3900-0003 แผนการสอน_สมบรูณ์

แผนการจัดการเรยี นรู้ ม่งุ เน้นสมรรถนะอาชีพและบรู ณาการปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง วิชา การใช้โปรแกรมมัลติมีเดยี ในสาขางานอาชีพ รหัสวิชา 3900-0003 หลักสตู ร ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ จดั ทาโดย นายจารญู กาพย์ไกรแกว้ นายสนุ ทร นศิ ากร ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ วิทยาลัยเทคนคิ ขอนแกน่สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แผนการจัดการเรยี นรู้ มงุ่ เน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งวชิ า การใชโ้ ปรแกรมมัลติมเี ดียในสาขางานอาชีพ รหัสวิชา 3900-0003 จัดทาโดย นายจารูญ กาพยไ์ กรแกว้ นายสนุ ทร นศิ ากร

คานา แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา การใช้โปรแกรมมัลติมีเดียในสาขางานอาชีพ 3900-0003 จัดทาขึ้นตรงตามจุดประสงค์และคาอธิบายรายวิชา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในหมวดวิชาชีพ ประเภทวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยแบ่งเนื้อหาการเรียนรู้ออกเป็น 18 หน่วยการเรียน ทุกหน่วยการเรียนรู้ได้จัดทาแผนการเรียนรู้โดยยึดตามจุดประสงค์รายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับพื้นฐานของข้อมูลภาพ เสียงและวิดีโอ หลักการของภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์และบิตแมพ ภาพเคลื่อนไหว แฟ้มข้อมูลเสียง แฟ้มวิดีโดประเภทและคุณลักษณะของแฟ้มภาพกราฟิก แฟ้มเสียง แฟ้มวิดีโอ การสร้างภาพเคลื่อนไหว การใช้โปรแกรมวาดภาพ การถ่ายภาพ การบันทึกเสียงและวิดีโอ การใช้โปรแกรมตกแต่งภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์และบิตแมพ การใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงและวิดีโอ ทาการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพื่อการพัฒนางานอาชีพด้วยคอมพิวเตอร์ แผนการเรียนรู้แต่และหน่วยประกอบด้วย รายการหน่วย ช่ือหน่วย และสมรรถนะประจาหน่วย จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง สาระสาคัญ หัวข้อเร่ือง จุดประสงค์การเรยี นการสอน และ สมรรถนะประจาหน่วย ในการจดั ทาแผนการจดั การการเรียนรู้นี้ ผู้จัดทาได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจและสติปัญญาเพ่ือให้ไดแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนตามสภาพจริง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้น้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนได้ย่างดี หากมีข้อบกพร่องผิดพลาดประการใด ผู้จัดทายินดีรับคาแนะนาและขออภัยไว้ ณ ทนี่ ดี้ ว้ ย จารูญ กาพยไ์ กรแกว้ สุนทร นิศากร

สารบญั หนา้ กเร่อื ง 1หน่วยการเรยี นรู้และตารางวิเคราะหค์ าอธบิ ายรายวชิ า 8แผนจดั การเรียนรู้หน่วยท่ี 1 เรอื่ ง เร่มิ ตน้ กับ Photoshop CS 14แผนจดั การเรยี นรู้หน่วยที่ 2 เรื่อง หลกั การสรา้ งงานกราฟกิ และใชเ้ ครือ่ งมือพนื้ ฐาน 20แผนจัดการเรียนรู้หน่วยท่ี 3 การแตง่ และตัดภาพบางส่วน 25แผนจัดการเรยี นรู้หนว่ ยที่ 4 เร่อื ง การปรบั รูปทรงภาพดว้ ยวิธี Transform 31แผนจดั การเรียนรู้หน่วยท่ี 5 เร่ือง การสร้างขอ้ ความตกแต่งภาพ 37แผนจัดการเรยี นรู้หน่วยที่ 6 เรื่อง ทางานกับเลเยอร์ 43แผนจัดการเรยี นรู้หนว่ ยที่ 7 เรอื่ ง เทคนิคการตกแต่งภาพในเลเยอร์ 49แผนจัดการเรียนรู้หนว่ ยที่ 8 เรื่อง การวาดภาพและรูปทรง 55แผนจดั การเรียนรู้หน่วยท่ี 9 เรอ่ื งความรูเ้ รื่องสีและการเลอื กใช้โหมดสี 61แผนจดั การเรยี นรู้หน่วยท่ี 10 เรอ่ื งการปรบั แต่งภาพ 67แผนจัดการเรียนรู้หนว่ ยท่ี 11 เรอ่ื ง สว่ นประกอบของโปรแกรม Flash 73แผนจัดการเรียนรู้หนว่ ยท่ี 12 เรื่อง การสร้างวัตถุกราฟิก 79แผนจดั การเรียนรู้หน่วยท่ี 13 การจัดการขอ้ ความ 85แผนจดั การเรยี นรู้หน่วยท่ี 14 เรอ่ื ง การจดั การวตั ถุ 91แผนจัดการเรียนรู้หนว่ ยท่ี 15 เรื่อง การทา Animation 97แผนจัดการเรียนรู้หนว่ ยท่ี 16 เรือ่ ง การแทรกไฟล์ VDO 103แผนจดั การเรียนรู้หนว่ ยท่ี 17 เรอื่ ง การเผยแพร่ช้นิ งานทีส่ รา้ งแผนจดั การเรียนรู้หนว่ ยที่ 18 เร่อื ง การตดั ตอ่ วดี ีโอ

แผนการจัดการเรยี นรู้1. รหัสและช่ือวชิ า 3900-0003 การใช้โปแกรมมัลตมิ เี ดียในสาขางานอาชีพ (Working with Basic Multimedia Software in Field Career)2. สภาพรายวิชา หมวดวิชาชีพวิชาชีพสาขาวิชาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูง พุทธศักราช 25573. ภาคเรียนท่ี 1/25614. ระดับชัน้ /กลมุ่ เรยี น ปวส.15. เวลาศึกษาและหน่วยกติ ท.ป.น. (1-4-3) ทฤษฎีจานวน 1 ช่ัวโมงปฏิบัติ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หน่วยกิต 3 ระยะเวลา 18 สัปดาหร์ วมทงั้ สน้ิ 90 ชว่ั โมงตลอดภาคเรยี น6. จุดประสงคร์ ายวิชา 1. เพอื่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับหลักการของภาพกราฟิก ประเภท และคุณลกั ษณะของแฟ้มภาพกราฟิก 2. เพื่อให้มีทักษะในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกในการสร้าง ตกแต่ง ภาพ และจัดการแฟ้มภาพกราฟิก 3. เพ่ือให้มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีต่องานคอมพิวเตอร์กราฟิก เบ้ืองตน้7. สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั หลักการของภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์และบติ แมพ การจัดการแฟม้ ภาพกราฟกิ 2. แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการของแฟ้มข้อมูลเสียงและวิดีโอ การจัดการ แฟม้ ขอ้ มูลเสียงและวิดโี อ 3. บันทกึ และตัดตอ่ เสยี งและวดิ โี อ8. คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับพื้นฐานของข้อมูลภาพ เสียง และวิดีโอ หลักการ ของภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์และบิตแมพ ภาพเคลื่อนไหว แฟ้มข้อมูลเสียง แฟ้มวิดีโด ประเภทและ คุณลักษณะของแฟ้มภาพกราฟิก แฟ้มเสียง แฟ้มวิดีโอ การสร้างภาพเคลื่อนไหว การใช้โปรแกร ม วาดภาพ การถ่ายภาพ การบันทึกเสียงและวิดีโอ การใช้โปรแกรมตกแต่งภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์ และบิตแมพ การใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงและวิดีโอ ทาการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพื่อการพัฒนา งานอาชีพด้วยคอมพิวเตอร์

9. กิจกรรมการเรียนการสอน 1. ทาแบบฝกึ หัดกอ่ นเรียน โดยการถาม – ตอบ และให้แสดง ความคดิ เห็น 2. จดบันทกึ สาระการเรียนรู้ 3. รว่ มกนั สรปุ บทเรียน พร้อมบันทึกผลการสรปุ แลว้ นาเสนอกับครผู สู้ อน 4. ผเู้ รยี นและครผู สู้ อนรว่ มกันประเมนิ ข้อสรปุ ของผู้เรียน ท่ีออก แสดงความคิดเหน็ เพื่อให้ไดข้ ้อสรุปทีถ่ ูกต้อง และครผู ้สู อน 5. แสดงความชน่ื ชมกับผเู้ รียนทุกคนที่ออกแสดงความคดิ เห็น 6. และมีส่วนร่วมในกจิ กรรมท่มี อบหมาย 7. ทาใบงาน ตรวจสอบใบงาน แก้ไขใบงาน 8. ทบทวนเนอ้ื หา ทาแบบฝกึ หัดหลังเรียน ร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหดั10. ส่ือการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน หนังสอื ประกอบการเรยี น 2. ใบความร,ู้ ใบงาน 3. สไลด์ Powerpoint วชิ า ประกอบคำบรรยำย 4. แบบฝึกหัดประจาหน่วยการเรียนรู้11. หนังสืออ้างอิง-เอกสารประกอบการสอน ชื่อผ้เู รยี บเรียง พ.ศ.ทพ่ี มิ พ์เลม่ ช่ือหนังสอื พัชรี ชมุ่ อ่มิ 2553 ท่ี 2553 อ.ชิษณพุ งศ์ ธญั ญ 1 คอมพวิ เตอร์กราฟิกส์ ลกั ษณ์ 2555 2 การสร้างภาพเคล่ือนไหวเบ้ืองต้น (Flash พรพรรณ แพฝึกฝน และ CS4 ) ทัศยาภรณ์ เกอ้ื น่นุ 3 คู่มอื Adobe Photoshop CS 612. การวดั ผลและการประเมนิ ผล1. เวลาเรียน จะต้องมีเวลาเรียนไมน่ อ้ ยกว่า 80 % ของเวลาเรียนทงั้ หมด2. ประเมนิ ผลการเรียนรู้ทั้งทฤษฎแี ละปฏิบัติ ดว้ ยการประเมินผลการเรียนร้ตู ามสภาพจริง โดยกาหนดน้าหนกั ของคะแนนดังนี้- ดา้ นจติ พสิ ัย 20%- ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย 40%- ดา้ นทักษะพิสัย 40% รวม 100%

13. เกณฑ์การประเมนิ ผลการเรียน ระดับผลการเรยี น ช่วงคะแนน 4.0 80-100 3.5 75-79 3.0 70-74 2.5 65-69 2.0 60-64 1.5 55-59 1 50-54 0 ตา่ กวา่ 50

14. หนว่ ยการเรยี นรู้ รหสั วชิ า 3900-0003 ชือ่ วิชา การใช้โปแกรมมลั ติมเี ดียในสาขางานอาชพีสัปดาห์ท่ี หน่วยท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียน จานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ1 1 พ้นื ฐาน Photoshop CS 42 2 หลกั การสรา้ งงานกราฟิกและการใช้เครื่องมือพื้นฐาน 143 3 การแตง่ และตดั ภาพบางส่วน 144 4 การปรับรูปทรงภาพด้วยวิธี Transform 145 5 การสร้างข้อความตกแต่งภาพ 14 146 6 ทางานกบั เลเยอร์และเทคนิคการตกแตง่ ภาพในเลเยอร์ 1 47 7 การวาดภาพและรูปทรง8 8 ความรเู้ ร่อื งสแี ละการเลือกใชโ้ หลดสี 149 9 การปรับแตง่ ภาพ 1410 10 ตกแต่งภาพด้วยการรที ัชและฟิลเตอร์ 1411 11 ส่วนประกอบของ Flash 1412 12 การสร้างวัตถุกราฟิก 1413 13 การจดั การขอ้ ความ 1414 14 การจัดการวัตถุ 1415 15 การทา Animation 1416 16 การแทรกไฟล์ VDO และSound 1417 17 การเผยแพร่ชิ้นงานทีส่ ร้าง 1418 18 การตดั ต่อวดี ีโอ 14 14 18 72 รวมทง้ั สิน้ 90

การวิเคราะห์หัวข้อการเรียนรู้แตล่ ะหนว่ ยและเวลาทีใ่ ชใ้ นการจดั การเรยี นรู้รหสั วชิ า 3900-0003 ชือ่ วิชา การใช้โปแกรมมลั ตมิ ีเดยี ในสาขางานอาชีพหนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยและหวั ขอ้ การเรียนรู้ จานวน ชัว่ โมง- ปฐมนเิ ทศ 1. รายละเอยี ดของวิชา 2. หัวข้อหนว่ ยการเรียนรู้ 3. จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมของนักเรยี นเม่อื เรยี นจบ 4. ตาราทีใ่ ช้ประกอบการเรียนรู้ 5. การบูรณาการหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 6. กิจกรรมการเรยี นการสอน 7. การวัดผลประเมนิ ผล (ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ด้านทกั ษะพิสยั และด้านจิตพิสัย)1 พืน้ ฐาน Photoshop CS 4 5 1.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟกิ 1.2 การเกิดภาพในคอมพิวเตอร์กราฟิกได้ 1.3 ส่วนตา่ งๆ บนหนา้ จอโปรแกรม Photoshop 1.4 นาเข้าไฟล์จากกล้องดิจิตอลและสแกนเนอร์2 หลักการสร้างงานกราฟิกและใชเ้ คร่อื งมือพ้นื ฐาน 5 2.1 หลักการสร้างงานกราฟิก 2.2 เลอื กใช้สโี ฟร์กราวนด์และแบ็คกราวนดด์ ว้ ยวธิ ตี ่างๆ 2.3 เลือกใช้สีและระบายสเี บื้องต้น 2.4 ลบภาพในส่วนท่ีไม่ต้องการออก 2.5 ตัด เปลีย่ นขนาด และเพิม่ ขนาดพื้นท่ภี ายในภาพ 2.6 ย่อขยายภาพให้เหมาะกับการตกแตง่ ภาพ3 การแตง่ และตดั ภาพบางส่วน 5 3.1 เลือกพื้นที่ภาพในรูปทรงเรขาคณิต 3.2 เลือกพืน้ ท่ภี าพแบบอิสระได้ 3.3 เลอื กเคร่ืองมือเลือกพนื้ ทภี่ าพได้เหมาะสมกบั ลักษณะของภาพ 3.4 ปรบั ขอบเขตการเลือกพ้นื ท่ใี ห้เป็นรปู แบบใหม่ตามท่ตี ้องการ 3.5 ใชพ้ ื้นที่ที่เลือกไว้ได้4 การปรบั รูปทรงภาพด้วยวธิ ี Transform 5 4.1 ปรับขนาดภาพด้วยวิธกี าร Scale ได้ 4.2 หมุนภาพด้วยคาส่ัง Scale 4.3 เอยี งภาพดว้ ยคาสัง่ Skew 4.4 บิดภาพด้วยคาสัง่ Distort 4.5 บดิ ภาพให้มีมิติดว้ ย Perspective 4.6 ดัดภาพใหโ้ ค้งดว้ ยคาสงั่ Warp

หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยและหัวข้อการเรียนรู้ จานวน 5 ชั่วโมง 6 การสรา้ งขอ้ ความตกแตง่ ภาพ 5.1 ความแตกต่างระหวา่ งตวั อักษรแบบเวกเตอร์และบิตแมพ 5 7 5.2 สร้างตวั อักษรแบบ Point type และ Paragraph type 8 5.3 ปรับรปู แบบตัวอักษรเพ่ือประกอบบนช้ินงาน 5 9 5.4 ใช้ตัวอักษรภาษาไทยใน Photoshop 5.5 สร้างตวั อกั ษรแบบบิพแมพ 5 10 5 ทางานกบั เลเยอร์และเทคนคิ การตกแตง่ ภาพในเลเยอร์ 5 6.1 ซ้อนภาพด้วยเลเยอร์ 6.2 จดั หมวดหมูข่ องเลเยอร์ 5 6.3 ลิงคใ์ หเ้ ลเยอรท์ างานร่วมกัน 6.4 รวมเลเยอร์ 6.5 ตกแตง่ ภาพในเลเยอร์ด้วยพาเลต็ Layer 6.6 เจาะภาพให้โปรง่ ใสดว้ ย Layer Mask 6.7 เลม็ ส่วนเกินของภาพออกดว้ ย Clipping Mask 6.8 ตกแตง่ ภาพดว้ ย Fill Layer และ Adjustment Layer 6.9 เขา้ ใจการผสมสีโดยการใช้ Layer Blending Mode การวาดภาพและรปู ทรง 7.1 วาดภาพด้วยรปู ทรงสาเร็จรูป 7.2 วาดรูปทรงอสิ ระ 7.3 ใชค้ าส่ังจัดการกับส่วนประกอบของพาธ ความรเู้ ร่ืองสีและการเลอื กใชโ้ หมดสี 8.1 ลกั ษณะโมเดลสี 8.2 โหมดสใี น Photoshop 8.3 เปล่ยี นโหมดสีของภาพ การปรับแตง่ ภาพ 9.1 ปรับค่าสภี าพใหเ้ ปน็ สีทตี่ ้องการ 9.2 แกไ้ ขเงามืดท่ถี า่ ยย้อนแสง 9.3 เปลย่ี นสภี าพเฉพาะจดุ 9.4 ปรับภาพสใี ห้เปน็ ขาวดา 9.5 ปรบั ภาพให้เป็นสีตรงขา้ ม 9.6ปรบั ภาพโดยการไล่โทนสี ตกแต่งภาพด้วยการรที ัชและฟลิ เตอร์ 10.1 ปรับแตง่ ความคมชดั ของภาพ 10.1 ปรบั โทนสขี องภาพ 10.2 เลอื กใชเ้ คร่ืองมือรีทชั ใหเ้ หมาะสมกับลักษณะของภาพ 10.3 ทาสาเนาภาพเพ่อื ใช้ในการตกแต่งภาพได้

หนว่ ยท่ี ช่ือหน่วยและหวั ขอ้ การเรยี นรู้ จานวน 11 ชวั่ โมง 12 10.4 คณุ สมบัตแิ ละความสาคัญของฟลิ เตอร์ 10.5 ใช้งานฟิลเตอรช์ นิดต่างๆ 5 13 10.6 ใช้ Liquefy มาชว่ ยในการปรับสัดส่วนของภาพ 5 สว่ นประกอบของ Flash 11.1 ส่วนติดตอ่ กับผู้ใช้ 5 11.2 กลอ่ งเครื่องมอื 11.3 การเรมิ่ ต้นชิน้ งาน 11.4 การควบคุมมุมมองของโปรแกรม 11.5 การบนั ทึกไฟล์ 11.6 การเลือกวตั ถุ 11.7 การจัดวตั ถุ 11.8 คีย์ลดั ทสี่ าคัญของ Flash การสร้างวตั ถุกราฟิก 12.1 การวาดเส้นตรง 12.2 การเปลี่ยนคุณสมบัตขิ องเสน้ 12.3 การวาดเส้นอิสระ 12.4 การวาดเสน้ โดยใช้ปากกา 12.5 การเพ่ิมจุดของเสน้ 12.6 การวาดรูปทรงส่ีเหล่ยี ม 12.7 การวาดวงกลม 12.8 การวาดรปู ทรงหลายเหล่ียม 12.9 การใชเ้ ครื่องมือยางลบ 12.10 การลงสวี ัตถุ 12.11 การเทสลี งบนพน้ื ที่ 12.12 การเทสลี งบนเส้น 12.13 การจดั การระบบสี 12.14 การปรบั สีจาก 12.15 การควบคมุ การไลส่ ี การจดั การข้อความ 13.1 โหมดตวั อักษร 13.2 ปญั หาภาษาไทยกับ Flash 13.3 วธิ กี ารพิมพข์ ้อความ 13.4 การเปล่ียนคุณสมบัติข้อความเปน็ หมวดตา่ ง ๆ 13.5 การเปล่ียนคุณสมบัติของข้อความให้เปน็ รูปภาพ

หนว่ ยท่ี ชอื่ หน่วยและหัวขอ้ การเรยี นรู้ จานวน 14 ช่วั โมง การจดั การวตั ถุ 15 14.1 การแปลงวัตถุเปน็ Symbol 5 14.2 การเรียกใช้และแกไ้ ข Symbol 16 14.3 การสรา้ ง Symbol แบบปุ่ม 5 17 14.4 การสร้าง Symbol แบบภาพเคล่ือนไหว 18 14.5 การจัดการ Library 5 14.6การเปลี่ยนคุณสมบัติ Symbol 14.7 นา Symbol จากไฟลอ์ ่ืนมาใช้ 5 การทา Animation 5 15.1 การใช้ Play Head สรา้ ง Layer ใหม่ 15.2 สรา้ ง Folder 15.3 ระบบ Frame 15.4 การสร้าง Animation แบบเฟรมต่อเฟรม 15.5 การสรา้ ง Animation แบบเคล่ือนท่ี (Motion Tween) 15.6 การสรา้ งAnimationแบบเปลี่ยนรูปทรง (Shape Tween) การแทรกไฟล์ VDO และSound 16,1 การแทรกไฟล์และแปลงไฟล์ VDO 16.2 การนาไฟล์ VDOเขา้ ไปใส่ใน flash 16.3 การแทรกไฟลเ์ สียง 16.4 การนาไฟลเ์ พลงเข้ามาใชเ้ บื้องหลงั 16.5 การนาไฟล์เสียง Fx เข้ามาใช้ 16.6 การแทรกไฟล์เสียงพูดของตวั ละคร การเผยแพรช่ ิน้ งานที่สรา้ ง 17.1. การแปลงไฟลง์ านเปน็ SWF 17.2. การแปลงไฟล์งานเป็น HTML 17.3. การแปลงไฟลง์ านเปน็ GIF 17.4. การแปลงไฟล์งานเป็น JPEG 17.5. การแปลงไฟลง์ านเป็น PNG 17.6. การแปลงไฟลง์ านเปน็ Quick Time การตดั ตอ่ วดี ีโอ 18.1 รจู้ ักโปรแกรมตัดต่อวดี ีโอ Ulead Video Studio 18.2 Frame 18.3 TimeLine 18.4 การแทรกภาพน่ิง

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยและหัวขอ้ การเรียนรู้ จานวน ชว่ั โมง 18.5 การแทรกวีดโี อ 18.6 การแทรกเสียง รวมทงั้ สน้ิ 90 18.7 การใสข่ ้อความ 18.8 การใส่เอฟเฟ็กต์ 18.9 การแปลงวีดีโอ

ตารางวิเคราะหค์ าอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา รหสั วิชา 3900-0003 ชอื่ วิชา การใชโ้ ปรแกรมมัลตมิ เี ดยี ในสาขางานอาชีพ จานวนชวั่ โมง/หนว่ ยกิต (ท.ป.น) 1-4-3 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 ผูร้ ับผดิ ชอบ นายจารูญ กาพย์ไกรแก้ว แผนกวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ พุทธพิ ิสัยหน่วยที่ ชอื่ หน่วยการเรยี น ความจา ความเข้าใจ นาไปใ ้ช วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า ัทกษะพิ ัสย จิตพิสัย รวม ลา ัดบความสาคัญ จานวนข้อสอบ1 พน้ื ฐาน Photoshop CS 11 2 1 5 22 2 1 5 222 หลักการสร้างงานกราฟิกและการใช้ 11 เครอื่ งมือพนื้ ฐาน3 การแต่งและตดั ภาพบางสว่ น 11 2 1 5 22 2 1 5 224 การปรับรูปทรงภาพด้วยวธิ ี Transform 11 2 1 5 22 2 1 6 135 การสรา้ งข้อความตกแตง่ ภาพ 116 ทางานกับเลเยอร์และเทคนคิ การตกแตง่ 1 1 ภาพในเลเยอร์7 การวาดภาพและรปู ทรง 11 2 1 6 12 2 1 6 128 ความรู้เรือ่ งสีและการเลอื กใชโ้ หลดสี 1 1 2 1 5 23 2 1 6 129 การปรับแต่งภาพ 11 2 1 5 22 2 1 5 2210 ตกแต่งภาพด้วยการรีทัชและฟลิ เตอร์ 11 2 1 6 13 2 1 6 1211 สว่ นประกอบของ Flash 11 2 1 6 13 2 1 6 1212 การสร้างวัตถุกราฟกิ 11 2 1 6 12 2 1 6 1213 การจัดการข้อความ 1114 การจดั การวตั ถุ 1115 การทา Animation 1116 การแทรกไฟล์ VDO และSound 1117 การเผยแพรช่ ิ้นงานทสี่ รา้ ง 1118 การตดั ต่อวดี ีโอ 11 รวม 4 14 18 36 18 100 40 ลาดับความสาคญั 432 12

1 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 ชอ่ื วิชา การใช้โปรแกรมมัลติมเี ดยี ในสาขางานอาชพี สอนครัง้ ที่ 1 รหสั วิชา 3900-0003 ชอ่ื หน่วย พ้ืนฐาน Photoshop CS คาบรวม 5 ชวั่ โมง จานวน 5 ช่วั โมงชอื่ เร่อื ง พืน้ ฐาน Photoshop CS1. สาระสาคญั ภาพกราฟกิ เปน็ ส่วนประกอบสาคญั ทเ่ี ราตา่ งได้พบเหน็ อยู่ในรูปแบบของแผ่นโฆษณา งานพรีเซนเตช่ัน กลอ่ งสนิ คา้ และเวบ็ ไซต์ต่างๆ ทาให้ผู้ชมเกิดความสนใจในสิ่งท่ีนาเสนอ พรอ้ มกับเข้าชมและใช้บริการ เหล่านั้น และทีใ่ กลต้ ัวมากข้ึน คอื การตกแตง่ ภาพถา่ ย ที่เราสามารถตกแตง่ ภาพในโอกาส และบรรยากาศ ตา่ งๆ ใหอ้ อกมาอย่างนา่ สนใจ ดังนน้ั เนอื้ หาในบทแรกน้จี ะเริ่มต้น นาเสนอใหร้ ู้จักกับภาพกราฟกิ การทางาน กบั กราฟิกบนคอมพิวเตอร์ และความสามารถในการสร้างงานกราฟิกของโปรแกรมยอดนยิ ม อย่าง Photoshop2. หัวข้อเรอ่ื ง 2.1 ความหมายของคอมพิวเตอรก์ ราฟิก 2.2 การเกดิ ภาพในคอมพิวเตอร์กราฟกิ ได้ 2.3 สว่ นต่างๆ บนหน้าจอโปรแกรม Photoshop 2.4 นาเขา้ ไฟล์จากกล้องดิจิตอลและสแกนเนอร์3. ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง 1. บอกความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟกิ ได้ 2. อธบิ ายการเกดิ ภาพในคอมพิวเตอรก์ ราฟิกได้ 3. อธิบายการประมวลผลภาพในคอมพวิ เตอร์กราฟิกได้ 4. อธิบายความสามารถโดยรวมของโปรแกรม Photoshop ได้ 5. อธิบายส่วนต่างๆ บนหน้าจอโปรแกรม Photoshop และเรียกใชง้ านได้ 6. นาเข้าไฟล์จากกล้องดิจติ อลและสแกนเนอร์ได้ 7. สรา้ งไฟลใ์ หม่และบันทึกไฟลใ์ หมเ่ บอ้ื งตน้ ได้

24. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมผู้เรยี นขน้ั นาเข้าส่บู ทเรยี น (30 นาที)1. ตรวจสอบรายช่อื นักศกึ ษาทเี่ ขา้ เรยี น 1. ให้ความร่วมมือกบั ครใู นการตรวจสอบ2. ให้นักศึกษาค้นคว้าคาเกี่ยวกับความสามารถโดยรวม 2. คน้ คว้าของโปรแกรม Photoshop 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคิดเห็น3. รว่ มสนทนาเก่ยี วกบั เรื่อง Photoshopข้นั ดาเนนิ การสอน (240 นาท)ี 1. ฟงั ทาความเข้าใจและซักถาม1. บอกจดุ ประสงค์การเรียน 2. ฟัง ทาความเข้าใจและปฎิบตั ติ ามใบงาน2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิบัติใน 3. ผเู้ รียนซักถามขอ้ สงสัยแต่ละหัวขอ้ การเรยื นและใหน้ ักศกึ ษาปฎิบัตไิ ปพร้อม 4. รับการประเมินกัน3. ให้คาแนะนา4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถามในแต่ละบุคคลขั้นสรุป(30 นาท)ี1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสาระสาคัญ 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ สาระสาคญั2. เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามข้อสงสัย 2. นักเรียนสอบถามขอ้ สงสัย3. มอบหมายให้ไปหัดทาและศกึ ษาเพ่ิมเตมิ 3. ฟังและจดบนั ทึก4. ทาแบบทดสอบ 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กอ่ นเรียน 1. คน้ ควา้ คาเก่ียวกบั ความสามารถโดยรวมของโปรแกรม Photoshop ขณะเรยี น 1. ทาความเข้าใจและปฎบิ ัตติ ามในแตล่ ะหวั ข้อการเรยื น 2. ทาใบงานและหลงั เรียน 3. ร่วมกนั เฉลยใบงานและหลังเรียน 4. จดบันทกึ เทคนิค แนวการท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รยี น จากขอ้ แนะนาของครูผสู้ อน 5. ผเู้ รยี นสรปุ ความรูท้ ่ีได้จากการเรียนตามความเป็นจริง จากภมู คิ วามรู้ของผ้เู รยี นแต่ละคน 6. ผู้เรยี นซักถามในหวั ขอ้ ท่สี งสัยในเนื้อหาการเรียนรู้

36. ส่ือการเรียนการสอน 1. หนงั สือโปรแกรมกราฟิก 2. ใบความรู้ประจาหนว่ ย 3. ใบงาน 4. เครือ่ งฉายภาพวดี โี อโปรเจ็คเตอร์ 5. ซดี ีโปรแกรม Photo Shop CS7. วดั ผลประเมนิ ผล 1. ผเู้ รียนปฏบิ ัติภาระงานที่มอบหมายเสรจ็ ทันเวลาทก่ี าหนด 2. ตอบคาถามและสรปุ ผลงานได้อย่างถกู ต้อง 3. ทาหลงั เรยี นเสรจ็ ทนั เวลาที่กาหนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรอื รน้ ในการเรียนรู้ ตอบคาถาม สรปุ สาระการเรยี นรู้ และกล้าแสดงความคดิ เหน็8. กิจกรรมเสนอแนะ ถ้าผู้เรียนมีการเตรียมตัวในการเรียนท่ีดี เช่น อ่าน และทาการศึกษาหนังสือเก่ียวกับหน่วยการเรียนมากก่อน ถึงชั่วโมงเรียน ผู้เรียน จะสามารถเรียน และทากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูผู้สอนมอบหมาย ได้อย่างมีความสุข และเกดิ ความชอบ และสนกุ กบั การเรยี นในชนั้ เรยี น

4 แบบบนั ทกึ คะแนน ช่อื – ปฏบิ ตั ิ การรว่ มลาดับ สกลุ ถกู ตอ้ ง ผดิ 1 จดุ ผดิ 2 จุด ความตง้ั ใจ ปรับปรงุ รวม ที่ ของผูร้ ับ ทัง้ หมด 4321 4321 4321 ผลงานกลุ่ม 20 คะแนน การ 4321 4321 ประเมินเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมินดีมาก = 3 ............../.................../................ดี = 2พอใช้ = หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหน้ากลมุ่ 1 เปน็ ผ้ปู ระเมนิ หรอื ให้ตวั แทนกลุม่ ผลัดกนั ประเมนิปรับปรุง = หรือใหม้ กี ารประเมนิ โดยเพ่ือน โดยตัวผเู้ รยี นเอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ17 – 20 ดีมาก13 – 169 – 12 ดี พอใช้5–8 ปรับปรงุ

5 แบบทดสอบหน่วยท่ี 1ตอนท่ี 1 จงทาเคร่ืองหมาย ในหวั ขอ้ ท่ีถกู ที่สดุ เพียงขอ้ เดียว1. องคป์ ระกอบที่เล็กที่สุดของภาพ เรียกวา่ก. DPI ข. Pixelค. LPI ง. PPI2. ข้อใดคือลักษณะการแสดงผลภาพแบบบิตแมพก. อาศยั การคานวณทางคณิตศาสตร์ข. เหมาะกับภาพทม่ี ลี ักษณะแบบภาพถา่ ยค. อาศยั การอา่ นคา่ สีในแต่ละพิกเซลง. ถูกทั้ง ข. และ ค.3. ขอ้ ใดไม่ใชค่ วามสามารถของ Photoshopก. ออกแบบงานดา้ นสถาปัตยกรรมข. ออกแบบปกหนงั สือและผลติ ภัณฑ์ค. สร้างภาพเพอื่ ตกแต่งเว็บไซต์ง. ตกแต่งรูปถา่ ยเกา่ ๆ ใหเ้ หมือนใหม่4. ฟอรแ์ มท .PDS มีลักษณะอยา่ งไรก. บนั ทึกค่าสีเปน็ โหมด CMYK แยกต่างหากกนัข. มกี ารบีบอดั ทาให้ภาพมีขนาดเลก็ค. สามารถนาไปใช้งานขา้ มโปรแกรมได้ง. เก็บคุณลักษณะเกย่ี วกบั เลเยอร์ เอฟเฟ็กต์ เอาไว้5. ภาพท่ีนามาจากกล้องดิจิตอล ควรมีขนาดอยา่ งตา่ กี่พิกเซลขนึ้ ไปก. 1 ลา้ นพิกเซล ข. 1.5 ลา้ นพกิ เซลค. 2 ล้านพกิ เซล ง. 3 ลา้ นพกิ เซล6. ภาพทใี่ ช้งานบนเวบ็ ควรกาหนดจุดสไี ว้ทกี่ ่ี pixels/inchก. 72 pixels/inch ข. 150 pixels/inchค. 175 pixels/inch ง. 300 pixels/inch7. ภาพที่ใชง้ านบนสื่อส่งิ พิมพ์ ควรกาหนดจุดสไี ว้ท่ีกี่ pixels/inchก. 72 pixels/inch ข. 150 pixels/inchค. 175 pixels/inch ง. 300 pixels/inch

68. ข้อใดไมใ่ ช่องค์ประกอบท่ีมีผลตอ่ ขนาดไฟล์ภาพก. ขนาดความกว้างและความยาว ข. โปรแกรมทใี่ ช้สร้างภาพค. โหมดสขี องภาพ ง. ความละเอียด9. คาสงั่ File>Check In ใช้สาหรับบนั ทึกลักษณะใดก. ตรวจสอบไฟลก์ ่อนการบันทกึข. เพือ่ นาเข้าไปใช้กบั โปรแกรมอื่นๆค. บันทึกไฟลใ์ นหลายๆ เวอร์ชั่นง. ใสล่ ิขสิทธ์ภิ าพ10. ภาพที่สร้างขึน้ มา หากต้องการใสล่ ิขสทิ ธภ์ิ าพ ให้ใช้คาสั่งใด?ก. File>Check In ข. File>Infoค. File>File CopyRight ง. File>File Infoเฉลย1. ข 2. ง 3. ก 4. ง 5. ง6. ก 7. ง 8. ข 9. ค 10. ง

7ตอนที่ 2 จงตอบคาถามต่อไปน้ี1. จงอธิบายวา่ คอมพวิ เตอร์มีการประมวลผลภาพอย่างไรมกี ารประมวลผล 2 แบบ คือ การประมวลผลแบบเวกเตอร์ เป็นการประมวลผลแบบอาศัยการคานวณทางคณิตศาสตร์ ภาพจะไมเ่ สียรปู ทรง เมื่อเราเคล่อื นย้ายย่อขยาย2. จงอธิบายข้นั ตอนการสร้างภาพด้วย Photoshop มาพอสงั เขป ขนั้ ตอนท่ี 1 กาหนดขนาดของช้ินงาน ขั้นตอนท่ี 2 เปดิ ไฟลภ์ าพที่ต้องการนามาตกแต่ง ขัน้ ตอนท่ี 3 ตกแตง่ ชนิ้ งานโดยการจัดวาง ขน้ั ตอนที่ 4 บนั ทึกช้นิ งาน ข้ันตอนท่ี 5 ออกจากการทางานของโปรแกรม3. จงอธบิ ายสว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม Photoshop ดังรูป 1. แถบกาหนดรูปแบบของเคร่ืองมือใชง้ าน 2. แถบปรบั มุมมองการทางาน 3. แถบเมนูคาสงั่ 4. แถบปรบั รูปแบบหน้าจอการทางาน 5. กลอ่ งเคร่ืองมือ 6. พ้นื ทก่ี ารทางาน 7. พาเนล ท่รี วบรวมคณุ สมบัติการทางาน

8 แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 2 ชือ่ วชิ า การใชโ้ ปรแกรมมลั ติมีเดียในสาขางานอาชีพ สอนคร้งั ท่ี 2 รหัสวิชา 3900-0003 ชอ่ื หนว่ ย หลกั การสร้างงานกราฟิกและการใชเ้ ครื่องมือพ้นื ฐาน คาบรวม 5 ช่วั โมง จานวน 5 ชัว่ โมงช่อื เร่อื ง หลักการสร้างงานกราฟิกและการใช้เคร่ืองมือพ้ืนฐาน1. สาระสาคัญ ในบทนี้จะกล่าวถึงแนวคิดในการสร้างงานกราฟิกวา่ ตอ้ งกาหนดวัตถปุ ระสงค์ กาหนดคุณสมบัติในการสร้างภาพและจดั เตรียมภาพ จากนน้ั จงึ เนน้ ถึงการสรา้ งชนิ้ งานท่ีได้จากการนาภาพมาประกอบ การใสส่ ี ข้อความและการจัดซ้อนภาพ ส่วนการตกแต่งภาพถ่าย การปรับสีในภาพ และการวาดภาพจะกล่าวถึงในส่วนต่อไป เพราะเนื้อหาส่วนแรกจะปูพน้ื ฐานการสรา้ งงานกราฟิกให้เข้าใจกนั อยา่ งถูกต้องเสียก่อน2. หัวขอ้ เร่ือง 2.1 หลักการสร้างงานกราฟิก 2.2 เลอื กใช้สีโฟร์กราวนด์และแบ็คกราวนดด์ ้วยวิธีตา่ งๆ 2.3 เลือกใชส้ ีและระบายสเี บ้ืองต้น 2.4 ลบภาพในส่วนทไี่ มต่ ้องการออก 2.5 ตดั เปลี่ยนขนาด และเพิ่มขนาดพ้นื ทภ่ี ายในภาพ 2.6 ย่อขยายภาพใหเ้ หมาะกบั การตกแตง่ ภาพ3. ผลการเรียนร้ทู คี่ าดหวงั 1. อธิบายหลักการสร้างงานกราฟกิ ได้ 2. เลือกใชส้ โี ฟร์กราวนดแ์ ละแบ็คกราวนดด์ ้วยวธิ ีต่างๆ ได้ 3. เลอื กใชส้ ีและระบายสเี บ้ืองต้นได้ 4. ลบภาพในสว่ นทไ่ี มต่ ้องการออกได้ 5. ตดั เปลย่ี นขนาด และเพ่มิ ขนาดพื้นท่ภี ายในภาพได้ 6. ยอ่ ขยายภาพใหเ้ หมาะกับการตกแต่งภาพได้

94. กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผ้เู รียนขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน (30 นาท)ี1. ตรวจสอบรายชือ่ นกั ศึกษาทเี่ ขา้ เรียน ให้ความรว่ มมือกบั ครใู นการตรวจสอบ2. ให้นักศึกษาอ่านหนังสือทาความเข้าใจเกี่ยวกับ คน้ คว้าทาความเขา้ ใจหนว่ ยการเรียน ร่ามสนทนาและแสดงความคดิ เหน็3. ร่วมสนทนาเก่ียวกับเร่ืองหลักในการสร้างงานกราฟกิ และการใชเ้ ครื่องมอื พ้นื ฐานขัน้ ดาเนินการสอน(240นาที)1.บอกจุดประสงค์การเรยี น 1. ฟัง ทาความเขา้ ใจและซกั ถาม2.บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อย่าง แสดงวธิ ีการปฎิบตั ใิ น 2. ฟงั ทาความเข้าใจและปฎิบัตติ ามแตล่ ะหวั ขอ้ การเรืยนและใหน้ ักศกึ ษาปฎบิ ัติไปพร้อม 3. ผเู้ รยี นซักถามขอ้ สงสัยกนั 4. ฟงั แล้วจดบนั ทึก3.ใหค้ าแนะนา 5. รับการประเมิน4.บอกเทคนิควิธีการปฏิบัติและการนาไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน เพือ่ ให้ผเู้ รยี นเกดิ มโนภาพและมีความคิดรวมยอดในสาระการเรียนรู้5.ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คลโดยอาจารย์จะซักถามในแตล่ ะบคุ คลข้ันสรุป (30 นาที)1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ2. เปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามข้อสงสยั สาระสาคญั3. มอบหมายให้ไปหดั ทาและศึกษาเพ่ิมเตมิ 2. นักเรียนสอบถามขอ้ สงสัย4. ทาแบบทดสอบ 3. ฟงั และจดบนั ทกึ 4. ทาแบบทดสอบทา้ ยบท

105. กจิ กรรมการเรยี น ก่อนเรยี น 1 .ครูให้ผู้เรียนทบทวนบทเรียน ขณะเรียน 1. จดบนั ทกึ การเรียน 2. สนใจการปฏิบตั ติ ามใบงานและกลา้ ในการแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถาม 3. ผู้เรยี นสรปุ ความรทู้ ี่ได้จากการเรียนการการสอน 4. ผู้เรียนหาแนวทางและเทคนิคการปฏิบัติ ด้วยความรู้ความเข้าใจของตนเองพร้อมจดบันทึกเป็นลาดับ ขั้นตอนท่ีจะทาให้ตนเองไม่ลมื สาระการเรียนรู้ 5. ผเู้ รียนซักถามเมอ่ื ไม่เข้าใจหรอื สงั สัยเนอ้ื หาการเรียนรู้6. สือ่ การเรยี นการสอน 1. อ. ปิยะ นากสงค์ .หนังสอื โปรแกรมกราฟกิ 2. ใบความรปู้ ระจาหนว่ ย 3. เคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ 4. แผ่นใสและเครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ 5. ซีดสี อื่ การสอน7. วัดผลประเมนิ ผล 1. ผู้เรยี นปฏบิ ัติภาระงานทมี่ อบหมายเสรจ็ ทันเวลาทกี่ าหนด 2. ตอบคาถามและทาใบงานและได้ถกู ตอ้ ง 3. ความสะอาดเรียบร้อยของใบงานและ 4. สนใจกระตือรอื รน้ ในการเรียนรู้ ตอบคาถาม สรปุ สาระการเรียนรู้ และกลา้ แสดงความคดิ เหน็8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผู้เรียนตอ้ งทบทวนบทเรียนท้ังก่อนเรียนและหลังเรียนอยู่อย่างสม่าเสมอ 2. ผู้เรียนหมน่ั เข้าช้นั เรยี นเพื่อรับฟังเทคนคิ วธิ ี และแนวทางท่ดี ีกบั ครูสอนอยา่ งตง้ั ใจ 3. ผเู้ รยี นสนใจทาใบงาน และขยนั ปรบั ปรุงแกไ้ ขใบงานและให้ถูกต้องทุกคร้ังท่ที าผิด

11 แบบบนั ทกึ คะแนน ชอ่ื – ปฏบิ ตั ิ การรว่ มลาดบั สกลุ ถกู ต้อง ผดิ 1 จดุ ผิด 2 จุด ความตัง้ ใจ ปรับปรงุ รวม ท่ี ของผรู้ ับ ท้งั หมด 4321 4321 4321 ผลงานกลุ่ม 20 คะแนน การ 4321 4321 ประเมนิเกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิดีมาก = 3 ............../.................../................ดี = 2พอใช้ = หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหนา้ กลมุ่ 1 เป็นผปู้ ระเมนิ หรือให้ตัวแทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมินปรบั ปรุง = หรอื ให้มีการประเมินโดยเพ่ือน โดยตัวผูเ้ รยี นเอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้เกณฑ์การตดั สินคุณภาพชว่ งคะแนน ระดับ คุณภาพ17 – 20 ดมี าก13 – 169 – 12 ดี พอใช้5–8 ปรบั ปรงุ

12 แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 2ตอนท่ี 1 จงทาเคร่ืองหมาย ในหวั ข้อทีถ่ ูกที่สดุ เพียงข้อเดียว1. มาตรฐานของสโี ฟรก์ ราวนด์และสแี บ็คกราวนดค์ ือสีใดก. ขาวทง้ั คู่ ข. ดากับขาวค. ขาวกับดา ง. ขึ้นอยู่การใช้งานล่าสุด2. ขอ้ ใดไมใ่ ชว่ ิธีการเลอื กสีโฟรก์ ราวนดแ์ ละแบ็คกราวนด์ก. เลือกจาก Color Picker ข. เืลิอกจาก Color Panelค. เลอื กจาก Swatch Panel ง. เลือกจาก Colot Sample Tool3. ขอ้ ใดคือลกั ษณะการเืลอิ กสีจาก Color Pickerก. เลือกตามสเปคตรัมสหี รอื กาหนดคา่ เปน็ ตัวเลขข. เลือกโดยการเลอ่ื นสไลด์เพื่อระบุค่าสีค. เลือกจากจานสีส่วนตัวทเี่ รานามาใชบ้ อ่ ยง. เลือกจากการคัดลอกจากสีจากไฟล์ภาพทต่ี ้องการ4. ขอ้ ใดคือลักษณะการเืลอิ กสจี าก Color Panelก. เลือกตามสเปคตรัมสหี รือกาหนดคา่ เปน็ ตวั เลขข. เลอื กโดยการเล่ือนสไลด์เพ่ือระบุค่าสีค. เลือกจากจานสสี ว่ นตวั ทเี่ รานามาใช้บ่อยง. เลอื กจากการคดั ลอกจากสีจากไฟลภ์ าพท่ตี ้องการ5. ข้อใดคือลกั ษณะการเืลิอกสีจาก Swatch Panelก. เลือกตามสเปคตรมั สหี รือกาหนดค่าเป็นตวั เลขข. เลอื กโดยการเลอ่ื นสไลด์เพื่อระบุคา่ สีค. เลอื กจากจานสีส่วนตัวท่เี รานามาใชบ้ อ่ ยง. เลือกจากการคดั ลอกจากสีจากไฟลภ์ าพที่ต้องการ6. ถ้าต้องการลบพ้ืนท่ีภาพในส่วนที่ไมต่ ้องการออก โดยแทนทดี่ ว้ ยสีแบ็คกราวนด์ ควรใชเ้ ครื่องมอื ใดก. Eraser Tool ข. Background Eraser Toolค. Magic Eraser Tool ง. Color Eraser Tool

137. ถา้ ต้องการลบพน้ื ทภ่ี าพให้มลี ักษณะโปรง่ ใส ควรใช้เครอ่ื งมอื ใด ก. Eraser Tool ข. Background Eraser Tool ค. Magic Eraser Tool ง. Color Eraser Tool8. ถ้าต้องการลบพืน้ ทภ่ี าพที่มีสใี กลเ้ คียงกนั ให้มลี ักษณะโปร่งใส ควรใชเ้ คร่อื งมือใด ก. Eraser Tool ข. Background Eraser Tool ค. Magic Eraser Tool ง. Color Eraser Tool9. ถ้าต้องการย่อภาพให้มีขนาดเลก็ ลง ให้กดปุ่มใดต่อไปนร้ี ่วมดว้ ย ก. <Ctrl> ข. <Alt> ค. <Shift>+<Ctrl> ง. <Shift>+<Ctrl>10. นอกจากการใช้ปุม่ <Ctrl>+Z เพ่ือย้อนกลบั การทางานในขัน้ ตอนทผ่ี า่ นมา ยังสามารถใช้คาส่งั ใดได้ ก. Edit>Histroy ข. File>Recent ค. Edit>Undo ง. File>Historyเฉลย1. ค 2. ง 3. ก 4. ข 5. ค6. ก 7. ข 8. ค 9.ข 10. ค

14 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 3 ชอ่ื วิชา การใชโ้ ปรแกรมมัลติมเี ดยี ในสาขางานอาชพี สอนครงั้ ที่ 3 รหัสวิชา 3900-0003 ชือ่ หน่วย การตดั และแตง่ ภาพบางส่วน คาบรวม 5 ชว่ั โมง จานวน 5 ช่วั โมงชือ่ เรอื่ ง การตัดและแตง่ ภาพบางส่วน1. สาระสาคัญ ถ้าเราจะตกแตง่ ภาพหรือตัดภาพบางส่วนไปใช้งาน โดยไมไ่ ดม้ ีการตีกรอบกนั้ บรเิ วณไว้อาจทาใหก้ ารทางานผิดพลาดสง่ ผลใหภ้ าพออกมาไมส่ วยก็เปน็ ได้ และในบทนจ้ี ะทาใหเ้ ราสามารถเลือกตกแต่งบางส่วนของภาพที่ตอ้ งการ หรือจะตดั บางส่วนของภาพออกไปปะซ้อนอยบู่ นอีกภาพหนึ่งโดยไมม่ ผี ลกระทบต่อสว่ นอนื่ ๆ2. หัวข้อเร่ือง 2.1 การเลือกพืน้ ทภี่ าพในรปู ทรงเรขาคณติ 2.2 การเลอื กพนื้ ที่ภาพแบบอิสระ 2.3 การเลือกเคร่ืองมือเลอื กพ้ืนท่ีภาพไดเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของภาพ 2.4 การปรบั ขอบเขตการเลือกพื้นท่ใี หเ้ ปน็ รูปแบบใหม่ตามทตี่ อ้ งการ 2.5 การใช้พน้ื ท่ีทเี่ ลือกไว้3. ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง 1. เลือกพนื้ ทภ่ี าพในรูปทรงเรขาคณิตได้ 2. เลอื กพนื้ ท่ภี าพแบบอสิ ระได้ 3. เลอื กเครื่องมือเลอื กพนื้ ท่ีภาพได้เหมาะสมกับลักษณะของภาพได้ 4. ปรบั ขอบเขตการเลอื กพนื้ ทใ่ี ห้เปน็ รปู แบบใหม่ตามทีต่ อ้ งการได้ 5. ใชพ้ ืน้ ทีท่ เี่ ลอื กไว้ได้

154. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมผ้เู รยี น กิจกรรมครู 1. ให้ความร่วมมือกับครูในการ ตรวจสอบ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น (30 นาที) 1. ตรวจสอบรายช่อื นกั ศกึ ษาทเ่ี ขา้ เรียน 2. คน้ ควา้ ทาความเข้าใจ 2. ให้นักศึกษาอ่านหนังสือทาความเข้าใจเก่ียวกับ 3. ร่ามสนทนาและแสดงคว าม หน่วยการเรียน 3. ร่วมสนทนาเกี่ยวกับเร่ืองการปรับมุมมองการ คิดเหน็ ทางานและการใช้เคร่อื งมอื พ้ืนฐาน 1. ฟงั ทาความเข้าใจและซักถาม ขนั้ ดาเนินการสอน(240 นาที) 2.ฟัง ทาความเขา้ ใจและปฎบิ ตั ติ าม 1.บอกจุดประสงค์การเรยี น 3..ผู้เรียนซักถามข้อสงสยั 2.บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎบิ ัตใิ นแต่ 4.ฟงั แลว้ จดบันทกึ ละหัวข้อการเรืยนและให้นักศึกษาปฎิบัตไิ ปพร้อมกันให้ 5. รบั การประเมนิ คาแนะนา 3.บอกเทคนิควิธีการปฏิบัติและการนาไปประยุกต์ใช้ใน 1 . ค รู แ ล ะ นั ก เ รี ย น ร่ ว ม กั น ส รุ ป สาระสาคญั ชวี ติ ประจาวัน 2.นกั เรยี นสอบถามข้อสงสยั 4.ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถามใน 3.ฟงั และจดบันทกึ 4.แบบทดสอบทา้ ยบท แต่ละบุคคล ขนั้ สรุป (30 นาที) 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ สาระสาคญั 2.เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามข้อสงสัย 3.มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาและศึกษาเพ่ิมเติม 4.ทาแบบทดสอบ

165. กจิ กรรมการเรยี น ก่อนเรียน 1.ครูให้ผูเ้ รยี นทบทวนบทเรียน ขณะเรียน 1.จดบันทึกการเรยี น 2.สนใจการปฏิบัติตามใบงานและกล้าในการแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถาม 3.ผูเ้ รยี นสรปุ ความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการเรียนการการสอน 4.ผู้เรียนหาแนวทางและเทคนิคการปฏิบัติ ด้วยความรู้ความเข้าใจของตนเองพร้อมจดบันทึกเป็นลาดับ ขั้นตอนทจ่ี ะทาให้ตนเองไมล่ มื สาระการเรียนรู้ 5.ผเู้ รยี นซักถามเมอื่ ไม่เขา้ ใจหรอื สังสัยเนื้อหาการเรียนรู้6. สื่อการเรยี นการสอน 1. อ. ปิยะ นากสงค์ .หนงั สอื โปรแกรมกราฟกิ 2. ใบความรู้ประจาหน่วย 3. เคร่อื งไมโครคอมพิวเตอร์ 4. ใบงาน7. วดั ผลประเมนิ ผล 1. ผเู้ รียนปฏบิ ัตภิ าระงานท่ีมอบหมายเสรจ็ ทนั เวลาทีก่ าหนด 2. ตอบคาถามและทาใบงานและไดถ้ ูกตอ้ ง 3. ความสะอาดเรยี บร้อยของใบงานและ 4. สนใจกระตือรือรน้ ในการเรยี นรู้ ตอบคาถาม สรุปสาระการเรียนรู้ และกล้าแสดงความคดิ เหน็8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผู้เรยี นตอ้ งทบทวนบทเรยี นท้ังก่อนเรยี นและหลงั เรยี นอยู่อยา่ งสม่าเสมอ 2. ผู้เรยี นหมน่ั เขา้ ชน้ั เรียนเพือ่ รบั ฟงั เทคนิค วิธี และแนวทางท่ีดีกบั ครูสอนอย่างตัง้ ใจ 3. ผเู้ รยี นสนใจทาใบงาน และขยันปรบั ปรุงแก้ไขใบงานและให้ถกู ต้องทกุ คร้ังทที่ าผิด

17 แบบบนั ทกึ คะแนน ชอ่ื – ปฏบิ ตั ิ การรว่ มลาดบั สกลุ ถกู ต้อง ผดิ 1 จดุ ผิด 2 จุด ความตัง้ ใจ ปรับปรงุ รวม ท่ี ของผรู้ ับ ท้งั หมด 4321 4321 4321 ผลงานกลุ่ม 20 คะแนน การ 4321 4321 ประเมนิเกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิดีมาก = 3 ............../.................../................ดี = 2พอใช้ = หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหนา้ กลมุ่ 1 เป็นผปู้ ระเมิน หรือให้ตัวแทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมินปรบั ปรุง = หรอื ให้มีการประเมินโดยเพ่ือน โดยตัวผูเ้ รยี นเอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้เกณฑ์การตดั สินคุณภาพชว่ งคะแนน ระดับ คุณภาพ17 – 20 ดมี าก13 – 169 – 12 ดี พอใช้5–8 ปรบั ปรงุ

18 แบบทดสอบหน่วยท่ี 3ตอนท่ี 1 จงทาเครอ่ื งหมาย ในหัวข้อทถี่ กู ทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียว 1. ข้อใดคือการเลอื กพ้นื ท่ีภาพเปน็ เสน้ ตรงในแนวนอน ? ก. Rectangular Marquee Tool ข. Elliptical Marquee Tool ค. Single Row Marquee Tool ง. Single Column Marquee Tool 2. ขอ้ ใดคือการเลือกพน้ื ที่ภาพทม่ี สี ใี กลเ้ คียงกบั ค่าสี ณ จุดพิกเซลที่เราคลิกเลือก ? ก. Lasso Tool ข. Polygonal Lasso Tool ค. Magnetic Lasso Tool ง. Magic Wand Tool 3. ขอ้ ใดคือคุณสมบตั ิทที่ าให้ขอบพ้ืนท่ที เี่ ลือกเรียบข้ึน ? ก. Feather ข. Anti-Aliased ค. Edge Contrast ง. Frequency 4. การเลือกพนื้ ภาพด้วยเคร่ืองมือในขอ้ ใดจะไม่มกี ารกาหนดคา่ ความฟุ้งเบลอ (Feather) ? ก. Lasso Tool ข. Polygonal Lasso Tool ค. Magnetic Lasso Tool ง. Magic Wand Tool 5. ขอ้ ใดคือลกั ษณะตัวชเี้ มาส์ของการเลือกพืน้ ท่เี ฉพาะสว่ นทต่ี ดั กนั ของพ้ืนเดมิ ? ก. ข. ค. ง.

196. ขอ้ ใดคือการเลือกพ้ืนทภี่ าพในสว่ นท่ีซับซ้อน โดยขอบภาพจะเป็นเสน้ ผม หรอื ขนสัตว์ ? ก. Extracting ข. Qucik Mask Mode ค. Magic Wand Tool ง. Magnetic Lasso Tool7. ข้อใดคือคยี ์ลดั ท่ีใช้ยกเลิกการเลือกพน้ื ท่ที ่ีได้เลอื กไว้ ? ก. <Alt>+คลิกเมาส์ ข. <Ctrl+D> ค. <Shift+Ctrl+I> ง. <Shift>+คลกิ เมาส์8. ข้อใดคือคียล์ ัดของการสลับไปเลอื กขอบเขตพื้นท่ีตรงกันข้าม ? ก. <Ctrl+A> ข. <Ctrl+D> ค. <Shift+Ctrl+I> ง. <Shift+Ctrl+D>9. สญั ลักษณ์ตวั ชีเ้ มาส์รูป ส่ือความหมายตรงกบั ขอ้ ใด ? ก. การเลอื กพน้ื ท่ีใหม่ ข. การเลือกขอบเขตภาพเพิม่ เติมจากเดิม ค. การลดขอบเขตภาพท่ีเลอื กไว้จากเดิม ง. การเลอื กพ้ืนทจ่ี นครบรอบภาพทตี่ ้องการ 10. ขอ้ ใดคอื การใส่เส้นขอบลงในพ้นื ที่ทเี่ ลอื กไว้ ? ก. คาส่ัง Edit>Fill ข. คาส่ัง Edit>Stroke ค. เคร่ืองมือ Paint Bucket Tool ง. เคร่อื งมือ Gradient Toolเฉลย1. ค 2. ง 3.ข 4. ง 5.ข6. ก 7. ข 8. ค 9. ง 10. ข

20 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 4 ช่ือวิชา การใชโ้ ปรแกรมมลั ตมิ ีเดยี ในสาขางานอาชีพ สอนครง้ั ที่ 4 รหสั วชิ า 3900-0003 ช่ือหนว่ ย การปรับรปู ทรงภาพดว้ ยวิธี Transform คาบรวม 5 ชว่ั โมง จานวน 5 ชว่ั โมงชื่อเร่ือง การปรับรปู ทรงภาพดว้ ยวธิ ี Transform1. สาระสาคัญ ในบทนเ้ี ราจะทาการปรบั ขนาดภาพ หมุนภาพ และบิดภาพ เพือ่ ให้ไดร้ ปู ทรงภาพในแบบที่เราตอ้ งการ เราเรยี กวธิ กี ารน้ีว่า “Transform”2. หวั ข้อเร่ือง 1. การปรบั ขนาดภาพด้วยวิธกี าร Scale 2. การหมุนภาพด้วยคาสง่ั Scale 3. การเอยี งภาพดว้ ยคาสัง่ Skew 4. การบดิ ภาพด้วยคาสั่ง Distort 5. การบดิ ภาพให้มีมิตดิ ้วย Perspective 6. การดดั ภาพให้โคง้ ด้วยคาสั่ง Warp3. ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวัง 1. ปรับขนาดภาพด้วยวิธีการ Scale ได้ 2. หมุนภาพด้วยคาสง่ั Scale ได้ 3. เอยี งภาพดว้ ยคาสัง่ Skew ได้ 4. บิดภาพด้วยคาสัง่ Distort ได้ 5. บดิ ภาพใหม้ ีมิติด้วย Perspective ได้ 6. ดดั ภาพให้โคง้ ด้วยคาสั่ง Warp ได้

214. กจิ กรรมการเรยี นรู้กจิ กรรมครู กิจกรรมผ้เู รียนขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น (30 นาท)ี1.ตรวจสอบรายชอื่ นักศกึ ษาที่เข้าเรยี น 1.ใหค้ วามรว่ มมอื กบั ครใู นการตรวจสอบ2.ให้นักศึกษาอ่านหนังสือทาความเข้าใจเกี่ยวกับ 2.คน้ ควา้ ทาความเขา้ ใจหน่วยการเรยี น 3.รา่ มสนทนาและแสดงความคิดเหน็3.ร่วมสนทนาเกี่ยวกับการจัดวางและการปรับรูปทรงในโปรแกรมกราฟกิขนั้ ดาเนินการสอน (240 นาท)ี1. บอกจดุ ประสงคก์ ารเรยี น 1. ฟัง ทาความเข้าใจและซกั ถาม2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการ 2. ฟงั ทาความเข้าใจและปฎบิ ัติตามปฎิบัตใิ นแต่ ละหัวข้อการเรืยนและใหน้ กั ศึกษา 3. ผเู้ รยี นซกั ถามข้อสงสัยและจดบันทึกปฎิบัตไิ ปพรอ้ มกัน 4. รบั การประเมิน3. ครบู อกเทคนคิ และแนวปฏบิ ตั ิทง่ี ่าย ๆ4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซักถามในแต่ละบุคคลขั้นสรุป (30 นาท)ี 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสาระสาคัญ1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั 2. นกั เรยี นสอบถามข้อสงสยั2. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั 3. ฟงั และจดบันทึก3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาและศกึ ษาเพิ่มเตมิ 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท4. ทาแบบทดสอบ

225. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นควา้ และทาความเข้าใจการใชเ้ ครอื่ งมือเพ่ือช่วยในการจดั การภาพ ขณะเรียน 1. จดบนั ทกึ การเรียน 2. สนใจการปฏบิ ัตติ ามครแู ละกลา้ ในการแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถาม 3. ผเู้ รยี นสรุปความร้ทู ่ีไดจ้ ากการเรยี นการการสอน 4. ผู้เรียนหาแนวทางและเทคนิคการปฏิบัติ ด้วยความรู้ความเข้าใจของตนเองพร้อมจด บันทึกเป็นลาดับ ข้ันตอนที่จะทาใหต้ นเองไม่ลมื สาระการเรยี นรู้ 5. ผู้เรียนซักถามเมือ่ ไม่เข้าใจหรอื สงสัยเนื้อหาการเรียนรู้6. สอ่ื การเรยี นการสอน 1. อ. ปยิ ะ นากสงค์ .หนงั สือโปรแกรมกราฟกิ 2. ใบความรู้ประจาหนว่ ย 3. เคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ 4. ใบงาน7. วดั ผลประเมนิ ผล 1. ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ิภาระงานทม่ี อบหมายเสร็จทนั เวลาทีก่ าหนด 2. ตอบคาถามและทาใบงานและได้ถูกตอ้ ง 3. ความสะอาดเรียบร้อยของใบงานและ 4. กระตือรือร้นในการเรยี นรู้ ตอบคาถาม สรปุ บทเรียน และกล้าแสดงความคิดเหน็8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผูเ้ รยี นตอ้ งทบทวนบทเรียนทัง้ ก่อนเรยี นและหลงั เรียนอย่อู ย่างสม่าเสมอ 2. ผเู้ รียนหมัน่ เข้าชนั้ เรยี นเพื่อรับฟงั เทคนิค วธิ ี และแนวทางทีด่ กี ับครูสอนอย่างตั้งใจ 3. ผเู้ รยี นสนใจทาใบงาน และแก้ไขใหถ้ ูกต้องทุกครั้งท่ีทาผิด 4. กล้าทจ่ี ะถามทุกคร้ังทีเ่ กิดความสงสยั และไมเ่ ข้าใจหรือตามบทเรียนไมท่ นั

23 แบบบนั ทกึ คะแนน ชอ่ื – ปฏบิ ตั ิ การรว่ มลาดบั สกลุ ถกู ต้อง ผดิ 1 จดุ ผิด 2 จุด ความตัง้ ใจ ปรบั ปรงุ รวม ท่ี ของผรู้ ับ ท้งั หมด 4321 4321 4321 ผลงานกล่มุ 20 คะแนน การ 4321 4321 ประเมนิเกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิดีมาก = 3 ............../.................../................ดี = 2พอใช้ = หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหนา้ กลมุ่ 1 เป็นผปู้ ระเมนิ หรือให้ตัวแทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิปรบั ปรุง = หรอื ให้มีการประเมินโดยเพ่ือน โดยตัวผูเ้ รียนเอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้เกณฑ์การตดั สินคุณภาพชว่ งคะแนน ระดับ คุณภาพ17 – 20 ดมี าก13 – 169 – 12 ดี พอใช้5–8 ปรบั ปรงุ

24 แบบทดสอบหน่วยที่ 4ตอนที่ 1. จงทาเครื่องหมาย ในหวั ข้อท่ีถูกท่สี ุดเพียงข้อเดียว1. การหมุนภาพ โดยการกดปุ่ม <Shift> รว่ มดว้ ย จะหมุนภาพได้คร้ังละกี่องศาก. 10 องศา ข. 15 องศาค. 25 องศา ง. 30 องศา2. ถ้าต้องการปรบั ขนาดภาพให้มีขนาดเล็กลง ควรใช้คาสัง่ ใดก. Scale ข. Skewค. Perspective ง. Wrap3. ถา้ ตอ้ งการเอยี งกรอบดา้ นใดด้านหนึง่ ของภาพ ให้มีลักษณะลาดเอยี ง ควรใช้คาส่งั ใดก. Scale ข. Skewค. Perspective ง. Wrap4. ถา้ ตอ้ งการบิดภาพเพ่ือสรา้ งมติ ิ ใหเ้ กดิ ความรู้สกึ ใกล้ไกลในภาพ ควรใช้คาส่งั ใดก. Scale ข. Skewค. Perspective ง. Wrap5. หากตอ้ งการดดั ภาพในแนวโค้ง ควรเลอื กใชค้ าสั่งใดก. Scale ข. Skewค. Perspective ง. Wrapเฉลย 1. ข 2. ก 3. ข 4. ค 5. ง

25 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 5 ชอื่ วิชา การใชโ้ ปรแกรมมัลติมีเดียในสาขางานอาชีพ สอนครั้งท่ี 5 รหสั วชิ า 3900-0003 ช่อื หนว่ ย การสร้างข้อความตกแตง่ ภาพ คาบรวม 5 ช่วั โมง จานวน 5 ชวั่ โมงชือ่ เร่อื ง การสร้างข้อความตกแต่งภาพ1. สาระสาคัญ เราสามารถใส่ข้อความประกอบการนาเสนอน้ันได้ ในบทนี้เราจะกล่าวกันถึงเรื่องการใส่ตัวอักษรลงไปในภาพ โดยใช้คาส่ังในตระกูล Type Tool และปรบั แต่งตวั อักษรและข้อความตา่ งๆ2. หัวข้อเร่อื ง 2.1 ความแตกต่างระหว่างตัวอกั ษรแบบเวกเตอร์และบิตแมพ 2.2 การสรา้ งตวั อักษรแบบ Point type และ Paragraph type 2.3 การปรับรปู แบบตัวอักษรเพื่อประกอบบนชิ้นงาน 2.4 การใช้ตัวอกั ษรภาษาไทยใน Photoshop 2.5 การสร้างตัวอักษรแบบบิพแมพ3. ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั 1. อธิบายความแตกตา่ งระหว่างตวั อักษรแบบเวกเตอร์และบติ แมพ 2. สรา้ งตัวอักษรแบบ Point type และ Paragraph type ได้ 3. ปรบั รูปแบบตวั อกั ษรเพื่อประกอบบนช้ินงานได้ 4. ใชต้ ัวอักษรภาษาไทยใน Photoshop ได้ 5. สรา้ งตวั อกั ษรแบบบิพแมพได้ 6. ตกแต่งตวั อักษรด้วยพาเนล Style และ Layer Style ได้

264. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมครู กิจกรรมผู้เรยี นขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน (30 นาท)ี1.ตรวจสอบรายช่ือนกั ศกึ ษาทีเ่ ข้าเรยี น 1. ใหค้ วามรว่ มมอื กบั ครูในการตรวจสอบ2. ให้นักศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความแตกต่างและ 2. ค้นคว้าถึงความแตกต่างและข้อดีข้อเสียของข้อดีข้อเสียของข้อความแบบ Outline และ ขอ้ ความแบบ Outline และ BitmapBitmap 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็3. ร่วมสนทนาเกี่ยวกับเร่ืองการสร้างข้อความตกแตง่ ภาพในโปรแกรมกราฟกิขน้ั ดาเนนิ การสอน (240 นาที)1. บอกจุดประสงค์การเรียน 1. ฟัง ทาความเข้าใจและซกั ถาม2. อธิบาย บรรยาย และแสดงวิธีการปฏิบัติใน 2. ฟัง ทาความเขา้ ใจและปฎิบตั ิตามแต่ละหัวข้อการเรียนพร้อมให้นักศึกษาปฏิบัติ 3. ผู้เรียนซกั ถามขอ้ สงสัยตามไปพรอ้ มกัน 4. รับการประเมนิ3. คอยให้คาแนะนา4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครจู ะถามในแต่ละคนขน้ั สรุป (30 นาที)1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สาระสาคัญ 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสาคญั2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั 2. นักเรียนสอบถามข้อสงสัย3. มอบหมายใหไ้ ปหดั ทาและศึกษาเพ่ิมเตมิ 3. ฟังและจดบันทกึ4. ทาแบบทดสอบ 4. ทาแบบทดสอบท้ายบท

275. กิจกรรมการเรียน กอ่ นเรียน 1. ศึกษาคน้ คว้าเก่ียวกบั ความแตกต่างและข้อดีข้อเสยี ของข้อความแบบ Outline และ Bitmap ขณะเรียน 1. จดบันทึกการเรยี น 2. สนใจการปฏิบตั ติ ามครูและกล้าในการแสดงความคิดเห็นและตอบคาถาม 3. ปฏิบตั ติ ามใบงาน 4. ผเู้ รยี นสรปุ ความร้ทู ไ่ี ด้จากการเรียนการการสอน 5. ผู้เรยี นหาแนวทางและเทคนคิ การปฏิบตั ิ ดว้ ยความรคู้ วามเขา้ ใจของตนเองพรอ้ มจด บันทกึ 6. ผเู้ รียนซกั ถามเพื่อข้อสงสัยในหวั ขอ้ หรือเนอื้ หาการเรยี นรทู้ ยี่ ังไม่เขา้ ใจกับผู้สอน6. ส่อื การเรียนการสอน 1. อ. ปิยะ นากสงค์ .หนงั สือโปรแกรมกราฟกิ 2. ใบความร้ปู ระจาหน่วย 3. ใบงานที่มอบหมาย 4. เครือ่ งไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. ใบงาน7. วัดผลประเมนิ ผล 1. ผู้เรยี นปฏบิ ัตภิ าระงานที่มอบหมายเสร็จทันเวลาท่ีกาหนด 2. ตอบคาถามและทาใบงานและไดถ้ ูกต้อง 3. ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของใบงานและ 4. สนใจกระตือรอื รน้ ในการเรียนรู้ ตอบคาถาม สรปุ สาระการเรยี นรู้ และกล้าแสดงความคดิ เห็น8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผู้เรยี นต้องทบทวนบทเรียนท้งั ก่อนเรยี นและหลังเรียนอยู่อย่างสมา่ เสมอ 2. ผู้เรียนหมนั่ เข้าชน้ั เรียนเพ่ือรบั ฟังเทคนิค วธิ ี และแนวทางทด่ี ีกับครูสอนอย่างตั้งใจ

28 แบบบนั ทกึ คะแนน ชอ่ื – ปฏบิ ตั ิ การรว่ มลาดบั สกลุ ถกู ต้อง ผดิ 1 จดุ ผิด 2 จุด ความตัง้ ใจ ปรับปรงุ รวม ท่ี ของผรู้ ับ ท้งั หมด 4321 4321 4321 ผลงานกลุ่ม 20 คะแนน การ 4321 4321 ประเมนิเกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิดีมาก = 3 ............../.................../................ดี = 2พอใช้ = หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายให้หัวหนา้ กลมุ่ 1 เป็นผปู้ ระเมนิ หรือให้ตัวแทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิปรบั ปรุง = หรอื ให้มีการประเมินโดยเพ่ือน โดยตัวผูเ้ รยี นเอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้เกณฑ์การตดั สินคุณภาพชว่ งคะแนน ระดับ คุณภาพ17 – 20 ดมี าก13 – 169 – 12 ดี พอใช้5–8 ปรบั ปรงุ

29 แบบทดสอบหน่วยที่ 5ตอนที่ 1. จงทาเครอ่ื งหมาย ในหวั ขอ้ ทถ่ี กู ทสี่ ดุ เพียงขอ้ เดยี ว1. ข้อใดไม่ใช่ข้อดขี องตวั อักษรแบบเวกเตอร์ ก. เปลย่ี นขนาดไดต้ ามใจชอบภาพไม่แตก ข. แกไ้ ขขอ้ ความไดง้ า่ ย ค. ปรบั แต่งสีและลูกเล่นได้มากไม่จากดั ง. ไม่มขี ้อใดถกู2. ข้อใดคือเคร่ืองมอื สาหรบั เลอื กพน้ื ที่เปน็ ตวั อักษรในแนวต้ัง ?ก. Horizontal Type Tool ข. Vertical Type Toolค. Horizontal Type Mask Tool ง. Vertical Type Mask Tool3. ขอ้ ใดคือการจดั วางข้อความชดิ ขอบขวาเตม็ บรรทัด ? ก. ข. ค. ง.4. ข้อใดคือการกาหนดระยะหา่ งระหวา่ งบรรทดั ?ก. Leading ข. Kerningค. Tracking ง. Baseline5. ข้อใดคือการแสดงตัวอักษรใหด้ ูเรียบคมข้ึน ?ก. Sharp ข. Crispค. Strong ง. Smooth6. ขอ้ ใดคือการจัดวางตาแหน่งข้อความแบบกน้ั หลงั ?ก. ข.ค. ง.7. ขอ้ ใดคือการปรับแตง่ ลักษณะตวั อักษรเป็นตวั พิมพ์ใหญ่ ?ก. ข.ค. ง.

308. จากภาพเปน็ การตกแต่งตวั อักษรด้วยเครือ่ งมือหรือคาสัง่ ในข้อใด ?ก. เครอื่ งมือ Gradient Toolข. เคร่อื งมือ Brush Toolค. เคร่อื งมือ Paint Bucket Toolง. คาสง่ั Edit>Stroke9. จากภาพข้อใดคือส่วนทใ่ี ช้ปรับแตง่ ในการดดั ข้อความให้โคง้ ?ก. สว่ น A ข. สว่ น Bค. ส่วน C ง. สว่ น D10. จากภาพเปน็ การตกแตง่ ตัวอักษรดว้ ยเอฟเฟค็ ในข้อใด ?ก. Gradient Overlay ข. Satinค. Color Overlay ง. Inner Glowเฉลย 3. ค 4. ก 5. ง1. ค 2. ง 8. ง 9. ค 10. ข6. ง 7. ข

31 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 6 ช่อื วชิ า การใชโ้ ปรแกรมมัลตมิ เี ดียในสาขางานอาชพี สอนครัง้ ที่ 6 รหสั วิชา 3900-0003 ชอื่ หนว่ ย การทางานกับเลเยอร์และการตกแต่งภาพในเลเยอร์ คาบรวม 5 ชว่ั โมง จานวน 5 ช่ัวโมงชื่อเรื่อง การทางานกับเลเยอร์1. สาระสาคญั บทนี้เราจะมาเรียนรู้การจัดวางภาพซ้อนกัน เราเรียกการทางานน้ีว่า เลเยอร์ (Layer) ซึ่งช่วยอานวยความสะดวกในการจัดวางภาพแต่ละส่วนที่วางซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆ ทาให้สามารถทางานกับภาพเฉพาะส่วนได้โดยไม่มีผลกระทบกับส่วนอืน่ ๆ ของภาพท่ีไมเ่ กย่ี วขอ้ ง2. หวั ข้อเร่ือง 1. การซอ้ นภาพด้วยเลเยอรไ์ ด้ 2. การจดั การกบั เลเยอร์ในลกั ษณะต่างๆ 3. จดั หมวดหมู่ของเลเยอร์ 4. การลิงคใ์ หเ้ ลเยอร์ทางานร่วมกัน 5. การรวมเลเยอร์ 6. การตกแตง่ ภาพในเลเยอร์ดว้ ยพาเลต็ Layer 7. การเจาะภาพใหโ้ ปรง่ ใสด้วย Layer Mask 8. การเลม็ สว่ นเกนิ ของภาพออกดว้ ย Clipping Mask 9. การตกแตง่ ภาพดว้ ย Fill Layer และ Adjustment Layer 10. การเขา้ ใจการผสมสีโดยการใช้ Layer Blending Mode 11. การแสดงงานหลายรปู แบบในไฟล์เดยี วโดยใช้ Layer Comp3. ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง 1. ซอ้ นภาพด้วยเลเยอร์ได้ 2. จัดการกับเลเยอร์ในลักษณะตา่ งๆได้ 3. จดั หมวดหมู่ของเลเยอรไ์ ด้ 4. ลงิ ค์ให้เลเยอร์ทางานรว่ มกันได้ 5. รวมเลเยอรไ์ ด้

324. กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมผู้เรียน กิจกรรมครู 1. ให้ความร่วมมือครูในการตรวจสอบ 2. ค้นคว้าความหมายของเลเยอร์ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน ( 30 นาท)ี 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เห็น 1. ตรวจสอบรายชอื่ นกั ศึกษาทเี่ ข้าเรยี น 2. ใหน้ กั ศึกษาคน้ ควา้ ความหมายของเลเยอร์ 3. ร่วมสนทนาเกยี่ วกับเรอ่ื งการทางานกบั เลเยอร์ขน้ั ดาเนนิ การสอน ( 240 นาที)1. บอกจดุ ประสงคก์ ารเรยี น 1. ฟงั ทาความเขา้ ใจและซักถาม2. อธบิ าย บรรยาย และแสดงวธิ กี ารปฏิบัตใิ นแต่ละ 2. ฟงั ทาความเขา้ ใจและปฎิบัตติ ามหัวข้อการเรยี นพรอ้ มให้นกั ศกึ ษาปฏิบัติตามไปพร้อม 3. ผู้เรียนซักถามข้อสงสัยกัน 4. รบั การประเมนิ4. ใหค้ าแนะนา5. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซักถามในแต่ละบุคคลขน้ั สรุป ( 30 นาท)ี1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสาระสาคญั 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สาระสาคญั2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามข้อสงสัย 2. นกั เรยี นสอบถามข้อสงสยั3. มอบหมายใหไ้ ปหัดทาและศึกษาเพ่ิมเตมิ 3. ฟงั และจดบนั ทกึ4. ทาแบบทดสอบ 4. ทาแบบทดสอบทา้ ยบท5. กิจกรรมการเรยี นรู้ก่อนเรยี น1. ค้นควา้ ความหมายของเลเยอร์ขณะเรยี น1. ผู้เรียนรว่ มกนั ศกึ ษาเนือ้ หาและปฏบิ ตั ติ ามครแู ลว้ ตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็น2. ทาใบงานและหลงั เรียน3. ร่วมกันเฉลยใบงานและหลังเรียน4. จดบนั ทกึ เทคนคิ แนวการที่เปน็ ประโยชน์ต่อผเู้ รยี น จากขอ้ แนะนาของครูผสู้ อน5. ผ้เู รียนสรุปความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นการสอน6. ผเู้ รียนซักถามในหวั ขอ้ ที่สงสัยในเน้อื หาการเรยี นรู้6. สอื่ การเรยี นการสอน 1. หนงั สือโปรแกรมกราฟิก 2. ใบความรู้ประจาหน่วย 3. ใบงาน

337. วดั ผลประเมินผล 1. ผเู้ รียนปฏิบตั ิภาระงานท่ีมอบหมายเสร็จทนั เวลาท่กี าหนด 2. ตอบคาถามและสรปุ ผลงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง 3. ทาหลงั เรยี นเสร็จทันเวลาทก่ี าหนดและถูกตอ้ ง 4. สนใจกระตอื รือรน้ ในการเรยี นรู้ ตอบคาถาม สรุปสาระการเรียนรู้ และกล้าแสดงความคิดเห็น 5. มีความพยายามปรบั ปรงุ แกไ้ ขใบงานและให้ถกู ต้องแลว้ นาสง่ ครูผสู้ อน8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ถา้ ผเู้ รยี นมีการเตรยี มตวั ในการเรียนทดี่ ี เช่น อา่ น และทาการศึกษาหนังสือเกยี่ วกับหน่วยการเรียนมากก่อน ถึงช่ัวโมงเรียน ผู้เรียน จะสามารถเรียน และทากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูผู้สอนมอบหมาย ได้อย่างมีความสุข และเกดิ ความชอบ และสนุกกบั การเรียนในชั้นเรียน 2. ผเู้ รียนต้องมีความขยนั หมนั่ ฝึกฝนบทเรยี นอยูเ่ สมอทง้ั กอ่ นและหลังเรียน 3. ผ้เู รยี นควรฝกึ หดั ในการเขียนสัญลกั ษณข์ องวงจรพร้อมนิยามของวงจรแต่ละชนดิ 4. ผเู้ รยี นต้องมคี วามพยายามและมีทัศนคตทิ ีด่ ใี นเนื้อหาบทเรยี น 3. ผู้เรยี นตอ้ งมคี วามกลา้ ทีจ่ ะถามเมื่อสงสยั ทงั้ ในหอ้ งและนอกห้องเรียนกบั ครูผสู้ อน

34 แบบบนั ทกึ คะแนน ชอ่ื – ปฏบิ ตั ิ การรว่ มลาดบั สกลุ ถกู ต้อง ผดิ 1 จดุ ผิด 2 จุด ความตัง้ ใจ ปรับปรงุ รวม ท่ี ของผรู้ ับ ท้งั หมด 4321 4321 4321 ผลงานกลุ่ม 20 คะแนน การ 4321 4321 ประเมนิเกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิดีมาก = 3 ............../.................../................ดี = 2พอใช้ = หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหนา้ กลมุ่ 1 เป็นผปู้ ระเมนิ หรือให้ตัวแทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมินปรบั ปรุง = หรอื ให้มีการประเมินโดยเพ่ือน โดยตัวผูเ้ รยี นเอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้เกณฑ์การตดั สินคุณภาพชว่ งคะแนน ระดับ คุณภาพ17 – 20 ดมี าก13 – 169 – 12 ดี พอใช้5–8 ปรบั ปรงุ

35 แบบทดสอบหน่วยที่ 6ตอนท่ี 1. จงทาเคร่ืองหมาย ในหัวข้อทถ่ี กู ที่สุดเพยี งข้อเดียว1. ข้อใดไมใ่ ช่วิธีการสรา้ งเลเยอร์ใหม่?ก. คลิกปุ่ม ข. คลิกปมุ่ค. กดคียล์ ัด <Shift+Ctrl+N> ง. เลอื กคาสั่ง Layer>New>Layer2. ข้อใดคือการลอ็ คภาพเฉพาะในส่วนท่โี ปรง่ ใส? ก. ข. ค. ง.3. ขอ้ ใดคือการล็อคตาแหนง่ ภาพไม่ใหม้ ีการเคลอื่ นย้ายได้? ก. ข. ค. ง.4. ข้อใดหมายถงึ การซอ่ นเลเยอร์? ข. ง. ก. ค.5. ขอ้ ใดคือการสรา้ งเลเยอร์กรปุ๊ เพือ่ จดั หมวดหมขู่ องเลเยอร์? ก. ข. ค. ง.6. ขอ้ ใดคือการสร้างลงิ ค์สร้างความเช่ือมโยงในการทางานใหก้ บั เลเยอร์? ก. ข. ค. ง.7. ขอ้ ใดคือการจดั เรยี งภาพในเลเยอร์ท่ีลงิ ค์กันอยู่ใหว้ างชดิ ขอบลา่ ง? ก. ข. ค. ง.8. ข้อใดคือการจัดระห่างของภาพทลี่ งิ ค์กันอยู่ใหห้ า่ งจากขอบซา้ ยของภาพเท่ากัน? ก. ข. ค. ง.

369. ข้อใดคือการรวมเลเยอรท์ ่ีมองเห็นอย่ใู หเ้ ป็นเลเยอรเ์ ดียวกัน ?ก. Merge Layers ข. Merge Visibleค. Merge Link ง. Flatten Image10. ข้อใดคอื การรวมเลเยอร์ท้ังหมดใหเ้ ปน็ เลเยอร์เดยี ว ?ก. Merge Layers ข. Merge Visibleค.Merge Link ง. Flatten Imageเฉลย1. ข 2. ก 3. ค 4. ง 5. ข6. ค 7. ก 8. ง 9. ข 10. ง