- 98 - แผนการจดั การเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยที่ 2 ช่ือหน่วย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง การแต่งกาย ๑. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับความไม่ทนและความละอายต่อการทจุ รติ 1.2 ปฏิบัตติ นเปน็ ผไู้ มท่ นและละอายตอ่ การทจุ รติ ทุกรูปแบบ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรยี นแตง่ กายได้เหมาะสมตามวัยและกาลเทศะ ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ 1. การแตง่ กายเหมาะสมกับวัย ๒. การแต่งกายตามกาลเทศะ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ ) 1. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ๒. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3.3 คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ / คา่ นิยม ๑. รกั ความเปน็ ไทย ๒. อยู่อย่างพอเพียง ๓. ความมีวินยั 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขัน้ ตอนการสอน 1. ครูนาภาพแบบเสือ้ ผา้ ที่หลากหลายมาใหน้ ักเรยี นดู และบอกวา่ เสื้อผ้าแบบไหนทีเ่ หมาะ กบั วยั ของนักเรยี นที่ควรใชส้ วมใส่ 2.ครูสนทนากับนกั เรยี นวา่ การแตง่ กายแบบไหน ท่เี หมาะสมและไม่เหมาะสมกบั วัย ถ้าแตง่ ไมเ่ หมาะสมจะเกิดปัญหาอยา่ งไร 3. ครูแจกใบงานรูปการแต่งกายกับสถานที่ ให้นักเรียนโยงเสน้ จบั ค่ภู าพที่เหมาะสมกับ สถานที่หรือกิจกรรมท่ีปฏบิ ัติ เชน่ ไปเล่นกฬี า ไปงานกินเล้ียง ไปวัด ไปเท่ียวทะเล 4. ครูตรวจผลงานนักเรยี น และอธบิ ายเพม่ิ เติมว่า การแต่งกายแบบไหนเหมาะสมกบั สถานที่ และกจิ กรรมทป่ี ฏิบตั ิ เช่น เมื่อไปวัดไหวพ้ ระ นักเรียนแต่งกายไม่เหมาะสม ทางวัดจะมีผ้าถงุ ของวดั ให้สวมใส่ แทน เพ่ือความสุภาพ และเม่ือปฏิบตั กิ จิ กรรมเสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ควรนาผา้ ถุงของวดั ไปคืน ไมค่ วรนากลับมา บา้ น และถ้านักเรียนไปเชา่ เส้ือผ้าเพื่อทากจิ กรรม เชน่ เช่าชดุ ดรมั เมเยอร์ ชดุ แต่งงาน ชดุ ว่ายน้า นักเรยี น ต้องระมัดระวังไม่ทาเส้อื ผ้าเสียหาย และรีบสง่ คืนตามข้อตกลงกับทางรา้ น ถา้ ผิดข้อตกลงสง่ คืนไม่ครบ ถือว่า เป็นการทจุ รติ คิดไม่ซ่ือ ซ่ึงเป็นส่ิงไมส่ มควรทาอย่างย่ิง 4.2 สอื่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพเสื้อผ้าแบบตา่ งๆ 2. ใบงานลากเสน้ โยงภาพการแต่งกายกับสถานท่ี
- 99 - 5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธีการประเมนิ ๑. ตรวจใบงานการลากเสน้ โยงภาพ ๒. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 เครือ่ งมือท่ีใช้ในการประเมนิ ๑. แบบให้คะแนนการตรวจใบงาน ๒. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.3 เกณฑ์การประเมิน ๑. การตรวจใบงาน ตอ้ งผ่านเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ น 2. นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดขี น้ึ ไป ถือว่าผ่าน 6. บันทกึ หลังการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ................................................ ครูผูส้ อน (.................................................)
7. ภาคผนวก - 100 - ภาพการแตง่ กาย
- 101 - แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน ที่ ช่ือ – สกุล คะแนนท่ไี ด้ สรุปผล ผ่าน ไมผ่ า่ น เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สิน ระดับคุณภาพ ไดค้ ะแนนระหวา่ ง ๘ - ๑๐ ได้คะแนนระหวา่ ง ๐ - ๗ ผ่าน ไมผ่ า่ น
- 102 - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชือ่ -สกลุ นกั เรยี น...........................................................................ชั้น..............................เลขท่.ี ...................... คาชีแ้ จง : ใหค้ รู สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี / ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ 3 2 10 มีวินยั 1.เข้าเรียนตรงเวลา 2.แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.ปฏิบัติตามกฎระเบยี บของหอ้ ง อยู่อยา่ งพอเพยี ง 4.ใชท้ รพั ย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด 5.ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ 6.ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงิน รกั ความเปน็ ไทย 7.มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 8.เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย รวม สรปุ ผลคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ลงชอื่ ......................................................................ผู้ประเมนิ - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน (.....................................................................) - พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ิชดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ........... /................................/...................... ให้ 0 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบางครงั้ สรปุ ผลการประเมนิ - พฤตกิ รรมท่ีไม่ไดป้ ฏิบัติ 20-24 คะแนน เทา่ กบั ดีเยี่ยม 15-19 คะแนน เทา่ กับ ดี 10-14 คะแนน เทา่ กับ พอใช้ 0-9 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ
- 103 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 2 ชื่อหน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ เรอื่ ง กิจกรรมสง่ เสรมิ ความถนัดและความสนใจ(โครงงานคุณธรรม) เวลา 5 ชัว่ โมง 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความไม่ทนและความละอายต่อการทจุ รติ 1.2 ปฏิบตั ติ นเปน็ ผไู้ ม่ทนและละอายต่อการทุจริตทุกรปู แบบ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถปฏิบัตติ นเป็นผู้มคี วามซอ่ื สัตย์สุจริต 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ลกั ษณะของผมู้ คี วามละอายต่อการทจุ รติ - ไม่คดโกง - ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) 1. ความสามารถในการส่ือสาร - การฟัง - การเลา่ เรอ่ื ง - การตอบคาถาม 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการสังเกต - ทักษะการเปรียบเทยี บ - ทักษะการปฏบิ ัติ 3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ / คา่ นยิ ม คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีความซื่อสัตยส์ จุ รติ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขนั้ ตอนการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 1 1. นกั เรยี นดวู ดิ ีโอเรื่อง ขอบคณุ นะทซ่ี ่ือสัตย์ แลว้ ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เนื้อเรือ่ งในวดิ โี อ วา่ ตัวละครมใี ครบ้าง - ตัวละครแต่ละตัวแสดงพฤติกรรมอยา่ งไรบา้ ง - ให้นักเรียนแยกพฤติกรรมของตวั ละครทแ่ี สดงออกในดา้ นดีและไม่ดี - พฤตกิ รรมทต่ี วั ละครแสดงออกในด้านดนี ้ัน เป็นคุณธรรมหรอื จรยิ ธรรมด้านใด - พฤติกรรมที่ตัวละครแสดงแสดงออกในดา้ นไม่ดี เปน็ การขาดคุณธรรมหรือจริยธรรมดา้ นใด - นักเรยี นควรเลอื กปฏิบตั ิพฤติกรรมแบบใด 2. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าพฤติกรรมด้านไม่ดกี ่อให้เกิดปญั หาในสังคมอยา่ งไร
- 104 - ช่ัวโมงท่ี ๒ ๓. ใหน้ ักเรียนร้องเพลงคุณธรรมอัตลักษณ์ แล้วสนทนาเกีย่ วกบั เนื้อหาของเพลงว่าเกยี่ วกับอะไร ๔. ครใู หน้ กั เรียนจับคเู่ ขียนปัญหาท่ีเกีย่ วกบั ความซื่อสัตยท์ ี่พบในบา้ น ในโรงเรียน ในชุมชนคนละ 3 ปัญหา ๕. ใหน้ กั เรยี นนาเสนองานหน้าชั้นเรียนเปน็ กลุ่ม ๖. นกั เรยี นชว่ ยกันเลือกปญั หาท่นี าเสนอ ทเี่ ปน็ ปัญหาที่เกดิ ในโรงเรยี น ท่คี ิดว่าสาคัญที่สดุ และ นักเรียน คดิ ว่าสามารถแกป้ ญั หาน้นั ได้ มาจดั ทาเปน็ โครงงานคุณธรรม ชว่ั โมงที่ ๓ ๗. ให้นกั เรยี นร้องเพลงความซ่ือสัตย์ แล้วสนทนาเกี่ยวกับเน้ือหาของเพลง วา่ ทุกคนควรปฏบิ ัตติ น อยา่ งไรจึงจะมีความสุข ๘. ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ทาโครงงานคณุ ธรรมตามหัวขอ้ ทกี่ าหนด ชัว่ โมงที่ ๔ ๙. ใหน้ ักเรยี นส่งตวั แทนนาเสนอโครงงานหน้าช้ันเรียน ๑๐. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุป และครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ๑๑. นักเรียนและครูรว่ มกันร้องเพลงโรงเรยี นคุณธรรม 4.2 ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1. วดิ โี อเรื่อง ขอบคุณนะทีซ่ ื่อสัตย์ https://www.youtube.com/watch?v=pHR_s1SJm34 2. แผนภมู ิเพลงกิจกรรมคณุ ธรรม , คณุ ธรรมอัตลักษณ์ , ความซอ่ื สตั ย์ , เพลงโรงเรยี นคุณธรรม ๓. ใบงานโครงงานคณุ ธรรม 5. การประเมินผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ ีการประเมนิ ๑. ตรวจผลงานโครงงานคุณธรรม ๒. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- 105 - 5.2 เครือ่ งมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ ๑. แบบประเมินโครงงานคุณธรรม ๒. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.3 เกณฑ์การประเมิน ๑. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้มู คี วามซอื่ สัตยส์ จุ ริตตามโครงงานคุณธรรมท่สี รปุ รายงาน ๒. นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดขี ้นึ ไป ถือว่าผ่าน ๖.บนั ทึกหลงั สอน ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. .................................................................... ......................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 7. ภาคผนวก ลงช่อื ................................................ ครผู ูส้ อน (.................................................) วดิ โี อเรื่อง ขอบคุณนะท่ีซอ่ื สัตย์ https://www.youtube.com/watch?v=pHR_s1SJm34
- 106 - เพลงกจิ กรรมคุณธรรม คณุ ธรรมนาชวี ิต สูค่ วามกา้ วหน้า จรยิ ธรรมมีคณุ คา่ สร้างความสุขศานต์ คุณธรรม อยูใ่ นใจตลอดกาล จรยิ ธรรมคอื การกระทาความดี เพลงคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ คณุ ธรรมเปา้ หมายของคน คือความสุขล้นได้กระทาดี มีน้าใจซื่อสัตย์ สามคั คี รับผิดชอบดี ใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน พฤติกรรมบ่งช้ีนั้นหนา ปฏบิ ตั ทิ กุ เวลาท้ังอา่ นและเขยี น มาเถอะพวกเราวยั เรยี น (ซ้า) ช่วยกันคดิ เขียนคุณธรรมอตั ลักษณ์ เพลงความซื่อสัตย์ หากวา่ ใครไม่มชี าตนิ ีเ้ อาดีไม่ได้ ความซอ่ื สัตย์เปน็ สมบตั ขิ องผู้ดี เอาตัวไมร่ อดถมไป มีความร้ทู ่วมหวั จะรับไว้ให้รว่ มงานเอย คดโกงแลว้ ใครจะรบั ไวใ้ หร้ ว่ มงานเอย หากว่าใครไม่มีชาตินเี้ อาดีไม่ได้ ความซื่อสัตย์เป็นสมบัตขิ องผู้ดี เอาตัวไมร่ อดถมไป มคี วามรูท้ ่วมหวั จะรบั ไวใ้ ห้รว่ มงานเอย คดโกงแลว้ ใครจะรบั ไว้ใหร้ ว่ มงานเอย เพลงโรงเรยี นคณุ ธรรม คาว่าคุณธรรม คาน้มี คี วามหมายยงิ่ ใหญ่ เกิดจากหวั ใจของคนที่ยดึ มนั่ ในความดี เกิดจากความคิดและการกระทาตลอดชวี ี ทกุ คนมีศักด์ศิ รี ไมว่ ่าจะยากดี มจี น คาว่าคุณธรรมสรา้ งสรรค์ผนู้ าที่ย่งิ ใหญ่ ความซ่ือสัตยม์ ีวินยั ปลุกจิตใจใหม้ คี วามกล้าหาญ คิดดที าดี ควบคุมตนให้พอประมาณ ในทสี่ ดุ น้ันรวมกนั เรียกวา่ คุณธรรม โรงเรยี นคณุ ธรรม นาทางให้เยาวชน พวกเราทกุ คนมารวมพลังมงุ่ สูจ่ ดุ หมาย ร่วมกันสร้างความดีให้อย่ใู นจิตใจ ร่วมสร้างสรรค์ประเทศไทย ใหย้ ิ่งใหญ่อย่างมีคุณธรรม รกั กันเอาไว้ เอาหวั ใจของเรารวมเปน็ หนึ่ง เราจะไปให้ถึงหากมีปญั หาเราจะร่วมฝ่าฟัน ไม่ไกลเกนิ ฝนั ไม่ไกลความจรงิ ท่ีเราตอ้ งการ โรงเรียนคณุ ธรรมสรา้ งฝนั ใหเ้ มืองไทยงดงาม
- 107 - ๑.ช่ือโครงงาน .............................................................................................................. .............................................. ๒.สภาพปัญหา ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................... .................................... .............................. ๓.วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน ๒.๑ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี น.............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...............(พุทธพิ ิสัย) ๒.๒เพื่อใหน้ ักเรยี น................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................(จิตพิสยั ) ๒.๓ เพอ่ื ให้นกั เรียน................................................................................................................................ ............................................................................................................................. .............(ทกั ษะพสิ ยั ) ๔.วิธกี ารดาเนินงาน ........................................................................................................................................................... .............. .................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................................................. ............ ...................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ๕.ระยะเวลาและสถานที่ดาเนนิ งาน ................................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ๖.งบประมาณและแหลง่ ทีม่ า ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ๗.กลุ่มเปา้ หมาย (ทั้งเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพ) ........................................................................................................... .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................
- 108 - ๘.ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั ๑.................................................................................................................................................... ๒.................................................................................................................................................... ๓.................................................................................................................................................... ๙.หลักธรรมและพระราชดาริ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๑๐.กล่มุ เยาวชนผู้รับผดิ ชอบโครงงาน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๑๑.ทป่ี รกึ ษาโครงงาน (พระสงฆ์ , ครู , ผู้บรหิ าร) ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๑๒.สรปุ ประเดน็ หลกั ของโครงงาน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................
- 109 - แบบประเมนิ โครงงานคุณธรรม 1.ชือ่ โครงงาน..................................................................................... 2.กลุ่มที่..................... ช่ือ............................................................................................................................. .................... การประเมินโครงงานคณุ ธรรม มีหลกั เกณฑ์การประเมินดงั น้ี รายการประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ หมายเหตุ (5) 1. รายงานโครงงาน 3 ……………. 1.1 หวั ข้อองคป์ ระกอบ ครบถ้วน 2 …………… 1.2 เสร็จตามเวลาที่กาหนด (5) 2 …………… 2. ความสาคัญของโครงงาน 3 …………… 2.1 ความน่าสนใจของวิธีการแกป้ ญั หา (10) 2.2 ประโยชน์ การนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน 2 …………….. 2 …………… 3. การดาเนนิ การ 2 …………….. 3.1 การวางแผน/เตรียมการ 2 …………………………. 3.2 สอดคล้องกบั พฤติกรรมความซื่อสตั ย์ 2 3.3 เหมาะสมกับวยั ของนักเรียน (10) ………….. 3.4 สอดคลอ้ งกับจุดประสงคข์ องกจิ กรรม 5 …………… 3.5 ความร่วมมอื ของสมาชิกในกลมุ่ 5 ………….. 4. เน้อื หา (5) …………… 4.1 การรวบรวมข้อมลู หลากหลาย 5 4.2 การสรปุ ขอ้ มลู เป็นองค์ความรู้ท่ีสามารถ 5 ………….. นาไปใช้ไดจ้ ริง 40 5. การนาเสนอ 5.1 การใช้ภาษาในการนาเสนอ 5.2 การสอื่ ความหมายใหเ้ ขา้ ใจชัดเจนถึง พฤติกรรมความซื่อสตั ย์ รวม ลงชอ่ื ................................................ผูป้ ระเมิน (............................................................................) วนั ท่ี.............เดือน...........................พ.ศ........................
- 110 - แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ชือ่ -สกุลนักเรยี น...................................................................ช้ัน..............................เลขที.่ ...................... คาช้แี จง : ให้ครู สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 3 2 10 ซื่อสัตยส์ จุ รติ 1.ปฏิบตั ติ ามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2.ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อตนเอง 3.ประพฤติ ปฏบิ ตั ิตรงต่อความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อน่ื รวม สรุปผลคะแนน ลงช่อื ......................................................................ผ้ปู ระเมิน (.....................................................................) ........... /................................/...................... เกณฑก์ ารให้คะแนน - พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน สรุปผลการประเมิน ๘-๙ คะแนน เทา่ กับ ดเี ยย่ี ม - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ๖-๗ คะแนน เท่ากบั ดี ๔-๕ คะแนน เท่ากบั พอใช้ - พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน ๐-๓ คะแนน เทา่ กบั ปรับปรงุ - พฤติกรรมที่ไมไ่ ด้ปฏบิ ตั ิ ให้ 0 คะแนน นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดีขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น
- 111 - หนว่ ยท่ี 3 STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ
- 112 - ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 3 ชอื่ หน่วย STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง ความพอเพยี ง (การออมเงิน) 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทจุ รติ 1.2 ปฏิบัตติ นเป็นผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถบอกหลกั การออมเงินได้ 2.2 นกั เรยี นบนั ทึกการออมเงนิ ในชีวติ ประจาวันได้ 2.3 นกั เรยี นเหน็ ประโยชน์ของการออมเงิน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ การออมเงนิ เป็นการนาเงินที่เหลอื จากการใช้จา่ ยมาเก็บออมไว้ เพ่อื ใชป้ ระโยชนใ์ นยามจาเป็น ใชจ้ ่ายเงนิ ในชีวิตประจาวนั ท่ไี มเ่ กนิ ตวั และเหน็ ประโยชนข์ องการออม 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) 1. ความสามารถในการส่ือสาร - การสนทนาตอบคาถาม - การดคู ลปิ วีดีโอ - การทาใบงาน 2. ความสามารถในการคดิ - อธบิ ายหลกั การออมเงิน 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต - การออมเงินในชีวิตประจาวัน 3.3 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / คา่ นิยม อยู่อย่างพอเพียง 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ 1. ครนู าภาพกระปุกออมสิน และสมุดบญั ชเี งนิ ฝากมาใหน้ กั เรยี นดู โดยใช้คาถาม ดงั นี้ - นกั เรียนมีกระปุกออมสินหรอื สมุดบญั ชเี งนิ ฝากหรอื ไม่ - นกั เรียนเคยเกบ็ ออมเงินหรือไม่ - เราสามารถออมเงนิ ไดด้ ้วยวธิ ีใดบ้าง (หยอดกระปกุ ออมสนิ /ฝากธนาคาร) - การออมเงินมปี ระโยชน์อยา่ งไร (มีเงนิ เก็บไวใ้ ช้ยามจาเป็น) 2. ครูแจกตัวอย่างสถานการณ์ให้นักเรียนอา่ นพรอ้ มกัน
- 113 - พอ่ ได้รบั เงนิ เดือน 10,000 บาท แบง่ เป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ดงั นี้ ค่าอาหาร3,000 บาท ค่าใช้จ่ายในบ้าน 2,500 บาท ค่าขนมบุตร 500 บาท ออมเงินกับ ธนาคาร 3,000 บาท และค่าใช้จา่ ยยามเจ็บปว่ ย 1,000 บาท ครูและนกั เรียนรว่ มกันสนทนา โดยใชค้ าถามดงั น้ี - พ่อมีรายได้เป็นเงนิ เดอื นจานวนก่ีบาท (10,000 บาท) - พ่อมีรายจ่ายในครอบครัวอะไรบ้าง (ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าขนมบุตร ค่าใชจ้ ่ายยามเจบ็ ป่วย) - พอ่ มีเงินออมหรอื ไม่ อยา่ งไร (มี โดยออมเงินกับธนาคารจานวน 3,000 บาท) - ทุกวนั น้ี นักเรียนมรี ายรบั จากใคร (จากผ้ปู กครอง) - นักเรียนยังไม่สามารถหารายได้เองได้ นักเรียนจะใช้จ่ายเงินอย่างไร (ใช้จ่ายอย่าง ประหยัด รู้จักการเก็บออม) 3. ครูเปิดคลิปวิดีโอ เร่ือง “การออม” ให้นักเรียนดู ว่าหลักการออมเงินเป็นอย่างไร สามารถออมได้โดยวธิ ีใดบา้ ง 4. ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับหลักการออมเงิน โดยครูใชค้ าถาม ดังนี้ - นกั เรียนเคยออมเงินหรือไม่ และออมเงนิ โดยวธิ ีใด (เคย เก็บเงินในกระปุกออมสิน) - หลักการออมเงนิ ทดี่ มี ีอะไรบา้ ง (จดบนั ทกึ การออมเงนิ ) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า หลักการออมเงินท่ีดี คือ การออมเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายส่ิงท่ี จาเป็นแล้ว โดยเก็บเงินที่จะออมไว้ให้เป็นท่ี เช่น เก็บในกระปุกออมสิน หรือนาไปฝากธนาคาร เมื่อมีเงิน ออมมากข้ึน นอกจากน้ีนกั เรียนควรจดบนั ทึกจานวนเงนิ ออมไว้ เพอื่ ใหร้ ู้จานวนเงินออมของตนเอง 5. ให้นกั เรยี นจดบนั ทึกการออมเงินของตนเองภายใน 5 วัน ลงในใบงานท่ี ๑ เรื่อง ออมไว้... กาไรชวี ติ กลบั นามาส่งตามเวลาที่กาหนด 6. ครูให้นกั เรยี นร่วมกนั สรุปองค์ความรู้เก่ียวกับการเห็นคุณค่าในการใช้ทรัพยากรน้าและไฟฟ้า อย่างประหยัดและคุ้มค่า เพื่อให้มีใช้ได้นานข้ึน (การออมเงินและการจดบันทึกการออมเงินมีประโยชน์ มากมาย ทาให้มีเงินเหลือเก็บออมไว้ใช้ยามจาเป็น มีเงินใช้ซื้อสิ่งของที่อยากได้ ถ้านาเงินออมไปฝากไว้กับ ธนาคารก็จะได้รับดอกเบ้ียเป็นผลตอบแทน ทาให้มีเงินเพ่ิมมากข้ึนและถ้าเรารู้จักการจดบันทึกการออมเงินก็ จะทาให้เรารู้รายรับ รายจ่ายในแต่ละวัน รู้จานวนเงินออมในปัจจุบันและถือเป็นการสร้างวินัยในการออม สอดคลอ้ งกับหลักความพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลท่ี 9) 4.2 สอื่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1. ภาพกระปุกออมสิน และสมดุ บัญชีเงนิ ฝาก 2. สถานการณ์ รายรับ-รายจ่ายของครอบครวั 3. คลปิ วีดโี อ เรือ่ งการออม จาก https://www.youtube.com/watch?v=qQOLMh0vrb8 4. ใบงาน เร่ือง ออมไว้...กาไรชวี ิต 5. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.1 วิธกี ารประเมิน - ตรวจผลงานการทาใบงาน
- 114 - - การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน 5.2 เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ - แบบตรวจผลงานการทาใบงานเร่อื งออมไว.้ ..กาไรชวี ิต - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการออมเงนิ ในชวี ติ ประจาวนั 5.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ขึ้นไปถอื ว่า ผ่าน ๖. บันทึกหลังสอน ............................................................................................................. ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. .................................................................... ......................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................) ๗. ภาคผนวก - ภาพกระปุกออมสนิ และสมุดบญั ชีเงนิ ฝาก - สถานการณ์ รายรับ-รายจ่ายของครอบครวั - ใบงานเร่อื งออมไว.้ ..กาไรชวี ิต - แบบตรวจผลงานการทาใบงาน - แบบสงั เกตพฤติกรรมการออมเงินในชีวิตประจาวนั
- 11 สถานการณ์ รายรบั -ร พอ่ ได้รบั เงนิ เดอื น 10,000 บ ดังนี้ ค่าอาหาร 3,000 บาท ค่าใ บุตร 500 บาท ออมเงินกับธนาคา เจบ็ ป่วย 1,000 บาท
15 - รายจา่ ยของครอบครวั บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ใช้จ่ายในบ้าน 2,500 บาท ค่าขนม าร 3,000 บาท และค่าใช้จ่ายยาม
- 11 ภาพกระป แ
16 - ปกุ ออมสิน แหลง่ ขอ้ มลู https://pixabay.com/p-1379257/?no_redirect
- 11 ภาพสมดุ บญั แหลง่ ขอ้ มลู http://www.enjoythaila
17 - ญชีเงินฝาก andtravel.com/wp-content/uploads/2017/11/MN_2_1.jpg
- 118 - ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง ออมไว.้ ..กาไรชวี ิต ****************************************************************************************************** คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นจดบนั ทึกการออมเงนิ ของตนเองใน 5 วัน ลงในแบบบันทกึ ท่ีกาหนดใหแ้ ละตอบคาถาม บันทกึ การออมเงนิ ประจาวันท.่ี ................. ถึง ....................... เดือน................................................ พ.ศ....................... วนั ที่ จานวนเงินออม ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................ ................................................. รวมเงนิ ออม 1. นักเรียนจะเกบ็ เงินที่ออมได้โดยวิธใี ด…………………………………………………………………………………………….. 2. การออมเงินมปี ระโยชน์อย่างไร ...................................................................................................................... ............................................... 3. การใช้จ่ายเงนิ อย่างประหยัด สอดคลอ้ งกับหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร ................................................................................................................................................................... .. .................................................................................. ..................................................... ..............................
- 119 - แบบตรวจผลงานการทาใบงาน เร่ือง ออมไว.้ ..กาไรชีวติ รายการประเมนิ สรปุ ผล ผา่ น ไม่ผา่ น บอกหลกั การ จดบันทกึ และประโยชน์ของ การออมเงินใน รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ การออมเงินได้ ชวี ิตประจาวันสอดคลอ้ ง คะแนน 1 ถกู ต้อง กับหลกั ปรชั ญา (10) 2 3 (๕ คะแนน) เศรษฐกิจพอเพียง 4 5 (๕ คะแนน) 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชอ่ื …………..…………………………….ผูต้ รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การตรวจผลงาน ไดค้ ะแนน ๘ คะแนนข้ึนไป ถือว่าผา่ น
- 120 - แบบสงั เกตพฤติกรรมการออมเงิน พฤตกิ รรมการออมเงิน สรุปผล ท่ี ชือ่ – สกุล วางแผนการใช้ – เห็นคณุ คา่ ของ รวมคะแนน 1 จ่ายเงนิ การออมเงนิ (10) ผ่าน ไม่ผา่ น 2 3 (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 รวม ลงชอ่ื …………..…………………………….ผู้สงั เกต (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การตัดสนิ พฤตกิ รรม ปฏิบตั ิประจา ได้คะแนน ๕ คะแนน ปฏิบัติบางคร้งั ไดค้ ะแนน ๔ คะแนน ปฏิบัตินานๆครัง้ ไดค้ ะแนน ๓ คะแนน ปฏิบัติน้อย ได้คะแนน ๒ คะแนน ปฏบิ ัตนิ อ้ ยท่ีสดุ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไม่เคยปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน ๐ คะแนน ไดค้ ะแนน ๘ คะแนนขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน
- 121 - ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 3 ชือ่ หนว่ ย STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง ความโปรง่ ใส (การกระทาดีและการกระทาท่ีไมด่ ี) 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทุจรติ 1.2 ปฏิบัตติ นเปน็ ผูท้ ี่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 นักเรยี นสามารถบอกความหมายของคาวา่ โปร่งใสได้ 2.2 นกั เรยี นสามารถแยกแยะพฤติกรรมท่ีแสดงถึงการกระทาดีและการกระทาไม่ดีได้ 2.3 นกั เรียนเกรงกลัวต่อการกระทาความผิด 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ความโปร่งใสทาใหเ้ รามองเห็นอะไรไดช้ ัดเจนมากกวา่ ความมดื มดิ เมื่อมีคนมองเหน็ คนชั่วยอ่ มไม่ กลา้ กระทาผิด 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ ) 1. ความสามารถในการสื่อสาร - การแสดงความคดิ เห็น - การฟงั นทิ าน - การทาใบงาน 2. ความสามารถในการคดิ - การคิดวิเคราะห์ แยกแยะพฤติกรรมดีพฤติกรรมไมด่ ี 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต - การเกรงกลวั ตอ่ การกระทาความผดิ 3.3 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ / คา่ นยิ ม ความซอ่ื สตั ย์ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขัน้ ตอนการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพแก้วน้าที่ใส่น้า กับแก้วน้าท่ีใส่นมซ่ึงมีของอยู่ในแก้วมาให้นักเรียนดู แล้วสนทนา ร่วมกนั โดยใชค้ าถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ - ในภาพน้มี ีแกว้ อยู่ก่ใี บ แลว้ ใสอ่ ะไรอย่ใู นนนั้ (มี 2 ใบ ใบที่ 1 ใสน่ า้ และใบท่ี 2 ใสน่ ม) - นกั เรียนมองเหน็ สิง่ ของในแก้วไหนไดช้ ัดเจนกว่ากนั (แก้วนา้ ใบท่ี 1) - ทาไมถึงมองเหน็ แกว้ ใบท่ี 1 ไดช้ ัดเจนกว่ากนั (เพราะแก้วน้าใบท่ี 1 โปรง่ ใสกว่าใบท่ี 2) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาถึงความหมายของคาว่า “โปร่งใส” กับคาว่า “มืดมิด” (โปร่งใส หมายถึง การท่ีเรามองเห็นได้ชัดเจนทะลุปรุโปร่งเหมือนท่ีเรามองเห็นส่ิงของที่อยู่ในแก้วน้าใบท่ี 1
- 122 - เปรยี บกบั เมือ่ มีคนมองเห็นคนชว่ั ย่อมไมก่ ลา้ กระทาผิด ส่วนคาว่ามืดมิด หมายถึง การที่เรามองเห็นได้ไม่ชัดเจน มืดสนิทเหมือนท่ีเรามองไม่เห็นส่ิงของท่ีอยู่ในแก้วน้าใบที่ 2 เปรียบกับเมื่อมีคนมองไม่เห็นคนชั่วย่อมกล้ากระทา ผิด) 3. ครูเล่านทิ านเร่ือง “สนุ ขั จิ้งจอกจอมโกหก” แลว้ สนทนาร่วมกัน โดยใช้คาถาม ดงั นี้ - สนุ ขั จิง้ จอกมีนสิ ัยดีหรอื ไม่ เพราะอะไร (ไมด่ ี เพราะชอบพดู โกหก ปดิ บงั ข้อมูล) - ผลของการกระทาของสนุ ัขจิ้งจอกเป็นอย่างไร (เพ่ือนไม่มคี บ ไม่ไวว้ างใจ) - นกั เรยี นเคยมีพฤติกรรมแบบสุนขั จ้งิ จอกหรือไม่ (เคย / ไม่เคย) - นักเรียนมีวิธกี ารปรบั ปรงุ แก้ไขพฤติกรรมตนเองอยา่ งไร (พดู แต่ความจรงิ ไมโ่ กหก) 4. ให้นักเรียนช่วยกันบอกพฤติกรรมที่แสดงถึงความโปร่งใส (พูดแต่ความจริง , ไม่โกหก , เปิดเผย ขอ้ มูล , ให้ตรวจสอบได้) และความไม่โปร่งใส (โกหก , ลอกการบ้านเพ่ือน , ไม่ตรงต่อเวลา) จากน้ันให้จดบันทึก ไวล้ งใบงานที่ 2 เรอ่ื ง โปร่งใส...ใจสะอาด แลว้ นามาสง่ ครูตามเวลาทก่ี าหนด 5. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปองค์ความรู้เก่ียวกับความโปร่งใส (ความโปร่งใสทาให้เรามองเห็น อะไรไดช้ ดั เจน เม่อื มคี นมองเหน็ คนช่วั ยอ่ มไม่กล้ากระทาผิด) 4.2 สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1. ภาพแกว้ น้าที่ใสน่ ้า 2. ภาพแกว้ น้าท่ใี ส่นม 3. นทิ านเรื่อง สุนัขจ้ิงจอกจอมโกหก 4. ใบงาน เร่ือง โปร่งใส...ใจสะอาด 5. การประเมินผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ ีการประเมนิ - ตรวจผลงานการทาใบงาน - การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน 5.2 เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการประเมิน - แบบตรวจผลงานการทาใบงานเรือ่ งโปร่งใส...ใจสะอาด - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัตติ นเปน็ คนโปร่งใส...ใจสะอาด 5.3 เกณฑ์การประเมนิ - นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไปถอื วา่ ผ่าน ๖. บนั ทึกหลงั สอน ...................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชื่อ ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................)
- 123 - ๗. ภาคผนวก - ภาพแก้วน้าที่ใสน่ ้า - ภาพแก้วนา้ ท่ีใส่นม - นทิ านเรือ่ งสุนขั จิ้งจอกจอมโกหก - ใบงานเรอื่ งโปรง่ ใส...ใจสะอาด - แบบตรวจผลงานการทาใบงาน - แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ติ นเปน็ คนโปรง่ ใส...ใจสะอาด
- 124 - แกว้ ใบที่ 1 ใสน่ ้าในแก้ว แหลง่ ข้อมลู ภาพ http://savagehenrymagazine.com/wp-content/uploads/2013/07/ glass_of_water_0808_lg_10661967_c6O80CPI7U7J.jpg
- 125 - แก้วใบท่ี 2 ใสน่ มในแก้ว แหล่งข้อมูลภาพ https://forkingmad.uk/page-images/milk-glass-full.png
- 126 - หมาจงิ้ จอกจอมโกหก หมาจ้ิงจอกตัวหนึ่ง มีนิสัยชอบโกหก วันหน่ึงขณะท่ีมันกาลังออกหาอาหารนั้น ก็ได้พบกับหมีตัว หน่ึงกาลังกินรังผ้ึงอย่างเอร็ดอร่อย มันจึงพูดข้ึนว่า “อย่ามัวกินรังผ้ึงเล็กๆ น้ีอยู่เลย ตรงป่าด้านโน้นที่ข้า เพ่งิ ผา่ นมานัน้ ขา้ เห็นรังผ้งึ บนต้นไมเ้ ยอะแยะ ถา้ เจ้าไม่รีบไป เดย๋ี วหมตี ัวอนื่ กเ็ อาไปกนิ ซะหมด” เจ้าหมไี ดย้ นิ ดังนัน้ ก็วางรังผ้ึงท่กี าลังกินอยู่ และรีบไปโดยเร็ว เจ้าหมาจ้ิงจอกจึงรีบคว้ารังผ้ึงมากิน พรอ้ มกับหัวเราะเยาะ “ดซู ิ เจา้ หมีหน้าโง่ รบี จา้ ใหญเ่ ลย..ฮ่า..ฮา่ ..ฮา่ ..” หลังจากกินรังผึ้งแล้ว มันก็เดินต่อไป และได้ไปเจอลิงกาลังกินกล้วยอยู่ มันก็บอกกับลิงว่า “อย่า มัวกินกล้วยผลเล็กอยู่เลย ตรงป่าด้านโน้นที่ข้าเพ่ิงผ่านมานั้น มีต้นกล้วยใหญ่ท่ีมีผลงามๆ เยอะแยะ สุก เหลอื งนา่ กิน ถา้ เจา้ ไมร่ ีบไป เด๋ียวลิงตัวอ่ืนกเ็ อาไปกินซะหมด” เจ้าลิงได้ยินดังน้ัน ก็วางกล้วยท่ีกาลังกินอยู่ และรีบไปโดยเร็ว ส่วนเจ้าหมาจ้ิงจอกก็รีบคว้ากล้วย มากินพรอ้ มกับหวั เราะเยาะ “ดูซิ เจา้ ลงิ หนา้ โง่ รีบวง่ิ ใหญ่เลย..ฮ่า..ฮา่ ..ฮา่ ..” หลังจากกินกล้วยจนพอใจแล้ว หมาจ้ิงจอกก็เดินต่อไป คราวนี้มันไปเจอช้างกาลังกินอ้อยอยู่ มันก็ บอกกบั ชา้ งเหมือนที่บอกกับหมีและลิงว่า “อย่ามัวกินอ้อยเล็กๆ น้อยๆ อยู่เลย ตรงป่าด้านโน้นที่ข้าเพิ่ง ผา่ นมาน้นั มีต้นอ้อยลาใหญ่ๆ เตม็ ไปหมด ถ้าเจา้ ไมร่ บี ไป เดี๋ยวชา้ งตัวอน่ื ก็เอาไปกินซะหมด” เจ้าช้างไดย้ นิ ดังนน้ั กว็ างอ้อยท่ีกาลังกินอยู่ และรีบไปโดยเร็ว ส่วนเจ้าหมาจ้ิงจอกก็รีบคว้าอ้อยมา กิน พรอ้ มกับหัวเราะเยาะ “ดูซิ เจ้าชา้ งหน้าโง่ รบี เดนิ ใหญ่เลย..ฮา่ ..ฮา่ .. ฮา่ ..” หลังจากกินรงั ผง้ึ กนิ กล้วย และกินอ้อย จนอมิ่ หนาแล้ว เจ้าหมาจง้ิ จอกกน็ อนหลบั อยา่ งสบาย ส่วนเจ้าหมี ลิง และช้าง ไม่เจอส่ิงที่เจ้าหมาจิ้งจอกบอก ก็รู้ว่าตัวเองถูกหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หลอก ซะแล้ว ท้ังสามจึงพร้อมใจกันกลับไปประกาศให้สัตว์ทุกตัวในป่าได้รับรู้ ต้ังแต่น้ันมาก็ไม่มีใครหลงเช่ือและ คบหากับหมาจ้งิ จอกอีกเลย (ข้อคิดทไ่ี ด้ คอื การพูดโกหกนั้น ไม่พูดความจริงทาให้กลายเป็นผู้ท่ีไม่น่าเชื่อถือ ไม่เป็นท่ีรักและ ไวว้ างใจของผู้อ่ืน สุดท้ายก็ไม่มีใครอยากคบหาด้วย หากสังคมใดมีแต่คนท่ีชอบพูดโกหก เพื่อผลประโยชน์ ของตนเอง สังคมน้ันกจ็ ะเปน็ สังคมทีไ่ ม่นา่ อยู่ มแี ตค่ วามเดอื ดรอ้ นวุ่นวายไมร่ ู้จบ) แหล่งขอ้ มลู http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9520000022926
- 127 - ใบงานท่ี 2 เร่ือง โปรง่ ใส...ใจสะอาด ***************************************************************************************************** คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นบอกพฤติกรรมของตนเองแสดงออกถึงการกระทาทาดี (โปรง่ ใส) และพฤตกิ รรมแสดงออกถงึ การกระทาไมด่ ี (ไม่โปรง่ ใส) พฤติกรรมของ่ ตนเองแสดงออกถึงการกระทาทาดี (โปร่งใส) ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. พฤติกรรมของตนเองแสดงออกถงึ การกระทาไมด่ ี (ไม่โปร่งใส) ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. .................................................................................................
- 128 - แบบตรวจผลงานการทาใบงาน เรอ่ื ง โปร่งใส..ใจสะอาด รายการประเมนิ สรุปผล ผ่าน ไมผ่ า่ น บอกพฤตกิ รรมท่ี บอกพฤตกิ รรมท่ี รวมคะแนน (10) ที่ ช่ือ – สกลุ แสดงออกถงึ การ แสดงออกถงึ การ 1 กระทาความดไี ด้ กระทาความไม่ดไี ด้ 2 3 (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชอ่ื …………..…………………………….ผ้ตู รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การตรวจผลงาน - บอกได้ ๕ ขอ้ ได้ ๕ คะแนน - บอกได้ ๔ ข้อ ได้ ๔ คะแนน - บอกได้ ๓ ขอ้ ได้ ๓ คะแนน - บอกได้ ๒ ข้อ ได้ ๒ คะแนน - บอกได้ ๑ ขอ้ ได้ ๑ คะแนน - บอกได้ ๐ ข้อ ได้ ๐ คะแนน ไดค้ ะแนน ๘ คะแนนขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
- 129 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการแสดงออกถึงความโปรง่ ใส พฤตกิ รรมการแสดงออกถึง ความโปร่งใส รวมคะแนน สรุปผล (10) ผ่าน ไม่ผา่ น ที่ ชอื่ – สกลุ ใหข้ ้อมลู ทเ่ี ปน็ จริง เกรงกลัวตอ่ การ 1 (๕ คะแนน) กระทาผดิ 2 3 (๕ คะแนน) 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 รวม ลงช่ือ…………..…………………………….ผสู้ ังเกต (………………….………………….……) ได้คะแนน ๘ คะแนนข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
- 130 - ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 3 ช่อื หน่วย STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ตา้ นการทจุ รติ (พฤติกรรมการกระทาผิด) 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ 1.2 ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้ทู ่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถบอกพฤตกิ รรมการกระทาความผิดได้ 2.2 นักเรียนสามารถบอกวธิ ีการแกไ้ ขพฤตกิ รรมการกระทาผดิ ได้ 2.3 นักเรียนรู้จกั ไมย่ อมรับผู้ที่กระทาความผิด 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ การบอกพฤตกิ รรมการกระทาความผิด วิธีการแก้ไขพฤติกรรมการกระทาผิด และการไม่ยอมรับผู้ ทก่ี ระทาความผดิ 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกิด) 1) ความสามารถในการสือ่ สาร - การแสดงความคดิ เหน็ - การรอ้ งเพลง - การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคดิ - บอกพฤติกรรมการกระทาความผิด และวิธกี ารแก้ไขพฤตกิ รรมการกระทาผดิ 3) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - การไม่ยอมรับผู้ทกี่ ระทาความผิด 3.3 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ / คา่ นิยม ความซื่อสตั ย์ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันร้องเพลง “โตไปไม่โกง” แล้วร่วมกันสนทนา โดยใช้ประเด็นคาถาม ดงั นี้ - จากเพลงโตไปไม่โกง ถ้าเราจะเป็นคนดีต้องปฏิบัติตนตามเพลงมีก่ีข้อ อย่างไรบ้าง (มี 5 ข้อ คือ ข้อ 1 ซอื่ สัตย์ , ข้อ 2 รับผิดชอบ , ข้อ 3 รักในความเป็นธรรม , ข้อ 4 พอเพียง และข้อ 5 ทาเพื่อ สว่ นรวม)
- 131 - - นักเรียนคดิ วา่ ตนเองทาไดท้ ุกข้อหรอื ไม่ เพราะอะไร (ได้ / ไม่ได้ เพราะ...ขึ้นอยู่เหตุผลของ นักเรียนแต่ละคน) - นักเรยี นว่าคดิ ว่าคนไมด่ ีมีลกั ษณะอย่างไร (โกหก / ลกั ขโมย / ลอกการบ้าน / โกง) 2. ครอู า่ นการต์ นู รณรงค์ปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริต ตอน “โกงสอบ” ให้นกั เรียนฟงั และ รว่ มกันสนทนาโดยใชค้ าถาม ดงั นี้ - โตขึ้นจุกอยากเป็นอะไร (ข้าราชการ) - พอ่ กับแม่บอกกบั จกุ ว่าอย่างไร ถ้าอยากสอบข้าราชการ (ตอ้ งตงั้ ใจเรียน) - ทาไมแม่ถึงพดู กับจกุ ว่าต้งั ตั้งใจเรียน (เพราะจะไดไ้ ม่ตอ้ งโกงสอบ , ใชเ้ สน้ สาย) - ผลของการโกงสอบเป็นอยา่ งไร (ตดิ คุก , ไมม่ อี นาคต) - นักเรียนคิดว่าการโกงสอบเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ เพราะอะไร (ดี , ไม่ดี เพราะ....ข้ึนอยู่กับ คาตอบของนกั เรียนแต่ละคน) 4. ให้นักเรียนช่วยกันบอกพฤติกรรมการกระทาความผิด และวิธีการแก้พฤติกรรมการกระทา ความผิด จากนัน้ วาดภาพและให้จดบนั ทกึ ไวล้ งใบงานท่ี 3 เร่ือง เด็กดีต้านการทุจริต แล้วนาเสนอผลงานหน้า ชน้ั เรยี น 5. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการกระทาความผิด วิธีการแก้ไข พฤติกรรมการกระทาผิด และการไม่ยอมรับผู้ที่กระทาความผิด (ผลของการกระทาความผิด จะไม่มีคนคบด้วย เกิดความไม่ไว้วางใจกัน เราควรปฏบิ ัตติ นเปน็ คนดที ้ังตอ่ หนา้ และลับหลัง) 4.2 สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ 1) เพลง “โตไปไมโ่ กง” จาก https://www.youtube.com/watch?v=qjmuC1Vnt3Q 2) การ์ตนู รณรงคป์ ้องกนั และปราบปรามการทุจรติ ตอน “โกงสอบ” 3) ใบงาน เรอื่ ง เด็กดีต้านการทจุ ริต 5. การประเมินผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ กี ารประเมิน - ตรวจผลงานการทาใบงาน - การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 5.2 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมนิ - แบบตรวจผลงานการทาใบงานเร่ืองเด็กดีต้านการทุจริต - แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิตนเปน็ คนดี 5.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไปถือว่า ผ่าน ๖. บันทึกหลงั สอน ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ................................................ ครูผสู้ อน (.................................................)
- 132 - ๗. ภาคผนวก - เพลง “โตไปไมโ่ กง” - การ์ตูนรณรงคป์ ้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ ตอน “โกงสอบ” - ใบงาน เรอ่ื งเด็กดตี า้ นการทุจริต - แบบตรวจผลงานการทาใบงาน - แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิตนเปน็ คนดี
- 133 - เพลงโตไปไม่โกง จิตสานกึ ทเี่ ราตอ้ งมี เพ่ือจะเป็นคนดี เมอ่ื เป็นผู้ใหญ่ หา้ ขอ้ หา้ คา แค่ทาให้ได้ เป็นเรือ่ งง่ายๆ เท่านน้ั เอง * ขอ้ 1 ซ่ือสตั ย์ ข้อ 2 รับผดิ ชอบ ขอ้ 3 รกั ในความเป็นธรรม ข้อ 4 พอเพียง ขอ้ 5 ทาเพ่ือส่วนรวม แคน่ ้ี ทางา่ ยไม่ยากเลย ** เป็นคนดี เราจะไม่คดโกง คนคดโกง เขาเปน็ คนไม่ดี เม่ือเปน็ ผูใ้ หญ่ จะไม่ลืมเร่อื งน้ี จะเปน็ คนดี “โตไปไม่โกง” (* ,**) *** ลา ลา้ ลา โตไปไมโ่ กง (4 ครง้ั ) แหลง่ ขอ้ มลู http://growinggood.org/2010/06/song-growinggood/
- 134 - การ์ตนู รณรงค์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตอน “โกงสอบ” แหลง่ ข้อมูล http://growinggood.org/2010/06/song-growinggood/
- 135 - ใบงาน เรื่อง เดก็ ดตี า้ นการทจุ ริต ***************************************************************************************************** คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนวาดภาพพฤติกรรมท่ีแสดงถงึ การกระทาความผดิ ท่ีพบเห็นในโรงเรยี น และวธิ ีการแก้ พฤติกรรมการกระทาความผิด พฤตกิ รรมที่พบเห็น วิธีการแก้พฤตกิ รรม ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... .......................... ..........................
- 136 - แบบตรวจผลงานการทาใบงาน เรื่อง การปฏิบตั ติ นเป็นคนดี รายการประเมนิ สรปุ ผล ผา่ น ไมผ่ า่ น บอกพฤตกิ รรมที่ บอกวิธีการแก้ รวมคะแนน (10) ที่ ช่อื – สกลุ แสดงออกถงึ การ พฤติกรรมการกระทา 1 กระทาความผิด ความผดิ 2 3 (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงช่ือ…………..…………………………….ผูต้ รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑก์ ารตรวจผลงาน - บอกได้ ๕ ขอ้ ได้ ๕ คะแนน - บอกได้ ๔ ข้อ ได้ ๔ คะแนน - บอกได้ ๓ ขอ้ ได้ ๓ คะแนน - บอกได้ ๒ ขอ้ ได้ ๒ คะแนน - บอกได้ ๑ ข้อ ได้ ๑ คะแนน - บอกได้ ๐ ขอ้ ได้ ๐ คะแนน ได้คะแนน ๘ คะแนนขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน
- 137 - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมแสดงออกถงึ การปฏบิ ัติตนเป็นคนดี พฤติกรรมแสดงออกถงึ การปฏบิ ตั ติ นเปน็ คน ดี รวมคะแนน สรปุ ผล (10) ผ่าน ไม่ผา่ น ท่ี ชือ่ – สกุล ไม่กระทาผดิ ตอ่ หน้า ไม่ยอมรับผู้กระทา และลบั หลัง ผิด (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงช่อื …………..…………………………….ผู้สงั เกต (………………….………………….……) เกณฑก์ ารตดั สินพฤติกรรม ปฏิบัติประจา ไดค้ ะแนน ๕ คะแนน ปฏิบัติบางครั้ง ได้คะแนน ๔ คะแนน ปฏบิ ัตินานๆคร้งั ไดค้ ะแนน ๓ คะแนน ปฏบิ ตั ินอ้ ย ได้คะแนน ๒ คะแนน ปฏบิ ตั นิ อ้ ยทสี่ ดุ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไม่เคยปฏิบัติ ได้คะแนน ๐ คะแนน นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘0 ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ น
- 138 - ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3 ช่ือหน่วย STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง ความเอื้ออาทร (ชุมชนเอื้ออาทร) 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทจุ ริต 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นักเรียนบอกความสาคัญของความเสยี สละ ความเอื้ออาทร และความมนี า้ ใจ 2.2 นกั เรยี นแสดงออกถึงความเอื้ออาทร เสยี สละ และมีน้าใจตอ่ ผ้อู ื่น 2.3 นกั เรยี นรู้จกั เสียสละประโยชน์ส่วนตนเพอื่ ประโยชน์สว่ นรวม 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ การทีส่ ังคมจะมีความสุขนั้น ทกุ คนจะต้องร่วมกนั สร้าง และประคับประคอง อาศัยความ เอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ พร้อมท่ีจะเสียสละประโยชน์สว่ นตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด) 1) ความสามารถในการสอ่ื สาร - การแสดงความคดิ เห็น - การฟังนทิ าน - การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคดิ - บอกความสาคัญของความเสียสละ ความเอ้ืออาทร และความมีน้าใจ 3) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต - รูจ้ กั เสยี สละประโยชน์ส่วนตนเพอ่ื ประโยชน์ส่วนรวม 3.3 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / คา่ นิยม จติ สาธารณะ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขน้ั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูนาภาพทากจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์เพ่ือส่วนรวมมาให้นกั เรยี นสงั เกต แล้วตอบคาถาม ตอ่ ไปนี้ - ภาพน้ีเป็นภาพเก่ยี วกับอะไร (คนกาลงั ช่วยกันทางาน) - นักเรียนคดิ วา่ บุคคลที่อยูใ่ นภาพทางานหนักไมเ่ ท่ากนั เพราะอะไร (เพราะผู้ชายแขง็ แรงกว่า ผหู้ ญิง)
- 139 - - ถา้ นกั เรยี นเป็นบุคคลในภาพ นักเรยี นจะยอมทางานหนักกวา่ เพ่ือนหรอื ไม่ เพราะอะไร (ถูก ทกุ คาตอบเพราะเปน็ การแสดงความคิดเห็นของนักเรียน) 2. ครใู หน้ กั เรยี นดูนิทาน เรอื่ ง “พลเมืองดี ผพู้ ทิ ักษจ์ ิตอาสา” 3. ครสู นทนากับนกั เรียนถึงความหมายของความเสยี สละ มีน้าใจตามท่ีนักเรียนเขา้ ใจ และนักเรียน เคยปฏิบัตติ น หรือเคยเห็นผู้อน่ื ปฏิบัติตน แสดงความมีนา้ ใจ ความเอ้ือเฟ้ือ ไม่เหน็ แกต่ ัว อยา่ งไรบ้าง (ความเสียสละ มีนา้ ใจ เออื้ เฟื้อเผื่อแผ่ หมายถงึ การกระทาที่แสดงคุณลกั ษณะด้านจิตใจ การแสดงออกดว้ ยใจ จริงถงึ ความเอ้อื เฟ้ือ ไมเ่ หน็ แก่ตวั โดยคานงึ ถงึ ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ส่วนตวั ) 4. ครูและนักเรียนร่วมกันทากิจกรรมพัฒนาชุมชนอย่างไรให้น่าอยู่ โดยการนานักเรียนไปช่วยทา ความสะอาดสถานทภ่ี ายในชมุ ชน เช่น วดั สถานที่ประกอบพธิ กี รรมต่างๆ) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับการทาอย่างไรจะให้ชุมชนของเราน่าอยู่มากข้ึน โดยให้ นักเรียนบันทกึ ลงในใบงานท่ี 4 เรอื่ ง ชมุ ชนเอ้อื อาทร พรอ้ มกบั วาดภาพประกอบ แลว้ นามาส่งครู 6. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปองคค์ วามรู้เก่ียวกบั ความเสียสละ ความเอ้ืออาทร และความมีน้าใจ (ความเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ การช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน ช่วยกันทางานส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นงานหนัก งานเบา เป็นงาน เพียงเลก็ น้อย หรือเปน็ งานใหญ่ โดยไม่เหน็ แกต่ ัว หรือความยากลาบาก จะทาใหง้ านประสบความสาเร็จได้อย่างมี ประสิทธิภาพทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน ซ่ึงจะส่งผลทาให้สามารถดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมได้ อย่างมีความสขุ ) 4.2 สอ่ื การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ 1) ภาพทากจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชนเ์ พอื่ ส่วนรวม 2) นิทาน เรอื่ ง “พลเมืองดี ผูพ้ ทิ กั ษ์จิตอาสา” จาก https://www.youtube.com/watch?v=LCfuF4eabRc 3) ใบงาน เร่อื ง ชมุ ชนเอ้ืออาทร 5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธกี ารประเมิน - ตรวจผลงานการทาใบงาน - การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน 5.2 เครือ่ งมือทใ่ี ช้ในการประเมิน - แบบตรวจผลงานการทาใบงานเร่ืองชมุ ชนเอื้ออาทร - แบบสังเกตพฤติกรรมความเอือ้ อาทร 5.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป ถือว่า ผา่ น
- 140 - 6.บันทึกหลังสอน ....................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ..................................................................................................................................................... ............................... ................................................................................................... ................................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................) 7. ภาคผนวก - ภาพทากิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์เพือ่ สว่ นรวม - ใบงานเรอ่ื ง ชุมชนเอ้ืออาทร - แบบตรวจผลงานการทาใบงาน - แบบสงั เกตพฤติกรรมความเอ้ืออาทร
- 14 ภาพทากิจกรรมบาเพญ็ แหลง่ ขอ้ มูลภาพ http://www.haaksquare.com/sites/default/file
41 - ญประโยชนเ์ พื่อส่วนรวม es/community/1305/content/1312/image/gfbcgbxc.jpg
- 142 - ใบงานที่ 4 เรื่อง ชุมชนเอื้ออาทร ************************************************************************************************** คาชี้แจง ให้นกั เรียนบอกลักษณะและวิธีการรกั ษาทรัพยากรของชมุ ชนให้ทน่ี ่าอยู่อยา่ งไร พร้อมวาด ภาพประกอบ ลักษณะของชุมชนนา่ อยู่ การดูแลทรัพยากรของชุมชน ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ................................. แบบตรวจผลงานการทาใบงาน เรอ่ื ง ชุมชนเอ.ือ้ ..อ...า..ท..ร........................... ...............
- 143 - รายการประเมิน สรปุ ผล ผ่าน ไมผ่ ่าน ที่ ชอ่ื – สกุล บอกลกั ษณะของ บอกวธิ กี ารดูแล รวมคะแนน 1 ชมุ ชนทน่ี ่าอยู่ รกั ษาชุมชนท่นี ่าอยู่ (10) 2 3 (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชอื่ …………..…………………………….ผตู้ รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การตรวจผลงาน - บอกได้ ๕ ขอ้ ได้ ๕ คะแนน - บอกได้ ๔ ขอ้ ได้ ๔ คะแนน - บอกได้ ๓ ข้อ ได้ ๓ คะแนน - บอกได้ ๒ ขอ้ ได้ ๒ คะแนน - บอกได้ ๑ ขอ้ ได้ ๑ คะแนน - บอกได้ ๐ ข้อ ได้ ๐ คะแนน - ได้คะแนน ๘ คะแนนขึ้นไป ถอื ว่าผา่ น แบบสังเกตพฤติกรรมความเออ้ื อาทร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212