- 144 - พฤติกรรมความเอื้ออาทร รวม สรุปผล คะแนน ผา่ น ไมผ่ ่าน ท่ี ชื่อ – สกลุ เอ้ืออาทร และมี เสียสละประโยชน์ (10) นา้ ใจต่อผู้อื่น สว่ นตนเพือ่ สว่ นรวม (๕ คะแนน) (๕ คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 รวม ลงชอ่ื …………..…………………………….ผสู้ งั เกต (………………….………………….……) เกณฑก์ ารตดั สินพฤติกรรม ปฏบิ ัติประจา ได้คะแนน ๕ คะแนน ปฏิบัตบิ างคร้ัง ได้คะแนน ๔ คะแนน ปฏิบัตินานๆครัง้ ไดค้ ะแนน ๓ คะแนน ปฏิบตั นิ ้อย ไดค้ ะแนน ๒ คะแนน ปฏิบตั ิน้อยท่ีสุด ไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ไมเ่ คยปฏิบัติ ได้คะแนน ๐ คะแนน นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘0 ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน
- 145 - หนว่ ยท่ี 4 พลเมอื งกับความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
- 146 - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 4 ช่อื หนว่ ย พลเมืองกบั ความรับผิดชอบต่อสงั คม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่ือง เรื่องการเคารพสิทธิหน้าท่ีต่อตนเองและผู้อนื่ ทม่ี ตี ่อชุมชน สงั คม เวลา 2 ชวั่ โมง 1.ผลการเรยี นรู้ 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั พลเมืองและมคี วามรับผิดชอบต่อสงั คมปฏิบัติตนตามหนา้ ท่ี พลเมอื งและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คม 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ที่พลเมืองและมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม 2.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถ 2.1 นกั เรยี นสามารถบอกสิทธิเสรภี าพในการชุมนมุ อยา่ งสงบโดยปราศจากอาวุธได้ 2.2 นกั เรียนอภิปรายสิทธิเสรภี าพในการอนรุ ักษ์และฟนื้ ฟูจารีตประเพณี ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ 2.3 นักเรยี นอภิปรายสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพได้ 2.4 นักเรียนสามารถเขียนแผนผังความคิดการปฏบิ ตั ติ นท่แี สดงถงึ การเคารพสิทธขิ องตนเองและผู้อนื่ ทีม่ ีตอ่ ชมุ ชน สงั คม 3.สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ สิทธขิ องตนเองท่ีมตี อ่ ชุมชน และสังคมในด้าน 1.เสรภี าพในการชมุ นมุ อย่างสงบโดยปราศจากอาวุธได้ 2.สิทธิเสรภี าพในการอนรุ กั ษ์และฟืน้ ฟจู ารตี ประเพณี ภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ 3.สทิ ธิเสรภี าพในการประกอบอาชีพ 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) 1) ความสามารถในการส่ือสาร ( อ่าน ฟงั พูด เขยี น ) 2) ความสามารถในการคดิ ( วิเคราะห์ ) 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ / คา่ นิยม มวี นิ ยั 4.กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุม่ วิธี สอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ : เทคนคิ Jigsaw) ชัว่ โมงท่ี 1 1. นกั เรียนแบง่ กลุม่ ตามความสมคั รใจ แตล่ ะคนมหี มายเลขประจาตัว 1-3 แล้วให้นกั เรยี นที่มี หมายเลขเดียวกันไปรวมกลุ่มกัน แลว้ รว่ มกันอภิปรายในหัวขอ้ ที่กาหนดให้ ดงั น้ี 1.1 นกั เรียนท่ีมหี มายเลข 1 ร่วมกันอภปิ รายเร่ือง เสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบโดยปราศจาก อาวธุ
- 147 - 1.2. นกั เรยี นที่มีหมายเลข 2 ร่วมกันอภิปรายสทิ ธิเสรภี าพในการอนุรกั ษแ์ ละฟน้ื ฟจู ารตี ประเพณี ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ 1.3. นกั เรียนทีม่ หี มายเลข 3 รว่ มกนั อภิปรายและแสดงความคิดเหน็ วา่ การกระทาของบคุ คลใน ภาพถูกต้องหรือไม่ และควรถกู ลงโทษหรือไม่ เพราะเหตุใด โดยครูนาภาพผูช้ ุมนมุ ประท้วงขับไล่ รฐั บาลมาให้นกั เรียนดู ชวั่ โมงที่ 2 1. นักเรียนกลับเข้ากล่มุ เดมิ แลว้ นาความรทู้ ป่ี ฏบิ ตั แิ ละสนทนาร่วมกับเพอ่ื นกลุม่ อ่ืนมาเล่า ให้เพอื่ นในกล่มุ ฟัง โดยครเู ปน็ ผสู้ งั เกตการณ์ 2. ครใู หน้ กั เรยี นสารวจตนเองว่า มีส่วนรว่ มในการตดั สินใจและปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเคารพสทิ ธิของ ตนเองและผอู้ นื่ ที่มีต่อชุมชน สงั คม อยา่ งไรบา้ ง 3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เรื่อง การเคารพสิทธิหนา้ ทีต่ ่อตนเองและผู้อ่ืนทม่ี ตี ่อชมุ ชน สังคม 4. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ชว่ ยกันเขียนแผนผงั ความคิดการปฏิบัตติ นทแี่ สดงถงึ การเคารพสิทธิของ ตนเองและผอู้ นื่ ที่มีต่อชุมชน สังคม เสร็จแลว้ ให้แต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานท่หี น้า ช้ันเรยี น โดยครูและเพื่อนนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและแสดงความคิดเหน็ เพิ่มเตมิ 5. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปดงั น้ี สิทธิของตนเองท่ีมีต่อชุมชน และสังคม 1. เสรภี าพในการชุมนุมอยา่ งสงบโดยปราศจากอาวธุ ห้ามทกุ คนที่มาร่วมชมุ นุมพกพาอาวธุ เขา้ มา ในที่ชมุ นุมโดยเดด็ ขาด 2. สิทธิเสรีภาพในการอนรุ ักษแ์ ละฟื้นฟจู ารีตประเพณี ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ทุกส่วนรว่ มในการอนุรักษ์ และรว่ มสืบสานศลิ ปะหรือวฒั นธรรมอันดีงามของทอ้ งถนิ่ และของประเทศชาติเพอื่ ให้ดารงอยู่ต่อไปกับอนชุ น รุ่นหลงั 3. เสรภี าพในการประกอบอาชพี โดยเสรภี าพในการประกอบอาชีพจะต้องไมเ่ อารัดเอาเปรยี บผอู้ ่ืน เช่น ผ้ปู กระกอบการจะต้องเคารพและซื่อสัตย์ตอ่ ผบู้ รโิ ภค และไม่เอาเปรียบผู้บรโิ ภค 4.2 สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1.รูปภาพการชุมนมุ ประทว้ งขบั ไล่รฐั บาล 2.ใบงาน 3.ใบความรู้ 4.สีไม้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธกี ารประเมนิ - ตรวจชิน้ งาน - ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (มวี ินัย) ๕.๒ เครอื่ งมือทใี่ ช้ในการประเมนิ - แบบประเมินผลงาน - ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (มีวินัย) 5.3 เกณฑก์ ารประเมิน
- 148 - - นกั เรยี นทาใบงานผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 80 - นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินในระดบั ดีข้ึนไป ถือว่าผ่าน ๖. บนั ทึกหลงั สอน ................................................................................................... ............................................................ ............................................................................................. ................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ................................................ ครูผสู้ อน (.................................................) ๗. ภาคผนวก - ใบความรู้ เรอ่ื ง การเคารพสิทธขิ องตนเองและผอู้ น่ื ท่ีมีต่อชุมชนและสงั คม - ใบงาน เร่อื ง การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผู้อืน่ ที่มตี อ่ ชุมชนและสังคม - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (มีวนิ ัย)
- 149 - ใบความรู้ เรอ่ื ง การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผู้อ่ืนที่มตี อ่ ชมุ ชนและสงั คม สมาชกิ ทกุ คนในสังคมมสี ิทธิเทา่ เทียมกันในการดาเนนิ ชวี ติ ในสังคม โดยสิทธดิ ังกลา่ วจะตอ้ งไมล่ ะเมดิ สทิ ธิ ของสมาชิกคนอืน่ ในสังคม ในทนี่ ี่ขอยกตวั อย่างสทิ ธขิ องตนเองที่มีต่อชุมชน และสังคมที่สาคญั บางประการ ดังนี้ 1. เสรีภาพในการชุมนุมอยา่ งสงบโดยปราศจากอาวธุ หมายถึง ประชาชนทุกคนมสี ิทธเิ สรภี าพในการ ชมุ นุม แตต่ อ้ งเป็นไปโดยสงบปราศจากอาวธุ และจะต้องไม่รบกวนสทิ ธิของผู้อ่ืนการปราศจากอาวุธน้นั หมาย รวมถงึ หา้ มทุกคนที่มาร่วมชมุ นุมพกพาอาวธุ เข้ามาในทชี่ ุมนุมโดยเด็ดขาด บคุ คลน้ันจะไมไ่ ด้รบั ความคุ้มครอง ตามรฐั ธรรมนูญในกรณีท่ีได้กล่าวมาข้างตน้ 2. สทิ ธิเสรีภาพในการอนุรกั ษแ์ ละฟื้นฟจู ารีตประเพณี ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ ทกุ คนย่อมมีส่วนร่วมในการ อนรุ ักษ์และร่วมสืบสานศลิ ปะหรือวฒั นธรรมอันดีงามของท้องถ่ินและของประเทศชาติเพ่ือใหด้ ารงอยู่ต่อไปกบั อนุชนร่นุ หลัง 3. เสรภี าพในการประกอบอาชีพ โดยเสรภี าพในการประกอบอาชีพจะต้องไม่เอารัดเอาเปรียบผ้อู ่ืน เชน่ ผปู้ กระกอบการจะต้องเคารพและซื่อสัตย์ตอ่ ผบู้ ริโภค และไม่เอาเปรยี บผูบ้ รโิ ภค เปน็ ต้น ……………………………………
- 150 - ใบงาน ให้นกั เรยี นเขียนแผนผงั ความคดิ แสดงการปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงถึงการเคารพสิทธขิ องตนเองและผ้อู นื่ ที่มีต่อ ชุมชน- สังคม ชื่อ..............................................................................ชัน้ .............................เลขท.่ี ............................... การปฏบิ ัตติ นที่แสดงการเครารพสทิ ธิของตนเองและผู้อ่ืน ต่อชุมชน ตอ่ สงั คม ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ........................... ........................... ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............................ ............. .............
- 151 - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชอ่ื -สกุลนักเรยี น.........................................................................ชนั้ .........................เลขท.่ี ...................... คาชแ้ี จง : ให้ครู สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี / ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ 3 2 10 มีวินัย 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 2.แต่งกายเรียบรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบของห้อง รวม สรปุ ผลคะแนน ลงช่อื ......................................................................ผ้ปู ระเมนิ (.....................................................................) ........... /................................/...................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน สรปุ ผลการประเมนิ ๘-๙ คะแนน เทา่ กบั ดเี ยย่ี ม - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ๖-๗ คะแนน เท่ากับ ดี ๔-๕ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั บิ างครัง้ ให้ 1 คะแนน ๐-๓ คะแนน เท่ากับ ปรับปรงุ - พฤตกิ รรมทไ่ี มไ่ ด้ปฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน นกั เรยี นผ่านการประเมินระดับดขี ้ึนไปถือวา่ ผา่ น
- 152 - แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 4 ช่ือหน่วย พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง เรื่องการเคารพสทิ ธิหน้าที่ตอ่ ตนเองและผู้อนื่ ที่มีต่อประเทศชาติ เวลา 1 ชวั่ โมง ๑. ผลการเรียนรู้ 1..1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั พลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สังคมปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ที่ พลเมอื งและมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม 1.2ปฏิบตั ิตนตามหน้าท่ีพลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถอภิปรายบอกสิทธกิ ารมีสว่ นร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหนา้ ทรี่ ัฐ เกี่ยวกบั การปฏิบัตริ าชการดา้ นการปกครอง 2.2 นักเรยี นสามารถอภปิ รายสิทธิทจ่ี ะฟ้องร้องหน่วยราชการ หนว่ ยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการ ส่วนทอ้ งถนิ่ 2.3 นกั เรียนสมารถอภปิ รายสิทธทิ ี่จะตอ่ ต้านโดยสนั ตวิ ธิ ี ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผู้อืน่ ท่ีมีต่อประเทศชาติ 1. สิทธิในการมสี ่วนรว่ ม 2. สทิ ธิทจ่ี ะฟ้องร้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรฐั รฐั วิสาหกจิ ราชการส่วนท้องถน่ิ 3. สทิ ธทิ ี่จะต่อต้านโดยสนั ตวิ ิธี 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) 1) ความสามารถในการส่ือสาร ( อ่าน ฟัง พูด เขยี น ) 2) ความสามารถในการคดิ ( วิเคราะห์ ) 3.3 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ค่านิยม มีวินัย ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้นั ตอนการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ (วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุม่ วธิ ี สอนโดยการจดั การเรียนรู้แบบร่วมมอื : เทคนคิ Jigsaw) 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ตามความสมคั รใจ แต่ละคนมีหมายเลขประจาตวั 1-3 แลว้ ใหน้ กั เรยี นท่มี ี หมายเลขเดยี วกนั ไปรวมกล่มุ กนั แล้วร่วมกันอภิปรายในหวั ขอ้ ที่กาหนดให้ ดงั น้ี 1) นักเรยี นที่มีหมายเลข 1 รว่ มกนั อภิปรายเรือ่ ง สทิ ธใิ นการมสี ่วนรว่ ม 2) นกั เรียนท่ีมีหมายเลข 2 รว่ มกันอภปิ ราย สทิ ธิทจี่ ะฟอ้ งร้องหนว่ ยราชการ หนว่ ยงานของรัฐ รัฐวสิ าหกิจ ราชการส่วนทอ้ งถิ่น 3) นักเรียนท่มี ีหมายเลข 3 ร่วมกันอภปิ รายสทิ ธทิ ี่จะต่อตา้ นโดยสนั ติวธิ ี
- 153 - 2. นกั เรียนกลบั เข้ากลุม่ เดมิ แล้วนาความรูท้ ปี่ ฏบิ ตั ิและสนทนารว่ มกบั เพ่ือนกลุ่มอื่นมาเล่าใหเ้ พ่อื นใน กลุม่ ฟัง โดยครูเป็นผสู้ งั เกตการณ์ 3. นักเรียนรว่ มกนั สรุปความร้เู รื่อง การเคารพสิทธหิ น้าทต่ี ่อตนเองและผู้อนื่ ท่ีมีต่อประเทศชาติ 4. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกันเขยี นแผนผังความคิดการปฏิบตั ติ นที่แสดงถงึ การเคารพสทิ ธิของ ตนเองและผอู้ น่ื ท่ีมีต่อ ประเทศชาติ เสรจ็ แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานทห่ี นา้ ช้นั เรยี น โดยครูและเพื่อนนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและแสดงความคดิ เหน็ เพ่ิมเติม ขัน้ สรุป ๕. ครูและนักเรียนชว่ ยกันสรุปความร้เู กีย่ วกับ การเคารพสิทธิของตนเองและผ้อู ืน่ ทม่ี ีต่อประเทศชาติ ดังนี้ 1) สทิ ธิในการมสี ว่ นรว่ ม หมายถงึ สทิ ธกิ ารมสี ว่ นร่มในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ รัฐ เกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ริ าชการดา้ นการปกครอง อนั มผี ลกระทบต่อสทิ ธแิ ละเสรภี าพของคนในสังคม โดยตรง 2) สทิ ธทิ ี่จะฟ้องร้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รฐั วิสาหกจิ ราชการสว่ นท้องถิน่ เช่น ประชาชนมสี ทิ ธทิ จี่ ะฟ้องรอ้ งหน่วยงานต่าง ๆ ใหร้ บั ผิดชอบ หากการกระทาใด สง่ ผลกระทบต่อการ ดาเนินชีวิตของประชาชนตอ่ ศาลปกครองได้ 3) สิทธิทจี่ ะตอ่ ต้านโดยสันติวิธี การต่อตา้ นการทาปฏบิ ัติรัฐประหาร ประชาชนมีสิทธทิ ีจ่ ะ ออกมาต่อต้านแต่ต้องเปน็ ไปโดยสนั ติวิธี 4.2 สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ - รูปภาพการชมุ นุมประท้วงขับไลร่ ฐั บาล - ใบงาน - ใบความรู้ - สไี ม้ 5.การประเมินผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธกี ารประเมิน - ทดสอบ - ตรวจชิ้นงาน - ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (มวี ินัย) 5.2 เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน - แบบทดสอบ - แบบประเมนิ ผลงาน - แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (มวี นิ ัย) 5.3 เกณฑ์การประเมนิ - นกั เรียนผา่ นการประเมนิ ร้อยละ 80 - นักเรียนทาใบงานผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 80 - นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดีข้ึนไปถอื ว่าผา่ น
- 154 - ๖. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ........................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... ลงชื่อ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................) 7. ภาคผนวก - ใบความรู้ - ใบงาน - แบบทดสอบ - แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (มวี นิ ัย)
- 155 - ใบความรู้ การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผู้อนื่ ที่มตี ่อประเทศชาติ 1. สทิ ธใิ นการมสี ่วนร่วม หมายถึง สิทธกิ ารมสี ว่ นร่มในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหนา้ ท่รี ฐั เกย่ี วกับ การปฏบิ ัติราชการด้านการปกครอง อันมผี ลกระทบต่อสิทธแิ ละเสรภี าพของคนในสงั คมโดยตรง 2. สิทธทิ ่ีจะฟ้องร้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวสิ าหกจิ ราชการส่วนท้องถ่ิน เช่น เทศบาล องค์การบรหิ ารส่วนตาบล องค์การบริหารสว่ นจังหวัด หรือองค์กรของรัฐที่เป็นนติ ิบุคคล ประชาชนมสี ิทธทิ ่จี ะ ฟ้องร้องหนว่ ยงานต่าง ๆ เหล่านีใ้ ห้รบั ผดิ ชอบ หากการกระทาใดหรอื การละเว้นการกระทาใด ๆ ของ ข้าราชการ พนักงาน หรอื ลูกจา้ งของหน่วยงานนน้ั สง่ ผลกระทบต่อการดาเนินชีวิตของประชาชนต่อศาล ปกครอง 3. สิทธิทจี่ ะตอ่ ต้านโดยสนั ติวิธี การกระทาใดจะเป็นไปเพ่ือให้ได้มาซ่งึ อานาจการปกครองประเทศ โดย วิธีการซ่งึ มิไดเ้ ปน็ ไปตามวิถที างทบ่ี ัญญัติไวใ้ นรัฐธรรมนญู เช่น การต่อต้านการทาปฏิวตั ิรัฐประหาร เปน็ ส่ิงท่ี ประชาชนมีสิทธิที่จะออกมาต่อต้านแตต่ ้องเป็นไปโดยสันติวิธี ตวั อย่างการฟ้องร้องหน่วยงานของรฐั ปพี .ศ. 2550 นายสมชาย โคตรพัฒน์ นักศกึ ษามหาวทิ ยาลัยราชภฏั มหาสารคามฟ้องคดีเกีย่ วกับ การเรยี กเก็บค่าประกันชีวิตของสถาบันการศึกษาต่อศาลปกครอง และชนะคดี โดยศาลปกครองใหเ้ พิกถอน ระเบยี บมหาวทิ ยาลยั ว่าด้วยการเก็บเงินคา่ ประกนั อบุ ตั ิเหตุนกั ศกึ ษาปีละ 200 บาท ............................................................. สรุปขา่ วการชุมนมุ ของประชาชนประทว้ งขบั ไล่รฐั บาลยง่ิ ลกั ษณ์ พ.ศ. 2556–2557 เป็นวกิ ฤตการณ์การเมืองทเี่ กดิ ขึ้นจากการประทว้ งต่อต้านรฐั บาลต้ังแตเ่ ดอื น สิงหาคม 2556 ถงึ พฤษภาคม 2557 โดย กปปส. กลุ่มผลประโยชนท์ างการเมืองซ่งึ มีนายสเุ ทพ เทือก สบุ รรณ อดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรพรรคประชาธปิ ัตย์ เป็นผนู้ า การประทว้ งน้ีทาให้นางสาวยิง่ ลกั ษณ์ ชนิ วตั ร นายกรัฐมนตรี พน้ จากตาแหน่ง เกดิ รฐั ประหารและการสถาปนาคณะทหารผยู้ ึดอานาจการปกครอง ............................................
- 156 - ใบงาน ใหน้ ักเรยี นแผนผงั ความคิดแสดงการปฏบิ ัติตนที่แสดงถงึ การเคารพสทิ ธิของตนเองท่ีมีต่อประเทศชาติ ชอื่ ..............................................................................ช้ัน.............................เลขท.่ี ............................... สทิ ธขิ องตนเองทมี่ ตี ่อประเทศชาติ
- 157 - เฉลยใบงาน (ขึน้ อยกู่ บั ดุลพนิ จิ ครูผู้สอน) สทิ ธขิ องตนเองที่มตี ่อประเทศชาติ -ชมุ นมุ ประทว้ งการสร้างโรงไฟฟา้ นิวเคลียร์ -สามารถฟ้องร้องผู้บรหิ ารท่ีบังคบั นกั เรียนทา ประกนั อุบตั เิ หตุ -ชุมนุมให้รฐั บาลชว่ ยเหลือราคายางตกตา่ -ร่วมกนั ขดุ ลอกคลองเพ่ือไม่ใหค้ ลองตืน้ เขินทาให้ -ชมุ นุมประท้วงนายกเทศมนตรีทบี่ ริหารงานไม่ ระบายน้าไดด้ ี โปรง่ ใส -ผู้ปกครองนักเรยี นเข้ารว่ มประชมุ การจัดกจิ กรรม -ชมุ นุมขอใหร้ ฐั บาลชว่ ยเหลือการจานาข้าว ต่างๆที่โรงเรยี นจดั ข้ึน
- 158 - แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรือ่ งการเคารพสิทธิของตนเองและผูอ้ น่ื ท่มี ีต่อ ชุมชนสงั คมและประเทศชาติ ................................................................................................................................................................. คาช้ีแจง ให้นกั เรียนทาเครอ่ื งหมาย / หน้าขอ้ ท่ีถกู และทาเคร่ืองหมายx หน้าขอ้ ท่ีผิด .............1.สมศกั ดิน์ าอาวธุ มาดว้ ยขณะชุมนุมขับไลร่ ฐั บาลเปน็ การชุมนมุ โดยสนั ติวิธี .............2.สมทรงนาอาหารมารับประทานขณะรว่ มชุมนุมต่อต้านการสรา้ งโรงไฟฟา้ นวิ เคลียร์ไดโ้ ดย ไม่ผดิ กฎหมาย .............3.ผู้ปกครองสามารถฟอ้ งร้องผบู้ รหิ ารโรงเรยี นได้ในกรณีออกระเบยี บให้นักเรียนทุกคนทา ประกนั อบุ ัตเิ หตุ .............4.ประชาชนไม่มสี ทิ ธใิ นการมีส่วนรว่ มในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าท่รี ฐั เกี่ยวกบั การ ปฏิบัติราชการดา้ นการปกครอง .............5.ถ้าประชาชนปฏิบตั ติ ามสิทธแิ ละหน้าทีต่ ามที่กฎหมายกาหนดบ้านเมืองจะมีความสงบสขุ .............6.รัฐบาลสามารถสร้างโรงไฟฟา้ นวิ เคลยี ร์ไดห้ า้ มประชาชนชุมนุมประทว้ ง .............7.แก้วตาไปร่วมงานประเพณลี อยกระทงถือเปน็ การการอนุรักษ์และฟนื้ ฟจู ารีตประเพณี ภมู ิ ปัญญาท้องถิ่น ………….8.ปจั จุบนั มีผู้ผลติ โทรศัพท์มอื ถือเปน็ จานวนมากทาให้โทรศัพท์มีราคาถูกลง เปน็ สิทธิ เสรีภาพในการประกอบอาชีพ .............9.บรษิ ัทรถยนตจ์ ะผลติ รถยนต์ท่ีไม่มีคุณภาพกไ็ ดเ้ พราะเปน็ สิทธเิ สรีภาพในการประกอบ อาชีพ .............10.การชุมนุมโดยสันตวิ ิธีคอื การชุมนุมทีป่ ราศจากอาวุธ ...........................................
- 159 - เฉลยแบบทดสอบ .................................................. ........ x.....1.สมศกั ด์นิ าอาวุธมาดว้ ยขณะชุมนุมขับไล่รฐั บาลเปน็ การชมุ นุมโดยสนั ติวธิ ี ................2สมทรงนาอาหารมารบั ประทานขณะร่วมชมุ นมุ ตอ่ ตา้ นการสร้างโรงไฟฟ้านวิ เคลียรไ์ ด้โดย ไม่ผดิ กฎหมาย .........../.....3ผูป้ กครองสามารถฟ้องรอ้ งผบู้ ริหารโรงเรียนได้ในกรณีออกระเบียบให้นักเรียนทกุ คนทา ประกนั อบุ ตั ิเหตุ ......... x......4.ประชาชนไมม่ สี ิทธิในการมีส่วนรว่ มในกระบวนการพจิ ารณาของเจ้าหนา้ ทร่ี ัฐ เกีย่ วกบั การปฏิบัตริ าชการดา้ นการปกครอง ........../.....5.ถ้าประชาชนปฏบิ ัตติ ามสทิ ธแิ ละหนา้ ทต่ี ามท่ีกฎหมายกาหนดบา้ นเมืองจะมคี วามสงบสุข ......... x......6รฐั บาลสามารถสรา้ งโรงไฟฟา้ นวิ เคลยี ร์ได้ห้ามประชาชนชุมนมุ ประทว้ ง ............/...7.แก้วตาไปรว่ มงานประเพณลี อยกระทงถือเปน็ การการอนุรกั ษ์และฟ้ืนฟูจารีตประเพณี ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ …………/……8.ปัจจบุ นั มีผผู้ ลติ โทรศัพท์มือถือเป็นจานวนมากทาให้โทรศัพท์มรี าคาถกู ลง เป็นสทิ ธิ เสรีภาพในการประกอบอาชีพ ......... x.......9.บริษทั รถยนตจ์ ะผลติ รถยนต์ที่ไม่มีคณุ ภาพก็ได้เพราะเปน็ สิทธิเสรภี าพในการประกอบ อาชีพ .........../....10.การชุมนมุ โดยสันตวิ ธิ ีคือการชมุ นุมท่ปี ราศจากอาวธุ ...........................................
- 160 - แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ช่อื -สกุลนักเรียน.......................................................................ช้นั ............................เลขท่ี....................... คาชีแ้ จง : ให้ครู สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด / ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 3 2 10 มีวนิ ัย 1.เข้าเรียนตรงเวลา 2.แต่งกายเรียบรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.ปฏิบัติตามกฎระเบียบของหอ้ ง รวม สรุปผลคะแนน ลงช่อื ......................................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................................) ........... /................................/...................... เกณฑ์การให้คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน สรปุ ผลการประเมนิ ๘-๙ คะแนน เท่ากบั ดีเยยี่ ม - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ๖-๗ คะแนน เท่ากบั ดี ๔-๕ คะแนน เท่ากบั พอใช้ - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ๐-๓ คะแนน เทา่ กบั ปรับปรงุ - พฤติกรรมทไี่ มไ่ ด้ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดับดีข้ึนไปถือว่าผ่าน
- 161 - แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๔ ชอ่ื หน่วย พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ สังคม ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เร่ือง ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับพลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหน้าทพ่ี ลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมาย กฎ กติกา ระเบยี บในสถานท่ีสาธารณะ ๒.๒ นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ติ นตาม กฎ กตกิ า ระเบียบในสถานทีส่ าธารณะ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ กฎ กตกิ า ระเบยี บ ในสถานที่สาธารณะ คือ ข้อกาหนดในการปฏิบัติตนในการใชส้ ถานท่ี ร่วมกัน เชน่ การรกั ษาความสะอาด ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อ่ืน แต่งกายสุภาพ ฯลฯ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ ) ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ / คา่ นิยม 1.มวี ินยั 2.มีจติ สาธารณะ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ ๑ ๔.๑.๑. ครถู ามนักเรียนเกี่ยวสถานทส่ี าธารณะกบั ชุมชนทนี่ ักเรียนอาศยั ดังนี้ -นกั เรียนรูจ้ ักสถานท่ีทเี่ ป็นสาธารณะหรือไม่ มีอะไรบา้ ง - บา้ นนักเรียนคนไหนอยใู่ กลก้ ับสถานทส่ี าธารณะ - นักเรยี นเคยไปใชบ้ ริการในสถานท่ีสาธารณะหรอื ไม่ - การใช้สถานท่สี าธารณะซง่ึ เป็นสถานท่ขี องคนส่วนรวม จาเปน็ จะต้องปฏบิ ตั ติ าม กฎระเบียบหรอื ไม่ เพราะเหตุใด - ถา้ นกั เรียนเคยใชบ้ ริการให้นกั เรียนบอกกฎ กติกา ระเบียบ ของแตล่ ะสถานท่ีที่ นกั เรยี นเคยเห็น ๔.๑.๒ นกั เรยี นศกึ ษาความหมายของกฎ กติกา ระเบียบ ในสถานที่สาธารณะ จากใบความรู้ เร่ือง กติกา ระเบยี บในการใช้บรกิ ารสถานที่สาธารณะ ๔.๑.๓ ครูอธิบายให้นักเรยี นทราบเก่ียวกับความหมายของสถานท่สี าธารณะวา่ สถานท่ีที่ เปน็ สมบตั ขิ องส่วนรวม บคุ คลทัว่ ไปมสี ทิ ธิที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์จากสถานที่สาธารณะนน้ั จึงตอ้ งมีกฎ กติกา ระเบียบเพื่อความอยู่ร่วมกันกับผอู้ ่นื ได้อยา่ งมีความสุข
- 162 - ชวั่ โมงที่ ๒ ๔.๑.๔ นกั เรียนดกู ารต์ ูน เรือ่ งข้อควรปฏบิ ัติในการเข้าวัด ๔.๑.๕ ครูถามนกั เรียนเกยี่ วกับเรือ่ งข้อควรปฏบิ ตั ิในการเข้าวัด วา่ มีข้อดีอยา่ งไรและถา้ คนไม่ ปฎบิ ตั ิจะเกดิ ขอ้ เสยี อะไร ๔.๑.๖ นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ ๔-๕ คน ตามความสมคั รใจ แลว้ ให้แต่ละกลุม่ เขียนกฎ กตกิ า หรอื ข้อควรปฏบิ ัติในการเข้าไปใชบ้ รกิ ารสถานที่สาธารณะ ในชุมชนทีน่ ักเรียนอาศัยหรอื ชมุ ชนใกลเ้ คียง โดยทาในใบงานกลมุ่ เร่อื งกฎ กติกา ระเบียบในการใชบ้ ริการสถานที่สาธารณะ เช่น - วัด - มสั ยิด - หอ้ งสมุดประชาชน - สวนสาธารณะ - สถานที่ท่องเทย่ี ว - โรงพยาบาล ฯลฯ ๔.๑.๗ นกั เรยี นนาเสนอผลงาน โดยครูตรวจสอบผลงาน ๔.๑.๙ ครสู รปุ ให้นักเรยี นว่าสถานท่สี าธารณะตอ้ งมีกฎ กติกา ระเบียบ เพราะเป็นสิ่งสาคัญ ในการอยรู่ ว่ มกันเพ่อื ใหโ้ รงเรียนสงบสขุ เรยี บรอ้ ย ยังสามารถควบคุมให้คนปฏบิ ัติตนอยา่ งเหมาะสมเปน็ ไป ในทางเดยี วกันได้ ๔.๒ ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งเรยี นรู้ ๑. ใบความรู้ เร่ือง กฎ กติกา ระเบยี บในสถานท่สี าธารณะ ๒. ใบงานกลุ่ม เรอื่ งกฎ กตกิ า ระเบยี บในการใช้บรกิ ารสถานทสี่ าธารณะ ๓. การต์ นู เรอื่ ง ข้อควรปฏิบตั ใิ นการเข้าวัด ๕.การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๕.๑.๑ ตรวจใบงานกลุ่ม เรอ่ื ง เรอ่ื ง กฎ กตกิ า ระเบยี บในการใช้บรกิ ารสถานท่ีสาธารณะ ๕.๑.๓ ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (มีวินัย, จิตสาธารณะ) ๕.๒ เครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน ๔.๒.๑ แบบบันทึกคะแนน เร่ือง กฎ กติกา ระเบยี บในการใชบ้ ริการสถานทส่ี าธารณะ ๕.๑.๒ ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (มีวินยั , จติ สาธารณะ) ๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ - การทางานกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไปถอื ว่าผ่าน - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั ดีขน้ึ ไปถอื ว่าผ่าน ๖. บนั ทกึ หลังสอน ........................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................... ........................ .......................................................................................................... .................................................................... ลงชอื่ ................................................ ครูผูส้ อน (.................................................)
- 163 - ๗. ภาคผนวก ๑ ใบความรู้ เร่ืองกฎ กติกา ระเบยี บในการใช้บริการสถานทส่ี าธารณะ ๒ ใบงาน เรื่องกฎ กติกา ระเบยี บในการใช้บรกิ ารสถานท่ีสาธารณะ ๓. การ์ตูน เรือ่ ง ขอ้ ควรปฏิบัตใิ นการเข้าวัด
- 164 - ใบความรู้ เรอื่ ง กฎ กติกา ระเบียบในสถานทส่ี าธารณะ กฎ กติกา ระเบียบในสถานทส่ี าธารณะ สถานทสี่ าธารณะ คือ สถานที่ต่าง ๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช้ เพอ่ื พกั ผ่อนหรือ หาความรไู้ ด้ บางแหง่ ไม่ตอ้ งเสียคา่ ใชจ้ า่ ย เช่น สวนสาธารณะ หอ้ งสมดุ ชุมชน เมอื่ เขา้ ไปใน สถานที่สาธารณะควรปฏิบตั ิดงั น้ี 1. รกั ษาความสะอาด 2. ไมส่ ง่ เสียงดงั รบกวนผอู้ นื่ 3. เขา้ แถวอยา่ งเปน็ ระเบยี บ 4. ไมส่ มั ผสั หรือปีนป่ายในโบราณสถาน
- 165 - ใบงาน เร่อื ง กฎ กตกิ า ระเบยี บในสถานที่สาธารณะ คาชแ้ี จง 1. ใหน้ ักเรียนวาดรปู ระบายสสี ถานที่สาธารณะ และเขียนกฎ กติกา ระเบยี บในการใช้สถานที่ กลุ่ม ละ ๕ ข้อ ช่อื สถานทสี่ าธารณะ กฎ กตกิ า ระเบยี บ ................................................................. ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๒. เมอ่ื นกั เรยี นปฏบิ ัตติ นตามกฎ กติกา ระเบยี บในสถานทส่ี าธารณะจะเกดิ ผลดีอย่างไร ............................................................................................................................. ..... ๓. เมือ่ นักเรียนไมป่ ฏบิ ตั ิตนตามกฎ กตกิ า ระเบยี บในสถานที่สาธารณะจะเกดิ ผลเสยี อยา่ งไร ............................................................................................................................. ..... ๑. ชอื่ -สกุล.............................................. ๒. ชอ่ื -สกุล.............................................. ๓. ชอื่ -สกุล.............................................. ๔. ชื่อ-สกลุ .............................................. 5. ชื่อ-สกลุ .............................................. 6. ชอ่ื -สกุล..............................................
- 166 - แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน เลขที่ ชอ่ื -สกุล คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ สรุปผล (๑๐ คะแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน รวมคะแนน ลงชอ่ื ................................................ ครผู ูส้ อน (.................................................) เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนน ๘ คะแนนขึ้นไปถือว่าผา่ น
- 167 - แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ กล่มุ .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลมุ่ ๑. ................................................... ๒. ...................................................................... ๓. ......................................................๔. ...................................................................... ๕. ......................................................๖. ...................................................................... คาช้แี จง :ใหน้ กั เรยี นทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งทตี่ รงกับความเปน็ จริง พฤติกรรมที่สังเกต ๓ คะแนน ๑ ๒ ๑. มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ๒. มีความกระตือรือรน้ ในการทางาน ๓. รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย ๔. มีขั้นตอนในการทางานอย่างเปน็ ระบบ ๕. ใช้เวลาในการทางานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ทาเป็นประจา ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทท่ี าเปน็ บางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทท่ี านอ้ ยครั้ง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ ปานกลาง ๕-๗ ปรบั ปรงุ
- 168 - แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ชอ่ื -สกุลนกั เรียน......................................................................ช้นั ..............................เลขท.่ี ...................... คาชแี้ จง : ให้ครู สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี / ลงใน ชอ่ งทีต่ รงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ 3 2 10 มีวนิ ัย 1.เขา้ เรียนตรงเวลา 2.แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.ปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้อง 4.รจู้ ักการใหเ้ พ่ือสว่ นรวม และเพ่ือผู้อน่ื มจี ติ สาธารณะ 5.แสดงออกถงึ การมีน้าใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผู้อนื่ 6.เขา้ รว่ มกจิ กรรมบาเพญ็ ตนเพือ่ สว่ นรวมเมื่อมโี อกาส รวม สรุปผลคะแนน ลงชอ่ื ......................................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................................) ........... /................................/...................... เกณฑก์ ารให้คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน สรปุ ผลการประเมิน 16-18 คะแนน เท่ากับ ดีเย่ยี ม - พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ชิ ดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน 11-15 คะแนน เท่ากบั ดี 6-10 คะแนน เทา่ กับ พอใช้ - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัตบิ างครงั้ ให้ 1 คะแนน ๐-5 คะแนน เทา่ กบั ปรบั ปรงุ - พฤติกรรมที่ไมไ่ ด้ปฏบิ ัติ ให้ 0 คะแนน นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดขี ึ้นไปถือวา่ ผ่าน
- 169 - แผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๒ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี ๔ ชอ่ื หนว่ ย พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เร่ือง ความรบั ผดิ ชอบตอ่ โรงเรียน 1. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกับพลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถบอกความรับผดิ ชอบของตนเองที่มีต่อโรงเรยี นได้ 2.2 นกั เรยี นปฏิบัตติ นเปน็ ผทู้ มี่ คี วามรบั ผดิ ชอบต่อโรงเรียนได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ๓.๑.๑ โรงเรยี น เป็นสถานท่ที น่ี ักเรยี นเขา้ ไปศึกษาหาความรู้ มบี คุ ลากรจานวนมากท่ีมีความ เกีย่ วข้องกับนกั เรยี น เชน่ ครู อาจารย์ เพ่ือนนกั เรยี น นักเรียนจึงจาเป็นทจี่ ะต้องศกึ ษาและปฏิบัตติ ามบทบาท หน้าท่แี ละความรับผิดชอบของตนเอง เพ่ือจะได้อยูร่ ่วมกนั อย่างมีความสขุ และเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ๓.๑.๒ ความรับผดิ ชอบต่อโรงเรยี น หมายถงึ ภาระหนา้ ท่ีทีน่ ักเรียนทุกคนในโรงเรียนต้อง ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา ข้อระเบียบ บงั คบั ของโรงเรยี นเพื่อให้เกิดความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย โดยการปฏิบัตติ น ดงั น้ี - เช่ือฟังคาส่งั ของครูอาจารย์ - ตัง้ ใจศึกษาเลา่ เรียน - แตง่ กายด้วยเคร่ืองแบบทถี่ ูกต้องตามระเบยี บของโรงเรียน - มาโรงเรยี นใหท้ ันเวลาและเข้าเรยี นใหต้ รงเวลา - ทางานท่ีได้รับมอบหมายดว้ ยความตัง้ ใจ - ไมล่ กั ขโมยสิง่ ของผู้อ่นื - ให้ความร่วมมอื ในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมต่างๆ - ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลงทีท่ างโรงเรยี นกาหนด - รักษาสาธารณสมบตั ขิ องโรงเรยี น - ท้งิ ขยะลงถังขยะทุกครั้ง - การทาเวรประจาวัน - ดูแลรักษาความสะอาด อาคารเรียนและรกั ษาสภาพแวดล้อมในโรงเรียนใหส้ วยงาม 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กิด) 1) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขยี น) 2) ความสามารถในการคิด (วเิ คราะห์ จดั กลุ่ม สรปุ ) 3) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
- 170 - 3.3 คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ / ค่านยิ ม มีวินยั 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขั้นตอนการเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ ๑ ๔.๑.๑ ครูติดแผนภมู ิ เพลง โรงเรียนนา่ อยู่ ใหน้ กั เรยี นร้องพรอ้ มทาท่าประกอบ เพลง โรงเรียนนา่ อยู่ โรงเรยี นของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน เดก็ ๆก็ไมซ่ ุกซน พวกเราทกุ คนชอบมาโรงเรียน (ซ้า) ๔.๑.๒ ครูซักถามนกั เรียนเก่ียวกับเนอ้ื หาของเพลง - เปน็ เพลงเกย่ี วกับอะไร - นกั เรยี นชอบโรงเรยี นในเนื้อเพลงท่รี ้องหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด - โรงเรียนในฝนั ของนกั เรยี นเป็นอย่างไร - นกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารอยา่ งไรทจ่ี ะทาให้โรงเรยี นของนักเรียนเปน็ โรงเรยี นทีน่ า่ อยู่ ๔.๑.๓ ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่า การท่ีโรงเรียนจะน่าอยู่ ทุกคนในโรงเรียนจะต้องมี ความรบั ผิดชอบต่อโรงเรียน โดยการปฏิบตั ิหน้าท่ตี ามกฎ กตกิ า ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด เพ่ือความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยของโรงเรียน ๔.๑.๔ ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เกยี่ วกับความรบั ผิดชอบต่อโรงเรียน ว่าเป็นภาระหนา้ ท่ที ่ีนกั เรียน ทุกคนในโรงเรยี นต้องปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า ขอ้ ระเบียบ บังคับของโรงเรียนเพ่ือใหเ้ กิดความเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ย โดยการปฏบิ ัตติ นดังน้ี - เชอื่ ฟังคาสง่ั ของครูอาจารย์ - ตง้ั ใจศกึ ษาเลา่ เรียน - แต่งกายดว้ ยเครื่องแบบที่ถูกต้องตามระเบยี บของโรงเรยี น - มาโรงเรยี นให้ทันเวลาและเขา้ เรยี นให้ตรงเวลา - ทางานท่ีไดร้ ับมอบหมายด้วยความตัง้ ใจ - ไมล่ ักขโมยสิง่ ของผูอ้ นื่ - ใหค้ วามร่วมมือในการเข้ารว่ มกิจกรรมต่างๆ - ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลงทที่ างโรงเรียนกาหนด - รกั ษาสาธารณสมบัตขิ องโรงเรยี น - ทิ้งขยะลงถังขยะทุกคร้ัง - การทาเวรประจาวัน - ดูแลรักษาความสะอาด อาคารเรียนและรักษาสภาพแวดลอ้ มในโรงเรยี นให้ สวยงาม ๔.๑.๕ ครูซักถามนกั เรียนวา่ ขณะอยู่โรงเรยี น นกั เรยี นมีความรับผิดชอบใดบ้าง โดยการ เขยี นความรบั ผดิ ชอบที่มีต่อโรงเรยี นคนละ ๑ ข้อ ลงในกระดาษแผ่นเลก็ ทคี่ รูแจก แลว้ ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น ครูและนักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
- 171 - ๔.๑.๖ นกั เรยี นเขียนสรปุ เก่ยี วกับความรับผดิ ชอบที่มตี อ่ โรงเรียนดว้ ยการทาผงั ความคิด เรื่อง ความรับผิดชอบต่อโรงเรียนในใบงานที่ ๑ ชวั่ โมงท่ี ๒ ๔.๑.๗ ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน โดยการซักถามความรับผิดชอบต่อโรงเรียนที่ได้ เรยี นในชัว่ โมงท่ีผ่านมาวา่ มีอะไรบา้ ง นกั เรยี นช่วยกนั ตอบและแสดงความคิดเห็น ๔.๑.๘ ครูให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ 5 กลุ่ม แจกกระดาษให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเพ่ือวาดภาพ โรงเรยี นในฝันของกลุ่ม และร่วมกันแสดงความคิดเห็นในหัวขอ้ ตา่ งๆดังน้ี - กฎ กตกิ าของโรงเรียนในฝนั มอี ะไรบ้าง - เมอ่ื อยูใ่ นโรงเรยี นในฝัน ควรปฏบิ ัตติ นอยา่ งไรทีไ่ ม่ทาใหผ้ ู้อืน่ เดอื ดรอ้ น - การใช้ของหรือสถานที่ร่วมกันหรือท่ีเรียกว่า สมบัติสาธารณะ ควรปฏิบัติตน อยา่ งไร - หากนักเรยี นไม่ปฏิบัติตามกฎ กติกาของโรงเรยี นในฝนั จะเกิดผลอย่างไร เพราะอะไร ๔.๑.๙ นักเรยี นแต่ละกล่มุ นาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน ๔.๑.๑๐ นกั เรยี นช่วยกันสรุปวา่ ความรับผดิ ชอบตอ่ โรงเรยี นเปน็ ภาระหน้าทท่ี นี่ ักเรียนทุกคน ต้องปฏบิ ตั ิขณะอยู่ทโ่ี รงเรยี น ดังน้ันเราจึงจาเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบยี บของโรงเรียนเพ่อื จะได้อยูร่ ่วมกัน อยา่ งมีความสุขและเกดิ ความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย 4.2 สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1. แผนภูมิเพลง โรงเรียนน่าอยู่ ๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง ความรับผิดชอบต่อโรงเรยี น ๓. ใบงาน เรอื่ ง ความรับผิดชอบต่อโรงเรียน ๔. กระดาษวาดภาพโรงเรียนในฝัน 5. ปากกาเคมี ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ ีการประเมิน ๕.๑.๑ ตรวจใบงาน เร่ือง ความรบั ผิดชอบต่อโรงเรยี น ๕.๑.๒ ประเมินผลงานกล่มุ ๕.๑.๓ ประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ๕.๑.4 ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (มวี นิ ยั ) 5.2 เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการประเมนิ ๕.๒.๑ แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน เร่อื ง ความรับผดิ ชอบต่อโรงเรยี น ๕.๒.๒ แบบประเมนิ ผลงานกล่มุ ๕.๒.๓ แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลุม่ ๕.๒.4 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (มีวินัย) 5.3 เกณฑก์ ารประเมิน ๕.๓.๑ การตรวจใบงานต้องผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ๕.๓.๒ การประเมินการทางานกลุม่ ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ๕.๓.๓ นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับดีข้นึ ไปถือว่าผ่าน
- 172 - ๖. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ................................................ ครูผูส้ อน (.................................................) ๗. ภาคผนวก - แผนภมู ิเพลง โรงเรียนน่าอยู่ - ใบความรู้ เรือ่ ง ความรบั ผิดชอบตอ่ โรงเรยี น - ใบงาน เร่อื ง ความรับผดิ ชอบต่อโรงเรียน - แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน เร่อื ง ความรับผิดชอบต่อโรงเรียน - แบบประเมินผลงานกลุ่ม - แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (มีวินัย)
- 173 - เพลง โรงเรียนนา่ อยู่ โรงเรยี นของเรานา่ อยู่ คณุ ครูใจดีทกุ คน เดก็ ๆกไ็ มซ่ ุกซน พวกเราทุกคนชอบมาโรงเรียน (ซา้ )
- 174 - ใบความรู้ เร่ือง ความรับผดิ ชอบตอ่ โรงเรียน โรงเรยี น เป็นสถานทที่ ่นี ักเรยี นเข้าไปศึกษาหาความรู้ มีบคุ ลากรจานวนมากทีม่ ีความ เก่ียวข้องกับนกั เรียน เช่น ครู อาจารย์ เพื่อนนกั เรียน นักเรียนจงึ จาเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งศึกษาและปฏบิ ัติ ตามบทบาทหน้าท่แี ละความรับผิดชอบของตนเอง เพ่ือจะได้อย่รู ว่ มกนั อย่างมีความสุข และเกดิ ความเป็นระเบยี บเรียบร้อย ความรบั ผิดชอบตอ่ โรงเรยี น ๑. เชื่อฟังคาส่งั ของครูอาจารย์ ๒. ตั้งใจศกึ ษาเลา่ เรียน ๓. แต่งกายด้วยเครอื่ งแบบท่ีถูกตอ้ งตามระเบียบของโรงเรียน ๔. มาโรงเรยี นให้ทนั เวลาและเข้าเรียนใหต้ รงเวลา ๕. ทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมายด้วยความตง้ั ใจ ๖. ไมล่ กั ขโมยส่งิ ของผู้อ่นื ๗. ใหค้ วามร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ๘. ปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลงทท่ี างโรงเรยี นกาหนด ๙. รกั ษาสาธารณสมบตั ขิ องโรงเรียน ๑๐. ทง้ิ ขยะลงถงั ขยะทุกคร้งั ๑๑. การทาเวรประจาวัน ๑๒. ดแู ลรกั ษาความสะอาด อาคารเรยี นและรักษาสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้ สวยงาม
- 175 - ใบงาน ความรับผิดชอบตอ่ โรงเรียน ช่อื ..................................................................................ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ คาชี้แจง นักเรยี นเขยี นสรปุ หน้าท่ตี ่อโรงเรยี นลงในผังความคดิ ท่ีกาหนดให้ ผังความคดิ “ความรบั ผดิ ชอบตอ่ โรงเรียน” ความรับผิดชอบ ต่อโรงเรยี น
- 176 - โรงเรยี นในฝัน รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม กลุ่มที่.................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- 177 - แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ โรงเรียน............................................................... คะแนนเตม็ สรปุ ผล ที่ ช่อื -สกลุ (๑๐คะแนน) คะแนนทไี่ ด้ ผา่ น ไมผ่ ่าน รวม เกณฑก์ ารประเมนิ ไดค้ ะแนน ๘ –๑๐ คะแนน = ผา่ น ได้ ๐-๗ คะแนน = ไม่ผ่าน ลงชือ่ ..........................................ผู้สอน (...........................................................)
- 178 - แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกล่มุ กลมุ่ ที่....................... สมาชกิ ในกลุ่ม ๑........................................................................ ๒................................................................... ๓........................................................................ ๔................................................................... ๕........................................................................ คาช้ีแจง ให้นักเรยี นทาเคร่ืองหมาย ในช่องท่ีตรงกบั ความเป็นจรงิ ๓ คะแนน ๑ ๒ ที่ พฤตกิ รรมทส่ี ังเกต ๑ มสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ๒ มคี วามกระตือรอื รน้ ในการทางาน ๓ รับผดิ ชอบในงานที่ได้รบั มอบหมาย ๔ มีขัน้ ตอนในการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ ๕ ใชเ้ วลาในการทางานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน - พฤติกรรมท่ที าเป็นประจา ให้ ๒ คะแนน - พฤติกรรมที่ทาเปน็ บางคร้ัง ให้ ๑ คะแนน - พฤติกรรมทที่ านอ้ ยครัง้ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน ดี ชว่ งคะแนน ปานกลาง ๑๒-๑๕ คะแนน ปรบั ปรุง ๖-๑๑ คะแนน ๑-๕ คะแนน ลงชื่อ..............................................ผสู้ อน (........................................................)
- 179 - แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ช่อื -สกลุ นกั เรียน.......................................................................ช้นั .............................เลขที.่ ...................... คาช้ีแจง : ให้ครู สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี / ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ 3 2 10 มีวนิ ัย 1.เข้าเรยี นตรงเวลา 2.แตง่ กายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง รวม สรปุ ผลคะแนน ลงชื่อ......................................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................................) ........... /................................/...................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน สรปุ ผลการประเมนิ ๘-๙ คะแนน เทา่ กบั ดีเยยี่ ม - พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน ๖-๗ คะแนน เท่ากับ ดี ๔-๕ คะแนน เท่ากับ พอใช้ - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั บิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน ๐-๓ คะแนน เทา่ กับ ปรบั ปรงุ - พฤติกรรมที่ไมไ่ ด้ปฏบิ ัติ ให้ 0 คะแนน นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดบั ดขี ้ึนไปถือว่าผ่าน
- 180 - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๔ ชอื่ หนว่ ย พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕ เร่อื ง ความเปน็ พลเมือง เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับพลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหน้าทพ่ี ลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของบทบาทและหนา้ ทีใ่ นการเป็นพลเมืองได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถปฏิบตั ติ นตามบทบาทและหนา้ ท่ขี องตัวเองในชุมชนเพ่ือเปน็ พลเมือง ทีด่ ไี ด้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ บทบาทและหนา้ ท่ี คือการปฏิบตั ติ นในส่งิ ทถี่ ูกท่ีควร ดว้ ยความรับผิดชอบตาม สถานภาพ ของตนเอง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ ) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓.๓ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ค่านยิ ม 1) มีวนิ ยั 2) มีจิตสาธารณะ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ๔.๑.๑. ครูสนทนาเก่ียวกบั บทบาทและหนา้ ทขี่ องนักเรยี นต่อครอบครวั และชมุ ชน เชน่ - นักเรียนอยูบ่ ้านมีหน้าทีร่ ับผิดชอบอะไรบ้าง (ลา้ งจาน เกบ็ ทนี่ อน กวาด ขยะ รดน้าต้นไม้ ฯลฯ) - นกั เรยี นอยูโ่ รงเรยี นมหี นา้ ท่ีรบั ผิดชอบอะไรบา้ ง (กวาดขยะในหอ้ งเรยี น ลบกระดานดา ทาความสะอาดห้องน้าห้องสว้ ม ฯลฯ) - นักเรียนมีบทบาทหน้าท่อี ะไรตอ่ ชุมชนบ้าง (รักษาสง่ิ แวดล้อม อนรุ กั ษโ์ บราณสถาน ฯลฯ) - นกั เรียนคิดวา่ การแบ่งบทบาทหน้าทด่ี ีหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ( ดี เพราะจะ ทาให้ชุมชนน่าอย)ู่ ๔.๑.๔. ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาเรื่อง บทบาทและหนา้ ท่ีของตนเอง จากใบความรหู้ รือศกึ ษา เพ่มิ เติมจากห้องสมุด ๔.๑.๕ ครูอธบิ ายเพมิ่ เติมความรู้เกี่ยวกบั บทบาทและหน้าทข่ี องตนเอง ๔.๑.๖ นกั เรียนทาแบบฝึกหัด เร่อื ง บทบาทและหน้าท่ีของตนเอง ๔.๑.๗ ครูและนักเรียนชว่ ยกันสรปุ ความหมาย บทบาทและหนา้ ท่ีของตนเอง
- 181 - ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ใบความรู้ เรื่อง บทบาทและหน้าท่ี ๒. แบบฝกึ หดั เร่ือง บทบาทและหน้าท่ีของตนเอง ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๑. ตรวจแบบฝึกหดั เร่อื ง บทบาทและหน้าที่ ๒. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (มีวินัย, มีจติ สาธารณะ) ๕.๒ เครือ่ งมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ ๑. แบบบันทึกคะแนน เรอื่ ง บทบาทและหนา้ ที่ ๒. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (มีวนิ ยั , มจี ติ สาธารณะ) ๕.๓ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑. คะแนนแบบฝกึ หัดต้องผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไปถือว่าผ่าน ๒. นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดีขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน ๖. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ............................ ........................................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื ................................................ ครูผู้สอน (.................................................) ๗. ภาคผนวก - ใบความรู้ เรอ่ื ง บทบาทและหน้าทข่ี องตนเอง - แบบฝึกหดั เร่ือง บทบาทและหน้าท่ขี องตนเอง - แบบบนั ทึกคะแนน เรื่อง บทบาทและหน้าท่ี - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (มวี ินัย, มีจิตสาธารณะ)
- 182 - ใบความรู้ เรื่องบทบาทและหนา้ ท่ี บทบาทและหนา้ ที่ บทบาท หมายถึง การปฏิบตั ติ ามสิทธิ หน้าทอี่ นั เน่ืองมาจากสถานภาพของ บุคคล เนื่องจากบุคคลมหี ลายสถานภาพในคนคนเดียว ฉะนั้นบทบาทของบุคคลจึงต้อง ปฏิบัตไิ ปตามสถานภาพในสถานการณต์ ามสถานภาพ นน้ั ๆ หน้าท่ี หมายถงึ ภาระรับผิดชอบของบุคคลที่จะต้องปฏบิ ัติ เชน่ หน้าทข่ี อง บดิ าทมี่ ีต่อบุตร เป็นตน้ บทบาท และหน้าที่ หมายถึง การปฏิบตั ติ นในสิ่งทถ่ี กู ทคี่ วร ดว้ ยความ รบั ผดิ ชอบตาม สถานภาพของตนเอง
- 183 - แบบฝกึ หดั เรือ่ งบทบาทและหน้าที่ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนกา X คาตอบที่ถูกทีส่ ุด ๑. ขอ้ ใดไม่ใช่บทบาทของนักเรยี น ๖.หนา้ ที่ หมายถึงข้อใด ก. ตั้งใจเรียนหนงั สอื ก.การกระทาของบุคคล ข.สิง่ ทีบ่ คุ คลจะต้องกระทา ข. แกลง้ เพ่อื นที่ไมส่ นใจฟังครสู อน ค.ภาระรบั ผิดชอบของบุคคลทีจ่ ะตอ้ งปฏิบัติ ค. เคารพเชอื่ ฟงั ครู ง.ความมอี ิสระท่จี ะกระทาการใดๆ ตามสทิ ธิของ ตน ง. ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บ ๒.บทบาทของพ่อแม่คือการเล้ยี งดลู กู บทบาทของ ๗.สมชายขออนุญาตครไู ปห้องน้า แต่กลบั ไปเล่นกบั ลูกคือข้อใด เพ่อื นห้องอ่ืน ผลจะเป็นอย่างไร ก.เรียนหนงั สอื ข.เชือ่ ฟงั พ่อแม่ ก. ได้รบั คาชมเชยจากเพื่อน ค.ชว่ ยทางานบ้าน ง.ถูกทกุ ข้อ ข. เรียนไมท่ ันเพ่ือน ค. ได้พบสง่ิ แปลกๆ ใหม่ๆ ง. ได้เลน่ สนกุ มากกวา่ เพือ่ นคนอ่ืนๆในห้อง ๓.ถา้ พ่อแม่ใชใ้ ห้เราลา้ งจาน เราควร ปฏิบัตอิ ย่างไร ๘. ผทู้ ถ่ี กู ตารวจจบั ข้อหาลักทรัพยม์ ักเปน็ ผลมาจาก ก.รบั ทาด้วยความเต็มใจ ข้อใด ข. ล้างแกว้ ดว้ ยความจาใจ ค. ทาเป็นไม่ไดย้ ินและรบี หลบไป ก. ถกู กลน่ั แกล้ง ข. จับผดิ ตวั ค. ทาผิดจรงิ ง. ความบังเอิญ ง. แกล้งทาแกว้ แตก จะได้ไมโ่ ดนใช้อีก ๔.ถ้าได้รบั คดั เลือกเป็นหัวหน้าหอ้ งเราควรปฏิบตั ิ ๙.ข้อใดคือการบาเพ็ญประโยชน์ต่อสว่ นรวม อยา่ งไร ก. ดขู า่ วสารบา้ นเมืองทุกวนั ข. เก็บกวาดขยะบรเิ วณวัด ก. ออกกฎบังคบั เพ่ือนในหอ้ ง ค. ทาบุญตกั บาตรในวันเกิด ง. อา่ นหนังสือท่ีบ้านเพ่ือน ข. ใหเ้ พื่อนๆ ทาตัวตามสบาย ค.ทาตัวสนุกสนานมากข้นึ กว่าเดิม ง. วางตัวใหเ้ หมาะสมกับหน้าที่
๕.เราควรปฏิบตั ิอยา่ งไร เมื่อไปบา้ นเพ่ือน - 184 - ก.นัง่ ดูเพื่อนทางานบา้ น ข. ทาตัวเหมือนอยู่บา้ นตนเอง ๑๐. ข้อใดไม่ใช่ผลดขี องการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาท ค. ทาความเคารพผใู้ หญ่ในบา้ น หน้าที่ของตนเอง ง. เดินสารวจบ้านเพอ่ื น ก.เกดิ ความสงบสขุ ในสังคม ข.เกดิ การแขง่ ขนั กันในสังคม ค.ทาให้มีความเคารพซึ่งกันและกนั ง.เปน็ พลเมืองทีด่ ีของสังคมและประเทศชาติ
- 185 - เฉลยแบบฝึกหดั เรื่องบทบาทและหน้าท่ี คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นกา X คาตอบที่ถกู ที่สุด ๑. ขอ้ ใดไมใ่ ช่บทบาทของนักเรยี น ๖.หน้าที่ หมายถงึ ข้อใด ก. ตงั้ ใจเรยี นหนังสือ ก.การกระทาของบุคคล ข.สิ่งที่บคุ คลจะต้องกระทา ข. แกล้งเพื่อนที่ไมส่ นใจฟงั ครูสอน ค.ภาระรับผดิ ชอบของบุคคลท่จี ะต้องปฏิบตั ิ ค. เคารพเชอ่ื ฟังครู ง.ความมอี สิ ระที่จะกระทาการใด ๆ ตามสิทธิของ ตน ง. ปฏิบัตติ ามกฎระเบียบ ๒.บทบาทของพ่อแม่คอื การเล้ียงดลู ูก บทบาทของ ๗.สมชายขออนุญาตครูไปห้องนา้ แตก่ ลบั ไปเล่นกับ ลกู คอื ข้อใด เพอื่ นห้องอ่ืน ผลจะเปน็ อยา่ งไร ก.เรียนหนังสือ ข.เชอ่ื ฟงั พ่อแม่ ก. ได้รบั คาชมเชยจากเพ่ือน ค.ช่วยทางานบ้าน ง.ถกู ทุกข้อ ข. เรยี นไมท่ นั เพือ่ น ค. ไดพ้ บส่ิงแปลกๆ ใหม่ๆ ง. ไดเ้ ลน่ สนกุ มากกวา่ เพ่อื นคนอ่ืนๆในห้อง ๓.ถา้ พอ่ แมใ่ ช้ใหเ้ ราล้างจาน เราควรปฏิบัติอย่างไร ๘. ผทู้ ี่ถกู ตารวจจบั ข้อหาลักทรพั ย์มักเป็นผลมาจาก ก.รับทาด้วยความเต็มใจ ข้อใด ข. ล้างจานด้วยความจาใจ ค. ทาเป็นไม่ไดย้ ินและรีบหลบไป ก. ถกู กล่นั แกล้ง ข. จบั ผดิ ตวั ค. ความบังเอิญ ง. ทาผดิ จรงิ ง. แกล้งทาจานแตก จะได้ไม่โดนใช้อีก ๔.ถ้าไดร้ ับคัดเลือกเป็นหัวหน้าหอ้ งเราควรปฏิบตั ิ ๙.ข้อใดคือการบาเพ็ญประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม อยา่ งไร ก. เก็บกวาดขยะบริเวณวดั ข. ดขู ่าวสารบ้านเมอื งทุกวัน ก. ออกกฎบงั คบั เพ่ือนในหอ้ ง ค. ทาบุญตักบาตรในวันเกิด ง. อา่ นหนังสอื ท่ีบา้ นเพื่อน ข. ให้เพือ่ นๆ ทาตัวตามสบาย ค.ทาตวั สนุกสนานมากขึ้นกว่าเดมิ ง. วางตวั ใหเ้ หมาะสมกับหน้าที่
๕.เราควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร เม่ือไปบ้านเพื่อน - 186 - ก.น่ังดเู พ่ือนทางานบ้าน ข. ทาตวั เหมอื นอยู่บ้านตนเอง ๑๐. ขอ้ ใดไม่ใชผ่ ลดีของการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาท ค. ทาความเคารพผู้ใหญใ่ นบา้ น หนา้ ที่ของตนเอง ง. เดินสารวจบ้านเพ่อื น ก.เกดิ ความสงบสขุ ในสังคม ข.เกดิ การแข่งขันกันในสังคมสูง ค.ทาให้มคี วามเคารพซงึ่ กันและกนั ง.เป็นพลเมอื งทีด่ ีของสังคมและประเทศชาติ
- 187 - แบบใหค้ ะแนนการตรวจแบบฝึกหดั เลขท่ี ชอ่ื -สกุล คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ สรุปผล (๑๐ คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น รวมคะแนน ลงชอ่ื ................................................ ครผู ้สู อน (.................................................)
- 188 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ ๔ ช่อื หนว่ ย พลเมืองกบั ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 เรือ่ ง ความเป็นพลเมือง เวลา ๒ ชวั่ โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับพลเมืองและมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม ๑.๒ ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ท่ีพลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมายของบทบาทและหน้าทีไ่ ด้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถปฏบิ ัตติ นตามบทบาทและหนา้ ทขี่ องตวั เองในชุมชนเพ่ือเป็นพลเมือง ท่ดี ีได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ บทบาทและหนา้ ท่ี คือ การปฏิบตั ิตนในสิง่ ทถี่ ูกทค่ี วร ด้วยความรับผิดชอบตาม สถานภาพ ของตนเอง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ ) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ / คา่ นยิ ม 1. มวี ินยั 2. มจี ิตสาธารณะ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ๔.๑.๑ ครูทบทวนความรู้เดมิ ของนักเรียนเรอ่ื งบทบาทและหนา้ ที่ ๔.๑.๒ นกั เรียนดูการต์ ูนจาก เรื่อง บทบาทหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในชุมชน ๔.๑.๓ ครถู ามนักเรยี นเก่ียวกับเรอื่ งบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิกในชุมชน จากการ์ตนู ที่ นักเรียนดู เชน่ - นักเรียนไดค้ วามรเู้ ร่ืองอะไรจากเร่อื งท่ีดู (บทบาทหน้าที่ของสมาชกิ ในชุมชน) - นักเรียนคดิ ว่าพ่อมีบทบาทหนา้ ท่ีอะไร (อบรม ส่ังสอนเลี้ยงดูลกู ) - นักเรียนคดิ วา่ ทาไมพลอยจึงไดร้ บั เลือกใหเ้ ปน็ หวั หนา้ กล่มุ (เป็นคนมเี หตผุ ล) - จงยกตวั อยา่ งบทบาทหน้าท่ีในชมุ ชนจากเรื่องทน่ี ักเรียนดู(ดูแลสงิ่ แวดลอ้ มใน หมบู่ ้าน) - นักเรียนคดิ วา่ การท่ีทกุ คนมีบทบาทหน้าทตี่ ่อชุมชนเป็นสิ่งทดี่ ีหรอื ไม่ เพราะเหคใุ ด (จะทาใหช้ มุ ชนน่าอยู)่
- 189 - ชว่ั โมงที่ ๒ ๔.๑.๔. นกั เรียนศึกษาเร่ืองบทบาทหนา้ ท่ีของตนเองในชุมชนจากใบความรู้ เร่ือง บทบาท และหนา้ ทข่ี องตนเองในชมุ ชน และศกึ ษาเพิม่ เติมจากหนังสอื ในห้องสมุดโรงเรียน หรอื หนังสือวิชา สังคมศึกษาช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔.๑.๕ นักเรียนทาใบงานเรื่อง บทบาทและหนา้ ที่ของตนเองในชุมชน ๔.๑.๗ นักเรยี นนาเสนอผลงานโดยครตู รวจสอบใหถ้ ูกต้อง ๔.๑.๘ ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรุป เรอื่ ง บทบาทและหน้าทใ่ี นชุมชน คือถ้าสมาชิกในชุมชน ได้ปฏบิ ัตติ นตามบทบาทหนา้ ท่ีของตนเองอย่างถูกตอ้ งกจ็ ะไดช้ ื่อวา่ “เป็นพลเมืองท่ดี ีของสังคมและ ประเทศชาตติ ่อไป” ๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ ๑. ใบความรู้ เร่ือง บทบาทและหนา้ ที่ของตนเองในชมุ ชน ๒. ใบงาน เรือ่ ง บทบาทและหน้าท่ขี องตนเองในชมุ ชน ๓. การต์ นู จาก เร่ือง บทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิกในชมุ ชน ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑. ตรวจใบงาน เรื่อง บทบาทและหน้าท่ีของตนเองในชมุ ชน ๒. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (มีวนิ ัย, มจี ติ สาธารณะ) ๕.2 เคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นการประเมิน ๑. แบบบันทกึ คะแนน เร่อื ง บทบาทและหนา้ ท่ขี องตนเองในชุมชน ๒. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (มีวินัย, มีจิตสาธารณะ) ๕.๓ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑. คะแนนใบงานต้องผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไปถือว่าผา่ น ๒. นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดี ข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน ๖. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ลงชื่อ ................................................ ครูผ้สู อน (.................................................)
- 190 - ๗. ภาคผนวก - ใบความรู้ - ใบงาน - การ์ตนู เร่อื ง บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในชุมชน - แบบบันทกึ คะแนน เรอื่ ง บทบาทและหน้าทีข่ องตนเองในชมุ ชน - แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (มีวนิ ัย, มีจิตสาธารณะ)
- 191 - ใบความรเู้ รือ่ งบทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในชุมชน ชมุ ชน หมายถึง กลุ่มคนที่อยู่รว่ มกันเปน็ สงั คมในพ้นื ทพี่ ้นื ท่ีหนึ่ง และมักจะเปน็ สังคมขนาดเล็ก ๑.รักษาสุขลกั ษณะของชมุ ชนุ เป็นหนา้ ทข่ี องสมาชิกในชมุ ชนทุกคนจะตอ้ งช่วยเหลอื กนั ทาให้ชุมชนของตนมสี ขุ ลักษณะทถ่ี ูกตอ้ ง สะอาด ตามหลักอนามัย คือ - ช่วยกันรกั ษาความสะอาดของชมุ ชน เชน่ ถนนหนทาง - ชว่ ยกาจดั ส่งปฏิกลู ตา่ ง ๆ - ทาลายที่เพาะพนั ธ์ุ เชน่ ยุงลาย หรือทแ่ี พร่เชื้อโรค - ร่วมมอื กบั เจา้ หนา้ ที่กาจดั โรคระบาด ๒.อนรุ กั ษ์สิ่งแวดลอ้ มในชมุ ชน - ชว่ ยกนั ดูแลรกั ษาสงิ่ ของท่เี ป็นสาธารณสมบัติ เชน่ โทรศพั ท์สาธารณะ - รักษาส่งิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ เช่น ภูเขา ป่าไม้ ลาธาร รักษาสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ เชน่ ภเู ขา ปา่ ไม้ ลาธาร - ชว่ ยกนั และไมท่ าลายโบราณสถาน โบราณวัตถุในชุมชน ไมใ่ ห้เกิดความเสียหาย ชารุด ทรดุ โทรม ๓. ปอ้ งกนั ภัยในชมุ ชน -ชว่ ยกันรกั ษาความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยส์ นิ ของคนในชมุ ชน - ชว่ ยสอดส่องให้กับเจา้ หน้าท่ีตารวจในการปราบปรามโจรผ้รู า้ ย - ช่วยกันหาวธิ ีป้องกันและปราบปรามโจรผู้รา้ ยด้วยต้นเอง - ช่วยกนั คิดหาวธิ กี ารช่วยเหลอื กัน เม่ือถูกปลน้ หรือทาร้าย - ชว่ ยกันตรวจตราปอ้ งกันการลักขโมยทรัพย์สนิ ของส่วนรวม - ให้ความร่วมมือและเป็นกาลงั สาคญั กับทางราชการอย่างเตม็ ท่ี ๔. พัฒนาชุมชน ๑. การพัฒนาด้านวตั ถุ : ถนนหนทาง สถานทีพ่ ักผอ่ นของคนในหมู่บา้ น สระนา้ บ่อน้า อ่างเก็บน้า ๒. การพฒั นาด้านจิตใจ : จดั งานทาบุญและงานประเพณี , ส่งเสรมิ การศึกษาแกส่ มาชิกในชมุ ชน ฯลฯ
- 192 - ใบงาน เรือ่ ง บทบาทและหน้าทีข่ องตนเองในชมุ ชน คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนบทบาทและหน้าท่ขี องตนเองในชมุ ชน ๕ ขอ้ และบอกข้อดีของบทบาทหนา้ ที่ บทบาทและหนา้ ทขี่ องตนเองในชมุ ชน ขอ้ ดีของบทบาทหน้าที่ คือ........................................................................................................ ชื่อ-สกุล.............................................................ช้นั .................................เลขที่................................
- 193 - แบบให้คะแนนการตรวจใบงาน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ สรุปผล ผ่าน ไมผ่ ่าน รวมคะแนน ลงชอ่ื ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212