ใบความรู้ เร่ืองการคดิ เปน็ “คิดเปน็ คืออะไรใครรู้บ้าง มีทศิ ทางมาจากไหนใครเคยเหน็ จะเรยี นรา่ ทาอยา่ งไรให้ “คิดเปน็ ” ไมล่ ้อเลน่ ใครตอบได้ขอบใจเอย” ความเชอ่ื พื้นฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่ ทุกวันน้นี อกจากเด็กและเยาวชนท่คี รา่ เคร่งเรยี นหนงั สืออยู่ในโรงเรียนกนั มากมายท่ัวประเทศแล้วก็ยัง มเี ยาวชนและผูใ้ หญ่จานวนไม่น้อยทส่ี นใจใฝ่รูใ้ ฝเ่ รยี นตา่ งกใ็ ชเ้ วลาวา่ งจากการทางานหรือวนั หยุดไปเรียนรู้ เพม่ิ เติมทง้ั วิชาสามญั วิชาอาชีพหรอื การฝกึ ทักษะการเรยี นรู้ต่าง ๆ จากสอื่ และเทคโนโลยีที่แพร่หลายมากมายที่ เรียกวา่ การ ศกึ ษาผูใ้ หญ่การศกึ ษานอกโรงเรียนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยผเู้ รยี นเหล่าน้ี บางคนเปน็ เยาวชนท่ยี ังเรยี นไมจ่ บมธั ยมศึกษาตอนตน้ แต่ต้องออกมาทางานเพราะครอบครวั ยากจนมีพี่น้อง หลายคนบางคนไม่ได้เรียนหนังสอื แต่ทางานเป็นเจ้าของกจิ การใหญโ่ ตบางคนจบปริญญาแล้วกย็ งั มาเรียนอีก บางคนอายมุ ากแลว้ ก็ยงั สนใจมาฝึกวชิ าชีพและวชิ าทสี่ นใจเชน่ ร้องเพลงดนตรีหมอดูพระเครอ่ื งเป็นต้นและมี จานวนไม่นอ้ ยที่เรียนร้กู ารทารา้ นอาหารการทารา้ นขายทองหรือการทาการเกษตรปลูกส้มโอตามที่พ่อแม่ปยู่ ่า ตายายทามาหากนิ มาหลายช่ัวอายุคน ความเปน็ มาของปรชั ญาคดิ เป็น คิดเป็น (khit pen) เป็นปรชั ญาพ้นื ฐานของการศกึ ษานอกโรงเรียน เป็นกระบวนการคดิ ท่เี กิดขึน้ จากหลักการและแนวคิดของนักการศึกษาไทย ผู้ก่อต้งั ทฤษฎีการคิดเปน็ คือ ดร.โกวิท วรพิพฒั น์ ท่านผนู้ ้ี เปน็ ผู้นาแนวคดิ เรื่องการคิดเปน็ และนามาเผยแพร่จนได้รับการยอมรบั ทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ ซง่ึ ครง้ั แรกไดน้ ามาใช้ในวงการศึกษานอกโรงเรียนเม่ือราว พ.ศ. 2513 ดร.โกวทิ วรพพิ ัฒน์และคณะ ได้ ประยุกต์แนวความคดิ คิดเป็น มาใชใ้ นการจัดการศึกษาผูใ้ หญแ่ บบเบด็ เสรจ็ ขนั้ พน้ื ฐานระหวา่ งปี พ.ศ. 2518 – 2524 โครงการรณรงค์เพอื่ การรู้หนงั สอื เปน็ ตน้ ซง่ึ ถือวา่ แนวคิด คดิ เป็น เปน็ ปรัชญาท่ี นามาใช้กับการพัฒนางานการศึกษาผใู้ หญ่ และต่อมาไดน้ ามากาหนดเป็นจุดมุ่งหมายที่สาคัญของการศกึ ษา ไทยทุกระดบั และใช้เรอ่ื ยมาจนถึงปัจจบุ นั ท่ีว่า“การจัดการศึกษาต้องการสอนคนให้ คิดเป็นทาเป็น แก้ปญั หาเป็น (อนุ่ ตา นพคุณ :19) ปรัชญาคดิ เป็น อยบู่ นพน้ื ฐานความคดิ ที่ว่า ความตอ้ งการของแตล่ ะบคุ คลไมเ่ หมอื นกัน แตท่ กุ คนมี จดุ รวมของความต้องการท่ีเหมอื นกัน คือ ทุกคนต้องการความสุข คนเราจะมีความสุขเมื่อเราและสังคม สิ่งแวดลอ้ มประสมกลมกลนื กันได้ โดยการปรบั ปรุงตวั เราใหเ้ ขา้ กบั สังคมหรือสิ่งแวดลอ้ ม หรอื โดยการปรับปรงุ สังคมและสิ่งแวดลอ้ มใหเ้ ข้ากับตวั เรา หรือปรบั ปรงุ ทงั้ ตัวเราและสงั คมสงิ่ แวดลอ้ มใหป้ ระสมกลมกลืนกัน หรือ เขา้ ไปอยู่ในส่ิงแวดล้อมที่เหมาะสมกับตน คนทส่ี ามารถทาไดเ้ ช่นนี้ เพอ่ื ให้ตนเองมีความสุขนั้น จาเป็นตอ้ งเปน็ ผู้มคี วามคิดสามารถคิดแก้ปัญหา รจู้ ักตนเองและธรรมชาติส่งิ แวดล้อม จึงจะเรียกได้วา่ ผนู้ น้ั เป็นคนคดิ เปน็ หรอื อีกนยั หนึ่งปรชั ญาคดิ เปน็ มาจากความเช่ือพืน้ ฐานตามแนวพทุ ธศาสนา ทส่ี อนใหบ้ คุ คลสามารถพน้ ทุกข์ และพบความสขุ ได้ดว้ ยการค้นหาสาเหตุของปัญหา สาเหตขุ องทุกข์ ซ่ึงสง่ ผลใหบ้ ุคคลผู้นัน้ สามารถอยู่ใน สังคมได้อยา่ งมีความสุข คิดเป็น เชื่อว่ามนษุ ย์ทกุ คนมีพื้นฐานชวี ติ แตกต่างกนั มีวถิ ีการดาเนินชีวิตทแ่ี ตกต่างกนั มีความ ต้องการท่แี ตกต่างกัน แต่ทกุ คนลว้ นมคี วามต้องการทจ่ี ะมีความสุขอย่างอตั ภาพเหมือนกัน
เมอ่ื ทุกคนต้องการมคี วามสขุ เหมอื นกันจงึ ตอ้ งมีกระบวนการเพื่อใหเ้ กดิ ความสุขคือกระบวนการคดิ เป็นโดยมีฐานข้อมูลทางวชิ าการ ทางสงั คมสง่ิ แวดล้อมและข้อมูลของตนเองมาเปน็ ตวั การในการช่วยตดั สนิ ใจ เมอื่ ตัดสินใจไดแ้ ล้วจงึ เลือกหนทางในการดาเนนิ ชีวติ กจ็ ะเกิดความสขุ จากการตดั สินใจถูกตอ้ งเมือ่ ดาเนนิ การ แล้ว และยังเกิดปัญหา หรือยังไม่เกิดความสุขจึงกลับมาย้อนดคู วามผดิ พลาดจากข้อมูลว่าวเิ คราะหข์ ้อมลู ครบ หรอื ยงั แล้วจึงตัดสนิ ใจใหม่วนเปน็ วัฏจกั ร \"คิดเปน็ \"เพอ่ื การแก้ปัญหาทีย่ ังยนื แล้วเกิดสขุ อย่างอัตภาพ เปา้ หมายสดุ ทา้ ยของการเปน็ คน “คิดเป็น” คือความสุข คนเราจะมีความสุขเม่อื ตวั เราและสังคมสิง่ แวดล้อม ประสมกลมกลืนกนั อยา่ งราบรืน่ ทัง้ ทางดา้ นวตั ถุ กายและใจ ความหมายของปรชั ญาคิดเป็น ความหมายของ “คิดเป็น” ดร. โกวทิ วรพพิ ัฒน์ ไดใ้ ห้คาอธบิ ายเกีย่ วกับ “คดิ เปน็ ” วา่ “บุคคลทคี่ ิดเปน็ จะสามารถ เผชิญปัญหาในชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งมีระบบ บุคคลผนู้ ี้จะสามารถพินจิ พิจารณาสาเหตขุ องปญั หาที่เขากาลงั เผชิญอยู่ และสามารถรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ ได้อยา่ งกว้างขวางเกยี่ วกบั ทางเลือก เขาจะพจิ ารณาข้อดีขอ้ เสยี ของแตล่ ะเร่ือง โดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวค่านิยมของตนเอง และสถานการณ์ที่ตนเองกาลังเผชิญอยู่ ประกอบการพจิ ารณา” การ “คดิ เปน็ ” เป็นการคดิ เพื่อแก้ปัญหา คือ มีจุดเรม่ิ ต้นท่ีปญั หาแล้วพิจารณาย้อน ไตร่ตรองถงึ ข้อมลู 3 ประเภท คือ ข้อมลู ดา้ นตนเอง ชุมชน สงั คม ส่งิ แวดล้อม และข้อมูลวชิ าการ ต่อจากนัน้ กล็ งมอื กระทา ถ้า หากสามารถทาใหป้ ัญหาหายไป กระบวนการกย็ ตุ ิลง แต่หากบุคคลยังไม่พอใจแสดงวา่ ยังมีปัญหาอยู่ บุคคลก็ จะเริม่ กระบวนการพิจารณาทางเลือกใหม่อีกครัง้ และกระบวนการน้ียุตลิ งเมอื่ บุคคลพอใจและมคี วามสุข สรุปความหมายของ “คิดเป็น” การวเคราะหป์ ญั หาและแสวงหาคาตอบหรือทางเลือกเพอ่ื แกป้ ัญหาและดบั ทกุ ข์ การคิดอย่างรอบคอบเพ่ือการแกป้ ญั หาโดยอาศัยขอ้ มูลตนเอง ข้อมลู สังคมส่งิ แวดล้อและขอ้ มูลวิชาการ หลักการและแนวคิดของคนคดิ เปน็ 1) หลกั การของการคดิ เป็น 1. คิดเปน็ เชอ่ื ว่า สังคมเปลีย่ นแปลงอยู่ตลอดเวลา ก่อให้เกดิ ปัญหาซงึ่ ปัญหานั้นสามารถแก้ไขได้ 2.คนเราจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยใช้ข้อมลู มาประกอบการตัดสนิ ใจ อยา่ งน้อย 3 ประการ คือ ข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง สงั คมและวิชาการ 3. เมือ่ ไดต้ ดั สินใจแก้ไขปญั หาดว้ ยการไตรต่ รองรอบคอบ โดยใชข้ ้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง สังคมและ วิชาการ ทั้ง3 ดา้ นนแ้ี ลว้ ยอ่ มกอ่ ให้เกิดความพอใจในการตัดสินใจนั้นและควรรับผดิ ชอบต่อการตัดสนิ ใจนั้น 4. แต่สงั คมเปล่ยี นแปลงอยตู่ ลอดเวลาการคดิ ตัดสนิ ใจอาจจะตอ้ งเปลยี่ นแปลงปรบั ปรุงใหมใ่ ห้ เหมาะสมกับสภาพและสถานการณท์ ่เี ปล่ียนไป 2) แนวคดิ เรอื่ ง คดิ เปน็ (Khit Pen) ดังได้กล่าวมาแลว้ ว่า“คิดเปน็ ” เปน็ กระบวนการคิดท่เี กดิ ขึน้ จากหลักการและแนวคดิ ของ ดร. โกวิท วรพิพัฒน์ ซึ่งเป็นนักการศึกษาไทย และอดีตอธิบดีกรมการศึกษานอกโรงเรียน และอดีต ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อุ่นตา นพคุณ (อ้างอิงจากชวี ิตพ่อเลา่ : ดร.โกวิท วรพิพัฒน์. 2544 : 651 – 652) กล่าวถงึ แนวคิดเรอ่ื ง “คดิ เปน็ ” วา่ ไดน้ ามาใช้ในวงการศึกษานอกโรงเรียน แลว้ นามากาหนดเปน็ จดุ มงุ่ หมายที่ สาคญั ของการศกึ ษาไทยทุกระดับและใช้เรอื่ ยมาจนถึงปัจจุบนั โดยนกั การศึกษาไทยหลายทา่ นพยายามนา
เรอื่ ง“การคิดเป็น” มาพัฒนาการจดั การศึกษาไทยและสรา้ งเอกลกั ษณ์ความเป็นไทยจนเป็นท่ียอมรบั และเกิดเป็น เป้าหมายของการจัดการศึกษาไทยท่ีว่า“การจัดการศึกษาต้องการสอนคนให้ คิดเป็นทาเปน็ แก้ปัญหา เป็น”การคดิ เป็นของ ดร.โกวทิ วรพพิ ฒั นเ์ ป็นกระบวนการคิดและตดั สนิ ใจแก้ปัญหาด้วยการใช้ข้อมลู 3 ดา้ น ได้แก่ข้อมลู ตนเองข้อมลู สังคมและสิง่ แวดล้อมและขอ้ มลู วชิ าการมาประกอบการคดิ และตดั สนิ ใจ นอกจากน้ี ทองอยู่ แก้วไทรฮะ และจันทร์ ชุ่มเมืองปัก (อ้างอิงจากชีวิตพ่อเล่า: ดร. โกวิท วรพิพัฒน์. 2544 : 654 – 655) อธิบายเพิ่มเติมว่า คน “คิดเป็น”คือคนท่ีมีความสุขเม่ือได้ ปรับปรุงตนเองและสังคมส่ิงแวดล้อมให้ผสมกลมกลืนกันด้วยกระบวนการแก้ปัญหาหรือการตดั สินใจ แก้ปัญหาโดยพิจารณาข้อมลู อย่างน้อย 3 ประการคือ 1) การรู้จักตนเองอยา่ งถ่องแท้เที่ยงธรรม หรอื ตน (Self) โดยพิจารณาความพร้อมในด้าน การเงิน สุขภาพอนามัย ความรู้ อายุ และวัย รวมท้ังความมีเพื่อนฝงู และอนื่ ๆ 2) สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม (Society and Environment) หมายถึง คนอ่ืนนอกเหนือ จากเรา และครอบครัว จะเรียกว่าบุคคลที่ 3 ก็ได้ คือดวู ่าสังคมเขาคิดอย่างไรกับการตัดสินใจของเรา เขาเดือดร้อนไหม เขารังเกียจไหม เขาชื่นชมด้วยไหม เขามีใจปันให้เราไหม รวมตลอดถึงเศรษฐกิจและสังคมน้ัน ๆ เหมาะ กับเรื่องท่ีเราตัดสินใจหรือไม่ รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี คุณธรรมและค่านยิ มของสังคม 3) ความร้ทู างวชิ าการ เปน็ ความรูท้ างวิทยาศาสตรห์ รอื ความรวู้ ิชาการในเรือ่ งทตี่ รงกับการท่ีเรา จะต้องตัดสินใจ ซึ่งถือเป็นหนังสือหลัก แนวความคิดเรื่องคิดเป็นมีองคป์ ระกอบทส่ี าคญั ในเชงิ ปรัชญา 3 สว่ น กล่าวคอื เป้าหมายสงู สุดของ ชีวติ มนษุ ย์ คอื ความสุข มนุษยจ์ ึงแสวงหาวิธกี ารต่าง ๆ เพื่อทจ่ี ะมุ่งไปสู่ความสขุ นั้น แต่เนื่องจากมนษุ ย์มีความ แตกต่างกนั โดยพน้ื ฐานท้ังทางกายภาพ อารมณ์ สงั คม จติ ใจและสภาวะแวดลอ้ ม ทาใหค้ วามต้องการของคน แตล่ ะคนมีความแต่ต่างกนั การให้คุณค่า และความหมายของความสขุ ของมนษุ ยจ์ งึ แตกตา่ งกนั การแสวงหา ความสุขทแี่ ตกต่างกนั น้นั มนุษย์ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกันสภาพแวดล้อมของตนเองซึ่งโดยหลักใหญๆ่ แล้ว วธิ กี ารปรบั ตัวของมนุษย์ ไดแ้ ก่ การปรับตัวให้เข้ากบั สภาพแวดลอ้ ม หรือไม่ก็ปรบั สภาพแวดล้อมให้เข้ากับตนอง หรืออาจปรับทั้งตนเองและสภาพแวดล้อมเข้าหากัน จนที่สุดแลว้ ไม่สามารถปรบั ตวั ได้มนษุ ย์ก็จาเปน็ จะต้องหลีกออกจากสภาพแวดลอ้ มนน้ั เพ่อื ไปหาสภาพแวดลอ้ มใหม่ เพือ่ ที่จะปรบั ตัวให้มคี วามสขุ ไดใ้ หม่ แต่แท้จริงแล้ว การที่มนษุ ยจ์ ะเลือกปรับตัวอย่างใดอยา่ งหน่งึ นัน้ ข้ึนอยูก่ บั การตัดสินใจของคนแตล่ ะคน การตดั สนิ ใจนน้ั จาเปน็ จะต้องใชข้ อ้ มลู อยา่ งรอบด้าน ซ่งึ โดยหลกั การของการคดิ เปน็ มนุษยค์ วรจะใช้ขอ้ มลู อย่างนอ้ ย 3 ดา้ นคือ ข้อมลู ตนเอง ซงึ่ เปน็ ขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง ทัง้ ทางดา้ นกายภาพ สขุ ภาพอนามัย ดา้ นจติ ใจและความพร้อมต่าง ๆ ข้อมูลสังคม ซ่ึงเป็นข้อมูลเกี่ยวกบั สภาพแวดลอ้ มครอบครวั สงั คม วัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี คา่ นยิ มตลอดจนกรอบคุณธรรม จริยธรรม และข้อมูลวิชาการ คอื ความรทู้ ่เี กีย่ วข้องกบั เรอ่ื งทตี่ ้องคิด ตัดสินใจน้นั ๆ วา่ มหี รือไม่ เพยี งพอ ทจี่ ะนาไปใชห้ รอื ไม่ การใช้ข้อมูลอย่าง รอบดา้ นนจ้ี ะช่วยใหก้ ารคิดตัดสินใจเพื่อแสวงหาความสุขของมนุษย์เปน็ ไปอยา่ งรอบคอบ เรียกวธิ กี ารคิด ตดั สินใจนี้วา่ “คดิ เปน็ ” และเปน็ ความคดิ ที่มีพลวตั คือ ปรับเปลีย่ นไดเ้ สมอ เมือ่ ข้อมูลเปลยี่ นแปลงไป เป้าหมายชีวติ เปลยี่ นไป
ลกั ษณะของคนคดิ เป็น ลักษณะของคนคดิ เปน็ มี 8 ประการ 1. มคี วามเชื่อว่าปญั หาทเ่ี กดิ ข้นึ เป็นส่ิงธรรมดาสามารถแก้ไขได้ 2. การคดิ ท่ีดีต้องใหข้ ้อมลู หลายๆดา้ น (ตนเอง สังคมวชิ าการ) 3. รู้ว่าขอ้ มลู เปลยี่ นแปลงอยู่เสมอ 4. สนใจทจ่ี ะวิเคราะห์ข้อมลู อยูเ่ สมอ 5. รู้วา่ การกระทาของตนมีผลต่อสงั คม 6. ทาแล้วตัดสินใจแล้ว สบายใจและเตม็ ใจรับผิดชอบ 7. แกป้ ัญหาชวี ิตประจาวนั อย่างมรี ะบบ 8. รจู้ ักชัง่ นา้ หนักคุณคา่ กับสิ่งรอบ ๆ ด้าน สมรรถภาพของคนคดิ เปน็ 1. เผชิญปญั หาในชีวิตประจาวนั อย่างมีระบบ 2. สามารถทจ่ี ะแสวงหาและใชข้ อ้ มลู หลายๆด้านในการคิดแกไ้ ขปญั หา 3. รจู้ กั ช่ังน้าหนกั คุณค่าและตัดสินใจหาทางเลือกใหส้ อดคลอ้ งกบั ค่านิยมความสามารถและ สถานการณ์หรือเง่ือนไขสว่ นตวั และระดบั ความเป็นไปไดข้ องทางเลือกตา่ ง ๆ กระบวนการคิดเป็น กระบวนการคดิ เป็น กระบวนการคิดเป็นอาจจาแนกใหเ้ หน็ ข้ันตอนตา่ ง ๆ ทป่ี ระกอบกันเข้าเป็นกระบวนการคิดไดด้ งั นี้ ข้นั ท่ี 1 ข้ันสารวจปญั หาเมื่อเกดิ ปัญหายอ่ มต้องเกิดกระบวนการคิดแกป้ ญั หา น่ันคือการ รบั รู้ปญั หาทีก่ าลงั เผชิญอย่แู ละคดิ แสวงหาทางแกป้ ญั หานนั้ ๆ ขั้นท่ี 2 ขั้นหาสาเหตุของปญั หา เปน็ การศึกษารวบรวมข้อมลู เก่ียวกับปญั หาเพื่อทาความ เข้าใจปญั หา และสถานการณ์นนั้ ๆ โดยจาแนกขอ้ มูลออกเป็น 3 ประเภทคือ ข้อมูลสงั คม : ได้แกข่ ้อมลู เกี่ยวกบั สภาพแวดล้อมทีอ่ ยรู่ อบ ๆ ตวั ปญั หาสภาพสงั คมของแต่ ละบุคคล ตง้ั แต่ครอบครวั ชมุ ชนและสังคมทั้งในแงเ่ ศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง สง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม ประเพณี ความเชื่อ ค่านิยม เปน็ ต้น ข้อมูลตนเอง :ได้แก่ข้อมูลเกี่ยวกบั ตัวบคุ คล ซ่งึ จะเปน็ ผ้ตู ัดสนิ ใจ เป็นขอ้ มูลท้ังทางด้าน กายภาพ พนื้ ฐานของชีวิต ครอบครวั อาชีพ ความพร้อมท้งั ทางอารมณ์ จิตใจ เปน็ ต้น ข้อมูลวิชาการ :ได้แก่ข้อมลู ด้านความรใู้ นเชิงวชิ าการที่จะช่วยสนบั สนนุ ในการคดิ การ ดาเนินงาน ยงั ขาดวชิ าการความรตู้ า่ ง ๆ ทเี่ กีย่ วข้องกับปัญหาในเรอ่ื งใดบ้าง ขัน้ ที่ 3 ขน้ั วเิ คราะห์ หาทางแก้ปญั หา เป็นการวิเคราะห์ทางเลอื กในการแก้ปัญหา หรือการ ประเมนิ ค่าข้อมูลทง้ั 3 ด้าน คอื ข้อมูลด้านตนเอง สงั คม วชิ าการ มาประกอบในการวิเคราะห์ ชว่ ยในการ คิดหาทางแก้ปญั หาภายในกรอบแหง่ คุณธรรม ประเดน็ เด่นของขนั้ ตอนน้ีคอื ระดับของการตัดสนิ ใจที่จะ แตกตา่ งกันไปแต่ละคนอันเป็นผลเนอ่ื งมาจากข้อมลู ในขน้ั ท่ี 2 ความแตกตา่ งของตัดสินใจดงั กล่าวมุ่งไปเพ่ือ ความสุขของแตล่ ะคน ขั้นที่ 4 ขั้นตัดสนิ ใจเมื่อได้ทางเลือกแลว้ จึงตดั สินใจเลือกแก้ปัญหาในทางท่มี ีขอ้ มลู ตา่ ง ๆ พรอ้ มสมบูรณ์ทีส่ ุดการตัดสินใจถอื เปน็ ขัน้ ตอนสาคญั ของแตล่ ะคนในการเลือกวธิ ีการหรอื ทางเลือกในการ แกป้ ัญหา ขึน้ อยกู่ ับวา่ ผลของการตัดสนิ ใจนั้นพอใจหรือไม่ หากไม่พอใจก็ต้องทบทวนใหม่
ขนั้ ท่ี 5 ขนั้ ตดั สนิ ใจไปสู่การปฏิบตั เิ ม่ือตัดสินใจเลือกทางใดแล้วต้องยอมรับว่าเปน็ ทางเลอื กท่ี ดที ่สี ดุ ในข้อมูลเท่าที่มีขณะน้ันในกาละนัน้ และในเทศะน้ันเป็นการปฏบิ ตั ิตามสิ่งทไี่ ด้คดิ และตัดสินใจแลว้ หาก พอใจยอมรับผลของการตดั สินใจ มคี วามสุขก็เรยี กไดว้ ่า “คิดเปน็ ” แตห่ ากตัดสนิ ใจแล้วได้ผลออกมายังไม่ พอใจ ไมม่ ีความสุข อาจเป็นเพราะข้อมูลที่มี ไม่รอบดา้ น ไม่มากพอ ตอ้ งหาข้อมูลใหม่คิดใหมต่ ัดสินใจใหม่ แต่ไมถ่ ือ วา่ คดิ ไมเ่ ป็น จากแผนภมู แิ สดงกระบวนการคดิ เปน็ สรปุ ได้ว่า ความเชื่อพ้ืนฐานของการ “คิดเป็น”มาจาก ธรรมชาตขิ องมนุษยท์ ี่ต้องการความสุข มนษุ ย์จะมีความสุขเมอ่ื ตวั เองและสังคมสิ่งแวดลอ้ มประสมกลมกลนื กัน อย่างราบรื่น ซ่ึงแต่ละคนแตล่ ะกลุ่มสามารถทาได้ ดังนี้ 1) ปรับปรุงตนเองให้เข้ากับสังคมและสง่ิ แวดล้อม 2) ปรับปรุงสังคมและสิ่งแวดลอ้ มใหเ้ ข้ากับตัวเอง 3) ปรบั ปรงุ ทง้ั ตัวเราและสงั คมส่งิ แวดล้อมทั้งสองดา้ นใหป้ ระสมกลมกลืนซ่ึงกนั และกัน 4) หลีกสังคมและสง่ิ แวดล้อมหนึ่งไปสสู่ งั คมและสงิ่ แวดล้อมทเ่ี หมาะสมกับตน เม่ือเกิดปัญหาขึน้ คนทค่ี ิดเป็น จะใช้กระบวนการแก้ปัญหาดว้ ยการปรับตวั เอง สงั คมและ ส่ิงแวดลอ้ มใหป้ ระสมกลมกลืนกนั โดยอาศยั ข้อมลู ประกอบการคดิ 3 ดา้ น คอื ข้อมูลตนเองข้อมูลสังคม และสิ่งแวดล้อม และข้อมลู วิชาการ แล้วจงึ ตดั สนิ ใจ เม่อื ตัดสนิ ใจแลว้ ลงมือปฏิบตั ิ ดวู ่าผลออกมาเป็นอยา่ งไร ถา้ พอใจก็จะมีความสุข แต่ถ้าไม่พอใจก็หาวธิ ใี หม่ในการแกป้ ัญหาจนกวา่ จะพอใจ
ขัน้ ท่ี 1 แผนภูมแิ สดงกระบวนการคิด มีความสุข ขัน้ ท่ี 2 เป็ น ปัญหา ศกึ ษา รวบรวม ข้อมูล สังคม ตนเอง วชิ ากา ร ขัน้ ท่ี 3 ตนเอง กรอบแห่งคุณธรรม สังคม วิชากา ร ขัน้ ท่ี 4 ตัดสินใ พอใจ ไม่พอใจ จ ขัน้ ท่ี 5 สู่การปฏบิ ตั ิ
ใบงาน เรือ่ ง ทบทวนความเช่อื พืน้ ฐานทางการศกึ ษาผ้ใู หญ/่ การศกึ ษานอกโรงเรียนและการเชื่อมโยงสปู่ รัชญาคิดเป็น 1.อธิบายบทสรุปของการทบทวนปรชั ญาการคดิ เปน็ มาพอสังเขป .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................................................ .................. ................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................. ............................ ....................................................................................................... ....................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 2.ให้เขยี นแผนภมู ิแสดงกระบวนการคดิ เป็น ชื่อ........................................... นามสกุล...................................................รหัสนักศกึ ษา.................................
แผนการจดั การเรยี นรู้คร้ังท่ี 1๑ (การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง) กลุ่มสาระทักษะการเรยี นรู้ รายวชิ า ทักษะการเรยี นรู้ ทร๒1001 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การคดิ เป็น แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ งลั กษณะของข้อมูลและการเปรียบเทยี บข้อมลู ด้านวชิ าการฯ เวลาสอน ๑๕ ช่ัวโมง สอนวันท.่ี .......เดอื น.................................พ.ศ. .........................ภาคเรียนท่.ี ........ปกี ารศกึ ษา...................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มีมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติทีด่ ีต่อการคดิ เปน็ ตวั ชว้ี ัด 1.อธบิ ายหรือทบทวนปรชั ญาคดิ เป็นและลักษณะของข้อมลู ด้านวชิ าการ ตนเอง สังคม ส่ิงแวดล้อมที่ นามาวเิ คราะหเ์ พ่ือประกอบการจัดการตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา 2.จาแนกเปรียบเทยี บ ตรวจสอบ ขอ้ มูลด้านวิชาการ ตนเอง สงั คม สาระสาคญั ทบทวนความเข้าใจความเช่ือพ้ืนฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่/การศึกษานอกโรงเรียนและการเชื่อมโยง ไปสู่การเรียนรู้เรื่องของการคิดเป็น ศึกษาวิเคราะห์ลักษณะของข้อมูลท้ังด้านวิชาการ ตนเอง และสังคม สิ่งแวดลอ้ ม เพอ่ื นาไปใช้ในการเลือกเก็บข้อมูลดงั กลา่ วมาใช้ประกอบการคิดตัดสนิ ใจอย่างคนคดิ เป็น เน้ือหา ลักษณะของข้อมูลและการเปรยี บเทียบขอ้ มลู ดา้ นวิชาการ ตนเอง และสังคมสงิ่ แวดลอ้ มและทักษะเบื้องตน้ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มูลทัง้ 3 ดา้ นเพอื่ ประกอบการตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาแบบคนคิดเปน็ เป็น คณุ ธรรม 1. เพ่ือการพัฒนาตน 2. เพ่อื การพัฒนาการทางาน 3. เพอ่ื การพัฒนาการอยู่รว่ มกันในสังคม 4. เพอ่ื การพฒั นาประเทศชาติ กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขัน้ นา - การนาเข้าสู่บทเรียนดว้ ยวิธีการ ทกั ทายผูเ้ รยี น และชแ้ี จงบอกวตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ เรื่อง ลกั ษณะ ของข้อมลู และการเปรียบเทยี บขอ้ มูลด้านวิชาการ ตนเอง และสงั คมสง่ิ แวดล้อมและทักษะเบือ้ งตน้ การ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ข้อมูลท้ัง 3 ดา้ นเพือ่ ประกอบการตัดสนิ ใจแก้ปัญหาแบบคนคดิ เป็น ขั้นสอน - ครอู ธบิ ายลกั ษณะของข้อมูลและการเปรยี บเทยี บข้อมูลด้านวชิ าการ ตนเอง และสังคมสง่ิ แวดล้อม และทกั ษะเบ้อื งตน้ การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อมลู ท้ัง 3 ด้านเพือ่ ประกอบการตดั สินใจแก้ปญั หาแบบคนคดิ เป็นและเปดิ โอกาสให้ผเู้ รียนซักถาม
- ผเู้ รียนใชแ้ บบเรยี นวชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ เปิดเน้ือหา บทที่ 4 การคิดเปน็ เรื่องลักษณะของข้อมูล และการเปรียบเทียบข้อมูลดา้ นวชิ าการ ตนเอง และสงั คมสิ่งแวดล้อมและทักษะเบือ้ งต้น การวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมลู ทง้ั 3 ด้านเพ่ือประกอบการตัดสนิ ใจแก้ปญั หาแบบคนคิดเป็น - ครใู หผ้ ู้เรยี นสแกน QR Code ใบความรู้ เรอื่ งการคดิ เปน็ (เพม่ิ เติม) - ครใู หผ้ เู้ รยี นทาใบงาน เรื่องลกั ษณะของข้อมูลและการเปรยี บเทยี บข้อมูลด้านวชิ าการ ตนเอง และ สงั คมสง่ิ แวดล้อมและทักษะเบอ้ื งตน้ การวิเคราะห์ สังเคราะหข์ ้อมลู ท้ัง 3 ดา้ นเพอื่ ประกอบการตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาแบบคนคดิ เปน็ - ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ครัง้ ที่ 5 ขั้นสรุป - ครแู ละผ้เู รยี นรว่ มกนั สรุปหลังจากทุกกลมุ่ นาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน - ครใู หค้ วามรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นที่ยังไม่สมบรู ณ์
สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือแบบเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน การวดั และประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้ 2. วดั ความรจู้ ากการทากิจกรรมในใบงาน 3. การนาเสนอผลการเรยี นรู้ 4. แบบทดสอบ แหล่งการเรยี นร/ู้ สืบคน้ ขอ้ มูลเพิ่มเตมิ 1. ห้องสมดุ ประชาชน 2. กศน.ตาบล 3. แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ 4. Internet 5. ภมู ิปญั ญา / แหลง่ เรียนรู้ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา พิจารณาแลว้ .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................. ลงชอื่ (นางสาวปรารถนา ชีโพธ์ิ) ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางระจัน วันท่ี ........... เดือน ................. พ.ศ. ...........
บนั ทึกหลังการสอน ความสาเรจ็ ในการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ปัญหา / อุปสรรค ในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแกป้ ญั หา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ..............................................ครูผสู้ อน (.............................................) คร.ู ........................................... วันที่..........เดอื น...........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ ผ้บู งั คบั บญั ชา (นางสาวปรารถนา ชโี พธ์ิ) ผู้อานวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอบางระจัน
แบบทดสอบหลังเรยี น ครง้ั ที่ 5 1. ข้อใดถูกต้องทส่ี ุดในเร่ืองกระบวนการคดิ เป็น ก.การทาความเขา้ ใจดว้ ยกระบวนการคดิ ข.สร้างความเข้าใจดว้ ยตนเองเป็นหลัก ค.สร้างความเข้าใจด้วยการรวมกลุ่มเป็นหลกั ง.การทาความเข้าใจด้วยกระบวนการคดิ และสร้างความเข้าใจดว้ ยตนเองเป็นหลัก 2. คนจะอยูใ่ นสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ต้องร้จู ักการปรับตวั และใช้กระบวนการคดิ เป็นโดยยดึ หลกั ใด ก. หลกั เหตผุ ล และ ความดี ข. หลักเทย่ี งธรรมและ ความดี ค. หลกั คุณธรรมและจรยิ ธรรม ง. หลักเหตผุ ลและเท่ยี งธรรม ภายใต้กรอบแหง่ คุณธรรม จริยธรรม 3. ขอ้ มลู ตนเองหมายถงึ ขอ้ ใด ก. ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเอง ทง้ั ทางด้านกายภาพ สขุ ภาพอนามยั ความพร้อมต่าง ๆ และจิตสานึกของ ตนเอง ข. ซง่ึ เป็นขอ้ มูลเก่ยี วกบั สภาพแวดลอ้ ม ครอบครวั สังคม วัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี ค่านิยม ตลอดจนกรอบคุณธรรม จริยธรรม ค. คอื ความรู้ทเ่ี กีย่ วข้องกับเร่ืองท่ีต้องคิด ตดั สนิ ใจนัน้ ๆ ว่ามหี รอื ไมเ่ พียงพอที่จะนาไปใชห้ รือไม่ ง. ถูกทกุ ขอ้ 4. ลกั ษณะของคนคดิ เปน็ ตามปรัชญาคิดเป็นคือลักษณะใด ก. ปัญหาท่ีเกดิ ข้ึนเป็นสงิ่ ธรรมดา สามารถแก้ไขได้ ข. เข้าใจว่าข้อมูลทางวิชาการเปล่ยี นแปลงอยู่เสมอ ค. แก้ปญั หาชีวิตประจาวันอย่างมรี ะบบ ง. ถูกทุกขอ้ 5. ขอ้ มลู วิชาการ หมายถึง ก. ขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเอง ทงั้ ทางด้านกายภาพ สขุ ภาพอนามัยความพร้อมต่าง ๆ ข. ข้อมูลเกยี่ วกบั สภาพแวดล้อม ครอบครวั สังคม วัฒนธรรม ค. ความรู้ทเ่ี กย่ี วข้องกบั เรอื่ งทต่ี ้องคดิ ตัดสินใจนั้น ๆ ว่ามีหรอื ไมเ่ พียงพอท่จี ะนาไปใชห้ รอื ไม่ ง. ถูกทุกขอ้ 6. การใชก้ ระบวนการคิดเป็นตอ้ งกระทาโดยใคร เพ่ือแกไ้ ขและการตัดสนิ ใจ ก. ครู ข. เพอ่ื น ค. ผู้นาชุมชน ง. เจ้าของปัญหาเอง 7. เวลามปี ญั หาหรือขดั แยง้ กับเพอื่ นรว่ มงานอย่างแรกท่เี ราควรมองเปน็ อนั ดบั แรกคือ ก. เพอื่ นรว่ มงาน ข. มองทีต่ วั เอง ค. อาจารยผ์ ้สู อน ง. พ่อแม่ 8. หลกั การแกป้ ญั หาที่ดีคือ ก. ระบปุ ญั หา ระบขุ ้อจากัดของปัจจัย การพฒั นาทางเลอื ก ข. การวิเคราะห์ทางเลือก การเลือกทางเลอื กท่ีดีท่ีสดุ ค. การนาผลการตดั สินใจไปปฏบิ ัติ การสรา้ งระบบควบคุมและประเมนิ ผล ง. ถูกทุกขอ้
9. ขอ้ ใดท่ีแสดงความเป็นปญั ญาชนท่ีแทจ้ ริง ก. ความเป็นตัวของตวั เอง ข. ความมีเสรภี าพในการใชค้ วามคิด ค. การยอมรับความคดิ ผู้อืน่ ง. ถกู ทุกข้อ 10. ข้อใดคือคณุ สมบตั ทิ ี่เหมาะสมของข้อมลู ก. ความถูกต้อง ข. ความหลากหลาย ค. ความเป็นระเบยี บ ง. ความเปน็ สากล
ใบงาน เร่อื ง ลักษณะของข้อมูลและการเปรียบเทยี บขอ้ มลู ด้านวิชาการ ตนเอง และสงั คมส่งิ แวดล้อมและทักษะ เบ้ืองต้น การวเิ คราะห์ สังเคราะหข์ อ้ มลู ทั้ง 3 ดา้ นเพือ่ ประกอบการตัดสินใจแก้ปัญหาแบบคนคิดเปน็ 1.ข้อมูล คืออะไร อธิบายมาพอสงั เขป .......................................................................................................................................................................... .... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.จงอธบิ ายลักษณะของข้อมูล ................................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ..................................................................................................... ......................................................................... 3.จงอธิบายคุณสมบัติทีเ่ หมาะสมของข้อมลู ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 4.การจดั การข้อมูลเพ่ือใหเ้ กิดประโยชน์กับการใชง้ านมอี ะไรอธิบายมาพอสังเขป ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................................... ......... ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ ................................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................... .......................................... ชื่อ.................................................... นามสกลุ ...............................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................
แผนการจัดการเรียนรคู้ รั้งท่ี 1๒ (พบกลมุ่ ) กลุม่ สาระทักษะการเรียนรู้ รายวิชา ทักษะการเรียนรู้ ทร๒1001 ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เร่อื ง การวจิ ยั อย่างง่าย แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง ความหมายของการวจิ ยั และความหมายของการวจิ ัยอย่างงา่ ย เวลาสอน 6 ชว่ั โมง สอนวันท่ี...........เดือน...................................พ.ศ. .......................ภาคเรียนที.่ ......ปกี ารศึกษา..................... มาตรฐานการเรียนรู้ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติท่ีดีต่อการวจิ ยั อย่างง่าย ตัวชวี้ ัด 1.ระบุปญั หา ความจาเป็น วัตถุประสงคแ์ ละประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับจากการวจิ ัยและสืบค้นข้อมูล เพอ่ื ทาความกระจ่างในปัญหาวิจยั รวมท้งั กาหนดวธิ กี ารหาความรคู้ วามจริง 2.เห็นความสาพนั ธข์ องกระบวนการวจิ ัยกับการนาไปใชใ้ นชีวิต 3.ปฏบิ ตั ิการศกึ ษา ทดลอง รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และสรุปความรู้ ความจริงตามขัน้ ตอนได้อยา่ ง ถกู ต้อง ชดั เจน สาระสาคญั การแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างมีระบบเพื่อให้ได้รับคาตอบหรือความรู้ใหม่ท่ีเชื่อถือได้ สามารถทาไดโ้ ดยในกระบวนการวจิ ัย เนื้อหา ความหมายของการวิจยั และความหมายของการวจิ ยั อย่างง่าย คณุ ธรรม 1. เพ่ือการพัฒนาตน 2. เพือ่ การพฒั นาการทางาน 3. เพื่อการพฒั นาการอยู่ร่วมกนั ในสังคม 4. เพ่อื การพฒั นาประเทศชาติ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนา - การนาเขา้ สบู่ ทเรยี นดว้ ยวธิ กี าร ทกั ทายผู้เรียน และช้ีแจงบอกวตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ เร่อื ง ความหมายของการวิจยั และความหมายของการวจิ ัยอยา่ งง่าย - ครใู หผ้ ้เู รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ครง้ั ที่ 6
ขั้นสอน - ครอู ธบิ ายความหมายของการวจิ ัย และความหมายของการวิจยั อย่างงา่ ย - ผเู้ รยี นใช้แบบเรยี นวชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ เปิดเน้ือหา บทที่ 5 การวจิ ัยอย่างง่าย เรอ่ื ง ความหมาย ของการวจิ ยั และความหมายของการวจิ ัยอย่างง่าย - ครูให้ผเู้ รยี นสแกน QR Code ใบความรู้ เร่อื งการวิจยั อยา่ งง่าย(เพม่ิ เติม) - ครใู หผ้ เู้ รยี นทาใบงาน เรื่อง ความหมายของการวจิ ยั และความหมายของการวิจยั อย่างง่าย ข้นั สรุป - ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันสรปุ หลังจากทุกกลุ่มนาเสนอผลงานหน้าชนั้ เรียน - ครูใหค้ วามรู้เพิ่มเติมในส่วนที่ยงั ไม่สมบรู ณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื แบบเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรียนรู้ 2. วดั ความรูจ้ ากการทากจิ กรรมในใบงาน 3. การนาเสนอผลการเรยี นรู้ 4. แบบทดสอบ
แหล่งการเรียนร/ู้ สบื ค้นข้อมูลเพิม่ เติม 1. หอ้ งสมดุ ประชาชน 2. กศน.ตาบล 3. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 4. Internet 5. ภมู ิปัญญา / แหลง่ เรยี นรู้ ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา พจิ ารณาแลว้ .......................................................................................................................................... ......................................................................................................... ...................................................... ลงช่ือ (นางสาวปรารถนา ชีโพธ์ิ) ผูอ้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางระจัน วันที่ ........... เดือน ................. พ.ศ. ...........
บันทกึ หลังการสอน ความสาเร็จในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................. ................................. ปญั หา / อปุ สรรค ในการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ..................................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................... ........................................ ลงชอื่ ..............................................ครูผู้สอน (.............................................) คร.ู ........................................... วนั ท.่ี .........เดอื น...........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ................................................................................................................................................................. ............. ...................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. ลงชื่อ ผู้บังคับบญั ชา (นางสาวปรารถนา ชโี พธิ์) ผอู้ านวยการศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน
แบบทดสอบก่อนเรียนครง้ั ท่ี 6 1.ขอ้ ใดเป็นความหมายของการวจิ ัยอย่างงา่ ย ก. ทางานอย่างเขา้ ใจ ข. การวางแผนงานอย่างเปน็ ระบบ ค. การคาดเดาคาตอบอยา่ งมีระบบ ง. การศึกษาคน้ ควา้ เร่ืองทีส่ นใจที่ไม่ซับซ้อนมากนัก 2. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชน์ของการวิจยั ตอ่ ตวั ผู้วิจยั เอง ก. ฝึกการทางานอยา่ งมีระบบ ข. เกดิ การทางานและนวัตกรรม ค. เกดิ นวัตกรรมสิง่ ประดษิ ฐ์ใหม่ ๆ ง. ชว่ ยวางแผนและตัดสนิ ใจ 3.ข้อใดเรียงลาดบั ข้นั ตอนการทาวิจยั ไดถ้ ูกตอ้ ง ก.กาหนดปญั หา , แก้ไขโครงการ , เขียนรายงาน ข.เขียนโครงการ , เขียนรายงาน , กาหนดปัญหา , เผยแพร่ ค.กาหนดปญั หา , เขยี นโครงการ , ดาเนนิ ตามแผน , เขยี นรายงาน , เผยแพร่ ง. เขยี นโครงการ , เขยี นรายงาน 4.ข้อมูลทางสถิตมิ ีประโยชนต์ อ่ งานวจิ ัยอยา่ งไร ก.เพ่อื ให้ทราบความถ่ี ร้อยละ และค่าเฉล่ียของข้อมูลท่ีตอ้ งการทาวิจยั ข.เพือ่ ง่ายต่อการเก็บรวบรวมข้อมลู ท่ีตอ้ งการสรุปเชงิ เปรียบเทียบทางสถิติ วิชาทกั ษะการเรียนรู้ (ทร21001) ค.เพอ่ื แจกแจงขอ้ มลู ท่ีต้องทาวิจัยใหไ้ ดข้ ้อเท็จจรงิ ง.ถูกทกุ ข้อ 5.ขอ้ ใดมิใช่คา่ สถติ ิพืน้ ฐานของงานวจิ ยั อยา่ งงา่ ย ก.คา่ ร้อยละ ข.ค่าความถี่ ค.คา่ ไคร์สแควส์ ง.คา่ เฉลี่ย 6.ข้อใดเปน็ เครื่องมือการวิจยั ท่ีแพรห่ ลายท่สี ดุ ก.แบบสอบถาม ข.แบบสมั ภาษณ์ ค.แบบสงั เกต ง.ไมใ่ ชท่ งั้ ข้อ ก,ข และ ค 7.นกั ศึกษาคิดวา่ การเรียนรู้เรอื่ งวิจัยอยา่ งง่าย ก่อให้เกิดประโยชนท์ ่ีเปน็ ไปไดท้ ี่สุดคือข้อใด ก.ชว่ ยให้มองเหน็ แก่นทีข่ องสังคมชดั เจนข้ึน ข.ชว่ ยให้เป็นนักวิจยั ทด่ี ีในอนาคต ค.ชว่ ยใหร้ ู้จกั วธิ กี ารหาคาตอบท่เี ชื่อถือได้ ง.ชว่ ยใหร้ ้จู กั การแยกคนดีและคนเลวในสงั คมได้ 8.สว่ นใหญค่ รสู ายสอนทาวิจยั เพอื่ วัตถปุ ระสงค์ใด ก.ตาแหนง่ ทางวิชาการ ข.หาขอ้ เทจ็ จริงเพ่ือแสดงต่อสังคม ค.เพ่ือพัฒนาหลกั สตู รและปรับปรงุ การเรยี นการสอน ง.นาผลการวิจยั ไปเปน็ ขอ้ มูลของโรงเรียน 9. ข้อใดไมใ่ ช่ข้ันตอนการวจิ ัย ก.วัตถปุ ระสงค์ในการวจิ ัย ข.ประโยชน์ในการวจิ ยั ค.ขอบเขตของการวจิ ัย ง. รายช่ือผู้วิจยั 10.ข้อใดเป็นองคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานการวิจัย ก.ชอ่ื เร่ืองวิจยั วตั ถปุ ระสงค์ การวิเคราะห์ข้อมูล ข.ชอ่ื เร่อื งวิจยั ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ แนวทางการเผยแพร่ ค.ชื่อเรอ่ื งวจิ ยั กลุม่ เปา้ หมาย ความคาดหวัง ง.ชื่อเรือ่ งวิจยั สถิตกิ ารวจิ ยั งบประมาณการวจิ ยั
ใบความรู้ เร่ือง การวิจัยอย่างง่าย การวิจัยอยางงายเปนเรื่องท่ีมุงใหความรู ความเขาใจเก่ียวกับการฝกทักษะ ความหมายความสาคัญ ของการวิจัยอยางงาย กระบวนการและขั้นตอนของการดาเนินงาน ไดแก การระบุกาหนดปญหาท่ีตองการหา ความรู ความจรงิ หรอื ส่ิงทีต่ องการพัฒนา การแสวงหาความรู จากการศึกษาเอกสาร ผูทรงคณุ วุฒิ ภมู ิ ปญญาทองถิ่น แหล่งเรียนรู ทดลอง การนาขอมูลที่ไดมาหาคาตอบท่ีตองการ การเขียนรายงานสรุปผล และ การนาความรูไปปฏบิ ตั ิจรงิ ความหมายและประโยชนของการวิจัยอยางงาย การวจิ ัยอยางงาย หมายถึง การศึกษาคนควาเพ่ือหาคาตอบของคาถามที่สงสยั หรือหาคาตอบมาใชใน การแกปญั หา โดยใชวิธกี ารและกระบวนการตาง ๆ อยางเปนระบบเพื่อใหไดคาตอบทนี่ าเช่อื ถือ ความสาคัญของการวจิ ัยอยางงาย 1. ทาใหผูวจิ ยั ไดรบั ความรูใหม ๆ 2. การทาวิจยั ชวยหาคาตอบทผ่ี ูวจิ ยั สงสัย หรือแกปญหาของผูวจิ ยั 3. การวจิ ัยชวยใหผูวจิ ัยทราบผลการดาเนนิ งาน และขอบกพรองระหวางการดาเนินงาน 4. การวจิ ยั ชวยใหผูวิจัยไดแนวทางในการพฒั นาการทางาน 5. การวจิ ัยชวยใหผูวิจยั มีการทางานอยางมรี ะบบ 6. การวิจยั ชวยใหผูวิจยั เปนคนชางคิด ชางสังเกต ประโยชนของการวิจัยอยางงาย 1. ประโยชนตอผูวิจยั 1) เปนการพัฒนาความคดิ ใหเปนระบบ คิดเปนขน้ั ตอน ใชกระบวนการท่ีเปนเหตุเปนผล 2) เปนการพฒั นากระบวนการสรางความรูอยางเปนระบบ 3) ฝกใหผูวจิ ัยเปนคนชางสงั เกต มที ักษะการจดบนั ทึกและสรปุ ความ 2. ประโยชนตอชุมชน 1) สมาชกิ ในชมุ ชนมคี วามรู เขาใจสภาพปญหา และสามารถวิเคราะหหาวธิ ีการแกปญหาไดอยงเปน็ ระบบ 2) สามารถใชกระบวนการวิจัย หรือผลการวิจยั มาเปนแนวทางในการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ในดานตาง ๆ ขน้ั ตอนการทาวจิ ยั อยางงาย ข้นั ตอนของการทาวิจัยอยางงาย ประกอบดวย5 ขน้ั ตอน ดังนี้ 1. ขั้นตอนการระบปุ ญหาการวิจัย เปนข้ันตอนของการเลือกเรอื่ งทมี่ คี วามสนใจหรอื เปนปญหาท่ีตอง การแกไขมากาหนดเปนคาถามการวิจัย 2. ขั้นตอนการเขียนโครงการวจิ ยั เปนการเขียนแผนการวิจัย โดยจะตองเขียนใหครอบคลมุ ในหวั ขอ ดงั นี้ 1) ชื่อโครงการวจิ ัย เปนการเขียนบอกวาเปนการศกึ ษาอะไร กับใคร อยางไรที่ไหน 2) ชอ่ื ผูวจิ ัย บอกชอ่ื ของผูทาวจิ ยั
3) ความเปนมาและความสาคัญเปนการเขียนใหเห็นถึงประเดน็ ปญหาและนาไปสูวตั ถุประสงคของ การวจิ ัย 4) วัตถปุ ระสงคของการวิจยั เปนการเขียนในลักษณะที่บงบอกวา ผูวิจัยตองการรูอะไร หรอื จะทา อะไร เพื่อใหไดคาตอบของการวิจยั โดยมหี ลักการเขียนวัตถุประสงคของการวิจัย ดงั นี้ (1) ตองสอดคลองกับช่ือเรอื่ ง ความเปนมาและสภาพปญหา (2) ครอบคลุมสิ่งที่ตองการศึกษา (3) เขยี นเปนประโยคบอกเลา สั้นกะทัดรัด ไดใจความ และมีความชัดเจน 5) วธิ กี ารดาเนินการวจิ ัย เปนการวางแผนเก่ยี วกบั วธิ ีการและกระบวนการเริม่ ต้งั แต การเกบ็ ขอมูล การวิเคราะหขอมูล รวมไปถึงการนาเสนอผลการวเิ คราะหขอมลู เพื่อใหไดคาตอบของปญหา 6) ปฏิทินปฏิบัติงาน และแผนการดาเนินงานเปนการเขียนระบุวาการดาเนินการวิจัย ในคร้ังนี้ จะใชเวลานานเทาใด เร่มิ ตนและสน้ิ สดุ เมื่อใด โดยระบกุ จิ กรรมที่ทา และสถานทท่ี ใี่ ชในการวิจยั ใหชัดเจน 7) ประโยชนของการวิจัย เปนการบอกวา เม่ือไดคาตอบของการวิจัยมาแลวจะสามารถนาไปแก ปญหา หรือพฒั นางานไดอยางไร 3. ข้ันตอนการดาเนินการวิจัย เปนการดาเนินการวจิ ัยตามแผนท่ีกาหนดไวในโครงการวิจัย ซึ่งจะตอง คานงึ ถงึ องคประกอบ ดงั นี้ 1) ประชากรและกลุมตวั อยางเปนการกาหนดวาจะศกึ ษาใคร 2) เครื่องมือท่ีใชในการวิจัย เปนการสรางเคร่ืองมือ เพื่อไปเก็บขอมูลมาวิเคราะห ใหเกิดความรู มี เครอ่ื งมอื 3 ประเภท คือ แบบสงั เกต แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ 3) การเก็บรวบรวมขอมูล ถาเก็บขอมูลดวยตนเอง จะใชแบบสัมภาษณ แบบสังเกต แล แบบสอบถาม แตถาสงทางไปรษณีย ควรใชเฉพาะแบบสอบถาม หลังจากดาเนินการเก็บขอมูลแลวควรจะ ตรวจสอบความสมบรู ณ ความถกู ตองของขอมูล 4) สถติ ทิ ี่ใชในการวเิ คราะหขอมูลการวิจยั อยางงาย คือ ความถ่ี รอยละหรือเปอรเซน็ ต และคาเฉล่ีย 4. ข้ันตอนการรายงานผลการวิเคราะหขอมูลเปนการกลาวถึงผลของการวิจัย โดยการวิเคราะหตาม จุดประสงค ใหสอดคลองกับวัตถุประสงคของการวิจัย อาจนาเสนอเปนขอความตัวเลข ตาราง แผนภูมิ หรือ แผนภาพเพ่ือใหผูอานเขาใจมากขึ้น 5. ข้ันตอนการสรุปผลการวิจัยและขอเสนอแนะ เปนการสรุปผลตามวตั ถุประสงควาไดผลการวิจยั ตาม วตั ถุประสงคที่ต้งั ไวหรือไม และมีขอเสนอแนะของการวจิ ัยอยางไร สถิติเพอ่ื การวจิ ยั ความหมายของสถิติ สถิติ หมายถงึ คาตัวเลขท่ีเกดิ จากการคานวณมาจากขอมูลท่เี กบ็ มาจากกลุมตัวอยางไดแก คารอยละ คาเฉล่ีย สถติ ิทใี่ ชในการวิจยั อยางงาย 1) ความถ่ี คือ การแจงนับจานวนของส่ิงที่เราตองการศึกษา วามีจานวนเทาไหรตัวอยาง กศน.ตาบล แหงหนึง่ มนี กั ศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน จานวน10 คน 2) รอยละ หรอื เปอรเซน็ ต เปนตัวเลขท่ีแสดงถึงสัดสวนของตัวเลขจานวนหน่งึ เม่อื แบงออกเปนรอยสวน
เครอื่ งมือการวิจยั เพื่อการเกบ็ รวบรวมขอมูล ความหมายของเครอื่ งมือการวจิ ัย เครื่องมือการวิจัย หมายถึง เครื่องมือสาหรับใชในการเก็บรวบรวมขอมูลและวัดตัวแปรตาง ๆ ใน งานวิจัย เครื่องมือท่ีใชในการวิจัยโดยท่ัวไป ไดแก แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ และแบบสังเกต เปนตน ใน การวิจัยควรเลือกใชเคร่ืองมือวิจัยใหสอดคลองตามวัตถุประสงคของการวิจัย เพื่อใชในการเก็บรวบรวมขอมู ลเนอ่ื งจากเครื่องมอื แตละชนิดจะมีคณุ ลักษณะแตกตางกัน มีความเหมาะสมในการเก็บขอมลู ไมเหมอื นกัน ซง่ึ ผู วจิ ัยจะตองมคี วามรูและความชานาญในการใชเครอื่ งมือเพื่อใหไดขอมลู ทต่ี รงตามความตองการ เคร่อื งมอื การวจิ ยั สาหรับการทาวจิ ยั อยางงาย 1. แบบสอบถาม เปนเครื่องมือการวิจัยทีน่ ิยมนามาใชในการวิจัย แบงออกเปน 2 ประเภท คือ 1) แบบสอบถามปลายเปด เปนแบบสอบถามท่ีระบุคาตอบไวแลว หรืออาจใหเติมคาหรือขอความส้ัน ๆ เชน ทานมอี าชีพอะไร ( )เกษตรกร ( ) คาขาย ( )หมอ ( ) อ่นื ๆ ระบุ ................. 2) แบบสอบถามปลายปด เปนแบบสอบถามท่ีไมไดกาหนดคาตอบไว แตใหผูตอบไดเขยี นแสดงความ คิดเห็นอสิ ระ เชน ผูเรยี นชอบไปแหลงเรยี นรูใด เพราะเหตุใด 2. การสัมภาษณ เปนเครื่องมือการวิจัยท่นี ยิ มนามาใชในการวจิ ัยเชงิ คุณภาพ เปนการเก็บขอมลู ในลักษณะการ เผชญิ หนากัน ระหวางผูสัมภาษณและผูใหสัมภาษณ โดยผูสัมภาษณเปนผูซักถาม ซ่ึงจะกาหนดคาถามไวลวง หนา สอดคลองกบั วตั ถุประสงคของการวิจัย 3. แบบสงั เกต ใชในการรวบรวมขอมูล โดยสงั เกตพฤติกรรมแลวจดบันทึกในแบบสงั เกต แบงเปน 2 ประเภท คือ 1) แบบสงั เกตที่ไมมโี ครงรางการสงั เกต เปนแบบทไ่ี มไดกาหนดเหตกุ ารณพฤติกรรม หรือสถานการณ ทจ่ี ะสังเกตไวชดั เจน 2) แบบสังเกตที่มีโครงรางการสงั เกต เปนแบบท่ีกาหนดไวลวงหนา วาจะสังเกตอะไร สงั เกตอยางไร เมื่อใด และบันทึกผลการสังเกตอยางไร เชน สงั เกตพฤตกิ รรมในการพบกลุมของนักศึกษา ของ กศน.ตาบล ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน พฤติกรรม พบ ไม่พบ 1. โทรศัพท์ 2. กนิ ขนม 3. ซกั ถามปญหา 4. เลนไลน 5. ต้ังใจฟงผูสอน
การเขยี นโครงการวิจยั ความสาคญั ของโครงการวจิ ัย โครงการวจิ ยั คอื แผนการดาเนนิ วิจยั ที่เขยี นขน้ึ กอนการทาวิจยั จรงิ เพ่ือใชเปนแนวทางในการดาเนนิ การ วจิ ัยสาหรับผวู ิจยั และผูเกย่ี วของ ใหเปนไปตามแผนการวิจัยทกี่ าหนด องคประกอบของโครงการวิจัย โดยทวั่ ไป โครงการวิจัยประกอบดวยหัวขอ ดังตอไปน้ี 1. ช่อื เร่อื งการวจิ ยั การเขยี นชอ่ื เรือ่ ง ควรสอ่ื ความหมายท่ีชดั เจน เมื่อผูอานอานแลวทาใหทราบวาเปนการ วิจยั เกย่ี วกับปญหาอะไรไดทนั ที 2. ช่ือผูวิจยั บอกชื่อของผูทาวิจัย 3. ความเปนมาและความสาคญั การเขียนความเปนมาและความสาคัญเปนการเขียนระบใุ หผูอานทราบ วา ทาไมจงึ ตองทาการวจิ ัยเรื่องนี้ ควรกลาวถงึ สภาพปญหาใหชัดเจน และหากปญหาดังกลาวไดแกไขโดย วิธกี ารวจิ ยั แลวจะเกดิ ประโยชนอยางไร 4. วตั ถปุ ระสงคของการวจิ ัย เปนการระบใุ หผูอานทราบวา การวิจยั นี้ผูวจิ ัยตองการศึกษาอะไร กับ ใคร และจะเกดิ ผลอยางไร 5. ประโยชนทคี่ าดวาจะไดรบั กลาวถงึ ผลของการวจิ ยั วาจะเกดิ ผลที่เปนประโยชนในการนาไปใชใน การแกปญหา หรอื การพัฒนางานอยางไร 6. ปฏิทนิ ปฏบิ ตั งิ าน เปนการเขียนระบวุ าการดาเนินการวิจัยคร้งั นี้ จะใชเวลานานเทาใด เร่ิมตนและ ส้ินสุดเมอ่ื ใด โดยระบุกิจกรรมที่ทาและสถานท่ีที่ใชในการวิจยั ใหชัดเจน 7. วิธีดาเนินการวจิ ัย เปนการอธบิ ายถงึ วธิ ีการศึกษาหรือวิธีการดาเนนิ งานอยางละเอยี ด ควรครอบคลุม หวั ขอ ดังตอไปน้ี 1) กลมุ เปาหมายที่ตองการศึกษา 2) เคร่ืองมือที่ใชในการวิจัย 3) การรวบรวมขอมลู 4) การวเิ คราะหขอมลู
ใบงาน เรอื่ ง ความหมายของการวิจยั และความหมายของการวจิ ัยอยา่ งงา่ ย 1.การวจิ ยั คอื อะไร อธิบายมาพอสังเขป .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. ..................................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................... ......................... 2.การวจิ ยั อยา่ งง่ายคืออะไร อธบิ ายมาพอสังเขป .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... ................................................... 3.ประโยชนข์ องการวจิ ยั คืออะไร อธบิ ายมาพอสงั เขป ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 4.การจดั การข้อมลู เพื่อให้เกิดประโยชนก์ ับการใช้งานมอี ะไรอธิบายมาพอสังเขป ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ชื่อ............................................. นามสกลุ .....................................................รหัสนกั ศึกษา.................................
แผนการจดั การเรียนร้คู ร้ังที่ 1๓ (การเรียนรู้ด้วยตนเอง) กลุ่มสาระทกั ษะการเรยี นรู้ รายวิชา ทักษะการเรยี นรู้ ทร๒1001 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่อื ง การวจิ ัยอย่างง่าย แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง ขน้ั ตอนการทาวจิ ัยอย่างง่าย เวลาสอน ๖ ชั่วโมงสอน วนั ที่........เดือน..................................พ.ศ. .....................ภาคเรยี นท.่ี ........ปกี ารศกึ ษา.......................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตทิ ่ีดีต่อการวจิ ัยอยา่ งงา่ ย ตัวชว้ี ัด 1.ระบปุ ัญหา ความจาเปน็ วตั ถุประสงค์และประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รบั จากการวจิ ัยและสบื คน้ ข้อมลู เพอ่ื ทาความกระจ่างในปัญหาวิจัยรวมทง้ั กาหนดวธิ ีการหาความร้คู วามจริง 2.เห็นความสาพนั ธ์ของกระบวนการวิจยั กับการนาไปใช้ในชวี ิต 3.ปฏบิ ตั กิ ารศึกษา ทดลอง รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมลู และสรปุ ความรู้ ความจรงิ ตามข้นั ตอนได้อยา่ ง ถูกต้อง ชัดเจน สาระสาคัญ การแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างมีระบบเพื่อให้ได้รับคาตอบหรือความรู้ใหม่ท่ีเชื่อถือได้ สามารถทาได้โดยในกระบวนการวจิ ัย เนือ้ หา ขัน้ ตอนการทาวิจัยอย่างงา่ ย คุณธรรม 1. เพื่อการพฒั นาตน 2. เพื่อการพัฒนาการทางาน 3. เพือ่ การพฒั นาการอย่รู ว่ มกนั ในสงั คม 4. เพ่อื การพฒั นาประเทศชาติ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ นา - การนาเขา้ สู่บทเรียนด้วยวธิ ีการ ทักทายผู้เรยี น และช้แี จงบอกวตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ เรอื่ งขัน้ ตอน การทาวิจัยอย่างง่าย ขนั้ สอน - ครอู ธบิ ายขั้นตอนการทาวจิ ยั อย่างงา่ ย - ผูเ้ รียนใช้แบบเรยี นวชิ าทกั ษะการเรียนรู้ เปดิ เน้ือหา บทท่ี 5 การวจิ ัยอยา่ งงา่ ย เรอ่ื ง ข้ันตอนการทา วจิ ัย อยา่ งง่าย
- ครใู ห้ผู้เรยี นสแกน QR Code ใบความรู้ เรือ่ งการวิจยั อย่างง่าย(เพม่ิ เตมิ ) - ครูใหผ้ ูเ้ รยี นทาใบงาน เรื่อง ข้นั ตอนการทาวจิ ัยอย่างง่าย ข้ันสรปุ - ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปหลังจากทกุ กลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน - ครใู หค้ วามรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นท่ียังไม่สมบรู ณ์ สอื่ และแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื แบบเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรียนรู้ 2. วัดความรจู้ ากการทากิจกรรมในใบงาน 3. การนาเสนอผลการเรยี นรู้ แหล่งการเรยี นรู้/สบื ค้นข้อมูลเพ่มิ เติม 1. ห้องสมดุ ประชาชน 2. กศน.ตาบล 3. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ 4. Internet 5. ภมู ิปัญญา / แหลง่ เรยี นรู้
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาแล้ว.................................................................................................................. ........................ ......................................................................................................... ...................................................... ลงชอ่ื (นางสาวปรารถนา ชีโพธิ์) ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน วนั ท่ี ........... เดอื น ................. พ.ศ. ...........
บันทกึ หลังการสอน ความสาเรจ็ ในการจดั การเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ปัญหา / อปุ สรรค ในการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... ลงชื่อ..............................................ครผู ูส้ อน (.............................................) คร.ู ........................................... วันท่.ี .........เดือน...........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา .................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ลงชือ่ ผบู้ งั คับบญั ชา (นางสาวปรารถนา ชโี พธิ์) ผูอ้ านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน
ใบงาน เรือ่ ง ขัน้ ตอนการทาวจิ ยั อยา่ งงา่ ย จงอธิบายข้ันตอนการทาวจิ ยั อยา่ งง่าย .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. ..................................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................... ......................... ......................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................... .................................... ............................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................ .................................. ................................................................................................. ............................................................................. ชอื่ ............................................. นามสกุล......................................................รหสั นักศกึ ษา.................................
แผนการจดั การเรยี นรคู้ ร้ังท่ี 1๔ (การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง) กลมุ่ สาระทกั ษะการเรียนรู้ รายวชิ า ทักษะการเรียนรู้ ทร๒1001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 เรอื่ ง การวจิ ัยอยา่ งงา่ ย แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง การเขยี นโครงการวิจยั อยา่ งง่าย เวลาสอน ๑๒ ชั่วโมงสอน วนั ท.่ี .......เดือน.................................พ.ศ. .........................ภาคเรยี นที่.........ปกี ารศกึ ษา....................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติท่ีดตี ่อการวิจยั อย่างง่าย ตวั ชีว้ ดั 1.ระบุปัญหา ความจาเปน็ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ บั จากการวจิ ัยและสืบค้นข้อมลู เพ่ือทาความกระจา่ งในปัญหาวิจัยรวมทั้งกาหนดวธิ กี ารหาความรู้ความจริง 2.เห็นความสาพันธข์ องกระบวนการวจิ ัยกบั การนาไปใชใ้ นชีวิต 3.ปฏิบัตกิ ารศกึ ษา ทดลอง รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมลู และสรุปความรู้ ความจริงตามข้ันตอนได้อยา่ ง ถกู ต้อง ชัดเจน สาระสาคญั การแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างมีระบบเพ่ือให้ได้รับคาตอบหรือความรู้ใหม่ท่ีเช่ือถือได้ สามารถทาไดโ้ ดยในกระบวนการวิจัย เนอื้ หา การเขียนโครงการวิจัยอยา่ งง่าย คณุ ธรรม 1. เพื่อการพฒั นาตน 2. เพ่อื การพฒั นาการทางาน 3. เพื่อการพัฒนาการอยรู่ ว่ มกันในสังคม 4. เพื่อการพฒั นาประเทศชาติ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา - การนาเข้าสบู่ ทเรยี นดว้ ยวธิ ีการ ทักทายผ้เู รยี น และชี้แจงบอกวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ เรือ่ งการเขียน โครงการวจิ ัยอย่างง่าย ขนั้ สอน - ครอู ธิบายขน้ั ตอนการทาวจิ ยั อยา่ งงา่ ย - ผเู้ รียนใช้แบบเรยี นวชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ เปิดเนื้อหา บทท่ี 5 การวิจัยอยา่ งงา่ ย เรอื่ ง การเขยี น โครงการวจิ ัยอย่างง่าย
- ครูใหผ้ ูเ้ รียนสแกน QR Code ใบความรู้ เรื่องการวจิ ัยอยา่ งงา่ ย(เพิม่ เติม) - ครใู หผ้ เู้ รยี นทาใบงาน เร่ือง การเขยี นโครงการวิจยั อยา่ งง่าย ขนั้ สรปุ - ครแู ละผู้เรียนร่วมกันสรปุ หลังจากทกุ กลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน - ครใู ห้ความรเู้ พ่ิมเตมิ ในสว่ นท่ยี ังไม่สมบรู ณ์ ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สือแบบเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้ 2. วดั ความรจู้ ากการทากจิ กรรมในใบงาน 3. การนาเสนอผลการเรยี นรู้ แหล่งการเรยี นรู้/สบื คน้ ขอ้ มูลเพม่ิ เติม 1. ห้องสมุดประชาชน 2. กศน.ตาบล 3. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 4. Internet 5. ภมู ิปญั ญา / แหล่งเรียนรู้
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาแล้ว.................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. .................................. ลงชอ่ื (นางสาวปรารถนา ชีโพธิ์) ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอบางระจนั วนั ท่ี ........... เดอื น ................. พ.ศ. ...........
บันทกึ หลังการสอน ความสาเร็จในการจัดการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหา / อปุ สรรค ในการจดั การเรยี นการสอน .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ..............................................ครผู ู้สอน (.............................................) คร.ู ........................................... วนั ที่..........เดือน...........................พ.ศ. ........................ ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ............................................................................................ .................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ผูบ้ ังคบั บญั ชา (นางสาวปรารถนา ชโี พธิ์) ผู้อานวยการศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน
ใบงาน เรอ่ื งการเขยี นโครงการวจิ ยั อยา่ งง่าย 1.โครงการวิจยั คอื .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. .................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 2.องคป์ ระกอบของการวิจัย มีอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. 3.เทคนิคการเขียนโครงการวิจัยอย่างง่ายประกอบด้วยอะไรบ้าง .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ .. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ............ ....................................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................... ............................................................................................................ .................................................................. ช่อื ................................................ นามสกุล...................................................รหสั นักศึกษา.................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ครั้งท่ี 1๕ (พบกลมุ่ ) กลุ่มสาระทกั ษะการเรยี นรู้ รายวิชา ทักษะการเรียนรู้ ทร๒1001 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง การวจิ ัยอยา่ งง่าย แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง สถติ ิงา่ ยๆ เพื่อการวิจัย เวลาสอน ๖ ชั่วโมงสอน วนั ที่........เดือน.................................พ.ศ. .........................ภาคเรยี นท.่ี .......ปกี ารศึกษา....................... มาตรฐานการเรียนรู้ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติท่ีดีตอ่ การวจิ ยั อยา่ งงา่ ย ตัวชวี้ ัด 1.ระบุปญั หา ความจาเปน็ วตั ถุประสงคแ์ ละประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั จากการวจิ ยั และสบื ค้นข้อมูล เพือ่ ทาความกระจา่ งในปัญหาวิจัยรวมทั้งกาหนดวิธกี ารหาความรู้ความจรงิ 2.เห็นความสาพนั ธ์ของกระบวนการวิจัยกบั การนาไปใชใ้ นชวี ติ 3.ปฏิบตั ิการศกึ ษา ทดลอง รวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มลู และสรุปความรู้ ความจรงิ ตามข้นั ตอนได้อย่าง ถูกต้อง ชดั เจน สาระสาคญั การแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างมีระบบเพ่ือให้ได้รับคาตอบหรือความรู้ใหม่ที่เช่ือถือได้ สามารถทาไดโ้ ดยในกระบวนการวจิ ยั เนื้อหา สถติ ิงา่ ยๆ เพื่อการวิจัย คณุ ธรรม 1. เพื่อการพฒั นาตน 2. เพอื่ การพัฒนาการทางาน 3. เพื่อการพฒั นาการอยรู่ ่วมกันในสงั คม 4. เพอ่ื การพฒั นาประเทศชาติ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นนา - การนาเข้าสู่บทเรียนดว้ ยวิธีการ ทักทายผเู้ รียน และชี้แจงบอกวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เรื่องสถิติ งา่ ยๆ เพื่อการวจิ ยั ขั้นสอน - ครูอธิบายขั้นตอนการทาวิจัยอยา่ งงา่ ย - ผเู้ รยี นใช้แบบเรียนวิชาทักษะการเรยี นรู้ เปดิ เน้ือหา บทที่ 5 การวจิ ัยอย่างงา่ ย เรอื่ ง สถิติง่ายๆ เพื่อ การวจิ ยั
- ครใู ห้ผ้เู รียนสแกน QR Code ใบความรู้ เรือ่ งการวจิ ยั อย่างงา่ ย(เพิม่ เตมิ ) - ครใู หผ้ เู้ รยี นทาใบงาน เร่ือง สถิตงิ า่ ยๆ เพื่อการวิจัย ข้นั สรุป - ครูและผ้เู รียนรว่ มกันสรปุ หลงั จากทกุ กลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น - ครใู หค้ วามรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นที่ยังไมส่ มบูรณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือแบบเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้ 2. วดั ความร้จู ากการทากจิ กรรมในใบงาน 3. การนาเสนอผลการเรยี นรู้ แหล่งการเรียนร้/ู สบื ค้นข้อมูลเพ่มิ เติม 1. หอ้ งสมุดประชาชน 2. กศน.ตาบล 3. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 4. Internet
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาแล้ว.................................................................................................................. ........................ ........................................................................................................ ....................................................... ลงชือ่ (นางสาวปรารถนา ชโี พธ์ิ) ผอู้ านวยการศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน วันท่ี ........... เดอื น ................. พ.ศ. ...........
บันทึกหลังการสอน ความสาเรจ็ ในการจดั การเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ..................................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................... ........................................ ปัญหา / อุปสรรค ในการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... ................................................... แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................... ลงชอ่ื ..............................................ครูผสู้ อน (.............................................) คร.ู ........................................... วันท.่ี .........เดือน...........................พ.ศ. ........................ ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ผูบ้ งั คบั บญั ชา (นางสาวปรารถนา ชโี พธ์ิ) ผูอ้ านวยการศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางระจัน
ใบงาน เรื่องสถิติงา่ ยๆ เพื่อการวิจยั 1.ความถี่ คอื .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. 2.ร้อยละ คือ ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................... .................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................ .................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3.คา่ เฉลย่ี คือ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................... .................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................... .......................................... ......................................................................................... ..................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ชอ่ื ................................................. นามสกลุ ..................................................รหัสนกั ศกึ ษา.................................
แผนการจัดการเรียนรคู้ รั้งที่ 1๖ (การเรยี นรู้ด้วยตนเอง) กลุ่มสาระทักษะการเรยี นรู้ รายวิชา ทักษะการเรียนรู้ ทร๒1001 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง การวิจัยอยา่ งงา่ ย แผนการจดั การเรียนรู้ เรอื่ ง การสร้างเครื่องมือการวิจยั เวลาสอน ๑๕ ชั่วโมงสอน วันท.่ี .......เดือน.................................พ.ศ. .........................ภาคเรียนท่ี......ปีการศึกษา.......................... มาตรฐานการเรียนรู้ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติที่ดีตอ่ การวิจยั อยา่ งงา่ ย ตัวชวี้ ัด 1.ระบปุ ญั หา ความจาเป็น วัตถปุ ระสงคแ์ ละประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั จากการวจิ ยั และสืบคน้ ข้อมลู เพอ่ื ทาความกระจา่ งในปญั หาวิจยั รวมทั้งกาหนดวิธีการหาความรูค้ วามจรงิ 2.เหน็ ความสาพนั ธ์ของกระบวนการวิจัยกบั การนาไปใช้ในชีวิต 3.ปฏบิ ตั ิการศึกษา ทดลอง รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มลู และสรุปความรู้ ความจริงตามขน้ั ตอนได้อย่าง ถูกต้อง ชดั เจน สาระสาคญั การแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างมีระบบเพ่ือให้ได้รับคาตอบหรือความรู้ใหม่ท่ีเชื่อถือได้ สามารถทาได้โดยในกระบวนการวิจยั เน้ือหา การสร้างเครื่องมือการวจิ ยั คณุ ธรรม 1. เพื่อการพฒั นาตน 2. เพือ่ การพัฒนาการทางาน 3. เพอ่ื การพัฒนาการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม 4. เพอ่ื การพัฒนาประเทศชาติ กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขนั้ นา - การนาเข้าสูบ่ ทเรียนด้วยวิธกี าร ทกั ทายผเู้ รยี น และช้ีแจงบอกวตั ถุประสงค์การเรยี นรู้ เรื่องการสรา้ ง เคร่ืองมอื การวิจยั ขัน้ สอน - ครูอธบิ ายการสรา้ งเครอื่ งมือการวจิ ัย - ผูเ้ รียนใช้แบบเรยี นวชิ าทักษะการเรียนรู้ เปดิ เน้ือหา บทที่ 5 การวิจัยอยา่ งง่าย เรอ่ื ง การสร้าง เครือ่ งมอื การวจิ ยั
- ครใู ห้ผเู้ รียนสแกน QR Code ใบความรู้ เรื่องการวจิ ยั อย่างงา่ ย(เพม่ิ เตมิ ) - ครูใหผ้ ู้เรยี นทาใบงาน เร่ือง การสร้างเครื่องมือการวจิ ยั ข้ันสรปุ - ครูและผู้เรยี นร่วมกนั สรุปหลงั จากทกุ กลมุ่ นาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน - ครใู ห้ความรเู้ พ่ิมเตมิ ในส่วนทยี่ งั ไม่สมบรู ณ์ สอื่ และแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื แบบเรียน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้ 2. วัดความรจู้ ากการทากจิ กรรมในใบงาน 3. การนาเสนอผลการเรยี นรู้ แหล่งการเรยี นรู/้ สืบค้นขอ้ มูลเพิ่มเติม 1. ห้องสมดุ ประชาชน 2. กศน.ตาบล 3. แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ 4. Internet 5. ภูมิปญั ญา / แหล่งเรียนรู้
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาแล้ว.................................................................................................................. ........................ ......................................................................................................... ...................................................... ลงชอ่ื (นางสาวปรารถนา ชีโพธิ์) ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน วนั ท่ี ........... เดอื น ................. พ.ศ. ...........
บนั ทกึ หลังการสอน ความสาเร็จในการจดั การเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ปัญหา / อุปสรรค ในการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแก้ปัญหา ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... ลงช่อื ..............................................ครผู ูส้ อน (.............................................) คร.ู ........................................... วนั ที.่ .........เดอื น...........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................................................. ................. .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชือ่ ผู้บงั คับบัญชา (นางสาวปรารถนา ชโี พธิ์) ผู้อานวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอบางระจัน
ใบงาน เรือ่ งการสรา้ งเครื่องมอื การวจิ ัย 1.จงอธบิ ายความหมาย ความสาคัญ ของเคร่ืองมือการวิจยั .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. 2.จงอธิบายการสร้างแบบสอบถาม ......................................................................................... ..................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3.จงอธบิ ายการสรา้ งแบบสมั ภาษณ์ ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ..................................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... 4.จงอธิบายการสรา้ งแบบสังเกต .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ .................................................. ช่ือ............................................. นามสกลุ .................................................... รหัสนกั ศึกษา................................. แผนการจดั การเรียนรู้คร้ังท่ี 1๗ (การเรียนรู้ดา้ ยตนเอง)
กลุม่ สาระทักษะการเรียนรู้ รายวิชา ทักษะการเรยี นรู้ ทร๒1001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่อื ง การวิจัยอย่างง่าย แผนการจดั การเรียนรู้ เรอื่ ง การเขยี นรายงานการวจิ ยั อยา่ งงา่ ยและการเผยแพรผ่ ลงานการวจิ ัยเวลาสอน ๑๕ ชว่ั โมง สอนวนั ท่.ี .........เดอื น..................................พ.ศ. ...................ภาคเรยี นท.ี่ ............ปีการศึกษา...................... มาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตทิ ี่ดีต่อการวิจัยอยา่ งง่าย ตวั ชี้วัด 1.ระบปุ ัญหา ความจาเป็น วตั ถปุ ระสงค์และประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รบั จากการวจิ ัยและสบื คน้ ข้อมูล เพอื่ ทาความกระจ่างในปัญหาวจิ ัยรวมทงั้ กาหนดวธิ กี ารหาความรคู้ วามจรงิ 2.เห็นความสาพันธข์ องกระบวนการวจิ ยั กบั การนาไปใชใ้ นชวี ิต 3.ปฏิบัตกิ ารศึกษา ทดลอง รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และสรปุ ความรู้ ความจริงตามข้ันตอนได้อยา่ ง ถกู ต้อง ชดั เจน สาระสาคัญ การแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างมีระบบเพ่ือให้ได้รับคาตอบหรือความรู้ใหม่ท่ีเชื่อถือได้ สามารถทาได้โดยในกระบวนการวจิ ัย เน้อื หา การเขยี นรายงานการวจิ ยั อยา่ งงา่ ยและการเผยแพร่ผลงานการวจิ ัย คุณธรรม 1. เพ่ือการพัฒนาตน 2. เพอ่ื การพัฒนาการทางาน 3. เพ่ือการพฒั นาการอยูร่ ่วมกันในสังคม 4. เพอ่ื การพฒั นาประเทศชาติ กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขั้นนา - การนาเข้าสู่บทเรียนด้วยวิธกี าร ทักทายผู้เรียน และชี้แจงบอกวัตถุประสงค์การเรยี นรู้ เร่อื งการเขียน รายงานการวจิ ยั อยา่ งงา่ ยและการเผยแพร่ผลงานการวิจัย ข้ันสอน - ครอู ธิบายการเขียนรายงานการวจิ ัยอยา่ งง่ายและการเผยแพรผ่ ลงานการวจิ ัย - ผู้เรยี นใช้แบบเรียนวชิ าทักษะการเรียนรู้ เปดิ เนื้อหา บทท่ี 5 การวจิ ยั อย่างงา่ ย เรื่อง การเขียน รายงานการวจิ ยั อยา่ งงา่ ยและการเผยแพรผ่ ลงานการวิจยั - ครใู ห้ผู้เรยี นสแกน QR Code ใบความรู้ เรอ่ื งการวจิ ัยอย่างงา่ ย(เพมิ่ เตมิ )
- ครใู หผ้ ู้เรียนทาใบงาน เรื่อง การเขยี นรายงานการวจิ ยั อย่างงา่ ยและการเผยแพรผ่ ลงานการวิจัย - ครใู ห้ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น ครงั้ ท่ี 6 ข้ันสรปุ - ครแู ละผเู้ รียนร่วมกันสรุปหลังจากทกุ กลมุ่ นาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น - ครูให้ความรเู้ พ่ิมเติมในส่วนท่ียงั ไมส่ มบูรณ์ ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื แบบเรยี น 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้ 2. วดั ความร้จู ากการทากิจกรรมในใบงาน 3. การนาเสนอผลการเรยี นรู้
4. แบบทดสอบ ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาแลว้ .......................................................................................................................................... ......................................................................................................... ...................................................... ลงช่ือ (นางสาวปรารถนา ชโี พธ์ิ) ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางระจัน วันที่ ........... เดือน ................. พ.ศ. ........... บันทึกหลังการสอน ความสาเรจ็ ในการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................. .................
.................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ปญั หา / อุปสรรค ในการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................ .................................. ลงช่อื ..............................................ครผู ้สู อน (.............................................) คร.ู ........................................... วนั ท.ี่ .........เดอื น...........................พ.ศ. ........................ ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ....................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................. ................. .................................................................................................................. ............................................................ ลงช่ือ ผ้บู งั คบั บัญชา (นางสาวปรารถนา ชโี พธิ์) ผ้อู านวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจนั แบบทดสอบหลังเรยี นคร้งั ที่ 6 1.ข้อใดเปน็ ความหมายของการวจิ ยั อย่างงา่ ย ข. การวางแผนงานอย่างเปน็ ระบบ ก. ทางานอย่างเข้าใจ
ค. การคาดเดาคาตอบอยา่ งมีระบบ ง. การศึกษาค้นคว้าเร่ืองท่สี นใจทีไ่ ม่ซบั ซอ้ นมากนัก 2. ขอ้ ใดเป็นประโยชนข์ องการวจิ ยั ต่อตวั ผูว้ ิจัยเอง ก. ฝึกการทางานอย่างมีระบบ ข. เกิดการทางานและนวัตกรรม ค. เกดิ นวัตกรรมสง่ิ ประดษิ ฐใ์ หม่ ๆ ง. ช่วยวางแผนและตดั สนิ ใจ 3.ข้อใดเรียงลาดับขน้ั ตอนการทาวจิ ัยไดถ้ ูกตอ้ ง ก.กาหนดปญั หา , แก้ไขโครงการ , เขียนรายงาน ข.เขยี นโครงการ , เขียนรายงาน , กาหนดปัญหา , เผยแพร่ ค.กาหนดปญั หา , เขยี นโครงการ , ดาเนินตามแผน , เขียนรายงาน , เผยแพร่ ง. เขียนโครงการ , เขียนรายงาน 4.ขอ้ มลู ทางสถิติมปี ระโยชนต์ อ่ งานวจิ ัยอยา่ งไร ก.เพือ่ ให้ทราบความถี่ ร้อยละ และคา่ เฉล่ียของข้อมลู ท่ตี ้องการทาวจิ ยั ข.เพอ่ื ง่ายตอ่ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ท่ีต้องการสรปุ เชงิ เปรียบเทยี บทางสถิติ วชิ าทักษะการเรียนรู้ (ทร21001) ค.เพอ่ื แจกแจงข้อมูลท่ตี ้องทาวิจัยให้ไดข้ อ้ เทจ็ จรงิ ง.ถูกทุกขอ้ 5.ขอ้ ใดมิใช่คา่ สถติ ิพนื้ ฐานของงานวจิ ัยอยา่ งงา่ ย ก.ค่ารอ้ ยละ ข.คา่ ความถี่ ค.ค่าไครส์ แควส์ ง.ค่าเฉลย่ี 6.ข้อใดเปน็ เคร่ืองมือการวิจยั ทีแ่ พร่หลายที่สดุ ก.แบบสอบถาม ข.แบบสัมภาษณ์ ค.แบบสงั เกต ง.ไมใ่ ช่ทั้งขอ้ ก,ข และ ค 7.นักศึกษาคิดว่า การเรียนรเู้ รือ่ งวิจัยอย่างง่าย ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ที่เป็นไปได้ทีส่ ุดคือข้อใด ก.ชว่ ยใหม้ องเหน็ แก่นที่ของสังคมชดั เจนขนึ้ ข.ช่วยให้เป็นนักวิจยั ทดี่ ใี นอนาคต ค.ชว่ ยให้รจู้ กั วิธกี ารหาคาตอบท่ีเชือ่ ถือได้ ง.ชว่ ยใหร้ จู้ ักการแยกคนดแี ละคนเลวในสงั คมได้ 8.สว่ นใหญ่ครสู ายสอนทาวิจยั เพอ่ื วตั ถุประสงค์ใด ก.ตาแหนง่ ทางวิชาการ ข.หาขอ้ เท็จจรงิ เพ่ือแสดงต่อสังคม ค.เพอ่ื พฒั นาหลักสตู รและปรับปรงุ การเรียนการสอน ง.นาผลการวิจยั ไปเป็นขอ้ มูลของโรงเรียน 9. ข้อใดไมใ่ ชข่ ้นั ตอนการวจิ ัย ก.วัตถปุ ระสงค์ในการวิจัย ข.ประโยชนใ์ นการวจิ ยั ค.ขอบเขตของการวิจัย
ง. รายชอื่ ผู้วจิ ยั 10.ข้อใดเป็นองค์ประกอบของการเขยี นรายงานการวิจยั ก.ชื่อเรอ่ื งวิจัย วตั ถปุ ระสงค์ การวิเคราะห์ขอ้ มลู ข.ชอ่ื เรื่องวจิ ัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ บั แนวทางการเผยแพร่ ค.ชอ่ื เร่อื งวจิ ัย กลุ่มเป้าหมาย ความคาดหวงั ง.ช่ือเรอ่ื งวจิ ยั สถติ ิการวจิ ยั งบประมาณการวจิ ัย ใบงาน เรอื่ ง การเขียนรายงานการวจิ ยั อย่างง่ายและการเผยแพรผ่ ลงานการวจิ ัย จงอธิบายองค์ประกอบการเขียนรายงานการวิจยั อยา่ งง่าย .......................................................................................................................................................................... ....
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169