บบนั ทึกและกระจายผลการเรียนของผ้เู รียนได้งา่ ย 2.บทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนมีก่ีประเภท จงอธิบายพร้อมรายละเอียด ตอบ 1) ประเภททบทวนการสอน (Tutorial) เป็ นประเภทที่มีการอธิบายเนือ้ หาเป็ นหลกั เพ่ือให้ผ้เู รียนได้ศกึ ษาทบทวนได้ 2) ประเภทใช้ฝึ กและปฏิบัติ (Drill and Practice) มุ่งที่จะพัฒนาความรู้สึกความเข้าใจ ในเรื่องหนึ่งเร่ืองใดโดยเฉพาะ โปรแกรมประกอบไปด้วยคาถาม คาตอบท่ีจะให้นกั เรียนฝึกและปฏิบตั ิ 3) ประเภทเพื่อการแก้ปัญหา (Problem Solving) จะมีการเสนอปัญหาให้แก่ผู้เรียน และผู้เรียนจะต้องพยายามแก้ปัญหานนั้ ๆ เน้นให้ ผู้เรียนฝึ กการคิด การตดั สินใจ โดยมีการกาหนดกฎเกณฑ์ให้ 4) ประเภทสร้ างสถานการณ์จาลอง (Simulation) มีเหตุการณ์สมมติ หรือสภาพการณ์ต่างๆ อยู่ในโปรแกรมให้ผ้เู รียนได้มีโอกาสเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์ ตดั สินใจ และโต้ตอบจากข้อมลู ที่กาหนดให้ 5) ประเภทโปรแกรมการศกึ ษา (Instructional Game) เกมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียน การสอนนนั้ เป็นโปรแกรมที่ใช้เพ่ือเร้าใจผ้เู รียน 6) ประเภทเรียนแบบสนทนา (Dialogue) เป็ นโปรแกรมที่พยายามให้เป็ นการพดู คยุ ระหวา่ งผ้สู อนและผ้เู รียน 7) ประเภทการสาธิต (Demonstration) โดยคอมพิวเตอร์สาธิตแนวคดิ หรือแนวปฏิบตั ิให้นักเรียนดูเป็ นแบบอย่างเพื่อจะได้นาไปปฏิบัติต่อไป ส่วนใหญ่เป็ นการแสดงขัน้ ตอนหรือวิธีการ 8) ประเภทใช้ในการทดสอบ (Testing Application) เป็ นโปรแกรมที่ใช้ในการทดสอบนกั เรียนโดยตรง หลงั จากท่ีนกั เรียนได้เรียนเนือ้ หา หรือ ฝึกปฏิบตั แิ ล้วเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
185 9) ประเภทการสอบสวนหรือไต่ถาม (Inquiry) เป็ นการออกแบบทเรียนเพ่ือให้ผ้เู รียนพยายามสืบค้นเสาะหาข้อมลู ที่เป็ นประโยชน์สอดคล้องกบั ความต้องการของตนเอง โดยการใส่รหสั หรืออกั ษรยอ่ เพ่ือเข้าถงึ เนือ้ หา 10) แบบเรียนรวม (Combination) โดยคอมพิวเตอร์สามารถออกแบบวิธีการสอนหลายแบบรวมกนั ได้ตามธรรมชาติของการเรียนการสอน ซึ่งมีความต้องการวิธีการสอนหลายๆแบบ 3. ขัน้ ตอนในการพัฒนาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน มีอย่างไรบ้างจงอธิบาย ตอบ 1) การวิเคราะห์หลกั สตู รและเนือ้ หา โดยทาการศกึ ษาหลกั สูตรและเนือ้ หาของการบทเรียน เพ่ือนามากาหนดวตั ถปุ ระสงค์การเรียน วิเคราะห์และออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับเนือ้ หา ตลอดจนหาแนวทางในการประเมินผลการเรียน เพ่ือที่จะนามาวิเคราะห์ถึงรูปแบบการนาเสนอบทเรียนในภาพรวมอีกครัง้ เพื่อให้สอดคล้องกบั หลกั สตู รและเนือ้ หา 2) การออกแบบบทเรียน จะมีการออกแบบในสองส่วนคือ การออกแบบแผนผงัการนาเสนอ (Flowchart) และการออกแบบบทเรื่อง (Story Board) 3) การสร้ างบ ทเรี ยน ซึ่งประกอบ ด้ วย การเตรี ยมข้ อมูล เช่นภ าพ นิ่ งภาพเคลื่อนไหว เตรียมเสียง จากนัน้ ก็ใส่เนือ้ หาและกิจกรรมตามท่ีได้ออกแบบไว้ ทัง้ รูปแบบการนาเสนอ การออกแบบหน้าจอ เง่ือนไขในการตอบสนอง และรูปแบบสาหรับการควบควบคมุ นาทางและการมีปฏิสมั พนั ธ์ ซง่ึ ขนึ ้ อยกู่ บั ลกั ษณะของโปรแกรมท่ีนามาใช้สร้างด้วย 4) การทดลองใช้ โดยอาจนาไปให้ผ้เู ช่ียวชาญได้ทดลองใช้และประเมินก่อนท่ีจะนาไปใช้งานจริงก็ได้เพ่ือเป็นการตรวจสอบความสมบรู ณ์ของบทเรียน 5) การประเมินผลบทเรียนการประเมินผลบทเรียนคอมพิวเตอร์ จะมีการประเมินใน2ลกั ษณะคือ เพ่ือการประเมินผลตวั บทเรียน และประเมินผลสมั ฤทธ์ิของผู้เรียนที่เรียนกบั บทเรียนคอมพิวเตอร์ 4.เกณฑ์ในการประเมินบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนมีอะไรบ้างจงอธิบายพร้อมให้รายละเอียด ตอบ 1) การออกแบบการสอน จะพิจารณาจาก วตั ถปุ ระสงค์การเรียน เนือ้ หา ความเหมาะสมกับความรู้ความสามารถของผู้เรียน ความมีปฏิสัมพันธ์ ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่สอดคล้องกบั ความต้องการผ้เู รียน และการนาเสนอเนือ้ หาที่นา่ สนใจ 2) การออกแบบหน้าจอ เป็ นการประเมินองค์ประกอบด้านข้อความ ภาพและกราฟิก เสียง และการควบคมุ หน้าจอเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
186 3) การประเมินการใช้งาน พิจารณาในเร่ือง ง่ายและสะดวกตอ่ การนาไปใช้ ไม่มีข้อผิดพลาด (bug) รายละเอียดในโปรแกรม ผู้ใช้สามารถทาความเข้าใจได้ง่าย รวมถึงการมีค่มู ือครูเพ่ือแนะนาการใช้งานให้กบั ผ้สู อนท่ีจะนาบทเรียนไปใช้ 5. จงศกึ ษาข้อมูลเก่ียวกับโปรแกรมท่ใี ช้ในการพัฒนาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนในปัจจุบันมา 2 โปรแกรม พร้อมทงั้ อธิบายพอสังเขป ตอบ เป็ นไปตามการศึกษาข้อมูลของนกั ศึกษา ตวั อย่างโปนแกรมท่ีนามาใช้ในการผลิตส่ือบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในปัจจุบัน เช่น โปรแกรม Adobe Captivate, Adobe Flash,iSpring Presenter เป็นต้นเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
187 แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 7 1. จงอธิบ ายความห ม ายข องคาว่ า Synchronous Learning และ AsynchronousLearning ตอบ Synchronous Learning คือ รูปแบบการเรียนการสอนที่มีกิจกรรมการเรียนการสอนในเวลาเดยี วกนั ข้อมลู ที่ผ้สู ง่ และผ้รู ับสารตดิ ตอ่ กนั ได้ในเวลาเดยี วกนั หรือพร้อมกนั Asynchronous Learning คือ รูปแบบการเรียนการสอนบนเว็บ ที่ผ้เู รียนและผ้สู อนไมจ่ าเป็นต้องมีกิจกรรมการเรียนการสอนในเวลาเดียวกนั 2. องค์ประกอบของการจัดการเรียนการสอนผ่านอนิ เทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง จงอธิบาย ตอบ 1) Learning Management System (LMS) หมายถึง ระบบการจัดการด้านการเรียนรู้ เป็นระบบหลกั จะต้องนาพาผ้เู รียนไปยงั เป้ าหมายท่ีต้องการจะทาหน้าที่ตงั้ แตผ่ ้เู รียนเข้ามาเรียนโดยจดั เตรียมหลกั สตู ร 2) Content Management System (CMS) หมายถึง ระบบการจัดการด้ านเนือ้ หาซึง่ เป็ นสว่ นบริการสาหรับผ้อู อกแบบหรือผ้พู ฒั นาบทเรียนในการสร้างสรรค์และนาเสนอเนือ้ หาบทเรียน 3) Delivery Management System (DMS) ระบบการจดั การด้านการนาส่งซ่ึงเป็ นการนาสง่ บทเรียนไปยงั ผ้เู รียนได้ศกึ ษาตามวตั ถปุ ระสงค์การนาสง่ บทเรียน 4) Test Management System (TMS) หมายถึง ระบบการจดั การด้านการทดสอบเป็ นส่วนของการจดั การและการนาส่งรวมทงั้ การดาเนินการสอนให้กับผู้เรียนเพ่ือทาการประเมินผลความก้าวหน้าของผ้เู รียนในระบบ e-Learning 3. จงยกตัวอย่างอุปกรณ์ท่ีเหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอนแบบ m learning 1ประเภท พร้อมให้เหตุผลประกอบ ตอบ Smart Phones เน่ืองจากรูปแบบการเรียนการสอนแบบ m learning เป็ นการเรียนการสอนแบบเคล่ือนที่อปุ กรณ์ที่เหมาะสมกบั รูปแบบการจดั การเรียนการสอนในลกั ษณะดงั กล่าวจึงต้องสามารถพกพาได้สะดวก และมีคณุ ลกั ษณะของการใช้งานท่ีครอบคลมุ หรือสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนจดั การเรียนการสอนได้เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
188 4. บทบาทของผู้เรียนและผู้สอนของการจัดการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายมีลักษณะเป็ นอย่างไรบ้าง จงอธิบาย ตอบ บทบาทของผ้สู อนใน การจดั การเรียนการสอนผา่ นระบบอินเทอร์เน็ตจะเปล่ียนไปเป็นผ้ใู ห้คาแนะนา (Guide) เป็ นผ้ฝู ึก (Coach) เป็ นผ้อู านวยความสะดวก (Facilitator) และเป็ นพี่เลีย้ ง(Mentor) บาทของผ้เู รียนจะเปล่ียนแปลงจากการเป็ นผ้รู ับมาเป็นผ้สู ารวจสารสนเทศผ้คู ดิ ผ้ลู งมือปฏิบตั ใิ นลกั ษณะเรียนรู้ร่วมกนั กบั ผ้เู รียนคนอื่น 5. จงอธิบายถงึ ลักษณะท่สี าคัญในการออกแบบการเรียนการสอนผ่านระบบเครือข่าย ตอบ 1) ผ้เู รียนจะเป็ นใครก็ได้ มาจากท่ีใดก็ได้ และเรียนเวลาใดก็ได้ตามความต้องการของผ้เู รียน หรือ Anywhere, Anytime and Anybody 2) มีความเป็นสื่อประสม (Multimedia) เพ่ือชว่ ยกระต้นุ การเรียนรู้ของผ้เู รียน 3) รูปแบบการนาเสนอไม่ควรมีลักษณะเป็ นลาดับแบบเส้นตรง (Non-Linear)เพื่อให้ผ้เู รียนเลือกเรียนเนือ้ หาท่ีนาเสนอได้ตามความต้องการ 4) มีปฏิสัมพันธ์ (Interactive) มีลักษณะโต้ตอบกับผู้ใช้ ซ่ึงอาจเป็ นรูปแบบSynchronous Learning หรือ Asynchronous Learning ก็ได้เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
189แนวการตอบคาถามท้ายบทท่ี 8 1. รูปแบบการศกึ ษาตามอัธยาศัยสามารถแบ่งเป็ นก่ีรูปแบบ จงอธิบายพอสังเขป ตอบ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั แบง่ เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) การศึกษาโดยบังเอิญ (Incidental Education) บุคคลจะได้ รับความรู้ความสามารถและความคดิ จากสภาพแวดล้อมรอบตวั ไมม่ ีเจตนาในการแสวงหาโดยตรง 2) สิกขาบนั เทิง (Edutainment) บคุ คลได้รับความรู้จากกิจกรรมนนั ทนาการ งานร่ืนเริง งานเทศกาล จารีตประเพณี งานอดเิ รก 3) สิกขชีวี (Life Along Education หรือ Just in time Education) บุคคลได้รับความรู้ความสามารถและความคดิ จากประสบการณ์ใน ชีวติ ประจาวนั ของตน เป็นความรู้ที่ได้จากการใช้ชีวิตประจาวนั ในชว่ งเวลาหนงึ่ 2. นักศึกษามีแนวทางการใช้ วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) ในการจัดการเรียนการสอนอย่างไรบ้าง จงอธิบาย ตอบ 1) การเรียนภาคสนามแบบเสมือน (Virtual Field Trips) การใช้วีดิโอคอนเฟอเรนซ์ในการลงพืน้ ที่จริง หรือการเรียนภาคสนามโดยเป็นการถา่ ยทอดสญั ญาณภาพและเสียง 2) การเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ (Connect with Experts) เพ่ือให้ผู้เรียนมีโอกาสได้พูดคณุ และสอบถามข้อมลู ที่กาลงั ศกึ ษาแกผ่ ้เู ช่ียวชาญโดยตรง 3) ผู้เรียนได้ เรียนรู้ไปด้ วยกัน (Students working together) เดียว ซึ่งผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นใหม่ๆ แลกเปล่ียนแนวคิด และวฒั นธรรม ของนกั เรียนในระดบั เดียวกันแตต่ า่ งท้องถิ่นได้ 4) เรียนได้หลายกลุ่มเรียน (More Courses are Available) หน่วยงานการจัดการศึกษาที่มีปริมาณผู้สอนไม่เพียงพอ อาจแบ่งกลุ่มผู้เรียนเพ่ือเรียนให้เรียนผ่านระบบการสอนทางไกลได้ในเวลาเดยี วกนั 3. จงอธิบายประโยชน์ของการใช้วีดิทัศน์ตามประสงค์ (Video on Demand) ในการจัดการศึกษา มาพอสังเขป ตอบ 1) สามารถจดั เก็บไว้ได้อยา่ งสะดวกและงา่ ยตอ่ การเรียกมาใช้งาน 2) ชว่ ยให้ผ้เู รียนเข้าถึงเนือ้ หาท่ีต้องการได้อยา่ งง่ายและรวดเร็ว และเรียกดไู ด้ทกุ เวลาเอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
190 4. หากนักศึกษาต้องนาส่ือสังคมออนไลน์ มาช่วยในการจัดการเรียนการสอนนักศกึ ษาจะเลือกใช้ส่ือสังคมออนไลน์ชนิดใด และใช้อย่างไรจงอธิบาย ตอบ พิจารณาจากวธิ ีการเลือกและแนวทางการปรับใช้ส่ือสงั คมออนไลน์ท่ีนกั ศกึ ษานาเสนอ 5. จงสืบค้ นข้ อมูลงานวิจัยเก่ียวกับการผลิตส่ือ หรือการใช้ ส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาของประเทศไทย มา 1 เร่ือง (เฉพาะบทคัดย่อ) โดยระบุแหล่งข้อมูลท่ีใช้ในการสืบค้น ตอบ พิจารณาจาผลการสืบค้นงานวิจยั ของนกั ศกึ ษาและแหล่งข้อมลู ในการสืบค้นงานวจิ ยั วา่ มีความนา่ เช่ือถือและเหมาะสมหรือไม่เอกสารประกอบการสอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารสาหรบั ครู
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190